Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_18

tripitaka_18

Published by sadudees, 2017-01-10 01:16:26

Description: tripitaka_18

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 551เปน ทกุ ข. ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ภิกษุน้เี ราเรยี กวา ไดถอื เอาเปลอื กแหงพรหมจรรย และถงึ ท่สี ุดแคเปลือกนนั้ . วาดวยกระพ้แี หงพรหมจรรย [๓๕๐] ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย กุลบตุ รบางคนในโลกน้ี ออกจากเรือนไมมเี รือนบวชดว ยศรัทธาดว ยคิดวา เราเปนผอู นั ชาติ ชรา มรณะ โสกะปรเิ ทวะ ทุกข โทมนัส อุปายาส ครอบงําแลว ถูกความทกุ ขทว มทบั แลวมีความทุกขเปน เบื้องหนา ไฉนหนอ ความกระทําท่ีสดุ แหง กองทกุ ขท ้งั มวลนี้จะพึงปรากฏ. เขาบวชอยางน้นั แลว ยังลาภสักการะและความสรรเสริญใหบังเกดิ ข้ึน. เขาไมมคี วามยนิ ดี มีความดําริยงั ไมเ ต็มเปย ม ดว ยลาภสักการะและความสรรเสริญนนั้ . เขาไมยกตน ไมขมผูอ่ืน เพราะลาภสกั การะและความสรรเสรญิ อันน้ัน. เขายอมไมม ัวเมา ไมถ งึ ความประมาท เพราะลาภสกั การะและความสรรเสรญิ นน้ั เมื่อเปนผไู มประมาทแลว ยอมยงั ความถงึพรอ มแหงศีลใหสาํ เรจ็ . เขามคี วามยินดีดวยความถงึ พรอมแหง ศีลนนั้ แตมีความดาํ รยิ งั ไมเตม็ เปย ม. เขาไมยกตน ไมขมผอู น่ื เพราะความถงึ พรอ มแหง ศีลอนั น้ัน. เขายอมไมมวั เมา ไมถ งึ ความประมาท เพราะความถึงพรอ มแหงศีลน้ัน เมื่อเปนผูไ มประมาทแลว ยอ มยงั ความถึงพรอมแหง สมาธใิ หสาํ เรจ็ . เขามีความยนิ ดดี ว ยความถึงพรอมแหง สมาธนิ ั้น แตมีความดาํ ริยงั ไมเต็มเปยม. เขาไมย กตน ไมข มผูอ ่นื เพราะความถงึ พรอมแหง สมาธอิ นั นั้น.เขายอมไมมัวเมา ไมถ งึ ความประมาท เพราะความถงึ พรอ มแหงสมาธิน้นัเมอื่ เปนผูไมป ระมาทแลว ยอ มยังญาณทสั สนะใหสาํ เร็จ. เขามีความยนิ ดีมคี วามดาํ ริเต็มเปยมแลว ดว ยญาณทสั สนะนั้น. เพราะญาณทัสสนะอันนั้นเขายอมยกตนขม ผอู ่ืนวา เรารเู ราเหน็ อยู สวนภิกษุอ่นื นอกนไี้ มร ู ไมเหน็อย.ู เขายอ มมัวเมา ถึงความประมาท เพราะญาณทัสสนะนัน้ เมอ่ื เปนผูประมาทแลว ยอ มอยูเปน ทกุ ข ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เปรียบเหมอื นบุรษุ ผูมี

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 552ความตอ งการแกนไม แสวงหาแกน ไม เทีย่ วเสาะหาแกนไมอยู เมื่อตนไมใ หญมีแกน ตงั้ อยู ละเลยแกนไปเสยี ถากเอากระพี้ถอื ไป สําคัญวาแกน. บรุ ุษผูมีจักษุเห็นเขาผนู น้ั แลว พงึ กลา วอยางนีว้ า บุรุษผเู จรญิ นี้ ไมรูจ กั แกน ไมร ูจกั กระพี้ ไมร ูจกั เปลือก ไมร จู ักสะเกด็ ไมร ูจักกง่ิ และใบ จรงิ อยางนน้ับุรษุ ผเู จรญิ นี้มคี วามตอ งการแกน ไมอ ยู แสวงหาแกนไม เท่ียวเสาะหาแกนไมอยู เมอ่ื ตนไมใ หญมแี กนต้ังอยู ละเลยแกนไปเสีย ถากเอากระพถ้ี ือไป สําคัญวาแกน และกจิ ท่จี ะพึงทาํ ดวยไมแกน ของเขา จักไมส ําเร็จประโยชนแกเ ขาฉนั ใด กุลบตุ รบางคนในโลกนี้ กฉ็ ันน้ันเหมอื นกนั ออกจากเรือนไมมเี รือนบวชดวยศรัทธาดว ยคิดวา เราเปนผถู ูกชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกข โทมนสั อุปายาส ครอบงําแลว ถกู ความทุกขทว มทับแลว มคี วามทกุ ขเ ปน เบอ้ื งหนา ไฉนหนอ ความกระทาํ ท่สี ุดแหง กองทุกข ท้ังมวลนี้จะพึงปรากฏ. เขาบวชอยางน้ันแลว ยงั ลาภสักการะและความสรรเสรญิ ใหบงั เกิดขึ้น. เขาไมม ีความยนิ ดี มคี วามดํารยิ ังไมเ ตม็ เปย ม ดวยลาภสกั การะและความสรรเสรญิ นน้ั . เขาไมย กตน ไมขมผูอ่ืน เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญอนั นนั้ . เขายอ มไมม ัวเมา ไมถงึ ความประมาท เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญนน้ั เม่อื เปนผูไมป ระมาทแลว ยอ มยงั ความถึงพรอมแหง ศลี ใหสําเร็จ. เขามคี วามยนิ ดีดว ยความถงึ พรอมแหงศีลนั้น แตมคี วามดาํ ริยังไมเตม็ เปย ม. เขาไมย กตน ไมข ม ผูอื่น เพราะความถึงพรอ มแหง ศลี อนั นั้น.เขายอมไมมวั เมา ไมถ งึ ความประมาท เพราะความถงึ พรอ มแหง ศลี นน้ั เม่อืเปนผูไมประมาทแลว ยอมยังความถงึ พรอมแหงสมาธิใหสาํ เรจ็ . เขามคี วามยินดีดวยความถงึ พรอมแหง สมาธนิ ั้น แตมคี วามดาํ ริยงั ไมเต็มเปย ม. เขาไมยกตน ไมขมผูอื่น เพราะความถงึ พรอ มแหง สมาธิอันนนั้ . เขายอมไมม ัวเมาไมถ ึงความประมาท เพราะความถึงพรอ มแหงสมาธนิ นั้ เม่ือเปน ผไู มป ระมาท

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 553แลว ยอมยังญาณทสั สนะใหสําเรจ็ . เขามีความยนิ ดี มคี วามดาํ รเิ ต็มเปยมแลวดว ยญาณทัสสนะนั้น. เพราะญาณทสั สนะอันนนั้ เขายอ มยกตนขม ขูผ ูอ่นื วาเรารูเราเห็นอยู สวนภกิ ษุอน่ื นอกนไ้ี มร ูไมเ หน็ อยู เขายอ มมวั เมา ถึงความประมาท เพราะญาณทสั สนะน้ัน เม่ือเปนผูประมาทแลว . ยอ มอยูเ ปน ทกุ ข.ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษนุ ้ีเราเรียกวา ไดถ ือเอากระพ้แี หง พรหมจรรย และถงึ ท่ีสดุ แคกระพ้นี ้นั แล. วา ดวยแกนของพรหมจรรย [๓๕๑] ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย กลุ บุตรบางคนในโลกนี้ ออกจากเรอื นไมม เี รอื นบวชดวยศรัทธา ดวยคดิ วา เราเปนผูถูกชาตชิ รา มรณะ โสกะปริเทวะ ทุกข โทมนสั อุปายาส ครอบงาํ แลว ถูกความทกุ ขทวมทับแลวมคี วามทุกขเ ปน เบ้ืองหนา ไฉนหนอ ความกระทําที่สดุ แหงกองทุกขท ั้งมวลน้ีจะพึงปรากฏ. เขาบวชอยางนนั้ แลว ยังลาภสกั การะและความสรรเสรญิ ใหบังเกิดข้นึ . เขาไมม คี วามยินดี มีความดาํ รยิ งั ไมเ ตม็ เปยม ดวยลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น. เขาไมยกตน ไมขม ผูอ่ืน เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญอนั น้นั . เขายอ มไมม วั เมา ไมถ งึ ความประมาท เพราะลาภสกั การะและความสรรเสรญิ นน้ั เมอื่ เปนผูไมประมาทแลว ยอ มยงั ความถึงพรอมแหง ศลี ใหสาํ เร็จ. เขามคี วามยินดดี ว ยความถงึ พรอมแหง ศีลนน้ั แตม ีความดําริยงั ไมเต็มเปย ม. เขาไมย กตน ไมขม ผอู ่ืน เพราะความถงึ พรอมแหง ศีลอนั นน้ั . เขายอมไมมวั เมา ไมถึงความประมาท เพราะความถงึ พรอ มแหงศีลน้นั เมอื่ เปน ผูไมประมาทแลว ยอ มยังความถึงพรอ มแหงสมาธิใหสาํ เรจ็ . เขามคี วามยนิ ดดี ว ยความถงึ พรอ มแหง สมาธินนั้ แตมีความดาํ รยิ งั ไมเต็มเปยม. เขาไมย กตน ไมขม ผอู นื่ เพราะความถงึ พรอมแหง สมาธิอันน้ันเขายอมไมม ัวเมา ไมถงึ ความประมาท เพราะความถงึ พรอมแหงสมาธินน้ัเมอ่ื เปน ผูไมป ระมาทแลว ยอ มยงั ญาณทสั สนะใหสําเร็จ. เขามีความยนิ ดีดว ย




































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook