Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กำราบแม่ทัพเผด็จการ เล่ม1

กำราบแม่ทัพเผด็จการ เล่ม1

Published by Aroon, 2022-06-23 09:33:51

Description: กำราบแม่ทัพเผด็จการ เล่ม1

Search

Read the Text Version

ในร้ำนนี้นอกจำกภำพวำดแล้ว สีย้อมกบั กระดำษเนื้อ น่ิมท่ีใช้ในกำรวำดภำพยงั แพงกว่ำปกติถึงสองเท่ำ กระนัน้ หญิง สำวกจ็ ำต้องซื้อ ในร้ำนมีเพียงชำดหรือตะกวั่ แดง[ 1 ] พืชสีเหลืองดอกไม้ สีเขียว ผงดินเหลือง[ 2 ] และผงผสำน[ 3 ] นำงให้เถ้ำแก่หยิบ ทุกอย่ำง กำรนำสีย้อมเหล่ำนี้มำใช้นับว่ำไม่เลวนัก สีแดง สีน้ำ เงิน สีเหลือง สีดำ ทงั้ สี่สีหลกั นี้สำมำรถใช้ผสมกนั ในอตั รำส่วน ที่เหมำะสมเป็นสีอื่นได้ ทว่ำแต่ละครงั้ ต้องผสมกนั ในปริมำณท่ี พอใช้ ตอนจ่ำยเงิน ลุ่ยจูหยิบเงินออกมำสองตำลึงเงินด้วยสี หน้ำเจบ็ ปวดใจ ตำมปกติเฉพำะกระดำษ หมึกและสีย้อมกแ็ พง อย่แู ล้ว ตอนนี้ยงั ต้องเพิ่มเงินมำกขึน้ ไปอีก ถำนหวนั่ ชิงได้ทำใจไว้ก่อนหน้ำแล้ว แต่ด้วยควำมกงั วล ว่ำเงินที่เกบ็ สะสมมำได้จะหมดเสียก่อน ตอนนี้จึงไม่มีวิธีอ่ืน หำกอยำกจะย้ำยจำกถนนเป่ ยเหมินมำท่ีตงเหมิน ด้วยสภำพท่ี เป็ นอยู่ทำให้ไม่อำจเดินหน้ำหรือถอยหลงั ได้ หนำซำ้ เงินที่มียงั ต้องใช้อย่ำงประหยดั เม่ือไม่มีทำงเลือกจึงต้องพยำยำมลองดู สกั ตงั้ 11

ลุ่ยจูฉวยโอกำสรบั ของจำกลูกจ้ำงชำยแทนนำยสำว ขณะท่ีถำนหวนั่ ชิงอ่ำนคำมงคลบนภำพอกั ษรท่ีแขวนในร้ำน ตอนอำศยั อยู่ในเมืองหลวงนำงมีเงินติดตัวมำกมำย หลงั มำรดำถึงแก่กรรมก็เหลือสินเดิมไว้ให้ไม่น้ อย เรียกว่ำ เพียงพอใช้ไปนับร้อยปี ทำให้แต่ก่อนนำงไม่จำเป็ นต้องใช้วิชำ วำดภำพในกำรดำเนิ นชีวิต อีกทงั้ ในจวนมีเรื่องให้ทำมำกมำย จึงมีเวลำวำดภำพน้อยมำก ใครจะคิดว่ำอย่มู ำวนั หนึ่งจะตกอบั ถึงกบั ต้องน่ำควำมสำมำรถดงั้ เดิมมำเลีย้ งชีพ ภำยในร้ำน ภำพแขวนส่วนใหญ่เป็ นภำพภูเขำ แม่น้ำ ดอกไม้และนกซ่ึงเป็ นภำพวำดฝี พู่กัน ส่วนกำรวำดแบบ เน้นหนักในรำยละเอียดไม่ค่อยมีให้เห็น ดูทำควำมต้องกำร พวกภำพเหมือนจะน้อยมำก อย่ำงภำพอิสตรีในวงั กม็ ีเพียงสอง ภำพเท่ำนัน้ ถำนหวนั่ ชิงมองภำพหญิงสำวชำววงั สองภำพนัน้ อยู่นำน เพ่ือจดจำกำรลงสีและลกั ษณะพิเศษไว้ในใจ ช่วงนี้เหล่ำปัญญำชนที่ไม่สำมำรถเขียนบทประพนั ธ์ได้ ต่ำงก็นิ ยมวำดภำพภูเขำ แม่น้ำ นกและป่ ำไม้ ส่วนใหญ่จะ เน้นหนักด้ำนลกั ษณะทำงธรรมชำติอนั มีเสน่หน์ ่ำพิสมยั ซ่ึงล้วน 12

เป็นภำพวำดฝี พ่กู นั นำงเข้ำใจว่ำกำรวำดภำพเหมือนจริงน่ำจะยงั ขำดผ้ทู ี่มี ฝี มือ หรืออำจเพรำะเป็ นงำนที่มีควำมยุ่งยำกจึงไม่ค่อยมีใคร อยำกจะวำดมำกนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำรจดั กำรรำยละเอียด วิธีแรเงำต่ำงๆ นำนำเพื่อให้เกิดเป็ นภำพหลำยมิติ รวมถึงกำร ใช้แสงเงำเพอื่ แสดงถงึ ควำมสว่ำงและควำมมืด แต่ภำพหญิ งชำววังสองรูปนี้ สวยงำมประณี ตและ พิถีพิถนั อย่ำงมำก ช่ำงงดงำมเรียบง่ำยและมีท่วงท่ำชดช้อย เป็ นอย่ำงย่ิง ถึงจะเป็ นเพียงแค่ภำพลำยเส้นท่ีมีมิติน้อย แต่คน วำดก็สำมำรถสื่อถึงอำรมณ์ออกมำได้อย่ำงยอดเยี่ยมและ ลึกซึ้ง ลูกจ้ำงชำยเดินตำมมำส่งจนกระทัง่ หญิงสำวทัง้ สอง ออกไปจำกร้ำน ทงั้ ที่ทงั้ คู่เดินห่ำงไปไกลแล้วสำยตำของเขำก็ ยงั มองตำมอยู่อย่ำงนัน้ อีกนำน ก่อนจะเดินซึมเซำกลบั เข้ำไป ทำงำนดงั เดิม 13

[ 1 ] สีชำดหรือตะกวั่ แดง หรือสำรชินนำบำร์ แร่โบรำณ ที่ะปนกบั แร่ดีบุก เป็ นสำรสีแดง ละลำยในกรดดินประสิว หนัก และวำวคล้ำยเพชร [ 2 ] สีดินเหลือง หรือสำรแร่โอเคอร์ เป็ นดินธรรมชำติที่ มีส่วนผสมของเฟอรร์ ิคออ็ กไซด์กบั แร่เงิน จึงมีตงั้ แต่สีเหลือง ส้ม ไปจนถึงน้ำตำลและแดง ซึ่งขึ้นอยู่กบั จำนวนของแร่เงินที่ ผสมอยู่ [ 3 ] ผงผสำน หรือตวั ผสำน ทำหน้ำที่ เป็ นตวั ละลำยสี และผสำนให้ผงสีหรอื หมกึ แขง็ ตวั 14

15 ภาพสาวงาม การเดินทางกลบั ที่พกั เป็นปกติดงั เช่นตอนขามา นานมากแล้วที่ถานหวนั่ ชิงแทบไม่ได้ออกจากบ้าน มี เพียงไม่ก่ีวนั หลงั ท่ีไปตลาดกบั ลุ่ยจูเทานัน้ ทงั้ สองเดินไปตาม ถนนด้วยความระแวดระวงั รู้อยู่แก่ใจว่าพวกตนยงั คงอยู่ใน สถานการณ์คบั ขนั แต่ในเม่ือเป็ นเรื่องจาเป็ นกต็ ้องยอมเส่ียง กนั บา้ ง อากาศในวนั นี้หนาวเหน็บกว่าวนั ก่อนๆ ทาให้มีพ่อค้า หาบเร่ขายของน้อย ทงั้ สองเดินไปตามทางอย่างราบร่ืน ท้อง ถนนยงั คงเหมือนเดิมไม่มีการเปล่ียนแปลง ไม่มีกองกาลงั ทหารเดินพลกุ พล่าน ทาให้คนท่ีสญั จรไปมาหายใจโล่ง ชดั เจนว่ายามนี้เหล่าทหารจะตรวจสอบอย่างเข้มงวด เฉพาะที่ประตูเมืองเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุการณ์นาหวาดหวนั่ เกิดขึน้ แต่อย่างใด ดเู หมือนสภาพการณ์จะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่นางและลุ่ย จจู ินตนาการไว้ พอคิดอย่างนี้ หญิงทงั้ สองท่ีอุ้มข้าวของท่ีซื้อมาในอ้อม 1

แขนไว้แน่นจึงผอ่ นคลายลง ถงึ อย่างนัน้ กม็ ิได้ชะลอฝี เท้าแม้แต่ ครงึ่ ก้าว ต ล อ ด ท า ง ไ ด้ ยิ น ค น เ ดิ น ถ น น วิ พ า ก ษ์ วิ จ า ร ณ์ กัน ต าม ประสา คาพูดส่วนมากเป็ นการสรรเสริญช่ืนชมท่านแม่ทพั หวั เมืองทงั้ สิ้น สาหรบั ชาวเมืองเว่ยอนั แล้ว พวกพ่อค้าต่างถิ่นกบั ผู้ ลีภ้ ยั ต่างเมอื งทาให้ชีวิตของพวกเขาไมส่ ะดวกอย่างมาก พ่อค้าต่างถิ่ นมักจะฉวยโอกาสขึ้นราคาสิ นค้าตาม อาเภอใจ ทาให้ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ามนั และผ้าต่างๆ ใน เมอื งมีราคาแพง ใต้เท้าเซ่ียจึงเข้ามาจดั การความทุกข์ยากให้ประชาชน เขาจดั สรรที่ดินนอกเมืองให้ชาวบ้านนาไปหกั ร้างถางพงเพื่อ ปลูกพืชเป็ นเสบียงอาหาร อีกทัง้ ยังเป็ นการแก้ไขปัญหา ประชากรในเมอื งที่หนาแน่นขึน้ มาก ดงั นัน้ การสารวจสามะโนครวั ใหม่ครงั้ นี้จึงมุ่งเน้นไปท่ี พ่ อ ค้ า ต่ า ง ถิ่ น ที่ เ ข้ า ม า ท า ก า ร ค้ า ข า ย กับ พ่ อ ค้ า ร้ า น ใ ห ญ่ ๆ เท่านัน้ ประชาชนท่ีอาศยั อยู่ในเมืองไม่มีส่วนพวั พนั หรือได้รบั ผลกระทบอะไรเลย ตอนนี้ในตลาดจึงเร่ิมมีทหารปรากฏให้เหน็ พวกเขาเข้า 2

ม า ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ จ ัด ก า ร เ ร่ื อ ง พ่ อ ค้ า ต่ า ง ถ่ิ น อ ย่ า ง เ ข้ ม ง ว ด กวดขนั ทว่าไม่ได้มารบกวนคนที่เดินซื้อของในตลาดแต่อย่าง ใด ชาวเมืองจึงไม่ได้รสู้ ึกหวาดกลวั ซา้ ยงั ปรบมอื สนับสนุน ร้อง ตะโกนว่าดีอีกต่างหาก ถานหวนั่ ชิงกบั ลุ่ยจไู ด้ยินคาพดู วิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ก็ หนั มาสบตากนั แอบรสู้ ึกโล่งใจ ถ้าหากมุ่งเน้นเพียงคนที่เข้าออกจากเมือง เช่นนัน้ พวก นางที่ย้ายถ่ินฐานเข้ามาอย่ใู นเมืองกไ็ มม่ ีอนั ตรายอะไรน่ะสิ ? แต่เมื่อวานใต้เท้าเซี่ยพดู อย่วู ่าให้ตรวจสอบสามะโนครวั คนที่เข้าออกตลาดอย่างเคร่งครดั ถ้าเป็ นจริงอย่างท่ีว่า พวก นางกย็ งั ไม่ได้เกบ็ ข้าวของไปไหนเลย นึกถึงถนนไม่กี่สายในเมืองเว่ยอนั ประตูใหญ่ทุกแห่งที่มี การเฝ้ารกั ษาอย่างเข้มงวด หญิงสาวกข็ มวดคิ้วแน่น ร้สู ึกว่ามี บางอย่างที่ไมถ่ กู ต้องนัก แต่กน็ ึกไม่ออกว่าอะไร อย่างไรกต็ าม นางตดั สินใจแน่วแน่แล้วว่าจะพาล่ยุ จยู ้าย ไปอย่ทู ี่ตงเหมิน 3

ตอนแรกนางเลือกอยู่แถวถนนเป่ ยเหมินเพราะใกล้ค่าย ทหาร พวกนางท่ีเป็นหญิงจะได้อย่อู ย่างปลอดภยั ไรก้ งั วล ทว่าความคิ ดในเวลานี้ แตกต่ างไปจากเดิ มโดยสิ้ นเชิ ง แท้จริงแล้วการอยู่ใกล้ค่ายทหารกลบั น่ากลวั ท่ีสุด โดยเฉพาะ เม่ือพวกนางมีสถานะเป็ นนักโทษหลบหนี จึงดูคล้ายกบั เป็ น การต้อนแกะเข้าปากเสือ ไม่ร้จู ริงๆ ว่าตอนนัน้ ตนตดั สินใจไป ได้อย่างไร มาสานึกเสียใจภายหลงั กส็ ายเสียแล้ว เมื่อนาข้าวของกลบั มาถึงบ้าน ทงั้ สองกจ็ ดั แจงปิ ดประตู ใหญ่ ล่ยุ จแู ยกไปอ่นุ โจก๊ เนื้อปลาแล้วตกั มาให้เจ้านาย ถานหวนั่ ชิงรีบกินโจก๊ จนหมดแล้วกลบั เข้าไปในห้องพกั เมื่อเข้ามาในห้อง หญิงสาวนาพู่กนั หมึก สีย้อมต่างๆ วางบนโตะ๊ อย่างเรียบรอ้ ย ก่อนจะนัง่ ลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างซึ่ง มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา นางยื่นมือไปหยิบกระดาษน่ิ มมากางบนโต๊ะ เหลาถ่าน ดาให้แหลมจนเหมือนดินสอ จากนัน้ กม็ องน่ิ งไปที่กระดาษว่าง เปล่าตรงหน้า คร่นุ คิดอยู่นานจึงค่อยๆ จรดแท่งถ่าน มือเรียว 4

เคลื่อนไหวช้าๆ รา่ งลายเส้นลงบนกระดาษจนเกิดเป็นเค้าโครง ถานหวนั่ ชิงเข้าใจความชานาญรวมไปถึงจดุ เด่นจดุ ด้อย ในการวาดภาพของตนเป็ นอย่างดี หญิงสาวชะงกั มือครู่หน่ึง เมื่อนึ กไปถึงภาพที่ตนเคยวาด ก่อนจะไพล่ไปนึ กถึงภาพท่ี วางขายในรา้ น แล้วตงั้ ใจวาดภาพทิวทศั น์ต่อ ถึงจะคิดอย่างนัน้ แต่ความจริงแล้วนางเชี่ยวชาญการ วาดภาพคนมากกว่า ปกติแล้วทิวทศั น์เป็ นเพียงส่วนแต่งเติม ในภาพเท่านัน้ นางคิดไปคิดมากค็ ิดไม่ตก จะเลือกความนิ ยม หรือสิ่งท่ีตนถนัดดี สุดท้ายก็คิดว่าความได้เปรียบไม่สู้ความ กล้าหาญ ถานหวนั่ ชิงเร่ิมวาดเค้าโครงตามท่ีใจคิดอย่างรวดเรว็ นางไม่เคยวาดภาพทิวทศั น์อย่างละเอียดมาก่อน เฉพาะการ ผสมสีก็ยากแล้ว จึงตัดสินใจทาตามแบบคนอื่นโดยการร่าง ภาพลายเส้นขนึ้ มา นางลงมืออย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ได้โครงร่างคร่าวๆ ภาพวาดหน้าตาของหญิงในวงั ส่วนใหญ่จะหน้าผากแคบ มีทงั้ ใบหน้าลูกตุ้มตาชงั่ ใบหน้าลูกฟักคางใหญ่ ดูแล้วอวบอ่ิมมาก เกินไป อีกแบบคือใบหน้าแบบเมด็ กวยจ๊ีซึ่งดผู อมจนร้สู ึกว่าไม่ แขง็ แรง ไม่เป็ นมงคล ดงั นัน้ นางจึงหยิบทงั้ สองแบบมารวมกนั 5

คือไม่อ้วนไม่ผอม...ต้องเป็ นใบหน้ าไข่ห่านเรียวเล็กจึงจะ ออกมาสวยงาม หญิงสาวมองประเมินภาพร่างตรงหน้า ก่อนท่ีนิ้ วเรียว ขาวประดุจหยกจะหยิ บดิ นสอถ่านมาต่อเติ มรายละเอียดของ อวยั วะทงั้ ห้าอย่างประณีต ละมุนละไม ลูกตาดาของบุคคลในภาพต้องสื่อให้เหน็ ถึงจิตวิญญาณ พดู ได้ว่าเป็นลายเส้นที่ละเอียด ดวงตากระจ่างสดใส เป็นงานที่ ใช้เวลาและความพิถีพิถนั อย่างมาก นางไม่ร้วู ่าใช้เวลาไปนานเท่าไร แต่วาดจนลืมเวลากิน เวลานอนเลยทีเดียว ในท่ีสดุ นางกต็ ดั ใจวางพ่กู นั ลง เดินไปเอน รา่ งลงบนท่ีนอนแล้วหลบั ลึก ยามเช้าท่ีห้องครวั ลุ่ยจูต้มโจก๊ หวานและน้าแกงลูกชิ้น รวมมิตรท่ีมีส่วนผสมหลายอย่าง จากนัน้ กป็ ระคองถาดอาหาร พรอ้ มกบั เดินด้วยฝี เท้าแผว่ เบาเข้ามาในห้อง นางเห็นคุณหนูนอนหมดเร่ียวแรงอยู่บนเตียง หน้าอก กระเพ่ือมขึน้ ลงเบาๆ ชดั เจนว่าต้องนอนหลบั ลึกแน่ เดก็ สาวจึง วางถาดอาหารไว้ข้างๆ อย่างเบามือแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้ คณุ หนู 6

น าง เ ดิ น ไปเ ก็บ ข อง ท่ี ว าง ระเ กะระกะบ น โ ต๊ะให้ อย่ าง เงียบๆ จนกระทงั่ คล่ีม้วนภาพออกดู ลุ่ยจูกต็ ้องเบิกตาโตค้าง มองคนในภาพอย่างตะลึงงนั เป็นนาน... “งามมาก! ช่างเป็ นภาพคนที่งดงามมากจริงๆ ทงั้ งดงาม ทงั้ ละเอียดอ่อน นับเป็นผลงานชนั้ หน่ึง!” รา้ นจ๋ีเสียนฝัง เถ้าแก่สว่ีที่มีลกั ษณะทาทางสง่างามมีราศีกางม้วนภาพ ในมอื ออกจากนัน้ กน็ ิ่งงนั สายตาถกู ดึงดดู ไปอย่ทู ี่ภาพทนั ที เขา ลบู คลาหนวดเครา หรี่ดวงตาเพ่งพิศอย่างละเอียด มองอยู่นาน พอสมควร ในใจกแ็ อบช่ืนชมในความสมจริง เถ้าแก่พยกั หน้าเลก็ น้อยแล้วให้คนคลี่เปิ ดอีกภาพ ภาพ แรกเมื่อครู่ใช้สีสนั สดใสดูสว่างละลานตา ส่วนภาพท่ีสองใช้ สีสันไม่จดั จ้านดูสุภาพสบายตา ส่งให้เห็นถึงความละเอียด ประณี ต การเก็บสีเก็บรายละเอียดในภาพช่างยอดเย่ียม ภาพวาดช่างดมู ีเสน่หน์ ่าดื่มดา่ เหลือประมาณ รปู แบบลายเส้นเป็ นแบบเดียวกนั แม้สีท่ีใช้จะแตกต่าง แต่กบ็ ่งบอกได้ถึงความสามารถของผ้วู าด ทงั้ ยงั สามารถผสมสี พิเศษซ่ึงเป็ นเอกลกั ษณ์ เฉพาะตวั อย่างที่คนดูนึกไม่ถึงได้อีก 7

ด้วย ความสามารถขนาดนี้หายากมากจริงๆ เขามองหญิงงามในภาพวาดด้านซ้ายกส็ วยงามเป็ นเอก ส่วนหญิงงามในภาพวาดด้านขวากด็ ูปราดเปรียวร่าเริง ฝี มือ พอฟัดพอเหวี่ยงกนั ทงั้ สองภาพ ต่างกง็ ดงามจนทาให้คนไม่อาจ ละสายตา รูปแบบในการวาดภาพเช่นนี้เป็ นภาพเสมือนจริง อย่างชดั เจน ความสวยงามในภาพมีมากมายจนบรรยายไม่ถกู เถ้าแก่ลูบหนวดเคราแล้วมองซ้ายมองขวา กระทัง่ ลูกจ้างชายใกล้ๆ สะกิดเตือน จึงนึกขึ้นได้ว่าคนที่มาขายภาพ ยงั ยืนอยู่ข้างๆ ทว่าแม่นางทงั้ สองกม็ ิได้ส่งเสียงเร่งรดั แต่อย่าง ใด “ทาให้แม่นางทงั้ สองรอนานแล้ว ร้านเราตดั สินใจรบั รปู หญิงงามทัง้ สองภาพนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าแม่นางต้องการราคา เท่าไร?” เถา้ แก่สว่ีถามด้วยน้าเสียงเกรงใจอย่างที่สดุ หญิงทงั้ สองไม่ใช่ใครอื่น เป็นถานหวนั่ ชิงกบั ล่ยุ จทู ี่ขดั สน เงินทองนัน่ เอง ทงั้ สองภาพที่อยู่ในมือของเถ้าแก่เป็นภาพท่ีนาง เร่งวาดติดต่อกนั สองวนั ทงั้ ยงั ติดภาพลงบนกระดาษแขง็ อย่าง เรียบรอ้ ย 8

ภาพท่ีถานหวนั่ ชิงวาดด้วยจิตใจรอ้ นรนกระวนกระวายนี้ สาหรบั นางแล้วไมน่ ับว่าเป็นผลงานชนั้ เยี่ยมได้เลย เม่ือก่อนพรสวรรคด์ ้านศิลปะและสติปัญญาของนางเคย โดดเด่นเป็ นหนึ่ง หญิงสาวฝึ กจนพื้นฐานแน่น สามารถนาเอา ความสามารถและเทคนิ คมาใช้เลี้ยงชีพดาเนิ นชีวิตได้ แม้จะลง พ่กู นั ไปตามอารมณ์ ทว่าการสมั ผสั และการรบั ร้ถู ึงความงามก็ ไม่ ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็ นยุคโบราณหรือสมัยปัจจุบัน ที่จริงแล้ว เทคนิ คในการวาดภาพสองภาพนี้ยงั ไม่ถึงกบั เรียกได้ว่ามาก ฝี มือ ทว่านางทาให้ภาพสะดดุ ตาด้วยการออกแบบเค้าโครงการ ใช้สีท่ีเป็นเอกลกั ษณ์พิเศษเฉพาะตวั ไม่จากดั ความคิดแบบคน ในยคุ สมยั นี้ ไม่จาเป็นต้องวาดภาพเหมือนของบคุ คลหรือทิวทศั น์ ไม่ ต้องคล้อยตามการวาดภาพทิวทศั น์แบบสมยั โบราณ นางแค่ ต้องดดั แปลงเลก็ น้อย ใส่ความเป็นตวั เองลงไปในภาพเหล่านัน้ ไม่มีผู้ใดเข้าใจเร่ืองนี้มากกว่านาง จะวาดอย่างไรให้ ดวงตาดูเหมือนมีชีวิตจนราวกบั จะมองซ้ายมองขวาได้ วาดสี หน้าให้เตม็ ไปด้วยความประทบั ใจ หรือวาดให้เสื้อผ้าอาภรณ์ดู โดดเด่นมีมิติกว่าที่เคย การใช้สีตามลาดบั ขนั้ ตอนของเนื้อหา 9

การเพิ่มรายละเอียดของแสงเงา การแรเงาให้เป็ นภาพสามมิติ จนทาให้เกิดภาพสวยงามสะดดุ ตาท่ีสดุ ของที่สดุ ได้ เวลานี้คนมีความสามารถในการประพนั ธ์บทกลอนและ การวาดภาพทิวทศั น์มีถมไป ขาดแคลนแต่การวาดภาพเสมือน จริงเท่านัน้ ในขณะเดียวกนั หากให้ความสนใจกบั การวาดให้ เหมือนจริงจนเกินไป แม้จะเป็ นท่ีถกู อกถกู ใจผ้คู น แต่ก็อาจ ทาลายเสน่ห์ของภาพวาดให้ด้อยลงเช่นกนั ดงั นัน้ มีเพียงการ วาดภาพ เหมือนจริงร่วมกบั การถ่ายทอดอารมณ์ความร้สู ึกลง ไปในภาพเท่านัน้ จึงจะปรากฏผลลพั ธท์ ี่งดงามท่ีสดุ ได้ ในใจถานหวนั่ ชิงรู้ดีว่าตวั เองนัน้ ใช้เทคนิ ค แต่สาหรบั เถ้าแก่สว่ี ท่ี ไม่เคยเห็นวิ ธี การวาดภาพเช่ นนี้ มาก่อนจึงรู้สึ ก ประหลาดใจระคนช่ืนชมกบั ความสวยงามและความแปลกใหม่ ถานหวนั่ ชิงไม่ได้เร่งรดั ได้แต่ยืนอยู่ตรงนัน้ สายตาจบั จ้องไปท่ีภาพวาดและถือโอกาสสงั เกตสีหน้าของเถ้าแก่ไปด้วย ทาให้นางแน่ใจว่าตวั เองนัน้ มาถกู ทางแล้ว ถึงภาพนี้จะมีส่วนคล้ายภาพอ่ืนๆ อยู่บ้าง แต่กเ็ ป่ี ยมไป ด้วยเอกลกั ษณ์ของตนเองท่ีผ้คู นยอมรบั ได้ พอได้ยินเจ้าของ ร้านเอ่ยปากว่าต้องการรบั ภาพทงั้ สองไว้ นางจึงร้วู ่าตนเองเดิม พนั ถกู แล้ว 10

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะเคยสอบถามคร่าวๆ แต่ราคาของ ร้านก็ยงั ดูเหมือนไม่ชัดเจน ตัวนางเองก็ไม่มีประสบการณ์ เช่นกัน จึงต้องสอบถามกบั เถ้าแก่ตามตรง “ไม่ทราบว่าใช้ มาตรฐานอะไรมาวดั หรอื ?” เถ้าแก่สว่ีมองแม่นางตรงหน้า หญิงสาวมีรูปร่างอรชร อ้อนแอ้น เป็ นสาวงามท่ีเพริศพริ้งราวกับจิตรกรมือหน่ึ ง เสกสรรปั้นแต่ง ผิวพรรณขาวผดุ ผาด ท่าทางนุ่มนวลละมุน ละไม ทาให้ผ้คู นไม่กล้าท่ีจะเมินเฉยต่อนางได้ อีกทงั้ ผลงานท่ี หญิงงามผู้นี้ นามาก็ยอดเย่ียม เขาอายุปูนนี้ แล้วกลับไม่มี ความสามารถในการวาดเลยด้วยซา้ หญิงงามวาดหญิงงาม เป็ นคาพูดที่ไพเราะและดีงาม เหลือเกิน หญิงงามเช่นนี้ ความสามารถระดบั นี้ ทาให้เถ้าแก่สว่ีไม่ มีเจตนาหลอกลวงหรือปิ ดบงั อะไร จึงบอกกบั นางด้วยความ สัตย์จริง “แม่นาง จี๋เสียนฝังรับผลงานทัง้ ภาพอักษรและ ภาพวาด อย่างแรกเลยเราไม่ได้คิดเงินตามชนิ ดของภาพ เพียงแต่คิดมลู ค่าตามความยาวและขนาด ย่ิงกว้างราคากย็ ่ิงสูง ภาพของแม่นางความยาวไม่มาก กอ็ าจจะได้น้อยสกั หน่อย” ถานหวนั่ ชิงได้ยินกต็ ะลึงงนั คิดในใจว่าเวลานี้การขาย 11

ภาพวาดและภาพอกั ษรตีราคากนั เช่นนี้หรอื ! แน่นอนว่านี่เป็ นเพียงผลงานของศิลปิ นท่ีไม่มีช่ือเสียง แล้วหากเป็นปรมาจารยท์ ่ีมีชื่อเสียงหรือผเู้ ช่ียวชาญเล่า จะไม่มี วิธีอื่นในการประเมินมลู ค่าเลยหรอื “ ภ า พ ว า ด แ ล ะ ภ า พ อัก ษ ร ข อ ง ค น ท่ี มี ชื่ อ เ สี ย ง ล้ ว น มี ค่าตอบแทนตามมาตรฐาน จ๋ีเสียนฝังเป็ นร้านที่พอมีช่ือเสียง อยู่บ้าง เราตีราคาท่ีภาพขนาดใหญ่ห้าตาลึง ภาพขนาดกลาง สามตาลึง และภาพขนาดเลก็ หน่ึงตาลึง ทงั้ สองภาพของแมน่ าง นับว่าเป็ นภาพขนาดกลาง ข้าเถ้าแก่สวี่ตดั สินใจเองแล้วกนั ... หน่ึงภาพคิดสามตาลึง แมน่ างว่าอย่างไร?” ถานหวนั่ ชิงยงั คงน่ิงเงียบ ไม่เอ่ยคาใด “ข้าไม่ได้ปิ ดบงั แม่นางเลยนะ น่ีเป็ นราคาสูงท่ีสุดแล้ว หากไมเ่ ชื่อแมน่ างสามารถสอบถามรา้ นค้าตามถนนเส้นนี้เองก็ ได้ มีเพียงจ๋ีเสียนฝังที่ให้ราคาขนาดนี้” พอเหน็ หญิงสาวมีอาการลงั เลเลก็ น้อย เถ้าแก่สว่ีรีบลาก เสียงตา่ ระบายความทกุ ข์ “แม่นาง นามของท่านไมไ่ ด้มีช่ือเสียง อะไร หน่ึงภาพสามตาลึงกค็ วรดีใจแล้วนะ อีกทงั้ สองภาพนี้กไ็ ม่ ร้จู ะขายได้เม่ือไร หากคิดดูดีๆ พวกเราอาจขาดทุนกไ็ ด้ แล้ว 12

ท่านยงั ลงั เลอะไรอย่เู ล่า...” ถานหวนั่ ชิงเหน็ เจ้าของรา้ นอายเุ กือบห้าสิบ ขอให้คนอื่น ขายภาพให้ด้วยใบหน้ าที่เปี่ ยมทุกข์ก็รู้สึกขาไม่น้อย เห็นแก่ ความจริงใจในคาพดู ของอีกฝ่ ายและไม่ต้องการยุ่งยากว่นุ วาย หญิงสาวจึงตอบด้วยน้าเสียงสุภาพ “ก็ได้ ถ้าเช่นนัน้ ก็ตกลง ตามราคาที่พดู เมอ่ื ครู่ ต้องรบกวนเถ้าแก่แล้ว” “ไอ้หยา! ไม่รบกวนๆ แม่นางรอสักครู่” เถ้าแก่สวี่รีบ รบั คาติดต่อกนั หนั ไปส่งภาพให้ลูกจ้างแล้วกาชบั ให้เกบ็ เป็ น อย่างดี จากนัน้ กห็ ยิบเงินมามอบให้ล่ยุ จู เถ้าแก่เอ่ยวาจาเกรงใจออกมายกใหญ่ ทงั้ ยงั กาชบั ให้ เกบ็ เงินดีๆ ระวงั หาย แล้วเดินนาเพ่ือไปส่งหญิงสาวทงั้ สองท่ี ประตู ลุ่ยจหู นั กลบั ไปมองเจ้าของร้านแวบหน่ึงแล้วหนั กลบั มา ลูบคลาถงุ เงินท่ีเก็บไว้ในแขนเสื้อด้วยความรู้สึกต่ืนเต้นดีใจ ก่อนหนั ไปเอ่ยกบั คุณหนู “ลาบากลาบนตงั้ แผงขายของครึ่ง ค่อนเดือน เทียบความคุ้มคาไม่เท่ากบั กระดาษสองแผ่นได้ เลย” 13

ใช่แล้ว ยุ่งตงั้ แต่เช้าจรดเยน็ ยงั ไม่เท่ากระดาษเบาหวิว สองแผน่ “จะเหมอื นกนั ได้อย่างไร” ถานหวนั่ ชิงตอบยิ้มๆ ลุ่ยจูจึงพูดต่อว่า “ของหายากมีน้อยราคาแพง แผงขาย ของใครกไ็ ปได้ แต่ภาพวาดไม่ใช่ทกุ คนจะซื้อได้” ขณะที่พูดลุ่ยจูกย็ งั รู้สึกว่าการขายภาพขาดทุนย่อยยบั เพราะถ้าภาพนี้วางขายในเมอื งหลวง เพียงภาพเดียวกส็ ามารถ เรียกราคาได้แปดสิบถึงหนึ่งร้อยตาลึงเลยทีเดียว แต่นางไม่ กล้าพูด เกรงว่าหากพูดขึ้นมาแล้วอาจจะทาให้คุณหนูนึกถึง เรอ่ื งราวตอนอย่เู มอื งหลวงกเ็ ป็นได้ ถานหวนั่ ชิงแค่พูดไปเร่ือยเปื่ อย ไม่คิดว่าลุ่ยจูจะตอบ กลบั จึงมองอีกฝ่ ายด้วยความประหลาดใจ “ทราบว่าของหา ยากมีน้อยราคาแพง ไม่เลวน่ี!” ลุ่ยจูตอบเสียงแผ่ว สีหน้าขดั เขิน “บ่าวโง่เขลานัก วนั ๆ ได้ฟังแต่ที่นายท่านกบั คุณหนูแปลความตัวอักษร จึงพอได้ เรียนรมู้ าบา้ งเจ้าค่ะ...” 14

16 เซียนดอกท้อ ครนั้ ส่งหญิงทงั้ สองเรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่สว่ีกก็ ลบั เข้ามา ในร้าน เขารีบเรียกให้ลูกจ้างนารปู ท่ีเกบ็ ไว้ออกมาเปิ ดดอู ีกครงั้ พอได้มองอย่างละเอียดอย่สู กั ครู่ สีหน้ากเ็ ผยให้เหน็ ถงึ ความพงึ พอใจ เสียดายอย่างเดียวท่ีรปู เลก็ เกินไป หากนาไปแขวนจะไม่ เด่นพอ คงต้องเปล่ียนเป็ นใช้กรอบให้ใหญ่ขึ้น ส่วนกรอบก็ เปล่ียนจากไม้เป็ นหยกหรืองาช้าง แล้วใช้ผ้าแพรด่วนเดินดิ้น ทองเป็ นพื้นรองภาพไว้ กจ็ ะสามารถขายได้ราคาดี กาไรต้อง มากกว่าที่ซื้อมาสามตาลึงหลายเทา เถ้าแก่สว่ีจึงสงั่ ให้ลูกจ้างทาตามที่คิด จากนัน้ กใ็ ห้นาไป แขวนแสดงไว้ในตาแหน่งที่เหน็ ชดั เจน โชคดีที่ร้านจี๋เสียนฝังอยู่ในทาเลท่ีเหมาะสม แล้วยงั เป็น ร้านที่มีช่ือเสียง อีกทงั้ รปู ภาพและหนังสือล้วนมีคณุ ภาพ ซา้ ยงั รบั ประกนั อย่างดีจงึ มีคนเข้าออกไมน่ ้อย หลงั จากถานหวนั่ ชิงกบั ลุ่ยจูจากไปไม่นาน กม็ ีหญิงสาว สามคนเดินหยอกเย้ากนั เข้ามาในร้าน หญิงทงั้ สามแต่งกาย คล้ายๆ กนั ในชุดที่วิจิตรงดงาม หน่ึงในนัน้ สวมเสื้อคลุมขน 1

จิ้งจอก กระโปรงผ้าแพรไหม อาภรณ์ท่ีสวมใส่แสดงถึงฐานะที่ รา่ รวยเป่ี ยมวาสนา พอเห็นลูกค้าเดินเข้ามา ใบหน้าเถ้าแก่สว่ีกอ็ ่ิมเอิบ เผย รอยยิ้มกว้าง เขารีบเดินไปต้อนรบั ผ้มู าใหม่ด้วยตนเองด้วยทา ทีกระตือรือร้น การท่ีเขามีทาทางเช่นนี้ย่อมไม่แปลก เพราะ หญิงสาวสามคนนี้เป็ นเจ้าแห่งโชคลาภของแท้ บรรดาพ่อค้า น้อยใหญ่ในเมอื งเว่ยอนั ไมม่ ีผใู้ ดไม่รจู้ กั บา้ นสกลุ ชวี บ้านสกุลชวี ทาการค้ าผ้าแพรและสิ่ งทอซ่ึ งใหญ่ โตไม่ น้อย ร้านใหญ่ตงั้ อยู่ท่ีเมืองอี้โจวและมีร้านสาขาอีกมากมาย แม้แต่ในเมืองหลวงกม็ ีร้านสาขาของสกลุ ชวีเช่นกนั ตระกลู นี้มี ถ่ินฐานอยู่ในเมืองอี้โจว ทว่าตอนนี้มาพกั อยู่ในเมืองเว่ยอนั ชวั่ คราว พวกเขาทาการค้าแบบกล้าได้กล้าเสียและใจกว้างจน กิจการใหญ่โตก้าวหน้า ในเมืองเว่ยอนั ไม่มีผ้ใู ดล่วงร้วู ่าแม่ทพั หวั เมืองกบั บา้ นสกลุ ชวีมีความสมั พนั ธแ์ บบใดต่อกนั ครอบครัวพ่อค้าส่วนมากจะนิ ยมใช้ภาพวาดหรือ ภาพอกั ษรของคนท่ีมีชื่อเสียงไปประดบั ที่รา้ นและคฤหาสน์ของ ตน ครอบครวั ชวีกเ็ ช่นกนั ไม่ว่าจะเป็นนายท่านหรอื สมาชิกคน อ่ืนในครอบครวั ต่างกช็ อบมาเลือกซื้อของที่ร้านขายภาพอยู่ เสมอ 2

เมื่อเข้ามาในร้าน หญิงท่ีสวมเสื้อท่ีทาจากผ้าแพรต่วน แขนยาวสีชมพูกเ็ หน็ ภาพสาวงามในอิริยาบถพกั ผ่อนท่ีแขวน อยู่กลางห้องเป็ นอนั ดบั แรก มิใช่เพียงนางเท่านัน้ ท่ีหยุดดู คน อื่นๆ ก็เดินไปใต้ภาพนัน้ เช่นกนั ต่างจบั จ้องอย่างสังเกตใน รายละเอียด หญิงในภาพช่างชวนให้จิตใจหวนั่ ไหวเป็ นอย่าง มาก ไม่เพียงแต่ผชู้ ายเท่านัน้ ผหู้ ญิงด้วยกนั เมื่อเหน็ ยงั ใจเต้น โครมคราม “ ภ า พ ลัก ษ ณ ะ นี้ ไ ม่ เ ค ย เ ห็น ท่ี ไ ห น ม า ก่ อ น เ ล ย ร า ย ล ะ เ อี ย ด ใ น ภ า พ แ ม้ แ ต่ เ ส้ น ผ ม ข อ ง ห ญิ ง ง า ม ก็ถ่ า ย ท อ ด ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ เป็ นลายเส้นท่ีประณีตงดงามเหนือคา บรรยาย ทัง้ ให้ความรู้สึกถึงความงามท่ีเป็ นธรรมชาติ ช่าง เหมือนของจริงเหลือเกิน” “ข้าดูไม่ผิดพลาดใช่หรือไม่ ต่างหไู ข่มุกวาดออกมาได้ แวววาวราวกบั สามารถจบั ต้องได้เลยทีเดียว” ภาพท่ีทุกคนเอ่ยถึง เป็ นภาพที่แสดงถึงช่วงเวลาการ พกั ผ่อนตอนกลางวนั ของหญิงงามคนหน่ึง นางนัง่ อยู่บนโขด หินตรงใจกลางภาพด้วยท่าทางเกียจคร้าน มือหนึ่ งถือพัด สายตาจบั จ้องไปยงั นกบนกิ่งไม้อย่างเฉ่ือยชา 3

ผ้วู าดสามารถพรรณนารายละเอียดในภาพออกมาได้ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็ นหญิงงามท่าทางเกียจคร้านที่นัง่ อยู่ บนโขดหินโดยมีผ้าหยาบสีน้าตาลรองพื้นไว้ นางสวมกระโปรง ผา้ โปรง่ สีขาวตวั ยาวที่ไหวพลิ้วราวสายน้า เสื้อที่สวมใส่สีฟ้ากนุ๊ ขอบด้วยสีแดง ด้านหลงั โขดหินที่นางนัง่ มีใบกล้วยน้าว้าสีเขียว ยื่นออกมาหน่ึงก้าน เพียงสามสี ขาวฟ้าแดงง่ายๆ เช่นนี้แล้วข้างหลงั ยงั เพ่ิมสี เขียวของใบกล้วยกส็ ามารถขบั ให้ผิวและชุดท่ีหญิงงามสวมใส่ ดแู จ่มกระจ่าง ท่าทีที่แสนเกียจครา้ นกลบั ไม่ทาลายความสดใส แม้แต่น้อย ไข่มุกกลมราวพระจนั ทรท์ ่ีห้อยข้างหชู ่างดสู ะดดุ ตา เรือนผมดาขลบั ยิ่งเน้นให้กาไลข้อมือหยกดูแวววาว พอผ้ชู ม กวาดตามองภาพต่ อก็เห็นว่าด้านข้างโขดหิ นมี จานใส่ ผลอิ ง เถาสองสามลูกวางอยู่ด้วย ผลไม้ถกู วาดออกมาได้สวยงาม ท่ีสดุ หญิงสาวสกลุ ชวีท่ีสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีม่วงกาลงั ดู ภาพอย่างละเอียดเช่นกนั จากนัน้ นางก็เรียกเถ้าแก่สวี่มาสงั่ ความ “ข้าต้องการรปู นี้ ช่วยห่อให้ด้วย” เถ้าแก่สวี่รอคอยอยู่นานแล้ว ทนั ทีที่ได้ยินคาสงั่ ดวงตาก็ เปล่งประกาย รีบตะโกนเรียกลูกจ้างแล้วปรบั สีหน้าท่าทางให้ 4

เป็ นปกติ หยิบรูปลงมาจากผนังด้วยความระมดั ระวงั แล้ว จดั การดแู ลให้คนห่อภาพจนเรียบรอ้ ย หญิงท่ีมาด้วยกนั ยงั ดูไม่เสรจ็ กลบั ถกู หญิงสาวสวมเสื้อ ขนจิ้งจอกสีม่วงแย่งซื้อภาพไปแล้ว สีหน้าแต่ละคนจึงฉายแวว หงุดหงิด “ท่านพี่จะไม่ถามราคาสกั หน่อยหรือ?” หญิงสาวที่สวม แพรต่วนสีชมพูหันไปทางเถ้าแก่สวี่แล้วถามว่า “รูปนี้ราคา เท่าไร ผทู้ ี่วาดมีนามว่าอะไร?” ใบหน้าเถ้าแก่สว่ีประดบั ไปด้วยรอยยิ้มแล้วตอบกลบั ว่า “นามของคนผ้นู ี้คือ ‘เซียนดอกท้อ’ ถึงแม้นามจะไม่โด่งดงั แต่ แม่นางทัง้ หลายก็ได้เห็นแล้วว่าภาพวาดช่างยอดเย่ียมนัก ตอนนี้หนึ่งรปู เพียงสามสิบตาลึง รอวนั หน้าหากสมญานามดงั แล้ว ราคาห้าสิบตาลึงก็หาซื้อไม่ได้ หากแม่นางนาไปวนั นี้ อย่างน้อยกถ็ ือเป็นของเกบ็ สะสมไว้ก่อน...” “โห ดูเจ้าพูดเข้าสิ อย่างกบั ว่าเราซื้อภาพไปเก็บไว้เก็ง กาไรงนั้ แหละ แค่สามสิบตาลึงไม่ถือว่าแพงหรอก” หญิ งสาวผู้ สวมชดุ แพรต่วนสีชมพพู ดู เพียงแค่นี้แล้วไม่ได้เอ่ยอะไรอีก พวกนางพากนั หนั ไปดูอีกภาพ ภาพนี้มีสีสนั สดใสกว่า 5

ภาพเม่ือครู่ เป็ นภาพหญิงสาวกาลงั อุ้มผีผา เสื้อท่ีคลุมไหล่มีสี แดงราวกบั เปลวไฟ ใบหน้าที่แต่งเติมอย่างงดงามจบั ตาแฝงไว้ ด้วยความเงียบเหงาและอ้างว้าง นางมองไปข้างหน้ าด้วย สายตาอาลยั อาวรณ์ สายลมพดั ผา่ นเส้นผมให้พลิ้วไหว เสื้อผ้า โบกสะบดั ตามแรงลม ทาให้คนท่ีมองรบั รู้ได้ถึงสายลมหนาว ทิวทัศน์โดยรอบเต็มไปด้วยหมู่เมฆสีฟ้ า ทาให้รู้สึกถึงการ เปล่ียนแปลงเคลื่อนไหว ภาพนี้กถ็ กู หญิงสาวท่ีสวมเสื้อคลุมไหล่ขนจิ้งจอกสีม่วง แย่งซื้อไปเช่นเดียวกนั ทาให้คนอ่ืนๆ เกิดความไม่พอใจ แต่พอ คิดถึงสถานะของหญิงสาวผนู้ ี้แล้วกจ็ าต้องไปดภู าพอื่นแทน “รปู ภาพทงั้ สองต่างกเ็ ป็ นของเซียนดอกท้อหรือ?” หญิง สาวในชุดคลุมขนจิ้งจอกสีม่วงมองเห็นการลงนามในภาพจึง อทุ านด้วยความประหลาดใจ แล้วถามต่อ “ดจู ากลายมือ แม้จะ หนักแน่นแต่กลบั นุ่มละมนุ นัก จิตรกรเป็นหญิงใช่หรอื ไม่?” เถ้าแก่สวี่ยอมรบั ตามตรง “ถกู ต้อง” นางเอ่ยต่อด้วยท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “น่ี เป็ น เรื่องยากจะพานพบจริงๆ จิตรกรหญิงผมู้ ากด้วยความสามารถ นางช่ างเก่งกาจเหลือเกิน หากมีโอกาสข้าอยากให้เถา้ แก่สว่ีนัด ให้นางกบั ขา้ ได้พบกนั สกั ครงั้ ” 6

หลงั จากคนอ่ืนๆ มองภาพวาดที่เหลือในร้าน ต่างกค็ ิด ว่าไม่สวยสะดดุ ตาเหมือนสองภาพก่อนหน้านี้ ดอู ยู่นานกห็ าได้ พบภาพที่ถกู อกถกู ใจไม่ จาต้องกลบั ไปด้วยความขุ่นเคืองใจ เป็ นอย่างย่ิง พอลูกค้าออกไปกนั แล้ว เถ้าแก่สวี่กฮ็ มั เพลงเบาๆ พลาง จดั ของในตู้สินค้าด้วยทาทางชื่นม่ืน ลูกจ้างสองคนในร้านมอง ท่าทีอีกฝ่ ายแล้วกต็ ้องแอบส่ายหน้าในใจ เถ้าแก่เพ่ิงซื้อสองภาพนี้มาแท้ๆ เขายงั ไม่ทนั ได้นัง่ ลงก็ ขายภาพเหล่านี้ได้หกสิบตาลึงแล้ว ได้กาไรตงั้ ห้าสิบกว่าตาลึง เรอื่ งแบบนี้ช่างยากจะยอมรบั ! ทางด้านถานหวนั่ ชิงและล่ยุ จู พอสองสาวกลบั มาถึงบา้ น กแ็ ยกย้ายกนั ไปพกั ผอ่ น ถานหวนั่ ชิงท่ีเหน็ดเหน่ือยมาสองวนั แล้วเดินกลบั เข้า ห้องแล้วถอดเสื้อคลุม จากนัน้ นางกล็ ้มตวั ลงนอนบนเตียงด้วย ท่าทางผอ่ นคลาย ตอนนี้เป็ นโอกาสอนั ดีของทงั้ สองในการเกบ็ เงิน เพราะ เสบยี งอาหารรวมทงั้ ขา้ วสารในบา้ นมีเพียงพอยงั ไมต่ ้องซื้อเพ่ิม ในเรว็ ๆ นี้ 7

แต่ลุ่ยจทู ี่เหน็ ท่าทางอ่อนล้าของคณุ หนูกลบั ร้สู ึกปวดใจ นางถือโอกาสตอนท่ีอีกฝ่ ายหลบั ออกไปตลาดเงียบๆ เพื่อซื้อ เป็ ดกบั ปลามาบารงุ ร่างกายให้เจ้านาย ลุ่ยจูยกปลาน่ึง น้าแกง เป็ด โจก๊ ที่ย่อยงา่ ยและขนมท่ีซื้อติดมอื กลบั มาด้วยขนึ้ ตงั้ โตะ๊ ถานหวนั่ ชิงที่เพ่ิงต่ืนถึงกบั กมุ ขมบั นางไม่ต้องการให้ลุ่ย จใู ช้จ่ายอย่างสุร่ยุ สุร่าย ทว่าในเมื่ออีกฝ่ ายซื้อมาแล้วถึงตาหนิ ไปกไ็ รป้ ระโยชน์ จงึ ทาเพียงนัง่ ลงข้างโตะ๊ แล้วกินอาหาร นางตกั น้าแกงหอมกรนุ่ เข้าปาก รสชาติอรอ่ ยมาก อีกทงั้ บนโตะ๊ ยงั มีขนมท่ีนางชอบกิน หญิงสาวละเลียดกินทีละคา เป็น รสชาติที่เกินความคาดหมายจนต้องประทบั ไว้ในความทรงจา ค่ายทหาร ชายผหู้ น่ึงในชดุ คลมุ ตวั ยาวสีด่ายกหอกเหลก็ ยาวเก้าฉื่อ ในมือขึ้นแล้วขว้างไปข้างหน้าสุดแรง หอกยาวพ่งุ แหวกอากาศ ราวกบั มงั กรดุร้ายท่ีทะยานออกจากถา้ มองเหน็ เพียงพู่สีแดง บนหวั หอกที่สนั่ ไหวอย่ไู กลๆ เขาเคล่ือนไหวอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดถึงความ โหดเหี้ยมและแมน่ ยา 8

พอได้เห็นภาพนี้ คนท่ีกาลงั นาเร่ืองมารายงานจึงขวญั หาย ไม่กล้าเดินไปข้างหน้าแมแ้ ต่ครงึ่ ก้าว สายตาชายหนุ่มเหลือบเหน็ เงาคนตรงมมุ กาแพง จึงเดิน ไปเกบ็ หอกที่ปักอยู่บนกาแพงอีกฟาก แล้วหนั มามองคนท่ียืน รออยู่ ตอนนี้เป็นฤดเู หมนั ต์ อากาศหนาวจดั ทว่าทวั่ ทงั้ รา่ งของ ชายหนุ่มท่ีถือหอกกลบั เตม็ ไปด้วยหยาดเหง่ือ แผ่นหลงั ในชุด คลมุ ตวั ยาวเปี ยกช่มุ อย่างเหน็ ได้ชดั คนท่ียืนอยู่มุมกาแพงเป็ นหญิงแต่งงานแล้ววยั ส่ีสิบ พอ นางเห็นชายหนุ่มแล้วก็รู้สึกอึดอัดใจ เซ่ียเฉิ งจู่เห็นลกั ษณะ ท่าทางท่ีหวาดกลวั จนหวั หด คิ้วเข้มพลนั ขมวดแน่นอย่างไม่ พอใจ เขายื่นมือไปรบั ผ้าเช็ดหน้าผ้าฝ้ายท่ีพลทหารส่งให้มา เชด็ ใบหน้า แล้วถามขนึ้ “เตรียมของเรียบรอ้ ยหรอื ยงั ?” หญิงท่ีแต่งงานแล้วรีบตอบอย่างประหม่า “เรียบร้อย แล้วเจ้าค่ะ ธูปเทียน กระดาษ เครื่องเซ่นไหว้ของฮูหยินผ้เู ฒ่า ได้ตระเตรียมครบแล้วเจ้าค่ะ” 9

ใต้เท้าเซ่ียขานรบั เป็นเชิงรบั รู้ แล้วถามอีกว่า “ฝอู ินล่ะ?” “คณุ ชายน้อยตื่นแล้ว กาลงั กินอาหารเช้าอย่เู จา้ ค่ะ” เซี่ยเฉิ งจ่พู ยกั หน้า หยิบเสื้อคลุมมาสวมลวกๆ แล้วเดิน เขา้ ไปในโรงอาหาร ถึงจะเป็ นแม่ทพั หวั เมืองก็ไม่ได้กินอาหารชัน้ ดีเลิศรส อาหารการกินของเขาไม่ต่างจากของพลทหาร ที่จริงโรงอาหารของค่ายเปรียบเสมือนหม้อข้าวขนาด ใหญ่ แต่มีหม้อข้าวใหญ่แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ในเมื่อตอนนี้ เงินในคลงั ว่างเปล่า สถานภาพทางการเงินยา่ แย่ แต่ละมื้อมี เพียงข้าวกับแป้ งหมี่ขาว เนื้ อหรือ พวกของคาวได้ แค่ จินตนาการเท่านัน้ ยามนี้ไม่ว่าอะไรหากสามารถกินจนอิ่มท้อง ไม่หิวได้กน็ ับว่าดีแล้ว ถึงแม่ทัพหัวเมืองจะกินอาหารแบบเดียวกบั ทหารชัน้ ประทวน ทว่าปริมาณกม็ ากพอ เพราะใครหิวกไ็ ม่เท่าใต้เท้าหิว ทว่าถึงกบั ต้องกินขนมแป้งข้าวแดงอย่างนัน้ ร?ึ อาศยั อะไรมาให้ใต้เท้าเซ่ียกินขนมที่ทาจากแป้งข้าวแดง ไมใ่ ช่ขนมจากแป้งหม่ีขาวท่ีมีรสชาติอรอ่ ยและเนื้อนุ่มเล่า? 10

สถานการณ์ในตอนนี้ทาให้ผ้ทู ี่มีหน้าที่หุงหาอาหารใน กองทพั ลาบากใจ ด้วยไม่มีวตั ถดุ ิบในการปรงุ อาหาร จาต้องใช้ น้ามนั ทอดแป้งข้าวแดงแทน ยงั ดีที่ใต้เท้าเซี่ยกลืนลงคอได้ น้า แกงกเ็ ป็นน้าแกงใสชามใหญ่ แล้วเพ่ิมซาลาเปาสีขาวไส้เนื้อหมู อีกหนึ่งจาน ซาลาเปานี้มีเพียงแม่ทพั หวั เมืองเท่านัน้ ท่ีได้รบั ใต้เท้าเซี่ยกลบั กินแค่ขนมแป้งขา้ วแดงกบั น้าแกง โดยไม่ แตะต้องซาลาเปาเลยสกั ลูก พอกินอาหารเช้าเสรจ็ กเ็ ดินออก จากโรงอาหาร เรยี กเจา้ หน้าท่ีอาลกั ษณ์มาหาทนั ที “ออกไปปราบโจรคราวนี้ ตรวจสอบหรือยังว่าได้ ทรพั ยส์ ินมาเท่าไร?” ฉงถิงเช่ียนตอบด้วยสีหน้ าอมทุกข์ “เด๋ียวนี้พวกโจร ผ้รู ้ายเจ้าเล่ห์มาก ก่อนถกู ใต้เท้าโจมตีจนกระจดั กระจายได้ ลกั ลอบเคลื่อนย้ายทรพั ยส์ ินหนีไปก่อนแล้ว ในซ่องโจรจึงเหลือ เพียงบางส่วนเท่านัน้ ใต้เท้านาทพั ไปทลายซ่องโจรสองแห่ง ได้ ทรพั ยส์ ินรวมกนั แล้วยงั ไม่ถึงส่ีร้อยตาลึง...นับว่าน้อยเหลือเกิน อาจจะต้องลดค่าอาหารของทหารไปสกั เดือน” ใต้เท้าเซี่ยชะงกั เท้า หนั มามองอีกฝ่ ายแวบหน่ึง “เรื่องอาหารของทหารข้าคิดเอาไว้แล้ว เป็ นส่ิงท่ีต้อง 11

แก้ไขอย่างเร่งด่วน เจ้านาเงินหน่ึงตาลึงไปซื้อเนื้อมา จากนี้ ทกุ ๆ เดือนต้องมีอาหารคาวอย่างน้อยสองครงั้ ” “ใต้เท้า...” ฉงถิงเชี่ยนเอ่ยเสียงอ่อยขนึ้ มาทนั ใด แน่นอน ว่าเรื่องปากท้องเป็ นเรื่องเร่งด่วนและสาคญั โดยเฉพาะการกิน อิ่มสวมชุดอุ่นเป็ นรายจ่ายที่มากท่ีสุด แล้วน่ียงั สงั่ เพ่ิมอาหาร ประเภทเนื้อเข้าไปอีก...เนื้อไม่ใช่ราคาถกู ๆ นะ เขาคิดว่ายามนี้ ควรจะประหยดั เสียมากกว่า เซี่ยเฉิ งจ่ยู กมือขดั จงั หวะก่อนอีกฝ่ ายจะได้พดู จบ “พวก เขาทุ่มเทกาลงั ต่อสู้เคียงข้างข้า วนั ปกติจะต้องฝึ กซ้อม แล้วยงั ต้องสร้างกาแพงเมืองขุดคูคลองส่งน้า สูญเสียพลังงานไป มากมาย แม้สถานการณ์การเงินในคลงั จะคบั ขนั เพียงใด เรื่อง ปากท้องของทหารก็ไม่อาจละเลยได้ เนื้อก็ห้ามสกั แต่ว่าซื้อ ต้องเป็นเนื้ออย่างดีจะได้เพียงพอต่อการบารงุ รา่ งกาย” ทหารหากไมม่ ีแรงฝึ กซ้อมกย็ ากท่ีจะต่อส้ชู นะข้าศึก แล้ว จะเอ่ยถึงการปกป้องและรกั ษาบา้ นเมอื งได้อย่างไร เมอ่ื เหน็ ใต้เท้าเซ่ียมีความคิดท่ีแน่วแน่มนั่ คง ฉงถิงเช่ียน จึงเลิกทัดทาน ทว่าก็ยังไม่วายกังวลว่าจะหาเงินมาใช้จ่าย เพียงพอได้อย่างไร ปัจจุบนั นี้แม้จะยงั มีโจรมีขโมยอยู่แต่กไ็ ม่ มากนัก การสร้างกาแพงเมืองด้านนอกจาต้องชะลอชวั่ คราว 12

เพราะอีกราวยี่สิบวนั ก็จะถึงตรุษจีนแล้ว หลงั จากนัน้ อีกสาม เดือนกจ็ ะเป็นฤดูใบไม้ผลิซึ่งต้องการแรงงานจานวนมากมาทา การเพาะปลูก พวกเขาต้องให้ผ้ลู ี้ภยั ช่วยกนั หกั ร้างถางพงเพื่อ ทาไรไ่ ถนา ซึ่งเงินทนุ ค่าใช้จ่ายกต็ ้องมากตามไปด้วย เขาไม่รู้จริงๆ ว่าใต้เท้าจะรวบรวมเงินอย่างไรจึงจะพอ ทัง้ การหาแรงงานมาหักร้างถางพงที่นาว่างเปล่า ทัง้ เสบียง อาหารในคลงั ท่ีลดน้อยลงทุกวนั เงินไม่สามารถหาได้ง่ายๆ ภายในวนั เดียวเสียหน่อย อย่าว่าแต่แม่ทพั หวั เมืองเลย ขนาด เขาที่ทางานมาหลายปี พยายามคิดจนหวั จะแตกแล้วแต่กย็ งั คิด ไมอ่ อก 13

17 สรา้ งชื่อ เซี่ยเฉิ งจ่เู หน็ แม่นมอ้มุ ฝอู ินเข้ามา จึงเดินไปรบั เดก็ ชาย ด้วยตนเอง ฝอู ินอายุห้าขวบ เขาตวั เลก็ มาก มีดวงตากลมโตแต่กลบั ไม่ปราดเปรียวว่องไวเหมือนเดก็ ปกติทวั่ ไป ลกั ษณะท่าทางดู เหมอ่ ลอย มอื เลก็ ๆ จบั เซี่ยเฉิงจ่อู ย่างต้องการท่ีพึ่งพิง เซี่ยเฉิงจ่ใู ช้แขนข้างเดียวอ้มุ น้องชายแล้วโจนตวั ขึน้ หลงั ม้า ให้แม่นมนางนัน้ ไปเตรียมของเซ่นไหว้มาให้ ครงั้ นี้คนท่ี ติดตามออกไปนอกเมืองด้วยมีสองคนคือฉงถิงเช่ียนกบั จาง เซ่ียน สุสานของฮูหยินผ้เู ฒ่าตระกลู เซี่ยถกู ย้ายไปนอกเมือง นานแล้ว จากประตูเมืองต้องควบม้าสิบลี้จึงจะถึง แต่อ้อมแขน เซ่ียเฉิงจ่มู ีเดก็ ชายท่ีอาจจะตกใจกลวั ได้ เขาจึงไม่ได้ควบม้าเรว็ นัก ฉงถิงเช่ียนกบั จางเซี่ยนมองใต้เท้าของตนที่กาลงั โอบ ประคองน้องชายอายุน้อยด้วยแขนข้างเดียว มืออีกข้างดึง 1

เชือกบงั เหียน สีหน้าเฉยเมยตลอดทาง แล้วกแ็ อบถอนหายใจ ประวตั ิของใต้เท้าเซี่ยพวกเขาร้เู พียงบางส่วน ตอนแรก เขาเป็ นเพียงผ้ลู ี้ภยั ท่ีเร่ร่อน ขออาหารกลางวนั จากทหารเพ่ือ เลี้ยงครอบครวั พอเขาอายุสิบสามกเ็ ข้ามาเป็นทหาร จากนัน้ ก็ สงั่ สมประสบการณ์จนได้เลื่อนตาแหน่งเป็ นนายทหารกระทงั่ ได้เป็นผปู้ กครองเมืองในท่ีสุด เดิมทีใต้เท้าต้องการเสวยสขุ กบั มารดา แต่น่าเสียดายสองปี ก่อน ระหว่างการเดินทาง โรค เก่าของฮูหยินผ้เู ฒ่าก็กาเริบ ไม่มีทัง้ หมอทัง้ ยาในการรกั ษา นางจึงลาโลกไป เหลือไว้เพียงเดก็ ปัญญาอ่อนคนหนึ่ง เดก็ คน นัน้ ตอนนี้อายุห้าขวบแล้วแต่ยงั พูดไม่เป็ น ขนาดให้เรียกใต้ เท้าเซี่ยว่าพ่ีชายกย็ งั ทาไม่ได้ ทาให้คนเป็ นพ่ีร้สู ึกเจบ็ ปวดใจย่ิง นัก วันนี้ ฟ้ าครึ้มอากาศหนาวเหน็บเสียดแทงเข้าไปถึง กระดูก ลมพายุกพ็ ดั แรง ใต้เท้าเซี่ยใช้เสื้อคลุมห่อตวั น้องชาย ตวั น้อยท่ีคาว่าหนาวแค่คาเดียวกพ็ ูดไม่เป็ น ได้แต่เหม่อลอย อยู่ใต้ผ้าคลุมของเขา หลงั จากที่เดก็ ชายร้สู ึกตวั กเ็ งยหน้ามอง คนท่ีกอดตนอย่เู ป็นนาน ก่อนจะก้มหน้ามองมา้ ที่ใต้รา่ ง ฉงถิงเช่ียนกบั จางเซ่ียนท่ีอย่ดู ้านหลงั เหน็ แล้วกต็ ้องถอน หายใจซา้ ๆ พลางเบนสายตาไปทางอื่น 2

การที่ทงั้ สองเดินทางมาด้วยในครงั้ นี้เพราะต้องการถือ โอกาสสารวจนอกเมืองไปด้วย ยามนี้ทงั้ คลองส่งน้าและคเู มือง ยังสร้างไม่เสร็จ ปริ มาณน้าที่ใช้ยังไม่เพียงพอ ผืนดิ นก็ แตกระแหงแห้งแล้ง จาเป็ นต้องบุกเบิกขึ้นมาใหม่ ซึ่งกต็ ้องใช้ น้าด้วยเช่นกนั การขุดคลองส่งน้าครงั้ นี้จึงเป็ นงานใหญ่ ทัง้ ค่าจ้าง ค่าอปุ กรณ์ต้องใช้เงินจานวนมาก แล้วยงั ค่าเมลด็ พนั ธ์ุ ในการทาการเพราะปลกู อีก คณะเดินทางทงั้ กลุ่มผ่านบริเวณที่เป็ นท่ีอยู่อาศยั นอก เมืองทางทิศตะวนั ออก พื้นที่นี้มีผู้ลี้ภยั กว่าหน่ึงร้อยสามสิบ ครวั เรอื น มีสิบครอบครวั ท่ีมาอย่กู ่อนแล้วเริ่มสรา้ งบา้ นของตน เรียงเป็ นแถว แต่สิบหลงั ต่อมาน่าจะขาดแคลนทุนทรพั ย์จึง อาศยั กาแพงสร้างเป็ นเพิงกระท่อมด้วยหญ้าคา เพิงหญ้าคาจะ ต้านทานอากาศหนาวยะเยือกในฤดหู นาวได้อย่างไร? คนเหล่านี้เข้ามาอยู่ในเมืองเว่ยอนั ทงั้ ครอบครวั ไม่ว่า ชายหรือหญิงล้วนสวมเสื้อผ้าขาดว่ิน แม้แต่ถงุ เท้าผ้าฝ้ายกบั รองเท้าสาหรบั หน้าหนาวกไ็ ม่มีใส่ ขณะท่ีคนทงั้ สี่ขี่ม้าผ่าน บาง คนกถ็ งึ กบั หลบหน้าหลบตา พวกเขาขี่ม้าผา่ นไปพบอีกครอบครวั ท่ีกาลงั ต้มบางอย่าง อยู่หน้าประตู ในหม้อคือรากต้นไม้นามาต้มกบั ราข้าว ได้กล่ิน 3

สมนุ ไพรอ่อนลอยมาตามลม ดมจากกลิ่นแล้วคงยากที่จะกินลง ท้องได้ เซ่ียเฉิงจ่ขู มวดคิ้วแต่ไม่เอ่ยคาใด เมื่อออกจากย่านที่พกั อาศัยแห่งนั้นแล้ว เขาจึงชี้กลับไปแล้วถามจางเซี่ยน “คน เหล่านี้อยู่กนั อย่างไร? ข้าให้กวั ซ่ิงกบั ตู้เหอมาดแู ลกลุ่มผ้ลู ี้ภยั ท่ีน่ี พวกเขาจดั การแบบนี้หรือ?” จางเซ่ียนรีบเอามือทงั้ สองประสานกนั เพื่อแสดงความ เคารพก่อนจะตอบ “ใต้เท้า ที่จริงไม่อาจโทษพวกเขาได้ ตอนนี้ ขนาดหินที่นาไปสรา้ งกาแพงเมืองยงั ไม่พอเลย จึงยากที่จะแบง่ มาสร้างบ้านให้ประชาชน จาต้องสร้างด้วยหญ้าหนาๆ ให้อยู่ อาศยั กนั ไปก่อน สองคนนัน้ พยายามให้คนนาเอาหญ้าคามา มดั อย่างหนาแน่น คิดว่าฤดูหนาวคงพอประทงั ความลาบาก ยากเขญ็ ไปได้บา้ ง” สภาพอากาศตอนนี้หนาวยะเยือก ผืนดินแห้งแขง็ ถึงจะ มีหินแต่กไ็ ม่อาจสรา้ งบา้ นได้ทนั ฉงถิงเชี่ยนกบั จางเซ่ียนควบม้าตามหลงั เซี่ยเฉิ งจู่อย่าง ช้าๆ เห็นแต่แผ่นหลงั ของอีกฝ่ าย ไม่อาจเห็นสีหน้าแต่พอจะ คาดเดาได้ว่าคงไม่ดีอย่างย่ิง ผ่านไปพกั ใหญ่ใต้เท้าเซี่ยกถ็ อน 4

หายใจเบาๆ น้าเสียงเหมอื นกบั เหนื่อยอ่อน “ถ้าหากคนที่บากหน้ามาขออาศยั ท่ีเมืองเว่ยอนั หิวตาย หรอื แขง็ ตาย ต่อไปผใู้ ดจะกล้าย้ายครอบครวั มาอย่เู มอื งนี้ พวก เจ้าเอาเงินสองร้อยตาลึงจดั การหาผ้าฝ้ายกบั รองเท้าผ้าฝ้าย ส่งไป แล้วแบ่งเงินให้ทุกครอบครวั สกั เล็กน้อย ฟื นสามหาบ ส่วนหลงั คาให้มุงหญ้าคาเพิ่มอีกชนั้ ให้มนั่ คง ไม่ว่าอย่างไรก็ ต้องรกั ษาชีวิตของพวกเขา” ทงั้ สองคนรีบตอบรบั ทนั ที แต่ในใจกลบั คิดคานวณอย่าง รวดเรว็ หน่ึงร้อยสามสิบกว่าครวั เรือน ไม่ใช่จานวนน้อยๆ แค่ ครอบครวั เดียวกเ็ ดือดร้อนแล้ว ให้เงินทุกครอบครวั ฟื นสาม หาบ แล้วยงั มีผ้าฝ้ายกบั รองเท้าผ้าฝ้ายสาหรบั ทุกคนอีก ของ ต่างๆ นานาเหล่านี้ รวมกนั แล้วไม่ใช่ว่าเงินสองร้อยตาลึงจะ สามารถทาได้ คานวณอย่างไรกเ็ กินสองรอ้ ยตาลึงอย่ดู ี ครงั้ นี้...ต้องหา ‘เงินปราบโจร’ มาเพิ่มแน่นอน วนั นี้เป็นวนั ครบรอบวนั ตายของมารดาใต้เท้าเซ่ีย จิตใจ ของใต้เท้าจึงไม่สงบนัก พวกเขาไม่อยากเพิ่มความไม่สบายใจ ให้อีก โดยเฉพาะอย่างย่ิงถึงพวกเขาจะไม่พูด เกรงว่าในใจใต้ เท้ากก็ าลงั คานวณตวั เลขอย่เู ช่นกนั 5

หลุมฝังศพของฮหู ยินผ้เู ฒ่าเงียบสงบอย่างเหน็ ได้ชดั ใต้ เท้าเซี่ยลงจากหลงั ม้า วางน้องชายลงบนพื้นโดยไม่เอ่ยสกั คา ชายหนุ่มหยิบพลวั่ มาทาความสะอาดวชั พืชรอบบริเวณนัน้ แล้วเพิ่มดินกลบลงบนหลุมฝัง เดก็ น้อยฝอู ินวยั ห้าขวบไม่คุ้นชินกบั คนแปลกหน้าและ สภาพแวดล้อม เดก็ ชายที่ปัญญาอ่อนจาได้แต่ใต้เท้าเซ่ีย ไม่ ร้จู กั ฉงถิงเช่ียนกบั จางเซ่ียน ครนั้ พอแปลกท่ีทางเดก็ ชายกร็ ้สู ึก กลวั จึงเดินตุปัดตุเป๋ ไปอยู่ข้างๆ ใต้เท้า มือจบั ที่มุมเสื้อของ พี่ชายไมย่ อมปล่อย จนกระทงั่ เซี่ยเฉิ งจ่โู ยนพลวั่ ในมือไว้ริมสสุ าน จากนัน้ นา ของในตะกร้าท่ีเตรียมไว้อย่างหมนั่ โถว หม่าฉื่อ และอาหาร มงั สวิรตั ิออกมาวางตรงหน้าหลุมฝังศพ แล้วเสียบกระดาษไว้ที่ ต้นไผเ่ ลก็ ๆ ซ่ึงมีลูกบอลกระดาษห้อยอยู่ ก่อนจะดึงฝอู ินเข้ามา ให้เดก็ ชายคารวะหน้าหลมุ ฝังศพ ตอนท่ีมารดาจากไป ฝูอินยงั เลก็ นัก นอกจากนี้เขายงั เป็ นเดก็ ที่มีปัญหาทางสมอง เกรงว่าเดก็ ชายผ้นู ี้จะจามารดาที่ รกั เขามากที่สดุ ไมไ่ ด้ด้วยซา้ เพราะฝอู ินมีการทรงตวั ท่ีไม่ดีจึงถกู ใต้เท้าเซ่ียกดไว้กบั 6

พื้นดินท่ีทงั้ แขง็ และเยน็ เดก็ ชายก้มลงคารวะพร้อมกบั ยื่นมือ จะไปหยิบหมา่ ฉ่ือที่อย่ใู กล้ๆ ขนมสีดามีงาน่าอรอ่ ยนัก... ทว่ามือเดก็ ชายถกู ใต้เท้าเซ่ียดึงกลบั มา เป็ นเช่นนี้สามสี่ ครงั้ เดก็ ชายกเ็ ลยรอ้ งไห้ เขาถกู กดให้คารวะจนครบสามครงั้ จึง สามารถหยิบขนมมาได้ จากนัน้ กย็ ดั ใส่ปากอย่างรวดเรว็ จวบจนใต้เท้าเซ่ียทาพิธีเซ่นไหว้เผากระดาษเสรจ็ เรียบ ร้อยแล้ว เขาก็ใช้แขนหนีบฝูอินท่ีกาลงั เอรด็ อร่อยกบั การกิน ขนมขนึ้ บนหลงั มา้ แลว้ ควบกลบั ไปทางเดิม ทนั ทีที่กลบั ถึงค่ายทหาร ใต้เท้าเซี่ยผ้ไู ม่ช่ืนชอบการด่ืม สุรา แต่คืนนี้ไม่ร้เู พราะอะไร เขาถึงนัง่ ในห้องตามลาพงั ด่ืมสุรา ราวกบั ว่ามนั เป็นเพียงน้าเปล่า วนั ต่อมาเซี่ยเฉิ งจู่ก็กระโดดขึ้นหลงั ม้า ออกจากค่าย ทหารไป จ๋ีเสียนฝัง ภาพเขียนโบราณ ‘คืนจนั ทรเ์ พญ็ ’ ท่ีติดอยู่บนผนังดึงดดู 7

สายตาผ้คู นท่ีมีความสามารถด้านศิลปะให้เข้ามาสงั เกตและ ศึกษากนั อย่ไู ม่น้อย ‘คืนจันทร์เพ็ญ’...เพียงแค่ได้อ่านช่ือก็คิ ดโยงไปถึง ความหมายของภาพ อนั ประกอบด้วยคา่ คืนที่พระจนั ทรเ์ ต็ม ดวง กระแสน้าขนึ้ และคนผหู้ นึ่ง เหล่าบณั ฑิตมองลายเส้นท่ีม้วนขึน้ แสดงถงึ เกลียวคล่ืนท่ี แตกกระเซ็นเป็ นฟองฝอย ทงั้ ภาพวาดใช้เพียงแค่สีดา สีขาว และสีน้าเงินเท่านัน้ แต่กลบั ให้ความร้สู ึกสมจริงอย่างมาก จน ทาให้พวกเขาเกิดความประหลาดใจ “น่ีเป็ นวิธีวาดแบบใดกนั ? ข้าไม่อาจนาภาพก่อนๆ ที่ เคยพบมาเปรียบเทียบได้เลย ภาพนี้วาดจนเหมือนได้เห็น ระลอกคลื่นน้าท่ีเคล่ือนไหว ช่างเป็ นภาพวาดที่แปลกนัก ข้าไม่ เคยเหน็ มาก่อนในชีวิต พี่หลี่ท่านเคยเหน็ หรอื ไม่?” ว่าท่ีบณั ฑิตผ้หู นึ่งในชุดเสื้อคลุมตวั ยาวสีขาว ยงั คงจบั จ้องภาพวาดบนผนังไมว่ างตา แมจ้ ะถกู คนข้างๆ เอ่ยถาม “ข้าเองกม็ ีความร้แู ค่งูๆ ปลาๆ น่ีเป็ นครงั้ แรกที่ได้เหน็ ภาพศิลปะแบบนี้” ผถู้ กู ถามตอบอย่างละอายใจ 8

“ข้าร้วู ่ามีการวาดตามแบบใยแมงมมุ ลายเส้นล่ืนไหลไม่ ขดั เขิน แล้วยงั มีวิธีการวาดอีกกว่าสิบชนิด แต่ไม่เคยเหน็ ศิลปะ และลีลาการวาดที่เหมอื นจริงขนาดนี้มาก่อน” เดิมทีกถ็ ือว่าเขา เชี่ยวชาญวิธีการวาดลายเส้นทุกชนิ ดอยู่แล้ว ได้พบเห็นมา หลากหลาย ตอนนี้กลบั ดไู ม่ออกว่าใช้วิธีใดในการวาด ราวกบั ว่าไมเ่ คยมีวิธีการวาดแบบนี้ \"ภาพนี้แม้จะบอกว่าเป็ นศิลปะการวาดท่ีเน้นหนักใน รายละเอียด แต่กลบั มีองคป์ ระกอบบนภาพน้อย หากบอกว่านี่ เป็นการวาดพ่กู นั เส่ียอี้ แต่วิธีการวาดกไ็ ม่เหมือนกบั ภาพข้างๆ เลย ภาพนี้ใช้สีเป็ นส่วนมากแต่ลายเส้นน้อยนัก ทาให้ผ้ทู ่ีมอง เข้าถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งและมีแรงดึงดดู ย่ิง ราวกบั ทิวทศั น์ ในภาพปรากฏขึ้นตรงหน้า ได้ยินกระทงั่ เสียงระลอกคล่ืน เป็ น ศิลปะการวาดภาพท่ีทาให้คนประหลาดและซาบซึ้งประทบั ใจ ในคราเดียวกนั เกรงว่าน่าจะเป็ นหนึ่งไม่เป็ นสองรองใคร หรือ เซียนดอกท้อผนู้ ี้เป็นคนริเร่ิมวิธีการวาดขึน้ มาเองกนั นะ\" ผ้คู นมากมายเอ่ยชื่นชมเสียงดงั ไม่ขาดสาย ภาพขนาด กลางตงั้ ตระหง่านอย่างงดงามและน่าต่ืนตาตื่นใจ ใช้สีดาน้า เงินและขาวเพียงสามสี โดยใช้สีอ่อนตดั สีเข้มออกมาให้เห็น เด่นชดั แค่สามสีแต่กลบั สามารถสร้างจินตนาการขึ้นมาได้ แบบไร้ขอบเขต ให้ความร้สู ึกเลอเลิศลึกลา้ เป็ นที่สุด สีสนั ของ 9

พระจนั ทร์คืนวนั เพ็ญและคล่ืนทะเลท่ีส่ือออกมาสร้างความ ประทบั ใจให้ผพู้ บเหน็ เป็นอนั มาก ในภาพ หมู่เมฆราวกบั เหลื่อมซ้อนกนั เป็ นชนั้ ๆ ลายเส้น และเฉดสีเล่นระดบั ชนั้ เมฆให้เปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพนั เก้า จนไม่สามารถหยงั่ ถึง ท่ามกลางชนั้ เมฆมีแสงสีเงินสว่างวาบดจุ น้าค้างแข็ง ท้องทะเลสะท้อนแสงจันทร์ เห็นระลอกคลื่น ระยิบระยบั บนโขดหินมีแผ่นหลงั ของใครคนหน่ึง สวมชุดขาวมือคา้ อยู่บนหิน กาลงั เงยหน้าชมจนั ทร์ คนที่มองภาพต่างกน็ าตวั เอง เข้าไปแทนท่ีเงาของรูปร่างในภาพนัน้ ทาให้เกิดความเข้าใจ และซาบซึ้งจนบางคนถึงกบั ตกอยู่ในภวงั ค์ เหมือนกบั พวกเขา อยู่ในค่าคืนท่ีมืดมน ได้ยินเสียงเกลียวคล่ืนดังมาไม่ขาด สาย สายตาจบั จ้องดวงจนั ทร์บนท้องฟ้ าที่ไร้ขอบเขต อยู่คน เดียวอย่างเปล่าเปล่ียว ลิ้มรสความโดดเดี่ยวเดียวดาย ณ ที่โล่ง กว้างแห่งนัน้ เพียงลาพงั เวลาผา่ นไปนานในที่สดุ กม็ ีคนมองเส้นสนกลในออก “ท่ี แท้วิธีการวาดภาพเสมือนจริงนี้ ความสว่างของดวงจนั ทรแ์ ละ ท้องทะเลกม็ ีความสมั พนั ธก์ นั นัน่ เอง!” 10

ทุกคนพากันมองอย่างละเอียดอีกครงั้ ...เป็ นเช่นนั้น จริงๆ แสงสว่างของดวงจนั ทรน์ ัน้ สะท้อนอยู่บนท้องทะเล ทา ให้ภาพน้าทะเลแสดงความกว้าง ลึก และไกลออกไป วิธีการ วาดแบบใช้แสงและเงาแบบนี้ ช่างน่าอศั จรรยย์ ่ิงนัก นอกจากคนกบั เงาท่ีตกกระทบบนพนื้ จะทาให้เหมอื นคน จริงๆ แล้ว ยงั เป็ นวิธีการวาดท่ีรวมองค์ประกอบเข้าด้วยกนั ภาพคนกบั เงารวมเขา้ ด้วยกนั เป็นหนึ่ง ให้ความรสู้ ึกที่สมจริง “ที่แท้กเ็ ป็นเช่นนี้ พ่ีหลิน ท่านลองดภู าพดีๆ สิ แสงจนั ทร์ ท่ีส่องสะท้อนกบั คลื่นทะเลไปในทิศทางเดียวกนั ทาให้เห็น เหมือนมีชีวิต ราวกบั คล่ืนทะเลนัน้ เคลื่อนไหวจริงๆ หากมอง การจดั การแต่ละจุดในภาพอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทงั้ วิธีการวาด คล่ืนทะเล คนและเงาคน รวมถึงเสื้อคลุมยาวท่ีคนในภาพสวม ใส่ที่ใช้เพียงไม่กี่เฉดสี กลับท่าให้ทัว่ ทุกแห่งของภาพวาด นี้น่าอศั จรรยย์ ิ่งนัก” “องคป์ ระกอบภายในภาพนี้มีเพียงแค่ ดวงจนั ทร์ ระลอก คล่ืนน้า และคนท่ีดูเรียบง่ายเท่านั้น ทว่าทัง้ ภาพกลับให้ ความร้สู ึกท่ีไม่ธรรมดา! ข้าคิดว่าการอธิบายรายละเอียดของ ภาพและวิธีการของจิตรกรช่างน่าประทบั ใจย่ิงนัก ทงั้ ยงั แสดง ให้เหน็ ถึงรูปแบบวิธีการวาดภาพเสมือนจริงท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์ 11

อีกด้วย” “ความหมายของพี่หลินคือ...?” “เกรงว่าศิ ลปะการวาดภาพของเซี ยนดอกท้อท่านนี้ จะ ชานาญการวาดภาพท่ีสมบรู ณ์แบบที่สดุ ไม่สามารถคาดเดาได้ เลย น่าขนั ท่ีข้าเคยคิดว่า ศิลปะการวาดภาพเร่ิมจะด้อยลง ไม่ สามารถขึ้นแท่นตัง้ โต๊ะได้ ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะต้องเปลี่ยน ความคิด เมอ่ื ได้เหน็ ภาพวาดที่น่าท่ึงภาพนี้” ความมหศั จรรยข์ องภาพนี้ดึงดูดผ้คู นมากมายให้อยาก ครอบครองเป็ นเจ้าของ หลายๆ คนคิดจะน่าภาพกลบั ไปบ้าน ด้วย ภาพนี้เปิ ดราคาเร่ิมต้นที่ห้าสิบตาลึง ปรากฏว่าผู้คน มากมายต่างยินยอมท่ีจะเข้าแย่งชิง มีคนให้ราคาสูงขึน้ เร่ือยๆ จากราคาห้าสิบตาลึงกข็ ึ้นไปถึงแปดสิบตาลึง เถ้าแก่สว่ีถึงกบั มอื สนั่ ระริก ดึงหนวดเคราจนแทบจะหลดุ ในท่ีสุดเจ้าของภาพคนใหม่กเ็ อาม้วนภาพราคาแปดสิบ ตาลึงกลบั ไป 12

ห ล ัง จ า ก ส่ ง บ ร ร ด า ลู ก ค้ า อ อ ก จ า ก ร้ า น ก ัน ห ม ด แ ล้ ว เถ้าแก่สว่ีกร็ ีบเรียกเดก็ ในร้านสองคนมาหา “ภาพที่ขายไปเม่ือ ครู่ ตอนข้ารบั มาจ่ายเงินไปเท่าไร?” ลกู จ้างรา้ นสองคนท่าท่าคิด ก่อนจะตอบกลบั มา “เถ้าแก่ หยอกพวกเราอย่หู รอื เปล่า นัน่ มนั เรอ่ื งเมอ่ื คืนก่อน ภาพนี้ไมใ่ ช่ ท่านเป็ นคนจดั การเกบ็ เองหรือ ท่านให้เงินแม่นางคนนัน้ ไป แปดตาลึงเงิน...” “แปดตาลึง!!!” เถ้าแก่สว่ีลูบหน้าอกตนเอง “ไอ้หยา! เหตุ ใดข้าถงึ ให้นางแค่แปดตาลึงล่ะ?” สองลูกจ้างได้ยินแล้วเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ “แปด ตาลึงกถ็ กู ต้องแล้วนะขอรบั ถ้าตามราคาที่ตกลงกนั ไว้ ขนาด ของภาพนั้นอยู่ท่ีห้าตาลึง แต่เถ้าแก่ยงั ให้เพิ่มอีกสามตาลึง ด้วย” “ไอ้โง่!...โง่ทัง้ สองคน!” เถ้าแก่สวี่ชี้ไปที่ลูกจ้างพลาง กล่าวเสียงดงั “ทาไมพวกเจ้าไม่คิดกนั บ้าง ข้าถามหน่อย ก่อน หน้านี้แม่นางผ้นู ัน้ ขายภาพให้ร้านเรากี่ภาพแล้ว? พวกเราขาย ไปได้เท่าไร?” 13

“ก่อนหน้านัน้ สองภาพ ท่านให้หกตาลึงเงิน ร้านขายได้ หกสิบตาลึงเงิน รอบท่ีสองภาพใหญ่สวยงามและภาพเลก็ อีก หนึ่งภาพ ท่านคิดให้นางรวมเจด็ ตาลึงเงิน ตามที่กาหนดไว้คือ ภาพใหญ่ห้าตาลึง ภาพเลก็ หนึ่งตาลึง แต่ท่านให้เพิ่มหน่ึงตาลึง ขายเปลี่ยนมือหกสิบห้าตาลึง ครงั้ ที่สามนี้ถึงจะเป็ นภาพขนาด กลาง แต่ท่านกใ็ ห้นางแปดตาลึง แลว้ ขายไปแปด...สิบ...ตาลึง” ลูกจ้างสองคนพูดไล่รายละเอียด ยิ่งพูดเสียงย่ิงแผ่วลง ถึงพวกเขาจะเป็ นลูกจ้างร้านและทาตามคาสงั่ เถ้าแก่มาโดย ตลอด แต่คราวนี้เอ่ยออกมาจากก้นบงึ้ ของหวั ใจโดยท่ีไม่ได้นัด หมายมาก่อน “แย่! แย่จริงๆ! แม่นางผ้นู ัน้ ลาบากลาบนวาด ภาพมาตงั้ หลายภาพ เก็บเงินรวมกนั ทงั้ หมดแล้วยงั ไม่เท่าที่ รา้ นขายไปภาพเดียวเลย...” เจา้ ของรา้ นจ๋ีเสียนฝังเอ่ยอย่างรอ้ นใจดงั ไฟสมุ ทรวง “ข้า ท่าอย่างนัน้ จริงรึ ทงั้ ภาพท่ีส่งมาก่อนหน้า กบั ภาพท่ีขายในวนั นี้ ได้เงินรวมกนั แล้วไมเ่ ท่าภาพเดียวหมายความว่าอะไร?” “แล้วหมายความว่าอะไรล่ะขอรบั ?” “หมายความว่าข้าให้เงินนางน้อยไปนะสิ!” เถ้าแก่สว่ี เดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ “ไม่ได้ๆ จะพดู อย่างไรให้เทพ 14

เจ้าแห่งโชคลาภมาเป็ นพวกของเรา” เขารีบหนั หน้าไปกาชบั ลกู จ้างเสียงหนักแน่น “คราวหน้า หากแม่นางผ้นู ัน้ มาอีก ภาพของนาง...ไม่ว่า จะเป็ นภาพอะไร เกณฑ์ที่ห้าตาลึงให้เปล่ียนเป็ นย่ีสิบตาลึง... ไม่ๆ ให้ยี่สิบห้าตาลึงเลยแลว้ กนั ” 15

18 พานพบอีกครา ภาพ ‘ป้อนนกพิราบ’ ในมอื ของถานหวนั่ ชิงเพ่ิงวาดเสรจ็ นางยกขึ้นมาดูรายละเอียดและสีสนั โดยอาศยั แสงจาก นอกหน้าตาง จงั หวะนัน้ เองลุ่ยจกู ก็ ลบั มาจากข้างนอก เดก็ สาว เดินมานัง่ ลงข้างๆ แล้วพดู ด้วยท่าทางดีอกดีใจ “คุณหนู วนั นี้ข้าเดินผ่านจี๋เสียนฝังเลยแวะเข้าไปดูสกั หน่อย ภาพของคณุ หนูขายไปแล้วนะเจ้าคะ เถ้าแก่นัน่ ยงั พดู ว่า ...” เหน็ ลุ่ยจหู ยุดชะงกั ลง ถานหวนั่ ชิงกผ็ ินหน้าไปมอง “พดู ว่าอะไร?” “เถ้าแก่พูดว่าหากคุณหนูมีภาพอื่นอีกก็ให้ส่งไปท่ีเขา หนึ่งภาพให้ยี่สิบห้าตาลึง ราคาดีมากนะเจ้าคะ ต่อไปคณุ หนูจะ ไมเ่ สียเปรียบแล้ว” ย่ีสิบห้าตาลึง? ถานหวนั่ ชิงตะลึงงนั ไม่คิดว่าราคาจะขึ้น ไวเพียงนี้ สองวนั ก่อนหนึ่งภาพยงั หกตาลึงอย่เู ลย นี่เพิ่งผ่านไป ไม่นานกลบั ขึ้นเป็ นสี่เท่า เจ้าของร้านตงั้ ราคาให้สูงขนาดนี้คง 1

กลวั ว่านางจะขายภาพให้คนอื่น ภาพท่ีขายไปก่อนหน้าคิดว่า น่าจะทากาไรให้เขาไม่น้อยทีเดียว ทว่าแทนที่ถานหวนั่ ชิงจะรีบขายกลบั ม้วนภาพ ‘ป้ อน นกพิราบ’ วางไวข้ า้ งๆ “คณุ หนู ข้าจะน่าไปติดบนกระดาษแขง็ นะเจ้าคะ” “ยงั ไม่ต้องรีบหรอก” “ทาไมล่ะเจ้าคะ? เถ้าแก่สวี่เจ้าของร้านจี๋เสียนฝังนัน่ ดู รีบร้อนมาก เขาถามข้าตงั้ หลายรอบ ยา้ แล้วยา้ อีกว่าหนึ่งภาพ ให้ยี่สิบห้าตาลึง” “กเ็ พราะว่าเขารีบน่ะสิ ดงั นัน้ เราจึงไมต่ ้องรีบ” ถานหวนั่ ชิงเอ่ยเสียงเนิ บ เหน็ ลุ่ยจยู งั ไม่เข้าใจจึงอธิบาย อย่างอดทน “วันก่อนเจ้าเคยพูดว่าของหายากก็ย่ิ งแพง เพราะว่าภาพของข้าเป็ นของหายาก ราคาจึงขึ้นอย่างรวดเรว็ อีกทงั้ ตอนนี้ข้ากเ็ หนื่อยแล้ว” กล่าวจบนางกเ็ ร่ิมเกบ็ อุปกรณ์ ต่างๆ ท่ีใช้วาดภาพให้เข้าที่เข้าทาง 2

ลุ่ยจูเพิ่งจะเข้าใจ นางรีบแย่งพู่กนั จากมือนายสาวแล้ว เกบ็ ของให้แทนเพื่อที่อีกฝ่ ายจะได้ไปพกั ผอ่ นได้เรว็ ขึน้ เม่ือเกบ็ ของบนโต๊ะจนเรียบร้อยแล้วลุ่ยจกู ร็ ีบน่าภาพป้อนนกพิราบมา ติดลงบนกระดาษแข็งด้วยความระมดั ระวงั เพราะกลวั ว่าจะ เสียหาย เหมือนกบั ว่ามนั เป็นของที่บอบบางขาดงา่ ย สาหรบั ถานหวนั่ ชิงแล้ว การวาดภาพเช่นนี้ไมย่ าก เพราะนางแค่วาดไปตามอารมณ์ เร่ืองที่ยากคือการใช้สี เนื่องจากสีมีน้อยเหลือเกิน นอกจากสีแดงแล้วส่วนมากจะเป็น สีจืดท่ียากจะผสมหรือปรบั เปล่ียน การไม่มีสีเข้มให้ใช้ในการ วาดภาพถือเป็ นข้อจากดั ที่สาคญั อย่างหนึ่ งของจิตรกรเลย ทีเดียว การท่ีภาพขายดีถือว่าไม่ผิดไปจากการคาดการณ์ ทาไม ถึงจะไม่ขายดีล่ะ ในเมื่อยุคสมยั นี้ยงั ไม่มีคนเชี่ยวชาญวิธีวาด ภาพแบบนี้ องค์ประกอบทงั้ หมดของภาพผ่านการใคร่ครวญ และวางแบบมาอย่างดี อย่างภาพคนก็ต้องดูว่าควรวางไว้ ตาแหน่งใดถึงจะเป็ นจุดรวมสายตาได้ หรือว่าตรงไหนควร เหลือพื้นท่ีสีขาว ตรงไหนควรเติมสีให้เตม็ การแบ่งแยกสีเพ่ือ สร้างมิติของภาพ สิ่งเหล่านี้จิตรกรส่วนมากของยุคนี้ยงั ไม่ร้จู กั หญิงสาวจึงถอื โอกาสนามาใช้ให้เป็นประโยชน์ 3

อย่างไรก็ตามจุดสาคัญของการขายภาพก็คือขอแค่ ให้คนท่ีซื้อภาพชอบแล้วกนั หญิงสาวอยากจะออกไปเดินเล่น แต่เพราะหลายวนั มานี้ ใช้กาลงั ไปมากจึงรู้สึกอ่อนเพลีย ร่างกายที่นางอาศยั อยู่นี้ ค่อนข้างอ่อนแอ รบั ความเหน่ือยล้ามากไม่ไหว จาต้องเอนตวั นอนพกั สกั ครู่ ก่อนปิ ดเปลือกตาลง นางให้ล่ยุ จไู ปสอบถามแถว ถนนตงเหมินว่ามีบ้านให้เช่าหรือไม่ หลายวนั มานี้ขายภาพได้ เงินมากกว่ายี่สิบตาลึงแล้ว พอสาหรบั การเช่าบ้านเลก็ ๆ สกั หลงั เวลาเช้าในฤดเู หมนั ต์ แดดอ่นุ กาลงั ดี นกท่ีอยู่บนต้นไม้ นอกหน้าต่างส่งเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะ ถานหวนั่ ชิงวางแผนว่า จะนอนสกั งีบ เพียงกาลงั เคลิ้มๆ กไ็ ด้ยินเสียงเคาะประตูดงั ขึน้ จากนัน้ นางกห็ ลบั ไม่ลงเสียแล้ว จากที่กาลงั เคลิ้มหลบั ถานหวนั่ ชิงพลนั ตกใจตื่น ลุ่ยจกู าลงั เอาผ้าห่มนวมไปตากแดดไม่ใช่หรือ ถานหวนั่ ชิงลุกขึน้ นัง่ ยงั คงตาปรือมีอาการสะลึมสะลือ นางคิดว่าตนเอง ตะโกนเรียกลุ่ยจู ทว่าความจริงแล้วเสียงที่เลด็ ลอดออกจาก ปากกลบั แผ่วเบาราวกระซิบ พอไร้คนขานรบั จึงคิดได้ว่าลุ่ยจู 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook