พระสุตตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาที่ 551 ๕. เมตตาสตู ร วาดว ยอานสิ งสของเมตตา ๑๐ ประการ [๒๒๒] ดกู อนภิกษทุ ัง้ หลาย เมอ่ื เมตตาเจโตวิมุตติ อันบคุ คลเสพแลว ทําใหม ากแลว ทําใหเ ปนดุจยาน ทําใหเปน ทีต่ ัง้ ใหต้ังม่นัโดยลาํ ดบั ส่ังสมดีแลว ปรารภดวยดแี ลว พึงหวังอานิสงส ๑๑ ประการ๑๑ ประการเปนไฉน คอื ยอ มหลับเปนสขุ ๑ ยอ มตนื่ เปนสุข ๑ ยอ มไมฝ นลามก ๑ ยอมเปน ทร่ี ักแหงมนุษยทง้ั หลาย ๑ ยอ มเปนท่รี กั แหงอมนษุ ยท ้ังหลาย ๑ เทวดาท้ังหลายยอ มรักษา ๑ ไฟ ยาพษิ หรอื ศัสตรายอ มไมก ล้ํากรายได ๑ จิตยอ มตง้ั ม่ันโดยรวดเร็ว ๑ สหี นายอมผอ งใส ๑ เปนผูไมห ลงใหลทํากาละ ๑ เมอื่ ไมแทงตลอดคณุ อนั ย่งิ ยอมเปนผเู ขาถงึ พรหม-โลก ๑ ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมตุ ติ อันบคุ คลเสพแลวเจริญแลว ทําใหม ากแลว ทําใหเ ปนดุจยาน ทําใหเปนทต่ี ง้ั ใหต ้งั ม่ันโดยลาํ ดับ สั่งสมดีแลว ปรารภดวยดีแลว พงึ หวงั อานสิ งส ๑๑ ประการน้แี ล. จบเมตตาสูตรท่ี ๕ อรรถกถาเมตตาสตู รท่ี ๕ เมตตาสูตรที่ ๕ มีวินิจฉยั ดงั ตอไปน้.ี บทวา สขุ สุปติ ความวา ชอื่ วาหลับเปน สขุ เพราะไมหลับเหมอื นคนนอกนัน้ ทน่ี อนกรนกระสับกระสายหลับเปน ทุกข แมเ ม่ือหย่งั ลงสูความหลับกเ็ ปน สขุ เหมอื นผูเขา สมาบัติ. บทวา สุข ปฏพิ ชุ ฺฌติ ความวา คนอ่ืน ๆ ถอนใจ กระสบั กระ-สา ยอยู ตนื่ เปนทกุ ขฉ ันใด บุคคลผเู สพเมตตาเจโตวิมุตติ หาตืน่ เปน
พระสุตตนั ตปฎก องั คุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาท่ี 552ทุกขฉ นั น้ันไม ไมมีอาการผิดปกติ ต่ืนเปนสุข เหมือนดอกปทมุ กาํ ลงัแยมอย.ู บทวา น ปาป สุปน ปสสฺ ติ ความวา บุคคลผเู สพเมตตาเจโตวิมตุ ติแมเ มือ่ ฝนเห็น กฝ็ น เห็นแตเร่ืองท่ีเจรญิ เทาน้นั เปน เหมอื นไหวพระ-เจดยี เหมือนกระทําการบชู า เหมือนฟงธรรมอยฉู ะนนั้ และยอ มไมฝ นเหน็ ท่ีลามก เหมือนคนพวกอนื่ ท่ฝี นเห็นตนถกู พวกโจรพากนั รมุ ลอมเหมอื นถกู สัตวร ายทาํ รา ยเอา และเหมือนกาํ ลังตกเหวฉะน้นั . บทวา มนสุ ฺสาน ปโย โหติ ความวา บุคคลผเู สพเมตตาเจโต-วมิ ุตติ ยอ มเปน ทร่ี กั เปน ทชี่ อบใจของมนษุ ยท ้งั หลาย เหมอื นแกวมุกดาหารทส่ี วมไวที่อก และเหมอื นพวงมาลยั ประดบั ไวท ่ศี รี ษะฉะนนั้ . บทวา อมนสุ ฺสาน ปโย โหติ ความวา บุคคลผเู สพเมตตาเจโต-วมิ ตุ ติ ยอมเปนที่รักของอมนษุ ยท ง้ั หลาย เหมือนเปน ท่ีรักของมนุษยทัง้ หลาย ดจุ พระวิสาขเถระ. เรือ่ งกลา วไวพสิ ดารแลว ในเมตตากรรม-ฐานนิเทศ ในคมั ภรี วสิ ทุ ธมิ รรคน่ันแล. บทวา เทวตา รกฺขนฺติ ความวา เทวดาทัง้ หลาย ยอ มรักษาเหมอื นมารดาและบิดารกั ษาบุตรฉะน้นั . บทวา นาสสฺ อคฺคิ วา วิส วา สตถฺ วา กมติ ความวา ไฟยอมไมกล้ํากราย คือไมเ ขาไปพองพานรา งกายของผอู ยดู วยเมตตา เหมอื นนาง-อุตตราอุบาสิกา ยาพษิ ยอมไมก ลํา้ กราย คอื ไมเ ขา ไปทาํ อันตรายรา งกายของผูอยูดวยเมตตา เหมอื นพระจูฬสเี ถระผูสวดสงั ยตุ ตนกิ ายฉะน้ัน หรือศัสตรา ยอ มไมก ล้ํากราย คือยอ มไมเ ขาใกลรา งกายของผูอยดู ว ยเมตตาเหมอื นสังกิจจสามเณรฉะนนั้ มคี าํ อธบิ ายวา ไฟ ยาพษิ ศัสตรา ยอ ม
พระสุตตันตปฎ ก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนา ท่ี 553ไมทําอันตรายรา งกายของผูอยูดวยเมตตา ก็ในขอนี้ ทา นอาจารยท้ังหลายไดก ลา วเรือ่ งแมโ คนมไว. ไดยินวา แมโ คตัวหนง่ึ กําลงั ยนื หล่ังนํ้านมใหแ กลูกโคอยู นาย-พรานคนหนึง่ คิดวา เราจักแทงแมโ คนั้น จึงใชมือพลกิ ไปมาพุงหอกดา มยาวไป หอกนัน้ แหละ หมนุ ไปกระทบรา งแมโคนมนั้น เหมอื นใบตาลปลิวไปกระทบฉะนนั้ เพราะกาํ ลังอปุ จารภาวนาหามิได เพราะกาํ ลงัอัปปนาภาวนาก็หามิได เปนเพราะแมโคนน้ั มจี ติ เกอ้ื กูลอยา งแรงในลูกโคอยางเดียว. เมตตามีอานุภาพมากถึงอยางน.้ี บทวา ตวุ ฏ จิตฺต สมาธิยติ ความวา จติ ของบุคคลผอู ยูดวยเมตตายอมตั้งมั่นไดรวดเร็ว. ความท่ีจิตนน้ั ต้งั มั่นชา ไมม .ีบทวา มุขวณฺโณ วิปปฺ สที ติ ความวา และหนาของผูน้ันยอมมสี ีผองใส เหมอื นผลตาลสกุ หลุดจากข้วั ฉะนัน้ . บทวา อสมมฺ ฬู ฺโห กาล กโรติ ความวา ชอ่ื วา ความหลงตายของผอู ยดู วยเมตตาไมม .ี ยอมไมหลงทาํ กาละ เหมือนกบั กา วลงสูความหลับ. บทวา อตุ ตฺ รึ อปฺปฏิวชิ ฌฺ นโฺ ต ความวา บคุ คลผูอยูดว ยเมตตา เมือ่ไมบ รรลุพระอรหัตอันเปนคุณวิเศษทย่ี ิ่งกวา เมตตาสมาบตั ิ จุติจากอัตภาพน้ันแลว ไปเกดิ ในพรหมโลก เหมือนหลับแลว ตน่ื ขน้ึ . จบอรรถกถาเมตตาสตู รที่ ๕ ๖. ทสมสูตรวา ดว ยธรรมอยา งเอก อันเปนทหี่ ลดุ พนแหง จิตที่ยังไมห ลดุ พน [๒๒๓] สมยั หน่งึ ทา นพระอานนทอยู ณ เวฬวุ คาม ใกลพระ-
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ท่ี 554นครเวสาลี ก็สมัยนั้น หสมคฤหบดีชาวเมืองอัฏฐกะ เดินทางไปถงึ เมืองปาตลบี ุตร ดว ยกรณียกิจบางอยา ง ครัง้ นัน้ แล ทสมคฤหบดชี าวเมืองอฏั ฐกะ เขาไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ณ กกุ กฎุ าราม คร้นั แลว ไดถ ามภกิ ษุนั้นวา ขา แตท า นผูเจริญ บัดนี้ ทานพระอานนทอ ยูท่ีไหน เพราะวาขา พเจาเปนผใู ครเ พ่อื จะพบทา นพระอานนท ภกิ ษนุ นั้ ตอบวา ดูกอ นคฤหบดีทานพระอานนทอ ยู ณ เวฬุคาม ใกลพ ระนครเวสาลี. ครั้งนั้นแล ทสมคฤหบดีชาวเมอื งอฏั ฐกะ กระทํากรณียกจิ นั้นทเี่ มืองปาตลบี ุตรเสร็จแลว ไดเขา ไปหาทา นพระอานนท ณ เวฬุวคาม ใกลพระนครเวสาลี ไหวท านพระอานนทแลว นั่ง ณ ทคี่ วรสวนขา งหนึง่ ครน้ัแลว ไดถามทา นพระอานนทวา ขา แตท า นพระอานนทผูเ จรญิ ธรรมอยา งเอก อนั เปน ที่หลุดพน แหงจติ ทย่ี ังไมหลดุ พน เปนทถ่ี ึงความหมดสน้ิ ไปแหงอาสวะท้งั หลายท่ียังไมหมดส้ินไป หรือเปนที่บรรลุโดยลาํ ดบั ซง่ึ ธรรมเปนแดนเกษมจากโยคะอันยอดเย่ยี มทย่ี งั ไมบ รรลุโดยลาํ ดบั แหงภกิ ษผุ ูไมประมาท มคี วามเพยี ร มใี จเดด็ เด่ียว ทพ่ี ระผมู พี ระภาคเจา พระองคนั้นผูรผู ูเห็น เปนอรหนั ตสมั มาสัมพทุ ธเจาตรัสไวโดยชอบมีอยูหรือ. ทานพระอานนทตอบวา ดกู อ นคฤหบดี ธรรมอยางเอกอนั เปน ที่หลุดพน แหงจิตทย่ี ังไมห ลดุ พน เปน ทถ่ี ึงความหมดสิน้ ไปแหงอาสวะทง้ัหลายท่ียงั ไมห มดส้ินไป หรือเปนที่บรรลุโดยลาํ ดบั ซ่งึ ธรรมเปนแดนเกษมจากโยคะอนั ยอดเย่ียมท่ียงั ไมบ รรลโุ ดยลาํ ดับ แหงภิกษุผไู มป ระมาท มีความเพียร มใี จเดด็ เด่ยี ว ที่พระผมู ีพระภาคเจา พระองคน้นั ผรู ผู ูเหน็เปนอรหนั ตสมั มาสัมพทุ ธเจาไดต รสั ไวแ ลวโดยชอบ มอี ย.ู ท. ขา แตท านพระอานนท ธรรมอยา งเอก อันเปนท่ีหลดุ พน
พระสตุ ตนั ตปฎก องั คตุ รนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาท่ี 555แหง จติ ทีย่ ังไมหลดุ พน เปน ที่ถงึ ความหมดส้นิ แหงอาสวะท้ังหลายทย่ี ังไมหมดสิน้ หรอื เปนทบ่ี รรลุโดยลําดบั ซ่ึงธรรมเปนแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยย่ี มทีย่ ังไมบรรลุโดยลําดบั แหง ภิกษุผูไ มประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเด่ียว ทีพ่ ระผมู พี ระภาคเจาพระองคน ัน้ ผูรูผเู หน็ เปนอรหนั ต-สัมมาสมั พุทธเจาไดต รัสไวโ ดยชอบ เปน ไฉน. อ. ดกู อนคฤหบดี ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ สงัดจากกาม สงดั จากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌานอนั มีวิตกวจิ าร มปี ต ิและสขุ เกดิ แตวิเวกอยูภกิ ษุนัน้ ยอ มพจิ ารณาเหน็ ดังน้ีวา ปฐมฌานนแ้ี ลถูกปรุงแลว ถูกตบแตงแลว และยอมรชู ัดวา ก็สิง่ ใดสงิ่ หนง่ึ ถูกปรงุ แลว ถกู ตบแตงแลว สิ่งนัน้เปน ของไมเท่ยี ง มีความดบั ไปเปน ธรรมดา เธอจึงตัง้ อยใู นสมถะและวปิ สสาธรรมนนั้ ยอมบรรลคุ วามสิน้ ไปแหง อาสวะท้ังหลาย หากวา ไมบรรลคุ วามส้ินไปแหงอาสวะทง้ั หลาย กจ็ ะเปน อุปปาติก๑พรหม เพราะความสน้ิ ไปแหง สังโยชนอนั เปน ไปในสวนเบอื้ งตาํ่ ๕ โดยความพอใจเพลิดเพลนิ ในธรรมนัน้ ๆ จักปรนิ ิพพานในภพนนั้ มีอันไมกลบั มาจากโลกนัน้ เปน ธรรมดา ดกู อ นคฤหบดี นแ้ี ลคือธรรมอยา งเอก อันเปนท่ีหลดุพนแหงจิตท่ียงั ไมห ลดุ พน เปนที่ถงึ ความหมดสน้ิ ไปแหง อาสวะทงั้ หลายทย่ี ังไมหมดสิ้นไป หรือเปนท่ีบรรลโุ ดยลาํ ดบั ซ่ึงธรรมเปน แดนเกษมจากโยคะอนั ยอดเยีย่ มที่ยังไมบ รรลุโดยลาํ ดับ แหง ภกิ ษุผไู มป ระมาท มคี วามเพียร มใี จเด็ดเด่ยี ว ท่พี ระผูมีพระภาคเจา พระองคนั้น ผรู ผู เู ห็น เปนอรหันตสมั มาสัมพุทธเจา ตรัสไวแ ลว โดยชอบ.๑. อนาคามี.
พระสุตตันตปฎก องั คุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาที่ 556 อีกประการหนึ่ง ภกิ ษุยอ มบรรลุทุตยิ ฌาน มีความผอ งใสแหงจติในภายใน เปน ธรรมเอกผดุ ข้นึ ไมม ีวติ กวิจาร เพราะวติ กวจิ ารสงบไปมปี ต แิ ละสุขอนั เกิดแตสมาธิอย.ู .. อกี ประการหน่ึง ภิกษุเปน ผูมอี เุ บกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสขุดว ยนามกาย เพราะปต สิ ิ้นไป บรรลตุ ตยิ ฌาน ทีพ่ ระอริยเจาทัง้ หลายสรรเสรญิ วา ผไู ดฌ านน้ี เปน ผมู ีอุเบกขา มีสติอยูเปน สขุ อย.ู .. อีกประการหนง่ึ ภิกษบุ รรลุจตตุ ถฌาน อันไมมีทุกข ไมมสี ขุ เพราะละสขุ ละทกุ ขและดบั โสมนัสโทมนสั ในกอน ๆ ได มอี เุ บกขาเปน เหตุใหส ติบรสิ ทุ ธ์อิ ยู ภกิ ษุน้ันยอ มพิจารณาเห็นดังน้วี า แมจ ตุตถฌานน้ีแล ถกู ปรุงแลว ถกู ตบแตง แลว และยอ มรชู ัดวา กส็ ่งิ ใดสง่ิ หน่ึงถกู ปรุงแลว ถูกตบแตง แลว สิง่ นั้นเปนของไมเ ที่ยง มีความดบั ไปเปน ธรรมดา เธอต้ังอยูในสมถะและวิปส สนาธรรมนน้ั ยอมบรรลคุ วามส้นิ ไปแหง อาสวะทัง้ หลายหากวาไมบ รรลคุ วามส้นิ ไปแหงอาสวะท้ังหลาย ก็จักเปนอุปปาติกพรหมเพราะความส้ินไปแหง สงั โยชนอนั เปนไปในสว นเบอ้ื งต่ํา ๕ ดวยความพอใจเพลิดเพลินในธรรมนัน้ ๆ จักปรินิพพานในภพนน้ั มอี ันไมก ลับจากโลกน้ันเปนธรรมดา ดกู อนคฤหบดี แมขอนีแ้ ลก็เปน ธรรมอยางเอกอนั เปนท่ีหลุดพนแหงจิตที่ยงั ไมห ลุดพน เปน ทีถ่ ึงความสิน้ ไปแหงอาสวะทงั้ หลายท่ียังไมห มดสน้ิ ไป หรอื เปนทบ่ี รรลโุ ดยลาํ ดับซ่ึงธรรมเปนแดนเกษมจากโยคะอนั ยอดเย่ยี มท่ียงั ไมบ รรลโุ ดยลาํ ดบั แหง ภิกษุผไู มประมาท มคี วามเพยี ร มีใจเด็ดเดี่ยว ท่ีพระผมู พี ระภาคเจา พระองคน้ันผูรูผูเห็น เปนอรหนั ตสัมมาสมั พทุ ธเจาตรัสไวแ ลว โดยชอบ.
พระสุตตันตปฎก องั คุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนา ที่ 557 อกี ประการหนึ่ง ภกิ ษุมีจิตประกอบดว ยเมตตา แผไปสูทิศหนึ่งอยูทศิ ทีส่ อง ทส่ี าม ทศิ ที่สกี่ เ็ หมอื นกัน โดยนยั น้ที งั้ เบอ้ื งบน เบ้อื งตาํ่เบื้องขวาง แผไปตลอดโลก ทัว่ สัตวทุกเหลา ในทีท่ กุ สถาน ดว ยใจประกอบดว ยเมตตาอันไพบูลย ถงึ ความเปนใหญ ไมมีเวร ไมม คี วามเบยี ดเบียนอยู ภกิ ษุน้นั ยอมพจิ ารณาเหน็ ดังนวี้ า แมเมตตาเจโตวิมตุ ตินีแ้ ล ถกู ปรงุแลว ถูกตบแตงแลว และรูชัดวา สงิ่ ใดสง่ิ หน่ึงถูกปรงุ แลว ถูกตบแตง แลว ส่งิ นัน้ เปนของไมเทย่ี ง มคี วามดับไปเปน ธรรมดา เธอต้ังอยแู ลวในสมถะและวิปส สนาธรรมนน้ั ยอมบรรลคุ วามสน้ิ ไปแหง อาสวะทัง้ หลาย หากวาเธอไมบรรลคุ วามสน้ิ ไปแหง อาสวะทัง้ หลาย ก็จกั เปนอปุ ปาติกพรหม เพระความสน้ิ ไปแหง สงั โยชนอนั เปนไปในสว นเบือ้ ง-ตํา่ ๕ ดวยความพอใจเพลิดเพลนิ ในธรรมนนั้ ๆ จกั ปรินพิ พานในภพนนั้มอี ันไมกลับจากโลกนัน้ เปน ธรรมดา ดูกอ นคฤหบดี แมขอ นี้แล ก็เปนธรรมอยา งเอก อนั เปน ทหี่ ลดุ พนแหงจติ ที่ยังไมหลดุ พน เปน ทถี่ งึความหมดส้นิ ไปแหง อาสวะทงั้ หลายท่ยี งั ไมหมดส้นิ ไป หรอื เปน ที่บรรลุโดยลําดบั ซง่ึ ธรรมเปน แดนเกษมจากโยคะอนั ยอดเยี่ยมทย่ี งั ไมบรรลโุ ดยลําดับ แหงภิกษุผูไมป ระมาท มคี วามเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ท่พี ระผูมี-พระภาคเจา พระองคน นั้ ผูร ผู เู ห็น เปน อรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา ตรสั ไวแลว โดยชอบ อกี ประการหนึ่ง ภกิ ษุมีจติ ประกอบดว ยกรุณา... อกี ประการหน่งึ ภกิ ษุมีจิตประกอบดวยมทุ ติ า... อกี ประการหนง่ึ ภิกษุมจี ติ ประกอบดว ยอเุ บกขา ยอ มแผไ ปสูทศิหน่งึ อยู ทศิ ที่สอง ทศิ ทีส่ าม ทศิ ที่ส่กี เ็ หมอื นกัน โดยนยั น้ี ทงั้ เบ้อื งบน
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คตุ รนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ที่ 558เบื้องตํา่ เบื้องขวาง แผไปตลอดโลก ทัว่ สตั วทกุ เหลา ในทที่ ุกสถานดว ยใจประกอบดว ยอุเบกขาอนั ไพบูลย ถงึ ความเปนใหญ ไมม เี วรไมม คี วามเบียดเบยี นอยู ภกิ ษุน้ันยอมพจิ ารณาเหน็ ดังน้วี า แมอ เุ บกขา-เจโตวมิ ตุ ติน้แี ล ถูกปรุงแลว ถกู ตบแตงแลว และยอ มรูช ดั วา ส่งิ ใดสงิ่ หน่ึงถกู ปรงุ แลว ถกู ตบแตง แลว ส่ิงนน้ั เปน ของไมเ ทยี่ ง มีความดบัไมเ ปน ธรรมดา เธอต้งั อยแู ลวในสมถะและวิปสสนาธรรมนั้น ยอมบรรลุความส้ินไปแหง อาสวะท้งั หลาย หากวาเธอไมบ รรลคุ วามสนิ้ ไปแหงอาสวะทง้ั หลาย กจ็ กั เปนอุปปาติกพรหม เพราะความส้นิ รูปแหง สงั โยชนอนั เปนไปในสวนเบอ้ื งตาํ่ ๕ ดวยความพอใจเพลิดเพลินในธรรมนนั้ ๆจักปรนิ พิ พานในภพนน้ั มอี นั ไมก ลับจากโลกนัน้ เปน ธรรมดา ดูกอนคฤหบดี แมขอนแี้ ลก็เปนธรรมอยางเอก อนั เปน ท่หี ลดุ พน แหงจิตที่ยงั ไมห ลดุ พน เปน ทห่ี มดสนิ้ ไปแหงอาสวะท้ังหลายที่ยังไมหมดส้นิ ไปหรือเปน ที่บรรลโุ ดยลาํ ดบั ซงึ่ ธรรมเปน แดนเกษมจากโยคะอนั ยอดเยย่ี มท่ยี งัไมบ รรลุโดยลําดับ แหงภิกษผุ ูไมประมาท มีความเพยี ร มใี จเด็ดเดีย่ วท่ีพระผูมีพระภาคเจา พระองคนนั้ ผูร ูผเู ห็น เปนอรหนั ตสมั มาสมั พุทธเจาตรสั ไวแ ลว โดยชอบ. อกี ประการหนึง่ ภิกษุยอมบรรลุอากาสานัญจายตนฌานดวยการบรกิ รรมวาอากาศไมมที ี่สดุ เพราะกาวลว งรปู สัญญาโดยประการทั้งปวงเพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไมใสใ จซ่งึ นานัตตสัญญา ภิกษนุ ้ันยอมพจิ ารณาเหน็ ดังนี้วา แมอ ากาสานัญจายตนสมาบตั ินีแ้ ล ถูกปรุงแลวถกู ตบแตง แลว และยอมรชู ดั วา สิ่งใดสิ่งหนง่ึ ถกู ปรงุ แลว ถกู ตบแตง แลวส่ิงนัน้ เปนของไมเทีย่ ง มีความดับไปเปน ธรรมดา เธอตงั้ อยูแลวในสมถะ
พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาท่ี 559และวิปส สนาธรรมน้ัน ยอมบรรลุความสิน้ ไปแหง อาสวะท้งั หลาย หากวา เธอไมบ รรลุความส้นิ ไปแหง อาสวะท้งั หลาย กจ็ ักเปน อปุ ปาติกพรหมเพราะความในรูปแหง สงั โยชนอ นั เปนไปในสว นเบอ้ื งตาํ่ ๕ ดวยความพอใจเพลดิ เพลินในธรรมน้ัน ๆ จักปรนิ ิพพานในภพนั้น มีอันไมกลับจากโลกน้นั เปนธรรมดา ดกู อ นคฤหบดี แมข อนี้แลก็เปน ธรรมอยา งเอกอันเปน ท่ีหลุดพนแหง จิตท่ยี งั ไมห ลุดพน เปน ทถี่ งึ ความหมดสน้ิ ไปแหงอาสวะทงั้ หลายทีย่ ังไมหมดสน้ิ ไป หรอื เปนทบี่ รรลโุ ดยลาํ ดับซ่งึ ธรรมเปนแดนเกษมจากโยคะอันยอเยี่ยมทย่ี งั ไมบรรลโุ ดยลําดบั แหง ภกิ ษผุ ไู มประมาท มคี วามเพยี ร มีใจเด็ดเดี่ยว อันพระผูม พี ระภาคเจา พระองคน ้นัผรู ูผเู หน็ เปน อรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธเจา ตรัสไวแ ลวโดยชอบ. อีกประการหนึ่ง ภิกษุกา วลวงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการท้ังปวง ยอ มบรรลุวิญาณญั จายตนฌานโดยบรกิ รรมวา วิญญาณไมมีทส่ี ดุ ... อีกประการหนึง่ ภิกษุกาวลวงวิญญาณญั จายตนฌานโดยประการทงั้ ปวง ยอมบรรลุลากญิ จญั ญายตนฌานโดยบริกรรมวา หนอ ยหนึง่ ไมม ีดังน้ี ภกิ ษนุ ั้นยอมพิจารณาเห็นดงั นวี้ า อากญิ จญั ญายตนสมาบตั ินี้แล ถูกปรงุ แลว ถูกตบแตงแลว และยอ มรูชัดวา สงิ่ ใดสิ่งหนึ่งถกู ปรงุ แลว ถกูตบแตง แลว สง่ิ น้นั เปนของไมเ ท่ียง มคี วามดับไปเปน ธรรมดา ภกิ ษุน้นัต้ังอยูแ ลว ในสมถะและวิปสสนาธรรมนั้น ยอ มบรรลุความสน้ิ ไปแหงอาสวะท้ังหลาย หากวา เธอไมบรรลคุ วามสนิ้ ไปแหงอาสวะท้งั หลาย กจ็ กั เปนอุปปาตกิ พรหม เพราะความส้ินไปแหง สงั โยชนอ นั เปน ไปในสว นเบื้อง-ตาํ่ ๕ ดวยความพอใจเพลดิ เพลนิ ในธรรมนนั้ ๆ จักปรนิ พิ พานในภพน้ัน
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คตุ รนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาท่ี 560มีอันไมก ลบั จากโลกน้นั เปน ธรรมดา ดกู อนคฤหบดี แมขอนี้แล ก็เปนธรรมอยางเอก อันเปน ที่หลดุ พน แหง จติ ทีย่ งั ไมห ลดุ พน เปนทถี่ ึงความหมดสิ้นไปแหง อาสวะท้ังหลายที่ยังไมห มดสนิ้ ไป หรือเปน ทบี่ รรลุโดยลําดบั ซ่งึ ธรรมเปน แดนเกษมจากโยคะอันยอดเยยี่ มทย่ี ังไมบรรลุโดยลาํ ดับ แหง ภิกษุผูไมป ระมาท มีความเพยี ร มใี จเด็ดเดยี่ ว ทพ่ี ระผู-มพี ระภาคเจา พระองคนัน้ ผูรผู ูเ ห็น เปนอรหนั ตสมั มาสมั พุทธเจา ตรัสไวแ ลวโดยชอบ. เมอื่ ทานพระอานนทกลา วอยา งนีแ้ ลว ทสมคฤหบดชี าวเมอื งอฏั ฐกะไดก ลา วกะทา นพระอานนทว า ขาแตท า นพระอานนทผูเ จรญิ เปรียบเหมือนบุรุษแสวงหาแหลง ขมุ ทรพั ยขุมเดียว พึงพบแหลง ขุมทรัพย ๑๑ ขมุ คราวเดยี วกัน แมฉ นั ใด ขาพเจาเม่อื แสวงหาประตอู มตธรรมประตเู ดยี ว ก็ไดสดับประตอู มตธรรม ๑ ประตคู ราวเดยี วกัน ฉนั นัน้ เปรียบเหมอื นบรุ ุษมีเรอื น ๑๑ ประตู เมือ่ เรอื นนน้ั ถูกไฟไหม บุรษุ พงึ อาจเพ่อื ทาํ ตนใหสวสั ดีโดยประตูหน่ึง ๆ แมฉันใด ขา พเจาจักอาจเพื่อทําตนใหส วสั ดไี ดดว ยประตูอมตธรรมประตูหน่ึงๆในบรรดาประตอู มตธรรม ๑๑ ประตูเหลานี้ ฉันนัน้ เหมอื นกนั แล ขา แตท า นผเู จริญ ธรรมดาอัญญเดยี รถยี เ หลา น้ีจักแสวงหาทรพั ยบ ูชาอาจารยเ พ่อื อาจารย สวนขาพเจา จกั บูชาทา นพระ-อานนทอยา งไรเลา ลําดับนนั้ แล ทสมคฤหบดีชาวเมอื งอัฏฐกะ นมิ นตพระภิกษุสงฆผ ูอยูในนครเวสาลแี ละเมอื งปาตลีบตุ รใหป ระชมุ กนั แลว องั คาสภกิ ษุสงฆใหอม่ิ หนาํ สาํ ราญ ดวยขาทนียโภชนียาหารอันประณตี ดว ยมือของ นมิ นตภิกษุรปู หน่ึง ๆ ใหครองผาคูหน่ึง นิมนตท านพระอานนท
พระสุตตันตปฎ ก องั คุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนา ที่ 561ใหครองไตรจีวร และสรางวหิ ารราคาหารอ ยถวายทานพระอานนท ดงัน้แี ล. จบทสมสตู รท่ี ๖ อรรถกถาทสมสูตรท่ี ๖ ทสมสูตรที่ ๖ มวี นิ จิ ฉัยดงั ตอ ไปนี.้ บทวา ทสโม ความวา กค็ ฤหบดนี ้ัน เขานบั ในตาํ แหนง ที่ ๑๐ดวยอาํ นาจชาติและสกุล และดว ยการนับตระกลู ท่ีเปน คฤหบดมี หาศาลเพราะเหตนุ นั้ เขาจงึ ชอื่ วา ทสมะน่นั แล. บทวา อฏ กนาคโร แปลวาชาวเมืองอฏั ฐกะ. บทวา กกุ กฺ ุฏาราเม ไดแ ก อารามทีก่ ุกกฏุ เศรษฐีสรา งไว. ในคําวา เตน ภควตา ฯเปฯ สมฺมทกฺขาโต นี้ มีความสงั เขปดงั ตอ ไปน้ี :- ทสมคฤหบดี ถามทา นพระอานนทว า พระผูมีพระภาคเจาผูบาํ เพ็ญพระบารมี ๓๐ ถว นแลว ทรงหกั กิเลสทงั้ ปวง ทรงรูซ ่งึ อนตุ ตร-สัมมาสมั โพธิญาณน้นั อนั เทวดาและมนษุ ยท ้งั หลาย ชมเชยดวยเหตุ๔ ประการ ดวยสามารถแหง เวสารชั ชญาณ ๔ อยางคอื พระองคทรงรูอัธยาศยั และอนุสยั ของสัตวท ง้ั หลายนน้ั ๆ ทรงเหน็ ไญยธรรมท้งั ปวงเหมือนผลมะขามปอมทว่ี างไวใ นฝามือ อน่ึง ทรงรูด วยปพุ เพนวิ าสญาณเปนตน ทรงเห็นดวยทิพจักษุ หรือวาทรงรดู วยวชิ ชา ๓ หรือดว ยอภญิ ญา ๖ ทรงเหน็ ดว ยสมันตจักษุ อันไมต ิดขัดในโลกทัง้ ปวง ทรงรูดวยปญญา อันสามารถรธู รรมทัง้ ปวง หรือทรงเหน็ รปู อนั ลว งเสยี ซึง่จักษวุ สิ ยั ของสรรพสตั ว และรปู ที่อยภู ายนอกฝาเรอื นเปน ตน ดว ยมงั ส-
พระสตุ ตนั ตปฎก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ที่ 562จักษุอนั บริสุทธย์ิ ่งิ นกั ทรงเหน็ ดวยปฏเิ วธปญญาเปนเครอ่ื งตรัสรทู ่ีมีสมาธิเปนปทัฎฐาน (เปนเหตใุ กล) อนั ยังประโยชนตนใหสาํ เรจ็ ทรงเหน็ดวยเทสนาปญญาอนั เปนเครื่องแสดงธรรมทมี่ ีกรณุ าเปน ปทฏั ฐาน ( เปนเหตุใกล) อนั ยงั ประโยชนผ ูอ ่ืนใหส ําเร็จ หรือทรงรธู รรมอนั กระทาํ ซ่ึงอันตราย ทรงเหน็ ธรรมอนั เปนเหตุนําสัตวออกจากวฏั ทกุ ข ชอื่ วา ทรงเปนพระอรหันต เพราะทรงกาํ จัดขาศึกคอื กิเลสเสยี ได ทรงพระนามวาสมั มาสมั พุทธะ เพราะตรัสรูธรรมโดยชอบดวยพระองคเ อง พระองคตรัสธรรมเอกมีอยหู รอื หนอ. บทวา อภิสงฺขต ความวา อันภิกษุกระทําแลว คือใหเกิดขึ้นแลว.บทวา อภิสฺเจตยติ ความวา อนั ภิกษตุ ิดคือใหสําเร็จแลว . บทวาโส ตตฺถ ิโต ความวา ภิกษนุ ้ันต้ังอยูแลว ในธรรมคอื สมถะและวปิ ส สนา.ดวยบททั้งสองวา ธมมฺ ราเคน ธมมฺ นนทฺ ิยา ทานพระอานนทก ลา วความยินดี ดวยอาํ นาจความพอใจในสมถะและวิปสสนา. จรงิ อยู ภิกษเุ มอ่ืกาํ หนดยึดเอาฉนั ทราคะโดยประการท้งั ปวง ในสมถะและวิปสสนา ยอ มเปนพระอรหันต เมื่อไมอาจยดึ เอาไวไ ดก็เปน พระอนาคามี ยอมบงั เกดิ ในพรหมโลกชนั้ สทุ ธาวาส เพราะยงั ละฉนั ทราคะในสมถะและวปิ ส สนาไมไ ดนี้เปน ถอ ยคาํ ของอาจารยท ัง้ หลาย ผูมคี วามเหน็ เสมอกัน. แตท า นอาจารยผชู อบพูดเคาะกลาววา ภิกษุนบ้ี งั เกดิ แลว ในสุทธาวาสภูมิ ดวยอกุศลจติเพราะบาลวี า เตเนว ธมมฺ ราเคน ดังน้.ี อาจารยฝายพดู เคาะถอื วาวา ขอทา นจงนาํ พระสตู รมาดว ย ดงั นี.้ เมื่ออาจารยฝายน้นั มองไมเ หน็พระสูตรอ่ืน กน็ าํ เฉพาะพระสูตรนเี้ ทาน้ันมาอาง. ลําดบั นัน้ กจ็ ะถกูคา นวา กพ็ ระสตู รนห้ี รอื ทท่ี า นนํามาอางแลว หรอื เพ่ือจะนาํ มา ดังน้ี
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนา ที่ 563ตอบวา นํามาอางแลวแนนอน. ลําดับนัน้ อาจารยฝา ยพดู เคาะกลาววาเมื่อเปน อยางน้นั ภิกษผุ ูตอ งการอนาคามิผล จักตอ งทาํ ความยินดดี วยอาํ นาจความพอใจในสมถะและวปิ ส สนา เม่ือเกดิ ฉันทราคะขน้ึ แลว จักไดอนาคามิผล ทา นอยา แสดงอยา งเลือ่ นลอยวา ขา พเจา ไดอา งสูตรมาแลวเลย เลยถามปญ หา ควรจะรํา่ เรยี นในสาํ นักของอาจารย ขบอรรถรสใหแ ตกแลว จงึ คอยกลาว ดวยวา ชอื่ วา ปฏสิ นธิในสวรรคดวยอกศุ ลไมมีและปฏสิ นธิในอบายดวยกุศลกไ็ มม.ี สมจรงิ ดังคาํ ที่พระผมู ีพระภาคเจาตรัสไววา ดูกอนภิกษุท้ังหลายเทวดา หรอื มนุษย ก็หรอื วา สคุ ติเหลา ใดเหลาหนึ่งอยา งอน่ื ยอมไมปรากฏดว ยกรรม อันเกดิ แตโลภะ อนั เกิดแตโทสะ และเกิดแตโ มหะโดยทแี่ ท นรก กาํ เนดิ ดิรัจฉาน เปรตวสิ ัย หรือทุคตเิ หลาใดเหลา หน่ึงแมอื่น ยอมปรากฏดวยกรรม อันเกิดแตโ ลภะ เกดิ แตโทสะ และเกิดแตโมหะ. อาจารยผ พู ูดเคาะอันบัณฑติ พึงทําใหเ ขาใจอยา งน้ี ถาวา เขาเขา ใจไซร ก็จงเขาใจไปเถิด แตถาวาเขาไมเขา ใจ กพ็ งึ สง เขาไปดว ยคําวา ขอทา นจงไป เขา ไปวหิ ารแตเ ชา ตรู แลว ดืม่ ขาวยาคเู สยี . ดงั น้ี. คําวา อยมปฺ โข คหปติ ฯ เป ฯ เอกธมโฺ ม อกฺขาโต ความวาทานพระอานนท ถูกถามถงึ ธรรมอยา งหน่งึ กก็ ระทาํ ธรรม ๑๐ ประการใหช่ือวา ธรรมอยา งหน่ึง ๆ ดว ยอํานาจคําถาม อยา งนวี้ า ธรรมอยางหนึง่แมนพ้ี ระผูมพี ระภาคเจาก็ตรัสไวแ ลว ธรรมอยางหนึ่งแมนี้ พระผมู พี ระ-ภาคเจา ก็ตรสั ไวแ ลว . อีกอยางหนึ่ง การกลาววา แมธรรมท้ังปวง ชื่อวาธรรมอยางหน่งึกค็ วร เพราะอรรถวา ใหเกิดอมตธรรมข้ึนได.
พระสุตตันตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ที่ 564 บทวา นธิ มิ ขุ คเวสนฺโต ไดแก แสวงหาขมุ ทรัพย. บทวา สกิเทวไดแก ดวยความพยายามครัง้ เดียวเทา นน้ั . ถามวา กก็ ารพบขมุ ทรพั ย ๑๑ ขุม ดวยความพยายามครัง้ เดียวเทา น้นั เปน อยางไร. ตอบวา บุคคลบางคนในโลกน้ี เทย่ี วไปในปาแสวงหาเครือ่ งดาํ เนินชีวติ บคุ คลผูห วงั ดีคนหน่งึ เหน็ เขาแลว ถามวา ทา นผเู จริญเท่ียวไปทาํ ไม ? เขาตอบวา แสวงหาเครื่องดําเนนิ ชีวิต ผูหวงั ดนี ้ันกลา ววา ถา อยา งนนั้ ทา นจงมาน่ี ทา นจงพลกิ หนิ แผน นข้ี ึ้น เขาพลิกหินแผน นน้ั ขนึ้ แลว ก็พบหมอทรพั ย ๑๑ หมอ ท่ีวางซอ นกนั หรอื วางเรยี งกัน. อยา งนี้ ชอ่ื วาพบขมุ ทรัพย ๑๑ ขมุ ดว ยความพยายามครง้ั เดยี วเทา น้นั . บทวา อาจรยิ ธน ปรเิ ยสสิ สฺ นตฺ ิ ความวา จรงิ อยู อัญญเดียรถยี เรียนศิลปะในสํานักอาจารยผ ใู ด ยอ มนาํ ทรพั ยอ อกจากเรอื มาใหอาจารยนั้นกอนหรอื ภายหลงั หรือระหวา งเรยี นศลิ ปะ เดียรถยี ท ี่ไมมที รพั ยในเรอื น ก็ยอ มแสวงหาจากญาตหิ รือจากสหายให แมเ มื่อคนเหลานัน้ไมม ี ยอ มแสวงหาจากผูท ี่ขอบพอกนั ของชนเหลาน้นั เมื่อไมไดอ ยา งนนั้ยอ มเท่ยี วขอเขาใหก ม็ ี ทสมคฤหบดี กลา วหมายเอาขอนั้น จงึ กลา วคาํ น.้ี บทวา กึ ปนาห ความวา ทสมคฤหบดีกลาววา กอนอ่ืนพวกอญั ญเดียรถียน อกศาสนาแสวงหาทรพั ย เพ่ืออาจารยผใู หเ พียงศลิ ปะในอาจารยผ ูแสดงขอปฏบิ ตั ิใหเกดิ อมตะ ๑๐ ประการ ในศาสนาอนั นําสตั วลอกจากทุกขมีประการอยา งนน้ั หรอื วาจกั กระทาํ เลา. บทวา ปจฺเจก-
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ท่ี 565ทุสสฺ ยเุ คน อจฺฉาเทสิ ความวา ทสมคฤหบดี ไดถ วายคผู า แกภกิ ษรุ ูปละ ๑ ค.ู กใ็ นเรอื่ งน้ี คาํ ทีพ่ ดู ขึน้ ยอมเปน เชน น้ี เพราฉะนั้น ทานจึงกลา ววา อจฉฺ าเทส.ิ บทวา ปจฺ สต วหิ าร ความวา ใหสรางบรรณศาลามีราคา ๕๐๐ กหาปณะ. จบอรรถกถาทสมสูตรที่ ๖ ๗. โคปาลกสตู ร วา ดวยองค ๑๑ ของผเู ลย้ี งโค [๒๒๔] ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย นายโคบาลผูป ระกอบดว ยองค ๑๑ประการ เปนผูไ มส ามารถจะเล้ยี งฝูงโคใหเ จรญิ แพรห ลาย องค ๑๑ ประ-การเปนไฉน ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย นายโคบาลในโลกนยี้ อ มไมร จู กั รปู ๑ไมฉลาดในลักษณะ ๑ ไมก าํ จัดไขขาง ๑ ไมป กปดแผล ๑ ไมสมุ ไฟ ๑ไมรูท า นํ้า ๑ ไมร วู า โคดมื่ น้าํ แลว หรือยัง ๑ ไมร ูทาง ๑ ไมฉลาดในท่ีหากนิ ๑ รดี นมไมใ หเ หลอื ๑ ไมบ ชู าโคผทู ั้งหลายท่เี ปนพอโคเปนผนู าํฝงู โคดว ยการบชู าอยางย่ิง ๑ ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย นายโคบาลผูประกอบองค ๑๑ ประการน้ีแล เปนผูไมสามารถจะเล้ียงฝูงโคใหเจริญแพร-หลาย ฉนั ใด ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษผุ ปู ระกอบดว ยธรรม ๑๑ ประการก็เปนผูไมส ามารถจะถึงความเจรญิ งอกงามไพบลู ยใ นธรรมวนิ ัยนฉี้ นั นั้นเหมือนกนั ธรรม ๑๑ ประการเปน ไฉน ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย ภกิ ษุในธรรมวินัยน้ี ยอ มไมร ูจ กั รูป ๑ ไมฉ ลาดในลกั ษณะ ๑ ไมกาํ จดั ไขข าง ๑ไมป กปด แผล ๑ ไมส มุ ไฟ ๑ ไมรูทา นาํ้ ๑ ไมร ูธรรมท่ีด่มื แลว ๑ ไมรทู าง ๑ ไมฉลาดในโคจร ๑ รีดไมใ หมเี หลอื ๑ ไมบ ชู าภกิ ษทุ งั้ หลาย
พระสตุ ตนั ตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาท่ี 566ผเู ปนรัตตัญบู วชนาน เปนสังฆบิดร เปนสงั ฆปรณิ ายก ดว ยการบูชาอยางยิ่ง ๑. ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย กภ็ ิกษุยอ มไมรูจกั รปู อยางไร ภิกษุในธรรม-วินัยนี้ ยอมไมรชู ัดซ่ึงรปู อยางใดอยา งหนงึ่ ตามความเปน จริงวา มหาภูต-รูป ๔ และรูปอันอาศัยมหาภตู รปู ๔ ดูกอนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุยอ มไมรูจกั รปู อยา งนน้ั แล. ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย กภ็ กิ ษยุ อ มไมฉ ลาดในลกั ษณะอยา งไร ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมไมรชู ัดตามความเปน จริงวา คนพาลมกี รรมเปนลักษณะ บณั ฑติ มีกรรมเปนลกั ษณะ ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษยุ อ มไมฉลาดในลกั ษณะอยา งนแี้ ล. ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย กภ็ ิกษุไมก ําจัดไขขางอยา งไร ภิกษุในธรรม-วินัยนี้ ยอ มใหกามวติ กที่บงั เกิดข้นึ ครอบงํา ไมละ ไมบ รรเทา ไมกระทําใหส นิ้ สุดซงึ่ กามวิตกท่ีเกดิ ขนึ้ แลว ไมใหกามวติ กทเ่ี กดิ ข้นึ แลว ถึงความไมมี ยอมใหพ ยาบาทวติ กท่เี กดิ ขึ้นแลว ครอบงํา. . . ยอ มใหวหิ งิ สา-วติ กท่เี กดิ ขึน้ แลว ครอบงาํ . . . ยอ มใหอกศุ ลธรรมอนั ลามกทเ่ี กดิ ขน้ึ แลวครอบงํา ไมละ ไมบรรเทา ไมก ระทาํ ใหส ้นิ สุด ซ่ึงอกุศลธรรมอนัลามกท่ีเกิดขนึ้ แลว ๆ ไมใ หอ กุศลธรรมท่เี กิดขนึ้ แลว ถงึ ความไมม ี ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษุไมก าํ จดั ไขข างอยา งนนั้ แล. ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย กภ็ ิกษยุ อมไมป กปด แผลอยางไร ภิกษใุ นธรรมวินยั นี้ เห็นรปู ดว ยจกั ษุแลว ยอ มถือเอาโดยนิมิต ถอื เอาโดยอนุ-พยัญชนะ ยอมไมปฏบิ ัตเิ พ่อื สํารวมจกั ขนุ ทรีย ทเ่ี มื่อไมส าํ รวมแลว จะเปนเหตใุ หอ กุศลธรรมอันลามก คอื อภชิ ฌาและโทมนสั ครอบงาํ นน้ั ช่ือวา
พระสตุ ตันตปฎก องั คตุ รนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาที่ 567ยอมไมรกั ษาจักขนุ ทรยี ชอื่ วา ไมถ ึงความสํารวมในจกั ขนุ ทรีย ฟง เสียงดว ยหู... ดมกลนิ่ ดว ยจมกู . . . ล้ิมรสดวยลนิ้ .. . ถกู ตองโผฏฐัพพะดว ยกาย... รแู จงธรรมารมณดว ยใจแลว เปนผูถอื เอาโดยนมิ ิต ถอื เอาโดยอนพุ ยญั ชนะ ยอมไมป ฏิบัติเพื่อสํารวมมนินทรยี ท่ีเม่อื ไมส าํ รวมแลว จะเปนเหตใุ หอ กศุ ลธรรมอนั ลามก คอื อภิชฌาและโทมนสั ครอบงํา ชื่อวายอ มไมร ักษามนินทรยี ชอื่ วา ยอ มไมถ งึ ความสาํ รวมในมนินทรีย ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ภกิ ษไุ มป กปดแผลอยางนั้นแล. ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย กภ็ ิกษไุ มสมุ ไฟอยา งไร ภิกษุในธรรมวนิ ยั นี้ยอ มไมแ สดงธรรมตามท่ฟี ง มาแลว ตามท่เี รียนมาแลว แกผ ูอน่ื โดยพิสดาร ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษชุ อ่ื วา ไมสุมไฟอยางนีแ้ ล. ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย กภ็ กิ ษุไมร ทู าน้ําอยางไร ภิกษุในธรรมวินยั นี้เขาไปหาภิกษุผูเปนพหูสตู ผูชํานาญนิกาย ผทู รงธรรม ทรงวินยั ทรงมาติกา ตามเวลาอนั สมควร ยอมไมสอบถาม ยอมไมไดถ ามวา ทา นผูเจรญิ พระพุทธพจนนเี้ ปนอยางไร อรรถแหง พระพทุ ธพจนนี้เปนอยา งไร ทานเหลาน้นั ยอมไมเปดเผยขอที่ยงั ไมไดเ ปดเผย ยอ มไมท าํ ใหตนื้ ขอท่ยี งั ไมไดทําใหต นื้ และไมบรรเทาความสงสยั ในธรรมเปนทต่ี ง้ัแหงความสงสัยมากอยาง แกภ ิกษนุ ้ัน ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย ภกิ ษยุ อ มรูทา น้าํ อยา งนแ้ี ล. ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย กภ็ กิ ษยุ อ มไมร ธู รรมทแ่ี ลวอยา งไร ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ เม่ือธรรมวินยั อนั ตถาคตประกาศแลว อนั บุคคลอน่ื แสดงอยู ยอ มไมไดค วามรูอรรถ ไมไ ดค วามรูธรรม ไมไ ดค วามปราโมทยอันประกอบดว ยธรรม ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ภิกษุไมรธู รรมทด่ี ืม่ แลวอยา งน้ีแล.
พระสุตตนั ตปฎก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนา ท่ี 568 ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภิกษยุ อ มไมร ทู างอยางไร ภกิ ษุในธรรมวินยั น้ี ยอมไมร ูอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ตามความจริง ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษุไมร ูท างอยางนแ้ี ล. ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย กภ็ กิ ษยุ อ มไมฉ ลาดในโคจรอยา งไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ยอ มไมร สู ตปิ ฏ ฐาน ๔ ตามความจรงิ ดกู อนภิกษุทง้ั หลายภิกษไุ มฉลาดในโคจรอยา งนัน้ แล. ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย กภ็ ิกษยุ อ มรดี ไมใหเ หลืออยา งไร ภิกษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมไมร ปู ระมาณเพือ่ การรับจีวร บณิ ฑบาต เสนาสนะและคิลานปจ จัยเภสัชบริขาร ทา นคฤหบดผี มู ศี รทั ธาปวารณาเพ่อื นาํ ไปไดตามพอใจ ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย ภิกษุยอ มรดี ไมใ หเหลอื อยา งนีแ้ ล. ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย ก็ภิกษยุ อ มไมบ ชู าภกิ ษุผูเปน พระเถระ ผรู ัต-ตญั ู บวชนาน เปน สงั ฆบิดร เปน สังฆปริณายก ดว ยการบูชาอยางยิ่งอยา งไร ภกิ ษุในธรรมวนิ ยั น้ี ยอมไมเขา ไปตง้ั เมตตากายกรรม ทง้ั ในที่แจงทัง้ ในทล่ี ับ ยอ มไมเขาไปต้ังเมตตาวจีกรรม ยอ มไมเ ขาไปตง้ั เมตตา-มโนกรรม ทง้ั ในที่แจง ทง้ั ในท่ีลบั ในภกิ ษุทัง้ หลายผูเปน พระเถระ ผูรัต-ตัญู บวชนาน เปน สังฆบิดร เปนสงั ฆปรณิ ายก ดกู อนภิกษุทัง้ หลายภกิ ษยุ อ มไมบ ูชาภกิ ษุผเู ปน พระเถระ ผูรตั ตญั ู บวชนาน เปนสังฆบิดรเปนสังฆปริณายก ดว ยการบูชาอยางยงิ่ อยางนีแ้ ล. ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษผุ ูประกอบดวยธรรม ๑๑ ประการน้ี เปนผูไมส ามารถถงึ ความเจรญิ งอกงามไพบลู ยในธรรมวินัยน.ี้ ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย นายโคบาลผูป ระกอบดวยองค ๑๑ ประการเปน ผูสามารถเลย้ี งฝงู โคใหเจริญแพรห ลายได องค ๑๑ ประการเปนไฉน
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ที่ 569คือนายโคบาลในโลกนี้ ยอมรจู ักรูป ๑ ฉลาดในลักษณะ ๑ กาํ จดั ไข-ขาง ๑ ปกปด แผล ๑ สมุ ไฟ ๑ รูทา นา้ํ ๑ รูโควา ดม่ื น้ําแลวหรอื ยงั ๑รูท าง ๑ ฉลาดในที่หากิน ๑ รีดนมใหเหลือ ๑ บูชาโคผทู ี่เปน พอ โคเปน ผูนําฝูงโคดวยการบูชาอยางยง่ิ ๑ ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย นายโคบาลผปู ระกอบดวยองค ๑๑ ประการน้ีแล เปน ผสู ามารถเล้ียงฝูงโคใหเจริญแพรหลายได ฉันใด ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษผุ ูป ระกอบดว ยธรรม ๑๑ประการ ยอ มเปนผูสามารถถึงความเจรญิ งอกงามไพบูลยใ นธรรมวนิ ยั น้ีฉนั น้นั เหมอื นกนั ธรรม ๑๑ ประการเปน ไฉน ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ยอมรจู ักรปู ๑ ฉลาดในลกั ษณะ ๑ กาํ จัดไขข าง ๑ ปกปด แผล ๑ สุมไฟ ๑รทู า นาํ้ ๑ รธู รรมทด่ี ม่ื แลว ๑ รทู าง ๑ ฉลาดในโคจร ๑ รีดใหเ หลือ ๑บชู าภิกษุผูเปนพระเถระ ผรู ตั ตัญู บวชนาน เปน สังฆบดิ ร เปน สงั ฆ-ปริณายก ดวยการบชู าอยา งยิ่ง ๑. ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษรุ ูจักรูปอยางไร ภิกษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ยอมรรู ูปอยา งใดอยางหนึ่งตามเปน จรงิ วา มหาภตู รปู ๔ และรปู อาศัยมหาภูตรปู ๔ ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย ภกิ ษุยอ มรูจ กั รปู อยา งน้แี ล. ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุยอมฉลาดในลักษณะอยางไร ภกิ ษุในธรรมวินยั น้ี ยอ มรูตามเปน จริงวา คนพาลมกี รรมเปน ลักษณะ บัณฑติ มีกรรมเปนลักษณะ ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุฉลาดในลักษณะอยา งน้แี ล. ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย ภิกษยุ อมกาํ จัดไขข างอยางไร ภกิ ษุในธรรม-วินัยนี้ ยอมไมใ หก ามวิตกท่ีบงั เกดิ ขึน้ ครอบงาํ ยอ มละ ยอ มบรรเทายอ มทาํ ใหมคี วามสิ้นสุด ซง่ึ กามวิตกอนั เกดิ ขึ้นแลว ยอ มใหก ามวิตกท่ีเกดิ ขึน้ แลวถึงความไมม ี ยอ มไมใหพยาบาทวิตกทบี่ งั เกิดข้นึ ครอบงํา . . .
พระสุตตนั ตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาท่ี 570ยอ มไมใ หวหิ งิ สาวติ กบังเกิดข้นึ ครอบงาํ . . . ยอมไมใ หอกศุ ลธรรมอันลามกที่เกดิ ขน้ึ แลว ๆ ครอบงาํ ยอ มละ ยอ มบรรเทา ยอมทําใหม คี วามสิ้นสุดใหถึงความไมม ี ซง่ึ อกุศลธรรมอนั ลามกทีเ่ กิดข้ึนแลว ๆ ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย ภิกษกุ าํ จดั ไขขางอยา งนแี้ ล. ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย ภิกษุยอมปกปดแผลอยางไร ภกิ ษุในธรรม-วนิ ยั นี้ เหน็ รูปดวยจกั ษแุ ลว ยอ มไมถ อื เอาโดยนิมติ ไมถอื เอาโดยอน-ุพยญั ชนะ ยอ มปฏิบัตเิ พอื่ สํารวมจักขุนทรีย ทเี่ ม่ือไมสาํ รวมแลวจะเปนเหตใุ หอ กุศลธรรมอันลามก คืออภิชฌาและโทมนัสครอบงําน้ัน ชื่อวารกั ษาจักขุนทรีย ช่อื วาถึงความสาํ รวมในจกั ขนุ ทรีย ฟงเสยี งดว ยหู..ดมกล่นิ ดว ยจมูก . . . ลม้ิ รสดว ยลิน้ . . . ถูกตอ งโผฏฐพั พะดว ยกาย... รูแจงธรรมารมณดวยใจแลว ยอ มไมถ ือเอาโดยนมิ ิต ไมถือเอาโดยอนุ-พยัญชนะ ยอมปฏิบัติเพ่อื สํารวมมนนิ ทรีย ทเ่ี มือ่ ไมส าํ รวมแลว จะเปนเหตใุ หอ กุศลธรรมอนั ลามก คืออภชิ ฌาและโทมนัสครอบงาํ นั้น ชอื่ วายอมรักษามนินทรยี ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ภกิ ษยุ อ มปกปด แผลอยางนัน้ แล ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย กภ็ กิ ษายอ มสมุ ไฟอยา งไร ดูกอนภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอ มแสดงธรรมดามที่ตนฟงมาแลว ตามทีต่ นเรียนมาแลว แกค นเหลาอ่นื โดยพสิ ดาร ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุยอมสุมไฟอยา งน้แี ล. ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย กภ็ กิ ษุยอ มรูทา นํา้ อยางไร ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ัยน้ี เขา ไปหาภกิ ษุผูเปน พหูสูต ผชู าํ นาญนกิ าย ทรงธรรม ทรงวินยั ทรงมาติกา โดยกาลอันสมควร ยอมสอบถามไดถ ามวา ขาแตท านผูเจริญพระพุทธพจนน ีเ้ ปน อยา งไร อรรถแหง พระพุทธพจนน ้เี ปนอยา งไร ทาน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาท่ี 571เหลา นน้ั ยอมเปด เผยส่งิ ทีย่ งั ไมเ ปด เผย ยอ มทําใหต ่ืนในส่งิ ทีย่ งั ไมทาํ ใหต นื้และยอ มบรรเทาซึง่ ความสงสยั ในธรรมอันเปนที่ตั้งแหงความสงสัยมากอยางแกภกิ ษนุ น้ั ดกู อนภิกษุท้งั หลาย ภกิ ษุยอมรทู าน้ําอยางนแ้ี ล. ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย ก็ภกิ ษุยอมรูธรรมที่ดืม่ แลว อยา งไร ภิกษใุ นธรรมวนิ ยั น้ี เม่ือธรรมวินยั อนั ตถาคตประกาศแลว อนั ผอู ื่นแสดงอยูยอ มไดความรูอรรถ ยอ มไดความรูธรรม ยอมไดความปราโมทยอ นัประกอบดวยธรรม ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ภิกษุยอ มรูธรรมทด่ี ่มื แลวอยา งน้ีแล. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กภ็ ิกษุยอมรทู างอยา งไร ภิกษุในธรรมวนิ ัยน้ียอ มรูซ ึ่งอริยมรรคอนั ประกอบองค ๘ ตามเปน จรงิ ดูกอ นภกิ ษทุ ้ัง-หลาย ภกิ ษยุ อมรทู างอยางนน้ั แล. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภกิ ษุยอมฉลาดในโคจรอยา งโร ภิกษใุ นธรรมวินัยนี้ ยอ มรสู ติปฏฐาน ๔ ตามเปน จริง ดกู อนภิกษุทัง้ หลายภิกษยุ อมฉลาดในโคจรอยางน้แี ล. ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย ก็ภิกษยุ อ มรีดใหเ หลอื อยา งไร ดกู อนภิกษุท้ังหลาย ภิกษุในธรรมวินยั นี้ ยอ มรูประมาณเพ่อื การรับจีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปจจยั เภสชั บรขิ าร ที่คฤหบดีผมู ีศรทั ธาปวารณาเพ่อื นําไปไดตามพอใจ ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ภิกษยุ อมรีดใหเ หลอื อยา งน้ีแล. ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย กภ็ ิกษยุ อ มบูชาภกิ ษผุ ูเปนพระเถระ ผรู ัต-ตัญู บวชนาน เปน สงั ฆบิดร เปนสงั ฆปริณายก ดวยการบชู าอยา งยิ่งอยางไร ภิกษใุ นธรรมวินยั นี้ ยอ มเขาไปต้ังเมตตากายกรรม ทงั้ ในทแ่ี จง
พระสุตตนั ตปฎก อังคุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ท่ี 572ทง้ั ในท่ีลบั ยอมเขาไปตั้งเมตตาวจกี รรม เมตตามโนกรรม ท้งั ในท่แี จงทั้งในทีล่ ับ ในภกิ ษผุ ูเปน พระเถระ ผูรตั ตัญู บวชนาน เปน สังฆบดิ รเปน สงั ฆปรณิ ายก ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลาย ภกิ ษยุ อมบูชาภกิ ษุผูเปน พระเถระผรู ัตตัญู บวชนาน เปนสงั ฆบิดร เปน สังฆปริณายก ดว ยการบูชาอยา งย่ิง อยา งนแี้ ล. ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ภกิ ษผุ ูประกอบดว ยธรรม ๑๑ ประการนแ้ี ลเปน ผูสามารถถึงซง่ึ ความเจริญงอกงามไพบูลยใ นธรรมวินยั นี้. จบโคปาลกสตู รที่ ๗ อรรถกถาโคปาลกสูตรที่ ๗ โคปาลกสตู รที่ ๗ มวี นิ จิ ฉยั ดงั ตอไปน.ี้ มีกถาอยู ๓ กถาคอื เอกนาพกิ ากถา ๑ จตุรสั สากถา ๑ นิสนิ น-วัตติกากถา ๑ ใน ๓ กถานน้ั การกลา วบาลแี ลวกลา วความแหง บทไปทลี ะบท ช่ือวาเอกนาฬกิ ากถา การกลา วผูกใหเปน ๔ บทดังนวี้ า นายโคบาลผูไมฉ ลาด ภิกษุผูไ มฉ ลาด นายโคบาลผูฉลาด ภิกษผุ ฉู ลาด ชอื่ วาจตุรัสสากถา กถาอยา งน้นั คอื การแสดงนายโคบาลผูไมฉ ลาดไปจนจบการแสดงภิกษผุ ูไมฉลาดไปจนจบ การแสดงนายโคบาลผฉู ลาดไปจนจบการแสดงภกิ ษุผฉู ลาดไปจนจบ ชือ่ วา นสิ นิ นวัตตกิ ากถา. กถานอ้ี าจารยทุกอาจรยในพระศาสนานีเ้ คยประพฤติมาแลว . บทวา เอกาทสหิ ภิกขฺ เว องเฺ คหิ ไดแ ก โดยสว นที่มใิ ชคุณ ๑๑ประการ. บทวา โคคณ ไดแก ฝงู โค. บทวา ปรหิ ริตุ ไดแก เพ่ือจะพาเท่ยี วไป. บทวา ผาตกิ าตุ ไดแก เพอ่ื ใหถ งึ ความเตบิ โต.
พระสตุ ตนั ตปฎก อังคตุ รนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนา ท่ี 573 บทวา อธิ แปลวา ในโลกน้.ี บทวา น รปู ฺู โหติ ความวายอ มไมร ูจกั รปู โดยจํานวนหรอื โดยสี ยอ มไมรกู ารนับวา โคของตนมี๑๐๐ ตวั หรอื ๑,๐๐๐ ตัว ชื่อวา ยอ มไมรโู ดยจํานวน. นายโคบาลนน้ัเมอื่ โคท้ังหลายถูกขโมยไปหรอื หนีไป กน็ บั ฝูงโคของตน รูวา วันนแ้ี มโ คจาํ นวนเทานีไ้ มเหน็ ก็เท่ยี วไปตลอด ๒ - ๓ หมบู าน หรือตลอดดงกห็ าไมไ ด เม่อื แมโ คของคนอ่นื เขาไปยงั ฝูงโคของตน กร็ ูวาแมโคจํานวนเทา น้ีไมใ ชของเรา กเ็ อาไมไลตอ นไมคัดออก แมโ คท้งั หลายของนายโคบาลน้ันทห่ี ายไป กเ็ ปน อันสูญหายไปเลย นายโคบาลกพ็ าแมโคของคนอ่นื เทยี่ วไปเจาของโคเห็นก็ตะคอกวา นแี่ มโคนมของเรารดี นมตลอดเวลาเทาน้ี แลวกพ็ าแมโคของตนไป แมฝ ูงโคของเขาก็ลดลง เขายอมเปนผูเ หนิ หา งแมจากการบริโภคปญจโครส นายโคบาลไมร วู า แมโ คจํานวนเทานี้ ชื่อวาจาํ นวนเทา น้ี สีขาวเทา น้ี สีดําเทาน้ี สผี องเทานี้ สแี ดงออ นเทา นี้ ชือ่ วาไมรูโ ดยสี นายโคบาลน้นั เม่อื แมโ คทั้งหลายถูกขโมยหรอื หนไี ป ฯลฯยอมเปนผเู หนิ หางจากการบรโิ ภคปญจโครส. บทวา น ลกฺขณกสุ โล โหติ ความวา ยอ มไมร ูเ คร่ืองหมายอันตา งโดยเปน ธนู หอก และหลาว เปน ตน ทีเ่ ขาทาํ ไวทตี่ วั ของแมโ คท้ังหลาย เม่ือใดถกู ลักไปหรือหนีไป เขาคิดวา วนั นีโ้ คลกั ษณะชอ่ื โนนและโคมลี ักษณะชื่อโนนไมเ หน็ ฯลฯ ยอ มเปน ผูเหนิ หา งแมจากการบริโภคปญจโครส. บทวา น อาสาฏกิ สาเฏตา ความวา โคท้ังหลายยอ มมแี ผล ในท่ี ๆ ถกู ตอและหนามเปน ตนแทงเอา แมลงวนั หัวเขียวยอ มหยอดไขขางในท่มี แี ผลน้ัน ฟองไขข องแมลงวนั เหลา นนั้ ชอ่ื วา ไขข าง พงึ ใชไมเ ขีย่
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ทสก-เอกาทสกนิบาต เลม ๕ - หนาท่ี 574ไขขางน้ันออกเสียแลว ใสยา. นายโคบาลโง ไมกระทําอยางน้นั ดว ยเหตุน้นั จึงตรัสวา น อาสาฏกิ สาเฏตา โหต.ิ แผลของโคของเขายอมขยายลกึ หนอนท้งั หลายก็เขา ทอ ง โคท้งั หลายกเ็ จ็บปวย ไมสามารถจะกนิ หญาดม่ื นํา้ ไดตามตองการ. นา้ํ มันของโคทั้งหลายในฐานะนั้นยอ มขาดไปความเรว็ ของโคกเ็ ส่ือมถอย อนั ตรายแหง ชีวิตของโคทง้ั สองพวกนนั้ กย็ อมมี แมฝ ูงโคของเขายอ มลดลง ดวยประการฉะนี้ ฯลฯ เขายอมเปนผูเหนิ หา งแมจากปญจโครส. บทวา น วณ ปฏจิ ฺฉาเทตา โหติ ความวา พงึ ใสย าในแผลที่เกดิแกโ คโดยนัยดังกลา วแลว ผูกปดดว ยปอหรอื ผา คากรอง. นายโคบาลโงไมกระทาํ ดังนนั้ . ตอน้ันหนองยอ มไหลออกจากแผลของโคของเขา.แมโคเหลา นน้ั ยอ มเสยี ดสซี ง่ึ กนั และกนั ดวยเหตุน้ัน แผลของโคเหลาอ่ืนกเ็ กดิ ขึ้น. โคทง้ั หลายก็เจ็บปว ยดวยอาการอยา งนี้ ไมอาจกนิ หญา ด่มื น้ําไดตามความตองการ ฯลฯ เขายอมเปน ผเู หนิ หา งแมจากการบริโภคปญจโครส. บทวา น ธูม กตฺตา โหติ ความวา ภายในหนาฝน ในเวลาเปนทชี่ ุกชมุ ไปดว ยสัตวเ ล็ก ๆ มีเหลือและยงุ เปน ตน เมื่อฝงู โคเขา คอกนายโคบาลพงึ สมุ วันใกล ๆ คอกน้นั . นายโคบาลผไู มฉ ลาด ไมทําดงั นัน้ฝงู โคถูกสตั วเล็ก ๆ มเี หลอื บเปนตน รบกวนตลอดคนื ยงั รุง ไมไ ดหลับนอน รงุ ขน้ึ ไปนอนหลับที่โคนไมเปนตน นน้ั ๆ ในปา โคเหลาน้ันก็ไมอาจกนิ หญาและดื่มนา้ํ ไดต ามตอ งการ ฯลฯ นายโคบาลนนั้ กเ็ หนิ หางแมจากการบรโิ ภคปญ จโครส.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก องั คุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนบิ าต เลม ๕ - หนาที่ 575 บทวา น ตติ ฺถ ชานาติ ความวา ยอ มไมร ุทาวาเรียบหรือไมเรยี บมีสัตวร ายหรอื ไมมสี ัตวราย นายโคบาลน้ันยอ มใหแ มโ คลงในทีม่ ิใชท าเมอ่ื แมโคเหลานนั้ เหยียบแผน หินเปนตน ในที่ไมเรยี บ เทา ก็แตก.สตั วรูม ีจระเขเปนตน ยอมจบั แมโคทลี่ งทา นาํ้ ลกึ มสี ัตวร า ย. แมโ คทง้ั หลายก็จะตอ งถกู เขากลา ววา วันน้ีแมโ คจาํ นวนเทา น้ี วนั นีแ้ มโคหายจาํ นวนเทาน.ี้ แมฝ ูงโคของนายโคบาลน้นั ยอ มลดลง ดวยประการฉะนี้ฯลฯ เขายอมผูเ หนิ หา งแมจากปญจโครส. บทวา น ปต ชานาติ ความวา ยอมไมร โู คดื่มนํ้าแลว หรือยงัจริงอยู นายโคบาลควรจะรูวาโคดมื่ นา้ํ แลว หรอื ยังไมไ ดด่ืมอยางน้วี า แม-โคน้ีด่ืมน้าํ แลว แมโ คน้ียงั ไมไ ดดม่ื นํ้า แมโ คนี้ไดโอกาสทีท่ าดมื่ นํ้าแมโ คนไ้ี มไ ดโ อกาส. กน็ ายโคบาลนรี้ ักษาฝูงโคในปาคร่ึงวนั แลว คดิ วาจะใหมันด่ืมนํา้ ก็พาไปยงั แมนาํ้ หรอื บึง. ในทนี่ ัน้ โคจาฝูงแลโคลูกฝงู และแมโ คมีกําลังก็จะเอาเขาหรือสีขางกระแทกโคทมี่ กี าํ ลงั นอ ย และกระทําโอกาสใหแกต น แลวลงนํ้าแคอกด่ืมน้าํ ตามพอใจ. โคนอกน้นั เมอื่ ไมไ ดโอกาสกย็ นื ทฝี่ ง ดม่ื นํ้าปนโคลนหรอื ไมด ม่ื ทีนั้น นายโคบาลน้นั ก็จะดีทหี่ ลังไลเขาปาไปอกี แมโคทมี่ ิไดด่มื นํ้าในท่ีน้ัน ก็เหน่ือยออน เพราะกระหายนาํ้ ก็กินหญาตามความตอ งการไมได. ในฐานะน้ัน นํ้านมของโคทง้ั หลายก็ขาดไป ความไวของโคทั้งหลายกล็ ดไป ฯลฯ เขายอ มเปนผเู หนิ หา งจากการบริโภคปญจโครส. บทวา น วถี ึ ชานาติ ความวา ยอมไมรู ทางนี้เรียบปลอดภยัทางนีไ้ มเ รยี บ นารงั เกยี จ นามีภยั นายโคบาลนัน้ เวนทางทเี่ รียบและปลอดภัย ใหฝูงโคเดนิ ไปทางนอกน.้ี ในทน่ี น้ั โคทงั้ หลายไดก ล่ินราชสหี และเสอื เปนตน และอันตรายจากโจรคุกคาม เผชญิ สตั วร า ยจโู จม ยนื ชะเงอ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 595
Pages: