Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Published by suphanat.sbb, 2021-04-08 02:44:32

Description: แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Search

Read the Text Version

110 3. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัติกจิ กรรมบูรณาการอาเซียนโดยร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกบั อาหาร ประจําชาติของแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยวิเคราะห์ส่ วนประกอบและคุณค่าทาง สารอาหารท่ีผู้บริโภคจะได้รับจัดทําเป็ นรายงาน (ศึกษาค้นคว้าได้จาก Encycopedia Britannica หรือ The World Almanac and Book of Facts หรือเว็บไซต์ที่เก่ียวข้องกับองค์ความรู้ในเรื่อง อาเซียนศึกษา) และศึกษาความรู้เก่ียวกับผักและผลไม้ท่ีนิยมรับประทานในแต่ละประเทศใน กลุ่มอาเซียน พร้อมท้งั หาภาพประกอบ จดั ทําเป็ นรายงาน และนํามาอภปิ รายร่วมกนั ในช้ันเรียน 4. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 2. โรคที่เป็ นสาเหตุสําคญั ของการเจบ็ ป่ วยและ การเสียชีวติ ของคนไทย จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มา ล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามท่ีสงสัยมาพดู คุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรศึกษาและติดตามขอ้ มลู ขา่ วสารเกี่ยวกบั อาหารตามวยั หรืออาหารเพอื่ สุขภาพ จากสื่อหรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เพ่อื จะไดม้ ีความรู้และไดร้ ับประโยชนจ์ ากการศึกษาดงั กล่าว 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ 2. ภาพรายการอาหาร และตารางแสดงปริมาณอาหาร 3. ใบกิจกรรมเรื่อง จัดทาํ สมดุ ภาพรวบรวมข่าวหรือเหตกุ ารณ์เก่ียวกับปัญหาความขดั แย้งใน ครอบครัวไทย 4. ใบกิจกรรมเรื่อง ศึกษาค้นคว้าและอภิปราย 5. ใบกิจกรรมเร่ือง ตอบคาํ ถามและสรุปความรู้จากการค้นคว้า 6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 111 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

112 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 โรคทเ่ี ป็ นสาเหตุสําคญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทย สาระการเรียนรู้ที่ 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสําคญั โรค หมายถึง ความไม่สบายหรือหรือการเกิดภาวะผดิ ปกติข้ึนในร่างกาย โดยแสดงอาการผดิ ปกติหรือมี อาการเจบ็ ป่ วยออกมาใหเ้ ห็น เช่น เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อาเจียน ซ่ึงอาการท่ีปรากฏน้นั อาจจะเป็นอยู่ ระยะหน่ึงแลว้ หาย หรือกลบั มาเป็ นซ้าํ อีกก็ได้ หรืออาจแสดงอาการอยตู่ ลอดไป จนอาจส่งผลทาํ ให้อวยั วะ ของร่างกายเกิดความพิการ ทุพพลภาพ หรืออาจทาํ ให้ผูป้ ่ วยเสียชีวิตได้ สถิติการเสียชีวิตด้วยโรคของคน ไทยพบว่า 5 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด ความดนั โลหิตสูงและโรคหลอดเลือดใน สมอง โรคปอดอกั เสบ และภาวะไตวาย ซ่ึงแต่ละโรคมีแนวทางการป้ องกนั โรคท่ีทุกคนควรควรนาํ มาปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหต้ นเองปลอดภยั จากโรคดงั กล่าวและมีสุขภาพดี 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • เสนอแนวทางป้ องกนั โรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการตายของคนไทย (พ 4.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและระบุโรคท่ีเป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทยอยา่ ง ถูกตอ้ งได้ (K, P) 2. อธิบายลกั ษณะ สาเหตุ และอาการของโรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิต ของคนไทยอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ปัญหาและแนวทางในการป้ องกนั โรคท่ีเป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทยร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 4. เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขปัญหาในการป้ องกนั โรคท่ีเป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการ เสียชีวิตของคนไทยอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)

113 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 – ความหมาย สถานการณ์ ขอ้ มูล/การอภิปราย/การสร้างแผนที่ ข้ึนไป ลกั ษณะ สาเหตุ อาการและ ความคิด* แนวทางในการในการป้ องกนั โรคท่ีเป็นสาเหตุสาํ คญั ของการ เจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิตของคน ไทย • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน • ตามดุลยพนิ ิจของครู ปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – ค้นคว้าและอภิปราย พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา – วางแผนจัดรายการอาหารใน 1 ม. 3* วันสาํ หรับตนเอง • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ร้อยละ 80 ข้ึนไป ปฏิบตั ิกิจกรรมเขียนสรุปความรู้ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า ความเข้าใจในรูปแบบแผนท่ี พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ความคิด ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

114 5. สาระการเรียนรู้ 2. โรคท่ีเป็ นสาเหตุสําคญั ของการเจ็บป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทย 2.1 ความหมายของคาํ ที่เก่ียวขอ้ ง 2.2 สถานการณ์และตวั อยา่ งโรคที่เป็นสาเหตุของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทย 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาสภาพปัญหาของสถานการณ์และตวั อยา่ งของโรคท่ีเป็นสาเหตุ สาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิตของคนไทย สงั คมศึกษาฯ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนแผนท่ีความคิดสรุปความเขา้ ใจใน เร่ือง ที่เกี่ยวกบั ลกั ษณะ สาเหตุ อาการและแนวทางการป้ องกนั โรค ภาษาไทย  รวบรวมและวิเคราะห์ขอ้ มลู สถิติเกี่ยวกบั ผเู้ จบ็ ป่ วยและเสียชีวติ ของ บุคคลในชุมชน คณิตศาสตร์  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 23: หัวข้อท่ี 2.1 ความหมายของคาํ ท่ีเกยี่ วข้อง และหัวข้อท่ี 2.2 สถานการณ์และตวั อย่างโรคที่ เป็ นสาเหตุสําคญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทย ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมา เพ่ือทบทวนความรู้ 2. ครูสุ่มนกั เรียน 2–3 คน ออกมาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมวางแผนจัดรายการอาหารใน 1วัน สาํ หรับตนเอง ตามท่ีไดร้ ับมอบหมายในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมาใหเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครู ใหค้ าํ แนะนาํ เพมิ่ เติม ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อเร่ือง โรคที่เป็ นสาเหตสุ ําคญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวติ ของคนไทย ตามท่ีได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมา หน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้เร่ือง โรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิตของคนไทย ในหวั ขอ้ ความหมายของคาํ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง สถานการณ์และตวั อยา่ งโรคท่ีเป็นสาเหตุของการเจบ็ ป่ วยและการ เสียชีวิตของคนไทย เร่ืองโรคมะเร็ง และโรคความดนั โลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้ ภาพและตารางที่เก่ียวขอ้ งประกอบคาํ อธิบาย 3. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนเรื่องผลการศึกษาของสถาบันจอร์จเพ่ือสุขภาพนานาชาติ (The George Institute for International Health) เกี่ยวกบั อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งในกลุ่มประเทศ อาเซียนพบว่า โรคมะเร็งปอดเป็ นโรคมะเร็งท่ีเป็ นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้ชายมากท่ีสุดเป็ น

115 อนั ดับหนึ่ง รองลงมาคือโรคมะเร็งตับและโรคมะเร็งลําไส้ใหญ่ ตามลําดับ ส่วนในผู้หญิง ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด และโรคมะเร็งปากมดลูก ตามลําดับ (ครูอาจใช้กิจกรรมบูรณา การอาเซียน ดังรายละเอยี ดในสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 12 เฟรมที่ 328 ประกอบได้) 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพม่ิ เติม ช่ัวโมงที่ 24: หัวข้อท่ี 2.2 สถานการณ์และตัวอย่างโรคท่เี ป็ นสาเหตุสําคญั ของการเจ็บป่ วยและการ เสียชีวติ ของคนไทย (ต่อ) 5. ครูใหค้ วามรู้เร่ือง โรคท่ีเป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิตของคนไทย ในหวั ขอ้ ความหมายของคาํ ที่เก่ียวขอ้ ง สถานการณ์และตวั อยา่ งโรคที่เป็นสาเหตุของการเจบ็ ป่ วยและการ เสียชีวิตของคนไทย เรื่องโรคหวั ใจขาดเลือด โรคปอดอกั เสบ และการเกิดภาวะไตวาย โดยใช้ ภาพและตารางที่เกี่ยวขอ้ งประกอบคาํ อธิบาย 6. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพ่ิมเติม ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม ค้นคว้าและอภิปราย จากใบกิจกรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยแต่ละกลุ่มผลดั เปลี่ยนกนั นาํ เสนอจนครบทุก กลุ่ม โดยใชเ้ วลาตามท่ีครูกาํ หนด 2. นกั เรียนอาสาสมคั ร 3–4 คน ออกมานาํ เสนอสรุปผลการปฏิบตั ิกิจรรม โดยอ่านบนั ทึกของตนเอง หนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ครูใหค้ วามรู้เพมิ่ เติม ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ 1. นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมเขียนสรุปความรู้ความเข้าใจในรูปแบบแผนที่ความคิดจากใบกิจกรรมที่ ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3โดยใชเ้ วลาตามท่ี ครูกาํ หนด 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมโดยครูใหค้ าํ แนะนาํ และแนวทางในการ เขียนแผนท่ีความคิดในเร่ือง โรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเสียชีวิตของคนไทย ใหน้ กั เรียน ทราบ ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึก ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรม สํารวจสถติ ิการเจบ็ ป่ วยและเสียชีวิตของคนในชุมชน จาก ใบกจิ กรรมทคี่ รูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดย วเิ คราะห์ปัจจยั ทีม่ สี ่วนให้เกดิ สถานการณ์ดงั กล่าวและแนวทางแก้ไข แล้วนํามาเสนอในการเรียน คร้ังต่อไป

116 3. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 3. ปัญหาสุขภาพในชุมชน จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามท่ีสงสัยมาพูดคุย ร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรศึกษาคน้ ควา้ ความรู้จากส่ือหรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกบั โรคท่ีเป็นสาเหตุ สาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการเสียชีวิตของคนไทยเพ่ิมเติม เพือ่ เป็นการเพิ่มพนู ความรู้และ สามารถนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพและตารางประกอบคาํ อธิบายเกี่ยวกบั เรื่อง โรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการ เสียชีวิตของคนไทย 2. ใบกิจกรรมเรื่อง การวางแผนการจัดรายการใน 1วนั สาํ หรับตนเอง 3. ใบกิจกรรมเร่ือง ค้นคว้าและอภิปราย 4. ใบกิจกรรมเรื่อง เขียนสรุปความรู้ความเข้าใจในรูปแบบแผนท่ีความคิด 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

117 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 ปัญหาสุขภาพในชุมชน สาระการเรียนรู้ท่ี 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสําคญั ปัญหาสุขภาพในชุมชน หมายถึง สิ่งท่ีก่อให้เกิดความขดั ขอ้ งทางสุขภาพของประชาชนที่อาศยั อย่ใู น ชุมชนเดียวกนั โดยความขดั ขอ้ งทางสุขภาพน้นั เกิดจากการเจบ็ ป่ วย เป็ นโรค และความไม่ปลอดภยั ในชีวิต ปัญหาสุขภาพในชุมชนมีหลายดา้ น เช่น ปัญหาโรคติดต่อในชุมชน และปัญหาโรคไม่ติดต่อในชุมชน ซ่ึงคน ในชุมชนควรสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้ องกนั ปัญหาจากโรคติดต่อและโรคไมต่ ิดต่อ โดยควบคุมองคป์ ระกอบ ของการเกิดโรคติดต่อใหอ้ ยใู่ นภาวะสมดุล และสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพท่ีดี 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนวทางแกไ้ ขปัญหาสุขภาพในชุมชน (พ 4.1 ม. 3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ในเร่ืองปัญหาสุขภาพในชุมชนอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายเก่ียวกบั ลกั ษณะของปัญหาสุขภาพในชุมชนและแนวทางในการแกไ้ ขอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 3. อธิบายและระบุแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อในชุมชนอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 4. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพในชุมชนร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 –ความหมาย ความสาํ คญั การอภิปราย/การสร้างแผนท่ีความคิด* ข้ึนไป และลกั ษณะของปัญหา สุขภาพในชุมชน และแนว ทางแกไ้ ข

118 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ตามดุลยพนิ ิจของครู • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ร้อยละ 80 ข้ึนไป ปฏิบตั ิกิจกรรมสาํ รวจสถิติการ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า เจบ็ ป่ วยและเสียชีวิตของคนใน พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ชุมชน ม. 3* • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน ปฏิบตั ิกิจกรรมระดมความคิดเห็น ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา เพื่อตอบคาํ ถาม พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 3. ปัญหาสุขภาพในชุมชน 3.1 ความหมายและความสาํ คญั 3.2 ลกั ษณะของปัญหาสุขภาพในชุมชนและแนวทางการแกไ้ ข 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษที่เก่ียวขอ้ งกบั เรื่องปัญหา สุขภาพในชุมชน ภาษาต่างประเทศ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น และการเขียนเรียงความเรื่อง ความสมั พนั ธ์ ภาษาไทย 

คณิตศาสตร์ 119 ของพฤติกรรมสุขภาพของบุคคลต่อปัญหาสุขภาพในชุมชน  รวบรวมและวิเคราะห์ขอ้ มูลสถิติเกี่ยวกบั การเกิดการเจบ็ ป่ วยจาก โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อในชุมชน 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 25: หัวท่ี 3.1 ความหมายและความสําคญั หัวข้อท่ี 3.2 ลกั ษณะของปัญหาสุขภาพในชุมชนและ แนวทางการแก้ไข ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมาเพื่อ ทบทวนความรู้ 2. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมารายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรมสาํ รวจสถิติการเจบ็ ป่ วยและ เสียชีวิตของคนในชุมชน ตามท่ีไดร้ ับมอบหมายในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมาใหเ้ พื่อน ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นต่อผลการปฏิบตั ิกิจกรรมดงั กล่าว 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ดูภาพหรืออ่านข่าวท่ีนาํ เสนอเน้ือหาเกี่ยวกบั ลกั ษณะของปัญหาสุขภาพใน ชุมชนท่ีครูเตรียมมา แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นในประเดน็ ท่ีวา่ – นกั เรียนคิดวา่ ภาพหรือข่าวดงั กล่าวมีความสาํ คญั และเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องใด – นกั เรียนคิดวา่ ตนเองสามารถเขา้ ไปแกไ้ ขปัญหาดงั กลา่ วไดห้ รือไม่ อยา่ งไร – นกั เรียนคิดวา่ สาเหตุท่ีสาํ คญั ใดบา้ งท่ีเป็นปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดปัญหาดงั กล่าว และจะมี แนวทางแกไ้ ขปัญหาอยา่ งไร (ครูอาจใช้คาํ ถามอื่น ๆ ท่ีเหมาะสมกบั สภาพในการจัดการเรียนการสอนได้) ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อเรื่อง ปัญหาสุขภาพในชุมชน ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในหวั ขอ้ เร่ือง ปัญหาสุขภาพในชุมชนในหวั ขอ้ ท่ี 3.1 และหวั ขอ้ ที่ 3.2 โดยใชภ้ าพท่ี เกี่ยวขอ้ งประกอบคาํ อธิบาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและ พลศึกษา ม. 3 3. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนเกยี่ วกบั เร่ืองท่ีกระทรวงสาธารณสุขของกล่มุ ประเทศอาเซียนได้ตกลง ร่วมกนั มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยเป็ นศูนย์พฒั นาเครือข่ายการ ควบคุมและเฝ้ าระวงั โรคตดิ ต่อในกล่มุ ประเทศอาเซียน โดยมกี ารจัดต้งั ศูนย์ให้การฝึ กอบรม ป้ องกนั โรคตดิ ต่อแก่เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขภายในกลุ่มประเทศอาเซียน (ครูอาจใช้ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่ 13 เฟรมท่ี 343 ประกอบการให้ความรู้ได้)

120 4. ครูเล่าเร่ืองน่ารู้เกยี่ วกบั สัตว์ท่ีเป็ นพาหะนําโรคตดิ ต่อมาสู่คน ซ่ึงได้แก่ แมลงวนั ยุง และหนู เพอื่ เสริมความรู้ให้แก่นักเรียนนอกเหนอื จากความรู้ในบทเรียน (ดูรายละเอยี ดจากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่ 13 เฟรมท่ี 339) 5. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพ่มิ เติม ชั่วโมงที่ 26: หัวข้อที่ 3.2 ลกั ษณะของปัญหาสุขภาพในชุมชนและแนวทางการแก้ไข (ต่อ) ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. ให้นกั เรียนร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมระดมความคิดเห็นเพ่ือตอบคาํ ถาม จากใบกิจกรรมท่ีครู แจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนดให้ 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มผลดั เปล่ียนส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเฉลย คาํ ตอบที่ถกู ตอ้ งใหน้ กั เรียนทราบและใหผ้ ทู้ ี่ตอบไม่ถูกตอ้ งแกไ้ ขคาํ ตอบใหถ้ กู ตอ้ ง ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนสรุปความเขา้ ใจในหวั ขอ้ เรื่อง ปัญหาสุขภาพในชุมชน โดยสร้างเป็นแผนที่ความคิดลง สมุดบนั ทึก และแลกเปลี่ยนกนั ดูกบั เพ่ือน ๆ ในช้นั เรียน ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเขียนเรียงความ เรื่อง ความสัมพนั ธ์พฤติกรรมสุขภาพ ของบุคคลต่อปัญหาสุขภาพในชุมชน โดยนํามาเสนอในการเรียนคร้ังต่อไป 3. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 4. การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผ่อน และการสร้าง เสริมสมรรถภาพทางกาย จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มา ล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามท่ีสงสัยมาพดู คุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเรื่อง สุขภาพในชุมชนไปถ่ายทอดใหแ้ ก่สมาชิกในครอบครัวและ เพอื่ นบา้ น เพ่ือร่วมกนั นาํ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพหรือข่าวท่ีนาํ เสนอเน้ือหาเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพในชุมชน 2. ใบกิจกรรมเรื่อง ระดมความคิดเห็นเพ่ือตอบคาํ ถาม 3. ใบกิจกรรมเรื่อง สาํ รวจสถิติการเจบ็ ป่ วยและเสียชีวิตของคนในชุมชน 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

121 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

122 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 การออกกาํ ลงั กาย การผกั ผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย สาระการเรียนรู้ที่ 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสําคญั การวางแผนการออกกาํ ลังกาย ควรยึดหลกั 4 พ. ไดแ้ ก่ บ่อยพอ หนกั พอ นานพอ และพอใจ การวางแผน การพักผ่อน ตอ้ งจดั เวลาการพกั ผอ่ นให้เหมาะสมเพียงพอกบั ความตอ้ งการ โดยคาํ นึงถึงช่วงการดาํ เนินชีวิต ที่ปกติ และการดาํ เนินชีวิตท่ีไม่ปกติ และการวางแผนการสร้ างเสริมสมรรถภาพทางกาย ตอ้ งเลือกรูปแบบ ของกิจกรรมท่ีคาํ นึงถึงขีดความสามารถของตนเอง จดั โปรแกรมการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายใหม้ ีการ ปฏิบตั ิอยา่ งสม่าํ เสมอต่อเน่ือง สร้างเสริมสมรรถภาพทางกายในแต่ละส่วนควรมีลาํ ดบั แบบแผนและค่อย เป็ นค่อยไป 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี • วางแผนและจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย (พ 4.1 ม. 3/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพ ทางกายอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและเสนอแนะแนวทางในการวางแผนและจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการ สร้างเสริมสมรรถภาพทางกายอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมายและความสาํ คญั การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสนใจใฝ่ รู้ (A) 4. สามารถวางแผนและจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P)

123 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / ข้ึนไป – ความหมาย ความสาํ คญั การ การอภิปราย/การสร้างแผนท่ี • ตามดุลยพินิจของครู วางแผนและการจดั เวลาในการ ความคิด* ออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และ การสร้างเสริมสมรรถภาพทาง กาย • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน ปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – เขียนเรียงความ เร่ือง พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ความสัมพันธ์พฤติกรรมสุขภาพ ม. 3* ของบุคคลต่อปัญหาสุขภาพใน ชุมชน – เขียนสรุปแผนที่ความคิด – เขียนโปรแกรมการวางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริม สมรรถภาพทางกายใน 1สปั ดาห์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

124 5. สาระการเรียนรู้ 4. การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย 4.1 ความหมายและความสาํ คญั ของการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริม สมรรถภาพทางกาย 4.2 การวางแผนและการจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย 4.3 การวางแผนและการจดั เวลาในการพกั ผอ่ น 4.4 การวางแผนและการจดั เวลาในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย 6. แนวทางบูรณาการ สงั คมศึกษาฯ  ศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั การปฏิบตั ิกิจกรรมการใชเ้ วลาวา่ งของบุคคลใน ชุมชน ภาษาต่างประเทศ  ฟัง อา่ น และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย คณิตศาสตร์  สาํ รวจขอ้ มูลช่วงเวลาเฉลี่ยในการพกั ผอ่ นดว้ ยการนอนของสมาชิกใน ครอบครัว การงานอาชีพฯ  ออกแบบและตกแต่งแผนท่ีความคิด ออกแบบและตกแต่งสมุดภาพใน หวั ขอ้ ความหมายความสาํ คญั และการจดั เวลาของการออกกาํ ลงั กาย พกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 27: หัวข้อที่ 4.1 ความหมายและความสําคญั ของการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผ่อน และการสร้าง เสริมสมรรถภาพทางกาย และการวางแผนและการจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย ข้ันท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา เพอ่ื ทบทวนความรู้ 2. ครูสุ่มนกั เรียนอาสาสมคั รประมาณ 2–3 คน ออกมานาํ เสนอผลการกิจกรรมเขียนเรียงความเร่ือง ความสัมพนั ธ์พฤติกรรมสุขภาพของบคุ คลต่อปัญหาสุขภาพในชุมชน ตามท่ีไดม้ อบหมายในการ เรียนคร้ังท่ีผา่ นมาใหเ้ พือ่ นฟังหนา้ ช้นั เรียน และใหร้ ่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เน้ือหาของ เรียงความที่เพื่อนแต่ละคนออกมานาํ เสนอ โดยครูใหค้ าํ แนะนาํ เพม่ิ เติม ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อเรื่อง การออกกาํ ลงั กาย การ พกั ผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังทผี่ ่าน

125 มาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้เรื่องความหมายและความสาํ คญั ของการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้าง เสริมสมรรถภาพทางกาย และใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายเรื่อง การวางแผนและการจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย โดยใชเ้ น้ือหา จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. ครูเล่าเร่ืองน่ารู้ในหัวข้อประโยชน์ของการออกกาํ ลงั กายที่บางคนอาจยงั ไม่รู้ เพอื่ เสริมความรู้ ให้แก่นักเรียนเพมิ่ เตมิ จากความรู้ในบทเรียน และกระตุ้นความสนใจในการศึกษาค้นคว้าในเร่ือง ดงั กล่าว ดังนี้ – ขึน้ บันไดวนั ละ 20 ข้ันจะช่วยลดอตั ราการเกดิ โรคหัวใจและหลอดเลอื ด ได้ถึงร้อยละ 20 – การออกกาํ ลงั กายจะช่วยเพม่ิ อายใุ ห้ยนื ยาวขนึ้ 1–1.5 ปี – ผู้ทไ่ี ม่ออกกาํ ลงั กายจะมโี อกาสเสียชีวติ มากกว่าเป็ นสองเท่าของผู้ที่ออกกาํ ลงั กายอย่าง สมา่ํ เสมอ (ดูรายละเอยี ดได้จากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่ 14 เฟรมที่ 354) ช่ัวโมงที่ 28: หัวข้อที่ 4.2 การวางแผนและการจดั เวลาในการพกั ผ่อน และการวางแผนและการจัดเวลาใน การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย 5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายเร่ือง การวางแผนและการจดั เวลาในการพกั ผอ่ นและการวางแผน และการจดั เวลาในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย โดยใชเ้ น้ือหาจากหนงั สือเรียน รายวชิ า พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 6. ครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะ และความรู้เพิม่ เติมจากผลการอภิปรายของนกั เรียน 7. ครูอธิบายและใหค้ วามรู้เพิม่ เติมเกี่ยวกบั การเตรียมตวั และความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรม สร้างเสริมสมรรถภาพ แลว้ เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั หรือสนใจ เพ่ิมเติม 8. ครูให้คาํ แนะนําที่เป็ นประโยชน์เพมิ่ เตมิ โดยให้นักเรียนนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ ประกอบการวางแผนการออกกาํ ลงั กายและการพกั ผ่อนร่างกาย โดยให้เลอื กกจิ กรรมทเ่ี หมาะสม และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายจนเกนิ ความจาํ เป็ น เช่น หากจะออกกาํ ลงั กายกส็ ามารถไปใช้ บริการในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ซ่ึงนอกจากจะได้ออกกาํ ลงั กายให้ร่างกายแขง็ แรงแล้ว ยงั สามารถพกั ผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติได้อกี ด้วย ข้ันท่ี 3: ฝึ กฝนทักษะและประสบการณ์ 1. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม เขียนสรุปแผนท่ีความคิด จากใบกิจกรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบ ฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่ม ร่วมกนั ศึกษาและสรุปในรูปแบบการเขียนแผนที่ความคิดในหวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด โดยศึกษา เน้ือหาในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามท่ีครูกาํ หนด

126 กลุม่ ที่ 1 ศึกษาเรื่อง การวางแผนและหลกั ปฏิบตั ิเพือ่ นาํ มาใชใ้ นการวางแผนจดั เวลาในการ ออกกาํ ลงั กาย กลุ่มที่ 2 ศึกษาเรื่อง การวางแผนและหลกั ปฏิบตั ิเพอ่ื นาํ มาใชใ้ นการวางแผนจดั เวลาในการ พกั ผอ่ น กลุ่มที่ 3 ศึกษาเรื่อง การวางแผนและหลกั ปฏิบตั ิเพ่อื นาํ มาใชใ้ นการวางแผนจดั เวลาในการสร้าง เสริมสมรรถภาพทางกาย 2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมเขียนโปรแกรมการวางแผนปฏิบัติกิจกรรมการออกกาํ ลงั กาย การ พกั ผ่อน และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายใน 1 สัปดาห์ จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือ จากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปลี่ยนกนั ส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการศึกษาปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ ช้นั เรียนโดยครูใหค้ วามรู้เก่ียวกบั รายละเอียดที่เกี่ยวขอ้ งเพ่มิ เติม ข้ันท่ี 4: การนําไปใช้ • ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ่อื นทดลองปฏิบตั ิกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายในรูปแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจนและ ใชอ้ อกซิเจน ตามท่ีครูกาํ หนดดว้ ยความระมดั ระวงั ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึก ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมสาํ รวจการใช้เวลาว่างของสมาชิกในครอบครัว จากใบ กิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3โดยนาํ มา เสนอในการเรียนคร้ังต่อไป 3. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 5. การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามที่ สงสัยมาพดู คุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเร่ือง การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพ ทางกาย ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ตามความเหมาะสม 2. นกั เรียนควรศึกษาคน้ ควา้ ในเร่ือง การออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพ เพม่ิ เติม นอกเหนือจากบทเรียนท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมา เพ่ือเป็นการเพิ่มพนู ทกั ษะการเรียนรู้ในเรื่อง ดงั กล่าว

127 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพประกอบเก่ียวกบั กิจกรรมการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพ 2. ใบกิจกรรมเรื่อง เขียนเรียงความเรื่องความสัมพนั ธ์พฤติกรรมสุขภาพของบคุ คลต่อปัญหา สุขภาพในชุมชน 3. ใบกิจกรรม เรื่อง เขียนสรุปแผนที่ความคิด 4. ใบกิจกรรม เรื่อง เขียนโปรแกรมการวางแผนปฏิบัติกิจกรรมการออกกาํ ลงั กาย การพกั ผ่อน และ การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายใน 1สัปดาห์ 5. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

128 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ สาระการเรียนรู้ท่ี 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสําคญั การทดสอบสมรรถภาพทางกายเป็ นตวั บ่งช้ีถึงความสามารถทางร่างกายของตนเองว่ามีความสมบูรณ์ แข็งแรงของร่างกาย เพื่อจะไดใ้ ชเ้ ป็ นแนวทางปรับปรุงพฒั นาให้ตนเองมีสมรรถภาพทางกายที่ดี และเกิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการดาํ รงชีวิตและประกอบภารกิจในชีวิตประจาํ วนั การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ของนกั เรียนนิยมใชแ้ บบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหว่างประเทศ ประกอบดว้ ยการวิ่งเร็ว 50 เมตร ยนื กระโดดไกล แรงบีบมือ ลุก–นง่ั 30 วนิ าที ดึงขอ้ หรืองอแขนหอ้ ยตวั ว่ิงเกบ็ ของ และวงิ่ ทางไกล 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี • ทดสอบสมรรถภาพทางกายและพฒั นาไดต้ ามความแตกต่างระหวา่ งบุคคล (พ 4.1 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพร่วมกบั ผอู้ ่ืน ดว้ ยความสนใจใฝ่ รู้ (A) 3. ระบุรูปแบบและวธิ ีการทดสอบสมรรถภาพทางกายอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 ข้ึนไป – ความหมายและความสาํ คญั การอภิปราย/ การสร้างแผนที่ ของการ ทดสอบสมรรถภาพ ความคิด* ทาง กาย – รูปแบบและวธิ ีการทดสอบ สมรรถภาพทางกาย

129 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ตามดุลยพนิ ิจของครู • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน ปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – สาํ รวจการใช้เวลาว่างของ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา สมาชิกในครอบครัว ม. 3* – ศึกษาแล้วอภิปราย – ทดสอบสมรรถภาพทางกาย *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 5. การทดสอบสมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ 5.1 รูปแบบการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 5.2 เกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาเกี่ยวกบั ระดบั สมรรถภาพทางกายของบุคคลในชุมชน ฟัง อา่ น และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การทดสอบ สงั คมศึกษาฯ  สมรรถภาพทางกาย ภาษาต่างประเทศ  สืบคน้ คน้ ควา้ เกี่ยวกบั ระดบั สมรรถภาพของนกั เรียนในระดบั ต่าง ๆ ออกแบบและตกแต่งแผนท่ีความคิด ออกแบบและตกแต่งสมุดภาพ วิทยาศาสตร์  เก่ียวกบั รูปแบบของรายการการทดสอบสมรรถภาพทางกาย การงานอาชีพฯ 

130 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 29: หัวข้อที่ 5.1 รูปแบบการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน • นกั เรียนอาสาสมคั ร 3–4 คน ผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมสาํ รวจการใช้ เวลาว่างของสมาชิกในครอบครัว ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย ในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมาใหเ้ พอื่ น ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อเรื่อง การทดสอบ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังทีผ่ ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ดูภาพแสดงการทดสอบสมรรถภาพทางกายและระดมความคิดต่อกิจกรรม ในภาพดงั กล่าว โดยใหน้ กั เรียนเช่ือมโยงความคิดกบั การศึกษาในเรื่อง การทดสอบสมรรถภาพ ทางกายเพ่อื สุขภาพ 3. นกั เรียนร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมศึกษาแล้วอภิปราย โดยแบ่งกลุ่มเป็น 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษา ตามประเดน็ ที่กาํ หนดในเวลาท่ีครูกาํ หนด โดยใชข้ อ้ มูลจากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ประกอบการนาํ เสนอเก่ียวกบั วตั ถุประสงคข์ องการทดสอบ อุปกรณ์ประกอบ วธิ ีการทดสอบ การบนั ทึกขอ้ มูล ระเบียบการทดสอบ และการแปลผลการ ทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวา่ งประเทศ กลุ่มที่ 1 รายการที่ 1 เรื่อง วงิ่ เร็ว 50 เมตร กลุ่มที่ 2 รายการท่ี 2 เรื่อง การยนื กระโดดไกล กลุ่มท่ี 3 รายการที่ 3 เรื่อง แรงบีบมือ กลุ่มท่ี 4 รายการท่ี 4 เร่ือง ลุก–นง่ั 30 วินาที กลุ่มท่ี 5 รายการท่ี 5 เรื่อง ดึงขอ้ หรืองอแขนหอ้ ยตวั กลุ่มที่ 6 รายการท่ี 6 เร่ือง ว่ิงเก็บของ กลุ่มที่ 7 รายการท่ี 7 เร่ือง วิง่ ทางไกล กลุ่มที่ 8 รายการท่ี 8 เร่ือง นงั่ งอตวั ไปขา้ งหนา้ 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปล่ียนกนั ส่งตวั แทนออกมาสรุปผลการศึกษาคน้ ควา้ ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟัง ประกอบการสาธิตหนา้ ช้นั เรียน และใหเ้ พื่อนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั หรือสนใจเพิ่มเติม ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ • ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทดสอบและเกบ็ ขอ้ มูลรายการทดสอบในวนั ที่ 1 รายการที่ 1,2,8 จากการปฏิบตั ิ กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชา พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3

131 ชั่วโมงท่ี 30: หัวข้อท่ี 5.1 รูปแบบการทดสอบสมรรถภาพทางกาย (ต่อ) • ใหน้ กั เรียนเตรียมปฏิบตั ิกิจกรรมการทดสอบและเกบ็ ขอ้ มลู รายการทดสอบในวนั ที่ 2 รายการที่ 3,4,5 จากการปฏิบตั ิกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจาก แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ า พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนจนบนั ทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายลงสมุดบนั ทึกของตนเอง และนาํ ความรู้ท่ี ไดไ้ ปฝึกฝนทกั ษะการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายของตนเองใหด้ ียงิ่ ข้ึน ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึก ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 5. การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพ หัวข้อย่อยท่ี 5.2 เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษา และพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อมกบั จดคําถามที่สงสัยมาพูดคุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการ เรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรใหค้ วามระมดั ระวงั ในการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อป้ องกนั การบาดเจบ็ และ อุบตั ิเหตุในขณะร่วมรับการทดสอบ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพหรือส่ือวดี ิทศั นต์ ่าง ๆ ท่ีมีเน้ือหาเก่ียวขอ้ งกบั รูปแบบวิธีการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 2. ใบกิจกรรมเรื่อง สาํ รวจการใช้เวลาว่างของสมาชิกในครอบครัว 3. ใบกิจกรรม เร่ือง ศึกษาแล้วอภิปราย 4. ใบกิจกรรม เรื่อง ทดสอบสมรรถภาพทางกาย 5. ใบบนั ทึกกิจกรรมผลการทดสอบสมรรถภาพ 6. สนามกีฬา หรือสนามหญา้ หรือโรงฝึกพลศึกษา 7. อุปกรณ์สาํ หรับประกอบการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 8. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 132 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

133 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพ (ต่อ) สาระการเรียนรู้ที่ 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้ องกนั โรค ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสําคญั เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายสาํ หรับนักเรียนระดบั มธั ยมศึกษามาไดม้ าจากผลการศึกษา กลุ่มนักเรียนมธั ยมศึกษา ระดบั อายุ 13–18 ปี รวมทวั่ ประเทศไทย โดยสํานักพฒั นาการพลศึกษา สุขภาพ และนนั ทนาการ กรมพลศึกษา (ปัจจุบนั คือกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา)ซ่ึงทาํ การทดสอบ ตามแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหว่างประเทศ (ICSPFT) และไดแ้ บ่งเกณฑ์มาตรฐาน สมรรถภาพทางกายเป็ น 5 ระดบั คือ ดีมาก ดี ปานกลาง ต่าํ และต่าํ มากโดยเม่ือทาํ การทดสอบไดค้ ่าทดสอบ เท่าไรให้นาํ ไปเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ที่กาํ หนดไว้ หากคนใดมีสมรรถภาพทางกายท่ีดีหรือดีมากก็ควรจะ ปฏิบตั ิตนเพ่ือดาํ รงสมรรถภาพที่ดีไว้ สาํ หรับผทู้ ่ีมีสมรรถภาพทางกายปานกลางควรสร้างเสริมสมรรถภาพ ทางกายของตนใหด้ ีข้ึนไป และผทู้ ่ีมีสมรรถภาพทางกายต่าํ หรือต่าํ มาก ตอ้ งทาํ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือ ฟ้ื นฟสู มรรถภาพทางกายใหอ้ ยใู่ นระดบั ที่ดีต่อไป 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • ทดสอบสมรรถภาพทางกายและพฒั นาไดต้ ามความแตกต่างระหวา่ งบุคคล (พ 4.1 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายและระบุข้นั ตอนการทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐาน ระหวา่ งประเทศ และเกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกายอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย มาตรฐานระหวา่ งประเทศร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสนใจใฝ่ รู้ (A) 3. วิเคราะห์เกี่ยวกบั การผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย ระหวา่ งประเทศและแนวทางในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)

134 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 – ข้นั ตอนการทดสอบ การอภิปราย/การแสดงความคิดเห็น/ ข้ึนไป สมรรถภาพทางกายดว้ ย การสร้างแผนที่ความคิด* แบบทดสอบสมรรถภาพ ทางกายมาตรฐานระหวา่ ง ประเทศ – เกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทาง กาย • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 3 ใส่ใจสุขภาพ** เรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ • แบบทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 3 ใส่ใจสุขภาพ*** *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู **ดูรายละเอียดในส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั ***ดรู ายละเอียดในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

135 5. สาระการเรียนรู้ 5. การทดสอบสมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ (ต่อ) 5.2 เกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาเกี่ยวกบั ระดบั สมรรถภาพทางกายของบุคคลในชุมชน ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษที่เก่ียวขอ้ งกบั การทดสอบ สงั คมศึกษาฯ  สมรรถภาพทางกาย ภาษาต่างประเทศ  พดู คุยแสดงความคิดเห็นและเขียนสรุปความเขา้ ใจ และอ่านเร่ืองที่ เก่ียวกบั วิธีการอ่านและแปลผลเกณฑส์ มรรถภาพทางกาย ภาษาไทย  สืบคน้ คน้ ควา้ เก่ียวกบั ระดบั สมรรถภาพของนกั เรียนในระดบั ต่าง ๆ วิทยาศาสตร์  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 31: หัวข้อท่ี 5.2 เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน • ครูสุ่มนกั เรียนประมาณ 3–4 คน ใหอ้ อกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการทดสอบและเกบ็ ขอ้ มลู รายการทดสอบสมรรถภาพทางกายจากการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อเรื่อง เกณฑ์มาตรฐาน สมรรถภาพทางกาย ตามท่ไี ด้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนนาํ ผลการบนั ทึกการทดสอบสมรรถภาพทางกายในรูปแบบต่าง ๆ จากการเรียน คร้ังท่ีผา่ นมา มาใชใ้ นการแปลผลขอ้ มูล โดยครูใหค้ วามรู้เพ่ิมเติม ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั นาํ เสนอเกี่ยวกบั ปัญหา อุปสรรคที่เกิดข้ึนในการทดสอบสมรรถภาพ ทางกาย และแนวทางในการแกไ้ ขปัญหา 2. ครูใหข้ อ้ เสนอแนะแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาเพิ่มเติม และเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามใน ประเด็นที่สงสยั และสนใจเพ่ิมเติม ช่ัวโมงที่ 32: หัวข้อท่ี 5.2 เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย (ต่อ) ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ 1. ใหน้ กั เรียนแต่ละคนผลดั เปลี่ยนกนั นาํ เสนอผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายจนครบทุกคน จากน้นั ใหร้ ่วมกนั เสนอแนะแนวทางการปรับปรุง และดาํ รงสมรรถภาพใหค้ งไว้ โดยครูให้ ความรู้และคาํ แนะนาํ เพ่ิมเติม

136 2. ครูแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ใส่ใจสุขภาพ ใหน้ กั เรียนทุกคนไดท้ าํ การ ทดสอบเม่ือเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด เสร็จแลว้ ใหค้ รูและนกั เรียน ร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ งของแบบทดสอบทีละขอ้ ร่วมกนั ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึก ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. ครูถามคาํ ถามเชื่อมโยงสู่บทเรียนต่อไป เพอื่ ให้นักเรียนไปค้นหาคาํ ตอบจากบทเรียนมา ล่วงหน้า ดังนี้ – ส่ือสารมวลชนมอี ทิ ธิพลต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรงของคนในสังคมไทยหรือไม่ อย่างไร 3. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั ในหัวข้อที่ 1. ปัจจยั และพฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสุขภาพ จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้าแล้วนํามาพูดคุยในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรศึกษาคน้ ควา้ ความรู้เร่ือง การทดสอบสมรรถภาพทางกาย เพิ่มเติมนอกเหนือจาก บทเรียน เพ่ือเป็นการเพิ่มพนู ทกั ษะการเรียนรู้ในเร่ืองดงั กล่าวและสามารถนาํ มาปรับใชใ้ น ชีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสมต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ใส่ใจสุขภาพ 2. สนามกีฬา หรือสนามหญา้ หรือโรงฝึกพลศึกษา 3. ตารางการแปลผลเกณฑส์ มรรถภาพทางกาย 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 137 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ชีวติ ปลอดภัย 138 14 ช่ัวโมง ผงั มโนทศั น์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน 1. ปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ความรู้ 3. อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง 5. การช่วยฟ้ื นคืนชีพ 2. พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรง 4. เครื่องดื่มแอลกอฮอลท์ ี่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ ทกั ษะ/กระบวนการ ชีวติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ปลอดภัย 1. การใชท้ กั ษะสื่อสารเพอื่ อธิบายความหมาย ความ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สาํ คญั ตวั อยา่ งของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตลอดจนแนวทางในการป้ องกันพฤติกรรมเส่ียงต่อ 1. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวินยั ในการศึกษาและร่วม สุขภาพ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมายและความสาํ คญั 2. การใชท้ กั ษะสื่อสารเพื่ออธิบายความหมายและการจดั ของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตลอดจนแนวทางในการ กลุ่มความรุนแรง สาเหตุของพฤติกรรมการใช้ความ ป้ องกนั พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ รุนแรง และพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น 2. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวินยั ในการศึกษาและร่วม 3. การใช้ทกั ษะส่ือสารเพื่ออธิบายความหมายของคาํ ที่ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมายและการจดั กลุ่มความ เก่ียวข้องและความสําคญั ตวั อย่างส่ือท่ีมีอิทธิพลต่อ รุนแรง และแนวทางในการปฏิบตั ิตนเพ่ือหลีกเล่ียงพฤติกรรมการ พฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง และแนวทางการ ใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น เลือกรับสื่อที่เหมาะสม 3. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวินยั ในการศึกษาและร่วม 4. การใช้ทกั ษะส่ือสารเพ่ืออธิบายลกั ษณะของเคร่ืองดื่ม ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั ความหมายของคาํ ที่เก่ียวขอ้ ง แ อ ล ก อ ฮอ ล์ ผ ล ก ระท บ ข อ งก ารดื่ ม เค ร่ื อ งด่ื ม ตวั อยา่ งสื่อที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง แอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ 4. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวนิ ยั ในการศึกษาและร่วม 5. การใชท้ กั ษะสื่อสารเพื่ออธิบายความหมายและ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความสําคญั และผลกระทบของ ความสาํ คญั หลกั การทวั่ ไปในการช่วยฟ้ื นคืนชีพผู้ เครื่องดื่มแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ ประสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉิน และวธิ ี 5. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวนิ ยั ในการศึกษา และร่วม ปฏิบตั ิการช่วยฟ้ืนคืนชีพ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความสาํ คญั และแนวทางในการ 6. ความสามารถในการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ปใน การช่วยฟ้ื นคืนชีพ ชีวติ ประจาํ วนั 6. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ในเร่ืองปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อ 7. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ สุขภาพ พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรง อิทธิพลของสื่อต่อ พฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง เครื่องดื่มแอลกอฮอลท์ ี่ส่งผล ต่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ และการช่วยฟ้ื นคืนชีพ ภาระงาน/ช้นิ งาน 1. ศึกษาและนาํ เสนอความหมายและความสาํ คญั สาํ คญั ของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพตลอดจนแนวทางในการป้ องกนั พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้และจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั การวิเคราะห์ขา่ วและบนั ทึก 3. ศึกษาและนาํ เสนอความหมายของคาํ ท่ีเกี่ยวขอ้ งและแนวทางในการปฏิบตั ิตนเพอื่ หลีกเล่ียงพฤติกรรมเส่ียงและสถานการณ์เสี่ยง 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ อ่านขอ้ ความและแสดงความคิดเห็น 5. ศึกษาความหมายของคาํ ที่เก่ียวขอ้ งกบั ทกั ษะชีวติ ในการป้ องกนั อนั ตรายและสถานการณ์ที่คบั ขนั และแนวทางการแกไ้ ขปัญหาและผลกระทบที่เกิด จากภยั อนั ตรายและสถานการณ์ความไม่ปลอดภยั ในชีวติ 6. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น 7. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั แหล่งขอรับความช่วยเหลือเมื่อประสบกบั อนั ตรายและสถานการณ์ท่ีคบั ขนั 8. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วเิ คราะห์และตอบคาํ ถาม

139 กรอบแนวคดิ ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้เพอ่ื เน้นสู่ผลลพั ธ์ปลายทาง (Backward Design Template) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4: ชีวติ ปลอดภยั ข้นั ตอนท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทตี่ ้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน (Design Results) ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. วิเคราะห์ปัจจยั เส่ียงและพฤติกรรมท่ีมีผลต่อสุขภาพและแนวทางป้ องกนั (พ 5.1 ม. 3/1) 2. หลีกเล่ียงการใชค้ วามรุนแรงและชกั ชวนเพือ่ นใหห้ ลีกเลี่ยงการใชค้ วามรุนแรงในการแกป้ ัญหา (พ 5.1 ม. 3/2) 3. วิเคราะห์อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง( 5.1 ม. 3/3) 4. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของการด่ืมเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ( 5.1 ม. 3/4) 5. แสดงวิธีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถกู วธิ ี ( 5.1 ม. 3/5) ความเข้าใจท่ีคงทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ท่ที ําให้นักเรียนเกดิ ความเข้าใจที่คงทน • เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนจะเข้าใจวา่ … – นักเรี ยนคิดว่า ความเข้าใจในเรื่ องปั จจัยที่มีผลต่อ 1. ความรู้และความเขา้ ใจเก่ียวกบั ปัจจยั ที่มีผลต่อ พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพส่งผลดีต่อการดาํ เนินชีวิต พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ทาํ ใหท้ ราบถึง อยา่ งไร สถานการณ์และระดบั ปัญหาสุขภาพอนามยั – นกั เรียนคิดวา่ ปัจจยั เสี่ยงในเร่ืองใดบา้ งส่งผลให้ เกิด ของบุคคลในชุมชน เพอ่ื หาแนวทางการป้ องกนั ปัญหาสุขภาพของคนเรา และแกไ้ ขใหอ้ ยใู่ นสภาพที่ดี ไม่ก่อใหเ้ กิดการ – นกั เรียนคิดวา่ พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น เจบ็ ป่ วยหรือเป็นโรค และเพ่ือการมีสุขภาพท่ีดี ส่งผลกระทบต่อสงั คมในปัจจุบนั อยา่ งไร ของตนเอง ครอบครัว และชุมชน – นกั เรียนรู้ไหมว่าพฤติกรรมเส่ียงและสถานการณ์เส่ียงที่ 2. การทราบถึงปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ควรหลีกเล่ียงที่จะกระทาํ หรือเขา้ ไปขอ้ งเก่ียวมีอะไรบา้ ง ทําให้บุคคลทราบถึงแนวทางการดูแลสุขภาพ – นักเรี ยนคิดว่า ตนเองมีพฤติกรรมเส่ี ยงบ้างหรื อไม่ ตนเองและการปฏิบตั ิตนเพ่ือหลีกเล่ียงการกระทาํ อย่างไร และจะมีแนวทางในการแก้ไขพฤติกรรม หรือเหตุปัจจยั ต่าง ๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ รวมท้งั ดงั กล่าวไดอ้ ยา่ งไร หาแนวทางการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพที่มี – หลกั การ 6 อ. เกี่ยวข้องกบั การสร้างเสริมสุขภาพของ อยใู่ หก้ ลบั มามีสุขภาพท่ีดีเป็นปกติไม่ก่อให้เกิดการ บุคคลอยา่ งไร เจบ็ ป่ วยหรือเป็นโรค ท้งั น้ีเพื่อการมีสุขภาพที่ดีของ – นักเรียนคิดว่า มีปัจจัยที่สําคัญใดบ้างท่ีส่งผลให้เกิด ตนเอง ครอบครัว และชุมชนตอ่ ไป พฤติกรรมความรุนแรงของคนเรา 3. ปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็ นปัญหาต่อสุขภาพ – ความรุนแรงมีความหมายและส่งผลกระทบต่อบุคคล ของบุคคลท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่ ปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยง อยา่ งไร ต่อการเกิดอุบตั ิเหตุ ปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อ – พฤติกรรมความรุนแรงของวยั รุ่นไทยในปัจจุบนั แบ่งได้ การเสพสารเสพติด ปัยจยั และพฤติกรรมเส่ียงทาง กี่ลกั ษณะและแต่ละลกั ษณะส่งผลกระทบต่อบุคคล เพศกบั การเกิดโรคเอดส์ ปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียง และสงั คมอยา่ งไร จากการบริ โภคอาหารที่ ไม่เหมาะสมและการขาด

140 การออกกําลังกาย ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงต่อ – นกั เรียนคิดวา่ จะมีแนวทางในการป้ องกนั พฤติกรรม ความเครียดและปัญหาความรุนแรง การใชค้ วามความรุนแรงในวยั รุ่นไดอ้ ยา่ งไร 4. การมีสุขภาพอนามยั ที่สมบูรณ์แขง็ แรงปราศจากโรค – นกั เรียนคิดวา่ ปัจจุบนั สื่อมีอิทธิพลตอ่ ความ และการเจบ็ ป่ วยต่าง ๆ ในชุมชนและสงั คมไดน้ ้นั ทุก เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนเราอยา่ งไรบา้ ง คนในชุมชนควรดูแลสุขภาพของตนเอง หลีกเลี่ยง – นกั เรียนคิดวา่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลม์ ีส่วนที่ส่งผล พฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพและร่วมกนั สร้างเสริม กระทบสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ อยา่ งไร สุขภาพใหเ้ กิดข้ึนในชุมชนและสงั คม ซ่ึงสามารถนาํ – การช่วยฟ้ื นคืนชีพมีความหมายและความสาํ คญั อยา่ งไร นโยบายยทุ ธศาสตร์สร้างสุขภาพ “คนไทยแขง็ แรง เมืองไทยแขง็ แรง” ดว้ ยหลกั การ 6 อ. (ออกกาํ ลงั กาย อาหาร อารมณ์ อนามยั สิ่งแวดลอ้ ม อโรคยา และ อบายมุข) ของกระทรวงสาธารณสุขมาประยกุ ตใ์ ช้ ในการดูแลสุขภาพ 5. ปัจจุบนั ปัญหาพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น เป็ นอีกปั ญหาหน่ึงท่ีสําคัญในสังคมไทย ความ รุนแรงท่ีเกิดข้ึนนอกจากจะส่งผลต่อตวั วยั รุ่นเองแลว้ บางคร้ังความรุนแรงดังกล่าวยงั ลุกลามมาสร้าง ปัญหาใหเ้ กิดข้ึนกบั ผคู้ นในสงั คมดว้ ย 6. ความรุนแรง หมายถึง การกระทาํ ใด ๆ ที่เป็ นการล่วง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ท้งั กาย วาจา จิตใจ และเพศ โดยการบงั คบั ขู่เข็ญ ทาํ ร้าย ทุบตี คุกคาม จาํ กดั กีด กนั เสรีภาพ ท้งั ในที่สาธารณะ และการดาํ เนินชีวิต ส่วนตวั ซ่ึงเป็ นผล หรืออาจเป็ นผลให้เกิดความทุกข์ ทรมานท้งั ทาง กายและจิตใจแก่ผูถ้ ูกกระทาํ ความ รุนแรงที่เกิดข้ึนเมื่อวิเคราะห์ถึงลกั ษณะพฤติกรรม ข อ งก ารก ระทําแ ล้ว จะ แบ่ งอ อ ก ได้ 3 ก ลุ่ ม ประกอบดว้ ย ความรุนแรงต่อตนเอง ความรุนแรง ระหวา่ งบุคคล และความรุนแรงในเชิงระบบ 7. นักจิตวิทยาไดศ้ ึกษาวิจยั เกี่ยวกบั ปัจจยั ที่เป็ นสาเหตุ ของพฤติกรรมการใช้ความรุ นแรงของคนเรา โดยทั่วไป พ บ ว่า มี ปั จจัยสําคัญ 3 ป ระการท่ี สนับ สนุ นให้เกิ ดพ ฤติ กรรมการใช้ความรุ นแรงท่ี ปรากฏข้ึนในสงั คม ประกอบดว้ ย ปัจจยั ที่มาจากตวั บุคคล ปัจจัยท่ีมาจากพฤติกรรมการเล้ียงดูของ ครอบครัว และปัจจยั ท่ีมาจากสภาพแวดลอ้ ม

141 8. พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของวยั รุ่นไทยท่ีมกั ปรากฏผา่ นสื่อต่าง ๆ จะพบว่าพฤติกรรมที่เกิดข้ึนจะ มี 2 ลกั ษณะสําคญั ประกอบดว้ ย พฤติกรรมการใช้ ความรุนแรงภายในกลุ่มของวยั รุ่น และพฤติกรรม การใชค้ วามรุนแรงภายนอกกลุ่มของวยั รุ่น 9. ปัจจุบันเป็ นยุคโลกไร้พรมแดน ผูค้ นทุกเพศทุกวยั ลว้ นตอ้ งการการบริโภคขอ้ มูลข่าวสาร ทาํ ใหส้ ื่อ มีบทบาทความสาํ คญั เพม่ิ มากข้ึนเร่ือย ๆ ในทาง กลบั กนั สื่อจะตอ้ งเพื่อความระมดั ระวงั ในการทาํ หนา้ ที่ใหม้ ากข้ึน โดยเฉพาะการนาํ เสนอเน้ือหา และเร่ืองราวของส่ือทุกรูปแบบ ที่ทาํ ใหเ้ กิดผลลบ แก่ผรู้ ับ การนาํ เสนอภาพหรือขอ้ ความท่ีแสดงออก ถึงการใชค้ วามรุนแรง ส่ือลามกอนาจารที่ก่อใหเ้ กิด พ ฤติ กรรมการเลี ยน แบ บ ใน ท างที่ ไม่ ถู กต้อ ง 10. สื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ หมายถึง ส่ือที่เม่ือ ผบู้ ริโภคบริโภคสื่อแลว้ ส่งผลต่อการกระทาํ หรือการ ปฏิบตั ิของบุคคลท่ีมีผลต่อสุขภาพของตนเอง ครอบครัว หรือชุมชน โดยแสดงออกใหเ้ ห็นใน 2 ลกั ษณะ จากการปฏิบตั ิท้งั ที่ปฏิบตั ิใหเ้ กิดผลดีหรือ ผลเสียต่อสุขภาพ 11. สื่อท่ีมีต่อพฤติกรรมความรุนแรง หมายถึง ส่ือท่ีเมื่อ ผบู้ ริโภคบริโภคสื่อแลว้ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมและ การกระทาํ ใด ๆ ที่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ท้งั ทางวาจา ทางร่างกาย ทางจิตใจ หรือทางเพศต่อ ตนเองและผูอ้ ื่น ซ่ึงเป็ นผลหรืออาจจะเป็ นผลให้เกิด ความทุกข์ทรมานท้ังด้านร่ างกายหรื อจิตใจแก่ ผถู้ ูกกระทาํ 12. แอลกอฮอลม์ ีลกั ษณะเป็นของเหลวท่ีไม่มีสีและไม่มี กลิ่น แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ เมททิลแอลกอฮอล์ และเอธิลแอลกอฮอล์ ซ่ึงแอลกอฮอล์ท่ีเป็ นส่วนผสม ในเคร่ืองดื่ม คือ เอธิลแอลกอฮอล์ ซ่ึงเคร่ืองด่ืมแต่ละ ชนิดกจ็ ะมีปริมาณของแอลกอฮอลท์ ่ีแตกต่างกนั

142 13. การด่ืมเคร่ืองด่ืมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลจ์ ะทาํ ให้ผูด้ ื่ม มีเกิดอาการมึนเมา ขาดสติสัมปชัญญะ มี การตดั สินใจผิดพลาด เกิดความคึกคะนอง กลา้ เส่ียง อนั ตราย ก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุอยา่ งรุนแรงไดเ้ น่ืองจาก แอลกอฮอลจ์ ะเขา้ ไปกดการทาํ งานของสมองทาํ ให้ อวยั วะต่าง ๆ ในร่างกายจะทาํ งานชา้ ลง สมองมึนชา ซ่ึงมีผลต่อสุขภาพโดยเฉพาะโรคท่ีสาํ คญั เกี่ยวขอ้ ง กบั การด่ืมแอลกอฮอล์ 14. การประสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็ นสิ่งที่ สามารถเกิดข้ึนได้ โดยที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้ ล่วงหน้า ซ่ึงอาจเป็ นอนั ตรายถึงชีวิต การให้ความ ช่วยเหลือต่อผปู้ ระสบกบั สถานการณ์ฉุกเฉินจึงถือวา่ เป็ นส่ิงสําคญั พ้ืนฐานในการช่วยเหลือบุคคลท่ีอยู่ ใกล้ชิดหรื อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้รอดพ้นจาก อัน ต รายใน โอ ก าส ท่ี ส าม ารถ ก ระทําได้ ซ่ึ ง จุดมุ่งหมายสําคญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพผูป้ ระสบ อุบัติเหตุก็เพ่ือช่วยลดอาการบาดเจ็บ ความพิการ ตลอดจนการสูญเสียชีวิต ท้ังน้ีผูใ้ ห้การช่วยเหลือ จะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจและทกั ษะการช่วยเหลือ มีความมน่ั ใจและปฏิบตั ิอย่างถูกตอ้ งเหมาะสมจึงจะ ทาํ ให้การช่วยเหลือคร้ังน้ันประสบผลสําเร็จตาม ตอ้ งการ ความรู้ของนักเรียนท่นี ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนท่จี ะนําไปสู่ความเข้าใจท่ี • เมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนจะรู้วา่ … คงทน 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ • เมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้ นักเรียนควรมีทักษะและ ความรุนแรง ส่ือที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ สามารถท่ีจะ… สื่อท่ีมีผลต่อพฤติกรรมความรุนแรง การช่วยฟ้ื นคืน 1. อธิบายความหมายของคาํ ที่เก่ียวขอ้ งและแนวทางใน ชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ ซีพีอาร์ การปฏิบัติตนเพ่ือหลีกเล่ียงพฤติกรรมเสี่ ยงและ 2. พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ หมายถึง พฤติกรรม สถานการณ์เส่ียงต่อสุขภาพ ทางสุขภาพใด ๆ ของบุคคลในชุมชน เม่ือปฏิบตั ิ 2. อธิบายความหมาย ความสําคัญ การจัดกลุ่มความ แลว้ ก่อใหเ้ กิดผลเสียต่อสุขภาพ นาํ ไปสู่การ รุนแรง ปัจจยั ท่ีเป็นสาเหตุของพฤติกรรมการใชค้ วาม เจบ็ ป่ วยเป็นโรค และเป็นอนั ตรายต่อชีวติ ของ รุนแรง ตลอดจนพฤติกรรมและสาเหตุของการใช้ ตนเอง ครอบครัว ตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ในชุมชน ความรุนแรงในวยั รุ่น

3. ความรุนแรง หมายถึง การกระทาํ ใด ๆ ที่เป็นการ 143 ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ท้งั กายวาจา จิตใจ และ เพศ โดยการบงั คบั ข่เู ขญ็ ทาํ ร้าย ทุบตี คุกคาม 3. อธิบายความหมายของคาํ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั อิทธิพลและ จาํ กดั กีดกนั เสรีภาพ ท้งั ในท่ี สาธารณะ และการ ตวั อยา่ งของส่ือที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพและ ดาํ เนินชีวติ ส่วนตวั ซ่ึงเป็นผลหรืออาจเป็นผลให้ ความรุนแรง ตลอดจนแนวทางการเลือกรับส่ือท่ี เกิดความทุกขท์ รมานท้งั ทางกายและจิตใจแก่ เหมาะสม ผถู้ กู กระทาํ 4. สื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ หมายถึง สื่อที่เมื่อ 4. อธิบายความหมาย ลักษณะ และผลกระทบของ ผบู้ ริโภคบริโภคสื่อแลว้ ส่งผลต่อการกระทาํ หรือการ เครื่องด่ืมแอลกอฮอลท์ ่ีส่งผลต่อสุขภาพ และการเกิด ปฏิบตั ิของบุคคลท่ีมีผลต่อสุขภาพของตนเอง อุบตั ิเหตุ ตลอดจนแนวทาง ในการป้ องกนั อุบตั ิเหตุ ครอบครัวหรือชุมชน โดยแสดงออกใหเ้ ห็นใน จราจรจากการดื่มเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ 2 ลกั ษณะจากการปฏิบตั ิท้งั ท่ีปฏิบตั ิใหเ้ กิดผลดี หรือที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ 5. อธิบายความหมาย ความสําคญั หลกั การทัว่ ไป และ 5. ส่ือที่มีผลต่อพฤติกรรมความรุนแรง หมายถึง แนวทางในการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพีอาร์ สื่อท่ีเม่ือผบู้ ริโภคบริโภคส่ือแลว้ ส่งผลใหเ้ กิด พฤติกรรมและการกระทาํ ใด ๆ ที่เป็นการล่วง 6. ร่วมฝึกหรือปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยตนเองและเป็นหมู่ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ท้งั ทางวาจา ทางร่างกาย คณะเก่ียวกบั การเรียนรู้ในเรื่อง ปัจจยั และพฤติกรรม ทางจิตใจ หรือทางเพศต่อตนเองและผอู้ ื่น ซ่ึงเป็น เส่ียงต่อสุขภาพ พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงใน ผลหรืออาจจะเป็นผลใหเ้ กิดความทุกขท์ รมานท้งั วยั รุ่น อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความ ดา้ นร่างกายหรือจิตใจแก่ผถู้ ูกกระทาํ รุนแรงเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอลท์ ่ีส่งผลต่อสุขภาพและ 6. การช่วยฟื้นคืนชีพผู้ประสบอุบัติเหตุ หมายถึง การ การเกิดอุบตั ิเหตุและการช่วยฟ้ื นคืนชีพ ปฏิบตั ิเพอ่ื ใหก้ ารช่วยเหลือเบ้ืองตน้ อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสมในส่ิงท่ีผชู้ ่วยเหลือสามารถปฏิบตั ิไดใ้ น ขณะน้นั เพื่อใหผ้ ปู้ ระสบอุบตั ิเหตุอยใู่ นภาวะ ปลอดภยั ก่อนนาํ ส่งสถานพยาบาล 7. การทาํ ซีพีอาร์ เป็นการปฏิบตั ิเพ่ือช่วยใหผ้ ปู้ ระสบ อุบตั ิเหตุสามารถหายใจเองได้ รวมท้งั ช่วยใหห้ วั ใจ สามารถเตน้ ไดต้ ามปกติ เพอ่ื สูบฉีดเลือดไปหล่อ เล้ียงอวยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

144 ข้นั ที่ 2 หลกั ฐานในการประเมนิ เพอ่ื แสดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ตามทก่ี าํ หนด (Assessment Evidence) 1. ภาระงานที่นักเรียนต้องปฏิบัติ –ศึกษาและนาํ เสนอความหมายและความสาํ คญั ของปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพตลอดจนแนวทางในการ ป้ องกนั พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ – ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้และจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั การวิเคราะห์ข่าวและบนั ทึก –ศึกษาและนาํ เสนอความหมายและความสาํ คญั ของคาํ ที่เก่ียวขอ้ งและแนวทางในการปฏิบตั ิตนเพื่อหลีกเล่ียง พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น – ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ อ่านขอ้ ความและแสดงความคิดเห็น – ศึกษาและนาํ เสนอความหมายและความสาํ คญั ของคาํ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพ และความรุนแรง – ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น – ศึกษาและนาํ เสนอความหมายและความสาํ คญั ของคาํ ที่เก่ียวขอ้ งกบั ความสาํ คญั และผลกระทบของเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ _ ศึกษาและนาํ เสนอความหมายความสาํ คญั และแนวทางในการการช่วยฟ้ื นคืนชีพ – ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั แหลง่ ขอรับความช่วยเหลือเม่ือประสบกบั อนั ตรายและสถานการณ์ที่คบั ขนั – ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วเิ คราะห์และตอบคาํ ถาม 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ • วธิ ีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ – การสนทนาซกั ถามโดยครู – แบบบนั ทึกการสนทนา – การวดั และประเมินผลดา้ นความรู้ – แบบทดสอบก่อนเรียน – แบบทดสอบหลงั เรียน – การวดั และประเมินผลดา้ นคุณธรรม – แบบทดสอบประจาํ หน่วย จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะ – แบบทดสอบกลางภาค อนั พึงประสงค์ – แบบวดั และประเมินผลดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์

145 3. สิ่งที่มุ่งประเมนิ – ความหมายในการอธิบาย ช้ีแจง แปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองที่ หลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั ใส่ใจในความรู้สึกของผอู้ ่ืน และการรู้จกั ตนเอง – ความสามารถในการพฒั นาพฤติกรรมสุขภาพท่ีใหค้ วามสาํ คญั ท้งั ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สงั คม และจิตวญิ ญาณ – ความสามารถในการวางแผนปฏิบตั ิ แสดงความคิดวเิ คราะห์ เพือ่ พฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ ทศั นคติ และทกั ษะที่จะช่วยส่งเสริมการปฏิบตั ิเก่ียวกบั สมรรถภาพทางกาย ข้ันที่ 3 การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (14 ชั่วโมง) • หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ชีวติ ปลอดภยั – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 ปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงตอ่ สุขภาพ – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรง – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 เครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอลท์ ี่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 21 การช่วยฟ้ื นคืนชีพ – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22 การช่วยฟ้ื นคืนชีพ (ต่อ)

146 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ สาระการเรียนรู้ที่ 5: ความปลอดภยั ในชีวิต ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ชีวติ ปลอดภัย เวลา 2 ช่ัวโมง 1.สาระสําคญั ปัจจัยส่ียงต่อสุขภาพ หมายถึง สาเหตุหรือองคป์ ระกอบท่ีมีผลต่อสุขภาพของบุคคลโดยสาเหตุ หรือองค์ประกอบน้ันนําไปสู่การมีสุขภาพที่ไม่ดี ท้ังในเรื่องของการเจ็บป่ วย เป็ นโรคและความไม่ ปลอดภยั ในชีวิต พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ หมายถึง พฤติกรรมสุขภาพใด ๆ ของบุคคล เมื่อปฏิบตั ิแลว้ ก่อให้เกิด ผลเสียต่อสุขภาพ นาํ ไปสู่การเจบ็ ป่ วย เป็ นโรค และเป็ นอนั ตรายต่อชีวิตของตนเอง ครอบครัว ตลอดจน บุคคลอ่ืน ๆ ในชุมชนโดยรวมได้ ดงั น้นั ปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพจึงมีความสาํ คญั ท่ีบง่ บอกภาวะสุขภาพของบุคคลได้ กล่าวคือ ถา้ บุคคลมีพฤติกรรมสุขภาพท่ีดี โดยเฉพาะมีความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องของปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียง ต่อสุขภาพแลว้ ยอ่ มทาํ ใหบ้ ุคคลสามารถหลีกเลี่ยงจากปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงทางสุขภาพในดา้ นต่าง ๆ ได้ ซ่ึงจะส่งผลทาํ ใหบ้ ุคคลน้นั ๆ มีสุขภาพท่ีดีตามมา แต่ในทางกลบั กนั ถา้ บุคคลมีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพอยู่ เสมอยอ่ มทาํ ใหม้ ีโอกาสเส่ียงต่อการเจบ็ ป่ วย เป็นโรค เกิดอุบตั ิเหตุ และความไมป่ ลอดภยั ในชีวติ ไดน้ น่ั เอง 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี – วิเคราะห์ปัจจยั เส่ียงและพฤติกรรมท่ีมีผลต่อสุขภาพและแนวทางป้ องกนั (พ 5.1 ม. 3/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและระบุแนวทางในการป้ องกนั พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 3. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ (A) 4. ส่ือสารเพ่อื อธิบายความหมาย ความสาํ คญั แนวทางในการป้ องกนั พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจได้ (P)

147 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • การทดสอบความรู้พ้นื ฐาน • แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการ – หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรียนรู้ที่ 4 ชีวิตปลอดภยั */** ชีวิตปลอดภยั • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 – ความหมายและความสาํ คญั การอภิปราย/การสร้างแผนที่ ข้ึนไป ของปัจจยั และพฤติกรรม ความคิด* เสี่ยงต่อสุขภาพ – ตวั อยา่ งของปัจจยั และ • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ การอภิปรายการสร้างแผนท่ี ข้ึนไป – แนวทางในการป้ องกนั ปัจจยั ความคิด* และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ตามดุลยพินิจของครู การปฏิบตั ิกิจกรรมวิเคราะห์ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า ภาพแล้วอภิปรายผล พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู */**ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู หรือในส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

148 5. สาระการเรียนรู้ 1. ปัจจยั และพฤตกิ รรมเส่ียงต่อสุขภาพ 1.1 ความหมายและความสาํ คญั 1.2 ตวั อยา่ งของปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงตอ่ สุขภาพ 1.3 แนวทางในการป้ องกนั ปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัจจยั และ พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ ภาษาต่างประเทศ  พดู แสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจและอ่านเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ ง กบั แนวทางในการป้ องกนั พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ภาษาไทย  รวบรวมและวิเคราะห์ขอ้ มูลสถิติของผไู้ ดร้ ับอุบตั ิเหตุจากการมี พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพในชุมชน คณิตศาสตร์  สืบคน้ คน้ ควา้ เก่ียวกบั หนา้ ที่และระบบต่าง ๆ ในร่างกายท่ีไดร้ ับ ผลกระทบจากการมีพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ วิทยาศาสตร์  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 33: หัวข้อท่ี 1.1 ความหมายและความสําคญั หัวข้อท่ี 1.2 ตวั อย่างของปัจจัยและพฤตกิ รรม เส่ียงต่อสุขภาพ ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนาํ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวิตปลอดภยั แจกใหน้ กั เรียนทุกคนเพื่อ ทดสอบความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐาน โดยใชเ้ วลาตามท่ีครูกาํ หนด 2. ครูสุ่มนกั เรียน 3–4 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประเดน็ เน้ือหาและแนวคิดที่ได้ รับจากการทดสอบในแบบทดสอบความรู้ เพื่อเป็นการประเมินความรู้ความเขา้ ใจและทศั นคติ ของนกั เรียนเบ้ืองตน้ ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ถามเช่ือมโยงสู่บทเรียนต่อไปจากการมอบหมายงานในการเรียน คร้ังทผ่ี ่านมา ดงั นี้ – สื่อสารมวลชนมอี ทิ ธิพลต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรงของคนในสังคมไทย หรือไม่ อย่างไร(แนวคาํ ตอบ สื่อสารมวลชนมอี ิทธิพลต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความ รุนแรงของคนในสังคมไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเด็กและวยั รุ่นซึ่งในปัจจบุ ันเข้าถงึ สื่อ ต่าง ๆ เหล่าน้ีท่มี ีท้ังดแี ละไม่ดี ถูกและผดิ เหมาะสมและไม่เหมาะสมได้ง่าย และเน่ืองจากยงั

149 เป็ นวัยที่ขาดวฒุ ภิ าวะจึงอาจขาดการพจิ ารณาไตร่ตรองข้อเทจ็ จริงด้วยเหตุด้วยผลหรือยงั ตัดสินใจได้ไม่ดเี ท่าท่ีควร ตัดสินใจผดิ พลาด มีความคดิ ความเช่ือผดิ ๆ และนําไปสู่การมี พฤติกรรมสุขภาพท่ีไม่ดี การมีพฤติกรรมความรุนแรง โดยอาจทําไปโดยรู้เท่าไม่ถงึ การณ์ ซ่ึง ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมได้) 2. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ในหัวข้อท่ี 1. ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังท่ีผ่านมาหน้า ช้ันเรียน 3. ครูนาํ ภาพที่แสดงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของบุคคลในลกั ษณะต่าง ๆ โดยใหน้ กั เรียนร่วม แสดงความคิดเห็นต่อคาํ ถามท่ีครูเตรียมมา เช่น – จากภาพนกั เรียนคิดวา่ พฤติกรรมของบุคคลที่สงั เกตเห็นในภาพแสดงออกถึงพฤติกรรม เส่ียงต่อสุขภาพอยา่ งไร – นกั เรียนคิดวา่ พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพดงั กล่าว ส่งผลกระทบต่อบุคคลไดอ้ ยา่ งไร (ครูสามารถปรับเปลี่ยนประเด็นคาํ ถามใหเ้ หมาะสมกบั กิจกรรมการจดั การเรียนการสอนได)้ 4. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่องปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ ในหวั ขอ้ 1.1 ความหมายและ ความสาํ คญั และ 1.2 ตวั อยา่ งของปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ดงั รายละเอียดใน หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 5. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนเกยี่ วกบั ผลการสํารวจความคดิ เห็นของประชาชนเร่ือง “คนไทยกบั วนิ ัยจราจร” ใน พ.ศ. 2555 ของศูนย์สํารวจความคดิ เห็นของประชาชนนดิ าโพล สถาบนั บัณฑิตพฒั นบริหารศาสตร์ ระบุว่า สิงคโปร์เป็ นประเทศท่ีมกี ารขบั ขย่ี านพาหนะท่ถี ูกวนิ ัย จราจรมากที่สุดในอาเซียน ถึงร้อยละ 69.38 อนั ดบั สองคอื ประเทศมาเลเซีย ร้อยละ 8.01 และ อนั ดบั สามคอื ประเทศไทย ร้อยละ 6.34 และงานวจิ ัยของสถาบนั ทางการแพทย์ในประเทศ ออสเตรเลยี พบว่า ในกลุ่มประเทศอาเซียนกาํ ลงั นิยมอาหารประเภทจังก์ฟ้ ูดหรืออาหารขยะ ทีม่ าจากประเทศในแถบตะวนั ตกมากขนึ้ จงึ ส่งผลให้มผี ้ปู ่ วยด้วยโรคเบาหวานในกลุ่มประเทศ อาเซียนเพมิ่ สูงขึน้ (ครูอาจใช้กจิ กรรมบูรณาการอาเซียนในสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่ 17 เฟรมที่ 422 ใช้ประกอบการนําเสนอข้อมูลได้) ช่ัวโมงที่ 34: หัวข้อท่ี 1.3 แนวทางในการป้ องกนั ปัจจัยและพฤตกิ รรมเส่ียงต่อสุขภาพ 6. ครูใหค้ วามรู้ในเร่ืองปัจจยั และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ในหวั ขอ้ 1.3 แนวทางในการป้ องกนั ปัจจยั และพฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษา และพลศึกษา ม. 3 7. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพม่ิ เติม ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นกั เรียนแบ่งกลุ่มแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมวิเคราะห์ภาพแล้วอภิปราย จากใบกิจกรรมท่ี ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยแต่ละกลุ่ม

150 ผลดั เปล่ียนกนั ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเพ่ือนาํ ภาพท่ีแสดงออกถึงพฤติกรรมเส่ียงของบุคคล ในลกั ษณะต่าง ๆ ท่ีครูเตรียมมา นาํ ไปร่วมกนั วเิ คราะห์สรุปขอ้ คิดเห็นต่อพฤติกรรมในภาพที่ เห็นร่วมกนั โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ • ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมวิเคราะห์ภาพแล้ว อภิปรายใหเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน และใหเ้ พือ่ น ๆ ร่วมกนั สอบถามและแสดงความคิดเห็น โดยครู ใหค้ วามรู้และคาํ แนะนาํ เพิ่มเติม ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อท่ี 2. พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรง จาก หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามท่ี สงสัยมาพูดคุยร่วมกนั เพอ่ื หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • ครูให้นักเรียนร่วมกนั เล่นเกมเลอื กถูกผดิ วเิ คราะห์พฤตกิ รรมเส่ียงต่อสุขภาพ (ดูรายละเอยี ดได้ จากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 17 เฟรมท่ี 421) นอกเวลา เรียน หรืออาจใช้ช่วงการจัดกจิ กรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ โดยครูให้คาํ ตอบทถี่ ูกต้องให้ นักเรียนทราบ หลงั จากปฏิบัตเิ สร็จสิ้น 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวิตปลอดภยั 2. ภาพแสดงลกั ษณะการแสดงออกทางพฤติกรรมเสี่ยงของบุคคลในลกั ษณะต่าง ๆ 3. ใบกิจกรรมเร่ือง วิเคราะห์ภาพแล้วอภิปราย 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 151 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 152 พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรง ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 สาระการเรียนรู้ที่ 5: ความปลอดภยั ในชีวติ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ชีวติ ปลอดภัย 1. สาระสําคญั ปัจจุบนั ปัญหาพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเป็ นอีกปัญหาหน่ึงท่ีสําคญั ในสังคมไทย ความ รุนแรงที่เกิดข้ึนนอกจากจะส่งผลต่อตวั วยั รุ่นเองแลว้ บางคร้ังความรุนแรงดังกล่าวยงั ลุกลามมาสร้าง ปัญหาให้เกิดข้ึนกับผูค้ นในสังคมด้วย ดังจะเห็นได้จากในหลายกรณีที่มีการนําเสนอผ่านส่ือต่าง ๆ นกั เรียนเป็ นผทู้ ่ีอย่ใู นช่วงชีวิตของการเป็ นวยั รุ่น เป็ นผทู้ ี่มีโอกาสเส่ียงที่จะเป็ นผกู้ ระทาํ หรือถูกกระทาํ ท่ี เกี่ยวขอ้ งกบั ความรุนแรง จึงควรไดศ้ ึกษาและทาํ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมายและประเภทของความ รุนแรง ตลอดจนผลกระทบและแนวทางในการแกป้ ัญหาดงั กล่าว จะช่วยให้เกิดความตระหนกั ต่อปัญหา และหลีกเลี่ยงต่อการสร้างความรุนแรงใหเ้ กิดข้ึนในสงั คม นอกจากน้ียงั สามารถที่จะเผชิญกบั สถานการณ์ ต่าง ๆ ท่ีอาจนาํ ไปสู่ความรุนแรงไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมต่อไป 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี 1. วิเคราะห์ปัจจยั เสี่ยงและพฤติกรรมท่ีมีผลต่อสุขภาพและแนวทางป้ องกนั (พ 5.1 ม. 3/1) 2. หลีกเลี่ยงการใชค้ วามรุนแรงและชกั ชวนเพ่อื นใหห้ ลีกเล่ียงการใชค้ วามรุนแรงในการแกป้ ัญหา (พ 5.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและการจดั กลุ่มความรุนแรง อยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและระบุปัจจยั ที่เป็นสาเหตุของการใชค้ วามรุนแรงอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K, P) 2. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ในการเรียนรู้และปฏิบตั ิกิจกรรมเกี่ยวกบั พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงใน วยั รุ่น (A) 3. แสดงทกั ษะในการหลีกเล่ียงพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงท้งั ภายในกลุ่มของวยั รุ่นและภายนอก กลุ่มของวยั รุ่นอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P)

153 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / ข้ึนไป – ความหมายและการจดั กลุ่ม การอภิปราย/การสร้างแผนท่ีความคิด* • ตามดุลยพนิ ิจของครู ความรุนแรง – สาเหตุของพฤติกรรมการใช้ ความรุนแรง – พฤติกรรมการใชค้ วาม รุนแรงในวยั รุ่น • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน การปฏิบตั ิกิจกรรมแบ่งกล่มุ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า แล้วอภิปราย พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การปฏิบตั ิกิจกรรมแบ่งกล่มุ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า ร่ วมกันตอบคาํ ถาม พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

154 • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 2. พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรง 2.1 ความหมายและการจดั กลุ่มความรุนแรง 2.2 สาเหตุของพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรง 2.3 พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงในวยั รุ่น 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาพดู คุยเกี่ยวกบั ข่าวการเกิดสถานการณ์การใชค้ วามรุนแรงของ วยั รุ่นในสงั คมไทย สงั คมศึกษาฯ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจ และอ่านเร่ืองท่ี เก่ียวกบั แนวทางในการปฏิบตั ิตนเพ่ือหลีกเล่ียงพฤติกรรมการใช้ ภาษาไทย  ความรุนแรงในวยั รุ่น รวบรวมสถิติการเกิดสถานการณ์ การใชค้ วามรุนแรงของ คณิตศาสตร์  วยั รุ่นในสงั คมไทย ศิลปะ  จดั และตกแต่งสมุดภาพ/สมุดข่าวท่ีแสดงถึงพฤติกรรมการใชค้ วาม รุนแรงของวยั รุ่นท่ีเกิดในสงั คม 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 35: หัวข้อท่ี 2.1 ความหมายและการจัดกล่มุ ความรุนแรง และหัวข้อท่ี 2.2 สาเหตขุ อง พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรง ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาการเกี่ยวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา เพ่อื ทบทวนความรู้ 2. ครูใหน้ กั เรียนท่ีมีประสบการณ์เก่ียวกบั การรับรู้ในเร่ืองสถานการณ์การใชค้ วามรุนแรงของ วยั รุ่นในสงั คมไทยออกมาเล่าเก่ียวกบั ประสบการณ์ดงั กล่าวใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ช้นั เรียน เพ่อื ให้ นกั เรียนตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของการปฏิบตั ิตนท่ีถูกตอ้ งในเร่ืองดงั กล่าว

155 ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 2. พฤตกิ รรมการใช้ ความรุนแรง ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง ความหมายและการจดั กลุ่มความรุนแรง และสาเหตุของพฤติกรรมการใช้ ความรุนแรง ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 3. ใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพมิ่ เติม ช่ัวโมงที่ 36: หัวข้อที่ 2.3 พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรงในวยั รุ่น ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมแบ่งกล่มุ แล้วอภิปราย จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด กลุ่มท่ี1 เรื่อง พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงภายในกลุ่มของวยั รุ่น กลุ่มท่ี 2 เรื่อง ปัจจยั ที่เป็นสาเหตุของการเกิดพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงภายนอกกลุ่มของ วยั รุ่น กลุ่มท่ี 3 เรื่อง แนวทางในการป้ องกนั และแกไ้ ขพฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงภายนอกกลุ่ม ของวยั รุ่น ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 2. ครูสุ่มนกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปล่ียนกนั ออกมาอ่านขอ้ ความท่ีเขียนในแบบบนั ทึกจากการ ปฏิบตั ิกิจกรรมใหเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูใหค้ าํ แนะนาํ เกี่ยวกบั แนวการเขียนสรุป เพ่ิมเติม ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ 1. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมแบ่งกล่มุ ร่วมตอบคาํ ถาม จากใบกิจกรรมที่ครูแจก ให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ตามเวลาท่ีครูกาํ หนด 2. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนกลุ่ม ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูใหแ้ นวคาํ ตอบในขอ้ ที่ 1 ถึงขอ้ ท่ี 5 เพิ่มเติม ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมจัดทําสมุดภาพ ทแี่ สดงถงึ พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรง ของวยั รุ่นท่ีเกดิ ในสังคม จากใบกจิ กรรมทค่ี รูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แล้วนํามารายงานผลในการเรียนคร้ังต่อไป 3. มอบหมายให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้แบ่งกล่มุ แต่ละกล่มุ ร่วมกนั ศึกษาเกยี่ วกบั สาเหตุสําคญั ท่เี ป็ นปัจจยั ทําให้เกดิ การเสียชีวติ ของประชากรในกล่มุ ประเทศ

156 อาเซียน โดยเฉพาะในกรณีทเี่ ป็ นผลสืบเนื่องมาจากความรุนแรง เปรียบเทยี บสถิตแิ ละอนั ดบั ของสาเหตุท่ีค้นพบ จัดทําเป็ นรายงาน (ศึกษาค้นคว้าได้จาก Encycopedia Britannica หรือ The World Almanac and Book of Facts หรือเวบ็ ไซต์ท่ีเกย่ี วข้องกบั องค์ความรู้ในเรื่อง อาเซียนศึกษา) 4. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อท่ี 3. อทิ ธิพลของสื่อต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและ ความรุนแรง จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อม กบั จดคาํ ถามที่สงสัยมาพดู คุยร่วมกนั เพอ่ื หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรศึกษาเน้ือหาเก่ียวกบั เร่ือง พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรงเพ่ิมเติม นอกเวลาเรียน หรือในช่วงการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ตามที่สถานศึกษากาํ หนด 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบกิจกรรมเร่ือง แบ่งกล่มุ แล้วอภิปราย 2. ใบกิจกรรมเร่ือง แบ่งกล่มุ ร่วมตอบคาํ ถาม 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

157 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 19 อทิ ธิพลของส่ือต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรง สาระการเรียนรู้ท่ี 5: ความปลอดภยั ในชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั เวลา 4 ช่ัวโมง 1. สาระสําคญั ปัจจุบนั เป็ นยุคโลกไร้พรมแดน ผคู้ นทุกเพศทุกวยั ลว้ นตอ้ งการการบริโภคขอ้ มูลข่าวสาร ทาํ ให้ ส่ือมีบทบาทความสาํ คญั เพม่ิ มากข้ึนเร่ือย ๆ ในทางกลบั กนั สื่อจะตอ้ งเพอ่ื ความระมดั ระวงั ในการทาํ หนา้ ที่ใหม้ ากข้ึน โดยเฉพาะการนาํ เสนอเน้ือหาและเรื่องราวของส่ือทุกรูปแบบ ที่ทาํ ใหเ้ กิดผลลบแก่ผรู้ ับ การนาํ เสนอภาพหรือขอ้ ความท่ีแสดงออกถึงการใชค้ วามรุนแรง ส่ือลามกอนาจารที่ก่อให้เกิดพฤติกรรม การเลียนแบบในทางที่ไม่ถกู ตอ้ ง 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี • วเิ คราะห์อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง (พ 5.1 ม. 3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของคาํ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรงอยา่ ง ถูกตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและยกตวั อยา่ งของสื่อที่มีผลต่อสุขภาพท่ีดีและท่ีไม่ดีอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K, P) 3. อธิบายและยกตวั อยา่ งของส่ือที่มีผลใหเ้ กิดปัญหาความรุ่นแรงอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K, P) 4. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง ร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 5. แสดงทกั ษะในการวเิ คราะห์ลกั ษณะของส่ือแต่ละประเภทอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 – ความหมายของคาํ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ มูล/การอภิปราย/การสร้างแผน ข้ึนไป อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรม ที่ความคิด* สุขภาพและความรุนแรง

158 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล – แนวทางการป้ องกนั แกไ้ ข • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ตามดุลยพินิจของครู ปัญหาจากอิทธิพลของสื่อ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา • ร้อยละ 80 ข้ึนไป ท่ีมีผลต่อสุขภาพและความ พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา รุนแรง ม. 3* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ การปฏิบตั ิกิจกรรม • แบบทดสอบกลางภาค รายวิชา – จัดทาํ สมดุ ภาพ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา – ระดม ความคิดเห็น ม. 3**** • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ การทดสอบกลางภาค รายวิชา พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู ****ครูผสู้ อนสามารถคดั เลือกสาํ เนาขอ้ คาํ ถามไดจ้ ากคลงั ขอ้ สอบออนไลน์ บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 3. อทิ ธิพลของส่ือต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรง 3.1 ความหมายของคาํ ท่ีเก่ียวขอ้ งและความสาํ คญั 3.2 ตวั อยา่ งของส่ือท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง 3.3 แนวทางการเลือกรับส่ือที่เหมาะสม

6. แนวทางบูรณาการ 159 สงั คมศึกษาฯ  ศึกษาคน้ ควา้ เรื่อง ผลกระทบท่ีเกิดจากอิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรม สุขภาพและความรุนแรง ภาษาไทย  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจ และอ่านเร่ืองท่ี แนวทางป้ องกนั ปัญหาที่เกิดจากอิทธิพลของสื่อ คณิตศาสตร์  รวบรวมเปรียบเทียบสถิติเกี่ยวกบั การนาํ เสนอประเภทของส่ือในแต่ ละลกั ษณะในรอบ 1 สปั ดาห์ การงานอาชีพฯ  ออกแบบและตกแต่งสมุดภาพตวั อยา่ งการนาํ เสนอข่าว/ภาพที่แสดง ใหเ้ ห็นลกั ษณะของสื่อประเภทต่าง ๆ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 37: หัวข้อท่ี 3.1 ความหมายของคาํ ทีเ่ กย่ี วข้องและความสําคญั และหัวข้อที่ 3.2 ตวั อย่างสื่อท่ี มีอทิ ธิพลต่อพฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรง ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา เพื่อ ทบทวนความรู้ 2. ครูสุ่มนกั เรียน 3–4 คน ผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมจัดทาํ สมดุ ภาพ จากการมอบหมายงานในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมาหนา้ ช้นั เรียน ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 3. อทิ ธิพลของสื่อต่อ พฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรง ตามทไี่ ด้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังท่ีผ่านมาหน้าช้ัน เรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง อิทธิพลของส่ือตอ่ พฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง ในหวั ขอ้ ที่ 3.1 และ 3.2 ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใช้ ภาพหรือข่าวหรือเหตุการณ์ที่สื่อนาํ เสนอ เป็นตวั อยา่ งการแบ่งประเภทของส่ือในแต่ละ ลกั ษณะประกอบการอธิบาย 3. ครูเล่าเร่ืองน่ารู้ในหัวข้อ การจดั เรตของรายการโทรทศั น์ ซ่ึงให้ความรู้เกยี่ วกบั การจดั ลาํ ดับ ความเหมาะสมของเนือ้ หาสื่อแต่ละประเภทของรายการโทรทัศน์ให้กบั นักเรียนทราบ เพอื่ สร้างเสริมความรู้เพมิ่ เติม และกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ของนักเรียน (ดูรายละเอียดได้ จากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่19 เฟรมท่ี 444) 4. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนที่เชื่อมโยงกบั ความรู้เรื่องตวั อย่างของสื่อท่สี ่งผลต่อพฤตกิ รรม สุขภาพและความรุนแรง โดยกล่าวถงึ การที่สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวง สาธารณสุขของประเทศไทยได้รับการแต่งต้งั ให้เป็ นห้องปฏิบัตกิ ารอ้างองิ ของอาเซียนด้าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook