Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 2565

หลักสูตรสสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 2565

Published by ญาณิกา สุชาติสุนทร, 2023-02-20 08:40:54

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านโชค(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2565) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนในโรงเรียน และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาไปสู่การพัฒนาศักยภาพของนักเรียนได้เต็มศักยภาพ สถานศึกษาได้จัดทำสาระการเรียนรู้อิงมาตรฐาน สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้แกนกลาง ได้รับความเห็นชอบ และ อนุมัติการใช้หลักสูตรโดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านโชค

Search

Read the Text Version

๕๔๗ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง และสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔) สาระที่ ๒ หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัตติ นตามหน้าทีข่ องการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นยิ มที่ดงี ามและธำรงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวิตอยรู่ ่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสขุ ชั้น ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ป.๔ ๑. ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดี  การเข้าร่วมกิจกรรม ตามวิถปี ระชาธิปไตยในฐานะ ประชาธิปไตยของชุมชน เช่น สมาชิกท่ดี ขี องชมุ ชน การรณรงคก์ ารเลอื กตั้ง  แนวทางการปฏิบตั ิตนเป็น สมาชิกทด่ี ขี องชุมชน เช่น อนรุ กั ษส์ ่งิ แวดล้อม สาธารณ สมบัติ โบราณวัตถแุ ละ โบราณสถาน การพฒั นา ชมุ ชน ๒. ปฏบิ ัตติ นในการเปน็ ผนู้ ำ  การเป็นผนู้ ำและผู้ตามทีด่ ี และผู้ตาม ทีด่ ี - บทบาทและความรบั ผิด ชอบของผู้นำ - บทบาทและความรับผิด ชอบของผู้ตามหรือสมาชิก - การทำงานกล่มุ ให้มี ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ และประโยชน์ของการทำงาน เป็นกลมุ่ ๓. วิเคราะหส์ ทิ ธิพืน้ ฐานท่ี  สทิ ธิพนื้ ฐานของเดก็ เช่น เดก็ ทุกคนพึงไดร้ บั ตาม สทิ ธิที่จะมีชีวิต สทิ ธิที่จะ กฎหมาย ได้รับการปกป้อง สทิ ธิ ที่จะ ได้รบั การพัฒนา สทิ ธิทีจ่ ะมี สว่ นร่วม ๔. อธิบายความแตกต่างทาง  วัฒนธรรมในภาคตา่ งๆ การแตง่ กาย ,ภาษา วัฒนธรรมของกลุ่มคนใน ของไทยทีแ่ ตกตา่ งกนั เช่น อาหาร ของชาวกูย เขมร, ท้องถิน่ การแต่งกาย ภาษา อาหาร ลาว

๕๔๘ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น ๕. เสนอวิธีการทีจ่ ะอยู่ร่วมกนั  ปญั หาและสาเหตุของการ อย่างสันติสขุ ในชีวิตประจำวนั เกิดความขัดแย้งในชีวิตประ จำวนั  แนวทางการแกป้ ัญหา ความขัดแย้งด้วยสนั ติวิธี สาระที่ ๒ หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยึดมน่ั ศรทั ธาและธำรง รกั ษาไว้ซึง่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็น ประมขุ ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น ป.๔ ๑. อธิบายอำนาจอธปิ ไตย  อำนาจอธิปไตย และความสำคญั ของระบอบ  ความสำคัญของการ ประชาธิปไตย ปกครองตามระบอบประชา ธิปไตย ๒. อธิบายบทบาทหน้าทีข่ อง  บทบาทหน้าทีข่ องพลเมือง พลเมืองในกระบวนการ ในกระบวนการเลอื กตั้ง ท้ัง เลอื กต้ัง ก่อนการเลอื กต้ัง ระหวา่ งการ เลอื กต้ัง หลงั การเลอื กตั้ง ๓. อธิบายความสำคญั ของ  สถาบันพระมหากษัตริย์ใน สถาบนั พระมหากษัตริย์ตาม สงั คมไทย ระบอบประชาธิปไตยอันมี  ความสำคัญของสถาบนั พระมหากษัตริย์ทรงเป็น พระมหากษตั ริย์ในสงั คมไทย ประมขุ

๕๔๙ ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง และสาระการเรียนร้ทู อ้ งถิ่น (ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕) สาระที่ ๒ หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าที่ของการเปน็ พลเมืองดี มีค่านยิ มที่ดงี ามและ ธำรงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสงั คม โลกอย่างสันติสุข ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ ป.๕ ๑. ยกตัวอยา่ งและปฏิบัติตน  สถานภาพ บทบาท ตามสถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ  หน้าที่ของพลเมืองดี เชน่ สทิ ธิเสรีภาพ และหน้าที่ใน เคารพ เทิดทนู สถาบนั ชาติ ฐานะพลเมืองดี ศาสนา พระมหากษัตริย์ อนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ อนรุ ักษศ์ ิลปวฒั นธรรม ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย  คุณลกั ษณะของพลเมือง ดี เช่น เห็นแก่ประโยชน์ สว่ นรวมมากกว่าประโยชน์ สว่ นตน มีความรบั ผิดชอบ เสยี สละ ๒. เสนอวิธีการปกปอ้ ง  เหตกุ ารณท์ ีล่ ะเมิดสทิ ธิ คุ้มครองตนเองหรือผู้อืน่ จาก เดก็ ในสงั คมไทย การละเมิดสิทธิเด็ก  แนวทางการปกป้อง คุ้มครองตนเองหรือผู้อื่นจาก การละเมิดสิทธิเด็ก  การปกป้องคุ้มครองสิทธิ เดก็ ในสงั คมไทย ๓. เหน็ คณุ คา่ วฒั นธรรมไทย  วัฒนธรรมไทย ทีม่ ีผลตอ่ ที่มีผลต่อการดำเนนิ ชีวิตใน การดำเนนิ ชีวิตของคนใน สงั คมไทย สังคมไทย  คุณค่าของวัฒนธรรมกบั การดำเนนิ ชีวิต

๕๕๐ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น ๔. มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์  ความสำคญั ของภมู ิ ภมู ิปญั ญาท้องถิ่น เช่น การ และเผยแพรภ่ มู ิปญั ญา ปัญญาท้องถิ่น ทอผ้าไหม การทำเครอ่ื งเงิน ท้องถิ่นของชุมชน  ตัวอย่างภูมิปญั ญาท้องถิ่น การทำเคร่อื งหวาย เคร่อื งมือ ในชมุ ชน ของตน เครอ่ื งใช้/การประกอบอาชีพ  การอนุรักษ์และเผยแพร่ ในครัวเรือน การต้ังบ้านเรือน ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ของชุมชน ฯลฯ มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยึดมน่ั ศรทั ธาและธำรงรักษาไว้ ซึง่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ป.๕ ๑. อธิบายโครงสร้าง อำนาจ  โครงสร้างการปกครองใน หน้าที่และความสำคัญของการ ท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. ปกครองส่วนท้องถิน่ เทศบาล และการปกครอง พิเศษ เช่น พัทยา กทม.  อำนาจหน้าที่และความ สำคัญของการปกครองสว่ น ท้องถิน่ ๒. ระบบุ ทบาทหน้าที่ และ  บทบาทหน้าที่ และวิธกี าร วิธีการเข้าดำรงตำแหนง่ ของ เข้าดำรงตำแหนง่ ของ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น เชน่ นายก อบต. นายกเทศมนตรี นายก อบจ. ผู้ว่าราชการ กทม. ๓. วิเคราะห์ประโยชน์ที่ชุมชน  องคก์ รปกครองสว่ น จะได้รบั จากองค์กรปกครอง ท้องถิ่นกบั บริการสาธารณ ส่วนท้องถิ่น ประโยชน์ในชุมชน

๕๕๑ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง และสาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น (ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖) สาระที่ ๒ หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัตติ นตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นยิ มที่ดงี ามและธำรงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวิตอยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ติสขุ ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ป.๖ ๑. ปฏิบัตติ ามกฎหมาย  กฎหมายที่เกี่ยวข้องกบั ที่เกี่ยวข้องกบั ชีวิตประ ชีวิตประจำวนั เช่น จำวนั ของครอบครัว - กฎหมายจราจร และชุมชน - กฎหมายทะเบียนราษฎร - กฎหมายยาเสพติดให้โทษ - เทศบญั ญัติขอ้ บญั ญัติ อบต.อบจ.  ประโยชน์ของการปฏิบัตติ นตาม กฎหมายดังกลา่ ว ๒. วเิ คราะห์การเปล่ยี น  ความหมายและประเภทของ แปลงวัฒนธรรมตาม วัฒนธรรม กาลเวลาและธำรงรักษา  การเปล่ยี นแปลงวฒั นธรรมตาม วัฒนธรรม อนั ดงี าม กาลเวลาทีม่ ผี ลตอ่ ตนเองและ สังคมไทย  แนวทางการธำรงรักษา วัฒนธรรมไทย ๓. แสดงออกถงึ  ความหมายและสำคัญของ มารยาทไทยได้ มารยาทไทย เหมาะสมถูกกาลเทศะ  มารยาทไทยและมารยาทสงั คม เชน่ การแสดงความเคารพ การยืน การเดนิ การนงั่ การนอน การรบั ของส่งของ การรับประทานอาหาร การแสดงกิริยาอาการ การทักทาย การสนทนา การใช้คำพูด ๔. อธิบายคณุ คา่ ทาง  ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าทาง ความแตกตา่ งของวัฒนธรรม วฒั นธรรมที่แตกตา่ ง วฒั นธรรม เช่น ภาษา การแต่งกาย

๕๕๒ ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ กันระหว่างกลมุ่ คนใน  ความแตกต่างทางวัฒนธรรม อาหาร ของชาวกยู เขมร สงั คมไทย ระหวา่ งกลุม่ คนภาคต่างๆ ใน ลาว สังคมไทย  แนวทางการรกั ษาวัฒนธรรม ๕. ติดตามข้อมูล  ข้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ขา่ วสาร เหตกุ ารณต์ ่าง เช่น วิทยุโทรทศั น์ หนังสือพิมพ์ ๆ ในชีวิตประจำวัน แหล่งขา่ วต่าง ๆ สถานการณจ์ ริง เลอื กรับและใช้ขอ้ มูล  ประโยชนจ์ ากการติดตามข้อมูล ขา่ วสารในการเรียนรู้ ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ได้เหมาะสม  หลกั การเลอื กรบั และใช้ขอ้ มลู ขา่ วสารจากสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่อทีไ่ ร้ พรมแดน สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จบุ ัน ยึดมน่ั ศรัทธาและธำรง รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ ช้ัน ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ป.๖ ๑. เปรยี บเทียบบทบาท  บทบาท หน้าที่ ขององคก์ ร หน้าทีข่ ององคก์ ร ปกครองส่วนท้องถิน่ และรฐั บาล ปกครองส่วนท้องถิ่น และรฐั บาล ๒. มีสว่ นรว่ มใน  กิจกรรมต่างๆ เพือ่ ส่งเสริม กิจกรรมตา่ งๆ ที่ ประชาธิปไตย ในท้องถิน่ และ สง่ เสริม ประชาธิปไตย ประเทศ ในท้องถิ่นและประเทศ ๓. อภิปรายบทบาท ° การมีสว่ นในการออกกฎหมาย ความสำคัญในการใช้ ระเบียบ กติกา การเลอื กต้ัง สทิ ธิออกเสียงเลอื กต้ัง ° สอดส่องดแู ลผู้มพี ฤติกรรมการ ตามระบอบ กระทำผิดการเลอื กตั้ง และแจ้งต่อ ประชาธิปไตย เจ้าหน้าทีผ่ ู้รบั ผิดชอบ ° ตรวจสอบคณุ สมบัติ

๕๕๓ ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ ° การใช้สิทธิออกเสียงเลอื กตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย

๕๕๔ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๑๑๒๐๑หน้าที่พลเมือง กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง กำหนดสาระการเรียนรู้ ได้แก่ สาระที่ ๒ หน้าทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม ให้ผู้เรยี นศึกษาหลักการแนวทาง ปฏิบัตใิ นเรื่อง บอกประโยชนแ์ ละปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ขี องครอบครัวและโรงเรียน ยกตัวอย่าง ความสามารถและความดขี องตนเอง ผู้อืน่ และบอกผลจากการกระทำนนั้ บอกโครงสร้าง บทบาทและ หน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน ระบุบทบาท สทิ ธิ หน้าทีข่ องตนเองในครอบครัวและโรงเรียน มีส่วนรว่ มในการตัดสินใจและทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย รหัสตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ส ๒.๑ ตัวช้ีวัด ส ๒.๑ ป.๑/๑ ส ๒.๑ ป.๑/๒ มาตรฐาน ส ๒.๒ ตวั ช้ีวัด ส ๒.๒ ป.๑/๑ ส ๒.๒ ป.๑/๒ ส ๒.๒ ป.๑/๓ รวมทง้ั หมด ๕ ตัวชวี้ ดั

๕๕๕ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๑๒๒๐๑หนา้ ที่พลเมือง กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง สาระ : หน้าที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม ศึกษาหลักการ แนวทาง ปฏิบัตใิ นเรื่อง ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบและหน้าทีท่ ีต่ ้องปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ปฏิบัตติ นตามมารยาทไทย แสดงพฤติกรรมในการยอมรับความคิด ความเชือ่ และการปฏบิ ตั ขิ องบุคคล อื่นที่แตกต่างกันโดยปราศจากอคติ เคารพในสทิ ธิ เสรีภาพของตนเอง ผู้อืน่ อธิบายความสัมพันธ์ของ ตนเองและสมาชิกในครอบครัวในฐานะเปน็ ส่วนหนึง่ ของชุมชน ระบุผู้มีบทบาท อำนาจในการตดั สินใจใน โรงเรียนและชมุ ชน รหัสตัวชี้วัด ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ รวมทงั้ หมด ๖ ตวั ชวี้ ดั

๕๕๖ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๑๓๒๐๑หนา้ ที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง สาระ : หนา้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม ศึกษาหลกั การแนวทางปฏิบัตใิ น เรือ่ ง สรุปประโยชนแ์ ละปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครวั และท้องถิน่ บอกพฤติกรรมการ ดำเนนิ ชีวิตของตนเอง และผู้อื่นทีอ่ ยู่ในกระแสวัฒนธรรมที่หลากหลาย อธิบายความสำคญั ของวนั หยุดราชการทีส่ ำคญั ยกตวั อยา่ งบคุ คล ซึง่ มีผลงานทีเ่ ป็นประโยชน์ แก่ ชุมชนและท้องถิน่ ของตน ระบุบทบาทหน้าที่ของสมาชิกของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ ตาม กระบวนการประชาธิปไตย วิเคราะหค์ วามแตกต่างของกระบวนการการตัดสินใจในช้ันเรียน โรงเรียนและ ชมุ ชนโดยวิธีการออกเสียงโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียง ยกตวั อย่างการเปลย่ี นแปลงในชั้นเรียน โรงเรียนและชมุ ชนที่เป็นผลจากการตดั สินใจของบคุ คลและกลมุ่ รหสั ตวั ชี้วดั ส ๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ส ๒.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ รวมทง้ั หมด ๗ ตวั ชี้วดั

๕๕๗ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๑๔๒๐๑หน้าที่พลเมือง กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง สาระ : หน้าทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม ศึกษาและเปน็ แนวทางปฏิบตั ิ ในเรื่อง ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตยในฐานะสมาชิกทีด่ ีของชมุ ชน ปฏิบัตติ นในการเปน็ ผู้นำและผู้ตามที่ดี วิเคราะหส์ ทิ ธิพนื้ ฐานท่เี ดก็ ทุกคนพึงไดร้ บั ตามกฎหมาย อธิบายความแตกตา่ งทาง วัฒนธรรมของกลุ่มคนในท้องถิ่น เสนอวิธีการทีจ่ ะอยูร่ ่วมกันอยา่ งสันติสุขในชีวิตประจำวัน อธิบายอำนาจ อธิปไตยและความสำคญั ของระบอบประชาธิปไตย อธิบายบทบาทหน้าทีข่ องพลเมืองในกระบวนการ เลอื กต้ัง อธิบายความสำคญั ของสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ ทรงเปน็ ประมขุ รหสั ตวั ชีว้ ดั ส ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ส ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวมทัง้ หมด ๘ ตวั ชี้วัด

๕๕๘ คำอธิบายรายวชิ า ส ๑๕๑๐๑สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา 4๐ ชั่วโมง สาระ : หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม ศึกษาหลักการแนวทางปฏิบัติ ในเรือ่ ง ยกตัวอย่างและปฏิบตั ิตนตามสถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ และหน้าทีใ่ นฐานะพลเมืองดี เสนอวิธีการปกป้องคุ้มครองตนเองหรือผอู้ ืน่ จากการละเมิดสิทธิเด็ก เหน็ คณุ คา่ วัฒนธรรมไทยทีม่ ีผลต่อ การดำเนนิ ชีวิตในสงั คมไทย มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษแ์ ละเผยแพร่ ภูมิปญั ญาท้องถิ่นของชุมชน อธิบายโครงสร้าง อำนาจ หน้าที่ และความสำคญั ของการปกครองส่วนท้องถิน่ ระบุบทบาทหน้าที่และ วิธีการเข้าดำรงตำแหน่งของผู้บรหิ ารท้องถิน่ วิเคราะหป์ ระโยชนท์ ี่ชุมชนจะไดร้ บั จากองคก์ รปกครองสว่ น ท้องถิน่ รหสั ตวั ชวี้ ัด ป.๕/๔ ส ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ส ๒.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ รวมตวั ชีว้ ดั ทง้ั หมด ๗ ตวั ชีว้ ดั

๕๕๙ คำอธิบายรายวชิ า ส ๑๖๑๐๑สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา 4๐ ช่ัวโมง สาระ : หนา้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม ศึกษาหลักการแนวทาง ปฏิบตั ใิ นเรื่อง ปฏิบตั ติ ามกฎหมายที่เกีย่ วข้องกับชีวิตประจำวันของครอบครัวและชมุ ชน วิเคราะหก์ าร เปลย่ี นแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาและธำรงรักษาวัฒนธรรมอนั ดงี าม แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้ เหมาะสมถกู กาลเทศะ อธิบายคณุ ค่าทางวัฒนธรรมที่แตกตา่ งกันระหวา่ งกลุ่มคนในสังคมไทย ติดตาม ข้อมลู ขา่ วสาร เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน เลอื กรับและใช้ขอ้ มูลขา่ วสารในการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม เปรยี บเทียบบทบาท หน้าทีข่ ององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ และรัฐบาล มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมตา่ ง ๆ ที่ ส่งเสริมประชาธิปไตยในท้องถิน่ และประเทศ อภิปรายบทบาท ความสำคัญในการใช้สทิ ธิออกเสียง เลอื กต้ังตามระบอบประชาธิปไตย รหสั ตัวชี้วดั ส ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ส ๒.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ รวมทง้ั หมด ๘ ตัวชีว้ ดั

๕๖๐ โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี น รายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ( หนา้ ทีพ่ ลเมือง ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ สาระที่ ๒ หนา้ ที่พลเมอื ง วฒั นธรรมและการดำเนินชีวิตในสงั คม ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ชีว้ ดั ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ส๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ๑ การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกที่ดขี อง ๓ 40 การเปน็ พลเมืองดี ครอบครัว ๒ ประโยชน์ของการปฏิบตั ิตนเปน็ ๓ สมาชิกทีด่ ขี องครอบครวั ๓ การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดขี อง ๓ โรงเรียน ๔ ประโยชนข์ องการปฏิบัติตนเป็น ๓ สมาชิกทีด่ ขี องโรงเรียน ๕ ลักษณะความสามารถของตนเอง ๓ และผู้อืน่ ๖ ลักษณะการทำความดีของตนเอง ๓ และผู้อื่น ๗ ผลของการกระทำความดีของ ๓ ตนเองและผู้อื่น ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ส๒.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ๘ โครงสร้างของครอบครัว ๓ 30 โครงสร้างและบทบาท ๙ ความสมั พนั ธ์ของบทบาทหน้าที่ ๒ หนา้ ทีข่ องสมาชิกใน ของสมาชิกในครอบครัว ครอบครัวและโรงเรียน ๑๐ โครงสร้างของโรงเรียน ๒ ๑๑ ความสมั พนั ธ์ของบทบาทหน้าที่ ๒ ของสมาชิกในโรงเรียน ๑๒ บทบาทหน้าที่สิทธขิ องตนเองใน ๒ ครอบครัวและโรงเรียน ๑๓ การใช้อำนาจตามบทบาทหนา้ ที่ ๒ และสิทธขิ องสมาชิกในครอบครัว ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ส๒.๒ ป.๑/๓ ๑๔ การมีส่วนรว่ มในการตดั สินใจ ๒ 30 การมีสว่ นรว่ มตาม และการทำกิจกรรมในครอบครวั ตาม ๒ กระบวนการ กระบวนการประชาธิปไตย ประชาธปิ ไตย

๕๖๑ ลำดบั ที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก ตวั ชี้วัด (ชวั่ โมง) คะแนน ๑๕ การมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจ และการทำกิจกรรมในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธิปไตย ๒ ๑๖ การมีสว่ นร่วมในการทำกิจกรรม ตามกระบวนการประชาธิปไตย รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐ 70 คะแนนระหวา่ งเรียน - 30 คะแนนวดั ผลปลายปี - 100 - รวม

๕๖๒ โครงสร้างหน่วยการเรียน รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ( หน้าที่พลเมือง ) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสงั คม ลำดบั ที่ ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั ตวั ชีว้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน ๑ การปฏิบัติตนตาม ส ๒.๑ ป.๒/๑ การอยรู่ ว่ มกันในสงั คม สมาชิกทกุ คน ๑๐ 20 ข้อตกลง กติกา กฎ ควรปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ หน้าทีใ่ น ระเบียบ และหนา้ ทีข่ องตนเอง เพือ่ ให้ ชีวิตประจำวนั สงั คมเกิดความสงบสขุ ๒ มารยาทไทย ส ๒.๑ ป.๒/๒ มารยาทไทยเปน็ สิ่งดีงามทีเ่ ป็นเอก ๑๐ 20 ลกั ษณ์ของชาติไทย ทุกคนควรปฏิบัติ ตนตามมารยาทไทย เพื่อสืบทอดและ อนุรักษส์ ิ่งดีงามใหค้ งอยตู่ ลอดไป ๓ การอย่รู ่วมกนั ในสังคม ส ๒.๑ ป.๒/๓, ป.๒/๔ ๑. การยอมรบั ความคิดความเชือ่ ๑๐ 20 อย่างสันติสุข ความสามารถและการปฏิบัติของ บุคคลทีแ่ ตกต่างจะทำใหส้ งั คมเกิด ความสงบสขุ ๒. บคุ คลแตล่ ะบุคคลจะมีสทิ ธแิ ละ เสรีภาพไดเ้ ทา่ เทียมกนั แตส่ ิทธแิ ละ เสรีภาพดังกล่าวจะต้องไมข่ ดั ตอ่ กฎหมายและต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ และเสรีภาพของบคุ คลอื่น ๔ ความสัมพันธข์ อง ส ๒.๒ ป.๒/๑ ชมุ ชนประกอบด้วยสมาชิกใน ๕ 20 ตนเองและครอบครวั ครอบครวั หลายครอบครวั ที่อยู่ ในฐานะเป็นสว่ นหน่งึ ร่วมกนั และมีกฎ ระเบียบในการอยู่ ของชมุ ชน รว่ มกัน ๕ บทบาทและอำนาจใน ส ๒.๒ ป.๒/๒ ๑. ผู้บริหารโรงเรียนเปน็ ผู้มีบทบาท ๕ 20 การตดั สินใจใน และอำนาจหนา้ ทีใ่ นการบริหาร โรงเรียนและชมุ ชน โรงเรียนเพื่อพัฒนาโรงเรียนใหเ้ จริญ- ก้าวหน้า

๕๖๓ ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั ตวั ชีว้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ๒. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำ ท้องถิ่น เป็นผู้มีบทบาทอำนาจในการ บริหารชมุ ชนเพื่อพฒั นาชมุ ชนให้ เจริญก้าวหน้า คนในชุมชนอยู่รว่ มกัน อย่างมีความสขุ รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐ คะแนนระหว่างเรียน - 70 คะแนนวดั ผลปลายปี - 30 รวม - 100

๕๖๔ โครงสร้างหนว่ ยการเรียน รายวชิ าเพิม่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ( หน้าทพี่ ลเมอื ง ) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ หนา้ ที่พลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ลำดั ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั บที่ ตัวชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน ๑ ประเพณีและ ส ๒.๑ ป.๓/๑ ประเพณีและวฒั นธรรมไทยเปน็ สิง่ ที่ ๘ 22 วฒั นธรรมไทย ปฏิบัติสบื ตอ่ กันมา แสดงใหเ้ หน็ ถึง ความเจริญงอกงามและเป็นเอก ลกั ษณ์ของชาติไทยที่ทกุ คนควรร่วมกัน อนุรักษแ์ ละสืบทอดใหค้ งอยู่ตอ่ ไป ๒ วนั สำคญั ของไทย ส ๒.๑ ป.๓/๓ วันสำคัญของไทยเปน็ วันทีม่ ีเหตุการณ์ ๘ 23 สำคญั ตา่ ง ๆ เกิดขึน้ ควรคา่ แก่การ จดจำและระลึกถึง ๓ บคุ คลสำคญั ของ ส ๒.๑ ป.๓/๔ บคุ คลสำคญั ของท้องถิน่ เปน็ บุคคลที่ ๔ 10 ท้องถิน่ ทำประโยชน์ใหแ้ กท่ ้องถิ่นหรือส่วน รวมและเปน็ แบบอย่างที่ดี ทีค่ วร นำมาปฏิบตั ิตาม ๔ ประชาธปิ ไตยในชั้น ส ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ๑. การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมตาม ๑๐ 25 เรียน โรงเรียนและ กระบวนการประชาธิปไตยเป็น ชมุ ชน บทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชิกทกุ คน ในสงั คม การมีส่วนรว่ มตามกระบวน การประชาธปิ ไตยจะช่วยใหส้ งั คม เจริญก้าวหน้าและพัฒนาได้ ๒. การออกเสียงโดยตรงและการ เลือกตัวแทนออกเสียง เป็นการมีส่วน ร่วมตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ๕ การเปลี่ยนแปลง ส ๒.๒ ป.๓/๓ การเปลี่ยนแปลงในช้ันเรียน โรงเรียน ๕ 10 ในช้ันเรียน โรงเรียน และชุมชนเปน็ ผลมาจากการตดั สินใจ และชมุ ชน ของสมาชิกในชั้นเรียน โรงเรียน และ ชมุ ชนทีต่ อ้ งการใหเ้ กิดการเปลีย่ น แปลงไปในทางที่ดขี ึน้

๕๖๕ ลำดั ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั บที่ ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน ๖ ความหลากหลาย ส ๒.๑ ป.๓/๒ ประเทศไทยมีคนหลายเชือ้ ชาติเขา้ มา ๕ 10 ทางวฒั นธรรม อาศยั อยู่จึงก่อใหเ้ กิดวฒั นธรรมที่ หลากหลาย การยอมรับวัฒนธรรมที่ แตกต่างกนั ส่งผลใหส้ มาชิกในสังคม อยรู่ ่วมกนั อย่างมีความสุข รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐ 70 คะแนนระหวา่ งเรียน - 30 คะแนนวัดผลปลายปี - 100 - รวม โครงสร้างหนว่ ยการเรียน รายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ( หน้าทพี่ ลเมือง ) ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หน่วยกิต หนา้ ที่พลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ลำดับที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน ๑ การอยรู่ ่วมกันอยา่ ง ส ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ๑. การปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดีตาม ๑๖ สันติสขุ ตามวถิ ี ป.๔/๕ วถิ ีประชาธปิ ไตยจะช่วยใหส้ ังคมมี ประชาธปิ ไตย ความสงบสขุ ๒. ผู้นำทีด่ คี วรมีความรบั ผิดชอบ และเป็นแบบอยา่ งที่ดีของสมาชิก ผู้ ตามควรมีความรับผิดชอบในงานที่ ได้รับมอบหมาย ถ้าผู้นำและผู้ตาม 35 ปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าที่ งานที่ทำ จะสำเร็จลลุ ่วงไปได้ด้วยดี ๓. ปัญหาความขัดแยง้ เกิดได้จาก หลายสาเหตุ การลดปัญหาความ ขัดแยง้ ด้วยสนั ติวิธี จะทำใหท้ ุกคนอยู่ รว่ มกนั ในสังคมได้อย่างมีความสขุ ๒ สิทธพิ ืน้ ฐานของเดก็ ส ๒.๑ ป.๔/๓ สิทธขิ องเด็กคือสิทธทิ ี่เด็กพึงได้รับ ๖ ตามกฎหมาย คือ สิทธทิ ี่จะมีชีวิต 15 สิทธทิ ี่จะมี สว่ นรว่ ม สิทธทิ ี่จะได้รับ

๕๖๖ ลำดับที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั ๓ การเมืองการ ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน ปกครองของไทย การปกปอ้ ง สิทธทิ ี่จะได้รบั การ ๔ วฒั นธรรมไทย พฒั นา ส ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ๑. ชาติไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ๑๒ ป.๔/๓ มายาวนาน พระมหากษตั ริยไ์ ทยทรง เป็นศนู ยร์ วมจิตใจของคนไทย พระองค์ทรงยึดหลักทศพิธราชธรรม ในการปกครองประเทศ ส่งผลใหช้ าติ ไทยเปน็ ชาติทีส่ งบสขุ เรื่อยมา ๒. ประเทศไทยมีการปกครองระบอบ 30 ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมขุ และมีกฎหมาย รฐั ธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสดุ ๓. การเลือกต้ังเป็นบทบาทหนา้ ที่ ของพลเมืองทีจ่ ะมีส่วนร่วมใน กระบวน การประชาธปิ ไตย ส ๒.๑ ป.๔/๔ วัฒนธรรมไทยเปน็ สิ่งดีงามที่ปฏิบัติ ๖ สืบทอดต่อกนั มาเพื่อแสดงถึงความ เจริญงอกงาม คนไทยทุกคนจึงควร 15 อนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทยใหอ้ ยู่คู่กับ สังคมไทยตลอดไป รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐ 70 คะแนนระหวา่ งเรียน - 30 คะแนนวดั ผลปลายปี - 100 - รวม

๕๖๗ โครงสรา้ งหน่วยการเรียน รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ( หน้าท่ีพลเมือง ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ๑ พลเมืองดีของสังคม ตวั ชีว้ ัด (ช่วั โมง) คะแนน ๒ สิทธขิ องเด็ก ส ๒.๑ ป.๕/๑ ๑. ทุกคนทีเ่ กิดมาในสงั คมจะมี ๑๐ ๓ การปกครอง สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ สว่ นท้องถิ่นของไทย หนา้ ทีท่ ีแ่ ตกต่างกนั ไป 25 ๔ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาท้องถิน่ ๒. การปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดีของ สงั คมจะชว่ ยใหส้ ังคมสงบสขุ ส ๒.๑ ป.๕/๒ สิทธเิ ดก็ เป็นสิทธขิ ้ันพนื้ ฐานทีเ่ ด็กพึง ๘ ได้รับ เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถดำรงชีวิตอยู่ ในสังคมได้อย่างมีความสขุ โดยมี สุข ภาพร่างกายและจิตใจทีแ่ ขง็ แรงเพื่อ 20 ใหเ้ จริญเติบโตขึน้ เป็นผู้ใหญ่ที่ดใี น อนาคต หน่วยงานต่างๆจึงควรชว่ ยกัน ดแู ลเพือ่ ป้องกนั การละเมิดสิทธเิ ด็ก ส ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, การปกครองส่วนท้องถิน่ เปน็ การกระ ๑๔ ป.๕/๓ จายอำนาจจากส่วนกลางไปส่ทู ้องถิน่ เพือ่ ใหส้ ามารถควบคมุ ดูแล ความ 35 สงบเรียบร้อยภายในท้องถิน่ ได้ และ สามารถพัฒนาท้องถิ่นใหเ้ กิดความ เจริญก้าวหน้าได้ ส ๒.๑ ป.๕/๓, ป.๕/๔ ๑. วฒั นธรรมไทย เปน็ สิง่ ที่แสดงให้ ๘ เห็นถึงความเจริญงอกงามของคน ไทย มีคณุ คา่ และสง่ ผลตอ่ การดำเนิน ชีวิตของคนในสงั คม 20 ๒. ภูมิปญั ญาท้องถิ่นเป็นสิ่งทีบ่ รรพ บรุ ุษได้สร้างสรรคข์ ึน้ เพื่อนำมาใช้ ประโยชนใ์ นการดำเนินชีวิต รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐

๕๖๘ คะแนนระหว่างเรียน - 70 คะแนนวดั ผลปลายปี - 30 - 100 รวม โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี น รายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ( หน้าท่ีพลเมอื ง ) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ลำดบั ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก ที่ ตัวชีว้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน ๑ กฎหมายพนื้ ฐานที่ ส ๒.๑ ป.๖/๑ กฎหมายเป็นข้อบงั คับเพือ่ ควบคมุ ให้ ๘ เกี่ยวข้องกับชีวิต สมาชิกในสงั คมปฏิบตั ิตาม เพือ่ ให้ ประจำวัน เกิดความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยและ ความสงบสุขในสงั คม ๒ ข้อมลู ขา่ วสารใน ส ๒.๑ ป.๖/๕ ในชีวิตประจำวันของคนเรามีการรบั ๔ ชีวิตประจำวัน ข้อมลู ขา่ วสารต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเลือกรับข้อมูลข่าวสาร เฉพาะที่จำเป็นและมีประโยชนจ์ ึงเป็น สิง่ สำคัญ เพือ่ ใหส้ ามารถนำข้อมลู ข่าวสารทีไ่ ด้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวันใหม้ ากท่สี ุด ๓ การเมืองการปกครอง ส ๒.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ประเทศไทยมีการปกครองระบอบ ๑๔ ของไทย ป.๖/๓ ประชาธปิ ไตยโดยมีพระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมขุ ประชาชนสามารถ เข้าไปมีส่วนรว่ มในการเมืองการ ปกครองได้ตามระบอบประชาธิปไตย โดยการ ไปใช้สทิ ธเิ ลือกต้ัง ๔ วฒั นธรรมไทย ส ๒.๑ ป.๖/๒, ป.๖/๓, ๑. วฒั นธรรมแสดงใหเ้ ห็นถึงความ ๑๔ ป.๖/๔ เจริญงอกงามที่มนษุ ยส์ ร้างสรรค์ขึน้ เพื่อเปน็ แบบแผนในการดำเนินชีวิต เพื่อใหอ้ ย่รู ่วมกันได้อย่างมีความสขุ ๒. มารยาทเป็นสิ่งทีค่ วรนำมาปฏิบตั ิ ใหถ้ ูกต้องเหมาะสม เพื่อแสดงใหเ้ ห็น ถึงความเป็นผู้ที่มีวัฒนธรรม รวมเวลาเรียนตลอดปี 4๐

๕๖๙ คะแนนระหว่างเรียน - 70 คะแนนวดั ผลปลายปี - 30 - 100 รวม รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกันการทุจริต 1. หลกั การและเหตุผล ยุทธศาสตร์ชาตวิ า่ ดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ ที่ 1 “สรา้ งสังคมทไี่ ม่ทนตอ่ การทุจริต” ได้มงุ่ เน้นใหค้ วามสำคัญในกระบวนการปรบั สภาพสังคมให้เกดิ ภาวะท่ี “ไม่ ทนตอ่ การทุจริต” โดยเร่มิ ตั้งแตก่ ระบวนการกล่อมเกลาทางสงั คมในทุกระดบั ช่วงวัย ตง้ั แตป่ ฐมวยั เพอื่ สรา้ ง วฒั นธรรมต่อตา้ นการทุจริต และปลกู ฝงั ความพอเพียง มวี ินยั ซ่ือสัตยส์ จุ ริตยดึ ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน เป็นการด าเนินการผา่ นสถาบันหรือกลุม่ ตัวแทนท่ีท าหนา้ ท่ีในการกล่อมเกลาสังคมใหม้ ีความ เปน็ พลเมืองทด่ี ี มีจติ สาธารณะ เสยี สละเพ่ือส่วนรวมและเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีพฤตกิ รรมท่ไี มย่ อมรับและ ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ในทกุ รปู แบบและไดก้ าหนดกลยุทธ์ 4 กลยุทธ์ กล่าวคือ กลยุทธ์ท่ี 1 ปรบั ฐานความคดิ ทุกช่วงวยั ตัง้ แต่ปฐมวัยให้สามารถแยกระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม กลยุทธท์ ่ี 2 สง่ เสรมิ ให้มีระบบ และกระบวนการกลอ่ มเกลาทางสังคมเพอื่ ตา้ นทุจริต กลยทุ ธท์ ่ี 3 ประยุกต์หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงเป็น เคร่ืองมอื ตา้ นทจุ รติ และกลยทุ ธท์ ี่ 4 เสรมิ พลงั การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน(Community)และบรู ณาการทุกภาคสว่ น เพ่อื ต่อตา้ นการทุจรติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จงึ ไดม้ ีค าสั่งที่ 646/2560 ลงวันท่ี 26 เมษายน 2560 แต่งต้ังคณะอนกุ รรมการ จัดท าหลกั สตู ร หรอื ชุดการเรียนรแู้ ละส่อื ประกอบการเรยี นรู้ ดา้ นการปอ้ งกันการทุจรติ ซ่งึ ประกอบด้วย ผูท้ รงคณุ วฒุ ิหรอื ผเู้ ช่ยี วชาญจากหนว่ ยงานดา้ นการศึกษา และหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งในการจัดท าหลักสูตรการ เรียน การสอน จากทง้ั ภายในและภายนอกหน่วยงาน รวมทง้ั ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิจากองค์กรภาคเอกชนเพอ่ื ด าเนนิ การ จัดท า หลักสูตรหรอื ชดุ การเรียนรแู้ ละสื่อประกอบการเรยี นรู้ ดา้ นการป้องกันการทุจรติ นำไปใชใ้ นการเรยี นการ สอน ใหก้ ับนกั เรียน นักศึกษาในทุกระดบั ชนั้ เรยี นทั้งในสว่ นของการศกึ ษาตั้งแตร่ ะดบั ปฐมวัยอนบุ าล ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษา และอดุ มศึกษา ท้ังภาครัฐและเอกชน รวมทงั้ อาชีวศกึ ษาและการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั นอกจากนี้ ยงั รวมถึงสถาบันการศกึ ษาอื่นท่เี ก่ียวข้อง เช่น สถาบันการศกึ ษาในสังกัดสำนักงานตำรวจ แหง่ ชาติ สถาบันการศึกษาทางทหาร เปน็ ตน้ เพือ่ ให้ครอบคลมุ กลุ่มเปา้ หมายทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการศึกษาท้งั ระบบ รวมท้ังบุคลากรภาครัฐและรฐั วสิ าหกจิ รวมท้ังภาคประชาชน เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนกึ ในการแยกแยะ ประโยชนส์ ว่ นตนกบั ประโยชนส์ ว่ นรวมจิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต และสร้างพฤตกิ รรมท่ไี ม่ยอมรบั และไม่ทนตอ่ การ ทุจริต เพื่อเปน็ การป้องกนั การทจุ รติ โดยเรมิ่ ปลกู ฝงั นกั เรยี นตั้งแตป่ ฐมวัยจนถงึ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน จึงจดั ท ารายวิชาเพิม่ เตมิ “การปอ้ งกนั การทุจริต” ให้สถานศกึ ษาทุกแห่ง นำไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนเพอื่ ปลกู ฝังและสรา้ งวฒั นธรรมตอ่ ต้านการทจุ รติ ให้แก่นกั เรยี นสร้างความ

๕๗๐ ตระหนักให้นกั เรยี น ยดึ ถอื ประโยชน์สว่ นรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นตน มีจิตพอเพยี งต้านทจุ ริต ละอายและเกรง กลวั ท่จี ะไมท่ จุ รติ และไมท่ นต่อการทุจรติ ทุกรปู แบบ สภาพการทจุ ริตคอร์รปั ชันในประเทศไทย ปจั จบุ ัน ปญั หาคอร์รปั ชนั ถอื ได้วา่ เปน็ ปัญหาใหญ่ท่ีเกิดข้นึ ในประเทศต่างๆ ท่ัวโลก รวมทงั้ ประเทศไทย ซง่ึ ปัญหานยี้ ังไมม่ ีทีท่าว่าจะหมดไป อกี ทง้ั ยังทวีความรนุ แรงและซบั ซ้อนมากขน้ึ เรอื่ ยๆ แม้ว่าประเทศไทยจะก้าว เขา้ สู่ความทนั สมยั มีระบบการบริหารราชการสมัยใหม่ มีการรณรงค์จากองคก์ รของรัฐ หรอื องคก์ รอิสระตา่ งๆ ที่ เหน็ พอ้ งกนั ว่า การคอร์รปั ชันเป็นปัญหาทน่ี ำไปสู่ความยากจน และเปน็ อุปสรรคทขี่ ัดขวางการพัฒนาประเทศ อยา่ งแทจ้ ริง สำหรบั ประเทศไทยน้นั เปน็ ที่ทราบกันทวั่ ไปวา่ ปัญหาเรือ่ งการทจุ ริตคอร์รปั ชนั เป็นปัญหาสำคัญ ล าดบั ต้นๆ ที่สง่ ผลกระทบตอ่ การพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก ปัญหาดงั กล่าวเกดิ ขน้ึ มาชา้ นานจนฝงั รากลกึ และ พบเกือบทกุ กลุม่ อาชพี ในสังคมไทย เก่ียวพันกับวถิ ีชีวิตของคนไทยมาอยา่ งยาวนานหรอื กลา่ วได้วา่ เป็นส่วนหน่งึ ของวฒั นธรรมไทยไปแลว้ สาเหตุของปญั หาท่พี บ คือ การทจุ รติ คอร์รัปชนั เปน็ ประเพณีนิยมปฏบิ ัตทิ ่ีมีมา ตงั้ แต่สมยั ดง้ั เดิมยงั คงมี อทิ ธิพลต่อความคิดของคนในปจั จุบนั อย่คู อ่ นขา้ งมาก ฉะนั้น พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิของ ข้าราชการจงึ ไม่สอดคล้อง กับแนวความคิดของการเปน็ ขา้ ราชการสมัยใหม่ การฉ้อราษฎรบ์ ังหลวงของข้าราชการ ด้วยความไม่รหู้ รอื ดว้ ย ความบริสุทธิใ์ จ จงึ ยังคงปรากฎอยคู่ อ่ นข้างมาก นอกจากน้ี การคอร์รปั ชันของข้าราชการ อยู่ทตี่ วั ขา้ ราชการ ปัญหาทเี่ กิดจากความคดิ ความไมม่ ีประสทิ ธภิ าพของตัวระบบ และปญั หาของตัวข้าราชการ ไม่ ว่าจะเปน็ เร่อื ง ของรายได้ สวสั ดิการ จรยิ ธรรมในการท างานความคาดหวังและโอกาสในชวี ติ ของตวั ขา้ ราชการ การบริหาร ราชการแผน่ ดินเป็นสาเหตุท่สี ำคัญทีส่ ุดประการหนึง่ ของการเกิดคอร์รัปชนั ในวงราชการ อนั นำไปสู่ การสญู เสียเงิน รายไดข้ องรฐั บาล ความไมเ่ สมอภาคในการใหบ้ รกิ ารของข้าราชการแกผ่ ้ตู ิดตอ่ ประชาชนผูเ้ สยี ภาษไี มไ่ ดร้ ับ บริการทมี่ ีคณุ ภาพ จากการวัดภาพลกั ษณ์คอรร์ ปั ชนั (Corruption Perceptions Index: CPI) ปี 2557 และปี 2558 ประเทศไทยไดค้ ะแนนการประเมิน 38 คะแนน ในปี 2559 ประเทศไทยไดค้ ะแนนการประเมนิ 35 คะแนน และ ในปี 2560 ประเทศไทยได้คะแนนการประเมนิ 37 คะแนน ซ่งึ แสดงให้เหน็ วา่ ประเทศไทยยงั มกี ารทุจริต คอร์รปั ชนั อยูใ่ นระดบั สงู ซึง่ สมควรได้รบั การแก้ไขอย่างเรง่ ดว่ น แนวทางการแกไ้ ขปญั หาดงั กลา่ ว สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (สำนกั งาน ป.ป.ช.) จงึ ได้ก าหนดยุทธศาสตร์ระยะท่ี 3 (พ.ศ.2560 - 2564) โดยก าหนดวิสยั ทัศนว์ ่า“ประเทศ ไทยใสสะอาด ไทยทงั้ ชาติตา้ นทจุ รติ ” (Zero Tolerance & Clean Thailand)และก าหนดพันธกจิ “สรา้ ง วฒั นธรรมตอ่ ต้านการทจุ รติ ยกระดบั ธรรมาภบิ าลในการบรหิ ารจดั การทุกภาคส่วนแบบบูรณาการและปฏิรปู กระบวนการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตท้ังระบบ ให้มีมาตรฐานสากล” พร้อมทงั้ ก าหนดเปา้ ประสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์วา่ “ระดับคะแนนของดัชนีการรบั รกู้ ารทจุ รติ (Corruption Perceptions Index: CPI) สูงกวา่ รอ้ ยละ 50” โดยก าหนดวัตถุประสงคท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การจัดการศึกษา ได้แก่ วัตถปุ ระสงคข์ อ้ ที่ 3 “การทจุ ริตถูก ยับย้งั อย่างเทา่ ทนั ด้วยนวัตกรรมกลไกปอ้ งกนั การทจุ ริต และระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภบิ าล” และ เพือ่ ให้

๕๗๑ บรรลุวัตถปุ ระสงค์ดังกล่าว จึงไดก้ าหนดยุทธศาสตร์ท่ี 4 : พฒั นาระบบปอ้ งกนั การทจุ ริตเชิงรกุ พร้อมทงั้ ก าหนด มาตรการ ดังนี้ : สรา้ งกลไกการป้องกันเพอ่ื ยับย้งั การทุจริตและพฒั นานวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศ เพ่ือ ลดปัญหาการทุจรติ ดงั นั้นเพือ่ เปน็ การแกป้ ัญหาดังกล่าวใหส้ อดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตร์ชาติ ว่าดว้ ย การปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทจุ ริต สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะองค์กรรบั ผดิ ชอบการจัดการศกึ ษาให้แก่นักเรียน ตั้งแต่ระดับปฐมวยั จนถงึ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 จึงไดจ้ ดั ทำรายวชิ าเพิ่มเติม “การป้องกนั การทุจริต”ประกอบด้วย เนื้อหา 4 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ 1) การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 2) ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ 3) STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต และ 4) พลเมอื งและ ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ซ่งึ ท้ัง 4 หน่วยนี้ จะจดั ทำเป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ ต้งั แตช่ ั้นปฐมวยั จนถึง ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 เพ่อื ให้สถานศึกษาทกุ แหง่ นำไปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพื่อปลูกฝงั และป้องกนั การ ทุจรติ ใหแ้ กน่ ักเรียนทกุ ระดับ ท้งั น้ี เป็นการสรา้ งพลเมอื งท่ีซื่อสตั ย์สุจริตให้แกป่ ระเทศชาติปัญหาคอร์รัปชันลดลง และดัชนภี าพลักษณ์คอร์รัปชันของประเทศไทย มีค่าคะแนนสูงขึน้ บรรลุตามเป้าประสงค์ของยุทธศาสตร์ชาตวิ า่ ด้วย การป้องกนั และปราบปรามการทุจริตระยะท่ี 3 (พ.ศ.2560 - 2564) 2. จดุ ม่งุ หมายของรายวชิ า เพอื่ ให้นักเรียน 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม 2.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ 2.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ ริต 2.4 มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 2.5 สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 2.6 ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทุกรูปแบบ 2.7 ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจริต 2.8 ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ที่พลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม 2.9 ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ 3. คำอธิบายรายวิชา ศกึ ษาเก่ยี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและความ ไมท่ นตอ่ การทจุ รติ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ รู้หนา้ ท่ีของพลเมืองและรับผิดชอบต่อสังคมในการ ตอ่ ตา้ นการทุจรติ โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั จิ รงิ การท าโครงงานกระบวนการ เรียนรู้5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพ่ือให้มี ความ ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการตอ่ ตา้ นและการปอ้ งกนั การทุจริต

๕๗๒ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต 3. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับ STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับพลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทุจริตทกุ รปู แบบ 7. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ 8. ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ที่พลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 9. ตระหนักและเห็นความสำคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ รติ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้

๕๗๓ 4. โครงสร้างรายวิชา เรือ่ ง จำนวน 1) ประถมศึกษาปที ่ี 1 ชัว่ โมง ลำดบั หน่วยการเรยี นรู้ 16 1 การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วน ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวม 10 - การคิดแยกแยะ - ระบบคดิ ฐาน 2 4 - ระบบคิดฐาน 10 10 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ทุจรติ - การทำการบ้าน 40 - การทำเวร - การสอบ - กจิ กรรมนักเรยี น 3 STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต ทจุ ริต - ความพอเพียง - ความโปรง่ ใส – ต้านทจุ ริต – ความเอื้ออาทร 4 พลเมอื งกับความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม - ความหมายบทบาทและสิทธิ - การเคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและ ผ้อู ่นื - ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย - ความรบั ผดิ ชอบ (ตอ่ ตนเองกับตอ่ ผ้อู ืน่ ) - ความเป็นพลเมือง รวม

๕๗๔ 2) ประถมศึกษาปที ่ี 2 เร่ือง จำนวน ลำดับ หน่วยการเรยี นรู้ ชวั่ โมง 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ น 16 ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ตน และผลประโยชน์ส่วนรวม - การคดิ แยกแยะ 10 - ประโยชน์สว่ นตน และผลประโยชน์ ส่วนรวม 4 - ระบบคดิ ฐาน 2 - ระบบคิดฐาน 10 10 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ทุจรติ - การทำการบ้าน - การทำเวร - การสอบ - กจิ กรรมนกั เรียน 3 STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ทุจริต - ความพอเพยี ง - ความโปร่งใส – ต้านทุจรติ – ความเอ้ืออาทร 4 พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม - เรอ่ื งการเคารพสิทธิหน้าท่ตี อ่ ตนเอง และผอู้ ่ืน - การเคารพสิทธิหนา้ ทีต่ อ่ ชมุ ชนและ สงั คม - ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย - ความรบั ผิดชอบ (ตอ่ หอ้ งเรียน) - คณุ ลักษณะของพลเมืองท่ดี ี - หน้าทีข่ องพลเมอื งทด่ี ี

๕๗๕ รวม 40 3) ประถมศึกษาปีท่ี 3 เร่อื ง จำนวน ลำดับ หน่วยการเรียนรู้ ช่ัวโมง 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ น 16 สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ตน และผลประโยชน์ส่วนรวม - การคิดแยกแยะ 10 - ระบบคดิ ฐาน 2 - ระบบคดิ ฐาน 10 4 - ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ 10 ส่วนรวม - การขดั กันระหว่างประโยชนส์ ว่ นตน และ ผลประโยชน์ส่วนรวม 2 ความละอายและความไมท่ นตอ่ การ ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ทจุ ริต - การทำการบ้าน - การทำเวร - การสอบ - การแตง่ กาย - กิจกรรมสง่ เสริมความถนดั และความ สนใจ 3 STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต ทุจริต - ความพอเพียง - ความโปร่งใส – ต้านทุจรติ – ความเออ้ื อาทร 4 พลเมืองกับความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม - เรอ่ื งการเคารพสิทธิหน้าท่ตี ่อตนเอง และ ผู้อืน่ ท่มี ตี อ่ ชุมชน

- เรอื่ งการเคารพสทิ ธิหน้าที่ตอ่ ตนเองและ ๕๗๖ ผ้อู ่ืนทีม่ ีตอ่ ประเทศชาติ - ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย 40 - ความรบั ผิดชอบ (ต่อโรงเรียน) - ความเปน็ พลเมอื ง รวม 4) ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เร่ือง จำนวน ลำดบั หนว่ ยการเรยี นรู้ ช่วั โมง 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วน 14 ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวม - การคิดแยกแยะ 10 - ระบบคิดฐาน 2 - ระบบคดิ ฐาน 10 6 - ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและ การ ทจุ ริต 10 –ประโยชน์ส่วนตนและประโยชนส์ ่วนรวม 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการ ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ ทจุ รติ - การทำการบ้าน - การทำเวร - การสอบ - การแต่งกาย –กิจกรรมนักเรยี น (ภายใน ร.ร.) - การเขา้ แถว 3 STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต - การดำรงชีวิตตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง –ความโปรง่ ใส - ความตื่นรู้ / ความรู้ - ต้านทจุ รติ - ม่งุ ไปขา้ งหน้า - ความเอื้ออาทร 4 พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม

- เร่อื งการเคารพสิทธหิ น้าทตี่ อ่ ตนเอง และผอู้ ่ืน ๕๗๗ ทม่ี ตี อ่ ครอบครวั - ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย 40 - ความรบั ผิดชอบ (ตอ่ ชุมชน) - ความเปน็ พลเมือง - ความเปน็ พลเมือง รวม 5) ประถมศึกษาปีที่ 5 เร่อื ง จำนวนช่วั โมง การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน และ 14 ลำดบั หน่วยการเรยี นรู้ ผลประโยชน์ส่วนรวม 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ - การคดิ แยกแยะ 10 สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม - ระบบคดิ ฐาน 2 6 –ระบบคิดฐาน 10 10 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การ - ความแตกต่างระหวา่ งจรยิ ธรรมและ การทจุ รติ ทจุ รติ - ประโยชน์สว่ นตนและประโยชน์ ส่วนรวม - การขดั กนั ระหว่างประโยชน์สว่ นตน และผลประโยชน์ 3 STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการ ส่วนรวม ทุจรติ - ผลประโยชน์ทบั ซ้อน ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ 4 พลเมืองกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม - การทำการบา้ น - การทำเวร - การสอบ - การแต่งกาย - กิจกรรมนักเรียน (ในห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน) - การเข้าแถว STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ - ความพอเพียง - ความโปร่งใส - ความต่นื รู้ / ความรู้ - ตอ่ ตา้ นทุจรติ - มุง่ ไปขา้ งหนา้ - ความเอือ้ อาทร พลเมืองกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม - เรือ่ งการเคารพสทิ ธหิ นา้ ทตี่ ่อตนเอง และผ้อู ่นื - ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย

- ความรับผดิ ชอบ (ตอ่ สงั คม) ๕๗๘ - ความเป็นพลเมือง 40 - ความรับผิดชอบ (ต่อชุมชน) - ความเป็นพลเมอื ง - ความเป็นพลเมือง รวม 6) ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เรอ่ื ง จำนวนช่วั โมง การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและ 14 ลำดับ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลประโยชน์สว่ นรวม 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ - การคิดแยกแยะ 10 ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม - ระบบคิดฐาน 2 6 - ระบบคดิ ฐาน 10 10 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การ - ความแตกต่างระหวา่ งจรยิ ธรรมและการทุจริต ทุจรติ - ประโยชนส์ ว่ นตนและประโยชน์ส่วนรวม - การขัดกนั ระหว่างประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชน์ 3 STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการ ส่วนรวม ทุจรติ - ผลประโยชน์ทบั ซ้อน - รปู แบบของผลประโยชน์ทับซ้อน 4 พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต - การทำการบ้าน - การทำเวร - การสอบ - การแตง่ กาย - กจิ กรรมนักเรยี น (ในห้องเรียน โรงเรยี น ชุมชน สงั คม) - การเขา้ แถว STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ รติ - การสร้างจติ สำนกึ ความพอเพียงตอ่ ต้านการ ทจุ รติ - ความโปรง่ ใส - ความตนื่ รู้ / ความรู้ - ตา้ นทจุ ริต - มุ่งไปข้างหน้า - ความเอ้ืออาทร พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม

- เรอื่ งการเคารพสทิ ธิหนา้ ที่ตอ่ ตนเองและผู้อ่ืนท่ี มตี ่อ ๕๗๙ ประเทศชาติ 40 - ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย - ความรบั ผิดชอบ (ต่อประเทศชาติ) - ความเปน็ พลเมือง - ความเป็นพลเมอื ง รวม 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคิดและแนวการสอน กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เนน้ การใชท้ ฤษฎกี ารเรยี นรู้ การสร้าง ความรู้ ไดแ้ ก่ 1) ทฤษฎีคอนสตรคั ตวิ ิสต์ (Construction Theory) 2) ทฤษฎีคอนสตรคั ติวสิ ตเ์ ชิงสังคม (Social Constructivism Theory) 3) ทฤษฎีคอนสตรคั ติวิสต์เชิงปญั ญา (Cognitive Constructivism) 4) ทฤษฎี ประมวลผลขอ้ มูล (Information Processing Theory) 5) ทฤษฎพี หปุ ัญญา (Theory of Multiple Intelligences) 6) ทฤษฎกี ารเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning Theory) ในการจัดการเรียนการ สอน โดยภาพรวมจะใช้กลยทุ ธ์การสอนที่เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ คอื จัดตามความแตกต่างของเด็กแตล่ ะคน ดว้ ย การสอน โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ การฝึกปฏบิ ัติจริงการทำโครงงานสบื สวนสอบสวน กระบวนการ เรียนรู้ 5 ข้ันตอน (5 STEPs) การอภิปราย การแก้ปญั หาตลอดจนใช้เทคนิคการสอนทหี่ ลากหลาย เหมาะกบั ผู้เรยี นแต่ละวยั 6. สอื่ การเรยี นรูแ้ ละแหล่งเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมดว้ ยสอ่ื การเรียนร้ทู ่ีเก่ียวกบั การปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริต เช่น วีดโิ อ ข่าว VTR นทิ าน การ์ตนู ภาพยนตรส์ นั้ เอกสารแกท้ ุจรติ คิดฐานสอง สื่อสิงพิมพ์ตา่ งๆ ใบความรู้ ใบงาน วัสดอุ ปุ กรณ์ตา่ งๆ ตลอดจน แหลง่ เรยี นรู้ทีใ่ ช้คอมพวิ เตอร์ในการสืบคน้ 7. การประเมินการเรียนรู้และการประเมินผล 7.1 การประเมินการเรยี นรโู้ ดยใช้เครือ่ งมอื ประเมินการเรียนรู้ในด้าน 1) ความรู้ความเขา้ ใจ 2) การปฏิบตั ิ 3) คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ประเมนิ 1) แบบสอบ 2) แบบประเมนิ การปฏิบัติงาน 3) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงาน

๕๘๐ 7.2 การประเมนิ ผล นักเรียนผ่านการประเมินทกุ กิจกรรม รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป จงึ จะถอื ว่าผา่ นเกณฑการ ประเมน กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน

๕๘๑ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น การจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนมุ่งพัฒนาให้บุคคลรู้จักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อืน่ มี วุฒิภาวะทางอารมณ์ มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดำเนินชีบิตอย่างเหมาะสม และมีความสุข มี จิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครวั สังคมและประเทศชาติ หลกั การจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีหลักการจดั ดงั นี้ ๑. มีการกำหนดวัตถุประสงคแ์ ละแนวปฏิบัติที่ชดั เจนเป็นรปู แบบ ๒. จัดให้เหมาะสมกบั วยั วุฒภิ าวะ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของผู้เรยี น ๓. บูรณาการวิชาการกับชีวิตจริง ให้เรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอด ชีวิต ๔. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝึกให้คิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์จิต นาการ ที่เปน็ ประโยชนแ์ ละสัมพนั ธ์กบั ชีวิตในแต่ละชว่ งวัยอย่างต่อเนือ่ ง ๕. จำนวนสมาชกิ มีความเหมาะสมกับลกั ษณะของกิจกรรม ๖. มีการกำหนดเวลาในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั วิสยั ทัศน์และเป้าหมาย ของสถานศึกษา ๗. ผู้เรยี นเป็นผดู้ ำเนนิ การ มีครเู ป็นทีป่ รึกษา ถอื เป็นหน้าที่และงานประจำโดยคำนึงถึงความ ปลอดภยั ๘. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน มสี ว่ นรว่ มในการจักกจิ กรรม

๕๘๒ ๙. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยวิธีการที่หลากหลายและสอดคล้องกับกิจกรรม อยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนื่อง โดยให้ถอื วา่ เปน็ เกณฑ์การประเมินผลการผ่านชว่ งชนั้ เรียน แนวการจัด สถานศึกษา จดั ให้ผู้เรียนทกุ คนเข้าร่วมกิจกรรม โดยคำนึงถึงแนวการจดั ดังต่อไปนี้ ๑. การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเกื้อกูลส่งเสริมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น การบรู ณาการโครงการ องค์ความรู้จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็นต้น ๒. จัดกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดตามธรรมชาติ และความสามารถความต้องการ ของผู้เรยี นและชมุ ชน เชน่ ชมรมทางวิชาการต่างๆ เปน็ ต้น ๓. จัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น กิจกรรม ลูกเสอื เนตรนารี เป็นต้น ๔. จัดกิจกรรมประเภทบริการต่างๆ การทำงานทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม การจัดเวลาเรยี น ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตลอดปีการศึกษา ต้องมีเวลาเรียนประมาณร้อยละ ๒๐ ของ เวลา เรียนท้ังหมด บางกิจกรรมสามารถดำเนินการนอกเวลาเรยี นกไ็ ด้ โรงเรียนบ้านโชค กำหนดเวลา เรียนกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนดังนี้ โรงเรียนบ้านโชค ได้จัดกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน โดยแบง่ ออกเป็น 3 ลกั ษณะ ดังนี้ ๑ . กิจกรรมแนะแนว ๒. กิจกรรมนกั เรยี น -- ลกู เสอื – เนตรนารี - - ชุมนมุ - - กิจกรรมเพือ่ สังคมสาธารณประโยชน์ กิจกรรม ระดับประถมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ๑. แนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒. กจิ กรรมนักเรยี น --- - -- ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ลูกเสอื / เนตรนารี

๕๘๓ - ชมุ นุม 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ - กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ 10 10 10 10 10 10 รวมทัง้ สิน้ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑. กจิ กรรมแนะแนว เปน็ กิจกรรมที่สง่ เสริมและพัฒนาความสามารถของผู้เรยี น ให้เหมาะสมกับความแตกตา่ งระหว่าง บุคคลสามารถค้นพบและพัฒนาศักยภาพของตนเสริมสร้างทกั ษะชีวิตวุฒิภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้เชงิ ปัญญา และการสร้างสัมพนั ธภาพทีด่ ี ซึง่ ผสู้ อนทกุ คนต้องทำ หน้าทีแ่ นะแนวให้คำปรกึ ษาด้านชีวิต การศึกษาตอ่ และพฒั นาตนสู่โลกอาชีพและการมีงานทำ นักเรยี นทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ระดบั ประถมศึกษา เรียน ๔๐ ชวั่ โมง ต่อปี การศึกษา แนวการจดั กิจกรรมแนะแนว ๑. สำรวจสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ความสนใจและธรรมชาติของผู้เรียน ๒. ศึกษาวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา ละวิเคราะหข์ ้อมูลของผู้เรียนทีไ่ ด้จากการสำรวจ ๓. กำหนดสัดสว่ นของกิจกรรมในแตล่ ะดา้ น ๔. กำหนดแผนการจัดกิจกรรมแนะแนว ๕. จัดทำรายละเอียดของแต่ละกิจกรรม ๖. ปฏิบตั ติ ามแผน วัดประเมินผลและสรปุ รายงาน กิจกรรมแนะแนว ประกอบดว้ ย ❖ กลุ่มกิจกรรมรู้จกั เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อืน่ ❖ กลมุ่ กิจกรรมการปรบั ตัวและดำรงชีวิต ❖ กลุ่มกิจกรรมการตดั สินใจและแก้ปญั หา ❖ กลมุ่ กิจกรรมการแสวงหาและใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ

๕๘๔ เกณฑก์ ารประเมินผล ๑.ผู้เรยี นเข้ารว่ มกิจกรรมอย่างน้อย ๘๐% ๒. ผู้เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมและผ่านจุดประสงค์ทีส่ ำคัญของแตล่ ะกิจกรรม ๓.ผลงาน/ช้นิ งานและคุณลักษณะของผู้เรยี น ๒. กจิ กรรมนักเรยี น เปน็ กิจกรรมทีผ่ ู้เรียนเป็นผทู้ ีป่ ฏิบัตดิ ว้ ยตนเอง ตั้งแต่ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัตติ าม แผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน โดยเน้นการทำงานรว่ มกันเปน็ กลมุ่ เช่น ลกู เสอื – เนตรนารี ชุมชุม กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ฯลฯ กิจกรรมนักเรียนประกอบดว้ ย ๒.๑ กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม ลูกเสอื เนตรนารี ระดับประถมศึกษา เรียน ๔๐ ช่ัวโมง ตอ่ ปี การศึกษา วัตถปุ ระสงค์ พระราชบญั ญัติลกู เสือ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวตั ถุประสงค์ของการฝึกอบรมลกู เสอื เพื่อพัฒนาลกู เสอื ทั้งดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สติปัญญา และศีลธรรมให้เปน็ พลเมืองดี มีความรับผิดชอบและ ชว่ ยสร้างสรรค์สังคม ให้เกิดความสามคั คี มีความเจริญก้าวหน้า ท้ังนเี้ พือ่ ความสงบสขุ และความมั่นคงของ ประเทศชาติ แนวการจัดกิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี การจัดกิจกรรมลกู เสอื เนตรนารี มีแนวทางการจดั กิจกรรมตามวิธกี ารลูกเสือ ๗ ประการ คือ ๑.คำปฏิญาณและกฎ ๒.เรียนรู้จากการกระทำ ๓.ระบบหมู่ ๔.การใช้สญั ลักษณ์รว่ มกัน ๕. การศึกษาธรรมชาติ ๖. ความก้าวหน้าในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๗.การสนับสนนุ โดยผู้ใหญ่ โรงเรียนบ้านโชคกำหนดกิจกรรม ลูกเสอื -เนตรนารี เป็น ๒ ประเภทคือ

๕๘๕ ๑.ลูกเสอื สำรอง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ ๒. ลกู เสอื สามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ การประเมินผล ๑. พิจารณาความรู้ตามทฤษฏี ดา้ นความประพฤติ ดา้ นพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมที่เน้นทกั ษะและ การปฏิบตั ดิ า้ นตา่ งๆดว้ ยวิธกี ารประเมินที่หลากหลาย และการประเมินตามสภาพจริง ดังนี้ ผา่ น หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบัตกิ ิจกรรม และมีผลงาน/ช้นิ งาน/ ตามคุณลกั ษณะตามเกณฑ์ ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไมค่ รบตามเกณฑ์ ไมผ่ ่านการปฏิบัตกิ ิจกรรม และมี ผลงาน/ช้นิ งาน/ไมเ่ ป็นไปตามคุณลักษณะตามเกณฑ์ ในกรณีที่ไม่ผา่ น ครูที่ปรึกษาต้องให้ผู้เรียนซอ่ มเสริมการทำกิจกรรมให้ครบตามกรอบเวลาที่ กำหนด ๒.๒ กจิ กรรมชมุ นมุ นกั เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชมุ นุม ระดบั ประถมศึกษา เรียน ๔๐ ช่ัวโมง ต่อปีการศึกษา แนวการจดั กิจกรรมชุมนมุ ๑. สถานศึกษาให้ผู้เรียนดำเนินกิจกรรมได้หลากหลายทั้งรปู แบบภายในและภายนอกห้องเรียน และ ระยะเวลาการจดั กิจกรรม ๒. สำรวจความสนใจของนักเรียน ให้เลอื กเข้าชมุ นุมที่ตนเองสนใจทกุ คน ๓. จัดครทู ี่ปรกึ ษา และวิทยากรพิเศษร่วมดำเนินกิจกรรมชมุ นมุ ตามระเบียบที่สถานศึกษากำหนด ๔. แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ประสบการ เผยแพรก่ ิจกรรม ๕. จดั ครทู ี่ปรกึ ษา และวิทยากรพิเศษประเมินตามเกณฑก์ ารประเมินผล ประเภทกจิ กรรมชุมนุม ๑. ชมุ นมุ กีฬา ๒. ชุมนมุ คณิตศาสตร์ ๓. ชมุ นมุ ตัดผมและเสริมสวย ๔. ชุมนมุ เกษตรผสมผสาน ๕. ชมุ นุมวอลเลย์บอล ๖. ชมุ นุมรักการอา่ น ๗. ชุมนมุ ภาษาต่างประเทศ ๘. ชมุ นมุ ดนตรีไทยและดนตรีสากล

๕๘๖ วิธีการจดั กจิ กรรม ๑.ประชาสัมพันธจ์ ดุ ประสงคข์ องชุมนุม ๒.รบั สมคั รสมาชกิ ชมุ นุม ๓.ดำเนนิ การกิจกรรมชุมนมุ ประชมุ เลอื กต้ังประธานชมุ นมุ ทดสอบความสามารถของสมาชิก ให้ความรู้ ( ตามประเภทของชุมนมุ ) ฝึกทักษะ จดั การแสดงของชมุ นมุ ๔.ประเมินผลกจิ กรรมชมุ นุม ๕.รายงานผลกิจกรรมชุมนมุ วิธีการประเมินผล ๑.ทดสอบ / สังเกต / การแสดง / การแขง่ ขัน ๒.นกั เรยี นมีเวลารว่ มกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ๓.ประเมินผลงาน การประเมินผลกจิ กรรมชมุ นมุ การประเมินผลจัดกิจกรรมกำหนดเกณฑก์ ารประเมินเปน็ “ผ่าน” และ “ไม่ผา่ น” ดังนี้ ผา่ น หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบตั กิ ิจกรรม และมีผลงาน/ ชิน้ งาน/คุณลกั ษณะตามเกณฑ์ ไมผ่ า่ น หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมไมค่ รบตามเกณฑ์ ปฏิบตั กิ ิจกรรม และมผี ลงาน/ ชนิ้ งาน/คณุ ลกั ษณะไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์ ในกรณีทีไ่ ม่ผา่ น ครูทีป่ รึกษาต้องให้ผู้เรียนซอ่ มเสริมการทำกิจกรรมให้ครบตามกรอบเวลาที่ กำหนดในโครงสร้างของหลกั สตู ร

๕๘๗ จดุ ประสงค์และเนือ้ หา/แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน กิจกรรมแนะแนว ระดับช้ันประถมปีที่ ๑ – ๖ กจิ กรรมแนะแนว ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลาเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง/ปี วัตถปุ ระสงค์ ๑. ให้นักเรยี นมีความรแู้ ละประสบการณใ์ นการปฏิบัติ การทำกิจกรรมดา้ นตา่ งๆ ให้มี ประสบการณเ์ พ่มิ มากขึน้ ๒. เพือ่ ให้นกั เรยี นเกิดความรู้ ความเข้าใจกันระหว่างครูกับนักเรยี น ผู้เรยี นกับผู้เรียน ๓. นักเรยี นไดร้ ู้จักตนเอง รู้จักผอู้ ืน่ มีทักษะการตัดสินใจ สามารถปรับตัวอยใู่ นสังคมได้อย่าง เหมาะสม ๔. นกั เรยี นไดฝ้ ึกความรับผิดชอบ ฝึกระเบียบ วนิ ยั อบรมคณุ ธรรมจริยธรรม ความสามคั คี การเสยี สละ ๕. นกั เรยี นสามารถเลอื กดำเนินชีวิต มีทักษะการทำงานเปน็ กลมุ่ การคบเพือ่ น การ ชว่ ยเหลอื และมีมนุษยสัมพนั ธไ์ ดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม เนอ้ื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. กลมุ่ กิจกรรมการรู้จกั เข้าใจและเหน็ คุณค่าในตนเองและผู้อื่น

๕๘๘ - กิจกรรม “อารมณข์ องหนู” - กิจกรรม “สขุ ใจอะไรเอ่ย” ๒. กลุ่มกิจกรรมการแสวงหาและใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ - กิจกรรม “หนูน้อยนกั สำรวจ” ๓. กิจกรรมการปรับตัวและการดำรงชีวิต - กิจกรรม “กำลังใจ” - กิจกรรม “วาดตามคำบอก” กจิ กรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี วัตถปุ ระสงค์ ๑. บอกจุดเด่นจุดด้อยของตนเองได้ ๒. พัฒนาปรบั ปรุงจดุ ดอ้ ยของตนเองได้ ๓. รู้จักตนเอง ยอมรับตนเองและผู้อืน่ ได้ ๔. สรปุ ข้อมูลขา่ วสารต่างๆ ที่เกิดขนึ้ ได้อยา่ งถกู ต้อง ๕. บอกแนวทางการแก้ปญั หาที่เกิดขนึ้ ได้อยา่ งถกู ต้อง ๖. บอกแนวทางการแก้ปญั หาทีเ่ กิดขนึ้ ได้ ๗. แสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาตามความเปน็ จริง ๘. สามารถตัดสินใจและแก้ปญั หาทางอารมณ์ด้วยตนเองได้อยา่ งมีเหตุผล ๙. รบั รอู้ ารมณ์ ความรสู้ กึ นึกคิด และการกระทำที่ไม่เหมาะสมท้ังตอ่ ตนเองและผู้อืน่ ได้ ๑๐. ใช้วิธกี ารขจัดความขดั แย้งทีเ่ กิดขนึ้ อย่างสันติวิธีและมเี หตผุ ล ๑๑. บอกอารมณ์ที่เปลย่ี นแปลงตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ ๑๒.แสดงอารมณไ์ ดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ เน้อื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. กลมุ่ กิจกรรมการรู้จัก เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผู้อืน่

๕๘๙ - กิจกรรม “รู้ทนั ตน” - กิจกรรม “ใช่เลย......ฉันและเธอ” ๒. กลมุ่ กิจกรรมการแสวงหาและการใช้ขอ้ มูลสารสนเทศ - กิจกรรม “บทเรียนของบญุ มา” ๓. กลุ่มกิจกรรมการตดั สินใจและแก้ปัญหา - กิจกรรม “ใช้ปญั ญาแก้ปัญหาให้ตน” ๔. กลุ่มกิจกรรมการปรบั ตัวและการดำรงชีวิต - กิจกรรม “ใจประสานใจ” กจิ กรรมแนะแนว ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี วัตถปุ ระสงค์ ๑. บอกกจิ กรรมทีช่ อบทำได้ ๒. บรรยายข้อมูลกจิ กรรมทีช่ อบดว้ ยภาพได้ ๓. บอกประโยชนข์ องการรู้และเข้าใจความชอบของตนเอง ๔. บอกไดว้ า่ ความดขี องตนที่สะสมไว้ในอดตี มีอะไรบ้าง ๕. วิเคราะห์ได้ว่าส่งิ ใดที่ควรกระทำ สง่ิ ใดทีไ่ มค่ วรกระทำ ๖. นำความดที ี่สะสมไว้ในอดตี มาเปน็ ฐานในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวนั และอนาคตได้ ๗. บอกความตอ้ งการของตนเองได้ ๘. บอกวิธีทีจ่ ะทำให้ความต้องการของตนบรรลเุ ป้าหมายได้ ๙. แยกแยะคำโฆษณา เลอื กใช้สินค้าตามคำโฆษณาโดยอาศยั ข้อมูลจากการแยกแยะได้ ๑๐. คิดและตอบได้อย่างรวดเร็ว ๑๑. คิดแยกแยะ คิดหาเหตผุ ลและคิดแก้ปญั หาได้ ๑๒. ปรบั เปล่ยี นความคิดได้ตามเหตผุ ล ๑๓.รบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อืน่ และปฏิบตั ิตามมตขิ องกลมุ่ ได้ ๑๔.รว่ มมือปฏิบัติงานกล่มุ อย่างเต็มใจ และเต็มกำลงั ความสามารถ ๑๕.เสนอและยอมรบั ข้อตกลงของกลุ่มได้ ๑๖. ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบของชั้นเรียนได้

๕๙๐ ๑๗.มีความสามคั คีและทำงานร่วมกบั ผู้อื่นได้ เนอ้ื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. กิจกรรม “อะไรเอ่ย ที่หนูชอบทำ” ๒. กิจกรรม “รำลกึ อดตี ” ๓. กิจกรรม “อยากได้อะไรเอ๋ย” ๔. กิจกรรม “เชือ่ หรือไม่” ๕. กิจกรรม “คิดได้ คิดดี” ๖. กิจกรรม “คิดด้วยช่วยทำ” กจิ กรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง/ปี วตั ถปุ ระสงค์ ๑. สามารถแสดงเหตุผลจากการกระทำกิจกรรมตา่ งๆ ทำให้รู้จกั ตนเองดียิ่งข้นึ ๒. บอกสิง่ ที่ชอบหรือสง่ิ ที่สนใจได้ ๓. เลอื กสิ่งที่ตอบสนองความสนใจของตนเองได้อยา่ งมีเหตผุ ล ๔. แสวงหาข้อมูลโดยวิธีการทีห่ ลากหลาย ๕. รู้จกั หาวิธที ี่จะได้ขอ้ มลู ที่ต้องการ ๖. สามารถนำข้อมลู ไปใช้ในการแก้ปญั หาหรือพัฒนาตนเองได้ ๗. มีความสามารถในการรับรคู้ วามรสู้ กึ ความตอ้ งการของผู้อืน่ ตามทีเ่ ป็นจริงและแสดงให้ผู้อืน่ รบั รไู้ ด้ ๘. บอกความรสู้ กึ และแสดงความเห็นอกเหน็ ใจให้ผู้อื่นรบั รไู้ ด้ ๙. แสดงออกท้ังทางดา้ นอารมณ์ ควมรู้สึกนึกคิดและการกระทำทีเ่ หมาะสมกับบุคคลและ กาลเทศะ เนอ้ื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. กลุม่ กิจกรรมการรู้จัก เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผู้อื่น - หนูทำเพราะอะไร - เลอื กไว้ดว้ ยใจรกั ๒. กลุ่มกิจกรรมการแสวงหาและใช้ขอ้ มูลสาระสนเทศ

๕๙๑ - นักแสวงหา ๓. กลมุ่ กิจกรรมการตัดสินใจและแก้ปัญหา - ฉนั ทำได้ ๔. กลมุ่ กิจกรรมการปรับตัวและการดำรงชีวิต - น้ำเอยน้ำใจ - งามอยา่ งไทย กจิ กรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี วตั ถปุ ระสงค์ ๑. บอกความตอ้ งการของตนเอง และวิธกี ารที่จะทำให้ความตอ้ งการบรรลุเป้าหมายได้ ๒. สามารถบอกความดี ความเกง่ ให้ผู้อื่นยอมรบั ได้ ๓. สามารถนำความดี ความเก่งของตนไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ ๔. รู้ความถนดั ความสนใจและความสามารถของตนเอง วเิ คราะห์อาชีพที่สอดคล้องกบั ความถนดั ได้ ๕. สามารถสืบค้นและจดั ระบบข้อมลู จำแนกขอ้ มูลขา่ วสารและสถานการณ์ตา่ งๆ รอบตัวได้ ๖. บอกสาเหตขุ องปัญหาเกีย่ วกบั การเรียนและบอกแนวทางการแก้ปญั หาเกีย่ วกับการเรียนได้ ๗. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของปัญหาเกีย่ วกบั การเรียน ๘. สามารถส่อื สารความดงี ามของตนเองและผู้อื่นได้ ๙. สามารถสร้างมนุษยสมั พันธท์ ี่ดีกับผู้อืน่ และมีความม่นั ใจในตนเอง ๑๐. สามารถสร้างสัมพนั ธภาพทีด่ ีกับผู้อื่นโดยใช้คำพูด กริยาทา่ ทาง อารมณ์ ความรสู้ กึ นึกคิด และการกระทำได้อยา่ งเหมาะสม ๑๑. สามารถควบคมุ ความรู้สึกกลัว โกรธ เมอื่ เผชิญกับภาวะอารมณท์ ีไ่ ม่พึงประสงค์ได้อยา่ งมี เหตุผล เน้อื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. กล่มุ กิจกรรมรู้จกั เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผู้อื่น - ความตอ้ งการของฉัน

๕๙๒ - กระจกเงา - จากกล่มุ สาระส่อู าชีพ ๒. กลุ่มกิจกรรมการแสวงหาและใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ - ขา่ วสารข้อมูล : อาหารสมอง ๓. กลมุ่ กิจกรรมการตัดสินใจและแก้ปญั หา - ทำอยา่ งไรฉันจะเรียนไดด้ ี ๔. กลุ่มกิจกรรมการปรับตวั และการดำรงชีวิต - เธอคือคนสำคัญ - ผูกมิตรไว้ด้วยไมตรี - ใช้ปญั ญาพัฒนาอารมณ์ กจิ กรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี วตั ถุประสงค์ ๑. บอกความสนใจ ความถนัดและความสามารถของตนเองได้ ๒. บอกความเก่งและความดขี องตน และยอมรับความเกง่ และความดขี องผอู้ ืน่ ๓. บอกสิ่งที่ตนเองภาคภูมิใจ นำความภาคภูมิใจมาเป็นแนวทางในการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั ได้ ๔. สามารถเลอื กขอ้ มูลโดยใช้เกณฑท์ ีเ่ หมาะสมได้ ๕. นกั เรยี นสามารถบอกกระบวนการตัดสนิ แก้ปัญหาได้ ๖.สามารถอธิบายการใช้คณุ ธรรมจริยธรรมในการแกป้ ญั หา ๗. แสดงความคิดเหน็ ของตนเองได้ ๘. สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น ๙. รู้จกั มารยาทการฟงั และสามารถปฏิบตั ติ นให้เหมาะสมกับบคุ คล ๑๐. รู้บทบาทหน้าที่ของประธาน เลขานุการและสมาชิกในการทำงานรว่ มกัน ๑๑. สามารถวางแผนและปฏิบัติตามแผนการทำงานของกลมุ่ ได้ ๑๒. เลอื กบคุ คลไดเ้ หมาะสมกบั บทบาทหน้าที่ ๑๓.ปฏิบัตติ นได้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย เน้อื หา / แนวการจดั กจิ กรรม ๑. การสำรวจความสนใจ ความถนดั และความสามารถ / กิจกรรมเดนิ ถูกทาง

๕๙๓ ๒. การเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผู้อืน่ / กิจกรรมฉนั เปน็ คนเก่งและคนดี ๓. ความภาคภมู ิใจของตน / กิจกรรมคณุ ค่าของชีวติ ๔. การเลอื กขอ้ มูลโดยใช้เกณฑท์ ี่เหมาะสม (สามารถจัดประเภทของสง่ิ ต่างๆได้) / กิจกรรมเลอื กอย่างไร ๕. กระบวนการตัดสนิ ใจแก้ปญั หา / กิจกรรมคิดท้ังทคี ิดทำได้ ๖. คณุ ธรรมจริยธรรมในการแกป้ ัญหา / กิจกรรมฟังหน่อยน่ะ ๗. การกล้าแสดงความคิดเห็น การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ / ฟังหน่อยน่ะ ๘. การปฏิบตั ติ นได้อยา่ งเหมาะสมกบั บคุ คลเกี่ยวกบั การฟัง / ฟงั หนอ่ ยน่ะ ๙. การวางแผนและปฏิบัตติ ามแผนการทำงานของกลุ่ม / กิจกรรมวางแผนดีมีประโยชน์ ๑๐. บทบาทหนา้ ทีข่ องประธาน เลขานุการและสมาชิกกลุม่ ๑๑. คณุ ลักษณะผู้นำ ผู้ตามที่ดี / กิจกรรมผู้นำผู้ตามสำคัญไฉน จดุ ประสงคแ์ ละเนือ้ หา/แนวการจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี ระดบั ชั้นประถมปีที่ ๑ – ๖ กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง/ปี วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ พฒั นาลูกเสอื ให้มีพฒั นาการทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจและศีลธรรม ให้เปน็ พลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์สงั คมให้เกิดความสามคั คีและมคี วามเจริญก้าวหน้า เพือ่ ความสงบ สุขและความมนั่ คงของประเทศชาตดิ ังนี้ ๑.มีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับนิยายเมาคลี และประวัติการเริ่มกจิ กรรมลกู เสอื สำรอง ๒.ทำความเคารพเปน็ หมู่ (แกรนดฮ์ าวล์) และระเบียบแถวเบื้องต้น ๓.ทำความเคารพเป็นรายบคุ คล การจบั มือซา้ ย ๔.มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถปฏิบัตติ ามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลกู เสอื สำรอง ๕.มีทักษะการสังเกต จดจำ การใช้มอื เครอ่ื งมือ การแก้ปัญหาและทักษะในการทำงานร่วมกับ ผู้อื่น

๕๙๔ เน้อื หา / แนวการจดั กจิ กรรม นิยายเมาคลี การเริม่ กจิ การลกู เสอื สำรอง การทำความเคารพเปน็ หมู่ (แกรนดฮ์ าวล)์ และ ระเบียบแถวเบื้องต้น การทำความเคารพรายบุคคล การจับมือซ้าย คำปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ อง ลกู เสอื สำรอง ดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถในเชิงทกั ษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความ ปลอดภัย บรกิ าร ธงและประเทศตา่ งๆ การฝีมอื กิจกรรมกลางแจ้ง การบนั เทิง การผกู เงอื่ น คำ ปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง และเคร่อื งหมายวิชาพิเศษ ( ๒ เรื่อง ) ตามที่เลอื ก กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลาเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง/ปี วัตถปุ ระสงค์ เพื่อพัฒนาลูกเสอื ให้มีพฒั นาการทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจและศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มี ความรบั ผิดชอบ ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามคั คี มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อความสงบสขุ และ ความม่ันคงของประเทศชาตดิ ังนี้ ๑.ทำความเคารพเป็นหมู่ (แกรนดฮ์ าวล์) และระเบียบแถวได้ ๒.ทำความเคารพเป็นรายบคุ คลได้ ๓.มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถปฏิบตั ติ ามคำปฏิญาณ กฎและคตพิ จนข์ องลูกเสือสำรองได้ ๔.มีทักษะการสังเกต จดจำ การใช้มอื เครอ่ื งมือ การแก้ปญั หาและทักษะในการทำงานรว่ มกบั ผู้อื่น เน้อื หา / แนวการจดั กจิ กรรม การทำความเคารพเปน็ หมู่ (แกรนดฮ์ าวล)์ และระเบียบแถว การทำความเคารพเป็นรายบคุ คล ดว้ ยการจบั มือ คำปฏิญาณ กฎ คตพิ จนข์ องลูกเสือสำรอง ดาวดวงที่ ๒ อนามัย ความสามารถในเชิง ทกั ษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภยั การบรกิ าร ธงและประเทศต่างๆ การฝีมอื กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผกู เงือ่ น คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สำรอง การประชมุ กองพิเศษ พิธปี ระดับดาวดวงที่ ๒ วิชาพิเศษ

๕๙๕ กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรยี น ๔๐ ช่วั โมง/ปี วัตถุประสงค์ ๑. ปฐมพยาบาลเมือ่ ถกู แมลงกัดตอ่ ยหรือไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ ๒. สามารถขอความชว่ ยเหลอื เมื่อมอี บุ ัตเิ หตุ พร้อมท้ังเกบ็ อปุ กรณ์ปฐมพยาบาลได้ ๓. สามารถวิง่ หรือยนื กระโดดไกล ขว้างลูกบอลและกระโดดข้ามเคร่อื งกีดขวางสูงไมเ่ กินระดบั เอวได้ ๔. ดเู วลาและบอกเวลาได้ สามารถวางแผนการเดนิ ทางไกลและปฏิบตั ิตามแผนได้ ๕. บอกลักษณะของสภาพดนิ ฟ้าอากาศตามฤดูกาลได้ ๖. ปฏิบตั ติ ามกฎจราจรและเรียนรู้ความปลอดภัยในบ้านได้ ๗. วางแผนและดำเนนิ การให้การบรกิ ารแกผ่ ู้อื่นได้ ๘. บอกลักษณะของธงลูกเสือประจำจังหวัด ธงคณะลกู เสอื แหง่ ชาตแิ ละธงประเทศตา่ งๆ ได้ ๙. ประดิษฐ์ส่งิ ของจากเศษวสั ดุ บอกวิธีการใช้และการเกบ็ รักษาได้ ๑๐. บอกทิศและแสดงการใช้เขม็ ทิศได้ ๑๑. แสดงละคร ร้องเพลง ทำหนุ่ เชิดเรื่องสนั้ ๆได้ ๑๒. บอกและแสดงวิธีการผกู เงือ่ นบ่วงสายธนู เงื่อนกระหวัดไม้ ๒ ช้ันและเกบ็ เชือกได้ ๑๓.ท่อง บอกความหมายและการปฏิบตั ิตามคำปฏิญาณและกฎของลกู เสือสำรองได้

๕๙๖ เนอ้ื หา / แนวการจดั กจิ กรรม หนว่ ยที่ ๑ อนามยั : การขอความชว่ ยเหลอื เมอื่ เกิดภาวะฉุกเฉินและการปฐมพยาบาล หนว่ ยที่ ๒ ความสามารถในเชิงทกั ษะ หนว่ ยที่ ๓ การสำรวจ หนว่ ยที่ ๔ การค้นหาธรรมชาติ หน่วยที่ ๕ ความปลอดภัย หนว่ ยที่ ๖ การบรกิ าร หน่วยที่ ๗ ธงและประเทศต่างๆ หน่วยที่ ๘ การฝีมอื หนว่ ยที่ ๙ กิจกรรมกลางแจ้ง หน่วยที่ ๑๐ การบันเทิง หนว่ ยที่ ๑๑ การผูกเงื่อน หนว่ ยที่ ๑๒ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง แนวการจดั กิจกรรม ๑. พิธเี ปิดประชุมกอง - ทำแกรนด์ฮาวล์ - ชักธงชาตขิ นึ้ สยู่ อดเสา - สวดมนต์ - สวบน่งิ - ตรวจสุขภาพ - แยก ๒. เนอื้ หาประกอบหนว่ ยการเรียน ๓. กิจกรรมเสนอแนะ / สรปุ ความรู้ ๔. การวัดและประเมินผล ๕. พิธปี ิดประชมุ กอง - นดั หมายหรือมอบงานสำหรับประชุมกองครงั้ ตอ่ ไป - ตรวจ - ทำแกรนดฮ์ าวล์ - ชกั ธงลง - เลกิ ประชมุ / เลกิ เรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook