260 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาเก่ียวกบั นกั กีฬาวา่ ยน้าํ ที่มีช่ือเสียงของไทยและของต่างประเทศ ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษที่เก่ียวขอ้ งกบั การวา่ ยน้าํ แบบ สงั คมศึกษาฯ วดั วา ภาษาต่างประเทศ พดู คุยแสดงความคิดเห็น ตลอดจนความรู้สึกท่ีไดร้ ับจากการเขา้ ร่วม ภาษาไทย การฝึ กวา่ ยน้าํ แบบวดั วา 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 75: หัวข้อท่ี 3.2 กฬี าว่ายนํา้ (ต่อ) ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาํ เพ่ือนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่าทางการบริหารร่างกาย เพ่ือใหก้ ารเล่นกีฬาวา่ ยน้าํ มีประสิทธิภาพ จากท่ีศึกษาในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมา 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ผลการศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนคร้ังท่ีผา่ น มาเพ่ือทบทวนความรู้ ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 3. กฬี าเพอ่ื พฒั นา คุณภาพชีวติ หัวข้อย่อยที่ 3.2 กฬี าว่ายนํา้ เรื่องข้นั ตอนท่ี 6 การฝึ กท่าว่ายนํา้ ท่าฟรีสไตล์หรือ วดั วาตามท่ีได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังทีผ่ ่าน 2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนร่วมกนั ทบทวนทกั ษะการฝึกลอยตวั การฝึกเตะขา และการฝึกโผตวั จากท่ีไดเ้ รียนในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา โดยในระหวา่ งการปฏิบตั ิกิจกรรมผสู้ อนควรดูแลอยา่ ง ใกลช้ ิด พร้อมท้งั คอยใหค้ าํ แนะนาํ แกไ้ ขเพ่มิ เติม เพอ่ื การปฏิบตั ิท่ีถกู ตอ้ ง ชั่วโมงที่ 76: หัวข้อท่ี 3.2 กฬี าว่ายนํา้ (ต่อ) 3. ครูอธิบายความรู้เก่ียวกบั วิธีการวา่ ยน้าํ ท่าฟรีสไตลห์ รือวดั วาประกอบการสาธิตใหน้ กั เรียนดู ตามลาํ ดบั ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั หรือสนใจเพมิ่ เติม ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะประสบการณ์ • ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกวา่ ยน้าํ ท่าฟรีสไตลห์ รือวดั วา ตามการสาธิตของครู โดยในระหวา่ งการ ปฏิบตั ิกิจกรรมผสู้ อนควรดูแลอยา่ งใกลช้ ิด พร้อมท้งั คอยใหค้ าํ แนะนาํ แกไ้ ขเพิม่ เติม เพื่อการ ปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมวางแผนฝึ กปฏิบตั ิทักษะกีฬาว่ายนา้ํ เกี่ยวกบั การฝึกท่าวา่ ยน้าํ ท่า ฟรีสไตลห์ รือวดั วา จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยครูคอยดูแลการปฏิบตั ิอยา่ งใกลช้ ิด พร้อมท้งั คอยให้
261 คาํ แนะนาํ แกไ้ ขเพ่ิมเติม เพื่อการปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนร่วมกนั คลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่ายดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือตามความเหมาะสม 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมทบทวนความรู้ควบค่กู ารพฒั นาทกั ษะกระบวนการคดิ นอกเวลาเรียน จากใบกจิ กรรมทคี่ รูแจกให้หรือจากแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและ พลศึกษา ม. 3 โดยนําผลจากการปฏิบัตกิ จิ กรรมมานาํ เสนอในการเรียนคร้ังต่อไป 5. มอบหมายให้นักเรียนเตรียมรับการทดสอบทักษะกฬี าว่ายนํา้ ในการเรียนคร้ังต่อไปและปฏิบัติ กจิ กรรมแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบตั ิ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรใชเ้ วลาวา่ งในการฝึกหดั ทกั ษะกีฬาวา่ ยน้าํ โดยเฉพาะทกั ษะท่ียงั ขาดความมนั่ ใจ เพ่ิมเติม โดยมีผมู้ ีทกั ษะหรือมีความเชี่ยวชาญในการวา่ ยน้าํ คอยใหก้ ารดูแล 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพหรือส่ือวดี ิทศั นแ์ สดงตวั อยา่ งวิธีการวา่ ยน้าํ แบบวดั วา 2. อุปกรณ์ประกอบการเล่นกีฬาวา่ ยน้าํ 3. สระวา่ ยน้าํ 4. ใบกิจกรรมเรื่อง วางแผนฝึ กปฏิบตั ิทักษะกีฬาว่ายนา้ํ 5. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 262 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 38 263 กฬี าเพอื่ พฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 สาระการเรียนรู้ท่ี 3: การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย เวลา 4 ช่ัวโมง การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพมิ่ พนู ทกั ษะการเคลอ่ื นไหว 1. สาระสําคญั การทดสอบทักษะการเรี ยนรู้และความสามารถในการว่ายน้ํานอกจากจะช่วยให้ทราบถึง ความสามารถของผฝู้ ึกหดั วา่ ยน้าํ ไดแ้ ลว้ ยงั เป็นการเพม่ิ พนู ทกั ษะและประสบการณ์ในการวา่ ยน้าํ ไดอ้ ีกดว้ ย 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลอยา่ งละ 1 ชนิด โดยใชเ้ ทคนิคที่เหมาะสมกบั ตนเองและทีม (พ 3.1 ม. 3/1) 2. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ไปใชส้ ร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเนื่องเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 3. มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีน้าํ ใจนกั กีฬา (พ 3.2 ม. 3/1) 4. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพ ชีวิตของตนดว้ ยความภาคภมู ิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 5. ปฏิบตั ิตนตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นตามชนิดกีฬา ขอ้ ตกลงในการเล่นตามชนิดกีฬา ที่เลือก และนาํ แนวคิดท่ีไดไ้ ปพฒั นาคุณภาพชีวิตของตนในสงั คม (พ 3.2 ม. 3/3) 6. จาํ แนกกลวธิ ีการรุก การป้ องกนั และใชใ้ นการเล่นกีฬาที่เลือกและตดั สินใจเลือกวิธีท่ีเหมาะสมกบั ทีมไปใชไ้ ดต้ ามสถานการณ์ของการเล่น (พ 3.2 ม. 3/4) 7. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายทกั ษะในการฝึกวา่ ยน้าํ อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการทดสอบการวา่ ยน้าํ ร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความมุ่งมน่ั และมีระเบียบวนิ ยั (A) 3. แสดงทกั ษะในการวา่ ยน้าํ ตามเกณฑท์ ่ีกาํ หนดได้ (P)
264 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ทดสอบการฝึ กปฏิบตั ิทกั ษะ • แบบประเมินผลการปฏิบตั ิทกั ษะ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ – การฝึ กทกั ษะการวา่ ยน้าํ เบ้ืองตน้ กีฬาวา่ ยน้าํ * 3 ข้ึนไป • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 5 เพ่ิมพนู ทกั ษะการ เรียนรู้ท่ี 5 เพ่ิมพนู ทกั ษะการ เคล่ือนไหว เคลื่อนไหว** • แบบทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 5 เพ่ิมพนู ทกั ษะการ เคล่ือนไหว*** • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • แบบทดสอบปลายภาค รายวชิ า • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การทดสอบปลายภาค รายวิชา พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3*/**** *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู **ดูรายละเอียดในสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั ***ดรู ายละเอียดในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั ****ครูผสู้ อนสามารถคดั เลือกสาํ เนาขอ้ คาํ ถามไดจ้ ากคลงั ขอ้ สอบออนไลน์ บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง 4 ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน 4 ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู
265 5. สาระการเรียนรู้ 3. กฬี าเพอ่ื พฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) 3.2 กีฬาวา่ ยน้าํ – การทดสอบทกั ษะการเรียนรู้และความสามารถในการวา่ ยน้าํ เป็นรายบุคคล 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาต่างประเทศ ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษที่เกี่ยวขอ้ งกบั กีฬาวา่ ยน้าํ พดู คุยแสดงความคิดเห็น ตลอดจนความรู้สึกที่ไดร้ ับจากการ ภาษาไทย ทดสอบทกั ษะการเรียนรู้และความสามารถในการวา่ ยน้าํ การงานอาชีพฯ ออกแบบและตกแต่งสมุดภาพแสดงทกั ษะกีฬาวา่ ยน้าํ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 77: หัวข้อท่ี 3.2 กฬี าว่ายนํา้ (ต่อ) ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนอาสาสมคั รผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เพือ่ นอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่าทาง และรูปแบบจากประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่ผา่ นมา โดยครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ผลการศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังท่ี ผา่ นมาเพอื่ ทบทวนความรู้ ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ • ครูสุ่มนักเรียนประมาณ 4–5 คน ออกมานําเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมทบทวนความรู้ควบคู่ การพฒั นาทักษะกระบวนการคดิ ตามที่ได้รับมอบหมายในการเรียนคร้ังท่ีผ่านมา โดยครูเฉลย คาํ ตอบที่ถูกต้องและหากนักเรียนคนใดตอบคาํ ถามไม่ถูกต้องให้แก้ไขคาํ ตอบให้ถูกต้อง ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะประสบการณ์ 1. ใหแ้ ต่ละคนออกมารับการทดสอบทกั ษะการเรียนรู้และความสามารถในการวา่ ยน้าํ เป็น รายบุคคล ดงั น้ี – ทกั ษะการลอยตวั – ทกั ษะการเตะขา – ทกั ษะการโผตวั ชั่วโมงท่ี 78: หัวข้อท่ี 3.2 กฬี าว่ายนํา้ (ต่อ) 2. ใหแ้ ต่ละคนออกมารับการทดสอบทกั ษะการเรียนรู้และความสามารถในการวา่ ยน้าํ เป็น รายบุคคล ในท่าวา่ ยน้าํ แบบฟรีสไตลห์ รือวดั วา ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ 1. ครูกลา่ วสรุปผลการทดสอบใหน้ กั เรียนทราบพร้อมท้งั แสดงความคิดเห็นต่อการทดสอบ
266 การปฏิบตั ิของนกั เรียนแต่ละคนและใหค้ าํ แนะนาํ เพ่ิมเติม 2. ครูแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพิ่มพนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว ใหน้ กั เรียน ทุกคนไดท้ าํ การ ทดสอบเม่ือเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด เสร็จ แลว้ ใหค้ รูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งของแบบทดสอบทีละขอ้ ร่วมกนั ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนอาสาสมคั รผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เพือ่ นคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่า ที่เหมาะสมจากประสบการณ์การเรียนรู้ของนกั เรียน 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก ชั่วโมงท่ี 79–80: การทดสอบปลายภาค รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. ครูอธิบายระเบียบและขอ้ ตกลงในการทดสอบปลายภาค รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษา ม. 3ให้ นกั เรียนไดเ้ ขา้ ใจและซกั ถามขอ้ สงสยั 5. ใหน้ กั เรียนทุกคนทาํ แบบทดสอบปลายภาค รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ตาม เวลาที่กาํ หนดให้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรฝึกทกั ษะการวา่ ยน้าํ เพ่อื ใชใ้ นการออกกาํ ลงั กายในเวลาวา่ ง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพิ่มพนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว 2. แบบประเมินผลการปฏิบตั ิทกั ษะเบ้ืองตน้ กีฬาวา่ ยน้าํ 3. แบบทดสอบปลายภาค รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. อุปกรณ์ประกอบการเล่นกีฬาวา่ ยน้าํ 5. สระวา่ ยน้าํ 6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 267 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ
268 ตอนที่ 3 เอกสาร/ความรู้เสริม กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประกอบไปดว้ ยรายละเอียดที่ครูจะตอ้ งนาํ มาใชใ้ นการวดั และประเมินผลสาํ หรับนกั เรียนดงั น้ี 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและ พลศึกษา ม. 1 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 2. ความสาํ คญั ของการจดั การเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา 3. แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) ผงั และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้แบบ Backward Design 4. แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบปลายภาค 5. ใบความรู้ ใบงาน และใบกิจกรรมการเรียนรู้ 6. แบบประเมินและเกณฑก์ ารประเมินผล 7. ตวั อยา่ งแบบบนั ทึกสรุปการประเมินผล 8. โครงงาน แผนท่ีความคิด ผงั แสดงเหตุและผล หมายเหตุ: – แบบทดสอบหลงั เรียนในแตล่ ะหน่วยสามารถนาํ มาใชไ้ ดจ้ ากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและ พลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั – แบบทดสอบกลางภาค และปลายภาคครูผสู้ อนสามารถคดั เลือกสาํ เนาขอ้ คาํ ถามไดจ้ ากคลงั ขอ้ สอบ ออนไลน์ บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
269 1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระที่ 1: การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ 1.1: เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการมนุษย์ ตวั ชี้วดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกาย จิตใจ • การเปล่ียนแปลงดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาแต่ละช่วงของชีวติ และสติปัญญาในแต่ละวยั – วยั ทารก 2. วิเคราะห์อิทธิพลและความคาดหวงั ของสงั คมต่อ – วยั ก่อนเรียน การเปลี่ยนแปลงของวยั รุ่น – วยั เรียน – วยั รุ่น – วยั ผใู้ หญ่ – วยั สูงอายุ • อิทธิพลและความคาดหวงั ของสงั คมท่ีมีต่อการ เปล่ียนแปลงของวยั รุ่น 3. วิเคราะห์ส่ือโฆษณาท่ีมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต • ส่ือโฆษณาท่ีมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและ และพฒั นาการของวยั รุ่น พฒั นาการของวยั รุ่น – โทรทศั น์ – วิทยุ – ส่ือส่ิงพิมพ์ – ส่ืออินเทอร์เน็ต
270 สาระท่ี 2: ชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน พ 2.1: เขา้ ใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทกั ษะในการดาํ เนินชีวติ ตวั ชี้วดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. อธิบายอนามยั แม่และเด็ก การวางแผนครอบครัว • องคป์ ระกอบของอนามยั เจริญพนั ธุ์ และวิธีการปฏิบตั ิตนที่เหมาะสม – อนามยั แม่และเดก็ – การวางแผนครอบครัว 2. วิเคราะห์ปัจจยั ที่มีผลกระทบต่อการต้งั ครรภ์ • ปัจจยั ท่ีมีผลกระทบต่อการต้งั ครรภ์ – แอลกอฮอล์ 3. วิเคราะห์สาเหตุและเสนอแนวทางป้ องกนั แกไ้ ข – สารเสพติด ความขดั แยง้ ในครอบครัว – บุหร่ี – สภาพแวดลอ้ ม –การติดเช้ือ –โรคที่เกิดจากภาวะการต้งั ครรภ์ • สาเหตุความขดั แยง้ ในครอบครัว • แนวทางป้ องกนั แกไ้ ขความขดั แยง้ ในครอบครัว สาระท่ี 3: การเคลอื่ นไหว การออกกําลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตวั ชี้วดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลอย่างละ 1 ชนิดโดย • เทคนิคและวธิ ีการเล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลที่เลือก ใช้เทคนิคที่เหมาะสมกบั ตนเองและทีม เช่น กรีฑาประเภทลู่และลาน วอลเลยบ์ อล บาสเกตบอล ดาบสองมือ เทนนิส ตะกร้อขา้ มตาข่าย 2. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคล่ือนไหว ฟุตบอล กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬาไป ใชส้ ร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเนื่องเป็นระบบ • นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬาไปใช้ สร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเนื่อง 3. ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม และ • การจดั กิจกรรมนนั ทนาการแก่ผเู้ รียน นาํ หลกั ความรู้วิธีการไปขยายผลการเรียนรู้ใหก้ บั ผอู้ ื่น
271 มาตรฐาน พ 3.2: รักการออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจาํ อยา่ งสม่าํ เสมอ มีวนิ ยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าํ ใจนกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพ ของการกีฬา ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง • มารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีน้าํ ใจนกั กีฬา 1. มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีน้าํ ใจ นกั กีฬา 2. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ • การออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาประเภทบุคคลและ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพชีวติ ประเภททีม ของตนเองดว้ ยความภาคภมู ิใจ • การนาํ ประสบการณ์ แนวคิดจากการออกกาํ ลงั กายและ 3. ปฏิบตั ิตนตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่น เล่นกีฬาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชีวิต ตามชนิดกีฬาท่ีเลือก และนาํ แนวคิดท่ีไดไ้ ปพฒั นา คุณภาพชีวติ ของตนเองในสงั คม • กฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นที่เลือกเล่น • การประยกุ ตป์ ระสบการณ์การปฏิบตั ิตามกฎ กติกา 4. จาํ แนกกลวธิ ีการรุก การป้ องกนั และใชใ้ นการ เล่นกีฬาท่ีเลือกและตดั สินใจเลือกวธิ ีท่ีเหมาะสม และขอ้ ตกลงในการเล่นกีฬา ไปใชใ้ นการพฒั นา กบั ทีมไปใชต้ ามสถานการณ์ของการเล่น คุณภาพชีวิตของตนในสงั คม 5. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการ • วิธีการประยุกตใ์ ชก้ ลวิธีการรุกและการป้ องกนั ในการ ออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ เล่นกีฬาไดต้ ามสถานการณ์ของการเล่น • การพฒั นาสุขภาพของตนเองที่เกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็ นประจาํ สาระท่ี 4: การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค มาตรฐาน พ 4.1: เห็นคุณค่าและมีทกั ษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดาํ รงสุขภาพ การป้ องกนั โรค และการ สร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตวั ชี้วดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. กาํ หนดรายการอาหารที่เหมาะกบั วยั ต่าง ๆ โดย • การกาํ หนดรายการอาหารที่เหมาะกบั วยั ต่าง ๆ คาํ นึงถึงความประหยดั และคุณค่าทางโภชนาการ – วยั ทารก วยั เดก็ (วยั ก่อนเรียน วยั เรียน) วยั รุ่น วยั ผใู้ หญ่ วยั สูงอายุ โดยคาํ นึงถึงความประหยดั และ คุณค่าทางโภชนาการ
ตวั ชี้วดั ช้ันปี /ข้อ 272 2. เสนอแนะแนวทางในการป้ องกนั โรคที่เป็นสาเหตุ สาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการตายของคนไทย สาระการเรียนรู้แกนกลาง • โรคที่เป็นสาเหตุสาํ คญั ของการเจบ็ ป่ วยและการตาย 3. รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนวทางแกไ้ ขปัญหา ของคนไทย สุขภาพในชุมชน โรคติดต่อ เช่น โรคท่ีเกิดจากการมีเพศสมั พนั ธ์ โรค 4. วางแผนและจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย การ เอดส์ โรคไขห้ วดั นก ฯลฯ พกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย โรคไม่ติดต่อ เช่น โรคหวั ใจ โรคความดนั โลหิตสูง 5. ทดสอบสมรรถภาพทางกายและพฒั นาไดต้ าม เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล • ปัญหาสุขภาพในชุมชน • แนวทางแกไ้ ขปัญหาสุขภาพในชุมชน • การวางแผนและจดั เวลาในการออกกาํ ลงั กาย การ พกั ผอ่ น และการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย • การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบต่าง ๆ และพฒั นา สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ สาระที่ 5: ความปลอดภยั ในชีวติ มาตรฐาน พ 5.1: ป้ องกนั และหลีกเลี่ยงปัจจยั เส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ การใชย้ า สารเสพติด และ ความรุนแรง ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี /ข้อ สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. วิเคราะห์ปัจจยั เสี่ยงและพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาพ • วิเคราะห์ปัจจยั เส่ียงและพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาพ • แนวทางป้ องกนั ปัจจยั เส่ียงและพฤติกรรมท่ีมีผลต่อ และแนวทางป้ องกนั สุขภาพ • ปัญหาและผลกระทบจากการใชค้ วามรุนแรง 2. หลีกเลี่ยงการใชค้ วามรุนแรงและชกั ชวนเพื่อนให้ • วธิ ีหลีกเล่ียงการใชค้ วามรุนแรง หลีกเล่ียงการใชค้ วามรุนแรงในการแกป้ ัญหา • อิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง 3. วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพและ ความรุนแรง (คลิปวิดีโอการทะเลาะววิ าท อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) 4. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของการด่ืมเครื่องด่ืมที่มี • ความสมั พนั ธ์ของการดื่มเครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอลต์ อ่ แอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ 5. แสดงวธิ ีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถกู วธิ ี สุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ • วธิ ีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถูกวธิ ี
273 2 ความสําคญั ของการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา • ทาํ ไมต้องเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา สุขภาพ ห รือสุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษยท์ ี่สมบรู ณ์ท้งั ทางกาย ทางจิต ทางสงั คม และทาง ปัญญาหรือจิตวญิ ญาณ สุขภาพหรือสุขภาวะจึงเป็นเรื่องสาํ คญั เพราะเก่ียวโยงกบั ทุกมิติของชีวติ ซ่ึงทุกคนควร จะไดเ้ รียนรู้เร่ืองสุขภาพ เพื่อจะไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง มีเจตคติ คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม รวมท้งั มีทกั ษะปฏิบตั ิดา้ นสุขภาพเป็นกิจนิสยั อนั จะส่งผลใหส้ งั คมโดยรวมมีคุณภาพ • เรียนรู้อะไรในสุขศึกษาและพลศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาดา้ นสุขภาพท่ีมีเป้ าหมายเพ่ือการดาํ รงสุขภาพ การสร้างเสริม สุขภาพและการพฒั นาคุณภาพชีวิตของบุคคล ครอบครัว และชุมชนใหย้ งั่ ยนื สุขศึกษา มุ่งเนน้ ใหน้ กั เรียนพฒั นาพฤติกรรมดา้ นความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบตั ิ เกี่ยวกบั สุขภาพควบคู่ไปดว้ ยกนั พลศึกษา มุ่งเนน้ ใหน้ กั เรียนใชก้ ิจกรรมการเคล่ือนไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม และกีฬา เป็น เครื่องมือในการพฒั นาโดยรวมท้งั ดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม สติปัญญา รวมท้งั สมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ และกีฬา สาระท่ีเป็นกรอบเน้ือหาหรือขอบข่ายองคค์ วามรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ประกอบดว้ ย • การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ นกั เรียนไดเ้ รียนรู้เรื่อง ธรรมชาติของการเจริญเติบโตและ พฒั นาการของมนุษย์ ปัจจยั ที่มีผลตอ่ การเจริญเติบโต ความสมั พนั ธ์เชื่อมโยงในการทาํ งานของระบบต่าง ๆ ของ ร่างกาย รวมถึงวิธีปฏิบตั ิตนเพ่ือใหเ้ จริญเติบโตและมีพฒั นาการท่ีสมวยั • ชีวติ และครอบครัว นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่อง คุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตวั ต่อการ เปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสมั พนั ธภาพกบั ผอู้ ่ืน สุขปฏิบตั ิทาง เพศ และทกั ษะในการดาํ เนินชีวติ • การเคลอื่ นไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นกฬี าไทย และกฬี าสากล นกั เรียนไดเ้ รียนรู้เร่ืองการ เคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ท้งั ประเภทบุคคลและประเภททีมอยา่ ง หลากหลายท้งั ไทยและสากล การปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ระเบียบ และขอ้ ตกลงในการเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและ กีฬา และความมีน้าํ ใจนกั กีฬา • การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกนั โรค นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั หลกั และวธิ ีการ เลือกบริโภคอาหาร ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ และการป้ องกนั โรคท้งั โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ
274 • ความปลอดภัยในชีวติ นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เร่ือง การป้ องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเส่ียงต่าง ๆ ท้งั ความ เส่ียงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ ความรุนแรง อนั ตรายจากการใชย้ าและสารเสพติด รวมถึงแนวทางในการสร้างเสริม ความปลอดภยั ในชีวติ
275 3 แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) ผงั และรูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Backward Design แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) แฟ้ มสะสมผลงาน หมายถึง แหล่งรวบรวมเอกสาร ผลงาน หรือหลกั ฐาน เพอื่ ใชส้ ะทอ้ นถึงผลสมั ฤทธ์ิ ความสามารถ ทกั ษะ และพฒั นาการของนกั เรียน มีการจดั เรียบเรียงผลงานไวอ้ ยา่ งมีระบบ โดยนาํ ความรู้ ความคิด และการนาํ เสนอมาผสมผสานกนั ซ่ึงนกั เรียนเป็นผคู้ ดั เลือกผลงานและมีส่วนร่วมในการประเมิน แฟ้ ม สะสมผลงานจึงเป็นหลกั ฐานสาํ คญั ที่จะทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถมองเห็นพฒั นาการของตนเองไดต้ ามสภาพจริง รวมท้งั เห็นขอ้ บกพร่องและแนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้ึนต่อไป ลกั ษณะสําคญั ของการประเมินผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน 1. ครูสามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการติดตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนเป็นรายบุคคลไดเ้ ป็นอยา่ งดี เน่ืองจากมีผลงานสะสมไว้ ครูจะทราบจุดเด่น จุดดอ้ ยของนกั เรียนแต่ละคนจากแฟ้ มสะสมผลงาน และสามารถ ติดตามพฒั นาการไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง 2. มุ่งวดั ศกั ยภาพของนกั เรียนในการผลิตหรือสร้างผลงาน มากกวา่ การวดั ความจาํ จากการทาํ แบบทดสอบ 3. วดั และประเมินโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง คือ นกั เรียนเป็นผวู้ างแผน ลงมือปฏิบตั ิงาน รวมท้งั ประเมินและปรับปรุงตนเอง ซ่ึงมีครูเป็นผชู้ ้ีแนะ เนน้ การประเมินผลยอ่ ยมากกวา่ การประเมินผลรวม 4. ฝึกใหน้ กั เรียนรู้จกั การประเมินตนเองและหาแนวทางปรับปรุงพฒั นาตนเอง 5. นกั เรียนเกิดความมน่ั ใจและภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง รู้วา่ ตนเองมีจุดเด่นในเรื่องใด 6. ช่วยในการส่ือความหมายเก่ียวกบั ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนพฒั นาการของนกั เรียนใหผ้ ทู้ ี่ เก่ียวขอ้ งทราบ เช่น ผปู้ กครอง ฝ่ ายแนะแนว ตลอดจนผบู้ ริหารของโรงเรียน ข้ันตอนการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานมี 10 ข้นั ตอน ซ่ึงแต่ละข้นั ตอนมีรายละเอียด ดงั น้ี 1. การวางแผนจัดทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานตอ้ งมีส่วนร่วมระหวา่ งครู นกั เรียน และผปู้ กครอง ครู การเตรียมตวั ของครูตอ้ งเร่ิมจากการศึกษาและวเิ คราะห์หลกั สูตร คู่มือครู คาํ อธิบายรายวิชา วิธีการวดั และประเมินผลในหลกั สูตร รวมท้งั ครูตอ้ งมีความรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การประเมินโดยใชแ้ ฟ้ มสะสม ผลงาน จึงจะสามารถวางแผนกาํ หนดชิ้นงานได้ นักเรียน ตอ้ งมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหาสาระ การประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ ม สะสมผลงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ การกาํ หนดชิ้นงาน และบทบาทในการทาํ งานกลุ่ม โดยครู ตอ้ งแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบล่วงหนา้
276 ผ้ปู กครอง ตอ้ งเขา้ มามีส่วนร่วมในการคดั เลือกผลงาน การแสดงความคิดเห็น และรับรู้พฒั นาการ ของนกั เรียนอยา่ งต่อเนื่อง ดงั น้นั ก่อนทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน ครูตอ้ งแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบหรือขอความร่วมมือ รวมท้งั ใหค้ วามรู้ในเรื่องการประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงานแก่ผปู้ กครองเม่ือมีโอกาส 2. การรวบรวมผลงานและจัดระบบแฟ้ ม ในการรวบรวมผลงานตอ้ งออกแบบการจดั เกบ็ หรือแยก หมวดหม่ขู องผลงานใหด้ ี เพอื่ สะดวกและง่ายต่อการนาํ ขอ้ มลู ออกมาใช้ แนวทางการจดั หมวดหม่ขู องผลงาน เช่น – จดั แยกตามลาํ ดบั วนั เวลา ท่ีสร้างผลงานข้ึนมา – จดั แยกตามความซบั ซอ้ นของผลงาน เป็นการแสดงถึงทกั ษะหรือพฒั นาการของนกั เรียนท่ีมากข้ึน – จดั แยกตามวตั ถุประสงค์ เน้ือหา หรือประเภทของผลงาน ผลงานที่อยใู่ นแฟ้ มสะสมผลงานอาจมีหลายเร่ือง หลายวิชา ดงั น้นั นกั เรียนจะตอ้ งทาํ เครื่องมือใน การช่วยคน้ หา เช่น สารบญั ดชั นีเร่ือง จุดสี แถบสีติดไวท้ ่ีผลงานโดยมีรหสั ท่ีแตกต่างกนั เป็นตน้ 3. การคดั เลอื กผลงาน ในการคดั เลือกผลงานน้นั ควรใหส้ อดคลอ้ งกบั เกณฑห์ รือมาตรฐานที่โรงเรียน ครู หรือนกั เรียนร่วมกนั กาํ หนดข้ึนมา และผคู้ ดั เลือกผลงานควรเป็นนกั เรียนเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน หรือมี ส่วนร่วมกบั ครู เพ่อื น และผปู้ กครอง ผลงานท่ีเลือกเขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน ควรมีลกั ษณะดงั น้ี – สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาและวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ – เป็นผลงานชิ้นที่ดีที่สุด มีความหมายต่อนกั เรียนมากท่ีสุด – สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงพฒั นาการของนกั เรียนในทุกดา้ น – เป็นส่ือที่จะช่วยใหน้ กั เรียนมีโอกาสแลกเปล่ียนความคิดเห็นกบั ครู ผปู้ กครอง และเพ่ือน ๆ ส่วนจาํ นวนชิ้นงานน้นั ใหก้ าํ หนดตามความเหมาะสม ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะอาจจะทาํ ให้ ผลงานบางชิ้นไม่มีความหมาย แต่ถา้ มีนอ้ ยเกินไปจะทาํ ใหก้ ารประเมินไม่มีประสิทธิภาพ 4. สร้างสรรค์แฟ้ มสะสมผลงานให้มเี อกลกั ษณ์ของตนเอง โครงสร้างหลกั ของแฟ้ มสะสมผลงานอาจ เหมือนกนั แต่นกั เรียนสามารถตกแต่งรายละเอียดยอ่ ยใหแ้ ตกต่างกนั ตามความคิดสร้างสรรคข์ องแต่ละบุคคล โดยอาจใชภ้ าพ สี สติกเกอร์ ตกแต่งใหส้ วยงามเนน้ เอกลกั ษณ์ของเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน 5. การแสดงความคดิ เห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน ในข้นั ตอนน้ีนกั เรียนจะไดร้ ู้จกั การวพิ ากษว์ ิจารณ์ หรือสะทอ้ นความคิดเกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง ตวั อยา่ งขอ้ ความท่ีใชแ้ สดงความรู้สึกต่อผลงาน เช่น – ไดแ้ นวคิดจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ีมาจากไหน – เหตุผลท่ีเลือกผลงานชิ้นน้ีคืออะไร – จุดเด่น จุดดอ้ ยของผลงานชิ้นน้ีคืออะไร – รู้สึกพอใจกบั ผลงานชิ้นน้ีมากนอ้ ยเพียงใด – ไดข้ อ้ คิดอะไรจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ี 6. ตรวจสอบความสามารถของตนเอง เป็นการเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดป้ ระเมินความสามารถของ ตนเอง โดยพิจารณาตามเกณฑย์ อ่ ย ๆ ที่ครูและนกั เรียนช่วยกนั กาํ หนดข้ึน เช่น นิสยั การทาํ งาน ทกั ษะทางสงั คม การทาํ งานเสร็จตามระยะเวลาที่กาํ หนด การขอความช่วยเหลือเมื่อมีความจาํ เป็น เป็นตน้ นอกจากน้ียงั มีการ
277 ตรวจสอบความสามารถของตนเองอีกวิธีหน่ึง คือ การใหน้ กั เรียนเขียนวเิ คราะห์จุดเด่น จุดดอ้ ย ของตนเอง และ ส่ิงท่ีตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ข 7. การประเมนิ ผลงาน เป็นข้นั ตอนท่ีสาํ คญั เน่ืองจากเป็นการสรุปคุณภาพของงานและความสามารถ หรือพฒั นาการของนกั เรียน การประเมินแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ การประเมินโดยไม่ใหร้ ะดบั คะแนน และ การประเมินโดยใหร้ ะดบั คะแนน การประเมินโดยไม่ให้ระดับคะแนน ครูกลุ่มน้ีมีความเชื่อวา่ แฟ้ มสะสมผลงานมีไวเ้ พื่อศึกษา กระบวนการทาํ งาน ศึกษาความคิดเห็น ความรู้สึกของนกั เรียนที่มีต่อผลงานของตนเอง ตลอดจนดูพฒั นาการ หรือความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนอยา่ งไม่เป็นทางการ ครู ผปู้ กครอง และเพอ่ื นสามารถใหค้ าํ ช้ีแนะแก่นกั เรียนได้ ซ่ึงวิธีการน้ีจะทาํ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้และปฏิบตั ิงานอยา่ งเตม็ ที่ โดยไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะไดค้ ะแนนมากนอ้ ยเท่าไร การประเมินโดยให้ระดบั คะแนน มีท้งั การประเมินตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การประเมินระหวา่ งภาค เรียน และการประเมินปลายภาคเรียน ซ่ึงจะช่วยในวตั ถุประสงคด์ า้ นการปฏิบตั ิเป็นหลกั การประเมินแฟ้ มสะสม ผลงานตอ้ งกาํ หนดมิติการใหค้ ะแนน (Scoring Rubrics) ตามเกณฑท์ ี่ครูและนกั เรียนร่วมกนั กาํ หนดข้ึน การให้ ระดบั คะแนนมีท้งั การใหค้ ะแนนเป็นรายชิ้นก่อนเกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน และการใหค้ ะแนนแฟ้ มสะสมผลงาน ท้งั แฟ้ ม ซ่ึงมาตรฐานคะแนนน้นั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคก์ ารจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน และมุ่งเนน้ พฒั นาการของนกั เรียนแต่ละคนมากกวา่ การนาํ ไปเปรียบเทียบกบั บุคคลอ่ืน 8. การแลกเปลย่ี นประสบการณ์กบั ผ้อู ื่น มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ ับฟังความคิดเห็น จากผทู้ ี่มีส่วนเก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ เพอื่ น ครู และผปู้ กครอง อาจทาํ ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั ประชุมในโรงเรียน โดยเชิญผทู้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ งมาร่วมกนั พิจารณาผลงาน การสนทนาแลกเปล่ียนระหวา่ งนกั เรียนกบั เพ่ือน การส่ง แฟ้ มสะสมผลงานไปใหผ้ ทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งช่วยใหข้ อ้ เสนอแนะหรือคาํ แนะนาํ ในการแลกเปล่ียนประสบการณ์น้นั นกั เรียนจะตอ้ งเตรียมคาํ ถามเพือ่ ถามผทู้ ี่มีส่วนเก่ียวขอ้ ง ซ่ึงจะ เป็นประโยชนใ์ นการปรับปรุงงานของตนเอง ตวั อยา่ งคาํ ถาม เช่น – ท่านคิดอยา่ งไรกบั ผลงานชิ้นน้ี – ท่านคิดวา่ ควรปรับปรุงแกไ้ ขส่วนใดอีกบา้ ง – ผลงานชิ้นใดท่ีท่านชอบมากท่ีสุด เพราะอะไร ฯลฯ 9. การปรับเปลยี่ นผลงาน หลงั จากท่ีนกั เรียนไดแ้ ลกเปลี่ยนความคิดเห็น และไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากผทู้ ่ีมี ส่วนเก่ียวขอ้ งแลว้ จะนาํ มาปรับปรุงผลงานใหด้ ีข้ึน นกั เรียนสามารถนาํ ผลงานที่ดีกวา่ เกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน แทนผลงานเดิม ทาํ ใหแ้ ฟ้ มสะสมผลงานมีผลงานท่ีดี ทนั สมยั และตรงตามจุดประสงคใ์ นการประเมิน 10. การประชาสัมพนั ธ์ผลงานของนักเรียน เป็นการแสดงนิทรรศการผลงานของนกั เรียน โดยนาํ แฟ้ ม สะสมผลงานของนกั เรียนทุกคนมาจดั แสดงร่วมกนั และเปิ ดโอกาสใหผ้ ปู้ กครอง ครู และนกั เรียนทว่ั ไปไดเ้ ขา้ ชมผลงาน ทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง ผทู้ ี่เริ่มตน้ ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานอาจไม่ตอ้ งดาํ เนินการท้งั 10 ข้นั ตอนน้ี อาจใชข้ ้นั ตอนหลกั ๆ คือ การ รวบรวมผลงานและการจดั ระบบแฟ้ ม การคดั เลือกผลงาน และการแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน
278 องค์ประกอบสําคญั ของแฟ้ มสะสมผลงาน 1. ส่วนนํา ประกอบดว้ ย – ปก – คาํ นาํ – สารบญั – ประวตั ิส่วนตวั – จุดมุ่งหมายของการทาํ แฟ้ มสะสม ผลงาน 2. ส่วนเนือ้ หาแฟ้ ม ประกอบดว้ ย – ผลงาน – ความคดิ เห็นท่ีมีต่อผลงาน – Rubrics ประเมินผลงาน 3. ส่วนข้อมูลเพมิ่ เตมิ ประกอบดว้ ย – ผลการประเมินการเรียนรู้ – การรายงานความกา้ วหนา้ โดย ครู – ความคดิ เห็นของผทู้ ่ีมีส่วน เกี่ยวขอ้ ง เช่น เพ่ือน ผปู้ กครอง
279 กรอบแนวคดิ ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้เพอ่ื เน้นสู่ผลลพั ธ์ปลายทาง (Backward Design Template) หน่วยการเรียนรู้ที่........................................... ข้ันตอนที่ 1 ผลลพั ธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน (Design Results) ตวั ชี้วดั ช้ันปี ความเข้าใจทค่ี งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทีก่ ระตุ้นให้นักเรียนเกดิ ความเข้าใจท่ี • เมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียน คงทน จะเข้าใจวา่ ... – 1. – 2. ความรู้ของนักเรียนทน่ี ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ทกั ษะ/ความสามารถของนักเรียนท่ีนําไปสู่ความ • เมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนจะ รู้วา่ ... เข้าใจทค่ี งทน 1. • เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนควรมี 2. ทักษะและสามารถท่ีจะ... 1. 2. ข้นั ท่ี 2 หลกั ฐานในการประเมนิ เพอื่ แสดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ตามท่ีกาํ หนด (Assessment Evidence) 1. ภาระงานที่นักเรียนต้องปฏิบัติ – – 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ • เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • วธิ ีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ – – 3. สิ่งทีม่ ุ่งประเมนิ – – ข้ันที่ 3 การวางแผนการจัดการเรียนรู้ – –
280 รูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้รายช่ัวโมงจากการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคดิ ของ Backward Design Backward Design เขียนโดยใชร้ ูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้แบบเรียงหวั ขอ้ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี • ช่ือแผน... (ระบุชื่อและลาํ ดบั ท่ีของแผนการจดั การเรียนรู้) • สาระท่ี... (ระบุสาระท่ีใชจ้ ดั การเรียนรู้) • ช้นั ... (ระบุช้นั ที่จดั การเรียนรู้) • หน่วยการเรียนรู้ที่... (ระบุชื่อและลาํ ดบั ที่ของหน่วยการเรียนรู้) • เวลา... (ระบุระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ต่อ 1 แผน) • สาระสาํ คญั ... (เขียนความคิดรวบยอดหรือมโนทศั นข์ องหวั เร่ืองท่ีจะจดั การเรียนรู้) • ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี ... (ระบุตวั ช้ีวดั ช้นั ปี ที่ใชเ้ ป็นเป้ าหมายของแผนการจดั การเรียนรู้) • จุดประสงคก์ ารเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึง ประกอบดว้ ย – ดา้ นความรู้ความคิด (Knowledge: K) – ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective: A) – ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Performance: P)) • การวดั และประเมินผลการเรียนรู้... (ระบุวิธีการและเครื่องมือวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ ง กบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น) • สาระการเรียนรู้... (ระบุสาระและเน้ือหาท่ีใชจ้ ดั การเรียนรู้ อาจเขียนเฉพาะหวั เรื่องกไ็ ด)้ • กระบวนการจดั การเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของกลุ่มสาระและการ บรู ณาการขา้ มสาระ) • กิจกรรมเสนอแนะ... (ระบุรายละเอียดของกิจกรรมท่ีนกั เรียนควรปฏิบตั ิเพิม่ เติม) • แนวทางบูรณาการ... (เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระอื่นท่ีบูรณาการร่วมกนั ) • ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้... (ระบุส่ือ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ท่ีใชใ้ นการจดั การเรียนรู้) • บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้... (ระบุรายละเอียดของผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนท่ีกาํ หนดไว้ อาจ นาํ เสนอขอ้ เด่นและขอ้ ดอ้ ยใหเ้ ป็นขอ้ มลู ที่สามารถใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการทาํ วจิ ยั ในช้นั เรียนได)้ ในส่วนของการเขียนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้น้นั ใหค้ รูที่เขียนแผนฯ นาํ ข้นั ตอนหลกั ของเทคนิค วธิ ีการของการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ นกั เรียนเป็นสาํ คญั เช่น การเรียนแบบแกป้ ัญหา การศึกษาเป็นรายบุคคล การ อภิปรายกลุ่มยอ่ ย/กลุ่มใหญ่ การฝึ กปฏิบตั ิการ การสืบคน้ ขอ้ มลู ฯลฯ มาเขียนในข้นั สอน โดยใหค้ าํ นึงถึง ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้
281 4 แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบปลายภาค แบบทดสอบก่อนเรียน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1: เรียนรู้ตวั เรา คาํ ชีแ้ จง: เขียนเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง 1. ข้อใดถูก 4. เดก็ วยั เรียนจะมอี ตั ราเพมิ่ ของนํา้ หนักตวั 1 ช่วงวยั รุ่นเป็นวยั ที่มีช่วงชีวิตเท่ากบั ช่วงวยั เรียน อย่างรวดเร็วเมอื่ ใด 2 ช่วงวยั ผใู้ หญ่เป็นวยั ท่ีมีช่วงชีวิตยาวนานกวา่ 1 อายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ี 6 ทุกวยั 2 อายยุ า่ งเขา้ ปี ที่ 10 3 ช่วงวยั เดก็ ก่อนเรียนจะมีช่วงชีวติ ท่ียาวกวา่ 3 อายรุ ะหวา่ ง 6–12 ปี วยั เรียน 4 อายรุ ะหวา่ ง 11–12 ปี 4 ช่วงวยั ชีวติ ของมนุษยเ์ ริ่มนบั ต้งั แต่เซลล์ 5. ข้อใดหมายถึงวยั ผู้ใหญ่ สืบพนั ธุ์ของบิดามารดาผสมกนั 1 บุคคลท่ีมีช่วงอายปุ ระมาณ 20–35 ปี 2 บุคคลที่มีช่วงอายปุ ระมาณ 35–45 ปี 2. พฒั นาการทางร่างกายของทารกคนใดที่ 3 บุคคลท่ีมีช่วงอายปุ ระมาณ 45–50 ปี อาจมคี วามผิดปกติเกดิ ขนึ้ 4 บุคคลท่ีมีช่วงอายปุ ระมาณ 20–60 ปี 1 ติ๊ก อายุ 9 เดือน ยงั ไม่ยอมพดู 6. ข้อใดคอื ความหมายของคําว่าอทิ ธิพลทางสังคม 2 จุ๋มจิ๋ม อายุ 4 เดือน ยงั ไม่หดั คลาน 1 การชกั จูงใจใหค้ ลอ้ ยตามทางดา้ นความคิด 3 เจ๊ียบ อายุ 1 ปี ยงั ไม่สามารถพดู ได้ 2 การพดู โนม้ นา้ วใหบ้ ุคคลอน่ื กระทาํ ตามตนเอง 4 แป้ ง อายุ 1 เดือน ยงั ไม่สามารถเอ้ือมมือ 3 การพดู เพือ่ ใหบ้ ุคคลอื่นเช่ือถือและยอมกระทาํ จบั สิ่งของ ตามตน 4 ถกู ทุกขอ้ 3. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะของพฒั นาการทาง 7. “ลกู ไม้หล่นไม่ไกลต้น” เป็ นคาํ สุภาษติ ท่ี สังคมของทารก 1 สนใจเสียงคนพดู เกยี่ วข้องกบั อทิ ธิพลท่ีมตี ่อการเปลย่ี นแปลงของ 2 ชอบฟังเสียงที่ไพเราะ 3 ตอ้ งการใหค้ นอ่ืนสนใจ วยั รุ่นในด้านใด 4 ชอบเล่นกบั เดก็ วยั เดียวกนั 1 เพอ่ื น 2 ครอบครัว 3 สื่อสารมวลชน 4 สภาพแวดลอ้ มในชุมชน
8. เพราะเหตุใดวยั รุ่นจึงเป็ นวยั ท่ีได้รับผลกระทบ 282 ต่อสื่อโฆษณามากท่สี ุด 1 เพราะวยั รุ่นยงั ขาดวฒุ ิภาวะ 10. การเล่นเกมออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อนักเรียน 2 เพราะวยั รุ่นเป็นวยั ที่อยากรู้อยากลอง อย่างไรบ้าง 3 เป็นวยั ท่ีชอบลอกเลียนแบบ 1 ทาํ ใหต้ อ้ งเสียเงิน 4 ถกู ทุกขอ้ 2 ทาํ ใหผ้ ลการเรียนตกต่าํ 3 ทาํ ใหน้ อนพกั ผอ่ นไม่เพยี งพอ 9. ส่ือในข้อใดทีส่ ่งผลต่อการเจริญเตบิ โตและ 4 ถกู ทุกขอ้ พฒั นาการของวยั รุ่นน้อยที่สุด 1 เวบ็ ไซตท์ ี่มีภาพลามก 2 เพลงท่ีมีเน้ือหาประชาธิปไตย 3 ละครที่มีเน้ือเรื่องเก่ียวกบั การทารุณทางเพศ 4 ภาพยนตร์ท่ีมีฉากกอดจูบของพระเอกและ นางเอก คะแนนทไ่ี ด้รับจากการทดสอบความรู้ คะแนนที่ได้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหตุ: แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากสื่อการ เรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
283 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2: ชีวติ และครอบครัว คาํ ชีแ้ จง: เขียนเครื่องหมาย ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ ง 1. การวางแผนครอบครัวอยู่ภายใต้การกาํ กบั ดูแล 6. ข้อใดไม่ใช่วธิ ีการคุมกาํ เนิด 1 การหลง่ั ภายนอก ของกระทรวงใด 2 การใส่ถุงยางอนามยั 1 กระทรวงมหาดไทย 3 การใชย้ าเมด็ คุมกาํ เนิด 2 กระทรวงศึกษาธิการ 4 การนบั วนั หรือระยะปลอดภยั 3 กระทรวงสาธารณสุข 4 กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คง 7. การคุมกาํ เนิดชนิดใดเมอื่ ทําแล้วจะไม่สามารถมี ของมนุษย์ 2. ข้อใดไม่ควรปฏิบัตใิ นขณะต้งั ครรภ์ บุตรได้อกี 1 ทาํ งานบา้ น 1 การทาํ หมนั 2 ออกกาํ ลงั กาย 2 การใส่ห่วงอนามยั 3 รับประทานผลไมด้ อง 3 การฉีดยาคุมกาํ เนิด 4 รับประทานยาตามแพทยส์ ง่ั 4 การกินยาเมด็ คุมกาํ เนิด 3. อาหารในข้อใดท่ีเพศหญิงควรรับประทานขณะ 8. ในขณะต้งั ครรภ์แม่ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมใด ต้งั ครรภ์ 1 น้าํ สม้ ค้นั 3 มะม่วงดอง จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์มากทส่ี ุด 2 กาแฟเยน็ 4 ชากบั ขนมปังกรอบ 1 แม่อยกู่ บั พอ่ ท่ีสูบบุหรี่ 2 แม่อาศยั อยใู่ นชุมชนแออดั 4. ข้อใดไม่ใช่อนั ตรายจากการทําแท้ง 3 แม่อยกู่ บั พอ่ ท่ีดื่มสุราเป็นประจาํ 1 ตกเลือด 2 ติดโรคทางเพศสมั พนั ธ์ 4 แม่อยกู่ บั พอ่ ท่ีเป็นป่ วยเป็นโรคมะเร็ง 3 เกิดภาวะการแทง้ บุตรไดง้ ่าย 9. พฤติกรรมในข้อใดทเ่ี สี่ยงต่อการตดิ เชื้อ 4 เกิดการอกั เสบเร้ือรังในโพรงมดลูก 5. ส่ิงใดส่งผลให้เพศหญิงในวยั ทองมอี าการ ไวรัสเอชไอวไี ด้มากทส่ี ุด 1 การถูกยงุ กดั ร้อนวูบวาบและปัสสาวะบ่อย 2 การใชห้ อ้ งสว้ มสาธารณะ 1 โรคประจาํ ตวั 3 การรับประทานอาหารร่วมกบั ผอู้ ื่น 2 น้าํ หนกั ตวั ที่เพิม่ ข้ึน 4 การใชเ้ ขม็ สาํ หรับฉีดสารเสพติดเขา้ เส้น 3 สภาพร่างกายท่ีอ่อนแอ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 4 ภาวะของการหมดประจาํ เดือน 10. นกั เรียนจะป้ องกนั ไม่ให้เกดิ โรคทางเพศ สัมพนั ธ์ได้อย่างไร 1 ไม่คบเพ่อื นต่างเพศ 2 คน้ ควา้ เรื่องเพศศึกษา 3 ไม่มีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรียน 4 เลือกคบเฉพาะแต่เพ่อื นท่ีเรียนดี
284 คะแนนที่ได้ คะแนนทไี่ ด้รับจากการทดสอบความรู้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหตุ: แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากส่ือการ เรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
285 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3: ใส่ใจสุขภาพ คาํ ชีแ้ จง: เขียนเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง 1. อาหารว่างสําหรับเดก็ วยั ก่อนเรียนควรเป็ น 7. บุคคลที่อาศัยอยู่ในชุมชมแออดั อาจเจ็บป่ วยด้วย อาหารในข้อใด โรคใดต่อไปนีไ้ ด้มากที่สุด 1 ไอศกรีม 3 ผลไมด้ อง 1 โรคเทา้ ชา้ ง 2 น้าํ ผลไม้ 4 ลูกกวาดรสผลไม้ 2 โรคผวิ หนงั 2. ผลไม้ชนิดใดที่เหมาะสําหรับนํามาจดั ให้ 3 โรคคอหอยพอก 4 โรคพยาธิใบไมใ้ นตบั ผ้สู ูงอายุได้รับประทาน 1 ลาํ ไย 3 มะม่วงดิบ 8. บุคคลกลุ่มใดควรงดออกกาํ ลงั กาย 2 สม้ โอ 4 กลว้ ยน้าํ วา้ 1 หญิงมีครรภ์ 3. ศิริพรอยากมผี วิ สวยดูสุขภาพดคี วรรับประทาน 2 บุคคลวยั ชรา อาหารท่ใี ห้วติ ามนิ ในข้อใด 3 ผปู้ ่ วยโรคเบาหวาน 1 วิตามินเอ 3 วติ ามินบี 6 4 ผปู้ ่ วยโรคไขห้ วดั ใหญ่ 2 วติ ามินบี 2 4 วติ ามินบีรวม 4. ช่วงอายุ 6–7 ปี พฒั นาการทางด้านอารมณ์เป็ น 9. ข้อใดถือได้ว่าเป็ นประโยชน์ของการ เช่นไร 1 นึกถึงกลุ่ม วางแผนในการออกกาํ ลงั กาย 2 เขา้ กบั ส่วนรวม 1 ชะลอความเส่ือมของร่างกาย 3 ยดึ ถือตวั เองเป็นจุดศูนยก์ ลาง 2 ทาํ ใหเ้ กิดความเพลิดเพลินสนุกสนาน 4 ขอ้ 1 และ 2 ถกู 3 ทาํ ใหอ้ อกกาํ ลงั กายไดอ้ ยา่ งไม่เหน่ือย 5. ข้อใดเป็ นลกั ษณะพฒั นาการทางด้านอารมณ์ 4 ช่วยป้ องกนั การเกิดอนั ตรายจากการ ออกกาํ ลงั กาย ของวยั รุ่น 1 อารมณ์รุนแรง 10. ขณะออกกาํ ลงั กาย หากเกดิ อาการเช่นใด 2 อารมณ์ไม่คงท่ี 3 ขาดการควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์ ควรหยดุ ออกกาํ ลงั กายทันที 4 ถูกทุกขอ้ 1 เจบ็ ที่หนา้ อก 2 มีเหง่ือออกมาก 6. โรคมะเร็งชนิดใดท่ีพบในเพศหญิงเท่าน้ัน 3 หวั ใจเตน้ แรงข้ึน 1 มะเร็งตบั 3 มะเร็งเตา้ นม 4 อุณหภมู ิร่างกายสูงข้ึน 2 มะเร็งปอด 4 มะเร็งหลอดอาหาร
286 คะแนนที่ได้ คะแนนทไี่ ด้รับจากการทดสอบความรู้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหตุ: แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากส่ือการ เรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
287 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4: ชีวติ ปลอดภยั คาํ ชีแ้ จง: เขียนเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง 1. ข้อใดจดั เป็ นลกั ษณะของพฤตกิ รรมสุขภาพท่ี 6. เพราะเหตุใดวยั รุ่นจึงมกั มพี ฤตกิ รรมใช้ความ ไม่พงึ ประสงค์ รุนแรง 1 สุเทพ ชอบสงั สรรคก์ บั เพื่อน ๆ โดยการด่ืม 1 เพราะถูกหลอกลวง สุรา 2 เพราะเป็นค่านิยมท่ีทาํ กนั มา 2 ชยั วฒั น์ ขบั รถยนตท์ ่องเที่ยวเขา้ ไปในพ้ืนที่ป่ า 3 เป็นความผิดปกติของร่างกาย 4 เพราะขาดความรักความอบอนุ่ อนุรักษ์ 3 บญั ชา หลีกเล่ียงการเขา้ ไปอยใู่ นศูนยก์ ารคา้ ท่ี 7. การใช้ส่ือทางอนิ เทอร์เน็ตมปี ระโยชน์อย่างไร มีคนอยแู่ ออดั 1 สะดวกรวดเร็ว 4 พิษณุ ออกกาํ ลงั กายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ เป็น 2 ไดร้ ับขอ้ มลู ท่ีหลากหลาย 3 สามารถติดต่อส่ือสารระหว่างกนั ไดส้ ะดวก ประจาํ ทุกวนั เสาร์ มากข้ึน 2. สถานทใี่ นข้อใดเสี่ยงต่อการเจบ็ ป่ วยมากทสี่ ุด 4 ถูกทุกขอ้ 1 สวนสตั ว์ 3 ในโรงเรียน 8. แอลกอฮอล์ออกฤทธ์ิต่อระบบประสาทอย่างไร 2 ตามป่ าเขา 4 สถานท่ีแออดั 1 กดประสาท 3. สมใจเลอื กรับประทานอาหารเฉพาะทต่ี นเองชอบ 2 หลอนประสาท 3 กระตุน้ ประสาท เท่าน้ัน นักเรียนคดิ ว่าสมใจเสี่ยงต่อการเป็ นโรค 4 ออกฤทธ์ิผสมผสานกนั ในข้อใด 9. การด่ืมสุรามาก ๆ จะเสี่ยงต่อการเป็ นโรคใน 1 โรคไต ข้อใดมากที่สุด 2 โรคกระเพาะ 1 โรคเอดส์ 3 โรคหลอดเลือดหวั ใจ 3 โรคขาดสารอาหาร 2 โรคตบั แขง็ 4 ขอ้ 2 และ 3 ถูก 4 โรคไขมนั ในเลือดสูง 4. เหตกุ ารณ์ในข้อใดอธิบายความหมายของ 10. ส่ิงทค่ี วรคาํ นงึ ถงึ เป็ นอันดบั แรกในการให้ ความช่วยเหลอื ผู้ประสบอุบัตเิ หตุคอื อะไร ความรุนแรงได้ชัดเจนมากทีส่ ุด 1 ทกั ษะในการช่วยฟ้ื นคืนชีพ 1 ปรารถนา วิง่ ตกบนั ไดบา้ น 2 ความปลอดภยั ของสถานท่ี 2 ปรัชญา ตกั เตือนนอ้ งเม่ือทาํ ผดิ 3 ลาํ ดบั ข้นั ตอนในการช่วยเหลือ 3 กวพี รรณ แอบอ่านจดหมายของมานี 4 การเคลื่อนยา้ ยผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 4 กนกพนั ธ์ ฟังเพลงเพื่อคลายความเครียด 5. ข้อใดคอื สถาบันแห่งแรกท่ีปลกู ฝังพฤตกิ รรม วัยรุ่น 1 วดั 3 ครอบครัว 2 โรงเรียน 4 ถกู ทุกขอ้
288 คะแนนทไี่ ด้รับจากการทดสอบความรู้ คะแนนท่ีได้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหตุ: แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากส่ือการ เรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
289 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5: เพมิ่ พนู ทักษะการเคลอื่ นไหว คาํ ชีแ้ จง: เขียนเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ ง 1. ก่อนทําการแข่งขนั กฬี าพลอง เพราะเหตุใดจงึ ต้องมี 6. การแข่งขนั กฬี าว่ายนํา้ หากกรรมการกล่าวคาํ ว่า การถวายบังคมก่อนเสมอ 1 เพอ่ื แสดงความเคารพครูบาอาจารย์ “Take your marks” ผ้เู ข้าแข่งขนั ต้องปฏิบตั ิ 2 เพอ่ื ใชค้ าถาเพ่ิมความเก่งและคลอ่ งตวั 3 เพอ่ื แสดงความกตญั ญูกตเวทีต่ออาจารย์ ตนอย่างไร 4 ขอ้ 1 และ 3 ถกู 1 เขา้ ท่ี 2 กระโดดออกจากแทน่ 2. ข้อใดคอื ข้ันตอนที่ถูกต้องในการเต้นแอโรบิก 3 ถอดเส้ือคลุมออกเตรียมแข่งขนั 1 เตน้ แอโรบิกและอบอุ่นร่างกาย 4 ไม่มีขอ้ ใดถูก 2 อบอุ่นร่างกายและเตน้ แอโรบิก 7. ในการแข่งขนั กฬี าว่ายนํา้ ในท่ากรรเชียง ถ้า 3 อบอุ่นร่างกาย เตน้ แอโรบิก และผอ่ นคลาย 4 จดั เตรียมเส้ือผา้ อบอุ่นร่างกาย และเตน้ กรรมการเป่ านกหวีดเสียงยาวคร้ังท่ี 1 นักกฬี า แอโรบิก ต้องปฏิบตั ติ นอย่างไร 3. นักเรียนคดิ ว่านันทนาการชุมชนประเภทใด 1 นกั กีฬาเขา้ ประจาํ ท่ี ส่ งเสริมทักษะทางด้ านการอ่าน 2 นกั กีฬาเร่ิมทาํ การแข่งขนั 1 สวนหยอ่ ม 3 ศนู ยน์ นั ทนาการ 3 นกั กีฬาลงน้าํ เตรียมตวั แข่งขนั 2 สวนสาธารณะ 4 หอ้ งสมุดประชาชน 4 นกั กีฬาลงช่ือเขา้ แข่งขนั ท่ีโต๊ะกรรมการ 8. ถ้าหากในการแข่งขันกฬี าว่ายนํา้ ก่อนการ 4. ในขณะทเี่ พอ่ื นกาํ ลงั ทดสอบพลองไม้รําท่ี 1 อยู่หน้าห้อง นักเรียนควรปฏบิ ัติตนอย่างไร แข่งขนั ทมี ของนักเรียนเป็ นฝ่ ายเสียเปรียบ ใน 1 คุยกบั เพื่อนคนอ่ืน 2 ซกั ซอ้ มท่ารําของตนเอง ฐานะที่นักเรียนเป็ นหัวหน้าทมี จะบอกเพอื่ นรวม 3 ลอ้ เลียนท่าทางของเพ่ือน 4 ต้งั ใจดูการทดสอบของเพอื่ น ทีมว่าอย่างไร 1 พดู ยวั่ ยฝุ ่ ายตรงขา้ มใหเ้ สียสมาธิ 5. นักเรียนคดิ ว่ากจิ กรรมกฬี าให้ประโยชน์ต่อ 2 ออกตวั ผดิ กติกาเพ่อื ใหไ้ ดเ้ ปรียบฝ่ ายตรงขา้ ม ชีวติ ประจาํ วนั ด้านใดมากทสี่ ุด 3 วา่ ยไปเร่ือย ๆ ใหถ้ ึงเสน้ ชยั เพราะอยา่ งไร 1 ช่วยพฒั นาสมอง 2 คลายความเครียด กแ็ พอ้ ยแู่ ลว้ 3 มีความเชื่อมนั่ ในตนเอง 4 วา่ ยอยา่ งเต็มความสามารถและใชเ้ ทคนิค 4 ช่วยทาํ ใหร้ ่างกายแขง็ แรงไม่เป็นโรคง่าย ต่าง ๆ ท่ีเคยซอ้ มมาใช้ 9. นักเรียนคดิ ว่าการเต้นแอโรบกิ มปี ระโยชน์ อย่างไร 1 ทาํ ใหห้ วั ใจแขง็ แรง 2 ทาํ ใหร้ ่างกายยดื หยนุ่ ไดด้ ี 3 ทาํ ใหเ้ คล่ือนไหวไดค้ ล่องตวั 4 ถกู ทุกขอ้
290 10. การออกกาํ ลงั กายมคี วามสําคญั อย่างไร 1 ไม่เจบ็ ป่ วยง่าย 2 ทาํ ใหร้ ่างกายแขง็ แรง 3 ลดค่าใชจ้ ่ายในการรักษาพยาบาล 4 ถูกทุกขอ้ คะแนนที่ได้ คะแนนทีไ่ ด้รับจากการทดสอบความรู้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหตุ: แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากส่ือการ เรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
291 แบบทดสอบปลายภาค สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ตอนท่ี 1 ลอ้ มรอบหนา้ คาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง (ขอ้ ละ ½ คะแนน) คาํ ชีแ้ จง: เขียนเครื่องหมาย 1. ข้อใดถูก 6. ข้อใดคอื ความแตกต่างระหว่างวยั รุ่นเพศหญิง 1 ช่วงวยั รุ่นเป็นวยั ที่มีช่วงชีวิตเท่ากบั ช่วงวยั เรียน กบั วยั รุ่นเพศชาย 2 ช่วงวยั ผใู้ หญ่เป็นวยั ที่มีช่วงชีวิตยาวนานกวา่ ทุก 1 ผวิ หนงั ของเพศชายมีความอ่อนนุ่มมากกวา่ วยั 2 อวยั วะเพศของเพศชายมีความซบั ซอ้ นมากกวา่ 3 ช่วงวยั เด็กก่อนเรียนจะมีช่วงชีวติ ท่ียาวกวา่ วยั 3 ขนาดร่างกายและกลา้ มเน้ือของเพศชายมีขนาด เรียน ใหญ่กวา่ 4 ช่วงวยั ชีวิตของมนุษยเ์ ร่ิมนบั ต้งั แต่เซลลส์ ืบพนั ธุ์ 4 ขอ้ 1 และ 3 ถกู ของบิดามารดาผสมกนั 7. บุคคลทอี่ ยู่ในวยั ทองจะมกี ารเปลยี่ นแปลง 2. ป้ าเพญ็ มอี ายุ 55 ปี แสดงว่าป้ าเพญ็ อย่ใู นวยั ใด ทางด้านร่างกายอย่างไร 1 วยั รุ่น 3 วยั ผใู้ หญ่ 1 มีผน่ื ข้ึนตามร่างกาย 2 วยั เดก็ 4 วยั ผสู้ ูงอายุ 2 หงุดหงิด นอนไม่หลบั 3. เด็กทารกจะหัดพดู เร็วหรือช้าขนึ้ อยู่กบั ปัจจัยใด 3 ร่างกายกระฉบั กระเฉง 1 วฒุ ิภาวะ 4 มีความตอ้ งการทางเพศสูง 2 การเล้ียงดูของพอ่ แม่ 8. นันทาอาศัยอยู่ในชุมชนท่จี าํ หน่ายสารเสพตดิ จน 3 ปัญหาทางดา้ นร่างกาย ทาํ ให้ตดิ สารเสพตดิ การกระทาํ ดงั กล่าวมี 4 ถกู ทุกขอ้ อทิ ธิพลและความคาดหวงั จากด้านใด 1 เพ่อื น 4. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกยี่ วกบั เดก็ วยั เรียน 2 ครอบครัว 1 อยใู่ นช่วงอายตุ ้งั แต่ 2–6 ปี 3 วฒั นธรรม 2 เป็นช่วงที่ไดร้ ับการศึกษาภาคบงั คบั 4 สภาพแวดลอ้ มในชุมชน 3 เพศหญิงจะเขา้ สู่ช่วงวยั เรียนเร็วกวา่ เพศชาย 9. ก้องภพแอบอ่านหนังสือการ์ตูนลามกกบั เพอ่ื นใน 4 เพศชายและเพศหญิงจะมีช่วงอายทุ ่ีต่างกนั มาก ห้องเรียน โดยให้เหตุผลว่าเป็ นการศึกษาเร่ือง 5. ข้อใดหมายถึงวยั ทารก “เพศสัมพนั ธ์” จากข้อความดังกล่าวนักเรียนคดิ 1 เดก็ แรกเกิด 2 เดก็ ที่มีอายุ 3 ปี ข้ึนไป ว่าอาจทาํ ให้เกดิ เหตุการณ์ใด 3 เดก็ ท่ีอยใู่ นครรภม์ ารดา 1 อาจเกิดคดีข่มขืน 4 เดก็ ที่สามารถรับประทานขา้ วและอาหารเหลวได้ 2 เกิดการมีเพศสมั พนั ธ์ 3 เกิดการต้งั ครรภโ์ ดยไมพ่ ึงประสงค์ 4 ถกู ทุกขอ้
292 10. Menopause หมายถึงอะไร 15. ข้อใดถูกต้องเกยี่ วกบั ความหมายของการวางแผน 1 ช่วงวยั สาวแรก ครอบครัว 2 ช่วงวยั เจริญพนั ธุ์ 1 การคุมกาํ เนิด 3 ช่วงวยั เจริญสูงสุด 2 การควบคุมจาํ นวนประชากร 4 ช่วงวยั หมดประจาํ เดือน 3 การกาํ หนดจาํ นวนบุตรท่ีตอ้ งการ 11. ข้อใดแสดงถงึ พฒั นาการทางสตปิ ัญญาทีเ่ ด่นชัด 4 การเตรียมการลว่ งหนา้ เก่ียวกบั เวลาท่ีเหมาะสม ของวยั ผ้ใู หญ่ตอนต้น ในการมีบุตร 1 มีความจาํ ดี 16. ถ้าหากไม่มีการวางแผนครอบครัวจะส่งผล 2 คิดเป็นรูปธรรม กระทบอย่างไร 3 จดจาํ คาํ ศพั ทไ์ ดแ้ ม่นยาํ 1 จะมีประชากรในวยั เดก็ เท่ากบั ประชากรในวยั 4 แกไ้ ขสถานการณ์ต่าง ๆ ไดด้ ี ผใู้ หญ่ 12. การเล่นเกมออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อนักเรียน 2 จะมีประชากรในวยั เดก็ มากกวา่ ประชากรใน อย่างไรบ้าง วยั ผใู้ หญ่ 1 ทาํ ใหต้ อ้ งเสียเงิน 3 จะมีประชากรในวยั เดก็ เท่ากบั ประชากรในวยั 2 ทาํ ใหผ้ ลการเรียนตกต่าํ ผสู้ ูงอายุ 3 ทาํ ใหน้ อนพกั ผอ่ นไม่เพยี งพอ 4 จะมีประชากรในวยั เดก็ นอ้ ยกวา่ ประชากรใน 4 ถูกทุกขอ้ วยั ผสู้ ูงอายุ 17. ถ้ามคี นมาขอคาํ แนะนําเรื่องการป้ องกนั 13. จากคาํ ถามในข้อ 12 จะส่งผลให้ผู้เล่นเกมมี การตดิ โรคทางเพศสัมพนั ธ์ นักเรียนจะ พฤตกิ รรมอย่างไร ต้องแนะนําอย่างไร 1 ใชค้ วามรุนแรง 1 ไม่สาํ ส่อนทางเพศ 2 กระฉบั กระเฉง 2 ใชส้ ่ิงของส่วนตวั เฉพาะของตนเองเท่าน้นั 3 ประสาทต่ืนตวั ตลอดเวลา 3 รักษาความสะอาดร่างกายและอวยั วะเพศ 4 ถูกทุกขอ้ สม่าํ เสมอ 4 ถูกทุกขอ้ 14. ข้อใดคอื วตั ถุประสงค์หลกั ในการวางแผน 18. นักเรียนควรปฏิบตั ติ นอย่างไรถ้ามผี ้ปู ่ วยโรค ครอบครัว เอดส์ ในครอบครัว 1 ลดอตั ราการหยา่ ร้าง 1 พดู คุยกบั ผปู้ ่ วยเอดส์ใหน้ อ้ ยลง 2 ลดอตั ราการเกิดของประชากร 2 ปฏิบตั ิตนตามปกติ ไม่ตอ้ งทาํ อะไร 3 ลดอตั ราการติดเช้ือจากแม่สู่ลูก 3 พาผปู้ ่ วยเอดส์ไปอยปู่ ระจาํ ที่โรงพยาบาล 4 ขอ้ 1 และ 2 ถูก 4 ใหก้ าํ ลงั ใจและดูแลเร่ืองสุขภาพเป็นพเิ ศษ
293 19. ข้อใดคอื แนวทางทดี่ ที ี่สุดในการป้ องกนั โรค 23. ผ้ทู ่อี ยู่ในช่วงภาวะหลงั วยั เจริญพนั ธ์ุควร ตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ รับประทานอาหารประเภทใดในปริมาณทน่ี ้อย 1 เที่ยวกลางคืนใหน้ อ้ ยลง 1 ขา้ ว แป้ ง 2 สวมถุงยางอนามยั ทุกคร้ัง 2 ผกั ผลไม้ 3 ตรวจสุขภาพอยา่ งสม่าํ เสมอ 3 เน้ือสตั ว์ ถวั่ 4 ไม่มีเพศสมั พนั ธก์ บั บุคคลท่ีไม่รู้จกั 4 น้าํ มนั พืช น้าํ ตาล 20. การต้งั ครรภ์โดยไม่พงึ ประสงค์ของวยั รุ่นก่อ 24. องค์ประกอบในข้อใดไม่เก่ียวข้องกบั การวางแผน ให้เกดิ ปัญหาสังคมในข้อใด ครอบครัว 1 วยั รุ่นตดั สินใจฆ่าตวั ตายเพิม่ มากข้ึน 1 การคุมกาํ เนิด 2 เดก็ ถูกทอดทิ้งในสถานพยาบาลเพิ่มมากข้ึน 2 การเลือกเพศของบุตร 3 วยั รุ่นมีปัญหาทางดา้ นอารมณ์และจิตใจ 3 การช่วยเหลือคู่สมรสที่มีบุตรยาก เพ่ิมมากข้ึน 4 การคน้ หาสาเหตุของความผดิ ปกติทางเพศ 4 รัฐบาลตอ้ งเสียงบประมาณในการดูแล สุขภาพของวยั รุ่นที่ต้งั ครรภ์ 25. โรคความดันโลหิตสูงพบมากในคนวยั ใด 1 วยั รุ่น 21. สิ่งใดส่งผลให้เพศหญงิ ในวยั ทองมอี าการ 2 วยั เดก็ ร้อนวบู วาบและปัสสาวะบ่อย 3 วยั ทารก 1 โรคประจาํ ตวั 4 วยั ผใู้ หญ่ 2 น้าํ หนกั ตวั ที่เพมิ่ ข้ึน 3 สภาพร่างกายท่ีออ่ นแอ 26.ข้อใดคอื อาหารทเี่ หมาะสมสําหรับหญงิ ต้งั ครรภ์ 4 ภาวะของการหมดประจาํ เดือน 1 รับประทานอาหารที่มีไขมนั สูง 2 รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง 3 รับประทานอาหารเฉพาะคาร์โบไฮเดรต 4 รับประทานอาหารท่ีมีโปรตีนและไขมนั สูง 22. ผ้ทู ีอ่ ยู่ในช่วงภาวะหลงั วยั เจริญพนั ธ์ุควร 27. หลกั การจดั อาหารสําหรับผ้สู ูงอายุควรคาํ นึงถงึ รับประทานอาหารอย่างไร เร่ืองใดเป็ นอนั ดบั แรก 1 รับประทานแป้ งมาก ๆ 1 เนน้ วิตามินสูง 2 รับประทานขา้ วตม้ ทุกวนั 2 เป็นอาหารที่ยอ่ ยง่าย 3 รับประทานอาหารมงั สวิรัติ 3 เนน้ ผกั และผลไมส้ ด 4 รับประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ 4 เป็นอาหารท่ีมีไขมนั สูง
294 28. อาหารว่างสําหรับเดก็ วยั ก่อนเรียนควรเป็ น 33. จากคําถามในข้อ 32 นักเรียนควรเลอื กรายการ ของหวานในข้อใด อาหารในข้อใด 1 เยลล่ีรสสม้ 2 โรตีสายไหม 1 ไอศกรีม 3 เคก้ ฝอยทอง 4 เตา้ หูฟ้ รุตสลดั 2 น้าํ ผลไม้ 34. ถ้าหากป่ วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและไม่รับ 3 ผลไมด้ อง การรักษาเป็ นเวลานาน ๆ จะส่งผลให้อวยั วะใด ทาํ งานผดิ ปกติ 4 ลูกกวาดรสผลไม้ 1 ไต 2 ตา 29. วยั ผู้สูงอายุควรหลกี เลย่ี งอาหารประเภทใด 3 กระเพาะอาหาร 4 ขอ้ 1 และ 2 ถูก 1 คอหมูยา่ ง 3 ปลาน่ึงมะนาว 35. จากคาํ ถามข้อ 34 ถ้าหากป่ วยเป็ นโรคความดนั - โลหิตสูงไม่ควรรับประทานอาหารในข้อใด 2 ราดหนา้ ปลา 4 ขนมจีนแกงไก่ 1 ยาํ ไขเ่ คม็ 2 กงุ้ แช่น้าํ ปลา 30.ข้อใดไม่ถกู ต้องเกยี่ วกบั การจดั อาหารสําหรับ 3 เน้ือเคม็ แดดเดียว 4 ถูกทุกขอ้ วยั เดก็ ก่อนเรียน 36.อาการในข้อใดเป็ นอาการของโรคไตวาย 1 จดั อาหารใหม้ ีสารอาหารท่ีหลากหลาย 1 ปัสสาวะเป็นเลือด 2 ความดนั โลหิตสูง 2 จดั อาหารใส่ภาชนะที่สะอาดถูกหลกั อนามยั 3 อาการปวดหลงั ปวดเอว 4 ถกู ทุกขอ้ 3 การจดั อาหารตอ้ งคาํ นึงถึงคุณค่าและประโยชน์ 37. ข้อใดเป็ นสาเหตุของโรคความดันโลหติ สูง ของอาหาร 1 กินอาหารเผด็ มากเกินไป 2 กินอาหารเคม็ มากเกินไป 4 จดั อาหารเฉพาะที่เดก็ ชอบเพอื่ ใหเ้ ดก็ 3 กินอาหารหวานมากเกินไป 4 กินอาหารเปร้ียวมากเกินไป รับประทานอาหารมากข้ึน 31. ข้อใดไม่ถกู ต้องเกยี่ วกบั การจดั อาหารใน ผู้ใหญ่ 1 ควรไดร้ ับผลไมส้ ดทุกวนั 2 ควรไดร้ ับอาหารท่ีมีรสหวานจดั 3 ควรหลกี เลี่ยงอาหารยา่ งท่ีไหมเ้ กรียม 4 ควรไดร้ ับเน้ือสตั วป์ ระเภทปลาทะเล 2 คร้ัง ต่อสปั ดาห์ 32. ถ้าหากนักเรียนต้องเตรียมรายการอาหารเลยี้ ง เพอื่ นของแม่ท่มี อี ายปุ ระมาณ 50 ปี ข้อใดเป็ น รายการอาหารทเ่ี หมาะสมท่สี ุด 1 ผดั เผด็ เน้ือววั และขาหมอู บ 2 ยาํ ทะเลรวมมิตรรสเผด็ และตม้ ยาํ ไก่ 3 เน้ือววั แดดเดียวทอดและไก่ยา่ ง 4 เตา้ หูท้ รงเคร่ืองและปลาเลก็ ปลานอ้ ยทอด
38. นารีออกกาํ ลงั กายเป็ นประจําทุกเช้า ก่อนการ 295 ออกกาํ ลงั กายทุกคร้ัง นารีควรใช้เวลาในการ อบอ่นุ ร่างกายเท่าใด 42. ถ้าหากนักเรียนพกั ผ่อนไปเพยี งพอจะส่งผลเสีย 1 1–5 นาที อย่างไร 2 5–15 นาที 1 อ่อนเพลีย 3 20–25 นาที 2 ไม่มีสมาธิในการเรียน 4 30–35 นาที 3 ทาํ ใหผ้ ลการเรียนตกต่าํ 4 ถกู ทุกขอ้ 39. การปฏิบตั ใิ นข้อใดจัดเป็ นพฤตกิ รรมสุขภาพ ประเภทพฤติกรรมการป้ องกนั โรค 43. ข้อใดไม่ใช่พฤตกิ รรมทบี่ ่ันทอนสุขภาพ 1 สมาพร กินยาแกป้ วดตามท่ีแพทยส์ ง่ั 1 นอ้ ย ไม่ชอบออกกาํ ลงั กาย 2 วิชุดา งดวิ่งออกกาํ ลงั กายเพราะปวดเข่า 2 หนุ่ม มีเพศสพั พนั ธโ์ ดยไมป่ ้ องกนั 3 กลั ยภฏั ร์ ปวดศีรษะจึงนอนพกั ผอ่ นอยทู่ ่ีบา้ น 3 นิด รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ 4 วรวธุ เปิ ดไฟหนา้ รถทุกคร้ังเมื่อขบั ข่ี 4 นุช ซ้ือยาจากร้านขายยาที่มีเภสชั กร รถจกั รยานยนต์ 44. เมือ่ ตกอยู่ในสถานการณ์หรือภัยอนั ตรายต่าง ๆ 40. บุคคลในข้อใดมพี ฤตกิ รรมสุขภาพทดี่ ี สิ่งแรกท่คี วรปฏิบัตคิ อื ข้อใด 1 นนท์ รับประทานยาตามแพทยส์ ง่ั 1 ต้งั สติใหม้ น่ั คง 2 ณี ติดตามขา่ วสารดา้ นสุขภาพอยเู่ สมอ 2 ใชก้ าํ ลงั ต่อสูอ้ ยา่ งเตม็ ที่ 3 นุช สวมหมวกกนั นอ็ กทุกคร้ังเม่ือขบั ข่ี 3 ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ รถจกั รยานยนต์ 4 พยายามมองหาอาวธุ ที่อยรู่ อบตวั 4 ถูกทุกขอ้ 45. ข้อใดคอื ความหมายของความรุนแรง 41. นักเรียนจะปฏิบัตติ นอย่างไรหากพบว่าใน 1 การกระทาํ ท่ีผดิ กฎหมายที่มีความหนกั และแรง ชุมชนมกี ารระบาดของไข้หวดั เพม่ิ ขึน้ ต่อบุคคลอื่น 1 พยายามอยแู่ ต่ในบา้ น 2 การกระทาํ ที่ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลซ่ึงเป็น 2 ไม่ออกไปคลุกคลีกบั เพอื่ นบา้ น ผลใหเ้ กิดความทุกขท์ รมานแก่ผถู้ กู กระทาํ 3 พยายามรับประทานอาหารที่ยอ่ ยง่าย 3 การกระทาํ ท่ีล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลท้งั กาย 4 พยายามออกกาํ ลงั กายและพกั ผอ่ นให้ วาจา ใจ และเพศ ซ่ึงเป็นผลใหเ้ กิดความทุกข์ เพียงพอ ทรมานแก่ผถู้ กู กระทาํ 4 ไม่มีขอ้ ใดถกู
46. “มลทาํ ร้ายตนเองดว้ ยการรับประทานยาลา้ ง 296 หอ้ งน้าํ เพราะอกหกั จากเพ่ือนชาย” ข้อความ ดงั กล่าวจัดอย่ใู นลกั ษณะพฤตกิ รรมความ 50. หากนักเรียนพบว่าสมาชิกในบ้านมี รุนแรงแบบใด พฤตกิ รรมก้าวร้าวและมกั ใช้ความรุนแรง 1 ความรุนแรงต่อตนเอง นักเรียนจะมวี ิธีการปฏิบัตติ นอย่างไร 2 ความรุนแรงในเชิงระบบ 1 ใชก้ าํ ลงั ต่อสูก้ บั บุคคลน้นั 3 ความรุนแรงทางครอบครัว 2 ไม่พดู ไม่คุย และไม่ยงุ่ เก่ียวกบั บุคคลน้นั 4 ความรุนแรงระหวา่ งบุคคล 3 ใหแ้ งค่ ิดเก่ียวกบั ผลเสียจากพฤติกรรมดงั กล่าว 4 ปล่อยเป็นอิสระจะช่วยใหบ้ ุคคลดงั กล่าว 47. “ก๊กุ ถกู เพ่อื นชายจบั เน้ือตวั ขณะไม่ทนั ระวงั ” เกิดความผอ่ นคลายดีข้ึน ข้อความดงั กล่าวจดั อยู่ในลกั ษณะพฤติกรรม 51. สุรชัยไปเลยี้ งฉลองงานแต่งงานของเพอ่ื นและ ความรุนแรงแบบใด ดม่ื สุราไปหลายแก้วเพราะขดั ใจเพอื่ นไม่ได้ ขณะ ขบั รถกลบั บ้าน สุรชัยประสบอุบัตเิ หตุรถชนกบั 1 ความรุนแรงทางเพศ เสาไฟฟ้ า อาการสาหัส นักเรียนคดิ ว่าเพราะ 2 ความรุนแรงภายในกลุ่ม เหตุใดจงึ เกดิ เหตุการณ์ดงั กล่าวเกดิ ขึน้ 3 ความรุนแรงทางครอบครัว 1 เพราะ การดื่มสุราทาํ ใหเ้ กิดความประมาท 4 ความรุนแรงทางดา้ นเศรษฐกิจ 2 เพราะ การดื่มสุราทาํ ใหส้ มาธิส้นั ไม่สามารถ ควบคุมอวยั วะต่าง ๆ ได้ 48. สภาพครอบครัวลกั ษณะใดท่ีส่งผลให้มี 3 เพราะ การด่ืมสุรามีผลต่อการมองเห็นทาํ ให้ พฤตกิ รรมเส่ียงต่อการใช้ความรุนแรง ไม่สามารถคาดคะเนระยะทางได้ 1 ครอบครัวที่มีฐานะยากจน 4 เพราะ การดื่มสุราทาํ ใหส้ มองสงั่ งานอยา่ ง 2 ครอบครัวท่ีขาดผนู้ าํ ครอบครัว รวดเร็วทาํ ให้ขาดความระมดั ระวงั 3 ครอบครัวมีบรรยากาศการใชค้ วามรุนแรง 4 ครอบครัวที่ผนู้ าํ ไดร้ ับการศึกษาในระดบั ต่าํ 52. การรับข่าวสารในข้อใดทําให้ผ้รู ับข่าวสารเกดิ ความเครียดทางอารมณ์มากที่สุด 49. ข้อใดเป็ นผลกระทบของความรุนแรงที่มตี ่อ 1 การจบั กมุ คดีลกั ขโมย วยั รุ่นท่ีร้ายแรงทีส่ ุด 2 การฆาตกรรมโหดชาํ แหละศพ 1 เป็นโรคซึมเศร้า 3 การติดสารเสพติดของเดก็ วยั รุ่น 2 เกิดอาการหวาดระแวงไม่ไวใ้ จใคร 4 ขอ้ 2 และ 3 ถกู 3 เห็นวา่ เรื่องดงั กล่าวเป็นเรื่องธรรมดา 4 มีพฤติกรรมป่ าเถ่ือน เป็นอาชญากร 53. โรคในข้อใดท่เี กย่ี วข้องกบั การดื่มสุราโดยตรง 1 โรคเอดส์ 2 โรคตบั แขง็ 3 โรคหลอดเลือดหวั ใจ 4 ขอ้ 2 และ 3 ถูก
297 54. สถานการณ์ใดต่อไปนีจ้ ดั เป็ นสถานการณ์เสี่ยง 58. เพอื่ ให้ผู้ป่ วยได้รับอากาศบริสุทธ์ิ ควรปฏิบัติ 1 การเขา้ ดูเวบ็ ไซดล์ ามก 2 การเขา้ ไปอยใู่ นแหล่งสถานบนั เทิง อย่างไร 3 การคิดอยใู่ นอาคารเมื่อเกิดเพลิงไหม้ 1 ผายปอดใหผ้ ปู้ ่ วย 4 การไปเท่ียวต่างจงั หวดั โดยการโดยสารรถ 2 ใชพ้ ดั ช่วยพดั ผปู้ ่ วย ประจาํ ทาง 3 อยา่ ใหค้ นมุงลอ้ มผปู้ ่ วย 4 ใชผ้ า้ เช็ดหนา้ ปิ ดจมูกผปู้ ่ วย 55. ข้อใดให้ความหมายของการช่วยฟื้ นคนื ชีพผู้ 59. หลงั จากตรวจสอบความปลอดภยั ของสถานท่ี ประสบอุบัตเิ หตุได้อย่างสมบูรณ์ทสี่ ุด เกดิ เหตุแล้ว ผ้ใู ห้การช่วยเหลอื ควรปฏิบัตติ าม 1 การช่วยหา้ มเลือด ข้อใด 2 การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ 1 นาํ ผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุส่งโรงพยาบาล 3 การช่วยหายใจโดยเครื่องมือแพทยท์ ี่ 2 รีบขอความช่วยเหลือจากผทู้ ี่อยใู่ นเหตุการณ์ 4 การช่วยเหลือเบ้ืองตน้ เพอ่ื ใหผ้ บู้ าดเจบ็ ปลอดภยั 3 ลาํ ดบั ความสาํ คญั ข้นั ตอนก่อน–หลงั ในการ ก่อนนาํ ส่งสถานพยาบาล ใหก้ ารปฐมพยาบาล 4 ไม่มีขอ้ ใดถกู 56. ข้นั ตอนใดคอื ข้นั ตอนท่ีปฏิบัตหิ ลงั จากให้การ 60. ก่อนการปฏิบัตกิ ฬี าพลอง ควรบริหารร่างกาย ช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอุบตั เิ หตุด้วยวธิ ีการเป่ าปาก ในส่วนใด เพอ่ื ช่วยหายใจ 1 คอ 3 ขอ้ มือ 1 การตรวจชีพจร 2 ลาํ ตวั 4 ขอ้ 2 และ 3 ถูก 2 การเปิ ดทางเดินหายใจ 3 การเป่ าจมกู ช่วยหายใจ 61. ในกฬี าพลองข้ันตอนต่อจากการถวายบังคม 4 การปฏิบตั ิการนวดหวั ใจ คอื ข้ันตอนใด 1 การตีลูกไม้ 3 การเดินแปลง 2 การข้ึนพรหม 4 การกลบั หวั สนาม 57. ข้อใดคอื หลกั การสําคญั ทสี่ ุดในการปฐมพยาบาล ผู้ป่ วยทเี่ กดิ บาดแผลขนึ้ ในร่างกาย 62. ข้อใดคอื องค์ประกอบทีส่ ําคญั ของการตีลกู ไม้ 1 ถา้ กระดูกหกั ควรเขา้ เฝือก 1 ฝ่ ายรุกและฝ่ ายรับ 2 ถา้ ตกเลือดตอ้ งรีบหา้ มเลือดก่อน 2 คนดูและกรรมการ 3 ลา้ งแผลให้สะอาดดว้ ยน้าํ และสบู่ 3 ฝ่ ายรุกและกรรมการ 4 ควรแนะนาํ ใหผ้ ปู้ ่ วยฉีดยากนั บาดทะยกั 4 ฝ่ ายรับและกรรมการ
298 63. ข้อใดเรียงลาํ ดบั การแสองพลองได้ถูกต้อง 66. ถ้าหากสมโชคเกดิ อาการเจบ็ หน้าอกและเหนือ่ ย 1 ข้ึนพรหมนงั่ ถวายบงั คม ข้ึนพรหมยนื ท่ารํา มากขณะเต้นแอโรบิก สมโชคควรปฏิบัตติ น 2 ท่ารําข้ึนพรหมนงั่ ถวายบงั คมข้ึน พรหมยนื อย่างไร 3 ถวายบงั คมข้ึนพรหมนงั่ ข้ึนพรหมยนื 1 เตน้ ต่อไป ท่ารํา 2 ดมยาดม 4 ถวายบงั คมข้ึนพรหมยนื ท่าราํ ข้ึน 3 นอนควา่ํ กบั พ้ืน พรหมยนื 4 หยดุ พกั และรีบไปพบแพทย์ อ่านข้อความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาํ ถามข้อ 64–66 67. บุคคลใดต่อไปนีไ้ ม่ควรเข้าร่วมกจิ กรรมการเต้น สมโชคไม่เคยออกกาํ ลงั กายมาก่อนแต่เม่ือวนั แอโรบิก อาทิตยท์ ่ีแลว้ สมโชคดูรายการโทรทศั นท์ ี่รณรงคใ์ ห้ 1 จุ๋ม ปวดบริเวณตน้ คอ ออกกาํ ลงั กายดว้ ยการแอโรบิก สมโชคสนใจและ 2 จุก ปวดศีรษะและมีไข้ อยากไปเตน้ แอโรบิกท่ีสวนสาธารณะใกล้ ๆ บา้ น 3 จิ๋ว ทะเลาะกบั เพ่ือนในกลุ่ม 4 ขอ้ 1 และ 2 ถูก 64. สมโชคควรปฏิบัตสิ ่ิงใดก่อนออกกาํ ลงั กายแบบ 68. ในช่ัวโมงนันทนาการครูให้นักเรียนประดษิ ฐ์ แอโรบิก สิ่งของจากเศษวสั ดุมาคนละ 1 อย่าง นักเรียน 1 ตรวจสุขภาพ เลอื กประดษิ ฐ์กล่องใส่ของจากกล่องกระดาษ 2 อบอุ่นร่างกาย หากเพอ่ื นของนักเรียนต้องการทราบวธิ ีทํา 3 ทดสอบสมรรถภาพ นักเรียนควรปฏิบตั ติ นอย่างไร 4 ไม่มีขอ้ ใดถกู 1 ทาํ เป็นไม่สนใจ 2 สอนวธิ ีทาํ ทุกข้นั ตอน 65. สมโชคควรแต่งกายอย่างไรให้เหมาะสมกบั การ 3 บอกเพ่ือนใหไ้ ปถามครู เต้นแอโรบิก 4 บอกอุปกรณ์ท่ีตอ้ งใชแ้ ลว้ ใหเ้ พอื่ นไปทาํ เอง 1 สวมกางเกงผา้ ยดื 2 สวมรองเทา้ สน้ บาง 3 สวมชุดช้นั ในหลวม ๆ 4 ถุงเทา้ เสน้ ใยสงั เคราะห์
299 69. ถ้าหากในชุมชนของนักเรียนเกดิ ปัญหาเด็กใน 72. หนุ่ม หงายตวั ราบกบั ระดบั นํา้ เตะเท้าเหมอื น ชุมชนป่ วยเป็ นโรคไข้เลอื ดออก นักเรียนจะนํา ท่าวดั วา จากข้อความดงั กล่าวนักเรียนคดิ ว่า นนั ทนาการชุมชนท่นี ักเรียนได้ศึกษามาปรับใช้ หนุ่มกาํ ลงั ว่ายนํา้ ในท่าใด ในชุมชนอย่างไร จงึ จะป้ องกนั โรคไข้เลอื ดออกได้ 1 ท่ากบ ประสบความสําเร็จสูงสุด 2 ท่าวดั วา 1 ขายของท่ีระลึกแลว้ นาํ เงินมาช่วยครอบครัว 3 ท่าผเี ส้ือ ของเดก็ ท่ีป่ วยเป็นโรคไขเ้ ลือดออก 4 ท่ากรรเชียง 2 ขอเงินบริจาคจากภาคเอกชนมาช่วยค่า อ่านข้อความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาํ ถามข้อ 73–78 รักษาพยาบาลเดก็ ที่ป่ วยเป็นโรคไขเ้ ลือดออก 3 รณรงคโ์ ดยการจดั นิทรรศการหรือแสดงละคร รสรินเขา้ แข่งขนั การวา่ ยแบบผลดั ผสม ซ่ึง เพอ่ื กระตุน้ ใหค้ นในชุมชนป้ องกนั โรค รสรินตอ้ งวา่ ยน้าํ เป็นคนแรกและศิริพรตอ้ งวา่ ย ไขเ้ ลือดออก เป็นอนั ดบั ท่ี 3 4 ถกู ทุกขอ้ 73. รสรินต้องว่ายนาํ้ ในท่าใด 70. ถ้าหากนักเรียนได้รับหน้าท่เี ป็ นผู้จดั กจิ กรรม 1 ท่ากบ 3 ท่าผเี ส้ือ 2 ท่าวดั วา 4 ท่ากรรเชียง กฬี าในชุมชมของนักเรียน นักเรียนคดิ ว่าการจัด 74. รสรินต้องเริ่มต้นออกตวั ทบี่ ริเวณใด กจิ กรรมดังกล่าวจะเกดิ ประโยชน์ในชุมชน 1 ในน้าํ 3 บนแท่นกระโดด อย่างไร 2 ขอบสระ 4 บริเวณใดกไ็ ด้ 1 ช่วยสร้างความสามคั คี 2 ช่วยลดปัญหาอาชญากรรม 75. ศิริพรต้องว่ายนํา้ ในท่าใด 3 ทาํ ใหค้ นในชุมชนใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 1 ท่ากบ 3 ท่าวดั วา 2 ท่าผเี ส้ือ 4 ท่ากรรเชียง 4 ถูกทุกขอ้ 76. ศิริพรต้องเร่ิมต้นออกตวั ทบ่ี ริเวณใด 1 ในน้าํ 3 บนแท่นกระโดด 71. ในการแข่งขนั กฬี าว่ายนํา้ นักกฬี าว่ายนํา้ ทีมของ 2 ขอบสระ 4 บริเวณใดกไ็ ด้ โรงเรียนท่ีนักเรียนศึกษาอยู่กาํ ลงั ว่ายอยู่เป็ น อนั ดบั ที่ 2 นักเรียนควรปฏิบัตติ นอย่างไร 77. การแข่งขันดงั กล่าวจะสิ้นสุดเมอื่ นักกฬี า 1 ผวิ ปากเสียงดงั 2 ใชเ้ ครื่องขยายเสียง อนั ดบั สุดท้ายว่ายนํา้ ถงึ เส้นชัยในท่าใด 3 ส่งเสียงเชียร์และปรบมือ 1 ท่ากบ 3 ท่าผีเส้ือ 2 ท่าวดั วา 4 ท่ากรรเชียง 4 ส่งเสียงเชียร์ดว้ ยถอ้ ยคาํ ไมส่ ุภาพ
78. ข้อใดผิด 300 1 การกลบั ตวั ไม่ตอ้ งใหส้ ่วนใดสมั ผสั กบั ขอบ สระกไ็ ด้ 82.ถ้าหากในการแข่งขนั กฬี าว่ายนํา้ เพอ่ื นในทีมของ 2 นกั กีฬาวา่ ยน้าํ ตอ้ งเขา้ เสน้ ชยั ในช่องวา่ ยของ นักเรียนคนหน่ึงท้องเสีย ในฐานะทนี่ ักเรียนเป็ น ตนเอง หัวหน้าทีมจะมวี ธิ ีการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว 3 นกั กีฬาวา่ ยน้าํ ตอ้ งวา่ ยน้าํ ใหค้ รบระยะทางท่ี อย่างไร กาํ หนดในการแข่งขนั 1 ขอถอนตวั ออกจากการแข่งขนั 4 ขอ้ 1 และ 3 ถูก 2 บงั คบั ใหเ้ พื่อนคนน้นั ลงแข่งขนั 3 ลงแข่งขนั แทนเพ่อื นโดยไม่คาํ นึงถึงผลแพช้ นะ 79. ในการแข่งขนั กฬี าว่ายนํา้ ในท่ากรรเชียง ถ้า 4 บอกกรรมการวา่ เพือ่ นทอ้ งเสียใหย้ กเลิกการ กรรมการเป่ านกหวดี เสียงยาวคร้ังที่ 2 นักกฬี า แข่งขนั รอบดงั กล่าว ต้องปฏิบัตติ นอย่างไร 1 นกั กีฬาเขา้ ประจาํ ท่ี 83.นักเรียนคดิ ว่าการออกกาํ ลงั กายด้วยการเล่นกฬี า 2 นกั กีฬาเร่ิมทาํ การแข่งขนั จะเกดิ ผลดกี บั ร่างกายของนักเรียนอย่างไร 3 นกั กีฬาลงน้าํ เตรียมตวั แข่งขนั 1 ทาํ ใหม้ ีรูปร่างดี 4 นกั กีฬาลงชื่อเขา้ แข่งขนั ที่โตะ๊ กรรมการ 2 ทาํ ใหจ้ ิตใจเบิกบาน 3 ทาํ ใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรง 80. ในการทดสอบการตลี ูกไม้ หากนักเรียนไม่ปฏบิ ตั ิ 4 ถกู ทุกขอ้ ตามกฎระเบยี บทคี่ รูกาํ หนดจะเกดิ สิ่งใด 1 ไดค้ ะแนนการทดสอบไม่ดี 84. หลกั ในการออกกาํ ลงั กายเพอ่ื ให้เกดิ ประโยชน์ 2 ท่าในการรําพลองไม่สวยงาม สูงสุดควรจะปฏิบัตอิ ย่างไร 3 เพอื่ นไม่ชอบและไม่ใหเ้ ขา้ กลุ่ม 1 มีการวางแผนและการจดั เวลา 4 เกิดการบาดเจบ็ ในขณะการทดสอบ 2 ตอ้ งคาํ นึงถึงเส้ือผา้ ที่จะสวมใส่ 3 ตอ้ งคาํ นึงถึงเงินในกระเป๋ าของตนเอง 81. ไม้รําที่ 2 ในกฬี าพลองมชี ่ือว่าอะไร 4 ออกกาํ ลงั กายไดเ้ ลยไม่ตอ้ งคาํ นึงถึงอะไร 1 พกั ศอก 2 แนบกาย 85. ข้อใดถูก 3 ทิ้งหลงั วาดหนา้ 1 ไม่ควรเคล่ือนยา้ ยผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 4 ต่อขอ้ จากท่าคุมรํา โดยไม่จาํ เป็น 2 ควรรีบเคล่ือนยา้ ยผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ ส่งโรงพยาบาลโดยเร็วเพ่ือใหแ้ พทย์ รีบทาํ การรักษาอยา่ งทนั ท่วงที 3 ผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุจะรอดพน้ จาก อนั ตรายข้ึนอยกู่ บั อุปกรณ์เคร่ืองมือ แพทยท์ ี่ทนั สมยั 4 ถา้ ไม่สามารถตรวจจบั ชีพจรไดค้ วรรีบ นาํ ส่งโรงพยาบาลทนั ที
301 86. ข้นั ตอนการเต้นแอโรบิกข้นั ตอนใดที่มี 90. ข้อใดเป็ นความหมายของพฤตกิ รรม ช่วงเวลายาวนานท่ีสุด สุขภาพทเ่ี หมาะสมท่ีสุด 1 ข้นั แอโรบิก 1 การปฏิบตั ิท่ีส่งผลดีต่อสุขภาพ 2 ข้นั ผอ่ นคลาย 2 การปฏิบตั ิตนเม่ือป่ วยดว้ ยโรคติดต่อ 3 ข้นั ตอนการอบอุ่นร่างกาย 3 การปฏิบตั ิใด ๆ ที่เป็นการป้ องกนั โรค 4 ข้นั การพกั หลงั จากออกกาํ ลงั กาย 4 การกระทาํ ใด ๆ ที่ส่งผลตอ่ สภาวะ ทางสุขภาพของบุคคล 87. ในขณะออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก ถ้าหาก มอี าการจุกหน้าอก เวยี นศีรษะ นักเรียนควร 91. ข้อใดคอื วธิ ีการแก้ไขและป้ องกนั ปฏิบตั ติ นอย่างไร พฤตกิ รรมการใช้ความรุนแรงภายนอก 1 รีบดื่มน้าํ ทนั ที กลุ่มของวยั รุ่นได้ดที ี่สุด 2 รีบอาบน้าํ ทนั ที 1 ผปู้ กครองตอ้ งเพิ่มค่าใชจ้ า่ ยแก่บุตร 3 หยดุ และรีบไปพบแพทย์ หลานใหเ้ พียงพอ 4 เตน้ แอโรบิกต่อไปจนกวา่ จะหาย 2 ครอบครัวตอ้ งคอยเอาใจใส่และรับ ฟังปัญหาของวยั รุ่น 88. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการมี 3 สถานศึกษาตอ้ งสอดส่องติดตาม สมรรถภาพทางกายทดี่ ี พฤติกรรมของนกั เรียนอยา่ งใกลช้ ิด 1 ส่งเสริมใหเ้ กิดสุขภาพที่ดี 4 ครอบครัวตอ้ งคอยอบรมและกวดขนั 2 ปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนและการ ถึงพฤติกรรมของวยั รุ่นอยา่ งเคร่งครัด ทาํ งานเก่งกวา่ ผอู้ ่ืน 92. ข้อใดถูก 3 ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ ง 1 สื่อไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการ กระฉบั กระเฉงและมีประสิทธิภาพ แสดงออกของวยั รุ่น 4 ร่างกายมีพลงั งานสาํ รองพอที่จะ 2 ผกู้ ระทาํ ผดิ มกั มีอายนุ อ้ ยและมาจาก ปฏิบตั ิกิจกรรมในกรณีฉุกเฉิน ครอบครัวที่พ่อแม่มีการศึกษาสูง 89. “การยดื กลา้ มเน้ือและการแยกขอ้ ต่อส่วนต่าง ๆ” 3 ผกู้ ระทาํ ผดิ ส่วนใหญเ่ ป็นผทู้ ่ีมี จากข้อความดังกล่าวเป็ นการพฒั นาสมรรถภาพ ทางกายทางด้านใด การศึกษาต่าํ มีรายไดน้ อ้ ย ไม่มี 1 ความคล่องแคล่ววอ่ งไว อาชีพแน่นอน 4 ไม่มีขอ้ ใดถูก 2 ความแขง็ แรงของกลา้ มเน้ือ 3 ความยดื หยนุ่ หรือความอ่อนตวั 4 ความทนทานของระบบไหลเวยี นโลหิต
302 93. หวานเข้าไปทวงเงนิ หนูต่อหน้าเพอื่ น ๆ 97. ถ้าหากในชุมชนมเี ดก็ ท่ีใช้เวลาว่างไม่เกดิ ด้วยถ้อยคาํ ท่ีไม่สุภาพทําให้หนูโกรธจงึ ประโยชน์โดยการเล่นเกมและเสี่ยงต่อการตดิ เข้าทาํ ร้ายร่างกายหวาน เหตุการณ์ท่ี สารเสพตดิ นักเรียนจะมแี นวทางในการแก้ไข เกดิ ขนึ้ มาจากสาเหตุใด ปัญหาอย่างไร 1 หวาน ไม่เขา้ ใจหนู 1 บอกพอ่ แม่ของเดก็ 2 หนู ใจร้อนไม่ฟังเหตุผล 2 ไม่สนใจเพราะไม่ใช่เรื่องของตน 3 หนูต้งั ใจจะโกง ไม่คืนเงิน 3 แจง้ ตาํ รวจใหม้ าตรวจบริเวณชุมชน 4 หวานขาดทกั ษะในการส่ือสารที่สร้างสรรค์ 4 รณรงคใ์ หม้ ีการแข่งขนั กีฬาในชุมชน 94. เมอื่ ผ้ชู ่วยเหลอื ตรวจดูระดับความ 98. นันทนาการชุมชนมปี ระโยชน์อย่างไร 1 ส่งเสริมใหค้ นในชุมชนสร้างเสริมสุขภาพอนามยั รู้สึกตวั ของผู้ประสบอุบัตเิ หตดุ ้วยการ 2 ส่งเสริมใหค้ นในชุมชนมีฐานะและความเป็นอยู่ สอบถามแล้ว ลาํ ดบั ต่อไปท่ีผ้ชู ่วยเหลอื ที่ดีข้ึน ควรปฏิบัตคิ อื ข้อใด 3 ส่งเสริมใหใ้ นชุมชนอนุรักษศ์ ิลปวฒั นธรรม 1 ตรวจระดบั ความรู้สึกตวั ประเพณีอนั ดีงามในชุมชน 2 จดั ท่าทางการนอนใหถ้ ูกตอ้ ง 4 ขอ้ 1 และ 3 ถกู 3 เปิ ดทางเดินหายใจผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 4 ทาํ การช่วยหายใจดว้ ยวธิ ีการเป่ าปาก 99. ซีพอี าร์ (CPR) คอื อะไร 95. ผ้ชู ่วยเหลอื ควรจดั ท่าทางผ้ปู ระสบ 1 การหา้ มเลือดดว้ ยการขนั ชะเนาะ อุบัตเิ หตุอย่างไรเพอื่ ให้เหมาะสมกบั การ 2 การช่วยหายใจและการนวดหวั ใจ ช่วยเหลอื มากที่สุด 3 การเคลื่อนยา้ ยผบู้ าดเจบ็ อยา่ งถกู วิธี 1 นอนตะแคงหนั ไปทางผชู้ ่วยเหลือ 4 การเขา้ เฝือกในผบู้ าดเจบ็ ท่ีกระดูกหกั 2 นอนหงายและกางแขนและขาท้งั สองออกจากกนั 3 จดั แบบใดก็ไดเ้ พ่ือใหผ้ ชู้ ่วยเหลือไดช้ ่วยเหลือ 100.เมอื่ ผ้ชู ่วยเหลอื ตรวจดูระดับความ อยา่ งสะดวกท่ีสุด รู้สึกตัวของผู้ประสบอุบัตเิ หตุด้วยการ สอบถามแล้ว ลาํ ดับต่อไปที่ผ้ชู ่วยเหลอื 4 นอนหงาย แขนวางแนบลาํ ตวั ลกั ษณะเหมือน ควรปฏิบัตคิ อื ข้อใด ท่านอนหงายปกติ 1 ตรวจระดบั ความรู้สึกตวั 2 จดั ท่าทางการนอนใหถ้ ูกตอ้ ง 96. “ผแู้ ข่งขนั จะตอ้ งยนื อยใู่ นน้าํ และหนั หนา้ เขา้ หา 3 เปิ ดทางเดินหายใจผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ ขอบสระทางดา้ นปล่อยตวั มือท้งั สองจบั ขอบ 4 ทาํ การช่วยหายใจดว้ ยวธิ ีการเป่ าปาก สระหรือราวเหลก็ ” การปฏิบัตดิ ังกล่าวเป็ นการ ปล่อยตวั ของท่าใด 1 ท่ากบ 3 ท่าผเี ส้ือ 2 ท่าวดั วา 4 ท่ากรรเชียง
303 ตอนที่ 2 นักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ (ข้อละ 10 คะแนน) 1. นักเรียนคดิ ว่าพ่อแม่มอี ทิ ธิพลต่อการเปลย่ี นแปลงของวยั รุ่นอย่างไร แนวคาํ ตอบ พ่อแม่เป็นบคุ คลสาํ คัญในการอบรมส่ังสอนและเป็นแบบอย่างท่ีดี เช่น การมีพฤติกรรมที่เหมาะสม การ บริโภค การใช้เงิน สิ่งของและเคร่ืองใช้ การดูแลรักษาสาธารณสมบัติ และการแบ่งปันของส่วนรวม ส่งผลให้ วัยร่ ุนยึดถือเป็ นแบบอย่างของตน 2. นักเรียนมแี นวทางในการป้ องกนั และแก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครัวอย่างไรบ้าง แนวคาํ ตอบ 1. ควรแสดงอารมณ์และความรู้สึกท่ีแท้จริงของตนเองอย่างตรงไปตรงมา 2. ควรให้โอกาสซึ่งกันและกันในการชีแ้ จงเหตผุ ล 3. พดู ถึงแต่สิ่งที่ทาํ ให้เกิดปัญหาท่ีแท้จริงในปัจจุบัน 4. ใช้คาํ พูดส่ือสารที่นุ่มนวล สุภาพ และสื่อสารให้เข้าใจในประเดน็ ปัญหาท่ีตรงกัน 5. ยึดหลกั การประนีประนอม สมาชิกในครอบครัวจะต้องรู้จักประนีประนอมให้แก่กันและกนั 3. การตรวจสภาพความรู้สึกตวั ของผ้ปู ระสบอุบัตเิ หตใุ นเบอื้ งต้นควรทําอย่างไร แนวคาํ ตอบ ตรวจสอบโดยใช้การเรียกช่ือ หรือการสอบถาม รวมท้ังการให้การกระต้นุ ความรู้สึก เช่น คุณเป็นอะไร คุณ เป็นอย่างไรบ้าง หรือการจับบ่าเขย่าเบา ๆ 4. ยกตวั อย่างนันทนาการชุมชนที่นักเรียนพบในชุมชมใกล้บ้านของนักเรียนอย่างน้อย 5 ตวั อย่าง แนวคาํ ตอบ สวนสาธารณะ ห้องสมดุ ประชาชน สวนหย่อม สนามกีฬา และศูนย์นันทนาการ 5. เพอ่ื ความปลอดภยั ในการป้ องกนั อุบัตเิ หตุจากการว่ายนํา้ ควรปฏิบตั ติ นอย่างไร แนวคาํ ตอบ 1. ปฏิบัติตามกฎและระเบียบของการใช้สระว่ายนา้ํ อย่างเคร่งครัด 2. ควรอบอุ่นร่างกายก่อนลงสระว่ายนา้ํ 3. ไม่หยอกล้อเล่นกันในสระว่ายนา้ํ หรือแกล้งตะโกนขอความช่วยเหลือ 4. ไม่ควรว่ายนา้ํ หากมีร่างกายท่ีอ่อนเพลีย 5. ไม่ควรว่ายนา้ํ หากดื่มสุราหรือเครื่องดื่มท่ีมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
304 คะแนนท่ีได้ คะแนนท่ไี ด้รับจากการทดสอบความรู้ ร้อยละของคะแนน _____________ ครูผสู้ อน หมายเหต:ุ แบบทดสอบปลายภาค ครู/ผสู้ อนสามารถคดั สาํ เนาแบบทดสอบไดจ้ ากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
305 5 ใบความรู้ ใบงาน และใบกจิ กรรมการเรียนรู้ ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 เป็ นหลกั สูตรที่มุ่งเนน้ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ี คุณภาพตามมาตรฐานที่กาํ หนด เพื่อช่วยให้ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะสําคญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ท่ีมี เป้ าหมายเพ่ือการดาํ รงสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพและการพฒั นาคุณภาพชีวิตของบุคคล ครอบครัว และ ชุมชนให้ยงั่ ยืน โดยผ่านมาตรฐานการเรียนรู้เป็ นข้อกาํ หนดคุณภาพของผูเ้ รียนท้ังด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม โดยผ่านองคค์ วามรู้หลกั 5 สาระ และมีการกาํ หนดมาตรฐาน การเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดข้ึนหลังจากการเรี ยนรู้แต่ละสาระ รวม 6 ข้อ ประกอบด้วย สาระท่ี 1 การ เจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ประกอบดว้ ยมาตรฐานขอ้ พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ สาระท่ี 2 ชีวิตและครอบครัว ประกอบดว้ ยมาตรฐานขอ้ พ 2.1 เขา้ ใจและเห็น คุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทกั ษะในการดาํ เนินชีวิต สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ประกอบด้วยมาตรฐานขอ้ พ 3.1 เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา และมาตรฐานขอ้ พ 3.2 รักการออกกาํ ลงั กาย การเล่นเกม และการเล่น กีฬา ปฏิบตั ิเป็ นประจาํ อย่างสม่าํ เสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ําใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการ แข่งขนั และช่ืนชมในสุนทรียภาพของการกีฬา สาระท่ี 4 การสร้ างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้ องกัน โรค ประกอบดว้ ยมาตรฐานขอ้ พ 4.1 เห็นคุณค่าและ มีทกั ษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดาํ รงสุขภาพ การ ป้ องกนั โรค และการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ และสาระที่ 5 ความปลอดภัยในชีวิต ประกอบดว้ ย มาตรฐานขอ้ พ 5.1 ป้ องกนั และหลีกเล่ียงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ การใชย้ า สารเสพ ติด และความรุนแรง
306 ใบงานที่ 1 เรื่อง หน่วยการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คาํ ชี้แจง: 1. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5–6 คน เลือกประธานและเลขานุการกลุม่ 2. ร่วมกนั วิเคราะห์และอภิปรายเพื่อสรุปประเดน็ คาํ ถามต่าง ๆ ท่ีกาํ หนดไวใ้ นตารางใบงานท่ี 1 3. บนั ทึกสรุปผลการวิเคราะห์และอภิปรายผลลงในตารางใบงานที่ 1 4. นาํ เสนอผลการวิเคราะห์และอภิปรายหนา้ ช้นั เรียน ประเดน็ คาํ ถาม สรุปความคดิ เห็นของสมาชิกกล่มุ 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ตาม ____(_ต_ัว_อ_ย_่า_ง_แ_น__ว_ค_าํ _ต_อ_บ__:_ป_ร_ะ_ก__อ_บ_ด_้ว_ย_อ__ง_ค_์ค_ว_า_ม_ร_ู้ห__ล_กั ___5___ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ส__าร_ะ__ไ_ด_้แ_ก__่ ________________________________________ พทุ ธศกั ราช 2551 ประกอบดว้ ยองคค์ วามรู้ กี่ ____ส_า_ร_ะ_ท__ี่ 1__ก_า_ร_เจ__ริ_ญ_เ_ต_ิบ_โ_ต_แ__ล_ะ_พ_ัฒ__น_า_ก_า_ร_ข_อ__ง_ม_น_ุษ__ย_์ _____ สาระ อะไรบา้ ง ____ส_า_ร_ะ_ท__ี่ 2__ช_ีว_ิต_แ_ล__ะ_ค_ร_อ_บ__ค_ร_ัว________________________ ____ส_า_ร_ะ_ท__ี่ 3__ก_า_ร_เค__ล_ื่อ_น_ไ_ห__ว_ก__าร__อ_อ_ก_ก_าํ_ล_ัง_ก__าย__ก_า_ร_เ_ล_่น_เ_ก_ม___ _____________ก_ีฬ_า_ไ_ท__ย_แ_ล_ะ__ก_ีฬ_า_ส_า_ก_ล____________________ ____ส_า_ร_ะ_ท__ี่ 4__ก_า_ร_ส_ร_้ า_ง_เ_ส_ร_ิม_ส__ุข_ภ_า_พ__ส_ม_ร_ร_ถ__ภ_า_พ__แ_ล_ะ_ก_า_ร_____ _____________ป_้ อ_ง_ก_ัน__โ_ร_ค_____________________________ สาระที่ 5 ความปลอดภัยในชีวิต) 2. นกั เรียนควรเกิดมาตรฐานการเรียนรู้อะไรบา้ ง ____(_ต_ัว_อ__ย_่า_ง_แ_น_ว_ค_าํ_ต_อ__บ_:_ห__ล_งั _ก_า_ร_เร_ีย_น__ร_ู้ส_า_ร_ะ_ท_่ี_1__ค_ว_ร_ม_ี ____ หลงั การเรียนรู้ในกลุ่มสาระที่เป็นองคค์ วามรู้ _ค_ว_า_ม_เข__้า_ใจ__ธ_ร_ร_ม_ช_า_ต_ิข__อ_ง_ก_า_ร_เจ_ร_ิ ญ__เ_ต_ิบ_โ_ต_แ_ล__ะ_พ_ัฒ__น_า_ก_า_ร_ข_อ__ง__ หลกั ของกลุ่มสุขศึกษาและพลศึกษา _ม_น_ุษ__ย์_____________________________________________ ____ห__ล_งั _ก_า_ร_เ_รี_ย_น_ร_ู้ส_า_ร_ะ_ท__่ี 2__ค_ว_ร_ม_ีค__ว_า_ม_เข_้_าใ_จ_แ__ล_ะ_เห__็น_ค_ณุ__ค_่า__ _ข_อ_ง_ต_น__เอ_ง__ค_ร_อ_บ_ค__ร_ัว_เ_พ_ศ_ศ_ึ_ก_ษ_า_แ__ล_ะ_ม_ีท_ั_ก_ษ_ะ_ใ_น_ก__า_ร_ด_าํ _เน_ิ_น____ _ช_ีว_ิต__ห_ล__งั _ก_า_ร_เร_ีย_น__ร้_ูส_า_ร_ะ_ท_ี่_3_:_1_._ค_ว_ร_เ_ข_้า_ใ_จ_ม__ีท_ัก_ษ__ะ_ใ_น_ก_า_ร____ _เค_ล_่ือ__น_ไ_ห_ว__ก_ิจ_ก__ร_ร_ม_ท_า_ง_ก_า_ย__ก_า_ร_เล_่น__เก__ม_แ_ล__ะ_ก_ีฬ_า___________ _2_. _รั_ก_ก_า_ร_อ_อ_ก_ก__าํ _ล_งั _ก_า_ย_ก_า_ร_เ_ล_่น_เ_ก_ม__แ_ล_ะ_ก__าร_เ_ล_่น__ก_ีฬ_า__ป_ฏ_ิบ__ัต_ิ __ _เป_็น__ป_ร_ะ_จ_าํ_อ_ย_่า_ง_ส__ม_า่ํ _เส__ม_อ__ม_ีว_ิน_ัย__เค__าร_พ__ส_ิท__ธ_ิ ก_ฎ__ก_ต__ิก_า_ม_ีน__า้ํ _ใ_จ_ _น_ัก_ก_ีฬ__า_ม_ีจ_ิต__ว_ิญ_ญ__า_ณ_ใ_น__ก_า_ร_แ_ข_่ง_ข_นั__แ_ล__ะ_ช_่ืน_ช_อ__บ_ใ_น__________ _ส_ุน_ท__รี_ย_ภ_า_พ_ข_อ__ง_ก_า_ร_ก_ีฬ_า__ห_ล_งั_ก_า_ร_เ_ร_ีย_น_ร_ู้ส__า_ร_ะ_ท_ี่ 4__ค_ว_ร_เ_ห_็น_____ _ค_ุณ_ค_่_าแ__ล_ะ_ม_ีท_ัก__ษ_ะ_ใ_น_ก__าร__ส_ร_้ า_ง_เส__ริ_ม_ส_ุข_ภ__า_พ_ก__าร__ด_าํ _ร_ง_ส_ุข_ภ_า_พ___ _ก_า_ร_ป_้ อ_ง_ก_นั__โ_ร_ค__แ_ล_ะ_ก_า_ร_ส_ร_้ า_ง_เ_ส_ร_ิม_ส__ม_ร_ร_ถ_ภ__าพ__เพ__่ือ_ส_ุข_ภ__า_พ____ _ห_ล_งั _ก_า_ร_เ_รี_ย_น_ร_ู้ส__าร_ะ__ท_ี่ 5__ค_ว_ร_ร_ู้จ_ัก__ป_้ อ_ง_ก_นั__แ_ล_ะ_ห_ล__ีก_เล__ี่ย_ง_ป_ัจ_จ_ัย___ _เส_่ีย_ง__พ_ฤ_ต__ิก_ร_ร_ม_เ_ส_่ีย_ง_ต_่อ_ส__ุข_ภ_า_พ__อ_ุบ__ตั _ิเห__ต_ุ ก__า_ร_ใช__้ย_า_ส_า_ร_เ_ส_พ__ต_ิด_ _แ_ล_ะ_ค_ว_า_ม_ร_ุน__แ_ร_ง_)____________________________________
307 ประเดน็ คาํ ถาม สรุปความคดิ เห็นของสมาชิกกลุ่ม 3. การศึกษาในองคค์ วามรู้หลกั ของกลุ่มสาระ การ ____(_พ_ิจ_า_ร_ณ_า_จ_า_ก_ค_าํ _ต_อ_บ__ท_่ีใ_ช_้ ห_ล_กั _เ_ห_ต_แุ _ล__ะ_ผ_ล_ป_ร_ะ_ก_อ_บ_ใ_น__ก_า_ร เรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาท่ีกาํ หนดไว้ ใน _ต_อ_บ_ค_าํ _ถ_า_ม_ข_อ_ง_น_ัก__เร_ี ย_น_)____________________________ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ______________________________________________ พทุ ธศกั ราช 2551 จะประสบผลสาํ เร็จอยา่ งดี ______________________________________________ นกั เรียนตอ้ งมีแนวทางปฏิบตั ิอยา่ งไรบา้ ง ______________________________________________ ______________________________________________ 4. แหล่งความรู้ใดบา้ งที่จะช่วยสนบั สนุนการเรียนรู้ ____(_พ_ิจ_า_ร_ณ_า_จ_า_ก_ค_าํ _ต_อ_บ_ข_อ__ง_น_ัก_เร_ีย_น__ต_วั_อ_ย_่า_ง_เ_ช่_น_ต__าํ ร_า_____ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เ_อ_ก_ส_า_ร__บ_ท_ค_ว_า_ม__น_ิต_ย_ส_า_ร__แ_ห_ล_่ง_ค_ว_า_ม_ร_ู้ใ_น_ท_้อ__งถ__่ิน_ป__ร_าช__ญ_์ใ_น_ ใหป้ ระสบความสาํ เร็จไดม้ ากที่สุด ท_้_อ_ง_ถ_ิ่น_แ__ล_ะ_ก_า_ร_ค_้ น_ค_ว_้ า_โ_ด_ย_อ_า_ศ_ัย_ก_า_ร_ส_ื บ_ค_้_น_จ_า_ก_ร_ะ_บ_บ__เค_ร_ื อ_ข_่_าย อ_ิน__เท_อ__ร์ _เน_ต็ _)_____________________________________ ______________________________________________ ______________________________________________ กลุ่มท่ี ________ 1. _____________________________ เลขที่ _____ ประธานกลุ่ม 2. _____________________________ เลขท่ี _____ สมาชิก 3. _____________________________ เลขที่ _____ สมาชิก 4. _____________________________ เลขท่ี _____ สมาชิก 5. _____________________________ เลขที่ _____ สมาชิก 6. _____________________________ เลขท่ี _____ เลขานุการกลุ่ม วนั ที่ ___________ / ____________ / _________
308 ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง การจัดแบ่งหน่วยการเรียนรู้และการวดั ประเมนิ ผล ตลอดจนเกณฑ์การตดั สินผลการเรียนในกล่มุ สาระการ เรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาและอภิปรายเกี่ยวกบั การจดั แบ่งหน่วยการเรียนรู้ และการวดั ประเมินผลการเรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 1. การแบ่งหน่วยการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) หมายเหตุ 1 เรียนรู้ตวั เรา 10 – เวลาเรียนรวม 80 ชว่ั โมง/ปี 2 ชีวติ และครอบครัว 10 การศึกษา (2 ภาคเรียน) 3 4 ใส่ใจสุขภาพ 12 – 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์/ภาค 5 ชีวิตปลอดภยั การศึกษา/1 หน่วยกิต หรือ 2 – เพ่ิมพนู ทกั ษะการเคล่ือนไหว 12 ชว่ั โมง สอบกลางภาค/สอบปลายภาค รวม 32 4 80 2. การจัดหน่วยการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาในแต่ละภาคการศึกษา ข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมและสภาพการจดั การเรียนการสอนของสถานศึกษา 3. เกณฑ์การตดั สินผลการเรียนรู้สุขศึกษา 20 คะแนน 70 คะแนน 10 คะแนน 3.1 คะแนนคิดเป็นสดั ส่วน 70:30 แบ่งเป็น 10 คะแนน คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน คะแนนคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 10 คะแนน คะแนนงานภาคปฏิบตั ิ 30 คะแนน คะแนนจากโครงงาน คะแนนสอบยอ่ ย คะแนนสอบปลายภาค คะแนนสอบกลางภาค หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการวดั ความรู้จากการศึกษาดา้ นความรู้
309 คะแนนคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการวดั จากแบบ สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รียน โดยจดั เกบ็ ทุกคร้ังในกิจกรรมการเรียนการสอน ท้งั เป็นรายบุคคลและรายกลุม่ รวมท้งั การเกบ็ ขอ้ มูลดา้ นความสม่าํ เสมอของการเขา้ เรียน คะแนนภาคปฏิบัติ หมายถึง คะแนนของการจดั ทาํ งานส่งครูอยา่ งสม่าํ เสมอ ถูกตอ้ ง คะแนนจากโครงงาน หมายถึง คะแนนท่ีไดจ้ ากการทาํ โครงงานที่นกั เรียนไดร้ ับมอบหมายหรือชิ้นงานท่ี ไดร้ ับคดั เลือกเกบ็ ในแฟ้ มสะสมผลงาน คะแนนสอบย่อย หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการวดั ความรู้ในรายชวั่ โมง คะแนนสอบปลายภาค หมายถึง คะแนนท่ีไดจ้ ากการทดสอบความรู้ หลงั จากที่นกั เรียนไดศ้ ึกษา หน่วยการ เรียนรู้หน่วยสุดทา้ ยจบลง 3.2 การคิดอตั ราเวลาเรียนกบั การเขา้ รับการประเมินผล – นกั เรียนที่มีสิทธิในการเขา้ รับการประเมินผลปลายภาคเรียนตอ้ งมีเวลาเรียนต้งั แต่ 80% ข้ึนไป โดยคิด จาก 1) เวลาเรียน ภาคเรียนท่ี 1ใชเ้ วลาประมาณ 20 ชว่ั โมง/ภาค ร้อยละ 80 ของเวลา=~ 16 ชวั่ โมง/ภาค 2) เวลาเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ใชเ้ วลาประมาณ 20 ชวั่ โมง/ภาค ร้อยละ 80 ของเวลา =~ 16 ชวั่ โมง/ภาค 4. เกณฑ์การตดั สินผลการเรียนรู้พลศึกษา 4.1 คะแนนคิดเป็นสดั ส่วน 70:30 แบ่งเป็น รายการทเ่ี กบ็ คะแนน คะแนนระหว่างภาค คะแนนปลายภาค รวม 1. ความรู้ 10 5 15 2. คุณธรรมและจริยธรรม 10 10 20 3. ทกั ษะ (ปฏิบตั ิ) 20 5 25 4. สมรรถภาพทางกาย 20 5 25 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 10 5 15 70 30 100 รวม คะแนนสมรรถภาพทางกาย หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการใชแ้ บบทดสอบในการวดั สมรรถภาพทางกาย คะแนนคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการประเมินผลดา้ นคุณลกั ษณะต่าง ๆ ที่ สถานศึกษาหรือครูไดต้ ้งั ไว้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 505
Pages: