พระอภิธรรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 274 สมาทานเหตกุ กถา [๑๔๒๔] สกวาที ศีลทีม่ ีการสมาทานเปน เหตุ เจรญิ ได หรือ ? ปรวาที ถกู แลว. ส. ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต ศรัทธา วริ ิยะ สติสมาธิ ปญ ญา ทีม่ กี ารสมาทานเปนเหตุ เจรญิ ได หรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยา งนนั้ ฯลฯ [๑๔๒๕] ส. ศีลมสี มาทานเปน เหตุ เจรญิ ได หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. เจริญไดดุจเถาวลั ย เจรญิ ไดด จุ เถายางทราย เจรญิไดด จุ ตน ไม เจรญิ ไดดจุ หญา เจริญไดดจุ แพหญาปลอ ง หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยางน้นั ฯลฯ [๑๔๒๖] ส. ศีลทม่ี กี ารสมาทานเปนเหตุ เจริญได หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. เม่อื บุคคลสมาทานศลี แลว ตรกึ กามวติ กอยู ตรกึพยาบาทวิตกอยู ตรึกวิหิงสาวิตกอยู ศลี ก็เจริญได หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. เปน การประชุมกนั แหงผสั สะ ๒ อยาง ฯลฯ แหงจิต๒ อยา ง หรอื ? ป. ไมพงึ กลาวอยางนน้ั ฯลฯ ส. เปน การประชุมกันแหงผัสสะ ๒ อยา ง ฯลฯ แหง จิต๒ อยาง หรอื ? ป. ถูกแลว.
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 275 ส. ธรรมที่เปน กศุ ลและอกศุ ล ท่มี ีโทษและไมม โี ทษ ที่เลวและประณตี ท่ีดําและขาว ซง่ึ เปน ขาศึกกนั มาพบกัน หรือ ? ป. ไมพ งึ กลาวอยางนัน้ ฯลฯ ส. ธรรมท่เี ปน กุศลและอกศุ ล มโี ทษและไมมีโทษ เลวและประณตี ทด่ี ําและขาว ซ่ึงเปน ขา ศึกกัน มาพบกนั หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. พระผูมพี ระภาคเจาไดต รัสไวว า ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย๔ ประการน้ี ไกลกัน ไกลกันนกั ๔ ประการ เปน ไฉน ทอ งฟาและแผน ดินนี้ ประการแรก ซงึ่ ไกลกนั ไกลกันนัก ฯลฯ เพราะเหตุฉะน้นั ธรรมของสตั บรุ ษุ จงึ ไกลจากอสัตบรุ ุษ ดงั น๑้ี เปน สตู รมีอยจู รงิ มิใชห รือ ? ป. ถกู แลว . ส. ถา อยา งน้ัน กไ็ มพ ึงกลาววา ธรรมทีเ่ ปนกุศล และอกุศล ทีม่ โี ทษและไมมีโทษ ท่ีเลวและประณตี ทดี่ ําและขาว ซ่งึ เปน ขาศึกกัน มาพบกนั ได [๑๔๒๗] ป. ไมพึงกลาววา ศลี ทม่ี กี ารสมาทานเปน เหตุ เจริญไดหรอื ? ส. ถกู แลว . ป. พระผูมีพระภาคเจาไดต รัสไวว า ชนเหลา ใด ปลกูสรางสวน ปลูกสรา งปา ฯลฯ ชนเหลานัน้ ตัง้ อยใู นธรรม ถงึ พรอมดว ยศลี ยอมจะปลูกไปสสู วรรค ดังน๒ี้ เปนสตู รมจี รงิ อยู มิใชหรอื ?๑. อง.ฺ จตกุ ฺก ๒๑/๔๗.๒. ส . สคา. ๑๕/๑๔๖.
พระอภิธรรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 276 ส. ถูกแลว . ป. ถา อยางน้นั ศลี ทม่ี กี ารสมาทานเปน เหตุ กเ็ จรญิ ไดนะ สิ สมาทานเหตุกกถา จบ อรรถกถาสมาทานเหตุกกถา วาดว ย ศีลมกี ารสมาทานเปนเหตุ บดั น้ี ชอ่ื วาเร่ืองศีลมีการสมาทานเปน เหต.ุ ในเรอื่ งน้นั ชนเหลาใดมีความเหน็ ผิดดจุ ลทั ธขิ องนกิ ายมหาสังฆกิ ะท้ังหลายนนั่ แหละวา ศลี มีการสมาทานเปน เหตุยอ มเจริญ เพราะอาศยั พระบาลีวา บุญยอ มเจรญิทุกเม่อื เพราะถอื เอาอรรถโดยไมพจิ ารณาในเรือ่ งการสรางอาราม ดงั นี้คําถามของสกวาที หมายถงึ ชนเหลา น้ัน คําตอบรับรองเปน ของปรวาทีหมายเอาการสง่ั สมศลี ที่ไมประกอบดวยจติ . คําท่ีเหลือเชนกับเรื่องกอนน่นั แหละ ดงั นแี้ ล. อรรถกถา สมาทานเหตกุ กถา จบ
พระอภิธรรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 277 วิญญตั ติสีลันติกถา [๑๔๒๘] สกวาที วิญญตั ตเิ ปนศลี หรอื ? ปรวาที ถูกแลว . ส. เปนเจตนาเคร่ืองเวน จากปาณาตบิ าต หรือ ? ป. ไมพ งึ กลาวอยา งนั้น ฯลฯ ส. เปนเจตนาเคร่อื งเวน จากอทนิ นาทาน หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยางน้นั ฯลฯ ส. เปน เจตนาเครื่องเวน จากกาเมสมุ ิจฉาจาร หรอื ? ป. ไมพ งึ กลาวอยางนน้ั ฯลฯ ส. เปน เจตนาเครือ่ งเวน จากมสุ าวาท หรือ ? ป. ไมพ ึงกลาวอยา งนนั้ ฯลฯ ส. เปน เจตนาเครอื่ งเวนจากสรุ าเมรยมัชชปมาทฏั ฐานหรือ ? ป. ไมพงึ กลา วอยางนน้ั ฯลฯ ส. การกราบไหวเ ปน ศีล การลกุ รับเปน ศลี การทําอญั ชลีเปน ศลี สามีจิกรรมเปน ศีล การใหอาสนะเปน ศลี การใหทน่ี อนเปนศีล การใหนํ้าลางเทาเปน ศลี การใหร องเทา เปนศีล การนวดหลังในเวลาอาบนา้ํ เปนศีล หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. เปน เจตนาเครอื่ งเวน จากปาณาติบาต หรอื ? ป. ไมพ ึงกลาวอยา งนั้น ฯลฯ ส. เปนเจตนาเคร่อื งเวน จากสรุ าเมรยมัชชปมาทฏั ฐานหรอื ?
พระอภิธรรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 278 ป. ไมพงึ กลา วอยา งน้นั ฯลฯ [๑๔๒๙] ป. ไมพึงกลา ววา วญิ ญตั ตเิ ปน ศีล หรือ ? ส. ถกู แลว . ป. เปนความทุศีล หรอื ? ส. ไมพึงกลา วอยางนน้ั ฯลฯ ป. ถาอยางน้นั วิญญตั ตกิ เ็ ปนศีลนะสิ. วิญญัตตสิ ีลันตกิ ถา จบ อรรถกถาวญิ ญัตติ สีลันตกิ ถา วาดวย วญิ ญัตติเปนศลี บดั น้ี ชอ่ื วา เรอื่ งวญิ ญตั ตเิ ปน ศลี . ในเรือ่ งนั้น ชนเหลา ใด มีความเหน็ดจุ ลัทธิของนกิ ายมหาสังฆิกะ และสมิตยิ ะท้ังหลายวา วิญญตั ติ คอื การเคลือ่ นไหวกายและวาจา วา เปน ศีล เพราะถอื เอาเนื้อความพระสตู รวากายวิญญัตตเิ ปน กายกรรม วจีวิญญัตตเิ ปนวจกี รรม ดังน้ี คาํ ถามของสกวาทีวา วิญญตั ติ เปน ตน โดยหมายถงึ ชนเหลา นั้น คาํ ตอบรบั รองเปน ของปรวาที.ลาํ ดบั น้นั สกวาทีเพ่ือทวงปรวาทีนนั้ ดว ยอรรถวา เจตนาเปน เคร่ืองเวนช่ือวา ศีล รปู ธรรมไมใชศ ีล เหตใุ ด เพราะเหตนุ น้ั จึงกลาวคําวา ปาณาตปิ าตา เวรมณี เปน ตน . คาํ วา การกราบไหวเ ปน ศลี เปน ตน ทา นกลาวเพ่อื จะยกแสดงคาํ เปรยี บเทียบวา วิญญตั เิ ปน รูปฉันใด คาํ วา ศีลเปน บญั ญัติฉันนั้นหามิได กแ็ ลวิญญัตตนิ ้นั มิใชเ จตนาเปนเครอื่ งงดเวน เหตุใด เพราะเหตนุ ัน้ สกวาทีจึงกลาวคาํ เปนตนวา ปาณาตปิ าตา เวรมณี ดงั นี้ อีก.ก็ลัทธขิ องปรวาทีนนั้ ชอ่ื วาตงั้ อยมู ิได เพราะต้งั อยเู ฉพาะแลว ดว ยเลศนยัดวยประการฉะน้แี ล. อรรถกถา วญิ ญัตตสิ ีลนั ตกิ ถา จบ
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 279 อวญิ ญตั ติ ทสุ สลี ยันตตกิ ถา [๑๔๓๐] สกวาที อวิญญัตตเิ ปนความทุศีล หรอื ? ปรวาที ถกู แลว . ส. เปน ปาณาตบิ าต หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยา งนนั้ ฯลฯ ส. เปน อทนิ นาทาน หรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยางนนั้ ฯลฯ ส. เปนกาเมสุมจิ ฉาจาร หรือ ? ป. ไมพ งึ กลาวอยา งน้ัน ฯลฯ ส. เปนมสุ าวาท หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยางนนั้ ฯลฯ ส. เปนสุราเมรยมชั ชปมาทัฏฐาน หรือ ? ป. ไมพงึ กลา วอยา งน้ัน ฯลฯ ส. บุคคลสมาทานบาปกรรมแลว ใหท านอยู บญุ และบาปท้งั สองอยา ง เจริญไดห รอื ? ป. ไมพึงกลา วอยา งน้ัน ฯลฯ ส. บญุ และบาปทงั้ สองอยางเจรญิ ได หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. เปนการประชุมกนั แหงผสั สะ ๒ อยาง ฯลฯ แหงจิต๒ อยา ง หรอื ? ป. ไมพ ึงกลา วอยางนัน้ ฯลฯ ส. เปนการประชมุ กันแหง ผสั สะ ๒ อยา ง ฯลฯ แหง จิต
พระอภิธรรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 280๒ อยา ง หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. ธรรมทเี่ ปนกศุ ลและอกศุ ล ทม่ี ีโทษและไมม โี ทษ ท่ีเลวและประณีต ท่ีดําและขาว ซึ่งเปน ขาศึกกนั มาพบกันหรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยา งนั้น ฯลฯ ส. ธรรมที่เปนกุศลและอกศุ ล ทม่ี ีโทษและไมมีโทษ ที่เลวและประณตี ทีด่ าํ และขาว ซึ่งเปนขา ศกึ กัน มาพบกนั หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. พระผมู ีพระภาคเจาไดตรสั ไววา ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย๔ ประการนี้ ไกลกนั ไกลกันนกั ๔ ประการ เปนไฉน ทอ งฟา และแผน ดนินีป้ ระการแรก ซึง่ ไกลกนั ไกลกนั นัก ฯลฯ เพราะฉะนัน้ ธรรมของสตั บรุ ุษจึงไกลจากอสตั บรุ ุษ ดงั นี้ เปนสตู รมีจริง มิใชห รือ ? ป. ถูกแลว . ส. ถาอยางน้นั กไ็ มพงึ กลา ววา ธรรมท่ีเปน กศุ ลและอกศุ ล ทม่ี ีโทษและไมมีโทษ ที่เลวและประณีต ท่ีดาํ และขาว ซง่ึ เปนขาศกึกัน มาพบกันได ส. เม่ือบคุ คลสมาทานบาปกรรมแลว ถวายจวี รอยู ถวายบณิ ฑบาตอยู ถวายเสนาสนะอยู ถวายคลิ านปจ จยเภสชั ชบรขิ ารอยูกราบไหวแกผ ทู ค่ี วรกราบไหวอยู ตอ นรับผูทค่ี วรตอ นรบั อยู กระทาํอญั ชลีกรรมแกผูท่ีควรอัญชลกี รรมอยู กระทาํ สามีจิกรรมแกท ี่ควรสามจี กิ รรมอยู ใหอ าสนะแกผ ูท ี่ควรใหอาสนะอยู ใหทางแกผ ทู ีค่ วรใหทางอยู บญุ และบาปทง้ั ๒ อยาง เจริญไดห รือ ?
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 281 ป. ไมพึงกลา วอยางนนั้ ฯลฯ ส. และบาปท้งั ๒ อยา ง เจรญิ ไดหรอื ? ป. ถูกแลว . ส. เปน การประชุมกนั แหงผัสสะ ๒ อยา ง ฯลฯ แหง จติ๒ อยาง หรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยางนัน้ ฯลฯ ส. เปนการประชมุ กันแหงผสั สะ ๒ อยา ง ฯลฯ แหง จิต๒ อยา ง หรอื ? ป. ถูกแลว . ส. ธรรมที่เปน กศุ ลและอกศุ ล ท่มี ีโทษและไมม ีโทษ ท่ีเลวและประณตี ท่ดี ําและขาว ซงึ่ เปนขา ศึกกัน มาพบกันได หรอื ? ป. ไมพึงกลา วอยางน้ัน ฯลฯ ส. ธรรมทีเ่ ปน กศุ ลและอกุศล ที่มโี ทษและไมม ีโทษ ท่ีเลวและประณตี ทดี่ าํ และขาว อันเปน ขา ศกึ กัน มาพบกันได หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. พระผูมพี ระภาคเจาไดตรัสไววา ภิกษุทัง้ หลาย ๔ประการนี้ ไกลกนั ไกลกนั นกั ๔ ประการ เปน ไฉน ทองฟา และแผน ดินนปี้ ระการแรก ซึ่งไกลกัน ไกลกนั นัก ฯลฯ เพราะฉะนน้ั ธรรมของสัตบรุ ุษจงึ ไกลจากอสัตบุรษุ ดังนี้ เปนสตู รมีอยจู ริง มิใชหรือ ? ป. ถูกแลว. ส. ถาอยางนั้น ก็ไมพ ึงกลาววา ธรรมท่เี ปนกศุ ลและอกุศล ที่มโี ทษและไมม ีโทษ ท่ีเลวและประณตี ทดี่ ําและขาว อนั เปนขา ศึก
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 282กัน มาพบกันได [๑๔๓๑] ป. ไมพงึ กลาววา อวิญญตั ติ เปน ความทศุ ีล หรอื ? ส. ถูกแลว . ป. บุคคลเปนผูสมาทานบาปธรรมไวแลว มิใชห รือ ? ส. ถกู แลว . ป. หากวา บุคคลเปน ผูส มาทานบาปกรรมไวแลว ดวยเหตนุ ัน้ นะทา น จึงตองกลา ววา อวิญญัตติ เปนความทุศีล ดงั น้ี อวญิ ญตั ติ ทุสสลี ยันติกถา จบ อรรถกถาอวญิ ญัตติ ทสุ สีลยันตกิ ถา วาดว ย อวิญญัตตเิ ปนความทศุ ีล บัดน้ี ชอ่ื วาเรือ่ งอวิญญตั ติ คอื การไมแ สดงกายวาจาใหรู วาเปนความทศุ ีล. ในเรือ่ งน้นั ชนเหลาใดมีความเหน็ ดจุ ลัทธขิ องนกิ ายมหาสงั ฆิกะทัง้ หลายวา อวิญญัตตเิ ปน การทุศลี เพราะหมายเอาการส่งั สมสง่ิ ที่มิใชบญุ อนั ไมป ระกอบดว ยจติ และหมายเอาความสมบูรณข ององคข อ บงั คบัในปาณาติบาตเปน ตน ดังน้ี คาํ ถามของสกวาที หลายชนเหลานน้ั คําตอบรบั รองเปน ของปรวาท.ี ลําดับน้นั สกวาทจี งึ กลาวคําวา เปนปาณาติบาต เปนตน เพอ่ื ทวงดวยคาํ วา ถาวา อวญิ ญัตตินน้ั พึงเปน การทุศลี อยา งไรอยา งหนงึ่ ในปาณาตบิ าตเปน ตนไซร ดงั น.้ี คําวา บุคคลสมาทานบาปกรรม อธบิ ายวา ทาํ สมาทานบาปอยา งนวี้ า เราจกั ฆา
พระอภธิ รรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 283บคุ คลชอื่ โนน เราจกั ขโมยภัณฑะโนน เปน ตน. ถกู สกวาทถี ามวาบญุ และบาปทัง้ ๒ อยางเจริญหรือ ปรวาทตี อบปฏเิ สธ เพราะหมายเอาความไมเ กดิ ขึน้ แหง บาปในขณะใหท าน. ถกู ถามครง้ั ท่ี ๒ ก็ตอบรบั รองหมายเอาการสั่งสมบาปท่ีไมป ระกอบกับจติ . คาํ ทีเ่ หลือในทนี่ ี้ พงึ ทราบโดยนยั ท่กี ลา วไวในเร่ืองบญุ สําเร็จแตก ารบรโิ ภคนน่ั แหละ. แมก ารต้งัลัทธขิ องปรวาทีนน้ั ยอมสาํ เร็จในสว นเบือ้ งตน คือ ในการสมาทานบาปแตไมใชความเปน ผทู ศุ ีลเพราะอวิญญตั ติ ดังนีแ้ ล. อรรถกถา อวญิ ญตั ติทุสสลี ยนั ตกิ ถา จบ รวมกถาทม่ี ใี นวรรคนี้คือ ๑. นโิ รธกถา ๒. รูปง มคั โคติกถา ๓. ปญ จวิญญาณสมังคสิ -สมัคคภาวนากถา ๔. ปญ จวิญญาณากุสลาปตกิ ถา ๕. ปญจวญิ ญา-ณาสาโภคาติกถา ๖. ทวหี สิ เี ลหสิ มันนาคติ ตกิ ถา ๗. สีลัง อเจตสกิ กันติกถา๘. สีลัง นจิตตานปุ ริวัตติกถา ๙. สมาทานเหตกุ ถา ๑๐. วิญญตั ตสิ ีลันต-ิกถา ๑๑. อวญิ ญตั ติทุสสลี ยนั ติกถา. วรรคที่ ๑๐ จบ ทตุ ยิ ปณณาสก จบ
พระอภิธรรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 284 วรรคท่ี ๑๑ ติสโสป อนุสยกถา [๑๔๓๒] สกวาที อนุสยั เปน อัพยากฤต หรอื ? ปรวาที ถกู แลว. ส. เปน อัพยากฤตคือวบิ าก เปน อัพยากฤตคือกิรยิ า เปนรปู เปน นิพพาน เปน จกั ขายตนะ ฯลฯ เปน โผฏฐัพพายตนะ หรอื ?ป. ไมพ งึ กลา วอยา งน้นั ฯลฯ [๑๔๓๓] ส. กามราคานุสยั เปน อัพยากฤต หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. กามราคะ กามราคปริยุฏฐาน กามราคสญั โญชนกาโมฆะ กามโยคะ กามฉันทนวิ รณ เปนอัพยากฤต หรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยา งนั้น ฯลฯ ส. กามราคะ กามราคปริยฏุ ฐาน ฯลฯ กามฉนั ทนวิ รณเปน อกศุ ล หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. กามราคานสุ ัย เปน อกศุ ล หรือ ? ป. ไมพึงกลาวอยา งนน้ั ฯลฯ [๑๔๓๔] ส. ปฏิฆานสุ ัย เปน อัพยากฤต หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. ปฏฆิ ะ ปฏิฆปรยิ ฏุ ฐาน ปฏฆิ สญั โญชน เปน อพั ยากฤตหรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยา งนนั้ ฯลฯ
พระอภิธรรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 285 ส. ปฏิฆะ ปฏิฆปรยิ ุฏฐาน ปฏิฆสญั โญชน เปนอกุศลหรอื ? ป. ถูกแลว ส. ปฏิฆานุสัย เปน อกุศล หรือ ? ป. ไมพึงกลาวอยา งนั้น ฯลฯ [๑๔๓๕] ส. มานานุสยั เปนอัพยากฤต หรือ ? ป. ถกู แลว. ส. มานะ มานปรยิ ฏุ ฐาน มานสัญโญชน เปน อพั ยากฤตหรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยางน้ัน ฯลฯ ส. มานะ มานปรยิ ุฏฐาน มานสัญโญชน เปนอกศุ ล หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. มานานุสยั เปนกศุ ล หรอื ? ป. ไมพงึ กลา วอยางนน้ั ฯลฯ [๑๔๓๖] ส. ทฏิ ฐานุสัย เปน อัพยากฤต หรอื ? ป. ถูกแลว . ส. ทิฏฐิ ทฏิ โฐฆะ ทิฏฐโิ ยคะ ทิฏฐิปริยฏุ ฐาน ทิฏฐิสัญโญชน เปน อพั ยากฤต หรอื ? ป. ไมพงึ กลาวอยา งนั้น ฯลฯ ส. ทิฏฐิ ทิฏโฐฆะ ทิฏฐิโยคะ ทฏิ ฐิปรยิ ุฏฐาน ทฏิ ฐิสัญโญชน เปน อกุศล หรือ ? ป. ถูกแลว .
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 286 ส. ทฏิ ฐานสุ ัย เปน อกุศล หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยางนน้ั ฯลฯ [๑๔๓๗] ส. วจิ ิกิจฉานุสัย เปน อพั ยากฤต หรือ ? ป. ถกู แลว . ส. วจิ กิ จิ ฉา วิจิกิจฉาปริยุฏฐาน วจิ ิกิจฉาสัญโญชนวจิ กิ จิ ฉานวิ รณ เปนอพั ยากฤต หรือ ? ป. ไมพ งึ กลาวอยา งน้นั ฯลฯ ส. วจิ ิกจิ ฉา วจิ กิ ิจฉาปริยฏุ ฐาน วิจิกิจฉาสญั โญชนวจิ กิ จิ ฉานวิ รณ เปน อกศุ ล หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. วจิ ิกจิ ฉานุสัย เปนอกศุ ล หรอื ? ป. ไมพงึ กลา วอยางน้ัน ฯลฯ [๑๔๓๘] ส. ภวราคานุสัย เปนอพั ยากฤต หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. ภวราคะ ภวราคปริยฏุ ฐาน ภวราคสัญโญชน เปนอัพยากฤต หรอื ? ป. ไมพ ึงกลาวอยางน้ัน ฯลฯ ส. ภวราคะ ภวราคปรยิ ฏุ ฐาน ภวราคสญั โญชน เปนอกุศล หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. ภวราคานสุ ยั เปนอกศุ ล หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยางน้ัน ฯลฯ
พระอภธิ รรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 287 [๑๔๓๙] ส. อวชิ ชานสุ ยั เปนอพั ยากฤต หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. อวิชชา อวชิ โชฆะ อวิชชาโยคะ อวชิ ชาปรยิ ฏุ ฐานอวิชชาสญั โญชน อวิชชานิวรณ เปน อพั ยากฤต หรือ ? ป. ไมพ งึ กลา วอยางน้นั ฯลฯ ส. อวชิ ชา อวิชโชฆะ อวชิ ชาโยคะ อวิชชาปรยิ ฏุ ฐานอวิชชาสญั โญชน อวชิ ชานวิ รณ เปน อกุศล หรือ ? ป. ถกู แลว . ส. อวิชชานสุ ยั เปน อกศุ ล หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยางน้นั ฯลฯ [๑๔๔๐] ป. ไมพ ึงกลาววา อนสุ ัยเปน อัพยากฤต หรือ ? ส. ถกู แลว . ป. ปุถุชน เมือ่ จิตท่ีเปน กุศลและอพั ยากฤตเปน ไปอยูพึงกลา ววา ผูมอี นสุ ยั หรอื ? ส. ถกู แลว. ป. ธรรมทเ่ี ปนกุศลและทเี่ ปน อกศุ ล มาพบกนั หรอื ? ส. ไมพ งึ กลา วอยางน้นั ฯลฯ ป. ถา อยา งนนั้ อนสุ ัยกเ็ ปน อัพยากฤต นะสิ ส. ปถุ ุชน เมื่อจติ ท่เี ปน กุศลและทเ่ี ปนอัพยากฤตเปนไปอยู พงึ กลา ววา เปนผมู รี าคะ หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. ธรรมทเี่ ปน กุศลและที่เปนอกศุ ลมาพบกนั หรือ ?
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 288 ป. ไมพ ึงกลา วอยางนนั้ ฯลฯ ส. ถาอยา งนน้ั ราคะกเ็ ปนอพั ยากฤต นะ สิ [๑๔๔๑] ส. อนุสยั เปนอเหตุกะ หรือ ? ป. ถกู แลว. ส. เปน รปู เปน นพิ พาน เปนจักขายตนะ ฯลฯ เปนโผฏฐัพพายตนะหรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยา งนัน้ ฯลฯ ส. กามราคานุสยั เปน อเหตุกะ หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. กามราคะ กามราคปริยฏุ ฐาน กามราคสญั โญชนฯลฯ กามฉนั ทนิวรณ เปน อเหตกุ ะ หรอื ? ป. ไมพงึ กลา วอยางน้นั ฯลฯ ส. กามราคะ กามราคปริยุฏฐาน ฯลฯ กามฉนั ทนวิ รณเปน สเหตุกะ หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. กามราคานสุ ัย เปนสเหตุกะ หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยางนั้น ฯลฯ ส. ปฏิฆานสุ ยั ฯลฯ มานานสุ ัย ทิฏฐานสุ ัย วจิ กิ จิ ฉานสุ ัยภวราคานุสยั ฯลฯ อวชิ ชานุสยั เปนอเหตกุ ะ หรือ ? ป. ถกู แลว . ส. อวชิ ชา อวิชโชฆะ อวชิ ชาโยคะ อวชิ ชาปรยิ ฏุ ฐานอวชิ ชาสญั โญชน อวชิ ชานวิ รณ เปน อเหตุกะ หรอื ?
พระอภิธรรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 289 ป. ไมพ งึ กลาวอยางนน้ั ฯลฯ ส. อวิชชา อวิชโชฆะ ฯลฯ อวิชชานิวรณ เปน สเหตกุ ะหรอื ? ป. ถูกแลว. ส. อวิชชานสุ ยั เปน สเหตุกะ หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยางนน้ั ฯลฯ [๑๔๔๒] ป. ไมพ ึงกลา ววา อนสุ ัยเปนอเหตกุ ะ หรือ ? ส. ถูกแลว. ป. ปถุ ชุ น เมือ่ จติ ที่เปนบุคคลและเปน อัพยากฤตเปนไปอยูพงึ กลาววา ผมู อี นุสยั หรอื ? ส. ถกู แลว. ป. อนุสัยเปน สเหตกุ ะโดยเหตุอนั น้นั หรือ ? ส. ไมพงึ กลาวอยางน้นั ฯลฯ ป. ถา อยางนัน้ อนุสัยกเ็ ปน อเหตุกะ นะ สิ ส. ปถุ ชุ น เมือ่ จิตทีเ่ ปน กุศลและที่เปนอพั ยากฤต เปนไปอยู พึงกลา ววา เปนผมู รี าคะ หรอื ? ป. ถูกแลว . ส. ราคะเปนสเหตุกะโดยเหตุอันนัน้ หรอื ? ป. ไมพงึ กลาวอยางนนั้ ฯลฯ ส. ถาอยางนั้น ราคะก็เปน อเหตุกะ นะ สิ [๑๔๔๓] ส. อนุสัยเปน จิตตวิปปยุต๑ หรือ ? ป. ถูกแลว .๑. ไมป ระกอบกับจิต.
พระอภิธรรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 290 ส. เปนรปู เปน นิพพาน เปนจกั ขายตนะ ฯลฯ เปน โผฏ-ฐพั พายตนะ หรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยางน้นั ฯลฯ ส. กามราคานุสัย เปนจิตตวปิ ปยุต หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. กามราคะ กามราคปรยิ ุฏฐาน กามราคสญั โญชนกาโมฆะ กามโยคะ กามฉนั ทนิวรณ เปนจิตตวิปปยตุ หรือ ? ป. ไมพ ึงกลา วอยา งนั้น ฯลฯ ส. กามราคะ กามราคปริยฏุ ฐาน ฯลฯ กามฉนั ทนวิ รณสัมปยุตดวยจิต หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. กามราคานุสยั สัมปยุตดว ยจติ หรอื ? ป. ไมพึงกลาวอยา งนั้น ฯลฯ [๑๔๔๔] ส. กามราคานสุ ัย เปน จติ ตวปิ ปยุต หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. นบั เนอ่ื งในขันธไ หน ? ป. นบั เนื่องในสังขารขันธ. ส. สังขารขันธเปน จิตตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยางน้ัน ฯลฯ ส. สงั ขารขันธเ ปน จติ ตวิปปยุต หรือ ? ป. ถกู แลว . ส. เวทนาขนั ธ สญั ญาขันธ เปน จติ ตวิปปยตุ หรือ ?
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 291 ป. ไมพ งึ กลา วอยางนัน้ ฯลฯ [๑๔๔๕] ส. กามราคานสุ ยั นบั เนื่องในสังขารขนั ธ แตเปนจิตตวปิ ปยุต หรือ ? ป. ถกู แลว . ส. กามราคะ นบั เน่ืองในสงั ขารขนั ธ แตว ิปปยตุ จากจิตหรอื ? ป. ไมพงึ กลา วอยางน้ัน ฯลฯ ส. กามราคะ นับเน่อื งในสังขารขนั ธ และสมั ปยุตดวยจติ หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. กามราคานุสยั นับเน่ืองในสังขารขนั ธ และสมั ปยตุดวยจิต หรอื ? ป. ไมพ งึ กลาวอยา งนัน้ ฯลฯ [๑๔๔๖] ส. กามราคานสุ ยั นับเน่ืองในสงั ขารขันธ แตเ ปนจิตตวปิ ปยุต สวนกามราคะ นบั เนอ่ื งในสงั ขารขันธ และสมั ปยุตดว ยจิต หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. สังขารขนั ธ สว นหน่งึ สัมปยตุ ดว ยจิต อกี สวนหนง่ึเปนจิตตวิปปยตุ หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยา งนัน้ ฯลฯ ส. สังขารขันธ สวนหนึ่งสัมปยตุ ดวยจติ อีกสวนหน่ึงเปนจติ ตวิปปยตุ หรือ ? ป. ถูกแลว .
พระอภิธรรมปฎ ก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 292 ส. เวทนาขันธ สญั ญาขนั ธ สวนหนง่ึ สัมปยุตดวยจติ อกีสวนหนงึ่ เปน จิตตวิปปยุต หรอื ? ป. ไมพ ึงกลาวอยา งน้ัน ฯลฯ [๑๔๔๗] ส. ปฏิฆานสุ ยั มานานุสัย ทฏิ ฐานสุ ยั วจิ ิกจิ ฉานุสยัภวราคานสุ ัย อวชิ ชานสุ ยั เปน จิตตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. อวิชชา อวิชโชฆะ อวชิ ชาโยคะ ฯลฯ อวิชชานวิ รณเปนจติ ตวปิ ปยุต หรือ ? ป. ไมพ ึงกลาวอยางนั้น ฯลฯ ส. อวิชชา อวชิ โชฆะ อวิชชาโยคะ ฯลฯ อวิชชานวิ รณสมั ปยุตดวยจติ หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. อวิชชานุสยั สมั ปยุตดวยจติ หรอื ? ป. ไมพึงกลา วอยางนนั้ ฯลฯ ส. อวชิ ชานุสัย เปนจติ ตวปิ ปยตุ หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. นับเน่อื งในขนั ธไ หน. ป. นบั เน่ืองในสงั ขารขนั ธ. ส. สังขารขนั ธ เปน จติ ตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ไมพงึ กลาวอยา งนน้ั ฯลฯ ส. สงั ขารขนั ธ เปนจิตตวปิ ปยุต หรอื ? ป. ถกู แลว.
พระอภิธรรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 293 ส. เวทนาขนั ธ สัญญาขนั ธ เปน จติ ตวิปปยตุ หรือ ? ป. ไมพงึ กลา วอยา งนั้น ฯลฯ ส. วิชชานุสยั นบั เนอื่ งในสงั ขารขนั ธ แตเ ปนจิตตวปิ ปยุตหรอื ? ป. ถกู แลว . ส. อวชิ ชา นับเนอ่ื งในสงั ขารขันธ เปนจิตตวปิ ปยุตหรอื ? ป. ไมพ งึ กลา วอยา งนน้ั ฯลฯ ส. อวิชชา นับเนอื่ งในสังขารขันธ สัมปยตุ ดว ยจติ หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. อวชิ ชานุสัย นับเนอื่ งในสังขารขันธ สมั ปยตุ ดว ยจติหรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยา งน้ัน ฯลฯ ส. อวิชชานุสยั นับเน่ืองในสงั ขารขนั ธ แตเ ปนจติ ตวปิ ปยตุสว นอวิชชา นบั เนื่องในสงั ขารขนั ธ และสมั ปยตุ ดวยจติ หรอื ? ป. ถูกแลว. ส. สังขารขนั ธส ว นหน่ึงสัมปยุตดวยจติ อีกสวนหนง่ึเปน จิตตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ไมพ งึ กลาวอยางน้นั ฯลฯ ส. สังขารขนั ธ สวนหน่ึงสัมปยตุ ดว ยจิต อีกสวนหน่งึเปน จติ ตวปิ ปยุต หรือ ? ป. ถกู แลว.
พระอภธิ รรมปฎก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 294 ส. เวทนาขนั ธ สัญญาขนั ธ สวนหนงึ่ สมั ปยตุ ดวยจติ อีกสวนหนงึ่ เปน จติ ตวิปปยุต หรอื ? ป. ไมพ ึงกลาวอยางนัน้ ฯลฯ [๑๔๔๘] ป. ไมพึงกลา ววา อนุสยั เปนจติ ตวิปปยตุ หรอื ? ส. ถูกแลว . ป. ปถุ ุชน เมื่อจติ ท่ีเปนกศุ ลและทเ่ี ปน อัพยากฤตเปน ไปอยู พงึ กลา ววา เปน ผูมีอนุสัย หรือ ? ส. ถูกแลว. ป. อนสุ ัย สัมปยตุ ดวยจติ นั้น หรอื ? ส. ไมพ งึ กลา วอยา งนั้น ฯลฯ ป. ถาอยางนั้น อนุสัยกเ็ ปนจิตตวิปปยุต นะส.ิ ส. ปุถุชน ครัน้ เม่ือจติ ที่เปน กศุ ลและท่ีเปนอัพยากฤตเปนไปอยู พึงกลา ววา เปน ผมู ีราคะ หรอื ? ป. ถกู แลว. ส. ราคะ สัมปยตุ ดว ยจติ นนั้ หรอื ? ป. ไมพงึ กลา วอยางน้นั ฯลฯ ส. ถา อยางนั้น ราคะก็เปน จติ ตวิปปยุต นะสิ. ตสิ โสป อนุสยกถา จบ อรรถกถาตสิ โสป อนุสยกถา วา ดวย อนสุ ัยเปน ธรรม ๓ อยาง บัดน้ี ช่อื วา เร่อื งอนสุ ยั เปนธรรมแมท ้ัง ๓ คือ เปนอัพยากตะ เปนอเหตุกะ และเปน จิตตวิปปยุต. ในเรอื่ งน้นั ชนเหลาใดมคี วามเห็นผดิ ดุจ
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 295ลทั ธิของนกิ ายมหาสงั ฆิกะและสมติ ิยะทงั้ หลายวา ปถุ ชุ นเมือ่ จติ ท่ีเปนกุศล และอัพยากตะซึ่งกําลังเปนไป พึงกลาววา เปนผมู ีอนสุ ยั อนงึ่เหตอุ นั ใดพึงมีในขณะนน้ั อนุสัยทง้ั หลายไมเปน กับดวยเหตุอนั นั้นดวยไมส มั ปยุตกบั จิตดวงน้นั ดว ย เหตุใด เพราะเหตุน้นั อนสุ ัยเหลา นน้ั จึงเปนอพั ยากตะ เปน อเหตกุ ะ เปน จิตตวปิ ปยุต ดังน้ี คาํ ถามของสกวาทีในกถาแมท ง้ั ๓ โดยหมายถงึ ชนเหลา น้ัน คาํ ตอบรบั รองเปนของปรวาท.ีคําท่ีเหลอื ในท่นี ี้ อาจรไู ดตามแนวแหงพระบาลีนัน่ แหละ เพราะเปน นัยที่ไดก ลาวไวแลว ในหนหลัง ฉะนนั้ ขาพเจาจงึ ไมไ ดใหพ สิ ดารแลว ดงั นแ้ี ล. อรรถกถาตสิ โสปอ นุสยกถา จบ
พระอภิธรรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 296 ญาณกถา [๑๔๔๙] สกวาที ถึงความไมรจู ะปราศไปแลว เม่อื จติ ที่เปน ญาณวปิ ปยุตเปนไปอยู ไมพ งึ กลา ววา ผมู ีความรู หรอื ? ปรวาที ถกู แลว. ส. เมอื่ ราคะปราศไปแลว ไมพึงกลาววา ผปู ราศจากราคะ หรอื ? ป. ไมพงึ กลาวอยางนั้น ฯลฯ ส. ถงึ ความไมรูจะปราศไปแลว เมอื่ จติ ทเี่ ปน ญาณวิปปยตุ เปน ไปอยู ไมพึงกลา ววา ผูมีความรู หรือ ? ป. ถกู แลว. ส. เมอื่ โทสะปราศไปแลว ฯลฯ เมื่อโมหะปราศไปแลวฯลฯ เม่ือกิเลสปราศไปแลว ไมพงึ กลา ววา ผหู มดกิเลส หรือ ? ป. ไมพึงกลาวอยางน้ัน ฯลฯ [๑๔๕๐] ส. เมื่อราคะปราศไปแลว พงึ กลาววา ผูป ราศจากราคะหรือ ? ป. ถกู แลว. ส. เมอื่ ความไมรูปราศไปแลว พึงจติ ที่เปน ญาณวปิ ปยุตจะเปนไปอยู ก็พึงกลา ววา ผมู ีความรู หรือ ? ป. ไมพ ึงกลาวอยา งนน้ั ฯลฯ ส. เมือ่ โทสะปราศไปแลว ฯลฯ เมอื่ โมหะปราศไปแลวฯลฯ เม่อื กิเลสปราศไปแลว พึงกลา ววา ผหู มดกเิ ลส หรอื ? ป. ถกู แลว .
พระอภธิ รรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 297 ส. เมอ่ื ความไมรูป ราศไปดว ย ถึงจิตที่เปนญาณวปิ ปยตุจะเปน ไปอยู กพ็ งึ กลา ววา ผมู ีความรู หรือ ? ป. ไมพ ึงกลาวอยางน้ัน ฯลฯ ส. เมอื่ ความไมรูปราศไปแลว ถึงจิตที่เปน ญาณวิปปยุตจะเปน ไปอยู กพ็ งึ กลา ววา ผูมีความรู หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. ชอ่ื วา ผูมีความรู ดวยความรทู เ่ี ปน อดตี ชอื่ วา ผมู ีความรู ดว ยความรูท่ีดับแลว ทป่ี ราศไปแลว ทสี่ งบระงบั แลว หรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยา งนั้น ฯลฯ ญาณกถา จบ อรรถกถาญาณกถา วาดว ย ญาณ บัดนี้ ชอ่ื วาเรือ่ งญาณ. ในเร่ืองนัน้ ชนเหลา ใด มคี วามเห็นผดิดุจลทั ธิของนิกายมหาสังฆกิ ะทัง้ หลายวา เมอ่ื อัญญาณ คอื โมหะ แมปราศจากไปแลวดว ยมรรคญาณ ครนั้ เมือ่ จิตท่ไี มป ระกอบดวยญาณกําลงัเปนไป จกั ขวุ ญิ ญาณเปน ตนเปนไปอกี มรรคจิตน้ันกม็ ใิ ชกําลงั เปน ไปเหตใุ ด เพราะเหตนุ ั้น ไมค วรกลาววา มญี าณ ดังนี้ คาํ ถามของสกวาทีหมายถึงชนเหลา นัน้ คาํ ตอบรบั รองเปน ของปรวาที. ลาํ ดบั น้นั สกวาทีจึงกลาวคาํ วา เมอ่ื ราคะปราศไปแลว เปน ตน เพอ่ื ทว งดวยคําวา ถา วาเม่ืออัญญาณ คือ โมหะ ปราศจากไปแลว บญั ญตั ิวา ผูมีญาณ ดังนี้ไมพ งึ มีไซร คร้ันเมือ่ ราคะเปน ตน ปราศจากไปแลว แมบ ัญญัติวามีราคะ
พระอภิธรรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 298เปนตน ปราศจากไปแลวกไ็ มพึงมี ดว ยเหตุน้ัน บุคคลผไู มมคี วามโกรธพงึ เปนผมู ีความโกรธในบัญญัตวิ าดวยบคุ คลนนั้ พึงมีหรือ. ปรวาทีเม่อื ไมเหน็ ควรในความเปน ผูมีราคะเปน ตน ในธรรมเหลานนั้ ซึง่ มีราคะเปน ตนทีป่ ราศจากไปแลว จงึ ตอบปฏิเสธ. ในทส่ี ดุ ปญ หา ปรวาทีถามปญหาที่ควรถามวา ชือ่ วา ผูมคี วามรู ดวยความรทู เ่ี ปน อดีต เปนตน เพราะฉะน้นัสกวาทีจงึ ตอบปฏิเสธวา ไมพ ึงกลา วอยางน้นั ดังนแ้ี ล. อรรถกถาญาณกถา จบ
พระอภธิ รรมปฎ ก กถาวัตถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 299 ญาณงั จติ ตวิปปยตุ ตันติกถา [๑๔๕๑] ปรวาที ญาณ เปนจิตตวิปปยุต หรอื ? ปรวาที ถกู แลว . ส. เปนรปู เปน นิพพาน เปนจักขายตนะ ฯลฯ เปนโผฏฐัพพายตนะ หรือ ? ป. ไมพึงกลา วอยางนั้น ฯลฯ ส. ญาณ เปน จติ ตวิปปยุต หรือ ? ป. ถูกแลว . ส. ปญญา ปญญินทรยี ปญ ญาพละ สมั มาทฏิ ฐิ ธัมม-วิจยสัมโพชฌงค กเ็ ปน จติ ตวิปปยุต หรอื ? ป. ไมพ ึงกลาวอยา งนั้น ฯลฯ ส. ปญญา ปญ ญนิ ทรยี ปญญาพละ สมั มาทฏิ ฐิ ธัมม-วิจยสมั โพชฌงคส ัมปยุตดวยจติ หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. ญาณก็สัมปยุตดวยจิต หรือ ? ป. ไมพึงกลาวอยา งน้ัน ฯลฯ [๑๔๕๒] ส. ญาณ เปนจิตตวปิ ปยตุ หรอื ? ป. ถูกแลว . ส. นับเน่อื งในขันธไหน. ป. นบั เนื่องในสงั ขารขนั ธ. ส. สังขารขนั ธ เปน จติ ตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ไมพ ึงกลา วอยางนนั้ ฯลฯ
พระอภธิ รรมปฎก กถาวตั ถุ เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 300 ส. สังขารขนั ธ เปน จิตตวิปปยุต หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. เวทนาขันธ สัญญาขันธ เปนจติ ตวปิ ปยุต หรอื ? ป. ไมพึงกลา วอยา งน้นั ฯลฯ ส. ญาณ นับเนอื่ งในสังขารขันธแ ตเปนจติ ตวิปปยตุ หรือ ? ป. ถูกแลว. ส. ปญญา นับเนอื่ งในสังขารขันธแ ตเปนจติ ตวปิ ปยตุ หรอื ? ป. ไมพ ึงกลา วอยางนน้ั ฯลฯ ส. ปญญา นบั เนอ่ื งในสังขารขันธ และสัมปยุตดว ยจิตหรอื ? ป. ถกู แลว. ส. ญาณ นบั เนอ่ื งในสังขารขนั ธ และสมั ปยุตดวยจติ หรือ ? ป. ไมพึงกลาวอยางนนั้ ฯลฯ ส. ญาณ นับเน่อื งในสังขารขันธ แตเปน จติ ตวิปปยุต สว นปญ ญานับเนื่องในสงั ขารขนั ธ และสมั ปยุตดวยจติ หรอื ? ป. ถกู แลว . ส. สงั ขารขนั ธ สวนหนึง่ สัมปยุตดวยจติ อกี สว นหน่ึงเปน จิตตวปิ ปยตุ หรือ ? ป. ไมพงึ กลา วอยางนนั้ ฯลฯ ส. สังขารขนั ธ สว นหนึ่งสมั ปยตุ ดว ยจิต อีกสว นหนงึ่เปนจิตตวปิ ปยุต หรอื ? ป. ถกู แลว .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 726
Pages: