Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5.-3

64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5.-3

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:54:45

Description: 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5.-3

Search

Read the Text Version

๗๕๘ คูม่ ือ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร 3. 2. แยกข้อเท็จจรงิ และ ข้ันปฏิบัติ 6. ครูอธิบายเพม่ิ เติม ข้อคดิ เห็นจากเรื่องที่ ขยายความเข้าใจเกี่ย อา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง หลักการวเิ คราะห์ข้อ 3. มวี นิ ัยและใฝเ่ รยี นรู้ และข้อคดิ เห็น 7. ครยู กตัวอยา่ งปร เป็นข้อเท็จจรงิ และป เป็นขอ้ คดิ เห็น 15 8. ครพู ูดช้ีแจงและอ นาที วธิ ีการทางานใหน้ กั เ และกาหนด ใหน้ กั เ ใบงานที่ 5

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ มีความสมเหตสุ มผล วิเคราะหข์ อ้ คดิ เหน็ คือ เปน็ การแสดงความรสู้ กึ การคาด เดา/คาดคะเน เปรียบเทียบ เสนอแนะ หรือแสดงความ คิดเหน็ ของผพู้ ดู มเพอ่ื 6. นกั เรียนฟงั ครูอธิบาย 2. ตรวจใบงาน ยวกับ เกี่ยวกบั หลกั การวเิ คราะห์ 3. สงั เกต อเทจ็ จรงิ ขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็น พฤติกรรม ของนักเรยี น ระโยคที่ 7. นักเรยี นร่วมกันดูตวั อยา่ ง ประโยคท่ี ท่ีครยู กมาจากนน้ั ช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นและตอบ คาถาม อธบิ าย 8. นกั เรียนฟงั ครอู ธิบาย - ใบงานท่ี 5 เรยี นฟงั วิธีการทางานจากนนั้ ทาใบ เรยี นทา งานที่ 5

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร (ครขู ึ้นกจิ กรรมในจอ ว่า : นกั เรียนทาใบง การแยกข้อเทจ็ จรงิ แ ข้อคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท 9. ครูเฉลยใบงานท่ี นกั เรียนตรวจสอบรว่ จากนั้นครูพานกั เรยี กิจกรรม 4. ขน้ั สรปุ 5 1. ครูให้นักเรยี นสรปุ นาที เร่ือง การแยกข้อเทจ็ ขอ้ คดิ เห็น ด้วยการต คาถามทาเปน็ แผนภ ความคดิ บนกระดาน 2. ครูตง้ั คาถามสรปุ อ ครู : นกั เรียนจะนาค ไดไ้ ปปรบั ใช้ในชีวิตป ได้อยา่ งไรบ้าง

๗๕๙ แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น - สอ่ื PPT การเรยี นรู้ อ PPT (นักเรียนทั้งต้นทางและ งานท่ี 5 ปลายทางทาใบงานท่ี 5 และ พรอ้ มกนั ) ทอี่ ่าน) 5 9. นกั เรยี นดเู ฉลยและตรวจ วมกัน ใบงานไปพร้อมกัน จากน้นั ยนสรปุ สรปุ กิจกรรม ปความรู้ 1. นักเรียนสรปุ ความรเู้ รอ่ื ง - สื่อ PPT จจริงและ การแยกข้อเท็จจรงิ และ ตอบ ขอ้ คิดเห็น ด้วยการตอบ ภาพ คาถามและทาเปน็ แผนภาพ น ความคดิ บนกระดาน อกี ครัง้ ว่า 2. นักเรยี นร่วมกนั ตอบ - คาถาม - สงั เกตการตอบ ความร้ทู ่ี คาถามเพ่อื สรปุ และนา คาถามของ ประจาวัน ความรทู้ ่ีได้ไปปรบั ใช้ใน นักเรยี น ชีวิตประจาวนั

760 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สือ่ การเรียนรู/้ แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง การแยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ 2. ใบงานท่ี 5 เรื่อง การแยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งทอ่ี ่าน 3. สื่อ PPT เร่ือง การแยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็น 4. แถบประโยค 3 ประโยค 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ 5 เรื่อง การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื งทีอ่ ่าน ส่ิงท่ีตอ้ งการวดั / ประเมิน วธิ กี าร เคร่อื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาจากการตอบ - บอกหลกั การแยกข้อเทจ็ จรงิ คาถามของนักเรียน - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ และขอ้ คิดเหน็ จากเรือ่ งที่อ่าน - ตรวจใบงานท่ี 5 เรื่อง ข้ึนไป ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) การแยกข้อเท็จจรงิ และ - แยกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เห็น ข้อคดิ เห็นจากเรอื่ ง - แบบประเมินการแยก ร้อยละ ๖๐ จากเร่อื งท่ีอ่าน ท่ีอ่าน ข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ขนึ้ ไป จากเรอ่ื งทีอ่ ่าน ด้านคุณลักษณะ เจตคติ - สงั เกตพฤติกรรม ค่านิยม (A) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๖๐ - มวี ินัยและใฝ่เรยี นรู้ - สังเกตพฤตกิ รรม ข้นึ ไป นกั เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่อื สาร นักเรยี น สาคญั ของผเู้ รียน ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชวี ติ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่ือง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ 761 เกณฑ์ประเมนิ : การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเร่ืองทีอ่ า่ น ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ 1. การแยก ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ข้อเทจ็ จรงิ แยกขอ้ เทจ็ จริง 2. การแยก แยกขอ้ เทจ็ จรงิ จาก แยกขอ้ เทจ็ จรงิ จาก - ไม่ไดเ้ ลย ขอ้ คิดเหน็ เรื่องทอ่ี า่ นได้ เรือ่ งท่ีอ่านได้ วิเคราะห์ ถกู ต้องทง้ั 2 ข้อ ถกู ต้องเพยี ง 1 ขอ้ ข้อคดิ เหน็ ไมไ่ ด้ 3. การแต่งประโยค เลย ที่เป็นขอ้ เทจ็ จริง วิเคราะหข์ ้อความที่ วเิ คราะห์ขอ้ ความท่ี - 4. การแต่งประโยค เปน็ การแสดง เป็นการแสดง แต่งประโยคท่ี ท่เี ป็นข้อคิดเห็น ความคิดเห็นจาก ความคิดเหน็ จาก เป็นข้อเทจ็ จรงิ 5. ความสะอาด เรอื่ งทอ่ี ่านได้ เรอ่ื งท่ีอา่ นได้ ไม่ถกู ตอ้ งเลย เรยี บร้อย ตรงตอ่ ถูกตอ้ งทั้ง 2 ขอ้ ถกู ต้องเพียง 1 ขอ้ แต่งประโยคท่ี เวลา เป็นขอ้ คิดเห็น แตง่ ประโยคทเ่ี ปน็ แต่งประโยคท่ีเปน็ - ไม่ถกู ต้องเลย ข้อเท็จจรงิ ได้ ขอ้ เทจ็ จรงิ ได้ ใบงานไมส่ ะอาด ถูกตอ้ งทง้ั 2 ถูกต้องเพียง 1 ขาดความเปน็ ประโยค ประโยค ระเบียบเรียบรอ้ ย ส่งงานไม่ตรงเวลา แตง่ ประโยคทีเ่ ปน็ แตง่ ประโยคทเี่ ปน็ - ขอ้ คิดเห็นได้ ขอ้ คดิ เห็นได้ ถกู ตอ้ งทั้ง 2 ถกู ตอ้ งเพยี ง 1 ประโยค ประโยค ใบงานสะอาด ใบงานสะอาด ใบงานไม่คอ่ ย มีความเรียบร้อย มีความเรยี บร้อย สะอาด และ ส่งงานตรงเวลา เปน็ สว่ นใหญบ่ ้าง เรยี บรอ้ ย สง่ งาน สง่ งานตรงเวลา ชา้ กวา่ ท่กี าหนด เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กว่า 12 ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใช้ขึน้ ไป) แบบประเมินการแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นจากเรือ่ งท่ีอ่าน

762 คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) คาชแ้ี จง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ ผลการทางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในช่องท่ีกาหนดให้ ลาดับ ชือ่ - สกุล คะแนน คิดเป็น สรปุ ผล ท่ี ท่ไี ด้ รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเป็นร้อยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... สรุปผลการประเมินรายชั้นเรยี น  นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ.......................  นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมอื นสินค้า 763 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสาเร็จ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ................................................................................................................................. ............................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

764 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรูท้ ี่ 5 เรอ่ื ง การแยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ การวิเคราะห์เนื้อหาสาระของการอ่านนัน้ จะตอ้ งรู้วา่ อะไรเปน็ ใจความสาคัญของเรื่องอะไรเป็นเน้ือหา หลัก เนื้อหารอง ตอนใดเป็นใจความท่ีแสดงเหตุและผล ข้อเท็จจริง ความคิดเห็นในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ ความคดิ ความรู้ และประสบการณ์ เพ่อื พิจารณาวา่ เรื่องนัน้ และเรื่องมคี วามสมเหตุสมผลและมคี วามถูกต้อง หรอื ไม่ มากนอ้ ยเพียงใดโดยมีหลกั ในการพิจารณา ดงั น้ี ลักษณะขอ้ เทจ็ จรงิ ลกั ษณะขอ้ คดิ เห็น ๑. มีความเป็นไปได้ ๑. เปน็ ข้อความที่แสดงความรสู้ กึ ๒. มีความสมจริง ๒. เป็นขอ้ ความทแ่ี สดงความคาดคะเน ๓. มีหลกั ฐานเชอ่ื ถือได้ ๓. เป็นข้อความท่แี สดงการเปรียบเทยี บ อุปมาอปุ มยั ๔. มคี วามสมเหตุสมผล ๔. เปน็ ข้อความท่เี ป็นขอ้ เสนอแนะหรือเปน็ ความคิดเห็นของผพู้ ูดเอง ตัวอย่างประโยคทเี่ ป็นข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ ประโยคทเ่ี ป็นข้อเทจ็ จรงิ ประโยคทเ่ี ป็นข้อคดิ เห็น ๑. จงั หวัดนา่ นอยู่ทางภาคเหนือของไทย ๑. จังหวัดนา่ นมีภมู ปิ ระเทศทสี่ วยงามน่าอยู่ ๒. โลมาเปน็ สัตวเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยนม ๒. โลมาเปน็ สัตว์น่ารักทีช่ อบหอมแกม้ คน ๓. ผักบงุ้ จีนมีลาต้นอวบกวา่ ผักบุง้ ไทย ๓. ถ้าเรากินผกั บงุ้ จะทาใหต้ าหวาน ๔. แมวมีฝเี ท้าเบามาก ๔. คนทเี่ ชอ่ื ถือโชคลาง เชอื่ ว่าแมวเป็นสตั วล์ กึ ลบั 5. น้าทะเลมีรสเคม็ 5. ทะเลมคี วามสวยงาม 6. ประเทศไทยมภี าษาไทยเปน็ ภาษาประจาชาติ 6. ประเทศไทยมรี ูปร่างเหมอื นกระบวยตกั นา้ 7. ตลาดนา้ อมั พวาอย่ใู นจงั หวัดสมทุ รสงคราม 7. ตลาดนา้ อมั พวาน่าทอ่ งเท่ยี วทส่ี ดุ แลว้ 8. คนอสี านส่วนใหญ่กินข้าวเหนยี วเป็นอาหารหลัก 8. ข้าวเหนยี วมรี สชาตอิ ร่อยมาก 9. กลว้ ยเป็นพชื ใบเลีย้ งเด่ยี ว 9. กลว้ ยเป็นผลไม้ท่ีคนไทยนิยมรบั ประทาน 10. พระอาทิตย์ขึน้ ทางทิศตะวันออก 10. พระอาทติ ยม์ ีสที ่ีสวยงาม

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ เร่ือง วชิ าเหมอื นสนิ ค้า 765 การวิเคราะห์ข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่อื งทอ่ี ่าน ตวั อยา่ งเรือ่ ง การตกั บาตร วิถีชีวิตคนไทยผูกพันกับวัดและพระสงฆ์ รวมทั้งคุ้นเคยกับการทาบุญตักบาตร พระสงฆ์จะมารับ บิณฑบาตในตอนเช้า เรานิยมตกั บาตรเพื่อเสริมบุญใหต้ นเอง และเช่อื ว่าการตักบาตรเป็นการสะสมบญุ ไว้กอ่ น ตาย ข้ันตอนการตักบาตร คือ เตรียมอาหารคาวหวาน ดอกไม้สด ขณะพระสงฆ์รบั บาตรผตู้ ักบาตรตอ้ งถอด รองเท้า ตักข้าวก่อนตามด้วยกับข้าวและของหวาน เมื่อพระปิดฝาบาตรให้วางดอกไม้ แล้วนั่งพนมมอื รบั พร จากพระ ตารางการแยกประโยคทีเ่ ป็นข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื ง การตกั บาตร ข้อเท็จจริง ความคดิ เห็น ๑. คนไทยผูกพนั กบั วดั และพระสงฆ์ ๑. พระสงฆม์ ารบั บิณฑบาตในชว่ งเชา้ ๒. การตกั บาตรทาเพอ่ื เสรมิ บญุ และสะสมบญุ ไวก้ ่อน ๒. ขั้นตอนการตักบาตร คอื เตรยี มอาหารคาว ตาย หวาน ดอกไมส้ ด ผ้ตู กั บาตรต้องถอดรองเท้า ตักข้าวกอ่ นตามด้วยกับข้าวและของหวาน ผลไม้ และนง่ั พนมมอื รับพรจากพระ

766 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 5 เร่ือง การแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรื่องท่อี า่ น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นอ่านและวเิ คราะหข์ อ้ เท็จจรงิ และความคิดเหน็ จากเร่ืองท่กี าหนดให้ ขา่ วเรือ่ ง “การดโู ทรทศั น์จะบรโิ ภคอาหารมากกว่าเดมิ ” การดูโทรทัศน์เป็นหน่ึงปัจจัยที่คนเราชอบและการดูโทรทัศน์ก็ถูกกลา่ วโทษอาจเปน็ สาเหตุที่ทาให้ “อ้วน” ซ่ึงคากล่าวนี้ก็ไม่ได้เกินจริงมากนัก เพราะเช่ือว่าทุกคนต้องแอบกินจุบจิบระหว่างที่ดูไปด้วย ไม่เพียงเท่าน้ัน ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยในอเมริกา ยังพบอีกว่า ประเภทของรายการโทรทัศน์ ข่าวต่าง ๆ ก็มีผลต่อการบริโภคเช่นกัน ผลการวิจัยดังกล่าว พบว่า ผู้ท่ีชมโทรทัศน์ประเภทรายการ ภาพยนตร์มีแนวโน้มท่ีจะทาให้อ้วนมากขึน้ การศึกษาได้เปรยี บเทียบกลุ่มตัวอย่าง โดยให้ชมภาพยนตร์ เปรียบเทียบกับรายการทีวีท่ีเป็นสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มที่ดูภาพยนตร์จะรับประทานอาหารและขนม ขบเค้ียวมากกว่าถึงสองเทา่ เลยทีเดียว ซ่งึ คาดว่าจะนาไปสูค่ วามอว้ นในทีส่ ุด ตอบคาถาม 1. เขยี นประโยคทเ่ี ปน็ ข้อเท็จจรงิ จากขา่ วมา 2 ประโยค ประโยคที่ 1 คือ.............................................................................................................................. ประโยคที่ ๒ คือ.............................................................................................................................. ๒. เขียนประโยคที่เป็นความคิดเห็นจากข่าวมา 2 ประโยค ประโยคท่ี 1 คือ.............................................................................................................................. ประโยคที่ ๒ คือ.............................................................................................................................. แตง่ ประโยค ๑. แต่งประโยคทีเ่ ปน็ ข้อเท็จจรงิ มา 2 ประโยค ประโยคท่ี 1 คือ.............................................................................................................................. ประโยคท่ี ๒ คอื .............................................................................................................................. ๒.. แตง่ ประโยคท่เี ปน็ ความคิดเห็นมา 2 ประโยค ประโยคที่ 1 คอื .............................................................................................................................. ประโยคที่ ๒ คอื .............................................................................................................................. ชอ่ื .........................................................นามสกุล....................................................ชน้ั ............เลขที่...........

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วชิ าเหมือนสนิ คา้ 767 แนวคาตอบใบงานที่ 5 เรอื่ ง การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรอื่ ง การแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็น รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้ีแจง ให้นักเรยี นอา่ นและวเิ คราะหข์ ้อเท็จจรงิ และความคิดเหน็ จากเรอื่ งทก่ี าหนดให้ ขา่ วเร่อื ง “การดโู ทรทัศนจ์ ะบริโภคอาหารมากกว่าเดิม” การดโู ทรทศั น์เปน็ หนึ่งปจั จยั ที่คนเราชอบและการดูโทรทศั นก์ ็ถูกกล่าวโทษอาจเป็นสาเหตุท่ีทาให้ “อ้วน” ซึ่งคากล่าวน้ีก็ไม่ได้เกินจริงมากนัก เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องแอบกนิ จุบจิบระหว่างที่ดูไปด้วย ไม่เพียงเท่าน้ัน ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยในอเมริกา ยังพบอีกว่า ประเภทของรายการโทรทัศน์ ข่าวต่าง ๆ ก็มีผลต่อการบริโภคเช่นกัน ผลการวิจัยดังกล่าว พบว่า ผู้ท่ีชมโทรทัศน์ประเภทรายการ ภาพยนตรม์ แี นวโน้มท่จี ะทาใหอ้ ว้ นมากข้นึ การศึกษาไดเ้ ปรยี บเทยี บกลุม่ ตวั อยา่ ง โดยให้ชมภาพยนตร์ เปรียบเทียบกับรายการทีวีที่เป็นสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มท่ีดูภาพยนตร์จะรับประทานอาหารและขนม ขบเค้ยี วมากกวา่ ถงึ สองเท่าเลยทีเดียว ซึง่ คาดวา่ จะนาไปสู่ความอ้วนในทส่ี ุด ตอบคาถาม 1. เขยี นประโยคทเี่ ป็นข้อเทจ็ จรงิ จากข่าวมา 2 ประโยค ประโยคที่ 1 คอื ผลการวจิ ัยพบว่า ผทู้ ีช่ มโทรทศั นป์ ระเภทภาพยนตร์มีแนวโนม้ ทจี่ ะทาใหอ้ ว้ นมากขึน้ ประโยคที่ ๒ คอื ผลการวจิ ยั จากอเมริกาพบว่า ประเภทของรายการโทรทศั นม์ ีผลตอ่ การบริโภค ๒. เขยี นประโยคทเี่ ปน็ ความคดิ เห็นจากขา่ วมา 2 ประโยค ประโยคท่ี 1 คือ การดูโทรทศั นเ์ ป็นหนง่ึ ปจั จยั ทคี่ นเราชอบ ประโยคที่ ๒ คอื การดูโทรทัศนก์ ถ็ กู กล่าวโทษอาจเปน็ สาเหตทุ ที่ าให้ “อว้ น” แต่งประโยค ๑. แต่งประโยคที่เป็นขอ้ เท็จจรงิ มา 2 ประโยค ประโยคท่ี 1 คือ แมวเปน็ สตั วบ์ ก มีสข่ี า เลย้ี งลูกดว้ ยนม ออกลูกเป็นตัว ประโยคท่ี ๒ คือ เสือเปน็ สัตว์สข่ี า เล้ียงลกู ดว้ ยนม มเี ค้ยี วแหลมคม การตรวจประโยค ๒. แต่งประโยคทเี่ ปน็ ความคิดเห็นมา 2 ประโยค ประโยคท่ี 1 คอื แมวเปน็ สตั ว์ท่ีนา่ รัก ทน่ี กั เรียนแตง่ ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ประโยคที่ ๒ คือ เสือมีนสิ ัยดรุ ้ายมากกว่าสิงโต ของครู

๗๖๘ คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่อื ง การพดู แสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ งั และดอู ยา่ งมีเหตผุ ล หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรื่อง วิชาเหมอื นสนิ ค้า เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชวี้ ัด ป.๕/๑ พูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรู้สกึ จากเร่ืองทีฟ่ งั และดู ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การพูดแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล ต้องฟังและดูอย่างตั้งใจ จับใจความ สังเกตและพิจารณาข้อเท็จจรงิ ขอ้ คิดเหน็ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ จึงจะสามารถพดู แสดงความคดิ เห็น ได้อย่างมเี หตุผล ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การพดู แสดงความคิดเห็นจากเรื่องทฟี่ งั และดูอย่างมเี หตุผลได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) พูดแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งท่ีฟงั และดูอยา่ งมีเหตุผลได้ 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๔. สาระการเรยี นรู้ การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทฟ่ี งั และดูอยา่ งมีเหตผุ ล ๕. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสินค้า การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 เรื่อง การพดู แสดงความคดิ เห ลาํ ดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเน้อื หา - การพูดแสดง ขั้นนาํ 10 1. ครูนํานักเรยี นสนท ความคิดเหน็ จากเร่อื ง นาที ทบทวนเกย่ี วกับเรอื่ ง ทฟ่ี งั และดอู ย่างมี ให้นักเรียนนกึ ถึงบคุ ค เหตผุ ล พูดจนเราเชื่อ ชนื่ ชอบ - ปญั ญา นริ นั ดรก์ ลุ - ซูโมก่ ิ๊ก (เกียรติ กจิ เ - สญั ญา คณุ ากร - ไตรภพ ลิมปพัทธ์ - เกลือวันเด้อ วาไรต้ี - พระมหาสมปอง - พระพะยอมกลั ยาโน - หมาํ่ เทง่ โหนง่ ฯลฯ 2. ครตู ั้งคําถามชวนค ครู : ทําไมคนพวกนีพ้ ชอบฟัง คนเชื่อ ช่นื ชอ

รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ๗๖๙ รอ่ื ง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ จํานวน 10 ชว่ั โมง หน็ จากเร่อื งทฟ่ี งั และดอู ยา่ งมเี หตผุ ล จํานวน 1 ชว่ั โมง การประเมิน การเรยี นรู้ แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ทนา 1. นักเรียนรว่ มกันสนทนา พดู เกี่ยวกบั เรอ่ื ง การแสดง ความคดิ เห็นจากเรอ่ื งตา่ ง ๆ คลทพ่ี ดู เก่ง เชน่ จากการอา่ น การฟัง และ บ เช่น การดู เจริญ) น 2. นกั เรียนแสดงความคดิ เห็น - คําถาม - สังเกตการตอบ ฯ เกีย่ วกบั การพูดทาํ ไมคนพวกน้ี อยใู่ นสอ่ื PPT คาํ ถามของ คดิ ดงั น้ี พูดแลว้ คนชอบฟงั คนเช่ือ นกั เรียน พดู แล้วคน ชน่ื ชอบ อบ

๗๗๐ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 3. จากนนั้ ครเู ปิดคลปิ นกั เรียนฟงั และดู เร่ือ ตา่ งดาว แล้วใหน้ ักเรีย ช่วยกันพดู แสดงความ 4. ครูพูดแสดงความค สรปุ ท้ายแล้วเข้าสู่บท 2. ขน้ั สอน 20 1. ครพู าสนทนาเกยี่ ว นาที หลกั การพดู แสดงควา วา่ เราจะมวี ธิ ีการพูดแ ความคิดเห็นกันอย่าง เพ่ือใหม้ ีเหตผุ ลและน 2. ครกู าหนดใหน้ กั เร อภิปรายความรภู้ ายใน เก่ียวกบั หลกั การพดู แ ความคิดเห็น

อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ นักเรียน : วธิ ีการพูดทท่ี าให้ - คลิปวดิ ีโอเรอื่ ง - สังเกตมารยาท คนชื่อถือเช่น พูดด้วยน้าเสยี ง มนษุ ยต์ า่ งดาว ในการฟงั และ สภุ าพ ไพเราะ พูดมเี หตผุ ล การดู สนุก นา่ สนใจ ไมต่ ดิ ขัดเป็นตน้ ปวดิ ีโอให้ 3. นกั เรียนชว่ ยกนั พดู แสดง อง มนษุ ย์ ความคดิ เห็น ยน มคิดเหน็ คดิ เห็น 4. นักเรยี นเข้าสู่บทเรยี น ทเรียน วกบั 1. นักเรียนสนทนาร่วมกันกบั ามคดิ เห็น ครู แสดง งไร นา่ เชื่อถอื รียน 2. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย - ใบความรูท้ ่ี 6 นกลมุ่ ความรูจ้ ากการศึกษาใบความรู้ แสดง ที่ 6

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสินคา้ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 3. ครูต้ังคาถามเพ่ือให วเิ คราะหห์ ลกั การพูดแ ความคดิ เหน็ จากเรอ่ื ง ดูอย่างเหตผุ ล ดงั นี้ ครู : การพูดแสดงควา คืออะไร 4. จากนน้ั ครถู ามตอ่ ไ ครู : หลักการพดู แสด ความคดิ เหน็ มอี ะไรบ 5. จากนน้ั ครูให้นกั เร ชว่ ยกนั สรุปหลกั การพ ความคดิ เห็น

๗๗๑ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ หน้ ักเรยี น 3. นกั เรียนช่วยกันตอบ - คาถาม - สงั เกตการตอบ แสดง คาถามจากการศกึ ษาใบ คาถามของ งทฟี่ งั และ ความรทู้ ่ี 6 ไดด้ งั นี้ นกั เรยี น ามคดิ เหน็ นกั เรียน : การพดู แสดง ความคิดเห็นเป็นการพูดชี้แจง ถงึ ขอ้ เทจ็ จริงหลกั การ เหตุผล ข้อสนั นิษฐาน ข้อวนิ ิจฉยั ขอ้ เสนอแนะ และการประเมิน คา่ เกยี่ วกับเร่ืองใดเรอื่ งหนงึ่ ไปว่า 4. นกั เรยี นตอบคาถาม ดงั นี้ - คาถาม - สังเกตการตอบ ดง นกั เรยี น : หลักการพดู แสดง คาถามของ บา้ ง ความคิดเหน็ จากเร่ืองท่ีฟงั นกั เรยี น และดู เช่น ตั้งใจฟงั พดู ตรง ประเด็น มมี ารยาทในการพดู และการฟงั รยี น 5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกัน พูดแสดง สรปุ หลกั การพดู แสดง ความคิดเห็น

๗๗๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 6. ครูเรียกใหต้ วั แทน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นําเสนอหลกั การพดู แ 1. บอกหลกั การพดู ความคิดเหน็ จากเรอ่ื ง แสดงความคิดเห็นจาก ดอู ยา่ งมเี หตผุ ล โดยก เรื่องท่ฟี งั และดอู ย่างมี ส้ัน ๆ เพ่ือสรา้ งความเ เหตุผลได้ ตรงกนั 7. จากน้นั ครปู ระเมนิ และพดู สรุปทา้ ยเพอ่ื ส ความเขา้ ใจทตี่ รงกันอ 8. ครูอธบิ ายความร้เู พ เกี่ยวกบั หลกั การพูดแ ความคิดเห็นจากเร่ือง ดูอยา่ งมีเหตผุ ล 9. ครยู กตวั อย่างบคุ ค แสดงความคิดเห็นไดอ้ วาทศิลป์ในการพูด (ย เลือกบคุ คล ตอ้ งรอดูแ

อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น 1. ประเมิน นมาพูด 6. นักเรียนท่เี ป็นตัวแทนพูด การสรุปหลักการ แสดง สรุปให้ออกมาพดู นาํ เสนอสรปุ งที่ฟงั และ หลักการพดู แสดงความคิดเห็น การพดู จากเร่ืองทีฟ่ ังและดูอยา่ งมี เขา้ ใจที่ เหตผุ ล หน้าชนั้ เรยี น นผลงาน 7. นกั เรยี นฟังครูพดู สรปุ สรา้ ง หลักการพูดแสดงความคดิ เห็น อีกครง้ั จากเรื่องที่ฟงั และดอู ยา่ งมี เหตุผลอีกครั้ง พ่ิมเติม 8. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนา - สอ่ื PPT แสดง และฟังหลักการพดู แสดง งท่ฟี งั และ ความคิดเห็นจากเรือ่ งท่ีฟัง และดอู ย่างมีเหตุผล เพอ่ื ขยาย ความเขา้ ใจ คลทพ่ี ดู 9. นักเรยี นดตู วั อย่างการพูด - ตัวอยา่ งการพูด อย่างมี แสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งที่ แสดง ยังไมไ่ ด้ ฟังและดูอยา่ งมเี หตุผล ความคดิ เห็น และ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เร่อื ง วิชาเหมอื นสินค้า ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร พิจารณาเกย่ี วกับเรอ่ื ง กอ่ น) 10. ครพู ูดเน้นย้าหลกั แสดงความคิดเห็นจาก ฟังและดูอย่างมเี หตผุ ประพนั ธ์ ท่ีทา่ นสนุ ทร ไวว้ ่า ดงั น้ี “เปน็ มนษุ ย์สดุ นิยมเพ จะได้ยากโหยหวิ เพราะ แม้นพดู ดีมคี นเขาเมตต จะพูดจาจงพเิ คราะห์ใหเ้ ห 11. ครสู รปุ ใหฟ้ ังว่า ก แสดงความคดิ เหน็ อะไ คิดวิเคราะหใ์ ห้ดแี ละร เพราะคาพูดสาคญั มาก ก็จะมีผคู้ นเมตตา ถา้ พ จะมีคนชงั และควรมมี การฟงั การดู และการ

๗๗๓ แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ งลิขสิทธิ์ จากน้ันฝกึ ปฏิบัตภิ ายในกลมุ่ ของตนเอง กการพดู 10. นกั เรยี นรว่ มกนั เนน้ ยา้ - คาประพันธ์ กเรือ่ งท่ี เรื่องหลักการพดู แสดงความ เรื่อง การคดิ ก่อน ผลด้วยคา คิดเห็นจากเรือ่ งทฟ่ี งั และดู พดู ของสุนทรภู่ รภูไ่ ด้แตง่ อยา่ งมีเหตุผลอกี คร้ังกอ่ นลง มือทากจิ กรรม พียงลมปาก ะชวิ หา ตา เหมาะความ” กอ่ นพดู 11. นักเรียนฟงั ครูพดู สรปุ ไรน้นั ควร จากคาประพนั ธ์ และการ รอบคอบ ปฏบิ ัติตนเก่ยี วกบั มารยาทใน ก ถ้าพดู ดี การฟัง การดู และการพูด พูดไม่ดีก็ มารยาทใน รพดู

๗๗๔ คู่มอื ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 3. 2. พูดแสดง ขน้ั ปฏบิ ัติ 10 8. ครชู ี้แจงการทากจิ นาที พดู แสดงความคิดเห็น ความคิดเหน็ จากเร่อื ง ฟังและดูอย่างมเี หตผุ ทีฟ่ ังและดูอย่างมเี หตุ ครเู ปดิ คลิปวิดีโอการ์ต ผลได้ เกษตรแบบผสมผสาน 3. มีมารยาทในการฟงั และต้งั คาถาม ดงั น้ี การดู และการพดู ครู : นักเรียนเหน็ ดว้ ย กับการทาเกษตรแบบ ผสมผสาน จากน้นั ให้นักเรยี น กลมุ่ เรมิ่ ทากจิ กรรม (ครูขึ้นกิจกรรมในจอ นักเรียนทากจิ กรรมก แสดงความคดิ เห็นจาก ฟงั และดอู ยา่ งมเี หตผุ 9. ครพู านกั เรียนสรปุ การพดู แสดงความคิด เรือ่ งทฟ่ี งั และดูอยา่ งม

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู้ จกรรมการ 8. นกั เรยี นฟงั ครูชีแ้ จงการทา - ส่อื PPT นจากเรื่องที่ กิจกรรมและดูคลปิ วิดีโอ ผล จากนน้ั เก่ยี วกับเรอ่ื ง เกษตรแบบ ตูนเรือ่ ง ผสมผสาน จากนน้ั รว่ มกนั น ของ ร.9 ตอบคาถาม ดังนี้ นกั เรียน : เห็นด้วย เพราะ...... ยหรือไม่ นักเรยี น : ไม่เหน็ ด้วย เพราะ..... บ นแตล่ ะ PPT ว่า : (นกั เรยี นทง้ั ตน้ ทางและปลาย - สอ่ื PPT 2. ประเมนิ การพูด ทางทากจิ กรรมการพูดแสดง การพดู กเร่ืองที่ ความคิดเหน็ จากเร่ืองที่ฟงั 3. สงั เกต ผล ) และดูอยา่ งมเี หตผุ ล) พฤตกิ รรม ของนกั เรียน ปกจิ กรรม 9. นกั เรียนสรปุ กจิ กรรม ดเหน็ จาก การพดู แสดงความคดิ เหน็ จาก มเี หตผุ ล เรอื่ งท่ีฟงั และดอู ย่างมเี หตผุ ล

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร 4. ขั้นสรปุ 5 1. ครูต้ังคาถามนักเรีย นาที ครู : การพูดแสดงควา ทด่ี ีมีหลกั การอย่างไรบ

๗๗๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรียน การเรียนรู้ ยนว่า 1. นักเรียนตอบคาถาม - คาถาม - สังเกตการตอบ ามคดิ เหน็ ตวั อย่างคาตอบอาจตอบได้ คาถามของ บา้ ง หลากหลาย นักเรียน นักเรียน : - กล่าวถงึ ความเดิม เหตกุ ารณ์ หรือการกระทาของบุคคล - ชใ้ี หเ้ ห็นข้อบกพร่องในเรอ่ื ง ดังกลา่ ว และผลเสียที่อาจจะ เกิดขน้ึ โดยยกตวั อยา่ ง บอก เหตผุ ล ข้ออ้างอิง ขอ้ โตแ้ ยง้ ตา่ ง ๆ มาอา้ งองิ คัดค้าน ถา้ สามารถใชเ้ หตผุ ลทางหลักวชิ า มาประกอบ จะทาให้ นา่ เช่อื ถือยง่ิ ขึ้น - เสนอแนวปฏิบัติท่ีดีกว่า เพอ่ื เปน็ การสรา้ งสรรค์ - จบดว้ ยการกล่าวย้าความคดิ อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ เชน่ ฝาก ความหวงั การเรยี กร้อง เชิญชวน

๗๗๖ ค่มู อื ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 2. ครูสรปุ การพูดแสด ความคดิ เหน็ จากเรื่อง ดอู ยา่ งมีเหตผุ ล ในสื่อ อีกครงั้ เพอ่ื เนน้ ยา้ ให รจู้ ักคดิ ใหด้ กี อ่ นพดู ว เนอื้ หาให้ถกู ตอ้ ง และ มารยาทในการฟัง การ การพูด 3. จากนั้น ครมู อบหม นกั เรียนไปทาการบ้าน ในใบงานท่ี 6

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรียน การเรยี นรู้ ดง 2. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้ - สอื่ PPT งท่ีฟงั และ การพดู แสดงความคิดเห็นจาก อ PPT เร่ืองที่ฟงั และดอู ยา่ งมเี หตผุ ล หน้ ักเรียน และนาความร้จู ากสง่ิ ทเ่ี รยี นไป วเิ คราะห์ ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ะมี ให้ถกู ต้องอย่างเหมาะสม ดว้ ย รดู และ การพดู แสดงความคิดเห็นอยา่ ง มเี หตผุ ล มายให้ 3. นักเรยี นนาใบงานที่ 6 ไป - ใบงานท่ี 6 นทบทวน ทาเป็นการบา้ นทบทวน

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสินค้า 777 8. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง การพดู แสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดูอยา่ งมเี หตผุ ล 2. ใบงานที่ 6 เร่ือง การพดู แสดงความคิดเหน็ จากเรอื่ งทฟ่ี งั และดอู ย่างมีเหตุผล 3. สอ่ื PPT เรื่อง การพูดแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งทฟ่ี ังและดอู ย่างมเี หตุผล 4. ตวั อยา่ งการพดู แสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งที่ฟงั และดอู ยา่ งมีเหตุผล 5. คาประพันธเ์ รื่อง การพดู ของสุนทรภู่ 6. คลิปวดิ โี อเร่ือง มนุษย์ตา่ งดาว 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน 1. การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรือ่ งที่ฟังและดูอย่างมีเหตผุ ล 2. ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งทฟ่ี งั และดูอย่างมีเหตุผล ส่ิงท่ีตอ้ งการวัด / ประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ข้นึ ไป บอกหลกั การพูดแสดงความคิดเห็น - พจิ ารณาจาก - แบบประเมนิ การพดู จากเรอื่ งทฟี่ งั และดูอยา่ งมเี หตผุ ล การตอบคาถามของ แสดงความคดิ เหน็ จาก รอ้ ยละ ๖๐ นกั เรียน เร่อื งท่ีฟงั และดูอยา่ งมี ขึ้นไป เหตผุ ล ด้านทกั ษะและกระบวนการ พูดแสดงความคิดเห็นจากเรื่องทฟ่ี งั - ประเมนิ การพูด และดูอย่างมีเหตผุ ล แสดงความคดิ เห็น จากเรือ่ งท่ีฟังและดู อย่างมีเหตุผล ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ มมี ารยาทในการฟงั การดู และ ผา่ น การพูด สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน - การสงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คาถาม ระดับคณุ ภาพ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร การตอบคาถาม - แบบประเมนิ การทางาน ผา่ น ๒. ความสามารถในการคดิ กลุ่ม

778 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การพดู แสดงความคิดเห็นจากเร่อื งที่ฟังและดูอย่างมเี หตผุ ล ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๑. การพดู แสดง ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ความรู้และ ความคดิ เห็น - พดู แสดงความรู้ ขาด ๑ องค์ ประกอบ ขาด ๒ องคป์ ระกอบ ขาด ๓ องค์ประกอบ และความคดิ เหน็ ๒. การนาเสนอ สัมพันธ์กบั เร่อื งทฟี่ ัง ข้อมูล และดู ๓. บุคลิกภาพ - แสดงเหตผุ ลและ ลีลาในการพดู ยกตวั อย่างชดั เจน - ใช้ภาษาถูกต้องกับ 4. มารยาทใน เร่ืองกาลเทศะและ การพูด เหตุการณ์ - พดู ฉะฉาน นา้ เสยี ง น่าฟงั พูดให้ขอ้ มลู ถูกตอ้ ง พูดให้ข้อมลู พดู ใหข้ ้อมลู ชัดเจน ไม่เตรียมการพดู สมบรู ณ์ เตรยี มตัว ค่อนข้างสมบูรณ์ และเตรียมตวั พดู ดี ขาดความพร้อม พดู เปน็ อยา่ งดี เตรยี มตวั พูด พอสมควร ในการพูด คอ่ นข้างดี แสดงออกอยา่ ง มีการแสดงออก มกี ารแสดงออก การแสดงออก เหมาะสม ใชน้ า้ เสียง อยา่ งเหมาะสมสม อยา่ งเหมาะสม ใช้ ไม่เหมาะสม ตรงึ ความสนใจของ ใช้นา้ เสียงตรงึ นา้ เสียงตรึงความ ไมน่ ่าสนใจ ผฟู้ ัง มสี มาธิ มัน่ ใจใน ความสนใจของ สนใจได้พอสมควร การพูด ผู้ฟังมีสมาธิและ ค่อนขา้ งมั่นใจใน การพูด - แนะนาตนเองกอ่ น ปฏบิ ตั ิได้ ๓ ข้อ ปฏิบัตไิ ด้ ๒ ข้อ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ตา่ กวา่ พดู ๒ ข้อ - มองหน้าและสบตา ผ้ฟู งั อย่างท่ัวถงึ - พูดใหไ้ ดย้ นิ อย่าง ทวั่ ถงึ ไมต่ ะโกน - พูดดว้ ยถอ้ ยคา สุภาพชัดเจน

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรือ่ ง วชิ าเหมอื นสินค้า 779 หมายเหตุ คา่ น้าหนักขอ้ ละ 5 คะแนน (คะแนนรวม 80 หาร 4 จะได้ 20 คะแนน) เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากวา่ 12 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ต้องไดร้ ะดับพอใชข้ ้ึนไป)

780 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการพูดแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งท่ฟี ังและดูอย่างมเี หตผุ ล คาชี้แจง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ ผลการทากจิ กรรม/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในชอ่ งที่กาหนดให้ถูกตอ้ ง ลาดับ ช่อื - สกลุ คะแนน คิดเป็น สรปุ ผล ที่ ทไี่ ด้ รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไมผ่ ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คดิ เป็นร้อยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... สรุปผลการประเมนิ รายชนั้ เรียน  นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ.........................  นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ......................... ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง วชิ าเหมอื นสินคา้ 781 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

782 คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรูท้ ี่ 6 เรอ่ื ง การพดู แสดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ งั และดูอยา่ งมเี หตผุ ล หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่ือง วชิ าเหมือนสินค้า แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่ือง การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดอู ย่างมเี หตุผล รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ การพูดแสดงความคิดเห็นจากเรือ่ งทีฟ่ งั และดอู ย่างมีเหตผุ ล การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองที่ฟงั และดูอยา่ งมีเหตุผล เปน็ การกลา่ วชแี้ จงข้อเท็จจรงิ หลักการ และ เหตุผล ขอ้ สนั นษิ ฐาน ขอ้ วนิ ิจฉยั ข้อเสนอแนะ และการประเมินค่าเกีย่ วกับเรื่องท่ฟี งั และดูอยา่ งมีเหตผุ ล ที่เก่ยี วข้องกบั การดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั อย่างหลกี เล่ยี งไมไ่ ด้ โอกาสที่เราจะแสดงความคิดเห็นจึงอาจเกิดข้ึนได้ ตลอดเวลา อาจต้องพูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สงั คมไทย การเรียนการศึกษา วัฒนธรรมในสงั คม เปน็ ตน้ ดังน้ัน การพูดแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดู ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนพูด และพูด อย่างมีเหตุผล เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับผู้อื่น เพราะในเรื่องเดียวกันแต่ละคนอาจมีมุมมองและ ความคิดเห็นท่ีแตกต่างกันได้ หลักการพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรื่องท่ฟี ังและดอู ย่างมเี หตผุ ล ๑. กลา่ วถงึ ความเดิม เหตกุ ารณ์ หรือการกระทาของบคุ คล ๒. ช้ีให้เห็นข้อบกพร่องในเร่ืองดังกล่าว และผลเสียท่ีอาจจะเกิดขึ้น โดยยกตัวอย่าง ยกเหตุผล ข้อ อ้างอิง ข้อโต้แย้งต่าง ๆ มาอ้างอิงคัดค้าน ถ้าสามารถใช้เหตุผลทางหลักวิชามาประกอบจะทาให้น่าเชื่อถือ ยิ่งขึน้ ๓. เสนอแนวปฏบิ ัตทิ ่ีดีกว่า เพือ่ เป็นการสร้างสรรค์ ๔. จบด้วยการกลา่ วยา้ ความคิด อย่างใดอย่างหนง่ึ เชน่ ฝากความหวงั การเรยี กร้อง เชิญชวน การมคี วามรเู้ กยี่ วกบั เรื่องท่ีจะพูดเป็นอยา่ งดี การต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองที่ฟังและดู จะทาให้เราสรุปใจความของเร่ืองได้ สามารถวิเคราะหค์ วามนา่ เช่ือถือจากขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็น รวมท้ังได้รับรู้หรอื ข้อคดิ ทน่ี าไปเป็นประโยชน์ จากเร่ืองทดี่ ูหรอื ฟงั นัน้ แนวทางการตัง้ คาถามเชงิ เหตุผลเพื่อประกอบการพูด ๑. สาระสาคัญของเรือ่ งคืออะไร ๒. เรอ่ื งนี้มีจดุ ประสงคือย่างไร ๓. ข้อเทจ็ จรงิ คืออะไร และขอ้ คดิ เห็นคืออะไร ๔. มคี วามน่าเชอ่ื ถือมากน้อยเพียงใด ๕. ขอ้ คดิ หรือความรู้ท่จี ะนาไปใชป้ ระโยชน์คอื อะไร

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า 783 ขอ้ คานึงในการพดู แสดงความคดิ เห็นมีดงั น้ี ๑. คดิ ใหด้ กี ่อนพูด ๒. มีความรู้เก่ยี วกบั เร่ืองทจี่ ะพดู เป็นอยา่ งดี ๓. มเี หตผุ ลโดยยกตวั อยา่ งประกอบการพูดใหเ้ ห็นจรงิ ๔. เรยี งลาดับการพูดให้ต่อเนอื่ ง ไมพ่ ูดวกวน ๕. เน้อื หาทจี่ ะพดู เป็นเชงิ สรา้ งสรรค์ ๖. หลีกเลยี่ งการพูดเรอ่ื งส่วนตวั ทั้งของตนเองและผ้อู ่นื การใชภ้ าษาในการพูดแสดงความคดิ เหน็ ๑. ใชถ้ อ้ ยคาใหก้ ะทัดรัดมคี วามหมายชดั เจน เรียงเนอ้ื ความตามลาดบั ไมส่ บั สน ๒. ใช้ถอ้ ยคาภาษาท่ีเปน็ ลกั ษณะเฉพาะของการแสดงความคดิ เห็น เชน่ การใช้คาสรรพนามบรุ ุษท่ี ๑ ประกอบกับคากริยาหรือกล่มุ คากริยา ท่ีระบุว่าเป็นการพูดแสดงความคดิ เห็นเป็นต้นวา่ ดิฉันเห็นว่า ผมคดิ ว่า ดฉิ ันเข้าใจว่า ผมใคร่ขอสรุปวา่ ท่ปี ระชุมมมี ตวิ า่ เราจงึ ขอเสนอแนะว่า หรอื พวกเรามีความเหน็ รว่ มกันว่า ๓. ใช้ถ้อยคาหรือกลุ่มคาเพื่อบง่ ช้ีให้เห็นว่าเปน็ การแสดงความคิดเหน็ อันได้แก่คาวา่ อาจ อาจจะ คง คงจะ น่า น่าจะ ทงั้ ควร เป็นต้น ๔. ใช้ถ้อยคาเชิงสรา้ งสรรค์ ก่อใหเ้ กดิ ผลด้านศลี ธรรมจรยิ ธรรม และคณุ ธรรมไม่ประชดประชัน ไม่พดู กา้ วร้าวเสียดสี ไม่พดู แบบขวานผา่ ซาก หรือมีเจตนาไม่ดี ๕. มีมารยาทในการพูด ไม่ใช้คารุนแรง เช่น คาสบถ คาด่า คาหยาบ มีกิริยาวาจาท่ีสุภาพ น้าเสียง นุม่ นวล และตอ้ งรจู้ ักยอมรบั ความคดิ เห็นของผูอ้ ืน่ ลกั ษณะของผูพ้ ูดแสดงความคดิ เหน็ ท่ีดี ๑. เปน็ ผมู้ คี วามรู้ความเขา้ ใจในเรื่องนนั้ ๆ เปน็ อย่างดี ๒. สนใจตอ่ ปญั หา หรือเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ งขวาง ๓. เป็นผู้มีเหตุผลสามารถใช้ดุลพินิจ หรือใช้ปัญญาพิจารณาเร่ืองต่าง ๆ ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ ไม่ใชอ้ ารมณ์ ไม่เดา ไมค่ าดคะเน ๔. เป็นผมู้ คี วามกลา้ สามารถแสดงออกถงึ ความคดิ ที่มอี ย่ใู นตนเองให้ผู้อ่ืนทราบ

784 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 6 เร่อื ง สรปุ หลักการพดู แสดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งทฟี่ งั และดู หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ คา้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง การพดู แสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งท่ีฟังและดูอย่างมเี หตผุ ล รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กีย่ วกับการพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรื่องที่ฟงั และดูอย่างมเี หตผุ ล เป็นแผนภาพความคิด พรอ้ มตกแต่งให้สวยงาม การบา้ น ชอื่ .........................................................นามสกลุ ...................................................ชั้น...........เลขท.่ี ..........

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า 785 แนวคาตอบใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง สรุปหลกั การพูดแสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองทฟ่ี ังและดู หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรื่อง วิชาเหมือนสินคา้ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง การพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทฟี่ งั และดอู ย่างมีเหตุผล รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นสรปุ ความรเู้ ก่ียวกบั การพดู แสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองที่ฟงั และดอู ย่างมเี หตุผล เปน็ แผนภาพความคิด พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม แนวคาตอบ การตรวจขึน้ อยกู่ ับดลุ พินจิ ของครูผู้สอน การพดู แสดงความคดิ เหน็ จากเรื่องที่ฟังและดู หลักการพดู แสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งทีฟ่ ัง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนพูดและ และดอู ยา่ งมีเหตุผล พูดอย่างมีเหตุผล เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง กล่าวถึงความเดิม โดยการยกตัวอย่าง กับผู้อื่น เพราะในเรื่องเดียวกันแต่ละคนอาจมี เหตุผล และข้อโต้แย้งต่าง ๆ ม าคัดค้าน มมุ มองและความคดิ เห็นที่แตกต่างกันได้ พร้อมท้ังเสนอแนวปฏิบัติที่ดีกว่า เพ่ือเป็น การสร้างสรรค์ จบด้วยการพดู ทสี่ ุภาพ ๔. จบด้วย การกล่าวย้าความคิด อย่างใดอย่างหน่ึง เชน่ ฝากความหวงั การเรียกร้อง เชญิ ชวน การพูดแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่อง ทฟ่ี ังและดูอย่างมเี หตผุ ล การใชภ้ าษาในการพดู แสดงความคดิ เหน็ ลักษณะของผพู้ ูดแสดงความคิดเห็นท่ดี ี ใชถ้ อ้ ยคาสภุ าพ ไมก่ ระทบกระทัง่ ผอู้ น่ื มีความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่ืองนนั้ ๆ เป็น มีความหมายชดั เจน ไม่สับสนไปมา ใช้ภาษา อยา่ งดี สนใจต่อปัญหาหรอื เหตกุ ารณ์ ท่ีสร้างสรรค์ ไม่พูดด้วยคาหยาบคาย หรือ มีเหตผุ ลสามารถใช้ดลุ พนิ ิจ หรือใช้ปญั ญา ดา่ ทอผ้อู ่นื ให้เกิดความเสยี หาย พิจารณาเร่ืองต่าง ๆ ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ ไมใ่ ช้อารมณ์ ไมเ่ ดา ๔. เป็น ผ้มู ีความกล้าสามารถแสดงออกถงึ ความคดิ ท่ีมอี ยู่ในตนเองใหผ้ ูอ้ ืน่ ทรา

๗๘๖ คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง การอา่ นวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองทอี่ า่ น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมือนสนิ ค้า เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ตวั ชีว้ ดั ป.๕/๕ วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองที่อ่านเพือ่ นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น ต้องตั้งใจอา่ นใหเ้ ข้าใจ จับใจความสาคัญของเรือ่ ง ใหไ้ ด้ จงึ จะแสดงความคดิ เห็นได้ถกู ต้องตรงประเด็น และนาความรู้หรือข้อคิดไปใช้ประโยชนใ์ นการดาเนินชีวิต จริงอยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นจากเรื่องที่อ่านได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองที่อา่ นได้ 3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) นาขอ้ คิดไปใช้ในการดาเนินชวี ิต ๔. สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งท่อี า่ น ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รียนรู้ 6.2 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ การจดั กิจกรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7 เรือ่ ง การวเิ คราะหแ์ ละแส ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนกาจดั เวลา กิจกรรมคร ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ 1. ครนู ํานักเรียนสนทน เกี่ยวกบั เรือ่ ง การวิเครา 1. ขอบเขตเนื้อหา ขัน้ นาํ 5 แสดงความคดิ เหน็ จากเ - การวเิ คราะห์และ นาที ต่าง ๆ เช่น จากการอ่าน แสดงความคดิ เหน็ และการดู จากเรือ่ งที่อา่ น 2. ครตู ั้งคาํ ถามชวนคดิ ทบทวนและตรวจสอบ เดมิ ของนกั เรียน ดังน้ี ครู : การวิเคราะห์คืออ ครู : การแสดงความค อะไร 3. จากนั้นครนู ําขอ้ คว ความดีมาให้นกั เรยี นอ

รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ๗๘๗ รื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ จาํ นวน 10 ช่ัวโมง การประเมนิ สดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งท่ีอา่ น จํานวน 1 ชว่ั โมง การเรียนรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ - สังเกต การตอบคําถาม รู กจิ กรรมนกั เรยี น ของนกั เรียน นาทบทวน 1. นักเรียนร่วมกันสนทนา - สังเกต าะหแ์ ละ เก่ยี วกับการวเิ คราะห์และแสดง การแสดง เร่อื ง ความคดิ เห็นจากเรอื่ งต่าง ๆ น การฟงั เชน่ ข่าว บทสนทนา บทความ นทิ าน เปน็ ต้น ดเพอ่ื 2. นักเรยี นร่วมกันตอบคําถาม - คาํ ถามอยู่ใน บความรู้ ดังนี้ ส่ือ PPT อะไร นกั เรยี น : การวเิ คราะห์ คือ คิดเหน็ คอื การเข้าใจและสามารถแยกแยะ องค์ประกอบของเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ ส่วนการแสดงความคดิ เห็นคอื การแสดงความคิดเห็นของ ตนเองตอ่ เร่ืองใดเรือ่ งหนง่ึ วามเรื่อง 3. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ - ข้อความสน้ั ๆ อ่านและ และแสดงความคดิ เห็นจาก เร่ือง ความดี

๗๘๘ คมู่ อื ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนกาจดั เวลา ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร ร่วมกันวิเคราะห์และแ ความคดิ เห็น 4. ครูพดู แสดงความค สรปุ ท้ายแลว้ เขา้ สูบ่ ทเ 2. ข้ันสอน 25 1. ครพู านักเรียนรว่ มก นาที องคค์ วามรู้เกยี่ วกบั กา ให้นักเรียนช่วยกนั สรปุ ประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี - การเตรยี มการก่อ ระหวา่ งอา่ น และหลัง - วิธีการอา่ นใหเ้ ขา้ ใ ทั้งหมด - การอา่ นวเิ คราะหเ์ ร ต่าง ๆ - การแยกแยะสว่ นป ของเนอ้ื หา เช่น ข้อเทจ็ ความคิดเห็น - การแสดงความคดิ เ เรอื่ งทอี่ ่าน

อครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู้ แสดง ข้อความเรอื่ ง ความดี ความคดิ เหน็ คดิ เห็น 4. นักเรยี นเขา้ สบู่ ทเรยี น - สงั เกต เรียน การตอบคาถาม กันสรา้ ง 1. นกั เรียนสนทนาแสดง - คาถาม ของนักเรยี น ารอ่านและ ความคดิ เหน็ แลกเปลยี่ นความรู้ ปใน ความคดิ เหน็ กับครู อนอ่าน งการอา่ น ใจเน้ือหา รอื่ งราว ประกอบ จจรงิ เห็นจาก

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสินคา้ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนกาจดั เวลา ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. ครูให้นกั เรียนอภิปร 1. บอกหลกั การ ความรู้เก่ียวกบั หลกั กา วิเคราะหแ์ ละแสดง วเิ คราะหแ์ ละแสดง ความคิดเห็น ความคดิ เห็นจากเรื่องท จากเรอื่ งทอ่ี า่ นได้ 3. ครตู ัง้ คาถามเพือ่ ให วเิ คราะหห์ ลกั การอา่ น และแสดงความคิดเหน็ ต่าง ๆ ดงั นี้ ครู : การวเิ คราะห์และ ความคิดเหน็ ท่ีดมี หี ลกั อยา่ งไรบา้ ง 4. จากนัน้ ครสู รปุ หลกั เพิ่มเตมิ เพอ่ื สร้างความ ตรงกัน 2. วิเคราะหแ์ ละแสดง 5. ครูยกตัวอย่างการว และแสดงความคดิ เห็น ความคดิ เห็นจากเร่ือง ท่อี า่ น โดยการนาเรอื่ ง ทอ่ี า่ นได้ คาสอนของพอ่ มาให้น

๗๘๙ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น - ใบความรู้ท่ี 7 การเรียนรู้ ปราย 2. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปราย าร ความรู้จากการศกึ ษาใบความรู้ ที่ 7 ท่อี า่ น ห้นกั เรียน 3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั - คาถาม - สังเกต นวเิ คราะห์ ตอบคาถาม ดังน้ี การตอบคาถาม นจากเรอ่ื ง นักเรยี น : หลักการง่าย ๆ คอื ของนกั เรยี น 1. ประเมนิ เราต้องเขา้ ใจเร่อื งที่อา่ นน้นั เป็น การสรุป ะแสดง อยา่ งดี และแยกแยะ หลกั การ กการ องคป์ ระกอบของเร่อื งให้ ถกู ต้อง กการ 4. นกั เรยี นฟงั ครสู รปุ หลกั การ มเข้าใจที่ เพ่มิ เตมิ เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจท่ี ตรงกัน วเิ คราะห์ 5. นกั เรียนอา่ นเรอ่ื ง คาสอน - สื่อ PPT นจากเร่ือง ของพอ่ จากนัน้ ร่วมกนั เร่อื ง คาสอน ง วิเคราะห์และแสดง ของพอ่ นักเรยี น ความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เรือ่ งที่

๗๙๐ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนกาจดั เวลา ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร อา่ นจากนั้นรว่ มกันวเิ ค และแสดงความคิดเหน็ เร่อื งที่อา่ น ในประเดน็ - ชื่อเรื่อง/ความห - เนื้อหา/แนวคดิ - ข้อคิดและการน ในชีวิตจริง - วเิ คราะหแ์ ละแส ความคิดเห็นไดอ้ ย 6. ครพู ูดสรปุ ทา้ ยเพ่ือ ความเข้าใจ 3. ข้นั ปฏบิ ัติ 15 7. จากนนั้ ครใู ห้นกั เรีย นาที กลุ่มเรม่ิ ทาใบงานที่ 7 การวเิ คราะหแ์ ละแสด ความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เ พร้อมกัน (ครขู ้ึนกิจกรรมในจอ P วา่ : นักเรยี นทาใบงาน การวเิ คราะหแ์ ละแสด

อครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนักเรียน คราะห์ อา่ นในประเด็นต่อไปน้ี นเกีย่ วกับ - ช่อื เรือ่ ง/ความหมาย นตอ่ ไปนี้ - เนื้อหา/แนวคิด หมาย - ขอ้ คิดและการนาไปใชใ้ น ชีวติ จริง นาไปใช้ - วเิ คราะหแ์ ละแสดง ความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งไร สดง บ้าง อยา่ งไรบ้าง อสรปุ 6. นกั เรยี นทาความเข้าใจกบั 2. ประเมิน ครู การวเิ คราะห์ และแสดง ยนแต่ละ 7. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเริม่ ทา - ใบงานที่ 7 ความคดิ เห็นจาก 7 ใบงานที่ 7 การวเิ คราะห์และ เรื่องทอ่ี ่าน ดง แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอื่ ง เรื่องทอ่ี า่ น ท่ีอา่ นพร้อมกนั PPT (นักเรยี นทง้ั ตน้ ทาง/ปลายทาง - ส่ือ PPT นท่ี 7 ทาใบงานท่ี 7 พรอ้ มกนั ) ดง

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เร่อื ง วิชาเหมอื นสินคา้ ลาํ ดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนกาจดั เวลา ท่ีใช้ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ กิจกรรมคร ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเร 4. 3. นําข้อคิดไปใช้ใน ข้ันสรปุ 5 8. ครูเฉลยใบงาน ตรว การดาํ เนนิ ชีวิต นาที จากน้ันพานักเรียนสรุป กจิ กรรมรว่ มกนั 1. ครสู รปุ ความรเู้ รอ่ื ง การอา่ นวเิ คราะห์และ ความคิดเห็นจากเรื่องท คําประพนั ธ์ ดังน้ี จะวเิ คราะห์เรอ่ื งใดให เราควรมีมมุ มองท่สี ร้างส มเี หตุผลมีความรู้ควบคู่ก พูดเขยี นนน้ั จะวเิ คราะหไ์ ด หรือบทประพันธบ์ ทนีก้ จะวเิ คราะห์เร่ืองใดใ เราจกั ตอ้ งอา่ นเข้าใจให จบั ประเด็นวเิ คราะหไ์ ม มีเชิงชัน้ วรรณศิลปถ์ อ้ ย

แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ ๗๙๑ รู กิจกรรมนกั เรยี น รอื่ งท่ีอา่ น) การประเมิน การเรียนรู้ วจใบงาน 8. นกั เรยี นนําเสนองานตนเอง - คําประพันธ์ - สงั เกต ปการทาํ และตรวจใบงานไปพรอ้ ม ๆ เรื่อง การวเิ คราะห์ การตอบคาํ ถาม กัน และแสดง ของนกั เรียน ง ความคดิ เห็น 3. สงั เกต ะแสดง 1. นักเรยี นรว่ มกันอ่านคาํ พฤตกิ รรม ประพนั ธ์ เรือ่ ง การวเิ คราะห์ ของนักเรียน ทีอ่ า่ นด้วย และแสดงความคดิ เห็น และ สรุปความรดู้ ว้ ยกนั หถ้ กู ต้อง สรรค์ กนั ดเ้ หมาะความ ก็ได้ ใหถ้ ูกตอ้ ง หถ้ ่องแท้ ม่ผันแปร ยวาจา

๗๙๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนกาจดั เวลา ท่ใี ช้ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ กจิ กรรมคร 2. ครูให้นกั เรยี นอ่านเ สนใจคนละ ๑ เรื่อง แ แสดงความคิดเห็นกับค ชว่ั โมงวา่ งหรอื ช่วงไหน หรอื ชว่ งพกั กลางวันแล เยน็ ชว่ งรอผู้ปกครองมา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook