Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Published by Keera Porn, 2020-08-06 21:31:15

Description: หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Search

Read the Text Version

ความนา ตามท่ีได้มีคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐาน การเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ส่ัง ณ วันท่ี ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ คาสั่ง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ เร่ือง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สง่ั ณ วนั ท่ี ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ คาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ี ๙๒๑/๒๕๖๑ เร่ือง ยกเลิก มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ ๓ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการส่ือสาร ในกลุมสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปลี่ยนช่ือกลุมสาระการเรียนรู้ สั่ง ณ วนั ท่ี ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และคาส่ังสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ท่ี ๙๒๒/ ๒๕๖๑ เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ส่ัง ณ วนั ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ น้ัน โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ จึงได้ดาเนินการปรับเปล่ียนหลักสูตรสถานศึกษาให้มี ความเหมาะสมสอดคลองกับการเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการพัฒนาส่งเสริม ศักยภาพคนในชาติ ให้สามารถเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การยกระดับ คุณภาพการศึกษาและการเรยี นร้ใู ห้มคี ณุ ภาพและมาตรฐานระดับสากล สอดคลอ้ งกบั ประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและ ดารงชีวิตอย่างสร้างสรรคในประชาคมโลก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนจึง พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาด้วยการวางแผนและดาเนินการใช้หลักสูตร การเพิ่มพูนคุณภาพ หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดทาระเบียบการวัดและ ประเมินผล สอดคลองกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สภาพ ปัญหาในชมุ ชนและสงั คม ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ และความตอ้ งการของผเู้ รียน ๑ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

วิสยั ทศั น์ โรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ มุ่งพฒั นานกั เรยี นใหเ้ ปน็ พลเมอื งดี มีทักษะการเรยี นรู้ พร้อมสรา้ งนวัตกรรม ให้ความสาคญั ต่อสิ่งแวดลอ้ ม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และหลกั สูตรโรงเรียน มัธยมบา้ นบางกะปิ พุทธศักราช ๒๕๖๓ มุ่งให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร (communication capacity) เป็นความสามารถ ในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็น ประโยชน์ต่อ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรบั หรือไม่รบั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการ สือ่ สาร ทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด (thinking capacity) เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็น ระบบ เพอ่ื นาไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพอื่ การตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสังคมได้ อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา(problem-solving capacity)เป็นความสามารถ ในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ใน สังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในการป้องกันและแกไ้ ขปญั หา และมีการตดั สนิ ใจที่มี ประสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่เี กิดข้ึนต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (capacity for applying life skill) เป็น ความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วย ตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริม ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียง พฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่สี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (capacity for technology application) เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทาง เทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การแก้ ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม ๒ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และหลกั สตู รโรงเรียน มัธยมบ้านบางกะปิ พุทธศักราช ๒๕๕๙ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้ สามารถอยรู่ ว่ มกับผอู้ นื่ ในสงั คมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ (love of nation, religion and the monarchy) ๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ (honesty and integrity) ๓. มวี นิ ัย (self-discipline) ๔. ใฝ่เรียนรู้ (avidity for learning) ๕. อยู่อย่างพอเพียง (apply principles of sufficiency economy philosophy in one’s way of life) ๖. มงุ่ มั่นในการทางาน (dedication and commitment to work) ๗. รกั ความเป็นไทย (cherishing Thai nationalism) ๘. มีจิตสาธารณะ (public-mindedness) ๓ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสรา้ งเวลาเรียน หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบับพทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ เวลาเรียน/ปี (ชว่ั โมง) กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน มธั ยมศึกษาตอนต้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖ รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ คณติ ศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ ▪ วิทยาศาสตร์ (สาระที่ ๑, ๒, ๓) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) ▪ เทคโนโลยี (สาระที่ ๔) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๔๐) สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ▪ สงั คมศกึ ษา (สาระที่ ๑, ๒, ๓, ๕) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) ▪ ประวตั ศิ าสตร์ (สาระที่ ๔) (๔๐) (๔๐) (๔๐) - (๔๐) (๔๐) สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๖๐ ๖๐ ๖๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ศิลปะ ๖๐ ๖๐ ๖๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒๐ - ๒๐ ภาษาต่างประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ รวมเวลา รายวชิ าพ้ืนฐาน ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๘๐ ๕๔๐ ๕๖๐ ๕๔๐ ๒,๖๔๐ (๓ ปี) ๑,๖๔๐ (๓ ป)ี รายวชิ าเพม่ิ เติม ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๔๘๐- ๔๘๐- ๔๘๐- ๘๐๐ ๘๐๐ ๘๐๐ ๔๘๐ (๓ ปี) ๑,๔๔๐-๒,๔๐๐ (๓ ป)ี รวมเวลา รายวิชา ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๑๒๐- ๑,๑๒๐- ๑,๑๒๐- ๑,๓๔๐ ๑,๓๔๐ ๑,๓๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น แนะแนว ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ลูกเสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ รกั ษาดนิ แดน ชุมนุม/ชมรม ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ โตไปไม่โกง ๑๕ ๑๕ ๑๕ ๑๐ ๑๐ ๑๐ กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๕ ๑๕ ๑๕ ๒๐ ๒๐ ๒๐ รวมเวลา กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓๖๐ (๓ ปี) ๓๖๐ (๓ ป)ี รวมเวลาทงั้ หมด ๑,๑๖๐ ๑,๑๖๐ ๑,๑๖๐ ๑,๑๔๐- ๑,๑๔๐- ๑,๑๔๐- ๑,๔๖๐ ๑,๔๖๐ ๑,๔๖๐ ๓,๔๘๐ (๓ ป)ี ๓,๔๒๐-๔,๐๒๐ (๓ ปี) ๔ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างหลักสตู รชัน้ ปี ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ รหสั วิชา ช่ือวิชา ชั่วโมง รหัสวิชา ชื่อวชิ า ชัว่ โมง (หน่วยกิต) (หน่วยกิต) ๖๐ (๑.๕) รายวิชาพ้นื ฐาน รายวชิ าพ้ืนฐาน ๖๐ (๑.๕) ๖๐ (๑.๕) ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๖๐ (๑.๕) ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๔๐ (๑.๐) ๖๐ (๑.๕) ค๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๖๐ (๑.๕) ค๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑ ๖๐ (๑.๕) ว๒๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๒ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๑๑๐๓ วิทยาการคานวณ ๑ ๔๐ (๑.๐) ว๒๑๑๐๔ การออกแบบและและ ๒๐ (๐.๕) เทคโนโลยี ๑ ๖๐ (๑.๕) ส๒๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๑ ๖๐ (๑.๕) ส๒๑๑๐๒ สังคมศกึ ษา ๒ ไม่นอ้ ยกวา่ ๘๐ (๒.๐) ส๒๑๑๐๓ ประวตั ศิ าสตร์ ๑ ๒๐ (๐.๕) ส๒๑๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๑๕ พ๒๑๑๐๑ สุขศึกษา ๑ ๒๐ (๐.๕) พ๒๑๑๐๒ สุขศกึ ษา ๒ ๑๕ ๑๕ ศ๒๑๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๑ ๒๐ (๐.๕) พ๒๑๑๐๓ เทเบิลเทนนิส ๗ ๘ ศ๒๑๑๐๒ ดนตรี ๑ ๒๐ (๐.๕) ศ๒๑๑๐๓ นาฏศิลป์ ๑ ไม่นอ้ ยกวา่ ๕๘๐ ง๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๒๐ (๐.๕) ง๒๑๑๐๒ การงานอาชพี ๒ อ๒๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษหลกั ๑ ๖๐ (๑.๕) อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษหลัก ๒ รายวชิ าเพม่ิ เติม รายวิชาเพ่ิมเตมิ เลือกรายวชิ ารวมกันใหไ้ ด้ ไมน่ ้อยกวา่ เลอื กรายวิชารวมกนั ใหไ้ ด้ ไมน่ ้อยกว่า ๘๐ ชัว่ โมง ๘๐ (๒.๐) ไม่น้อยกว่า ๘๐ ชัว่ โมง กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน แนะแนว ๑๕ แนะแนว ลูกเสอื เนตรนารี ๑๕ ลกู เสือ เนตรนารี ชมุ นมุ /ชมรม ๑๕ ชมุ นมุ /ชมรม โตไปไม่โกง ๘ โตไปไมโ่ กง กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณฯ ๗ กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณฯ รวมท้ังสิ้น ไมน่ อ้ ยกว่า รวมทั้งส้นิ ๕๘๐ ๕ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างหลกั สตู รชั้นปี ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ รหสั วิชา ชอ่ื วชิ า ช่ัวโมง รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า ช่วั โมง (หน่วยกิต) (หนว่ ยกติ ) ๖๐ (๑.๕) รายวชิ าพืน้ ฐาน รายวชิ าพืน้ ฐาน ๖๐ (๑.๕) ๖๐ (๑.๕) ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๖๐ (๑.๕) ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๔๐ (๑.๐) ๖๐ (๑.๕) ค๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๖๐ (๑.๕) ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ ๖๐ (๑.๕) ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๔ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๒๑๐๓ วทิ ยาการคานวณ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๒๒๑๐๔ การออกแบบและและ ๒๐ (๐.๕) เทคโนโลยี ๒ ๖๐ (๑.๕) ส๒๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๓ ๖๐ (๑.๕) ส๒๒๑๐๒ สังคมศกึ ษา ๔ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๘๐ (๒.๐) ส๒๒๑๐๓ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๒๐ (๐.๕) ส๒๒๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๔ ๑๕ พ๒๒๑๐๑ สุขศึกษา ๓ ๒๐ (๐.๕) พ๒๒๑๐๒ สขุ ศึกษา ๔ ๑๕ ๑๕ ศ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๒ ๒๐ (๐.๕) พ๒๒๑๐๓ ตะกรอ้ วง ๗ ๘ ศ๒๒๑๐๒ ดนตรี ๒ ๒๐ (๐.๕) ศ๒๒๑๐๓ นาฏศลิ ป์ ๒ ไม่น้อยกวา่ ๕๘๐ ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ ๒๐ (๐.๕) ง๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๔ อ๒๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษหลกั ๓ ๖๐ (๑.๕) อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษหลัก ๔ รายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวชิ าเพ่มิ เตมิ เลือกรายวิชารวมกันให้ได้ ไมน่ อ้ ยกว่า เลอื กรายวชิ ารวมกนั ให้ได้ ไม่นอ้ ยกวา่ ๘๐ ชวั่ โมง ๘๐ (๒.๐) ไม่นอ้ ยกวา่ ๘๐ ชว่ั โมง กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น แนะแนว ๑๕ แนะแนว ลกู เสือ เนตรนารี ๑๕ ลูกเสือ เนตรนารี ชมุ นุม/ชมรม ๑๕ ชุมนมุ /ชมรม โตไปไมโ่ กง ๘ โตไปไมโ่ กง กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณฯ ๗ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณฯ รวมท้งั ส้นิ ไม่นอ้ ยกว่า รวมทั้งส้นิ ๕๘๐ ๖ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างหลกั สตู รช้ันปี ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ รหสั วิชา ชอ่ื วชิ า ช่ัวโมง รหัสวิชา ช่ือวิชา ชว่ั โมง (หน่วยกิต) (หนว่ ยกติ ) ๖๐ (๑.๕) รายวชิ าพืน้ ฐาน รายวิชาพืน้ ฐาน ๖๐ (๑.๕) ๖๐ (๑.๕) ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๖๐ (๑.๕) ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๔๐ (๑.๐) ๖๐ (๑.๕) ค๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๖๐ (๑.๕) ค๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ ๖๐ (๑.๕) ว๒๓๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๖ ๒๐ (๐.๕) ๒๐ (๐.๕) ว๒๓๑๐๓ วทิ ยาการคานวณ ๓ ๔๐ (๑.๐) ว๒๓๑๐๔ การออกแบบและและ ๒๐ (๐.๕) เทคโนโลยี ๓ ๖๐ (๑.๕) ส๒๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๕ ๖๐ (๑.๕) ส๒๓๑๐๒ สงั คมศึกษา ๖ ไม่น้อยกวา่ ๘๐ (๒.๐) ส๒๓๑๐๓ ประวัตศิ าสตร์ ๕ ๒๐ (๐.๕) ส๒๓๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๖ ๑๕ พ๒๓๑๐๑ สุขศึกษา ๕ ๒๐ (๐.๕) พ๒๓๑๐๒ สุขศึกษา ๖ ๑๕ ๑๕ ศ๒๓๑๐๑ ทศั นศลิ ป์ ๓ ๒๐ (๐.๕) พ๒๓๑๐๓ วอลเลยบ์ อล ๗ ๘ ศ๒๓๑๐๒ ดนตรี ๓ ๒๐ (๐.๕) ศ๒๓๑๐๓ นาฏศลิ ป์ ๓ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๕๘๐ ง๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๒๐ (๐.๕) ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๖ อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษหลกั ๕ ๖๐ (๑.๕) อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษหลกั ๖ รายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวิชาเพม่ิ เติม เลือกรายวิชารวมกันให้ได้ ไมน่ อ้ ยกว่า เลอื กรายวิชารวมกันใหไ้ ด้ ไม่นอ้ ยกวา่ ๘๐ ชวั่ โมง ๘๐ (๒.๐) ไมน่ ้อยกว่า ๘๐ ชั่วโมง กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น แนะแนว ๑๕ แนะแนว ลูกเสือ เนตรนารี ๑๕ ลกู เสอื เนตรนารี ชมุ นุม/ชมรม ๑๕ ชุมนมุ /ชมรม โตไปไมโ่ กง ๘ โตไปไมโ่ กง กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณฯ ๗ กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณฯ รวมท้งั ส้นิ ไม่นอ้ ยกว่า รวมท้งั สนิ้ ๕๘๐ ๗ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างหลกั สูตรช้ันปี ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ รหสั วชิ า ชอื่ วชิ า ชว่ั โมง รหสั วิชา ชือ่ วชิ า ชว่ั โมง (หน่วยกติ ) (หน่วยกติ ) รายวชิ าพ้ืนฐาน รายวิชาพ้นื ฐาน ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๔๐ (๑.๐) ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๔๐ (๑.๐) ค๓๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๔๐ (๑.๐) ค๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๓๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ๑ ๔๐ (๑.๐) ว๓๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๓๑๑๐๓ วิทยาการคานวณ ๑ ๔๐ (๑.๐) ว๓๑๑๐๔ การออกแบบและและ ๔๐ (๑.๐) เทคโนโลยี ๑ ๔๐ (๑.๐) ส๓๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๑ ๔๐ (๑.๐) ส๓๑๑๐๒ สงั คมศึกษา ๒ พ๓๑๑๐๑ สุขศกึ ษา ๑ ๒๐ (๐.๕) ง๓๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๒๐ (๐.๕) ศ๓๑๑๐๑ ทศั นศลิ ป์ ๒๐ (๐.๕) อ๓๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษหลกั ๒ ๔๐ (๑.๐) อ๓๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษหลัก ๑ ๔๐ (๑.๐) รายวชิ าเพม่ิ เตมิ รายวิชาเพิม่ เตมิ เลือกรายวชิ ารวมกันให้ได้ ไมน่ ้อยกวา่ เลอื กรายวชิ ารวมกันให้ได้ ไมน่ ้อยกว่า ๒๘๐ (๗.๐) ๒๘๐ (๗.๐) ไม่นอ้ ยกว่า ๒๘๐ ชัว่ โมง ไมน่ ้อยกว่า ๒๘๐ ชั่วโมง ตามแผนการเรียน ตามแผนการเรียน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น แนะแนว ๑๕ แนะแนว ๑๕ ลูกเสอื เนตรนารี ๑๕ ลูกเสือ เนตรนารี ๑๕ ชมุ นมุ /ชมรม ๑๕ ชมุ นมุ /ชมรม ๑๕ โตไปไม่โกง ๕ โตไปไมโ่ กง ๕ กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณฯ ๑๐ กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณฯ ๑๐ รวมท้งั ส้นิ ไม่นอ้ ยกว่า รวมทัง้ ส้นิ ไมน่ ้อยกว่า ๖๒๐ ๕๘๐ ๘ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

โครงสร้างหลกั สูตรชัน้ ปี ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ รหัสวชิ า ชื่อวิชา ชั่วโมง รหสั วิชา ชื่อวิชา ชว่ั โมง (หน่วยกิต) (หน่วยกิต) รายวชิ าพื้นฐาน รายวิชาพ้นื ฐาน ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๔๐ (๑.๐) ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๔๐ (๑.๐) ค๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๔๐ (๑.๐) ค๓๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๔ ๔๐ (๑.๐) ว๓๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ๑ ๔๐ (๑.๐) ว๓๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๓๒๑๐๓ วทิ ยาการคานวณ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๓๒๑๐๔ การออกแบบและและ ๔๐ (๑.๐) เทคโนโลยี ๒ ๔๐ (๑.๐) ส๓๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๓ ๔๐ (๑.๐) ส๓๒๑๐๒ สงั คมศึกษา ๔ ส๓๒๑๐๓ ประวัติศาสตรส์ ากล ๑ ๒๐ (๐.๕) ส๓๒๑๐๔ ประวัติศาสตร์สากล ๒ ๒๐ (๐.๕) พ๓๒๑๐๑ เซปกั ตะกร้อ ๒๐ (๐.๕) ศ๓๒๑๐๑ ดนตรี ๒๐ (๐.๕) อ๓๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษหลกั ๓ ๔๐ (๑.๐) อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษหลัก ๔ ๔๐ (๑.๐) รายวชิ าเพมิ่ เติม รายวชิ าเพ่ิมเติม เลือกรายวชิ ารวมกนั ใหไ้ ด้ ไมน่ อ้ ยกว่า เลือกรายวชิ ารวมกนั ใหไ้ ด้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๘๐ (๗.๐) ๒๘๐ (๗.๐) ไมน่ อ้ ยกว่า ๘๐ ช่ัวโมง ไมน่ ้อยกวา่ ๘๐ ชัว่ โมง ตามแผนการเรียน ตามแผนการเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น แนะแนว ๑๕ แนะแนว ๑๕ ลูกเสือ เนตรนารี ๑๕ ลกู เสอื เนตรนารี ๑๕ ชุมนมุ /ชมรม ๑๕ ชมุ นมุ /ชมรม ๑๕ โตไปไมโ่ กง ๕ โตไปไม่โกง ๕ กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณฯ ๑๐ กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณฯ ๑๐ รวมทง้ั ส้นิ ไม่นอ้ ยกว่า รวมทั้งสน้ิ ไม่นอ้ ยกว่า ๖๒๐ ๖๒๐ ๙ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสรา้ งหลักสตู รชั้นปี ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ รหัสวชิ า ชอื่ วชิ า ช่วั โมง รหัสวชิ า ชอ่ื วิชา ชวั่ โมง (หนว่ ยกติ ) (หน่วยกติ ) รายวิชาพ้ืนฐาน รายวชิ าพ้ืนฐาน ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๔๐ (๑.๐) ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๔๐ (๑.๐) ค๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๔๐ (๑.๐) ค๓๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ ๔๐ (๑.๐) ว๓๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและ ๔๐ (๑.๐) ว๓๓๑๐๒ วิทยาศาสตร์โลกและ ๔๐ (๑.๐) อวกาศ ๑ อวกาศ ๒ ๔๐ (๑.๐) ว๓๓๑๐๓ วทิ ยาการคานวณ ๓ ๔๐ (๑.๐) ส๓๓๑๐๒ สงั คมศึกษา ๖ ส๓๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๕ ๔๐ (๑.๐) ส๓๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ๒ ๒๐ (๐.๕) ส๓๓๑๐๓ ประวตั ศิ าสตร์ไทย ๑ ๒๐ (๐.๕) ศ๓๓๑๐๑ นาฏศิลป์ ๒๐ (๐.๕) พ๓๓๑๐๑ สขุ ศึกษา ๒ ๒๐ (๐.๕) อ๓๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษหลัก ๖ ๔๐ (๑.๐) อ๓๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษหลัก ๕ ๔๐ (๑.๐) รายวิชาเพิ่มเติม รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เลือกรายวชิ ารวมกันใหไ้ ด้ ไมน่ อ้ ยกว่า เลือกรายวิชารวมกันใหไ้ ด้ ไมน่ ้อยกว่า ๒๘๐ (๗.๐) ๒๘๐ (๗.๐) ไมน่ อ้ ยกว่า ๘๐ ชว่ั โมง ไมน่ ้อยกว่า ๑๒๐ ชว่ั โมง ตามแผนการเรียน ตามแผนการเรยี น กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น แนะแนว ๑๕ แนะแนว ๑๕ ลูกเสือ เนตรนารี ๑๕ ลูกเสอื เนตรนารี ๑๕ ชุมนุม/ชมรม ๑๕ ชุมนมุ /ชมรม ๑๕ โตไปไมโ่ กง ๕ โตไปไม่โกง ๕ กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณฯ ๑๐ กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณฯ ๑๐ รวมทง้ั สิ้น ไมน่ อ้ ยกว่า รวมท้ังสิ้น ไมน่ ้อยกว่า ๖๒๐ ๕๘๐ ๑๐ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย (THE SUBJECT AREA OF THAI LANGUAGE) ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็น เอกภาพ และเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อ ส่ือสารเพ่ือสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทาให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดารงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหา ความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เพ่ือพัฒนาความรู้ กระบวนการคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคม และความก้าวหน้าทาง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความม่ันคงทางเศรษฐกิจ นอกจากน้ียังเป็นส่ือแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี สุนทรียภาพ เป็น สมบัตลิ า้ ค่าควรแก่การเรยี นรู้ อนุรักษ์ และสืบสานให้คงอยู่คชู่ าตไิ ทยตลอดไป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นการศึกษาท่ีเกี่ยวข้องกับทักษะที่ต้องฝึกฝนจน เกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร การเรียนร้อู ย่างมปี ระสิทธภิ าพ และเพื่อนาไปใช้ ในชวี ติ จรงิ โดยกาหนดสาระสาคัญ ดังน้ี การอ่าน (reading) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับ การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพ่ือสร้างความเข้าใจ และการคิด วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความรจู้ ากสง่ิ ท่ีอา่ น เพือ่ นาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั การเขียน (writing) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การเขียนสะกดคาตามอักขรวิธี การเขียนส่ือสารรูปแบบต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขียนรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า เขยี นตามจนิ ตนาการ เขยี นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และเขียนสร้างสรรค์ การฟัง การดู และการพูด (listening, viewing and speaking) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ เกี่ยวกับ การฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ การพดู แสดงความคิดเห็น ความรสู้ กึ พดู ลาดับเร่อื งราว ต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ และ การพดู เพ่อื โน้มนา้ วใจ หลักการใช้ภาษา (principles of Thai language usage) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ เก่ียวกับ ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาสและ บคุ คล การแตง่ บทประพันธ์ประเภทต่าง ๆ และอิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม (literature and literary works) ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ เกี่ยวกบั วิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมเพ่ือศึกษาข้อมลู แนวความคดิ คุณคา่ ของงานประพันธ์ และเพอ่ื ความเพลิดเพลนิ การเรยี นร้แู ละทาความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพื้นบา้ นที่ เป็นภูมิปัญญาท่ีมีคุณค่าของไทย ซ่ึงไดถ้ ่ายทอดความรู้สึกนึกคดิ คา่ นยิ ม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรอื่ งราวของสงั คมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่อื ใหเ้ กิดความซาบซึ้งและภมู ิใจในบรรพ- บุรษุ ทไ่ี ดส้ ง่ั สมสืบทอดมาจนถงึ ปจั จุบัน ๑๑ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างรายวชิ ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ รายวชิ าพน้ื ฐาน จานวนเวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวนเวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ จานวนเวลาเรยี น ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกติ ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ จานวนเวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวนเวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ จานวนเวลาเรยี น ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกติ ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ รายวชิ าเพม่ิ เติม จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท๒๐๒๑๑ การอ่านทานองเสนาะ จานวนเวลาเรียน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หน่วยกติ ท๒๐๒๑๒ การอ่านและพจิ ารณาหนังสือ จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท๒๐๒๒๑ ศิลปะการประพนั ธ์ จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท๒๐๒๓๑ การพดู ตอ่ หน้าประชมุ ชน จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท๒๐๒๔๑ หลักภาษาเพื่อการสื่อสาร จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท๒๐๒๕๑ นิทานพนื้ บ้าน จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกติ ท๒๐๒๕๒ วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ จานวนเวลาเรียน ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ท๒๑๒๐๑ การอา่ นเพือ่ พฒั นาตนเอง ๑ ท๒๑๒๐๒ ทักษะการเขียนภาษาไทย ๑ ท๒๒๒๐๑ การอ่านเพอ่ื พัฒนาตนเอง ๒ ท๒๒๒๐๒ ทักษะการเขยี นภาษาไทย ๒ ท๒๓๒๐๑ การอ่านเพื่อพฒั นาตนเอง ๓ ท๒๓๒๐๒ ทกั ษะการเขยี นภาษาไทย ๓ ๑๒ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ชื่อวิชา ภาษาไทย ๑ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อ่านจับใจความจากเรื่องท่ี อา่ นโดยระบุเหตุและผลข้อเทจ็ จริงกับขอ้ คดิ เห็น การเปรียบเทยี บคาทมี่ ีหลายความหมายในบริบท ต่าง ๆ จากการอ่านตีความคายากในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจากบริบทการคัดลายมือ ตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียน ตัวอักษรไทย การเขียนส่ือสารโดยใช้ถ้อยคาถูกต้อง ชัดเจนเหมาะสมและสละสลวย การเขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสาคัญและ รายละเอียดสนับสนุน การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา การพูดสรุปใจความสาคัญของเร่ืองทฟี่ งั และดู เลา่ เร่อื งย่อจากเร่ืองทฟ่ี ังและดู พูดแสดงความคดิ เห็นอยา่ งสรา้ งสรรคเ์ กย่ี วกบั เรือ่ งทฟี่ ังและ ดู ลักษณะของเสียงในภาษาไทยการสร้างคาในภาษาไทย คาประสม คาซ้า คาซ้อน คาพ้อง การวิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบคุณค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรมท่อี า่ น โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แก้ปญั หา กระบวนการกลุม่ สมั พนั ธ์ การตคี วาม การสรปุ ความ การคิดวิเคราะห์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถอ่านเขียนตีความโดยใช้บริบทท่ีหลากหลาย ใช้ภาษาในการส่ือสารได้ถูกต้องเหมาะสม รู้จักการคิดวิเคราะห์ และใช้ทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดอย่างมีวิจารณญาณ และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู เกิดความซาบซง้ึ และภมู ใิ จในบรรพบุรษุ ที่ไดส้ ่ังสมสืบทอดมาจนถึงปจั จบุ นั รหสั ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๙ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓ รวมท้ังหมด ๒๑ ตวั ช้ีวัด ๑๓ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๒ ชอื่ วิชา ภาษาไทย ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อ่านจบั ใจความจากสอื่ ต่าง ๆ โดยระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจ ปฏิบัติตาม เอกสารคู่มือแนะนาวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากข้ึน วิเคราะห์คุณค่าท่ี ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพ่อื นาไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิต การเขียนย่อความจาก เรื่องที่อ่าน การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระท่ีได้รับจากสื่อ การเขียนจดหมายส่วนตัว และจดหมายกิจธรุ ะ การเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า และโครงงาน การพดู ประเมินความนา่ เชอ่ื ของส่ือที่มีเน้ือหาโน้มน้าวใจ การพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา การวิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดกับภาษาเขียน การแต่งบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ การจาแนกและใช้สานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต สรุปความรู้และ ข้อคดิ จากการอ่านเพ่อื ประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง การทอ่ งจาบทอาขยานทกี่ าหนดและบทร้อยกรองที่ มีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แกป้ ญั หา กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ การตคี วาม การสรปุ ความ การคิดวิเคราะห์ และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถอ่านเขียนตีความโดยใช้บริบทท่ีหลากหลาย ใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้องเหมาะสม รู้จักการคิดวิเคราะห์ และใช้ทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดอย่างมีวจิ ารณญาณ และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู เกิดความซาบซ้งึ และภูมใิ จในบรรพบรุ ุษทีไ่ ดส้ ่ังสมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รหัสตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๑/๔, ม.๑/๕ รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวช้ีวดั ๑๔ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑ ชื่อวิชา ภาษาไทย ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลาเรียน ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรอง การอา่ นจบั ใจความ สรปุ ความ และอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองที่อ่าน การเขียนผังความคิดเพ่ือแสดงความเข้าใจในบทเรียน ตา่ ง ๆ ทีอ่ ่านการอภิปรายแสดงความคิดเหน็ และข้อโตแ้ ย้งเกี่ยวกับเรื่องทอ่ี า่ น มารยาทในการอา่ น การคัดลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด การเขียนบรรยายและพรรณนา การเขียนเรยี งความเกี่ยวกับ ประสบการณ์ เขยี นย่อความจากสือ่ ต่าง ๆ มารยาทในการเขียน การพูดสรุปความสาคัญของเรื่อง ท่ีฟังและดู การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเช่ือถือของข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ การวิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล เพ่ือนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดาเนิน ชีวติ มารยาทการฟงั การดู และการพดู การสรา้ งคาในภาษาไทยโครงสร้างประโยคสามญั ประโยค รวม และประโยคซ้อน การแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ การสรุปเนื้อหาวรรณคดีและ วรรณกรรมท่อี า่ นในระดบั ท่ียากขึ้น การวเิ คราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรม ทอ้ งถ่ินพร้อมยกเหตุผลประกอบ กรุงเทพฯ ศึกษา: วรรณกรรมท้องถนิ่ ได้แก่ นวนยิ าย เร่ือง แผลเกา่ ของไม้เมอื งเดมิ โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แก้ปญั หา กระบวนการกลมุ่ สัมพันธ์ การตคี วาม การสรปุ ความ การคดิ วิเคราะห์ และการอภปิ ราย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถสรุปความ อธิบายแสดงความคิดเห็นและ โต้แย้ง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือจากแหล่งข่าวต่าง ๆ วิจารณ์เรื่องที่ฟัง อย่างมีเหตุผล มีทักษะการอ่านการเขียน การฟัง การดู และการพูดมีความรู้เกี่ยวกับวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่น และมีมารยาทการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพดู เกิดความซาบซงึ้ และภมู ใิ จในบรรพบุรุษทไี่ ด้ส่งั สมสืบทอดมาจนถงึ ปจั จุบนั รหสั ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๘ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒ รวมท้ังหมด ๑๙ ตวั ชี้วัด ๑๕ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๒๑๐๒ ชือ่ วิชา ภาษาไทย ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลาเรียน ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การวิเคราะห์และจาแนก ข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความท่ีอ่าน การระบุข้อสังเกต การชวนเช่ือ การโนม้ น้าว หรือความสมเหตสุ มผลของงานเขียน การอ่านหนงั สอื บทความหรือคาประพนั ธ์อย่าง หลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จากการอ่านเพ่ือนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มารยาทในการอ่าน การเขยี นรายงาน การศกึ ษาค้นคว้าการเขียนจดหมายกิจธุระ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์และแสดงความรคู้ วามคิดเห็นหรือโต้แย้งในเร่ืองที่อ่านอย่างมีเหตุผล มารยาทในการเขียน การพูดในโอกาสต่าง ๆ พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และ การสนทนา มารยาทในการฟงั การดู และการพูด คาราชาศัพท์ การรวบรวมและอธบิ ายความหมาย ของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ศึกษาคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อา่ น สรุป ความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง การท่องจาบทอาขยานที่กาหนดและ บทร้อยกรองทีม่ คี ณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แก้ปัญหา กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ การตคี วาม การสรุปความ การคดิ วิเคราะห์ และการอภปิ ราย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถสรุปความ อธิบายแสดงความคิดเห็นและ โต้แย้ง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือจากแหล่งข่าวต่าง ๆ วิจารณ์เรื่องท่ีฟัง อย่างมีเหตุผล มีทักษะการอ่านการเขียน การฟัง การดู และการพูดมีความรู้เก่ียวกับวรรณคดี วรรณกรรม และมีมารยาทการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดเกิดความซาบซึ้งและ ภูมใิ จในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถงึ ปัจจุบนั รหสั ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๒/๔, ม.๒/๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ รวมทงั้ หมด ๑๗ ตัวชี้วัด ๑๖ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๓๑๐๑ ชื่อวิชา ภาษาไทย ๕ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง การระบุความแตกต่างที่มี ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย การระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของข้อมูลท่ี สนับสนุนจากเรื่องที่อ่าน การเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึกย่อความ และรายงาน การวิเคราะห์วิจารณ์ และประเมินเร่ืองท่ีอ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ มารยาทในการอ่าน การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การเขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาตามระดับภาษา การเขียน อัตชีวประวัติหรือชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่องต่าง ๆ การเขียน ยอ่ ความ การเขยี นจดหมายกิจธุระ มารยาทในการเขียน การพดู แสดงความคดิ เหน็ และประเมิน เรื่องจากการฟัง และการดู การวิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟัง และดู เพ่ือนาข้อคิดมาประยกุ ตใ์ ช้ ในการดาเนินชีวิต การพูดรายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และ การสนทนา มารยาทในการฟัง การดู และการพูด การจาแนก และใช้คาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ใน ภาษาไทย การวิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน วิเคราะห์ระดับภาษา สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ในระดับที่ยากย่ิงขึน้ วเิ คราะหว์ ถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดี และวรรณกรรมท่ีอ่าน กรุงเทพฯ ศึกษา: วรรณกรรมท้องถิ่น ได้แก่ กลอนสวดโอ้เอ้วิหารราย กลอนแหล่ พระรถ-เมรี โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แกป้ ญั หา กระบวนการกลมุ่ สมั พันธ์ การตคี วาม การสรปุ ความ การคิดวเิ คราะห์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถระบุความแตกต่างที่มีความหมายโดยตรงและ โดยนัย สรุปความ อธิบายแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อเท็จจริงโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ สามารถเขยี นกรอบความคดิ บนั ทึกและรายงานอย่างมเี หตผุ ล วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ รคู้ ุณค่าของ วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่น และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู เกิดความซาบซง้ึ และภมู ใิ จในบรรพบรุ ษุ ที่ได้สัง่ สมสืบทอดมาจนถงึ ปจั จบุ ัน รหสั ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๑๐ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๑๐ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒ รวมทัง้ หมด ๒๑ ตัวชี้วัด ๑๗ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๒ ชอ่ื วิชา ภาษาไทย ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลาเรยี น ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง การประเมนิ ความถูกต้องของ ข้อมูลที่ใช้สนับสนุนในเร่ืองที่อ่าน การวิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลาดับความ การแสดง ความเป็นไปไดข้ องเรอ่ื ง การวิเคราะห์เพื่อแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกี่ยวกับเรอ่ื งที่อ่าน การตคี วาม และประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีได้จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพ่ือนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มารยาทในการอ่าน การเขียน อธิบาย การช้ีแจง การแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมีเหตผุ ล การเขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ความคิดเหน็ หรือโตแ้ ยง้ ในเร่ืองต่าง ๆ การกรอกแบบ สมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเก่ียวกบั ความรู้ และทักษะของตนเองท่ีเหมาะสมกบั งาน การเขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า และโครงงาน มารยาทในการเขียน การพูดในโอกาสต่าง ๆ การพูด โน้มน้าว โดยนาเสนอหลักฐานตามลาดับเน้ือหาอย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู การใช้คาทบั ศัพท์และศพั ท์บญั ญัติ การอธบิ ายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการ และวิชาชพี การแต่งบทรอ้ ยกรองประเภทโคลงสสี่ ุภาพ การสรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่ือ นาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ การท่องจาบทอาขยานและบอกคุณคา่ บทอาขยานตามที่กาหนดและ บทร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจและนาไปใช้อา้ งอิง กรุงเทพฯ ศึกษา: วรรณกรรมท้องถ่ิน ได้แก่ บทพระราชนิพนธ์กลอนบทละครนอก เร่ือง สงั ข์ทอง จารกึ วัดพระเชตพุ นวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร โคลงภาพคนต่างภาษา โดยใช้กระบวนการสืบค้นความรู้ การค้นหาข้อมูล การจดบันทึกกระบวนการ แกป้ ญั หา กระบวนการกลมุ่ สมั พนั ธ์ การตีความ การสรปุ ความ การคดิ วิเคราะห์ และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจสามารถระบุความแตกต่างที่มีความหมายโดยตรงและ โดยนัย สรุปความ อธิบายแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อเท็จจริงโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ สามารถเขียนกรอบความคดิ บนั ทกึ และรายงานอยา่ งมีเหตุผล วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ ร้คู ณุ คา่ ของ วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ิน และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู เกดิ ความซาบซึง้ และภมู ิใจในบรรพบุรษุ ท่ีได้ส่งั สมสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบัน รหสั ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๓, ม.๓/๔ รวมทงั้ หมด ๒๐ ตวั ชี้วัด ๑๘ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๐๒๑๑ ชอื่ วิชา การอ่านทานองเสนาะ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จานวนหน่วยกติ ๐.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ฝึกอ่านทานองเสนาะจากแถบบันทึกเสียงและแหล่งเรียนรู้ท้ังโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่ายให้ถูกต้องตามอกั ขรวิธีไทยและสอดแทรกอารมณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม โดยใช้ทักษะกระบวนการอ่านศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ บันทึกข้อมูล อธิบาย อภปิ ราย และรายงาน เพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ มีมารยาทในการอ่าน การพูด การฟัง และการดู สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สื่อสารกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล เกิด ความซาบซ้งึ จากความไพเราะของการอ่านทานองเสนาะ เกิดความรกั ความศรัทธา มีความรักเชิด ชูและทะนุบารุงรักษาภาษาไทยไว้ในฐานะที่เป็นสมบัติของชาติ เกิดความซาบซึ้งและภูมิใจใน บรรพบุรุษท่ีไดส้ ัง่ สมสบื ทอดมาจนถึงปจั จบุ ัน ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายหลกั การอา่ นทานองเสนาะ ๒. จาแนกฉันทลักษณ์ในการอา่ นทานองเสนาะของคาประพันธ์แต่ละประเภท ๓. ออกเสยี งการอ่านได้ถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ีไทย ๔. อา่ นทานองเสนาะโคลงฉันทก์ าพยก์ ลอนร่ายไดถ้ ูกต้อง ๕. สามารถสอดแทรกอารมณ์ในการอ่านทานองเสนาะไดเ้ หมาะสม ๖. เหน็ ความไพเราะงดงามของการอ่านทานองเสนาะซึ่งเปน็ เอกลักษณ์ของภาษาไทย รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๑๙ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๒๐๒๑๒ ชือ่ วิชา การอ่านและพิจารณาหนงั สอื กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑-๓ เวลาเรียน ๒๐ ช่วั โมง จานวนหน่วยกติ ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาหลักการพิจารณาหนังสือในรูปแบบของหนังสือเล่มประเภทสารคดี นวนิยาย เรือ่ งสน้ั บทร้อยกรอง และวรรณกรรมทเ่ี ผยแพรท่ างอินเทอร์เนต็ โดยใช้กระบวนการอ่านอธิบาย ศึกษาค้นคว้า บันทึกข้อมูล อภิปราย รายงาน แนะนาหนังสือดีที่น่าอ่านมีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาสาระหลักการพิจารณาหนังสืออย่างมี หลักเกณฑ์ แสดงความคดิ เห็นเชิงวิจารณ์เกีย่ วกบั หนังสอื ทเ่ี ลอื กอา่ น เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ ไดร้ ับความรอู้ ย่างกว้างขวางในการอ่าน และซาบซึ้งในรส วรรณศลิ ป์ มีเจตคติทดี่ ีต่อภาษาไทย มีนิสัยรกั การอา่ น และมีรสนิยมทดี่ ใี นการเลือกอ่านหนังสือท่ี มีคุณค่าท้ังข้อคิดตลอดจนความไพเราะ และความงดงามทางภาษา แสวงหาความรู้เพื่อพัฒนา ตนเองจากการอา่ นอย่างสมา่ เสมอสร้างเสรมิ ชีวติ อยู่ร่วมกบั ผู้อน่ื ได้อย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. จาแนกรปู แบบของหนงั สือประเภทตา่ ง ๆ ๒. บอกหลกั เกณฑ์การพิจารณาหนังสอื ๓. อธิบายประโยชน์ของการพิจารณาหนงั สือ ๔. เลือกอา่ นหนังสือประเภทตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ๕. แสดงความคิดเหน็ และวจิ ารณห์ นงั สือที่เลอื กอา่ น ๖. แนะนาหนงั สือท่นี ่าอา่ นแกผ่ ู้อื่น ๗. ตระหนกั ถงึ การพฒั นาตนเองดว้ ยการแสวงหาความรจู้ ากการอา่ น รวมทัง้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้ ๒๐ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๐๒๒๑ ช่อื วิชา ศลิ ปะการประพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑-๓ เวลาเรยี น ๒๐ ชัว่ โมง จานวนหน่วยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาลักษณะบังคับของคาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การฝึกแต่งคาประพันธ์ประเภท กาพย์ กลอน โคลงฉันท์ ร่าย โดยคานึงถึงลักษณะบังคับความไพเราะ เนื้อหาสาระ และความคิด สร้างสรรค์ความรู้เกี่ยวกับ ฉันทลักษณ์การแต่งคาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ คุณค่าของงานประพันธ์ ประเภทรอ้ ยกรอง การอนรุ กั ษ์และพัฒนาการแตง่ คาประพันธ์ โดยใช้ทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ ระดมความคิดวเิ คราะห์ ประเมินค่า และ ใชภ้ าษาอย่างสร้างสรรค์ตรงตามจดุ ประสงค์ สอดคล้องกับขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละวฒั นธรรม เพ่ือมุ่งพัฒนาผู้เรียนสามารถแต่งคาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การพูด การฟงั และการดู สื่อสารกับผ้อู ่นื ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมปี ระสทิ ธิผล ใช้ คาประพันธ์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ เกิดความรักความศรัทธา และ ทะนุบารุงรกั ษาภาษาไทยไวใ้ นฐานะทเ่ี ปน็ สมบัติของชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกลกั ษณะคาประพันธแ์ ต่ละชนิด ๒. แต่งคาประพนั ธไ์ ด้ถกู ตอ้ งตามฉนั ทลักษณ์ ๓. ถอดคาประพันธจ์ ากบทร้อยกรองท่ีกาหนดให้เปน็ รอ้ ยแกว้ ได้สละสลวยและถูกตอ้ ง ๔. เห็นคุณค่าของคาประพันธไ์ ทยและสามารถนาไปใชไ้ ด้อย่างถูกต้อง รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้ ๒๑ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๒๐๒๓๑ ชอ่ื วิชา การพูดตอ่ หน้าประชมุ ชน กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑-๓ เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จานวนหน่วยกิต ๐.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาวิเคราะห์การพูดในท่ีประชุมชนจากสื่อต่าง ๆ ฝึกพูดอภิปราย สัมภาษณ์ โต้วาที กล่าวสุนทรพจน์ การทาหนา้ ทีเ่ ปน็ พธิ กี ร โดยใช้ทักษะกระบวนการวิเคราะห์ ประเมินค่าฝึกการพูดที่มีเน้ือหาสาระน่าสนใจ ทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดความเข้าใจ พอใจ หรอื คล้อยตามโดยใช้ถอ้ ยคาน้าเสียงและทา่ ทางท่เี หมาะสม เพ่ือมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรมู้ ีมารยาทในการพูด การฟัง และการดูนาความรไู้ ป ใช้ในการตัดสินใจการแก้ปัญหาสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สื่อสารกับผู้อ่ืนได้อย่างมี ประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ และใช้ เทคโนโลยีในการส่ือสารได้เปน็ อย่างดีมีความรักเชิดชู และทานุบารุงรักษาภาษาไทยไว้ในฐานะท่ี เป็นสมบตั ขิ องชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกหลักในการพูดทว่ั ไปได้ ๒. พดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ ๓. แสดงออกดา้ นการพูดอย่างสร้างสรรค์ ๔. พดู อภปิ รายไดอ้ ย่างมีเหตุผลและมมี ารยาทในการพูด ๕. ใช้ถ้อยคาสานวนโวหารในการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ๖. เหน็ คุณค่าและนาทกั ษะการพดู ไปใช้ในการสอ่ื สารในชีวิตประจาวนั รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๒๒ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๐๒๔๑ ชื่อวิชา หลกั ภาษาเพ่อื การส่อื สาร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑-๓ เวลาเรียน ๒๐ ช่วั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๐.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ฝึกสังเกต วิเคราะห์รูปลักษณ์ของคาไทยชนิดต่าง ๆ กลุ่มคาหน้าที่ของกลุ่มคา การใช้คา สานวน และภาษิต ความสัมพันธ์ของคาที่ใช้ในประโยครูปแบบประโยคต่าง ๆ จากส่ือ สารสนเทศ เรยี บเรยี งขอ้ ความทง้ั ในการพดู และการเขียนได้อย่างถูกต้อง ตามหลกั ภาษาและหลัก ความนิยมจากกระบวนการใชภ้ าษาเพื่อการสอ่ื สาร โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ฝึกการใชภ้ าษาอธิบาย อภิปราย รายงานศกึ ษาคน้ คว้า และ บันทึกข้อมูล เพอื่ มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหใ้ ฝเ่ รยี นรมู้ มี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การพดู การฟงั และ การดูนาความรู้ไปใช้ในการตัดสินใจการแก้ปัญหา สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่ือสารกับ ผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ใช้เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ อื่น ๆ และใชเ้ ทคโนโลยใี นการสื่อสารได้เป็นอย่างดี มีความรกั เชิดชแู ละทะนุบารุงรกั ษาภาษาไทย ไว้ในฐานะที่เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายคาไทยชนิดต่าง ๆ ๒. บอกความหมายและหนา้ ท่ีของกลุม่ คา ๓. จาแนกกลุ่มคากบั ประโยค ๔. ใช้คาสานวนและภาษิตในการสรา้ งประโยครปู แบบต่าง ๆ ทีถ่ กู ต้อง ๕. เรยี บเรยี งขอ้ ความให้ถกู ต้องตามหลกั ภาษาและเหมาะสมกับบริบท ๖. เหน็ คณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งและนาไปใช้สือ่ สารในชีวิตประจาวัน รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๒๓ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๐๒๕๑ ชือ่ วิชา นทิ านพนื้ บา้ น กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓ เวลาเรยี น ๒๐ ชัว่ โมง จานวนหนว่ ยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาเน้ือเรอ่ื งนิทาน นิยาย หรือตานานพน้ื บ้านทม่ี ใี นทอ้ งถน่ิ ของตนหรือท้องถ่ินอ่ืน จากส่ือ และแหล่งเรยี นรูต้ ่าง ๆ โดยใช้ทักษะกระบวนการวิเคราะห์สานวนภาษาเข้าใจ และแสดงความคิดเห็น วิจารณ์อย่างเหน็ คณุ ค่าค้นคว้าหาข้อมลู อธบิ าย รายงาน เล่านิทานพน้ื บา้ นของท้องถิ่นตนเองและ ของท้องถ่ินอน่ื ทางานกลมุ่ รว่ มอภิปรายความเช่ือ ค่านิยม และวถิ ชี วี ติ ที่สะท้อนจากเน้ือเร่อื ง เพื่อตระหนักและภูมิใจในวรรณกรรมพื้นบ้าน นาความรู้ไปใช้ในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สื่อสารกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี ประสิทธิผล ใช้เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ และใช้เทคโนโลยีใน การส่อื สารได้เปน็ อย่างดี รวมท้ังต้องรกั ษาภาษาไทยไว้ในฐานะทเ่ี ปน็ สมบัตขิ องชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกท่มี าของนทิ านนยิ ายหรือตานานพ้นื บ้าน ๒. อธิบายความแตกต่างของนิทานพืน้ บา้ นในแตล่ ะทอ้ งถนิ่ ๓. บอกคา่ นยิ มและวิถชี ีวติ ทีส่ ะท้อนมาจากนิทานพื้นบา้ น ๔. เล่านิทานพ้ืนบ้านในทอ้ งถิน่ ของตนเองและท้องถ่ินอนื่ ๕. แสดงความคิดเห็นและวจิ ารณน์ ทิ านนิยายหรือตานานพ้ืนบ้าน ๖. เห็นคณุ ค่าและรกั ษานทิ านนยิ ายหรอื ตานานพื้นบา้ นในฐานะสมบตั ขิ องชาติ รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๒๔ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๐๒๕๒ ชอื่ วิชา วรรณกรรมท้องถน่ิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑-๓ เวลาเรียน ๒๐ ช่วั โมง จานวนหนว่ ยกติ ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเพลงพนื้ บ้านปริศนาคาทาย ภาษติ และสานวน ตานาน นทิ าน นิยาย เรอื่ งเล่า โดยศึกษาที่มาเน้ือหาคาศัพท์ สานวน ความหมาย การร้องเล่นหรือถ่ายทอดเพลงพื้นบ้าน เพลง กลอ่ มเดก็ ในทอ้ งถนิ่ โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ บันทึกข้อมูล อธิบาย อภิปราย และรายงาน เพ่ือมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การพูด การฟัง และการดู มีความรู้ความเข้าใจ เห็นความสาคัญและคุณค่า ร่วมมือในการอนุรักษ์วรรณกรรม ทอ้ งถิ่น นาความร้ไู ปใช้ในการตัดสินใจ การแกป้ ญั หา สามารถนาไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ สอ่ื สารกับ ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ใช้เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ อื่น ๆ และใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารได้เป็นอย่างดีมคี วามรกั เชิดชู และทานุบารุงรักษาภาษาไทย ไวใ้ นฐานะทเ่ี ปน็ สมบตั ิของชาติ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกทมี่ าของเพลงพนื้ บา้ น ปรศิ นาคาทาย ภาษิตและสานวน ตานาน นทิ าน นยิ าย เรอ่ื งเล่า ๒. บอกความหมายของเพลงพื้นบ้าน ปริศนาคาทาย ภาษิตและสานวน ตานาน นิทาน นิยาย เรอื่ งเล่า ๓. อธิบายเนื้อหาของเพลงพื้นบ้าน ปริศนาคาทาย ภาษิตและสานวน ตานาน นิทาน นิยาย เร่ืองเลา่ ๔. อธิบายคาศพั ท์และสานวนในเพลงพ้ืนบ้าน ปรศิ นาคาทาย ภาษติ และสานวน ตานาน นิทาน นิยาย เรอื่ งเลา่ ๕. ถ่ายทอดเพลงพ้ืนบ้าน ปริศนาคาทาย ภาษิตและสานวน ตานาน นิทาน นิยาย เร่ืองเล่าใน ทอ้ งถนิ่ ๖. เห็นคุณค่าและอนุรักษว์ รรณกรรมท้องถน่ิ ในฐานะทีเ่ ปน็ สมบตั ิของชาติ รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๒๕ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๒๑๒๐๑ ช่อื วิชา การอา่ นเพ่อื พฒั นาตนเอง ๑ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาหลักการจับใจความสาคัญจากบทความ สารคดีและเร่ืองส้ัน การเขียนผัง ความคิดแสดงความเข้าใจจากเร่ืองที่อ่าน การอภิปรายแสดงความคิดเห็นและประเมินคุณค่าจาก เรื่องที่อ่าน การแสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์และวิจารณ์เก่ียวกับงานประพันธ์และรูปแบบ การเขยี น การใช้ถ้อยคาสานวน และวธิ กี ารนาเสนอเรอ่ื งอย่างมเี หตุผล โดยการใช้กระบวนการกลุ่ม การบรรยาย การนาเสนอหน้าห้อง ทาแบบฝึกหัดจน เกิดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ และการคิดอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังมี การใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น และมงุ่ มัน่ ในการทางาน เพ่ือให้นักเรียนมีสามารถแสดงความคิดเห็น ประเมินค่าเรือ่ งที่อ่าน โดยศึกษาแง่มมุ ต่าง ๆ ทงั้ ดา้ นรปู แบบการเขียน เนือ้ หา การใช้ภาษา พัฒนาทกั ษะการอ่านเพอื่ ให้เกิดความรู้และ เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและมีนิสัยรักการอา่ น ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกลักษณะของงานประเภทตา่ ง ๆ รวมถงึ เกณฑ์ทีใ่ ชพ้ ิจารณางานรอ้ ยแก้วแตล่ ะประเภท ๒. นาหลกั การอ่านและการเลอื กหนงั สอื ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ๓. เหน็ ความสาคัญและคณุ คา่ ของการอ่านรอ้ ยแก้ว ๔. มีนสิ ยั รกั การอา่ น ๕. มอี ุปนสิ ัยรักการอา่ น ช่างคิด ชา่ งสังเกต ๖. สามารถใชภ้ าษาไทยได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๒๖ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๒๑๒๐๒ ชื่อวิชา ทักษะการเขยี นภาษาไทย ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการเขียนตัวอักษร ตัวเลขไทย ฝึกเขียนคาที่มักสะกดผิด ภาษาสานวนโวหาร เขียนนิยายประกอบสานวนโวหาร เขียนบรรยายภาพโดยใช้พรรณนาโวหาร และฝึกการเขียน บันทึก โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการเรยี นรคู้ วามเข้าใจ กระบวนการ เรยี นภาษา และกระบวนการปฏิบัติ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด การแก้ปัญหา และการส่ือสาร ใฝ่รู้ใฝ่เรียน สามารถใช้ภาษาไทยเพื่อการส่ือสารปฏิบัติหน้าท่ีของตนเองได้อย่างดีและทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้ อย่างเป็นกัลยาณมิตร ตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การวัดและ การประเมินผลตามสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรม การให้ความร่วมมือการมีส่วนร่วมใน กิจกรรมการเรียนการสอน การทาแบบฝึกหัดและแบบทดสอบ ผลการเรียนรู้ ๑. เขียนตัวอักษรไทยได้อย่างประณีต สะอาด เป็นระเบียบ ชัดเจนทาให้ผูอ้ า่ นเข้าใจงา่ ย ๒. เขยี นหนังสือไทยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ตัวอกั ษรไทย วรรคตอนและตวั สะกด ๓. เลือกใช้โวหารการเขยี นไดอ้ ย่างเหมาะสม ๔. มคี วามรูเ้ รื่องการใช้ภาษาและเขยี นสื่อสารได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ทราบวิธกี ารเขียนบรรยายภาพดว้ ยร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง ๖. ทราบวธิ ีการเขียนบันทกึ ประจาวนั และเขียนบันทึกประจาวัน รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๒๗ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๒๒๒๐๑ ชอื่ วิชา การอา่ นเพอื่ พัฒนาตนเอง ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษากลวิธกี ารอ่าน การอา่ นสารวจ การอ่านในใจ การอา่ นเรว็ การจบั ใจความสาคัญ การแปลความ ตีความ ขยายความ ลักษณะของบทความท่ีเป็นข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ข้อความ แสดงอารมณ์ ฝึกการอ่านจากส่ือต่าง ๆ แล้วจับสาระสาคัญ แปลความ ตีความ ขยายความ แยก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นข้อความแสดงอารมณ์ การใช้วิจารณญาณในการอ่านเพื่อวเิ คราะห์แนวคดิ การใช้ภาษา ความนา่ เช่อื ถือของสื่อ โดยใช้กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการ เรยี นภาษา และกระบวนการปฏบิ ัติ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านอย่างมีวิจารณญาณและมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่อง เพ่อื อ่านทัง้ สามารถนาความรู้ ความคิดที่ได้จากการอ่านมาปรบั ใช้เพอ่ื พัฒนาตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความสาคัญของการอ่านสารวจ การอ่านในใจ การอ่านเร็ว การจับใจความสาคัญ การแปลความ ตคี วาม ขยายความ ๒. บอกข้อเท็จจรงิ ขอ้ คิดเห็น ขอ้ ความแสดงอารมณ์จากเรือ่ งที่อา่ น ๓. บอกสาระสาคญั ของเรอ่ื งทอ่ี า่ น ๔. แปลความ ตีความ ขยายความ จากเร่ืองทอ่ี ่านไดถ้ กู ต้อง ๕. วเิ คราะหแ์ นวคดิ การใชภ้ าษาและความนา่ เช่อื ถือจากเรื่องทีอ่ ่านได้อย่างมีเหตผุ ล ๖. บอกเหตผุ ลในการเลือกเรื่องเพอ่ื อ่านได้อยา่ งถูกต้อง รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๒๘ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๒๒๒๐๒ ช่อื วิชา ทกั ษะการเขยี นภาษาไทย ๒ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๐.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาความหมายและความสาคัญของการเขียน การเขียนรูปแบบต่าง ๆ การเขียน บันทึก การเขียนย่อความ การเลือกใช้คา ประโยค สานวนโวหารให้เหมาะสมกับเน้ือเรื่องและ โอกาส การเขียนลาดับความให้ผู้อา่ นได้รับสารอย่างถูกต้องชัดเจน การเขียนเรียงความ ตลอดจน การแตง่ บทรอ้ ยกรองอย่างง่าย ๆ โดยการสอนแบบบรรยาย การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ การศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง การเขยี นสรุปเนื้อหาจากการอ่านงานประพันธแ์ บบตา่ ง ๆ หรือการฟังข่าวสาร เรือ่ งราวต่าง ๆ อีก ทงั้ ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ เขยี นวเิ คราะห์ แสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกในเชงิ สรา้ งสรรค์ เพ่ือให้มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนเพิ่มพูนทักษะการเขียนในรูปแบบต่าง ๆ สามารถเขียน แสดงความต้องการความคิดและความรู้สึกได้ถูกต้องตามมารยาทและธรรมเนียมนิยม และมี ความรับผิดชอบตอ่ เรื่องที่เขียน ผลการเรยี นรู้ ๑. เขยี นหนงั สอื ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลักการเขียนหนงั สือไทย ๒. บอกหลกั เกณฑแ์ ละทักษะการเขียน ๓. เรยี บเรียงประโยคได้สละสลวยและถกู ตอ้ งตามหลักภาษา ๔. สามารถถ่ายทอดความรู้ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกผ่านงานเขยี น รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรยี นรู้ ๒๙ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๒๓๒๐๑ ชอ่ื วิชา การอา่ นเพ่อื พฒั นาตนเอง ๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๐.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษากระบวนการอ่านและฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ อ่านเพ่ือตีความ แปลความ สรุปความ สามารถอธิบายรายละเอียด วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริงจากเรื่องที่ได้ อ่านอย่างมเี หตุผล การใช้แหล่งความรู้พัฒนาการอ่าน การถ่ายทอดความรู้ ความคิดจากการอา่ น โดยสามารถเลือกหนังสือและสื่อสารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ สามารถแสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ วิจารณ์และประเมินค่าเร่ืองท่ีอ่าน โดยศึกษาในแง่มุม ต่าง ๆ ทั้งด้านรูปแบบการเรียน เนื้อหา และศิลปะการใช้ภาษา ข้อความหรือบทประพันธ์ท่ี ประทบั ใจมาอ้างอิงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และกระบวนการสร้าง ความตระหนกั เพอ่ื ให้เกดิ การพัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้ พฒั นาความคดิ เพมิ่ พนู ทกั ษะทางภาษา สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ได้ มีมารยาทในการอ่าน และนสิ ัยรักการอา่ น ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกความแตกตา่ งระหว่างการอา่ นตคี วาม การอ่านแปลความ และการอ่านสรุปความ ๒. บอกความหมายของการอ่านขา่ ว การอา่ นตีความข่าว และการวเิ คราะห์คุณค่าขา่ ว ๓. บอกประโยชนแ์ ละวธิ ีการค้นหาขอ้ มูลทางอนิ เตอร์เนต็ และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ๔. อธบิ ายความหมายของการอา่ นเพือ่ การศึกษา ๕. มอี ปุ นสิ ัยรักการอ่าน ช่างคิด ช่างสังเกต ๖. บอกประเภทของสารคดแี ละแนวทางการพิจารณาคณุ คา่ ของสารคดี รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ ๓๐ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๒๓๒๐๒ ช่อื วิชา ทกั ษะการเขยี นภาษาไทย ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๐.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาทักษะการเขียน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ความคิดเห็น ความต้องการ และจินตนาการ ให้ผู้รับสารเกิดความรู้ความเข้าใจ โดยการเลือกใช้ ถ้อยคา การใช้ประโยคที่ถูกต้อง ให้ผู้อ่านเกิดความรู้ความเข้าใจ โดยอาศัยรูปแบบการเขียนที่ หลากหลายตามเจตนา เช่น การเขียนบันทึก การเขียนเรียงความ การเขียนบันเทิงคดี และ การเขยี นสารคดที ่ีผเู้ ขยี นจาเป็นต้องมี พื้นฐานความรู้เกี่ยวกบั หลักการเขียนเบอื้ งต้น กระบวนการ เขียน ลีลาโวหารในการเรียบเรียง สานวนโวหาร และลักษณะงานเขียนที่ดี เพ่ือนาความรู้มา วางแผนในการเขียน และพัฒนาทักษะการเขยี น ตามความรคู้ วามสามารถของตนอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ กระบวนการ คิดสร้างสรรค์ กระบวนการสืบค้นข้อมูลและกระบวนการกลุ่มใน การศกึ ษาเรียนรู้ มกี ารอภปิ ราย การฝกึ ฝน เรียนรูอ้ ยา่ งถกู วิธีและการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ เพื่อให้มีทักษะการเขียน สามารถเขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ โดยการสืบค้น ดว้ ยการอ่าน ดู ฟงั จากสอื่ ส่ิงพิมพ์ส่ืออิเล็กทรอนกิ ส์ หรอื จากประสบการณ์ตรง ผสมผสานเน้ือหา เรื่องราว ข้อมูล ความรู้ ความคิด และจินตนาการ โดยการใช้ภาษาไทยได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง ตามรูปแบบการเขียน สามารถนาความรู้เก่ียวกับกระบวนการเขียน มารยาทในการเขียน และ ลกั ษณะงานเขียนท่ีดไี ปใช้ฝึกฝนและพัฒนาทกั ษะ การเขยี นไดอ้ ย่างสร้างสรรค์เปน็ ประโยชน์ทงั้ ต่อ ตนเองและสงั คมสว่ นรวม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายและความสาคัญของการเขยี น ๒. อธิบายกระบวนการเขยี นได้ถูกต้องทุกข้ันตอน ๓. อธบิ ายความแตกต่างของโวหารแต่ละชนดิ ๔. เขียนส่อื สารในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรยี บเรียงถกู ต้อง มีขอ้ มูล และสาระสาคญั ชัดเจน ๕. ใชภ้ าษาในการเขยี นได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ๖. อธิบายลักษณะของงานเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ ๗. วางโครงเรื่องและเขยี นเรยี งความเชิงสรา้ งสรรคไ์ ดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรียนรู้ ๓๑ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

โครงสร้างรายวิชากล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย รายวิชาพน้ื ฐาน ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ รายวชิ าเพม่ิ เติม ท๓๐๒๑๔ การอ่านและพิจารณาวรรณกรรม จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๓๐๒๑๕ การเขียน ๑ จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๓๐๒๑๖ การเขียน ๒ จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๓๐๒๑๗ การสรา้ งสรรคว์ รรณกรรม จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ท๓๐๒๒๑ การพดู จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต ท๓๐๒๓๑ ภาษาไทยเพ่ือกิจกรรมการแสดง จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท๓๐๒๓๒ ภาษาไทยในเพลง จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท๓๐๒๓๓ เสนาะเสนห่ ์สาเนียงไทย จานวนเวลาเรียน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ท๓๐๒๓๔ ภาษาไทยเพอ่ื การพัฒนาตนเอง จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท๓๐๒๔๑ หลกั ภาษาไทย จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท๓๐๒๕๑ ภาษาไทยกบั วฒั นธรรม จานวนเวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๓๐๒๕๒ พลกิ ภูมิหลังวรรณคดไี ทย จานวนเวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๓๑๒๐๑ การใชห้ ้องสมดุ และสารสนเทศ จานวนเวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ๓๒ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา ท๓๑๑๐๑ ช่อื วิชา ภาษาไทย ๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง การอ่านจับใจความบทความ นิทาน วรรณคดใี นบทเรยี น การตีความ แปลความ และขยายความเรื่องที่อ่าน มารยาทในการอา่ น การเขียนส่ือสารในรูปแบบการอธิบาย บรรยาย และพรรณนาโดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกต้อง มี ข้อมูลและสาระสาคัญชัดเจน การเขียนเรียงความ เขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้าโดยใช้ข้อมูล สารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง มารยาทในการเขียน การสรุปแนวคิด และแสดงความคิดเห็นจาก เรอ่ื งที่ฟงั และดู การวิเคราะหแ์ นวคิด การใชภ้ าษา และความนา่ เชื่อถือจากเรอื่ งทฟ่ี ัง และดอู ยา่ งมี เหตุผล การพูดต่อท่ีประชุมชนด้วยภาษาถูกต้องเหมาะสมมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ธรรมชาติของภาษาพลังของภาษา และลักษณะของภาษาการใช้คา และกลุ่มคาสร้างประโยค การวิเคราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบ้ืองต้นเก่ียวกับ จดุ มุ่งหมายการแตง่ รูปแบบของวรรณคดีและวรรณกรรม การวิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดี เชือ่ มโยงกับการเรยี นรู้ทางประวตั ิศาสตร์ และวถิ ีชวี ิตของสังคมในอดตี โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาการสังเกต การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลการวิเคราะห์วจิ ารณ์ การอธิบาย แสดงความคิดเหน็ กระบวนการกลุ่ม สัมพันธ์ การอภปิ ราย และการรายงาน เพื่อให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจและการนาไปใช้สามารถตีความ แปลความ และขยาย ความจากเรื่องที่อ่านเขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้าโดยใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง วิเคราะห์แนวคิด ความน่าเช่ือถือ แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล สามารถวิเคราะห์วิจารณ์ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ตามหลกั การใชท้ ักษะการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพูดอย่าง เหมาะสม และมีวิจารณญาณ มีมารยาทการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด เกิด ความซาบซ้งึ และภูมิใจในบรรพบรุ ษุ ท่ีไดส้ ั่งสมสบื ทอดมาจนถงึ ปจั จุบัน รหสั ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ รวมท้งั หมด ๑๖ ตวั ชี้วดั ๓๓ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๓๑๑๐๒ ชอ่ื วิชา ภาษาไทย ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง การอ่านเร่ืองส้ัน บันเทิงคดี วรรณคดีในบทเรียน โดยคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน และประเมินค่าเพื่อนาความรู้ ความคิดไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวิตการวิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้ง เกี่ยวกับเรื่องท่ีอ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมีเหตุผล การตอบคาถามจากการอ่านงานเขียน ประเภทบทร้อยกรอง มารยาทในการอ่านการเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนย่อความจากสื่อที่มี รูปแบบ และเน้ือหาหลากหลาย มารยาทในการเขียนการประเมินเรื่องที่ฟังและดู แล้วกาหนด แนวทางนาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต วิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟัง และดู การพูด อภิปราย เสนอแนวคิดด้วยภาษาถูกต้องเหมาะสม มารยาทในการฟัง การดู และการพูด การใช้ ภาษาเหมาะสมแกโ่ อกาสกาลเทศะและบุคคล คาราชาศพั ท์ การแตง่ บทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ และโคลง การวิเคราะห์และประเมินคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมด้านวรรณศิลป์ การท่องจา และบอกคณุ ค่าบทอาขยานตามทีก่ าหนด โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาการสังเกต การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผล การวิเคราะห์ วิจารณ์ การอธิบาย แสดงความคดิ เหน็ กระบวนการกลุ่ม สัมพนั ธ์ การอภปิ ราย และการรายงาน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและการนาไปใช้สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ ตัดสินใจ แก้ปญั หา วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งอยา่ งมีเหตผุ ล รจู้ ักกาหนดแนวทางเพือ่ นาไป ประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิต มที กั ษะการอ่านมวี ิจารณญาณในการเลือกเร่ืองที่ฟงั และดู ใชภ้ าษา ในการเขียน และพูดอย่างถูกต้องเหมาะสม และมีมารยาทการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และ การพดู เกิดความซาบซ้ึงและภมู ิใจในบรรพบุรุษทไ่ี ดส้ ่ังสมสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบนั รหัสตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๖ รวมทงั้ หมด ๑๖ ตัวชี้วัด ๓๔ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ ช่อื วิชา ภาษาไทย ๓ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้องไพเราะ การตีความ ขยายความ และแปลความเร่อื งทีอ่ ่าน การวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความคิดเหน็ โต้แย้งเร่ืองท่ี อ่านได้อย่างมีเหตุผล อ่านเรื่องตา่ ง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด ย่อความ และรายงาน มารยาทในการอ่าน การเขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ การใช้ภาษา เรียบเรียงถูกต้องมีข้อมูลและสาระชัดเจน การเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนรายงาน การศกึ ษาคน้ คว้า การผลิตงานเขยี นของตนเองในรูปแบบตา่ ง ๆ การประเมนิ งานเขียนของผ้อู น่ื เพอ่ื นามาพัฒนางานเขียนของตนเอง มารยาทในการเขียน การสรุปแนวคิด และแสดงความคิดเห็น จากเร่ืองท่ีฟัง การใช้วิจารณญาณในการเลือกฟัง และดู การพูดในโอกาสต่าง ๆ การพูดแสดง ทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจด้วยภาษาท่ีถูกต้องเหมาะสม มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา และลักษณะของภาษา การใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยค การใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส การใช้คาราชาศัพท์ การแต่งบทร้อยกรอง อิทธิพลของ ภาษาต่างประเทศและภาษาถ่ิน การวิเคราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการ วิจารณ์เบ้ืองต้น วรรณกรรมพ้นื บ้านและภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยาน เพื่อนาไปใชอ้ า้ งอิงได้ โดยใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิ ด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ พฒั นาทกั ษะทางภาษา และรูห้ ลกั การอา่ น เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด สามารถสอ่ื สารไดใ้ นชวี ิตประจาวนั มีเจตคตทิ ี่ดีต่อวิชาท่ี เรียน สร้างวสิ ัยทัศน์ในการดาเนนิ ชีวิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน เกดิ ความซาบซงึ้ และภมู ิใจในบรรพ- บุรษุ ท่ไี ดส้ ัง่ สมสืบทอดมาจนถงึ ปจั จุบนั รหัสตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๗ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๕ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ รวมทง้ั หมด ๒๐ ตัวชี้วัด ๓๕ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๓๒๑๐๒ ช่อื วิชา ภาษาไทย ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแกว้ ร้อยกรอง การคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองที่อา่ น และประเมินค่าเพอ่ื นาความรู้ความคิดไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวิต การตอบคาถาม จากการอ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ ภายในเวลาท่ีกาหนด การอ่านเรื่องเรื่องต่าง ๆ แล้วเขียน กรอบแนวคิดผังความคิด บันทึกย่อความ และรายงานการสังเคราะห์ความรู้จากการอ่าน ส่ือส่ิงพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียนและพัฒนา ความรู้ทางอาชพี การเขียนส่อื สารในรปู แบบอธิบาย บรรยาย พรรณนา โต้แย้ง เชิญชวน ประกาศ โครงการ ผลิตงานเขยี นของตนเองในรปู แบบต่าง ๆ การประเมนิ งานเขียนของผู้อนื่ เพ่ือนามาพัฒนา งานตนเอง การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเร่ืองท่ีสนใจตามหลักการเขียนและใช้ข้อมูล สารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง มารยาทในการเขียน การวิเคราะห์แนวคิดการใช้ภาษาและ ความน่าเช่ือถือจากเร่ืองท่ีฟังและดู การใช้วิจารณญาณในการเลือกเร่ืองที่ฟังและดู มารยาทใน การฟัง การดู และการพูด อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ และภาษาถ่ิน หลักการสร้างคาใน ภาษาไทย การวิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดี และวรรณกรรมเก่ียวกับเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์และวถิ ชี ีวติ ของสงั คมในอดตี การสงั เคราะหว์ รรณคดี และวรรณกรรม โดยใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการส่อื ความ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ พฒั นาทกั ษะทางภาษา และรหู้ ลักการอา่ น เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด สามารถสื่อสารไดใ้ นชีวิตประจาวัน มเี จตคติทดี่ ตี ่อวิชาท่ี เรยี น สร้างวิสัยทัศนใ์ นการดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น เกิดความซาบซึ้งและภูมิใจในบรรพ- บุรุษท่ีไดส้ ง่ั สมสืบทอดมาจนถึงปจั จบุ ัน รหสั ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๗ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๔ รวมทัง้ หมด ๑๖ ตัวช้ีวัด ๓๖ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๓๓๑๐๑ ชอ่ื วิชา ภาษาไทย ๕ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการตีความขยายความ และแปลความเรื่องท่ีอ่าน การวิเคราะห์ วิจารณ์ การแสดง ความคิดเห็นโต้แย้งเร่ืองท่ีอ่านได้อย่างมีเหตุผล การวิเคราะห์ การวิจารณ์ แสดง ความคิดเห็น โต้แยง้ เกีย่ วกับเรือ่ งท่ีอ่าน และเสนอความคดิ ใหม่อย่างมเี หตผุ ล การตอบคาถามจาก เรื่องที่อ่านประเภทต่าง ๆ ส่ือสิ่งพิมพ์การอ่านเรื่องต่าง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด ย่อความ และรายงาน การสังเคราะห์ความรู้จากการอ่านส่ือส่ิงพิมพ์ส่ืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อ พัฒนาการเรียน มารยาทในการอา่ น เขียนสือ่ สารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ใช้ภาษา เรียบเรยี งถูกต้อง มขี ้อมูลและสาระชดั เจน การเขียนเรียงความ ยอ่ ความ รายงานการศึกษาคน้ คว้า การผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ การประเมินงานเขียนของผู้อ่ืนเพื่อนามาพัฒนา งานเขียนของตนเอง มารยาทในการเขียน การสรุปแนวคิด และแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองที่ฟัง และดู การประเมินเรื่องท่ีฟงั และดู การใช้วจิ ารณญาณในการเลอื กฟังและดู การพูดในโอกาสต่าง ๆ การพูดแสดงทรรศนะโต้แย้ง โน้มน้าวใจด้วยภาษาท่ีถูกต้องเหมาะสม มารยาทในการฟัง การดู และการพูดธรรมชาตขิ องภาษา พลังของภาษา และลกั ษณะของภาษา เสยี งในภาษา ส่วนประกอบ ของภาษา การใช้คา และกลุ่มคาสร้างประโยค การใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส การใช้คาราชาศัพท์ การวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบ้ืองต้น การวิเคราะห์ ลักษณะเด่นของวรรณคดีวรรณกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาและบอกคุณค่า บทอาขยานเพ่ือนาไปใช้อา้ งอิง โดยใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคดิ ไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หา และสร้าง วิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และกระบวนการคิดอย่าง สรา้ งสรรค์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด สามารถส่ือสารไดใ้ นชีวิตประจาวัน มีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อวิชาที่ เรียน สร้างวิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต มีมารยาทในการฟัง ดู พูด ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน และมนี ิสัยรกั การอ่าน เกิดความซาบซึ้งและภูมใิ จในบรรพบุรุษทีไ่ ดส้ ่งั สมสืบทอดมาจนถึงปจั จบุ นั รหัสตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๘, ม.๔-๖/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ รวมท้งั หมด ๒๓ ตวั ชี้วัด ๓๗ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๓๓๑๐๒ ช่ือวิชา ภาษาไทย ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการอ่านจับใจความสาคัญท่ีได้จากส่ือต่าง ๆ บทความ วรรณกรรมพ้ืนบ้าน บันเทิงคดี วรรณกรรมในบทเรยี น และแปลความเรอ่ื งที่อา่ น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมีเหตุผล การอ่านเร่ืองต่าง ๆ แล้วเขียน กรอบแนวคิด ผังความคิด ย่อความและรายงานการสังเคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือพัฒนาการเรียน มารยาทในการอ่าน การเขียนสื่อสารในรูปแบบบรรยาย พรรณนา เชิญชวน ประกาศ แสดงทรรศนะได้ตรงตามวัตถุประสงค์ใช้ภาษาเรียบเรียงถูกต้องมี ข้อมูลและสาระชัดเจน การประเมินงานเขียนของผู้อ่ืนเพื่อนามาพัฒนางานเขียนของตนเอง การบันทึกการศึกษาค้นคว้าเพ่ือนาไปพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ มารยาทในการเขียน การพูด สรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดู การวิเคราะห์แนวคิดการใช้ภาษาและ ความน่าเชื่อถือจากเร่ืองทฟี่ ังและดู การประเมนิ เรอ่ื งท่ีฟังและดู การใชว้ ิจารณญาณในการเลือกฟัง และดู การพูดในโอกาสต่าง ๆ การพูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ ด้วยภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสม มารยาทในการฟัง การดู และการพูด การแต่งบทร้อยกรอง การวิเคราะห์และประเมิน การใช้ภาษาจากส่ือส่ิงพิมพ์ การวิเคราะห์ และวิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมตามหลักการ วิจารณ์เบื้องต้น การสังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดี และวรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ในชีวิตจริง การวเิ คราะห์ลกั ษณะเด่นของวรรณคดีวรรณกรรมพืน้ บ้านและภมู ปิ ัญญาทางภาษา ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการ สอ่ื ความกระบวนการคิดวเิ คราะห์ พฒั นาทักษะทางภาษา และรู้หลักการอ่าน เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ สามารถสื่อสารได้ในชวี ิตประจาวัน มีเจตคติที่ดีต่อวิชาที่ เรียน สร้างวิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต มีมารยาทในการฟัง ดู พูด ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น และมนี สิ ัยรักการอา่ น เกิดความซาบซ้งึ และภูมใิ จในบรรพบุรษุ ที่ไดส้ งั่ สมสืบทอดมาจนถึงปจั จบุ ัน รหสั ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๘, ม.๔-๖/๙ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๘ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๗ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ รวมท้ังหมด ๒๑ ตวั ช้ีวัด ๓๘ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๓๐๒๑๔ ชอ่ื วิชา การอา่ นและพจิ ารณาวรรณกรรม กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชัว่ โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการอ่านวรรณกรรมประเภทต่าง ๆ บันเทิงคดี สารคดี นวนิยาย วรรณคดีท่ี เปน็ ร้อยแก้ว และร้อยกรอง โดยใช้กระบวนการเลือกอ่านหนังสือได้ตรงตามจุดประสงค์ การพิจารณาแยก ข้อเท็จจริงออกจากความคิดเห็น การค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ การอภิปราย การแยกองค์ประกอบของวรรณกรรม การแสดงความคิดเห็นแนะนาหนังสือดีที่น่าอ่าน วิพากษ์ วิจารณใ์ นเรอื่ งที่อา่ นอยา่ งมหี ลกั การและเหตผุ ล เพ่ือให้เกิดความเพลิดเพลิน ได้รับความรู้อย่างกวา้ งขวางในการส่ือสาร และซาบซึ้ง ในรสวรรณศิลป์ มีเจตคติที่ดีต่อภาษาไทย มีนิสัยรักการอ่านเข้าใจสารของผู้แต่ง และเห็นคุณค่า ของวรรณกรรมท่ีอ่าน ศึกษาข้อคิดตลอดจนความไพเราะและความงดงามทางภาษา แสวงหา ความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ สร้างเสรมิ ชวี ติ อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข ผลการเรียนรู้ ๑. พิจารณาแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จากการอ่านวรรณกรรม ๒. เลอื กอ่านหนงั สือประเภทต่าง ๆ บนั เทิงคดสี ารคดี นวนิยายวรรณคดที เ่ี ปน็ รอ้ ยแก้ว ร้อยกรอง ไดต้ รงตามจุดประสงค์ ๓. ค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ อภิปรายแยกองค์ประกอบของวรรณกรรมแสดง ความคิดเห็นแนะนาหนังสือดีที่น่าอ่าน วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องท่ีอ่านอย่างมีหลักการและ เหตผุ ล ๔. บอกข้อคดิ ตลอดจนความไพเราะและความงดงามทางภาษา แสวงหาความรู้เพ่อื พัฒนาตนเอง จากการเขียนอยา่ งสม่าเสมอ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้ ๓๙ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๓๐๒๑๕ ชอ่ื วิชา การเขียน ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ฝึกทักษะการเขียนบทความ เรียงความ ย่อความ เขียนประกาศ เขียนจดหมาย รูปแบบต่าง ๆ เขียนเชิงสร้างสรรค์ เสริมทักษะการเขียนภาษาอาเซียนพื้นฐาน แต่งคาประพันธ์ ประเภทกาพย์ กลอน โคลง ฉนั ท์ โดยใช้ทกั ษะกระบวนการกลุม่ การค้นควา้ รวบรวมขอ้ มลู การวิเคราะห์ การอภิปราย รายงาน และประเมินคา่ เพอ่ื เกดิ ความเพลดิ เพลนิ ได้รบั ความรอู้ ย่างกวา้ งขวางในการสอื่ สาร และซาบซ้งึ ในรส วรรณศลิ ป์ มเี จตคตทิ ่ดี ีต่อภาษาไทย มีนสิ ัยรกั การเขยี นและมีรสนิยมที่ดใี นการเลือกสรรถ้อยคาที่ สละสลวย มคี ณุ ค่าทงั้ ขอ้ คิด ตลอดจนความไพเราะและความงดงามทางภาษา แสวงหาความรเู้ พื่อ พัฒนาเองจากการเขยี นอยา่ งสม่าเสมอ สร้างเสรมิ ชีวติ อยูร่ ว่ มกับผอู้ น่ื ได้อย่างมีความสขุ ผลการเรียนรู้ ๑. พัฒนาการใช้ภาษาเขยี นให้งดงามไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ภาษา ๒. เรยี บเรยี งคาเพอ่ื ใชภ้ าษาให้งดงามไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั เกณฑท์ างภาษาอยา่ งเป็นระบบ ๓. ใชโ้ วหารเพ่ือเรียบเรียงคาในงานเขยี นใหง้ ดงามไดถ้ กู ต้องตามหลักเกณฑ์ทางภาษา ๔. เขยี นขอบขา่ ยโครงเรือ่ งอย่างเปน็ ระบบสะดวกแก่การสบื ค้นข้อมลู ๕. เขยี นเรยี บเรยี งความคิดจากเร่ืองที่อา่ นได้อย่างครบถ้วน ๖. ตระหนักถึงคุณค่าและความสาคัญของตัวอักษรและตัวเลขไทยในฐานะเป็นสมบัติทางภาษา ของชาติ รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๔๐ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๓๐๒๑๖ ชอื่ วิชา การเขียน ๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ฝึกทักษะการเขียนบทความ เรียงความ ย่อความ เขียนประกาศ เขียนจดหมาย รูปแบบต่าง ๆ เขียนเชิงสร้างสรรค์ เสริมทักษะการเขียนภาษาอาเซียนพ้ืนฐาน แต่งคาประพันธ์ ประเภทกาพย์ กลอน โคลง ฉนั ท์ โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม การค้นคว้า รวบรวมขอ้ มลู การวเิ คราะห์ การอภิปราย รายงาน และประเมินค่า เพือ่ เกิดความเพลดิ เพลนิ ไดร้ ับความร้อู ยา่ งกว้างขวางในการสอื่ สาร และซาบซง้ึ ในรส วรรณศิลป์ มเี จตคตทิ ด่ี ีต่อภาษาไทย มนี ิสัยรักการเขียนและมีรสนิยมที่ดีในการเลือกสรรถ้อยคาท่ี สละสลวย มคี ณุ คา่ ท้ังข้อคดิ ตลอดจนความไพเราะและความงดงามทางภาษา แสวงหาความรเู้ พ่ือ พฒั นาเองจากการเขยี นอยา่ งสม่าเสมอ สรา้ งเสริมชีวติ อยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ผลการเรียนรู้ ๑. เขียนสะกดคาถูกต้องตามอักขรวิธี เลือกคาในการเขียนได้ตรงความหมายเรียบเรียงคาเป็น ประโยคได้ถูกตอ้ งตามระดบั ภาษา ๒. ใช้กระบวนการเขียนพัฒนางานเขียนโดยการเตรียมการเขียน การกาหนดหัวข้อหรอื ชือ่ เร่ือง รูปแบบโครงเร่ืองเนือ้ หา การยกร่างข้อเขียนการตรวจทานการปรบั ปรงุ แก้ไข และการเขียน เร่อื งให้สมบูรณ์ ๓. เขียนเรียงความย่อความจดหมายธุรกิจและจดหมายราชการ สารคดี บทวิจารณ์ รายงาน โครงงาน ๔. แตง่ คาประพนั ธ์ประเภท กาพยโ์ คลงฉนั ท์ ๕. เขยี นสอ่ื ความหมายภาษาอาเซียนพนื้ ฐาน ๖. มีมารยาทการเขียนโดยใช้ภาษาสุภาพ รับผิดชอบในส่ิงท่ีเขียนเขียนอย่างสร้างสรรค์และ อา้ งอิงแหล่งท่ีมา รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๔๑ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๓๐๒๑๗ ช่อื วิชา การสรา้ งสรรค์วรรณกรรม กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการใช้ถ้อยคาภาษา และภาพพจน์โวหารท่ีปรากฏในวรรณกรรม ท้ังร้อยแก้ว และร้อยกรอง การวิเคราะห์วรรณกรรมในด้านรูปแบบและเน้ือหา และนาทฤษฎี การใช้ภาษา สรา้ งสรรค์วรรณกรรมรูปแบบตา่ ง ๆ โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ การอภปิ ราย รายงาน แสดงความคิดเหน็ ความคดิ รวบยอด และประเมินคา่ เพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ มีมารยาทในการอ่าน การพูด การฟัง การดู และ การเขียน นาความรูไ้ ปใชใ้ นการตัดสนิ ใจ การแก้ปัญหาสามารถนาไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ ื่อสารกับ ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ใช้เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ อื่น ๆ และใชเ้ ทคโนโลยีในการสอื่ สารได้เป็นอย่างดีมีความรกั เชิดชู และทะนบุ ารุงรกั ษาภาษาไทย ไว้ในฐานะที่เปน็ สมบัตขิ องชาติ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้เรื่องโวหารภาพพจน์ในผลงานประเภทรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง ๒. วิเคราะห์วรรณกรรมในด้านรปู แบบเนื้อหาท้งั รอ้ ยแก้วและร้อยกรอง ๓. นาทฤษฎีการใช้ภาษามาสร้างสรรคว์ รรณกรรมรปู แบบต่าง ๆ ๔. มีมารยาทในการเขียน รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรียนรู้ ๔๒ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๓๐๒๒๑ ช่อื วิชา การพูด กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาวิธีการและประเภทของการพูดแบบเป็นทางการ การพูดแบบไม่เป็นทางการ การพูดโน้มน้าวใจ การพดู เพ่ือความบันเทงิ การพดู เพื่อแสดงความคิดเหน็ เชิงวจิ ารณแ์ ละแก้ปัญหา ในเรอ่ื งการสนทนาการสัมภาษณ์ การอภปิ รายและพูดในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมคี ุณธรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวเิ คราะห์ การอภิปราย รายงาน แสดงความคดิ เหน็ ความคิดรวบยอด และประเมินค่า เพ่ือมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ มีมารยาทในการอ่าน การพูด การฟัง การดู และ การเขียน นาความรูไ้ ปใช้ในการตดั สินใจ การแก้ปัญหาสามารถนาไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ ื่อสารกับ ผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ อื่น ๆ และใชเ้ ทคโนโลยีในการส่อื สารได้เปน็ อย่างดีมีความรกั เชิดชู และทะนุบารุงรกั ษาภาษาไทย ไวใ้ นฐานะทเี่ ปน็ สมบัติของชาติ ผลการเรียนรู้ ๑. พูดแบบเปน็ ทางการแบบไมเ่ ป็นทางการส่ือสารในโอกาสต่าง ๆไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ๒. สรุปแนวคิดและแสดงความคดิ เหน็ เชิงวิจารณแ์ ละแกป้ ัญหาในเรื่องการสนทนา การสมั ภาษณ์ การอภปิ รายและพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีคณุ ธรรม ๓. พดู โน้มน้าวโดยนาเสนอหลกั ฐานตามลาดบั เนอื้ หาอย่างมเี หตผุ ลและนา่ เชือ่ ถือ ๔. มมี ารยาทในการพูด รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรยี นรู้ ๔๓ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๓๐๒๓๑ ช่อื วิชา ภาษาไทยเพือ่ กิจกรรมการแสดง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาวิธีการฝึกเล่าเรื่องขบขัน ตื่นเต้น เล่านิทาน พูดบรรยาย แนะนาการแสดงทา หน้าทพี่ ิธกี ร ฝกึ การแสดงละครฝึกแตง่ บทที่ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ใชภ้ าษาในกจิ กรรมการแสดงและ ใช้ภาษา เป็นเครอ่ื งมือสร้างความบันเทิงเชิงสร้างสรรคต์ ามมารยาทไทย โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวเิ คราะห์ การอภปิ ราย รายงานแสดงความคิดเห็นและประเมนิ คา่ เพื่อมุง่ พฒั นาผเู้ รียนให้มีมารยาทในการอ่าน การพดู การฟัง การดู และการเขยี น นา ความร้ไู ปใช้ในการตดั สนิ ใจการแก้ปัญหาสามารถนาไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ สอื่ สารกับผูอ้ ื่นได้อย่าง มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ และใช้ เทคโนโลยีในการส่ือสารได้เป็นอย่างดี เกิดความรักความศรัทธาทะนุบารุงรักษาภาษาไทยไว้ใน ฐานะทีเ่ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. พดู สอื่ สารในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ๒. ใช้ภาษาในกจิ กรรมการแสดงเปน็ เครอื่ งมอื สร้างความบนั เทงิ ได้อย่างสร้างสรรค์ ๓. นาความรไู้ ปใชใ้ นการตดั สนิ ใจแลว้ เสนอแนวคดิ ใหมด่ ้วยภาษาทถี่ กู ต้องเหมาะสม ๔. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรียนรู้ ๔๔ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ท๓๐๒๓๒ ชอ่ื วิชา ภาษาไทยในเพลง กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา หลักการและวธิ ีการวิเคราะหบ์ ทเพลงต่าง ๆ ฝกึ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมิน คุณค่าของบทเพลงต่าง ๆ ท้ังคุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่าความไพเราะด้านวรรณศิลป์ และคุณค่า ดา้ นสงั คม โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอย่างมีวิจารญาณ และกระบวนการสร้าง ความตระหนัก เพ่ือให้เกิดการพัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้ พัฒนาความคิด สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับคุณค่าของบทเพลงตา่ ง ๆ ท้งั คุณค่าดา้ นเนื้อหา วรรณศลิ ป์ ความไพเราะ รวมทง้ั คุณคา่ ด้านสังคม และเกดิ ความประทบั ใจในศลิ ปะการประพนั ธบ์ ทเพลงต่าง ๆ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความสาคญั และประโยชนข์ องการฟังเพลงต่าง ๆ ๒. จาแนกประเภทของบทเพลงตา่ ง ๆ ๓. วเิ คราะห์บทเพลงตา่ ง ๆ ในคุณค่าด้านเน้ือหาของบทเพลง ๔. วเิ คราะห์บทเพลงต่าง ๆ ในคณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ ความไพเราะของบทเพลง ๕. วิเคราะห์บทเพลงตา่ ง ๆ ในคุณค่าด้านสงั คมซึ่งสะทอ้ นถึงเรอ่ื งราววิถชี ีวิต และสงั คม ๖. บอกขอ้ คดิ ของแต่ละบทเพลงที่ฟงั ๗. วจิ ารณ์ และประเมินคณุ ค่าของบทเพลงต่าง ๆ ๘. เปรียบเทียบคุณคา่ ของบทเพลงประเภทต่าง ๆ ๙. เลือกฟังเพลงตามความสนใจและสามารถแนะนาบทเพลงท่มี ีคุณค่าต่อการฟัง รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้ ๔๕ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๓๐๒๓๓ ชอื่ วิชา เสนาะเสน่หส์ าเนยี งไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ช่วั โมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาทฤษฎีการอ่านทานองเสนาะประเภท โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่ายชนิด ต่าง ๆ รวมทัง้ ฝึกอ่านออกเสยี งรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรองโดยสอดแทรกอารมณ์ไดอ้ ย่างไพเราะ โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวเิ คราะห์ การอภปิ ราย รายงาน แสดงความคิดเห็นรวบยอด และประเมนิ ค่า เพ่อื ม่งุ พฒั นาผเู้ รียนให้ใฝ่เรยี นรู้ มีนิสยั รักการอ่าน มมี ารยาทในการอา่ น การฟัง และ การดู สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ส่ือสารกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล เกิดความซาบซึ้งจากความไพเราะของการอ่านทานองเสนาะ มีความรักเชิดชูและทะนบุ ารุงรักษา ภาษาไทยไว้ในฐานะท่ีเปน็ สมบตั ิของชาติ ผลการเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงรอ้ ยแก้วโดยสอดแทรกอารมณไ์ ด้อย่างไพเราะเหมาะสมกับเรอ่ื งทอ่ี า่ น ๒. อา่ นออกเสยี งทานองเสนาะประเภทโคลงฉนั ทก์ าพย์กลอนและรา่ ยได้ถูกต้อง ๓. อา่ นออกเสยี งทานองเสนาะประเภทโคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน และรา่ ย โดยสอดแทรกอารมณ์ ได้อยา่ งไพเราะเหมาะสมกับเรอื่ งที่อ่าน ๔. มมี ารยาทในการอ่าน รวมทัง้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้ ๔๖ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๓๐๒๔๑ ช่ือวิชา หลักภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่วั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาลักษณะสาคัญของภาษาไทย เสียง และอักษรไทย การสร้างคาใช้เพ่ิมใน ภาษาไทย คา กลุม่ คา และหนา้ ทีข่ องคา ประโยคต่าง ๆ อิทธิพลภาษาอาเซยี นในภาษาไทย การใช้ คาราชาศัพท์และสานวนไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในหลักภาษาไทย การนาความรู้มาใช้ ในการวเิ คราะห์ และการใชภ้ าษาในการสือ่ สารได้ถกู ตอ้ ง โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ การอภิปราย รายงาน โครงงาน แสดงความคดิ เห็นรวบยอด และประเมนิ คา่ เพื่อนาความรู้ไปใช้ในการใช้ภาษาอย่างเหมาะสมและถูกต้อง สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหา และสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมี ประสิทธิผล ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ และใช้พัฒนา เทคโนโลยีใน การส่ือสารได้เป็นอย่างดี มีความรักเชิดชูและทานุบารุงรกั ษาภาษาไทยไว้ในฐานะเป็นสมบัติของ ชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะสาคัญของภาษาไทย ๒. อธบิ ายความหมายและองคป์ ระกอบของภาษาไทย ๓. อธิบายเก่ียวกบั เสยี งและตวั อักษรในภาษาไทย ๔. ออกเสยี งและเขียนภาษาไทยได้ถกู ต้อง ๕. อธิบายวิธสี รา้ งคา โดยวธิ ขี องไทยและวธิ ีทไ่ี ด้รับอิทธิพลจากภาษาตา่ งประเทศได้ ๖. อธิบายชนดิ และหนา้ ท่ขี องคาชนิดต่าง ๆ ได้ ๗. อธบิ ายวธิ สี ร้างกลุ่มคา และประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ ๘. ใช้กลมุ่ คาและประโยคไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๙. วเิ คราะห์คาราชาศพั ทต์ ามระดบั ช้ันของบคุ คล ๑๐. อธิบายความหมายของสานวนไทยและใชส้ ือ่ สารเข้าใจถูกตอ้ งเหมาะสม ๑๑. ตระหนกั ถึงคุณคา่ ของภาษาไทยในฐานะสมบัติทางวัฒนธรรมดา้ นภาษา รวมทั้งหมด ๑๑ ผลการเรยี นรู้ ๔๗ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ท๓๐๒๕๑ ช่อื วิชา ภาษาไทยกบั วัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาเก่ียวกับความหมายประเภท ความสาคัญของภาษา วัฒนธรรม ประเพณีและ วรรณคดีรวมท้ังความสัมพันธ์ระหว่างภาษา กับศิลปะแขนงต่าง ๆ และภาษากับวัฒนธรรม อาเซียน เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าเกิดความภาคภูมิใจในมรดกอันทรงคุณค่าของ บรรพบุรุษ สืบค้นวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถ่ินเพ่ือให้เข้าใจโลกทัศน์ และตระหนักถึง ความสาคัญของวิถีชีวิตไทย โดยนามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิตได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ การอภิปราย รายงานแสดงความคิดเหน็ รวบยอด และประเมนิ คา่ เพื่อให้สามารถใช้ภาษาพูด และภาษาเขียนในการพัฒนาการเรียน และการประกอบ อาชีพภายในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างสร้างสรรค์และพัฒนาความรู้ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมไทยและอาเซียน เพื่ออนุรักษ์ เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติ ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมายของภาษา และวัฒนธรรมของไทยและอาเซียน ๒. จาแนกประเภทของวฒั นธรรมไทยและอาเซยี น ๓. อธิบายความสมั พันธ์ระหว่างภาษา กบั วัฒนธรรมไทยและอาเซียน ๔. บทบาทสมมุตใิ นสถานการณก์ ารใชภ้ าษาอาเซยี น ๕. จาแนกประเภทของประเพณี ๖. อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับประเพณีไทย ๗. อธบิ ายความสาคัญของวรรณคดไี ด้ ๘. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับศิลปะแขนงต่าง ๆ ได้แก่ สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และดนตรไี ทย ๙. อธิบายความสาคญั ของภาษาทมี่ ีต่อความเช่ือของคนในสังคม ๑๐. มีความรูค้ วามเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าของภมู ิปญั ญาไทยดา้ นคตชิ าวบ้าน รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้ ๔๘ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ท๓๐๒๕๒ ช่ือวิชา พลกิ ภมู ิหลงั วรรณคดไี ทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาความเป็นมาของวรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยสุโขทัยและอยุธยา ปัจจัย แวดลอ้ มท่ที าให้เกิดวรรณคดแี ละวรรณกรรม วิวัฒนาการทางวรรณคดแี ละวรรณกรรมในแตล่ ะยุค สมยั โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ การอภิปราย รายงาน แสดงความคดิ เหน็ คดิ รวบยอด และประเมินคา่ เพื่อเปน็ ความร้พู ืน้ ฐานในการเข้าใจโลกทัศน์และวิถีชวี ิตของคนไทย อธิบายลักษณะ ของวรรณคดีในแต่ละยุคสมัย ลักษณะของคาประพันธ์ท่ีแต่งวรรณคดีแต่ละเรื่อง ประวัติกวีและ ตระหนักถึงคุณค่าของวรรณคดีแต่ละเล่มในแต่ละยุคสมัยในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม มี นิสยั รักการอา่ น มคี วามคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ใฝ่เรียนรมู้ ีเจตคติท่ดี ีต่อภาษาไทย ตดิ ตามความเป็นมา ของมรดกไทยด้านวรรณคดีและวรรณกรรมจนถึงปัจจุบันสร้างเสริมชีวิตอย่รู ่วมกับผู้อ่ืนได้อยา่ งมี ความสุข ผลการเรียนรู้ ๑. ศึกษาประวตั คิ วามเปน็ มาของวรรณคดีและวรรณกรรมในสมยั สุโขทัย ๒. ศึกษาประวัติความเป็นมาของวรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยอยุธยาตอนต้นถึงอยุธยา ตอนปลาย ๓. ศกึ ษาปจั จยั แวดล้อมท่ีทาให้เกดิ วรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยสุโขทยั ๔. ศึกษาปัจจัยแวดล้อมที่ทาให้เกิดวรรณคดีและวรรณกรรมในสมัยอยุธยาตอนต้นถึงอยุธยา ตอนปลาย ๕. ศกึ ษาลกั ษณะคาประพันธใ์ นการแต่งวรรณคดีและวรรณกรรมในสมยั สโุ ขทัยและสมัยอยธุ ยา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้ ๔๙ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ท๓๑๒๐๑ ช่ือวิชา การใชห้ อ้ งสมุดและสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๐.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา ปฏิบัติเก่ียวกับเรื่องห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ วัสดุห้องสมุด การจัด หมวดหมู่หนังสือ บัตรรายการหนังสือหนังสืออ้างอิง การศึกษาค้นคว้าและการเขียนรายงาน การอา้ งอิงในรายงาน หนงั สือและการระวงั รักษา กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่าน โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ บันทึกข้อมูล อธิบาย อภปิ ราย และรายงาน กระบวนการสร้างความตระหนัก เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ ทาให้รักการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเองอยา่ งต่อเนื่องไปตลอดชีวติ มีความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้และเชื่อมโยงความรู้ ตา่ ง ๆ มคี วามชน่ื ชม เหน็ คุณคา่ วเิ คราะห์ วจิ ารณผ์ ลงาน สามารถนาความรู้ไปพฒั นาตนเองและ ประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน ผลการเรยี นรู้ ๑. ใช้ห้องสมุดและแหล่งเรยี นรอู้ ื่น ๆ เพอ่ื ศึกษาค้นคว้าได้อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๒. ใชว้ ัสดสุ ารสนเทศของหอ้ งสมดุ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตรงกบั ความตอ้ งการ ๓. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการจัดหมู่หนงั สือและการจัดเกบ็ หนังสอื บนชัน้ ๔. รู้และเข้าใจเก่ียวกับบัตรรายการและสามารถใช้บัตรรายการในการค้นหาหนังสือได้อย่าง ถกู ต้อง ๕. รู้และเข้าใจเก่ียวกับหนังสืออ้างอิงประเภทต่าง ๆ ในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลประกอบ การเรยี นไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ๖. เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานจากการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบต่าง ๆ ได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ ๗. รู้และเข้าใจในกรอ้างอิงในการเขียนรายงานและเขียนอ้างอิงในรายงานได้อย่างถูกต้องตาม หลักเกณฑก์ ารอ้างองิ ๘. รู้และเข้าใจวิธีการระวังรักษาหนังสือ จนสามารถนาไปปฏิบัติต่อหนังสือในห้องสมุดได้อยา่ ง ถกู ต้องและมมี ารยาทในการใช้หนังสือในห้องสมุด ๙. รู้และเข้าใจหลักในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และสามารถนามาประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวนั รวมท้งั หมด ๙ ผลการเรียนรู้ ๕๐ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook