นละคณะ] หมวด ๑๐ ๓๐๕ อริยวัฑฒิกถา ว่าด้วยความเจริญที่ประเสริฐสำหรับคฤหัสถ์ ๑อ ๑. เจ^ญด้วยนาและสวน ๒. เจริญด้วยทรัพย์และข้าวเปลือก ฅ. เจริญด้วยบุตรและภรรยา ๔. เจริญด้วยทาส กรรมกร และคนใช้ ๕. เจริญด้วยส์ตว์ส์เท้า ๖. เจริญด้วยศรัทธา ๗. เจริญด้วยสืล ๘. เจริญด้วยสุฅะ ๙. เจริญด้วยจาคะ ๑อ. เจริญด้วยปัญญา ที่มา : วัฑฟ้สูตร ทุติยป้ณณาสก์ องฺ.ทสก.๒๔/๗๔ ทสหิ ภิกฃท วฑุฒีหิ วฑุฒมาใน อริยสาวโก อริยาย วฑฒิยา วฑฒติ, สาราทายี จ โหติ วราฑายี กายสส ... เฃตุตวตฺคูหิ วฑฺฒติ, ธนธญฒน... ใ^ตุตทาเรหิ ... ทาสกมมกรโปริเสหิ... จธุปปเทหิ ... สทุธาย ... สึเลน ... อ[ุ เตน ... จาเคน ... ปญณาย วฑฒติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกเมื่อเจริญด้วยความเจริญ ๑๐ ประการซื่อว่าเจริญด้วยความเจริญอันประเสริฐ และย่อมถือเอาสาระ ถือเอาส์งประเสริฐแห่งกายไว!ด้ ความเจริญ ๑๐ ประการคืออะไรบ้าง คือ เจริญด้วยนาและสวน ... เจริญด้วยปัญญา ฯ www.kalyanamitra.org
๓0๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั ธฌน ธญฒน จ โยธ วฑฺผติ เฅหิ ทาเรหิ จดูปฺปเทหิ จ ส ภควา โหติ ยสสสิ ชุ]ชิโต ณาตีหิ มิตฺเตหิ อโลปี ราชุภิ ฯ แปล : โนโลกนี้บุคคลใดเจริญด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก บุตร ภรรยา (ทาสกรรมกร) และส์โตว์ส์เท้า บุคคลนั้นย่อม เป็นผู้มีโชค มียศ เป็นผู้อันญาติ มิตร และพระราชา บูชาแล้ว ฯ สทธาย สิเลน จ โยธ วฑฺผติ ปผุผาย จาเคน ชุเฅน ฐภยํ โส ตาฑิโส สปา]ริโส วิจกขโณ ทิฎเจว ธมุเม อุภเยน วฑผติ ฯ แปล : โนโลกนี้บุคคลโตเจริญด้วยศรัทธา ติล สุตะ จาคะ และปัญญา บุคคลเซ่นนั้นจัตเป็นอัตบุรุษ มีปัญญาเห็น ประจักษ์ ย่อมเจริญด้วยความเจริญทั้งสองประการโน ปัจจบัน ฯ www.kalyanamitra.org
นละคณะ] หมวด ๑๐ ๓๐๗ ปาปภิกฃุกลา ว่าสัวยลักษณะภิกษุเลวที่มีนิส์iยเหมือนกๆ ๑0 ๑. ธังสี ชอบกำจัด ๒. ปคัพภะ ต. ติณติณะ คะนอง (ft. มหัคฆสะ ทะเยอทะยาน ๕. ะ กินจุ ๖. อกาเณิกะ หยาบซ้า ๗. นุพพละ ๘. โอรวี ไม่มืกรุณา ๙. มุฏฐัสสติ ไม่เข้มแข็ง ๑๐. เนจยิกะ มักร้อง เผลอสติ ชอบสะสม ที่มา กากสูตร ทุติยปัณณาสก องฺ.ทสก, ๒๔/๗๗ เอวเมว โข ภิคุขเว ทสหิ อสทุธมเมหิ สมนุนาคโต ปาปภิกชุ ... ธํสี จ ปคพุโภ จ ตินุติโณ จ มหคฺฆโส จ ลูทุโธ จ อกาเฌิโก จ ชุพฺพโล จ โอรวี จ นุฎุฮสสติ จ เนจยิโก จ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเลวก็ประกอบด้วยอส์ทธรรม๑๐ ประการฉันนั้นเหมือนกันแล อส์ทธรรม ๑๐ ประการคืออะไรบ้าง คือ ชอบกำจัด ๑ ... ขอบสะลม ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
CO0๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั นิคันถาสัทธัมมกถา ว่าด้วยอส์ทธรรมของพวกนิครนถ์ ๑อ ๑. ไฝมีศรัทธา ๒. ทุสืล ฅ. ไฝมีหิริ ๔. ไฝมีโอตตัปปะ ๕. ไฝภักดีต่อส์'ตบุรุษ ๖. ยกตนข่มผู้อี่น ๗. ยึดมั่นความเห็นของตน ๘. ลวงโลก ๙. ปรารถนาชั่วข่า ๑อ. มีความเห็นผิด ที่มา : นิคันถสูตร อากังขวรรค ทุติยปัณณาสก์ องฺ.ทสก.๒๔/๗๘ ทสหิ ภิกฺฃท อสทุธมฌหิ สมนุนาคตา นิคนุถา... อสสทุธา ภิกฃเว นิคนุถา, ทุสสีลา ... อหิริกา ... อโนตฺฅปุ!เโน ... อสปุปุริสภฅติโน ... อตฺตุกกํสกปรวมภกา ... สนุฑิฎุธิปรามาสิอธานคาหิชุปุปฎินิสุสคคิโน ... ถูหกา ... ปา!เจฉา ... มิจฉาทิฏุริกา ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกนิครนถ์ประกอบด้วยอส์ทธรรม ๑อ ประการ อส์ทธรรม ๑อ ประการคืออะไรบ้าง คือไฝมีศรัทธา ๑ ทุคืล ๑ ไฝมีหิริ ๑ ไฝมีโอตตัปปะ ๑ ไฝภักดีต่อสัตบุรุษ ๑ ยกตนข่มผู้อื่น ๑ ยึด มั่นความเห็นของตน ถือส์งที่ไฝควรเก็บไว้ สละคืนความยึดมั่นถือมั่นด้วย ความเห็นของตนได้ยาก ๑ เป็นคนลวงโลก ๑ ปรารถนาลามก ๑ มี ความเห็นผิด ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๑๐ ๓0๙ อาฆาตวัตลุกถา ว่าด้วยสาเหตุแห่งความอาฆาต ๑อ ๑. คิดว่าเขาได้ทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ๒. คิดว่าเขากำลังทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ฅ. คิดว่าเขาจักทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ๔. คิดว่าเขาได้ทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ๕. คิดว่าเขากำลังทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ๖. คิดว่าเขาจักทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ๗. คิดว่าเขาได้ทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่ผู1ม่เป็นที่รักของเรา ๘. คิดว่าเขากำลังทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่^ม่เป็นที่รักของเรา ๙. คิดว่าเขาจักทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่^ม่เป็นที่รักของเรา ๑อ. โกรธในเรื่องที่ไม่ควรโกรธ ที่มา : อาฆาตวัตลุสูตร ทุติยปัณณาสก์ อง..ทสก.๒๔/๗๙ ทสยิมานิ ภิกฃท อาฆาตวตุดูนิ ... อนตฺถํเมอจรีติอาฆาฅํพนธติ ... อตถํ จริสฺสตืติ อาฆาฅํ พนธติ, อฏฮาฌ จ คูปฺปติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาฆาตวัตถุมี ๑อ ประการนี้ อาฆาต วัตถุ ๑อ ประการคืออะไรบ้าง คือ ผูกอาฆาตด้วยคิดว่า 'ผู้นี้!ด้ประพฤติ ... กำ ลังประพฤติ ... จักประพฤติสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา, ผูกอาฆาด้วย คิดว่า 'ผู้นี้!ด้ประพฤติ ... กำ ลังประพฤติ ... จักประพฤติสิงที่ไม่เป็น ประโยชน์แก'บุคคลผู้เป็นที่รักเป็นที่ชอบใจของเรา, ผูกอาฆาตด้วยคิดว่า 'ผู้นี้!ด้ประพฤติ ... กำ ลังประพฤติ ... จักประพฤติสิงที่เป็นประโยชน์แก่ บุคคลผู้!ม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของเรา, โกรธในเรื่องที่ไม่ควรโกรธ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๑๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ อาฆาตปฏิวินยกถา ว่าด้วยวิธีกำจัดความอาฆาต ๑อ ๑. คิดเสียว่าการที่เขาได้ทำส์งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๒. คิดเสียว่าการที่เขากำลังทำสิงทีไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ฅ. คิดเสียว่าการที่เขาจักทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๔. คิดเสียว่าการที่เขาได้ทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๕. คิดเสียว่าการที่เขากำลังทำสิงทีไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๖. คิดเสียว่าการที่เขาจักทำสิงที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๗. คิดเสียว่าการที่เขาได้ทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๘. คิดเสียว่าการที่เขากำลังทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๙. คิดเสียว่าการที่เขาจักทำสิงที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่เป็นที่รักของเรา ก็ห้ามเขาไม่ได้ ๑0. ไมโกรธในเรื่องทีไม่ควรโกรธ ที่มา : อาฆาตปฏิวินยสูตร ทุติยปัณณาสก์ องฺ.ทสก. ๒๔/๔อ ทสยิเม ภิชุฃเว อาฆาตปฎิวินยา ... ำนตุถํ เม อจริ, ตํ คูเตฅ.ถ ลพุภาติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ ... อตุถํ จริสุสติ, ตํ คูเฅตฺถ ลพฺภาติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติ ... อฎุฮาเน จ น คูปฺปติฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ผ๑๑ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุฟ็นเครื่องกำจัดความอาฆาตมี ๑อ ประการนี้ เหตุเปีนเครื่องกำจัดความอาฆาต ๑0 ประการคืออะไรบ้าง คือ กำ จัดความอาฆาตเสียด้วยคิดว่า เขาได้ประพฤติ... เขากำลังประพฤติ ... เขาจักประพฤติสิงที่ไม่เ{เนประโยชน์แก่เรา เพราะเหตุนั้น การที่จะไมให้มี การประพฤติเซ่นนั้น จะหาได้ในบุคคลนั้นแต่ทีไหน ... เขาได้ประพฤติ ... เขากำลังประพฤติ ... เขาจักประพฤติสิงที่ไม่เบ้นประโยชน์แก่บุคคลผู้เป็น ที่รักเป็นที่ชอบใจของเราแล้ว ... เขาได้ประพฤติ ... เขากำลังประพฤติ ... เขาจักประพฤติสิงที่เป็นประโยชน์แก่บุคคลผู้ไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจ ของเรา เพราะเหตุนั้น การที่จะไม่ให้มีการประพฤติเซ่นนั้น จะหาได้ใน บุคคลนั้นแต่ที่ไหน, ไม่โกรธในเรื่องที่ไม่ควรโกรธ ฯ นวุฑฒิกถา ว่าด้วยลักษณะภิกษุที่เจริญในพระธรรมวินัยไฝได้ ๑อ ๑. ไม่มีศรัทธา ๒. เป็นผู้ทุคืล ๓. มีการสดับน้อย ๔. ว่ายาก ๕. มีมิตรชั่ว ๖. เกียจคร้าน ๗. มีสติหลงลืม ๘. ไม่ลันโดษ ๙. ปรารถนาชั่วช้า ๑๐. มีความเห็นผิด ที่มา : อานันทสูตร ทุติยปัณณาสก์ องฺ.ทสก. ๒๔/๘๒ โส วตานนุท ภิกชุ อสุสทุโธ สมาโน อิมสุมึ ธมฺมวินพ ^ฑุฒึ วิ^ฬหึ ทฝลุลํ อาปชุชิสุสตืติ ฌตํ «านํ วิชุชติ ... ทุสุสีโล ... อปฺปสุสุโต ... ชุพฺพโจ... ปาปมิตุโต... กสีโต... บุฏจสุสติ... อสนฺตุฎโฮ... ปาปีจโฉ... www.kalyanamitra.org
๓๑๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั มิจฉาทิฎรโก สมาโน อิมสมึ ธมมวินเย ๅฑุฒึ วิเฬหี เว1jอุลํ อาปชุชิสุสตีติ เนติ ฮานํ วิชชติ ฯ แปล : ดูก่อนอานนท์ การที่ภิกษุเป็น^ม่มีศรัทธาจักถึงความ เจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ข้อนี้มิโซ่ฐานะที่จะมีได้ การที่ภิกษุ เป็นผู้ทุสืล ... เป็นผู้มีการสดับน้อย ... เป็นผู้ว่ายาก ... เป็นผู้มีมิตรชั่ว ... เป็นผู้เกียจคร้าน ... เป็นผู้หลงลืมสติ ... เป็น^ม่ส์น่โดษ ... เป็นผู้มีความ ปรารถนาลามก ... การที่ภิกษุเป็นผู้มีความเห็นผิดจักถึงความเจริญงอกงาม ไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ข้อนี้มิใซ่ฐานะที่จะมีได้ ฯ ปฎิภาติกลา ว่าด้วยเหตุให้พระธรรมเทศนาแจ่มแจ้ง ๑0 ๑. เป็นผู้มีศรัทธา ๒. เข้าไปหา ฅ. เข้าไปนั่งใกล้ ๔. สอฺบถาม ๕. เงี่ยโสตลงสดับธรรม ๖. สดับธรรมแล้วทรงจำไว้ ๗. พิจารณาเนี้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ ๘. รู้ทั่วถึงอรรถและธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๙. มิวาจางาม ไม่หยาบคาย ให้รู้เนี้อความได้แจ่มแจัง .๑0 ทำ ให้เพื่อนร่วมพรหมจรรย์เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงได้ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ 6ท๑๓ ที่มา : ปุณณิยสูตร ทุติยปัณณาสก์ องฺ.ทสก.๒๔/๔ต ยโต จ โข ใ^ณฺณิย ภิชุชุ สทุโธ จ โหติ, อุปสงุกมิฅา จ,ปยิเปาสิฅา จ, ifiljจฉิตา จ, โอหิตโสโต จ ธมมํ ธุ[ณาติ, อุ[ตุวา จ ธมุมํ ธาเรติ, ธตานญจ ธมุมานํ อตุถํ อุปปริฤขติ ... ธมุมามุธมุมปฎิปนโน จ โหติ ... กลยาณวาโจ ... สนทสสโก จ โหติ สมาฑปโก สมุตุเตชโก สมุปหํสโก สพฺรทุมจารินํ, เอวํ ตถาคตํ ธมุมเทสนา ปฎิภาติ ฯ แปล : ก็เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ๑ เข้าไปหา ๑ นั่งใกล้ ๑ สอบถาม ๑ เงี่ยโสตลงสดับธรรม ๑ สดับธรรมแล้วทรงจำไว้ ๑ พิจารณา เนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ ๑ รู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแล้วปฏิบัติธรรม สมควรแก'ธรรม ๑ เป็นผู้มีวาจางาม เจรจาล้อยคำไพเราะ สละสลวย ไม่หยาบคาย ให้รู้เนื้อความได้แจ่มแจ้ง ๑ เป็นผู้ซี้แจงเพื่อนร่วมพรหมจรรย์ ทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงได้ ๑ เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมแจ่มแจ้ง ฯ ปริหานคลา ว่าด้วยเหตุที่ทำใฟ้เส์อมในพระธรรมวินัย ๑อ ๑. มีอภิซฌามาก ๒. มีความพยาบาท ต. มีถึนมิทธะ ๔. มีจิตพิงซ่าน ๕. มีวิจิกิจฉา ๖. ชอบการทำงาน ๗. ชอบการคุย ๘. ชอบการนอน ๙. ชอบคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ๑อ. มีสติหลงลืม ทอดทิ้งธุระ www.kalyanamitra.org
๓๑๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ ที่มา : อธิมานสูตร ทุติยปัณณาสก์ อง..ทสก.๒๙๘๖ อภิชุฌาฤ โข ปน อยมายสฺมา อภิชุฌาปริ^ฏุ§เดน เจตสา พหุสํ วิหรติ, อภิชุฌาปริยูฎจานํ โข ปน ตถาคตปปเวทิเต ธมฺมรินเย ปริหานเมตํ ฯ พฺยาปนฺโน ... ถีนมิทุธี ... อทุธโต ... ริจิกิจโฉ ... กมมาราโม ... ภสสาราโม ... นิทุทาราโม ... สงุคณิการาโม ... มุฎฺจสสติ ...อนตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปุปเวฑิเต ธมฺมรินเย ปริหานเมตํ ฯ แปล : (ท่านพระมหากัสสปะกล่าวกะภิกษุทั้งหลายว่า \"พระ ตถาคตหรือสาวกของพระตถาคต ฌาน ... กำ หนดใจด้วยใจแล้วย่อมรู้ ประจักษ์ถึงภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า) 'ท่านผู้นี้มีอภิซฌามาก มีใจถูกอภิชฌา กลุ้มรุมอยูโดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งอภิซฌานี้แลเป็นความเส์อมในพระ ธรรมรินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว ... ท่านผู้นี้เป็นผู้พยาบาท มีใจ ถูกความพยาบาทกลุ้มรุมอยูโดยมาก ... ท่านผู้นี้เป็นผู้มีถึนมิทธะ มีใจถูก ถึนมิทธะกลุ้มรุมอยูโดยมาก ... ท่านผู้นี้เป็นผู้มีจิตฟ้งซ่าน มีใจถูกความฟ้ง ซ่านกลุ้มรุมอยูโดยมาก ... ท่านผู้นี้เป็นผู้มีริจิกิจฉา มีใจถูกริจิกิจฉากลุ้มรุม อยูโดยมาก ... ท่านผู้นี้เป็นผู้ขอบการงาน ยินดีในการงาน ประกอบเนือง ๆ ซึ๋งความเป็นผู้ชอบการงาน ... ท่านผู้นี้เป็นผู้ชอบในการคุย ยินดีในการคุย ประกอบเนือง ๆ ซี่งความเป็นผู้ชอบคุย ... ท่านผู้นี้เป็นผู้ชอบการนอนหลับ ยินดีในการนอนหลับ ประกอบเนือง ๆ ซึ่งความเป็นผู้ชอบนอนหลับ ท่านผู้นี้เป็นผู้ชอบความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ยินดีในความคลุกคลีด้วยหมู่ คณะ ประกอบเนืองๆ ซึ่งความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ... ท่านผู้นี้เป็นผู้มีสติ หลงลืม ถึงความทอดทิ้งธุระกลางคันในคุณริเศษที่ควรบำเพ็ญให้สูงขึ้น ด้วยการบรรลุคุณริเศษเบื้องดร ก็ความทอดทิ้งธุระกลางคันในคุณริเศษที่ ควรบำเพ็ญให้สูงขึ้นด้วยการบรรลุคุณริเศษเบื้องตํ่านี้แลเป็นความเส์อมใน พระธรรมรินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๑๕ ผาสุวิหารกถา ว่าด้วยเหตุให้ภิกษุอยู่สบายทั่วทิศ ๑0 ๑. เป็นเถระผู้รัตตัญฌู ๒. มีสิล ฅ. เป็นพหูสูต ๔. จำ พระปาติโมกข!ด้แม่นยำ ๕. ฉลาดในการระงับอธิกรถ! ๖. ใครในธรรม ๗. ส์นโดษด้วยปัจจัย ๔ ๘. มีกิริยาน่าเลื่อมใส ๙. ได้ฌาน ๔ ๑อ. สินอาสากิเลส ที่มา : เถรสูตร อุปาสกวรรค ทุติยปัณณาสก์ องฺ.ทสก. ๒๔/๙๘ ฑสหิ ภิฤขเว ธมฺเมหิ สมนุนาคโต เถโร ภิฤชุ ยสสํ ยสสํ ทิสายํ วิหรติ ผาลุ[เยว วิหรติ ... เดโร โหติ รฅตฌุญ จิรปพพชิโต, สีลวา ... พทุสุลุ[โต ... รุภยานิ โข ปนสส ปาติโมกขานิ วิตถาเรน สุวาคตานิ ... อธิกรณสนุปฺปาทวูปสมถูสโล ... ธมมกาโม ... สนตฎุโฮ ... ปาสาฑิโก ... นิกามลาภี ... อาสวานญจ ขยา ... สจฉิกตฺวา สุปสม่ปชุช วิหรติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๑อ ประการจะอยูในทิศใด ๆ ย่อมอยู่สำราญโดยแท้ ธรรม ๑อ ประการคือ อะไรบ้าง คือ เป็นเถระ คือเป็นรัตตัญฌูบุคคล บวชมานาน๑ เป็นผู้มีคืล คือเป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสํงวรคืล ... ๑ เป็นพหูสูต คือเป็นผู้ทรงสุตะ ส์งสมสุตะ ... ๑ ทรงจำปาติโมกข์ทั้งสองด้วยดได้โดยพิสดาร ... ๑ เป็น ผู้ฉลาดในการระงับอธิกรถ!ที่เกิดขึ้น ๑ เป็นผู้ใครโนธรรม เจรจาน่ารัก มี ความปราโมทย์ยิ่งในอภิธรรม ในอภิวินัย ๑ เป็นผู้สินโดษด้วยจีวร ... ตามมีตามได้ ๑ เป็นผู้ประกอบด้วยอาการอันน่าเลื่อมใสในการก้าวไปและ ถอยกลับ แม้นั่งในละแวกบ้านก็สำรวมด้วยดี ๑ เป็นผู้!ด้ฌาน ๔ ... ๑ www.kalyanamitra.org
๓๑๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้เพราะอาสว: ทั้งหลายสินไปด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ได้ ๑ ฯ อรหัตตาภัพพกถา ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุไม่ให้บรรลุอรหัตตผล ๑๐ ๑. ราคะ ความกำหนัด ๒. โทสะ ความคิดประทุษร้าย ๓. โมหะ ๔. โกธะ ความหลง ๕. คูปนาหะ ความโกรธ ๖. มักฃะ ความผูกโกรธ ๗. ปฬาสะ ๘. อิสสา ความลบหลู่คุณท่าน ๙. มัจฉริยะ ความตีเสมอ ๑อ. มานะ ความริษยา ความตระหนี่ ความถือตัว ที่มา : อภัพพสูตร ทุติยปีณณาฟิก์ อง..ทสก. ๒๔/๑00 ทสยิเม ภิคขเว ธมุเม อปปหาย อภพฺโพ อรหตดํ สจฉิกาชุ ... ราคํ โทสํ โมหํ โกธํ คูปนาหํ มกขํ ปฬาสํ อิสฺส์ มจฉริยํ มานํ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลยังละธรรม ๑อ ประการนี๋ไม่ได้ ก็เป็น^ฝสามารถที่จะทำให้แจ้งซึ่งอรหัตได้ ธรรม ๑อ ประการคืออะไรบ้าง คือ ราคะ ความกำหนัด ๑ ... มานะ ความถือตัว ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
นละคณะ] หมวด ๑๐ cn ๑ci) มิจฉัตดคลา ว่าด้วยสภาวะที่ผิด ๑0 ๑. มิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด ๒. มิจฉาสังกัปปะ ความดำริผิด ฅ. มิจฉาวาจา เจรจาผิด ๔. มิจฉากัมมันตะ การงานผิด ๕. มิจฉาอาชีวะ การเลี้ยงชีพผิด ๖. มิจฉาวายามะ ความพยายามผิด ๗. มิจฉาสติ ความระลึกผิด ๘. มิจฉาสมาธิ ความตั้งใจมั่นผิด ๙. มิจฉาญาณะ ความรู้ผิด ๑อ. มิจฉาวิชุฅติ ความหลุดฟันผิด ที่มา มิจฉัดด^ดร ตติยป้ณณาฟิก์ อง..ทสก.๒0^๑0๓ กถญจ ภิฤขท มิชุฉตุตํ อาคมม วิราธนา โน อาราธนา มิจฉา- ทิฎธิกสฺส ภิคุขเว มิจฉาสงุกปุโป ปโหติ ... มิจฉาวาจา ... มิชุฉากมมนฺโต ... มิจฉาอาชีโว ... มิจฉาวายาโม ... มิจฉาสติ ... มิจฉาสมาธิ ... มิจฉาณาณํ ... มิจฉาผาณิสฺส มิจฉาวิมุตติ ปโหติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาสัยมิจฉัตตะ (สภาวะที่ผิด) อย่างไรจึงมีการพลาดจากสวรรค์และมรรคผล ไม่มีการบรรลุสวรรค์และ มรรคผล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความเห็นผิดย่อมมีความดำริผิด ๑ ผู้มีความดำริผิดย่อมมีวาจาผิด ๑ ผู้มีวาจาผิดย่อมมีการงานผิด ๑ ผู้มีการ งานผิดย่อมมีการเลี้ยงชีพผิด ๑ ผู้มีการเลี้ยงชีพผิดย่อมมีความพยายามผิด ๑ www.kalyanamitra.org
๓๑๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ผู้มีความพยายามผิดย่อมมีความระลึกผิด ๑ ผู้มีความระลึกผิดย่อมมีดวาม ตั้งใจผิด ๑ ผู้มีความตั้งใจผิดย่อมมีความรู้ผิด ๑ ผู้มีความรู้ผิดย่อมมีความ หลุดพ้นผิด ๑ ฯ สัมมัตดกถา ว่าด้วยสภาวะที่ถูก ๑0 ๑. สัมมาทิฐิ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ ๒. สัมมาสังกัปปะ ฅ. สัมมาวาจา เจรจาชอบ ๔. สัมมากัมมันดร ๕. สัมมาอาชีวะ การงานชอบ ๖. สัมมาวายามะ ๗. สัมมาสติ การเลี้ยงชีพชอบ ๘. สัมมาสมาธิ ความพยายามชอบ ๙. สัมมาญาณะ ๑อ. สัมมาวิเjคติ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ ความรู้ชอบ ความหลุดพ้นชอบ ที่มา มิจฉัดตฟิดร ดติยปืณณาฝิก์ อง..ทสก. ๒๙๑0๓ กถญจ ภิกฃท สมมตุตํ อาคมุม อาราธนา โหติ โน วิราธนา, สมมาทิฎุฮิกสส ภิฤฃท สมมาสงุกใ]โป ปโหติ ... สมุมาวาจา ... สมมากมุมนโฅ ... สมมาอาชีโว ... สมมาวายาโม ... สมุมาสติ ... สมมาสมาธิ ... สมมาณาณํ ... สมมาณาณิสส สมุมาวิมุตติ ปโหติ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๑๙ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาส์'ยส์'มมัตตะอย่างไรจึงมีการ บรรลุสวรรค์และมรรคผล ไม่มีการพลาดจากสวรรค์และมรรคผล ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความเห็นชอบย่อมมีความดำริชอบ ๑ ผู้มีความ ดำ ริชอบย่อมมีวาจาชอบ ๑ ผู้มีวาจาชอบย่อมมีการงานชอบ ๑ ผู้มีการ งานชอบย่อมมีการเลี้ยงเพชอบ ๑ ผู้มีการเลี้ยงเพชอบย่อมมีความ พยายามชอบ ๑ ผู้มีความพยายามชอบย่อมมีความระลึกชอบ ๑ ผู้มีความ ระลึกชอบย่อมมีความตั้งใจชอบ ๑ ผู้มีความตั้งใจชอบย่อมมีความรู้ชอบ ๑ ผ้มีความร้ชอบย่อมมีความหลดพ้นชอบ ๑ ฯ ฐานกถา ว่าด้วยโทษที่ผู้ทำร้ายต่อ^ม่ทำร้ายตอบจะได้รับ ๑0 ๑. ประสบทุกขเวทนาแรงกล้า ๒. เลี้อมเลึยทริพย์ ฅ. ร่างกายแดกดับ ๔. ฟ้วยหนัก ๕. จึดฟ้งซ่าน ๖. ความขัดข้องทางราชการ ๗. ถูกใส่ความอย่างร้ายแรง ๘. ลี้นญาตที่จะให้พึ๋งพาอาดัย ๙. ทรัพย์สมบัติพินาศไป ๑อ. ไฟไหม้บ้าน www.kalyanamitra.org
๓๒๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั ที่มา : มหาโมคคัลลานเถรวัตลุ ทัณฑวรรค ชุ.ธ. ๒๕/๑ต๗-๑๔0 ใย ทณ&ฑน อทณเฑชุ อปปชุฎพ^ ชุสฺสติ ทสนฬมญผตรํ ปีานํ ขิปปฌว นิคจฉติ ฯ ททนํ ผรุสํ ชานึ สรีรสุส จ เภทนํ คเกํ วาปี อาพาธํ จิตุตกเฃป๋ ว ปาใjเณ ฯ ราชโต วา ยูปสคคํ อพุภฤฃานํ ว ทาเณํ ปริกฃยํ ว ณาตินํ โภคานํ ว ปภงุดูณํ ฯ อถ วาสุส อคารานิ อคุคิ ฑหติ ปาวโก กายสส เภทา ฑุปปญโฌ นิรยํ โสปปชุชติ ฯ แปล : ผู้ที่ประทุษร้ายด้วยความผิดในผู้ไม่ประทุษริายตอบ ที่งไม่มีความผิด ย่อมประสบเหตุแห่งความทุกข์๑๐ประการ อย่างใดอย่างหนึ่งทันตาเห็นทีเดียว คือ เวทนาแรงกล้า ๑ เสีอมเสิยทร้พย์ ๑ ร่างกายแตก ดับ ๑ ป่วยหนัก ๑ จิตฟ้งซ่าน ๑ อุปสรรคจากราชการ ๑ ถูกใส่ความอย่างร้ายแรง ๑ สินญาติที่จะใทัพึ๋งพาอาดัย ๑ ทรัพย์สมบัติพินาศไป ๑ ไฟไหม้บ้าน ๑ อนึ่ง ผู้ทรามปัญญานั้นแตกดับไป ย่อมเข้าถึงนรก ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓1ร)๑ ภิกฃุธัมมกถา ว่าด้วยคุณธรรมของผู้เป็นภิกษุ ๑อ ๑. ไม่อาสัยสิลป็เลี้ยงชีพ ๒. เป็นผู้เบา ฅ. มุ่งบำเพ็ญประโยชน์ ๔. สำ รวมอินทรีย์ ๖ ๕. หลุดพ้นในธรรมทั้งปวง ๖. ไม่แล่นไปตามตัณหา ๗. ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าของเรา ๘. ไม่มีดวามหวังอะไร ๙. ละความถือตัวได้ ๑อ. เที่ยวไปแตํผู้เดียว ทีมา : สิปปสูตร นันทวรรค ชุ.อุ. ๒๙๒๙ อสิปปชีวี ลชุ อดถคาโม ยตินทริโย สพฺพธิ วีปุป3Jดฺโฅ อโนกสารี อมโม นิราโส หิตฺวา มาน์ เอกจโร ส ภิกชุ ฯ แปล : ผู้ที่ไม่ด้องอาตัยวิชาเลี้ยงชีวิต ๑ เป็นผู้เบา ๑ มุ่ง บำ เพ็ญประโยชน์ ๑ สำ รวมอินทรีย์ ๑ เป็นผู้หลุดพ้น ในธรรมทั้งปวง ๑ ไม่แล่นไปตามตัณหา ๑ ไม่ยึดมั่นถือ มั่นว่าของเรา ๑ ไม่มีความหวังอะไร ๑ ละความถือตัว ได้แล้ว ๑ เที่ยวไปผู้เดียว ๑ ผู้นั้นชีอว่าเป็นภิกษุ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๒๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ปุอุชชนภิกขุกลา ว่าด้วยลักษณะของภิกษุผู้เป็นปุถุชน ๑0 ๑. อุทธตะ ฟังซ่าน ๒. อุนนฬะ ฅ. จปละ พ่อหยิ่ง ๔. มุขระ ๕. วิกิณณวาจะ กลบกลอก ๖. มุฎฐสติ ปากกล้า ๗. อสัมปชานะ แก่คุย ๘. อสมาหิฅะ ๙. วิพภันฅจิฅฅร ลืมสติ ๑อ. ปากตินทริยะ ขาดสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตไม่มั่นคง ไม่สำรวมอินทรีย์ ที่มา อุทรตสูตร เมริ]ยวรรค ขุ.อุ. ๒๕/ฅ๒ เคน โข ปน สมเยน สมุพชุลา ภิฤทเ ภควโต อวิชุเร อรญณคูฎิกายํ วิหรนติ รุทุธตา อนนฬา จปลา มุขรา วิกิณุณวาจา มุฎฺฮสุสติโน อสมุปชานา อสมาหิตา วิพภนตจิตุตา ปากตินฑริยา ฯ แปล : ก็ครั้งนั้นแล ภิกษุจำนวนมากฟ็นผู้ฟังซ่าน เย่อหยิ่ง กลับกลอก ปากกล้า แก่คุย ลืมสติ ขาดสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น มี จิตไม่มั่นคง ไม่สำรวมอินทรีย์ อยู่กนที่กุฎีป้าไม่ไกลพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ผls)(;n อามคันธกถา ว่าด้วยสิงที่มีกลิ่นคาว ๑© ๑. การฆ่าสัตว์ ๒. การทุบตี ฅ. การตัดช่อง ๔. การจองจำ ๕. การสักขโมย ๖. การพูดเท็จ ๗. การทำให้ผิดหวัง ๘. การหลอกลวง ๙. การสืกษาตำราที่ไม่มีประโยชน์ ๑อ. การช่องเสพภรรยาคนอื่น ทีมา : อามคันธสูตร จูฬวรรค ชุ.สุ. ๒๕/๒๕๕ ปาณาติปาโต วธเฉทพนุธนํ เถยุยํ มุสาวาโท นิกติ วญจนานิ จ อชุเฌนถูตตํ ปรทารเสวนา เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ ฯ แปล : การฆ่าสัดว์ ๑ การทุบตี ๑ การตัด ๑ การจองจำ ๑ การสักขโมย ๑ การพูดเท็จ ๑ การทำให้ผิดหวัง ๑ การหลอกลวง ๑ การสืกษาตำราที่ไม่มีประโยชน์ ๑ การช่องเสพภรรยาคนอื่น ๑ สิงนี้ตำงหากที่ซี่อว่าสิงมี กลิ่นคาว เนี้อและโภชนาหารหาใช่ลิ่งมีกลิ่นคาวไม่ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๒๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั สีลสภาวกถา ว่าด้วยสภาวะของสืล ๑0 ๑. เป็นกำลังหาสิงเปรียบมิได้ ๒. เป็นอาวุธอย่างสูงสุด ฅ. เป็นอาภรณ์เครื่องประดับอันประเสรีฐ ๔. เป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์ ๕. เป็นสะพานที่ยิ่งใหญ่มาก ๖. เป็นกลิ่นหอมอย่างยอดเยิ่ยม ๗. เป็นเครื่องลูบไล้อันประเสรีฐ ๘. เป็นกำลังอย่างเลิศ ๙. เป็นเสบียงเดินทางชั้นเยี่ยม ๑0. เป็นพาหนะอันประเสริฐยิ่งนัก ที่มา : สีลวเถรคาถา ทวาทสกนิบาต ชุ.เถร. ๒๖A>๑๔-๖๑๖ สืลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธดุดมํ สีลํ อาภรผํ เสฏฺอํ สีลํ คาจมพุฦดํ ฯ แปล : สืลเป็นกำลังหาสิงเปรียบมิได้ เป็นอาวุธอย่างสูงสุด เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ เป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์ ฯ สีสํ เสq มเหสกโข สีสํ คนฺโธ อาjตุดโร สึลํ วิเสปา4 เสฎฺสํ เยน วาดิ ทิโส ทิสํ ฯ แปล : ดิลเป็นสะพานที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นกลิ่นหอมชั้นเยี่ยม เป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐซึ๋งเป็นmตุให้บุคคลผู้สมบูรณ์ ด้วยสืลหอม'}}งไปทั่วาากทิศ ฯ www.kalyanamitra.org
และคผะ] หมวด ๑๐ ๓๒๕ สีลํ สมพลฌวคคํ สีลํ ปาเลยุยajดตมํ สืลํ เสฎใ® อติวาโห เยน วาติ ทิโส ทิสํ ฯ แปล : สืลฟ้นข้าวห่อชั้นยอด เป็นเสบียงเดินทางชั้นเยี่ยม เป็นพาหนะอันประเสริฐยี่งนัก ซึ่งพาไม่ได้ทั่วทุกทิศ ฯ ปรโลกาภยกถา ว่าด้วย^ฝต้องกลัวปรโลก ๑อ ๑. ผู้ตั้งวาจาและใจไว้ชอบ ๒. ^ม่ทำบาป ต. ผู้ครองเรือนที่มีข้าวและนํ้ามาก ๔. ผู้มีศรัทธา ๕. ผู้อ่อนโยน ๖. ผู้จำ แนกแจกทาน ๗. ผู้รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ๘. ผู้ชอบสงเคราะห์ ๙. ผ้มีถ้อยคำกลมกล่อม ๑อ. ผ้มีวาจาอ่อนหวาน ที่มา : อุทยซาดก เอกาทสกนิบาต ชุ.ชา.๒๗/๑๕๗๗ วาจํ มนญจ ปณิธาย สมมา กาเขน ปาปานิ อภูพพมาโน พชุนุนปานํ ฆรมาวสนฺโต สทุโธ ยูทุ สํวิภาคี วทญญ สงคาหโก สฃิโล สณหวาโจ เอตฺถ รโฅ ปรโลก น ภาเย ฯ แปล : (ท้าวอักกะโพธิสัตว์ตรัสว่า) บุคคลผู้ตั้งวาจาและใจ ไว้โดยชอบ ๑ ไม่ทำบาปด้วยกาย ๑ เมื่ออยู่ครองเรือน www.kalyanamitra.org
๓๒๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั อันมีข้าวและนํ้ามาก ๑ ก็เป็นผู้มีศรัทธา ๑ อ่อนโยน ๑ จำ แนกแจกทาน ๑ รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ๑ ชอบ สงเคราะห์ ๑ มีถ้อยคำกลมกล่อม ๑ อ่อนหวาน ๑ ผู้ ดำ รงอยูในคุณธรรมดังกล่าวมานื้โม่พึงกลัวปรโลก ฯ งจฉา)4ตาปคอา ว่าด้วยเหตุที่ทำให้เดือดร้อนในภายหลัง ๑อ ๑. ไม่แสวงหาทรัพย์ตอนเป็นหนุ่ม ๒. ไม่ได้สืกษาสืลปวิทยาเมื่อเป็นเด็ก ต. ชอบคดโกง ๔. ชอบฆ่าลัตว์ หยาบข้า ๕. ชอบคบซู้ ๖. ตระหนี่ ๗. ไม่เลี้ยงดูบิดามารดา ๘. ไม่ทำตามโอวาทบิดา ๙. ไม่เข้าใกล้สมณพราหมณ์ผู้มีสืลเป็นพหูสูต ๑อ. ไม่ประพฤติสุจริตธรรม ไม่เข้าใกล้ลัตบุรุษ ที่มา : ซนลันธชาดก ทวาทสกนิบาต ชุ.ซา.๒๗/๑๖๙๗-®๗0๖ อลทธา วิดุดํ ดปติ นุ่พุเพ อสมุทานิดํ น นุ่พฺเพ ธนเมสิสสํ อิติ ปอฺฉาบุดปฺปติ ฯ แปล : (พระเจ้าชนลันธะได้ตรัสอย่างนี้ว่า นัยว่าเพราะไม่ทำ เหตุ ๑อ ประการไว้ก่อน เขาย่อมเดือดร้อนในภายหลัง www.kalyanamitra.org
นละคณะ] หมวด๑๐ ๓๒๗ คือ) บุคคลเมื่อยังเปีนหนุ่ม ไม่ทำความพยายามให้ ทรัพย์เกิดขึ้น ครั้นแก่ตัวลงหาทรัพย์Iม่ได้ ย่อมเดือดร้อน ในภายหลังว่า 'เมื่อก่อนเราไม่ได้แสวงหาทรัพย์Iว้' {๑) สฤยเป็ นุ่เร สนดํ มยา สิปป็ น สิกขิดํ กิจฉไ วตติ อสิปฺปสส อิติ ปจฉาบุตปุปติ ฯ แปล : วิชาที่สมควรแก่ตน บุคคลใดไม่ได้คืกษาไว้ก่อน บุคคลนั้นย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เราไม่ได้สืกษา วิชาไว้ก่อน' ^ม่มีวิชาย่อมเปีนอยู่ลำบาก (๒) คูฎเวที ปุเร อาสี ปีอ[ุ โณ ปีฎฺเมํสิโก จณโฑ จ ผรุโส จาสี อิติ ปจฉาบุตปุปติ ฯ แปล : คนโกงย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เมื่อก่อนเรา เปีนคนโกง ส่อเสียด กินสินบน ดุร้าย หยาบคาย'(ต) แปล : ปาณาติปาติ ปุเร อาสี ลูทุโท จาปี อนาริโย ฎตานํ นาปจายิสสํ อิติ ปจฉาบุตปุปติ ฯ ผู้ที่ชอบฆ่าลัตว์ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เมื่อ ก่อนเราชอบฆ่าลัตว์ หยาบช้า ไม่ประเสริฐ ไม่ อ่อนน้อมต่อลัตว้ทั้งหลาย'(๔) พคูอุ[ วต สนติอุ[ อนาปทาอุ[ อิตถิอุ[ ปรทารํ อาเสวิสสํ อิติ ปจฉาบุตปุปติ ฯ แปล : ผู้คบซู้ในภรรยาผู้อื่นย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'หญิงที่ไม่มีใครจับจองก็มีอยู่เปีนอันมาก แต่เรากลับไป เสพสมภรรยาผู้อื่น'(๕) www.kalyanamitra.org
๓๒๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั พชุมุหิ วด สนฺดมหิ อนุนปาฌ ^ปฎเฒ น 1]พเพ อฑทํ ทานํ อิสิ ปจฉานุตปฺปํสิ ฯ แปล : คนตระหนี่ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เมื่อก่อน ข้าวและนํ้าของเราก็มีอยู่มากมาย แต่เราก็มิไดืให้ทาน เลย' (๖) มาฅรํ ใเฅรํ จไปี ชณฺณเค คดโยพุพเฬ ปทุสนุโฅ น โปสิสสํ อิสิ ปจฉๆนุตปฺปสิ ฯ แปล : ผู้ไม่เลี้ยงดูบิดามารดาย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูบิดามารดาผู้แก่เฒ่าชราได้ แต่ก็มิได้เลี้ยงดูท่าน'(๗) อาจริยมนุสตถารํ สพุพกามรสาหรํ ปีตรํ อสิมญผิสุสํ อิสิ ปจฉานุตปุปสิ ฯ แปล : ผู้ไม่ทำดามโอวาทบิดาย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า ฃ่ 'บิดาผู้้นนำำรรสสทที่ด้องการทุกกออยย่่าางงมาให้ คอยเป็นอาจารย์ พรํ่าสอนให้ เรากลับดูหมื่นเสีย'(๘) สมเณ พุราหุมเณ จาปี สีสวนุเต พหุสฺนุเต น 1]พุเพ ปยิเปาสิสสํ อิสิ ปจฉานุตปปสิ ฯ แปล : ผู้!ม่เข้าใกล้สมณพราหมถ!ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า 'เมื่อก่อนเรามิได้!ปมาหาฝูสมณพราหมถ!ทั้งหลายผู้มีดืล เป็นพหูสูดเลย'(๙) สาธุ โหสิ ตโป จิณุโณ สนุโต จ ปยิธุปาสิโต น จ 1]พุเพ ตโป จิณโณ อิสิ ปจฉานุตปุปสิ ฯ www.kalyanamitra.org
และคผร] หมวด ๑๐ ๓๒๙ แปล : ^ม่ประพฤติสุจริตธรรม ไฝไปมาหาส่สัตบุรุษย่อม เดือดร้อนในภายหสังว่า 'สุจริตธรรมที่ประพฤติแล้ว และสัตบุรุษที่คนไปมาหาส่แล้วย่อมเป็นความดื แต่เมื่อ ก่อนนี้เรากสับไฝได้ประพฤติสุจริตธรรมไว้เลย'(๑อ) ฯ ราชธัมมกถา ว่าด้วยทศพิธราชธรรม ๑0 ๑. ทาน การให้ ๒. คึล การสำรวมกายทวารและวจีทวาร ฅ. ปริจจาคะ การบริจาค (&. อาชชวะ ความซื่อตรง ความอ่อนโยน ๕. มัททวะ ความเพียรเครื่องเผากิเลส ๖. ฅปะ ความไม่โกรธ ความไฝเบียดเบียน ๗. อักโกธะ ๘. อวิหิงสา ความอดทน ๙. ขันติ ความไฝผิดจากธรรม ๑อ. อวิโรธนะ ที่มา มหาฟ้งสชาดก อสีสิบาต ข.ชา. ๒๘/๖๗๔-๖๗๕ อหํ อนาคดํ ทีฆํ สมทคฺขามิ ปกขิม สิโด ทสสุ ธมฌสุ ปรโลกํ น สนตสึ ฯ ทานํ สีลํ ปริจจาคํ อาชุชวํ มทฺทวํ ตป้ อกโกธํ อวิหึสผจ ขนฺติญจ อวิโรธนํ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๓๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั แปล : (พระราชาตรัสตอบว่า) ดูก่อนพญาหงส์ เรา พิจารณาเห็นซัดซึ่งอายุในอนาคตยังยีนยาวอยู่ เราดำรง อยู่แล้วโนธรรม ๑อ ประการจึงไม่สะดุ้งกลัวปรโลก คือ ทาน การให้ ๑ คืล การสำรวมกายและวจึทวาร ๑ ปริจจาคะ การบริจาค ๑ อาขซวะ ความซึ่อตรง ๑ มัททวะ ความอ่อนโยน ๑ ตบะ ความเพียร ๑ ยักโกธะ ความไม่โกรธ ๑ อวิหิงสา ความไม่เบียดเบียน ๑ ขันติ ความอดทน ๑ อวิโรธนะ ความไม่ผิดจากธรรม ๑ ฯ อธิบาย : ธรรมทั้ง ๑อ ประการนี้เรียกว่า ราชธรรม ๑๐ หรือ ทศพิธราชธรรม คือธรรมของพระราขา กิจวัตรที่พระเจ้าแผ่นตินควร ประพฤติ คุณธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง ธรรมของนักปกครอง มื ความหมายเฉพาะดำ ดังนี้ ทาน หมายถึงเจตนาในการให้ยันมืวัตถุ ๑อ (ให้ข้าว นํ้าเป็นต้น) ศีล หมายถึงคืล ๕ และคืล ๑อ ปริจจาคะ หมายถึงการสละสิงที่ควร ให้(ไทยธรรม) อาชชวะ มืความหมายตรงดัว มททวะ มืความหมาย ตรงดัว ตปะ หมายถึงอุโบสถกรรม หรือการรักษาอุโบสถคืล อักโกธะ หมายถึงความที่จิตมืเมตตาเป็นแนวนำ อวิหิงสา หมายถึงความที่จิตมืกรุณา เป็นแนวนำ ขันติ หมายถึงอธิวาสนขันติ คือความอดทนความอดกลั้น ต่อสิงที่มากระทบกระทั้งใจ อวิโรธนะ หมายถึงการไม่ประพฤติตนให้เคลื่อน คลาดวิบัติไปจากธรรม (แนวอรรถกถาชาดก ชุ.ซา.อ. ๘/๒๖๑) www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๓๑ มิตตาฑุพภกถา ว่าด้วยอานิสงส์ของการไฝประทุษร้ายมิตร ๑อ ๑, ไปในที่ไหน ร ก็มีอาหารมากมาย เป็นที่อาส์'ยของคนเป็นอันมาก ๒. ได้รับการบูชาทุกแห่ง ฅ. โจรก็ไม่ข่มเหง พระราชาก็ไม่ทรงดูหมิ่น ข้ามฟันด้ตรูได้ ๔. ได้รับการด้อนรับเป็นอย่างดีทั้งโนหมู่ญาติและในหมู่มิตร ๕. ได้รับสักการะ ความเคารพ การสรรเสริญเกียรติคุณ ๖. ได้รับการบูชา การไหว้ตอบ ทั้งอิสริยยศและเกียรติคุณ ๗. มิความรุ่งโรจน์และมีสิริ ๘. มิปคุสัตว์มากมาย และพืชพันธุธัญญาหารเจริญงอกงาม ๙. ย่อมได้ที่พึ่ง ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดเลย ๑อ. พัตรูไม่ข่มขี่เบียดเบียนบีฑา ที่มา : เตมิยชาดก มหานิบาต ชุ.ซา. ๒๘/๑อ๑๙-๑©๒๘ พชุตพุภกฺโข ภวติ วิปุป'Jตุโถ สกงฆรา พบู นํ ธุปชีวนุติ โย มิตุตานํ น ทุพฺภติ ฯ แปล ะ (พระเตมิย์โพธิสัตว์เมิ่อแสดงธรรมเรื่องไม่ประทุษ ร้ายมิตร ตรัสว่า) บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคล นั้นออกจากเรือนของตนไปในที่ไหนๆย่อมมิอาหารมากมาย คนเป็นอันมากย่อมอาพัยผู้นั้นเป็นอยู่ (๑) ยํ ยํ ชนปทํ ยาติ นิคฌ ราชธาฬิโย สพฺพตฺถ มู่ชิโต โหติ โย มิตุฅานํ น ทุพฺภติ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๓๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษ?ายมิตร บุคคลนั้นจะไปยังที่ ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นซนบท นิคม หรือเมืองหลวง ย่อม ได้รับการบูชาในทุก ๆ แห่ง (๒) นาสฺส โจรไ ปสหนุติ นาติมญ&ผติ ขดุติโย สพฺเพ อมิดเด ดรติ โย มิดดานํ น ทุพุภติ ฯ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นพวกโจรก็ไม่ ข่มเหง พระมหากษ'ตรืย์ก็ไม่ทรงดูหมิ่น และผู้นั้นย่อม ข้ามพ้นสัตรูทั้งปวงได้ (ต) อทุทุโธ สฆรํ เอติ สภาย ปฎินนุทิโด ณาตินํ รุตุดโม โหติ โย มิชุดานํ น ทุพภติ ฯ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นย่อมไม่ขุ่นเคือง กลับมาบ้านของตน ย่อมเป็นผู้ยันมหาซนยินดีด้อนรับใน ชุมซน ทั้งเป็นผู้สูงสุดในหยู่ญาติ (๔) แปล : สฤกชุวา สฤกโด โหติ ครู โหติ สคารโว วณฺณกิชุติภโด โหติ โย มิชุดานํ น ทุพฺภติ ฯ บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นลักการะคนอื่น แล้วย่อมเป็นผู้ยันคนอื่นลักการะตอบ เคารพคนอื่นแล้ว ย่อมเป็นผู้ยันคนอื่นเคารพตอบ ทั้งเป็นผู้ยันบุคคลกล่าว สรรเสริญเกียรติคุณ (๕) ชุ]ชโก ลภเด ชุ]ชํ วนุทโก ปฎิวนุทนํ ยโสคิชุติญจ ปปโปติ โย มิชุดานํ น ทุพฺภติ ฯ www.kalyanamitra.org
นละคณะ] ทมวด ๑๐ ผผผ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นเป็นผู้บูชาผู้อี่น ย่อมได้รับการบูชาตอบ ไหร้ผู้อื่น ย่อมได้รับการไหว้ตอบ ทั้งได้รับอิสริยยศและเกียรติยศ (๖) อคุคิ ยถา ปชุชลติ เทวตาว วิโรจติ สิริยา อชุชหิโฅ โหติ โย มิตฺฅานํ น ชุพภติ ฯ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นย่อมรุ่งเรือง เหมือนกองไฟ ย่อมไพโรจน์เหมือนเทวดา เป็นผู้อินสิริ ไม่ละไปแล้ว (๗) คาโว ฅสส ปชายนติ เฃตฺเต 'เตต วิรูหติ ๅตุตานํ ผลมลุ[นาติ โย มิตตานํ น ชุพภติ ฯ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร โคของบุคคลนั้นย่อม ตกลูกมาก พืชผลที่หว่านในนาย่อมงอกงาม เขาย่อมได้ บริโภคพืชผลที่หว่านลงแล้ว (๔) แปล : ทริโต ปพพตาโต วา เกฃโต ปติโต นโร ชุโต ปติฎจํ ลภติ โย มิดตานํ น ทุพุภติ ฯ บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร บุคคลนั้นพลาดลงจาก ภูเขาหรือพลัดตกจากต้นไม้ย่อมได้สิงรองรับ (๙) วิรูฬฺหยูลสนฺตานํ นิโลุรธมิว มาธุโต อมิตตา นปุปสหนติ โย มิตฺตานํ น ชุพภติ ฯ แปล : บุคคลใดไม่ประทุษร้ายมิตร สัตรูทั้งหลายย่อมรังควาน บุคคลนั้นไม่ได้ เหมือนด้นไทรที่มืรากหยั่งลงมั่นแล้ว ลมกีรังควานไม่ได้ฉะนั้น (๑อ) ฯ www.kalyanamitra.org
๓๓๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ ทสวรกถา ว่าด้วยพรที่พระนางผุสดีทูลขอจากท้าวส์กกะ ๑0 ๑. ขอให้เป็นผู้มีนัยน์ตาดำเหมือนตาลูกมฤคี ๒. ขอให้มืขนคิ้วดำสนิท ฅ. ขอให้มีนามว่าผุสดี ๔. ขอให้!ดีโอรส^ห้ส์งอันประเสริฐ ๕. เมื่อทรงครรภ์ ขออย่าให้อุทรนูนขึ้น ๖. ขอให้ถันทั้งสองข้างอย่าได้ห้อยหย่อนยาน ๗. ขอให้เกศาอย่าได้หงอกขาว ๘. ขอให้มีผิวกายละเอียด ธุลีไมตด ๙. ขอให้มีอำนาจที่จะปล่อยนักโทษประหารได้ ๑อ. ขอให้!ด้เป็นเอกอัครมเหสีที่โปรดปรานของพระเจ้าสิพี ที่มา : เวสลันตรชาดก มหานิบาต ชุ.ซา.๒๘/๒๖๗๕-๒๖๘0 นีลฌตตา นืลภมู นีลกฃี ว ยถา มิคี ชุสสตี นาม นาเมน ตตุถ อชุส์ ใ^รินูทท ฯ ... จิตฺรคคเฬรชุสิเต อุ[รามํสปฺปโพธเน สิวิราชสส ภฑุทนฺเฅ ฅตุถสส์ มเหสี ปียา ฯ แปล : ข้าแต่ห้าวปุรินททะ ขอให้หม่อมฉันพึงเป็นผู้มีจักษุดำ เหมือนตาลูกมฤคีซึ๋งมีดวงตาดำ ๑ พึงมีขนคิ้วดำ ๑ พึง เกิดในราชนิเวศน์นั้น มีนามว่าผุสดี ๑ พึงได้โอรสผู้ให้สิงอันประเสริฐ ผู้ควรแก'การขอ ไม่ ตระหนี่ ผู้อันพระราชาทุกประเทศบูชา มีเกียรติยศ ๑ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๓๕ เมื่อหม่อมฉันทรงครรภ์ขออย่าให้อุทรนูนขึ้น พึงมี อุทรไม่นูนเสมอดังคันศรที่นายช่างเหลาเกลี้ยงเกลา ๑ ถันทั้งคู่ของหม่อมฉันอย่าย้อยยาน ๑ ผมหงอกอย่า ได้มี ๑ ธุลีอย่าได้ติดในกาย ๑ หม่อมฉันพึงปล่อย นักโทษที่ถึงประหารได้ ๑ ในพระราซนิเวศน์อันกึกก้องด้วยเลียงของนกยูงและ นกกระเรียน พรั่งพร้อมด้วยหมู่นารี เกลื่อนกล่นด้วย นกกระจิบ มีพ่อครัวชาวมคธพรรณนาไร้ ขอให้หม่อมฉันได้เป็นอัครมเหลีที่โปรดปรานของ พระเจ้าลีวิราช ในแว่นแคร้นที่กึกก้องไปด้วยเลียงกลอน และเลียงบานประตูอันวิจิตร มีคนเช่ญให้ดื่มสุราและ กินกับแกล้ม ๑ ฯ มโนสัททคลา ว่าด้วยส์ทพ์ที่มีความหมายว่าใจ ๑อ ๑. จิต ๒. มนะ ฅ. มานัส ๔. หทัย ๕. ป้ณฑระ ๖. มนายตนะ ๗. มนินทรีย์ ๘. วิญญาณ ๙. วิญญาณขันธ์ ๑อ. มโนวิญญาณธาตุ www.kalyanamitra.org
๓๓๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั ที่มา : กามสุตตนิทเทส อัฏฐกวรรค ชุ.ม.๒๙/๑ มโนติ ยํ จิตุตํ มโน มานสํ หทยํ ปฉเฑรํ มนายตใ5 มนินทุริยํ วิญณไณํ วิญฌาณคุขนุโธ ตชุชา มโนวิญณาณธาตุ, อยํ ^ชุจติ มโน ฯ แปล : คำ ว่า ใจ คือ จิต มนะ มานัส หทัย ปัณฑระ มนายตนะ มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์ มโนวิญญาณธาตุที่๓ด แต่ผัสสะเป็นต้นนั้น นี้ตรัสเรียกว่าใจ ฯ สัมมาทิฐิกลา ว่าด้วยความเห็นที่เป็นส์มมาทิเ ๑0 ๑. เห็นว่าทานที่ให้แล้วมีผลจริง ๒. เห็นว่าการบูชามีผลจริง ฅ. เห็นว่าการเซ่นสรวงมีผลจริง ๔. เห็นว่าผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมีจริง ๕. เห็นว่าโลกนี้มีจริง ๖. เห็นว่าโลกหน้ามีจริง ๗. เห็นว่ามารดามีคุณจริง ๘. เห็นว่าบิดามีคุณจริง ๙. เห็นว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นโอปปาติกะมีจริง ๑อ. เห็นว่าสมณพราหมณ์ที่ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ มีอยู่ในโลกจริง ทีมา มาคนทํยสุตตนิทเทศ อัฏฐกวรรค ชุ.ม. ๒๙/๗๔ อิจุฉิตพพา ฑสวตุตุกา สมมาฑิฎฺจิ \"อตถิ ทีนฺนํ,อตุถิ ยิฎฺธ์, อตุลิ ชุตํ, อตุถิ สูกตชุกกฎานํ กมมานํ ผลํ วิปาโก, อตถิ อยํ โaโก, อตุ่ที www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๓๗ ปโร โลโก, อตุลิ มาตา, อตฺถิ ปีตา, อตถิ สตุตา โอปปาติกา, อตุลิ โกเก สมณพฺราหมณา สมมคุคตา สมมาปฎิปนุนา...สชุฉิกตวา ปเวทยนุติ\"ติ ฯ แปล : ความว่า ทิฐิ ประสงค์เอาส์มมาทิฐิซึ่งมี ๑อ ประการ คือ (ความเห็นว่า) ทานที่โห้แล้วมีผลจริง ๑ การบูชามีผลจริง ๑ การ เซ่นสรวงมีผลจริง ๑ ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมีจริง ๑ โลกนี้มี จริง ๑ โลกหน้ามีจริง ๑ มารดามีคุณจริง ๑ บิดามีคุณจริง ๑ ส์ตว์ทั้งหลาย ที่เป็นโอปปาติกะมีจริง ๑ สมณพราหมณ์ที่ดำเนินชอบ ปฏิบติชอบ ผู้ทำ โลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งด้วยบิญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วสอนให้ผู้รู้อื่น ตามด้วยมีอยูในโลกจริง ๑ ฯ ปุลุชชนกถา ว่าด้วยเหตุที่ซื่อว่าปุถุชน ๑๐ ๑. เพราะให้กิเลสหนาเกิด ๒. เพราะมีอักกายทิฐิหนาแน่นที่อังกำจัดไม่ได้ ต. เพราะเป็นผู้เลือกศาสดามาก ๔. เพราะเป็นผู้ถูกคติทั้งปวงร้อยรัดไว้มาก ๕. เพราะปรุงแต่งด้วยอกิอังขารต่าง ๆ มาก ๖. เพราะลอยไปตามโอฆกิเลสต่าง ๆ มาก ๗. เพราะเดีอดร้อนด้วยความเดีอดร้อนต่าง ๆ มาก ๘. เพราะถูกความเร่าร้อนต่าง ๆ มากเผาไหม้ ๙. เพราะกำหนัดยินดีมากในกามคุณ ๕ ๑อ. เพราะถูกนิวรณ์ ๕ ร้อยรัดไว้มาก www.kalyanamitra.org
0)๓๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ที่มา : ปุรา๓ทสุตตนิทเทส อัฏฐกวรรค ข.ม.๒๙/๙๔ ณณส ชเนนตีติ ใเลุชุชนา ... อวิหตสคุกายทิฎฺ3กาติ ... สตถารานํ ลุโลกิกาติ ... สพฺพคตีหิ อาวุนิกาติ ... นานาภิสงุฃาเรหิ อภิสงขโรนุติติ... นานาโอเฆหิ ๅยุหนุติติ ... นานาสนตาเปหิ สนุตปฺเปนตีติ ... นานาปริฬาเหหิ ปริทยหนุตีติ ... กามคูเณธุ[ รตฺตา... นึวรเณหิ อาๅฏา ...ปฎิคูชุฌิตาติ ปุคูชุชนา ฯ แปล : (ซื่อว่า ปุถุชน เพราะเหตุว่าอย่างไร) ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่ายังกิเลสอันหนาแม่นให้เกิด ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่ามีอักกายทิฐิ อันหนาแม่นยังกำจัดไม่ได้ ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าคอยมองดูแต่หน้า ศาสดาเป็นส่วนมาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าถูกคติทั้งปวงร้อยรัดไว้มาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าปรุงแต่งอภิอังขารต่าง «1 ไว้มาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าลอยไปตามโอฆกิเลสต่าง ๆ มาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่า เดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนต่าง ๆ มาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าถูกความ เร่าร้อนต่าง รุ มากเผาไหม้๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าเป็นผู้กำหนัด ปรารถนา ยินดื ติดใจ ลุ่มหลง ข้องเกี่ยว พัวพันในกามคุณ ๕ มาก ๑ ซื่อว่าปุถุชน เพราะว่าเป็นผ้ถกร้อยรัด ปกคลุม ป็ดบังด้วยนัวรถ! ๕ มาก ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ (3)๓๙ มิจฉาทิฐิกถา ว่าด้วยความเห็นที่เป็นมิจฉาทิฐิ ๑อ ๑. เห็นว่าทานที่ให้แล้วไม่มีผลจริง ๒. เห็นว่ายัญที่บูชาแล้วไม่มีผลจริง ฅ. เห็นว่าการเซ่นสรวงไม่มีผลจริง ๔. เห็นว่าผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและกรรมที่ทำชั่วไม่มีจริง ๕. เห็นว่าโลกนี้!ม่มีจริง ๖. เห็นว่าโลกหน้าไม่มีจริง ๗. เห็นว่ามารดาไม่มีคุณจริง ๘. เห็นว่าบิดาไม่มีคุณจริง ๙. เห็นว่าส์'ตว์ทั้งหลายที่เป็นโอปปาติกะไม่มีจริง ๑อ. เห็นว่าสมณพราหมณ์ที่ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ไม่มีจริงโนโลก ที่มา ฃิคควิสาณสุตตนิทเทส ชุ.จู.(ท0/๑๔ฅ ปาปสหาโย ๅจจติ, โย โส สหาโย ทสวตธุกาย มิจฉาฑิฏเยา สมนนาคโต นตฺถิ ฑินุนํ นตุถิ ฐฏรํ, นตุถิ ทุฅํ, นตุถิ อุ[กดทุคุกฎานํ กมมานํ ผลํ วิปาโก, นตุถิ อยํ โอโก, นฅถิ ปโร โอโก, นตร มาตา, นตถิ ใเตา, นตฺลิ สตตา โอปปาติกา, นตุลิ โอเก สมณพราหฺมณา สมมคุคตา สมุมาปฎิปนนา ... สจฉิกตฺวา ปเวเทนตี ต ฯ แปล : ที่เรียกว่า สหายชั่ว ก็ดีอสหายที่ประกอบด้วยมิจฉาทิฐ ๑อ ประการ คือ {มีความเห็นว่า) ทานที่บุคคลให้แล้วไม่มีผลจริง ๑ การ บูชาไม่มีผลจริง ๑ การเซ่นสรวงไม่มีผลจริง ๑ ผลวิบากของกรรมที่บุคคล ทำ ดีหรือทำชั่วไม่มีจริง ๑ โลกนี้!ม่มีจริง ๑ โลกหน้าไม่มีจริง ๑ มารดาไม่มี www.kalyanamitra.org
๓๔๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั คุณจริง ๑ บิดาไฝมีคุณจริง ๑ สัตว์ทั้งหลายที่เป็นโอปปาติกะไม่มีจริง ๑ สมณพราหมณ์ผู้ดำเนินชอบปฏิบัติชอบ ผู้ทำ โลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งด้วย ปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตามด้วยก็ไม่มีในโลก ๑ ฯ อิทธิกถา ว่าด้วยฤทธิ้ ๑อ ๑. ฤทธี้เพราะการอธิษฐาน ๒. ฤทธิ้ที่แผลงได้ต่าง ๆ ต. ฤทธี้ที่สำเร็จด้วยใจ ๕. ฤทธี้ที่แผ่ไปด้วยญาณ ๕. ฤทธี้ที่แผ่ไปด้วยสมาธิ ๖. ฤทธี้ของพระอริยเจ้า ๗. ฤทธิ้ที่เกิดแต่ผลกรรม ๘. ฤทธิ้ของผู้มีบุญ ๙. ฤทธี้ที่สำเร็จแต่วิชชา ๑อ. ฤทฮิ้ที่สำเร็จเพราะประกอบชอบ ที่มา : พลกทา ยุคนัทธวรรค ชุ.ปฏิ. ฅ๑A)cto กดมานิ ทส อิทธิพลานิ ฯ อธิฎุเรานา อิทธิ, วิคูพฺพนา...มโนมยา ... เบาณวิปผารา ... สมาธิวิปฺผารา ... อริยา ... กมมวิปากชา ... ใเณณวใฅ ... วิชชามยา ... ดดถ ฅดุล สมมาปใยคปปจฺจยา อิชฌนแแรน อิทธิ ฯ แปล : อิทธิพละ (กำลังแฟงฤทธิ้) ๑๐ เป็นไฉน คือ ฤทธิ้เพราะ การอธิษฐาน ๑ ฤทธี้ที่แผลงได้ต่าง ๆ ๑ ฤทธิ้ที่สำเร็จด้วยใจ ๑ ฤทธิ้ที่แผ่ไป ด้วยญาณ ๑ ฤทธิ้ที่แผ่ไปด้วยสมาธิ ๑ ฤทธี้ของพระอริยเจ้า ๑ ฤฑธี้ที่เกิด แต่ผลกรรม ๑ ฤทธี้ของท่านผู้มีบุญ ๑ ฤทธิ้ที่สำเร็จแต่วิชชา ๑ ฤทธี้ด้วย ความหมายว่าสำเร็จ เพราะเหตุแท่งการประกอบโดยชอบในส่วนนั้น ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๔๑ ทสปารมิกลา ว่าด้วยบารมี ๑0 ๑. ทาน การให้ {เวลส์นดรโพธิสัตว์) ๒. ศีล การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย (ภูริทัตตโพธิสัตว์) ฅ. เนกขัมมะ การปลีกตัวปลีกใจจากกาม (เตมีย์โพธิสัตว์) (ft. ปญญา ความรอบรู้ (มโหลธโพธิสัตว์) ๕. วิริยะ ความเพียร (มหาชนกโพธิสัตว์) ๖. ขันติ ความอดทน (จันทกุมารโพธิสัตว์) ๗. สัจจะ ความมีส์'ตย์ (วิธุรโพธิสัตว์) ๘. อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น (เนมีราชโพธิสัตว์) ๙. เมตตา ความปรารถนาดี (ลุวัณณลามโพธิสัตว์) ๑อ. อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง (พรหมนารทโพธิสัตว์) ที่มา รตนจังกมนกัณฑ์ ข.ทุทฺธ. ต๙๗๖-๗๗ ทานํ สีลญจ ฌฤขมฺมํ ปณผารีริยผจ คีทิสํ ฃนุติสจจมธิฏรานํ เมตุดูเปฤฃา จ กีทิสา ฯ ฑสปารมี มหาวีร กีทิสา โลกนายก กลํ ปารมี 1]ณณา ปรมดุลปารมี กลํ ฯ แปล ทาน สิล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ ส์จจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขาเป็นเซ่นไร ข้าแต่พระมหาวีรเจ้าผู้นายกของโลก บารมี ๑0 เป็น อย่างไร อุปบารมี ๑0 และปรมัตถบารมี ๑0 บริบูรณ!ติ อย่างไร ฯ www.kalyanamitra.org
๓๔๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ อันตคาหิกฑิเกถา ว่าด้วยความเห็นผิดที่สุดโต่ง ๑0 ๑, เห็นว่าโลกเที่ยง ๒. เห็นว่าโลกไม่เที่ยง ๓. เห็นว่าโลกมีที่สุด ๔. เห็นว่าโลกไม่มีที่สุด ๕. เห็นว่าชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น (เป็นอย่างเดียวกัน) ๖. เห็นว่าชีวะก็อย่างหนี่ง สรีระก็อย่างหนี่ง (แยกกัน) ๗. เห็นว่าอัตว์หลังจากตายย่อมเกิดอีก ๘. เห็นว่าลัตว์หลังจากตายย่อมไม่เกิดอีก ๙. เห็นว่าลัตว์หลังจากตายย่อมเกิดอีกก็ใซ่ ไม่เกิดอีกก็ใซ่ ๑อ. เห็นว่าลัตว์หลังจากตายย่อมเกิดอีกก็มิใช่ ไม่เกิดอีกก็มิใช่ ที่มา : ทสกนทเทส ชุททกวัตลุวิภังค์ อภิ.วิ. ฅ๕/๙๗๒ ตตุด กตมา ทสวตฺดูกไ อนตคคไหิกา ทิฏุฉิ ฯ \"สสุสโต โลโก\"ติ วา, \"อสสุสโต โลโก\"ติ วา, \"อนุตวา โลโก\"ติ วา, \"อนนุตวา โลโก\"ติ วา, \"ตํ ชีว่ ตํ สรีรนุ\"ติ วา, \"อณณํ ชีวํ อณณํ สรืรนุ\"ติ วา, \"โหติ ตถาคโต ปรมมรณา\"ติ วา, \"น โหติ ตถาคโต ปรมมรณา\"ติ วา, \"โหติ จน จ โหติ ตถาคโต ปรมมรณา\"ติ วา, \"ฌว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรนุมรณา\"ติ วา ฯ แปล : อันตคาหิกทิเ (ความเห็นอันถือเอาที่สุด ความเห็นผิดที่ แล่นไปสุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง) มีวัตถุ ๑อ เป็นไฉน อันตคาหิกห็เมีวัตถุ ๑อ คือ ความเห็นว่าโลกเที่ยง ๑ ความเห็นว่าโลกไม่เที่ยง ๑ ความเห็นว่าโลก www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๔๓ มีทีสุด ๑ ความเห็นว่าโลกไม่มีที่สุด ๑ ความเห็นว่าชีพอันนั้น สรีระก็อัน นั้น ๑ ความเห็นว่าชีพเป็นอย่างหนึ่ง สรีระก็เป็นอย่างหนึ่ง ๑ ความเห็น ว่าอัตว์หลังจากตายไปย่อมเกิดอีก ๑ ความเห็นว่าลัตว์หลังจากตายไปย่อม ไม่เกิดอีก ๑ ความเห็นว่าลัตว์หลังจากตายไปย่อมเกิดอีกก็มี ย่อมไม่ เกิดอีกก็มี ๑ ความเห็นว่าลัตว์หลังจากตายไปย่อมเกิดอีกก็ไม่ใช่ ย่อมไม่ เกิดอีกก็ไม่ใช่ ๑ ฯ เวสสันตรธัมมกถา ว่าด้วยคุณธรรมของพระเวสสันดร ๑อ ๑. ทมะ ความสิกตน ๒. สมะ ความสงบ ต. ขันติ ความอดทน ๔. สังวร ความลัารวมในสืล (ะ. ยมะ ความสำรวมอินทรีย์ ๖. นิยมะ ความนิยมกุศลธรรม ๗. อักโกธะ ๘. อวิหิงสา ความไมโกรธ ๙. สัจจะ ความไม่เบียดเบียน ๑อ. โณจยยะ ความลัตย์ ความสะอาด www.kalyanamitra.org
CD๔๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั ที่มา : ปถวิจลนปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ ปัสินทปัญหา มิลิไ4ท. ๑๒๙ รณโณ มหาราช เวสุสนุตรสฺส สฅตํ สมิตํ ทสอุ[ ราเนอุ[ มานสํ ฮโเตํ โหติ ฑฌ สฌ ขนุติยํ สํวเร ยเม นิยเม อฤโกเธ อวิหีสายํ สจ,เจ ใสเจยุเย ฯ แปล : (พระนาคเสนทูลว่า) ขอถวายพระพรบพิตรพระราช สมภารเจ้า พระเวสสันดรมีพระทัยสงบตั้งมั่นอยู่เสมอในฐานะ 00 ประการ คือ ในทมะ การแกตน ๑ ... ในใสเจยยะ ความสะอาด ๑ ฯ สีฝืสัมปันโนปมากฝืา ว่าด้วยอุปมาผ้มีสืล ๑0 ๑. เปรียบด้วยยาดับพิษ ๒. เปรียบด้วยยาบำรุง ฅ. เปรียบด้วยนํ้า ๔. เปรียบด้วยแก้วมณี ๖. เปรียบด้วยหัวหน้ากองเกวียน ๕. เปรียบด้วยเรีอ ๗. เปรียบด้วยลม ๘. เปรียบด้วยฝนห่าใหญ่ ๙. เปรียบด้วยอาจารย์ ๑อ. เปรียบด้วยผู้ซี้ทาง ที่มา : อัดตนิปาตนปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิลินฺท. ๒©๗ สีสวา มหาราช สีสสมปนุโน อคฑสโม สตตานํ กิเลสวิสวินาสเน, โอสธสโม ... อุทกสโม ... มณิรตนสโม ... นาวาสโม ... สต.ถวาหสโม ... วาตสโม ... มหาเมฆสโม ... อาจริยสโม ... อ[ุ เทสกสโม สตฺตาาร เขม- ปถมาจิกขเน ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๔๕ แปล : (พระนาคเสนทูลตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่พระผู้มี พระภาคเจ้าตรัสห้ามมิให้ภิกษุฆ่าตัวตายว่า) ขอถวายพระพรมหาบพิตร บุคคลผู้มีสืลสมบูรถ!ด้วยสืลเปรียบด้วยยาในการกำจัดพิษกิเลสของสัตว์ ทั้งหลาย ๑ เปรียบด้วยยาบำรุงในการระงับความเจ็บไข้เพราะกิเลสของ สัตว์ทั้งหลาย ๑ เปรียบด้วยนํ้าในการชำระล้างคราบไคลสกปรกคือกิเลส ของสัตว์ทั้งหลาย ๑ เปรียบด้วยแก้วมณในการให้สมบัติทุกอย่างแก่สัตว์ ทั้งหลาย๑ เปรียบด้วยเรีอในการนำพาสัตว์ทั้งหลายข้ามห้วงกิเลส ๔ไปให้ถึง ล่ง ๑ เปรียบด้วยหัวหน้ากองเกวียนในการยังสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามชาติกันดาร ๑ เปรียบด้วยลมในการพัดตับความเร่าร้อนเพราะไฟกิเลสทั้งสามของ สัตว์ทั้ง หลาย ๑ เปรียบด้วยเมฆฝนห่าใหญ่ในการยังความปรารถนาแห่งใจของ สัตว์ทั้งหลายให้บรีบูรถ! ชุ่มชื่น ๑ เปรียบด้วยอาจารย์ในการยังสัตว์ ทั้งหลายให้คืกษาเรี่องกุศล ๑ เปรียบด้วยผู้บอกทางที่ดีในการบอกทาง เกษมแก่สัตว์ทั้งหลาย ๑ ฯ ขิปปสมิทธิคลา ว่าด้วยเหตุที่บรรพชิตทำกิจสำเร็จได้เร็ว ๑0 ๑. มักน้อย ๒. สันโดษ ต. ชอบสงัด ๔. ไม่คลุกคลี ๕. ปรารภความเพียร ๖. ไม่มิความอาสัย ๗.ไม่ติดที่อยู่ ๘. มีคืลบริบูรถ! ๙ มิมารยาทที่ขัดเกลาดี ๑อ. ฉลาดในการปฏิบัติธุดงค์ ที่มา : คิหิปัพพ5ตส์มมาปฏิปัตตํปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิลิแท.๒๕๕ www.kalyanamitra.org
๓๔๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ปพุพชิตสุส มหาราช ยํ กิญจิ กรณียํ, สพุพํ ตํ ฃิปปฒว สมิชฌติ โน จิรรฅตาย ฯ กีการณา ฯ ปพฺพชิโต มหาราช อใเ!เจโฉ โหติ สนฺดูฎฺโจ ปวิวิตุโต อสํสฏโฮ อารทุธวีริโย นิราลโย อนิเกโต ifiijฉเณสืโอ สลุเลฃิ่ตาจาโร ธุตปฺปฎิปตุติคูสโล โหติ ฯ แปล : (พระนาคเสนทูลว่า) ขอทวายพระพรมหาบพิตร กิจใดที่ บรรพชิตควรทำ กิจนั้นทั้งหมดย่อมสำเร็จได้เร็ว ไม่ช้านักเลย เพราะ เหตุไร เพราะเหตุที่บรรพชิตเป็นผู้มีความมักน้อย ๑ เป็นผู้สํนโดษ ๑ เป็นผู้ชอบสงัด ๑ เป็น^ม่ซอบคลุกคลี ๑ เป็นผู้ปรารภความเพียร ๑ เป็นผู้ปราศจากความอาลัย ๑ เป็น^ม่ติดที่อยู่ ๑ เป็นผู้มีสืลบริบูรถ! ๑ เป็นผู้มีอาจาระที่ขัดเกลาแล้ว ๑ เป็นผู้ฉลาดในการปฏิบัติธุดงค์ ๑ ฯ สมณทุสสีลคุณกถา ว่าด้วยข้อดีของสมณะผ้ทสืล ๑0 V จ่ ๑. มีความเคารพในพระพุทธเจ้า ๒. มีความเคารพในพระธรรม ฅ. มีความเคารพในพระสงฆ์ ๔. มีความเคารพในเพื่อนรํวมพรหมจรรย์ ๕. พยายามที่จะเล่าเรียนพระบาลีและอรรถกถา ๖. ชอบพิงธรรม ๗. แม้มีสืลขาด กิสำ รวมเหมือนกับว่ามีสืลต่อหน้าคน ๘. มีจิดมุ่งมั่นต่อความเพียร ๙. ได้ที่อว่าเป็นภิกษุ ๑0. แม้จะกระทำชั่วกิกระทำในที่ลับ www.kalyanamitra.org
นละคถ]ะ] หมวด ๑๐ en๔๗ ที่มา ทุสสีลปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิสิ ท. ๒๖๘ กฅเม ทส ฤณา สมณ'!]สฺสีลสุส คิหิใ]สุสีสโด วิเสเสน อติเรคา ฯ อิธ มหาราช สมณใ]สุสึโล 'ชุฑเธ สคารโว โหติ, ธมฺเม ... สงุเฆ ... สพรหมจารีธุ[... อุทฌสปริใJชุฉาย วายมติ, สวนพใ]โล โหติ ... ปริสคโฅ อากใ]ป อุปฎฺจเปติ ... ปธานาภิชุขผฺจสุส โหติ จิดตํ, ภิกอุสามณณํ อุปคโฅ โหติ ... ปาป็ ปฏิจฉใเใร อาจรติ ...ฯ แปล : {พระนาคเสน'คูลตอบว่า) \"ข้อดีของสมณะทุสิล ๑0 ประการที่ดียิ่งโดยพิเศษกว่าคฤใ1สถ์'ทุสืลคืออะไรบ้าง) ขอถวายพระพร มหาบพิตร สมณะ'ตุคืลในพระศาสนานี้เคารพโนพระพุทธเจ้า ๑ เคารพโน พระธรรม ๑ เคารพโนพระสงฆ์ ๑ เคารพโนเ'พื่อนร่วมพรหมจรรย์ 'ทั้งหลาย ๑ ย่อมพยายามเพื่อสอบถามอุทเทส ๑ เป็นผู้ชอบพิง ๑ แม้จะมี คืลขาด แต่พอเข้าที่ประชุมย่อมสำรวมอากัปกิริยา รักษาความประพฤติ ทางกายและวาจาเพราะกลัวคำตำหนิ ๑ มีจิตที่มุ่งต่อความเพียร ๑ เป็น ผู้เข้าถึงซึ่งการเรียกว่าภิกษุ ๑ แม้เมื่อกระทำความชั่วกึกระทาโนที่ลับ ประดุจสตรีผู้มีสามีแอบสามีไปกระทำความชั่วฉะนั้น ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๔๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ทักขิณาวิโสธกทุสสีลกลา ว่าด้วยเหตุผลที่สมณะทุสืลทำทักษิณาให้สำเร็จผล ๑0 ๑. เพราะใช้เครื่องน่งห่มอันไม่มีโทษ ๒. เพราะทรงเพศสมณะของห่านผู้แสวงหาคุณธรรม ฅ. เพราะประพฤติปฏิบัติตนตามแบบอย่างของพระสงฆ์ ๔. เพราะถึงพระรัตนตรัยเ!เนสรณะ ๕. เพราะความที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความเพียรเป็นที่อาอัย ๖. เพราะแสวงหาการทรงจำคำสอนของพระชินเจ้า ๗. เพราะแสดงธรรมอันประเสริฐ ๘. เพราะยังมีพระธรรมเป็นที่พึ่งเป็นคติ ๙. เพราะมีความเห็นตรงประเด็นเดียวว่าพระพุทธเจ้าเป็นอัครบุคคล ๑อ. เพราะการสมาทานอุโบสถดีล ที่มา : ทุฝิสีลปีญหา เมณฑกปืญหกัณฑ์ มิลินท!]ญหา ท.๒๖๔-๒๖๙ กตเมหิ ทสหิ การเณหิ อุตุตรึ ทกฃิณํ วิโณธติ, อนวชชกวจ- ธารณตายปี ...อิสิสามณณภณุชุลิงฺคธารณโฅปี ... สงุฆสมยมบุปปวิฎุรตายปี ... พุทุธธมมสงุฆสรณคตตายปี ... ปธานาสยนิเกตวาสิตายปี ... ชินสาสน- ธรปริเยสนโตปี...ปวรธมมเทสนโตปี ... ธมมทีปคติปรายณตายปี ... อคโค พุทฺโธติ เอกนตอุชุฑิฏริตายปี ... อุโปสถสมาทานโตปี ทกุฃิณํ วิโสเธติ ฯ แปล ะ (พระนาคเสนทูลตอบคำถามที่ว่า) สมณะผู้ทุสืลย่อมยัง ทิกษิณาให้บริสุทอิ้ยิ่งกว่าคฤหัสถ์ผู้ทุสืลด้วยเหตุ ๑อ ประการอะไรบ้าง คือ สมณะผู้ทุคืลย่อมยังหักษิณาให้บริสุทธึ๊เพราะเหตุที่เป็นผู้ทรงเสัอเกราะอันไม่มี โทษ ๑ ... เพราะเหตุที่เป็นผู้เช้าไปใกล้แบบอย่างของพระสงฆ์ ๑ ... เพราะ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๔๙ เหตุที่ฟ้นผู้ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ๑ ... เพราะ เหตุที่เป็นผู้อยู่ในที่อยูโดยมีความเพียรเป็นที่อาสัย ๑...เพราะการแสวงหาซี่ง การทรงจำคำสอนของพระชินเจ้า ๑ ... เพราะการแสดงธรรมอันประเสริฐ ๑ ...เพราะเหตุที่เป็นผู้มีธรรมเป็นที่พึ่ง เป็นคติ และเป็นที่ต้านทาน๑ ...เพราะ เหตุที่เป็นผู้มีความเห็นตรงโดยส่วนเดียวว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้เลิศ ๑... เพราะ การสมาทานอุโบสถดีล ๑ ฯ อธิบาย : เกี่ยวกับปัญหานี้ พระนาคเสนไต้ยกพระพุทธพจนใน ทักขิณาวิภังคสูตร วิกังควรรค มัซฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ (ม.อุ.®๔/ฅ๘๒) มาสรุปเป็นข้อยุติ ว่า โย สีลวา ชุสุณีลธุ[ ททาติ ทานํ ธมฺฌน ลทธํ อุ[ปสนุนจิดฺโด อภิสททหํ คมุมผลํ อุฬารํ สา ทกขิณา ทายกโต วิอุ[ชุฌติ ฯ ผู้ใดเป็นผู้มีดีล ไต้ของมาโดยชอบธรรม มีจิต เลื่อมใสดี เชื่อกรรมและผลของกรรมอย่างยิ่ง ให้ทาน ในคนทุดีล ทักษิณาของผู้นั้นชื่อว่าบริสุทธิ้ฝ่ายทายก ฯ www.kalyanamitra.org
๓๕๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงศ์ อฑานสัมมตกถา ว่าด้วยการให้ทีไฝใฒัว่าเป็นทาน ๑อ ๑. มัชชทาน การให้นํ้าเมา ๒. สมัชชทาน การให้มหรสพ ต. อิตถิทาน การให้หญิงแก่ซาย ๔. ลูสภทาน การให้!คอุสภะ ๕. จิตตกัมมทาน การให้รูปภาพรูปเขียน ๖. สัฅถทาน การให้สัสตราอาวุธ ๗. วิสทาน การให้ยาพิษ ๘. สังฃรกทาน การให้!ซ่ตรวน ๙. อุกคูฎสูกรทาน การให้!ก่และสุกร ๑๐. ตุลาคูฎมานอุฎทาน การให้เครื่องชั่งเครื่องตวงโกง ที่มา : เวศลันตรปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิลินฺท.๒๘๙-๒๙0 ทส โข ปนิมานิ ภนเฅ นาคเสน ทานานิ, ยานิ โลเก อทาน- สมมฅานิ, โย ฅานิ ทานานิ เทติ, โส อม่ายคามี โหติ ... มชุชทานํ ... สมชุชทานํ ... อิฅถิทานํ ... อุสภทานํ ... จิตตกมมทานํ ... สตุถทานํ ... วิสทานํ ... สงฃรกทานํ ... อุกอุฏสูกรทานํ ... ตุอาอุฎมานคูฎทานํ ภนุเต นาคเสน โลเก อทานสมมตํ, โย ตํ ทานํ เทติ, โส อม่ายคามี โหติ ฯ แปล : (พระเจ้ามิลินท์ตรัสตอบว่า \"ข้าแต่พระนาคเสน ก็ทาน ๑๐ ประการเหล่านี้แลที่ใม่นับว่าเป็นทานในโลก พู!ดให้ทานเหล่านี้ ผู้นั้น ย่อมไปเกิดในอบาย ทาน ๑๐ ประการคืออะไรบ้าง คือ) การให้ป้าเมา ๑ ... การให้เครื่องชั่งเครื่องตวงโกง ไม่นับว่าเป็นทานในโลก ผู้!ดให้ทานนี้ ผู้นั้น ย่อมไปเกิดในอบาย ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๑๐ ๓๕๑ ใอญญาตคลา ว่าด้วยคนที่ถูกดูหมิ่นในโลก ๑0 ๑. หญิงฝาย ๒. คนทุพลภาพ ฅ. คนไร้ญาติขาดมิตร ๔. คนกินจุ ๕. คนไม่เป็นที่เคารพในตระกูล ๖. คนมีมิตรชั่ว ๗. คนขาดทรัพย์ ๘. คนไร้มารยาท ๙. คนว่างงาน ๑อ. คนทิ้งความเพียร ที่มา : ทุกกรการิกปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิลินฺท.๒๙๙ ทส โข ปนิฌ มหาราช คลา โลกสมึ โอญณาตา อวญณาฅา หีฬิตา ฃืฬิตา ครหิตา ปริฎตา อจิตตีกตา ฯ กตฌ ทส ฯ อิตุร ... ชุพุพโล ... อมิตตณาติ ... มหคฆโส ... อครุคูลวาสิโก ... ปาปมิตุโต ... ธนหีโน ... อาจารหีโน ... กมมหีโน ... ปโยคหีโน ... ฯ แปล : (พระนาคเสนทูลตอบว่า) ขอถวายพระพรมหาบพิตร ก็ บุคคล ๑อ ประเภทเหล่านี้แลเป็นผู้ถูกคนทั่วไปดูหมิ่น เหยียดหยาม ดูถูก ดูแคลน นินทา ข่มเหง ไม่ให้เกียรติในโลก บุคคล ๑0 ประเภทคืออะไรบ้าง คือ หญิงม่าย เป็นผู้ถูกคนทั่วไปดูหมิ่น เหยียดหยาม ดูถูก ดูแคลน นินทา ข่มเหง ไม่ให้เกียรติใบโลก ๑ ... คนทิ้งความเพียร เป็นผู้ถูกคนทั่วไปดูหมิ่น เหยียดหยาม ดูถูก ดูแคลน นินทา ข่มเหง ไม่ให้เกียรติในโลก ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
ผ๕๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ นิพพานลักฃณกถา ว่าด้วยลักษณะของพระนิพพาน ๑อ ๑. น ชายติ ไม่เกิด ๒. น ชียติ ไม่แก่ น๓. มียติ ไม่ตาย ๔. น จวติ ไม่จุติ ๕. น ลูปปชชติ ๖. 'ลูปปส'แง ไม่เวียนเกิด ข่มเหงได้ยาก ๗. อโจรหรฌัง โจรลักไม่ได้ ๘. อนิสสิดัง ๙. นิราวรณัง กิเลสอาลัยอยู่ไม่ได้ ๑อ. อนันดัง ไม่มิอะไรกางกั้น ไม่มีที่สุด ทมา : นิพพานรูปลัณฐานปัญหา เมณฑกปัญหกัณฑ์ มิสินทปัญหา มิลินฺท. ฅฅ0 เอวเมว โข มหาราช นิพฺพานํ น ชายติ, น ชียติ, น มียติ, น จวติ, น ชุปปชุชติ, ทุปปสหํ, อโจรหรณํ, อนิสสิตํ อริยคม'พํ, นิราวรณํ, อนนส์ ฯ แปล ะ (พระนาคเสนทูลตอบปัญหาของพระเจ้ามิลินท์เกี่ยวกับ คุณสมบัติ ๑0 ประการของอากาศที่ใกล้เคียงกับพระนิพพานว่า ขอถวาย พระพรมหาบพิตร อากาศย่อมไฝเกิด ไม่แก่ ไม่ตาย .... ไม่มิที่สุด ฉันใด) ฉันนั้นเหมือนกันแล มหาบพิตร นิพพานกี่ไม่เกิด ๑ ไม่แก่ ๑ ไม่ตาย ๑ ไม่จุติ ๑ ไม่อุบัติ ๑ ใครข่มเหงได้ยาก ๑ โจรลักไปไม่ได้ ๑ กิเลสอาลัยอยู่ ไม่ได้ แตํเป็น'ท1ปของพระอริยเจ้า ๑ไม่มิอะไรกางกั้น ๑ ไม่มิที่สุด ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๑๐ ๓๕๓ ธุตคุณารหกถา ว่าด้วยลักษณะของผู้สมควรออกธุดงค์ ๑อ ๑. มีศรัทธา ๒. มีหิริ ๓. มีปัญญาทรงจำ ๔. ไม่หลอกลวง ๕. ชำ นาญในประโยชน์ ๖. ไม่โลเล ๗. ใคร่ต่อการสิกษา ๘. สมาทานมั่นคง ๙. ไม่คอยเพ่งโทษผู้อื่น ๑อ. อยู่ด้วยเมตตา ที่มา ธุตังคปัญหา อนุมานปัญหกัณฑ์ มิลินทปัญหา มิสินฺท.ต๕๘ ทส อิเม มหาราช ijqคลา ^ณารหา ฯ กฅเม ทส ฯ สทใธ โหติ หิริมา ธิติมา อภูโห อตุลวสี อโลโล สิกขากาโม ทฬหสมาทาโน อบุชุฌานพชุโล เมตุตาวิหาริ ฯ แปล : (พระนาคเสนทูลว่า) ขอถวายพระพรมหาบพิตร บุคคล ๑อ ประเภทเหล่านี้เป็นผู้ควรแก่ธุดงคคุณ บุคคล ๑อ ประเภทอะไรปัาง คือ เป็นผู้มีศรัทธา ๑ เป็นผู้มีหิริ ๑ เป็นผู้มีปัญญาทรงจำ ๑ เป็นผู้!ม่หลอก ลวง ๑ เป็นผู้มีความชำนาญในประโยชน์ ๑ เป็นผู้!มโลเล ๑ เป็นผู้ใคร่ต่อ การสิกษา ๑ เป็นผู้มีการสมาทานมั่นคง ๑ เป็นผู้มากไปด้วยการไม่เพ่ง โทษ ๑ เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยเมตตา ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๓๕๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ธุตังคสมาทานโทสคฝืา ว่าด้วยโทษของการสมาทานธุดงค์เพื่อลาภส์'กกๆระ ๑0 ๑. ถูกดูหมิ่น ๒. ถูกรังเกียจ ฅ. ถูกติเตียน ๔. ถูกเย้ยหยัน ๕. ถูกขว้างปา ๖. ไม่มีใครคบหาสมาคม ๗. ถูกขับ ๘. ถูกไล่ ๙. ถูกผลักไส ๑๐. ถูกเนรเทศ ที่มา : ธุดังคปัญหา อนุมานปัญหกัณฑ์ มิสินทปัญหา มิลิ ท.ฅ๖(ท โย โข มหาราช 1]คุคโล ปา!เจโฉ อิจฉาปกโต ... ธุตงฺคํ สมาทิยติ, โส ทิชุณํ ทณฑมาปชชติ, สพพดูณฆาตมาปชุชติ, ทิฎุฟิธมฺมิคํ หีฬนํ ฃีฬนํ ครหนํ อปฺปณฺฑนํ ฃิปนํ อสมโภคํ นิสสารณํ นิจ.ธุภนํ ปวาหนํ ปพุพาชนํ ปฎิลภติ ฯ แปล : (พระนาคเสนทูลว่า) \"ขอถวายพระพรมหาบพิตร บุคคล ใดกีตามมีความปรารถนาเลวทราม ตกอยูโนอำนาจความอยาก หลอกลวง โลภมาก เห็นแก่ปากท้อง มุ่งลาภ มุ่งยศ มุ่งเกียรติ เป็น^ม่ควร ไม่ถึงขั้น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่สมควร แต่ขืนสมาทานธุดงค์) บุคคลนั้นย่อมได้รับ โทษเป็นสองเทำ ถึงการกำจัดความตีทั้งหมด คือ ย่อมได้รับการดูหมิ่น ๑ การรังเกียจ ๑ การติเตียน ๑ การเย้ยหยัน ๑ การขว้างปา ๑ การคบหา สมาคมกับใครไม่ได้ ๑ การขับ ๑ การถูกไล่ ๑ การถูกผลักไส ๑ การ เนรเทศ ๑ อย่างปัจจบันทันต่วน ฯ www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 610
Pages: