Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Published by suphanat.sbb, 2021-04-08 02:44:32

Description: แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Search

Read the Text Version

160 ห้องปฏบิ ัติการตรวจสอบคุณภาพเครื่องสําอางแห่งอาเซียน (ASEAN Cosmetic Reference Laboratory: ACRL) เมอ่ื เดอื นธันวาคม พ.ศ. 2552 5. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพิม่ เติม ชั่วโมงท่ี 38: หัวข้อท่ี 3.3 แนวทางการเลอื กรับสื่อทเี่ หมาะสม 6. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง ในหวั ขอ้ ที่ 3.3 ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 7. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพิม่ เติม ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมระดมความคิดเห็นโดย กลุ่มท่ี 1 แนวทางการป้ องกนั ปัญหาจากอิทธิพลของสื่อส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มที่ 2 แนวทางการป้ องกนั ปัญหาจากอิทธิพลของสื่อส่งผลใหเ้ กิดปัญหาความรุนแรง 2. แตล่ ะกลุ่มผลดั เปลี่ยนกนั ส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ตามประเดน็ ที่ กาํ หนด โดยใหเ้ พ่ือน ๆ กลุ่มอ่ืนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบตั ิกิจกรรมดงั กล่าว และ ครูใหค้ วามรู้และคาํ แนะนาํ เพ่มิ เติม ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกนั เล่นเกมลองจดั ลาํ ดบั รายการโทรทัศน์ (ดูรายละเอยี ดได้จากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนที่19 เฟรมที่ 447) โดยใช้เวลาตามทกี่ าํ หนด 2. ครูเฉลยคาํ ตอบการนาํ ชื่อรายการโทรทศั น์ รายการท่ี 1–10 วางใต้สัญลกั ษณ์แสดงการจัดลาํ ดบั ความเหมาะสมของเนือ้ หาส่ือทถ่ี ูกต้องให้นักเรียนทราบ ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก ช่ัวโมงที่ 39–40: การทดสอบกลางภาค รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 2. ครูอธิบายระเบียบและขอ้ ตกลงในการทดสอบกลางภาค รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษา ม. 3ให้ นกั เรียนไดเ้ ขา้ ใจและซกั ถามขอ้ สงสยั 3. ใหน้ กั เรียนทุกคนทาํ แบบทดสอบกลางภาค รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ตาม เวลาท่ีกาํ หนดให้ 4. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 4. เครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อสุขภาพ และการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มา ล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามที่สงสัยมาพดู คุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป 5. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมจดั ทําสมดุ ภาพ จากใบกจิ กรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบ ฝึ กทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 นอกเวลาเรียน โดยนํามาเสนอในการ เรียนคร้ังต่อไป

161 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเร่ือง อิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรงตามที่ ไดศ้ ึกษาผา่ นมาไปถ่ายทอดใหแ้ กส่ มาชิกในครอบครัวของตนเอง เพื่อเป็นการช่วยเสริมสร้าง ความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องดงั กล่าวใหถ้ กู ตอ้ งและสามารถนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ อยา่ งเหมาะสมต่อไป 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพหรือข่าวหรือเหตุการณ์ท่ีสื่อนาํ เสนอ เป็นตวั อยา่ งการแบ่งประเภทของสื่อในแต่ละ ลกั ษณะ 2. ใบกิจกรรมเร่ือง ระดมความคิดเห็น 3. ใบกิจกรรมเร่ือง จัดทาํ สมดุ ภาพ 4. แบบทดสอบกลางภาค รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

162 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 20 เคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ทส่ี ่งผลต่อสุขภาพและการเกดิ อุบัตเิ หตุ สาระการเรียนรู้ท่ี 5: ความปลอดภัยในชีวิต ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสําคญั แอลกอฮอล์มีลักษณะเป็ นของเหลวที่ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น แบ่งออกเป็ น 2 ชนิ ด คือ เมทิลแอลกอฮอลแ์ ละเอธิลแอลกอฮอล์ ซ่ึงแอลกอฮอลท์ ี่เป็ นส่วนผสมในเคร่ืองดื่มคือ เอธิลแอลกอฮอล์ ซ่ึงเครื่องดื่มแต่ละชนิดจะมีปริมาณของแอลกอฮอลท์ ี่แตกต่างกนั เคร่ืองด่ืมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไดแ้ ก่ ไวน์ แชมเปญ สาโท อุ กระแช่ น้าํ ตาลเมา สาเก เบียร์ วิสก้ี บรั่นดี คอนยคั วอดกา้ การด่ืมเคร่ืองด่ืมท่ีมีส่วนผสมของแอลกอฮอลจ์ ะทาํ ใหผ้ ดู้ ื่มสนุกสนานรื่นเริง มีเกิดอาการมึนเมา ขาดสติสัมปชญั ญะ การตดั สินใจผิดพลาด เกิดความคึกคะนอง กลา้ เสี่ยงอนั ตราย เช่น การขบั รถเร็ว ขบั รถแข่ง ก่อใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุอยา่ งรุนแรงได้ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • วเิ คราะห์ความสมั พนั ธข์ องการด่ืมเครื่องด่ืมที่มีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ ( 5.1 ม. 3/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย ลกั ษณะ ชนิด และระบุผลกระทบของการดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลท์ ี่มี ผลกระทบต่อสุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั เคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอลก์ บั ผอู้ ื่นดว้ ยความสนใจใฝ่ รู้ (A) 3. ส่ือสารเพื่ออธิบายความรู้และวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของการดื่มเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพ และการเกิดอุบตั ิเหตุใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ข้ึนไป – ความหมาย ลกั ษณะ ชนิด การอภิปราย/การสร้างแผนที่ และระบุผลกระทบของการ ความคิด*

163 ด่ืมเครื่องด่ืมแอลกอฮอลท์ ี่มี • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน • ตามดุลยพินิจของครู ผลกระทบต่อสุขภาพและ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การเกิดอุบตั ิเหตุ พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ ม. 3* การปฏิบตั ิกิจกรรมจัดทาํ สมดุ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน ภาพ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ ม. 3* การปฏิบตั ิกิจกรรมวิเคราะห์ สรุปผลกระทบของการด่ืม เคร่ื องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพและ การเกิดอุบัติเหตุในรูปแบบแผน ท่ีความคิด *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 ของนกั เรียน ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 4. เครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกดิ อุบตั เิ หตุ 4.1 ลกั ษณะของเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ 4.2 ผลกระทบของการด่ืมเครื่องด่ืมแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพ 4.3 ผลกระทบของการดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอลต์ ่อการเกิดอุบตั ิเหตุ

6. แนวทางบูรณาการ 164 สงั คมศึกษาฯ  ศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง เคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอลผ์ สมท่ีส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของบุคคลในชุมชน ภาษาไทย  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจในรูปแบบของแผนที่ ความคิด เกี่ยวกบั ผลกระทบของการด่ืมเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอลต์ ่อ วทิ ยาศาสตร์  สุขภาพและการเกิดอุบตั ิเหตุ สืบคน้ คน้ ควา้ เก่ียวกบั ความสมั พนั ธข์ องปัญหาสุขภาพและการเกิด อุบตั ิเหตุสืบเน่ืองจากการด่ืมเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอลข์ องบุคคล 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 41: หัวข้อท่ี 4.1 ลกั ษณะของเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ และหัวข้อที่ 4.2 ผลกระทบของการดืม่ เครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ต่อสุขภาพ ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา เพอ่ื ทบทวนความรู้ 2. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ผลดั เปลยี่ นกนั ออกมานําเสนอผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมจัดทําสมดุ ภาพ ตามท่ีได้รับมอบหมายในการเรียนคร้ังท่ีผ่านมา โดยให้เพอ่ื น ๆ ร่วมแสดงความคดิ เห็น ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 4. เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกดิ อุบตั เิ หตุ ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังท่ีผ่านมาหน้า ช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง เครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ ในหวั ขอ้ 4.1และ 4.2 โดยใชภ้ าพประกอบ คาํ อธิบาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม.3 3. ครูเล่าเรื่องน่ารู้ในหัวข้อเรื่อง โรคพษิ สุราเรื้อรัง เกย่ี วกบั ลกั ษณะอาการสําคญั ของโรคพษิ สุรา เรื้อรัง (alcoholism) เพอ่ื เสริมความรู้ให้แก่นกั เรียนนอกเหนือจากความรู้ในบทเรียน ดงั นี้ – โรคพษิ สุราเรื้อรัง (alcoholism) เป็ นโรคท่ีมลี กั ษณะสําคญั คอื ผ้ปู ่ วยจะมคี วามกระหาย อย่างมากทจี่ ะด่มื สุรา ควบคุมตนเองไม่ได้ เมื่อไม่ได้ดมื่ จะเกดิ อาการลงแดง ไม่ยอมรับว่า ตนเองเป็ นโรค ต้องอาศัยคนรอบข้างหรือครอบครัวคอยสังเกตอาการ โดยโรคนีเ้ ป็ นโรคที่มี การเปลย่ี นแปลงอย่างช้า ๆ จนกระท่ัง เกดิ อาการทางระบบประสาท แต่ท้งั นีก้ ส็ ามารถรักษา ให้หายได้ด้วยการหยุดสุราซึ่งต้องอาศัยความเข้มแข็งและอดทนของผู้ป่ วยอย่างหนัก เนื่องจากจะเกดิ อาการลงแดงจากข้ันเลก็ น้อยจนอาจถงึ ข้ันรุนแรงได้ ดังน้ันผ้ปู ่ วยจึงควรอยู่ใน ความดูแลของแพทย์จงึ จะดีที่สุด (ดูรายละเอยี ดได้จากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษา และพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 20 เฟรมที่ 458)

165 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพิ่มเติม ช่ัวโมงที่ 42: หัวข้อท่ี 4.3 ผลกระทบของการด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ต่อการเกดิ อุบัตเิ หตุ 5. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง เครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ ในหวั ขอ้ 4.3 โดยใชภ้ าพประกอบคาํ อธิบาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม.3 6. ครูเล่าเรื่องน่ารู้เกยี่ วกบั ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกบั การบ่งบอกอาการและผลต่อร่างกายของผู้ ดืม่ เพอื่ เสริมความรู้ให้แก่นักเรียนนอกเหนือจากความรู้ในบทเรียน ดงั นี้ – ระดับแอลกอฮอล์ในเลอื ดสามารถบ่งบอกอาการและผลต่อร่างกายของผ้ดู ื่มเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ ดงั นี้ 30 มก.% ทาํ ให้สนุกสนาน ร่าเริง 50 มก.% ขาดการควบคุมการเคลอ่ื นไหว 100 มก.% เดนิ ไม่ตรงทาง 200 มก.% ทําให้สับสน 300 มก.% ง่วง งง ซึม 400 มก.% ทําให้หมดสตแิ ละอาจเสียชีวติ ได้ (ดงั รายละเอยี ดได้จากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 20 เฟรมที่ 459) 7. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพิ่มเติม ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่มแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมวิเคราะห์ สรุปผลกระทบของการดื่ม เครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตใุ นรูปแบบแผนที่ความคิด จากใบ กิจกรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3โดย ใชเ้ วลาตามท่ีครูกาํ หนด 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูใหค้ าํ แนะนาํ และ แนวทางในการเขียนรูปแบบแผนที่ความคิดท้งั 2 รูปแบบใหน้ กั เรียนทราบ ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมให้ เพอื่ น ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูใหค้ วามรู้และคาํ แนะนาํ เพมิ่ เติม ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อที่ 5. การช่วยฟื้ นคนื ชีพ หัวข้อย่อยท่ี 5.1 และ หัวข้อย่อยที่ 5.2 จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า พร้อมกบั จดคาํ ถามทสี่ งสัยมาพูดคุยร่วมกนั เพอื่ หาคาํ ตอบในการเรียนคร้ังต่อไป

166 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเรื่อง เคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ ตามท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมาไปถ่ายทอด ใหแ้ ก่สมาชิกในครอบครัวของตนเอง เพอ่ื เป็นการช่วยเสริมสร้างความรู้ความเขา้ ใจในเรื่อง ดงั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ งและสามารถนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ อยา่ งเหมาะสมต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลกั ษณะเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอลป์ ระเภทต่าง ๆ 2. ใบกิจกรรมเร่ือง จัดทาํ สมดุ ภาพ 3. ใบกิจกรรมเรื่อง วิเคราะห์ สรุปผลกระทบของการดื่มเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ท่ีมี ผลกระทบต่อสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตดุ ้วยแผนที่ความคิด 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม .3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 21 167 การช่วยฟื้ นคนื ชีพ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 สาระการเรียนรู้ที่ 5: ความปลอดภยั ในชีวติ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภัย 1. สาระสําคญั การประสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็ นสิ่งที่สามารถเกิดข้ึนได้ โดยท่ีเราไม่ได้คาดการณ์ไว้ ล่วงหนา้ ซ่ึงอาจเป็นอนั ตรายถึงชีวิต การใหค้ วามช่วยเหลือต่อผปู้ ระสบกบั สถานการณ์ฉุกเฉินจึงถือวา่ เป็น ส่ิงสาํ คญั พ้ืนฐานในการช่วยเหลือบุคคลที่อยใู่ กลช้ ิดหรือเพ่ือนมนุษยด์ ว้ ยกนั ให้รอดพน้ จากอนั ตรายใน โอกาสท่ีสามารถกระทาํ ได้ ซ่ึงจุดมุ่งหมายสําคญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุก็เพื่อช่วยลด อาการบาดเจ็บ ความพิการ ตลอดจนการสูญเสียชีวิต ท้งั น้ีผใู้ ห้การช่วยเหลือจะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจ และทกั ษะการช่วยเหลือ มีความมน่ั ใจและปฏิบตั ิอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมจึงจะทาํ ให้การช่วยเหลือคร้ังน้นั ประสบผลสาํ เร็จตามตอ้ งการ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • แสดงวธิ ีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถกู วธิ ี (พ 5.1 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและระบุหลกั การทวั่ ไปในการช่วยฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉินอยา่ ง ถกู ตอ้ งได้ (K, P) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั การช่วยฟ้ื นคืนชีพร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 4. แสดงทกั ษะในการช่วยฟ้ื นคืนผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉินอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู /การ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ 4 – ความหมายและ อภิปราย/การสร้างแผนท่ีความคิด* ข้ึนไป ความสาํ คญั ของการช่วย ฟ้ื นคืนชีพ

168 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ร้อยละ 80 ข้ึนไป – หลกั การทวั่ ไปในการช่วย • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน ฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบ ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า อุบตั ิเหตุในสถานการณ์ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ฉุกเฉิน ม. 3* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ การปฏิบตั ิกิจกรรมตอบ คาํ ถามและแสดงความ คิดเห็น *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง 4 ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 5. การช่วยฟื้ นคนื ชีพ 5.1 ความหมายและความสาํ คญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพ 5.2 หลกั การทว่ั ไปในการช่วยฟ้ื นคืนผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉิน 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาคน้ ควา้ เรื่อง ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากภยั อนั ตรายและ สถานการณ์ที่คบั ขนั ที่เกิดข้ึนในประเทศไทย สงั คมศึกษาฯ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจ และอ่านเร่ืองท่ี เก่ียวกบั ความหมายและความสาํ คญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพ ภาษาไทย 

คณิตศาสตร์ 169  รวบรวมสถิติการเกิดภยั อนั ตรายและสถานการณ์ที่คบั ขนั ที่พบบ่อย ในประเทศไทย 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 43: หัวข้อท่ี 5.1 ความหมายและความสําคญั ของการช่วยฟื้ นคนื ชีพ ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน • ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา เพ่อื ทบทวนความรู้ ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อท่ี 5. การช่วยฟื้ นคนื ชีพ หัวข้อย่อยที่ 5.1 และหัวข้อย่อยท่ี 5.2 ตามท่ีได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมาหน้า ช้ันเรียน 2. ครูยกตวั อยา่ งข่าวหรือเหตุการณ์เกี่ยวกบั การช่วยฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ แลว้ ใหน้ กั เรียน ผลดั เปลี่ยนกนั ออกมาเล่าประสบการณ์ท่ีเคยพบเห็นใหเ้ พอ่ื นฟังเพอ่ื เป็นการสร้างความ ตระหนกั ในเรื่องดงั กล่าวใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน 3. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง ความหมายและความสาํ คญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพ โดยใชภ้ าพข่าวเกี่ยว หรือเหตุการณ์ที่แสดงถึงการเกิดอุบตั ิเหตุและมีผปู้ ระสบเหตุท้งั ในฐานะผไู้ ดร้ ับบาดเจบ็ และ ท้งั ในฐานะผใู้ หก้ ารช่วยเหลือประกอบการอธิบาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวิชา พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพม่ิ เติม ช่ัวโมงท่ี 44: หัวข้อท่ี 5.2 หลกั การทั่วไปในการช่วยฟื้ นคนื ชีพผ้ปู ระสบอุบตั เิ หตุในสถานการณ์ฉุกเฉิน 5. ครูใหค้ วามรู้ในเร่ือง หลกั การทว่ั ไปในการช่วยฟ้ื นคืนผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 6. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและสรุปความเขา้ ใจเร่ือง หลกั การทว่ั ไปในการ ช่วยฟ้ื นคืนผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉิน และส่งตวั แทนกลุ่มรายงานผลการปฏิบตั ิ กิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน 7. ครูเล่าเรื่องน่ารู้เกย่ี วกบั ความหมายของการเสียเลอื ดเป็ นจํานวนมาก เพอ่ื เสริมความรู้และ กระตุ้นความสนใจในเนือ้ หา ให้แก่นักเรียนเพมิ่ เตมิ จากความรู้ในบทเรียน ดงั นี้ – การเสียเลอื ดเป็ นจาํ นวนมากหรือการตกเลอื ด (hemorrhage) หมายถงึ การท่เี ลอื ด ไหลออกมาจากเส้นเลอื ดจํานวนมาก เนื่องจากเส้นเลอื ดน้ันถูกทาํ ลายหรือ ฉีกขาด ถ้าเลอื ด ไหลออกมามาก ๆ จะทําให้ความดนั เลอื ดตา่ํ ชีพจรเต้นเบา เร็ว และถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลอื อาจทําให้เกดิ อาการช็อกและเสียชีวติ ได้ (ดังรายละเอยี ดได้จากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 21 เฟรมที่ 473)

170 ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรม ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น จาก ใบกิจกรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามท่ีครูกาํ หนด 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปล่ียนออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน โดยครูให้ ความรู้และคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งเพ่ิมเติม ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนเขียนแผนท่ีความคิดเพอื่ ทบทวนความรู้ท่ีไดเ้ รียนในการเรียนคร้ังน้ี ลงสมุดบนั ทึก ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. มอบหมายให้นักเรียนร่วมกนั ศึกษาในหัวข้อ 5.3 วิธีปฏิบัตกิ ารช่วยฟื้ นคืนชีพ พร้อมกบั ร่วมกนั คดิ การแสดงบทบาทสมมุตจิ ําลองเหตุการณ์การช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอบุ ัตเิ หตุใน การเรียนคร้ังต่อไป ดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 นอกเวลาเรียน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเร่ือง การช่วยฟ้ื นคืนชีพ ตามที่ไดศ้ ึกษาผา่ นมาไปถ่ายทอดใหแ้ ก่ สมาชิกในครอบครัวของตนเอง เพือ่ เป็นการช่วยเสริมสร้างความรู้ความเขา้ ใจในเร่ือง ดงั กล่าว ใหถ้ ูกตอ้ งและสามารถนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพข่าวหรือเหตุการณ์การช่วยฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 2. ภาพจาํ ลองแนวทางการใชท้ กั ษะชีวิตเพื่อแกไ้ ขปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากภยั อนั ตราย และสถานการณ์ที่คบั ขนั 3. ใบกิจกรรม เร่ือง ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 171 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 22 172 การช่วยฟื้ นคนื ชีพ (ต่อ) ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 สาระการเรียนรู้ที่ 5: ความปลอดภยั ในชีวติ เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภัย 1. สาระสําคญั การทาํ ซีพีอาร์ เป็ นการปฏิบตั ิเพ่ือช่วยให้ผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุสามารถหายใจเองได้ รวมท้งั ช่วยให้ หวั ใจสามารถเตน้ ไดต้ ามปกติ เพอ่ื สูบฉีดเลือดไปหล่อเล้ียงอวยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี • แสดงวิธีการช่วยฟ้ื นคืนชีพอยา่ งถูกวิธี (พ 5.1 ม. 2/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพีอาร์อยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและระบุแนวทางในการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพีอาร์อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K, P) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั การช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพีอาร์ร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ย ความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 4. แสดงทกั ษะชีวิตในการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ – ความหมายและความสาํ คญั การอภิปราย/การสร้างแผนท่ีความคิด* 4 ข้ึนไป ของการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ย การทาํ ซีพีอาร์ – แนวทางและข้นั ตอนการช่วย ฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์ ใหก้ บั ผปู้ ระสบอนั ตรายได้ • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ตามดุลยพนิ ิจของครู การปฏิบตั ิกิจกรรมแสดง ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา บทบาทสมมตุ ิ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3*

173 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ • ร้อยละ 80 ข้ึนไป การทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั ** เรียนรู้ท่ี 4 ชีวิตปลอดภยั • แบบทดสอบประจาํ หน่วยการ เรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั *** *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู **ดูรายละเอียดในส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั ***ดรู ายละเอียดในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง 4 ข้ึนไป ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 5. การช่วยฟื้ นคนื ชีพ (ต่อ) 5.3 วธิ ีปฏิบตั ิการช่วยฟ้ื นคืนชีพ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย  พดู คุยแสดงบทบาทสมมุติจาํ ลองเหตุการณ์การช่วยเหลือผปู้ ระสบ อุบตั ิเหตุ คณิตศาสตร์  รวบรวมสถิติการเกิดภยั อนั ตรายและสถานการณ์ที่คบั ขนั ท่ีพบบ่อย ในประเทศไทย และวิเคราะห์ถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดจาก การงานอาชีพฯ  สถานการณ์ดงั กล่าว ออกแบบและตกแต่งสมุดภาพเกี่ยวกบั การแสดงวิธีการช่วยฟ้ื นคืน ชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์

174 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 45: หัวข้อท่ี 5.3 วธิ ีปฏิบตั กิ ารช่วยฟื้ นคนื ชีพ ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน • ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจรรมในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมา เพ่อื ทบทวนความรู้ ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 5. การช่วยฟื้ นคนื ชีพ หัวข้อย่อยท่ี 5.3 วธิ ีปฏบิ ัตกิ ารช่วยฟื้ นคนื ชีพ และผลการร่วมกนั คดิ การแสดงบทบาทสมมุติ จําลองเหตุการณ์การช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอบุ ัตเิ หตุตามทีไ่ ด้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ ผ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง การช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพีอาร์ โดยเนน้ ลาํ ดบั ข้นั ตอนในการปฏิบตั ิ ท่ีถูกตอ้ ง โดยใชภ้ าพประกอบการอธิบาย ดงั รายละเอียดจากหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุข ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 3. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเด็นที่สงสยั และสนใจเพ่ิมเติม ช่ัวโมงที่ 46: หัวข้อท่ี 5.3 วธิ ีปฏิบตั กิ ารช่วยฟื้ นคนื ชีพ (ต่อ) ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ • ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมแสดงบทบาทสมมตุ ิ โดยการจาํ ลองเหตุการณ์การช่วยเหลือผู้ ประสบอุบตั ิเหตุ ดว้ ยวธิ ีการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์ ดงั รายละเอียดในใบกิจกรรมท่ีครู แจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยครูคอยให้ คาํ แนะนาํ ในการปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ 1. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง การช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์ จากสื่อการเรียนรู้แหล่งต่าง ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียนและบนั ทึกความรู้โดยสรุปลงในสมุดบนั ทึก 2. ครูแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชีวติ ปลอดภยั ใหน้ กั เรียนทุกคนไดท้ าํ การ ทดสอบเมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด เสร็จแลว้ ใหค้ รูและ นกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ งของแบบทดสอบทีละขอ้ ร่วมกนั ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดร้ ับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 2. ครูถามคาํ ถามเชื่อมโยงสู่บทเรียนต่อไป เพอื่ ให้นักเรียนไปค้นหาคาํ ตอบจากบทเรียนมา ล่วงหน้า ดังนี้ – เหตุใดการเต้นแอโรบิกจึงเป็ นท่ีนิยมในปัจจุบัน

175 3. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพมิ่ พนู ทักษะการเคลอื่ นไหว ใน หัวข้อท่ี 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก หัวข้อย่อยที่ 1.1–1.3 จากหนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้าแล้วนาํ มาพดู คุยในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนควรนาํ ความรู้ในเรื่อง การช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์ ตามท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมา ไปถ่ายทอดใหแ้ ก่สมาชิกในครอบครัวของตนเอง เพือ่ เป็นการช่วยเสริมสร้างความรู้ความ เขา้ ใจในเรื่องดงั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ งและสามารถนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ต่อไป 2. นกั เรียนควรศึกษาในเรื่อง หลกั การช่วยฟ้ื นคืนชีพผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพิ่มเติม เพอื่ เพ่ิมพนู ความรู้ความเขา้ ใจและทกั ษะในการใหค้ วามช่วยเหลือต่อผปู้ ระสบเหตุ 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ชีวติ ปลอดภยั 2. ภาพข่าวเก่ียวหรือเหตุการณ์ภยั อนั ตรายและสถานการณ์ที่คบั ขนั 3. ภาพจาํ ลองแนวทางการใชท้ กั ษะการช่วยฟ้ื นคืนชีพดว้ ยการทาํ ซีพอี าร์ 4. ใบกิจกรรมเรื่อง แสดงบทบาทสมมตุ ิ 5. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5เพม่ิ พูนทักษะการเคลอ่ื นไหว 34 ช่ัวโม1ง76 ผงั มโนทศั น์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน 3. กีฬาเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวติ 1. การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก ความรู้ 2. การจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชน ทกั ษะ/กระบวนการ เพมิ่ พูนทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. การใชท้ กั ษะส่ือสารเพอื่ อธิบายความหมายและคุณค่า การเคล่ือนไหว 1. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวนิ ยั ในการศึกษาและร่วม การแบ่งประเภท หลกั ปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ ข้นั ตอนการเตน้ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมายและคุณค่า การแบ่ง และตวั อยา่ งรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ประเภท หลกั ปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ ข้นั ตอนการเตน้ และตวั อยา่ งรูปแบบ 2. การใชท้ กั ษะส่ือสารเพอื่ อธิบายความหมาย ของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ความสาํ คญั การแบ่งประเภท และตวั อยา่ งการจดั 2. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวินยั ในการศึกษาและร่วม กิจกรรมนนั ทนาการเพอ่ื ชุมชน ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมาย ความสาํ คญั การแบ่ง 3. การใชท้ กั ษะส่ือสารเพอื่ อธิบายความเป็นมา ระเบียบ ประเภท และตวั อยา่ งการจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพอ่ื ชุมชน ประเพณี คุณค่าความสาํ คญั และทกั ษะต่าง ๆ ในกีฬา 3. มีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และมีระเบียบวินยั ในการศึกษาและร่วม พลองและกีฬาวา่ ยน้าํ ตลอดจนการนาํ ไปปรับใชใ้ น ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความเป็นมา ระเบียบ ประเพณี ชีวติ ประจาํ วนั คุณค่าความสาํ คญั และทกั ษะต่าง ๆ ในกีฬาพลองและกีฬาวา่ ยน้าํ 4. ความสามารถในการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ตลอดจนการนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ประจาํ วนั 4. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั ในการเรียนรู้และร่วมปฏิบตั ิทกั ษะ เก่ียวกบั 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ การเตน้ แอโรบิก กิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชน การเล่นกีฬาพลอง และกีฬาวา่ ยน้าํ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. ศึกษาและนาํ เสนอรูปแบบการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ พิจารณาภาพและอธิบายวิธีปฏิบตั ิ 3. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั คุณค่าของกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพและแสดงรูปแบบของการเตน้ แอโรบิกชนิดต่าง ๆ 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ เขียนแผนที่ความคิดสรุปข้นั ตอนและรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก 5. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั หลกั ปฏิบตั ิเก่ียวกบั การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 6. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ สาํ รวจสถานท่ีและแหล่งใหบ้ ริการการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกในชุมชนและทอ้ งถิ่น 7. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั การจดั ท่าทางเบ้ืองตน้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 8. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ปฏิบตั ิทบทวนท่าเตน้ แอโรบิกอยา่ งต่อเน่ือง 9. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั ประเภทและรูปแบบการฝึ กกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 10. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ สาํ รวจแหล่งกิจกรรมนนั ทนาการเพอื่ ชุมชน และกิจกรรมเขียนแผนที่ความคิดสรุปความเขา้ ใจ 12. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั หลกั เกณฑใ์ นการเลือกและตวั อยา่ งของกิจกรรมนนั ทนาการเพอ่ื ชุมชนและการนาํ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั 13. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพกีฬาพลอง กิจกรรมช่วยกนั สรุปความรู้และอภิปราย 15. ศึกษาประวตั ิ ทกั ษะเบ้ืองตน้ รูปแบบการเล่น และกติกาของกีฬาการเล่นพลอง 16. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วางแผนฝึกปฏิบตั ิทกั ษะกีฬาพลอง 17. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ทบทวนความรู้ควบคู่การพฒั นาทกั ษะกระบวนการคิด 20. ศึกษาประวตั ิ ทกั ษะเบ้ืองตน้ รูปแบบการเล่น และกติกาของกีฬาวา่ ยน้าํ 21. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพกีฬาวา่ ยน้าํ 22. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วางแผนฝึกปฏิบตั ิทกั ษะวา่ ยน้าํ 24. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ฝึกเขา้ ร่วมจดั การแข่งขนั กีฬาวา่ ยน้าํ

177 กรอบแนวคดิ ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้เพื่อเน้นสู่ผลลพั ธ์ปลายทาง (Backward Design Template) หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5: เพมิ่ พูนทกั ษะการเคลอ่ื นไหว ข้ันตอนท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทต่ี ้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน (Design Results) ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี 1. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลอยา่ งละ 1 ชนิด โดยใชเ้ ทคนิคที่เหมาะสมกบั ตนเองและทีม (พ 3.1 ม. 3/1) 2. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬาไปใชส้ ร้างเสริม สุขภาพอยา่ งต่อเนื่องเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 3. ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม และนาํ หลกั ความรู้วิธีการไปขยายผลการเรียนรู้ใหก้ บั ผอู้ ื่น (พ 3.1 ม. 3/3) 4. มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีน้าํ ใจนกั กีฬา (พ 3.2 ม. 3/1) 5. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพชีวิตของตนเองดว้ ย ความภาคภมู ิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 6. ปฏิบตั ิตนตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นตามชนิดกีฬาท่ีเลือก และนาํ แนวคิดท่ีไดไ้ ปพฒั นาคุณภาพชีวิต ของตนเองในสงั คม (พ 3.2 ม. 3/3) 7. จาํ แนกกลวธิ ีการรุก การป้ องกนั และการใชใ้ นการเล่นกีฬาที่เลือกและตดั สินใจเลือกวิธีท่ีเหมาะสมกบั ทีมไปใชต้ าม สถานการณ์ของการเล่น (พ 3.2 ม. 3/4) 8. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) ความเข้าใจท่คี งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทก่ี ระตุ้นให้นักเรียนเกดิ ความเข้าใจที่คงทน • เมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนจะเข้าใจวา่ … – นกั เรียนคิดวา่ การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 1. การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเต้นแอโรบิก เป็ นวิธีการ ส่งผลดีต่อผปู้ ฏิบตั ิอยา่ งไร ออกกาํ ลงั กายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและสมรรถภาพ – นกั เรียนรู้ไหมวา่ กิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ย ทางกายท่ีดีอีกวิธีหน่ึง การเร่ิมปฏิบตั ิกิจกรรมควรเริ่ม การเตน้ แอโรบิก มีก่ีประเภท อะไรบา้ ง จากการใชท้ ่าท่ีมีการเคลื่อนไหวอยา่ งชา้ ๆ ก่อนที่จะ – การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกมีหลกั การ นาํ ไปสู่ท่าการเคลื่อนไหวท่ีรวดเร็วข้ึน และแนวทางการปฏิบตั ิอยา่ งไร จึงจะทาํ ใหเ้ กิด 2. การเตน้ แอโรบิกจะมีช่วงการออกกาํ ลงั กายเป็น ประสิทธิภาพต่อการสร้างเสริมประสิทธิภาพสูงสุด 3 ช่วง เร่ิมจากช่วงการอบอุ่นร่างกาย ช่วงที่ 2 เป็ น – กิจกรรมการออกกาํ ลงั กายประกอบดว้ ยข้นั ตอนการ ช่วงแอโรบิก และช่วงที่ 3 เป็ นการผ่อนคลาย ปฏิบตั ิก่ีข้นั ตอน อะไรบา้ ง กลา้ มเน้ือ – กิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชนมีความหมาย และ 3. การเตน้ แอโรบิกหรือแอโรบิกด๊านซ์ หมายถึง ความสาํ คญั ต่อบุคคลและสงั คมอยา่ งไร

178 วธิ ีการออกกาํ ลงั กายท่ีใชท้ ่ากายบริหารและทกั ษะ – ปัจจุบนั กิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชนมีกี่รูปแบบ การเคลื่อนไหวเบ้ืองตน้ มาผสมผสานสร้างเป็น อะไรบา้ ง รูปแบบของท่าเตน้ หรือชุดการเคลื่อนไหวประกอบ จงั หวะ โดยเนน้ ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อการทาํ งานของ – นกั เรียนคิดวา่ การเรียนรู้ในการเล่นกีฬาพลองและ ปอดและหวั ใจในเวลาท่ียาวนานข้ึน เพื่อใหม้ ีความ กีฬาวา่ ยน้าํ ส่งผลดีอยา่ งไร เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงท่ีดีต่อสุขภาพ 4. การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกจะช่วย – นกั เรียนคิดวา่ เพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั ในการเล่นกีฬา กระตุน้ ใหร้ ะบบหายใจและหวั ใจทาํ งานไดด้ ีข้ึน พลองและกีฬาวา่ ยน้าํ ควรมีแนวทางปฏิบตั ิอยา่ งไร ส่งผลใหร้ ะบบไหลเวยี นโลหิต (หลอดเลือดและ ปอด) ทาํ งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ช่วยใหร้ ะบบ กลา้ มเน้ือและขอ้ ต่อเคลื่อนไหวไดอ้ ยา่ งคล่องตวั ส่งผลใหร้ ่างกายมีความอ่อนตวั และยดื หยนุ่ ไดด้ ีข้ึน ช่วยใหร้ ะบบกลา้ มเน้ือและระบบประสาททาํ งานได้ อยา่ งสมั พนั ธ์กนั และทาํ ใหร้ ่างกายมีความคล่องตวั ในการเคล่ือนไหวมากข้ึน ช่วยใหก้ ลา้ มเน้ือมีความ แขง็ แรง อดทนและกลา้ มเน้ือมีประสิทธิภาพในการ ทาํ งานมากยงิ่ ข้ึน ส่งผลใหร้ ่างกายมีรูปร่างทรวดทรง ที่ดี และมีน้าํ หนกั ตวั ท่ีเหมาะสม และยงั ช่วยลด ความเครียดและส่งเสริมความมีสุขภาพจิตที่ดีของ บุคคล 5. การเตน้ แอโรบิก แบ่งตามรูปแบบการเคล่ือนไหว ในการรับแรงกระแทกได้ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ การ เตน้ แอโรบิกประเภทท่ีมีแรงกระแทกสูง ประเภทที่มีแรงกระแทกต่าํ ประเภทสลบั แรง กระแทก และประเภทที่ไม่มีแรงกระแทก 6. การเตน้ แอโรบิกไม่วา่ รูปแบบใด ผปู้ ฏิบตั ิควรยดึ หลกั การที่สาํ คญั เป็นตน้ วา่ ผทู้ ี่ไม่เคยออกกาํ ลงั กาย มาก่อน หรือกาํ ลงั ประสบปัญหาดา้ นสุขภาพควร ไดร้ ับการตรวจสุขภาพจากแพทยก์ ่อน นอกจากน้ี เส้ือผา้ และเครื่องแต่งกายสาํ หรับสวมใส่ควรใหม้ ี ความเหมาะสมต่อการเตน้ แอโรบิก 7. การเตน้ แอโรบิกประกอบดว้ ยการปฏิบตั ิ 3 ข้นั ตอน ประกอบดว้ ยข้นั ตอนการอบอุ่นร่างกาย ข้นั แอโรบิก และข้นั ผอ่ นคลาย แต่ละข้นั ตอนมี

179 ช่วงการปฏิบตั ิ ตลอดจนการใชช้ ่วงจงั หวะของ ดนตรีท่ีมีความเร็วแตกต่างกนั 8. การจดั กิจกรรมนนั ทนาการ เป็นกิจกรรม ที่จดั ข้ึนในชุมชน มีเป้ าหมายในการช่วยเหลือ บุคคลในชุมชน ซ่ึงมีความเกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นาประเทศชาติ เพราะในชุมชนมีเดก็ และ เยาวชนอาศยั อยเู่ ป็นจาํ นวนมาก 9. ในปัจจุบนั ภาครัฐและภาคเอกชนตระหนกั ถึง ความสาํ คญั และไดจ้ ดั กิจกรรมนนั ทนาการใหก้ บั บุคคลที่อาศยั อยใู่ นชุมชมโดยเฉพาะเดก็ ในชุมชน ซ่ึงการจดั กิจกรรมดงั กล่าวมีเป้ าหมายใหส้ มาชิก ในชุมชนมีสุขภาพดีท้งั ทางร่างกายและจิตใจ ใช้ เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และยงั เป็นการป้ องกนั การติดสารเสพติดของเด็กและบุคคลในชุมชน อีกดว้ ย 10. การจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชน แบ่งเป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะการดาํ เนินงานหน่วยงาน ท่ีจดั กิจกรรมนนั ทนาการไดแ้ ก่ แหล่งนนั ทนาการ ที่จดั ดาํ เนินการดว้ ยภาครัฐ และแหล่งนนั ทนาการ ท่ีจดั ดาํ เนินการดว้ ยภาคเอกชน 11. พลอง เป็นอาวธุ สาํ หรับตี หรือเรียกวา่ สี่ศอก มี รูปร่างยาวเท่ากนั ตลอดไม่มีหวั ทา้ ยใชป้ ้ องกนั ตวั และทาํ อนั ตรายคู่ต่อสูห้ รือขา้ ศึกศตั รูในสมยั โบราณ จะส้นั หรือยาวข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสม ในการใช้ 12. การจดั การเรียนรู้เก่ียวกบั พลองในระบบการศึกษามี ความเกี่ยวข้องกับการสอนวิชากระบี่กระบองใน หลกั สูตรการศึกษา โดยกีฬาพลองไดม้ ีการถ่ายทอด ความรู้จนอาจสรุปได้ว่า กีฬาพลองและกีฬากระบี่ กระบองมีพฒั นาการควบคู่กนั 13. การเล่นกีฬาพลองต้องใช้กําลังมากจึงจาํ เป็ นต้อง บริหารร่างกายใหแ้ ขง็ แรง โดยมีท่าการบริหารร่างกาย คือ ท่าบริหารแขน ท่าบริหารขอ้ มือ ท่าบริหารลาํ ตวั ท่าบริหารเทา้ และขาดว้ ยการกระโดด และท่าบริหาร

180 ดว้ ยพลอง 14. ทักษะในท่าไมร้ ําของการเล่นพลอง ประกอบด้วย 12 ท่าไมร้ ํา ประกอบดว้ ยไมร้ ําที่ 1 ทิ้งหลงั วาดหน้า ไมร้ ําที่ 2 พกั ศอก ไมร้ ําท่ี 3 แนบกาย ไมร้ ําท่ี 4 ต่อขอ้ จากท่าคุมรํา ไม้รําท่ี 5 ส่ องกล้อง ไม้รําท่ี 6 ปก หน้าปกหลงั ไมร้ ําท่ี 7 เสือลากหาง ไมร้ ําท่ี 8 ไต่ราว บน ไมร้ ําที่ 9 ขดั หลงั ไมร้ ําที่ 10 ไต่ราวล่าง ไม้รําท่ี 11 ลด–ล่อ และไมร้ ําที่ 12 เดินรําพิชิตศึก 15. ทักษะการตีและการต่อสู้ป้ องกันตัว เป็ นทักษะ พ้ืนฐานท่ีช่วยให้การเล่นกีฬาพลองเป็ นไปดว้ ยความ สมบูรณ์ ประกอบด้วยทกั ษะการตีลูกไม้ 6 ไม้ และ การลด–ล่อ 6 ไม้ 16. การว่ายน้ําเป็ นการออกกาํ ลงั กายในทุก ๆ ส่วนของ ร่างกายและเกิดการบาดเจบ็ จากการเล่นกีฬานอ้ ยกว่า เนื่องจากในขณะว่ายน้ําจะมีน้ําเ ป็ นตัวช่วยพยุง ร่างกายทาํ ให้ลดแรงกระแทกในขณะออกกาํ ลงั กาย ซ่ึงการวา่ ยน้าํ จะช่วยใหร้ ะบบต่าง ๆ กลา้ มเน้ือทุกส่วน ในร่างกายได้ออกกาํ ลงั และช่วยทาํ ให้มีรูปร่างดีอีก ดว้ ย 17. ทักษะเบ้ืองต้นของการว่ายน้ําท่ีควรฝึ กปฏิบัติ ประกอบด้วยทักษะการฝึ กการหายใจ ทักษะการ ลอยตวั ทกั ษะการเตะขา และทกั ษะการโผตวั 18. กติกาแข่งขันว่ายน้ําเบ้ืองต้นท่ีสําคัญนักเรียนควร ทราบเป็ นต้นว่า นักกีฬาว่ายน้ําจะต้องว่ายไปตลอด ระยะทางด้วยตนเองจนครบระยะทางการแข่งขนั ที่ กาํ หนดจึงจะถือว่าถูกตอ้ งตามกติกา ตอ้ งวา่ ยเขา้ เส้น ชัยในช่องว่ายของตนเอง หรือการว่ายน้ําไปในช่อง วา่ ยอื่นหรือมีการรบกวนผเู้ ขา้ แข่งขนั คนอื่นจะถูกตดั สิ ทธ์ ิฐานละเมิด

181 ความรู้ของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ความเข้าใจท่ีคงทน ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรียนทจี่ ะนําไปสู่ความเข้าใจท่ี • เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้น้ี นกั เรียนจะรู้วา่ … คงทน 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ การเตน้ แอโรบิก การเตน้ แอโรบิก • เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนรู้ นกั เรียนควรมีทักษะและ ประเภทท่ีมีแรงกระแทกสูง การเตน้ แอโรบิก ประเภท สามารถที่จะ… ที่มีแรงกระแทกต่าํ การเตน้ แอโรบิกประเภทสลบั แรง 1. อธิบายความหมายและคุณคา่ ของกิจกรรมการออกกาํ ลงั กระแทก การเตน้ แอโรบิกประเภทท่ีไม่มีมีแรงกระแทก กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก การแบ่งประเภทและหลกั อาควาแอโรบิก สเตป็ แอโรบิก กิจกรรมนนั ทนาการ ปฏิบตั ิเบอ้ งตน้ เกี่ยวกบั การเตน้ แอโรบิก ตลอดจน กิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชน พลอง ท่าวา่ ยน้าํ แบบ ข้นั ตอนและตวั อยา่ งรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ วดั วา แอโรบิก 2. การเต้นแอโรบิกหรือแอโรบิกด๊านซ์ หมายถึง วิธีการ 2. อธิบายความหมาย ความสาํ คญั และตวั อยา่ งการจดั ออกกาํ ลงั กายที่ใชท้ ่ากายบริหารและทกั ษะการ กิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชน เคล่ือนไหวเบ้ืองตน้ มาผสมผสานสร้างเป็นรูปแบบ 3. อธิบายหลกั เกณฑใ์ นการเลือกกิจกรรมนนั ทนาการและ ของท่าเตน้ หรือชุดการเคล่ือนไหวประกอบจงั หวะ ตวั อยา่ งกิจกรรมนนั ทนาการ และการนาํ ไปปรับใชใ้ น โดยเนน้ ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อการทาํ งานของปอดและ ชีวติ ประจาํ วนั หวั ใจในเวลาท่ียาวนานข้ึน เพ่ือใหม้ ีความเพียงพอต่อ 4. อธิบายรูปแบบของการเล่นกีฬาพลองและกีฬาวา่ ยน้าํ การเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพ 5. ร่วมฝึกหรือปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยตนเองและเป็นหม่คู ณะ 3. การเต้นแอโรบิกประเภทที่มีแรงกระแทกสูง หมายถึง เกี่ยวกบั การเรียนรู้ในเรื่อง การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ การเคล่ือนไหวท่ีมีการยกเข่าสูงและเทา้ ท้งั สองขา้ งลอย แอโรบิก การจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพ่อื ชุมชน จากพ้ืน (กระโดด) ข้ึน–ลง และมีการเคล่ือนไหว ประกอบจงั หวะที่รวดเร็ว 4. การเต้นแอโรบิกประเภทท่ีมีแรงกระแทกตาํ่ หมายถึง การเคลื่อนไหวท่ีมีการยกเข่าสูงเพยี งขา้ งใดขา้ งหน่ึง โดยมีเทา้ อีกขา้ งหน่ึงติดพ้นื จึงไม่มีการกระโดด ในขณะเคล่ือนไหว แต่การกา้ วเทา้ ตอ้ งกา้ วใหย้ าวโดย ใชพ้ ้ืนที่กวา้ งข้ึน 5. การเต้นแอโรบิกประเภทสลบั แรงกระแทก หมายถึง การเคลื่อนไหวที่นาํ เอารูปแบบการเตน้ แอโรบิกที่มีแรง กระแทกสูง และท่ีมีแรงกระแทกต่าํ เขา้ มาผสมผสานกนั 6. การเต้นแอโรบิกประเภทที่ไม่มีมีแรงกระแทก หมายถึง การเคลื่อนไหวที่พยายามลดแรงกระแทกของ น้าํ หนกั ตวั ใหน้ อ้ ยลง โดยที่เทา้ ท้งั สองขา้ งจะติดกบั พ้นื ในขณะเคลื่อนไหว 7. อาควาแอโรบิก หรือไฮโดรแอโรบิก หมายถึง การ เคลื่อนไหวร่างกายในน้าํ เพือ่ ลดแรงกระแทกที่เกิด

182 ข้ึนกบั ร่างกายโดยอาศยั น้าํ เป็นแรงตา้ นและพยงุ น้าํ หนกั ตวั 8. สเตป็ แอโรบิก หมายถึง การเตน้ แอโรบิกท่ีนาํ หลกั การ ของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการใชว้ ธิ ีการออกกาํ ลงั กาย แบบกา้ วเตน้ มาใช้ โดยมีการเคล่ือนไหวดว้ ยการกา้ ว ข้ึน–ลงบนแท่นท่ีนาํ มาใชเ้ ป็นฐานในการกา้ วข้ึน–ลง 9. กิจกรรมนันทนาการ คือ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราปฏิบตั ิ ดว้ ยความสมคั รใจในเวลาวา่ งโดยไม่หวงั สิ่งตอบแทน นอกจากความพงึ พอใจและความเพลิดเพลิน อาจทาํ คน เดียวหรือทาํ เป็นหม่คู ณะกไ็ ด้ และกิจกรรมท่ีทาํ ตอ้ งไม่ เป็นอาชีพ ไมข่ ดั ต่อศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมาย ไม่สร้างความแตกแยกระหวา่ งหม่คู ณะ ไม่ก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อทรัพยากร ส่ิงแวดลอ้ ม และสาธารณสมบตั ิ ตลอดจนไม่สร้างความเดือดร้อน หรือรบกวนผอู้ ื่น และยงั ก่อใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง และสงั คม 10. กิจกรรมนันทนาการเพ่ือชุมชน เป็นกิจกรรม นนั ทนาการท่ีจดั ข้ึนในชุมชนมีเป้ าหมายในการ ช่วยเหลือบุคคลในชุมชน ซ่ึงมีความเก่ียวขอ้ งกบั การ พฒั นาประเทศชาติ 11. พลอง เป็นอาวธุ สาํ หรับตี หรือเรียกวา่ ส่ีศอก มีรูปร่าง ยาวเท่ากนั ตลอดไม่มีหวั ทา้ ย ใชป้ ้ องกนั ตวั และทาํ อนั ตรายคู่ต่อสูห้ รือขา้ ศึกศตั รูในสมยั โบราณ จะส้นั หรือยาวข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมในการใช้ แบ่ง ออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ ไมร้ ําและไมต้ ี 12. ท่าว่ายนา้ํ แบบวดั วา เป็นท่าวา่ ยน้าํ ที่วา่ ยโดยการ เหยยี ดแขนไปขา้ งหนา้ ทาํ มุมกบั ระดบั น้าํ ประมาณ 30–40 องศา แลว้ จึงดึงแขนทอ่ นล่างใหง้ อทาํ มุม 90 องศา โดยไปใตส้ ่วนของร่างกายและดึงติดต่อกนั ไป พร้อมกบั เตะขาท้งั 2 ขา้ งข้ึนลง โดยปัจจุบนั นิยม เรียกวา่ ท่าฟรีสไตล์

183 ข้นั ที่ 2 หลกั ฐานในการประเมนิ เพอื่ แสดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ตามทกี่ าํ หนด (Assessment Evidence) 1. ภาระงานท่ีนักเรียนปฏิบตั ิ 1. ศึกษาและนาํ เสนอรูปแบบการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ พิจารณาภาพและอธิบายวธิ ีปฏิบตั ิ 3. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั คุณค่าของกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพและแสดงรูปแบบของการเตน้ แอโรบิกชนิดต่าง ๆ 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ เขียนแผนท่ีความคิดสรุปข้นั ตอนและรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก 5. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั หลกั ปฏิบตั ิเก่ียวกบั การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 6. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ สาํ รวจสถานท่ีและแหล่งใหบ้ ริการการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกในชุมชนและ ทอ้ งถิ่น 7. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเกี่ยวกบั การจดั ท่าทางเบ้ืองตน้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโร บิก 8. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ปฏิบตั ิทบทวนทา่ เตน้ แอโรบิกอยา่ งต่อเน่ือง 9. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั ประเภทและรูปแบบการฝึกกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 10. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ สาํ รวจแหล่งกิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชน และกิจกรรมเขียนแผนท่ีความคิดสรุปความ เขา้ ใจ 12. ศึกษาและจดั ทาํ รายงานสรุปเก่ียวกบั หลกั เกณฑใ์ นการเลือกและตวั อยา่ งของกิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชนและการ นาํ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั 13. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพกีฬาพลอง กิจกรรมช่วยกนั สรุปความรู้และอภิปราย 15. ศึกษาประวตั ิ ทกั ษะเบ้ืองตน้ รูปแบบการเล่น และกติกาของกีฬาการเล่นพลอง 16. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วางแผนฝึกปฏิบตั ิทกั ษะกีฬาพลอง 17. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ทบทวนความรู้ควบคู่การพฒั นาทกั ษะกระบวนการคิด 20. ศึกษาประวตั ิ ทกั ษะเบ้ืองตน้ รูปแบบการเล่น และกติกาของกีฬาวา่ ยน้าํ 21. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ จดั ทาํ สมุดภาพกีฬาวา่ ยน้าํ 22. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ วางแผนฝึกปฏิบตั ิทกั ษะวา่ ยน้าํ 24. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ ฝึ กเขา้ ร่วมจดั การแข่งขนั กีฬาวา่ ยน้าํ

184 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ • เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • วธิ ีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ – แบบบนั ทึกการสนทนา – การสนทนาซกั ถามโดยครู – แบบทดสอบก่อนเรียน – การวดั และประเมินผลดา้ นความรู้ – แบบทดสอบหลงั เรียน – แบบทดสอบประจาํ หน่วย – แบบวดั และประเมินผลดา้ นคุณธรรม – แบบทดสอบปลายภาค จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะ – การวดั และประเมินผลดา้ นคุณธรรม อนั พงึ ประสงค์ จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ 3. สิ่งทมี่ ุ่งประเมิน – ความหมายในการอธิบาย ช้ีแจง แปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การให้ ความสาํ คญั ใส่ใจในความรู้สึกของผอู้ ่ืน และการรู้จกั ตนเอง – ความสามารถในการพฒั นาพฤติกรรมสุขภาพท่ีใหค้ วามสาํ คญั ท้งั ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สงั คม และจิตวิญญาณ – ความสามารถในการวางแผนปฏิบตั ิ แสดงความคิดวิเคราะห์ เพอื่ พฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ ทศั นคติ และทกั ษะท่ีจะช่วยส่งเสริมการปฏิบตั ิเก่ียวกบั สมรรถภาพทางกาย ข้นั ท่ี 3 การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (32 ชั่วโมง) • หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพม่ิ พนู ทกั ษะการเคลอื่ นไหว – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23: การปฐมนิเทศและการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24: การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25: การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 26: การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 27: การจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพอ่ื ชุมชน – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 28: กีฬาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวิต – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 29: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 30: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวิต (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 31: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 32: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 33: กีฬาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 34: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 35: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 36: กีฬาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 37: กีฬาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวิต (ต่อ) – แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 38: กีฬาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวติ (ต่อ)

185 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 การปฐมนิเทศและการออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก สาระการเรียนรู้ที่ 3: การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล เวลา 2 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพมิ่ พูนทกั ษะการเคลอื่ นไหว 1. สาระสําคญั การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก เป็นวิธีการออกกาํ ลงั กายเพ่ือสร้างเสริมสุขภาพและสมรรถภาพ ทางกายท่ีดีอีกวิธีหน่ึง การเร่ิมปฏิบตั ิกิจกรรมควรเริ่มจากการใชท้ ่าที่มีการเคล่ือนไหวอยา่ งชา้ ๆ ก่อนที่จะ นาํ ไปสู่ท่าการเคล่ือนไหวท่ีรวดเร็วข้ึน การเตน้ แอโรบิก จะมีช่วงการออกกาํ ลงั กายเป็ น 3 ช่วง เริ่มจากช่วง การอบอุ่นร่างกาย ช่วงที่ 2 เป็นช่วงแอโรบิก และช่วงท่ี 3 เป็นการผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ไปใชส้ ร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเน่ืองเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 2. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพ ชีวติ ของตนเองดว้ ยความภาคภูมิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 3. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย คุณค่า และความเป็นมาของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก อยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหมาย คุณค่า และความเป็นมาของการออกกาํ ลงั กาย ดว้ ยการเตน้ แอโรบิกร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 3. ส่ือสารเพอ่ื อธิบายการแบ่งประเภทและหลกั ปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก ใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจได้ (P)

186 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • การทดสอบความรู้พ้ืนฐาน • แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการ – • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรียนรู้ที่ 5 เพ่ิมพนู ทกั ษะการ คุณภาพ 4 ข้ึนไป เพิ่มพนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหว*/** • ตามดุลยพนิ ิจของครู • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / – ความหมาย คุณค่า และความ การอภิปราย/การสร้างแผนที่ความคิด* เป็นมา ประเภทและหลกั ปฏิบตั ิ เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การออกกาํ ลงั กาย ดว้ ยการเตน้ แอโรบิก • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน การปฏิบตั ิกิจกรรมพิจารณา ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวชิ า ภาพและอธิบายวิธีปฏิบัติ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

187 5. สาระการเรียนรู้ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก 1.1 ความหมายและคุณค่าของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 1.2 การแบ่งประเภทการเตน้ แอโรบิก 1.3 หลกั ปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การเตน้ แอโรบิก 6. แนวทางบูรณาการ พดู คุยเก่ียวกบั ความเขา้ ใจของคนในชุมชนของนกั เรียนต่อกิจกรรม การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก สงั คมศึกษาฯ  ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กิจกรรมการ ออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก ภาษาต่างประเทศ  สืบคน้ เกี่ยวกบั ผลของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก กบั การสร้างเสริมประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวและสุขภาพ วทิ ยาศาสตร์  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 47: ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียนวชิ าพลศึกษา หัวข้อท่ี 1.1 ความหมายและคุณค่าของ การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบกิ ข้นั เตรียมก่อนนําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนร่วมสนทนาเพื่อทาํ ความรู้จกั กนั จากน้นั ร่วมพดู คุยเก่ียวกบั แนวทางปฏิบตั ิ ร่วมกนั ในการเขา้ ร่วมเรียนรู้กิจกรรมพลศึกษาในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น – ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการแตง่ กาย – การตรงต่อเวลาหรือการปฏิบตั ิตนในขณะร่วมปฏิบตั ิกิจกรรม – การวดั และประเมินผลทกั ษะการเรียนรู้ ฯลฯ 2. ครูนาํ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพิม่ พนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว แจกใหน้ กั เรียน ทุกคนเพื่อเป็นการประเมินพ้ืนฐานความรู้และสร้างความสนใจใหก้ บั นกั เรียน โดยใชเ้ วลาตามที่ ครูกาํ หนด ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนาํ ภาพกลุ่มคนท่ีกาํ ลงั ออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกที่เตรียมมาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นในประเดน็ คาํ ถามท่ีวา่ – นกั เรียนคิดวา่ กิจกรรมที่นกั เรียนเห็นในภาพมีชื่อเรียกวา่ อะไร – นกั เรียนคิดวา่ กิจกรรมที่นกั เรียนเห็นในภาพมีประโยชนต์ ่อผนู้ าํ ไปปฏิบตั ิอยา่ งไร – นกั เรียนเคยมีประสบการณ์ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมดงั กล่าวหรือไม่ ถา้ เคย นกั เรียนมี ความรู้สึกตอ่ กิจกรรมดงั กล่าวอยา่ งไร หรือถา้ ไม่เคย นกั เรียนคิดวา่ หากมีโอกาสจะ

188 เขา้ ร่วมหรือไม่ เพราะเหตุใด (ครูอาจใช้คาํ ถามอ่ืนที่เหมาะสมกบั สภาพการจัดการเรียนการสอนได้) 2. ครูใหค้ าํ ช้ีแนะและแนวทางของคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง เพ่อื สร้างความตระหนกั ถึงความสาํ คญั ของ กิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก 3. ครูนาํ นกั เรียนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่ากายบริหารดว้ ยการยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือ ในแบบหยดุ น่ิงคา้ งไว้ โดยใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั วธิ ีการและแนวทางในการอบอุ่นร่างกายประกอบ ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ถามเช่ือมโยงสู่บทเรียนต่อไปจากการมอบหมายงานในการเรียน คร้ังท่ีผ่านมา ดงั นี้ – เหตใุ ดการเต้นแอโรบิกจึงเป็ นที่นิยมในปัจจุบนั (แนวคาํ ตอบ เพราะการเต้นแอโรบิกเป็ นการออกกาํ ลงั กายที่สนุกสนาน มีจังหวะดนตรีให้ฟัง เพลิดเพลิน มคี วามทันสมยั สะดวกสบาย ไม่ต้องเตรียมอปุ กรณ์ให้ย่งุ ยาก และช่วยให้ร่างกาย ทุกส่วนได้ออกกาํ ลงั กาย ทาํ ให้มสี ุขภาพแขง็ แรง) 2. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ในหัวข้อท่ี 1. การออกกาํ ลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก หัวข้อย่อยท่ี 1.1–1.3 ตามที่ได้รับมอบหมายจากการ เรียนคร้ังท่ีผ่านมาหน้าช้ันเรียน 3. ครูใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ความหมายและคุณคา่ ของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก โดยใช้ ภาพการเตน้ แอโรบิกประเภทต่าง ๆ ประกอบการอธิบาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ า พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพม่ิ เติม ช่ัวโมงที่ 48: หัวข้อท่ี 1.2 การแบ่งประเภทของการเต้นแอโรบิก หัวข้อท่ี 1.3 หลกั ปฏิบัตเิ บอื้ งต้นเกย่ี วกบั การเต้นแอโรบิก 5. ครูใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การแบ่งประเภทการเตน้ แอโรบิก และหลกั การปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การ เตน้ แอโรบิก โดยใชภ้ าพการเตน้ แอโรบิกประเภทต่าง ๆ ประกอบการอธิบาย ดงั รายละเอียดใน หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 6. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพมิ่ เติม ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะประสบการณ์ • ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมพิจารณาภาพและอธิบายวิธีปฏิบัติ ตามใบกิจกรรมประกอบภาพที่ครู แจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยเวลาท่ีครู กาํ หนด ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูคอย ใหค้ าํ แนะนาํ และความรู้เพ่ิมเติมแก่นกั เรียน

189 ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนร่วมกนั ฝึกการคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) ตามครู โดยใชท้ ่ายดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือ 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมจดั ทําสมุดภาพแสดงรูปแบบของการเต้นแอโรบิก ชนิดต่าง ๆ จากใบกจิ กรรมท่คี รูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและ พลศึกษา ม. 3 นอกเวลาเรียนหรือในช่วงเวลาการจัดกจิ กรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ตามท่ี สถานศึกษากาํ หนด โดยนํามาเสนอในการเรียนคร้ังต่อไป 5. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อที่ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบกิ หัวข้อย่อยที่ 1.4–1.5 จากหนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้า แล้วนํามาพูดคุยในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรศึกษาทบทวนท่าในการอบอุ่นร่างกาย (warm-up) และท่าการคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อนาํ มาใชป้ ระกอบการศึกษาในคาบเรียนต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพ่ิมพนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว 2. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงพลศึกษา 3. ภาพของกิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกในรูปแบบต่าง ๆ 4. ใบกิจกรรมเร่ือง พิจารณาภาพและและเขียนอธิบายวิธีปฏิบัติ 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 190 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

191 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 24 การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก (ต่อ) สาระการเรียนรู้ท่ี 3: การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพม่ิ พูนทกั ษะการเคลอ่ื นไหว 1. สาระสําคญั การเต้นแอโรบิกหรือแอโรบิกดานซ์ หมายถึง วธิ ีการออกกาํ ลงั กายที่ใชท้ ่ากายบริหารและทกั ษะ การเคล่ือนไหวเบ้ืองตน้ มาผสมผสานสร้างเป็นรูปแบบของท่าเตน้ หรือชุดการเคลื่อนไหวประกอบจงั หวะ โดยเนน้ ให้เกิดประโยชน์ต่อการทาํ งานของปอดและหวั ใจในเวลาที่ยาวนานข้ึน เพื่อใหม้ ีความเพียงพอต่อ การเปล่ียนแปลงท่ีดีต่อสุขภาพ 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี 1. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬาไปใช้ สร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเน่ืองเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 2. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนเองดว้ ยความภาคภมู ิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 3. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายและระบุข้นั ตอนการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 3. แสดงทกั ษะในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กาย ดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)

192 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / 4 ข้ึนไป – ข้นั ตอนการเตน้ แอโรบิก การอภิปราย/การสร้างแผนที่ • ตามดุลยพนิ ิจของครู – ความรู้ในเร่ืองจงั หวะ ความคิด* ดนตรีที่ใชใ้ นการเตน้ แอโรบิก – ท่าทางเบ้ืองตน้ ใน การปฏิบตั ิกิจกรรมการ เตน้ แอโรบิกในแต่ละ ข้นั ตอน • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน ปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – จัดทาํ สมดุ ภาพแสดงรูปแบบ พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ของการเต้นแอโรบิกชนิดต่าง ๆ ม. 3* – เขียนแผนที่ความคิดสรุป ขนั้ ตอนและรูปแบบของ กิจกรรมการเต้นแอโรบิก *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

193 5. สาระการเรียนรู้ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบกิ (ต่อ) 1.4 ข้นั ตอนการเตน้ แอโรบิก 1.5 ตวั อยา่ งรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก – ข้นั อบอุ่นร่างกาย ทา่ ท่ี 1–ท่าที่ 7 – ข้นั แอโรบิก ท่าที่ 1–ท่าท่ี 10 – ข้นั คลายกลา้ มเน้ือ ท่าที่ 1–ท่าท่ี 4 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ท่าการปฏิบตั ิ ในแต่ละช่วงของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ภาษาต่างประเทศ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจ และอ่านเร่ืองที่ เก่ียวกบั รูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิกในแต่ละช่วง ภาษาไทย  ออกแบบเขียนสรุปแผนท่ีความคิด เพื่อนาํ เสนอข้นั ตอนการเตน้ แอโร- บิกและการจดั ท่าทางเบ้ืองตน้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ศิลปะ  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 49: หัวข้อที่ 1.4 ข้นั ตอนการเต้นแอโรบิก ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนาํ นกั เรียนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่ากายบริหารดว้ ยการยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือ ตามที่ไดศ้ ึกษาผา่ นมา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบตั ิกิจกรรม 2. ครูและนกั เรียนสนทนาเกี่ยวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมา ร่วมกนั เพอื่ เป็นการทบทวนความรู้ 3. ครูให้ตวั แทนกล่มุ ผลดั เปลยี่ นกนั ออกมานําเสนอผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมจดั ทําสมดุ ภาพ แสดงรูปแบบของการเต้นแอโรบกิ ชนิดต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายในการเรียนคร้ังที่ผ่านมา โดยให้เพอ่ื น ๆ ร่วมแสดงความคดิ เห็น ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วย การเต้นแอโรบิก หัวข้อย่อยท่ี 1.4–1.5 ตามท่ีได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังที่ผ่านมาหน้า ช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้ในเรื่อง ข้นั ตอนการเตน้ แอโรบิก ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 และเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่ สงสยั และสนใจ เพิ่มเติม

194 ชั่วโมงท่ี 50: หัวข้อท่ี 1.5 ตวั อย่างรูปแบบของกจิ กรรมการเต้นแอโรบกิ 3. ครูใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั รูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิกประกอบการสาธิตและใหน้ กั เรียน ฝึกปฏิบตั ิตามในแต่ละข้นั ของการปฏิบตั ิ โดยเริ่มจากข้นั อบอุ่นร่างกายจากท่าที่ 1–ท่าที่ 7 ข้นั แอโรบิก จากท่าที่ 1–ท่าที่ 10 และข้นั คลายกลา้ มเน้ือจากท่าท่ี 1–ท่าที่ 4 ตามลาํ ดบั ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะประสบการณ์ • ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 3 กลุ่ม ร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรม เขียนแผนท่ีความคิดสรุป ขนั้ ตอนและรูปแบบของกิจกรรมการเต้นแอโรบิก จากใบกิจกรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึก ทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ดงั น้ี กลุ่มที่ 1 เรื่อง การเขียนแผนที่ความคิดสรุปรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ข้นั อบอุ่น ร่างกาย กลุ่มท่ี 2 เรื่อง การเขียนแผนที่ความคิดสรุปรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ข้นั แอโรบิก กลุ่มที่ 3 เร่ือง การเขียนแผนที่ความคิดสรุปรูปแบบของกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ข้นั คลาย กลา้ มเน้ือ ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมเขียนแผนท่ีความคิด สรุปขน้ั ตอนและรูปแบบของกิจกรรมการเต้นแอโรบิก โดยอธิบายและสาธิตวธิ ีการปฏิบตั ิใน แต่ละท่าใหเ้ พือ่ น ๆ ดูประกอบดว้ ย โดยครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ การปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ ง ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาํ เพื่อนคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่ายดื เหยยี ด กลา้ มเน้ือตามท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมา 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลที่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมสํารวจสถานที่และแหล่งให้บริการการออกกาํ ลงั กายด้วย การเต้นแอโรบกิ ในชุมชนและท้องถิน่ จากใบกจิ กรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 นอกเวลาเรียน แล้วนําผลการปฏิบัตมิ านําเสนอใน การเรียนคร้ังต่อไป 5. มอบหมายให้นักเรียนในแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ฝึ กปฏิบัตกิ จิ กรรมการเต้นแอโรบกิ เชื่อมโยงกบั กจิ กรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้แบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกนั คดิ ท่าเต้นแอโรบิกประกอบเพลง ประชาคมอาเซียน แล้วออกมาแสดงการสาธิตและนําเพอื่ น ๆ ในช้ันเรียนร่วมปฏิบตั ติ ามในการ เรียนคร้ังต่อไป

195 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรร่วมกนั ฝึกซอ้ มการเตน้ แอโรบิก ในรูปแบบท่าการเตน้ ท้งั 3 ข้นั ตอน ตามท่ีศึกษา ผา่ นมา โดยการปฏิบตั ินอกเวลาเรียน หรือในช่วงเวลาการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ ตามท่ีสถานศึกษากาํ หนดเพ่มิ เติมใหม้ ีความพร้อมเพยี งประกอบจงั หวะดนตรีที่นกั เรียนเลือก ร่วมกนั 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพแสดงลกั ษณะรูปแบบในท่าการปฏิบตั ิการฝึกเตน้ แอโรบิกท้งั 3 ข้นั ตอน 2. อุปกรณ์ประกอบจงั หวะ 3. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงฝึกพลศึกษา 4. ใบกิจกรรมเรื่อง จัดทาํ สมดุ ภาพแสดงรูปแบบของการเต้นแอโรบิกชนิดต่าง ๆ 5. ใบกิจกรรมเรื่อง เขียนแผนที่ความคิดสรุปขนั้ ตอนและรูปแบบของกิจกรรมการเต้นแอโรบิก 6. แบบบนั ทึกผลการสาํ รวจ 7. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ (ครูผสู้ อน) แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

196 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 25 การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก (ต่อ) สาระการเรียนรู้ท่ี 3: การเคลอื่ นไหว การออกกาํ ลงั กาย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพม่ิ พูนทกั ษะการเคลอื่ นไหว 1. สาระสําคญั การออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก จะช่วยกระตุน้ ให้ระบบหายใจและหัวใจทาํ งานไดด้ ีข้ึน ส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิต (หลอดเลือดและปอด) ทาํ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ระบบ กลา้ มเน้ือและขอ้ ต่อเคล่ือนไหวไดอ้ ยา่ งคล่องตวั ส่งผลให้ร่างกายมีความอ่อนตวั และยืดหยนุ่ ไดด้ ีข้ึน ช่วย ให้ระบบกลา้ มเน้ือและระบบประสาททาํ งานไดอ้ ยา่ งสัมพนั ธ์กนั และทาํ ให้ร่างกายมีความคล่องตวั ในการ เคล่ือนไหวมากข้ึน ช่วยให้กลา้ มเน้ือมีความแขง็ แรง อดทนและกลา้ มเน้ือมีประสิทธิภาพในการทาํ งานมาก ย่ิงข้ึน ส่งผลให้ร่างกายมีรูปร่างทรวดทรงท่ีดีและมีน้าํ หนกั ตวั ท่ีเหมาะสม และยงั ช่วยลดความเครียดและ ส่งเสริมความมีสุขภาพจิตที่ดีของบุคคล 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี 1. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ไปใชส้ ร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเน่ืองเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 2. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพ ชีวติ ของตนเองดว้ ยความภาคภมู ิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 3. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายและระบุข้นั ตอนการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K, P) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 3. แสดงทกั ษะในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กาย ดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)

197 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / 4 ข้ึนไป –รูปแบบท่าทางท่ีใชใ้ นการ การอภิปราย/การแสดงความ • ตามดุลยพนิ ิจของครู เตน้ แอโรบิกในแต่ละข้นั คิดเห็น/การสร้างแผนท่ีความคิด* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน ปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – สาํ รวจสถานที่และแหล่ง พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ให้บริการการออกกาํ ลงั กายด้วย ม. 3* การเต้นแอโรบิกในชุมชนและ ท้องถ่ิน – ปฏิบัติทบทวนท่าเต้นแอโรบิก อย่างต่อเน่ือง *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบกิ (ต่อ) (ทบทวนทกั ษะการเตน้ แอโรบิก)

6. แนวทางบูรณาการ 198 ภาษาต่างประเทศ  ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ท่าการปฏิบตั ิ ในแต่ละช่วงของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก ภาษาไทย  พดู คุยแสดงความคิดเห็น และเขียนสรุปความคิดเห็นต่อการปฏิบตั ิ กิจกรรม ศิลปะ  ออกแบบเขียนสรุปแผนท่ีความคิด เพือ่ นาํ เสนอข้นั ตอนการเตน้ แอโร- บิกและการจดั ท่าทางเบ้ืองตน้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเตน้ แอโรบิก 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 51: หัวข้อท่ี 1.5 ตวั อย่างรูปแบบของกจิ กรรมการเต้นแอโรบกิ (ต่อ) ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน • นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาํ เพื่อนในช้นั เรียนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่ากาย บริหารดว้ ยการยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือตามที่ไดศ้ ึกษาผา่ นมา เพ่ือเป็นการเตรียมความพร้อม ในการปฏิบตั ิกิจกรรม ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ผลดั เปลยี่ นกนั ออกมานําเสนอผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมสํารวจสถานท่ีและ แหล่งให้บริการการออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิกในชุมชนและท้องถนิ่ ตามท่ีได้รับ มอบหมายในการเรียนคร้ังท่ีผ่านมา โดยให้เพอื่ น ๆ ร่วมแสดงความคดิ เห็น และครูคอยให้ คาํ แนะนําและแสดงความคดิ เห็นในเรื่องดงั กล่าวเพม่ิ เตมิ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มผลดั กนั ออกมาเต้นแอโรบกิ ประกอบเพลงประชาคมอาเซียน ตามที่ ได้รับมอบหมายงานในการเรียนคร้ังที่ผ่านมา แล้วให้เพอ่ื น ๆ ในช้ันเรียนร่วมกนั เต้นตาม ช่ัวโมงท่ี 52: หัวข้อท่ี 1.5 ตวั อย่างรูปแบบของกจิ กรรมการเต้นแอโรบกิ (ต่อ) ข้นั ที่ 3: ฝึ กฝนทกั ษะประสบการณ์ • นกั เรียนร่วมกนั ฝึกปฏิบตั ิกิจกรรมปฏิบัติทบทวนท่าเต้นแอโรบิกอย่างต่อเน่ือง จากใบกิจกรรมท่ี ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ต้งั แต่รูปแบบ การฝึ กในข้นั อบอุ่นร่างกายในท่าที่ 1–7 ข้นั แอโรบิกในท่าท่ี 1–10 และข้นั คลายกลา้ มเน้ือในท่าที่ 1–4 ตามลาํ ดบั โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด ข้นั ที่ 4: การนําไปใช้ 1. นกั เรียนเขียนแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบตั ิกิจกรรมปฏิบัติทบทวนท่าเต้นแอโรบิกอย่าง ต่อเนื่อง ลงสมุดบนั ทึก 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันเล่นเกมทายชื่อท่าเต้นแอโรบิก (ดงั รายละเอยี ดจากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 25 เฟรมท่ี 562)

199 3. ครูเฉลยหมายเลขหน้าชื่อท่าเต้นแอโรบกิ ในกรอบภาพแต่ละภาพท่ถี ูกต้องให้นักเรียนทราบ ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาํ เพ่ือนคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่าท่ีเหมาะสมจาก ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ผา่ นมา 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6–8 คนโดยแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ปฏิบัตกิ จิ กรรมออกแบบ รูปแบบกจิ กรรมการเต้นแอโรบิก มาล่วงหน้าเพอื่ ประกอบการศึกษาในการเรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรร่วมกนั ฝึกซอ้ มการเตน้ แอโรบิกในรูปแบบตามท่ีศึกษาผา่ นมาร่วมกบั เพอื่ น ๆ ในช้นั เรียน โดยปฏิบตั ินอกเวลาเรียน หรือในช่วงเวลาการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ตามที่ สถานศึกษากาํ หนดเพม่ิ เติม ใหม้ ีความพร้อมเพียงประกอบจงั หวะดนตรีที่นกั เรียนเลือกร่วมกนั 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพหรือส่ือวีดิทศั นแ์ สดงการฝึกปฏิบตั ิในข้นั อบอุ่นในท่าที่ 1–7 ข้นั แอโรบิกในท่าที่ 1–10 และ ข้นั คลายกลา้ มเน้ือในท่าท่ี 1–4 2. อุปกรณ์ประกอบจงั หวะ 3. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงฝึกพลศึกษา 4. ใบกิจกรรมเรื่อง สาํ รวจสถานท่ีและแหล่งให้บริการการออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิกใน ชุมชนและท้องถิ่น 5. ใบกิจกรรมเรื่อง ปฏิบัติทบทวนท่าเต้นแอโรบิกอย่างต่อเนื่อง 6. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 200 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

201 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบิก (ต่อ) สาระการเรียนรู้ท่ี 3: การเคลอ่ื นไหว การออกกาํ ลงั กาย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพม่ิ พนู ทกั ษะการเคลอ่ื นไหว 1. สาระสําคญั การเตน้ แอโรบิกจะมีช่วงปฏิบตั ิที่ต่อเนื่องอยู่ 3 ช่วง ซ่ึงในแต่ละช่วงมีลาํ ดบั การปฏิบตั ิติดต่อกนั แบบฝึ กการเตน้ แอโรบิกท่ีเหมาะสําหรับใช้ฝึ กเตน้ ในผูท้ ่ีมีสุขภาพปกติ ลกั ษณะรูปแบบการเตน้ จดั เป็ น ประเภทสลบั แรงกระแทกมาใชฝ้ ึ ก สามารถท่ีจะใชเ้ พลงในจงั หวะชา้ หรือเร็วตามความเหมาะสมมาใชฝ้ ึ ก ปฏิบตั ิประกอบการเคลื่อนไหว นอกจากน้ีการฝึ กปฏิบตั ิดว้ ยความสม่าํ เสมอจะช่วยให้ผปู้ ฏิบตั ิเกิดทกั ษะ และส่งผลดีต่อสุขภาพอีกดว้ ย 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. นาํ หลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ไปใชส้ ร้างเสริมสุขภาพอยา่ งต่อเนื่องเป็นระบบ (พ 3.1 ม. 3/2) 2. ออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาอยา่ งสม่าํ เสมอ และนาํ แนวคิดหลกั การจากการเล่นไปพฒั นาคุณภาพ ชีวติ ของตนเองดว้ ยความภาคภูมิใจ (พ 3.2 ม. 3/2) 3. เสนอผลการพฒั นาสุขภาพของตนเองที่เกิดจากการออกกาํ ลงั กายและการเล่นกีฬาเป็นประจาํ (พ 3.2 ม. 3/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายและระบุข้นั ตอนการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอ โรบิกร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) 3. แสดงทกั ษะในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั ข้นั ตอนและรูปแบบของการออกกาํ ลงั กาย ดว้ ยการเตน้ แอโรบิกอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)

202 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • ซกั ถามความรู้เกี่ยวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / 4 ข้ึนไป – รูปแบบของท่าทางในการ การอภิปราย/ การสร้างแผนที่ เตน้ แอโรบิกที่นกั เรียนคิด ความคิด* • ตามดุลยพนิ ิจของครู กบั ความสมั พนั ธ์ของช่วง ต่าง ๆ ในข้นั ตอนการเตน้ – การนาํ รูปแบบท่าทางในการ เตน้ แอโรบิกไปใชใ้ น ชีวิตประจาํ วนั • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน การปฏิบตั ิกิจกรรม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา – ออกแบบรูปแบบกิจกรรมการ พ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา เต้นแอโรบิก ม. 3* – เขียนแสดงความคิดเห็นต่อการ ปฏิบัติกิจกรรม *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* 4 ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู

203 5. สาระการเรียนรู้ 1. การออกกาํ ลงั กายด้วยการเต้นแอโรบกิ (ต่อ) (ทบทวนทกั ษะการเตน้ แอโรบิก) 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาสาํ รวจขอ้ มลู เก่ียวกบั ประสบการณ์ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมการ ออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกของคนในชุมชน สงั คมศึกษาฯ  ฟัง อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษที่เก่ียวขอ้ งกบั กิจกรรมการออก กาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิก ภาษาต่างประเทศ  พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปข้นั ตอนการเตน้ แอโรบิกท่ีกลุ่มคิด ข้ึน ภาษาไทย  ออกแบบวาดภาพ/ระบายสีรูปแบบท่าการเตน้ แอโรบิกที่กลุ่มคิดข้ึน ศิลปะ  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 53: หัวข้อท่ี 1.5 ตวั อย่างรูปแบบของกจิ กรรมการเต้นแอโรบิก (ต่อ) ข้นั ที่ 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาํ เพอื่ นในช้นั เรียนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใชท้ ่ากาย บริหารดว้ ยการยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือตามท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมา เพ่ือเป็นการเตรียมความพร้อม ในการปฏิบตั ิกิจกรรม 2. ครูและนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังท่ีผา่ นมา ร่วมกนั เพ่อื เป็นการทบทวนความรู้ ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ • นกั เรียนแต่ละกล่มุ ผลดั เปลยี่ นส่งตวั แทนออกมารายงานผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมออกแบบรูปแบบ กจิ กรรมการเต้นแอโรบิก โดยผลดั กนั ออกมาอธิบายประกอบการสาธิตการปฏิบัตใิ นรูปแบบการ เต้นที่กลุ่มออกแบบให้เพอ่ื นในช้ันเรียนดู ข้ันที่ 3: ฝึ กฝนทักษะประสบการณ์ 1. นกั เรียนท้งั ช้นั ฝึกปฏิบตั ิตามที่เพื่อนแต่ละกลุ่มนาํ ปฏิบตั ิจนครบทุกกลุ่ม 2. ครูใหค้ าํ แนะนาํ เกี่ยวกบั ผลการปฏิบตั ิกิจกรรมดงั กล่าวเพ่มิ เติม ช่ัวโมงท่ี 54: หัวข้อที่ 1.5 ตวั อย่างรูปแบบของกจิ กรรมการเต้นแอโรบิก (ต่อ) ข้ันที่ 4: การนําไปใช้ 1. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมเขียนแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบัติกิจกรรม จากใบกิจกรรท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ในเวลาที่ครูกาํ หนด

204 2. นกั เรียนผลดั กนั ออกมารายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรมที่หนา้ ช้นั เรียน และครูคอยให้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนร่วมกนั ฝึกการคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่ากายบริหารท่ีเหมาะสม 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 2. การจัดกจิ กรรมนันทนาการเพอื่ ชุมชน จาก หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้าแล้วนํามาพดู คุยในการ เรียนคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรียนควรนาํ ความรู้เกี่ยวกบั กิจกรรมการออกกาํ ลงั กายดว้ ยการเตน้ แอโรบิกไปปรับใช้ ในชีวติ ประจาํ วนั 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. อุปกรณ์ประกอบจงั หวะ 2. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงฝึกพลศึกษา 3. ใบกิจกรรมเร่ือง ออกแบบรูปแบบกิจกรรมการเต้นแอโรบิก 4. ใบกิจกรรมเรื่อง เขียนแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบัติกิจกรรม 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม.3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 205 (ครูผสู้ อน) 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางในการแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 206 กจิ กรรมนันทนาการเพอ่ื ชุมชน ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 สาระการเรียนรู้ที่ 3: การเคลอื่ นไหว การออกกาํ ลงั กาย เวลา 2 ช่ัวโมง การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพมิ่ พนู ทกั ษะการเคลอื่ นไหว 1. สาระสําคญั กิจกรรมนนั ทนาการ หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเราปฏิบตั ิดว้ ยความสมคั รใจในเวลาว่าง โดยไม่หวงั ส่ิง ตอบแทนเป็ นเงินตรานอกจากความพึงพอใจและความเพลิดเพลิน อาจทาํ คนเดียวหรือทาํ เป็ นหมู่คณะก็ได้ และกิจกรรมท่ีทาํ ตอ้ งไม่เป็นอาชีพ ไม่ขดั ต่อศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมาย ไม่สร้างความ แตกแยกระหวา่ งหมู่คณะ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากร ส่ิงแวดลอ้ ม และสาธารณสมบตั ิ ตลอดจน ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือรบกวนผอู้ ื่น และยงั ก่อใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเองและสงั คม กิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชน เป็ นกิจกรรมนนั ทนาการท่ีจดั ข้ึนในชุมชนมีเป้ าหมายในการ ช่วยเหลือบุคคลในชุมชน ซ่ึงมีความเก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาประเทศชาติ เพราะในชุมชนมีเด็กและ เยาวชนอาศยั อยเู่ ป็นจาํ นวนมาก ในปัจจุบนั ภาครัฐและภาคเอกชนตระหนกั ถึงความสาํ คญั และไดจ้ ดั กิจกรรมนันทนาการให้กบั บุคคลที่อาศยั อยู่ในชุมชมโดยเฉพาะเด็กในชุมชน ซ่ึงการจดั กิจกรรม ดงั กล่าวมีเป้ าหมายให้สมาชิกในชุมชนมีสุขภาพดีท้ังทางร่างกายและจิตใจ ใช้เวลาว่างให้เป็ น ประโยชน์ และยงั เป็นการป้ องกนั การติดสารเสพติดของเดก็ และบุคคลในชุมชนอีกดว้ ย 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี • ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม และนาํ หลกั ความรู้วธิ ีการไปขยายผลการเรียนรู้ ใหก้ บั ผอู้ ่ืน (พ 3.1 ม. 3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและลกั ษณะการจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพือ่ ชุมชนอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. ระบุประเภทและตวั อยา่ งของกิจกรรมกิจกรรมนนั ทนาการเพื่อชุมชนอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ในเร่ืองกิจกรรมนนั ทนาการเพ่ือชุมชนร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความ สนใจและมีระเบียบวินยั (A)

207 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ • ซกั ถามความรู้เก่ียวกบั • แบบประเมินผลการนาํ เสนอขอ้ มลู / 4 ข้ึนไป – ความหมายและลกั ษณะ การอภิปราย/การสร้างแผนท่ี • ตามดุลยพนิ ิจของครู การจดั กิจกรรม ความคิด* นนั ทนาการเพื่อชุมชน – ตวั อยา่ งโครงการกิจกรรม นนั ทนาการเพ่อื ชุมชน • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน การปฏิบตั ิกิจกรรมระดม ใบกิจกรรม/แบบฝึกทกั ษะรายวิชา ความคิดสรุปความเข้าใจใน พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา รูปแบบแผนท่ีความคิด ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ข้ึนไป ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค*์ *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* ข้ึนไป ของนกั เรียน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาํ หรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 2. การจัดกจิ กรรมนันทนาการเพอื่ ชุมชน • ตวั อยา่ งกิจกรรมนนั ทนาการเพอื่ ชุมชน

208 6. แนวทางบูรณาการ สงั คมศึกษาฯ  พดู คุยเกี่ยวกบั แหลง่ นนั ทนาการในชุมชนของนกั เรียน พดู คุยแสดงความคิดเห็น เขียนสรุปความเขา้ ใจเก่ียวกบั เรื่องการจดั ภาษาไทย  นนั ทนาการเพ่ือชุมชนดว้ ยแผนที่ความคิด ออกแบบและตกแต่งแผนที่ความคิด การงานอาชีพฯ  7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 55: หัวข้อเร่ือง ความหมาย ความสําคญั และลกั ษณะการแบ่งประเภทกจิ กรรมนันทนาการเพอื่ ชุมชน ข้นั ท่ี 1: นําเข้าสู่บทเรียน 1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยการว่งิ เหยาะในระยะทาง 400 เมตร  กระโดดตบเหนือศีรษะ 20 คร้ัง  หมุนแขนสลบั หนา้ –หลงั 20 คร้ัง  ฉีกขา ยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ือสลบั ขา้ งละ 5 คร้ัง 2. ครูและนกั เรียนสนทนาเกี่ยวกบั การศึกษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเรียนคร้ังที่ผา่ นมา ร่วมกนั เพือ่ เป็นการทบทวนความรู้ ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนักเรียน 2–3 คน ออกมารายงานผลการศึกษาเนือ้ หาในหัวข้อที่ 2. การจดั กจิ กรรม นันทนาการเพอื่ ชุมชน ตามที่ได้รับมอบหมายจากการเรียนคร้ังทผ่ี ่านมาหน้าช้ันเรียน 2. ครูใหค้ วามรู้เร่ือง ความหมาย ความสาํ คญั และลกั ษณะการแบ่งประเภทกิจกรรมนนั ทนาการ เพอื่ ชุมชน ใหแ้ ก่นกั เรียนทราบ แลว้ เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 3. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนเพม่ิ เตมิ ซึ่งเช่ือมโยงกบั ความรู้เรื่องแหล่งนันทนาการโดยกล่าวถึงการ ทปี่ ระเทศสิงคโปร์มสี วนสาธารณะแห่งใหม่ชื่อว่า การ์เดน บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) สวนสาธารณะแห่งนีถ้ ือเป็ นสถานทพี่ กั ผ่อนหย่อนใจท่ีมจี ุดเด่นและดึงดูดใจนักท่องเท่ยี ว ให้มาเข้าชมเป็ นอย่างมาก เน่ืองจากภายในสวนสาธารณะแห่งนีจ้ ะมตี ้นไม้ประดษิ ฐ์ท่ีไม่ เพยี งแต่สวยงามเท่าน้ัน แต่ยงั สามารถเปลย่ี นพลงั งานแสงอาทติ ย์และนํา้ ทกี่ ักเกบ็ ไว้เป็ น พลงั งานไฟฟ้ าในตัวได้อกี ด้วย ชั่วโมงท่ี 56: หัวข้อเรื่อง ตวั อย่างการจดั กจิ กรรมนันทนาการเพอื่ ชุมชน 4. ครูใหค้ วามรู้เร่ือง ตวั อยา่ งการจดั กิจกรรมนนั ทนาการเพอ่ื ชุมชน ดงั รายละเอียดจาก หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 ใหแ้ ก่นกั เรียนทราบ แลว้ เปิ ดโอกาส ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 5. ครูเล่าเรื่องน่ารู้เกย่ี วกบั สวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ได้แก่ สวนลุมพนิ ี ซึ่งต้ังอยู่ท่ี กรุงเทพมหานครให้นักเรียนทราบ ดังนี้ – สวนลุมพนิ ีจัดเป็ นสวนสาธารณะ แห่งแรกของประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระ

209 มงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่ดิน 360 ไร่ ณ ทุ่งศาลาแดง สําหรับสร้างสยามรัฐ พพิ ธิ ภณั ฑ์และจัดให้เป็ น “สวนสาธารณะ” ให้ประชาชนได้พกั ผ่อนเหมอื นกบั ชาวต่างประเทศ ในยคุ สมยั น้ัน (ดังรายละเอยี ดจากส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 แผนท่ี 27 เฟรมที่ 580) 6. ครูให้ความรู้เสริมอาเซียนเพมิ่ เติมซึ่งเช่ือมโยงกบั ความรู้เรื่องกจิ กรรมลานกฬี า โดยกล่าวถึงการ แข่งขนั กฬี าฟุตซอลที่จัดขนึ้ ในกลุ่มประเทศอาเซียนมชี ื่อว่า “อาเซียนฟุตซอลแชมเปี ยนชิป” (ASEAN Futsal Championship) ซึ่งอย่ใู นการควบคุมดูแลของสหพนั ธ์ฟุตบอลอาเซียน (ASEAN Football Federation: AFF) มกี ารจดั การแข่งขนั คร้ังแรกเมอ่ื พ.ศ. 2544 โดยจะจดั ขนึ้ ทุก 2 ปี จนกระทัง่ พ.ศ. 2548 จงึ เปลยี่ นเป็ นจัดทุกปี ประเทศท่ีได้ตาํ แหน่งชนะเลศิ มากทสี่ ุด คอื ประเทศไทย ข้นั ท่ี 3: ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มปฏิบตั ิกิจกรรมระดมความคิดสรุปความเข้าใจใน รูปแบบแผนที่ความคิด จากใบกิจกรรมท่ีครูแจกให้ หรือจากแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาํ หนด 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั เปล่ียนส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูให้ ความรู้และเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ท่ีสงสยั และสนใจเพิ่มเติม ข้นั ท่ี 4: การนําไปใช้ • นกั เรียนร่วมกนั พดู คุยกบั สมาชิกในครอบครัวเก่ียวกบั การจดั กิจกรรมนนั ทนาการในชุมชนของ ตนเองและแนวทางการเขา้ ร่วมกิจกรรม ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้ 1. นกั เรียนอาสาสมคั รผลดั เปล่ียนกนั ออกมานาํ เพ่อื นคลายกลา้ มเน้ือ (cool-down) โดยใชท้ ่า ที่เหมาะสม โดยครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ 2. นกั เรียนทาํ ความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแต่งกาย 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 4. มอบหมายให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสํารวจแหล่งกจิ กรรมนันทนาการเพอ่ื ชุมชน จากใบ กจิ กรรมที่ครูแจกให้ หรือจากแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 โดย จดั ทําเป็ นรายงานโดยสังเขปนอกเวลาเรียน แล้วนํามาเสนอในการเรียนคร้ังต่อไป 5. มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาเนอื้ หาในหัวข้อที่ 3. กฬี าเพอื่ พฒั นาคุณภาพชีวติ หัวข้อย่อยท่ี 3.1 กฬี าพลอง เรื่องประวตั คิ วามเป็ นมา ประโยชน์และคุณค่าของการเล่นกฬี าพลอง จาก หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 มาล่วงหน้าแล้วนํามาพดู คุยในการ เรียนคร้ังต่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook