Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

Published by danangelo1992, 2022-08-17 03:20:14

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม.1

Search

Read the Text Version

A: What’s wrong? B: I’m afraid of snakes. A: Don’t be silly! B: Are you sure it’s safe? A: Of course. Would you like to hold it? B: Er… maybe another time. Bye. 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะคูไ่ ปฝึกอา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 63 ใหค้ ลอ่ ง แลว้ มาอ่าน บทสนทนาใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน 3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Ex. 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ วิธกี ารวดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทสนทนา ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ บทสนทนา ตรวจการเขียน Riddle (ปริศนาคา) แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ เกี่ยวกบั สัตว์ ประเมินการแต่งบทสนทนาตาม แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สถานการณท์ ีก่ าหนด บทบาทสมมติ ประเมินการพดู สนทนาตาม แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน สถานการณท์ ีก่ าหนด อนั พงึ ประสงค์ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มน่ั ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 344

5คูค่ ิด Across cultures 5e 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอ่านได้ - เขยี นบรรยายเก่ียวสตั วป์ ระจาชาติของไทยได้ - คน้ ควา้ และเก่ียวสัตวป์ ระจาชาตขิ องประเทศอ่ืนและนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/3 พดู /เขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรมหรือเรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั พร้อมท้งั ให้ เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน 345

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้เกี่ยวกบั สัตวป์ ระจาชาติของประเทศต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถพดู และเขียนส่ือสารได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (hop, kick) Nouns (forests, grasslands, plants, claws, bamboo) Adjectives (national, strong, hard, heavy, round, sharp) 2) Language Skills Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขียนบรรยายเก่ียวสตั วป์ ระจาชาตขิ องไทย 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุง่ มน่ั ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูสุ่มถามนกั เรียน 5 คน เก่ียวกบั ส่ิงทนี่ กั เรียนกลวั ให้นกั เรียนทเ่ี หลือต้งั ใจฟังคาตอบของเพือ่ น เช่น T: Nan, what are you afraid of? Nan: I’m afraid of mice. T: Bum, what are you afraid of? 346

Bum: I’m afraid of the dark. เม่อื ถามนกั เรียนครบท้งั 5 คนแลว้ ครูถามคาถามนกั เรียนท่ีเหลอื เกี่ยวกบั สิ่งท่ีเพ่อื นท้งั 5 คน กลวั เช่น T: What is Nan afraid of? Ss: She’s afraid of mice. T: Is Bum afraid of heights? Ss: No, she isn’t. She’s afraid of the dark. 2. ใหน้ กั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 64 แลว้ ครูถามวา่ What animals can you see? What countries can we see them? ข้นั Presentation 1. ครูเขียนคาถามทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ย How: How long, How fast, Haw many, How much บนกระดาน เช่น How long is a snake? It’s 2 m long. How fast does a tiger run? Up to 35 mph. How many legs does a horse have? Four How much do you weigh? 55 kg. แลว้ ให้นกั เรียนสงั เกตว่า หลงั how จะตามดว้ ยคาประเภทใด (adjective) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกว่าคาถาม how บนกระดาน แต่ละประโยคถามเกี่ยวกบั อะไร และมแี นวคาตอบอยา่ งไร 2. ครูอธิบายคาศพั ท์ hop kick forest และ grassland โดยออกเสียงและใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม หลงั จากน้นั ให้นกั เรียนฝึกสะกด ครูเขียนคาศพั ท์ คานิยาม และประโยคตวั อยา่ งลงบนกระดาน ให้ นกั เรียนศึกษาประโยคและเดาความหมายคาศพั ท์ ครูใหค้ วามช่วยเหลอื นกั เรียนและสรุปความหมาย คาศพั ท์ ข้นั Practice 1. ให้นกั เรียนดูชื่อเรื่อง “National animals from around the world” พร้อมรูปจิงโจแ้ ละหมแี พนดา้ สอบถามนกั เรียนว่าบทอา่ นน่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองอะไร (สตั วป์ ระจาชาติรอบโลก) 2. หนงั สือเรยี น หน้า 64 Ex. 1 ให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพอ่ื นอ่านประโยคขอ้ ที่ 1-3 และช่วยกนั คดิ ว่า ประโยคที่ให้มาถูกหรือผิด แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ ักเรียนฟังและอ่านบทอา่ นตามเพื่อตรวจคาตอบ พร้อมท้งั แกไ้ ขประโยคทผี่ ิดใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนหาความหมายของคาในกรอบ Check these words 347

1 F Kangaroos have got short arms. 2T 3 F Kangaroos eat plants. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ใหบ้ อกขอ้ เทจ็ จริง 2 อยา่ ง เกี่ยวกบั สัตวใ์ นบทอ่าน Kangaroos can hop fast. They live in forests and grasslands. อนิ ทรีหวั ขาว (bald eagle) เป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องอเมริกา มีถน่ิ กาเนิดในอเมริกา และพบไดใ้ นทวีปอเมริกาเหนือเท่าน้นั จุดเดน่ ของอินทรีหวั ขาวคือ ขนบริเวณหวั และคอเป็นสีขาว ขนบริเวณลาตวั มสี ีดา กรงเล็บและจะงอยปากสีเหลอื ง สายตา แหลมคมมองเห็นไดไ้ กลถึง 1.6 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นสตั วท์ ี่พบไดใ้ นอเมริกา เทา่ น้นั และเป็นสัญลกั ษณ์แห่งความกลา้ หาญและอานาจ อนิ ทรีหัวขาวจึงถูกเลอื กให้ เป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องอเมริกา โดยปรากฏอยใู่ นตราประจาตาแหน่งประธานาธิบดี และในสัญลกั ษณข์ องหน่วยงานราชการตา่ ง ๆ ของอเมริกา 3. หนังสือเรยี น หน้า 64 Ex. 2 ครูทบทวนคาถามทีข่ ้ึนตน้ ดว้ ย How แลว้ ให้นกั เรียนดูกรอบทางซา้ ยซ่ึง เป็นขอ้ มลู เก่ียวกบั เสือ และสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคาถามและคาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พูด คาถามและคาตอบเป็นภาษาไทย จากน้นั ใหน้ กั เรียนเตมิ คาถามทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ย How ลงในกรอบ ทางขวาใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 How much 3 How fast 5 How long 2 How many 4 How many 348

ข้นั Production 1. หนังสือเรยี น หน้า 64 Ex. 3 ให้นกั เรียนจบั คู่เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สตั วป์ ระจาชาติของไทย โดยให้มี ขอ้ มลู เก่ียวกบั what is look like, where it lives, what it eats, what it can do กอ่ นทางานครูถาม นกั เรียนวา่ สัตวป์ ระจาชาติของไทยคือสตั วช์ นิดใด (ชา้ ง) เพอ่ื ให้นกั เรียนเขา้ ใจตรงกนั วา่ กาลงั จะ เขยี นเกี่ยวกบั สัตวช์ นิดใด จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนเขียน โดยครูคอยช่วยเหลอื นกั เรียนเรื่องคาศพั ท์ เมื่อเขยี นเสร็จแลว้ ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งและใหน้ กั เรียนปรบั แก้ หลงั จากน้นั นกั เรียนนาผลงาน ไปตดิ บนบอร์ดในช้นั เรียน? The elephant is the national animal of Thailand. Elephants have got a big body, big ears, big legs, two tusks, a long nose and a long tail. They are usually about 2-4 metres long and they weigh from 3,000-5,000 kilos. They live in the forests and eat plants. They are very strong, intelligent and friendly. They can swim and they can blow the water out of their nose. 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูถามความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั สตั ว์ 5-10 ขอ้ เช่น • What is the biggest type of “big cat” in the world? (Tiger) • Are butterflies insects? (Yes) • Are bats mammals? (Yes) • How many pairs of wings does a bee have? (2) • What is the tallest animal in the world? (Giraffe) • How many legs does a spider have? (8) 349

ข้นั Presentation ครูอธิบายคาศพั ท์ heavy sharp และ claw โดยออกเสียงและใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม หลงั จากน้นั ให้ นกั เรียนฝึกสะกด ครูเขยี นคาศพั ท์ คานิยาม และประโยคตวั อยา่ งลงบนกระดาน ใหน้ กั เรียนศึกษา ประโยคและเดาความหมายคาศพั ท์ ครูใหค้ วามช่วยเหลือนกั เรียนและสรุปความหมายคาศพั ท์ ข้นั Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพือ่ นอา่ นประโยคขอ้ ที่ 4-5 และช่วยกนั คดิ วา่ ประโยคทีใ่ หม้ าถกู หรือผิด แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทอา่ นตามเพ่ือตรวจ คาตอบ พร้อมท้งั แกไ้ ขประโยคทผี่ ดิ ให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาความหมายของคาในกรอบ Check these words 4T 5 F Giant Pandas live in forests. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ให้บอกขอ้ เท็จจริง 2 อยา่ ง เก่ียวกบั สัตวใ์ นบทอ่าน Giant Pandas eat bamboo. They can climb trees. 2. ครูนาภาพชา้ งไทยมาแสดงให้นกั เรียนดู แลว้ นาภาพไปตดิ บนกระดาน จากน้นั ถามคาถาม • What is it? It’s an elephant. • Where does it live? It lives in the forest. • What does it eat? It’s eats bananas. • What can it do? It can carry people. ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ ครูเขียนคาตอบลงบนกระดาน จากน้นั แบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม ใหท้ ีม A ถาม คาถาม และทีม B ตอบคาถาม 3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คูห่ รือกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ครูแจกภาพสตั วใ์ ห้นกั เรียน 1 ภาพ (มา้ จิงโจ้ ยีราฟ เสือ กวาง แรด เป็นตน้ ) แลว้ ให้นกั เรียนศึกษาลกั ษณะของสตั ว์ และผลดั กนั ถามและตอบขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั ว์ โดยใช้โครงสร้างประโยคจากขอ้ 2 350

ข้นั Production 1. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 9 กลมุ่ และให้แต่ละกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกบั สตั วป์ ระจา ชาตขิ องประเทศสมาชิกอาเซียนมา 1 ประเทศ ตามทคี่ รูมอบหมายหรือจบั สลากได้ แลว้ ใหน้ กั เรียน จดั ทาเป็นโปสเตอร์ จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอท่หี นา้ ช้นั ถา้ ในช้นั เรียนมีคอมพิวเตอร์ ครูอาจจะใหน้ กั เรียนนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ย PowerPoint ไทย: สัตว์ประจาชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน อนิ โดนีเซีย: มาเลเซีย: ชา้ ง (Elephant) ฟิลิปปิ นส์: มงั กรโคโมโด (Komodo dragon) สิงคโปร์: เสือโคร่งพนั ธุ์มลายู (Malayan tiger) บรูไน: ควาย (Buffalo) เวียดนาม: สิงโต (Lion) ลาว: เสือโคร่ง (Tiger) พม่า: ควาย (Buffalo) กมั พูชา: ชา้ ง (Elephant) เสือโคร่งพนั ธุ์อินโดจีน (Indochinese tiger) กปู รี (Kouprey) 2. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 5 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 98-99 7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ วิธกี ารวดั ระดบั คุณภาพ พอใช้ ประเมินการเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สตั ว์ แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ประจาชาตขิ องไทย ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ประเมินการคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตว์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ประจาชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน อนั พงึ ประสงค์ และพูดนาเสนอ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั ในการทางาน 351

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) อนิ เทอร์เนต็ 7) ภาพสตั ว์ 352

6 Writing 5f 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นได้ - เปรียบเทียบการตาแหน่งของคาในประโยคภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย - พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ยี งของตนเอง - เขียนบรรยายเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงของตนเองได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 353

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั วัฒนธรรมไทยและนามาใช้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ และภาษาไทย สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมือพ้นื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั สงั คมโลก ตวั ช้ีวดั ต 4.2 ม. 1/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มลู ต่าง ๆ จากสื่อและแหลง่ การ เรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเขียนเรียงความเป็นรูปแบบการเขียนอยา่ งหน่ึง ซ่ึงใช้เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่อง ต่าง ๆ ใกลต้ วั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Nouns (hard scales, sharp teeth) Adjectives (unusual, afraid of) Preposition (beside) Grammar: positions of adjectives Functions: Talking about your pet What is it? It is a hamster. 2) Language Skills Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงของตนเอง 354

Writing: เขียนเก่ียวกบั สตั วเ์ ล้ียงของตนเอง 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. ครูทบทวนคาศพั ท์ โดยให้นกั เรียนเลม่ เกม Noughts and Crosses ครูเขียนตาราง 9 ช่องบนกระดาน และเขียนคาศพั ทช์ ่ือสตั วล์ งในตารางช่องละ 1 คา จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ให้แขง่ กนั เลน่ เกม โดยผลดั กนั เลือกคาศพั ทช์ ื่อสตั วแ์ ละพูดประโยคบอกว่าสตั วช์ นิดน้นั เป็ น สัตวเ์ ล้ียง สตั วป์ ่ า หรือสัตวท์ อี่ ยใู่ นฟาร์ม เช่น Bears are wild animals. ทมี ใดแตง่ ประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง มากที่สุดจะเป็นผชู้ นะ 2. ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียนเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ยี ง โดยถามว่า Have you got any pet? What is it? What is its name? เช่น T: Aon, have you got any pets? Aon: Yes, I have. T: What is it? Aon: It’s a rabbit. T: What is its name? Aon: Its name is Ruby. 355

ข้นั Presentation 1. ครูเขียนประโยค My dog is big. It has got brown fur. It is friendly. บนกระดาน โดยขดี เสน้ ใตค้ าว่า big, brown, friendly และถามนกั เรียนวา่ ท้งั 3 คาน้ีเป็นคาชนิดใด (adjective) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนดู ตาแหน่งของ adjective ทลี ะคา และบอกครูวา่ adjective ถกู วางไวใ้ นตาแหน่งใดบา้ ง (หลงั verb to be และหนา้ คานาม) 2. ให้นกั เรียนอา่ น Study Skills เกี่ยวกบั ตาแหน่งของ adjectives ในประโยค แลว้ ครูยกตวั อยา่ ง ประโยคเพม่ิ เติม เช่น My cat is cute. It has got white fur. จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดว่าใน ภาษาไทยจะวางตาแหน่งของ adjectives หรือคาคุณศพั ทใ์ นประโยคเหมือนกบั ภาษาองั กฤษหรือไม่ ข้นั Practice 1. ให้นกั เรียนดูรูปภาพและอ่านประโยคแรกของบทอา่ น และเดาว่าเรื่องท่ีจะไดอ้ า่ นน่าจะเกี่ยวกบั อะไร (someone has got an unusual pet) 2. หนงั สือเรยี น หน้า 65 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามขอ้ ที่ 1-6 แลว้ สรุปความหมายพร้อมแนวโนม้ ของคาตอบ หลงั จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอา่ นตามไปดว้ ย เม่อื ฟัง CD จบ ให้ นกั เรียนตอบคาถามทก่ี าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ 1 Kheng is a crocodile. 2 It has got short legs, hard scales and very sharp teeth. 3 No, it can’t. 4 Kheng eats a lot of meat. 5 Kheng sleeps beside Prayoon’s bed. 6 Because Kheng sleeps next to Prayoon’s bed every night. 3. ครูถามคาถาม What animals do you think are unusual pets? ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความ-คดิ เห็น เช่น I think snakes are unusual pets. ครูรวบรวมความคดิ เห็นของนกั เรียนและเขยี นบนกระดาน แลว้ ครูถามนกั เรียนว่าเราควรนาสัตวเ์ หล่าน้ีมาเป็นสตั วเ์ ล้ยี งหรือไม่ จากน้นั ให้นกั เรียนพจิ ารณา ลกั ษณะของสัตวเ์ หล่าน้ี และบอกครูว่าทาไมเราไมค่ วรนามาเป็นสตั วเ์ ล้ียง 4. หนงั สือเรยี น หน้า 65 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั คาท่กี าหนดให้เป็นประโยคท่ีถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู ตรวจคาตอบโดยสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคคนละ 1 ประโยค 356

1 My rabbit is white. 2 Joe’s dog has got thick fur. 3 Grandma’s budgie is yellow. 4 My cat has got a long tail. 5 Your horse is beautiful. ข้นั Production 1. หนงั สือเรียน หน้า 65 Ex. 4 ให้นกั เรียนอ่านคาถามที่กาหนดให้ และช่วยกนั พูดคาถามเป็นภาษาไทย แลว้ ครูให้เวลานกั เรียนเตรียมคาตอบ ถา้ ใครไมม่ สี ัตวเ์ ล้ียง ครูให้สมมติสัตวเ์ ล้ียงของตนเอง จากน้ัน ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สัตวเ์ ล้ียงของตนเอง 1 It is a hamster. 2 Its name is Lucky. 3 It is two years old. 4 It has got white fur, big black eyes and sharp claws. 5 It can run very fast. 6 It eats nuts. 7 It is really cute. 8 I love it a lot. 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 43 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 357

ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูให้เวลานกั เรียน 1 นาที เขยี นคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วท์ เ่ี ป็นสัตวเ์ ล้ยี งให้ไดม้ ากทส่ี ุด เมื่อหมดเวลาให้ นกั เรียนเปรียบเทียบกบั เพอื่ นขา้ งเคยี ง จากน้นั ครูให้นกั เรียนท่ีเขยี นคาศพั ทไ์ ดม้ ากท่สี ุดอ่านใหเ้ พอื่ น ฟัง ข้นั Pre-writing 1. ครูเอาภาพสัตวเ์ ล้ยี งมา 1 ภาพ เช่น แมว แลว้ ครูเขยี นหวั ขอ้ ลงบนกระดาน พร้อมคาตอบ Type of pet: cat Name: Koko Age: 4 months What it looks like: long white hair, big black eyes, sharp teeth What it can do: jump to the high wall What it eats: fish Your feeling about it: cute and friendly, love it very much ครูใหน้ กั เรียนดูขอ้ มลู แลว้ เขียนเป็นยอ่ หนา้ ยอ่ หนา้ ท่ี 1 type of pet, name และ age ยอ่ หนา้ ท่ี 2 what it looks like, what it can do และ what it eats ยอ่ หนา้ ที่ 3 your feelings about it I’ve got a pet. It’s a cat. Its name is Koko and it is four months old. It has got long white hair, big black eyes and sharp teeth. It can jump to the wall. It eats fish. It is very cute and friendly. I love it very much. ครูให้นกั เรียนศึกษาประโยคในแตล่ ะยอ่ หนา้ แลว้ ให้สังเกตคาทข่ี ีดเส้นใตข้ อง ยอ่ หนา้ ที่ 1 cat คือ type of pet Koko คอื name four months old คอื age ยอ่ หนา้ ที่ 2 long white hair, big black eyes and sharp teeth คือ what it looks like jump to the wall คอื what it can do fish คือ what it eats ยอ่ หนา้ ที่ 3 cute and friendly และ love it very much คือ your feelings 358

2. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 5 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขียนบรรยายส้นั ๆ เกี่ยวกบั สัตว์ เล้ียงของตนเองตามโครงร่างที่กาหนดให้ โดยใชค้ าตอบจาก Ex. 4 เป็นขอ้ มลู ในการเขยี น ความยาว 50-70 คา ข้นั Writing หนังสือเรียน หน้า 53 Ex. 5 นกั เรียนเขียนบรรยายส้ัน ๆ เก่ียวกบั สตั วเ์ ล้ียงของตนเองตามโครงสร้าง ทกี่ าหนดให้ เมือ่ นกั เรียนเขยี นเสร็จแลว้ ใหต้ ้งั ช่ือเร่ืองดว้ ย My Furry Friend I’ve got a pet. It’s a hamster. Its name is Lucky and it is two years old. It has got white fur, big black eyes and sharp claws. It can run very fast. It eats nuts. It is really cute and I love it a lot. ข้นั Post-writing 1. นกั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใช้ capital letters การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และปรบั แกง้ านเขยี นใหเ้ รียบร้อย โดยครูแจกกระดาษ A4 ให้นกั เรียนคนละ 1 แผ่น ใหน้ กั เรียนลอกงานเขยี นทแี่ กไ้ ขเรียบร้อยแลว้ ลงในกระดาษ และวาดภาพตกแต่งเพ่อื เพิม่ ความน่าสนใจ โดยอาจจะติดภาพสตั วเ์ ล้ยี งดว้ ยก็ได้ เมือ่ ทางานเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอา่ นใหเ้ พื่อนฟังทห่ี นา้ ช้นั แลว้ นกั เรียนรวบรวมผลงานส่งครูตรวจ 2. นกั เรียนทา Self-Check 5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 117 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 43 Exs. 3-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 359

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ วิธีการวดั สังเกตการเปรียบเทียบการตาแหน่ง แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ของคาในประโยคภาษาองั กฤษกบั ระดบั คุณภาพ พอใช้ ภาษาไทย แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น สังเกตการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล เก่ียวกบั สตั วเ์ ล้ียงของตนเอง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ประเมินการเขยี นบรรยายเก่ียวกบั อนั พึงประสงค์ สัตวเ์ ล้ียงของตนเอง สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุ่งมนั่ ในการทางาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 360

7 ASEAN corner 5 1 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นได้ - พดู อภปิ รายเกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพได้ - คน้ ควา้ เกี่ยวกบั เก่ียวกบั เขต/พ้นื ที่คุม้ ครองในประเทศไทยและเขยี นนาเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/2 พดู /เขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ (theme) ทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/ เหตกุ ารณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน 361

ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื ต 3.1 ม. 1/1 จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ จะช่วยให้เห็นถงึ ความสาคญั ของพนั ธุพ์ ชื และสตั ว์ กอ่ ให้เกิดการอนุรักษแ์ ละความหวงแหนในการรักษาใหค้ งอยู่ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (exist, preserve, cause) Nouns (biodiversity, root, purpose) Functions: Talking about biodiversity What is biodiversity? Biodiversity is different kinds of living things that live together in different natural surroundings. 2) Language Skills Speaking: พูดอภิปรายเก่ียวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เขต/พ้นื ทคี่ มุ้ ครองในประเทศไทย 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการใชค้ ดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน 362

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ครูถามนกั เรียนว่า What countries in ASEAN have lots of sea animals? What countries have lots of wild animals? Do you know natural sightseeing in ASEAN countries? ข้นั Pre-reading 1. หนงั สือเรียน หน้า 66 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นคาศพั ท์ 1-5 ครูบอกวา่ คาศพั ทเ์ หล่าน้ีเป็นคาศพั ทท์ ี่อยใู่ น บทอ่าน แลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คคู่ าศพั ทก์ บั ความหมาย a-e เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ทเ์ ป็นภาษาไทย 1e 2c 3a 4b 5d 2. ครูนาเสนอคาศพั ทค์ าอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ biodiversity, exist, root, purpose, preserve, cause โดยเขยี น คาศพั ทบ์ นกระดาน พร้อมประโยคตวั อยา่ งและความหมาย หลงั จากน้นั ครูให้นกั เรียนบอก ความหมายเป็นภาษาไทย สาหรบั ห้องทม่ี ีนกั เรียนเกง่ ครูให้นกั เรียนขดี เสน้ ใตค้ าศพั ท์ในบทอา่ น แลว้ ฝึกเดาความหมายจากบริบทขา้ งเคยี ง ข้นั Reading หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 2 ให้นกั เรียนอา่ นประโยคท่กี าหนดให้ และขีดเส้นใตค้ าสาคญั ในประโยค จากน้นั อ่านบทอ่านเพ่ือมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่มี คี วามหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลุ่มคา/วลี ทมี่ คี วามหมายเหมือนกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทขี่ ีดเส้นใตไ้ ว้ จากน้นั ตอบว่าประโยคถกู หรือผดิ 1T 2T 3F 4T 5F ข้นั Post-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 3 ให้นกั เรียนหาคาศพั ท์ 3 คา ท่ขี ้ึนตน้ ดว้ ย “bio” พร้อมท้งั ความหมายใน พจนานุกรม เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน บอกคาศพั ทท์ ตี่ นเองคน้ หาได้ 363

1 Biochemistry It means the scientific study of the chemistry of living things. 2 Biodiesel It means a type of fuel made from plant or animal material and used in diesel engines. 3 Biography It means the story of a person’s life written by somebody else. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 66 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามพร้อมกนั แลว้ ครูช่วยอธิบายคาถามท่นี กั เรียน ไมเ่ ขา้ ใจ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พูดอภิปรายคาถามเหลา่ น้ี A: What is biodiversity? B: Biodiversity is different kinds of living things that live together in different natural surroundings. A: Why must we preserve it? B: Because it’s important for living things. They must rely on each other. A: That’s right. Animals need food. The loss of a plant can cause the other animals. B: Do you think what the causes of the loss of biodiversity are? A: I think cutting down trees. It causes the animals don’t have food and habitats. What about you? B: I think changing climate. Rising temperature can be dangerous plants and animals. A: What can we do to help protect biodiversity? B: Plant the trees. A: Recycle, reuse and reduce plastic bags. 364

กจิ กรรมเพมิ่ เติม ครูใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั วา่ เราจะช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไวไ้ ดอ้ ยา่ งไร เช่น ลด การใชพ้ ลงั งาน ลดการใชก้ ระดาษและถุงพลาสตกิ เขา้ ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนหรือชุมชนทม่ี ี วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื ช่วยปลูกป่ า เม่ืออภิปรายเสร็จแลว้ ครูแนะนาให้นกั เรียนนาวธิ ีทรี่ ่วมกนั อภิปรายไป ปฏิบตั ิ เพ่อื เป็นแบบอยา่ งใหค้ นใกลต้ วั แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ การมสี ่วนร่วมเพอ่ื ทาประโยชน์ให้ ส่วนรวมแสดงว่านกั เรียนเป็นผทู้ ี่มีจิตสาธารณะ 3. หนังสือเรยี น หน้า 66 Ex. 5 ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ เก่ียวกบั เขต/พ้ืนท่ีคุม้ ครองในประเทศไทย แลว้ นาขอ้ มลู มาเขียนบรรยาย นกั เรียนอาจจะหาภาพมา ตดิ ประกอบดว้ ยก็ได้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 กลุ่ม นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน In Thailand, there are many protected areas. One of them is the Thungyai Naresuan Wildlife Sanctuary and Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary in Uthai Thani, Kanchanaburi and Tak Provinces. They were listed as a UNESCO World Heritage Site in 1991. They have various rare and endangered animals, such as wild buffaloes, rhinoceros, wild elephants, tapirs, leopards, wild bulls etc. 7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน สมุดนกั เรียน ร้อยละ 60 วธิ ีการวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น สังเกตการพดู อภปิ รายเกี่ยวกบั ความ แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ หลากหลายทางชีวภาพ ประเมนิ การคน้ ควา้ และเขยี นนาเสนอ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น เก่ียวกบั เขต/พ้นื ทคี่ ุม้ ครองในประเทศ อนั พึงประสงค์ ไทย สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มนั่ ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 4) อินเทอร์เน็ต 2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 365

8 O-NET practice & Fun time 5 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ท่เี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 - เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขยี นสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 366

Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 2) Language Skills Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาที่เรียนมาแลว้ 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มุง่ มนั่ ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ี่เรียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 แลว้ ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Beginning with โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็น 5 ทีม จากน้นั ครูอธิบายว่าให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทช์ ่ือสตั ว์ หรือส่วนต่าง ๆ ของสตั วท์ ่ีข้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรที่ครูบอก เช่น T: Can you tell me an animal beginning with E? Team A Team A: Eagle T: Can you tell me a part of animal beginning with F? Team B Team B: Fur ข้นั Presentation 1. ใหน้ กั เรียนบอกไวยากรณท์ ่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แลว้ ครูเขียนบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างและหลกั การใช้ 367

Adverbs of ไวยากรณ์ Adverbs of degree หน่วยการ frequency Comparatives เรียนรู้ที่ 5 Prepositions & Superlatives of time 2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม แลว้ ครูพูด adjective ให้แต่ละทมี ผลดั กนั แตง่ ประโยคเปรียบเทียบ หรือแตง่ ประโยคโดยใช้ adverbs of degree ทมี ใดแตง่ ประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน สุดทา้ ย ทมี ทไ่ี ดค้ ะแนนมากทส่ี ุดจะเป็นผชู้ นะ เช่น T: Strong, Team A Team A: An elephant stronger than a giraffe. T: Correct. Team A gets 1 point. Fast, Team B Team B: A cheetah is extremely fast. ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 68 Ex. 1 ให้นกั เรียนอา่ นคาใบแ้ ละเติมคาลงในตารางอกั ษรไขว้ จากน้นั ครู สุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ พร้อมท้งั สะกดคา Across Down 3 sheep 1 horse 5 cow 2 chimpanzee 7 squirrel 4 chicken 8 hamster 6 bear 10 eagle 9 elephant 11 rabbit 368

2. หนงั สือเรียน หน้า 68 GAME ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม เพื่อเล่นเกม โดยใหท้ มี หน่ึงบอกขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั ว์ 1 ชนิด ที่เรียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี และใหอ้ กี ทมี หน่ึงทายวา่ คอื สัตวช์ นิดใด ทมี ใด ทายช่ือสตั วถ์ กู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมทไี่ ดค้ ะแนนมากท่ีสุดจะเป็นผชู้ นะ Team A S1: It is the national animal of Australia? Team B S1: The Kangaroo. 3. หนงั สือเรียน หน้า 68 Ex. 2 นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบ คาตอบกบั เพอ่ื น จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ 1T 2 F (The Giant Panda is the national animal of China.) 3T 4T 5 F (Puffer fish are small and round.) 6 F (Kangaroos can hop fast.) 4. หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 4 ครูให้เวลานกั เรียน 1 นาที เขยี นคาศพั ทช์ ื่อสตั วใ์ หไ้ ดม้ ากที่สุด เม่ือหมด เวลาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อ่านคาศพั ทข์ องตนเอง tiger, hamster, elephant, bear, chicken, flamingo, rabbit, eagle, squirrel, cow, sheep, horse, parrot etc. จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพลงและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย เมื่อฟังเพลงจบครูถามว่า Which animals are in the song? Which animals are in the pictures? แลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง ให้นกั เรียนร้อง เพลงตาม Animals are in the song are tigers, panda, chimpanzees, rhinos, giraffes, kangaroo, spider and koala. Animals are in the pictures are tiger, giraffe and rhino. 369

6. หนังสือเรยี น หน้า 67 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพ่ิมเตมิ Ex. 1 1 A b, B d 2 A c, B c 3 A d, B c 5a Ex. 2 1 c 2 a 3 d 4 c ข้นั Production หนงั สือเรยี น หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั คูก่ นั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผน่ ให้แต่ละคู่คดิ คาถาม quiz 5-6 ขอ้ เกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เช่น A giraffe has a short neck. (F) ครูให้ นกั เรียนเปิ ดดเู น้ือหาได้ และให้นกั เรียนเขยี นคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เม่ือทกุ คู่คิดคาถามเสร็จ แลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั ค่อู น่ื 1 Goats have horns. (T) 2 Octopuses have two hearts. (F) 3 Kangaroos live in Australia. (T) 4 Ypres is in France. (F) 5 The Elephant Festival takes place in China. (F) 6 The Lionfish has poisonous spines. (T) 7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน - ร้อยละ 60 วิธกี ารวดั ตรวจการเขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหา แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 อนั พงึ ประสงค์ สังเกตความม่งุ มน่ั ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 370

6 Weather & Clothes ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อา่ น ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั ส่ือทไี่ ม่ใช่ความเรียง (non-text information) ทีอ่ ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั ต 1.2 ม. 1/2 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา และคาช้ีแจงตามสถานการณ์ ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น 371

ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั ต 1.3 ม. 1/2 พดู /เขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ (theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รื่อง/ เหตุการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม ต 1.3 ม. 1/3 พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ ความช่วยเหลือในสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่เี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจ จบั ใจความสาคญั และบอก รายละเอยี ดของเร่ืองท่อี ่านและฟัง รวมถึงบทกลอน นอกจากน้ียงั สามารถนาสิ่งทเี่ รียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขียนส่ือสาร แสดงความรู้สึก ความคดิ เห็น แลกเปล่ียนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง สมาชิกในครอบครัว บุคคลอนื่ สภาพอากาศ เส้ือผา้ และเคร่ืองแตง่ กายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมถงึ มคี วามรู้เกี่ยวกบั 372

ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติและสามารถปฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ตลอดจนมีความเขา้ ใจในมารยาทและ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Seasons (winter, spring, summer, autumn) Months (January, February, March, April, May, June, July, August, September, October, November, December) Weather (raining, snowing, foggy, hot, cold, cloudy, sunny, warm, windy, freezing, boiling hot, warm, cool, chilly, freezing cold) Activities (go skiing, play computer games, go camping, go kitesurfing, go bowling, go windsurfing, do exercises, go swimming, make a snowman, play basketball) Clothes (a jacket, a tie, trainers, a shirt, a coat, a suit, socks, a belt, a hat, a T-shirt, a dress, shorts, sandals, a top, a jumper, boots, trousers, gloves, a skirt) Likes (I love it, I like it, it, It’s great, It’s OK, It’s fabulous) Dislikes (I don’t really like, It’s horrible) Verbs (sunbathing, swimming, playing beach volleyball, get back, making a snowman, skiing, blowing, falling, reduce, prepare, increase, survey, occur) Nouns (sandcastle, floating market, degrees, Celsius, Fahrenheit, ground, pitter patter, custom, palm, chest, status) Adjective (freezing cold, happy, sad, relaxed, disaster, decade, victim, emergency, volunteer) Pronoun (others) Sentences (So, what do you think?, I think they’re great., Do you think so?, They look really nice on you., Yes, but I prefer them in black., Do you think they’re expensive?, How much do they cost?, OK, then. I’ll take them.) 373

Grammar: Present continuous Present simple - Present continuous Present continuous with future meaning Functions: Making suggestions Why don’t we play basketball? That’s a good idea. Talking about the weather What’s the weather like in London today? It’s chilly and windy. Talking about activities that people doing What are they doing? They are playing football. Talking about clothes What is she wearing? She is wearing a jacket, a skirt and boots. Expressing likes/dislikes Do you like these boots? I love them. Buying clothes and accessories So, what do you think? These trousers look really nice on you. Talking about natural disaster What natural disasters have occurred in your community? Flood. Pronunciation: /ɪŋ/ reading, watching, going, eating, swimming, playing, making, running 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Speaking: พดู ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั การทากิจกรรม, พูดขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพอากาศและอณุ หภมู ิของเมืองต่าง ๆ, พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ีบุคคลในภาพกาลงั ทา, พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและ 374

Reading: ผอู้ ื่นกาลงั ทา, พูดแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นเก่ียวกบั เครื่องแตง่ กาย, Writing: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศและการแต่งกายของบุคคลจาก ภาพ, พดู สนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด, พดู นาเสนอบทกลอนเกี่ยวกบั สภาพอากาศหรือฤดกู าล, พูดอภิปรายเก่ียกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ อ่านเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ, อา่ นออกเสียงบทสนทนา, อ่านเพ่ือจบั ใจความ สาคญั , อา่ นบทกลอน เขียนบรรยายเกี่ยวกบั ฤดกู าลท่ีช่ืนชอบ, เขียนบรรยายกิจกรรมท่ีทาเป็น ประจา และกิจกรรมท่ีกาลงั ทา, เขียนบรรยายภาพสมาชิกในครอบครวั หรือ เพอ่ื น, แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ าหนด, แต่งบทกลอน Limerick, เขียนประโยคเก่ียวกบั แผนการในอนาคตอนั ใกลข้ องตนเอง, เขยี น โปสการ์ดถงึ เพ่อื น, เขยี นเก่ียวกบั ขอ้ ควรปฏิบตั เิ มื่อเกิดภยั พบิ ตั ิทาง ธรรมชาติ 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุง่ มนั่ ในการทางาน 6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) เขียนบรรยายเก่ียวกบั ฤดูกาลทชี่ ื่นชอบ 2) เขยี นบรรยายกิจกรรมทท่ี าเป็นประจา และกิจกรรมท่กี าลงั ทา 3) เขียนบรรยายภาพสมาชิกในครอบครวั หรือเพือ่ น 4) อ่านออกเสียงบทสนทนา 5) แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด 6) พูดสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด 7) อ่านบทกลอน 375

8) คน้ ควา้ บทกลอนภาษาองั กฤษเกี่ยวกบั สภาพอากาศหรือฤดกู าลและพูดนาเสนอ 9) เขยี นโปสการ์ดถึงเพือ่ น 10) ชิ้นงานโปสเตอร์เก่ียวกบั ขอ้ ควรปฏิบตั ิเมอื่ เกิดภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ 7 การวัดและการประเมนิ ผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรียน 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 7.3 การประเมินหลงั เรียน 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 376

1 Reading 6a & Vocabulary 6a 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นและการฟังได้ - พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศและอุณหภูมิของเมืองตา่ ง ๆได้ - พดู ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั การทากิจกรรมได้ - เขียนบรรยายเกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ีชื่นชอบได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/2 ใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา และคาช้ีแจงตามสถานการณ์ ต 1.2 ม. 1/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ฟี ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 377

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์เกี่ยวกบั สภาพอากาศ และการทากิจกรรมตา่ ง ๆ จะช่วยให้เขา้ ใจและบอก รายละเอยี ดของเร่ืองที่อ่านและฟัง นอกจากน้ียงั สามารถนาคาศพั ทท์ ี่เรียนไปใชพ้ ูดและเขียนใหข้ อ้ มูล เก่ียวกบั สภาพอากาศไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และพดู ให้คาแนะนาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Seasons (winter, spring, summer, autumn) Months (January, February, March, April, May, June, July, August, September, October, November, December) Weather (raining, snowing, foggy, hot, cold, cloudy, sunny, warm, windy, freezing, boiling hot, warm, cool, chilly, freezing cold) Activities (go skiing, play computer games, go camping, go kitesurfing, go bowling, go windsurfing, do exercises, go swimming, make a snowman, play basketball) Verbs (sunbathing, swimming, playing beach volleyball, get back, making a snowman, skiing) Nouns (sandcastle, floating market, degrees, Celsius, Fahrenheit) Adjective (freezing cold) Pronoun (others) Functions: Making suggestions Why don’t we play basketball? That’s a good idea. Talking about the weather What’s the weather like in London today? It’s chilly and windy. 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Speaking: พูดให้คาแนะนาเกี่ยวกบั การทากิจกรรม, พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศและอณุ หภมู ิของเมอื งต่าง ๆ 378

Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ฤดูกาลที่ช่ืนชอบ 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. นกั เรียนอา่ นชื่อหน่วยการเรียนรู้ (Weather & Clothes) ในหนงั สือเรียน หนา้ 69 และช่วยกนั บอก ความหมาย จากน้นั ให้นกั เรียนดูหัวขอ้ ต่าง ๆ ท่ีจะไดเ้ รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี 2. Find the page numbers for หน้า 69 นกั เรียนอา่ นคาที่กาหนด แลว้ หาว่าภาพทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั คา เหลา่ น้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแลว้ ครูถามคาถามเพ่อื ดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่ บทเรียน a weather chart (p. 71) What is a weather chart? What does it show? How do you find out about the weather? postcards (p. 70) Why do people send postcards? Do you send postcards when you are on holiday? Who do you send them to? Do you buy postcards when you visit a place? 379

a poem (p. 76) Do you like poems? Can you write poems? What is your favourite poem? Do you learn about poetry at school? clothes (p. 74) What clothes do you like to wear? What are your favourite clothes? What clothes do you wear at school? ข้นั Pre-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 69 Ex. 1 นกั เรียนทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ฤดกู าลและเดือน โดยฟัง CD และ ออกเสียงตามพร้อมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงดว้ ยตนเอง จากน้นั บอกชื่อฤดูกาลและช่ือเดือน เหลา่ น้ีเป็นภาษาไทย แลว้ ครูสุ่มถามนกั เรียนว่า What month is your birthday in? ให้นกั เรียนตอบ My birthday is in … ฤดกู าลในประเทศทางตะวนั ตก เช่น องั กฤษ สกอตแลนด์ อติ าลี มี 4 ฤดกู าล คอื ฤดูใบไมผ้ ลิ (spring) ฤดรู ้อน (summer) ฤดูใบไมร้ ่วง (autumn) และฤดหู นาว (winter) แตใ่ นประเทศไทยมี 3 ฤดกู าล คือ ฤดูร้อน (hot season) ฤดูฝน (rainy season) และฤดหู นาว (cold season) ท่มี า: http://www.vdbakery.com http://www.tourtooktee.com 2. หนงั สือเรียน หน้า 69 Ex. 2 นกั เรียนดภู าพ a-j และบอกสภาพอากาศเป็นภาษาไทย จากน้นั จบั คู่ ประโยค 1-10 กบั ภาพที่สัมพนั ธ์กนั เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพ่ือตรวจคาตอบ แลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้งั ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงประโยคบอกสภาพอากาศ 1c 2f 3i 4h 5a 6 g 7 d 8 e 9 b 10 j 380

3. ครูถามนกั เรียนว่า What’s the weather like? แลว้ เขยี นคาถามบนกระดาน และอธิบายว่าคาถามน้ีใช้ ถามเกี่ยวกบั สภาพอากาศ จากน้นั ครูพูดคาตอบ เช่น It’s cloudy. โดยเขียนคาตอบบนกระดาน และ อธิบายว่าการบอกสภาพอากาศ ให้ใช้ It’s + สภาพอากาศ . 4. หนงั สือเรียน หน้า 69 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนสมมติวา่ ประเทศไทยมี 4 ฤดกู าล คอื winter, spring, summer, autumn แลว้ ครูพูดคุยนกั เรียนเกี่ยวกบั สภาพอากาศดว้ ยการถามคาถาม เช่น What is the weather like outside? Is it usually like this in spring/summer? จากน้นั ใหน้ กั เรียนเติมประโยคทใ่ี ห้ มาใหส้ มบรู ณ์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค 2 warm and sunny 3 hot 4 cloudy 5. หนังสือเรียน หน้า 69 Ex. 4 ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน วา่ What’s the weather like today? ให้ นกั เรียนพูดบอกสภาพอากาศตามความเป็นจริง It’s warm and sunny today. 6. หนังสือเรยี น หน้า 70 Ex. 1 นกั เรียนดขู อ้ ความ A-C แลว้ ครูถามวา่ What are they: letter or postcard? จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคแรกของแตล่ ะโปสการ์ด แลว้ ครูถามว่า Where is Leslie/Emily/Ned? They are postcards. Leslie is in Australia. Emily is in Austria. Ned is in Thailand. ข้นั Reading 1. หนังสือเรียน หน้า 70 Ex. 2 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านโปสการ์ดตามไปดว้ ย เพ่ือจบั คู่ โปสการ์ดกบั ภาพที่สมั พนั ธ์กนั แลว้ ครูเฉลยคาตอบ จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านโปสการ์ดอยา่ งรวดเร็ว เพอ่ื หาประโยคทบ่ี รรยายภาพท้งั 3 ภาพ ไดด้ ีท่สี ุด 381

Picture 1 - B Angela and Ben are making a snowman. Picture 2 - C Cara and Brian are visiting the floating market. Picture 3 - A Laura and Kelly are windsurfing. ตอ่ มาครูถามว่า What is a floating market? ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะของ floating market แลว้ ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งตลาดน้าในประเทศไทย เช่น ตลาดน้าดาเนินสะดวก ตลาดน้าอมั พวา A traditional way of selling and buying fruit, vegetables etc. from small boats.  ตลาดน้าดาเนินสะดวก ต้งั อยทู่ ่ีอาเภอดาเนินสะดวก จงั หวดั ราชบุรี เป็นตลาด เก่าแก่อายกุ ว่าร้อยปี ในอดีตตลาดน้าดาเนินสะดวกเป็นศูนยร์ วมการคา้ ขาย ท้งั ผกั และผลไมต้ ามฤดกู าลจากสวนของชาวบา้ นในแถบน้นั แต่ในปัจจุบนั ไดเ้ ปลย่ี นเป็นก่ึงตลาดบกตลาดน้า เน่ืองจากมกี ารขยายพ้ืนที่มาบนบกดว้ ย จึงสามารถเดินชมสินคา้ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวก ท้งั ของกิน ของใช้ ของทีร่ ะลึก รวมถึงสินคา้ หตั ถกรรม  ตลาดนา้ อัมพวา ต้งั อยทู่ อี่ าเภออมั พวา จงั หวดั สมทุ รสงคราม เป็นตลาดน้า ยามเยน็ มที กุ วนั ศกุ ร์ วนั เสาร์ วนั อาทติ ย์ และวนั หยดุ นกั ขตั ฤกษท์ ่หี ยดุ ตอ่ เนื่อง ในตอนเยน็ ชาวบา้ นจะพายเรือนาสินคา้ เช่น อาหาร ผลไม้ ผกั ขนม ของใช้ มาขายให้กบั นกั ทอ่ งเทีย่ วหรือคนในทอ้ งถ่ินที่สญั จรไปมา ทม่ี า: http://www.thaiticketmajor.com http://www.maeklongtoday.com/tour/floatmarket.php 2. หนังสือเรยี น หน้า 70 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นคาถามทกี่ าหนดให้ แลว้ อา่ นโปสการ์ดเพ่ือหาเน้ือเร่ืองท่ี เก่ียวขอ้ งกบั คาถาม เมอื่ พบแลว้ อ่านใหเ้ ขา้ ใจแลว้ จึงตอบคาถาม จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ 382

1 Leslie is in Australia. 2 Kelly is windsurfing. 3 Leslie is sunbathing. 4 Emily is in Austria. 5 It’s snowing and it’s freezing cold. 6 It’s warm and sunny, but it’s often cloudy and rainy. 7 They are visiting the floating market. 8 Yes, he is. Background information ออสเตรีย (Austria) เป็นประเทศท่อี ยใู่ นทวีปยุโรป มีชายแดนติดกบั ประเทศเยอรมนี สาธารณรฐั เชก็ สโลวาเกีย ฮงั การี สโลวีเนีย อติ าลี และสวิสเซอร์แลนด์ มเี มืองหลวง คือ กรุงเวียนนา ประชาชนใชภ้ าษาเยอรมนั ในการติดต่อสื่อสาร ข้นั Post-reading 1. ครูถามความหมายของคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words โดยใหน้ กั เรียนเดาจากบริบท ถา้ คาใด นกั เรียนไมร่ ู้ ครูช่วยอธิบายหรือให้นกั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม เช่น sunbathe (v) = sitting or lying in the sun to get a suntan (นง่ั หรือนอนอาบแดด) sandcastle (n) = a model of a castle made of wet sand, usually built by children on a beach (ปราสาททราย) freezing cold (adj) = extremely cold (เยน็ มาก ๆ, เยน็ จดั ) floating market (n) = a market where goods are sold from boats (ตลาดน้า) 2. หนงั สือเรียน หน้า 71 Ex. 4 นกั เรียนลอกตารางลงในสมดุ แลว้ เติมขอ้ มูลจากโปสการ์ด หนา้ 70 ลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียน 2 คน ออกมาเตมิ ขอ้ มลู ในตารางบนตาราง ขากน้นั ให้นกั เรียน อีก 2 คน พูดบอกขอ้ มูลของ Leslie และ Emily จากตาราง 383

Name Place Weather Activities Leslie Australia hot/sunny sunbathe Emily Austria snowing/freezing have hot chocolate cold Leslie is in Australia. It’s hot and sunny. She’s sunbathing now. Emily is in Austria. It’s snowing and it’s freezing cold. She’s having a hot chocolate. 2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 44 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั Warm up 1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศ โดยสุ่มเรียกนกั เรียนทีละคนออกมาทาทา่ ทางบอกใบ้ ให้ เพื่อนในช้นั ทายว่าสภาพอากาศเป็นอยา่ งไร เช่น S1: (ทาท่ากางร่ม) What’s the weather like? Ss: It’s raining. 2. ครูถามนกั เรียนว่า How many seasons are there in England/Thailand? What’s your favourite season? ข้นั Presentation 1. ครูสอนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศเพมิ่ เติม ไดแ้ ก่ drizzling, chilly, clear, humid, boiling hot, cool โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู 2 คร้งั จากน้นั ครูอธิบาย ความหมาย drizzle (v) = to rain in small light drops (ฝนตกพรา ๆ) chilly (adj) = too cold to be comfortable (หนาวยะเยือก, หนาวส่นั ) clear (adj) = become brighter and free of cloud or rain (แจ่มใส) humid (adj) = hot and slightly wet (ช้ืน) 384

boiling hot (adj) = extremely hot (ร้อนมาก) cool (adj) = not hot or warm (เยน็ ) 2. ครูเขยี นตวั อยา่ งประโยคทใ่ี ช้ play, go, do กบั กีฬาหรือการทากิจกรรมบนกระดาน เช่น We play football. They play hockey. They go shopping. I go cycling. I do karate. We do aerobics. ใหน้ กั เรียนสังเกตคาศพั ทก์ ีฬาและกิจกรรมที่ตามหลงั play, go, do วา่ เป็นกีฬาหรือกิจกรรมแบบใด แลว้ ครูอธิบายการใช้ play, go, do ตอ่ มาครูยกตวั อยา่ งบนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เติมคาลงในประโยคให้ถูกตอ้ ง เช่น I …. volleyball. I .... badminton. He …. kayaking. You …. athletics. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน แตง่ ประโยคโดยใช้ play, go หรือ do  play ใชก้ บั กีฬาทม่ี ีอปุ กรณ์เป็นลูกบอล หรือเกมการแข่งขนั ที่ตอ้ งมีคู่แขง่ เช่น I play tennis with my friend. (เทนนิสเป็นกีฬาที่ใชล้ ูกบอล จึงใช้ play) I play computer games. (เกมคอมพิวเตอร์เป็นเกมท่ีมคี แู่ ขง่ จึงใช้ play)  go ใชก้ บั กีฬาหรือกิจกรรมท่เี ติม -ing เช่น I go skiing in the winter. I go fishing on Sundays.  do ใชก้ บั การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ศิลปะการตอ่ สู้ หรือกีฬาที่ไมไ่ ดเ้ ล่นเป็นทมี และ ไม่ใชล้ ูกบอล เช่น I do yoga three times a week. (โยคะเป็นการออกกาลงั กาย เพอื่ พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ) I do judo at the weekend. (คาราเตเ้ ป็นกีฬาท่ีไม่ไดเ้ ล่นเป็นทีม) 3. ครูนาเสนอสานวนภาษาที่ใชใ้ นการพูดให้คาแนะนา โดยเขยี นตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน Shall we do exercise? Why don’t we do exercise? Let’s do exercise. 385

ให้นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั แลว้ สังเกตวา่ คาท่ตี ามหลงั Shall we, Why don’t we, Let’s คือคา ประเภทใด (คากริยาช่องท่ี 1) จากน้นั ครูเขียนโครงสร้างบนกระดาน และอธิบายว่าโครงสร้างเหล่าน้ี เป็นการใหค้ าแนะนา Shall we/you + infinitive Why don’t we/you + infinitive Let’s + infinitive 4. ครูบอกนกั เรียนว่า การตอบรบั คาแนะนาสามารถตอบว่า Great./Sure./That’s a good idea. ส่วนการ ปฏเิ สธสามารถตอบวา่ I’m sorry, I can’t./I’m afraid I can’t. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ พดู ใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั การทากิจกรรม เช่น S1: Let’s go fishing. S2: Great. S3: Shall we go swimming? S4: I’m sorry, I can’t. ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 5 ให้นกั เรียนเติม do, play, do หรือ make ใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก นกั เรียนบอกคาตอบ จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงกิจกรรมเหล่าน้ีพร้อมกนั และบอกความหมาย 2 play computer games 3 go camping 4 go kitesurfing 5 go bowling 6 go windsurfing 7 do exercises 8 go swimming 9 make a snowman 10 play basketball จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูผ่ ลดั กนั พูดบอกกิจกรรมในภาพทต่ี นเองทาเป็นบางคร้งั ทาเป็นปกติ และ ไม่เคยทาท้งั ในฤดูร้อนและฤดูหนาว I sometimes go bowling in the winter. I usually go swimming in the summer. I never go camping in winter. 386

2. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 6 นกั เรียนอ่านประโยคในตารางเพอื่ ทบทวนรูปประโยคทใี่ ชใ้ ห้คาแนะนา แลว้ ให้นกั เรียนเลอื กกิจกรรมจาก Ex. 5 มาคนละ 1 กิจกรรม จากน้นั จบั คกู่ บั เพื่อน สมมตวิ า่ ตนเอง อยใู่ นช่วงวนั หยดุ ใหแ้ ต่ละค่ผู ลดั กนั พดู แนะนาเพ่ือนในการทากิจกรรม เมื่อพดู แนะนาคู่ของตน เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเดินไปพูดแนะนาเพือ่ นอกี 2 คน ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และสุ่มเรียก นกั เรียน 3 คู่ ยนื ข้ึนพูดสนทนา A: Let’s go camping. B: I’m sorry, I can’t. A: Why don’t we play basketball? B: That’s a good idea. A: Let’s go kitesurfing. B: Great! A: Shall we go windsurfing? B: I’m afraid I can’t. 3. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 7 ใหน้ กั เรียนดตู ารางสภาพอากาศ ครูถามว่าภาพสัญลกั ษณ์ต่างๆ หมายถึง อะไร แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านช่ือเมืองในตารางพร้อมกนั จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและเติม อุณหภูมทิ ่ีหายไป เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ Dublin 5 Glasgow -5 Vienna 15 ตอ่ มาครูให้นกั เรียน 2 คน อ่านตวั อยา่ งการถาม-ตอบ และใหน้ กั เรียนดูอุณหภูมบิ นเทอร์โมมิเตอร์ ครูอธิบายวา่ อุณหภมู ิ 20°C หมายถึงสภาพอากาศ warm และสัญลกั ษณด์ วงอาทิตย์ หมายถงึ sunny ดงั น้นั เราจึงรู้ว่า Athens มสี ภาพอากาศ warm and sunny จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั พดู ถาม-ตอบสภาพอากาศและอณุ หภูมใิ นแต่ละเมือง ครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียน 7 คู่ ยืนข้นึ พดู ถาม-ตอบสภาพอากาศและอณุ หภูมิของเมอื งท่เี หลือ A: What’s the weather like in London today? B: It’s chilly and windy. A: What’s the temperature in London today? B: It’s 10°C./It’s 50°F. It’s chilly. 387

A: What’s the weather like in Dublin today? B: It’s cold and cloudy. A: What’s the temperature in Dublin today? B: It’s 5°C./It’s 41°F. It’s cold. etc. Background information  องศาเซลเซียส (degree Celsius) ใชส้ ัญลกั ษณ์ °C เป็นหน่วยวดั อุณหภูมิหน่วยหน่ึง ซ่ึงกาหนดให้จดุ เยือกแขง็ ของน้า คือ 0°C และจดุ เดือด คือ 100°C หน่วยวดั น้ีต้งั ชื่อ ตามนกั ดาราศาสตร์ชาวสวีเดน แอนเดอร์ เซลเซียส (Anders Celsius)  องศาฟาเรนไฮต์ (degree Fahrenheit) ใชส้ ัญลกั ษณ์ °F เป็นหน่วยวดั อุณหภมู ิ หน่วยหน่ึง มจี ดุ เยอื กแข็งอยทู่ ี่ 32°F และมีจดุ เดือดท่ี 212°F หน่วยวดั น้ีต้งั ช่ือตาม นกั ฟิสิกส์ชาวเยอรมนั กาเบรียล ฟาเรนไฮต์ (Gabriel Fahrenheit) ทีม่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/ ข้นั Production 1. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 8 นกั เรียนอ่านคาถามในคาส่งั พร้อมกนั แลว้ ครูให้เวลานกั เรียนเตรียม คาตอบ จากน้นั ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียน 3-4 คน เช่น T: What’s your favourite season? S1: My favourite season is summer. T: What is the weather like during that season? S1: It’s hot and sunny. T: What do you usually do? S1: I usually go swimming in the sea. จากน้นั ให้นกั เรียนนาคาตอบมาเขียนบรรยายเก่ียวกบั ฤดกู าลทีช่ ื่นชอบ เม่ือเขยี นเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก นกั เรียน 4-5 คน อา่ นให้เพื่อนในช้นั ฟัง My favourite season is summer. The weather is hot and sunny. I usually go swimming in the sea or I go camping on the beach. 388

2. นกั เรียนทา Language Review 6a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 ร่วมกนั ในช้นั 3. ครูให้นกั เรียนเตรียมภาพบุคคลกาลงั ทากิจกรรมต่าง ๆ มาคนละ 2 ภาพ โดยอาจจะหาภาพจาก หนงั สือพมิ พ์ นิตยสาร หรืออินเทอร์เน็ตก็ได้ เพื่อใชท้ ากิจกรรมในชว่ั โมงถดั ไป 4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 44-45 Exs. 3-10 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน แบบทดสอบ ร้อยละ 60 วิธีการวดั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ การฟัง สงั เกตการพูดใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั การ แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ทากิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน สังเกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อนั พงึ ประสงค์ สภาพอากาศและอุณหภมู ิของเมือง ตา่ ง ๆ ประเมนิ เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ฤดูกาล ท่ชี ื่นชอบ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 389

2 Grammar 6b 2 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีบุคคลในภาพกาลงั ทาได้ - พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและผอู้ ่นื กาลงั ทาได้ - เขยี นบรรยายกิจกรรมที่ทาเป็นประจาและกิจกรรมที่กาลงั ทาโดยใช้ Present simple และ Present continuous ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธ์กบั ส่ือทไี่ ม่ใช่ความเรียง (non-text information) ที่อา่ น มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 390

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจโครงสร้างภาษา (Present simple - Present continuous) ช่วยให้สามารถพดู ขอและ ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง สมาชิกในครอบครัว และบุคคลอ่ืนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Grammar: Present continuous Present simple - Present continuous Functions: Talking about activities that people doing What are they doing? They are playing football. Pronunciation: /ɪŋ/ reading, watching, going, eating, swimming, playing, making, running 2) Language Skills Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมทบี่ คุ คลในภาพกาลงั ทา, พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและผอู้ นื่ กาลงั ทา Writing: เขยี นบรรยายกิจกรรมทท่ี าเป็นประจา และกิจกรรมทกี่ าลงั ทา 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 391

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศ ฤดกู าล และเดือน ดว้ ยการใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Beginning with โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี จากน้นั ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะทมี ช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ่ี ข้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรท่คี รูบอก เช่น T: Can you tell me the weather beginning with W? Team A Team A: Windy T: Can you tell me the month beginning with D? Team B Team B: December ข้นั Presentation 1. ครูถามนกั เรียนว่า What are you doing? แลว้ เขียนตวั อยา่ งคาตอบบนกระดาน เช่น I am studying English. I am writing. I am reading. ครูอธิบายวา่ การบอกส่ิงที่กาลงั เกิดข้นึ ในขณะทพี่ ดู เราจะใช้ Present continuous จากน้นั ใหน้ กั เรียน ดปู ระโยคบนกระดาน โดยครูขีดเสน้ ใต้ am studying, am writing, am reading เพื่อให้นกั เรียนสรุป โครงสร้าง Present continuous คอื verb to be + verb -ing ตอ่ มาครูเขียนประโยคปฏิเสธขา้ งหลงั ประโยคบอกเล่า I am not studying English. I am not writing. I am not reading. และถามนกั เรียนวา่ จะทาเป็นประโยคปฏเิ สธอยา่ งไร (เติม not หลงั verb to be)โดยครูขีดเสน้ ใต้ am not studying, am not writing, am not reading จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-5 คน ให้พูดบอกส่ิงท่ตี นเองกาลงั ทา (ให้สมมตสิ ่ิงทก่ี าลงั ทา) เช่น T: What are you doing now? S1: I’m sending an email. 392

2. ครูเขียนคากริยาที่เตมิ -ing บนกระดาน เช่น doing, working และบอกนกั เรียนว่า -ing ทา้ ยคากริยาจะ ออกเป็นเสียง /ɪŋ/ แลว้ ออกเสียงให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม 3. ครูอธิบายหลกั การเตมิ -ing ทา้ ยคากริยา แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งเพ่มิ เตมิ  คากริยาทวั่ ไปจะเติม -ing ทา้ ยคากริยาไดเ้ ลย เช่น read - reading  คากริยาทีล่ งทา้ ยดว้ ย -e ให้ตดั -e ออก และจึงเติม -ing เช่น drive - driving  คากริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ยสระเสียงส้นั + ตวั สะกด ให้เพิม่ ตวั สะกดอีก 1 ตวั แลว้ จึงเตมิ -ing เช่น sit - sitting 4. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นหลกั การใชแ้ ละตวั อยา่ งประโยค Present continuous และ หลกั การเติม -ing ทา้ ยคากริยา เพื่อทบทวนความเขา้ ใจ แลว้ ช่วยกนั สรุปว่าจะสร้างประโยค Present continuous อยา่ งไร We form the present continuous with: subject pronoun/noun + verb to be + main verb + -ing. 5. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งประโยค Present continuous แลว้ ช่วยกนั สรุปวา่ จะ สร้างประโยค Present continuous รูปปฏิเสธอยา่ งไร จากน้นั ให้นกั เรียนอธิบายความหมายของ ตวั อยา่ งประโยคสีฟ้าเป็นภาษาไทย We form the negative form of the present continuous with: subject pronoun/noun + verb to be + not/n’t + main verb + -ing. ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 72 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนใชค้ าทก่ี าหนดให้แต่งประโยค Present continuous เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค โดยครูและนกั เรียนในช้นั ร่วมกนั ตรวจคาตอบ จากน้นั ครูถามว่าประโยคทีน่ กั เรียนแต่งเหล่าน้ีใชบ้ รรยายฤดูกาลใดไดด้ ีทีส่ ุด (summer) 393


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook