Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_75

tripitaka_75

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:44

Description: tripitaka_75

Search

Read the Text Version

พระอภธิ รรมปฎก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 83 โคนตน ไมมคี ณุ ๑๐ อยา ง ท่ีโคนตน ไมน ้นั มคี ุณ ๑๐ อยา งเหลาน้ี คอื ความเปนผูมิตองริเรมิ่(ไมต องสรา งเหมือนเรอื น) เปนคุณขอ ทหี่ นง่ึ . ท่โี คนตน ไมนน้ั เปนสกั วาเขาไปอยเู ทา นัน้ ไมตองปฏบิ ตั ดิ ูแล น้เี ปนคณุ ขอท่ีสอง. ท่ีน้ันเปน ทีใ่ หประโยชนบ าง ไมใ หป ระโยชนบา ง ก็นบั วาเปน ท่ผี าสุกสาํ หรับบรโิ ภคนั่นแหละความที่ไมบ ํารุงรักษาเปนคุณขอทส่ี าม. โคนไมนน้ั ยอมไมป กปดความติเตยี นเพราะวาเมื่อบุคคลทาํ ความช่ัวท่ีโคนไมน้นั ยอมละอาย ฉะนนั้ ความทไ่ี มปกปดความตเิ ตียน จงึ เปนคุณขอ ทสี่ .่ี ยอ มไมใ หกายซบเซา ดจุ อยูก ลางแจงฉะน้ัน การที่กายไมซบเซา จึงเปนคุณขอ ทห่ี า. ความไมเ ปนเหตุแหง การผกู พนั เปนคณุ ขอท่หี ก. การหา มความอาลัยในเรอื น เปน คณุ ขอ ทเ่ี จด็ . ไมมีการใหอ อกไป ดว ยคาํ วา เราจกั ดแู ลรักษาท่นี นั้ ทา นจงออกไป เหมือนในบานทั่วไปเปนอนั มาก เปนคณุ ขอท่ีแปด. ความไดป ติของผอู ยู เปนคุณขอท่เี กา. ความเปนผไู มหวงใยในที่ทีต่ นไปแลว ๆ เพราะความทีเ่ สนาสนะคอืโคนตนไมเปน ของหาไดง า ย เปนคณุ ขอท่สี บิ เพราะฉะนัน้ พระผูมพี ระภาคเจาจึงตรสั วา เราครน้ั เหน็ คณุ ๑๐ เหลานนั้ แลว จึงเขา ไปสูโคนไม ดังน.ี้ พระมหาสัตวก ําหนดเหตุทงั้ หลายเหลานัน้ มีประมาณเทา นีแ้ ลว ในวันรุงข้ึน จึงเขา ไปสบู านเพอ่ื ภกิ ษา. คร้ังน้นั พวกมนษุ ยใ นบา นทพ่ี ระมหาสตั วไปถึงนัน้ ไดถ วายภกิ ษาดวยความอุตสาหะใหญ. พระมหาสตั ว ทําภตั กจิเสรจ็ แลว กลบั มาสอู าศรมน่ังแลว คิดวา มิไดบ วชดว ยความคดิ วา เราจักไมไ ดอาหาร ขึ้นชอื่ วา อาหารทดี่ ีนั่น ยอ มยงั ความเมาในการถือตนและเมาในความเปนบุรุษใหเ จรญิ ก็ความสน้ิ ทกุ ขท่ีมีอาหารเปน มลู หามไี ม ไฉนหนอเราพงึ ละอาหารอนั เกิดแตธญั ชาติที่เขาหวา นและปลกู โดยเด็ดขาด แลวถือ

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 84เอาผลตามแตจะหาได อนั ถงึ พรอมดว ยคุณมิใชน อย เพราะฉะนน้ั เราจึงละอาหารอันเกิดแตธัญชาตทิ ีเ่ ขาหวา นและปลกู แลว บริโภคผลไม ตามที่หาไดดังน้ี จําเดมิ แตก าลน้นั พระมหาสตั วก็ทาํ อยา งนัน้ แลว สบื ตออยู พยายามอยูภายใน ๗ วนั กย็ งั สมาบัตแิ ปด และอภิญญาหา ใหเกดิ ข้ึนแลว. วา ดว ยการทําทางและไดร ับพยากรณ ดวยเหตุนนั้ พระผมู พี ระภาคเจาจงึ ตรสั วา เราละธญั ชาติท่หี วา นแลว ปลูกแลว โดยไมเ หลือถือเอาผลไมท ีต่ กตามแตห าได ซงึ่ ถึงพรอมดวยคุณมใิ ชน อย เราต้งั ความ เพยี รในการนงั่ การยนื การจงกรมในที่ นั้น ในภายในสปั ดาห เรากบ็ รรลุกําลงั แหง อภญิ ญา เมอื่ เราถงึ ความสําเรจ็ เปนผู ชํานาญแลว ในพระศาสนาอยา งนี้ พระชนิ - เจา พระนามวา ทีปง กร ผูเปนนายกของโลก ก็ทรงอบุ ตั ิข้ึน เรามัวยนิ ดีในฌาน จึงมิได เหน็ นมิ ติ ๔ คือ เมือ่ พระองคท รงอบุ ัติ ทรงประสูติ ตรัสรู และแสดงธรรม พวกมนษุ ยผูมจี ิตยินดี นมิ นตพระตถาคต ใหเสดจ็ ไปในเขตแดนประเทศชายแดน แลวพากนั แผว ถางทางเปนทเี่ สด็จมาของ พระตถาคต สมัยน้นั เราครองผา คากรอง ของตนออกจากอาศรม เหาะไปในทอ งฟา

พระอภิธรรมปฎก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 85ในกาลนั้น เราเหน็ ชนมโี สมนสั ยนิ ดีรา เรงิ บนั เทิงใจ จงึ ลงจากฟา ถามพวกมนุษยในขณะนน้ั วา มหาชนผมู ีโสมนัส มีความยนิ ดรี าเริงแลว ยอ มแผวทางทางทาํ ถนนเพ่ือใคร พวกมหาชนเหลา นั้นถกู เราถามแลว จึงบอกแกเราวาพระชนิ พุทธเจา ทรงพระนามวา ทปี ง กรไมมผี ยู ง่ิ กวา เปน นายกของโลกทรงอบุ ตั ิขึน้ ในโลก มหาชนยอ มแผว ถางทางทําถนนเชอ่ื มตอกนั ไปเพ่อื พระองคน ั้นเพราะฟง พระนามวา พทุ ฺโธ ดังน้ี ปต กิ ็เกิดขึ้นแกเ ราในทนั ทีทนั ใดนน้ั เมื่อเราจะกลาววา พทุ โฺ ธ พทุ ฺโธ ดงั น้ี จงึ ประกาศถึงความโสมนัส มีความยนิ ดีแลว ก็มจี ิตสลดยนื คิดอยใู นท่นี ั้นวา เราจกั ปลูกพชืท้งั หลายไวใ นทน่ี ี้ ขอขณะ (เวลา) อยาไดลว งเราไปเสยี เลย ถาวา พวกทาวแผวถางทางเพ่อื พระพทุ ธเจาไซร ขอพวกทา นจงใหชอ งวาง ( ทาง ) สว นหน่งึ แกเราเถิดแมเ รากจ็ ักแผวถางทางทําถนน พวกเขาไดใหชองวา งทางสวนหน่ึงแกเราเพอื่ ชาํ ระทําถนนในครั้งน้ัน เราคิดอยวู า พุทโฺ ธ

พระอภธิ รรมปฎก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 86พทุ โฺ ธ ดังนี้ ชําระทางอยูในกาลนัน้ เมื่อทางถนนของเรายงั ไมสาํ เร็จ พระชนิ -มหามุนีทปี งกร พรอมดวยพระขีณาสพประมาณสีแ่ สน ผูมอี ภญิ ญา ๖ ผคู งที่ปราศจากมลทินก็เสด็จดาํ เนนิ มาสหู นทางการตอ นรบั ก็กําลงั เปนไป กลองดนตรีทัง้ หลายเปนอันมากก็กึกกอ งขึ้น เหลามนษุ ยแ ละเทพยดาท้ังหลาย ตางกพ็ ากนัยนิ ดปี รีดา ไดยังสาธุการใหเ ปน ไปแลวพวกเทวดาก็มองดูพวกมนุษย แมพ วกมนษุ ยก ็มองเหน็ เทวดาท้ังหลาย พวกเทว-ดาและมนษุ ยแมท้งั สองตางก็ยกมอื ประณมเดนิ ตามพระตถาคต พวกเทวดาก็ประโคมดนตรที ิพย พวกมนษุ ยก ป็ ระโคมดนตรีของมนษุ ย เทวดาและมนุษยแ มท ั้งสองพวกตา งก็ประโคมดนตรีตามเสดจ็ พระตถาคตพวกเทวดาไปทางอากาศโปรยดอกมณฑา-รพ ดอกปทุม ดอกปาริฉัตตกะอันเปนทพิ ย ไปสทู ศิ นอ ยทิศใหญ ท้ังไดโปรยจุรณจันทน และของหอมอันประเสรฐิอนั เปนทพิ ยลงสทู ิศนอยใหญท ้งั สิน้ พวกมนุษยซง่ึ เดินตามพนื้ ดนิ ตา งก็ชดู อกจําปา

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 87ดอกสน ดอกประดู ดอกกระทงิ ดอกบุนนาค และดอกการะเกดทวั่ ทศิ านทุ ศิสวนเราสยายผมออก และเปลอื้ งผา คากรองและหนังสอื ลาดไวบ นเปอ กตมแลว นอนคว่าํ ลง (โดยตง้ั ใจวา ) ขอพระพทุ ธเจา จงทรงเหยียบเรา อยาไดท รงเหยียบโคลนตมเลยการท่ีพระองคทางดาํ เนินไปเชนนน้ั จักเปนประโยชนเก้อื กูลแกเรา เมอื่ เรานอนทพี่ ้นืดินแลว ไดมีความคิดอยางนวี้ า เราเมอ่ืปรารถนาอยู วันนีจ้ กั ฆา กิเลสทัง้ หลายไดการท่กี ระทาํ ใหแจงซงึ่ ธรรม ดวยเพศอนั บุคคลอื่นไมร ูจกั ในทน่ี ้ี จะมปี ระโยชนอะไร ? เราบรรลสุ ัพพัญุตญาณแลว จกัเปน พระพทุ ธเจา ในโลกพรอ มท้งั เทวโลกความทเ่ี ราเปน บุรุษแสดงความสามารถขามไปคนเดียว จะมปี ระโยชนอ ะไร ? เราบรรลุสัพพญั ตุ ญาณแลว จกั ยังมนษุ ยโลกทงั้เทวโลกใหขามไปพรอมกัน ความที่เราเปนบรุ ษุ มบี ุญญาธกิ ารสองถงึ ความสามารถคนเดยี วน้ี จะมีประโยชนอะไร ? เราบรรลุสพั พัญุตญาณแลว จักยังประชุมชนอัน

พระอภิธรรมปฎก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 88มากใหข ามตาม เราตัดกระแสสงสารแลวกาํ จดั ภพทั้งสามขึน้ สูธรรมนาวาแลว จกั ยงัมนษุ ยพรอ มทั้งเทวโลกใหข ามไปพรอ มกนัพระทีปงกรพทุ ธเจา ผูรูแ จง โลก ผสู มควรรับเครอ่ื งสักการะท่ีเขานํามาบูชา ประทบัยนื บนศีรษะเรา ไดต รสั คาํ นี้วา พวกเธอจงดดู าบสนี้ ผเู ปนชฏิลมีตบะกลาในกัปท่นี บั ไมถ วน แตก ัปนไ้ี ปจกั เปนพระพุทธเจา ในโลก เธอจกั เปนพระตถาคตเสดจ็ ออกจากนครกบิลพสั ดุอันนารน่ื รมย จกั ทรงตัง้ ความเพียรกระทําทุกรกิรยิ า จักประทับนั่งทโ่ี คนไมอ ชปาล-นโิ ครธ ทรงรับขา วมธุปายาสในทีน่ นั้แลว จกั เขาไปยงั แมน าํ้ เนรัญชรา เสวยขา วปายาสทร่ี ิมฝง แมน าํ้ เนรัญชรา แลวจักเสดจ็ ไปโคนตนโพธิ์ โดยทางอันประเสรฐิทีเ่ ขาตกแตง ไวแ ลว ตอ จากน้นั กก็ ระทําประทกั ษณิ โพธมิ ณฑลอันยอดเยยี่ ม แลว จกัตรสั รเู ปนพระสมั มาสมั พทุ ธะผมู ียศใหญ ที่โคนอัสสัตถพฤกษ พระมารดาของผเู ปนชนนขี องดาบสนี้ จักมนี ามวา มายา พระ-บิดา มนี ามวา สุทโธทนะ ดาบสน้ีจกั เปน

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 89โคตมโคตร (เหลากอของพระโคดม) คือพระพุทธเจา พระโกลิตะ และพระอุปติสสะผไู มม อี าสวะ ปราศจากราคะ มจี ติ สงบตั้งมน่ั แลว จักเปนคอู คั รสาวก ภิกษุผูอปุ ฏ ฐากชือ่ วา อานนท จกั บาํ รงุ พระชินะนนั้ นางเขมาและนางอุบลวรรณา ผไู มม ีอาสวะ ปราศจากราคะ มาจติ สงบตง้ั ม่นั แลวจกั เปนคูอ ัครสาวกิ า ตนไมทต่ี รสั รขู องพระ-ผมู พี ระภาคเจา น้ัน เรียกวา อสั สตั ถพฤกษดังน.ี้ พวกมนษุ ย และเทวดาฟง พระดํารัสของพระมเหสีเจา ผไู มมใี ครเสมอวา ดาบสนจี้ กั เปนพุทธางกรู (คอื เปน หนอเนอ้ื แหงพระพทุ ธเจา ) ก็พากันยนิ ดเี บกิ บานใจทัว่เสยี งเกิดจากความปรดี าปราโมทยอ นั ย่งิ ก็บันลือลั่น พวกมนษุ ยและเหลา เทวดาท้งัหมืน่ โลกธาตุก็ปรบมือรา เรงิ ประนมมือนมสั การตง้ั ความปรารถนาวา แมถ า พวกเราจกั พลาดจากศาสนาของโลกนาถนน้ั ในอนาคตกาล พวกเราก็จกั พบกบั ดาบสน้ีเปรยี บเหมอื นมนษุ ยท งั้ หลาย ผูขามแมน ํ้าใหญพ ลาดทา ทีต่ งั้ อยเู ฉพาะหนา ก็ถือเอาทา

พระอภธิ รรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 90ลา งขา มมหานทีไดฉันใด พวกเราทั้งหมดก็ฉนั น้ันเหมือนกนั ถาพนจากพระชินะพระองคน้ี ในอนาคตกาลก็จกั พบดาบสน้ีพระทปี ง กรพทุ ธเจาผรู แู จง โลก ผูส มควรรับเครอื่ งสักการะอนั มนุษยแ ละเทวดานํามาบูชาแลว ทรงประกาศกรรมของเราแลวก็ทรงยกพระบาทเบอ้ื งขวาข้ึนเสดจ็ ดําเนินไปเหลาชินบตุ รเหลาใดอยูใ นทนี่ ัน้ ทั้งหมดตางกก็ ระทาํ ประทกั ษณิ เรา พวกมนุษย นาคและคนธรรพต างก็อภิวาทแลว กห็ ลีกไป เม่ือพระโลกนาถพรอ มทัง้ หมภู ิกษุสงฆ กา วลว งการมองดูของเราแลว เรามจี ิตยนิ ดรี าเรงิแลว ลุกขึ้นจากอาสนะในกาลน้ัน เรามีความสุขดว ยความสุข มีความบนั เทงิ ดวยความปราโมทย บริบูรณแ ลวดวยปติ แลวคูบลั ลังกในกาลน้นั เราครน้ั นัง่ คูบ ัลลงั กในกาลน้ันแลว ไดมคี วามคดิ อยา งนวี้ า เราเปนผชู ํานาญในฌาน ถงึ อภิญญาบารมีแลว ฤาษที ั้งหลายในหม่นื โลกธาตไุ มเสมอเรา เราไมม ีใครเสมอในอิทธิธรรมไดค วามสุขเชนนี้ เมื่อเราคูบลั ลังกอยูเหลาเทพเจา ในหมื่นโลกธาตุ ตางก็เปลง เสยี ง

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 91บันลอื ล่นั ไปวา \"ทา นจกั เปน พระพทุ ธเจาแน\" นิมติ ท้ังหลายเหลาใดของพระโพธิสตั วทง้ั หลายในปางกอนมาปรากฏแกเ ราผนู งั่ คูบัลลงั กอันประเสริฐ นิมติ เหลา น้นั ยอ มปรากฏในวนั น้ี ความเย็นปราศไป และความรอนยอมสงบระงบั ไปในกาลกอนอันใดนิมิตเหลานั้นปรากฏอยูแกเ ราในวันนี้วาทานจกั เปน พระพุทธเจาแน หมืน่ โลกธาตุปราศจากเสียงสับสนวนุ วายปรากฏแกเราในวนันว้ี า ทานจักเปนพระพทุ ธเจาแน พายุใหญยอมไมพดั แมน าํ้ ท้งั หลายยอ มไมไ หลไปในกาลกอนอนั ใด นมิ ติ เหลา นน้ั ยอ มปรากฏแกเ ราในวันนี้วา ทา นจกั เปน พระพทุ ธเจาแน ดอกไมท ั้งหลายท่ีเกิดบนบก ท่ีเกิดในนํา้ ทง้ั หมดตา งกเ็ บง บานในกาลกอนนน้ัดอกไมเ หลา นน้ั ก็เบง บานแลว ในวันนี้เปนนิมิตวา ทานจักเปนพระพทุ ธเจาแน เครือเถาหรอื ตน ไมเ หลาน้นั ทงั้ หมดกผ็ ลิผลในวนั น้ีเปนนิมิตวา ทานจักเปน พระพทุ ธเจาแนรตั นะทัง้ หลายท่ีตั้งอยูท อี่ ากาศกด็ ี ทีพ่ ้นื ดิน

พระอภธิ รรมปฎก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 92กด็ ี ยอมสอ งแสงโชติชว งในคร้ังนน้ั รตั นะทั้งหลายแมเหลา น้นั ก็สองแสงโชติชวง ในวันนเ้ี ปนนมิ ิตวา ทา นจักเปน พระพทุ ธเจาแนดนตรที ง้ั หลายอันเปน ของมนุษย และเปนทพิ ย ตางก็บันลือล่ันในกาลนน้ั ดนตรีแมเหลานัน้ ก็บนั ลือล่ันในวนั น้ีเปนนิมติ วาทา นจกั เปนพระพทุ ธเจา แน ดอกไมอันวจิ ิตรตกจากฟากฟาในครงั้ นัน้ ดอกไมแมเหลานั้น ก็กาํ ลังตกในวนั นเี้ ปนนิมติ วา ทานจักเปนพระพุทธเจา แน มหาสมทุ รคะนองหมืน่ โลกธาตยุ อมหว่นั ไหวในคร้งั นนั้ นิมิตแมท้งั สองเหลา นั้น กบ็ ันลือลน่ั ในวนั นีว้ าทานจักเปน พระพุทธเจาแน ไฟในนรกทงั้หม่ืนโลกธาตยุ อมดับในขณะนนั้ ไฟเหลา นั้นกด็ ับแลวในวันน้เี ปน นมิ ติ วา ทา นจักเปนพระพุทธเจา แน พระอาทติ ยป ราศจากมลทินดวงดาราท้งั ปวงปรากฏในครั้งน้ัน นมิ ิตแมเหลาน้ันก็ปรากฏในวนั นี้วา ทานจกั เปนพระ-พุทธเจาแน นาํ้ พงุ ขน้ึ จากแผน ดินโดยทฝี่ นมไิ ดต ก ในคร้ังนนั้ แมน้าํ นนั้ ก็พุง ขน้ึ จากแผน ดนิ ในวนั นีเ้ ปนนมิ ติ วา ทา นจักเปนพระพุทธเจา แน กลุมดาวนกั ษตั รทงั้ หลาย

พระอภธิ รรมปฎ ก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 93ประกอบดวยดวงจนั ทร อนั เปนวสิ าขปุรณ-มฤี กษ ยอมรงุ โรจนใ นมณฑลแหง ทองฟาเปนนมิ ติ วา ทานจักเปน พระพุทธเจาแนเหลาสตั วที่อาศยั โพรงและอาศยั ตามซอกเขายอ มออกจากท่อี ยขู องตน สตั วเหลา นั้นก็ออกจากท่อี ยขู องตนแมใ นวันน้ี เปน นมิ ิตวาทา นจกั เปน พระพุทธเจาแน สตั วท งั้ หลายไมม คี วามริษยากัน มีความยินดีในคร้งั น้นัสตั วเ หลา นั้นท้ังหมดกย็ นิ ดแี ลว แมในกาลน้ีเปน นิมิตวา ทานจักเปน พระพุทธเจา แนโรคทงั้ หลายยอมสงบระงับ ความกระหายยอมพินาศไปในครง้ั นน้ั ส่งิ เหลานน้ั ยอมปรากฏแมใ นวนั น้ี เปน นิมติ วา ทานจักเปนพระพุทธเจาแน ราคะยอ มเบาบาง โทสะและโมหะยอมพนิ าศในกาลน้ัน กเิ ลสเหลา น้นั แมท้งั หมดปราศจากไปแลว แมในวันนี้เปนนิมติ วา ทา นจกั เปนพระพทุ ธเจาแน ภยั ไมม ใี นครัง้ นัน้ แมในวนั น้ี ภัยนั้นก็ไมปรากฏ เพราะนิมติ นัน้ ๆ พวกขาพเจาจึงทราบวา ทานจกั เปนพระพทุ ธเจา แน ธุลียอ มไมฟงุ ข้ึนเบอ้ื งบนในเวลานั้น ธลุ นี ้นัยอ มไมปรากฏแมในวันนี้ เพราะนิมติ ิน้นั

พระอภธิ รรมปฎ ก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 94พวกขาพเจาจึงทราบวา ทานจักเปนพระ-พุทธเจาแน กลน่ิ ทีไ่ มน า ปรารถนายอ มหลีกไป กลน่ิ อนั เปนทิพยย อ มฟงุ ไปในคร้ังนนั้ กล่นิ หอมอนั เปน ทิพยน ้ัน ยอมฟงุ ไปแมใ นวนั นี้ เพราะนิมติ นน้ั ทา นจกั เปนพระพทุ ธเจา แน เหลา เทพท้ังหมดเวนอรปู -พรหม เทพทั้งหมดเหลา นั้นทัง้ หมดยอมปรากฏแมในวันนี้ เพราะนมิ ิตนน้ั ทานจักเปนพระพุทธเจาแน ชื่อวา นรกท้งั หลายท้ังหมดยอมปรากฏในครง้ั น้นั นรกเหลานน้ัท้ังหมดยอมปรากฏแมในวันนี้ เพราะมิมิตน้ัน ทา นจักเปนพระพุทธเจาแน ฝาเรอื นบานหนา ตาง และศิลายอมไมเ ปนเคร่อื งก้นัสายตาในคร้ังนน้ั ทพั สมั ภาระเหลาน้ันเปนดุจอากาศแมใ นวนั น้ี เพราะนมิ ติ น้นั ทานจกั เปนพระพทุ ธเจา แน จุตแิ ละอปุ บัตไิ มม ีในขณะน้นั จตุ แิ ละอปุ บตั ยิ อ มไมปรากฏในวันน้ี เพราะนิมิตน้นั ทานจักเปน พระพุทธ-เจาแน นิมิตท้งั หลายเหลาน้ี ยอมปรากฏแกสัตวทั้งหลายเพ่ือประโยชนแกก ารตรัสรู ขอทานจงประคองความเพยี รไวใหม่ัน อยาถอยกลบั จงกา วไปขางหนา แมพ วกเราก็

พระอภธิ รรมปฎก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 95ยอมรแู จงซึ่งนิมติ น้นั วา ทานจกั เปนพระ-พทุ ธเจาแน. เรา (สเุ มธบณั ฑติ ) สดับพระดํารสัของพระพุทธเจาและเหลา เทวดาหมน่ื โลก-ธาตุทง้ั สองแลว มีความโสมนสั ยนิ ดรี า เรงิบนั เทงิ ใจแลว ไดม คี วามคิดในกาลครั้งนนั้อยางนีว้ า พระพทุ ธเจาทง้ั หลายมีถอ ยคาํ ไมเปนสอง พระชนิ ะทงั้ หลาย พระวาจาไมเ ปนโมฆะ ถอยคาํ อันไมเ ปนจรงิ ไมมแี กพ ระ-พทุ ธเจาทั้งหลาย เราจักเปน พระพทุ ธเจาแน กอ นดินบุคคลขวา งไปในทองฟา ยอมตกลงสูพนื้ ดินแนแท ฉันใด พระดาํ รัสของพระพทุ ธเจา ผูป ระเสรฐิ สดุ เปน พระดํารัสเทย่ี งแทแนนอนฉนั นนั้ เหมอื นกัน ความตายยอมเปนของแทแกส รรพสัตวท ้งั หลายแมฉันใด พระดาํ รัสของพระพทุ ธเจาผูป ระ-เสรฐิ สดุ ก็มพี ระดาํ รสั เทย่ี งแทฉันนั้นเหมอื นกนั เมื่อราตรีสิ้นไปแลว พระอาทิตยต อ งขึ้นไปแน ฉนั ใด พระดํารัสของพระพุทธเจา ผูประเสริฐสุดกเ็ ปนพระดาํ รัสจรงิ แทแนนอนฉนั น้นั เหมอื นกัน เม่ือสีหะออกจากท่นี อนแลวยอ มบันลอื แนแท ฉนั ใด พระดาํ รสั

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 96ของพทุ ธเจาผูป ระเสริฐสดุ กเ็ ปน พระดํารัสจริงแทแนน อน ฉนั นัน้ เหมอื นกนั สัตวท้ังหลายแบกของหนกั ไปถึงท่ีประสงคแลวยอมวางลงแน ฉนั ใด พระดํารัสของพระ-พทุ ธเจา ผูประเสริฐสดุ ก็เปน พระดาํ รสัเทีย่ งแทแ นน อน ฉันน้นั เหมอื นกนั . วาดว ยพุทธการกธรรม ๑๐เอาเถอะ เราจักเลอื กเฟนธรรมทั้งหลาย อันกระทําซึ่งความเปน พระพุทธเจา ทางโนนและทางน้ี ทั้งเบือ้ งบนเบื้องต่ําทวั่ ทัง้ สบิ ทิศตลอดถงึ ธรรมธาตุ เม่อื เราเลอื กเฟน อยใู นกาลนน้ั ไดเหน็ ทานบารมีอนั เปนพทุ ธการก-ธรรมขอท่ี ๑ ซึ่งเปน ทางใหญ อนั พระมเหสีเจาทงั้ หลายในกาลกอน ทรงเลือกเฟน แลวจึงสอนตนวา เธอจงบาํ เพญ็ ทานบารมี อนัเปน พทุ ธการกธรรมขอท่ี ๑ นี้ สมาทานทําไวใหม่นั กอน ถาเธอปรารถนาบรรลุพระ-โพธญิ าณ เปรียบเหมือนหมอ น้าํ ที่ใคร ๆคนหน่ึงควา่ํ ปากลง นา้ํ กอ็ อกจากหมอ มไิ ดเหลอื มไิ ดรักษานํา้ ไวใ นหมอ นัน้ แมฉันใดทานเห็นยาจกทงั้ หลายแลว ช้ันตํา่ ก็ตาม

พระอภิธรรมปฎ ก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 97ชัน้ กลางกต็ าม ชั้นสูงก็ตาม จงใหทานโดยไมเหลอื เหมือนหมอนา้ํ ท่เี ขาควํ่าปากลงฉันน้นั เหมอื นกัน. จรงิ อยู พทุ ธการกธรรมจะมเี ทานก้ี ็หามไิ ดเ ราจกั เลอื กเฟน ธรรมอันบม โพธญิ าณแมอนื่ ๆ เม่อื เราเลือกเฟน อยใู นคร้ังนนั้ ไดเหน็ สลี บารมีอันเปนพุทธการกธรรมขอ ท่ี ๒อนั พระมเหสเี จาท้งั หลาย ในกาลกอ นปฏิบัติแลวสอ งเสพแลว จงึ สอนตนวา เจาจงบาํ เพ็ญสลี บารมอี ันเปน พุทธการกธรรมขอที่ ๒ น้ี สมาทานทําใหมั่นกอน ถาเธอปรารถนาบรรลุโพธญิ าณ สัตวจามรมี ขี นหางติดอยูใ นทีใ่ ด ๆ ยอ มยอมตายในที่นน้ั ๆยอมไมใหข นหางเสยี ไป แมฉ ันใด เธอจงบําเพญ็ ศลี ท้งั หลายในภมู ิ ๔ จงรักษาศลี ทกุเมือ่ เหมือนจามรีรักษาขนหาง ฉนั น้ันเหมอื นกนั . อนั พุทธการกธรรมจักมเี ทานก้ี ห็ าไมเราเลอื กเฟน ธรรมทง้ั หลายอันบมโพธิญาณแมอ ื่น ๆ เม่อื เราเลอื กเฟนอยูในกาลนั้นไดเ ห็นเนกขัมมบารมอี นั เปนพทุ ธการกธรรมขอ ที่ ๓ อนั พระมเหสีทั้งหลายในกาลกอน

พระอภธิ รรมปฎก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 98ทรงปฏิบัติแลว สองเสพแลว จงึ สอนตนวา ทานจงบําเพ็ญเนกขมั มบารมีอันเปนพทุ ธการกธรรมขอท่ี ๓ นี้ สมาทานกระทําใหม ่ันกอน ถา เธอปรารถนาบรรลโุ พธิญาณบรุ ุษผูต ดิ อยใู นเรอื นจาํ มีความทุกขสน้ิ กาลนาน เขาไมมคี วามยินดีในเรอื นจาํ น้ันแสวงหาการพนไปเทานนั้ ฉันใด เธอก็เหมอื นกันน่ันแหละ จงดูภพทัง้ หมดเหมือนเรือนจาํ จงมุงหนา ตอเนกขัมมะเพ่ือความหลุดพน เถิด. อันพทุ ธการกธรรมท้งั หลายจกั มเี พียงเทา น้กี ห็ าไม เราจักเลอื กเฟน ธรรมท้ังหลายอนั บม โพธญิ าณแมอื่น ๆ เมอื่ เราเลือกเฟนอยูในคร้ังนั้น ไดเ หน็ ปญ ญาบารมีอนั เปนพทุ ธการกธรรมขอท่ี ๔ อันพระมเหสีเจาท้งั หลายในกาลกอ นปฏิบตั แิ ลว สองเสพแลว จึงสอนตนวา ทา นจงบําเพญ็ ปญ ญา-บารมีอันเปน พทุ ธการกธรรมขอท่ี ๔ นี้สมาทานทําใหม ่นั กอน ถา เธอปรารถนาบรรลุโพธิญาณ ภกิ ษุผขู อบณิ ฑะในตระ-กูลต่ํา ปานกลาง ชั้นสงู ไมเวนตระกูลทงั้ หลาย ยอมไดอาหารพอยังอัตภาพให

พระอภธิ รรมปฎ ก ธรรมสงั คณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 99เปน ไปอยา งน้ี แมฉ นั ใด เธอกฉ็ นั นน้ัเหมือนกนั จงสอบถามชนผูรูต ลอดกาลบาํ เพ็ญปญ ญาบารมแี ลว จกั บรรลุสัมโพธ-ิญาณ. อนั พทุ ธการกธรรมจกั มีเพียงเทานี้ก็หาไม เราจักเลอื กเฟน ธรรมท้ังหลายบมโพธญิ าณแมอื่น ๆ เมอื่ เราเลอื กเฟน ในครงั้ นน้ั ไดเห็นวริ ยิ บารมีอันเปนพทุ ธการก-ธรรมขอที่ ๕ อนั พระมเหสีเจาท้ังหลายในกาลกอ นปฏบิ ตั แิ ลว ซองเสพแลว จงึ สอนตนวา ทานจงบําเพญ็ วริ ิยบารมีอนั เปนพทุ ธการกธรรมขอ ท่ี ๕ น้ี สมาทานทําใหม่นั กอน ถา ทานปรารถนาบรรลโุ พธญิ าณสีหมคิ ราชมคี วามเพียรไมท อ ถอย มใี จประ-คับประคองแลว ในการนั่ง การยนื การเดนิ ทุกเมื่อ แมฉนั ใด ถึงทา นกฉ็ นั น้นัเหมอื นกัน จงบําเพ็ญวริ ิยบารมีประคองความเพียรไวใหมน่ั แลว จกั บรรลสุ มั โพธ-ิญาณ. อนั พทุ ธการกธรรมจักมีเทานั้นกห็ ามิได เราจกั เลือกเฟนธรรมทัง้ หลายบมโพธิญาณแมอนื่ ๆ เม่ือเราเลือกเฟน ธรรม

พระอภิธรรมปฎก ธรรมสังคณี เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 100ในครัง้ นั้น ไดเ ห็นขันตบิ ารมีอนั เปนพทุ ธการกธรรมขอ ท่ี ๖ อนั พระมเหสีทั้งหลายในกาลกอ นปฏบิ ัติแลว สอ งเสพแลว จึงสอนตนวา เธอจงสมาทานพทุ ธ-การกธรรมขอ ท่ี ๖ นี้ ทําใหมัน่ กอน เธอมีใจไมเ ปนสองในขันตบิ ารมนี ้ัน จักบรรลุสัมโพธญิ าณ ธรรมดาวา แผน ดนิ ยอ มทนส่งิ ที่สะอาดบา ง สิง่ ทไี่ มสะอาดบางทั้งหมดที่เขาทิ้งไป ยอมไมทําความยนิ ดียินราย แมฉ ันใด ถึงทานก็ฉันนั้นเหมอื นกัน ตองอดทนตอการนบั ถอื และความดูหมิน่ ของชนทง้ั ปวง ทา นบําเพ็ญขันติ-บารมีแลว จักบรรลุสมั โพธิญาณ. อันพทุ ธการกธรรมทง้ั หลายมิไดม ีเพียงทา น เราจักเลอื กเฟนธรรมแมอ นื่ ๆบม โพธญิ าณเมอื่ เราเลือกเฟน ในครง้ั น้นัไดเ หน็ สัจจบารมอี ันเปน พทุ ธการกธรรม ขอที่ ๗ อันพระมเหสที ้ังหลายในปางกอนปฏิบตั ิแลว สอ งเสพแลว จึงสอนตนวา ทานจงสมาทานพุทธการกธรรมขอ ท่ี ๗ นี้ทาํ ใหม นั่ กอน ทา นมีวาจาไมเปน สองในสัจจบารมีนน้ั จักบรรลสุ มั โพธิญาณ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook