บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครูพ่ีเลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลื
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 รหสั วิชา 13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในงานวาดภาพ ภาคเรียนที่ 2 เร่อื ง ความรู้เบอื้ งตน้ เกยี่ วกบั วสั ดุ อุปกรณ์ วาดภาพระบายสี จานวน 1 คาบ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเมื่อ วันท…ี่ ….…เดือน……………………พทุ ธศักราช………….. ครผู ้สู อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยาง อิสระ ชื่นชม และประยกุ ต์ใชในชวี ิตประจาวัน 2. ตวั ชี้วัด ศ 1.1 ป.3/2 ระบวุ ัสดุ อปุ กรณท์ ่ใี ชส รา งผลงาน เมื่อชมงานทศั นศิลป 3. สาระสาคัญ เพือ่ ใหสามารถระบุประเภทของสีท่ีปรากฏในงานทัศนศิลปไดถูกตอง ตามท่ีตามองเห็น สามารถแยกประเภทสีเหลา น้ันได สปี รากฏอยทู ุกท่ปี รากฏในงานทศั นศิลป สมี หี ลายประเภท เชน ดินสอสี สีน้า สีโปสเตอร์ สีชอรก์ สีเทยี น เปน็ ตน ซ้งึ ลักษณะเน้อื สจี ะแตกตา งกนั ออกไป อีกท้ังสียังบอกความรูสึกตางๆ ได การสรางสรรคผ์ ลงานทางดานศิลปะ การเลอื กใชสี ประเภทของสี และความสามารถทักษะการใช สีที่เหมาะสมกับความถนัดของผูสรางชิ้นงานจะเป็นสวนท่ีทาใหงานศิลปะเกิดขึ้นมาไดมีลักษณะ เฉพาะตัวของช้นิ งาน 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพือ่ ใหนกั เรยี นสามารถบรรยายเหตผุ ลการสรางสรรค์ดวยกระดาษได
4.2 ด้านทักษะ (P) - เพื่อใหน ักเรียนสามารถจาแนกประเภทของสใี นงานทศั นศลิ ปไ ด 4.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขาชน้ั เรียน, มีความรบั ผดิ ชอบตองานที่ไดร บั มอบหมาย) 2) มุงมัน่ ในการทางาน (เอาใจใสต อ การปฏบิ ัตหิ นาทีท่ ีไ่ ดรบั มอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหส าเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ วัสดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชส รางงานทัศนศิลปประเภทงานวาด 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคดิ และแกป ัญหาดวยตนเอง 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีวนิ ัย 7.2 ใฝุเรียนรู 7.3 มุงม่ันในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้ันนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทักทายนักเรียน 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ตองเรียนในสปั ดาห์น้ีใหนักเรียนทราบ “ความรูเบ้ืองตนเก่ียวกับวัสดุ อุปกรณ์ วาดภาพระบายสี” 8.3 ครูสอบถามนกั เรยี น “นกั เรยี นเรียนเคยสงั เกตสีทป่ี รากฏในงานทศั นศิลปแลวสามารถบอกได หรือไมวาเหลาน้ันคือประเภทสีใด” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูใน ดุลยพินิจของ ครูผสู อน) เพ่ือกระตุนใหผ ูเ รียนรูจกั คดิ และเป็นการเชอื่ โยงเขา สบู ทเรียนเกี่ยวกบั การพบั กระดาษ ขั้นสอน (50 นาที) 8.4 ครูนาตัวอยา งภาพวาดระบายสที ใี่ ชสีแตละประเภทใหนักเรยี นดู และอธบิ ายลักษณะของสี
ลกั ษณะของสี แตละประเภท - ดินสอสีหรือสีไม มีคุณสมบัติคลายดินสอ ผสมสีไดโดยการระบายทับกัน ใชไดทั้งการ เขยี นและระบายสี สามารถผสมสีโดยการระบายทับกัน ดินสอสีสามารถควบคุมพ้ืนท่ีในการระบายได ดีกวาสีเทียน สีชอร์ก สีน้าประเภทตางๆ แตหากปลายดินสอสีแหลมเกินไปจะทาใหเวลาระบายอาจ เปน็ เสน ได ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช - สชี อร์ก มสี ีสดใส ไมละลายนา้ เป็นสีที่ทึบแสง แตแตกหักงายท่ีสุด ขอดีของสีชอล์ก คือ สามารถรักษาความสดใสความแข็งแรงของมันไวไดเป็นสิบปีหรือเป็นศตวรรษ เวลาระบายสีชอล์ก มกั จะมเี ศษสีติดอยบู นกระดาษควรใชกระดาษทิชชูปัดออกเบาๆ กอ นแลว คอยระบายอกี คร้ัง ทม่ี า : https://sites.google.com/site/worldart22571/hna-hl/si-chxlk?tmpl=% 2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1 - สเี ทยี น มลี ักษณะเปน็ สีเคลือบ เป็นรปู แทง ขนาดเหมาะมอื หลังจากปลอยใหขี้ผึ้งผสมสี แหงแลว กจ็ ะแขง็ ตัวเกิดเปน็ แทง สีขผ้ี งึ้ ตอมาเปล่ียนจากการผสมระหวางสีและข้ีผึ้งเป็นสีกับเทียนซึ่งมี ราคาถูกกวาจึงเรียกกันติดปากวา สีเทียน สีเทียนมีคุณสมบัติพิเศษคือ ไมละลายน้าและน้ามัน จึงไม เปรอะเปอื้ นมอื เวลาใช และงา ยตอการระบายตลอดจนสามารถระบายสที บั ซอ นกนั ไดด วย
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=ZCqjp0ZW1l0 - สีน้า ลักษณะสีน้าจะมีลักษณะโปรงแสงและกึ่งทึบแสง การระบายสีน้าจะใชน้าเป็น สว นผสม ในการใชสีนา้ ไมน ิยมใชส ขี าวผสมเพอ่ื ใหมนี ้าหนักออ นลงและไมนิยมใชสีดาผสมใหมีน้าหนัก เขมขนึ้ เพราะจะทาใหเ กิดนา้ หนกั มดื เกนิ ไป หากระบายผดิ พลาดแกไขยาก ถาระบายซ้าๆ ทับกันมากๆ จะทาใหภ าพมีสีขุนๆ ไมนา ดู หรอื ท่ีเรียกวา สเี นา ที่มา : วิภาพร ทพิ ราช - สโี ปสเตอร์ ลักษณะสโี ปสเตอร์จะมีลักษณะทบึ แสง เนอ้ื สขี น เป็นสีชนิดสีฝุนผสมกาวใช งานเหมอื นกบั สีน้าคอื ใชน า้ เป็นตวั ผสม การเขียนสีโปสเตอร์สามารถระบายดวยพูกันซ้าๆ ที่เดิมได ซ่ึง แตกตางจากสีน้า ถาระบายถูไปมาดวยพูกันซ้าหลายๆ ครั้งจะทาใหสีช้า สีโปสเตอร์สามารถผสมกับสี ขาวเมื่อตองการใหสีออนลง และเม่ือตองการใหสีหมนลงหรือเม่ือตองการใหสีนั้นมืดเขมขึ้น สามารถ ผสมดวยสีดาตามปริมาณมากนอ ยตามที่ตองการ
ที่มา : วิภาพร ทิพราช 8.5 ครูเปดิ โอกาสใหนักเรยี นซกั ถามขอสงสัย ครคู อยเดนิ ดแู ละใหคาแนะนา ขั้นสรปุ (5 นาที) ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหารวมกัน “สีมีหลายประเภท และสีแตละประเภทมีคุณสมบัติและมี ความแตกตางกันออกไป เพราะเน้ือสีของสีถูกผลิตออกมาไมเหมือนกัน” จากใหนักเรียนเก็บวัสดุ อุปกรณใ์ หเรียบรอย 1. การวดั และประเมินผล 9.1 ความรเู บอื้ งตนเกย่ี วกบั วสั ดุ อุปกรณ์ วาดภาพระบายสี (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -อธบิ ายลักษณะ -อธบิ ายลักษณะ -อธิบายไมตรง -ไมอ ธิบาย (K) ของสีไดอยาง ของสีไดผิดถูก ประเด็น -ไมมา -เพื่อใหนักเรียน ถู ก ต อ ง บาง เรยี น สามารถ ทุกประเด็น บรรยายเหตุผล การสรางสรรค์ ดว ยกระดาษได ด้านทกั ษะ -จ า แ น ก -จ า แ น ก -จ า แ น ก -จ า แ น ก -จ า แ น ก -ไมส ง (P) ประเภทของสี ประเภทของสี ประเภทของสี ประเภทของสี ประเภทของสี งาน -เพื่อใหนักเรียน ในงานทัศนศิลป ในงานทัศนศิลป ในงานทัศนศิลป ในงานทัศนศิลป ใ น ง า น -ไมม า สามารถจาแนก ไดถูกตองทุกขอ ไดถูกตองทุกขอ ไดถูกตองทุกขอ ไดถูกตองทุกขอ ทั ศ น ศิ ล ป ไ ด เรยี น ประเภทของสี จาก 5 ขอ จาก 4 ขอ จาก จาก 3 ขอ จาก จาก 2 ขอ จาก ถูกตองทุกขอ
ในงานทัศนศิลป -รูปแบบผลงาน 5 ขอ 5 ขอ 5 ขอ จาก 1 ขอ จาก ได ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน 5 ขอ เ รี ย บ ร อ ย มีความสมบูรณ์ มีความสมบูรณ์ มีความสมบูรณ์ -รปู แบบผลงาน มคี วามสมบรู ณ์ สวยงาม สวยงาม สวยงาม มคี วามสมบูรณ์ ดา้ นจติ พิสยั - - - เขา ชน้ั เรียน เขา ช้ันเรยี น แต ไมเ ขา ชน้ั (A) และมคี วาม ไมมคี วามมงุ มน่ั เรียน -มีวนิ ัย มงุ ม่นั ในการ ในการทางาน -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. สือ่ อุปกรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพตวั อยา งพับกระดาษตอ นรบั วนั คริสมาสต์ 2. ภาพตวั อยางขั้นตอนการพับกระดาษ ชดุ ซานตาคลอส วัสดุ อปุ กรณ์ - กระดาษสี - กระดาษรอยปอนด์ - ไมเ สียบอาหารหรอื ไมแ หลม - กาว - เชอื ก - กรรไกร -สเี ทียน/ดินสอสี/สีชอร์ก - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน ทศั นศลิ ป กลุมสาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest 3. Google
ใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ความรูเ้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับวัสดุ อปุ กรณ์ วาดภาพระบายสี คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นเตมิ ประเภทสีทใี่ ช้ในการระบายสใี นภาพท่ีกาหนดใหถ้ ูกต้อง สนี ้า สโี ปสเตอร์ สไี ม้ สีเทียน สชี อรก์ ภาพวาดระบายสี…………………………………………... คณุ สมบตั รของสี……………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ภาพวาดระบายสี…………………………………………... คณุ สมบัตรของสี……………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ภาพวาดระบายสี…………………………………………... คณุ สมบัตรของสี……………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….
ภาพวาดระบายสี…………………………………………... คุณสมบัตรของสี……………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ภาพวาดระบายสี…………………………………………... คณุ สมบัตรของสี……………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ……………………………………………………………………. ช่อื ……………………………………………………………………………….เลขท่ี…………………..ชนั้ ……………………
แบบประเมนิ ใบงาน เครอ่ื งมือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เร่อื ง…………………………………………………………………ชน้ั ………………….. คาชแ้ี จง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลวใหท าเครอ่ื งหมาย ลงในชองทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน เพ่อื ให้ นกั เรียน อธิบาย ลาดับ ลาดับที่ ลักษณะ เพ่อื ใหน้ กั เรยี น ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกุล รูปร่าง สามารถออกแบบสิง่ มุ่งม่ันใน 10 รปู ทรงในงาน ตา่ งๆ ในโรงเรียนให้ คะแนน 1 ด.ช. มงคลชยั วทั โล การออกแบบ เกดิ รปู ร่าง รปู ทรงท่ี การ 2 ด.ญ. พรรตั นะ ขาประดษิ ฐ ของ ทางาน 3 ด.ญ. กาญเกลา มลู ปะหสั สวยงามได้ 4 ด.ญ. ปณุ ยาพร อภิธรรม 5 ด.ช. วฒุ ชิ ัย สุขประสงค์ สง่ิ ก่อสร้าง 6 ด.ช. วีระศกั ด์ิ ฉตั รทอง 7 ด.ช. จริ ายุ วงศแ์ กนทอง ของโรงเรยี น 8 ด.ช. นฤรงค์ ปรีกมล 9 ด.ญ. อภชั ญา บงุ ทอง ได้ 10 ด.ญ. เกศรินทร์ เชอ้ื ล้ินฟูา 11 ด.ญ. อญั มรี ผาสขุ 3210543210210 12 ด.ญ. วราลักษณ์ ทาลา 13 ด.ญ. เปี่นมรัก หาญประโคน 14 ด.ช. ชัยปกรณ์ กรานแกว 15 ด.ช. ณัฐธิดา จันทรักษา 16 ด.ญ. สภุ าพร นิจศรวี งษ์ 17 ด.ช. กายสิทธ์ สงวนประเสริฐ 18 ด.ญ. ทกั ษอร โคจร 19 ด.ญ. ปลายฟูา มานก
20 ด.ญ. ธญั ญานันท์ จันทรประภาพ 21 ด.ญ. ณชั ชา เจริญยิง่ 22 ด.ญ. ชญานนท์ ไชยวงค์ 23 ด.ช. จติ ราคปุ ต์ ยนิ ดีรมณ์ 24 ด.ญ. พรหมพร เรืองตระกลู 25 ด.ช. ทินภทั ร ดีแกว ลงช่ือ...................................................ผู้ ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผูส้ อน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู ความคิดเหน็ ของครพู ่เี ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูพีเ่ ลี้ยง (นายพนั ศกั ด์ิ เส็งสวุ รรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพิเศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 รหสั วชิ า 13101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นงานวาดภาพ ภาคเรยี นท่ี 2 เรอื่ ง สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ด้วยการขูดสี จานวน 1 คาบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเมอื่ วันท…่ี ….…เดือน……………………พุทธศักราช………….. ครผู ูส้ อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยาง อิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใชใ นชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชีว้ ัด ศ 1.1 ป.3/2 ระบุวัสดุ อุปกรณ์ท่ใี ชส รา งผลงาน เมื่อชมงานทศั นศิลป ป.3/8 ระบุสิง่ ท่ีชื่นชมและสิง่ ทีค่ วรปรบั ปรงุ ในงานทัศนศิลปของตนเอง 3. สาระสาคญั เพื่อใหรูจักกระบวนการการสรางสรรค์ผลงานทัศนศิลปโดยการขูดสีเทียน และรูจักใช วัสดุอุปกรณ์ในการสรางสรรค์งานการขูดสีเทียน จนปรากฏเป็นรูปราง รูปทรง และสีของเสนมี สสี นั สดใส สวยงาม จากจติ นาการและมีความคดิ สรางสรรค์ การขูดสีเทียน เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสรางสรรค์งานทัศนศิลป โดยการระบายสีเทียนสี ตา งๆ ลงบนกระดาษ หลังจากนั้นใชวัสดปุ ลายแหลมขดู เชน ไมเ สยี บลูกชิ้น ไมจ้ิมฟัน วาดเป็นรูป ตา งๆ ตามความตองการตามจินตนาการ
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่ือใหนักเรียนเขาใจกระบวนการ เทคนิคการใชวัสดุ อุปกรณ์ ในการสรางสรรค์งาน การขดู สีเทียน 4.2 ด้านทกั ษะ (P) - เพื่อใหน กั เรียนสามารถสรา งสรรคง์ านโดยการขูดสีเทยี นได 4.3 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขาช้นั เรยี น, มีความรบั ผิดชอบตองานทไี่ ดรับมอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาท่ีท่ีไดรับมอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและ อปุ สรรคในการทางานใหสาเร็จ) 5. สาระการเรยี นรู้ การสรางสรรคง์ านทศั นศิลปโดยการขูดสีเทียน จนปรากฏเปน็ รูปตางๆ ตามจินตนาการ 6. สมรรถนะท่สี าคัญ 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคดิ ดวยตนเอง 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝเุ รยี นรู 7.3 มุงมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา วทักทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสิ่งที่ตองเรียนในสปั ดาหน์ ้ใี หนักเรียนทราบ “สรา งสรรค์งานทศั นศลิ ปด ว ยการขดู สี”
8.3 ครูทบทวนความรู “การสรางสรรค์งานทัศนศิลปโดยการขูดสีมีวิธีการสรางสรรค์อยางไร” เพ่ือกระตนุ ใหผเู รียนรจู กั คิดและเป็นการเชือ่ โยงเขาสบู ทเรยี นเกี่ยวกับการสรางสรรค์งานทัศนศิลปการ ขดู สีดวยสีเทยี น ขน้ั สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธบิ ายนอกจากนาสเี ทยี นมาใชในการวาดภาพระบายสีไดแลว แตสีเทียนยังสามารถนามา ระบายและขูดเป็นเสนจนเกิดเป็นรูปตางๆ เนื่องจากสีเทียนเป็นฝุนผงละเอียดมีการผสมข้ีผ้ึงหรือกาว ยางไมเขา ไปแลวอัดเป็นแทง แตเ มอื่ นามาระบายเนื้อจะมีลักษณะนุมและเมื่อระบายทับซอนกันจะทา ใหเกดิ เปน็ ชั้นมีความหนา เม่อื นาวสั ดปุ ลายแหลมมาขูด ขดี จะทาใหเ กิดเปน็ ลอ งเปน็ เสน ตัวอยา่ งกาสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์โดยการขดู สี ท่มี า : วภิ าพร ทพิ ราช 8.5 ครูอธิบายและสาธติ การสรา งสรรค์งานโดยการขดู สีใหนกั เรยี นดู วสั ด/ุ อุปกรณ์ - กระดาษรอยปอนด์, สเี ทยี น/สชี อร์กน้ามัน, ไมแ หลม/ไมจม้ิ ฟัน ขนั้ ตอนการขูดสี 1. รางเสน ท่จี ะระบายสเี ทยี นหรือสชี อร์กน้ามันลงบนกระดาษรอ ยปอนด์ 2. ระบายสตี ามแบบท่ีรางไวใหท ว่ั ทง้ั กระดาษ ขอควรระวัง ไมระบาย สีโทนเขมมากเกินไป
3. ลงสที ีม่ ีนา้ หนกั เขมสดุ เชน สดี า ระบายใหทว่ั ท้งั กกระดาษ 4. ใชวสั ดุทีม่ ปี ลายแหลม เชน ไมแ หลม ไมจ ิ้มฟัน ขูดกระดาษเป็นภาพ ตามจิตนาการ 5. เก็บรายละเอยี ดหรือตอเตมิ สวนทขี่ าดหายตามตอ งการ ขัน้ ที่ 1 : รา งเสน ขัน้ ท่ี 2 : ลงสี ขัน้ ที่ 3 : ลงสดี าซ้าอกี รอบ ขนั้ ท่ี 4 : ขูดสจี นเปน็ ภาพ ทม่ี า : วภิ าพร ทพิ ราช 8.6 ครอู ธิบายกตกิ า การสรางสรรคง์ านทศั นศิลปด ว ยการขดู สเี ทยี น ภายใตห ัวขอ “มีอะไรใตทอง ทะเล” ลงในกระดาษรอยปอนด์ ขนาด A5 ทค่ี รเู ตรยี มไวให 8.7 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนถามขอสงสัย และลงมือทากิจกรรม จากน้ันครูคอยเดินดูและให คาแนะนา ขน้ั สรปุ (5 นาท)ี 8.8 ครูสุมใหนักเรียนออกมานาผลงานหนาช้ันเรียน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พรอมบอก ปัญหาทีพ่ บขณะปฏิบัติงาน 8.9 ครูและนกั เรยี นรวมกันสรุปเนอ้ื หา “การฝนสไี มเปน็ เสน ขมวดเปน็ การฝนเป็นเสนวงกลมหรือ วนๆ ผสมผสานตดั กัน และนาวิธีการน้ีมาสรางสรรค์เป็นงานทัศนศิลปตามจินตนาการได” จากนั้นให นักเรยี นเก็บอุปกรณ์ใหเ รียบรอย 2. การวัดและประเมินผล 9.1 สรางสรรค์งานทัศนศลิ ปดวยการขูดสี (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 -อธบิ ายเทคนิค -ไมอ ธิบาย ดา้ นความรู้ - - -สามารถอธิบาย -สามารถอธิบาย การใชว สั ดุ -ไมมา อุปกรณ์ในการ เรยี น (K) เทคนคิ การใช เทคนิค การใช -เพื่อใหนักเรียน วัสดุอปุ กรณใ์ น วสั ดอุ ปุ กรณใ์ น สรา งสรรค์งาน เ ข า ใ จ การสรางสรรค์ การสรางสรรค์
กระบวนการ งานทัศนศลิ ป งานทัศนศิลป ทศั นศิลปโ ดย เ ท ค นิ ค ก า ร ใ ช โดยการขูดสตี รง โดยการขดู สีได การขดู สไี ดแต วัส ดุ อุป กร ณ์ ตามข้ันตอนได บางสว นหรอื ไมตรงตาม ในการ ถกู ตอ ง อธิบายขาม ขนั้ ตอน สรางสรรค์งาน ข้นั ตอน การขดู สีเทียน ด้านทักษะ -รูปแบบงานมี -รูปแบบงานมี -รูปแบบงานมี -รปู แบบงานมี -รูปแบบงานมี -ไมส ง (P) เนอ้ื หาเร่ืองราว เนื้อหาเร่อื งราว เนื้อหาเร่อื งราว เนอื้ หาเร่อื งราว เนอ้ื หาเร่อื งราว งาน -เพื่อใหนักเรียน แปลกใหม ไมซ ้า แปลกใหม ไมซ า้ แบบทั่วไป แบบทว่ั ไป ซา้ คนอื่น -ไมมา ส า ม า ร ถ ใคร ใคร -รูปแบบงานมี -รปู แบบงานไลสี -รปู แบบงาน เรียน สรางสรรค์งาน -รปู แบบงานมี -รปู แบบงานมี การไลส ีได เขม ออ นตดั กัน ไมไ ดไลส ี โ ด ย ก า ร ขู ด สี การไลสไี ด การไลสไี ด สวยงาม แตใชส ี รุนแรง -การขูดเสน เทียนได สวยงาม สวยงาม โทนเขมมาก -การขูดเสน เสน เสน ไมคม เสน สีชัดเจน -การขดู เสน เสน เกินไป มคี วามคม ไมชดั และไม -การขูดเสน เสน มคี วามคม -การขูดเสน เสน บางสว น สขี อง เหน็ เป็นรปู มคี วามคม ชดั เจน และเสน มคี วามคม แตส ี เสน ชัดเจน ตา งๆ ชดั เจน และเสน ไมแตกกระจาย ของเสน ไม บางสว น เห็นรูป -เหน็ พื้นหลงั ไมแตกกระจาย เหน็ เป็นรูป ชัดเจน ทาใหรปู ตา งๆ ไมชดั เจน กระดาษ เห็นเป็นรูป ตา งๆ ชดั เจน ตางๆ ไมชัด -เห็นพ้นื หลัง -รปู แบบผลงาน ตางๆ ชัดเจน -ไมเ ห็นพนื้ หลงั -ไมเ หน็ พน้ื หลัง กระดาษ ไมสมบูรณ์ -ไมเ ห็นพ้นื หลงั กระดาษ กระดาษ -รูปแบบผลงาน กระดาษ -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน สะอาด -รูปแบบผลงาน สะอาด สะอาด เรียบรอย สะอาด เรียบรอย เรยี บรอ ย สมบูรณ์ เรยี บรอย สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบูรณ์ ดา้ นจิตพิสยั - - - เขา ชนั้ เรียน เขา ช้ันเรยี น แต ไมเขา (A) และมีความ ไมม คี วามมุง ม่ัน ชั้น -มวี ินัย มงุ มัน่ ในการ ในการทางาน เรยี น -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน
เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอ ย 10. สือ่ อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. ตวั อยางการฝนสีไมแ บบเสนขมวด 2. ตัวอยางงานทัศนศลิ ปการฝนสไี มแ บบเสนขมวด อุปกรณ์ - ใบงาน - สไี ม - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ทัศนศลิ ป กลุม สาระการเรียนรศู ิลปะ ระดบั ชั้น ประถมศกึ ษา ปีท่ี 3 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 2. เวบ็ Pinterest
ใบงาน 3.3 เรือ่ ง สรา งสรรคง์ านทศั นศิลปดว ยการขูดสี คาช้ีแจง : ใหนักเรยี นสรางสรรค์งานทัศนศลิ ปดว ยการขูดสี ภายใตหัวขอ “มีอะไรใตทอ งทะเล” ตามที่นักเรยี นเขียนอธิบายไวเ ม่ือขางตน (10 คะแนน) 1. ระบุวัสดุ อุปกรณ์ที่ใชสรางผลงาน ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นักเรียนคดิ วา ส่ิงทค่ี วรปรับปรุงในผลงานช้ินน้ี คอื ……………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชอ่ื ………………………………………………………………………….เลขท…ี่ ………………..ชน้ั ……………………
แบบประเมนิ ใบงาน เคร่ืองมือ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี………….เร่ือง…………………………………………………………………ชั้น………………….. คาชี้แจง : ใหครูผูสอนประเมินใบงานของนักเรียนแลวใหทาเครือ่ งหมาย ลงในชองทต่ี รงกับ ระดบั คะแนน เพ่ือให้ นักเรียนเข้าใจ ลาดับ ลาดับที่ กระบวนการ เพือ่ ใหน้ ักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ เทคนิคการใช้ สามารถสรา้ งสรรค์ มุ่งม่ันใน 10 วัสดุ อปุ กรณ์ งานโดยการขดู สีเทียน คะแนน การ ในการ ได้ ทางาน สรา้ งสรรค์ งาน การขดู สเี ทยี น 3210543210210 1 ด.ช. มงคลชัย วทั โล 2 ด.ญ. พรรตั นะ ขาประดิษฐ 3 ด.ญ. กาญเกลา มูลปะหัส 4 ด.ญ. ปุณยาพร อภธิ รรม 5 ด.ช. วุฒิชัย สขุ ประสงค์ 6 ด.ช. วรี ะศักดิ์ ฉัตรทอง 7 ด.ช. จริ ายุ วงศแ์ กน ทอง 8 ด.ช. นฤรงค์ ปรกี มล 9 ด.ญ. อภัชญา บุงทอง 10 ด.ญ. เกศรนิ ทร์ เชือ้ ลน้ิ ฟูา 11 ด.ญ. อัญมรี ผาสขุ 12 ด.ญ. วราลักษณ์ ทาลา 13 ด.ญ. เปีน่ มรกั หาญประโคน 14 ด.ช. ชัยปกรณ์ กรานแกว 15 ด.ช. ณัฐธิดา จนั ทรักษา 16 ด.ญ. สภุ าพร นิจศรีวงษ์ 17 ด.ช. กายสิทธ์ สงวนประเสริฐ 18 ด.ญ. ทักษอร โคจร 19 ด.ญ. ปลายฟาู มานก 20 ด.ญ. ธัญญานันท์ จนั ทรประภาพ
21 ด.ญ. ณชั ชา เจริญย่งิ 22 ด.ญ. ชญานนท์ ไชยวงค์ 23 ด.ช. จติ ราคุปต์ ยนิ ดรี มณ์ 24 ด.ญ. พรหมพร เรืองตระกูล 25 ด.ช. ทินภัทร ดแี กว ลงชื่อ........................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคิดเหน็ ของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเห็นของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 รหัสวชิ า 13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 ทัศนศลิ ป์ในท้องถ่นิ ภาคเรยี นท่ี 2 เรื่อง ความเป็นมาของงานทัศนศิลป์ 4 ภูมภิ าค จานวน 1 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเม่ือ วนั ท…ี่ ….…เดอื น……………………พทุ ธศกั ราช………….. ครูผ้สู อน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธ์ระหวางทัศนศิลป ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็น คุณคางานทศั นศลิ ปท เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทองถิ่น ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล 2. ตัวชีว้ ัด ศ 1.2 ป.3/1 เลาถงึ ท่ีมาของงานทัศนศิลปใ นทองถน่ิ 3. สาระสาคัญ เพ่ือใหบอกศิลปะทองถิ่นกับความเป็นมาของผลงานเหลาน้ัน ซ่ึงศิลปะทองถ่ินในภูมิภาคตางๆ มักมีลักษณะท่ีแตกตางกันไปตามภูมิประเทศ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของผูคนในทองถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสรางสรรค์โดยศิลปินหรือผูคนในทองถ่ินเอง และมีลักษณะไม เหมอื นกบั ผลงานศลิ ปะทองถ่นิ อื่นๆ สามารถจาแนกศลิ ปะทอ งถ่ินของภมู ิภาคตา งๆ มีลักษณะ เอกลกั ษณท์ แี่ ตกตางกัน ท้ังรูปแบบการ สรา ง ลักษณะของผลงานท่บี งบอกโดดความโดดเดนความแตกตางของแตละทองถ่ิน ศิลปะในทองถ่ิน เปน็ ผลงานศลิ ปะทเี่ กดิ ข้นึ จากการสรางสรรคข์ องคนในทอ งถ่ินน้ันๆ โดยอาศัยความรูความสามารถที่มี อยูในการสรางสรรค์ผลงาน ผลงานศิลปะในทองถ่ินมีหลายรูปแบบ เชน เครื่องจักรสาน ภาพเขียน (จติ รกรรม) เครื่องประดบั เครอ่ื งใชสอยในครัวเรอื น ของใชส วนตัว ของเลน เปน็ ตน
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพ่ือใหนักเรยี นสามารถอธิบายความเป็นมาและคณุ คา ของทศั นศลิ ปในทอ งถิ่น 4 ภูมิภาคได 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพ่ือใหน กั เรียนสามารถจาแนกทศั นศิลปในทองถิน่ 4 ภูมิภาคได 4.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มวี ินยั (เขาชน้ั เรยี น, มคี วามรบั ผิดชอบตอ งานท่ีไดร บั มอบหมาย) 2) มงุ มน่ั ในการทางาน (เอาใจใสต อการปฏิบตั หิ นาท่ีทไ่ี ดรบั มอบหมาย, พยายาม แกปัญหาและอปุ สรรคในการทางานใหส าเร็จ)) 3) รักความเปน็ ไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ ความเป็นมาของงานทศั นศิลปในทอ งถิน่ ทง้ั 4 ภมู ภิ าคท่ีมคี วามแตกตางกัน 6. สมรรถนะท่สี าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยางสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตผุ ลในการคิดดว ยตนเอง 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มวี นิ ัย 7.2 ใฝุเรียนรู 7.3 มุงม่นั ในการทางาน 7.4 มีจติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา วทกั ทายนักเรยี น 8.2 ครูอธิบายสิ่งที่ตองเรียนในสัปดาห์นี้ใหนักเรียนทราบ “ความเป็นมาของงานทัศนศิลป 4 ภมู ิภาค”
8.3 ครูสอบถามทบทวนความรู “งานทัศนศิลปในแตละภูมิภาคมีความสวยงามและแตกตางกัน อยางไร” เพื่อกระตุนใหผูเรียนรูจักคิดและเป็นการเชื่อโยงเขาสูบทเรียนเก่ียวกับความเป็นมาของงาน ทัศนศลิ ป 4 ภมู ภิ าค ขั้นสอน (50 นาที) 8.4 ครูทบทวนความรใู หน กั เรยี นฟงั ประเทศไทยมี 4 ภมู ภิ าค ดงั นี้ ภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ภาคใต 8.5 ครูนาภาพงานทัศนศลิ ปแตละภูมิภาคใหนักเรยี นดูและตอบคาถามงานแตช น้ิ เปน็ งาน ทัศนศิลปภ ูมิภาคใด ที่มาภาพท่ี 1 (ซ้าย) : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR-nrogKk51iDi8z_jP-J- SemfBp_ KAiwWekg&usqp=CAU ท่ีมาภาพที่ 2 (กลางซ้าย) : https://www.thaitambon.com/thailand/angthong/150305/0111261617 p0121ls.jpg ทม่ี าภาพท่ี 3 (กลางขวา) : https://www.thaitambon.com/thailand/udonthani/410609/011019161517/ 410609-a02.jpg ทม่ี าภาพที่ 4 (ขวา) ทมี่ า : https://i.pinimg.com/236x/7a/9e/a3/7a9ea378d5171e4abb067fa199374f25-- handicraft-boats.jpg 8.6 ครูทบทวนความรูอธบิ ายเกี่ยวกบั ความเป็นมาของงานทัศนศิลปใ หนกั เรียนฟัง ภาคเหนอื รม บอ สราง จ.เชียงใหม
ประวัติความเปน็ มาของรมบอสรา ง รมบอ สรา งเปน็ งานหัตถกรรมที่สืบทอดกันมากวา 200 ปีมาแลว มีประวัติตานานเลาขานกันมา นานนับรอยปีวา มีพระภิกษุสงฆ์รูปหน่ึงชื่อพระ อินถา แหงสานักวัดบอสราง ไดเดินทางทองธุดงด์ไป สถานทต่ี า งๆ จนกระทั่งถงึ แถบชายแดนไทย – พมา มีชาวพมาใจบุญนารมมาถวายเพ่ือใชปูองกันแดดฝน เม่อื พระอนิ ถาไดเห็นรมแปลกตาจงึ ไตถามวา ไดมาจากแหง หนใดจึงไดขอติดตามไปเพ่ือใหไดเห็นท่ีมาของ รม ทานไดศึกษาวิชาการทารม อยางจริงจงั และจดจาไดแมน ยา พรอมนากลับมาทาที่บอสราง จนเกิดเป็น โรงเรยี นฝกึ สอนวิชาทารม ใหกับชาวบาน และกลายเปน็ อาชีพของคนบอสรางมาจนถงึ ปัจจบุ ัน แตบ างตาราบออกวา รับศลิ ปหัตถกรรมนม้ี าจากยูนนาน ทางตอนใตข องประเทศจีน ซึ่งสวนมาก สมัยนั้นสวนมากจะทาโดยพระภิกษุที่อยูในวัด เพื่อถวายเจานาย แตอยางไรก็ตามการทารมก็เป็น หตั ถกรรมในครอบครัวของชาวบา นบอ สราง ทคี่ วบคไู ปกับการทากสิกรรมมาตั้งแตโบราณกาล เป็นอาชีพ คบู านทนี่ าชอื่ เสยี งมาสหู มูบา นบอ สรา ง ภาพรม่ บอ่ สรา้ ง ทีม่ า : http://yukioshop8.lnwshop.com/category/19/ ภาคกลาง ตุ฿กตาชาววัง ประวัตคิ วามเป็นมาของตกุ฿ ตาชาววงั สาหรับตุ฿กตาชาววัง มีกาเนิดในชวงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 5 โดยทาเป็นของเลนเฉพาะในกลุมขาหลวงชาววังเทานั้น ตอมาขาหลวงบางคนที่ออกมาอาศัย กับครอบครัวนอกวัง หรือไปอยูตามหมูบานชนบท ก็นาความรูนี้ติดตัวมาดวย ก็เลยริเร่ิมทาต฿ุกตาชาววัง ออกขาย จงึ เร่ิมเปน็ ที่รูจ กั ของประชาชนทวั่ ไป โดยการปนั้ ต฿ุกตาบง บอกถงึ คุณคาแหงศิลปวฒั นธรรมไทยได
เปน็ อยางดี นอกจากนี้อกี หน่งึ ที่มานา จะมาจากสุภาษติ ทว่ี า อยบู านทานอยานิ่งดูดาย ป้ันวัวป้ันควายใหลูก ทา นเลนซึง่ สุภาษิตนี้บง บอกถงึ อตั ลกั ษณ์และวิถชี วี ิตชาวไทยที่ป้ันตุก฿ ตาจากดนิ เหนยี วมาต้ังแตใ นอดีตดวย ภาพตกุ๊ ตาชาววงั ท่ีมา : https://khunnaiver.blogspot.com/2018/02/thai-miniature-doll-souvernir.html ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เคร่ืองปน้ั ดนิ เผา บา นเชยี ง ประวตั คิ วามเป็นมาของเครื่องป้นั ดินเผา บา นเชียง แหลงโบราณคดีบานเชียง (Ban Chiang Archaeological Site) เป็นแหลงโบราณคดีสาคัญแหง หนงึ่ ต้ังอยูอยทู ่อี าเภอหนองหาน จงั หวัดอดุ รธานี ไดชือ่ วา เป็นถิ่นฐานยคุ กอนประวตั ศิ าสตรท์ ี่สาคัญ แสดง ใหเหน็ ขัน้ ตอนสาคญั ของววิ ัฒนาการทางวัฒนธรรม สังคม และวิชาการของมนุษย์ รวมทั้งแสดงหลักฐาน ของการเกษตรกรรม ในสมัยกอนประวัตศาสตร์ยอนหลังไปกวา 4,300 ปี รองรอยของมนุษย์ในประเทศ ไทยสมัยดังกลาว แสดงใหเห็นถึงวัฒนธรรมท่ีมีพัฒนาการแลวในหลายๆ ดาน โดยเฉพาะดานความรู ความสามารถหรือภูมิปัญญา อันเป็นเครื่องมือสาหรับชวยใหผูคนเหลานั้นสามารถดารงชีวิต และสราง สงั คมวัฒนธรรมของมนุษย์ไดสืบเนื่องตอกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ภาพเครอ่ื งป้ันดนิ เผาบ้านเชยี ง ทม่ี า : http://52010911401.blogspot.com/2012/09/blog-post.html ภาคใต เรอื กอและ ประวตั ิความเปน็ มาของเรอื กอและ เรือกอและนอกเหนือจากการใชในกิจการประมงแลว ยังทาใหทราบถึงประวัติศาสตร์นับตั้งแต การเดินเรอื ของพอ คาชาวอาหรับมุสลิม เขามาในดินแดนแหลมมาลายู การใชเรือบรรทุกสิ่งของตางๆ ท่ี เป็นสินคาเขาและสินคาออก การยกทัพเรือไปในกิจการสงครามบริเวณแหลมมาลายู ตลอดจนการสง กองทพั เรือข้ึนมาชว ยกรุงศรอี ยุธยา คราวเกิดสงครามกบั พมา และกัมพูชา เปน็ ตน สวนการนาเรอื กอและมาใชเพือ่ ความสนุกสนาน รื่นเริง จะเกย่ี วขอ งกับเรื่องราวทางศาสนาพทุ ธ และศาสนาอสิ ลาม มาจากแนวความเช่ือของศาสนาพุทธ ในเร่ืองพระพุทธเจา ตอนท่ีพระองค์เสด็จลงมา จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในวันแรม 1 ค่าเดือน 11 เป็นวันแหพระหรือชักพระจะมีชุมนุมเรือพระ มีงาน ฉลอง มีการแขง ขนั เรือกอและอยางสนกุ สนาน สว นชาวไทยท่นี บั ถือศาสนาอสิ ลามก็มีวันสาคัญทางศาสนา เชน วนั ฮารีรายอ อกี ท้งั ยังมีการแขง ขนั เรอื กอและดว ย
ภาพเรือกอและ ทีม่ า : http://52010911401.blogspot.com/2012/09/blog-post.html 8.7 ครูใหกิจกรรมใบงานท่ี 4.1 เรื่อง ความเป็นมาของงานทัศนศิลป 4 ภูมิภาค ตอนท่ี 2 ให นกั เรยี นทาแผนภาพงานทศั นศลิ ป 4 ภูมิภาคตามทโี่ จทย์กาหนดให 8.8 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย จากน้ันลงมือปฏิบัติกิจกรรม ครูคอยเดินดูและให คาแนะนา ขน้ั สรปุ (5 นาท)ี 8.9 ครูสุมใหนักเรียนออกมานาผลงานหนาชั้นเรียน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พรอมบอก ปญั หาท่ีพบขณะปฏิบัตงิ าน 8.10 ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เนอ้ื หา “งานทัศนศลิ ปในทอ งถิ่นเป็นงานท่คี ุณคา เป็นภูมิปัญญา ของชาวบานในภาคตางๆ ของประเทศไทยท่ีมีมาตั้งแตโบราณสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน แตแรกสรางข้ึน เพื่อประโยชน์ใชสอยในชีวิตประจาวัน เป็นเครื่องมือทามาหากิน หรือเพ่ือพิธีกรรมความเช่ือทางศาสนา วฒั นธรรมประเพณี” จากนัน้ ใหน ักเรยี นเก็บอุปกรณใ์ หเรยี บรอย
9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ความเป็นมาของงานทัศนศิลป 4 ภมู ภิ าค (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมิน 5 4 3 2 1 0 -นั ก เ รี ย น -ไม ด้านความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น สามารถอธิบาย อธิบาย ค วา มเป็ นม า -ไมม า (K) สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย และคุณคาของ เรียน -เพ่ือใหนักเรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ค ว า ม เ ป็ น ม า ทั ศ น ศิ ล ป ใ น สามารถอธิบาย และคุณคาของ และคุณคาของ ท อ ง ถ่ิ น 4 -ไมสง ค ว า ม เ ป็ น ม า ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ภู มิ ภ า ค ไ ด ผิ ด งาน และคุณคาของ ท อ ง ถิ่ น 4 ท อ ง ถ่ิ น 4 ถู ก บ า ง บ า ง -ไมม า ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ภู มิ ภ า ค ไ ด ภู มิ ภ า ค ไ ด ปร ะเด็นแล ะ เรียน ท อ ง ถิ่ น 4 ถูกตอง ตรง ถูกตอง ตรง เ นื้ อ ห า ไ ม ภมู ิภาคได ประเด็นเนื้อหา ป ร ะ เ ด็ น แ ต ครบถวนบาง ค ร บ ถ ว น ทุ ก เ น้ื อ ห า ไ ม -นั ก เ รี ย น สามารถจาแนก ประเดน็ ค ร บ ถ ว น บ า ง ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทองถน่ิ ถูกตอง ประเดน็ 1 ภาค จาก 4 ภาค ด้านทกั ษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -อธิบายเน้ือหา ไมครบถวนและ (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ผิ ด ถู ก บ า ง บา ง ป ร ะ เ ด็ น -เพื่อใหนักเรียน ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทั ศ น ศิ ล ป ใ น คาถาม สามารถจาแนก ทองถิ่น ถูกตอง ทองถิ่น ถูกตอง ทองถิ่น ถูกตอง ทองถ่ิน ถูกตอง -แ ผ น ภ า พ ไ ม ทั ศ น ศิ ล ป ใ น ทั้ ง ห ม ด ทั้ ง ท้ั ง ห ม ด ท้ั ง 3 ภาค จาก 2 ภาค จาก แ ป ล ก ใ ห ม ท อ ง ถ่ิ น 4 แยกเน้อื หาอาน ภูมภิ าคได 4 ภาค 4 ภาค 4 ภาค 4 ภาค เขา ใจยาก -อธิบายเนื้อหา -อธิบายเน้ือหา -อธิบายเน้ือหา -อธิบายเนื้อหา -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ค ร บ ถ ว น ค ร บ ถ ว น ค ร บ ถ ว น ไ ม ค ร บ ถ ว น สวยงาม เลก็ นอ ย ถู ก ต อ ง ต ร ง ถู ก ต อ ง ต ร ง ถู ก ต อ ง ต ร ง กั บ ป ร ะ เ ด็ น ประเด็นคาถาม ประเด็นคาถาม ประเด็นคาถาม คาถาม ระดบั ดมี าก ระดบั ดมี าก ระดับดีมาก -แ ผ น ภ า พ ไ ม -แ ผ น ภ า พ -แ ผ น ภ า พ -แ ผ น ภ า พ แ ป ล ก ใ ห ม แ ป ล ก ใ ห ม แ ป ล ก ใ ห ม แ ป ล ก ใ ห ม แยกเน้ือหาอาน ส ว ย ง า ม ส ว ย ง า ม ส ว ย ง า ม เขา ใจงาย แยกเน้ือหาอาน แตเน้ือหาอาน แยกเน้ือหาอาน -ว า ด ภ า พ เขาใจงา ย เขาใจงายระดับ เขา ใจงา ย ร ะ บ า ย สี -ว า ด ภ า พ ปานกลาง -ว า ด ภ า พ ส ว ย ง า ม ร ะ บ า ย สี -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี เลก็ นอ ย สวยงามมาก ร ะ บ า ย สี สวยงามมาก -ผลงานสะอาด
-ผ ล ง า น สวยงามมาก -ผ ล ง า น เรยี บรอ ย -ผลงานสะอาด เ รี ย บ ร อ ย -ผ ล ง า น ส ะ อ า ด เรยี บรอย สะอาดสมบูรณ์ เ รี ย บ ร อ ย เรียบรอ ย สะอาดสมบูรณ์ ด้านจิตพิสัย - - - -เ ข า ชั้ น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเ ขา (A) ชน้ั -มวี ินัย แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม เรยี น -มุง มนั่ ในการ ทางาน มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง มั่ นใน กา ร -รักความเปน็ ไทย ทางาน ทางาน -เห็นคุณคาของ -ไมเห็นคุณคา ศลิ ปะไทย ของศลิ ปะไทย เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ ย 10. สือ่ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ 1. ใบความรทู ศั นศิลป 4 ภมู ภิ าค อุปกรณ์ - ใบงาน - สีไม - ดนิ สอ/ยางลบ แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ทศั นศิลป กลุม สาระการเรยี นรศู ิลปะ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 2. เวบ็ Pinterest
ใบงาน 4.1 เรอ่ื ง ความเปน็ มาของงานทัศนศลิ ป์ 4 ภมู ิภาค คาช้แี จง : ใหนักเรยี นทาแผนภาพจาแนกงานทัศนศิลป อธิบายความเป็นมาและคณุ คา ของ งานทัศนศิลปทัง้ 4 ภาค และตกแตงใหสวยงาม ชื่อ………………………………………………………………………………….เลขที่…………………….ชั้น……………………
แบบประเมินใบงาน เครอ่ื งมือ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่………….เรื่อง………………………………………………………………ชนั้ ………………….. คาช้ีแจง : ใหครผู ูสอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชองที่ตรงกบั ระดบั คะแนน เพ่อื ให้ นักเรียน ลาดบั ลาดับท่ี สามารถ เพือ่ ให้นักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล อธิบายความ สามารถจาแนก มุ่งมน่ั ใน 10 เปน็ มาและ ทัศนศิลปใ์ นท้องถน่ิ 4 คะแนน คณุ คา่ ของ การ ทัศนศลิ ปใ์ น ภมู ภิ าคได้ ทางาน ท้องถน่ิ 4 ภูมภิ าคได้ 3210543210210 1 ด.ช. มงคลชัย วทั โล 2 ด.ญ. พรรัตนะ ขาประดษิ ฐ 3 ด.ญ. กาญเกลา มลู ปะหสั 4 ด.ญ. ปณุ ยาพร อภธิ รรม 5 ด.ช. วุฒชิ ยั สขุ ประสงค์ 6 ด.ช. วีระศกั ด์ิ ฉัตรทอง 7 ด.ช. จิรายุ วงศ์แกน ทอง 8 ด.ช. นฤรงค์ ปรกี มล 9 ด.ญ. อภัชญา บุงทอง 10 ด.ญ. เกศรนิ ทร์ เช้อื ลิน้ ฟาู 11 ด.ญ. อัญมรี ผาสขุ 12 ด.ญ. วราลกั ษณ์ ทาลา 13 ด.ญ. เปี่นมรกั หาญประโคน 14 ด.ช. ชยั ปกรณ์ กรานแกว 15 ด.ช. ณัฐธดิ า จันทรักษา 16 ด.ญ. สภุ าพร นจิ ศรีวงษ์ 17 ด.ช. กายสทิ ธ์ สงวนประเสริฐ 18 ด.ญ. ทักษอร โคจร 19 ด.ญ. ปลายฟูา มานก 20 ด.ญ. ธัญญานันท์ จนั ทรประภาพ
21 ด.ญ. ณัชชา เจริญยง่ิ 22 ด.ญ. ชญานนท์ ไชยวงค์ 23 ด.ช. จิตราคุปต์ ยนิ ดรี มณ์ 24 ด.ญ. พรหมพร เรอื งตระกูล 25 ด.ช. ทนิ ภทั ร ดีแกว ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ความคดิ เห็นของครูพเ่ี ลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ครูพ่เี ลีย้ ง (นายพนั ศักด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผูต้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิร)ิ รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 13 รหัสวิชา 13101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปใ์ นท้องถนิ่ ภาคเรยี นท่ี 2 เร่ือง ฉกี ปะตดิ เครื่องปนั้ ดนิ เผาบ้านเชียงรูปแบบภาชนะแตกร้าว จานวน 1 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเมอื่ วันท…ี่ ….…เดือน……………………พุทธศักราช………….. ครูผ้สู อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใชในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธร์ ะหวางทัศนศลิ ป ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณคา งานทศั นศลิ ปท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทองถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล 2. ตวั ชวี้ ดั ศ 1.1 ป.3/7 บรรยายเหตุผลและวธิ ีการในการสรางงานทัศนศลิ ป โดยเนน ถงึ เทคนิคและวัสดุ อปุ กรณ์ ศ 1.2 ป.3/1 เลาถึงทมี่ าของงานทศั นศลิ ปในทอ งถน่ิ 3. สาระสาคญั เพ่ือใหบ รรยายเหตผุ ลในการนาวสั ดุ อุปกรณ์ ไดแก กระดาษ กาว และสี มาใชในการสรางสรรค์ ผลงานทัศนศิลปฉีกปะติดรูปเคร่ืองปั้นดินเผา รวมถึงใหรูจักกระบวนการการสรางสรรค์ผลงาน ทัศนศลิ ปโ ดยการฉีกปะตดิ กระดาษในรูปแบบงานทัศนศิลปเคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียง และเห็นคุณคา ของกระดาษทส่ี ามารถนามาฉีกสรางสรรค์ผลงานทัศนศิลปได การนากระดาษมาฉีกปะติดสรางสรรค์ในรูปแบบเคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียง โดยการนาลวดลายท่ี ปรากฏบนเคร่ืองป้ันดินเผาบานเชียงที่มีลวดลายลักษณะตางๆ มาวาดและจัดวางใหมลงในกระดาษ รปู รางเครอื่ งปั้นดินเผาหรอื ไห โดยลวดลายบนเครือ่ งปนั้ ดินเผา ไดแก ลายกลมุ เรขาคณติ ลายกลุมสัตว์
ลายกนหอย ลายกานขด ลายเสนรวมกลุมกัน เป็นตน เม่ือวาดและระบายสีเรียบรอยแลวจากน้ันฉีก กระดาษรูปเครื่องป้ันดินเผาใหเป็นเศษกระดาษขนาดใหญเล็กคละกัน 5-8 ช้ิน จากน้ันจัดเรียงลงบน กระดาษพื้นสีดา ใหเป็นรูปเครื่องป้ันดินเผาเชนเดิม โดยจัดวางชิ้นสวนกระดาษใหมีระยะหางกัน จากนั้นใหทาการปะติดใหสมบูรณ์ จะทาใหผลงานที่ปรากฏเป็นรูปเคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียงที่มีรอย รา วหรอื แตก คลา ยกบั เครือ่ งป้ันดินเผาท่ีแตกแลว ไดถกู นามาประกอบขึ้นใหมแตยังคงเห็นชิ้นสวนของ เครือ่ งปน้ั ดินเผาท่ีมรี อยราวหรือแตกปรากฏอยู 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพอ่ื ใหนักเรียนสามารถบรรยายเหตุผล การใชวัสดุ อุปกรณใ์ นการสรา งสรรคง์ าน ทัศนศลิ ปฉกี ปะติดเครือ่ งปน้ั ดินเผาบานเชยี ง 4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพ่อื ใหน กั เรยี นสามารถสามารถสรางสรรค์งานงานทัศนศิลปการฉกี ปะติด เคร่อื งปนั้ ดินเผาบา นเชยี งรูปแบบภาชนะแตกรา วได 4.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขา ชนั้ เรยี น, มีความรับผดิ ชอบตองานทไ่ี ดร บั มอบหมาย) 2) มงุ มัน่ ในการทางาน (เอาใจใสตอ การปฏิบตั หิ นาท่ีท่ไี ดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอุปสรรคในการทางานใหส าเรจ็ ) 3) รกั ความเป็นไทย (ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ การสรางสรรค์งานทัศนศิลปโดยการฉีกกระดาษปะติดรูปเคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียงท่ีมีลักษณะ เป็นรอยรา วหรือแตก 6. สมรรถนะที่สาคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคิดดว ยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแกปญั หาเฉพาะหนาไดดวยตนเอง
7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวนิ ัย 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มงุ ม่ันในการทางาน 7.4 มีจติ สาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทักทายนักเรยี น 8.2 ครูอธิบายส่ิงที่ตองเรียนในสัปดาห์นี้ใหนักเรียนทราบ “สรางสรรค์งานทัศนศิลปในทองถ่ิน โดยการฉกี ปะติดเคร่ืองปัน้ ดนิ เผาบา นเชียง” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “รูปแบบลักษณะของเคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียง สามารถนามา สรางสรรค์งานทัศนศิลปในรูปแบบใดไดบาง” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจ ของครผู ูสอน) เพื่อกระตนุ ใหผ เู รยี นรจู กั คดิ และเป็นการเชือ่ โยงเขาสูบ ทเรียนเกีย่ วกับการฉกี ปะติดกระดาษ เครอื่ งปนั้ ดินเผาบานเชยี งรูปแบบภาชนะแตกรา ว ขัน้ สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธบิ ายทมี่ าของงานทัศนศลิ ป เครอ่ื งปน้ั ดินเผาบานเชียงใหน ักเรียนฟงั เคร่ืองปั้นดินเผาบานเชียงเป็นการแสดงรองรอยการดารงชีวิตของมนุษย์สมัยโบราณ มีการ ปลกู ขา วและเลี้ยงสัตว์ ลาสัตว์ทั้งสัตว์ปุาและสัตว์น้ามาเป็นอาหาร มีบานพักอาศัย เคร่ืองป้ันดินเผาบาน เชียงแสดงใหเ ห็นถึงวฒั นธรรมทีม่ ีพัฒนาการแลวในหลายๆ ดาน โดยเฉพาะดานความรูความสามารถหรือ ภูมปิ ัญญา อนั เปน็ เครื่องมือสาหรับชว ยใหผูค นเหลานั้นสามารถดารงชวี ิต ผูคนในสมัยโบราณไดวาดลวดลายตางๆ ลงบนท่ีเครื่องป้ันดินเผาซ่ึงมีหลากหลายรูปแบบ เชน ภาพสตั ว์ ภาพลายกนหอย เป็นตน ซ่ึงการนาส่ิงมีชีวิตเหลาน้ีมาวาดลงบนเคร่ืองป้ันดินเผา แสดงให เหน็ วา ในชวงเวลานัน้ ไดม ีสิ่งมชี วี ติ หรอื มสี ่งิ ของตางๆ ปรากฏข้ึน เมื่อผูคนสมัยโบราณพบเห็น จึงเกิดการ จดจา ลกั ษณะรูปรา งของส่ิงเหลา นน้ั จงึ จะสามารถวาดลวดลายเหลาน้ันลงบนเคร่ืองป้นั ดินเผาได อีกทั้งยัง แสดงใหเ ห็นถงึ ความอดุ มสมบูรณ์ในชวงเวลานน้ั ดวย 8.5 ครูแจกใบความรูลวดลายที่ปรากฏบนภาชนะเครื่องปั้นดินเผาบานเชียงใหนักเรียน และ อธิบาย
ลวดลายท่ีปรากฏบนภาชนะเครื่องปั้นดินเผาบานเชียง มีลวดลายท่ีหลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปแบบธรรมชาติและรูปแบบอิสระ ไดแก ลายสัตว์ ลายกนหอย ลายเรขาคณิต ลายเสนทับซอนกัน เป็นตน ลวดลายบนภาชนะเคร่อื งปน้ั ดินเผาบา้ นเชียง ลายสตั ว์ ภาพตน้ แบบ ภาพลายเสน้ จากต้นแบบ ภาพววั /ควาย ท่มี า : วิภาพร ทิพราช ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/417708934191043739/ สตั วเ์ ลือ้ ยคาน ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช ทม่ี า : https://www.pinterest.com/pin/417708934188879617/ ทม่ี า : https://www.pinterest.com/pin/417708934188879617/ ทีม่ า : วิภาพร ทิพราช
ภาพงู ทมี่ า : วิภาพร ทิพราช ทีม่ า : http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/banchiang /index.php/th/ virtual-model-360/62-2-15.html ลายก้นหอย ท่มี า : http://www.lungkitti.com/product.detail_84691 ที่มา : วิภาพร ทิพราช 5_th_6605669 ท่ีมา : https://www.pinterest.com/pin/598415869236577460/ ที่มา : วภิ าพร ทิพราช ลายกา้ นขด ทม่ี า : https://www.pinterest.com/pin/423549539941408337/ ท่ีมา : วภิ าพร ทิพราช
ลายเรขาคณิต รูปรา งวงกลม ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช ทมี่ า : http://www.lungkitti.com/product.detail_846953_en_ 6922936 รูปรา งสามเหลย่ี ม ท่ีมา : วิภาพร ทิพราช ทีม่ า : http://www.lungkitti.com/product.detail_846953_en_ 6922936 ลายตวั อกั ษร S เปน็ ตวั อกี ษร S กลบั ดา้ น ที่มา : https://oer.learn.in.th/search_detail/result/104535 ท่มี า : วภิ าพร ทิพราช
ทมี่ า : https://www.thaitambon.com/product/01101916437 ที่มา : วิภาพร ทิพราช ทมี่ า : วภิ าพร ทิพราช ลายเสน้ ทบั ซ้อนกนั เปน็ การนาเสน้ รูปร่างเรขาคณติ หรอื ลายเส้นอสิ ระ มาทับซ้อนกนั เปน็ ช้นั ๆ ท่ีมา : https://museum.socanth.tu.ac.th/collection/ ท่ีมา : http://ohrayongtourism.blogspot.com/2012/02/ ทมี่ า : วิภาพร ทิพราช blog-post.html
ท่มี า : https://www.pinterest.com/pin/598415869236577415/ ที่มา : วิภาพร ทิพราช ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช ลายอสิ ระ เปน็ การนา รปู รา่ งลายเส้นหลาย ลักษณะมาประกอบ เข้าด้วยกนั ทีม่ า : http://www.theothersideforever.com/thai-village- infants-buried-stunning-red-painted-clay-pots/ การซา้ ลายเดมิ ทมี่ า : https://today.line.me/th/v2/article/wjZe0G ทีม่ า : วิภาพร ทิพราช เปน็ การวาด ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช ลวดลายเดิม ทม่ี า : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Ban_Chiang_ ทีเ่ หมอื นกัน Museum_Pot. JPG โดยจัดเรียงซา้ ๆ เป็นจงั หวะ
ท่มี า : http://saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book= ท่มี า : วิภาพร ทิพราช 22&chap=2&page=t22-2-infodetail05.html ท่ีมา : http://academic.udru.ac.th/~waraporn/website/web- ทม่ี า : วภิ าพร ทิพราช bc/indexBC.html ที่มา : http://www.lungkitti.com/product.detail_846953_en_ ท่มี า : วภิ าพร ทิพราช 6922936 ที่มา : https://www.metmuseum.org/art/collection/search/37407 ท่มี า : วภิ าพร ทิพราช ท่ีมา : https://www.pinterest.com/pin/598415869236577411/ ทม่ี า : วภิ าพร ทิพราช
ทมี่ า : https://www.pinterest.com/pin/598415869236580442/ ทม่ี า : วภิ าพร ทิพราช ทม่ี า : https://www.pinterest.com/pin/598415869236577415/ ทม่ี า : วิภาพร ทิพราช ทม่ี า : https://www.pinterest.com/pin/598415869236577463/ ที่มา : วภิ าพร ทิพราช 8.6 ครอู ธิบายนาภาพลักษณะภาชนะเครอ่ื งป้ันดินเผาแตกราวใหนักเรียนดูและอธิบาย ในช่ัวโมง น้จี ะใหน กั เรียนทากิจกรรมฉกี ปะติดเครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาบา นเชยี งรูปแบบภาชนะแตกราว
ลกั ษณะภาชนะเครอ่ื งปน้ั ดินเผาแตกรา้ ว ทีม่ าภาพท่ี 1 : https://i.pinimg.com/originals/e0/84/5a/e0845a49091ea4a91 cfe4bd14dd239f1.jpg ท่ีมาภาพที่ 2 : https://vatican.com/2/Other-Ban-Chiang/ 8.8 ครูนาภาพตัวอยา งงานทัศนศิลปฉกี ปะตดิ เครอ่ื งป้นั ดินเผาบา นเชยี งรปู แบบภาชนะแตกราวให นักเรยี นดแู ละอธิบาย เหตุผลในการสรางงานรูปแบบนี้เพราะ เนื่องจากเคร่ืองปั้นดินเผาสรางมาจากดินและมี นา้ หนกั เมื่อมันแตกจะมีชิน้ สวนกระจายเป็นช้ินๆ เมอ่ื นามาประกอบกนั จะทาใหภ าชนะมีรอยราวหรอื แตก เนื้อดินไมผ สมผสานกลมกลนื กันเหมอื นตอนแรก ซ่ึงรองรอยเชนน้ีสามารถนากระดาษมาใชสรางสรรค์ให เป็นงานรูปแบบเครอ่ื งปัน้ ดนิ เผามรี อยรา วได ตวั อยา่ งงานทศั นศิลป์ฉกี ปะตดิ เคร่อื งป้ันดนิ เผาบา้ นเชียงรูปแบบภาชนะแตกร้าว ท่มี า : วิภาพร ทิพราช
8.9 ครูอธิบายขน้ั ตอนการสรา งสรรคง์ านใหนกั เรยี นดู - ดนิ สอสีสแี สง วัสดุ/อุปกรณ์ - กระดาษรปู ภาชนะ ขนาด A5 - กระดาษสดี าขนาด A4 - ดนิ สอ - ยางลบ - ไมบรรทดั ขั้นตอนการทา 1. ใหเลือกลวดลายทชี่ อบ 3 ลายขึน้ ไป โดยลวดลายที่เลือกมีดงั นี้ 2. รางภาพลงบนรูปรา งภาชนะ โดยจดั วางลายลงสวนตางๆ บนภาชนะตามตอ งการสามารถ วาดปรับขนาดลวดลายใหมีขนาด เล็ก ใหญ ไดตามตองการและมารถ ปรบั เปลี่ยนทิศทางของลวดลายได 3. ระบายสีดวยสีแดงตามรูปแบบลวดลายทวี่ าดใหสวยงาม
4. ใหฉ กี ภาพภาชนะเครือ่ งป้ันดนิ เผาออกเปน็ ชนิ้ ใหมีขนาดใหญเล็กคละกนั จากนัน้ นามาจัดเรยี ง ลงบนกระดาษสีดาขนาด A4 ทีละชนิ้ โดยยงั ไมต องทากาว ควรจดั วางช้นิ สวนของภาพภาชนะ ใหหางกนั พอกนั ประมาณ เพอ่ื ใหเ หน็ รอยแตกราวของภาชนะ 5. การตดิ ใหตดิ จากดา นซา ยไปขวาดที ส่ี ดุ เพ่อื ปูองกนั การสบสนจากการตดิ ภาพ ใหทากาวดา นหลงั ของชิน้ สวนของภาพภาชนะ จากน้นั ตดิ ลงบนทเ่ี ดมิ ทาเชน น้ี จนครบทุกช้นิ 6. ตรวจสอบช้ินสว นของภาพภาชนะ หากกระดาษหลุดออกจากพน้ื หลังกระดาษสีดา ใหท ากาวซา้ อกี รอบ ควรระมดั ระวังในการทากาว เพราะพื้นทก่ี ระดาษที่หลดุ จะแคบกวา ตอนทากาวภาพชนะในตอนแรก และงานอาจเป้ือนจากกาวได
ภาพสมบูรณ์ ฉกี ปะติดเครือ่ งปนั้ ดินเผาบ้านเชียงรปู แบบภาชนะแตกรา้ ว ทีม่ า : วิภาพร ทพิ ราช 8.7 ครใู หกจิ กรรมใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง ฉีกปะติดเครื่องป้ันดินเผาบานเชียงรูปแบบภาชนะแตกราว โดยใหนักเรียนวาดลวดลายบานเชียงที่นักเรียนชอบ 3 ลวดลายขึ้นไปลงบนรูปรางภาชนะท่ีกาหนดให จากน้นั ใหฉ กี และปะติดลงบนกระดาษสดี าใหส มบรู ณ์ 8.8 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย จากน้ันลงมือปฏิบัติกิจกรรมและครูคอยเดินดู ให คาแนะนา ขน้ั สรปุ (5 นาท)ี 8.9 ครูสุมใหนักเรียนออกมานาผลงานหนาชั้นเรียน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พรอมบอก ปญั หาท่พี บขณะปฏบิ ัตงิ าน 8.10 ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ เนื้อหา เรื่อง ฉีกปะตดิ เครื่องปั้นดินเผาบานเชียงรูปแบบภาชนะ แตกรา ว รวมกันกนั “เครื่องปน้ั ดนิ เผาบานเชียงมีลวดลายสีแดงเป็นเอกลักษณ์ สามารถลวดลายเหลาน้ัน มาสรางสรรค์งานได ภาชนะเคร่ืองป้ันดินเผาที่มีรอยราวหรือแตกจะปรากฏเป็นเสนรอยราวชัดเจน การสรางสรรค์งานเครื่องป้ันดินเผาใหมีลักษณะเป็นราว สามารถทาไดดวยการฉีกกระดาษและปะติด ” จากนั้นใหนกั เรียนเก็บอปุ กรณใ์ หเรยี บรอ ย
9. การวดั และประเมินผล 9.1 ฉกี ปะติดเคร่ืองป้ันดินเผาบานเชยี งรูปแบบภาชนะแตกรา ว (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม (K) ส า ม า ร ถ บรรยายเหตุผล บรรยายเหตุผล บรรยาย -เพื่อใหนักเรียน บรรยายเหตุผล ก า ร ใ ช วั ส ดุ ก า ร ใ ช วั ส ดุ -ไมม า สามารถ ก า ร ใ ช วั ส ดุ อุปกรณ์ในการ อุปกรณ์ในการ เรียน บรรยายเหตุผล อุปกรณ์ในการ สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน ก า ร ใ ช วั ส ดุ สรางสรรค์งาน ทั ศ น ศิ ล ป ทั ศ น ศิ ล ป อุปกรณ์ในการ ทั ศ น ศิ ล ป ฉี ก ป ะ ติ ด ฉี ก ป ะ ติ ด สรางสรรค์งาน ฉี ก ป ะ ติ ด เคร่อื งป้ันดินเผา เครื่องปนั้ ดนิ เผา ทั ศ น ศิ ล ป เคร่ืองปั้นดินเผา บ า น เ ชี ย ง บานเชียงไดผิด ฉี ก ป ะ ติ ด บ า น เ ชี ย ง ไ ด เ นื้ อ ห า ไ ม ถูกบางบางและ เครื่องปั้นดินเผา ถูกตอง เนื้อหา ค ร บ ถ ว น บ า ง เ นื้ อ ห า ไ ม บา นเชียง ค ร บ ถ ว น ประเดน็ คาถาม ครบถวน ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น คาถาม ด้านทกั ษะ -ลั ก ษ ณ ะ ก า ร -ลั ก ษ ณ ะ ก า ร -ลั ก ษ ณ ะ ก า ร -ลั ก ษ ณ ะ ก า ร -ลั ก ษ ณ ะ ก า ร -ไมสง (P) ป ะ ติ ด ป ะ ติ ด ป ะ ติ ด ป ะ ติ ด ป ะ ติ ด งาน -ไมมา -เพ่ือใหนักเรียน เครือ่ งป้นั ดินเผา เคร่ืองปน้ั ดนิ เผา เครือ่ งป้ันดินเผา เครอื่ งป้นั ดินเผา เครอื่ งปั้นดินเผา เรยี น ส า ม า ร ถ บ า น เ ชี ย ง บ า น เ ชี ย ง บ า น เ ชี ย ง บ า น เ ชี ย ง บ า น เ ชี ย ง สรางสรรค์งาน รูปแบบภาชนะ รูปแบบภาชนะ รูปแบบภาชนะ รูปแบบภาชนะ รูปแบบภาชนะ ทัศนศลิ ปก ารฉีก ป ะ ติ ด แ ต ก ร า ว มี แ ต ก ร า ว มี แ ต ก ร า ว มี แ ต ก ร า ว มี แ ต ก ร า ว มี เครือ่ งป้นั ดินเผา ลักษณะโดดเดน ลักษณะโดดเดน ลกั ษณะโดดเดน ลักษณะโดดเดน ลักษณะไมโดด บ า น เ ชี ย ง แปลกตา ดึงดูด -ลายบานเชียงมี ระดบั ปากลาง เลก็ นอย เดน รูปแบบภาชนะ สายตา 3 ล า ย ข้ึ น ไ ป -ลายบานเชียงมี -ลายบานเชียง -ลายบานเชียง แตกรา วได -ลายบานเชียงมี จัดวางลวดลาย 3 ล า ย ข้ึ น ไ ป ไมครบ 3 ลาย ไมครบ 3 ลาย 3 ล า ย ขึ้ น ไ ป สวยงามระดับ แ ต จั ด ว า ง แ ต จั ด ว า ง จัดวางลวดลาย จัดวางลวดลาย ป า น ก ล า ง ลวดลายไปคน ล ว ด ล า ย ไ ด ไมสวยงามและ มีความสวยงาม ลวดลายบงบอก ละทิศละทางแต ส ว ย ง า ม แ ล ะ ลวดลายไมบง ลวดลายบงบอก ความเป็นศิลปะ ลวดลายบงบอก ลวดลายบงบอก บอกความเป็น ความเป็นศิลปะ บ า น เ ชี ย ง ความเป็นศิลปะ ความเป็นศิลปะ ศลิ ปะบา นเชยี ง บา นเชยี งชดั เจน ชดั เจน บานเชียงชัดเจน บา นเชียงชัดเจน -ระบายสแี ดงไม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 563
Pages: