2 They’re sunbathing. 6 Mary and Phil are playing football. 3 Tony’s reading a book. 7 Bill’s shopping for souvenirs. 4 Claire’s taking photographs. 8 I’m making a sandcastle. 5 Mum’s eating an ice cream. 2. หนังสือเรียน หน้า 72 Ex. 4 นกั เรียนอ่านตวั อยา่ งขอ้ 1 พร้อมกนั แลว้ ใชป้ ระโยค คา และสัญลกั ษณ์ ทีก่ าหนดใหเ้ ขียนประโยคตามตวั อยา่ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยค 2 Bill isn’t eating. He’s sunbathing. 3 Mike and Sally aren’t sleeping. They’re swimming. 4 Mum isn’t watching TV. She’s making a cake. 5 Dad isn’t reading his newspaper. He’s cooking. 3. หนังสือเรียน หน้า 72 Ex. 5 ให้นกั เรียนดภู าพและเขยี นประโยค Present continuous บอกสิ่งทีบ่ ุคคล ในภาพกาลงั ทา/ไม่ไดก้ าลงั ทา เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค 2 Jean isn’t running. She’s reading. 3 The two boys aren’t swimming. They’re making sandcastles. 4 Jim isn’t reading a book. He’s sleeping. 5 Mary and Stella aren’t making a sandcastle. They’re eating sandwiches. 6 The dog isn’t eating a sandwich. It’s running. 4. หนังสือเรียน หน้า 72 Ex. 6 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคากริยาทเี่ ตมิ -ing เพื่อฝึกออกเสียง /ɪŋ/ โดย หยดุ CD ทีละคา ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั 2 คร้งั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียง ทีละคน 394
ข้นั Production 1. ใหน้ กั เรียนนาภาพที่ครูมอบหมายให้เตรียมมาเมอ่ื ชว่ั โมงทแี่ ลว้ ออกมา สาหรบั นกั เรียนที่ไม่ได้ เตรียมมาครูแจกภาพท่ีครูเตรียมไวใ้ ห้ จากน้นั ให้นกั เรียนจบั ค่กู นั พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมท่ี บุคคลในภาพกาลงั ทาโดยใชค้ าถาม What is he/she doing? What are they doing? ครูเดินสงั เกตการ ทากิจกรรมรอบ ๆ ช้นั เรียน A: What are they doing? B: They are playing football. A: What is she doing? B: She is making a snowman. 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 46 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูทบทวน Present continuous รูปบอกเลา่ โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี แลว้ ใหแ้ ตล่ ะทีมผลดั กนั ส่งตวั แทน 1 คน ทาท่าทางบอกใบก้ ิจกรรม เพ่ือใหอ้ ีกทมี หน่ึงทายว่ากาลงั ทากิจกรรมอะไร เช่น Team A S1: (ทาทา่ วา่ ยน้า) T: What is he doing? Team B: He’s swimming. ข้นั Presentation 1. ครูนาเสนอ Present continuous รูปคาถามและการตอบคาถาม โดยเขียนตวั อยา่ งประโยคบน กระดาน Am I fishing? Yes, I am. No, I’m not. 395
ใหน้ กั เรียนสงั เกตประโยควา่ ประโยคคาถามข้ึนตน้ ดว้ ยคาประเภทใด (verb to be) แลว้ ครูเขยี น โครงสร้างประโยคคาถามบนกระดาน ดงั น้ี Verb to be + noun/ subject pronoun + verb –ing? ตอ่ มาครูอธิบายว่า การตอบคาถาม ถา้ ตอบรบั จะใช้ Yes, + pronoun + verb to be. ถา้ ตอบปฏเิ สธจะ ใช้ No, + pronoun + verb to be + n’t. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ พูดถาม-ตอบ เช่น S1: Is your friend singing? S2: No, she isn’t. 2. หนังสือเรยี น หน้า 73 Ex. 7 นกั เรียนอ่านประโยคในตาราง แลว้ ช่วยกนั บอกวิธีการสร้างประโยค คาถาม Present continuous We form the interrogative form of the present continuous with: verb to be + noun/ subject pronoun + main verb + -ing. 3. ครูอธิบายความแตกต่างระหวา่ งการใช้ Present simple และ Present continuous โดยยกตวั อยา่ ง ประโยคบนกระดาน 1) I watch TV in the evening. 2) I am watching TV now. ครูถามว่าประโยคท่ี 1 เป็น tense อะไร (Present simple) ประโยคที่ 2 เป็น tense อะไร (Present continuous) ประโยคใดบรรยายกิจวตั รประจาวนั (ประโยคที่ 1) ประโยคใดบรรยายการกระทาที่ กาลงั เกิดข้นึ ในขณะที่พดู (ประโยคที่ 2) 4. หนงั สือเรียน หน้า 73 Ex. 10 ให้นกั เรียนทบทวนการใช้ Present simple และ Present continuous แลว้ บอกความหมายของประโยคตวั อยา่ งเป็นภาษาไทย ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 8 ให้นกั เรียนใชค้ าที่กาหนดใหต้ ้งั คาถาม แลว้ ดูภาพเพ่ือตอบคาถาม เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คู่ พดู ถาม-ตอบ ให้นกั เรียนทเ่ี หลือตรวจวา่ เพอ่ื นต้งั คาถามและตอบ คาถามถกู ตอ้ งหรือไม่ 396
2 Are Bill and Tom making a snowman? Yes, they are. 3 Is Mr Jones playing in the snow? No, he isn’t. 4 Is Mrs Jones talking to Bill? No, she isn’t. 5 Are Bill and Tom eating a sandwich? No, they aren’t. 6 Is Molly taking photographs? No, she isn’t. 7 Is Tim eating a sandwich? Yes, he is. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 9 ให้นกั เรียนใชค้ าท่ีกาหนดให้ต้งั คาถามรูป Present continuous แลว้ ตอบ คาถามตามความเป็นจริง เสร็จแลว้ ครูถามคาถามและสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ 2 Is your teacher talking right now? Yes, he/she is./No, he/she isn’t. 3 Are your parents working now? Yes, they are./No, they aren’t. 4 Are you having an English lesson now? Yes, I am./No, I’m not. 5 Are your friends playing football now? Yes, they are./No, they aren’t. 6 Are you wearing shorts now? Yes, I am./No, I’m not. จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนผลดั กนั พูดถาม-ตอบโดยใชค้ าถามและคาตอบดงั กลา่ ว 3. หนังสือเรยี น หน้า 73 Ex. 11 ใหน้ กั เรียนเปล่ียนคากริยาในวงเลบ็ ให้อยใู่ นรูป Present simple หรือ Present continuous ใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ 1 are having 6 dance 11 is singing 2 celebrate 7 go 12 is playing 3 lasts 8 is raining 13 is 4 is 9 are sitting 5 wear 10 are waiting 397
ข้นั Production 1. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 12 ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกกิจกรรมทีท่ าในตอนเยน็ โดยครูเขียนบน กระดาน เช่น have dinner, watch TV, read a book, chat with friends, listen to music แลว้ ให้ นกั เรียนเขยี นบรรยายกิจกรรมทต่ี นเองและสมาชิกในครอบครัวทาเป็นประจาในตอนเยน็ และ กิจกรรมที่กาลงั ทาในขณะน้ี เม่อื เขยี นเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านใหเ้ พอ่ื นขา้ ง ๆ ฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียก นกั เรียน 3-4 คน ออกมาอา่ นให้เพ่ือนฟังที่หนา้ ช้นั In the evening, my family and I have dinner together. After dinner, I usually chat with friends or play computer games. My father usually reads his newspaper and then watches TV. Mum takes the dog for a walk and then reads her book. Right now, I am having my English lesson. Mum and Dad are both working. 2. นกั เรียนทา Grammar Bank 6 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 79 Exs. 1-5 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 46-47 Exs. 3-8 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวดั และการประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน สังเกตการพูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ กิจกรรมที่บคุ คลในภาพกาลงั ทา สังเกตการพูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ตนเองและผอู้ นื่ กาลงั ทา ประเมินการเขียนบรรยายกิจกรรมท่ี แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ทาเป็นประจา และกิจกรรมที่กาลงั ทา สงั เกตความใฝ่เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน อนั พงึ ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 4) ภาพบคุ คลกาลงั ทากิจกรรมต่าง ๆ 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 398
3 Skills 6c 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - ตอบคาถามจากการฟังบทสนทนาได้ - พูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นเกี่ยวกบั เครื่องแต่งกายได้ - พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศและการแตง่ กายของบคุ คลจากภาพได้ - เขยี นบรรยายภาพสมาชิกในครอบครัวหรือเพือ่ นได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั ส่ือท่ไี มใ่ ช่ความเรียง (non-text information) ที่อ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน 399
ตวั ช้ีวดั พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ต 1.3 ม. 1/1 ใกลต้ วั 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์เส้ือผา้ และเครื่องแตง่ กาย สานวนภาษาท่ีใชแ้ สดงความรู้สึก ขอความคดิ เห็น เกี่ยวกบั เส้ือผา้ และเครื่องแต่งกาย จะช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอยี ดของเร่ืองทฟ่ี ังได้ รวมถงึ สามารถ นาความรู้ท่ีเรียนไปใชพ้ ูด/เขียนส่ือสารเก่ียวกบั เส้ือผา้ และเครื่องแต่งกายทีบ่ ุคคลสวมใส่ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Clothes (a jacket, a tie, trainers, a shirt, a coat, a suit, socks, a belt, a hat, a T-shirt, a dress, shorts, sandals, a top, a jumper, boots, trousers, gloves, a skirt) Likes (I love it, I like it, it, It’s great, It’s OK, It’s fabulous) Dislikes (I don’t really like, It’s horrible) Functions: Talking about clothes What is she wearing? She is wearing a jacket, a skirt and boots. Expressing likes/dislikes Do you like these boots? I love them. 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Speaking: พดู แสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เครื่องแตง่ กาย, พูดขอและให้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศและการแต่งกายของบุคคลจากภาพ Writing: เขียนบรรยายภาพสมาชิกในครอบครัวหรือเพอื่ น 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 2) ความสามารถในการคิด 1) ความสามารถในการสื่อสาร 400
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up นกั เรียนเล่มเกม Noughts and Crosses เพอ่ื ทบทวน Present continuous โดยครูเขยี นตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขยี นคากริยาลงในตารางช่องละ 1 คา เช่น get up, have a bath, get dress, have breakfast, go, eat, drink, play, read จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ให้ผลดั กนั แตง่ ประโยค Present continuous ในรูปบอกเล่าจากคากริยาในตาราง ทมี ใดแตง่ ประโยคถูกตอ้ งจะไดท้ า เคร่ืองหมาย X หรือ O ลงในตารางช่องน้นั ทมี ท่ีทาเคร่ืองหมายติดกนั 3 ช่องกอ่ นในแนวใดกไ็ ด้ จะเป็นผชู้ นะ ตอ่ มาใหน้ กั เรียนเลน่ เกมอกี คร้งั โดยครูเปลี่ยนคากริยาในตารางใหม่ แลว้ ให้นกั เรียนแตง่ ประโยค Present continuous ในรูปคาถาม ข้นั Presentation 1. หนงั สือเรยี น หน้า 74 Ex. 1 นกั เรียนดภู าพเส้ือผา้ และเครื่องแตง่ กาย แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง คาศพั ทแ์ ละออกเสียงตาม 2 คร้ัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทลี ะคน แลว้ ช่วยกนั บอก เส้ือผา้ และเครื่องแต่งกายเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย jacket (เส้ือแจก็ เกต็ ) tie (เนกไท) trainers (รองเทา้ ผา้ ใบ) shirt (เส้ือเช้ิต) coat (เส้ือโคท้ ) suit (ชุดสูท) socks (ถุงเทา้ ) belt (เขม็ ขดั ) hat (หมวก) T-shirt (เส้ือยดื ) dress (ชุดเดรส) shorts (กางเกงขาส้ัน) sandals (รองเทา้ โปร่งที่มีสายหนงั รดั ขอ้ เทา้ ) top (เส้ือของผูห้ ญงิ ) jumper (เส้ือถกั แขนยาวแบบสวมหวั ) boots (รองเทา้ บตู๊ ) trousers (กางเกงขายาว) gloves (ถงุ มอื ) skirt (กระโปรง) 401
ต่อมาให้นกั เรียนเขยี นหัวขอ้ Clothes, Shoes, Accessories ลงในสมุด ครูอธิบายความหมายของ แตล่ ะหัวขอ้ แลว้ ให้นกั เรียนจดั กลมุ่ คาศพั ทต์ ามหวั ขอ้ เสร็จแลว้ เปรียบเทียบกบั เพือ่ น แลว้ ครูเฉลย คาตอบบนกระดาน Clothes: jacket, shirt, coat, suit, T-shirt, dress, shorts, top, socks, jumper, trousers, skirt Shoes: trainers, sandals, boots Accessories: tie, belt, hat, gloves 2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกสานวนท่ใี ชบ้ อกความรู้สึกชอบทีน่ กั เรียนใชบ้ ่อย ๆ เช่น I like …, I love ... ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนและเขยี นบนกระดาน แลว้ บอกนกั เรียนวา่ นอกจากสานวน เหล่าน้ีแลว้ ยงั สามารถใช้ It’s fabulous. และ It’s great. ไดด้ ว้ ย ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนบอกสานวนท่ีใชบ้ อกความรู้สึกไมช่ อบ เช่น I don’t like …, I dislike … ครูรวบรวมคาตอบและเขยี นบนกระดาน แลว้ บอกนกั เรียนวา่ นอกจากสานวนเหลา่ น้ีแลว้ ยงั สามารถ ใช้ I don’t really like … และ It’s horrible. ไดด้ ว้ ย จากน้นั ครูชูภาพเส้ือยืดให้นกั เรียนดู และสุ่มถามความชอบของนกั เรียน 3-4 คน เช่น T: Do you like this T-shirt? S1: Yes, I like it. S2: Yes, it’s great. S3: I don’t like it. 3. ครูถามนกั เรียนว่า What do you think of Star Wars film? แลว้ เขียนคาถามบนกระดาน และอธิบาย วา่ คาถาม What do you think of + noun/gerund? ใชถ้ ามความคิดเห็น โดยนกั เรียนสามารถตอบ (I think) it’s + adjective. เช่น I think it’s great. It’s interesting. จากน้นั ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน 2-3 คน เช่น T: What do you think of Chinese food? S1: It’s great. S2: It’s good. 402
ข้นั Practice 1. หนังสือเรยี น หน้า 74 Ex. 2 ครูบอกนกั เรียนวา่ กาลงั จะไดฟ้ ังบทสนทนาระหว่าง Georgia และ Anna ซ่ึงสนทนากนั เกี่ยวกบั การซ้ือเคร่ืองแตง่ กาย แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นคาถามทก่ี าหนดให้ จากน้นั เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง โดยต้งั ใจฟังเน้ือเร่ืองส่วนทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั คาถาม และจดบนั ทกึ คาตอบ เม่อื ฟัง จบครูถามนกั เรียนวา่ ตอบคาถามไดค้ รบหรือไม่ ครูอาจจะเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอกี คร้ัง จากน้นั ครู ขออาสาสมคั รบอกคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจความถูกตอ้ ง 1 Because Anna needs a dress for a party. 3 She buys a top. 2 Georgia. 4 It’s £10. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 74 Ex. 3a ครูเขยี นหัวขอ้ Positive, Negative, Neutral (เป็นกลาง) บนกระดาน ใหน้ กั เรียนเดาความหมายจากสัญลกั ษณ์ จากน้นั นกั เรียนอ่านสานวนทีก่ าหนดให้ แลว้ แยกสานวน ใหถ้ ูกตอ้ งตามหัวขอ้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนสานวนใตห้ วั ขอ้ บนกระดาน แลว้ ครู และนกั เรียนในช้นั ร่วมกนั ตรวจคาตอบ Positive: I love it. I like it. It’s great. It’s fabulous. Negative: I don’t really like it. It’s horrible. Neutral: It’s OK. ข้นั Production 1. หนงั สือเรยี น หน้า 74 Ex. 3b นกั เรียนทางานคู่ สมมตสิ ถานการณว์ ่ากาลงั เลอื กเครื่องแต่งกายอยทู่ ี่ หา้ งสรรพสินคา้ ให้นกั เรียนใช้สานวนจาก Ex. 3 พดู สนทนาแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็น เก่ียวกบั เคร่ืองแต่งกายทีก่ าลงั เลือก กอ่ นทากิจกรรมครูใหน้ กั เรียน 2 คน อ่านตวั อยา่ งบทสนทนาให้ เพอ่ื นฟัง และย้าให้นกั เรียนใชท้ ้งั คาถาม Do you like …? และ What do you think of …? จากน้นั ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และตรวจสอบวา่ นกั เรียนพดู ประโยค ถูกตอ้ งหรือไม่ 403
A: Do you like these boots? B: I love them. Do you like this belt? A: I don’t really like it. B: What do you think of these trainers? A: It’s fabulous. 2. นกั เรียนทา Language Review 6c Ex. 3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 49 Ex. 4 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง 4. ครูมอบหมายให้นกั เรียนเตรียมภาพสมาชิกในครอบครัวหรือภาพของเพ่อื นมาคนละ 1 ภาพ เพอื่ ใช้ ทากิจกรรมในชวั่ โมงถดั ไป 5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 49 Ex. 5 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูทบทวน Present continuous โดยให้นกั เรียนออกมาจบั สลากประโยคที่ครูเตรียมไว้ เช่น I’ m playing football. I’ m writing. I’ m reading. I’ m singing a song. I’ m swimming. I’ m drinking water/milk. จากน้นั แสดงท่าทางหนา้ ช้นั เรียน เพิ่อให้เพอื่ นในช้นั ทายว่ากาลงั ทาอะไร โดยใชค้ าถาม What am I doing? เช่น S1: What am I doing? Class: You are playing football. S1: That’s right./No. try again. 404
ข้นั Presentation 1. ครูสอนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เคร่ืองแตง่ กายเพิ่มเติม ไดแ้ ก่ scarf (ผา้ พนั คอ), flip-flops (รองเทา้ หูคบี ), cap (หมวกแกป๊ ), jeans (กางเกงยนี ส์), sunglasses (แวน่ กนั แดด), vest (เส้ือกลา้ ม, เล้อื กก๊ั ) โดยเขยี น คาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงตาม 2 คร้งั จากน้นั ช่วยกนั บอกความหมายโดยครูวาด ภาพงา่ ย ๆ บนกระดานให้ดู 2. ครูเตรียมภาพบคุ คลที่สวมเคร่ืองแต่งกายแตกต่างกนั ประมาณ 5 ภาพ ซ่ึงตดั มาจากนิตยสารหรือ นามาจากอนิ เทอร์เน็ต แลว้ ตดิ ภาพไวบ้ นกระดานทีละภาพ จากน้นั ช้ีภาพ แลว้ ให้นกั เรียนบอก คาศพั ทเ์ ส้ือผา้ และเคร่ืองแตง่ กาย 3. ครูเขียนคาถามบนกระดาน ถา้ เป็นผหู้ ญิงถามว่า What is she wearing? ถา้ เป็นผูช้ ายถามวา่ What is he wearing? ถา้ มากกวา่ 1 คน ถามวา่ What are they wearing? แลว้ ครูเขียนคาตอบตอ่ จากคาถาม เช่น What is she wearing? She is wearing a jacket, a skirt and boots. What is he wearing? He is wearing a shirt, shorts and trainers. What are they wearing? They are wearing dresses and shoes. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคบนกระดาน แลว้ ช่วยกนั สรุปโครงสร้างท่ีใชบ้ รรยายการแตง่ กาย แลว้ ครู เขียนบนกระดาน Subject pronoun + verb to be + wearing + เส้ือผา้ /เคร่ืองแตง่ กาย. ครูย้าวา่ ถา้ เส้ือผา้ /เคร่ืองแตง่ กายเป็นเอกพจน์ให้ใช้ a นาหนา้ แต่ถา้ เป็นพหูพจน์ให้เตมิ s หลงั คาศพั ท์ ข้นั Practice 1. ใหน้ กั เรียนดภู าพในหนา้ 69 ทีละรูป แลว้ ครูถามวา่ สภาพอากาศเป็นอยา่ งไร พวกเขาสวมใส่เส้ือผา้ / เคร่ืองแต่งกายอะไร เช่น T: Look at the picture a. What is the weather like? Ss: It is very cold. T: What is she wearing? Ss: She’s wearing a coat, a scarf and gloves. 2. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แลว้ ครูแจกภาพบุคคลที่ตดั จากนิตยสารหรือพิมพจ์ ากอินเทอร์เน็ต ให้กลุ่มละ 1 ภาพ จากน้นั ครูถามคาถามทีละกลมุ่ ว่า บุคคลในภาพอยทู่ ่ไี หน สภาพอากาศเป็น อยา่ งไร บุคคลในภาพสวมใส่เครื่องแตง่ กายอยา่ งไร และกาลงั ทาอะไร เช่น 405
T: Where are they? Group 1: They are at the beach. T: What is the weather like? Group 1: It’s warm. T: What are they wearing? Group 1: The man and the boy are wearing a T-shirt and shorts. The woman is wearing a top, shorts and sunglasses. The girl is wearing a top and a skirt. T: What are they doing? Group 1: The man and the woman are walking on the beach. The girl and the boy are playing the sand. ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 4 ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน 2-3 คน เกี่ยวกบั ภาพสมาชิกในครอบครัวหรือ เพื่อนท่ีให้เตรียมมาโดยใชค้ าถามที่กาหนดให้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายภาพ ครูย้าว่าให้เขยี น บรรยายโดยตอบคาถามให้ครบทกุ คาถาม เมอื่ เขียนเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-5 คน ออกมาพูด บรรยายให้เพ่อื นฟัง พร้อมท้งั แสดงภาพใหด้ ูดว้ ย This is a picture of my sister. She is in the forest. It’s warm and sunny. She is wearing a shirt, shorts, socks and trainers. She is drinking some coffee. 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 49 Ex. 6 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องว่าง 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 48 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 406
7. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบฝึกหัด (Workbook) ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ การฟัง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สงั เกตการพูดแสดงความรู้สึกและ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เครื่องแตง่ กาย สังเกตการพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ สภาพอากาศและการแต่งกายของบุคคล จากภาพ ประเมนิ การเขยี นบรรยายภาพสมาชิก แบบประเมินการเขียน ในครอบครัวหรือเพอ่ื น สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) ภาพเส้ือยดื 5) ภาพบคุ คลทสี่ วมเครื่องแต่งกายแตกตา่ งกนั 6) ภาพสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน 407
4 Everyday English 6d 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - อา่ นออกเสียงบทสนทนาถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ นได้ - ตอบคาถามจากการอา่ นบทสนทนาได้ - แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนดได้ - พูดสนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนดได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ 408
ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้สานวนภาษาท่ีใชใ้ นการขอความคิดเห็นเกี่ยวกบั สินคา้ ทจ่ี ะซ้ือ จะช่วยให้พูดสนทนา สื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Sentences (So, what do you think?, I think they’re great., Do you think so?, They look really nice on you., Yes, but I prefer them in black., Do you think they’re expensive?, How much do they cost?, OK, then. I’ll take them.) Functions: Buying clothes and accessories So, what do you think? These trousers look really nice on you. 2) Language Skills Speaking: พูดสนทนาตามสถานการณท์ ่ีกาหนด Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ, อ่านออกเสียงบทสนทนา Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ าหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 409
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้นั Warm up นกั เรียนเลน่ เกม Bingo ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เส้ือผา้ /เครื่องแตง่ กาย โดยเขยี นตาราง 9 ช่องลงใน กระดาษ และเขยี นคาศพั ทล์ งในตารางช่องละ 1 คา จากน้นั ครูพดู คาศพั ทท์ ีละคา ตารางของใครมี คาศพั ทด์ งั กล่าวใหก้ า ทบั คาศพั ทน์ ้นั คนที่กา ทบั คาศพั ทไ์ ด้ 3 ช่องติดกนั กอ่ นให้พูดดงั ๆ ว่า Bingo ข้นั Presentation 1. ครูเขียนประโยคเหลา่ น้ีบนกระดาน What do you think? I think they’re great. Do you think so? They look really nice on you. I prefer them in black. Do you think they’re expensive? ครูถามว่าประโยคใดเป็นการถามความคิดเห็น และประโยคใดเป็นการแสดงความคิดเห็น จากน้นั ให้ นกั เรียนอ่านประโยคบนกระดานตามครู และช่วยดนั อธิบายความหมาย 2. ครูอธิบายวา่ ลกั ษณะสาคญั ของภาษาองั กฤษคอื มกี ารเนน้ เสียงหนกั เบา ซ่ึงแบง่ ออกเป็นการเนน้ เสียงหนกั เบาในคา (Word stress) และการเนน้ เสียงหนกั เบาในประโยค (Sentence stress) การเนน้ เสียงหนกั เบาในประโยค มกั จะลงเสียงหนกั ที่คาจาพวก content words ซ่ึงเป็นคาประเภททีม่ ีความหมายในตวั เอง ไดแ้ ก่ nouns,verbs, adjectives, demonstratives, interrogative ส่วนคาจาพวก function words ซ่ึงเป็นคาทไี่ มม่ ี 410
ความหมายหรือมีความหมายนอ้ ยจะลงเสียงเบา ไดแ้ ก่ articles, prepositions, pronouns, conjunctions, auxiliary verbs และ relative pronouns ข้นั Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 75 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังประโยคและฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั 2 คร้งั แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทีละคน จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้งั โดยหยดุ ทลี ะประโยค ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกวา่ แต่ละประโยคออกเสียงเนน้ หนกั ทคี่ าใด So, what do you think? Yes, but I prefer them in black. I think they’re great. Do you think they’re expensive? Do you think so? How much do they cost? They look really nice on you. OK, then. I’ll take them. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 75 Ex. 2 ครูอธิบายว่าประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาของ Beth และ Alice ซ่ึงพวกเขาอยทู่ ่หี ้างสรรพสินคา้ ใหน้ กั เรียนเดาว่าพวกเขากาลงั คยุ กนั เรื่องอะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทสนทนาตามไปดว้ ยเพอื่ ตรวจคาตอบ They are talking about choosing clothes or accessories. They are talking about which colour to choose and how much they cost. 3. หนังสือเรยี น หน้า 75 Ex. 3 ให้นกั เรียนอา่ นคาถามทีก่ าหนดให้ ครูถามวา่ มคี าถามขอ้ ใดที่ไม่เขา้ ใจ ครูช่วยอธิบาย แลว้ ใหน้ กั เรียนนอา่ นบทสนทนาเพ่อื หาเน้ือเรื่องที่เกี่ยวขอ้ งกบั คาถาม เมอื่ ตอบ คาถามเสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ 1 She is trying on sunglasses. 2 She wonders if they are expensive. 3 She prefers them in black. 4 They cost £70. 5 She decides to buy them. 411
4. หนงั สือเรียน หน้า 75 Ex. 4 ให้นกั เรียนอธิบายความหมายของประโยคใน Ex. 1 เป็นภาษาไทย จากน้นั นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 แลว้ หาประโยคท่ีมีความหมายเหมอื นกบั ประโยคเหล่าน้ีใน บทสนทนา จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ 1 So, do you like them? - So, what do you think? 2 They aren’t too expensive, are they? - Do you think they’re expensive? 3 How much are they? - How much do they cost? 4 I think that’s a reasonable price. - That’s not too bad. ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 75 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาและอ่านตาม ครูย้าใหน้ กั เรียน ต้งั ใจฟังการเนน้ เสียงหนกั เบาและเสียงสูง-ต่าในประโยค จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั อ่าน บทสนทนา ครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่ ออกมาอา่ นบทสนทนา ทหี่ นา้ ช้นั 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ไปฝึกอา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 75 ใหค้ ลอ่ ง แลว้ มาอ่าน บทสนทนาใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน 3. นกั เรียนทา Language Review 6d Ex. 4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 ร่วมกนั ในช้นั 4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 50 Exs. 1-2, 4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน แลว้ แจกซองท่ีมีบตั รคาให้กลุ่มละ 1 ซอง ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เรียง บตั รคาให้เป็นประโยคที่ถูกตอ้ ง กล่มุ ใดเรียงประโยคเสร็จแลว้ ใหย้ กมือข้นึ ครูเดินตรวจความ ถกู ตอ้ ง ตวั อยา่ งประโยค What do you think? Do you think so? I think they’re great. I prefer them in black. 412
ข้นั Presentation 1. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน และขีดเส้นใตค้ าสรรพนามแทนส่ิงของ I think they’re great. They look really nice on you. Yes, but I prefer them in black. Do you think they’re expensive? How much do they cost? OK, then. I will take them. ให้นกั เรียนสงั เกตว่าคาสรรพนามแทนสิ่งของเป็นเอกพจนห์ รือพหูพจน์ เมอ่ื ไดค้ าตอบว่าพหูพจน์ แลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งเคร่ืองแต่งกายทเี่ ป็นพหูพจน์ เช่น trousers, glasses, shoes จากน้นั ใหย้ กตวั อยา่ งเคร่ืองแต่งกายทีเ่ ป็นเอกพจน์ เช่น a shirt, a skirt, a hat แลว้ ครูเขยี นประโยค ใหมโ่ ดยเปล่ียนคาสรรพนามแทนส่ิงของให้เป็นเอกพจน์ I think it’s great. It looks really nice on you. Yes, but I prefer it in black. Do you think it’s expensive? How much does it cost? OK, then. I will take it. 2. ครูเขียนบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 75 Ex. 3 บนกระดาน แลว้ เปล่ยี น sunglasses เป็น a skirt รวมถึงคาสรรพนามและคากริยาทเ่ี ก่ียวขอ้ ง โดยขดี เส้นใตค้ าทีเ่ ปลีย่ นดว้ ยเพ่อื ใหน้ กั เรียนเห็น ความแตกต่าง Beth: So, what do you think? Alice: That skirt looks really nice on you, Beth. Beth: Do you think so? Alice: Yes, I think it’s great. Look in the mirror. Beth: Hmmm. It’s very nice. Alice: I like the brown one too. Beth: Yes, but I prefer it in black. Do you think it’s expensive? Alice: Why? How much does it cost? Beth: £70. 413
Alice: That’s not too bad. Beth: OK, then. I’ll take it. จากน้นั ครูอธิบายว่า ถา้ เราตอ้ งการซ้ือสินคา้ ที่เป็นเอกพจน์ เช่น a shirt, a skirt, a hat จะตอ้ งเปลีย่ น คาสรรพนาม คานาหนา้ นาม และคากริยาดว้ ย those that they it are is do does them it ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 75 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ ช่วยกนั แตง่ บทสนทนาโดยสมมตสิ ถานการณว์ ่า ตนเองอยทู่ ี่ร้านขายเส้ือผา้ และตอ้ งการซ้ือกางเกงขายาว 1 ตวั หรือเส้ือผา้ ชิ้นใดก็ไดต้ ามความคิด ของนกั เรียน แตย่ งั ตดั สินใจไม่ไดว้ า่ จะซ้ือตวั ไหน ครูแนะนาให้นกั เรียนดูบทสนทนาใน Ex. 3 เป็น ตน้ แบบ โดยเปลี่ยนคาที่เป็นสีฟ้าให้เป็นขอ้ มูลของตนเอง A: So, what do you think? B: These trousers look really nice on you, Jane. A: Do you think so? B: Yes, I think they’re fabulous. Look in the mirror. A: Hmmm. They’re very nice. B: I like the blue ones too. A: Yes, but I prefer them in brown. Do you think they’re expensive? B: Why? How much do they cost? A: £85. B: That’s not too bad. A: OK, then. I’ll take them. 2. เมื่อนกั เรียนแต่งบทสนทนาเสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู บทสนทนา โดยพยายามไม่ดูบท หรือใชว้ ิธีจดคาสาคญั ๆ ใส่กระดาษแทน โดยครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน เพือ่ คอยใหค้ าแนะนา 414
ข้นั Production 1. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคอู่ อกมาพดู สนทนาหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยสังเกตและจดบนั ทกึ เพ่ือให้ คาแนะนาแกน่ กั เรียน 2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 50 Ex. 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้ วธิ กี ารวดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทสนทนา ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ บทสนทนา ประเมินการแตง่ บทสนทนาตาม แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ สถานการณท์ ีก่ าหนด บทบาทสมมติ ประเมินการพดู สนทนาตาม แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น สถานการณ์ท่ีกาหนด อนั พงึ ประสงค์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 4) บตั รคา 415
5คู่คิด Across the curriculum 6e 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - อ่านออกเสียงบทกลอนถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ นได้ - บอกใจความสาคญั ของบทกลอนท่ีอา่ นได้ - แตง่ บทกลอนภาษาองั กฤษได้ - คน้ ควา้ บทกลอนเกี่ยวกบั สภาพอากาศหรือฤดกู าลและพูดนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การ อา่ น ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความให้สัมพนั ธก์ บั สื่อที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text information) ทอ่ี า่ น ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/3 พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรมหรือเรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั พร้อมท้งั ให้ เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็น พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน 416
ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้- ต 3.1 ม. 1/1 อื่นจากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้องคป์ ระกอบของบทกลอน จะช่วยให้อ่านบทกลอนเขา้ ใจ สามารถจบั ใจความสาคญั และแตง่ บทกลอนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (blowing, falling) Nouns (ground, pitter patter) Adjectives (happy, sad, relaxed) 2) Language Skills Speaking: พูดนาเสนอบทกลอนเก่ียวกบั สภาพอากาศหรือฤดูกาล Reading: อ่านเพอ่ื จบั ใจความสาคญั , อา่ นบทกลอน Writing: แต่งบทกลอน Limerick 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน 417
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี แลว้ ครูพูดช่ือฤดูกาล 1 ชื่อ เช่น summer และจบั เวลา 1 นาที ให้แตล่ ะทมี แข่งกนั เขียนประโยคบอกเดือน สภาพอากาศ หรือกิจกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ฤดูกาลท่คี รูพดู บนกระดาน เช่น August is the month in summer. The weather is hot in summer. We go to the beach in summer. เม่ือหมดเวลาทีมใดเขียนประโยคไดถ้ ูกตอ้ งมากทสี่ ุดจะเป็นผชู้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูเขยี นคาว่า happy และ sad บนกระดาน ให้นกั เรียนอ่านออกเสียง และบอกความหมาย จากน้นั ครู เขียนคาว่า relaxed และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตาม แลว้ ครูถามความหมายของคาน้ี ถา้ นกั เรียน ไม่รู้ครูช่วยอธิบาย relaxed (adj) = calm and not anxious or worried (ซ่ึงผอ่ นคลาย) 2. ครูเสนอคาศพั ท์ blow, fall, ground, come to mind, pitter patter บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ น ออกเสียงดว้ ยตนเอง ถา้ คาใดนกั เรียนอา่ นไม่ถกู ตอ้ งใหอ้ า่ นตามครู จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอก ความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ให้เปิ ดหาจากจนานุกรม เช่น come to mind (v) = to appear in your thoughts (นึกออก) pitter patter (n) = a sound like that of quick light steps or taps (เสียงเปาะแปะ (คลา้ ย เสียงฝนตก), เสียงเคาะเบา ๆ ตดิ ตอ่ กนั รวดเร็ว) ข้นั Practice 1. หนังสือเรยี น หน้า 76 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังดนตรีและจินตนาการภาพตาม จากน้นั ครูถาม เก่ียวกบั ภาพท่นี กั เรียนจินตนาการดว้ ยคาถาม What image come to mind? What is the weather like? How does it make you feel? It is winter. Children are making snowmen. There is snow everywhere. It’s freezing cold. I feel happy. 418
2. หนงั สือเรยี น หน้า 76 Ex. 2a ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ่ีอยใู่ นภาพ และบอกความหมาย แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ คาศพั ทเ์ หลา่ น้ีมาจากบทกลอน ให้นกั เรียนเดาวา่ บทกลอนน้ีน่าจะเกี่ยวกบั อะไร จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านบทกลอนเพือ่ หาว่าบทกลอนน้ีเก่ียวกบั อะไร The poem is about the four seasons and what happens during each season. 3. หนงั สือเรียน หน้า 76 Ex. 2b ให้นกั เรียนนาคาศพั ทใ์ นภาพมาเตมิ ลงในบทกลอน เสร็จแลว้ ครู รวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จากน้นั เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพือ่ ตรวจคาตอบ 1 sky 2 insects 3 leaves 4 wind 5 snow ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 76 Ex. 4 นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 3-4 คน แลว้ ครูแจกกระดาษ A4 ให้กล่มุ ละ 1 แผน่ เพอ่ื วาดภาพ 1 ภาพทสี่ ัมพนั ธก์ บั บทกลอน พร้อมท้งั ต้งั ช่ือภาพทว่ี าดดว้ ย เสร็จแลว้ ให้แต่ละ กลมุ่ ออกมานาเสนอภาพวาดท่หี นา้ ช้นั พร้อมท้งั พูดบรรยายภาพ Summer Holidays It is summer. It’s hot and sunny. Children are swimming in the sea. They have fun. 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปฝึกอ่านบทกลอนในหนงั สือเรียน หนา้ 76 ให้คล่อง แลว้ มาอ่านให้ครูฟัง นอกเวลาเรียน 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 50 Ex. 3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 419
ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูเขยี นคาศพั ท์ 8 คาบนกระดาน ไดแ้ ก่ play, far book, man, bat, key, queen, pig แลว้ ใหน้ กั เรียน อา่ นออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั ต่อมาครูนาบตั รคา car, tan, cook, cat, me, day, been, wig มาตดิ บน กระดาน ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ จากน้นั ครูพูดคาศพั ทท์ เ่ี ขยี นบนกระดาน 1 คา เช่น play ให้นกั เรียนเลอื กบตั รคาทม่ี เี สียงสระเหมือนกบั คาศพั ทท์ ีค่ รูพูด (play - day, far - car, book - cook, man - tan, bat - cat, key - me, queen - been, pig - wig) ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนเร่ืองคาสัมผสั (rhyme) ในบทกลอน โดยให้นกั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะของคาสัมผสั (คาสัมผสั คือ คาทมี่ ีเสียงสระและเสียงตวั สะกดเหมือนกนั ) 2. ครูอธิบายลกั ษณะของบทกลอน Limerick ซ่ึงเป็นบทกลอนท่มี คี าสมั ผสั ชดั เจนให้นกั เรียนฟังวา่ บทกลอน Limerick จะมี 5 บรรทดั โดยคาสุดทา้ ยของบรรทดั ท่ี 1, 2 และ 5 จะสัมผสั กนั และ คาสุดทา้ ยของบรรทดั ท่ี 3 และ 4 จะสมั ผสั กนั 3. ครูยกตวั อยา่ งบทกลอน Limerick บนกระดาน There was an old man from Peru Who dreamed he was eating his shoe He awoke in the night With a terrible fright To discover it was totally true ให้นกั เรียนอ่านบทกลอนพร้อมกนั จากน้นั ช่วยกนั บอกคาสมั ผสั โดยครูขีดเสน้ ใตค้ าสัมผสั ตามที่ นกั เรียนบอก แลว้ ครูสรุปว่ามคี าสมั ผสั คือ Peru - shoe - true และ night - fright ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 76 Ex. 3 ให้นกั เรียนหาคาสัมผสั ในบทกลอน เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอก คาตอบ ครูและนกั เรียนในช้นั ร่วมกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง here - clear rain - again comes - hum now - brown around - ground hooray - play 420
2. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 3-4 คน แลว้ ครูแจกแถบประโยค 5 ประโยค ใหก้ ล่มุ ละ 1 ชุด ให้แต่ละ กลมุ่ เรียงประโยคใหเ้ ป็นบทกลอน Limerick ทสี่ มบูรณ์ โดยครูสามารถนาบทกลอนมาจาก เวบ็ ไซตw์ ww.teachingideas.co.uk/writing-poetry/limericks There once was an old man from Esser Whose knowledge grew lesser and lesser It at last grew so small He knew nothing at all And now he’s a college professor กลมุ่ ใดเรียงประโยคเสร็จแลว้ ใหย้ กมือข้นึ แลว้ ครูเดินตรวจความถูกตอ้ ง เมอ่ื นกั เรียนเรียงประโยค เป็นบทกลอนทถ่ี กู ตอ้ งครบทกุ กลมุ่ แลว้ ใหอ้ า่ นบทกลอนพร้อมกนั และบอกคาสัมผสั 3. ครูให้นกั เรียนกล่มุ เดิมช่วยกนั แต่งบทกลอน Limerick 1 บท โดยอาจแตง่ กี่ยวกบั ส่ิงของในช้นั เรียน สมาชิกในครอบครัว เป็นตน้ ครูย้าว่านกั เรียนตอ้ งแตง่ บทกลอนใหม้ คี าสมั ผสั ถกู ตอ้ ง เม่ือทกุ กลุ่ม แตง่ บทกลอนเสร็จแลว้ ใหอ้ อกมาอ่านบทกลอนทีห่ นา้ ช้นั เพ่อื ให้เพื่อนบอกคาสมั ผสั ในบทกลอน ข้นั Production 1. หนงั สือเรียน หน้า 76 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ ช่วยกนั คน้ ควา้ บทกลอนภาษาองั กฤษเกี่ยวกบั สภาพ- อากาศหรือฤดกู าลจากอนิ เทอร์เน็ต แลว้ วงกลมคาสัมผสั ดว้ ยดินสอสี คู่ละ 1 สี จากน้นั ใหแ้ ต่ละคู่ ออกมาอา่ นบทกลอนให้เพื่อนฟังท่ีหนา้ ช้นั Whether the weather be fine, Or whether the weather be not, Or whether the weather be cold, Or whether the weather be hot, We’ll weather the weather, Whatever the weather, Whether we like it or not! 2. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 6 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 100-103 421
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้ วิธีการวดั กระดาษผลงานนกั เรียน - ประเมินการอา่ นบทกลอน ตรวจการวาดภาพให้สัมพนั ธ์กบั สมดุ นกั เรียน - บทกลอน แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ตรวจการแต่งบทกลอน Limerick ประเมนิ การคน้ ควา้ บทกลอน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ภาษาองั กฤษเก่ียวกบั สภาพอากาศหรือ อนั พึงประสงค์ ฤดกู าลและพดู นาเสนอ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) บตั รคาและแถบประโยค 422
6 Writing 6f 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอ่านได้ - เขยี นประโยคเก่ียวกบั แผนการในอนาคตอนั ใกลข้ องตนเองได้ - เขียนโปสการ์ดถงึ เพือ่ นได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้โครงสร้างภาษาและวิธีการเขยี นโปสการ์ดถึงเพื่อน จะช่วยใหส้ ามารถเขยี นสื่อสารได้ อยา่ งเหมาะสม 423
3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Grammar: Present continuous with future meaning 2) Language Skills Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขียนประโยคเกี่ยวกบั แผนการในอนาคตอนั ใกลข้ องตนเอง, เขยี นโปสการ์ดถงึ เพ่ือน 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 5 ทีม แลว้ ครูแจกกระดาษ A4 ใหท้ ีมละ 1 แผ่น ให้แต่ละทีมวาดภาพตามท่ี ครูบรรยาย เช่น It’s Sunday in spring. The weather is sunny. The sky is clear. A man is reading a book in a garden. He is wearing a T-shirt and shorts. จากน้นั ให้แต่ละทีมแสดงภาพวาดให้ทีมอ่ืนดู และร่วมกนั ตดั สินว่าทีมใดวาดภาพตรงกบั คาบรรยายของครูมากท่สี ุด 2. ครูถามคาถามนกั เรียนเก่ียวกบั การท่องเท่ยี วในวนั หยดุ เช่น Where did you go at the last weekend/on holiday? Who did you go with? What activities did you do? 424
ข้นั Presentation 1. ครูเขยี นประโยคตามน้ีบนกระดาน I’m visiting my grandpa next weekend. I’m shopping on Sunday. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั แลว้ ครูถามว่าท้งั 2 ประโยคใช้ tense อะไร (Present continuous) และประโยคเกิดข้ึนหรือยงั เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่ ยงั ครูอธิบายว่า Present continuous นอกจากจะใชเ้ พื่อ บอกเหตกุ ารณ์ทก่ี าลงั เกิดข้ึนขณะที่พดู แลว้ ยงั ใชเ้ พื่อบอกแผนการในอนาคตอนั ใกล้ โดยจะมีคา บอกเวลากากบั ไวด้ ว้ ย แลว้ ครูขีดเส้นใต้ next weekend และ on Sunday 2. นกั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 77 เพ่ือทบทวนความเขา้ ใจการใช้ Present continuous with future meaning 3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-5 คน แต่งประโยคคนละ 1 ประโยค บอกส่ิงทจี่ ะทาในอนาคตอนั ใกล้ โดย ตอ้ งมีคาบอกเวลาในอนาคตอยใู่ นประโยคดว้ ย เช่น S1: I’m watching a film with my friend next Sunday. S2: My sister is having a bitthday party on Friday. ข้นั Practice 1. ให้นกั เรียนอา่ นโปสการ์ดในหนงั สือเรียน หนา้ 77 แลว้ ขีดเสน้ ใตป้ ระโยค Present continuous จากน้นั ครูถามว่าประโยคใดเป็นเหตกุ ารณ์ทกี่ าลงั เกิดข้นึ และประโยคใดเป็นแผนการในอนาคต Present continuous: I’m staying at a hotel near the sea., We’re having a fantastic time here., It’s warm and the sun is shining., I’m sunbathing now with Alex and Dad., Mum and Connie are shopping for souvenirs at the moment., We’re all having lots of fun. Present continuous with future meaning: Tomorrow we’re going to Naples. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 77 Ex. 1 นกั เรียนดูโปสการ์ด แลว้ อ่านทีอ่ ยแู่ ละประโยคแรก จากน้นั ครูถามวา่ Who is writing the postcard? Who is to read it? Where is each person? แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียน ฟังและอ่านโปสการ์ดตามเพ่อื ตรวจคาตอบ 425
1 Fred is writing the postcard. 2 His auntie May and his uncle Joe read it. 3 Fred is in Capri, in Italy. His aunt and uncle are in Brighton, England. 3. หนงั สือเรียน หน้า 77 Ex. 2 นกั เรียนอ่านคาถามทใี่ หม้ า แลว้ ช่วยกนั พิจารณาวา่ คาตอบแตล่ ะขอ้ น่าจะตอบอะไร เช่น ขอ้ 1 – สภาพอากาศ, ขอ้ 2 – สถานท่ี เป็นตน้ จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านโปสการ์ด เพ่ือหาคาตอบ เม่อื ตอบคาถามเสร็จแลว้ ครูขออาสมคั รบอกคาตอบ และครูตรวจคาตอบ 1 It’s warm and the sun is shining. 2 They are staying at a hotel near the sea. 3 His mum, dad, Alex and Connie. 4 He’s sunbathing with Alex and Fred. 5 She is shopping for souvenirs with Connie. 6 He’s having a fantastic time there. ข้นั Production 1. ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคเกี่ยวกบั แผนการในอนาคตอนั ใกลข้ องตนเองโดยใช้ Present continuous มาคนละ 5 ประโยค แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านประโยคท่แี ตง่ คนละ 2 ประโยค 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 51 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 426
ชั่วโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูทบทวนการใช้ Present continuous เพ่อื บอกเหตุการณ์ที่กาลงั เกิดข้นึ และบอกแผนการในอนาคต โดยเขียนหัวขอ้ Now และ Future บนกระดาน แลว้ พูดประโยคใหน้ กั เรียนฟังทลี ะประโยค ดงั น้ี He is driving a car. They are doing homework. She is going to the Chang Mai next week. Anne’s having breakfast. Tom’s moving to Bangkok next year. My friends are coming to my house tonight. It is raining right now. He’s seeing the dentist next month. A dog is sleeping in the living room. I’m fiying to London tomorrow. ให้นกั เรียนระบุวา่ แต่ละประโยคเป็นเหตุการณ์ทก่ี าลงั เกิดข้นึ หรือเป็นแผนการในอนาคต โดยพูดว่า now หรือ future ข้นั Pre-writing 1. ครูนาเสนอการใชภ้ าษาในการเขยี นโปสการ์ดถึงเพอ่ื น โดยอธิบายว่านกั เรียนสามารถใชค้ ากริยา รูปยอ่ และ subject pronoun ได้ เช่น It has got a swimming pool. It’s got a swimming pool. I hope to see you soon. Hope to see you soon. นอกจากน้ีนกั เรียนควรจะเขยี นโปสการ์ดให้รวมอยใู่ น 1 ยอ่ หนา้ 2. นกั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 77 เพือ่ ทบทวนความเขา้ ใจการใช้ภาษาในการเขียน โปสการ์ดถึงเพ่อื น จากน้นั หาตวั อยา่ งการใชใ้ นโปสการ์ด Ex. 1 3. หนงั สือเรยี น หน้า 77 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนเขียนประโยคทีก่ าหนดใหใ้ หม่โดยใชค้ ากริยาในรูปยอ่ หรือ ละ subject pronouns เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน 427
1 We’re staying on the first floor. 4 Mum’s swimming now. 2 We don’t like it here. 5 Back in a week. 3 The weather’s lovely. 6 Miss you. 4. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 77 Ex. 5 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขยี นโปสการ์ดถงึ เพ่อื น โดย สมมติวา่ ตนเองและครอบครวั กาลงั ทอ่ งเท่ยี วในช่วงวนั หยดุ ฤดูหนาว และไดส้ ่งโปสการ์ดถงึ เพื่อน ใหเ้ ขียนโปสการ์ดตามโครงร่างทก่ี าหนดให้ ความยาว 60-70 คา 5. กอ่ นเขียนครูถามคาถามเพอื่ ให้นกั เรียนเตรียมขอ้ มลู ที่จะเขยี น เช่น Where do you go with your family? What’s the weather like? How is the place? What are you and your family doing? ข้นั Writing หนงั สือเรียน หน้า 53 Ex. 5 นกั เรียนเขยี นโปสการ์ดถงึ เพ่ือนตามโครงสร้างท่ีกาหนดให้ โดย สามารถดโู ปสการ์ดใน Ex. 1 เป็นตน้ แบบได้ ครูย้าใหน้ กั เรียนใช้ Present continuous ในการบอก กิจกรรมท่กี าลงั ทาอยแู่ ละแผนการในอนาคต Dear Lek, Greetings from Chiang Saen District, Chiang Rai. We’re staying at a hotel near the city centre. We’re having a great time here. The hotel’s great. The weather isn’t very nice. It’s cloudy and cold. I’m playing computer games right now and my brother is playing a board game with his new friend. Dad’s having a coffee at a café and Mum’s shopping for souvenirs at the moment. We’re all having lots of fun. See you soon. Joy ข้นั Post-writing 1. นกั เรียนตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใช้ capital letters การใช้ เคร่ืองหมายวรรคตอน การใชร้ ูปยอ่ การละ subject pronouns และปรบั แกง้ านเขียนให้เรียบร้อย แลว้ รวบรวมส่งครูตรวจ 428
2. นกั เรียนทา Self-Check 6 ในหนงั สือเรียน หนา้ 118 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 51 Exs. 3-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ ีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน - ตรวจการแตง่ ประโยคเกี่ยวกบั สมุดนกั เรียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ แผนการในอนาคตอนั ใกลข้ องตนเอง ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ประเมินการเขยี นโปสการ์ดถึงเพอื่ น แบบประเมนิ การเขียน สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 429
7 ASEAN corner 6 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นได้ - พูดอภิปรายเก่ียกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติได้ - คน้ ควา้ เก่ียวกบั ขอ้ ควรปฏิบตั เิ มื่อเกิดภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติและนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขยี นสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะหเ์ ร่ือง/ เหตุการณท์ ี่อยใู่ นความสนใจของสังคม สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน 430
ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ ต 3.1 ม. 1/1 จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้เกี่ยวกบั ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติจะช่วยใหส้ ามารถสงั เกตความผดิ ปกตแิ ละปฏิบตั ติ นได้ อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสมเมือ่ เกิดภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (reduce, prepare, increase, survey, occur) Nouns (custom, palm, chest, status) Adjectives (disaster, decade, victim, emergency, volunteer) Functions: Talking about natural disaster What natural disasters have occurred in your community? Flood. 2) Language Skills Speaking: พูดอภปิ รายเก่ียกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี นเกี่ยวกบั ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิเม่อื เกิดภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการใชค้ ิด 3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน 431
6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up 1. ครูเขียนคาวา่ disaster (ภยั พิบตั )ิ บนกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามครู 2 คร้ัง จากน้นั ครู ยกตวั อยา่ ง เช่น hurricane, tornado, tsunami เพื่อให้นกั เรียนเดาความหมาย 2. ครูพดู คุยกบั นกั เรียนเกี่ยวกบั ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ โดยถามนกั เรียนวา่ Can you give some examples of natural disasters? What do you know about these natural disasters? What countries in ASEAN did tsunami occur? 3. ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอใหน้ กั เรียนดูความรุนแรงของภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ โดยเขา้ ไปท่เี วบ็ ไซต์ http://www.neok12.com/Natural-Disasters.htm และเลอื กเปิ ดคลปิ ช่ือ Earthquake and Tsunami, Japan, 2011 ข้นั Pre-reading 1. ให้นกั เรียนอ่านชื่อเร่ือง Kids & Natural Disasters ในหนงั สือเรียน หนา้ 78 แลว้ เดาว่าบทอ่านเรื่องน้ี น่าจะเกี่ยวกบั อะไร 2. หนงั สือเรยี น หน้า 78 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นคาศพั ท์ 1-5 ตามครูพร้อมกนั แลว้ อ่านบทอ่านอยา่ งรวดเร็ว เพอื่ หาคาศพั ทเ์ หล่าน้ี จากน้นั ให้นกั เรียนลองเดาความหมายดว้ ยการจบั คู่คาศพั ทก์ บั ความหมาย a-e เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรมเพื่อตรวจคาตอบ 1c 2e 3a 4d 5b 3. ครูนาเสนอคาศพั ทค์ าอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ increase, non-profit, survey, occur, emergency, volunteer โดย เขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน และใหน้ กั เรียนแขง่ กนั เปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม increase (v) = to make something greater in amount, number, value etc. (เพม่ิ ข้นึ ) non-profit (adj) = without the aim of making a profit (ไม่มุง่ หาผลกาไร) survey (v) = to look at or view in a general way (สารวจ) occur (v) = to happen (เกิดข้ึน) emergency (n) = a sudden serious and dangerous event or situation which needs immediate action to deal with it (ภาวะฉุกเฉิน) volunteer (n) = a person who offer oneself for a particular task without being paid for it (อสสาสมคั ร) 432
ข้นั Reading หนังสือเรียน หน้า 78 Ex. 2 นกั เรียนอ่านประโยคท่ีกาหนดให้ และขีดเส้นใตค้ าสาคญั ในแต่ละ ประโยค จากน้นั อา่ นบทอ่านเพ่อื มองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาทีม่ ีความหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลมุ่ คา/วลี ทม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั หรือตา่ งกนั กบั คาสาคญั ทขี่ ดี เส้นใตไ้ ว้ แลว้ ตอบวา่ ประโยคถกู หรือผิด 1F 2T 3F 4T ข้นั Post-reading 1. หนงั สือเรยี น หน้า 78 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นคาถามพร้อมกนั ถา้ มคี าถามขอ้ ใดทน่ี กั เรียนไม่เขา้ ใจ ให้ครู ช่วยอธิบาย จากน้นั ให้นกั เรียนจบั ค่กู นั อภิปรายคาถามเหลา่ น้ี หรือครูอาจใหน้ กั เรียนอภปิ รายเป็น กลุ่ม A: What natural disasters have occurred in your community? B: Flood. How about you? A: Earthquake. B: Do you know any emergency phone numbers? A: Yes. Police phone number is 191, Medical Emergency Call is 1669 and fire is 199. Do you know any more? B: Yes. National Disaster Warning Centre phone number is 192. A: Great! Do you think it is important to learn how to prepare yourself for a natural disaster? B: Sure. We don’t know anything will happen, so we should prepare ourselves. What do you think? A: I think so. A natural disaster can damage our houses, roads even lives. B: Have you ever volunteered to help in a disaster? A: No. And you? B: No. What do you think a volunteer do? A: Maybe help injured persons and call emergency phone numbers. 433
2. หนังสือเรยี น หน้า 77 Ex. 4 ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตทิ ีเ่ กิดข้นึ ในประเทศไทย (e.g. flood, earthquake, tsunami) ครูรวบรวมคาตอบและเขียนบนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียน แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลือกภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ 1 อยา่ ง และคน้ ควา้ ขอ้ มลู จาก อนิ เทอร์เนต็ เก่ียวกบั ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิก่อนเกิด ระหว่างเกิด และหลงั เกิดภยั พบิ ตั ิดงั กลา่ ว แลว้ นาขอ้ มลู มาจดั ทาเป็นโปสเตอร์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอท่ีหนา้ ช้นั เรียน Things should do Before a tsunami Notice the warning signs nature provides before a tsunami happens. The warning signs: - There is an earthquake or the ground rumbles a lot. - The sea suddenly pulls back and leaves bare sand, making the beach seem a lot larger. - Animals may behave strangely – they may suddenly leave, gather in groups, or try to get into places they normally would not like to go. Always pay attention to the warnings from the media and tsunami warning system. Keep away from the beach and buildings near the beach. During a tsunami If you stay at a house or a building near the beach, grab the safety pack and something to keep you warm. Then leave immediately. Go to higher ground or the top of strong building. If you get caught in the water, grab onto anything that floats, such as a tree trunk, door, etc. If possible, use the floating object to get you near a strong tree you can climb up on and get out of the water. After a tsunami Check yourself for injuries and get first aid as needed before helping injured persons. Listen to the radio for update on what is happening. Return home only 434
7. การวดั และการประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น สมดุ นกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สังเกตการพดู อภิปรายเกี่ยวกบั ภยั พิบตั ิ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ทางธรรมชาติ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ประเมินโปสเตอร์เก่ียวกบั ขอ้ ควร แบบประเมนิ ช้ินงาน ปฏิบตั เิ มอ่ื เกิดภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 4) อนิ เทอร์เนต็ 435
8 O-NET practice & Fun time 6 1 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ท่เี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 - เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขียนสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 436
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 2) Language Skills Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มุ่งมนั่ ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Beginning with โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม จากน้นั ครูอธิบายว่าใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เส้ือผา้ /เครื่องแต่งกายทีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรทีค่ รูบอก เช่น T: Can you tell me the cloth beginning with S? Team A Team A: Shirt T: Can you tell me the accessory with B? Team B Team B: Belt ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 โดยครูเขียนหวั ขอ้ seasons, weather, clothes แลว้ ให้นกั เรียนบอกคาศพั ทต์ ามหวั ขอ้ 2. ให้นกั เรียนบอกไวยากรณท์ ีเ่ รียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 แลว้ ครูเขยี นบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างและหลกั การใช้ 437
Present ไวยากรณ์ Present continuous หน่วยการ continuous with future meaning เรียนรู้ที่ 6 Present simple - Present continuous 2. ครูเขยี นประโยคตามน้ีบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เตมิ คากริยาใหถ้ กู tense It ………. (rain) at the moment. (is raining) They ………. (not go) to school on weekends. (don’t go) A dog ………. (sleep) under the table. (is sleeping) He usually ………. (get up) late on Sunday. (gets up) Peter ………. (like) to drink Pepsi. (likes) He ………. (come) to my house for dinner this Friday. (is coming) Horses ………. (have) got four legs. (have) ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 80 Ex. 1 ให้นกั เรียนจบั คู่ภาพ A-D กบั ประโยค 1-4 ที่สัมพนั ธก์ นั เสร็จแลว้ ครู เฉลยคาตอบ และใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยค 1-4 โดยเดาจากภาพ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านคาทกี่ าหนดให้ ไดแ้ ก่ sick, angry, at a loss, day dreaming แลว้ จบั ค่คู าเหล่าน้ี ใหส้ ัมพนั ธก์ บั ภาพและประโยค เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ Picture A - sentence 3 - at a loss Picture B - sentence 2 - sick Picture C - sentence 1 - angry Picture D - sentence 4 - day dreaming 438
2. หนงั สือเรยี น หน้า 80 GAME ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 3 ทมี แลว้ เลือกนกั เรียน 1 คน เป็นคนทาท่า บอกใบก้ ิจกรรม ให้แตล่ ะทมี แขง่ กนั ทายวา่ เพอ่ื นกาลงั ทากิจกรรมอะไร ทมี ใดทายถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน สุดทา้ ยทีมท่ีไดค้ ะแนนมากทส่ี ุดจะเป็นผชู้ นะ Leader: (ทาท่าเล่นสก)ี Team A S1: He’s skiing. 3. หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 2 นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบ คาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ 1 Four – winter, spring, summer and autumn. 2 January, February, March, April, May, June, July, August, September, October, November, December 3 It’s very hot and sunny. 4 (suggested answers) They wear jumpers, gloves and socks. 5 In the summer. 6 No, it’s hot and sunny. 4. หนงั สือเรียน หน้า 80 Ex. 4 ให้นกั เรียนอา่ นคาทกี่ าหนดให้และช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั อา่ น เน้ือเพลงและเตมิ คาท่กี าหนดให้ลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลงเพ่ือตรวจ คาตอบ 1 showers 3 bright 5 breeze 2 sky 4 ground 6 bare 5. หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 5 ใหน้ กั เรียนดูภาพ A-D แลว้ ครูถามว่าแตล่ ะภาพเป็นฤดกู าลใด จากน้นั ให้ นกั เรียนระบุเน้ือเพลงท่อนทีส่ มั พนั ธ์กบั แตล่ ะภาพ 439
Picture A - spring - pretty little flowers Picture B - autumn - the leaves fall on the autumn breeze Picture C - winter - when snow is everywhere Picture D - summer - the sun shines in the summer sky 6. หนังสือเรียน หน้า 79 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพ่ิมเตมิ Ex. 1 1 A b, B c 2 A d, B a Ex. 2 1 b 2 d 3 a 4 b 5 c ข้นั Production หนงั สือเรยี น หน้า 80 Ex. 3 นกั เรียนจบั คกู่ นั แลว้ ครูแจกกระดาษใหค้ ลู่ ะ 1 แผ่น ให้แต่ละค่คู ิด คาถาม quiz 5-6 ขอ้ เกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เช่น What months are in spring? (March, April, May) ครูให้นกั เรียนเปิ ดดูเน้ือหาได้ และใหน้ กั เรียนเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เม่อื ทุกคู่คดิ คาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คู่อื่น 1 Name three sports you say with go. (Kitesurfing, swimming, windsurfing) 2 Is July rainy in Thailand? (Yes, it is.) 3 Where can people buy things from a floating market? (In Thailand) 4 What is the weather like at -10°C? (Freezing cold) 5 Where is Capri? (In Italy) 440
7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน - ร้อยละ 60 วธิ กี ารวดั ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 อนั พึงประสงค์ สงั เกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 441
7 Food ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อา่ น ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธ์กบั ส่ือทไี่ มใ่ ช่ความเรียง (non-text information) ทอ่ี ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ต 1.2 ม. 1/3 พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังหรืออา่ น อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน 442
ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั ต 1.3 ม. 1/2 พดู /เขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รื่อง/ เหตุการณท์ ่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/2 บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาคญั ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ต 2.2 ม. 1/2 เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา 443
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 637
Pages: