หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เรื่องท่ี 5 การอ่านตีความเอกสารทางวชิ าการ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 154 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เรื่องที่ 5 การอ่านตคี วามเอกสารทางวชิ าการ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. ม่งุ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 155 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 5 การอ่านตีความเอกสารทางวชิ าการ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 156 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 การอ่านตีความเอกสาร 2 ชวั่ โมง ค่มู ือ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งมอื หรอื เคร่อื งใช้ ชว่ ยใหใ้ ชเ้ คร่อื งมอื ไดถ้ กู วธิ ี 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.1/7 ปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเครอ่ื งมอื หรอื เคร่อื งใชใ้ นระดบั ทย่ี ากขน้ึ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ปฏบิ ตั ติ ามค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งมอื หรอื เคร่อื งใชใ้ นระดบั ทย่ี ากขน้ึ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การอ่านและปฏบิ ตั ติ ามเอกสารค่มู อื 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตคี วาม 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 157 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื (ชั่วโมงท่ี 1) 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ชวั่ โมงท่ี 1 ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : – นักเรียนคิดว่า ค่มู ือการใช้เคร่ืองมือต่างๆ มีความสาคญั อยา่ งไร 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครซู กั ถามนกั เรยี นวา่ เวลานักเรยี นใชเ้ คร่อื งมอื หรอื เคร่อื งใช้ (ชว่ ยใหส้ ามารถใชเ้ ครอื่ งมอื ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และถกู วธิ )ี ตา่ งๆ นักเรยี นเคยอ่านคมู่ อื หรอื ไม่ 3. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ประโยชน์ของคมู่ อื การใช้ เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ 4. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื หรอื เคร่อื งใชต้ ่างๆ มปี ระโยชน์มาก ทาใหส้ ามารถใชเ้ คร่อื งมอื หรอื เคร่อื งใชเ้ หล่านนั้ ไดถ้ ูกวธิ ี ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา สอ่ื การเรยี นรู้ : หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 1. นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การอา่ นตคี วามเอกสารคมู่ อื จากหนงั สอื เรยี น 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ใจความสาคญั หลกั การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื 3. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ประโยชน์ทไ่ี ด้ จากการอา่ นตคี วามเอกสารค่มู อื ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ : คมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งมอื หรอื เครอ่ื งใช้ 1. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จากนนั้ ใหส้ มาชกิ แต่ละคนนาคมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของ เครอ่ื งมอื หรอื เครอ่ื งใชช้ นดิ ใดชนดิ หน่งึ (ครมู อบหมายให้ นกั เรยี นจดั เตรยี มมาลว่ งหน้า) เพอ่ื นามาใชใ้ นการศกึ ษา 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กคมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านมากลุ่มละ 1 เรอ่ื ง และชว่ ยกนั ตคี วามค่มู อื โดยใชห้ ลกั การจบั ใจความ สาคญั 158 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน ชวั่ โมงท่ี 2 เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื (ช่ัวโมงท่ี 2) 3. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สรุปผลการตคี วามคมู่ อื แลว้ สรุปใจความ สาคญั จากนนั้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมารายงานผลและอธบิ าย ขอ้ มลู จากคมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเครอ่ื งมอื หรอื เคร่อื งใชท้ ก่ี ลมุ่ เลอื ก ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. เครอ่ื งชงั่ สปรงิ 2. ใบงานท่ี 2.5 นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี 2.5 เร่อื ง การปฏิบตั ิ ตามคมู่ อื แนะนาวิธีการใช้งานของเครื่องใช้ โดยการอ่านเรอ่ื ง ตงั้ แต่ตน้ จนจบ หลงั จากนนั้ ทดลองปฏบิ ตั กิ ารใชเ้ ครอ่ื งชงั่ สปรงิ ตาม ขนั้ ตอน เสรจ็ แลว้ ส่งครตู รวจ (คมู่ อื การใชเ้ ครอื่ งชงั่ สปรงิ น้ีเป็นเพยี ง การยกตวั อยา่ ง เพอื่ การทดลองและปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนการใชง้ าน จรงิ ครสู ามารถเลอื กหรอื เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม เช่น คมู่ อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของพดั ลม เตารดี ไอน้า ชนั้ วางทวี ี หรอื เครอื่ ง ปัน่ น้าผลไม้ เพอื่ ความสะดวกและงา่ ยตอ่ การศกึ ษาของนกั เรยี น) ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 2.5 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนนาเสนอผลการทาใบงานท่ี 2.5 ครปู ระเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ 7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 2.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.5 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน 159 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งมอื หรอื เครอ่ื งใช้ 3) เครอ่ื งชงั่ สปรงิ 4) ใบงานท่ี 2.5 เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ ามค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเครอ่ื งใช้ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 160 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื ใบงานท่ี 2.5 การปฏิบตั ิตามค่มู ือแนะนาวิธีการใช้งานของเครอื่ งใช้ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นและปฏบิ ตั ติ ามค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งใช้ แลว้ ตอบคาถาม วธิ ใี ชแ้ ละการดแู ลรกั ษาเครอื่ งชง่ั ชนดิ ที่ 6 (เครอ่ื งชง่ั สปรงิ ) เพ่อื ใหก้ ารใชเ้ ครอ่ื งชงั่ ชนิดท่ี 6 (เคร่อื งชงั่ สปรงิ ) แบบหน้าปัดกระจกถูกตอ้ งเทย่ี งตรงอย่เู สมอ จงึ แนะนาวธิ ใี ชแ้ ละการดแู ล รกั ษาเครอ่ื งชงั่ ดงั น้ี วิธีใช้ * ตงั้ เคร่อื งชงั่ ใหไ้ ดร้ ะดบั กบั พน้ื ราบ (เครอ่ื งชงั่ สองหน้า หากไมไ่ ดร้ ะดบั เขม็ จะไมต่ รงกนั ) * ถาดชงั่ ตอ้ งมหี มายเลขตรงกบั เคร่อื งชงั่ และสะอาด * ก่อนชงั่ เขม็ จะตอ้ งตรงศนู ย์ (0) ถา้ ไม่ตรง ใหป้ รบั ใหต้ รงดว้ ยวธิ ใี ชค้ มี หมุนน็อตใตถ้ าดชงั่ * อยา่ ชงั่ น้าหนักเกนิ พกิ ดั กาลงั ของเครอ่ื งชงั่ * การชงั่ ใหว้ างสงิ่ ของตรงบรเิ วณกง่ึ กลางของถาดชงั่ * อยา่ วางสง่ิ ของลงบนถาดชงั่ ดว้ ยวธิ กี ระแทก * ถา้ ชงั่ สง่ิ ทไ่ี ม่สะอาด ควรห่อหมุ้ เสยี ก่อน การเกบ็ รกั ษา * เมอ่ื ไมใ่ ชเ้ คร่อื งชงั่ ไม่ควรวางสง่ิ ของไวบ้ นถาดชงั่ * ระวงั อยา่ ใหน้ ้าเขา้ ไปในเคร่อื งชงั่ * ควรตงั้ เคร่อื งชงั่ ไวใ้ นทไ่ี มม่ ฝี ่นุ ผงและความชน้ื คาเตือน * การใชเ้ คร่อื งชงั่ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง ผใู้ ชอ้ าจมคี วามผดิ ทางอาญา * เมอ่ื สงสยั ว่าเคร่อื งชงั่ ไมถ่ กู ตอ้ ง ใหส้ อบเทยี บกบั ตมุ้ น้าหนกั ทม่ี ตี ราเคร่อื งหมายคารบั รอง (ตราครฑุ ) * ถา้ ไม่มตี ุม้ น้าหนักใหส้ อบเทยี บน้าหนักสง่ิ ของกบั เคร่อื งชงั่ อน่ื ๆ ทถ่ี ูกตอ้ ง * เมอ่ื ปรากฏว่าเคร่อื งชงั่ ไม่ถกู ตอ้ งหรอื เกดิ ชารดุ เสยี หาย หา้ มใชเ้ ดด็ ขาด ใหจ้ ดั หาทดแทนใหม่ 161 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื คาถาม 1. เอกสารค่มู อื ฉบบั น้ใี หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อะไร 2. ถา้ นกั เรยี นสงสยั วา่ เครอ่ื งชงั่ สปรงิ ทแ่ี มค่ า้ ใชข้ ายของในตลาดเมอ่ื ใชช้ งั่ ของแลว้ น้าหนกั ของไม่ตรง ตามความเป็นจรงิ นกั เรยี นจะทาอย่างไร 3. ใหน้ กั เรยี นทดลองปฏบิ ตั จิ รงิ ตามขนั้ ตอนแลว้ เขยี นสรปุ วธิ ใี ชเ้ ครอ่ื งชงั่ สปรงิ 4. ใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเครอ่ื งชงั่ สปรงิ 162 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื ใบงานท่ี 2.5 การปฏิบตั ิตามค่มู อื แนะนาวิธีการใช้งานของเครอ่ื งใช้ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นและปฏบิ ตั ติ ามค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเคร่อื งใช้ แลว้ ตอบคาถาม วธิ ใี ชแ้ ละการดแู ลรกั ษาเครอื่ งชง่ั ชนดิ ที่ 6 (เครอ่ื งชง่ั สปรงิ ) เพ่อื ใหก้ ารใชเ้ คร่อื งชงั่ ชนดิ ท่ี 6 (เคร่อื งชงั่ สปรงิ ) แบบหน้าปัดกระจกถกู ตอ้ งเทย่ี งตรงอย่เู สมอ จงึ แนะนาวธิ ใี ชแ้ ละการดแู ล รกั ษาเคร่อื งชงั่ ดงั น้ี วิธีใช้ * ตงั้ เครอ่ื งชงั่ ใหไ้ ดร้ ะดบั กบั พน้ื ราบ (เคร่อื งชงั่ สองหน้า หากไมไ่ ดร้ ะดบั เขม็ จะไมต่ รงกนั ) * ถาดชงั่ ตอ้ งมหี มายเลขตรงกบั เครอ่ื งชงั่ และสะอาด * ก่อนชงั่ เขม็ จะตอ้ งตรงศนู ย์ (0) ถา้ ไม่ตรง ใหป้ รบั ใหต้ รงดว้ ยวธิ ใี ชค้ มี หมนุ น็อตใตถ้ าดชงั่ * อยา่ ชงั่ น้าหนักเกนิ พกิ ดั กาลงั ของเคร่อื งชงั่ * การชงั่ ใหว้ างสง่ิ ของตรงบรเิ วณกง่ึ กลางของถาดชงั่ * อยา่ วางสงิ่ ของลงบนถาดชงั่ ดว้ ยวธิ กี ระแทก * ถา้ ชงั่ สงิ่ ทไ่ี มส่ ะอาด ควรห่อหมุ้ เสยี กอ่ น การเกบ็ รกั ษา * เม่อื ไมใ่ ชเ้ ครอ่ื งชงั่ ไมค่ วรวางสง่ิ ของไวบ้ นถาดชงั่ * ระวงั อยา่ ใหน้ ้าเขา้ ไปในเคร่อื งชงั่ * ควรตงั้ เคร่อื งชงั่ ไวใ้ นทไ่ี ม่มฝี ่นุ ผงและความชน้ื คาเตือน * การใชเ้ ครอ่ื งชงั่ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง ผใู้ ชอ้ าจมคี วามผดิ ทางอาญา * เม่อื สงสยั ว่าเครอ่ื งชงั่ ไม่ถกู ตอ้ ง ใหส้ อบเทยี บกบั ตมุ้ น้าหนักทม่ี ตี ราเคร่อื งหมายคารบั รอง (ตราครุฑ) * ถา้ ไม่มตี ุม้ น้าหนักใหส้ อบเทยี บน้าหนกั สง่ิ ของกบั เคร่อื งชงั่ อน่ื ๆ ทถ่ี กู ตอ้ ง * เมอ่ื ปรากฏว่าเคร่อื งชงั่ ไม่ถกู ตอ้ งหรอื เกดิ ชารุดเสยี หาย หา้ มใชเ้ ดด็ ขาด ใหจ้ ดั หาทดแทนใหม่ 163 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื คาถาม 1. เอกสารคมู่ อื ฉบบั น้ใี หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อะไร การใช้ การเกบ็ รกั ษา และคาเตอื นในการใชต้ าชงั่ สปรงิ 2. ถา้ นกั เรยี นสงสยั วา่ เครอ่ื งชงั่ สปรงิ ทแ่ี ม่คา้ ใชข้ ายของในตลาดเม่อื ใชช้ งั่ ของแลว้ น้าหนกั ของไม่ตรง ตามความเป็นจรงิ นกั เรยี นจะทาอย่างไร 1. ใหส้ อบเทยี บกบั ตมุ้ น้าหนกั ทมี่ ตี ราเครอื่ งหมายคารบั รอง (ตราครฑุ ) 2. ถา้ ไมม่ ตี มุ้ น้าหนักใหส้ อบเทยี บน้าหนักสงิ่ ของกบั เครอื่ งชงั่ อนื่ ๆ ทถี่ กู ตอ้ ง 3. เมอื่ ปรากฏว่าเครอื่ งชงั่ ไมถ่ กู ตอ้ งหรอื เกดิ ชารดุ เสยี หาย หา้ มใชเ้ ดด็ ขาดใหจ้ ดั หาทดแทนใหม่ ถา้ ใชเ้ ครอื่ งชงั่ ทไี่ ม่ถูกตอ้ ง ผใู้ ชอ้ าจมคี วามผดิ ทางอาญา 3. ใหน้ กั เรยี นทดลองปฏบิ ตั จิ รงิ ตามขนั้ ตอนแลว้ เขยี นสรปุ วธิ ใี ชเ้ คร่อื งชงั่ สปรงิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 4. ใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ค่มู อื แนะนาวธิ กี ารใชง้ านของเครอ่ื งชงั่ สปรงิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 164 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 6 การอ่านตคี วามเอกสารคู่มอื แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 165 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมีน้าใจ การมีส่วน ที่ ของผ้รู บั การ ความคิดเหน็ ฟังคนอ่ืน ตามที่ได้รบั 4321 ร่วมในการ รวม มอบหมาย ปรบั ปรงุ 20 ประเมิน 4321 4321 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 166 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 167 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 168 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 6 การอ่านตคี วามเอกสารค่มู อื ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 169 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั 1 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 7 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 การวิเคราะหค์ ณุ ค่า หนังสือตามความสนใจ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านหนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั อยา่ งมมี ารยาท แลว้ นามาวเิ คราะหค์ ุณค่าทไ่ี ดร้ บั จากการอ่าน จะชว่ ยใหส้ ามารถนาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.1/8 วเิ คราะหค์ ุณค่าทไ่ี ดร้ บั จากการอา่ นงานเขยี นอย่างหลากหลายเพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ม.1/9 มมี ารยาทในการอา่ น 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) วเิ คราะหค์ ณุ ค่าทไ่ี ดร้ บั จากการอ่านหนงั สอื ตามความสนใจและเหมาะสมกบั วยั เพอ่ื นาไปใช้ แกป้ ัญหาในชวี ติ ได้ 2) มมี ารยาทในการอ่าน 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เชน่ - หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั 2) มารยาทในการอ่าน 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 2) ทกั ษะการประเมนิ 4) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 170 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 7 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ SQ4R ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : นักเรยี นคิดว่า หนังสือที่น่าสนใจควรมลี กั ษณะ อยา่ งไร 1. ใบความรู้ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น 2. หนงั สอื ทน่ี ักเรยี นสนใจ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 1. ครจู ดั บรรยากาศสง่ เสรมิ การอา่ นในหอ้ งเรยี น จากนนั้ ครเู ล่า ถงึ หนังสอื ทค่ี รสู นใจ 1 เรอ่ื ง 2. นักเรยี นเตรยี มหนงั สอื ทส่ี นใจมาคนละ 1 เลม่ แลว้ ให้ นกั เรยี นพดู แนะนาหนังสอื สนั้ ๆ 3. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง การอ่านเชงิ วเิ คราะห์ โดยทา ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การวเิ คราะหห์ นงั สอื 4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ สอน ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ 2. ใบงานท่ี 2.6 1. Survey (S) นักเรยี นอ่านหนังสอื เรอ่ื งทเ่ี ตรยี มมาอย่างครา่ วๆ เพอ่ื หาจุดสาคญั 2. Question (Q) นกั เรยี นตงั้ คาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งทอ่ี า่ น 3. Read (R) อ่านเร่อื งนนั้ ซ้าอย่างละเอยี ดและในขณะเดยี วกนั กค็ น้ หาคาตอบสาหรบั คาถามทไ่ี ดต้ งั้ ไว้ 4. Record (R) นกั เรยี นจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ในสว่ นทส่ี าคญั และ สง่ิ ทจ่ี าเป็นทไ่ี ดจ้ ากการอ่านในขนั้ ตอนท่ี 3 โดยใชข้ อ้ ความ อยา่ งรดั กมุ หรอื ยอ่ ตามความเขา้ ใจ 5. Recite (R) นักเรยี นเขยี นสรุปใจความสาคญั โดยพยายาม ใชภ้ าษาของตนเอง หากนักเรยี นยงั ไมแ่ น่ใจใหก้ ลบั ไปอา่ น ซ้าใหม่ 171 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองท่ี 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ 6. Reflect (R) นกั เรยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เรอ่ื งทอ่ี ่านแลว้ พจิ ารณาคณุ คา่ ขอ้ คดิ จากงานเขยี นในดา้ นวธิ กี ารเขยี น การใชภ้ าษา ภาพสะทอ้ นจากเรอ่ื ง แนวทางปฏบิ ตั จิ ากเรอ่ื ง แลว้ แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ทผ่ี เู้ รยี นมคี วามคดิ เหน็ สอดคลอ้ งหรอื มคี วามคดิ เหน็ ไมส่ อดคลอ้ ง โดยบนั ทกึ ลงใน ใบงานท่ี 2.6 เร่ือง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าหนังสือตาม ความสนใจ ขนั้ สรปุ และประเมินผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 2.6 1. นักเรยี นนาเสนอผลงานในใบงานท่ี 2.6 พรอ้ มบอกแนวทาง หรอื วธิ กี ารนาไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ จากนนั้ นาสง่ ครตู รวจ 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ หลกั การวเิ คราะหค์ ุณค่าหนงั สอื 7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 2.6 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.6 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) ใบความรู้ เรอ่ื ง การอ่านเชงิ วเิ คราะห์ 2) หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นสนใจ 3) ใบงานท่ี 2.6 เรอ่ื ง การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ หนงั สอื ตามความสนใจ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 172 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ ใบความรู้ การอ่านเชิงวิเคราะห์ การอ่านเชงิ วเิ คราะหเ์ ป็นการอ่านหนงั สอื แต่ละเล่มอยา่ งละเอยี ดใหไ้ ดค้ วามครบถว้ น แลว้ จงึ แยกแยะใหไ้ ดว้ า่ สว่ น ตา่ งๆ นนั้ มคี วามหมายและความสาคญั อย่างไรบา้ ง แต่ละดา้ นสมั พนั ธก์ บั สว่ นอ่นื ๆ อย่างไร วธิ อี ่านแบบวเิ คราะหน์ ้ี อาจใชว้ เิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของคาและวลี การใชค้ าในประโยค วเิ คราะหส์ านวนภาษา จดุ ประสงคข์ องผแู้ ตง่ ไปจนถงึ การวเิ คราะหน์ ัย หรอื เบอ้ื งหลงั การจดั ทาหนงั สอื หรอื เอกสารนนั้ การวเิ คราะหเ์ รอ่ื งทอ่ี า่ นทุกชนดิ สง่ิ ทจ่ี ะละเลยไมไ่ ด้ คอื การพจิ ารณาถงึ การใชถ้ อ้ ยคา สานวนภาษาว่า มคี วาม เหมาะสมกบั ระดบั และประเภทของงานเขยี นหรอื ไม่ เช่น ในบทสนทนากไ็ มค่ วรใชภ้ าษาทเ่ี ป็นแบบแผน ควรใชส้ านวน ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพจรงิ หรอื เหมาะแกก่ าลสมยั ทเ่ี หตุการณ์ในหนงั สอื นนั้ เกดิ ขน้ึ เป็นตน้ ดงั นนั้ การอ่านวเิ คราะหจ์ งึ ตอ้ ง ใชเ้ วลาอ่านมาก และยงิ่ มเี วลาอา่ นมากกย็ งิ่ มโี อกาสวเิ คราะหไ์ ดด้ มี ากขน้ึ การอ่านในระดบั น้ตี อ้ งรจู้ กั ตงั้ คาถามและจดั ระเบยี บเร่อื งราวทอ่ี ่านเพ่อื จะไดเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งและความคดิ ทผ่ี เู้ ขยี นตอ้ งการ กระบวนการวิเคราะห์การอ่าน 1. พจิ ารณารปู แบบของงานประพนั ธว์ ่าใชร้ ปู แบบใด อาจเป็นนทิ าน บทละคร นวนิยาย เร่อื งสนั้ บทรอ้ ยกรอง หรอื บทความจากหนงั สอื พมิ พ์ 2. แยกเน้อื เร่อื งออกเป็นส่วนๆ ใหเ้ หน็ ว่าใครทาอะไร ทไ่ี หน อยา่ งไร เมอ่ื ไร 3. แยกพจิ ารณาแตล่ ะส่วนใหล้ ะเอยี ดลงไปวา่ ประกอบกนั อย่างไร หรอื ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 4. พจิ ารณาใหเ้ หน็ วา่ ผเู้ ขยี นใหก้ ลวธิ เี สนอเร่อื งอย่างไร ขนั้ ตอนการอ่านเชิงวิเคราะห์ 1. การอ่านวิเคราะห์คา การอา่ นวเิ คราะหค์ า เป็นการอา่ นเพอ่ื ใหผ้ อู้ ่านแยกแยะถอ้ ยคาในวลี ประโยคหรอื ขอ้ ความตา่ งๆ โดยสามารถบอก ไดว้ า่ คาใดใชอ้ ยา่ งไร ใชผ้ ดิ ความหมาย ผดิ หน้าทไ่ี ม่เหมาะสม ไมช่ ดั เจนอยา่ งไร ควรจะตอ้ งหาทางแกไ้ ขปรบั ปรุงอยา่ งไร เชน่ - อยา่ เอาไปใชท้ บั กระดาษ - ทน่ี ่รี บั อดั พระ - เขาทอ่ งเทย่ี วไปทวั่ พภิ พ - เจา้ อาวาสวดั น้มี รณกรรมเสยี แลว้ 2. การอ่านวิเคราะหป์ ระโยค การอ่านวเิ คราะหป์ ระโยค เป็นการอา่ นเพ่อื แยกแยะประโยคต่างๆ วา่ เป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ งชดั เจนหรอื ไม่ ใชป้ ระโยคผดิ ไปจากแบบแผนของภาษาอยา่ งไร เป็นประโยคทถ่ี กู ตอ้ งสมบรู ณ์เพยี งใดหรอื ไม่ มหี น่วยความคดิ ในประโยค ขาดเกนิ หรอื ไม่ เรยี งลาดบั ความในประโยคทใ่ี ชไ้ ดถ้ ูกตอ้ งชดั เจนหรอื ไม่ ใชฟ้ ่มุ เฟือยโดยไมจ่ าเป็นหรอื ใชร้ ปู ประโยคทส่ี อ่ื ความหมายไมช่ ดั เจนหรอื ไม่ เมอ่ื พบขอ้ บกพรอ่ งต่างๆ แลว้ กส็ ามารถแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งได้ เช่น - สุขภาพของคนไทยไม่ดสี ว่ นใหญ่ - การแกป้ ัญหาจราจรในกรงุ เทพฯ เกดิ การจลาจล - ทุกคนยอ่ มประสบความสาเรจ็ ทา่ มกลางความขยนั หมนั ่ เพยี ร - เขามกั จะเป็นหวดั ในทกุ ครงั้ ทฝ่ี นเรม่ิ ตก 173 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ 3. การอ่านวิเคราะห์ทศั นะของผ้แู ต่ง ผอู้ ่านตอ้ งพจิ ารณาไตร่ตรองใหร้ อบคอบว่า ผเู้ ขยี นเสนอทศั นะมนี ้าหนกั เหตุผลประกอบขอ้ เทจ็ จรงิ น่าเชอ่ื ถอื เพยี งใด เป็นคนมองโลกในแงใ่ ด เป็นตน้ 4. การอ่านวิเคราะหร์ ส การอา่ นวเิ คราะหร์ ส หมายถงึ การอ่านอย่างพจิ ารณาถงึ ความซาบซง้ึ ประทบั ใจทไ่ี ดจ้ ากการอา่ นวธิ กี ารทจ่ี ะ ทาใหเ้ ขา้ ถงึ รสอย่างลกึ ซ้งึ คอื การวเิ คราะหร์ สของเสยี งและรสของภาพ 4.1 ดา้ นรสของเสยี ง ผอู้ ่านจะรสู้ กึ ไดช้ ดั จากการอา่ นออกเสยี งดงั ๆ ไมว่ ่าจะเป็นการอ่านอยา่ งปกตหิ รอื การอ่าน ทานองเสนาะ จงึ จะชว่ ยใหร้ สู้ กึ ถงึ ความไพเราะของจงั หวะและความเคลอ่ื นไหวซง่ึ แฝงอยใู่ นเสยี ง ทาใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ไป ตามทว่ งทานองของเสยี งสงู ต่าจากเน้อื เรอ่ื งทอ่ี า่ น 4.2 ดา้ นรสของภาพ เมอ่ื ผอู้ ่านอา่ นแลว้ เกดิ ความเขา้ ใจเรอ่ื ง ในขณะเดยี วกนั ทาใหเ้ หน็ ภาพดว้ ย เป็นการสรา้ ง เสรมิ ใหผ้ อู้ า่ นไดเ้ ขา้ ใจความหมาย การเขยี นบรรยายความดว้ ยถอ้ ยคาไพเราะทงั้ รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง กอ่ ใหเ้ กดิ ภาพขน้ึ ในใจผอู้ า่ น ทาใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ และเขา้ ใจความหมายของเรอ่ื งไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ 5. การอ่านเพอ่ื วิเคราะห์ขอบเขตของปัญหาและการตีความเนื้อหาของข้อความ การอา่ นเชงิ วเิ คราะห์ ยงั มสี งิ่ ทต่ี อ้ งพจิ ารณา คอื การวเิ คราะหข์ อบเขตของปัญหา และการตคี วามเน้อื หาของ หนังสอื มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 5.1 การวเิ คราะหข์ อบเขตของปัญหา มหี ลกั ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1) จดั ประเภทหนังสอื ตามชนิดและเน้อื หา หนงั สอื แต่ละประเภทมวี ธิ อี า่ นตา่ งกนั ก่อนอา่ นตอ้ งวเิ คราะหใ์ หร้ วู้ า่ หนังสอื เล่มนนั้ อยใู่ นประเภทใด การแบ่งประเภทจะดแู ตช่ ่อื เรอ่ื งหรอื ลกั ษณะภายนอกเพยี งอย่างเดยี วไม่ไดต้ อ้ งสารวจ เน้อื หาดว้ ย อยา่ งไรกต็ าม ช่อื เรอ่ื งเป็นสง่ิ แรกทใ่ี ชเ้ ป็นแนวทางได้ เพราะผเู้ ขยี นย่อมตอ้ งพยายามตงั้ ช่อื เร่อื งใหต้ รงแนว เขยี นหรอื จดุ มุ่งหมายในการเขยี นของตนใหม้ ากทส่ี ดุ 2) สรปุ ใหส้ นั้ ทส่ี ดุ ว่า หนังสอื นนั้ กล่าวถงึ อะไร หนงั สอื ทด่ี ที ุกเลม่ ตอ้ งมเี อกภาพ มกี ารจดั องคป์ ระกอบของ สว่ นย่อยอย่างมรี ะเบยี บ ผอู้ ่านตอ้ งพยายามสรุปภาพดงั กล่าวออกมาเพยี ง 1-2 ประโยคว่า หนังสอื เลม่ นนั้ มอี ะไรเป็น จุดสาคญั หรอื เป็นแก่นเรอ่ื ง แลว้ จงึ หาความสมั พนั ธก์ บั ส่วนสาคญั ตอ่ ไป 3) กาหนดโครงสงั เขปของหนงั สอื เม่อื อ่านตอ้ งตงั้ ประเดน็ ดว้ ยว่า จากเอกภาพของหนังสอื เลม่ นนั้ มี ส่วนประกอบสาคญั อะไรบา้ ง ส่วนทส่ี าคญั ๆ สมั พนั ธก์ นั โดยตลอดหรอื ไม่ และแต่ละส่วนกม็ หี น้าทข่ี องตนสนบั สนุนซง่ึ กนั และกนั หรอื ไม่ 4) กาหนดปัญหาทผ่ี เู้ ขยี นตอ้ งการแก้ ผอู้ า่ นควรพยายามอา่ นและคน้ พบวา่ ผเู้ ขยี นเสนอปัญหาอะไร อย่างไร มปี ัญหาย่อยอะไร และใหค้ าตอบไวต้ รงๆ หรอื ไม่ การตงั้ ปัญหาเป็นวธิ กี ารหน่งึ ทจ่ี ะทาใหเ้ ขา้ ใจเร่อื งแจม่ แจง้ ยง่ิ ตงั้ ปัญหา ไดก้ วา้ งขวางลกึ ซ้งึ เพยี งใด ยงิ่ เขา้ ใจไดเ้ พม่ิ ขน้ึ เพยี งนัน้ 5.2 การตคี วามเน้อื หาของหนงั สอื การตคี วามเป็นสง่ิ ทผ่ี อู้ ่านทาความเขา้ ใจความคดิ ของผเู้ ขยี น พจิ ารณา วตั ถปุ ระสงคข์ องผเู้ ขยี น ซง่ึ บางครงั้ ผเู้ ขยี นไมไ่ ดบ้ อกความหมายหรอื นัยของขอ้ ความทเ่ี ขยี นออกมาตรงๆ แตผ่ อู้ า่ นตอ้ ง อาศยั ความรคู้ วามเขา้ ใจบรบิ ทของเร่อื งเป็นอย่างดี จงึ จะตคี วามไดถ้ ูกตอ้ ง การทาความเขา้ ใจความคดิ ของผเู้ ขยี นนนั้ ไมว่ ่าความคดิ จะถูกตอ้ งหรอื ไม่ เราจะเหน็ ดว้ ยหรอื ไมก่ ต็ าม แตก่ ารพยายามเขา้ ใจเช่นนนั้ ทาใหเ้ ราไมว่ จิ ารณ์ผเู้ ขยี น อยา่ งไมย่ ตุ ธิ รรมแตจ่ ะพจิ ารณาทงั้ ขอ้ ดี ขอ้ บกพร่องของงานเขยี นนนั้ อยา่ งแจม่ แจง้ การตคี วามเน้อื หาของหนังสอื มรี ายละเอยี ดตา่ งๆ ดงั น้ี 174 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองท่ี 7 การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือตามความสนใจ 1) ตคี วามหมายของคาสาคญั และคน้ หาประโยคสาคญั ทส่ี ุด ผอู้ า่ นตอ้ งพยายามเขา้ ใจคาสาคญั และเขา้ ใจ ประเดน็ ทส่ี าคญั ทผ่ี เู้ ขยี นเสนอ เพอ่ื เขา้ ใจความคดิ ของผเู้ ขยี น 2) สรุปความคดิ สาคญั ของผเู้ ขยี น โดยพจิ ารณาว่าประโยคใดเป็นเหตุ ประโยคใดเป็นผล ประโยคใดเป็น ขอ้ สรปุ ซง่ึ บางครงั้ ผเู้ ขยี นไมไ่ ดส้ รปุ ความคดิ ออกมาใหเ้ หน็ ชดั เจนแตผ่ อู้ ่านตอ้ งพยายามสรุปออกมาใหไ้ ด้ 3) ตดั สนิ วา่ อะไร คอื การแกป้ ัญหาของผเู้ ขยี น เม่อื ผอู้ ่านตคี วามสาคญั ใหต้ รงกบั ผเู้ ขยี น เขา้ ใจความคดิ สาคญั ของผเู้ ขยี น และสรปุ ความคดิ ของผเู้ ขยี นไดแ้ ลว้ ผอู้ ่านกจ็ ะวเิ คราะหห์ รอื ตดั สนิ ไดว้ า่ จากเร่อื งราวหรอื เหตผุ ลตา่ งๆ ทผ่ี เู้ ขยี นนามาเสนอนนั้ มคี วามสมเหตสุ มผลหนกั แน่นน่าเช่อื ถอื ไดห้ รอื ไมเ่ พยี งใด เพอ่ื นาไปส่กู ารวจิ ารณ์หนงั สอื เร่อื งนนั้ ๆ ตอ่ ไป การพิจารณาหนังสือ การพจิ ารณาหนงั สอื เป็นการประเมนิ คุณค่าหนงั สอื ดา้ นต่างๆ ถา้ ผอู้ า่ นรหู้ ลกั การประเมนิ จะทาใหก้ ารอา่ นหนังสอื มคี ุณคา่ และความหมายมากยง่ิ ขน้ึ เม่อื อ่านแลว้ สามารถแสดงความคดิ เหน็ เชงิ ประเมนิ คณุ ค่าของหนังสอื ไดอ้ ย่างมี หลกั เกณฑ์ ผอู้ า่ นจะเขา้ ใจหนังสอื นนั้ ไดอ้ ย่างลกึ ซง้ึ และการพจิ ารณาหนงั สอื ของตนจะมปี ระโยชน์แกผ่ อู้ น่ื ดว้ ย หนังสอื มี หลายประเภทใหเ้ ลอื กอา่ น แต่ละประเภทกม็ รี ายละเอยี ดหรอื โครงสรา้ งแตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะของหนังสอื ประเภทนนั้ ๆ ในทน่ี ้จี ะนาเสนอการพจิ ารณาหรอื ประเมนิ คณุ ค่าของหนงั สอื บทความหรอื เรอ่ื งราวต่างๆ ทผ่ี เู้ รยี นจะตอ้ งเรยี นหรอื อา่ น ในชวี ติ ประจาวนั ดงั น้ี 1. การอ่านพิจารณาคอลมั น์ต่างๆ จากหนังสือพิมพ์ หนงั สอื พมิ พเ์ ป็นหนงั สอื ทค่ี นจานวนมากอ่านเป็นประจาทกุ วนั มคี อลมั น์หลากหลาย การอา่ นหนังสอื พมิ พม์ ี แนวการพจิ ารณาประเดน็ ตา่ งๆ ดงั น้ี 1.1 การพาดหวั ขา่ ว เป็นการตงั้ ช่อื ขา่ วใหก้ ะทดั รดั และพมิ พด์ ว้ ยตวั อกั ษรใหญ่เป็นพเิ ศษ เพ่อื ดงึ ดดู ความสนใจ การพาดหวั ขา่ วทด่ี มี ลี กั ษณะดงั น้ี 1) หวั ขา่ วตรงกบั สาระของขา่ ว ผเู้ ขยี นขา่ วไมค่ วรพาดหวั ขา่ วไมต่ รงกบั เน้อื หาสาระของขา่ วเพอ่ื เรยี กรอ้ ง ความสนใจ 2) หวั ขา่ วใชภ้ าษาทก่ี ะทดั รดั เขา้ ใจงา่ ย ไม่ควรใชภ้ าษาทก่ี ่อใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ และใชค้ าผดิ ความหมายเพยี งเพอ่ื ผลประโยชน์ทางการขาย โดยไม่คานงึ ถงึ คณุ คา่ ทางภาษา เช่น - ทพั กฬี าพกิ ารหวงั 30 ทอง - เปิดตวั กนิ ป๋ ยุ วดั ใจนายก - หน่ื รุมสงั ฆกรรมสาวร่นุ 1.2 เน้อื หาของขา่ ว มแี นวพจิ ารณาดงั น้ี 1) เน้อื หาขา่ วทด่ี ี ตอ้ งเป็นขา่ วจรงิ ตามเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไม่ควรมคี วามคดิ เหน็ หรอื เพมิ่ เน้อื หาตามใจ ผเู้ ขยี นเพอ่ื ใหผ้ ฟู้ ังชน่ื ชอบ ขา่ วทด่ี ตี อ้ งเป็นขา่ วทส่ี ่งผลกระทบตอ่ คนหมมู่ ากหรอื ส่วนรวม เช่น ขา่ วการเมอื ง การเลอื กตงั้ ขา่ วการปกครอง ขา่ วสงั คม ขา่ วเศรษฐกจิ ขา่ วการประกอบอาชพี หรอื ขา่ วเกย่ี วกบั การอนามยั เป็นตน้ ไมค่ วรเป็นขา่ วของ คนใดคนหน่ึงเพอ่ื ยกยอ่ งเชดิ ชู โดยม่งุ หวงั ประโยชน์ส่วนตนเป็นทต่ี งั้ และตอ้ งเป็นขา่ วทไ่ี มท่ าลายความมนั ่ คงของชาติ ความสงบสขุ ของประชาชนและศลี ธรรมอนั ดงี าม 2) ภาษาทใ่ี ชค้ วรเป็นภาษาสุภาพ ไมค่ วรใชภ้ าษาหยาบคาย 3) การเลา่ เหตุการณ์ในขา่ วควรเล่าตามลาดบั ตงั้ แตต่ น้ จนจบ ไมป่ ิดบงั อาพรางมเี ง่อื นงาสลบั ซบั ซอ้ น 4) การเล่าเหตุการณ์ทกุ ตอนตอ้ งอา้ งองิ หลกั ฐานทม่ี า สถานทเ่ี วลา รวมถงึ บคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ งเพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ น ทราบรายละเอยี ดและมคี วามเชอ่ื ถอื ในขา่ ว การปกปิดสถานท่ี ชอ่ื หรอื นามของบคุ คล ควรเป็นไปเพอ่ื ความบรสิ ทุ ธใิ์ จท่ี ปกป้องผบู้ รสิ ุทธิ์ ผเู้ ยาวห์ รอื เป็นจรรยาบรรณของหนังสอื พมิ พ์ 175 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองท่ี 7 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนงั สือตามความสนใจ 1.3 การพจิ ารณาบทความในวารสารหนังสอื พมิ พ์ มดี งั น้ี บทความในวารสารและหนงั สอื พมิ พ์ สว่ นใหญ่เกย่ี วขอ้ งกบั คนหมมู่ ากและแสดงความคดิ เหน็ ของผเู้ ขยี น อยา่ งเตม็ ท่ี บทความทด่ี คี วรมลี กั ษณะดงั น้ี 1) ผเู้ ขยี นบทความตอ้ งเป็นผทู้ ร่ี เู้ รอ่ื งทเ่ี ขยี นอยา่ งถ่องแท้ มขี อ้ มลู สามารถอา้ งองิ ได้ 2) ผเู้ ขยี นบทความตอ้ งแสดงความคดิ เหน็ โดยอาศยั ขอ้ เทจ็ จรงิ และเหตุผลอ่นื ๆ ประกอบอย่างกวา้ งขวาง การแสดงความคดิ เหน็ เป็นไปอย่างบรสิ ุทธใิ์ จ ไมใ่ ชค้ วามรสู้ กึ ของตนเองเป็นตวั กาหนดเพยี งอย่างเดยี ว การแสดงความ คดิ เหน็ นนั้ ควรเป็นไปในทางสรา้ งสรรคแ์ ละไมอ่ คตลิ าเอยี ง 3) การวจิ ารณ์ของผเู้ ขยี นบทความ ตอ้ งตงั้ อยบู่ นหลกั การ การตาหนไิ ม่ควรเน้นทต่ี วั บุคคล แตเ่ น้นท่ี วธิ กี ารหรอื หลกั การ ควรชใ้ี หเ้ หน็ ปัญหาและเสนอแนวทางแก้ปัญหาอยา่ งถกู ตอ้ ง นอกจากน้รี ปู แบบการเขยี นและ การใชภ้ าษา ควรมคี วามถูกตอ้ งเขา้ ใจงา่ ย ไมใ่ ชถ้ อ้ ยคาทส่ี ่อเสยี ดหยาบคาย 1.4 การพจิ ารณาคอลมั น์อน่ื ๆ มวี ธิ กี ารพจิ ารณาดงั น้ี นอกจากขา่ วและบทความแลว้ วารสารหรอื หนงั สอื พมิ พย์ งั มอี กี หลายคอลมั น์ เช่น บนั เทงิ คดี ประกาศ โฆษณา ความรตู้ า่ งๆ การพจิ ารณาคณุ คา่ ในแต่ละคอลมั น์ ควรพจิ ารณาเร่อื งการใชภ้ าษาการเขยี น และคณุ คา่ ทไ่ี ดร้ บั จากการอ่าน เป็นตน้ 2. การพิจารณาหนังสือประเภทสารคดี สารคดี ไดแ้ ก่ หนังสอื ทใ่ี หแ้ นวความรตู้ ่างๆ เชน่ ดา้ นปรชั ญา ตรรกวทิ ยา การศกึ ษา ควรพจิ ารณาในดา้ น ตา่ งๆ ดงั น้ี 2.1 เน้อื หาสาระ มคี วามถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ตามหลกั วชิ าหรอื ไม่ เรอ่ื งนามาเขยี นมสี าระประโยชน์เพยี งใด เหมาะสาหรบั ผอู้ ่านระดบั ใด 2.2 วธิ เี สนอหนังสอื อาจเสนอเป็นความเรยี งวชิ าการ มกี ารคน้ ควา้ หาความรอู้ า้ งองิ ประกอบหรอื เสนอเป็น บนั ทกึ ของผเู้ ขยี น เลา่ ประสบการณ์ของตนหรอื เสนอเป็นจดหมายใหโ้ ตต้ อบ ควรพจิ ารณาว่าผเู้ ขยี นมวี ธิ เี ขยี นทช่ี วนอ่าน เขา้ ใจงา่ ยหรอื ไม่ สานวน ภาษาส่อื ความหมายไดแ้ จม่ แจง้ หรอื ไม่ เหมาะแก่ระดบั ของผอู้ ่านตามความตงั้ ใจของผูเ้ ขยี น หรอื ไม่ เพยี งใด 2.3 การวางเคา้ โครงเร่อื ง เคา้ โครงเร่อื งทเ่ี ขยี นจะตอ้ งมกี ารจดั ลาดบั อย่างมรี ะเบยี บ จงึ ควรพจิ ารณาวา่ ผเู้ ขยี น สามารถทาใหค้ วามสาคญั ๆ เช่อื มโยงต่อเน่อื งกนั ไดด้ เี พยี งใด มกี ารเรยี งลาดบั ความยากงา่ ยเพอ่ื ชว่ ยความเขา้ ใจของ ผอู้ า่ นหรอื ไม่ 2.4 ส่วนประกอบของหนังสอื ส่วนประกอบต่างๆ ของหนงั สอื ไดแ้ ก่ คานา สารบญั ดชั นี บรรณานุกรม อภธิ าน ศพั ท์ สามารถช่วยใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจความสาคญั ของหนังสอื ไดร้ วดเรว็ ควรพจิ ารณาวา่ หนงั สอื นนั้ ๆ มสี ่วนประกอบอานวย ประโยชน์ดงั กล่าวหรอื ไม่ 2.5 วุฒแิ ละประสบการณ์ของผเู้ ขยี น หนงั สอื สารคดบี างเลม่ จะมปี ระวตั ยิ ่อ วุฒแิ ละประสบการณ์ของ ผเู้ ขยี น บอกไวด้ า้ นหลงั รายละเอยี ดดงั กล่าวจะชว่ ยใหผ้ อู้ า่ นสามารถวนิ จิ ฉยั ไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ ว่าเร่อื งนนั้ ๆ มคี ุณคา่ น่าเช่อื ถอื หรอื ไม่ 2.6 คุณภาพการพมิ พแ์ ละการออกแบบรปู เล่ม สง่ิ ทช่ี ใ้ี หเ้ หน็ คุณภาพของหนังสอื เช่น การจดั หวั เร่อื งทาให้ สอ่ื ความไดช้ ดั เจน การพสิ จู น์อกั ษรถกู ตอ้ ง การออกแบบรปู เลม่ เหมาะสมน่าอ่าน 3. การพิจารณาหนังสือประเภทบนั เทิงคดี หนังสอื ประเภทบนั เทงิ คดี อาจมวี ธิ กี ารพจิ ารณาในดา้ นตา่ งๆ ดงั น้ี 3.1 แกน่ ของเร่อื งหรอื แนวเรอ่ื ง หมายถงึ แนวคดิ สาคญั ของผเู้ ขยี น ซง่ึ เป็นหวั ใจของเร่อื ง 176 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 7 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ 3.2 การวางโครงเร่อื ง หมายถงึ การผกู เรอ่ื งใหม้ ตี วั ละครและเหตกุ ารณ์เช่อื มโยงสมั พนั ธก์ นั ตงั้ แตต่ น้ จนจบเร่อื ง ซง่ึ จะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แกนของเรอ่ื งทผ่ี แู้ ตง่ วางแนวไวแ้ ละตอ้ งดาเนนิ ไปอย่างสมเหตุสมผล 3.3 ตวั ละคร ตวั ละครอาจมนี ้อยหรอื มากแลว้ แตค่ วามประสงคข์ องผแู้ ตง่ การเสนอตวั ละครทน่ี ่าสนใจตอ้ ง เป็นตวั ละครทม่ี ลี กั ษณะนสิ ยั และพฤตกิ รรมทม่ี คี วามสมจรงิ คอื เป็นบคุ คลทอ่ี าจหาไดใ้ นชวี ติ จรงิ มใิ ชด่ หี รอื เลวจนผดิ มนุษยธ์ รรมดา นอกจากนัน้ พฤตกิ รรมต่างๆ ของตวั ละคร ควรสะทอ้ นภาพชวี ติ จรงิ ของสงั คมตามความเป็นจรงิ ดว้ ย 3.4 ฉาก เป็นสว่ นทช่ี ว่ ยทาใหบ้ รรยากาศของเร่อื งเป็นไปอยา่ งสมจรงิ ซง่ึ ผเู้ ขยี นจะตอ้ งบรรยายใหต้ รงกบั ความเป็นจรงิ หรอื อย่ใู นวสิ ยั ทเ่ี ป็นจรงิ ได้ 3.5 สานวนภาษาและลลี าในการเขยี น นกั เขยี นจะมสี านวนหรอื ลลี าการเขยี นเป็นแบบฉบบั ของตน ดงั นัน้ ผวู้ จิ ารณ์จะตอ้ งพจิ ารณาใหถ้ ่องแทว้ ่าผเู้ ขยี นมลี ลี าการเขยี นอย่างไร 3.6 สารจากผเู้ ขยี น สารทผ่ี เู้ ขยี นให้ หมายถงึ ขอ้ คดิ หรอื บางสง่ิ บางอยา่ งทผ่ี เู้ ขยี นฝากไวใ้ ห้ ซง่ึ ผอู้ า่ นอาจ ไดร้ บั แตกตา่ งกนั ไปตามแต่ประสบการณ์ของผอู้ า่ น ควรฝึกทกั ษะใหไ้ ว ต่อการรบั สารของผเู้ ขยี นและตคี วามเขา้ ใจ เพอ่ื ใหก้ ารอา่ นเรอ่ื งบนั เทงิ คดมี รี สชาตมิ ากยง่ิ ขน้ึ 4. การพิจารณาหนังสือประเภทรอ้ ยกรองหรือกวนี ิพนธ์ หนังสอื ประเภทรอ้ ยกรองหรอื กวนี พิ นธ์ มวี ธิ กี ารพจิ ารณาดงั น้ี 4.1 รปู แบบของฉนั ทลกั ษณ์ คอื ลกั ษณะบงั คบั ของบทรอ้ ยกรองแต่ละประเภทซง่ึ ตา่ งกนั ควรพจิ ารณา ความถกู ตอ้ งของรปู แบบฉนั ทลกั ษณ์นนั้ ๆ เป็นเกณฑ์ 4.2 ความคดิ เหน็ และเน้อื หาสาระในบทกวี บทกวที ด่ี จี ะตอ้ งมเี น้อื หาสาระทแ่ี สดงความนกึ คดิ อนั มคี ณุ คา่ แกช่ วี ติ บทกวบี างบทใหค้ วามรสู้ กึ สะเทอื นอารมณ์ในดา้ นตา่ งๆ เชน่ อารมณ์รกั อารมณ์เศรา้ อารมณ์โกรธ ฯลฯ บางบท ใหค้ ตเิ ตอื นใจ ใหค้ วามรเู้ รอ่ื งต่างๆ เป็นตน้ จงึ ควรพจิ ารณาใหถ้ ถ่ี ว้ นว่ากวใี หค้ วามคดิ อะไรแก่ผอู้ ่านบา้ งและมเี น้อื หาสาระ อยา่ งไร 4.3 กลวธิ กี ารแตง่ หรอื วรรณศลิ ป์ กลวธิ ใี นการแตง่ หรอื วรรณศลิ ป์ น้อี าจพจิ ารณาไดจ้ ากการเลอื กคามาใช้ ใหเ้ หมาะสมกบั ความ การเล่นเสยี งดว้ ยสมั ผสั สระ พยญั ชนะ การใชโ้ วหารแบบต่างๆ การใชส้ ญั ลกั ษณ์ ซง่ึ กวแี ตล่ ะคน จะมกี ลวธิ แี ตง่ แตกตา่ งกนั ไปเป็นเฉพาะตน 4.4 รสของบทรอ้ ยกรอง หมายถงึ ความรสู้ กึ ทเ่ี กดิ ขน้ึ แกผ่ อู้ า่ น เมอ่ื ถอ้ ยคาสานวน หรอื เรอ่ื งราวในบท รอ้ ยกรองนนั้ ๆ มากระทบอารมณ์ผอู้ ่าน อาจใหค้ วามรสู้ กึ ทางดา้ นความรกั ความเศรา้ ความตน่ื เตน้ ฯลฯ แลว้ แตล่ กั ษณะ ของบทรอ้ ยกรองและอารมณ์ของผอู้ า่ นขณะนนั้ 4.5 สารจากบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรองกม็ สี ารของผแู้ ตง่ ฝากไวเ้ ชน่ กนั ดงั นัน้ จงึ ควรพจิ ารณาใหถ้ ่ีถว้ น เพอ่ื รบั สารจากผเู้ ขยี นไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การประเมนิ คุณคา่ ของหนงั สอื ไม่ว่าประเภทใด ผปู้ ระเมนิ ควรอ่านหนงั สอื นนั้ ๆ อยา่ งละเอยี ดและพจิ ารณา ทงั้ จุดดแี ละจดุ ดอ้ ยของหนังสอื ดว้ ยใจเป็นธรรม ปราศจากอคติ ซง่ึ เมอ่ื ไดอ้ ่านหนังสอื มากๆ และฝึกการวเิ คราะหต์ ลอดจน มกี ารประเมนิ คณุ ค่าของหนงั สอื อย่เู สมอแลว้ กจ็ ะชว่ ยใหม้ วี ญิ ญาณในการอ่านหนังสอื และอ่านหนงั สอื อยา่ งมอี รรถรสยง่ิ ขน้ึ ที่มา กรมวชิ าการ. การจดั สาระการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 พ.ศ.2546 177 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ ตวั อยา่ ง การวิเคราะหว์ ิจารณ์หนังสือ นวนิ ยาย “เขาชอ่ื กานต”์ ผแู้ ต่ง สุวรรณี สคุ นธา (นามปากกา) นามจรงิ สวุ รรณี สุคนธเ์ ทย่ี ง ขนาด 44 ตอนจบ ตพี มิ พโ์ ฆษณาเผยแพรเ่ ป็นครงั้ แรกในนติ ยสาร “สตรสี าร” รายสปั ดาห์ พ.ศ. 2513 โครงเรือ่ ง ตวั ละครเอกของเร่อื งน้คี อื กานต์ เป็นผทู้ จ่ี รงิ จงั ต่อชวี ติ ถอื อดุ มคตทิ จ่ี ะทาตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ผอู้ น่ื โดยเฉพาะชาวบา้ นทข่ี าดแคลนดา้ นฐานะหรอื ดา้ นการศกึ ษา กานตม์ าจากครอบครวั ทย่ี ากจนมพี น้ื เพเดมิ อย่ทู จ่ี งั หวดั ห่างไกลแหง่ หน่งึ แต่ไดพ้ ยายามจนเลา่ เรยี นสาเรจ็ เป็นนายแพทย์ ขณะทเ่ี รยี นอยนู่ นั้ กานตบ์ งั เอญิ ไดพ้ บเจอกบั หฤทยั ในวนั ฝนตกวนั หน่ึง เขารสู้ กึ ประทบั ใจในเธอมาก แต่ไม่มโี อกาสไดท้ าความรจู้ กั กนั ต่อมาเมอ่ื กานตเ์ รยี นสาเรจ็ และเป็น นายแพทยฝ์ ึกหดั อย่ทู โ่ี รงพยาบาลแหง่ หน่งึ หมอกานตไ์ ดม้ โี อกาสพบหฤทยั อกี ครงั้ หน่งึ เธอมารบั การรกั ษาพยาบาล เขาจาเธอไดท้ นั ที และไดเ้ อาใจใสเ่ ธอระหว่างเจบ็ ป่วยเป็นอย่างดี ทาใหเ้ ขาทงั้ สองรจู้ กั สนิทสนมกนั มากขน้ึ ส่วนหฤทยั นนั้ กาพรา้ บดิ าและฐานะไมร่ ่ารวย แต่กไ็ ม่ไดร้ บั ความลาบากเป็นอยา่ งไร เพราะมารดาทารา้ นขาย อาหาร มรี ายไดส้ ่งเสยี เพยี งพอใหเ้ ธอไดร้ บั การศกึ ษาชนั้ อุดมศกึ ษาได้ ขณะทห่ี ฤทยั เรยี นอยใู่ นมหาวทิ ยาลยั นนั้ เธอมี ความสมั พนั ธอ์ ยกู่ บั เพ่อื นชายรว่ มสถาบนั คนหน่งึ ชอ่ื โตมร เป็นผมู้ ฐี านะทางครอบครวั เขา้ ขนั้ เศรษฐี โดดเด่นในหมู่ เพ่อื นฝงู และมคี วามปราดเปรยี วสนุกสนาน ไม่จรงิ จงั ต่อชวี ติ ใชช้ วี ติ อย่างบคุ คลเจา้ สาราญ แมห้ ฤทยั กบั โตมรจะสนทิ สนมคุน้ เคยกนั มาก แตอ่ ปุ นสิ ยั และการปฏบิ ตั ติ นของโตมรทาใหห้ ฤทยั ไมม่ นั ่ ใจนกั ว่า โตมรมคี วามรสู้ กึ จรงิ จงั ตอ่ เธอ เพยี งไร ครนั้ เม่อื หมอกานตผ์ มู้ อี ปุ นสิ ยั ทกุ อยา่ งตรงขา้ มกบั โตมรขอแตง่ งานกบั เธอ เธอจงึ ตดั สนิ ใจแตง่ งานกบั เขาใน ขณะทโ่ี ตมรทอ่ งเทย่ี วสาราญอยใู่ นตา่ งประเทศ ภายหลงั ทแ่ี ตง่ งานแลว้ หมอกานตไ์ ดพ้ าเจา้ สาวของเขาคอื หฤทยั ไปอย่อู าเภอ ซง่ึ ทุรกนั ดารห่างไกลความเจรญิ แหง่ หน่งึ และไดใ้ ชว้ ชิ าความรรู้ กั ษาพยาบาลประชาชนในอาเภอนัน้ ตามอุดมคตขิ องเขา แตน่ ายอาเภอผเู้ ป็นเจา้ หน้าทช่ี นั้ ผใู้ หญ่ ของอาเภอนนั้ เป็นผทู้ เ่ี หน็ แกป่ ระโยชน์ส่วนตวั มกั ใชอ้ ทิ ธพิ ลในทางมจิ ฉาทฐิ ิ ใหอ้ ภสิ ทิ ธแิ์ ก่คนบางกลมุ่ และใหค้ วามไมเ่ ป็น ธรรมกบั บุคคลสว่ นใหญ่ ขา้ ราชการทกุ คนในอาเภอตอ้ งยอมอยใู่ ตอ้ ทิ ธพิ ลของเขา ไมเ่ ช่นนนั้ จะไมม่ โี อกาสมชี วี ติ ปรกติ สขุ อย่ไู ด้ หมอกานตจ์ งึ ถกู เพง่ เลง็ ว่า “แขง็ ” กบั ตน แต่ในขณะเดยี วกนั ผลงานของเขากป็ ระจกั ษแ์ กป่ ระชาชนพ่อคา้ และ เพ่อื นขา้ ราชการ ทาใหเ้ ขาเป็นทน่ี บั ถอื ของคนเหลา่ นนั้ พอสมควร หฤทยั อยกู่ บั หมอกานตช์ วั่ ระยะหน่งึ กข็ อกลบั ไปเยย่ี มมารดาทก่ี รงุ เทพฯ ในระหวา่ งทห่ี ฤทยั มาเยย่ี มมารดา นนั้ ไดก้ ลบั ไปมคี วามสมั พนั ธเ์ ทย่ี วเตร่กบั โตมรอกี ครงั้ หนง่ึ และไดร้ บั อบุ ตั เิ หตเุ น่อื งจากรถยนต์ชนขณะไปเทย่ี วกบั โตมร จนสมองไดร้ บั การกระทบกระเทอื นมาก ทาใหค้ วามจาเส่อื มไปชวั่ ระยะหน่งึ ส่วนหมอกานตน์ นั้ เขาตอ้ งเดนิ ทางไปมา ระหว่างอาเภอทเ่ี ขาทางานกบั กรุงเทพฯ เพอ่ื มาเยย่ี มหฤทยั ทป่ี ่วยอย่ทู โ่ี รงพยาบาล ขณะเดยี วกนั นนั้ กานตไ์ ดร้ บั ความ ยงุ่ ยากในการทางาน เน่อื งจากการทเ่ี ขาเป็นคนตรงและเชดิ ชอู ดุ มคตไิ มย่ อมอ่อนน้อมตอ่ นายอาเภออทิ ธพิ ลผนู้ นั้ ในทาง ทต่ี นเหน็ ว่าไมส่ มควร ประจวบกบั ขณะนนั้ หมอกานตไ์ ดร้ บั คาสงั ่ ยา้ ย จงึ ทาใหน้ ายอาเภอเขา้ ใจผดิ วา่ ทุกอยา่ งทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ เป็นเพราะหมอกานตเ์ ขา้ กรุงเทพบ่อยๆ คงจะนาเรอ่ื งของตนเสนอเจา้ สงั กดั จงึ ไดว้ างแผนทจ่ี ะจากดั หมอกานต์ เสยี ขณะนนั้ โตมรกม็ แี ผนการทจ่ี ะแยกหฤทยั จากหมอกานตโ์ ดยพยายามใหห้ มอกานตไ์ ดร้ บั ทนุ ไปดงู านต่างประเทศ เสยี ระหวา่ งทห่ี มอกานตย์ งั ตดั สนิ ไม่ไดว้ า่ จะรบั ทนุ ดหี รอื จะลาออกจากราชการนนั้ หฤทยั ไดแ้ สดงความจานงทจ่ี ะ กลบั ไปอยกู่ บั เขาทบ่ี า้ นตา่ งจงั หวดั อยา่ งเดมิ แตห่ มอกานตก์ โ็ ดนลอบยงิ ตายขณะเดนิ ทางกลบั ไปยงั อาเภอทเ่ี ขาทางาน อย่นู นั่ เอง 178 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 7 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ คณุ คา่ ของเรอ่ื ง (ประมวลจากความเหน็ ของคณะกรรมการ) “เขาชอ่ื กานต”์ มลี กั ษณะเป็นนวนยิ ายสมจรงิ ทม่ี เี อกภาพเน้นสารตั ถะสาคญั ของเร่อื ง คอื ความเขม้ แขง็ ทจ่ี ะรกั ษา อุดมการณ์ในการปฏบิ ตั งิ านและการเสยี สละความสขุ ส่วนตนของนายแพทยช์ นบทผหู้ น่งึ มตี วั ละครไม่สมู้ ากนักแตล่ ว้ น เป็นตวั แทนของกล่มุ ชนหลายประเภททม่ี ตี วั จรงิ อยใู่ นสงั คมกรงุ เทพฯ และในชนบทขณะน้ี เคา้ โครงเป็นเร่อื งการ กล่าวถงึ สภาพชวี ติ ตวั ละครเหลา่ นนั้ ทกุ คนทงั้ เป็นผมู้ กี ารศกึ ษาและฐานะพน้ื เพ มอี าชพี และมที ศั นะแตกตา่ งกนั แตต่ ่าง มบี ทบาทความสมั พนั ธเ์ กย่ี วเน่อื งกนั เรอ่ื งจบลงดว้ ยการเสยี ชวี ติ ของนายแพทยท์ ม่ี ชี ่อื วา่ “กานต”์ ผนู้ นั้ จุดสะเทอื นใจ ในตอนจบเป็นเคร่อื งแสดงว่า อดุ มคตยิ งั ใชไ้ ดอ้ ยู่ สถานทใ่ี นเน้อื เร่อื งมที งั้ ในกรุงเทพมหานครและในชนบทห่างไกล ความเจรญิ เป็นการแสดงภาพทานองชวี ติ ในการเทยี บเคยี งอยา่ งชดั เจน บทสนทนาเป็นไปอยา่ งเหมาะสมแก่ฐานะ และพน้ื ฐานนิสยั ใจคอของแต่ละบคุ คลในเร่อื ง จงึ มลี กั ษณะสมจรงิ และมชี วี ติ ชวี าจงึ อาจกลา่ วไดว้ า่ นวนยิ ายเร่อื งน้ี เป็นนวนยิ ายทด่ี เี ยย่ี มในดา้ นองคป์ ระกอบต่างๆ ของเน้อื เร่อื ง นวนยิ ายเร่อื งน้มี คี ณุ คา่ สมบูรณ์ดา้ นวรรณกรรม คอื วธิ แี สดงเรอ่ื งตาม ซง่ึ ประกอบไปดว้ ยกลวธิ แี ต่งและสานวน โวหารอนั เป็นสานวนเฉพาะในการแตง่ ผเู้ ขยี นมคี วามสามารถเดน่ ยง่ิ ในการนาเสนอนวนิยายเรอ่ื งน้ี โดยอาศยั กลวธิ แี ต่งหลายแบบผสมผสานกนั อยา่ ง แนบเนยี น วางส่วนสดั ตรงกบั เน้อื เรอ่ื งอยา่ งสมดลุ กะทดั รดั ไมย่ ดื เยอ้ื เหตุการณ์ต่างๆ ในเร่อื งดาเนนิ เขา้ สจู่ ดุ ของเร่อื ง เป็น การรกั ษาเอกภาพของเน้อื เร่อื งไวไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี เป็นการเปลย่ี นฉากสนบั สนุนเน้อื เรอ่ื งและแทรกบทสนทนาตามท่ี เหมาะสม ทาใหม้ คี วามแปลกเปลย่ี นอย่ตู ลอดเวลา และจากบทสนทนาน้เี องทาใหผ้ อู้ า่ นรจู้ กั ตวั ละครอกี ดว้ ย ตวั ละครมี ไมม่ ากนัก ผแู้ ตง่ มกี ลวธิ ปี ลอ่ ยตวั อยา่ งรดั กุมไม่ทาใหเ้ กดิ ความสบั สน แต่ทาใหบ้ ทบาทและบุคลกิ ภาพของตวั ละคร กระจ่างชดั ขน้ึ โดยทผ่ี แู้ ต่งไมต่ อ้ งอธบิ ายอยา่ งตรงไปตรงมาแตอ่ าศยั วธิ กี ารละเมยี ดละไมแนะใหเ้ หน็ ภาพบคุ คลในเร่อื งใน จนิ ตนาการของผอู้ ่าน ตวั ละครแต่ละตวั เป็นคนในชวี ติ จรงิ มที งั้ คนโลภ-ทจุ รติ คนหนุ่มเจา้ สาราญ พอ่ คา้ ผมู้ ผี ลประโยชน์ เป็นทต่ี งั้ คุณนายหวั เมอื งกบั ขวดน้าด่มื จุกหมุ้ ผา้ ดอกสเี ลอะเทอะ ชาวบา้ นทย่ี ากจนไรก้ ารศกึ ษาแตม่ นี ้าใจ ซ่อื และ เออ้ื เฟ้ือเหลา่ น้แี สดงลกั ษณะตวั ละครหลายประเภทและหลายดา้ นหลายมมุ โดยเฉพาะหมอกานตผ์ มู้ ปี ณิธานว่าจะรกั ษา ความสจุ รติ และอุทศิ ตนเพอ่ื ประโยชน์สขุ ของเพ่อื นมนุษย์ และหฤทยั ภรรยาหมอกานต์ ซง่ึ เป็นแบบอย่างของหญงิ ไทย รนุ่ ใหมท่ ม่ี กี ารศกึ ษาสงู มคี วามคดิ ความฉลาดในการตดั สนิ ใจ และมคี วามสามารถในการปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ ต่างๆ ในสถานการณ์ของตนไดเ้ ป็นอย่างดี ทงั้ ทด่ี ผู วิ เผนิ แลว้ ดรู าวกบั เป็นคนสารวยรกั ความสขุ ความสบาย แต่เม่อื ถงึ คราวทต่ี อ้ งตดั สนิ ใจเลอื กเอาระหว่างความสบายอย่างฉาบฉวยกบั ความมนั ่ คงและความถูกตอ้ งแลว้ หฤทยั กเ็ ลอื กอยู่ ขา้ งหมอกานตผ์ ยู้ ากจน แตม่ อี ดุ มคตแิ น่วแน่เสมอทุกครงั้ ภาพตวั ละครเหล่าน้ปี รากฏในบทสนทนาและความนึกคดิ ของ ตวั ละครเอง คอ่ ยๆ ประจกั ษช์ ดั เจนเป็นบคุ ลกิ ของตวั ละครแต่ละบุคคล ใหค้ วามเขา้ ใจแกผ่ อู้ า่ นอย่างซมึ ซาบ ผปู้ ระพนั ธม์ กี ลวธิ ใี นการเปิดโปงเรอ่ื ง โดยสรา้ งความแตกต่างอย่างตรงกนั ขา้ ม คอื การเปิดเรอ่ื งดว้ ยงานร่นื เรงิ ฉลองการแต่งงานระหว่างหมอกานตก์ บั หฤทยั และจบลงอย่างเศรา้ หมองดว้ ยความตายของหมอกานต์ ทกุ คนรอ้ งไห้ เสยี ดายหมอทช่ี อ่ื กานต์ ในขณะ “ฝนตกพรา่ งพรรู าวกบั วา่ ฟ้ารอ้ งไหอ้ าลาร่างทป่ี ราศจากชวี ติ ของเขา” สวุ รรณี สุคนธา ยงั ไดใ้ หก้ ลวธิ ใี นการเขยี นนวนิยายเรอ่ื งน้อี กี หลายแบบ เป็นตน้ ว่าการกล่าวถงึ เร่อื งราวแบบยอ้ นหลงั การพรรณนาความแบบ จติ ประหวดั ไดอ้ ย่างแนบเนียนและเปิดโอกาสใหผ้ อู้ า่ นไดใ้ ชว้ จิ ารณญาณและจนิ ตนาการรว่ มดว้ ย โดยใชว้ ธิ แี นะดงั ได้ กล่าวแลว้ เหลา่ น้เี ป็นกลวธิ กี ารแต่งดเี ดน่ ควรแกก่ ารยกยอ่ ง 179 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ สว่ นสานวนโวหารอนั เป็นแบบเฉพาะตวั ของผปู้ ระพนั ธน์ ัน้ ในการเขยี นนวนยิ ายเรอ่ื งน้ี สวุ รรณี สุคนธา ได้ แสดงคณุ สมบตั พิ เิ ศษในฐานะทเ่ี ป็นนกั เขยี นอยา่ งแทจ้ รงิ มลี กั ษณะทเ่ี ป็นแบบเฉพาะตวั ในการเลอื กใชถ้ อ้ ยคาทม่ี ี ความหมายตรง กระชบั สนั้ และรดั กมุ แตท่ าใหผ้ อู้ ่านเกดิ ความเขา้ ใจและความรสู้ กึ อย่างลกึ ซง้ึ สานวนทว่ี า่ “อ่านได้ ระหวา่ งบรรทดั ” อกี ดว้ ย และแมเ้ ร่อื งจะจบลงเสมอื นวา่ หมอกานตส์ น้ิ ชวี ติ ลงอยา่ งเปล่าดายไรร้ างวลั ตอบแทนใดๆ ทงั้ สน้ิ แต่ผแู้ ต่งกไ็ ดก้ ล่าวแนะโดยนัยถงึ เหตุการณ์ทแ่ี สดงปัญหาดา้ นครอบครวั และความรกั ของหมอกานตน์ นั้ เรยี บรอ้ ยลงแลว้ เพราะหฤทยั แสดงความตงั้ ใจทจ่ี ะกลบั ไปอยกู่ บั หมอกานตท์ บ่ี า้ นในชนบทต่อไป ความเศรา้ โศกอาลยั ของบุคคลทเ่ี หน็ หมอกานตต์ าย เป็นรางวลั ของชวี ติ อยา่ งหน่งึ ทเ่ี ป็นประจกั ษ์พยานยนื ยนั ความคดิ ของทกุ คนวา่ “ความ ดไี ม่สญู เปล่า” ชวี ติ ทม่ี แี ค่ควรแก่การอาลยั นัน้ คอื ชวี ติ ทซ่ี อ่ื ตรงและเป็นประโยชน์ตอ่ เพ่อื นมนุษย์ และบุคคลอย่างเขาท่ี ช่อื กานตน์ ้แี หล่ะ คอื ผเู้ ชดิ ชอู ดุ มคตใิ หย้ นื ยงมนั ่ คงอยใู่ นความนึกคดิ ของมนุษยชาตติ ลอดไป จงึ นับว่าผปู้ ระพนั ธไ์ ดใ้ ช้ โวหารงา่ ยๆ ตรงไปตรงมาแตส่ รา้ งความรสู้ กึ ตระหนักในคณุ คา่ ของอดุ มคตแิ ละการเสยี สละไดอ้ ย่างแนบแน่นลกึ ซ้งึ โดยสรปุ แลว้ นวนยิ ายเร่อื งน้ี มคี วามดเี ดน่ หลายประการ ไดแ้ ก่ เน้อื เรอ่ื ง กลวธิ กี ารแต่งและสานวนโวหารการ ใชถ้ อ้ ยคา จงึ เป็นเร่อื งทม่ี คี ุณคา่ สอดคลอ้ งกบั สภาพชวี ติ ในปัจจบุ นั ซง่ึ ตอ้ งการสรา้ งเสรมิ และกาลงั ใจสนับสนุนในดา้ น อดุ มคติ ความจรงิ จงั ต่อชวี ติ ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ และการเสยี สละเป็นอย่างยงิ่ ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/.../comment_3.html- 180 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 7 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ ใบงานที่ 2.6 การวิเคราะหค์ ณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ แลว้ นาเรอ่ื งทอ่ี ่านมาวเิ คราะหค์ ณุ คา่ 181 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 7 การวเิ คราะห์คุณค่าหนังสือตามความสนใจ ใบงานท่ี 2.6 การวิเคราะหค์ ณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ แลว้ นาเร่อื งทอ่ี ่านมาวเิ คราะหค์ ุณคา่ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 182 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 7 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนังสือตามความสนใจ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ชอ่ื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 183 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 7 การวเิ คราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่อื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 184 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 7 การวเิ คราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 185 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 7 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือตามความสนใจ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 186 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 8 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 การวิเคราะหค์ ณุ ค่า 1 ชวั่ โมง หนังสือที่ครแู ละนักเรียน กาหนดร่วมกนั 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นหนงั สอื ทค่ี รแู ละนกั เรยี นกาหนดรว่ มกนั อย่างมมี ารยาทแลว้ วเิ คราะหค์ ณุ ค่า จะชว่ ยใหส้ ามารถ นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.1/8 วเิ คราะหค์ ณุ ค่าทไ่ี ดร้ บั จากการอา่ นงานเขยี นอย่างหลากหลายเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ม.1/9 มมี ารยาทในการอ่าน 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ทไ่ี ดร้ บั จากการอา่ นหนงั สอื ทค่ี รแู ละนกั เรยี นกาหนดร่วมกนั เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชวี ติ ได้ 2) มมี ารยาทในการอ่าน 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น - หนงั สอื อา่ นทค่ี รแู ละนกั เรยี นกาหนดรว่ มกนั 2) มารยาทในการอ่าน 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 2) ทกั ษะการประเมนิ 4) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 187 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องที่ 8 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนงั สือทค่ี รูและนักเรียนกาหนดร่วมกัน 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ หน่วย (Unit Teaching Method) ขนั้ ที่ 1 นาเข้าสู่หน่วย คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : ประวตั คิ ุณงามพรรณ เวชชาชวี ะ หนังสือท่ีนักเรียนจะกาหนดให้เป็นหนังสือ สาหรบั วิเคราะห์คณุ คา่ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นถงึ นวนยิ ายเรอ่ื ง ความสขุ ของกะทิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น 3. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านประวตั ขิ องคณุ งามพรรณ เวชชาชวี ะ ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) ผแู้ ต่งนวนิยายเรอ่ื ง ความสุขของกะทิ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี น รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ 4. ครอู ธบิ ายถงึ ความเหมาะสมของเรอ่ื งทไ่ี ดร้ บั รางวลั ซไี รต์ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การนา วรรณกรรมซไี รตม์ าวเิ คราะห์ ขนั้ ท่ี 2 นักเรียนและครวู างแผนรว่ มกนั คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : นักเรียนคิดว่า หนังสือที่ได้รบั รางวลั ซีไรตเ์ ป็น หนังสือท่ีมีคณุ ค่าหรือไม่ เพราะเหตุใด 1. หนังสอื รางวลั ซไี รต์ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น 2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั วรรณกรรมทไ่ี ดร้ บั รางวลั ซไี รต์ 3. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั วรรณกรรมซไี รต์ จากแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มวางแผนการวเิ คราะหค์ ุณคา่ วรรณกรรม ซไี รตท์ ก่ี ลุ่มเลอื กวา่ จะทาอยา่ งไร 5. นกั เรยี นชว่ ยกนั ตงั้ ปัญหาและแบ่งหวั ขอ้ กาหนดกจิ กรรม มอบหมายหน้าทป่ี ฏบิ ตั งิ าน และกาหนดระยะเวลาในการ รายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน 188 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 8 การวเิ คราะห์คุณค่าหนงั สือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั ขนั้ ที่ 3 ลงมือทางาน คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 2.7 ถ้านักเรยี นทางานโดยไม่วางแผนไว้ลว่ งหน้า ผลจะเป็ นอย่างไร 1. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทาใบงานท่ี 2.7 เร่ือง กาวิเคราะห์ คุณค่าหนังสือที่ครแู ละนักเรียนกาหนดร่วมกนั ตามแผนท่ี (ไม่มขี อบเขตในการทางาน ทาใหไ้ ม่ไดผ้ ลตาม นกั เรยี นไดก้ าหนดไว้ ทคี่ าดหวงั ) 2. ครคู อยใหค้ าแนะนาเพมิ่ เตมิ หากนกั เรยี นมขี อ้ สงสยั 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 4 เสนอกิจกรรม คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 2.7 นักเรยี นคิดว่า การนาเสนอผลงานท่ีดี และ น่าสนใจควรทาอย่างไร 1. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนนาเสนอผลการทาใบงานท่ี 2.7 (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น ดว้ ยการรายงานผลการปฏบิ ตั หิ น้าชนั้ เรยี น จากนนั้ นาใบงาน ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) ท่ี 2.7 ส่งครตู รวจ 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ที่ 5 ประเมินผล ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 2.7 1. ครปู ระเมนิ การนาเสนอผลงานและตรวจใบงานท่ี 2.7 ของนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรแู้ ละประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จาก การวเิ คราะหค์ ณุ ค่าหนงั สอื ทค่ี รแู ละนักเรยี นกาหนดร่วมกนั • ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนเลือกอ่านหนังสือท่ีนักเรยี นสนใจ 1 เรอ่ื ง แลว้ เขียนแนะนาหนังสือเลม่ นัน้ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การสรปุ ใจความสาคญั ของเรอื่ ง 2) การระบุเหตแุ ละผล ขอ้ เทจ็ จรงิ กบั ขอ้ คดิ เหน็ จากเรอื่ ง 3) การวเิ คราะหค์ ุณค่าทไี่ ดร้ บั จากเรอื่ ง นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 189 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 8 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.7 ใบงานท่ี 2.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจการเขยี นแนะนาหนงั สอื ทส่ี นใจ แบบประเมนิ การเขยี นแนะนาหนงั สอื ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ทส่ี นใจ 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื รางวลั ซไี รตท์ ก่ี ลมุ่ เลอื ก 2) ประวตั คิ ณุ งามพรรณ เวชชาชวี ะ 3) ใบงานท่ี 2.7 เร่อื ง การวเิ คราะหค์ ุณคา่ หนงั สอื ทค่ี รแู ละนักเรยี นกาหนดรว่ มกนั 8.2 แหล่งการเรียนรู้ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.th.wikipedia.org/wiki/หมวดหม่:ู วรรณกรรมรางวลั ซไี รต์ 190 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 8 การวิเคราะห์คุณค่าหนงั สือทีค่ รูและนักเรียนกาหนดร่วมกัน การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการเขียนแนะนาหนังสือที่สนใจ ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 432 1 การสรุปใจความสาคญั ของเรอ่ื ง 2 การระบุเหตแุ ละผล ขอ้ เทจ็ จรงิ กบั ขอ้ คดิ เหน็ จาก เรอ่ื ง 3 การวเิ คราะหค์ ุณคา่ ทไ่ี ดร้ บั จากเรอ่ื ง รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ 191 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 8 การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือทค่ี รูและนักเรียนกาหนดร่วมกัน เอกสารประกอบการสอน ประวตั ิ คณุ งามพรรณ เวชชาชีวะ เมอ่ื งานเขยี นรางวลั ซไี รต์ เร่ือง “ความสขุ ของกะทิ” นวนยิ ายขนาดสนั้ ของคุณงามพรรณ เวชชาชวี ะ ถูกปลกุ จาก ตวั หนงั สอื สภู่ าพเคล่อื นไหวบนแผน่ ฟิลม์ ทาใหช้ ่อื ของเธอไม่ไดถ้ ูกจากดั แคใ่ นแวดวงนกั เขยี น และการแปลอกี ตอ่ ไป วนั น้ี เธอไดร้ บั ความสนใจในวงกวา้ งดว้ ยความสามารถและประวตั ทิ ไ่ี มธ่ รรมดา งามพรรณ เวชชาชีวะ หรือคณุ เจน ปัจจุบนั อายุ 46 ปี เกดิ เม่อื 27 มกราคม พ.ศ. 2506 ทก่ี รงุ ลอนดอน ประเทศ องั กฤษ เป็นบตุ รคี นกลางของศาสตราจารยน์ ายแพทย์ อรรถสทิ ธิ์ เวชชาชวี ะ กบั ศาสตราจารยแ์ พทยห์ ญงิ สดใส เวชชา ชวี ะ มพี ส่ี าว คอื ศาสตราจารยแ์ พทยห์ ญงิ อลสิ า วชั รสนิ ธุ ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นจติ เวชเดก็ (คณุ แม่นอ้ งไอตมิ ) และมนี ้องชายคอื นายอภสิ ทิ ธิ์ เวชชาชวี ะ หวั หน้าพรรคประชาธปิ ัตย์ และนายกรฐั มนตรคี นท่ี 27 ของไทย คณุ เจนเรม่ิ การศกึ ษาระดบั อนุบาลทโ่ี รงเรยี นอนุบาลยคุ ลธร และศกึ ษาตอ่ ระดบั ประถมทโ่ี รงเรยี นกุมารกี ารณุ ยแ์ ละ โรงเรยี นสามมติ ร จบการศกึ ษาระดบั มธั ยมตน้ จากโรงเรยี นสตรจี ุลนาค และระดบั มธั ยมปลายจากโรงเรยี นศรวี กิ รม์ จากนนั้ ไดเ้ ขา้ ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาภาษาฝรงั ่ เศส (เกยี รตนิ ยิ มอนั ดบั หน่งึ เหรยี ญทอง) จากคณะศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ จากนนั้ ไปศกึ ษาต่อดา้ นการแปลและไดร้ บั ประกาศนยี บตั รการแปล (องั กฤษ-ฝรงั ่ เศส-อติ าล)ี จากโรงเรยี นลา่ มและการแปลของกรงุ บรสั เซลส์ ประเทศเบลเยยี ม สงิ่ หน่งึ ทท่ี าใหห้ ลายคนทง่ึ ในความสามารถของคุณเจน อาจเพราะเธอเกดิ มาพรอ้ มๆ กบั โรคภยั ไขเ้ จบ็ โดยเธอมี อาการอมั พาตทส่ี มองน้อยหรอื ทเ่ี รยี กวา่ โรค Cerebral Palsy คอื สมองส่วนหน่งึ ไมส่ ามารถบงั คบั การเคลอ่ื นไหวได้ สง่ ผล ใหเ้ ธอมอี าการปวดศรี ษะ ตน้ คอเคลด็ หลงั และแขนเจบ็ ขดั ยอก รสู้ กึ ถงึ ความเหน็ดเหน่ือยจนเขยี นหนงั สอื ไมไ่ ด้ ตอ้ งนอน หลบั พกั ผ่อนและรกั ษาดว้ ยการรบั ประทานยาอย่างต่อเน่อื ง รวมถงึ การทากายภาพบาบดั ทโ่ี รงพยาบาลเป็นประจา สปั ดาห์ ละ 2 ครงั้ คุณเจนเลา่ ว่า ตอ้ งหดั ทากจิ วตั รประจาวนั ทุกอย่าง แมแ้ ตต่ ดิ กระดมุ จะแปรงฟันยงั ตอ้ งหดั เป็นสเตป็ จะยกแปรงยงั ไง ขยบั มอื ยงั ไง เปิดก๊อกน้าอย่างไร เหมอื นตอ้ งใสโ่ ปรแกรมเขา้ ไปเพ่อื ใหร้ า่ งกายเรยี นรู้ แลว้ ทาซา้ ๆ จนทาไดเ้ ป็นอตั โนมตั ิ ดว้ ยเหตนุ ้ี คุณเจนจงึ ตอ้ งมวี ธิ กี ารบรหิ ารเวลากบั การเขยี นหนังสอื ทเ่ี ธอรกั ทห่ี น้าจอคอมพวิ เตอรว์ นั ละ 2-3 ชวั่ โมงอย่าง ตอ่ เน่อื ง เวลาทน่ี อกเหนอื จากนนั้ คอื การทากจิ กรรมอย่างอ่นื เพอ่ื เป็นการเปลย่ี นแปลงอริ ยิ าบถอยเู่ สมอๆ อย่างไรกต็ าม เธอกย็ งั สามารถคน้ พบและเลอื กทางเดนิ สายอาชพี ของตวั เอง มงุ่ มนั ่ จนประสบความสาเรจ็ อย่างสงู ทงั้ ๆ ทม่ี ขี อ้ จากดั ทางดา้ นสขุ ภาพ ปัจจุบนั เธอเป็นนักเขยี น นกั แปลช่อื ดงั และนกั ธรุ กจิ เกย่ี วกบั ลขิ สทิ ธวิ์ รรณกรรม ทาให้ หลายคนยกใหเ้ ธอเป็นหญงิ แกรง่ และอจั ฉรยิ ะคนหนง่ึ เลยทเี ดยี ว นอกจากน้คี ณุ เจนยงั มสี ว่ นรว่ มในการออกมารณรงค์ เรยี กรอ้ งสทิ ธคิ วามเสมอภาคของคนพกิ ารและคนดอ้ ยโอกาสในสงั คมอกี ด้วย ประวตั ิการทางาน คณุ เจน เรมิ่ ทางานครงั้ แรกทบ่ี รษิ ทั มเี ดยี โฟกสั ในตาแหน่งเจา้ หน้าทก่ี ารแปล กอ่ นจะเป็นเจา้ ของและบรรณาธกิ าร นิตยสาร “เพอ่ื นใหม่” นติ ยสารสาหรบั เดก็ กอ่ นวยั รุ่น และปัจจบุ นั เป็นกรรมการผจู้ ดั การบรษิ ทั ซลิ คโ์ รด พบั ลเิ ชอร์ เอเยนซี จากดั ซง่ึ เป็นบรษิ ทั ตวั แทนลขิ สทิ ธวิ์ รรณกรรมใหก้ บั นกั เขยี นและสานกั พมิ พท์ วั่ โลก รวมทงั้ ยงั เป็นผบู้ รรยายพเิ ศษดา้ นการ แปลและลขิ สทิ ธใิ์ หก้ บั มหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ และเป็นกรรมการตดั สนิ การประกวดนิทานและวรรณกรรมเยาวชน 192 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 8 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือท่คี รูและนกั เรียนกาหนดร่วมกัน สาหรบั ผลงานการแปลจากภาษาองั กฤษ ฝรงั ่ เศส อติ าลี และภาษาอ่นื มกี ว่า 20 เร่อื ง ไดแ้ ก่ ภกิ ษุกบั นกั ปรชั ญา, คมู่ อื ธุรกจิ ลขิ สทิ ธ,ิ์ ดว้ ยรกั และชอ็ กโกแลต, แฮรร์ ่ี พอตเตอรก์ บั ถว้ ยอคั นี, หน่งึ ปีแสนสขุ ในโปรวองซ์, แสนสขุ เสมอใน โปรวองซ์, มาตาปารี เดก็ ชายจากดวงดาว, ไฮด,้ี เดเปอโร รกั ยง่ิ ใหญ่จากใจดวงเลก็ ฯลฯ ทงั้ น้ี โดยส่วนใหญแ่ ลว้ เธอจะคลกุ คลกี บั งานแปลวรรณกรรมรว่ มสมยั ดว้ ยเหตุเพราะอยากใหค้ นอา่ นรจู้ กั กบั นกั เขยี นในปัจจบุ นั เชน่ ผลงานแฮรร์ ่ี พอตเตอรก์ บั ถว้ ยอคั นี ทแ่ี ปลในเลม่ ส่ี กช็ ว่ ยใหร้ ถู้ งึ การใชภ้ าษาอยา่ งอจั ฉรยิ ะของ เจเค โรวล์ ง่ิ ผเู้ ขยี น จนการแปลเลม่ น้เี หมอื นเป็นการประดาบระหวา่ งผเู้ ขยี นและผแู้ ปล ในเร่อื งการใชภ้ าษาทเี ดยี ว อยา่ งไรกด็ ี แมง้ านแปลจะถอื เป็นงานเขียนอยา่ งหนึ่ง แต่สาหรบั คณุ เจนแลว้ งานแปลคอื การไลต่ ามเงา ของผ้อู ื่น ถา่ ยทอดในสิ่งที่ไมใ่ ช่จินตนาการของตวั เอง เมือ่ สบโอกาส เธอจงึ หยิบปากกามาถา่ ยทอดผลงาน ความคิดในแบบของเธอ หลงั จากเคยเขียนเรอื่ งสนั้ ให้นิตยสารสตรีสารมาตงั้ แต่ครงั้ กระโน้น เหตนุ ้จี งึ เป็นทม่ี าของนวนยิ ายเลม่ แรกในชวี ติ เรอ่ื ง “ความสุขของกะท”ิ วรรณกรรมรางวลั ซไี รต์ ประจาปี พ.ศ.2549 ประเภทนวนิยาย ซง่ึ คุณเจนใหค้ าจากดั ความสนั้ ๆ ของเร่อื งน้วี า่ “ความสุขของกะท”ิ ไม่ใช่วรรณกรรมทม่ี แี ตค่ วามสขุ แต่ เป็นวรรณกรรมทแ่ี สดงใหเ้ หน็ สจั ธรรมของโลกมนุษย์ “ความสขุ ของกะทิ” เป็นเร่อื งของเดก็ หญงิ ตวั เลก็ ๆ นามวา่ กะทิ ทอ่ี าศยั อย่กู บั ตาและยายและไม่เคยมโี อกาสไดพ้ บหน้าแมเ่ ลย มเี พยี งภาพลางๆ ของแม่อย่ใู นความทรงจา จนวนั หน่งึ เม่อื ยายถามว่า “กะทิ อยากไปหาแมไ่ หมลูก?” การเดนิ ทางทจ่ี ะเปลย่ี นแปลงชวี ติ ของกะทจิ งึ ไดเ้ รม่ิ ขน้ึ หลงั ไดร้ บั รางวลั ซไี รตห์ นังสอื เลม่ น้ไี ดร้ บั การแปลเป็นหลายภาษา เชน่ ญป่ี ่นุ เกาหลี องั กฤษ เยอรมนั สเปน ฯลฯ “การเขยี นเร่อื งน้ไี มม่ พี ลอ็ ตอะไรจรงิ ๆ นงั ่ อยหู่ น้าคอมพวิ เตอรเ์ ขยี นวนั ละบท แต่ดว้ ยความทเ่ี ป็นคนชอบดหู นัง อ่าน หนังสอื แนวลกึ ลบั สอบสวน จงึ ตงั้ ปมในเร่อื งของเราขน้ึ มา สตเี ฟน คงิ นักเขยี นระดบั โลกทม่ี คี วามสามารถในการจงู ใจคน อา่ นบอกว่า โอกาสทค่ี นอ่านจะใหค้ นเขยี นวา่ จะตามอา่ นตอ่ ไปหรอื เปล่า อย่ทู ่ี 3 ยอ่ หน้าแรกเทา่ นนั้ แลว้ การเขยี นเร่อื งของ เดก็ มเี ทคนคิ อะไร ทก่ี ระตุน้ ใหค้ นอา่ นอยากรแู้ ลว้ ไม่ไดร้ บู้ า้ ง จงึ เรม่ิ ตน้ ดว้ ยคาวา่ ” แมไ่ มเ่ คยสญั ญาว่าจะกลบั มา “แลว้ แม่ ไปไหน...คิดแคน่ ี้ วา่ ทาอยา่ งไรให้คนอยากอา่ นไปเรื่อยๆ อกี ทงั้ เจตนาในการเขียนไม่ไดต้ งั้ ใจวา่ จะให้เดก็ หรือ ผใู้ หญ่อ่าน เป็นเรอื่ งท่ีเดก็ อ่านได้ ผใู้ หญ่อา่ นดี” คณุ เจนกล่าวถงึ นวนยิ ายเรอ่ื งความสุขของกะทิ ผลงานที่ผ่านมา งานแปล มผี ลงานการแปลจากภาษาองั กฤษ ฝรงั ่ เศส อติ าลี และภาษาอน่ื กว่า 20 เร่อื ง ไดแ้ ก่ ภกิ ษุกบั นกั ปรชั ญา, คมู่ อื ธุรกจิ ลขิ สทิ ธ,ิ์ ดว้ ยรกั และชอ็ กโกแลต, แฮรร์ ่ี พอตเตอรก์ บั ถว้ ยอคั น,ี หน่งึ ปีแสนสขุ ในโปรวองซ์, แสนสุขเสมอในโปรวองซ์, มาตาปารี เดก็ ชายจากดวงดาว, ไฮด,้ี เดเปอโร รกั ยงิ่ ใหญจ่ ากใจดวงเลก็ , ไหม, ไรเ้ ลอื ด เป็นตน้ งานเขียนของตวั เอง นิยามความรกั , ความสุขของกะทแิ ละภาคต่อ ความสขุ ของกะทิ ตอน ตามหาพระจนั ทร์ เกียรติประวตั ิ • ไดร้ บั อสิ รยิ าภรณ์ศลิ ปะและอกั ษรศาสตรช์ นั้ อศั วนิ (Chevalier de l'Ordre des Arts et des Lettres) เมอ่ื วนั ท่ี 25 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2542 จากกระทรวงวฒั นธรรม ประเทศฝรงั ่ เศส ในฐานะผมู้ ผี ลงานดา้ นวรรณกรรม และเผยแพรว่ ฒั นธรรมฝรงั ่ เศส • ไดร้ บั รางวลั วรรณกรรมสรา้ งสรรคย์ อดเยย่ี มแหง่ อาเซยี น (ซไี รต)์ ประจาปี พ.ศ.2549 ประเภทนวนยิ าย จาก ผลงานเขยี นเล่มแรก “ความสขุ ของกะท”ิ ทข่ี ายลขิ สทิ ธไิ์ ปแลว้ 5 ภาษาใน 6 ประเทศ (สหรฐั อเมรกิ า ออสเตรเลยี ฝรงั ่ เศส เยอรมนี ญป่ี ่นุ และสเปน) ที่มา http://www.hilight.kapook.com/view/32639- 193 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 8 การวเิ คราะห์คุณค่าหนังสือท่คี รูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั ใบงานท่ี การวิเคราะหค์ ณุ ค่าหนังสือที่ครแู ละนักเรยี น 2.7 กาหนดร่วมกนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านและวเิ คราะหว์ รรณกรรมซไี รต์ 1 เร่อื ง แลว้ วเิ คราะหต์ ามประเดน็ ทก่ี าหนด 1. วรรณกรรมซไี รตป์ ระเภทบนั เทงิ คดี ใหพ้ จิ ารณาตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) แกน่ ของเรอ่ื ง 2) การวางโครงเรอ่ื ง 3) ตวั ละคร 4) ฉาก 5) สานวนและลลี าในการเขยี น 6) สารทส่ี อ่ื จากผเู้ ขยี น 194 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เรื่องท่ี 8 การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือท่คี รูและนกั เรียนกาหนดร่วมกัน 2. วรรณกรรมซไี รตป์ ระเภทกวนี ิพนธ์ ใหพ้ จิ ารณาตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) รปู แบบของฉันทลกั ษณ์ 2) ความคดิ เหน็ และเน้อื หาสาระในบทกวี 3) กลวธิ กี ารแต่ง หรอื วรรณศลิ ป์ 4) รสของบทรอ้ ยกรอง 5) สารทส่ี อ่ื จากบทรอ้ ยกรอง 195 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องที่ 8 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนงั สือท่ีครูและนักเรียนกาหนดร่วมกัน ใบงานท่ี การวิเคราะหค์ ณุ ค่าหนังสือท่ีครแู ละนักเรียน 2.7 กาหนดรว่ มกนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านและวเิ คราะหว์ รรณกรรมซไี รต์ 1 เรอ่ื ง แลว้ วเิ คราะหต์ ามประเดน็ ทก่ี าหนด 1. วรรณกรรมซไี รตป์ ระเภทบนั เทงิ คดี ใหพ้ จิ ารณาตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) แก่นของเรอ่ื ง 2) การวางโครงเร่อื ง 3) ตวั ละคร 4) ฉาก 5) สานวนและลลี าในการเขยี น 6) สารทส่ี อ่ื จากผเู้ ขยี น (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 196 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองท่ี 8 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนงั สือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั 2. วรรณกรรมซไี รตป์ ระเภทกวนี ิพนธ์ ใหพ้ จิ ารณาตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) รปู แบบของฉนั ทลกั ษณ์ 2) ความคดิ เหน็ และเน้อื หาสาระในบทกวี 3) กลวธิ กี ารแตง่ หรอื วรรณศลิ ป์ 4) รสของบทรอ้ ยกรอง 5) สารทส่ี อ่ื จากบทรอ้ ยกรอง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 197 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองท่ี 8 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนังสือทีค่ รูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง 2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง 3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ 4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุม่ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 198 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั เร่ืองที่ 8 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กลุ่ม ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 199 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องที่ 8 การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือท่คี รูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 200 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เร่ืองที่ 8 การวเิ คราะห์คณุ ค่าหนงั สือทค่ี รูและนกั เรียนกาหนดร่วมกัน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 201 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 8 การวเิ คราะห์คุณค่าหนังสือที่ครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 202 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวัน เรื่องท่ี 8 การวิเคราะห์คณุ ค่าหนังสือทีค่ รูและนกั เรียนกาหนดร่วมกนั แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 นักเรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ตอ่ ไปน้ี ท 1.1 (ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9) ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ) ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 203 หลกั ภาษาฯ ม.1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 581
Pages: