Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักการและเทคนิคการพยาบาลพื้นฐาน

หลักการและเทคนิคการพยาบาลพื้นฐาน

Published by jitrada.sin, 2022-07-07 18:31:03

Description: เอกสารประกอบการสอนภาคทฤษฎีและภาคทดลอง

Search

Read the Text Version

แผนบริหารการสอนประจำบทท่ี 14 วิธปี ฎบิ ัติการพยาบาลพ้ืนฐานในการใหอ้ อกซิเจน หวั ขอ้ เนื้อหาประจำบท 1. วิธกี ารให้ออกซเิ จนดว้ ย Nasal cannula 2. วิธีการให้ออกซเิ จนด้วย Mask with bag 3. วิธีการให้ออกซเิ จนด้วย Collar mask จำนวนชวั่ โมงทีส่ อน: ภาคทดลอง 2 ช่ัวโมง วตั ถปุ ระสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. ปฏิบตั ิการให้ออกซเิ จนด้วยวฑิ ีการต่าง ๆ ได้ถกู ต้อง วิธสี อนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วิธสี อน 1.1 สอนสาธติ และสาธิตยอ้ นกลบั 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน 2.1 สอนสาธิตวิธีการให้ออกซิเจนด้วย Nasal cannula การให้ออกซิเจนด้วย Mask with bag การใหอ้ อกซเิ จนด้วย Collar mask 2.2 ผู้เรียนฝึกปฏบิ ตั ิและสาธติ ย้อนกลบั 2.3 สะท้อนคดิ การฝกึ ปฏิบัติและสรุปผลการเรยี นรู้ 2.4 ผ้เู รยี นยืมวสั ดุ อปุ กรณไ์ ปฝึกปฏบิ ัติต่อนอกเวลาเพอื่ ให้เกิดทักษะ ส่อื การเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อปุ กรณ์ใหอ้ อกซิเจน วสั ดุ อุปกรณท์ างการแพทยใ์ นห้องปฏิบตั กิ าร 3. โจทยส์ ถานการณ์ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ผลการสาธิตย้อนกลบั ตามแบบประเมนิ ทกั ษะ 2. การสอบทักษะปฏิบตั แิ บบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 551

บทท่ี 14 วธิ ีปฎบิ ตั ิการพยาบาลพื้นฐานในการใหอ้ อกซิเจน การใหอ้ อกซิเจนสำหรบั การป้องกันหรือแก้ปัญหาภาวะพร่องออกซิเจน มีหลายวิธีข้นึ อยู่ กบั ระดับของภาวะพร่องออกซิเจนของผปู้ ่วย โดยรายละเอียดของการให้ออกซิเจนด้วย Nasal cannula, Mask with bag, Collar mask มีรายละเอียดดงั น้ี 14.1 วธิ กี ารให้ออกซเิ จนด้วย Nasal cannula 14.1.1 เตรียมอปุ กรณ์ 1) ถงั ออกซิเจน (Cylinder / Tanks) หรือออกซเิ จนจากหนว่ ยจ่ายกลาง (central piped line) 2) อปุ กรณค์ วบคุมอัตราการไหลของออกซเิ จน (flow meter) 3) กระบอกให้ความช้ืนและฝอยละออง (Humidifier and nebulizer) 4) Nasal cannula 5) นำ้ กลน่ั ปลอดเชือ้ (Sterile water) 14.1.2 วธิ ปี ฏิบัติ 1) ลา้ งมอื ให้สะอาด เพอ่ื ลดการปนเป้ือนเชอ้ื โรค เตรยี มอปุ กรณใ์ หพ้ ร้อม 2) แจง้ ผปู้ ่วยใหท้ ราบวัตถปุ ระสงค์การให้ออกซิเจน และวิธีการให้ออกซิเจนโดยย่อ เพ่ือ ชว่ ยคลายความวิตกกังวลของผ้ปู ่วย 3) ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัว เพื่อประเมินอาการผู้ป่วย ประเมิน ระดับความตอ้ งการออกซิเจน 4) ทำความสะอาดช่องจมูกทั้งสองข้างก่อนให้ออกซิเจนและควรทำความสะอาดทุก 8 ชวั่ โมง เพ่อื ให้ชอ่ งจมกู โล่ง ลดการตดิ เชื้อ 5) สวม Flow meter กับแหล่งออกซิเจนที่ผนัง / ถัง ให้ถูกต้องและแน่นพอดี เพ่ือ ป้องกนั ไม่ใหอ้ อกซเิ จนไมร่ วั่ ปริมาณออกซิเจนที่ได้รับไมเ่ พยี งพอ 6) ต่อกระบอกความชื้นที่ใส่น้ำกลั่นปลอดเชื้อ (Sterile water) ระดับที่ถูกต้องคือไม่ มากกวา่ ขดี สูงสดุ เพอ่ื ปอ้ งกนั ไม่ให้ Flow meter เสียและไมน่ ้อยนอ้ ยกวา่ ขีดต่ำสดุ เพื่อป้องกันระคาย เคืองเยือ่ เมอื กในชอ่ งจมูกและคอ 552

7) เปิดการทำความชน้ื แบบละอองโต (bubble) เพอื่ ทำใหเ้ ยื่อบุทางเดินหายใจชุ่มช้ืนไม่ เกิดการระคาย เคืองต่อหลอดลม 8) สวมสายออกซิเจน กับท่อของเครื่องปรับความชื้น เตรียมการให้ออกซิเจนพร้อม ความช้นื เพ่อื ให้เกดิ ความชน้ื กอ่ นให้ผูป้ ว่ ย 9) หมุนปุ่มเปิด Flow meter ปรับอัตราการไหลของออกซิเจนทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 นาทีก่อนสวมอุปกรณ์ทุกชนดิ ให้ ผูป้ ว่ ยตามแผนการรักษา เพอ่ื ทดสอบว่าออกซิเจนไหลผ่านได้ดี และ ใหไ้ ด้ปรมิ าณตามแผนการรกั ษา 10) จัดทา่ ให้ผูป้ ว่ ยนอนศรี ษะสงู 15 – 30 องศา (Semi – Fowler, s position) หากไม่ มีขอ้ จำกัด 11) ใส่สายออกซิแจน Nasal cannula สวมเขี้ยว (nasal prong) เข้าในช่องจมูกทั้ง 2 ข้างโดยใหส้ ว่ นโค้งแนบไปกับโพรงจมูก เพือ่ ใหอ้ อกซิเจนผ่านเขา้ ไปในหลอดลมใหส้ ะดวก ป้องกันการ ระคายเคือง- คล้องสายกับใบหู 2 ข้าง ปรับสายให้พอดีกับใต้คางเพื่อให้อยูใ่ นตำแหนง่ ถูกต้องป้องกนั เลอ่ื นหลดุ - ปรับออกซิเจนตามแผนการรกั ษา 12) ล้างมือให้สะอาด ลงบันทึกเกี่ยวกับการพยาบาลที่ให้ก๊าซออกซิเจน ได้แก่ อาการ สัญญาณชีพผู้ป่วย ปริมาณก๊าซออกซิเจนที่ให้ อุปกรณ์ที่ให้ ปฏิกิริยาผู้ป่วยเมื่อได้รับกาซออกซิเจน รวมท้ังการประเมินผล 14.2 วธิ ีการใหอ้ อกซเิ จนด้วย Mask with bag 14.2.1 เตรียมอปุ กรณ์ 1) ถงั ออกซเิ จน (Cylinder / Tanks) หรอื ออกซเิ จนจากหน่วยจา่ ยกลาง (central piped line) 2) อปุ กรณ์ควบคุมอัตราการไหลของออกซิเจน (flow meter) 3) กระบอกใหค้ วามชน้ื และฝอยละออง (Humidifier and nebulizer) 4) Mask with bag 5) น้ำกลัน่ ปลอดเชื้อ (Sterile water) 14.2.2 วธิ ปี ฏบิ ัติ 1) ลา้ งมือให้สะอาด เพอื่ ลดการปนเปอื้ นเชอ้ื โรค เตรยี มอปุ กรณใ์ ห้พรอ้ ม 2) แจง้ ผ้ปู ว่ ยให้ทราบวัตถปุ ระสงค์การให้ออกซิเจน และวิธกี ารใหอ้ อกซิเจนโดยย่อ เพื่อ ชว่ ยคลายความวิตกกังวลของผู้ปว่ ย 3) ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัว เพื่อประเมินอาการผู้ป่วย ประเมิน ระดบั ความตอ้ งการออกซเิ จน 553

4) ทำความสะอาดช่องจมูกทั้งสองข้างก่อนให้ออกซิเจนและควรทำความสะอาดทุก 8 ชั่วโมง เพื่อใหช้ อ่ งจมูกโลง่ ลดการตดิ เชอ้ื 5) สวม Flow meter กับแหล่งออกซิเจนที่ผนัง / ถัง ให้ถูกต้องและแน่นพอดี เพ่ือ ปอ้ งกันไม่ให้ออกซิเจนไม่ร่ัว ปริมาณออกซเิ จนทไ่ี ดร้ ับไมเ่ พยี งพอ 6) ต่อกระบอกความชื้นที่ใส่น้ำกลั่นปลอดเชื้อ (Sterile water) ระดับที่ถูกต้องคือไม่ มากกว่าขีดสูงสุด เพ่อื ป้องกันไม่ให้ Flow meter เสยี และไม่น้อยนอ้ ยกว่าขีดต่ำสุดเพ่ือป้องกันระคาย เคอื งเยือ่ เมือกในชอ่ งจมูกและคอ 7) เปดิ การทำความชน้ื แบบละอองโต (bubble) เพ่อื ทำใหเ้ ยือ่ บุทางเดนิ หายใจชุ่มช้ืนไม่ เกดิ การระคาย เคืองต่อหลอดลม 8) สวมสายออกซิเจน กับท่อของเครื่องปรับความชื้น เตรียมการให้ออกซิเจนพร้อม ความชื้น เพือ่ ให้เกิดความชน้ื กอ่ นใหผ้ ปู้ ่วย 9) หมุนปุ่มเปิด Flow meter ปรับอัตราการไหลของออกซิเจนทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 นาทีก่อนสวมอุปกรณท์ ุกชนดิ ให้ ผู้ปว่ ยตามแผนการรักษา เพอื่ ทดสอบว่าออกซิเจนไหลผ่านได้ดี และ ให้ได้ปรมิ าณตามแผนการรักษา 10) จัดทา่ ให้ผู้ปว่ ยนอนศรี ษะสูง 15 – 30 องศา (Semi – Fowler, s position) หากไม่ มีข้อจำกัด 11) ใส่สายออกซิแจน ให้เปิดออกซิเจนไหลผ่านถุง 10 -20 ลิตร/นาที จนถุงโป่งเต็มท่ี เพื่อไล่ก๊าซอื่นที่ค้างใจถุงออก รวมทั้งทดสอบถุงไม่รั่ว แล้วจึงปรับออกซิเจน 6 -10 ลิตรต่อนาทีตาม แผนการรักษา ครอบหน้ากากบริเวณสันจมูกและปากให้แนบสนิท ปรับสายคล้องทัดเหนือใบหูรอบ ศรี ษะ 12) ล้างมือให้สะอาด ลงบันทึกเกี่ยวกับการพยาบาลที่ให้ก๊าซออกซิเจน ได้แก่ อาการ สัญญาณชีพผู้ป่วย ปริมาณก๊าซออกซิเจนที่ให้ อุปกรณ์ที่ให้ ปฏิกิริยาผู้ป่วยเมื่อได้รับกาซออกซิเจน รวมท้ังการประเมนิ ผล 14.3 วธิ ีการใหอ้ อกซเิ จนดว้ ย Collar mask 14.3.1 เตรยี มอุปกรณ์ 1) ถงั ออกซิเจน (Cylinder / Tanks) หรอื ออกซเิ จนจากหน่วยจ่ายกลาง (central piped line) 2) อุปกรณ์ควบคุมอัตราการไหลของออกซิเจน (flow meter) 3) กระบอกใหค้ วามช้นื และฝอยละออง (Humidifier and nebulizer) 4) Collar mask 554

5) น้ำกลนั่ ปลอดเชือ้ (Sterile water) 14.3.2 วธิ ปี ฏิบตั ิ 1) ลา้ งมอื ให้สะอาด เพอื่ ลดการปนเป้อื นเช้ือโรค เตรยี มอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อม 2) แจ้งผ้ปู ่วยใหท้ ราบวตั ถุประสงค์การให้ออกซเิ จน และวิธีการให้ออกซิเจนโดยย่อ เพ่ือ ช่วยคลายความวิตกกงั วลของผู้ป่วย 3) ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัว เพื่อประเมินอาการผู้ป่วย ประเมิน ระดับความตอ้ งการออกซเิ จน 4) ทำความสะอาดช่องจมูกทั้งสองข้างก่อนให้ออกซิเจนและควรทำความสะอาดทุก 8 ชว่ั โมง เพอ่ื ใหช้ อ่ งจมูกโล่ง ลดการตดิ เชื้อ 5) สวม Flow meter กับแหล่งออกซิเจนที่ผนัง / ถัง ให้ถูกต้องและแน่นพอดี เพ่ือ ป้องกันไม่ให้ออกซิเจนไมร่ วั่ ปรมิ าณออกซิเจนทไ่ี ดร้ ับไมเ่ พยี งพอ 6) ต่อกระบอกความชื้นที่ใส่น้ำกลั่นปลอดเชื้อ (Sterile water) ระดับที่ถูกต้องคือไม่ มากกวา่ ขีดสูงสดุ เพอื่ ปอ้ งกันไมใ่ ห้ Flow meter เสยี และไมน่ ้อยน้อยกวา่ ขดี ต่ำสุดเพื่อป้องกันระคาย เคืองเยือ่ เมอื กในช่องจมูกและคอ 7) เปิดการทำความชื้นแบบละอองฝอย (jet) เพอ่ื ทำให้เย่อื บุทางเดินหายใจชุม่ ชน้ื ไม่เกิด การระคาย เคอื งตอ่ หลอดลม 8) สวมสายออกซิเจน กับท่อของเครื่องปรับความชื้น เตรียมการให้ออกซิเจนพร้อม ความชืน้ เพื่อให้เกิดความชื้นก่อนให้ผ้ปู ่วย 9) หมุนปุ่มเปิด Flow meter ปรับอัตราการไหลของออกซิเจนทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 นาทกี ่อนสวมอุปกรณท์ ุกชนดิ ให้ ผู้ปว่ ยตามแผนการรักษา เพือ่ ทดสอบว่าออกซิเจนไหลผ่านได้ดี และ ให้ได้ปริมาณตามแผนการรักษา 10) จัดท่าใหผ้ ู้ปว่ ยนอนศีรษะสงู 15 – 30 องศา (Semi – Fowler, s position) หากไม่ มขี ้อจำกัด 11) ครอบหนา้ กากบรเิ วณทอ่ หลอดลมคอ ปรบั สายใหพ้ อดี 12) ล้างมือให้สะอาด ลงบันทึกเกี่ยวกับการพยาบาลที่ให้ก๊าซออกซิเจน ได้แก่ อาการ สัญญาณชีพผู้ป่วย ปริมาณก๊าซออกซิเจนที่ให้ อุปกรณ์ที่ให้ ปฏิกิริยาผู้ป่วยเมื่อได้รับกาซออกซิเจน รวมท้งั การประเมินผล 14.4 บทสรุป การให้ออกซิเจนวิธีต่าง ๆอย่างถูกต้องตามเทคนิคสามารถช่วยดูแล แก้ปัญหาพร่อง ออกซเิ จนไดเ้ ป็นอย่างดรี วมทั้งสามารถลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดข้ึนได้ 555

14.5 แบบประเมนิ ทักษะปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลพน้ื ฐาน แบบประเมนิ ทักษะการให้ออกซิเจน (Oxygenation) ชอ่ื ................................................สกุล................................รหสั นักศึกษา...................................................... คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ผลการปฏิบตั ิ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย วิธีการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ (1) (0) ลำดบั ขั้นเตรยี ม 1 ประเมินลกั ษณะการหายใจ (ลึก/ตน้ื เร็ว/ชา้ เสียงการหายใจ 2 วดั คา่ Oxygen saturation (SpO2) 3 ทักทายผ้ปู ่วยและแนะนำตนเอง 4 อธิบายวัตถุประสงคข์ องการให้ออกซเิ จนใหผ้ ู้ปว่ ยทราบ 5 เตรยี มอุปกรณ์ถูกต้อง ครบถว้ น พรอ้ มใช้ 6 จัดทา่ ศีรษะสงู ประมาณ 15- 30 องศา หากไมม่ ีขอ้ จำกัด ขัน้ ปฏิบตั ิ 7 ลา้ งมือถูกวิธี 7 ขน้ั ตอน 8 สวม Flow meter กับแหลง่ ออกซเิ จนทีผ่ นงั (Pipe-line)/ ถงั (Tank) 9 ต่อกระบอกความชื้นที่ใส่นำ้ กลัน่ ปลอดเชือ้ (Sterile water) ใหร้ ะดับน้ำกลนั่ อยู่ 2/3 ของกระบอกความชน้ื 10 เปิดการทำความชื้น -แบบละอองโต (bubble) สำหรับการให้ Nasal cannula, Mask -ละอองฝอย(jet) สำหรบั Collar mask, Oxygen Hood 11 สวมสายออกซิเจนกบั ทอ่ ของเคร่ืองปรับความชื้น 12 หมนุ ปมุ่ เปดิ Flow meter ปรับอัตราการไหลของออกซเิ จน ตามแผนการรักษา ทดสอบการไหลของออกซเิ จน 556

วิธีการ ผลการปฏบิ ัติ หมาย ลำดับ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) 13 ใสส่ ายออกซแิ จนชนิดต่าง ๆ ตามแผนการรักษา -Nasal cannula สวมเขี้ยว (nasal prong) เขา้ ในช่องจมกู ทั้ง 2 ข้าง โดยให้ส่วนโค้งลง แนบไปกับโพรงจมูก คล้องสายกับใบหู 2 ขา้ ง ปรับสายให้พอดกี บั ใต้คาง -Simple mask เลือกขนาดใหพ้ อเหมาะโดยสามารถครอบ จมกู และปากของผูป้ ่วยพอดี ครอบหนา้ กากบริเวณสนั จมกู และปากให้แนบสนิท ปรับสายคล้องทัดเหนือใบหูรอบศีรษะ จัดให้ พอดี -Mask with reservoir bag ให้เปดิ ออกซเิ จนไหลผ่านถุง 15 ลติ ร/นาที จนถุงโป่งเต็มท่ี เพื่อไล่ก๊าซอน่ื ที่คา้ งใจถงุ ออกและทดสอบการรัว่ ของถงุ แลว้ จึงปรบั การไหลตาม แผนการรกั ษา ครอบหนา้ กากบริเวณสันจมกู และปากให้ แนบสนทิ ปรับสายคลอ้ งทัดเหนือใบหูรอบศรี ษะ จดั ให้พอดี -Collar mask ครอบทท่ี อ่ หลอดลมคอ ปรับสายรัดให้พอดี ข้นั ประเมนิ ผล 14 ประเมินลักษณะการหายใจ อัตราการหายใจ oxygen saturation (≥ 95%) ขัน้ บันทกึ ผล 15 บันทกึ สภาวะของผปู้ ว่ ยและลักษณะการหายใจ 16 บันทึกค่า oxygen saturation จาก pulse oximeter รวม (16 คะแนน) 557

14.6 เอกสารอ้างอิง ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอน็ พเี พรส. ธนรัตน์ พรศิริรัตน์ และ สุรัตน์ ทองอยู่. (2563). การพยาบาลผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีภาวะพร่องออกซิเจน และไดร้ บั การรกั ษาดว้ ย High Flow Nasal Cannula. เวชบันทึกศิริราช, 13(1), 60-68. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษทั บพิธการพมิ พ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน I.กรุงเทพฯ: บริษทั บพธิ การพิมพ์ จำกดั . อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษทั ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษัท จรัลสนทิ วงศก์ ารพมิ พ์ จำกดั . Michael A Matthay, B Taylor Thompson, Lorraine B Ware. (2021). The Berlin definition of acute respiratory distress syndrome: should patients receiving high-flow nasal oxygen be included?. The Lancet, 9, 933-936. Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 558

แผนบรหิ ารการสอนประจำบทท่ี 15 วธิ ีปฎบิ ัติการพยาบาลพ้นื ฐานในการดดู เสมหะทางทอ่ หลอดลมคอ หวั ขอ้ เนื้อหาประจำบท 1. วธิ ีการดดู เสมหะทางท่อหลอดลมคอ จำนวนช่วั โมงทสี่ อน: ภาคทดลอง 2 ชัว่ โมง วัตถุประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 2. ปฏบิ ตั ิการดดู เสมหะทางท่อหลอดลมคอของผู้ป่วยในโจทย์สถานการณ์ได้ถกู ต้อง วิธีสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. วิธีสอน 1.1 สอนสาธติ และสาธิตยอ้ นกลับ 2. กิจกรรมการเรียนการสอน 2.1 สอนสาธิตการดดู เสมหะทางทอ่ หลอดลมคอ 2.2 ผู้เรียนฝกึ ปฏิบตั ิและสาธิตย้อนกลับ 2.3 สะทอ้ นคดิ การฝกึ ปฏบิ ตั ิและสรปุ ผลการเรยี นรู้ 2.4 ผเู้ รยี นยมื วสั ดุ อุปกรณ์ไปฝกึ ปฏบิ ตั ิต่อนอกเวลาเพอ่ื ใหเ้ กดิ ทักษะ ส่ือการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อปุ กรณ์ใหอ้ อกซิเจน การดดู เสมหะ วสั ดุ อุปกรณท์ างการแพทย์ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร 3. โจทยส์ ถานการณ์ อปุ กรณท์ างการแพทยใ์ นห้องปฏิบตั ิการ การวดั ผลและประเมินผล 1. ประเมนิ ผลการสาธติ ยอ้ นกลับ ตามแบบประเมินทักษะ 2. การสอบทักษะปฏิบัติแบบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 559

บทที่ 15 วิธีปฎบิ ัตกิ ารพยาบาลพน้ื ฐานในการดดู เสมหะทางท่อหลอดลมคอ การดดู เสมหะจะชว่ ยขจัดเสมหะออกจากทางเดนิ หายใจ ทำให้ผู้ปว่ ยมที างเดนิ หายใจโลง่ 2) ป้องกันทางเดินหายใจอุดกั้น ภาวะปอดอักเสบ ถุงลมปอดแฟบ และการติดเชื้อในระบบทางเดิน หายใจจากการมีเสมหะคัง่ คา้ งได้ โดยวิธีการดูดเสมหะทางทอ่ หลอดลมคอมรี ายละเอยี ด ดังนี้ 15.1 วิธกี ารดดู เสมหะทางท่อหลอดลมคอ 15.1.1 การเตรยี มอปุ กรณ์ 1) เครื่องดูดเสมหะชนิดติดฝาผนัง (Wall suction) หรือรถเคลื่อนที่ไฟฟ้า (Portable suction machine) 2) ข้อต่อควบคุมแรงดนั (vacuum control fingertip) 3) หฟู ัง (Stethoscope) ใชฟ้ งั เสยี งเสมหะในปอด 4) สายดูดเสมหะปลอดเชื้อ (suction catheter) การเลือกสายดูดเสมหะ คือ เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางของสายดูดเสมหะต้องมีขนาดไมเ่ กิน ½ ของเส้นผา่ ศูนยก์ ลางของท่อเจาะคอหรือท่อ หลอดลมคอ ผู้ใหญใ่ ช้เบอร์ 14-16 Fr. เดก็ ใช้เบอร์ 8-12 Fr. ทารกใชเ้ บอร์ 4 – 8 Fr. 5) ถงุ มือปลอดเชื้อ 7) ผ้าปดิ จมกู (Mask) 8) สำลีปลอดเช้อื และ 70% แอลกอฮอล์ 9) ปากคบี (Forceps) 10.) ขวดน้ำสะอาด 1 ขวดสำหรบั ลา้ งสายยางทีใ่ ช้ดูดเสมหะแล้ว 11) ถังขยะติดเชือ้ 12) เสื้อกาวน์ สำหรับผู้ป่วยกรณีติดเชื้อที่สามารถติดต่อได้ทางเสมหะ หรือทางเดิน หายใจ 15.1.2 วิธีการปฏิบตั ิ 1) ล้างมอื ใหส้ ะอาด เพ่อื ลดการติดเชือ้ และการแพรก่ ระจายเชอ้ื 2) สวมผ้าปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของละอองเสมหะ หาก ผปู้ ่วยมีการติดเชอื้ ทีส่ ามารถติดต่อได้ทางเสมหะหรือทางเดนิ หายใจใหส้ วมเสอ้ื กาวน์ 560

3) ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดบริเวณปลายข้อต่อของสายดูด เสมหะทตี่ อ่ กบั เครอ่ื งดูดเสมหะ 4) ฉีกซองสายดูดเสมหะ สวมถุงมือปลอดเชื้อข้างที่ถนัดและหยิบสายดูดเสมหะด้วย เทคนิคปลอดเชือ้ 5) ต่อสายดูดเสมหะเข้ากับข้อต่อของสายเครื่องดูดเสมหะ ระมัดระวังไม่ให้ถุงมือและ สายดดู เสมหะปนเปอื้ น (Contaminate) 6) เปิดเครื่องดูดเสมหะด้วยมือข้างที่ไม่ใส่ถุงมือ ปรับแรงดันให้เหมาะสม เพื่อป้องกัน ไมใ่ ห้เกิดการระคายเคืองหรือการบาดเจ็บของเซลลบ์ ทุ างเดินหายใจ ดังนี้ เด็กเล็ก 60-90 มม.ปรอท เด็กโต 80-100 มม.ปรอท ผู้ใหญ่ 100-120 มม.ปรอท 7) ใส่สายดูดเสมหะโดยไม่อุดรูเปิดของข้อต่อควบคุมความดัน ผ่านท่อหลอดลมคอ (Tracheostomy tube) ให้ใส่สายดูดเสมหะถึงระดับ Carina หรือรู้สึกว่ามีสิ่งกีดขวาง แล้วดึงสาย ขึ้นมา 1 เซนติเมตร เพื่อให้ปลายสายดูดเสมหะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและสามารถดูดเอาเสมหะ ออกมาได้ 8) เริ่มดูดเสมหะ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือข้างที่ไม่ถนัดปิดรูข้อต่อควบคุมความดัน ขณะเดียวกันใช้นิ้วมือข้างท่ีสวมถุงมือค่อยๆดึงสายดูดเสมหะขึ้นอยา่ งนุ่มนวล ใช้ระยะเวลาในการดดู เสมหะแต่ละครั้ง ไม่เกนิ 10-15 และในการดูดเสมหะแต่ละคร้ัง ควรเว้นระยะ 20-30 วนิ าที ให้ผู้ป่วย พกั หรอื ใหผ้ ปู้ ว่ ยหายใจ 3 – 5 ครง้ั เพอ่ื ป้องกันภาวะพร่องออกซเิ จน 9) การดูดเสมหะไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อรอบของการดูดเสมหะ เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยไม่ สุขสบาย และเกิดการบาดเจ็บของเย่ือบุทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผูป้ ่วยที่ได้รบั บาดเจ็บทางศีรษะ อาจส่งผลใหก้ ารไหลเวยี นโลหติ เปลี่ยนแปลง และอตั ราการเตน้ ของหัวใจเพิม่ ขนึ้ 10) กรณีที่ยังมีเสียงเสมหะให้ดูดซ้ำได้ โดยเว้นระยะให้ผู้ป่วยพักหายใจอย่างน้อย 2-3 นาที เพอื่ ป้องกนั ภาวะพร่องออกซิเจน 11) ในผู้ป่วยท่ตี อ้ งการเก็บเสมหะสง่ ตรวจ ใหต้ ่อสายดดู เสมหะเข้ากบั สายยางของหลอด เก็บเสมหะ เม่ือดูดเสมหะแลว้ ใหป้ ลดสายดูดเสมหะออกจากหลอดเก็บเสมหะ แล้วนำเสมหะสง่ ตรวจ 12) ขณะดูดเสมหะ ใหส้ ังเกตลักษณะสี ปรมิ าณเสมหะ และอาการแสดงของผู้ป่วยด้วย เช่น อาการหายใจลำบาก กระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเขียว เป็นต้น เพื่อสังเกตภาวะพร่อง ออกซิเจน 561

13) ในกรณีที่มีเสมหะหรือน้ำลายในปากให้ใช้สายดูดเสมหะเส้นใหม่ ห้ามใช้สายดูด เสมหะที่ดูดน้ำลายในปากแล้วมาดูดเสมหะทางท่อทางเดินหายใจ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเช้ือ ได้ 14) หลังการดูดเสมหะให้ล้างสายดูดเสมหะ โดยการดูดน้ำสะอาดจากขวดที่เตรียมไว้ เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ สมหะอุดตนั สายยาง และปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชอ้ื โรค 15) ปิดเครื่องดูดเสมหะ ปลดสายดูดเสมหะ และถอดถุงมืออย่างถูกวิธีแล้วทิ้งลงในถัง ขยะติดเชือ้ เพ่ือป้องกนั การแพรก่ ระจายเชื้อโรค 16) เช็ดข้อต่อของเครื่องดูดเสมหะด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เพื่อทำความสะอาด และลดการแพรก่ ระจายเชอื้ โรค 17) ถอดผ้าปิดปากและจมูกแล้วล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการ แพร่กระจายเช้อื โรค ภายหลังการปฏิบตั ิกจิ กรรมการพยาบาล 18) จัดให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่สุขสบาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนหลังการปฏิบัติกิจกรรม การพยาบาล 19) การประเมินผลภายหลังการดูดเสมหะ ลักษณะการหายใจ เสียงเสมหะในปอด ค่า ความอ่มิ ตวั ของออกซเิ จน (Oxygen saturation) 20) บนั ทกึ ผลการปฏบิ ัติการพยาบาล 15.2 สรปุ การดูดเสมหะมีความสำคัญอย่างมากในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ ท่ี ได้รับการใส่ท่อทางเดนิ หายใจชนดิ ต่างๆ และผูป้ ว่ ยท่ีไม่สามารถไอขับเสมหะได้ดว้ ยตนเอง ระมัดระวัง ในทกุ ขนั้ ตอนของการดูดเสมหะเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจเกิดขน้ึ ได้ 562

15.3 แบบประเมนิ ทกั ษะปฏิบตั ิการพยาบาลพ้นื ฐาน แบบประเมนิ ทักษะการดูดเสมหะ (Suction) ชอ่ื .....................................สกุล...........................................รหัส...................................... คำช้แี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ผลการปฏบิ ัติ วิธกี าร ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ลำดบั ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ (1) (0) ขนั้ เตรียม 1 ลกั ษณะการหายใจ (ลึก/ตน้ื เร็ว/ช้า เสยี งการหายใจ) 2 ฟังเสียงปอด ประเมนิ เสยี งเสมหะในทางเดนิ หายใจ 3 ทกั ทายผูป้ ว่ ยและแนะนำตนเอง 4 อธิบายวัตถปุ ระสงค์ของการดูดเสมหะใหผ้ ปู้ ว่ ยทราบ 5 เตรียมอปุ กรณถ์ ูกต้อง ครบถว้ น พร้อมใช้ 6 จดั ทา่ ศีรษะสูงประมาณ 30 องศา(semi- fowler position) 7 ลา้ งมือถูกวธิ ี 7 ข้ันตอน 8 สวม Mask ขน้ั ปฏบิ ัติ (ก่อนดูดเสมหะ ใช้หลักปลอดเช้ือ) 9 เช็ดขอ้ ต่อ (fingertip) ดว้ ยแอลกอฮอล์ 70% 10 ฉกี ซองสายดูดเสมหะ แลว้ วางไวโ้ ดยทีไ่ ม่มีการปนเปื้อน 11 สวมถงุ มอื ปลอดเชอื้ มอื ข้างท่ีถนดั 12 หยิบสายดดู เสมหะปลอดเช้ือด้วยมือข้างท่ีสวมถุงมือ 13 ต่อสายดูดเสมหะปลอดเชื้อกับขอ้ ต่อโดยไม่ปนเปอ้ื น 14 เปดิ เครอื่ งดดู เสมหะดว้ ยมอื ข้างท่ไี มส่ วมถุงมือ โดยไม่ใหส้ าย ปนเป้ือน 15 เลือกแรงดันถกู ต้อง เดก็ เลก็ 60-90 mmHg เดก็ โต 80-100 mmHg ผใู้ หญ่ 100-120 mmHg 563

วธิ กี าร ผลการปฏิบตั ิ หมาย ลำดับ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ เหตุ (1) (0) ข้นั ปฏิบตั ิ (ขณะดูดเสมหะ ใช้หลกั ปลอดเชื้อ) 16 สอดสายดดู เสมหะเข้าไปในท่อหลอดลมอยา่ งรวดเรว็ และ นุม่ นวล โดยไมป่ ดิ รขู ้อต่อควบคมุ แรงดนั (fingertip) 17 สอดสายจนถงึ บรเิ วณ carina หรือผปู้ ่วยไอ ดึงสายขึ้นมา ประมาณ 1 ซ.ม. 18 ปิดรขู ้อต่อควบคุมแรงดัน (fingertip) เพ่ือดูดเสมหะ ดึงออกชา้ ๆ ใชเ้ วลาประมาณ 10 – 15 วินาที 19 เว้นระยะ 20-30 วนิ าที ใหผ้ ูป้ ว่ ยพกั หรือใหผ้ ู้ป่วยหายใจ 3 – 5 ครั้ง ก่อนการดูดคร้งั ต่อไป 20 การดดู เสมหะไม่ควรเกนิ 3 คร้งั ต่อรอบของการดูดเสมหะ 21 กรณีทย่ี ังมเี สียงเสมหะใหด้ ดู ซ้ำได้ โดยเวน้ ระยะใหผ้ ปู้ ่วยพกั หายใจอยา่ งน้อย 2-3 นาที ขั้นปฏบิ ตั ิ (หลังดดู เสมหะ) 22 ดูดนำ้ เพื่อลา้ งสายดูดเสมหะใหส้ ะอาด 23 ปิดเครอื่ งและปลดสายดูดเสมหะออก 24 ถอดถุงมือและทิ้งสายดูดเสมหะลงถังขยะตดิ เชื้อ 25 เช็ดขอ้ ต่อด้วยแอลกอฮอล์ 70% 26 ถอด mask ทิง้ ลงถังขยะตดิ เชื้อ 27 ลา้ งมือใหส้ ะอาด ขน้ั ประเมินผล 28 ประเมนิ การหายใจ ผูป้ ว่ ยหายใจสะดวก ไมก่ ระสับกระส่าย เสียง เสมหะลดลง คา่ oxygen saturation 29 ขน้ั บนั ทึกผล 30 บันทกึ สภาวะของผู้ปว่ ยและลักษณะการหายใจ 31 ลกั ษณะของเสมหะ สี กลนิ่ ปริมาณ 32 บนั ทึกค่า oxygen saturation จาก pulse oximeter รวม (32 คะแนน) 564

15.4 เอกสารอ้างองิ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอ็นพเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้ืนฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษัท บพธิ การพมิ พ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้นื ฐาน I.กรุงเทพฯ: บริษัท บพธิ การพิมพ์ จำกดั . อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จำกัด. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท จรัลสนิทวงศก์ ารพิมพ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 565

บรรณานุกรม ณัฐสรุ างค์ บุญจันทร์ และคณะ. (2559). ทกั ษะพืน้ ฐานทางการพยาบาล 1. กรงุ เทพฯ: โครงการตำรา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหดิ ล. ถนอมขวญั ทวบี รู ณ์. (2553). การพยาบาล ใน สิรริ ัตน์ ฉัตรชยั สชุ า ปรางคท์ พิ ย์ อุจะรัตน์ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์. ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ; ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น พี เพรส; หน้า 4. ธนรัตน์ พรศิริรัตน์ และ สุรัตน์ ทองอยู่. (2563). การพยาบาลผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีภาวะพร่องออกซิเจน และได้รับการรักษาดว้ ย High Flow Nasal Cannula. เวชบนั ทกึ ศิริราช, 13(1), 60-68. นารรี ตั น์ จิตรมนตรี. การแจง้ ข่าวร้ายและการดูแลครอบครัวผู้ปว่ ยในภาวะฉกุ เฉิน. ใน : วรี ศักดิ์ เมือง ไพศาล, บรรณาธิการ. การจัดการภาวะฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: ห้างห้นุ ส่วนจำกัด ภาพพิมพ์; 2560. หนา้ 221-224. นภา หลมิ รัตน์ และ ศรีเวยี ง ไพโรจนก์ ุล. การดูแลผูป้ ่วยระยะท้ายสำหรับผใู้ หก้ ารดูแล. ขอนแก่น: โรง พมิ พค์ ลงั นานาวิทยา. 2559. ประเสริฐ เลิศสงวนสินชัย, อิศรางค์ นุชประยูร, พรเลิศ ฉัตรแก้ว, ฉันชาย สิทธิพันธุ์ (บรรณาธิการ)., การดแู ลผ้ปู ่วยระยะสุดท้าย.กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์อกั ษรสัมพันธ์, 2550. ประกอบ สุขบุญส่ง. (2546). ประสบการณ์ 50 ปี วิชาชีพพยาบาลที่ฉันรัก. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สำนกั งานพิมพ์ Creative corner. พรทพิ ย์ พรหมแทนสดุ สทุ ธพี ร มูลศาสตร์ และดนยั หีบท่าไม้. (2561). ประสทิ ธผิ ลของโปรแกรมการ จัดการความปวดร่วมกับการปรับสิ่งแวดล้อมในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม. วารสารพยาบาล, 67(4), 34-43. ยงค์ รงค์รุ่งเรือง และ จริยา แสงสัจจา. (2556). เกณฑ์การวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล. สืบค้น จาก www.bamras.or.th ยุทธชัย ไชยสิทธ์. (2556). การประยุกต์ใช้แบบแผนสุขภาพในการพยาบาลผู้ติดเช้ือเอชไอวีแบบองค์ รวมตามหลักฐานเชิงประจักษ์. วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 31(2), 100-110 ราชวิทยาลัยวิสัญญีแห่งประเทศไทยและสมาคมการศึกษาเรื่องความปวดแห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลันหลังผ่าตัด ฉบับที่ 2. สืบค้นจาก http://www.anesthai.org 566

วิจิตรา กุสุมภ์ อรุณี เฮงยศมาก รวีวรรณ ศรีเพ็ญ สัมพันธ์ สันทนาคณิต ธัญญลักษณ์ วจนะวิศิษฐ ภัทพร ขำวิชา รตั นา จารวุ รรโน. (2555). ประเด็นและแนวโนม้ วชิ าชพี การพยาบาล. พิมพ์ ครง้ั ที2่ ฉบับปรับปรงุ , กรงุ เทพฯ; หา้ งหนุ้ สว่ นสามัญนิตบิ ุคคล สหประชาพาณิชย์. วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน : หลักการและแนวคิด. กรุงเทพฯ: วิทยาลยั พยาบาลสภากาชาดไทย. สมจนิ ต์ เพชรพันธุ์ศรี ถนอมขวญั ทวีบูรณ์ เบญจพร สขุ ประเสรฐิ โสพสั ศิริไสย์ ณจั นา สุนยั พนั ธ์ และ จรรยา เจริญสุข. (2557). รูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิตในชุมชนของ กรุงเทพมหานคร. 12(1) : 76-89. สัมพันธ์ สันทนา คณิต สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน II. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท บพธิ การพมิ พจ์ ำกัด. สภาการพยาบาล. (2540). พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2528 และ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัตวิ ชิ าชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2540. สุปราณี เสนาดิสัย และวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: บริษัทจุด ทอง จำกดั . สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน 1. กรงุ เทพฯ : บริษัท บพิธการพิมพ์ จำกัด. สรุ ยี ์ ธรรมิกบวร. (2554). การพยาบาลองค์รวม : กรณศี กึ ษา. กรงุ เทพฯ : ธนาเพลส จำกัด. อติภัทร พรมสมบัติ สุพร ดนัยดุษฎีกุล อรพรรณ โตสิงห์ และ จตุพร ศิริกุล. (2563). ปัจจัยทํานาย ความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บก่อนจําหน่ายจากโรงพยาบาล. Nursing Science Journal of Thailand. 38(2), 59-73. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์. (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บริษัท จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ์ จำกดั . อมรรตั น์ แสงใสแกว้ และพัชนี สมกำลงั . (2561). การประยกุ ต์ใช้แนวคดิ การพยาบาลแบบองค์รวมใน ผู้ป่วยหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับเอว. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม. ฉบับการประชุม วชิ าการครบรอบ 25 ปี. 203 – 208. 567

อัจฉรา พุ่มดวง. (2555). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . Anne GP. (2016). Nursing Interventions & Clinical Skills. St. Louis: Mosby Elsevier. Barbara KT. (2017). Fundamental Nursing Skills and Concepts. Philadelphia: Walters Kluwer. Christensen BL, Kockrow EO. (2011). Fundations and Adult Health Nursing.6th ed, St Louis: Mosby Elsevier. Jeanette I.Webster Marketon and Ronald Glaserac. ( 2008) . Stress hormones and immune function. Cellular immunology: 252(1-2); 16-26. Michael A Matthay, B Taylor Thompson, Lorraine B Ware. (2021). The Berlin definition of acute respiratory distress syndrome: should patients receiving high-flow nasal oxygen be included? The Lancet, 9, 933-936. Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia AP. (2017). Fundamentals of Nursing. St. Louis: Mosby Elsevier. Potter PA, Perry AG, Stockert, PA, Hall AM. (2013). Fundamentals of nursing. 8thed St. Louis: Elsevier Mosby; 2013. Selander LC. (2010). The power of environmental adaptation; Florence Nightingale’s original theory for nursing practice. J Holistic Nursing; 81(3): 133-4. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing. 8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 568

เฉลยคำถามทา้ ยบท คำถามท้ายบทท่ี 1 ขอ้ 1. ข้อใดคอื ภาวะสขุ ภาพดี (well being) เฉลย ผู้สูงอายุเป็นโรคความดันโลหิตสูง รำไท้เก๊กทุกเย็น เพราะอ่านหนังสือพบว่าช่วยลด ความดันได้ ข้อ 2. ข้อใดเป็นการสวมบทบาทของพยาบาลผ้พู ิทกั ษส์ ิทธิ (Advocator) เฉลย อธบิ ายเหตุผลของการไดร้ ับข้อมลู ก่อนเซ็นยินยอมรับการรกั ษา ข้อ 3. ขอ้ ใดคือตัวย่อของหลกั การความปลอดภัยของผูป้ ่วย (Patient safety) เฉลย SIMPLE ข้อ 4. พยาบาลสอบถามผู้ป่วยว่า “ผู้ป่วยมานอนโรงพยาบาลมีใครช่วยดูแลลูกไหมคะ” บ่งบอก ถงึ ความตระหนักถึงปัญหาด้านใดของผ้ปู ่วย เฉลย สงั คม คำถามท้ายบทท่ี 2 กรณีศึกษาท่ี 1 ผปู้ ว่ ยชายไทย ไดร้ ับการวินิจฉยั เป็น Precaution (HIV) ผู้ป่วยมีอาการ ออ่ นเพลียมาก หายใจเหนอื่ ย มีเสมหะ ผลการตรวจเสมหะพบเชื้อวณั โรค ในระยะแพร่กระจาย จง ตอบคำถามและวางแผนการพยาบาลเพื่อป้องกันการตดิ เช้ือทำและปอ้ งกันการแพร่กระจายเช้อื โรค 1. จงระบุ Mode of transmission ………Airborne transmission ……………………………… 2. จงระบุ Transmission- based precaution ………… Airborne precaution (AP)……………………………………………… 3. จงวางแผนการพยาบาลโดยใช้ความรูท้ ่ีเก่ยี วข้องกบั Standard precaution และ Transmission- based precaution - จดั ผู้ป่วยอย่หู อ้ งแยก - สวมชุดป้องกัน Full PPE 569

กรณีศึกษาที่ 2 ผู้ป่วยหญิงไทย มีประวัติเลี้ยงสัมผัสไก่ป่วยตาย ได้รับการวินิจฉัยเป็น ไข้หวัดนก ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลียมาก หายใจเหนื่อย จงตอบคำถามและวางแผนการพยาบาลเพื่อ ป้องกนั การแพร่กระจายเชอ้ื โรค 1. จงบอกชนดิ และชือ่ ของเชื้อไข้หวดั นก……… Influenza A virus H5N1…………………………………………… 2. จงระบุ Mode of transmission……………… Airborne transmission ……………………………. 3. จงระบุ Transmission- based precaution…… Airborne precaution (AP)………………… 4. จงวางแผนการพยาบาลโดยใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ Standard precaution และ Transmission- based precaution - จัดผู้ป่วยอย่หู ้องแยก (negative pressure) - สวมชดุ ปอ้ งกัน Full PPE กรณีศึกษาที่ 3 ผู้ป่วยหญิงไทย ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคปอดบวม ผลเสมหะพบเชื้อ K. Pneumoniae ผู้ป่วยมีอาการไอมีเสมหะสีเขียวข้น จงตอบคำถามและวางแผนการพยาบาลเพื่อ ปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชื้อโรค 1. จงระบุ Mode of transmission………………Contact transmission…………………………… 2. จงระบุ Transmission- based precaution………… Contact precaution………………………. 3. จงวางแผนการพยาบาลโดยใช้ความรู้ทเ่ี ก่ียวข้องกบั Standard precaution และ Transmission- based precaution คำถามทา้ ยบทท่ี 3 ข้อ 1 ประวตั กิ ารเจ็บปว่ ยปัจจุบัน คือ ขอ้ ใด เฉลย Present illness (PI) ข้อ 2 “อาเจียน ถ่ายเหลว 6 ชั่วโมงกอ่ นมาโรงพยาบาล” ประโยคนหี้ มายถงึ ขอ้ ใด เฉลย Chief complain (CC) ข้อ 3 “เคยผา่ ตัดไสต้ งิ่ เมอ่ื 1 ปีก่อน” ประโยคนหี้ มายถึงข้อใด เฉลย Past illness 570

ข้อ 4 ประวตั ยิ าเดิมทีผ่ ปู้ ่วยเคยรบั ประทาน หมายถงึ ข้อใด เฉลย Medication Reconciliation (MR) ขอ้ 5 การซกั ประวตั ิปจั จุบัน หมายถงึ ให้ผูป้ ่วยบอกเลา่ เรื่องใด เฉลย การเจ็บป่วยต้ังแต่เริ่มมอี าการ ข้อ 6 การซกั ประวตั ิเกย่ี วกบั การหายใจ อยูแ่ บบประเมิน 11 pattern Gordon แบบแผนใด เฉลย กิจกรรมและการออกกำลังกาย ขอ้ 7 การจำหนา่ ยผูป้ ว่ ยใชห้ ลกั การในข้อใด เฉลย METHOD ขอ้ 8 คำสั่งการรักษา ให้รับประทานยา Brufen ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง คำแนะนำเรื่องยา เมือ่ จำหน่ายผ้ปู ว่ ยข้อใดถูกต้อง เฉลย รบั ประทานยาใหค้ รบทุกมอ้ื หลังอาหารทันที ระวังอาการปวดท้อง คำถามทา้ ยบทท่ี 4 ข้อ 1 Fever หมายถงึ อุณภูมริ ่างกายในขอ้ ใด เฉลย 37.7 0C ข้อ 2 Pulse = 110 bpm หมายถึงขอ้ ใด เฉลย Tachycardia ขอ้ 3 วิธีการนับ Respiration rate ข้อใดถูกต้อง เฉลย หายใจเขา้ หายใจออก นับ 1 คร้ัง ข้อ 4 BP = 80/50 mmHg หมายถึงข้อใด เฉลย ความดันโลหิตต่ำมาก มภี าวะชอ็ ก ข้อ 5 BP = 120/80 mmHg ตวั เลข 80 หมายถึงข้อใด เฉลย Diastolic BP ข้อ 6 ผู้ป่วยหลังทำผ่าตัดเต้านมขวาและเลาะตอ่ มน้ำเหลือง ควรวดั ความดนั โลหิตท่ีตำแหน่งใด เฉลย แขนซ้าย ขอ้ 7 คา่ ความดนั โลหิตในข้อใด หมายถงึ Hypertension stage 2 เฉลย 144/98 mmHg ขอ้ 8 ผ้ปู ว่ ยเด็กอายุ 10 ปี เรียนหนงั สอื อยูช่ ้นั ป. 4 ควรใช้แบบประเมนิ ความปวดในข้อใด เฉลย Number rating scale 571

ข้อ 9 การบนั ทกึ ชพี จรในฟอรม์ ปรอท ต้องใช้หมึกสีใด เฉลย สีแดง ขอ้ การบนั ทึกคะแนนความปวดในฟอรม์ ปรอท ตอ้ งบันทึกอยา่ งไร 10 เฉลย ใช้เครือ่ งหมาย⚫ สเี ขยี วหรือตามที่หน่วยงานกำหนด คำถามทา้ ยบทท่ี 5 ข้อ 1 เทคนิคการนวดหลัง (Back rub) ทช่ี ่วยขบั เสมหะออกจากปอดได้คอื ข้อใด เฉลย Percussion ข้อ 2 ขอ้ ใดคอื ท่าจบของการนวดหลัง เฉลย Stroking ข้อ 3 การทำความสะอาดฟนั ปลอมข้อใด ไม่ถูกต้อง เฉลย ลวกนำ้ อ่นุ ขอ้ 4 การทำเตียงผู้ปว่ ยท่ีแพทย์ไม่อนญุ าตให้ลงจากเตยี งคือข้อใด เฉลย Occupied bed ขอ้ 5 การทำความสะอาดอวัยวะสบื พันธภ์ ายนอก ต้องเตรยี มสำลีอย่างน้อยกกี่ ้อน เฉลย 6 ก้อน ขอ้ 6 การทำความสะอาดอวัยวะสบื พนั ธ์ภายนอกผปู้ ่วยเพศหญงิ สำลีก้อนที่ 1 เช็ดบริเวณใด เฉลย Mons pubis ข้อ 7 การจัดท่าสำหรับการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกผู้ป่วยเพศชาย ข้อใด ถกู ต้อง เฉลย นอนหงาย กางขา ข้อ 8 ผปู้ ว่ ยชว่ ยเหลอื ตวั เองได้พอควร ลงจากเตียงไม่ได้ ควรเลือกการทำความสะอาดร่างกาย แบบใด เฉลย Partial bed bath ขอ้ 9 ขอ้ ใดถกู ต้องเกยี่ วกบั น้ำยาสำหรับลา้ งตา เฉลย 0.9 % NSS ข้อ 10 การจัดทา่ สำหรบั mouth care ผ้ปู ่วยทไี่ ม่ร้สู ึกตวั ขอ้ ใดถูกตอ้ ง เฉลย นอนหงายเอียงหน้าไปด้านใดหา้ นหนงึ่ 572

คำถามท้ายบทที่ 6 ข้อ 1 ทา่ น้ชี ่อื ว่าอะไร เฉลย Semi Fowler’s Position ขอ้ 2 การจดั ท่าในผปู้ ว่ ยหลังตัดขาท่รี ะดบั เหนือเข่า ขอ้ ใดเหมาะสม เฉลย ขอ้ 1 ขอ้ 3 การจัดทา่ Fowler’ s Position ควรไขปลายเท้าสงู กอี่ งศา เฉลย 15 ข้อ 4 ผูป้ ่วยหลังผ่าตดั ภายใต้ยาระงับความรูส้ ึกแบบทั่วร่างกาย (general anesthesia) รสู้ ึกตวั ดี ควรจัดทา่ หลังผ่าตัดอย่างไร เฉลย Semi – Fowler’ s position ขอ้ 5 ผ้ปู ่วยชอ็ คจากการเสยี เลือดควรจัดทา่ นอนทา่ ใด เฉลย Supine's position ข้อ 6 การพลกิ ตะแคงตวั ผู้ปว่ ยทผ่ี ่าตัดหลงั ชอ่ื ว่าอะไร เฉลย Log rolling ข้อ 7 การออกกำลังกายทา่ งอ-เหยยี ดเข้า พร้อมๆ กบั กระดกปลายเท้า เป็นการออกกำลงั กาย ชนดิ ใด เฉลย Isokinetic ขอ้ 8. คะแนนการประเมนิ ความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม (Henrich Fall Risk Score) ผู้ป่วย รายใดยงั ไม่ควรลงเดนิ เฉลย 5 คะแนน ข้อ 9 ผปู้ ่วยสงู อายุ หลงั ผ่าตัดเปลยี่ นขอ้ เข่าควรเลอื กอุปกรณช์ ่วยพยุงเดนิ ในข้อใด เฉลย Pick up walker 573

ขอ้ 10 ผู้ป่วยหลังผ่าตัด แผนการรักษาให้ลงเดินแบบ Axillary crutch partial weight bearing ควรเดินแบบใด เฉลย 3 point gait คำถามท้ายบทท่ี 7 ข้อ 1 คำส่ังการรักษาให้ Paracetamol syrup sig 250 mg  p.r.n for fever. (ฉลากข้างขวด เขียนว่า 250 mg / 5 ml) ต้องใหย้ านป้ี รมิ าณกีม่ ลิ ลลิ ติ ร เฉลย 5.0 ขอ้ 2 หลัก 10 R: Right patient หมายถึงขอ้ ใด เฉลย ถามช่อื ผู้ป่วยก่อนให้ยา ข้อ 3 คำสัง่ การให้ยา p.r.n. หมายถงึ ข้อใด เฉลย เม่อื จำเปน็ ขอ้ 4 ยา 1 ช้อนโตะ๊ เท่ากับกี่มลิ ลลิ ติ ร เฉลย 15 มิลลิลติ ร ขอ้ 5 การบรหิ ารยาทางตา ขอ้ ใดเปน็ อนั ดบั แรก เฉลย ยาน้ำใส ขอ้ 6 คำส่ังการรักษา Regular insulin กับ mixtard ต้องดูดยาใดก่อน เฉลย Regular Insulin ขอ้ 7 การฉีดยาเข้ากล้ามเนอื้ จำนวน 2 มิลลลิ ติ ร ตอ้ งเตรียมอุปกรณ์อย่างไร เฉลย Syringe 3 cc. ; needle gauge 23-24 574

ขอ้ 8 การเตรียมยาฉีด Tienam 250 mg v drip in 3 hr. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย ละลายด้วย sterile water 10 ml. ดดู ยา 5 ml เจอื จางใน 0.9 % NSS 100 ml. ข้อ 9 ยาในขอ้ ใดตอ้ งให้ดว้ ยการหยดเขา้ หลอดเลอื ดดำเท่านั้น แลย Tazobactam 2.25 g ข้อ 10 ระหวา่ งการฉีดยา Cefazolin sig 1 g v q 6 hr. ผปู้ ่วยบอกเจ็บ มรี อยแดงตามแนวที่ฉีด ยา การปฏบิ ัติขอ้ ใดถูกต้อง เฉลย หยุดฉดี ยา เปดิ เส้นใหม่ คำถามทา้ ยบทท่ี 8 ข้อ 1. สารน้ำ 0.9 % NaCl 1,000 ml iv 100 ml/hr. ถา้ ใช้ Intravenous set 15 drops/ml ตอ้ ง ให้สารนำ้ ..25..หยดตอ่ นาที ขอ้ 2. สารน้ำ 5% D/NSS 1,000 ml. iv 80 ml/hr. หากเรม่ิ ให้สารนำ้ เวลา 10.00 น. เวลาทีส่ ารนำ้ ขวดน้ีจะหมดคือ…………22.30… น. ขอ้ 3. ถา้ เปดิ เสน้ ให้สารนำ้ วนั พฤหสั บดี ต้องติดสต๊กิ เกอร์บนตำแหน่ง Transparent dressing สี อะไร เฉลย เหลอื ง ข้อ 4. อปุ กรณ์ชิน้ นช้ี อ่ื ว่าอะไร เฉลย Transparent dressing 575

ขอ้ 5. สารนำ้ 5% D/NSS/2 หมายถึงข้อใด เฉลย Dextrose 5 % ใน 0.45 % NaCl ข้อ 6. อปุ กรณช์ ้ินนช้ี ่ือว่าอะไร เฉลย Extension with T ขอ้ 7. ระหว่างใหส้ ารนำ้ ผปู้ ่วยบ่นว่า เจบ็ บรเิ วณเข็ม เมื่อไปประเมนิ พบว่า บรเิ วณตำแหน่งทใี่ ห้สาร นำ้ เป็นรอยแดง กว้างประมาณ 2 นิ้ว การประเมินข้อใดถูกต้อง เฉลย Phlebitis grade 2 ข้อ 8. จากโจทย์ข้อ 7 การพยาบาลข้อใดถูกตอ้ งขอ้ ใดเหมาะสม เฉลย เปลีย่ นตำแหน่งใหม่ ขอ้ 9. ผ้ปู ว่ ย on 5 % D/NSS/2 1,000 ml iv drip 80 ml/hr. แพทย์มีคำสั่งการรักษา pack red cell จำนวน 2 unit iv drip 4 hr. / unit ข้อใดปฏบิ ัติถกู ต้อง เฉลย หยดุ 5 % D/NSS/2 ไวก้ อ่ นแลว้ ให้ pack red cell ข้อ 10. Pack red cell 1 unit (250 ml) iv drip 4 hr. / unit ตอ้ งใหเ้ ลือดกี่หยดต่อนาที เฉลย 15 คำถามทา้ ยบทที่ 9 ขอ้ 1 ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกย่ี วกับการหายของแผล เฉลย แผลที่มปี นเป้ือนจะหายช้า ข้อ 2 ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ยี วกับการทำแผล เฉลย เท 0.9% NSS ลงบนผ้ากอ๊ ซกอ่ นเปดิ ดูแผลถลอก ข้อ 3 การทำแผลในขอ้ ใดมีโอกาสเกดิ contaminate นอ้ ยทสี่ ุด เฉลย ใช้มือหยิบผ้ากอซที่เหลือชุบแอลกอฮอล์เช็ดคราบเลือดบริเวณนอกแผล หลังปดิ แผลแล้ว 576

ขอ้ 4 ใช้อปุ กรณใ์ ดในการคบี สำลีทำแผล เฉลย Tooth forceps ขอ้ 5 การปิดแผล ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย ตดิ พลาสเตอร์ขวางแนวลำตวั ขอ้ 6 แผลในขอ้ ใดใช้วธิ ีการทำแผลแห้ง (dry dressing) เฉลย แผลผ่าตัดไส้ต่งิ มเี ลอื ดซึมเลก็ น้อย ข้อ 7 ข้อใดเรียงลำดับการทำแผลไดถ้ กู ต้อง เฉลย แผลผ่าตดั เต้านม แผลเจาะคอ แผลกดทับที่กน้ ขอ้ 8 การทำแผลดว้ ยวิธีการทำแผลเปยี ก (wet dressing) ควรเลือกนำ้ ยาในข้อใดใส่ไว้ในแผล (pack) เฉลย 0.9% NSS ขอ้ 9 การเตรียมอปุ กรณ์เพ่ิมเตมิ สำหรบั ตัดไหม (total stitches off) ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย Scissor ข้อ 10 วิธีการใช้อุปกรณด์ ึงลวดเยบ็ แผลออก (off staple) ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย สอดอุปกรณใ์ ต้ลวด ตรงกลางแล้วกด เมอ่ื ลวดง้างออก ดงึ ออกเบาๆ คำถามทา้ ยบทท่ี 10 ข้อ 1 ผปู้ ่วยรายใดมีลักษณะของการขาดโปรตีน เฉลย เลบ็ มจี ุดดา่ งขาว ข้อ 2 Blenderized diet หมายถงึ ขอ้ ใด เฉลย อาหารป่ันแบบครบสว่ น ข้อ 3 Blenderized diet (1:1) 300 ml ไดเ้ พลังงานเท่าใด เฉลย 300 Kcal ขอ้ 4 การวัดตำแหน่งเพอ่ื ใสส่ ายยางใหอ้ าหารทางจมกู ข้อใดถูกต้อง เฉลย ปลายจมูก, ต่งิ หู, ลนิ้ ปี่ ขอ้ 5 ระหว่างใส่สายยางใหอ้ าหาร ผปู้ ่วยมอี าการไอ หนา้ แดง พูดไม่มีเสียง ต้องทำอยา่ งไร เฉลย นำสายยางให้อาหารออก 577

ขอ้ 6 ข้อใดเปน็ นำ้ ยาทีเ่ หมาะสมในการใชเ้ ชด็ ปลายจกุ ของสายยางให้อาหาร เฉลย นำ้ ตม้ สกุ ขอ้ 7 หากดูด content แลว้ พบวา่ มอี าหารเหลอื คา้ งเกนิ 50 มลิ ลลิ ติ ร การปฏบิ ตั ิข้อใดถูกต้อง เฉลย เลื่อนมอ้ื อาหารออกไป 1 ชวั่ โมง ขอ้ 8 อาหารจำนวน 250 มลิ ลลิ ิตร ควรใช้เวลาในการใหอ้ าหารไม่น้อยกว่ากี่นาที เฉลย 8 นาที ข้อ 9 ขน้ั ตอนการให้ยาทางสายยางใหอ้ าหารข้อใดถูกต้อง A. ยาตามแผนการรักษา B. น้ำประมาณ 10 มิลลิลติ ร C. ยกสายยางใหส้ ูงเหนือศีรษะ เฉลย B, A, B, C ข้อ 10 การจดั ทา่ ปอ้ งกันการสำลักอาหารข้อใดถกู ต้อง เฉลย ศีรษะสงู 60 องศา คำถามทา้ ยบทท่ี 11 ข้อ 1 การสวนปัสสาวะแบบ Intermittent catheter ต้องเลือกอปุ กรณ์ในขอ้ ใด ขอ้ 2 การจัดทา่ เพอ่ื สวนปัสสาวะผปู้ ่วยหญิงขอ้ ใดถูกตอ้ ง เฉลย Dorsal Recumbent position ขอ้ 3 การสวนปัสสาวะแบบ Retain Foley’s catheter ตอ้ งเลอื กอุปกรณใ์ นข้อใด 578

ขอ้ 4 การพยาบาลผปู้ ่วยที่คาสายสวนปัสสาวะขอ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย ไมใ่ ห้สายสวนปสั สาวะหกั พบั งอหรอื ดงึ รงั้ ทอ่ ปัสสาวะ ข้อ 5 ระหวา่ งการสวนอจุ จาระ หากผู้ปว่ ยรู้สกึ ปวดอจุ จาระ ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร เฉลย ใหผ้ ้ปู ่วยอา้ ปาก หายใจชา้ ๆ ขอ้ 6 ผปู้ ว่ ยคาสายสวนปสั สาวะ ปสั สาวะเป็นตะกอนข่นุ กจิ กรรมการพยาบาลขอ้ ใดถูกต้อง เฉลย บบี รดู สายสวนปสั สาวะ ขอ้ 7 การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ (Bladder irrigation) การเตรียมอุปกรณ์ข้อใดถกู ต้อง เฉลย Syringe 50 มลิ ลิลติ ร NaCl for irrigation ข้อ 8 ผูป้ ว่ ยอาเจียนเป็นเลอื ดตอ้ งลงบันทกึ ในชอ่ งใด เฉลย Output / อาเจียน ข้อ 9 ผปู้ ่วยได้รับสารนำ้ 500 มิลลิลิตร ดม่ื น้ำ 8 แกว้ สายระบายเลือด 180 มลิ ลลิ ติ ร ปัสสาวะ 2,000 มลิ ลลิ ิตร การบันทึก Intake/Out put ข้อใดถูกต้อง เฉลย 2,500/2,180 มลิ ลลิ ติ ร ข้อ 10 ผูป้ ่วยมสี ารน้ำยกยอดมาจากเวรก่อนหน้า 800 มลิ ลิลิตร เม่ือส้นิ สุดเวรสารน้ำขวดน้ีเหลือ 100 มลิ ลลิ ิตร ตอ้ งบันทึกสารนำ้ เท่าใด เฉลย 700 มลิ ลิลติ ร คำถามทา้ ยบทท่ี 12 ขอ้ 1 อุปกรณใ์ นข้อใดใช้สำหรบั วดั ค่าความเขม้ ขน้ ออกซเิ จนในเลือด เฉลย Pulse Oximeter ข้อ 2 on Oxygen mask with bag 8 Lit/min ต้องเตรยี มอุปกรณ์ใดบา้ ง เฉลย 2,3,4,5 ข้อ 3 การทำความชื้นในการใหอ้ อกซเิ จน ขอ้ ใดถูกตอ้ ง เฉลย เติม Sterile water 2/3 ของกระบอกทำความชน้ื ขอ้ 4 การพยาบาลผปู้ ่วยทไี่ ด้รบั Oxygen cannula ทีข่ ้อใดถูกต้อง เฉลย ทำความสะอาดจมกู อย่างนอ้ ยทกุ 8 ชั่วโมง ข้อ 5 การเลือกวธิ ีการใหอ้ อกซิเจน 20 LPM ข้อใดเหมาะสม เฉลย High flow nasal cannula 579

คำถามท้ายบทที่ 13 ข้อ 1 ข้อใดถูกตอ้ งเกี่ยวกบั ระยะเวลาในการดูดเสมหะแต่ละครัง้ เฉลย 10 -15 วินาที ต้ังแต่เร่มิ ใส่สายดดู เสมหะ ข้อ 2 การสายดูดเสมหะปลอดเชือ้ (suction catheter) สำหรบั ผูป้ ่วยในภาพ ข้อใดถกู ต้อง เฉลย 10 Fr. ขอ้ 3 การดูดเสมหะผู้ใหญ่ตอ้ งเปิด Pressure เท่าใด เฉลย 80-100 mmHg ขอ้ 4 ระหว่างดดู เสมหะมเี สมหะเหนียวขน้ มาก การปฏิบัติขอ้ ใดเหมาะสม เฉลย เคาะปอดและให้ความชน้ื ก่อนดดู เสมหะครั้งตอ่ ไป ขอ้ 5 การปอ้ งกนั ภาวะพรอ่ งออกซเิ จนระหวา่ งดดู เสมหะ ขอ้ ใดถกู ต้อง เฉลย บีบ Manual resuscitating bag ก่อนและระหวา่ งดูดเสมหะ คำถามทา้ ยบทที่ 14 ข้อ 1 การเก็บส่ิงสง่ ตรวจตอ้ งตรวจสอบชอื่ ผ้ปู ่วยทีต่ ำแหนง่ ใดบ้าง (ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ ) เฉลย ป้ายข้อมือ คำสั่งการรักษา หลอดบรรจุสิ่งส่งตรวจ ใบขอตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ 580

ข้อ 2 การเก็บตัวอย่างเลอื ดส่งตรวจ Complete blood count ต้องใช้หลอดบรรจุเลือดในข้อ ใด ขอ้ 3 คำสั่งการรกั ษา blood for Hemoculture, CBC, BUN, Cr, E, lyte. ต้องเรียงลำดบั การ นำเลือดใส่หลอดเลอื ดอยา่ งไร เฉลย clot blood tube, E.D.T.A tube, Hemoculture ขอ้ 4 การเกบ็ mid steam urine culture (MUC) ข้อใดถกู ตอ้ ง เฉลย พับสาย urine ไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้เข็มดูดจากกระเปาะสาย Foley, s catheter ขอ้ 5 การเก็บเสมหะส่งตรวจชว่ งเวลาใดเหมาะสมทส่ี ดุ เฉลย หลังตื่นนอน คำถามทา้ ยบทที่ 15 ข้อ 1 ขอ้ ใดคอื ลักษณะของผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ย (end of life) เฉลย เป็นมะเร็งตบั ตวั ตาเหลือง ท้องโต หายใจ Air hunger ขอ้ 2 ขอ้ ใดถูกต้อง เกยี่ วกับ living will เฉลย เปน็ การดูแลผูป้ ว่ ยระยะสุดท้ายท่ีคำนงึ ถึงศักดศิ์ รคี วามเป็นมนุษย์ ข้อ 3 ขอ้ ใดคือหลักการสำคัญในการพยาบาลผปู้ ว่ ยระยะสุดทา้ ย เฉลย ดแู ลความสุขสบาย ลดความทุกขท์ รมานของผ้ปู ่วย ข้อ 4 ข้อใดคือสง่ิ ที่ต้องปฏิบตั ิ เปน็ อนั ดับแรก เมื่อผ้ปู ่วยระยะสุดท้าย หยุดหายใจ เฉลย ประเมินสัญญาณชพี ตรวจสอบ pupil 581

ขอ้ 5 การทำความสะอาดร่างกายภายหลงั ผูป้ ว่ ยผูท้ ี่ถงึ แกก่ รรม ไมเ่ กินกี่ชั่วโมง เฉลย 2 ชวั่ โมง 582


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook