Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 2565

หลักสูตรสสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 2565

Published by ญาณิกา สุชาติสุนทร, 2023-02-20 08:40:54

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านโชค(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2565) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนในโรงเรียน และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาไปสู่การพัฒนาศักยภาพของนักเรียนได้เต็มศักยภาพ สถานศึกษาได้จัดทำสาระการเรียนรู้อิงมาตรฐาน สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้แกนกลาง ได้รับความเห็นชอบ และ อนุมัติการใช้หลักสูตรโดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านโชค

Search

Read the Text Version

๔๗ ท ๑๒๑01 ภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ า ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เวลาเรยี น ๒00 ชว่ั โมง ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำพ้ืนฐาน คำท่ีใชเ้ รียนรใู้ นกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน คำ คล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ อ่านจับใจความจากสอื่ ต่าง ๆ แล้วสามารถ ตัง้ คำถาม ตอบคำถาม ระบุ ใจความสำคัญ และรายละเอียดแสดงความคิดเห็น และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องทอ่ี ่าน อ่านหนังสือตามความสนใจ อย่างสม่ำเสมอ และนำเสนอเรอื่ งท่ีอา่ น อ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามคำสั่งหรือขอ้ แนะนำและมมี ารยาทใน การอ่าน คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนเรอื่ งส้นั ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์และ เรื่องสั้น ๆ ตามจนิ ตนาการ และมีมารยาทในการเขยี น ฟงั คำแนะนำ คำสง่ั ท่ซี ับซอ้ น และปฏิบัติตาม จับใจความจาก เรือ่ งที่ฟังและดูทง้ั ที่เปน็ ความรแู้ ละความบนั เทิง โดยเล่าเรอื่ ง บอกสาระสำคญั ต้ังคำถาม และตอบคำถาม พูดแสดงความ คดิ เหน็ และความรู้สกึ จากเรื่องทฟี่ งั และดู พูดแนะนำตนเอง ขอความชว่ ยเหลือ กลา่ วคำขอบคุณ กล่าวคำขอโทษ พูด ขอรอ้ งในโอกาสต่าง ๆ เล่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน และมีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด บอกและเขียน พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำ และบอกความหมายของคำ แต่งประโยค และเรยี บเรียงประโยค เป็นข้อความสัน้ ๆ ได้ตรงตามเจตนาของการส่อื สาร บอกลกั ษณะของคำคล้องจอง และเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่นได้เหมาะสม กบั กาลเทศะและบุคคล ระบขุ อ้ คดิ ทีไ่ ด้จากการอ่านหรอื ฟังวรรณกรรมรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง สำหรับเด็กเพอ่ื นำไปใช้ ในชีวิตประจำวนั ร้องบทรอ้ งเลน่ สำหรับเด็กในท้องถนิ่ และท่องจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนด และ บทร้อยกรองทีม่ ี คณุ ค่าตามความสนใจ กจิ กรรมการเรียนรเู้ นน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกทักษะการอ่านและการเขยี น อ่านเร่อื งส้นั ๆ แข่งขนั เขยี นคำ รวมท้ัง สอดแทรกการฝึกทักษะอ่ืนควบคู่กันไป ซึ่งกิจกรรมจะอยู่ในลักษณะของบทบาทสมมุติ เกม ร้องเพลง ทายปริศนา การ อภิปราย การระดมสมอง และการวาดภาพสื่อจินตนาการ เพอื่ ให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทกั ษะในการใช้ ภาษาเพื่อการสื่อสารสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ มีความชื่นชม เห็นคุณค่าภมู ปิ ัญญาไทยและภูมิใจในภาษา ประจำชาติ รหัสตัวชวี้ ัด ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗, ป. ๒/๘ ท ๒.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔ ท ๓.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗ ท ๔.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕ ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓

๔๘ รวมทง้ั หมด ๒๗ ตัวช้ีวัด คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๑๓๑01 ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลาเรยี น ๒00ชว่ั โมง ศกึ ษาและฝึกอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำพนื้ ฐาน คำท่ีใชเ้ รยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื คำ คล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ อ่านจับใจความจากส่ือต่าง ๆ แล้วสามารถ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิง เหตุผล ลำดับเหตกุ ารณแ์ ละคาดคะเนเหตุการณ์ โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความร้แู ละข้อคิดจากเร่อื งท่ีอ่าน เพอ่ื นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั อ่านหนังสอื ตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรอื่ งท่อี ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบตั ิตามคำสัง่ หรอื ข้อแนะนำ อ่านขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ และมีมารยาทในการอา่ น คัด ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอกั ษรไทย เขยี นบรรยายเก่ียวกับลักษณะของคน สัตว์ สง่ิ ของ สถานที่ ได้อยา่ ง ชัดเจน เขยี นบนั ทกึ ประจำวนั เขียนจดหมายลาครู เขยี นเรื่องตามจินตนาการจากคำ ภาพ และ หวั ข้อทีก่ ำหนด และมีมารยาทในการเขียน จบั ใจความจากเรอื่ งทีฟ่ งั และดทู ้ังท่เี ป็นความรแู้ ละความบันเทงิ โดย สามารถเลา่ รายละเอยี ด บอกสาระสำคญั ตงั้ คำถาม ตอบคำถาม พูดแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเร่ืองที่ ฟงั และดู พูดแนะนำตนเอง พูดแนะนำสถานที่ในโรงเรยี นและในชุมชน พูดแนะนำเชิญชวนเกี่ยวกบั การปฏบิ ัติตนใน ดา้ นต่าง ๆ เล่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวนั พูดในโอกาสต่าง ๆ เช่น ขอร้อง ทกั ทาย ขอบคุณ ขอโทษ ปฏิเสธ ซักถาม และมีมารยาทในการฟัง การดู และ การพดู เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ ใช้พจนานุกรม ค้นหาความหมายของคำ ระบุชนดิ และหนา้ ทีข่ องคำนาม คำสรรพนาม และคำกรยิ าในประโยค แต่งประโยคเพือ่ การส่อื สาร ไดแ้ ก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถาม ประโยคขอร้อง ประโยคคำสง่ั แตง่ คำคล้องจองและ คำขวัญ และเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่านวรรณคดี และวรรณกรรมเพือ่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองที่อ่าน รูจ้ ักเพลงพน้ื บ้านและเพลง กล่อมเด็กเพ่ือปลูกฝงั ความชืน่ ชมวัฒนธรรมท้องถนิ่ และท่องจำบทอาขยาน ตามทก่ี ำหนดและบทร้อยกรองทมี่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจ กิจกรรมการเรียนร้เู นน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกทักษะการใช้ภาษา ทัง้ การอา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพูด ท่ี อยบู่ นพ้ืนฐานของหลกั ภาษา โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ และการระดมสมองเปน็ หลกั เพอ่ื ให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทกั ษะในการใชภ้ าษาเพอื่ การส่ือสาร สามารถนำไปใชใ้ น ชีวิตประจำวันได้ มีความช่ืนชม เห็นคณุ ค่าภมู ิปญั ญาไทยและภูมใิ จในภาษาประจำชาติ รหัสตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวมทง้ั หมด ๓๑ ตัวชี้วัด

๔๙ คำอธิบายรายวชิ า ท ๑๔๑10 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาเรียน ๑๖๐ ชว่ั โมง ศกึ ษาและฝึกอ่านออกเสียงและอธิบายความหมายของบทรอ้ ยแก้ว และบทร้อยกรอง อ่านจบั ใจความจาก สื่อตา่ ง ๆ ตามเวลาท่กี ำหนด แลว้ สามารถตอบคำถามจากเรือ่ งทอี่ า่ น แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น คาดคะเน เหตกุ ารณ์โดยระบุเหตุผลประกอบ สรปุ ความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน อ่านหนังสอื ท่มี คี ุณค่าตาม ความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองท่ีอา่ น และมีมารยาทในการอ่าน คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และคร่งึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขียนตวั อกั ษรไทย เขียนคำขวัญและคำแนะนำ โดยใชค้ ำได้ ถกู ต้อง ชดั เจน และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพือ่ ใช้พัฒนางานเขยี น เขียนยอ่ ความ จากเรอ่ื งสัน้ ๆ เขียนจดหมายถงึ เพือ่ นและบดิ ามารดา เขยี นบันทกึ และเขยี นรายงานจากการศึกษาค้นควา้ เขยี น เร่อื งตามจนิ ตนาการ และมีมารยาทในการเขยี น จำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเร่ืองที่ฟังและดใู น ชีวติ ประจำวัน จบั ใจความของเร่อื งทฟ่ี ังและดูจากสอื่ ตา่ ง ๆ แลว้ พูดสรุปความ พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็น และ ความรู้สกึ ตัง้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจากเรอื่ งทฟ่ี ังและดู รายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ จาก การฟัง การดู การสนทนาและมีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ท ตา่ ง ๆ ใชพ้ จนานกุ รมค้นหาความหมายของคำ ระบชุ นดิ และหน้าท่ขี องคำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า และคำ วิเศษณ์ในประโยค แตง่ ประโยค ๒ สว่ น และประโยค ๓ ส่วนได้ถกู ตอ้ งตามหลักภาษา แต่งกลอนสแี่ ละคำขวญั บอก ความหมายของ คำพังเพยและสุภาษติ และเปรยี บเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถนิ่ ได้ ระบุข้อคดิ จากนทิ านพนื้ บ้านหรือนิทาน คติธรรม อธิบายข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจรงิ รอ้ งเพลงพื้นบ้านและท่องจำ บทอาขยานตามทก่ี ำหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ุณคา่ ตามความสนใจ กิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ใหผ้ ู้เรียนประมวลคำ แตง่ ประโยค เขียนข้อความ และสรา้ งสรรค์ผลงาน หลากหลายรูปแบบ ฝึกให้สังเกตคำ ประโยค และขอ้ ความ เพ่อื สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง มกี ารแสดงบทบาท สมมตุ ิเพ่ือฝกึ ทักษะการใชภ้ าษา และการเรียนรดู้ ้วยเกม เพื่อฝึกการทำงานกล่มุ การวางแผน และพัฒนา กระบวนการคดิ เพอ่ื ใหเ้ กิดความเข้าใจหลักภาษา เกดิ ทักษะในการใชภ้ าษาเพ่อื การสือ่ สาร สามารถนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้ มคี วามช่ืนชม เหน็ คุณคา่ ภมู ปิ ัญญาไทยและภมู ใิ จในภาษาประจำชาติ รหัสตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔

๕๐ รวมท้งั หมด ๓๓ ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวชิ า ท ๑๕๑01 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรยี น ๑๖๐ ชั่วโมง ศึกษาและฝึกอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง พร้อมทง้ั อธิบายความหมาย ของคำ ประโยคและข้อความท่ีเป็นการบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนยั จากเร่อื งทีอ่ ่านอย่าง หลากหลาย อ่านจับใจความจากสือ่ ตา่ ง ๆ แล้วสามารถแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น วิเคราะหแ์ ละแสดงความ คดิ เหน็ เกี่ยวกับเร่อื งทีอ่ า่ นเพ่ือนำไปใชใ้ นการดำเนินชวี ติ อ่านงานเขียนเชงิ อธิบาย คำสั่ง ขอ้ แนะนำและปฏิบัติตาม อ่านหนังสือทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอ และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรื่องทีอ่ ่าน และมีมารยาทในการ อ่าน คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย เขยี นคำขวญั คำอวยพร คำแนะนำและคำอธิบาย แสดงขนั้ ตอนโดยใชค้ ำได้ถกู ตอ้ งชัดเจน และเหมาะสม เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ ความคิดเพื่อ ใชพ้ ัฒนางานเขยี น เขียนยอ่ ความจากเรอื่ งทีอ่ ่าน เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนแสดง ความรูส้ กึ และความคิดเห็นได้ตรงตามเจตนา กรอกแบบรายการ ได้แก่ ใบฝากเงนิ และใบถอนเงนิ ธนาณัติ แบบ ฝากสง่ พัสดไุ ปรษณียภัณฑ์ เขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการ และมมี ารยาทในการเขียน จบั ใจความของเร่อื งทฟ่ี งั และดูจากส่ือต่าง ๆ แลว้ สามารถพดู แสดงความรู้ ความคิดเห็น ความรูส้ กึ ตัง้ คำถามและ ตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล วิเคราะห์ความนา่ เชือ่ ถือจากเรอ่ื งทฟ่ี ังและดอู ย่างมเี หตุผล พูดรายงานเร่ืองหรือประเดน็ ท่ี ศึกษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดู การสนทนา และมีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ระบชุ นิดและหน้าท่ขี องคำบุพ บท คำสนั ธาน และคำอุทานในประโยค จำแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษา ถิน่ ใช้คำราชาศัพท์ บอกคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แตง่ กาพย์ยานี ๑๑ และใช้สำนวนไดถ้ ูกต้อง สรุปเร่อื ง อธิบายคณุ คา่ ระบคุ วามรู้และข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง และ ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองท่มี ีคุณค่าตามความสนใจ กิจกรรมการเรียนร้เู นน้ ใหผ้ ู้เรียนสงั เกตและตอบคำถามทกี่ ระตุ้นความคดิ เพ่อื นำข้อมูลท่ีได้มาสรา้ งองค์ ความรดู้ ้วยตนเอง ฝึกประมวลคำ และนำคำไปใช้อย่างถกู ตอ้ ง สง่ เสริมการเรยี นรู้ภาษาไทยจากสอื่ ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน และม่งุ พฒั นาการทำงานด้วยกระบวนการกลมุ่ และการระดมความคิด เพือ่ ให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทกั ษะในการใชภ้ าษาเพ่ือการสอื่ สาร สามารถนำไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันได้ มีความชนื่ ชม เห็นคณุ ค่าภูมปิ ญั ญาไทยและภมู ิใจในภาษาประจำชาติ รหสั ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘ ท ๒.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘, ป. ๕/๙ ท ๓.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕ ท ๔.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗ ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔ รวมท้ังหมด ๓๓ ตัวชี้วัด

๕๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๑๖๑01 ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลาเรียน ๑๖๐ ชั่วโมง ศกึ ษาและฝึกอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความท่ีเป็นโวหาร อา่ นจบั ใจความเรอื่ งอย่างหลากหลายจากสอ่ื ต่าง ๆ โดยจบั เวลาแลว้ ถาม เก่ยี วกับเร่ืองทอ่ี ่าน แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ อธิบายการนำความรูแ้ ละความคิดจากเร่ืองท่ีอา่ นไปตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชวี ิต อ่านงานเขียนเชงิ อธิบาย คำส่ัง ขอ้ แนะนำและปฏบิ ตั ติ าม อ่านขอ้ มูลจากแผนผัง แผน ท่ี แผนภูมิ และกราฟ อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจและอธิบายคุณค่าที่ไดร้ บั และมีมารยาทในการอ่าน คดั ลายมือ ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครึ่งบรรทดั ตามรปู แบบการเขียนตัวอกั ษรไทย เขยี นคำขวัญ คำอวยพร และประกาศ โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชดั เจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคดิ เพือ่ ใชพ้ ฒั นางานเขียน เขยี นเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตวั กรอกแบบรายการ ไดแ้ ก่ แบบคำร้อง ใบสมัครศึกษาตอ่ แบบฝากส่ง พสั ดแุ ละไปรษณียภัณฑ์ เขยี นเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์ และมีมารยาทในการเขยี น พดู แสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงคข์ องเรอื่ งที่ฟงั และดู ตั้งคำถาม และตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเร่อื งทฟี่ ังและดู วเิ คราะห์ ความน่าเชอ่ื ถือจากการฟงั และดโู ฆษณาอย่างมีเหตผุ ล พูดรายงานเร่ือง หรือประเดน็ ทศ่ี ึกษาค้นคว้า จากการฟงั การดู และการสนทนา พดู โนม้ นา้ วอยา่ งมเี หตผุ ลและนา่ เชือ่ ถอื และมีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด วเิ คราะห์ชนิดและหนา้ ทขี่ องคำในประโยค ใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คลทง้ั คำราชาศัพท์ ระดับภาษา และภาษาถน่ิ รวบรวมและบอกความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย ระบลุ กั ษณะของประโยค สามัญ ประโยครวม ประโยคซอ้ น รวมท้ังกลุม่ คำหรอื วลี แต่งกลอนสภุ าพ และวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ สำนวนที่ เปน็ คำพังเพย และสภุ าษิต เล่านทิ านพ้ืนบ้านท้องถ่ินตนเองและนิทานพื้นบา้ นของท้องถนิ่ อน่ื แสดงความคดิ เหน็ และอธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง และท่องจำบทอาขยาน ตามทกี่ ำหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณคา่ ตามความสนใจ กิจกรรมการเรยี นรูเ้ นน้ ให้ผู้เรยี นสงั เกตและตอบคำถามทก่ี ระตนุ้ ความคิดอยา่ งเป็นลำดับ เพื่อนำไปสู่การ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ฝึกประมวลคำและนำคำไปใช้อยา่ งถูกตอ้ ง ส่งเสริมการสรา้ งสรรค์ผลงานหลากหลาย รูปแบบ และเรยี นรภู้ าษาไทยทใ่ี ช้ในชวี ิตประจำวันจากส่อื ต่าง ๆ รวมทั้งมุ่งพฒั นากระบวนการกลุ่ม การวางแผน และกระบวนการคิด เพอ่ื ให้เกดิ ความเข้าใจหลกั ภาษา เกิดทกั ษะในการใช้ภาษาเพอื่ การสื่อสาร สามารถนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้ มคี วามช่นื ชม เหน็ คุณค่าภูมิปญั ญาไทยและภูมิใจในภาษาประจำชาติ รหสั ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

๕๒ รวมท้ังหมด ๓๔ ตวั ช้ีวดั โครงสรา้ งรายวชิ า ท11101 รายวชิ าภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 100 ช่ัวโมง ลำดับที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั ๑ (ชั่วโมง) คะแนน เรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ตวั อกั ษรเป็นเคร่ืองหมายที่ใช้แทนเสียง ตัว 2 อักษรไทยมพี ยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย 63 3 หลกั ภาษาและ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ซง่ึ พยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ใช้ประสมคำใหม้ ี 4 ความหมาย 53 5 การใช้ภาษาไทย ป.๑/๒ สระ -า ออกเสียงอา เป็นสระเสยี งยาว เขียนไว้ข้าง หลงั พยญั ชนะต้น คำที่ใชส้ อ่ื สารในชีวิตประจำวัน มี 5 2.5 สระ -า ท ๒.๑ ป.๑/๑, คำทป่ี ระสมด้วยสระ -า คำสระ - ี ออกเสยี ง อี เป็นสระเสียงยาว เขยี นไว้ 42 ป.๑/๒ ข้างบนพยัญชนะตน้ คำทใ่ี ช้สอื่ สารในชีวติ ประจำวนั มคี ำทปี่ ระสมด้วยสระ - ี 42 ท ๔.๑ ป.๑/1 สระ -ู ออกเสียง อู เปน็ สระเสียงยาว เขียนไว้ ท ๔.๑ ป.๑/2 ขา้ งลา่ งพยัญชนะต้น คำทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน มีคำที่ ประสมด้วย สระ -ู สระ - ท ๑.๑ ป.๑/๑, สระ -ู ป.๑/๒ สระ เ- ออกเสียง เอ เป็นสระเสียงยาว เขียนไว้ สระ เ- ขา้ งหน้าพยัญชนะตน้ คำทีใ่ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั มคี ำ สระ แ- ท ๒.๑ ป.๑/๑, ท่ีประสมด้วย สระ เ- ป.๑/๒ สระ แ- ออกเสียง แอ เป็นสระเสียงยาว เขียนไว้ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ข้างหนา้ พยัญชนะตน้ คำทใ่ี ช้ในชีวติ ประจำวันมีคำที่ ประสมดว้ ยสระ แ- ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒

๕๓ 6 สระ โ- ท ๑.๑ ป.๑/๑, สระ โ- ออกเสียง โอ เป็นสระเสยี งยาว เขยี นไว้ 42 ป.๑/๒ ข้างหนา้ พยัญชนะต้น คำทใ่ี ชใ้ นชีวิตประจำวันมคี ำที่ ประสมด้วยสระ โ- ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ลำดับท่ี ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 7 เรียนรู้ เรียนรู/้ ตัวชี้วัด สระ -อ ออกเสียง ออ เปน็ สระเสยี งยาว เขียนไว้ข้าง (ชว่ั โมง) คะแนน 8 หลังพยัญชนะต้น คำท่ีใช้ในชีวติ ประจำวนั มีคำที่ 9 สระ -อ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ประสมดว้ ยสระ -อ 42 ๑0 ป.๑/๒ ๑1 สระ -ุ สระ -ุ ออกเสยี ง อุ เปน็ สระเสียงสัน้ เขียนไว้ข้างล่าง 42 ๑2 ท ๒.๑ ป.๑/๑, พยญั ชนะต้น คำท่ใี ช้ในชวี ิตประจำวนั มีคำท่ปี ระสม ๑3 สระ - ิ ป.๑/๒ ด้วย สระ - ุ 42 สระ - ึ ท ๔.๑ ป.๑/๒ สระ - ิ ออกเสยี ง อิ เปน็ สระเสียงสั้น เขยี นไว้ข้างบน 5 2.5 พยัญชนะต้น คำท่ใี ชใ้ นชวี ิตประจำวนั มคี ำที่ประสม สระ ไ- ไม้มลาย ท ๑.๑ ป.๑/๑, ดว้ ยสระ - ิ 5 2.5 ป.๑/๒ สระ ใ- ไมม้ ้วน สระ - ึ ออกเสียง อึ เป็นสระเสียงสั้น เขียนไว้ขา้ งบน 5 2.5 ท ๒.๑ ป.๑/๑, พยัญชนะต้น คำท่ใี ชใ้ นชีวิตประจำวันมีคำทป่ี ระสม สระ - ื ป.๑/๒ ดว้ ยสระ - ึ 5 2.5 ท ๔.๑ ป.๑/๒ สระ ไ- ออกเสียง ไอ ซ่งึ มีเสยี งเหมือนเสยี ง อะ ทม่ี ี ย สะกด เป็นสระเสียงสั้น เขียนไว้ขา้ งหน้าพยญั ชนะ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ตน้ คำที่ใช้ในชีวิตประจำวันมคี ำทปี่ ระสมดว้ ยสระ ไ- ป.๑/๒ สระ ใ- ออกเสยี งเหมอื น ท ๒.๑ ป.๑/๑, สระ ไ- เปน็ สระเสียงสน้ั ป.๑/๒ เขียนไวข้ า้ งหน้าพยัญชนะตน้ คำทีป่ ระสมด้วยสระ ใ- ทใ่ี ช้ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ในชวี ติ ประจำวันมี ๒๐ คำ สระ - ื ออกเสียง อือ เปน็ สระเสียงยาว เขียนไว้ ท ๑.๑ ป.๑/๑ ข้างบนพยัญชนะตน้ คำที่ประสมด้วยเสยี ง อือ แต่ไม่ ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑,

๑4 สระ - ำ ๕๔ ป.๑/๒ มตี ัวสะกดจะใชร้ ูป - อื คำที่ใช้ในชวี ิตประจำวนั มคี ำ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ทป่ี ระสมดว้ ยสระ - ื และ - ือ ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, สระ - ำ ออกเสียง อำ ซ่ึงมเี สียงเหมือนเสียง อะ ที่ 5 2.5 ป.๑/๒ มี ม สะกด เป็นสระเสียงสน้ั เขยี น ํ ไว้ข้างบน ท ๒.๑ ป.๑/๑, พยัญชนะต้น และเขียน - า ไว้ ข้างหลังพยัญชนะต้น ป.๑/๒ คำท่ีใช้ในชวี ติ ประจำวันมคี ำที่ประสมด้วยสระ -ำ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ลำดบั ท่ี ชื่อหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ เรียนรู้/ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน สระ เ-า ออกเสยี ง เอา ซงึ่ มเี สียงเหมอื นเสยี ง อะ ที่ ๑5 สระ เ-า ท ๑.๑ ป.๑/๑, มี ว สะกด เป็นสระเสียงส้ัน เขยี น เ- ไว้ข้างหน้า 42 ป.๑/๒ พยัญชนะต้น และเขียน -า ไว้ข้างหลังพยัญชนะต้น ๑6 สระ เ-ยี คำที่ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มคี ำทป่ี ระสมดว้ ยสระ เ-า 42 ท ๒.๑ ป.๑/๑, ๑7 สระ เ-ือ ป.๑/๒ สระ เ-ีย ออกเสียง เอีย เปน็ สระเสียงยาว เขยี น เ- 42 ไวข้ ้างหนา้ พยญั ชนะต้น เขยี น - ี ไว้ข้างบน ๑8 สระ - วั ท ๔.๑ ป.๑/๒ พยญั ชนะต้น และเขียน -ย ไว้ข้างหลังพยญั ชนะตน้ 42 คำท่ใี ช้ในชวี ติ ประจำวนั มคี ำทปี่ ระสมด้วยสระ เ-ีย 19 สระ - ะ ท ๑.๑ ป.๑/๑, 42 ป.๑/๒ ใช้ในชวี ิตประจำวนั มคี ำท่ปี ระสมด้วยสระ เ-อื วรรณคดแี ละ 15 7.5 วรรณกรรม ท ๒.๑ ป.๑/๑, สระ - วั ออกเสยี ง อวั เปน็ สระเสียงยาว เขยี น -ั ไว้ 20 นักอา่ นคนเก่ง ป.๑/๒ ขา้ งบนพยัญชนะตน้ และเขยี น - ว ไว้ขา้ งหลัง 21 กล่อมนอ้ งนอน พยญั ชนะต้น คำทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจำวันมีคำทปี่ ระสม 22 นทิ านพาเพลนิ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ด้วยสระ - ัว ท ๑.๑ ป.๑/๑, สระ -ะ ออกเสยี ง อะ เป็นสระเสยี งสัน้ เขียนไว้ข้าง ป.๑/๒ หลังพยัญชนะต้น คำทีป่ ระสมดว้ ยเสยี ง อะ ถา้ มี ตวั สะกดจะใช้ รูป -ั เขียนไว้ขา้ งบนพยัญชนะต้น ท ๒.๑ ป.๑/๑, คำท่ีใช้ในชวี ิตประจำวันมคี ำทป่ี ระสมดว้ ยสระ -ะ ป.๑/๒ และ -ั การอา่ นและการฟงั วรรณคดีและวรรณกรรมร้อย ท ๔.๑ ป.๑/๒ แกว้ และรอ้ ยกรองสำหรับเด็กทำให้ได้ข้อคิดท่ีนำมา ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖,

23 บ้านและ ป.๑/๗ ๕๕ ครอบครัว ท ๕.๑ ป.๑/๑, รวมเวลาเรยี นภาคเรยี นที่ 1 100 - ป.๑/๒ โครงสรา้ งรายวชิ า ท11101 รายวชิ าภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 100 ชั่วโมง ลำดบั ที่ ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชีว้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ตวั อกั ษรเปน็ เคร่อื งหมายทีใ่ ชแ้ ทนเสียง ตัว 24 หลกั ภาษาและ ท ๔.๑ ป.๑/๑ อกั ษรไทยมีพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย 42 ซึง่ พยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ใช้ประสมคำให้มี 42 การใชภ้ าษาไทย ความหมาย สระ เ-ะ ออกเสียง เอะ เปน็ สระเสยี งสนั้ เขียน เ- ไว้ 42 เตรียมพร้อมดี ข้างหน้าพยัญชนะต้น และเขยี น - ะ ไว้ขา้ งหลงั พยัญชนะตน้ คำทปี่ ระสมด้วยเสยี ง เอะ 42 ไม่มีปญั หา ถา้ มตี ัวสะกดจะใช้รูป เ -็ คำทใี่ ช้ ในชีวิตประจำวนั มคี ำทีป่ ระสมด้วยสระ เ - ะ และ เ 42 25 สระ เ - ะ ท ๑.๑ ป.๑/๑, -็ สระ แ-ะ ออกเสียง แอะ เปน็ สระเสยี งส้ัน เขยี น แ- 42 ป.๑/๒ ไว้ขา้ งหน้าพยญั ชนะต้น และเขียน - ะ ไว้ข้างหลัง พยัญชนะต้น คำท่ีประสมดว้ ยเสียง แอะ ถ้ามี ท ๒.๑ ป.๑/๑, ตัวสะกดจะใชร้ ปู แ -็ คำที่ใชใ้ นชีวิตประจำ วนั มคี ำที่ประสมด้วยสระ แ - ะ และ แ -็ ป.๑/๒ สระ เ-าะ ออกเสียง เอาะ เป็นสระเสียงส้นั เขียน เ- ไว้ข้างหนา้ พยญั ชนะต้น และ เขียน -าะ ไว้ข้างหลงั ท ๔.๑ ป.๑/๒ พยัญชนะต้น คำทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั มีคำท่ปี ระสม ดว้ ยสระ เ-าะ 26 สระ แ-ะ ท ๑.๑ ป.๑/๑, 27 สระ เ-าะ ป.๑/๒ สระ โ-ะ ออกเสยี ง โอะ เปน็ สระเสยี งส้นั เขียน โ- 28 สระ โ-าะ ไวข้ ้างหน้าพยญั ชนะต้น และเขียน -ะ ไว้ขา้ งหลัง 29 สระ เ-อะ ท ๒.๑ ป.๑/๑, พยัญชนะต้น คำทปี่ ระสมดว้ ยเสยี ง โอะ ถา้ มี ป.๑/๒ ตัวสะกดจะ ไม่ปรากฏรูปสระ คำท่ีใชใ้ นชีวิต ประจำวนั มคี ำทป่ี ระสมด้วยสระ โ- ท ๔.๑ ป.๑/๒ สระ เ-อะ ออกเสยี ง เออะ เปน็ สระเสียงสน้ั เขยี น เ- ไวข้ า้ งหน้าพยญั ชนะต้นและเขียน -อะ ไว้ข้างหลงั ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑,

๕๖ ป.๑/๒ พยัญชนะต้น คำทใี่ ชใ้ นชวี ิตประจำวันมคี ำทป่ี ระสม ท ๒.๑ ป.๑/๑, ด้วยสระ เ- อะ ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ลำดับท่ี ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน 30 สระ เ-อ ท ๑.๑ ป.๑/๑, สระ เ-อ ออกเสียง เออ เปน็ สระเสยี งยาว คำที่ 42 ป.๑/๒ ประสมดว้ ยเสยี ง เออ ถ้าไม่มีตวั สะกด จะใช้ 42 ท ๒.๑ ป.๑/๑, รปู เ-อ ถ้ามี ย สะกด จะใช้รปู เ-ย ถา้ มตี ัวสะกด 42 ป.๑/๒ อนื่ ๆ จะใชร้ ปู เ- ิ คำท่ีใช้ในชีวติ ประ 42 ท ๔.๑ ป.๑/๒ จำวันมีคำทป่ี ระสมดว้ ยสระ เ-อ เ-ย และ เ- ิ 42 31 มาตรา ก กา ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำที่ไมม่ ีตัวสะกดทกุ คำ จัดเป็นคำในมาตรา ก กา 42 ป.๑/๒ 42 ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 32 มาตรา กง ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทมี่ ี ง เป็นตวั สะกดทุกคำ จดั เปน็ คำในมาตรา กง ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 33 มาตรา กม ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำท่ีมี ม เปน็ ตัวสะกดทุกคำ จัดเป็นคำในมาตรา กม ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 34 มาตรา เกย ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทม่ี ี ย เปน็ ตัวสะกดทุกคำ จดั เป็นคำในมาตรา ป.๑/๒ เกย ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 35 มาตรา เกอว ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทีม่ ี ว เปน็ ตัวสะกดทกุ คำ จดั เป็นคำในมาตรา ป.๑/๒ เกอว ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 36 มาตรา กน ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทีม่ ีเสยี งตัวสะกดเหมือนเสียง น ทกุ คำ ไม่ว่าจะใช้ น ณ ญ ร ล ฬ เปน็ ตัวสะกด จัดเป็นคำในมาตรา กน

37 มาตรา กก ๕๗ ป.๑/๒ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทีม่ ีเสียงตวั สะกดเหมอื นเสียง ก ทกุ คำ ไม่ว่าจะใช้ 4 2 ป.๑/๒ ก ข ค ฆ เป็นตวั สะกด จัดเป็นคำในมาตรา กก ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ลำดับท่ี ชื่อหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 38 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำทีม่ เี สียงตัวสะกดเหมอื นเสยี ง บ ทกุ คำ ไมว่ ่าจะใช้ 39 มาตรา กบ บ ป พ ฟ ภ เป็นตัวสะกด จัดเปน็ คำในมาตรา กบ 42 ป.๑/๒ 40 มาตรา กด ท ๒.๑ ป.๑/๑, คำทม่ี ีเสียงตัวสะกดเหมือนเสียง ด ทุกคำ ไม่ว่าจะใช้ 42 ด จ ช ซ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ษ ส เปน็ ตัวสะกด 41 อักษรควบและ ป.๑/๒ จัดเป็นคำในมาตรา กด 42 42 อักษรนำ ท ๔.๑ ป.๑/๒ 43 ท ๑.๑ ป.๑/๑, ๑. คำอกั ษรควบมีพยัญชนะตน้ ๒ ตัว ท่ีออกเสียง 42 44 การผนั คำ พร้อมกัน 42 คำคล้องจอง ป.๑/๒ ๒. คำอักษรนำมพี ยัญชนะตน้ ๒ ตวั ออกเสียง 42 การแตง่ ประโยค ท ๒.๑ ป.๑/๑, เหมอื นมี ห นำ บางคำออกเสยี งครง้ั เดียว บางคำออกเสียงสองครงั้ 42 การฟัง การดู ป.๑/๒ การผนั คำใชเ้ สยี งและรปู วรรณยกุ ต์ ทำใหเ้ สยี งและ และการพูด ท ๔.๑ ป.๑/๒ ความหมายของคำเปลยี่ นไป ท ๑.๑ ป.๑/๑, คำคลอ้ งจองทไี่ มม่ ีตวั สะกด จะต้องมเี สยี งสระ เหมือนกนั ส่วนคำคล้องจองทมี่ ตี วั สะกดตอ้ งมีเสยี ง ป.๑/๒ สระและเสียงตัวสะกดเหมือนกนั ท ๒.๑ ป.๑/๑, ประโยคจะมคี ำตั้งแต่ ๒ คำข้ึนไป และบอกใหท้ ราบ วา่ ใคร ทำอะไร หรอื เป็นอยา่ งไร ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ทกั ษะการฟงั การดู และการพดู เปน็ พ้ืนฐานการใช้ ท ๑.๑ ป.๑/๑ ภาษาท่ีสำคัญ นำไปสกู่ ารพัฒนาการอา่ น และการ ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียน ท ๑.๑ ป.๑/๑ ท ๔.๑ ป.๑/๒ ท ๑.๑ ป.๑/๑ ท ๒.๑ ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๔.๑ ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

๕๘ วรรณคดีและ ท ๑.๑ ป.๑/๑, การอา่ นและการฟังวรรณคดแี ละวรรณกรรมรอ้ ย 16 8 วรรณกรรม ป.๑/๒, แกว้ และรอ้ ยกรองสำหรับเดก็ ทำให้ไดข้ ้อคิดทีน่ ำมา 45 โรงเรียนของเรา ป.๑/๓, ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน 46 เพื่อนกนั ป.๑/๔, 47 ส่งิ แวดลอ้ ม ป.๑/๕, รอบตัว ป.๑/๖, 48 ชาติ ศาสนา ป.๑/๗ พระมหากษัตริย์ ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวมเวลาเรยี นภาคเรียนที่ 2 100 คะแนนระหว่างเรยี นตลอดปี - 70 คะแนนวัดผลปลายปี - 30 รวม - 100 โครงสร้างรายวิชา ท12101 รายวชิ าภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 100 ช่ัวโมง ลำดบั ท่ี ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั ๑ เรยี นรู้ เรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ท ๑.๑ป. ๒/๑, ตัวอกั ษรไทยประกอบด้วย พยัญชนะ สระ หลกั ภาษา วรรณยุกต์ และเลขไทย ซง่ึ สามารถนำมา 84 และการใช้ ป. ๒/๒ ประกอบเป็นคำเพ่ือใชใ้ นการสอื่ สาร ภาษาไทย ท ๒.๑ ป. ๒/๑ มาตรา ก กา เป็นคำทีไ่ ม่มีตวั สะกด 7 3.5 มาตรา ก กา ท ๔.๑ ป. ๒/1 การอา่ น การเขยี น และรู้ความหมาย ของคำทถ่ี กู ต้องทำให้สามารถนำคำไปใชใ้ น 7 3.5 2 มาตรา กง ป. ๒/2 ชวี ติ ประจำวันได้ 7 3.5 ท ๑.๑ ป.๒/๑, มาตรา กง เปน็ คำทีม่ ี ง เปน็ ตวั สะกด ป. ๒/๒ การอ่าน การเขียน และรคู้ วามหมาย ของคำทถี่ กู ต้องทำให้สามารถนำคำไปใช้ใน ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ชวี ิตประจำวันได้ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ 3 มาตรา กม ท ๑.๑ป. ๒/๑, มาตรา กม เป็นคำทีม่ ี ม เป็นตวั สะกด ป. ๒/๒ การอา่ น การเขียน และรคู้ วามหมาย ของคำท่ีถูกต้องทำใหส้ ามารถนำคำไปใช้ใน ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ชวี ิตประจำวันได้ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ 4 มาตรา เกย ท ๑.๑ ป.๒/๑, มาตรา เกย เป็นคำที่มี ย เปน็ ตัวสะกด ป. ๒/๒ การอา่ น การเขียน และรคู้ วามหมาย ของคำที่ถูกต้องทำให้สามารถนำคำไปใช้ใน ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ชีวิตประจำวนั ได้ ท ๔.๑ ป. ๒/๒

๕๙ 5 มาตรา เกอว ท ๑.๑ ป.๒/๑, มาตรา เกอว เป็นคำทมี่ ี ว เป็นตัวสะกด การ 7 3.5 ป. ๒/๒ อา่ น การเขียน และร้คู วามหมายของคำท่ี ถกู ต้อง ทำใหส้ ามารถนำคำไปใช้ ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ในชีวติ ประจำวันได้ 6 มาตรา กก ท ๑.๑ ป. ๒/๑, มาตรา กก เปน็ คำทีม่ ี ก ข ค ฆ เป็นตวั 7 3.5 ป. ๒/๒ สะกด ซง่ึ ออกเสยี งเหมือน ก สะกด การอ่าน ท ๒.๑ ป. ๒/๑ การเขยี น และร้คู วามหมายของคำทีถ่ กู ต้องทำ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ให้สามารถนำคำไปใชใ้ นชีวิต ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ เรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน 3.5 7 มาตรา กด ท ๑.๑ ป. ๒/๑, มาตรา กด เปน็ คำท่ีมีพยญั ชนะที่เป็นตัว 7 ป. ๒/๒ สะกดได้หลายตวั ซ่งึ ออกเสยี งเหมอื น ด สะกด 3.5 8 มาตรา กน การอ่าน การเขียน และรคู้ วามหมายของคำท่ี 7 ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ถูกต้อง ทำให้สามารถนำคำไปใชใ้ น 3.5 9 มาตรา กบ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ชีวิตประจำวันได้ 7 4.5 ๑0 การผนั อักษร ท ๑.๑ ป. ๒/๑, มาตรา กน เป็นคำทีม่ ี น ญ ณ ร ล ฬ 9 ป. ๒/๒ เป็นตวั สะกด ซึง่ ออกเสยี งเหมือน น สะกด 4.5 11 การเขยี น การอ่าน การเขยี น และร้คู วามหมายของคำที่ 9 ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ถกู ต้องทำใหส้ ามารถนำคำไปใชใ้ น ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ชีวิตประจำวันได้ ท ๑.๑ ป. ๒/๑, มาตรา กบ เป็นคำท่ีมี บ ป พ ฟ ภ เป็นตวั ป. ๒/๒ สะกด ซ่ึงออกเสียงเหมือน บ สะกด การอ่าน การเขยี น และรคู้ วามหมายของคำทถ่ี ูกตอ้ งทำ ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ให้สามารถนำคำไปใช้ในชวี ิต ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ประจำวันได้ ท ๑.๑ ป. ๒/๑, การผนั อักษร เปน็ การเปล่ยี นเสียงคำต่าง ๆ ป. ๒/๒ ตามเสยี งวรรณยุกต์ใหไ้ ดค้ ำใหมท่ ่มี ีความ หมายแตกต่างจากคำเดมิ การเขา้ ใจอกั ษรสูง ท ๒.๑ ป. ๒/๑ อกั ษรกลาง และอักษรตำ่ จะทำใหผ้ นั อักษรได้ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ถูกตอ้ งและสามารถนำคำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ท ๒.๑ ป.๒/๒, ป.๒/๓, ๑. การแต่งประโยคได้ตรงตามจดุ ประสงค์จะ ป. ๒/๔ ทำใหก้ ารสื่อสารชัดเจน 2. การมีมารยาทในการเขียนจะทำใหง้ าน ท ๔.๑ ป. ๒/๓ เขยี นมีคุณภาพเป็นทชี่ ืน่ ชมของผทู้ ไี่ ดอ้ า่ น งานเขยี นนัน้

12 การฟงั การดู ท ๓.๑ ๑. การฟังคำแนะนำหรือคำส่ังอย่างตง้ั ใจและ ๖๐ และการพดู ป. ๒/๑, คดิ ตามจะทำใหเ้ ขา้ ใจและสามารถปฏิบตั ิตาม 9 4.5 ป. ๒/๒, ได้ถกู ตอ้ ง ป. ๒/๓, ๒. การฟังและดเู รือ่ งราวต่าง ๆ อยา่ งต้งั ใจจะ ป. ๒/๔, ทำให้สามารถจบั ใจความของเร่อื งได้ สามารถ ป. ๒/๕, นำไปถา่ ยทอดแสดงความคดิ เห็นและ ป. ๒/๗ ความรู้สกึ ได้อย่างถูกตอ้ ง 3. การมมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู เกิดข้นึ จากความตั้งใจ ทำใหผ้ ู้อน่ื ชน่ื ชม และ การส่ือสารประสบความสำเรจ็ ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน 1.5 13 วรรณคดี ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. บทดอกสรอ้ ย ไก่แจ้ และไกแ่ กว้ สอนให้ 3 1.5 และวรรณกรรม ป. ๒/๒, ขยนั มีวินยั รูจ้ ักหนา้ ที่ของตนเอง และเห็น 3 1.5 ครอบครัวผาสกุ ป. ๒/๔, คณุ คา่ ของเวลา 3 ป. ๒/๕, ๒. เพลงคา่ น้ำนม ปลูกฝังความกตญั ญูกตเวที 100 ป. ๒/๘ ให้ระลึกถงึ พระคณุ อันย่ิงใหญข่ องแมท่ ลี่ กู ทุก ท ๕.๑ ป. ๒/๑, คนต้องทดแทน ป. ๒/๓ ๓. เพลงหน้าท่เี ด็ก สอนใหร้ จู้ ักหนา้ ทีท่ ตี่ ้องทำ และปลกู ฝงั คุณธรรมจริยธรรมทดี่ ีงาม 14 สนุกกับนทิ าน ท ๑.๑ ป. ๒/๑, นิทานเรอื่ ง ยายกะตา ให้ข้อคดิ ในเรอ่ื งความ ป. ๒/๒, รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี ท่ีไดร้ ับมอบหมาย รจู้ กั ป. ๒/๓, ช่วยทำงานในบ้านเทา่ ทีจ่ ะทำได้และไม่ให้เกิด ป. ๒/๔, ความเสยี หาย ป. ๒/๕, ป. ๒/๘ ท ๕.๑ ป. ๒/๑ 15 ทันข่าว ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. ข่าวเป็นเรอ่ื งราวรอบตวั ที่มปี ระโยชนใ์ น เหตุการณ์ ป. ๒/๒, การดำเนินชีวิต การรับรขู้ ่าวจากสื่อตา่ ง ๆ ป. ๒/๔, อาจเปน็ การอา่ นจากหนังสือพิมพ์ การฟังและ ป. ๒/๖, ดจู ากโทรทัศน์หรอื วทิ ยุอยูเ่ สมอ ทำให้ ป. ๒/๘ เป็นผ้ทู ันเหตุการณ์ ไดร้ ับความรูแ้ ละขอ้ คดิ ที่ ท ๕.๑ ป. ๒/๑, สามารถนำมาใช้ในชวี ิตประจำวนั ป. ๒/๒, ๒. บทอาขยาน กาดำ ปลูกฝัง การมีนำ้ ใจ ป. ๒/๓ เอ้ือเฟอ้ื เผือ่ แผแ่ กค่ นรอบข้าง รวม

๖๑ โครงสร้างรายวิชา ท12101 รายวชิ าภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 100 ช่ัวโมง ลำดับท่ี ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ๑6 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ตวั อักษรไทยประกอบด้วย พยญั ชนะ สระ 4.5 17 หลักภาษา วรรณยุกต์ และเลขไทย ซงึ่ สามารถนำมา 9 และการใช้ ป. ๒/๒ ประกอบเป็นคำเพื่อใชใ้ นการสอ่ื สาร 4.5 18 ภาษาไทย ท ๒.๑ ป. ๒/๑ คำทม่ี พี ยญั ชนะควบกล้ำเป็นคำทีม่ ี 9 คำที่มีพยญั ชนะ ท ๔.๑ ป. ๒/1 พยัญชนะต้น ๒ ตัว ประสมสระตวั เดยี วกนั 4.5 ควบกลำ้ ท ๔.๑ ป. ๒/2 พยญั ชนะท่ีมาควบคือ ร ล ว บางคำ ออกเสียง 9 พยญั ชนะต้น ๒ ตัว กล้ำกนั บางคำออกเสียง คำท่ีมอี ักษรนำ ท ๑.๑ ป. ๒/๑, เฉพาะพยัญชนะตัวแรก และบางคำออกเสยี ง ป. ๒/๒ ทร เปน็ เสยี ง ซ การอ่าน การเขยี น และรู้ คำทีม่ ตี ัวการันต์ ความหมายของคำทถี่ กู ตอ้ งทำใหส้ ามารถนำ ท ๒.๑ ป. ๒/๑ คำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ท ๔.๑ ป. ๒/๒ คำที่มอี ักษรนำ เปน็ คำทีม่ พี ยญั ชนะต้น ๒ ตวั ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ประสมสระเดยี วกัน พยัญชนะต้นตัวแรก จะ ป. ๒/๒ เปน็ อักษรสงู หรืออกั ษรกลาง ส่วนพยัญชนะตัว ท่ีสองจะเปน็ อักษรตำ่ บางคำออกเสียง ท ๒.๑ ป. ๒/๑ พยางคเ์ ดียว บางคำออกเสียง ท ๔.๑ ป. ๒/๒ ๒ พยางค์ โดยพยางค์แรกออก -เสียง อะ กึ่ง เสียง ส่วนพยางคห์ ลงั ออกเสยี งเหมอื นมี ห นำ การอ่าน การเขียน และรคู้ วาม หมายของคำทถี่ ูกตอ้ งทำใหส้ ามารถนำคำไปใช้ ในชวี ติ ประจำวันได้ คำทม่ี ีตัวการนั ต์ เป็นคำที่มไี มท้ ัณฑฆาต ( -์) กำกบั อยบู่ นพยญั ชนะท่ีไม่ตอ้ งการออก เสียง ตัวการันต์มีท้ังพยัญชนะตัวเดียว พยัญชนะ ๒ ตัว พยญั ชนะและสระ การอา่ น จะไม่อา่ นออกเสยี งพยญั ชนะและสระนั้น การ

๖๒ เขียน และร้คู วามหมายของคำท่ถี กู ต้องทำให้ สามารถนำคำไปใช้ในชวี ิต ประจำวันได้ ลำดับที่ ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก เรยี นรู้ เรียนร้/ู ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน 19 คำทมี่ ี รร ท ๑.๑ ป. ๒/๑, คำทม่ี ี รร อา่ นออกเสยี งเหมือน 9 4.5 ป. ๒/๒ พยัญชนะต้นประสมสระ อะ ถ้าคำนัน้ ไมม่ ี ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ตัวสะกดจะออกเสียงเหมือนมี น เปน็ ตัวสะกด ท ๔.๑ ป. ๒/๒ แตถ่ ้าคำน้ันมตี ัวสะกดจะ ออกเสยี งตามเสียงตัวสะกดของคำ การเขยี น และรู้ความหมายของคำท่ีถูกต้อง ทำให้ สามารถนำคำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ 20 คำที่มีพยัญชนะ ท ๑.๑ ป. ๒/๑, คำบางคำมพี ยญั ชนะและสระที่ 9 4.5 และสระท่ีไม่ ป. ๒/๒ ไมอ่ อกเสยี ง บางคำไม่ออกเสียง ร ออกเสียง ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ซง่ึ เปน็ ตวั สะกดตัวทสี่ อง บางคำ ไมอ่ อกเสยี ง ห และบางคำ ไม่ออกเสยี งสระ - ์หรอื สระ - ์ ซ่ึงประสมอยู่กบั ตวั สะกด 21 คำที่มี ท ๔.๑ ป. ๒/๒ คำในภาษาไทยมคี ำท่ีมีความหมายตรงขา้ มกนั 9 4.5 ความหมาย ใชเ้ ปรยี บเทยี บเพือ่ ส่อื ความหมายให้ชดั เจน การเข้าใจความหมายของคำ ทำให้สามารถ ตรงขา้ มกัน นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ถกู ต้อง 22 คำคลอ้ งจอง ท ๑.๑ ป. ๒/๑ คำคล้องจองเปน็ คำทม่ี ีเสียงสระและเสียง 9 4.5 ท ๒.๑ ป. ๒/๑ ตวั สะกดเหมือนกันทำใหภ้ าษาไทยมคี วาม ท ๔.๑ ป. ๒/๔ ไพเราะ และจดจำได้งา่ ย 23 ภาษาไทย ท ๔.๑ ป. ๒/๕ ภาษาไทยมาตรฐานเปน็ ภาษาทใ่ี ช้ติดต่อ 9 4.5 มาตรฐาน- ภาษาถน่ิ ส่อื สารกันท่วั ไป ส่วนภาษาถิน่ เป็นภาษาทใี่ ช้ ติดตอ่ ส่อื สารกนั ภายในท้องถิ่นใดท้องถ่ินหน่งึ การเรยี นรภู้ าษาถิ่นทำใหเ้ ข้าใจการส่อื สารของ คนกลุ่มตา่ งๆ และเลือกใชภ้ าษา

๖๓ 24 การเขยี น ท ๒.๑ ป.๒/๒, 1. การเขียนเร่ืองสัน้ ๆ เกี่ยวกับ 10 5 ป.๒/๓, ประสบการณ์เป็นการเขยี นเร่ืองราวท่เี กิดจาก ป. ๒/๔ การกระทำ หรอื ไดพ้ บเห็นมาดว้ ยตนเอง ถ่ายทอดใหผ้ ้อู ืน่ รับรู้ เพ่ือแลก ท ๔.๑ ป. ๒/๓ เปล่ยี นประสบการณซ์ ง่ึ กนั และกัน 2. การเขียนเร่อื งสนั้ ๆ ตามจนิ ตนาการ ทำให้ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ลำดับที่ ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก 25 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน 4.5 26 การฟงั การดู ท ๓.๑ ป. ๒/๑, ๑. การฟงั คำแนะนำหรอื คำส่งั อยา่ งตง้ั ใจและ 9 1.5 27 และการพดู ป. ๒/๒, คดิ ตามจะทำใหเ้ ขา้ ใจและสามารถปฏิบัติตาม 3 28 1.5 ป. ๒/๓, ได้ถูกตอ้ ง 3 1.5 ป. ๒/๔, ๒. การฟงั และดเู รือ่ งราวต่าง ๆ อย่างตง้ั ใจจะ 3 70 ป. ๒/๕, ทำให้สามารถจับใจความของเรือ่ งได้ สามารถ 100 - ป. ๒/๖, นำไปถ่ายทอดแสดงความคิดเห็นและ ป. ๒/๗ ความรสู้ ึกไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๓. การพดู สือ่ สารในชีวติ ประจำวัน ต้อง เลอื กใชถ้ ้อยคำและแสดงกิริยาท่าทาง ให้เหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล วรรณคดี ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. นิทานอสี ปเรือ่ ง ราชสีหก์ บั หนูให้ข้อคิดวา่ และวรรณกรรม ป. ๒/๒, อย่าดูถกู ผอู้ ืน่ แต่ละคนมคี วามสามารถ สบื สานมรรยาท ป. ๒/๔, แตกตา่ งกนั ซ่ึงสามารถอยู่ร่วมกันและ ไทย ป. ๒/๕, ชว่ ยเหลอื กนั ได้ ป. ๒/๘ ๒. สถานทแ่ี ละเครื่องใชท้ เ่ี ปน็ ของสว่ นรวม ทกุ ท ๕.๑ ป. ๒/๑ คนต้องชว่ ยกนั ดูแลรักษา และเคารพสทิ ธซิ ่งึ กันและกัน ธรรมชาตแิ สน ท ๕.๑ ป. ๒/๓ บทอาขยาน รกั ษาป่า ปลูกฝังจิตสำนกึ ให้ งาม ช่วยกันรกั ษาป่าไม้ เพราะปา่ ไม้เป็นต้นกำเนิด ของแหล่งนำ้ ทำใหอ้ ากาศบรสิ ุทธแิ์ ละดินช่มุ ชื้น ทกุ ชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ ลว้ นตอ้ งพ่ึงพาป่าไม้ เมืองไทยเมือง ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ปริศนาคำทาย บทร้องเล่น และสกั วา เป็น ทอง ป. ๒/๒ รปู แบบของการใชภ้ าษาทไี่ พเราะมีเสียงสมั ผสั คลอ้ งจอง ใชร้ อ้ งหรอื ประกอบการละเล่นที่ สนุกสนาน สะท้อนความเป็นไทย บางบท สอดแทรกขอ้ คิดท่ดี ี รวมเวลาเรียนภาคเรยี นท่ี 1 คะแนนระหว่างเรยี นตลอดปี

คะแนนวดั ผลปลายปี - ๖๔ รวม - 30 100 โครงสรา้ งรายวิชา ท13101 รายวชิ าภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 100 ชว่ั โมง ลำดบั ท่ี ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั ๑ เรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน สระใช้ประสมกับพยัญชนะและวรรณยุกต์ให้ 2.5 ๒ หลกั ภาษาและ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ เป็นคำที่มีความหมายเพื่อใช้สื่อสารใน 5 ๓ การใช้ ชีวิตประจำวนั 3 ภาษาไทย 6 3 ๔ สระไทย...ใช้ คำที่ไม่มีตัวสะกดทุกคำจัดเป็นคำในมาตรา ก 6 5 ประสมคำ กา 3 มาตรา ก กา... ท ๔.๑ ป. ๓/๑ คำในมาตรา กง กม เกย และเกอว มตี วั สะกด 6 3.5 ๖ รวู้ า่ ไม่มตี ัวสะกด ตรงตามเสียงเพยี งตวั เดยี ว 7 มาตรา กง กม ท ๔.๑ ป. ๓/๑ 3.5 เกย เกอว... คำในมาตรา กก กด กน และกบ เป็นคำที่มี 7 ตัวสะกด ตวั สะกดหลายตวั ซงึ่ ออกเสียงเหมอื นกัน กำหนดเสยี ง มาตรา กก กด ท ๔.๑ ป. ๓/๑ วรรณยุกต์เป็นระดับสูงต่ำของเสียงที่ปรากฏ กน กบ...ตวั สะ ในพยางค์หรือคำ วรรณยุกต์มี ๔ รูป ๕ เสียง กดหลายตัว เมอื่ นำวรรณยุกต์เขยี นบนพยัญชนะต้นของคำ วรรณยุกต.์ .. ท ๔.๑ ป. ๓/๑ จะทำให้เสียงและความหมายของคำเปลย่ี นไป สนกุ กับการผนั พยัญชนะควบกลำ้ จะควบกบั ร ล หรอื ว บาง อักษร คำออกสียงพยัญชนะต้นทั้ง ๒ ตัว พร้อมกัน บางคำออกเสียงเฉพาะพยัญชนะต้นตัวแรก ควบกล้ำ...คำท่ีมี ท ๔.๑ ป. ๓/๑ และบางคำออกเสียง ทร เป็นเสียง ซ รลว

๖๕ ๗ อักษรนำ...ทำให้ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ คำทีม่ อี กั ษรนำจะมพี ยัญชนะต้น ๒ ตัว 7 3.5 เสยี งต่างไป ประสมสระเดยี วกนั พยญั ชนะต้นทั้ง ๒ ตัว พรอ้ มกัน บางคำออกเสยี งเฉพาะพยัญชนะต้น ตวั แรกจะเปน็ อักษรสูง หรืออกั ษรกลาง ส่วน พยัญชนะต้นตวั ท่ี ๒ ต้องเป็นอักษรต่ำ เดยี่ วเท่าน้ัน บางคำออกเสียงพยางค์เดยี ว บาง คำออกเสียงสองพยางค์ ๘ คำทีป่ ระ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ คำที่ออกเสียง อะ บางคำมีรูป –ะ และออก 8 4 วสิ รรชนยี ์และ เสยี ง อะ เตม็ เสียง บางคำไมม่ ีรปู –ะ และออก คำทีไ่ ม่ประ เสยี ง อะ กง่ึ เสียง วสิ รรชนีย์ ลำดบั ที่ ชื่อหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั ๙ เรียนรู้ เรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ท ๑.๑ ป. ๓/1, คำที่ใช้ รร ไม่มีตัวสะกด จะออกเสียงสระเป็น 4 10 คำทใี่ ช้ บนั บรร เสียง อะ และเสยี งตวั สะกดเป็นเสียงในมาตรา 8 11 รร ป. ๓/๒ กน ส่วนคำที่ใช้ รร มีตัวสะกด จะออกเสียง 4 12 ท ๔.๑ ป. ๓/๑ สระเป็นเสียง อะ และเสียงตัวสะกดตาม 8 การอ่าน มาตราตัวสะกดของคำนั้น ส่วนคำที่ใช้ บัน 4 ๑3 ท ๑.๑ ป. 3/1 บรร เป็นการเขียนเฉพาะของแต่ละคำ 8 4 การเขยี น ป.3/3 ป.3/4 8 ป.๓/5 ป.3/6 การอ่านเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าและ 2 การฟงั การดู ป.3/7 ป.๓/๘, แสวงหาความรู้เรื่องต่าง ๆ ทำให้ได้แนวคิดท่ี 4 และการพูด เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต การฝึกฝน ป. ๓/๙ ทักษะการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีความรู้ วรรณคดีและ ท ๒.๑ ป. ๓/๑, เพอ่ื พัฒนาตนมากยงิ่ ข้นึ วรรณกรรม ป.๓/๒, ป.๓/๓, นิทานสอนใจ ป.๓/๔, ป.๓/๕, การเขยี นเป็นการสื่อสารอยา่ งหนึง่ เพ่ือให้ผู้อื่น ป. ๓/๖ รับร้เู รอ่ื งราวตามที่ผ้เู ขยี นต้องการในการเขียน ท 3.๑ ป.๓/๑, จะต้องเขียนด้วยลายมือบรรจงและสะอาด เรยี บร้อย ป.๓/๒, ป.๓/๓, การฟัง การดู และการพดู เป็นทกั ษะพ้นื ฐานที่ ป.๓/๔, สำคัญอนั จะนำไปสู่การอ่านและการเขียน ป.๓/๕, นักเรยี นควรมีมารยาทในการฟงั และการดู ป. ๓/๖ เพอื่ ให้สามารถจบั ใจความ นำไปใช้ประโยชน์ ในชวี ติ ประจำวนั และสามารถพูดส่ือสารกับ ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ผู้อน่ื ได้อย่างถกู ต้อง และมมี ารยาทตามความ ป. ๓/๒, เปน็ ไทย ป. ๓/๓, ป. ๓/๔, ๑. นิทานสภุ าษิต เรอื่ ง กระต่ายตื่นตมู ให้ ป.๓/๕, ขอ้ คดิ วา่ ควรใชป้ ัญญาในการไตร่ตรองเรอื่ ง ต่าง ๆ ไม่หลงเชือ่ สงิ่ ใดงา่ ย ๆ ๒. นิทานสุภาษิต เร่อื ง เด็กเล้ยี งแกะให้ข้อคิด ว่า ไม่ควรพูดโกหก หลอกลวงผู้อ่นื เพราะ

๖๖ ป. ๓/๙ นอกจากจะทำใหผ้ ู้อ่นื เดือดรอ้ นแลว้ อาจจะ ท ๕.๑ ป. ๓/๑ สง่ ผลใหต้ นเองและครอบครวั เดือดร้อนด้วย 14 หลีกไกลคนพาล ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ๑. นทิ านอสี ป เรื่อง กระต่ายแหยเ่ สือให้ข้อคิด 4 2 ป.๓/๒, ว่า ไม่ควรแกล้งผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่มีนสิ ัยพาล ป.๓/๓, เกเร เพราะจะทำใหค้ นเดอื ดรอ้ น ป.๓/๔, ๒. นิทานอีสป เรื่อง หมาป่ากับลูกแกะให้ ป.๓/๕, ข้อคิดว่า ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่อยู่ใกล้คนที่มี ป. ๓/๙ นิสัยพาลเกเร เพราะจะนำภัยมาสู่ตนเองและ ท ๕.๑ ป. ๓/๑ คนทีม่ นี สิ ัย เกเร จะทำใหไ้ มม่ ีใครอยากคบหา 15 ความสขุ จาก ท ๑.๑ ป. ๓/๑, หนงั สือ ประถม ก กา เป็นหนังสอื ทีม่ ี 42 การอา่ น ป. ๓/๒, ประโยชนก์ ารฝกึ อ่านจะทำใหอ้ ่านออก เขียน ป. ๓/๕, ได้ และใชค้ ำได้ถูกความหมาย ป. ๓/๙ ท ๕.๑ ป. ๓/๔ ลำดบั ท่ี ชื่อหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั 16 เรยี นรู้ เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั (ช่วั โมง) คะแนน ๑. บทดอกสรอ้ ยสภุ าษิต เร่ือง มดแดงเปน็ บท สบื สานบท ท ๑.๑ ป. ๓/๑, กลอนทมี่ ีความไพเราะ สอนใหร้ จู้ กั การมคี วาม 4 2 กลอน ป. ๓/๒, กล้าหาญและอดทน ป.๓/๓, ๒. บทดอกสรอ้ ยสุภาษติ เร่อื ง นกกระจาบ 100 ป. ๓/๕, เปน็ บทกลอนท่ีสอนให้ใช้ความละเอียด ป.๓/๖, รอบคอบ รจู้ ักคดิ ไตรต่ รองในการทำงาน ป.๓/๙ ๓. บทอาขยาน เด็กน้อย สอนใหเ้ ด็กเห็น ความสำคญั ของการเรียนหนังสอื ท่จี ะทำใหม้ ี ท ๕.๑ ป. ๓/๑, อนาคตทีด่ ี ไมล่ ำบาก ป. ๓/๔ ๔. บทอาขยาน วิชาหนาเจ้า สอนให้เห็น ความสำคญั ของการมวี ิชาความรู้ ซ่ึงจะทำให้ ชีวติ มีความสุข เปน็ ที่เชดิ หนา้ ชูตาได้ รวมเวลาเรียนภาคเรียนท่ี 1

๖๗ โครงสร้างรายวิชา ท13101 รายวชิ าภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 100 ชวั่ โมง ลำดบั ท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 17 เรียนรู้ เรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน 18 ท ๑.๑ ป. ๓/1, ตัวอักษรทีม่ ไี มท้ ณั ฑฆาต ( -์ )เขียนอยู่ข้างบน 2.5 19 คำท่ีมตี ัวการันต์ ทำใหต้ วั อกั ษรนั้นไม่ออกเสียง เรียกวา่ ตวั 5 20 ป. ๓/๒ การันต์ ตวั การนั ตอ์ าจอยู่กลางคำหรอื ทา้ ยคำ 3.5 คำทีพ่ ยญั ชนะ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ การอ่านและเขียนคำท่ีมีพยัญชนะและสระไม่ 7 21 และสระไมอ่ อก ท ๑.๑ ป. ๓/1, ออกเสียง ต้องสังเกตและจดจำตัวอักษร 3.5 22 เสียง เหล่าน้ัน เพอื่ ให้อา่ นและเขยี นคำได้ถกู ต้อง 7 คำท่ใี ช้ ฑ ฤ ฤๅ ป. ๓/๒ ตวั อกั ษรบางตัวในภาษาไทยสามารถออกเสียง 3.5 ได้หลายแบบ ต้องสงั เกตจากการประสมคำ 7 คำพอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๓/1, 3.5 ป. ๓/๒ คำพอ้ งรปู จะเขียนเหมือนกัน แตอ่ ่านออกเสียง 7 3.5 ชนิดของคำ...ทำ และมคี วามหมายตา่ งกนั ส่วนคำพ้องเสยี งเป็น 7 หลายหน้าที่ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ คำท่ีอา่ นออกเสียงเหมือนกัน แตก่ ารเขียนและ การใช้ ท ๑.๑ ป. ๓/1, ความหมายตา่ งกัน พจนานุกรม ประโยคประกอบด้วยคำหลายชนิดซึ่งทำ ป. ๓/๒ หน้าท่ใี นประโยคแตกต่างกนั พจนานุกรมเป็นหนังสือที่ใช้สำหรับค้นหาคำ ท ๔.๑ ป. ๓/๒ ในภาษาไทย เพอ่ื ตรวจสอบการเขียนสะกดคำ การอา่ นคำ ความหมายและชนิดของคำ ท ๔.๑ ป. ๓/๓

๖๘ 23 การแต่งประโยค ท ๔.๑ ป. ๓/๔ ประโยคเกิดจากการนำคำมาเรยี งกนั เพื่อบอก 8 4 เพือ่ การสอ่ื สาร ป. 3/5 เลา่ ปฏิเสธ ถาม ส่ง ขอร้อง ซึ่งเปน็ การสือ่ สาร ท 2.1 ป. 3/2 ในชวี ิตประจำวนั ป. 3/3 ป. 3/4 ป. 3/5 24 คำคล้องจอง ท ๔.๑ ป. ๓/5 คำคลอ้ งจองทำให้ถ้อยคำไพเราะ มเี สยี งของ 7 3.5 และคำขวญั คำเชอื่ มโยงกัน ซง่ึ เป็นเอกลกั ษณ์ของ ภาษาไทย คำขวญั เป็นข้อความส้นั ๆ ท่ีมีเสยี ง คลอ้ งจองกัน ใหค้ ติสอนใจหรือให้ทำสงิ่ ดีงาม 25 ภาษาไทย ท ๔.๑ ป. ๓/6 ภาษาไทยมาตรฐานเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกัน 8 4 มาตรฐานและ ทั่วประเทศ ส่วนภาษาถิ่นเป็นภาษาที่กลุ่มคน ภาษาถนิ่ ในแต่ละท้องถิ่นใช้สนทนากัน ควรเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับกาลเทศะ ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั เรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ท ๑.๑ ป. 3/1 การอ่านเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าและ 3.5 26 การอ่าน ป.3/3 ป.3/4 แสวงหาความรู้เรื่องต่าง ๆ ทำให้ได้แนวคิดท่ี 7 ป.๓/5 ป.3/6 เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต การฝึกฝน 3.5 27 การเขยี น ป.3/7 ป.๓/๘, ทักษะการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีความรู้ 7 3.5 เพื่อพัฒนาตนมากย่ิงขน้ึ 7 28 การฟงั การดู ป. ๓/๙ การเขยี นเปน็ การส่ือสารอย่างหนึ่งเพ่ือให้ผู้อื่น 2 และการพดู ท ๒.๑ ป. ๓/๑, รบั รู้เรือ่ งราวตามที่ผู้เขียนต้องการในการเขียน 4 ป.๓/๒, ป.๓/๓, จะต้องเขียนด้วยลายมือบรรจงและสะอาด 29 วรรณคดแี ละ ป.๓/๔, ป.๓/๕, เรียบร้อย วรรณกรรม ป. ๓/๖ การฟัง การดู และการพดู เป็นทักษะพนื้ ฐานที่ นิทานสอนใจ ท 3.๑ ป.๓/๑, สำคญั อันจะนำไปสกู่ ารอ่านและการเขียน นกั เรยี นควรมีมารยาทในการฟังและการดู ป.๓/๒, เพ่อื ใหส้ ามารถจบั ใจความ นำไปใชป้ ระโยชน์ ป.๓/๓, ในชวี ิตประจำวัน และสามารถพูดสือ่ สารกบั ป.๓/๔, ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และมีมารยาทตามความ ป.๓/๕, เป็นไทย ป. ๓/๖ ๑. นทิ านสุภาษติ เรื่อง กระต่ายตน่ื ตมู ให้ ข้อคิดว่า ควรใชป้ ญั ญาในการไตร่ตรองเรอื่ ง ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ตา่ ง ๆ ไมห่ ลงเช่ือสิง่ ใดง่าย ๆ ป. ๓/๒, ๒. เพลงกล่อมเด็ก และเพลงพวงมาลัยเป็นบท ป. ๓/๓, เพลงพ้ืนบ้าน ทีใ่ ช้ถอ้ ยคำไพเราะผูข้ ับร้อง ป. ๓/๔, ต้องใช้น้ำเสยี งท่ีอ่อนหวานในการร้อง เพอื่ ให้ ป.๓/๕, บทเพลงนา่ ฟงั มากขึ้น ป. ๓/๙ ท ๕.๑ ป. ๓/๒

๖๙ 30 ศรศลิ ปไ์ มก่ นิ กัน ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ศรศลิ ปไ์ มก่ นิ กัน เปน็ สำนวนไทยทมี่ าจาก 42 ป.๓/๒, วรรณคดี เร่อื ง พระไชยเชษฐ์ ปัจจบุ นั สำนวน ป.๓/๓, นีม้ คี วามหมายวา่ ไม่ถูกกนั ไมล่ งรอยกนั ป. ๓/๔, ป.๓/๕, ป. ๓/๙ ท ๕.๑ ป. ๓/๑ 31 ปรศิ นาพาสนุก ท ๕.๑ ป. ๓/๔ ปริศนาคำทาย เป็นเกมท่ีฝกึ การใชค้ วามคดิ ฝกึ 4 2 การอา่ นภาษาไทยอยา่ งถกู ตอ้ ง สรา้ งความ สนุกสนาน และสง่ เสรมิ เชาวนป์ ัญญา 32 ความสุขจาก ท ๑.๑ ป. ๓/๑, นทิ านชาดก เรื่อง คนพาลยอ่ มสำคัญผิดคิดว่า 4 2 การทำความดี ป.๓/๒, บาปนั้นเป็นความลับ ให้ข้อคิดได้ว่าความลับ ป.๓/๕, ไม่มีในโลก การทำสิ่งใดแม้ไม่มีใครเห็น แต่ ป. ๓/๙ ตนเองยอ่ มรู้ดอี ย่แู ก่ใจ เกดิ ความทกุ ข์ การเป็น ท ๕.๑ ป. ๓/๑ คนที่ซื่อสัตย์จะทำให้ได้รับการยกย่องและ ไว้วางใจจากผู้อื่น รวมเวลาเรยี นภาคเรียนที่ 2 100 คะแนนระหวา่ งเรียนตลอดปี - 70 คะแนนวัดผลปลายปี - 30 รวม - 100 โครงสรา้ งรายวชิ า ท14101 รายวชิ าภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชั่วโมง ลำดับที่ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั ๑ เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน ท ๔.๑ ป.๔/๑ คำทีไ่ มม่ ตี วั สะกดทุกคำ จัดเป็นคำในมาตรา ก 2.5 ๒ หลักภาษาและ กา 5 ๓ การใช้ ท ๔.๑ ป.๔/๑ 2.5 ๔ ภาษาไทย ตวั สะกดเป็นส่วนประกอบหนง่ึ ของคำ เสียง 5 มาตรา ก กา... ท ๔.๑ ป.๔/๑ ตัวสะกดมี ๘ มาตรา บางมาตรามพี ยญั ชนะท่ี 2.5 จำไวห้ นาไมม่ ี เป็นตัวสะกดตัวเดยี ว บางมาตรามพี ยญั ชนะที่ 5 ตัวสะกด เป็นตวั สะกดหลายตวั 2.5 พยญั ชนะไทย ๔๔ ตวั แบ่งตามระดบั เสียงของ 5 มาตราตวั สะกด พยญั ชนะได้เปน็ อกั ษรสูง อกั ษรกลาง และ ... อักษรตำ่ ซึง่ เป็นหลกั เกณฑห์ น่ึงที่ใช้ในการผัน มที ้ังหมด ๘ อักษร มาตรา คำที่ไม่มีตัวสะกดและประสมสระเสยี งสัน้ กบั คำทม่ี ตี วั สะกดอยใู่ นมาตรา กก กด กบ ทุกคำ ไตรยางศ.์ ..สร้าง เรียกวา่ คำเป็น ส่วนคำที่ไม่มตี วั สะกดและ คำ ประสมสระเสยี งยาวรวมทั้งคำที่ประสมสระ -ำ คำเป็น คำตาย... ท ๔.๑ ป.๔/๑ ดงู า่ ยไม่ยาก

๗๐ ใ- ไ- เ-า กับคำท่ีมตี ัวสะกดอย่ใู นมาตรา กง กม เกย เกอว กน ทุกคำเรียกว่าคำตาย ๕ วรรณยุกต์...สิ่ง ท ๔.๑ ป.๔/๑ วรรณยุกตม์ ีท้ังเสียง และ รูปคำทกุ คำ มีเสียง 5 2.5 สำคัญ ผัน วรรณยกุ ต์แม้จะไม่มรี ปู วรรณยุกต์ ปรากฏ อกั ษร การผันคำตามเสียงวรรณยกุ ต์จะทำให้คำเดิมมี เสียงเปล่ียนไป และความ หมายก็เปลี่ยนไปด้วย ๖ คำพ้อง... ท ๔.๑ ป.๔/๑ คำพอ้ งมีท้ังคำทเี่ ขยี นเหมอื นกนั และอา่ นออก 6 3 ต้องพจิ ารณา เสยี งเหมือนกนั การฝึกอา่ นและเขียนเป็น ประจำจะทำใหอ้ ่าน เขียน และใชค้ ำตา่ ง ๆ ส่อื สารไดถ้ กู ต้อง 7 อา่ นเขียน ท ๔.๑ ป.๔/๓ พจนานุกรมใชอ้ ้างองิ การเขยี นสะกดคำ การ 6 3 อยา่ งไร...ต้องใช้ อ่านคำ ความหมายของคำ รวมทง้ั ชนิดและ พจนานกุ รม ท่ีมาของคำ ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 8 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด (ชว่ั โมง) คะแนน 9 ท ๔.๑ ป.๔/๗ ภาษาถ่ินเปน็ ภาษาท่ใี ช้สือ่ สารเฉพาะทอ้ ง 3 ภาษาไทย ถนิ่ คำทม่ี ีความหมายอยา่ งเดยี วกัน อาจใช้คำ 6 10 มาตรฐาน-ภาษา ท ๑.๑ ป.๔/๑, แตกตา่ งกันในแต่ละถ่ิน การเขา้ ใจความ 2.5 ถ่ิน...บอกความ ป.๔/๒, หมายของภาษาถิ่น ทำให้การสอื่ สารกับคนใน 5 เป็นไทย ป.๔/๔, ท้องถิน่ ดีขึ้น 2.5 อ่านได้คลอ่ ง... ป.๔/๘ 6 ตอ้ งรวู้ ิธี การอ่านบทรอ้ ยแกว้ ไดถ้ กู ต้องชดั เจน จะทำให้ ท ๓.๑ ป.๔/๑ การอา่ นมีประสิทธภิ าพ ผู้อ่านสามารถจบั เขียนชำนาญ... ใจความไดถ้ กู ตอ้ ง การอ่านออกเสียงบทร้อย งานสรา้ งสรรค์ ท ๒.๑ ป.๔/๑, กรองต้องแบ่งจงั หวะให้ถูกต้อง การอ่านตอ้ งมี ป.๔/๒, เสียงสูงตำ่ หนกั เบา ป.๔/๓, เออื้ นเสยี งเพ่อื ความไพเราะ การแยกขอ้ ป.๔/๔, เท็จจรงิ และข้อคิดเห็นไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ป.๔/๕, จะชว่ ยใหเ้ ปน็ คนมเี หตผุ ลไมห่ ลงเช่ือสงิ่ ต่าง ๆ ป.๔/7, ได้ง่าย การมีมารยาทในการอา่ นชว่ ยให้ ป.๔/8 เป็นผู้อา่ นทดี่ ี และการอ่านมีประสิทธิภาพ การคดั ลายมอื ได้ถูกต้องตามหลกั การเขียนตัว อักษรไทยและสวยงามช่วยให้อ่านง่าย และ เปน็ การเชดิ ชูภาษาไทย การเขยี นสื่อ สารตอ้ งใชค้ ำให้ถกู ต้องเหมาะสม สามารถสอ่ื ความหมายได้ชดั เจน การเขยี นแผนภาพโครง เรือ่ งและแผนภาพความคดิ เปน็ การจัดขอ้ มลู อยา่ งมีระบบ ทำใหเ้ ขา้ ใจเร่ืองราวไดด้ ียิง่ ขึ้น

๗๑ การเขียนย่อความเปน็ การสรุปใจความสำคัญ จากเร่อื งท่อี ่านจะทำใหเ้ ข้า ใจเน้ือเรอ่ื งชดั เจน การเขียนจดหมายถึงเพ่อื น และบดิ ามารดา ควรใชภ้ าษาให้ถูก ตอ้ งเหมาะสม การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ เป็นการฝึกความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ และ จนิ ตนาการ การมมี ารยาทในการเขียนจะช่วย ใหก้ ารถ่ายทอดความรู้ และความคิดของ ผู้เขียนไปสูผ่ อู้ า่ นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 11 ฟงั ดู รสู้ นทนา ท ๓.๑ ป.๔/๒, การพดู สรปุ ความจากการฟังและดู เป็นการ 6 2.5 ...ภาษาสื่อสาร ป.๔/๓, พดู ใจความสำคัญของเรื่อง ซงึ่ ผูพ้ ูดตอ้ งฟงั และ ป.๔/๔, ดูเรอ่ื งนั้นอยา่ งตงั้ ใจ และมวี ิจารณญาณจงึ จะ ทำให้พดู สรปุ ความได้ดี การพดู แสดงความรู้ ความคดิ เห็น และความรู้สกึ เกย่ี วกบั เรื่องที่ฟงั และดู ตอ้ งพดู อย่างมีเหตุผล สภุ าพ และมี มารยาทจงึ จะเกดิ ประโยชน์ตอ่ ผู้พูด และผูฟ้ ัง การตง้ั คำถาม และตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจาก เร่ืองท่ีฟงั และดทู ำใหว้ เิ คราะหค์ วามนา่ เชื่อถอื และสรปุ ใจความสำคญั ของเรื่องได้ ลำดับที่ ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 12 เรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด บทละครเร่อื ง เงาะป่า พระราช-นิพนธใ์ น (ชัว่ โมง) คะแนน พระบาทสมเดจ็ -พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัวนี้ 2 วรรณคดแี ละ ท ๑.๑ ป.๔/๓, มีเค้าเรื่องจรงิ ของเงาะซาไก 4 วรรณกรรม ป.๔/๕, ซึง่ อาศัยอย่แู ถบจังหวดั พทั ลุง ในเนือ้ เร่ืองมี 2 บทละครเรือ่ ง ป.๔/๖, การใช้ภาษากอ็ ยทเี่ ปน็ ภาษาเงาะด้วย 4 เงาะป่า ป.๔/๗, 2 บทเหก่ ลอ่ มพระบรรทม เหเ่ ร่ือง จับระบำ เปน็ 4 13 บทเห่กล่อม ท ๕/๑ ป.๔/๒, ผลงานประพันธ์ของสนุ ทรภู่ เนื้อเรื่องกลา่ วถึง 2 พระบรรทมเห่ ป.๔/๔ นางเมขลากบั รามสูร ซ่ึงเป็นตำนานการเกดิ ฟ้า 4 เร่ือง จบั ระบำ แลบ ฟา้ รอ้ ง และฟา้ ผ่าตามความเชือ่ ของไทย ท ๑.๑ ป.๔/๓, 14 คำประพันธ์ ป.๔/๕, ความดีที่เรากระทำไว้ จะทำใหผ้ อู้ ื่นจดจำเรา สุภาษิต...ให้ ป.๔/๖, ตลอดไป ข้อคิดสอนใจ ป.๔/๗ เพลงพน้ื บา้ นจะใช้คำภาษาถิ่นเปน็ เน้ือร้อง ซึง่ 15 เพลงพ้นื บ้าน ท ๕.๑ ป.๔/๑, เป็นเอกลกั ษณป์ ระจำถิ่น ป.๔/๒, ป.๔/๔ ท ๑.๑ ป.๔/๓, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๔ ท ๕.๑ ป.๔/๓

๗๒ 16 บทอาขยาน ท ๕.๑ ป.๔/๔ การท่องจำบทอาขยาน นอกจากจะชว่ ยฝกึ 42 ความจำแล้วยังเปน็ การปลูกฝังความคดิ และ คำสอนดี ๆ ใหฝ้ ังแนน่ อย่ใู นตัวเราด้วย รวมเวลาเรยี นภาคเรียนท่ี 1 8๐ โครงสร้างรายวชิ า ท14101 รายวชิ าภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่ัวโมง ลำดบั ที่ ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั 17 เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน คำท่ใี ช้เรยี กชื่อคน พืช สตั ว์ สงิ่ ของ สถานท่ี 2.5 18 หลักภาษาและ ท ๔.๑ ป.๔/2 และส่งิ ตา่ ง ๆ จดั เป็นคำนาม 5 การใช้ 3 19 ภาษาไทย คำท่ีใชเ้ รยี กแทนคำนามในการสนทนา จัดเป็น 6 คำนาม...ใช้เรยี ก คำสรรพนาม ซงึ่ มีท้ังคำสรรพนาม สำหรับใช้ 3 ตามช่อื แทนผู้พูด ผ้ฟู งั และผทู้ ี่กลา่ วถงึ คำสรรพนาม 6 คำแทนชื่อ...นี้ ท ๔.๑ ป.๔/๒ ชว่ ยใหก้ ารสื่อสารกระชับ เพราะไม่ตอ้ งกล่าว คือสรรพนาม คำนามนั้นซำ้ คำที่แสดงอาการหรอื การกระทำของนามและ คำกรยิ า...สอื่ ท ๔.๑ ป.๔/๒ สรรพนามซึง่ เป็นประธานของประโยค เรียกวา่ อาการ คำกรยิ า คำกรยิ าบางคำมใี จความสมบรู ณใ์ น ตัว ไมต่ ้องมีกรรมมาตอ่ ทา้ ย แต่คำกริยาบาง คำต้องมีกรรมมาตอ่ ท้ายจงึ จะได้ใจความ สมบรู ณ์

๗๓ 20 คำวเิ ศษณ์... ท ๔.๑ ป.๔/๒ คำทที่ ำหน้าท่ีขยายคำต่าง ๆ ให้มีความ 63 ขยายคำจำให้ หมายชัดเจนขนึ้ เรยี กวา่ คำวเิ ศษณ์ คำ แมน่ วิเศษณ์สามารถขยายได้ทงั้ คำนามคำสรรพ นาม คำกรยิ า และคำวเิ ศษณ์ 21 ภาษาไทยน่า ท ๔.๑ ป.๔/๔ ประโยคเกิดจากการนำคำหรอื กลมุ่ คำ มา 63 เรียน...ฝึกเขียน เรียบเรยี งใหไ้ ดใ้ จความเพ่ือใชส้ ่อื สาร ดว้ ยประโยค 22 กลอนส.ี่ ..วรรค ท ๔.๑ ป.๔/๕ กลอนสเ่ี ปน็ บทร้อยกรองท่ีมี ๔ วรรค วรรคละ 6 3 ละสี่คำ จำได้ ๔ คำ บทร้อยกรองจะมีสัมผสั ระหว่างวรรค งา่ ย และระหวา่ งบททำให้เกดิ ความไพเราะ 23 คำขวัญเตือนใจ ท ๔.๑ ป.๔/๕ คำขวัญเปน็ ถ้อยคำทมี่ ีเสยี งคล้องจอง ทำให้ 63 ...ใหท้ ำความดี ไพเราะ และมคี วามหมายกินใจ สามารถจดจำ ไดง้ ่าย 24 คำพงั เพยและ ท ๔.๑ ป.๔/๖ คำพงั เพยและสภุ าษิตเปน็ สำนวนทใ่ี ห้ข้อคิด 63 สุภาษิต...ให้ คติสอนใจในการดำเนนิ ชวี ิต ถอ้ ยคำมลี กั ษณะ ข้อคิดสอนใจ กระชบั กินใจ ไพเราะ ลำดบั ท่ี ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 25 เรียนรู้ เรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน ท ๒.๑ ป.๔/๖, การเขยี นบนั ทึกจากการ 3 เขยี นชำนาญ ศกึ ษาคน้ ควา้ ช่วยใหม้ ีความรแู้ ละประสบ 6 งานสรา้ งสรรค์ ท ๓.๑ ป.๔/๕, การณใ์ นการเขียนเพิ่มมากข้ึน การเขียน 3.5 ป.๔/๖ รายงานเปน็ การนำเสนอข้อมลู จากการศึกษา 7 26 ฟงั ดู รู้สนทนา ค้นคว้า การเขียนได้ถูกตอ้ งครบถ้วนจะทำให้ 2 ภาษาสอ่ื สาร ท ๑.๑ ป.๔/๓, รายงานมีความนา่ เช่อื ถอื 4 ป.๔/๕, ผูอ้ า่ นเขา้ ใจได้ง่าย วรรณคดีและ ป.๔/๖, การพูดรายงานเป็นการนำเสนอข้อมูล ที่ได้ วรรณกรรม ป.๔/๗, จากการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งถกู ตอ้ งใหผ้ ้ฟู งั 27 พระอภยั มณี เขา้ ใจ ผพู้ ดู รายงานต้องมีทกั ษะในการพูด การ ตอน กำเนดิ สดุ ท ๕/๑ ป.๔/๒, พูดรายงานนัน้ จึงจะสัมฤทธ์ผิ ล และได้รบั สาคร ป.๔/๔ ประโยชน์อยา่ งเตม็ ท่ี การมมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู ทำให้ได้รับความรทู้ ด่ี ี มี ประโยชนใ์ นการดำเนินชีวติ ประจำวัน เรือ่ งพระอภยั มณี เป็นนิทานคำกลอนที่สุนทร ภแู่ ต่งไดอ้ ยา่ งสนุกสนาน เรื่องราวการผจญภัย ล้วนนา่ ตื่นเต้นชวนให้ติดตาม และตนื่ ตาตื่นใจ ไปกบั จินตนาการของกวี

๗๔ 28 นิทานเทียบ ท ๑.๑ ป.๔/๓, นทิ านเทียบสุภาษิตเรอื่ ง นำ้ ผึ้งหยดเดียวก่อ 42 สภุ าษติ เร่ือง ป.๔/๕, เหตุ แสดงถึงสาเหตุเพียงเลก็ น้อยท่ีทำให้เกิด น้ำผึ้งหยดเดยี ว ป.๔/๖, เร่อื งราวใหญ่โตเพราะความขาดสติย้ังคดิ ก่อเหตุ ป.๔/๗ ท ๕/๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ 29 นิราศเดอื น ท ๑.๑ ป.๔/๓, นริ าศเดือนของนายมี เปน็ วรรณคดี ทกี่ ล่าวถึง 4 2 ป.๔/๔, ประเพณไี ทยทั้ง ๑๒ เดอื น โดยบรรยายให้เห็น ป.๔/๖, ถงึ วถิ ีชีวิตและความ ป.๔/๗ เปน็ ไทย ท ๕.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๔ 30 บทละครพดู คำ ท ๑.๑ ป.๔/๓, บทละครพูดคำกลอนเรื่อง 42 กลอน เรอื่ ง ป.๔/๕, พระรว่ ง พระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระรว่ ง ป.๔/๖, พระมงกฎุ -เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว เป็นวรรณคดีทม่ี ี ป.๔/๗ เน้อื หายกยอ่ งวรี บุรุษ ปลูกฝังความรกั ชาติและ ท ๕.๑ ป.๔/๑, แสดงให้เหน็ พลงั ของความสามคั คี ป.๔/2, ป.๔/๔ ลำดับท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน การท่องจำบทอาขยาน นอกจากจะชว่ ยฝึก 32 บทอาขยาน ท ๕.๑ ป.๔/๔ ความจำแล้วยงั เป็นการปลูกฝังความคิดและ 42 คำสอนดี ๆ ใหฝ้ ังแนน่ อยู่ในตวั เราด้วย รวมเวลาเรยี นภาคเรียนท่ี 2 8๐ 70 รวมเวลาเรียนตลอดปี 160 30 100 คะแนนระหว่างเรยี นตลอดปี - คะแนนวดั ผลปลายปี - รวม -

๗๕ โครงสร้างรายวิชา ท15101 รายวชิ าภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ช่ัวโมง ลำดบั ที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน น้ำหนัก เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด (ช่วั โมง) คะแนน หลักภาษา ท ๔.๑ ป. ๕/๑ คำบุพบทอย่หู นา้ คำนามหรือคำสรรพนามใน 6 3 ๑ และการใช้ ประโยคเพอ่ื บอกเวลา บอกตำแหนง่ ที่ต้ังสถานที่ 3 ภาษาไทย บอกความเปน็ เจ้าของบอกความเกย่ี วข้องหรอื 3 บพุ บท...จดจำ ความประสงค์ ทำให้ประโยคสื่อสารน้ันมี นำหน้าคำหรอื ใจความสมบูรณย์ ิ่งขึน้ ขอ้ ความ ๒ คำสนั ธาน... ท ๔.๑ ป. ๕/๑ คำสนั ธานใชเ้ ช่ือมประโยค ๒ ประโยคให้เปน็ 6 สะพานเช่อื ม ประโยคเดยี วกัน เพ่อื ให้มีใจความคล้อยตามกัน ประโยค ขดั แยง้ กัน ให้เลือกอยา่ งใดอย่างหนึง่ หรือเป็น เหตเุ ปน็ ผลกันตามจุดประสงคข์ องผ้สู ง่ สาร ๓ คำอุทาน...ส่ือสาร ท ๔.๑ ป. ๕/๑ คำอุทานเปน็ เสยี งทีเ่ ปล่งออกมาแตกต่างจาก 6 อารมณ์ เสยี งของคำทัว่ ๆ ไปทำให้ทราบอารมณ์ ความรู้สึกของผ้พู ูดได้ชัดเจนยงิ่ ข้นึ โดยไม่เน้น ความหมายของคำ

๔ ภาษาไทยน่าเรียน ท ๔.๑ ป. ๕/๒ การสอื่ สารในชีวิตประจำวันตอ้ งใช้ประโยคเพ่ือ 7 ๗๖ 7 3.5 ...ฝกึ เขียน สื่อความหมาย ดังนน้ั การรจู้ กั จำแนกและเรยี บ 3.5 ประโยค เรยี งประโยคใหถ้ ูกต้อง มีส่วนประกอบของ ประโยคครบถ้วนสมบูรณจ์ ะทำให้การส่ือสารมี ประสทิ ธภิ าพ 5 อา่ นได้คล่อง... ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วได้ถูกตอ้ งตาม ต้องร้วู ิธี ป. ๕/๒, อกั ขรวิธี โวหารและประเภทของงานเขียน จะ ป. ๕/๓, ทำให้เกิดความไพเราะการอ่านมปี ระสิทธภิ าพ ป. ๕/๘ ผฟู้ ังสามารถเข้าใจได้ชัดเจน ๒. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเป็นทำนอง เสนาะไดถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวิธแี ละฉันทลกั ษณ์ ของบทรอ้ ยกรองนน้ั ๆ รจู้ ักทอดจังหวะ เออื้ น เสยี งแสดงอารมณ์ตามเน้ือหา จะทำให้ผูฟ้ ัง เข้าใจเร่ืองไดช้ ดั เจน และบทร้อยกรองน้ันมี ความไพเราะยิ่งขึ้น ๖. การมมี ารยาทในการอ่านทำให้เปน็ ทีน่ า่ ชน่ื ชมต่อผพู้ บเห็น ลำดับที่ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรยี น น้ำหนัก เรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน 6 เขยี นชำนาญ... ท ๒.๑ ป. ๕/๑, ๑. การคัดลายมอื เปน็ การฝกึ เขยี นตัวอักษรไทย 7 3.5 งานสร้างสรรค์ ป. ๕/๒, ให้สวยงามและถูกตอ้ ง ป. ๕/๓, ๒. การเขยี นส่อื สารควรเลือกใชถ้ อ้ ยคำสำนวน ป. ๕/๔, ให้ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั งานเขียนประเภทน้ัน ๆ จงึ จะสือ่ ความหมาย ไดช้ ดั เจนตรงตามวัตถุประสงค์ ๓. แผนภาพโครงเร่ืองใชใ้ นการวางโครงเรื่องทมี่ ี การดำเนินเรื่องเปน็ ไปตามลำดบั เหตุการณ์ สว่ น แผนภาพความคิดใชใ้ นการวางโครงเรอ่ื งทมี่ ี ความคิดรวบยอดเป็นสำคัญ การนำแผนการ โครงเรอ่ื งและ แผนภาพความคดิ มาใชใ้ นงานเขียนทำใหง้ าน เขียนมคี ุณภาพ และไดค้ วามครบถ้วนสมบรู ณ์ ๔. ย่อความเปน็ การนำใจความสำคญั ของแตล่ ะ ตอนจากเรือ่ งท่ีอ่านมาเรยี บเรียงใหม่เพ่ือให้ เข้าใจเร่อื งทตี่ ้องการสอื่ สารไดง้ ่ายย่งิ ขน้ึ

7 ฟงั ดู รูส้ นทนา... ท ๓.๑ป. ๕/๑, ๑. การพดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และ 7 ๗๗ 3.5 ภาษาสอื่ สาร ป. ๕/๒, ความรสู้ ึกจากเรอ่ื งท่ฟี งั และดู ควรพจิ ารณา อย่างรอบคอบกอ่ นพูดเพือ่ ไม่ใหเ้ กดิ ความ ขัดแย้งกับผู้อืน่ เพราะในเรอื่ งเดยี วกันแตล่ ะคน อาจมีมมุ มองและความคดิ เหน็ แตกตา่ งกนั ได้ ๒. การตง้ั คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจาก เรอื่ งที่ฟงั และดู ทำใหส้ ามารถวิเคราะห์ความ น่าเช่อื ถือของเรื่อง และนำความร้หู รือขอ้ คิดที่ ได้รับไปใช้เปน็ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน วรรณคดแี ละ วรรณกรรม 8 บทละครเร่อื ง สังข์ ท ๑.๑ ป. ๕/๑, บทละครเรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กำเนดิ พระสังข์ 7 3.5 ทอง ตอน กำเนดิ ป. ๕/๕, แสดงใหเ้ หน็ ถึงความรักของแม่ทมี่ ีตอ่ ลกู ไม่ว่าลูก พระสังข์ ป. ๕/๗ จะเกดิ มาเป็นเช่นไรก็ย่อมเป็นทร่ี ัก ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ดงั่ ดวงใจของแมเ่ สมอ นอกจากนั้น ยงั แสดงถึง ป. ๕/๒, ความกตัญญกู ตเวทีของพระสังข์ท่รี ู้จกั ช่วยเหลือ ป. ๕/๓, แบง่ เบาภาระของแม่เท่าท่ีเด็กจะทำได้ ซ่ึงเปน็ ป. ๕/๔ สิ่งทลี่ กู ทุกคนควรประพฤตปิ ฏบิ ัติตาม ลำดับท่ี ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนัก เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน 9 กระเชา้ สีดา ท ๑.๑ ป. ๕/๑, นิทานเรอ่ื ง กระเชา้ สีดา มเี น้ือเร่อื ง 7 3.5 ป. ๕/๕, สนุกสนาน ใชภ้ าษาบรรยายไดส้ ละสลวย 3.5 ป. ๕/๗ ชัดเจน อ่านเข้าใจงา่ ย เหมาะสำหรบั เด็ก แฝง 3.5 ท ๕.๑ ป. ๕/๑, แนวคิดในเรื่องผลของการทำความดี คือ การ ป. ๕/๒, เช่ือฟังผู้ใหญ่ ความมนี ำ้ ใจ และความสภุ าพ ป. ๕/๓ อ่อนโยน ซึง่ นกั เรียนควรนำไปประพฤติปฏบิ ตั ิ ในชีวติ ประจำวนั ใหส้ ม่ำเสมอจนเปน็ นิสัย 10 บทประพนั ธ์ ท ๑.๑ ป. ๕/๑, บทประพันธร์ อ้ ยกรองสภุ าษิตมีคณุ ค่าดา้ น 7 ร้อยกรองสภุ าษติ ป. ๕/๕, วรรณศิลป์และใหค้ ติสอนใจ ป. ๕/๗ เพ่อื ประพฤตใิ นส่งิ ทถี่ กู ตอ้ งดงี าม ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ผนู้ ำไปปฏบิ ตั ิย่อมประสบความสขุ ความเจริญใน ป. ๕/๒, การดำเนนิ ชวี ิต ป. ๕/๓, ป. ๕/๔ 11 เพลงชาติไทย ท ๑.๑ ป. ๕/๕ เพลงชาติเป็นเพลงประจำชาติ ทีแ่ สดงถงึ ความ 7 ท ๕.๑ ป. ๕/๑, เปน็ ชาติ เอกราช ศลิ ปวัฒนธรรม และลกั ษณะ ป. ๕/๒, นิสยั ของชนในชาติ เราจึงควรรปู้ ระวตั ิ ตระหนัก ป. ๕/๓,

๗๘ 12 บทอาขยาน ป. ๕/๔ ถึงความสำคญั ของเพลงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ 6 ท ๕.๑ ป. ๕/๔ ไทยอย่างภาคภูมิ 8๐ การท่องจำบทอาขยานสามารถนำไปใชอ้ า้ งอิง และนำขอ้ คดิ ไปเป็นแนวทางในการดำเนนิ ชวี ิต รวมเวลาเรยี นภาคเรยี นที่ 1 โครงสร้างรายวชิ า ท15101 รายวชิ าภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 80 ช่วั โมง ลำดับท่ี ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนัก เรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั (ชว่ั โมง) คะแนน 13 หลักภาษา ท ๔.๑ ป. ๕/3 ภาษาไทยในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ มีการใช้ถ้อยคำ 6 3 และการใช้ สำนวนที่แตกตา่ งกนั การรูแ้ ละเขา้ ใจความหมาย 3 ภาษาไทย ของคำจะทำให้การสอ่ื สารดยี ่ิงข้ึน ภาษาถ่ิน... บอกความเป็น ไทย 14 ใช้ให้ถูกพึงจำ... ท ๔.๑ ป. ๕/๔ คำราชาศัพทเ์ ปน็ คำในภาษาไทยท่ีตอ้ งเลือกใช้ 6 ใหเ้ หมาะสมกับบคุ คลระดบั ตา่ ง ๆ คำราชาศพั ท์ 15 คำในภาษาไทย... ท ๔.๑ ป. ๕/๕ ภาษาไทยมกี ารนำคำจากภาษาตา่ งประเทศมา 7 3.5 ทนี่ ำมาใช้ ใชเ้ ป็นจำนวนมากเราควรทราบทีม่ าของคำ จากภาษา เรียนรู้ การอ่าน การเขียน และการใชค้ ำ ตา่ งประเทศ เหล่านัน้ ใหถ้ ูกต้อง

16 กาพยย์ านีลำนำ... ท ๔.๑ ป. ๕/๖ กาพย์ยานี ๑๑ นิยมใชใ้ นการแตง่ พรรณนา 7 ๗๙ 3.5 สิบเอด็ คำจำได้ เรอื่ งตา่ ง ๆ ลกั ษณะของคำประพนั ธ์ 6 6 3 งา่ ย ทำใหบ้ ทร้อยกรองมีความไพเราะ งดงาม 3 สละสลวย ผู้อ่านจดจำได้ง่ายและเกิด จนิ ตนาการตามเนอ้ื เรือ่ งเป็นอยา่ งดี 17 สำนวน คำพังเพย ท ๔.๑ ป. ๕/๗ การใช้สำนวนไดถ้ ูกตอ้ งทำให้สอ่ื ความหมาย สภุ าษิต...ใหข้ อ้ คิด ชดั เจน ได้เรยี นร้คู วามงดงามของภาษาไทย สอนใจ และเปน็ การอนุรกั ษ์ภาษาไทย 18 อ่านได้คลอ่ ง... ท ๑.๑ ป. ๕/๔, 1. การอ่านจับใจความโดยสามารถแยก ต้องรูว้ ธิ ี ป. ๕/๕, ขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ คดิ เห็น และสรุปความจากการ ป. ๕/๖, อา่ นทำให้เรามีเหตุผลไม่หลงเชือ่ ส่ิงต่าง ๆ ได้ ป. ๕/๗, ง่าย ซงึ่ กอ่ ให้เกิดประโยชน์ ร้จู กั เลือกพจิ ารณา นำความรู้ทไ่ี ด้จากการอา่ นไปใช้ในการดำเนิน ชีวิต 2. การอา่ นงานเขียนเชิงอธิบายคำส่ัง ขอ้ แนะนำ ใหเ้ ข้าใจชดั เจนเสียก่อนจะทำให้ ปฏบิ ตั ติ ามไดถ้ ูกต้อง ทำงานอย่างมปี ระ สทิ ธิภาพและปลอดภัยในการใชง้ าน 3. การเลือกอ่านหนังสอื ใหเ้ หมาะสมกับความ ต้องการและวยั ทำให้ได้รับคุณคา่ สามารถ นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างแท้จรงิ ลำดบั ที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรยี น น้ำหนกั เรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน 19 เขียนชำนาญ... ท ๒.๑ ป. ๕/๕, 1. การเขยี นจดหมายถงึ ผปู้ กครอง 6 3 งานสร้างสรรค์ ป. ๕/๖, และญาติ ตอ้ งใชภ้ าษาทีส่ ภุ าพ แสดงถงึ ความ ป. ๕/๗, เคารพใหเ้ หมาะสมกับบคุ คล ป. ๕/๘, 2. การเขียนแสดงความรสู้ ึกและ ป. ๕/๙ ความคิดเห็น เปน็ การนำเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีได้ จากการตรวจสอบโดยใชเ้ หตุผลประกอบ ซง่ึ ทำ ให้ผู้อา่ นไดร้ บั ทราบข้อมูลและขอ้ คิดเหน็ ท่ีเป็น ประโยชน์ 3. การกรอกแบบรายการตา่ ง ๆ ได้อยา่ ง ถกู ตอ้ ง ใชภ้ าษาทก่ี ระชับ ชดั เจน ทำใหส้ ่อื สาร ได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์และสะดวกในการตดิ ต่อ ทำธุระ 4. การเขียนเร่อื งตามจินตนาการไดด้ ี ต้องหม่ัน ฝกึ การคิด การสงั เกต และมคี วามคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ 5. การมมี ารยาทในการเขียนจะทำใหผ้ ู้อ่าน สามารถเข้าใจสารที่ผูเ้ ขยี นถา่ ยทอดได้งา่ ยและมี ประสทิ ธภิ าพยง่ิ ขึ้น

20 ฟัง ดู รู้สนทนา... ท ๓.๑ป. ๕/๓, 1. การวิเคราะหค์ วามน่าเชอื่ ถอื จากเรื่องท่ฟี ัง 6 ๘๐ 6 3 ภาษาสื่อสาร ป. ๕/๔, และดใู นชีวติ ประจำวนั ตอ้ งใชเ้ หตผุ ลมี ป. ๕/๕ ข้อเท็จจรงิ และหลักฐานมาประกอบ 2. การพดู รายงานตามหลกั การทีถ่ กู ตอ้ งจะทำ ใหก้ ารนำเสนอข้อมูลมคี วามน่าสนใจและผู้ฟงั ได้รับประโยชน์จากการฟงั น้ัน 3. การมีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ทำให้การตดิ ตอ่ สื่อสารมปี ระสิทธภิ าพและเป็น มารยาททางสังคมท่ีพงึ ปฏบิ ตั ิ วรรณคดีและ ท ๑.๑ ป. ๕/๑, เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กำเนิดมะกะโท แสดงให้ วรรณกรรม ป. ๕/๕, เห็นถึงคุณธรรมและคณุ ลกั ษณะพเิ ศษของมะกะ 21 ราชาธิราช ตอน ป. ๕/๗ โท ซึง่ จะเปน็ ผูน้ ำในภายหน้า เชน่ ความกตัญญู กำเนดิ มะกะโท ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ความจงรักภักดี ความเมตตา ความมานะ ป. ๕/๒, อุตสาหะ สติปัญญาไหวพริบ ป. ๕/๓, อันชาญฉลาด มองเห็นการณ์ไกลและร้จู กั แกป้ ัญหา เมอ่ื เกิดเหตุยงุ่ ยากต่างๆ นอกจากจะ ไดร้ ับความเพลิดเพลนิ จากเน้ือเรอื่ งแลว้ ยงั ได้รบั ความรเู้ ก่ียวกบั เร่ืองราวในประวตั ิศาสตร์ วิถชี ีวติ ความเป็นอยู่ของคนไทยในอดีต รวมทั้ง ขอ้ คิดต่าง ๆ ทน่ี ำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ ไดเ้ ปน็ อย่างดี สง่ิ เหล่านี้คือประโยชน์หลายประการท่ไี ด้รับจาก วรรณคดี ลำดับท่ี ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรยี น นำ้ หนัก เรยี นรู้ เรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน 22 กระเช้าสดี า ท ๑.๑ ป. ๕/๑, นทิ านเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า มีเนื้อเรื่อง 63 ป. ๕/๕, สนกุ สนาน ใชภ้ าษาบรรยายได้สละสลวย ป. ๕/๗ ชัดเจน อ่านเข้าใจงา่ ย เหมาะสำหรับเดก็ แฝง ท ๕.๑ ป. ๕/๑, แนวคิดในเร่อื งผลของการทำความดี คอื การ ป. ๕/๒, เช่อื ฟงั ผู้ใหญ่ ความมีนำ้ ใจ และความสุภาพ ป. ๕/๓ อ่อนโยน ซงึ่ นักเรียนควรนำไปประพฤติปฏิบตั ิ ในชีวิตประจำวันใหส้ ม่ำเสมอจนเปน็ นิสัย 23 โคลงโลกนติ ิ ท ๑.๑ ป. ๕/๑, คำสอนจากโคลงโลกนติ ิพระนพิ นธ์ของสมเดจ็ ฯ 6 3 ป. ๕/๕, กรมพระยาเดชาติศร ทกี่ รมวชิ าการ 6 3 24 นทิ านคติธรรม ป. ๕/๗ กระทรวงศกึ ษาธิการไดร้ วบรวมไว้น้ันล้วนเป็น เรือ่ ง พญาชา้ ง ท ๕.๑ ป. ๕/๑, คำสอนทีเ่ หมาะสมจะนำไป ป. ๕/๒, ใช้เปน็ หลกั ปฏบิ ัตใิ นการดำเนนิ ชีวิตปจั จบุ ันได้ ป. ๕/๓, อยา่ งดี ท้งั ให้ขอ้ คดิ เตือนใจสำหรับตนเอง หรือ ป. ๕/๔ ใชแ้ นะนำสั่งสอนผูอ้ ืน่ คำสอนในโคลงโลกนิติจงึ ทรงคุณค่าเสมอสำหรบั ผูท้ ่ปี ระพฤตปิ ฏบิ ัตติ าม ท ๑.๑ ป. ๕/๑, นิทานคตธิ รรมเรื่อง พญาช้างผู้เสยี สละ ใหค้ ตวิ ่า ป. ๕/๕, “ทำดไี ด้ดี ทำชั่วได้ช่วั ” ในสงั คมยอ่ มมีทง้ั คนดี

ผู้เสียสละ ป. ๕/๗ และคนชั่วเราจึงควรนำคุณธรรมของคนดีมา 6 ๘๑ 25 บทอาขยาน ท ๕.๑ ป. ๕/๑, เปน็ แบบอย่าง พร้อมท้ังใช้สตปิ ญั ญาพิจารณา 8๐ 3 ป. ๕/๒, ให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนชวั่ เพ่ือหลีกเลี่ยงการ 160 ป. ๕/๓ คบหาอนั อาจจะนำภัยมาสตู่ นเอง 70 - 30 ท ๕.๑ ป. ๕/๔ การทอ่ งจำบทอาขยานสามารถนำไปใชอ้ ้างอิง - 100 และนำข้อคดิ ไปเป็นแนวทางในการดำเนินชวี ิต - รวมเวลาเรียนภาคเรียนท่ี 2 รวมเวลาเรยี นตลอดปี คะแนนระหวา่ งเรียน คะแนนวัดผลปลายปี รวม โครงสรา้ งรายวชิ า ท16101 รายวชิ าภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชว่ั โมง ลำดับที่ ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนกั ๑ เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ๒ หลักภาษาและ ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำนามเป็นคำชนิดหนึง่ ท่ีใช้เรียก คน พชื สตั ว์ 63 ๓ การใชภ้ าษาไทย สงิ่ ของ และสถานที่ คำนามทำหน้าทเี่ ป็นไดท้ งั้ 7 3.5 คำนาม...ใชเ้ รยี ก ประธานและกรรมในประโยคซง่ึ ใชส้ ่อื สารใน 7 3.5 ตามช่ือ ชวี ิตประจำวัน คำแทนช่ือ... ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำสรรพนามเป็นคำท่ีใชแ้ ทนคำนามเพอื่ ไม่ นี้คอื สรรพนาม ตอ้ งกล่าวคำนามนน้ั ซ้ำอกี คำสรรพนามเปน็ คำทตี่ อ้ งใช้ในการสนทนาในชวี ิตประจำวนั จงึ ต้องเลอื กใช้กับบคุ คลตา่ ง ๆ ให้ถกู ต้องและ เหมาะสม คำกริยา...ส่อื ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำกรยิ าเป็นคำที่แสดงอาการหรอื สภาพ หรือ อาการ การกระทำของประธานในประโยค ซึง่ เปน็ คำนามหรอื คำสรรพนาม ประโยคทุกประโยค จะตอ้ งมคี ำกริยา

๘๒ ๔ ขยายคำ...ควร ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำวิเศษณ์เป็นคำทใี่ ชข้ ยายหรือประกอบคำอน่ื 7 3.5 จำ คอื คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา หรือ คำ คำวเิ ศษณ์ วิเศษณด์ ว้ ยกันเองเพ่ือใหไ้ ดใ้ จความชัดเจน ยงิ่ ขน้ึ ๕ บพุ บท...จดจำ ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำบุพบททำหน้าทีแ่ สดงความสมั พนั ธร์ ะหว่าง 7 3.5 นำหนา้ คำหรือ คำหรอื กลุม่ คำเพอ่ื บอกเวลา ตำ ข้อความ แหนง่ ทต่ี ัง้ สถานท่ี ความเปน็ เจ้าของ ความ เกีย่ วขอ้ ง หรือความประสงค์ จงึ ควรเลือกใช้คำ บพุ บทแต่ละชนดิ ให้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ๖ คำสนั ธาน... ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำสันธานใช้เช่อื มคำ ประโยค หรอื ข้อความให้ 7 3.5 สะพานเช่ือมคำ มใี จความตอ่ เน่ืองกัน ประโยคทม่ี ีคำสนั ธานจะ และประโยค สามารถแยกเปน็ ประโยคย่อยได้ คำสนั ธานทำ ใหป้ ระโยคหรอื ข้อความสละสลวยขึ้น 7 อา่ นคลอ่ ง...ตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๖/๑, ๑. การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ ต้องออก 7 3.5 รู้วิธี ป. ๖/๒ เสยี งใหถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจนตามอกั ขรวิธี เวน้ วรรค ป. ๖/3 ตอนเหมาะสม ใช้น้ำเสียงนา่ ฟัง มีเสียงหนกั ป. ๖/4 เสียงเบา การอา่ นนัน้ จึงจะมปี ระสิทธภิ าพ เกดิ ป. ๖/5 ความนา่ สนใจ ผูฟ้ ังสามารถจบั ใจความได้งา่ ย ป. ๖/9 และถูกต้อง ๒. การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ย-กรองได้ถกู ตอ้ ง ตามลกั ษณะคำประพันธแ์ ละอักขรวธิ ี รู้จกั เอ้อื นเสยี ง แสดงอารมณต์ ามเนื้อหาความ จะ ทำใหบ้ ทรอ้ ย-กรองน้นั เกดิ ความไพเราะน่าฟงั ลำดบั ที่ ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนกั เรยี นรู้ เรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ๓. การฝึกฝนการอา่ นจบั ใจความตามหลักเกณฑ์ อย่างสมำ่ เสมอจะทำใหเ้ ข้าใจสาระสำคัญของ เร่ืองได้ถูกต้องและอ่านเรอื่ งไดร้ วดเร็วยิ่งขนึ้ 4. การมีมารยาทในการอา่ น แสดงถึงอุปนสิ ัยท่ี ดีซงึ่ น่าชืน่ ชม 8 เขียนชำนาญ... ท ๒.๑ ป. ๖/๑, ๑. การคัดลายมือเป็นทกั ษะทต่ี อ้ งฝกึ ฝนอยู่ 7 3.5 งานสรา้ งสรรค์ ป. ๖/๒, เสมอ เพ่อื พฒั นาลายมือและเขียนหนังสือให้ ป. ๖/5, ถูกตอ้ ง ลายมอื ทอี่ ่านงา่ ย เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย ป. ๖/๙ สะอาด นอกจากทำใหผ้ ้อู า่ นสบายตา เกิด ความรู้สกึ อยากอ่านขอ้ ความ นนั้ แลว้ ยงั แสดงให้ เหน็ ว่าผู้เขียนมีความตัง้ ใจ และมีมารยาททด่ี ีใน การเขียน ๒. การเขียนสื่อสารตอ้ งใชถ้ ้อยคำ สำนวน ภาษา รวมท้ังรปู แบบใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม เพอ่ื สือ่ ความหมายไดช้ ดั เจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ 3. การเขยี นย่อความเป็นการนำใจความสำคญั ของเนือ้ เร่อื งแต่ละย่อหนา้ มาเรียบเรียงใหม่ให้

9 ฟงั ดู ร้สู นทนา ท ๓.๑ ๘๓ ...ภาษาสอื่ สาร ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ตอ่ เนอื่ งกนั ซึ่งจะช่วยใหก้ ารสอ่ื สารเกดิ ความ ป. ๖/๓, เขา้ ใจไดง้ า่ ยยิ่งขึ้น ป. ๖/๕, 4. การมมี ารยาทในการเขียนจะชว่ ยให้การ ป. ๖/๖ ถา่ ยทอดความร้แู ละความคดิ ของผ้เู ขยี นไปสู่ ผอู้ ่านมปี ระสทิ ธิภาพและประสบผลสำเรจ็ ๑.การพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจดุ ประสงค์ 7 3.5 ของเรื่องที่ฟังและดู ต้องฟังและดูเรื่องนั้นให้ ตลอด จึงจะสามารถพูดได้ถูกต้อง และนำ ความรู้หรอื ข้อคดิ ไปใช้ ใหเ้ ป็นประโยชนไ์ ด้ ๒. การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล จากเรื่องที่ฟังและดู ทำให้สามารถวิเคราะห์ ความน่าเชื่อถือ เพื่อนำความรู้และข้อคิดที่ได้ จากเรอื่ งนน้ั ไปปฏิบตั ใิ หเ้ กดิ ประโยชน์ ๕. การพูดโนม้ นา้ วเป็นการพดู จูงใจหรอื เชญิ ชวนใหผ้ ูฟ้ ังเกิดความรสู้ กึ คล้อยตามหรอื เกิด กำลังใจในการทำส่งิ ใดส่งิ หนึง่ ทเี่ กิดประโยชน์ แกส่ ่วนรวม ๖. การมีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด จะทำใหร้ ับสารและสง่ สารได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ เปน็ ท่ชี ่ืนชมของผ้ทู ี่พบเหน็ ลำดบั ท่ี ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรยี น นำ้ หนกั 10 เรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน วรรณคดีและ ท ๑.๑ รามเกียรต์ิ เป็นวรรณคดไี ทยที่มเี ค้าโครงเร่ือง 5 2.5 วรรณกรรม บทละครเรือ่ ง ป. ๖/๑, มาจากรามายณะของอินเดยี เน้ือเรื่องเป็นการ 5 2.5 รามเกียรตต์ิ อน ศึกไมยราพ ป. ๖/๒, ทำสงครามอันยืดเยื้อระหวา่ งมนุษย์ ลงิ และ ป. ๖/๕, ยักษ์ มีความสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจ โดยมี ป. ๖/๘ แก่นสำคญั ของเรอื่ ง คือธรรมะย่อมชนะอธรรม ท ๕.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔ 11 สุภาษิตสอน ท ๑.๑ สุภาษิตสอนหญงิ เป็นวรรณคดคี ำสอนแก่ หญิง ป. ๖/๑, หญงิ ไทย ให้คตเิ ตอื นใจ แนวทางในการ ป. ๖/๒, ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนท้งั ทางกาย วาจา ใจท่ีดีงาม ป. ๖/๕, สอดคลอ้ งกับคา่ นิยมและนบธรรมเนียม ป. ๖/๘ ประเพณไี ทย ซ่งึ ยงั คงทนั สมยั และใชไ้ ดต้ ลอด ท ๕.๑ กาล ป. ๖/๑, ป. ๖/๓,

ป. ๖/๔ ๘๔ 5 2.5 12 คำกลอนสอน ท ๑.๑ การนำขอ้ คิดจากคำกลอน สุภาษิต... ป. ๖/๑, สภุ าษิตไปปฏิบตั ิทำให้เกิด ประโยชน์ตอ่ การดำเนินชวี ิต ใหข้ ้อคิดสอนใจ ป. ๖/๒, ประจำวนั และการอย่รู ่วมกัน ในสังคม ป. ๖/๕, ป. ๖/๘ ท ๕.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔ 13 บทอาขยาน ท ๕.๑ การท่องจำบทอาขยานเพอ่ื นำไปใชอ้ า้ งองิ และ 3 1.5 นำขอ้ คดิ ไปเป็นแนวทางในการดำเนนิ ชวี ิต ป. ๖/๔ รวมเวลาเรียนภาคเรยี นที่ 1 8๐ โครงสร้างรายวชิ า ท16101 รายวชิ าภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชว่ั โมง ลำดบั ท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน น้ำหนกั 14 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน 15 หลักภาษาและ ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำอทุ านใชแ้ ทนอารมณ์ความรสู้ ึกต่างๆของผู้ 63 การใช้ภาษาไทย พดู ทำใหผ้ ฟู้ งั เขา้ ใจสิ่งที่พูดชัดเจนยิง่ ข้ึน 7 3.5 คำอทุ าน... ส่อื สารอารมณ์ ระดบั ภาษา ท ๔.๑ ป. ๖/๒ การเลอื กใชภ้ าษาในการสือ่ สารกับบคุ คลต่าง ราชาศัพท์ภาษา ๆ ได้อยา่ งเหมาะสมเป็นการอนรุ ักษ์วฒั นธรรม ถ่นิ ...ใช้ใหเ้ คย ทางภาษาซ่งึ เป็นเอกลกั ษณ์อยา่ งหน่ึงของชาติ ชินและ เหมาะสม

๘๕ 16 คำในภาษาไทย ท ๔.๑ ป. ๖/๓ การรู้ลักษณะของคำและความหมายของคำ 7 3.5 7 3.5 ... ท่ีนำมาใช้ ภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาทำให้อา่ น 7 3.5 จากภาษาตา่ ง เขยี น และเขา้ ใจขอ้ ความต่าง ๆ ได้ถกู ต้อง 7 3.5 7 3.5 ประเทศ ชัดเจนยง่ิ ขึน้ 17 สังเกตอย่างไร... ท ๔.๑ ป. ๖/๔ ประโยคใช้สอื่ สารในชวี ติ ประจำวนั การใช้ ประโยคชนดิ ใด ประโยคไดถ้ กู ตอ้ งจะทำให้การสื่อสารมี หรือกลุม่ คำ ประสิทธภิ าพ ๑8 กลอนสภุ าพ... ท ๔.๑ ป. ๖/๕ การแตง่ บทร้อยกรองตอ้ งคำนงึ ถึงลกั ษณะและ ซาบซง้ึ ใจ ขอ้ กำหนดของบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท รู้จัก เลอื กสรรถ้อยคำทม่ี คี วาม หมายและเสยี งคลอ้ งจองเหมาะสมมาใช้ จงึ จะ ทำให้บทรอ้ ยกรองนั้นไพเราะ สละสลวย ๑9 สำนวนไทย... ท ๔.๑ ป. ๖/๖ คำพังเพยและสภุ าษติ เป็นสำนวนไทยท่ีมี สอนใจ ให้คิด ความหมายในเชงิ เปรยี บเทียบและให้คติ สอนใจ 20 อา่ นคลอ่ ง...ต้อง ท ๑.๑ ป. ๖/๖, 1. การอา่ นงานเขียนเชงิ อธบิ าย คำสัง่ รู้วิธี ป. ๖/๗, ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ตั ิตามอยา่ งถกู ต้องจะทำให้ ป. ๖/๘ ได้รบั ประโยชนใ์ นการนำไปใช้อย่างเต็มท่ี 2.การอา่ นข้อมูลจากแผนผงั แผนทีแ่ ผนภมู ิ และกราฟทำให้เข้าใจความหมายรวดเรว็ ชัดเจนยง่ิ ข้ึนและนำไปใชป้ ระโยชน์ได้งา่ ย 2. การอา่ นหนงั สือไมว่ ่าจะเป็นหนังสือ ประเภทใด ล้วนแต่มีความสำคญั ในการสรา้ ง พฤตกิ รรมแหง่ การเรียนรไู้ ด้ตลอดชวี ิต ลำดับที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนกั 21 เรยี นรู้ เรียนรู้/ตวั ชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน เขียนชำนาญ... ท ๒.๑ ป. ๖/๒, 1. การเขยี นสอ่ื สารตอ้ งใช้ถ้อยคำ สำนวน 7 3.5 งานสรา้ งสรรค์ ป. ๖/๓, ภาษา รวมทง้ั รปู แบบใหถ้ ูกต้องเหมาะสม เพอ่ื ป. ๖/๔, สอ่ื ความหมายไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ป. ๖/๖, 2. การเขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผน ป. ๖/๗, ภาพความคิดเพอื่ ใชพ้ ัฒนางานเขยี น จะช่วย ป. ๖/๘, ใหก้ ารนำเสนอข้อมลู มีระบบงานเขยี นมี ประเด็นชัดเจนและได้ความครบถว้ นสมบรู ณ์ 3. การเขยี นเรียงความมีรปู แบบเฉพาะคือมคี ำ นำ เนอ้ื เร่อื ง และสรปุ เป็นการเขยี นเพอ่ื ถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความร้สู ึก และ ประสบการณไ์ ปยงั ผู้อา่ น 4. การเขยี นจดหมายส่วนตัว เพ่อื ใช้ติดตอ่ สื่อสารกับบิดา มารดาญาติพี่นอ้ ง หรอื เพ่ือน ควรเลอื กใชถ้ ้อยคำ สำนวนภาษาใหถ้ กู ต้อง

๘๖ เหมาะสมกับสถานการณ์ จะทำให้การสอ่ื สาร น้นั ประสบผลสำเรจ็ ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ 5. การกรอกแบบรายการไดค้ รบถ้วน ถูกต้อง ดว้ ยลายมือทอ่ี ่านง่าย สะอาด เรยี บร้อย จะทำ ใหก้ ารติดตอ่ สอื่ สารกับหน่วยงานหรือองค์กร ต่าง ๆ ประสบความสำเรจ็ 6. การเขียนเรอื่ งตามจินตนาการ ต้องมี ความรู้เกย่ี วกบั เรอื่ งนัน้ อยา่ งดี จากน้ันจึงวาง โครงเรื่องทสี่ นกุ และน่าสนใจ แล้วเรียบเรียง เรือ่ งโดยใชส้ ำนวนภาษาทีเ่ หมาะสม เพ่อื ให้ ผูอ้ า่ นเห็นภาพและเกิดความรู้สึกคล้อยตาม เนือ้ เรอื่ งทอ่ี ่าน 22 ฟัง ดู รูส้ นทนา ท ๓.๑ ป. ๖/๓, 1. การวิเคราะหค์ วามน่าเชือ่ ถือจากสือ่ โฆษณา 7 3.5 ...ภาษาสื่อสาร ป. ๖/๔, ต้องใช้ข้อมูลและเหตุผลประกอบ เพื่อจะได้ เลอื กซ้ือสนิ คา้ ท่มี คี ณุ ภาพหรอื ใชบ้ ริการตามท่ี ต้องการอย่างคุ้มคา่ 2. การพูดรายงานที่ดีทำให้การนำเสนอข้อมูล มีความน่าสนใจ ผู้ฟังได้รับความรู้และ ประโยชนจ์ ากการฟงั ลำดับที่ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลาเรยี น นำ้ หนกั 23 เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน วรรณคดแี ละ ท ๑.๑ นิทานทองอิน ตอนนากพระ-โขนงท่ีสอง 5 2.5 วรรณกรรม นิทานทองอิน ป. ๖/๑, สะท้อนให้เหน็ การเกดิ ข่าวลือข้ึนในสงั คม ตอน นากพระ โขนงท่ีสอง ป. ๖/๒, แมก้ ระทั่งไดเ้ หน็ สงิ่ น้ันด้วยตาก็อาจไมใ่ ช่ความ ป. ๖/๕, จริง ย่งิ ผรู้ บั ขา่ วสารตอ้ งมวี ิจารณญาณ ป. ๖/๘ ไตร่ตรองเพื่อไมใ่ ห้หลงผิด หรือตกเปน็ เหยื่อ ท ๕.๑ ของผูไ้ มห่ วังดี ป. ๖/๑, ป. ๖/๓ 24 บทเสภาเรื่อง ท ๑.๑ บทเสภาเร่อื ง ขุนชา้ งขนุ แผน เป็นวรรณคดที ่ี 5 2.5 ขุนชา้ งขนุ แผน ป. ๖/๑, สะทอ้ นความเปน็ ไทยอยา่ งเดน่ ชดั ท้งั สภาพ

๘๗ ตอน กำเนดิ ป. ๖/๒, สังคม วิถีชวี ติ วัฒนธรรม ความเชอ่ื และยัง สะท้อนความจริงของชีวิตท่ีตอ้ งพบกับความ พลายงาม ป. ๖/๕, ทกุ ข์ ความเสียใจ ความพลดั พราก สง่ิ เหล่าน้ี ลว้ นเปน็ คุณคา่ ของวรรณคดที ผ่ี ้อู า่ นจะไดร้ บั ป. ๖/๘ ท ๕.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป.๖/๔ 25 นทิ านพื้นบา้ น ท ๕.๑ การศกึ ษาค้นคว้านทิ านพื้นบา้ นและเพลง 4 2.5 และเพลง ป. ๖/๒ พ้ืนบา้ นเป็นการอนุรกั ษ์และสืบทอดภูมปิ ัญญา พ้นื บ้าน และมรดกทางวัฒนธรรมไทยแขนงหน่ึง 26 บทอาขยาน ท ๕.๑ การท่องจำบทอาขยานเพอ่ื นำไปใชอ้ ้างอิงและ 4 2.5 ป. ๖/๔ นำขอ้ คิดไปเป็นแนวทางในการดำเนินชวี ิต รวมเวลาเรียนภาคเรียนท่ี 2 8๐ 70 รวมเวลาเรยี นท้งั ปี 160 30 100 คะแนนระหว่างเรียน - คะแนนวดั ผลปลายปี - - รวม กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาพืน้ ฐาน ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ -๖

๘๘ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เปา้ หมายของคณติ ศาสตร์ ทาํ ไมตองเรยี นคณิตศาสตร คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคญั ยง่ิ ต่อความสำเร็จในการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เนอ่ื งจาก คณิตศาสตร์ช่วย ให้มนุษยม์ คี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์คดิ อยา่ งมเี หตุผลเป็นระบบมแี บบแผนสามารถ วเิ คราะห์ปญหาหรือสถานการณ์ ได้อย่างรอบคอบและถี่ถว้ นช่วยให้คาดการณ์ วางแผนตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และสามารถ นำไปใช้ในชีวติ จริงไดอ้ ย่างมปีระสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมอื ในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละศาสตรอ์ ืน่ ๆอนั เปน็ ราฐาน ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติใหม้ ีคุณภาพและพฒั นาเศรษฐกิจ ของประเทศให้ทัดเทียม กับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ทนั สมยั และสอดคลอ้ งกบั สภาพเศรษฐกิจ สังคมและความร้ทู างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทเ่ี จรญิ ก้าวหนา้ อย่าง รวดเร็วในยุคโลกาภวิ ตั น์ ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร(์ ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖4๐) ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับน้ี จดั ทำข้ึน โดยคำนึงถงึ การส่งเสริมให้ผู้เรียน มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑เป็นสำคัญนั่นคือการเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะด้านการคิด

๘๙ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ การแก้ปญหาการคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการร่วมมือ ซ่ึงจะส่งผลให้ผูเ้ รียนรูเ้ ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงของระบบเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรมและสภาพแวดล้อม สามารถ แข่งขันและ อยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ทั้งนี้การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จนั้น จะต้อง เตรยี มผูเ้ รยี นให้มีความพร้อมที่จะเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ พร้อมท่ีจะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษาหรือ สามารถศึกษา ต่อในระดบั ท่สี งู ขน้ึ ดงั น้ันสถานศึกษาควรจัดการเรียนรูใ้ หเ้ หมาะสมตามศักยภาพเรียนรูอะไรในคณิตศาสตร เรียนรอู้ ะไรในคณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระกรรเรียนร้คู ณิตศาสตร์จัดเปน็ ๓ สาระ ไดแ้ ก่ จำนวนและพีชคณิต การวัดและ เรขาคณิต และสถติ แิ ละความนา่ จะเป็น ✧ จำนวนและพชี คณติ ท่เี รียนเกยี่ วกับ ระบบจำนวนจรงิ สมบัตทิ เ่ี กี่ยวกบั จำนวนจรงิ อัตราส่วนร้อยละ การประมาณค่า กรรแกป้ ัญหาเกยี่ วกับจำนวนการใช้จำนวนในชวี ติ จริง แบบรปู ความสมั พันธ์ ฟงั กช์ นั่ เซตตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหนุ าม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ด อ ก เ บ ี ้ ย แ ล ะ มูลคา่ ของเงนิ ลำดับและอนุกรม และการนำความรู้เกีย่ วกับจำนวนและพีชคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ✧ การวัดและเรขาคณิตเรียนรู้เกีย่ วกับความยาวระยะทางน้ำหนัก พื้นที่ ปริมาตรและความจุ เงินและ เวลา หน่วยวัดระบบต่าง ๆ การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิต และสมบัติของรูป เรขาคณิต การนึกภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทรงเรขาคณิตในเรื่องการ เลือ่ นขนาน การสะทอ้ น การหมนุ และการนำความรูเ้ กยี่ วกบั การวดั และเรขาคณติ ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ✧ สถติ ิและความนา่ จะเปน เรยี นรู้เกย่ี วกบั การต้ังคำถามทางสถติ ิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การคำนวณคา่ สถิติ การนำเสนอและแปลผลสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลกั การนบั เบื้องต้นความ น่าจะเปน็ การใช้ความร้เู กยี่ วกับสถติ แิ ละความน่าจะเป็นในการอธบิ ายเหตุการณต์ ่าง ๆ และชว่ ยใน การตดั สินใจ คุณภาพผเู้ รียน จบชั้นประถมศึกษาปที่ ๓ ✧อา่ น เขียนตวั เลข ตัวหนงั สือแสดงจำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ มคี วามรูส้ กึ เชงิ จำนวน มที กั ษะการบวก การลบ การคูณการหารและนำไปใชใ้ นสถานการณต์ า่ ง ๆ ✧มีความร้สู ึกเชงิ จำนวนเกีย่ วกบั เศษสว่ นท่ีไม่เกนิ ๑ มที กั ษะการบวก การลบ เศษสว่ น ท่ตี วั สว่ นเท่ากัน และนำไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ✧คาดคะเนและวัดความยาว น้ำหนกั ปรมิ าตร ความจุ เลอื กใช้เคร่อื งมอื และหนว่ ย ท่ีเหมาะสม บอกเวลา บอกจำนวนเงิน และนำไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ ✧จำแนกและบอกลกั ษณะของรูปหลายเหลยี่ ม วงกลม วงรี ทรงสามเหลยี่ มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอกและกรวย เขยี นรปู หลายเหล่ยี ม วงกลม และวงรีโดยใชแ้ บบของรูป ระบรุ ปู เรขาคณิต ท่ีมี แกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร และนำไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ ✧อ่านและเขียนแผนภมู ิรูปภาพ ตารางทางเดยี วและนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ

๙๐ จบช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ✧อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับ เศษสว่ น ทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ ตำแหนง่ อตั ราสว่ น และรอ้ ยละ มีความรู้สึกเชิงจำนวน มีทักษะการบวก การลบ การคณู การหาร ประมาณ ผลลัพธ์และนำไปใช้ใน สถานการณต์ ่าง ๆ ✧อธิบายลกั ษณะและสมบตั ิของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูป เรขาคณติ สร้างรูป สามเหล่ยี ม รปู สีเ่ หลย่ี ม และวงกลม หาปริมาตรและความจขุ องทรงส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก และนำไปใช้ใน สถานการณ์ต่าง ๆ ✧นำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิรูปวงกลมตาราง สองทางและ กราฟเส้น ในการอธบิ ายเหตุการณต์ ่าง ๆ และตดั สินใจ คณติ ศาสตรม์ ีบทบาทสำคญั ย่ิงต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนษุ ยม์ คี วามคิดสรา้ งสรรค์ คิดอย่าง มเี หตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวเิ คราะหป์ ัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถว้ นรอบคอบ ชว่ ยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม นอกจากนคี้ ณติ ศาสตรย์ ังเป็น เคร่อื งมือในการศึกษาทางดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตรอ์ นื่ ๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนิน ชวี ิต ช่วยพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตใหด้ ีขน้ึ และสามารถอยู่รว่ มกบั ผูอ้ นื่ ได้อยา่ งมีความสขุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์เปิดโอกาสให้เยาวชนทุกคนไดเ้ รยี นรู้คณิตศาสตร์อย่าง ต่อเนื่อง ตาม ศกั ยภาพ โดยกำหนดสาระหลักที่จำเป็นสำหรบั ผูเ้ รียนทกุ คนดงั น้ี ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ในการเรียนรู้สง่ิ ต่างๆ เพือ่ ใหไ้ ด้มาซงึ่ ความรู้และประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ทักษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตรใ์ นทน่ี ้ี เน้นที่ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นและต้องการพฒั นาใหเ้ กิดข้นึ กบั ผูเ้ รียน ได้แกค่ วามสามารถต่อไปนี้ ๑. การแก้ปญหา เป็นความสามารถในการทำคควมเขา้ ใจปญหา คิดวเิ คราะห์ วางแผน แก้ปญหาและ เลอื กใชว้ ธิ กี ารทเ่ี หมาะสม โดยคำนงึ ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบ พร้อมท้ัง ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๒. การสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ เป็นความสามารถในการใชร้ ปู ภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการสอ่ื สาร สอ่ื ความหมาย สรปุ ผล และนำเสนอไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้องชดั เจน ๓. การเชื่อมโยง เป็นความสามารถในการใช้ความรู้ทางงคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการ เรียนรู้ คณิตศาสตร์ เนือ้ หาตา่ ง ๆ หรือศาสตร์อืน่ ๆ และนำไปใช้ในชีวิตจริง ๔. การใหเ้ หตุผล เปน็ ความสามารถในการให้เหตผุ ล รับฟงและให้เหตุผลสนับสนุน หรือ โต้แย้งเพ่ือ นำไปสู่การสรุป โดยมขี ้อเท็จจริงทางคณิตศาสตรร์ องรบั ๕. การคดิ สรา้ งสรรค ์เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดท่มี ีอยเู่ ดิม หรือสร้างแนวคิดใหมเ่ พือ่ ปรบั ปรงุ พฒั นาองค์ความรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินกา ของจำนวน ผลทีเ่ กิดขน้ึ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนนิ การ และการนำไปใช้

๙๑ นำไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ ั่น ลำดับและอนุกรมและการ กำหนดให้ มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์ หรือช่วยแก้ปัญหาที่ สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะแนนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ ระหว่างรปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และการนำไปใช้ สาระที่ ๓ สถิตแิ ละความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถติ ใิ นการแกป้ ญั หา มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนบั เบอ้ื งตน้ ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้ ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

๙๒

๙๓

๙๔

๙๕

๙๖


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook