การดูแลความสะอาดร่างกายเพื่อความสุขสบายของผู้ป่วย โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะมี อาการปากแห้งเนื่องจากการดื่มน้ำได้น้อยลง ดังนั้น หากมีอาการปากแห้งให้ทำความสะอาดโดยใช้ สำลีชุบนำ้ ทำความสะอาดบ่อย ๆ หรือทากลีเซอรีนเพ่อื ใหค้ วามชมุ่ ช่ืน 15.2.2.2 การให้การดูแลความไมส่ ุขสบายทางกายตามอาการ อาการที่พบบ่อยในผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ยมดี ังนี้ 1) อาการปวด ผู้ดูแลต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับความปวดซึ่งเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล เข้าใจอาการปวดของผู้ปว่ ยอย่างแท้จริง กิจกรรมการพยาบาลได้แก่ การประเมินความปวด ให้ยาแก้ ปวดตามแผนการรักษา ในผู้ป่วยระยะสุดท้ายจะมีปัญหาเรื่องการกลืนบาก ดังนั้นการให้ยาแก้ปวด ควรต้องพจิ ารณาอยา่ งถว้ นถี่ หากผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถกลืนได้ต้องพิจารณาให้ยาทางอ่ืนแทน เช่น การให้ ยาแกป้ วดหยดเข้าหลอดเลือดดำอย่างตอ่ เนื่อง หรอื การให้ยาฉดี เข้าใตผ้ วิ หนังหรือยาแก้ปวดชนิดแปะ ผวิ หนงั ซ่งึ ไดร้ ับความนยิ มมากข้ึนในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการใหย้ าที่ผู้ป่วยทกุ ข์ ทรมาน น้อยกว่าการ ให้ยาหยดเข้าหลอดเลือดดำและสามารถดูแลได้ง่าย นอกจากนี้ยังควรมีการบรรเทาความปวดด้วย วิธีการอื่นร่วม เช่น หาปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดความปวด แล้วลดสิ่งกระตุ้นเหล่านั้น การนวดผ่อน คลาย การสมั ผสั 2) อาการคันตามร่างกาย ซึ่งมักเกิดจากการที่ผิวแห้ง จากการขาดน้ำ ขาด สารอาหาร ผลข้างเคียงของยาหรือบางครั้งอาจเกิดจากโรคที่ผู้ป่วยเป็น เช่น อาการแสบคันที่ ก้อนมะเร็ง อาการคันอาจทำให้ผู้ป่วยกระสับกระส่าย อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลได้ ดังนั้นควรมี การดแู ลผวิ ปอ้ งกนั การแห้ง คัน โดยการชว่ ยอาบนำ้ หรือเช็ดตัวดว้ ยน้ำธรรมดาหรือนำ้ เย็น หลีกเลี่ยง การใช้น้ำอุ่นเพราะจะทำให้ผิวแห้ง หลังเช็ดตัวควรทาโลชั่นเพือ่ ให้ผิวชุ่มชืน่ ควรทาในช่วงหลังเช็ดตัว เสร็จทันที เนอื่ งจากชว่ งทผ่ี วิ กายยังไมแ่ ห้งสนิทจะชว่ ยให้โลชั่นซึมเข้าสผู่ วิ ไดด้ ี 3) ปัญหาของการขับถ่ายปัสสาวะ / อุจจาระ ผู้ป่วยอาจมีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ดังนั้นภายหลังผู้ป่วยถ่ายต้องทำความสะอาดทันที หรือหากมีการใส่สายสวนปัสสาวะต้องดูแลให้ ถูกต้องตามเทคนิค (ดูรายละเอียดในการพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะ) อาการ ท้องผูกมักเกิดได้บ่อยในผู้ป่วยกลุ่มนี้ เนื่องจากอาจเป็นผลข้างเคียงมาจากการได้รับยาแก้ปวดกลุ่ม opioid ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกหรืออาจเกิดจากการขาดน้ำ หากประเมินพบอาการท้องผูกให้ แจง้ แพทย์ทันที เพือ่ ให้ผู้ปว่ ยได้รับยาระบายอย่างเหมาะสม โดยสว่ นใหญ่ผู้ป่วยท่ไี ด้รบั ยาแก้ปวดกลุ่ม opioid จะได้รบั ยาแก้ปวดรว่ มด้วย 401
4) อาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะอวัยวะส่วนปลาย ดังนั้นควรมี การจดั ท่าประคองปลายมอื ปลายเทา้ เพอื่ ชว่ ยลดอาการบวม หรือนวดจะชว่ ยบรรเทาอาการบวมตาม รา่ งกายไดเ้ ช่นกัน 5) ภาวะอ่อนล้า ไม่มีเรี่ยวแรง จากการดำเนินของโรคท่ีลุกลามมากขึ้น การดูแลท่ี สำคัญในระยะนี้ คือการช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน ลดการใช้พลังงานของผู้ป่วย ผู้ป่วยอาจนอนติด เตยี ง ดังนี้จึงควรดูแลปอ้ งกันภาวะแทรกซอ้ นจากการนอนติดเตียง เชน่ แผลกดทับ ขอ้ ติดแขง็ 6) การหายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อยู่ในระยะใกล้เสียชีวิต เนื่องจากร่างกายเริ่มขาดออกซิเจน การแลกเปลี่ยนกา๊ ชเสียไป เลอื ดเร่ิมเปน็ กรด อาจพบผู้ปว่ ยหายใจ ในลักษณะมีเสียงดังครืดคราด มีเสมหะมาก ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจหรืออาจพบอาการ หิวอากาศ (Air hunger) หายใจเฮือกได้ การดแู ลผปู้ ว่ ยที่มีอาการหายใจไม่อิ่มสามารถปฏิบัติได้ดงั นี้ (1) ใหก้ ารดแู ลรกั ษาด้วยการใหอ้ อกซิเจนบำบดั ตามแผนการรกั ษาของแพทย์ (2) จดั ทา่ นอนศรี ษะสงู (3) ใหใ้ ส่เสือ้ ผา้ หลวมๆ ผ่อนคลาย (4) ใหก้ ารดูแลด้านจติ ใจ สมั ผัสมอื ดูแลอยู่ใกล้ชิด 7) ภาวะสับสน ผู้ป่วยอาจมีการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถสื่อสารได้ บางครั้งอาจมีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอนได้ โดยเฉพาะในระยะใกล้เสียชีวิต การพยาบาลที่สำคัญคือ การอยู่กับผู้ป่วย สื่อสารให้ข้อมูลผู้ป่วยด้วยสีหน้าอ่อนโยน พูดช้า ๆ ชัดเจน มองหน้าและสบตาผู้ป่วยด้วยความจริงใจ หลีกเลี่ยงการผูกมัดผู้ป่วยเพราะจะยิ่งทำให้ผู้ป่วยสับสน มากย่ิงข้ึน 15.2.2.3 การดูแลประคับประคองทางจิตใจตามความเชื่อ ตามศาสนาที่ผู้ป่วยนับถือ ผู้ ที่มีบทบาทที่สำคัญในการดูแลด้านจิตใจคือ ครอบครัว ญาติที่ใกล้ชิดของผู้ป่วย ผู้ที่ผู้ป่วยมีความรัก ความผูกพันธุ์ หรืออาจเป็นผู้ที่ผู้ป่วยมีเรื่องติดค้างในใจที่ต้องการบอกในระยะสุดท้าย พยาบาลมี บทบาทสำคัญในการสง่ เสริมให้ญาติมสี ่วนร่วมในการดูแลประคับประคองทางจิตใจ รวมถึงการจัดให้ ได้ทำกิจกรรมทางศาสนาตามท่ีผูป้ ว่ ยและครอบครวั ตอ้ งการ 402
15.2.3 การพยาบาลผปู้ ่วยและครอบครวั ในระยะสดุ ท้ายใกล้ตาย (End of life care) 15.2.3.1 วัตถุประสงค์การพยาบาลผปู้ ว่ ยในระยะสดุ ท้ายดังน้ี 1) บรรเทาอาการทกุ ข์ทรมาน ช่วยใหผ้ ูป้ ว่ ยดำเนินชีวิตอยา่ งมีความสุขมากท่ีสุด 2) สนองความตอ้ งการในด้านต่างๆ ของผ้ปู ว่ ย ทั้งทางด้านรา่ งกาย จติ ใจ และจิต วญิ ญาณ 3) ชว่ ยใหผ้ ู้ป่วยไดต้ ายอย่างสมศักดิ์ศรขี องความเป็นมนษุ ย์ 4) ประคบั ประคองให้ครอบครัวของผปู้ ว่ ยสามารถปรบั ตวั รับสถานการณ์ในขณะท่ี ผ้ปู ่วยอยใู่ นระยะสดุ ทา้ ยตาย และในขณะผปู้ ว่ ยเสยี ชีวติ ได้ 15.2.3.2 หลักการพยาบาลผ้ปู ว่ ยและครอบครัวระยะสุดท้ายใกลต้ าย 1) เข้าใจสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะสุดท้ายของชีวิต สร้างและคงไว้ซ่ึง สัมพันธภาพทด่ี ีระหว่างการพยาบาล ผปู้ ว่ ย และครอบครวั 2) ดูแลช่วยเหลือ และสนองความตอ้ งการของผ้ปู ่วยบรรเทาความไมส่ ขุ สบายตา่ งๆ 3) ควบคุมอาการเจ็บปวดอย่างสมำ่ เสมอ ซึง่ เปน็ ปญั หาสำคัญอยา่ งยง่ิ 4) สนับสนนุ ให้ผปู้ ว่ ยและครอบครวั มีสว่ นรว่ มในการดูแล ลดความรู้สกึ โดดเด่ียวและ ถกู ทอดท้ิง ไม่ยึดกฎระเบยี บของโรงพยาบาลมากเกนิ ไป 5) สร้างสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลให้มีความสงบ ไม่ถูกรบกวน มีเวลาได้พักและมี เวลาเปน็ ส่วนตัว มเี วลาอยู่กบั ครอบครวั 6) ส่งเสริมใหผ้ ปู้ ว่ ยและครอบครวั ได้ปฏบิ ัติตามความเช่ือและความศรัทธาตามความ ตอ้ งการ 7) สนับสนุนให้กำลังใจ วางแผนการเยี่ยม ให้เวลาแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ให้การ พยาบาลด้วยความสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและรู้สึกไว้วางใจ ทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวเกิด กำลงั ใจ และสามารถกำหนดเปา้ หมายของชีวติ ได้ 8) ช่วยเหลือผู้ปว่ ยและครอบครัวให้สามารถเผชิญกับความตายในนาทีวิกฤตได้ โดย ให้คำช้แี นะ ช่วยเหลอื ตามลำดับความสำคัญของกจิ กรรม และยอมรบั ภาวะเศรา้ โศกของครอบครวั 403
15.3 หลักการพยาบาลและวธิ ปี ฎบิ ตั เิ มื่อผปู้ ่วยท่ถี ึงแกก่ รรม 15.3.1 การเปลีย่ นแปลงของรา่ งกายเมอื่ ถึงแก่กรรม การเปลย่ี นแปลงมี 2 ช่วงดังนี้ 1) การเปล่ียนแปลงหลงั การตายในชว่ งต้น มกี ารเปล่ยี นแปลงดังน้ี (1) ไม่หายใจ หวั ใจหยุดเต้น ไม่มีปฏกิ ิริยาตอบสนอง ไม่มีสัญญาณชีพ (2) รูม่านตาไม่มีปฎิกิริยาตอบสนอง (pupil : pin point, fixed) ในระยะน้ี แพทย์จึงจะลงความเหน็ วา่ ผู้ปว่ ยถึงแก่กรรม (3) ผวิ หนังซดี จากการขาดเลือดไปเลยี้ ง (4) กล้ามเน้ือลาย กลา้ มเน้ือหรู ดู คลายตวั (5) เร่มิ มกี ารแข้งของเลือดทว่ั รา่ งกาย 2) การเปลย่ี นแปลงหลังการตายในช่วงท้าย (1) การแข็งของกลา้ มเนอ้ื ทั่วร่างกาย (2) เกิดรอยจ้ำแดงในส่วนที่อยู่ต่ำสุดของร่างกาย เกิดภายหลังการตายประมาณ 30 นาที – 2 ช่ัวโมง (2) เกิดการลดลงของอณุ หภมู ิรา่ งกาย (3) เกดิ กระบวนการเน่าของศพ 15.3.2 การดูแลรา่ งกายผ้ถู ึงแก่กรรม การดูแลร่างกายผู้ถึงแก่กรรมด้วยการทำความสะอาดร่างกาย (complete bed bath) พร้อมทั้งการทำความสะอาดแผล การนำอุปกรณ์หรือสายต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ปิดตา ปิดปาก ผู้ป่วยให้สนิท หากมีฟนั ปลอมใหร้ บี ใส่ฟันปลอมก่อนรา่ งกายจะแข็ง หากมสี ารคัดหลัง่ ตา่ ง ๆ ออกจาก รูทวารตา่ ง ๆ ให้ใช้สำลอี ุด หากไม่มสี ารคัดหลัง่ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งอุดรตู ่าง ๆ ภายหลังทำความสะอาดให้สวมเสื้อผ้าตามที่ญาติผู้ป่วยนำมา กรณีผู้ป่วยถึงแก่กรรมใน โรงพยาบาลต้องเก็บศพไว้บนหอผู้ป่วยอย่างน้อย 2 ชั่วโมงจึงเคล่ือนย้ายศพออกจากหอผู้ป่วย และ แจ้งให้ญาตดิ ำเนนิ การเร่อื งทางกฎหมายตอ่ ไป 404
15.4 บทสรุป การพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเปน็ อีกบทบาทหนึ่งที่พยาบาลควรตระหนัก ไม่ควรปล่อยให้ ผู้ป่วยและญาติต้องเผชิญปัญหาตามลำพัง พยาบาลและบุคลากรทางสุขภาพควรต้องมีความรู้ความ เข้าใจอย่างถกู ต้องเพอ่ื ช่วยใหผ้ ปู้ ว่ ยและครอบครวั สามารถผ่านภาวะวิกฤตได้ 15.5 คำถามท้ายบท ขอ้ 1 ขอ้ ใดคอื ลักษณะของผู้ปว่ ยระยะสุดท้าย (end of life) 1. กระดูกหกั นอนติดเตยี ง มีแผลกดทบั ที่ก้น มีไข้สูง 2. เป็นมะเร็งตบั ตวั ตาเหลือง ท้องโต หายใจ Air hunger 3. ประสบอุบตั เิ หตุทางรถยนต์ หายใจเหนอื่ ย กระสบั กระส่าย 4. เป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะชอ่ งท้อง ข้อ 2 ขอ้ ใดถกู ต้อง เกยี่ วกับ living will 1. เปน็ หนงั สือราชการท่ีผู้ปว่ ยต้องเซน็ ยนิ ยอม 2. เป็นการดูแลผูป้ ่วยระยะสุดท้ายที่คำนึงถึงศักดศ์ิ รีความเป็นมนุษย์ 3. เปน็ หนงั สือแสดงเจตนาการกระทำอัตวบิ ากกรรมท่ีถกู ต้องตามกฎหมาย 4. เปน็ กฎหมายทีป่ ระกาศใชใ้ นประเทศไทยและไดร้ ับความนิยมเปน็ อยา่ งมาก ขอ้ 3 ขอ้ ใดคือหลักการสำคัญในการพยาบาลผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ย 1. ประเมินอาการและสัญญาณชีพทกุ 1 ช่วั โมง 2. ดูแลอย่างใกลช้ ดิ ให้ญาตผิ ูป้ ว่ ยเขา้ เยย่ี มเมื่อจำเป็น 3. ดูแลความสุขสบาย ลดความทกุ ข์ทรมานของผู้ป่วย 4. ให้กำลงั ใจผปู้ ว่ ยและครอบครัวให้เผชิญกับภาวะโรคร้าย 405
ขอ้ 4 ข้อใดคอื สิ่งทต่ี อ้ งปฏบิ ตั ิ เปน็ อนั ดับแรก เม่ือผู้ป่วยระยะสุดทา้ ย หยดุ หายใจ 1. รายงานแพทย์เจ้าของไข้ 2. ประเมนิ สัญญาณชพี ตรวจสอบ pupil 3. ดแู ลความสะอาดร่างกาย เปล่ียนเสอ้ื ผ้า 4. แนะนำญาติเร่อื งข้ันตอนการทำใบมรณะบตั ร ขอ้ 5 การทำความสะอาดรา่ งกายภายหลงั ผปู้ ว่ ยผทู้ ี่ถึงแก่กรรม ไมเ่ กินกีช่ ั่วโมง 1. 1 ชั่วโมง 2. 2 ชวั่ โมง 3. 3 ชว่ั โมง 4. 4 ชัว่ โมง 15.6 เอกสารอา้ งองิ นารีรตั น์ จิตรมนตร.ี การแจ้งขา่ วร้ายและการดแู ลครอบครัวผู้ปว่ ยในภาวะฉุกเฉนิ . ใน : วีรศักด์ิ เมือง ไพศาล, บรรณาธิการ. การจัดการภาวะฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: หา้ งหุ้นส่วนจำกัด ภาพพมิ พ์; 2560. หนา้ 221-224. นภา หลมิ รัตน์ และ ศรเี วยี ง ไพโรจน์กลุ . การดแู ลผปู้ ว่ ยระยะทา้ ยสำหรับผ้ใู ห้การดูแล. ขอนแกน่ : โรง พมิ พค์ ลงั นานาวทิ ยา. 2559. ประเสริฐ เลิศสงวนสินชัย, อิศรางค์ นุชประยูร, พรเลิศ ฉัตรแก้ว, ฉันชาย สิทธิพันธุ์ (บรรณาธิการ)., การดแู ลผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ย.กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ ักษรสัมพนั ธ,์ 2550. ถนอมขวญั ทวบี รู ณ.์ การเตรียมร่างกาย จติ ใจและจิตวิญญาณของผูป้ ว่ ยและญาติก่อนระยะสุดท้าย. สบื ค้นจาก http://www.elearning.ns.mahidol.ac.th/Patients-with-end-stage/_9.html สมจนิ ต์ เพชรพันธุศ์ รี ถนอมขวัญ ทวบี รู ณ์ เบญจพร สขุ ประเสรฐิ โสพสั ศิริไสย์ ณจั นา สุนยั พันธ์ และ จรรยา เจริญสุข. (2557). รูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิตในชุมชนของ กรุงเทพมหานคร. 12(1) : 76-89. สุปราณี เสนาดิสัย และ วรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: บริษัทจุด ทองจำกดั . หนา้ 761-766. 406
สว่ นที่ 2 การพยาบาลพ้นื ฐาน ภาคทดลอง 407
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 1 วธิ ปี ฎบิ ตั กิ ารพยาบาลพ้ืนฐาน ในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเช้ือ หวั ข้อเนอ้ื หาประจำบท 1. วิธีการล้างมอื (Hand washing) 2. วิธีการใสถ่ ุงมือปราศจากเชื้อ (Sterile Gloves) 3. วิธีการเปดิ หอ่ ของปลอดเช้ือและการหยิบจบั ของปลอดเชื้อ 4. วิธีการสวมและถอดเสือ้ กาวน์ปลอดเชือ้ (sterile gown) จำนวนช่ัวโมงทีส่ อน: ภาคทดลอง 2 ชวั่ โมง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. ปฏิบัติการล้างมอื (Hand washing) ได้ถกู ต้อง 2. ปฏิบตั กิ ารใสถ่ ุงมือปราศจากเชอื้ (Sterile Gloves) ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. ปฏิบัตกิ ารเปิดห่อของปราศจากเชอ้ื และการหยบิ จบั ของปราศจากเช้อื ได้ถูกต้อง 4. ปฏิบตั ิการสวมและถอดเสื้อกาวน์ปลอดเชอื้ (sterile gown) ไดถ้ ูกต้อง วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 สอนสาธติ และสาธิตยอ้ นกลบั 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 สอนสาธิตการการล้างมือ (Hand washing) การใส่ถุงมือปราศจากเชื้อ (Sterile Gloves) การเปิดห่อของปราศจากเชื้อและการหยิบจับของปราศจากเชื้อ การสวมเครื่องป้องกัน ร่างกายส่วนบุคคล (personal protective equipment) 2.2 ผเู้ รียนฝกึ ปฏิบตั ิและสาธติ ยอ้ นกลบั 2.3 สะท้อนคิดการฝกึ ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ผลการเรยี นรู้ 2.4 ผูเ้ รยี นยมื วสั ุด อปุ กรณ์ไปฝกึ ปฏบิ ตั ติ อ่ นอเวลาเพอ่ื ใหเ้ กิดทักษะ 408
สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. วสั ดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ในหอ้ งปฏิบตั ิการ 3. VDO สอ่ื การสอนใน YouTube channel: nursing practice การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลการสาธิตย้อนกลบั ตามแบบประเมินทักษะ 2. การสอบทักษะปฏบิ ตั แิ บบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 409
บทที่ 1 วิธีปฎบิ ัติการพยาบาลพ้นื ฐาน ในการป้องกันและควบคมุ การแพรก่ ระจายเชือ้ การควบคมุ และป้องกนั การแพร่กระจายเชอื้ มีกจิ กรรมท่ีเก่ียวขอ้ งกับการป้องกันการ แพร่กระจายเชอ้ื ตามหลักการป้องกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ ตามมาตรฐาน (standard precaution) ไดแ้ ก่ การลา้ งมือ การใส่อปุ กรณป์ ลอดเชอื้ อปุ กรณป์ ้องกนั ร่างกาย การเปดิ หีบห่อของปลอดเชอ้ื และ การหยับจบั ของปลอดเชื้อ ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1.1 วิธกี ารล้างมือ (Hand washing) 1.1.1 การเตรยี มอุปกรณ์ 1) สบู่หรือแอลกอฮอล์ เจล 2) ผา้ เช็ดมอื หรือกระดาษเช็ดมือ 1.1.2 วิธกี ารล้างมือ 1) เปดิ น้ำราดมือทั้งสองข้างถึงขอ้ มอื ความแรงพอประมาณ 2) ฟอกสบู่ท่ีฝา่ มอื ทง้ั 2 ข้าง 3) ฟอกขัดถูกมอื ใหท้ ว่ั ทกุ ด้านของมือทั้ง 2 ขา้ ง และฟอกขัดถู 7 ขัน้ ตอน ขัน้ ตอนที่ 1. ใชฝ้ ่ามอื ถูกัน ขัน้ ตอนที่ 2. ฝา่ มือถหู ลังมอื และกางนว้ิ เพือ่ ถงู า่ มนว้ิ มือ ข้ันตอนที่ 3. ฝา่ มอื ถฝู า่ มอื และกางน้วิ เพื่อถงู า่ มนวิ้ มือ ขั้นตอนท่ี 4. กำมือและใช้ฝา่ มอื อีกข้างถูหลังน้ิวมือ ขั้นตอนที่ 5. ถหู ัวแม่มือโดยรอบดว้ ยฝ่ามือ ข้นั ตอนท่ี 6. ปลายนวิ้ มือถขู วางฝ่ามือ ข้นั ตอนที่ 7. ถรู อบข้อมือ 4) ล้างมอื และข้อมือโดยให้น้ำผา่ นตลอดท้งั มือ พรอ้ มขดั ถูมือให้ทว่ั ทุกดา้ น 5) ปดิ นำ้ โดยใชข้ ้อศอก หรือล้างบรเิ วณก๊อกนำ้ ก่อนใชม้ อื ปิด 6) เช็ดมือและข้อมือให้แหง้ ด้วยผา้ หรอื กระดาษที่แห้งสะอาดจากปลายนว้ิ ถึงขอ้ มือ 410
1.2 วธิ กี ารใส่ถุงมอื ปราศจากเชอื้ (Sterile Gloves) 1.2.1 การเตรียมอุปกรณ์ 1) ถงุ มือปลอดเชอื้ 1.2.2 วิธีการใสถ่ งุ มือปลอดเชื้อ 1) ลา้ งมือใหส้ ะอาดและเช็ดใหแ้ หง้ 2) วางซองถุงมือบริเวณท่ีแหง้ สะอาด อย่สู ูงกวา่ ระดับเอว 3) คลี่ซองถงุ มืออกอยา่ งระมัดระวังไม่ให้ถงุ มือสัมผัสภายนอก 4) เผยอดา้ นนอกของซองถุงมือ ตรวจสอบรอยพบั ของถุงมือใหอ้ ยู่ด้านผ้สู วมใส่ ให้ถงุ มือ วางในตำแหนง่ ซา้ ย-ขวาในท่าหงายมอื ตามลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ 5) เร่มิ ใส่ถุงมอื ข้างที่ถนัดก่อน โดยใชม้ ือขา้ งท่ีถนัดเผยอด้านนอกของซองถงุ มือออก 6) ใชน้ ว้ิ หวั แม่มือ น้ิวช้ี และน้ิวกลางของข้างทไ่ี ม่ถนัด หยิบถุงมือขา้ งที่ถนัดตรงรอยพับ ดา้ นในของถงุ มือ (รอยพับน้ีจะอย่ตู ดิ กับผวิ หนังจึงสามารถหยิบได)้ 7) ยกถุงมืออกจากซอง โดยด้านนอกของถุงมือต้องไม่สมั ผัสส่ิงใด 8) ใสถ่ ุงมือข้างที่ถนดั ในลกั ษณะหงายมอื ใหป้ ลายนว้ิ หอ้ ยลง น้ิวหวั แม่มอื อยดู่ ้านหน้า ของฝ่ามือ 9) ใช้มอื ข้างท่ีไม่ได้ใส่ถุงมือเผยอดา้ นนอกของซองถุงมืออกให้กวา้ ง จนเห็นรอยพบั ของ ถงุ มือท่อี ยู่ในซอง 10) หยบิ ถุงมืออกจากซองโดยใช้ปลายน้ิวมอื 4 นวิ้ (นิว้ ชี้ นิว้ กลาง น้วิ นาง นิ้วกอ้ ย) ของมอื ข้างที่สวมถุงมือแล้ว สอดเข้าไปในรอยพับของถงุ มือ 11) ยกถงุ มืออกจากซองโดยไม่ใหส้ ัมผสั สิง่ ใด 12) ใชม้ ือข้างทยี่ งั ไมไ่ ด้ใสถ่ งุ มือเก็บซองถงุ มือใหเ้ รยี บร้อย 13) สวมถุงมือในลักษณะหงายมือ ใหป้ ลายนิ้วหอ้ ยลง น้วิ หัวแมม่ ือกางออก ระวังอยา่ ให้ มือสมั ผสั ดา้ นนอกของถุงมือ 14) จดั ถุงมอื ให้เรยี บรอ้ ย ตลบขอบถุงมือลง ระวงั อย่าสมั ผัสโดนขอ้ มอื 15) หากมกี ารปนเป้ือน (contamination) ไม่ว่าขัน้ ตอนใด ๆ ก็ตามต้องถอดถุงมือออก แลว้ ใส่ถงุ มอื คู่ใหม่ 1.2.3 การถอดถงุ มือที่ใช้แลว้ ภายหลังการใชถ้ งุ มือเสรจ็ ด้านนอกของถงุ มือถือว่าเป็นส่วนท่สี กปรกปนเป้ือน ห้ามให้มือ สัมผสั ด้านนอกของถงุ มือโดยปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 411
1) ใช้มอื ข้างที่ถนัดจับขอบด้านนอกของถุงมือ ค่อย ๆ ดงึ ถุงมือออก ให้ดา้ นในของถงุ มือ ตลบออกมาอยู่ด้านนอก 2) ใชม้ ือขา้ งที่ยังสวมถงุ มือ กำถุงมือที่ถอดออกแล้วไว้ในอุง้ มอื 3) ใช้มือข้างท่ีถอดถงุ มือแลว้ สอดเขา้ ไปดา้ นในของขอบถุงมือแลว้ ค่อย ๆ ดึงถุงมือออก ใหด้ า้ นในของถุงมือตลบออกมาอยู่ด้านนอก คลุมถุงมือท่ีอยู่ในองุ้ มือดว้ ย 4) ทงิ้ ถุงมือลงในถังขยะติดเช้อื 5) ลา้ งมือใหส้ ะอาดและเชด็ ให้แห้ง 1.3 วธิ ีการเปดิ หอ่ ของปลอดเชอื้ และการหยิบจับของปลอดเชอ้ื 1.3.1 การเปดิ ห่อของปลอดเชื้อ (sterile equipment) 1.3.1.1 การเตรียมอุปกรณ์ 1) ห่อปลอดเชอ้ื 1.3.1.2 มีวิธีการเปิดหอ่ ของปลอดเช้อื 1) ตรวจสอบสภาพห่อของปลอดเช้ือ ตอ้ งไม่มีการเปียกช้ือ ฉกี ขาด ดู วันหมดอายุที่ อยู่บนชุดปลอดเช้อื 2) วางชุดปลอดเชื้อลงบนกึ่งกลางพืน้ ท่ีที่ตอ้ งการเปดิ ห่อของปลอดเช้อื ใหด้ า้ นบนสุด ของผ้าห่อชดุ ปลอดเชือ้ เปดิ ออกจากตัวผเู้ ปดิ 3) ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับมุมบนสุดของผ้าแล้วเปิดไปด้านตรงข้าม โดยไม่ข้าม กรายของปลอดเชอ้ื 4) เปิดมุมผ้าด้านซ้ายและขวาออก โดยใช้มือซ้ายเปิดด้านซ้าย มือขวาเปิดด้านขวา ปอ้ งกนั การขา้ มกรายของปลอดเชอื้ 5) เปิดผ้ามมุ ดา้ นในสุด เข้าหาตัวผู้เปิด 1.3.2 การหยิบจับของปลอดเชอ้ื ของที่ปลอดเชื้อจะอยู่ในภาชนะที่มีฝาปิดหรือในห่อ เช่น หม้อนึ่งลำสี ก๊อส หรือถาด เครื่องมือเครื่องมือที่มีฝาปิด เมื่อจะหยิบจับของเหล่านี้ไปใช้ จะต้องรักษาของที่หยิบและของที่เหลือ ให้ปราศจากเชอื้ โดยใชป้ ากคีบส่งต่อ ซึ่งปลอดเชอ้ื (Transfer forceps) 1.3.2.1 การเตรียมอปุ กรณ์ 1) ปากคีบส่งตอ่ ปลอดเช้อื (Transfer forceps) 412
1.3.2.2 วิธีการหยิบจบั ของปลอดเชอ้ื มดี งั นี้ 1) หยิบ Transfer forceps ข้ึนจากกระปกุ ใหบ้ บี ปลาย Transfer forceps เข้าหา กัน ไมใ่ ห้ปลาย Transfer forceps สมั ผัสกับปากกระปกุ 2) การหยบิ Transfer forceps ให้ปลายควำ่ ลง และอย่สู ูงกว่าระดบั เอว ไมใ่ ห้ปลาย ของ Transfer forceps สัมผัสกบั สงิ่ ท่ีไม่ปลอดเช้ือ เช่น ขอบนอกของหม้อนึ่ง 3) หยบิ ของปลอดเชื้อโดยถือสง่ิ ของปลอดเชือ้ ใหส้ งู กว่าบริเวณที่ตอ้ งการวางของ ปลอดเชือ้ 4-6 นิ้ว ไม่ให้ปลายของ Transfer forceps สัมผสั กบั บริเวณท่ีวางนนั้ 4) กอ่ นเก็บ Transfer forcepsใหบ้ บี ปลายทงั้ สองขา้ งเขา้ ดว้ ยกัน เพื่อป้องกันปลาย forceps สัมผสั ปากกระปกุ 1.4 วธิ กี ารสวมและถอดเสอื้ กาวน์ปลอดเชือ้ (sterile gown) 1.4.1 การใส่เส้ือคลมุ ปลอดเชือ้ (sterile gown) การใส่เสื้อคลุมจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค เสื้อควรจะใหญ่และยาวเล็กน้อย เพียงพอทีจ่ ะคลมุ ชดุ เครื่องแบบได้มดิ ชดิ แขนยาว ขั้นตอนการใส่เสื้อคลุม ดงั น้ี 1) ลา้ งมือ 7 ขน้ั ตอนและเช็ดใหแ้ ห้ง 2) หยิบเสอ้ื คลมุ โดยจบั เฉพาะสว่ นที่อยูด่ า้ นใน ยกเส้อื คลมุ ข้ึน ไมใ่ ห้สัมผัสสง่ิ ใด 3) สอดแขนทงั้ สองข้างเข้าไปพร้อม ๆ กัน ยกแขนขนึ้ เหนอื ศีรษะ 4) ดงึ คอเสื้อขน้ึ มาชิดคอ ผกู เชอื กเปน็ เงือ่ นกระตุกทค่ี อเส้ือ 5) ผู้ช่วยจบั เชือกทเี่ ส้ือคลุมบริเวณเอวแล้วซอ้ นทบั กัน ผกู เปน็ เงือ่ นกระตุกทเ่ี อว 1.4.2 วิธีการถอดเสื้อคลมุ 1) กระตุกเชือกทีเ่ อวออก หลกี เลยี่ งการสมั ผสั ด้านนอกของเสอื้ 2) กระตุกเชือกที่คอ 3) ถอดเสอื้ คลมุ ออก ตลบตวั เส้อื ทสี่ มั ผัสสิ่งปนเปอ้ื นไวด้ ้านใน 4) ทิง้ ลงตะกรา้ หรือถงั ผา้ ตดิ เชอ้ื 5) ล้างมอื 7 ขัน้ ตอนและเช็ดใหแ้ ห้ง ลำดับการใสเ่ ครื่องป้องกันร่างกาย มีดังนี้ ล้างมือ ใส่ผ้าปิดปากและจมูก ใส่เสื้อคลุม ใส่ถุงมือ สำหรบั ลำดับการถอดเครื่องป้องกันร่างกาย คือ ถอดถุงมือ ถอดเสื้อคลุม ล้างมือ ถอดผ้าปิดปากและจมูก ลา้ งมือ 413
1.5 บทสรปุ การปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชือ้ และควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ ด้วยการล้างมือ การหยิบ จับของปลอดเชื้อและการสวมใส่อุปกรณ์ปลอดเชื้อเป็นทักษะที่สำคัญที่พยาบาลต้องฝึกฝนจนเกิด ทกั ษะได้ 1.6 แบบประเมนิ ทักษะปฏบิ ัติการพยาบาลพ้นื ฐาน แบบประเมินทักษะการลา้ งมือ (Hand washing) ชือ่ ...............................................สกุล................................................รหสั นักศกึ ษา.............................. คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ลงทตี่ รงกบั ผลการปฏบิ ตั ิ ลำดบั รายการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ 1. ถอดนาฬกิ าและเคร่ืองประดับ ถา้ แขนเส้ือยาวพบั แขน (1) (0) เสอ้ื ขนึ้ เหนอื ข้อศอก 2. ยืนในทา่ ทสี่ บายห่างจากอ่างน้ำเล็กนอ้ ยระวงั อยา่ ให้ เสอ้ื ผ้าสัมผสั ถูกอ่างนำ้ 3. เปดิ ใหน้ ้ำไหล ปรบั การไหลให้พอดี 4. เปดิ นำ้ ราดมือท้งั สองขา้ งถงึ ข้อมือ ความแรงพอประมาณ 5. ฟอกสบทู่ ฝี่ า่ มือทัง้ 2 ข้าง 6. ฟอกขัดถกู มือให้ทว่ั ทกุ ดา้ นของมือทงั้ 2 ขา้ ง และฟอกขัด ถู 7 ข้ันตอน 1. ใชฝ้ า่ มือถกู นั 2. ฝ่ามอื ถหู ลังมือและกางน้ิวเพ่ือถงู ่ามนิว้ มือ 3. ฝา่ มอื ถูฝ่ามือและกางนิ้วเพ่ือถูงา่ มน้วิ มือ 4. กำมอื และใช้ฝา่ มืออีกข้างถูหลงั น้ิวมอื 5. ถูหวั แม่มอื โดยรอบดว้ ยฝา่ มอื 6. ปลายน้วิ มอื ถขู วางฝา่ มือ 7. ถูรอบข้อมือ 7. ล้างมือและข้อมือโดยให้นำ้ ผา่ นตลอดทั้งมือ พรอ้ มขัดถูมอื ให้ท่ัวทกุ ดา้ น 414
ลำดับ รายการประเมิน ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ เหตุ 8. ปดิ น้ำโดยใช้ขอ้ ศอก หรือล้างบริเวณก๊อกนำ้ ก่อนใชม้ ือปิด (1) (0) 9. เชด็ มือและขอ้ มอื ให้แหง้ ดว้ ยผ้าหรือกระดาษท่ีแหง้ สะอาด จากปลายนว้ิ ถึงข้อมือ รวมคะแนน (9 คะแนน) แบบประเมนิ ทักษะการใสถ่ ุงมือปราศจากเช้อื (Sterile Gloves) ช่อื ..........................................สกุล......................................................รหสั นักศกึ ษา.............................. คำชแ้ี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงทต่ี รงกับผลการปฏิบัติ ลำดับ รายการประเมิน ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏิบัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ การใสถ่ ุงมือ (1) (0) ขน้ั เตรียม 1. เลอื กขนาดถุงมือทเี่ หมาะสม ขัน้ ปฏบิ ตั ิ 2. ล้างมือ 7 ข้นั ตอนให้สะอาด 3. วางซองถุงมือบรเิ วณที่แหง้ สะอาด อยูส่ งู กว่าระดับเอว 4. คลซ่ี องถุงมืออกอย่างระมัดระวงั ไม่ใหถ้ ุงมือสัมผสั ภายนอก 5. เผยอด้านนอกของซองถุงมือ ตรวจสอบรอยพับของถุง มือให้อยู่ด้านผู้สวมใส่ ใหถ้ งุ มือวางในตำแหน่งซา้ ย-ขวา ในทา่ หงายมือตามลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ 6. เร่มิ ใสถ่ งุ มือข้างทถ่ี นัดก่อน โดยใชม้ ือข้างท่ีถนัดเผยอ ด้านนอกของซองถงุ มอื ออก 7. ใชน้ ้วิ หัวแม่มอื นวิ้ ช้ี และน้วิ กลางของขา้ งที่ไม่ถนัด หยิบ ถุงมือข้างทถี่ นัดตรงรอยพับด้านในของถุงมือ 8. ยกถงุ มืออกจากซอง โดยดา้ นนอกของถงุ มือต้องไม่ สัมผสั สิ่งใด 415
ลำดบั รายการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ 9. ใส่ถุงมือข้างทีถ่ นัดในลักษณะหงายมือ ให้ปลายนว้ิ หอ้ ย (1) (0) ลง น้วิ หวั แม่มืออยดู่ ้านหนา้ ของฝา่ มือ 10. ใชม้ อื ขา้ งทไ่ี ม่ได้ใสถ่ ุงมอื เผยอดา้ นนอกของซองถุงมอื อก ใหก้ วา้ ง จนเหน็ รอยพบั ของถุงมอื 11. หยบิ ถุงมืออกจากซองโดยใช้ปลายน้วิ มอื 4 น้ิว (นิ้วช้ี นิ้วกลาง น้ิวนาง นว้ิ กอ้ ย) ของมือขา้ งทส่ี วมถุงมือแล้ว สอดเข้าไปในรอยพับของถุงมือ 12. ยกถุงมืออกจากซองโดยไม่ให้สมั ผัสส่ิงใด 13. ใชม้ อื ข้างท่ยี งั ไม่ไดใ้ ส่ถงุ มือเก็บซองถุงมือใหเ้ รียบรอ้ ย 14. สวมถุงมอื ในลกั ษณะหงายมือ ใหป้ ลายนว้ิ ห้อยลง น้วิ หวั แม่มอื กางออก ระวังอย่าใหม้ ือสัมผัสด้านนอกของ ถุงมือ 15. จัดถุงมือให้เรยี บรอ้ ย ตลบขอบถุงมือลง ระวังอย่าสัมผสั โดนขอ้ มือ การถอดถงุ มือ 16. ใช้มือข้างที่ถนัดจับขอบดา้ นนอกของถุงมือ ค่อย ๆ ดงึ ถุงมือออก ใหด้ ้านในของถุงมือตลบออกมาอยู่ด้านนอก 17. ใช้มือข้างที่ยงั สวมถุงมือ กำถุงมือท่ีถอดออกแลว้ ไว้ในอุง้ มอื 18. ใช้มือข้างทถี่ อดถุงมือแล้ว สอดเขา้ ไปด้านในของขอบถงุ มือแลว้ ค่อย ๆ ดงึ ถุงมือออก ให้ดา้ นในของถุงมอื ตลบ ออกมาอยู่ด้านนอก คลมุ ถุงมือที่อยใู่ นอุ้งมือด้วย 19. ล้างมอื ใหส้ ะอาดและเช็ดให้แหง้ 20. ท้ิงถุงมือลงในถงั ขยะติดเชื้อ รวมคะแนน (20) 416
แบบประเมินทักษะเปดิ ห่อของปราศจากเชื้อและการหยิบจับของปราศจากเช้ือ ช่ือ.........................................สกลุ ................................................รหสั นกั ศกึ ษา........................... คำช้แี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงท่ีตรงกับผลการปฏบิ ัติ ลำดบั รายการประเมิน ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ (1) (0) 1 ข้นั เตรยี ม เตรียมของใช้ - หอ่ ของปราศจากเชื้อ - กระปุกใสป่ ากคีบกลาง - ภาชนะบรรจุของปราศจากเชอ้ื เชน่ อับสำลี หม้อน่ึง 2 ข้ันปฏบิ ัติ ลา้ งมอื 7 ขนั้ ตอนให้สะอาด 3 วางหอ่ ของปราศจากเชื้อบนโตะ๊ 4 ใช้มอื ขา้ งหนึ่งห่อของโดยให้มุมแรกที่เปิดออกอยู่ด้าน ตรงข้ามกบั ทยี่ ืนอยู่ 5 ใช้มืออีกข้างจับมุมผา้ ห่อของ มือขวาจบั มุมหอ่ ผ้า ดา้ นขวา เปดิ ออกด้านขวา มือซ้ายจับมุมหอ่ ผา้ ด้านซา้ ย เปดิ ออกด้านซ้าย 6 จบั มุมผ้ามุมสุดท้าย เปดิ เขา้ ทางตวั พยาบาล 7 ใช้มอื ขา้ งทถ่ี นัดจับปากคบี ตรงส่วนทพ่ี ้นจากปากกระปกุ ใหป้ ลายหนบี เขา้ หากัน 8 ยกปากคีบขึน้ ตรงๆ โดยไม่สมั ผสั กับปากกระปุก และถือ ปากคบี ใหป้ ลายชี้ลงข้างล่างเสมอ 9 เปดิ ภาชนะบรรจขุ องปราศจากเชือ้ โดยคว่ำฝาลง เมื่อถือ ไวใ้ นมอื หรือหงายขึน้ เม่ือตอ้ งการวาง 10 ใชป้ ากคีบหยิบของ เชน่ สำลี หรอื ผ้ากอ๊ ซออกจาก ภาชนะบรรจไุ ปใส่ในหอ่ ของที่เปดิ ไว้ โดยไมป่ นเปื้อน 11 ปิดฝาภาชนะท่ีบรรจขุ องปราศจากเชอื้ อยา่ งถกู ต้อง 12 เกบ็ ปากคีบกลางโดยหนบี ปลายเขา้ หากันแลว้ ใส่ลงไปใน กระปุก 13 ปิดห่อของปราศจากเชอ้ื ตามข้ันตอน รวมคะแนน (13 คะแนน) 417
แบบประเมินทักษะการสวมและถอดเสือ้ กาวน์ปลอดเชอื้ (sterile gown) ช่อื .....................................................สกุล.....................................รหสั นักศึกษา............................ คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ลงท่ตี รงกับผลการปฏิบัติ ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ เหตุ การใสเ่ สอื้ กาวน์ (1) (0) 1 ลา้ งมอื 7 ข้ันตอน ใหส้ ะอาด 2 จบั เสื้อยกออกจากที่วาง ท้ิงชายเส้ือลง ยกคอและแขน เสื้อใหส้ งู ขึ้น 3 สอดมือทงั้ สองขา้ งเขา้ บริเวณคอเสือ้ ด้านใน ระวงั ไม่ให้ มือทง้ั สองข้างโผลอ่ อกมานอกแขนเสอ้ื 4 ใหผ้ ู้ช่วยขยบั เสือ้ ใหเ้ ข้าท่ีแล้วผูกเชือกท่ีคอดา้ นหลงั 5 จบั ชายเสอ้ื ดา้ นขวาทับดา้ นซ้ายใหป้ ดิ เส้อื ผ้าผู้สวมใส่ มิดชดิ และผกู เชือกท่เี อวไว้เป็นเงื่อนกระตกุ การถอดเสอ้ื กาวน์ 6 ปลดเชือกท่ผี ูกคอเสอ้ื เชอื กผูกเอวออก 7 เล่ือนแขนออกจากตวั เสอื้ 8 ตลบดา้ นในของตวั เส้ือออกคลุมดา้ นนอก มว้ นแล้ว นำไปใสถ่ งั ผา้ เปื้อน 9 ลา้ งมือใหส้ ะอาดและเช็ดให้แหง้ รวมคะแนน (9 คะแนน) 418
1.7 เอกสารอา้ งอิง ณฐั สรุ างค์ บญุ จันทร์ และคณะ. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล 1. กรงุ เทพฯ: โครงการตำรา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน : หลักการและแนวคิด. กรุงเทพฯ: วิทยาลยั พยาบาลสภากาชาดไทย. สัมพันธ์ สันทนา คณิต สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน II. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท บพธิ การพิมพจ์ ำกดั . สุปราณี เสนาดิสัย และวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: บริษัทจุด ทอง จำกดั . สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน 1. กรงุ เทพฯ : บริษทั บพิธการพมิ พ์ จำกดั . อัจฉรา พุ่มดวง. (2555). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บริษัท ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์. (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั จรลั สนทิ วงศ์การพิมพ์ จำกัด. Anne GP. (2016). Nursing Interventions & Clinical Skills. St. Louis : Mosby Elsevier. Barbara KT. (2017). Fundamental Nursing Skills and Concepts. Philadelphia : Walters Kluwer. Jeanette I.Webster Marketon and Ronald Glaserac. ( 2008) . Stress hormones and immune function. Cellular immunology: 252(1-2); 16-26. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing . 8th ed. Philadelphia : Walters Kluwer. Patricia AP. (2017). Fundamentals of Nursing. St. Louis : Mosby Elsevier. Potter PA, Perry AG, Stockert PA and HALL AM. ( 2012). Nursing Interventions & Clinical skills. 5thed. St. Louis : Mosby Elsevier. 419
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทท่ี 2 วธิ ปี ฎบิ ตั กิ ารพยาบาลพื้นฐานในการวัดและประเมินสญั ญาณชพี หวั ข้อเน้ือหาประจำบท 1. วิธีการวดั อณุ หภมู ิรา่ งกาย (Temperature measurement) 2. วิธกี ารวดั ชพี จร (pulse measurement) 3. วธิ กี ารวดั อัตราการหายใจ (Respiratory measurement) 4. วธิ ีการวัดความดันโลหติ (Blood pressure measurement) จำนวนชวั่ โมงท่สี อน: ภาคทดลอง 2 ชว่ั โมง วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. ปฏบิ ตั ิการวดั และประเมินสัญญาณชีพได้ถกู ตอ้ ง วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 สอนสาธิตและสาธติ ยอ้ นกลับ 2. กิจกรรมการเรียนการสอน 2.1 สอนสาธิตการวัดและประเมนิ สญั ญาณชีพและบนั ทกึ สัญญาณชีพในรายงานผปู้ ่วย 2.2 ผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตแิ ละสาธิตย้อนกลับ 2.3 สะทอ้ นคดิ การฝกึ ปฏบิ ัติและสรุปผลการเรียนรู้ 2.4 ผเู้ รียนยมื วสั ุด อุปกรณ์ไปฝกึ ปฏิบตั ติ ่อนอกเวลาเพอ่ื ให้เกดิ ทักษะ สอื่ การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. วสั ดุ อปุ กรณ์ทางการแพทยใ์ นห้องปฏบิ ตั กิ าร 3. ใบบันทึกสัญญาณชีพ ฟอร์ปรอท ดาวโหลดจาก http://nurse.pbru.ac.th 420
การวัดผลและประเมินผล 1. ประเมินผลการสาธิตย้อนกลับ ตามแบบประเมนิ ทักษะ 2. การสอบทกั ษะปฏิบัติแบบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 421
บทที่ 2 วิธีปฎิบัตกิ ารพยาบาลพ้นื ฐาน ในการวดั และประเมินสัญญาณชพี การวัดและประเมินสัญญาณชีพ (Vital signs) ประกอบด้วย การวัดอุณหภูมิร่างกาย อัตรา การหายใจ อัตราชีพจร ความดันโลหิตและการประเมินความปวด ภายหลังการการวัดและประเมิน สัญญาณชีพจำเป็นต้องนำไปบันทึกในรายงานผู้ป่วยใน รายละเอียดวิธีการวัดและประเมินสัญญาณ ชพี ดังรายละเอียดตอ่ ไปนี้ 2.1 วธิ กี ารวดั อณุ หภูมิรา่ งกาย (Temperature measurement) 2.1.1 การเตรียมอปุ กรณ์เคร่อื งใช้ 1) ปรอทวดั อณุ หภูมทิ ่ีสะอาด 2) นาฬิกาทมี่ เี ขม็ วนิ าที 3) ภาชนะใสก่ ระดาษทชิ ชูท่ีสะอาด 4) ภาชนะสำหรับทิง้ กระดาษทชิ ชทู ีใ่ ชแ้ ลว้ 5) นำ้ สบู่/ผงซกั ฟอก 6) กระดาษบันทกึ สญั ญาณชีพ (ฟอร์มปรอท) 7) น้ำยาฆา่ เชือ้ 8) สารหลอ่ ลืน่ KY jelly สำหรบั วัดปรอททางทวารหนกั 9) ถุงมือสะอาด (disposable gloves) 2.1.2 วธิ ปี ฏิบตั ิ 2.1.2.1 การวัดอณุ หภูมทิ างปาก (Oral temperature measurement) 1) ล้างมือใหส้ ะอาด 2) บอกใหผ้ ้ปู ่วยทราบ 3) หยิบปรอทสะอาดโดยใช้มือจบั ท่ปี ลายด้านทไี่ ม่เปน็ กระเปาะที่มีปรอทบรรจุ 4) หงายปรอทบริเวณด้านที่มีสเกลตัวเลขขึ้น หมุนข้อมือพลิกไปมาจนเห็นระดับ ปรอทที่ชัดเจนและดูค่าระดับปรอทให้ต่ำกว่า 35.5 ๐C และให้จับปรอทอย่างมั่นคง จากนั้นให้สลัด 422
ปรอทด้วยข้อมือจนระดับปรอทอยู่ต่ำกว่า 35.5 ๐C เพื่อให้ระดับปรอทก่อนวัดอยู่ต่ำกว่าอุณหภูมิ ร่างกายท่ีปกติ 5) จดั ใหผ้ ูป้ ว่ ยอยู่ในท่านอนหงายหรือท่าน่ัง บอกผปู้ ่วยใหอ้ า้ ปากและกระดกลิน้ ขึ้น 6) คอ่ ยๆ วางปลายปรอทท่ีเปน็ กระเปาะที่มีปรอทบรรจุอยูอ่ ยา่ งเบามือบริเวณใต้ลิ้น ระหว่างเนื้อเยื่อพังผืดใต้ลิ้น (frenulum) ที่ยึดเกาะระหว่างใต้ลิ้นกับพื้นล่างของช่องปาก เพื่อให้ เทอรโ์ มมิเตอร์สัมผสั กบั เส้นเลอื ดซึ่งอยูบ่ ริเวณโคนลิ้นดา้ นหลงั 7) บอกให้ผู้ป่วยอมปรอทไว้และปิดปากให้สนิท ทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อป้องกันอากาศ จากจากสภาพแวดลอ้ มภายนอกเข้าไปมีอทิ ธิพลต่อปรอทในกระเปาะ 8) เมื่อครบ 3-5 นาที ให้เอาปรอทออกจากปากผู้ป่วย ใช้กระดาษทิชชูที่สะอาดเช็ด นำ้ ลายออกจากปรอทต้งั แต่บริเวณใต้มอื จับไปจนถงึ ปลายกระเปาะปรอท 9) ยกปรอทตามแนวนอนใหอ้ ยใู่ นระดับสายตาเพือ่ อ่านค่าอณุ หภมู ิ 10) บอกค่าอุณหภมู ิทีว่ ดั ไดแ้ ก่ผปู้ ว่ ย 11) นำปรอทที่ใช้แล้วไปใช่ในถาดที่มีน้ำสบู่ จากนั้นล้างปรอทให้สะอาดเช็ดให้แห้ง นำปรอทที่แห้งไปแช่ในถาดที่มีน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยให้น้ำยาท่วมปรอท แช่ตามระยะเวลากำหนดของ น้ำยาฆ่าเช้ือน้ันๆ ให้แช่อย่างน้อย 10 นาที แล้วนำมาลา้ งน้ำสะอาดอีกครั้ง เช็ดให้แหง้ พร้อมทั้งสลดั ปรอทใหค้ ่าอยตู่ ่ำกว่า 35.5 ๐ C แลว้ นำไปเก็บไว้ในถาดสะอาด 12) ล้างมือให้สะอาด 13) บันทกึ อุณหภูมิลงในฟอรม์ ปรอทและบนั ทึกทางการพยาบาล 1.1.2.2 การวัดอณุ หภมู ิทางรักแร้ (Axillary temperature measurement) 1) ลา้ งมือใหส้ ะอาด 2) บอกใหผ้ ปู้ ่วยทราบ 3) หยิบปรอทสะอาดออกจากถาด โดยใช้มือจับที่ปลายด้านที่ไม่เป็นกระปาะที่มี ปรอทบรรจุ 4) หงายปรอทบริเวณด้านที่มีสเกลตัวเลขขึ้น หมุนข้อมือพลิกไปจนเหน็ ระดับปรอท ที่ชดั เจนและดูค่าระดับปรอทให้ต่ำกว่า 35.5 ๐ C ถา้ คา่ สงู กว่าให้จับปรอทอย่างมนั่ คง จากน้ันให้สลัด ปรอทด้วยข้อมือจนระดับปรอทอยู่ต่ำกว่า 35.5 ๐ C เพื่อให้ระดับปรอทก่อนวัดอยู่ต่ำกว่าอุณหภูมิ ร่างกายที่ปกติ (ถ้าเป็นเทอร์โมมิเตอร์แบบอิเล็กโทรนิก ให้นำออกจากกล่อง แล้วรอจนอุณหภูมิท่ี หน้าจอปรอทขึ้นท่ี 35.5 ๐ C) 5) จดั ใหผ้ ้ปู ่วยอยู่ในทา่ นอนหงายหรือนั่ง 6) ยกแขนของผู้ป่วยขึ้น พร้อมทั้งสอดปรอทเข้าใต้รักแร้ ให้กระเปาะปรอทอยู่ บริเวณกลางรักแร้พอดี เพื่อให้ปรอทได้สัมผัสกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณรักแร้ (axillary blood 423
supply) เพื่อให้ได้ค่าปรอทที่ถูกต้อง ถ้ารักแร้ชื้นให้ใช้ผ้าซับให้แห้ง เพราะความชื้นจะทำให้ได้ค่า อุณหภูมิต่ำกว่าค่าจริง แต่ไม่ควรถูไปมาเพราะจะทำให้อุณหภูมิที่รักแร้เพิ่มขึ้น นอกจากการสำรวจ ความช้นื แล้ว ควรจะตอ้ งตรวจดดู ว้ ยวา่ รกั แร้มีแผลหรอื ไม่ ถ้ารกั แรม้ ีแผล จะทำให้อุณหภูมใิ นตำแหน่ง ทีว่ ัดเปลยี่ นแปลงได้ และทำใหผ้ ู้ปว่ ยเกิดความเจ็บปวดเมื่อถกู สมั ผัสแผลได้ 7) หุบแขนของผู้ป่วยในลักษณะที่หนีบปรอทไว้ พร้อมท้ังวางปลายมือของผู้ป่วยไว้ บนหน้าอก ทิ้งไว้ 5 นาที (สำหรับเทอร์โมมิเตอร์แบบอิเล็กทรอนิก จับ probe ให้อยู่ในตำแหน่ง จนกระท่งั ได้ยนิ เสียงสญั ญาณดงั ขนึ้ อุณหภมู ิจะปรากฏอย่บู นจอมอนเิ ตอร)์ 8) เมื่อครบ 5 นาที ให้เอาปรอทออกจากรักแร้ผู้ป่วย ใช้กระดาษทิชชูที่สะอาดเช็ด เหงือ่ อกจากปรอทตงั้ แตใ่ ตม้ ือจบั ไปจนถึงปลายกระเปาะอีกดา้ นหน่ึง 9) ยกปรอทแนวนอนใหอ้ ยู่ในระดบั สายตาเพ่ืออา่ นคา่ อุณหภมู ิ 10) บอกคา่ อณุ หภมู ิท่ีวดั ได้แก่ผู้ปว่ ย และจดั แขนเสื้อของผู้ป่วยใหเ้ รียบร้อย 11) นำปรอทที่ใช้แล้วไปใช่ในถาดที่มีน้ำสบู่ จากนั้นล้างปรอทให้สะอาดเช็ดให้แห้ง นำปรอทที่แห้งไปแช่ในถาดที่มีน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยให้น้ำยาท่วมปรอท แช่ตามระยะเวลากำหนดของ น้ำยาฆ่าเช้ือนั้นๆ ให้แช่อย่างนอ้ ย 10 นาที แล้วนำมาลา้ งน้ำสะอาดอีกครัง้ เช็ดให้แหง้ พร้อมทั้งสลดั ปรอทใหค้ า่ อยตู่ ่ำกว่า 35.5 ๐ C แลว้ นำไปเก็บไวใ้ นถาด (สำหรบั เทอรโ์ มมเิ ตอร์แบบอิเล็กทรอนิก เช็ด ทำความสะอาดดว้ ยแอลกอฮอล์ 70%) 12) ลา้ งมอื ให้สะอาด 13) บันทึกอุณหภูมิลงในฟอร์มปรอท โดยเพิ่ม 0.5 oC และลงบันทึกในบันทึก ทางการพยาบาล 2.1.2.3 การวดั อุณหภมู ทิ างทวารหนกั (Anal temperature measurement) 1) บอกให้ผูป้ ว่ ย / มารดารบั ทราบ 2) กั้นม่านหรือปิดประตู 3) ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงซ้ายหรือขวา งอขาที่อยู่ด้านบน คลุมผ้า เปิดเฉพาะบริเวณ ก้น 4) ลา้ งมือและเช็ดมอื ให้แห้ง มือข้างทีถ่ นัดควรสวมถุงมือขณะทำการวดั 5) สลดั ปรอทลงกระเปาะหรือใหต้ ำกวา่ 35.5 ๐ C 6) จุม่ กระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ท่ีสะอาดลงในวาสลีนทใี่ ส่ไว้ในอบั /กระปุก หรือบีบสาร หล่อลื่น K-Y jelly ลงบนกระดาษทิชชูหรือผ้าก๊อซ ลูบที่ปลายด้านกระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ ยาว ประมาณ 1-1.5 นวิ้ 7) ใชม้ อื ดา้ นที่ไมถ่ นัดดันแก้มกน้ ด้านบนของผู้ป๋วยให้ยกข้นึ จนเหน็ รูทวารหนัก 424
8) แนะนำให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้ กล้ามเนื้อหูรูดชั้นนอกของทวารหนักคลายตัว สอดเทอร์โมมิเตอรอ์ ย่างนุ่มนวลเขา้ ทางรูทวารหนักลกึ ประมาณ 1.5 นว้ิ ถ้ารู้สึกวา่ มีแรงตา้ นขณะสอดเขา้ ไป ให้ดงึ ออก อยา่ ออกแรงดนั จะทำให้เกิดบาดแผล ขน้ึ ได้ 9) จบั เทอรโ์ มมิเตอร์ให้อย่ใู นตำแหน่งนาน 2 นาที 10) ดึงเทอรโ์ มมเิ ตอร์ออกจากรูทวารหนกั 11) เช็ดเทอร์โมมิเตอร์ด้วยกระดาษทิชชู จากด้านมือจับลงไปทางปลายด้าน กระเปาะ ทง้ิ กระดาษทิชชูลงในภาชนะสำหรบั ใส่ของตดิ เชือ้ 12) ยกเทอรโ์ มมเิ ตอร์ข้นึ ให้อยรู่ ะดบั สายตาในแนวนอน พลิกเทอร์โมมเิ ตอร์ไปมาจน เหน็ ระดับปรอท อา่ นอณุ หภมู ิให้ถูกตอ้ ง 13) ใช้กระดาษทิชชูเช็ดสารหล่อลื่น ส่วนเกินที่เหลือค้างบริเวณรูทวารหนักออกให้ หมด จัดผ้ปู ่วยใหอ้ ย่ใู นท่าทีส่ ขุ สบาย 14) ถอดถุงมอื ท้ิง 15) แช่เทอร์โมมเิ ตอร์ทใ่ี ชแ้ ล้วลงในภาชนะทีบ่ รรจนุ ้ำยาฆา่ เชอื้ นาน 30 นาที 2.2 วิธีการวดั ชีพจร (pulse measurement) 2.2.1 อุปกรณ์เคร่ืองใช้ 1) นาฬกิ าท่มี ีเขม็ วนิ าที 2) กระดาษบนั ทกึ สญั ญาณชีพ 1.2.2 วธิ ีปฏบิ ัติ 1) ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด 2) บอกให้ผปู้ ว่ ยทราบ 3) จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงายโดยให้แขนข้างที่จะวัดอยู่ข้างลำตัวหรือวางไว้บนหน้าอก พรอ้ มใหผ้ ้ปู ว่ ยหงายฝา่ มือขน้ึ หรอื จะจดั ให้ผปู้ ่วยอยู่ในท่าน่ังพร้อมวางมอื ไว้บนตกั แล้วหงายฝ่ามือข้ึน หรืออาจวัดระหว่างทีผ่ ู้ป่วยอมปรอทเพอื่ วัดอณุ หภมู ิอยู่ 4) วางปลายนิ้วช้ี นิ้วกลาง นิ้วนาง ตรงบริเวรหลอดเลือดเรเดียล (radial artery) ท่ี ข้อมือด้านหัวแม่มือของผู้ป่วย คลำจนพบตำแหน่งที่สัมผัสได้ถึงการเต้นของชีพจร ไม่ใช้นิ้วหัวแม่มือ คลำตำแหน่งชีพจรเนื่องจากผู้จับชีพจรอาจรู้สึกการเต้นชีพจรของตนเองและทำให้การนับชีพจรคาด เคลื่อน กดเบาๆ ที่ตำแหน่งนั้น การกดเบาๆ เพื่อป้องกันการปิดกั้นการไหลของเลือด (occlusion of blood flow) 425
5) นับชีพจรให้ครบ 1 นาที โดยประเมินอัตราการเต้น จังหวะการเต้น ความสม่ำเสมอ และความแรงหรือเบาของชพี จร 6) บอกค่าชีพจรท่ีวดั ไดแ้ ก่ผ้ปู ว่ ย พรอ้ มจดั ทา่ ให้ผู้ป่วยอยใู่ นท่าทสี่ ุขสบาย 7) ล้างมือใหส้ ะอาด 2.3 วธิ ีการวัดอตั ราการหายใจ (Respiratory measurement) 2.3.1 อุปกรณ์เครอื่ งใช้ 1) นาฬิกาที่มเี ข็มวินาที 2.3.2 วิธปี ฏิบตั ิการวัดอัตราการหายใจ 1) ล้างมือให้สะอาด 2) จดั ทา่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยนอนหงายโดยให้มือข้างใดข้างหนึ่งวางไว้บนหนา้ อก หรืออาจใช้มือข้าง หนึ่งวางบนหน้าอกหรือหน้าท้องของผู้ป่วย หรืออาจวัดระหว่างที่วัดอุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยหรือ ภายหลงั การวดั ชีพจร โดยใหค้ งวางมอื ในลกั ษณะจับชพี จร หรอื อาจวัดในขณะทผ่ี ูป้ ว่ ยอยใู่ นทา่ นัง่ ก็ได้ 3) นับการหายในให้ครบ 1 นาที โดยสังเกตแขนของผู้ป่วยที่วางไว้บนหน้าอก หรือมือผู้ วัดที่วางไว้บนผนังหน้าอกหรือหน้าท้องของผู้ป่วยขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจเข้าและออก การ นับการหายใจ 1 ครั้งจะนับจากการขยายตัวและหดตัวของกระดูกซี่โครงและกระบังลมที่บริเวณอก ในระหวา่ งนับการหายใจใหส้ งั เกตลักษณะ อัตรา จงั หวะ และความสม่ำเสมอของการหายใจ 4) บอกค่าการหายใจท่ีวดั ไดแ้ กผ่ ้ปู ว่ ย พรอ้ มจดั ท่าให้ผปู้ ่วยอยู่ในท่าที่สขุ สบาย 5) ล้างมือใหส้ ะอาด 2.4 วธิ กี ารวดั ความดันโลหิต (Blood pressure measurement) 2.4.1 อุปกรณ์เครอ่ื งใช้ 1) เครื่องวัดความดนั โลหติ (Sphygmomanometer) 2) หฟู ัง (Stethoscope) 3) สำลชี ุบแอลกอฮอล์ 70% 4) แผ่นบนั ทกึ สญั ญาณชีพ 5) ฟอรม์ ปรอทและบนั ทึกทางการพยาบาล 2.4.2 วิธปี ฏบิ ัติ 1) ลา้ งมือให้สะอาด 2) บอกใหผ้ ู้ป่วยทราบ 426
3) เลือกแขนข้างที่จะวัดความดันโลหิต ควรเลือกแขนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่มีสาย น้ำเกลอื ไหลอยู่ ตำแหนง่ ท่ีควรหลกี เลย่ี งท้ังนเี้ พ่ือป้องกันไม่ให้เกดิ ปัญหาเลือดไหลเวยี นไม่สะดวก เช่น แขนที่ได้รับการทำทางเบี่ยงหลอดเลือด ชนิด AV- shunt และ AV fistula สำหรับฟอกเลือดด้วย เครื่องไตเทียม แขนข้างที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเต้านมและเลาะต่อมเหลือง (Modified radical mastectomy: MRM) 4) จัดท่าให้ผูป้ ่วยนอนหงายหรือท่านั่ง โดยให้เหยียดแขนข้างท่ีจะวัดให้อยู่ในท่าที่สบาย พร้อมทง้ั หงายฝ่ามอื ขน้ึ เลือ่ นแขนเสอื้ ข้างทจ่ี ะวัดให้เหนอื ขอ้ ศอกมากทสี่ ุด 5) วางเคร่ืองวดั ความดันโลหติ ให้อยูใ่ นระดบั หวั ใจ 6) ตรวจสอบระดับปรอทหรือเข็มของเครื่องวัดให้อยู่ที่ตำแหน่งเริ่มต้น ถ้าไม่อยู่ใน ตำแหนง่ เรม่ิ ต้นใหไ้ ล่อากาศออกจากผา้ พนั โดยหมุนคลายเกลยี วปลอ่ ยลม อาจใชม้ อื บีบผา้ พนั ให้เรียบ สนมิ เพ่ือไลอ่ ากาศที่อยู่ภายในผ้าออกใหห้ มด 7) ทำความสะอาดตรงหฟู งั และแปน้ ของหฟู ังดว้ ยสำลีชบุ แอลกอฮอล์ 70% 8) พันผ้ารอบแขนเหนือบริเวณเส้นเลือดแดงเบรเคียล (brachial artery) ให้ขอบผ้า ด้านล่างอยู่เหนือบริเวณข้อพับของข้อศอก (antecubital fossa) ขึ้นไปอย่างน้อย 2 เซนติเมตร พัน ใหแ้ นน่ พอดี โดยให้สายยางทัง้ 2 อยู่ระหวา่ งเส้นเลอื ดแดงเบรเคยี ล (brachial artery) 9) ในกรณีที่ไม่ทราบค่าความดันโลหิตของผู้ป่วยมาก่อน หาค่าประมาณความดันซีสโต ลิค (systolic pressure) ของผปู้ ่วยโดยวางปลายนิว้ ลักษณะเดียวกับการจบั ชพี จร แล้วหมุนบดิ เกลียว ให้แน่น บีบลูกยางให้ระดับปรอทสูงขึ้นจนกว่าชีพจรจะหายไป พร้อมอ่านค่าประมาณความดันซีสโต ลิค ณ จดุ นั้น 10) คลำหาตำแหน่งชีพจรเสน้ เลอื ดเบรเคียลท่ีชดั ทสี่ ดุ 11) ใส่หูฟังโดยให้ส่วนปลายโค้งหันออก แล้ววางแป้นของหูฟังตรงตำแหน่งชีพจรที่คลำ ได้กดแป้นเบาๆ 12) ค่อยๆ หมุนเปิดเกลียวปลอ่ ยลมออกให้หมดอีกคร้ัง ให้ปรอทหรือเข็มอยู่ในตำแหนง่ ที่เริ่มต้น แล้วหมุนปิดเกลียว จากนั้นค่อยๆ บีบลูกยางด้วยอุ้งมือ ให้ระดับปรอทหรือเข็มสูงขึ้น 150- 180 มิลลิเมตรปรอท หรือเกินกว่าค่าประมาณความดันซีสโตลิคของผู้ป่วยหรือค่าความดันซีสโตลิค ของผ้ปู ว่ ยท่ีวัดไดค้ รงั้ สดุ ท้ายขึน้ ไปอีก 20 มิลลเิ มตรปรอท 13) ค่อยๆ หมุนเปิดเกลียวให้ลมออกช้าๆ ฟังเสียงตุ๊บแรกที่ได้ยินคือ ค่าความดันซีสโต ลิคและเสียงตุ๊บสดุ ท้ายกอ่ นเสยี งหายไปคอื ค่าความดันไดแอสโตลิค 14) ปล่อยลมออกให้หมดจนปรอทหรือเข็มอยู่ในตำแหน่งที่เริ่มต้น ปลดผ้าพันแขนออก พนั เก็บใหเ้ รียบรอ้ ย 15) บอกค่าความดันโลหติ ทวี่ ดั ได้แก่ ผปู้ ว่ ย พรอ้ มจัดท่าใหผ้ ปู้ ่วยอยู่ในทา่ ทส่ี ุขสบาย 427
16) ทำความสะอาดตรงหฟู ังและแป้นของหูฟังด้วยสำลีชบุ แอลกอฮอล์ 70% 17) ล้างมือใหส้ ะอาด 2.5 บทสรุป การวัดและประเมินสญั ญาณชีพ เปน็ ทกั ษะท่ีพยาบาลวชิ าชพี ต้องสามารถวดั และประเมิน อย่างถูกต้องเพื่อนำไปใชใ้ นการวางแผนการพยาบาล การประเมนิ ผลทางการพยาบาลได้ถกู ต้อง เหมาะสมกับปัญหาสขุ ภาพของผ้ปู ่วย โดยมกี ารฝึกปฏบิ ตั ิอยา่ งตอ่ เน่ืองจนเกิดทกั ษะ 2.6 แบบประเมินทักษะปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลพ้นื ฐาน แบบประเมินทักษะการวดั สัญญาณชพี (vital signs) ชอ่ื .......................................สกุล......................................รหสั .................................... ........ คำช้แี จง โปรดทำเครื่องหมาย ลงทต่ี รงกบั ผลการปฏบิ ัติ ลำดบั รายการประเมิน ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ ขน้ั เตรียม (1) (0) 1. แนะนำตวั และประเมนิ สภาพผู้ปว่ ย 2. อธิบายวตั ถปุ ระสงค์การวัดสัญญาณชพี ใหผ้ ูป้ ว่ ยเข้าใจ 3. ล้างมือกอ่ นเตรียมของใช้ 4. เตรียมของใช้ - ปรอทสะอาด 1 อัน - ถาดเลก็ ใสป่ รอท กระดาษทิชชู สำลชี บุ Alcohol 70% - สารหลอ่ ล่ืน (k-Y jelly, Vaseline) ในกรณวี ดั ทาง ทวารหนกั - เครื่องวดั ความดันโลหติ (Sphygmomanometer) และหฟู ัง (Stethoscope) -น้ำยาฆา่ เช้อื - ถงุ มือสะอาด - นาฬกิ าที่มเี ขม็ วินาที 428
ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ัติ เหตุ 5. เปดิ ไฟใหส้ ว่างพอดี เกบ็ ของใช้บนเตียงวางให้เหมาะสม (1) (0) ขน้ั ปฏิบัติ 6. ลา้ งมือให้สะอาด 7 บอกใหผ้ ปู้ ว่ ยทราบ 8. จดั ท่าผูป้ ว่ ยให้นอนหงายในท่าสุขสบาย 9 สลดั ปรอทใหต้ ่ำลงกวา่ 35.5 °C ในทา่ ท่ีถูกต้อง 10 วัดอณุ หภมู ิ - ทางปาก บอกให้ผู้ปว่ ยอา้ ปากกระดกลิน้ วางปรอทไวใ้ ต้ ลนิ้ ใหผ้ ้ปู ว่ ยปิดปากใหส้ นิทวดั นาน 3 -5 นาที - ทางรกั แร้ ซบั รักแร้ใหแ้ ห้ง วางปรอทตรงกลางรักแรใ้ ห้ ผู้ป่วยหบุ รักแร้ วัดนาน 5 นาที - ทางทวารหนกั จดั ทา่ นอนโดยให้ทารกนอนหงาย ส่วน ผ้ใู หญน่ อนตะแคงสอดปรอทลึก 1- 1.5 ซม. วดั นาน 2 นาที (ทาสารหล่อลน่ื ทสี่ ่วนปลายปรอทประมาณ 2 เซนติเมตร) 11. จับชีพจรโดยวางน้ิวชี น้ิวกลาง น้ิวนางบนตำแหน่งหลอด เลอื ดแดงถูกต้องนาน 1 นาที 12. นับการหายใจ นาน 1 นาที (ขณะนบั การหายใจไม่ เปลย่ี นท่าจากการนับชพี จร) 13. นำปรอทออกจากตำแหน่งทว่ี ัด เชด็ ปรอทแบบหมุนเป็น เกลยี วตอ่ เนอ่ื งดว้ ยสำลี 14. อ่านปรอทในระดบั สายตา 15. วัดความดนั โลหิตโดย - ให้ผูป้ ่วยเหยยี ดแขนขา้ งทีจ่ ะวัดใหอ้ ยใู่ นท่าทสี่ บาย หงายมอื ขน้ึ พับแขนเสอ้ื ข้างท่ีวดั ขน้ึ ไปเหนือข้อศอก คลำ ชพี จร ท่ีข้อพบั แขน 429
ลำดบั รายการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ - วางเครอ่ื งวดั ให้อยู่ในระดับเดยี วกบั หวั ใจ และสเกล (1) (0) ของเคร่อื งวัดอยใู่ นระดบั สายตาห่างจากตาประมาณ 1 นิ้ว - ไลล่ มออกจากผา้ พันแขนใหห้ มด ปิดเกลียวท่ลี ูกสูบ ยาง - พนั ผ้าพนั แขนรอบแขนเหนือข้อพบั ข้ึนไป 1 นิว้ - คลำชีพจรที่ขอ้ พบั แขน - นำหูฟังวางบริเวณชีพจรข้อพบั แขนทค่ี ลำได้ - บีบลูกยางให้ดันปรอทในเคร่ืองวดั ในระดบั ทีเ่ หมาะสม - ค่อยๆ คลายเกลยี วลูกสบู ยางออกโดยใหร้ ะดับปรอท คอ่ ยๆ ลดลงช้าๆ และฟังค่าความดันโลหิต systolic และ diastolic - ปลอ่ ยลมออกจากผา้ พนั แขนใหห้ มด ปลดผ้าพันแขน ออก พบั เก็บใหเ้ รยี บร้อย 16. บอกค่าสัญญาณชีพกบั ผปู้ ว่ ย 17. ทำความสะอาดและเก็บของใช้ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง - แช่ปรอทในนำ้ ยาแช่ปรอทไดอ้ ย่างเหมาะสม - ลา้ งถาดใส่ปรอท - เช็ดหูฟงั ดว้ ยสำลี แอลกอฮอลก์ ่อนเกบ็ 18. ล้างมอื ใหส้ ะอาด 19. บันทกึ รายงานการวัดสัญญาณชีพได้ถกู ต้อง รวมคะแนน (19 คะแนน) 430
2.7 เอกสารอา้ งอิง ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอน็ พเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้นื ฐาน II. กรุงเทพฯ: บริษัท บพิธการพิมพ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกัด สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้นื ฐาน I.กรุงเทพฯ: บรษิ ัท บพิธการพมิ พ์ จำกัด. อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ทั ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งท่ี 1, กรุงเทพฯ : บริษทั จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 431
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 3 วธิ ีปฎิบตั กิ ารพยาบาลพืน้ ฐานในการดูแลสขุ วิทยาสว่ นบคุ คล หวั ขอ้ เนอ้ื หาประจำบท 1. วิธีปฏบิ ัติการอาบนำ้ ผู้ป่วยบนเตียงแบบสมบูรณ์ 2. วิธีปฏบิ ตั ิการนวดหลัง 3. วิธีปฏิบตั ิการทำความสะอาดอวยั วะสบื พนั ธ์ภุ ายนอก 4. วิธีปฏิบตั ิการสระผมบนเตียง 5. วิธีปฏบิ ตั ิการเช็ดตวั ลดไข้ จำนวนช่วั โมงท่ีสอน: ภาคทดลอง 2 ช่ัวโมง วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ปฏบิ ัตกิ ารดูแลสขุ วทิ ยาสว่ นบคุ คลผปู้ ่วยในสถานการณจ์ ำลองได้ วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 สอนสาธติ และสาธิตยอ้ นกลับ 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 สอนสาธิตการวดั และประเมนิ สัญญาณชีพและบนั ทึกสัญญาณชีพในรายงานผ้ปู ว่ ย 2.2 ผเู้ รยี นฝึกปฏิบตั แิ ละสาธิตยอ้ นกลับ 2.3 สะทอ้ นคิดการฝึกปฏิบตั ิและสรุปผลการเรียนรู้ 2.4 ผู้เรยี นยืมวสั ุด อปุ กรณ์ไปฝกึ ปฏิบัติตอ่ นอกเวลาเพื่อให้เกิดทกั ษะ สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. วัสดุ อปุ กรณท์ างการแพทย์ในหอ้ งปฏิบตั กิ าร 3. หนุ่ 4. VDO ส่ือการสอนใน YouTube channel: nursing practice 432
การวัดผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลการสาธติ ย้อนกลบั ตามแบบประเมนิ ทักษะ 2. การสอบทกั ษะปฏบิ ัติแบบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 433
บทท่ี 3 วิธปี ฎบิ ัติการพยาบาลพืน้ ฐานในการดูแลสุขวิทยาสว่ นบคุ คล การดูแลสุขวิทยาส่วนบคุ คลเป็นส่ิงจำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถดแู ลตนเองได้ พยาบาล จะเป็นผู้ช่วยดูแลความสะอาดร่างกายในกิจกรรมที่ผู้ป่วยไม่สามารถทำเองได้ เช่น การสระผม การ อาบนำ้ การทำความสะอาดอวัยวะสบื พนั ธรุ์ วมทั้งการส่งเสรมิ ให้ผปู้ ว่ ยและญาตมิ สี ่วนรว่ มในกิจกรรม ดงั กลา่ ว ดงั นัน้ พยาบาลจึงจำเป้นตอ้ งมีทักษะในการดูแลสุขวิทยาสว่ นบคุ คล ดังรายละเอียดต่อไปน้ี 3.1 วิธปี ฏิบัติการอาบน้ำผูป้ ่วยบนเตยี งแบบสมบรู ณ์ (complete bed bath) 3.1.1 วัตถุประสงค์ 1) เพอ่ื ให้ผิวหนังสะอาด กำจัดสงิ่ สกปรก ไขมนั และจุลินทรีย์ที่สะสมบนผิวหนงั 2) เพื่อกระตุน้ การไหลเวียนโลหติ และผ่อนคลายความตึงเครียด 3) เพ่ือใหผ้ ูป้ ว่ ยสขุ สบาย สดชื่น หายออ่ นเพลยี 4) เพื่อสงั เกตความผิดปกตขิ องผวิ หนัง เชน่ บาดแผล ผนื่ คัน 3.1.2 อุปกรณ์เครือ่ งใช้ 1) ภาชนะสำหรบั ใสอ่ ุปกรณ์อาบนำ้ เช่นสบู่ แปรงสฟี นั น้ำยาบ้วนปาก หวี แป้ง โลชัน่ 2) ผา้ เช็ดตวั ใหญ่จำนวน 1 ผืน 3) ผา้ ถูตวั ผืนเลก็ จำนวน 2 -3 ผนื 4) ผา้ คลมุ ตัว หรอื ผ้าห่ม 1 ผนื 5) เสอื้ ผ้าชุดใหมส่ ำหรับเปลย่ี น 1 ชุด 6) อ่างน้ำใส่น้ำ 1/3 – 2/3 ของอ่าง 2 ใบ อุณหภูมิของน้ำเหมาะสมตามสภาพอากาศ ผใู้ หญ่ อณุ หภมู ิของนำ้ ประมาณ 37.7 – 40.5 °c เด็กทารก อณุ หภมู ิของนำ้ ประมาณ 43.3-58.3 °c 7) อุปกรณ์และผา้ สำหรบั ปูเตียง 1.1.3 วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 1) ประเมินสภาพผู้ป่วย แจ้งให้ผู้ป่วยทราบอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการอาบน้ำ เพื่อ ความร่วมมอื ของผู้ปว่ ยและลดความวติ กกงั วล 2) เตรียมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อมนำมาที่เตียงผู้ป่วยเป็นการ ประหยดั เวลาและแรงงาน 434
3) กั้นม่าน ปิดประตูหน้าต่างและพัดลมเพื่อไม่เป็นการเปิดเผยผู้ป่วยและมีการถ่ายเท อากาศมากจะทำใหส้ ญู เสยี ความร้อนจากร่างกายโดยการพา 4) ล้างมอื ปอ้ งกันการนำเชื้อโรคไปส่ตู ัวผู้ป่วย 5) เลื่อนตัวผู้ป่วยมาชิดริมเตียงด้านที่พยาบาลยืนอยู่เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน และป้องกนั การปวดหลังจากการกม้ มากเกนิ ไป 6) ใช้ผ้าคลุมตัวผู้ป่วยก่อนถอดเสื้อผ้าออกใส่ตะกร้าหรอื ถุงผ้าเปื้อนป้องกันการเปิดเผย ผู้ป่วย กรณีมีการบาดเจ็บของแขนหรือไหล่ หรือมีสายน้ำเกลือให้ถอดแขนเสื้อข้างที่ดีหรือข้างท่ี ไม่มี สายใหส้ ารน้ำทางหลอดเลอื ดก่อนเพอ่ื ลดการเจ็บปวดของแขนข้างที่เจ็บและถอดได้งา่ ยกว่า 7) ใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมหน้าอก ทำความสะอาดปากและฟันด้วยการให้ผู้ป่วยแปรงฟันบ้วน ปากด้วยนำ้ ยาถา้ ผู้ปว่ ยชว่ ยตนเองไม่ได้ พยาบาลควรทำให้เพ่ือให้ปากและฟนั สะอาด 8) ใช้ผ้าถูตวั ชบุ นำ้ บิดพอหมาดพนั รอบเป็นสีเ่ หลย่ี ม เหน็บชายผ้าดา้ นล่างป้องกันชายผ้า ลุ่ยเพอื่ สะดวกใน การถูตัวใหผ้ ้ปู ว่ ย 9) เริ่มเช็ดตาจากหัวตาไปหางตาทลี ะขา้ ง เชด็ หน้า จมูก หู ลำคอ จนสะอาดด้วยน้ำและ สบู่ ใชผ้ ้าเช็ดตวั ซบั ใหแ้ หง้ 10) ใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมบริเวณหน้าอกแล้วเลื่อนผ้าคลุมตัวลงมาบริเวณเอว ทำความ สะอาดบริเวณหน้าอกและท้องด้วยน้ำและสบู่จนสะอาดซับให้แห้งและคลุมผ้าไว้เช่นเดิม เพื่อช่วยให้ ผู้ปว่ ยไมก่ ระดากอาย 11) ใชผ้ ้าเช็ดตัวรองใต้แขนดา้ นไกลตวั จับข้อมือยกข้ึนเช็ดแขนดว้ ยน้ำและสบูใ่ ห้ทั่ว เช็ด ด้วยนำ้ จนสะอาด เน้นการทำความสะอาดบริเวณรักแร้เปน็ พิเศษ การทำความสะอาดดว้ ยสบู่จะทำให้ เหงื่อและไขมันหลุดออกง่ายโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ซึ่งมีต่อมเหงื่อมากและเช็ดแขนด้านใกล้ตัว เช่นเดยี วกนั 12) แช่มือทั้งสองข้างในอ่าง ฟอกบริเวณซอกนิ้วเล็บ ล้างให้สะอาด ซับให้แห้งจะทำให้ ผู้ปว่ ยรูส้ กึ สะอาดและสบาย 13) เดินไปดา้ นตรงขา้ มกับตู้ข้างเตียงพลิกตะแคงผู้ป่วยเขา้ หาพยาบาล ยกเหลก็ ก้นั เตียง หรือมผี ู้ชว่ ยดแู ลเพื่อความปลอดภยั แกผ่ ู้ปว่ ย 14) พยาบาลกลับมายืนที่เดิมปูผ้าเช็ดตัวแนบหลังผู้ป่วย ทำความสะอาดบริเวณหลัง ตั้งแต่กกหู คอ หลัง จนถึงสะโพกและก้นกบด้วยสบู่และน้ำจนสะอาดซับให้แห้งแล้วเปลี่ยนน้ำเพราะ นำ้ สกปรกและมีคราบสบู่ 15) ให้ผู้ป่วยนอนหงาย ใช้ผ้าเช็ดตวั รองบริเวณใตข้ าด้านไกลตัวทำความสะอาดด้วยนำ้ และสบบู่ รเิ วณปลายขาถึงสะโพกจนสะอาด 16) เช็ดขาด้านใกลต้ ัวด้วยวิธีเดียวกัน 435
17) แช่เท้าในอ่าง ฟอกบริเวณซอกนิ้วและล้างจนสะอาด ซับให้แห้ง การแช่เท้าจะช่วย ให้คราบไคลออกง่าย การเชด็ ให้แหง้ จะทำให้เท้าไม่อบั ช้ืน 18) ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำทาแปง้ หรือโลชั่นแล้วนวดหลัง แป้งหรือโลชั่นจะช่วยให้ผิวลื่นลด การเสียดสีขณะนวดหลงั 19) ให้ผู้ป่วยนอนราบทาแป้งทั่วตัวโดยมีผ้าเช็ดตัวรองทุกส่วนเพื่อให้ผิวลื่นรู้สึกสบาย ตวั สวมเสอื้ ใหเ้ รียบรอ้ ย 20) ใชผ้ า้ เชด็ ตัวรองบนหมอนหวผี มให้สะอาดโดยฝนุ่ ละอองไมห่ ล่นลงเตียง 21) เปลย่ี นผา้ ปูท่ีนอนและผา้ อนื่ ๆตามความจำเปน็ เพอ่ื ความสะอาดและเรยี บร้อย 22) จัดให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่สบายห่มผ้าให้เมื่ออากาศเย็นหรือพับไว้ปลายเท้าเพื่อให้ ผู้ปว่ ยหยบิ ใช้สะดวก 23) นำอุปกรณ์เครื่องใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าท่ีเพื่อความสะดวกในการใช้ครั้ง ตอ่ ไป 24) ดูแลจัดส่งิ แวดลอ้ มเชน่ เติมนำ้ ล้างแกว้ น้ำด่มื ทำความสะอาดโต๊ะขา้ งเตียง 25) บันทึกอาการผู้ป่วยและความผิดปกติที่พบเพื่อเป็นหลักฐานทางการพยาบาลและ วางแผนการพยาบาลอย่างตอ่ เนอื่ ง 3.2 วิธปี ฏบิ ัตกิ ารนวดหลงั (Back up) การนวดหลังเป็นกิจกรรมที่กระทำหลังจากการอาบน้ำโดยเฉพาะการอาบน้ำอย่างสมบูรณ์ บนเตียง 3.2.1 วตั ถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นโดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูกและช่วยให้กล้ามเน้ือ คลายความตึงตัว บรรเทาอาการปวดเมื่อยตัว ควรมีการนวดกล้ามเนื้อแขน ขา เท้า ศีรษะให้ท่ัว ในการนวดหลังควรจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่เหมาะสม คือนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่งหรือนอนคว่ ำ ตะแคงใบหนา้ ไปข้างใดขา้ งหน่ึง 3.2.2 อุปกรณเ์ ครอื่ งใช้ 1) แปง้ 2) ครีมหรือโลช่ัน 3) ผา้ เชด็ ตวั และผา้ หม่ 3.2.3 วธิ ีปฏิบัติ 1) แจ้งและอธิบายวัตถปุ ระสงค์และวิธีการอยา่ งง่าย 2) ตรวจบรเิ วณหลงั ดผู ิวหนงั ของผปู้ ว่ ยว่ามีแผล ปมุ่ ปม ลกั ษณะของผวิ หนัง 436
3) ล้างมอื เพอื่ ปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชอ้ื โรค 4) จดั ทา่ นอนนอนควำ่ หรือนอนตะแคง 5) เลื่อนผ้าห่มมาบริเวณก้นกบและปูทับบนผ้าห่มถ้าผู้ป่วยนอนตะแคงให้ปูผ้าเช็ดตัว ตามยาวแนบหลงั ผปู้ ่วยเพ่อื บรรเทาอาการเขนิ อาย 6) ทาครมี หรอื โลชัน่ ตามดว้ ยแปง้ เพอ่ื ลดการเสียดสี 7) นวดหลังมที ่านวดตา่ งๆดงั นี้ (ณฐั สรุ างค์ บญุ จนั ทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา, 2559) คือ ท่าที่ 1 Stroking ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างวางที่บริเวณก้นกบ ค่อยๆลูบขึ้นตามแนว กระดูกสันหลัง จนถึงต้นคอ ให้น้ำหนักกดลงที่ปลายนิ้วแล้วอ้อมมาที่ไหล่ สีข้างและตะโพก ทำช้าๆ เป็นจังหวะประมาณ 3-5 ครั้งและลูบตามแนวยาวของกล้ามเนื้อไหล่ (Trapezius) กล้ามเนื้อสีข้าง (Latissimus dorsi) ทงั้ สองขา้ งช่วยกระตนุ้ กลา้ มเนอ้ื และการไหลเวียนให้ดขี นึ้ ท่าที่ 2 Wringing/ Kneading/ Petrissage ใช้องุ้ นิ้วท้งั สองขา้ งจับกลา้ มเนอื้ ตามยาว สลบั กนั ลงมาอย่างน้อยด้านละ 3 คร้งั ลกั ษณะคล้ายนวดแปง้ มี 2 วิธี - วิธี 1 วางนิ้วก้อย นาง กลางและนิ้วชี้แนบแนวกระดูกสันหลัง พรัอมปลาย นวิ้ หัวแม่มอื บบี กล้ามเนอ้ื ไขสันหลงั (Erector spinous) เขา้ หากัน ทำพรอ้ มกันท้งั สองมอื - วิธี 2 ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองมือ กดและบีบข้างกระดูก สันหลังเข้าหากันและคลายออก ทำช้ำประมาณ 5- 6 ครั้ง การบีบนวดกล้ามเนื้อช่วยให้กล้ามเน้ือ บริเวณขา้ งกระดุกสันหลงั ผอ่ นคลายและกระตนุ้ การไหลเวยี นให้ดีขึน้ ท่าที่ 3 Percussion(Clapping) หุบมือให้ชิดกันจะมีลมขังอยู่ในอุ้งมือ ใช้อุ้งมือท้ัง สองขา้ งตบเบาๆสลบั มือกันโดยกระดกข้อมือขน้ึ ลงทั่วบริเวณหลัง ทำซ้ำประมาณ 10 ครง้ั ท่านี้มักใช้ ในการขบั เสมหะออกจากปอด ท่าท่ี 4 Digital Kneading กางนว้ิ มอื ทั้งหมดวางบนแผ่นหลงั นิว้ หัวแมม่ ือท้งั สองข้าง กดลงทป่ี มุ่ กระดูกหลังใบหู ไล่ลงมาสองขา้ งกระดูกสันหลงั ตลอดแนวสันหลังถึงก้นกบ ทำอย่างน้อย 3 ครงั้ ท่าที่ 5 Vibration ใช้มือหนึ่งจับข้อมืออีกข้างที่ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดด้านข้าง กระดกู สันหลงั กดพรอ้ มกบั คลึงเบาๆเปน็ แนวยาวจากต้นคอไปจนถงึ ก้นกบ ทำอย่างน้อย 3 คร้ัง ท่าที่ 6 Hacking การใช้สันมือทั้งสองข้างสับกล้ามเนื้อสลับกันเบาๆและเร็วโดย กระดกข้อมอื สับขวางตามใยกล้ามเนื้อตะโพก ก้นและตน้ ขา ทำชำ้ ประมาณ 10 ครัง้ ท่าที่ 7 Stroking ใช้ฝ่ามือทั้งสองลูบหลังจากบริเวณต้นคอลงมาบริเวณก้นกบทำ อย่างน้อย 3ครั้งและมกั ใชเ้ ป็นท่าขึ้นต้นและจบกอ่ นขึน้ ทา่ ใหม่ 8) สวมเสื้อผ้าให้ผู้ป่วยและจัดให้นอนในท่าที่สบายและเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้เข้าที่เพื่อ ความเรียบร้อยและสะดวกในการใชค้ รัง้ ตอ่ ไป 437
3.3 วิธปี ฏิบัติการทำความสะอาดอวยั วะสบื พันธ์ภุ ายนอก (Flushing) 3.3.1 วตั ถุประสงค์ 1) เพื่อรักษาความสะอาดบรเิ วณอวยั วะสืบพนั ธุภ์ ายนอก 2) เพอ่ื ความสขุ สบายของผูป้ ่วย 3) เพอ่ื ป้องกนั การตดิ เชือ้ เขา้ สู่รา่ งกาย 4) เพือ่ สังเกตอาการผิดปกติบรเิ วณอวัยวะสบื พนั ธภุ์ ายนอก 5) เพือ่ เตรยี มผู้ป่วยตรวจภายใน(ในผู้ป่วยหญงิ ) 3.3.2 อุปกรณ์เคร่อื งใช้ 1) หม้อนอนพร้อมฝาปิดหรือผ้าคลุม 2) ถาดบรรจุอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆได้แก่ เหยือกน้ำขนาด500 มิลลิลิตรบรรจุน้ำต้มสุก จำนวน 300 มิลลิลติ ร สำลีสำหรับทำความสะอาดบรรจซุ อง 1ซอง หรืออับใส่สำลี ปากคีบยาว 1 อัน หรอื ถงุ มือสะอาด 1 คู่ กระดาษชำระ 3) ชามรปู ไตหรือถงุ พลาสตกิ 4) ผ้าขนหนปู ิดตา 3.3.2 วิธปี ฏบิ ัติ 1) บอกให้ผู้ป่วยทราบและอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ภายนอกเพ่อื ให้ผู้ปว่ ยลดความวิตกกงั วลและใหค้ วามร่วมมอื 2) ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด เพอ่ื ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชือ้ 3) เตรียมเครื่องใช้ให้พร้อมแล้วยกไปท่เี ตยี งผ้ปู ่วยเพ่ือประหยัดเวลาและแรงงาน 4) ก้ันมา่ นให้มิดชดิ ปิดตาผูป้ ่วย เพอ่ื ไม่เปน็ การเปดิ เผยผปู้ ว่ ย 5) ให้ผูป้ ว่ ยหญิงนอนหงายชันเข่า ผปู้ ่วยชายนอนหงาย คลุมผ้าให้มดิ ชิด ถอดผ้าถุงหรือ กางเกงออก จัดขาและเทา้ แยกออกจากกัน เพื่อความสะดวกในการชำระอวัยวะสบื พันธุ์ 6) คลมุ ผา้ หม่ บรเิ วณขาและปลายขาให้เรยี บรอ้ ยเพ่ือป้องกนั การกระดากอาย 7) ให้ผู้ป่วยยกก้นแล้วสอดหม้อนอนและให้ปัสสาวะให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันที่นอน เปยี ก เปลยี่ นหม้อนอน 8) ใชป้ ากคบี คบี สำลอี ย่างน้อย 6 กอ้ นใส่ในเหยอื กน้ำหรือเทน้ำลงในอับสำลี วางชามรูป ไตหรือถุงพลาสติกใกลห้ มอ้ นอนเพ่ือสะดวกในการทิง้ สำลี 9) ยกถาดของใชว้ างไวร้ ะหว่างขาผูป้ ว่ ย เพอ่ื สะดวกในการหยบิ ใช้ 438
10) เปดิ ผ้าคลุมระหวา่ งขาใหเ้ หน็ อวยั วะสบื พันธ์ุ และทวารหนัก ทำความสะอาด ดังนี้ เพศหญงิ - เทน้ำลงบนขาหนีบเล็กนอ้ ย หลงั จากนนั้ ราดนำ้ เบาๆบนอวัยวะสืบพันธุ์เพ่ือช่วย ชะลา้ งสงิ่ คัดหลัง่ ออก - สวมถุงมือหรือใช้ปากคีบหยิบสำลีบีบหมาดๆ เช็ดอวัยวะสืบพันธุภ์ ายนอก เร่ิม จากหัวหน่าวขึ้นด้านบน แคมใหญ่ด้านไกลตัว และใกล้ตัว และเช็ดแคมเล็กด้านไกลตัวและใกล้ตัว แล้วเชด็ ตรงกลางจนถึงทวารหนัก การเชด็ ต้องเช็ดจากบนลงลา่ งเสมอ - ซบั บริเวณอวยั วะสืบพนั ธุ์ภายนอกใหแ้ หง้ ยกหม้อนอนออก - ให้ผู้ปว่ ยตะแคงตัว ซับดา้ นหลงั ใหแ้ ห้ง - เอาผ้าปดิ ตาออก จดั ใหผ้ ู้ป่วยอยู่ในทา่ สบาย เพศชาย - ปิดตาผู้ป่วย เลื่อนผ้าห่มลงมาถึงเหนือหัวเข่า เปิดเฉพาะอวัยวะเพศเพื่อไม่ให้ ผู้ปว่ ยเขินอาย - เทนำ้ ลงบนขาหนีบเล็กน้อยเพือ่ ให้ผู้ป่วยรู้สึกตัว และราดน้ำเบาๆบนอวัยวะเพศ เบาๆบนอวัยวะเพศ - สวมถุงมือ ใช้มือซ้าย(มือที่ไม่ถนัด)จับองคชาตตั้งขึ้น มือขวารูดหนังหุ้มปลา ยองคชาตเปดิ ออกอยา่ งนุ่มนวล - หยิบสำลีบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดรูเปิดของท่อปัสสาวะก่อนโดยเช็ดเป็น วงกลม ทำซ้ำจนสะอาด ใช้สำลี 1 ก้อนต่อการเช็ดหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่ท่อทางเดิน ปสั สาวะ - ซับแหง้ บรเิ วณสว่ นปลายขององคชาต แล้วรูดหนงั หมุ้ ปลายปดิ เพอื่ ป้องกันการ บวมรดั ของหนงั หุ้มปลายองคชาต - ทำความสะอาดรอบองคชาตด้านนอกจากด้านบนลงด้านล่างหรือจากปลายถงึ โคนเช็ดด้วยความนุ่มนวลเพื่อลดการกระตุน้ ที่จะทำให้เกิดการแข็งตัวขององคชาตซึ่งอาจทำให้ผู้ปว่ ย กระดากอาย - ทำความสะอาดถุงอัณฑะทั้งด้านบนและล่าง ทำความสะอาดขาหนีบด้านไกล ตัวและใกลต้ ัว - ทำความสะอาดบริเวณ ใต้ถุงอณั ฑะ ซ่ึงมักมีส่งิ สกปรกหมกั หมมอยู่ - ทำความสะอาดบรเิ วณทวารหนกั เพ่อื ชำระคราบอุจจาระ เลอื่ นหม้อนอนออก - เลื่อนผ้าคลุมบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก ให้ผู้ป่วยตะแคงซับบริเวณทวาร หนกั และแกม้ กน้ เพ่อื ปอ้ งกนั ความเปยี กชน้ื 439
11) กรณีใช้น้ำสบู่ชำระต้องใช้น้ำสะอาดล้างคราบสบู่ให้หมดป้องกันการเกิดอาการคัน จากคราบสบู่ 12) เอาผ้าปดิ ตาออก ใหน้ อนราบสวมกางเกงให้เรยี บร้อย เอาผา้ คลุมออก จัดให้นอนใน ท่าทส่ี บาย 13) นำอุปกรณ์เครื่องใช้ไปทำความสะอาดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการ แพรก่ ระจายเช้ือและสะดวกในการใชค้ ร้ังต่อไป 14) ล้างมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อ บันทึกอาการและความผิดปกติที่พบ เพื่อเป็น หลกั ฐานในการดูแลผู้ปว่ ยและวางแผนการพยาบาลอย่างตอ่ เน่ือง 15) กรณีที่ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระควรเช็ดทำความสะอาดอุจจาระออกไปก่อนทำความ สะอาดอวัยวะสืบพันธ์เุ ป็นการป้องกันเช้อื โรคในอจุ จาระเขา้ สูท่ างเดนิ ปัสสาวะโดยเฉพาะในเพศหญิง 3.4 วิธปี ฏิบัติการสระผมบนเตยี ง (Bed shampoo) 3.4.1 วัตถปุ ระสงค์ 1) กำจัดสงิ่ สกปรกไขมนั และแบคทเี รียท่ีหนงั ศีรษะและเสน้ ผม 2) กระตนุ้ การไหลเวยี นของหนงั ศีรษะ 3) กระตุน้ ต่อมไขมันทีข่ บั ไขมันมาหล่อเลี้ยงเสน้ ผม 4) เพื่อให้ผูป้ ่วยสขุ สบาย 3.4.2 อปุ กรณ์เครื่องใช้ 1) ถังใสน่ ำ้ อ่นุ และขนั สำหรบั ตกั 2) ผา้ เช็ดตวั 2 ผนื ผา้ ขนหนเู ลก็ 1 ผนื่ ผา้ ยาง 2 ผืน 3) แชมพสู ระผม 4) หวี แปรง สำลี 2 ก้อน 5) ถงั รองรบั น้ำสกปรก 3.4.3 วธิ ีปฏิบตั ิ 1) เตรียมอปุ กรณ์เคร่อื งใชม้ าท่ีเตียง บอกให้ผู้ปว่ ยทราบและอธิบายวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ ผปู้ ว่ ยเขา้ ใจและใหค้ วามรว่ มมือ 2) ปดิ ประตูหรอื มา่ นกัน้ เพ่ือป้องกนั ลมโกรกไมใ่ หผ้ ปู้ ่วยหนาวสั่นและเป็นหวัด 3) จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนทแยงกับเตียงเล็กน้อย ศีรษะอยู่ริมเตียงและไม่หนุนหมอนเพื่อ สะดวกในการสระผม 440
4) วางผ้าเช็ดตวั บนผ้ายางตามยาวมว้ นผ้ายาง ทำเปน็ วงกลมเพ่ือหนุนตน้ คอ ผา้ ยางอีก ผืนหนึ่งม้วนขอบผ้ายาง 2 ข้างเข้าหากันตามยาว ทำตรงกลางให้เป็นรางน้ำ สอดชายหนึ่งรองใต้คอ อีกชายหนึ่งใส่ในถังรองรับน้ำสกปรกและให้น้ำไหลลงถังไดส้ ะดวก 5) ใชผ้ า้ เชด็ ตัวอกี ผืนหน่งึ คลมุ หนา้ อกเพ่อื ใหค้ วามอบอนุ่ และปอ้ งกนั เสอ้ื เปยี กนำ้ 6) หวีหรือแปรงผมใหถ้ ึงหนงั ศรี ษะเพอื่ กำจัดใหเ้ ศษผงและสิ่งสกปรก 7) ใช้สำลอี ดุ หทู ั้งสองขา้ งเพ่ือป้องกนั นำ้ เข้าหูและใชผ้ า้ ขนหนูเลก็ พับปดิ ตาผปู้ ่วยป้องกัน น้ำเขา้ ตาผปู้ ่วยขณะสระผม 8) เทน้ำลงที่ข้อมือด้านใน เพื่อทดสอบอุณหภูมิของน้ำ ถ้าอุณหภูมิพอเหมาะจึงเทน้ำ เลก็ น้อยที่ผมผปู้ ่วย แลว้ เทน้ำจากด้านหน้าไปด้านหลังใหเ้ ปยี กทว่ั ศีรษะระวงั น้ำไหลเขา้ หนา้ ผูป้ ่วย 9) เทยาสระผมใสฝ่ ่ามือลูบลงบนผมเตมิ น้ำเล็กน้อยใช้ปลายน้ิวนวดหนังศีรษะให้ทั่วเพ่ือ กระตุ้นการไหลเวียน แล้วล้างผมด้วยน้ำให้สะอาดเพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบาย จำนวนครั้งพิจารณาตาม ความสกปรกของผมแต่ไม่ควรน้อยกว่า 3 คร้ัง 10) หยิบสำลีอุดหูและผ้าปิดตาออก คลี่ผ้าเช็ดตัวที่รองต้นคอออกปูบนหมอนใช้ ผ้าเช็ดตัวท่ีปิดหนา้ อกเชด็ ผมให้แหง้ ปลดผ้ายางลงในถงั รองน้ำ เล่ือนตวั ผู้ป่วยข้นึ นอนหนุนหมอนและ จัดให้นอนในท่าทีส่ บาย 11) หวหี รือแปรงผมให้เรียบร้อยป้องกนั การเกาะตดิ กันของผม 12) นำอุปกรณ์เครื่องใช้ไปทำความสะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยเพ่ือ สะดวกในการใชค้ ร้ังตอ่ ไป 3.5 วธิ ปี ฏบิ ัติการเชด็ ตวั ลดไข้ (Tepid Sponge) 3.5.1 อปุ กรณ์เครือ่ งใช้ 1) ถังใสน่ ้ำ 2) ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก 3) ปรอทวัดอณุ หภมู ิ 3.5.2 วิธีปฏิบตั ิ 1) เตรยี มอุปกรณ์และจัดสิง่ แวดลอ้ ม 2) บอกผ้ปู ่วยและอธิบายวตั ถุประสงค์ใหผ้ ้ปู ่วยทราบ 3) ก้ันมา่ น และถอดเส้อื ผ้าผปู้ ่วย โดยระมัดระวงั การเปิดเผยผปู้ ่วย 4) เชด็ ตัวลดไข้ โดยใช้วธิ ีการเชด็ เขา้ สู่หวั ใจ เพือ่ เปดิ ตอ่ มเหงือ่ และวางผา้ ไว้ตาม ตำแหนง่ ข้อพบั ตา่ งๆ และรกั แร้ ใชเ้ วลารวมประมาณ 15 นาที 441
5) ประเมินอาการผปู้ ่วยหลงั ไดร้ บั การเช็ดตัว โดยทำการวดั อณุ หภูมิอกี ครั้งหลังเช็ดตวั เสร็จประมาณ 30 นาที 6) เก็บอปุ กรณ์และทำความสะอาด 7) ลงบันทึกฟอร์มปรอทและบันทึกทางการพยาบาล 3.6 บทสรปุ การดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลเป็นกิจกรรมทีพยาบาลต้องให้ความสำคัญเพื่อการตอบสนอง ความต้องการขั้นพื้นฐาน ผู้ป่วยมีความสุขสบาย ส่งเสริมการมีสุขภาพดี ทุเลาอาการเจ็บป่วยได้ นอกจากนร้ี ะหวา่ งทำความสะอาดรา่ งกายผู้ปว่ ยพยาบาลจะสามารถประเมินผวิ หนงั และภาวะสุขภาพ ท่ีเกยี่ วขอ้ งได้ 3.7 แบบประเมินทกั ษะปฏิบตั ิการพยาบาลพน้ื ฐาน แบบประเมินทักษะการอาบนำ้ ผู้ป่วยบนเตยี ง (Complete bed bath) ช่ือ...........................................สกุล...................................รหัสนกั ศึกษา........................................ คำชแ้ี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงที่ตรงกบั ผลการปฏบิ ัติ ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ ข้ันเตรยี มการ (1) (0) 1. ประเมนิ สภาพผปู้ ว่ ย 2. อธิบายจุดประสงคแ์ ละข้ันตอนในการอาบน้ำให้ผู้ปว่ ย ทราบ 3. ล้างมอื กอ่ นจัดเตรียมของใช้ 4. เตรยี มของใช้ ดังน้ี - อา่ งนำ้ 2 ใบ - ผ้าถูตวั 2 ผืน ผา้ เชด็ ตวั 1 ผนื - สบู่ หวี แป้ง โลชัน่ ทาผิว ไม้พันสำลี น้ำยาบ้วนปาก หรือยาสฟี ัน แปรงสีฟัน - เสือ้ ผ้าถุงหรอื กางเกงสำหรับผปู้ ว่ ย 442
ลำดบั รายการประเมิน ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบัติ เหตุ (1) (0) - ชามรูปไตและถุงพลาสติก - ผา้ คลมุ ตัวผูป้ ว่ ย - ชดุ ทำความสะอาดอวัยวะสืบพนั ธพ์ุ รอ้ มหม้อนอนและ ถงุ ขยะ 5. กั้นม่านใหม้ ิดชดิ ปิดพัดลม ไขเตียงราบใหเ้ หมาะสมกับ ผู้ป่วย ขัน้ ปฏิบตั ิ 6. ล้างมอื ให้สะอาด นำของใชม้ าวางท่ีโตะ๊ คร่อมเตยี งหรือตู้ ขา้ งเตียงผู้ป่วย 7. บอกใหผ้ ูป้ ่วยทราบ 8. เลือ่ นตวั ผปู้ ่วยมาริมเตยี งดา้ นพยาบาลยนื อยู่ 9. ใหห้ มอ้ นอนทำความสะอาดอวยั วะสืบพันธ์ภุ ายนอกโดย ไม่เปิดเผยผู้ปว่ ย (ตามการแบบประเมินการทำความ สะอาดอวัยวะสบื พันธุ์) 10. เกบ็ อปุ กรณ์ทำความสะอาดอวยั วะสืบพนั ธภ์ ายนอกให้ เรียบรอ้ ย 11. ลา้ งมือให้สะอาด 12. ใชผ้ า้ คลุมตวั ผู้ปว่ ยแลว้ ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดโดยไม่ เปดิ เผยผู้ปว่ ย 13. ใชผ้ ้าเชด็ ตวั คลมุ หน้าอกผู้ปว่ ยให้ชาย 2 ขา้ ง แนบ ใบหน้าขา้ งๆ หู 14. ทำความสะอาดปากฟันโดยใช้ไมพ้ นั สำลีหรือแปรงสีฟนั 15 ใชผ้ ้าถตู ัวชบุ น้ำบดิ พอหมาดพันรอบมือ เหนบ็ ชายผา้ ดา้ นล่าง 16. เร่ิมเชด็ จากหวั ตาไปหางตาทีละข้าง หน้า จมูก หู ลำคอ ด้วยสบู่และน้ำจนสะอาด 443
ลำดับ รายการประเมิน ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ เหตุ (1) (0) 17. รองผ้าเช็ดตัวคลุมบรเิ วณอก แล้วเลอ่ื นผา้ คลมุ มาทเี่ อว เชด็ หน้าอกและท้อง เชด็ ใหแ้ ห้ง 18. รองผ้าเชด็ ตวั ใต้แขนดา้ นใกล้ตัว เชด็ แขน รกั แร้ แช่มอื เชด็ ให้แห้ง เปลี่ยนนำ้ 19. รองผ้าเชด็ ขาดา้ นไกลตวั เช็ดใหแ้ หง้ เปลี่ยนน้ำ 20. แช่เทา้ เช็ดใหแ้ หง้ เปลี่ยนน้ำ 21. เดนิ ไปดา้ นตรงข้าม พลกิ ตวั ผู้ป่วยเขา้ หาพยาบาล 22. พยาบาลกลบั มายืนทเ่ี ดิม ปผู ้าเชด็ ตวั แนบหลัง เชด็ หลัง ถงึ ก้นย้อย ซบั ให้แห้ง 23. เทแปง้ ใส่ฝา่ มือ ลบู ต้ังแต่คอถึงเอว แลว้ นวดหลังตาม หลกั การ 24. พดู คุยซักถาม ใหค้ ำแนะนำเก่ียวกบั สขุ ภาพท่ีพบขณะ เชด็ ตัวใหผ้ ูป้ ว่ ย 25. สวมเสือ้ ผ้า หวีผม ให้ผ้ปู ว่ ย 26. จดั ท่านอนใหส้ ุขสบาย และปลอดภยั 27. นำอปุ กรณต์ า่ งๆ ท่ีใช้แลว้ ไปทำความสะอาดและเก็บเข้า ท่ีให้เรียบรอ้ ย 28. จดั ของใช้ของผปู้ ่วยให้เขา้ ท่ี ดูแลจัดส่งิ แวดลอ้ มข้างเตียง 29. บอกผปู้ ่วย จดั ส่ิงแวดลอ้ ม เปิดม่านเปดิ ประตู เปดิ พัด ลมดังเดิม 30. ล้างมอื ใหส้ ะอาด เชด็ ให้แห้ง 31. บนั ทกึ อาการและความผิดปกติทีพ่ บ ให้ อธบิ าย รวมคะแนน (31 คะแนน) 444
แบบประเมินทักษะการนวดหลงั ผู้ป่วย (Back rub) ช่ือ...........................................สกุล.........................................รหัสนักศึกษา..................... ................ คำชี้แจง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงทต่ี รงกับผลการปฏิบัติ ลำดบั รายการประเมิน ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏิบตั ิ ไม่ปฏบิ ัติ เหตุ ขัน้ เตรยี ม (1) (0) 1. ประเมนิ สภาพผปู้ ่วย 2. อธิบายใหผ้ ูป้ ว่ ยเขา้ ใจ 3. ลา้ งมือกอ่ นเตรียมของใช้ 4. เตรียมของใช้ - ผา้ เช็ดตวั ผนื ใหญ่ 1 ผืน - แปง้ โลช่นั สมุนไพรสำหรบั นวดหลงั - ผา้ คลุมตวั 5. ก้ันมา่ นใหม้ ิดชดิ ปดิ พัดลม ไขเตียงราบใหเ้ หมาะสมกับ ผปู้ ่วย ขนั้ ปฏบิ ัติ 6. บอกให้ผูป้ ว่ ยทราบ 7. ถอดเสื้อผู้ป่วย ไม่เปิดเผยผ้ปู ่วย 8. จดั ใหผ้ ู้ป่วยนอนตะแคง หรอื กึ่งควำ่ ชดิ ขอบเตยี งขา้ งท่ี พยาบาลยืนหวั หันหลังให้พยาบาล 9. เปดิ เฉพาะแผน่ หลงั ปูผา้ เช็ดตวั ตามแนวยาวขา้ งลำตวั ผูป้ ว่ ย 10. เทแป้ง /โลช่นั / สมนุ ไพรสำหรับนวดหลังใส่ฝ่ามอื ลูบ แป้งดว้ ยฝ่ามอื ท้ังสองขา้ ง ต้งั แต่ต้นคอจนถงึ ก้นกบ 11. นวดกล้ามเนื้อแผน่ หลงั ตามวิธีการโดยเรม่ิ เปน็ ลำดับ ขน้ั ตอนดงั น้ี - Stroking down (ท่าลูบแผ่นหลัง) ใช้ฝ่ามอื ทง้ั สองข้าง วางบนหลัง เรมิ่ จากก้นกบลบู ขึ้นไปจนถึงหวั ไหล่ วกกลบั ทำอย่างน้อย 3 ครงั้ 445
ลำดับ รายการประเมิน ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ เหตุ (1) (0) 12. - Kneading (ท่าบดิ กล้ามเนื้อ) ใชม้ ือดึงกลา้ มเนื้อให้เขา้ มาอยู่ในอ้งุ มือทั้งสองข้าง ให้เน้ืออยู่ระหว่างนิ้วหวั แม่มือ กบั ปลายน้วิ ทง้ั 4 บบี และคลายสลบั กันพร้อมกบั หมนุ มือ ทั้ง 2 ขา้ งขึ้นลงโดยไมย่ กมือ เร่ิมจากหวั ไหล่ลงมายงั กน้ กบ ทำ 3 คร้งั ตามแนวกระดกู สนั หลงั 13. - Clapping or Percussion (ท่าตบกล้ามเนื้อ) ห่อมือให้ ปลายนิว้ ชดิ กนั ท้ัง 5 นวิ้ ตบเบาๆ สลบั กันทงั้ 2 มือ เร่มิ จากหวั ไหล่ลงมายงั ก้นกบ ทำประมาณ 10 ครง้ั 14. - Digital Kneading (ทา่ กด) ใช้นิ้วหวั แม่มอื ทงั้ สองข้างกด ลงตามดา้ นขา้ งของกระดูกสนั หลงั ตง้ั แตบ่ ริเวณตน้ คอ ตามแนวยาวลงมา จนถึงก้นกบ แลว้ ลูบฝ่ามือท้งั 2 ขา้ งข้นึ ไปตั้งต้นใหม่ ทำเช่นน้ี 3 ครง้ั 15. - Vibration (ทา่ ส่ันสะเทือน) ใช้นว้ิ ชี้และนวิ้ กลางของมอื ขา้ งทถ่ี นัด กดด้านข้างของกระดูกสันหลัง ใช้อุ้มมืออีกขา้ ง ทั้งบนหลงั มือพร้อมทั้งกดให้มีการสน่ั สะเทือนเบาๆ ตาม แนวกระดูกสันหลังจากคอเป็นแนวยาวลงไปจนถงึ ก้นกบ ลูบมือขนึ้ แลว้ เรม่ิ ทำอีกรวม 3 ครง้ั 16. - Hacking (ท่าสบั กลา้ มเนื้อ) ใช้มือ 2 ขา้ งสลับกนั เร็วๆ โดยใชแ้ รงทส่ี ับเกดิ จากข้อมือของผทู้ ำ สันมือขวางกบั ใย ของกล้ามเน้ือโดยเริ่มทำจากหัวไหลม่ ายงั กน้ กบ ทำ 3 คร้งั 17. - Stroking down (ท่าลูบแผ่นหลัง) ใช้ฝา่ มือทัง้ สองข้าง วางบนหลัง เรม่ิ จากก้นกบลูบข้ึนไปจนถึงหวั ไหล่ วกกลับ ทำอย่างน้อย 3 ครง้ั 18. ขณะทำการนวดหลงั สังเกตลักษณะผิวหนงั และอาการของ ผปู้ ว่ ย 19. จดั ทา่ และแต่งตวั ใหผ้ ้ปู ว่ ยไดเ้ รยี บร้อย 20. นำของใชไ้ ปทำความสะอาดเก็บเข้าท่ีเรยี บร้อย รวมคะแนน (20 คะแนน) 446
แบบประเมนิ ทักษะการทำความสะอาดอวัยวะสืบพนั ธุ์ภายนอก (Flushing) ช่อื .....................................สกลุ ..............................................รหสั นกั ศกึ ษา.............................. คำช้แี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงทตี่ รงกับผลการปฏิบัติ ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ ขนั้ เตรียมการ (1) (0) 1. ประเมนิ สภาพผู้ป่วย 2. อธบิ ายจดุ ประสงคใ์ นการทำความสะอาดใหผ้ ู้ป่วยทราบ 3. ล้างมอื กอ่ นจดั เตรยี มของใช้ 4. เตรยี มของใชด้ งั นี้ - ชดุ ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอก - น้ำสบหู่ รอื น้ำต้มสุก - ภาชนะหรือถงุ สำหรบั ใสส่ ำลที ใี่ ช้แลว้ - หมอ้ นอน พร้อมกระดาษหรือผา้ ปดิ - กระดาษชำระ - ผ้าปดิ ตาหรือผา้ เชด็ ตวั ผนื เลก็ - ถงุ มือสะอาด หรือ ปากคบี (Forceps) 5. กน้ั ม่านใหม้ ิดชิด ปดิ พดั ลม 6. ขน้ั ปฏบิ ตั ิการ บอกให้ผปู้ ่วยทราบ ใชผ้ า้ ปดิ ตาผปู้ ่วย 7. จดั ทา่ ผปู้ ว่ ย - เพศหญงิ นอนหงายชันเข่า แยกขาออกจากกนั - เพศชาย นอนหงาย แยกขาออกจากกนั 8. คลุมผา้ บรเิ วณขา ปลายเทา้ และอวัยวะสืบพันธุ์ 9. สอดหม้อนอนใต้กน้ และอวัยวะสืบพันธ์ุ 10. หยิบภาชนะหรอื ถุงสำหรบั ใส่สำลีท่ใี ชแ้ ล้ว วางขา้ งหมอ้ นอน 11. เปดิ ผา้ คลมุ ออกใหเ้ ห็นอวยั วะสบื พันธ์ุ 12 ใสถ่ งุ มือ 447
ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) 13. เปดิ ชุดทำความสะอาดและราดน้ำบนอวัยวะสบื พนั ธ์ุ ใช้ปากคบี คีมสำลีทำความสะอาด ดงั นี้ 14. เพศหญงิ - ก้อนท่ี 1 เชด็ Mons pubis จากลา่ งขนึ้ บน - กอ้ นที่ 2 เช็ด Labia majora ดา้ นไกลตัว จากด้านบน ลงลา่ งถึงทวารหนัก - กอ้ นท่ี 3 เช็ด Labia majora ด้านใกลต้ วั จากดา้ นบน ลงล่างถึงทวารหนกั - กอ้ นท่ี 4 เชด็ Labia minora ดา้ นไกลตัว จากด้านบน ลงลา่ ง - ก้อนที่ 5 เชด็ Labia minora ดา้ นใกล้ตวั จากด้านบน ลงล่าง - ก้อนที่ 6 เช็ด external urethral orifice จากบนลง ลา่ งถึงทวารหนัก เพศชาย - ก้อนท่ี 1 เชด็ บริเวณหวั เหน่า - ใช้มือที่ใส่ถุงมือจับอวัยวะเพศพร้อมดึงหนังหุ้มอวัยวะ เพศเปิดขึ้น สำลีก้อนที่ 2 และ 3 เช็ดจาก external urethral orifice วนออกเป็นก้นหอย ทำซ้ำจนสะอาด ใช้ สำลี 1 ก้อนต่อการเช็ดหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อเขา้ สู่ท่อทางเดินปัสสาวะ ซับแห้งบริเวณ Glans of Penis แล้วรูดหนังหุ้มปลายปิด เพื่อป้องกันการบวมรัดของหนัง หุ้มปลายองคชาต - กอ้ นท่ี 4 ทำความสะอาดรอบ Penis เช็ดดา้ นนอกจาก ดา้ นบนลงด้านล่างหรอื จากปลายถงึ โคนเช็ดด้วยความ นุ่มนวล - ก้อนที่ 5 เชด็ บริเวณ Scrotum 448
ลำดับ รายการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบัติ เหตุ - กอ้ นท่ี 6 เชด็ บริเวณขาหนีบด้านไกลตวั และใกลต้ ัว (1) (0) ตามลำดับ - กอ้ นที่ 7 เชด็ บริเวณใต้ Scrotum ลงมาถงึ Anus ให้ 15. ใช้สำลีหรอื กระดาษชำระซบั บรเิ วณก้นให้แหง้ อธิบาย 16. ถอดถุงมือ 17. จดั เสอื้ ผ้าให้เรยี บรอ้ ย และให้ผู้ป่วยนอนในทา่ สบาย เอา ผ้าปดิ ตาออก 18. นำอุปกรณใ์ ช้แล้วไปทำความสะอาด และเกบ็ เขา้ ท่ี 19. ล้างมอื ใหส้ ะอาด 20. เขยี นรายงานในบนั ทึกการพยาบาล รวมคะแนน (20 คะแนน) แบบประเมนิ การเช็ดตวั ลดไข้ (Tepid sponge) ชือ่ ............................................. สกุล..................................... รหัสนกั ศึกษา............................... คำช้ีแจง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องทีต่ รงกบั ผลการปฏิบัติ ลำดับ รายการประเมนิ ผลการประเมิน หมาย ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ ขั้นเตรียม (1) (0) 1. แนะนำตัวและประเมินสภาพผ้ปู ว่ ย 2. อธิบายวตั ถปุ ระสงค์การเช็ดตัวลดไข้ให้ผปู้ ว่ ยเข้าใจ 3. เตรยี มอปุ กรณ์เครื่องใช้ครบถ้วน ได้แก่ อา่ งใสน่ ้ำ ผ้าถู ตวั 3 ผืน ผ้าเชด็ ตัวผืนใหญ่ ปรอทวดั อุณหภมู ิ ผ้าห่ม 4. ปิดประตู/กั้นมา่ น ข้ันปฏิบัติ 5. ปดิ ม่าน 449
ลำดับ รายการประเมิน ผลการประเมนิ หมาย ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ 6. ห่มผา้ และถอดเส้ือ-ผ้าผปู้ ่วยออก (1) (0) 7. ใช้ผา้ ถตู วั ชบุ นำ้ บิดหมาด ๆ ลบู ใบหน้า ลำคอ ซอกคอ ใช้ หลงั หูและพักผา้ ท่ีซอกคอ ทำซ้ำ 3 รอบ ผา้ เช็ด 8. ใช้ผา้ ถูตัวชุบน้ำ บดิ หมาด ๆ ลูบลำตัวเขา้ หาหวั ใจแล้ว ตวั ผนื ใหญ่ พกั ผา้ บรเิ วณหน้าอกและท้อง ทำซ้ำ 3 รอบ รอง 9. ใช้ผา้ ถตู วั ชบุ น้ำ บิดหมาด ๆ ลบู มอื และแขนด้านไกลตัว บริเวณ ท่ีจะ เขา้ หาหัวใจ คลุมผ้าทแี่ ขนแล้วพกั ผา้ ทีซ่ อกรักแร้ ทำซำ้ เช็ด 3 รอบ ปอ้ งกัน 10. ใชผ้ า้ ถตู ัวชบุ น้ำ บิดหมาด ๆ ลบู มอื และแขนดา้ นใกลต้ ัว ผา้ ปทู ่ี เข้าหาหัวใจ คลุมผา้ ทีแ่ ขน แล้วพกั ผ้าทซี่ อกรกั แร้ นอน ทำซ้ำ 3 รอบ เปียก 11. ใช้ผ้าถูตวั ชุบน้ำ บดิ หมาด ๆ ลบู ขาด้านไกลตวั ลูบเข้า หาหัวใจ คลุมผ้าทข่ี า พักผ้าท่ีขาหนีบและข้อพับ ทำซ้ำ 3 รอบ 12. ใช้ผา้ ถตู ัวชบุ น้ำ บิดหมาด ๆ ลบู ขาดา้ นใกลต้ ัว ลูบเขา้ หาหัวใจ คลุมผา้ ท่ขี า พักผา้ ที่ขาหนบี และขอ้ พบั ทำซ้ำ 3 รอบ 13. ให้ผู้ป่วยตะแคงตวั ใชผ้ ้าถตู วั ชุบนำ้ บดิ หมาด ๆ ลูบ หลงั จากตน้ คอถึงบ้ันเอวและลบู บรเิ วณก้นสุดทา้ ย ทำซ้ำ 3 รอบ 14. ใส่เส้ือผา้ ใหผ้ ้ปู ว่ ย (ไม่ต้องทาแป้ง) 15. เก็บอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและเกบ็ เข้าท่ี ข้ันประเมินผล 16.. วัดอณุ หภูมิรา่ งกาย หลังลบู ตัวเสรจ็ 30 นาที การบันทึก 17. บันทึกอุณหภมู ริ า่ งกายในฟอร์มปรอท เป็นจดุ ไข่ปลา 18. บนั ทึกทางการพยาบาล รวมคะแนน (18 คะแนน) 450
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 582
Pages: