Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2

การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2

Published by Wipaphorn Tipparach, 2021-03-19 07:03:18

Description: วิภาพร ทิพราช 5911011030001
สาขาศิลปศึกษา

Search

Read the Text Version

ดา้ นจิตพสิ ยั -ระบ ายสีแดง -ระบายสีแดง -ระบายสีแดง -ร ะ บ า ย สี แ ด ง เขม฾ และระบาย ไมเ฽ ขา฾ (A) เข฾ม ไม฽ระบาย เข฾ม ไม฽ระบาย เข฾ม ไม฽ระบาย เข฾ม แต฽ระบาย ออกนอกเส฾ น ชนั้ -มวี นิ ัย ออ ก น อ ก เ ส฾ น ออกนอกเส฾ น ออ ก น อ ก เ ส฾ น ออ ก น อ ก เ ส฾ น เลก็ จามวนมาก เรียน -ม฽ุงมั่นในการ แ ล ะ สี ข อ ง เ ส฾ น และสีของเส฾น และสีของเส฾น เล็กนอ฾ ย -ปะติดกระดาษ ทางาน คมชัด คมชัด คมชัด -ปะติดกระดาษ ไ ม฽ เ รี ย บ เ นี ย น -รักความเปน็ -ปะติดกระดาษ -ปะติดกระดาษ -ปะติดกระดาษ ไ ม฽ เ รี ย บ เ นี ย น ไ ม฽ เ ห็ น ร อ ย ไทย เ รี ย บ เ นี ย น เรียบเนียน เห็น ไม฽เรียบเนียน เ ห็ น ร อ ย แตกร฾าวหลาย เ ห็ น ร อ ย ร อ ย แ ต ก ร฾ า ว เ ห็ น ร อ ย แ ต ก ร฾ า ว ส฽วน แตกร฾าวชดั เจน ชัดเจน แตกรา฾ วชดั เจน บางสว฽ น -ช้ิ น ส฽ ว น ข อ ง -ชิ้ น ส฽ ว น ข อ ง -ชิ้ น ส฽ ว น ข อ ง -ช้ิ น ส฽ ว น ข อ ง -ช้ิ น ส฽ ว น ข อ ง กระดาษหายไป กระดาษครบ กระดาษครบ กระดาษครบ กระดาษหายไป บางชิ้น ทุกช้นิ ทุกช้นิ ทุกชน้ิ บางชิ้น -ผ ล ง า น -ผ ล ง า น -ผ ล ง า น -ผ ล ง า น -ผ ล ง า น ส ะ อ า ด แ ต฽ ไ ม฽ เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย ส ะ อ า ด แ ต฽ ไ ม฽ สมบรู ณ์ สะอาดสมบูรณ์ สะอาดสมบรู ณ์ สะอาดสมบูรณ์ สมบูรณ์ -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น -เ ข฾ า ชั้ น เ รี ย น - -- แ ล ะ มี ค ว า ม แ ต฽ ไ ม฽ มี ค ว า ม ม฽ุ ง ม่ั น ใ น ก า ร ม฽ุ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน -เห็นคุณค฽าของ -ไ ม฽ เ ห็ น คุ ณ ค฽ า ศลิ ปะไทย ของศลิ ปะไทย เกณฑ์การประเมิน ประเมิน คะแนน ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 น฾อย 10. สื่อ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ 1. ใบความรทู฾ ศั นศลิ ป฼ 4 ภมู ิภาค

อุปกรณ์ - สไี ม฾ - ดินสอ/ยางลบ - ใบงาน แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ทัศนศลิ ป฼ กล฽มุ สาระการเรียนรู฾ศลิ ปะ ระดบั ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 2. เวบ็ Pinterest

ใบงาน 5.1 เร่อื ง เคร่ืองปน้ั ดนิ เผาบ้านเชียงรูปแบบภาชนะแตกรา้ ว คาชแ้ี จง : ให฾นักเรยี นวาดลวดลายบ฾านเชียงท่ีนักเรียนชอบ 3 ลวดลายขึน้ ไปลงบนรปู ร฽างภาชนะท่ี กาหนดให฾ จากน้ันใหร฾ ะบายดว฾ ยสแี ดงตามรปู แบบลวดลายที่เลือก จากนน้ั ฉีกและปะติด ลงบนกระดาษสดี าขนาด A4  เหตุผลในการใชก฾ ระดาษฉีกปะตดิ เครอื่ งปน้ั ดนิ รูปแบบภาชนะแตกรา฾ ว …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชอ่ื ………………………………………………………………………………….เลขท่ี…………………….ช้ัน……………………

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่ืองมอื หน่วยการเรียนร้ทู ี่………….เร่ือง…………………………………………………………………ช้นั ………………….. คาช้แี จง : ให฾ครผู ู฾สอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแล฾วใหท฾ าเครอื่ งหมาย  ลงในชอ฽ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน เพอ่ื ใหน้ ักเรียน สามารถ ลาดับ ลาดับที่ บรรยายเหตผุ ล เพ่อื ใหน้ ักเรยี น ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกลุ การใชว้ ัสดุ สามารถสรา้ งสรรค์งาน มงุ่ มัน่ ใน 10 อุปกรณใ์ นการ งานทัศนศลิ ป์การฉีก คะแนน 1 ด.ช. มงคลชยั วทั โล สร้างสรรคง์ าน ปะตดิ เคร่อื งปั้นดนิ เผา การ 2 ด.ญ. พรรตั นะ ขาประดิษฐ ทัศนศลิ ป์ ทางาน 3 ด.ญ. กาญเกลา฾ มูลปะหสั ฉกี ปะตดิ บา้ นเชียงได้ 4 ด.ญ. ปุณยาพร อภธิ รรม 5 ด.ช. วฒุ ชิ ยั สขุ ประสงค์ เครือ่ งปนั้ ดินเผา 6 ด.ช. วรี ะศักดิ์ ฉัตรทอง 7 ด.ช. จริ ายุ วงศแ์ กน฽ ทอง บ้านเชียง 8 ด.ช. นฤรงค์ ปรกี มล 9 ด.ญ. อภัชญา บุง฾ ทอง 3 2 1 0543210210 10 ด.ญ. เกศรินทร์ เช้ือลน้ิ ฟาู 11 ด.ญ. อัญมรี ผาสขุ 12 ด.ญ. วราลักษณ์ ทาลา 13 ด.ญ. เปนี่ มรกั หาญประโคน 14 ด.ช. ชัยปกรณ์ กรานแก฾ว 15 ด.ช. ณัฐธดิ า จนั ทรักษา 16 ด.ญ. สุภาพร นจิ ศรวี งษ์ 17 ด.ช. กายสิทธ์ สงวนประเสรฐิ 18 ด.ญ. ทกั ษอร โคจร 19 ด.ญ. ปลายฟาู มานก 20 ด.ญ. ธัญญานันท์ จนั ทรประภาพ

21 ด.ญ. ณัชชา เจรญิ ยงิ่ 22 ด.ญ. ชญานนท์ ไชยวงค์ 23 ด.ช. จติ ราคปุ ต์ ยนิ ดีรมณ์ 24 ด.ญ. พรหมพร เรอื งตระกูล 25 ด.ช. ทนิ ภัทร ดีแก฾ว ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................./...............

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เส็งสุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 รหสั วชิ า 13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ในท้องถ่ิน ภาคเรียนท่ี 2 เรือ่ ง สร้างสรรค์ธงุ ใยแมงมมุ 4 ทศิ หรรษา จานวน 1 คาบ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเม่อื วนั ท…่ี ….…เดือน……………………พุทธศกั ราช………….. ครูผสู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธร์ ะหวา฽ งทศั นศิลป฼ ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ ค฽า งานทศั นศิลปท฼ เ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ฾ งถน่ิ ภูมปิ ัญญาไทย และสากล 2. ตวั ช้ีวัด ศ 1.2 ป.3/1 เล฽าถึงท่ีมาของงานทัศนศิลป฼ในทอ฾ งถ่ิน ศ 1.2 ป.3/2 อธิบายเกยี่ วกับวัสดอุ ปุ กรณแ์ ละวธิ ีการสร฾างงานทศั นศิลป฼ในท฾องถนิ่ 3. สาระสาคญั เพ่ือให฾สามารถอธิบายที่มาของการสร฾างธุงหรือตุง ซ่ึงเป็นงานทัศนศิลป฼ในท฾องถ่ินมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว เพราะถูกสร฾างสรรค์โดยศลิ ปนิ หรือผู฾คนในท฾องถิ่นเอง อีกทัง้ มกี ารสรา฾ งสรรค์ โดยอาศยั ความเช่ือ ทางศาสนาหรือความเชือ่ สว฽ นบคุ คลเข฾ามาถ฽ายทอดลงบนผลงานธุง รวมถึงการสร฾างธุงเพื่อใช฾ประกอบพิธี ตา฽ งๆ ท้งั ทางด฾านศาสนาหรอื เพือ่ ความเปน็ ศิรมิ งคล เปน็ ต฾น เข฾าใจกระบวนการการสร฾างสรรค์งานธุง ที่มีลาดับข้ันตอน โดยต฾องอาศัยการใช฾วัสดุ อุปกรณ์ ไดแ฾ ก฽ เชอื ก ใยฝาู ย ไหมพรม และไม฾ เปน็ หลัก เพอื่ นามาประกอบเข฾าด฾วยกันตามกระบวนการการสร฾างธุง จนเกดิ เปน็ ธุงใยแมงมุมทม่ี ลี ักษณะ 4 ทศิ อีกทั้งร฾ูจักนาเชือก ใยฝูาย หรือไหมพรม ที่มีสีหลากสีมาต฽อเติม ประกอบเข฾าดว฾ ยกนั ทาให฾ธุงใยแมงมุมสลับสแี ละมสี ีสนั ท่สี วยงามตามความต฾องการของผู฾สร฾างสรรค์ ซ่ึงธุง เป็นงานทัศนศิลป฼ในท฾องถิ่น ที่สามารถประยุกต์สร฾างสรรค์จนเกิดความงามตามรูปแบบของตนเอง ตน ซงึ่ เป็นผลงานท่ีมคี ณุ ค฽าต฽อคนไทยมาตงั้ แต฽อดีตจนถงึ ปจั จบุ นั

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่อื ใหน฾ กั เรียนสามารถอธบิ ายทมี่ าของการสร฾างธงุ ได฾ 4.2 ด้านทกั ษะ (P) - เพอ่ื ให฾นักเรยี นสามารถสร฾างธงุ ใยแมงมมุ 4 ทิศ ได฾ 4.3 ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เข฾าช้นั เรยี น, มคี วามรบั ผดิ ชอบต฽องานที่ไดร฾ ับมอบหมาย) 2) ม฽ุงมน่ั ในการทางาน (เอาใจใส฽ตอ฽ การปฏิบัตหิ นา฾ ท่ที ่ไี ดร฾ บั มอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและอปุ สรรคในการทางานใหส฾ าเร็จ) 3) รกั ความเปน็ ไทย (ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ การใช฾วัสดุ อุปกรณ์สร฾างธุงใยแมงมุม 4 ทิศ เป็นผลงานที่มีคุณค฽าต฽อคนไทยมาต้ังแต฽อดีตจนถึง ปจั จุบัน 6. สมรรถนะท่ีสาคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา฽ งสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตผุ ลในการคิดด฾วยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแก฾ปัญหาเฉพาะหนา฾ ได฾ด฾วยตนเอง 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรียนรู฾ 7.3 มุ฽งมั่นในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทกั ทายนักเรียน 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ทีต่ ฾องเรียนในสปั ดาหน์ ้ีให฾นกั เรียนทราบ “สร฾างสรรคธ์ ุงใยแมงมุม 4 ทิศหรรษา”

8.3 ครูสอบถามนักเรียน “หากนักเรียนไปงานนมัสการองค์พระธาตุหรืองานศิริมงคลต฽างๆ นกั เรียนจะเห็นทศั นศิลปอ฼ ะไรปรากฏอยใู฽ นเทศงานเหลา฽ น้นั ” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให฾อย฽ู ในดุลยพินิจของครูผู฾สอน) เพ่ือกระตุ฾นให฾ผ฾ูเรียนร฾ูจักคิดและเป็นการเชื่อโยงเข฾าสู฽บทเรียนเก่ียวกับความร฾ู เบือ้ งตน฾ เกี่ยวกบั ลักษณะของธุง ข้นั สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธิบายท่มี าของธงุ ใหน฾ กั เรียนฟัง “ธงุ ” มาจากคาว฽า “ธง” ของภาคกลาง ส฽วนคาว฽า “ตงุ ” เปน็ ภาษาถ่ินของภาคเหนือ มาจาก คาวา฽ “ธง” ของภาคกลาง เชน฽ กัน ธงุ เปน็ งานทัศนศิลปท฼ ่ีใช฾ในการประดบั หรือใชใ฾ นการประกอบพิธีกรรมต฽างๆ เป็นสิ่งหน่ึงท่ีมี ส฽วนรว฽ มอยใู฽ นประเพณีเกี่ยวกับความเช่ือที่ทาขึ้นเพ่ือถวายเป็นพุทธบูชา ใช฾ในงานพิธีทางศาสนา หรือใน งานมงคลและอวมงคล โดยจะมีขนาดรูปทรงและรายละเอียดแตกต฽างกันไป รวมถึงความเชื่อ พิธีกรรม ตลอดจนความนิยมในแตล฽ ะท฾องถน่ิ ด฾วย  วตั ถุประสงค์ในการสรา฾ งธงุ 1. เพ่อื ให฾เป็นสัญลกั ษณ์ เช฽น สร฾างเป็นเครอ่ื งหมายพวกหรอื เผา฽ ต฽างๆ 2. เพ่ือใช฾เปน็ เครื่องพิธีบชู า เซน฽ บวงสรวง หากไม฽มชี อ฽ ธงุ จะทาใหพ฾ ิธีเสยี หรือไมส฽ มบรู ณ์ 3. เพื่อเป็นศกั ดศิ์ รแี กเ฽ ทพเจา฾ เชน฽ พระอินทร์ พระนารายณ์ มชี อ฽ ธงเป็นเครอื่ งหมาย เช฽น พระอนิ ทรม์ ีธงสีเขยี ว เปน็ ต฾น 3. เพ่อื เป็นเกียรตแิ ก฽บุคคล เช฽น เหลา฽ กองทหารต฽างมีธงชัยเฉลมิ พลอันเปน็ เครื่องหมาย แหง฽ เกยี รติยศของกองทหาร ธุงใยแมงมุม เป็นเคร่ืองประกอบพิธีกรรมสาคัญของชาวอีสานมาอย฽างยาวนาน เชื่อกันว฽า สามารถใช฾ปูองกันสิ่งนิสัยไม฽ดีร฾ายหรือส่ิงไม฽ดีท่ีมองไม฽เห็นหรือภูตผีวิญญาณที่จะมารบกวนงานบุญ หาก ภูตผีวิญญาณเห็นธุงแล฾วจะกลัวและจะถอยออกไป อีกท้ังยังเป็นการบอกกล฽าวบวงสรวงเทพยดาในพ้ืนท่ี ว฽ามกี ารทาบุญและมีพิธีการสาคัญ เพ่ือให฾เทพยดามาช฽วยปกปูองค฾ุมครอง ธุงใยแมงมุม มีลักษณะสาคัญ คือ ทาดว฾ ยเส฾นด฾ายหรอื เสน฾ ไหมผูกคลา฾ ยใยแมงมมุ โดยใชเ฾ ส฾นด฾ายหรือเสน฾ ไหมหลากหลายสีสันมัดกับไม฾ไผ฽ เหลาแล฾วมดั มว฾ นจนเป็นวงรอบคล฾ายใยแมงมุมที่โยงไปโยงมา มีทั้งแบบสีด่ า฾ นหรือหกดา฾ น

ทีม่ า : วภิ าพร ทพิ ราช 8.5 ครแู จกใบความรู฾ขัน้ ตอนการสร฾างสรรค์ธุงใยแมงมุม 4 ทิศ และสาธิตข้ันตอนการสร฾างสรรค์ ธุง 4 ทิศ ให฾นักเรยี นดูพรอ฾ มอธิบายข้ันตอนการสรา฾ งสรรค์  วัสดุ อุปกรณ์ - ไมต฾ ะเกียบ 2 อัน - ไหมพรม - กรรไกร  ขั้นตอนการการสรา฾ งสรรค์ธุงใยแมงมมุ 4 ทิศ ขน้ั ที่ ขนั้ ตอนการสร้างสรรค์ธุงใยแมงมุม 4 ทศิ 1 ขึ้นโครงดว฾ ยไม฾ตะเกยี บ โดยนาไม฾ ตะเกียบวางชิดกัน จากนั้นพัน ไหมพรมให฾อยู฽ก่ึงกลางของไม฾ ตะเกยี บ 3-4 รอบ แล฾วมดั 2 แยกไม฾ตะเกียบออกจากกันเป็น เครือ่ งหมายกากบาท (x) 3 พั น ไ หม พ ร ม ตัด กับแ น ว เดิ ม จนมีความหนาเท฽ากันและแน฽น โ ด ย ว น ไ ห ม พ ร ม จ า ก ล฽ า ง แ ล฾ ว หมนุ รอบไมข฾ นึ้ ขา฾ งบน

4 พันเส฾นไหมพรมรอบไม฾แต฽ละ ด฾าน โดยวนเส฾นไหมพรมจากล฽าง แล฾วหมุนรอบไม฾ วนไหมพรมข้ึน ขา฾ งบน วนไหมพรมลงดา฾ นล฽างและวน เส฾นไหมข้นึ ข฾างบนอีกครง้ั 5 ทาซ้าแบบเดิมกับไม฾ถัดๆ ไป จนมีความหนาตามต฾องการ 6 ต฽อไหมพ รมเพ่ือเปลี่ยน สี ให฾มัดไหมพรมเปน็ เงือ่ นพิรอด จากน้ันตัดเศษไหมพรมสีเก฽า ตรงปมเสน฾ ไหมทง้ั 2 เสน฾ ออก 7 พั น ว น ร อ บ ไ ม฾ ไ ป เ ร่ื อ ย ๆ ทมี่ าภาพ : ทาเหมือนข฾อ 4 สามารถเปล่ียน สีไหมพรม และพันวนรอบไม฾ https://www.facebook.com/ ไ ป เ รื่ อ ย ๆ จ น เ กื อ บ สุ ด ความยาวไม฾ ThaiPBSFan/photos

8 เมือ่ สุดความยาวไม฾ ให฾ทาบ฽วง แ บ บ เ งื่ อ น ต ะ ก รุ ด เ บ็ ด คล฾องเขา฾ ไม฾แล฾วดึงให฾ตึง โดยดงึ ไหมพรมให฾อยู฽ด฾านหลัง ของธงุ ทาซา้ 2 รอบ ทมี่ าภาพ : https://miro.medium.com/max/ 1394/1* ภาพสมบูรณ์ : การสรา้ งสรรคธ์ งุ ใยแมงมมุ 4 ทศิ รูปแบบภาชนะแตกร้ าว ทม่ี า : วภิ าพร ทพิ ราช 8.5 ครใู ห฾กิจกรรมใบงานที่ 4.5 เรื่อง สร฾างสรรค์ธุงใยแมงมุม 4 ทิศหรรษา ตอนที่ 1 ให฾นักเรียน อธิบายท่ีมาของการสรา฾ งธงุ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช฾ในการสรา฾ งงาน ตอนท่ี 2 ให฾นักเรียนสร฾างสรรค์ธุงใยแมง มมุ 4 ทิศ โดยครจู ดั เตรยี มวสั ดุ อุปกรณไ์ ว฾ให฾ หรอื ใช฾วัสดุ อปุ กรณท์ ่ีนกั เรียนจดั เตรียมมาโดยครูสั่งล฽วงหน฾า จากคาบทแ่ี ล฾ว 8.6 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากนั้นลงมือปฏิบัติกิจกรรมและครูคอยเดินดู ใหค฾ าแนะนา ขั้นสรปุ (5 นาที) 8.7 ครูส฽ุมให฾นักเรียนออกมานาผลงานหน฾าชั้นเรียน และแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร฾อมบอก ปญั หาท่พี บขณะปฏบิ ัตงิ าน

8.8 ครูและนักเรียนร฽วมกันสรุปเนื้อหา เร่ือง ท่ีมาของการสร฾างธุง ร฽วมกันกัน “ธุงสร฾างข้ึนตาม ความเช่ือเพอ่ื ใช฾ประกอบพธิ กี รรมตา฽ งๆ ทงั้ ด฾านทางพทุ ธศาสนาหรืองานมงคล อุปกรณ์ที่ใช฾ในการสร฾างธุง โดยหลกั ๆ คือ ไม฾ ดา฾ นและไหมพรม เป็นตน฾ ” จากน้นั ใหน฾ กั เรียนเกบ็ อปุ กรณใ์ หเ฾ รียบร฾อย 9. การวัดและประเมินผล 9.1 สร฾างสรรค์ธุงใยแมงมุม 4 ทิศหรรษา (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 1 0 -นั ก เ รี ย น -ไม฽ ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น อธบิ ายท่ีมาของ อธิบาย ก า ร ส ร฾ า ง ธุ ง ไ ด฾ -ไม฽มา (K) สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย ผิดถูกบ฾างและ เรียน -เพ่ือให฾นักเรียน ที่ ม า ข อ ง ก า ร ท่ี ม า ข อ ง ก า ร ไ ม฽ เ ช่ื อ ม โ ย ง สามารถอธิบาย ส ร฾ า ง ธุ ง ไ ด฾ ส ร฾ า ง ธุ ง ไ ด฾ ข฾อมลู เน้ือหา -ไม฽ส฽ง ท่ี ม า ข อ ง ก า ร ถู ก ต฾ อ ง ถูกต฾อง แต฽ไม฽ งาน สร฾างธงุ ได฾ เชื่อมโยงข฾อมูล ส า ม า ร ถ -นั ก เ รี ย น -ไมม฽ า สร฾างธุงใยแมง เรยี น เนื้อหาครบถ฾วน เช่ือมโยงข฾อมูล มุม 4 ทิศมีโครง ข อ ง ธุ ง ไ ม฽ ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น เนอื้ หาได฾ สม่าเสมอกนั -สี สั น ข อ ง ธุ ง คาถาม สวยงาม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ ด้านทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น เ รี ย ง ชิ ด ติ ด กั น ไม฽สม่าเสมอกัน (P) สามารถสร฾างธุง สามารถสร฾างธุง สามารถสร฾างธุง สร฾างธุงใยแมง -มีเศษไหมพรม กระจายออก -เพื่อให฾นักเรียน ใยแมงมุม 4 ทิศ ใยแมงมมุ 4 ทิศ ใยแมงมุม 4 ทิศ มุม 4 ทิศมีโครง จ า ก กั น จานวนมาก สามารถสร฾างธุง มีโ ค ร ง ของ ธุง มีโครง ของธุง มีโ ค ร ง ของ ธุง ข อ ง ธุ ง ไ ม฽ -เห็นปลายไหม พรมตรงข฾อต฽อ ใยแมงมุม 4 ทิศ สม่าเสมอกันท้ัง สม่าเสมอกันท้ัง สม่าเสมอกันท้ัง สม่าเสมอกนั อ ย฽ู ด฾ า น ห น฾ า ของธงุ ชดั เจน ได฾ 4 ด฾าน 4 ด฾าน 4 ด฾าน -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ -ไหมพรมเรียง -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ เรียงชิดติดกัน ชิ ด ติ ด กั น เรียงชิดติดกัน เรียงชิดติดกันไม฽ ไม฽สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกัน ไม฽สม่าเสมอกัน สม่าเสมอกนั -มีเศษไหมพรม -ไม฽ มีเ ศ ษ ไ ห ม -ไม฽มีเศ ษ ไห ม -มีเศษไหมพรม ก ร ะ จ า ย อ อ ก พรมไม฽กระจาย พรมไม฽กระจาย ก ร ะ จ า ย อ อ ก จ า ก กั น อ อ ก จ า ก กั น อ อ ก จ า ก กั น จ า ก กั น ปานกลาง -ไม฽เ ห็ นป ล า ย -ไม฽เห็ นปล าย เล็กนอ฾ ย -เห็นปลายไหม ไหมพรมตรงข฾อ ไหมพรมตรงข฾อ -ไม฽เ ห็ นป ล า ย พรมตรงข฾อต฽อ ต฽ออย฽ูด฾านหน฾า ต฽ออยู฽ด฾านหน฾า ไหมพรมตรงข฾อ อ ยู฽ ด฾ า น ห น฾ า ของธงุ ของธงุ ต฽ อ ด฾ า น ห น฾ า ของธงุ เลก็ น฾อย

-ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง ของธุง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธงุ ไม฽แขง็ แรง ไ ม฽ เ อี ย ง ไ ม฽ เ อี ย ง -รูปแบบผลงาน ไมบ฽ ิดเบ้ียว ไ ม฽ เ อี ย ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง ไม฽บดิ เบ้ยี ว สะอาด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน เรยี บรอ฾ ย สะอาด ไม฽บิดเบี้ยว ไ ม฽ เ อี ย ง สะอาด เ รี ย บ ร฾ อ ย เรียบร฾อย -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น สมบรู ณ์ -รูปแบบผลงาน ไม฽บิดเบ้ยี ว แ ต฽ ไ ม฽ มี ค ว า ม -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น ม฽ุ ง ม่ั น ใ น ก า ร - ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน แ ล ะ มี ค ว า ม ทางาน มุ฽ ง มั่ น ใ น ก า ร -ไ ม฽ เ ห็ น คุ ณ ค฽ า เ รี ย บ ร฾ อ ย ส ะ อ า ด ทางาน ของศลิ ปะไทย -เห็นคุณค฽าของ สมบรู ณ์ เ รี ย บ ร฾ อ ย ศลิ ปะไทย สมบรู ณ์ ดา้ นจิตพิสัย -- ไมเ฽ ข฾า (A) ชน้ั -มวี นิ ยั เรียน -มุ฽งม่นั ในการ ทางาน -รักความเปน็ ไทย เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ประเมนิ 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 น฾อย 10. สอื่ อปุ กรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ - กรรไกร สอื่ การเรยี นรู้ 1. ภาพธุงใยแมงมุม 4 ทศิ 2. ข้ันตอนการสร฾างสรรคธ์ งุ ใยแมงมมุ 4 ทิศ อุปกรณ์ - ใบงาน - ไมไ฾ อศกรมี - ไหมพรม แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ทศั นศลิ ป฼ กลุม฽ สาระการเรียนร฾ศู ลิ ปะ ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงาน 4.5 เรือ่ ง สรา้ งสรรค์ธงุ ใยแมงมมุ 4 ทิศหรรษา ตอนท่ี 1 คาชี้แจง : ใหน฾ ักเรยี นตอบคาถามดงั น้ี 1. อธิบายที่มาของการสรา฾ งธุง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. วสั ดุ อุปกรณ์ ทส่ี ามารถนามาสร฾างสรรคธ์ งุ ได฾ มีอะไรบา฾ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนท่ี 2 กจิ กรรมปฏบิ ตั ิ ชอื่ ………………………………………………………………………………….เลขท่ี…………………….ช้นั ……………………

หนา฾ 1 ใบความรู้ ข้นั ท่ี ขัน้ ตอนการสร้างสรรคธ์ ุงใยแมงมุม 4 ทศิ 1 ข้นึ โครงดว฾ ยไมต฾ ะเกียบ โดยนาไม฾ ตะเกียบวางชิดกัน จากนั้นพัน ไหมพรมให฾อยู฽กึ่งกลางของไม฾ ตะเกยี บ 3-4 รอบ แล฾วมดั 2 แยกไม฾ตะเกียบออกจากกันเป็น เครอ่ื งหมายกากบาท (x) 3 พั น ไ หม พ ร ม ตัด กับแ น ว เดิ ม จนมีความหนาเท฽ากันและแน฽น โดยวนด฾ายจากล฽างแล฾วหมุดรอบ ไม฾ขึน้ ข฾างบน 4 พันไหมพรมรอบไม฾แต฽ละด฾าน โ ด ย ว น เ ส฾ น ไ ห ม จ า ก ล฽ า ง แล฾วหมุนรอบไม฾ วนไหมพรมขึ้น ขา฾ งบน วนไหมพรมลงดา฾ นล฽างและวน ไหมพรมขน้ึ ขา฾ งบนอกี คร้งั 5 ทาซ้าแบบเดิมกับไม฾ถัดๆ ไป จนมคี วามหนาตามตอ฾ งการ

หนา฾ 2 6 ต฽อไหมพ รมเพื่อเปล่ียน สี ใหม฾ ัดไหมพรมเป็นเงื่อนพิรอด จากน้ันตัดเศษไหมพรมสีเก฽า ตรงปมเสน฾ ไหมท้ัง 2 เส฾นออก 7 พั น ว น ร อ บ ไ ม฾ ไ ป เ ร่ื อ ย ๆ ทมี่ าภาพ : ทาเหมือนข฾อ 4 สามารถเปล่ียน สีไหมพรม และพันวนรอบไม฾ https://www.facebook.com/ ไ ป เ ร่ื อ ย ๆ จ น เ กื อ บ สุ ด ความยาวไม฾ ThaiPBSFan/photos 8 เม่อื สุดความยาวไม฾ ให฾ทาบ฽วง ทม่ี าภาพ : https://miro.medium.com/max/ 1394/1* แ บ บ เ งื่ อ น ต ะ ก รุ ด เ บ็ ด คลอ฾ งเข฾าไม฾แลว฾ ดงึ ใหต฾ งึ โดยดงึ ไหมพรมให฾อย฽ูด฾านหลัง ของธงุ ทาซ้า 2 รอบ ภาพสมบูรณ์ : การสรา้ งสรรคธ์ ุงใยแมงมุม 4 ทิศ รูปแบบภาชนะแตกร้ าว ทีม่ า : วภิ าพร ทิพราช

สอ่ื เพมิ่ เตมิ ท่มี า : วิภาพร ทิพราช

แบบประเมินใบงาน เครือ่ งมือ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่………….เรือ่ ง…………………………………………………………………ชั้น………………….. คาชีแ้ จง : ให฾ครูผู฾สอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแล฾วใหท฾ าเครือ่ งหมาย  ลงในชอ฽ งท่ตี รงกับ ระดับคะแนน เพอ่ื ให้ ลาดบั ลาดับท่ี นักเรียน เพ่อื ใหน้ กั เรียน ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกลุ สามารถ สามารถสรา้ งธุงใยแมง มุ่งมน่ั ใน 10 อธบิ ายท่ีมา คะแนน 1 ด.ช. มงคลชยั วทั โล ของการ มมุ 4 ทศิ ได้ การ 2 ด.ญ. พรรตั นะ ขาประดิษฐ ทางาน 3 ด.ญ. กาญเกลา฾ มลู ปะหัส 4 ด.ญ. ปณุ ยาพร อภธิ รรม สรา้ งธงุ ได้ 5 ด.ช. วฒุ ชิ ัย สขุ ประสงค์ 6 ด.ช. วรี ะศกั ดิ์ ฉตั รทอง 3210543210210 7 ด.ช. จิรายุ วงศ์แก฽นทอง 8 ด.ช. นฤรงค์ ปรกี มล 9 ด.ญ. อภัชญา บุง฾ ทอง 10 ด.ญ. เกศรินทร์ เช้อื ลน้ิ ฟาู 11 ด.ญ. อัญมรี ผาสุข 12 ด.ญ. วราลกั ษณ์ ทาลา 13 ด.ญ. เป่ีนมรกั หาญประโคน 14 ด.ช. ชัยปกรณ์ กรานแก฾ว 15 ด.ช. ณัฐธดิ า จันทรกั ษา 16 ด.ญ. สภุ าพร นิจศรีวงษ์ 17 ด.ช. กายสทิ ธ์ สงวนประเสริฐ 18 ด.ญ. ทกั ษอร โคจร 19 ด.ญ. ปลายฟูา มานก 20 ด.ญ. ธญั ญานันท์ จันทรประภาพ 21 ด.ญ. ณชั ชา เจรญิ ยิ่ง 22 ด.ญ. ชญานนท์ ไชยวงค์ 23 ด.ช. จิตราคุปต์ ยนิ ดีรมณ์

24 ด.ญ. พรหมพร เรอื งตระกูล 25 ด.ช. ทินภทั ร ดแี ก฾ว ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................./...............

บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผ้สู อน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เ่ี ลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพ่เี ลย้ี ง (นายพนั ศกั ดิ์ เสง็ สุวรรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพิเศษ ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ



แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 รหัสวิชา 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 นา้ หนกั ออ่ น-แก่ ภาคเรยี นที่ 2 เรือ่ ง ไลน่ า้ หนกั สเี พอื่ จดั ระยะภาพ จานวน 1 คาบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเม่ือ วันท…ี่ …….เดอื น………………..พุทธศักราช…………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค฽างานทัศนศิลป฼ ถ฽ายทอดความร฾ูสึก ความคิดต฽องานศิลปะอย฽าง อิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช฾ในชีวิตประจาวัน 2. ตัวชีว้ ดั ศ 1.1 ป.4/6 บรรยายลักษณะของภาพโดยเน฾นเร่ืองการจดั ระยะ ความลึก น้าหนกั และ แสงเงาในภาพ 3. สาระสาคัญ เพื่อให฾เข฾าใจและสามารถอธิบายเกี่ยวกับการจัดระภาพด฾วยการสร฾างน้าหนักสีลงใน กระดาษพ้ืนระนาบจาก ภาพ 2 มิติ ให฾เป็นภาพ 3 มิติแสดงระยะใกล฾-ไกล ด฾วยการลงน้าหนักสี ความอ฽อน-แก฽ ของภาพไดถ฾ กู ตอ฾ งตามหลักการจดั ระยะภาพและการลงน้าหนกั สี น้าหนัก แสง-เงา ที่ปรากฏในงานทัศนศิลป฼และในสิ่งแวดล฾อมมีลักษณะที่แตกต฽างกัน น้าหนัก แสง-เงา ท่ปี รากฏในสิ่งแวดลอ฾ มเกดิ จากแสงธรรมชาตหิ รอื แสงไฟทพี่ บเจอได฾ทั่วไปเมื่อตก กระทบลงวตั ถจุ ะให฾คา฽ น้าหนักตา฽ งๆ คณุ ค฽าของแสงและเงา น้าหนักอ฽อน-แก฽ หากนาไปสรา฾ งสรรค์ งานทัศนศลิ ปบ฼ นพนื้ ผวิ ระนาบเดียวกัน เมื่อใช฾น้าหนักที่ต฽างกันของสีและแสงเงาจะทาให฾เกิดเป็น รูปลักษณะตา฽ งๆ บนระนาบนัน้ เช฽น เหน็ เปน็ ภาพระยะใกล฾-ไกลซอ฾ นทับกนั มีความกลมกลืนหรือ ตัดกนั ทาให฾เกิดภาพ 3 มติ ิ มีความเหมือนจรงิ และงดงามสมบรู ณย์ ง่ิ ขนึ้ เป็นตน฾

4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่อื ใหน฾ กั เรยี นสามารถบอกการจัดระยะภาพจากการไล฽ค฽าน้าหนักสีได฾ 4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพือ่ ให฾นักเรียนสามารถไล฽คา฽ น้าหนกั สคี วามอ฽อน-แก฽ แสดงระยะใกล฾-ไกล ได฾ถูกตอ฾ ง 4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เข฾าชนั้ เรียน, มีความรับผิดชอบต฽องานท่ีไดร฾ บั มอบหมาย) 2) ม฽งุ ม่นั ในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัตหิ นา฾ ท่ีท่ีได฾รบั มอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและ อุปสรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 5. สาระการเรียนรู้ การไล฽ค฽าน้าหนักสีความอ฽อน-แก฽ แสดงระยะใกลไ฾ กลของภาพ 6. สมรรถนะที่สาคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ และแก฾ปญั หาดว฾ ยตนเอง 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี นิ ยั 7.2 ใฝุเรียนร฾ู 7.3 ม฽ุงมั่นในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขนั้ นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา฽ วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครอู ธิบายส่ิงท่ีตอ฾ งเรียนในสัปดาห์น้ใี ห฾นกั เรียนทราบ “ไล฽น้าหนกั สีเพือ่ จัดระยะภาพ” 8.3 ครูสอบถามทบทวนความร฾ู “การไล฽ค฽าน้าหนักสีความอ฽อน-แก฽ สามารถทาให฾ภาพเกิด ระยะใกล฾-ไกลได฾หรือไม฽” เพื่อกระต฾ุนให฾ผ฾ูเรียนร฾ูจักคิดและเป็นการเช่ือโยงเข฾าสู฽บทเรียนเกี่ยวกับไล฽ น้าหนกั สีเพ่ือจัดระยะภาพ

ขนั้ สอน (50 นาที) 8.4 ครูอธิบายพร฾อมยกตัวอยา฽ งภาพใหน฾ กั เรยี นดู - นา้ หนกั ออ฽ น-แก฽ ในสงิ่ แวดลอ฾ ม หมายถงึ จานวนความเข฾มความอ฽อนของสีต฽างๆ หาก วตั ถุ สว฽ นที่ถกู แสงสว฽างมากจะเป็นสีออ฽ นหรอื ใส สว฽ นทถ่ี ูกแสงน฾อยหรือเป็นเงากจ็ ะมีสีเข฾มหรอื มืด - น้าหนกั อ฽อน-แก฽ เมือ่ นาไปสร฾างงานทศั นศลิ ป฼ ทาให฾ภาพดูมีมิติและเหมือนจริงมากขึ้น เกิดจากการไล฽ค฽าน้าหนักความอ฽อน-ความแก฽ของสี จนเกิดเป็นรูปลักษณะต฽างๆ บนระนาบนั้น เช฽น เห็นเป็นภาพระยะใกล฾-ไกล ซอ฾ นทบั กัน มีความเหมือนจรงิ และงดงามสมบรู ณย์ งิ่ ขึ้น เป็นตน฾ ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช 8.5 เปิดคลปิ วิดโี อการไลค฽ ฽าน้าหนกั สเี บื้องต฾นให฾นักเรียนดแู ละอธบิ าย การไล฽ค฽านา้ หนักเปน็ การไล฽ระดบั ความเขม฾ ท่แี ตกตา฽ งกนั ของสหี รือค฽าความอ฽อนแก฽ของสี ไล฽ระดบั กันไป เชน฽ ดา – เทาเขม฾ – เทากลาง – เทาออ฽ น – ขาว ท่มี าคลิปที่ 1 : https://www.youtube.com/watch?v=DxSCIgspZGs ทม่ี าคลิปที่ 2 : https://www.youtube.com/watch?v=afsAgvPVJOk

8.6 ครูใหน฾ ักเรียนทากจิ กรรมใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง น้าหนกั สเี พ่อื จัดระยะภาพ 8.7 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากนั้นนักเรียนลงมือปฏิบัติครูคอยเดินดูและให฾ คาแนะนา ขัน้ สรปุ (5 นาที) ครูส฽ุมนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน฾าชั้นเรียนพร฾อมบอกปัญหาและอุปสรรค์ในการทางาน พรอ฾ มบอกวธิ แี กป฾ ญั หาร฽วมกัน ครแู ละนักเรียนสรุปเน้อื หาร฽วมกัน “การไล฽คา฽ นา้ หนักความออ฽ น-เข฾ม สามารถทาให฾ภาพท่ีระนาบ อย฽ูกับพ้ืนมีมติ แิ สดงระยะใกล฾-ไกล” จากน้ันให฾นักเรียนเกบ็ อุปกรณ์ใหเ฾ รยี บรอ฾ ย 3. การวดั และประเมินผล 9.1 ไลน฽ า้ หนักสีเพอ่ื จดั ระยะภาพ (5 คะแนน) ประเด็นการประเมนิ 2 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 0 1 ดา้ นความรู้ (K) -สามารถไล฽ค฽าน้าหนักสี -สามารถไล฽ค฽าน้าหนักสี -ไม฽สามารถไล฽ค฽าน้าหนัก -เพื่อให฾นกั เรียนสามารถ ความเข฾ม-อ฽อน ได฾ เฉดสี ความเข฾ม-อ฽อน ได฾ เฉดสี สไี ด฾ บอกการจัดระยะภาพ ดา – เทาเข฾ม – เทากลาง ดา – เทาเข฾ม – เทากลาง -ไม฽มาเรียน จากการไล฽คา฽ น้าหนกั สี – เทาอ฽อน – ขาว – เทาอ฽อน – ขาว ไม฽ ได฾ แตกตา฽ งกนั ชัดเจน แตกต฽างกนั ด้านทกั ษะ (P) -สรา฾ งสรรค์งานที่แสดง -สรา฾ งสรรค์งานที่แสดง -ไม฽สามารถสร฾างสรรค์ -เพือ่ ให฾นักเรียนสามารถ ระยะใกล-฾ ไกล โดยการไล฽ ระยะใกล-฾ ไกล โดยการไล฽ งานโดยการใช฾ค฽าน้าหนัก ไล฽ค฽าน้าหนกั สคี วาม ระดบั ความอ฽อน-ความแก฽ ระดับความออ฽ น-ความแก฽ แสง-เงาได฾ อ฽อน-แก฽ แสดง ของสีได฾ ของสไี ด฾เลก็ นอ฾ ย -ไม฽มาเรียน ระยะใกล-฾ ไกล ได฾ -ไลน฽ ้าหนักความอ฽อน- -ไล฽นา้ หนกั ความอ฽อน- ถูกตอ฾ ง ความแก฽ ได฾ถกู ตอ฾ งชัดเจน ความแก฽ ไดเ฾ ลก็ น฾อย -รูปแบบช้นิ งานสะอาด -รปู แบบชนิ้ งานสะอาด สวยงามมีความสมบรู ณ์ สวยงาม ด้านจติ พิสยั (A) -เขา฾ ช้ันเรียนมีมง฽ุ มน่ั ในการ -ไมส฽ ฽งงาน -มวี นิ ยั - ทางาน -มงุ฽ ม่นั ในการทางาน -สง฽ งานตามเวลาท่กี าหนด

เกณฑ์การประเมนิ ประเมิน คะแนน ดมี าก 5 ดี 4 พอใช฾ 2-3 10. สื่อ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. ภาพการไล฽คา฽ น้าหนกั สีความออ฽ น-แก฽ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สไี ม฾ - ดินสอ/ยางลบ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ทัศนศิลป฼ กล฽ุมสาระการเรียนร฾ูศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ. 2551 2. Youtube

ใบงาน 2.1 เร่ือง ไลน่ ้าหนกั สเี พอ่ื จดั ระยะภาพ 1. ให้นักเรยี นไลน่ า้ หนักความแก่ – ความอ่อน ของสดี าในชอ่ งทกี่ าหนดให้ 2. ใหน้ กั เรียนสร้างภาพ “ภูเขา” ที่แสดงระยะใกล้ไกล โดยไล่นา้ หนักความแก่ – ความอ่อน 4 - 6 ระดับ ชอื่ ……………………………………………………………………………….เลขท่ี…………………..ชัน้ …………………

แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมือ หน่วยการเรียนรู้ที่………….เรื่อง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาช้แี จง : ใหค฾ รูผู฾สอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลว฾ ใหท฾ าเครอื่ งหมาย  ลงในชอ฽ งทตี่ รงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดบั ท่ี เพือ่ ให้นกั เรียน เพ่ือใหน้ กั เรียน ความม่งุ มนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกการ สามารถไล่คา่ ในการ คะแนน จดั ระยะภาพจาก น้าหนักสีความ ทางาน การไล่ค่านา้ หนักสี อ่อน-แก่ แสดง ระยะใกล้-ไกล ได้ 10 ได้ ถกู ต้อง 2 10 210 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวจิ ติ ราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนชุ แสงทวปี 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเช่ยี ว 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวิรยิ ฐากลุ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อศั วเดชานุกร 7 ด.ญ. ทิพภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทพิ านันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มว฽ งทวี 10 ด.ช. สหรฐั อม่ิ สมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจรญิ ทรพั ย์ 12 ด.ช. กษดิ ์ิดษิ ฎ์ กนั แกว฾ 13 ด.ช. ก฾องภพ กอ฾ นแก฾ว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา มัน่ หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชยั เฉนิ 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชอ่ื ............................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................

แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมอื หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี………….เร่ือง………………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาช้ีแจง : ให฾ครผู ู฾สอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแลว฾ ให฾ทาเคร่อื งหมาย  ลงในชอ฽ งทต่ี รงกับ ระดับคะแนน ลาดบั ที่ ลาดับท่ี เพ่อื ใหน้ ักเรียน เพ่ือให้นักเรยี น ความมุ่งม่นั รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกการ สามารถไล่คา่ ในการ คะแนน จัดระยะภาพจาก น้าหนกั สีความ ทางาน การไลค่ ่าน้าหนกั สี อ่อน-แก่ แสดง ระยะใกล้-ไกล ได้ 10 ได้ ถูกต้อง 2 10 210 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จันทรเ์ จริญ 2 ด.ช. กติ ติภพ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานชุ ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนุสรณ์ แชม฽ สนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทมิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านิชา เรอื งกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกุลทินวัฒน์ 8 ด.ช. ธีรภทั ร ธูปเทยี นรัตน์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แกว฾ มีศรี 10 ด.ช. ภานวุ ัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พชี ญา แก฾วบวั ดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรักษา 14 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 15 ด.ช. ชโยทิต สขุ พศิ ิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพฒั น์ สนั สะกดิ ลงชอ่ื ............................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผูส้ อน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู ความคิดเห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูพ่ีเลยี้ ง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผู้บริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 รหสั วิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทศั นศลิ ป์ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 การเขยี นภาพระบายสีโปสเตอร์ ภาคเรยี นท่ี 2 เรอื่ ง วงจรสี จานวน 1 คาบ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเมือ่ วันท…่ี ……….เดือน……………………….พทุ ธศกั ราช…………. ครผู สู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค฽างานทัศนศิลป฼ ถ฽ายทอดความรู฾สึก ความคิดต฽องานศิลปะอย฽างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใช฾ในชีวติ ประจาวัน 2. ตัวชี้วัด ศ 1.1 ป. 4/5 มที กั ษะพน้ื ฐานในการใชว฾ ัสดุ อุปกรณ์สร฾างสรรค์งานวาดภาพระบายสี 3. สาระสาคญั เพอ่ื ใหเ฾ ขา฾ ใจขบวนการการผสมสจี ากแม฽สี 3 สี ได฾แก฽ สีเหลือง สีน้าเงินและสีแดง จนเกิดเป็นสี ใหมไ฽ ด฾ถกู ตอ฾ งตามขน้ั ตอนวงจรสี สามารถผสมสโี ปสเตอรจ์ ากแม฽สี 3 สี ให฾เกิดเป็นสีใหม฽ แม฽สีถูกนามาใช฾งานกันอย฽างกว฾างขวาง ในวงการศิลปะ แมส฽ ี 3 สี เมือ่ นามาผสมกนั ตามหลักเกณฑ์ จะทาให฾เกิดวงจรสี ซ่ึงมี 12 สี ซึ่งเป็นวง สธี รรมชาติเกดิ จากการผสมกันของแมส฽ วี ตั ถุธาตุ เป็นสีหลกั ทใ่ี ชง฾ านกันท่วั ไป 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) เพ่อื ให฾นกั เรียนสามรถอธบิ ายวงจรสี สีข้ันที่ 1สีขน้ั ท่ี 2 และสีขนั้ ท่ี 3 ได฾ 4.2 ดา้ นทักษะ (P) เพ่อื ใหน฾ ักเรียนสามารถผสมสจี ากแมส฽ ี 3 สี ใหเ฾ กิดวงจรสี ซง่ึ มี 12 สี 4.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เข฾าชน้ั เรยี น, มีความรบั ผดิ ชอบต฽องานที่ไดร฾ ับมอบหมาย)

2) มุง฽ มัน่ ในการทางาน (เอาใจใสต฽ ฽อการปฏิบัตหิ นา฾ ที่ทีไ่ ด฾รบั มอบหมาย, พยายามแกป฾ ญั หาและ อุปสรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 5. สาระการเรียนรู้ ผสมสีจากแมส฽ ี 3 สี จนเกิดเปน็ สีใหม฽ตามวงจรสี ซงึ่ มี 12 สี 6. สมรรถนะที่สาคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตผุ ลในการคิดด฾วยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแกป฾ ัญหาเฉพาะหน฾าได฾ด฾วยตนเอง 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี นิ ัย 7.2 ใฝเุ รยี นร฾ู 7.3 มุง฽ มน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบซิปปา ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกล฽าวทักทายนักเรียน 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ต฾องเรียนในสัปดาห์นใ้ี หน฾ กั เรยี นทราบเกี่ยวกับวงจรสี 8.3 ครูให฾นักเรียนนั่งเปน็ กลม฽ุ โดยให฾น่ังตามกลมุ฽ เดิมเหมอื นกบั กิจกรรมในครั้งแรก มีทั้งหมด 5 กล฽ุม จานวนกลุ฽มละ 3 คน สมาชิกในกลุ฽มประกอบด฾วยนักเรียนท่ีจัดอย฽ูในกลุ฽มเก฽ง ปานกลาง และกลม฽ุ ออ฽ น 8.4 ครูสอบถามนักเรียน “ในวงจรสีมี 12 สี เกิดจากการผสมกันของแม฽สีก่ีสี มีสีอะไรบ฾าง” (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ฾ ยใ฽ู นดุลยพนิ ิจของครผู ฾สู อน) เพ่ือกระต฾ุนให฾ผู฾เรียนรู฾จักคิดและ เปน็ การทบทวนความร฾ูเดิมทเี่ คยไดเ฾ รียนมา เพื่อเชอ่ื มโยงเข฾าสู฽เนือ้ หาความรู฾เก่ยี วกับการวงจรสี ขัน้ สอน (50 นาที) 8.5 ครูให฾นักเรียนหาข฾อมูลในหนังสือเรียนเก่ียวกับขั้นตอนการผสมสี ซึ่งการผสมสีนั้น แบ฽งเปน็ กี่ข้ัน

8.6 ครูให฾นักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับข฾อมูลที่นักเรียนหาได฾ สีขั้นท่ี 1 สีขั้นท่ี 2 และสีข้ันท่ี 3 เม่อื นารวมกนั จะครบ 12 สี พอดซี งึ่ ตามกบั วงจรสีที่มี 12 สี 8.7 จากนัน้ ครใู ห฾นกั เรยี นหาข฾อมลู 12 สที ี่ปรากฏในวงจรสี เกิดจากการผสมกันทีละขั้นอย฽างไร โดยใหจ฾ ดลงในกระดาษ 8.8 สมาชกิ แต฽ละคนในกล฽ุมผลัดกันเสนอคาตอบของตนเองให฾เพื่อนในกลุ฽มฟัง แล฾วซักถามข฾อ สงสัย จนทุกคนในกลุ฽มมคี วามรค฾ู วามเขา฾ ใจทีถ่ ูกตอ฾ งตรงกัน 8.9 ครูให฾ตัวแทนนักเรียนแตล฽ ะกล฽มุ นาเสนอคาตอบหน฾าชน้ั เรยี นและแสดงความคิดเหน็ ร฽วมกัน 8.10 ครูแจกใบความรู฾ให฾นักเรียนพร฾อมเปิดคลิปวิดีโอข้ันตอนการผสมสีตามวงจรสีให฾ นักเรยี นดู คลิปวิดโี อขั้นตอนการผสมสี (วงจรสี) ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=AWmW6xZZkKw&t=130s - สขี ้นั ที่ 1 หรือแม฽สี ไดแ฾ ก฽ สเี หลอื ง สีแดง สนี า้ เงิน - สีขน้ั ที่ 2 เกิดจากการนาแม฽สีหรอื สขี ัน้ ท่ี 1 มาผสมกนั ดงั น้ี สนี า้ เงนิ + สเี หลอื ง = สีเขยี ว, สแี ดง + สีน้าเงิน = สมี ฽วง สีเหลือง + สแี ดง = สีส฾ม - สีขนั้ ที่ 3 เกดิ จากการนาสขี น้ั ที่ 2 มาผสมกบั แม฽สีหรือขั้นที่ 1 ดังน้ี สีเหลือง + สสี ม฾ = สีเหลืองสม฾ , สีสม฾ + สีแดง = สีส฾มแดง, สีแดง + สีม฽วง = สีม฽วง แดง, สีม฽วง + สนี า้ เงนิ = สมี ฽วงน้าเงิน,

สีข้ันท่ี 1 สีข้นั ที่ 2 สีข้นั ท่ี 3 ทมี่ า : https://cities.trueid.net/article/สีวรรณะอุ฽น-สวี รรณะสีเยน็ -trueidintrend_85947 ขนั้ ตอนการผสมสี ที่มา : https://sites.google.com/site/punpundddd/wngcr 8.11 ครใู หน฾ กั เรยี นทากิจกรรมใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง วงจรสี โดยให฾นกั เรียนผสมสีข้ันท่ี 1 สีขั้นท่ี 2 และสขี น้ั ท่ี 3 ใหเ฾ สรจ็ สมบรู ณ์ 8.12 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถาม จากนั้นให฾นักเรียนทากิจกรรมและครูคอยเดินดูและให฾ คาแนะนา 8.13 ครูให฾สุ฽มนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน฾าชั้นเรียน พร฾อมบอกปัญหาท่ีพบขณะ ปฏบิ ัติงาน 8.14 ครูให฾นักเรียนหาข฾อมูลวงจรสีสามารถทาอะไรได฾บ฾างในทางศิลปะ พร฾อมยกตัวอย฽าง ประกอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ฾ ยใู฽ นดุลยพินจิ ของครผู ฾สู อน) ข้นั สรุป (5 นาท)ี ครูและนกั เรยี นสรปุ เนื้อหาเร่อื ง “วงจรสี” ร฽วมกัน “วงจรสีมีทั้งหมด 12 สีเกิดจากการผสมกัน ของแม฽สีสีข้ันท่ี 1 สขี ้ันท่ี 2 และสีข้ันที่ 3” จากน้นั ให฾นกั เรียนเก็บอปุ กรณใ์ หเ฾ รียบร฾อย

9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 เรอ่ื ง วงจรสี (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - -นักเรียนอธิบาย -นกั เรียนอธิบาย -นั ก เ รี ย น -ไม฽ (K) วงจรสี สีขั้นที่ 1 วงจรสี สีขั้นที่ 1 อธิบายวงจรสี สามารถ -เพื่อให฾นักเรียน สีข้ันที่ 2 และสี สีข้ันท่ี 2 และสี สีขั้นที่ 1สีข้ันท่ี บอกได฾ ส า ม ร ถ อ ธิ บ า ย วงจรสี สีข้ันท่ี 1 ขั้ น ท่ี 3 ไ ด฾ ข้ั น ท่ี 3 ไ ด฾ 2 และสีข้ันที่ 3 -ไม฽มา สีขั้นท่ี 2 และสี ถูกต฾องทั้งหมด ถูกต฾อง 2 ชั้น ไ ด฾ ถู ก ต฾ อ ง 1 เรยี น ท้งั 3 ขั้น จาก 3 ขน้ั ชนั้ จาก 3 ขนั้ ข้ันที่ 3 ได฾ ด้านทกั ษะ -สามารถผสมสี -สามารถผสมสี -สามารถผสมสี -สามารถผสมสี -สามารถผสมสี -ไมส฽ ง฽ (P) จากแม฽สีขั้นท่ี 1 จากแม฽สีข้ันท่ี 1 จากแม฽สีขั้นที่ 1 จากแม฽สีขั้นที่ 1 จากแมส฽ ขี ้นั ที่ 1 งาน -เพื่อให฾นักเรียน ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีข้ัน ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีขั้น -ไมม฽ า สามารถผสมสี ท่ี 2 ได฾ถูกต฾อง ที่ 2 ได฾ถูกต฾อง ที่ 2 ได฾ถูกต฾อง ท่ี 2 ได฾ถูกต฾อง ท่ี 2 ได฾ถูกต฾อง เรยี น จากแม฽สี 3 สี และเกิดเป็นสี และเกิดเป็นสี และเกิดเป็นสี และเกิดเป็นสี และเกิดเป็นสี ให฾เกิด 12 สี ใหม฽ ใหม฽ ใหม฽ ใหม฽ ใหม฽ ตามวงจรสีได฾ -น า สี ขั้ น ท่ี 2 -น า สี ขั้ น ท่ี 2 -น า สี ข้ั น ที่ 2 -น า สี ขั้ น ที่ 2 -น า สี ข้ั น ท่ี 2 ผสมกับข้ันท่ี 1 ผสมกับข้ันท่ี 1 ผสมกับขั้นท่ี 1 ผสมกับข้ันที่ 1 ผสมกับข้ันท่ี 1 ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีข้ัน ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีขั้น ให฾เกิดเป็นสีขั้น ที่ 3 ได฾ถูกต฾อง ที่ 3 ได฾ถูกต฾อง ท่ี 3 ได฾ถูกต฾อง ที่ 3 ได฾ถูกต฾อง ที่ 3 ได฾ถูกต฾อง แล ะ สี มี ค ว า ม แ ต฽ สี มี ค ว า ม แ ต฽ สี มี ค ว า ม แ ต฽ สี มี ค ว า ม แ ต฽ สี มี ค ว า ม แ ต ก ต฽ า ง กั น แ ต ก ต฽ า ง กั น แ ต ก ต฽ า ง กั น แ ต ก ต฽ า ง กั น แ ต ก ต฽ า ง กั น ชัดเจนทั้ง 12 สี เพียง 10-11 สี เพียง 7-9 สีจาก เพียง 4-6 สีจาก เพียง 1-3 สี -รูปแบบผลงาน จาก 12 สี 12 สี 12 สี จาก 12 สี ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รปู แบบผลงาน เ รี ย บ ร฾ อ ย ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด สมบูรณ์ เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เรียบร฾อยแต฽ไม฽ เรียบร฾อยแต฽ไม฽ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบูรณ์ ด้านจิตพิสัย - - - -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น -เข฾าช้ั นเรีย น ไม฽เข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม ช้นั -มีวินยั มุ฽ ง มั่ น ใ น ก า ร ม฽ุง มั่ นใน กา ร เรยี น -มุ฽งมั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน

เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน ประเมนิ 9 - 10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง น฾อย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ 1. วงจรสี 2. ใบความรู฾ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สโี ปสเตอร์/พูก฽ นั /ถาดสี/กระบอกเติมนา้ /ผ฾ากนั เปื้อน - ดินสอ/ยางลบ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ทัศนศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรียนร฾ูศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinteres 3. Youtube

ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง วงจรสี คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นผสมสตี ามวงจรสีใหถ้ ูกต้อง วงจรสี ชือ่ ……………………………………………..นามสกุล………………………………….เลขท…ี่ …………ชัน้ ……………

วงจรสี มีทง้ั หมด 12 สี มี 3 ขัน้ ดังน้ี สขี ้ันที่ 1 (Primary Color) แม฽สีเป็นสที ่มี ีเน้อื สีแท฾อยใ฽ู นตวั ซ่ึงมี 3 สี ได฾แก฽ สีเหลือง สีแดงและสีน้าเงิน ซึ่งจะไม฽สามารถจะ นาสอี ื่นๆ มาผสม เพือ่ ทาให฾เกดิ สที ั้งสามขน้ึ ได฾ บางคร้งั กเ็ รียกสีขน้ั ท่ี 1 นี้วา฽ “แม฽สี” สขี ้ันที่ 2 (Secondary Color) สี่เกิดจากการผสมกันของสีข้ันท่ี 1 แต฽ละสีในอัตราส฽วนท่ีเท฽ากัน ทาให฾เกสีผมเพ่ิมขึ้นมาอีก 3 สามสี ได฾แก฽ สสี ม฾ สเี ขยี วและสมี ฽วง += += += สขี ั้นท่ี 3 (Tertiary Color) เป็นสีที่เกดิ จากเปน็ สีท่ีเกดิ จากผสมกนั ของสขี ้นั ที่ 1 กบั ข้ันที่ 2 ในอตั ราสว฽ นท่เี ท฽ากนั ทาให฾เกดิ สผี สมเพมิ่ ขน้ึ มาอกี 6 สี ไดแ฾ ก฽ สสี ฾มเหลือง สีสม฾ แดง สีมว฽ งแดง สมี ว฽ งน้าเงนิ สีน้าเงินเขยี วและสเี ขียว เหลอื ง += += += += += +=

แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมอื หน่วยการเรียนรูท้ ่ี………….เร่อื ง……………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาช้ีแจง : ใหค฾ รูผู฾สอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแลว฾ ใหท฾ าเคร่อื งหมาย  ลงในช฽องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี เพอื่ ใหน้ ักเรยี น เพื่อใหน้ กั เรียน ความมุ่งมนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามรถอธบิ าย สามารถผสมสี ในการ คะแนน วงจรสี สขี ้ันท่ี 1สี จากแม่สี 3 สี ให้ ทางาน ขน้ั ท่ี 2 และสขี ้ันที่ เกิด 12 สีตาม 10 3 ได้ วงจรสีได้ 2 10 210 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจิตราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป 3 ด.ญ. พรี ดา ชาญเช่ยี ว 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากลุ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อศั วเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อัครเดช มว฽ งทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อ่มิ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรพั ย์ 12 ด.ช. กษิดด์ิ ิษฎ์ กันแกว฾ 13 ด.ช. ก฾องภพ ก฾อนแก฾ว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มีจาด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่ันหมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉนิ 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) . ................../................../................

แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่ือง……………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาชีแ้ จง : ให฾ครูผ฾ูสอนประเมินใบงานของนักเรียนแล฾วให฾ทาเคร่อื งหมาย  ลงในชอ฽ งทต่ี รงกับ ระดับคะแนน ลาดบั ที่ ลาดบั ท่ี เพื่อใหน้ ักเรยี น เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น ความมงุ่ มน่ั รวม 10 ชอ่ื – สกลุ สามรถอธิบาย สามารถผสมสี ในการ คะแนน วงจรสี สีขนั้ ท่ี 1สี จากแม่สี 3 สี ให้ ทางาน ขั้นที่ 2 และสีขน้ั ท่ี เกดิ 12 สตี าม 10 3 ได้ วงจรสีได้ 2 10 210 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จันทร์เจริญ 2 ด.ช. กติ ติภพ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานุช ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนุสรณ์ แชม฽ สนทิ 5 ด.ญ. จันทร์ทมิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านชิ า เรืองกล่ัน 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกุลทินวฒั น์ 8 ด.ช. ธีรภทั ร ธูปเทียนรตั น์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แก฾วมีศรี 10 ด.ช. ภานุวชั ร์ ศาลา 11 ด.ญ. พชี ญา แก฾วบวั ดี 12 ด.ญ. รนิ รดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรักษา 14 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 15 ด.ช. ชโยทิต สขุ พศิ ษิ ฐ์ 16 ด.ช. พรี ะพฒั น์ สันสะกิด ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพี่เล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพิเศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 รหสั วชิ า 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทศั นศลิ ป์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การเขียนภาพระบายสโี ปสเตอร์ ภาคเรียนท่ี 2 เร่อื ง การไล่คา่ นา้ หนกั สีผสมดา จานวน 1 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมื่อ วันท…ี่ ……….เดือน……………………….พทุ ธศกั ราช…………. ครผู ู้สอน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค฽างานทัศนศิลป฼ ถ฽ายทอดความรู฾สึก ความคิดต฽องานศิลปะอย฽างอิสระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ช฾ในชีวติ ประจาวัน 2. ตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ป. 4/5 มที ักษะพื้นฐานในการใช฾วสั ดุ อปุ กรณ์สร฾างสรรค์งานวาดภาพระบายสี 3. สาระสาคัญ เพอื่ ใหเ฾ ขา฾ ใจขบวนการการระบายสีด฾วยค฽าน้าหนักสีผสมดา และสามารถบอกค฽าน้าหนักสีผสม ดาไดถ฾ ูกตอ฾ งตามหลกั การการไลส฽ ี ซงึ่ เฉดสีการผสมขาวจะมีความอ฽อน – เข฾ม แตกต฽างกัน ทาให฾เกิด เฉดสหี ลายสี สามารถผสมสี ค฽าน้าหนักสีผสมขาวและไล฽ค฽าน้าหนักผสมดามีความแตกต฽างกันชัดเจนใน แตร฽ ะดับสี ซ่ึงจะไล฽ค฽านา้ หนักจากอ฽อนไปเขม฾ เพราะคา฽ นา้ หนักสีผสมดาเปน็ การเติมสีดาในอัตราส฽วน 20 % ลงในสแี ท฾ (Hue) จากนัน้ ผสมกนั แลว฾ ใหร฾ ะบายลงในกระดาษ จากน้ันให฾เติมสีดาในอัตราส฽วน 20 % ลงในสเี ดิมอีกครัง้ ผสมให฾เข฾ากันจากน้ันนาไประบายลงในกระดาษเพ่ือไล฽ระดับสี สามารถเติม สีดาและระบายเช฽นน้ีไปเรื่อยๆ ได฾ โดยระดับน้าหนักความเข฾มที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได฾ชัดอย฽ูใน ระดบั 3 - 6 ระดบั และจะปรากฏค฽าน้าหนักความอ฽อน-เข฾ม 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) เพอ่ื ให฾นกั เรยี นสามารถบอกค฽าน้าหนักสผี สมดาได฾

4.2 ดา้ นทกั ษะ (P) เพือ่ ให฾นักเรยี นสามารถผสมสีไลค฽ า฽ นา้ หนกั สผี สมสีดาได฾ 4.3 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เข฾าชนั้ เรียน, มคี วามรบั ผิดชอบต฽องานท่ไี ด฾รบั มอบหมาย) 2) มุง฽ ม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏบิ ตั ิหนา฾ ทท่ี ไ่ี ดร฾ บั มอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหส฾ าเรจ็ ) 5. สาระการเรียนรู้ การผสมสี คา฽ น้าหนักสผี สมดาจนเกิดเปน็ เฉดสหี ลายสี 6. สมรรถนะท่สี าคัญ 6.1 ความสามารถในการคิดอย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตผุ ลในการคิดดว฾ ยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแก฾ปญั หาเฉพาะหน฾าไดด฾ ว฾ ยตนเอง 7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มวี นิ ัย 7.2 ใฝุเรียนร฾ู 7.3 มุง฽ ม่นั ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 8. กระบวนการการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบซิปปา ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครูกลา฽ วทักทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายส่งิ ที่ตอ฾ งเรียนในสัปดาห์น้ีให฾นักเรยี นทราบเกยี่ วกับการไล฽คา฽ นา้ หนกั สีผสมดา 8.3 ครใู หน฾ ักเรียนนั่งเปน็ กลุม฽ โดยให฾นั่งตามกลุม฽ เดิมเหมอื นกบั กิจกรรมในครั้งแรก มีท้ังหมด 5 กล฽ุม จานวนกลุ฽มละ 3 คน สมาชิกในกล฽ุมประกอบด฾วยนักเรียนที่จัดอยู฽ในกลุ฽มเก฽ง ปานกลาง และกลมุ฽ อ฽อน ขัน้ ที่ 1 การทบทวนความรเู้ ดมิ 8.4 ครูสอบถามนักเรียน “หากนาสีดามาผสมกับสีใดสีหนึ่ง จะทาให฾สีน้ันมีลักษณะอย฽างไร” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อยูใ฽ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู฾สอน) เพ่ือกระตุ฾นให฾ผู฾เรียนรู฾จักคิดและ เปน็ การทบทวนความรเ฾ู ดมิ ที่เคยได฾เรยี นมา เพ่ือเชื่อมโยงเข฾าส฽ูเน้ือหาความรู฾เก่ียวกับการเขียนการไล฽ค฽า นา้ หนกั สีผสมดา

ขนั้ สอน (50 นาที) ขั้นที่ 2 การแสวงหาความร้ใู หม่ 8.5 ครูใหน฾ กั เรียนดูวงจรสีที่ไลค฽ ฽านา้ หนกั สีผสมดาแสดงเฉดสีหลายเฉดสี 8.6 ครูแจกใบความร฾แู ลว฾ ใหน฾ ักเรยี นอา฽ นเพ่ือทาความเข฾าใจในส฽วนของค฽าน้าหนักสีผสมดา คือ อะไร ภาพที่ 1 : วงจรสี ไลค฽ ฽านา้ หนักสีผสมดา ท่มี า : วภิ าพร ทิพราช ข้ันที่ 3 การศึกษาทาความเข้าใจข้อมลู /ความรู้ใหม่ และเชือ่ มโยงความรู้ใหมก่ บั ความรู้เดิม 8.7 ครใู ห฾นกั เรียนตอบคาถามเมือ่ นาสีดามาผสมกับสีใดสีหน่ึงสีน้ันจะเปล่ียนค฽าสีให฾เข฾มขึ้นจาก เดมิ เน่อื งจากเป็นสที ี่เข฾มทีส่ ุด ข้นั ที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกบั กลุ่ม 8.8 จากน้นั ครใู หน฾ ักเรียนแต฽ละกลมุ฽ ทดลองใช฾สีชอรก์ โดยเลือกสีใดสีหนึ่งระบายลงในกระดาษ แลว฾ ใชส฾ ีดาทาทบั ลงไปโดยค฽อยๆ ออกแรงกดสไี ลร฽ ะดับสขี ้นึ ไป จากนัน้ ใหน฾ ักเรียนสังเกตคา฽ นา้ หนกั สี 8.9 สมาชิกแต฽ละคนในกลุ฽มผลัดกันเสนอคาตอบของตนเองให฾เพ่ือนในกลุ฽มฟัง แล฾วซักถามข฾อ สงสัย จนทุกคนในกลุ฽มมีความรู฾ความเข฾าใจท่ีถูกตอ฾ งตรงกัน 8.8 ครใู ห฾ตัวแทนนกั เรยี นแตล฽ ะกล฽ุมนาเสนอคาตอบหน฾าช้นั เรยี นและแสดงความคดิ เหน็ รว฽ มกนั ขั้นท่ี 5 การสรปุ และจัดระเบยี บความรู้ 8.9 ครอู ธบิ าย สดี า เปน็ สที ี่มคี วามเขม฾ ที่สดุ สแี ท฾ (Hue) คอื สีท่ีมีความเข฾มในตัวของมันอย฽ูแล฾ว โดยท่ยี งั ไมถ฽ กู ผสมกบั สดี าหรอื สขี าว เมอื่ นาสดี ามาผสมกบั สีแทจ฾ ะทาให฾สแี ทเ฾ ขม฾ ข้นึ 8.10 ครูเปิดคลิปวิดีโอการไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมดาให฾นักเรียนดูและอธิบายสีดาจะเพ่ิมความสด ของสีใหเ฾ ข฾มมากกวา฽ สีหลกั

การไล่คา่ น้าหนกั สีผสมดา ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=8floF4MmAGc 8.11 ครูสาธิตและอธิบายการไล฽ค฽านา้ หนักสผี สมดา ยกตัวอยา฽ งสสี ฾มใหน฾ ักเรยี นดู  วัสดุ อปุ กรณ์ - ถาดสี - กระบอกเติมน้า - สีโปสเตอร์แมส฽ ี 3 สี - สดี า - พู฽กัน - กระดาษ - เศษผ฾า - ผ฾ากนั เปือ้ น - เทปกาวกันนา้ การระบายสีควรระบายสีให฾ระบายไปในทศิ ทางเดียวกนั หรือปาดซา฾ ย-ขวา ไปมา ไม฽ควรนาพ฽ูกัน จุ฽มน้าขณะระบายสีเดิมอยู฽เพราะจะทาให฾สีเพี้ยนสีสีด฽าง ไม฽ควรปวดสีตัดกันไปมาเพราะจะทาให฾สีเกิด เสน฾ ตัดกันและสีไม฽สม่าเสมอกัน  ขัน้ ตอนการไลค่ ่านา้ หนกั สผี สมดา ยกตัวอยา฽ งสีส฾ม 1. ให฾นาเทปกาวกันนา้ ตดิ ขอบรอบนอกส่เี หลย่ี ม 2. ผสมสีส฾ม และระบายลงในชอ฽ งส่เี หล่ียมช฽องที่ 1 3. เติมสีดาอตั ราส฽วน 20 % ลงในถาดสสี ม฾ คนให฾เข฾ากนั 4. นาสที ่ีผสมแล฾วมาระบายลงในชอ฽ งสีเ่ หล่ยี มชอ฽ งที่ 2 5. ให฾ทาเช฽นน้ีจนครบทกุ ชอ฽ ง ให฾นักเรียนสังเกตความแตกต฽างของสีในแต฽ละระดับ สีดาจะเพิ่มความสดของสีให฾ มากกว฽าสีหลัก ระดับน้าหนักความเข฾มที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได฾ชัดอยู฽ในต้ังแต฽ 3 - 6 ระดับ ค่านา้ หนักสผี สมดา ท่ีมา : วภิ าพร ทิพราช

ขน้ั ท่ี 6 การปฏบิ ตั ิ และ/หรือการแสดงผลงาน 8.12 ครูให฾นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.2 เรื่อง การไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมดา โดยให฾นักเรียน เลอื กสีเพยี ง 1 สี จากนนั้ ผสมสี ไลค฽ า฽ น้าหนักสีผสมดาลงในชอ฽ งสเี หลี่ยมท่ีกาหนดให฾ 8.13 ครเู ปิดโอกาสให฾นักเรยี นซกั ถามขอ฾ สงสัย จากนนั้ ให฾นักเรียนทากิจกรรมและครูคอยเดินดู และให฾คาแนะนา 8.14 ครูให฾สุ฽มนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน฾าช้ันเรียน พร฾อมบอกปัญหาท่ีพบขณะ ปฏิบัติงาน ขั้นที่ 7 การประยุกต์ใชค้ วามรู้ 8.15 ครูให฾นักเรียนหาข฾อมูลการไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมดาสามารถนามาสร฾างงานทัศนศิลป฼ได฾ หรือไม฽ พร฾อมยกตัวอย฽างประกอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของ ครผู สู฾ อน) ขนั้ สรุป (5 นาท)ี 8.16 ครูและนกั เรยี นร฽วมกันสรุปเนอ้ื หาเรอ่ื ง “การไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมดา” ร฽วมกัน “การไล฽ค฽า น้าหนักสีผสมดา เป็นการผสมสีดากับสีแท฾ (Hue) สีดาจะเพ่ิมความสดของสีให฾เข฾มมากกว฽าสีหลัก” จากนั้นใหน฾ ักเรียนเก็บอปุ กรณ์ให฾เรียบร฾อย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 เร่อื ง การไล฽คา฽ น้าหนกั สผี สมดา (10 คะแนน ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -ไม฽ (K) ค฽านา้ หนกั สผี สม คา฽ นา้ หนกั สีผสม ค฽ า น้ า ห นั ก สี สามารถ -เพื่อให฾นักเรียน ดาถูกต฾อง ทุก ดาถูกต฾อง 2 ข฾อ ผสมดาถูกต฾อง บอกได฾ สามารถบอกค฽า ขอ฾ จาก 3 ข฾อ จาก 3 ข฾อ 1 ขอ฾ จาก 3 ขอ฾ -ไม฽มา น้าหนักสีผสมดา ได฾ เรยี น ดา้ นทกั ษะ -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -ไม฽ส฽ง งาน (P) นา้ หนกั สผี สมดา นา้ หนกั สผี สมดา นา้ หนักสผี สมดา นา้ หนกั สผี สมดา น้าหนักสีผสม -ไม฽มา เรยี น -เพ่ือให฾นักเรียน เ ห็ น ร ะ ดั บ เ ห็ น ร ะ ดั บ เ ห็ น ร ะ ดั บ เ ห็ น ร ะ ดั บ ดา เห็นระดับ สามารถผสมสี น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าหนักความ ไล฽ค฽าน้าหนักสี เ ข฾ ม เ ข฾ ม เ ข฾ ม เ ข฾ ม เ ข฾ ม ผสมสีดาได฾ เปล่ียนแปลงทุก เปลี่ยนแปลง 5 เปลี่ยนแปลง 4 เปลี่ยนแปลง 3 เปลี่ยนแปล ง ร ะ ดั บ จ า ก ร ะ ดั บ จ า ก ร ะ ดั บ จ า ก ร ะ ดั บ จ า ก 1-2 ระดับ จาก 6 ระดบั 6 ระดบั 6 ระดบั 6 ระดบั 6 ระดับ

-ก ร ะ ด า ษ ไ ม฽ -ก ร ะ ด า ษ ไ ม฽ -กระดาษเป็นขุย -กระดาษเปน็ ขุย -ก ร ะ ด า ษ เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ เ ล็ ก น฾ อ ย แ ต฽ เลก็ น฾อยและ เป็นขุยจานวน สีไม฽ชา้ สีไมช฽ ้า สีไมช฽ ้า สชี า้ เล็กนอ฾ ย มากและสีช้า -สีไม฽กระจายใน -สีไม฽กระจายใน -สีไม฽กระจายใน -สีกระจายลงใน มาก ช฽องระดับสีอ่ืน ชอ฽ งระดบั สอี นื่ ช฽องระดบั สอี ่นื ช฽องระดับสอี ่นื -สีกระจายลง -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ในช฽องระดับสี ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด อืน่ จานวนมาก เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เรียบร฾อย แต฽ไม฽ -รปู แบบผลงาน สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สะอาด แต฽ไม฽ สมบรู ณ์ ดา้ นจติ พิสยั - - - -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น -เข฾าชั้ นเรีย น ไมเ฽ ข฾า (A) ชน้ั -มวี ินัย แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม เรยี น -มง฽ุ มนั่ ในการ ทางาน ม฽ุ ง มั่ น ใ น ก า ร ม฽ุง มั่ นใน กา ร ทางาน ทางาน เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง น฾อย 10. สื่อ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. วงจรสี คา฽ นา้ หนกั สผี สมดา 2. ใบความรู฾ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สีโปสเตอร์/พกู฽ ัน/ถาดสี/กระบอกเตมิ น้า/ผ฾ากันเปือ้ น - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ทัศนศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรียนรู฾ศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พ.ศ. 2551

2. เวบ็ Pinteres 3. Youtube

ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การไล่คา่ นา้ หนักสีผสมดา ตอนท่ี 1 คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเติมเคร่อื งหมาย  หรือ  ลงใน  ใหถ้ กู ตอ้ ง 1. การไล฽คา฽ นา้ หนักสผี สมดาให฾เติมสีดาอตั ราส฽วน 30 % 2. ระดบั น้าหนกั ความเข฾มท่เี ห็นความเปล่ยี นแปลงไดช฾ ดั อยู฽ในระดบั 3 - 6 ระดับ 3. จากภาพเปน็ การไล฽ค฽านา้ หนกั สี ผสมดา ตอนที่ 2 คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นเลือกสแี ท้ (Hue) 1 สี จากนน้ั ไล่ค่านา้ หนกั สี ผสมดา ให้มีน้าหนักความ เข้มขึน้ เห็นความเปลยี่ นแปลงทุกระดบั ช่อื ……………………………………………..นามสกลุ ………………………………….เลขท…่ี …………ชั้น……………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook