3 In Thailand, people put their palms together and bow their head when they meet. 4 No, they don’t. Men and women in these countries (Malaysia, Indonesia and Brunei) would not generally shake hands. ข้นั Post-reading 1. ครูถามนกั เรียนวา่ ชาวตะวนั ตกมีวธิ ีทกั ทายกนั อยา่ งไรบา้ ง ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ เช่น การจบั มือ การ กอด การหอมแกม้ แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ การจบั มอื เป็นวิธีการทกั ทายท่ีเป็นสากลซ่ึงชาวตะวนั ตก ใชท้ กั ทายกนั ต่อมาครูถามนกั เรียนวา่ คนไทยมวี ธิ ีการทกั ทายอยา่ งไร เมอ่ื ไดค้ าตอบว่า การไหว้ ครูถามตอ่ ไปวา่ วิธีการไหวพ้ ระกบั ไหวพ้ ่อแม่แตกต่างกนั หรือไม่ จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกวธิ ีไหวแ้ บบต่าง ๆ ของไทย การไหว้ เป็นมารยาทไทยทแ่ี สดงถึงการทกั ทาย การขอบคณุ การขอโทษ หรือการกล่าวลา วิธีการไหวน้ ้นั ฝ่ามือท้งั สองขา้ งจะตอ้ งประกบกนั ปลายนิ้วทาบ กนั สนิท ทาหลงั มือใหโ้ ป่ งออกเลก็ นอ้ ย ซ่ึงการไหวม้ ี 3 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ที่ 1 ไหวพ้ ระรัตนตรัย โดยประนมมือข้นึ กม้ ศรี ษะ ให้นิ้วหวั แมม่ ือจรด ทก่ี ลางหว่างค้วิ นิ้วช้ีแตะเหนือหนา้ ผาก ระดบั ที่ 2 ไหวผ้ มู้ พี ระคุณและผอู้ าวโุ ส โดยประนมมือข้นึ กม้ ศรี ษะให้ นิ้วหวั แมม่ ือจรดปลายจมกู นิ้วช้ีอยรู่ ะหว่างคว้ิ ระดบั ที่ 3 ไหวบ้ คุ คลทวั่ ไปและผูท้ เี่ สมอกนั โดยประนมมือข้ึน กม้ ศรี ษะให้ นิ้วหัวแม่มือจรดทป่ี ลายคาง นิ้วช้ีแตะท่ีปลายจมูก ที่มา: https://th.wikipedia.org 2. หนงั สือเรยี น หน้า 54 Ex. 3 นกั เรียนอ่านคาถามพร้อมกนั ถา้ มคี าถามขอ้ ใดที่นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รู ช่วยอธิบาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั อภิปรายคาถามเหล่าน้ี หรือครูอาจให้นกั เรียนอภิปรายเป็น กลุ่ม 294
A: Is it important to follow a country’s customs when you visit there? B: Yes. Maybe you do something that is rude to local people. What do you think? A: I agree with you. Perhaps it’s illegal. B: Do you think what are some of the most important customs of Thailand that visitors should know? A: The women don’t stand and sit closely the monks. B: Don’t touch monks’ head and parents’ head. Take off shoes entering temples or someone’s home. A: What is considered rude in Thai customs? B: Point to someone’s face. A: Put the feet or shoes on the table. 3. หนงั สือเรียน หน้า 54 Ex. 4 ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน คน้ ควา้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เน็ต เกี่ยวกบั วิธีการทกั ทายของประเทศในกลุม่ ประชาคมอาเซียน โดยเลอื กมา 1 ประเทศ แลว้ นาขอ้ มลู มาเขยี นบรรยาย นกั เรียนอาจจะหาภาพมาติดประกอบดว้ ยกไ็ ด้ จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนาเสนอท่ี หนา้ ช้นั เรียน Greeting in Malaysia Greetings in a social context will depend on the ethnicity of the person you are meeting. In general, most Malaysians are aware of Western ways so the handshake is normal. There are may be slight differences though and a few things to consider include: Malaysian women may not shake hands with men. Women can shake hands with women. Men may also not shake hands with women and may bow instead while placing their hand on their heart. 295
The Malaysian Chinese handshake is light. Men and women may shake hands, although the woman must extend her hand first. Many older Chinese lower their eyes during the greeting as a sign of respect. Malaysian Indians shake hands with members of the same sex. When being introduced to someone of the opposite sex, nodding the head and smiling is usually sufficient. ทม่ี า: http://www.kwintessential.co.uk 7. การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น สมุดนกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สงั เกตการพดู อธิบายวธิ การไหว้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ของไทย ระดบั คุณภาพ ผา่ น ประเมนิ การคน้ ควา้ วธิ ีทกั ทายของ แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนและ เขียนนาเสนอ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และการรกั แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ความเป็ นไทย อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 4) อนิ เทอร์เน็ต 296
8 O-NET practice & Fun time 4 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ท่เี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 - เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขยี นสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 297
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มุ่งมนั่ ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ให้นกั เรียนเลน่ เกม Beginning with โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี จากน้นั ครูอธิบายว่าให้นกั เรียน ช่วยกนั บอกคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั หรืออาชีพทข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรท่คี รูบอก เช่น T: Can you tell me a family member beginning with G? Team A Team A: Grandma T: Can you tell me a job with P? Team B Team B: Pilot ข้นั Presentation 1. ใหน้ กั เรียนบอกไวยากรณท์ ี่เรียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 แลว้ ครูเขียนบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างและหลกั การใช้ 298
word ไวยากรณ์ possession order หน่วยการ Present like, love, เรียนรู้ท่ี 4 simple hate + -ing form 2. ครูเขียนประโยคตามน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านและเปลยี่ นคากริยาในวงเล็บให้อยใู่ นรูป Present simple ใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี นคาตอบ แลว้ ครูตรวจความถกู ตอ้ ง I like …… (drink) some milk. My father …… (wash) his car on Sundays. The children hate …….. (eat) vegetables. Jane …….. (go) to bed at 9:30. We …….. (walk) to school every day. I …….. (not get up) early on weekend. It …….. (rain) a lot in rainy season. Pete …….. (not play) tennis on Monday. ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 56 Ex. 1 นกั เรียนเลน่ เกม Family Riddles! โดยเล่นเป็นคู่ ครูให้แต่ละคู่อา่ นคาใบ้ แลว้ เขยี นคาตอบ ค่ใู ดทาเสร็จกอ่ นครูให้เป็นผเู้ ฉลยคาตอบ 1 granddad 2 aunt 3 cousin 4 grandma 5 brother 2. หนงั สือเรียน หน้า 56 GAME ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั เพอ่ื เล่นเกม โดยใหค้ นหน่ึงทาทา่ ทางบอกใบ้ กิจวตั รประจาวนั และให้อกี คนหน่ึงทายวา่ คู่ของตนทากิจวตั รประจาวนั อะไร เช่น A: (ทาทา่ ต่นื นอน และชูนิ้ว 7 นิ้ว) B: You get up at 7 o’clock. 299
3. หนงั สือเรยี น หน้า 56 Ex. 2 นกั เรียนทา quiz โดยห้ามเปิ ดดูเน้ือหา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบ คาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ 1 Wilma 2 Yes, he can. 3 grandma 4 looks after sick people 5 Someone whose job it is to look like a famous person. 6 flies planes 7 a dinosaur 8 A family with two parents and children. 4. หนงั สือเรียน หน้า 56 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพลงและขดี เสน้ ใตก้ ิจวตั รประจาวนั ใน เน้ือเพลงดว้ ย เม่ือฟังเพลงจบใหน้ กั เรียนเปรียบเทยี บกิจวตั รประจาวนั ของตนเองกบั ของนกั ร้องวา่ มี อะไรทเี่ หมอื นกนั บา้ ง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน บอกกิจวตั รประจาวนั ทีเ่ หมือนกบั ของนกั รอ้ ง get up in the morning, go to school on weekdays 6. หนังสือเรยี น หน้า 55 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพมิ่ เติม Ex. 1 1 A c, B b 2 A d, B c 3 A b, B a 5d Ex. 2 1 d 2 b 3 c 4 b 300
ข้นั Production หนังสือเรียน หน้า 56 Ex. 3 นกั เรียนจบั คูก่ นั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผ่น ให้แต่ละคูค่ ดิ คาถาม quiz 6-8 ขอ้ เกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เช่น What is the word for your mother’s brother? (uncle) ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดเู น้ือหาได้ และใหน้ กั เรียนเขยี นคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เม่ือ ทุกคู่คิดคาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คู่อืน่ 1 Does Fred Flintstone like golf? (Yes, he does.) 2 What pet has Bamm-Bamm got? (a kangaroo) 3 What is the opposite of quiet? (noisy) 4 What is David Beckham’s job? (He is a footballer.) 5 What is Andy Harmer’s job? (He is Beckham’s look-alike) 6 Who is Leona Lewis? (a British singer) 7 What does a mechanic do? (repair cars) 8 What does a vet do? (look after sick animals) 7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน - ร้อยละ 60 วิธีการวดั ตรวจการเขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อนั พึงประสงค์ สงั เกตความม่งุ มนั่ ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 301
5 Great Animals! ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อ่าน ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความให้สัมพนั ธ์กบั ส่ือท่ไี ม่ใช่ความเรียง (non-text information) ท่ีอ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/4 พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด ตวั ช้ีวดั และการเขยี น ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 302
ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ (theme) ท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/ เหตกุ ารณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม ต 1.3 ม. 1/3 พดู /เขยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั กิจกรรมหรือเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั พร้อมท้งั ให้ เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปล่ียนเรียนรู้กบั สังคมโลก 303
ตวั ช้ีวดั ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มูลตา่ ง ๆ จากส่ือและแหล่งการ ต 4.2 ม. 1/1 เรียนรู้ตา่ ง ๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอยี ดของเรื่องที่ อ่านและฟังได้ นอกจากน้ียงั สามารถนาส่ิงที่เรียนรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขียน แลกเปลยี่ นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง ผูอ้ ่นื สัตว์ และส่ิงใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมถงึ เป็นพ้ืนฐานในการคน้ ควา้ หาขอ้ มูล เพ่ิมเตมิ เก่ียวกบั เทศกาล ตลอดจนเห็นถงึ ความสาคญั ของการอนุรักษพ์ นั ธุพ์ ืชและสตั ว์ และมีความเขา้ ใจ ในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Animals (cow, horse, eagle, bear, sheep, fox, chimpanzee, rabbits, squirrel, duck, elephant, chicken, hamster) Parts of animals (mouth, eyes, fin, tail, scales, horns, ears, body, legs, fur, hooves, head, beak, feathers, claws, wings, tail, mouth, nose, ears, teeth, neck) Adjectives describing animals (long, small, sharp, big, thick, wide, thin) Expressing fear (I’m afraid of …, Get it away from me!, Are you sure it’s safe?, Oh my goodness!) Calming down (Don’t be silly!, Would you like to try?) Verbs (hide, wear, cover, let off fireworks, crown, respect, compete in, last, perform, do tricks, hop, kick, exist, preserve, cause) Nouns (spikes, stomach, beak, coral reefs, rocks, pyjamas, coat, spines, weekend, treasure hunt, parade, colourful floats, music band, forests, grasslands, plants, claws, bamboo, hard scales, sharp teeth, biodiversity, root, purpose) Adjectives (unique, poisonous, clumsy, colourful, historic, national, strong, hard, heavy, round, sharp, unusual, afraid of) 304
Grammar: Preposition (beside) Functions: Quantifier (millions) Phrases (home to, don’t miss it) Pronunciation: Adverbs of frequency 2) Language Skills Prepositions of time Comparatives & Superlatives Listening: Adverbs of degree positions of adjectives Describing animals There’s a poster, a bed, pillows, a desk, a wardrobe and a bookcase in the bedroom. Talking about habits How often do you eat fish? I sometimes eat fish. Talking about festivals The Cat Festival takes place in Ypres, Belgium. Expressing fear What’s wrong? I’m afraid of snakes. Talking about your pet What is it? It is a hamster. Talking about biodiversity What is biodiversity? Biodiversity is different kinds of living things that live together in different natural surroundings. /ɔ:/: boring, chore /ɑ:/: park, arm ฟังเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ 305
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตว,์ พูดเปรียบเทียบสัตว,์ พูดขอและให้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั นิสัยในการทาส่ิงต่าง ๆ, พดู นาเสนอเกี่ยวกบั เทศกาลท่ี Reading: เก่ียวขอ้ งกบั สตั ว,์ พดู สนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด, พูดขอและให้ Writing: ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงของตนเอง, พดู อภิปรายเกี่ยวกบั ความหลากหลาย ทางชีวภาพ อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ, อา่ นออกเสียงบทสนทนา เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สัตว,์ เขียนเกี่ยวกบั นิสัยของสมาชิกในครอบครัว, เขยี นเปรียบเทียบสัตว,์ เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เทศกาลจากเรื่องทอี่ ่าน, แต่ง บทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด, เขียนบรรยายเก่ียวสตั วป์ ระจาชาติ ของไทย, เขียนเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ยี งของตนเอง, เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เขต/ พ้ืนทีค่ ุม้ ครองในประเทศไทย 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ชี่ ่ืนชอบ แลว้ เขยี น fact file 2) คน้ ควา้ และพูดนาเสนอเกี่ยวกบั เทศกาลที่เก่ียวขอ้ งกบั สตั ว์ 3) อา่ นออกเสียงบทสนทนา 4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ่กี าหนด 5) พดู สนทนาตามสถานการณ์ท่ีกาหนด 6) เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สตั วป์ ระจาชาติของไทย 7) คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวป์ ระจาชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนและพูดนาเสนอ 8) เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงของตนเอง 9) คน้ ควา้ และเขยี นนาเสนอเกี่ยวกบั เขต/พ้ืนท่ีคุม้ ครองในประเทศไทย 306
7 การวัดและการประเมนิ ผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 7.3 การประเมินหลงั เรียน 7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 307
1 Reading 5a & Vocabulary 5a 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - ตอบคาถามและเขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เร่ืองท่ีอา่ นได้ - เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สัตวไ์ ด้ - คน้ ควา้ และเก่ียวสัตวป์ ระจาชาตขิ องประเทศอ่ืนและนาเสนอได้ - พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สตั วไ์ ด้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังหรืออา่ น อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 308
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์เกี่ยวกบั สตั ว์ จะช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเร่ืองท่อี ่านได้ นอกจากน้ี ยงั สามารถนาคาศพั ทท์ ีเ่ รียนไปใชพ้ ดู และเขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตั วท์ ชี่ ่ืนชอบไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Animals (cow, horse, eagle, bear, sheep, fox, chimpanzee, rabbits, squirrel, duck, elephant, chicken, hamster) Parts of animals (mouth, eyes, fin, tail, scales, horns, ears, body, legs, fur, hooves, head, beak, feathers, claws, wings, tail, mouth, nose, ears, teeth, neck) Adjectives describing animals (long, small, sharp, big, thick, wide, thin) Verbs (hide, wear, cover) Nouns (spikes, stomach, beak, coral reefs, rocks, pyjamas, coat, spines) Adjectives (unique, poisonous, clumsy, colourful) Quantifier (millions) Phrase (home to) Functions: Describing animals There’s a poster, a bed, pillows, a desk, a wardrobe and a bookcase in the bedroom. 2) Language Skills Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สตั ว์ 309
Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สัตว์ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุง่ มนั่ ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. ใหน้ กั เรียนอ่านชื่อหน่วยการเรียนรู้ (Great Animals) ในหนงั สือเรียน หนา้ 57 แลว้ เดาวา่ น่าจะได้ เรียนเก่ียวกบั อะไร 2. Find the page numbers for หน้า 57 นกั เรียนอ่านคาทกี่ าหนด แลว้ ครูอธิบายคาว่า fact file และ quotation fact file (n) = a piece of information that is known to be true (ขอ้ มูลทีเ่ ป็นจริง) quotation (n) = a sentence or phrase taken from a book, play, speech and repeated because it is interesting or useful (คาพูดทยี่ กมาจากหนงั สือ บทละคร สุนทรพจน)์ จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาว่าภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั คาเหลา่ น้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เม่ือหาพบแลว้ ครู ถามคาถามเพื่อดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน 310
a quiz (p. 68) Do you like to do quizzes? Are you good at quizzes? a fact file about a bird (p. 59) Where can you see fact files? What do they tell us? a quotation (p. 62) Do you know any famous quotations? Which ones? Do you think quotations are useful? Why (not)? ข้นั Pre-reading 1. หนงั สือเรยี น หน้า 57 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วแ์ ละออกเสียงตามพร้อม กนั 2 คร้งั จากน้นั ช่วยกนั บอกช่ือสตั วเ์ หลา่ น้ีเป็นภาษาไทย 2. หนังสือเรียน หน้า 57 Ex. 2 ครูเขียนหัวขอ้ domestic, wild, pet บนกระดาน และอธิบายความหมาย แลว้ ให้นกั เรียนลอกหัวขอ้ เหลา่ น้ีลงในสมุด และแยกสัตวใ์ นภาพตามหวั ขอ้ ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู เฉลยคาตอบบนกระดาน ใหน้ กั เรียนแลกกนั ตรวจกบั เพื่อน domestic: cow, horse, sheep, duck, chicken wild: horse, eagle, bear, fox, chimpanzee, rabbit, squirrel, elephant pet: rabbit, hamster จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน ให้พูดบอกว่าสตั วแ์ ตล่ ะชนิดอาศยั อยทู่ ใี่ ด Cows are domestic animals. They live on a farm. Horses are domestic animals. They live on a farm. Eagles are wild animals. They live in the wild. Bears are wild animals. They live in the wild. Elephants are wild animals. They live in the wild. Hamsters are pets. They live in a house. 311
3. หนงั สือเรียน หน้า 57 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเสียงสัตว์ และระบุวา่ เสียงทีไ่ ดย้ ินเป็นเสียง ของสัตวช์ นิดใดบา้ ง cow, horse, duck, chicken, sheep, elephant 4. นกั เรียนอ่านคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 58 และช่วยกนั อธิบาย ความหมาย ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ ครูช่วยอธิบายหรือใหน้ กั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม เช่น unique (adj) = being the only one of its kind (มีลกั ษณะเฉพาะ) spike (n) = a thin object with a sharp point (หนามแหลม) clumsy (adj) = moving or doing things in a very awkward way (งมุ่ งา่ ม, เช่ืองชา้ ) beak (n) = the hard part of a bird's mouth (จงอยปากนก) pyjamas (n) = a loose jacket and trousers worn in bed (ชุดนอน) spine (n) = any of the sharp pointed parts like needles on some plants and animals (หนาม) 5. หนงั สือเรยี น หน้า 58 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพปลาชนิดต่าง ๆ ครูถามว่ารู้จกั ช่ือหรือขอ้ มูลเกี่ยวกบั ปลา เหล่าน้ีหรือไม่ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ต้งั คาถามเกี่ยวกบั ปลาเหลา่ น้ี ชนิดละ 1 คาถาม โดยครูเขยี น คาถามบนกระดาน Can the puffer fish swim fast? No, it can’t. Where does the parrotfish live? The parrotfish lives near coral reefs. Is the lionfish dangerous? Yes, the lionfish has poisonous spines. ข้นั Reading 1. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านตามไปดว้ ย เพ่อื หาคาตอบของคาถามบนกระดาน แลว้ ครู ถามว่ามคี าตอบหรือไม่ ถา้ มี ใหน้ กั เรียนรายงานคาตอบ 2. หนงั สือเรียน หน้า 58 Ex. 2 นกั เรียนอ่านคาถามท่กี าหนดให้ และช่วยกนั บอกวา่ แต่ละขอ้ จะตอบ เก่ียวกบั อะไร จากน้นั นกั เรียนอา่ นบทอ่านเพือ่ หาเน้ือเร่ืองส่วนที่เกี่ยวขอ้ งกบั คาถาม เมอ่ื พบแลว้ อา่ น ให้เขา้ ใจและตอบคาถาม เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ 312
1 They are small and round with spikes. 2 They puff themselves up like a big balloon and frighten other fish away. 3 It looks like a parrot’s beak. 4 They live near coral reefs. 5 They sleep under or between rocks. 6 They hunt at night. 7 It has got poisonous spines. ข้นั Post-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 58 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค แลว้ เลือกคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words มาเติมลงในช่องว่าง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ 1 home to 2 spikes 3 coral reefs 4 hide 5 spines 2. หนังสือเรยี น หน้า 58 Ex. 4 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ จบั ค่กู บั เพ่อื นช่วยกนั คิดและเขยี นขอ้ มลู ท่ี จาไดจ้ ากบทอ่าน จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พูดขอ้ มูลที่จาไดใ้ หเ้ พอื่ นในช้นั ฟัง Puffer fish are poisonous. They have spikes. They are clumsy but clever. The parrotfish has a lot of teeth. They live near coral reefs. They hide under rocks. The lionfish has got lots of spines. They live alone and hunt at night. 3. ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความในกรอบ Amazing Fact! แลว้ ครูถามว่ามีขอ้ มลู อะไรเกี่ยวกบั สัตวท์ นี่ กั เรียน รู้และอยากจะแบ่งปันกบั เพอื่ นในช้นั ให้นกั เรียนเสนอขอ้ มลู ได้ 313
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ไปคน้ ควา้ คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวก์ ลมุ่ ละ 10 คา เช่น camel, seal, leopard แลว้ จดั ทาเป็นบตั รภาพคาศพั ทข์ นาด 6 × 6 นิ้ว โดยให้นกั เรียนวาดภาพ หรือติดภาพสัตวไ์ วด้ า้ นหนา้ และเขียนคาศพั ทไ์ วด้ า้ นหลงั บตั ร 5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 36 Ex. 1 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูถามความคิดเห็นของนกั เรียนเก่ียวกบั ปลาท้งั 3 ชนิดในบทอา่ น หนา้ 58 โดยเขียนคาถาม Which fish is the most dangerous? Which fish is the most beautiful? Which fish does look funny? บน กระดาน จากน้นั สุ่มถามคาถาม โดยให้นกั เรียนพูดแสดงความคิดเห็นโดยใช้โครงสร้าง I think … T: Which fish is the most dangerous? S1: I think lionfish is the most dangerous. ข้นั Presentation 1. หนงั สือเรียน หน้า 59 Ex. 5 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ แลว้ ออก เสียงตามพร้อมกนั พร้อมท้งั ดูภาพและทีละคน จากน้นั ให้นกั เรียนพดู ส่วนตา่ ง ๆ ของสัตวเ์ ป็น ภาษาไทย 2. ครูนาเสนอ adjectives ท่ีใชบ้ อกลกั ษณะของสัตว์ ไดแ้ ก่ long, short, small, sharp, big, thick, wide, thin โดยให้นกั เรียนดภู าพสตั วใ์ นหนงั สือเรียน หนา้ 57 แลว้ ครูพดู บอกลกั ษณะของสตั ว์ เช่น An elephant has got big ear. An eagle has got sharp claws. แลว้ ใหน้ กั เรียนสรุปความหมาย หาก นกั เรียนสรุปไม่ได้ ครูอธิบายเพ่ิมเติมพร้อมท้งั ช้ีส่วนต่างๆ ของสตั วต์ ามท่พี ูดดว้ ย จากน้นั ครูสุ่มเรียก นกั เรียน 3-4 คน พูดบอกลกั ษณะของสัตวค์ นละ 1 ประโยค ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 59 Ex. 6a ใหน้ กั เรียนดภู าพ และใชค้ าคุณศพั ทท์ ก่ี าหนดให้เตมิ ลงในช่องว่างให้ เหมาะสมกบั ลกั ษณะส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 314
Parrot 3 sharp claws 5 thick fur 1 sharp beak 4 long tail 2 small body Bear 3 small ears 1 wide mouth 4 sharp teeth 2 big nose Giraffe 3 small head 1 long neck 4 long legs 2 thin tail 2. หนังสือเรยี น หน้า 59 Ex. 6b ให้นกั เรียนเลอื กสัตวไ์ วใ้ นใจคนละ 1 ชนิด แลว้ จบั คู่กนั พูดถาม-ตอบ เพอื่ ทายวา่ สัตวท์ ่คี ่ขู องตนเลือกคอื อะไร กอ่ นทากิจกรรมครูใหน้ กั เรียนอา่ นตวั อยา่ งการถาม-ตอบ พร้อมกนั และให้นกั เรียนใชค้ าศพั ทท์ เ่ี รียนใน Ex. 5 และ Ex. 6a ในการถามคาถาม ครูเดินสังเกต รอบ ๆ ช้นั เรียน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั A: Has it got a long neck? B: No, it hasn’t. A: Has it got thick fur? B: Yes, it has. A: Has it got a wide mouth? B: Yes, it has. A: Is it a bear? B: Yes, it is. 3. หนังสือเรยี น หน้า 59 Ex. 7 ใหน้ กั เรียนดขู อ้ มูลในกรอบ fact file แลว้ คดิ วา่ ขอ้ มูลอะไรท่ีขาดหายไป ในแตล่ ะช่อง (1 colour, 2 a part of animal, 3 adjective 4 a part of animal, 5 weight, 5 food, 6 number) จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและเติมขอ้ มลู ทขี่ าดหายไป ครูอาจเปิ ด CD ให้นกั เรียน ฟัง 2 คร้ัง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ ใหน้ กั เรียนแลกกนั ตรวจกบั เพ่อื น 315
1 black 4 wings 7 20-30 2 beak 5 65 3 (very) sharp 6 fish ข้นั Production 1. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 8 ใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มลู ของสัตว์ 1 ชนิด ท่ีตนเองชื่นชอบจาก อินเทอร์เนต็ หรือสารานุกรม แลว้ นาขอ้ มลู มาเขียน fact file โดยดู fact file ใน Ex. 7 เป็นตน้ แบบ ครูอาจให้นกั เรียนเตรียมขอ้ มลู ไวแ้ ลว้ เม่อื เขียนเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลายๆ คน ออกมา นาเสนอท่ีหนา้ ช้นั Name: penguin Colour: black and white Has got: thick feathers, big body, wings, small head, long beak Can/Can’t: can swim, can’t fly Eats: fish Lives for: about 20 years Penguins are black and white. They have got thick feathers, a big body, wings, a small head and a long beak. They can swim but they can’t fly. They eat fish and they live about 20 years. 2. นกั เรียนทา Language Review 5a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 36-37 Exs. 2-8 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 316
7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 วธิ กี ารวดั สมดุ นกั เรียน - ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น ตรวจการเขียนให้ขอ้ มูลทจ่ี าไดจ้ าก บตั รภาพคาศพั ท์ - บทอ่าน ตรวจการทาบตั รภาพคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ สตั ว์ สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ เก่ียวกบั สตั ว์ ประเมินการคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สัตว์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน ทช่ี ื่นชอบ แลว้ เขยี น fact file อนั พึงประสงค์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) อินเทอร์เนต็ 317
2 Grammar 5b 2 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั นิสยั ในการทาส่ิงต่าง ๆ ได้ - เขยี นเกี่ยวกบั นิสัยของสมาชิกในครอบครัวได้ - พดู และเขียนเปรียบเทียบสตั ว์ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ้ ความ ใหส้ ัมพนั ธก์ บั สื่อทีไ่ ม่ใช่ความเรียง (non-text information) ท่อี า่ น มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจโครงสร้างภาษา ช่วยให้สามารถพูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง ผอู้ ่นื และ สิ่งใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 318
3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Grammar: Adverbs of frequency Prepositions of time Comparatives & Superlatives Adverbs of degree Functions: Talking about habits How often do you eat fish? I sometimes eat fish. 2) Language Skills Speaking: พูดเปรียบเทียบสัตว,์ พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั นิสยั ในการทาส่ิงต่าง ๆ Writing: เขยี นเกี่ยวกบั นิสัยของสมาชิกในครอบครัว, เขยี นเปรียบเทียบสตั ว์ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตว์ โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี แลว้ ครูพดู บรรยายลกั ษณะของสตั ว์ ให้แต่ละทีมทายวา่ คอื สตั วช์ นิดใด เช่น T: It’s got a small head, a long neck and long legs. What is it? Team A: It’s a giraffe. T: Correct. 319
ข้นั Presentation 1. ครูพูดและเขยี นประโยคบนกระดาน I usually get up early. I’m always at home on Sundays. แลว้ ขีดเสน้ ใต้ usually, always และอธิบายวา่ คาทข่ี ดี เสน้ ใตเ้ รียกว่า adverbs of frequency ใชบ้ อก ความบ่อย/ถี่ของการกระทา แลว้ ครูเขียน adverbs of frequency คาอนื่ ๆ ไดแ้ ก่ sometimes, often, never และอธิบายค่าความถี่ always ทาเป็นประจา สม่าเสมอ (100%) sometimes ทาเป็นบางคร้งั (25%) usually ทาเป็นปกติ (75%) never ไม่เคยทา (0%) often ทาบ่อยๆ (50%) จากน้นั ใหน้ กั เรียนสงั เกตตาแหน่งของ adverbs of frequency ในประโยคบนกระดาน และครูถามวา่ adverbs of frequency จะวางไวท้ ่ีใด (หนา้ กริยา และหลงั verb to be) แลว้ ครูอธิบายพร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนฟังอกี คร้งั - adverbs of frequency จะวางไวข้ า้ งหนา้ กริยาหลกั ของประโยค เช่น She often goes to the cinema. - ถา้ ในประโยคมี verb to be จะวางไวข้ า้ งหลงั verb to be เช่น She’s usually late for school. - ถา้ ในประโยคมกี ริยาช่วย จะอยหู่ ลงั กริยาช่วย เช่น He can’t always work at the weekend. 2. ครูถามนกั เรียนวา่ How often do you go to the market? แลว้ ครูเขียนประโยคบนกระดาน และบอก นกั เรียนวา่ เราใช้ How often ในการถามความบ่อย/ถขี่ องการกระทา (adverbs of frequency) จากน้ัน ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน เช่น T: May, how often do you go to the market? May: I sometimes go to the market. T: Top, how often do you play computer games? Top: I often play computer games. 320
3. ครูนาเสนอ prepositions of time: at, in, on โดยยกตวั อยา่ งบนกระดาน เช่น at 9 o’clock, at noon, in May, in the autumn, in 2016, on Sunday, on 1st January ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปการใช้ preposition - at ใชก้ บั เวลา เช่น at 6 o’clock, at noon, at midnight, at night, at the weekend - in ใชก้ บั เดือน เช่น in September ใชก้ บั ฤดกู าล เช่น in the winter ใชก้ บั ปี เช่น in 2015 ใชก้ บั ช่วงเวลาของวนั เช่น in the morning, in the afternoon, in the evening และใชก้ บั ระยะเวลา เช่น in the Ice Age, in an hour - on ใชก้ บั วนั เช่น on Friday, on Christmas Day และใชก้ บั วนั ที่ เช่น on 10th October จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนแต่งประโยคโดยใช้ prepositions of time เช่น S1: I go shopping on Sunday. S2: We get up at 6 o’clock. S3: My brother plays football in the evening. 4. หนังสือเรียน หน้า 60 Ex. 1 นกั เรียนอ่านตวั อยา่ งประโยคในตาราง แลว้ ครูถามคาถาม เช่น Which word is the verb in the first sentence? (are) Which is the adverb of frequency? (always) Where is the adverb of frequency in the first sentence before or after the verb? (after) Which word is the verb in the second sentence? (eat) Which is the adverb of frequency? (usually) Where is the adverb of frequency in the second sentence before or after the verb? (before) จากน้นั ให้นกั เรียน เติมกฎการใช้ adverbs of frequency เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ และให้นกั เรียนพดู adverbs of frequency เหล่าน้ีเป็นภาษาไทย Adverbs of frequency usually go before the main verb, but after the verb to be. ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex. 2 ให้นกั เรียนอ่านประโยค และใช้ adverbs of frequency เตมิ ลงในช่องว่าง ครูย้าให้นกั เรียนเติมประโยคตามความเป็นจริง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยค คนละ 1 ประโยค 321
1 I often walk to school. 2 My friend sometimes watches TV in the afternoon. 3 My parents never go to the cinema. 4 I usually meet my friends after school. 5 My mum always cooks dinner. 6 I often have a shower in the morning. 2. หนังสือเรยี น หน้า 60 Ex. 3 ให้นกั เรียนจบั ค่กู นั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ความบ่อย/ถใี่ นการทากิจกรรม ต่างๆ ตามทก่ี าหนดให้ ก่อนทากิจกรรมครูถามว่าคาถามท่ีใชถ้ ามความบอ่ ย/ถจ่ี ะถามว่าอยา่ งไร (How often?) แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งการถาม-ตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูเดิน สงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั A: How often do you eat fish? B: I sometimes eat fish. A: How often do you go swimming? B: I usually go swimming on Saturdays. A: How often do you watch TV? B: I sometimes watch TV in the evening. A: How often do you play tennis? B: I never play tennis. A: How often do you tidy your room? B: I always tidy my room on Saturdays? A: How often do you go to the theatre? B: I never go to the theatre. A: How often do you get up early? B: I often get up early. A: How often do you go to bed late? B: I sometimes go to bed late. 322
3. หนังสือเรยี น หน้า 60 Ex. 4 ให้นกั เรียนเขียนประโยคเก่ียวกบั ตนเองโดยใช้ adverbs of frequency และวลีทีก่ าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคท่ีตนเองแต่ง 1 I usually get up at 7 in the morning. 2 I never walk to school. 3 I often watch TV in the evening. 4 I sometimes go to the cinema with my friends. 5 I never go jogging in the evening. 4. หนังสือเรียน หน้า 60 Ex. 5 ใหน้ กั เรียนเขียนเตมิ ประโยคเกี่ยวกบั ตนเองตามความเป็นจริง โดยใช้ adverbs of frequency เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนผลดั กนั อา่ นประโยคให้เพอ่ื นขา้ งๆ ฟัง 1 On Mondays, I usually play badminton in the evening. 2 At school, I always have lunch with my friends at canteen. 3 At weekends, I usually get up late. 4 In the afternoon, I sometimes play computer. 5 In the evening, I always watch TV with my family. 5. หนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex. 6a นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งการใช้ prepositions of time แลว้ ปิ ดหนงั สือเรียน จากน้นั ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยยกตวั อยา่ ง และให้นกั เรียนบอก prepositions of time ที่ถูกตอ้ ง เช่น T: He goes out ….. night. Ss: He goes out at night. T: She was born ….. July. Ss: She was born in July. 6. หนังสือเรียน หน้า 60 Ex. 6b ให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความ และเตมิ prepositions of time ลงในช่องวา่ ง ใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ พร้อมท้งั บอกเหตผุ ลในการเลือก preposition of time มาเติม 323
2 at 5 At 8 at 11 at 3 in 6 at 9 On 4 at 7 in 10 at ข้นั Production 1. ให้นกั เรียนเขยี นเกี่ยวกบั นิสัยของสมาชิกในครอบครัวของตนเอง โดยใช้ adverbs of frequency มา 5 ประโยค เสร็จแลว้ ผลดั กนั อ่านใหเ้ พื่อนขา้ ง ๆ ฟัง 2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 38 Exs. 1-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูทบทวน adverbs of frequency ดว้ ยการเขียนตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขยี น adverbs of frequency ลงไปช่องละ 1 คา ให้เขยี นคาซ้ากนั จนครบทุกช่อง จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ให้แข่งกนั เลน่ เกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พูดประโยคจาก adverbs of frequency ใน ตาราง ถา้ ทีมใดพดู ประโยคถกู ตอ้ งจะไดท้ าสญั ลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทีมทีท่ าสญั ลกั ษณเ์ รียงต่อ กนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนวทแยงไดก้ อ่ นจะเป็นผูช้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วเ์ พ่มิ เตมิ ไดแ้ ก่ cheetah (เสือชีตาห์), condor (แร้ง), ostrich (นกกระจอกเทศ), puma (เสือพูมา), flamingo (นกฟลามงิ โก), chimp (ลิงชิมแปนซี), peacock (นกยงู ), pigeon (นกพิราบ) โดยเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน พร้อมท้งั ขดี เส้นใตค้ าทเ่ี นน้ เสียงหนกั แลว้ ออกเสียงคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามโดยเนน้ เสียงหนกั ใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ครูนาภาพสตั ว์ เหล่าน้ีมาแสดงใหน้ กั เรียนดู แลว้ ให้นกั เรียนพดู ชื่อสัตวเ์ หล่าน้ีเป็นภาษาไทย 2. ครูสอนการเปรียบเทียบโดยเขียนคาว่า comparative และ superlative บนกระดาน และอธิบายวา่ comparative (คาคณุ ศพั ทข์ ้นั กว่า) ใชเ้ ปรียบเทียบคน 2 คน สิ่งของ 2 สิ่ง ฯลฯ แลว้ ครูใหน้ กั เรียน 2 คนท่สี ูงตา่ งกนั ออกมายืนหนา้ ช้นั และพูดว่า (Jan) is taller than (Pat). ครูเขียนประโยคบนกระดาน และช้ีให้นกั เรียนดูโครงสร้าง comparative A + verb to be + comparative + than + B 324
ต่อมาครูอธิบายว่า superlative (คาคณุ ศพั ทข์ ้นั สูงสุด) ใชเ้ ปรียบเทียบคน สิ่งของ ฯลฯ ทีอ่ ยใู่ นกลุม่ เดียวกนั แลว้ ใหน้ กั เรียน 1 คนท่ีสูงกว่าสองคนแรกออกมาหนา้ ช้นั ครูถามนกั เรียนในช้นั ว่า 3 คนน้ี ใครสูงท่ีสุด แลว้ ครูพดู ว่า (Dan) is the tallest of all. และเขียนประโยคบนกระดาน จากน้นั ให้ นกั เรียนทส่ี ูงท่ีสุดในช้นั ยืนข้ึน และครูพูดว่า (Bom) is the tallest boy in the class. พร้อมท้งั เขียน ประโยคบนกระดาน แลว้ ครูช้ีใหน้ กั เรียนดโู ครงสร้าง superlative A + verb to be + the + superlative + of/in 3. ครูชูปากกาข้ึนมา 2 ดา้ ม ให้นกั เรียนช่วยกนั พดู เปรียบเทียบความยาวของปากกาท้งั 2 ดา้ ม แลว้ ครูชู ไมบ้ รรทดั เพิม่ เขา้ มา ให้นกั เรียนพดู เปรียบเทียบส่ิงของท้งั 3 ช้ิน (เช่น The blue pen is longer than the red pen. The ruler is the longest of all.) 4. ครูอธิบายหลกั การเปลีย่ นคาคณุ ศพั ทเ์ ป็นข้นั กว่าและข้นั สูงสุด พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งบนกระดาน 1) คาคณุ ศพั ท์ 1 พยางค์ และ 2 พยางค์ ใหเ้ ตมิ -er เม่ือเป็นข้นั กว่า และเตมิ -est เมอื่ เป็นข้นั สูงสุด เช่น big - bigger - biggest 2) คาคณุ ศพั ทท์ ่ีมมี ากกว่า 2 พยางค์ ให้เพมิ่ more ขา้ งหนา้ เมอื่ เป็นข้นั กว่า และเพิม่ most เมื่อเป็นข้นั สูงสุด เช่น expensive - more expensive - most expensive 3) คาคณุ ศพั ทบ์ างคาเมอื่ เป็นข้นั กว่าและข้นั สูงสุดจะเปล่ียนรูป เรียกว่า irregular adjectives เช่น good - better - best, much - more - most ครูย้ากบั นกั เรียนว่าคาคุณศพั ทข์ ้นั สูงสุดจะตอ้ งมี the อยขู่ า้ งหนา้ เสมอ เช่น the shortest, the most beautiful 5. ครูชูสมดุ ใหน้ กั เรียนดู พร้อมกบั พดู วา่ The notebook is not very thick. แลว้ ชูหนงั สือเรียน พร้อมกบั พูดวา่ The book is quite thick. สุดทา้ ยครูชู dictionary พร้อมกบั พดู ว่า The dictionary is very thick. แลว้ ครูเขยี นประโยคท่พี ูดบนกระดาน และถามนกั เรียนวา่ คาใดคือ adjective (thick) แลว้ ครูขดี เส้น ใตค้ าว่า not very, quite, very และอธิบายว่าคาเหลา่ น้ีเรียกวา่ adverbs of degree ใชบ้ อกระดบั หรือ ปริมาณของ adjective แลว้ ครูถามวา่ ตาแหน่งของ adverbs of degree ในประโยคจะวางไวท้ ใ่ี ด (ขา้ งหนา้ adjective) 6. ครูนาเสนอ adverbs of degree ทีน่ กั เรียนจะไดเ้ รียน พร้อมบอกความหมาย ไดแ้ ก่ not very (ไม่มาก/ ไมค่ อ่ ยจะ), quite (ค่อนขา้ งจะ), very, extremely (อยา่ งมาก, อยา่ งยงิ่ ) แลว้ ให้นกั เรียนพดู ประโยคบน กระดานเป็ นภาษาไทย 325
จากน้นั ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยให้นกั เรียนแต่งประโยคจาก adjective ทค่ี รู กาหนดให้ เช่น T: expensive Ss: The house is extremely expensive. T: beautiful Ss: The girl is very beautiful. ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 61 Ex. 7 นกั เรียนอา่ นคาคุณศพั ทใ์ นตาราง แลว้ ช่วยกนั คิดว่าในภาษาไทยมีการ เปลี่ยนรูปคาคุณศพั ทใ์ นการเปรียบเทียบหรือไม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดคาคุณศพั ทใ์ นตารางเป็น ภาษาไทย 2. หนงั สือเรียน หน้า 61 Ex. 8 ใหน้ กั เรียนเปลี่ยนคาคุณศพั ทใ์ นวงเล็บใหอ้ ยู่ในรูปข้นั กว่าใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 faster 3 thinner 5 stronger 2 more 4 longer 6 more powerful 3. หนงั สือเรยี น หน้า 61 Ex. 9 ให้นกั เรียนเปลี่ยนคาคุณศพั ทใ์ นวงเล็บใหอ้ ยใู่ นรูปข้นั สูงสุดใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 biggest 3 largest 5 most unusual 2 heaviest 4 strongest 6 most aggressive 4. หนังสือเรยี น หน้า 61 Ex. 10 ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ให้นกั เรียนฝึกพูดประโยคเปรียบเทยี บโดยใช้ คาทีก่ าหนดให้ ก่อนทากิจกรรมครูให้นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งพร้อมกนั จากน้นั ให้นกั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนพดู เปรียบเทยี บ ครูเดินสงั เกตวา่ นกั เรียนพูดประโยคถูกตอ้ งหรือไม่ และคอยใหค้ วามช่วยเหลอื จากน้นั ครูสุ่มเรียก 2 คู่ ออกมาพูดเปรียบเทียบให้เพอ่ื นฟังทีห่ นา้ ช้นั 326
2 A: Cats are friendly. B: Yes, but dogs are friendlier than cats. A: Rabbits are the friendliest of all. 3 A: Foxes are dangerous. B: Yes, but bears are more dangerous than foxes. A: Pumas are the most dangerous of all. 4 A: Eagles are beautiful. B: Yes, but parrots are more beautiful than eagles. A: Flamingos are the most beautiful of all. 5 A: Dolphins are funny. B: Yes, but puffer fish are funnier than dolphins. A: Chimps are the funniest of all. 6 A: Lionfish are colourful. B: Yes, but parrotfish are more colourful than lion fish. A: Peacocks are the most colourful of all. 7 A: Rabbits are small. B: Yes, but squirrels are smaller than rabbits. A: Hamsters are the smallest of all. 5. หนงั สือเรยี น หน้า 61 Ex. 11 ใหน้ กั เรียนอ่านตวั อยา่ งประโยคทีใ่ ช้ adverbs of degree ในตาราง แลว้ ครูถามวา่ adverbs of degree ใชเ้ พ่อื อะไร (ใชบ้ ง่ บอกระดบั หรือปริมาณของ adjective) และตาแหน่ง ของ adverbs of degree ในประโยคจะอยขู่ า้ งหนา้ หรือขา้ งหลงั คาคณุ ศพั ท์ (อยขู่ า้ งหนา้ ) จากน้นั ให้ นกั เรียนใชค้ าทก่ี าหนดให้และ adverbs of degree แต่งประโยคให้ถูกตอ้ ง โดยครูช้ีให้นกั เรียนสังเกต เครื่องหมาย และ ในแต่ละขอ้ ซ่ึงสมั พนั ธ์กบั adverbs of degree ในตาราง เมื่อนกั เรียนแต่ง ประโยคเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยค และครูตรวจคาตอบอกี คร้งั 327
2 Rabbits have got quite small bodies. 3 Pigeons have not got very long tails./Pigeons’ tails are not very long. 4 Sheep have got very big horns. 5 Elephants have got extremely big ears. แกะบก๊ิ ฮอร์น (Bighorn sheep) เป็นแกะภูเขา พบในเทือกเขาร็อกก้ีในอเมริกาเหนือ มขี นสีน้าตาลอ่อน สะโพกและบริเวณปากและจมูกมขี นสีขาว มีเขาท้งั เพศผแู้ ละเพศ เมีย แตเ่ ขาของเพศผจู้ ะใหญก่ วา่ ช่ือของแกะบก๊ิ ฮอร์นมาจากเขาที่โคง้ ใหญข่ องมนั อ้างอิงจาก: http://www.enchantedlearning.com/subjects/mammals/sheep/ Bighornsheep.shtml ข้นั Production 1. หนังสือเรยี น หน้า 61 Ex. 12 ใหน้ กั เรียนเขยี นเปรียบเทียบสัตว์ 3 ชนิดท่กี าหนดให้ โดยใช้ คาคุณศพั ทท์ ีใ่ หม้ า ครูย้าวา่ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบตามความเป็นจริง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน อา่ นให้เพื่อนฟัง Sheep are heavier than rabbits. Bears are the heaviest of all. Sheep are stronger than rabbits. Bears are the strongest of all. Sheep are thinner than bears. Rabbits are the thinnest of all. Bears are the most dangerous of all. Rabbits are faster than sheep. 328
2. นกั เรียนทา Grammar Bank 5 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 77 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 38-39 Exs. 5-10 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ตรวจการเขียนเก่ียวกบั นิสยั ของ กระดาษผลงานนกั เรียน ร้อยละ 60 สมาชิกในครอบครวั สังเกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ นิสยั ในการทาส่ิงตา่ ง ๆ สงั เกตการพูดเปรียบเทียบสตั ว์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตรวจการเขียนเปรียบเทียบสตั ว์ สมดุ นกั เรียน - สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น อนั พงึ ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 329
3 Skills 5c 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามและเขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังได้ - คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาลทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สัตวแ์ ละพดู นาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ทไี่ ดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ เหตกุ ารณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็น พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน 330
ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื ต 3.1 ม. 1/1 จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นเร่ืองเกี่ยวกบั เทศกาลท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สตั ว์ ทาให้รู้ถึงความสาคญั ของสตั ว์ สามารถนาความรู้ ทเ่ี รียนไปใช้พดู /เขียนสื่อสารและคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (let off fireworks, crown, respect, compete in, last, perform, do tricks) Nouns (weekend, treasure hunt, parade, colourful floats, music band) Adjective (historic) Phrase (don’t miss it) Functions: Talking about festivals The Cat Festival takes place in Ypres, Belgium. 2) Language Skills Speaking: พูดนาเสนอเก่ียวกบั เทศกาลทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั สัตว์ Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาลจากเรื่องทอี่ ่าน 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุง่ มน่ั ในการทางาน 331
6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up ครูทบทวน prepositions of time ดว้ ยการเขยี นตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขยี นชื่อเดือน ชื่อวนั เวลา วนั ท่ี เช่น May, Tuesday, 6:30, 12th April, the morning, noon ลงไปช่องละ 1 คา จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ใหแ้ ขง่ กนั เลน่ เกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พูดประโยค จากคาในตาราง และใช้ prepositions of time ให้ถูกตอ้ ง ถา้ ทมี ใดพูดประโยคถกู ตอ้ ง จะไดท้ า สญั ลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทมี ทีท่ าสญั ลกั ษณ์เรียงตอ่ กนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนวทแยง ไดก้ ่อนจะเป็นผูช้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูนาเสนอวลี famous for (มีช่ือเสียงในดา้ น/เรื่อง, เป็นทีร่ ู้จกั ดีในดา้ น/เร่ือง) และ take place (เกิดข้ึน) โดยยกตวั อยา่ งประโยค เพือ่ ใหน้ กั เรียนเดาความหมายของวลี เช่น Brazil is famous for football. Hollywood is famous for its movie studios. Teacher’s Day takes place on 16th January. When will the party take place? It will takes place on Sunday. famous for = be known for (มีช่ือเสียงในดา้ น) England is famous for its long history. take place = happen (จดั ข้นึ ท่)ี The film festival takes place in October. 2. ครูถามคาถามโดยใชว้ ลีทสี่ อนไป ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น T: When does Songkran Festival take place? Ss: Songkran Festival takes place in April. T: What is Buriram Province famous for? Ss: It’s famous for football club. 332
ข้นั Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 1 ให้นกั เรียนดูภาพ A และบอกว่าเห็นสัตวอ์ ะไรบา้ ง แลว้ ครูให้นกั เรียน คิดวา่ เกิดเหตุการณอ์ ะไรข้นึ ในภาพ A จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทอา่ นตาม เพ่ือตรวจว่าสิ่งท่คี าดเดาไวถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ Picture A shows a cat on a float in a parade. Background information Ypres /і:prә/ เป็นเมืองท่ีอยทู่ างตอนใตข้ องประเทศเบลเย่ียม มีประชากรอาศยั อยู่ ประมาณ 35,000 คน ในสมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 1 มีการสูร้ บเกิดข้ึนท่นี ่ีหลายคร้ัง ปัจจบุ นั เมืองน้ีถกู เรียกวา่ “the city of peace” 2. หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 2 ครูทบทวนคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียน หลงั จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านคาถามขอ้ 1-3 สรุปคาถามและแนวโนม้ ของตาตอบ ให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นอกี คร้งั และตอบคาถามที่ กาหนดให้โดยใหข้ ดี เส้นใตใ้ นบทความว่าคาตอบขอ้ 1-3 อยทู่ ไ่ี หน จากน้นั ใหน้ กั เรียนบอก ความหมายของคาในกรอบ Check these words แลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 Every three years. 2 They can hunt for treasure. 3 In the second weekend in May. 3. ใหน้ กั เรียนอ่านคาพูดของ เตโอฟีล โกตเี ยร์ (Théophile Gautier) ในกรอบ Famous quotation ครูช่วย อธิบายคาวา่ slave (= a person who is owned by another person and works for them (ทาส)) แลว้ ให้ นกั เรียนพดู ขอ้ ความน้ีเป็นภาษาไทย จากน้นั ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นว่าเห็นดว้ ยกบั คาพูดน้ี หรือไม่ พร้อมใหเ้ หตผุ ลประกอบ 333
ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 3 ให้นกั เรียนเขียนหัวขอ้ Name, Place, Date, Activities ลงในสมุด แลว้ อ่านบทอา่ นอกี คร้งั และจดโนต้ ยอ่ ตามหวั ขอ้ จากน้นั ให้นกั เรียนใชโ้ นต้ ยอ่ ทจ่ี ดไวเ้ ขียนบรรยาย เก่ียวกบั เทศกาล A ในบทอ่าน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง นกั เรียนนาผลงานของตนติดไวท้ บ่ี อร์ด หนา้ หอ้ ง เพือ่ แลกเปลี่ยนกบั เพือ่ นคนอนื่ ๆ Name: Cat Festival Place: Ypres, Belgium Date: the second weekend in May every three years Activities: treasure hunt for children, fireworks, parade with colourful floats and music bands, people dance and wear cat costumes, crown a Cat Queen The Cat Festival takes place in Ypres, Belgium during the second weekend in May every three years. There is a treasure hunt for children, fireworks, a parade with colourful floats and music bands. People dance and wear cat costumes and they crown a Cat Queen. 2. นกั เรียนทา Language Review 5c Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 40 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูนาภาพ festival ตา่ ง ๆในประเทศไทย 5-10 ภาพ แลว้ ถามนกั เรียนว่าเป็นเทศกาลอะไร และจดั ข้ึน ทใ่ี ด T: What festival is this? Ss: It’s Songkran festival. T: Where does it take place? Ss: Everywhere in Thailand. 334
ข้นั Presentation ครูนาเสนอคาศพั ท์ last compete perform do tricks (จากหวั ขอ้ Vocabulary) โดยเร่ิมจากการ ออกเสียง ให้นกั เรียนฝึกทายตวั สะกด เขียนคาลงบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นอกี รอบ เขยี น ความหมายคาศพั ทแ์ ละประโยคตวั อยา่ งลงบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคและศกึ ษา ความหมาย ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปความหมายของคาศพั ท์ ข้นั Practice 1. หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 1 ให้นกั เรียนดูภาพ B และบอกว่าเห็นสตั วอ์ ะไรบา้ ง แลว้ ครูใหน้ กั เรียน คดิ วา่ เกิดเหตุการณอ์ ะไรข้นึ ในภาพ B จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นบทอา่ นตาม เพ่ือตรวจว่าส่ิงท่ีคาดเดาไวถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ Picture B shows fighting on elephants’ back. I think they must be festivals. 2. หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 2 ครูทบทวนคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียน หลงั จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นคาถามขอ้ 4-6 สรุปคาถามและแนวโนม้ ของตาตอบ ให้นกั เรียนอ่านบทอ่านอกี คร้งั และตอบคาถามที่ กาหนดใหโ้ ดยใหข้ ดี เสน้ ใตใ้ นบทความว่าคาตอบขอ้ 4-6 อยทู่ ไี่ หน จากน้นั ให้นกั เรียนบอก ความหมายของคาในกรอบ Check these words แลว้ ครูตรวจคาตอบ 4 Surin Province in Thailand. 5 They compete in various races, perform, do tricks and play football. 6 Two days. 3. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนเขียนหวั ขอ้ Name, Place, Date, Activities ลงในสมุด แลว้ อา่ นบทอา่ นอกี คร้งั และจดโนต้ ยอ่ ตามหัวขอ้ จากน้นั ให้นกั เรียนใชโ้ นต้ ยอ่ ที่จดไวเ้ ขียนบรรยาย เก่ียวกบั เทศกาล B ในบทอา่ น ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง นกั เรียนนาผลงานของตนตดิ ไวท้ บี่ อร์ด หนา้ หอ้ ง เพอ่ื แลกเปลี่ยนกบั เพ่ือนคนอืน่ ๆ 335
Name: Elephant Festival Place: Surin Province, Thailand Date: third Saturday of November every year Activities: elephants compete in races, perform, do tricks, play football The Elephant Festival takes place in Surin Province in Thailand on the third Saturday of November every year. Elephants compete in races, perform, do tricks and play football. ข้นั Production 1. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาลทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั สัตวใ์ นประเทศที่ ตนเองสนใจจากอนิ เทอร์เนต็ แลว้ จดโนต้ ตามหัวขอ้ Name, Place, Date, Activities ครูให้นกั เรียนหา ภาพมาประกอบดว้ ย จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมาพดู นาเสนอใหเ้ พ่อื นฟังที่ หนา้ ช้นั 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 41 Ex. 3 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ ง 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 41 Ex. 7 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เตมิ ขอ้ มลู ลงในช่องว่าง 4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Exs. 4-5 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหดั (Workbook) - ตรวจการเขียนเก่ียวกบั เทศกาลจากเรื่อง สมดุ นกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ทอี่ า่ น ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ประเมนิ การคน้ ควา้ และพดู นาเสนอ แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ เกี่ยวกบั เทศกาลทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สตั ว์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ 336
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) ภาพเทศกาลต่าง ๆ ของไทย 337
4 Everyday English 5d 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงบทสนทนาถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านได้ - ตอบคาถามจากการอา่ นบทสนทนาได้ - แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ี่กาหนดได้ - พดู สนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนดได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา 338
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้สานวนภาษาท่ีใชใ้ นการแสดงความกลวั จะช่วยให้พูดสนทนาสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Expressing fear (I’m afraid of …, Get it away from me!, Are you sure it’s safe?, Oh my goodness!) Calming down (Don’t be silly!, Would you like to try?) Functions: Expressing fear What’s wrong? I’m afraid of snakes. Pronunciation: /ɔ:/: boring, chore /ɑ:/: park, arm 2) Language Skills Speaking: พูดสนทนาตามสถานการณท์ ี่กาหนด Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ, อ่านออกเสียงบทสนทนา Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ าหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 339
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูทบทวน comparative และ superlative ดว้ ยการเขียนตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขยี น comparative adjective และ superlative adjective ลงไปช่องละ 1 คา จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ให้แข่งกนั เล่นเกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พดู ประโยคจาก comparative/superlative adjective ในตาราง ถา้ ทีมใดพูดประโยคถกู ตอ้ งจะไดท้ าสญั ลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทีมท่ที า สญั ลกั ษณเ์ รียงต่อกนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนวทแยงไดก้ อ่ นจะเป็นผชู้ นะ 2. ให้นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 63 แลว้ ครูถามว่า What animal can you see? Do you think it is dangerous? ข้นั Presentation 1. ครูพูดกบั นกั เรียนว่า I’m afraid of snakes. และถามนกั เรียนว่า Are you afraid of snakes? แลว้ ครู เขยี นประโยคบนกระดาน และอธิบายว่า be afraid of… ใชเ้ พื่อบอกสิ่งท่กี ลวั นอกจากน้ีนกั เรียนยงั สามารถใช้ be frightened of..., be terrified of และ be scared of... ได้ แลว้ ครูยกตวั อยา่ งประโยค เช่น My mum is frightened of mice. Mark is afraid of being alone. My sister is terrified of doctors. I am scared of flying. ตอ่ มาครูให้นกั เรียนดูโครงสร้างประโยค และถามวา่ หลงั afraid/terrified/ scared/frightened of จะตามดว้ ยคาประเภทใด (noun และ v-ing) 2. ครูสุ่มถามคาถาม ให้นกั เรียนบอกสิ่งท่ตี นเองกลวั เช่น T: What are you afraid of? S1: I’m afraid of ghosts. T: Are you afraid of snakes? S2: No, I’m not. 340
ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 63 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคที่กาหนดให้ แลว้ ครูบอกว่าประโยคเหลา่ น้ีมา จากบทสนทนาระหว่างเพอื่ น 2 คน ให้นกั เรียนเดาว่าบทสนทนาน้ีน่าจะเก่ียวกบั เรื่องอะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทสนทนาตามไปดว้ ย เพ่ือตรวจว่าส่ิงนกั เรียนคาดเดาถกู ตอ้ ง หรือไม่ แลว้ ครูใหน้ กั เรียนพดู ประโยคทีก่ าหนดให้เป็นภาษาไทย The dialogue is about a strange pet someone has that frightens their friend. 2. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนอ่านคาถาม และบอกว่าคาคอบน่าจะเกี่ยวกบั อะไร จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นบทสนทนา และตอบคาถามทก่ี าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 His pet is a baby wolf spider. 2 It’s three months old. 3 He thinks it’s cute. 4 No, she doesn’t. She’s afraid of spiders. 3. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 3 นกั เรียนอ่านประโยค 1-4 แลว้ หาประโยคทม่ี ีความหมายเหมอื นกบั ประโยคเหล่าน้ีในบทสนทนา จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ 1 Oh no! – Oh my goodness! 2 I’m terrified of spiders – I’m afraid of spiders. 3 What is the problem? – What’s wrong? 4 How about giving it a try? – Would you like to try? 341
ข้นั Production 1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ 3-5 คน แลว้ เขียน Riddle (ปริศนาคา) เกี่ยวกบั สัตว์ โดยให้ศกึ ษาตวั อยา่ งจาก กรอบ Smile และสืบคน้ จากอินเตอร์เน็ต โดยเขียนใส่กระดาษ A4 แลว้ มีเฉลยอยดู่ า้ นหลงั ครู ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน นกั เรียนกล่มุ อน่ื ๆ ทายปริศนา 2. นกั เรียนทา Language Review 5d Ex. 4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 108 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Ex. 4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up นกั เรียนเล่นเกม Animal Riddles โดยอ่านปริศนาเก่ียวกบั สัตวแ์ ละทายว่าคอื สัตวช์ นิดใด 1) I have four legs and a long tail. I eat grass. I run fast. People ride on my back. (horse) 2) I have a tail. I can fly. I have colorful feathers. I can whistle and I can talk. (parrot) 3) I have four legs and a tail. I have no teeth. I can swim and dive under water. I carry my house around with me. (turtle) 4) I am small and shy. I have eight legs. I eat bugs. I catch them in my web. (spider) 5) I have little tail. My nose is big. I live on a farm. I can say, “Oink-oink”. (pig) ข้นั Presentation 1. ครูสอนการออกเสียง /ɑ:/ โดยครูเขียนคาศพั ท์ barn, March บนกระดาน และออกเสียงคาศพั ท์ ให้ นกั เรียนสังเกตปากครูและออกเสียงตามหลาย ๆ คร้งั จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ เสียงน้ีออกเสียงคลา้ ย กบั เสียงสระตวั ใดในภาษาไทย เม่อื ไดค้ าตอบว่าสระอา ครูบอกนกั เรียนวา่ เน่ืองจากเสียง /ɑ:/ เป็น เสียงทีไ่ มม่ ีในภาษาไทย จึงออกเสียงไมเ่ หมอื นกบั สระอาซะทีเดียว 2. ครูสอนการออกเสียง /ɔ:/ โดยครูเขยี นคาศพั ท์ fork, court บนกระดาน และออกเสียงให้นกั เรียนฟัง ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามหลายๆ คร้งั แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ เสียง /ɔ:/ กไ็ มม่ ใี นภาษาไทยเช่นกนั จากน้นั ครูให้นกั เรียนคิดและบอกเสียงสระในภาษาไทยทอ่ี อกเสียงคลา้ ยกบั เสียง /ɔ:/ จนไดค้ าตอบ ว่าสระออ แลว้ ครูเขยี นคาศพั ทเ์ พ่มิ เติมบนกระดาน ให้นกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ born barn horn heart corn car form farm 342
การออกเสียง /ɑ:/ ใหเ้ ปิ ดปาก ลน้ิ วางราบ ซ่ึงเสียง /ɑ:/ น้ีออกเสียงแตกตา่ งจากเสียง สระอาในภาษาไทย โดยสระอาจะใชล้ น้ิ ส่วนหนา้ ในการออกเสียง แต่เสียง /ɑ:/ จะ ใชล้ ้นิ ส่วนหลงั การออกเสียง /ɔ:/ ใหห้ ่อริมฝีปาก ลิ้นจะไมส่ มั ผสั กบั ฟันบนและผนงั ดา้ นในปาก การออกเสียง /ɔ:/ แตกตา่ งจากเสียงสระออตรงที่เสียง /ɔ:/ จะยกลิน้ สูงกว่า ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 4 ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนา จากน้นั ให้แตล่ ะค่ฝู ึกพดู บทสนทนา โดยครูย้าให้นกั เรียนใชน้ ้าเสียงและแสดงท่าทางให้สมจริง ครูเดิน สงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดบทสนทนาให้เพื่อนฟังทีห่ นา้ ช้นั 2. หนังสือเรยี น หน้า 63 Ex. 6 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทท์ ่ีออกเสียง /ɔ:/, /ɑ:/ และฝึกออกเสียง ตาม พร้อมกนั และทีละคน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดคาศพั ทท์ ีอ่ อกเสียง /ɔ:/, /ɑ:/ เพิม่ เตมิ /ɔ:/: boring, chore /ɑ:/: park, arm ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ โดยสมมตสิ ถานการณว์ ่าเพ่ือนของนกั เรียนมีสัตวเ์ ล้ยี ง ใหม่คืองู แลว้ ใหแ้ ต่ละค่ชู ่วยกนั แตง่ บทสนทนา ครูแนะนาใหน้ กั เรียนใชบ้ ทสนทนาใน Ex. 1 เป็น ตน้ แบบ เม่อื แตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูดสนทนา จากน้นั ใหแ้ ต่ละคอู่ อกมาพูด สนทนาทหี่ นา้ ช้นั A: Would you like to see my new pet? B: Sure. What is it? A: Here, look. It’s a snake. It’s two years old. B: Oh my goodness! Get it away from me! 343
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 637
Pages: