หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เรื่องท่ี 2 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความแสดงความคิดเหน็ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 454 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากส่ือ เร่ืองที่ 2 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความแสดงความคดิ เห็น คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มุง่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 455 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 2 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความแสดงความคิดเหน็ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 456 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เร่ืองที่ 3 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความวิชาการ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 กคาิดรเเหขน็ ียจนาแกสบดทงคคววาามมวิชาการ1 ชวั่ โมง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านบทความวชิ าการจากสอ่ื จะตอ้ งเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระของบทความได้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/6 เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากส่อื ทไ่ี ดร้ บั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากบทความวชิ าการได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น - บทความ 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 457 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ เรื่องท่ี 3 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวชิ าการ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : ตวั อยา่ งบทความวชิ าการ 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั กจิ กรรมทก่ี าลงั เป็นทส่ี นใจ ของวยั รุ่นเกย่ี วกบั เทคโนโลยกี ารสอ่ื สารในปัจจบุ นั เช่น การโพสตร์ ปู ภาพผ่านเฟซบุ๊ก อนิ สตราแกรม 2. ครถู ามนกั เรยี นวา่ การถา่ ยรปู ทา่ ไหน หรอื มมุ ไหนทน่ี ักเรยี น คดิ วา่ ตนเองสวยมากทส่ี ดุ พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ 3. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านบทความวชิ าการเกย่ี วกบั การถ่ายรปู ให้ สวยงาม จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั บทความตวั อยา่ ง พรอ้ มแสดงเหตุผล 4. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ การอา่ นหรอื รบั สารประเภท บทความวชิ าการจะตอ้ งรจู้ กั วเิ คราะห์ สรุปสาระสาคญั และ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ ใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การเขยี นแสดง ความคดิ เหน็ ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อย่างบทความวชิ าการ นักเรยี นอ่านบทความวชิ าการ เร่อื ง ความเป็นเดก็ ทซ่ี ่อนอยใู่ น ตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อยา่ งบทความวชิ าการ 1. ครตู งั้ ประเดน็ คาถามใหน้ ักเรยี นอธบิ ายและหาคาตอบ เช่น - บคุ คลทม่ี วี ฒุ ภิ าวะเหมาะสมกบั อายุ จะมลี กั ษณะอยา่ งไร - ผใู้ หญท่ ม่ี คี วามเป็นเดก็ มากจะแสดงออกอย่างไร - บทความน้มี ปี ระโยชน์ตอ่ ผอู้ ่านอยา่ งไร 2. ครสู ุม่ เรยี กนกั เรยี นอธบิ ายและตอบคาถามทลี ะคนจนครบ ทกุ คาถาม โดยครแู ละเพ่อื นๆ รว่ มกนั ตรวจสอบคาอธบิ าย และคาตอบ 458 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ คาถามกระตุ้นความคิด เร่ืองท่ี 3 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวชิ าการ นักเรยี นคิดว่า ตนเองมคี วามเป็นเดก็ อยู่ในตวั 3. นักเรยี นสรุปใจความสาคญั ของบทความวชิ าการ เร่อื ง มากหรือน้อย เพราะเหตุใด ความเป็นเดก็ ทซ่ี ่อนอยใู่ นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.2 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. นักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากบทความ วชิ าการ เร่อื ง ความเป็นเดก็ ทซ่ี อ่ นอยใู่ นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) ลงในใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การเขียนแสดงความ คิดเหน็ จากบทความวิชาการ เมอ่ื เขยี นเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจ ความเรยี บรอ้ ยกอ่ นนาสง่ ครู ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.2 ครตู รวจประเมนิ ผลการเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ในใบงานท่ี 5.2 แลว้ คดั เลอื กผลงานดเี ดน่ 5 ผลงาน จดั แสดงทป่ี ้ายนเิ ทศ 7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 5.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 5.2 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) ตวั อยา่ งบทความวชิ าการ 2) บทความวชิ าการ เรอ่ื ง ความเป็นเดก็ ทซ่ี อ่ นอย่ใู นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) 3) ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวชิ าการ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 459 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองที่ 3 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากบทความวชิ าการ เอกสารประกอบการสอน ตวั อย่างบทความวิชาการ สาวคนไหนอยากถา่ ยรปู ให้สวยงามต้องหนั ใบหน้าไปหาทางซีกซ้าย สาวคนไหน ถา้ หากอยากจะถ่ายรปู ใหค้ นอน่ื ชน่ื ชอบ ควรจะหนั ใบหน้าซกี ซา้ ยใหถ้ ่าย เพราะตามธรรมชาตแิ ลว้ เราจะแสดงอารมณ์ออกมาใหเ้ หน็ ไดแ้ จม่ ชดั กวา่ นักวทิ ยาศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั เวค ฟอเรสข์ องสหรฐั ฯ พบเคลด็ เรอ่ื งน้ี เมอ่ื พยายามหาสาเหตทุ บ่ี รรดาจติ รกร ตะวนั ตกผมู้ ชี ่อื เสยี ง มกั ชอบวาดภาพใบหน้าบคุ คลแต่ซกี ซา้ ยเสมอ นักวจิ ยั กลา่ วว่า “เพราะพบว่า แกม้ ซา้ ยจะแสดงอารมณ์ความรสู้ กึ ไดเ้ ขม้ ขน้ กว่า อนั เป็นทน่ี ่าพงึ พอใจในแง่ ความงดงาม ซง่ึ ตรงกบั ทใ่ี นแงก่ ายวภิ าคแลว้ ใบหน้าซกี ซา้ ยขณะแสดงอารมณ์ความรสู้ กึ จะตกอย่ใู นความควบคุมของ สมองซกี ขวา” พวกเขายงั พบวา่ ใบหน้าทางซกี ซา้ ย จะมเี สน่หน์ ่ารกั ยง่ิ กวา่ อกี ซกี หน่ึง ไมว่ ่าจะเป็นผหู้ ญงิ หรอื ผชู้ าย ท่ีมา http://www.thairath.co.th/content/edu/257109 460 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 3 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวิชาการ บทความวิชาการ เร่ือง ความเป็นเดก็ ท่ีซ่อนอยใู่ นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) ทกุ คนทเ่ี กดิ มาย่อมผา่ นช่วงเวลาของการเจรญิ เตบิ โตในแตล่ ะวยั เรม่ิ ตงั้ แตว่ ยั ทารก วยั เดก็ วยั ผใู้ หญ่ และสุดทา้ ย วยั ชรา หรอื วยั สงู อายุ แต่ละวยั ทผ่ี ่านมานนั้ นอกจากจะมกี ารพฒั นาเจรญิ เตบิ โตทางดา้ นรา่ งกายแลว้ จติ ใจและอารมณ์ก็ ตอ้ งมกี ารพฒั นาใหส้ มวยั ตามไปดว้ ย จงึ จะเป็นผมู้ วี ฒุ ภิ าวะเหมาะสมกบั วยั บอ่ ยครงั้ ทเ่ี รามกั จะเหน็ บุคคลทเ่ี ป็นผใู้ หญ่ มอี ายุมากแลว้ แตม่ กั มพี ฤตกิ รรมแบบเดก็ ๆ ซง่ึ อาจจะเกดิ จากความรสู้ กึ ซ่อนเรน้ อยภู่ ายใน ทย่ี งั เรยี กรอ้ ง “ความเป็นเดก็ ” ในอดตี อยู่ บางครงั้ คนใกลช้ ดิ จะรสู้ กึ วา่ เป็นเรอ่ื งน่าตลก ขบขนั ไมพ่ อใจ ถอื ว่าเป็นเร่อื งน่าเกลยี ด ไมส่ มควรแสดงพฤตกิ รรมเช่นน้ี และอาจจะตาหนอิ ยใู่ นใจว่า “แกป่ ่านน้แี ลว้ ยงั ทาตวั เป็นเดก็ เลก็ ๆ อยไู่ ด”้ ความเป็นเดก็ ทซ่ี อ่ นอยใู่ นตวั ผใู้ หญน่ ัน้ แทจ้ รงิ แลว้ เป็นพฤตกิ รรมทถ่ี ูกกาหนดโดยสงั คม ยงิ่ ถา้ อายมุ ากแลว้ จะถูก กตกิ าของสงั คมกาหนดวา่ แกแ่ ลว้ โตแลว้ ผใู้ หญ่แลว้ ไมค่ วรทาอะไรแบบเดก็ ๆ ซง่ึ ไม่เหมาะ ไม่ควร แต่ความเป็นเดก็ ทซ่ี ่อน อยใู่ นตวั ของผใู้ หญน่ ้ีบางครงั้ อาจจะทาใหร้ สู้ กึ วา่ ชวี ติ กระชุม่ กระชวย กระปรก้ี ระเปรา่ รา่ เรงิ แจม่ ใส มอี ารมณ์สนุก ครน้ื เครง ดงั ทเ่ี ราจะเหน็ ไดจ้ ากผมู้ อี ายยุ ม้ิ เล่นกบั เดก็ ทารก ทาหน้าตาลอ้ เลยี นแบบตลกๆ กบั เดก็ ทงั้ เดก็ และผใู้ หญต่ า่ งหวั เราะชอบ ใจ มคี วามสขุ สนุกสนานเบกิ บานใจ แตก่ ม็ ผี ใู้ หญ่บางทา่ นทม่ี อี ายมุ ากแลว้ แตไ่ มม่ วี ฒุ ภิ าวะทางอารมณ์เลย เรยี กไดว้ า่ โตแต่ตวั ใจเป็นเดก็ ผใู้ หญป่ ระเภท น้ตี อ้ งการเพยี งแตใ่ หผ้ อู้ ่นื คอยสนองความตอ้ งการของตนเองเทา่ นนั้ เอาแตใ่ จขาดเหตผุ ล ขาดสามญั สานกึ ทด่ี ี เจา้ อารมณ์ ขาดความยบั ยงั้ ชงั่ ใจ ไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบ ผใู้ หญ่ประเภทนข้ี น้ึ ชอ่ื วา่ มคี วามเป็นเดก็ ซกุ ซอ่ นอย่ใู นบุคลกิ ภาพของตนเอง ซง่ึ เราสามารถสงั เกตไดจ้ ากพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ทแ่ี สดงออกมา ดงั น้ี 1. ผใู้ หญ่ทม่ี นี สิ ยั เหมอื นเดก็ น้ี จะมองเหน็ คณุ ค่าของบุคคลรอบขา้ งกต็ อ่ เมอ่ื ไดร้ บั การตอบสนองความตอ้ งการทต่ี น มอี ยู่ เชน่ เกย่ี วกบั เดก็ เลก็ ๆ ทม่ี องเหน็ คุณคา่ ของแม่ เพราะแม่เป็นผตู้ อบสนองความตอ้ งการขนั้ พน้ื ฐานในชวี ติ ให้ เช่น อยากกนิ อะไรแมก่ ห็ ามาให้ อยากจะเลน่ อะไรแม่กซ็ อ้ื หามาให้ เป็นตน้ 2. ผใู้ หญ่ทม่ี นี ิสยั เหมอื นเดก็ มกั จะมคี วามสมั พนั ธ์ หรอื คบหาบคุ คลใดกต็ ่อเม่อื ไดร้ บั ผลประโยชน์จากบคุ คลนนั้ หรอื บุคคลนนั้ ไม่ไดข้ ดั ผลประโยชน์หรอื ความตอ้ งการของเขา 3. ผใู้ หญ่ทม่ี นี ิสยั เหมอื นเดก็ มกั จะมบี คุ ลกิ ภาพแบบวตั ถุนิยม ตอ้ งการสงิ่ ของ สนิ จา้ งรางวลั แบบเดก็ ๆ 4. ผใู้ หญท่ ม่ี นี ิสยั เหมอื นเดก็ มกั จะเป็นคนทช่ี อบเอารดั เอาเปรยี บผอู้ ่นื เหน็ แก่ได้ ชอบของกานัล ของฟรี 5. ผใู้ หญ่ทม่ี นี สิ ยั เหมอื นเดก็ มกั จะเป็นคนเอาแตใ่ จตนเอง ไม่มเี หตผุ ล ขร้ี ะแวง ชอบสงสยั ไม่คอ่ ยไวว้ างใจใคร ชอบตาหนติ เิ ตยี นว่ารา้ ยคนอ่นื อวดดี อวดเกง่ ขค้ี ยุ ขโ้ี ม้ โดยธรรมชาตขิ องมนุษยแ์ ลว้ ผใู้ หญท่ ุกคนมกั มคี วามเป็นเดก็ อยใู่ นตวั ขน้ึ อย่กู บั วา่ ใครจะมมี ากน้อยเทา่ นนั้ และ การแสดงพฤตกิ รรมเดก็ ๆ นนั้ เป็นทย่ี อมรบั ของสงั คมหรอื ไม่ บางคนสามารถพฒั นาความเป็นเดก็ น้ไี ปในรปู แบบอน่ื มี การพฒั นาจติ ใจ มศี ลี ธรรม จรยิ ธรรมสงู ขน้ึ รจู้ กั สารวจขอ้ บกพรอ่ งของตนเอง และรจู้ กั พฒั นาปรบั ปรงุ ตนเอง ผใู้ หญ่ทม่ี คี วามเป็นเดก็ มากนนั้ จะขาดพฒั นาการตนเอง ไมม่ เี ป้าหมายในชวี ติ ทแ่ี น่นอน ถงึ แมว้ า่ จะมตี าแหน่งหน้าท่ี การงานสงู มคี นคอยเอาอกเอาใจ ใชช้ วี ติ หรหู รา ฟ่ฟู ่าในสงั คม แตส่ ่วนลกึ ทซ่ี อ่ นเรน้ อยภู่ ายในจติ ใจนนั้ ยงั ไมร่ จู้ กั คาว่า “พอ” ตอ้ งการไขว่ควา้ หาสง่ิ เรงิ รมย์ ตอ้ งการวตั ถมุ าปรนเปรอความตอ้ งการแบบเดก็ ๆ อยเู่ สมอ เพราะความเบอ่ื งา่ ย เซง็ งา่ ย เหงา รสู้ กึ โดดเดย่ี ว อา้ งวา้ ง ตอ้ งพง่ึ พาอาศยั คนรอบขา้ งอยตู่ ลอดเวลา จงึ หาความสขุ ทแ่ี ทจ้ รงิ ในชวี ติ ทแ่ี ทจ้ รงิ ไม่ได้ การยอมรบั ในจุดบกพรอ่ ง แลว้ พฒั นาปรบั ปรุงแกไ้ ขยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื และดาเนินชวี ติ ใหส้ อดคลอ้ งกบั อายทุ เ่ี พมิ่ มากขน้ึ อย่ใู นโลกของความเป็นจรงิ ความเป็นเดก็ จะคอ่ ยๆ ลดลง ความเป็นผใู้ หญ่ทส่ี มวยั จะเพมิ่ มากขน้ึ กจ็ ะมี ชวี ติ อยอู่ ยา่ งมคี วามสขุ และเป็นทเ่ี คารพรกั ของคนทวั่ ไป มากขน้ึ อกี ดว้ ย ที่มา นภิ า ผ่องพนั ธ์ โรงพยาบาลสวนปรุง กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ 461 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากสื่อ เร่ืองท่ี 3 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวิชาการ ใบงานท่ี 5.2 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความวิชาการ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทความวชิ าการ เร่อื ง ความเป็นเดก็ ทซ่ี อ่ นอยใู่ นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) แลว้ เขยี น แสดงความคดิ เหน็ 462 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เรื่องท่ี 3 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวิชาการ ใบงานท่ี 5.2 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความวิชาการ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านบทความวชิ าการ เร่อื ง ความเป็นเดก็ ทซ่ี อ่ นอยใู่ นตวั ผใู้ หญ่ (Inner Child) แลว้ เขยี น แสดงความคดิ เหน็ (พจิ ารณาตามผลงานการเขยี นของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 463 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เรื่องท่ี 3 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวิชาการ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 464 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เร่ืองที่ 3 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความวชิ าการ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 465 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 3 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความวชิ าการ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 466 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เรื่องท่ี 3 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความวิชาการ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 467 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 3 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวิชาการ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 468 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองที่ 4 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 การเขียนแสดงความ 1 ชวั่ โมง คิดเหน็ จากบทความสารคดี 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านบทความสารคดจี ากสอ่ื จะตอ้ งเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระของบทความได้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/6 เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ทไ่ี ดร้ บั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากบทความสารคดไี ด้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น - บทความ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 469 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากสื่อ เรื่องท่ี 4 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความสารคดี 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — หากต้องการอ่านบทความที่ให้ความรู้ ข้อมูล และมีความเพลิดเพลิน ควรเลือกอ่าน 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ บทความประเภทใด 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั การอา่ นบทความท่ี (ควรเลอื กอา่ นบทความสารคด)ี ใหค้ วามรแู้ ละความเพลดิ เพลนิ ควบค่กู นั ไป แลว้ ใหน้ ักเรยี น ยกตวั อย่างนักเขยี นบทความทม่ี ชี อ่ื เสยี ง หรอื ทน่ี ักเรยี น ชน่ื ชอบ ขนั้ ที่ 2 จาแนกความแตกต่าง ส่อื การเรยี นรู้ : บทความสารคดี 1. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านบทความสารคดี เรอ่ื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ าร เรยี นรู้ คุณครทู แ่ี ตกต่าง เมอ่ื อ่านจบแลว้ ใหน้ ักเรยี นสรปุ ใจความสาคญั ของบทความ 2. นักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากบทความ สารคดี เร่อื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเรยี นรู้ คณุ ครทู แ่ี ตกตา่ ง 3. นักเรยี นแต่ละคนแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และฟังความ คดิ เหน็ ทแ่ี ตกตา่ งจากความเหน็ ของตนหลงั จากอา่ นบทความ สารคดี เรอ่ื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเรยี นรู้ คุณครทู แ่ี ตกตา่ ง 4. นักเรยี นเปรยี บเทยี บความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกตา่ งและคลา้ ยคลงึ ของเพอ่ื นๆ ทม่ี ตี อ่ บทความสารคดี เร่อื ง พพิ ธิ ภณั ฑ์ การเรยี นรู้ คณุ ครทู แ่ี ตกต่าง ขนั้ ที่ 3 หาลกั ษณะรว่ ม ส่อื การเรยี นรู้ : บทความสารคดี นกั เรยี นจดั กล่มุ ความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกต่างและคลา้ ยคลงึ กนั เพอ่ื หา เหตผุ ลหรอื ลกั ษณะรว่ มของความคดิ เหน็ 470 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากส่ือ เร่ืองที่ 4 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี ขนั้ ที่ 4 ระบชุ ่ือความคิดรวบยอด ส่อื การเรยี นรู้ : บทความสารคดี 1. ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจาก บทความสารคดี เรอ่ื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเรยี นรู้ คณุ ครทู ่ี แตกตา่ ง อกี ครงั้ เพอ่ื สรุปแนวการแสดงความคดิ เหน็ ของ ตนเอง 2. ครขู ออาสาสมคั รนกั เรยี น 3-5 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากบทความสารคดี เร่อื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ าร เรยี นรคู้ ณุ ครทู แ่ี ตกต่าง ขนั้ ท่ี 5 ทดสอบและนาไปใช้ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.3 นักเรียนมแี นวทางในการเขียนแสดง ความคิดเหน็ อยา่ งสรา้ งสรรคอ์ ยา่ งไร 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น 2. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 5.3 เรือ่ ง การเขียนแสดงความ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) คิดเหน็ จากบทความสารคดี เม่อื เขยี นเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจ ความเรยี บรอ้ ย โดยนักเรยี นและครรู ว่ มกนั กาหนดระยะเวลา ในการสง่ ใบงาน 7 การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 5.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 5.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) บทความสารคดี เรอ่ื ง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเรยี นรู้ คณุ ครทู แ่ี ตกต่าง 2) ใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากบทความสารคดี 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 471 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองท่ี 4 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี เอกสารประกอบการสอน บทความสารคดี เร่อื ง พิพิธภณั ฑก์ ารเรยี นรู้ คณุ ครทู ่ีแตกต่าง สวสั ดคี ่ะ หนูช่อื ด.ญ.สายน้า สว่ นน้องสาวของหนูชอ่ื ด.ญ.ขวญั ขา้ ว นามสกุล โลหติ กุล วนั น้พี วกเราขออาสาพาทา่ น ผอู้ ่านไปเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑก์ นั นะคะ พดู ถงึ พพิ ธิ ภณั ฑ์ ตอนแรกๆ ทค่ี ณุ แมบ่ อกวา่ จะพาไปเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑ์ พวกหนูไมอ่ ยาก ไปเลย คดิ วา่ ตอ้ งไปเดนิ ดขู องเกา่ ๆ ในตกู้ ระจกอกี แลว้ ดเู ขา้ ใจบา้ ง ไมเ่ ขา้ ใจบา้ ง ไมร่ วู้ า่ ทาไมผใู้ หญถ่ งึ ชอบใหพ้ วกหนูไป เทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑก์ นั นกั จนกระทงั่ วนั หน่งึ พวกหนูไดไ้ ปดพู พิ ธิ ภณั ฑแ์ หง่ หน่งึ ถงึ รคู้ วามจรงิ วา่ พพิ ธิ ภณั ฑไ์ มไ่ ดน้ ่าเบอ่ื เสมอ ไปหรอกนะ พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ห่งน้ีตงั้ อยใู่ นยา่ นทา่ เตยี น เขตกรงุ รตั นโกสนิ ทรช์ นั้ ใน ดา้ นหลงั พระบรมมหาราชวงั นนั่ เอง ตวั พพิ ธิ ภณั ฑ์ อยใู่ นตกึ ทรงยโุ รปหลงั ใหญ่ สวยสงา่ แปลกตาดี แม่บอกวา่ ตกึ น้อี ายุเกอื บรอ้ ยปีแลว้ เพราะสรา้ งมาตงั้ แตส่ มยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 6 แรกเรม่ิ เดมิ ทเี คยเป็นทท่ี าการกระทรวงพาณชิ ยม์ าหลายยคุ ก่อนจะมา เป็น “พพิ ธิ ภณั ฑก์ ารเรยี นรู”้ หรอื ทเ่ี รยี กกนั สนั้ ๆ เท่ๆ ว่า “มวิ เซยี มสยาม” ซง่ึ เพง่ิ เปิดอยา่ งเป็นทางการเม่อื วนั ท่ี 2 เมษายน 2551 ทผ่ี ่านมาน้เี อง แตเ่ อ! พวกหนูไมเ่ ขา้ ใจเลยวา่ เมอ่ื ผา่ นประตูเขา้ ไปแลว้ ทาไมทน่ี จ่ี งึ เตม็ ไปดว้ ยสญั ลกั ษณ์รปู คนสแี ดง กางมอื กางแขน อย่เู ตม็ ไปหมด พวกเขาเป็นมนุษยต์ ่างดาวหรอื เปล่านะ? แตย่ งั ไมท่ นั งุนงงสงสยั มากไปกว่าน้ี กม็ พี เ่ี จา้ หน้าทผ่ี นู้ ่ารกั อธบิ ายใหฟ้ ังวา่ รปู คนสแี ดงน้คี ลา้ ยกบั ภาพเขยี นสขี องมนุษยก์ อ่ นประวตั ศิ าสตร์ เรยี กว่า “คนเตน้ กบ” ใช่เลย พวกหนูกร็ สู้ กึ ว่ามนั เหมอื นคนนอนแผ่ กางแขนกางขาแบบกบ พเ่ี จา้ หน้าทบ่ี อกวา่ เป็นการสอ่ื ความหมายถงึ รากเหงา้ ของ “คน” และ “พน้ื ท”่ี ทพ่ี พิ ธิ ภณั ฑแ์ หง่ นจ้ี ะยอ้ นประวตั ศิ าสตรใ์ หเ้ ราเขา้ ใจความเป็นมา ตงั้ แต่จุดเรมิ่ ตน้ อย่างถงึ กนึ๋ ทเี ดยี ว “คนเตน้ กบ” จงึ กลายเป็นสญั ลกั ษณ์ของ “มวิ เซยี มสยาม” ดว้ ยเหตนุ ้ี หอ้ งตอ่ มาเป็นหอ้ งชมภาพยนตรเ์ บกิ โรง แนะนาสถานทก่ี อ่ นเขา้ ไปสหู่ อ้ งต่างๆ เขาออกแบบเป็นโรงภาพยนตรข์ นาด เลก็ มจี อโคง้ ไปมาคลา้ ยสายรงุ้ พาดผา่ น ฉายหนังสนั้ ๆ ทพ่ี วกหนูยงั ดไู ม่คอ่ ยเขา้ ใจ แต่กน็ ่าตน่ื ตาตน่ื ใจดี เพราะเขาว่าใช้ ทมี งานสรา้ งสรรคเ์ ดยี วกบั ทมี สรา้ งหนังเร่อื ง “เดอะ ลอรด์ ออฟ เดอะ รงิ ” ของฮอลลวี ดู้ เชยี วนะ หอ้ งถดั ไปเป็นหอ้ งไทยแท้ ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ความเป็นไทยแบบตา่ งๆ หนูรสู้ กึ เหมอื นเป็นนกั ทอ่ งเทย่ี วขน้ึ มาทนั ที เพราะบรรยากาศไทยๆ มที งั้ มวยไทย รถตกุ๊ ตุ๊ก รถเขน็ ขายสม้ ตา หลากหลายความเป็นไทยทด่ี จู ะขาดไปกแ็ ค่แผงขายลอตเตอรเ่ี ทา่ นนั้ กแ็ หมรๆู้ กนั อย่วู า่ “หวย” น่ะ อยคู่ ่กู บั คนไทยมาแสนนานไม่ใช่หรอื คะ ? ตอ่ มาเราขน้ึ ไปทช่ี นั้ 2 เป็นหอ้ งเปิดตานานสุวรรณภูมิ ในหอ้ งนห้ี นูไดร้ จู้ กั คณุ ครคู นใหม่ คอื ผศ.ดร.รศั มี ชทู รงเดช ท่านเป็นนักโบราณคดี มาสอนพวกหนูผ่านวดี ทิ ศั น์ ในรปู แบบเหมอื นการพดู คยุ สนทนากนั จรงิ ๆ ทา่ นมาอธบิ ายและตอบ คาถามคาใจเรอ่ื งมนุษยก์ อ่ นประวตั ศิ าสตร์ และความหลากหลายทางชาตพิ นั ธุ์ หนูจงึ ไดร้ จู้ กั “นางพญาแหง่ โคกพนมด”ี มนุษยย์ ุคหนิ ในภาพยนตรน์ าชมทอ่ี อกมาปรากฏตวั เพอ่ื อธบิ ายใหเ้ หน็ ถงึ ความเช่อื ในภตู ผี พ่อมด แมม่ ด ทม่ี มี าแต่ ดกึ ดาบรรพต์ ราบจนปัจจุบนั คนเราเปลย่ี นมาเช่อื ขอ้ มลู ขา่ วสาร สง่ ผลใหส้ ่อื มวลชนมพี ลงั อานาจทาใหเ้ ราเช่อื ในสงิ่ ทเ่ี ขา นาเสนอได้ จนแม่บอกหนูว่ายคุ น้ใี ครควบคมุ ส่อื ไดก้ จ็ ะไดเ้ ปรยี บคนอ่นื 472 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากสื่อ เรื่องที่ 4 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากบทความสารคดี หอ้ งถดั ไปเป็นหอ้ งสวุ รรณภมู ิ หอ้ งน้พี วกหนูชอบมากๆ เพราะนอกจากจะมเี รอ่ื งราวความรทู้ เ่ี คล่อื นไหวได้ อาทิ ชวี ติ พสิ ดารของทา้ วทองกบี มา้ หรอื มารี เดอ กรี ม์ า สาวลกู ครง่ึ โปรตุเกส–ญป่ี ่นุ ทเ่ี ขา้ มาอย่กู รุงศรอี ยธุ ยาสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์ แลว้ ใหก้ าเนิดขนมไทย อย่างทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง ฯลฯ แลว้ หอ้ งน้ยี งั มเี กมสใ์ หพ้ วกหนูเลน่ อกี ดว้ ย เป็นเกมสท์ ใ่ี หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การซอ้ื ขายแลกเปลย่ี นในอดตี และความหลากหลายของชนชาตติ า่ งๆ ในสุวรรณภูมิ เลน่ สนุก และไดค้ วามดคี ะ่ และทช่ี นั้ สองน้เี องยงั มเี ร่อื งราวเกย่ี วกบั กรุงศรอี ยุธยา ตงั้ แต่ยุครุง่ เรอื งจนถงึ ลม่ สลายและเสยี กรุง โดยมี ภาพยนตรจ์ าลองเหตกุ ารณ์สรู้ บระหว่างไทยกบั พม่า ดว้ ยเทคนคิ 3 มติ ทิ น่ี ่าทง่ึ จนพวกหนูอง้ึ กมิ กก่ี นั ไปเลย เช่อื หรอื ยงั คะ ว่าพพิ ธิ ภณั ฑไ์ มใ่ ช่เร่อื งน่าเบอ่ื เสมอไป ครนั้ ขน้ึ ไปถงึ ชนั้ ท่ี 3 มวิ เซยี มสยามนาเราเขา้ สยู่ คุ ความเป็นไทยในสมยั ยคุ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ ซง่ึ เรม่ิ มกี ารทาแผนท่ี ในสมยั รชั กาลท่ี 5 นาเสนอไดน้ ่าสนใจ และมเี กมสใ์ หเ้ ลน่ อกี แลว้ ค่ะ เป็นเกมสท์ ท่ี าใหพ้ วกหนูเขา้ ใจเร่อื งเขตแดน การแย่ง ดนิ แดน และการแยง่ ชงิ ทรพั ยากรธรรมชาติ จากนนั้ เป็นหอ้ งทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ความเปลย่ี นแปลงของสยามหลงั พ.ศ. 2475 จนถงึ ยคุ รฐั นิยม สมยั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ทค่ี นไทยตอ้ งใสห่ มวก สวมรองเทา้ ไม่เคย้ี วหมาก และหอมแกม้ ภรรยากอ่ น ไปทางาน จงึ จะไดช้ อ่ื วา่ เป็นผมู้ วี ฒั นธรรมทส่ี าคญั คอื เป็นยุคทเ่ี ราเรม่ิ มสี ถานโี ทรทศั นช์ ่องแรก คอื ชอ่ ง 4 บางขนุ พรหม จนกระทงั่ วนั น้กี ารดทู วี กี ลายเป็นสว่ นหน่ึงในชวี ติ เราไปแลว้ มาถงึ หอ้ งสดุ ทา้ ยคอื หอ้ งเรยี นรู้ โดนใจพวกหนูสดุ ๆ เพราะหอ้ งน้มี จี อคอมพวิ เตอรใ์ หเ้ ขยี นขอ้ ความลงไปตาม ความคดิ ฝัน เช่น ถา้ ไดเ้ ป็นนายกรฐั มนตรี หนูจะทาประโยชน์อะไรใหบ้ า้ นเมอื ง ? เขยี นเสรจ็ แลว้ ขอ้ ความกจ็ ะปรากฏบน พน้ื ผนงั ดา้ นหลงั ใหพ้ วกหนูเขา้ ไปถา่ ยรปู เป็นทร่ี ะลกึ กบั ขอ้ ความดว้ ย วนั นนั้ หนูเขยี นว่า ”อยากใหค้ นไทยรกั กนั และรกั ในหลวงคะ่ ” สรุปแลว้ 3 ชวั่ โมงในมวิ เซยี มสยาม ไมเ่ บ่อื เลยสกั นดิ ทน่ี ่เี ป็นพพิ ธิ ภณั ฑท์ ไ่ี มธ่ รรมดาจรงิ ๆ ทส่ี าคญั คอื ทาใหพ้ วกหนู ไดร้ วู้ ่า “หนูเป็นใคร และความเป็นไทยหมายถงึ อะไร ?“ เหมอื นกบั ทแ่ี มเ่ คยบอกหนูว่า ถา้ ไม่รจู้ กั รากเหงา้ ของตวั เราเอง กย็ ากจะกา้ วไปขา้ งหน้าอย่างมอี นาคตได.้ .. ว่างเมอ่ื ไร อยา่ ลมื ไปเทย่ี วกนั นะคะ ที่มา http://www.goodfoodgoodlife.in.th/time-for-myself-detail.aspx?tid=29 473 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เรื่องที่ 4 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี ใบงานท่ี 5.3 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านบทความสารคดที ส่ี นใจ 1 บทความ แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มถ่ายเอกสาร บทความตดิ ลงในใบงาน (ตดิ บทความสารคด)ี 474 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากสื่อ เร่ืองท่ี 4 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความสารคดี ใบงานท่ี 5.3 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความสารคดี คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทความสารคดที ส่ี นใจ 1 บทความ แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มถ่ายเอกสาร บทความตดิ ลงในใบงาน (ตดิ บทความสารคด)ี (พจิ ารณาตามผลงานการเขยี นของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 475 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เรื่องท่ี 4 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความสารคดี แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ที่ ของผ้รู บั การ เอื้อเฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน ประเมิน 43214321 432 14321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 476 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 4 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากบทความสารคดี แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 477 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เร่ืองท่ี 4 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความสารคดี คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 478 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 4 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากบทความสารคดี ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 479 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เร่ืองท่ี 5 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวิจารณ์ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 5 การเขียนแสดงความ 1 ชวั่ โมง คิดเหน็ จากบทความวิจารณ์ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านบทความวจิ ารณ์จากสอ่ื จะตอ้ งเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระของบทความได้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/6 เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากส่อื ทไ่ี ดร้ บั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากบทความวจิ ารณ์ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ต่างๆ เช่น - บทความ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 480 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากส่ือ เรื่องท่ี 5 การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวจิ ารณ์ 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความตระหนัก ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — หากนักเรียนมีความคิดเหน็ ท่ีขดั แยง้ กบั บทความท่ีอ่าน นักเรียนจะแสดงความ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ คิดเหน็ อย่างไร 2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั หลกั การแสดงความ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น คดิ เหน็ อย่างมมี ารยาทและมคี วามสรา้ งสรรค์ ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) ขนั้ ท่ี 2 วิเคราะหว์ ิจารณ์ สอ่ื การเรยี นรู้ : บทความวจิ ารณ์ 1. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นบทความวจิ ารณ์ เร่อื ง จติ ใจแจม่ ใสเม่อื ไกล โทรศพั ท์ เมอ่ื อ่านจบแลว้ ใหน้ ักเรยี นตงั้ ประเดน็ คาถาม เพอ่ื ใหเ้ พ่อื นๆ ไดผ้ ลดั กนั อธบิ ายและตอบคาถามจาก บทความ 2. ครใู หน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ วา่ การอธบิ ายและตอบ คาถามเกย่ี วกบั บทความทอ่ี า่ น ว่ามปี ระโยชน์ต่อการอ่าน อย่างไร 3. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ใจความสาคญั ของบทความวจิ ารณ์ เรอ่ื ง จติ ใจแจม่ ใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์ 4. นกั เรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากบทความ วจิ ารณ์ เร่อื ง จติ ใจแจม่ ใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์ ลงในสมุด 5. นักเรยี นแตล่ ะคนแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และฟังความ คดิ เหน็ ทแ่ี ตกต่างจากความเหน็ ของตนหลงั จากอา่ นบทความ วจิ ารณ์ เรอ่ื ง จติ ใจแจม่ ใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์ 481 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ คาถามกระต้นุ ความคิด เรื่องที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวจิ ารณ์ การแสดงความคิดเหน็ อย่างมีหลกั การ ขนั้ ท่ี 3 สรปุ และมีข้อมูลอ้างอิง มผี ลทาให้การแสดง ความคิดเหน็ นัน้ มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : — จงอธิบาย 1. นกั เรยี นร่วมกนั ยกตวั อยา่ งแนวทางในการนาความรเู้ กย่ี วกบั (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากบทความ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) วจิ ารณ์ เพอ่ื นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ใหเ้ กดิ ประโยชน์ 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 7 การวดั และประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - บทความวจิ ารณ์ เรอ่ื ง จติ ใจแจ่มใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 482 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เร่ืองท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความวิจารณ์ เอกสารประกอบการสอน บทความวิจารณ์ เรื่อง จิตใจแจม่ ใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์ ในยคุ ทผ่ี คู้ นสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารอยา่ งรวดเรว็ และไมม่ ขี ดี จากดั นนั้ โปรแกรมหน่งึ ซง่ึ กาลงั ไดร้ บั ความนยิ ม ในหม่คู นทางานระดบั สงู กค็ อื โปรแกรมชอ่ื Freedom คุณสมบตั ขิ องโปรแกรมน้กี ค็ อื ตดั การเชอ่ื มต่อกบั อนิ เทอรเ์ น็ตนานถงึ 8 ชวั่ โมง ทาใหผ้ ใู้ ชไ้ มต่ อ้ งรบั ขอ้ มลู ขา่ วสารใดๆ จากคอมพวิ เตอร์ สาเหตุทโ่ี ปรแกรมนไ้ี ดร้ บั ความนยิ มกเ็ พราะผคู้ นจานวนมากขน้ึ รสู้ กึ ว่าตนกาลงั ถกู ขอ้ มลู ทว่ มทบั และกระหน่าอยู่ ตลอดเวลาจนไม่เป็นอนั ทางาน ทาใหค้ ุณภาพของงานถดถอย รวมทงั้ ทาใหช้ วี ติ ของตนแย่ลง การสารวจของรอยเตอร์ พบว่า 2 ใน 3 ของผจู้ ดั การรสู้ กึ วา่ ภาวะขอ้ มลู ทว่ มทน้ นนั้ ทาใหม้ คี วามพอใจในงานน้อยลงและบนั่ ทอนความสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ขณะท่ี 1 ใน 3 คดิ ว่ามนั ไดท้ าลายสขุ ภาพของเขา ภาวะขอ้ มลู ท่วมทน้ นนั้ กาลงั เป็นปัญหาใหญ่ของผคู้ นในสงั คมไฮเทค ตงั้ แตต่ ่นื เชา้ จนเขา้ นอน ขอ้ มลู นานาชนิด หลงั่ ไหลส่โู สตประสาทไมไ่ ดห้ ยดุ ทงั้ ทางโทรทศั น์ วทิ ยุ ป้ายโฆษณา แตน่ นั่ กค็ งไมห่ นกั เท่ากบั ขอ้ มลู ทางคอมพวิ เตอร์ โทรศพั ทม์ อื ถอื หรอื แบลค็ เบอร่ี ซง่ึ คนส่วนใหญเ่ ปิดรบั วนั ละหลายชวั่ โมงหรอื เปิดเครอ่ื งทงั้ วนั ทงั้ คนื ยง่ิ ในเวลาทางานดว้ ย แลว้ ขอ้ มลู เหล่าน้หี ลงั่ ไหลมาตอ่ เน่อื งไม่หยดุ มกี ารวจิ ยั พบว่าพนกั งานออฟฟิศในสหรฐั อเมรกิ าและยโุ รปสามารถทางาน ตอ่ เน่อื งไดเ้ พยี ง 3 นาทเี ท่านนั้ โดยไมม่ อี ะไรมาขดั จงั หวะ สงิ่ ทม่ี าแทรกระหว่างทางานนนั้ สว่ นใหญม่ ใิ ชอ่ ะไรอน่ื หากไดแ้ ก่ โทรศพั ท์ อเี มล และ sms ขอ้ มลู เหล่าน้แี มจ้ ะเกย่ี วกบั เร่อื งงานการ แต่กส็ ่งผลใหค้ นทางานขาดสมาธิ ใจไมจ่ ดจ่อกบั งานท่ี กาลงั ทา ผลกค็ อื คณุ ภาพของงานลดลง ความคดิ สรา้ งสรรคถ์ ดถอย หลายบรษิ ทั หนั มาใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาน้มี ากขน้ึ เมอ่ื 3-4 ปีกอ่ น อนิ เทลไดท้ ดลองใหเ้ ชา้ วนั องั คารเป็นชว่ ง “สงบ” สาหรบั วศิ วกรและผจู้ ดั การ 300 คน โดยตลอด 4 ชวั่ โมงดงั กลา่ วไม่อนุญาตใหพ้ นักงานใชโ้ ทรศพั ทห์ รอื สง่ อเี มล ทงั้ น้ีเพ่อื ให้ มสี มาธกิ บั งาน สามารถคดิ การงานตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื ง ปรากฏว่าไดผ้ ลดจี นมกี ารเสนอใหน้ าไปใชก้ บั พนกั งานกลุ่มอน่ื ๆ ดว้ ย ในระดบั บุคคล หลายคนเลอื กใชว้ ธิ ปี ิดเคร่อื งโทรศพั ทม์ อื ถอื นติ ยสารนิวสวคี เม่อื ตน้ ปีนข้ี น้ึ ปกดว้ ยเร่อื ง “31 วธิ ที ช่ี ่วย ใหฉ้ ลาดขน้ึ และคดิ เรว็ ขน้ึ ” วธิ หี น่งึ ทเ่ี สนอกค็ อื “โยนสมารท์ โฟนของคณุ ทง้ิ เสยี ” เพราะ “การเชค็ อเี มลอย่เู นืองๆ นนั้ บนั่ ทอน สมาธแิ ละลดทอนผลติ ภาพของคุณ” ควบค่กู บั วธิ กี ารดงั กลา่ วกค็ อื การตดิ ตงั้ โปรแกรม Freedom ซง่ึ ชว่ ยใหจ้ ดจอ่ กบั งานท่ี อยขู่ า้ งหน้า ทกุ วนั น้มี ผี คู้ นเป็นอนั มากโหยหาชว่ งเวลาทป่ี ลอดขอ้ มลู ขา่ วสาร ปิโค อเิ ยอร์ นกั เขยี นชอ่ื ดงั ของนิตยสารไทม์ พดู ถงึ เพอ่ื นนักหนงั สอื พมิ พส์ องคนทถ่ี อื ศลี “อนิ เตอรเ์ นต็ วริ ตั ”ิ ทกุ อาทติ ย์ โดยปิดเครอ่ื งมอื ส่อื สารทุกอย่างตงั้ แต่ค่าวนั ศกุ รจ์ นถงึ เชา้ วนั จนั ทร์ เพอ่ื จะไดม้ เี วลาอยกู่ บั ครอบครวั และตวั เองมากขน้ึ สว่ นเพ่อื นอกี หลายคนนยิ มออกไปเดนิ เลน่ ไกลๆ ในวนั อาทติ ยเ์ พ่อื ห่างไกลจากตดิ ต่อสอ่ื สารทางโทรศพั ท์ หรอื ไม่กอ็ อกไปพกั แรมในชนบท ทซ่ี ง่ึ ไมม่ สี ญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ หลาย คนพบว่า สมาธแิ ละความจาดขี น้ึ ความคดิ แจม่ ชดั และเฉยี บคมกว่าเดมิ ปัจจบุ นั ถงึ กบั มรี สี อรต์ บางแหง่ ในอเมรกิ าทย่ี กโทรทศั น์ออกไปจากหอ้ ง แมก้ ระนนั้ กย็ งั มคี นจานวนมากยอมจ่ายคนื ละ 2,200 เหรยี ญเพ่อื พกั หอ้ งดงั กลา่ ว ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ ในอนาคต สถานทห่ี รอื บรกิ ารทเ่ี ปิดโอกาสใหผ้ คู้ นไดอ้ ย่เู งยี บๆ กบั ตวั เองหรอื ใกลช้ ดิ กบั คนในครอบครวั จะไดร้ บั ความนยิ มมากขน้ึ 483 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากส่ือ เรื่องที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากบทความวจิ ารณ์ เดยี๋ วน้ใี ครๆ มกั จะบ่นว่าชวี ติ เรง่ รบี มากขน้ึ มเี วลาวา่ งน้อยลง และเครยี ดกว่าเดมิ หลายคนโทษสภาพแวดลอ้ มใน เมอื งทว่ี ่นุ วาย แตล่ มื มองไปว่า ตนเองกม็ สี ่วนไมน่ ้อยทท่ี าใหว้ ถิ ชี วี ติ ของตนอย่ใู นภาวะดงั กล่าวเวลาในแตล่ ะวนั ไมเ่ พยี งหมด ไปกบั การทามาหากนิ เทา่ นนั้ แต่จานวนไม่น้อยยงั ถูกใชไ้ ปกบั การบรโิ ภคสง่ิ ต่างๆ รวมทงั้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ถา้ เราเพยี งแต่ บรโิ ภคใหน้ ้อยลง จะพบวา่ เรามเี วลาวา่ งมากขน้ึ สุขภาพกายและสุขภาพจติ ดขี น้ึ ความเครยี ดน้อยลง ขอ้ มลู นนั้ มปี ระโยชน์ตราบเทา่ ทเ่ี ราเป็นนายมนั สามารถควบคมุ มนั ใหอ้ ยใู่ นขอบเขตทเ่ี หมาะสมได้ แตห่ ากมนั กลายเป็นนายเราเม่อื ใด ยอมใหม้ นั แยง่ ชงิ เวลาเราไปเท่าไรกไ็ ด้ ชวี ติ เรากย็ ่าแยเ่ ม่อื นนั้ ที่มา นิตยสาร IMAGE มนี าคม 2555. จติ ใจแจม่ ใสเมอ่ื ไกลโทรศพั ท์. ภาวนั 484 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เร่ืองที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากบทความวิจารณ์ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 485 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองที่ 5 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากบทความวจิ ารณ์ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 486 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เรื่องท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากบทความวจิ ารณ์ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 487 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากส่ือ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากบทความวิจารณ์ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 488 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 6 หลักการเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ค6ิดเหหน็ ลจกั ากกาหรนเขังียสนือแอส่าดนงนคอวกาเมวลา1 ชวั่ โมง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาหลกั การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สอื อ่านนอกเวลา จะตอ้ งเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระของเร่อื งได้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/6 เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากส่อื ทไ่ี ดร้ บั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) บอกหลกั การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากหนงั สอื อ่านนอกเวลาได้ 2) เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากหนงั สอื อา่ นนอกเวลา เร่อื ง แมงมมุ เพอ่ื นรกั ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ - หนงั สอื อา่ นนอกเวลา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 489 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เร่ืองที่ 6 หลกั การเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนงั สืออ่านนอกเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : — หนังสืออ่านนอกเวลาท่ีนักเรียนเคยอ่าน เป็นเล่มแรกคือเร่ืองอะไร และนักเรยี นมีความ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ คิดเหน็ อย่างไรกบั หนังสืออ่านนอกเวลา 2. นักเรยี นทบทวนความรเู้ ดมิ เกย่ี วกบั การเขยี นแสดงความ เรื่องนัน้ ๆ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น คดิ เหน็ เพ่อื เป็นการเตรยี มความรแู้ ละแนวทางในการปฏบิ ตั ิ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) กจิ กรรมของนกั เรยี น 3. ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทราบวา่ นักเรยี นจะตอ้ งเขยี นแสดงความ คดิ เหน็ เกย่ี วกบั หนังสอื อา่ นนอกเวลา เร่อื ง แมงมมุ เพอ่ื นรกั ขนั้ ท่ี 2 วิเคราะห์วิจารณ์ ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื อา่ นนอกเวลา 2. ใบงานท่ี 5.4 1. นกั เรยี นแต่ละคนอ่านหนงั สอื อา่ นนอกเวลา เร่อื ง แมงมุม เพ่อื นรกั 2. ครกู าหนดประเดน็ คาถามเป็นขอ้ ๆ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเขยี น อธบิ าย และแสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี - หนงั สอื เล่มน้เี ขยี นโดยใคร - จดั พมิ พท์ ไ่ี หน เมอ่ื ไร มกี ห่ี น้า - มขี นาดรปู เล่มอย่างไร รปู ประกอบเป็นอย่างไร - แบง่ เน้อื หาเป็นกบ่ี ท ใชเ้ วลาอ่านมากน้อยแค่ไหน - ความยากงา่ ยของเน้อื เรอ่ื ง เหมาะสมกบั วยั ผอู้ ่านหรอื ไม่ - การใชภ้ าษาเป็นอยา่ งไร - ตวั ละครเด่นๆ มใี ครบา้ ง - เรอ่ื งน้มี สี าระอะไรบา้ ง 3. ครใู หน้ ักเรยี นพจิ ารณาสาระสาคญั ของคาตอบและขยาย ความคดิ เพอ่ื แสดงความคดิ เหน็ 490 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากส่ือ เรื่องที่ 6 หลักการเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สืออ่านนอกเวลา 4. นกั เรยี นเรยี บเรยี งสาระสาคญั ของคาตอบ แลว้ เขยี นแสดง ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั หนงั สอื อา่ นนอกเวลา เรอ่ื ง แมงมมุ เพ่อื นรกั ลงในใบงานท่ี 5.4 เรอ่ื ง การเขียนแสดงความ คิดเหน็ เรอื่ ง แมงมมุ เพอื่ นรกั เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจ ความเรยี บรอ้ ยกอ่ นนาสง่ ครู ขนั้ ท่ี 3 สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : แบบวดั ฯ นักเรยี นคิดว่า หนังสืออ่านนอกเวลา ให้คณุ ค่ากบั นักเรียนอย่างไร 1. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ หลกั การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น เกย่ี วกบั สาระจากการอา่ นหนงั สอื อา่ นนอกเวลา และแนวทาง ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ในการนาไปใชใ้ นการอา่ นและรบั ส่อื ต่างๆ 2. นักเรยี นทาแบบวดั ฯ ตอนท่ี 2 (การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากส่อื ) กจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั : กจิ กรรมท่ี 3.2 โดยครแู ละ นักเรยี นร่วมกนั กาหนดเวลาในการส่งงาน 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 5.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 5.4 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื อ่านนอกเวลา เรอ่ื ง แมงมุมเพอ่ื นรกั 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.1 3) ใบงานท่ี 5.4 เร่อื ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เรอ่ื ง แมงมุมเพอ่ื นรกั 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 491 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองท่ี 6 หลกั การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สืออ่านนอกเวลา ใบงานท่ี 5.4 การเขียนแสดงความคิดเหน็ เร่อื ง แมงมมุ เพ่ือนรกั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สอื อ่านนอกเวลา เร่อื ง แมงมุมเพอ่ื นรกั แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ 492 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ เรื่องที่ 6 หลักการเขียนแสดงความคิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา ใบงานท่ี 5.4 การเขียนแสดงความคิดเหน็ เร่อื ง แมงมุมเพ่ือนรกั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สอื อา่ นนอกเวลา เร่อื ง แมงมมุ เพอ่ื นรกั แลว้ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ (ตวั อย่าง) แมงมมุ เพอื่ นรกั เป็นหนงั สอื อ่านสาหรบั เยาวชน ชดุ กอ่ นนทิ รา อนั ดบั ที่ 4/21 เขยี นโดย อ.ี บ.ี ไวท์ แปลโดย ผใู้ ชน้ ามปากกา ว่า มลั ลกิ า เล่มทนี่ ามาอ่านจดั พมิ พโ์ ดย บรษิ ทั โรงพมิ พไ์ ทยวฒั นาพานชิ จากดั เมอื่ พ.ศ 2533 หนังสอื เลม่ น้มี คี วามยาว 163 หน้า มขี นาดกะทดั รดั สามารถพกพาไปในทตี่ ่างๆไดง้ า่ ย แบ่งเน้อื หาออกเป็น 22 บท สามารถอ่านใหจ้ บไดใ้ นเวลาไม่กี่ ชวั่ โมง น่าเสยี ดายทภี่ าพประกอบมนี ้อย แต่กม็ คี รบทุกตอนและเป็นเพยี งลายเสน้ ขาวดา ถา้ เป็นภาพสจี ะชว่ ยใหห้ นังสือเล่ม น้นี ่าอา่ นยงิ่ ขน้ึ เน้อื เรอื่ งเหมาะสาหรบั เยาวชนทเี่ รยี นอยใู่ นระดบั ชนั้ ม.ตน้ แสดงความรกั และเมตตาของผหู้ ญงิ คนหนงึ่ ทมี่ ี ตอ่ เจา้ หมแู สนรู้ รวมทงั้ แสดงถงึ ความรกั ความผกู พนั ระหว่างสตั วท์ เี่ ป็นเพอื่ นกนั แสดงถงึ ความเออ้ื เฟ้ือ ไมตรจี ติ และความ ห่วงใยอนั บรสิ ุทธ์ิ ทาใหเ้ หน็ วา่ สงั คมโลกทงั้ มนุษยแ์ ละสตั ว์ ถา้ มคี วามเออ้ื อาทรตอ่ กนั จะชว่ ยจรรโลงสงั คมใหน้ ่าอย่ยู งิ่ ข้นึ นอกจากความสนุกสนานน่าตดิ ตามแลว้ สงิ่ ทที่ าใหผ้ อู้ ่านสนใจและศกึ ษาตอ่ คอื ธรรมชาตขิ องสตั วช์ นดิ อนื่ ๆ นอกเหนือจากที่ ปรากฏในเรอื่ ง ทงั้ หมดน้ไี ดร้ บั การถา่ ยทอดจากผแู้ ปลในลลี าสานวนภาษาทสี่ นั้ กระชบั งา่ ย น่าตดิ ตาม (พจิ ารณาตามผลงานการเขยี นของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 493 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากสื่อ เรื่องที่ 6 หลักการเขียนแสดงความคิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ บั การ เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน ประเมิน 43214321 432 14321 4321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 494 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เร่ืองท่ี 6 หลักการเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากหนังสืออ่านนอกเวลา แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 495 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 6 หลักการเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนงั สืออ่านนอกเวลา คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ ่นื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 496 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 6 หลักการเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนงั สืออ่านนอกเวลา ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 497 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองที่ 7 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนังสืออ่านนอกเวลา แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 การเขียนแสดงความ 2 ชวั่ โมง คิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นหนงั สอื อา่ นนอกเวลา จะตอ้ งเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระของเร่อื งได้ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/6 เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากส่อื ทไ่ี ดร้ บั 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากหนงั สอื อ่านนอกเวลาได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสอ่ื ต่างๆ เช่น - หนงั สอื อ่านนอกเวลา 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 498 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองท่ี 7 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สืออ่านนอกเวลา (ชั่วโมงท่ี 1) 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ อปุ นัย ชวั่ โมงที่ 1 ขนั้ ที่ 1 เตรียมนักเรยี น คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : — นักเรียนเคยอ่านหนังสือนอกเวลามานานแลว้ หรือยงั หนังสืออ่านนอกเวลามปี ระโยชน์ต่อ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนอยา่ งไร 2. นกั เรยี นทบทวนความรเู้ ดมิ เกย่ี วกบั การเขยี นแสดงความ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) คดิ เหน็ เพอ่ื เป็นการเตรยี มความรแู้ ละแนวทางในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมของนักเรยี น ขนั้ ท่ี 2 เสนอตวั อย่าง คาถามกระตุ้นความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : หนงั สอื อา่ นนอกเวลา นักเรยี นคิดว่า หนังสืออ่านนอกเวลาที่ครนู า มาเล่าให้ฟังเป็นเร่อื งท่ีดีหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. ครเู ลอื กหนงั สอื อ่านนอกเวลาทเ่ี หน็ วา่ เหมาะสมกบั ระดบั ของ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 มา 1 เร่อื ง ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 2. ครพู จิ ารณาสาระสาคญั ของเร่อื งและขยายความคดิ เพอ่ื แสดง ความคดิ เหน็ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลทาเป็นตวั อยา่ งใหน้ กั เรยี น เขา้ ใจ 3. นกั เรยี นรวมกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน ตามความสมคั รใจ จากนนั้ ครเู ลอื กหนังสอื อา่ นนอกเวลา มา 5 เร่อื ง มาใหน้ ักเรยี น พจิ ารณากลมุ่ ละ 1 เรอ่ื ง (หนังสอื แต่ละเร่อื งจะมกี ลมุ่ ทเ่ี ลอื ก ซา้ กนั ) 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาหนังสอื อ่านนอกเวลาเร่อื งทเ่ี ลอื ก แลว้ สรปุ เป็นกฎเกณฑ์ เสรจ็ แลว้ นาเสนอหน้าชนั้ เรยี น 5. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ที่ 3 หาองคป์ ระกอบรวม คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : — นักเรยี นคิดว่า กลุ่มใดนาเสนอผลการพิจารณา หนังสืออ่านนอกเวลาไดด้ ีท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด 1. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรุปกฎเกณฑใ์ นการพจิ ารณา (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น ทุกเรอ่ื งทแ่ี ตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอเพ่อื สรปุ กฎเกณฑ์ ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 499 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ เร่ืองท่ี 7 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา (ช่ัวโมงที่ 2) ชวั่ โมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 4 สรปุ ขอ้ สงั เกตต่างๆ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : — นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เป็นกฎเกณฑก์ ารเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั หนงั สอื อา่ นนอกเวลา ขนั้ ที่ 5 นาขอ้ สรปุ หรอื กฎเกณฑไ์ ปใช้ในสถานการณ์อื่น คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : หนังสอื อ่านนอกเวลา นักเรยี นจะเลือกหนังสืออ่านนอกเวลาเรื่องใด มาพิจารณา เพราะเหตุใด 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มพจิ ารณาตามกฎเกณฑก์ ารเขยี นแสดง ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ความคดิ เหน็ หนงั สอื อ่านนอกเวลา 3. นักเรยี นนาสาระสาคญั จากการพจิ ารณามาเรยี บเรยี งและ นาเสนอเป็นงานเขยี นโดยใชภ้ าษาของนกั เรยี น 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาเสนอผลงานการเขยี นแสดง ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากหนังสอื อา่ นนอกเวลาเร่อื ง ทก่ี ลุ่มเลอื กหน้าชนั้ เรยี น 7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ วิธีการ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ - หนงั สอื อ่านนอกเวลา 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ — 500 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อ เร่ืองที่ 7 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนังสืออ่านนอกเวลา แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 501 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือ เรื่องท่ี 7 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากหนังสืออ่านนอกเวลา แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 502 หลกั ภาษาฯ ม.1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือ เรื่องที่ 7 การเขียนแสดงความคดิ เห็นจากหนงั สืออ่านนอกเวลา แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมสี ่วน ท่ี ของผรู้ บั การ ความคิดเหน็ ฟังคนอ่ืน ตามที่ได้รบั 4321 ร่วมในการ รวม มอบหมาย ปรบั ปรงุ 20 ประเมิน 4321 4321 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 503 หลกั ภาษาฯ ม.1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 581
Pages: