Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเรียนรู้ออนไลน์ ม.ปลาย 2-63

คู่มือการเรียนรู้ออนไลน์ ม.ปลาย 2-63

Published by Natnicha, 2021-05-06 01:57:59

Description: คู่มือการเรียนรู้ออนไลน์ ม.ปลาย 2-63

Search

Read the Text Version

บทเรียนออนไลน์ที่ 5 434 436 วิชา ความน่าจะเป็น (พค32005) ม.ปลาย 10. ผสู้ มัครมิสทนี ไทยแลนด์ จำนวน 100 คน พบว่ามีผู้สมัครท่ีมคี วามสามารถพิเศษรำไทย จำนวน 50 คน ร้องเพลงจำนวน 45 คน เล่นดนตรีจำนวน 30 คน ผู้สมคั รที่รำไทยและร้องเพลงไดจ้ ำนวน 15 คน รำไทยและเล่าดนตรีจำนวน 10 คน รอ้ งเพลงผสู้ มัครทมี่ ีความสามารถทง้ั สามอย่างมี 5 คน ถา้ สุม่ ใบสมัครมา 1 ใบ ความน่าจะเป็นท่ีได้ใบสมัครของผทู้ ี่สามารถรำไทยหรือร้องเพลงหรือเล่า ดนตรี มีคา่ เทา่ กับข้อใดต่อไปน้ี ก. 0.80 ข. 0.85 ค. 0.90 ง. 0.95

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 5 435 437 วชิ า ความนา่ จะเปน็ (พค32005) ม.ปลาย เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน เรอื่ ง กฎทีส่ ำคญั บางประการของความน่าจะเปน็ 1. ข 2. ค 3. ข 4. ข 5. ง 6. ก 7. ง 8. ง 9. ข 10. ก

438 436 ตารางวเิ คราะห์เนื้อหารายวิชาการพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ อช32001 ระดับ ม.ปลาย จำนวน 3 หนว่ ยกิต จำนวน120 ชวั่ โมง ที่ หัวเรอ่ื ง จำนวน ระดบั ความยากงา่ ย (ชวั่ โมง) งา่ ย ปานกลาง ยาก 1 การวิเคราะหแ์ ผนและโครงการพัฒนาอาชพี ให้มรี ายได้ 5✓ มีทุนในการขยายอาชีพ 1. ความสมั พันธ์ของเหตผุ ลของแผนและโครงการกับการมี รายได้ มเี งินออม และมีทนุ ในการขยายอาชพี 2. ความสมั พันธ์ของเปา้ หมายของแผนและโครงการกับ การมรี ายได้ มเี งนิ ออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ 3. ความสัมพนั ธข์ องวัตถุประสงค์ของแผนและโครงการกบั การมีรายได้ มีเงินออมและมีทนุ ในการขยายอาชีพ 4. วิเคราะหของวิธกี าร และขน้ั ตอนของแผนและโครงการ กับการมีรายได้ มเี งนิ ออมและมีทนุ ในการขยายอาชีพ 2 การทบทวนองคค์ วามรู้ ทจี่ ำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพ 15 ✓ ใหม้ รี ายได้ มีเงินออม และมีทุนในการขยายอาชีพ 1. การทบทวนองค์ความรู้ท่จี ำเป็นต้องใชใ้ นการเรยี นรู้ พัฒนา อาชพี ให้มีรายได้ มีเงินออมและมีทนุ ในการขยายอาชพี 2. การจดั ลำดับความสำคญั จาํ เปน ของความรทู ใ่ี ชในการ เรียนรู้พฒั นาอาชพี ใหม่ ีรายไดม้ เี งินออมและมีทุนในการ ขยายอาชพี 3. การตดั สนิ ใจเลือกความรู้ที่จำเปน็ ตอ้ งใช้ในการเรียนรู้พัฒนา อาชีพให้มีรายได้ มีเงินออม และมีทุนในการขยายอาชีพ

439 437 ตารางวิเคราะห์เน้อื หารายวิชาการพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ อช32001 ระดับ ม.ปลาย จำนวน 3 หน่วยกิต จำนวน120 ชวั่ โมง ท่ี หวั เรอื่ ง จำนวน ระดับความยากงาน (ช่ัวโมง) ง่าย ปานกลาง ยาก 4. การระบุความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนรู้พัฒนา ✓ อาชีพ ให้มรี ายได้ มีเงนิ ออมและมีทนุ ใน การขยายอาชีพ ✓ 5. การแสวงหาความรู้และจัดทำระบบสารสนเทศของ ✓ ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนรู้พัฒนาอาชีพให้มี รายได้ มเี งนิ ออมและมีทนุ ในการขยายอาชพี 3 การระบทุ ักษะในความรู้ ท่ีจำเป็นตอ้ งฝกึ เพิ่มเติมเพ่ือ 10 การมีรายได้ มเี งนิ ออม และมีทนุ ในการขยายอาชพี 1. ทักษะท่มี ีความจำเปน็ ต้องฝกึ เพ่ิมเติมเพื่อการมรี ายได้ มเี งนิ ออม และมีทุนในการขยายอาชีพ 4 การพฒั นาระบบการผลติ 20 1. ปัจจยั การผลิต เช่น ทนุ เคร่ืองมือ แรงงาน การประกอบการ และการจัดการ 2. ขัน้ ตอนการผลิต 3. ผลผลติ ท่ีคาดหวงั ตอ่ การมีรายได้ มีเงินออมและมีทุนใน การขยายอาชีพ 5 การวิเคราะห์การตลาด 30 1. ความต้องการผลติ ภัณฑ์ และการควบคุมคุณภาพ 2. ช่องทางการตลาด 3. การส่งเสรมิ การขาย 4. การจดบนั ทึกการขาย

440 438 ตารางวิเคราะห์เน้ือหารายวิชาการพฒั นาแผนและโครงการอาชพี อช32001 ระดับ ม.ปลาย จำนวน 3 หน่วยกติ จำนวน120 ชั่วโมง ท่ี หัวเร่ือง จำนวน ระดบั ความยากงา่ ย (ชั่วโมง) ง่าย ปานกลาง ยาก 6 การพัฒนาระบบการบญั ชี ✓ 1. การจดบนั ทึกเพอื่ ระบุกลมุ่ เป้าหมาย 20 2. การจดบนั ทกึ เพอื่ ระบผุ ลติ ภณั ฑ์ท่ีตลาดต้องการ ✓ 3. การวเิ คราะห์รายรับ รายจ่าย 20 4. การพฒั นาระบบบัญชี 120 7 การพัฒนาแผนและโครงการพัฒนาอาชพี ให้มรี ายได้ และเหลือเงินออม 1. การพัฒนาแผนและโครงการพัฒนาอาชีพตามผลการ วิเคราะห์ - แผนและโครงการพฒั นาอาชีพ - องค์ความรู้ - ทักษะในความรู้ - การตลาด - การผลติ - ระบบการบญั ชี รวม

439 441 การวดั ผลประเมินผล บทเรียน กจิ กรรม คะแนน ออนไลน์ท่ี 1 ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาจากบทเรยี นออนไลน์ - เร่ือง การวิเคราะห์แผนและโครงการพฒั นาอาชพี ใหม้ รี ายได้ มีเงินออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ, การระบทุ ักษะในความรู้ทจ่ี ำเป็นต้องฝกึ เพิม่ เติมเพ่ือ การมีรายได้มเี งินออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ, การพัฒนา ระบบการบัญชี และสรปุ ความรทู้ ไี่ ดล้ งในสมุดบนั ทึกการเรียนรู้ 2 กิจกรรมที่ 2 เร่อื ง การทบทวนองค์ความรู้ท่ีจำเปน็ ต่อการพฒั นาอาชีพให้ 10 มีรายได้ มเี งนิ ออมและมีทนุ ในการขยายอาชพี (5 คะแนน) แบบทดสอบ หลงั เรียน (5 คะแนน) 3 กิจกรรมท่ี 3 เร่ือง การพฒั นาระบบการผลติ (5 คะแนน) แบบทดสอบ 10 หลงั เรียน (5 คะแนน) 4 กิจกรรมท่ี 4 เรื่อง การวิเคราะห์การตลาด (5 คะแนน) แบบทดสอบหลงั 10 เรยี น (5 คะแนน) 5 กิจกรรมท่ี 5 เร่ือง การพัฒนาแผนและโครงการพัฒนาอาชีพใหม้ รี ายได้ 10 มีเงินออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ (5 คะแนน) แบบทดสอบหลังเรยี น (5 คะแนน) รวมคะแนนเก็บระหว่างภาค 40 สอบระหวา่ งภาค 20 สอบปลายภาค 40 รวม 100

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช32001 จำนวน 3 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หวั เรอ่ื ง วตั ถุประสงค์เชิง กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง ออนไลน์ พฤตกิ รรม ชว่ั โมง ประเมินผล ที่ 1 บทที่ 1 1.วิเคราะหเ์ หตผุ ลของ 1. ผู้เรียนศึกษาเรียนรู้จากสื่อ 35 1.หนังสอื เรยี น บทเรยี น - 1. สามารถวิเคราะห์ การวเิ คราะหแ์ ผนและ แผนและโครงการกับ บทเรียนออนไลน์ที่ 1 Google site ชว่ั โมง วิชา การพฒั นา ออนไลนท์ ่ี ความสมั พนั ธ์เหตุผลของแผน 440 โครงการพัฒนาอาชพี ให้มี การมีรายได้ มีเงนิ ออม วิชาการพัฒนาแผนและโครงการ แผนและ 1 และโครงการกับการมีรายได้ 442 รายได้ มีเงนิ ออม และมีทนุ และมีทุนในการขยาย อาชพี อช32001 โครงการอาชีพ มีเงินออมและมีทุนในการ ในการขยายอาชีพ อาชพี เร่อื งการวเิ คราะห์แผนและโครงการ ขยายอาชีพได้ 1. ความสมั พนั ธ์ของ 2. วิเคราะหเ์ ป้าหมาย พฒั นาอาชีพใหม้ ีรายได้ มีเงินออม 2. สามารถวิเคราะห์ เหตุผลของแผนและ ของแผนและโครงการ และมีทนุ ในการขยายอาชีพ เปา้ หมายของแผนและ โครงการกับการมรี ายได้ กบั การมีรายได้ มเี งนิ 1. ความสัมพนั ธข์ องเหตผุ ลของแผน โครงการกบั การมรี ายได้ มี มีเงนิ ออม และมีทุนใน ออมและมที ุนในการ และโครงการกับการมรี ายได้ มีเงนิ เงนิ ออมและมที ุนในการ การขยายอาชีพ ขยายอาชีพ ออม และมีทุนในการขยายอาชพี ขยายอาชีพได้ 2. ความสัมพนั ธข์ อง 2. ความสมั พนั ธ์ของเป้าหมายของ 3. สามารถวิเคราะห์ เปา้ หมายของแผนและ แผนและโครงการกบั การมีรายได้ มี วัตถปุ ระสงค์ของแผนและ โครงการกับการมรี ายได้ เงินออม และ มีทุนในการขยาย โครงการกบั การมีรายได้ มี มเี งินออม และมีทนุ ใน อาชพี เงินออมและมที ุนในการ การขยายอาชพี ขยายอาชีพได้

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชพี (อช32001) ม.ปลาย แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรูร้ ายวิชาออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรียน หวั เรอ่ื ง วัตถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ออนไลน์ ชัว่ โมง ประเมนิ ผล 4. สามารถวเิ คราะห์ ที่ วธิ กี ารและข้ันตอนของ แผนและโครงการกบั การ 1 3. ความสัมพนั ธข์ อง 3. วเิ คราะห์วตั ถปุ ระสงค์ 3. ความสมั พันธ์ของวัตถปุ ระสงค์ 2.บทเรยี น มรี ายได้ มเี งินออมและมี 441 ทุนในการขยายอาชีพได้ วตั ถุประสงค์ของแผน ของแผนและโครงการกับ ของแผนและโครงการกบั การมี ออนไลนท์ ่ี 1 443 และโครงการกบั การ การมีรายได้ มเี งนิ ออมและ รายได้ มีเงินออมและมที ุนในการ Google site วิชา มรี ายได้ มีเงนิ ออม มที นุ ในการขยายอาชีพ ขยายอาชีพ พฒั นาแผนและ และมีทุนในการขยาย 4. วิเคราะห์วธิ กี ารและ 4. วเิ คราะหว์ ิธีการและขนั้ ตอน โครงการอาชีพ อาชีพ ขั้นตอนของแผนและ ของแผนและโครงการสมั พนั ธต์ ่อ 4. วเิ คราะหว์ ธิ ีการ โครงการกับการมีรายได้ มี การมีรายได้ มีเงินออมและมที นุ และขนั้ ตอนของแผน เงนิ ออมและมีทนุ ในการ ในการขยายอาชพี และโครงการสมั พนั ธ์ ขยายอาชีพ ต่อการมีรายได้ มเี งิน ออมและมีทนุ ในการ ขยายอาชพี

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูร้ ายวชิ าออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หวั เร่ือง วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สอื่ การเรยี นรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง ออนไลน์ ช่ัวโมง ประเมินผล 1. สามารถระบทุ ักษะที่มี ท่ี ความจำเป็นตอ้ งฝกึ เพิม่ เติมเพ่ือการมีรายได้ 1 บทที่ 3 เรอื่ งการระบุ 1. ระบทุ ักษะที่มีความ 1. ผู้เรียนศึกษาเรียนรจู้ ากสื่อ มเี งนิ ออมและมีทุนในการ ขยายอาชีพได้ ทักษะในความรทู้ ่ี จำเป็นตอ้ งฝึกเพ่ิมเตมิ เพอ่ื บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 Google site 442 จำเปน็ ต้องฝึกเพมิ่ เติม การมรี ายไดม้ ีเงินออมและมี วิชาการพัฒนาแผนและโครงการ เพอ่ื การมรี ายได้มีเงินออทมุนในการขยายอาชีพ อาชพี อช32001 444 และมที ุนใน เรอื่ ง การระบุทักษะในความรู้ท่ีจำเป็นต้อง การขยายอาชีพ ฝึกเพมิ่ เติมเพ่ือการมี 1. ทกั ษะทมี่ ีความ รายได้มีเงนิ ออมและมที ุนในการ จำเปน็ ตอ้ งฝึกเพ่มิ เติม ขยายอาชีพ เพือ่ การมีรายได้ มเี งิน ออม และมีทนุ ในการ ขยายอาชีพ

บทเรียนออนไลน์ที่ 1 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ายวชิ าออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรียน วตั ถปุ ระสงค์เชงิ พฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน ส่ือการเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั ออนไลน์ หวั เร่ือง ช่วั โมง ประเมนิ ผล 1. สามารถวิเคราะห์การจด ท่ี 1. วิเคราะหก์ ารจดบันทึกเพ่ือ 1. ผูเ้ รยี นศกึ ษาเรียนรจู้ ากสื่อ บันทึกเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมาย 443 1 บทที่ 6 เรอ่ื งการ ระบกุ ลุ่มเปา้ หมายเพ่อื ขยาย บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 Google site เพ่ือขยายการตลาดได้ การตลาดได้ วิชาการพัฒนาแผนและโครงการ 2. สามารถวิเคราะห์การจด 445 พฒั นาระบบการ 2. วเิ คราะหก์ ารจดบันทึกเพอ่ื อาชีพ อช32001 เร่ือง พฒั นา บันทึกเพื่อระบุผลิตภัณฑ์ที่ บญั ชี ระบุผลติ ภัณฑท์ ่ี ระบบการบญั ชี ตลาดตอ้ งการได้ 1. การจดบนั ทึก ตลาดตอ้ งการได้ 1. การจดบันทึกเพ่อื ระบบ 3. สามารถวิเคราะห์รายรบั 3. วิเคราะหร์ ายรับรายจ่าย กลุม่ เป้าหมาย รายจา่ ยเพ่ือลดรายจ่ายเพิ่มได้ เพ่อื ระบุ เพือ่ ลดรายจา่ ยเพ่ิมรายได้ 2. การจดบันทึกเพือ่ ระบุ 4. สามารถบอกวธิ กี ารพัฒนา กลุม่ เปา้ หมาย 4. บอกวิธีการพฒั นาระบบ ผลติ ภณั ฑ์ที่ตลาดต้องการ ระบบบญั ชีได้ บญั ชไี ด้ 3. การวเิ คราะหร์ ายรับ รายจ่าย 2. การจดบนั ทกึ 4. การพฒั นาระบบบัญชี 2. ผู้เรยี นทำบทเรียนออนไลน์ท่ี 1 เพือ่ ระบุ ผลิตภณั ฑท์ ต่ี ลาด ตอ้ งการ 3. การวเิ คราะห์ รายรับ รายจา่ ย 4. การพัฒนา ระบบบญั ชี

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชพี (อช32001) ม.ปลาย แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรียน หัวเรอื่ ง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื การเรียนรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง ชว่ั โมง ประเมินผล ออนไลน์ ท่ี 2 บทท่ี 2 1. ทบทวนระบุความรทู้ ี่ 1. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 15 1.หนังสอื เรียน บทเรยี น ช่อง1 1. สามารถทบทวนระบุความร้ทู ่ี ชั่วโมง วชิ า การพฒั นา เรือ่ ง การ จำเป็นต้องใช้ในการเรียนรพู้ ัฒนา 2. ผูเ้ รียนศกึ ษาเรียนรู้จากสื่อ แผนและ ออนไลน์ที่ 2 กิจกรรมที่ 2 จำเป็นต้องใชใ้ นการเรียนรู้พัฒนา ทบทวนองค์ โครงการอาชพี (5คะแนน) อาชีพให้มีรายได้ มีเงินออมและมี อาชีพใหม้ ีรายได้ มีเงินออมและมี บทเรียนออนไลน์ที่ 2 Google site แบบทดสอบ 444 ความร้ทู จี่ ำเปน็ หลงั เรยี น ทุนในการขยายอาชีพ วิชา การพัฒนาแผนและโครงการ (5คะแนน) ทุนในการขยายอาชีพได้ 446 ตอ่ การพฒั นา 2. สามารถจดั ลำดบั ความสำคัญ อาชพี ให้มี 2. จัดลำดับความสำคญั อาชพี อช32001 เรื่อง การ จำเปน็ ของความรู้ที่ใชใ้ นการ จำเป็นของความรทู้ ี่ใชใ้ นการ ทบทวนองคค์ วามร้ทู จี่ ำเป็นต่อ รายได้ มเี งนิ เรียนรพู้ ัฒนาอาชีพให้มีรายได้ การพัฒนาอาชพี ใหม้ รี ายได้ มี 2.บทเรียน เรียนรพู้ ัฒนาอาชีพให้มีรายได้ มี ออนไลนท์ ี่ 2 เงินออมและมีทนุ ในการขยาย ออมและมีทนุ ใน มีเงินออมและมีทุนในการ เงนิ ออมและมที นุ ในการขยาย Google site อาชีพได้ วชิ า พฒั นาแผน 3. สามารถตดั สนิ ใจเลือกความรู้ การขยายอาชพี ขยายอาชีพ อาชีพ และโครงการ ทจ่ี ำเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ อาชพี พฒั นาอาชีพให้มรี ายได้ มเี งนิ 1. การทบทวน 3. ตดั สินใจเลอื กความรู้ที่ 1. การทบทวนองคค์ วามรู้ที่ ออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ องค์ความรทู้ ี่ จำเป็นตอ้ งใช้ในการเรียนรู้ จำเปน็ ต้องใช้ในการเรียนรู้ จำเป็นตอ้ งใชใ้ น พัฒนาอาชีพให้มีรายได้ มีเงิน 2. การจัดลำดับความสำคัญ / การเรยี นรู้ ออมและมที ุนในการขยาย จำเป็นขององค์ความรแู้ นว อาชพี ทางการจัดกจิ กรรมการศึกษา ได้ เพื่อพฒั นาอาชพี

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรรู้ ายวชิ าออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ อช 32001 จำนวน 3 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วัตถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สื่อการ การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวัง ออนไลน์ ช่วั โมง เรียนรู้ ประเมนิ ผล 2. การจดั ลำดับ 4. สามารถระบุความรู้ที่ ที่ ความสำคญั / 4. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนระบคุ วามรู้ท่ี 3. การตัดสนิ ใจเลอื กความรู้ท่ีจำเปน็ ตอ้ ง จำเป็นต้องใช้ในการเรียนรู้ จำเป็นขององค์ จำเปน็ ตอ้ งใช้ในการเรียนรูพ้ ัฒนา ใช้ แนวความคดิ ทางการตลาด พฒั นาอาชีพให้มีรายได้ 2 ความรู้แนว อาชพี ให้มรี ายได้ มเี งนิ ออมและ มีเงินออมและมีทุนในการ ทางการจัด มที ุนในการขยายอาชีพได้ 4. ระบุความรู้ทีจ่ ำ เป็นตอ้ งใช้ในการ ขยายอาชีพได้ กิจกรรมการศกึ ษา 5. เพอื่ ให้ผเู้ รียนแสวงหาความรู้ เรยี นรพู้ ฒั นาอาชีพให้มีรายได้มีเงนิ ออม 5. สามารถแสวงหาความรู้ 445 เพ่อื พัฒนาอาชพี จดั เปน็ ระบบสารสนเทศของ และมีทนุ ในการขยายอาชีพได้ จัดเป็นระบบสารสนเทศของ 3. การตดั สนิ ใจ ความรู้ทจ่ี ำเปน็ ต้องใชใ้ นการ 5. แสวงหาความรู้จัดเป็นระบบ ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการ 447 เลือกความรู้ท่ี เรียนรู้พฒั นาอาชีพให้มีรายได้ สารสนเทศของความรู้ท่ีจำ เป็นตอ้ งใช้ เรี ยนร ู ้ พ ั ฒนาอาช ี พให ้ มี จำเปน็ ตอ้ งใช้ มีเงินออมและมที ุนในการขยาย รายได้ มเี งินออมและมีทุนใน แนวความคดิ ทาง อาชพี การเรยี นร้พู ัฒนอาชีพใหมร่ ายไดม้ เี งิน การขยายอาชพี ได้ การตลาด ออมและมที นุ ในการขยายอาชพี 4. ระบุความรทู้ จ่ี ำ เปน็ ตอ้ งใช้ในการ 3. ผู้เรียนทำกิจกรรมท่ี 2 เรื่อง การ ทบทวนองค์ความรู้ท่จี ำเป็นต่อการพัฒนา อาชีพให้มีรายได้ มีเงนิ ออมและมีทุนใน การขยายอาชีพ

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรียน วตั ถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน สือ่ การ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั ออนไลน์ หวั เรอื่ ง ช่วั โมง เรียนรู้ ประเมินผล ท่ี 4. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 446 เรยี นรูพ้ ัฒนาอาชีพ 448 ให้มีรายได้มเี งิน ออมและมที ุนใน การขยายอาชพี ได้ 5. แสวงหาความรู้ จัดเปน็ ระบบ สารสนเทศของ ความรทู้ ีจ่ ำเปน็ ต้องใช้ การเรยี นรู้ พฒั นาอาชพี ให้มี รายได้มเี งินออม และมีทนุ ในการ ขยายอาชพี

บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ายวชิ าออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วตั ถุประสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน ส่ือการเรียนรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรู้ที่ ออนไลน์ พฤติกรรม ช่วั โมง ประเมินผล คาดหวัง ที่ 3 บทที่ 4 1. วเิ คราะห์ปจั จัยการ 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 20 1.หนงั สือเรียนวชิ า บทเรียน ช่อง2 1. สามารถวเิ คราะห์ การพัฒนาระบบ ผลติ ตามความต้องการ 2. ผูเ้ รยี นศกึ ษาเรียนรู้จากสื่อบทเรยี น ชว่ั โมง การพัฒนาแผนและ ออนไลน์ที่ 3 กิจกรรมท่ี 3 ปัจจัยการผลิตตาม การผลิต และคณุ ภาพของตลาด ออนไลน์ท่ี 3 Google Site วชิ าการ (5คะแนน) ความตอ้ งการและ 1. ปัจจัยการผลิต ได้ พัฒนาแผนและโครงการอาชีพ อช32001 โครงการอาชีพ แบบทดสอบ 447 2. ระบุกระบวนการผลิต เรือ่ ง การพัฒนาระบบการผลิต หลังเรียน 2. ขนั้ ตอนการผลิต ใหผ้ ลติ ภัณฑ์มีคุณภาพ - ปจั จัยการผลติ (5คะแนน) คุณภาพของตลาดได้ 449 2. สามารถระบุ ความหมายและ กระบวนการผลติ ให้ ความสำคญั ของ ตามความต้องการของ - ข้ันตอนการผลติ ความหมายและ 2.บทเรียนออนไลน์ ผลิตภัณฑม์ คี ณุ ภาพ คณุ ภาพ ตลาดได้ ความสำคญั ของคณุ ภาพ ที่ 3 Google site ตามความต้องการ 3. ผลผลติ ทค่ี าดหวงั 3. ระบผุ ลผลิตทพ่ี อเพยี ง - ผลผลติ ทีค่ าดหวังต่อการมีรายได้ มีเงิน วิชา พัฒนาแผน ของตลาดได้ ต่อการมรี ายได้ มีเงนิ ตอ่ การมรี ายได้ มีเงิน ออมและมีทุนในการขยายอาชีพ และโครงการอาชีพ 3. สามารถระบุ ออมและมีทนุ ในการ ออมและมที ุนในการ การวางแผนกำลังการผลติ ผลผลติ ท่ีพอเพยี งต่อ ขยายอาชีพการ ขยายอาชีพ 3. ผูเ้ รียนทำกจิ กรรมที่ 3 เร่ือง การพัฒนา การมรี ายได้ มีเงนิ วางแผนกำลังการ ระบบการผลติ ออมและมีทุนในการ ผลิต 4. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ขยายอาชีพได้

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 4 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้รู ายวชิ าออนไลน์ รายวิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช 32001 จำนวน 3 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรียน หวั เรือ่ ง วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน ส่อื การเรียนรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ท่ี ออนไลน์ ชัว่ โมง ประเมินผล คาดหวงั บทที่ 5 ช่อง3 ที่ เรอื่ ง การ 1.ระบุความต้องการผลติ ภณั ฑ์ 1. ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 30 1.หนงั สอื เรียนวชิ า บทเรยี น 1. สามารถระบุความ วเิ คราะห์ ชั่วโมง การพฒั นาแผน ออนไลนท์ ่ี กจิ กรรม ต้องการผลิตภณั ฑ์ 4 การตลาด (5คะแนน) และคณุ ภาพตาม 1. ความตอ้ งการ และโครงการอาชีพ 4 ความตอ้ งการของ ผลติ ภัณฑ์และ และคณุ ภาพตามความต้องการ 2. ผูเ้ รยี นศกึ ษาเรียนรู้จากสื่อบทเรียน และ ลกู คา้ ได้ การควบคมุ 2.บทเรียน แบบทดสอบ 2. สามารถระบุกลุ่ม คุณภาพ ของลกู คา้ ได้ ออนไลนท์ ่ี 4 Google Site วชิ าการ ออนไลน์ที่ 4 หลังเรยี น ลกู ค้าชอ่ งทางตลาด 448 2. ชอ่ งทาง Google site วชิ า (5คะแนน) ได้ การตลาด 2. ระบกุ ล่มุ ลกู ค้าช่องทาง พัฒนาแผนและโครงการอาชีพ พฒั นาแผนและ 3. สามารถอธบิ าย 450 3. การสง่ เสรมิ โครงการอาชีพ วธิ กี ารส่งเสริมการ การขาย ตลาดได้ อช32001 เร่ือง การวิเคราะห์ ขายได้ 4. การจดบันทึก 4. สามารถจดบนั ทกึ การขาย 3. อธบิ ายวิธีการส่งเสริมการ การตลาด การขายเพื่อขยาย กลมุ่ ลกู คา้ ได้ ขายได้ 1. ความต้องการผลติ ภณั ฑ์ 4. จดบนั ทกึ การขายเพ่ือขยาย และการควบคมุ คณุ ภาพ กลุ่มลกู ค้าได้ 2. ชอ่ งทางการตลาด 3. การสง่ เสริมการขาย 4. การจดบันทึกการขาย 3. ผ้เู รียนทำกิจกรรมที่ 4 เร่ือง การ วเิ คราะห์การตลาด 4. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 5 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรรู้ ายวิชาออนไลน์ รายวชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ อช32001 จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิง กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สื่อการเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ที่ ออนไลน์ พฤติกรรม ประเมนิ ผล คาดหวัง ที่ 1. สามารถพฒั นา แผนและโครงการ 5 บทท่ี 7 1. พัฒนาแผนและโครงการ 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 20 1.หนังสือเรียนวิชา บทเรยี น ช่อง4 พัฒนาอาชีพให้มี รายได้ มีเงินออม เร่ือง การพฒั นา พัฒนาอาชีพให้มรี ายได้ 2. ผู้เรียนศกึ ษาเรยี นร้จู ากส่ือ ช่วั โมง การพัฒนาแผนและ ออนไลน์ท่ี กจิ กรรมท่ี 5 และมที นุ ในการ ขยายอาชีพได้ แผนและ มเี งินออมและมีทนุ ในการ บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 Google Site โครงการอาชีพ 5 (5 คะแนน) 449 วชิ าการพฒั นาแผนและโครงการ แบบทดสอบ โครงการพฒั นา ขยายอาชีพ อาชพี อช32001 เรื่อง การพัฒนา หลังเรยี น 451 แผนและโครงการพฒั นาอาชีพใหม้ ี (5 คะแนน) อาชีพให้มี รายได้ มีเงินออมและมีทุนในการ ขยายอาชีพ รายได้ มเี งนิ 3. ผู้เรยี นทำกิจกรรมท่ี 5 เร่ือง การ พฒั นาแผนและโครงการพฒั นาอาชพี ออมและมีทนุ ใน 2.บทเรียนออนไลน์ ที่ 2 Google site การขยายอาชพี วิชา พัฒนาแผนและ โครงการอาชีพ ให้มรี ายได้ มเี งินออมและมีทุนในการ ขยายอาชีพ 4. ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 450 452 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ใบงาน คำส่งั 1. ให้ผู้เรียนศึกษาความรู้จากใบความรู้บทเรียนออนไลน์ที่ 1 เรื่อง การวิเคราะห์แผน โครงการพัฒนาอาชีพให้มีรายได้ มเี งินออมและมีทุนในการขยายอาชพี หรือศกึ ษาจากคิวอารโ์ ค้ต และ สรปุ ความรู้ทไ่ี ดล้ งในสมดุ บนั ทกึ การเรยี นรู้ Google site บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 การวเิ คราะห์แผนโครงการพฒั นาอาชีพใหม้ รี ายได้ มีเงินออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 1 451 453 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ใบความรู้ บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 หัวเร่ืองที่ 1 การวิเคราะห์แผนโครงการพัฒนาอาชพี ให้มรี ายได้ มเี งนิ ออม และมีทนุ ในการขยาย อาชีพ เรอื่ งที่ 1 ความสมั พันธ์ของเหตุผลของแผนและโครงการกับการมีรายได้ มีเงินออม และมีทนุ ใน การขยายอาชพี โครงการ คือ กิจกรรมหรอื แผนงานทเ่ี ปน็ หนว่ ยอิสระหนง่ึ ทีส่ ามารถทำการวเิ คราะห์วางแผน และนำไปปฏิบัติ พร้อมทั้งมีลักษณะแจ้งชัดถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด โดยแผนสำหรับกิจการต่าง ๆ ตอ้ งระบุวัตถปุ ระสงค์ตามระยะเวลาที่กำหนด โครงการ คือ การวางแผนล่วงหน้าที่จัดทำขึ้นอย่างมีระบบประกอบด้วยกิจกรรมย่อยหลาย กิจกรรมที่ต้องใช้ทรัพยากรในการดำเนินงาน และคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าแต่ละ โครงการมีเป้าหมายเพื่อการผลิตหรือการให้บริการเพื่อเพิ่มพูนสมรรถภาพของแผนงาน ดังนั้น โครงการ จึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการวางแผนที่จะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ตาม เปา้ หมายลกั ษณะของโครงการท่ดี ี สามารถแกป้ ัญหาขององคก์ ารหรือหน่วยงานนั้น ๆ ได้ 1. มีรายละเอียด วัตถปุ ระสงคเ์ ป้าหมายตา่ ง ๆ ชัดเจน สามารถดำเนนิ งาน มคี วามเป็นไปได้ 2. กำหนดขนึ้ อย่างมีข้อมูลความจรงิ (มีสถติ ิ ตวั เลข ข้อมลู จากองคก์ รดังกลา่ ว) และเป็น ขอ้ มูลท่ีไดร้ บั การวเิ คราะหอ์ ย่างรอบคอบ 3. อา่ นแลว้ เข้าใจวา่ นีค้ ือโครงการอะไร มีประโยชน์อยา่ งไร ทำไปเพื่ออะไร มีขอบเขตการทำ แค่ไหน 4. มีระยะเวลาในการดำเนนิ งานแนน่ อน ระบวุ ันเวลาเร่มิ ต้นและส้ินสดุ 5. สามารถติดตามประเมนิ ผลได้ 6. รายละเอยี ดของโครงการต่อเนือ่ งสอดคล้องสมั พนั ธก์ ัน 7. ตอบสนองความตอ้ งการของกลุ่มชน สังคม และประเทศชาติ 8. ปฏบิ ัตแิ ล้วสอดคล้องกับแผนงานหลักขององคก์ าร การออม หมายถงึ ส่วนของรายไดท้ ่ีเหลืออยหู่ ลังจากได้มกี ารใชจ้ ่ายเพ่ือการอปุ โภคและ บรโิ ภคแลว้ โดยจะเกบ็ เอาไว้สำหรบั การใช้จ่ายในอนาคตยามฉกุ เฉินหรอื ในคราวท่ีมีความจำเป็น การออม แบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท คอื

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 452 454 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย 1. การออมด้วยความสมัครใจ เป็นการออมที่เกิดจากความสมัครใจของแต่ละบุคคลทั้งนี้ ขึน้ อยู่กับรายได้ ความพงึ พอใจ และสภาพแวดลอ้ ม โดยการเปรยี บเทียบระหวา่ งการเกบ็ เงนิ ออมไว้ใช้ ในอนาคตกับการใชจ้ ่ายปัจจุบนั ว่าทางเลอื กใดจะดกี ว่ากัน 2. การออมโดยถูกบังคับ เป็นการออมที่บุคคลไม่สามารถที่จะเลือกได้ เนื่องจากมีกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับให้ต้องปฏิบัติ เช่น การทำประกันชีวิต การหักเงินสะสมเข้ากองทุนสำรอง เลย้ี งชพี การหกั เงินประกนั สังคม การซ้อื หุน้ ในสหกรณอ์ อมทรพั ย์ เป็นต้น ปัจจยั ทจี่ งู ใจใหเ้ กิดการออมทรพั ย์ ได้แก่ 1. อตั ราดอกเบีย้ หากอตั ราดอกเบย้ี สงู ก็จะเป็นแรงจงู ใจใหม้ ีการออมมากขนึ้ 2. สถาบนั การเงิน หากสถาบันการเงินมีความม่ันคง มคี วามเส่ียงนอ้ ย และสามารถให้บริการ แกล่ ูกคา้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ซ่ึงจะเป็นแรงกระต้นุ ให้มีการออมมากข้นึ 3. ผู้ที่มีรายได้มากย่อมมีโอกาสและสามารถที่จะเก็บเงินออมได้มากกว่าผู้ที่มีรายได้น้อย องค์กรธุรกิจที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับเงินออม และนำเงินออมไปลงทุนในลักษณะของการให้กู้ยืมเงินไป ลงทนุ อกี ตอ่ หน่งึ ไดแ้ ก่ 1. ธนาคาร ไดแ้ ก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารพาณชิ ยต์ า่ ง ๆ 2. สถาบันการเงินหรือบรษิ ทั เงินทนุ ต่าง ๆ 3. สหกรณอ์ อมทรัพย์ 4. บริษทั ประกนั ชวี ติ 5. สถาบันการเงินนอกระบบซึง่ เปน็ ระบบท่ีไม่ถกู ตอ้ งตามกฎหมายและมีความเส่ยี ง มากทส่ี ดุ เช่น การเลน่ แชร์ เป็นต้น ผลดีของการออม 1. ทำใหม้ ีเงินไว้ใชจ้ า่ ยในยามจำเปน็ หรือมคี วามต้องการใชจ้ า่ ยอย่างรีบดว่ น 2. สามารถนำไปลงทุนในกิจกรรมต่าง ๆ ที่พิจารณาเห็นว่ามีความมั่นคง ปลอดภัย และให้ ผลตอบแทนสูง 3. เพื่อพัฒนาและสรา้ งความมั่นคงในชวี ิตและครอบครัว แผน คือ แนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำ อนาคต และความ ต้องการของบุคคลและองค์กร แผน คอื ผลทีไ่ ด้จากการวางแผน แผน คอื สิ่งท่ีกำหนดขึ้นและถือเปน็ แนวดำเนนิ การ

บทเรียนออนไลน์ที่ 1 453 455 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย จากความหมายของแผนที่กล่าวมาพบว่า แผน คือ ผลที่เกิดจากการวางแผนหรืออาจกล่าว อีกนัยหนึ่งว่า “การวางแผน” คือกิจกรรมหรือการกระทำที่ก่อให้เกิด “แผน” ซึ่งอาจกระทำขึ้นเป็น ลายลกั ษณ์อกั ษรแบบเป็นทางการหรือไม่เปน็ ทางการก็ได้ การวางแผนกลยุทธ์ คือ การศึกษาก็เหมือนวงการอื่น จะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงที่คาด ไม่ถึงเป็นเรื่องที่ยากในการทำนายอนาคต นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์คนหนึ่งชื่อ Arthur C. Clarks พูดว่า “อนาคตมิใชส่ ่งิ ทีเ่ ปน็ ” การวางแผนกลยุทธ์เปน็ วธิ ีการในการกำหนดและธำรงรักษาทิศทางใน เมื่ออนาคตกลายเป็นสิ่งที่หายากแสนยากในการทำนาย เป็นกระบวนการต่อเนื่องซึ่งองค์กรต้อง ดำเนินตามและปรับให้เข้ากับบริษัททั้งภายในและภายนอกที่เปลี่ยนแปลงแน่นอน การวางแผนมิได้ เสร็จสิ้นเมื่อเขียนแผนเสร็จแล้วนั่นเป็นการบันทึกกระบวนการที่เห็นตามปกติในช่วงเวลาเท่าน้ัน ความยากของแผนอยู่ที่ขั้นนำไปดำเนินการในการวางแผนกลยุทธ์จุดเน้นอยู่ที่วิวัฒนาการหรือขั้น ดำเนินการตามแผน โดยตัวแผนต้องปรับให้เขา้ กบั สถานการณท์ ่ีเปลี่ยนแปลงไป พจนานกุ รม The Concise Oxford Dictionary ได้นิยามคำว่ากลยทุ ธ์ว่า “เป็นศลิ ปะการ ทำสงครามของนายพล” สะท้อนให้เห็นว่ามุ่งเน้นไปที่กองทัพใช้ในระหว่างการแข่งขันและการต่อสู้ หลังจากนัน้ ความคดิ ทางกลยุทธไ์ ด้นำมาใชใ้ นการวางแผนธรุ กจิ การวางแผนกลยทุ ธ์ กลายเป็นท่นี ิยมในปี ค.ศ.1950 และปี ค.ศ.1960 บรษิ ัทจำนวนมากได้ นำมาใช้ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำนายอนาคตอย่างเป็นระบบ เป็น รูปแบบของการวางแผนระยะยาว จุดมุ่งหมายเป็นการกำหนดวัตถุประสงค์ของบริษัท แล้วก็กำหนด แผน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และในที่สุดก็จัดสรรงบประมาณเป็นเงินทุน ดังนั้น การวางแผน ระยะยาวในฐานะที่เป็นวิธีการกำหนดกลยุทธ์ปรากฏการณ์นี้หายไป เมื่อมันไม่สามารถพยากรณ์ แนวโน้มทีจ่ ะเกิดข้ึนในอนาคตได้ ดังนั้น แผนกลยุทธจ์ ึงเข้ามาแทนทีแ่ ผนระยะยาว ซึ่งคล้องรวมการ เปลี่ยนแปลงที่ยอมรับว่าเป็นไปได้ในด้านแนวโน้มต่าง ๆ และแผนระยะยาวไม่อยู่บนพื้นฐานของ ความคิดท่ีว่าความเตบิ โตที่อาจแน่ใจได้ ทุกวันนี้ การวางแผนกลยุทธ์เป็นเทคนิคที่ช่วยผู้นำหรือผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมท่ี สับสนและมีสิ่งท้าทายมากมายเผชิญหน้าองค์การอยู่ วรรณกรรมทางธุรกิจใช้คำหลากหลาย เช่น การบริหารกลยุทธ์ การวางแผนกลยทุ ธแ์ ละความคดิ ทางกลยทุ ธ์ แตห่ ลักการกค็ อื เป็นกระบวนการท่ี สมาชิกในองค์การสร้างวิสัยทัศน์เข้ามา (ภาพอนาคตขององค์กร) แล้วสร้างวิธีการที่จำเป็นขึ้นมา เพ่อื ใหบ้ รรลผุ ลในภาพอนาคตนน้ั การวางแผนกลยุทธ์เป็นโมเดลที่มีประโยชน์ วิธีการนี้เราต้องกำกับดูแลความก้าวหน้าและ ปรับให้เข้ากับสถานการณท์ ่เี ปลยี่ นแปลง ดังสรปุ ในตารางตอ่ ไปน้ี

454 456 ความแตกต่างระหว่างแผนระยะยาวกบั แผนกลยุทธ์ แผนระยะยาว แผนกลยทุ ธ์ 1. คิดในระบบปดิ ซ่ึงมเี หตผุ ลชัดเจนเป็นแผน 1. คิดในระบบเปิดซึ่งองค์การเป็นพลวัตรและมี ระยะ 3-5 ปี ท่ีสรา้ งขึ้น การเปลี่ยนแปลงแน่นอน ในขณะที่มีข้อมูลจาก 2. การวางแผนเปน็ หน้าทท่ี แ่ี ยกส่วน ปัจจยั สิ่งแวดลอ้ มท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลง 3. จดุ เน้นมุ่งที่แผนสุดทา้ ย เป้าหมายและ 2. การวางแผนเป็นการคล้องรวมของการ วัตถปุ ระสงค์องค์การในอนาคตระยะ 3-5 ปี ดำเนนิ การขององคก์ าร 4. ส่วนสำคัญคือการวเิ คราะห์สิ่งแวดลอ้ ม 3. จุดเน้นทกี่ ระบวนการ ภายใน 4. ใช้การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมภายในและ 5. การตัดสนิ ใจในเรอื่ งอนาคตบนพ้ืนฐานข้อมูล สภาพแวดล้อมภายนอกเพื่อการสร้างวิสัยทัศน์ ในปจั จุบนั รว่ ม 5. แนวโนม้ ในอนาคตมาตัดสนิ ใจในปัจจุบนั เรื่องที่ 2 ความสัมพันธ์ของเป้าหมายของแผนและโครงการกับการมีรายได้ มีเงินออม และมีทุนในการขยายอาชีพ ความหมายของการวางแผน คือ กระบวนการในการกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการว่าจะ ทำอย่างไรให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น หากจะกล่าวในแงข่ องสถานการณ์ การวางแผนเป็นกระบวนการ ในการเผชิญกับความไม่แน่นอนโดยการกำหนดการกระทำขึ้นล่วงหน้าเพื่อให้ได้ผลตามที่กำหนดไว้ การวางแผนจะเกี่ยวข้องกัน 2 อย่างคือ จุดหมายปลายทางกับวิธีการ จุดหมายปลายทางก็คือจะ ทำอะไร วธิ ีการกค็ ือจะทำอยา่ งไร การวางแผนอาจเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องที่เป็นทางการ เมื่อผู้บริหารมีความคิดที่จะหาวิธี ทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย ความคิดนั้นอาจเป็นการสว่ นตัวคือไม่ได้เขียนไว้ ไม่ได้ขอความคิดเห็น จากคนอื่นในองค์การ การวางแผนเป็นการส่วนตัวนี้อาจเป็นเรื่องของส่วนบุคคลหรือขององค์การ ขนาดเลก็ การวางแผนสว่ นตัวจะขาดความต่อเน่ืองและขาดขอ้ มูล แต่การวางแผนที่เป็นทางการเป็น เรอ่ื งย่งุ ยากซบั ซ้อนจะต้องเขียนวัตถุประสงค์ไว้ จะตอ้ งกำหนดวิธีการอย่างชัดเจน จะต้องอาศัยการมี ส่วนร่วมของคนในองค์การให้คนในองค์การยอมรับอาศัยข้อมูลจำนวนมากกำหนดระยะเวลาไว้และ อน่ื ๆ

บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 455 457 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ความสำคญั ของการวางแผน ถ้าจะถามว่าทำไมต้องมีการวางแผนอาจตอบได้ง่าย ๆ ว่าเพื่อลดความไม่แน่นอนลงหรือลด ความเส่ียงให้เหลือน้อยที่สุด หากสถานการณ์ต่าง ๆ ในโลกมีความแน่นอนก็ไม่จำเป็นต้องมีการ วางแผนคิดอยากจะทำอะไรก็ได้และก็ประสบผลสำเร็จตามต้องการด้วย แต่เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ไมม่ คี วามแนน่ อนหรือมีความเสยี่ งจึงตอ้ งมีการวางแผน เรื่องที่ 3 ความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์ของแผนและโครงการกับการมีรายได้ มีเงินออม และมที ุนในการขยายอาชพี วตั ถุประสงค์ในการวางแผน 1. การวางแผนทำให้รูท้ ศิ ทางในการดำเนินงาน เมอื่ ผู้ปฏิบตั งิ านรูท้ ิศทางการทำงานกส็ ามารถ ประสานงานกัน รู้ว่าควรทำอะไรและทำอย่างไรจะได้ผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ หากไม่มีการ วางแผนนอกจากไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนแล้วก็ยังก่อให้เกิดการสูญเสียหรือสิ้นเปลือง ทรพั ยากรอีกด้วย 2. การวางแผนทำให้ลดความไม่แน่นอนลง เพราะผู้บริหารจะมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทาง อย่างแน่วแน่สามารถคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงอันอาจเกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนให้ สอดคลอ้ งกบั การเปล่ยี นแปลง ขณะเดียวกนั กเ็ ตรยี มพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลงอย่างเหมาะสม 3. การวางแผนทำให้ลดความเสียหายการซ้ำซ้อนกันของงานที่ทำ เนื่องจากการวางแผนทำ ให้รู้ท้ังวิธีการและเป้าหมายของงานจึงทำให้มีความชัดเจนในการทำงาน รู้ว่ากิจกรรมใดควรทำ กอ่ นหลงั อยา่ งไรการซำ้ ซอ้ นและการส้นิ เปลืองจงึ ไมเ่ กดิ ขน้ึ 4. การวางแผนทำให้รู้มาตรฐานในการควบคุม หน้าที่ขั้นสุดท้ายของการบริหารคือ การ ควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด กิจกรรมที่สำคัญของการควบคุมคือมาตรฐานที่ให้ บทเรยี นไเอปดอผ้รนียลบไงลาเทนนอ์ทียยบี่ 1่ากงับไรการปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริง การวางแผนจึงกำหนดมาตรฐานได้แน่นอนชัดเจนว่าต้องให้ ข้อดีของการวางแผน การวางแผนจะตอ้ งเผชิญกับปัญหาหลายอยา่ งในแงข่ องปจั จยั ภายนอกก็คือข้อกำหนดของรัฐ เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกการ เปลี่ยนแปลงอัตราค่าแรงงาน การเคลื่อนไหวของเงินทุนและอื่น ๆ ส่วนปัจจัยภายในองค์การก็ได้แก่ ประสิทธิภาพในการบริหารงาน โครงสร้างองค์การและระบบงาน ความหลากหลายทางด้านแรงงาน ความรูค้ วามสามารถของฝา่ ยบรหิ ารการวิจยั และพฒั นาเคร่ืองจักรอุปกรณ์และช่ือเสียงขององค์การ เป็นตน้

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 1 456 458 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย การวางแผนจะทำให้องค์การสามารถปรบั เปล่ียนให้เข้ากับปจั จยั ภายในและภายนอกองค์การ ประโยชนข์ องการวางแผน มีดังน้ี ปรบั ปรุงการปฏบิ ัตงิ านให้ดีขึ้น การปรับปรงุ การปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารและพนักงานแยก ได้เป็น 2 อย่างคือ ควรเน้นอะไรและควรยืดหยุน่ อย่างไร (focus and flexible) ท้ังสองอย่างจะช่วย สร้างอาํ นาจในการแข่งขันขององค์การ ควรเน้นอะไรนั้น ทำใหองคการร้วู ่าจะทำอะไรจึงจะดที ่ีสดุ ตอ ลูกค้าและควรให้บรกิ ารแก่ลกู ค้าอย่างไร ในแง่ของผ้ปู ฏบิ ัตงิ านก็ร้วู ่าควรทำอะไรและทำอย่างไรจงึ บรรลเุ ป้าหมายขององค์การ ควรยืดหยุ่น อย่างไรก็จะทำให้องค์การสามารถปรบั เปลี่ยนให้เข้ากบั สภาพแวดล้อมทีเ่ ปลยี่ นแปลงไป และสามารถเตรยี มรบั มอื ให้เข้ากับอนาคตท่กี ำลงั จะเกิดขึน้ ในส่วนของพนกั งานกท็ ำใหร้ ูว้ ่าควรปรบั ตัวเองอย่างไรให้เขา้ กบั โอกาสและอปุ สรรคท่ีกำลงั จะเกิดข้ึน การปรับปรุงการปฏิบัติงานอาจสรุป ได้ 4 หัวข้อ คือ ประการแรกจะมุ่งไปทางไหนจึงจะ บรรลุเป้าหมายสูงสุด ประการที่สอง ควรจะทำอะไรก่อนหลังจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด ประการที่สาม จะจดั สรรทรัพยากรอย่างไรจึงจะก่อใหเ้ กิดประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลสูงสดุ ประการที่สี่ จะปรับตัว อย่างไรจึงจะสอดคล้องกับสถานการณ์และก่อให้เกดิ ผลดที ่ีสุด 1. ปรับปรุงการประสานงานให้ดีขึ้น ในองค์การย่อมประกอบด้วยระบบย่อยและกลุ่ม (subsystem and group) หลายระบบและหลายกลุ่ม แต่ละระบบแต่ละกลุ่มต่างมีเป้าหมายของ ตัวเองและต่างทำงานเพ่อื บรรลุเปา้ หมายของตัวเองทั้งนั้น การทจ่ี ะไมท่ ำใหร้ ะบบย่อยและกลุ่มตา่ ง ๆ ขัดแย้งกันต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การวางแผนได้จัดแยกวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายต่าง ๆ ของ ระบบย่อยและกลุ่มคนออกมาเป็นลำดับขั้นของวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายลดหลั่นกันลงมาตั้งแต่ สูงสุดไปจนถึงต่ำสุด แต่ละเป้าหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นของระบบใดกลุ่มใดและต้องอาศัย หน้าทห่ี รือกจิ กรรมอยา่ งไรแตล่ ะระบบและแต่ละกล่มุ จึงบรรลเุ ปา้ หมายต่าง ๆ ทก่ี ำหนดไว้ เม่ือมีการ วางแผนอย่างดีกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละระบบและแต่ละกลุ่มจะสอดรับกันอย่างเหมาะสม โดย เป้าหมายในระดับสูงเป็นเสมือนจุดหมายปลายทาง (end) และเป้าหมายในแต่ละระดับล่างเป็น เสมอื นวิธีการ (mean) 2. ปรับปรุงการควบคุมให้ดีขึ้น กิจกรรมของการควบคุมก็คือ การวัดผลการปฏิบัติงานและ การแก้ไขการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น การวางแผนจะช่วยให้การควบคุมมีประสิทธิภาพเพราะการวางแผน จะต้องกำหนดเป้าหมายขึ้นมาก่อน น่ันก็คือ มาตรฐานทใ่ี ช้วัดผลการปฏิบัติงานหรือกำหนดว่าจะต้อง ทำอย่างไร ถ้าผลการปฏิบตั งิ านตำ่ กว่ามาตรฐานหรือสงู กว่ามาตรฐานกต็ ้องแก้ไขทก่ี ารปฏิบัติงานและ มาตรฐานท่ีใช้วัดหรือระบบการควบคุมใหม่ ดังน้ัง การวางแผนกับการควบคุมจะต้องทำหน้าท่ีกัน อย่างใกล้ชิดในฐานะที่เป็นกระบวนการบริหาร หากไม่มีระบบการควบคุมที่ดี การวางแผนก็ขาดการ

457 459 ตดิ ตามวา่ งานบรรลุเป้าหมายหรือไม่ หากไม่มรี ะบบการวางแผนท่ีดี การควบคมุ ก็ขาดกรอบการวัดผล งานว่าได้มีการปฏิบัติงานดีขึ้นหรือไม่ ดังนั้น จึงมีเทคนิคการบริหารงานอีกอย่างที่เชื่อมต่อการ วางแผนและการควบคุมเข้าด้วยกนั คอื การบรหิ ารโดยยึดวตั ถุประสงค์ (MBO) ซึ่งจะกล่าวต่อไป 3. ปรับปรุงการบริหารเวลาใหด้ ขี ้ึน คนส่วนใหญ่จะประสบกับความยากลําบากในการใช้เวลา ให้ เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำวิธีบริหารเวลาอย่างง่ายๆ ก็คือ การกำหนดตารางเวลาไว้ในสมุดบันทึก หรือในปฏิทิน เพื่อเตือนความจําว่าวันไหนจะต้องทำอะไร แต่ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อย ๆ ที่ผู้บริหาร ใชเ้ วลาไปกบั กจิ กรรมหนงึ่ มากเกินไปและในอีกกิจกรรมหนึ่งนอ้ ยเกนิ ไป หรอื ลืมทำกจิ กรรมบางอย่าง ที่มีการวางแผนก็ทำให้การใช้เวลา คึกว่าการไม่วางแผนมีการสมดุลของการใช้เวลามากขึ้นและการ สูญเสยี เวลาก็ลดลง อย่างไรกต็ าม การบรหิ าร เวลาเปน็ ส่วนสำคญั ท่ีสดุ ในการวางแผน เรื่องที่ 4 ความสัมพันธ์ของวิธีการ และขั้นตอนของแผน และโครงการกับการมีรายได้ มเี งินออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ ข้นั ตอนของการวางแผน (Steps in Planning) การวางแผนงานกอ่ นการปฏิบตั ิงานเป็นส่งิ ที่จาํ เป็นสำหรับการบริหารองค์การ ตามทีไ่ ด้กล่าว มาแล้ว การวางแผนที่ดีย่อมส่งผลถึงความสำเร็จขององค์การ แผนทุกแผนที่กำหนดขึ้นใช่ว่าจะใช้ ดำเนินงานแล้ว จะประสบความสำเรจ็ ทุกแผนไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กบั ผู้เขียนแผนมีความรู้ด้านการวางแผน เป็นเชน่ ไรดว้ ย ซึ่งนกั วิชาการช่อื Henry L. Sisk ได้ลำดบั ขน้ั ตอนของการวางแผนไวด้ ังน้ี 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของแต่ละแผนงานไว้ใหช้ ัดเจนวา่ ตอ้ งการอะไร 2. ระบุปัญหาให้ชัดเจนว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง อันจะช่วยให้กำหนดเป้าหมายของ กระบวนการ วางแผนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 3. กำหนดหนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบ หลงั จากระบุสาเหตุทเี่ ป็นปัญหาขององค์การเสนอผู้บริหาร แล้วได้ รับอนุมัติให้แก้ปัญหา ผู้วางแผนจะต้องกำหนดตัวผู้รับผิดชอบซึ่งอาจจะเป็นบุคคลหรือกลุ่ม บุคคลก็ได้ เข้ามา คําเนินการตามกระบวนการวางแผนพร้อมกับมอบอำนาจหน้าที่ให้ผู้รับผิดชอบต่าง ๆ เหลา่ นั้น ในการน้ีจะต้อง กำหนดระดบั ผูอ้ นุมตั ิในแผนงานนั้น ๆ ด้วย 4. รวบรวมและแปลข้อมูล ผู้วางแผนจะต้องรวบรวมข้อมูลภายในและข้อมูลภายนอกทั้งใน อดีตและปัจจุบันนํามาประเมินเหตุการณ์ในอนาคต พร้อมกับแปลความหมายของข้อมูลจากการ ประเมนิ มาใหช้ ัดเจน เพ่อื ใหเ้ กิดความม่ันใจว่าแผนงานน้นั จะตอ้ งสำเรจ็ แน่นอน 5. จัดทำและทดสอบแผนชั่วคราว เพื่อค้นหาข้อบกพร่องที่ยังเหลืออยู่และหาทางปรับปรุง แก้ไขกอ่ นทจี่ ะนําแผนไปใชจ้ รงิ

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 1 458 460 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย 6. กำหนดแผนขั้นสุดท้ายหลังจากทำการทดสอบแผนชั่วคราวแล้ว นํามาปรับปรุงแก้ไข ข้อบกพร่องต่าง ๆ จนเป็นที่พอใจ จากนั้นรวบรวมแผนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อจัดทำแผนขั้นสุดท้าย ตอ่ ไป ขน้ั ตอนของการวางแผนอน่ื ๆ 1. เตรียมการก่อนการวางแผน - แตง่ ตง้ั กลุม่ บุคคลหรอื บคุ คลขึ้นมารับผิดชอบการจดั ทำแผน - กำหนดแนวทางการวางแผนมขี ั้นตอนอยา่ งไรบ้าง จะตอ้ งทำอะไร - ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์การจาก แหล่งต่าง ๆ กับสภาพทรพั ยากรบริหารท่มี ีอยู่ 2. การวิเคราะห์ข้อมูลกับการวิเคราะห์ปัญหา ศึกษาผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมามีปญั หาที่ยัง แก้ไขไม่ได้มีอะไรบ้าง จุดใดที่ควรแก้ไขก่อน-หลัง ปัญหาใดมีความสำคัญที่ต้องหาทางแก้ไขก่อน ประกอบกับวัตถุประสงค์ขององค์การมีเป้าหมายอย่างไร ซึ่งการแก้ปัญหาจะต้องดูวัตถุประสงค์ของ องคก์ ารเปน็ หลักว่าต้องการอะไร 3. การกำหนดแผนงานและโครงการตา่ ง ๆ โดยดำเนินการดังน้ี - จัดทำแผนงาน โดยรวบรวมงานที่เหมือนกัน มีวัตถุประสงค์หรือลักษณะเดียวกันเข้าไว้ ด้วยกันเป็นกลุ่ม ๆ เช่น กลุ่มงานการผลิต กลุ่มงานการตลาด กลุ่มงานการเงินและการบัญชี ใน แผนงานหน่งึ ๆ อาจมีเพียงโครงการเดียวหรือหลายๆ โครงการก็ได้ - จัดทำโครงการ ในแผนแต่ละแผนจะกำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติงานไว้ในรูปของ โครงการวา่ จะต้องปฏิบัตอิ ย่างไร ดำเนินการเม่ือไร ใครเปน็ ผู้รบั ผิดชอบโครงการนน้ั ๆ - จัดทำกิจกรรม ในแต่ละโครงการประกอบไปด้วยกิจกรรมหลายๆ กิจกรรมหรือกิจกรรม เดยี วก็ได้แผนภูมิแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กนั ระหว่าง วตั ถปุ ระสงคข์ ององค์การกับกิจกรรมต่าง ๆ ดังน้ี

บทเรียนออนไลน์ที่ 1 459 461 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย 4. การปฏิบัติตามแผน คือ การนำแผนออกไปใช้ปฏิบัติจริง ซึ่งผู้ใช้ในที่นี้ คือ ผู้บริหาร ระดบั กลางลงไปจนถงึ พนักงานธรรมดา บคุ คลตา่ ง ๆ เหล่านจี้ ะต้อง - ศกึ ษาแผนใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ก่อนลงมือปฏบิ ัติ - แบง่ หนา้ ทคี่ วามรบั ผิดชอบใหพ้ นักงานอยา่ งชดั เจน - จัดระบบการประสานงานระหวา่ งกันเพอื่ ให้งานดำเนนิ ไปอยา่ งต่อเนื่อง - กำหนดระยะเวลาปฏบิ ัติงานและวธิ ีการควบคมุ งานให้บรรลุเปา้ หมาย 5. การประเมินผล คือ การตรวจสอบผลงานหรือการติดตามผลว่าเป็นเช่นไร ปกติโดยทั่วไป จะประเมินผล 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ทำในช่วงกลางของเวลาในแผนกับประเมินเมือ่ งานเสร็จเรยี บร้อย แลว้ การประเมินผลในชว่ งแรกเพอ่ื หาจุดออ่ น จดุ แขง็ ข้อบกพร่องและอุปสรรคต่าง ๆ เป็นเชน่ ไรจะได้ หาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ส่วนการประเมินครัง้ หลงั เพ่ือให้รู้ข้อบกพร่องและนำข้อบกพร่องไปปรับปรุง แก้ไขในครัง้ ต่อไป ข้ันตอนในการวางแผนโครงการ ซึ่งผู้จัดจะตอ้ งดำเนนิ งานตามลำดับต่อไปน้ี 1. กำหนดปัญหาเพอ่ื จัดทำโครงการโดย (1) ระบุปัญหาให้แน่ชัดว่าต้องการทำโครงการอะไร เช่น โครงการเกี่ยวกับปัญหาขัดข้อง ปญั หาปอ้ งกนั หรอื ปญั หาเชงิ พฒั นา (2) ศกึ ษาสาเหตุท่ที ำใหเ้ กิดปัญหาทแี่ ทจ้ รงิ ว่า เกิดจากอะไรและมแี นวทางแก้ไขได้อยา่ งไร (3) กำหนดจุดต้องการแก้ไขปัญหา จะต้องเป็นจุดที่ก่อให้เกิดปัญหาที่แท้จรงิ เมื่อนำมาแก้ไข แล้วจะทำใหป้ ัญหาต่าง ๆ ลดลงไปได้อยา่ งแน่นอน

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 460 462 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย (4) กำหนดแนวทางแก้ไขอย่างมีระบบโดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย เช่น นำมา พสิ จู นไ์ ด้นำปฏิบัตใิ นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. กำหนดวัตถุประสงคข์ องโครงการ 3. ออกแบบแผน โดยดำเนินการในหวั ข้อตอ่ ไปนี้ (1) หาแนวทางแกป้ ัญหาทีด่ ี มีประสิทธภิ าพสงู นำมาใช้ (2) แปลงปัญหาเป็นวัตถุประสงค์ (3) แปลงสาเหตุของปัญหาใหเ้ ป็นเป้าหมาย (4) แปลงแนวทางแกป้ ัญหาใหเ้ ป็นผลงาน 4. วเิ คราะหแ์ ผนโครงการจากปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ (1) วิเคราะหท์ างการเงิน (2) วิเคราะหด์ ้านการบรหิ าร (3) วิเคราะหท์ างเทคนิค (4) วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงทางวชิ าการ (5) วิเคราะห์ทางสงั คมท่มี ีผลกระทบตอ่ โครงการอยา่ งไรบ้าง (6) การวเิ คราะหท์ างเศรษฐกจิ (7) วิเคราะหด์ ้านการตลาด

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 461 463 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย หวั เร่ืองท่ี 3 การระบุทกั ษะในความรู้ทจ่ี ำเปน็ ต้องฝึกเพ่ิมเติมเพอ่ื การมีรายได้ มีเงนิ ออม และมที ุนในการขยายอาชพี เรอ่ื งที่ 1 ทกั ษะทมี่ คี วามจำเปน็ ต้องฝกึ เพิม่ เติม การวางแผนการใชจ้ า่ ยเงิน คือ การวางแผนเกย่ี วกบั รายได้และรายจา่ ย เพื่อใหใ้ ช้จา่ ยเงินได้ เพียงพอกับรายได้ และมเี งินออมไวใ้ ชจ้ า่ ยในอนาคต รายได้ คอื เงินจากการประกอบอาชีพ ซ่ึงรายได้นัน้ อาจอยู่ในรูปของเงนิ เดือน ดอกเบ้ียเงินกู้ ยมื หรือเงนิ ฝากธนาคาร และเงินกำไรจากการค้าขาย รายจา่ ย คือ เงินทจี่ ่ายไป เพือ่ ให้ไดส้ ง่ิ ของหรอื บริการ การบันทกึ รายรับ - รายจา่ ย ช่วยใหท้ ราบถึงการใช้จา่ ยเงนิ อยา่ งมีประสิทธิภาพ และเปน็ ไปตามแผน การทำบัญชีรับ-จ่าย จึงมีความสำคญั ดังนี้ 1. ทำใหท้ ราบรายรับ-รายจา่ ยตลอดทงั้ เดอื น 2. สามารถวางแผนการใช้จ่าย ว่าอะไรมคี วามจำเปน็ ก่อน-หลัง 3. ทำใหท้ ราบว่ามีเงนิ คงเหลือเท่าใดในแต่ละวัน ตัวอย่าง ตารางการรบั -จ่ายเงนิ ของตนเองและครอบครัว เดือนมกราคม 2553 วนั ท่ี 1 ได้รับเงินเดือน 5,000 บาท วนั ที่ 2 ซอ้ื ขา้ วสาร 1 ถัง เปน็ เงิน 200 บาท วนั ที่ 4 ซื้อกบั ขา้ ว 150 บาท วันที่ 5 จ่ายค่าโทรศพั ท์ 250 บาท วนั ที่ 10 ขายหนงั สอื พมิ พ์เก่าไดเ้ งนิ 50 บาท วันที่ 12 จ่ายคา่ นำ้ ประปา 50 บาท วนั ท่ี 15 ซื้อกบั ข้าว 200 บาท วนั ท่ี 20 จ่ายเงินใสซ่ องชว่ ยงาน 200 บาท วันท่ี 25 ซอ้ื เส้อื ผา้ 150 บาท

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 462 464 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ข้อสงั เกต - รายรับ หมายถึง เงินทเ่ี ราหามาได้ - รายจา่ ย หมายถึง เงินทไี่ ดใ้ ชจ้ า่ ยในแตล่ ะวนั - ยอดคงเหลือ หมายถึง เงินที่เราหามาได้ หักกับเงินที่เราใช้จ่ายในแต่ละวัน และยอด คงเหลอื ในวนั ท่ี 25 มกราคม 2553 คือเงินคงเหลือประจำเดือน ซึง่ เราสามารถนำเงินส่วนท่ีเหลือนี้ไป ฝากกบั ธนาคารหรือนำไปลงทนุ อยา่ งอ่นื ได้

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 1 463 465 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย การพัฒนาระบบการบญั ชี เรื่องที่ 1 การจดบันทึกเพ่ือระบุกลุ่มเป้าหมาย ประเภทของการจดบันทกึ การจดบันทกึ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื 1. การจดบันทึกจากการฟัง การฟังคำบรรยายและการจดบันทึกเป็นของคู่กัน บันทึก คำบรรยายคอื ผลของการสือ่ สารระหว่างผู้บรรยายกบั ผูฟ้ ัง คำบรรยายเปน็ เสมือนคำสนทนาของผ้พู ูด กับผู้ฟัง ผู้สอนกับผู้เรียน ผลการสนทนาจะประสบผลสำเร็จเพียงใด จะดูได้จากบันทึกที่จด ถ้าผู้ฟัง หรอื ผูเ้ ขียน เขา้ ใจเรอื่ งท่ีฟังดี บนั ทกึ กจ็ ะดีไปดว้ ยการท่ผี ู้ฟังจะเขา้ ใจในเร่ืองท่ีเรียนได้ดีเพียงใดข้ึนอยู่ กับองค์ประกอบ หลายประการ อาทิเช่น ความสนใจในเรื่องที่บรรยาย รูปแบบของการบรรยาย ความพรอ้ มของผฟู้ ัง นอกจากเรือ่ งการฟงั แล้วผู้เรยี นจะต้องรูว้ ธิ กี ารจดบันทึกอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ คือ รู้แนวทาง ในการจดและวธิ ีการจดดว้ ย 2. การจดบันทึกจากการอ่าน เป็นการจดบันทึกท่ีง่ายกวา่ การจดบันทึกจากการฟัง เพราะมี เล่มหนงั สือหรอื ส่ือต่าง ๆ ให้ดตู ลอดเวลา จะอ่านซำ้ กเ่ี ท่ยี วก็ได้ จึงสามารถจดรายละเอยี ดไดด้ ีกว่า วิธี จดมีหลายวธิ ีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเนื้อหา วิธีดังกล่าว ได้แก่ การจดแบบย่อความ การจดแบบ ถอดความ การจดแบบอัญญพจน์ การจดแบบโครงเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจดแบบใดควรจดเนื้อหาลง บัตรคำดีกว่าจด ลงสมุด เพราะสะดวกในการจด สะดวกในการเก็บและนำมาใช้ สะดวกในการพกพา ขนาดบัตรที่นิยมใช้กันคือ ขนาด 3x5 นิ้ว และ 4x6 นิ้ว ควรจะใช้บัตรขนาดเดียวกันเพื่อสะดวกใน การเก็บ บตั รคำทใี่ ช้อาจจะไม่ต้องไปซื้อหามา ใหต้ ดั กระดาษสมุดท่ใี ช้เหลือ ๆ ก็ได้ ข้อความท่ีอยู่ใน บัตรคำ ได้แก่ หัวเรื่องหรือคำสำคัญ ซึ่งจะใส่ไว้มุมขวาของบัตรบรรทัด ต่อมาคือรายละเอียดทาง บรรณานกุ รม ของส่ือสิง่ พิมพ์ แล้วจึงตามดว้ ยข้อความท่จี ด แนวทางในการจดบนั ทึกคำบรรยาย สมดุ จดบันทึกเปน็ สิ่งหนึ่งท่ีมีคณุ ค่าทีส่ ดุ ในการเรียนผเู้ รยี นควรศึกษาเทคนิคหรอื แนวทางใน การจดบนั ทกึ อย่างมปี ระสิทธิภาพ เพ่ือความสำเร็จในการศึกษาเลา่ เรียน แนวทางดงั กล่าว ไดแ้ ก่ 1. เตรียมพร้อมท่ีจะจดบันทึก เรมิ่ ตง้ั แต่เตรยี มใจรับขา่ วสารโดยการอา่ นหนงั สือมาล่วงหนา้ ศึกษาประเด็นสำคญั เพื่อ เปน็ พ้นื ฐานก่อนเข้าเรยี น หรือทบทวนคำบรรยายเก่า บนั ทึกทจี่ ดจากการ อ่าน หรือคำวิจารณ์เพ่ิมเติมท่ีจดไวใ้ นตำราของเรา 2. ใช้อปุ กรณ์การจดบันทึกทเี่ หมาะสม อาทิ สมดุ จดบนั ทกึ มาตรฐานขนาด 8.5x11 นิ้ว ชนิด ที่มีห่วงกลม ๆ ยึด สามารถเติมหรือถอด กระดาษเข้าออกได้ สะดวกในการปรับเปลี่ยนหน้า

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 1 464 466 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย เก็บการบ้านหรือเนื้อหาทีค่ ้นคว้าเพิ่มเติมมา ควรจดบันทึกหน้าเดียว อีกหน้าหนึ่งเว้น ไว้เพื่อเพิ่มเติม เนื้อหา ข้อคิดเห็นและเพื่อสะดวกในการทบทวน ในการจัดเรียงเนื้อหา ก่อนจดบันทึกแต่ละครั้งควร จดหัวข้อที่จะบรรยาย ชื่ออาจารย์ ช่ือวิชา วัน เดือน ปี ทุกครั้ง ผู้เรียนควรมีเครื่องเขียนให้พร้อม อาทิ ปากกาสปี ลายสักหลาด สำหรับเน้นหัวข้อ หรอื ประเดน็ สำคญั 3. จดคำบรรยายด้วยภาษาของตนเอง การจดคำบรรยายด้วยภาษาของตนเอง จะอา่ นเข้าใจ ได้ดีกว่าจำง่ายกว่า เพราะเป็นการเรียบเรียงความคิดที่เกิดจากความเข้าใจในคำบรรยาย แต่ถ้าเป็น คำจำกดั ความหรือสตู รตา่ ง ๆ ข้อเทจ็ จริงทเ่ี ฉพาะเจาะจง เรากส็ ามารถคัดลอกมาใสใ่ นบนั ทกึ ได้ 4. กำหนดคำย่อในการจดบันทึก ถา้ เราใชค้ ำยอ่ ในการจดบนั ทกึ จะชว่ ยใหจ้ ดเรว็ ขน้ึ ไดเ้ นือ้ หา มากขึ้น คำย่อที่ใช้อาจจะสร้างขึ้นมาเองและควรจะใช้อย่างสม่ำเสมอจนคุ้นเคย เพื่อจะได้ไม่สับสน และอ่านงา่ ย คำยอ่ ที่ใชอ้ าจตัดมาจากคำตน้ ของคำต่าง ๆ คำยอ่ มาตรฐาน หรือสัญลกั ษณต์ ่าง ๆ 5. จดบนั ทกึ ใหส้ มบูรณ์ ควรจดให้ครอบคลมุ ประเดน็ สำคญั ทุกประเด็น ผ้จู ดบันทึกสมบูรณ์ มักจะเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนดี เพราะเขาสามารถระลึกถึงเรื่องที่เรียนมาได้อย่างครบถ้วน ถ้าเราไม่ แนใ่ จหรอื ไมเ่ ห็นด้วย กบั ประเด็นสำคญั ท่ีอาจารย์สอน เรากค็ วรจด บันทึกไวก้ อ่ น แล้วจึงค่อยกลับมา พิจารณาหรือตคี วามเน้ือหาตอนนนั้ ใหม่ ควรจดบนั ทึกใหม้ ากไว้ก่อนดกี ว่าทีจ่ ะตดั ทง้ิ ไป 6. จัดระเบียบบันทึก ในการจดบันทึกควรจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นลำดับขั้นตอนให้เห็น ความสมั พนั ธข์ องขอ้ ความ โดยจดประเดน็ หลักลงไปก่อนแลว้ จงึ ตามด้วยขอ้ ความสนับสนุน 7. จดบันทึกอย่างมีตรรกะ ความจดบันทึกให้มีระเบียบ มีตรรกะ คือ มีเหตุมีผล ใช้คำ แสดงการเชื่อมโยงและการต่อเนื่องของความคิด เช่น ประการแรก ประการที่สอง ประการที่สาม ใชค้ ำแสดงความคดิ เห็นตรงกันข้ามเช่น “ในทางตรงกนั ขา้ ม” ใช้คำที่แสดงขอ้ ยกเว้น เชน่ “ถงึ อย่างไร ก็ตาม” ใช้คำที่แสดงการเพิ่มเติมเน้ือหา เช่น“นอกจากนี้” ใช้คำที่แสดงการจบ ของเนื้อหา เช่น “สุดทา้ ยนี้” คำดงั กล่าวน้ี เปน็ สญั ญาณทีอ่ าจารย์ใชเ้ พื่อแสดงการเป็นเหตเุ ปน็ ผลของเนือ้ หาทีส่ อน 8. จดบันทึกละเอียดในเรื่องที่ไม่คุ้นเคย ในการจดบันทึกคำบรรยายเรื่องที่ไม่คุ้นเคย ไม่มี ความรู้มากอ่ นควรจะจดให้ละเอยี ดสมบูรณ์แจ่มแจง้ เพือ่ ไมใ่ หเ้ กิดความเขา้ ใจผิด เมื่อมาอ่านภายหลัง สำหรบั เร่ืองทเ่ี คยเรยี นมาแลว้ เราอาจจะจดอยา่ งย่อกไ็ ด้ 9. จงระวังการเลือกจำ การจดบันทึกคำบรรยายในเรื่องที่เรามีความคิดเห็นขัดแย้งเรื่องท่ี ไม่ตรงกับความต้องการ เรื่องที่เราไม่มีความเชื่อถือ ผู้เรียนมักจะจดไม่ตรงประเด็น ไม่สมบูรณ์ คือ เลือกจดหรือเลือกจำตามความพอใจ ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง เพราะจะไม่เป็นผลดใี นการระลึกถงึ เรื่องที่ ฟงั มาขณะสอบ เพราะอาจจะไม่ถกู ตอ้ งและไมส่ มบูรณ์

บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 465 467 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย 10. อย่าหยดุ จดบนั ทึกถา้ จดไมท่ ัน การจดบนั ทกึ คำบรรยาย บางครัง้ เราอาจจะสับสนหรือฟัง เร่ืองทอ่ี าจารย์บรรยายไม่ทนั อย่าหยุด จดและถามเพ่ือนที่นัง่ ขา้ งๆ เพราะจะทำใหจ้ ดไมท่ ันท้ังสองคน ให้ใส่เครื่องหมาย“ ? ” ลงแทน เพื่อกันลืมและจดเรื่องอื่นต่อไปทนั ที่ เมื่อหมดชั่วโมงหรือช่วงเวลาท่ี อาจารย์เปดิ โอกาสให้ซักถามจงึ คอ่ ย ถามอาจารยห์ รอื ถามเพ่ือน 11. ทบทวนบนั ทกึ ทันทเี มื่อจบการบรรยาย ควรทบทวนบันทึกทนั ทีทีจ่ บคำบรรยาย ใช้เวลา ส้ันๆ เพียง 5 นาทีกพ็ อ คงจำกนั ไดว้ ่าการลืมจะเกิดขนึ้ ทันทีหลังจากการเรียนรู้ และจะมีอัตราสูงด้วย ดังนั้น ถ้าเราได้ทบทวนทันทีจะช่วยให้เราไม่ลืมหรือลืมน้อยลงการที่จะรู้ว่าความต้องการของ ผู้ใช้บริการ จากงานบริการตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คงไม่ใช่สิ่งที่จะค้นหาคำตอบไม่ได้ เพราะ ความต้องการใช้ทรัพยากรสารสนเทศท่ีเป็นจริงในงานบริการกับสิ่งที่คาดหวังของผู้ใช้ทุกระดับ สามารถเชื่อมต่อความต้องการให้เป็นหนึ่งได้ด้วยวิธีการ Focus Group โดยเน้นประเด็นความ ต้องการสารนิเทศให้สอดคล้องกับการใช้ในเวลาที่พอเหมาะพอดี ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของผู้ใช้ที่มีต่อ หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านเป็นแหล่งความรู้ทางการเรียนการสอนได้ระดับหนึ่ง การนำโฟกัส กรุ๊ป เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เช่นการสนทนากลุ่ม เป็นวิธีเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการจัดให้คนที่เลือกจาก ประชากรที่ต้องการศึกษาจำนวนไม่มากนัก มาร่วมวงสนทนากัน เพื่ออภิปรายพูดคุยกัน โดยมุ่ง ประเด็นการสนทนาไปยังเร่ืองที่สนใจศึกษา ในระหว่างการจัดสนทนากลุ่มอย่างเป็นระบบ อาจเลือก ผู้เข้าร่วมสนทนากลุม่ จำนวน 7-12 คน ที่มีลักษณะทางประชากร สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่ คล้ายคลึงกัน มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นปัญหาเดียวกัน ระหว่าการพูดคุยมีพิธีกร ผู้ดำเนินการ มีผู้จดบันทึกเป็นผู้จดเนื้อหาการสนทนาและมีเทปบันทึกเสียงบันทึกรายละเอียดของ การพูดคุย เมอื่ เสร็จสน้ิ การสนทนา ผู้จดบนั ทึกจะถอดรายละเอยี ดจากเทปการสนทนา เพ่อื ใช้เป็น ข้อมูลในการวิเคราะห์ต่อไป ดังนั้น ความหมายของการสนทนากลุ่มจึงหมายถึง การรวบรวมข้อมูล จากการสนทนากับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลในประเด็นปัญหาที่เฉพาะเจาะจง โดยมีผู้ดำเนินการสนทนา (Moderator) เป็นผู้คอยจุดประเด็นในการสนทนา เพ่ือชักจูงให้กลุ่มเกิดแนวคิดและแสดงความ คิดเหน็ ตอ่ ประเด็นหรอื แนวทางการสนทนาอย่างกวา้ งขวางละเอียดลึกซึ้ง โดยมผี เู้ ขา้ ร่วมสนทนาในแต่ ละกล่มุ ประมาณ 6-10 คน ซ่ึงเลอื กมาจากประชากรเป้าหมายทกี่ ำหนดไว้ ประโยชนข์ องการสนทนา กลุ่มใชใ้ นการศกึ ษาความคิดเห็น ทศั นคติ ความรู้สึก การรับรู้ ความเชือ่ และพฤติกรรม หรอื ใชใ้ นการ กำหนดสมมติฐานใหม่ ๆ หรือใช้ในการกำหนดคำถามต่าง ๆ ที่ใช้ในแบบสอบถาม หรือใช้ค้นหา คำตอบทย่ี ังคลุมเครือหรือยังไม่แนช่ ัดของการวิจัยแบบสำรวจ เพื่อชว่ ยให้งานวจิ ัยสมบูรณ์ย่ิงข้ึน หรือ ใช้ในการประเมินผลทางด้านธุรกิจ ข้อดีของการสนทนากลุ่ม ผู้เก็บข้อมูลเป็นผู้ได้รับการฝึกอบรม เป็นอย่างดี เป็นการเผชิญหน้ากันในลักษณะกลุ่มมากกว่าและสัมภาษณ์ตัวต่อตัว ทั้งนี้ให้มีปฏิกิริยา

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 466 468 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ตอบโตก้ นั ได้ ส่วนบรรยากาศของการคุยกันเป็นกลุ่มจะชว่ ยลดความกลวั ที่จะแสดงความเห็นส่วนตัว ข้อจำกัดถ้าในการสนทนากลุ่ม มีผ้รู ว่ มสนทนาเพียงไม่กีค่ นท่ีแสดงความคิดเหน็ อยู่ตลอดเวลาจะทำให้ ข้อมูลที่ได้เป็นเพียงความคิดเห็นของคนส่วนน้อยเหล่านั้น ดังนั้นจึงต้องระวังไม่ให้มีการผูกขาดการ สนทนาขึ้น พฤติกรรมบางอย่างซึง่ เป็นสิ่งท่ีไม่ยอมรบั ในชุมชนอาจไม่ได้รับการเปิดเผยในกลุ่มสนทนา ในกรณีนี้ใช้การสัมภาษณ์ตัวต่อตัวจะดีกว่า ถ้าผู้ดำเนินในการสนทนาคุมเกมส์ไม่ได้ การสนทนากลุ่ม จะไม่ราบรืน่ เร่ืองท่ี 2 การจดบนั ทกึ เพือ่ ระบผุ ลิตภัณฑ์ท่ีตลาดต้องการ การจดบนั ทกึ การจดบันทึกเปน็ ส่งิ สำคญั สำหรับการดนู กมากอีกประการหนง่ึ ควบคไู่ ปกับใช้ กล้องสอ่ งทางไกลและคู่มือดูนกเพราะจะช่วยให้เราเกบ็ ข้อมลู รายละเอยี ดเก่ียวกบั นกนอกจากการสงั เกต ของตัวเองไว้ ได้อย่างชัดเจน เช่น เราพบนกทไี่ หน บ่อยครั้งเพียงใด รวมทัง้ รายละเอียดเกยี่ วกบั พฤตกิ รรมต่าง ๆ ของนกทเี่ ราพบเห็นเนอ่ื งจากการจดจำแตอ่ ย่างเดยี วอาจคลาดเคลื่อนหรอื ไม่ อาจจําได้ ทัง้ หมด ดังนัน้ การจดบันทึกจึงเป็นประโยชน์ในการค้นคว้าทบทวน และศึกษาเพิม่ เติมในภายหน้าเปน็ การเพิม่ ความร้เู กีย่ วกับนก พฤตกิ รรม อาหาร แหลง่ อาศัยและส่งิ แวดลอ้ มอ่นื ๆ การจดบนั ทึกจงึ เป็นสิง่ ที่ ช่วยส่งเสรมิ ให้ เราเป็นนกั ดนู กทีด่ ที ั้งยงั เป็นความทรงจำทีด่ ถี ึงช่วง เวลาทสี่ นกุ สนานในการดูนกเม่อื นำสมดุ บันทึกกลับมาดูอกี ครง้ั อุปกรณ์ที่ใช้ในการจดบันทึก สมุดพกติดตัว (field notebook) ขนาดพกพาสะดวก สำหรับนำติดตัวไปในเวลาที่ออกดูนกนอกสถานที่ ควรเป็นปกแข็ง ไม่มีเส้นบนกระดาษ สมุดบันทึก ถาวรควรมีขนดใหญ่กว่าสมุดพกติดตัว และใช้บันทึกข้อมูลได้ละเอียดและชัดเจนมากขึ้น สำหรับเกบ็ เป็นข้อมูลถาวร ดินสอ ปากกา และยางลบ ดินสอสีและสีน้ำ การจดบันทึกที่ดี ควรจะมีลักษณะ ดงั ต่อไปนี้ บนั ทึกความจรงิ สิ่งนีส้ ำคญั ทีส่ ดุ คงไม่มใี ครต้ังใจจะแต่งเร่ืองให้ผิดความจรงิ แต่ส่ิงท่ีบันทึก อาจคลาดเคลือ่ นได้ หากเราไม่ระมัดระวังพอ ควรบนั ทึกสงิ่ ทีเ่ ห็นไม่ใช่ท่คี ิดวา่ เห็น อะไรที่ไม่แน่ใจควร บอกว่าไม่แน่ใจ ตัวอยา่ งหน่ึงนอดตี คือการบันทึกนิสัยการทำรังของนกเงือก ของเจ้าฟ้ากงุ้ ในนิราศธาร ทองแดง ที่ว่าตัวผู้เข้าไปกกไข่ในโพรง ส่วนตัวเมียไปเล่นชู้ ซึ่งนับว่าผิดพลาดจากความเป็นจริงมาก บันทึกทันที ณ สถานที่ที่พบเห็น (field note) ช่วยให้เราบันทึกได้อย่างถูกต้อง อย่าเชื่อความจำ ตนเอง มนั มักจะตกหล่นไปเสมอ บนั ทกึ อยา่ งเปน็ วิทยาศาสตร์ วิธีการจดบันทกึ เม่ือเราพบเห็นนกตวั ใดตวั หนึง่ เราตอ้ งสงั เกตรายละเอียดของนกให้ได้มาก ทีส่ ดุ แล้วบันทึกเอาไวใ้ หม้ ากท่ีสุดเทา่ ที่จะจำได้โดยเขียนคำบรรยายให้ชดั เจนถงึ ลกั ษณะต่าง ๆ ของนก เนน้ ทจ่ี ดุ เดน่ ตา่ ง ๆ รวมทง้ั พฤติกรรมและสภาพแวดลอ้ มดงั นี้

บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 467 469 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ชื่อนกที่พบ (ในกรณีที่ทราบแล้วว่าเป็นนกชนิดใด) ขนาดของนก ซึ่งหากไม่รู้จักนกชนิดนั้น ควรเปรยี บเทยี บกับขนาดนกท่พี บโดยท่วั ๆ ไป เชน่ ใหญ่กวา่ นกกระจอกบา้ น แต่เล็กกว่านกเขาชวา รูปรา่ งลักษณะ เชน่ นกตวั นั้นมรี ปู ร่างลำตวั ผอมยาว หรืออว้ นป้อม ปากสัน้ หรือปากยาวโค้ง แหลมหรือตรงยาว มีจุดสังเกตที่ด่นชัดอยู่ที่ส่วนใด เช่น มีจุดที่ดำข้างแก้ม หรือมีสีขาวที่ปลายปีกนก บางตัวอาจมีสีขนที่เปลี่ยนไปตามอายุหรือช่วงฤดู เช่น นกชายเลน เหยี่ยว ดังนั้นจึงต้องพยายาม สังเกตและจดบันทกึ การเปลยี่ นแปลงนั้น เชน่ สขี น แถบท่ปี กี สขี องปลายปาก เป็นตน้ พฤติกรรม ให้สังเกตลักษณะทา่ ทางทนี่ กชอบกระทำบ่อย ๆ เชน่ การเกาะวา่ อยู่ในท่าตัวต้ัง ตรง หรือขนานกับกิ่งไม้ การบิน เป็นแนวเส้นตรงอย่างนกกิ้งโครง หรือบินขึ้นๆ ลงๆ อย่าง นกหัวขวานชอบกระดกหางหรือแพนหาง รวมทั้งพฤติกรรมในการทำรังว่ามีลักษณะอย่างไร ใช้ อุปกรณ์อะไรและทำรังบรเิ วณใด เช่น ทำรังในโพรงไม้ หรอื ตามโพรงดิน เสียงร้องและเสียงร้องเพลงนก จะส่งเสียงร้องเมื่อตอ้ งการแสดงอารมณต์ ่าง ๆ ทั้งเสียงร้อง ตกใจ (Alarm call) เสียงร้องขู่ขวัญ ในการบันทึกให้บันทึกเสยี งร้องปกติที่ได้ยินบ่อยๆ หรือเสียงร้อง เพลงซึ่งนกมักร้องเมื่อมีอารมณ์ดี เช่น หลังอาหารหรือขณะเกี้ยวพาราสี ว่ามีลักษณะอย่างไร แหบ แหลม หรือเบานุ่ม แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร เสียงร้องของนกมีความจำเพาะ หากจำได้ จะช่วยให้เราจำแนกชนิดนกได้ง่ายขึ้นและมีนกบางชนิดที่เราไม่อาจจำแนกจากลั กษณะภายนอกได้ เลย ต้องอาศัยเสียงร้องที่มีความแตกต่างกันช่วยการจดจำเสียงร้องของนกอาจใช้เครื่องบันทึกเสียง ช่วย จะชว่ ยให้จดจำรายละเอยี ดของเสยี งรอ้ งได้ดีขนึ้ แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั เป็นรายละเอียดเกีย่ วกบั บรเิ วณทพ่ี บนกว่ามีสภาพอยา่ งไร เป็นปา่ แบบไหน มีลักษณะเดน่ อยา่ งไรบา้ ง รวมท้ังระดับความสงู ของพื้นทีถ่ ้าหากทราบ เชน่ เป็นบรเิ วณป่าไผ่ รมิ น้ำตก หรือกลางทางเดินในป่าสน พบนกกินเมล็ดพืชอยู่ ควรบันทึกรายละเอียดของส่ิงแวดล้อมโดยทั่วไปให้ มากทส่ี ุด เวลา วันเดือนปี และสถานท่ี เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักดูนกที่จะต้องทราบว่า พบนกชนิด น้ันที่ไหนเมื่อใด ในช่วงเวลาใด เพราะจะทำให้ทราบว่านกชนิดนั้นพบยากหรือพบง่าย จะทำให้เรา ทราบสถานภาพของนกรวมทั้งช่วงเวลาที่พบนก ทำให้เราทราบว่านกชนิดนั้นเป็นนกประจำถิ่นหรือ นกอพยพ รวมทัง้ การบนั ทึกจำนวนนกทพ่ี บในแต่ละคร้ัง สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ เป็น ส่วนประกอบท่ีทำให้การบันทกึ รายละเอียดเกี่ยวกบั นกสมบูรณ์ ยิ่งขึ้น เช่น นกบางชนิดชอบปรากฏตัวเมื่ออากาศมืดครึม ส่วนเหยี่ยวและนกกาบบวั ชอบ บินร่อนขึ้นสูงในวัน ที่แดดจ้า ซึ่งมีอากาศร้อน (thermal) ช่วยยกตัวมันขึ้น นกหายากบางชนิด อาจพบเห็นตัวได้หลังจากมีพายุไต้ฝุ่น หรือดีเปรสชั่นพัดหลงมาในการบันทึกเราควรวาดภาพร่างคร่าว ๆ

บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 468 470 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ของนกที่พบเพิ่มขึ้น เพื่อจะช่วยให้เรา เก็บรายละเอียดและทําความเข้าใจเกี่ยวกับนกชนิดนั้นได้ง่าย ยิ่งข้ึน ทั้งยังแสดงลักษณะพฤติกรรมที่นกแสดงออก เช่น การข่มขู่ การเกี้ยวพาราสี การหาอาหาร รวมทง้ั ลักษณะของสง่ิ แวดลอ้ ม ทั้งนี้การวาดภาพรา่ งจะสวยงามเพียงใด คงตอ้ งขน้ึ อยู่กับความชาํ นาญ ส่วนตวั และการฝึกฝน แตท่ ุกคนสามารถทจ่ี ะวาดภาพร่างคร่าวๆ ได้ เพียงให้ ตวั เองสามารถจดจาํ และ เข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทั้งยังอาจนําภาพร่างที่เราพบแต่บอกชื่อไม่ได้ไปถาม ผู้รู้ให้ช่วย จําแนกชนิด ได้ในภายหลัง ส่วนการบันทึกความรู้สึก เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าข้อมูลทาง วิทยาศาสตร์ เราอาจถ่ายทอดให้ผู้อื่น ได้ตื่นเต้น ดีใจ ประทับใจไปกับเรา ตรงกันข้ามเมื่อเราไปดูนก แล้วพบการดักจับล่านก การทำลายป่ากันเป็นบ้านของนก เราอาจรู้สึกเศร้าสลด หรือโกรธแค้น ความรู้สึกเหล่านี้ควรได้รับการจดบันทึก เพราะจะเป็นพลังในการสื่อสารถึงคนอื่นได้อย่างดี การ บันทึกแผนที่ทางเดินและพื้นที่ดูนก เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ดีขึ้น และ เปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้อืน่ ด้วยเชน่ กนั การบนั ทึก หมายถึง ข้อความท่ีจดไวเ้ พ่ือช่วยความทรงจำหรอื เพ่ือเป็นหลักฐาน หรอื ข้อความ ทีน่ ำมาจดยอ่ ๆ ไวเ้ พอ่ื ใหร้ เู้ รื่องเดมิ (ราชบณั ฑติ ยสถาน 2525) การจดบันทึก การจดบนั ทึก คอื การเขียนขอ้ ความ เพื่อชว่ ยในการจำ เปน็ เคร่อื งมือในการรวบรวมความรู้ท่ี อ่านประมวลความคดิ หลังจากการอ่าน และเพื่อไดก้ รอบความคิดในเนอ้ื หาสาระสำหรับการอ่านต่อไป การจดบันทึกมีประโยชน์มาก ในการศึกษาทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาด้วยตนเองตาม ระบบการสอนทางไกล เพราะผู้เรียนต้องค้นคว้าหาความรูด้ ้วยตนเองจากการอ่าน นักศึกษาที่เริ่มต้น เรียนเป็นปีแรก ๆมักประสบปัญหาในเรื่อง การจดบันทึก เพราะขาดประสบการณ์ ที่สำคัญคือ ไม่รู้ เทคนิคในการจดบันทึก โดยธรรมชาติแล้วมันเป็นการยากที่เราจะเข้าใจ จดจำจุดสำคัญ และ รายละเอียดปลีกย่อยที่เราอ่านหรือฟงั ไดห้ มด เราอาจจะลืมหัวข้อใหญ่ๆ ผลก็คือ ตอ้ งอ่านใหม่อีกคร้ัง หรือสองครั้ง เพอ่ื ให้จำจดุ สำคัญได้ซึ่งเป็นการเสียเวลา จงึ ควรจะสง่ิ ที่มาชว่ ยจำว่าเราอ่านอะไรไปบ้าง การจดบนั ทกึ เปน็ การช่วยจำและทำให้เข้าใจย่ิงข้ึน นกั ศึกษาบางคนจดบันทึกไม่ได้เพราะพยายามจด อยา่ งละเอยี ด จนเกินความจำเป็น ไมม่ ีการสรุปประเด็นไม่มีการเรียบเรียงความคดิ ก็เกิดความท้อแท้ ที่จะจด และหยุดจด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ผิด การจดบันทึก นับว่าเป็นทักษะในการเรียนที่สำคัญ และจำเป็นมากสำหรับการเรียนด้วยตนเองเพราะในแต่ละภาคการศึกษา นักศึกษาอาจลงทะเบียน เรียน 3 ชุดวิชา ซึ่งมีเนื้อหาสาระหลากหลายเป็นจำนวนมาก หากไม่มีเทคนิค หรือเครื่องมือช่วยใน การจำที่ดีจะทำให้เกิดความสับสนและเมื่อต้องมีการทบทวนก่อนสอบ บันทึกย่อที่ทำไว้จะเป็น ประโยชน์อย่างย่งิ

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 469 471 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แนวทางการจดบนั ทึก 1) บันทึกสาระสำคัญ ได้แก่ การบันทึกคำหรือประเด็นสำคัญ ทั้งชื่อเรื่อง หัวข้อหลัก และ หัวข้อรองรวมทัง้ ความหมายของคำสำคัญ โดยการตอบคำถามตามสตู ร 5 W 1 H อาทิ ประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับอะไรอาจารยบ์ รรยายถึงสงิ่ นัน้ อยา่ งไร และทำไมจึงเป็นเช่นน้ัน 2) บันทึกชื่อหนังสือหรือตำรา และหัวข้อ รวมทั้งชื่อผู้แต่ง หรือชื่อหัวข้อ และชื่ออาจารย์ ผู้บรรยายการบันทึก จากการอ่านนั้น การบันทึกดังกล่าวจะช่วยในการค้นคว้า เมื่อต้องการ รายละเอียด รวมทงั้ การอา้ งอิงไดท้ นั ที 3) จัดหมวดหมู่ของสาระสำคัญ โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ หรือหมวดหมู่ตามแต่เนื้อหา ทั้งนี้เพ่ือ ค้นคว้าหรอื ทบทวนได้สะดวก และจดจำได้งา่ ยขึน้ การจดั หมวดหมขู่ องสาระสำคญั ทำไดห้ ลายวธิ ี เช่น จดั หมวดหมูต่ ามหัวขอ้ จัดหมวดหมคู่ วามเหมือนหรือความแตกตา่ ง ฯลฯ 4) เรียงลำดับเรื่อง ให้อ่านและเข้าใจง่าย และที่สำคัญคือ เชื่อมโยงประเด็นให้เห็น ความสัมพันธ์ทั้งหมด และถูกต้องตามความหมาย การเรียงลำดับเร่ืองทำได้หลายวิธี อาทิ เรียงลำดับ ตามลำดับเวลา (อดีต-ปัจจุบัน) เรียงลำดับตามตำแหน่งพื้นที่ (เหนือ-ใต้-ออก-ตก) เรียงลำดับตาม สาเหตไุ ปสู่ผล (ทเ่ี กิดขึน้ ) 5) ใช้ถ้อยคำที่กระชับ แต่ชัดเจน เข้าใจง่าย และครอบคลุมเนื้อหามากที่สุด โดยอาจใช้ เทคนิคการบันทึกโดยใช้คำสัมผัส ซงึ่ การใช้คำทีม่ เี สยี งสัมผสั คลอ้ งจองจะช่วยใหจ้ ำได้ดี วธิ กี ารและเครือ่ งมอื ช่วยในการบนั ทกึ 1. การจดบันทึก การจดบันทึกสามารถดำเนินการได้หลายวิธี สำหรับผู้เรียนด้วยตนเองอาจ ดำเนนิ การบนั ทึกได้ตงั้ แต่ชว่ งการอ่านเอกสารการสอน เช่นการใช้ ดินสอหรอื ปากกาขีดเส้นใต้หรือใช้ ปากกาสีขีดบนข้อความสำคัญไว้ หรืออาจทำเครื่องหมาย * > < = / หรือ ? เป็นต้น หลังจากนั้นก็ นำมาจัดทำเป็นบันทึกย่อซึ่งสรุปสาระสำคัญจากการอ่านหรือการฟังการบรรยายจากอาจารย์สอน เสริมหรือจากการฟังหรือชมรายการวิทยุกระจายเสียง รายการวิทยุโทรทัศน์ ทำให้ได้เนื้อหา สั้น กะทดั รดั มีใจความ สำคัญครบถว้ นอ่านง่าย 2. การบันทึกย่อในกระดาษย่อความ การบันทึกย่อในกระดาษย่อความ ได้แก่การบันทึก สาระสำคญั และรายละเอยี ดพร้อมสรุปในกระดาษย่อความทีแ่ บ่งพืน้ ทีเ่ ป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 สาระสำคัญ ได้แก่ คำสำคัญ ประเด็นสำคัญหรือประโยคสำคัญที่มีคุณลักษณะ สำคัญ คือเป็นประโยคหรือคำที่มีความหมายครอบคลุมย่อหน้าใดย่อหน้าหนึ่งมากที่สุด อาจเป็น เนื้อหาในส่วนที่ผู้เขียนเน้นย้ำมากที่สุดและอาจเป็นคำหรือข้อความที่อธิบายรายละเอียด อธิบาย

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 470 472 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย สนบั สนนุ หรอื ความคิดเห็นท่ีแตกต่าง โดยทว่ั ไปมกั ปรากฏเปน็ ตัวอักษรขนาดใหญ่ หรือตัวอักษรหนา เขม้ หรือ ตวั อักษรเอยี ง สว่ นท่ี 2 รายละเอียด คือสว่ นข้อความท่เี ปน็ เน้อื หาสาระท่ขี าดไม่ได้ หรือเม่อื ไม่มีแลว้ อาจทำ ให้ไม่เข้าใจ หรือเขา้ ใจผดิ ได้ สว่ นที่ 3 ส่วนสรปุ เป็นการสรุปความหรือย่อความเป็นการนำเอาเร่ืองราวต่าง ๆ มาเขียนใหม่ ด้วยสำนวนภาษาของผู้เขียนเองเมื่อเขียนแล้วเนื้อความเดิมจะสั้นลง แต่ยังมีใจความสำคัญครบถ้วน การย่อนี้ไม่มีขอบเขตว่าย่อลงไปเท่าใด จึงจะเหมาะสม เพราะบางเรื่องมีใจความมากก็จะย่อได้ 1 ใน 2 บางครั้งมีใจความสำคัญน้อยอาจเหลือ 1 ใน 4 หรือมากกว่านั้น แต่ที่สำคัญควรครอบคลุมใจความ หรือเน้ือหาสาระสำคญั เดิม 3. บันทกึ เปน็ แผนภูมแิ บบเชอื่ มโยงความสัมพันธ์ แผนภมู ิ หมายถึง แผนท่ี เสน้ หรือ ตารางที่ ทำขึ้นเพื่อแสดงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การบันทึกแบบแผนภูมิเชื่อมโยงความสัมพันธ์ช่วยให้นักศึกษา สามารถรวบรวมเนอื้ หาสาระท่นี กั ศึกษาต้องการไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง เป็นระบบ ดูงา่ ย จำง่าย 4. บันทึกแบบแผนภูมิความคิด การเขียนแผนภูมิความคิด Mind maps หรือแผนภูมิช่วย จำเป็นการบันทึกและเรียบเรียงความเข้าใจในสาระที่ได้จากเนื้อเรื่องที่อ่านซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของ แผนภูมิ หรือแผนภาพที่ทำขึ้นได้ง่ายๆ โดยมิได้เน้นรูปแบบมากนัก เนื่องจากต้องการให้อิสระแก่ ผู้จัดทำแผนภูมิ ในการสรุปตามความเข้าใจด้วยรปู แบบของตนเอง Mind maps เป็นเครอื่ งมือช่วยจำ ที่ โทนี ปูซาน คิดค้นมาให้เหมาะสมกับการทำงานของสมองเพราะมีการแตกข้อมูลจากจุดศูนย์กลาง คลา้ ยเซลล์สมองจรงิ ๆ มีการใช้ภาพ ใชส้ สี ันซง่ึ ว่ากนั ตามหลักการทำงานของสมอง วธิ กี ารเขยี นแผนภูมิชว่ ยจำ การเขียนแผนภูมิช่วยจำมีเทคนิคในการเขียนคำอธิบายควรสั้น ใช้เครื่องหมาย รูปภาพ ตัวเลข สัญลักษณ์ต่าง ๆ มาประกอบเพื่อให้การเขียนแผนภูมิเป็นไปโดยง่ายและรวยเร็ว โดยมี แนวทางแบบง่าย ๆ ดงั นี้ 1. เริ่มต้นเขียนแผนภูมิ ด้วยการเขียนหัวเรื่อง หัวข้อสำคัญหรือประเด็นสำคัญที่สุด ด้วย รปู แบบใด ๆกไ็ ด้ที่คุณชอบไว้ตรงกลางกระดาษ 2. ค่อยๆ แตกแขนงความคิด ความเข้าใจออกไปเป็นข้อย่อย ๆ โดยแตกแขนงออกจาก ศนู ย์กลาง 3. ใชเ้ ส้นแสดงความเชื่อมโยงระหวา่ งเรื่อง หรอื ขอ้ ยอ่ ยต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งกันหรือต่อเน่ืองกัน โดยความยาวแตล่ ะเสน้ ไม่ตอ้ งเท่ากนั ขน้ึ อยกู่ บั ความยาวของคำบรรยายที่เขียนไว้บนเส้นนนั้ ๆ 4. เขยี นคำบรรยายส้นั ๆ ไวบ้ นเสน้ ดงั กลา่ ว

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 471 473 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย 5. ใช้ความหนาของเส้นและขนาดของตัวหนังสือที่ต่างกันขึ้นอยู่กับระดับความสำคัญของ เร่อื ง (เรือ่ งที่สำคัญกวา่ ให้ใชเ้ สน้ หนา ตัวอักษรโต) 6. ใช้หมายเลขช่วยในการเรยี งลำดับความสำคัญและความตอ่ เนือ่ งของสาระ 7. แผนภูมิความคิดท่ีใช้ในการสรุปเรือ่ งที่มีหัวข้อย่อยจำนวนมากๆ อาจแบ่งกลุ่มนำมาเขียน เป็นกลุ่มละ 1 หนา้ โดยมขี อ้ แนะนำวา่ แตล่ ะหนา้ ควรมีใจความจบในแตล่ ะเรื่องหรือแต่ละหวั ข้อ (ไม่ว่า เปน็ หวั ข้อใหญ่หรอื ขอ้ ย่อยกต็ าม ) 8. ควรแบ่งกระดาษเป็น 80 / 20 คือ 80 จดสิ่งที่อ่านหรือได้ฟังมา อีก 20 จดตามความคิด ของเรา สรปุ การเรยี นในระดับอุดมศกึ ษาผ้เู รยี นควรมที ักษะทีด่ ที ้ังทกั ษะทางด้านการอ่าน การฟัง โดยสามารถเชือ่ มโยงเน้ือหากบั ภาพในใจ (ในสมอง) ทีม่ ีอยู่อนั จะทำให้ผู้เรยี นเข้าใจในเน้ือหา และสามารถบันทึกแนวคดิ หลกั ออกมาในรปู แบบต่าง ๆ ได้หากผ่เู รยี นยงั ไม่เข้าใจเนอื้ หาในคร้ังแรก ทีเ่ รยี น (หรอื ต้องการศกึ ษารายละเอยี ดของรายวชิ าน้ัน) ผ้เู รยี นอาจอ่านหนงั สือตำราหรอื เอกสาร ประกอบการเรยี นการสอนรอบที่ 2 (ในบางรายวชิ าจะบันทกึ เทปวีดีทศั น์ นกั ศึกษาสามารถนำมาดู / ฟังอีกคร้ังได้) หรอื สอบถามจากอาจารย์ผ้สู อนซงึ่ จะทำใหผ้เู รยี นเข้าใจ และสามารถบนั ทกึ ได้ ถูกต้อง ตามความหมาย ดงั นั้นนกั ศกึ ษา จะเห็นได้ว่าการบันทึกย่อเป็นเรอื่ งง่าย ทีจ่ ะทำและยัง ช่วยการลด ปัญหาการอา่ นหนงั สอื ไมท่ นั อา่ นแล้วจำไมไ่ ด้ ได้เป็นอย่างดีอีกดว้ ย เรื่องท่ี 3 การวิเคราะห์รายรับ-รายจา่ ย การทำบันทึกเกี่ยวกับการเงิน หมายถึง การจดบันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการเงินอย่างน้อย ทีส่ ุดคือบางสว่ นยงั เก่ียวข้องกับการเงนิ โดยผ่านการวิเคราะห์ จดั ประเภท และบันทึกไว้ในแบบฟอร์ม ที่กำหนดเพื่อแสดงฐานะการเงินและผลของการดำเนินงานของบุคคลบันทึกการใช้จ่ายที่นกั เรียนอาจ เกย่ี วข้องดว้ ยได้แก่ • บนั ทึกการใช้จา่ ยสว่ นตัว • บันทึกการใช้จา่ ยของครอบครวั • บนั ทึกการใชจ้ ่ายในกจิ กรรมต่าง ๆ • วัตถปุ ระสงค์และประโยชน์ของการทำบนั ทกึ การรบั จา่ ย • เพ่ือเป็นข้อมลู ในการตัดสนิ ใจและวางแผนการใช้จา่ ยเงินของตนเองและครอบครัว • เพอื่ ควบคมุ การใช้จา่ ยเงนิ ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 472 474 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย • เพ่ือบันทึกเหตุการณเ์ ก่ยี วกับการเงินทีเ่ กิดขึน้ ในชว่ งระยะเวลาหน่ึง • เพือ่ ปอ้ งกนั การหลงลืมและขอ้ ผดิ พลาดในการทำงาน • เพือ่ ให้ทราบฐานะของบุคคล ณ วนั ใดวันหนึง่ ว่ามรี ายได้ หนส้ี ิน เทา่ ใด จากการทำบัญชีทำให้ทราบว่ารายได้และค่าใช้จ่ายในช่วงหนึ่งเป็นเท่าใดและมีเงินเก็บออม หรือไม่ หลักปฏิบัติในการทำบันทึกรายรับรายจ่ายของตนเอง การทำบันทึกรายรับรายจ่ายของ ตนเอง นอกจากจะมีประโยชนแ์ ละมีความสำคญั ต่อการดำเนินชวี ิตและยังเป็นการฝึกความมีระเบยี บ วนิ ัยในการใช้จ่ายเงินด้วย สำหรับหลักปฏิบตั ิในการทำบนั ทึกน้นั เป็นการทำบันทกึ อยา่ งงา่ ย ๆ การนำบันทึกรายรับรายจ่ายของตนเองไปใช้ประโยชน์ ช่วยความจำ สามารถเตือนตนเองได้ ว่าใช้เงินซื้อสิ่งของประเภทใด เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้เท่าใด เป็นของที่ต้องการเท่าใด ช่วยทบทวน ทำให้สามารถทบทวนการใช้จ่ายเงินว่าเหมาะสมหรือต้องลดค่าใช้จ่ายประเภทใดให้น้อยลงบ้าง ช่วย ในการวางแผนการใชจ้ ่ายพิจารณาจัดสรรเงินไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ หรอื สิง่ ท่ีต้องการในโอกาส พิเศษ โดยไม่ต้องรบกวนขอเงินเพ่ิมจากพ่อแม่ เป็นการช่วยประหยัดอีกทางหนึ่ง เป็นหลักฐานใน การขอเงินเพิม่ ในกรณีที่ไดร้ ับเงินไม่เพยี งพอแกก่ ารใช้จา่ ยบนั ทกึ การรับจา่ ยของตนเอง เรอ่ื งที่ 3 การพัฒนาระบบบัญชี การพฒั นา หมายถงึ ทำใหม้ ่ันคง ทำให้ก้าวหน้า การพฒั นาประเทศกท็ ำให้บ้านเมืองม่ันคงมี ความเจริญความหมายของการพัฒนาประเทศนี้ก็เท่ากับตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของแต่ละคนมีความ ปลอดภัย มีความเจริญ มคี วามสขุ ระบบบัญชี หมายถึง ระบบการจัดเก็บข้อมูลทางการเงินอันประกอบด้วยแบบฟอร์ม หรือ เอกสารต่าง ๆ การบันทึกทางการบัญชี ตลอดจนวิธีการและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้นำมาใช้ในการ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและการเงินของกิจการให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น พนักงาน ผูจ้ ัดการ ผบู้ ริหาร ผู้ถือหนุ้ เจา้ หนี้ และส่วนราชการ เปน็ ตน้ การตัดสินใจใช้โปรแกรมบัญชี มีหลายเหตุผล ขึ้นอยู่กับปัจจัยและความพร้อมหลายอย่าง สว่ นใหญก่ จ็ ะเปน็ ดงั นี้คอื 1. ลดขัน้ ตอนและความซำ้ ซอ้ นในการทำงาน 2. ลดต้นทุนได้ในระยะยาว เพ่อื ควบคมุ ข้ันตอนของงานใหด้ ีและเกิดประสิทธิภาพ 3. สามารถนำข้อมลู มาวเิ คราะห์ เพือ่ ตัดสนิ ใจและแขง่ ขันกับคู่แข่ง 4. ขอ้ มูลและรายงานทางบญั ชรี วดเร็ว และแม่นยำ 5. สรา้ งความเชือ่ ถอื ข้อมลู ทางบัญชีการเงนิ

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 473 475 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย คณุ สมบัติของโปรแกรมบญั ชีทด่ี ี 1. มีบรกิ ารหลงั การขายท่ดี ี 2. พัฒนาโดยนกั พัฒนาโปรแกรมมอื อาชพี 3. พนกั งานบรกิ ารมีความรู้ในระบบดี 4. โปรแกรมมกี ารพฒั นาอย่างตอ่ เน่ือง 5. ควรได้รบั การรับรองจากกรมสรรพากร ขน้ั ตอนการวางระบบงานด้วยโปรแกรมบญั ชี จัดประชุมระบบปฏิบัติการของทุก ๆ ระบบงานประชุมกับหัวหน้าแผนกและพนักงานที่ เกี่ยวข้องปรับปรุงระบบโปรแกรมบัญชีบางสว่ น ให้เหมาะสมกับงาน ไม่ได้หมายถึงทำตามใจผู้ใช้งาน โปรแกรมแต่ทางบริษทั จะคำนึงถึงความสะดวกของงานที่ตอ้ งทำ และต้องไม่ทำให้ระบบล้มเหลวหรอื ล่อแหลมตอ่ การถูกทจุ ริต หรือผิดหลกั กฎหมายจนทำให้บรษิ ทั ต้องเสยี หายในอนาคต 1. จัดประชุมผใู้ ชง้ านและผ้ทู เี่ กยี่ วขอ้ ง 2. กำหนดทางเดนิ ของเอกสารตา่ ง ๆ ทงั้ ระบบ 3. จดั ทำเอกสารโครงสร้างโปรแกรมบญั ชี 4. ตดิ ตัง้ ระบบโปรแกรม ในแต่ละแผนก 5. ตรวจสอบปัญหาและแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดต่าง ๆ 6. รายงานสรุปให้กบั ผ้บู ริหารทเี่ กีย่ วข้อง 7. ให้คำแนะนำระบบงานเพ่มิ เตมิ ความหมายของ “การบัญชี” การบัญชมี คี ำนยิ ามต่าง ๆ กนั ตามความนิยม แตท่ ่ีใชก้ นั มากได้แก่คำนิยามของสมาคมผู้สอบ บญั ชรี บั อนุญาตของประเทศสหรฐั อเมริกา ซึ่งกลา่ วไวว้ ่า การบัญชหี มายความถึง “การจดบนั ทกึ การ จำแนกการสรุปผลและการรายงานเหตุการณ์เกี่ยวกบั การเงินโดยใชห้ น่วยเป็นเงินตรารวมท้ังการแปล ความหมายของผลการปฏบิ ัติดงั กลา่ วด้วย” จากนิยามความหมายของการบัญชีดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าในกระบวนการทำบัญชีนั้น จะต้องเริ่มด้วยการรวบรวมเอกสารหลกั ฐานของเหตุการณ์ทางการเงินของธุรกิจหรือเรียกอีกอย่างวา่ รายการค้า เพื่อนำมาจดบันทึกเรียงตามลำดับก่อนหลังในสมุดรายวัน แล้วจึงนำมาจำแนกแยก ประเภทของรายการค้าในสมุดแยกประเภท จากนั้นทุกรอบระยะเวลาตามแต่ที่เราต้องการ เช่น ทุกเดือน ทุกไตรมาส ทุกปี ก็จะมาทำการสรุปผลสิ่งที่บันทึกแยกประเภทไว้แล้วนี้ออกมาเพื่อแสดง

บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 474 476 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ฐานะทางการเงนิ (งบดุล) ผลการดำเนนิ งาน (งบกำไรขาดทุน) และผลการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการ เงิน (งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงิน) ซึ่งงบที่แสดงผลสรุปนี้เรียกรวมว่า งบการเงิน และ งบการเงินทีไ่ ด้มาก็จะนำมาแปลความหมายในรูปของการวิเคราะหง์ บการเงินต่อไป ประโยชน์ของการบญั ชี เม่ือมีการจัดทำบัญชีแล้ว กิจการก็จะได้รับประโยชน์จากรายงานทางการบัญชใี นด้านต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ บัญชีทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการควบคุมดูแลทรพั ย์สิน เช่น บัญชีแสดงยอดเงินสด คงเหลือย่อมเป็นการบังคบั ให้ผรู้ กั ษาเงนิ สดต้องรับผดิ ชอบในยอดเงนิ สดให้ตรงกับทป่ี รากฏตามบัญชี การบัญชีเป็นวิธีการเก็บรวบรวมสถิติอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริหาร ในการ ควบคุมให้การดำเนินงานเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน เช่นไม่ หลงลืมจ่ายค่าใช้จา่ ยซ้ำและใช้ตรวจสอบความถูกต้องได้ในภายหลัง ช่วยคำนวณผลกำไรขาดทนุ ของ กจิ การสำหรบั ระยะเวลาหนง่ึ รวมท้งั ยงั ช่วยแสดงฐานะของกจิ การในขณะใดขณะหนง่ึ ดว้ ย ระบบบัญชี แบง่ แยกเป็นส่วนยอ่ ยได้ดง้ั นค้ี อื 1. ระบบการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลรายการทางการเงิน โดยกำหนดแบบพิมพ์หรือเอกสารท่ี กจิ การใช้อยู่แลว้ ในการทำธุรกจิ เช่น ใบส่งสนิ ค้า ใบรับสินคา้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคญั จ่ายเงิน เป็นต้น ซ่งึ เป็นแหล่งข้อมลู ทก่ี จิ การจะใชใ้ นการบนั ทกึ รายการทางบัญชี 2. ระบบในการบันทึก รายการทางเงินเหล่านี้ตามลำดับก่อนหลัง โดยกำหนดประเภทของ สมุดรายวันขั้นต้น ซึ่งทั่วไปก็ได้แก่ สมุดรายวันทั่วไป สมุดรายวันขาย สมุดรายวันซื้อ สมุดเงินสด เป็นตน้ เพอื่ ใชใ้ นการบันทกึ รายการดงั กล่าว 3. ระบบการแยกประเภทบัญชี โดยกำหนดจากประเภทของสินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ คา่ ใชจ้ ่ายตามความเหมาะสมของแต่ละกิจการ เพอื่ ใชใ้ นการผา่ นรายการบัญชี 4. ระบบในการจัดทำรายงานในรูปงบการเงิน ซึ่งก็ได้แก่การวางรูปแบบของงบดุล งบกำไร ขาดทนุ และรายงานอ่ืนตามที่กจิ การต้องการ การวางแผนระบบบญั ชี ดงั ได้กลา่ วมาแลว้ ว่าบัญชีคือ การรวบรวมข้อมูล รายการค้าของกิจกรรม ดังนัน้ พนักงาน ทุกคนของกิจการต่างก็มีส่วนอยู่ตลอดเวลาที่ก่อให้เกิดรายการค้าขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้อง กำหนดให้ชัดเจนว่ามีการทำรายการค้าอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้น พนักงานคนใดต้องทำอะไร ใช้เอกสาร แบบพิมพ์อะไร กรอกข้อความอะไรลงในแบบพิมพ์ที่กำหนดนั้น เรียบร้อยแล้วต้องนำส่งให้พนักงาน

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 475 477 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย บัญชีอย่างไร และเมื่อพนักงานบัญชีได้รับแล้วจะต้องบันทึกอย่างไร ขั้นต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้นคือการ วางแผนระบบบญั ชีน้ันเอง ซ่ึงกจิ การโดยทว่ั ไปพอจะแยกธุรกรรมหลักๆ ทต่ี ้องวางหลักการขั้นตอนใน การทำงานเพ่อื ใชใ้ นการบันทึกรายการทางบญั ชไี ด้ดงั นี้ 1. ระบบบญั ชสี ำหรบั การจัดซื้อและควบคุมสินคา้ คงเหลือ 2. ระบบบญั ชสี ำหรับการขายและควบคุมลูกหนี้ 3. ระบบบัญชสี ำหรับการคำนวณตน้ ทุนในการผลติ 4. ระบบบัญชสี ำหรบั เงินสดรับ 5. ระบบบัญชีสำหรับเงินสดจา่ ย เมื่อวางระบบกำหนดหน้าที่ของแต่ละคนได้แล้ว ในการบันทึกรายการทั้งในระดับตามเวลา ก่อนหลังและบันทึกแยกประเภทบัญชี ตลอดจนการจัดทำรายงาน กิจการอาจพิจารณาใช้ระบบ คอมพวิ เตอร์เข้าช่วยได้ ซง่ึ ปจั จบุ นั มซี อฟต์แวร์สำเร็จรปู ทางบัญชีใหเ้ ลือกมากมายในท้องตลาด

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 476 478 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ใบงาน คำสงั่ 1. ให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนบทเรียนออนไลน์ท่ี 2 เรื่อง การทบทวนองคค์ วามรู้ ทจ่ี ำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพใหม้ รี ายได้ มีเงินออมและมีทุนในการขยายอาชีพ จำนวน 5 ข้อ 2. ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาความรูจ้ ากใบความรู้บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 เร่ือง การทบทวนองค์ ความรูท้ ีจ่ ำเป็นต่อการพัฒนาอาชพี ให้มรี ายได้ มีเงินออมและมที นุ ในการขยายอาชพี 3. ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การทบทวนองค์ความรู้ที่จำเปน็ ตอ่ การพัฒนาอาชพี ให้ มีรายได้ มเี งนิ ออมและมีทุนในการขยายอาชีพ จำนวน 3 ขอ้ 4. ใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นบทเรยี นออนไลน์ที่ 2 เร่อื ง การทบทวนองค์ความรู้ท่ี จำเปน็ ตอ่ การพฒั นาอาชีพให้มีรายได้ มีเงนิ ออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ จำนวน 5 ข้อ Google site บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 เร่ือง การทบทวนองค์ความรทู้ ่จี ำเป็นต่อการพัฒนาอาชพี ให้มี รายได้ มเี งนิ ออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 477 479 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง การทบทวนองคค์ วามรู้ท่ีจำเปน็ ตอ่ การพฒั นาอาชีพให้มรี ายได้ มเี งนิ ออม และมีทุนในการขยายอาชพี คำชแ้ี จง ใหเ้ ลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องที่สุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ข้อ ( 5 คะแนน) 1. ขอ้ ใดคือการจดั การความรู้ (KM, 4. ความรทู้ เ่ี ช่อื มโยงกบั โลกของความเปน็ จริง Knowledge Management) ภายใตส้ ภาพความเป็นจรงิ ท่ีซับซอ้ น ก. การระบุปญั หา ก. ความรู้เชิงทฤษฎี (Know-What) ข. การจัดสรรทรพั ยากร ข. ความรู้ระดับที่อธบิ ายเหตุผล (Know- ค. การพัฒนาระบบข้อมลู ไปสสู่ ารสนเทศ How) ง. การรวบรวม สรา้ ง จดั ระเบยี บ และ ค. ความรู้เชิงทฤษฎแี ละเชิงบริบท เปล่ียนและประยุกต์ใชค้ วามรู้ (Know-Why) ง. ความรู้ในระดบั คุณคา่ ความเชื่อ (Care- 2. ขอ้ ใดไมเ่ ปน็ ความรู้แบบชัดแจ้ง Why) ก. เว็บไซต์ ข. หนังสือ 5. “ผู้บริโภคสนใจซอ้ื เฉพาะสินค้าทจี่ ำเป็น ค. วัฒนธรรมองคก์ ร สำหรับการดำรงชพี เท่านนั้ ”เนน้ แนวคิด ง. คูม่ อื การปฏิบัติงาน ทางการตลาดขอ้ ใด ก. ความคดิ มงุ่ การขาย 3. “งานท่ถี ูกออกแบบขึ้นมาเพ่อื เกบ็ รวบรวม ข. ความคิดมงุ่ การตลาด ขอ้ มลู การจัดทำสารสนเทศและสนับสนุน ค. ความคดิ เก่ียวกับการผลติ สารสนเทศ ไดแ้ กบ่ คุ คลและหน่วยงานต่าง ง. ความคิดเกยี่ วกบั ผลิตภัณฑ์ ๆ ภายในองค์กรที่ต้องใช้” ข้อความ ขา้ งตน้ เป็นความหมายของขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี ก. ข้อมลู ข. สารสนเทศ ค. ระบบเทคโนโลยี ง. ระบบสารสนเทศ

บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 478 480 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ใบความรู้ บทเรียนออนไลน์ที่ 2 เรอื่ ง การทบทวนองค์ความรู้ที่จำเปน็ ตอ่ การพฒั นาอาชีพให้มีรายได้ มีเงินออม และมที ุนในการขยายอาชพี เรื่องท่ี 1 การทบทวนองค์ความรูท้ ่ีจำเป็นต้องใชใ้ นการเรยี นรู้ การจัดการความรู้( Knowledge management - KM) คือ การรวบรวม สร้าง จดั ระเบียบ แลกเปลีย่ นและประยุกตใ์ ชค้ วามรูใ้ นองคก์ ร โดยพฒั นาระบบจากข้อมลู ไปสู่ สารสนเทศ เพอื่ ให้เกดิ ความร้แู ละปัญญาในทีส่ ดุ การจดั การความร้ปู ระกอบไปด้วยชุดของการปฏบิ ัตงิ านทีถ่ กู ใช้โดยองค์กรต่าง ๆ เพอื่ ทีจ่ ะระบุสร้างแสดงและกระจายความรู้ เพอื่ ประโยชนในการนำไปใช้ และการเรยี นรู้ภายในองคก์ ร อนั นำไปสูก่ ารจดั การสารสนเทศทีม่ ปี ระสิทธภิ าพมากขึน้ ซ่งึ เป็นสง่ิ ทจี่ ำเปน็ สําหรับการดาํ เนินการธุรกจิ ท่ดี ี องค์กรขนาดใหญ่โดยส่วนมากจะมกี ารจดั สรรทรพั ยากร สำหรบั การจัดการองค์ ความรู้ โดยมักจะเป็นส่วนหนงึ่ ของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศหรอื แผนกการจดั การ ทรพั ยากรมนุษย์ รูปแบบการจัดการองค์ความรู้โดยปกติจะถูกจัดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์กรและ ประสงค์ท่ีจะไดผ้ ลลัพธ์เฉพาะด้าน เช่น เพือ่ แบ่งปันภูมปิ ัญญา,เพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพการทำงาน, เพ่ือ ความไดเ้ ปรียบทางการแข่งขัน, หรือเพอ่ื เพิม่ ระดบั นวัตกรรมใหส้ ูงข้ึน ปัจจบุ ันโลกได้เข้าสู่ยคุ เศรษฐกจิ ฐานความรู้ (Knowledge-based Economy – KBE) งานต่าง ๆ จำเปน็ ต้องใช้ความร้มู าสร้างผลผลิตให้เกดิ มูลค่าเพมิ่ มากยงิ่ ขึ้น การจดั การความรู้ เป็นคํากว้าง ๆ ที่มีความหมายครอบคลมุ เทคนิคกลไกต่าง ๆ มากมาย เพอื่ สนบั สนนุ การทำงาน ของแรงงานความรู้ (Knowledge Worker) มีประสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้ึน กลไกดงั กล่าวได้แก่ การ รวบรวมความรู้ ทีก่ ระจดั กระจายอยู่ทีต่ ่าง ๆ มารวมไว้ทีเ่ ดยี วกนั การสรางบรรยากาศให้คน คดิ ค้น เรยี นรู้ สร้างความรู้ใหม่ๆ ข้ึน การจดั ระเบียบความรู้ ในเอกสารและทำสมุดหนา้ เหลือง รวบรวมชอ่ื ผู้ มคี วามร้ใู นดา้ นตา่ ง ๆ และ ทสี่ ําคญั ทีส่ ดุ คอื การสรางช่องทาง และเงอื่ นไขให้ คนเกดิ การแลกเปลยี่ นความรู้ ระหว่างกันเพอื่ นาํ ไปใชพฒั นางานของตนให้สัมฤทธ์ิผล ประเภทของความรู้ ความรู้สามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้สองประเภท คือ ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) และความรู้แฝงเร้น หรือความรู้แบบฝังลึก (Tacit Knowledge) ความรู้ชัดแจ้งคือ

บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 479 481 วิชา การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ความรู้ที่เขียนอธิบายออกมาเป็นตัวอักษร เช่น คู่มือปฏิบัติงาน หนังสือ ตำรา เว็บไซด์ Blog ส่วน ความรู้แฝงเร้นคือความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน ไม่ได้ถอดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบางครั้งก็ไม่ สามารถถอดเป็นลายลักษณ์อักษรได้ความรู้ที่สำคัญส่วนใหญ่ มีลักษณะเป็นความรู้แฝงเร้น อยู่ใน คนทำงาน และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่อง จึงต้องอาศัยกลไกแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้คนได้พบกัน สร้าง ความไว้วางใจกนั และถ่ายทอดความรรู้ ะหว่างกันและกนั ความรู้แบบฝงั ลึก (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ท่ีไม่สามารถอธบิ ายโดยใชค้ ำพดู ได้ มี รากฐานมาจากการกระทำและประสบการณ์ มลี กั ษณะเปน็ ความเชื่อ ทักษะ และเปน็ อตั วสิ ัย (Subjective) ตอ้ งการการฝึกฝนเพื่อใหเ้ กิดเชน่ วิจารณญาณ ความลับทางการค้า วฒั นธรรมองค์กร ทักษะ ความเช่ยี วชาญในเร่อื งตา่ ง ๆ การเรียนรู้ขององค์กรความสามารถในการชมิ รสไวน์ หรือกระทั่ง ทักษะในการสงั เกตเปลวควันจากปลอ่ งโรงงานว่ามีปญั หาในกระบวนการผลติ หรือไม่ ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ท่ีรวบรวมไดง้ ่าย จัดระบบและถา่ ยโอน โดยใช้วิธีการดิจิทัล มีลักษณะเป็นวัตถุดิบ (Objective) เป็นทฤษฏีสามารถแปลงเป็นรหัสในการ ถ่ายทอดโดยวิธีการที่เปน็ ทางการไมจ่ ำเปน็ ต้องอาศัยการปฏิสัมพันธ์กับผูอ้ ื่นเพื่อถ่ายทอดความรู้ เชน่ นโยบายขององค์กร กระบวนการทำงานซอฟตแ์ วร์ เอกสาร และกลยทุ ธ์ เป้าหมายและความสามารถ ขององค์กร ความรู้ย่ิงมลี ักษณะไม่ชัดแจง้ มากเทา่ ไรการถา่ ยโอนความรู้ยง่ิ กระทำได้ยากเท่านั้น ดังน้ัน บางคนจึงเรียกความรู้ประเภทนี้ว่าเป็นความรู้แบบเหนียว (Sticky Knowledge) หรือความรู้ที่ฝังลึก อยู่ภายใน (Embedded Knowledge) ส่วนความรูแ้ บบชดั แจ้งมีการถ่ายโอนและแบ่งปนั ง่าย จึงมีช่ือ อีกชื่อหนึ่งว่า ความรู้แบบรั่วไหลได้ง่าย (Leaky Knowledge) ความสัมพันธ์ของความรู้ทั้งสอง ประเภทเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน (Mutually Constituted) (Tsoukas, 1996) เนื่องจากความรู้แบบฝังลึกเป็นส่วนประกอบของความรู้ทั้งหมด (Grant, 1996) และสามารถ แปลงให้เป็นความรู้แบบชัดแจ้งโดยการสื่อสารด้วยคำพูดตามรูปแบบของเซซี (SECI Model ของ Nonaka และ Takeuchi) ความรู้ทง้ั แบบแฝงเร้นและแบบชัดแจ้งจะมีการแปรเปล่ียนถา่ ยทอดไปตาม กลไกตา่ ง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ การถอดความรู้ การผสานความรู้ และการซมึ ซับความรู้ การจัดการความรู้นั้นมีหลายรูปแบบ มีหลากหลายโมเดล แต่ที่น่าสนใจ คือ การจัดการ ความรู้ที่ทำให้คนเคารพศักดิ์ศรีของคนอื่น เป็นรูปแบบการจัดการความรู้ที่เชื่อว่า ทุกคนมีความรู้ ปฏิบัติในระดับความชำนาญที่ต่างกัน เคารพความรู้ที่อยู่ในคน เพราะหากถ้าเคารพความรู้ในตำรา วิชาการอย่างเดยี วนน้ั กเ็ ทา่ กับว่าเป็นการมองวา่ คนทไ่ี ม่ไดเ้ รียนหนังสือ เป็นคนทีไ่ ม่มีความรู้

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 480 482 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ระดบั ของความรู้ จำแนกระดับของความรู้ สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 4 ระดบั คือ ความรู้เชิงทฤษฏี (Know-What) เป็นความรู้เชิงข้อเท็จจริง รู้อะไร เป็นอะไร จะพบในผู้ที่ สำเร็จการศึกษามาใหม่ ๆ ที่มีความรู้โดยเฉพาะความรู้ที่จำมาได้จากความรู้ชัดแจ้งซึ่งได้จากการได้ เรยี นมาก แต่เวลาทำงานกจ็ ะไม่มั่นใจ มักจะปรึกษารุน่ พก่ี อ่ น ความรู้เชิงทฤษฏีและเชิงบริบท (Know-How) เป็นความรู้เชื่อมโยงกับโลกของความเป็น จริงภายใต้สภาพความเป็นจริงที่ซับซ้อนสามารถนำเอาความรู้ชัดแจ้งที่ได้มาประยุกต์ใช้ตามบริบท ของตนเองได้มกั พบในคนทท่ี ำงานไปหลายๆ ปี จนเกดิ ความรู้ฝงั ลกึ ท่ีเปน็ ทกั ษะหรือประสบการณ์มาก ขึ้น ความรู้ในระดับที่อธิบายเหตุผล (Know-Why) เป็นความรู้เชิงเหตุผลระหว่างเรื่องราวหรือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ผลของประสบการณ์แก้ปัญหาที่ซับซ้อนและนำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับผู้อื่น เป็นผู้ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วเกิดความรู้ฝังลึก สามารถถอดความรู้ฝังลึกของตนเองมา แลกเปลี่ยนกับผู้อื่นหรือถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้พร้อมทั้งรับเอาความรู้จ ากผู้อื่นไปปรับใช้ในบริบทของ ตนเองได้ ความรู้ในระดับคุณค่า ความเชื่อ (Care-Why) เป็นความรู้ในลักษณะของความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ที่ขับดันมาจากภายในตนเองจะเป็นผู้ที่สามารถ สกัด ประมวล วิเคราะห์ความรู้ที่ตนเองมี อยู่ กับความร้ทู ต่ี นเองได้รบั มาสร้างเปน็ องค์ความรู้ใหมข่ ้ึนมาได้ เช่น สร้างตวั แบบหรอื ทฤษฏใี หม่หรือ นวตั กรรม ขน้ึ มาใช้ในการทำงานได้ กรอบแนวคดิ การจดั การความรู้

481 483 บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 วชิ า การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย ตวั อยา่ งแผนผังอิชคิ ะวะ แผนผงั อิชคิ ะวะ (Ishikawa diagram) หรือแผงผงั ก้างปลา (หรือในชื่ออนื่ ของไทยเช่น ตัว แบบทนู า่ หรือตวั แบบปลาตะเพยี น) เปน็ กรอบแนวคิดอยา่ งงา่ ยในการจดั การความรู้ โดยใหก้ าร จดั การความรเู้ ปรยี บเสมือนปลา ซ่ึงประกอบด้วยสว่ นหวั ลำตวั และหาง แตล่ ะส่วนมหี น้าทีท่ ่ตี า่ งกนั ดังน้ี สว่ นหัวและตา (Knowledge Vision - KV) มองว่ากำลังจะไปทางไหน ซ่ึงตอ้ งตอบใหไ้ ด้วา่ “ทำ KM ไปเพื่ออะไร” ส่วนกลางลำตัว (Knowledge Sharing - KS) สว่ นทเ่ี ป็นหัวใจใหค้ วามความสำคัญกับการ แลกเปลยี่ นเรียนรชู้ ่วยเหลือ เกื้อกลู กันและกัน ส่วนหาง (Knowledge Assets - KA) คอื สรา้ งคลังความรู้ เชื่อมโยงเครือข่าย ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ “สะบัดหาง” สรา้ งพลงั จากชมุ ชนแนวปฏบิ ตั ิ สถาบันส่งเสริมการจดั การความรู้เพื่อสังคม (สคส.) ในประเทศไทย ได้พัฒนาตัวแบบทูน่า เปน็ “ตวั แบบปลาตะเพียน” โดยมองวา่ องคก์ ารมหี น่วยงานยอ่ ย ซ่งึ มคี วามแตกต่างกนั รปู แบบความรู้ แต่ละหน่วย จึงต้องปรับให้เหมาะสมกับบริษัทของตน แต่ทั้งฝูงปลาจะหันหน้าไปทิศทางเดียวกัน กรอบความคิดของ Holsapple Holsapple ได้ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับพัฒนาการของแนวคิด ของการจัดการความรู้ 10 แบบมาประมวลซึ่งแสดงถึงส่วนประกอบของการจัดการความรู้ (KM elements) เพื่อนำไปจัดระบบเป็นองค์ประกอบหลัก 3 ด้านของการจัดการความรู้ (Three-fold framework) ได้แก่ ทรัพยากรด้านการจดั การความรู้กจิ กรรมการจดั การความรู้ และอิทธิพลของการ จัดการความรู้ และให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ให้ ข้อคิดเห็น วิจารณ์และข้อเสนอแนะ ได้ผลออกมาเป็นกรอบความร่วมมือ (Collaborative Framework) การถา่ ยทอดความรู้ การถ่ายทอดความรู้ อันเป็นส่วนประกอบของการจัดการองค์ความรู้ ถูกประพฤติปฏิบัติกัน มานานแล้วตัวอย่างรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ เช่น การอภิปรายของเพื่อนร่วมงานในระหว่างการ ปฏิบตั งิ าน, การอบรมพนักงานใหม่อย่างเป็นทางการ, หอ้ งสมุดขององค์กร, โปรแกรมการฝึกสอนทาง อาชีพและการเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งรูปแบบการถ่ายทอดความรู้มีการพัฒนารูปแบบโดยอาศัยเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ท่ีกระจายอย่างกว้างขวางในศตวรรษที่ 20 ก่อให้เกิดเทคโนโลยีฐานความรู้, ระบบ ผเู้ ชีย่ วชาญและคลงั ความรู้ ซึง่ ทำใหก้ ระบวนการถา่ ยทอดความรูง้ ่ายมากขึ้น

482 484 บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 วิชา การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย เรอ่ื งท่ี 2 การจดั ลำดับความสำคญั / จำเปน็ ขององค์ความรู้ แนวทางการจัดกจิ กรรมการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาอาชพี เร่งรัดส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพ ที่ตอบสนองความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายโดยมุ่งเน้นการปฏิบัติจริงที่บูรณาการกับวิถีชีวิตให้กับบุคคลและชุมชนเพื่อแก้ ไข ปญั หาการวา่ งงานและเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ให้กับเศรษฐกจิ ชุมชน โครงการและกิจกรรมจัดให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ กศน.รับผิดชอบ โดยมีเนื้อหาจุดเน้น สาระ 4 ประการ 1. การพัฒนาทักษะอาชีพ หมายถึง ฝึกทักษะอาชีพในลักษณะหลักสูตรระยะสั้นตอบสนอง ความต้องการผู้เรยี นใหม้ ีความรู้และทกั ษะพ้ืนฐานในอาชีพ 2. การฝึกอบรมเพื่อเข้าสู่อาชีพ หมายถึง การจัดฝึกอบรมให้ผู้อบรมที่ทักษะอาชีพอยู่แล้ว และสนใจเขา้ สอู่ าชพี ให้สามารถประกอบอาชีพได้และมรี ายได้ 3. การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ หมายถึง การจัดฝึกอบรมให้ผู้ประกอบอาชีพประเภท เดียวกันให้พัฒนาอาชีพให้ดีขึ้นท้งั ในเชงิ คุณภาพและปริมาณ 4. การพฒั นาอาชพี ด้วยเทคโนโลยี หมายถึง การฝึกอบรมการใชเ้ ทคโนโลยใี ห้ผอู้ บรมนำมาใช้ ในการพัฒนากิจการอาชีพและศักยภาพตนเอง เช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการตลาด เทคโนโลยกี ารผลิต ยทุ ธศาสตร์ 1. การใช้ชุมชนเป็นฐาน โดยใช้ข้อมูลสารสนเทศของชุมชนด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และอาชีพที่มีอยู่แล้วในชุมชน ที่สอดรับกับ ความต้องการ ของกลุ่มอาชีพในชุมชนเป็นฐานข้อมูลท่ี นำไปจดั กระบวนการเรียนรู้ 2. การมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนหน่วยงานต่างๆ และองค์กร ท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติและรว่ มรับผลประโยชน์ ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน 3. การใช้ต้นทนุ ทางสังคม เน้นการใชต้ น้ ทนุ จากสังคม 6 แห่ง - ทุนทรพั ยากรธรรมชาติ - ทุนทรัพยากรบคุ คล - ทุนภมู ปิ ัญญาและแหล่งการเรยี นรู้ - ทนุ ทางวัฒนธรรม - ทนุ รัฐบาล (กองทนุ หมูบ่ ้าน)

483 485 บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 วชิ า การพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ (อช32001) ม.ปลาย - ทุนทางความรู้มาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 4. หลักการบูรณาการและปฏิบตั ิจริงในการเรียน การทำงานท่ีสอดคล้องกับวถิ ีชวี ติ ของชุมชน โดยรว่ มกนั คดิ ทำ จำ แก้ปัญหา และพฒั นา 5. การใช้กระบวนการกลุ่มในการดำเนินงานคือ มีการทำงานเป็นกลุ่มโดยมีประธานกลุ่ม เลขากลุ่มเหรัญญิกกล่มุ กรรมการกล่มุ เร่ืองที่ 3 การตัดสนิ ใจเลอื กความรูท้ จี่ ำเปน็ ตอ้ งใช้ แนวความคดิ ทางการตลาด ในระบบการผลติ ก่อนที่จะมกี ารปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรมนั้นมนุษย มกั จะผลติ สินค้าเองและเป็น ผูใ้ ช้เอง การผลิตมักผลติ ดว้ ยมอื หรอื ผลิตเฉพาะภายในครัวเรอื นเท่าน้นั จะมกี ารขายหรอื แลกปล่ียน กม็ ใี นบรเิ วณแคบหลงั จากมีการปฏวิ ัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 ระบบการผลติ จึงมีมากขน้ึ (Mass Product) ประกอบกบั ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มมี ากข้นึ จึงทำให้ตลาดขยาย ตวั อย่างรวดเร็ว ดังเช่น ตลาดในปัจจบุ ันและแนวความคดิ ทางการตลาดของผูบรหิ ารต่อไปนี้เป็น แนวคดิ เร่ิม ต้งั แตส่ มยั แรกจนถึงปัจจุบนั ดงั น้ี 1. ความคดิ เกยี่ วกบั การผลิต (Production Concept) สินค้าทีผ่ ลิตออกมาแล้วสามารถ จำหน่ายออกได้นั้นก็ต้องประกอบด้วยสินค้ามีจำหน่ายทั่วไปหาซื้อได้ง่าย ผลิตสินค้าทันต่อความ ต้องการ ราคายุติธรรม และสินค้ามีจำนวนเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคหรือผู้บริโภคมี ความต้องการสินค้ามากกว่าผู้เสนอ สินค้าจึงขายได้หมด ดังนั้น ผู้บริหารที่มีแนวคิดด้านนี้ จะมุ่ง ปรับปรุงพัฒนาระบบการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นก็ตาม นักการตลาดจะหันไป ลดราคา โดยหาวิธีการผลิตที่ดีกว่าเดิมหรือประหยัดกว่าเดิม รวมทั้งการกำหนดระบบการจัด จำหน่ายที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างทั่วถึงด้วย แนวความคิดการผลิตแบบนี้จะช่วยให้ประสบ ความสำเรจ็ ง่ายข้นึ อีกท้ังยงั เป็นการจำกัดคู่แขง่ ได้ดว้ ย 2. ความคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (Product Concept) ผู้บริหารที่มีแนวความคิดในผลิตภัณฑ์ จะเห็นความสำคัญของตัวสินค้าเป็นหลักคือ สินค้าจะขายได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า สินค้ามีคุณภาพ อยา่ งไรเม่ือเปรียบเทียบกับราคา นกั การตลาดจงึ เน้นเรื่องการพัฒนาปรับปรงุ ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดี ที่สุดหรือดีกว่าคู่แข่งขันและจัดจำหน่ายในราคาท่ีเหมาะสม รวมทั้งการให้บรกิ ารอำนวยความสะดวก ในการซอ้ื อีกด้วย 3. ความคดิ ม่งุ การขาย (Sales Concept) แนวคดิ นี้ผบู้ รโิ ภคจะสนใจซือ้ เฉพาะสนิ คา้ ที่จำเป็น สำหรับการดำรงชีวิตเท่าน้ัน และเขาจะไมส่ นใจกบั สนิ คา้ ท่ีไมค่ ่อยจำเป็น ผ้บู ริหารที่มีแนวความคิดมุ่ง การขายจะพยายามมุ่งขายสินคา้ ที่ผู้บริโภคไม่ค่อยสนใจใหข้ ายดียิ่งขึน้ โดยใชเ้ คร่ืองมือการขายเข้ามา ช่วยกระตุน้ ให้ผบู้ รโิ ภคสนใจในผลติ ภัณฑ์ ประกอบกับอบรมพนกั งานขายให้เทคนคิ การขายให้ดยี ิ่งขึน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook