64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5.-3

ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน - สื่อ PPT การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น เรอื่ งที่ 2. นกั เรยี นรับทราบและไป แล้วมาพูด อ่านเร่ืองทส่ี นใจ 1 เรอ่ื ง และ ครูใน มาแสดงความคิดเหน็ ใหค้ รฟู งั นกไ็ ด้ท่ีว่าง ในชว่ั โมงวา่ ง ละตอน ารบั

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง วิชาเหมือนสินค้า 793 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. ใบความรู้ที่ 7 เรอื่ ง การวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งท่อี า่ น 2. ใบงานท่ี 7 เรอื่ ง การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นจากเรือ่ งทีอ่ ่าน 3. สอ่ื PPT เร่อื ง การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 4. คาประพันธ์เรือ่ ง การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็น 5. ขอ้ ความสน้ั ๆ เรอ่ื ง คาสอนของพอ่ 6. ขอ้ ความสัน้ ๆ เรอ่ื ง ความดี 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 7 เร่อื ง การวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ส่ิงทต่ี ้องการวัด / ประเมนิ วิธีการ เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์ รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ขึ้นไป - บอกหลกั การวเิ คราะห์และ - พิจารณาจากการตอบ - คาถาม/ใบงาน รอ้ ยละ ๖๐ แสดงความคิดเหน็ จากเรอื่ งที่ คาถามของนกั เรียน ขน้ึ ไป อา่ น ร้อยละ ๖๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ขึน้ ไป - วเิ คราะห์และแสดงความ - ตรวจใบงานที่ 7 - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ คิดเห็นจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น เรอ่ื ง การวิเคราะห์และ การวเิ คราะห์และแสดง ผา่ น แสดงความคดิ เห็นจาก ความคิดเห็นจากเร่ืองท่ี ระดับคุณภาพ เรอ่ื งท่ีอา่ น อา่ น ผ่าน ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - ใฝเ่ รียนรูแ้ ละมงุ่ มน่ั ในการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ทางาน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ - สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น - แบบประเมิน 2. มงุ่ ม่ันในการทางาน คณุ ลักษณะอันพึง ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร - สงั เกตพฤติกรรมนักเรียน - แบบประเมิน 2. ความสามารถในการคดิ สมรรถนะสาคัญของ ผ้เู รยี น

794 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี ่าน ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) 1. การวิเคราะห์ - วเิ คราะหเ์ รอื่ งทอ่ี า่ น ขาด ๑ องคป์ ระกอบ ขาด ๒ องค์ประกอบ ขาด ๓ องค์ประกอบ เรือ่ งท่ีอา่ น ได้ถกู ตอ้ ง - แยกแยะ องคป์ ระกอบของเร่ือง ทีอ่ า่ นไดถ้ กู ตอ้ ง - วิเคราะห์ตรงประเดน็ 2. การแสดง - แสดงความรู้ ขาด ๑ องคป์ ระกอบ ขาด ๒ องค์ประกอบ ขาด ๓ องคป์ ระกอบ ความคดิ เห็น และความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่ีอ่าน สัมพันธ์กบั เรอ่ื งที่ฟัง และดู - แสดงเหตผุ ลและ ยกตวั อยา่ งชัดเจน - ใช้ภาษาถกู ต้องกับ เรอื่ งกาลเทศะและ เหตกุ ารณ์ 3. บอกขอ้ คดิ ได้ บอกข้อคดิ จากเรอ่ื งได้ บอกข้อคิดจากเรอื่ ง บอกข้อคดิ จาก บอกข้อคิดจาก ถกู ต้อง ตรงประเดน็ ได้เป็นสว่ นใหญ่ เรือ่ งได้เปน็ บาง เรอื่ งไมไ่ ดเ้ ลย สว่ น หมายเหตุ : คา่ น้าหนกั ขอ้ ละ ๕ คะแนน (คะแนนรวม 60 คะแนน หาร 3 จะได้ 20 คะแนน) เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากวา่ 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (ตอ้ งไดร้ ะดับพอใช้ขึ้นไป)

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรือ่ ง วิชาเหมือนสนิ ค้า 795 แบบประเมินการวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองทอี่ า่ น คาชแ้ี จง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ การทากจิ กรรม/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในช่องทก่ี าหนดให้ถูกตอ้ ง ลาดบั ชือ่ - สกุล คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ที่ ที่ได้ ร้อยละ การประเมิน ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน  ดมี าก ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายชั้นเรียน  นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........................  นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ......................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

796 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมอื นสินคา้ 797 ใบความรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง การวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเรื่องทอี่ า่ น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง วิชาเหมอื นสินคา้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 เร่ือง การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ จากเรื่องที่อ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ การอา่ นในใจ เปน็ การอ่านจบั ใจความสาคญั ของเร่อื ง ผอู้ า่ นตอ้ งเตรยี มตวั ในการอ่าน ดังนี้ ๑. ขัน้ เตรยี มการอา่ น เปน็ ขัน้ ท่สี าคญั ในการสรา้ งความเข้าใจเร่อื ง ผอู้ ่านควร ๑.๑ อา่ นชื่อเร่ือง สังเกตภาพ (หากมีภาพประกอบ) อา่ นบทนาเรอ่ื งเพื่อรูท้ ่ีมาของเรื่อง และทบทวนตนองวา่ มีความรู้เดิมในเรอื่ งทีอ่ ่านอย่างไร ๑.๒ อ่านคายากในเรอื่ ง เพอ่ื ทาความเข้าใจความหมาย รคู้ วามหมายคายากนนั้ ๆ ๑.๓ ตั้งจุดประสงค์การอ่านและแนวการอ่าน ว่าอ่านเพื่อความบันเทิง อ่านเพ่ือหา ความรู้ อา่ นเพื่อวิเคราะหเ์ ร่ือง อา่ นเพื่อสรปุ ความ อ่านเพอ่ื พูด/เขียนแสดงความคิดเหน็ ๒. ขั้นอ่านในใจ มีขน้ั ตอน ดังน้ี ๒.๑ อ่านสารวจและต้ังคาถาม เป็นการอ่านเร็วแล้วตั้งคาถาม “ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อย่างไร” ๒.๒ อ่านเร่อื งอกี ครั้งเพอ่ื จับประเด็นสาคญั หารายละเอยี ดของเรื่อง หาเหตุและผลของ เหตกุ ารณ์ ลาดบั เรอื่ งราว แล้วตอบคาถามอีกครงั้ ๒.๓ ตอบคาถามและทบทวนคาตอบจากเรอื่ งท่ีอ่าน ๓. ข้ันกิจกรรมหลังการอ่าน ๓.๑ อ่านเรอ่ื งซ้าอีกครั้ง ๓.๒ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งและอภิปรายแนวทางการเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ๓.๓ เขยี นวเิ คราะหแ์ ละเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งท่อี ่าน การวเิ คราะหแ์ ละเขยี นแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน ๑. การวิเคราะหเ์ ร่อื ง โดยพิจารณาจาก ๑.๑ ผู้เขียนเร่ืองมจี ุดประสงคใ์ นการเขยี นอยา่ งไร ๑.๒ เนอื้ เรือ่ งเป็นเรอ่ื งเกีย่ วกับอะไร มีความเป็นเหตุเปน็ ผลเหมาะสมหรอื ไม่ ๑.๓ เนอ้ื เรื่องมคี ุณคา่ ต่อผู้อา่ นหรอื ต่อสว่ นรวมหรือไม่ มีข้อคดิ อะไรบา้ ง

798 ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๒. ควรยกรา่ งการเขยี นแสดงความคิดเห็นก่อนเสมอ ๓. การเขียนแสดงความคิดเห็น จะต้องกล่าวถึงข้อเท็จจริงก่อนแล้วจงึ กล่าวถึงความคิดเห็น สนบั สนุนหรือคดั คา้ น โดยมเี หตผุ ลประกอบ ๔. ผู้เขียนต้องมมี ารยาทในการเขียน ไมใ่ ชถ้ อ้ ยคารนุ แรง ๕. ผู้เขยี นควรอา่ นและแกไ้ ขปรับปรงุ ขอ้ เขยี นของตนเอง รวมทัง้ การตรวจตวั สะกดการนั ต์ และถอ้ ยคาสานวน ตัวอยา่ ง การวเิ คราะหแ์ ละเขยี นแสดงความคิดเห็นจากเร่อื งทอ่ี า่ น ปัจจุบันประเทศชาติมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย หลายปัญหาเกิดจากคนขาดระเบียบ วินัย เช่น การทิ้งขยะไม่เลือกท่ี ทาให้บ้านเมืองสกปรก ไม่เคารพกฎจราจร ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และการจราจรติดขัด ทาให้เสยี เวลา เสียทรพั ย์สิน แม้วา่ จะมีการติดคาขวญั ไว้ตามที่ตา่ ง ๆ เป็น เครื่องเตือนสติ เช่น “ท้ิงขยะถูกที่เป็นศรีแก่บ้านเมือง” ก็ไม่เป็นผล ทั้งนี้เพราะคนในสังคมขาด ระเบยี บวนิ ยั นั่นเอง การมีวินัยในตนเองจะตอ้ งสรา้ งตั้งแตย่ ังเด็ก โดยการอบรมสัง่ สอนทงั้ ท่บี ้านและโรงเรยี น ให้เด็กเห็นความสาคัญของการมีระเบียบวินัย ระเบียบวินัยท่ีควรสร้างเสริมได้แก่ การประหยัด การตรงตอ่ เวลา การปฏบิ ตั ิตามกฎหมายบา้ นเมือง การร้จู ักรักษาความสะอาด (ข้อความที่เป็นตวั ดา คือ ใจความสาคญั ของย่อหนา้ ) เขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอ่ี า่ น จากข้อความข้างต้น ผู้เขียนต้องการเขียนถึงคนขาดระเบียบวินัยทาให้เกิดปัญหาต่าง ๆ และเสนอแนะให้สร้างวินัยแก่เด็กท้ังท่ีบ้านและที่โรงเรียน ซึ่งหากเด็กทุกคนได้ฝึกปฏิบัติในเร่อื ง ตอ่ ไปนี้ คือ การประหยัด การตรงต่อเวลา การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการรกั ษาความสะอาด จนเป็นนสิ ยั ยอ่ มช่วยใหป้ ัญหาต่าง ๆ ลดลงไดอ้ ย่างแน่นอน กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๓๘ . หนงั สอื เรียนภาษาไทย ชุดพื้นฐานภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ๒. กรุงเพทพฯ : โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว.

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสนิ ค้า 799 ใบงานที่ 7 เรอื่ ง การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ จากเรือ่ งทอ่ี ่าน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 7 เรอ่ื ง การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทอี่ ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแี้ จง ให้นักเรียนอา่ นเรอ่ื ง แล้ววเิ คราะหแ์ ละเขียนแสดงความคิดเหน็ จากเร่อื งทีอ่ ่าน เร่อื ง ความรับผิดชอบในการทางาน ความรบั ผิดชอบในการทางานเปน็ คณุ ธรรมที่จะสรา้ งผลสาเรจ็ ของงาน หากใครไม่มคี ุณธรรมข้อ น้ีก็จะทางานไม่สาเร็จ ผู้ท่ีมีความรับผิดชอบในการทางานจะต้องมีลักษณะดังน้ีคือ เอาใจใส่ต่องาน ม่งุ มั่นที่จะทางานให้เป็นผลสาเร็จ รจู้ ักวางแผนการทางาน ขยนั อดทน ไม่ท้อถอยตอ่ ความยากลาบาก และอุปสรรคต่าง ๆ ค้นหาวิธีการทางานดว้ ยสติปญั ญาให้งานสาเร็จอยา่ งง่ายและสะดวกรวดเรว็ ผู้ท่ีมี ความรับผิดชอบต่อการทางานตอ้ งรู้จกั อบรมบ่มนสิ ัยตนเอง หัดทางานง่าย ๆ ก่อนแล้วค่อย ๆ ยากขึ้น มีจิตใจมงุ่ มั่นตอ่ การทางานให้เสร็จ เอาใจใสด่ ูแล ไม่ละท้ิงงานกลางคัน หากอบรมบม่ นิสัยตัวเองเช่นน้ี ก็จะเกดิ ความรับผดิ ชอบในงานข้นึ เอง 1. ใจความสาคัญ คอื ..................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. เขียนวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเรือ่ งท่ีอา่ นได้ดงั น้ี .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ๓. การนาข้อคดิ ไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ช่อื ....................................................นามสกลุ ...................................................ชน้ั .................เลขท.่ี ..........

800 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานท่ี 7 เรอื่ ง การวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี า่ น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่อื ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 7 เรอื่ ง การวเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่อี ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนอา่ นเร่ือง แล้ววเิ คราะหแ์ ละเขยี นแสดงความคดิ เห็น จากเร่อื งทอ่ี า่ น เร่อื ง ความรบั ผดิ ชอบในการทางาน ความรบั ผดิ ชอบในการทางานเปน็ คณุ ธรรมทจ่ี ะสรา้ งผลสาเรจ็ ของงาน หากใครไมม่ คี ณุ ธรรมข้อ น้ีก็จะทางานไม่สาเร็จ ผู้ที่มีความรับผิดชอบในการทางานจะต้องมีลักษณะดังน้ีคือ เอาใจใส่ต่องาน มุ่งมั่นที่จะทางานให้เป็นผลสาเร็จ ร้จู กั วางแผนการทางาน ขยัน อดทน ไม่ท้อถอยตอ่ ความยากลาบาก และอุปสรรคตา่ ง ๆ ค้นหาวธิ ีการทางานด้วยสติปัญญาให้งานสาเร็จอยา่ งง่ายและสะดวกรวดเร็ว ผู้ท่ีมี ความรับผิดชอบต่อการทางานตอ้ งรู้จักอบรมบ่มนสิ ัยตนเอง หัดทางานง่าย ๆ ก่อนแล้วค่อย ๆ ยากข้ึน มจี ติ ใจมงุ่ ม่นั ต่อ การทางานใหเ้ สรจ็ เอาใจใสด่ ูแล ไมล่ ะทิ้งงานกลางคนั หากอบรมบม่ นสิ ัยตัวเองเช่นนี้ก็ จะเกดิ ความรับผิดชอบในงานขนึ้ เอง 1. ใจความสาคญั คอื ความรบั ผิดชอบในการทางานเปน็ คณุ ธรรมทจี่ ะสร้างผลสาเรจ็ ของงาน งานจะสาเร็จ ไดน้ ั้นตอ้ งมีการวางแผน อดทน และขยนั ทางานดว้ ยความมุ่งม่ัน ๒. เขียนแสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งทอ่ี า่ น จากข้อความข้างต้น วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นได้ว่า ผู้เขียนกล่าวถึงความรับผิดชอบ ซึ่ง เป็นคุณธรรมท่ีทาให้เราประสบความสาเร็จในการทางาน ในความคิดเห็นของผู้อ่านผู้ท่ีจะประสบ ความสาเร็จในการทางานจะต้องเปน็ คนเอาใจใสต่ ่องาน มุ่งม่นั ทางาน รู้จักการวางแผน ขยัน อดทน ไม่ท้อถอยต่อความยากลาบากและอุปสรรคเราทุกคนควรฝึกตัวเองให้มีความรับผิดชอบ และทางาน อย่างเป็นผูม้ ีสติปญั ญา เพียงเทา่ น้กี จ็ ะทาใหป้ ระสบความสาเร็จในการทางาน ๓. การนาขอ้ คดิ ไปใชใ้ นชีวิตจรงิ (อยใู่ นดุลพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง วชิ าเหมอื นสินคา้ ๘๐๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 เร่อื ง การอ่านงานเขยี นประเภทคาแนะนาและอธิบายแสดงขน้ั ตอน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง วชิ าเหมือนสนิ ค้า เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั สาระท่ี 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมนี สิ ยั รักการอ่าน ตวั ชี้วัด ป.๕/๖ อ่านงานเขยี นเชงิ อธิบาย คาสัง่ ขอ้ แนะนา และปฏิบตั ติ าม ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การอ่านงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธบิ ายแสดงขั้นตอน ต้องทาความเขา้ ใจให้ชดั เจนจงึ จะ สามารถปฏบิ ตั ติ ามได้อย่างถูกตอ้ ง ปลอดภัยและมปี ระสิทธิภาพ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การอ่านงานเขยี นประเภทคาแนะนาและอธิบายแสดงขน้ั ตอนได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) อา่ นแผนภาพงานเขยี นแลว้ เขียนคาแนะนาและอธิบายแสดงขน้ั ตอนได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) ใฝเ่ รยี นรู้ในการอ่านงานเขียนคาแนะนาและอธิบายแสดงขน้ั ตอน ๔. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นงานเขยี นประเภทคาแนะนาและอธิบายแสดงขัน้ ตอน ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รียนรู้ 6.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

๘๐๒ คมู่ ลาํ ดบั การจดั กจิ กรรมการเรยี นร ท่ี รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร 1. แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง การอา่ นงานเขยี นประเภ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา กจิ กรรมค จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ ๑. ครูเริ่มต้นสนทน ขอบเขตเน้อื หา นกั เรียนวา่ ได้ช่วยพ - การอา่ นงานเขยี น ขัน้ นาํ 5 ทาํ อาหารอะไรบ้าง ประเภทคําแนะนาํ และ นาที เขา้ ส่คู าํ ถาม อธิบายแสดงขั้นตอน - ใครตําน้าํ พริกกะป (สอดคล้องกบั ใบคว แลว้ ใหด้ ภู าพวา่ ใช่แ หรอื ไม่ 2. ครูตงั้ คาํ ถามชวน ครู : ภาพทดี่ ูข้างต้น อะไร ครู : นักเรียนเขา้ ใจ นา้ํ พรกิ หรอื ไม่ อย่า 3. ครถู ามต่อไปวา่ ครู : ใครทําน้าํ พริก ออกมาอธบิ ายวิธกี า

อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1 ช่ัวโมง ร่อื ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ จํานวน 10 ช่ัวโมง ส่อื การเรียนรู้ ภทคาํ แนะนําและอธบิ ายแสดงขน้ั ตอน จาํ นวน แนวการจดั การเรียนรู้ การประเมนิ ครู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ นากบั 1. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนา พอ่ แม่ เกีย่ วกับการช่วยพ่อแม่ ทําอาหารตา่ ง ๆ แล้วตอบ แลว้ โยง คาํ ถาม ปิเปน็ บา้ ง วามรู้ที่ ๘) แบบนี้ นคิด ดังน้ี 2. นกั เรยี นร่วมกันตอบคาํ ถาม - คาํ ถามอยู่ใน - สังเกต นเก่ยี วกบั ดังน้ี สอื่ PPT การตอบคาํ ถาม จวิธีการทาํ นกั เรียน : ตอบคาํ ถามจาก - คาํ ถามอยใู่ น ของนกั เรียน างไร ความเขา้ ใจของนักเรียน สื่อ PPT - สังเกต การแสดง 3. นกั เรียนรว่ มกันวิเคราะห์ ความคิดเห็น กเปน็ บา้ ง และแสดงความคดิ เห็น ารทาํ นํ้าพริก

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2. การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมค กะปใิ หเ้ พ่อื น ๆ ฟงั ขน้ั สอน 25 นาที 4. จากนั้นครพู ูดแส ความคิดเห็นสรุปท้า สู่บทเรียน 1. ครูพานกั เรียนรว่ สรา้ งองค์ความรูเ้ กย่ี การอา่ นงานเขียนปร คาํ แนะนําและอธบิ า ขนั้ ตอนและใหน้ ักเร สรปุ ในประเดน็ ดงั ต - การอ่านงานเขยี น อะไร - งานเขียนประเภ คําแนะนําคืออะไร - งานเขียนประเภ ขน้ั ตอนคืออะไร 2. ครใู ห้นกั เรยี นอภ ความรเู้ กี่ยวกับหลัก งานเขยี นประเภทค และอธิบายแสดงขั้น

แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ ๘๐๓ ครู กิจกรรมนกั เรยี น การประเมิน งหน่อย การเรียนรู้ สดง 4. นักเรียนเขา้ สู่บทเรยี นพร้อม ายแล้วเขา้ กัน วมกนั 1. นกั เรียนสนทนาแสดง - คาํ ถาม - สังเกต ยวกบั ความคิดเหน็ แลกเปลี่ยนความรู้ การตอบคําถาม ระเภท ความคดิ เหน็ กบั ครู ของนักเรียน ายแสดง รียนช่วยกนั ต่อไปนี้ นหมายถงึ ภท ภท ภิปราย 2. นกั เรียนรว่ มกันอภิปราย - ใบความรทู้ ่ี 8 - สงั เกต กการอา่ น ความรจู้ ากการศึกษาใบความรทู้ ี่ การตอบคาํ ถาม คําแนะนํา 8 ของนกั เรยี น นตอน

๘๐๔ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมค 1. บอกหลักการการอ่าน 3. ครตู ั้งคําถามเพื่อใ งานเขยี นประเภท วิเคราะหห์ ลกั การอ คําแนะนาํ และอธบิ าย เขียนประเภทคําแน แสดงขัน้ ตอนได้ อธิบายแสดงขน้ั ตอน จากเรือ่ งตา่ ง ๆ ดงั ครู : การอา่ นงานเข ประเภทคําแนะนาํ แ อธิบายแสดงขน้ั ตอน หลักการอย่างไร 4. จากนน้ั ครสู รุปห เพิม่ เติมเพ่อื สร้างคว ท่ีตรงกนั 5. ครูยกตวั อย่างงา ประเภทมาให้นกั เร อา่ น ดังน้ี - งานเขยี นประเภทค เร่ือง การเลอื กซอ้ื เส - งานเขียนประเภท คาํ อธบิ ายแสดงขน้ั ต การทาํ ขา้ วผดั ไข่

ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ - คําถาม การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น 1. ประเมนิ อให้นกั เรียน 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกัน การสรปุ หลกั การ อ่านงาน ตอบคําถาม ดงั นี้ นะนาํ และ นกั เรยี น : อาจตอบได้หลาย นคิดเห็น คําตอบจากการศึกษาใบความรู้ งนี้ ท่ี 8 ขียน และ นมี หลักการ 4. นกั เรยี นฟงั ครสู รปุ หลกั การ - สอื่ PPT วามเขา้ ใจ เพม่ิ เติมเพอ่ื สร้างความเขา้ ใจที่ - งานเขียน ตรงกัน ประเภท านเขียน 2 5. นกั เรียนอ่านงานเขียน 2 คาํ แนะนาํ รยี นดูและ ประเภทมาใหน้ ักเรยี นดแู ละ เรอ่ื ง การเลอื ก อา่ น ดงั น้ี ซื้อเสื้อผ้า คาํ แนะนาํ - งานเขียนประเภทคาํ แนะนํา - งานเขยี น สอ้ื ผ้า เร่อื ง การเลือกซอื้ เส้ือผ้า ประเภท ท - งานเขยี นประเภทคาํ อธิบาย ตอนเร่อื ง แสดงขัน้ ตอนเรื่อง การทําข้าว ผดั ไข่

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง วิชาเหมือนสนิ คา้ ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3. การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมค 6. ครพู านักเรียนสงั 2. อ่านแผนภาพงานเขียน ขั้นปฏบิ ตั ิ 15 เขียน และแสดงคว แล้วเขยี นคาํ แนะนําและ นาที เกยี่ วกับงานเขยี นท้ัง อธบิ ายแสดงขนั้ ตอนได้ ประเภท จากนนั้ ให 3. ใฝเ่ รียนรู้ในการอ่าน ช่วยกันออกมาพูดส งานเขียนคําแนะนําและ ชั้นเรียน อธิบายแสดงขัน้ ตอน 7. จากนั้นครูใหน้ ัก ละกลุ่มเร่มิ ทาํ ใบงาน เขยี นคาํ แนะนําหรือ คําอธิบายแสดงข้ันต แผนภาพโครงเรื่อง (ครขู น้ึ กิจกรรมในจ วา่ : นักเรยี นทําใบง เขียนคาํ แนะนําหรือ คาํ อธบิ ายแสดงขั้นต แผนภาพโครงเรอ่ื ง) 8. ครูเฉลยใบงาน ต งานที่ 8 จากนนั้ พา สรุปการทํากิจกรรม

๘๐๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ คําอธิบายแสดง การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น ขั้นตอนเร่ือง การทาํ ข้าวผดั ไข่ งเกตงาน 6. นกั เรยี นสังเกตงานเขียน วามคิดเห็น และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับ งานเขยี นทัง้ 2 ประเภท ง2 หน้ ักเรยี น จากน้ันให้สง่ ตวั แทนของกล่มุ สรุปหน้า ออกมาพดู สรปุ หน้าชนั้ เรียน กเรียนแต่ 7. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเริ่มทาํ - ใบงานท่ี 8 2. ประเมนิ นที่ 8 ใบงานท่ี 8 เขยี นคําแนะนาํ หรอื - สื่อ PPT การอา่ นงาน อ คําอธิบายแสดงขน้ั ตอนจาก เขยี น ตอนจาก แผนภาพโครงเรอ่ื ง 3. สังเกต (นกั เรียนทั้งต้นทาง/ปลายทาง พฤตกิ รรม จอ PPT ทาํ ใบงานที่ 8 พร้อมกนั ) ของนักเรียน งานที่ 8 อ 8. นกั เรียนนาํ เสนองานตนเอง ตอนจาก และตรวจใบงานไปพร้อม ๆ กัน ) ตรวจใบ านักเรียน ม

๘๐๖ ค่มู ือ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา กิจกรรมค ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ 4. ขั้นสรปุ 5 1. ครูสรปุ ความรเู้ ร นาที การอา่ นงานเขยี นป คาแนะนาและอธบิ ขน้ั ตอน ว่าเป็นการ คน้ ควา้ ขอ้ มลู ความร นาไปใช้ ตอ้ งอ่านอ ละเอียดใหไ้ ดค้ วามค จะทาใหป้ ฏบิ ัติตาม ถูกต้อง เช่น คาแนะ พจนานกุ รม การใช อุปกรณ์ ข้อแนะนา บนฉลากยา คู่มอื แล ของโรงเรยี น ข่าวส ราชการ

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ ครู กจิ กรรมนักเรียน - สื่อ PPT การเรียนรู้ รือ่ ง 2. นักเรียนส่งตวั แทนออกมา - สังเกต ประเภท พูดสรปุ ความรเู้ รือ่ ง การอ่าน การตอบคาถาม บายแสดง งานเขียนประเภทคาแนะนา ของนักเรียน รอา่ นเพือ่ และอธบิ ายแสดงขั้นตอน รู้ หรือวธิ ี จากน้ันใหเ้ พอื่ น ๆ ในห้องเรยี น อย่าง ชว่ ยกนั ตรวจสอบการสรปุ ครบถ้วน ความรู้ของเพอ่ื น และช่วยกัน มได้ สรปุ ความรู้ สร้างองคค์ วามรู้ ะนาการใช้ ร่วมกัน ชว้ ัสดุ า คาเตอื น ละเอกสาร สารทาง

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า 807 8. สื่อการเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. ใบความรู้ที่ 8 เร่ือง การอา่ นงานเขียนประเภทคาแนะนาและอธิบายแสดงข้นั ตอน 2. ใบงานท่ี 8 เร่ือง การเขียนคาแนะนาหรือคาอธบิ ายแสดงขัน้ ตอนจากการอา่ นแผนภาพโครงเรอื่ ง 3. สื่อ PPT เร่อื ง การอา่ นงานเขยี นประเภทคาแนะนาและอธบิ ายแสดงขั้นตอน 4. ตัวอย่างงานเขยี นประเภทคาแนะนาและอธบิ ายแสดงขั้นตอน 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 8 เรอื่ ง การเขยี นคาแนะนาหรอื คาอธบิ ายแสดงขัน้ ตอนจากการอา่ นแผนภาพโครงเร่อื ง สงิ่ ทีต่ ้องการวดั / ประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาจากการตอบ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การการอ่านงานเขียน คาถามของนกั เรียน ขนึ้ ไป ประเภทคาแนะนาและอธบิ าย แสดงขัน้ ตอน - ตรวจใบงานท่ี 8 - แบบประเมนิ การอา่ น รอ้ ยละ ๖๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) เรอื่ ง การเขยี นคาแนะนา งานเขียนประเภท ขนึ้ ไป - อา่ นแผนภาพงานเขียนแลว้ หรือคาอธิบายแสดง คาแนะนาแลคาอธิบาย เขยี นคาแนะนาและอธบิ ายแสดง ขน้ั ตอนจากการอ่าน ขั้นตอนแลว้ เขยี นสรปุ ได้ ข้นั ตอน แผนภาพโครงเรือ่ ง ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๖๐ (A) นักเรยี น ขึ้นไป - ใฝ่เรียนรู้ในการอา่ นงานเขียน คาแนะนาและอธบิ ายแสดง - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ข้ันตอน นกั เรียน อันพึงประสงค์ ผ่าน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2. ความสามารถในการคดิ นักเรยี น สมรรถนะสาคัญของ ผา่ น 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ผเู้ รยี น

808 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมนิ : การอา่ นงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธิบายขั้นตอนแลว้ เขยี นสรุปได้ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ 1. การอา่ นงาน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) เขียนประเภท - อา่ นสรุปเรอ่ื งได้ คาแนะนาและ เขา้ ใจถูกตอ้ ง ขาด ๑ องคป์ ระกอบ ขาด ๒ องคป์ ระกอบ ขาด ๓ องคป์ ระกอบ คาอธบิ าย ครอบคลมุ ประเด็น ข้ันตอนแล้ว สาคัญของงานเขียน เขยี นสรปุ ได้ ไดท้ ้ังหมด - เขียนคาแนะนา หรือคาอธิบายแสดง ขัน้ ตอนจากการอ่าน แผนภาพโครงเรื่อง ไดถ้ ูกตอ้ งทัง้ หมด - การเขียนสรปุ เรอื่ ง ไดเ้ ขา้ ใจครบทกุ ขน้ั ตอน หมายเหตุ : ค่าน้าหนักขอ้ ละ ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กว่า 12 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดับพอใชข้ ้ึนไป)

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมอื นสินค้า 809 แบบประเมินการอ่านงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธิบายขัน้ ตอนแล้วเขียนสรุปได้ คาช้ีแจง ให้ครูผสู้ อนประเมินการทากจิ กรรม/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในชอ่ งทกี่ าหนดให้ถกู ตอ้ ง ลาดบั ชอื่ - สกุล คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ท่ี ทีไ่ ด้ รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายชน้ั เรยี น  นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.......................  นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ....................... ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

810 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ เรือ่ ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ 811 ใบความรู้ท่ี 8 เรอื่ ง การอ่านงานเขียนประเภทคาแนะนา หรอื คาอธบิ ายแสดงขน้ั ตอน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรื่อง วชิ าเหมือนสินค้า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง การอ่านงานเขยี นประเภทคาแนะนาและคาอธิบายแสดงข้นั ตอน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ การอ่านงานเขียนเชิงอธบิ าย และงานเขยี นคาแนะนา และวิธปี ฏบิ ตั ิ เป็นการอา่ นเพอื่ ค้นควา้ ขอ้ มูลความรู้ หรือวธิ นี าไปใช้ ตอ้ งอ่านอย่างละเอียดให้ไดค้ วามครบถ้วน จะทาให้ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง เช่น คาแนะนาการใช้พจนานุกรม การใช้วัสดุอุปกรณ์ ข้อแนะนา คาเตอื นบนฉลากยา คู่มอื และเอกสารของโรงเรียน ขา่ วสารทางราชการ การเขยี นอธบิ าย การเขียนอธิบาย เปน็ การเขียนที่บอกลกั ษณะของส่งิ ใดสงิ่ หนง่ึ ใหเ้ ข้าใจกระจ่างชัดเจน วิธกี ารเขยี นอธิบาย ผู้เขยี นตอ้ งตง้ั หัวเร่อื งหรือลาดบั ความคดิ ดังนี้ ๑. ส่งิ ทอี่ ธบิ าย คอื อะไร ลกั ษณะเด่นหรอื รายละเอียด ๒. จดุ ม่งุ หมายในการเขียนอธิบายสิง่ น้ัน ๓. ข้อคดิ หรือข้อสงั เกตเก่ียวกับส่งิ น้ัน ตัวอยา่ ง แผนภาพโครงเร่ือง งานวันเด็ก วาดรูป การประกวด การเล่น เล่นเกม รอ้ งเพลง ความสามารถ บนั เทงิ จบั สลาก ตอบปญั หา งานวันเดก็ สวนสตั ว์ การชมสถานที่ การแสดง มายากล สนามบนิ ราไทย เรอื่ ง งานวันเด็ก งานวันเด็กของอาเภอปีน้ี จัดที่สวนสัตว์ และสนามบิน ในงานจัดให้มีการประกวด ความสามารถ ได้แก่ การวาดรปู ระบายสี การร้องเพลง และการตอบปัญหา มีบรเิ วณท่ีจดั ให้พ่อ แม่ ผปู้ กครองพาบตุ รหลานมาเลน่ บันเทงิ ได้แกก่ ารเล่นเกมและจับสลากของเล่น นอกจากนี้แล้วยังจัด เวทกี ารแสดงเพ่ือสง่ เสริมความสามารถดา้ นการแสดงของนกั เรียน โดยใหแ้ สดงมายากลและราไทย

812 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) การเขียนคาแนะนา หรอื วิธีปฏิบตั ิ การเขยี นคาแนะนา วิธีการปฏิบัติ เป็นการเขยี นบอกวธิ ีการให้ปฏิบัติได้ มักเขียนเป็นข้อความสน้ั ๆ ให้เนื้อความชดั เจน ใช้ภาษากะทัดรัด สอ่ื ความหมายชัดเจน อาจมกี ารย้าข้อความสาคัญ ตวั อยา่ งแผนภาพโครงเรอ่ื ง การทาน้าพรกิ กะปิ https://sites.google.com/site/aommznemoshop/xahar-phakh-klang/na-phrik-pla-thu วิธที านา้ พริกกะปิ ๑. โขลกพรกิ ข้ีหนกู ับกระเทียม ตาใหเ้ ขา้ กัน ๒.ใส่กุ้งแห้ง กะปิ น้าตาลปบ๊ี มะเขือพวง ตาเบา ๆ พอใหม้ ะเขอื แตก ๓. ปรงุ ดว้ ยนา้ ปลา นา้ มะนาว คนให้เข้ากัน ตักใสถ่ ว้ ย วธิ ที านา้ พรกิ กะปิ น้าพรกิ กะปิของแต่ละบ้านมีผสมหลักเหมือน ๆ กัน แต่วิธีทาและการปรุงรสจะแตกต่างกันไป ตามบา้ น ตามแต่ละพื้นท่ี มวี ิธกี ารทาดงั นี้ ๑.โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมให้ละเอยี ด ระหวา่ งตาใหใ้ ชม้ อื ปอ้ งท่ีปากครกเพอ่ื ป้องกนั ไม่ให้พริก กับกระเทยี มกระเด็นออกมา ๒. ใส่กุ้งแห้งปน่ กะปิ กับน้าตาลปบี ลงไป ใช้สากยี คลกุ เคล้าให้เข้ากนั แลว้ ใส่มะเขือพวงลงไป ใช้ สากบบุ ใหพ้ อแตก ๓. ปรุงรสดว้ ยน้าปลา น้ามะนาว และคนให้เข้ากนั แล้วตักใสถ่ ว้ ย แคน่ กี้ ็ได้น้าพริกกะปิรสเดด็ แลว้ วภิ า ตณั ฑุลพงษ์. ๒๕๕๔. แนวการพัฒนาการเรยี นการสอนภาษาไทยในระดบั ประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์คณะรฐั มนตรีและราชกิจจานเุ บกษา.

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมือนสินคา้ 813 ใบงานที่ 8 เร่อื ง เขยี นคาแนะนาหรอื คาอธบิ ายแสดงขนั้ ตอนจากแผนภาพโครงเร่อื ง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง วชิ าเหมอื นสินคา้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8 เรื่อง การอ่านงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธิบายแสดงขัน้ ตอน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านแผนภาพโครงเรือ่ ง แลว้ เขียนอธบิ ายแสดงข้ันตอน แผนภาพโครงเรอ่ื ง วิธีการล้างจานชามอย่างถกู วธิ ี 1. แบ่งภาชนะ ออกเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทคาวและประเภท ของหวาน เรมิ่ ล้าง ภาชนะใส่ของหวาน หรือแกว้ น้าก่อน 2. เกบ็ กวาดเศษอาหารกอ่ นล้าง 3. ใชน้ า้ ยาล้างภาชนะพรอ้ มใยสงั เคราะห์ชาระล้าง 4. ลา้ งดว้ ยน้าเปล่าสะอาด 2 ครั้ง 5. ในกรณีต้องการฆา่ เชือ้ โรค ใหแ้ ชน่ ้ารอ้ นลาดับสดุ ทา้ ยไว้ วิธกี ารล้างจานชามอยา่ งถูกวิธี .............................................................................................................................. ................................ ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. ชอ่ื .....................................................นามสกุล..............................................ชั้น.................เลขท.ี่ ..............

814 คู่มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง เขยี นคาแนะนาหรอื คาอธิบายแสดงขน้ั ตอนจากแผนภาพโครงเรอ่ื ง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสินคา้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่อื ง การอา่ นงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธิบายแสดงข้ันตอน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอา่ นแผนภาพโครงเร่ือง แล้วเขียนอธบิ ายแสดงข้ันตอน แผนภาพโครงเรือ่ ง วิธกี ารลา้ งจานชามอยา่ งถูกวิธี 1. แบง่ ภาชนะ ออกเป็น 2 ประเภทคอื ประเภทคาวและประเภท ของหวาน เรมิ่ ล้าง ภาชนะใสข่ องหวาน หรอื แก้วนา้ กอ่ น 2. เกบ็ กวาดเศษอาหารกอ่ นลา้ ง 3. ใชน้ ้ายาลา้ งภาชนะพรอ้ มใยสงั เคราะหช์ าระล้าง 4. ล้างด้วยนา้ เปลา่ สะอาด 2 ครัง้ 5. ในกรณีต้องการฆ่าเช้อื โรค ให้แชน่ ้ารอ้ นลาดับสุดท้ายไว้ วธิ กี ารล้างจานชามอยา่ งถูกวิธี ก่อนล้างจานควรแบ่งภาชนะ ออกเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทคาวและประเภท ของหวาน ควรเริ่มล้างภาชนะใส่ของหวาน หรือแก้วน้าก่อน ขั้นตอนการล้างจานชาม มีดังนี้ เริ่มต้นต้องเก็บกวาดเศษอาหารท่ีติดตามจานชามออกให้หมดก่อนล้าง แล้วใช้น้ายาล้างภาชนะ พร้อมใช้ใยสังเคราะห์ชาระล้าง หลังจากน้ันล้างด้วยน้าเปล่าสะอาด 2 คร้ัง ในกรณีท่ีคาดวา่ จะมี เชอื้ โรคให้ลวกด้วยน้าร้อนเป็นลาดบั สุดทา้ ย

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมือนสินค้า ๘๑๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 เรอ่ื ง การแตง่ กาพยย์ านี 11 (1) เรือ่ ง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวช้ีวดั ป.๕/๖ แต่งบทรอ้ ยกรอง ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การแต่งกาพยย์ านี ๑๑ นิยมใช้ในการพรรณนาเร่อื งราวต่าง ๆ ผู้เรียนควรเข้าใจฉันทลักษณ์ของคา ประพนั ธ์ เพื่อให้การแต่งมีความถูกต้อง สานวนภาษาไพเราะงดงามสละสลวย จดจาไดง้ ่ายและเกดิ จนิ ตนาการ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการแตง่ กาพย์ยานี 11 ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) สามารถเตมิ คาประพันธ์ท่ีเปน็ กาพย์ยานี 11 ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) เห็นคุณค่าและความงดงามของกาพยย์ านี 11 ๔. สาระการเรยี นรู้ การแต่งกาพย์ยานี 11 ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มุง่ มัน่ ในการทางาน 6.3 รักความเปน็ ไทย 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

๘๑๖ ค่มู อื การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 9 เรือ่ ง การแต่ง ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขน้ั นา 5 1. คณุ ครูกับนกั เรยี นร - การแต่งกาพย์ยานี นาที สนทนาเก่ียวกบั ประเภ 11 บทร้อยกรองในภาษาไทย ยกตัวอยา่ งประเภทบทร มาให้นักเรยี นดู ดังน้ี - โคลงสี่สุภาพ - อินทรวเิ ชียรฉนั ท์ - กาพย์ยานี 11 - กลอนสภุ าพ - ร่ายสุภาพ 2. ครูตั้งคาถามชวนคดิ ครู : นกั เรียนรจู้ ักบทร ชนดิ ใดบ้าง 3. ครถู ามต่อไปว่า ครู : นกั เรยี นเคยแตง่ บ ร้อยกรองหรือไม่ อย่าง

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 รื่อง วิชาเหมอื นสนิ ค้า จานวน 10 ช่วั โมง งกาพยย์ านี 11 (1) จานวน 1 ชวั่ โมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ รว่ มกนั 1. นักเรียนรว่ มกนั สนทนา - ตวั อยา่ ง ภทของ เกี่ยวกบั ประเภทของบท บทรอ้ ยกรอง ทย โดยครู ร้อยกรองในภาษาไทย ชนดิ ตา่ ง ๆ ร้อยกรอง ด ดังนี้ 2. นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม ดงั นี้ - คาถาม - สังเกตการตอบ รอ้ ยกรอง นกั เรยี น : รจู้ กั กาพยย์ านี 11 อยูใ่ นส่ือ PPT คาถามของ (เพราะเพง่ิ เรียนมาตอนตน้ ของ นกั เรยี น หนว่ ยนเ้ี รือ่ ง วิชาเหมือนสนิ คา้ ) 3. นักเรยี นตอบคาถาม บท นักเรียน : เคย/ไมเ่ คย งไร เพราะ...........

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมือนสินค้า ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู 4. จากนัน้ ครูพูดแสดง ความคิดเห็นสรปุ ท้ายแ เข้าสบู่ ทเรยี น 2. ขน้ั สอน 25 1. ครตู ัง้ คาถามเพอ่ื ทบ นาที และตรวจสอบความรเู้ คาคล้องจองและลกั ษณ ของบทรอ้ ยกรองไทย ด ครู : คาคล้องจอง คืออะ ลักษณะอย่างไร ยกตัวอ คล้องจอง ครู : ลักษณะเดน่ ของบ กรองไทยคืออะไร ยกตวั ร้อยกรองทรี่ ู้จัก 2. ครูให้นกั เรียนอภปิ ร ความรู้เกี่ยวกับคาคลอ้ เพอื่ ทบทวนใหน้ ักเรียน ชว่ ยกนั ต่อคาคลอ้ งจอง ประมาณ 5 ชุด เชน่ น เพยี รรู้ ครูสอน ตอนเช เรยี น

๘๑๗ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ ง 4. นกั เรยี นเข้าส่บู ทเรยี นพรอ้ ม แลว้ กนั บทวน 1. นักเรียนสนทนาแสดง - คาถาม - สงั เกตการตอบ เรื่อง ความคดิ เหน็ แลกเปลีย่ นความรู้ คาถามของ ณะเดน่ ความคิดเหน็ กับครู นกั เรยี น ดงั น้ี ะไร มี อยา่ งคา บทรอ้ ย วอย่างบท ราย 2. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย - ใบความรทู้ ่ี 9 องจอง ความรู้จากการศกึ ษาใบความรทู้ ี่ น และ 9 และช่วยกนั ต่อคาคล้องจอง ง ๒ คา ในส่ือ PPT ทคี่ รูนามาอธิบาย นักเรยี น ประกอบ ช้า เขา้

๘๑๘ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู 3. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมเร การแตง่ กาพย์ยานี 11 ยกตวั อยา่ งฉนั ทลกั ษณ คาถาม ดังนี้ ครู : นักเรียนคดิ วา่ การ กาพยย์ านี 11 ง่ายหร อยา่ งไร จุดประสงค์ 4. จากนนั้ ครูเรม่ิ อธบิ า การเรียนรู้ หลกั การแต่งกาพย์ยาน 1. บอกหลกั การแตง่ นักเรียนฟงั และสงั เกตแ กาพยย์ านี 11 ได้ กาพยย์ านี 11 5. ครูให้นกั เรียนจบั ค่อู ร้อยกรองตามฉันทลกั ษ กาพย์ยานี 11 คอื 2/ 3/3 แลว้ อธบิ ายความ จากนั้นสงั เกตคาทพี่ ิมพ โดยเปลยี่ นเร่ืองจากน้นั ความคดิ เหน็ รว่ มกนั

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ - สังเกตการตอบ รื่อง 3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั - คาถาม คาถามของ 1 และ ตอบคาถาม ดังนี้ นกั เรยี น ณ์ และต้งั นกั เรียน : งา่ ย/ยาก เพราะ........ รแตง่ รอื ไม่ าย 4. นกั เรียนร่วมกันอภปิ ราย 1. ประเมนิ นี 11 ให้ เกีย่ วกบั หลกั การแตง่ กาพย์ยานี การอภิปราย แผนผงั 11 หลักการ อ่านบท 5. นักเรียนจับคู่อ่านบทรอ้ ย - ส่ือ PPT เร่ือง ษณ์ กรองตามฉันทลกั ษณ์กาพย์ยานี บทรอ้ ยกรอง /3 และ 11 คอื 2/3 และ 3/3 แล้ว มหมาย อธิบายความหมายจากน้นั พต์ วั หนา สังเกตคาที่พมิ พ์ตัวหนา โดย นแสดง เปลี่ยนเรื่องจากนั้นแสดง ความคิดเหน็ ร่วมกัน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง วิชาเหมือนสินคา้ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู 6. ครยู กตวั อยา่ ง กาพ 11 มาให้นักเรยี นดูแล การแต่ง จากนัน้ ครูอธิบายสร เกี่ยวกบั หลกั การแตง่ ก ยานี 11 ว่าตอ้ งดูคาสัม ถกู ต้อง โยเฉพาะสมั ผัส คอื สมั ผสั ระหว่างวรรค สมั ผัสระหว่างบท 3. 2. สามารถเตมิ คา ขนั้ ปฏิบตั ิ 15 7. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะ ประพันธท์ เี่ ปน็ กาพย์ นาที เรม่ิ ทาใบงานที่ 9 กาพย ยานี 11 ไดถ้ ูกต้อง 3. เหน็ คุณคา่ และ (ครขู น้ึ กจิ กรรมในจอ P ความงดงามของ นักเรียนทาใบงานท่ี 9 กาพยย์ านี 11 กาพย์ยานี 11) 8. ครเู ฉลยใบงาน ตรว จากนน้ั พานกั เรียนสรปุ กิจกรรม 4. ขัน้ สรปุ 5 1. ครสู รปุ ความรเู้ ร่ือง นาที การแตง่ กาพยย์ านี 11

๘๑๙ แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ พยย์ านี 6. นกั เรยี นศึกษาตัวอย่าง - ตัวอยา่ ง ละศึกษา การแตง่ กาพยย์ านี 11 ใหเ้ ขา้ ใจ กาพย์ยานี 11 เร่อื ง วชิ าเหมอื น รปุ สินค้า กาพย์ มผัสให้ สบงั คบั คและ ะกลมุ่ 7. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เร่ิมทา - ใบงานท่ี 8 2. ตรวจใบงาน ย์ยานี 11 ใบงานที่ 9 กาพย์ยานี 11 3. สงั เกต PPT วา่ : (นกั เรียนทงั้ ต้นทาง/ปลายทาง - ส่อื PPT พฤติกรรม 9 ทาใบงานท่ี 9 กาพยย์ านี 11) ของนกั เรยี น วจใบงาน 8. นักเรียนนาเสนองานตนเอง ปการทา และตรวจใบงานไปพร้อม ๆ กัน ง 2. นกั เรียนจดบันทกึ - สอ่ื PPT - สงั เกตการตอบ 1 ในวนั น้ี สาระสาคัญและสรปุ ความร้เู ป็น คาถามของ

๘๒๐ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู วา่ การแตง่ กาพย์ยานี นิยมใช้ในการพรรณนา เร่อื งราวต่าง ๆ ควรทร ฉันทลักษณ์ของคาประ เพื่อใหก้ ารแตง่ มคี วาม สานวนภาษาไพเราะงด สละสลวย จดจาไดง้ า่ ย เกิดจนิ ตนาการตามเน

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ กิจกรรมนักเรียน ๑๑ ข้อ ๆ รว่ มกัน เพื่อสรา้ งองค์ นักเรียน า ความรเู้ กี่ยวกับการแตง่ ราบ กาพยย์ านี 11 ท่ีถูกต้อง ะพันธ์ มถกู ต้อง ดงาม ยและ น้อื เรอ่ื ง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง วชิ าเหมือนสนิ คา้ 821 8. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 9 เร่ือง การแต่งกาพย์ยานี 11 2. ใบงานท่ี 9 เรือ่ ง การแตง่ กาพย์ยานี 11 3. สื่อ PPT เร่ือง การแตง่ กาพยย์ านี 11 4. ตัวอยา่ งกาพย์ยานี 11 เรื่อง วิชาเหมอื นสินค้า 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 9 เรอื่ ง การแตง่ กาพยย์ านี 11 สิง่ ทต่ี อ้ งการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลกั การแตง่ กาพยย์ านี 11 - พจิ ารณาจากการตอบ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ คาถามของนกั เรยี น ขนึ้ ไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - สามารถเตมิ คาประพนั ธท์ เี่ ปน็ - ตรวจใบงานท่ี 9 - แบบประเมิน/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ กาพย์ยานี 11 ได้ถกู ต้อง เรอื่ ง การแตง่ กาพยย์ านี ข้ึนไป 11 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) - สังเกตพฤติกรรมนักเรยี น - แบบสังเกต รอ้ ยละ ๖๐ - เหน็ คณุ คา่ และความงดงาม พฤติกรรม ขนึ้ ไป ของกาพย์ยานี 11 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น - แบบประเมิคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ ผ่าน 2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 3. รกั ความเปน็ ไทย - สังเกตพฤติกรรมนกั เรียน - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น สมรรถนะสาคัญของ ผา่ น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร ผู้เรยี น 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชีวิต

822 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การทาใบงานท่ี 9 การแต่งกาพยย์ านี 11 ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ 1. การแต่ง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) กาพยย์ านี 11 ขาด ๓ - เตมิ คาประพนั ธ์ใน ขาด ๑ ขาด ๒ องค์ประกอบ ช่องวา่ ง ทาใหก้ าพยย์ านี องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ 11 มคี วามถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ครบถว้ น - สง่ งานตรงเวลา - อธิบายการแต่งกาพย์ ยานี 11 ไดถ้ ูกต้อง - ความสะอาดเรยี บร้อย ของผลงาน หมายเหตุ : คา่ นา้ หนกั ข้อละ ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กว่า 12 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป)

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง วชิ าเหมือนสินคา้ 823 แบบประเมินการทาใบงานที่ 9 การแตง่ กาพย์ยานี 11 คาชีแ้ จง ให้ครูผู้สอนประเมินการทากจิ กรรม/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในช่องทก่ี าหนดให้ถกู ตอ้ ง ลาดับ ช่อื - สกลุ คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ท่ี ทีไ่ ด้ รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไม่ผา่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ ร้อยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายช้นั เรียน  นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........................  นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ......................... ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

824 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรือ่ ง วิชาเหมอื นสินคา้ 825 ใบความรู้ที่ ๙ เรอ่ื ง การแตง่ กาพย์ยานี 11 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่ือง วิชาเหมือนสินคา้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เร่อื ง การแต่งกาพย์ยานี 11 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาคลอ้ งจอง คอื คาท่มี ีเสียงรับสัมผสั กัน ลักษณะคาคล้องจอง มีดังน้ี ๑. สระเดียวกนั เช่น กา – นา เรา – เขา ใจ – ใส เสอื – เรอื ๒. สระเดียวกันและมมี าตราตวั สะกดเดียวกนั เช่น กิน – ดนิ ลม – จม ขาว – สาว ตวั อย่างคาคล้องจอง มาลี สสี วย รวยริน กลิ่นหอม กาพยย์ านี ๑๑ เป็นบทร้อยกรองชนิดหนึ่ง มีขอ้ กาหนดในการแตง่ ดังนี้ จานวนคา บทหนึง่ มี ๒ บาท แตล่ ะบาทมี ๒ วรรค วรรคหนา้ มี ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา การสมั ผัส - คาสุดทา้ ยของวรรคท่ี ๑ ต้องสมั ผสั กับคาท่ี ๓ ของวรรคท่ี ๒ - คาสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ตอ้ งสัมผสั กบั คาสุดท้าย ของวรรคที่ ๓ - คาสุดท้ายของวรรคที่ ๓ อาจสัมผัสกบั คาท่ี ๑ หรือคาท่ี ๓ ของวรรคที่ ๔ หรือไม่ มีสัมผัสก็ได้ - หากจะเขียนบทต่อไป ให้คาสุดท้ายของวรรคท่ี ๔ ในบทหน้าสัมผัสกับคาสุดท้าย ของวรรคท่ี ๒ ในบทต่อไป แผนผงั กาพย์ยานี ๑๑ (จานวน ๒ บท) บทที่ 1

826 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ่ี ๙ เร่ือง การแตง่ กาพยย์ านี 11 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เรอื่ ง การแตง่ กาพยย์ านี 11 รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ คําคล้องจอง คอื คาํ ทม่ี เี สียงรับสมั ผัสกนั ลกั ษณะคาํ คลอ้ งจอง มีดงั นี้ ๑. สระเดียวกนั เช่น กา – นา เรา – เขา ใจ – ใส เสอื – เรอื ๒. สระเดียวกนั และมีมาตราตัวสะกดเดยี วกนั เช่น กนิ – ดิน ลม – จม ขาว – สาว ตัวอยา่ งคาํ คล้องจอง มาลี สีสวย รวยรนิ กล่นิ หอม กาพยย์ านี ๑๑ เป็นบทร้อยกรองชนดิ หนึ่ง มีขอ้ กําหนดในการแต่งดังนี้ จํานวนคาํ บทหนงึ่ มี ๒ บาท แต่ละบาทมี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คํา วรรคหลัง ๖ คาํ การสมั ผัส - คําสดุ ท้ายของวรรคท่ี ๑ ต้องสัมผัสกับคําที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ - คําสดุ ทา้ ยของวรรคที่ ๒ ต้องสัมผัสกบั คําสุดทา้ ย ของวรรคท่ี ๓ - คําสุดท้ายของวรรคท่ี ๓ อาจสัมผัสกับคําที่ ๑ หรือคําที่ ๓ ของวรรคท่ี ๔ หรือไม่ มีสัมผสั ก็ได้ - หากจะเขียนบทต่อไป ให้คําสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ในบทหน้าสัมผัสกับคําสุดท้าย ของวรรคท่ี ๒ ในบทตอ่ ไป แผนผงั กาพยย์ านี ๑๑ (จํานวน ๒ บท) บทท่ี ๑  บทที่ ๒ 

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรือ่ ง วิชาเหมือนสินคา้ 827 ตวั อยา่ ง กาพย์ยานี ๑๑ วชิ าเหมือนสินคา้ วชิ าเหมอื นสนิ ค้า อนั มีคา่ อยเู่ มอื งไกล ตอ้ งยากลาบากไป จงึ จะไดส้ นิ ค้ามา จงตงั้ เอากายเจ้า เปน็ สาเภาอนั โสภา ความเพียรเปน็ โยธา แขนซา้ ยขวาเป็นเสาใบ นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่ ปากเป็นนายงานไป อชั ฌาสยั เป็นเสบียง สติเป็นหางเสือ ถอื ท้ายเรือไวใ้ ห้เทีย่ ง ถอื ไวอ้ ย่าใหเ้ อียง ตดั แลน่ เลยี่ งข้ามคงคา ปัญญาเป็นกล้องแกว้ ส่องดูแถวแนวหินผา เจา้ จงเอาหตู า เป็นลา้ ต้าฟงั ดูลม ขเี้ กียจคือปลาร้าย จะทาลายให้เรือจม เอาใจเปน็ ปืนคม ยิงระดมใหจ้ มไป จึงจะไดส้ ินค้ามา คอื วชิ าอนั พิสมยั จงหม่ันมน่ั หมายใจ อย่าไดค้ ร้านการวิชา จากหนังสอื เรียนวรรณกรรม ช้นั ป.5 หนา้ 43

828 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง การแตง่ กาพย์ยานี 11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง วิชาเหมอื นสินคา้ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 เร่ือง การแตง่ กาพย์ยานี 11 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้แี จง ให้นกั เรียนเติมข้อความท่ีขาดหายไปใหส้ มบรู ณ์ ตวั อยา่ ง เช่ือฟังคาสอนครู จะชว่ ยให้หนูไดด้ ี เดก็ เอย๋ เดก็ นอ้ ย เจา้ ยังด้อยเรื่องความรู้ เชือ่ ฟงั คาสอนครู จะชว่ ยหนใู หไ้ ดด้ ี ๑. เหมยี วเอ๋ยเจ้าเพือ่ นยาก เราจะตามจนพบตัว ........................................ เจ้ามาจากพรากเราไป แหง่ หนตาบลไหน ........................................ ๒. ถูกตอตาทาเจบ็ ตัว กอ่ นไปเท่ยี วบ้านเพอ่ื น ........................................ คณุ แม่เตอื นความทรงจา หากลกู ไปเลน่ นา้ ........................................ ๓. สบู ยาและกนิ เหล้า เล่นเกมไมย่ อมเรียน ........................................ ทง้ั เขยี นอา่ นกไ็ มเ่ อา ........................................ อนาคตแสนตบี ตัน ๔. แหมนา่ กินอย่าหา้ มกัน ท้งั มะไฟและมะเฟอื ง หนูชอบกนิ ผลไม้ ........................................ ทุเรียนลูกใหญเ่ ข่ือง ........................................ ๕. ไปเท่ยี วป่าเดนิ ข้ึนเขา ธรรมชาตสิ วยไมเ่ บา แมพ่ อ่ หนูชอบพา ...................................... ...................................... ท้งั อากาศกแ็ สนดี ชอ่ื .....................................................นามสกลุ ...............................................ชัน้ .................เลขท.่ี ..............

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ 829 แนวคาตอบใบงานท่ี ๙ เรอ่ื ง การแต่งกาพย์ยานี 11 หนว่ ยเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง วชิ าเหมือนสนิ คา้ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 10 เรอ่ื ง การแตง่ กาพยย์ านี 11 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเติมขอ้ ความท่ีขาดหายไปใหส้ มบรู ณ์ ตัวอยา่ ง เช่อื ฟงั คาสอนครู จะชว่ ยใหห้ นไู ด้ดี เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เจา้ ยังดอ้ ยเร่อื งความรู้ เชอ่ื ฟังคาสอนครู จะช่วยหนใู ห้ไดด้ ี ๑. เหมยี วเอ๋ยเจา้ เพื่อนยาก เราจะตามจนพบตัว .เ.ห..ม..ยี...ว..เ.อ..๋ย.เ.จ..้า..เ.พ...ือ่ ..น..ย..า..ก........ เจ้ามาจากพรากเราไป แห่งหนตาบลไหน .เ.ร..า..จ..ะ.ต..า..ม..จ..น...พ..บ...ต..วั ............. ๒. ถูกตอตาทาเจ็บตัว กอ่ นไปเทยี่ วบา้ นเพอ่ื น .ก..อ่ ..น..ไ..ป..เ.ท...ีย่ .ว..บ..้า..น..เ..พ..ื่อ..น.......... คุณแม่เตือนความทรงจา หากลกู ไปเล่นนา้ .ถ..ูก..ต...อ.ต..า..ท..า..เ.จ..บ็...ต..วั ............... ๓. สูบยาและกนิ เหลา้ เลน่ เกมไมย่ อมเรยี น .เ.ล.่น...เ.ก..ม..ไ.ม...ย่ ..อ..ม..เ.ร..ีย..น.............. ทง้ั เขยี นอ่านก็ไม่เอา .ส..ูบ..ย..า..แ..ล..ะ.ก..นิ...เ.ห..ล...้า............... อนาคตแสนตบี ตนั ๔. แหมน่ากินอยา่ ห้ามกัน ท้งั มะไฟและมะเฟอื ง หนชู อบกนิ ผลไม้ .ท...้ัง.ม..ะ.ไ..ฟ..แ...ล..ะ..ม..ะ..เ.ฟ..ือ..ง............ ทุเรียนลกู ใหญเ่ ขื่อง .แ..ห...ม..น..่า..ก. ิน...อ..ย..า่..ห..า้..ม..ก..ัน.......... ๕. ไปเท่ยี วป่าเดินข้ึนเขา ธรรมชาตสิ วยไมเ่ บา แมพ่ ่อหนชู อบพา ไ.ป..เ.ท...ี่ย.ว..ป..า่..เ.ด..ิน...ข..น้ึ ...เ.ข..า........... ธ.ร.ร..ม..ช...า.ต...สิ ..ว..ย..ไ.ม...่เ.บ..า............ ทัง้ อากาศกแ็ สนดี

๘๓๐ คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10 เร่ือง การแตง่ กาพย์ยานี 11 (2) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เร่ือง วิชาเหมือนสินคา้ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ชี้วัด ป.๕/๖ แต่งบทร้อยกรอง ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การแต่งกาพย์ยานี ๑๑ นิยมใช้ในการพรรณนาเร่อื งราวต่าง ๆ ควรทราบฉนั ทลกั ษณข์ องคาประพันธ์ เพื่อให้การแต่งมีความถูกต้อง สานวนภาษาไพเราะงดงามสละสลวย จดจาได้ง่ายและเกิดจินตนาการตาม เน้ือเรือ่ ง ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การแต่งกาพย์ยานี 11 ได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) แต่งกาพยย์ านี 11 ตามหัวขอ้ ท่ีสนใจได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) เห็นคณุ คา่ และความไพเราะของกาพยย์ านี 11 ๔. สาระการเรยี นรู้ การแต่งกาพยย์ านี 11 ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รียนรู้ 6.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.3 รักความเปน็ ไทย 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่อง วชิ าเหมือนสินคา้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เรือ่ ง การแตง่ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเน้อื หา ข้นั นา 5 1. ครูยกตวั อย่างบทร - การแตง่ กาพย์ยานี นาที เรอ่ื ง การแต่งกาพย์ยา 11 ดังคากาพย์ท่วี า่ กาพยย์ านีลาน สิบเอ็ดคาจาอยา่ ค วรรคหน้าหา้ คาหม วรรคหลงั หกยกแส ครุลหนุ ้ัน ไมส่ าคญั อยา่ ระแว สัมผสั ตอ้ งจัดแจง ใหถ้ ูกต้องตามวิธี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. ครูทบทวนเรื่อง กา 1. บอกหลกั การแต่ง 11 จากการเรยี นในช กาพยย์ านี 11 ได้ แลว้ ด้วยคาถามทีว่ า่ ครู : กาพยย์ านีมีหลกั อยา่ งไร