Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

Published by danangelo1992, 2022-08-17 03:20:14

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

Search

Read the Text Version

3. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 10 นกั เรียนดตู วั อยา่ งคาถามขอ้ 1 ครูช้ีให้นกั เรียนสงั เกตคาตอบที่ขีด เส้นใต้ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คาถามขอ้ น้ีตอ้ งการถามอะไร จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นคาตอบท่ีกาหนดโดยเฉพาะคาท่ขี ดี เสน้ ใต้ แลว้ ต้งั คาถามใหส้ ัมพนั ธ์กบั คาตอบ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบดว้ ยการสุ่มเรียกนกั เรียนให้พูดถาม-ตอบ 2 How old are you? 4 What’s your favourite subject? 3 Where are you from? 5 Who’s Bob? ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 11a นกั เรียนอา่ นคาถามท่ีกาหนดให้ จากน้นั จบั คูก่ นั พดู ถาม-ตอบขอ้ มลู ส่วนตวั โดยใชค้ าถามท่ีกาหนด ครูเดินสงั เกตการออกเสียงประโยคคาถามและการบอกคาตอบ แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนบางคู่ออกมาพูดถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั A: What’s your name? B: My name’s Juan. A: How old are you? B: I’m 12 years old. A: What’s your favourite subject? B: I like art. A: What’s your favourite sport? B: I like basketball. 2. หนงั สือเรียน หน้า 13 Ex. 11b ใหน้ กั เรียนพูดประโยคคาถามใน Ex. 11a เป็นภาษาไทย 3. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 12 นกั เรียนเขียนประโยคเก่ียวกบั ตนเองโดยใช้ verb to be My name’s Wimonrat. Araya is my friend. We are 13 years old. We are Thai. 4. นกั เรียนทา Grammar Bank 1 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 69 Exs. 1-5 ร่วมกนั ในช้นั 5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 6-7 Exs. 5-9 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 44

7. การวัดและการประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มลู ของ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ บุคคลทมี่ ีช่ือเสียง ตรวจการเขียนให้ขอ้ มูลของบคุ คลทม่ี ี กระดาษผลงานนกั เรียน ร้อยละ 60 ช่ือเสียง สงั เกตการเปรียบเทียบการใช้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ คาสรรพนามในภาษาองั กฤษและ ภาษาไทย ประเมนิ การพูดขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมนิ การพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ส่วนตวั ตรวจการเขียนประโยคเกี่ยวกบั ตนเอง สมดุ นกั เรียน - โดยใช้ verb to be สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 3) อนิ เทอร์เน็ต 45

3 Skills 1c 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ตอบคาถามจากการฟังบทสนทนาได้ - พูดสนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลส่วนตวั ของตนเองและผอู้ ่ืนได้ - เขียนให้ขอ้ มลู ของผอู้ ืน่ ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 46

ตวั ช้ีวดั ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียนและ ต 4.1 ม. 1/1 สถานศึกษา 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์เก่ียวกบั กีฬา และสานวนภาษาในการขอและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั ช่วยใหพ้ ูด/เขียน สื่อสารเพือ่ ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Sports (athletics, gymnastics, hockey, badminton, basketball, football, tennis) Functions: Asking for and giving personal information What’s your name? My name’s Marinee. Where are you from? I’m from Ranong. What’s your favourite subject? My favourite subject is music. 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั ของตนเองและผอู้ น่ื Writing: เขยี นให้ขอ้ มูลของผอู้ ืน่ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุง่ มน่ั ในการทางาน 47

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการให้นกั เรียนฟังเพลง Sports Song จาก YouTube หรือเขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=tgUSHk6JaTY โดยรอบที่ 1 ให้นกั เรียนฟังเพลง พร้อมชมภาพ และเสียง แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกว่ามกี ีฬาอะไรบา้ ง รอบที่ 2 ให้นกั เรียนร้องเพลงพร้อมกนั การเรียนรู้คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษจากภาพและเพลงช่วยให้นกั เรียนจดจาคาศพั ท์ไดง้ ่าย และจดจาไดย้ าวนาน 2. ครูถามนกั เรียนวา่ คาถาม Wh-questions ที่ไดย้ ินจากเพลง Sports Song คือคาถามใด (What do you like?) จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนหลาย ๆ คน โดยใชค้ าถาม What do you like? ข้นั Pre-listening 1. หนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 1 นกั เรียนดภู าพและบอกวา่ เป็นภาพเก่ียวกบั อะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้ นกั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กีฬา โดยต้งั ใจฟังวา่ แตล่ ะคาลงเสียงเนน้ หนกั ที่พยางคใ์ ด แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตาม 2-3 คร้งั จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียก นกั เรียนออกเสียงทลี ะคน เม่อื นกั เรียนออกเสียงไดค้ ล่องแลว้ ใหช้ ่วยกนั บอกช่ือกีฬาเหล่าน้ีเป็น ภาษาไทย 48

พยางคท์ ่ีพิมพต์ วั หนาคอื พยางคท์ ่ีเนน้ เสียงหนกั athletics, badminton, basketball, football, gymnastics, hockey, swimming, tennis 2. ครูทดสอบความจานกั เรียน โดยแสดงภาพกีฬาใน Ex. 1 ใหน้ กั เรียนดูและพดู คาศพั ท์ ครูเนน้ ให้ นกั เรียนออกเสียงเนน้ หนกั ในคาใหถ้ ูกตอ้ งดว้ ย 3. ครูทบทวนคาถามที่ใชถ้ ามขอ้ มลู ส่วนตวั ไดแ้ ก่ ช่ือ อายุ มาจากประเทศใด กีฬาท่ชี อบ วชิ าที่ชอบ โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก และครูเขยี นคาถาม What’s your name? How old are you? Where are you from? What’s your favourite subject? บนกระดาน แลว้ ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน 4-5 คน นอกจากถามวา่ Where are you from? แลว้ ยงั ใช้คาถาม Where do you come from? ไดด้ ว้ ย ส่วนคาตอบให้ตอบว่า I come from … . นอกจากถามวา่ What’s your favourite subject? แลว้ ยงั ใชค้ าถาม What subject do you like? ไดด้ ว้ ย ส่วนคาตอบใหต้ อบว่า I like … . 4. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 2 นกั เรียนอ่านคาถามพร้อมกนั ครูถามวา่ คาถามขอ้ ใดที่นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ครูช่วยอธิบาย จากน้นั ให้นกั เรียนตอบคาถาม เสร็จแลว้ ครูถามคาถามและสุ่มเรียกนกั เรียนบอก คาตอบของตนเอง 1 Yes, there are. 2 My favourite sport is badminton. 3 My favourite school subjects are maths and geography. 5. นกั เรียนอ่าน Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 14 แลว้ ครูอธิบายวิธีการฟังและจดบนั ทกึ ยอ่ โดยให้ นกั เรียนอา่ นหวั ขอ้ ท่ใี ห้มากอ่ น เพือ่ พจิ ารณาว่าขอ้ มูลใดทีจ่ ะนามาเขียนเตมิ ในระหวา่ งท่ีฟังให้ นกั เรียนจบั คาสาคญั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั แต่ละหวั ขอ้ และเขียนลงในบนั ทึกยอ่ 49

6. นกั เรียนอา่ นคาส่งั ของ Ex. 3 หนงั สือเรียน หนา้ 14 แลว้ ครูอธิบายเพ่อื ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจมากข้นึ ว่า name ในท่ีน้ีก็เป็น noun เหมอื นกนั แตเ่ ป็น proper noun (the specific name of something/someone) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งของ proper noun เช่น ชื่อประเทศ ชื่อคน ซ่ึงคานามชนิดน้ีจะข้นึ ตน้ ดว้ ย capital letter เสมอ ส่วนคานามทว่ั ๆ ไป จะเรียกวา่ common noun จากน้นั ครูให้นกั เรียนดูกรอบขอ้ มูล ครูถามความหมายของ surname ถา้ นกั เรียนไมร่ ู้ครูช่วยอธิบาย surname = family name แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกวา่ ช่องวา่ งใดบา้ งทจี่ ะตอ้ งเตมิ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั name, noun, number 1 name 3 number 5 noun 2 name 4 noun 7. ครูบอกนกั เรียนวา่ กาลงั จะไดฟ้ ังบทสนทนาระหวา่ ง Ben กบั Susan ซ่ึงเป็นนกั เรียนเขา้ ใหม่ โดย Bob เป็นผสู้ อบถามขอ้ มลู ของ Susan ครูย้ากบั นกั เรียนว่า ไม่จาเป็นตอ้ งฟังออกทุกคา ให้เนน้ ฟังเพื่อ หาคาท่เี กี่ยวขอ้ งกบั แต่ละหัวขอ้ ในกรอบขอ้ มูล ข้นั Listening หนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและจดบนั ทึกขอ้ มลู แลว้ เติมขอ้ มลู ลงใน ช่องวา่ ง เม่อื ฟังจบครูถามนกั เรียนวา่ เตมิ ขอ้ มูลไดค้ รบหรือไม่ ครูอาจจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง อีกคร้ัง เมอื่ นกั เรียนเตมิ ขอ้ มูลครบแลว้ ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจ ความถูกตอ้ ง 1 Brown 3 11 5 swimming 2 the UK 4 art ข้นั Post-listening 1. ครูใหน้ กั เรียนสมมติวา่ ตนเองเป็น Susan แลว้ จบั คู่กบั เพื่อน พูดถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มลู จากในกรอบ Ex. 3 ครูอาจให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาถามที่จะใชถ้ าม แลว้ ครูเขียนคาถามบนกระดาน จากน้นั ให้ นกั เรียนพูดถาม-ตอบกนั เสร็จแลว้ ให้สลบั บทบาทกนั 50

A: What’s your name? B: My name’s Susan. A: What’s your surname? B: Brown. Susan Brown. A: Where are you from? B: I’m from the UK. A: How old are you? B: I’m 11 years old. A: What’s your favourite subject? B: My favourite subject’s art. A: What’s your favourite sport? B: I like swimming. 2. นกั เรียนทา Language Review 1c Ex. 4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 105 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 9 Ex. 4 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ ง 4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 8-9 Exs. 3, 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงที่ 2 ข้นั Warm up 1. ครูให้นกั เรียนดจู ากคลิปวิดีโอจาก YouTube เพอ่ื ฟังเพลง Sports Song หรือเขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=tgUSHk6JaTY 2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม เพอ่ื เล่นเกม แลว้ ให้แต่ละทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมา 1 คน เพื่อ ทาทา่ เล่นกีฬา ให้อีกทีมหน่ึงทายว่าเป็นกีฬาชนิดใด นกั เรียนสามารถใชก้ ีฬาท่ีดูจากคลิปวดิ ีโอดว้ ย กไ็ ด้ ทีมทท่ี ายถกู จะได้ 1 คะแนน ทีมทม่ี ีคะแนนมากกว่าจะเป็นผชู้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนคาถามทีใ่ ชถ้ ามขอ้ มลู ส่วนตวั เช่น ช่ือ นามสกุล อายุ มาจากประเทศใด กีฬาทชี่ อบ วชิ าท่ี ชอบ โดยใหน้ กั เรียนเป็นผูถ้ ามคาถาม และครูเป็นผตู้ อบ จากน้นั ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน 4-5 คน 2. ครูเขยี นคาวา่ spell บนกระดาน ใหน้ กั เรียนอธิบายความหมาย ถา้ นกั เรียนไม่รู้ครูช่วยยกตวั อยา่ ง เช่น Can you spell the word “football”? F-o-o-t-b-a- l–l 51

จากน้นั ครูเขยี นคาถาม How do you spell it? ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย แลว้ ครูบอก นกั เรียนวา่ สามารถใชค้ าถามน้ีเพ่อื ขอให้คู่สนทนาสะกดคาให้ ในกรณีทไ่ี มร่ ู้หรือไม่แน่ใจวา่ คาน้นั เขยี นอยา่ งไร เช่น ชื่อ นามสกลุ ชื่อถนน 3. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดว่าถา้ รู้จกั เพือ่ นใหม่ นกั เรียนจะถามขอ้ มลู อะไรอกี บา้ งนอกจากคาถามที่เคย เรียนไปแลว้ ให้ช่วยกนั ต้งั คาถาม โดยครูเขียนคาถามบนกระดาน เช่น Who’s your favourite singer? Who’s your favourite actor? Do you like watching films? What’s your favourite film? ข้นั Practice หนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 4 นกั เรียนจบั คู่ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามทีก่ าหนดให้ และคาถาม อน่ื ๆ ที่นกั เรียนช่วยกนั คดิ เพิ่มเติมอีก 2-3 คาถาม จากท่คี รูเขยี นไวบ้ นกระดาน โดยครูบอกนกั เรียน วา่ คาถาม Where are you from? ครูให้นกั เรียนตอบชื่อจงั หวดั และในขณะท่ีถามใหน้ กั เรียนจด คาตอบของเพ่ือนไวด้ ว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และคอยให้ คาแนะนา แลว้ สุ่มเรียกบางคู่ออกมาพดู ถาม-ตอบทีห่ นา้ ช้นั A: What’s your name? B: My name’s Marinee. A: How do you spell it? B: M-A-R-I-N-E-E. A: What’s your surname? B: My surname’s Pantha. A: Where are you from? B: I’m from Ranong. A: How old are you? B: I’m 12 years old. A: What’s your favourite subject? B: My favourite subject is music. A: What’s your favourite sport? B: My favourite sport is tennis. ข้นั Production 1. หนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 5 ครูให้นกั เรียนใชค้ าตอบจาก Ex. 4 มาเขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั คขู่ อง ตนเอง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คน อ่านให้เพือ่ นในช้นั ฟัง Marinee Pantha is from Ranong. She’s 12 years old. Her favourite subject is music. Her favourite sport is tennis. Her favourite singer is Kan the star. Her favourite actor is Nadej. 52

กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ ครูให้นกั เรียนทา class survey สารวจขอ้ มลู ของเพอ่ื น โดยครูเขยี นตารางตามน้ีบนกระดาน และให้ นกั เรียนลอกลงในสมดุ Name Surname Age Province Favourite Favourite Favourite Favourite subject sport singer actor แลว้ ใหน้ กั เรียนเดินไปสมั ภาษณ์เพ่อื นในช้นั 4 คน และบนั ทึกคาตอบของเพ่อื นลงในตาราง เสร็จแลว้ นาขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั เพื่อน 2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั คน้ หาคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กีฬาเพ่ิมเติม กลุ่มละ 10 คา แลว้ ทาเป็นสมุดภาพคาศพั ท์ ครูให้นกั เรียนติดภาพหรือวาดภาพกีฬา และเขยี น คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษไวใ้ ตภ้ าพ โดยขีดเสน้ ใต้พยางคท์ ีเ่ นน้ เสียงหนกั ในคาดว้ ย พร้อมท้งั ใส่ ความหมายภาษาไทย ครูให้นกั เรียนนาผลงานมาส่งในชวั่ โมงหนา้ ครูแนะนาการใชพ้ จนานุกรมออนไลน์ (องั กฤษ-องั กฤษ) เพอ่ื ฟังการออกเสียง คาศพั ท์ โดยใหน้ กั เรียนเขา้ ไปท่เี วบ็ ไซต์ www.oxfordlearnersdictionaries.com หรือ www.dictionary.cambridge.org แลว้ พิมพค์ าศพั ทล์ งในช่อง search จะปรากฏ รายละเอียดของคาศพั ทค์ าน้นั เช่น ประเภทของคา คาอา่ น ซ่ึงจะมีสญั ลกั ษณ์ ' อยู่ ขา้ งหนา้ พยางคท์ ่ีเนน้ เสียงหนกั ความหมาย ตวั อยา่ งประโยค 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 9 Ex. 6 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมชื่อวิชาลงในตารางเรียน 4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 8 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 53

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน วธิ ีการวดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง สังเกตการพดู ขอและให้ขอ้ มลู ของ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ตนเองและเพ่อื น ประเมนิ การเขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ เพอื่ น สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุ่งมนั่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) อินเทอร์เน็ต 54

4 Everyday English 1d 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - อา่ นออกเสียงบทสนทนาถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ นได้ - ตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนาได้ - แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนดได้ - แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์แนะนาเพื่อนใหม่ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 55

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ และภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจสานวนภาษาที่ใชใ้ นการทกั ทาย แนะนาผอู้ ่ืนให้รู้จกั กนั ขอและให้ขอ้ มูลส่วนตวั ช่วยให้พดู สนทนาสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม ตลอดจนเขา้ ใจวฒั นธรรมและ มารยาทของเจา้ ของภาษา 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Sentences (How are you? I’m fine, thanks. This is Ben. Nice to meet you. Where are you from? How about you? How old are you? What’s your favourite subject?) Functions: Greeting & introductions Hi, James. How are you? I’m fine, thanks. This is Maria. She’s new to our school. Hi, Maria! Nice to meet you. Asking personal information Where are you from, Maria? I’m from New York. I’m American. How about you? 56

Pronunciation: /eI/, /æ/ 2) Language Skills Listening: ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค Speaking: แสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ท่กี าหนด Reading: อ่านเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, อ่านออกเสียงบทสนทนา Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ี่กาหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม Beginning with โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ผลดั กนั เล่นเกม ใหแ้ ตล่ ะทมี ช่วยกนั บอกช่ือวิชา ชื่อประเทศ เช้ือชาติ หรือชื่อกีฬาที่ข้ึนตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรทค่ี รูบอก เช่น T: Can you tell me a subject beginning with S? Team A Team A: Science T: Can you tell me the nationality beginning with P? Team B Team B: Polish 2. ครูทบทวนการขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั โดยสุ่มถามนกั เรียน 4-5 คน ดว้ ยคาถาม What’s your name/surname? Where are you from? What’s your favourite subject/sport? Who’s your favourite singer/actor? 57

ข้นั Presentation 1. ครูนาเสนอสานวนภาษาท่ใี ชใ้ นการแนะนาผอู้ ่ืนใหร้ ู้จกั กนั โดยสมมติใหน้ กั เรียนชายคนหน่ึงเป็น นกั เรียนเขา้ ใหม่ แลว้ ครูพูดแนะนานกั เรียนใหม่กบั นกั เรียนคนอนื่ ๆ ว่า This is (Tom). He’s new to our class. ให้นกั เรียนในช้นั พดู ทกั ทายวา่ Hi, (Tom). Nice to meet you. และนกั เรียนใหม่พูดตอบวา่ Nice to meet you too. จากน้นั ครูเขยี นโครงสร้าง This is (ชื่อ). บนกระดาน อธิบายวา่ ประโยคน้ีใชแ้ นะนาผอู้ ่ืนใหร้ ู้จกั กนั แลว้ ครูเขียนประโยค Nice to meet you. อธิบายว่าประโยคน้ีใชท้ กั ทายเม่อื รู้จกั กนั เป็นคร้งั แรก หรือ อาจจะใช้ Pleased to meet you./Glad to meet you. กไ็ ด้ ส่วนการตอบกลบั ใหเ้ พม่ิ too ทา้ ยประโยค เช่น Nice to meet you too./Pleased to meet you too./Glad to meet you too. 2. ครูใหน้ กั เรียน 1 คน สนทนากบั ครู ซ่ึงครูเตรียมขอ้ มลู กบั นกั เรียนไวแ้ ลว้ โดยสมมติว่าท้งั สองคน เพงิ่ เคยพบกนั T: Hello! Are you a new student here? S1: Yes, I am. T: I’m Jin. Nice to meet you. S1: Hi, I’m Ann. Nice to meet you too. T: Where are you from, Ann? S1: I’m from Bangkok. How about you? T: I’m from Chonburi. ครูเขียนประโยค How about you? บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนลองเดาความหมายของประโยคน้ี จากน้นั ครูอธิบายว่า How about you? มีความหมายว่า “แลว้ คณุ ล่ะ” ใชใ้ นการถามกลบั คู่สนทนา สามารถใช้ What about you? หรือ And you? แทนได้ 3. ครูเขียนคาถาม How are you? บนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนว่าคาถามน้ีใชถ้ ามเก่ียวกบั อะไร เม่อื ได้ คาตอบวา่ ใชถ้ ามทุกขส์ ุขแลว้ ครูอธิบายวา่ นอกจาก How are you? แลว้ เรายงั สามารถใชค้ าถามอน่ื ไดด้ ว้ ย เช่น How are you going? How’s it going? พร้อมท้งั เขียนคาถามบนกระดาน ครูอธิบายต่อวา่ สาหรับการตอบ ถา้ สบายดีสามารถตอบไดว้ ่า Good. Pretty good. I’m OK. I’m very well. So so. Not too bad. ถา้ ไม่สบายสามารถตอบไดว้ ่า I’m not very well. Not so good. Not so well. I have a cold/headache. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ พูดสอบถามทุกขส์ ุข โดยใช้สานวนที่ครูสอนไป 4. นกั เรียนอ่าน Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 15 แลว้ ครูอธิบายว่าภาษาองั กฤษเป็นภาษาท่ีมี rhythm หรือจงั หวะในการออกเสียง การใหค้ วามสาคญั กบั rhythm จะช่วยใหน้ กั เรียนพูด ภาษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติ 58

5. หนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังการออกเสียงประโยค แลว้ เปิ ด CD อีก 2-3 คร้งั ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทลี ะคน จากน้นั ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกความหมายของประโยคเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย 6. ครูสอนการออกเสียง /eI/, /æ/ โดยยกตวั อยา่ งคาศพั ทท์ ่มี ีสองเสียงน้ีบนกระดาน เช่น fate fat pain pan main man rain ran cane can ครูออกเสียงคาศพั ทบ์ นกระดานใหน้ กั เรียนฟังทีละคู่ เพื่อให้นกั เรียนแยกความแตกต่างและระบวุ า่ คาใดออกเสียง /eI/ และคาใดออกเสียง /æ/ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทบ์ นกระดาน พร้อมกนั 7. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 5 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ทท์ ่มี ีเสียง /eI/, /æ/ และฝึกออกเสียงตาม 2-3 คร้งั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงคาศพั ทท์ ลี ะคน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ คาศพั ท์ คาอนื่ ทอี่ อกเสียง /eI/, /æ/ นกั เรียนอาจเปิ ดหาจากพจนานุกรม /eI/: surname, education, state /æ/: athletics, fat, band 8. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บวา่ เสียงใดทคี่ ลา้ ยคลงึ กบั เสียงสระในภาษาไทย และคลา้ ยคลงึ กบั เสียงสระอะไร จากน้นั ครูอธิบายวา่ เสียง /æ/ ออกเสียงคลา้ ยกบั สระแอในภาษาไทย ส่วนเสียง /eI/ เป็นเสียงสระเลือ่ นแบบสระประสม ซ่ึงเป็นเสียงสระทีไ่ ม่มีในภาษาไทย ข้นั Practice 1. หนังสือเรยี น หน้า 15 Ex. 2 นกั เรียนอ่านประโยค 1-6 และขีดเส้นใตค้ าสาคญั ในแตล่ ะประโยค จากน้นั อา่ นบทสนทนาเพื่อมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่ีมีความหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลมุ่ คา/วลี ทม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั หรือตา่ งกนั กบั คาสาคญั ทข่ี ดี เส้นใตไ้ ว้ แลว้ ให้ นกั เรียนตอบวา่ ประโยค 1-6 ถกู หรือผดิ และครูเฉลยคาตอบ 1F 2F 3T 4T 5F 6T 59

2. หนังสือเรยี น หน้า 15 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านออกเสียงบทสนทนาตาม จากน้นั ครู แบง่ นกั เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ เพ่ือฝึกอา่ นบทสนทนา โดยใหน้ กั เรียนสลบั บทบาทกนั ดว้ ย ข้นั Production 1. หนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แตง่ บทสนทนาใน การแนะนาผอู้ ื่น โดยสมมติวา่ เป็นวนั เปิ ดเรียนวนั แรก นกั เรียนสามารถใชบ้ ทสนทนาใน Ex. 3 เป็น ตน้ แบบ โดยเปล่ยี นคาทีเ่ ป็นสีฟ้าให้เป็นขอ้ มูลของตนเอง เมื่อแตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ส่งใหค้ รู ตรวจ หลงั จากรับงานคืนจากครูแลว้ ครูให้นกั เรียนไปฝึกซ้อมพดู บทสนทนา เพ่ือแสดงบทบาท สมมตใิ นชวั่ โมงหนา้ A: Good morning, John! B: Hi, James. How are you? A: I’m fine, thanks. And you? B: Not bad. A: This is Maria. She’s new to our school. B: Hi, Maria! Nice to meet you. C: Nice to meet you too. B: Where are you from, Maria? C: I’m from New York. I’m American. How about you? B: I’m from Nottingham. How old are you? C: I’m 12. And you? B: I’m 13. What’s your favourite subject? C: Maths. B: Mine too. 2. นกั เรียนทา Language Review 1d Ex. 5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 105 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10 Exs. 2-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 60

ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูและนกั เรียนพูดทกั ทายกนั แลว้ ให้นกั เรียนถามและบอกทกุ ขส์ ุขดว้ ยสานวนภาษาท่ีครูสอนไป เมอื่ ชวั่ โมงท่แี ลว้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนผลดั กนั ถามทุกขส์ ุขของเพ่อื นท่นี งั่ ขา้ ง ๆ ข้นั Presentation ครูทบทวนสานวนภาษาที่ใชใ้ นการทกั ทายเมื่อรู้จกั กนั เป็นคร้ังแรก โดยครูเขียนบทสนทนาส้ัน ๆ บนกระดาน A: Hello. My name is Sam. What’s your name? B: Hello, I’m Tom. Nice to meet you. A: Nice to meet you too. นกั เรียนอา่ นบทสนทนาตามครู 1 คร้ัง และอ่านบทสนทนาดว้ ยตนเอง แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า นอกจาก Nice to meet you. เราสามารถใช้สานวนใดไดอ้ กี บา้ ง จากน้นั ครูเปลยี่ น Nice to meet you. เป็น Pleased to meet you. และ Glad to meet you. แลว้ ให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาพร้อมกนั ข้นั Practice 1. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 15 Ex. 1 ตาม ครูเนน้ ให้นกั เรียน ออกเสียงใหค้ ลา้ ยกบั เจา้ ของภาษามากท่สี ุด 2. ครูให้เวลานกั เรียนแตล่ ะกลุ่มฝึกซอ้ มบทสนทนาทีแ่ ต่งไวเ้ มือ่ ชว่ั โมงท่แี ลว้ โดยครูย้าว่าให้นกั เรียน แสดงสีหนา้ ท่าทางใหส้ มบทบาทดว้ ย ข้นั Production 1. ครูให้นกั เรียนออกมาแสดงบทบาทสมมตทิ ี่หนา้ ช้นั ทลี ะกลมุ่ ครูสังเกตและประเมนิ การแสดง บทบาทสมมตขิ องแตล่ ะกลมุ่ 2. ครูให้ผลยอ้ นกลบั (feedback) ดา้ นการใชภ้ าษา เช่น การออกเสียง ความคล่องแคลว่ ในการพูด รวมถึงการใชน้ ้าเสียงและภาษาท่าทาง เพอื่ ใหน้ กั เรียนนาไปปรบั ปรุง 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปฝึกอา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 15 Ex. 1 ที่บา้ น แลว้ มาอา่ นให้ ครูฟังนอกเวลาเรียน 61

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้ วิธีการวดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทสนทนา ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ บทสนทนา ประเมินการแตง่ บทสนทนาตาม แบบประเมินการแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สถานการณ์ที่กาหนด บทบาทสมมติ ประเมินการแสดงบทบาทสมมติตาม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน สถานการณ์ทกี่ าหนด อนั พึงประสงค์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มนั่ ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 62

5ค่คู ดิ Across the curriculum 1e 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - พดู ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ช่ือเมอื งหลวงของประเทศตา่ ง ๆ ได้ - คน้ ควา้ เมอื งหลวงของประเทศทอ่ี ยใู่ นทวปี ยโุ รปและพูดนาเสนอได้ - คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประเทศทส่ี นใจและพูด/เขียนนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก ตวั ช้ีวดั ต 4.2 ม. 1/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ 63

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ เป็นพ้ืนฐานในการคน้ ควา้ หาขอ้ มลู และ นาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Countries (Canada, the USA, Mexico, Brazil, the UK, Portugal, Spain, Italy, France, Germany, Greece, Russia, Turkey, Egypt, India, China, Japan, Australia) Capital cities (Ankara, Athens, Beijing, Berlin, Brasilia, Cairo, Canberra, Moscow, Lisbon, London, Madrid, Mexico City, New Delhi, Ottawa, Paris, Tokyo, Rome, Washington, DC) Function: Talking about countries and capital cities Amsterdam is the capital city of the Netherlands. Budapest is the capital city of Hungary. 2) Language Skills Speaking: พดู ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั เมืองหลวงของประเทศตา่ ง ๆ 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน 64

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกช่ือทวปี ตา่ ง ๆ แลว้ ครูเขยี นตามท่ีนกั เรียนบอกบนกระดาน ครูกระตนุ้ ให้ นกั เรียนบอกให้ครบทกุ ทวีป ไดแ้ ก่ Asia, Europe, North America, South America, Australia, Africa, Antarctica โดยครูขดี เส้นใตค้ าพยางคท์ ี่ออกเสียงเนน้ หนกั แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียง ตามครู 2. ครูนาแผนที่โลกหรือลูกโลกมาใหน้ กั เรียนช้ีตาแหน่งของทวปี ตา่ ง ๆ จากน้นั ครูถามว่า Which continent is Thailand in? ข้นั Presentation 1. หนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ทช์ ื่อประเทศ โดยต้งั ใจฟังว่าพยางคใ์ ดที่ เนน้ เสียงหนกั แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม 2-3 คร้งั โดยออกเสียงเนน้ หนกั ให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน ให้อ่านช่ือประเทศ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดช่ือประเทศ เหลา่ น้ีเป็นภาษาไทย 2. ครูเขียนคาวา่ capital city บนกระดาน แลว้ ถามความหมายของคาน้ี ถา้ นกั เรียนไมร่ ู้ครูช่วยดว้ ยการ เขียนคาถามและคาตอบ ดงั น้ี What is the capital city of Thailand? Bangkok is the capital city of Thailand. แต่ถา้ นกั เรียนสามารถบอกความหมายได้ ใหค้ รูถามนกั เรียนวา่ What is the capital city of Thailand? แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 2 ครูอา่ นชื่อเมืองหลวงทกี่ าหนด แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตาม ครูให้นกั เรียน จบั คู่ประเทศกบั เมืองหลวง เสร็จแลว้ ฟัง CD เพื่อตรวจคาตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนพดู บอกชื่อเมือง- หลวงของแตล่ ะประเทศพร้อมกนั โดยครูพูดช่ือเมอื งหลวงของ Ankara เป็นตวั อยา่ ง (Ankara is the capital city of Turkey.) 65

Athens 11 Moscow 12 Ottawa 1 Beijing 16 Lisbon 6 Paris 9 Berlin 10 London 5 Tokyo 17 Brasilia 4 Madrid 7 Rome 8 Cairo 14 Mexico City 3 Washington, DC 2 Canberra 18 New Delhi 15 2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี เพ่อื เลน่ เกม โดยครูทาสลากช่ือประเทศและเมอื งหลวงไว้ จากน้นั ให้ แต่ละทีมผลดั กนั จบั สลากและถามว่าเมืองหลวงของประเทศท่จี บั ไดช้ ่ืออะไร เพือ่ ใหอ้ ีกทมี หน่ึงบอก ช่ือเมอื งหลวง ถา้ บอกชื่อเมอื งหลวงถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมทีไ่ ด้ 10 คะแนนก่อนจะเป็นผูช้ นะ เช่น Team A S1: What is the capital city of Ireland? Team B S1: Dublin is the capital city of Ireland. Team A S1: Correct. 3. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม เพอ่ื เล่นเกม แลว้ ใหต้ วั แทนแตล่ ะทมี ผลดั กนั ถามคาถามว่าประเทศ ตา่ ง ๆ ใน Ex. 1 อยใู่ นทวปี ใด เพื่อใหอ้ ีกทีมหน่ึงบอกช่ือทวีป ถา้ บอกช่ือทวีปถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมทไี่ ด้ 10 คะแนนกอ่ นจะเป็นผชู้ นะ เช่น Team A S1: Which continent is France in? Team B S1: France is in Europe. Team A S1: Correct. ครูอาจเพิม่ ความทา้ ทายดว้ ยการให้นกั เรียนออกมาช้ีตาแหน่งของประเทศต่าง ๆ ในแผนท่ีโลกหรือ ลูกโลกดว้ ย 4. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ให้แตล่ ะกลุ่มทา quiz เก่ียวกบั ช่ือเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ ใน Ex. 1 มากลุ่มละ 6 ขอ้ เช่น The capital city of India is … . A Berlin B New Delhi C Cairo จากน้นั ใหแ้ ลกเปลี่ยนกนั ทา quiz กบั กลุ่มอน่ื 66

ข้นั Production 1. หนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน คน้ ควา้ เกี่ยวกบั เมอื งหลวงของ ประเทศท่อี ยใู่ นทวีปยโุ รปจากอนิ เทอร์เน็ต ครูแนะนานกั เรียนวา่ อาจจะใชค้ าสาคญั คอื Europe capital cities ช่วยในการคน้ ควา้ แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ เตรียมนาเสนอในชว่ั โมงหนา้ พร้อมท้งั เตรียม quiz จานวน 5-6 ขอ้ เพือ่ ใหเ้ พอื่ นทาหลงั จากนาเสนอจบ หรือครูอาจจะทาสลากชื่อทวปี ต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ทวปี อเมริกาเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปเอเชีย ทวีป แอฟริกา และทวีปยโุ รป แลว้ ให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจบั สลาก ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คน้ ควา้ เมืองหลวงของประเทศที่อยใู่ นทวีปท่จี บั สลากได้ Amsterdam is the capital city of the Netherlands. Budapest is the capital city of Hungary. Chisinau is the capital city of Moldova. Dublin is the capital city of Ireland. Helsinki is the capital city of Finland. Kiev is the capital city of the Ukraine. Ljubljana is the capital city of Slovenia. Monaco is the capital city of Monaco. Oslo is the capital city of Norway. Rome is the capital city of Italy. Stockholm is the capital city of Sweden. Tirana is the capital city of Albania. Vienna is the capital city of Austria. Warsaw is the capital city of Poland. Zagreb is the capital city of Croatia. 2. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 1 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 88 Exs. 1-3 ร่วมกนั ในช้นั 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 10 Ex. 1 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 67

ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั Warm up 1. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมาพูดนาเสนอเมอื งหลวงของประเทศทีอ่ ยใู่ นทวปี ยโุ รป เมอื่ นาเสนอ จบให้แจก quiz ท่ีเตรียมมาใหเ้ พื่อนทุกกลมุ่ ทา จากน้นั เฉลยคาตอบ เช่น 1. The capital city of Poland is … . A Warsaw B Cracow C Helsinki 2. The capital city of Sweden is … . A Stockholm B Madrid C Oslo 2. ครูใหน้ กั เรียนดคู ลิปวดิ ีโอเพลง Countries of the world จาก YouTube หรือเขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=VGpJNr0DKOQ เพ่อื ดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่กิจกรรม ข้นั กาหนดหัวข้อโครงงาน 1. ครูกาหนดหัวขอ้ โครงงาน “Countries of the world” แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกช่ือประเทศที่ นกั เรียนสนใจ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน ให้แต่ละกลมุ่ เลอื กประเทศทีส่ นใจมา 1 ประเทศ เพื่อทาโครงงาน 2. ครูกาหนดหวั ขอ้ ท่จี ะใส่ในโครงงาน โดยเขียนบนกระดาน ไดแ้ ก่ Introduction, Location, Tourist attractions, Famous people แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ระดมสมองคดิ วา่ ในแตล่ ะหัวขอ้ จะนาเสนอเน้ือหาใน ลกั ษณะใด เช่น เป็นขอ้ ความส้นั ๆ ใส่ภาพประกอบ ใชแ้ ผนท่ี จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ทา outline 68

ข้นั วางแผน 1. ครูให้แตล่ ะกลมุ่ ระดมสมองคิดแหลง่ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประเทศซ่ึงจะทาโครงงาน เช่น อนิ เทอร์เนต็ สามารถคน้ ควา้ ขอ้ มลู ไดด้ ว้ ยการใชโ้ ทรศพั ท์หรือแท็บเลต็ ส่วนตวั ใชค้ อมพิวเตอร์ในห้องเรียน ห้อง คอมพิวเตอร์ ห้องสมุด หรือคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากนิตยสารนาเทยี่ วในหอ้ งสมดุ จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ นา ขอ้ มูลมาอภิปรายร่วมกนั 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั คดิ คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาที่ตอ้ งใช้ เช่น The UK is in Europe. The capital city is London. 3. ครูให้แต่ละกลุ่มแบ่งหนา้ ที่รบั ผิดชอบว่าใครทาหนา้ ที่อะไร เช่น คน้ หาขอ้ มูล คน้ หาภาพประกอบ เขยี นสรุปขอ้ มลู พูดนาเสนอหนา้ ช้นั ข้นั ศึกษาค้นคว้า ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลของประเทศทกี่ ลุ่มเลือกตามโครงเน้ือหาที่ไดร้ ่วมกนั ออกแบบ โดยครู กาหนดเวลาใหน้ กั เรียนประมาณ 10-15 นาที ข้ึนอยกู่ บั บริบทของนกั เรียน เช่น หากใชโ้ ทรศพั ทห์ รือ แทบ็ เลต็ ส่วนตวั หรือใชค้ อมพวิ เตอร์ในห้องเรียน หากใชค้ อมพวิ เตอร์ในหอ้ งคอมพวิ เตอร์หรือ ห้องสมุดอาจให้เวลา 15-20 นาที ถา้ นกั เรียนไมม่ เี คร่ืองมอื ในการคน้ หา เช่น โทรศพั ท์ แทบ็ เลต็ หรือคอมพวิ เตอร์ ในข้นั น้ีครูอาจ มอบหมายให้นกั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มลู มาลว่ งหนา้ โดยครูกาหนดประเทศและหัวขอ้ ท่นี กั เรียนตอ้ ง คน้ ควา้ ข้นั นาข้อมลู มาพัฒนาเป็ นผลงาน เม่อื แตล่ ะกล่มุ ไดข้ อ้ มลู ทต่ี อ้ งการแลว้ ใหน้ าขอ้ มลู มาจดั บอร์ดแสดงผลงาน และพดู นาเสนอขอ้ มลู พอสังเขป 69

Introduction Location The UK is in Europe. The capital city is London. Tourist attractions Famous people Big Ben Prince William Buckingham Palace J. K. Rowling 7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน วิธกี ารวดั แบบประเมนิ ชิ้นงานการสารวจ/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ประเมนิ การคน้ ควา้ เก่ียวกบั เมอื งหลวง ของประเทศที่อยใู่ นทวปี ยโุ รปและพดู คน้ ควา้ ขอ้ มลู นาเสนอ ประเมนิ โครงงาน “Countries of the แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ world” สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ 70

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) ลกู โลกและแผนทีโ่ ลก 7) อินเทอร์เน็ต 71

6 Writing 1f 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นได้ - พูดสนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ส่วนตวั ได้ - เขียนอเี มลให้ขอ้ มูลของตนเองได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั วฒั นธรรมไทยและนามาใช้อย่างถกู ต้องเหมาะสม 72

ตวั ช้ีวดั บอกความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้ ต 2.2 ม. 1/1 เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ และภาษาไทย 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้และเขา้ ใจการใช้ capital letters และโครงสร้างของอเี มล จะช่วยใหส้ ามารถเขียนสื่อสาร ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Nouns (student, singer) Adjectives (favourite, great) Adverb (soon) Grammar: capital letters Functions: Giving personal information My name’s Marinee Tulakan and I’m from Thailand. I’m 10 years old. 2) Language Skills Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั Writing: เขียนอีเมลตอบเพือ่ น 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน 73

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Bingo โดยเขยี นตาราง 9 ช่องลงในกระดาษ และเขียนชื่อประเทศลงใน แต่ละช่องไม่ให้ซ้ากนั จากน้นั ครูพูดชื่อประเทศ ตารางของใครมีชื่อประเทศดงั กลา่ วให้กา  ทบั ชื่อประเทศน้นั คนทกี่ า  ทบั ช่ือประเทศได้ 3 ช่องตดิ ต่อกนั กอ่ นเป็นคนแรกให้พูดดงั ๆ วา่ Bingo 2. ครูเขียนคาว่า email บนกระดาน ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายวา่ อีเมลคอื อะไร (electronic mail) 3. ครูถามนกั เรียนว่าใครมีอีเมลบา้ ง และนกั เรียนส่งอีเมลถึงใครบา้ ง ข้นั Pre-reading 1. ครูนาเสนอโครงสร้างของอเี มล โดยเขยี น From, To, Subject และ email address บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายว่าคืออะไร จากน้นั ครูสรุปวา่ From คือ ผสู้ ่งอีเมล, To คือ ผรู้ บั อีเมล, Subject คอื เรื่องของอเี มลว่าเก่ียวกบั อะไร และ email address คอื ทอ่ี ยใู่ นอินเทอร์เนต็ ใชบ้ อก ตาแหน่งของผสู้ ่งและผรู้ บั อีเมลว่าอยทู่ ่ไี หน เช่น [email protected], [email protected] 2. ครูสอนวธิ ีการอ่าน email address โดยยกตวั อยา่ งบนกระดาน แลว้ อ่านใหน้ กั เรียนฟัง เช่น [email protected] อ่านว่า suwit underscore fifty five at yahoo dot com [email protected] อ่านว่า Mint dot love at gmail dot com จากน้นั ครูให้ตวั อยา่ งเพิ่มเตมิ แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั 3. ครูให้นกั เรียนดูขอ้ ความใน Ex. 1 แลว้ ครูถามว่าขอ้ ความน้ีคอื อะไร (It’s an email.) นกั เรียนสังเกต จากอะไร จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ น email address ในช่อง From และ To 4. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 17 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย ความหมาย ข้นั Reading หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 1 นกั เรียนอ่านหวั ขอ้ ในกรอบสีเขียว เพอ่ื ใหร้ ู้วา่ ขอ้ มลู อะไรที่นกั เรียนตอ้ ง นามาเตมิ แลว้ ครูใหน้ กั เรียนอา่ นอเี มลและเติมขอ้ มลู ลงในกรอบ เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รบอก คาตอบ 74

1 9 (years old) 3 English and maths 2 Blackhill School 4 Avril Lavigne ข้นั Post-reading 1. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ต้งั คาถามเพ่อื ถามขอ้ มลู ของ Peter ท่ีเติมในกรอบ Ex. 1 แลว้ ครูเขยี นคาถามบน กระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบ What’s his name? How old is he? Where does he study? What’s his favourite school subjects? Who’s his favourite singer? 2. นกั เรียนอ่าน Study Skills เร่ืองการใช้ capital letters ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 และบอกครูวา่ จะใช้ capital letters ในภาษาองั กฤษอยา่ งไร จากน้นั ครูสรุปให้ฟังว่า จะใช้ capital letters กบั ช่ือคน ประเทศ เช้ือชาติ วนั ในสัปดาห์ เดือน คาสรรพนาม I และเมอื่ ข้ึนตน้ ประโยค 3. ครูใหน้ กั เรียนหา capital letters ในอเี มล Ex. 1 และช่วยกนั บอกครู จากน้นั ครูให้นกั เรียน เปรียบเทยี บว่าในภาษาไทยมกี ารใช้ capital letters เหมอื นในภาษาองั กฤษหรือไม่ 4. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 2 นกั เรียนเขียนประโยคใหมโ่ ดยใช้ capital letters ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี นประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนทีเ่ หลอื ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง 1 This is Maria Jones. 3 Shakira is from Colombia. 2 Paolo is Italian. 4 My favourite day is Friday. 5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 11 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 75

ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูทบทวนคาศพั ทช์ ่ือวิชา โดยเขยี นตวั อกั ษรตวั แรกของคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ขีดเส้นเท่าจานวน ตวั อกั ษรทเ่ี หลือ เพอื่ ใหน้ กั เรียนทายชื่อวิชา เช่น s _ _ _ _ _ _ (science) ข้นั Pre-writing 1. ครูทบทวนโครงสร้างของอเี มล โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ ในช่อง From, To และ Subject จะตอ้ งใส่ขอ้ มลู อะไร 2. ครูทบทวนการใช้ capital letters โดยยกตวั อยา่ งบนกระดาน พร้อมท้งั ขีดเสน้ ใต้ capital letters จากน้นั ครูช้ีคาท่ีขีดเสน้ ใตท้ ีละคา ให้นกั เรียนบอกว่าทาไมคาน้นั จึงใช้ capital letters 1) Her name is Maria. 2) I live in Spain. I’m Spanish. 3) You are from Madrid. 4) Today is Monday. 5) She’s going to Phuket in March. 3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ช่วยกนั แตง่ ประโยค 5 ประโยค จากคาที่ครูกาหนดใหบ้ นกระดาน เช่น English, Poland, Sunday, August, Japanese ครูย้าใหน้ กั เรียนใช้ capital letters ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง 4. หนงั สือเรียน หน้า 17 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั พดู ถาม-ตอบขอ้ มูลส่วนตวั โดยใชค้ าถามทกี่ าหนดให้ ครูเดินสงั เกตการทากิจกรรมรอบ ๆ ช้นั เรียน แลว้ ให้นกั เรียน 4-5 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั 1 What’s your name? My name’s Marinee Tulakan. 2 How old are you? I am 10 years old. 3 What is the name of your school? My school is Aksornwittaya School. 4 What are your favourite school subjects? My favourite school subjects are maths and science. 5 Who’s your favourite singer? My favourite singer is Taylor Swift. 76

5. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 4 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขยี นอีเมลตอบ Peter โดยสมมติ ว่า Peter คอื penfriend ของนกั เรียน ครูอธิบายคาว่า penfriend (a friend you write to and receive letters/emails from, you may not meet in person = เพ่อื นทางจดหมาย) ข้นั Writing หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 4 นกั เรียนเขียนอีเมลตอบ Peter โดยใชค้ าตอบของตนเองจาก Ex. 3 ครูย้า ใหน้ กั เรียนเขียนตามโครงสร้างของอเี มล คอื ตอ้ งมี From, To, Subject และใหใ้ ช้ email address: your [email protected] ถา้ นกั เรียนในช้นั มีอีเมลทุกคน ครูอาจจะใหน้ กั เรียนเขียนอเี มลและส่งถึง ครู From: [email protected] To: [email protected] Subject: Hi! Hi Peter, My name’s Marinee Tulakan and I’m from Thailand. I’m 10 years old and I’m a student at Aksornwittaya School. My favourite school subjects are maths and science. My favourite singer is Taylor Swift. She’s great! Please write back soon. Marinee สาหรับช้นั เรียนเดก็ ออ่ น ครูเขียนโครงร่างอีเมลตามน้ีบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนลอกลง ในสมุดและเติมขอ้ มูลของตนเองในช่องวา่ ง From: .................................................... To: [email protected] Subject: Hi! Hi Peter, My name’s ............................................................. . I’m …............................ old and ............................ a student at ………….......………………………. School. 77

My ……....……….. school subjects …………..……………..…...…….…..… . My favourite singer is ............................................... . What ....................... you? Please write back soon. ……………… ข้นั Post-writing 1. ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใช้ capital letters การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และปรับแกง้ านเขยี นให้เรียบร้อย แลว้ นาส่งครูตรวจ 2. นกั เรียนทา Self-Check 1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 113 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 11 Ex. 3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ วธิ ีการวดั สังเกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ เกี่ยวกบั เรื่องทอี่ ่าน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ประเมนิ การเขียนอเี มลตอบเพอื่ น อนั พงึ ประสงค์ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 3) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 78

7 ASEAN corner 1 1 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อ่านเรื่องและตอบคาถามได้ - พดู สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั การศึกษาได้ - คน้ ควา้ เก่ียวกบั ระบบการศึกษาของไทยหรือประเทศในกลุม่ ประชาคมอาเซียนและ เขียนนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/2 พดู /เขยี นสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ เหตกุ ารณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสงั คม 79

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก ตวั ช้ีวดั ต 4.2 ม. 1/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากสื่อและแหล่ง การเรียนรู้ตา่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้เกี่ยวกบั ระบบการศึกษาของประเทศต่าง ๆ เป็นเคร่ืองมอื พ้ืนฐานในการคน้ ควา้ ขอ้ มูล สาหรบั การศกึ ษาตอ่ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Nouns (education, hub, mother tongue, citizen) Adjectives (flexible, diverse) 2) Language Skills Speaking: พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การศึกษา Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี นเกี่ยวกบั ระบบการศึกษาของไทยหรือของประเทศในกลุ่มประชาคม อาเซียน 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการใชค้ ิด 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมนั่ ในการทางาน 80

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up 1. ครูสอบถามความรู้พ้นื ฐานของนกั เรียนเก่ียวกบั อาเซียน โดยถามนกั เรียนว่า Which countries are in ASEAN? 2. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Noughts and Crosses หรือเกม OX โดยครูเขียนชื่อเมอื งหลวงของประเทศใน กลมุ่ ประชาคมอาเซียนลงในตาราง 9 ช่องบนกระดาน จากน้นั แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ใหแ้ ต่ละ ทมี ผลดั กนั บอกว่าชื่อเมืองหลวงในแตล่ ะช่องคือเมืองหลวงของประเทศใด โดยครูพดู ประโยคเป็น ตวั อยา่ ง เช่น Kuala Lumper is the capital city of Malaysia. ทีมใดตอบได้ 3 ช่องตดิ ตอ่ กนั เป็นผชู้ นะ 3. ครูถามนกั เรียนวา่ What do you know about Singapore? จากน้นั ครูถามตอ่ วา่ What do you know about Malaysia?  เมอร์ไลออน (Merlion) ถูกออกแบบข้นึ เพือ่ เป็นสัญลกั ษณข์ อง คณะกรรมการการท่องเทีย่ วของสิงคโปร์ในปี 1964 รูปป้ันน้ีมี หวั เป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยนื อยบู่ นยอดคล่นื ถอื เป็น เคร่ืองหมายประจาชาติสิงคโปร์  ตึกแฝดปิ โตรนาส (Petronas Twin Towers) ต้งั อยทู่ ่ีกรุง กวั ลาลมั เปอร์ ตึกน้ีมี 2 อาคารหอคอย เป็นตกึ แฝดทีส่ ูงทสี่ ุด ในโลก ดว้ ยความสูง 451.9 เมตร ทีม่ า: https://th.wikipedia.org ข้นั Pre-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 1 ครูถามคาถาม Why do you think education is important? ให้นกั เรียน ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น (e.g. It is important because it helps improve people’s lives in our country, it helps us create new things) 2. หนงั สือเรยี น หน้า 18 Ex. 2 ครูอ่านคาศพั ท์ 1-5 ใหน้ กั เรียนอา่ นตาม ครูบอกนกั เรียนว่าคาศพั ท์ เหล่าน้ีปรากฎอยใู่ นบทอ่าน แลว้ ให้นกั เรียนเดาความหมายของคาศพั ทโ์ ดยการจบั คู่ เสร็จแลว้ ครู เฉลยคาตอบ 1b 2e 3d 4c 5a 81

3. ครูให้นกั เรียนอ่านชื่อเรื่อง Education แลว้ เดาวา่ เรื่องทจี่ ะอา่ นน่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั อะไร ข้นั Reading หนงั สือเรียน หน้า 18 Ex. 3 นกั เรียนอ่านคาถามทีใ่ ห้มา เมอื่ อ่านจนเขา้ ใจแลว้ ให้ขีดเสน้ ใตค้ าสาคญั ในคาถาม แลว้ อา่ นบทอา่ นเพอื่ หาเน้ือเร่ืองส่วนที่เก่ียวขอ้ งกบั คาสาคญั ท่ขี ีดเส้นไว้ เม่อื พบแลว้ ให้ อ่านประโยคหรือขอ้ ความทคี่ าถามน้นั พาดพิงไปถึง หรืออาจจะอา่ นขอ้ ความแวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคกอ่ นหนา้ หรือถดั ไปที่มขี อ้ มลู พาดพงิ ไปถงึ เม่อื เขา้ ใจแลว้ จึงตอบคาถามทใ่ี ห้มา 1 Because the Singaporean government thinks that the citizens are the country’s most valuable resource. 2 The education system in Singapore is flexible and diverse. 3 The Singaporean students have to study at least two languages. They are English and their mother tongue – Mandarin Chinese, Malay or Tamil. 4 Students complete the first part of their studies in Malaysia and the remaining part they study at a partner university in another country. 5 Singaporean schools teach school subjects, critical-thinking skills and life skills. ข้นั Post-reading 1. หนงั สือเรยี น หน้า 18 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามพร้อมกนั ถา้ มคี าถามขอ้ ใดทน่ี กั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูช่วยอธิบาย จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่กนั อภปิ รายคาถามเหล่าน้ี หรือครูอาจให้นกั เรียนอภปิ ราย เป็ นกลุ่ม A: What subjects are you good at and bad at? B: I’m good at science, but I’m bad at art. And you? A: I’m good at music, but I’m bad at maths. What do you want to study in the future? B: I want to study astronomy. I like stars. How about you? 82

A: I want to study music. Do you want to study abroad? B: Yes. A: Where would you like to go? B: I would like to go to the USA. A: Why would you like to go there? B: I would like to visit NASA. 2. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 5 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จาก อนิ เทอร์เนต็ เก่ียวกบั ระบบการศึกษาของไทย หรือของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน โดยเลอื ก มา 1 ประเทศ แลว้ เขียนสรุปขอ้ มลู ส่งครู Education in Thailand Basic education in Thailand consists of six years of primary education, three years of lower secondary education and three years of upper secondary education. Upper secondary education is divided into academic and vocational streams. Students entering the academic stream usually intend to further their studies at a university. Vocational schools offer programs that prepare students for employment or further studies. According to Thailand’s education policy there are nine years of compulsory basic education which include six years of primary education and three years of lower secondary education. The State provides free education for 15 years of schooling which includes three years of early childhood education and 12 years of basic education. The basic education curriculum covers Thai language, maths, science, social studies, religion and culture, health and physical education, art, career and technology and foreign languages. Seventy-six standards were set for assessing learning quality. The Education Service Area offices have the flexibility to choose the substance that suits the local contexts. Schools can develop the curricular contents according to the needs, aptitude and interests of their students. The Office of the Basic Education Commission (OBEC) encourages schools to adopt a variety 83

of teaching-learning models such as the Montessori Method and learning through development of the thinking process. 12 Standard Thai is the language of instruction at all levels of education. Local languages are not prohibited in the schools in Thailand and some schools teach local languages as additional subjects. Schools can use a local language and Standard Thai as languages of instruction if the schools find them appropriate for use in the classes. ทม่ี า: http://ic.payap.ac.th/graduate/linguistics/theses/Tan_Hoong_Yen_Thesis.pdf 7. การวัดและการประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น สมุดนกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สงั เกตการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ การศึกษาตามประเดน็ ท่กี าหนด ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ประเมนิ การเขียนสรุประบบการศกึ ษา แบบประเมนิ การเขียน ของไทย หรือของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 4) อินเทอร์เน็ต 84

8 O-NET practice & Fun time 1 1 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณท์ ีเ่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 - เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีเรียนมาแลว้ ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พดู /เขยี นสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 85

Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 2) Language Skills Listening: ฟังเพลงและตอบคาถาม Writing: เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีเรียนมาแลว้ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 3 ทมี แลว้ ครูเขียนประโยคทไ่ี มไ่ ดเ้ รียงลาดบั คาบนกระดาน เช่น Maria are Ben Spain and from ใหแ้ ต่ละทมี ส่งตวั แทนคร้ังละ 1 คน ออกมาแขง่ กนั เขียนใหเ้ ป็นประโยคที่ ถกู ตอ้ ง ทมี ใดเขยี นประโยคเสร็จกอ่ นและถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน สุดทา้ ยทมี ท่ไี ดค้ ะแนนมากท่สี ุด จะเป็นผชู้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ี่เรียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดานคร้งั ละ 3 คา เช่น Spain, Poland, Greek แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกว่าคาใดไมเ่ ขา้ พวก พร้อมบอกเหตผุ ล 2. ใหน้ กั เรียนบอกไวยากรณท์ เ่ี รียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แลว้ ครูเขยี นบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างและวธิ ีการใช้ 86

verb to be capital subject ไวยากรณ์ letters pronouns หน่วยการ เรียนรูท้ ่ี 1 questions object words pronouns ข้นั Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 20 Ex. 1 นกั เรียนเลน่ เกม The Name Game! โดยเลน่ เป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน หรือเลน่ เป็นคู่ ครูให้เวลา 5 นาที ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ /คเู่ ขยี นช่ือตามรายการทีก่ าหนดลงในกระดาษ เมื่อ หมดเวลาใหแ้ ต่ละกลุ่ม/คู่แลกเปลยี่ นกระดาษกนั เพื่อตรวจความถูกตอ้ ง โดยแตล่ ะช่ือที่เขยี นถกู ตอ้ ง จะได้ 1 คะแนน กลมุ่ /คทู่ ่ไี ดค้ ะแนนมากทสี่ ุดจะเป็นผชู้ นะ  Jane, Claire, Lyn  Peter, Bob, Tony  Hi, Hello, Good morning  English, maths, art, history, ICT  the UK, the USA, Spain, France, Russia  football, basketball, badminton, swimming, tennis  pencil, book, eraser, notebook, sharpener  London, Paris, Rome, Madrid, Tokyo 2. หนงั สือเรียน หน้า 20 Ex. 2 นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบ คาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ 87

1 Spain 3 blue, white 5 sport 2 France 4 white and red 6 subject 3. หนงั สือเรียน หน้า 20 GAME ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี เพือ่ เล่นเกม โดยให้แตล่ ะทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนคร้ังละ 1 คน มาบอกช่ือประเทศท่อี ยใู่ นหนา้ 16 แลว้ ให้อีกทมี หน่ึงบอกเมืองหลวงของ ประเทศดงั กลา่ ว ถา้ บอกเมอื งหลวงถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทมี ทไี่ ดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ Team A S1: Cairo Team B S1: Egypt 4. หนงั สือเรียน หน้า 20 Ex. 4 ครูบอกนกั เรียนวา่ จะใหฟ้ ังเพลง ขณะที่ฟังให้นกั เรียนดูวา่ สิ่งของใน ภาพช้ินใดทไี่ ดย้ นิ ในเน้ือเพลง และหาช่ือวิชา 7 วิชา จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลง เม่ือฟัง เพลงจบใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ แลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง เพ่ือใหน้ กั เรียนร้องเพลงตาม ruler, notebook, schoolbag geography, history, science, maths, language, art, music 5. หนงั สือเรยี น หน้า 19 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ให้ครูอธิบายเพม่ิ เติม Ex. 1 1 A d, B b 2 A d, B d 3 A b, B a Ex. 2 1 c 2 c 3 b 4 d ข้นั Production หนังสือเรยี น หน้า 20 Ex. 3 นกั เรียนจบั คูก่ นั แลว้ ครูแจกกระดาษให้ค่ลู ะ 1 แผ่น ให้แต่ละคู่คดิ คาถาม quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เช่น The UK flag is red, white and … . ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดเู น้ือหาได้ และใหน้ กั เรียนเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เม่ือทกุ คคู่ ิดคาถาม เสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทา quiz กบั คู่อื่น 88

1 The UK flag is red, white and … . (blue) 2 In English we say … to greet each other in the morning. (Good morning) 3 The capital of Japan is ... . (Tokyo) 4 Madrid is in … . (Spain) 7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน - ร้อยละ 60 วธิ ีการวดั ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 อนั พึงประสงค์ สงั เกตความมงุ่ มนั่ ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 89

2 Cool Stuff! ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 14 ชั่วโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การ อ่าน ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ้ ความให้สมั พนั ธ์กบั ส่ือท่ไี มใ่ ช่ความเรียง (non-text information) ท่อี ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทีฟ่ ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 90

ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะหเ์ ร่ือง/ เหตุการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและ สถานศึกษา 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอยี ดของเรื่องท่ี อา่ นและฟังได้ นอกจากน้ียงั สามารถนาส่ิงท่ีเรียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขียนสื่อสาร แลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ส่ิงของใกลต้ วั ลกั ษณะของบคุ คลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม ตลอดจนมีความเขา้ ใจในมารยาท และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 91

3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Personal things (sunglasses, cap, skateboard, notebook, gloves, video game, trainers, handbag, guitar, helmet, digital camera, watch, comic book, scarf, bicycle, basketball) Appearance (young, old, long, short, tall, short, big, small, thin, plump, fat) Abilities (ride a bike, play the guitar, dance, drive a car, balance on a ball, jump, spin a ball, fly a plane, dive, run fast, climb a mountain, ski, swim) Souvenirs (T-shirt, sweatshirt, cap, mug, key ring, bag, pen, clock) Sentences (What can I do for you? I want to buy a souvenir. How about this cap? How much is it? It’s $15.00. Here you are.) Verbs (fly, protect, watch, find out, export) Nouns (engineer, business, secretary, metal suit, world, enemy, genes, identical twins, collection, football shirts, team, hobby, handicraft, raw material, craftsman, household, natural resource, cabinet, tool, secret, industry, generation) Adjectives (loyal, strong, brilliant, wonderful, full of, alike, mad about, proud of, usual, local) Adverb (however) Grammar: have got possessive determiners plurals this - these/that - those Functions: Describing appearance Merlin is old and thin with short white hair and a long white beard. Talking about possessions Have you got a guitar? Yes, I have. 92

Talking about abilities Can you drive a car? No, I can’t. Can you jump? Buying things What can I do for you? I want to buy a souvenir. Talking about your collection What is your collection? My collection is dolls. Discussing about handicrafts What handicraft products does your family own? My family has three baskets, two armchairs and a sofa. 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของบคุ คล, พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สิ่งของที่ตนเองมหี รือไม่ม,ี พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถ, พดู สนทนาตามสถานการณท์ ่ีกาหนด, พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ของสะสมของตนเอง, พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั งาน ศลิ ปหตั ถกรรม Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ, อา่ นออกเสียงบทสนทนา Writing: เขียนบรรยายลกั ษณะของตวั การ์ตูนทชี่ ื่นชอบ, เขียนประโยคตาม โครงสร้างที่เรียน, เขยี นส่ิงท่ีตนเองสามารถทาไดแ้ ละไม่สามารถทาได,้ แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ท่ีกาหนด, เขียนรายงานผลสารวจลกั ษณะ ของสมาชิกในครอบครัว, เขยี นอีเมลเลา่ เก่ียวกบั บา้ นของสะสมของตนเอง, เขยี นเกี่ยวกบั งานศิลปหัตถกรรม 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 93


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook