Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_75

tripitaka_75

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:44

Description: tripitaka_75

Search

Read the Text Version

พระอภิธรรมปฎก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 351ทง้ั หลายไวด ว ยอารมณเ ปน รส มีการมุง ตออารมณเ ปน ปจ จุปฏ ฐาน นบั เน่อื งดว ยสงั ขารขันธ (มอี ารมณเ ปนปทัฏฐาน) พึงเหน็ เหมอื นสารถี เพราะยังสมั ปยตุ ตธรรมใหด ําเนนิ ไปในอารมณ. สวนคาํ วา วถิ ปี ฏปิ าทกะ น้ี เปนชอ่ืของปญจทวาราวชั ชนจติ . คาํ วา ชวนปฏิปาทกะ นี้ เปน ช่ือของมโนทวารา-วัชชนจิต. มนสกิ ารทง้ั ๒ เหลา นน้ั ทานไมป ระสงคเ อาในที่นี.้ ความเปน กลางในธรรมเหลานั้น ชอื่ วา ตตั รมัชฌตั ตตา ตตั รมัช-ฌัตตตานัน้ มีการทรงไวซึ่งจิตและเจตสิกใหเสมอกนั เปนลกั ษณะ มีการหามจิตและเจตสิกไมใหย่ิงและหยอ นเปนรส หรือมกี ารตัดขาดจากการตกไปในฝา ยใดฝา ยหนง่ึ เปนรส มคี วามเปน กลางเปน ปจจุปฏ ฐาน ดวยอํานาจแหง ความวางเฉยตอจติ และเจตสิก (และมสี ัมปยตุ ตธรรมเปนปทฏั ฐาน) ตตั รมชั ฌตั ตตาน้ีพงึ เห็นเหมือนสารถีผวู างเฉยตอ มา อาชาไนยท้งั หลายทว่ี ิ่งไปเรียบรอย ฉะนน้ั . กรณุ าและมทุ ตุ าจักมแี จง ในนิทเทสแหง พรหมวหิ าร อันทีจ่ รงิ กรุณาและมุทุตาน้นั มขี อ ทแี่ ปลกกนั อยูเ ทา นีว้ า ท่ถี งึ อปั ปนาเปน รปู าวจร ในท่ีนเ้ี ปนกามาพจร. การงดเวน จากกายทุจรติ ช่ือวา กายทุจรติ วิรตั .ิ วริ ัติ ๒ ทีเ่ หลอืกน็ ยั นี้แหละ. ก็วิรัตแิ มท งั้ ๓ เหลา นัน้ โดยลักษณะเปนตน มีการไมกา วลว งวัตถุมีกายทุจริตเปน ตนเปน ลักษณะ อธิบายวา มกี ารไมยํ่ายีสตั วเ ปน ลักษณะวิรัติ ๓ น้ันมกี ารเบอื นหนาจากวัตถุมีกายทจุ ริตเปน ตนเปน รส มกี ารไมท าํ กายทุจริตเปนตน เปน ปจ จปุ ฏฐาน มคี ุณคือศรทั ธา หริ ิ โอตตปั ปะ และความปรารถนานอยเปนตนเปน ปทัฏฐาน พงึ เหน็ วิรัติ ๓ นัน้ เปน จิตที่เฉยตอ การทาํ บาป. วาระแหง ธัมมุทเทส (ธรรมที่ทรงยกขึน้ แสดง) น้ี มบี ทธรรมแมทั้งหมด ๖๕ บท คือ ธรรม ๕๖ มผี ัสสะเปน ตน และธรรม ๙ ที่ตรสั ไวด ว ยอํานาจเยวาปนกธรรม.

พระอภธิ รรมปฎ ก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 352 บรรดาบทเหลานั้น บางคราวในขณะเดียวกันมี ๖๑ บางคราวมี๖๐ บทถว น เพราะวา บทธรรมเหลา นั้นทต่ี รัสไวด วยอาํ นาจแหง การสมบรู ณดวยสมั มาวาจาเปนตน กม็ ี ๖๑ บท ท่เี ปน ไปในฐาน ๕ (วิรัติ ๓ อัปปมัญญา ๒)ในฐานะหนง่ึ พนจากฐาน ๕ เหลาน้ี มฐี านะ ๖๐ ถว นแตถ าเวนเยวาปนกธรรมบทธรรมทีท่ านถือเอาดวยสามารถแหง รฬุ หศี ัพทใ นพระบาลีมี ๕๖ บท. แตถาไมน บั บทท่ีซาํ้ กันในบาลนี ้ี กม็ บี ทธรรม ๓. ถวน คือ หมวด ๕ แหงผสัสะ(ผสสฺ ปจฺ ก ) วติ ก ๑ วจิ าร ๑ ปติ ๑ จิตเตกคั คตา ๑ อนิ ทรีย ๕พละ ๒ คือ หริ พิ ละ โอตตัปปพละ มูล ๒ คอื อโทภะ อโทสะ ธรรม ๑๒มกี ายปส สัทธิ จิตตปสสทั ธิเปน ตน . บรรดาธรรม ๓๐ เหลานนั้ ธรรม ๑๘ ทานไมจาํ แนกไว ธรรม ๑๒ทานจําแนกไว. ธรรม ๑๘ ประการเปนไฉน ? ธรรม ๑๘ ประการเหลาน้ีคือ ผสั สะ ๑ สญั ญา ๑ เจตนา ๑ วจิ าร ๑ ปติ ๑ ชวี ิตินทรยี  ๑ ธรรม๑๒ มีกายปส สัทธิเปน ตน ทานไมจําแนกไว. ธรรม ๑๒ ประการเหลานี้ คือเวทนา ๑ จติ ๑ วติ ก ๑ จติ เตกัคคตา ๑ สัทธินทรยี  ๑ วิรยิ นิ ทรยี  ๑สตนิ ทรยี  ๑ ปญญินทรีย ๑ หริ พิ ละ ๑ โอตตปั ปพละ ๑ อโลภะ ๑ อโทสะ ๑ทานจําแนกไว. บรรดาธรรมเหลา นัน้ ธรรม ๗ ประการจาํ แนกไวในฐานะทัง้ ๒ธรรมหนึ่งจาํ แนกไวใ นฐานะทัง้ ๓ ธรรมสองจาํ แนกไวใ นฐานะ ๔ ธรรมหนึ่งจําแนกไวใ นฐานะ ๖ ธรรมหน่ึงจาํ แนกไวใ นฐานะ ๗. ธรรม ๗ เหลานี้ คอื จติ วิตก ศรัทธา หริ ิ โอตตัปปะ อโลภะอโทสะ จําแนกไวในฐานะ ๒ อยางไร ? จรงิ อยู บรรดาธรรม ๗ เหลาน้ันจิตกอ นทา นมงุ ถงึ ธรรมมีหมวด ๕ แหงผัสสะ ทา นเรยี กวา จิต เพง ถึงอินทรียทานเรยี กวา มนนิ ทรีย. วติ กถงึ เปนองคฌานก็เรยี กวา วิตก ถึงเปนองคม รรค
































































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook