Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Published by suphanat.sbb, 2021-04-08 02:44:32

Description: แผนสุขะ ม.3เทอม1-ผสาน

Search

Read the Text Version

โครงสรา้ งสาระวชิ าสุขศึกษาชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 คาอธิบายรายวิชา รายวชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา เวลา ๔๐ ช่วั โมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ๑.๐ หน่วยกิต ศกึ ษาเปรยี บเทยี บการเปลยี่ นแปลงพฒั นาการดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญาของวัย ตา่ ง ๆ วิเคราะหอ์ ิทธิพลของส่อื โฆษณาและความคาดหวงั ของสงั คมต่อการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาการของวัยรุน่ ศึกษาอธบิ ายถึงองค์ประกอบของ อนามยั แมแ่ ละเด็ก การวางแผนครอบครัว วิเคราะหป์ ัจจัยที่มผี ลกระทบ ต่อการตัง้ ครรภ์และสาเหตทุ ท่ี าให้เกดิ ความขัดแยง้ ในครอบครัวพร้อมทงั้ เสนอแนวทางการปูองกันและแกไ้ ข มคี วามรู้ ทักษะและปฏิบตั กิ ารเคล่อื นไหวในการเล่นกีฬาไทย กฬี าสากล และการเลน่ เกม เพ่ือ เสริมสร้างสุขภาพที่เหมาะสมกับตนเองและทมี เปน็ ผ้เู ลน่ และผู้ดกู ฬี าทด่ี ี มนี ้าใจนกั กฬี า รู้กฎกตกิ า วธิ ีการรุก การปูองกนั ในการเล่นกฬี าทเ่ี หมาะสมกบั ทมี เพ่อื ไปพัฒนาคุณภาพชีวติ ของตน ในสงั คม ศกึ ษาเรียนรโู้ ภชนาการทเ่ี หมาะสมกบั วนั ต่าง ๆ โดยคานงึ ถึงความประหยัด สขุ อนามัยประโยชนแ์ ละ คณุ คา่ ทางโภชนาการ รวบรวมข้อมลู และเสนอแนวทางการปอู งกันโรคที่เป็นสาเหตุของการเจบ็ ปวุ ยและเสียชีวติ ของคนไทยพร้อมทงั้ การแกป้ ัญหาสุขภาพของชมุ ชน โดยมกี ารวางแผนจัดเวลาในการออกกาลังกาย การพกั ผอ่ น เพือ่ เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย วเิ คราะห์และศึกษาปจั จัยและพฤติกรรมเสีย่ งที่มผี ลเสียตอ่ สขุ ภาพตลอดจนหาแนวทางปูองกนั แกไ้ ข ศึกษาให้เข้าใจถึงสาเหตุและผลท่ีเกดิ จากความรุนแรงพร้อมทงั้ เสนอแนวทางปอู งกันแกไ้ ข พฤติกรรมการใช้สอื่ ท่มี ี ผลต่อสขุ ภาพและความรนุ แรง รวมถงึ ผลเสียหายจากอุบัตเิ หตทุ ี่มีสาเหตทุ ีม่ ีสาเหตมุ าจากการด่ืมเครอื่ งดืม่ ที่มี แอลกอฮอล์ เรยี นร้ฝู ึกฝนวธิ ีกชู้ ีพแกผ่ ูท้ ่อี ยู่ในสภาวะ คับขนั มคี วามรู้ ทกั ษะและปฏบิ ตั ิการรว่ มกจิ กรรมนันทนาการและนาความรไู้ ปขยายผลใหก้ บั ผู้อื่น สามารถ นาไปสใู่ นการออกกาลังกายและเล่นกีฬาอยา่ งสมา่ เสมอเพ่อื นาไปพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนเอง โดยการออก กาลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่าเสมอ และเสนอผลการพัฒนาสขุ ภาพของตนเองโดยการทดสอบสมรรถภาพทาง กาย เพื่อพฒั นาไดต้ ามความแตกต่างระหว่างบคุ คล มาตรฐาน/ตัวชี้วดั พ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ พ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ พ๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ พ๓.๒ ม.๓/๒ ม.๓/๕ ม.๓/๓ ม.๓/๔ พ๔.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ พ๕.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ รวม ๒๓ ตัวช้ีวัด

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา ....... โดยนางสุกญั ญลกั ษณ์ พิบลู สังข์ หนว่ ยท่ี ชื่อ/แผนท่ี เวลา วนั ที่สอน ชนั้ (คาบ) 1 การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ ม.3/1 6 ม.3/2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 การเจรญิ เติบโตและ 1 พัฒนาการของมนษุ ย์ ม.3/1 1 ม.3/2 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 การเจรญิ เติบโตและ ม.3/1 พัฒนาการของมนุษย์ในแต่ละวัย (ตอ่ ) 1 ม.3/2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 วัยร่นุ กบั เจตคตใิ นเร่ือง ม.3/1 เพศ 1 ม.3/2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 อิทธพิ ลและและความ ม.3/1 ม.3/2 คาดหวังของสังคมทม่ี ีตอ่ การเปลย่ี นแปลงของวยั ร่นุ (ตอ่ ) ม.3/1 ม.3/2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 วัยรนุ่ กับสอื่ โฆษณา 1 ม.3/1 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 วยั รุน่ กบั สอื่ โฆษณา 1 ม.3/2 (ตอ่ ) ม.3/1 ม.3/2 2 ชวี ติ และครอบครวั 4 ม.3/1 ม.3/2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 การอนามัยแมแ่ ละเดก็ 1 ม.3/1 ม.3/2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 การวางแผนครอบครวั 1 ม.3/1 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 การวางแผนครอบครวั 1 ม.3/2 (ตอ่ ) ม.3/1 ม.3/2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10 ปญั หาความขัดแยง้ ใน 1 ม.3/1 ครอบครวั ม.3/2 3 ใส่ใจสขุ ภาพ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 อาหารตามวัย 1 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 12 โรคทเ่ี ปน็ สาเหตสุ าคัญ 1 ของการเจ็บปว่ ยและการเสียชวี ติ ของคนไทย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 ปัญหาสุขภาพในชมุ ชน 1

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 14 การออกกาลังกาย การ 1 ม.3/1 ผักผอ่ น และการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ม.3/2 ม.3/1 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 การทดสอบสมรรถภาพ 1 ม.3/2 ทางกายเพอ่ื สุขภาพ ม.3/1 ม.3/2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 การทดสอบสมรรถภาพ 1 ทางกายเพื่อสขุ ภาพ (ต่อ) ม.3/1 ม.3/2 4 ความปลอดภยั ในชวี ิต 3 ม.3/1 ม.3/2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 17 ปัจจยั และพฤตกิ รรม 1 ม.3/1 เสีย่ งต่อสขุ ภาพ ม.3/2 ม.3/1 แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 18 พฤติกรรมการใช้ความ 1 ม.3/2 รุนแรงในวยั รุน่ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 19 อิทธิพลของสอ่ื ต่อ 1 พฤตกิ รรมสขุ ภาพและความรนุ แรง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 20 เครือ่ งดม่ื ท่มี ีแอลกอฮอล์ 1 ท่สี ่งผลต่อสขุ ภาพและการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ รวม 20

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา (สขุ ศกึ ษา) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์ เวลา 2 ชั่วโมง แผนการเรยี นรทู้ ่ี1 เรยี นรตู้ ัวเรา เวลา 2 ชว่ั โมง สอนช้นั ม.3/1 วันท.ี่ ..................เดือน.............................พ.ศ............. ภาคเรียนท่ี 1/....... สอนชัน้ ม.3/2 วันท.ี่ ..................เดอื น.............................พ.ศ............. ภาคเรยี นท่ี 1/....... ครูผูส้ อนช่ือ........................................... โรงเรยี นบา้ นพณิ โท ......................................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั การจัดการเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษา มงุ่ เนน้ ให้นกั เรียนรู้จักท่ีจะสารวจความถนัดและความสนใจของตนเอง ส่งเสรมิ การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพส่วนตน มี ทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คดิ สรา้ งสรรค์ และคิดแกป้ ัญหา มที ักษะในการดาเนินชวี ติ มที กั ษะการใช้ เทคโนโลยีเพ่อื เปน็ เครอ่ื งมอื ในการเรยี นรู้ มคี วามรับผิดชอบต่อสงั คม มคี วามสมดลุ ท้ังด้านความรู้ ความคิด ความดีงาม และมคี วามภูมใิ จในความเป็นไทย ตลอดจนใช้เป็นพนื้ ฐานในการประกอบอาชพี หรือการศกึ ษาตอ่ ซง่ึ การทจ่ี ะพัฒนานักเรียนไปสรู่ ะดบั ดังกลา่ วไดน้ ้นั นกั เรยี นควรมคี วามรู้พน้ื ฐานท่ีเกยี่ วกับวิธกี ารในการจัดการเรียน การสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตลอดจนแหล่งสนับสนุนการเรยี นรู้ ข้อตกลงอน่ื ๆ ทเี่ กี่ยวข้องทีจ่ ะ ส่งเสรมิ ให้บรรลถุ ึงเปาู หมายตามที่กาหนดไว้ หนว่ ยการเรียนรู้ เรียนรู้ตวั เรา การศึกษาทาความเข้าใจเกยี่ วกบั ความหมายและความสาคัญ ของวยั รนุ่ ลักษณะการเจริญเตบิ โตทางร่างกายและพัฒนาการของมนุษยใ์ นแตล่ ะวัย จะช่วยใหน้ กั เรียนเข้าใจและตระหนักใน ความสาคัญตอ่ เรอ่ื งดังกล่าว ซึง่ จะนาไปส่กู ารจัดการและพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของตนเองและบุคคลอื่นที่เกยี่ วขอ้ ง ได้เป็นอยา่ งดี 2. ตัวช้วี ดั ชนั้ ปี • เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญาแต่ละช่วงของ ชวี ติ (พ 1.1 ม. 3/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายเก่ียวกับขอ้ ตกลงและแนวทางในการศึกษาวชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษาได้ (K) 2. อธิบายลกั ษณะของพฒั นาการและการแบ่งชว่ งวยั ของมนษุ ยอ์ ย่างถกู ตอ้ งได้ (K) 3. อธบิ ายลักษณะการเจรญิ เติบโตทางรา่ งกายและพัฒนาการของวยั ทารกและวัยเดก็ อยา่ งถกู ต้อง ได้ (K) 4. เขา้ รว่ มปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรูใ้ นเร่ืองลักษณะของพัฒนาการและการแบ่งช่วงวยั ของมนุษย์ ด้วยความสนใจใฝรุ ู้ (A) 5. ระบุแหลง่ ความรู้ทีส่ นบั สนนุ การศกึ ษาในวชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษาทงั้ ในทอ้ งถ่ินและชุมชนได(้ P) 6. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มลู ประกอบการเรียนรไู้ ด้ (P)

4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • การทดสอบความรู้พน้ื ฐาน • แบบทดสอบก่อนและหลงั การ – หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรยี นหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรียนร้ตู ัวเรา เรียนรูต้ ัวเรา • ซักถามความรเู้ ก่ยี วกบั • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอ • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี ระดับ ขอ้ ตกลงในการศกึ ษาและ ข้อมลู /การอภิปราย/การ คณุ ภาพ 4 ข้ึนไป ความรู้เกยี่ วกบั ลักษณะของ แสดงความคิดเห็น/การสร้าง พฒั นาการและการแบ่งช่วง แผนทคี่ วามคิด* วัยของมนุษย์ • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ ปฏิบัตกิ จิ กรรม – การประเมินความเข้าใจ • ใบงานท่ี 1* • ร้อยละ 80 ข้นึ ไป เกี่ยวกบั สาระและ • รปู แบบของกิจกรรมตามท่รี ะบุ มาตรฐานการเรยี นรู้ ในหนังสือเรยี น/ส่อื การ สขุ ศึกษาและพลศึกษา เรียนรู้ สขุ ศึกษาและพล – การประเมินความเขา้ ใจ ศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3* เกี่ยวกบั การแบง่ หน่วย การเรียนรู้ การวัดและ ประเมนิ ผล และเกณฑ์ การตัดสิน – การศกึ ษาคน้ คว้าและ • รูปแบบของกจิ กรรมตามทร่ี ะบุ • ตามดลุ ยพินจิ ของครู ในหนงั สือเรยี น/สอ่ื การ อภิปรายสรปุ – การจดั ทาสมดุ ภาพแสดง เรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพล • ตามดลุ ยพนิ ิจของครู พฒั นาการของวัยทารก ศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3* • ตามดุลยพนิ ิจของครู – การเขยี นแผนทค่ี วามคิด เปรยี บเทยี บระหวา่ งวยั *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สรมิ สาหรบั ครู • ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ยระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง 4 ขนึ้ ไป ประสงค์*

*ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สรมิ สาหรบั ครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทักษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ ระดบั คณุ ภาพ 4 ขนึ้ ไป ของนกั เรียน กระบวนการ* *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรับครู 5. สาระการเรยี นรู้ • การปฐมนเิ ทศ 1. การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์แตล่ ะวัย 1.1 ลกั ษณะของพฒั นาการและการแบง่ ช่วงวยั ของมนุษย์ 1.2 วยั ทารก 1.3 วัยเด็ก 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาตา่ งประเทศ  ฟงั อ่าน และเขยี นคาศพั ท์ภาษาองั กฤษที่เกี่ยวข้องกับการเจรญิ - เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ยแ์ ตล่ ะวัย ภาษาไทย  พูดคุย แสดงความคิดเหน็ และเขียนสรุปความเขา้ ใจในรปู แบบแผนที่ความคิด วทิ ยาศาสตร์  สบื ค้น ค้นคว้า สารวจ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการของของมนษุ ยแ์ ตล่ ะวัย คณติ ศาสตร์  การคานวณ วเิ คราะห์ และเปรยี บเทียบขอ้ มลู เก่ยี วกับอายุ น้าหนัก ส่วนสูง 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ เตรียมกอ่ นนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครแู ละนกั เรียนสนทนาทาความร้จู ักกนั จากน้ันให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับ การศกึ ษาในวชิ าสุขศึกษาและพลศกึ ษา เพือ่ เปน็ การสารวจและปรบั เปลยี่ นทัศนคตขิ อง นักเรยี น ทม่ี ีต่อวชิ าดงั กล่าว 2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 6–8 คน รว่ มกนั ศึกษาใบความร้ทู ่คี รแู จกให้ ประกอบด้วยใบความรู้ที่ 1 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา และใบความรู้ที่ 2 การจัดแบง่ หนว่ ยการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ตลอดจนเกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรยี นในกลุม่ สาระการเรียนร้สู ุข ศึกษาและพลศึกษา 3. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปผลทีไ่ ด้รับจากการศึกษาใบความรู้ลงในใบงานที่ 1 เรอ่ื ง สาระ มาตรฐาน และหน่วยการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล และเกณฑก์ ารตัดสินกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและ พลศึกษา โดยครูอธิบายให้ความรเู้ พิม่ เติม ข้ันท่ี 1: นาเขา้ สูบ่ ทเรียน

1. ครนู าแบบทดสอบกอ่ นและหลงั การเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรียนรู้ตวั เรา แจกใหน้ ักเรียนทกุ คน เพ่อื ทดสอบความรูค้ วามเขา้ ใจพ้นื ฐาน โดยใชเ้ วลาตามทคี่ รกู าหนด 2. ครูเฉลยคาตอบให้นักเรยี นทราบและสมุ่ นกั เรียนประมาณ 3–4 คน ออกมาแสดงความรู้สึกท่ไี ด้รับ จากการทาแบบทดสอบ ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหค้ วามร้ใู นเรอ่ื ง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษยใ์ นแต่ละวัย โดยใชภ้ าพแสดงลกั ษณะ การแบง่ ช่วงวยั ชวี ติ ของมนษุ ยป์ ระกอบคาอธิบาย 2. ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามในประเด็นทีส่ งสยั และสนใจเพิม่ เติม ขัน้ ที่ 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ • ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มปฏิบตั กิ ิจกรรม การศึกษาค้นควา้ และอภิปรายสรปุ โดยแบง่ ออกเปน็ 2 กล่มุ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รวมกันศกึ ษาและนาผลสรุปออกมาอภปิ รายหน้าชนั้ เรยี น กลุม่ ที่ 1 เรอื่ ง วยั ทารก: ลกั ษณะการเจริญเติบโตและลักษณะพฒั นาการของวัยทารก กลุม่ ที่ 2 เร่ือง วัยเดก็ : ลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตและลักษณะพัฒนาการของวยั เด็ก ตามทีร่ ะบใุ นหนงั สอื เรยี นฯ/สอ่ื การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณแ์ บบ ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามทคี่ รกู าหนด ขั้นที่ 4: การนาไปใช้ • นกั เรยี นแต่ละกลุ่มผลัดเปล่ยี นกนั ออกมานาเสนอผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการศกึ ษาคน้ ควา้ และอภิปรายสรุป หนา้ ชน้ั เรียน โดยครูอธบิ ายและให้ความรทู้ ่ถี ูกต้องใหน้ ักเรยี นทราบเพิม่ เติม ขั้นที่ 5: สรปุ ความรู้ • ครูและนกั เรยี นสรุปความรู้และผลท่ไี ดร้ บั จากการปฏิบตั ิกิจกรรมรว่ มกนั แล้วใหน้ กั เรยี น บนั ทกึ ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมดุ บันทกึ 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. มอบหมายใหน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ ออกเปน็ 3 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาในเรื่องท่ี รบั ผิดชอบนอกเวลา โดย กลุ่มที่ 1 เร่ือง วัยรุ่น: ลกั ษณะการเจริญเตบิ โตและลักษณะพัฒนาการของวยั รุ่น กลมุ่ ที่ 2 เรอื่ ง วัยผู้ใหญ่: ลักษณะการเจรญิ เตบิ โตและลักษณะพฒั นาการของวัยผใู้ หญ่ กลุ่มที่ 3 เรอื่ ง วัยสงู อายุ: ลักษณะการเจริญเตบิ โตและลกั ษณะพฒั นาการของวยั สงู อายุ และนาผลทไ่ี ดม้ านาเสนอ เพอื่ ประกอบการศึกษาในคาบเรยี นต่อไป 2. มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรม การจดั ทาสมดุ ภาพแสดงพัฒนาการของวยั ทารก และ ปฏิบัติกิจกรรมการเขียนแผนทีค่ วามคดิ เปรียบเทียบระหวา่ งวยั โดยนามาเสนอในคาบเรยี น ตอ่ ไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบความรูก้ อ่ นและหลังการเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรยี นรตู้ วั เรา 2. ใบความรู้ท่ี 1 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

3. ใบความรทู้ ี่ 2 การจัดแบง่ หนว่ ยการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล ตลอดจนเกณฑ์การ ตดั สนิ ผลการเรียนในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา 4. ใบงานท่ี 1 สาระ มาตรฐาน และหน่วยการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล และเกณฑ์การตัดสินกลมุ่ สาระ การเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา 5. ใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง การศึกษาคน้ ควา้ และอภิปรายสรุป 6. ใบกิจกรรมท่ี 2 เร่อื ง การจดั ทาสมดุ ภาพแสดงพฒั นาการของวัยทารก 7. ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรอื่ ง การเขียนแผนทคี่ วามคดิ เปรียบเทียบระหว่างวัย 8 . ภาพแสดงลกั ษณะการเปลีย่ นแปลงทางร่างกายของวัยรุ่นเพศชายและวัยรุ่นเพศหญงิ 9. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บริษทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด 10. สือ่ การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 บริษัท สานกั พิมพ์วัฒนาพานิช จากดั 11. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บรษิ ัท สานักพมิ พว์ ฒั นาพานิช จากัด

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นสุขศกึ ษาและพลศึกษา (สุขศกึ ษา) ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ในแตล่ ะวัย (ต่อ) เวลา 2 ชั่วโมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรียนรู้ตวั เรา เวลา 2 ช่วั โมง สอนชนั้ ม.3/1 วันท.่ี ..................เดือน.............................พ.ศ............. ภาคเรียนที่ 1/....... สอนช้ัน ม.3/2 วนั ท.่ี ..................เดือน.............................พ.ศ............. ภาคเรยี นท่ี 1/....... ครผู ้สู อนชือ่ ........................................... โรงเรียนบา้ นพิณโท ......................................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั การเจริญเติบโตทางรา่ งกายและพฒั นาการของคนเราในแตล่ ะชว่ งวัยมีความแตกตา่ งกนั การศกึ ษาในเรือ่ ง ดังกล่าว จะช่วยใหผ้ ูท้ ่ีศึกษามคี วามเข้าใจในเร่ืองทีเ่ ก่ยี วข้องกับลักษณะทส่ี าคัญของวยั นั้น ๆ ตลอดจนแนวทางในการนา ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ซ่งึ ชว่ งวยั ของมนษุ ย์นบั ตัง้ แต่คลอด สามารถแบง่ ออกเปน็ 6 ช่วงวยั ประกอบดว้ ย วยั ทารก วัยเด็ก (วยั กอ่ นเรียน) วัยเด็ก (วัยเรยี น) วยั ร่นุ วัยผใู้ หญ่ และวัยสูงอายุ 2. ตัวชว้ี ัดชั้นปี • เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงทางด้านรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคมและสตปิ ญั ญาแต่ละชว่ งของ ชวี ติ (พ 1.1 ม. 3/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะการเจริญเติบโตทางร่างกายและพฒั นาการของวยั ร่นุ วยั ผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ อย่างถูกต้องได้ (K) 2. เข้ารว่ มปฏิบัตกิ จิ กรรมการเรยี นรใู้ นเร่ืองลักษณะการเจริญเติบโตทางร่างกายและพัฒนาการของ วัยร่นุ วยั ผใู้ หญ่ และวยั สูงอายุรว่ มกับผ้อู ่ืนดว้ ยความสนใจใฝุรู้ (A) 3. ส่ือสารเพ่อื อธบิ ายเก่ียวกับลกั ษณะการเจริญเตบิ โตทางร่างกายและพฒั นาการของวยั รนุ่ วยั ผใู้ หญ่ และวัยสงู อายใุ ห้ผอู้ ่นื เข้าใจได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรเู้ ก่ยี วกับ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมลู / • ผ่านเกณฑเ์ ฉลย่ี ระดับ ลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โต การอภปิ ราย/การแสดงความ คณุ ภาพ 4 ข้นึ ไป ทางรา่ งกายและ คดิ เหน็ /การสรา้ งแผนท่ีความคดิ * พฒั นาการของวยั รนุ่ วยั ผ้ใู หญ่ และวยั สูงอายุ

วิธีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการ • ใบงานที่ 2* ปฏิบตั ิกจิ กรรมการตอบ คาถามความรคู้ วบคูพ่ ัฒนา ทักษะกระบวนการคดิ • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน • ตามดลุ ยพนิ ิจของครู • ตามดลุ ยพนิ ิจของครู ปฏบิ ัติกิจกรรมสารวจข้อมูล หนังสอื เรียน/สอ่ื การเรียนรู้ น้าหนักและส่วนสูง สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์ เปรียบเทยี บกับเกณฑ์ แบบ ม. 3* อา้ งอิงการเจรญิ เตบิ โตของ กรมอนามยั กระทรวง สาธารณสขุ • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามทร่ี ะบใุ น ปฏบิ ัติกจิ กรรมการสารวจ หนงั สอื เรยี น/สอ่ื การเรยี นรู้ ขอ้ มลู การเปลย่ี นโครงสรา้ ง สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์ ร่างกายผูส้ ูงอายุ แบบ ม. 3* *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความร้เู สรมิ สาหรบั ครู • ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ียระดับคุณภาพ ของนกั เรียน คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง 4 ขึ้นไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรบั ครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื วัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ ระดับคณุ ภาพ 4 ขึน้ ไป ของนักเรียน กระบวนการ* *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรบั ครู 5. สาระการเรียนรู้ 1. การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษยแ์ ต่ละวัย (ตอ่ ) 1.4 วยั รุ่น 1.5 วัยผ้ใู หญ่

1.6 วัยสงู อายุ 6. แนวทางบรู ณาการ สังคมศกึ ษาฯ  ศกึ ษาคน้ คว้า เรอ่ื ง ขอ้ มลู ของผสู้ ูงอายใุ นชมุ ชน ภาษาต่างประเทศ  ฟัง อา่ น และเขยี นคาศัพทท์ ่เี กย่ี วขอ้ งกับวยั ร่นุ วัยผ้ใู หญ่ และวยั สงู อายุ ภาษาไทย  พดู คยุ แสดงความคดิ เหน็ และเขียนสรุปความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การสารวจขอ้ มลู การเปลย่ี นโครงสร้างร่างกายผูส้ ูงอายุ วทิ ยาศาสตร์  สบื ค้น คน้ คว้า และวเิ คราะห์เปรยี บเทยี บเกย่ี วกับการสารวจขอ้ มูลนา้ หนัก และส่วนสงู เปรียบเทยี บกับเกณฑอ์ ้างองิ การเจริญเติบโตของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1: นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครแู ละนกั เรยี นสนทนาเกีย่ วกับการศกึ ษาและการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในคาบเรยี นที่ผ่านมา รว่ มกัน เพ่อื ทบทวนความรู้ 2. ครูส่มุ นักเรยี น 3–4 คน ออกมานาเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการจดั ทาสมดุ ภาพแสดง พัฒนาการของวยั ทารก และการปฏบิ ัติกิจกรรมการเขยี นแผนทค่ี วามคิดเปรยี บเทยี บ ระหว่างวัย ตามท่ไี ด้มอบหมายในคาบเรียนท่ีผ่านมา ข้ันที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนทั้ง 3 กลมุ่ แต่ละกลุ่มผลัดเปลย่ี นกันส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลการศกึ ษา ค้นควา้ ตามประเด็นท่มี อบหมายหนา้ ชนั้ เรยี น 2. ครูอธิบายและให้ความรูจ้ ากท่ที ัง้ 3 กลุ่มนาเสนอเพิ่มเตมิ พรอ้ มทงั้ เปดิ โอกาสให้ นักเรยี นสอบถามในประเดน็ ที่สงสยั และสนใจเพิ่มเตมิ ขั้นท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์ • นักเรยี นร่วมกันปฏบิ ัติกจิ กรรมทบทวนความรู้ควบคูก่ ารพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ ตามท่ีครู เตรียมมา ขน้ั ที่ 4: การนาไปใช้ • ครสู มุ่ นกั เรียน 2–3 คน ออกมานาเสนอผลการตอบคาถามหนา้ ช้ันเรียน เพือ่ ตรวจสอบและ ประเมินความรู้ ความเข้าใจในบทเรยี น โดยครูเฉลยคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งให้นักเรยี นทราบหากคนใดตอบ ไม่ถูกตอ้ งให้แกไ้ ขให้ถูกต้อง ขัน้ ท่ี 5: สรุปความรู้ • ครแู ละนกั เรยี นสรุปความรแู้ ละผลท่ีได้จากการปฏบิ ัติกจิ กรรมรว่ มกนั แล้วใหน้ ักเรยี น บนั ทกึ ความร้โู ดยสงั เขปในสมดุ บันทกึ 8. กิจกรรมเสนอแนะ • มอบหมายให้นกั เรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการสารวจข้อมูลน้าหนกั และส่วนสงู เปรียบเทยี บกับเกณฑอ์ ้างอิงการ เจริญเตบิ โตของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ และกจิ กรรมการสารวจข้อมลู การเปลี่ยนแปลง

โครงสรา้ งรา่ งกายผูส้ ูงอายุ นอกเวลาเรียนและจัดทาเปน็ รายงานโดยสงั เขป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมท่ี 4 กจิ กรรมทบทวนความรคู้ วบค่กู ารพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ 2. ใบกจิ กรรมที่ 5 เรอื่ ง การสารวจข้อมลู นา้ หนักและส่วนสงู เปรยี บเทยี บกบั เกณฑอ์ า้ งองิ การเจรญิ เตบิ โต ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข 3. ใบกจิ กรรมที่ 6 เรอื่ ง การสารวจข้อมลู การเปลย่ี นแปลงโครงสร้างร่างกายผสู้ ูงอายุ 4. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จากดั 5. ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 บริษัท สานกั พิมพว์ ัฒนาพานชิ จากัด 6. แบบฝึกทักษะ รายวชิ าพน้ื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ม. 3 บรษิ ัท สานักพิมพว์ ฒั นาพานิช จากัด

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 กล่มุ สาระการเรยี นสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (สุขศกึ ษา) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 สาระการเรียนรทู้ ่ี 1 อทิ ธพิ ลและความคาดหวงั ของสังคมทีม่ ตี ่อการเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น เวลา 2 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรยี นรตู้ วั เรา เวลา 2 ชัว่ โมง สอนชัน้ ม.3/1 วันท.ี่ ..................เดอื น.............................พ.ศ............. ภาคเรียนที่ 1/....... สอนชัน้ ม.3/2 วนั ท.่ี ..................เดือน.............................พ.ศ............. ภาคเรยี นที่ 1/....... ครูผูส้ อนชอื่ ......................................................................... โรงเรียนบา้ นพณิ โท ......................................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั ความคาดหวังของสังคมทมี่ ีตอ่ วยั ร่นุ หมายถึง ความต้องการของสังคมท่มี ีตอ่ วยั รุน่ ใหก้ ระทาส่งิ ใดสิ่งหนง่ึ ตามความปรารถนาและความตอ้ งการของสังคมโดยใช้ความคาดหวังของสงั คมเปน็ แนวทางกาหนดพฤตกิ รรมของ วยั รุ่นในลกั ษณะท่สี งั คมใหก้ ารยอมรับว่าถูกตอ้ งและเหมาะสม การเปล่ียนแปลงทางดา้ นพฤตกิ รรมของวยั รุ่นพบว่า ส่วนหน่งึ เป็นผลมาจากอิทธิพลของครอบครัว สภาพแวดล้อมในสงั คม เพ่ือน วัฒนธรรม และสอื่ สารมวลชน 2. ตวั ช้วี ัดชั้นปี • วเิ คราะห์อิทธพิ ลและความคาดหวงั ของสงั คมต่อการเปล่ียนแปลงของวยั รนุ่ (พ 1.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของอทิ ธพิ ลและความคาดหวังของสังคมต่อการเปล่ยี นแปลง ของวยั รุ่นอย่างถูกตอ้ งได้ (K) 2. เข้าร่วมปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรียนรู้ในเรื่อง อิทธิพลและความคาดหวังของสงั คมตอ่ การ เปลีย่ นแปลงของวัยรุน่ ดว้ ยความสนใจใฝุรู้ (A) 3. ส่อื สารเพือ่ อธิบายเกย่ี วกบั อิทธิพลและความคาดหวังของสงั คมต่อการเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น ใหผ้ ูอ้ ืน่ เข้าใจได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธกี ารวัดและประเมินผล เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • ซักถามความรเู้ กยี่ วกบั • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมลู / • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ียระดับ ความหมายและความสาคญั ของอิทธพิ ลและความ การอภิปราย/การแสดงความ คุณภาพ 4 ข้ึนไป คาดหวังของสงั คมต่อการ เปลี่ยนแปลงของวยั รุ่น คดิ เหน็ /การสรา้ งแผนท่คี วามคดิ *

• ตรวจสอบความถกู ตอ้ งใน • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบใุ น • ตามดลุ ยพินจิ ของครู การปฏิบัตกิ ิจกรรมการ หนงั สือเรยี น/สอื่ การเรียนรู้ ระดมความคดิ เหน็ และ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ อภปิ ราย แบบ ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู • ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ยระดับคณุ ภาพ ของนักเรยี น คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ 4 ขน้ึ ไป ประสงค์* *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรับครู • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ยระดบั คุณภาพ 4 ขึ้นไป ของนกั เรยี น กระบวนการ* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรบั ครู 5. สาระการเรียนรู้ 2. อิทธิพลและความคาดหวงั ของสังคมต่อการเปลี่ยนแปลงของวยั รนุ่ 2.1 ความหมายและความสาคญั 2.2 อิทธพิ ลของสังคมทม่ี ีต่อการเปลยี่ นแปลงของวยั รุน่ 6. แนวทางบรู ณาการ สังคมศกึ ษาฯ  ศึกษาคน้ ควา้ เรือ่ ง ความคาดหวงั ของสงั คมตอ่ การเปลย่ี นแปลง ของวยั รุ่น ภาษาต่างประเทศ  ฟัง อ่าน และเขยี นคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกับอทิ ธพิ ลและความคาดหวงั ของสังคม ตอ่ การเปลยี่ นแปลงของวยั รุน่ ภาษาไทย  พดู คยุ แสดงความคิดเห็น และเขยี นสรปุ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับอทิ ธิพลและความ คาดหวงั ของสังคมต่อการเปลยี่ นแปลงของวยั ร่นุ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1: นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูและนกั เรยี นสนทนาเกีย่ วกบั การศึกษาและการปฏิบัติกิจกรรมในคาบเรยี นท่ีผา่ นมา

ร่วมกนั เพื่อทบทวนความรู้ 2. ครสู มุ่ นกั เรียน 3–4 คน ออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการสารวจขอ้ มูลน้าหนกั และ ส่วนสูงเปรียบเทียบกับเกณฑ์อ้างอิงการเจรญิ เตบิ โตของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และกิจกรรมการสารวจข้อมูลการเปลย่ี นแปลงโครงสร้างรา่ งกายผู้สูงอายุ ตามท่ีได้ มอบหมายในคาบเรยี นทีผ่ ่านมา 3. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันวจิ ารณแ์ ละสรุปผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ตลอดจนแนวทางในการนา ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ขั้นที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับ อทิ ธพิ ลและความคาดหวงั ของสังคมตอ่ การ เปลีย่ นแปลงของวยั รุ่นตามความเขา้ ใจ 2. ครูใหค้ วามหมายและความสาคญั ตลอดจนอทิ ธพิ ลของสงั คมทม่ี ตี อ่ การเปลย่ี นแปลงของ วัยร่นุ ขัน้ ท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์ • นกั เรียนแบง่ ออกเป็น 5 กล่มุ แต่ละกลมุ่ ร่วมกันปฏบิ ัติกจิ กรรมการระดมความคดิ เหน็ และอภปิ ราย ตาม หวั ขอ้ ท่ีกาหนด กลุม่ ที่ 1 เร่อื ง อทิ ธิพลของครอบครัวทีม่ ตี อ่ การเปลย่ี นแปลงของวัยรุ่น กลุม่ ที่ 2 เรือ่ ง อทิ ธพิ ลของสภาพแวดล้อมในชมุ ชนทีม่ ตี ่อการเปลย่ี นแปลงของวยั รุ่น กลุม่ ที่ 3 เร่อื ง อทิ ธิพลของเพ่อื นที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น กลุม่ ที่ 4 เรอ่ื ง อิทธพิ ลของวัฒนธรรมทมี่ ีต่อการเปลี่ยนแปลงของวัยร่นุ กลุม่ ที่ 5 เรื่อง อิทธพิ ลของสื่อที่มตี ่อการเปล่ยี นแปลงของวยั รุน่ ในหนังสือเรียนฯ/ส่อื การเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณแ์ บบ ม. 3 โดยใช้เวลาตาม ที่ครกู าหนด ข้นั ท่ี 4: การนาไปใช้ • ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มผลดั เปลยี่ นกันออกมานาเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครแู ละนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เพ่ิมเตมิ ขน้ั ที่ 5: สรุปความรู้ • ครูและนักเรียนสรุปความรูแ้ ละผลท่ไี ด้จากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมรว่ มกัน แลว้ ให้นกั เรียน บนั ทึกความรโู้ ดยสงั เขปในสมดุ บนั ทึก 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1.นักเรียนควรศึกษาทบทวนความร้ใู นเร่ืองความหมายและความสาคญั ตลอดจนอิทธพิ ลของ สังคมทีม่ ีต่อการเปล่ียนแปลงของวยั รุ่น อีกคร้ัง และควรคน้ คว้าหาความรูเ้ ก่ยี วกบั เร่ือง ดงั กลา่ วในดา้ นตา่ ง ๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งจากแหล่งการเรียนรอู้ ื่น ๆ 2. มอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ปฏิบัติกจิ กรรสมารวจทศั นคตขิ องบคุ คลต่าง ๆ ใน ชุมชนทีม่ ีความ คาดหวังตอ่ การเปล่ยี นแปลงของวัยรนุ่ นอกเวลาเรียน โดยนาผลการสารวจ

มานาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป จากดั 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพแสดงการแสดงออก/การปฏิบัตกิ ิจกรรมของวยั รุน่ 2. ใบกิจกรรมที่ 7 เรือ่ ง การระดมความคดิ เห็นและอภปิ ราย 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บรษิ ทั สานกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จากัด 4. สอ่ื การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 บรษิ ทั สานกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จากดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพืน้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิช

แผนการจดั การเรียนรู้ 4 กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง เรื่อง อทิ ธิพลและและความคาดหวงั ของสงั คมทมี่ ตี ่อการเปลี่ยนแปลงของวยั รุ่น(ต่อ) เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง สอนวันที่…….เดอื น………………พ.ศ………..ชั้น ม.3/1 ภาคเรียนที่ 1/....... สอนวนั ท่ี…….เดือน………………พ.ศ………...ช้ัน ม.3/2 ภาคเรยี นท่ี 1/....... ครผู ู้สอน............................................ โรงเรียนบ้านพณิ โท ................................................................................................................................. .................................................. 1. สาระสาคัญ ความคาดหวงั ของสงั คมทม่ี ตี อ่ การเปล่ยี นแปลงของวัยรุน่ หมายถงึ ความต้องการของสังคมทมี่ ตี ่อวยั รนุ่ ให้ กระทาส่ิงใดส่ิงหนึง่ ตามความปรารถนาและความตอ้ งการของสงั คม โดยใชค้ วามคาดหวังของสังคมเปน็ แนวทาง กาหนดพฤตกิ รรมของวัยรุ่นในลักษณะท่ีสังคมใหก้ ารยอมรับวา่ ถกู ต้องและเหมาะสม ความคาดหวงั ของสงั คมท่มี ีต่อการเปลยี่ นแปลงของวัยรนุ่ ทส่ี าคญั ได้แกค่ วามคาดหวังตอ่ ความสาเร็จในการพง่ึ พา ตนเองของวยั ร่นุ ตอ่ การมพี ฤตกิ รรมทางเพศที่เหมาะสมต่อการมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสงั คมส่วนรวม ตอ่ การคมวี าม รบั ผิดชอบในงานทร่ี บั มอบหมาย ต่อการมศี ลี ธรรมและจริยธรรม ตอ่ ความสามารถในการสร้างสมั พันธภาพอันดีกับผอู้ ่นื และการมีสมั พนั ธภาพอนั ดีกับพอ่ แม่ 2. ตวั ชีว้ ัดชนั้ ปี • วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลและความคาดหวงั ของสังคมต่อการเปลี่ยนแปลงของวัยรนุ่ (พ 1.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของอทิ ธิพลและความคาดหวังของสังคมตอ่ การเปลี่ยนแปลง ของวยั ร่นุ อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรียนรู้ในเรอื่ งอทิ ธพิ ลและความคาดหวังของสงั คมตอ่ การ เปลีย่ นแปลงของวยั รุ่นดว้ ยความสนใจใฝรุ ู้ (A) 3. สอ่ื สารเพอื่ อธบิ ายเกย่ี วกบั อทิ ธิพลและความคาดหวังของสังคมตอ่ การเปล่ียนแปลงของวัยรุ่น ให้ผู้อนื่ เขา้ ใจได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี ระดับ • ซกั ถามความรู้เกย่ี วกับ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมลู / ความคาดหวังของสังคม การอภิปราย/การแสดงความ คณุ ภาพ 4 ขึ้นไป ตอ่ การเปล่ียนแปลงของ คิดเห็น/การสรา้ งแผนที่ความคิด* วัยรนุ่ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั และประเมินผล วิธีการวัดและประเมนิ ผล

• ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการ • รูปแบบของกจิ กรรมตามทรี่ ะบุใน • ตามดุลยพนิ ิจของครู ปฏิบัตกิ จิ กรรมการสารวจ หนังสือเรียน/สื่อการเรียนรู้ ทศั นคติของบุคคลต่าง ๆ ใน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์ ชมุ ชนทมี่ ีความคาดหวังตอ่ แบบ ม. 3* การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น • ตรวจสอบความถูกตอ้ งใน • รปู แบบของกิจกรรมตามท่ีระบใุ น • รูปแบบของกิจกรรมตามทีร่ ะบุ ในหนังสือเรียน/ส่ือการเรียนรู้ การปฏิบัตกิ ิจกรรมจดั ทาสมดุ หนังสือเรียน/ส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ ภาพหรือเหตกุ ารณ์ท่ี สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์ เก่ียวขอ้ งกบั พฤติกรรม ของ แบบ ม. 3* แบบ ม. 3* วยั ร่นุ ใน สังคมไทยปัจจบุ นั *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรบั ครู • ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ ของนกั เรยี น ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ 4 ขน้ึ ไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสาหรบั ครู • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทักษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ยระดับคณุ ภาพ 4 ขนึ้ ไป ของนกั เรียน กระบวนการ* *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรบั ครู 5. สาระการเรยี นรู้ 2. อทิ ธิพลและความคาดหวังของสงั คมตอ่ การเปลยี่ นแปลงของวัยรุน่ (ตอ่ ) 2.3 ความคาดหวังของสงั คมต่อการเปลีย่ นแปลงของวัยร่นุ 6. แนวทางบูรณาการ สงั คมศกึ ษาฯ  ศึกษาค้นคว้า เรอ่ื ง ทศั นคติของบุคคลต่าง ๆ ในชุมชนทม่ี คี วาม คาดหวังตอ่ การเปล่ียนแปลงของวยั รุ่น ภาษาตา่ งประเทศ  ฟงั อา่ น และเขียนคาศัพทท์ ีเ่ กีย่ วข้องกับอิทธิพลและความคาดหวงั ของสงั คม ตอ่ การเปลย่ี นแปลงของวยั รุ่น ภาษาไทย  พดู คยุ แสดงความคิดเห็นและเขยี นสรปุ ความเข้าใจเกยี่ วกับการ สารวจข้อมูล ทศั นคตขิ องบุคคลตา่ ง ๆ ในชมุ ชนที่มีความ คาดหวังตอ่ การเปล่ียนแปลงของวยั รุ่น

วิทยาศาสตร์  สืบคน้ ค้นควา้ และวเิ คราะห์เปรียบเทียบเกยี่ วกบั การสารวจข้อมลู ทัศนคตขิ องบุคคลตา่ ง ๆ ในชุมชนทีม่ ีความ คาดหวงั ตอ่ การ เปลีย่ นแปลงของวยั รุ่น 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นท่ี 1: นาเขา้ สบู่ ทเรียน • ครูและนกั เรยี นสนทนาเก่ียวกับการศึกษาและการปฏบิ ัติกจิ กรรมในคาบเรยี นที่ผา่ นมา ร่วมกนั เพือ่ ทบทวนความรู้ ขัน้ ท่ี 2: กิจกรรมการเรยี นรู้ • นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ผลดั เปล่ียนกนั ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการสารวจทัศนคติของ บคุ คลตา่ ง ๆ ในชุมชนทีม่ ีความคาดหวงั ต่อการเปลีย่ นแปลงของวัยรุ่นตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมายในคาบเรียนที่ผา่ นมาหน้าชัน้ เรียน ขนั้ ท่ี 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั วจิ ารณ์และเขยี นสรุปความรู้ทีไ่ ด้รับจากการปฏิบตั ิกจิ กรรม 2. ให้นักเรยี นรว่ มกนั ระบคุ วาม คาดหวังของสงั คมทมี่ ีต่อการเปลีย่ นแปลงของวัยรุ่นและ แนวทางในการปฏิบัติเพ่ือใหบ้ รรลุตามความคาดหวังดงั กลา่ ว ขั้นที่ 4: การนาไปใช้ • มอบหมายให้นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมจัดทาสมดุ ภาพ/เหตกุ ารณท์ ่เี ก่ยี วขอ้ งกับพฤตกิ รรม ของวยั รุ่นในสังคมไทยปจั จบุ นั โดยนามาเสนอในคาบเรยี นตอ่ ไป ขนั้ ที่ 5: สรุปความรู้ • ครูและนักเรียนสรุปความรแู้ ละผลทีไ่ ดจ้ ากการปฏิบัตกิ จิ กรรมรว่ มกนั แล้วใหน้ ักเรยี น บันทกึ ความรู้โดยสังเขปในสมดุ บันทึก 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. นักเรยี นควรศกึ ษา ทบทวนความรใู้ นเรอื่ ง อิทธิพลและความคาดหวงั ของสงั คมต่อการ เปล่ียนแปลงของวยั รุ่นอีกคร้ัง และควรค้นควา้ หาความรเู้ กีย่ วกับเรื่องดงั กล่าวจากแหลง่ การเรียนรูอ้ น่ื ๆ เพิ่มเติม เพ่อื ความรู้และความเขา้ ใจมากยงิ่ ขึน้ 2. นกั เรียนควรศึกษาในเรอ่ื ง วัยรุ่นกบั สอื่ โฆษณา ดังรายละเอยี ดในหนังสอื หนงั สอื เรียน/ สือ่ การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 มาลว่ งหน้าเพอ่ื ประกอบ การศึกษาในคาบเรยี นต่อไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ข่าวหรือภาพท่ีแสดงตวั อยา่ งพฤตกิ รรมของวยั รุ่นในสงั คม 2 . ใบกจิ กรรมที่ 8 เร่ือง การสารวจทัศนคตขิ องบุคคลต่าง ๆ ในชุมชนที่มีความคาดหวงั ตอ่ การเปล่ียนแปลงของวยั รุ่น 3 . ใบกิจกรรมท่ี 9 เร่อื ง การจดั ทาสมุดภาพหรอื เหตุการณ์ทีเ่ ก่ยี วกับพฤติกรรมของวยั รุ่นในสงั คมไทย ปัจจบุ นั

แผนการจัดการเรยี นรู้ 5 กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง เร่ือง วยั ร่นุ กับสื่อโฆษณา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง สอนวันท่ี…….เดอื น………………พ.ศ………..ชนั้ ม.1/1 ภาคเรียนท่ี 1/....... สอนวันที่…….เดอื น………………พ.ศ………...ชั้น ม.1/2 ภาคเรียนที่ 1/....... ครูผสู้ อน........................................... โรงเรยี นบ้านพิณโท ................................................................................................................................................ ................................... 1. สาระสาคัญ ส่อื โฆษณา หมายถึง เครอื่ งมือทางการตลาดทผ่ี ปู้ ระกอบธุรกิจใชเ้ พ่ือการประชาสมั พันธเ์ สนอขายสนิ คา้ หรือ ใหบ้ รกิ ารตอ่ ผูบ้ รโิ ภค ปจั จบุ นั สอื่ โฆษณามีบทบาทตอ่ วัยร่นุ ไทย โดยเฉพาะสือ่ ประเภทอิเล็กทรอนกิ ส์ทีม่ ีความทันสมัยไดถ้ ูก นามาใช้ ประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพรส่ ินค้า โดยเฉพาะการสอ่ื สารผา่ นทางอนิ เทอรเ์ น็ตท่ที าให้เกิดการแลกเปลีย่ นทางดา้ นทศั นคติ ระหวา่ งบคุ คลจนอาจนาไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงทางค่านิยมและพฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมและอาจไม่เหมาะสมได้ 2. ตวั ชี้วัดชนั้ ปี • วเิ คราะหส์ อื่ โฆษณาท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของวยั รุน่ (พ 1.1 ม. 3/3) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคญั และอทิ ธิพลของสอื่ โฆษณาทีม่ ีอิทธพิ ลต่อการเจริญเติบโตและ พัฒนาการของวยั ร่นุ อยา่ งถกู ต้องได้ (K) 2. เขา้ ร่วมปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นร้ใู นเรือ่ งวัยรนุ่ กบั สือ่ โฆษณาด้วยความสนใจใฝุรู้ (A) 3. ส่ือสารเพื่ออธบิ ายเก่ยี วกบั ความหมาย ความสาคัญ และอิทธพิ ลของส่อื โฆษณาทีม่ ีอทิ ธิพลต่อ พัฒนาการของวยั รุ่นอยา่ งถูกต้องได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซักถามความรูเ้ ก่ียวกบั • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล/ • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี ระดบั ความหมาย ความสาคัญ การอภิปราย/การแสดงความ คณุ ภาพ 4 ขน้ึ ไป และอิทธิพลของสอ่ื คิดเห็น/การสร้างแผนท่คี วามคิด* โฆษณาท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อ การเจริญเตบิ โตและ พัฒนาการของวยั รนุ่

วิธกี ารวัดและประเมินผล เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ตามดลุ ยพนิ ิจของครู • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามท่ีระบใุ น ปฏิบัตกิ ิจกรรมการตอบ หนงั สือเรยี น/สื่อการเรียนรู้ คาถามความรูค้ วบคพู่ ฒั นา สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ ทักษะกระบวนการคิด แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถูกต้องในการ • รูปแบบของกิจกรรมตามทรี่ ะบใุ น • ตามดลุ ยพนิ จิ ของครู • รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการ หนังสือเรยี น/สอื่ การเรยี นรู้ วิเคราะหข์ ้อความในสอื่ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ โฆษณา แบบ ม. 3* • การทดสอบความรหู้ ลงั การ • รูปแบบของกจิ กรรมตามท่รี ะบใุ น เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หนังสือเรียน/ส่อื การเรียนรู้ เรยี นร้ตู ัวเรา สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ แบบ ม. 3* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู • ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธีการวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉล่ยี ระดับคุณภาพ ของนกั เรยี น ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึง 4 ขนึ้ ไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสาหรับครู • ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/ • ผ่านเกณฑ์เฉล่ียระดบั คุณภาพ ของนกั เรียน กระบวนการ* 4 ข้ึนไป *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรบั ครู 5. สาระการเรยี นรู้ 3. วัยรุ่นกับสือ่ โฆษณา 3.1 ความหมายและประเภทของสอื่ โฆษณา 3.2 ความสาคญั ของสื่อโฆษณาทีม่ อี ิทธิพลตอ่ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของวยั รนุ่ 3.3 อิทธิพลของสอ่ื โฆษณาทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของวยั รุ่น 6. แนวทางบรู ณาการ สงั คมศึกษาฯ  ศกึ ษาคน้ คว้า เร่ือง สอ่ื โฆษณาทางอนิ เทอรเ์ นต็

ภาษาต่างประเทศ  ฟงั อ่าน และเขยี นคาศัพทท์ ่เี กย่ี วขอ้ งกับวัยรุ่นกบั สอ่ื โฆษณา ภาษาไทย  พูดคุย แสดงความคิดเหน็ และเขยี นสรปุ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสารวจขอ้ มูล ส่อื โฆษณากับคา่ นิยมดา้ นพฤติกรรมสุขภาพของวยั รนุ่ ศิลปะ  การจดั ทาสมดุ ภาพรวบรวมขอ้ มูลขอ้ ความสือ่ โฆษณา 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้นั ที่ 1: นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูและนักเรยี นสนทนาเกีย่ วกบั การศกึ ษาและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในคาบเรยี นท่ผี ่านมา ร่วมกัน เพอื่ ทบทวนความรู้ 2. ครูสมุ่ นักเรียน 3–4 คน ออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมจดั ทาสมุดภาพหรอื เหตุการณ์ทีเ่ กีย่ วข้องกับพฤตกิ รรมของวยั รุ่นในสังคมไทยปจั จบุ นั ตามทไ่ี ดม้ อบหมายใน คาบเรยี นทีผ่ ่านมา ข้ันท่ี 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพหรอื อ่านขอ้ ความโฆษณาทค่ี รูเตรียมมา แล้วให้ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นใน ประเดน็ เก่ยี วกบั ความหมาย ความสาคญั และอิทธิพลของสอ่ื โฆษณาที่มีอทิ ธิพลต่อการเจริญเตบิ โต และพฒั นาการของวยั รุ่น ตามความเข้าใจ 2. ครอู ธบิ ายและให้ความรจู้ ากประเดน็ ดงั กลา่ วเพ่ิมเติม พร้อมทัง้ เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามใน ประเดน็ ทส่ี งสยั และสนใจเพ่มิ เติม ข้ันท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์ • นกั เรียนแบง่ กลุม่ แต่ละกล่มุ ร่วมปฏิบัติกจิ กรรมการวเิ คราะห์ขอ้ ความในส่ือโฆษณาตามทร่ี ะบใุ นใบงาน ที่ โดยใช้เวลาตามทคี่ รกู าหนด ขนั้ ท่ี 4: การนาไปใช้ 1. ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนผลัดเปลี่ยนออกมานาเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรกมารวิเคราะหข์ อ้ ความในสื่อ โฆษณาหนา้ ชั้นเรียน 2. ให้นักเรยี นรว่ มปฏิบัติกจิ กรรม ทบทวนความร้คู วบคู่การพฒั นาทกั ษะกระบวนการคิด เพ่อื ตรวจสอบและประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจในบทเรยี น ขนั้ ที่ 5: สรปุ ความรู้ 1. ครูและนกั เรยี นสรปุ ความร้แู ละผลท่ีไดจ้ ากการปฏิบัตกิ จิ กรรมรว่ มกนั แล้วให้นักเรยี น บันทึกความรโู้ ดยสงั เขปในสมดุ บันทึก 2. นักเรยี นร่วมกันทาแบบทดสอบความรู้กอ่ นและหลังการเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรียนรู้ ตวั เรา 8. กจิ กรรมเสนอแนะ

• นกั เรยี นควรศกึ ษาทบทวนความรใู้ นเรื่อง วัยรุ่นกับส่อื โฆษณาอกี คร้ัง และควรค้นควา้ ความรูเ้ กี่ยวกับ เรอ่ื งดงั กล่าวในดา้ นตา่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องจากแหลง่ การเรียนรู้อืน่ ๆ เพ่มิ เติม เพื่อจะไดน้ าความรู้ดงั กลา่ วมา ปรับใช้เพ่ือสง่ เสรมิ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของตนเองใหเ้ หมาะสมกับวัยต่อไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ จากดั 1. แบบทดสอบความรกู้ ่อนและหลังการเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรยี นรู้ตวั เรา 2. ขา่ วหรอื ภาพหรือข้อความโฆษณา 3. ใบกจิ กรรมที่ 10 เรอื่ ง การวเิ คราะหข์ ้อความในสื่อโฆษณา 4 . ใบกิจกรรมที่ 11 เรอ่ื ง ทบทวนความรคู้ วบคกู่ ารพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ 5. แบบทดสอบความรู้กอ่ นและหลงั การเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรียนรตู้ วั เรา 6. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษัท สานกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จากัด 7. สอ่ื การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 บริษทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จากดั 8. แบบฝกึ ทักษะ รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ทั สานักพิมพ์วฒั นาพานิช

แผนการจัดการเรียนรู้ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง เรอื่ ง วยั รุ่นกับส่อื โฆษณา (ตอ่ ) เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวนั ที่…….เดอื น………………พ.ศ………..ชั้น ม.3/1 ภาคเรียนที่ 1/....... สอนวันที่…….เดือน………………พ.ศ………...ชน้ั ม.3/2 ภาคเรยี นที่ 1/....... ครูผสู้ อน........................................... โรงเรยี นบา้ นพิณโท ................................................................................................................................................. .................................. 1. สาระสาคญั อนามยั เจรญิ พนั ธม์ุ คี วามสาคญั กบั บุคคลทุกเพศทุกวยั ตลอดช่วงชวี ติ เพราะอนามยั เจริญพนั ธเ์ุ ป็น เร่อื งราวของการดูแลสุขภาพทางเพศ การมีชวี ิตเพศที่เปน็ สุขและปลอดภยั ทงั้ ในเรือ่ งของการมีเพศสัมพนั ธท์ ่ี ถูกตอ้ ง ปราศจากโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ การมีเพศสมั พนั ธ์ในวัยท่ีเหมาะสม ไม่มปี ัญหาการตัง้ ครรภไ์ ม่พงึ ประสงค์ และการมีครอบครวั ทม่ี ีคุณภาพอนั เกิดจากการวางแผนครอบครวั ท่ีดี รวมท้งั การมคี วามรู้ความเขา้ ใจใน เรื่องเพศศกึ ษาของบุคคลทกุ กล่มุ อายอุ ยา่ งถกู ตอ้ ง เพอ่ื การปรับตวั และการอยู่ร่วมกบั บคุ คลอ่ืน ๆ ในสงั คมไดอ้ ยา่ ง มคี วามสขุ 2. ตวั ช้ีวดั ชนั้ ปี 1. อธิบายอนามัยแมแ่ ละเดก็ การวางแผนครอบครวั และวธิ กี ารปฏิบตั ิตนทเี่ หมาะสม (พ 2.1 ม. 3/1) 2. วเิ คราะหป์ ัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อการตงั้ ครรภ์ (พ 2.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคญั และองค์ประกอบของอนามัยเจริญพันธ์ุได้ (K) 2. อธิบายแนวทางในการวางแผนครอบครวั การดูแลสุขภาพของผหู้ ญงิ ตง้ั ครรภ์ การปอู งกนั โรคเอดส์ โรคมะเรง็ ระบบสืบพนั ธ์ุ โรคติดเชอื้ ในระบบสืบพนั ธ์ุ การแทง้ และภาวะแทรกซ้อน ภาวะการมบี ุตรยาก เพศศึกษา อนามยั วยั รุน่ และภาวะหลงั วยั เจริญพันธ์แุ ละผ้สู ูงอายุ อย่างถูกตอ้ งได้ (K) 3. ตระหนกั ถึงความสาคัญของความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับอนามัยเจริญพันธุ์ (A) 4. สามารถสอ่ื สารเพื่ออธบิ ายถงึ ความหมาย ความสาคัญ องค์ประกอบและแนวทางในการนาความร้เู กย่ี วกบั อนามยั เจรญิ พันธ์ไุ ปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวันให้ผู้อื่นเขา้ ใจได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล – • ทดสอบความร้พู ้นื ฐาน หน่วย • แบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังการ การเรียนรูท้ ่ี 2 ชวี ติ และ เรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ชวี ติ ครอบครัว และครอบครวั

วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ยี ระดับ • ซกั ถามความรู้เกย่ี วกับ • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมลู / คณุ ภาพ 4 ขนึ้ ไป – ความหมาย ความ การอภิปราย/การแสดงความ • ตามดุลยพินิจของครู สาคญั และองค์ประกอบ คดิ เห็น/การสร้างแผนท่ีความคดิ * ของอนามัยเจริญพันธุ์ • ตรวจสอบความถกู ต้องของ • รปู แบบของกิจกรรมตามท่ีระบใุ น การปฏิบตั ิกิจกรรมระดม หนงั สอื เรียนฯ/ส่ือการเรียนรู้ สมองสรปุ ความเขา้ ใจในเร่อื ง สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์ องค์ประกอบของอนามัย แบบ ม. 3* เจริญพนั ธุ์ *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความร้เู สรมิ สาหรบั ครู • ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลีย่ ระดบั คุณภาพ ของนักเรยี น คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ 4 ขึ้นไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรบั ครู • ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ ระดับคณุ ภาพ 4 ขน้ึ ไป ของนกั เรยี น กระบวนการ* *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรูเ้ สรมิ สาหรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 1. อนามยั เจริญพนั ธุ์ 1.1 ความหมายของอนามัยเจริญพันธุ์ 1.2 องค์ประกอบของอนามยั เจริญพันธุ์ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาต่างประเทศ  ฟัง อ่าน และเขยี นคาศพั ท์ภาษาอังกฤษทีเ่ ก่ียวข้องกับอนามัยเจรญิ -พนั ธ์ุ ภาษาไทย  พูดคยุ แสดงความคิดเห็นและเขียนสรุปความเข้าใจเกีย่ วกับความหมายและ องคป์ ระกอบของอนามัยเจรญิ พนั ธุ์ 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้

ขน้ั ท่ี 1: นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครแู ละนักเรียนสนทนาเก่ียวกับการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในคาบเรียนท่ีผา่ นมา เพอื่ ทบทวนความรู้ 2. ครนู าแบบทดสอบความรูก้ ่อนการเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่2 ชวี ติ และครอบครัว แจกให้ นกั เรียนทกุ คน เพอื่ ทบทวนความรู้ความเข้าใจพ้นื ฐาน โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาหนด ขั้นที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรยี นอาสาสมัคร 3–4 คน แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับความร้คู วามเขา้ ใจใน ความหมายและองค์ประกอบของอนามัยเจริญพนั ธ์ุ 2. ครูใหค้ วามรเู้ กี่ยวกบั ความหมายและองค์ประกอบของอนามยั เจรญิ พนั ธ์ุ ดังรายละเอยี ดตามทร่ี ะบไุ ว้ใน หนงั สอื เรยี นฯ/ส่ือการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 ขั้นท่ี 3: ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ • ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมระดมสมองสรุปความเขา้ ใจในเรอ่ื งองคป์ ระกอบของ อนามัยเจริญพันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลอื ก หัวข้อเร่อื งตามทีก่ าหนด ดงั นี้ 1. การวางแผนครอบครวั 2. การอนามัยแมแ่ ละเด็ก 3. โรคเอดส์ 4. โรคมะเรง็ ระบบสบื พันธุ์ 5. โรคติดเช้อื ในระบบสบื พนั ธ์ุ 6. การแท้งและภาวะแทรกซอ้ น 7. ภาวะการมบี ตุ รยาก 8. เพศศกึ ษา 9. อนามัยวัยร่นุ 10. ภาวะหลงั วัยเจรญิ พนั ธุแ์ ละผู้สูงอายุ โดยใช้เวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตามทีค่ รูกาหนด 2. ครสู มุ่ แตล่ ะกลุ่มผลดั เปลีย่ นกันออกมานาเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย และใหเ้ พื่อนในช้นั เรียนรว่ มกันสอบถามในประเด็นทสี่ นใจ โดยครูคอยให้ความร้แู ละ คาแนะนาเพิ่มเตมิ ขั้นท่ี 4: การนาไปใช้ • ครมู อบหมายให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมศึกษาค้นคว้าเรอ่ื ง เพศศกึ ษาที่วยั รุ่นควรรู้ ดงั รายละเอยี ดตามท่ี ระบไุ ว้ในหนังสือเรยี นฯ/ส่อื การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 โดยนามาเสนอ ในคาบเรยี นต่อไป ข้นั ท่ี 5: สรุปความรู้ • ครแู ละนักเรียนสรุปความรแู้ ละผลทไี่ ด้รบั จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมร่วมกัน แล้วใหน้ กั เรยี น

บนั ทกึ ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมุดบนั ทึก 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนควรนาความรู้ในเรือ่ ง ความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั อนามยั เจริญพนั ธุ์ตามที่ไดศ้ กึ ษา ผา่ นมาไปถา่ ยทอดใหแ้ ก่สมาชกิ ในครอบครวั ของตนเอง เพอ่ื เป็นการช่วยเสรมิ สร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องดังกลา่ วใหถ้ ูกตอ้ งและสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่าง เหมาะสมตอ่ ไป 2. นักเรยี นควรศึกษาในเรอ่ื ง การอนามัยแม่และเด็ก ดังรายละเอียดในหนังสือเรียนฯ/สือ่ การ เรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 มาล่วงหน้า เพ่ือประกอบการศึกษา ในคาบเรียนต่อไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบความรูก้ ่อนและหลงั การเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ชวี ติ และครอบครวั 2. ใบกิจกรรมท่ี 12 ระดมสมองสรุปความเขา้ ใจในเร่ือง องค์ประกอบของอนามยั เจริญพนั ธ์ุ 3. ใบกิจกรรมที่ 13 เร่ือง เพศศึกษาท่ีวัยรุ่นควรรู้ 4. หนังสอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บรษิ ทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด 5. สื่อการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 บริษัท สานกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จากดั 6. แบบฝึกทักษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษทั สานกั พิมพ์วฒั นาพานชิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 7 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ชวี ติ และครอบครัว เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง เร่ือง การอนามัยแมแ่ ละเด็ก เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี…….เดอื น………………พ.ศ………..ช้นั ม.3/1 ภาคเรยี นท่ี 1/....... สอนวันที่…….เดอื น………………พ.ศ………...ชน้ั ม.3/2 ภาคเรยี นท่ี 1/....... ครผู ู้สอน........................................... โรงเรยี นบา้ นพิณโท ............................................................................................................................. ...................................................... 1. สาระสาคญั การอนามัยแม่และเดก็ เป็นการดแู ลสุขภาพอนามัยของผหู้ ญิงทัง้ กอ่ นการตัง้ ครรภ์ ระหว่างการตง้ั ครรภ์ และหลังการต้งั ครรภ์ เพ่อื ให้มกี ารตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีทงั้ ตัวของแม่เองและเด็กทารกในครรภ์ รวมถงึ การเลย้ี งดทู ารกหลังคลอดได้อยา่ งมีคณุ ภาพ งานอนามยั แมแ่ ละเดก็ จะเกิดผลสมั ฤทธ์ไิ ด้น้ัน ผทู้ ีเ่ ป็นแมจ่ ะตอ้ งมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการดูแลสขุ ภาพ ของตนเองและทารกในครรภ์ โดยในเบ้อื งตน้ จะตอ้ งทราบปจั จัยที่มผี ลกระทบตอ่ สุขภาพและความเส่ียงต่อความไม่ ปลอดภัยในการตง้ั ครรภ์ 2. ตวั ชีว้ ัดช้ันปี 1. อธบิ ายอนามยั แม่และเด็ก การวางแผนครอบครวั และวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนทเ่ี หมาะสม (พ 2.1 ม. 3/1) 2. วเิ คราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตง้ั ครรภ์ (พ 2.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย และความสาคญั ของการอนามัยแมแ่ ละเด็กได้ (K) 2. วิเคราะห์และระบปุ ัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อการตัง้ ครรภ์อยา่ งถูกต้องได้ (K, P) 3. ตระหนักถึงความสาคญั ของความรเู้ กยี่ วกบั การอนามยั แมแ่ ละเดก็ และปัจจัยที่มผี ลกระทบต่อ การตัง้ ครรภ์ (A) 4. ส่ือสารเพ่อื อธบิ ายถึงความหมายและความสาคญั ของการอนามัยแม่และเดก็ ตลอดจนปัจจัยท่ีมี ผลกระทบต่อการตัง้ ครรภ์ใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • ซักถามความร้เู ก่ียวกับ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล/ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ยระดับ คุณภาพ 4 ขึ้นไป – ความหมายและความ การอภิปราย/การแสดงความ สาคัญของการอนามยั คดิ เหน็ /การสร้างแผนท่ีความคดิ * แมแ่ ละเดก็

วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ตามดลุ ยพินิจของครู – ปจั จยั ทมี่ ีผลกระทบต่อ • ตามดุลยพินิจของครู การตัง้ ครรภ์ • ตามดุลยพินิจของครู • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกจิ กรรมตามท่ีระบใุ น ปฏิบัติกิจกรรมระดมสมองตอบ หนังสอื เรยี นฯ/ส่อื การเรยี นรู้ คาถาม สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์ แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการ • รูปแบบของกจิ กรรมตามที่ระบใุ น ปฏบิ ตั ิกิจกรรมศกึ ษาค้นคว้าเรือ่ ง หนงั สือเรียนฯ/สื่อการเรียนรู้ เพศศกึ ษาท่วี ัยรุ่นควรรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณ์ แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถูกต้องของการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามที่ระบใุ น ปฏิบตั กิ ิจกรรมการสารวจจานวน หนงั สอื เรียนฯ/สอื่ การเรยี นรู้ ของเด็กทารก (อายุ 1 วนั –2 ปี) สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์ ใน แบบ ม. 3* ชมุ ชน *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรูเ้ สรมิ สาหรับครู • ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม • ผ่านเกณฑเ์ ฉลี่ยระดับคณุ ภาพ ของนกั เรยี น คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ 4 ขึน้ ไป ประสงค์* *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) เคร่อื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดและประเมินผล • แบบประเมินทักษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ยระดับคณุ ภาพ • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก กระบวนการ* 4 ขึ้นไป ของนักเรียน *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู

5. สาระการเรียนรู้ 2. การอนามยั แม่และเดก็ 2.1 ความหมายของการอนามัยแม่และเด็ก 2.2 ปัจจยั ท่มี ผี ลกระทบต่อการตัง้ ครรภ์ 2.3 การดูแลสุขภาพกอ่ นการต้ังครรภ์ 2.4 การดแู ลสุขภาพระหว่างการต้ังครรภ์ 2.5 การดแู ลสขุ ภาพหลังคลอด 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง อา่ น และเขยี นคาศพั ท์ภาษาอังกฤษท่เี ก่ยี วข้องกบั ความหมายของการ ภาษาตา่ งประเทศ  อนามยั แมแ่ ละเดก็ ภาษาไทย  พดู คยุ แสดงความคิดเหน็ และเขยี นสรุปความเข้าใจเกย่ี วกบั ความสาคัญของการ อนามยั แมแ่ ละเด็ก คณิตศาสตร์  ศึกษาสถติ ทิ ่ีเกย่ี วขอ้ งกบั จานวนแมแ่ ละทารกในชมุ ชน/สถติ กิ ารเกดิ ของทารก ในชุมชน 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ ที่ 1: นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูและนกั เรยี นสนทนาเก่ียวกับการศกึ ษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมในคาบเรียนท่ีผ่านมา เพ่อื ทบทวนความรู้ 2. ครูสมุ่ นกั เรียน 2–3 คนผลัดเปล่ียนกันออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมศกึ ษาค้นคว้าเร่อื ง เพศศกึ ษาทวี่ ยั รนุ่ ควรรู้ ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมายในคาบเรยี นทผี่ า่ นมา โดยครูให้คาแนะนาและแสดง ความคิดเห็นเพิม่ เติม 3. ให้นกั เรยี นอาสาสมคั ร 2–3 คนออกมาสรปุ ความร้แู ละแสดงความคิดเห็นตอ่ ผลการศกึ ษาในเรอื่ งการ อนามัยแมแ่ ละเดก็ ตามที่ไดศ้ กึ ษามาล่วงหน้า ขัน้ ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู ห้ความรู้เร่ือง การอนามยั แม่และเดก็ โดยใช้ภาพหรือขอ้ มลู ความรจู้ ากวารสารของโรงพยาบาล เชน่ ภาพผู้หญิงทก่ี าลงั ตั้งครรภโ์ ดยในระยะตา่ ง ๆ ภาพแม่ทก่ี าลงั ดแู ลลกู ในลกั ษณะตา่ ง ๆ ภาพแสดง ลกั ษณะของอาหารที่เหมาะสมกบั ผูห้ ญงิ ทกี่ าลังตัง้ ครรภ์ในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบคาอธบิ าย 2. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามในประเด็นทสี่ งสยั และสนใจเพิ่มเตมิ

ขน้ั ท่ี 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นักเรียนแบ่งกลุม่ กล่มุ ละ 4–5 คน ปฏิบตั กิ จิ กรรมระดมสมองตอบคาถาม เก่ยี วกบั การ อนามยั แม่และเดก็ ดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรยี นฯ/สือ่ การเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามท่ีครกู าหนด 2. ครสู ุ่มนักเรยี นท่อี ย่ใู นแตล่ ะกล่มุ เปน็ ตัวแทนให้ออกมาอา่ นคาตอบจากการปฏบิ ัติกจิ กรรม สลับกนั โดย ครูคอยชี้แนะแนวคาตอบที่ถูกต้องให้นกั เรียนทราบ ขัน้ ที่ 4: การนาไปใช้ • มอบหมายใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การสารวจจานวนของเด็กทารก (อายุ 1วัน–2 ปี)ใน ชุมชน พรอ้ มทงั้ เขียนแสดงความคดิ เห็น โดยวิเคราะหถ์ ึงสภาพและผลกระทบของสถติ ิทพี่ บตอ่ ลักษณะ โครงสรา้ งทางสังคมในอนาคต แล้วนามาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป ขัน้ ท่ี 5: สรปุ ความรู้ • ครูและนกั เรียนสรุปความรแู้ ละผลทีไ่ ด้รบั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมร่วมกนั แล้วใหน้ กั เรยี นบนั ทึกความรู้ โดยสงั เขปลงในสมุดบันทึก 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนควรนาแนวทางในเร่ือง การอนามยั แม่และเด็ก ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน 2. นกั เรยี นควรศึกษาในเรือ่ ง การวางแผนครอบครวั ดงั รายละเอียดในหนังสอื เรียนฯ/สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 มาล่วงหน้า เพอ่ื ประกอบการศึกษาในคาบเรยี นตอ่ ไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพหรอื ข้อมูลความรจู้ ากวารสารของโรงพยาบาล เชน่ ภาพผ้หู ญงิ ทีก่ าลตงั ้งั ครรภ์ โดยในระยะต่าง ๆ ภาพแมท่ ี่กาลงั ดูแลลกู ในลักษณะต่าง ๆ ภาพแสดงลักษณะของอาหารท่ี เหมาะสมกับผู้หญิงท่กี าลงั ตงั้ ครรภใ์ นรปู แบบตา่ ง ๆ 2. ใบกจิ กรรมที่ 14 เร่ือง กจิ กรรมระดมสมองตอบคาถาม 3. ใบกิจกรรมท่ี 15 เรอ่ื ง การสารวจจานวนของเดก็ ทารก (อายุ 1 วนั –2 ปี) ในชุมชน 4. หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ัท สานกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จากัด 5. สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 บรษิ ทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จากัด 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ม. 3 บริษัท สานกั พิมพ์วัฒนาพานิช จากดั

แผนการจัดการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ชวี ิตและครอบครวั เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง เรอื่ ง การวางแผนครอบครัว เวลาเรียน 1 ช่วั โมง สอนวันที่…….เดอื น………………พ.ศ………..ช้ัน ม.3/1 ภาคเรยี นท่ี 1/....... สอนวนั ที่…….เดือน………………พ.ศ………...ช้นั ม.3/2 ภาคเรียนท่ี 1/....... ครผู สู้ อน........................................... โรงเรยี นบ้านพิณโท ............................................................................................................................. ...................................................... 1. สาระสาคัญ ชีวิตการมคี รอบครวั จะมคี วามสขุ ไดน้ อกจากการมคี ู่สมรสท่ีปรับการใชช้ วี ติ รว่ มกนั ไดโ้ ดยไมม่ ปี ัญหาแลว้ เรอื่ งของการมบี ตุ รเม่ือพร้อมมคี วามสาคญั ไมย่ งิ่ หย่อนไปกว่ากัน เพราะการมบี ุตรในเวลาท่ีเหมาะสมจะช่วยให้ สามารถเล้ยี งดบู ตุ รได้อย่างมีคณุ ภาพและเกดิ ความสุขในครอบครัว การวางแผนครอบครัวจงึ มคี วามสาคญั ตอ่ ครอบครวั เปน็ อยา่ งยิง่ เพราะจะช่วยใหค้ ่สู มรสมีบุตรได้ตรงระดับ ฐานะและความตอ้ งการของครอบครวั ได้ สง่ ผลต่อการมีประชากรทถี่ กู เลีย้ งดไู ดอ้ ย่างมคี ุณภาพผลิตออกสสู่ ังคม และประเทศชาตติ อ่ ไป 2. ตวั ชี้วัดชน้ั ปี 1. อธบิ ายอนามัยแม่และเดก็ การวางแผนครอบครัว และวธิ ีการปฏบิ ตั ิตนทเี่ หมาะสม (พ 2.1 ม. 3/1) 2. วิเคราะห์ปัจจัยทีม่ ผี ลกระทบต่อการตั้งครรภ์ (พ 2.1 ม. 3/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายและความสาคญั ของการวางแผนครอบครัวได้ (K) 2. อธบิ ายและวิเคราะหถ์ ึงขอ้ ดขี องการวางแผนมีบุตรและการคมุ กาเนดิ อย่างถูกต้องได้ (K) 3. ตระหนักถึงความสาคัญของความรเู้ กย่ี บกับการวางแผนครอบครวั (A) 4. ส่ือสารเพื่ออธิบายความหมายและความสาคัญของการวางแผนครอบครัวใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) เคร่ืองมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมินผล

• ซกั ถามความร้เู กีย่ วกับ • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมลู / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลยี่ ระดับ ความหมายและความ สาคัญของการวางแผน การอภิปราย/การแสดงความ คุณภาพ 4 ขนึ้ ไป ครอบครัว คิดเห็น/การสร้างแผนท่คี วามคิด* วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • ตรวจสอบความถูกต้องของ • รูปแบบของกิจกรรมตามท่ีระบุใน • ตามดุลยพินจิ ของครู การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการ หนังสอื เรยี นฯ/ส่ือการเรยี นรู้ เขยี นเรียงความเรอื่ ง สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์ ครอบครวั ในอดุ มคติของ แบบ ม. 3* ข้าพเจ้า *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรบั ครู • ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลีย่ ระดับคณุ ภาพ ของนกั เรยี น คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึง 4 ข้ึนไป ประสงค์* *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสาหรบั ครู • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลย่ี ระดับคุณภาพ ของนกั เรยี น กระบวนการ* 4 ขึ้นไป *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสาหรบั ครู 5. สาระการเรยี นรู้ 3. การวางแผนครอบครวั 3.1 ความหมายและความสาคัญของการวางแผนครอบครัว 6. แนวทางบรู ณาการ สังคมศกึ ษาฯ  ศึกษาเกย่ี วกบั สถติ ิจานวนประชากรไทยในวัยตา่ ง ๆ ภาษาตา่ งประเทศ  ฟงั อา่ น และเขยี นคาศัพทภ์ าษาอังกฤษที่เกี่ยวขอ้ งกับการวางแผนครอบครวั ภาษาไทย  พดู คุยแสดงความคดิ เหน็ เขียนเรียงความเรื่องครอบครัวในอุดมคติของขา้ พเจา้ ศลิ ปะ  วาดภาพ/ระบายสี/ตกแต่งภาพและขอ้ มลู เพื่อจัดปาู ยนเิ ทศเกย่ี วกับความรู้ใน เรอ่ื งการวางแผนครอบครวั 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้ันท่ี 1: นาเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ครูและนักเรียนสนทนาเกย่ี วกับการศึกษาและการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในคาบเรยี นทผ่ี ่านมา เพ่อื ทบทวนความรู้ 2. ครูสุ่มนักเรียนที่เปน็ ตวั แทนของกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการสารวจจานวนของเด็ก ทารก (อายุ 1 วัน –2 ปี) ในชุมชน ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายในคาบเรยี นทผ่ี ่านมา โดยใหเ้ พื่อน ๆ ในช้นั เรียนร่วมแสดงความคิดเห็น 3. นักเรียนร่วมกันดูภาพท่ีเก่ียวข้องกบั การวางแผนครอบครัว เชน่ ภาพของครอบครวั ไทยขนาดต่าง ๆ ภาพถงุ ยางอนามัย ภาพห่วงอนามยั ภาพยาฉีดคมุ กาเนดิ ภาพการทาหมันในเพศชายและเพศหญงิ ภาพท่านมชี ัย วรี ะไวทยะ ฯลฯ ทีค่ รเู ตรยี มมา แลว้ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็นในประเด็นท่วี า่ – นักเรียนได้แนวคิดจากการดูภาพท่คี รนู าเสนอดงั กลา่ วอยา่ งไร – นกั เรยี นคิดวา่ ภาพทดี่ มู คี วามเก่ยี วข้องกบั การปฏิบตั กิ ิจกรรม การสารวจจานวนของเดก็ ทารก (อายุ 1 วัน –2 ปี) ในชุมชนอยา่ งไร – นักเรียนคดิ วา่ ความรคู้ วามเขา้ ใจในเรือ่ ง การวางแผนครอบครัวส่งผลดตี อ่ บคุ คลและ สังคมอยา่ งไร (ครอู าจใชค้ าถามอนื่ ๆ ทเี่ หมาะสมกบั สภาพในการจัดการเรียนการสอนได้) ขน้ั ที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูให้ความรใู้ นเรอื่ ง ความหมายและความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั ดงั รายละเอียด ในหนงั สอื เรยี นฯ/ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณแ์ บบ ม. 3 2. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ที่สงสัยและสนใจเพม่ิ เติม ขั้นที่ 3: ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ • ครูสมุ่ นักเรยี นประมาณ 4–5 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ ในเรือ่ ง การวางแผนครอบครัวพร้อมสรุป ความหมายและความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั ขน้ั ท่ี 4: การนาไปใช้ • มอบหมายใหน้ กั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมการเขยี นเรียงความเรอื่ งครอบครัวในอุดมคติของขา้ พเจ้า โดยมี ความยาวอยา่ งนอ้ ย 2 หนา้ กระดาษ ขน้ั ท่ี 5: สรุปความรู้ • ครูและนกั เรยี นสรปุ ความรู้และผลที่ได้รบั จากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมรว่ มกนั แล้วใหน้ กั เรียน บันทกึ ความร้โู ดยสงั เขปลงในสมดุ บันทกึ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ • นกั เรยี นควรศึกษาในเรอ่ื ง 3.2 การวางแผนการมีบุตรและการคุมกาเนิด ดังรายละเอยี ด ในหนงั สอื เรยี นฯ/สอ่ื การเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณแ์ บบ ม. 3 มาล่วงหนา้ เพือ่ ประกอบการศึกษาในคาบเรยี นต่อไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ภาพทีเ่ กี่ยวข้องกบั การวางแผนครอบครัว เชน่ ภาพของครอบครัวไทยขนาดตา่ ง ๆ ภาพถุงยางอนามัย ภาพห่วงอนามัย ภาพยาฉีดคมุ กาเนดิ ภาพการทาหมนั ในเพศชายและเพศหญงิ ภาพท่านมีชยั วรี ะไวท ยะ ฯลฯ

2. ใบกจิ กรรมที่ 16 เรอ่ื ง การเขยี นเรยี งความเรอ่ื งครอบครวั ในอุดมคตขิ องข้าพเจ้า 3. หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด 4. ส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 บรษิ ทั สานกั พมิ พว์ ัฒนาพานิช จากดั 5. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บริษัท สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากัด จากั

แผนการจดั การเรียนรู้ 9 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ชวี ิตและครอบครัว เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง เร่อื ง การวางแผนครอบครวั (ต่อ) เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี…….เดือน………………พ.ศ………..ช้ัน ม.3/1 ภาคเรียนที่ 1/....... สอนวนั ที่…….เดอื น………………พ.ศ………...ชัน้ ม.3/2 ภาคเรียนท่ี 1/....... ครูผู้สอน...........................................โรงเรยี นบา้ นพณิ โท ....................................................................................................... ................................................................. ........... 1. สาระสาคัญ การวางแผนครอบครัว หมายถึง การกาหนดแผนการมีบตุ รของคู่สมรสวา่ ควรมบี ุตรเมือ่ ใด และมีบุตรจานวน กคี่ น รวมท้ังการเว้นระยะการมบี ุตรไดอ้ ย่างเหมาะสม การวางแผนครอบครวั ประกอบด้วย การเร่งกาเนดิ การ เลอื กกาเนดิ และการคุมกาเนิด โดย การเร่งกาเนดิ คือ การชว่ ยเหลือใหค้ สู่ มรสทมี่ ลี ูกยากสามารถมีลกู ไดต้ ามที่ ตอ้ งการ การเลอื กกาเนิด คอื การเจาะจงเลือกเพศของบุตรใหไ้ ดเ้ พศตามทตี่ อ้ งการ การคมุ กาเนดิ คือ การปอู งกนั การกาเนดิ ของชีวติ ซึง่ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ลักษณะ คือ การคมุ กาเนดิ แบบช่ัวคราวและการคมุ กาเนิดแบบถาวร 2. ตัวชวี้ ัดช้ันปี 1. อธิบายอนามัยแม่และเดก็ การวางแผนครอบครัว และวิธกี ารปฏบิ ตั ติ นท่เี หมาะสม (พ 2.1 ม. 3/1) 2. วิเคราะห์ปจั จัยทีม่ ผี ลกระทบตอ่ การต้ังครรภ์ (พ 2.1 ม. 3/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของการเร่งกาเนดิ การเลือกกาเนิด และการคุมกาเนดิ อยา่ งถกู ต้องได้ (K) 2. อธิบายและระบแุ นวทางในการคมุ กาเนิดแบบชั่วคราวและการคมุ กาเนิดแบบถาวรอยา่ งถกู ตอ้ ง ได้ (K, P) 3. ตระหนกั ถึงความสาคัญของความรเู้ ก่ยี วกบั การวางแผนครอบครวั (A) 4. ระบรุ ูปแบบ วธิ ีการ และแหล่งบริการในการวางแผนครอบครัวอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • ซกั ถามความร้เู กยี่ วกบั • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมลู / • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี ระดบั – ความหมายของการเร่ง การอภปิ ราย/การแสดงความ คณุ ภาพ 4 ข้ึนไป กาเนิด การเลือกกาเนิด คิดเหน็ /การสร้างแผนทค่ี วามคิด* และ การคุมกาเนิด – แนวทางการวางแผนการ มบี ุตรและการคมุ กาเนดิ

• ตรวจสอบความถูกต้องของ • รปู แบบของกิจกรรมตามทร่ี ะบใุ น • ตามดุลยพนิ จิ ของครู การปฏบิ ตั ิกิจกรรมการ หนงั สือเรียนฯ/สอื่ การเรียนรู้ • ตามดลุ ยพินจิ ของครู อภิปรายเรือ่ งความสาคัญของ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ การวางแผนครอบครัวและ แบบ ม. 3* ความสุขในชีวติ สมรส • รปู แบบของกจิ กรรมตามที่ระบใุ น • ตรวจสอบความถกู ต้องของ หนงั สอื เรยี นฯ/สือ่ การเรยี นรู้ การปฏิบัติกจิ กรรมการระดม สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์ ความคดิ เหน็ ในการเขยี นแผน แบบ ม. 3* ทคี่ วามคิดเปรยี บเทยี บวธิ กี าร คุมกาเนิดแบบช่ัวคราวและ แบบถาวร *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรบั ครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธีการวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลยี่ ระดบั คุณภาพ ของนักเรยี น ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึง 4 ขึ้นไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสาหรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทักษะ/ • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ียระดบั คุณภาพ ของนักเรียน กระบวนการ* 4 ขึ้นไป *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สรมิ สาหรบั ครู 5. สาระการเรียนรู้ 3. การวางแผนครอบครัว (ตอ่ ) 3.2 การวางแผนการมบี ุตรและการคุมกาเนิด 6. แนวทางบูรณาการ สังคมศกึ ษาฯ  ศึกษาเก่ียวกับลักษณะของครอบครวั ในสังคมไทย ภาษาตา่ งประเทศ  ฟงั อา่ น และเขียนคาศพั ท์ภาษาองั กฤษทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การวางแผนครอบครัว ภาษาไทย  พูดคุยแสดงความคิดเหน็ เขียนแผนทค่ี วามคดิ เพ่ือสรุปเปรยี บเทียบวธิ กี าร คุมกาเนิดแบบชว่ั คราวและแบบถาวร วิทยาศาสตร์  ค้นควา้ และสารวจรวบรวมข้อมูลเกยี่ วกบั วธิ ีการคมุ กาเนิดในชมุ ชน

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1: นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครแู ละนกั เรยี นสนทนาเกีย่ วกบั การศกึ ษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมในคาบเรยี นทผ่ี า่ นมา เพือ่ ทบทวนความรู้ 2. ให้นกั เรยี นอาสาสมคั ร 1–2 คนออกมาอา่ นเรยี งความเรอ่ื ง ครอบครัวในอดุ มคติของข้าพเจา้ ให้เพอื่ น ๆ ฟงั และให้แสดงความคิดเห็นร่วมกนั ข้นั ที่ 2: กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้ความรใู้ นเรอื่ ง การวางแผนการมีบตุ รและการคุมกาเนิด ดังรายละเอยี ดในหนงั สอื เรยี นฯ/สือ่ การเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 2. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนสอบถามในประเด็นท่สี งสยั และสนใจเพมิ่ เติม ขั้นที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมอภิปรายเร่ืองความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั และความสุขในชีวิต โดยผลัดเปลย่ี นกันอภิปราย ตามเวลาทีค่ รกู าหนด ขนั้ ที่ 4: การนาไปใช้ • มอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันระดมความคดิ เห็นเพื่อเขยี นสรุปความรู้เพอื่ เปรยี บเทยี บวิธีการ คมุ กาเนดิ แบบชวั่ คราวและแบบถาวร ในรูปแบบแผนท่คี วามคิด โดยนามาเสนอในคาบเรยี นต่อไป ขัน้ ท่ี 5: สรุปความรู้ • ครูและนกั เรียนสรุปความรู้และผลทไ่ี ด้รับจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมรว่ มกัน แล้วให้นักเรียน บนั ทกึ ความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนควรศกึ ษาในเรือ่ ง การวางแผนครอบครวั เพิม่ เตมิ จากสอ่ื หรือแหลง่ การเรยี นรู้อนื่ ๆ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจในเรอื่ งดงั กล่าวอยา่ งถกู ตอ้ งและสามารถนาไปถ่ายทอดให้แกผ่ อู้ ื่นเพือ่ ให้เกิด ประโยชน์แก่สว่ นรวมได้ รวมถึงสามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดเ้ ป็นอยา่ งดีอีกด้วย 2. นักเรยี นควรศึกษาในเรอ่ื ง ปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัว ดังรายละเอยี ดใน หนงั สอื เรียนฯ/สือ่ การเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 มาลว่ งหน้า เพอื่ ประกอบการศึกษาในคาบเรยี นต่อไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพท่ีเก่ยี วข้องกบั การวางแผนครอบครวั เชน่ ภาพของครอบครัวไทยขนาดตา่ ง ๆ ภาพ ถุงยางอนามยั ภาพห่วงอนามัย ภาพยาฉดี คุมกาเนดิ ภาพการทาหมันในเพศชายและเพศ หญงิ ภาพท่านมีชยั วรี ะไวทยะ ฯลฯ 2. ตัวอยา่ งอุปกรณค์ มุ กาเนดิ ของจรงิ เช่น ถงุ ยางอนามัย ยาคุมกาเนดิ ชนดิ ตา่ ง ๆ

3. ใบกจิ กรรมท่ี 17 เร่อื ง การอภิปรายเรือ่ งความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั และ ความสุขในชวี ติ สมรส 4. ใบกจิ กรรมท่ี 18 เร่อื ง การระดมความคดิ เห็นในการเขยี นแผนทีค่ วามคดิ เปรยี บเทียบ วธิ ีการคุมกาเนดิ แบบชวั่ คราวและแบบถาวร 5. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ัท สานักพมิ พว์ ัฒนาพานิช จากดั 6. สือ่ การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ัฒนาพานิช จากัด 7. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จากดั จากดั

แผนการจดั การเรยี นรู้ 10 กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ชวี ติ และครอบครัว เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง เร่อื ง ปัญหาความขดั แย้งในครอบครัว เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง สอนวนั ท่ี…….เดือน………………พ.ศ………..ช้นั ม.3/1 ภาคเรียนท่ี 1/....... สอนวนั ที่…….เดือน………………พ.ศ………...ชนั้ ม.3/2 ภาคเรยี นที่ 1/....... ครผู ้สู อน...........................................โรงเรยี นบ้านพณิ โท ........................................................................ ................................................................................................ ........... 1. สาระสาคญั ความขัดแยง้ ในครอบครัว เปน็ สาเหตสุ าคญั ของปัญหาครอบครัว ทอี่ าจสง่ ผลใหเ้ กดิ การแตกแยกและขาด ความอบอุน่ ข้ึนได้ ครอบครวั ไทยในปัจจบุ ันโดยเฉพาะในสงั คมเมอื งมักจะมรี ูปแบบการดาเนินชวี ติ ทีม่ แี ตก่ าร แข่งขนั สง่ ผลให้สมาชิกในครอบครัวไมม่ เี วลาทากจิ กรรมเพ่ือสรา้ งสมั พันธภาพในครอบครัวให้แน่นแฟนู อกี ท้ังลืม คณุ คา่ ของความเป็นครอบครวั ไทยในอดตี ทีม่ แี ตก่ ารให้อภยั กนั เมตตาต่อกนั และให้ความเคารพผู้อาวโุ สใน ครอบครัว จนบางครั้งมักเกิดปัญหาความขัดแย้งทส่ี ง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาความรนุ แรงในครอบครวั ไดใ้ นรูปแบบของ การทาร้ายรา่ งกาย จิตใจกัน รวมไปถึงการทอดทิ้ง และการล่วงเกินทางเพศของสมาชกิ ในครอบครวั 2. ตัวชีว้ ัดชัน้ ปี • วเิ คราะห์สาเหตแุ ละเสนอแนวทางปอู งกนั แก้ไขความขดั แยง้ ในครอบครัว (พ 2.1 ม. 3/3) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของคาที่เก่ยี วข้องกับปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครัวได้ (K) 2. อธิบายและวเิ คราะห์ลักษณะ ปจั จัยทีก่ อ่ ใหเ้ กิดปญั หา และผลกระทบของปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครัวอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K, P) 3. อธบิ ายและเสนอแนะแนวทางในการปอู งกนั และแก้ไขปญั หาความขดั แย้งในครอบครวั อย่าง ถูกตอ้ งได้ (K, P) 4. ตระหนักถึงความสาคญั ของความรเู้ ก่ยี วกับปัญหาความขดั แย้งในครอบครัว (A) 5. แสดงทกั ษะในการปอู งกนั และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวอยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • ซักถามความร้เู ก่ยี วกบั • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมลู / • ผ่านเกณฑเ์ ฉลี่ยระดับ คณุ ภาพ 4 ข้นึ ไป – ความหมาย ลักษณะ การอภปิ ราย/การแสดงความ ปจั จัยและผลกระทบ คดิ เหน็ /การสร้างแผนทีค่ วามคิด* ของปัญหาความขัดแย้งใน ครอบครวั

– แนวทางในการปูองกนั และแกไ้ ขปญั หาความ ขดั แยง้ ในครอบครวั • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รูปแบบของกจิ กรรมตามที่ระบุใน • ตามดลุ ยพินิจของครู การปฏิบัติกจิ กรรมการ หนงั สอื เรียนฯ/สื่อการเรยี นรู้ จัดทาสมุดภาพ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์ แบบ ม. 3* *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรับครู • ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ ของนักเรยี น คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ 4 ขึ้นไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สรมิ สาหรับครู • ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมินทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลีย่ ระดบั คณุ ภาพ 4 ขน้ึ ไป ของนักเรียน กระบวนการ* *ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู 5. สาระการเรียนรู้ 4. ปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครัว 4.1 ความหมายของคาท่ีเกี่ยวขอ้ ง 4.2 ลกั ษณะของปญั หาความขดั แยง้ ในครอบครวั 4.3 ปจั จยั ทก่ี ่อให้เกิดปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัวและผลกระทบ 4.4 แนวทางในการปอู งกันและแก้ไขปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครัว 6. แนวทางบูรณาการ สงั คมศึกษาฯ  อา่ น/ค้นควา้ /พูดคยุ เกี่ยวกับเหตกุ ารณแ์ ละผลกระทบทเี่ กิดจาก ปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัว ภาษาไทย  พูดคุยแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับแนวทางในการปูองกันและ แกไ้ ขปญั หา ความขดั แยง้ ในครอบครัว ศลิ ปะ  จัดทาสมดุ ภาพแสดงขา่ ว/เหตุการณท์ เ่ี กย่ี วกับปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัว 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้

ขัน้ ที่ 1: นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูและนกั เรยี นสนทนาเกยี่ วกบั การศกึ ษาและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในคาบเรยี นทีผ่ า่ นมา เพือ่ ทบทวนความรู้ 2. ครสู ุ่มนกั เรยี นในแตล่ ะกลมุ่ ผลัดเปลย่ี นกันออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการระดม ความคดิ เห็นในการเขยี นแผนทค่ี วามคดิ เปรยี บเทยี บวธิ กี ารคมุ กาเนิดแบบชว่ั คราวและ แบบถาวร ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายในคาบเรยี นทผ่ี า่ นมา 3. นักเรียนร่วมกันดภู าพหรืออา่ นขา่ วท่ีนาเสนอเนือ้ หาเก่ียวกับปญั หาและผลกระทบจากความขดั แยง้ ในครอบครวั ทเ่ี กิดขึน้ ในสังคมไทยในปัจจบุ ันท่คี รูเตรยี มมา แลว้ ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นในประเดน็ ที่ว่า – นักเรยี นคดิ ว่าเพราะเหตุใดจึงมปี ญั หาดังกล่าวเกดิ ขนึ้ – นกั เรยี นไดแ้ นวคิดจากการดูภาพหรอื อา่ นข่าวท่เี กิดข้ึนอยา่ งไรบ้าง – นักเรยี นคดิ ว่าจะมแี นวทางในการปอู งกนั ปญั หาทเ่ี กิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร (ครอู าจใชค้ าถามอ่นื ๆ ที่เหมาะสมกบั สภาพในการจดั การเรยี นการสอนได้) ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้ความรใู้ นเร่อื ง ความหมายของคาทเี่ กยี่ วข้อง ลักษณะของปญั หา ปัจจัยทกี่ อ่ ใหเ้ กิด ปญั หา แนวทางในการปูองกันและแก้ไขปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัว ตามลาดบั ดงั รายละเอียดในหนงั สอื เรยี นฯ/ส่อื การเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ ม. 3 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามในประเด็นท่สี งสยั และสนใจเพม่ิ เตมิ ขั้นท่ี 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นักเรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ 2 กลุ่ม แตล่ ะกลุ่มร่วมกันระดมความคดิ เพ่อื สรปุ ความรู้ ความเข้าใจในรปู แบบของการเขยี นแผนทีค่ วามคดิ ในเร่อื ง ความหมายของคาทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ลักษณะของปัญหา ปัจจัยทีก่ ่อให้เกิดปญั หา แนวทางในการปูองกันและแก้ไขปญั หาความ ขัดแยง้ ในครอบครัว โดยใช้ตามทีค่ รูกาหนด 2. แตล่ ะกลมุ่ ผลัดเปล่ียนกนั ออกมานาเสนอผลการระดมความคิด และใหเ้ พอ่ื น ๆ ในชัน้ เรียน สอบถามในประเด็นทสี่ งสัยและสนใจเพมิ่ เติม 3. นักเรียนร่วมกันวเิ คราะห์หรอื แสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเติมถงึ แนวทางในการนาความรูด้ ังกล่าว ไปใชป้ ระโยชน์ในการดาเนินชวี ติ โดยครูใหค้ วามรูท้ ่ถี ูกตอ้ งหรือคาแนะนาเพิ่มเติม ขัน้ ท่ี 4: การนาไปใช้ 1. นักเรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมทบทวนความรูค้ วบคู่พฒั นาทกั ษะกระบวนการคดิ ดังรายละเอียดในหนงั สอื เรียนฯ/สือ่ การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 โดยนามาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป 2. มอบหมายให้นกั เรยี นจดั ทาสมดุ ภาพรวบรวมข่าวหรือเหตุการณเ์ กย่ี วกับปญั หาความขัดแย้งใน ครอบครัวไทยท่ีนาเสนอผา่ นสอื่ ต่าง ๆ โดยวเิ คราะห์สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางแกไ้ ขประกอบภาพ ดังกลา่ ว ขั้นที่ 5: สรุปความรู้ 1. ครแู ละนักเรยี นสรปุ ความรูแ้ ละผลทไี่ ด้รับจากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมร่วมกัน แล้วให้นกั เรยี น

บนั ทึกความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมดุ บันทึก 2. นักเรียนร่วมกันทาแบบทดสอบความรกู้ ่อนและหลังการเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ชีวติ และครอบครัว 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. นักเรยี นควรนาความรู้เก่ียวกบั แนวทางในการปูองกนั และแกไ้ ขปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครวั ไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั 2. นกั เรียนควรศกึ ษาเร่อื ง อาหารตามวยั จากหนังสอื เรยี นฯ/ส่อื การเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 มาล่วงหน้า เพอื่ ประกอบการศกึ ษาในคาบเรยี นตอ่ ไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ จาก 1 .แบบทดสอบความร้กู ่อนและหลังการเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ชีวติ และครอบครัว จากดั 2. ภาพหรือขา่ วท่ีนาเสนอเนอ้ื หาเกี่ยวกบั ปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัวหรอื ผลกระทบทเี่ กดิ ปญั หาความขัดแย้งในครอบครัวไทยในสังคมปจั จุบนั 3. ใบกิจกรรมท่ี 19 เรอื่ ง การจดั ทาสมดุ ภาพรวบรวมข่าวและแสดงความคดิ เห็นพร้อม วิเคราะห์ สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางแกไ้ ขประกอบภาพดงั กล่าว 4 . ใบกิจกรรมท่ี 20 เร่ือง กจิ กรรมทบทวนความรูค้ วบคูพ่ ฒั นาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางแกไ้ ขประกอบภาพดงั กลา่ ว 5. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ม. 3 บรษิ ัท สานกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จากดั 6. สอ่ื การเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ัฒนาพานชิ จากดั 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ม. 3 บริษัท สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช แผนการจัดการเรยี นรู้ 11

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 สาระการเรยี นรูท้ ่ี 4: การสร้างเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกนั โรค เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ใส่ใจสุขภาพ เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง เร่ือง อาหารตามวยั เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันที่…….เดอื น………………พ.ศ………..ชน้ั ม.3/1 ภาคเรยี นที่ 1/....... สอนวันท่ี…….เดอื น………………พ.ศ………...ช้นั ม.3/2 ภาคเรียนที่ 1/....... ครูผู้สอน.............................................. โรงเรยี นบ้านพิณโท ............................................................................................................................. ...................................................... 1. สาระสาคญั อาหารตามวัย หมายถงึ แนวทางในการจดั อาหารให้เหมาะสมกบั วยั ผบู้ ริโภค ทัง้ ในด้านปริมาณและคุณภาพ บุคคลในวยั ต่าง ๆ จงึ ต้องได้รบั อาหารที่มคี ณุ ภาพและปริมาณท่เี หมาะสมกับความต้องการตามวัย เช่น อาหาร สาหรบั วัยรุน่ วัยรุ่นเปน็ วัยทีม่ ีการเปลยี่ นแปลงจากวัยเดก็ กา้ วย่างเข้าสวู่ ยั ผ้ใู หญ่ วยั รุ่นจึงต้องรับประทานอาหารท่ี มคี ณุ ภาพและมีปริมาณเพียงพอกับการเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย อาหารสาหรับวยั ผใู้ หญ่ เปน็ วัยของการทางาน และรา่ งกายมกี ารเสอื่ มถอยตามอายุท่เี พ่ิมมากขึ้น วัยผใู้ หญ่ตอ้ งรับประทานอาหารให้หลากหลายและเหมาะสมกับ ความต้องการของร่างกายทีแ่ ตกตา่ งกันไปตามอายุ เพศ และกจิ กรรมที่ทาเป็นหลกั 2. ตัวช้วี ัดชนั้ ปี • กาหนดรายการอาหารทเี่ หมาะกบั วยั ต่าง ๆ โดยคานงึ ถึงความประหยดั และคณุ คา่ ทางโภชนาการ (พ 4.1 ม. 3/1) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของอาหารตามวัยสาหรับบคุ คลแต่ละวัยอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายและเสนอแนะแนวทางการจัดอาหารตามวยั สาหรับบุคคลแตล่ ะวัยอย่างถูกต้องได้ (K, P) 3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของความรคู้ วามเข้าใจในเรือ่ งอาหารตามวยั (A) 4. สอ่ื สารเพ่อื อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของอาหารตามวยั สาหรับบคุ คลแต่ละวยั อยา่ งถกู ตอ้ งได้(P) 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล – • ทดสอบความรู้พน้ื ฐาน หนว่ ย • แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น การเรยี นรูท้ ่ี 3 ใสใ่ จสขุ ภาพ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 ใส่ใจสขุ ภาพ

วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ ระดบั • ซกั ถามความร้เู กยี่ วกับ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล/ คุณภาพ 4 ข้นึ ไป – ความหมายและ การอภปิ ราย/การแสดงความ • รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ความสาคญั ของอาหาร คิดเหน็ /การสร้างแผนท่ีความคิด* • ตามดุลยพินิจของครู ตาม วัยสาหรบั บคุ คลแต่ละวัย – แนวทางการจัดอาหาร ตามวัยสาหรับบคุ คลแต่ ละวัย • ตรวจสอบความถกู ต้องของ • รูปแบบของกจิ กรรมตามท่ีระบใุ น การปฏิบัติกิจกรรมตอบ หนังสอื เรยี นฯ/สือ่ การเรยี นรู้ คาถามและสรุปความรจู้ าก สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ การค้นควา้ แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ • รปู แบบของกจิ กรรมตามทร่ี ะบุใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมศึกษา หนงั สอื เรยี นฯ/ส่อื การเรยี นรู้ ค้นคว้าและอภิปราย สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์ แบบ ม. 3* *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรบั ครู • ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ ของนักเรยี น ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึง 4 ขึ้นไป ประสงค์* *ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความร้เู สริมสาหรบั ครู • ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมินผล • แบบประเมนิ ทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ียระดบั คุณภาพ • สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก กระบวนการ* 4 ขน้ึ ไป ของนักเรยี น *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สรมิ สาหรบั ครู 5. สาระการเรียนรู้ 1. อาหารตามวัย 1.1 อาหารสาหรบั วัยทารก 1.2 อาหารสาหรับเดก็ วยั ก่อนเรียน

1.3 อาหารสาหรบั เด็กวยั เรยี น 1.4 อาหารสาหรับวยั ร่นุ 1.5 อาหารสาหรบั วัยผ้ใู หญ่ 1.6 อาหารสาหรับวยั ผสู้ งู อายุ 6. แนวทางบรู ณาการ สังคมศกึ ษาฯ  ศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกับรายช่ือ/รายการอาหารในทอ้ งถ่ิน ฟัง อา่ น และเขยี นคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับอาหารตามวยั ภาษาตา่ งประเทศ  พดู คุยแสดงความคดิ เหน็ และเขียนสรุปความเข้าใจเก่ยี วกับแนวทางในการจัด อาหารสาหรับบคุ คลในแตล่ ะชว่ งวยั ภาษาไทย  รวบรวมและวิเคราะหข์ อ้ มูลสถติ ิเกยี่ วกบั จานวนของบุคคลทีม่ ปี ญั หาภาวะ โภชนาการในชมุ ชน คณติ ศาสตร์  7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นท่ี 1: นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ครูนาแบบทดสอบความรกู้ อ่ นการเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ใสใ่ จสุขภาพ แจกใหน้ กั เรียน ทุกคน เพ่ือทดสอบความร้คู วามเขา้ ใจพ้นื ฐาน โดยใชเ้ วลาตามทีค่ รกู าหนด 2. ครูสุ่มนักเรยี น 3–4 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั ประเดน็ เน้อื หาและแนวคิดท่ไี ด้ รับจากการทดสอบในแบบทดสอบความรู้ เพ่อื เป็นการประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจและทศั นคติ ของนักเรยี นเบอื้ งต้น 3. ครูใหน้ ักเรยี นอาสาสมคั รประมาณ 2–3 คน ท่ีศึกษาในเร่ือง อาหารตามวยั ออกมานาเสนอ ประสบการณแ์ ละความรูท้ ไ่ี ดร้ บั จากการศึกษามาลว่ งหนา้ ให้เพอื่ น ๆ ฟัง ขั้นที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นร่วมกนั ปฏบิ ัติกิจกรรมศกึ ษาค้นควา้ แลว้ อภิปราย โดยแบ่งกลุ่มเป็น 6 กลุ่ม แตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั ศกึ ษาตามประเด็นท่กี าหนดในเวลาทค่ี รกู าหนดโดยใชข้ ้อมูลจากหนังสือเรยี นฯ/สือ่ การเรยี นรู้ สุข ศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 ประกอบ กลมุ่ ท่ี 1 เร่ือง อาหารสาหรบั วัยทารก กลมุ่ ท่ี 2 เรื่อง อาหารสาหรับเดก็ วยั ก่อนเรยี น กลุม่ ท่ี 3 เรื่อง อาหารสาหรบั เดก็ วยั เรยี น กลมุ่ ที่ 4 เรอ่ื ง อาหารสาหรับวยั รุ่น กล่มุ ที่ 5 เรอ่ื ง อาหารสาหรับวัยผใู้ หญ่ กลุ่มที่ 6 เรอ่ื ง อาหารสาหรบั วยั ผสู้ ูงอายุ 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ผลัดเปลี่ยนกนั ส่งตวั แทนออกมาสรุปผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ให้เพื่อน ๆ ฟัง หนา้ ชั้นเรียน โดยใชภ้ าพและตารางแสดงปริมาณอาหารรวมท้ังตวั อย่างรายการอาหารใน 1 วนั ตามทีน่ ักเรยี นร่วมกนั จัดทาขึ้นประกอบการรายงานผล 3. ครอู ธิบายใหค้ วามรู้เพ่มิ เตมิ และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นสอบถามในประเด็นทส่ี นใจและสงสัย

ขน้ั ที่ 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์ 1. นักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอบคาถามและสรุปความรู้จากการค้นควา้ ดังรายละเอียดในหนงั สอื เรียนฯ/ สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามที่ครูกาหนด 2. ครสู มุ่ นกั เรยี นทีละคน เพ่ือตอบคาถามจากผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตอบคาถามและสรปุ ความรู้ จากการค้นควา้ โดยครใู หค้ าตอบทถ่ี กู ตอ้ ง และหากนกั เรยี นคนใดตอบคาถามไม่ถกู ตอ้ งให้แกไ้ ขคาตอบ ใหถ้ ูกตอ้ ง ขน้ั ท่ี 4: การนาไปใช้ • มอบหมายใหน้ ักเรยี นปฏิบัตกิ จิ กรรมการวางแผนการจัดรายการใน 1 วันสาหรบั ตนเอง ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรยี นฯ/ส่ือการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 นอกเวลาเรยี น แลว้ จดั ทาเปน็ รายงานมานาเสนอในคาบเรยี นตอ่ ไป ข้ันท่ี 5: สรปุ ความรู้ • ครูและนักเรยี นสรปุ ความรู้และผลท่ไี ด้จากการปฏบิ ัติกจิ กรรมร่วมกัน แล้วให้นักเรียนบันทกึ ความร้โู ดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทกึ 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนควรศกึ ษาและติดตามข้อมลู ขา่ วสารเกยี่ วกับอาหารตามวยั หรอื อาหารเพื่อสขุ ภาพ จากสื่อหรือแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เพื่อจะไดม้ ีความรูแ้ ละไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการศึกษาดังกล่าว 2. มอบหมายใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 5 กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเกี่ยวกบั ลักษณะ สาเหตุ และอาการ ของโรคในหัวข้อตามทีก่ าหนดนอกเวลาเรยี น กลมุ่ ท่ี 1 เร่ือง โรคมะเรง็ กลุม่ ท่ี 2 เร่ือง โรคหวั ใจขาดเลือด กลุ่มที่ 3 เร่ือง การเกิดอาการความดนั โลหิตสูงและโรคหลอดเลือดในสมอง กลมุ่ ที่ 4 เร่ือง โรคปอดอักเสบ กล่มุ ท่ี 5 เรอื่ ง การเกิดอาการภาวะไตวาย ดงั รายละเอียดในหนงั สือเรยี นฯ/ส่อื การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ม. 3 มาล่วงหนา้ แล้วนามาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบความรกู้ อ่ นและหลังการเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ใสใ่ จสุขภาพ 2. ภาพประกอบการเรยี นรู้เรื่อง การให้บริการทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขโดยหน่วยงาน รฐั บาลและการให้บรกิ ารทางการแพทย์และการสาธารณสุขโดยหน่วยงานเอกชน 3. ใบกิจกรรมท่ี 21 เรื่อง ศกึ ษาคน้ ควา้ และอภปิ ราย 4. ใบกจิ กรรมที่ 22 เรือ่ ง ตอบคาถามและสรปุ ความรู้จากการค้นควา้ 5. ใบกิจกรรมท่ี 23 เรอื่ ง การวางแผนการจัดรายการอาหาใน 1 วนั สาหรบั ตนเอง 6. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ม. 3

แผนการจัดการเรยี นรู้ 12 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 สาระการเรียนร้ทู ี่ 4: การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ใสใ่ จสขุ ภาพ เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง เร่อื ง โรคท่เี ปน็ สาเหตุสาคญั ของการเจ็บป่วยและการเสยี ชีวติ ของคนไทย เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง สอนวันที่…….เดือน………………พ.ศ………..ชนั้ ม.3/1 ภาคเรียนที่ 1/....... สอนวนั ที่…….เดือน………………พ.ศ………...ชนั้ ม.3/2 ภาคเรยี นที่ 1/....... ครูผ้สู อน...........................................โรงเรียนบา้ นพณิ โท ............................................................................................................................. ...................................................... 1. สาระสาคญั โรค หมายถึง ความไมส่ บายหรอื หรอื การเกิดภาวะผดิ ปกติขน้ึ ในร่างกาย โดยแสดงอาการผิดปกตหิ รอื มีอาการ เจบ็ ปวุ ยออกมาใหเ้ ห็น เช่น เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดศรี ษะ อาเจียน ซง่ึ อาการท่ปี รากฏนั้นอาจจะเปน็ อยรู่ ะยะหนง่ึ แล้วหาย หรือกลบั มาเปน็ ซ้าอกี ก็ได้ หรอื อาจแสดงอาการอยู่ตลอดไป จนอาจสง่ ผลทาใหอ้ วัยวะของรา่ งกายเกดิ ความพิการ ทพุ พลภาพ หรืออาจทาให้ผูป้ ุวยเสยี ชีวติ ได้ สถิติการเสยี ชวี ิตด้วยโรคของคนไทยพบว่า 5 อันดบั แรก ได้แก่ โรคมะเรง็ โรคหัวใจขาดเลือด ความดนั โลหติ สงู และโรคหลอดเลือดในสมอง โรคปอดอกั เสบและภาวะไตวาย ซง่ึ แตล่ ะโรคมแี นวทางการปอู งกนั โรคทท่ี กุ คนควรควรนามาปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหต้ นเองปลอดภยั จากโรคดงั กลา่ วและมี สขุ ภาพดี 2. ตัวชวี้ ดั ช้นั ปี • เสนอแนวทางในการปูองกนั โรคท่ีเป็นสาเหตุสาคญั ของการเจ็บปวุ ยและการตายของคนไทย (พ 4.1 ม. 3/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและระบโุ รคทเี่ ป็นสาเหตุสาคัญของการเจ็บปุวยและการเสียชีวิตของคนไทยอย่าง ถูกตอ้ งได้ (K, P) 2. อธิบายลกั ษณะ สาเหตุ และอาการของโรคทีเ่ ปน็ สาเหตสุ าคัญของการเจบ็ ปุวยและการเสียชีวติ ของคนไทยอยา่ งถูกต้องได้ (K) 3. เขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการเรยี นรู้เก่ยี วกับปญั หาและแนวทางในการปอู งกนั โรคที่เปน็ สาเหตสุ าคญั ของการเจ็บปวุ ยและการเสียชวี ิตของคนไทยรว่ มกบั ผอู้ นื่ ด้วยความสนใจใฝุเรยี นรู้ (A) 4. เสนอแนะแนวทางแก้ไขปญั หาในการปูองกันโรคที่เปน็ สาเหตสุ าคญั ของการเจ็บปุวยและการเสียชีวติ ของ คนไทยอย่างถูกต้องได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วธิ กี ารวัดและประเมินผล เครื่องมอื วัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • ซักถามความร้เู กีย่ วกบั • แบบประเมินผลการนาเสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ ระดบั

– ความหมาย สถานการณ์ การอภิปราย/การแสดงความ คุณภาพ 4 ขึน้ ไป ลักษณะ สาเหตุ อาการและ คดิ เหน็ /การสร้างแผนท่คี วามคิด* แนวทางในการในการ • ตามดุลยพนิ ิจของครู ปูองกันโรคท่เี ป็นสาเหตุ • รูปแบบของกิจกรรมตามทร่ี ะบใุ น • ตามดลุ ยพนิ จิ ของครู สาคญั ของการเจบ็ ปวุ ยและ หนังสอื เรยี นฯ/สื่อการเรยี นรู้ • ตามดลุ ยพนิ ิจของครู การเสียชวี ิตของคนไทย สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์ แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมค้นคว้า และอภปิ ราย • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รูปแบบของกจิ กรรมตามทร่ี ะบใุ น การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเขียน หนงั สอื เรียนฯ/สื่อการเรียนรู้ สรปุ ความรูค้ วามเข้าใจใน สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์ รปู แผนทคี่ วามคิด แบบ ม. 3* • ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ • รปู แบบของกจิ กรรมตามที่ระบใุ น การปฏบิ ตั ิกิจกรรมสารวจ หนังสือเรียนฯ/ส่ือการเรียนรู้ สถติ กิ ารเจ็บป่วยและ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์ เสยี ชวี ติ ของคนในชมุ ชน แบบ ม. 3* *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรับครู • ด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลย่ี ระดับคณุ ภาพ ของนักเรยี น ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึง 4 ข้ึนไป ประสงค์* *ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความร้เู สรมิ สาหรับครู • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมินผล เครือ่ งมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี ระดบั คณุ ภาพ ของนักเรียน กระบวนการ* 4 ข้นึ ไป *ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสรมิ สาหรับครู 5. สาระการเรียนรู้

2. โรคท่เี ปน็ สาเหตสุ าคัญของการเจบ็ ปุวยและการเสยี ชีวิตของคนไทย 2.1 ความหมายของคาที่เกย่ี วข้อง 2.2 สถานการณ์และตวั อยา่ งโรคทเี่ ป็นสาเหตขุ องการเจบ็ ปุวยและการเสยี ชวี ิต 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาสภาพปญั หาของสถานการณ์และตวั อยา่ งของโรคทเี่ ปน็ สาเหตุ สงั คมศกึ ษาฯ  สาคัญของการเจ็บปวุ ยและการเสียชวี ิตของคนไทย ภาษาไทย  พูดคุยแสดงความคิดเหน็ เขียนแผนทค่ี วามคิดสรุปความเขา้ ใจใน เรื่องที่ เก่ยี วกับลกั ษณะ สาเหตุ อาการและแนวทางการปูองกนั โรค คณิตศาสตร์  รวบรวมและวเิ คราะห์ข้อมูลสถติ ิเก่ียวกบั ผู้เจ็บปุวยและเสยี ชวี ติ ของบุคคลใน ชมุ ชน 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่ 1: นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูและนกั เรียนสนทนาเกีย่ วกับการศกึ ษาและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในคาบเรียนที่ผ่านมา เพื่อทบทวนความรู้ 2. ครสู มุ่ นักเรียน 2–3 คน ออกมาเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการวางแผนการจดั รายการใน 1วนั สาหรับตนเอง ตามทไ่ี ด้รับมอบหมายในคาบเรียนท่ผี า่ นมาใหเ้ พ่ือนฟงั หนา้ ช้ันเรยี น โดยครูให้ คาแนะนาเพิม่ เตมิ ขนั้ ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูให้ความร้เู ร่ือง โรคทเี่ ป็นสาเหตสุ าคญั ของการเจ็บปุวยและการเสียชีวติ ของคนไทย ในหวั ขอ้ ความหมายของคาท่ีเก่ยี วขอ้ ง สถานการณแ์ ละตวั อยา่ งโรคท่เี ป็นสาเหตขุ องการเจ็บปุวยและการ เสยี ชวี ิตโดยใชภ้ าพและตารางที่เก่ียวข้องประกอบคาอธบิ าย 2. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามในประเดน็ ทีส่ งสยั และสนใจเพม่ิ เติม ขัน้ ที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นักเรยี นปฏิบัติกิจกรรม ค้นคว้าและอภิปราย โดยแต่ละกลมุ่ ผลัดเปล่ยี นกันนาเสนอจนครบ ทุกกลุม่ ดังรายละเอียดทีร่ ะบุไวใ้ นหนงั สอื เรยี นฯ/สอื่ การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ม. 3 โดยใชเ้ วลาตามท่ีครกู าหนด 2. นักเรียนอาสาสมคั ร 3–4 คน ออกมานาเสนอสรปุ ผลการปฏิบตั กิ จิ รรม โดยอ่านบนั ทึกของตนเองหนา้ ชน้ั เรียน จากนัน้ ครใู หค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ ขั้นที่ 4: การนาไปใช้ • มอบหมายให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ปฏิบัตกิ ิจกรรม สารวจสถิติการเจบ็ ป่วยและเสียชีวติ ของคน ในชุมชน โดยวเิ คราะหป์ จั จัยท่ีมีส่วนใหเ้ กดิ สถานการณด์ ังกล่าวและแนวทางแกไ้ ข แล้วนามา เสนอในคาบเรยี นต่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook