หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท 1111 มารยาทในการดูท่ดี ี มีดงั นี้ ๑. ดอู ยา่ งสงบเรียบร้อยไมส่ งเสียงดังรบกวนผูอ้ ื่น ๒. ดูอย่างตั้งใจ ๓. ไมค่ ยุ หรอื เลน่ ในขณะทีด่ ู ไมส่ งเสียงดงั รบกวนผอู้ ่นื ๔. ปรบมอื เมอื่ จบการพูด ๕. ไปถงึ สถานทท่ี มี่ ีการแสดงกอ่ นเวลา ประมาณ ๑๕ นาที ๖. ไมน่ าอาหาร-เครอื่ งด่มื เข้าไปในงาน ๗. ไมล่ ุกเดนิ ไปมาและสร้างความราคาญ มารยาทในการฟงั ทดี่ ี มีดังนี้ ๑. ฟังด้วยความสงบ ๒. ฟงั ด้วยความตงั้ ใจ ๓. ปรบมือเมื่อชอบใจ ๔. มองหนา้ สบตาผพู้ ดู ๕. เมื่อมีขอสงสัยควรถาม เมอื่ ผ้พู ดู เปิดโอกาสใหถ้ าม ไมค่ วรถามแทรกขณะทีผ่ พู้ ูดกาลงั พูดอยู่ ๖. ไมส่ งเสียงรบกวนผอู้ น่ื ๗. ไม่ควรแสดงทา่ ทางไมพ่ อใจเมอื่ ไมช่ อบใจ ๘. ต้งั ใจฟงั ตง้ั แตต่ น้ จนจบ ๙. ไม่ควรแสดงกริ ิยาท่ีไม่เหมาะสม เชน่ โหร่ ้อง ๑๐. ไมค่ วรเดินเข้าเดนิ ออกขณะทผ่ี ้พู ูดกาลงั พูด หากมีความจาเป็นควรทาความเคารพก่อน
1112 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 6 เรื่อง การเขยี นแบบรา่ งการพดู นาเสนอลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรื่อง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 เรื่อง การพูดลาดับข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขยี นแบบร่างการพดู นาเสนอลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน แบบร่างการพดู เร่ือง...................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่อื .....................................................นามสกลุ ...............................................ชน้ั .................เลขท.่ี ..............
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๗ เรื่อง ราชาธริ าช ตอน กาเนดิ มะกะโท ๑๑๑๓ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๗ เร่ือง การวเิ คราะหข์ า่ วและเหตุการณป์ ระจาวนั เวลา 1 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น ตวั ช้ีวัด ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่านเพ่ือนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจาวนั ต้องรูจ้ ักวเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็น เพอ่ื ให้ได้ความรู้และ ข้อคดิ ไปใช้ประโยชนใ์ นการดาเนินชวี ติ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการวิเคราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจาวันได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วิเคราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจาวนั ได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มีมารยาทในการอา่ นและนาความรู้ไปใชใ้ นการดาเนินชวี ิตได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ การวเิ คราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจาวนั ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มุง่ ม่ันในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
๑๑๑๔ คมู่ การจัดกิจกรรมการเรียน รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เร่ือง การวเิ คราะหข์ ่า ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร ๕ 1. ครสู นทนาซักถามน 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขั้นน นาที ดงั นี้ - หลักการวเิ คราะห์ ข่าวและเหตุการณ์ ครู : ชว่ งนมี้ ีข่าวและเ ประจาวนั ประจาวันอะไรท่ีนกั เร อ่านจากสอ่ื ต่าง ๆ เชน่ เว็บไซต์ขา่ ว หนงั สอื พ ท่ีกาลงั เปน็ ทส่ี นใจขอ ท่วั ไปบ้าง ๒. ครูและนกั เรยี นช่ว ข่าวน้นั และตั้งคาถามให ร่วมกันสนทนาหาคาตอ ครู : ข่าวและเหตุการ ทน่ี ักเรยี นอา่ นนั้นมคี ว จรงิ และเชอื่ ถือได้หรือ อย่างไร ครู : การอา่ นข่าวและ เหตกุ ารณป์ ระจาวนั ให
มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 7 เร่ือง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท าวและเหตกุ ารณป์ ระจาวัน จานวน 1 ชั่วโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรียน การเรยี นรู้ นกั เรยี น 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนา - ข่าวจากหน้า - การตอบคาถาม และแสดงความเห็นตามขา่ ว หนงั สือพิมพห์ รือ ของนกั เรยี น เหตุการณ์ และเหตุการณท์ อ่ี ่านหรือ จากเวบ็ ไซตข์ า่ ว รยี นเคย นา่ สนใจในปจั จบุ นั น พมิ พ์ องคน วยกนั เล่า 2. นกั เรยี นร่วมกบั ครูเล่าขา่ ว หน้ กั เรยี น นัน้ และตอบคาถามตามความ อบ ดงั น้ี เข้าใจของตนเอง เช่น รณ์ตา่ ง ๆ นกั เรยี น : ไม่จรงิ เสมอไป บาง วามเป็น ข่าวกเ็ ช่ือถอื ได้ บางข่าวก็ อไม่ บิดเบอื นข้อเทจ็ จรงิ ะ นกั เรียน : ควรจบั ประเด็น หไ้ ด้รบั สาคญั ของข่าวนน้ั ใหไ้ ด้ ตอ้ ง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรื่อง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ประโยชนอ์ ยา่ งแท้จรงิ อย่างไร 3. ครูแสดงความคิดเห ยังไม่เฉลย แจง้ จุดประ การเรยี นรู้ และเชือ่ มโ เนอ้ื หาในบทเรยี น ๒. ขนั้ สอน 15 1. ครูแบง่ กลุ่มนักเรยี นาที 4 คน โดยแบง่ กลมุ่ คล ความสามารถ ๒. ครูให้นกั เรยี นฟงั แ วดี ิทัศน์ เร่อื ง การวเิ ค ข่าวและเหตุการณ์ปร และศึกษาความรู้เพม่ิ ใบความรู้ที่ ๗ แลว้ ร่ว ความเขา้ ใจโดยใช้ประ คาถามลงในสมดุ บนั ท ครู : การวเิ คราะห์ขา่ ว เหตุการณ์ประจาวนั ม
๑๑๑๕ แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน งควรทา แยกขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อคดิ เห็น ต้อง รจู้ ักหลกั การวเิ คราะห์และ แสดงความคิดเหน็ เพ่ือนา ความรหู้ รอื ขอ้ คดิ ไปใช้ ฯลฯ เหน็ โดย 3. นักเรยี นแสดงความคดิ ระสงค์ ความเหน็ เชอ่ื มโยง โยงเขา้ สู่ ประสบการณเ์ ดมิ เข้าสู่ บทเรยี นใหม่ ยนกลมุ่ ละ 1. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ๔ คน ละตาม แบง่ หนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบใน กลุม่ และดู 2. นักเรียนฟงั ดูวีดทิ ัศนแ์ ละ - วีดทิ ัศน์ - สังเกต คราะห์ ศกึ ษาเพิ่มเตมิ จากใบความรูท้ ี่ - ใบความรู้ที่ ๗ พฤติกรรม ระจาวนั ๗ แลว้ อภิปรายสรปุ ความรทู้ ี่ การรว่ มกจิ กรรม มเตมิ จาก ไดภ้ ายในกลุ่มในสมดุ บันทึก กลมุ่ วมกนั สรปุ ะเดน็ ทกึ ดงั น้ี วและ มหี ลกั การ
๑๑๑๖ คมู่ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร อยา่ งไรบ้าง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๕ 3. ครูให้นกั เรยี นตัวแ 1. บอกหลกั การ นาที นาเสนอผลงานภายใน วิเคราะหข์ า่ วและ เหตกุ ารณป์ ระจาวนั ได้ กาหนด 3. 2. วเิ คราะหข์ า่ วและ ข้ันปฏบิ ตั ิ ๔. ครูและนกั เรยี นรว่ เหตกุ ารณ์ประจาวนั ได้ ตรวจ สอบและเสนอค เพมิ่ เตมิ ๒๐ ๕. ครยู กตวั อยา่ งการ นาที ขา่ วและให้นักเรียนอา่ ๖. ครูแจกใบงานท่ี ๗ นกั เรยี นทกุ กลมุ่ อา่ นข เตรยี มมาตามเวลาท่ีก แลว้ จบั ใจความ วิเครา แสดง ความคิดเหน็ แ ความร้นู ั้นไปใชป้ ระโย การดาเนนิ ชีวิตภายใน ตามประเดน็ ในสอื่ PP ๑) ข่าวท่ีอา่ นชอ่ื วา่ อ ๒) เปน็ ข่าวประเภท ๓) ใจความสาคัญขอ
มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ แทนกลมุ่ 3. นกั เรยี นสง่ ตัวแทนกลมุ่ ๑. ประเมิน นเวลาท่ี นาเสนอผลงานตามเวลาที่ การสรปุ หลักการ กาหนด วมกนั ๔. นกั เรยี นบนั ทึกความรู้ ความเห็น ความเข้าใจลงในสมุดบนั ทกึ ความร้เู พมิ่ เตมิ ส่งครู รวเิ คราะห์ ๕. นกั เรียนอ่านข่าวและฝกึ - ตวั อยา่ ง ๒. ตรวจใบงาน านข่าว วเิ คราะหต์ ามขน้ั ตอนในสอื่ การวิเคราะห์ข่าว ใบงานท่ี ๗ ๗ ให้ PPT ข่าวท่ี กาหนด ๖. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ทาใบ - ใบงานท่ี ๗ าะหเ์ พอื่ งานท่ี ๗โดยตอบคาถามจาก และนา ประเดน็ ท่ีครกู าหนดให้ในสือ่ - คาถามอยูใ่ นสือ่ ยชน์ใน PPT PPT นกลมุ่ PT ดงั น้ี อะไร ทใด องข่าววา่
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรือ่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร อยา่ งไร ๔) พาดหัวข่าวน่าสน หรือไม่ เพราะอะไร ๕) ทม่ี าของข่าวคืออ ๖) ข่าวนี้น่าเชอ่ื ถอื ห อย่างไร ๗) ผลของเหตุการณ เป็นอยา่ งไร และสง่ ผล สงั คมอยา่ งไร ๘) ความร้หู รือขอ้ คดิ ขา่ วคืออะไร ๙) นักเรยี นจะนาคว ขอ้ คิดไปใชอ้ ยา่ งไร ๑๐) นกั เรียนมีความค ข้อเสนอแนะอย่างไรตอ่ ๗. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ล ผลงานออกมาตดิ บอร รว่ มกนั ประเมินผลงาน แกไ้ ขปรบั ปรงุ จนครบ
แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ ๑๑๑๗ รู กิจกรรมนักเรยี น การประเมิน การเรียนรู้ นใจ อะไร หรอื ไม่ ณใ์ นข่าว ลต่อ ดที่ได้จาก วามรหู้ รอื คดิ เหน็ หรือ อขา่ วน้ี ละกลมุ่ นา ๗. นกั เรยี นส่งตัวแทนกลุ่มนา ร์ด แล้ว ผลงานออกมาติดบอรด์ แล้ว นเพ่อื รว่ มกนั ประเมินผลงานเพ่ือ บทกุ กลมุ่ แกไ้ ขปรับปรงุ จนครบทกุ กลมุ่
๑๑๑๘ คมู่ ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ 5 1. ครตู ง้ั คาถามเพอ่ื ส นาที ครู : การวเิ คราะหแ์ ล 4. ๓. มมี ารยาทในการ ขัน้ สรุป อา่ นและนาความรู้ไป ความคิดเห็นจากส่ิงท ใช้ในการดาเนินชีวิตได้ อ่านมีความสาคญั อย่า 2. ครูสรปุ ความรเู้ รอื่ ง วิเคราะหข์ ่าวและเหต ประจาวันดว้ ยสอ่ื PPT
มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรียน - สื่อ PPT การเรียนรู้ สรปุ ดงั น้ี 1. นักเรยี นตอบคาถาม ดังน้ี สรปุ บทเรยี น ๓. สงั เกต ละแสดง นกั เรียน : การอา่ นข่าวและ พฤติกรรมของ ท่นี ักเรยี น เหตกุ ารณป์ ระจาวัน ต้องรจู้ ัก นักเรยี น างไร วิเคราะห์และแสดง ความคิดเหน็ เพ่อื ใหไ้ ด้ความรู้ และขอ้ คิดไปใชป้ ระโยชนใ์ น การดาเนนิ ชีวิต ง 2. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ตกุ ารณ์ ในบทเรยี นรว่ มกบั ครอู กี ครงั้ T อีกคร้ัง ในสอื่ PPT
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท 1119 8. สอ่ื การเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ ๗ เรือ่ ง การวเิ คราะหข์ า่ วและเหตกุ ารณป์ ระจาวัน 2. ใบงานที่ ๗ เรอ่ื ง การวิเคราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจาวัน 3. ส่ือ PPT เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจาวัน 4. วดี ทิ ัศน์ เรือ่ ง การวเิ คราะหข์ ่าวและเหตกุ ารณ์ประจาวนั ๕. ข่าวและเหตุการณป์ ระจาวันจากหนา้ หนงั สือพมิ พ์ หรอื เว็บไซต์ตา่ ง ๆ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี ๗ เรอื่ ง การวเิ คราะห์ข่าวและเหตุการณป์ ระจาวนั สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั / ประเมิน วิธีการ เคร่ืองมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การวิเคราะหข์ ่าวและ - พจิ ารณาจากการตอบ - คาถาม เหตุการณ์ประจาวนั คาถามของนกั เรยี น - สมดุ บนั ทึกของนักเรียน ขน้ึ ไป - ตรวจสมุดบันทึก ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) ร้อยละ ๖๐ - วิเคราะห์ข่าวและเหตกุ ารณ์ - ตรวจใบงานที่ 7 - ใบงานที่ 7 ประจาวัน ขน้ึ ไป ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม ร้อยละ ๖๐ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรมของ - คาถาม - มมี ารยาทในการอา่ นและนา นักเรยี น - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ขน้ึ ไป ความรู้ไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน นักเรยี น อันพึงประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2. ความสามารถในการคิด นกั เรยี น สาคัญของผู้เรียน ผ่าน 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชวี ิต
1120 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การทาใบงานที่ ๗ เรอื่ ง การวิเคราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจาวัน ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑. การตอบคาถาม ตอบถูกตอ้ งทุกข้อ ตอบผิด ๑-๒ ขอ้ ตอบผิด ๓ ขอ้ ตอบผดิ มากกว่า จากเรอื่ งทอ่ี า่ น ๓ ขอ้ ๒. จบั ใจความ เน้ือหาถกู ต้องได้ เน้ือหาถกู ตอ้ งได้ เนื้อหาถกู ตอ้ ง แต่ เนอื้ หาถกู ตอ้ ง สาคญั จากเรอื่ งท่ี ใจความตอ่ เนอื่ ง ใจความแต่ไม่ ใจความวกวน บางสว่ น และวกวน อา่ น ตอ่ เนื่อง ๓. บอกความรหู้ รอื บอกความรหู้ รอื บอกความรหู้ รอื บอกความรหู้ รอื บอกความรหู้ รอื ข้อคดิ ทไี่ ด้จากเรือ่ ง ขอ้ คดิ ท่ไี ด้จากเรอื่ ง ข้อคิดท่ไี ดจ้ ากเรอ่ื ง ขอ้ คดิ ที่ได้จากเร่อื งท่ี ข้อคิดท่ีไดจ้ ากเรือ่ ง ที่อ่าน ทอี่ า่ นไดต้ รง ท่ีอ่านได้ตรง อา่ นได้ตรงประเดน็ ท่อี า่ นไดบ้ า้ ง แตไ่ ม่ ประเดน็ ตอ่ เนอ่ื ง ประเดน็ แต่ไม่ แต่วกวน ตรงประเดน็ และ และสมบรู ณ์ ต่อเนื่องเลก็ นอ้ ย วกวน ๔. การแสดง พูดและเขยี นแสดง พูดและเขียนแสดง พูดและแสดงความ พดู และเขียนแสดง ความคดิ เห็นจาก ความคิดเห็นดว้ ย ความคดิ เหน็ แสดง คิดเหน็ บางสว่ น ความคิดเหน็ ไม่ เรือ่ งที่อ่าน เหตผุ ลและ เหตผุ ลบางส่วน สอดคล้องกบั เร่ือง สอดคลอ้ งกบั เร่ือง สอดคล้องกบั เรื่อง สอดคล้องกบั เรือ่ ง ๕. มมี ารยาท ไมส่ ง่ เสยี งดัง ไม่สง่ เสียงดงั สง่ เสียงดงั และเล่น สง่ เสยี งดงั และเลน่ ในการอา่ น รบกวนผอู้ ืน่ ไมเ่ ลน่ รบกวนผู้อนื่ ไม่เลน่ ในขณะอา่ นเปน็ ในขณะอ่าน ขณะอา่ น และ ขณะอา่ น บางครง้ั ตงั้ ใจอ่านอย่าง ครบถว้ น เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กว่า 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑก์ าประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ นึ้ ไป)
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ เรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน กําเนดิ มะกะโท 1121 แบบประเมนิ การทาํ ใบงานท่ี ๗ เรื่อง การวเิ คราะหข์ ่าวและเหตกุ ารณป์ ระจาํ วนั คาํ ชแี้ จง ใหค้ รผู ้สู อนประเมนิ ผลการทํางานของนกั เรยี น โดยเขียนคะแนน ลงในช่องทกี่ าํ หนดให้ถกู ต้อง การตอบคําถามจากเรื่อง ่ีท ่อาน สรปุ (๔ คะแนน) ลําดบั ชอื่ -สกลุ จับใจความสําคัญจากเรื่อง ี่ท ่อาน รวม คิดเป็น ผา่ น ไมผ่ ่าน ที่ (๔ คะแนน) คะแนน ร้อยละ บอกความรู้ห ืรอ ้ขอคิด ี่ทไ ้ดจาก (๒๐) เรื่อง ่ีท ่อาน (๔ คะแนน) การแสดงความคิดเห็นจากเร่ือง ี่ท ่อาน (๔ คะแนน) ีมมารยาทในการ ่อาน (๔ คะแนน) ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ดี ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ สรปุ ผลการประเมินรายชน้ั เรยี น นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน จาํ นวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ......................... นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ จํานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
1122 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๑0. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชอ่ื ...................................................... ผ้ตู รวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรือ่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท 1123 ใบความรทู้ ่ี ๗ เรอื่ ง การวเิ คราะห์ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจาวัน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรื่อง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรอื่ ง การวเิ คราะห์ข่าวและเหตุการณป์ ระจาวัน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ขา่ ว คือ รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น ตลอดจนความคิดเห็นของบุคคลสาคัญ ซ่ึงเป็น เรื่องราวที่ประชาชนให้ความสาคัญและสนใจ การวเิ คราะหข์ ่าว หมายถึง การใช้ปญั ญาและความคิดในการใครค่ รวญ โดยการนาข่าวสารท่ีสนใจมาวิเคราะห์แยกแยะ เพอ่ื ให้ความกระจ่าง หรือวิเคราะห์ความสลับซับซ้อน ให้ได้ทราบถึงรายละเอียดมากยิ่งขน้ั พิจารณาด้วยเหตุ ด้วยผลในทกุ ด้าน ไม่ว่าดา้ นดหี รือดา้ นเสยี โดยมิใชเ่ ปน็ ความเหน็ สว่ นตวั ของผูว้ ิเคราะห์ และประเมินผลสรุปถึง แนวโน้มในอนาคต การอา่ นข่าวผา่ นส่ือหลาย ๆ ประเภท เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร โทรทัศน์ อินเทอรเ์ น็ต ฯลฯ ผสู้ ่งสาร จะถา่ ยทอดความรู้ ความเข้าใจและความคิดเหน็ โดยการเขียนขา่ วตามประสบการณ์ การศึกษาและการอบรม ตลอดจนความเชอ่ื และลกั ษณะนสิ ัยของแต่ละคนทแ่ี ตกต่างกัน ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ท่ีเราไดร้ บั มานน้ั อาจมี ท้ังข้อเท็จจรงิ การบดิ เบือนขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเห็น ผรู้ ับสารจึงควรพิจารณาใหร้ อบคอบ ถี่ถว้ น เมอ่ื อา่ นข่าว นั้น ๆ แนวทางในการวิเคราะห์ ดงั น้ี ๑. เป็นเรือ่ งอะไรหรอื กล่าวถงึ เรอ่ื งใด ๒. เปน็ ข่าวประเภทใด ๓. ผเู้ ขียนมจี ุดมุ่งหมายอยา่ งไร ๔. ใจความสาคัญของข่าวว่าอยา่ งไร ๕. พาดหวั ขา่ วน่าสนใจหรอื ไม่ เพราะอะไร ๖. ข่าวน้ีนา่ เชอื่ ถือหรอื ไม่ อยา่ งไร (แยกขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อคิดเห็น แลว้ ขอ้ หาขอ้ มูลหลกั ฐานมาประกอบ เปรยี บเทียบ ขา่ วที่ดตี ้องไมบ่ ดิ เบอื นข้อเทจ็ จริง) ๗. ผลของเหตกุ ารณใ์ นขา่ วเป็นอยา่ งไร และส่งผลต่อสงั คมอยา่ งไร ๘. ความรู้หรือขอ้ คิดทีไ่ ด้จากขา่ วคืออะไร และการนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งไร ๙. การใช้ภาษาในการนาเสนอข่าวเป็นอย่างไร (ถกู ต้องตามหลักภาษา สุภาพ ไม่หยาบคาย ไม่ดูหม่ิน ยแุ หยใ่ หเ้ กิดการเกลยี ดชังแตกแยกหรือรา้ ยผ้อู ื่น) ๑๐. ความคิดเห็นหรอื ขอ้ เสนอแนะต่อข่าวน้วี า่ อยา่ งไร (มเี หตุผลประกอบ)
1124 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) การเลือกเร่อื งในการวเิ คราะห์ เป็นเรื่องทม่ี ีผลกระทบตอ่ คนหมมู่ าก ไมเ่ ฉพาะจดุ ใดจดุ หนึ่ง เป็นเรอื่ งท่ีมีความใหม่ หรอื มคี วามสดอยู่ เป็นเร่ืองที่มีปัญหาขอ้ ขดั แย้งอยู่ยังไม่มกี ารช้ีชัดในทางใดทางหนึ่งหรือเรอื่ งที่ยังมีความเคลือบคลุมไมก่ ระจ่าง ชดั เม่ืออ่านข่าวหรอื เหตุการณ์ประจาวนั แล้ว ผูร้ ับสารตอ้ งรจู้ กั วิเคราะห์โดยต้องดจู ากการเลา่ เหตุการณ์ ตามลาดับตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ปิดบังอาพราง อ้างอิงหลักฐานที่มา สถานท่ี เวลา รวมถึงบุคคลที่เก่ียวข้อง เพ่อื ให้ทราบรายละเอยี ดท่ชี ดั เจน ทาให้ไดร้ ับความรูห้ รือข้อคิดทเี่ ปน็ ประโยชนไ์ ปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท 1125 ใบงานที่ 7 เร่อื ง การวเิ คราะห์ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจาวัน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 7 เร่ือง การวิเคราะห์ข่าวและเหตุการณช์ ีวติ ประจาวัน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านข่าวหรือเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ตามความสนใจ แล้ววิเคราะห์ข่าวจากคาถามทีก่ าหนดให้ ๑. ช่ือข่าว จาก ๒. เป็นข่าวประเภท ๓. จุดมงุ่ หมายในการเสนอขา่ วเพ่อื ๔. ใจความสาคัญของขา่ ว ๕. พาดหัวนา่ สนใจหรอื ไม่ เพราะอะไร ๖. ขา่ วน้นี า่ เชือ่ ถอื หรอื ไม่ อย่างไร ๗. ผลของเหตกุ ารณใ์ นขา่ วเปน็ อยา่ งไร และส่งผลตอ่ สงั คมอย่างไร ๘. ประโยชน์/ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากขา่ วนี้ คอื ๙. จะนาไปใช้ในการดาเนินชวี ติ โดย ๑๐. ความคดิ เหน็ หรือขอ้ เสนอแนะ ชอื่ .....................................................นามสกุล..............................................ชั้น.................เลขท.ี่ ..............
1126 คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 7 เร่ือง การวเิ คราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจาวัน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เร่ือง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 เรือ่ ง การวิเคราะห์ขา่ วและเหตกุ ารณ์ชวี ติ ประจาวนั รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนอ่านข่าวหรอื เหตุการณ์ต่าง ๆ ตามความสนใจ แล้ววเิ คราะห์ข่าวจากคาถามทก่ี าหนดให้ ตวั อย่างการวเิ คราะหข์ ่าว ๑. ชือ่ ข่าว ติดอาวธุ สโู้ ควดิ เจลฆ่าเช้ือ ไร้แอลกอฮอล์ นวัตกรรมใหม่ในยคุ โควิด-19 จาก ขา่ วไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/news/local/1995224 ๒. เป็นข่าวประเภท ข่าวท่ัวไป (ซึ่งเก่ียวกับสถานการณ์บ้านเมอื งปัจจุบนั ปี พ.ศ. 2563) ๓. จุดมุ่งหมายในการเสนอขา่ วเพ่ือ นาเสนอนวตั กรรมเจลฆ่าเชือ้ ไร้แอลกอฮอล์ทฆ่ี ่าเชอื้ ได้มากกวา่ 99 % ๔. ใจความสาคัญของข่าว มกี ารคิดค้นผลติ ภัณฑน์ วัตกรรมใหม่จากงานวจิ ัยไทย เจลฆ่าเชื้อ ปราศจาก แอลกอฮอล์ ผ่านการทดสอบการฆ่าเช้ือก่อโรคโควิด-19 และเช้ือ RSV ได้มากกว่า 99% ภายใต้ชื่อ \"Besuto 12\" หรอื \"เบซโู ตะ ทเวลฟ์\" จากการรว่ มมอื ของ เฮลทเิ นส กับ สานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนบั สนุนการพัฒนาเทคโนโลยแี ละนวัตกรรม (ITAP) กระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ เอวีเอส อินโนเวชั่น จากัด บริษัทในกลุ่ม อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Science Park) เพ่ือหวังทางเลือกใหม่สาหรับคนในยุค นิวนอรม์ อล (New Normal) ๕. พาดหัวน่าสนใจหรือไม่ เพราะอะไร น่าสนใจ เพราะมีการใช้คาเปรียบเทียบ โดยใช้คาว่า “อาวุธ” ที่ เปรยี บเสมอื นการใช่ตอ่ สกู้ ับโรคโควิด และหัวข่าวตรงกับสถานการณป์ ัจจบุ ัน ๖. ข่าวนี้นา่ เชอ่ื ถือหรอื ไม่ อยา่ งไร น่าเชื่อถือ เพราะมีแหล่งข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือ มีสถาบันรับรองการผลิต เจลฆา่ เชื้อ โรคโควดิ ๗. ผลของเหตกุ ารณใ์ นข่าวเปน็ อยา่ งไร และส่งผลต่อสงั คมอย่างไร นวัตกรรมเจลรปู แบบใหมไ่ ร้ แอลกอฮอล์ เปน็ หนงึ่ ในนวัตกรรมทสี่ ามารถต่อยอดออกมาเปน็ ผลิตภณั ฑ์ โดยความรว่ มมอื ของภาครัฐและ เอกชน เพ่อื ให้ผบู้ ริโภคเกิดความมนั่ ใจ และสง่ เสรมิ การใช้นวตั กรรมจากงานวจิ ัยไทย ๘. ประโยชน์/ข้อคิดท่ไี ดจ้ ากข่าวนี้ คอื ได้ประโยชน์ต่อสังคมในเร่ืองของนวัตกรรมการป้องกันโรคโควิด ซ่ึงกาลังเป็นท่ีจับตามองในปัจจุบัน และได้ข้อคิดเกี่ยวกับการช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันในการรักษาโรค ระบาด หมายเหตุ โรงเรยี นปลายทางสามารถปรบั เลือกข่าวทสี่ นใจ และเหมาะสมกบั ระดบั ของนกั เรยี น ๙. จะนาไปใช้ในการดาเนินชีวติ โดย
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ๑๑๒๗ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 8 เรื่อง การใชพ้ จนานุกรม เวลา 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน กาเนดิ มะกะโท กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน ชวี ิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น ตวั ช้ีวัด ป.๕/๖ อ่านงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คาส่ัง ขอ้ แนะนา และปฏบิ ัตติ าม ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การเรยี นรเู้ ร่ือง การใชพ้ จนานุพรม เปน็ การอา่ นคาแนะนาในการใช้พจนานุกรมชว่ ยให้ปฏิบัตติ ามได้ ถกู ตอ้ งวิธี ค้นหาที่มา ความหมาย และชนดิ ของคา ทาใหน้ าคาไปใช้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลกั การใชพ้ จนานกุ รมได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เรยี งลาดับคาตามพจนานกุ รมและหาความหมายโดยใช้พจนานุกรมได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) บอกประโยชน์ของพจนานุกรมได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ - การใชพ้ จนานุกรม ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 มงุ่ มั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
๑๑๒๘ ค่มู การจดั กจิ กรรมการเรยี น รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๘ เร่ือง การ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเนื้อหา ข้นั นา 10 1. ครูให้นักเรยี นอา่ นแ 1. หลกั การใช้ นาที ท่ีติดบนกระดาน แล้วใ พจนานุกรม นกั เรียนทายคาสลบั อัก 2. การเรยี งลาดับคา ตามพจนานุกรม พจนานุกรม หาความหมายของคา ๒. ครูตั้งคาถามให้นักเ จากพจนานกุ รม รว่ มกันสนทนาหาคาตอ ๓. ประโยชนจ์ าก - พจนานกุ รมคืออะไร การใช้พจนานุกรม - พจนานกุ รม ฉบบั ราช สถานกับปทานานกุ รม เหมอื นกันหรอื ตา่ งกนั อ - การใช้พจนานกุ รมให รวดเรว็ ตอ้ งทาอยา่ งไร 3. ครใู ห้นักเรียนดพู จน ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ๒๕๕๔
มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) นรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน 7 เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท การเรยี นรู้ รใชพ้ จนานุกรม จานวน 1 ชว่ั โมง - แถบตวั อักษร “พจนานกุ รม” - สังเกตการตอบ แนวการจดั การเรยี นรู้ คาถามของ กจิ กรรมนักเรียน นกั เรยี น แถบอกั ษร 1. นักเรยี นอา่ นแถบอกั ษร ให้ แล้วทายว่า กษร ดงั น้ี พจนานุกรม เรียน 2. นักเรียนตอบคาถามตาม อบ ดังนี้ ความเขา้ ใจของนักเรียน ชบัณฑิตย- ม อยา่ งไร หเ้ กง่ และ นานานกุ รม 3. นักเรียนดูพจนานานุกรม - พจนานานกุ รม พ.ศ. ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ฉบับราชบณั ฑติ ย- ๒๕๕๔ สถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรอื่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู 4. ครแู สดงความคิดเห ทา้ ย แจ้งจุดประสงค์ก จากน้ันเช่ือมโยงเข้าสู่เน บทเรยี น ๒. ขน้ั สอน 15 1. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรียน นาที 4 คน โดยแบง่ กลุม่ คล ความสามารถ แลว้ แจกใ ท่ี ๘ เรอื่ งการใช้พจนาน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒. ให้นกั เรียนศึกษาคว 1. บอกหลกั การใช้ การใช้พจนานกุ รม แล พจนานกุ รมได้ สรปุ ความเข้าใจโดยใช คาถามดังนี้ ครู : ถา้ นักเรียนจะใชพ้ จ นกั เรยี นต้องทาอยา่ งไรบ 3. ครบู รรยายเพมิ่ เตมิ คว ให้นักเรยี นโดยใช้สื่อ P ๔. ครูแจกใบงานที่ ๘ ต ใหน้ กั เรยี นอ่านคาและ
๑๑๒๙ แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ห็นสรปุ 4. นักเรยี นเช่ือมโยง การเรยี นรู้ ประสบการณ์เดมิ เข้าสู่ นอ้ื หาใน บทเรียน นกลมุ่ ละ 1. นักเรียนแบ่งกลุม่ ๔ คน - ใบความรู้ที่ ๘ ละตาม แบง่ หน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบใน เร่ือง การใช้ ใบความรู้ กลมุ่ พจนานกุ รม นกุ รม วามรเู้ ร่ือง 2. นกั เรยี นระดมความคดิ โดย - ใบความรู้ที่ ๘ ๑. ตรวจการสรปุ ล้วรว่ มกนั การอภปิ รายในกลมุ่ จาก เรื่อง การใช้ ความรูใ้ นสมุด ชป้ ระเด็น การศึกษาจากใบความร้ทู ี่ ๘ พจนานุกรม บันทึกของ นักเรียน การใช้พจนานกุ รมและหนงั สอื - หนงั สือเรยี น จนานกุ รม เรียนภาษาพาที ชนั้ ป.๕ และ ภาษาพาที บา้ ง สรปุ ความรลู้ งในสมุดบันทกึ ชั้น ป.๕ - สมุดบันทกึ ความเขา้ ใจ 3. นักเรียนบนั ทึกความรู้ ความรู้ PPT ความเขา้ ใจลงในสมดุ บนั ทึก - สอื่ PPT ความรูเ้ พมิ่ เตมิ สง่ ครู ตอนท่ี ๑ ๔. นกั เรียนตัวแทนแต่ละกลมุ่ - ใบงานที่ ๘ ะขึน้ ส่อื รับใบงานไปแจก และทาใบ เรื่อง การใช้
๑๑๓๐ คมู่ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมครู PPT คาถาม ดงั นี้ ครู : จะตอ้ งเรยี งลาดับ ต่อไปนอี้ ย่างไรจงึ จะถูกต พจนานกุ รม ๕. ครใู หน้ ักเรยี นทกุ คน ก-ฮ และรปู สระใหค้ ล่อ 3. 2. เรียงลาดับคาตาม ขนั้ ปฏบิ ตั ิ ๒๐ ๖. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะ พจนานกุ รมและหา นาที แข่งขนั เรียงลาดับคาตา ความหมายโดยใช้ พจนานุกรมได้ พจนานกุ รมในใบงานท ท่ี ๑ โดยกาหนดวา่ กล่มุ เสร็จกอ่ น ทาเวลาได้เร และถกู ต้องเปน็ ฝ่ายชน ๗. ครใู หน้ ักเรยี นกลุ่มเ แข่งขันกนั บอกความห คาที่ครูกาหนด กลุ่มใด ตอบกอ่ นและถูกต้องจ คะแนนคาละ ๑ คะแน (ครูขน้ึ กิจกรรมในจอ P
มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ กจิ กรรมนักเรยี น . งานท่ี ๘ ตอนที่ ๑ และตอบครู พจนานกุ รม บคา เช่น ตอนที่ ๑ กต้องตาม นักเรยี น : เรยี งลาดับตามรปู ก-ฮ และรูปสระ นท่อง ๕. นกั เรียนทุกคนท่อง ก-ฮ - ใบงานที่ ๘ เรอ่ื ง ๒. ประเมินใบ อง และรปู สระจนคล่อง การใช้พจนานุกรม งาน ตอนท่ี ๑ ะกลมุ่ ๖. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเรียง ตอนท่ี ๑ การเรียงคาตาม าม ลาดบั คาตามพจนานกุ รมในใบ - ใบงานที่ ๘ พจนานุกรม ท่ี ๘ ตอน งานท่ี ๘ ตอนที่ ๑ ถ้ากลมุ่ ใด เรอ่ื ง การใช้ มใดทา ทาเสรจ็ กอ่ น และทาเวลาได้ พจนานุกรม ร็วทีส่ ุด เร็วทส่ี ดุ รีบยกมอื ข้นึ และ ตอนท่ี ๒ นะ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้น ถ้าถกู ตอ้ งเปน็ ฝา่ ยชนะ เดมิ ๗. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ การทา หมายของ กจิ กรรมหาความหมายของคา ดยกมอื ทีก่ าหนดในใบงานตอนที่ ๒ จะได้ นน PPT ว่า :
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู นกั เรยี นทากจิ กรรมใบค เรอื่ ง การใชพ้ จนานกุ รม 4. ๓. บอกประโยชน์ของ ขน้ั สรุป 5 1. ครูต้ังคาถามเพอื่ สร พจนานุกรมได้ นาที ครู : พจนานกุ รมมีประ อย่างไร ใหน้ ักเรยี นอา สรปุ เป็นแผนภาพความ 2. ครูพานกั เรยี นสรปุ ค เรื่อง การใช้พจนานุกร PPT อีกคร้งั
๑๑๓๑ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ กจิ กรรมนักเรียน 3. พิจารณาจาก ความรู้ที่ ๘ การตอบคาถาม ม ตอนท่ี ๒ รปุ ดงั นี้ 1. นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม - คาถามอยใู่ น ดงั น้ี ส่ือ PPT ะโยชน์ นกั เรียน : าจเขยี น - พจนานุกรมเปน็ หนงั สือ มคิด รวบรวมคาทมี่ ใี ช้อยใู่ นภาษาไทย โดยเรียงลาดบั ตามพยัญชนะ และสระ - กาหนดวธิ อี ่าน ความหมาย ตลอดจนทมี่ าของคาเพื่อใชเ้ ปน็ แบบมาตรฐาน ในการเขียนหนังสอื ไทยใหเ้ ปน็ แบบแผนเดยี วกัน - การใชพ้ จนานกุ รมช่วยค้นหา ความหมายของคา ทาให้นาคา ไปใช้ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (นกั เรียนสรปุ เปน็ แผนภาพลง สมดุ ) ความรู้ 2. นกั เรียนสรปุ ความรู้ใน - สอ่ื PPT รมในสือ่ บทเรียนรว่ มกบั ครอู กี ครง้ั ใน สรปุ บทเรียน ส่ือ PPT
1132 ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ ๘ เร่อื ง การใชพ้ จนานกุ รม 2. ใบงานที่ ๘ เรือ่ ง การใช้พจนานกุ รม 3. ส่ือ PPT เรอ่ื ง การใชพ้ จนานกุ รม 4. แถบคาสลับอกั ษร ๕. หนังสอื เรยี นภาษาพาที ชัน้ ป.๕ ๖. พจนานานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ และปทานกุ รม 7. คาถาม 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี ๘ เรอ่ื ง การใช้พจนานุกรม ส่ิงทีต่ อ้ งการวดั / ประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาจากการตอบ - บอกหลกั การใชพ้ จนานกุ รม คาถามของนักเรยี น - คาถาม ร้อยละ ๖๐ - ตรวจสมดุ บันทึก ขึ้นไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - ตรวจใบงานท่ี ๘ - สมุดบนั ทกึ ของนักเรียน - เรยี งลาดบั คาตามพจนานกุ รม เรอ่ื ง การใช้พจนานุกรม และหาความหมายโดยใช้ - ใบงานท่ี ๘ เร่ือง การใช้ รอ้ ยละ ๖๐ พจนานกุ รม - พจิ ารณาจากการตอบ พจนานกุ รม ขน้ึ ไป ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม คาถามของนกั เรียน - แบบประเมนิ การอ่าน (A) - สังเกตพฤติกรรม - บอกประโยชน์ของการใช้ - สังเกตพฤตกิ รรม - คาถาม ร้อยละ ๖๐ พจนานกุ รม นกั เรียน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ข้นึ ไป - การสงั เกตพฤติกรรม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ถาพ 1. ใฝเ่ รียนรู้ อนั พึงประสงค์ ผ่าน 2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร สาคญั ของผเู้ รยี น ผา่ น 2. ความสามารถในการคิด
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ เร่อื ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท 1133 เกณฑ์ประเมนิ : การทาใบงานท่ี ๘ การใชพ้ จนานุกรม ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ใช้พจนานุกรมได้ ๑. การใช้ ใชพ้ จนานกุ รมได้ ใชพ้ จนานกุ รมได้ ใช้พจนานกุ รมได้ แต่ตอ้ งมผี ้แู นะนา พจนานุกรม คล่องแคล่วและ คลอ่ งแคลว่ และ ตามวิธีการทถ่ี กู ตอ้ ง รวดเร็ว สามารถ รวดเร็ว แตต่ ้องใช้เวลา ใช้พจนานุกรมได้ แนะนาผู้อ่ืนได้ แตต่ ้องมผี ู้แนะนา ๒. การเรยี งลาดบั ใชพ้ จนานุกรมได้ ใช้พจนานุกรมได้ ใชพ้ จนานุกรมได้ หาความหมาย คาตามพจนานกุ รม คลอ่ งแคลว่ และ คลอ่ งแคลว่ และ ตามวิธีการที่ถูกต้อง ของคาโดยใช้ รวดเรว็ แตต่ อ้ งใช้เวลา พจนานกุ รมได้ รวดเร็ว สามารถ ถกู ต้อง ๗ คา แนะนาผอู้ ่นื ได้ ๓. การหาความ หาความหมายของ หาความหมายของ หาความหมายของ หมายของคาโดย ของคาโดยใช้ คาโดยใช้ คาโดยใช้ ใช้พจนานกุ รม พจนานกุ รมได้ พจนานกุ รมได้ พจนานกุ รมได้ ถูกต้อง ๑๐ คา ถกู ต้อง ๙ คา ถูกตอ้ ง ๘ คา ๔. ความเป็น ผลงานเป็นระเบยี บ ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานบางส่วนเปน็ ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บ ประณตี เปน็ ระเบียบ ระเบยี บ มขี อ้ บกพรอ่ ง ไมเ่ ป็นระเบียบ แตไ่ มป่ ระณตี คอ่ นขา้ งมาก และมขี ้อบกพรอ่ ง มาก ๕. เสรจ็ ตามเวลา ส่งงานตามเวลาที่ ส่งงานลา่ ช้ากวา่ สง่ งานลา่ ช้ากว่าเวลา สง่ งานล่าช้ากว่า ทีก่ าหนด กาหนด เวลาที่กาหนด ๑ ท่กี าหนด ๒ วัน เวลาทก่ี าหนด ๓ วัน วัน เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากวา่ 12 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผ่านเกณฑก์ าประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป)
1134 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การทาใบงานที่ ๘ การใช้พจนานุกรม คาช้แี จง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ ผลการทากิจกรรม/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในชอ่ งทกี่ าหนดให้ถูกตอ้ ง สรปุ การใ ้ชพจนา ุนกรม ลาดับ ช่อื -สกุล (๔ คะแนน) รวม คิดเปน็ ผ่าน ไมผ่ ่าน ท่ี การเรียงลา ัดบคาตาม คะแนน ร้อยละ พจนานุกรม(๔ คะแนน) การหาความหมายของคา (๒๐) โดยใ ้ชพจนานุกรม (๔ คะแนน) ผลงานมีความเป็น ระเบียบ (๔ คะแนน) เสร็จ ัทนตามกาหนดเวลา (๔ คะแนน) ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ 10 ๑1 12 รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมิน ดมี าก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............. ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............. ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นร้อยละ................. สรปุ ผลการประเมนิ รายชั้นเรยี น นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ......................... นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ . ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท 1135 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผ้ตู รวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
1136 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ที่ 8 เรอื่ ง การใชพ้ จนานกุ รม หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 8 เรอ่ื ง การใช้พจนานกุ รม รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ การใชพ้ จนานุกรม ปัจจุบันนี้ นักเรยี นจะเห็นได้ว่า คา ที่เราใชใ้ นการพดู จากันมีมากมายจนบางครงั้ ทาให้เกดิ ปัญหา ในด้านการใช้ภาษา บางครั้งไม่ทราบว่าจะเขียนคาน้ันอย่างไร จะอ่านอย่างไร มีความหมายว่าอย่างไร และจะใชค้ านนั้ อยา่ งไร ตลอดจนที่มาของคานั้น วา่ มาจากภาษาใด พจนานกุ รม คือ หนังสือว่าด้วยถ้อยคาในภาษาใดภาษาหน่ึงเรียงตามลาดับตัวอักษร โดยท่ัว ๆ ไปจะบอก ความหมายและทม่ี าของคา อกั ษรยอ่ และคาย่อในพจนานุกรม ๑. อักษรย่อหน้าบทนยิ าม จะบอกชนดิ ของคาตามหลักไวยากรณ์ ๒. อกั ษรย่อในวงเลบ็ ท้ายบทนิยาม จะบอกทมี่ าของคา ๓. คายอ่ ในวงเล็บ จะบอกลักษณะของคาทใี่ ช้เฉพาะแหง่
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรื่อง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท 1137 แผนภาพความคดิ ประโยชนข์ องพจนานกุ รม
1138 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 8 เร่อื ง การใชพ้ จนานกุ รม หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 8 เรื่อง การใชพ้ จนานกุ รม รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั คาตอ่ ไปน้ีตามพจนานกุ รมให้ถกู ตอ้ ง 1. ชาวนา จัดสรร กังขา เจอื จนุ ขตั ติยา 2. ถวายพระพร ชื่นฤดี ทวยเทพ ประจักษ์ ตรัส 3. พระบรมวงศ์ บพุ กษตั รยิ ์ ภมู ี ขานไข เทวฤทธิ์ 4. หยาดเสโท พระกายา รัฐ พงพี ยุบล 5. สารพนั ประชาราษฎร์ พระภวู ดล มหาชน พยาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เรือ่ ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท 1139 ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาต่อไปน้ีตามพจนานุกรม วรรณคดี ความหมาย ประหลาด ความหมาย อสนี ความหมาย ประกบ ความหมาย ชาแหละ ความหมาย บูรพาทิศ ความหมาย แสงอรณุ ความหมาย มนเทยี ร ความหมาย สกั การบูชา ความหมาย บรุ ษุ ความหมาย รามัญ ความหมาย อนเุ คราะห์ ความหมาย มลู ดนิ ความหมาย ชือ่ .....................................................นามสกลุ ..............................................ชัน้ .................เลขท.ี่ ..............
1140 คู่มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 8 เรือ่ ง การใชพ้ จนานกุ รม หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 เร่ือง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง การใช้พจนานกุ รม รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นเรียงลาดับคาต่อไปนต้ี ามพจนานุกรมใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ชาวนา จดั สรร กังขา เจือจุน ขตั ติยา กงั ขา ขัตตยิ า จัดสรร เจือจนุ ชาวนา ๒. ถวายพระพร ชน่ื ฤดี ทวยเทพ ประจกั ษ์ ตรัส ชื่นฤดี ตรสั ถวายพระพร ทวยเทพ ประจกั ษ์ ๓. พระบรมวงศ์ บพุ กษัตริย์ ภูมี ขานไข เทวฤทธ์ิ ขานไข เทวฤทธ์ิ บพุ กษตั ริย์ พระบรมวงศ์ ภมู ี ๔. หยาดเสโท พระกายา รฐั พงพี ยุบล พงพี พระกายา ยุบล รฐั หยาดเสโท ๕. สารพนั ประชาราษฎร์ พระภวู ดล มหาชน พยาน ประชาราษฎร์ พยาน พระภวู ดล มหาชน สารพนั
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ เรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนดิ มะกะโท 1141 ตอนท่ี 2 ให้นกั เรียนบอกความหมายของคาตอ่ ไปน้ีตามพจนานกุ รม วรรณคดี ความหมาย วรรณกรรมทีไ่ ดร้ ับยกย่องว่าแตง่ ดมี คี ุณค่าเชงิ วรรณศลิ ป์ ประหลาด ความหมาย แปลกผดิ ปรกตหิ รือมไิ ด้คิดคาดหมายว่าจะเปน็ ไปได้ อสนี ความหมาย สายฟา้ , อาวุธพระอนิ ทร์ ประกบ ความหมาย แนบชิดกนั , ทาบกัน ชาแหละ ความหมาย เลาะเนื้อออกจากระดกู , แลแ่ ลว้ แบะออก, เฉอื นเป็นช้ิน ๆ บรู พาทิศ ความหมาย ทิศตะวันออก แสงอรุณ ความหมาย แสงแดดในยามเชา้ เวลาพระอาทิตยข์ น้ึ มนเทยี ร ความหมาย เรอื นหลวงซ่งึ ใชเ้ ป็นท่ีประทบั ประจาของพระมหากษตั รยิ ์ สกั การบูชา ความหมาย การบชู าด้วยสง่ิ หรอื เคร่อื งอันพึงบชู า บรุ ษุ ความหมาย ผูช้ าย, เพศชาย รามญั ความหมาย มอญ อนุเคราะห์ ความหมาย เอ้อื เฟอื้ , ชว่ ยเหลอื มลู ดิน ความหมาย ดนิ ทสี่ ัตวข์ ุดคุ้ยสงู ข้ึนเป็นโขด
๑๑๔๒ ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 เรื่อง สานวนไทย ใชถ้ ูกตอ้ ง (1) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท เวลา 1 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ ตัวชว้ี ดั ป.๕/๗ ใชส้ านวนไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด สานวนมคี วามหมายกวา้ งครอบคลุมถึงคาพังเพยและสุภาษติ คาพังเพยเป็นการเปรยี บเทียบกับเร่ือง ใดเร่ืองหนึง่ สุภาษิตเป็นคติสอนใจให้ประพฤตดิ ี การเข้าใจความหมายของสานวน คาพังเพย และสุภาษิต จะ ทาให้นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกลกั ษณะของสานวนไทยได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) เขยี นระบสุ านวนไทยไดถ้ กู ตอ้ ง 3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) เหน็ คณุ คา่ ของสานวนไทย ๔. สาระการเรยี นรู้ - สานวนไทย ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 รกั ความเปน็ ไทย 7. กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง ราชาธิราช ตอน กาเนดิ มะกะโท การจัดกจิ กรรมการเรยี น รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 9 เร่ือง สานวน ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 1 ขอบเขตเนื้อหา ขนั้ นา 10 1. ครูนารูปภาพมาให - สานวนไทย นาที ดแู ละสงั เกต โดยทคี่ ร ว่าเป็นรปู ภาพเกี่ยวกบั เพื่อให้นกั เรียนคดิ เอง ครเู ปดิ ภาพท่ี 1 ครเู ปดิ ภาพที่ 2
นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 สือ่ การเรียนรู้ ๑๑๔๓ 7 เร่อื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท - รปู ภาพสานวน นไทย ใช้ถกู ต้อง (1) จานวน 1 ชัว่ โมง ไทย การประเมิน จับปูใสก่ ระด้ง การเรยี นรู้ แนวการจัดการเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน ห้นกั เรียน 1. นักเรยี นรว่ มกนั ดแู ละ รูไม่บอก สงั เกตภาพทค่ี รนู ามาให้ แลว้ บอะไร คิดวเิ คราะหว์ ่าภาพน้ัน ง เก่ียวกับอะไร นกั เรยี นดภู าพท่ี 1 และทาย สานวน นักเรยี นดูภาพที่ 2 และทาย - รปู ภาพสานวน สานวน ไทย คางคกขน้ึ วอ
๑๑๔๔ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ครเู ปิดภาพท่ี 3 ครเู ปิดภาพที่ 4 ครูเปดิ ภาพท่ี 5
มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรียน - รูปภาพสานวน การเรียนรู้ ไทย นกั เรียนดูภาพท่ี 3 และทาย เข็ญครกข้ึนภูเขา สานวน นกั เรียนดูภาพที่ 4 และทาย - รูปภาพสานวน สานวน ไทย วัวหายล้อมคอก นักเรยี นดูภาพที่ 5 และทาย สานวน - รปู ภาพสานวน ไทย รักดีหามจ่วั รกั ชวั่ หามเสา
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ เร่อื ง ราชาธิราช ตอน กาเนิดมะกะโท ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร 2. ครูตั้งคาถามชวนค ครู : รปู ภาพท่นี กั เรียน ข้างตน้ เป็นรูปภาพเกี่ย อะไร ครู : นกั เรียนทราบคว ของรูปภาพได้อย่างไร 3. จากนั้น ครนู ารปู ภ จานวนหนง่ึ มาใหน้ ักเร และชว่ ยกันเรียงใหถ้ ูก มีความหมาย ดังนี้ 4. ครูตงั้ คาถามว่า ครู : ภาพดงั กล่าวสอ่ื ความหมายไดก้ สี่ านว อะไรบ้าง
๑๑๔๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรียน - สังเกตการตอบ คาถามของ คิด ดังนี้ 2. นักเรยี นตอบคาถาม ดังน้ี - คาถาม นักเรยี น นทายเม่ือ นักเรยี น : เป็นรปู ภาพเกย่ี วกบั ยวกบั สานวนไทยที่ใช้กนั ท่ัว ๆ ไป นกั เรยี น : ทราบความหมายจาก วามหมาย การดู สงั เกต การวเิ คราะหแ์ ละ ร ตคี วาม และจากประสบการณ์ เดมิ ทเี่ คยเรียนรมู้ า ภาพ 3. นกั เรียนดรู ูปภาพและ รียนดู ช่วยกันวเิ คราะหว์ า่ ภาพท่ี กต้องและ กาหนดสือ่ ความหมายไดก้ ่ี สานวน 4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั - คาถาม - สงั เกตการตอบ คาถามของ ทายความหมายจากรปู ภาพ นักเรยี น วน นกั เรียน : 1. ไก่เหน็ ตนี งู งู เห็นนมไก่
๑๑๔๖ คู่ม ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 5. จากนัน้ ครูเช่ือมโย บทเรยี น 2. ข้นั สอน 20 1. ครูอธบิ ายความหม นาที สานวนไทยใหน้ กั เรยี น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2. ครูกาหนดกจิ กรรม 1. บอกลกั ษณะของ นักเรียนร่วมกันอภิปร สานวนไทยได้ ความรู้ สนทนา แลกเ ความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ล ของสานวนไทยและท สานวนไทย จากใบคว เรอื่ ง สานวนไทย 3. ครูตง้ั คาถาม ดังน้ี ครู : สานวนมีลักษณะ
มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ 2. ลูกไกใ่ นกามือ 3. ไกแ่ กแ่ ม่ปลาช่อน ยงเขา้ สู่ 5. นักเรยี นเข้าสบู่ ทเรยี น มายของ 1. นักเรียนฟงั ครอู ธิบาย - ส่ือ PPT เรอ่ื ง - สังเกต นฟงั ความหมายของสานวนไทย สานวนไทย การสนทนาและ จากนั้นสนทนา แสดงความ แสดงความ คดิ เห็นรว่ มกนั กบั ครู และจด คดิ เห็นของ บนั ทึกสาระสาคญั ลงในสมุด นกั เรียน บันทกึ มให้ 2. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ ราย - ใบความรทู้ ่ี 9 1. ประเมนิ ราย ความรู้ สนทนา แลกเปลี่ยน เรอื่ ง สานวนไทย การสรปุ หลกั การ เปลย่ี น ความคดิ เห็น เก่ยี วกับลักษณะ ลกั ษณะ ของสานวนไทยและทมี่ าของ ที่มาของ สานวนไทย จากใบความรทู้ ่ี 9 วามรทู้ ่ี 9 เรื่อง สานวนไทย 3. นักเรียนตอบคาถาม ดังนี้ - คาถาม - สังเกตการตอบ ะอยา่ งไร นกั เรยี น : สานวนไทยมี คาถามของ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน กาเนิดมะกะโท ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร และมที มี่ าอยา่ งไร 4. ครูยกตัวอย่างการ ความหมายของสานว การนาขอ้ คดิ จากสาน ในชีวิตประจาวนั อย่าง และมคี วามเหมาะสม 3. ขน้ั ปฏบิ ัติ 15 6. ครูกาหนดใหน้ กั เร นาที กลุ่มทากิจกรรมในใบ เรอ่ื ง สานวนไทย (ครขู ึน้ ขอ้ ความในสไล วา่ : นักเรยี นทาใบงาน เรือ่ ง สานวนไทย)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 610
Pages: