994 ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ขอ้ ความ (สาหรบั ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน) นกั กีฬาฟตุ บอลทีมแขง้ สายฟา้ ไดเ้ ขา้ แข่งขนั ต่อรอบไฟนอล ชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งสามารถเอาชนะคู่แข่ง 4 : 1 ประตู นบั วา่ เจ๋งมาก ๆ และเยน็ วนั นน้ี ดั ฉลองแชมป์ ณ สนามฟุตบอลแข้งสายฟ้า เวลา 18.00 น.
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง นทิ านอ่านสนกุ 995 ใบงานที่ 9 เรื่อง การระบุคาภาษาจนี และภาษาอังกฤษ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ เร่ือง นิทานอ่านสนุก แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๙ เรอ่ื ง คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย (๑) รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรยี นอา่ นประโยคทกี่ าหนดให้ แลว้ คน้ หาคาภาษาจนี และคาภาษาองั กฤษ จากน้นั ขีดเสน้ ใต้ และนาไปเตมิ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง ขอ้ ประโยค คา ภาษา ตวั อย่าง นกั บาสเกตบอลกาลังฝึกซอ้ มทส่ี นาม บาสเกตบอล อังกฤษ 1 พอ่ ของฉันชอบกินบะหมน่ี ้าใส เพราะรสชาติกลาง ๆ ดี 2 โรคโควิดระบาดหนกั เช่นน้ี เราควรงดการเดินทางนอกสถานท่ี 3 พายไุ ตฝ้ นุ่ กระหนา่ ตอนใตข้ องจีนทาให้เกดิ ความเสยี หายหนกั 4 คุณป้านงั่ เขยา่ เซียมซีลุ้นจนตัวสั่นว่าจะได้หมายเลขอะไร 5 คุณครูใช้คลิปหนีบกระดาษ เพอ่ื ให้แน่นไม่หลุดรว่ ง 6 ตาหมายแกชอบน่งุ กางเกงขาก๊วย เพราะใสส่ บาย 7 ควรปดิ ก๊อกนา้ ทุกครง้ั หลังจากใชง้ านเสรจ็ 8 ถนนคอนกรีตสายน้ี ยาวไปจนถึงท้ายหมบู่ า้ น 9 แพทยใ์ ชแ้ คปซูลบรรจุยาชนดิ ผง 10 สงสยั บ้านหลงั นฮี้ วงจุย้ ไมด่ ี เพราะคนในครอบครัวป่วยบ่อย
996 คูม่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งคาภาษาจนี และคาภาษาองั กฤษ อย่างละ 10 คา ขอ้ ท่ี คาภาษาจนี คาภาษาองั กฤษ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ชือ่ ....................................................นามสกลุ ....................................................ชนั้ .................เลขท.ี่ ............
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๖ เร่ือง นิทานอ่านสนกุ 997 แนวคาตอบใบงานท่ี 9 เรื่อง การระบคุ าภาษาจนี และภาษาองั กฤษ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๖ เรอื่ ง นิทานอา่ นสนุก แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๙ เรื่อง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย (๑) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรียนอา่ นประโยคทกี่ าหนดให้ แลว้ คน้ หาคาภาษาจีนและคาภาษาอังกฤษ จากนน้ั ขดี เส้นใต้ และนาไปเตมิ ลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง ขอ้ ประโยค คา ภาษา ตวั อย่าง นักบาสเกตบอลกาลงั ฝกึ ซอ้ มทสี่ นาม บาสเกตบอล อังกฤษ 1 พ่อของฉนั ชอบกินบะหมี่น้าใส เพราะรสชาติกลาง ๆ ดี บะหม่ี จีน 2 โรคโควดิ ระบาดหนักเช่นน้ี เราควรงดการเดนิ ทางนอกสถานที่ โควดิ อังกฤษ 3 พายไุ ตฝ้ นุ่ กระหน่าตอนใตข้ องจนี ทาให้เกดิ ความเสียหายหนัก ไต้ฝุ่น จีน 4 คุณปา้ นั่งเขย่าเซียมซีลนุ้ จนตวั ส่ันว่าจะไดห้ มายเลขอะไร เซียมซี จีน 5 คณุ ครใู ช้คลิปหนีบกระดาษ เพอื่ ใหแ้ นน่ ไมห่ ลดุ รว่ ง คลิป อังกฤษ 6 ตาหมายแกชอบนุ่งกางเกงขากว๊ ย เพราะใสส่ บาย ขากว๊ ย จีน 7 ควรปิดกอ๊ กนา้ ทุกครัง้ หลังจากใชง้ านเสรจ็ ก๊อก องั กฤษ 8 ถนนคอนกรีตสายน้ี ยาวไปจนถึงท้ายหมู่บ้าน คอนกรตี องั กฤษ 9 แพทยใ์ ช้แคปซลู บรรจยุ าชนิดผง แคปซลู จีน 10 สงสยั บา้ นหลังนี้ฮวงจุ้ยไม่ดี เพราะคนในครอบครัวป่วยบ่อย ฮวงจุ้ย องั กฤษ
998 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างคาภาษาจนี และคาภาษาอังกฤษ อยา่ งละ 10 คา ตัวอย่าง ข้อที่ 1 คาภาษาจีน คาภาษาอังกฤษ 2 กงเตก๊ เกยี ร์ 3 กังฟู 4 ซาลาเปา เทคโนโลยี 5 ตะหลิว กตี าร์ 6 เตา้ เจ้ยี ว โซดา 7 จบั กัง อัตโนมตั ิ 8 ลันเตา การ์ด 9 เปาะเปี๊ยะ 10 หา้ ง คอรร์ ปั ชัน เฮง กอลฟ์ คอนเสริ ์ต เปียโน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอื่ ง นิทานอา่ นสนกุ ๙๙๙ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10 เรอ่ื ง คาท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ (2) เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๖ เรือ่ ง นิทานอ่านสนกุ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด สาระที่ 4 หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตวั ช้ีวัด ป.๕/๕ บอกคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด คาที่มาจากภาษาต่างประเทศ เป็นการยืมคาภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยหลายภาษา เช่น ภาษาบาลี สนั สกฤต เขมร จีน และภาษาอังกฤษ ทาใหภ้ าษามีความเจรญิ งอกงามและมคี าใช้มากข้ึน ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกลักษณะของคาภาษาเขมรและภาษาบาลสี นั สกฤตได้ ๓.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ระบคุ ายมื ภาษาเขมรและภาษาบาลสี ันสกฤตได้ ๓.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) เห็นความสาคัญของการยมื คาภาษาต่างประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย ๔. สาระการเรยี นรู้ - คายืมท่มี าจากคาภาษาเขมรและภาษาบาลสี ันสกฤต ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 มุง่ ม่ันในการทางาน ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้
๑๐๐๐ คู่ม การจดั กิจกรรมการเรยี น รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๙ เร่ือง คาท่ีมาจา ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมครู ๑. ขอบเขตเนอ้ื หา ขนั้ นา ๕ ๑. ครูทบทวนการยืมค - คายมื ทม่ี าจาก นาที จากภาษาตา่ งประเทศ คาถาม ดังน้ี ภาษาตา่ งประเทศ ครู : สาเหตุทปี่ ระเทศ ภาษาเขมร ภาษาบาลี สนั สกฤต และภาษา การยมื คาภาษาต่างปร อะไรบ้าง อ่ืน ๆ ทก่ี าหนด 2. ครูยกตัวอย่างประโ - ตาบลนถี้ นนไม่คอ่ ยด 3. ครตู ้ังคาถามกระต้นุ ค ดงั นี้ ครู : คาทีข่ ีดเสน้ ใต้เปน็ ภาษาใด (ถ้านักเรยี นตอบไมไ่ ด้ ตัวเลอื กดงั นี้ - ภาษาเขมร - ภาษาจีน - ภาษาองั กฤษ
มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) นรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เร่อื ง นทิ านอา่ นสนกุ จานวน ๑๐ ชัว่ โมง ากภาษาตา่ งประเทศ (2) จานวน ๑ ชัว่ โมง แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรียน - สังเกตการตอบ คาถามของ คาทม่ี า 1. นักเรยี นรว่ มกันทบทวน - คาถาม นักเรยี น ด้วย การยืมคาทมี่ าจากภาษา ต่างประเทศ เช่น ศไทยมี นักเรยี น : การค้าขาย การทูต ระเทศมี พืน้ ทต่ี ดิ ต่อกัน ศาสนาและ วฒั นธรรม ฯลฯ โยค ดงั นี้ 2. นกั เรียนร่วมกันอ่าน - แถบประโยค - สงั เกตการตอบ ดเี ลย ประโยคท่คี รกู าหนด - รูปภาพถนน คาถามของ นความคดิ 3. นกั เรยี นช่วยกันคดิ หา - คาถาม นกั เรียน คาตอบ นคา นักเรียน : คาภาษาเขมร ครบู อก ษ)
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เรอ่ื ง นทิ านอ่านสนกุ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู (เมื่อนกั เรยี นตอบถกู ค ตอ่ ไปว่า ครู : นักเรยี นทราบได ว่าคาทีข่ ดี เส้นใต้เปน็ ค เขมร) 4. ครูพูดแสดงความค สรปุ ท้ายวา่ ทนี่ ักเรยี นต นนั้ เพราะนกั เรียนเรีย คายืมท่มี าจากภาษาจนี ภาษาอังกฤษผา่ นมาแล ใหว้ ิเคราะหไ์ ดว้ า่ คาท “ตาบล” และ “ถนน” คาภาษาจนี และภาษา อย่างแน่นอน 5. ครูเช่อื มโยงเข้าสเู่ น บทเรยี น ๒. ขน้ั สอน 30 1. ครูนานกั เรยี นสนท นาที นอกจากคาภาษาเขมร เรายืมมาใชแ้ ล้ว ยงั มีค อ่นื ๆ อีกหรอื ไม่ อยา่ ง
แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ ๑๐๐๑ กจิ กรรมนักเรียน การประเมนิ ครูถาม การเรยี นรู้ ด้อยา่ งไร คาภาษา คิดเห็น 4. นกั เรียนร่วมแสดง ตอบถกู ความคดิ เหน็ ยนเร่ือง นและ ล้ว จึงทา ทีว่ า่ ” ไม่ใช่ าองั กฤษ นื้อหาใน 5. นกั เรียนเขา้ สบู่ ทเรยี น ทนาว่า พร้อมกัน รที่ไทย คาภาษา 1. นักเรยี นร่วมกนั สนทนา - สือ่ PPT - สังเกต งไร และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั คาภาษา การแสดง คาภาษาอืน่ ๆ ทไี่ ทยยืมมาใช้ ตา่ งประเทศ ความคิดเห็น ในภาษาไทย ในภาษาไทย
๑๐๐๒ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมครู 2. ครนู าสนทนาวา่ มีค อน่ื ๆ โดยยกตวั อยา่ งใน ให้นกั เรยี นดู ได้แก่ - คาภาษาเขมร - คาภาษาบาลี สันสก - คาภาษาชวา มลายู - คาภาษาโปรตุเกส - คาภาษาเปอร์เซีย - คาภาษาญป่ี ุ่น ฯลฯ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3. จากน้ันครนู าคาวา่ 1. บอกลกั ษณะของ และ “ถนน” มาสนทน คาภาษาเขมรและ นาเข้าสู่คายมื ภาษาเข ภาษาบาลีสนั สกฤตได้ 4. ครอู ธิบายเรื่อง คาย เขมร - เปน็ คาราชาศพั ท์ - มักสะกดด้วย จ ญ ร - อ่านออกเสียงแบบอ - มักข้ึนต้นด้วย กา ชา ทา สา
มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ คาภาษา 2. นักเรยี นดูตวั อย่างคาภาษา ใน PPT อ่ืน ๆ ที่ไทยเรามีการยมื มาใช้ ในภาษาไทย กฤต ฯ “ตาบล” 3. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ - ใบความรู้ท่ี 10 นา และ คายมื ภาษาเขมร โดยศึกษา ขมร จากใบความรทู้ ่ี 10 ยมื ภาษา 4. นักเรียนฟงั ครูอธิบายเรอ่ื ง - สอื่ PPT คา รลส คายมื ภาษาเขมร และทาแบบ ภาษาตา่ งประเทศ อักษรนา ฝึกในสอื่ PPT พร้อมกนั ในภาษาไทย า ดา ตา
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ เรอื่ ง นิทานอ่านสนกุ ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู - มักขึ้นต้นด้วย บงั บนั - เป็นคาแผลง 5. ครูอธบิ ายเรอ่ื ง คาย บาลแี ละสันสกฤต เป็น เปรยี บเทยี บ และพาน ร่วมทาแบบฝกึ ในสือ่ P ดว้ ยกัน 6. ครตู ง้ั คาถามสรปุ ห ดังน้ี ครู : คายมื ภาษาตา่ งป หลกั การอยา่ งไรบา้ ง จ อธิบาย 7. ครนู าสนทนาเรอ่ื ง ภาษาอ่นื ๆ เพียงเกรด็ สนั้ ๆ ได้แก่ - คาภาษาชวา มลายู - คาภาษาโปรตเุ กส - คาภาษาเปอรเ์ ซีย - คาภาษาญ่ีปนุ่
แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ ๑๐๐๓ กิจกรรมนักเรียน การประเมนิ น บรร บา การเรียนรู้ ยืมภาษา 5. นักเรยี นฟงั ครูอธิบายเรอ่ื ง นตาราง คายืมภาษาบาลีและสันสกฤต นกั เรยี น และทาแบบฝกึ ในส่ือ PPT ไป PPT ไป ดว้ ยกนั หลักการ 6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกัน อธิบายสรปุ หลักการยมื คา ประเทศมี ภาษาต่างประเทศ จง คายืม 7. นักเรียนฟงั ครูอธบิ ายและ - ใบความรู้ท่ี 9 ดความรู้ สนทนาร่วมกนั เร่อื ง คาท่มี าจาก ภาษาต่างประเทศ ในภาษาไทย
๑๐๐๔ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู 8. ครูอธิบายวิธีการทา กิจกรรมวเิ คราะห์จาแ ยมื ภาษาเขมรและคาย บาลี สันสกฤต ด้วยบัต 3. 2. ระบคุ ายมื ภาษา ขั้นปฏบิ ัติ 9. สรุปการทากจิ กรรม เขมรและภาษาบาลี ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการ สันสกฤตได้ กิจกรรม 15 10. ครชู แ้ี จงการทาใบ นาที 10 เร่อื ง ระบคุ ายืมภ เขมรและภาษาบาลสี นั (ครขู นึ้ กิจกรรมในจอ P วา่ : นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง การระบุคายมื ภา และภาษาบาลสี นั สกฤ 11. ครตู รวจใบงานน สรปุ การทากิจกรรม
มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น - บัตรคา การเรยี นรู้ า 8. นกั เรยี นทากจิ กรรม แนกคา วเิ คราะหจ์ าแนกคายืมภาษา ยมื ภาษา เขมรและคายืมภาษาบาลี ตรคา สนั สกฤต ด้วยบัตรคา มและ 9. สรปุ การทากิจกรรม รทา บงานท่ี 10. นักเรยี นทาใบงานท่ี 10 - ใบงานท่ี 9 2. ตรวจใบงาน ภาษา เร่ือง การระบคุ ายืมภาษา นสกฤต เขมรและภาษาบาลสี ันสกฤต PPT นักเรียนทง้ั ต้นทาง/ปลายทาง - สื่อ PPT นที่ 10 ทาใบงานที่ 10 พรอ้ มกนั าษาเขมร ฤต ) นักเรยี น 11. นกั เรียนตรวจใบงาน พรอ้ มกนั และสรปุ กจิ กรรม ร่วมกนั
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรอ่ื ง นิทานอา่ นสนกุ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู 4. 3. เห็นความสาคญั ขนั้ สรปุ ๕ 1. ครูใหน้ กั เรยี นสรปุ ค ของการยมื คาภาษา นาที ดว้ ยคาถาม ดงั น้ี ต่างประเทศทใ่ี ชใ้ น ครู : การยืมคาภาษาต ภาษาไทย ประเทศมาใช้ในภาษา ความสาคญั อย่างไร
๑๐๐๕ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนักเรียน - ส่อื PPT การเรยี นรู้ สรปุ ความรู้ 3. สังเกต ความรู้ 1. นกั เรียนรว่ มกันตอบ การตอบคาถาม คาถาม และสรปุ ความรู้ ของนักเรียน ต่าง ร่วมกนั ดงั นี้ าไทยมี นกั เรยี น : ช่วยใหภ้ าษาไทย เรามีคาใช้ท่หี ลากหลายมาก ขน้ึ เกดิ ความไพเราะตาม การใช้ และเป็นเสน่ห์ของ ภาษาไทย
1006 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๘. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ 10 เรื่อง คายมื ภาษาเขมร ภาษาบาลี สันสกฤต และภาษาอ่ืน ๆ 2. ใบงานที่ 10 เรื่อง การระบุคายมื ภาษาเขมร ภาษาบาลี และสันสกฤต 3. ส่อื PPT เร่ือง คาท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ (2) 4. แถบประโยค 5. บตั รคา ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิน้ งานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 10 เรื่อง การระบคุ ายมื ภาษาเขมร ภาษาบาลี และสนั สกฤต สิง่ ที่ต้องการวดั / ประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - พิจารณาจากการตอบ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ - บอกลักษณะของคาภาษาเขมร คาถามของนกั เรยี น ข้ึนไป และภาษาบาลี สนั สกฤต ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - ระบคุ ายมื ภาษาเขมรและภาษา - ตรวจใบงานที่ 10 เรื่อง - แบบประเมนิ การทา ร้อยละ ๖๐ บาลสี ันสกฤต การระบุคายมื ภาษาเขมร ใบงานท่ี 10 การระบุ ข้ึนไป และภาษาบาลสี ันสกฤต คายมื ภาษาเขมรและ ภาษาบาลสี ันสกฤต ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - เหน็ ความสาคัญของการยืมคา - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๖๐ ภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย นกั เรยี น ของนักเรยี น ขน้ึ ไป ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1 ใฝ่เรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2. มุง่ มั่นในการทางาน นกั เรยี น อนั พึงประสงค์ ผ่าน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2. ความสามารถในการคิด นักเรยี น สมรรถนะสาคญั ของ ผา่ น ผู้เรียน
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ เรอื่ ง นทิ านอ่านสนกุ 1007 เกณฑป์ ระเมิน : การทาใบงานที่ 10 เรือ่ ง การระบคุ ายืมภาษาเขมร ภาษาบาลี และสนั สกฤต ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ เติมคาไดถ้ กู ต้อง เติมคาไดถ้ ูกตอ้ ง การเตมิ คาได้ กับภาษาท่ีกาหนด ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) กบั ภาษาท่ีกาหนด ถกู ต้องตาม โดยตอบถูกจานวน เติมคาไดถ้ กู ตอ้ ง เตมิ คาไดถ้ ูกตอ้ ง โดยตอบถกู จานวน ภาษาท่ีกาหนด ตัง้ แต่ 15-16 คา กบั ภาษาทก่ี าหนด กบั ภาษาท่กี าหนด ตา่ กว่า 9 คา โดยตอบถกู จานวน โดยตอบถูกจานวน ต้ังแต่ 12-14 คา ตั้งแต่ 9-11 คา เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 15-16 ดีมาก 12-14 ดี 9-11 พอใช้ ต่ากวา่ 9 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 45 ขึน้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดับดีขึน้ ไป)
1008 ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการทาใบงานที่ 10 เรอื่ ง การระบุคายืมภาษาเขมร ภาษาบาลี และสันสกฤต คาชแ้ี จง ให้ครูผสู้ อนประเมินผลการทากจิ กรรม/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในชอ่ งที่กาหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ลาดับ ชอื่ - สกลุ คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ท่ี ที่ได้ รอ้ ยละ การประเมิน ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ.................. ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ปรับปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ................. สรุปผลการประเมนิ รายช้นั เรียน นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ......................... นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ เร่ือง นทิ านอา่ นสนกุ 1009 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
1010 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความร้ทู ี่ 10 เรอื่ ง คายืมภาษาเขมร ภาษาบาลี และสนั สกฤต หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๖ เร่ือง นทิ านอ่านสนุก แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย (2) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ การยืมคาภาษาต่างประเทศ การยืมคาจากภาษาหนึ่งไปใช้อีกภาษาหน่งึ เป็นลักษณะของทุกภาษา ทกุ ภาษาในโลกน้ีย่อมมกี ารใช้ คาภาษาอื่นปะปนกันเป็นเร่ืองธรรมดา เนื่องจากแต่ละชาติจาเป็นต้องมีการติดต่อสัมพันธ์กันมาต้ังแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน จงึ เกดิ การนาคาภาษาอืน่ เข้ามาใชใ้ นภาษาของตนเอง สาเหตกุ ารยืมคาภาษาอ่ืน ๆ มาใช้ในภาษาไทย 1. การต้ังถนิ่ ฐาน ประเทศไทยมพี ื้นที่ตดิ ต่อกับเพอ่ื นบ้าน ทาใหค้ นไทยนาคาของภาษานัน้ ๆ มาใช้ 2. การคา้ ขาย ประเทศไทยตดิ ต่อคา้ ขายกบั ต่างประเทศ ทาให้มกี ารแลกเปลยี่ นสนิ ค้า 3. ศาสนาและวัฒนธรรม การเผยแผ่ศาสนา การรับเอาศาสนา ทาใหเ้ ราใช้คาของศาสนานัน้ 4. การศึกษาและการกีฬา ท้งั ในหนงั สอื เรยี น และขา่ วสารต่าง ๆ 5. ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การแต่งงาน การเข้ารตี การสงคราม การทูต ฯลฯ คาภาษาต่างประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย 1. คายืมภาษาเขมร เขมรเป็นชาติทมี่ คี วามสัมพันธม์ านานทั้งการคา้ การสงคราม การเมือง การปกครอง และวัฒนธรรม เขมรมีอิทธิพลเหนือดินแดนสุวรรณภูมิก่อนกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาจะเรืองอานาจ ทาให้ภาษาเขมร เขา้ มาปะปนในภาษาไทยเป็นเวลาชา้ นาน ลกั ษณะคาภาษาเขมรในภาษาไทย 1. มักเป็นคาท่ีมักสะกดด้วย จ ญ ร ล เช่น เสด็จ เผด็จ อาจ อานาจ บาเพ็ญ สราญ กาจร จราจร ตาบล บันดาล ๒. มกั เป็นคาควบกลา้ เชน่ ไกร ขลัง ปรงุ ปรับปรา ปรอง ๓. มักขึ้นต้นด้วยคาท่ีใช้ บัง บัน บรร บา นาหน้า เช่น บังคับ บังคม บังเกิด บังอาจ บันได บันดาล บนั ลือ บาเพ็ญ บาบดั บาเหน็จ 4. มกั ขึน้ ต้นด้วยคาว่า กา ดา ตา จา ชา สา บา รา เชน่ กา = กาเดา กาแพง กาลัง กาไร กาจดั กาจร กาธร กาพร้า กาสรวล กาเนดิ ดา = ดาเนิน ดาริ ดารู ดารง (ดารี ดาไร แปลวา่ ช้าง) ตา = ตานาน ตารวจ ตาบล ตารา ตาลงึ ตาหนัก ตาหนิ จา = จานา จานอง จาหน่าย จาแนก ชา = ชานิ ชานาญ ชาร่วย ชาระ ชาแหละ ชารดุ สา = สาราญ สารวย สาเริง สาเนา สาเภา
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง นทิ านอา่ นสนกุ 1011 บา = บาเรอ บาราบ บานาญ บาเหนจ็ บารงุ บาเพ็ญ รา = ราคาญ ราไร 5. นยิ มเป็นคาทีน่ ยิ มใช้อักษรนา เช่น สนกุ สนาน สมัคร สมาน เสดจ็ สมอ ถนน เฉลียว 6. คาเขมรสว่ นมากใช้เป็นคาราชาศพั ท์ เช่น เสวย ผนวช บรรทม เสด็จ โปรด ขนง เขนย สรวล 7. เป็นคาแผลง เช่น ครบ > คารบ, ขดาน > กระดาน, จ่าย > จาหน่วย, แจก > จาแนก, ชาญ > ชานาญ, เดนิ > ดาเนิน, เรยี บ > ระเบียบ, รา > ระบา, ตริ > ดาร,ิ ตรวจ > ตารวจ 2. คาภาษาบาลี สันสกฤต ขอ้ สังเกต คายืมทม่ี าจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ดังนี้ คาภาษาบาลี คาบาลสี ันสกฤต 1. ไมใ่ ชพ้ ยญั ชนะ “ศ” และ “ษ” 1. ใช้ “ศ” และ “ษ” เช่น ปกั ษา ปกั ษี ศาสนา กษตั ริย์ ตรุษ ศาสตรา ศพั ท์ อักษร ศรี เศยี ร 2. ไมใ่ ช้ “รร” แตน่ ยิ มใช้ “ริ” เชน่ จริยา ภรยิ า 2. ใช้ รร เช่น จรรยา สบุ รรณ สวุ รรณ สพุ รรณ กรยิ า ภรรยา ครรภ์ ธรรม บรรพต วรรค ขรรค์ 3. นิยมใช้พยัญชนะ 2 ตวั ติดกัน 3. ใชค้ าทีพ่ ยัญชนะข้ามวรรค ไมต่ ิดกนั เช่น นิพพาน ปัญญา บุคคล ปจั จยั ภตั ตา อัคคี เชน่ จันทรา มนตรี อทุ ยาน พิสดาร วิทยา พสั ดุ วญิ ญาณ มธั ยม ดสั กร อาตมา 4. ไมใ่ ช้ ฤ ฤๅ 4. ใช้ตัว ฤ ฤๅ เช่น ฤๅษี ฤทธ์ิ ฤกษ์ ฤทัย กฤษณา
1012 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 10 เร่อื ง การระบคุ ายืมภาษาเขมร ภาษาบาลี และสันสกฤต หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เรอ่ื ง นิทานอ่านสนุก แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๙ เรื่อง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย (๑) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนนาคาในกรอบสเ่ี หลี่ยม ไปเตมิ ลงในช่องว่างให้ตรงกบั ภาษาท่ีกาหนดให้ ศาสนา ตานาน อัคคี ฤๅษี อานาจ บุคคล เขนย ภริยา นิพพาน ดาเนนิ ตรวจ ศาสนา ปกั ษา ภรรยา วิญญาณ เสด็จ คายืมภาษาเขมร คายืมภาษาบาลี คายืมภาษาสนั สกฤต ช่ือ....................................................นามสกลุ ....................................................ช้ัน.................เลขท่.ี .............
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ เร่ือง นิทานอา่ นสนกุ 1013 แนวคาตอบใบงานท่ี 10 เรอ่ื ง การระบคุ ายมื ภาษาเขมร ภาษาบาลี และสนั สกฤต หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง นิทานอ่านสนุก แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๙ เร่ือง คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย (๑) รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรียนนาคาในกรอบส่เี หล่ยี ม ไปเตมิ ลงในช่องวา่ งใหต้ รงกับภาษาที่กาหนดให้ ศาสนา ตานาน อัคคี ฤๅษี อานาจ บุคคล เขนย ภรยิ า นิพพาน ดาเนนิ ตรวจ ศกั ดศ์ิ รี ปกั ษา ภรรยา วิญญาณ เสดจ็ คายมื ภาษาเขมร คายมื ภาษาบาลี คายมื ภาษาสนั สกฤต ตานาน วญิ ญาณ ปักษา อานาจ นิพพาน ภรรยา เขนย บคุ คล ศาสนา ดาเนนิ อคั คี ศกั ด์ิศรี ตรวจ ภริยา ฤๅษี เสด็จ
1014 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินตนเอง ชือ่ : ____________________สกุล : __________________วนั ____ เดือน____________พ.ศ. ____ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่___๖___เรือ่ ง นิทานอา่ นสนุก ๑. ประเมินการเรียนรูข้ องตนเอง กาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งระดบั ความสามารถของแต่ละกิจกรรมท่นี ักเรยี นคิดวา่ ทาได้ตามระดับ การประเมนิ เหล่านี้ ระดับความสามารถ : ดมี าก ค่อนข้างดี ดี พอใช้ ปรับปรงุ ท่ี รายการ ระดับความสามารถ ๑ สรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากการอา่ นนทิ านพนื้ บ้านได้ ดมี าก ค่อน ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๒ เขียนยอ่ ความจากเรื่องท่อี า่ นได้ ขา้ งดี ๓ เขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการได้ ๔ อธิบายคณุ ค่าของบทรอ้ ยกรองทอี่ ่านได้ ๕ จาแนกคาภาษาองั กฤษและภาษาจนี ได้ 2. สง่ิ ท่ฉี ันยงั ไม่เข้าใจ / ยงั ทาไดไ้ มด่ ี คอื …… (สามารถเขยี นไดม้ ากกวา่ 1 อย่าง) ……………………………………………................................................................................................ .................................................................................................................................................. ..............…………………………………………….................................................................................. .................................................................................................................................................. 3. สิง่ ท่ีฉันตัง้ ใจจะทาให้ดีขน้ึ ในการเรียนหน่วยต่อไป (สามารถเขียนได้มากกว่า 1 อย่าง) ……………………………………………................................................................................................ .................................................................................................................................................. ..............…………………………………………….................................................................................. ..................................................................................................................................................
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๗ เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๑๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนดิ มะกะโท
๑๐๑๖ ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๗ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เวลา ๑๔ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีวัด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชวี ิต และมีนสิ ัยรักการอา่ น ตัวชวี้ ัด ป.๕/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง ป.๕/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่เี ป็นการบรรยายและการพรรณนา ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรื่องทอี่ ่านเพื่อนาไปใช้ในการดาเนินชีวติ ป.๕/๖ อ่านงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คาสั่ง ขอ้ แนะนา และปฏบิ ัติตาม ป.๕/๘ มีมารยาทในการอา่ น สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรอื่ งราวในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ชี้วัด ป.๕/๒ เขยี นสอื่ สารโดยใช้คาไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม ป.๕/๙ มีมารยาทในการเขยี น สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน โอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชว้ี ดั ป.๕/๓ วเิ คราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถอื จากเรื่องที่ฟงั และดูอย่างมีเหตผุ ล ป.๕/๔ พดู รายงานเร่อื งหรือประเด็นท่ศี ึกษาคน้ คว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ตวั ชีว้ ดั ป.๕/๔ ใช้คาราชาศพั ท์ ป.๕/๗ ใชส้ านวนได้ถกู ต้อง
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๗ เรื่อง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท ๑๐๑๗ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ ตัวชวี้ ดั ป.๕/๒ ระบคุ วามรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมทสี่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ป.๕/๓ อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด ๑. การอ่านออกเสียงคาที่มีพยัญชนะควบกลา จะต้องอ่านออกเสียงให้ชัดเจน ถูกต้องตามอักขรวิธี และบอกความหมายของคาได้ ๒. คาที่มีอักษรนา คือ คาท่ีมีพยัญชนะ ๒ ตัวร่วมอยู่ในสระเดียวกัน มีวิธีอ่านหลายวิธี การรู้ หลักเกณฑเ์ ร่อื งอักษรนา เป็นพืนฐานสาคญั ในการอา่ น และนาไปใช้ ในการส่อื สารได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๓. คาที่มีตัวการันต์ เป็นคาที่มีเครื่องหมายทัณฑฆาต ( -์ ) กากับไว้ เพื่อไม่ต้องการออกเสียงและลด พยางคข์ องคาดังกลา่ วให้นอ้ ยลง ตัวการันต์อาจอย่รู ะหว่างกลางคาหรอื อยทู่ ้ายก็ได้ การรจู้ กั และเขา้ ใจ คาที่มี ตัวการันต์ จะทาให้สามารถอ่าน เขียนสะกดคาและนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้อง ๔. การอา่ นข้อความทเี่ ป็นการบรรยาย และการพรรณนา ตอ้ งเข้าใจความหมายของคา ประโยคและ ขอ้ ความ จะชว่ ยให้อา่ นได้อยา่ งถูกต้อง คลอ่ งแคลว่ ทาใหเ้ ข้าใจความหมายของขอ้ ความหรือเร่ืองที่อ่าน และนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ๕. วรรณคดี เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท เป็นตอนท่ีแสดงให้เห็นถึงความขยันหมั่นเพียร และความมปี ฏิภาณไหวพรบิ ของมะกะโทในการใชช้ ีวติ ๖. การอ่านคาแนะนาในการใช้พจนานุกรมช่วยให้ปฏิบัติตามได้ถูกวิธี ค้นหาท่ีมา ความหมาย ชนิด ของคาและอา่ นเขียนคาได้ถกู ต้อง ๗. การเขียนคาแนะนาและคาอธิบาย แสดงขันตอน เป็นการเขียนเพื่อให้ข้อเสนอแนะ ให้ความรู้ ความเข้าใจ ภาษาทใี่ ชค้ วรเป็นภาษาทางการ ถอ้ ยคากะทัดรัด ชัดเจน เขยี นถูกต้อง ตามลาดบั ขนั ตอน เพื่อให้ ปฏบิ ัตหิ รือนาไปใชไ้ ด้ถกู วธิ ี ๘. การวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือของข่าวต้องดูการเล่าเหตุการณ์ตามลาดับตังแต่ต้นจนจบ ไม่ปิดบัง ท่ีมา สถานที่ เวลา และบุคคลท่เี ก่ียวขอ้ งเพื่อให้ทราบรายละเอียดทชี่ ดั เจน ๙. การพูดลาดับขันตอนการปฏิบัติงานเป็นการนาเสนอข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ควรพูดให้ ชดั เจนเรียงเนือหาตามลาดับ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความรู้ ความเข้าใจ ปฏิบัติตามได้ และควรมีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ๑๐. ถ้อยคาสุภาพและราชาศัพท์เป็นวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของภาษาไทย ที่ต้องเลือกใช้ให้ เหมาะสมตามฐานะของบุคคล และต้องคดิ ไตร่ตรองกอ่ นพดู และเขียน จึงจะทาให้การส่อื สารสัมฤทธผิ ล ๑๑. คาพังเพยเป็นการเปรียบเทียบกับเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง สุภาษิตเป็นคติสอนใจให้ประพฤติดี ส่วน สานวนมีความหมายกวา้ งครอบคลุมถึงคาพังเพยและสุภาษิต การเข้าใจความหมายของคาพังเพยและสุภาษิต ทาให้นาไปใช้ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม ๑๒. เรื่อง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์และคุณธรรม ของผ้ทู ีจ่ ะเปน็ ผู้นา รวมทังได้ขอ้ คิดท่ีดที ส่ี ามารถนาไปปรบั ใชไ้ ด้ในชีวติ จรงิ
๑๐๑๘ คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๑๓. ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโทเปน็ วรรณคดีร้อยแกว้ ทม่ี สี านวนโวหารไพเราะ สอดแทรกขอ้ คิด และคติสอนใจ เนือเร่ืองแสดงให้เห็นถึงความเฉลยี วฉลาด ปฏิภาณไหวพรบิ และความขยันขันแข็งของมะกะโท การอา่ นอยา่ งพินิจพจิ ารณา ทาให้เห็นคณุ ค่าทแ่ี ทจ้ ริง และสามารถนาไปเปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ติ ได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑. อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็นการบรรยายและการพรรณนาได้ ๒. บอกหลกั การอ่านจับใจความได้ ๓. อธิบายความร้แู ละขอ้ คดิ จากเร่ืองท่อี า่ นได้ ๔. บอกหลักการวิเคราะห์คณุ คา่ จากเรือ่ งทอี่ ่านได้ ๕. บอกหลกั การเขียนคาแนะนาและคาอธิบายแสดงขนั ตอนได้ ๖. บอกหลักการพดู ลาดบั ขนั ตอนการปฏิบตั ิงานได้ ๗. บอกหลกั การวเิ คราะห์ข่าวและเหตุการณป์ ระจาวนั ได้ ๘. บอกหลักการใชพ้ จนานุกรมได้ ๙. บอกลักษณะของสานวนท่ีเป็นคาพังเพยได้ ๑๐. บอกลกั ษณะของสานวนได้ ๑๑. บอกความหมายของคาราชาศพั ท์ได้ ๑๒. บอกความหมายของคาทีม่ พี ยัญชนะควบกลาได้ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. อา่ นขอ้ ความท่ีเป็นการบรรยายและการพรรณนาได้ ๒. อ่านจบั ใจความสาคญั จากเรอ่ื งราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโทได้ ๓. เขียนอธิบายความรแู้ ละข้อคดิ จากเรือ่ งท่ีอา่ นได้ ๔. วเิ คราะหแ์ ละเขียนอธบิ ายคุณค่าของเรือ่ งที่อา่ นได้ ๕. เขียนคาแนะนาและคาอธิบายแสดงขันตอนได้ ๖. พูดลาดับขนั ตอนการปฏบิ ัติงานได้ ๗. วเิ คราะหข์ ่าวและเหตุการณ์ประจาวนั ได้ ๘. เรยี งลาดับคาตามพจนานกุ รมและหาความหมายโดยใชพ้ จนานกุ รมได้ ๙. เขียนความหมายและใช้สานวนไดถ้ กู ต้อง ๑๐. เปรียบเทยี บลักษณะของสานวนได้ ๑๑. จัดหมวดหมู่ของคาราชาศพั ท์ได้ ๑๒. อา่ นและเขยี นคาทีม่ ีพยญั ชนะควบกลาได้ เจตคติ ๑. มีมารยาทในการอ่าน ๒. มีมารยาทในการเขียน ๓. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๗ เรือ่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๑๙ ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๖. การประเมินผลรวบยอด ชินงานหรือภาระงาน ๑. ใบงานที่ ๑ การอา่ นขอ้ ความท่เี ปน็ การบรรยายและการพรรณนา ๒. ใบงานที่ ๒ การอา่ นจบั ใจความสาคัญจากเรอ่ื งราชาธริ าช ตอนกาเนดิ มะกะโท ๓. ใบงานที่ ๓ การระบุความร้แู ละข้อคดิ จากเรอื่ งที่อ่าน ๔. ใบงานที่ 4 การวเิ คราะห์คณุ คา่ จากเรือ่ งที่อา่ น ๕. ใบงานท่ี ๕ การเขยี นคาแนะนาและคาอธิบายแสดงขนั ตอน ๖. ใบงานที่ ๖ การพดู ลาดบั ขันตอนการปฏบิ ัติงาน ๗. ใบงานที่ ๗ การวิเคราะหข์ า่ วและเหตกุ ารณ์ประจาวัน ๘. ใบงานที่ ๘ การใช้พจนานกุ รม ๙. ใบงานท่ี 9 สานวนท่เี ปน็ คาพังเพย ๑๐. ใบงานท่ี ๑๐ สานวนที่เปน็ คาพงั เพย ๑๑. ใบงานท่ี 11 คาราชาศัพท์ ๑๒. ใบงานท่ี ๑๒ คาทมี่ ีพยญั ชนะควบกลา ๑๓. ใบงานที่ ๑๓ คาทม่ี อี กั ษรนา
๑๐๒๐ คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์การประเมนิ การอ่านจบั ใจความสาคญั จากเร่อื งราชาธริ าช ตอนกาเนดิ มะกะโท ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๑. การตอบ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) คาถามจาก ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผิดเกิน เรอื่ งทอี่ ่านได้ เรื่องไดถ้ กู ต้องทกุ ตอบคาถามผดิ ตอบคาถามผิด กวา่ ๓ ขอ้ ขอ้ ๒ ขอ้ ไม่เกนิ ๓ ข้อ ๒. บอก บอกเนอื หาสาระ บอกเนอื หาสาระได้ บอกเนอื หาสาระ บอกเนอื หาสาระ ใจความสาคญั ถกู ต้องไดใ้ จความ ถกู ต้องแต่วกวนบ้าง ได้ถกู ต้อง แต่วกวน ไดบ้ ้างและวกวน จากเร่ืองที่อา่ น ต่อเนอื่ ง บอกข้อคิดของเรอื่ งได้ บอกขอ้ คดิ ของเรือ่ ง บอกข้อคิดของเรอ่ื ง ๓. บอกขอ้ คดิ บอกข้อคิดของเร่ือง ตรงประเดน็ แต่ไม่ ได้ตรงประเด็น ได้บ้างแตว่ กวน ท่ีได้จากเรอื่ ง ได้ตรงประเดน็ ตอ่ เนือ่ งบ้างเลก็ นอ้ ย แต่วกวน ท่อี า่ น และสมบรู ณ์ ๔. แสดง เสนอความคิดเหน็ เสนอความคดิ เหน็ เสนอความคดิ เหน็ เสนอความคิดเห็น ความคิดเห็น ดว้ ยเหตผุ ลและเปน็ ด้วยเหตผุ ล และแสดงเหตผุ ล แต่ไม่แสดงเหตผุ ล จากเร่อื งท่ีอ่าน ประโยชน์ บ้าง สง่ เสียงดงั และเลน่ ๕. มารยาท ไมส่ ง่ เสียงดังรบกวน ไมส่ ่งเสียงดังรบกวน ส่งเสยี งดงั และเลน่ ในขณะอ่าน ไมเ่ กบ็ ในการอา่ น ผูอ้ ืน่ ไม่เล่นในขณะ ผู้อ่นื ไมเ่ ลน่ ในขณะ ในขณะอ่าน แตเ่ กบ็ หนังสือเข้าทเ่ี มื่อ อ่าน และเกบ็ อา่ น แต่ไม่เก็บ หนงั สือเขา้ ทเ่ี มือ่ อา่ นเสรจ็ หนงั สอื เขา้ ทเ่ี มอ่ื อ่าน หนงั สอื เขา้ ทเ่ี ม่อื อา่ น อา่ นเสร็จ เสร็จ เสร็จ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึนไป
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ เร่ือง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๒๑ เกณฑ์การประเมินการวิเคราะห์ สรปุ ความรู้ คุณคา่ และขอ้ คิดจากเร่อื งทีอ่ า่ น ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน สรปุ ความรไู้ ด้ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) สรปุ ความรไู้ ด้ ๑. การสรปุ ตรงประเดน็ และ สรปุ ความร้ไู ด้ สรปุ ความรไู้ ด้ ตรงประเดน็ และไม่ ความรู้ ถกู ตอ้ งตามเนอื หา ตรงประเด็นและ ตรงประเดน็ และ ตรงประเดน็ ของเรอื่ งทอ่ี ่าน ถูกต้องเปน็ ส่วน ถกู ต้องเป็นเพียง เทา่ ทค่ี วร ใหญ่ บางส่วน ๒. การอธิบาย อธิบายขอ้ คดิ และ อธบิ ายข้อคิดและ อธบิ ายข้อคิดและ อธบิ ายขอ้ คิดและ ข้อคดิ และ สรปุ เรอื่ งไดต้ รง สรปุ เร่อื งได้ตรง สรปุ เรอ่ื งไดต้ รง สรปุ เรอื่ งไดน้ อ้ ยมาก การสรุปเรอ่ื ง ประเด็นและถูกตอ้ ง ประเดน็ และถูกตอ้ ง ประเดน็ และถกู ตอ้ ง และไม่ตรงประเด็น ทงั หมดตามเนือหา เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ เพียงบางส่วน เท่าทคี่ วร ของเรอื่ งทอ่ี ่าน ๓. การนาขอ้ คิด สามารถนาขอ้ คิด สามารถนาข้อคิด สามารถนาข้อคิด สามารถนาขอ้ คดิ ไปใชใ้ น ทไี่ ดไ้ ปประยกุ ต์ใช้ ท่ไี ดไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ทไี่ ดไ้ ปประยกุ ต์ใช้ ทไ่ี ดไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ชีวติ ประจาวัน ในชวี ิตประจาวันได้ ในชีวิตประจาวนั ได้ ในชีวติ ประจาวันได้ ในชวี ติ ประจาวันได้ อยา่ งถูกตอ้ งและ อย่างเหมาะสม เปน็ เพียงบางส่วน น้อยมาก เหมาะสม ๔. การอธิบาย อธบิ ายคณุ คา่ ไดต้ รง อธิบายคณุ ค่าไดต้ รง อธิบายคณุ ค่าไดต้ รง อธิบายคณุ คา่ ได้ คุณคา่ ประเดน็ และถูกตอ้ ง ประเดน็ และถกู ตอ้ ง ประเดน็ และถกู ตอ้ ง น้อยมากและไม่ตรง ๕. การคิด ทังหมดตามเนือหา เปน็ สว่ นใหญ่ เปน็ เพียงบางสว่ น ประเด็นเท่าท่ีควร วเิ คราะห์ ของเรอ่ื งทอี่ า่ น สามารถคิด สามารถคิด สามารถคิด สามารถคดิ วิเคราะห์ได้อย่าง วเิ คราะหไ์ ดอ้ ย่าง วิเคราะหไ์ ด้อย่าง วิเคราะห์ไดอ้ ย่าง สรา้ งสรรคใ์ น สร้างสรรคไ์ ด้ สร้างสรรค์ได้ สร้างสรรคน์ อ้ ย ดา้ นบวกไดท้ งั หมด เปน็ สว่ นใหญ่ เพียงบางสว่ น มาก เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขึนไป
๑๐๒๒ คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารแบบประเมนิ ภาระงาน/ชน้ิ งาน รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน ๑. ผลงานตรง กบั จดุ ประสงค์ท่ี ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) กาหนด ผลงานทที่ าไม่ ผลงานทที่ า ผลงานทท่ี า ผลงานท่ที า สอดคล้องกบั ๒. ผลงานมี สอดคลอ้ งกบั สอดคล้องกบั สอดคล้องกบั จุดประสงค์ ความถกู ตอ้ ง จดุ ประสงคท์ กุ จุดประสงคเ์ ป็นส่วน จุดประสงคบ์ าง สมบรู ณ์ ประเดน็ ใหญ่ ประเด็น เนอื หาสาระของ ๓. ผลงานมี ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ความคิด เนือหาสาระของ เนอื หาสาระของ เนอื หาสาระของ เป็นสว่ นใหญ่ สรา้ งสรรค์ ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานถูกตอ้ งเป็น ผลงานไม่แสดง ๔. ผลงานมี ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางสว่ น แนวคิดใหม่ ความเป็น ระเบยี บ ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่ ๕. ผลงานเสรจ็ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แตย่ งั ไม่ น่าสนใจ แต่ยังไมม่ ี เป็นระเบยี บและมี ตามเวลาที่ แปลกใหมแ่ ละเป็น เปน็ ระบบ แนวคิดแปลกใหม่ ข้อบกพรอ่ งมาก กาหนด ระบบ สง่ งานล่าช้ากว่า ผลงานมีความเปน็ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมีความเปน็ เวลาที่กาหนดเกิน ระเบยี บแสดงออก ความเป็นระเบยี บ ระเบยี บ แต่มี กว่า ๕ วนั ถึงความประณตี แตย่ ังมขี อ้ บกพรอ่ ง ขอ้ บกพรอ่ ง ตังใจ เลก็ นอ้ ย ค่อนขา้ งมาก ส่งงานตามเวลาที่ ส่งงานลา่ ชา้ กว่า ส่งงานลา่ ชา้ กว่า กาหนด เวลาทก่ี าหนด ๑-๒ เวลาทกี่ าหนด ๓-๕ วัน วัน เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๑๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึนไป
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๒๓ ประเดน็ เกณฑก์ ารประเมนิ การพูดลาดบั ข้ันตอน ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ ผฟู้ งั ไมอ่ าจเขา้ ใจ ๑. การเรยี บเรียง ระดบั คุณภาพ การนาเสนอ เพราะ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ไมม่ กี ารลาดบั ผูน้ าเสนอนาเสนอ ผนู้ าเสนอนาเสนอ ผฟู้ งั ติดตามการ ขอ้ มูล ขอ้ มลู ตามลาดบั ข้อมูลตามลาดับ นาเสนอไดย้ าก ต่อเนือ่ งและนา่ สนใจ ต่อเนื่อง ทาใหผ้ ู้ฟงั เพราะผนู้ าเสนอ ทาให้ผ้ฟู งั ติดตาม ตดิ ตามได้งา่ ย ข้ามไปขา้ มมา ได้งา่ ย ๒. ความร้เู นือหา ผนู้ าเสนอแสดงออก ผนู้ าเสนออยา่ ง ผนู้ าเสนอมนั่ ใจวา่ มี ผ้นู าเสนอไม่มขี อ้ มูล ว่ามีความรูเ้ ต็ม สบายใจในการตอบ ข้อมลู เพียงพอและ เพียงพอและไม่ เปย่ี ม (มากเกิน ทุกคาถามที่ตน ตอบไดเ้ ฉพาะ สามารถตอบ ตอ้ งการ) ตอบ พรอ้ มจะตอบ แต่ คาถามทวั่ ๆ ไป คาถามเกย่ี วกับ คาถามพร้อมกบั ไม่สามารถขยาย เท่านนั เรอื่ งที่นาเสนอได้ อธบิ ายและขยาย ความตอ่ ได้ ความเพิม่ เตมิ ๓. สื่อประกอบ ผู้นาเสนอใชส้ อ่ื ผูน้ าเสนอใช้สอื่ ผู้นาเสนอใชส้ ื่อ ผู้นาเสนอใชส้ อ่ื ประกอบซง่ึ อธบิ าย ประกอบทเี่ ช่ือมโยง ประกอบบางครงั ประกอบเกนิ เสรมิ เนอื ความและ กบั เนือความและ บางคราว แต่ไม่ จาเป็นหรอื ไม่ใช้เลย การนาเสนอ คอ่ ยสอดคล้องกบั การนาเสนอ เนอื ความและการ นาเสนอ ๔. การสบตา ผนู้ าเสนอสบตา ผ้นู าเสนอสบตา ผู้นาเสนอสบตาผูฟ้ งั ผนู้ าเสนอก้มหน้า ผ้ฟู งั ตลอดเวลา ผ้ฟู งั เกือบ เป็นบางครังบางคราว กม้ ตาอ่านรายงาน นาน ๆ ครังจงึ ก้มดู ตลอดเวลา แตก่ ้ม แตก่ ย็ ังกม้ หนา้ กม้ โดยไมส่ บตาผูฟ้ งั โนต้ ลงดูโนต้ บอ่ ย ๆ ตาอา่ นรายงาน ๕. ความชดั เจน ผนู้ าเสนอใช้ ผนู้ าเสนอพูด ผูน้ าเสนอพูดคอ่ ย ผูน้ าเสนอพดู พมึ พา ในการพูด เสียงพูดชดั เจนและ ชัดเจน และออก และออกเสยี งคาไม่ ออกเสียงคาไม่ ออกเสยี งคาถกู ต้อง เสียงคา สว่ นใหญ่ ถูกตอ้ งจนผฟู้ ังได้ ถกู ตอ้ งและพูดคอ่ ย ทาให้ผฟู้ งั ทงั หมดได้ ถูกตอ้ ง ทาใหผ้ ู้ฟัง ยินการนาเสนอไม่ เกินไปจนผ้ฟู งั ทอี่ ยู่ ยินการนาเสนอ สว่ นใหญไ่ ดย้ ิน ชัดเจน หลงั หอ้ งไมไ่ ดย้ นิ การนาเสนอ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก เกณฑ์การตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ๑๓-๑๖ ดี รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ ไป ๑๐-๑๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๑๐ ปรบั ปรงุ
๑๐๒๔ คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารประเมนิ การทางานกลมุ่ ประเดน็ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) 1. กระบวนการ 1. มีประธาน ขาดขันตอน 1 ขาดขนั ตอน 2 ขาดขันตอน ๓ ทางานกลมุ่ เลขานุการ ผรู้ ่วมงาน ขนั ตอน หรอื ไม่ ขนั ตอนขนึ ไป ขันตอนขนึ ไป ผ้นู าเสนอ ชดั เจน หรือไม่ชดั เจน หรอื ไม่ชดั เจน 2. มีการวางแผนงาน 3. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ 4. ปฏบิ ตั ติ ามแผน และพฒั นางาน 2. ความ ทุกคนทาหนา้ ทีข่ อง มผี มู้ หี นา้ ท่ี แตไ่ ม่ มีผมู้ หี นา้ ท่ี แต่ไม่รบั มีผมู้ หี นา้ ที่ แตไ่ ม่ รับผดิ ชอบต่อ ตนเองอยา่ ง รบั ผดิ ชอบ 1 คน ผดิ ชอบ 2 คนขนึ ไป รับผดิ ชอบ ๓ คน หน้าท่ี รับผดิ ชอบเตม็ ความสามารถ ขึนไป 3. การแสดง สมาชิกทุกคนร่วม สมาชกิ ส่วนใหญ่ สมาชกิ มากกวา่ สมาชิกไม่ให้ ความคิดเห็น แสดงความคดิ เห็น รว่ มแสดง ครงึ่ ร่วมแสดง ความร่วมมอื ใน ความคดิ เห็น ความคิดเห็น การแสดง ความคดิ เห็น 4. การร่วมงาน ทุกคนร่วมกจิ กรรม รอ้ ยละ 80 ของ รอ้ ยละ 60 ของ ร้อยละ ๕๐ ของ กลมุ่ อย่าง กลมุ่ อย่างมคี วามสุข กลุ่มร่วมกจิ กรรม กลุม่ ร่วมกจิ กรรม กลุ่มรว่ มกจิ กรรม มีความสขุ กลุม่ อยา่ งมีความสุข กลุม่ อย่างมีความสขุ กลุม่ อย่างมี ความสขุ 5. ความสาเรจ็ ผลงานมคี ณุ ภาพ ผลงานมีคณุ ภาพ ผลงานมคี ณุ ภาพ ผลงานไมม่ ี ของผลงาน และเสรจ็ ตาม เสร็จชา้ กว่าเวลาท่ี เสรจ็ ไมท่ นั ตาม คณุ ภาพ เสรจ็ ไม่ กาหนดเล็กน้อย กาหนดเวลา ทันตามกาหนด กาหนดเวลา เวลา รวม ๒๐ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ ไป
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ เรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๒๕ เกณฑ์การประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ 1. ความตงั ใจใน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) การเรยี น สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ ไมค่ ยุ หรอื เลน่ กนั สนใจในการเรยี น สนใจในการเรยี น คุยและเล่นกัน และการซกั ถาม ในขณะเรียน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกันและเล่นกัน ในขณะเรียน 3. การตอบ ในขณะเรียน ในขณะเรยี นเป็น ไมถ่ ามในหัวข้อทต่ี น คาถาม มีการถามในหวั ขอ้ บางครงั ไม่เข้าใจและไมก่ ล้า ท่ีตนไม่เขา้ ใจทกุ แสดงออก 4. มสี ่วนรว่ มใน เรือ่ งและกล้า มกี ารถามในหัวขอ้ มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี ไมต่ อบคาถาม กิจกรรม แสดงออก ท่ีตนไม่เข้าใจเป็น ตนไม่เขา้ ใจเป็น รว่ มตอบคาถามใน ส่วนมากและกลา้ บางครงั และไมค่ ่อย ไม่มีความรว่ มมือ เรือ่ งทีค่ รูถามและ แสดงออก กล้าแสดงออก ในขณะทากิจกรรม ตอบคาถามถกู ทุก ขอ้ รว่ มตอบคาถาม ร่วมตอบคาถามใน ในเรอื่ งท่ีครถู าม เรอ่ื งท่ีครูถามเป็น รว่ มมอื และ และตอบคาถาม บางครงั และตอบ ช่วยเหลอื เพ่ือนใน สว่ นมากถูกต้อง คาถามถกู เป็น การทากจิ กรรม บางครงั รว่ มมือและ ร่วมมอื และ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื น ชว่ ยเหลือเพ่อื นใน เปน็ สว่ นใหญใ่ น การทากจิ กรรมเป็น การทากจิ กรรม บางครงั เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-16 ดมี าก (4) 11-13 ดี (3) 8-10 พอใช้ (2) 0-7 ปรบั ปรงุ (1) เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขนึ ไป
๑๐๒๖ ค่มู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี นิ ยั ตัวชีวัดท่ี ๓.๑ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรยี นและสงั คม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๓.๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตาม ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิตาม ไม่ปฏิบตั ิตนตาม กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง ข้อบังคับของ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ครอบครัว ขอ้ บังคับของ ข้อบังคบั ของ ขอ้ บังคบั ของ ระเบียบ ข้อบงั คับ โรงเรยี น และสังคม ครอบครัวและ ครอบครัวและ ครอบครัวและ ของครอบครวั ไม่ละเมดิ สทิ ธิ โรงเรียน ตรงตอ่ โรงเรียน ตรงตอ่ โรงเรียน ตรงตอ่ และโรงเรียน ของผอู้ นื่ เวลาในการปฏิบัติ เวลาในการปฏบิ ตั ิ เวลาในการปฏบิ ตั ิ ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ กิจกรรมตา่ ง ๆ กิจกรรมตา่ ง ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ในชีวิตประจาวนั ในชวี ิตประจาวนั ในชวี ติ ประจาวัน ตา่ ง ๆ ในชวี ติ และรบั ผิดชอบ แต่ต้องมกี ารเตือน แต่ตอ้ งมีการเตอื น ประจาวนั และ ในการทางานได้ เปน็ บางครงั เป็นสว่ นใหญ่ รับผดิ ชอบในการ ดว้ ยตนเอง ทางาน ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชีวัดท่ี ๔.๑ ตังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ๔.๑.๑ ตังใจเรียน ตงั ใจเรยี น เอาใจ ตงั ใจเรียน เอาใจ ตังใจเรียน เอาใจ ไม่ตังใจเรยี น ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วาม ใส่และมีความ ใส่และมคี วาม ใส่และมีความ เพียรพยายามในการ เพียรพยายามใน เพียรพยายามใน เพยี รพยายามใน เรยี นรู้ การเรยี นรู้ เข้าร่วม การเรียนรู้ เข้าร่วม การเรยี นรู้ เขา้ รว่ ม ๔.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรม กจิ กรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน การเรียนรู้ตา่ ง ๆ ร้ตู า่ ง ๆ เป็น รตู้ า่ ง ๆ บอ่ ยครงั ร้ตู า่ ง ๆ บางครัง ประจา
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๐๒๗ มุ่งมั่นในการทางาน ตวั ชีวัดที่ ๖.๑ ตงั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทกี่ ารงาน พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ๖.๑.๑ เอาใจใส่ตอ่ การ ตงั ใจและรบั ผดิ ชอบ ตงั ใจและรบั ผิดชอบ ตงั ใจและรบั ผิดชอบ ไม่ตังใจปฏิบตั ิ ปฏบิ ัติหน้าท่ที ไ่ี ด้ ในการปฏบิ ตั ิ ในการปฏบิ ตั ิ ในการปฏบิ ัติ หนา้ ท่กี ารงาน รับมอบหมาย หน้าทท่ี ่ีได้รบั หนา้ ท่ที ไ่ี ด้รบั หน้าท่ที ไ่ี ดร้ บั ๖.๑.๒ ตังใจและรบั ผิดชอบ มอบหมายให้ มอบหมายให้ มอบหมายให้ ในการทางานให้ สาเรจ็ มีการ สาเรจ็ มีการ สาเร็จ สาเรจ็ ปรบั ปรงุ และ ปรบั ปรงุ การ ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และพฒั นา พัฒนาการทางาน ทางานใหด้ ีขนึ การทางานดว้ ย ให้ดีขึนดว้ ยตนเอง ตนเอง ตัวชวี ดั ที่ ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเย่ียม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผ่าน (๐) ไมข่ ยัน อดทน ๖.๒.๑ ทุม่ เททางาน อดทน ทางานดว้ ยความ ทางานด้วยความ ทางานดว้ ยความ ในการทางาน ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ ปญั หา ขยนั อดทน ไมย่ อ่ ขยนั อดทน ขยัน พยายามให้ และอุปสรรค ท้อต่อปญั หา ใน พยายามให้งาน งานสาเร็จตาม ในการทางาน การทางาน สาเรจ็ ตาม เป้าหมาย ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ญั หา พยายามใหง้ าน เปา้ หมาย และอปุ สรรคใน สาเร็จตาม ชนื่ ชม ผลงานดว้ ย การทางานให้สาเรจ็ เป้าหมาย ช่นื ชม ความภาคภมู ิใจ ๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงานดว้ ย ผลงานด้วยความ ความภาคภูมิใจ ภาคภมู ใิ จ
๑๐๒๘ คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1 เร่อื ง การอ่านข้อความทีเ่ ปน็ การบรรยายและพรรณนา หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรื่อง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนิน ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น ตวั ชว้ี ดั ป.๕/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่เี ปน็ การบรรยายและการพรรณนา ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านข้อความที่เป็นการบรรยาย และการพรรณนา ต้องเข้าใจความหมายของคา ประโยคและ ข้อความ จะช่วยให้อ่านได้อยา่ งถกู ตอ้ ง คล่องแคลว่ ทาให้เข้าใจความหมายของข้อความหรอื เร่ืองที่อ่านและ นาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกลกั ษณะข้อความทเี่ ป็นการบรรยายและพรรณนาได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) อา่ นข้อความทเี่ ป็นการบรรยายและพรรณนาได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มนี สิ ัยรักการอา่ น ๔. สาระการเรยี นรู้ - การอา่ นขอ้ ความที่เปน็ การบรรยายและพรรณนา ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรอื่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท การจัดกจิ กรรมการเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เรือ่ ง ราชาธิราช ต รายวชิ า ภาษาไทย แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง การอา่ นข ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเน้ือหา ข้ันนา 5 1. ครูให้นักเรยี นอ่านข 1. ลักษณะขอ้ ความ นาที ตัดตอนมาจากวรรณคด ราชาธิราช ตอน กาเนดิ ที่เป็นบรรยายโวหาร ดงั นี้ และพรรณนาโวหาร 2. การอา่ นขอ้ ความท่ี เป็นการบรรยายและ “มะกะโทเปน็ บตุ รม พรรณนา ผเู้ ป็นพอ่ ค้าใหญอ่ ยู่บา้ น แขวงเมืองเมาะตะมะ แ มะกะโทน้ันมนี ้องหญงิ ชอ่ื นางอุ่นเรอื น นอ้ งชา อุ่นเรอื น ช่อื มกั กะตา ม อายุสิบสส่ี บิ ห้าปี” 2. ครตู ้งั คาถามกระต้นุ ค ดงั น้ี ครู : ขอ้ ความทีน่ ักเรยี น ข้างต้นมลี กั ษณะอย่างไ ครู : นกั เรียนอ่านแล้วเ ความหมายหรือไม่ อย
๑๐๒๙ นรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ตอน กาเนิดมะกะโท จานวน 11 ชวั่ โมง ข้อความทเี่ ปน็ การบรรยายและพรรณนา จานวน 1 ชว่ั โมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ กจิ กรรมนักเรยี น ข้อความท่ี 1. นกั เรยี นรว่ มกันอา่ น - ขอ้ ความทต่ี ดั ดเี รอ่ื ง ข้อความทตี่ ัดตอนมาจาก ตอนมาจาก ดมะกะโท วรรณคดีเรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน วรรณคดเี ร่ือง กาเนิดมะกะโท ดังน้ี ราชาธิราช ตอน มะปะนาย “มะกะโทเป็นบุตรมะปะนาย กาเนดิ มะกะโท นเกาะวาน ผูเ้ ป็นพ่อค้าใหญอ่ ยบู่ ้านเกาะ และ วาน แขวงเมอื งเมาะตะมะ และ งคนหนง่ึ มะกะโทน้ันมีน้องหญงิ คนหนง่ึ ายถดั จาก ชอ่ื นางอุ่นเรอื น น้องชายถัด มะกะโทมี จากอุ่นเรือน ช่ือมักกะตา มะกะโทมีอายสุ บิ ส่สี บิ หา้ ปี” ความคดิ 2. นักเรยี นรว่ มกันตอบคาถาม - คาถาม - สงั เกตการตอบ นอ่าน ซึ่งอาจตอบไดห้ ลากหลายตาม อยู่ในสื่อ PPT คาถามของ ไร ความเข้าใจของนักเรยี น นกั เรียน เขา้ ใจ ยา่ งไร
๑๐๓๐ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู 2. 3. ครแู สดงความคดิ เห ขน้ั สอน 20 ท้าย และแจ้งจดุ ประสง นาที การเรียนรู้ จากนน้ั เช่อื เขา้ ส่เู น้อื หาในบทเรียน 1. ครูตง้ั คําถามชวนคิด ครู : นักเรียนคิดว่าขอ้ ค อา่ นในขั้นนําเขา้ สูบ่ ทเรีย นั้น เปน็ ขอ้ ความประเภ (โดยคาดเดาก่อน) ก. ประเภทบรรยาย ข. ประเภทพรรณน 2. จากนนั้ ครยู งั ไมเ่ ฉล แตใ่ หน้ ักเรยี นช่วยกนั ร ความคิดตอ่ ไป โดยการ นกั เรียนทุกกลมุ่ อภิปรา จากการศกึ ษาใบความ การอา่ นขอ้ ความทเี่ ปน็ บรรยายและพรรณนา 3. เมอื่ นักเรียนอภิปรา เสรจ็ แลว้ จากน้นั ครถู า
มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น หน็ สรุป 3. นักเรยี นเขา้ สบู่ ทเรียน งค์ อมโยง น ด ดังนี้ 1. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั - คาํ ถามอย่ใู น - สังเกตการตอบ ความที่ คิดหาคาํ ตอบ โดยระดม สอื่ PPT คําถามของ ยนขา้ งต้น ความคดิ ภายในกลุ่มเพ่อื นักเรียน ภทใด วเิ คราะห์วา่ ข้อความที่อา่ น ขา้ งต้นในขัน้ นาํ เขา้ สู่บทเรยี น ยโวหาร นนั้ เป็นข้อความประเภทใด นาโวหาร ลยคาํ ตอบ 2. นกั เรียนระดมความคิด - ใบความรทู้ ่ี 1 ระดม โดยการอภิปรายภายในกลมุ่ เรือ่ ง การอา่ น รให้ ด้วยการศึกษาจากใบความรู้ ข้อความท่เี ป็น ายความรู้ ที่ 1 การบรรยายและ มรทู้ ี่ 1 พรรณนา นการ ายความรู้ 3. นักเรยี นตอบคําถาม โดย - ใบความรู้ท่ี 1 ามคาํ ถาม สามารถตอบได้ถูกต้อง เพราะ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๗ เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน กําเนดิ มะกะโท ลาํ ดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู จดุ ประสงค์ นกั เรยี นอีกคร้ังวา่ ข้อค การเรยี นรู้ อ่านในข้นั นําเขา้ สู่บทเร 1. บอกลกั ษณะ เป็นข้อความประเภทใด ข้อความบรรยายและ พรรณนาได้ 4. ครใู ห้นกั เรยี นพดู สร ความหมายและลักษณ ขอ้ ความทเ่ี ป็นการบรร โวหารและพรรณนาโวห 5. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมเก การอา่ นข้อความทีเ่ ป็น การบรรยายและพรรณ 6. จากนนั้ ครยู กตวั อย ขอ้ ความท่ีเป็นบรรยาย และพรรณนาโวหาร มา นักเรยี นฝึกอา่ นและอธ ความหมาย ดงั น้ี
แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ ๑๐๓๑ กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมิน การเรียนรู้ ความท่ี ไดศ้ ึกษาอภิปรายความรจู้ าก รยี นนนั้ ใบความรทู้ ี่ 1 เรยี บรอ้ ยแลว้ ด รุป 4. นักเรยี นพูดสรปุ ความหมาย 1. ประเมนิ ณะของ ของขอ้ ความทเี่ ปน็ การตอบคําถาม รยาย การบรรยายโวหารและ พรรณนาโวหารท่ไี ดจ้ าก หาร การศกึ ษาจากใบความรทู้ ี่ 1 เร่ือง การอา่ นขอ้ ความท่ีเปน็ การบรรยายและพรรณนา กย่ี วกับ 5. นกั เรียนฟังครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม น เกย่ี วกับการอ่านข้อความท่ี ณนา เป็นการบรรยายและพรรณนา ยา่ ง 6. นกั เรียนดูตวั อย่างและ ยโวหาร รว่ มกันอ่านขอ้ ความท่ีเปน็ บรรยายโวหารและพรรณนา าให้ โวหาร ดังนี้ ธิบาย
๑๐๓๒ คู่ม ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู บรรยายโวหาร “วรรณคดเี รือ่ ง ราช ตอน กาเนดิ มะกะโท เป วรรณคดีร้อยแก้วเร่ืองห เจ้าพระยาพระคลงั (ห และเรียบเรียงมาจากพ มอญ เปน็ เรื่องท่คี นไทย ดี” พรรณนาโวหาร “ทอ้ งทะเลนน้ั สวยง ยามเย็นมลี มพดั เฉือ่ ย ๆ คลื่นนา้ ซดั มาเปน็ ระลอ ใหใ้ จดวงน้ยี ง่ิ เหงาเพมิ่ ข ระดบั หนึ่ง” 7. ครอู ธบิ ายความหมา ข้อความข้างตน้ ให้นักเร
มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น บรรยายโวหาร - แถบขอ้ ความ ชาธริ าช “วรรณคดีเรือ่ ง ราชาธริ าช บรรยายโวหาร ปน็ ตอน กาเนิดมะกะโท เปน็ หนึง่ ท่ี วรรณคดรี ้อยแก้วเรอ่ื งหน่ึงที่ หน) แปล เจา้ พระยาพระคลงั (หน) แปล พงศาวดาร และเรยี บเรียงมาจาก ยรจู้ กั กนั พงศาวดารมอญ เป็นเรือ่ งทีค่ น ไทยรู้จักกนั ดี” งามยง่ิ นกั พรรณนาโวหาร - แถบข้อความ ๆ และมี “ท้องทะเลนัน้ สวยงามยงิ่ พรรณนาโวหาร อก ๆ ทา ขนึ้ ไปอกี นกั ยามเยน็ มลี มพดั เฉอ่ื ย ๆ และมีคลน่ื นา้ ซัดมาเป็นระลอก ๆ ทาให้ใจดวงนย้ี งิ่ เหงาเพมิ่ ขึ้น ไปอีกระดบั หนงึ่ ” ายของ 7. นักเรยี นฟงั ครูอธิบาย รยี นฟงั ความหมายของข้อความ ข้างตน้ และสนทนาแสดง ความคดิ เหน็ ร่วมกนั
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ เร่อื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู 3. 2. อา่ นขอ้ ความทเ่ี ป็น ขั้นปฏิบตั ิ 15 8. ครูช้แี จงการทางานแล การบรรยายและ นาที นักเรยี นทากจิ กรรมในใ พรรณนาได้ การอ่านข้อความทเ่ี ป็น 3. ใฝ่เรียนรูแ้ ละมี การบรรยายและพรรณ นิสยั รักการอา่ น (ครูขึน้ กจิ กรรมในจอ P นักเรียนทากจิ กรรมกา ขอ้ ความทเ่ี ปน็ การบรร พรรณนา) 9. ครปู ระเมินและสรปุ กิจกรรมการอ่านขอ้ คว การบรรยายและพรรณ 4. ข้ันสรปุ 5 1. ครูต้งั คาถามเพอ่ื สร นาที ครู : นกั เรียนสามารถส ความรู้จากการเรยี นใน ไดว้ ่าอยา่ งไร 2. ครูสรปุ ความรเู้ รอื่ ง ข้อความทเ่ี ปน็ การบรร พรรณนา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 610
Pages: