8.2 วธิ กี ารฉีดยาเขา้ หลอดเลอื ดดำแบบหยด (intravenous injection drip) การฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยวิธีหยด (Intravenous infusion, Intravenous drip) เปน็ การฉีดยาท่ีตอ้ งเจอื จางเข้ากบั สารละลายแล้วหยดเขา้ ทางหลอดเลอื ดดำชา้ ๆ นานประมาณ 30 – 60 นาที ขึ้นอยู่กับชนิดของยา 8.2.1 อปุ กรณ์เครือ่ งใช้ 1) แผนการรักษาและ ใบ MAR 2) ยาปลอดเช้ือตามแผนการรักษาทไ่ี ม่หมดอายุ 3) เข็มเบอร์ 25-27 ความยาว 1 – 1½ นิ้ว กรณีฉีดทาง injection plug และเข็มเบอร์ 18-20 สำหรบั ผสมยา 4) กระบอกฉีดยาขนาด 10 มิลลิลิตร สำหรับผสมยา กระบอกฉีดยาขนาด 5 มิลลิลิตร สำหรับเตรยี ม normal saline 4-5 ml ใชใ้ นกรณีฉดี ทาง injection plug หรอื Normal saline lock 5) ตัวทำละลายสำหรับผสมยา (กรณียาผง) เช่น sterile water, 0.9% NSS (เลือกตัว ทำละลายตามคำแนะนำในฉลากยาหรอื ตำรายา) 6) 0.9% NSS หรือ 5% Dextrose in water ปริมาณ 50 -100 มิลลิลิตร สำหรับเจือ จางยา (เลอื กตามคำแนะนำในฉลากยาหรือตำรายา) 7) ชดุ ใหส้ ารนำ้ (intravenous set) 8) 70% alcohol 9) สำลปี ลอดเชื้อบรรจุในภาชนะปลอดเชื้อ 10) Transfer forceps ปลอดเชอื้ พร้อมกระปกุ 11) ใบเล่ือยสำหรบั เปิดขวดยาหรือตัดหลอดยา 12) ชามรปู ไต 1 ใบ สำหรับใสข่ องทีใ่ ชแ้ ลว้ 12) ถาดใส่เครอื่ งใช้หรือรถเตรียมยา 13) safety box หรือภาชนะปลดและเกบ็ หวั เขม็ 8.2.2 การเตรียมยา ภายหลังผสมยาตามวิธีการเตรียมยาที่เป็นผง (vial) จนยาละลาย หมดแล้ว นำยาไปเจอื จางในสารละลายทเ่ี ขา้ กนั ไดจ้ ำนวน 50 - 100 มลิ ลลิ ิตรตามความถกู ต้องของยา ชนิดนนั้ ๆ เขยี นใบปิดขวดยา ตรวจสอบช่ือยา ครบ 3 คร้งั (ก่อน ขณะ หลงั ) เซ็นชอ่ื ในใบปิดขวดยา 501
8.2.3 วิธปี ฏิบัติ 1) สอบถามชื่อ สกลุ ผูป้ ่วย ตรวจสอบกบั ปา้ ยข้อมอื และใบ MAR 2) จดั ท่าให้สขุ สบาย 3) ตรวจสอบตำแหน่งฉดี 4) ลา้ งมอื ให้สะอาด 5) ทำความสะอาดตำแหนง่ ฉดี ยา ปลอ่ ยใหน้ ้ำยาทำความสะอาดแหง้ 6) ทดสอบการอยู่ในหลอดเลือดของปลายเข็มโดย กรณี injection plug ใช้เข็มที่ต่อ กระบอกฉีดยา บรรจุ normal saline แทงทปี่ ลายจุก กรณี normal saline lock ให้หมุนจุกปิดออก พร้อมๆ กับหมุนเข็มออก นำปลายกระบอกฉีดยาต่อเข้ากับ normal saline lock แล้วค่อยปิด clamp กรณี 3 way ให้หมุนจุกปดิ ออกพร้อมๆ กับหมุนเข็มออก นำปลายกระบอกฉีดยาตอ่ เข้ากับ 3 way แล้วค่อยหมุนเปิด ดึงลูกสูบขึ้นมาเล็กน้อย หากมีเลือดตามมาแสดงว่าเข็มอยู่ในหลอดเลือด ให้ ฉีด normal saline เขา้ ไปประมาณ 2 มิลลิลิตร แลว้ นำเข็มออก (กรณเี ปน็ Normal saline lock, 3- way ให้ปิด clamp ก่อน) 7) นำชดุ ใหย้ ามาตอ่ เขา้ กบั injection plug, Normal saline lock, 3-way 8) เปิด clamp ปรับหยดตามท่ีคำนวณไว้ 9) เม่ือยาหมดปิด clamp นำชดุ ให้ยาออก นำ normal saline มาไล่สายปรมิ าณ 2 – 3 มลิ ลลิ ติ ร 10) เซน็ ชอื่ ในใบ MAR ถูกต้อง (ชอื่ ชัดเจน ตำแหนง่ ลงเวลาทฉ่ี ีดจริง) 11) บนั ทึกการใชย้ าและอาการผิดปกติในแบบบนั ทึกทางการพยาบาล 8.3 บทสรุป การฉีดยาเขา้ หลอดเลอื ดดำ เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยง พยาบาลต้องปฏิบตั อิ ย่างรอบคอบ ถูกต้องตามหลกั การ 10 R และบริหารยาด้วยเทคนิคปลอดเชือ้ 502
8.4 แบบประเมินทกั ษะปฏิบตั กิ ารพยาบาลพ้ืนฐาน แบบประเมนิ ทักษะการฉดี ยาเข้าหลอดเลอื ดดำในระยะสัน้ (Intravenous injection: push, bolus) ชือ่ .....................................................สกุล.....................................รหสั นักศึกษา............................................ คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องทต่ี รงกับผลการปฏบิ ัติ ลำดับ ผลการปฏิบัติ หมาย ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบัติ เหตุ วิธกี าร (1) (0) ขน้ั เตรียม 1 ตรวจสอบใบ MAR กับแผนการรักษา 2 ตรวจสอบประวตั ิการแพย้ า 3 ทักทายผปู้ ว่ ยและแนะนำตนเอง 4 อธิบายวัตถุประสงค์การฉดี ยาใหผ้ ปู้ ่วยทราบ 5 ประเมนิ ตำแหน่งทจี่ ะฉีดยา - injection plug, Normal saline lock, 3 way ขน้ั ปฏบิ ตั ิ (ก่อนฉีดยา ใช้หลักปลอดเชื้อ) 6 หยิบยาและตรวจสอบให้ตรงกับใบ MAR* ตรวจสอบช่อื ยา ขนาดยาและวนั หมดอายุ 7 เตรยี มอุปกรณด์ ังน้ี - ยา -ใบ Medication Administration Record -Needle No 25-27 ความยาว 1 – 1½ นิ้ว กรณฉี ีดทาง injection plug และ Needle No 18-20 สำหรับผสมยา และฉดี ยาทาง Normal saline lock หรือ 3 way -Syringe 5 -10 มิลลลิ ิตร เหมาะสมกบั ปรมิ าณยาท่ีจะฉีด Syringe 5 มิลลลิ ิตร สำหรบั เตรยี ม normal saline 4-5 ml กรณีฉีดทาง injection plug หรอื Normal saline lock -ตัวทำละลายสำหรบั ผสมยา -70% alcohol 503
ลำดับ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย วิธกี าร ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ (1) (0) -สำลีปลอดเชื้อบรรจใุ นภาชนะปลอดเชื้อ -Transfer forceps ปลอดเชื้อพร้อมกระปุก -ใบเล่อื ยสำหรบั เปดิ ขวดยาหรือตดั หลอดยา -ชามรปู ไต 1 ใบ สำหรับใส่ของทีใ่ ช้แลว้ -ถาดใสเ่ คร่ืองใช้หรอื รถเตรยี มยา -safety box หรอื ภาชนะปลดและเก็บหัวเข็ม 8 ล้างมอื 7 ข้ันตอน 9 เตรียมยาถูกตอ้ ง ไม่ปนเป้ือน 10 คำนวณยาถูกต้อง ตามแผนการรักษา 11 ดดู ยาครบจำนวน 12 ตรวจสอบชือ่ ยา ครบ 3 ครั้ง (กอ่ น ขณะ หลงั ) 13 กรณฉี ดี ทาง injection plug เปลีย่ น Needle เป็น No23 – 25 ให้ปลายตดั อยู่ด้านบนตรงกบั Scale ขั้นปฏิบัติ (ขณะฉดี ยา ใช้หลักปลอดเชื้อ) 14 สอบถามช่ือ สกลุ ผูป้ ่วย ตรวจสอบกบั ป้ายข้อมือและใบ MAR 15 จดั ทา่ ใหส้ ุขสบาย 16 ตรวจสอบตำแหนง่ ฉีด 17 ล้างมือด้วย alcohol gel 18 ทำความสะอาดตำแหนง่ ฉดี ยา ปล่อยใหน้ ำ้ ยาทำความสะอาดแหง้ 19 การฉดี ยา - กรณี injection plug ใชเ้ ข็มทีต่ ่อกระบอกฉดี ยา บรรจุ normal saline แทงทปี่ ลายจุก - กรณี normal saline lock ให้เปิดจุกปิดออกพร้อมๆ กบั หมนุ เขม็ ออก นำปลายกระบอกฉดี ยาตอ่ เขา้ กับ normal saline lock แลว้ คอ่ ยเปดิ clamp - กรณี 3-way ใหห้ มุนจกุ ปิดออกพร้อมๆ กับหมุนเข็มออก นำปลายกระบอกฉดี ยาต่อเข้ากบั 3way แลว้ ค่อยหมนุ เปิด 504
ลำดบั ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ เหตุ วิธีการ (1) (0) 20 ดงึ ลูกสบู ขน้ึ มาเล็กนอ้ ย หากมีเลอื ดตามมาแสดงวา่ เข็มอยู่ ในหลอดเลือด ให้ฉีด normal saline เข้าไปประมาณ 2 มิลลิลิตร แล้วนำเข็มออก (กรณีเปน็ Normal saline lock, 3-way ให้ปิด clamp ก่อนนำ syringe ออก) 21 นำยามาฉีด ดันยาชา้ ๆ (อัตรา 1 มลิ ลิลติ ร / 10 วนิ าท)ี 22 ดึงเขม็ ออกตามแนวที่แทงเข้าอย่างถูกวิธี ( ปิด clamp Normal saline lock, ปิด clamp 3-way ปรบั หยดสารน้ำตามแผนการรักษา) ข้นั ปฏบิ ตั ิ (หลงั ฉดี ยา) 23 ปลดหวั เขม็ ท่ีใช้แลว้ ทง้ิ ใน Safety box หรือหากไมม่ ี Safety box สวมปลอดเขม็ ด้วยวธิ ี one hand technique แลว้ นำไปทิ้ง 24 เก็บอปุ กรณแ์ ละลา้ งมือ ขัน้ นประเมนิ ผล 25 ประเมินอาการไม่พงึ ประสงค์ของยา 26 สังเกตผวิ หนังตำแหน่งท่ีฉีดยา ขน้ั บันทึกผล 27 เซน็ ชอ่ื ในใบ MAR ถูกตอ้ ง (ชือ่ ชัดเจน ตำแหน่ง ลงเวลาท่ีฉีดจรงิ ) 28 บนั ทกึ การใชย้ าและอาการผดิ ปกตใิ นแบบบนั ทึกทางการ บอก พยาบาล ขอ้ ความ ท่ีจะ บันทกึ รวม (28 คะแนน) 505
แบบประเมนิ ทักษะการฉีดยาเขา้ หลอดเลือดดำโดยวิธีการหยด (intravenous injection: infusion, drip) ชือ่ .....................................................สกุล........................................รหสั นกั ศกึ ษา............................................ คำช้แี จง โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องท่ีตรงกับผลการปฏบิ ัติ ลำดบั ผลการปฏิบตั ิ หมายเหตุ วธิ ีการ ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบตั ิ (1) (0) ขั้นเตรียม 1 ตรวจสอบใบ MAR กับแผนการรักษา 2 ตรวจสอบประวตั กิ ารแพย้ า 3 ทักทายผู้ป่วยและแนะนำตนเอง 4 อธิบายวตั ถปุ ระสงค์การฉดี ยาใหผ้ ปู้ ่วยทราบ 5 ประเมินตำแหนง่ ทจี่ ะฉดี ยา - injection plug, Normal saline lock, 3 way ขน้ั ปฏิบัติ (ก่อนฉดี ยา ใช้หลักปลอดเช้ือ) 6 หยบิ ยาและตรวจสอบให้ตรงกบั ใบ MAR* ตรวจสอบช่ือยา ขนาดยาและวันหมดอายุ 7 เตรยี มอปุ กรณ์ดงั นี้ -ยา -ใบ Medication Administration Record -Needle No 25-27 ความยาว 1 – 1½ น้วิ กรณีฉีดทาง injection plug และ Needle No 18-20 สำหรับผสมยา -Syringe 10 มลิ ลลิ ิตร สำหรับผสมยา Syringe 5 มิลลลิ ิตร สำหรบั เตรียม normal saline 4-5 ml กรณีฉีดทาง injection plug หรือ Normal saline lock - ตวั ทำละลายสำหรบั ผสมยา (กรณยี าผง) เช่น sterile water, 0.9% NSS (เลือกตวั ทำละลายตามคำแนะนำใน ฉลากยาหรอื ตำรายา) - 0.9% NSS หรือ 5% Dextrose in water ปริมาณ 50 506
ลำดับ วิธีการ ผลการปฏิบตั ิ หมายเหตุ มิลลิลิตร ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏบิ ัติ (1) (0) -100 มิลลิลติ ร สำหรับเจือจางยา (เลือกตามคำแนะนำใน ฉลากยาหรือตำรายา) -ชดุ ให้สารนำ้ (intravenous set) - 70% alcohol - สำลปี ลอดเชือ้ บรรจใุ นภาชนะปลอดเชื้อ -Transfer forceps ปลอดเช้ือพร้อมกระปุก -ใบเลื่อยสำหรับเปิดขวดยาหรือตัดหลอดยา -ชามรปู ไต 1 ใบ สำหรับใส่ของทใี่ ชแ้ ล้ว -ถาดใสเ่ ครื่องใช้หรอื รถเตรยี มยา - safety box หรอื ภาชนะปลดและเกบ็ หัวเข็ม 8 ลา้ งมือ 7 ข้ันตอน 9 เตรยี มยาถกู ตอ้ ง ไมป่ นเปื้อน ผสมยาลงในสารละลายท่เี ข้า กนั ได้จำนวน 50 - 100 มิลลลิ ิตรตามความถูกต้องของยา ชนิดนัน้ ๆ 10 เขยี นใบปดิ ขวดยา คำนวณหยดถูกต้อง 11 ตรวจสอบชอ่ื ยา ครบ 3 ครง้ั (กอ่ น ขณะ หลงั ) 12 เซน็ ชอื่ ในใบปดิ ขวดยา 13 กรณฉี ีดทาง injection plug เปลี่ยนเข็มฉดี ยาเป็น No23 – 25 ใหป้ ลายตดั อยดู่ ้านบนตรงกบั Scale 14 ตรวจสอบไมใ่ ห้มฟี องอากาศในสายชุดใหส้ ารน้ำ ขั้นปฏบิ ัติ (ขณะฉีดยา ใช้หลักปลอดเชื้อ) 15 สอบถามชื่อ สกุล ผปู้ ว่ ย ตรวจสอบกบั ป้ายขอ้ มอื และใบ MAR 16 จัดทา่ ใหส้ ุขสบาย 17 ตรวจสอบตำแหนง่ ฉดี 507
ลำดับ ผลการปฏิบตั ิ หมายเหตุ วิธกี าร ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ (1) (0) 18 ลา้ งมอื ด้วย alcohol gel 7 ขน้ั ตอน 19 ทำความสะอาดตำแหนง่ ฉดี ยา ปลอ่ ยใหน้ ้ำยาทำความ สะอาดแหง้ 20 การฉีดยา - กรณี injection plug ใชเ้ ข็มท่ีตอ่ กระบอกฉดี ยา บรรจุ normal saline แทงท่ปี ลายจกุ - กรณี normal saline lock ใหห้ มนุ จุกปดิ ออกพร้อมๆ กับหมุนเข็มออก นำปลายกระบอกฉดี ยาต่อเข้ากับ normal saline lock แล้วค่อยปดิ clamp - กรณี 3 way ให้หมุนจกุ ปิดออกพร้อมๆ กบั หมุนเข็ม ออก นำปลายกระบอกฉีดยาต่อเขา้ กบั 3way แล้วค่อย หมุนเปดิ 21 ดงึ ลูกสบู ขนึ้ มาเล็กน้อย หากมีเลือดตามมาแสดงว่าเข็มอยู่ ในหลอดเลอื ด ให้ฉีด normal saline เข้าไปประมาณ 2 มิลลิลติ ร แล้วนำเขม็ ออก (กรณีเป็น Normal saline lock, 3-way ให้ปิด clamp ก่อน) 22 นำชุดให้ยามาต่อเข้ากับ injection plug, Normal saline lock, 3-way 23 เปิด clamp ปรบั หยดตามท่ีคำนวณไว้ ขนั้ ปฏบิ ัติ (หลงั ฉดี ยา) 24 เมอ่ื ยาหมดปดิ clamp นำชดุ ให้ยาออกนำ normal saline มาไลส่ ายปริมาณ 2 – 3 มลิ ลิลติ ร 25 เกบ็ อุปกรณท์ ้ิงชดุ ใหส้ ารนำ้ อย่างถกู วธิ ี ขัน้ ประเมนิ ผล 26 ประเมนิ อาการไม่พึงประสงค์ของยา 27 สงั เกตผิวหนังตำแหนง่ ท่ีฉีดยา ขน้ั บันทึกผล 28 เซน็ ชอื่ ในใบ MAR ถูกตอ้ ง 508
ลำดบั ผลการปฏิบตั ิ หมายเหตุ วิธกี าร ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบตั ิ (1) (0) (ชื่อชดั เจน ตำแหนง่ ลงเวลาที่ฉีดจริง) 29 บันทกึ การใชย้ าและอาการผดิ ปกติในแบบบนั ทกึ ทางการ บอก ข้อ พยาบาล ความ ทจี่ ะ รวม (29 คะแนน) บันทึก 8.5 เอกสารอา้ งองิ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอ็นพเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษทั บพธิ การพิมพ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกัด สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้นื ฐาน I.กรงุ เทพฯ: บริษัท บพธิ การพมิ พ์ จำกัด. อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษัท ธนาเพรส จำกัด. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษทั จรลั สนิทวงศก์ ารพมิ พ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. 509
Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 510
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9 วิธปี ฎบิ ัติการพยาบาลพน้ื ฐานในการบริหารยาพ่น หวั ขอ้ เน้อื หาประจำบท 1. วธิ กี ารบริหารยาพ่น จำนวนชวั่ โมงท่ีสอน: ภาคทดลอง 2 ช่ัวโมง วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ปฏบิ ตั ิการบรหิ ารยาพ่นตามโจทยส์ ถานการณ์ไดถ้ กู ต้อง วธิ สี อนและกิจกรรมการเรยี นการสอน 1. วิธสี อน 1.1 สอนสาธิตและสาธติ ย้อนกลบั 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 สอนสาธิตการบรหิ ารยาพ่นตามโจทยส์ ถานการณ์ 2.2 ผู้เรียนฝกึ ปฏบิ ตั ิและสาธิตยอ้ นกลบั 2.3 สะทอ้ นคดิ การฝึกปฏิบตั แิ ละสรปุ ผลการเรียนรู้ 2.4 ผู้เรียนยมื วสั ดุ อุปกรณไ์ ปฝกึ ปฏบิ ัตติ อ่ นอกเวลาเพื่อให้เกดิ ทกั ษะ สื่อการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. ยาจำลอง วสั ดุ อปุ กรณ์ทางการแพทย์ในหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 3. โจทย์สถานการณ์ และใบบันทกึ การบริหารยา (medication administration record) 4. VDO สอื่ การสอนใน YouTube channel: nursing practice การวดั ผลและประเมินผล 1. ประเมินผลการสาธติ ย้อนกลบั ตามแบบประเมินทกั ษะ 2. การสอบทกั ษะปฏิบัตแิ บบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 511
บทท่ี 9 วธิ ีปฎิบัตกิ ารพยาบาลพน้ื ฐานในการบริหารยาพ่น ยาพ่นเป็นการบริหารยากลุ่มที่ช่วยในการขยายหลอดลม โดยหลักการทำให้ยากลายเป็ล ละอองฝอยเล็ก ๆ (aerosol) ที่สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้มากที่สุด รายละเอียดวิธีการ บรหิ ารยาพน่ ดงั น้ี 9.1 วธิ กี ารบรหิ ารยาพ่น 9.1.1 อปุ กรณเ์ ครอื่ งใช้ 1) แผนการรักษาและ ใบ MAR 2) ยาปลอดเชื้อตามแผนการรกั ษาท่ีไมห่ มดอายุ 3) เข็มเบอร์ 25-27 ความยาว 1 – 1½ นิ้ว กรณีฉีดทาง injection plug และเข็มเบอร์ 18-20 สำหรบั ผสมยา 4) กระบอกฉีดยาขนาด 10 มิลลิลิตร สำหรับผสมยา กระบอกฉีดยาขนาด 5 มิลลิลิตร สำหรบั เตรยี ม normal saline 4-5 ml ใช้ในกรณฉี ีดทาง injection plug หรอื Normal saline lock 5) ตัวทำละลายสำหรับผสมยา (กรณียาผง) เช่น sterile water, 0.9% NSS (เลือกตัว ทำละลายตามคำแนะนำในฉลากยาหรอื ตำรายา) 6) 0.9% NSS หรือ 5% Dextrose in water ปริมาณ 50 -100 มิลลิลิตร สำหรับเจือ จางยา (เลือกตามคำแนะนำในฉลากยาหรอื ตำรายา) 7) ชุดใหส้ ารน้ำ (intravenous set) 8) 70% alcohol 9) สำลีปลอดเชอ้ื บรรจุในภาชนะปลอดเช้ือ 10) Transfer forceps ปลอดเชอ้ื พรอ้ มกระปกุ 11) ใบเล่อื ยสำหรับเปิดขวดยาหรือตัดหลอดยา 12) ชามรปู ไต 1 ใบ สำหรบั ใสข่ องท่ีใชแ้ ล้ว 12) ถาดใส่เครอ่ื งใช้หรอื รถเตรยี มยา 13) safety box หรือภาชนะปลดและเกบ็ หัวเขม็ 512
9.1.2 การเตรยี มยา การผสมยาตามหลกั การเจือจางยา โดยใช้ 0.9 % NSS ตามดว้ ยยาตามแผนการรักษา ตัวอย่างการเตรียมยา Berodual (2:2) ตัวเลขด้านหน้าหมายถึง ยา ตัวเลยด้านหลัง หมายถึง 0.9 % NSS ให้ดูด 0.9 % NSS ปริมาณ 2 มิลลิลิตร ตามด้วย Berodual ปริมาณ 2 มิลลิลติ ร 9.1.3 วธิ ปิ ฏิบัติ 1) สอบถามช่ือ สกลุ ผู้ปว่ ย ตรวจสอบกบั ป้ายข้อมือและใบ MAR 2) จัดทา่ ให้สุขสบาย นอนศรีษะสูง 3) สวม Flow meter กับแหล่งออกซิเจนทผี่ นงั (Pipe-line) / ถงั (Tank) 4) ตอ่ ชดุ สำหรับพ่นยา (Nebulizer set) โดยไม่ต้องผ่านกระบอกทำความชืน้ 5) นำยาพน่ ทเี่ ตรยี มไวใ้ สใ่ นกระเปาะของชุดสำหรบั พน่ ยา (Nebulizer set) ปรบั อตั รา การไหลของ ออกซเิ จน 6 – 8 ลติ ร/นาที 6) ครอบหน้ากากบรเิ วณสนั จมูกและปากให้แนบสนทิ ปรบั สายคลอ้ งทดั เหนือใบหูรอบ ศีรษะ จดั ให้พอดี 7) เม่อื ยาหมดนำชดุ สำหรบั พ่นยา (Nebulizer set) ออกจากใบหน้าผปู้ ว่ ย 8) ปดิ อตั ราการไหลของออกซิเจน 9) การประเมินผล ประเมินอาการไมพ่ งึ ประสงค์ของยา ประเมนิ การหายใจ อตั ราการ หายใจอยใู่ นเกณฑ์ปกติ oxygen saturation ≥ 95% 10) เซน็ ชอื่ ใหย้ าในใบ MAR (ชื่อชัดเจน ตำแหน่ง ลงเวลาท่ีฉดี จรงิ ) 9.2 บทสรปุ การบรหิ ารยาพ่นเปน็ หัตถการท่ีมีความเสี่ยงพยาบาลต้องปฏบิ ัติอย่างรอบคอบ ถูกต้องตาม หลกั การ 10 R 513
9.3 แบบประเมินทักษะปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลพ้ืนฐาน แบบประเมนิ ทักษะการพ่นยา (Nebulizer) ชอ่ื .....................................................สกุล..........................................รหสั นกั ศึกษา...................................... คำช้แี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องทตี่ รงกบั ผลการปฏบิ ัติ ลำดบั วิธีการ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ปฏิบตั ิ ไม่ปฏบิ ตั ิ เหตุ ขน้ั เตรียม (1) (0) 1 ตรวจสอบใบ MAR กบั แผนการรกั ษา 2 ตรวจสอบประวัติการแพย้ า 3 ทกั ทายผูป้ ว่ ยและแนะนำตนเอง 4 อธบิ ายวัตถปุ ระสงคก์ ารพน่ ยาใหผ้ ้ปู ่วยทราบ 5 ประเมนิ อตั ราการหายใจ SpO2 ขัน้ ปฏิบตั ิ (การเตรียมยาพ่น ) 6 หยบิ ยาและตรวจสอบใหต้ รงกับใบ MAR* ตรวจสอบช่ือยา ขนาดยาและวันหมดอายุ 7 เตรยี มอปุ กรณ์ดงั นี้ 1) ยา 2) ใบ Medication Administration Record 3) Needle No. 20, 21 4) Syringe 5 มิลลิลติ ร 5) ตัวทำละลายสำหรับผสมยา 0.9% NSS 6) 70% alcohol 7) สำลปี ลอดเชอ้ื บรรจใุ นภาชนะปลอดเชื้อ 8) Transfer forceps ปลอดเชอ้ื พรอ้ มกระปุก 9) ชามรูปไต 1 ใบ สำหรบั ใสข่ องทใี่ ช้แล้ว 10) ถาดใส่เครื่องใชห้ รอื รถเตรยี มยา 11) safety box หรอื ภาชนะปลดและเกบ็ หวั เข็ม 12) ชุดสำหรับพน่ ยา(Nebulizer set) 13) Flow meter 514
ผลการปฏบิ ัติ หมาย ลำดับ วธิ ีการ ปฏิบตั ิ ไม่ปฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) 8 ลา้ งมอื 7 ขั้นตอน 9 เตรียมยาพน่ ตามแผนการรกั ษา โดยดูด 0.9% NSS ก่อน แล้วดดู แลว้ จึงดูดยาปรมิ าณตามแผนการรกั ษา ขัน้ ปฏิบตั ิ (การพน่ ยา) 10 สอบถามชื่อ สกุล ผู้ปว่ ย ตรวจสอบกับปา้ ยขอ้ มอื และใบ MAR 11 จัดท่าใหส้ ุขสบาย นอนศรษี ะสงู 12 สวม Flow meter กบั แหลง่ ออกซเิ จนทผ่ี นัง (Pipe-line) / ถัง (Tank) 13 ตอ่ ชดุ สำหรับพ่นยา (Nebulizer set) โดยไมต่ อ้ งผ่าน กระบอกทำความช้ืน 14 นำยาพน่ ท่เี ตรยี มไวใ้ สใ่ นกระเปาะของชดุ สำหรบั พ่นยา (Nebulizer set) 15 ปรบั อัตราการไหลของ ออกซิเจน 6 – 8 ลิตร/นาที 16 ครอบหนา้ กากบรเิ วณสันจมูกและปากให้แนบสนิท ปรบั สายคล้องทดั เหนือใบหรู อบศีรษะ จัด ให้พอดี ขั้นปฏิบัติ (เม่ือยาหมด) 17 เมอ่ื ยาหมดนำชุดสำหรับพ่นยา (Nebulizer set) ออก จากใบหนา้ ผู้ปว่ ย 18 ปดิ อัตราการไหลของออกซิเจน 19 เก็บอุปกรณ์ ขน้ั ประเมนิ ผล 20 ประเมนิ อาการไม่พึงประสงค์ของยา 21 ประเมินการหายใจ อัตราการหายใจอยใู่ นเกณฑ์ปกติ oxygen saturation ≥ 95% ขนั้ บันทึกผล 22 เซน็ ช่อื ในใบ MAR ถูกต้อง ชื่อชัดเจน ตำแหน่ง ลงเวลาท่ี ใหย้ าจริง 515
ผลการปฏิบัติ หมาย ลำดับ วิธีการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) 23 บนั ทกึ การใชย้ าและอาการผดิ ปกตใิ นแบบบันทกึ ทางการ บอกข้อ พยาบาล ความ ทจ่ี ะ บันทึก รวม ( 23 คะแนน) 9.4 เอกสารอา้ งอิง ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอน็ พเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษทั บพิธการพิมพ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พื้นฐาน I.กรุงเทพฯ: บรษิ ทั บพธิ การพิมพ์ จำกดั . อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษทั ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บริษทั จรลั สนทิ วงศก์ ารพิมพ์ จำกัด. Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 516
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 10 วิธปี ฎบิ ัตกิ ารพยาบาลพืน้ ฐานในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ หัวขอ้ เนื้อหาประจำบท 1. วธิ กี ารให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ จำนวนช่ัวโมงทสี่ อน: ภาคทดลอง 2 ช่วั โมง วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ปฏบิ ัติการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามโจทย์สถานการณไ์ ดถ้ ูกต้อง วิธสี อนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 สอนสาธติ และสาธติ ยอ้ นกลบั 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน 2.1 สอนสาธิตการเตรียมการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ การเขียนใบปิดขวดสารน้ำ การ ตอ่ ชุดให้สารนำ้ วธิ ีการเปดิ เส้นเพ่ือให้สารน้ำทางหลอดเลอื ดดำ 2.2 ผู้เรยี นฝึกปฏิบัตแิ ละสาธิตย้อนกลบั 2.3 สะท้อนคิดการฝกึ ปฏิบตั แิ ละสรุปผลการเรยี นรู้ 2.4 ผู้เรยี นยมื วสั ดุ อุปกรณไ์ ปฝกึ ปฏิบัติต่อนอกเวลาเพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ ส่ือการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. สารนำ้ และชดุ ใหส้ ารน้ำจำลอง วสั ดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ในหอ้ งปฏิบตั กิ าร 3. โจทยส์ ถานการณ์ และใบบนั ทึกการบรหิ ารยา (medication administration record) 4. VDO ส่อื การสอนใน YouTube channel: nursing practice การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลการสาธิตยอ้ นกลบั ตามแบบประเมินทกั ษะ 2. การสอบทักษะปฏบิ ตั ิแบบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 517
บทท่ี 10 วิธปี ฎิบัตกิ ารพยาบาลพ้นื ฐาน ในการใหส้ ารน้ำทางหลอดเลอื ดดำ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อทดแทนสารน้ำของร่างกายที่สูญเสียไป รักษาสมดุล ของสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ให้สารอาหารทดแทนในกรณีที่ไม่สามารถให้อาหารทางปากได้ รวมทั้งเป็นทางให้ยาชนิดต่างๆ รวมทั้งเลือดและส่วนประกอบของเลือด วิธีการให้สารน้ำทางหลอด เลือดดำดังน้ี 10.1 วิธกี ารใหส้ ารน้ำทางหลอดเลือดดำ 10.1.1 เตรยี มอุปกรณ์ ดงั น้ี 1) สารนำ้ ตามแผนการรกั ษา 2) ชุดให้สารน้ำ 3) สายต่อเพม่ิ ความยาวของชดุ ให้สารน้ำ (extension tube) 4) ขอ้ ต่อ 3 ทาง (3- way) 5) เขม็ แทงใหส้ ารนำ้ ทางหลอดเลือดดำ (iv catheter) 6) วสั ดุใสปราศจากเชื้อ (transparent dressing) 7) ถุงมือสะอาด 8) พลาสเตอร์ 10) สำลชี ุบ 70 % alcohol 10.1.2 วิธีการปฏิบตั ิ 1) ตรวจสอบแผนการรกั ษาท่แี พทย์ระบชุ นดิ ของสารนำ้ 2) เตรียมผู้ป่วย เตรียมอุปกรณ์ เตรียมสารน้ำให้ถูกต้องตามแผนการรักษา ตรวจสอบ วันหมดอายุ ลักษณะความผิดปกติของสารน้ำ ชุดให้สารน้ำ สายต่อเพิ่มความยาว (ถ้าจำเป็น) เข็ม สำหรับเปิดเส้นตามความเหมาะสม วัสดุใสปราศจากเชื้อ (transparent dressing) สำหรับปิด ตำแหน่งทแ่ี ทงเข็ม พลาสเตอร์ ถุงมอื สะอาด สายยาง (tourniquet) 3) ตอ่ ชดุ ใหส้ ารนำ้ ดงั นี้ 518
- ดึงฝาครอบส่วนที่ปดิ ขวดสารนำ้ ออก และเชด็ ด้วย 70% alcohol -ฉกี ซองชุดใหส้ ารน้ำออก เล่อื นตวั เปดิ - ปิดที่ชดุ ให้สารนำ้ (Roller-clamp) ให้อยู่ใน ตำแหน่งที่สะดวกตอ่ การปรับอัตราการไหล โดยควรอยูต่ ำ่ กว่ากระเปาะประมาณ 1 ฟุต -ดงึ ฝาครอบทเี่ ปน็ ปลายแหลมแลว้ แทงเข้าที่จุกขวดสารนำ้ ระมดั ระวังไมใ่ ห้มือสัมผัส บริเวณปลายแหลมและจกุ ขวดสารนำ้ ท่ีดึงออกแล้ว 4) บีบกระเปาะให้สารน้ำลงมาประมาณครึ่งกระเปาะ แขวนขวดให้สารน้ำไว้ แล้ว Roller clamp ใหส้ ารน้ำค่อยๆ ไหลมาจนเต็มสายแลว้ ปิดขวดใหส้ ารนำ้ ไวก้ ่อน 5) ปิดป้ายแสดงชนิดของสารน้ำ ยา หรือเกลือแร่ที่ผสมลงไป ปริมาณสารน้ำ จำนวน หยดต่อนาที เวลาท่ีให้ เวลาทีต่ ้องหมด ชื่อ สกลุ ผ้ปู ่วยและลายมือชอ่ื ผเู้ ตรียมสารน้ำ 6) ติดป้ายแสดงวัน เวลา ที่ใช้ชุดให้สารน้ำที่สายให้สารน้ำ และวันที่ชุดให้สารน้ำ หมดอายุ โดยชุดให้สารน้ำควรใช้ไม่เกิน 3 วัน เพราะระยะเวลาที่ใช้นานเกินกำหนดอาจทำให้ผู้ป่วย ตดิ เชื้อได้ 7) ตรวจสอบความถูกต้องของชุดให้สารน้ำอีกครั้งกับคำสั่งการรักษา หลังจากนั้นนำ อปุ กรณท์ งั้ หมดไปท่ีเตียงของผู้ปว่ ย 8) แขวนเสาขวดสารน้ำไว้ที่เสาแขวน ปรับให้สูงกว่าผู้ป่วยประมาณ 3 – 4 ฟุต ป้องกัน การไหลยอ้ นของเลือดจากตัวผูป้ ว่ ย 9) การแทงเข็มเพ่อื ให้สารนำ้ ปฏิบัตดิ งั นี้ (1) สวมถงุ มือสะอาด (2) เลือกตำแหน่งหรือบริเวณที่จะแทงเข็มให้สารน้ำ (ตามหลักการเลือกตำแหน่ง แทงเข็มเพื่อให้สารนำ้ ) (3) รัดสายยาง (tourniquet) เหนือตำแหน่งที่จะแทงเข็มประมาณ 4-6 นิ้ว จะช่วย ให้หลอดเลือดดำโป่งตึง สามารถแทงเข็มเข้าไปในหลอดเลอื ดดำได้ง่าย การผูกให้ผูกเป็นเงื่อนกระตุก อย่าผูกแน่นเกินไป อาจทำให้เลือดแดงไหลไม่สะดวก (4) เชด็ ผิวหนังบริเวณที่จะแทงเขม็ ด้วย 2% chlorhexidine ผสมกับ 70% alcohol โดยเริ่มเช็ดที่ตรงกลางก่อนแล้ววนออกไปรอบนอก 1- 2 นิ้ว รอให้น้ำยาแห้งไปเอง ห้ามพัดหรือเป่า เพราะจะทำใหบ้ ริเวณทีส่ ะอาดแลว้ ปนเปอ้ื นได้ (5) ใช้นิว้ หัวแม่มอื ข้างทไ่ี มถ่ นดั ดึงผวิ หนงั ใต้ตำแหน่งที่จะแทงเขม็ 519
(6) มือทถี่ นัดจับเข็มแทงเข้าตรงดา้ นข้างของหลอดเลือดหรือตรงหลอดเลือด โดยจับ เข็มในลักษณะคว่ำมือ ทำมุม 15 -30 องศากับผิวหนัง เมื่อแทงเข้าผิวหนังแล้วให้ลดระดับของเข็มลง เกือบขนานกับหลอดเลือด เมื่อเข็มเข้าไปในหลอดเลือดแล้ว ความเสียดทานขณะดันเข็มไปด้านหน้า จะลดลงและจะเห็นเลือดไหลเข้ามาที่หัวเข็ม ใหห้ ยุดการเคลื่อนเข็มก่อน แล้วดึงแกนเข็ม ออก พร้อม กับค่อย ๆ ดันเข็มส่วนที่เป็นพลาสติกด้านนอกเข้าไปทีละน้อยจนสุดเข็ม และแกนเข็มจะค้างอยู่ บริเวณหัวเขม็ กอ่ นเพอื่ ปอ้ งกันเลือดไหลออกมาเปื้อนจากนน้ั ปลดสายยางที่รดั แขนออก (7) ใช้นิ้วก้อยข้างที่ไม่ถนัดกดที่หลอดเลือดให้ห่างจากปลายเข็มเล็กน้อย นิ้วชี้และ น้ิวหัวแมม่ อื จับทโ่ี คนเข็มไว้ ส่วนมือขา้ งที่ถนัดจบั แกนเข็มดึงออกแล้วต่อชดุ ให้สารน้ำทเ่ี ตรียมไว้กับหัว เข็มแทนทแ่ี กนเขม็ ท่ีถกู ดึงออก (8) เปิดสารน้ำให้ไหลช้า เพื่อไล่เลือดที่ค้างอยู่ในสายเข้าไปด้านในหลอดเลือด ปิด ตำแหน่งทแ่ี ทงเข็มด้วยวสั ดุใสปราศจากเชื้อ (transparent dressing) ตดิ พลาสเตอร์เพ่ือป้องกันสาย ให้สารนำ้ แกว่งไปมาจนทำให้เข็มหลุด เลอื กตดิ บริเวณผิวหนังสว่ นที่มีขนนอ้ ย (10) ปรับอัตราการไหลของสารน้ำตามแผนการรกั ษา 10) เซน็ ชื่อในใบ MAR ถูกต้อง (ช่อื ชัดเจน ตำแหน่ง ลงเวลา ที่ให้สารน้ำจริง) 10.2 บทสรปุ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อทดแทนสารน้ำและเกลือแร่ พยาบาลต้องตรวจสอบ การให้สารนำ้ เป็นระยะ (ทกุ 2 ชว่ั โมง) เพือ่ ใหผ้ ูป้ ว่ ยได้รบั สารน้ำอย่างครบถว้ นตามแผนการรักษาและ ตรวจสอบการเกิดภาวะแทรกซอ้ น 520
10.3 แบบประเมินทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลพนื้ ฐาน แบบประเมินทักษะการให้สารนำ้ ทางหลอดเลือดดำ (Intravenous infusion) ชอื่ .........................................สกุล...............................รหสั นักศกึ ษา............................................ คำช้แี จง โปรดทำเครื่องหมาย ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ผลการปฏบิ ัติ ลำดับ วิธีการ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ปฏิบตั ิ ไม่ปฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) ข้นั เตรียม 1 ตรวจสอบใบ MAR กับแผนการรักษา 2 ประเมินตำแหนง่ ทจ่ี ะเปดิ เสน้ 3 เตรียมอุปกรณ์ ดังนี้ - สารน้ำตามแผนการรักษา - ชุดใหส้ ารนำ้ - สายตอ่ เพม่ิ ความยาวของชุดใหส้ ารนำ้ (extension tube) - ข้อต่อ 3 ทาง (3- way) - เข็มแทงใหส้ ารน้ำทางหลอดเลอื ดดำ (iv catheter) - วสั ดุใสปราศจากเช้ือ (transparent dressing) - ถุงมือสะอาด - พลาสเตอร์ - สำลีชบุ 70 % alcohol 4 เขียนป้ายติดขวดสารนำ้ ตามแผนการรักษา คำนวณอัตรา ไหล จำนวนหยดต่อนาที เวลาให้ เวลาหมด และเขียนบน ปา้ ยขวดสารนำ้ 5 ตดิ ปา้ ยทขี่ วดให้สารน้ำถกู ต้อง 6 ตอ่ ชดุ ใหส้ ารน้ำเขา้ กับขวดสารนำ้ ไลส่ ายไม่ให้มีฟองอากาศ ขั้นปฏิบัติ 7 แนะนำตัวและประเมินความพร้อมผปู้ ่วย 8 อธบิ ายวตั ถปุ ระสงค์ 9 ล้างมอื 7 ข้ันตอน 521
ลำดับ วิธีการ ผลการปฏบิ ัติ หมาย ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ (1) (0) 10 นำอปุ กรณ์ท้ังหมดไปทเ่ี ตียงผปู้ ่วย แขวนเสาขวดสารน้ำไว้ที่ เสาแขวน ปรับให้สูงกว่าผู้ป่วยประมาณ 3 – 4 ฟุต ป้องกัน การไหลยอ้ นของเลือดจากตัวผปู้ ่วย 11 เปิดเสน้ สำหรบั ให้สารน้ำ 12 ตอ่ ชุดใหส้ ารน้ำเขา้ ไป iv catheter 13 ปรบั อัตราหยดตามท่ีคำนวณไว้ 14 แนะนำการปฏิบัตติ ัวแก่ผูป้ ว่ ย 15 เก็บอปุ กรณ์ ทิง้ ขยะอยา่ งถกู วิธี ขน้ั ประเมนิ ผล 16 ประเมินการเกดิ ภาวะแทรกซ้อน 17 ตดิ ตามประเมนิ ผลการให้สารน้ำตามอตั ราทกี่ ำหนด ขั้นบนั ทึกผล 18 เซน็ ช่ือในใบ MAR ถูกตอ้ ง (ช่อื ชดั เจน ตำแหนง่ ลงเวลา ทีใ่ หส้ ารนำ้ จริง) 19 บันทึกผลการใหส้ ารนำ้ และอาการผิดปกติ (ถ้ามี) บอก ในแบบบันทึกทางการพยาบาล ขอ้ ความ ทจ่ี ะ บนั ทกึ รวม 522
10.4 เอกสารอ้างองิ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอ็นพเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษัท บพธิ การพมิ พ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน I.กรุงเทพฯ: บรษิ ัท บพิธการพมิ พ์ จำกดั . อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ทั จรัลสนิทวงศ์การพมิ พ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 523
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 11 วิธปี ฎบิ ตั กิ ารพยาบาลพนื้ ฐานในการทำแผล หวั ขอ้ เน้อื หาประจำบท 1. วธิ ีการทำแผลแบบ Dry dressing 2. วธิ กี ารทำแผลแบบ Wet dressing จำนวนชั่วโมงที่สอน: ภาคทดลอง 2 ช่ัวโมง วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ปฏิบตั ิการทำแผลตามโจทย์สถานการณ์ไดถ้ ูกต้อง วธิ สี อนและกิจกรรมการเรยี นการสอน 1. วธิ สี อน 1.1 สอนสาธติ และสาธติ ย้อนกลับ 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน 2.1 สอนสาธติ วิธกี ารทำแผลแบบ Dry dressing และการทำแผลแบบ Wet dressing 2.2 มอบหมายผเู้ รยี นฝึกปฏิบตั แิ ละสาธติ ย้อนกลับ 2.3 สะทอ้ นคิดการฝกึ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ผลการเรยี นรู้ 2.4 ผ้เู รยี นยืมวัสุด อุปกรณ์ไปฝกึ ปฏิบตั ติ อ่ นอกเวลาเพือ่ ให้เกิดทักษะ สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. หลอดเกบ็ ตวั อยา่ งเลอื ด วัสดุ อปุ กรณ์ทางการแพทย์ในห้องปฏบิ ัติการ 3. โจทย์สถานการณ์ 4. หุ่นทมี่ แี ผล บาดแผลจำลอง 4. VDO สอื่ การสอนใน YouTube channel: nursing practice การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลการสาธติ ยอ้ นกลับ ตามแบบประเมินทักษะ 2. การสอบทกั ษะปฏิบตั แิ บบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 524
บทที่ 11 วธิ ปี ฎบิ ัตกิ ารพยาบาลพนื้ ฐานในการทำแผล การทำแผลเปน็ หัตถการท่ีมุง่ ในการขจดั เซลล์ท่ตี ายแล้ว สิ่งแปลกปลอม หนอง แบคทีเรยี และเชื้อโรคต่างๆ ออกจากแผล รวมท้งั ทำให้แผลชุม่ ช้ืนส่งเสรมิ การงอกขยายใหม่ของเน้ือเยอ่ื การ เลือกวิธีการทำแผลข้นึ อยู่กับลกั ษณะของผล โดยรายละเอียดของการทำแผลแบบ Dry dressing และ Wet dressing ดังนี้ 11.1 วิธกี ารทำแผลแบบ Dry dressing 11.1.1 การเตรยี มอปุ กรณ์ 1) ชดุ ทำแผล 2) น้ำยาทำความสะอาดแผล เช่น 0.9% NSS 3) ถุงมือ (ถ้าจำเป็น) 4) ชามรปู ไตและถุงขยะใสส่ ำลีหรอื กอ๊ ซที่ใชแ้ ล้ว 5) พลาสเตอร์ 11.1.2 วิธีปฏิบตั ิ 1) ตรวจสอบคำสั่งการรกั ษาและบันทกึ ทางการพยาบาลเกีย่ วกับการทำแผลเพราะการ ทำแผลไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของพยาบาล แผนการรักษาจะระบุชนิดการทำแผล น้ำยาที่ใช้ ชนิดของ การทำแผล บนั ทึกทางการพยาบาลจะให้ข้อมูลลักษณะแผล ส่งิ ขับหลงั่ ความต้องการของผู้ป่วย ของ ใช้สำหรบั การทำแผล 2) ประเมินระดบั ความเจบ็ ปวด ถา้ จำเปน็ อาจตอ้ งใหย้ าเพอ่ื ระงบั อาการปวดก่อนการทำ แผล ประมาณ 30 นาที เพ่ือใหย้ าถกู ดดู ซมึ และออกฤทธิ์ 3) บอกผู้ป่วยให้ทราบเกี่ยวกับแผลและการทำแผล เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วย และขอความร่วมมือ 4) ล้างมอื ให้สะอาด เช็ดมือให้แหง้ 5) ประเมนิ แผลตามหลักการประเมินแผลปดิ และแผลเปดิ แล้วปดิ แผลไว้เช่นเดมิ 6) ล้างมือให้สะอาด (บางสถาบันมีขอ้ กำหนดให้สวม Mask ด้วย) 7) เตรียมอปุ กรณ์ในการทำแผล ชุดทำแผลปราศจากเชื้อ ตรวจสอบวนั หมดอายุของชุด ทำแผล ถ้าตอ้ งการสำลี กอ๊ ซ ถ้ามีจำนวนมากกว่าท่มี ีอยู่ในชดุ ทำแผลใหน้ ำรถทำแผลไปท่ีเตียงผูป้ ่วย 525
8) นำอุปกรณ์ทำแผลไปที่เตียงผู้ป่วยวางบนโต๊ะคร่อมเตียง (Over-bed) ท่ีแห้งสะอาด แนะนำผู้ปว่ ยไม่ให้สมั ผสั ชุดทำแผล เพอื่ ปอ้ งกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค 9) จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ปิดม่านเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย ปิดพัดลม ป้องกนั การแพร่กระจายเชื้อ 10) จดั ผู้ปว่ ยใหอ้ ย่ใู นทา่ สขุ สบายและสะดวกต่อการทำแผล เปิดเฉพาะตำแหน่งที่มีแผล หากมแี ผลมากกว่า 1 ตำแหน่งให้ทำแผลสะอาดกอ่ น 11) วางชามรูปไตหรือถุงพลาสติกสะอาดบนเตียงใกล้ตำแหน่งแผล ในกรณีใช้ ถุงพลาสติกให้เปิดปากถุงพลาสติกออก พับปลายบนเอาด้านในออกมาด้านนอกเพื่อความสะดวกใน การทิ้งของที่ใช้แล้ว การพับปลายบนของถงุ พลาสตกิ เพื่อป้องกันไม่ให้ภายนอกถุงพลาสติกสัมผัสกบั ของสกปรก ท้ังนี้จะต้องระมัดระวังไมใ่ หข้ า้ มกรายของใช้ปลอดเช้ือ 12) ลา้ งมือ เชด็ มอื ใหแ้ ห้ง สวมถงุ มอื สะอาด แกะ dressing เกา่ ออก โดยใช้มือหนึ่งดึง ผิวหนงั ลง สว่ นอีกมือหนง่ึ แกะพลาสเตอรโ์ ดยดงึ เขา้ หาแผล ในรายท่มี ีขนบนผิวหนังมาก การแกะพลา สเตอร์ออกยาก ให้แกะตามแนวขน ใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาอะซีโตนเช็ดพลาสเตอร์ออกให้หมด แกะ dressing เก่าชิ้นบนทิ้งกอ่ น แล้วจึงคอ่ ยๆแกะ dressing ชิ้นในที่ติดแผลทิง้ ในกรณีที่ผา้ ปดิ แผล ตดิ กบั แผลให้ใช้ NSS หยดลงบนผ้าปดิ แผลจนชุ่ม (ยกเวน้ มขี ้อหา้ ม) 13) สังเกตลักษณะแผล ปริมาณ สี กลิ่นสิ่งขับหลั่ง เพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อนและ การหายของแผล 14) ทง้ิ dressing ในภาชนะรองรับ เพื่อป้องกนั การแพร่กระจายเชือ้ 15) ถอดถุงมือ ล้างมือและเชด็ ให้แหง้ 16) เปิดชุดทำแผลด้วยวิธกี ารปลอดเชื้อบริเวณโต๊ะคร่อมเตียงหรือบริเวณที่สะดวกต่อ การทำแผล เทน้ำยา 0.9% ลงในถ้วย การเทน้ำยาให้ ยกขวดน้ำยาให้สูงพอสมควร ระวังปากขวด สัมผัสกับของใช้ 17) ใช้ Transfer forceps หยิบ forceps ในชุดทำแผล หรือใช้มือจับผ้าด้านนอกของ ชุดทำแผลเพื่อยกด้าม forceps ขึ้น แล้วใช้มือหยิบ forceps ออกจากชุดทำแผล ในกรณีที่ใส่ถุงมือ ปลอดเชอ้ื ให้ใชม้ อื หยบิ forceps ในชดุ ทำแผล 18) ใช้ non- tooth forceps เป็น forceps สำหรับส่ง (Transfer forceps) หยิบสำลี ชุบ 0.9 %NSS พอหมาด ส่งให้ tooth forceps ซึ่งนำมาเป็น forceps สำหรับทำแผล (dressing forceps) แลว้ เชด็ แผลดังนี้ (1) สำลีก้อนที่ 1 เช็ดตรงกลางแผล จากบนลงล่าง แล้วทิ้งสำลีลงในชามรูปไต หรือถุงพลาสติกที่เตรียมไว้ ไม่เช็ดย้อนกลับ หากแผลยังไม่สะอาดสามารถใชส้ ำลีก้อนใหม่เช็ดตามวธิ ี 526
เดิมจนกว่าแผลจะสะอาด ระวัง forceps สัมผัสกับชามรูปไตหรือถุงพลาสติก ไม่ให้ forceps สัมผัส กัน ให้ forceps ทีใ่ ชส้ ง่ อยเู่ หนอื forceps ท่เี ช็ดแผลอยู่เสมอ (2) เช็ดขอบแผล โดยให้ชิดขอบแผลมากที่สุดแล้ววนออกไปด้านนอกเป็นรัศมี กว้างประมาณ 2 – 3 นวิ้ จากขอบแผล โดยไม่ซำ้ จุดเดิมแล้วท้ิงสำลลี งในชามรปู ไตหรือถุงพลาสตกิ (3) ขณะทำแผลหากจะวาง forceps ให้วางด้าม forceps ตรงบริเวณที่มือจับ นอกบรเิ วณปลอดเชื้อ (4 ) การทำความสะอาดแผลเย็บจะทำเมื่อจำเป็น เช่น มีคราบเลือดหรือสิ่งคัด หลง่ั ซึม 19) ปิดแผล โดยใช้ forceps หยิบผ้าก๊อซวางคลุมบนแผล โดยให้ผ้าก๊อซคลุมห่างจาก ขอบแผลมากกว่า 1 น้วิ เพื่อปอ้ งกนั การปนเปอื้ นของเชอ้ื โรค 20) ถอดถงุ มือ (กรณีใส่ถุงมือ) 21) ยึดผ้าก๊อซดว้ ยพลาสเตอร์ตามแนวขวางลำตัวหรือตามขวางของกล้ามเน้ือ ให้ความ กวา้ งและความยาวของ พลาสเตอรม์ ีขนาดพอเหมาะ เพ่ือปอ้ งกันไมใ่ ห้พลาสเตอร์ยน่ และหลุด เม่ือ มกี ารเคล่อื นไหวของรา่ งกาย 22) เกบ็ อปุ กรณ์ทำแผล ช่วยเหลอื ผูป้ ่วยให้อยู่ในทา่ ท่สี ุขสบาย 11.2 วธิ ีการทำแผลแบบ Wet dressing 11.2.1 การเตรยี มอปุ กรณ์ 1) ชุดทำแผล 2) นำ้ ยาทำความสะอาดแผล เช่น 0.9% NSS 3) ถงุ มือ (ถ้าจำเป็น) 4) ชามรปู ไตและถุงขยะใส่สำลหี รอื ก๊อซท่ใี ชแ้ ล้ว 5) พลาสเตอร์ 6) กรรไกร (ตัดเนื้อ, ตัดก๊อซ, ตัดพลาสเตอร์) 7) อุปกรณท์ ำแผลเพ่มิ เติมตทมลกั ษณะของแผล 11.2.2 วธิ ปี ฏิบตั ิ 1) ข้นั ตอนที่ 1-4 เชน่ เดยี วกนั กับแผลชนดิ แหง้ 5) เตรียมอุปกรณ์ทำแผล ถ้าต้องการเพิ่มสำลี Top gauze, Gamgee เนื่องจากแผลมี ขนาดใหญ่ สิ่งขบั หลง่ั มาก ให้นำรถทำแผลไปทเ่ี ตียงผปู้ ว่ ย 527
6) วางชามรูปไตหรือถุงพลาสติกสะอาดบนเตียงใกล้ตำแหนง่ แผลในกรณีใช้ถุงพลาสตกิ ให้เปิดปากถุงพลาสติกออกพับปลายบนเอาด้านในออกมาด้านนอก เพื่อความสะดวกในการทิ้งของที่ ใช้แล้วการพับปลายบนของถุงพลาสติกเพื่อป้องกันภายนอกถุงพลาสติกสัมผัสของสกปรก และให้ ระมดั ระวงั การขา้ มกรายของใชป้ ลอดเชอ้ื 7) ลา้ งมือให้สะอาด เชด็ ใหแ้ ห้ง สวมถุงมอื สะอาด แกะพลาสเตอร์ท่ีปิดแผลออก โดยใช้ มอื หนง่ึ ดงึ ผวิ หนังลง สว่ นอกี มือหน่งึ แกะพลาสเตอร์และดึงเข้าหาแผล ในรายทมี่ ีขนผวิ หนังมากแกะพ ลาสเตอร์ออกยาก ให้ใช้น้ำยาอะซีโตน เช็ดพลาสเตอร์ให้ชุ่มจะแกะออกได้ง่ายขึ้น เช็ดคราบพลา สเตอร์ออกใหห้ มดแกะ dressing เก่าช้นิ บนทิ้งกอ่ น แลว้ จงึ คอ่ ยๆ แกะ dressing ชิ้นในท่ตี ิดกับแผล ทิ้ง กรณีที่ผ้าปิดแผลติดกับแผลแน่นให้ค่อยๆ ดึงผ้าปิดแผลออก โดยไม่ต้องทำให้ชุ่มชื้นก่อน เพื่อดึง เอาเน้ือเย่อื ท่ตี ายออกมากับผ้าปิดแผล ควรอธบิ ายให้ผ้ปู ว่ ยทราบว่าการแกะพลาสเตอร์เก่าออกอย่าง น่มิ นวลเพ่อื ป้องกันความเสยี หายต่อผวิ หนงั dressing ชิน้ ในทีต่ ิดแผลจะดูดซับน้ำและเนื้อตายเอาไว้ เม่ือเปิดแผลและดึงผ้าก๊อซขึ้นมาเน้ือตายจะหลุดติดออกมาด้วย ถ้าผา้ ก๊อซไมแ่ ห้งประสิทธิภาพในการ กำจดั เน้อื ตายจะดอ้ ยลง 8) หยิบมุมด้านนอกของผ้าปิดแผลเปิดผ้าปิดแผลโดยไม่ให้ผู้ป่วยเห็นด้านในของผ้าปิด แผล เพื่อลดความกลัวและความวิตกกังวล สังเกตลักษณะแผลปริมาณ สี กลิ่น และสิ่งขับหลั่ง เพื่อ สำรวจภาวะแทรกซ้อนและการหายของแผล ทง้ิ ผ้ากอ๊ ซในภาชนะรองรับ 9) ถอดถุงมือ ลา้ งมือ และเชด็ ใหแ้ ห้ง 10) เปิดชุดทำแผลด้วยวิธีการปลอดเชื้อบนโต๊ะคร่อมเตียงหรือบริเวณที่สะดวกต่อการ ทำแผล เท 0.9 % NSS, นำ้ ยาระงบั เชอ้ื ตามแผนการรกั ษา 11) ทำความสะอาดภายในแผล โดยใช้สำลีหรือผ้าก๊อซ ชุบ isotonic solution เช่น NSS solution ปลอดเชื้อ เชด็ ก้นแผลวนออกดา้ นนอก ท้งิ ผา้ กอ๊ ซในภาชนะรองรับ การใช้ isotonic solution จะช่วยในการเจริญเติบโตของเนื้อเย่ือ หากแผลยังไม่สะอาดสามารถเช็ดซ้ำโดยใช้สำลีหรือ ผ้ากอ๊ ซช้นิ ใหมจ่ นกวา่ แผลจะสะอาด 12) กรณีแผลมีสารคัดหลัง่ มากอาจใช้ผ้าก๊อซทีละชิ้นชุบสารละลาย isotonic บิดน้ำยา ออกพอหมาด คลี่ผ้าก๊อซออก ใส่ในแผล (pack) อย่างนุ่มนวล อย่าใส่แน่นจนเกินไปและไม่ควรให้ผ้า ก๊อซชุ่มมากเกินไป จะทำให้ขอบแผลชุ่มด้วยน้ำยา ทำให้เนื้อเปื่อยยุ่ย เป็นแหล่งให้แบคทีเรีย เจรญิ เตบิ โต การใส่ผา้ ก๊อซ (pack) แผลแนน่ เกนิ ไป จะทำใหห้ ลอดเลือดฝอยถกู กด แผลหายชา้ 13) ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซแห้งบนผ้าก๊อซเปียก ถ้ามีสิ่งขับหลั่งมาก ควรใช้ top dressing หรือ gamgee ปดิ บนผ้ากอ๊ ซแห้งอกี ช้ันหนึ่งเพอ่ื ดูดซับสง่ิ ขบั หล่งั 528
14) ยึดผ้าปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ตามแนวขวางลำตัว เพื่อไม่ให้ผ้าปิดแผลย่นและหลุด เมือ่ มกี ารเคลื่อนไหว พจิ ารณาขนาดของพลาสเตอร์ให้กวา้ งและยาวพอเหมาะ 11.3 บทสรปุ การทำแผลจะต้องปฏิบัติด้วยความรอบคอบ สะอาดปราศจากเชื้อตามแนวปฏิบัติของแต่ละ โรงพยาบาลหรือตามแผนการรักษาของแพทย์โดยยึดหลักการมาตรฐานวิชาการเพื่อความปลอดภัย และการฟื้นหายของผูป้ ว่ ย 11.4 แบบประเมินทกั ษะปฏิบตั ิการพยาบาลพนื้ ฐาน แบบประเมนิ ทักษะการทำแผล (Dressing) ชือ่ ..................................................สกุล...........................................รหสั นกั ศึกษา................................. คำชี้แจง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องที่ตรงกับผลการปฏบิ ัติ ลำดับ วธิ ีการ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏิบัติ เหตุ ขั้นเตรียม (1) (0) 1. อธิบายใหผ้ ู้ปว่ ยเขา้ ใจ 2. ล้างมือก่อนเปิดแผล ข้ันปฏบิ ัติ 3 จัดทา่ ให้ผู้ป่วยนอนในท่าทีส่ ขุ สบาย เปดิ บริเวณแผลที่ตอ้ ง ทำความสะอาด 4 วางชามรูปไต หรอื ถงุ สำหรบั ใสข่ ยะไว้บรเิ วณใกล้แผลหรือ ข้างท่ตี ้องการทง้ิ ขยะ สวมถงุ มอื สะอาด แกะผ้าปิดแผล เดมิ ออก ประเมนิ สภาพแผล ปดิ แผลดว้ ยผ้าปิดแผลเดมิ ท่ี อยู่ชนั้ ในไวห้ ลวมๆ 5 ถอดถุงมือแล้วล้างมือใหส้ ะอาด 529
ลำดับ วิธีการ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ เหตุ 6 เตรยี มของใช้ ดงั น้ี (1) (0) - ชุดทำแผล - นำ้ ยาทำความสะอาดแผล เช่น 0.9% NSS - ถงุ มอื (ถา้ จำเปน็ ) - ชามรปู ไตและถุงขยะใสส่ ำลีหรือก๊อซท่ใี ช้แล้ว - กรรไกร (ตดั เน้ือ, ตัดก๊อซ, ตัดพลาสเตอร์) - พลาสเตอร์ 7 เปิดชุดทำแผล โดยใชห้ ลกั ปราศจากเชอื้ เติมอุปกรณ์ เพิม่ เติมตามลักษณะของแผล 8 เทนำ้ ยาทำความสะอาดแผลลงในภาชนะในชุดทำแผล 9 ใช้ปากคีบหยิบก๊อซท่ีปิดปากแผลทง้ิ 10 การทำแผลแห้ง - ใชส้ ำลีชุบ 0.9% NSS บดิ หมาด ก้อนที่ 1 เชด็ ตรงกลาง แผลเย็บจากบนลงลา่ ง แล้วท้ิง หากแผลยังไม่สะอาด ใช้ สำลีก้อนใหม่ เช็ดดว้ ยวธิ เี ดยี วกนั - เช็ดชิดขอบแผลวนออกรอบนอกของแผลกวา้ ง 2-3 นิ้ว โดยไม่ย้อนกลบั ถ้าขอบแผลยังไมส่ ะอาด เชด็ ซำ้ ด้วยสำลี กอ้ นใหม่ ตามวิธกี ารเดิม - ปดิ แผลดว้ ยผ้าก๊อซ ให้คลมุ ห่างขอบแผลอย่างน้อย 1 นิ้ว แล้วปดิ พลาสเตอรใ์ นแนวขวางลำตวั ผปู้ ่วย การทำแผลเปียก - ใชส้ ำลีชบุ 0.9% NSS เชด็ ในแผลจนสะอาด จากตรง กลางแผลวนออกรอบนอกแผล - ใช้กรรไกรตดั เนื้อตาย และ / หรอื ขูดเนื้อตายออกให้ หมด (กรณีที่มเี น้ือตาย) 530
ลำดับ วิธกี าร ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ เหตุ - ใช้สำลีชุบ 0.9 % NSS หรอื น้ำยาตามแผนการรกั ษา (1) (0) เช็ดริมขอบแผลวนออกรอบนอกของแผลกว้าง 2-3 นิ้ว โดยไมซ่ ำ้ จุดเดิม กรณแี ผลที่มีรูสามารถใชก้ ๊อซ หรือ อธบิ าย Gauze drain ชุบน้ำยาพอหมาดๆ ปดิ แผลหรอื สอดให้ ขอ้ พอดีกบั ขนาดของแผลตามความเหมาะสม ความที่ - ปดิ แผลดว้ ยผ้ากอ๊ ซให้คลมุ ห่างจากขอบแผลมากกว่า 1 จะ นว้ิ และปิด บันทกึ พลาสเตอร์ 11 จัดเสอ้ื ผ้าและจดั ทา่ ผู้ปว่ ยให้เรียบร้อย 12 ให้คำแนะนำการปฏิบตั ิตัวขณะมีบาดแผล 13 นำอุปกรณ์ท่ีใชแ้ ลว้ ไปแยกทำความสะอาดฆา่ เช้ือโรคและ เกบ็ เขา้ ท่ใี หเ้ รยี บรอ้ ย 14 ลา้ งมือใหส้ ะอาด 15 เขยี นรายงานในบันทกึ ทางการพยาบาล รวม (15 คะแนน) 531
11.5 เอกสารอา้ งอิง ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอ็นพีเพรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พ้ืนฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษัท บพธิ การพมิ พ์ จำกดั . สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน I.กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั บพิธการพมิ พ์ จำกัด. อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จำกัด. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ทั จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 532
แผนบริหารการสอนประจำบทท่ี 12 วิธปี ฎิบัติการพยาบาลพ้นื ฐานในการใหอ้ าหารทางสายยางให้อาหาร หัวขอ้ เนื้อหาประจำบท 1. วธิ ีการการใสส่ ายยางให้อาหารทางจมกู 2. วิธกี ารใหอ้ าหารทางสายยางใหอ้ าหาร จำนวนชวั่ โมงทส่ี อน: ภาคทดลอง 2 ชวั่ โมง วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ปฏิบตั ิการการใสส่ ายยางใหอ้ าหารทางจมูกไดถ้ กู ต้อง 2. ปฏิบัตกิ ารให้อาหารทางสายยางใหอ้ าหารไดถ้ ูกตอ้ ง วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. วิธีสอน 1.1 สอนสาธิตและสาธิตยอ้ นกลบั 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 สอนสาธิตการใส่สายยางให้อาหารทางจมูกผู้ป่วยในสถานการณ์จำลอง ปฏิบัติการให้ อาหารทางสายยางให้อาหารไดถ้ ูกต้อง 2.2 ผู้เรยี นฝึกปฏบิ ัติและสาธติ ย้อนกลับ 2.3 สะทอ้ นคดิ การฝกึ ปฏิบัตแิ ละสรปุ ผลการเรยี นรู้ 2.4 ผเู้ รียนยืมวัสุด อุปกรณไ์ ปฝึกปฏบิ ตั ติ อ่ นอกเวลาเพอ่ื ให้เกิดทกั ษะ สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อุปกรณใ์ ส่สายยางให้อาหาร อาหารจำลอง วสั ดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ในห้องปฏบิ ัติการ 3. โจทยส์ ถานการณ์ 4. VDO ส่อื การสอนใน YouTube channel: nursing practice 533
การวัดผลและประเมินผล 3. ประเมินผลการสาธิตย้อนกลับ ตามแบบประเมนิ ทักษะ 4. การสอบทกั ษะปฏิบัติแบบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 534
บทที่ 12 วิธปี ฎิบตั ิการพยาบาลพื้นฐาน ในการให้อาหารทางสายยางใหอ้ าหาร 12.1 วธิ ีการการใส่สายยางให้อาหารทางจมูก 12.1.1 อปุ กรณ์เครอ่ื งใช้ 1) สายให้อาหาร เลือกชนิดและขนาดตามความเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ในผู้ใหญ่จะใช้ ขนาด ขนาด Fr.12-16 2) กระบอกฉีดยาสะอาด ที่มีหัวต่อขนาดใหญ่สามารถต่อเข้ากับสายยางให้อาหารได้ ขนาด 50 มิลลิลิตร หรอื เรยี กวา่ Asepto syringe 3) สารหล่อล่ืนชนิดละลายน้ำได้ เช่น วาสลิน กลีเซอรีน เค วายเจล 2% ไซโลเคน 4) เคร่ืองฟงั ตรวจ (stethoscope) 5) ถุงมอื สะอาด 6) ถาดขนาด 35x50 ซม. ใชส้ ำหรับใสอ่ ปุ กรณ์ 7) ผ้ากันเปือ้ น 8) แกว้ ใสน่ ำ้ สะอาด 50-100 ซซี ี 9) ชามรูปไต 1 ใบ 10) พลาสเตอร์ กรรไกร 11) ผา้ ก๊อซจำนวน 2 ชน้ิ 12) กระดาษลิตมสั (ถ้าม)ี 12.1.2 วธิ ปี ฎิบัติ 1) แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และความสำคัญของการใส่สาย ใหอ้ าหารเพ่ือให้ผู้ป่วยเขา้ ใจ คลายความวติ กกงั วล และพรอ้ มให้ความร่วมมือ 2) ประเมนิ สภาพผู้ปว่ ยเพอ่ื การวางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม 3) ล้างมืออย่างถูกวิธีเพื่อช่วยลดและป้องกันการติดเชื้อท่ีอาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยและ ป้องกนั การแพร่กระจายเชอ้ื ไปยังบคุ คลอนื่ 4) เตรียมอุปกรณ์การให้อาหารทางสายให้อาหารเพื่อจะช่วยทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล อย่างรวดเร็วและสะดวกในการปฏิบตั ิงาน 535
5) ประเมนิ สภาพผปู้ ่วย ตรวจสอบรจู มูกท่ีจะใส่สายให้อาหารสะอาด ไม่มีการอุดตนั หรือ มีมกู เพ่อื ความพรอ้ มในการใส่สายใหผ้ ปู้ ่วยและลดความเจบ็ ปวดท่ีอาจเกดิ ขึ้นกบั ผูป้ ว่ ย 6) จัดให้ผู้ป่วยน่งั หรือนอนศีรษะสงู อยา่ งน้อย 60 ยกเวน้ กรณมี ีข้อห้ามทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นท่าที่ทำให้หลอดอาหารตรง ช่วยให้การใส่สายให้อาหารลงสู่กระเพาะอาหารได้สะดวก และปลอดภัย ไมเ่ จบ็ ปวด 7) จดั วางชามรูปไตใกล้เตียงเพอ่ื รองรบั สง่ิ อาเจยี น 8) ล้างมอื ใหส้ ะอาด และถกู ข้นั ตอนเพ่อื ลดการตดิ เชอ้ื และป้องกันการแพรก่ ระจายเชอื้ 9) สวมถุงมอื สะอาดเพอื่ ลดและป้องกนั การติดเชือ้ 10) คลุมผ้ากันเปื้อนบริเวณหน้าอกของผู้ป่วยเพื่อป้องกันสิ่งอาเจียนหกเลอะเสื้อผ้า ผปู้ ว่ ยและเพ่อื ความสขุ สบาย 10) บบี สารหล่อล่ืนลงบนผ้าก๊อซ 11) หยิบสายใหอ้ าหาร วัดความยาวของ N.G. tube โดยเริ่มจากปลายจมูกถึงติง่ หแู ละ จากติ่งหูถึงลิ้นปี่ (xiphoid process) แล้วทำเคร่ืองหมายไว้เพื่อการวัดความยาวของสายยางให้ เหมาะสมกบั ผู้ป่วยแต่ละบคุ คลสามารถประเมินว่าสายยางลงสู่กระเพาะอาหาร 12) หลอ่ ล่นื ปลายสายให้อาหาร ยาวประมาณ 3 - 4 น้ิวเพอื่ ช่วยใหก้ ารใส่สายให้อาหาร สะดวกและลดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหารสว่ นบน เสร็จแล้วขมวดสายไว้ด้วยมือข้างทีไ่ ม่ ถนดั 13) บอกผู้ป่วยแหงนศีรษะเล็กน้อย พยาบาลใช้มือที่ถนัดจับสายให้อาหารโดยห่างจาก ปลายสายประมาณ 3 - 4 นวิ้ แล้วค่อย ๆ ใสส่ ายเขา้ ไปในรูจมูกขา้ งใดขา้ งหนงึ่ เลือ่ นสายอย่างนมุ่ นวล และช้า ๆ เมื่อสายผ่านถึงลำคอ ให้ผู้ป่วยก้มศีรษะลงและช่วยกลืนสาย โดยการกลืนน้ำลายหรือดูด น้ำเปล่า เพราะขณะที่ผู้ป่วยกลืนจะทำให้ epiglottis ปิด จึงทำให้สายผ่าน oropharynxได้ง่ายขึ้น และผู้ป่วยเจ็บน้อยที่สุด ให้สายเลื่อนลงไปจนถึงตำแหน่งที่กำหนดอย่างเบาๆ ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ทำ ตามคำส่งั ไม่ไดใ้ หด้ ูจงั หวะการหายใจ ใสข่ ณะท่ีผูป้ ่วยหยุดพกั หายใจ 13) สังเกตอาการผู้ป่วยขณะที่ผู้ป่วยกลืนสาย เช่น ถ้าผู้ป่วยไอหรือขย้อน หยุดดันสาย หรือดึงสายออกมาเล็กน้อย รอสักพักจนอาการดีขึ้นค่อยใส่สายต่อ หากมีน้ำมูก น้ำลายไหล เช็ดให้ ผู้ปว่ ย และใหอ้ า้ ปาก กดล้นิ เพอ่ื ดูด้านในลำคอ 14) ถ้าผู้ป่วยมีอาการสำลัก ไอมาก หายใจไม่สะดวก ร้องไม่มีเสียง แสดงว่าสายให้ อาหารเข้าไปในหลอดลม ต้องรีบดึงสายออกทันที ให้ผปู้ ่วยพกั จนกว่าอาการจะดีข้นึ จึงค่อยใส่สายยาง ให้อาหารใหม่ 15) ทดสอบดูว่าสายให้อาหารอยู่ในตำแหน่งกระเพาะอาหารหรือไม่โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง เพอ่ื ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและสร้างความปลอดภัยแก่ผปู้ ่วย ไดแ้ ก่ 536
- ใช้ Asepto syringe ดูดจะได้น้ำ (gastric content) ถ้าดูดไม่ได้ ใช้วิธีการในข้อ ถดั ไป - ใช้ stethoscope ฟังบริเวณหน้าทอ้ งสว่ นบน ใช้ Asepto syringe ดนั ลมประมาณ 10 – 20 มลิ ลิลิตร จังหวะเดียว เรว็ และแรง จะได้ยนิ เสยี งดงั 16) หลังทดสอบเมื่อพบว่าสายให้อาหารอยู่ในตำแหน่งทีถ่ ูกต้องให้ปิดปลาสเตอรย์ ดึ สายให้อาหารท่ีจมูกโดยไม่ตงึ หรือหย่อนเกินไปเพื่อสายให้อาหารไมเ่ ลื่อนหลุดและสร้างความสุขสบาย แก่ผปู้ ่วยอกี ทงั้ ป้องกันการกดทบั ระหวา่ งสายยางให้อาหารกับผนังจมูก 17) ปิดปลายสายให้อาหารด้วยปลอกหรือจุกของสายให้อาหารเพื่อป้องกันอากาศ เขา้ ไปในกระเพาะอาหาร อาจทำใหผ้ ปู้ ่วยท้องอืดหรือมีสง่ิ แปลกปลอมเขา้ ไป 18) นำอุปกรณ์ที่ใช้แล้วล้างทำความสะอาดถูกต้องตามขั้นตอนและเก็บเข้าที่เพื่อ การทำความสะอาดด้วยวิธีการที่ถูกต้องเป็นการทำลายเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อและพร้อมที่จะ นำไปใชใ้ นคร้งั ตอ่ ไป 19) ลา้ งมือใหส้ ะอาด เช็ดให้แห้งเพอ่ื ลดและป้องกนั การแพร่กระจายเชือ้ โรค 20) บันทึกรายงานการใส่สายให้อาหารในบันทึกทางการพยาบาลอย่างถูกต้อง การ บนั ทึกรายงานกจิ กรรมท่ีปฏบิ ัตอิ ยา่ งถูกตอ้ งไวเ้ ป็นหลกั ฐาน เพอ่ื ประกอบการวางแผนการพยาบาลแก่ ผปู้ ่วยตอ่ ไปและเพือ่ การประกันคณุ ภาพทางการปฏิบตั กิ ารพยาบาล 12.2 วธิ กี ารให้อาหารทางสายยางใหอ้ าหาร (Naso-gastric feeding) 12.2.1 อปุ กรณ์เครือ่ งใช้ 1) ชนดิ และปริมาณอาหารถูกต้องตามแผนการรักษาพรอ้ มเตรยี มยา (ถา้ ม)ี 2) นำ้ ดื่ม 50-100 ซซี ี 3) Asepto syringe 50 ซซี ี 1 ชดุ 4) สำลีชบุ NSS 0.9% หรือน้ำต้มสุก จำนวน 2 ชิน้ 5) ชามรปู ไต 1 ใบ 6) ผา้ กนั เปื้อน 1 ผนื 7) ถาดสำหรบั อุปกรณใ์ หอ้ าหาร ขนาด 35 x 50 ซม. 1.2.2 วธิ ปี ฏิบตั ิ 1) ตรวจสอบคำส่งั การรกั ษา 2) แนะนำตัวและประเมินสภาพผู้ป่วยเพื่อพิจารณาสภาพผู้ป่วย เพื่อการวางแผนการให้ อาหารทางสายใหอ้ าหารถกู ตอ้ งเหมาะสมและสรา้ งความปลอดภยั แก่ผปู้ ว่ ย 537
3) อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจวัตถุประสงค์และความสำคัญของการให้อาหารเป็นการเคารพใน สิทธิของผู้ป่วย ผู้ป่วยคลายความกังวล และใหค้ วามร่วมมอื 4) ลา้ งมือก่อนจดั เตรยี มอปุ กรณ์เพ่ือช่วยลดและป้องกนั การติดเช้อื ท่ีอาจเกดิ ขน้ึ 5) เตรียมอุปกรณ์การให้อาหารทางสายให้อาหาร การเตรียมของใชใ้ หพ้ ร้อม จะช่วยทำให้ ผปู้ ่วยไดร้ ับการดแู ลอยา่ งรวดเร็วและสะดวกในการปฏิบตั ิงาน 6) นำอปุ กรณ์ไปที่เตียง จัดสถานทแี่ ละสงิ่ แวดล้อมให้มีแสงสวา่ งเพียงพอ วางของใช้ต่าง ๆ บนโต๊ะข้างเตียงแล้ว เลื่อนมาใกล้มือ การมีความสว่างที่เหมาะสมช่วยให้การปฏิบัติงาน สะดวก สามารถสังเกตอาการเปล่ียนแปลงของผู้ป่วยได้ 7) จัดให้ผู้ป่วยนั่งท่าพิงหรือนอนศีรษะสูงอย่างน้อย 45 องศา เพื่อเป็นท่าที่ทำให้หลอด อาหารตรง และให้อาหารลงส่กู ระเพาะอาหารไดง้ า่ ย 8) ลา้ งมือถูกตอ้ งตามข้นั ตอนเพ่ือลดจำนวนเชื้อโรคและป้องกนั การแพร่กระจายเช้อื 9) เปิดชุดให้อาหาร จัดวางอาหารและของใช้ให้สะดวกในการหยิบใช้เพื่อสะดวกในการ ปฏบิ ัติการพยาบาล 10) คลุมผ้ารองกันเปื้อนบริเวณหน้าอกผู้ป่วยเพื่อป้องกันอาหารหกเลอะผู้ป่วยหรือส่ิง อาเจยี นก่อให้เกิดการปนเปอ้ื น 11) หักพับปลายสายให้อาหารและเชด็ ด้วยสำลชี ุบ NSS 0.9% หรอื น้ำต้มสุกใหส้ ะอาดเพื่อ ลดการติดเชือ้ 12) ต่อปลายสายให้อาหารเข้ากับ Asepto syringe คลายสายให้อาหารที่พับไว้แล้ว ทดสอบดวู ่าสายให้อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่พร้อมตรวจสอบดวู ่ามีปรมิ าณอาหารค้างเก่าท่ี ยงั ไมถ่ ูกยอ่ ยมปี รมิ าณเท่าใด โดยดงึ แกน Asepto syringe ดดู อาหารในกระเพาะอาหาร (1) ถ้าพบว่ามีอาหารค้างประมาณ 50 มิลลิลิตร หรือมากกว่า ¼ ของอาหารมื้อก่อน หน้าแสดงว่ามีอาหารเก่าที่ยังไม่ย่อยหรือย่อยไม่หมดคั่งค้างอยู่ ให้ค่อยๆ ปล่อยอาหารกลับเข้าสู่ กระเพาะอาหาร และควรพักการให้อาหารไว้ประมาณ 1 ช่ัวโมง จึงมาทดสอบใหม่ หากอาหารเก่า น้อยกว่า 50 มิลลิลิตรหรือน้อยกวา่ ¼ ของอาหารมื้อก่อนหนา้ ให้อาหารได้ หากยังคงมีเก่าตั้งแต่ 50 มิลลิลิตร ขึ้นไปอาจบ่งบอกถึงการมีปัญหาระบบย่อยอาหาร ให้เลื่อนอาหารมื้อนั้นไปก่อน และ รายงานแพทย์ (2) หากดูดแล้วไม่มีอาหารค้าง ไม่มีน้ำย่อยให้ทดสอบว่าสายให้อาหารอยู่ในกระเพาะ อาหารหรือไม่ ให้ทดสอบดูว่าสายให้อาหารอยู่ในตำแหนง่ กระเพาะอาหารหรือไม่ ด้วยวิธีการฟังเสียง ลมในท้อง โดยใช้ stethoscope ฟงั บริเวณหน้าท้องสว่ นบน ใช้ Asepto syringe ดันลมประมาณ 10 – 20 มลิ ลิลติ ร จังหวะเดียว เรว็ และแรง จะไดย้ นิ เสยี งดงั 538
13) กรณีที่ทดสอบแล้วพบว่าอาหารได้รับการย่อยและมีสภาวะปกติให้หักพับปลายสาย อาหาร ปลดAsepto syringe ออกจากสายใหอ้ าหาร แลว้ นำแกน asepto syringe ออก 14) ต่อปลายสายให้อาหารกับกระบอก asepto syringe 15) รินอาหารลงใน asepto Syringe อย่างช้า ๆ ต่อเนื่องพร้อมคลายรอยพับปลายสาย อาหาร ยก Asepto Syringe สงู เหนือระดับจมูกผู้ปว่ ยประมาณ 10-12 น้วิ ฟุต อาหารจะไหลผ่านลง ตามสายเข้าสู่กระเพาะอาหารตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างช้าๆ ไม่เกิน 30 มล.ต่อนาที จนอาหาร ครบจำนวนตามท่กี ำหนด กรณีทมี่ ยี าหลงั อาหารรินน้ำลงไปใน syringe ประมาณ 10 มล. ตามดว้ ยยา เม็ดท่ีบดและผสมด้วยน้ำแล้วตามด้วยน้ำ 10 มล. แลว้ ตามดว้ ยยาน้ำ (ถา้ มี) ระยะความสูง 10-12 นิ้ว ฟุต เป็นระยะท่อี าหารจะไหลลงกระเพาะอาหารชา้ ๆ ตอ่ เน่ืองกระทงั่ อาหารหมด ในกรณีที่แพทย์สั่ง ให้ยาตอ้ งให้ยาครบตามจำนวนท่ีแพทยส์ ่งั ตามไปด้วยเพ่ือการรักษาบรรลเุ ปา้ หมาย 16) ให้น้ำตามประมาณ 50 มิลลิลิตรหรือตามแผนการรักษา เมื่อน้ำใกล้หมดจากกระบอก Asepto Syringe ให้ยก Asepto Syringe ให้สูงเพื่อให้ยาและน้ำไหลลงในกระเพาะอาหารให้หมด และร่างกายได้รบั น้ำอย่างเพียงพอ ไมม่ อี าหารและยาค้างอยู่ในสายให้อาหาร เพราะอาจทำให้อาหาร บูดเน่าและมีการอุดตนั ของสายใหอ้ าหาร 17) เช็ดปลายสายให้อาหารดว้ ยสำลีชุบน้ำต้มสุก หรือ 0.9% NSS ปิดปลายสายให้อาหาร ด้วยปลอกหรือฝาครอบเพื่อป้องกันอากาศและสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในสายให้อาหาร ซึ่งอาจจะทำให้ ผปู้ ่วยท้องอดื ได้ 18) หลังให้อาหารจัดให้ผู้ปว่ ยนอนตะแคงขวาหรือนอนหงาย ศีรษะสูงประมาณ 45 องศา นาน 30 นาที-1 ชั่วโมงเนื่องจากการจัดท่านอนตะแคงขวา ทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารตาม กระบวนการและมีการดูดซมึ ท่ลี ำไสเ้ ลก็ 19) ลา้ งทำความสะอาดอปุ กรณ์ และเก็บเข้าทเี่ พอ่ื เปน็ การทำลายเช้อื โรคและเตรยี มพร้อม ในการหยบิ ใชค้ รงั้ ต่อไป 20) ล้างมือให้สะอาด เชด็ ใหแ้ ห้งเพื่อเปน็ การลดการแพร่กระจายเช้อื โรค 21) บันทึกรายงานเกี่ยวกับปริมาณอาหารที่ผู้ป่วยได้รับอย่างถูกต้อง การบันทึกรายงาน กิจกรรมที่ปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อเป็นหลักฐาน นำมาประกอบการประเมินผลสภาพทั่วไปของผู้ป่วย และเป็นแนวทางในการวางแผนในการดูแลผู้ปว่ ยตอ่ ไป 12.3 สรปุ การให้อาหารทางสายยางพยาบาลต้องมีการปฏิบัติการให้อาหารอย่างถูกต้องตามหลักการ โดยเฉพาะการทดสอบปลายสายยางก่อนการให้อาหารทางสายยางเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะ เกดิ ขึน้ ได้ 539
12.4 แบบประเมนิ ทกั ษะปฏิบตั กิ ารพยาบาลพ้ืนฐาน แบบประเมินทักษะการให้อาหารทางสายให้อาหาร (NG tube Feeding) ช่ือ..........................................สกุล...............................................รหัส........................ .................................. คำชีแ้ จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องทตี่ รงกบั ผลการปฏบิ ัติ ผลการปฏบิ ตั ิ หมาย ลำดับ รายการประเมิน ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏบิ ัติ เหตุ (1) (0) ข้ันเตรยี ม 1 ตรวจสอบคำส่ังชนิดและปริมาณของอาหารเหลว 2 ประเมินแลว้ ผปู้ ว่ ยไม่ NPO 3 ทักทายผปู้ ว่ ยและแนะนำตนเอง 4 ถามชื่อ-สกลุ ดปู า้ ยข้อมือ 5 บอกและอธบิ ายให้ผู้ปว่ ยทราบ 6 เตรียมอาหาร ยา (บดยาด้วยโกร่งบดยาใหเ้ รยี บร้อย) และอปุ กรณเ์ คร่ืองใช้ถกู ต้องครบถ้วน ขั้นปฏบิ ัติ (ก่อนใหอ้ าหาร) 7 จัดให้ผปู้ ว่ ยนอนหงาย/ตะแคงขวาศรี ษะสงู อยา่ งนอ้ ย 45 องศา 8 ลา้ งมือ 7 ข้นั ตอน 9 พับสาย เปิดจุกและทำความสะอาดปลายสายให้อาหาร 10 พับสายใหอ้ าหารก่อนสวมปลาย syringe 11 -ทดสอบวา่ มีอาหารเหลือค้างเกนิ 50 มล. (หรือมากกวา่ ¼ ของอาหารมื้อก่อนหน้า) หรือไม่ -ทดสอบว่าปลายสายอย่ใู นกระเพาะอาหารหรือไม่ (กรณีดดู ไม่ได้ content) โดยฟังเสียงลมขณะดันลมเข้าไป 10 – 20 มล. แล้วดูดลมออก ขั้นปฏิบัติ (ขณะให้อาหาร) 12 พบั สายใหอ้ าหาร ปลด syringe และดึงลูกสบู ออก 13 พบั สาย สวมปลาย syringe ทีไ่ ม่มีลูกสบู เขา้ กับสายให้ 540
ผลการปฏิบัติ หมาย ลำดับ รายการประเมิน ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ เหตุ (1) (0) อาหาร 14 มือจบั ทัง้ syringe และปลายสายใหอ้ าหาร 15 รินอาหารไมห่ ก 16 ปลอ่ ยสายทพี่ ับไว้ ยก syringe ให้อาหารเหลวไหลลงช้าๆ ประมาณ 20 – 30 มิลลลิ ติ รต่อนาที 17 รินอาหารเตมิ ลงใน syringe อยา่ งต่อเนื่องไม่มีอากาศเขา้ 18 รินนำ้ ลงใน syringe เมือ่ อาหารเกือบหมด 19 กรณีมยี าหลงั อาหาร ใหน้ ้ำประมาณ 10 มลิ ติ รก่อน แลว้ จึงนำยาใส่ลงใน syringe แล้วให้นำ้ ตาม ขั้นปฏิบตั ิ (หลงั ให้อาหาร/ยา) 20 รนิ น้ำลงใน syringe 21 ยก syringe ข้นึ ใหน้ ำ้ ไหลลงไปตามสายจนหมด 22 พบั สายและปลด syringe ออก ยกสายใหอ้ าหารเข้าไปใน กระเพาะอาหาร 23 ทำความสะอาดปลายสายใหอ้ าหารและปิดจกุ 24 วางสายใหอ้ าหารเหนือศีรษะไม่ดงึ รั้ง ข้ันประเมินผล 25 ประเมินอาการขณะให้และหลงั ใหอ้ าหาร 26 ประเมินปริมาณอาหารทผี่ ู้ปว่ ยได้รบั ขั้นบันทึกผล 27 บันทึกปรมิ าณอาหารเหลวท่ีผปู้ ว่ ยได้รบั 28 บันทึกภาวะแทรกซ้อน (ถ้าม)ี ขณะและหลังให้อาหาร บอกข้อ ทางสาย ความ ทจ่ี ะ บัน ทึก รวม (28 คะแนน) 541
12.5 เอกสารอา้ งองิ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอ็นพเี พรส. พรทิพย์ พรหมแทนสดุ สทุ ธีพร มลู ศาสตร์ และดนัย หีบท่าไม้. (2561). ประสทิ ธิผลของโปรแกรมการ จัดการความปวดร่วมกับการปรับสิ่งแวดล้อมในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม. วารสารพยาบาล, 67(4), 34-43. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พน้ื ฐาน II. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท บพิธการพิมพ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกัด สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน I.กรุงเทพฯ: บรษิ ัท บพธิ การพิมพ์ จำกัด. อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จำกัด. อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ์ จำกดั . Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 542
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทท่ี 13 วิธีปฎิบตั ิการพยาบาลพนื้ ฐานในการสวนปัสสาวะเปน็ ครั้งคราว หวั ข้อเนอื้ หาประจำบท 1. วธิ ีการสวนปสั สาวะแบบเปน็ ปัสสาวะเปน็ ครงั้ คราว (intermittent catheter) จำนวนชว่ั โมงทส่ี อน: ภาคทดลอง 2 ช่วั โมง วตั ถุประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. ปฏบิ ัติการสวนปสั สาวะเป็นคร้งั คราวได้ถกู ต้อง โดยไม่มกี ารปนเปอ้ื น วิธีสอนและกจิ กรรมการเรยี นการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 สอนสาธิตและสาธติ ยอ้ นกลับ 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน 2.1 สอนสาธิตการสวนปัสสาวะเป็นครง้ั คราว 2.2 มอบหมายผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตแิ ละสาธิตยอ้ นกลบั 2.3 สะท้อนคดิ การฝึกปฏิบัติและสรปุ ผลการเรียนรู้ 2.4 ผเู้ รยี นยมื วัสดุ อปุ กรณ์ไปฝกึ ปฏบิ ัตติ อ่ นอกเวลาเพ่ือใหเ้ กิดทักษะ ส่อื การเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อุปกรณ์สวนปสั สาวะ วัสดุ อุปกรณท์ างการแพทย์ในหอ้ งปฏิบัตกิ าร 3. โจทย์สถานการณ์ 4. VDO ส่อื การสอนใน YouTube channel: nursing practice การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลการสาธิตยอ้ นกลบั ตามแบบประเมินทักษะ 2. การสอบทักษะปฏบิ ัตแิ บบ Objective Structured Clinical Examination : OSCE 543
บทท่ี 13 วิธีปฎิบัตกิ ารพยาบาลพื้นฐานในการสวนปัสสาวะเป็นครั้งคราว การสวนปัสสาวะเป็นครั้งคราว (Straight catheters หรือ Intermittent catheter) เป็น การสวนทิ้งหรือการสวนปัสสาวะเป็นครัง้ คราว เพื่อการระบายปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะใน รายทไ่ี ม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้เองตามปกตหิ รือมีปสั สาวะคั่งคา้ งในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ผูป้ ว่ ย รู้สึกสบาย และเพ่ือการเก็บปสั สาวะสง่ ตรวจ วนิ ิจฉยั และเตรียมผา่ ตดั โดยมวี ธิ กี ารดังน้ี 13.1 วิธีการสวนปัสสาวะแบบเป็นปัสสาวะเป็นครั้งคราว (intermittent catheter) 13.1.1 การเตรยี มอปุ กรณ์ 1) ชุดสวนปัสสาวะปลอดเชื้อ ประกอบด้วยชาม 1 ใบขนาด 500-1,000 มิลิลิตร ก๊อซ พับสีเ่ หลย่ี ม 1 ชนิ้ ถ้วยเล็ก 1 ใบสำลี 7 ก้อน ใส่ในถว้ ยเล็ก ผ้าสีเ่ หลีย่ มเจาะกลาง 1 ผืนพับวางไว้ 2) สายสวนปสั สาวะยางแดง (catheter / rubber tube) สะอาดปราศจากเชื้อ ขนาด ให้เหมาะสม เด็กใช้ขนาด 6-10 Fr. ผ้ใู หญ่ใชข้ นาด12-16 Fr. 3) ถงุ มือปลอดเชือ้ 2 คู่ 4) สารหลอ่ ลื่นปลอดเชือ้ เช่น K-Y Jelly 5) Normal Saline 0.9% หรือนำ้ ยาระงับเชือ้ 6) ขวดเก็บปสั สาวะ กรณตี ้องการปัสสาวะสง่ ตรวจ 7) ชามรูปไตพรอ้ มถงุ ขยะเลก็ 1 ใบ 8) ไฟฉายหรอื โคมไฟ 13.1.2 วธิ ีปฏิบตั ิ 1) ตรวจสอบคำส่ังการรักษา สอบถามชอ่ื ผู้ปว่ ย นามสกุลผปู้ ว่ ย ตรวจสอบความถูกต้อง ของปา้ ยขอ้ มือผ้ปู ่วยเพอื่ ปอ้ งกนั การให้การพยาบาลผิดพลาด 2) ลา้ งมือให้สะอาดด้วยสบหู่ รือแอลกอฮอล์ เจล เพอื่ ป้องกันการแพรก่ ระจายเชือ้ โรค 3) อธิบายเหตุผลของการใส่สายสวนปัสสาวะ ขั้นตอนวิธีการใส่คร่าว ๆ ให้ผู้ป่วย รบั ทราบเพอ่ื เปน็ การเคารพในสิทธิผปู้ ่วยและช่วยลดความวิตกกงั วลได้ 4) เตรยี มอุปกรณ์เครอื่ งใช้ 544
5) กั้นม่านและปิดตาผู้ป่วย จัดท่าคลุมผ้าให้ผู้ป่วยเปิดเฉพาะบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ ปอ้ งกนั การกระดากอายและเคารพสทิ ธิผู้ป่วยไม่เปิดเผยผปู้ ว่ ย 6) นำชุดสวนปสั สาวะวางไวร้ ะหว่างขาของผูป้ ว่ ยใกล้อวัยวะสืบพนั ธภุ์ ายนอก เปิดห่อผ้า ออกทั้ง4 มุม และเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆด้วยเทคนิคปลอดเชื้อเพื่อให้มีพื้นที่สะอาดและไม่เกิดการ ปนเปอื้ น 7) เท Normal Saline 0.9% หรือน้ำยาระงับเชื้อโรคลงบนสำลีในชามกลมพอให้สำลี เปยี กชุ่มเพื่อใชท้ ำความสะอาดอวัยวะสบื พันธ์ 8) บีบสารหล่อลน่ื ลงบนก๊อซในชามรปู ไต 9) ใส่ถุงมอื ดว้ ยเทคนิคปลอดเชอ้ื 10) หยิบถ้วยเล็กเข้าไปวางใกล้อวัยวะเพศและทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก (flushing) แล้วหยบิ ถ้วยเลก็ ทเ่ี หลอื สำลี 1 ก้อนเลื่อนออกไป 11) เปลี่ยนถงุ มอื คใู่ หม่ (ล้างมอื ก่อนใส่ถุงมือค่ใู หม่) 12) คลี่ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางคลุมบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้ช่องเจาะกลางอยู่ บรเิ วณอวัยวะสบื พันธ์ภุ ายนอกดว้ ยเทคนิคปราศจากเช้อื 13) ทาปลายสายสวนปัสสาวะด้วยสารหล่อลื่นในผู้หญิงยาว 1-2 นิ้ว ในผู้ชายยาว 6-8 นิว้ วางไวใ้ นชามรปู ไต 14) สอดใส่สายสวนปัสสาวะ - ในเพศหญิง ใชม้ อื ขา้ งที่ไม่ถนดั แหวกแคมใน (labia minora) มอื อีกข้างหยิบสำลีท่ี เหลือเช็ดรูเปิดทางเดินปัสสาวะ (external urethral orifice) ซึ่งเป็นรูขนาดเล็กอยู่เหนือปากช่อง คลอด (vagina) ประมาณ 1 เซนติเมตร หยิบชามกลมใบใหญ่ สำหรับใส่น้ำปัสสาวะวางไว้ใกล้ผู้ป่วย สอดใส่สายสวนปัสสาวะ สอดสายสวนปัสสาวะ 2-3 นิ้วหรือมีปัสสาวะไหลออกมาเลื่อนมือที่แหวก แคมใน (labia minora) มาจบั สายสวนไว้ - สำหรับเพศชายใชม้ ือข้างทีไ่ ม่ถนดั จับองคชาตทิ ำมุม90 องศากับร่างกาย และใช้มือ ถนดั คบี สำลีเช็ดบริเวณรเู ปดิ ของท่อปัสสาวะ (external urethral orifice) บอกให้ผู้ปว่ ยหายใจยาวๆ ค่อยๆสอดสายสวนปัสสาวะเข้าไปในรเู ปดิ ของทอ่ ปัสสาวะ (external urethral orifice) ลึกอย่างน้อย 6-8 นว้ิ หรือจนมปี สั สาวะไหลลงสู่ชามรูปไต 15) ถ้าต้องเก็บปัสสาวะส่งตรวจ ให้ใช้ขวดรองรับจากปลายสายสวนปัสสาวะขณะที่ ปลอ่ ยให้ปสั สาวะไหลลงสู่ชามรูปไต 16) เมือ่ ปสั สาวะหยุดไหลแล้วใหใ้ ช้มือกดเบาๆบนผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางบริเวณเหนือหัว เหน่าจนแน่ใจว่าไมม่ ปี สั สาวะ 545
17) บีบหรือพับสายค่อยๆดึงสายสวนปัสสาวะออกวางไว้ในถ้วยกลม ในเพศชายจับ องคชาติตั้งขึ้นทำมุม 90 องศากับร่างกายก่อนดึงสายสวนออก ซับบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้ แหง้ 18) เก็บผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางวางในชุดสวนปัสสาวะ ถอดถุงมือ นำเครื่องใช้ออกจาก เตยี งผูป้ ่วย 19) จัดเสือ้ ผ้าและให้ผปู้ ว่ ยนอนในทา่ ทส่ี บาย ซกั ถามอาการผู้ปว่ ย เปิดประตูหรือม่าน 20) เกบ็ เครอ่ื งใชไ้ ปทำความสะอาด ท้งิ ขยะอยา่ งถูกต้อง 21) สงั เกตลักษณะของปัสสาวะที่ผิดปกติและตวงปสั สาวะที่ได้จากการสวน 22) บันทึกส่งิ ที่ประเมินได้ ลงบันทกึ การสวนปสั สาวะ จำนวน สี กล่นิ 13.2 บทสรปุ การสวนปัสสาวะเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความรอบคอบ พยาบาลต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องตาม หลกั การ sterile technique 13.3 แบบประเมินทักษะปฏิบัตกิ ารพยาบาลพ้นื ฐาน แบบประเมนิ ทักษะการสวนปัสสาวะเปน็ ครงั้ คราว (Intermittent urine catheter) ชื่อ.....................................................สกุล.................................................รหสั นกั ศกึ ษา................................. คำชแ้ี จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องท่ตี รงกบั ผลการปฏิบตั ิ ลำดับ วิธีการ ผลการปฏิบตั ิ หมาย ไม่ปฏิบัติ เหตุ ปฏบิ ัติ (0) (1) ข้นั เตรยี ม 1 ตรวจสอบการสวนปสั สาวะกับคำส่ังการรักษา 2 ทักทายผปู้ ว่ ยและแนะนำตนเอง 3 ถามชอ่ื -สกุลผปู้ ่วย และตรวจสอบปา้ ยข้อมือกบั คำส่ังการ รักษา 4 อธิบายวัตถุประสงคใ์ นการสวนปสั สาวะใหผ้ ้ปู ่วยทราบ 5 การถา่ ยปสั สาวะคร้งั สดุ ท้าย 6 ประเมนิ ความตึงตัวของกระเพาะปสั สาวะ 546
ลำดับ วิธีการ ปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ หมาย (1) ไมป่ ฏิบัติ เหตุ 7 เตรยี มของใชค้ รบถว้ น ถูกต้อง ดงั นี้ (0) - ชุดสวนปัสสาวะปลอดเชื้อ ประกอบด้วยชาม 1 ใบ ขนาด 500-1,000 มิลิลิตร ก๊อซพับสี่เหลี่ยม 1 ชิ้น ถ้วย เล็ก 1 ใบสำลี 7 ก้อน ใส่ในถ้วยเล็ก ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะ กลาง 1 ผืนพับวางไว้ -สายสวนปัสสาวะยางแดง สะอาดปราศจากเชอ้ื ขนาด ให้เหมาะสม เด็กใช้ขนาด 6-10 Fr. ผู้ใหญ่ใช้ขนาด12- 16 Fr. -ถุงมือปลอดเชอ้ื 2 คู่ -สารหล่อลน่ื ปลอดเชอ้ื เชน่ K-Y Jelly -Normal Saline 0.9% หรอื นำ้ ยาระงบั เช้ือ -ขวดเกบ็ ปสั สาวะ กรณตี อ้ งการปสั สาวะส่งตรวจ -ชามรูปไตพร้อมถุงขยะเล็ก 1 ใบ -ไฟฉายหรือโคมไฟ ขั้นปฏิบัติ 8 ปิดตา จัดท่านอนและ drape ผ้า ปดิ ม่าน 9 ลา้ งมอื 10 นำชุดสวนปัสสาวะวางไว้ระหว่างขาของผู้ป่วยใกล้ อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก เปิดห่อผ้าออกทั้ง 4 มุมและ เตรียมอุปกรณ์ตา่ งๆดว้ ยเทคนคิ ปลอดเช้ือ 11 เท Normal Saline 0.9% หรือนำ้ ยาระงับเชือ้ โรคลงบน สำลใี นชามกลมพอให้สำลีเปียกชุม่ 12 บีบสารหลอ่ ลื่นลงบนก๊อซในชามรูปไต 13 ใส่ถุงมอื ด้วยเทคนคิ ปลอดเชื้อ 547
ลำดับ วิธีการ ผลการปฏบิ ัติ หมาย ไมป่ ฏบิ ตั ิ เหตุ ปฏิบัติ (0) (1) 14 หยิบถ้วยเล็กเข้าไปวางใกล้อวัยวะเพศและทำความ สะอาดอวัยวะเพศแล้วหยิบถ้วยเล็กที่เหลือสำลี 1 ก้อน เล่ือนออกไป 15 เปลีย่ นถุงมือคใู่ หม่ (ลา้ งมอื ก่อนใส่ถงุ มอื คใู่ หม)่ 16 คลี่ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางคลุมบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ภายนอก ให้ช่องเจาะกลางอยู่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ภายนอกด้วยเทคนคิ ปราศจากเชื้อ 17 ทาปลายสายสวนปัสสาวะด้วยสารหล่อลื่นในผู้หญิงยาว 1-2 น้วิ ในผู้ชายยาว 6-8 นิ้ว วางไว้ในชามรูปไต 18 ใสส่ ายสวนปสั สาวะ -เพศหญิง ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด แหวก labia minora มือ อีกข้างหยิบสำลีที่เหลือเช็ด urethral orifice สอดใส่ สายสวนปัสสาวะ 2-3 นิ้วหรือมีปัสสาวะไหลออกมา เล่อื นมือท่แี หวกแคมในมาจบั สายสวนไว้ - เพศชายใช้ก๊อซจับองคชาติด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด กรณี ไมไ่ ดข้ ลบิ หนังหุ้มปลายองคชาติ ใหร้ ูดหนงั หุ้มปลายลง มา จับองคชาติทำมุม 90 องศากับร่างกาย บอกให้ ผู้ปว่ ยหายใจยาวๆคอ่ ยๆสอดสายสวนปสั สาวะเข้าไปในรู เปิดของท่อปัสสาวะลึกอย่างน้อย6-8 นิ้วหรือจนมี ปัสสาวะไหลลงสู่ชามรปู ไต 19 ใช้มือข้างที่ถนัดจับสายสวนปัสสาวะ ปลายสายอีกข้าง หนึ่งวางไวใ้ นชามรปู ไต 20 เมื่อปัสสาวะหยุดไหลแล้วให้ใช้มือกดเบาๆบนผ้า สี่เหลี่ยมเจาะกลางบริเวณเหนือหัวเหน่าจนแน่ใจว่าไม่มี ปัสสาวะ 548
ลำดับ วิธกี าร ผลการปฏิบตั ิ หมาย ไม่ปฏบิ ตั ิ เหตุ ปฏิบัติ (0) (1) 21 บีบหรือพับสายค่อยๆดึงสายสวนปัสสาวะออกวางไว้ใน ถ้วยกลม ในเพศชายจับองคชาติตั้งขึ้นทำมุม 90 องศา กบั รา่ งกายกอ่ นดงึ สายสวนออก 22 ซับบริเวณอวยั วะสืบพันธ์ุภายนอกใหแ้ หง้ 23 ถอดถุงมือ และเก็บเคร่ืองใช้ถูกต้อง 24 เปดิ ผา้ ปิดตาผู้ป่วยและจดั ทา่ นอนสุขสบาย ข้นั ประเมนิ 25 ประเมนิ จำนวน สี กลิ่น และลกั ษณะของปัสสาวะ 26 ประเมินความสุขสบายของผู้ปว่ ยภายหลงั สวนปสั สาวะ 27 บันทกึ วันเวลาของการสวนปัสสาวะ รวม (27 คะแนน) 13.4 เอกสารอ้างองิ ณัฐสุรางค์ บุญจันทร์ และอรุณรัตน์ เทพนา. (2559). ทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: หจก. เอน็ พเี พรส. สัมพันธ์ สันทนาคณิต, สุมาลี โพธิ์ทอง และสุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พื้นฐาน II. กรงุ เทพฯ: บริษัท บพิธการพมิ พ์ จำกัด. สุปราณี เสนาดิสัยและวรรณภา ประไพพานิช. (2558). การพยาบาลพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : บริษัท จุด ทอง จำกดั สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์ สุมาลี โพธิ์ทอง, และสัมพันธ์ สันทนาคณิต. (2558). ปฏิบัติการพยาบาล พืน้ ฐาน I.กรุงเทพฯ: บรษิ ทั บพธิ การพมิ พ์ จำกัด. อัจฉรา พุ่มดวง. (2559). การพยาบาลพื้นฐาน : ปฏิบัติการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2556). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 1. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จำกดั . อภิญญา เพียรพิจารณ์ (2558). คู่มือปฏิบัติการพยาบาลเล่ม 2. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ : บรษิ ทั จรัลสนิทวงศก์ ารพมิ พ์ จำกัด. 549
Nettina SM. (2 0 1 4 ) . Manual of Nursing Practice. Philadelphia: Williams &Wilkins Lippincott. Patricia A. Potter. (2 0 1 3 ) . Fundamentals of Nursing 8 th ed. St. Louis, Mo : Mosby Elsevier. Taylor ll. (2015). Fundamental of Nursing .8th ed. Philadelphia: Walters Kluwer. 550
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 582
Pages: