Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2

การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2

Published by Wipaphorn Tipparach, 2021-03-19 07:03:18

Description: วิภาพร ทิพราช 5911011030001
สาขาศิลปศึกษา

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 6 รหัสวิชา 21101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 การออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์และงานกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 2 เรื่อง ประเภทรปู ภาพสญั ลักษณ์ (Logo) จานวน 1 คาบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเมอ่ื วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา฽ งานทัศนศิลป฼ ถา฽ ยทอดความร฾สู กึ ความคดิ ตอ฽ งานศิลปะอย฽างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ฾ นชีวิตประจาวัน 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ม. 1/5 ออกแบบรูปภาพ สัญลกั ษณ์หรือกราฟกิ อืน่ ๆ ในการนาเสนอความคิด และข฾อมลู 3. สาระสาคญั เพ่ือให฾บอกเหตุผลในการออกแบบสัญลักษณ์ (Logo) เพ่ือใช฾ในการสื่อสารในลักษณะ ต฽างๆ เหตุการณ์ต฽างๆ ซึ่งสิ่งที่นักออกแบบได฾ออกแบบข้ึนมา เพื่อส่ือความหมายให฾มนุษย์เข฾าใจ รว฽ มกนั ในสังคม รูปภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ สร฾างข้ึนเพื่อใช฾ในการสื่อสารให฾ผู฾พบ เห็นเข฾าใจความหมายของสัญลักษณ์น้ันในทันที ซึ่งภาพสัญลักษณ์มีหลากหลายรูปแบบหลาย ประเภท อีกทั้งสัญลักษณย์ ังมีการออกแบบท้งั รูปแบบภาพและรูปแบบตัวหนงั สือ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่อื ใหน฾ กั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของสญั ลกั ษณ์ (Logo) ได฾

4.2 ดา้ นทกั ษะ (P) - เพอื่ ใหน฾ ักเรยี นสามารถรจ฾ู ักหลักการในการวาดสัญลักษณ์ (Logo) ได฾ 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เขา฾ ชน้ั เรยี น, มีความรับผดิ ชอบต฽องานท่ไี ดร฾ ับมอบหมาย) 2) มุ฽งมั่นในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าที่ที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 5. สาระการเรยี นรู้ ประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) เพื่อใช฾ในการสื่อสาร 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อยา฽ งสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ แยกแยะไดด฾ ฾วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรยี นร฾ู 7.3 มงุ฽ มน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกล฽าวทักทายนักเรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสิง่ ที่ตอ฾ งเรียนในสัปดาห์นใี้ หน฾ ักเรียนทราบ “ประเภทรปู ภาพสญั ลกั ษณ์ (Logo)” 8.3 ครูสอบถามนกั เรยี น “นักเรยี นลองยกตัวอย฽างสัญลักษณ์หรือโลโก฾ที่นักเรียนร฾ูจักมา 1 อย฽าง พร฾อมอธิบายเหตใุ ดถึงเลือกผลงานชิ้นน้ัน” เพ่ือกระตุ฾นให฾ผ฾ูเรียนเชื่อมโยงเข฾าสู฽เนื้อหาความรู฾เก่ียวกับ ประเภทรูปภาพสญั ลกั ษณ์ (Logo) ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูอธบิ ายหลักการออกแบบสญั ลกั ษณ์ (Logo) ใหน฾ ักเรียนฟัง

 การออกแบบรปู ภาพมหี ลกั การอะไรบ้าง 1) เรื่องและแนวความคิด : คือท่ีมาของความคิดท่ีจะออกแบบ อาจมาจากธรรมชาติหรือ ข฾อกาหนดของการออกแบบ 2) ทัศนธาตุและเทคนิควิธีการ : การใช฾จุด เส฾น สี น้าหนัก พ้ืนผิวและเทคนิคต฽างๆ ในการสร฾างสรรค์ 3) หลักและทฤษฎีองค์ประกอบศิลป฼ : จะช฽วยให฾การสร฾างสรรค์งานออกแบบ มีความงาม 4) คุณค฽าทางความงามของงานออกแบบ เป็นผลสัมฤทธ์ิท่ีเกิดข้ึนและมีผลต฽อผู฾ชม และสงั คม  การออกแบบรปู ภาพมีอะไรบา้ ง 1. การออกแบบรปู ภาพ แบง฽ ออกไดด฾ ังน้ี 1.1. การออกแบบรูปภาพด฾วยจุด จุดเป็นองค์ประกอบหน่ึงของทัศนธาตุ ทสี่ ามารถนามาสร฾างภาพไดท฾ ุกรปู แบบ 1.2. การออกแบบรปู ภาพด฾วยเส฾น เส฾นมหี ลายลกั ษณะและทาใหเ฾ กดิ ความรู฾สกึ ทหี่ ลากหลายตอ฽ ผ฾ูพบเห็น 2. การออกแบบสัญลักษณ์ ความหมายของสัญลักษณ์ คือ ส่ิงทนี่ ักออกแบบได฾ออกแบบขน้ึ มาเพอื่ ส่อื ความหมายใหม฾ นุษยเ์ ข฾าใจรว฽ มกันในสงั คม ได฾แก฽ 1. เครอื่ งหมายจราจร ทม่ี า : http://www.logahead.com/wp-content/uploads/2017/01/Traffic_Signs.jpg

2. เครือ่ งหมายของสถาบัน สมาคม มูลนิธิ หรือกล฽ุมกิจกรรมตา฽ งๆ ท่มี าภาพที่ 2 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/0hzHPYXH4QfJFfqqWbRz3gPn- 0P46axXb7J8vH_es3Yx82J6_kZ_M6tiGZeGdkBLD9nAHWBtA06cdxEnJvEnnKAd 3. เครือ่ งหมายบรษิ ัท ท่มี า : https://www.design365days.com/UploadFile/Blog/blog_1309772292.jpg 4. เครือ่ งหมายสถานท่ี ทีม่ าภาพที่ 1 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/YYxJqyOipqJMSk1RNTLN1qtj- jqTQ623LNEsgLwCCbCSbKUjVSFtCrqt4izC_fa9KrcImQ6Jk6WlztnmSY9_uEq9VQkAwniK- rV9rpQLc4uVz5XaEIU ที่มาภาพที่ 2 : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSQQrt1_XML7s67-qEf2g d84D0wPVJiXAV-wg&usqp=CAU

5. เครอ่ื งหมายแสดงกจิ กรรมตา฽ งๆ ท่มี าภาพท่ี 1 : https://f.ptcdn.info/894/069/000/qcbfmt575Yz7sG09mv7-o.jpg ท่มี าภาพที่ 2 : https://i.pinimg.com/originals/02/10/d4/0210d46b2d589b43f9772621 84630061.jpg 8.5 ครูใหน฾ กั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง ประเภทรูปภาพสญั ลักษณ์ (Logo) 8.6 ครูเปดิ โอกาสให฾นักเรียนซกั ถามข฾อสงสยั จากน้ันนักเรยี นลงมือปฏบิ ตั งิ าน ครูคอยเดนิ ดูและ ใหค฾ าแนะนา ข้นั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหาความร฾ู “รปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลาย ประเภท ซึ่งผู฾ออกแบบได฾ออกแบบเพื่อใช฾ในการส่ือสารในด฾านต฽างๆ” จากนั้นนักเรียนเก็บอุปกรณ์ ให฾เรยี บร฾อย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ประเภทรปู ภาพสัญลกั ษณ์ (Logo) (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽ -เพือ่ ให฾นักเรียน สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย ส า ม า ร ถ อธิบาย ความหมายของ ค ว า ม ห ม า ย ค ว า ม ห ม า ย อ ธิ บ า ย -ไมม฽ า สั ญ ลั ก ษ ณ์ ของสัญลักษณ์ ของสัญลักษณ์ ค ว า ม ห ม า ย เรียน (Logo) ได฾ (Logo) ได฾ (Logo) ได฾ผิด ของสัญลักษณ์ ร ะ ดั บ ดี ม า ก ถู ก บ฾ า ง บ า ง (Logo) ได฾ผิด แ ล ะ ต ร ง ประเดน็ คาถาม ถูกบ฾างหลาย ประเด็นคาถาม ป ร ะ เ ด็ น คาถาม

ดา้ นทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽สง฽ (P) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ งาน -เพื่อให฾นักเรียน วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ -ไม฽ ส า ม า ร ถ รู฾ จั ก ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม มา หลักการในการ แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบที่นักเรียน เรยี น วาดสัญลักษณ์ ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห าม าได฾ ตร ง (Logo) ได฾ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต฾นฉบับ ต฾ น ฉ บั บ ต฾ น ฉ บั บ ต฾นฉบับแต฽วาด ต฾นฉบับแต฽วาด องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพไม฽ครบ ในภาพไม฽ครบ สว฽ น ส฽วน สว฽ น บ า ง ส฽ ว น ห ล า ย ส฽ ว น -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สั ญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลักษณ์ได฾ สวยงาม สวยงาม สวยงามระดับ สวยงามระดับ ส ว ย ง า ม -ภ า พ -ภ า พ ปานกลาง เล็กนอ฾ ย เล็กนอ฾ ย สัญลักษ ณ์ไ ม฽ สัญลักษณ์เอน -ภ า พ -ภ า พ -ภ า พ เอนเอียงหรือ เอียง ห รือบิด สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน บิดเบ้ียวไปใน เ บ้ี ย ว ไ ป ใ น เอียง ห รือบิด เอียง ห รือบิด เอียงบิดเบ้ียว ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด เ บี้ ย ว ไ ป ใ น เ บ้ี ย ว ไ ป ใ น ไปทุกทศิ ทาง ทิศทางหน่ึง ทศิ ทางหนง่ึ ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด -รู ป แ บ บ -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน ทศิ ทางหนึง่ ทิ ศ ท า ง ห นึ่ ง ผลงานสะอาด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน แตไ฽ มส฽ มบูรณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ะ อ า ด เรยี บรอ฾ ย เรยี บร฾อย เรยี บร฾อย ส ม บู ร ณ์ เรยี บรอ฾ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าชั้นเรียน -เข฾าชั้นเรียน ไม฽เข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ช้นั -มีวนิ ยั ม฽ุง ม่ันในกา ร ม฽ุง ม่ันในการ เรียน -ม฽ุ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน

เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 น฾อย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ 1. รปู ภาพประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไมบ฾ รรทดั แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ทศั นศลิ ป฼ กลมุ฽ สาระการเรียนร฾ศู ิลปะ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การออกแบบรปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนวาดเครอื่ งหมายสญั ลกั ษณ์มา 1 อย่าง ระบายสใี ห้สวยงาม พรอ้ มบอก สัญลักษณ์ ประเภทเครื่องหมายสญั ลกั ษณ์ สี และประโยชนข์ องเครื่องหมาย  ใหน้ ักเรยี น  ประเภทเครือ่ งหมายสัญลกั ษณท์ ี่นักเรียนวาดลงในช่อง ใหถ้ ูกตอ้ ง เครือ่ งหมายจราจร เคร่อื งหมายของสถาบนั สมาคม มลู นิธิ หรอื กล฽ุมกิจกรรมต฽างๆ เครือ่ งหมายบริษทั เครื่องหมายสถานท่ี เครอื่ งหมายแสดงกจิ กรรตา฽ งๆ

สีของเคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ์……………………………………………………………………………………………… สง่ิ ทีป่ รากฏอยใู่ นสญั ลกั ษณ์มีอะไรบ้าง………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความหมายของเคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ……………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… สัญลักษณ์นน้ี าไปใช้ประโยชนใ์ นดา้ นใด………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………………………………… ช่อื ………………….....................นามสกุล…………………………………………..ช้นั ……………เลขท…ี่ ………...

แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่อื ง………………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค฾ รผู ู฾สอนประเมินใบงานของนักเรยี นแล฾วใหท฾ าเครอื่ งหมาย  ลงในช฽องท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน เพอ่ื ใหน้ กั เรียน ลาดับ ลาดบั ที่ สามารถ เพอื่ ใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ อธบิ าย สามารถรู้จกั หลักการ มงุ่ ม่ันใน 10 ความหมาย ในการวาดสัญลกั ษณ์ คะแนน ของสัญลักษณ์ การ (Logo) ได้ ทางาน (Logo) ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วฒุ ชิ ัย เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒนช์ ยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สว฽างชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรือง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรนิ รชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพี่เลย้ี ง (นายพันศักดิ์ เส็งสวุ รรณ) ครูวทิ ยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ผู้บริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 10 รหัสวิชา 21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทศั นศลิ ป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ทศั นศิลป์ของชาตแิ ละท้องถนิ่ ภาคเรยี นที่ 2 เรอ่ื ง รปู แบบงานทศั นศลิ ปข์ องชาตแิ ละทอ้ งถิ่น จานวน 1 คาบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเม่ือ วันท…ี่ ……เดือน………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค฽างานทัศนศิลปท฼ ่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท฾องถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาไทย และสากล 3. ตัวชวี้ ดั ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเก่ียวกับลักษณะ รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติ และของท฾องถิน่ ตนเองจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั 4. สาระสาคัญ เพ่ือให฾บอกรูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถ่ิน ทางศิลปะในแต฽ละยุคสมัย ซ่ึงสามารถ วิเคราะห์ได฾จากผลงานทัศนศิลป฼ในแต฽ละประเภท ได฾แก฽ ด฾านจิตรกรรม ด฾านประติมากรรม และดา฾ นสถาปัตยกรรม ท่ีมีลกั ษณะรปู แบบแตกต฽างกนั และมเี อกลกั ษณค์ วามสวยงามแตกต฽างกันไปใน แต฽ละทอ฾ งถ่ิน จาแนกลักษณะงานงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถิ่นที่มีลักษณะแตกต฽างกันท้ังด฾านจิตรกรรม ด฾านประตมิ ากรรมและด฾านสถาปัตยกรรม ซึ่งแนวคดิ ในการสร฾างอาจเป็นเร่ืองราวเดียวกัน แต฽ปัจจัยที่ ทาให฾งานทัศนศิลป฼ของไทยมีความแตกต฽างกัน ได฾แก฽ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศาสนา ความเชื่อ และสังคมวัฒนธรรมในแต฽ละพื้นที่ ซ่ึงล฾วนแล฾วแต฽ทาให฾เกิดรูปแบบผลงานที่เป็น ลกั ษณะเฉพาะของชาตแิ ละท฾องถ่ินตามลาดบั

5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน฾ ักเรียนสามารถบรรยายลักษณะรปู แบบงานทัศนศลิ ปข฼ องชาติและทอ฾ งถ่ินได฾ 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพื่อให฾นกั เรยี นสามารถจาแนกและระบลุ ักษณะรปู แบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและ ท฾องถน่ิ ได฾ 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เข฾าชนั้ เรียน, มีความรับผิดชอบตอ฽ งานทไ่ี ดร฾ บั มอบหมาย) 2) ม฽ุงม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 3) รกั ความเปน็ ไทย (ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย) 6. สาระการเรียนรู้ รปู แบบงานทศั นศิลป฼ของชาติและท฾องถ่ินล฾วนมีเอกลักษณ์ที่สะท฾อนให฾เห็นถึงความเช่ือ วถิ ชี ีวติ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมในแต฽ละทอ฾ งถน่ิ 7. สมรรถนะท่ีสาคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตุผลในการคดิ แยกแยะได฾ดว฾ ยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรยี นร฾ู 7.3 มงุ฽ มัน่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ นา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทกั ทายนกั เรยี น

8.2 ครูอธิบายส่ิงท่ีต฾องเรียนในสัปดาห์นี้ให฾นักเรียนทราบ “รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและ ทอ฾ งถนิ่ ” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลป฼ในแต฽ละพ้ืนท่ีมีลักษณะเหมือนกันหรือแตกต฽างกัน หรือไม฽” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของครูผู฾สอน) เพื่อกระตุ฾นให฾ผู฾เรียน เชือ่ มโยงเข฾าสูเ฽ นอ้ื หาความรู฾เก่ียวกับ รปู แบบงานทศั นศลิ ป฼ของชาติและท฾องถน่ิ ขัน้ สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธิบายความหมายของงานทัศนศลิ ป฼ของชาตแิ ละท฾องถิ่นให฾นกั เรยี นฟัง สงั คมไทยมพี ฒั นาการทีย่ าวนานมาต้งั แตส฽ มัยก฽อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจุบัน เห็นได฾จาก หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีท่ีปรากฎตามแหล฽งอารยธรรมในภูมิภาคต฽างๆที่มีการค฾นพบ ทรพั ยากรทาวฒั นธรรมหรอื ผลงานทัศนศลิ ป฼ เปน็ จานวนมากทก่ี ระจายอย฽ู ปัจจัยที่ทาให฾งานทัศนศิลป฼ของไทยมีความแตกต฽างกัน ได฾แก฽ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ ศาสนา ความเช่ือ และสังคมวัฒนธรรมในแต฽ละพื้นที่ ซึ่งล฾วนแล฾วแต฽ทาให฾เกิดรูปแบบ ผลงานท่ีเป็นลักษณะเฉพาะของชาติและท฾องถิ่นตามลาดับ ซ่ึงเป็นส่ิงที่คนในท฾องถ่ินและคนในชาติควร ภาคภูมิใจเป็นอยา฽ งย่ิง  ประเภทงานทัศนศลิ ปม฼ ี ดังน้ี 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกด฾วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสร฾างรูปทรง 3 มิติ ได฾แก฽ ประติมากรรม นนู ต่าประตมิ ากรรมนนู สงู และประตมิ ากรรมแบบลอยตัว ซงึ่ มี 4 วิธี คือ การปน้ั (Casting) การแกะสลัก (Carving) การหลอ฽ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปัตยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะที่แสดงออกด฾วยส่งิ ก฽อสร฾าง อาคารท่ีอย฽ูอาศัยต฽างๆ ที่มีขนาดใหญ฽ 2 ประเภท ได฾แก฽ สถาปัตยกรรมแบบปิด และสถาปัตยกรรมแบบเปดิ  1. ลักษณะรปู แบบงานทัศนศลิ ป฼ของชาติ งานทัศนศลิ ป฼ของชาติ หมายถงึ ศิลปะที่ถูกถ฽ายทอดและสร฾างข้ึนโดยช฽างจากราชสานักหรือช฽าง หลวงโดยมีรปู แบบท่แี ตกตา฽ งกันไปตามลักษณะของการใชส฾ อ่ื วัสดุ กรรมวิธี ช฽วงเวลา และพัฒนาการทาง ศิลปะในแตล฽ ะยุคสมัย ซ่ึงสามารถวเิ คราะหไ์ ด฾จากผลงานทัศนศลิ ป฼ในแตล฽ ะประเภท ดังน้ี

1.1 จติ รกรรม 1) ลกั ษณะของจิตรกรรมไทย ในสมัยโบราณจิตรกรรมหรือภาพเขียนสีของไทยจะ นิยมเขียนข้ึน เพื่อเป็นพุทธบูชาตามผนังโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ในคูหาองค์พระปรางค์ พระสถูป เจดยี ์และผนังถ้า มีจดุ ประสงค์เพ่ือต฾องการเล฽าเรอ่ื งพุทธประวตั หิ รอื เร่อื งราวทางสาสนาดว฾ ยภาพ 2) ประเภทของจิตรกรรมไทย แสดงภาพด฾วยการวาดเสน฾ และระบายสีลงบนแผ฽นผิว เรยี บรปู ทรงท่ีประกอบจากเส฾นสีบนผิวเรียบ เช฽น เขียนไว฾บนผนัง เรียกว฽า “จิตรกรรมฝาผนัง” เขียนบน ผืนผา฾ เรียกว฽า “พระบฏ” เขียนบนกระดาษทับซอ฾ น เรียกว฽า “จิตรกรรมสมดุ ภาพ” เป็นตน฾ จิตรกรรมฝาผนัง เร่ืองรามเกยี รต์ิ บนระเบยี งรอบพระอโุ บสถ วดั พระศรีรัตนศาสนาราม กรุงเทพมหานคร ทม่ี า : https://teen.mthai.com/app/uploads/2019/08/Hanuman.jpg 1.2 ประตมิ ากรรม ลักษณะประติมากรรมไทย สร฾างขึ้นเพื่อการตกแต฽งสถาปัตยกรรม เช฽น ลวดลาย ประดับต฽างๆ ประติมากรรมที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่มีความสมบูรณ์ในตัว ทั้งด฾านเน้ือหา รูปทรง และการ แสดงออก เช฽น พระพุทธรูปประดิษฐานอยู฽ภายในพระพระอุโบสถ วิหาร เป็นต฾น ประเภทของ ประติมากรรมไทย เป็นผลงานศิลปกรรมท่ีเกิดจากขึ้นจากฝีมือ ความคิด และความสามารถของคนไทย

สรา฾ งข้ึนด฾วยวตั ถปุ ระสงคต์ า฽ งๆ กนั เช฽น ความศรัทธาต฽อศาสนา ความเช่ือทางไสยศาสตร์ขนมธรรมเนียม ประเพณี ตลอดจนสรา฾ งข้ึนตามคตินิยมของชุมชนหรอื ทอ฾ งถน่ิ เป็นต฾น พระพุทธชนิ ราช เปน็ พุทธศิลป์ทมี่ คี วามงดงามมาก ปฏมิ ากรผสู้ รา้ ง ยอ่ มมคี วามศรทั ธาในพระพุทธศาสนาอย่างเปยี่ มล้น ที่มา : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 1.3 สถาปตั ยกรรม ลกั ษณะสถาปตั ยกรรมไทย ทโี่ ดดเด฽นพร฾อมด฾วยคุณลกั ษณะทางทัศนศิลป฼จะเป็นงาน ศิลปะแท฾ทีส่ รา฾ งความประทับใจแก฽ผช฾ู มได฾ เชน฽ วดั พระศรีรัตนศาสดาราม พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท เป็น ต฾น อกี ทัง้ สถาปัตยกรรมไทยมกี ารสร฾างสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาแต฽โบราณ ซ่ึงอิทธิพลท่ีทาให฾ เกิดลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรมไทยนั้น ได฾แก฽ อิทธิพลทางด฾านศาสนาและวัฒนธรรมตลอดจน อิทธพิ ลทางด฾านสภาพดนิ ฟูาอากาศ รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่ได฾รับอิทธิพลทางด฾านศาสนาและวัฒนธรรม เช฽น ปราสาท สถปู เจดยี ์ ปรางค์ โบสถ์ วหิ าร เปน็ ต฾น รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยท่ีได฾รับอิทธิพลทางด฾านสภาพดินฟูาอากาศ เช฽น อาคาร บ฾านเรือน เป็นตน฾

พระที่นัง่ จกั รีมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวงั จดั เปน็ สถาปัตยกรรมท่รี บั อิทธพิ ลของศิลปะตะวันตก ที่เขา้ มาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทม่ี า : https://hilight.kapook.com/view/171974  2. ลักษณะรปู แบบงานทศั นศิลปท฼ ฾องถิน่ งานทัศนศิลป฼ท฾องถ่ิน หมายถึง ศิลปกรรมในสาขาภูมิปัญญาไ ทยด฾านจิตรกรรม ประตมิ ากรรมและสถาปัตยกรรม ท่เี ป็นผลงานสรา฾ งสรรคข์ องท฾องถ่ินท่ีเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ฾าน ได฾ คิดประดิษฐ์ข้นึ มาเปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง ซ่ึงสามารถวิเคราะห์ได฾จากผลงานทัศนศิลป฼ในแต฽ละแระเภท ได฾ ดงั นี้ 2.1 จิตรกรรมทอ฾ งถ่ิน จิตรกรรมทอ฾ งถิ่น คือ ผลงานการวาดภาพ ระบายสีลงพ้ืนท่ีต฽างๆ ตามความรู฾สึกนึก คดิ ของชาวบ฾าน ทีม่ ีเอกลกั ษณเ์ รยี บง฽าย ไม฽แสดงลายละเอียด แต฽แสดงออกถึงความทรงจา ตลอดจนแรง บันดาลใจจากสง่ิ ทเ่ี คยพบเห็นในธรรมชาติและส่งิ แวดลอ฾ มผ฽านทางภาพวาดจติ รกรรมในลักษณะต฽างๆ เช฽น จติ รกรรมฝาผนัง จติ รกรรมประกอบ เครอ่ื งใช฾ จติ รกรรมประเภทเครอื่ งเลน฽ ต฽างๆ และจิตรกรรมท่ีเกิดจาก ความศรัทธาทางศาสนา เปน็ ตน฾

ภาพเขียนสี (ฮูปแต้ม) เล่าเรอื่ งราวขบวนแหผ่ ะเหวด แทรกอย่ใู นชาดกเร่อื งเวสสนั ดร ทสี่ ิมวัดสนวนวารพี ฒั นาราม จังหวัดขอนแกน่ ทีม่ า : https://www.esanart.com/wat_sanaunwari/images/018.jpg 2.2 ประตมิ ากรรมท฾องถ่ิน ประติมากรรมทอ฾ งถิน่ คือ ผลงานท่ีเกิดจากการป้ัน การแกะสลัก การหล฽อ การกลึง การทุบตี การเคาะ ซ่ึงผลงานจากการสร฾างสรรค์ในแต฽ละท฾องถ่ินจะมีความแตกต฽างกันด฾วยกรรมวิธีใน การผลติ ซ่งึ การผลิตผลงายส฽วนใหญ฽ จะมุ฽งผลติ เพ่อื ประโยชน์ในการใช฾สอยเป็นสาคัญ การจาแนกลักษณะ ของประติมากรรมท฾องถิ่น สามารถจาแนกไดตามประเภทของวัสดุและวิธีการสร฾างสรรค์ ได฾แก฽ งาน แกะสลกั งานปั้น งานกระดาษ และงานโลหะ หรือจาแนกตามประเภทของการใช฾สอย ได฾แก฽ ผลงานที่ใช฾ ประดบั บ฾านเรือน ผลงานที่ใชป฾ ระกอบในเร่ืองความเช่อื และพิธีกรรมต฽างๆ ผลงานท่ีใช฾ประกอบการละเล฽น รวมถงึ เครอ่ื งประดบั ต฽างๆ

พระพทุ ธรูปแบบทอ้ งถ่ิน สมยั ทวารวดี พบทเ่ี มืองศรีมโหสถ จงั หวัดปราจนี บุรี ท่ีมา : https://suanleklek.wordpress.com/2018/08/05/ontheeasternfrontier/ 2.3 สถาปัตยกรรมท฾องถิ่น สถาปัตยกรรมท฾องถิ่น คือ สิ่งปลูกสร฾างประเภทอาคารบ฾านเรือนท่ีมีลักษณะและ รูปแบบตามความนิยมในท฾องถ่ินมีลักษณะเฉพาะตัวในแต฽ละภูมิภาค โดยมีความสอดคล฾องกับประเพณี และวัฒนธรรมของกล฽ุมคนเหล฽านั้น ซ่ึงสามารถจาแนกรูปแบบสถาปัตยกรรมท฾องถิ่นได฾ 2 รูปแบบ คือ สถาปัตยกรรมทางศาสนา และสถาปัตยกรรมอาคารบ฾านเรือนและท่ีอย฽ูอาศัย เช฽น บ฾านเรือนในท฾องถ่ิน ประเภทเครอ่ื งผูกท่ใี ชว฾ สั ดไุ มค฽ งทนในการสร฾าง มวี ธิ ีการปลูกสร฾างงา฽ ยๆ โดยการนาวัสดุต฽างๆ มาผูกยึดเข฾า ด฾วยกนั ประเภทเคร่ืองสับท่ีใชว฾ สั ดคุ งทนโดยนามาประกอบกันด฾วยวธิ กี ารเข฾าไม฾ เปน็ ต฾น

สมิ วดั ปาุ แสงอรณุ อาเภอเมือง จงั หวัดขอนแกน฽ ภายในมีความวิจิตรงดงามของภาพเขียนลายผ฾าไหมมัดหมี่ สะท฾อนให฾เหน็ ถึงความเป็นเอกลกั ษณ์ของทอ฾ งถ่ิน ท่ีมา : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/786N8cBXCS84_b5q5xn3kdDRmpS3kLz6y 2Jwh2RzlLO2pm12lc3-rENFKCjb1SZ__V1b2njHHg7E_qlvaq5-4wY0f_WI-lRT2j3tL1lNY5K8y 8frcMOr9PJkZV6_iQMa9Yv6StwQtov4uAkhDkzQL9_25kg ลายผา฾ ไหมมดั หมี่ ทีม่ า : https://inwfile.com/s-n/gtv5v1.jpg

8.5 ครใู หน฾ กั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง รูปแบบงานทศั นศลิ ป฼ของชาตแิ ละทอ฾ งถ่ิน 8.6 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากนั้นให฾นักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค฾ าแนะนา ขนั้ สรปุ (5 นาที) ครแู ละนกั เรยี นสรุปเนอื้ หาความรู฾ “รูปแบบงานทศั นศิลป฼ของชาตแิ ละทอ฾ งถ่นิ ” ร฽วมกัน “รูปแบบ งานทัศนศิลป฼ของชาติถูกสร฾างขึ้นโดยช฽างจากราชสานักหรือช฽างหลวง ส฽วนรูปแบบงานทัศนศิลป฼ท฾องถ่ิน เป็นผลงานสร฾างสรรค์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ฾าน แต฽รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถ่ิน มี ความสวยงามและมเี อกลักษณ์เฉพาะตัวในแต฽ละรูปแบบ” จากนัน้ นักเรียนเก็บอปุ กรณใ์ ห฾เรยี บร฾อย 4. การวัดและประเมินผล 9.1 รูปแบบงานทัศนศลิ ป฼ของชาตแิ ละท฾องถิน่ (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽ (K) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ บ ร ร ย า ย บรรยา -เพอ่ื ให฾นักเรียน สามารถ บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย ลั ก ษ ณ ะ ย บรรยาย ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ รู ป แ บ บ ง า น -ไมม฽ า ลกั ษณะรูปแบบ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น ทัศนศิลป฼ของ เรยี น ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ช า ติ แ ล ะ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ท฾องถิ่นได฾ผิด ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾องถิ่นได฾ผิด ถูกบ฾างหลาย ทอ฾ งถ่นิ ได฾ ถู ก ต฾ อ ง ถู ก บ฾ า ง บ า ง ป ร ะ เ ด็ น ตร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ คาถาม คาถาม คาถามทกุ ขอ฾ ด้านทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมส฽ ฽ง (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพอื่ ใหน฾ ักเรียน แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ จ า แ น ก แ ล ะ -ไม฽ สามารถจาแนก ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ร ะบุลักษ ณ ะ มา แ ล ะ ร ะ บุ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น เรยี น ลกั ษณะรปู แบบ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ งานทัศนศิลป฼ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถ่ิ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถ่ิ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถ่ิ น ไ ด฾ ท฾องถ่ินได฾ ถูกต฾องทุกข฾อ ถูกต฾อง 5 ข฾อ ถูกต฾อง 4 ข฾อ ถูกต฾อง 3 ข฾อ ถู ก ต฾ อ ง 1-2 จาก 6 ขอ฾ จาก 6 ข฾อ จาก 6 ข฾อ จ า ก 6 ข฾ อ ข฾อจาก 6 ข฾อ

-รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รปู แบบผลงาน -รู ป แ บ บ ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ผลงานสะอา เรยี บร฾อย เรยี บร฾อย เรียบร฾อย เรียบรอ฾ ย เรยี บร฾อย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าช้ันเรียน -เข฾าชั้นเรียน ไม฽เข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ชน้ั -มวี นิ ยั มุ฽ง ม่ันในกา ร ม฽ุง มั่นในการ เรียน -มุ฽ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คณุ คา฽ ของ -ไม฽เห็นคุณค฽า -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ฾ ย 5. ส่ือ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. รปู ภาพรูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติ 2. รูปภาพรปู แบบงานทัศนศิลปท฼ ฾องถ่ิน อปุ กรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไม฾บรรทัด แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรยี นร฾ศู ิลปะ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานที่ 3.1 เร่ือง รูปแบบงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถิน่ คาชแ้ี จง : จงอธิบายรูปแบบงานทศั นศิลปข฼ องชาติและทอ฾ งถิ่น 1. รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติ หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.1 ลักษณะจิตรกรรมไทย……………………………………………………………..……………………............ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ลกั ษณะประตมิ ากรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ลักษณะสถาปัตยกรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. รปู แบบงานทศั นศิลป฼ทอ฾ งถนิ่ หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.1 ลกั ษณะจติ รกรรมท฾องถิ่น…………………………………………………………………………………....... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ลกั ษณะประตมิ ากรรมทอ฾ งถ่ิน………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ลักษณะสถาปตั ยกรรมท฾องถิน่ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชอ่ื ……………………….....................นามสกุล…………………………………………..ชนั้ …………….…เลขที่…………...

ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง : จงจาแนกลักษณะงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถ่นิ ให฾ถูกต฾อง จติ รกรรมไทย ประติมากรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย จติ รกรรมทอ้ งถิ่น ประติมากรรมทอ้ งถ่ิน สถาปตั ยกรรมทอ้ งถน่ิ ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………. ……………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ชื่อ………………………………...…...…...…...…...….......นามสกุล…………………………………………..ช้นั ……………………….………เล…ข…ท.ี่…………...

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่ืองมอื หน่วยการเรียนรูท้ ี่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชัน้ ……………….. คาชีแ้ จง : ให฾ครูผ฾ูสอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว฾ ให฾ทาเคร่ืองหมาย  ลงในช฽องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือใหน้ ักเรยี น ลาดบั ลาดบั ที่ สามารถ เพ่ือให้นักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล บรรยาย สามารถจาแนกและ ม่งุ ม่ันใน 10 ลักษณะ ระบลุ กั ษณะรปู แบบ คะแนน รูปแบบงาน งานทัศนศิลป์ของชาติ การ ทศั นศลิ ปข์ อง ทางาน ชาตแิ ละ และท้องถนิ่ ได้ ทอ้ งถิน่ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรีสอาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรณุ พงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒน์ชยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สว฽างชม 11 ด.ญ. ณธิดา จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรัช ทาดี ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ความคิดเห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เส็งสุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพิเศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 รหัสวิชา 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ทศั นศิลปข์ องชาติและท้องถ่นิ ภาคเรยี นที่ 2 เรอ่ื ง ทศั นศลิ ป์ไทย 4 ภูมภิ าค จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมื่อ วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศกั ราช……………… ครูผู้สอน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ ค฽างานทัศนศลิ ป฼ทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ฾ งถน่ิ ภมู ิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชี้วัด ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกยี่ วกับลักษณะ รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติ และของทอ฾ งถิน่ ตนเองจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ม. 1/2 ระบุ และเปรียบเทียบงานทศั นศิลปข฼ องภาคตา฽ งๆ ในประเทศไทย 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ให฾บอกทัศนศิลป฼ไทยในภูมิภาคต฽างๆ ในไทย ซ่ึงทัศนศิลป฼ไทยทั้ง 4 ภูมิภาคน้ัน มีจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมเหมือนกัน แต฽ที่มีความแตกต฽างกันไปในแต฽ละภูมิภาค ตามวิถีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมในแต฽ละทอ฾ งถ่ิน ท่ีมเี อกลักษณ์เฉพาะตวั สามารถจาแนกศิลปะทัศนศิลป฼ของภูมิภาคต฽างๆ ท่ีมีลักษณะและเอกลักษณ์ท่ีแตกต฽างกัน ทั้งรูปแบบการสร฾าง ลักษณะของผลงานท่ีบ฽งบอกโดดความโดดเด฽นความแตกต฽างของแต฽ละภูมิภาค ทงั้ ด฾านจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรม ท่ีสร฾างขึ้นตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมในแต฽ ละทอ฾ งถิน่ ซ่ึงมีการสร฾างสรรค์โดยฝมี อื ของคนในท฾องถ่ินนั้นๆ โดยอาศัยความรู฾ความสามารถที่มีอยู฽ใน การสร฾างสรรค์ผลงาน จึงทาให฾ในแต฽ละพ้ืนที่มีงานทัศนศิลป฼ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความ สวยงามทีแ่ ตกต฽างกนั ไปในแตล฽ ะภูมิภาค

4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่ือใหน฾ ักเรยี นสามารถบอกลกั ษณะของงานทัศนศิลป฼ได฾ 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพอื่ ให฾นักเรยี นสามารถจาแนกลกั ษณะทศั นศลิ ปไ฼ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าคได฾ 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เข฾าชัน้ เรยี น, มคี วามรบั ผิดชอบต฽องานทีไ่ ด฾รับมอบหมาย) 2) มุ฽งมั่นในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ญั หาและอุปสรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 3) รักความเป็นไทย (ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความร฾ู ความเข฾าใจในลกั ษณะของทัศนศลิ ป฼ไทยทัง้ 4 ภูมิภาค ท่ีมีความแตกต฽างกนั 6. สมรรถนะท่ีสาคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อยา฽ งสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตผุ ลในการคดิ แยกแยะได฾ด฾วยตนเอง 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีวินยั 7.2 ใฝุเรียนรู฾ 7.3 ม฽งุ มนั่ ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้ันนา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทักทายนักเรียน 8.2 ครอู ธิบายสง่ิ ที่ต฾องเรยี นในสัปดาห์นใ้ี หน฾ กั เรียนทราบ “ทัศนศลิ ปไ฼ ทย 4 ภมู ภิ าค”

8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลป฼ไทยท่ีอย฽ูต฽างพื้นที่ ต฽างภูมิภาค ลักษณะของผลงาน ทัศนศิลป฼จะเหมือนกันหรือแตกต฽างกัน” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของ ครูผสู฾ อน) เพ่ือกระต฾ุนใหผ฾ เ฾ู รยี นเช่อื มโยงเข฾าส฽เู นอ้ื หาความร฾ูเกีย่ วกบั ทศั นศิลป฼ไทย 4 ภมู ภิ าค ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธิบายประเภททัศนศิลป฼ใหน฾ ักเรยี นฟงั ประเภทงานทัศนศิลปม฼ ี ดงั น้ี 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีแสดงออกด฾วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสร฾างรูปทรง 3 มิติ ได฾แก฽ ประติมากรรม นูนตา่ ประติมากรรมนนู สงู และประตมิ ากรรมแบบลอยตวั ซึ่งมี 4 วธิ ี คือ การปนั้ (Casting) การแกะสลกั (Carving) การหลอ฽ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปัตยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะทแี่ สดงออกด฾วยสิ่งกอ฽ สร฾าง อาคารท่อี ยอ฽ู าศยั ตา฽ งๆ ทีม่ ขี นาดใหญ฽ 2 ประเภท ได฾แก฽ สถาปตั ยกรรมแบบปิดและ สถาปตั ยกรรมแบบเปดิ 8.5 ครูอธบิ ายงานทศั นศลิ ป฼ในแต฽ละภมู ิภาคให฾นักเรียนฟังประเทศไทยมี 4 ภมู ภิ าค ดงั น้ี ภาพภูมภิ าคในประเทศไทย ทีม่ า : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/XeY-u5nDoaFx-ZBxpwNG4m_dZGQr-HV_WL9nho- zR0tyfk-Wr_eR6CPrS0Uc6k1JnxtFS5x2Cn7H9tdfiFXFeqbhvR-TtVfG

 งานทัศนศิลป฼ในแตล฽ ะภูมิภาค ประเทศไทยในแต฽ละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะ ทางสังคมวัฒนธรรมที่แตกต฽างกัน ปัจจัยดังกล฽าวล฾วนมีผลต฽อการสร฾างสรรค์ผลงานทัศนศิลป฼ในภูมิภาค ตา฽ งๆ ไม฽วา฽ จะเพื่อประโยชนใ์ ช฾สอย หรือตอบสนองความเชื่อทางศาสนา และความพึงพอใจของ ตนกต็ าม ซงึ่ งานทัศนศลิ ป฼ภาคตา฽ งๆ ของไทย มดี งั นี้ 1. ภาคเหนอื ทัศนศิลป฼ภาคเหนือ หรือทัศนศิลป฼สมัยเชียงแสนหรือล฾านนา มีศูนย์กลางของ อาณาจกั รอยูท฽ างภาคเหนือของประเทศไทย อยู฽ในช฽วงเวลาระยะระหว฽างพุทธศตวรรษที่ 18-23 นับเป็น ยุคสมัยของศิลปะไทยอย฽างแท฾จริง มีผลงานส่ิงปลูกสร฾างต฽างๆ ท่ีสะท฾อนให฾เห็นถึงความศรัทธาใน พระพทุ ธศาสนา สวนประติมากรรมที่พบมากจะเป็นพระพุทธรูป ซ่ึงมีความร฽วมสมัยกับสมัยสุโขทัยในยุค ตอ฽ มา พนื้ ทขี่ องจังหวัดเชยี งใหม฽ในปจั จบุ ันมีผลงานทศั นศลิ ป฼เป็นจานวนมาก ทั้งท่ีได฾รับอิทธิพลจากศิลปะ พมา฽ และอิทธิพลจากสว฽ นกลาง 1.1 จิตรกรรม เปน็ ผลงานที่เกดิ ขึ้นจากการเขียนภาพระบายสีสะท฾อนถึงเรื่องราวของ สงั คม ประเพณี วัฒนธรรม และสภาพแวดล฾อม โดยมีเรอ่ื งราวสะท฾อนถงึ เหตกุ ารณ์ต฽างๆ เชน฽ การแต฽งกาย ของผูค฾ น ประเพณวี ัฒนาธรรมการประกอบอาชพี การใช฾ชีวิตของชาวบา฾ นในชว฽ งเวลานน้ั เป็นต฾น ตัวอย฽างจิตรกรรมแบบล฾านนาที่โดดเด฽น เช฽น จิตรกรรมฝาผนัง วัดบวกครกหลวง จงั หวัดเชียงใหม฽ วัดหนองบวั และวัดภมู นิ ทร์ จงั หวัดนา฽ น เปน็ ตน฾ ทมี่ า : https://www.dmc.tv/images/00-iimage/590910-dd-2.jpg 1.2 ประติมากรรม เป็นประติมากรรมท่ีมีการสืบทอดมาจากศิลปะล฾านนา ลักษณะ ท่ัวไปของพระพุทธรูปประทับปางสมาธิเพชร นิยมทาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระวรกายอวบอูม พระพักตรอ์ ม่ิ ยมิ้ สารวม พระเกตมุ าลาเป็นรูปดอกบัวตูม พระขนงโก฽ง รับกับพระนาสิกที่งุ฾มเพียงเล็กน฾อย

พระพุทธรูปในภาคเหนือได฾รับอิทธิพลจากอินเดีย พม฽า และลังกา และได฾แสดงความงดงามตามอุดมคติ แบบไทยให฾ปรากฏไว฾อยา฽ งขดั เจน ท่ีมา : https://lannasculpture.files.wordpress.com/2016/11/cats.jpg?w=365&h=365 1.3 สถาปัตยกรรม เป็นสิ่งก฽อนสร฾างท่ีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นได฾จากโบสถ์ วิหาร มัก สรา฾ งเป็นวหิ ารขนาดใหญ฽ มเี สาเรียงรายอยูภ฽ ายใน และมหี ลงั คาซ฾อนกันสามช้ันเป็นส฽วนมาก ในระยะแรก การสร฾างสถาปัตยกรรมจะได฾รับอิทธิพลจากประเทศเพ่ือนบ฾าน ต฽อมาได฾มีการพัฒนารูปแบบที่เป็น เอกลักษณเ์ ฉพาะตัวของศิลปะลา฾ นนามากขน้ึ นอกจากน้ีกล฽ุมเรือนถิ่นของภาคเหนือตอนบน เรือนเคร่ืองสับแบบล฾านนาจะเป็นเรือน ชนดิ ทม่ี จี ่ัวสงู ทางดา฾ นหนา฾ สว฽ นบนของจั่วมีไม฾ที่แกะสลักเป็นลวดลายต฽างๆ ไขว฾กันแบบเรียบง฽ายเรียกว฽า “เรอื นกาแล”

เจดีย์วัดเชยี งมน่ั จังหวดั เชยี งใหม่ ที่มา : https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/08/e3/42/f7/caption.jpg 2. ภาคกลาง ผลงานทัศนศลิ ปส฼ ว฽ นมากจะสรา฾ งขนึ้ ตามคติความเชอ่ื ทางพระพทุ ธศาสนาและศาสนา พรมหมณ์-ฮินดู และการรับอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมจากชาติอ่ืนๆ เช฽น วัฒนธรรมอินเดีย วัฒนธรรม เขมร เป็นตน฾ เขา฾ มาผสมผสานกับผลงานทัศนศิลป฼ของตน จนกลายเป็นรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของ ชา฽ งราชสานักและแพร฽หลายไปยงั ภมู ภิ าคอ่นื ตามการแผ฽อทิ ธิพลทางการเมอื งการปกครอง 2.1 จิตรกรรม นิยมสื่อความหมายด฾วยการเล฽าเร่ืองภาพพุทธประวัติ นิทานชาดก และเรอ่ื งราวในไตรภมู พิ ระรว฽ ง โดยเปน็ การเล฽าเร่ืองผ฽านเขียนบนฝาผนังของพระปรางค์ พระอุโบสถ พระ วหิ าร หอสวดมนต์ ซึง่ มวี ธิ ีการเขยี นภาพดว฾ ยลายเสน฾ โดยใช฾สีเดียว เรียกว฽า “จิตรกรรมสีเอกรงค์” ที่นิยม มาต้งั แต฽สมยั โบราณ และรูปแบบระบายสหี ลายสี เรียกวา฽ “จิตรกรรมีพหรุ งค์” โดยเขียนด฾วยสีฝุน และปิด ทองคาเปลวในบางส฽วนที่สาคัญ นอกจากน้ีจิตรกรรมฝาผนังยังสะท฾อนเร่ืองราวเกี่ยวกับประเพณี ความเช่ือ วิถีชีวิต และสภาพแวดล฾อมต฽างๆ ในช฽วงสมัยท่ีมีการเขียนภาพอีกด฾วย เช฽น แม฽น้าลาคลอง พืชพันธ์ไม฾ต฽างๆ สัตว์ ชุมชนบ฾านเรือนท่ีปลูกสร฾างอยู฽ริมน้าและบนบกให฾เห็นชัดเจน เป็นต฾น ซึ่งจะช฽วยให฾ผ฾ูชมมีความเข฾าใจถึง ประวัตสิ าสตรส์ งั คมของทอ฾ งถ่นิ ท่ถี กู ถา฽ ยทอดเปน็ เร่ืองราวแทรกอยูใ฽ นภาพจติ รกรรมฝาผนังไดเ฾ ปน็ อย฽างดี

จิตรกรรมฝาผนงั รอบระเบียง วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม เรื่องรามเกียรต์ิ ตอนทศกัณฐ์ออกศกึ กับพระรามครงั้ แรก มีเทคนคิ การเขียนภาพแบบ 2 มติ ิ โดยเน้นความงามและเน้อื หาเปน็ สาคัญ ทีม่ า : http://nainuad-book.lnwshop.com/product/839/ 2.2 ประติมากรรม ประติมากรรมในภาคกลางแบ฽งออกได฾เป็น ประติมากรรมรูป เคารพ ประติมากรรมเร่ืองเล฽า และประติมากรรมตกแต฽ง ประติกรรมรูปเคารพมีการสร฾างตามความเชื่อ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช฽น เทวรูปพระศิวะ พระนารายณ์ เป็นต฾น หรือพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน ได฾แก฽ รปู พระโพธสิ ตั ว์ และรูปเคารพในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่เป็นรูปพระพุทธเจ฾าปาง ต฽างๆ เชน฽ ปางมารวิชยั ซึ่งนยิ มสรา฾ งประดษิ ฐานในพระอโุ บสถของวดั ต฽างๆ ทัว่ ประเทศไทย เป็นต฾น ประตมิ ากรรมภาคกลาง ไดร฾ บั อทิ ธิพลมาจากศลิ ปะลังกา เขมร และตะวันตก อีกท้ังมี การพฒั นารูปแบบการสร฾างเป็นผลงานทีเ่ หมอื นจริงตามแบบอย฽างตะวันตกมากขึ้น ตัวอย฽าง พระพุทธชิน ราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย ลักษณะขององค์พระมีเส฾นรอบนอกพระวรกายอ฽อนช฾อย พระ โขนงโก฽ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด฽ง ชายผ฾าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ท้ังสี่ ยาวเสมอกัน อยใู฽ นลกั ษณะปางมารวิชัย

พระพุทธชนิ ราช เปน็ พทุ ธศิลปท์ มี่ คี วามงดงาม ทีม่ า : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 2.3 สถาปัตยกรรม ผลงานส฽วนส฽วนมากพัฒนาการมาตั้งแต฽สมัยสุโขทัยจนถึงสมัย รัตนโกสินทร์ มกี ารปลกู สรา฾ งให฾มีขนาดใหญ฽โต มีการออกแบบลวดลายตกแต฽งอย฽างวิจิตร เช฽น เครื่องบน ของอาคารมีช฽อฟูา ใบระกา หางหงส์ เปน็ ต฾น เห็นได฾จากสถาปัตยกรรมภายในวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ที่ เป็นจุดรวมของสถาปตั ยกรรมเดน฽ ๆ สมยั รตั นโกสินทรไ์ วเ฾ กือบทง้ั หมด นอกจากนี้ สถูป เจดีย์ และพระปรางค์ มีรูปแบบท่ีเป็นลักษณะเฉพาะ เช฽น พระ ปรางค์วดั พระราม เจดียท์ รงกลม หรอื ทรงระฆังคว่า วดั พระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระ ปรางค์วัดอรณุ ราชวราราม กรุงเทพมหานคร เป็นต฾น ส฽วนบา฾ นไทย หรือเรอื นไทยภาคกลาง มลี ักษณะเดน฽ จะมหี ลงั คาทรงสูง ใต฾ถุนสูง ชาน กวา฾ ง และไม฽มีเพดาน นิยมปลูกริมแม฽น้าลาคลอง เพ่ือสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากในสมัยโบราณ ใช฾ แมน฽ า้ ลาคลองในการคมนาคม

วัดพระศรีรตั นศาสดาราม เปน็ สถานท่ซี ่ึงประกอบดว้ ยงานจิตรกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปตั ยกรรม อันทรงคุณค่าหลายอย่าง ทม่ี า : https://th.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g293916-d311044-i125682441- Temple_of_the_Emerald_Buddha_Wat_Phra_Kaew-Bangkok.html 3. ภาควันออกเฉยี งเหนอื (ภาคอีสาน) นักวิชาการได฾สันนิฐานว฽าเม่ือประมาณ 2,500 ปีมาแล฾ว จนถึง พ.ศ. 500 พระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดียได฾ถูกนามาเผยแพร฽บริเวณดินแดนสองฝั่งโขงและ ภาคอสี าน ทาให฾ศลิ ปวฒั นธรรมของบ฾านเมอื งรุน฽ แรกๆ ในบรเิ วณนีจ้ งึ เริม่ ปรากฏขึ้น และพัฒนาต฽อมาจนมี รูปแบบเฉพาะตวั พรอ฾ มกบั มีการรับแบบอย฽างของงานทัศนศิลป฼จากดินแดนอื่น เช฽น ทวารวดี เขมร ลาว เป็นตน฾ เข฾ามาประยุกตใ์ ช฾ในวีชีวิต ของตนเอง จนทาให฾เกิดสถาปัตยกรรมต฽างๆ ท่ีสวยงาม เช฽น ปราสาท หิน เจดีย์ โบราณสถาน โบราณวตั ถอุ น่ื ๆ ท่ีปรากฏในภาคอีสานอกี มากมาย เปน็ ตน฾ 3.1 จิตรกรรม ภาพเขียนสีของอีสานมักปรากฏบนผนังของสิม เรียกว฽า “ฮูปแต฾ม” บนผนงั ด฾านในของสิมมกั เขียนเรื่องราวในพระพุทธประวัติ นิทานพ้ืนบ฾านเร่ืองสังข์ศิลป฼ชัย (สินไซ) มีกี่ใช฾ สสี นั รูปร฽างหน฾าตาของภาพมีการผสมผสานระหวา฽ งงานทศั นศิลปภ฼ าคกลางดว฾ ย ภาพจะมีการใช฾เทคนิคใน การระบายสีท่ีมีการเน฾นเส฾นที่หนักแน฽น ไม฽ประณีตแบบงานเหมือนจิตรกรรมภาคกลาง ในภาคอีสานจะ เขียนภาพที่ผนังด฾านในและผนังด฾านนอกของศาสนสถาน ซึ่งแตกต฽างจากจิตรกรรมภาคอ่ืนๆ ที่เขียนรูป เฉพาะผนังดา฾ นในของศาสนสถานเทา฽ น้ัน

ภาพฮูปแตม้ ผนังสิม จงั หวัดมหาสารคาม บ่งบอกเร่ืองราวเฮฮาสนกุ สาน อีกท้งั แสดงเรอื่ งราวสกั ลายบนขาของชาวอีสาน ทมี่ า : https://s.isanook.com/wr/0/uploads/13659/content_image/2019/08/perroe.jpg 3.2 ประตมิ ากรรม จะนยิ มสรา฾ งสรรค์ผลงานในรูปแบบต฽างๆ ที่คล฾ายกับภาคกลางและ ภาคเนือ ส฽วนลักษณะลวดลายในการตกแต฽งที่แตกต฽างกัน เช฽น นิยมทาหัวบันไดเป็นรูปพญานาคบริเวณ ทางข้ึนทางเข฾าของศาสนสถาน ศาลาการเปรียญ สิม เป็นต฾น นิยมป้ันลวดลายตกแต฽งตามฐานพระธาตุ หรอื ตกแตง฽ แบบรังผ้งึ ในบริเวณหน฾าบนั ของสิม เปน็ ตน฾ ลักษณะพระพุทธรูป คือ มีพระพักตร์สั้นแบน พระนลาฏแคบ พระนาสิกปูานใหญ฽ พระโอษฐ์หนา พระหตั ถแ์ ละพระบาทใหญ฽ ส฽วนการออกแบบส฽วนฐานให฾มีความสูงมาก และลักษณะของ ใบหน฾าทรวดทรงก็มีความเป็นท฾องถิ่น คือ ดูเรียบง฽าย แต฽ในการปั้น หล฽อ หรือแกะสลัก จะไม฽ประณีต เรยี บร฾อยเหมอื นผลงานของชา฽ งภาคกลางหรอื ช฽างหลวง

ลักษณะพระพุทธรปู ภาคอีสาน ทีม่ า : http://www.praputthai.com/product--288357-1.html 3.3 สถาปัตยกรรม เป็นศาสนสถานที่ใช฾สาหรับประกอบพิธีกรรมทาง พระพุทธศาสนามีชื่อเรียกว฽า “สิม” ได฾รับอิทธิพลการก฽อสร฾างจากรูปแบบของศิลปะลาว (ล฾านช฾าง) ท่ี แพรห฽ ลายเขา฾ มาสู฽ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 24-25 โดยมีการผสมผสานกับ ศิลปะด้งั เดมิ และศลิ ปะสมยั รตั นโกสนิ ทร์จนกลายเปน็ เอกลักษณข์ องสถาปัตยกรรมแบบอีสาน ท่ีมีรูปแบบ ท่แี ตกต฽างไปจากภูมภิ าคอนื่ ๆ ส฽วน ลักษณะ รูปแบบของสถาปัตยกร รมท่ีเก่ียวข฾อง สถาปัตย กร ร มที่เก่ียวข฾อง กับ สาสนา เช฽น เทวลัยปราสาทเขาพนมรุ฾ง เป็นรูปแบบศิลปะขอมตั้งอย฽ูบนยอดเขาพนมร฾ุง อาเภอนางรอง จังหวัดบุรีรีมย์ กอ฽ สร฾างดว฾ ยหินสชี มพู เปน็ รปู ส่เี หลี่ยมจัตุรัส ด฾านหน฾าทาเป็นมณฑปภายในปราสาทเป็นท่ี ประทบั รูปเคารพ

สว฽ นบา฾ นเรอื นไม฾กระดานใต฾ถุนสูง เช฽นเดียวกบั ภาคอืน่ ๆ แต฽ไม฽นิยมต฽อยอดปูานลมให฾ สูงเหมือนเรือนไทยภาคเหนือ มีประตูเดียว ไม฽นิยมทาหน฾าต฽างด฾านหลังแต฽จะทาเป็นช฽องเล็กๆ พอย่ืน ศรีษะเกษออกไปเทา฽ นนั้ ภายในบา฾ นคอ฽ นข฾างมดื ทบึ เพือ่ กนั ลมพัดเข฾าในฤดหู นาว เทวลัยปราสาทเขาพนมรุ้ง จงั หวัดบรุ ีรมี ย์ ท่ีมา : https://www.paiduaykan.com/province/Northeast/buriram/phanomrung.html#:~:text= 4. ภาคใต฾ ภาคใต฾มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มาต้ังแต฽สมัยโบราณ มีการเผยแพร฽เข฾ามาของ พระพุทธศาสนา สาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาอสิ ลาม ทาใหอ฾ ิทธพิ ลทางศิลปวัฒนธรรมจากภายนอก ได฾เผยแพร฽เขา฾ มาและช฽วยพัฒนาให฾เกิดเป็นอาณาจักรสาคัญในบริเวณดินแดนคาบมหาสมุทรภาคใต฾ เช฽น อาณาจักรลงั กาสุกะ อาณาจกั รตามพรลิงค์ อาณาจักศรวี ิชยั เป็นต฾น 4.1 จิตรกรรม การเขียนภาพบนฝาผนงั หรือเขยี นลงบนวัตถุอ่ืนๆ จะมีรูปแบบที่คล฾าย กับภาคกลาง คือ นิยมนาเรื่องราวทางพุทธประวัติ ไตรภูมิ หรือนิทานชาดกมาถ฽ายทอดเป็นเร่ืองราวใน ภาพเขียนบนฝาผนังตามส฽วนต฽างๆ ของอุโบสถ วิหาร หอไตร ภาพเขียนบางแห฽งจะได฾รับอิทธิพลตาม แบบอย฽างของสกุลช฽างหลวงโดยตรง เชน฽ วดั มัชฌิมาวาส จังหวัดสงขลา เป็นต฾น บางวัดเขียนข้ึนจากฝีมือ ชา฽ งในท฾องถิ่นเองโดยมีการเลยี นแบบ หรือรับอิทธิพลจากจิตรกรรมของช฽างหลวงมาปรับใช฾ในการทางาน

ของตน ในระยะหลังการเขียนภาพลงบนฝาผนังฝีมือจะไม฽ประณีตเท฽าเดิม อย฽างไรก็ตามก็ยังมีการ แสดงออกถงึ เอกลักษณ์ของช฽างในทอ฾ งถ่ินอยม฽ู าก เช฽น ความจริงใจ ความกล฾าแสดงออกในการสร฾างสรรค์ ผลงาน เป็นตน฾ ภาพชูชกพบทหารแห่งนครสีพี เปน็ จติ รกรรมฝาผนงั วัดคูเ่ ต่า จงั หวดั สงขลา ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.2 ประติมากรรม ผลงานในยุคแรกได฾รับอิทธิพลมาจากศิลปะอินเดีย มรการสร฾าง เป็นรูปพระโพธิสัตว์ปางต฽างๆ การทาพระพิมพ์ดินดิบ จนสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล฾าเจ฾าอยู฽หัว รชั กาลท่ี 5 เป็นตน฾ มา สกุลช฽างประตมิ ากรรมทางภาคใต฾เร่ิมเส่ือมลงตามลาดับ การสร฾างผลงานทัศนศิลป฼ มักนิยมนาแบบอย฽างจากช฽างหลวงมาเป็นแนวทางทาให฾แบบอย฽างของความเป็นท฾องถ่ินค฽อยๆ มีน฾อยลง อยา฽ งไรกต็ ามตามวดั อารามทอ่ี ยน฽ู อกเมืองออกไปก็ยังสามารถพบเห็นประติมากรรมท฾องถ่ินแบบภาคใต฾ที่ ยังคงอนรุ กั ษ์สบื สานรปู แบบของวัฒนธรรมท฾องถนิ่ ไว฾อยบ฽ู ฾างในบางพนื้ ที่

ประตมิ ากรรมในภาคใต฾ สว฽ นใหญเ฽ ป็นศิลปะ ในยุคอาณาจักรศรวี ิชัย มีศูนย์กลางอยู฽ท่ี ชวา ตัวอยา฽ งพระโพธิสตั ว์อวโลกิเตศวร พระพุทธรปู สมัยศรีวิชัยมีลักษณะสาคัญ คือ พระวรกายอวบอ฾วน อยา฽ งมสี ัดสว฽ น พระโอษฐ์เล็ก พระพักตรค์ ล฾ายพระพุทธรูปเชียงแสน พระโพธิสัตวอ์ วโลกิเตศวร พระพทุ ธรปู สมัยศรีวิชยั ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.3 สถาปัตยกรรม ส฽วนมากเกิดข้ึนพร฾อมกับการเข฾ามาของพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน หลักการท่ีสาคัญ ได฾แก฽ โบราณสถานและโบราณวัตถุที่สาคัญทางศาสนาหลายแห฽ง เช฽น พระ บรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (องค์เดิม) พระบรมธาตุไชยา เป็นต฾น รวมท้ังทีการสร฾างบ฾านเรือนตาม แบบอยา฽ งชา฽ งหลวงสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยได฾มีการปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงรูปแบบสถาปัตยกรรมให฾เหมาะสม กบั ท฾องถ่ิน เชน฽ เจดีย์วัดราษฎร์บรู ณะ (วัดชา฾ งให฾) วดั ชลธาราสงิ เห วัดถ้าขวัญเมือง เป็นต฾น ตัวอย฽างสถาปัตยกรรมพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลักษณะของ สถาปตั ยกรรมแบบศรวี ิชยั คือการสร฾างสถูปทรงมณฑปให฾มีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส฽วนยอด

เปน็ เจดยี ์แปดเหลี่ยม ส฽วนฐานปากระฆังสร฾างเป็นช้ันลดหล่ันกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซ฾ุมบันแถลงใน แต฽ละทศิ กรณีบ฾านเรอื นในภาคใต฾ ตัวเรือนกั้นด฾วยฝาแผ฽นกระดานตีเกร็ดแนวนอน หลังคาหน฾า จั่วสงู ส฽วนลักษณะของหลงั คาเรอื นจะนยิ มสรา฾ งเป็นสแี่ บบ คือ หลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงป้ันหยา หลังคา ทรง บราเนอร์ และหลงั คาทรงมนิลา ลักษณะเด฽นของเรือนในภาคใต฾จะนิยมวางเสาไว฾บนตีนเสา (ตอม฽อ) ท่กี อ฽ อิฐและฉาบปนู เมื่อกรณที ตี่ อ฾ งการยา฾ ยบา฾ นสามารถจะหามและยา฾ ยไปตงั้ ใหม฽ได฾สะดวก พระบรมธาตไุ ชยา จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี สถาปัตยกรรมทีม่ ลี ักษณะเดน่ เป็นเอกลกั ษณ์ แสดงถึงความงดงามของอาณาจกั รศรวี ชิ ยั ทม่ี า : https://www.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g2237709-d2558038-i239774073- Wat_Phra_Boromathat_Chaiya-Chaiya_Surat_Thani_Province.html

8.6 ครูให฾นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.2 เร่ือง ทัศนศิลป฼ไทย 4 ภูมิภาค ตอนท่ี 1 ให฾นักเรียน อธิบายลกั ษณะของงานทัศนศิลป฼ ตอนท่ี 2 ให฾นักเรียนทา My Mapping เปรียบเทียบความแตกต฽างของ งานทศั นศลิ ปไ฼ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าค 8.7 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากน้ันให฾นักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค฾ าแนะนา ขัน้ สรุป (5 นาที) 8.8 ครสู ุ฽มนักเรียนออกมานาเสนองานหนา฾ ชนั้ เรียน พร฾อมบอกปัญหา อุปสรรค์ที่พบขณะทางาน และวิธีการแก฾ไขปญั หาร฽วมกัน 8.9 ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหาความร฾ู “ทัศนศิลป฼ไทย 4 ภูมิภาค” ร฽วมกัน “ประเทศไทยในแต฽ ละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมที่แตกต฽างกัน ดังน้ันความแตกตา฽ งทางดา฾ นผลงานทัศนศิลปจ฼ งึ มคี วามแตกต฽างไป เพราะเกิดจากการสร฾างสรรค์ของผู฾คน ในภูมิภาคน้ันๆ อีกทั้งในแต฽ละภูมิภาคได฾รับอิทธิพลด฾านศิลปะที่แตกต฽างกันจึงทาให฾ผลงานทัศนศิลป฼มี ลักษณะไม฽เหมือนกันและมีความสวยงามแตกต฽างกันไปตามรูปแบบการสร฾างของถิ่นน้ันๆ ” จากน้ัน นักเรียนเกบ็ อุปกรณ์ใหเ฾ รยี บร฾อย 6. การวดั และประเมินผล 9.1 ทัศนศิลป฼ไทย 4 ภมู ิภาค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - (K) - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นักเรียนบอก -ไม฽ -เพ่ือให฾นักเรียน สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ลัก ษ ณะ ข อ ง สามาร ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง งานทัศนศิลป฼ ถบอก งานทัศนศลิ ป฼ได฾ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ที่ ป ร ะ ก อ บ ได฾ ท่ี ป ร ะ ก อ บ ท่ี ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด฾ ว ย -ไม฽มา ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย จิ ต ร ก ร ร ม เรียน จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- กรรมได฾ผิดถูก กรรมได฾ถูกต฾อง กรรมได฾ถูกต฾อง บ฾ า ง แ ล ะ อ ธิ บ า ย แ ต฽ อ ธิ บ า ย อ ธิ บ า ย องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ไ ด฾ ถู ก ต฾ อ ง ได฾ไมค฽ รบถว฾ น ได฾บางสว฽ น

ทั้ง ห มด ตร ง ประเด็น ด้านทกั ษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽สง฽ (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพ่ือให฾นักเรียน เป รีย บ เทีย บ เป รีย บเทีย บ เปรี ย บเทีย บ เปรีย บเทีย บ จ า แ น ก -ไม฽ สามารถจาแนก ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย เปรียบเทียบ มา เ ป รี ย บ เ ที ย บ ทงั้ 4 ภูมิภาคท่ี ท้งั 4 ภูมิภาคที่ ทง้ั 4 ภูมิภาคที่ ท้งั 4 ภูมิภาคท่ี ทัศนศิลป฼ไทย เรยี น ลั ก ษ ณ ะ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคที่ ทัศนศิลป฼ไทย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคได฾ จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ไ ป ด฾ ว ย ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม จิ ต ร ก ร ร ม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- ประติมากรรม กรรมได฾ถูกต฾อง กรรมได฾ถูกต฾อง ก ร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ ก ร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ และสถาปัตย- ทั้ง 4 ภูมิภาค ทั้ง 4 ภูมภิ าค ข฾อมูลละเอียด ข฾อมูลละเอียด กร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ -My Mapping -My Mapping 3 ภู มิ ภ า ค 2 ภู มิ ภ า ค ข฾อมูลละเอียด แ ป ล ก ใ ห ม฽ แ ป ล ก ใ ห ม฽ จาก 4 ภมู ภิ าค จาก 4 ภูมภิ าค 1 ภู มิ ภ า ค ไม฽เหมือนใคร ไม฽เหมือนใคร -My Mapping -My Mapping จาก 4 ภมู ิภาค อ฽ า น แ ต฽ อ฽ า น แ ป ล ก ใ ห ม฽ ไม฽แปลกให ม฽ -My Mapping ร า ย ล ะ เ อี ย ด ร า ย ล ะ เ อี ย ด ไม฽เหมือนใคร แ ล ะ อ฽ า น ไม฽แปลกใหม฽ งา฽ ย ยาก แ ต฽ อ฽ า น ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ะ อ฽ า น -ต ก แ ต฽ ง -ต ก แ ต฽ ง ร า ย ล ะ เ อี ย ด ยาก ร าย ล ะเ อีย ด ร ะ บ า ย สี ร ะ บ า ย สี ยาก -ต ก แ ต฽ ง ยาก สวยงาม สวยงาม -ต ก แ ต฽ ง ร ะ บ า ย สี -ต ก แ ต฽ ง ทั้ง 4 ภูมภิ าค ทง้ั 4 ภูมภิ าค ร ะ บ า ย สี สวยงาม ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ -รู ป แ บ บ -รู ป แ บ บ สวยงาม -รูปแบบผลงาน เล็กนอ฾ ย ผลงานสะอาด ผลงานสะอาด -รปู แบบผลงาน ส ะ อ า ด -รู ป แ บ บ เรียบร฾อย เรยี บรอ฾ ย ส ะ อ า ด เรียบรอ฾ ย ผ ล ง า น เรียบรอ฾ ย เรยี บรอ฾ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าชั้นเรียน -เข฾าช้ันเรียน ไมเ฽ ข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ชั้น -มีวนิ ัย ม฽ุง ม่ันในกา ร ม฽ุง มั่นในการ เรยี น -มุ฽ ง ม่ั น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คุณคา฽ ของ -ไม฽เห็นคุณค฽า -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศิลปะไทย ไทย

เกณฑก์ ารประเมิน ประเมนิ คะแนน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ฾ ย 7. สื่อ อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 1. รปู ภาพรปู แบบงานทัศนศิลปไ฼ ทย 4 ภูมิภาค อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไม฾บรรทัด แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ทัศนศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรียนร฾ศู ิลปะ ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานที่ 3.2 เรอื่ ง ทัศนศิลป์ไทย 4 ภูมิภาค ตอนท่ี 1 คาชีแ้ จง : จงอธิบายลกั ษณะของงานทศั นศิลป฼ 1. จิตรกรรม หมายถึง……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ประติมากรรม หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. สถาปัตยกรรม หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ…………………….....................นามสกลุ …………………………………………..ชนั้ …………….…เลขที่……………

ตอนที่ 2 คาช้แี จง : ใหน฾ ักเรยี นทา My Mapping เปรยี บเทียบความแตกต฽างของงานทัศนศลิ ปไ฼ ทย ทง้ั 4 ภูมภิ าค กระดาษ ขนาด A4 ช่ือ…………………….....................นามสกลุ …………………………………………..ชัน้ …………….…เลขท่ี…………...

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาชีแ้ จง : ใหค฾ รผู ู฾สอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแล฾วให฾ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ฽ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดั ลาดับที่ เพ่ือให้นกั เรยี น เพ่ือให้นกั เรยี น ความ รวม 10 บที่ ชอ่ื – สกุล สามารถบอก สามารถจาแนก มงุ่ มั่นใน คะแนน ลกั ษณะของ ลกั ษณะทัศนศิลป์ไทย งานทศั นศิลป์ ท้ัง 4 ภมู ภิ าคได้ การ ทางาน ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ัย เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครือ 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารตั น์ ศรีสอาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธีรเดชพฒั นช์ ยั 10 ด.ช. ธนวุฒิ สวา฽ งชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ความคดิ เห็นของครูพ่ีเลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ครูพีเ่ ลย้ี ง (นายพันศักดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 12 รหัสวชิ า 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ทศั นศลิ ป์ของชาติและทอ้ งถ่ิน ภาคเรียนท่ี 2 เรือ่ ง วาดลายประจายาม จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอื่ วันท…่ี ……เดือน………………….พุทธศักราช……………… ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค฽างานทัศนศลิ ป฼ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ฾ งถ่นิ ภูมิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชวี้ ดั ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกี่ยวกับลักษณะ รูปแบบงานทศั นศลิ ปข฼ องชาติ และของท฾องถิน่ ตนเองจากอดตี จนถึงปจั จบุ ัน 3. สาระสาคัญ เพือ่ ใหอ฾ ธบิ ายเกยี่ วกบั ลายประจายาม ซึง่ ตน฾ กาเนดิ อาจได฾รบั แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มีโครงสรา฾ งเปน็ รปู ส่ีเหลีย่ มด฾านเท฽ามีลกั ษณะเป็นลายดอกมี 4 กลีบ ตรงกลางเป็นรูปวงกลม และรอบ นอกเป็นลายบัวส่ีด฾าน ลายประจายามมักใช฾ประดับตามเสา ขอบประตูหน฾าต฽าง หน฾าต฽าง ของโบสถ์ วหิ าร พลบั พลาปราสาท พระเจดยี แ์ ละพระธาตุ เปน็ ตน฾ เข฾าใจกระบวนการ ข้ันตอนการวาดลายประจายาม จนออกมาเป็นรูปลวดลายประจา ยามทม่ี ี ความโดดเด฽น สวยงาม ซ่ึงลายประจายามเป็นแม฽ลายสาคัญอีกแม฽ลายหน่ึงของการเขียนภาพ ไทยโดยรูปทรงท่ัวไปจะเป็นรูปส่ีเหล่ียมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีส่ีกลีบคล฾ายกับดอกไม฾ และ กลบี ทงั้ ส่มี าจากรปู ทรงของ แมล฽ ายกระจังตาอ฾อย ซ่งึ แมล฽ ายประจายามนสี้ ามารถแตกแขนง ออกไปได฾ อีกมากมาย โดยการใส฽ไส฾ซ฾อนเข฾าไปจนดูหรูหรามากข้ึน และรูปทรงยังสามารถเปล่ียนจากสี่เหลี่ยม จตั รุ สั เปน็ สี่เหลย่ี มขนมเปียกปูนได฾อกี ด฾วย ซง่ึ ทาใหเ฾ กิดความงามที่แตกตา฽ งไปอีกแบบหนงึ่

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน฾ ักเรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของลายประจายามได฾ 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพอ่ื ให฾นักเรยี นสามารถวาดลายประจายามได฾ 4.3 ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขา฾ ชั้นเรยี น, มคี วามรับผดิ ชอบตอ฽ งานทไี่ ด฾รับมอบหมาย) 2) ม฽ุงม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีท่ีได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและ อปุ สรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 3) รกั ความเป็นไทย (ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความรู฾ ความเขา฾ ใจในลักษณะของลายประจายาม ซึง่ เป็นลายท่ีสาคัญของการเขยี นภาพไทย 7. สมรรถนะท่สี าคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตผุ ลในการคิดแยกแยะได฾ด฾วยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวนิ ยั 7.2 ใฝเุ รียนรู฾ 7.3 มุง฽ ม่นั ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา฽ วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสงิ่ ที่ตอ฾ งเรยี นในสปั ดาหน์ ี้ให฾นักเรียนทราบ “การลายประจายาม”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook