แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร เรื่องที่ 3 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 การเขียนเรียงความเชิง 1 ชวั่ โมง พรรณนาตามความเป็ นจริง 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ จะตอ้ งเขยี นใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การเขยี นเรยี งความ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/4 เขยี นเรยี งความ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - เขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ 2) ทกั ษะการประเมนิ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 304 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร เร่ืองที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต รบั รู้ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อย่างเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ  การเขียนพรรณนาตามความร้สู ึกกบั การเขยี น พรรณนาตามความเป็นจริงแตกต่างกนั อย่างไร 1. ครนู าตวั อย่างเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ มา (การเขยี นพรรณนาตามความรสู้ กึ จะมุง่ เน้นถงึ แจกใหน้ ักเรยี นอา่ น เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสงั เกตส่วนประกอบของ อารมณ์ ความรสู้ กึ ทเี่ กดิ ขน้ึ จากเรอื่ งนนั้ ๆ ส่วน การเขยี นเรยี งความ และการใชค้ าทส่ี ่อื ใหเ้ หน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ของ การเขยี นพรรณนาตามความเป็นจรงิ จะนาเสนอ เรอ่ื ง ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยมขี อ้ มลู ทอี่ า้ งองิ ได้ โดยเขยี นพรรณนา แทรกคาอธบิ ายในเรอื่ งๆ นนั้ เพอื่ เป็นความรสู้ าหรบั 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ วเิ คราะหต์ วั อย่างเรยี งความเชงิ พรรณนา ผอู้ ่าน) ตามความเป็นจรงิ ตามประเดน็ ทค่ี รกู าหนด ดงั น้ี 1) ลกั ษณะของพรรณนาเรอ่ื งราวตามความเป็นจรงิ 2) การนาเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ และความรสู้ กึ 3) การใชค้ าอธบิ ายและคาพรรณนาทท่ี าใหเ้ หน็ ภาพ 4) ส่วนประกอบของการเขยี นเรยี งความ 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปผลการวเิ คราะห์ตวั อยา่ ง เรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ สอ่ื การเรยี นรู้ : แบบการเขยี นเรยี งความ 1. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จากนนั้ ร่วมกนั สบื คน้ เกย่ี วกบั ผลงานเรยี งความดเี ดน่ ทช่ี นะการประกวดในการแขง่ ขนั ตา่ งๆ โดยเลอื กมาเป็นแบบ กลมุ่ ละ 1 เร่อื ง 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาวธิ กี ารเขยี นเรยี งความทเ่ี ลอื กมา เป็นแบบ แลว้ วเิ คราะหล์ กั ษณะและสว่ นประกอบของ การเขยี นเรยี งความ 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มฝึกเขยี นเรยี งความตามแบบทก่ี ลมุ่ เลอื ก เม่อื เขยี นเสรจ็ แลว้ ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มผลดั กนั อ่านผลงาน การเขยี นเรยี งความ เพ่อื ใหส้ มาชกิ กลมุ่ ร่วมกนั ตชิ ม และ เสนอแนะขอ้ บกพรอ่ งเพอ่ื ใหแ้ กไ้ ขใหส้ มบูรณ์ 305 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพื่อการสื่อสาร เร่ืองท่ี 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไมม่ แี บบ คาถามกระตุ้นความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.7  การตงั้ ช่ือเรอื่ งเรียงความมีความสาคญั หรือไม่ และการตงั้ ช่ือเรียงความต้องพิจารณาให้สมั พนั ธ์ 1. ครใู หน้ ักเรยี นเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ กบั ส่วนใด ตามทส่ี มาชกิ กลุ่มสนใจรว่ มกนั โดยตงั้ ช่อื เร่อื งเอง (มคี วามสาคญั มาก เพราะชอื่ ของเรยี งความจะทาให้ ผอู้ า่ นสนใจเรอื่ งและบอกใหร้ วู้ า่ เรอื่ งนนั้ เกยี่ วกบั อะไร 2. นกั เรยี นตรวจสอบงานเขยี นของตน โดยพจิ ารณาความ การตงั้ ชอื่ เรอื่ งจงึ ตอ้ งมคี วามสมั พนั ธก์ บั เน้อื เรอื่ ง) สอดคลอ้ งของเน้อื หาสาระ การใชภ้ าษา การเขยี นสะกดคา การลาดบั เร่อื ง และปรบั ปรงุ งานเขยี นเรยี งความใหม้ คี วาม ชดั เจน ถกู ตอ้ ง และเหมาะสม แลว้ บนั ทกึ ลงในใบงานท่ี 4.7 เร่ือง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครตู รวจ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ท่ี 4 ฝึ กทาให้ชานาญ สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.7 1. ครตู รวจผลงานการเขยี นเรยี งความของนักเรยี นในใบงาน ท่ี 4.7 จากนนั้ ประเมนิ ผล แลว้ เสนอแนะใหน้ ักเรยี นนาไป ปรบั ปรงุ แกไ้ ขเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสมบูรณ์ และมคี วามชานาญ ในการเขยี นเรยี งความ 2. ครปู ระเมนิ ผลการเขยี นเรยี งความของนักเรยี นอกี ครงั้ และ คดั เลอื กผลงานการเขยี นเรยี งความทด่ี เี ด่นจดั แสดงบนป้าย นิเทศ 7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 4.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.7 แบบประเมนิ การเขยี นเรยี งความ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การเขยี นเรยี งความ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 306 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพือ่ การสื่อสาร เร่ืองที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) ตวั อย่าง เรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ 2) แบบการเขยี นเรยี งความ (ผลงานเรยี งความดเี ดน่ ทช่ี นะการประกวด) 3) ใบงานท่ี 4.7 เรอ่ื ง การเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 307 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่อื การส่ือสาร เรื่องที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง เอกสารประกอบการสอน ตวั อยา่ ง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง อนุสาวรียห์ มู ใครทม่ี โี อกาสแวะผา่ นไปมาบรเิ วณรมิ คลองหลอด เชงิ สะพานปีกนุ ตอ้ งสะดดุ ตากบั “อนุสาวรยี ห์ ม”ู พรอ้ ม เคร่อื งเซ่นไหว้ พวงมาลยั ตุ๊กตาหมนู ่ารกั ของผทู้ เ่ี กดิ ในปีกุนวางเกลอ่ื นอย่ทู ฐ่ี านดา้ นลา่ ง อนุสาวรยี ร์ ปู หมู มชี อ่ื อยา่ งเป็นทางการวา่ “อนุสาวรยี ส์ หชาต”ิ ออกแบบโดยสมเดจ็ ฯ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ สรา้ งขน้ึ ในปี 2456 เป็นอทุ กทานทส่ี รา้ งขน้ึ ในวโรกาสทส่ี มเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชนิ ีนาถ ในรชั กาลท่ี 5 ทรงมี พระชนมายุ 50 พรรษา พระองคท์ รงพระราชสมภพในปีกนุ เช่นเดยี วกบั ผสู้ รา้ งถวายทงั้ สามทา่ น คอื สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ พระยาพพิ ฒั น์โกษา และพระยาราชสงคราม สว่ น “สะพานปีกุน” สมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชนิ นี าถ โปรดเกลา้ ฯใหส้ รา้ งขน้ึ ก่อนอนุสาวรยี ห์ มู แตไ่ ม่ได้ พระราชทานช่อื ไว้ ตอ่ มาเมอ่ื สรา้ งอนุสาวรยี ห์ มขู น้ึ แลว้ จงึ เรยี กใหส้ อดคลอ้ งกนั ว่าสะพานหมู หรอื สะพานปีกุนนนั ่ เอง เม่อื แรกสรา้ งใชแ้ ทง่ ศลิ าขนาดใหญม่ าซอ้ นกนั เป็นฐาน ตวั หมทู ต่ี งั้ อยดู่ า้ นบนแท่งศลิ าหลอ่ ดว้ ยโลหะ ปัจจบุ นั ฐาน ศลิ าถูกเปลย่ี นมาเป็นปนู ซเี มนต์ และก่อยกใหส้ งู ขน้ึ กวา่ เดมิ ลกั ษณะเหมอื นเป็นภูเขา ใครทเ่ี กดิ ปีกนุ หากมโี อกาสแวะไป ควรไปกราบไหวข้ อพรเพอ่ื เสรมิ สริ มิ งคลกจ็ ะดไี ม่น้อย ท่ีมา หนงั สอื พมิ พ์ M2F ฉบบั วนั ศกุ รท์ ่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 308 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่อื การสื่อสาร เร่ืองที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง ใบงานที่ 4.7 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ ตามทส่ี มาชกิ กลุ่มสนใจร่วมกนั โดยตงั้ ช่อื เร่อื ง พจิ ารณาความสอดคลอ้ งของเน้อื หาสาระ การใชภ้ าษา การเขยี นสะกดคา การลาดบั เรอ่ื ง 309 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพือ่ การส่ือสาร เรื่องที่ 3 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง ใบงานที่ 4.7 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรยี งความเชงิ พรรณนาตามความเป็นจรงิ ตามทส่ี มาชกิ กลุ่มสนใจร่วมกนั โดยตงั้ ชอ่ื เรอ่ื ง พจิ ารณาความสอดคลอ้ งของเน้อื หาสาระ การใชภ้ าษา การเขยี นสะกดคา การลาดบั เร่อื ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 310 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร เร่ืองที่ 3 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง แบบประเมิน การเขียนเรยี งความ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการเขยี นเรยี งความของนกั เรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ถกู ต้องตาม มี การใช้ภาษา เนื้อหา รวม ที่ ของผรู้ บั การ หลกั การ องคป์ ระกอบ ในการเขยี น ถกู ต้อง 16 เขียน ชดั เจน คะแนน ประเมิน ครบถ้วน 43214321432 14321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ต้อง ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อย ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั มิ ขี ้อบกพร่องปานกลาง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 2 คะแนน 14 - 16 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 11 - 13 ดี 311 8 - 10 พอใช้ หลกั ภาษาฯ ม.1 ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่อื การสื่อสาร เร่ืองท่ี 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กลมุ่ ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 312 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพอ่ื การส่ือสาร เรื่องที่ 3 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 313 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่อื การสื่อสาร เร่ืองที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 314 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพื่อการส่ือสาร แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 3 การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็ นจริง  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 315 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 4 การเขยี นบรรยาย แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 4 การเขียนบรรยาย 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นบรรยายประสบการณ์ จะตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื งหลกั การเขยี นบรรยาย โดยระบสุ าระสาคญั และ รายละเอยี ดสนบั สนุนของเร่อื งราวจากประสบการณ์ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/3 เขยี นบรรยายประสบการณ์โดยระบสุ าระสาคญั และรายละเอยี ดสนบั สนุน 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธบิ ายหลกั การเขยี นบรรยายประสบการณ์ได้ 2) เขยี นบรรยายประสบการณ์โดยระบสุ าระสาคญั และรายละเอยี ดสนบั สนุนได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การบรรยายประสบการณ์ 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการเรยี งลาดบั 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 316 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร เร่ืองที่ 4 การเขยี นบรรยาย 6 กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นักเรียนจะเขยี นบรรยายประสบการณ์อย่างไร จงึ จะทาให้เรื่องท่ีเขียนนัน้ มคี วามน่าสนใจ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น 2. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) จากนนั้ ครใู หส้ มาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มเลา่ เร่อื งราวเกย่ี วกบั ประสบการณ์ทน่ี กั เรยี นประทบั ใจทส่ี ดุ ใหเ้ พ่อื นฟัง 3. ครถู ามนักเรยี นวา่ สมาชกิ คนใดในกลมุ่ เล่าประสบการณ์ได้ น่าฟังทส่ี ุด พรอ้ มอธบิ ายเหตุผลประกอบ 4. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ การเล่าหรอื การเขยี นบรรยาย เกย่ี วกบั ประสบการณ์จะตอ้ งอาศยั การระบสุ าระสาคญั และ รายละเอยี ดต่างๆ ดว้ ย จงึ จะทาใหม้ คี วามน่าสนใจ ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา ส่อื การเรยี นรู้ : หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเขยี น บรรยาย จากหนังสอื เรยี น ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ : หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 1. สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อธบิ ายลกั ษณะของการเขยี น บรรยายประสบการณ์เรอ่ื ง ล่องแพแม่วงั จากหนงั สอื เรยี น ตามประเดน็ ทค่ี รกู าหนด ดงั น้ี 1) การเขยี นบรรยายเป็นการบอกเลา่ เร่อื งราวของใคร ทาอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร อยา่ งไร และเกดิ ผลอะไร 2) ลกั ษณะของการใชค้ าในการเขยี นบรรยาย 3) เทคนิคทผ่ี เู้ ขยี นนามาใชใ้ นการเขยี นเลา่ เรอ่ื ง 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายลกั ษณะของการเขยี น บรรยายประสบการณ์ในแต่ละประเดน็ แลว้ สรุปผล 317 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพ่ือการสื่อสาร เร่ืองที่ 4 การเขียนบรรยาย 3. ครสู ุม่ เรยี กตวั แทนนกั เรยี น 2-3 กลมุ่ อธบิ ายประเดน็ ความรู้ ทเ่ี ป็นขอ้ สรุปของกลมุ่ 4. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ลกั ษณะของการเขยี นบรรยาย ประสบการณ์ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.8 นักเรยี นทาใบงานท่ี 4.8 เรื่อง การเขียนบรรยายประสบการณ์ เป็นรายบุคคล เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ยและแกไ้ ขให้ สมบูรณ์ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.8 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนนาเสนอผลงานการเขยี นบรรยาย ประสบการณ์ในใบงานท่ี 4.8 2. ครปู ระเมนิ ผลการเขยี นบรรยายประสบการณ์ เป็นรายบคุ คล เพ่อื ใหน้ กั เรยี นนาไปปรบั ปรุงแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งและสมบรู ณ์ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.8 ใบงานท่ี 4.8 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ใบงานท่ี 4.8 เรอ่ื ง การเขยี นบรรยายประสบการณ์ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 318 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพ่อื การสื่อสาร เร่ืองที่ 4 การเขียนบรรยาย ใบงานท่ี 4.8 การเขียนบรรยายประสบการณ์ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นบรรยายประสบการณ์ทป่ี ระทบั ใจมากทส่ี ดุ 1 เร่อื ง 319 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร เร่ืองท่ี 4 การเขียนบรรยาย ใบงานท่ี 4.8 การเขียนบรรยายประสบการณ์ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นบรรยายประสบการณ์ทป่ี ระทบั ใจมากทส่ี ดุ 1 เรอ่ื ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 320 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพอื่ การส่ือสาร เร่ืองที่ 4 การเขยี นบรรยาย แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 321 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพื่อการสื่อสาร เรื่องที่ 4 การเขยี นบรรยาย แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 322 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร เร่ืองท่ี 4 การเขยี นบรรยาย แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กล่มุ ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 323 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร เร่ืองที่ 4 การเขียนบรรยาย แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด 324 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพื่อการส่ือสาร เรื่องท่ี 4 การเขยี นบรรยาย คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 325 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพื่อการสื่อสาร แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 4 การเขยี นบรรยาย  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 326 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพือ่ การส่ือสาร 1 ชวั่ โมง เร่ืองท่ี 5 การเขียนย่อความ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5 การเขียนย่อความ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นย่อความ ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื งหลกั การเขยี นและรปู แบบการเขยี นย่อความ 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/5 เขยี นยอ่ ความจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นย่อความจากเร่อื งทอ่ี า่ นไดถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ต่างๆ 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่  การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ นทิ าน 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสรปุ ยอ่ 2) ทกั ษะการสงั เคราะห์ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 327 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพ่ือการสื่อสาร เรื่องท่ี 5 การเขียนย่อความ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่คู ิด ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน คาถามกระตุ้นความคิด สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  การฟังเรอื่ งย่อหรอื การอ่านเรื่องย่อมปี ระโยชน์ อย่างไร 1. ครเู ลา่ นวนยิ ายทค่ี รชู อบใหน้ ักเรยี นฟังอย่างยอ่ ๆ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น 2. ครแู ละนักเรยี นสนทนาถงึ นวนิยายทค่ี รเู ล่าใหฟ้ ัง ครอู ธบิ าย ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) วา่ เรอ่ื งราวจากนวนยิ ายทน่ี ามาเล่าใหน้ กั เรยี นฟังน้ีเป็นการ เล่าอยา่ งย่อๆ จบั ประเดน็ ทช่ี อบและเน้อื เรอ่ื งตอนทค่ี รู ประทบั ใจวธิ กี ารเลา่ เร่อื งยอ่ ของครไู มเ่ หมอื นกบั การยอ่ ความ ทน่ี กั เรยี นจะไดเ้ รยี นต่อไป 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ สอน ส่อื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. ใบงานท่ี 4.9 1. นักเรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จากนนั้ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเขยี นย่อความ จาก หนงั สอื เรยี น 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 4.9 เรื่อง การจบั ใจความสาคญั โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนจบั ใจความสาคญั ใน แต่ละยอ่ หน้าจนครบ 4 ย่อหน้า จากนนั้ ผลดั กนั อ่านใจความ สาคญั ในแตล่ ะยอ่ หน้าใหส้ มาชกิ กลุ่มฟัง 3. สมาชกิ กลมุ่ รว่ มกนั พจิ ารณาและเปรยี บเทยี บใจความสาคญั ทงั้ 4 ยอ่ หน้า และสรุปใจความสาคญั ทเ่ี ป็นมตขิ องกลมุ่ แลว้ บนั ทกึ ลงในใบงานท่ี 4.9 จากนนั้ นาส่งครตู รวจ 4. ครอู ธบิ ายและใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปรบั ปรุงงานแก่ นกั เรยี นกลมุ่ ทม่ี ขี อ้ บกพรอ่ งในการเขยี น 328 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพอ่ื การสื่อสาร คาถามกระต้นุ ความคิด เร่ืองที่ 5 การเขยี นย่อความ  การจบั ใจความสาคญั และการย่อความ ขนั้ สรปุ มคี วามสมั พนั ธก์ นั อย่างไร (การจบั ใจความสาคญั เป็นการสรปุ สาระสาคญั ของ ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.10 เน้อื ความหรอื เน้อื เรอื่ ง แต่การย่อความจะเป็นการนา ใจความสาคญั มาเขยี นย่อความในรปู แบบเฉพาะ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ตามทมี่ าของสอื่ นนั้ ๆ เช่น ยอ่ ในรปู แบบนทิ าน 2. นักเรยี นทาใบงานที่ 4.10 เรื่อง การเขียนยอ่ ความนิทาน บทความ โอวาท เป็นตน้ ) เป็นรายบุคคล เม่อื ทาใบงานเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ย ก่อนนาสง่ ครตู รวจ 3. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ หลกั การจบั ใจความสาคญั และ การยอ่ ความ จากนนั้ รว่ มกนั บอกประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จาก การจบั ใจความสาคญั และการยอ่ ความ 7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 4.9 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.9 ใบงานท่ี 4.10 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.10 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ใบงานท่ี 4.9 เรอ่ื ง การจบั ใจความสาคญั 3) ใบงานท่ี 4.10 เร่อื ง การเขยี นย่อความนิทาน 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 329 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร เร่ืองท่ี 5 การเขียนย่อความ ใบงานที่ 4.9 การจบั ใจความสาคญั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความต่อไปน้ี แลว้ จบั ใจความสาคญั ของเร่อื งในแตล่ ะยอ่ หน้า อะไรกแ็ อพ มนุษยใ์ นยคุ โมบายตดิ มอื ทว่ี นั ๆ พดู แตแ่ อพตลอดเวลา คาวา่ แอพน้ยี อ่ มาจากแอพพลเิ คชนั่ ซอฟตแ์ วรใ์ น วกิ พิ เี ดยี ใหค้ วามหมายไวว้ ่า เป็นโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชก้ นั อยทู่ ุกวนั น้ี เพยี งแต่ถกู ออกแบบโดยนักพฒั นาโปรแกรม และซอฟตแ์ วรใ์ หด้ งู า่ ยขน้ึ คลา้ ยคลงึ กบั คอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ การทางานจะตา่ งกนั บา้ ง เพราะแอพพลเิ คชนั่ จะใชใ้ น สมารท์ โฟน มกี ารใชท้ ห่ี ลากหลายรปู แบบและฉลาดมากงา่ ยต่อการใชง้ าน การใชแ้ อพพลเิ คชนั่ คอื ตอ้ งผา่ นการดาวน์โหลดผา่ นทางอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถเลอื กไดจ้ ากคลงั แอพพลเิ คชนั่ ทถ่ี ูกสรา้ งขน้ึ จากค่ายตา่ งๆ แอพพลเิ คชนั่ มฟี ังกช์ นั่ การใชง้ านทส่ี ะดวกไมต่ อ้ งยุ่งยากเหมอื นกบั โปรแกรมในคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นั้ ตอน ย่งุ ยากกวา่ หลายเทา่ การพฒั นาแอพพลเิ คชนั่ ขน้ึ มากเ็ พอ่ื รองรบั เทคโนโลยสี มยั ใหม่ของสมารท์ โฟนและแทบ็ เลต็ สามารถทาเรอ่ื งยากใหเ้ ป็นเรอ่ื งงา่ ย เป็นแผนทน่ี าทาง เป็นไฟฉายใหแ้ สงสวา่ งในยามวกิ าล เป็นสะพานให้ เช่อื มไปหาเพ่อื นทวั่ โลก เป็นชา่ งแต่งหน้าไดห้ ลายสไตล์ เป็นหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ สห์ รอื อบี ุค๊ ส์ และเป็นสนามแขง่ รถ เป็นเคร่อื งมอื นาเราไปตะลยุ จกั รวาลและอ่นื ๆ อกี มากมาย ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/ • ย่อหน้าท่ี 1 • ย่อหน้าท่ี 2 • ย่อหน้าท่ี 3 • ย่อหน้าท่ี 4 330 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพ่อื การส่ือสาร เร่ืองที่ 5 การเขียนย่อความ ใบงานท่ี 4.9 การจบั ใจความสาคญั คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านขอ้ ความต่อไปน้ี แลว้ จบั ใจความสาคญั ของเรอ่ื งในแตล่ ะยอ่ หน้า อะไรกแ็ อพ มนุษยใ์ นยุคโมบายตดิ มอื ทว่ี นั ๆ พดู แตแ่ อพตลอดเวลา คาว่าแอพน้ยี ่อมาจากแอพพลเิ คชนั่ ซอฟตแ์ วรใ์ น วกิ พิ เี ดยี ใหค้ วามหมายไวว้ ่า เป็นโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชก้ นั อย่ทู ุกวนั น้ี เพยี งแตถ่ กู ออกแบบโดยนักพฒั นาโปรแกรม และซอฟตแ์ วรใ์ หด้ งู า่ ยขน้ึ คลา้ ยคลงึ กบั คอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ การทางานจะตา่ งกนั บา้ ง เพราะแอพพลเิ คชนั่ จะใชใ้ น สมารท์ โฟน มกี ารใชท้ ห่ี ลากหลายรปู แบบและฉลาดมากงา่ ยต่อการใชง้ าน การใชแ้ อพพลเิ คชนั่ คอื ตอ้ งผา่ นการดาวน์โหลดผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ต สามารถเลอื กไดจ้ ากคลงั แอพพลเิ คชนั่ ทถ่ี ูกสรา้ งขน้ึ จากคา่ ยตา่ งๆ แอพพลเิ คชนั่ มฟี ังกช์ นั่ การใชง้ านทส่ี ะดวกไมต่ อ้ งยุ่งยากเหมอื นกบั โปรแกรมในคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นั้ ตอน ยงุ่ ยากกว่าหลายเท่า การพฒั นาแอพพลเิ คชนั่ ขน้ึ มากเ็ พ่อื รองรบั เทคโนโลยสี มยั ใหม่ของสมารท์ โฟนและแทบ็ เลต็ สามารถทาเร่อื งยากใหเ้ ป็นเร่อื งงา่ ย เป็นแผนทน่ี าทาง เป็นไฟฉายใหแ้ สงสวา่ งในยามวกิ าล เป็นสะพานให้ เช่อื มไปหาเพอ่ื นทวั่ โลก เป็นชา่ งแตง่ หน้าไดห้ ลายสไตล์ เป็นหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนกิ สห์ รอื อบี ๊คุ ส์ และเป็นสนามแขง่ รถ เป็นเคร่อื งมอื นาเราไปตะลุยจกั รวาลและอ่นื ๆ อกี มากมาย ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/ • ย่อหน้าท่ี 1 แอพยอ่ มาจาก แอพพลเิ คชนั่ ซอฟตแ์ วร์ เป็นโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ใี่ ชก้ นั อยทู่ กุ วนั น้ี เพยี งแตถ่ ูกออกแบบโดยนักพฒั นาโปรแกรมและซอฟตแ์ วรใ์ หด้ งู า่ ยข้นึ • ย่อหน้าท่ี 2 การใชแ้ อพพลเิ คชนั่ ตอ้ งผ่านการดาวน์โหลดทางอนิ เทอรเ์ นต็ • ยอ่ หน้าท่ี 3 แอพพลเิ คชนั่ มฟี ังกช์ นั่ การใชง้ านทสี่ ะดวกไมย่ งุ่ ยากเหมอื นกบั โปรแกรมในคอมพวิ เตอร์ • ย่อหน้าท่ี 4 แอพพลเิ คชนั่ สามารถทาเรอื่ งยากใหเ้ ป็นเรอื่ งงา่ ย มปี ระโยชน์มากมาย 331 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพือ่ การส่ือสาร เรื่องท่ี 5 การเขียนย่อความ ใบงานท่ี 4.10 การเขียนย่อความนิทาน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านนิทานทก่ี าหนด แลว้ เขยี นย่อความใหถ้ กู ตอ้ งตามรปู แบบ ณ หม่บู า้ นแหง่ หน่งึ ในแถบอเมรกิ าใต้ ดนิ แดนแห่งนม้ี พี ชื พรรณธญั ญาหารอดุ มสมบรู ณ์แตใ่ ครๆ มกั จะเรยี กวา่ “หม่บู า้ นคนขเ้ี กยี จ” เพราะชาวบา้ นไม่ชอบทางาน เขาชอบอยเู่ ฉยๆ กนิ ผลไม้เป็นอาหาร เม่อื กนิ เสรจ็ แลว้ กน็ อน ทุกคน ในหม่บู า้ นจงึ อยกู่ นั อยา่ งสงบสขุ ต่อมามแี มลงจานวนมากพากนั มากนิ เปลอื กผลไมท้ ช่ี าวบา้ นแกะทง้ิ ไว้ แมลงเหล่าน้ี ทาความราคาญใหก้ บั พวกชาวบา้ นเป็นอยา่ งมาก ในทส่ี ดุ เขาจงึ ยา้ ยถนิ่ ไปอยใู่ กลๆ้ กบั ทะเลสาบ ณ ทแ่ี หง่ นท้ี าใหพ้ วกเขา มนี ้าดม่ื น้าใชแ้ ละผลไมอ้ ุดมสมบรู ณ์ วนั หน่งึ มชี ายชราคนหน่งึ เขา้ มาในหม่บู า้ น เขาสวมเสอ้ื ผา้ ขาดวนิ่ ชาวบา้ นไมม่ ใี คร สนใจ เขานงั ่ ลงทโ่ี คนตน้ ไม้ พลางสานตะกรา้ ใบใหญด่ ว้ ยหวายทเ่ี ขาเตรยี มมา เม่อื สานเสรจ็ แลว้ จงึ เกบ็ เปลอื กผลไม้ ทช่ี าวบา้ นทง้ิ ไวใ้ สต่ ะกรา้ จนเตม็ ร่งุ เชา้ ชาวบา้ นตา่ งแปลกใจเพราะบรเิ วณหมบู่ า้ นสะอาดมาก เทรา่ ซง่ึ เป็นหวั หน้าหมบู่ า้ น จงึ ใชใ้ หค้ โู คไปตามชายชราคนนนั้ มาพบ แต่คโู คกลบั ใชย้ าน่า ยาน่า กข็ เ้ี กยี จใชค้ นอน่ื ต่อไปอกี ในทส่ี ุดจงึ เป็นหน้าทข่ี อง เดก็ ชายคนหน่งึ ซง่ึ มอี ายนุ ้อยทส่ี ดุ ไปเรยี กชายชราคนนนั้ มา เมอ่ื มาถงึ เทร่าจงึ ถามวา่ “ตามาทน่ี ่เี พอ่ื ทาธรุ ะอะไรหรอื ” ชายชราจงึ ตอบว่า “ขา้ เป็นคนยากจน อยากทางานเพอ่ื แลกกบั อาหาร” เม่อื รเู้ ช่นน้หี วั หน้าหมบู่ า้ นจงึ ใหช้ ายชราทางาน ในหม่บู า้ น (*Charles J.Finger. The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands. New York : Doubleday Doran & Company Inc.,1937.) ย่อนทิ านเร่อื ง ของ จาก ความว่า 332 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพ่อื การสื่อสาร เร่ืองท่ี 5 การเขยี นย่อความ ใบงานท่ี 4.10 การเขียนยอ่ ความนิทาน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นนิทานทก่ี าหนด แลว้ เขยี นยอ่ ความใหถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบ ณ หม่บู า้ นแหง่ หน่งึ ในแถบอเมรกิ าใต้ ดนิ แดนแหง่ น้มี พี ชื พรรณธญั ญาหารอุดมสมบรู ณ์แตใ่ ครๆ มกั จะเรยี กว่า “หม่บู า้ นคนขเ้ี กยี จ” เพราะชาวบา้ นไม่ชอบทางาน เขาชอบอยเู่ ฉยๆ กนิ ผลไม้เป็นอาหาร เม่อื กนิ เสรจ็ แลว้ กน็ อน ทกุ คน ในหมบู่ า้ นจงึ อยกู่ นั อย่างสงบสขุ ตอ่ มามแี มลงจานวนมากพากนั มากนิ เปลอื กผลไมท้ ช่ี าวบา้ นแกะทง้ิ ไว้ แมลงเหลา่ น้ี ทาความราคาญใหก้ บั พวกชาวบา้ นเป็นอย่างมาก ในทส่ี ุดเขาจงึ ยา้ ยถนิ่ ไปอยใู่ กลๆ้ กบั ทะเลสาบ ณ ทแ่ี ห่งนท้ี าใหพ้ วกเขา มนี ้าดม่ื น้าใชแ้ ละผลไมอ้ ดุ มสมบรู ณ์ วนั หน่งึ มชี ายชราคนหน่งึ เขา้ มาในหม่บู า้ น เขาสวมเสอ้ื ผา้ ขาดวน่ิ ชาวบา้ นไมม่ ใี คร สนใจ เขานงั ่ ลงทโ่ี คนตน้ ไม้ พลางสานตะกรา้ ใบใหญ่ดว้ ยหวายทเ่ี ขาเตรยี มมา เม่อื สานเสรจ็ แลว้ จงึ เกบ็ เปลอื กผลไม้ ทช่ี าวบา้ นทง้ิ ไวใ้ ส่ตะกรา้ จนเตม็ รงุ่ เชา้ ชาวบา้ นต่างแปลกใจเพราะบรเิ วณหมบู่ า้ นสะอาดมาก เทร่าซง่ึ เป็นหวั หน้าหม่บู า้ น จงึ ใชใ้ หค้ โู คไปตามชายชราคนนนั้ มาพบ แตค่ โู คกลบั ใชย้ าน่า ยาน่า กข็ เ้ี กยี จใชค้ นอ่นื ตอ่ ไปอกี ในทส่ี ดุ จงึ เป็นหน้าทข่ี อง เดก็ ชายคนหน่งึ ซง่ึ มอี ายุน้อยทส่ี ดุ ไปเรยี กชายชราคนนนั้ มา เมอ่ื มาถงึ เทร่าจงึ ถามว่า “ตามาทน่ี ่เี พอ่ื ทาธุระอะไรหรอื ” ชายชราจงึ ตอบว่า “ขา้ เป็นคนยากจน อยากทางานเพ่อื แลกกบั อาหาร” เม่อื รเู้ ชน่ น้หี วั หน้าหมบู่ า้ นจงึ ใหช้ ายชราทางาน ในหมบู่ า้ น (*Charles J.Finger. The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands. New York : Doubleday Doran & Company Inc.,1937.) ยอ่ นิทานเรอ่ื ง คนข้เี กยี จ ของ Charles J.Finger จาก The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands ความวา่ หม่บู า้ นคนขเ้ี กยี จยา้ ยหนีแมลงมาอยใู่ กลๆ้ ทะเลสาบทมี่ แี หล่งน้าดมื่ น้าใช้ และผลไมท้ อี่ ุดมสมบรู ณ์ คนในหมบู่ า้ นน้ไี มช่ อบทางาน ชอบกนิ ผลไมแ้ ละกน็ อน วนั หนงึ่ มชี ายชราเขา้ มาอาศยั ในหม่บู า้ นและสาน ตะกรา้ เกบ็ เปลอื กผลไมท้ ชี่ าวบา้ นท้งิ ไวใ้ ส่จนเตม็ ทาใหช้ าวบา้ นแปลกใจมากทเี่ หน็ บรเิ วณหม่บู า้ นสะอาด เทร่าหวั หน้าหมบู่ า้ นจงึ ถามชายชราวา่ มาทาธุระอะไร และไดร้ วู้ ่า ชายชราอยากทางานเพอื่ แลกกบั อาหาร จงึ อนุญาตใหช้ ายชราอยทู่ างานในหม่บู า้ นได้ 333 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร เรื่องท่ี 5 การเขยี นย่อความ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล ช่อื ...................................................................................................... ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 334 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพ่ือการส่ือสาร เร่ืองท่ี 5 การเขียนย่อความ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ช่อื กล่มุ ................................................................................................ ชนั้ .................................................... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การแบง่ หน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 335 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพอ่ื การสื่อสาร เร่ืองท่ี 5 การเขียนย่อความ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 336 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพือ่ การสื่อสาร เร่ืองที่ 5 การเขยี นย่อความ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. ม่งุ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 337 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพื่อการสื่อสาร แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องที่ 5 การเขยี นย่อความ  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 338 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพื่อการสื่อสาร 1 ชวั่ โมง เรื่องที่ 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 การเขียนจดหมาย ขอความช่วยเหลือ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลอื เป็นจดหมายสว่ นตวั จะตอ้ งรหู้ ลกั และวธิ เี ขยี น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/7 เขยี นจดหมายสว่ นตวั และจดหมายกจิ ธุระ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - เขยี นจดหมายขอความชว่ ยเหลอื ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง  การเขยี นจดหมายสว่ นตวั - จดหมายขอความชว่ ยเหลอื 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 2) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 339 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพอื่ การสื่อสาร เรื่องท่ี 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด  การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลอื จากผอู้ ่ืน ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อย่างขา่ ว เพ่อื ให้ได้รบั ความอนุเคราะห์ นักเรียนจะมีวิธี 1. ครนู าตวั อยา่ งขา่ วทม่ี เี ดก็ นักเรยี นเขยี นจดหมายไปขอพระ การเขียนอยา่ งไร บรมราชานุเคราะหจ์ ากพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น พลอดุลยเดชมาอา่ นใหน้ ักเรยี นฟัง ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 2. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ขนั้ ตอนและ คาถามกระตุ้นความคิด รปู แบบในการเขยี นจดหมาย  การแนะนาให้ผ้อู ื่นแกไ้ ขข้อบกพร่องในการ ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา ทางาน ผแู้ นะนาควรมคี ณุ ลกั ษณะอย่างไร (มคี วามรใู้ นเรอื่ งทแี่ นะนา มคี วามจรงิ ใจในการให้ ส่อื การเรยี นรู้ : คาแนะนา ใหข้ อ้ เสนอแนะในสงิ่ ทที่ าได้) 1. หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.1 2. ตวั อยา่ งจดหมายขอความช่วยเหลอื 1. นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง การเขยี นจดหมาย จากหนงั สอื เรยี น และตวั อยา่ งจดหมายขอความช่วยเหลอื 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ ส่อื การเรยี นรู้ : ตวั อยา่ งจดหมายขอความช่วยเหลอื 1. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ แนวทางการเขยี นจดหมาย ขอความช่วยเหลอื 2. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ตวั อยา่ งจดหมาย ขอความช่วยเหลอื ทค่ี รนู ามาแจกว่ามขี อ้ บกพร่องอย่างไร ควรแกไ้ ขปรบั ปรงุ อย่างไร 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 340 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพื่อการสื่อสาร เร่ืองท่ี 6 การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลือ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.11 1. ครอู ธบิ ายหลกั การเขยี นจดหมายขอความชว่ ยเหลอื เพมิ่ เตมิ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมคี วามเขา้ ใจมากขน้ึ 2. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 4.11 เร่ือง การเขียน จดหมายขอความชว่ ยเหลอื โดยครกู าหนดสถานการณ์ให้ นกั เรยี นเขยี นจดหมาย เมอ่ื เขยี นเสรจ็ แลว้ ใหน้ าสง่ ครตู รวจ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.11 1. ครตู รวจประเมนิ ผลการทาใบงานท่ี 4.11 จากนนั้ คดั เลอื ก ผลงานดเี ด่นของนกั เรยี นจดั แสดงไวท้ ป่ี ้ายนิเทศหน้าชนั้ เรยี น 2. ครใู หน้ ักเรยี นทม่ี ขี อ้ บกพร่องปรบั ปรงุ แกไ้ ขผลงานของตนเอง 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปหลกั การเขยี นจดหมายขอความ ชว่ ยเหลอื 7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 4.11 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.11 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ตวั อย่างขา่ วการขอพระบรมราชานุเคราะห์ 3) ตวั อยา่ งจดหมายขอความช่วยเหลอื 4) ใบงานท่ี 4.11 เรอ่ื ง การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลอื 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ — 341 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพ่ือการส่ือสาร เรื่องที่ 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ เอกสารประกอบการสอน ข่าวการขอพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ*ทรงรบั ครอบครวั เดก็ หญงิ วยั 12 ขวบ ไวใ้ นพระบรมราชานุเคราะห์ หลงั จาก ทเ่ี ดก็ เขยี นจดหมายถวายฎกี าขอพระองคเ์ ป็นทพ่ี ง่ึ ดว้ ยแมป่ ่วยเป็นอมั พาต พ่อตาย ไรบ้ า้ นอย่อู าศยั เดก็ หญงิ มาลยั รตั น์ มนั ่ สมั ฤทธิ์อายุ 12 ปี นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ชาวตาบลหวั ดง อาเภอเมอื ง จ.พจิ ติ ร กม้ ลงกราบพระบรมฉายาลกั ษณ์ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ฯ* ดว้ ยความสานกึ ในพระเมตตา ขณะรบั ผา้ ห่มพระราชทานและเครอ่ื งอุปโภคบรโิ ภคทเ่ี จา้ หน้าทน่ี ามามอบให้ โดยเดก็ น้อยกตญั ญผู นู้ ้ไี ดต้ ดั สนิ ใจเขยี นจดหมาย ถวายฎกี าถงึ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ฯ* หลงั จากคดิ ว่าตนเองหมดทพ่ี ง่ึ แลว้ เน้อื หาในจดหมายขอใหพ้ ระองคท์ ่าน ชว่ ยเหลอื มารดาทป่ี ่วยเป็นอมั พาตมานาน ตอ้ งเผชญิ ชะตากรรมหลงั จากพ่อเสยี ชวี ติ เม่อื หลายปีกอ่ น ขณะทฐ่ี านะ ครอบครวั กย็ ากจน ไมม่ บี า้ นอยอู่ าศยั ตอ้ งใชย้ ุง้ ขา้ วของเพ่อื นบา้ นเป็นทพ่ี กั ลา่ สุดสานักราชเลขาธกิ ารมหี นงั สอื ตอบกลบั โดยรบั ครอบครวั ของเดก็ หญงิ มาลยั รตั น์ไวใ้ นพระบรมราชา- นุเคราะห์ สรา้ งความปลาบปลม้ื ใหแ้ กเ่ ดก็ หญงิ มาลยั รตั น์และผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งเป็นอยา่ งมาก ที่มา http://www.phichittoday.com/news/12.52/news04125203.html _________________ * “ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ฯ” ในทน่ี ้หี มายถงึ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช 342 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพื่อการสื่อสาร เรื่องที่ 6 การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลอื เอกสารประกอบการสอน ตวั อยา่ งจดหมายขอความช่วยเหลือ อาคารธารารมณ์ ถนน เพชรบรุ ตี ดั ใหม่ แขวง บางกะปิ เขต หว้ ยขวาง กรงุ เทพฯ 10310 18 เมษายน 2555 เรยี น อาจารยอ์ าทมิ า พงศไ์ พบลู ย์ ดฉิ นั ขอกราบขอบพระคุณทอ่ี าจารยก์ รุณาใหย้ มื หนังสอื มาอา่ นก่อนสอบทาใหไ้ ดค้ ะแนนดี ดฉิ นั เขยี น จดหมายมาเพราะมปี ัญหาเรอ่ื งการเลอื กกจิ กรรมเสรมิ เพราะดฉิ นั ตดั สนิ ใจไม่ถกู วา่ จะเลอื กกจิ กรรมใดใหส้ อดคลอ้ ง และสนับสนุนต่อการเรยี นตามแผนในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลายตามทต่ี งั้ ใจเลอื กไว้ จงึ ขอความกรณุ าอาจารย์ ชว่ ยใหค้ าปรกึ ษาหรอื ใหค้ าแนะนา ถา้ อาจารยจ์ ะกรุณาวนั อาทติ ยท์ ่ี 29 เมษายนน้ี เวลา 09.00 น. ดฉิ นั จะขอไป กราบอาจารยท์ บ่ี า้ น คงจะไมเ่ ป็นการรบกวนอาจารยเ์ กนิ ไปนะคะ สาหรบั วนั น้ดี ฉิ นั ขอจบจดหมายเพยี งเทา่ น้กี ่อน อาจารยร์ กั ษาสขุ ภาพดว้ ยนะคะ ดว้ ยรกั และเคารพอย่างสงู ณฐั ชา เศรษฐบตุ ร 343 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร เรื่องที่ 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลอื ใบงานท่ี 4.11 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นจดหมายขอความชว่ ยเหลอื จากครู โดยนกั เรยี นมคี วามประสงคจ์ ะสมคั รเขา้ ทางาน ในระหว่างปิดภาคเรยี น ณ หา้ งสรรพสนิ คา้ แห่งหน่ึง ในการพจิ ารณารบั เขา้ ทางานนัน้ จะตอ้ งมผี ู้ รบั รองความประพฤตเิ ป็นขา้ ราชการในระดบั ชานาญการพเิ ศษ จงึ เขยี นมาขอความชว่ ยเหลอื จาก ครทู เ่ี คยสอนใหช้ ว่ ยรบั รองใหด้ ว้ ย (รายละเอยี ดต่างๆ ทไ่ี มก่ าหนดใหน้ กั เรยี นสมมุตเิ อง) 344 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพ่ือการส่ือสาร เรื่องที่ 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลอื ใบงานท่ี 4.11 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นจดหมายขอความชว่ ยเหลอื จากครู โดยนกั เรยี นมคี วามประสงคจ์ ะสมคั รเขา้ ทางาน ในระหว่างปิดภาคเรยี น ณ หา้ งสรรพสนิ คา้ แห่งหน่ึง ในการพจิ ารณารบั เขา้ ทางานนัน้ จะตอ้ งมผี ู้ รบั รองความประพฤตเิ ป็นขา้ ราชการในระดบั ชานาญการพเิ ศษ จงึ เขยี นมาขอความช่วยเหลอื จาก ครทู เ่ี คยสอนใหช้ ่วยรบั รองใหด้ ว้ ย (รายละเอยี ดต่างๆ ทไ่ี ม่กาหนดใหน้ กั เรยี นสมมตุ เิ อง) (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 345 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขยี นเพอ่ื การส่ือสาร เร่ืองท่ี 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 346 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพือ่ การส่ือสาร เร่ืองท่ี 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผ้รู บั การ เอื้อเฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน ประเมิน 43214321 432 14321 4321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง 347 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร เรื่องท่ี 6 การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลือ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด 348 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพื่อการสื่อสาร เรื่องท่ี 6 การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 349 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพือ่ การส่ือสาร แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 6 การเขยี นจดหมายขอความช่วยเหลือ  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ) ( ตาแหน่ง 350 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเพอื่ การส่ือสาร 1 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 7 รูปแบบของจดหมายกจิ ธุระ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 รปู แบบของจดหมาย กิจธรุ ะ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นจดหมายสอบถามขอ้ มลู เป็นจดหมายกจิ ธุระประเภทหน่งึ ซง่ึ ตอ้ งมคี วามรเู้ กย่ี วกบั หลกั การเขยี น 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ม.1/7 เขยี นจดหมายส่วนตวั และจดหมายกจิ ธุระ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - อธบิ ายรูปแบบของจดหมายกจิ ธรุ ะได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง  การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ - จดหมายสอบถามขอ้ มลู 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 2) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 351 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพือ่ การสื่อสาร เร่ืองท่ี 7 รูปแบบของจดหมายกจิ ธุระ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ บรรยาย ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นักเรียนคิดว่า การส่ือสารโดยการเขยี นจดหมาย เป็นวิธีที่ดีหรอื ไม่ดี อยา่ งไร 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นเร่อื งความสาคญั ของการเขยี น (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) จดหมายเพ่อื การสอ่ื สาร 3. ครใู หน้ กั เรยี นทม่ี ปี ระสบการณ์ในการเขยี นจดหมายสอ่ื สาร กบั บุคคลอ่นื ออกมาเล่าประสบการณ์ ขนั้ สอน คาถามกระต้นุ ความคิด สอ่ื การเรยี นรู้ :  รปู แบบของจดหมายมคี วามสาคญั อยา่ งไร ถ้า นักเรียนไมม่ ีความร้เู ก่ียวกบั รปู แบบของจดหมาย 1. ป้ายนิเทศแสดงตวั อยา่ งจดหมาย นักเรยี นจะเขยี นจดหมายไดห้ รือไม่ จงอธิบาย 2. ใบงานท่ี 4.12 (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 1. นักเรยี นศกึ ษารปู แบบของจดหมาย จากป้ายนิเทศทจ่ี ดั แสดง ตวั อย่างจดหมาย 2. นกั เรยี นทาใบงานที่ 4.12 เรือ่ ง รปู แบบของจดหมาย กิจธรุ ะ จากนนั้ ครสู ุม่ เรยี กนกั เรยี นออกมานาเสนอผลงาน อธบิ ายคาตอบและรปู แบบการเขยี นจดหมายใหเ้ พ่อื นฟัง 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขนั้ สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นักเรยี นจะนาความร้เู รือ่ งรปู แบบของจดหมาย ไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งไร 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั รปู แบบของจดหมาย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น กจิ ธุระ ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 352 หลกั ภาษาฯ ม.1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขียนเพื่อการส่ือสาร เคร่ืองมอื เกณฑ์ เรื่องที่ 7 รูปแบบของจดหมายกจิ ธุระ ใบงานท่ี 4.12 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7 การวดั และประเมินผล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ ตรวจใบงานท่ี 4.12 สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั ่ ในการทางาน 8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) ป้ายนิเทศแสดงตวั อย่างจดหมาย 2) ใบงานท่ี 4.12 เรอ่ื ง รปู แบบของจดหมายกจิ ธุระ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — 353 หลกั ภาษาฯ ม.1