ลั ก ษ ณ ะ สี จ า แ น ก ไ ด เ ป็ น 3 ประเภท ไดแก สีเขม (Shade) สี แ ท (Hue) แ ล ะ สี อ อ น (Tint) ยกตวั อยา งสีสม ดงั นี้ 1. สเี ขม้ (Shade) ไดแ ก สีท่ีผสมกบั สีดาหรอื สีทเี่ ขม กวา สีแท สีดาจะเพิ่มน้าหนกั ของสีที่ถกู ผสมใหเ ขมข้ึน 2. สีแท้ (Hue) ไดแ ก สีที่มคี วามเขม ซ่ึงเปน็ คุณสมบตั ิ แทๆ โดยตวั ของมันเอง ไมถูกผสมดว ยสดี าหรือขาว 3. สีอ่อน (Tint) ไดแ ก สที ผ่ี สมกับสขี าวเพื่อลดความเขม ของสี ทาใหน า้ หนกั ของสีแททถี่ ูกผสมออนลง
แบบประเมินใบงาน เคร่ืองมือ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาช้ีแจง : ใหค รูผูสอนประเมนิ ใบงานของนักเรียนแลว ใหท าเครอ่ื งหมาย ลงในชองท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดับที่ ลาดบั ท่ี เพือ่ ใหน้ ักเรยี น เพื่อให้นกั เรียน ความม่งุ มนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกค่า สามารถผสมสไี ล่ ในการ คะแนน น้าหนักสผี สมดาได้ ค่าน้าหนักสผี สมสี ทางาน ดาได้ 2 102101 0 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจิตราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวปี 3 ด.ญ. พรี ดา ชาญเชย่ี ว 4 ด.ช. พชรพล สบื สาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากุล 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานกุ ร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อัครเดช มวงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจรญิ ทรพั ย์ 12 ด.ช. กษดิ ด์ิ ิษฎ์ กนั แกว 13 ด.ช. กองภพ กอนแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา มั่นหมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชยั เฉนิ 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรยี นรู้ที่………….เร่อื ง…………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาชแ้ี จง : ใหครผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแลว ใหท าเครื่องหมาย ลงในชอ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี เพอื่ ให้นกั เรียน เพอ่ื ใหน้ กั เรียน ความมงุ่ ม่ัน รวม 10 ชอ่ื – สกลุ สามารถบอกคา่ สามารถผสมสีไล่ ในการ คะแนน นา้ หนกั สีผสมดาได้ ค่าน้าหนักสีผสมสี ทางาน ดาได้ 2 102101 0 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จนั ทร์เจรญิ 2 ด.ช. กิตตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชัญญานชุ ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม สนทิ 5 ด.ญ. จันทรท์ มิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านิชา เรืองกลั่น 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวัฒน์ 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทยี นรัตน์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แกว มศี รี 10 ด.ช. ภานวุ ชั ร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกวบัวดี 12 ด.ญ. รนิ รดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรกั ษา 14 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรกั ษา 15 ด.ช. ชโยทติ สุขพิศิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพฒั น์ สันสะกดิ ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ความคิดเห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เส็งสุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพิเศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทศั นศิลป์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 การเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์ ภาคเรียนท่ี 2 เรือ่ ง การไลค่ ่าน้าหนกั สผี สมขาว จานวน 1 คาบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอ่ื วันท…่ี ……….เดือน……………………….พทุ ธศักราช…………. ครูผู้สอน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ชื่นชม และประยกุ ต์ใชใ นชีวิตประจาวนั 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ป. 4/5 มที กั ษะพ้นื ฐานในการใชวสั ดุ อปุ กรณส์ รางสรรคง์ านวาดภาพระบายสี 3. สาระสาคัญ เพอื่ ใหเขาใจขบวนการการระบายสีดวยคา นา้ หนักสีผสมขาว และสามารถบอกคาน้าหนักสีผสม ขาวไดถูกตองตามหลกั การการไลส ี ซึ่งเฉดสีการผสมขาวจะมคี วามเขม – ออน แตกตา งกัน ทาใหเกิด เฉดสหี ลายสี สามารถผสมสี คาน้าหนักสีผสมขาวและไลคาน้าหนักผสมขาวมีความแตกตางกันชัดเจนในแต ระดับสี ซึ่งจะไลคาน้าหนักจากอเขมไปออน เพราะคาน้าหนักสีผสมขาวเป็นการเติมสีขาวใน อตั ราสว น20 % ลงในสีแท (Hue) จากน้นั ผสมกันแลวใหระบายลงในกระดาษ จากนั้นใหเ ตมิ สีขาวใน อัตราสวน 20 % ลงในสีเดิมอีกคร้ัง ผสมใหเขากันจากนั้นนาไประบายลงในกระดาษเพ่ือไลระดับสี สามารถเติมสีขาวและระบายเชน นไ้ี ปเร่ือยๆ ได โดยระดบั นา้ หนักความออ นท่เี ห็นความเปล่ียนแปลง ไดชัดอยูในระดบั ที่ 3 - 6 ระดับและจะปรากฏคานา้ หนกั ความเขม -ออน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถบอกคาน้าหนกั สผี สมขาวได
4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพ่อื ใหนกั เรยี นสามารถผสมสไี ลค า น้าหนกั สผี สมสีขาวได 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เขาชั้นเรยี น, มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ งานทไี่ ดร ับมอบหมาย) 2) มุง ม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอ การปฏบิ ตั ิหนา ท่ที ่ไี ดร บั มอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอุปสรรคในการทางานใหสาเร็จ) 5. สาระการเรยี นรู้ การผสมสี คานา้ หนกั สีผสมขาวจนเกดิ เปน็ เฉดสีหลายสี 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคดิ ดว ยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแกปญั หาเฉพาะหนาไดดว ยตนเอง 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวนิ ัย 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มุงมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการการจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบซปิ ปา ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสง่ิ ท่ีตองเรยี นในสปั ดาห์นีใ้ หนักเรียนทราบเกี่ยวกับการไลค านา้ หนกั สผี สมขาว 8.3 ครใู หนักเรียนน่งั เป็นกลุม โดยใหนงั่ ตามกลมุ เดมิ เหมอื นกบั กจิ กรรมในครั้งแรก มีทั้งหมด 5 กลุม จานวนกลุมละ 3 คน สมาชิกในกลุมประกอบดวยนักเรียนที่จัดอยูในกลุมเกง ปานกลาง และกลมุ ออ น ขน้ั ท่ี 1 การทบทวนความร้เู ดมิ 8.4 ครูสอบถามนักเรียน “หากนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึง จะทาใหสีนั้นมีลักษณะอยางไร” (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอยใู นดุลยพนิ จิ ของครผู สู อน) เพอื่ กระตุนใหผูเรียนรูจักคิดและ เปน็ การทบทวนความรูเดิมท่เี คยไดเ รียนมา เพื่อเชื่อมโยงเขาสูเน้ือหาความรูเกี่ยวกับการเขียนการไลคา นา้ หนกั สีผสมขาว
ขั้นสอน (50 นาที) ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาความร้ใู หม่ 8.5 ครใู หน กั เรียนดวู งจรสีที่ไลคา นา้ หนักสผี สมขาวแสดงเฉดสหี ลายเฉดสี 8.6 ครูแจกใบความรูแลวใหนักเรียนอานเพื่อทาความเขาใจในสวนของคาน้าหนักสีผสมขาว คืออะไร ภาพที่ 1 : วงจรสี ไลคานา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช ขน้ั ที่ 3 การศกึ ษาทาความเข้าใจขอ้ มลู /ความรู้ใหม่ และเช่อื มโยงความรใู้ หมก่ บั ความร้เู ดิม 8.7 ครูใหนักเรียนตอบคาถามเมื่อนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึงสีนั้นจะเปล่ียนคาสีใหออนลง จากเดิม เนื่องจากเป็นสีทม่ี คี วามสวางและออนทสี่ ุด ขนั้ ท่ี 4 การแลกเปลย่ี นความรคู้ วามเขา้ ใจกับกลุ่ม 8.8 จากน้ันครใู หน ักเรียนแตล ะกลุม ทดลองใชสีชอรก์ โดยเลือกสีใดสีหนึ่งระบายลงในกระดาษ แลว ใชสีขาวทาทับลงไปโดยคอ ยๆ ออกแรงกดสไี ลระดบั สขี นึ้ ไป จากน้นั ใหน กั เรยี นสังเกตคานา้ หนกั สี 8.9 สมาชิกแตล ะคนในกลุมผลัดกันเสนอคาตอบของตนเองใหเพื่อนในกลุมฟัง แลวซักถามขอ สงสัย จนทกุ คนในกลมุ มคี วามรคู วามเขาใจท่ถี กู ตองตรงกัน 8.10 ครูใหตัวแทนนักเรียนแตละกลุมนาเสนอคาตอบหนาช้ันเรียนและแสดงความคิดเห็น รว มกัน ขน้ั ท่ี 5 การสรุปและจัดระเบยี บความรู้ 8.11 ครูอธบิ าย สีขาว เป็นสีท่ีมีเน้ือสีออนและสวาง สวนสีแท (Hue) คือ สีที่มีความเขมในตัว ของมนั อยแู ลวโดยทย่ี งั ไมถกู ผสมกบั สีดาหรอื สีขาว เมื่อนาสีขาวมาผสมกบั สแี ทจะทาใหสีแทออ นลง 8.12 ครูเปดิ คลปิ วิดโี อการไลค าน้าหนักสีผสมขาวใหนักเรียนดูและอธิบายสีขาวจะลดความสด ของสีลงมากกวาสหี ลกั
คลปิ วดิ โี อข้ันตอนการไล่ค่านา้ หนักสีผสมขาว ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=dyNDAOA0MZ4&t=203s 8.13 ครูสาธติ และอธิบายการไลค า นา้ หนักสีผสมขาว ยกตวั อยางสีมว งใหนักเรยี นดู วัสดุ อปุ กรณ์ - ถาดสี - กระบอกเติมน้า - สีโปสเตอร์แมส ี 3 สี - สีขาว - พูกัน - กระดาษ - เศษผา - ผากันเปือ้ น - เทปกาวกันนา้ การระบายสคี วรระบายสีใหระบายไปในทศิ ทางเดียวกนั หรอื ปาดซาย-ขวา ไปมา ไมค วรนาพูกัน จุมน้าขณะระบายสีเดิมอยูเพราะจะทาใหสีเพี้ยนสีสีดาง ไมควรปวดสีตัดกันไปมาเพราะจะทาใหสีเกิด เสนตดั กันและสไี มสม่าเสมอกนั มากกวา ข้นั ตอนการไลค า น้าหนักสผี สมขาว ยกตวั อยางสีมว ง 1. ใหนาเทปกาวกนั น้าติดขอบรอบนอกส่ีเหล่ยี ม 2. ผสมสมี วง และระบายลงในชอ งสเ่ี หลยี่ มชองท่ี 1 3. เติมสขี าวอัตราสวน 20 % ลงในถาดสีมว ง คนใหเขากนั 4. นาสีทผี่ สมแลว มาระบายลงในชอ งส่เี หล่ยี มชอ งท่ี 2 5. ใหทาเชนน้จี นครบทกุ ชอ ง ใหนักเรียนสังเกตความแตกตางของสีในแตละระดับ สีขาวจะลดความเขมของสีลง สหี ลัก ระดับนา้ หนักความออ นทเี่ ห็นความเปลยี่ นแปลงไดชัดอยูใ นตั้งแต 3 - 6 ระดับ ค่านา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช
ข้นั ท่ี 6 การปฏิบัติ และ/หรือการแสดงผลงาน 8.14 ครูใหนกั เรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.3 เรื่อง การไลคาน้าหนักสีผสมขาว โดยใหนักเรียน เลอื กสี 1 สี จากน้นั ผสมสี ไลค า น้าหนักสีผสมขาวลงในชอ งสเี หล่ียมทีก่ าหนดให 8.15 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถาม จากนั้นใหนักเรียนทากิจกรรมและครูคอยเดินดูและให คาแนะนา 8.16 ครูใหสุมนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหนาช้ันเรียน พรอมบอกปัญหาท่ีพบขณะ ปฏบิ ตั ิงาน ขัน้ ที่ 7 การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ 8.17 ครูใหนักเรียนหาขอมูลการไลคาน้าหนักสีผสมขาวสามารถนามาสรางงานทัศนศิลปได หรือไม พรอมยกตัวอยางประกอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของ ครผู ูสอน) ข้นั สรปุ (5 นาที) 8.18 ครูสรุปเน้ือหาเรื่อง “การไลคาน้าหนักสีผสมขาว” รวมกับนักเรียนและใหนักเรียนเก็บ อปุ กรณ์ใหเรียบรอ ย 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 เรอื่ ง การไลค านา้ หนักสผี สมขาว (10 คะแนน) ประเด็นการ 5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ - 4 3 2 10 - -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -ไม ด้านความรู้ (K) คานา้ หนักสผี สม คา น้าหนักสีผสม ค า น้ า ห นั ก สี สามารถ -เพื่อใหนักเรียน ขาวถูกตอง ทุก ขาวถูกตอง 2 ผสมขาวถกู ตอ ง บอกได สามารถบอกคา ขอ จาก 3 ขอ ขอ จาก 3 ขอ 1 ขอจาก 3 ขอ -ไมมา น้าห นักสีผส ม ขาวได เรยี น ด้านทักษะ -สามารถไลคา -ส า ม า ร ถ ไ ล ค า -สามารถไลคา -สามารถไลคา -สามารถไลคา -ไมสง (P) น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าหนักสีผสม งาน -เพ่ือใหนักเรียน ขาวเห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ -ไมมา สามารถผสมสี น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นัก ค วา ม น้าห นักค วา ม น้าหนักความ เรียน ไลคาน้าหนักสี อ อ น เ ป ล่ี ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น ผสมสีขาวได แปลงทุกระดับ แปลง 5 ระดับ แปลง 4 ระดับ แปลง 3 ระดับ แ ป ล ง 1-2 จาก 6 ระดบั จาก 6 ระดับ จาก 6 ระดบั ระดับ จาก 5 จาก 6 ระดับ -ก ร ะ ด า ษ ไ ม -กระดาษเป็นขุย -กระดาษเปน็ ขุย ระดบั -ก ร ะ ด า ษ ไ ม
เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ล็ ก น อ ย แ ต สี เล็กนอยและสี -ก ร ะ ด า ษ ไมชา้ ไมช ้า ไมช้า ช้าเล็กนอ ย เป็นขุยจานวน -สีไมกระจายใน -สีไมกระจายใน -สีไมกระจายใน -สีกระจายลงใน มากและสีช้า ชอ งระดบั สีอน่ื ชอ งระดับสอี น่ื ชองระดับสีอื่น ชอ งระดับสีอ่นื มาก -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -สีกระจายลง ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ในชองระดับสี เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย เรียบรอย แตไม อนื่ จานวนมาก สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ -รปู แบบผลงาน สะอาด แตไม สมบูรณ์ ดา้ นจิตพิสัย - - - -เ ข า ช้ั น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเขา (A) ช้นั -มีวนิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม เรยี น -มงุ มั่นในการ ทางาน มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง นอ ย 10. สือ่ อุปกรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. วงจรสี คา นา้ หนักสผี สมขาว 2. ใบความรู อปุ กรณ์ - ใบงาน - สโี ปสเตอร์/พูกัน/ถาดสี/กระบอกเตมิ น้า/ผา กนั เปือ้ น - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ทัศนศิลป กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551
2. เวบ็ Pinteres 3. Youtube
ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง การไลค่ ่าน้าหนกั สีผสมขาว ตอนท่ี 1 คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นเติมเครือ่ งหมาย หรือ ลงใน ใหถ้ ูกต้อง 1. การไลคานา้ หนกั สผี สมขางใหเตมิ สีขาวอัตราสวน 20 % 2. ระดบั นา้ หนักความออนท่ีเหน็ ความเปล่ียนแปลงไดช ัดอยูในระดบั ที่ 1 ระดับ เทานนั้ 3. จากภาพวงจรสีเป็นการไลค า น้าหนักสี ผสมดา ตอนที่ 2 คาชแี้ จง : ให้นักเรียนเลือกสีแท้ (Hue) 1 สี จากนั้นไล่ค่าน้าหนักสี ผสมขาว ให้มีน้าหนัก ความ อ่อนลงเหน็ ความเปลีย่ นแปลงทุกระดบั ชื่อ……………………………………………..นามสกุล………………………………….เลขท…ี่ …………ช้นั ……………
ลั ก ษ ณ ะ สี จ า แ น ก ไ ด เ ป็ น 3 ประเภท ไดแก สีเขม (Shade) สี แ ท (Hue) แ ล ะ สี อ อ น (Tint) ยกตวั อยา งสีสม ดงั นี้ 1. สเี ขม้ (Shade) ไดแ ก สีท่ีผสมกบั สีดาหรือสที เี่ ขม กวา สีแท สีดาจะเพิ่มน้าหนกั ของสีที่ถกู ผสมใหเ ขมข้ึน 2. สีแท้ (Hue) ไดแ ก สีที่มคี วามเขม ซ่ึงเป็นคุณสมบตั ิ แทๆ โดยตวั ของมันเอง ไมถูกผสมดว ยสีดาหรือขาว 3. สีอ่อน (Tint) ไดแ ก สที ผ่ี สมกับสขี าวเพื่อลดความเขม ของสี ทาใหน า้ หนกั ของสีแททถี่ ูกผสมออนลง
แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่………….เรอื่ ง……………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาช้ีแจง : ใหครผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนักเรียนแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชอ งท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี -เพื่อให้นกั เรยี น -เพอื่ ใหน้ กั เรยี น ความมุ่งม่นั รวม 10 ชอ่ื – สกลุ สามารถบอกค่า สามารถผสมสไี ล่ ในการ คะแนน นา้ หนักสีผสมขาว ค่านา้ หนกั สผี สมสี ทางาน ได้ ขาวได้ 2 10 2101 0 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจิตราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวปี 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเช่ยี ว 4 ด.ช. พชรพล สบื สาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากุล 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานกุ ร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทพิ านันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มว งทวี 10 ด.ช. สหรฐั อิ่มสมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจริญทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ิดิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา มั่นหมาย 16 ด.ช. เหรียญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เรือ่ ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหครผู ูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชอ งทีต่ รงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี เพ่อื ใหน้ กั เรียน -นกั เรียนบอกค่า ความมุ่งมนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกคา่ นา้ หนักสผี สมขาว ในการ คะแนน น้าหนักสีผสมดาได้ ทางาน ถกู ต้อง ทุกข้อ จาก 3 ข้อ 2 102101 0 1 ด.ช. ชวินทร์ จันทร์เจริญ 2 ด.ช. กิตตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานุช ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม สนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทมิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สุภานชิ า เรอื งกลน่ั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกุลทินวัฒน์ 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทียนรตั น์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แกวมีศรี 10 ด.ช. ภานุวัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกวบัวดี 12 ด.ญ. รนิ รดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 14 ด.ช. ธนกฤต จันทรักษา 15 ด.ช. ชโยทติ สขุ พศิ ิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพฒั น์ สนั สะกิด ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพี่เล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพิเศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 13 รหสั วิชา 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ทัศนศลิ ปก์ ับวฒั นธรรม ภาคเรียนท่ี 2 เรอ่ื ง ทัศนศลิ ป์และวัฒนธรรมไทย 4 ภาค จานวน 2 คาบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมือ่ วนั ท…ี่ …….เดอื น………………..พุทธศักราช………….. คาบท่ี 2 ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสมั พนั ธ์ระหวา งทัศนศลิ ป ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คา งานทัศนศิลปที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ งถิน่ ภูมปิ ัญญาไทย และสากล 2. ตวั ชว้ี ดั ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในทอ งถิ่น ป.4/2 บรรยายเกย่ี วกับงานทัศนศลิ ปท ี่มาจากวัฒนธรรมตางๆ 3. สาระสาคัญ เพ่อื ใหส ามารถระบุทัศนศลิ ปใ นแตละทองถ่ินใน 4 ภาคของไทย ท่ีมีความแตกตางกันท้ังดานการ สรางงานทัศนศิลปห รือในดานวฒั นธรรม ซึง่ มีคณุ คา ตอ คนไทยมาต้ังแตอดีตจนถึงปจั จบุ นั สามารถบรรยายดานทัศนศิลปและวัฒนธรรมที่เกิดข้ึนในทองถ่ินในแตละภาคของไทย ศิลปะ ทองถน่ิ ในภูมภิ าคตา งๆ มักมลี ักษณะท่ีแตกตา งกันไปตามภูมิประเทศ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม ของผคู นในทองถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสรางสรรค์โดยศิลปินหรือผูคนในทองถ่ินเอง และมลี ักษณะไมเ หมือนกับผลงานศลิ ปะทองถิน่ อื่นๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) เพอื่ ใหน กั เรยี นสามารถระบทุ ศั นศิลปและวัฒนธรรมในแตล ะทองถ่ินได
4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพื่อใหนกั เรยี นสามารถบรรยายเกี่ยวกับทัศนศิลปแ ละวัฒนธรรมในแตล ะทองถิ่นได 4.3 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขาชน้ั เรียน, มคี วามรับผดิ ชอบตอ งานทีไ่ ดร ับมอบหมาย) 2) มุง มนั่ ในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนา ทท่ี ่ีไดร บั มอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหส าเร็จ) 5. สาระการเรียนรู้ - ความแตกตา งของทัศนศิลปและวัฒนธรรมในแตล ะทอ งถน่ิ ของไทย 6. สมรรถนะทสี่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตุผลในการคดิ และแกปัญหาดวยตนเอง 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มุงมนั่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกลาวทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ท่ีตองเรียนในสัปดาหน์ ใ้ี หนักเรียนทราบ “ทศั นศิลปและวัฒนธรรมไทย 4 ภาค” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “ถานักเรียนไปรวมงานแหเทียน จะแกะสลักเทียนเป็นรูปอะไร” เพอ่ื กระตุนใหผ ูเรียนรจู กั คดิ และเปน็ การเชือ่ โยงเขาสบู ทเรยี นเกีย่ วกับทศั นศลิ ปแ ละวัฒนธรรมไทย 4 ภาค ขั้นสอน (50 นาที) 8.4 ครูเลาประสบการในการเขารวมงานวัฒนธรรมตางๆ ของภาคของตนเอง เชน การเขา รวมงานประเพณีแหเทียนพรรษา การเขารวมงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุงของภาคอีสาน การเขารวมงาน
ประเพณีสงกรานต์ของภาคเหนอื จากนนั้ ใหน ักเรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับงานทัศนศิลปที่ตองพบใน การเขารว มงานประเพณีและวัฒนธรรมตา งๆ โดยครใู ชค าถาม ดังน้ี ถา ครไู ปเทย่ี วงานประเพณีแหเ ทยี รพรรษาของจงั หวดั อุบลราชธานคี รจู ะพบงานทศั นศลิ ปอะไร (ตวั อยา งคาตอบ การแกะสลักเทยี นพรรษา) ภาพท่ี 1 : การแกะสลกั เทียนพรรษา ทีม่ า : https://www.tqm.co.th/new_images/1154_1.jpg?v=20190715155953 ถาครไู ปเท่ียวงานประเพณีข้ึนเขาพนมรงุ ครูจะพบงานทศั นศลิ ปอ ะไร (ตัวอยางคาตอบ ปราสาทเขาพนมรุงทบั หลงั นารายณ์บรรทมสินธ์ุ) ภาพที่ 2 : ปราสาทเขาพนมร้งุ ทบั หลังนารายณ์บรรทมสินธ์ุ ทีม่ า : https://obs.line-scdn.net/0h_mbJefdwAEJfMymOL61_FXVlAy1sXxNBOwVRQQNd XnchVEBGNlRMJi4xXnImUBQUalBHdyg3W3Z2U0QXN1JPLChhV3FzBwIVMQFJdH9gVg/w644
ถา ครูไปรวมงานประเพณสี งกรานตข์ องจงั หวดั เชยี งใหมครจู ะพบงานทศั นศลิ ปอะไร (ตัวอยา งคาตอบ การทาตุง) ภาพที่ 3 : การทาตงุ ที่มา : https://i.pinimg.com/originals/19/22/b1/1922b186a9d751a1b2c49b9a0453a2fb.jpg 8.5 ครูแบงกลุมนักเรียนออกเป็น 4 กลุม กลุมละเทากัน ใหแตละกลุมศึกษางานทัศนศิลปใน วัฒนธรรมทอ งถ่นิ ตางๆ ดังนี้ กลมุ ที่ 1 ศึกษางานทศั นศลิ ปใ นวฒั นธรรมทองถ่นิ ภาคเหนอื กลมุ ที่ 2 ศึกษางานทศั นศลิ ปในวัฒนธรรมทองถิ่นภาคกลาง กลมุ ที่ 3 ศกึ ษางานทัศนศิลปใ นวัฒนธรรมทอ งถน่ิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุม ท่ี 4 ศกึ ษางานทศั นศลิ ปในวฒั นธรรมทอ งถิ่นภาคใต 8.6 ใหนักเรียนแตละกลุมทาใบกิจกรรมท่ี 3.1 แตละกลุมวาดภาพผลงานทัศนศิลปท่ีแสดง เอกลักษณ์ของไทยในภาคทนี่ ักเรยี นไดรับ 8.7 ใหน ักเรียนออกมานาเสนอผลงานพรอมกบั แผนผัง (Mind Map) เม่ือสปั ดาหท์ แ่ี ลว
ภาคเหนอื ภาคกลาง งานทัศนศลิ ป ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ข้นั สรปุ (5 นาที) ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหารวมกัน “งานทัศนศิลปของแตละทองถิ่นมีความเก่ียวของกับ วัฒนธรรมในทองถ่ินเป็นงานท่ีมีคุณคา ควรแกการศึกษาและอนุรักษ์ไว เพราะเป็นงานท่ีแสดงใหเห็นถึง การใชชีวติ ความเป็นอยูของผูค นในอดีตจนถงึ ปัจจุบัน” จากนั้นใหนกั เรียนเก็บอปุ กรณใ์ หเรียบรอย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ทัศนศลิ ปและวัฒนธรรมไทย 4 ภาค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ (K) - -เพื่อใหนักเรียน - -ส ามาร ถร ะบุ -ส ามาร ถร ะบุ -สามารถระบุ -ไม ส า ม า ร ถ ร ะ บุ ทั ศ น ศิ ล ป แ ล ะ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ สามารถ วัฒนธรรมในแต ละทองถ่ินได วัฒนธรรมในแต วัฒนธรรมในแต วัฒนธรร มใน บอกได ล ะ ท อ ง ถ่ิ น ใ น ล ะ ท อ ง ถิ่ น ใ น แตละทองถิ่น -ไมมา แ ผ น ผั ง แ ผ น ผั ง ใ น แ ผ น ผั ง ไ ด เรยี น ไ ด ถู ก ต อ ง ไ ด ถู ก ต อ ง ถูกตอง 1 ภาค 4-3 ภาค 2 ภาค จาก จาก 4 ภาค 4 ภาค ด้านทักษะ (P) -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -บ ร ร ย า ย -ไมส ง -เพื่อใหนักเรียน บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย เ ก่ี ย ว กั บ งาน ส า ม า ร ถ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ ทัศนศิลปและ -ไมมา บ ร ร ย า ย ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ วัฒนธรร มใน เรียน เ กี่ ย ว กั บ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ท อ ง ถิ่ น ที่
ทัศนศิลปและ ท อ ง ถ่ิ น ที่ ท อ ง ถิ่ น ที่ ท อ ง ถ่ิ น ท่ี ท อ ง ถิ่ น ท่ี นักเรียนหามา วัฒนธรรมในละ นกั เรียนหามาได นกั เรยี นหามาได นกั เรียนหามาได นกั เรยี นหามาได ไ ด ไ ม ต ร ง ทองถ่นิ ได ถู ก ต อ ง ต า ม ถู ก ต อ ง แ ต ถู ก ต อ ง แ ต ผิดถูกบางบาง ประเดน็ ประเด็น บ ร ร ย า ย เ กิ น บ ร ร ย า ย เ กิ น ประเดน็ -ว า ด ภ า พ -ว า ด ภ า พ ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ มาก -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด ร ะ บ า ย สี ไ ด เลก็ นอย -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม สวยงาม -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เรยี บรอย เ รี ย บ ร อ ย -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร อ ย สมบูรณ์ ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร อ ย สมบูรณ์ เ รี ย บ ร อ ย สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ด้านจติ พิสยั - - - -เ ข า ช้ั น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเ ขา ช้ัน (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม เรยี น -มวี ินยั มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน -เห็นคุณคาของ -ไมเห็นคุณคา -รกั ความเปน็ ศลิ ปะไทย ของศลิ ปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สอื่ การเรยี นรู้ 1. ตวั อยา งของประเพณใี นแตละทอ งถิ่น อปุ กรณ์ - ใบงาน - สีไม/สเี ทียน แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ทศั นศิลป กลุมสาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. PowerPoint
ใบงาน 3.1 เรอ่ื ง ทัศนศิลปแ์ ละวฒั นธรรมไทย 4 ภาค คาชแ้ี จง : ใหน กั เรยี นแตละกลุมวาดภาพผลงานทัศนศิลปท ีแ่ สดงเอกลักษณ์ของไทยในภาคทน่ี ักเรียน ไดร ับ ช่ือภาพ…………………………………………………………………………………………………………………………………….. เปน็ งานทัศนศิลปท ี่มาจากวัฒนธรรมของภาคใด……………………………………………………………………………… งานทัศนศิลปน ้ีเก่ยี วขอ งกับเหตกุ ารณ์ใดในทอ งถ่ิน…………………………………………………………………………... ความรูสึกทีม่ ตี อภาพน้ี………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ…………………………………………………………………………….เลขท…่ี ………………….ช้นั ……………………
แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมอื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ช้นั ……………….. คาช้แี จง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลว ใหท าเคร่ืองหมาย ลงในชอ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน เพอื่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรียน เพื่อใหน้ กั เรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล สามารถระบุ สามารถบรรยาย ม่งุ มนั่ ใน 10 ทศั นศิลปแ์ ละ เกย่ี วกับทศั นศิลป์และ คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจติ ราภรณ์ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป แต่ละท้องถิ่น ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากลุ ได้ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มวงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้แี จง : ใหค รผู ูสอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแลวใหท าเครือ่ งหมาย ลงในชองท่ตี รงกบั ระดับคะแนน เพือ่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรยี น เพ่อื ใหน้ กั เรียน ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกลุ สามารถระบุ สามารถบรรยาย มงุ่ มั่นใน 10 ทัศนศิลปแ์ ละ เกีย่ วกบั ทัศนศลิ ป์และ คะแนน 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จันทรเ์ จรญิ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ช. กติ ติภพ พรมสอน แตล่ ะทอ้ งถ่ิน ทางาน 3 ด.ญ. ชัญญานชุ ศรตี สั สะ ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม สนทิ 5 ด.ญ. จันทรท์ ิมา เมฆกระจาย ได้ 6 ด.ญ. สภุ านชิ า เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 3210543210210 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทียนรตั น์ 9 ด.ช. ศึกษา แกวมีศรี 10 ด.ช. ภานวุ ชั ร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกว บัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กุลเจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพศิ ิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพัฒน์ สนั สะกิด ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพี่เล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพิเศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ทศั นศิลป์กับวฒั นธรรม ภาคเรยี นที่ 2 เรอ่ื ง ธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ จานวน 1 คาบ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมอ่ื วันท…ี่ …….เดือน………………..พทุ ธศกั ราช………….. ครูผู้สอน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธร์ ะหวางทศั นศลิ ป ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา งานทัศนศลิ ปทเี่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ งถิ่น ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล 2. ตวั ชวี้ ัด ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในทอ งถิน่ ป.4/2 บรรยายเกีย่ วกับงานทศั นศลิ ปท ี่มาจากวฒั นธรรมตางๆ 3. สาระสาคญั เพ่อื ใหสามารถระบุทัศนศิลปใ นทองถ่ินของภาคใดภาคหน่ึงของไทยได ซ่ึงดานการสรางสรรค์งาน ทัศนศลิ ปขึน้ นน้ั สรางขนึ้ มาตามความเช่อื ทางศาสนาหรอื ความเช่อื สว นบุคคล ซ่ึงมีคุณคาตอคนไทยมา ตัง้ แตอดตี จนถึงปัจจุบัน สามารถนางานทศั นศลิ ปในทองถิ่นมาประยุกต์สรา งสรรค์จนเกดิ ความงามตามรูปแบบของตนเอง อีกทั้งไดทราบถึงข้ันตอนวิธีการสรางสรรค์ที่มีมาต้ังแตอดีต และสามารถบรรยายดานทัศนศิลปและ วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในทองถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสรางสรรค์โดยศิลปินหรือผูคนใน ทองถนิ่ เอง และมลี กั ษณะไมเหมือนกับผลงานศลิ ปะทอ งถน่ิ อนื่ ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหนักเรียนสามารถบอกความเปน็ มาของงานทศั นศลิ ปป ระเภทธุงได
4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพอ่ื ใหน ักเรียนสามารถสรางสรรคง์ านทศั นศลิ ปธ ุงใยแมงมุมสีท่ ิศได 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขาช้นั เรียน, มคี วามรบั ผิดชอบตอ งานทไ่ี ดรบั มอบหมาย) 2) มงุ มัน่ ในการทางาน (เอาใจใสตอ การปฏบิ ตั หิ นา ที่ท่ไี ดร บั มอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหสาเรจ็ ) 3) รักความเปน็ ไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ งานทัศนศลิ ปท่ีสรางสรรคข์ ึ้นความเชื่อในทองถิน่ 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตผุ ลในการคดิ และแกปัญหาดวยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มงุ มัน่ ในการทางาน 7.4 รักความเป็นไทย 7.5 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทกั ทายนักเรยี น 8.2 ครูอธิบายสิง่ ท่ตี อ งเรยี นในสปั ดาหน์ ้ใี หนกั เรียนทราบ “ธุงใยแมงมุมสท่ี ิศ” 8.3 ครสู อบถามนักเรียน “หากนักเรียนไปงานนมสั การองคพ์ ระธาตุนักเรียนจะเห็นทัศนศิลปอะไร ปรากฏอยูในงาน” เพื่อกระตนุ ใหผ เู รียนรจู กั คิดและเปน็ การเช่ือโยงเขา สูบทเรยี นเก่ยี วกับธุงใยแมงมุมส่ที ิศ ขั้นสอน (50 นาที)
8.4 ครเู ลา ประสบการในการเขารวมงานงานนมัสการองคพ์ ระธาตุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให นกั เรยี นฟงั “การเขารวมงานนมสั การองคพ์ ระธาตุในจังหวัดนครพนม ทัศนศิลปที่ครูพบเห็นคือธุงใยแมง มมุ ท่ถี ูกตกแตง ตามทางเดิน ตามตน ไม ตามศาลา ซึ่งการนาสงิ่ น้ีมาตกแตงในสถานท่ีสักสิทธ์ิตองมีท่ีมาท่ีไป อาจเกิดจากความเช่ือทางศาสนาหรือความเช่อื ของคนโบราณท่สี รา งขึ้นมาเพอื่ ผลบางอยา ง” 8.5 จากนนั้ ครูอธบิ ายเกี่ยวกับที่มาของธงุ ใยแมงมมุ ใหน ักเรียนฟงั ธงุ ใยแมงมุม เปน็ สญั ลักษณข์ องความเชื่อเก่ียวกับโชคลางของชาวอีสาน เป็นเคร่ืองประกอบ พธิ กี รรมสาคญั ของชาวอสี านมาอยางยาวนาน เช่ือกันวาสามารถใชปูองกันสิ่งเลวรายหรือสิ่งไมดีท่ีมองไม เห็น ภตู ผวี ิญญาณตางๆ ทจี่ ะมารบกวนงานบุญ หากผีเห็นธุงผีจะถอยออกไป อีกท้ังยังเป็นการบอกกลาว บวงสรวงเทพยดาในพื้นทว่ี ามกี ารทาบุญ มีพธิ กี ารสาคญั ใหเ ทพยดามองเห็นและมาชว ยปกปอู งคมุ ครอง ธงุ ใยแมงมมุ ท่ีมา : https://www.bloggang.com/data/t/travelsomewhere/picture/1551668619.jpg ทม่ี า : https://pbs.twimg.com/media/DziY0UCUcAA9Rhj.jpg 8.6 ครูเปดิ คลิปวดิ ีโอขนั้ ตอนการทาธงุ ส่ที ศิ ใหน กั เรียนดแู ละอธบิ าย วัสดุ อปุ กรณ์ - ไมต ะเกยี บ 2 อัน - ไหมพรม - กรรไกร ขนั้ ตอนการทา 1. ข้ึนโครงดว ยไมต ะเกียบ โดยนาไมตะเกยี บวางชดิ กัน จากนนั้ พันไหมพรมใหอ ยู ก่ึงกลางของไมตะเกียบ 3-4 รอบ แลวมดั
2. แยกไมตะเกียบออกจากกนั โดยการหมนุ สลบั ทิศทางกันใหเ ปน็ เครอ่ื งหมายบวก (+) 3. ดงึ ไหมพรมดานยาวพนั ทีละมมุ ของไม มมุ ละ 3-4 รอบ 4. ดงึ เชอื กขึ้นดานบน พันไหมพรมออ มหลงั ไมดานบน 5. ดงึ ไหมพรมวางบนดา นหนา ของไมดา นขวา พันไหมพรมออ มหลังไมด า นขวา
6. หมุนไมไปตามทิศทางเขม็ นาฬิกา แลวทาเหมือนขอ 5 แลวหมนุ ไปตามทศิ ทางเข็ม นาฬิกาใหพันไหมพรมทาแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไหมพรมขยายกวางขนึ้ ตามความชอบ 7. วิธีตอไหมพรม ใหนาปลายของไหมพรมท่ีตองการเปล่ียนสี มาวางทับกับปลาย ไหมพรมในโครงตะเกยี บ จากนัน้ มัดแบบเงอื นพริ อดแลวพันตอ ไป หากพันถงึ ขอ ตอ ของ ไหมพรมใหซ อนปลายเชอื กไวด านหลงั ของไมแลวพนั ตอไปเร่อื ยๆ เปล่ียนสไี หมพรมตาม ตองการ การมดั แบบเงอื นพิรอด ท่มี า : https://teen.mthai.com/education/172343.html
8. วธิ พี นั เกบ็ งาน ใหท าบว งจากน้ันคลองบวงเขา ไมด ึงใหตึง ทาซ้า 3 รอบ จากน้ันตดั เสนไหมพรม ธงุ ใยแมงมมุ ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=yzGCB8QkCR8&t=181s 8.7 ครใู หน ักเรยี นทากจิ กรรมธุงใยแมงมมุ 8.8 ครูเปิดโอกาสใหน กั เรียนซักถามขอสงสัย จากนั้นลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรม ครคู อยเดนิ ดูและให คาแนะนา ขน้ั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหารวมกัน “ทัศนศิลปในทองถิ่นประเภทธุง ถูกสรางสรรค์ขึ้นเพื่อใช ประกอบพธิ ใี นดานพทุ ธศาสนาหรือประกอบอืน่ ๆ ตามความเช้ือของทองถิ่นน้ันๆ” จากน้ันใหนักเรียนเก็บ อุปกรณใ์ หเรียบรอ ย
9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ธงุ ใยแมงมมุ ส่ีทศิ (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมตอบ (K) ส า ม า ร ถ บ อ ก ส า ม า ร ถ บ อ ก สามารถบอก คาถาม -เพื่อใหนักเรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ค ว า ม เ ป็ น ม า ค วา มเป็ นม า -ไมมา สามารถบอก ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น เรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ทั ศ น ศิ ล ป ทั ศ น ศิ ล ป ทั ศ น ศิ ล ป ของงาน ประเภทธุงได ประเภทธุงได ประเภทธุงไม ทั ศ น ศิ ล ป ถู ก ต อ ง ต ร ง บางบางประเดน็ ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเภทธงุ ได ประเด็นคาถาม คาถาม ดา้ นทกั ษะ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ไมส ง (P) สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน งาน -เพ่ือใหนักเรียน ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย -ไมมา ส า ม า ร ถ แมงมุมส่ีทิศได แมงมุมส่ีทิศได แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได เรยี น สรางสรรค์งาน โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง แตโครงของธุง ทัศนศิลปธุงใย สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกนั สมา่ เสมอกนั สม่าเสมอกนั ไมส ม่าเสมอกัน แมงมมุ สีท่ ศิ ได -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม -ไหมพรมเรียง -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม ชิ ด ติ ด กั น เรยี งชิดตดิ กันไม เรยี งชดิ ติดกันไม เรยี งชิดตดิ กันไม เรียงชิดติดกัน สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกัน สมา่ เสมอกัน ไมสมา่ เสมอกนั -ไมม ีใยไหมพรม -ไมมีใยไหมพรม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพรม บนพ้นื ของธงุ บนพื้นของธุง บน พื้น ขอ ง ธุ ง บน พ้ืน ขอ ง ธุ ง บนพ้ืนของธุง -ไมเ ห็ นป ล า ย -ไมเ ห็ นป ล า ย เล็กนอย จานวนมาก จานวนมาก ไหมพรมตรงขอ ไหมพรมตรงขอ -ไมเ ห็ นป ล า ย -เห็นปลายไหม -เห็นปลายไหม ตออยูดานหนา ตออยูดานหนา ไหมพรมตรงขอ พรมตรงขอตอ พรมตรงขอตอ ของธงุ ของธุง ตออยูดานหนา อ ยู ด า น ห น า อ ยู ด า น ห น า -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง ของธงุ ของธงุ เลก็ นอ ย ของธุงชดั เจน ไ ม เ อี ย ง ไ ม เ อี ย ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุงไมแ ข็งแรง ไมบิดเบ้ยี ว ไมบ ิดเบ้ยี ว ไ ม เ อี ย ง ไ ม เ อี ย ง -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ไมบ ดิ เบีย้ ว ไมบิดเบี้ยว ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน เรียบรอย เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด
สมบูรณ์ สมบูรณ์ เ รี ย บ ร อ ย เรยี บรอ ย - สมบรู ณ์ ด้านจติ พสิ ยั - (A) - -เ ข า ชั้ น เ รี ย น -เขาชั้ นเรีย น ไมเขา -มวี นิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม ชน้ั -มงุ มัน่ ในการ มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร เรียน ทางาน ทางาน ทางาน -รกั ความเป็น -เห็นคุณคาของ -ไมเห็นคุณคา ไทย ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. สอ่ื อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สื่อการเรียนรู้ 1. ตวั อยางภาพธงุ ใยแมงมุม 2. ขน้ั ตอนการทาธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สไี ม/สีเทียน แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ทศั นศลิ ป กลมุ สาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. Pinterest 3. Youtube
ใบงาน 3.2 เรอื่ ง ธุงใยแมงมมุ ส่ที ิศ คาชี้แจง : ใหน กั เรยี นสรา งสรรค์ใยแมงมุมสท่ี ศิ งานหัตถกรรม ชอ่ื ……………………………………………………………………………….เลขที่…………………….ช้ัน……………………
แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ช้นั ……………….. คาช้แี จง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรียนแลว ใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ งทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพ่ือให้ ลาดับ ลาดับที่ นกั เรียน เพ่ือใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ สามารถบอก สามารถสรา้ งสรรค์งาน มุ่งมน่ั ใน 10 ความเป็นมา ทศั นศลิ ปธ์ งุ ใยแมงมุม คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวจิ ติ ราภรณ์ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป ของงาน สีท่ ิศได้ ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ทัศนศลิ ป์ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากุล ประเภทธุงได้ 6 ด.ญ. จริ วรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทพิ านันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อัครเดช มวงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณัฐวุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมินใบงาน เครอ่ื งมือ หน่วยการเรียนรู้ที่………….เรอื่ ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชองทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือให้ ลาดับ ลาดบั ที่ นักเรียน เพอื่ ให้นักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล สามารถบอก สามารถสร้างสรรค์ ม่งุ ม่ันใน 10 ความเปน็ มา งานทัศนศิลปธ์ งุ ใยแมง คะแนน การ ของงาน มุมสี่ทศิ ได้ ทางาน ทัศนศลิ ป์ ประเภทธงุ ได้ 3210543210210 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จนั ทร์เจริญ 2 ด.ช. กติ ตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานชุ ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนุสรณ์ แชมสนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทิมา เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านิชา เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 8 ด.ช. ธีรภัทร ธูปเทียนรัตน์ 9 ด.ช. ศึกษา แกวมศี รี 10 ด.ช. ภานวุ ัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พชี ญา แกวบัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรักษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กลุ เจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพิศิษฐ์ 16 ด.ช. พรี ะพัฒน์ สันสะกิด ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครูพเ่ี ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ลี้ยง (นายพันศักด์ิ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคิดเห็นของรองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผ้ตู รวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดมะลิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 รหสั วชิ า 21101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ทัศนยี ภาพ ภาคเรียนที่ 2 เรอ่ื ง ทศั นียภาพแบบ 1 จุด จานวน 1 คาบ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมือ่ วันท…ี่ ……เดือน………………….พุทธศักราช…………….. ครผู ู้สอน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทศั นศลิ ปต ามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใชใ นชีวิตประจาวนั 2. ตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ม. 1/3 วาดภาพทัศนียภาพแสดงใหเห็นระยะไกลใกลเปน็ 3 มติ ิ 3. สาระสาคัญ เพื่อใหบอกลกั ษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได ที่แสดงระยะใกลไกลแบบสามมิติ แสดง เปน็ ภาพทม่ี องเห็นดานหนาวัตถุ วางขนานกบั เสนระดบั ตาหรือเสนขอบฟูาโดยวัตถุท่ีไกลออกไปจะ คอยๆเลก็ ลงไปรวมกันทจี่ ุดรวมสายตา เพ่ือใหสามารถวาดทัศนียภาพ แบบ 1 จุด ถูกตองตามขวบการข้ันตอนการวาดภาพ ทัศนียภาพ แสดงถึงระยะใกล-ไกล ของวตั ถุ เปน็ การวาดภาพท่ีเกิดจากการมองรูปดานใดดานหนึ่ง ของสิ่งที่จะวาดในแนวเสนตั้ง และเสนนอนไดฉากกันสวนดานลึกจะเป็นแนวเสนเฉียง และเสน แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันที่จุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบนเสน ระดับตา หรือเส น ขอบฟาู จดุ รวมสายตานอี้ าจจะอยูดา นขวา ดา นซาย หรือกง่ึ กลางกไ็ ด
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพอ่ื ใหนกั เรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของทัศนยี ภาพ แบบ 1 จดุ ได 4.2 ด้านทกั ษะ (P) - เพอื่ ใหนกั เรียนสามารถวาดทศั นยี ภาพ แบบ 1 จุดได 4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขา ชน้ั เรียน, มีความรับผิดชอบตอ งานท่ไี ดรับมอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาท่ีท่ีไดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอุปสรรคในการทางานใหสาเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ การวาดทัศนียภาพแบบ 1 จดุ ทแี่ สดงระยะใกล – ไกล ของวัตถุ 6. สมรรถนะท่สี าคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตผุ ลในการคดิ แยกแยะไดด วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มุงมน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทักทายนักเรยี น 8.2 ครูอธบิ ายสง่ิ ที่ตอ งเรยี นในสปั ดาห์นี้ใหนกั เรียนทราบ “ทศั นียภาพแบบ 1 จุด” 8.3 ครูทบทวนความรูที่เรียนในสัปดาห์ท่ีแลวใหนักเรียนฟัง “การวาดภาพทัศนียภาพ เป็นการ วาดภาพแบบเหมอื นจริง แสดงระยะใกลไ กล แบบสามมิติ” เพ่ือกระตุนใหผูเรียนเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหา ความรูทศั นยี ภาพ
ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูต้ังกลอง 1 กลอง ไวหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเรียนเดินดูกลองดานซาย ตรงกลาง และ ดานขวา จากนั้นใหแสดงความคิดเห็นวากลองในแตละทิศทางมีลักษณะอยางไร ” (พิจารณาตาม คาตอบของนักเรยี น โดยใหอยใู นดุลยพินิจของครผู ูสอน) 8.5 ครูอธิบายทัศนียภาพ แบบ 1 จุดใหนักเรียนฟังพรอมใหนักเรียนดูภาพประกอบและแสดง ความคิดเห็นรวมกนั การวาดภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพท่ี เกดิ จากการมองรปู ดานใดดา นหนึ่งของสงิ่ ทจี่ ะวาดในแนวเสน ตัง้ และเสนนอนไดฉ ากกนั สว นดานลึกจะ เป็นแนวเสนเฉียงและเสนแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบน เสนระดบั ตา หรือเสน ขอบฟูา จดุ รวมสายตานีอ้ าจจะอยดู า นขวา ดา นซาย หรือก่ึงกลางก็ได ตัวอยา่ งการวาดทัศนยี ภาพแบบ 1 จุด ท่ีมา : https://foodbunkaew.files.wordpress.com/2014/09/7cedf- de0b8a5e0b988e0b8ade0b8871vp.jpg?w=400&h=230 8.7 ครอู ธบิ ายข้ันตอนการวาดภาพทศั นียภาพแบบ 1 จุด พรอ มสาธิตใหน ักเรียนดู
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ที่ 4 ลากเสนตรงเฉียงทง้ั 2 เสน แสดงความ ลากเสนขนานระหวางเสนระดับสายตา ลกึ ลากไปบรรจบกันทจ่ี ุดรวมสายตาไดเพียงจุด และขอบดานบนของรูปส่ีเหล่ียม จะเห็นพ้ืนผิว เดียวบนเสนระดับตา ดา นบนของกลอง ขัน้ ท่ี 1 ข้นั ที่ 2 กาหนดเสนระดับสายตาและจุดรวม ร า ง รู ป ด า น ห น า ข อ ง ก ล อ ง สายตา สีเ่ หลี่ยมผืนผาหรอื จตุรสั ก็ไดตามตองการ
ทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด สมบูรณ์ ถาตัดเสนขอบทุกเสนของกลองออก เราจะเห็นภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด ของกลอง สีเหล่ียมชดั เจน ท่ีมา : วิภาพร ทพิ ราช 8.6 ครูใหนักเรียนทากิจกรรม ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ทัศนียภาพแบบ 1 จุด ใหนักเรียนกาหนด เสนระดับสายและจุดรวมสายตา จากนั้นกาหนดกลอ งสเ่ี หลย่ี มแลจากนัน้ ใหลากเสน เฉียงและเสนแสดง ความลกึ จะถกู ลากไปบรรจบกนั ท่ีจุดรวมสายตาไดเ พยี งจุดเดียวบนเสน ระดบั ตา 8.7 ครูเปดิ โอกาสใหน กั เรียนซกั ถามขอสงสัย จากนั้นนักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดูและ ใหคาแนะนา ขนั้ สรุป (5 นาที) ครแู ละนกั เรียนสรปุ เนื้อหาความรู “ลักษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได ที่แสดงระยะใกลไกล แบบสามมิติ แสดงเป็นภาพท่ีมองเห็นดานหนาวัตถุวางขนานกับเสนระดับตาหรือเสนขอบฟูา การวาด ภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพท่ีเกิดจากการมองรูปดาน ใดดานหนงึ่ ของส่งิ ท่ีจะวาดในแนวเสน ตั้ง และเสนนอนไดฉากกนั สวนดา นลกึ จะเป็นแนวเสนเฉียงและเสน แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบนเสนระดับตา หรือเสนขอบฟูา จดุ รวมสายตานี้อาจจะอยูดานขวา ดา นซาย หรือก่ึงกลางกไ็ ด” จากนน้ั นกั เรยี นเก็บอปุ กรณใ์ หเรยี บรอ ย
9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นกั เรียน -นักเรียน -นกั เรยี น -ไม -เพ่ือใหน ักเรยี น -สามารถวาด -สามารถวาด สามารถอธิบาย ทศั นียภาพแบบ ทัศนียภาพแบบ สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย สามารถอธบิ าย สามารถ ลกั ษณะของ 1 จุดได คือ 1 จดุ ได คือ ทศั นยี ภาพ กาหนดจุดรวม กาหนดจุดรวม ลักษณะของ ลกั ษณะของ ลักษณะของ บอกได แบบ 1 จุดได สายตา และ สายตา และ ทศั นียภาพ ทัศนยี ภาพ ทศั นยี ภาพ -ไมมา ด้านทักษะ กาหนดกลอ งสี กาหนดกลอ งสี แบบ 1 จดุ ได แบบ 1 จดุ ไดผดิ แบบ 1 จุดได เรยี น (P) เหลยี่ มไวมุมใด เหลยี่ มไวมมุ ใด ระดับดมี าก ถกู บา ง ระดับนอ ยมาก -เพื่อใหน ักเรยี น มุมหนง่ึ จากนน้ั มมุ หนง่ึ จากนั้น สามารถวาด วาดดา นลกึ จะ วาดดานลึกจะ -สามารถวาด -สามารถวาด -สามารถวาด -ไมสง ทัศนียภาพ เปน็ แนวเสน เปน็ แนวเสน ทัศนียภาพแบบ ทศั นียภาพแบบ ทศั นียภาพ งาน แบบ 1 จดุ ได เฉยี งและเสน เฉยี งและเสน 1 จุดได คอื 1 จดุ ได คอื แบบ 1 จุดได -ไมม า แสดงความลกึ แสดงความลึก กาหนดจดุ รวม กาหนดจดุ รวม คอื กาหนดจุด เรยี น จะถกู ลากไป จะถกู ลากไป สายตา และ สายตา และ รวมสายตา บรรจบกนั ท่จี ดุ บรรจบกนั ที่จดุ กาหนดกลองสี กาหนดกลอ งสี และกาหนด รวมสายตาได รวมสายตาได เหล่ยี มไวม ุมใด เหลีย่ มไวมมุ ใด กลอ งสเี หลย่ี ม เพียงจดุ เดยี วบน เพียงจดุ เดียวบน มุมหนง่ึ จากนนั้ มมุ หนงึ่ จากน้ัน ไวม มุ ใดมุมหนึง่ เสน ระดบั ตาทกุ เสน ระดับตา แต วาดดานลึกจะ วาดดานลึกจะ แตล ากเสน ดา น เสน ไดถกู ตอง มีเสนใดเสน หน่ึง เปน็ แนวเสน เปน็ แนวเสน ลึก ไมบรรจบ -รูปแบบผลงาน ไมไ มบรรจบกัน เฉียงและเสน เฉียงและเสน กันทจ่ี ุดรวม สะอาด สมบูรณ์ ท่จี ุดรวมสายตา แสดงความลึก แสดงความลกึ สายตาทุกเสน เรียบรอย เลก็ นอย จะถกู ลากไป จะถูกลากไป หรอื เสน -รูปแบบผลงาน บรรจบกนั ท่ีจดุ บรรจบกันท่จี ุด กระจายไปทุก สะอาด สมบรู ณ์ รวมสายตาได รวมสายตาได ทศิ ทุกทาง เรียบรอย เพยี งจุดเดียวบน เพยี งจุดเดยี วบน -รปู แบบผลงาน เสนระดบั ตา แต เสนระดบั ตา แต สะอาดแตไ ม มีเสน ใดเสน หนงึ่ ทุกเสน ไม สมบูรณ์ ไมไมบรรจบกัน บรรจบกันท่ีจดุ ทจี่ ดุ รวมสายตา รวมสายตาทุก ระดับปานกลาง เสนเลก็ นอ ย -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน สะอาด สมบูรณ์ สะอาด สมบรู ณ์ เรียบรอ ย เรียบรอ ย
ด้านจติ พสิ ยั - - - -เ ข า ชั้ น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเขา (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม ช้ัน -มวี ินัย มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร เรียน -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. สอ่ื อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. ภาพทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด อปุ กรณ์ - ใบงาน - ปากกา/ดนิ สอ/ยางลบ/ไมบรรทดั แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป กลมุ สาระการเรียนรูศิลปะ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest
ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด คาช้ีแจง : ใหนกั เรียนกาหนดเสนระดับสายและจุดรวมสายตา จากน้ันกาหนดกลองสี่เหลี่ยมแล จากนัน้ ใหลากเสนเฉียงและเสนแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาไดเพียง จุดเดียวบนเสน ระดบั ตา ชื่อ……………………………………………………………………………….เลขท่ี…………………..ชนั้ ……………………
แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมือ หน่วยการเรียนรู้ท่ี………….เรื่อง………………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้ีแจง : ใหครผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชองทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพื่อให้นกั เรยี น ลาดับ ลาดบั ท่ี สามารถ เพ่ือใหน้ กั เรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล อธิบาย สามารถวาด มุ่งม่นั ใน 10 ลักษณะของ ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ คะแนน ทัศนียภาพ การ ได้ ทางาน แบบ 1 จดุ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสขุ 2 ด.ช. สุรยุทธ ปรีเลิศ 3 ด.ช. วฒุ ิชยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รตั นศฤงค์ 6 ด.ญ. กิตติยารตั น์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพฒั น์ชัย 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สวางชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธิพร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ความคดิ เห็นของครูพเ่ี ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ครูพ่เี ลีย้ ง (นายพนั ศักด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผูต้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิร)ิ รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 563
Pages: