Research in Educational Administration • 579 - เพื่อหาผลกระทบ (Effect) - เพอ่ื หาผลสะท้อน(Impact) - เพอ่ื ค้นหาอิทธพิ ล(Influences) - เพื่อสืบค้น/แสวงหา/สำ� รวจ ( Explore) 1.3 ค�ำถามการวิจัย ต้องมีความชดั เจน โดยจะนิยมต่อทา้ ยประโยคดว้ ยค�ำวา่ อยา่ งไร อะไร ท�ำไม 1.4 ประโยชนข์ องการวจิ ัย - จะสามารถนำ� ผลการวจิ ยั ไปใชท้ �ำค่มู ือ การปฏิบัตกิ าร ก�ำหนดมาตรการทางนโยบาย - จะท�ำให้ไดอ้ งคค์ วามรใู้ หม่ - จะทำ� ให้สามารถยืนยันทฤษฎีเดิมว่า ยังคงเปน็ อยู่ หรือ ต้องยกเลิกทฤษฎเี ดิม - จะทำ� ใหส้ ามารถเลกิ นโยบาย มาตรการเก่า คูม่ ือเก่า ยุทธวิธกี ารบรหิ ารแบบเก่า ฯลฯ
580 • การวจิ ยั ทางการบริหารการศกึ ษา บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยท่ีเกยี่ วขอ้ ง 2.1 กลา่ วถึงทฤษฎที ่ีเก่ยี วขอ้ ง หมายถึง การกล่าวถึงทฤษฎีที่ส�ำคัญและเก่ียวข้องจริงๆ กับประเด็นท่ีจะค้นหา หรือ พิสจู น์.....(อา้ งอิง) 2.2 งานวิจยั ท่เี กีย่ วข้อง - ให้พิจารณาถึงระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ในงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง ต้องวิพากษ์ถึงจุดแข็งและจุด อ่อนของงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พร้อมเสนอว่า ผู้วิจัยจะท�ำให้ดีกว่าด้วยวิธีการที่จะน�ำเสนอในขั้น ตอนของระเบียบวิธีวจิ ยั - ผล และเนอ้ื หาท่ไี ด้จากการอ่านในงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วข้องนัน้ ยงั คลุมเครอื หรอื ไม่ชัดเจน เป็นคนละยคุ สมัย จงึ ต้องพิสูจน์ใหม่
Research in Educational Administration • 581 บทท่ี 3 ชมุ ชนทศี่ กึ ษาและระเบียบวธิ ีวิจยั 3.1 ชุมชนทศ่ี กึ ษา รายละเอียดของชุมชน หมบู่ ้าน กลุ่มคนทผ่ี วู้ จิ ัยท�ำการศกึ ษา เปน็ การชีใ้ ห้เหน็ บรบิ ททาง สังคมของหนว่ ยที่ผวู้ ิจัยทำ� การศึกษา วฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วถิ ชี วี ิต ฯลฯ หากเจาะ ไปที่ชมุ ชน ควรมแี ผนท่ีของหมบู่ ้าน และ/หรือ ชมุ ชน มาแสดงด้วย 3.2 ระเบียบวธิ ีวิจยั การวจิ ัยนี้ เป็นการวิจัยในเชงิ คณุ ภาพ โดยใช้วิธกี ารรวบรวมข้อมลู ทเ่ี ปน็ ความร้แู ละเปน็ ความจรงิ จากผรู้ ทู้ ร่ี จู้ รงิ (Key informants) ในประเดน็ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั 1)....2)....3)....4) โดยมขี น้ั ตอน และกระบวนการการในการรวบรวมข้อมลู ดังน้ี 3.2.1 การสนทนากลุ่มแบบเจาะจง (Focus group discussion) ผู้วิจัยได้ก�ำหนด คุณลักษณะของผู้ให้ข้อมูลไว้ดังน้ี.................................... โดยเป็นขั้นตอนของการคัดเลือกบุคคล เข้าร่วมการสนทนากล่มุ ได้ดำ� เนนิ การคน้ หาดว้ ยวิธี.................... แนวคำ� ถาม ผวู้ จิ ยั เตรยี มแนวคำ� ถามทใี่ ชใ้ นการสนทนากลมุ่ แบบเจาะจง ดงั ปรากฏในภาค ผนวก.....ซึ่งแนวคำ� ถามนี้ ไดม้ ีการทดสอบเนอ้ื หาของขอ้ คำ� ถามจากการสนทนากล่มุ กับกลมุ่ ผรู้ ทู้ ี่ ร้จู รงิ ณ...... การตรวจสอบความแมน่ ตรงของขอ้ มลู ผวู้ จิ ยั ไดก้ ำ� หนดทำ� การจดั สนทนากลมุ่ แบบเจาะจง จ�ำนวน .....กลุ่ม เพอ่ื ตรวจสอบความแม่นตรงของเน้อื หาข้อมูล โดยใชห้ ลักการตรวจสอบแบบ สามเสา้ 3.2.2 การสนทนากลุ่มย่อย (Small group discussion).................................................. 3.2.3 การสมั ภาษณแ์ บบเจาะลกึ (In-depth interview)............................................... การทดสอบความเป็นไปได้ (Feasibility test) ผู้วิจัยได้ทดสอบความเป็นไปได้ในการ รวบรวมข้อมลู โดยด�ำเนินการ ดังนี้ - ทดสอบแนวคำ� ถามที่จะใชใ้ นสนามแลว้ นำ� มาปรบั แก้ (อาจทดสอบหลายครง้ั ) - ทดสอบความเปน็ ไปได้ท่จี ะใชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูลในสนามจริง - จ�ำนวนคร้ังที่ใชท้ ดสอบ - ทดสอบในพน้ื ที่ เช่น ชุมชน สงั คม ฯลฯ
582 • การวจิ ยั ทางการบริหารการศกึ ษา บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล (ต้องไม่ลืมหัวใจของการวิจัยเชิงคุณภาพท่ีเน้นความสัมพันธ์ของคนกับสังคม บริบททางสังคม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิต วัฒนธรรมกลุ่มย่อย ฯลฯ ท่ีมีผลต่อพฤติกรรม ลักษณะครวั เรือน และความเชอื่ ทมี่ ีผลต่อการใชว้ ธิ ีคุมก�ำเนิด) 4.1 เพอื่ น�ำไปสกู่ ารตอบคำ� ถามการวิจยั ขอ้ 1 แนวทางการวิเคราะห์ เมื่อพิจารณาถึง...............................ผลการวิจัยนี้ พบว่า........................................ (อา้ งองิ )...........................................(อา้ งองิ )............................................... ซงึ่ จะขอแยกอธบิ าย ดงั นี้ 1. ครัวเรือนเดี่ยว .............(อ้างอิง)...........................(อ้างอิง)..................................... (อ้างองิ )......................................................ดงั ประเดน็ ทไี่ ดจ้ ากการสนทนากลุ่ม ดงั น้ี ................... .....................................................(หญิงอายุ 30-25 ปี) 2. ครัวเรือนเดี่ยว .............(อ้างอิง)......................................(อ้างอิง).................................. อ้างอิง)..................................................................................................................................... หากพิจารณาถึงความส�ำคัญของลักษณะครัวเรือนต่อความเชื่อและการตัดสินใจใช้วิธี คมุ ก�ำเนิด สามารถจำ� ลองเป็นแผนผงั ได้ ดังน้ี ลกั ษณะครวั เรือน ความเชอื่ การตดั สินใจคมุ กำ�เนิด 4.2 เพ่ือน�ำไปส่กู ารตอบคำ� ถามการวจิ ัยขอ้ 2 เม่ือพิจารณาถึง........ผลการวิจัยนี้ พบว่า...............................(อ้างอิง)................................ (อ้างอิง).......................................... ซงึ่ จะขอแยกอธิบาย ดงั นี้ 1.........................(อ้างอิง)........................................(อ้างอิง)................................... (อา้ งอิง).................................................................................................................................... 2. ................................(อ้างอิง).............................(อ้างอิง)................................... (อา้ งอิง)....................................................................................................................................
Research in Educational Administration • 583 บทที่ 5 สรุปและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผลการวจิ ัย ใหส้ รปุ ผลการวจิ ยั /วเิ คราะหท์ บี่ รรยายและอธบิ ายไวใ้ นบทท่ี 4 เทา่ นนั้ โดยยอ่ ใหส้ นั้ ลงและ กระชบั ไมต่ อ้ งมคี ำ� พดู และแผนผงั (แผนภาพ) เนน้ ในประเดน็ ทเี่ ปน็ การตอบค�ำถามการวจิ ัย และ สอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย ประมาณ 3-4 หนา้ 5.2 ข้อเสนอแนะ ต้องนำ� ข้อค้นพบท่ีได้จากการวจิ ยั มาชี้ให้เห็นว่า ควรทำ� อย่างไร 5.1.1 ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย ควรเนน้ ไปที่ครอบครวั ขยายเน่ืองจาก................................................................ 5.1.2 ข้อเสนอแนะส�ำหรบั การวิจยั คร้งั ต่อไป ควรน�ำประเด็นที่คลุมเครือซ่ึงผู้วิจัยไม่แน่ใจว่าได้ค้นพบแล้วหรือไม่ หรือได้ค้น แล้วแต่แน่ใจว่ายังไม่พบ ไปเจาะต่อ เช่น ประเด็น................................................................ เพราะ....................................................................หรือ ควรน�ำไปพิสูจน์อีกครั้งในอีกสังคมหนึ่ง ท่มี ลี กั ษณะท่คี ล้ายกนั ในเรอื่ งลักษณะของผู้รู้ แต่คนละบรบิ ท
584 • การวิจยั ทางการบริหารการศึกษา ภาคผนวก ข แบบแผนขภองากคาผรนววจิ กัยแขบบผสมผสานวธิ ี แบบแผนของการวจิ ยั แบบผสมผสานวิธี ภาพที่ 1 แบบของการวิจยั แบบผสมผสานวิธี: (a) แบบคูข่ นาน (b) แบบอธิบายตามลำ� ดบั ทภาม่ี พา.ทCี่ 1rแeลsแwะบeบ(llcข)(อ2แ0งบ1กบ3า,สรว�ำpริจ. ว6ัยจ9แ)บบกุบเผบสกิ มตาผมสลา�ำนดวับิธี: (a) แบบคู่ขนาน (b) แบบอธิบายตามลาดับ และ (c) แบบสารวจบุกเบิกตามลาดบั ที่มา. Creswell (2013, p. 69)
Research in Educational Administration • 585 ภภาาพพทท่ี่ี 22 แแบบบบขขอองงกกาารรววิจิจยัยั แแบบบบผผสสมมผผสสาานนววิธธิ :ีี:((dd))แแบบบบฝฝังังตตวั ัวออยยู่ภู่ภาายยใในน((ee))แแบบบบเปเปลล่ยี ย่ี นนแแปปลลงง และ (f) ทท่ีมีม่ าา.. CCrrแแeeบลsswwะบeeหl(lllfล)((า22แย00บข11บ้นั33,ห,ตลppอ..านย7700ข))น้ั ตอน
586 • การวิจัยทางการบรหิ ารการศึกษา ภาคผนวก ค (ตัวอยา่ ง) แนวทางการวิเคราะหป์ ัญหาการวิจยั และการตงั้ วัตถุประสงค์ตามประเภทของการวิจัย โดยใชป้ ระเด็น “การบรหิ ารงานในสถานศึกษา” ลำ�ดับ ประเภทการวิจัย ปญั หาการวิจัย (Research problem) วตั ถปุ ระสงค์ หมายเหตุ สาเหตุของปญั หา ปัญหา (ผล) 1 การวิจัยเชงิ ปรมิ าณ การบริหารคณุ ภาพ ผลการประเมนิ เพื่อสร้างรปู แบบ การวิจัยเชงิ ของสถานศึกษา คุณภาพการศึกษา การบริหารคุณภาพ ปรมิ าณ มีหลาย ไมม่ ีประสิทธภิ าพ ของสถานศึกษา ของสถานศึกษาท่ี ประเภท ได้แก่ เท่าท่ีควร ไมเ่ ปน็ ตำ่� กวา่ เกณฑ์ ส่งผลต่อคณุ ภาพ การวิจัยเชิง ระบบและขาด มาตรฐานขั้นต่�ำของ การศกึ ษาของสถาน สำ�รวจ, การวิจัย ความตอ่ เนื่อง สกอ. ศกึ ษา เชิงสหสัมพันธ์, การวจิ ัยเชงิ ทำ�นาย การวิจัย เชิงเปรียบเทียบ สาเหตุและการ วจิ ัยเชงิ ทดลอง 2. การวิจยั เชิงคุณภาพ การบริหารสถาน ผลการประเมนิ เพอ่ื พฒั นาการบรหิ าร การวจิ ยั เชงิ ศกึ ษาตามหลกั ธร คณุ ธรรมและ สถานศึกษาตามหลกั คุณภาพ ใช้วธิ ีเก็บ รมาภิบาลของผู้ ความโปรง่ ใสใน ธรรมาภบิ าลของ ขอ้ มลู เช่นการ บริหารสถานศกึ ษา การด�ำเนนิ งาน ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา วเิ คราะหเ์ อกสาร ยังไมด่ เี ท่าท่คี วร ของสถานศกึ ษา การสังเกต การ ไดค้ ะแนนต�่ำกว่า สัมภาษณ์ การ มาตรฐาน ไม่ผา่ น สนทนากลมุ่ ฯลฯ เกณฑ์การประเมนิ 3. การวจิ ัยแบบผสม ระบบประกัน ผลการประเมิน - เพือ่ พฒั นาระบบ การวจิ ัยแบบผสม ผสานวธิ ี คุณภาพการศึกษา คุณภาพการศกึ ษา ประกันคุณภาพการ ผสานวธิ ี ใชว้ ธิ ี ของสถานศึกษาไม่ ของสถานศึกษา ศกึ ษาของสถาน เกบ็ ขอ้ มูลทงั้ เชิง ดเี ทา่ ทค่ี วร ได้คะแนนตำ�่ กว่า ศึกษา (ศึกษาเชงิ ปริมาณและเชิง เกณฑ์มาตรฐาน ปรมิ าณ) คุณภาพผสมกัน - เพื่อศึกษาแนวทาง พฒั นาคุณภาพการ ศึกษาของสถาน ศกึ ษา (ศกึ ษาเชงิ คณุ ภาพ)
Research in Educational Administration • 587 4 การวจิ ัยสถาบนั ระบบการบรหิ าร ระบบสารสนเทศ เพอื่ พฒั นาระบบการ สารสนเทศใน ในสถานศกึ ษาไม่ บริหารสารสนเทศ สถานศกึ ษา ไม่มี สามารถตอบสนอง ในสถานศกึ ษา ประสทิ ธิภาพเท่า ความต้องการของ ทค่ี วร ผู้ใช้สารสนเทศ ได้ เพราะเป็น ระบบมือ เป็นแฟ้ม เอกสาร ไมเ่ ป็น หมวดหมู่ เสียเวลา ในการตรวจสอบ 5 การวจิ ยั เชิงนโยบาย ขาดข้อเสนอเชิง การบริหารสถาน เพอ่ื นำ�เสนอข้อ นโยบายของสถาน ศึกษาดำ�เนินไป เสนอเชงิ นโยบาย ศกึ ษา (หรอื สถาน อยา่ งไรท้ ิศทาง เพื่อการบรหิ าร ศึกษามีข้อเสนอ สถานศกึ ษาทีเ่ ป็น เชงิ นโยบายท่ีไม่ด)ี ไปไดแ้ ละได้รบั การ ยอมรับ 6 การวจิ ัยเชงิ ปฏบิ ัติ ขาดรปู แบบการ การบรหิ ารสถาน เพอื่ กำ�หนดรปู แบบ การแบบมสี ่วนร่วม ปฏิบัติงานร่วมกัน ศกึ ษาไมท่ ำ�ใหเ้ กดิ การบริหารสถาน ของบคุ ลากรใน การเรียนร้แู ละ ศกึ ษาร่วมกนั กับ สถานศกึ ษา (หรือ ความเปลย่ี นแปลง บคุ ลากรท่ีจะทำ�ให้ บคุ ลากรในสถาน ใหมใ่ นทางทีด่ ี เกิดการเรียนรแู้ ละ ศกึ ษามรี ูปแบบการ ความเปลีย่ นแปลง ปฏิบตั ิงานทไี่ ม่ดี ใหม่ เทา่ ที่ควร) 7 การวจิ ยั เชงิ อนาคต ขาดอนาคตภาพ การกำ�หนด เพื่อสร้าง/พัฒนา ของการบริหาร ยทุ ธศาสตร์หรอื อนาคตภาพของการ งานในสถานศึกษา กลยทุ ธใ์ นการ บริหารงานในสถาน (หรอื สถานศึกษามี บรหิ ารสถานศึกษา ศึกษาในชว่ ง 10 ปี อนาคตภาพของ ในระยะยาว ไมด่ ี ขา้ งหนา้ การบรหิ ารงานท่ี เทา่ ทีค่ วร ไม่ดเี ทา่ ที่ควร) 8 การวจิ ยั และพัฒนา ขาดการพฒั นารูป รปู แบบการบรหิ าร เพื่อพฒั นารปู แบบ แบบการบริหาร สถานศึกษา ล้า การบริหารสถาน สถานศึกษาให้ สมยั กา้ วไมท่ ัน ศึกษาให้ทนั สมยั ก้าวทันตอ่ ความ ความเปลี่ยนแปลง และก้าวทนั ความ เปล่ียนแปลง หรอื ในศตวรรษท่ี 21 เปลย่ี นแปลงใน ขาดนวตั กรรม ศตวรรษท่ี 21 ทางการบริหาร สถานศกึ ษา
588 • การวิจัยทางการบรหิ ารการศึกษา 9 การวจิ ัยทฤษฎี ขาดองค์ความรู้ เกดิ ขอ้ สงสัยใน เพอื่ ศึกษาหาองค์ ฐานราก เกีย่ วกบั การบรหิ าร ปรากฏการณท์ ี่ ความร้ใู หม่จาก งานในสถานศึกษา เกดิ ข้ึนจริงเกีย่ ว ประสบการณท์ ่เี กดิ ทีป่ ระสบผลสำ�เร็จ กับการบริหารงาน ขน้ึ จริงในสถาน ในสถานศกึ ษาที่ ศึกษาที่ประสบผล ประสบผลสำ�เรจ็ สำ�เร็จในการบรหิ าร สถานศึกษา 10 การวจิ ยั เชงิ ประเมนิ ขาดขอ้ มลู การตดั สินใจของผู้ เพือ่ ประเมนิ การ สารสนเทศท่ีดี บริหารสถานศึกษา บริหารสถาน มาประกอบการ ไมม่ ปี ระสิทธภิ าพ ศึกษาให้ไดข้ อ้ มูล ตดั สนิ ใจ เท่าท่คี วร สารสนเทศและนำ� เสนอผูบ้ ริหารใน การตัดสนิ ใจ 11 การวจิ ัยเชิงทดลอง หลกั สตู รฝึกอบรม เกดิ ขอ้ สงสัยวา่ -เพอื่ พฒั นา ผบู้ รหิ ารทจ่ี ดั ทำ�ขน้ึ หลักสูตรฝึกอบรม หลักสูตรฝกึ ยงั ไมผ่ า่ นการ ผบู้ รหิ ารทจี่ ดั ทำ�ขนึ้ อบรมผู้บริหารที่มี ประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ จะมีประสทิ ธิผล ประสทิ ธิภาพ จากการทดลองใช้ หรอื ไม่ หลักสูตร - เพ่อื ทดลองใชแ้ ละ ประเมินผลสมั ฤทธ์ิ ของหลักสตู ร 12 การวจิ ัยเพื่อ ขาดตวั บ่งชีเ้ ชงิ การบริหารสถาน เพอ่ื พฒั นาโมเดล พัฒนาโมเดล ทฤษฎีท่ีมกี าร ศึกษาดา้ นการ ความสมั พนั ธ์เชิง ความสมั พันธเ์ ชิง ทดสอบจากขอ้ มลู กำ�หนดนโยบาย โครงสรา้ งของตวั โครงสร้างของตัว เชงิ ประจักษ์ การกำ�กับติดตาม บง่ ช้ี หรอื พฒั นา บ่งช้ี และการประเมนิ ตวั บ่งชที้ ่เี หมาะสม ผล ไมม่ ีแนวทาง และคดั สรรไว้ใน และทิศทางท่ี โมเดลความสัมพนั ธ์ ชดั เจน เชิงโครงสรา้ งตัว บ่งชี้ และทดสอบ โมเดลด้วยขอ้ มูลเชิง ประจักษ์
Research in Educational Administration • 589 13 การวิจัยเพ่ือพฒั นา ขาดโมเดลสมการ การบริหารสถาน เพอ่ื พัฒนาและ โมเดลสมการ โครงสรา้ งเชงิ ศกึ ษาทีไ่ มม่ ีรูป ทดสอบโมเดล โครงสร้าง (SEM) ทฤษฎใี นการ แบบการบริหารที่ สมการโครงสร้าง บริหารสถานศึกษา ชัดเจน ไม่สามารถ ด้วยขอ้ มูลเชิง ทีไ่ ด้รบั การทดสอบ เชอ่ื มโยงเหตผุ ล ประจักษ์ จากขอ้ มลู เชิง หรอื ความสมั พันธ์ ประจักษ์ ระหวา่ งปจั จยั ตา่ ง ๆ ทีม่ อี ิทธิพลทาง ดา้ นการบริหาร หมายเหต:ุ การต้ังชื่อเรื่องวิจัย มีพื้นฐานมาจาก “ปัญหาการวิจัย” (Research problem) ซึ่งผู้วิจัยต้องก�ำหนดให้ ชัดเจนก่อนตั้งชื่อเรื่อง เมื่อก�ำหนดปัญหาการวิจัยได้ชัดเจนแล้ว จึงเร่ิมต้ังช่ือเรื่อง โดยมีเทคนิคในการต้ังชื่อ เรื่อง คือ ต้องตั้งให้มีถ้อยค�ำหรือค�ำส�ำคัญสอดคล้องกับสาเหตุของปัญหา ไม่ใช่ต้ังให้สอดคล้องกับตัวปัญหา (ผล) โดยตรง ดูตวั อยา่ งการต้ังช่อื เร่อื งโดยใช้ข้อมลู จากลำ� ดับ 2 : การวิจยั เชิงคุณภาพ ขา้ งต้น ดงั น้ี แบบ 1: ตัง้ สอดคลอ้ งกบั สาเหตขุ องปญั หา การพัฒนาการบริหารสถานศึกษาตามหลกั ถูกตอ้ ง ธรรมาภิบาลของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา สงั กดั ไมถ่ กู ตอ้ ง สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน นครปฐม เขต 2 แบบ 2: ต้งั สอดคล้องกบั ปญั หา (ผล) การพฒั นาการประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใส โดยตรง ในการดำ�เนนิ งานของสถานศึกษา สงั กดั สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน นครปฐม เขต 2 การตั้งช่ือเร่ืองวิจัยแบบ 1 เป็นการตั้งช่ือเรื่องวิจัยให้สอดคล้องกับสาเหตุของปัญหาการวิจัย เมื่อได้ ผลการวิจัย (คือ ผลการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล และน�ำผลการวิจัยไปใช้แก้ปัญหา โดยแก้ท่ีสาเหตุของปัญหา คือ “การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา ยังไม่ดี เทา่ ท่ีควร” จงึ จะสามารถแกป้ ญั หาได้ ส่วนการต้ังช่ือเร่ืองวิจัยแบบ 2 เป็นการตั้งช่ือเรื่องวิจัยให้สอดคล้องกับตัวปัญหา คือ “ผลการ ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของสถานศึกษา ได้คะแนนต่�ำกว่ามาตรฐาน ไม่ผ่าน เกณฑ์ประเมิน” โดยตรง เมื่อไดผ้ ลการวิจยั มาแลว้ (คือ ผลการพฒั นาการประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใส ฯ) นำ� ไปใช้แก้ปญั หาการวิจัยไมไ่ ด้ เพราะจะเป็นการแก้ทต่ี วั ปญั หา ซ่งึ มใิ ช่สาเหตแุ ห่งปัญหา ดังนั้น ถา้ จะแก้ปญั หา ต้องแก้ที่สาเหตุแห่งปัญหา เปรียบเหมือนการจะแก้ทุกข์ มิใช่แก้ที่ตัวทุกข์โดยตรง หากแต่ต้องแก้ที่สาเหตุ แห่งทุกข์ คอื สมุทัย (ตัณหา) จงึ จะแกท้ กุ ขไ์ ด้
590 • การวจิ ยั ทางการบรหิ ารการศึกษา คำ�ดัชนี (Index Terms) บทท่ี 1 เย ธมมฺ า 16, 17 แนวคดิ เกีย่ วกับการวจิ ัยเชงิ ปรมิ าณ 11 แนวคิดของ Silver 2 แนวคิดทเี่ กีย่ วขอ้ ง 36 แนวคิดของ Hoy and Miskel 3 แนวคิดพนื้ ฐานของการวจิ ยั เชงิ ปริมาณ 11, 14, 90 แนวปฏบิ ตั ิของสถานศึกษา 2 แนวทางการเขยี นความเปน็ มาและความส�ำคญั ของปัญหา 14, 25, การใชท้ ฤษฎี 2 26, 27, 33 การก�ำหนดขอบขา่ ย 2, 4 แนวทางการเขียนรายงานวธิ ีดำ� เนนิ การวจิ ัย 69 การจูงใจ 2, 3, 10 แบบมาตราหรือแบบประเมนิ คา่ ของลเิ คิร์ท 64 การบรหิ ารการศกึ ษา 1, 2, 3 แบบสอบถามปลายเปดิ 66 การวิจัย 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 แบบใชท้ ฤษฎ ี 59 การวจิ ัยเชิงคณุ ภาพ 5, 6, 7, 9, 10 แบบไม่ใชท้ ฤษฎี 59, 60 การวิจยั เชิงปริมาณ 5, 6, 7, 9, 10 แบบมาตราประมาณคา่ (Rating scale) 67 การวิจัยแบบผสมผสานวิธี 9, 10 แบบสอบถามการปฏบิ ัติ (Questionnaire) 64 การวิจยั ทางการบริหารการศึกษา 1, 2, 3, 4, 5, 10 แบบสอบถามความคดิ เหน็ (Opinionnaire) 65 ขอบขา่ ย 1, 2, 3, 4, 5 แบบสอบถามปลายปดิ (Close-ended Questionnaire) 64 ขอบขา่ ยของการวิจัยทางการบรหิ ารการศกึ ษา 1, 2, 5 แบบสงั เกตท่ไี ดก้ �ำหนดโครงสรา้ งการสงั เกต 67 ความหมายของการวิจัยทางการบริหารการศกึ ษา 1 แบบสังเกตที่ไมไ่ ดก้ ำ� หนดโครงสรา้ งการสังเกต 67 งานวจิ ยั เกย่ี วกบั การจูงใจ 3 โครงสร้างการเขยี นข้อเสนอแนะ 87 งานวจิ ัยเกยี่ วกับบรรยากาศองคก์ าร 3 โครงสรา้ งการเขยี นสรุปผลการวจิ ัย 85 งานวิจยั เกีย่ วกับบคุ คลในองคก์ าร 3 โครงสร้างการเขียนอภิปรายผลการวจิ ัย 86 งานวิจยั เกี่ยวกบั ภาวะผนู้ ำ� 3 กรณีตวั อย่างงานวจิ ัยเชงิ ปรมิ าณ 11, 88 งานวจิ ยั เก่ียวกับองคก์ าร 3 กรอบแนวคิดการวจิ ยั 14, 23, 24, 28, 30, 33, 90 งานวจิ ัยเกีย่ วกบั อ�ำนาจ 3 กรอบแนวคิดการวจิ ยั (Conceptual framework) 23 ภาวะผู้นำ� 2, 3, 4, 10 กรอบทฤษฎ ี 23, 60 มติ ิกระบวนการบริหาร 4, 5 กล่าวหาวิจยั 15 มิตภิ ารกิจในการบริหาร 4 กลุ่มตัวอย่าง (Sample 61 มิตริ ะดับการศึกษา 4, 5 การเลอื กแบบลกู โซ่ 48, 49 ลกั ษณะ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 9, 10 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 37, 38, 44, 50, 55, 63, 70, 71, 81, 91 ลักษณะของการวิจัยทางการบรหิ ารการศกึ ษา 1, 2 การเลอื กเทคนิควธิ ีการสุม่ 49, 50 องคก์ าร 1, 2, 3, 4, 10 การเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) 47 การเลอื กแบบโควตา (Quota sampling) 47 การเลือกแบบบังเอิญ (Accidental sampling) 47 บทที่ 2 การเลือกใชส้ ถิตเิ ชิงอ้างอิง (Inferential statistics) 57 การแปลความหมาย 68, 74 เครื่องมือและการสร้างเคร่ืองมอื 61 การแปลผล (Interpretation) 72 เชิงนเิ สธ (Negative) 66 การใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) 64 เชงิ นมิ าน (Positive) 66 การใช้หลกั เกณฑใ์ นการสุ่มตวั อยา่ งทีด่ ี 39, 49 เปรยี บเทยี บแบบการสมุ่ ตวั อยา่ งโดยอาศยั หลกั ความนา่ จะเปน็ 46 การกำ� หนดเรอ่ื งเพอ่ื การท�ำวจิ ัย 14, 18, 33, 90
Research in Educational Administration • 591 การก�ำหนดตวั แปรในการวิจยั 50 การออกแบบการวิจยั 37, 70, 71, 75, 84, 91 การก�ำหนดปัญหาการวิจัย 14, 15, 16, 33, 90 การออกแบบการวจิ ัย (Research Design) 37 การก�ำหนดวิธีการสุ่ม 39 การออกแบบการสมุ่ ตัวอยา่ ง (Sampling Design) 39 การควบคมุ ตัวแปรแทรกซอ้ น (Extraneous Variable Control) 56 การออกแบบตาราง 72, 82, 91 การจัดการแบบส่มุ หรือการสุ่ม (Randomization) 56 ขนาดกลุม่ ตวั อย่าง (Sample size) 61 การจดั ทำ� กรอบการสมุ่ หรอื กรอบตวั อย่าง (Sampling frame) 39 ขนาดของกลมุ่ ตัวอย่าง (Sample size) 49 การจัดบล็อก (Blocking) 57 ข้อความทางบวก 66 การจับคู่ (Matching) 56 ขอ้ ความทางลบ 66 การต้ังชอ่ื เร่อื งวิจัย 14, 18, 19, 33, 90 ขอบเขตของการวจิ ัย (Scope of Research) 24 การทบทวนวรรณกรรมท่ีเก่ียวข้อง 11, 33, 35, 36, 90 ขอ้ มูลสารสนเทศ 11 การน�ำเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู 72, 75, 82, 91 ขน้ั ตอนการวิจัย 23, 37, 70, 71, 91 การนำ� เสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ตามลำ� ดบั 72,75 ขั้นตอนการวจิ ัย (Steps of Research) 37 การระบปุ ระเภทและแบบการวิจัย 37, 38 ควบคมุ ดว้ ยวธิ กี ารทางสถติ ิ 57 การวดั ตวั แปร 39, 50, 53, 55 ความเปน็ ตัวแทน (Representative) 61 การวิเคราะห์เชงิ เนอื้ หา (Content analysis) 57 ความเป็นมาและความสำ� คญั ของปญั หา 14, 20, 25, 26, 27, การวเิ คราะห์แบบอุปนยั 59 28, 30, 33, 90 การวเิ คราะหโ์ ดยการเปรียบเทียบขอ้ มูล (Constant Comparison) 60 ความเปน็ มาของปญั หาการวิจัย 20, 26, 28, 30 การวเิ คราะห์โดยการจ�ำแนกชนิดข้อมูล (Typological analysis) 59 ความตรงเชิงเน้ือหา (Content validity) 24, 25, 62, 71, 84 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 11, 37, 39, 57, 58, 59, 68, 69, 71, 72, 73, 74, ค�ำถามที่ผู้วิจยั ตอ้ งตอบ 14, 27, 33, 90 75, 77, 78, 79, 80, 82, 83, 85, 91 ความสำ� คญั ของปญั หาการวิจยั (Significance of Research Problem) 21 การวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงคณุ ภาพ (Qualitative data analysis) 57 ความหมายของการทบทวนวรรณกรรม 33, 34, 36, 90 การวิเคราะหข์ อ้ มูลเชงิ ปริมาณ (Quantitative data analysis) 57 ความหมายของการวิจัยเชงิ ปริมาณ 11, 12, 13, 14, 90 การวเิ คราะหข์ ้อมลู แบบสรา้ งข้อสรปุ 59 คา่ ความเทยี่ งหรอื ความเช่อื ถือได้ (Reliability) 63 การวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงส�ำรวจ 78, 79 คำ� ถามการวิจยั (Research Questions) 22 การวิจยั 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง 21, 26, 29, 33, 35, 36, 61, 83 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38, 39, 47, 49, 50, 51, จุดเนน้ ในการทบทวนวรรณกรรม 33, 35, 36, 90 58, 59, 60, 61, 63, 64, 68, 69, 70, 71, 72, 73, 74, 75, 76, 79, 82, 83, ช่ือเรื่องและบทน�ำ 11, 14, 33, 90 84, 85, 86, 87, 88, 89, 90, 91 ตัณหาวิจยั 15, 16 การวจิ ัยเชงิ ปริมาณ 11, 12, 13, 14, 33, 36, 38, 82, 88, 90 ตัวแปรแทรกซ้อน (Extraneous variable) 51 การสังเกต (Observation) 66 ตัวแปรลกั ษณะ 53 การสงั เกตแบบไม่มีส่วนรว่ ม (Non-participant observation) 67 ตัวแปรแฝง (Latent variable) 35, 52 การสงั เกตแบบมสี ว่ นร่วม (Participant observation) 67 ตวั แปรไม่ตอ่ เนื่อง (Discrete variable) 52 การสัมภาษณ์ (Interview) 63 ตวั แปรกดดัน (Suppressive variable) 52 การสมั ภาษณแ์ บบไม่มโี ครงสร้าง (Unstructured interview) 63 ตวั แปรตอ่ เนอื่ ง (Continuous variable) 52 การสัมภาษณ์แบบมีโครงสรา้ ง (Structured interview) 63 ตวั แปรตาม (Dependent variable : DV) 51 การสุ่มแบบหลายข้ันตอน 44, 47, 48 ตวั แปรทก่ี �ำหนดได้ (Active variable) 52 การสุม่ แบบเปน็ ระบบ (Systematic random sampling) 43 ตัวแปรสอดแทรก (Intervening variable) 51 การสุ่มแบบกลุม่ (Cluster sampling) 44 ตัวแปรสงั เกตได้ (Observed variable) 52 การสุ่มแบบชั้นภมู ิ (Stratified random sampling) 43 ตัวแปรอสิ ระ (Independent variable) 51 การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบไม่อาศยั ความนา่ จะเปน็ 39, 47, 50 ตัวอยา่ ง 2 (ตัวอยา่ งเต็มรปู แบบ) 29 การสุ่มตวั อย่างแบบอาศยั ความน่าจะเป็น (Probability sampling) 38, 39, 50 ตวั อยา่ งการเขยี นความเปน็ มาและความส�ำคญั ของปญั หา 14, 27 การสมุ่ อย่างงา่ ย (Simple random sampling) 39, 50 ตวั อย่างการต้งั ชื่อเรอื่ งวิจัย 19 การออกแบบแนวทางการวจิ ัย 37, 39 ตวั อยา่ งชือ่ เร่อื ง 20 การออกแบบการวัดตวั แปร (Measurement Design) 39, 50 ตัวอย่างปัญหาและการวิเคราะหส์ าเหต ุ 20 การออกแบบการวเิ คราะหข์ อ้ มลู (Analysis Design) 57 ตวั อยา่ งปัญหาการวิจยั 14, 18, 33, 90
592 • การวจิ ยั ทางการบรหิ ารการศกึ ษา ทฤษฎีทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 36 บทท่ี 3 นงลกั ษณ์ วริ ชั ชยั 12, 34, 48 นยั สำ� คัญทางสถติ ิ 39, 73, 74, 78, 82 นยิ ามเชงิ ทฤษฎีหรอื นิยามเชิงแนวคดิ หรือนิยามองคป์ ระกอบ 55 กรณีตัวอย่างงานวิจยั เชิงคณุ ภาพ 93, 163 กรอบแนวคิดการวจิ ัย 153, 165 นิยามเชิงปฏิบตั กิ าร 24, 25, 55, 56, 62, 71 กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล 119, 120, 121 นิยามศัพทเ์ ชิงปฏบิ ัตกิ าร 24 นยิ ามศัพท์ตามทฤษฎ ี 24 กระบวนการทส่ี ำ� คญั ของระเบยี บวธิ วี จิ ยั เชงิ คณุ ภาพ 93, 114, 150, 154 กระบวนการวจิ ยั เชิงคณุ ภาพในการบรหิ ารการศกึ ษา 93, 151 นริ นัย 13, 14 กระบวนทัศน์ 111 บริบทของพ้นื ทท่ี ศี่ กึ ษา 36 บญุ ใจ ศรีสถิตยน์ รากรู 34, 35, 37, 39, 61, 82 กลุม่ ตวั อยา่ งทย่ี ึดวตั ถุประสงค ์ 100, 102 กายภาพมานุษยวทิ ยา 98 ปฏิฐานนิยม 11, 12, 13 การกระทำ� 101, 110, 121, 122, 144, 161, 164 ประเภทของตัวแปร 51 ประโยชน์ของการทบทวนวรรณกรรม 33, 34, 35, 36, 90 การกำ� หนดกรอบแนวคดิ ทฤษฎ ี 94, 152, 155, 167 การกำ� หนดปัญหาการวิจัย 94, 151, 155 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ (Expected results) 25 การก�ำหนดสนามหรอื บุคคลทจ่ี ะเก็บข้อมูล 128 ประชากร (Population) 60, 61 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 37, 60, 61, 70, 71, 85, 91 การเก็บข้อมลู เชงิ คุณภาพ 94, 100, 101, 102, 103, 104, 105, 107, 109, 114, 117, 119, 120, 121, 123, 128, 141, 142, 143, 145, 150, ประชากรที่มจี �ำนวนไม่จ�ำกัด (Infinite population) 61 151, 152, 154, 155, 158, 163, 164, 165, 167 ประชากรที่มจี ำ� นวนจ�ำกดั (Finite population) 60 ปรญิ ญากิจ 16 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 120 การเก็บรกั ษาขอ้ มลู 120 ปัญหาการวจิ ยั (Research Problem) 14, 20 การแกป้ ญั หาทีเ่ กิดขึน้ ในสนาม 120 ปัญหาการวจิ ยั อย่ทู ่ีไหน 14, 15, 33, 90 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 11, 72, 75, 77, 78, 79, 80, 82, 83, 91 การเข้าถงึ สนามและการสรา้ งสมั พนั ธภาพ 149 การเขียนรายงานการวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ 93,155 มาตราอันตรภาค 54, 55 การควบคมุ 96, 97, 113, 114, 166 มาตรานามบัญญัติ (Nominal scale) 53 มาตราอัตราสว่ น (Ratio scale) 54, 77 การจดหรอื เขยี นของนักวิจยั 113, 114, 166 การจัดคนเขา้ กลุ่มและการต้ังเกณฑ ์ 134, 157 มาตราอนั ดับ (Ordinal scale) 53 การจัดทำ� ข้อสรุปชวั่ คราว 147 ระเบียบวิธวี ิจยั (Research Methodology) 37 ระดับมาตรวดั ตวั แปร (Levels of measurement) 50, 53 การจดั ท�ำขอ้ สรปุ ช่ัวคราวในรปู ประโยคหรอื ขอ้ ความส้นั ๆ 147 การใชข้ ้อมูลเอกสาร 94, 137 ลกั ษณะสำ� คัญของการวิจยั เชิงปริมาณ 11, 13, 14 การใช้ผเู้ กบ็ ข้อมลู ท่ตี า่ งกัน 142 วรรณกรรม (Literature) 34 วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย (Research objectives) 21 การใช้วธิ กี ารรวบรวมข้อมูลหลายวิธี 142 การใชว้ ธิ ีการหลายวธิ ี 142 วธิ ีดำ� เนนิ การวิจัย 11, 34, 37, 69, 70, 71, 74, 85, 88, 91 การดำ� เนนิ การสนทนากลมุ่ 128, 136 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 11, 72, 75, 77, 78, 79, 80, 82, 83, 91 สมมติฐานการวจิ ัย (Research hypothesis) 22, 84 การตรวจสอบข้อมูล 139, 142, 165 การตรวจสอบข้อมูลด้วยวิธีการอืน่ 142 หลกั เกณฑ์การตงั้ ชอ่ื เร่อื งวิจยั 14, 18, 19, 33, 90 การตรวจสอบดว้ ยทฤษฎีทีต่ า่ งกนั 142 หลักเกณฑก์ ารตง้ั ช่ือเรอ่ื งวิจัยแบบ VPAT 18, 19 หลกั เกณฑก์ ารตง้ั ช่ือเรอ่ื งวจิ ัยท่ัวไป 18 การตรวจสอบแบบสามเสา้ 107, 108, 125, 134, 135, 142, 153, 157, 165 การตีความของนักวิจยั 113, 114,,166 หลกั การแปลผล 73, 74 การเตรียมการสนทนากลุม่ 135 หลักการแปลผลการทดสอบคา่ ท ี (t-test) 74 หลกั การแปลผลความสัมพนั ธ์ 74 การทำ� ดัชนขี ้อมลู 142, 143, 145, 147 การทำ� นาย 96, 97 หลกั การแปลผลค่าเฉล่ีย 73 การเน้นแบบองค์รวม 108, 113, 166 หลกั การแปลผลคา่ รอ้ ยละ 73 หลักการแปลผลจากการวิเคราะห์ขอ้ มลู ดว้ ยสถติ เิ ชงิ บรรยาย 73 การบันทกึ ข้อมูล 120, 123 การบันทกึ ยอ่ 123 หลักการแปลผลจากการวิเคราะหข์ ้อมลู ด้วยสถิตเิ ชงิ สถิติอา้ งอิง 74 การบนั ทกึ สิ่งที่ได้จากการสงั เกต 123 อนมุ าน 13, 14, 71 การเป็นตัวแทน 139, 140
Research in Educational Administration • 593 การเปรียบเทียบการวจิ ยั เชงิ คุณภาพกับการวิจยั เชงิ ปริมาณ 93, 108, 166 การสมั ภาษณก์ ลุ่ม 121,129 การพรรณนา 96, 97, 99, 102, 106, 107, 141 การสัมภาษณเ์ ชงิ ลกึ 100, 101, 105, 109, 112, 115, 116, 121, 124, การมสี ว่ นร่วม 122, 123, 131, 152, 164 125, 130, 158 การลดทอนข้อมูล 165 การสัมภาษณแ์ บบก่งึ โครงสร้าง 124 การเลือกกรณีที่มคี วามแตกตา่ งสูง 118 การสัมภาษณ์แบบเปิดกวา้ งไม่จ�ำกัดค�ำตอบ 124 การเลอื กกรณที ม่ี ีความเบี่ยงเบนผดิ ปกติ 118 การสมั ภาษณแ์ บบมีโครงสร้าง 124 การเลอื กกรณที มี่ ีลักษณะ 118 การสัมภาษณแ์ บบไมม่ โี ครงสร้าง 124 การเลือกกรณที ีม่ ลี กั ษณะเฉพาะ 118 การสัมมนากลมุ่ อิงผเู้ ชีย่ วชาญ 129 การเลอื กกรณแี บบลกู โซห่ รือแบบเครือข่าย 118 การสุ่มตวั อยา่ งใหม้ คี วามเป็นตวั แทนทด่ี ี 110 การเลอื กกรณีแบบองิ ทฤษฎี 118 การใหค้ วามหมายของการกระท�ำ 112 การเลือกกรณีวกิ ฤติ 118 การอธบิ าย 96, 97, 106, 137, 151, 164 การเลือกกลุม่ ทง้ั หมด 117 การออกแบบการวจิ ยั 100, 102, 104, 114, 115, 116, 150, 151, การเลอื กแบบเจาะจง 117, 120, 157 156, 160, 162, 167 การเลอื กสนามหรือกลมุ่ เปา้ หมายทศี่ กึ ษา 114, 117, 150, 154, 167 การอ่ิมตัวของขอ้ มูล 100, 102, 104, 114, 115, 116, 150, 151, การวางแผนอยา่ งรอบคอบ 128 156, 160, 162, 167 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 94, 96, 102, 105, 114, 120, 123, 130, 138, 140, ก�ำเนดิ การวิจยั เชงิ คณุ ภาพ 98 141, 142, 143, 144, 151, 152, 154, 155, 158, 160, 161, 162, 165, 167 กำ� หนดคำ� ถาม 126, 135 การวเิ คราะหเ์ นื้อหา 154 ก�ำหนดผรู้ ่วมสนทนากล่มุ 135 การวจิ ัยเชงิ คณุ ภาพ 93,94,95,96,97,98,99,100,101,102,103,104, กำ� หนดเรอ่ื งที่จะศึกษา 135 105,107,108,109,110,111,112,113,114,115,116,117,119,120,121, กจิ กรรม 94, 106, 117, 120, 121, 122, 123, 148, 137,140,141,142,143,150,151,152,153,154,155,156,157,158,159, 154, 157, 164, 165, 166 160,161,162,163,164,165,166,167 เกณฑค์ ัดเลือก 134, 157 การวิจัยเชงิ คุณภาพพน้ื ฐาน 94, 103, 140, 141, 151, 155, 167 เกณฑใ์ นการเลือกเอกสาร 137, 139 การวจิ ยั เชงิ ประวัตศิ าสตร ์ 103 เก็บรวบรวมข้อมูล 94, 95, 100, 101, 102, 103, 104, 105, การวจิ ัยแบบชาตพิ นั ธุว์ รรณนา 94, 103, 106, 115, 116, 141 107, 109, 114 การวิจยั แบบทฤษฎีฐานราก 94, 103, 105, 106, 141 เก็บรวบรวมข้อมลู ในสภาพธรรมชาติ 100 การวิจัยแบบปรากฏการณ์วทิ ยา 94, 103, 104, 105, 141 ขอ้ ควรค�ำนึงถึงในการวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ 93, 160, 163, 167 การวจิ ัยแบบเลา่ เร่อื ง 103 ของกำ� นลั หรอื ของทร่ี ะลึก 136 การศึกษาจากเอกสาร 121, 137, 154 ขอ้ มลู ต้องมคี ณุ ภาพ 107, 108 การศกึ ษาเฉพาะกรณี 94, 102, 103, 104, 141, 151 ขั้นด�ำเนินการสมั ภาษณ ์ 126 การศึกษาประเดน็ การวจิ ัย 94, 151, 155, 167 ขั้นตอนการสมั ภาษณ ์ 125 การสนทนากลมุ่ 94, 97, 100, 101, 103, 109, 112, 113, 115, 120, เข้าไปเกบ็ ขอ้ มลู ได้ 117 121, 125, 128, 129, 130, 131, 132, 133, 135, 136, 137, 141, 143, ความจริง 95, 99, 105, 108, 110, 111, 112, 114, 115, 145, 147, 154, 157, 158, 164, 165 119, 139, 142, 150, 152, 153, 157, 159 การสนทนากล่มุ แบบเจาะจง 97, 100, 109, 112, 113, 115, ความถูกตอ้ งนา่ เช่ือถอื 139 121, 125, 129, 130, 131, 132, 133, 157 “ความน่งิ ” ของข้อมูล 134 การสนทนากลุ่มย่อย 97, 100, 109, 113, 115, 121, 129, 130, 131 ความเป็นตัวแทน 100, 109, 110, 111, 123, 140 การสรา้ งบทสรปุ 148 ความยดื หยุ่น 100, 102, 109, 113, 114, 124, 166, 167 การสังเกต 94, 97, 101, 103, 105, 113, 119, 120, 121, 122, 123, ความยดื หยนุ่ ในการออกแบบการวจิ ัย 100,102 125, 140, 141, 142, 143, 152, 161, 162, 164, 165 ความรุ่งเรือง 96 การสังเกตแบบมสี ว่ นรว่ ม 94, 101, 113, 119, 121, 164 ความศิวไิ ลซ์ 96 การสังเกตแบบไม่มสี ว่ นรว่ ม 121 ความสัมพนั ธ์ 94, 101, 102, 104, 108, 109, 110, 120, การสมั ภาษณ ์ 93, 94, 97, 100, 101, 103, 105, 107, 109, 122, 147, 158, 160, 162, 164 112, 115, 116, 118, 119, 120, 121, 122, 123, 124, 125, 126, 127, ความสัมพนั ธเ์ ชงิ เหตุและผล 109, 110 129,130, 131, 140, 141, 143, 154, 158, 161, 162, 164, 165 ความสมั พันธ์ระหวา่ งผรู้ ูก้ ับส่งิ ทถี่ ูกรู้ 109
594 • การวิจยั ทางการบริหารการศกึ ษา ความหมาย 93, 94, 95, 96, 101, 102, 104, 105, 108, 112, 113, ประเภท 93, 94, 97, 101, 103, 104, 107, 113, 121, 123, 126, 128, 114, 119, 121, 122, 123, 128, 131, 135, 138, 139, 140, 141, 142, 143, 129, 137, 138, 139, 140, 142, 149, 166 144, 145, 147, 151, 154, 164, 166, 167 ปรชั ญา 93, 94, 95, 98, 104, 108, 111, 112, 113, 151, 153, 154, 166 คา่ นยิ มกับการวจิ ยั 108, 110 ปรบั ปรงุ บญั ชีดชั น ี 144, 145 เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการสังเกต 123 ปรากฏการณ์นิยม 95, 104 จรยิ ธรรมในการวิจยั เชิงคณุ ภาพ 94, 160, 161, 163, 167 ปรากฏการณ์วทิ ยา 94, 95, 103, 104, 105, 107, 111, 141 จัดทำ� ค�ำจำ� กัดความของดัชนแี ต่ละตวั 145 ปรากฏการณห์ รือเรอ่ื ง 114, 115 จดั ระบบหมวดหมแู่ ละระบบคำ� ถาม 135 ผรู้ จู้ ริงหรือผรู้ ้หู ลัก 125 ชาติพนั ธุ์ 94, 98, 103, 107, 109, 115, 116, 141 ผ้ใู หข้ อ้ มูลสำ� คญั 114, 117, 118, 150, 154, 157, 160, 167 ชีวภาพมานษุ ยวทิ ยา 98 พัฒนาการ 93, 97, 98, 113, 160 เชื่อในหลักการปรากฏการณ์วทิ ยา 107 เพม่ิ หรอื ตัดคำ� ในบัญชีดัชน ี 144 ใช้ข้อมูลเชิงคณุ ภาพเปน็ หลัก 102, 103 ภววิทยา 111 ใชต้ รรกะแบบอุปนยั เปน็ หลัก 101 ภาพวาด 119,138 ใชว้ ธิ ีการเชิงคุณภาพในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล 101, 102 มหาทฤษฎ ี 95 ใชห้ ลกั การคน้ หาความรทู้ เี่ ปน็ จรงิ จากแหลง่ รากเหงา้ ของขอ้ มลู 107 มาตราประมาณคา่ 123 ญาณวทิ ยา 111, 112 ไมใ่ หญ่เกนิ ไป 117 เตรียมความพรอ้ มของทีมงาน 135 ระบบคิดของการวิจยั เชิงคณุ ภาพ 93,111,113 ทฤษฎีขนาดใหญ่ 95 ระเบียบวิธวี ิจยั เชิงคุณภาพ 93, 113, 114, 150, 154, 166, 167 ทฤษฎีฐานราก 94, 95, 103, 105, 106, 107, 141 ระยะเวลาในการสนทนากลุ่ม 136 ทฤษฎมี หภาค 95 รังสรรค์วทิ ยา 93, 95, 107, 108, 113, 135, 166 ทฤษฎวี ิพากษ ์ 95,96 รูปภาพ 93,96,100,102,119 ทฤษฎหี ลกั 95,105 เรือ่ งเกย่ี วกับกระบวนการซ่งึ มีความเป็นพลวัต 152 ทฤษฎีใหญ ่ 95 เรื่องของคณุ คา่ ค่านยิ ม หรือวัฒนธรรม 152 ท�ำดัชนกี อ่ นเก็บขอ้ มลู 143, 145 เรอื่ งท่เี กย่ี วข้องกบั ความร้สู ึกและจิตใจ 152 ทำ� ดัชนีในบันทึกภาคสนาม 145 เรอ่ื งท่เี กี่ยวขอ้ งกบั บรบิ ทหรอื สิ่งแวดล้อม 152 ทำ� ไมและเมอื่ ใดควรใชก้ ารวจิ ยั เชิงคุณภาพ 93, 112, 113 เรือ่ งที่มคี วามเปน็ นามธรรมสูง 151 ธรรมชาติของความเปน็ จริงหรอื ความร้ ู 108 เรื่องเลา่ 115,119 นฤมิตนยิ ม 95, 108 ลกั ษณะ 93, 95, 98, 100, 101, 102, 103, 104, 105, 106, 107, นฤมิตนยิ มและนยั นยิ ม 95 108, 110, 113, 118, 119, 120, 122, 124, 125, 126, 128, 129, 131, นวยุคนิยม 95, 96 132, 135, 139, 141, 142, 147, 149, 151, 152, 154, 160, 161, 163, นกั วิจยั เชิงคุณภาพที่เปน็ Armchair scholars 99 165, 166 นกั วจิ ยั ติดตอ่ โดยตรงกับกลมุ่ เป้าหมายในการวิจยั 102 วงการสนทนากลุ่มแบบเจาะจง 133 นักวิจัยเปน็ เครือ่ งมอื ทสี่ ำ� คัญทส่ี ดุ 100, 102 วัฒนธรรมมานษุ ยวิทยา 98 นัยนิยม 95 วตั ถุประสงค ์ 93, 96, 100, 102, 104, 105, 111, 113, 123, 124, 126, เนน้ การทำ� ความเขา้ ใจแบบองคร์ วม 101,103,106 145, 152, 155, 157, 159, 160, 163, 164, 165, 166, 167 เนน้ การพรรณนา 99,102,107 วัตถหุ รือสงิ่ ของ 119, 120 เน้นรู้จรงิ รู้ลึกแบบองคร์ วมทกุ มิติ 107,108 วธิ กี ารคน้ หาความร้ทู างการวจิ ัย 119, 120 เนน้ หลักการรังสรรค์วิทยา 107 วิธกี ารอนมุ าน 99 แนวคดิ เก่ียวกบั การวิจัยเชิงคณุ ภาพ 93,113,166 วิธกี ารออกแบบการวิจัย 114, 115 แนวคดิ หลังนวยุคนยิ ม 95,96 วธิ วี ิทยา 104, 108, 109 ,140 บันทกึ ภาคสนาม 93,94,123,145,161,165 วธิ อี ปุ มาน 99 แบบปีรามิด 153 ศึกษาโดยใชก้ ลมุ่ ขนาดเลก็ เพ่อื รายงานผลการวิจยั 101 แบบสำ� รวจรายการสงั เกต 123 สถานทที่ จ่ี ดั สนทนากลุ่ม 136 แบบองคร์ วม 93, 101, 103, 106, 107, 108, 111, 112, 113, 166 สนามหรือกลมุ่ เป้าหมายทตี่ อบปญั หาการวิจยั ได ้ 117 ปฏฐิ านนิยม 95 สภาพสังคมหรือสถานท ี่ 122
Research in Educational Administration • 595 สะท้อนความเปน็ ตวั ตนของนกั วิจยั 101, 103 กระบวนทัศน์หลากหลายรว่ มกนั 172 สังคมอุตสาหกรรม 96 การเก็บรวบรวมข้อมลู เชิงปรมิ าณและเชิงคณุ ภาพ 184, 195 สามัญการ 102, 108, 110 การเขียนรายงาน 185,195 หลกั การในการสงั เกต 121 การเสรมิ ให้สมบรู ณ์หรอื เตมิ ใหเ้ ตม็ 171 หลักตรรกะวิทยา 110 การใหเ้ หตผุ ลในการเลอื กใชก้ ารวจิ ยั แบบผสมผสานวธิ ี 184, 185, 195 หัวใจของการวจิ ยั เชิงคุณภาพ 93, 158, 166 การกำ� หนดยุทธศาสตร์ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 184, 195 แหลง่ ขอ้ มูลทีเ่ ป็นปฐมภูมิ 98 การขยาย 171 แหลง่ ข้อมูลเอกสาร 93, 138 การตรวจสอบแบบสามเส้า 171 ให้ความส�ำคัญต่อการศกึ ษาเฉพาะกรณี 102, 103 การตรวจสอบขอ้ ค้นพบ 176 ใหค้ วามส�ำคญั ตอ่ บรบิ ทของสิง่ ทีศ่ ึกษา 102, 103 การผนวกเชิงทฤษฏ ี 176 ให้ความสำ� คัญต่อพลวัตของส่ิงทศ่ี ึกษา 102, 103 การพัฒนา 171, 176, 177, 184, 185, 192, 193, 195 อกั ษร 98, 99, 119, 120, 131, 137, 138, 140 การพฒั นาคำ� ถามการวจิ ัย 184, 185, 195 อุปกรณ์สำ� หรบั บนั ทกึ การสนทนากลมุ่ 136 การพจิ ารณาวา่ การวจิ ยั แบบผสมผสานวธิ สี ามารถใชไ้ ด ้ 184, 185, 195 อปุ นยั 94, 95, 101, 102, 105, 107, 141, 152, 161, 165 การรเิ รมิ่ 171 เอกสารชน้ั ตน้ หรอื ปฐมภูมิ 138 การวิเคราะห์ข้อมลู แบบแยกจากกนั หรือไปพร้อม ๆ กัน 183 เอกสารชั้นรองหรอื ทตุ ิยภูมิ 138 การวิจัยแบบผสมผสานวิธี 169, 170, 171, 172, 173, 174, 175, เอกสารสว่ นบุคคล 139 176, 177, 178, 179, 180, 181, 182, 183, 184, 185, 191, 194, 195 เอกสารสาธารณะ 139 ขนาดของหนว่ ย 183, 194 ข้อจ�ำกดั ของการวิจัยแบบผสมผสานวิธ ี 169 ข้นั ตอนการวิจัยแบบผสมผสานวธิ ี 169, 184 บทที่ 4 ความเช่อื ถือได ้ 181 ความเปลี่ยนแปลง 169 1 แบบคู่ขนาน 173, 174 ความเหมาะสมเขา้ กนั ได ้ 181 4 แบบฝังตัวอยภู่ ายใน 178 ความตรงเชงิ บูรณาการ 182 เนน้ ความรูท้ เ่ี ป็นโครงสรา้ งตามทฤษฎี 176 ความตรงเชงิ สงั คม-การเมอื ง 182 เนน้ ความหลากหลาย 172 ความตรงในการเช่ือมโยงกลุ่มตัวอย่าง 182 แนวคดิ เกย่ี วกับการวิจัยแบบผสมผสานวิธ ี 169 ความตรงในการแปลงข้อมลู 182 แนวคดิ พหนุ ยิ ม 169 ความตรงในการลดจุดอ่อน 182 แบบเปล่ียนแปลง 179, 194 ความตรงในการอธบิ ายปรากฏการณ ์ 182 แบบการวจิ ยั แบบผสมผสานวิธ ี 169, 173, 174, 175, 177, 178, ความตรงขา้ งใน-ข้างนอก 181, 195 179, 180, 183, 184, 185, 194, 195 ความตรงตามล�ำดับ 182 แบบคขู่ นาน 173, 174, 185, 194 ความตรงทางกระบวนทศั น/์ ปรชั ญา 182, 195 แบบฝงั ตวั อย่ภู ายใน 178, 190, 194 ความตรงพห ุ 181, 182 แบบส�ำรวจบกุ เบิกตามลำ� ดับ 176, 177, 188, 194 ความตรงภายใน 181 แบบหลายขน้ั ตอน 179, 180, 191, 194 ความตรงภายนอก 181 แบบอธิบายตามลำ� ดับ 174, 175, 176, 177, 187, 194 ความสำ� คัญของการวิจัยแบบผสมผสานวิธ ี 169, 173, 194 ใช้วิธีการวจิ ัยแบบผสมผสานวธิ ีตามสมยั นยิ ม 180 ความหมายของการวิจัยแบบผสมผสานวธิ ี 169 ใช้วิธีรวบรวมขอ้ มูลหลาย ๆ วธิ ี 172 ชว่ งเวลา 183, 184, 195 ในการคน้ หาปรากฏการณห์ รอื หลกั ฐานทีซ่ อ่ นเร้น 183 ต้องใชเ้ วลาและทรัพยากร 180 ไตรลกั ษณ ์ 169 ตอ้ งมคี วามร้แู ละประสบการณ ์ 180 กรณใี หค้ วามสําคัญกับวธิ ีวิจยั เชิงปริมาณเป็นวิธีการรอง 176 นกั ปฏิบตั ินิยม 169 กรณใี หค้ วามสําคัญกบั วธิ วี จิ ยั เชิงปริมาณเปน็ วิธกี ารหลัก 175 น�้ำหนกั 174, 175, 176, 177, 178, 179, 183, 184, 194 กรณีตวั อย่างงานวิจัยแบบผสมผสานวิธ ี 169 ปฏฐิ านนยิ ม 170 กรณที ต่ี อ้ งการค้นหาตัวแปรใหม่ ๆ 176, 177, 188 ปฏสิ ัมพันธ์ 183, 184, 195 กรณีทตี่ อ้ งการพฒั นาแนวคดิ และ/หรอื ทฤษฎ ี 176, 177 ปรชั ญาปฏิบัตนิ ยิ ม 169
596 • การวจิ ยั ทางการบรหิ ารการศึกษา ปรากฏการณ์นิยม 170, 176 การวจิ ัยสถาบันในลกั ษณะเป็นวิจยั ประเมินโครงการ 201 ผสมผสานข้อมูลทัง้ เชิงปริมาณและเชิงคณุ ภาพ 172 การวจิ ยั สถาบนั ในลกั ษณะเป็นวจิ ยั ประยุกต์ 201 พหวุ ธิ ใี นการศกึ ษา 169 การวิจยั สถาบนั ในลกั ษณะเป็นวจิ ัยพน้ื ฐาน 201 ภววทิ ยา 170 การวจิ ัยสถาบันตามธรรมชาติของการทำ� หนา้ ที่ของการวจิ ยั 201, ยดึ ค�ำถามหรือปญั หาการวจิ ยั เป็นหลกั 172 203, 216 ลักษณะการผสมผสาน 184,195 การวิจยั สถาบนั ตามวัตถุประสงค์และบทบาทของการวิจัย 202, ลกั ษณะสำ� คญั ของการวจิ ัยแบบผสมผสานวธิ ี 169, 172, 194 203, 216 ลักษณะสำ� คญั หรือจุดเนน้ ของการวิจยั แบบผสมผสานวธิ ี 172 การวิจัยสถาบนั ทีเ่ ป็นวธิ กี ารวิทยาศาสตร ์ 201, 203, 216 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัยแบบผสมผสานวิธี 169, 171 ความหมายของการวิจยั สถาบนั 197, 198 วธิ ีเก็บรวบรวมและวิธวี เิ คราะห์ข้อมลู 172, 173 คณุ ค่าของการวจิ ยั สถาบันกับการบรหิ ารการศกึ ษา 200 วิธวี ิทยาทงั้ เชิงปรมิ าณและเชงิ คุณภาพ 169, 170 คุณค่าของการวิจยั สถาบันกบั การประกันคุณภาพการศึกษา 200 วิวฒั นาการของการวิจัยแบบผสมผสานวธิ ี 169, 171 คุณค่าของการวจิ ัยสถาบนั กับการพฒั นาการเรยี นร้ ู 200 สัญนิยมและนยั นิยม 170 คุณคา่ ของการวจิ ัยสถาบนั 197, 199, 200 หน่วยพ้นื ทีท่ ี่ศึกษา 169, 183, 194 ประเภทของการวิจัยสถาบนั 197, 201, 216 หรือธรรมชาติของความจรงิ (Ontology) และญาณวทิ ยา 170 ประวตั คิ วามเปน็ มาของการวิจยั สถาบนั 197, 198 หลักในการเลือกแบบการวิจัยแบบผสมผสานวธิ ี 169, 183 ประสบการณ์สว่ นตน 203 หากเปน็ โรงเรียนตอ้ ง 30 โรง 183 ปัญหาการวิจยั 203 อัตวิสยั 170 มมุ มองดา้ นการเงนิ 207, 209 มุมมองด้านการเรยี นรูแ้ ละการเตบิ โต 208 บ ทที่ 5 มมุ มองด้านการดำ� เนนิ การภายใน 208 มมุ มองด้านลกู คา้ 208 ระดับการปฏบิ ตั ิของการวิจยั สถาบนั และกรณตี วั อย่าง 197, 209 เทคนคิ การจ�ำแนกจุดเริ่มตน้ ของการด�ำเนนิ งาน 208 ลกั ษณะและเป้าหมายของการวิจยั สถาบนั 197, 198, 216 เทคนิคการน�ำกลยทุ ธไ์ ปปฏิบัติ 206, 209 ลักษณะของผ้อู ่านหรือผ้สู นใจงานวิจัย 203 เทคนิคการประเมินและการกำ� หนดกลยทุ ธ์ 204 เทคนคิ การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก 204 บทที่ 6 เทคนิคการปรบั ปรุงประสิทธผิ ลของสถาบนั 208, 209 เทคนิคการพิจารณากระบวนการ 209 เทคนคิ การวางกลยทุ ธ์ของสถาบัน 204, 209 เคร่อื งมอื ในการวจิ ยั เชิงนโยบาย 227 เทคนคิ การวิเคราะหก์ ารบรหิ ารจดั กระบวนการอนื่ ๆ 209 เทคนคิ การวิจยั เชิงนโยบาย 227, 228 เทคนิคของการวิจัยสถาบัน 197, 204, 216 เป้าหมายการเรยี นรู้และหลกั สตู ร 225, 233 แนวคดิ พื้นฐานของการวจิ ัยสถาบัน 197 แนวคิดพน้ื ฐานเกี่ยวกับนโยบายและการวิจัยเชงิ นโยบาย 217 แบบของการวิจัยสถาบัน 201, 203, 216 แนวทางการวเิ คราะห์ขอ้ มูลหรือสถติ ิทใ่ี ช้ (Statistical design) 227 กลยุทธ์เพ่มิ ศกั ยภาพ หรือกลยุทธ์เชิงรกุ (S+O) 205 กรณีตวั อย่างการวจิ ัยเชิงนโยบายทางการบริหารการศึกษา 217, 228 กลยทุ ธเ์ รง่ พัฒนา หรอื กลยุทธ์เชิงปอ้ งกนั (W+O) 205 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 226, 227, 229, 230, 233 กลยุทธแ์ กว้ กิ ฤติ หรือกลยุทธ์เชงิ รับ (W+T) 206 การเลอื กใช้กลมุ่ ตัวอย่างในการวจิ ยั (Sampling design) 227 กลยทุ ธ์สรา้ งภมู คิ ุม้ กัน หรอื กลยทุ ธ์เชิงแกไ้ ข (S+T) 205 การก�ำหนดเป็นวาระสำ� หรับการตัดสนิ ใจ 219, 223, 233 การบรหิ ารแบบสมดุลหรือการประเมินแบบสมดลุ 206 การก�ำหนดขอ้ เสนอนโยบาย 219, 223, 232, 233 การวเิ คราะห์ PESTLE (เพสท์เทลิ )” หรอื “PESTLE Analysis” 204 การก�ำหนดนโยบาย (Policy formulation) 218 การวิเคราะห์ SWOT หรอื SWOT Analysis 205 การคน้ หาทางเลอื กในเชิงนโยบาย 220, 232 การวจิ ยั สถาบนั ในฐานะนักวิเคราะห์นโยบาย 202 การคดั เลือกและการฝึกอบรมครู 225, 233 การวิจัยสถาบันในฐานะนักวจิ ยั และนกั วิชาการ 203 การจดั ท�ำนโยบายให้ชดั เจน (Policy clarification) 222 การวจิ ยั สถาบันในฐานะผรู้ บั ผิดชอบทางสารสนเทศ 202 การด�ำเนนิ การวจิ ยั เชิงนโยบาย 217, 227, 233 การวิจยั สถาบนั ในลกั ษณะเป็นวจิ ยั เชงิ นโยบาย 202 การด�ำเนนิ นโยบาย 219, 223, 224, 232, 233 การวิจัยสถาบนั ในลกั ษณะเป็นวิจัยปฏบิ ัตกิ าร 202 การติดตามระบบการศึกษา (Monitoring the education system) 225
Research in Educational Administration • 597 การทดลองในการวจิ ยั เชิงนโยบาย 220 จดุ เน้นทม่ี นษุ ย์เปน็ ศนู ยก์ ลาง (Human centered) 221 การท�ำนาย (Forecasting) 226 ประโยชนข์ องการวิจยั เชงิ นโยบาย 217, 225 การน�ำเสนอแบบจำ� ลอง (Modeling) 227 ประชากรวยั เรยี น การเขา้ เรียน และโครงสร้าง การประเมินนโยบาย (Policy evaluation) 218 (Demography, enrolment and structure) 225 การประเมนิ ผล การแนะแนว และการคดั เลือก 225 พหนุ ยิ ม (Pluralistic) 221 การประเมินผลนโยบาย 219, 222, 223, 233 มุมมองแบบหลากหลาย (Multi-perspective) 221 การวจิ ยั เชงิ นโยบายชว่ ยในการระบปุ ญั หาและระบปุ ระเดน็ สำ� คญั 223 ระบบ (Systematic) 221 การก�ำหนดนโยบาย (Policy formulation) 218 ลกั ษณะส�ำคัญของนโยบาย 217, 218 การประเมินผลนโยบาย (Policy evaluation) 222 องคป์ ระกอบของนโยบาย 217, 218 การพฒั นานโยบาย 217, 219, 232 การระบุปญั หา 219, 223, 232, 233 บ ทที่ 7 การวดั ตวั แปรและเกบ็ รวบรวมข้อมลู (Measurement design) 277 การวิเคราะหข์ ้อมลู 219, 220, 227, 228, 232, 233 การวิเคราะห์นโยบาย (Policy analysis) 222 Mind Map ในฐานะเคร่อื งมือทางการคดิ ทที่ รงพลัง 253 การวจิ ัยเชงิ นโยบาย 217, 219, 220, 221, 222, 223, 224, 225, 226, เข้าใจสถานการณ์ สภาพความเปน็ จริง 247 227, 228, 232, 233 เชิงปฏิบัติการ 235, 236, 241, 256, 277, 286, 287, 288 การวิจยั เชิงนโยบายจะชว่ ยควบคุมกระบวนการและประเมนิ เทคนคิ AIC 243, 244, 287 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำ� เนนิ นโยบาย (Monitoring เทคนิค Mind Map 243, 252, 287, 288 process and evaluating impact) 224 เทคนิค SWOT 243,256, 288 การวจิ ัยเชงิ นโยบายจะช่วยสนับสนนุ และเลอื กแผนการปฏบิ ัตทิ ่ี เทคนิคการจัดเวทีประชาคม 243, 25,5, 288 เหมาะสมทีส่ ุด (Supporting a selected plan of action) 224 โครงสรา้ งขององคก์ าร 258, 259, 262, 270, 271, 273, 274 การวิจัยเชิงนโยบายจะช่วยสร้างความเข้าใจประเด็นส�ำคัญให้เกิด กระบวนการ AIC ภาคแนวคดิ 243, 244 ความกระจา่ งชัดย่ิงขนึ้ 224 กระบวนการ AIC ภาคปฏิบตั ิ 244 การวิจยั อนาคตแบบ Delphi (Delphi Technique) 228, 233 กลยทุ ธเ์ ชงิ แก้ไข 257, 268, 269 การวิจยั อนาคตแบบ EDFR (Ethnographic Delphi Futures กลยุทธ์เชงิ ปอ้ งกนั 268, 269 Research: EDFR) 228, 233 กลยทุ ธ์เชงิ รับ 257, 268, 269 การวจิ ยั อนาคตแบบ EFR (Ethnographic Futures Research: EFR) 228, 233 กลยุทธเ์ ชงิ รกุ 257, 268, 269 การวจิ ัยเพ่อื เริ่มต้นนโยบาย (Policy initiation) 222 กลยุทธข์ ององค์การ 259, 262, 269, 270 การวจิ ัยเพอื่ กระต้นุ ให้เกิดนโยบาย (Policy stimulation) 222 กลยทุ ธถ์ อย 257 การวจิ ัยเพอ่ื น�ำนโยบายไปปฏบิ ัติ (Policy implementation) 222 กลยุทธป์ อ้ งกันตัว 257 การวิจยั เพื่อประเมินผลนโยบาย (Policy evaluation) 222 กลยทุ ธพ์ ลิกฟน้ื สถานการณ์ 257 การศึกษานโยบาย (Policy studies) 222 การเข้ามาพักอย่ใู นชมุ ชน 241 การสนับสนนุ กระบวนการเชิงนโยบาย 220, 232 การเข้าร่วมกิจกรรมของชมุ ชนอย่างเสมอภาคและสมำ่� เสมอ 242 การสร้างสรรค์ (Creative) 221 การเตรียมการหกข้นั ตอนก่อนเร่มิ 244, 245 การหย่ังรู้ของผูเ้ ช่ียวชาญ (Expert intuition) 227 การเตรียมชมุ ชน 250 การอนมุ ัตินโยบาย 219, 223, 232, 233 การแนะนำ� ตวั ให้คนในชุมชนร้จู กั 241 การอนมุ ตั ินโยบายหรอื การประกาศเป็นนโยบาย 219 การแสดงความมนี ้ำ� ใจตอ่ ชมุ ชน 241 การออกแบบการวจิ ยั เชิงนโยบาย 226, 227, 233 การใหค้ วามชว่ ยเหลือชาวบ้านอยา่ งสม�ำ่ เสมอ 242 การออกแบบการวจิ ยั เชงิ พรรณนา (Descriptive research design) 226 การก�ำหนดภารกิจของผสู้ นับสนนุ กลุ่ม 245 การออกแบบการวิจยั เชงิ สาเหตุ (Causal research design) 226 การควบคมุ 251, 257, 263, 275, 276 การออกแบบการวจิ ัยเชิงส�ำรวจ (Exploratory research design) 226 การควบคมุ เทคนิควิธกี ารปฏิบัติงาน 276 การออกแบบการวจิ ยั เพอื่ การประมาณคา่ (Estimation research design) 226 การควบคมุ ด้านการเงนิ 276 ความสัมพันธ์กับการตัดสินใจ (Decision-relevant) 221 การควบคมุ ทรัพยากรทางกายภาพ 276 ความหมายของนโยบาย 217, 218 การควบคมุ บุคลากร 276 งบประมาณและการบรหิ ารจดั การ (Finance and administration) 225 การควบคมุ ผลการปฏิบตั ิงาน 276
598 • การวิจัยทางการบริหารการศึกษา การคัดเลือกชุมชน 240 ทกั ษะ 245, 246, 252, 253, 259, 263, 270, 271, 272, 273, 283 การตดิ ตาม 235, 256, 257, 262, 271, 275, 276 บคุ ลากร 256, 257, 259, 261, 262, 263, 270, 271, 272, 273, 214, การติดตามและการควบคมุ 275, 276 275, 276, 277, 278, 279, 285 การถ่วงน�ำ้ หนกั 260 ปจั จัยทีช่ ่วยใหก้ ารประชุม AIC ประสบความสำ� เร็จ 249 การน�ำกลยุทธ์ไปปฏบิ ัต ิ 257, 274, 275 ปจั จัยภายใน 258, 260, 261, 262, 268 การประสานพืน้ ท ี่ 240, 287 ผูด้ ำ� เนินการประชมุ 250 การพยายามเรียนรแู้ ละประพฤตปิ ฏิบัติได้ถกู ต้อง ภารกจิ สมาชกิ กลมุ่ 245 ตามวัฒนธรรมประเพณขี องชุมชน 242 ยุคด้งั เดมิ 238 การพัฒนาชมุ ชนอย่างมปี ระสิทธภิ าพมาก 238 ระดบั คะแนน 260, 265 การพัฒนาออกมาในลักษณะกา้ วหน้าข้ึน 238 ระบบการปฏบิ ัติงาน 259 การมสี ่วนร่วม 236, 237, 238, 239, 240, 241, 243, 262, รปู แบบการบรหิ ารจัดการ 259 263, 278, 285, 286, 287 วิธกี ารของ Mind Map 253 การรกั ษาสมั พันธภาพอันดีกับคนในชมุ ชน 242 วธิ ีการวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ 235 การวางแผน 236, 244, 251, 252, 254, 257, 259, 263, 272, 273, 285 วธิ ปี ระชมุ ด้วย AIC 245, 246 การวางตวั ได้เหมาะสมสอดคล้องกบั ชมุ ชน 242 สรา้ งวสิ ัยทัศน์ สภาพทีค่ าดหวงั ในอนาคต 247, 249 การวเิ คราะห์ SWOT 256, 257, 258 หลกั ของการท�ำ Mind Map 253 การวเิ คราะหป์ จั จัยภายในองค์การ 258, 261, 262 การวจิ ยั 235, 236, 237, 238, 239, 240, 241, 242, 253, 256, 277, 278, 279, 280, 281, 282, 284, 285, 286, 287, 288 บทท่ี 8 การวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ 235, 241, 279, 286, 287 การวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั ิการ 235, 236, 237, 238, 239, 240, 241, เทคนิค Delphi 292, 295, 297, 298, 299, 300, 301, 311, 312 256, 277, 286, 287 เทคนิค EDFR 292, 298, 301, 310, 311, 312 การวิจัยเชิงปฏบิ ัติการแบบมีสว่ นรว่ ม 235, 236, 237, 238, 239, เทคนิค EFR 292, 297, 298, 301, 311, 312 241, 256, 277, 286, 287 เทคนคิ และขน้ั ตอนการสัมภาษณ์ผู้เช่ยี วชาญ 289, 302, 312 การวิจยั แบบเดิม 235 เทคนิคการวจิ ัยอนาคต 289, 292, 295, 298, 301, 311, 312 การวิจัยแบบมสี ว่ นร่วม 235, 237, 238 เทคนิคการสัมภาษณ ์ 302, 312 การวิจยั ปฏิบตั ิการในช้ันเรียน 235 เทคนิควิธกี ารเชิงคณุ ภาพ 292 การศึกษาและเตรยี มชุมชน 250 เทคนคิ วิธกี ารเชงิ ปรมิ าณ 292 การศกึ ษาชุมชน 235, 237, 238, 250, 269 เทคนคิ วธิ ผี สมผสานวธิ ีทัง้ เชงิ ปรมิ าณและเชงิ คณุ ภาพ 292 การสรา้ งกลยทุ ธ์ 257, 267, 268, 269 เปิดใจรบั ฟงั 302, 312 การสรา้ งความสัมพนั ธ์ท่ดี ีกับชมุ ชน 240 เปดิ ทางเพ่ือขอขอ้ มลู อกี 303, 312 การสรปุ ผลการวิเคราะห์ปจั จยั ภายใน 260 เลอื กเฉพาะเจาะจง 302, 312 ขอ้ เสนอแนะ 260, 261, 265, 280, 281, 282, 285 แนวคิดเกยี่ วกบั การวิจยั อนาคต 289 ขน้ั ตอน A 247, กรณตี ัวอย่างงานวจิ ัยอนาคต 289, 305 ขน้ั ตอน A - 2 247 กลุ่มผใู้ หข้ อ้ มูลหลกั 289 ขน้ั ตอน C 248 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 295, 296, 298 ขั้นตอน I 247 การก�ำหนดกลมุ่ ผู้เชีย่ วชาญ 295, 298 ขั้นตอนการท�ำ Mind Map 253 การวเิ คราะหผ์ ลกระทบไขว ้ 292, 293, 294, 311 ขน้ั ตอนการสรา้ งแนวทางการพัฒนา 244 การวเิ คราะหห์ รอื การส�ำรวจแนวโนม้ 292, 293 ข้นั ตอนการสรา้ งแนวทางปฏบิ ตั ิ 244 การวเิ คราะหอ์ นกุ รมเวลา 292 ขัน้ ตอนการสร้างความรู้ 243 การวิจยั อนาคต 289, 290, 291, 292, 293, 295, 298, 301, 311, 312 ความเป็นกระบวนการ 249 การสรา้ งเครือ่ งมอื การวิจัย 295, 298 ความหมายของ Mind Map 252 การสรา้ งเครอ่ื งมือวจิ ัย 298 ความหมายของ SWOT 256 การสร้างภาพอนาคต 292, 293, 294, 305, 311 ค่านยิ มร่วม 260 กำ� หนดเกณฑค์ ุณสมบัติ 302, 312
Research in Educational Administration • 599 ก�ำหนดจำ� นวนผ้เู ช่ยี วชาญ 302, 312 กรณตี ัวอย่างงานวจิ ัยและพฒั นา 313, 328 ขยายความสมั พนั ธ ์ 303, 312 กระบวนการวจิ ัยและพฒั นา 313, 316, 317, 322, 324, 332 ความเที่ยง 295, 297, 298 การเขยี นรายงานการวิจยั และพฒั นา 313, 326, 332 ความเหมอื นและความตา่ งระหวา่ งเทคนคิ EDFR EFR และ Delphi 299 การเผยแพร่ผลติ ภณั ฑ ์ 322 ความคิดเหน็ 289, 294, 295, 296, 297, 299, 301, 303, 304, 305, การใช้เครือ่ งมือวจิ ัยในงานวิจัยและพฒั นา 325 306, 311, 312 การก�ำหนดเปา้ หมาย 323, 324, 327, 332 ความจริง 289 การทดลองกับกล่มุ เปา้ หมายขนาดเล็ก 320, 323 ความตรง 295, 297, 298 การทดลองกับกลมุ่ เปา้ หมายขนาดใหญ่ 321, 324 ค่าเฉลย่ี 293, 296, 300 การทดลองความพร้อมน�ำไปใช ้ 321 คาดการณ ์ 289, 291, 292, 295, 302, 303, 311 การทดลองซ้�ำและประเมินผล 324 ค่าพสิ ัยระหว่างควอโทล์ 296, 297 การทดลองน�ำรอ่ งและประเมินผล 323, 324, 327, 333 ค่ามธั ยฐาน 296, 297, 300, 309, 310 การนำ� ผลการด�ำเนนิ งานไปใช ้ 317, 319, 320, 321, 322 จุดแข็งและจุดอ่อนของเทคนิคการวจิ ัยอนาคต 289, 301 การประเมนิ ความเหมาะสมของผลิตภณั ฑ ์ 319, 320 ฉันทามต ิ 296, 297, 298, 299, 306, 310 การประเมินประสิทธิภาพของผลติ ภัณฑ ์ 319, 320 ช่วงเวลาส�ำหรบั การวิจยั อนาคต 289, 292, 311 การประยุกต์ใชก้ ารวจิ ยั และพฒั นาทางการศึกษา 313, 327, 333 ตรงเชิงเน้ือหา 295, 298 การปรบั ปรงุ เพิม่ เติม 324, ถาม “ทำ� ไม” ให้มากข้ึน 303, 312 การปรับปรุงการออกแบบ 324, 328, 332 ถามแบบเปิด-ปดิ 303, 312 การวิเคราะหข์ อ้ มลู ในงานวิจัยและพฒั นา 313, 326, 332 ถามหาขอ้ เทจ็ จรงิ 303, 312 การวิจัย” และ “การพัฒนา” 313 ทำ� นาย 289, 290, 291, 293 การวจิ ยั เชงิ คุณภาพ 319 ปญั หา 289, 291, 292, 294, 295, 296, 300, 301, 302, 303, การวจิ ัยเชิงสังเคราะห ์ 318 306, 307, 310, 311, 312 การวิจัยเชงิ ส�ำรวจ 317, 318, 323 ผู้เช่ียวชาญ 289, 292, 294, 295, 296, 297, 298, 299, 300, 301, การศึกษาเอกสาร 317 302, 303, 304, 305, 306, 308, 309, 310, 311, 312 การศกึ ษาสภาวะแวดลอ้ ม 322, 324, 327, 332, 333 ฟังใหม้ ากกวา่ พูด 303, 312 การสำ� รวจความต้องการ 317, 318 วงล้ออนาคต 292, 293, 294, 305, 306, 307, 311 การส�ำรวจความพร้อมของหน่วยงาน 317 วิธกี ารเลอื กแบบเจาะจง 298 การสำ� รวจสภาพปญั หา 317, 319, 322 วธิ กี ารเลือกแบบสโนวบ์ อล/บอกตอ่ 298 การสำ� รวจหรือสงั เคราะหส์ ภาพปญั หา 324 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 296, 300 การออกแบบและพฒั นาผลิตภัณฑ์ 319, 320 หลกั การคัดเลอื กผเู้ ชีย่ วชาญ 289, 302, 312 การออกแบบการวัดตัวแปรหรือการเกบ็ รวบรวมข้อมลู 324 อนาคตระยะกระชัน้ ชิด 292, 311 การออกแบบนวัตกรรม 323, 324, 327, 332, 333 อนาคตระยะกลาง 292, 311 การออกแบบประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง ผวู้ จิ ยั 324 อนาคตระยะยาว 292, 311 การออกแบบวิจยั และพัฒนา 313, 324, 332 อนาคตระยะส้ัน 292, 311 การออกแบบสถิติวเิ คราะห์ข้อมูล 325 ความตรงภายใน 327 บทที่ 9 ความตรงภายนอก 327 ความหมายของการวิจัยและพฒั นา 313 จดุ มงุ่ หมายการด�ำเนนิ งาน 317 เครอื่ งมือเก็บรวบรวมขอ้ มลู หรือเครอ่ื งมอื วัดตัวแปร 325, 332 ชื่อเร่ืองและตัวอยา่ งช่ือเรอ่ื งงานวิจยั และพัฒนา 313, 328 เครอ่ื งมือทดลอง หรอื ชดุ นวัตกรรม 325, 332 ตวั แปรตน้ และตัวแปรตามในงานวิจยั และพัฒนา 325 เทคนคิ การประเมินความเหมาะสม 320 นวัตกรรม 313, 314, 315, 316, 323, 324, 325, 326, 327, 330, เทคนคิ การประเมินประสทิ ธิภาพ 320 331, 332, 333 เปน็ ผลผลติ หรอื สิ่งประดิษฐใ์ หม่ 314 ประเภทและเหตุผลของการพัฒนานวัตกรรม 313, 314, 331 แนวคดิ เกย่ี วกับการวิจยั และพฒั นา 313 ประดิษฐกรรม 313, 314, 315, 316, 323, 327, 331 แนวทาง วิธีปฏบิ ัต ิ 313, 314, 326, 331, 332 พฒั นาการของการวจิ ัยและพฒั นา 313, 315, 331
600 • การวจิ ยั ทางการบริหารการศึกษา ระบบปฏิบัติ หรือรูปแบบ 314, 326, 331, 332 แบง่ ตามหลักทยี่ ึดในการประเมิน 355, 369 ลกั ษณะของการวิจยั และพฒั นา 313, 316, 331 กรณตี วั อยา่ งการวิจยั เชิงประเมิน 349, 367 วธิ กี าร กระบวนการ 326, 331 กระบวนการวจิ ัยเชงิ ประเมนิ 356, 370 บรบิ ทท่เี ป็นความต้องการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ 318 การเก็บรวบรวมข้อมลู 351, 356, 358, 359, 366, 370 ศึกษารวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั บริบทท่เี ปน็ ปญั หาในปจั จุบนั 318 การเลือกประเดน็ ทีศ่ กึ ษา 366 ศึกษารวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะผลติ ภณั ฑท์ ีต่ อ้ งการใช ้ 318 การก�ำกับติดตาม 355, 370 ส�ำรวจความตอ้ งการใช้ผลิตภณั ฑ ์ 317 การคาดคะเนคำ� ตอบ 366 ส�ำรวจลกั ษณะของผลติ ภณั ฑท์ ตี่ ้องใช ้ 318 การตดั สนิ คณุ ค่า 355, 357, 358, 366, 367 สำ� รวจสภาพปญั หาทีแ่ ท้จริง 317 การทดลอง 355, 356, 370 หลกั การ แนวคิด หรือทฤษฎี 314, 326, 331, 332 การประเมนิ เพื่อสรปุ ผล 354, 369 การประเมินโครงการ 349, 358, 359 บ ทท่ี 10 การประเมนิ ในระหว่างการดำ� เนนิ งาน 354, 369 การประเมินกระบวนการ 354, 369 การประเมินความก้าวหนา้ ของโครงการ 353, 369 แนวคดิ เกี่ยวกบั การวจิ ยั ทฤษฎีฐานราก 335 การประเมินที่ไมอ่ ิงวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการเป็นเกณฑ์ 355, 370 กรณีตัวอยา่ งงานวจิ ัยทฤษฎฐี านราก 335, 339 การประเมนิ ทอ่ี งิ วตั ถปุ ระสงค/์ เปา้ หมายของโครงการเปน็ เกณฑ ์ 355, 370 กระบวนการสำ� คญั ของการวิจัยทฤษฎีฐานราก 338 การประเมินบรบิ ทหรือสภาวะแวดล้อม 354 การเก็บขอ้ มูล 336, 337, 338, 339, 340, 341, 348 การประเมนิ ปจั จยั เบอื้ งตน้ 354, 369 การเกบ็ ขอ้ มลู /ทดสอบสมมตฐิ าน 336, 337, 338, 339, 340, 341, 348 การประเมนิ ผลผลิตหรอื ผลงาน 355 การเลอื กตวั อย่างเชิงทฤษฎ ี 337, 348 การประเมินหลงั การดำ� เนินงาน 354 การตีความ 337 การวเิ คราะห์และแปลความหมายของข้อมลู 359 การปรบั สมมติฐาน 338, 339, 348 การวเิ คราะห์ข้อมลู 358, 359, 368, 370 การวิจัยทฤษฎีฐานราก 335, 336, 337, 338, 339, 348 การวจิ ัยเชิงประเมนิ 349, 350, 351, 352, 353, 355, 356, 357, การสร้างสมมติฐาน 338, 339, 348 358, 359, 360, 367, 368, 369, 370 การหาขอ้ สรปุ เชงิ ทฤษฎี 348 การวิจยั เชิงประเมนิ ในกระบวนการประกันคณุ ภาพ 360, 364 ความไวต่อการคิดและศกึ ษาขอ้ มลู 337 การวจิ ยั เชิงประเมนิ กับการประกันคณุ ภาพ 349, 360, 370 ความหมายของการวิจยั ทฤษฎีฐานราก 335, 336 การวิจัยแตกตา่ งจากการประเมนิ อย่างไร 365 ทฤษฎีใหญ่ 335 การวิจยั ประเมนิ ผล 349, 350 ทฤษฎีระดบั กลาง 335, 337, 348 การศึกษาความเปน็ ไปได ้ 355 พฒั นาการของการวิจยั ทฤษฎีฐานราก 335, 337, 348 การศกึ ษาผลกระทบ 355, 356 มโนทศั นแ์ ละทฤษฎี 337, 348 การศึกษาภาคสนามหรือการเยยี่ มสถานท่ ี 356, 370 วิธีอปุ นยั 338 การสุม่ ตวั อย่าง 358, 366 หมวดหมตู่ ามคุณสมบตั ิ 337 การออกแบบการวัดตวั แปร 358 หลักการสำ� คัญของการสรา้ งทฤษฎีฐานราก 335, 337, 348 การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมลู 358 การออกแบบการวจิ ัยเชิงประเมิน 358, 370 การออกแบบการส่มุ ตัวอย่าง 358 บทท่ี 11 กำ� กบั ตดิ ตามการด�ำเนนิ งานของโครงการ 353, 369 กำ� หนดวตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั เชงิ ประเมิน 356, 370 เกณฑห์ รือมาตรฐาน 366 ขอ้ มูลเชงิ คุณภาพ 358, 359, 368 เทคนิคทีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล 359 ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ 358, 359, 368 เทคนคิ วธิ ีการวิจยั เชงิ ประเมิน 349, 355, 370 ข้อมลู ทใ่ี ช้/การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 366 แนวคดิ พน้ื ฐานของการวจิ ยั เชงิ ประเมนิ 349 ความเหมอื นและความตา่ งของการวิจยั และการประเมนิ 365, 366 แบ่งตามลำ� ดับเวลาในการบรหิ ารโครงการ 354, 369 ความคงทขี่ องผลเม่อื ท�ำซำ้� 367 แบง่ ตามวัตถุประสงค์ของการประเมนิ 353, 369 ความส�ำคญั ของการวจิ ยั เชิงประเมนิ 350, 352, 369 แบ่งตามสงิ่ ท่ถี กู ประเมนิ 354, 369 ความหมายของการวจิ ัยเชงิ ประเมิน 350, 351
Research in Educational Administration • 601 ความหมายของการวจิ ัยและการประเมนิ 365 การทดสอบ 373, 374, 376, 377, 378, 387, 388, 395, 396, จุดมงุ่ หมาย 356, 366 399, 400, 402, 410, 416, 417 ตัวแปร 351, 352, 356, 357, 358, 366 การทำ� ใหค้ วามแปรปรวนของตวั แปรทดลองมคี า่ สงู สดุ 393, 394, 416 ประเภทของการวิจัย 350, 353, 367, 369 การทำ� ใหค้ วามแปรปรวนจากความคลาดเคลอ่ื นมคี า่ ตำ่� สดุ 393, 394 ประเภทของการวจิ ยั เชิงประเมนิ 350, 353, 369 การเปรยี บเทยี บ 373, 374, 375, 377, 378, 380, 383, 392, ประเมินก่อนเร่มิ การด�ำเนินงาน 354 402, 403, 412, 415, 416, 417 ประเมนิ ประสทิ ธผิ ลและประสทิ ธภิ าพของโครงการ/แผนงาน 353, 369 การเพิม่ ตวั แปรในแบบการวจิ ยั 404, 405 ประชากร 362, 366, 367, 368 การแพรข่ องสงิ่ ทดลอง 395, 398, 402, 416 ผลและการสรุปอ้างอิง 367 การมกี ลมุ่ ควบคุม 372, 373, 374, 402, 403, 415, 417 ระบมุ าตรฐาน ตวั บง่ ช้ี และเกณฑ์ 357, 370 การมีกล่มุ ควบคมุ และการส่มุ ในแบบการวจิ ยั เชงิ ทดลอง 372, 402 รายงานผลการวิจัยเชิงประเมนิ 359 การระบุและนิยามตวั แปรอสิ ระและตัวแปรตาม 407, 417 ลักษณะสำ� คญั ของการวิจยั เชงิ ประเมนิ 350, 351, 369 การวิเคราะหข์ อ้ มลู 376, 377, 379, 380, 382, 383, 384, 386, 388, วัตถุประสงคข์ องการวจิ ัยเชงิ ประเมนิ 350, 352, 355, 356, 389, 394, 408, 411, 412 357, 369, 370 การวจิ ยั เชงิ ทดลองในภาคสนาม 374, 375, 416 ศกึ ษาความเปน็ ไปไดข้ องโครงการ 353, 369 การวจิ ัยเชงิ ทดลองในห้องปฏิบัติการ 374, 415 ศึกษาผลกระทบของโครงการ/แผนงาน 353 การสร้างและพัฒนาเครือ่ งมือ 408 การสงั เกตหรอื วดั ผล 373 บ ทท่ี 12 การออกแบบการทดลอง 375, 392, 408, 416, 417 ก�ำหนดกล่มุ ทดลองและกลุม่ ควบคุม 408 กำ� หนดแบบการวจิ ยั 408 กรณตี วั อย่างงานวิจยั เชงิ ทดลอง 372, 409 ก�ำหนดวธิ ีดำ� เนินการทดลองและการรวบรวมขอ้ มลู 408 กลุม่ ตวั อยา่ งทีเ่ ป็นตวั แทนทด่ี ีของประชากร 399 ก�ำหนดสถานท่ีทดลอง 408 กลมุ่ ทใ่ี ช้ในการเปรยี บเทยี บ 375, 380, 392, 416 ความคลาดเคล่อื นของการสุ่ม 393 การก�ำหนดคำ� ถามการวจิ ัย 407, 417 ความคลาดเคลือ่ นอยา่ งมีระบบ 393, 403 การกำ� หนดปญั หาการวจิ ัย 407, 417 ความตรงภายนอก 374, 375, 376, 377, 378, 379, 381, 383, 389, การก�ำหนดสมมตฐิ านการวจิ ัย 407, 417 399, 400, 401, 402, 403, 416, 417 การขจัดตวั แปรออก 404, 405 ความตรงภายใน 374, 375, 377, 378, 379, 381, 383, 387, 389, การขาดหายของตัวอยา่ ง 377,381, 395, 398, 402, 416 390, 394, 395, 396, 397, 398, 399, 401, 402, 403, 416, 417 การควบคุม 372, 373, 374, 375, 376, 383, 386, 387, 388, 390, 392, ความสัมพนั ธ์เชิงเหตแุ ละผล 372, 373, 374, 392, 393, 415, 416 393, 394, 403, 404, 405, 407, 415, 416, 417 ความหมายของการวิจัยเชิงทดลอง 372 การควบคุมโดยวธิ กี ารทางสถิติ 404, 405 ความหมายและประเภทของตวั แปรแทรกซอ้ น 403 การควบคุมตวั แปรแทรกซอ้ น 404, 405 เคร่ืองมือวดั 395, 396, 402, 416 การควบคุมสิ่งทดลอง 373, 374, 415 จดุ หมุ่งหมายของการวิจัยเชิงทดลอง 372 การคดั เลอื กตวั อยา่ ง 388, 390, 395, 397, 398, 400, 402, 416 ตวั แปรอสิ ระหรอื ตวั แปรจัดกระทำ� 372, 374 การจัดกระท�ำ 372, 373, 374, 375, 380, 386, 392, 400, ทดสอบหรอื ยืนยนั ทฤษฎ ี 393 404, 405, 407, 415, 416 ทางพ้นทุกข ์ 371 การจัดกระท�ำแบบสุ่มหรือการสุ่ม 375, 386, 392, 405, 416 ทุกข์และนิโรธ 371 การจบั ค่ ู 404, 405, 417 นวตั กรรม 371 การด�ำเนินการทดลองจรงิ และเก็บรวบรวมขอ้ มูล 408 แนวคิดเกยี่ วกบั การวิจัยเชิงทดลอง 372 การได้รบั สิง่ ทดลองหลาย ๆ อยา่ ง 401, 402 แบบกลุ่มเดยี ว วดั ครัง้ เดยี ว 376, 377, 378, 379 การตอบสนองของกลุ่มตัวอย่างในกลุม่ ควบคมุ 395, 399, 402, 417 แบบกล่มุ เดียว วดั สองครง้ั 377, 378, 380 การตอบสนองของกล่มุ ตวั อยา่ งในกล่มุ ทดลอง 395, 398, 402, 417 แบบกลมุ่ เดียว วัดหลายคร้งั แบบอนุกรมเวลา 378, 379 การถดถอยทางสถติ ิ 395, 396, 397, 402, 416 แบบการวจิ ยั เชงิ กง่ึ ทดลอง 375, 380, 386, 392, 402, 403, 408, 416, 417 การทดลองเชิงประจักษ ์ 371 แบบการวิจัยเชิงทดลองแทจ้ ริง 375, 386, 391, 392, 402, 403, 404, การทดลองทางจิต 371 408, 416, 417
602 • การวจิ ยั ทางการบริหารการศึกษา แบบการวจิ ัยเชิงทดลองเบอ้ื งตน้ 375, 376, 391, 392, 402, 408, 416 บทท่ี 13 แบบของการวิจัยเชิงทดลอง 372, 375 แบบแฟคทอเรียล 391 แบบสองกลุ่ม วดั ครงั้ เดยี ว 380, 381, 383 กรณตี ัวอย่างการทบทวนวรรณกรรม 419, 433 กรณีตัวอย่างงานวจิ ัยเพ่ือพัฒนาตัวบ่งชี ้ 419 แบบสองกลมุ่ วัดสองครงั้ 381, 382, 383, 386 การกำ� หนดน�้ำหนกั ของตัวแปรย่อยจากข้อมลู เชิงประจกั ษ ์ 426 แบบสองกลุ่ม วัดหลายครั้ง แบบอนกุ รมเวลา 383, 384, 385, 386 แบบสุม่ สองกลุ่ม วัดครัง้ เดยี ว 386, 387, 388, 389, 390, 391 การก�ำหนดโมเดลความสัมพนั ธเ์ ชิงโครงสรา้ ง 427 การกำ� หนดวตั ถุประสงค์ 423, 424 แบบสุ่มสองกลมุ่ วดั สองครั้ง 388, 389, 390 การกำ� หนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการพฒั นาตวั บง่ ช ้ี 423, 424 แบบสุ่มสก่ี ลมุ่ แบบโซโลมอน 389, 390 ปฏิกริ ิยาของกลมุ่ ตัวอย่างทมี่ ตี ่อสิง่ ทดลอง 400, 401, 402, 417 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 427 การใช้ทฤษฎีและเอกสารงานวิจัย เปน็ พ้ืนฐานสนบั สนนุ ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งการคดั เลอื กตวั อยา่ งกบั วฒุ ภิ าวะของตวั อยา่ ง 395, ในการคัดเลอื กและก�ำหนดวธิ กี ารรวมตัวแปรยอ่ ยเทา่ นนั้ 425 398, 402, 416 ประเภทของการวจิ ยั เชงิ ทดลอง 372, 374 การใชท้ ฤษฎแี ละเอกสารงานวจิ ยั เปน็ พน้ื ฐานสนบั สนนุ ทง้ั หมด 425 การตรวจสอบคณุ ภาพตวั บ่งช้ ี 442 ประวตั ปิ ระสบการณ์ของกลุม่ ทศ่ี กึ ษา 395, 402, 416 การน�ำเสนอรายงาน 424, 428, 442 ปจั จตั ตัง 371 ผู้จัดกระท�ำ 372, 373 การนยิ ามตัวบง่ ชี้ 424, 425, 426, 442 การพัฒนาตัวบง่ ช้ ี 419, 423, 424, 425, 426, 427, 428, 442 พัฒนาทฤษฎ ี 393, 416 การรวบรวมขอ้ มลู 423, 425, 427, 442 โมกขธรรม 371 ระเบียบวธิ วี จิ ยั เชิงทดลอง 372, 407, 417 การวเิ คราะห์องค์ประกอบเชงิ ยืนยนั 427, 428, 429, 440, 442 การวิเคราะห์องค์ประกอบเชงิ ส�ำรวจ 427, 429 ลกั ษณะของแบบการวิจัยท่ีดี 372, 394 การสร้างตัวบ่งชี ้ 423, 425, 427, 442 ลกั ษณะสำ� คญั ของการวิจยั เชิงทดลอง 372, 373 วัดผลการเปลีย่ นแปลงในตัวแปรตาม 372, 393, 407 การสรา้ งโมเดลความสมั พันธเ์ ชงิ โครงสร้าง 419, 442 การออกแบบการวจิ ัย 432 วัตถปุ ระสงค์ของการสุม่ 403 การอาศยั แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยเปน็ พน้ื ฐาน 428 วิธคี วบคุมตัวแปรแทรกซอ้ น 382, 403, 404, 406, 407, 417 วธิ ีควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนที่เปน็ ปัจจยั จากผทู้ ดลอง เกณฑ์ในการคดั เลอื กตวั บง่ ช้ี 421, 440 เก็บข้อมูลงา่ ย 422 และกลมุ่ ตัวอย่าง 404, 406, 407, 416 แก้ปญั หาภาวะรว่ มเส้นตรงพห ุ 430 วธิ ีควบคมุ ตัวแปรแทรกซ้อนทีเ่ ป็นปัจจัยภายนอก 404, 407, 417 วธิ คี วบคมุ ตวั แปรแทรกซอ้ นทเ่ี ปน็ ปจั จยั ภายในกลมุ่ ตวั อยา่ ง 404, 407 ข้อจำ� กดั เกีย่ วกับระดับขอ้ มูล 431 ข้อจำ� กดั ของการใช้สถติ กิ ารวิเคราะหอ์ งค์ประกอบ 431 วิธคี วบคุมปจั จัยด้านเวลา 404 ข้อจำ� กัดเรือ่ งจำ� นวนตัวอยา่ ง 431 วธิ คี วบคมุ ปัจจัยดา้ นสภาพแวดล้อม 404 วธิ ีท�ำวจิ ัยโดยมีผู้ร่วมวิจัยหลายคน 406 ข้อตกลงเบื้องตน้ ของการใช้สถติ กิ ารวิเคราะหอ์ งค์ประกอบ 430 ขน้ั ตอนการวเิ คราะห์องค์ประกอบ 432 วิธีอ�ำพรางฝา่ ยเดียว 406, 407 ความคลาดเคลอ่ื นตำ�่ 422 วิธีอำ� พรางสองฝ่าย 406, 407 วุฒภิ าวะ 374, 377, 378, 378, 393, 395, 398, 402, 416 ความเชอ่ื ถือได้ 427 ความตรง 421, 423, 427, 428, 429, 432, 442 สมุทัยและมรรค 371 ความตรงเชงิ โครงสรา้ ง 428, 429, 432, 442 สจั ธรรมหรอื นวตั กรรม 371 หลกั การออกแบบการวิจัยเชงิ ทดลอง 372, 375, 392, 393, 394 ความตรงประเด็น 421 ความเที่ยง 421, 423, 427, 428, 442 อรยิ สจั ส่ ี 371 ความเปน็ กลาง 422, 428, 442 อตั วสิ ัย 371 อิทธพิ ลร่วมระหว่างการทดสอบและส่ิงทดลอง 399, 400,402, 417 ความเปน็ ตัวแทน 421 ความเป็นปรนยั 421, 428 อทิ ธพิ ลรว่ มระหวา่ งการเลอื กตวั อยา่ งและสง่ิ ทดลอง 399, 400, 402, 417 ความเปน็ ประโยชน์ 427 อทิ ธพิ ลรว่ มระหวา่ งเหตกุ ารณพ์ อ้ งและสง่ิ ทดลอง 399, 401, 402, 407 อทิ ธพิ ลรว่ มระหวา่ งแหลง่ ทดลองและสงิ่ ทดลอง 399, 400, 402, 417 ความไว 422, 442 ความสะดวกในการน�ำไปใช้ 422, 442 ความหมายของตัวบ่งช้ี 419, 420 ความเหมาะสม 421, 425, 427, 430, 431, 439, 440
Research in Educational Administration • 603 จะต้องกำ� หนดเป็นปริมาณหรอื ตีค่าเป็นตวั เลขได ้ 420 แนวคิดเกย่ี วกับตัวบง่ ชี้ 419 ตรงกบั ความต้องการ 428 ประเภทของตัวบ่งช ้ี 419, 422, 442 ต้องใชก้ ลมุ่ ตวั อย่างขนาดใหญ่ 431 ปญั หาของการใชส้ ถติ กิ ารวเิ คราะห์องค์ประกอบ 431 ตอ้ งใชต้ วั แปรจำ� นวนมาก 431 เป็นหน่วยพ้นื ฐานในการพฒั นาทฤษฎ ี 421, 442 ตอ้ งใช้สถติ ิทดสอบสองตัว 430 แปลความหมายงา่ ย 422 ตอ้ งมนี ัยเชงิ ปริมาณ 421 มกี ฎเกณฑ์การวัด 428 ตอ้ งระบสุ ารสนเทศเกย่ี วกบั สง่ิ หรอื สภาพทศ่ี กึ ษาอยา่ งกวา้ ง ๆ 420, 441 มคี วามแตกตา่ งจากตวั แปร 420, 441 ตัวบ่งช ้ี 419, 420, 421, 422, 423, 424, 425, 426, 427, 428, 433, มีความทันสมัย 427 435, 436, 437, 438, 439, 440, 441, 442 มีค่าเปน็ ค่าชั่วคราวและคงท่ี ณ จุดนั้น ชว่ งเวลานัน้ 420, 441 ตัวบง่ ชี้การเล่อื นไหล 423 มีคณุ สมบตั ติ ามคณุ สมบัตขิ องการวดั 428 ตวั บ่งชี้การศึกษาตามประเภทของตวั แปร 423 มเี พียงสถิติการวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบเทา่ นน้ั 431 ตัวบง่ ชด้ี า้ นกระบวนการ 422 ไม่มีตวั แปรตาม 431 ตัวบง่ ช้ดี ้านปจั จยั 422 ไม่สามารถระบจุ ำ� นวนรอบของการสกดั ได ้ 431 ตวั บง่ ชด้ี า้ นผลผลติ 422 ลดจำ� นวนตวั แปรใหน้ อ้ ยลง 430 ตัวบง่ ชต้ี ัวแทน 422 ลักษณะที่สำ� คญั ของตัวบ่งชี้ทดี่ ี 419, 420, 421, 442 ตัวบง่ ชต้ี ามขอ้ ก�ำหนด 423 วิธกี ารพฒั นาตวั บ่งชี้โดยใช้นยิ ามเชงิ ทฤษฎี 425 ตัวบง่ ชี้ตามคุณสมบัติทางสถติ ขิ องตวั แปร 423 วธิ ีการพฒั นาตวั บ่งชี้โดยใชน้ ยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ 425, 426 ตวั บ่งชี้ตามฐานการเปรียบเทยี บในการแปลความหมาย 423, 442 วธิ กี ารพัฒนาตวั บง่ ชีโ้ ดยใชน้ ยิ ามเชิงประจักษ์ 425, 426 ตัวบง่ ชี้ตามทฤษฎีระบบ 422, 442 ตัวบง่ ชต้ี ามลักษณะการใชต้ วั บง่ ชี ้ 423, 442 บ ทท่ี 14 ตวั บ่งชี้ตามลักษณะค่าของตัวบง่ ช ้ี 423, 442 ตวั บ่งชี้ตามลักษณะตัวแปรที่ใชส้ ร้างตัวบง่ ช ้ี 423, 442 ตวั บ่งชต้ี ามลกั ษณะนยิ ามของตัวบ่งช้ ี 422, 442 กรณตี ัวอย่างงานวิจยั เพ่ือพัฒนาโมเดลสมการโครงสรา้ ง 443, 471 ตวั บ่งชต้ี ามวิธกี ารสร้าง 422, 442 การก�ำหนดขนาดตัวอย่างในงานวิจัยท่ีใช้ SEM 443, 465 ตัวบ่งชท้ี ำ� นาย 423 การก�ำหนดขอ้ มูลเฉพาะของโมเดล 467, 476 ตัวบ่งชท้ี ีเ่ กี่ยวกับการแจกแจง 423 การกำ� หนดตวั อย่างต�่ำสุดภายใต้เงือ่ นไขของตวั แปร ตวั บ่งชน้ี ามบัญญตั ิ 423 และคา่ ความร่วมกนั ของ Hair 466 ตวั บ่งช้ีแบบปรนยั 422 การทดสอบความตรงของโมเดล 467, 469, 476 ตวั บง่ ชี้แบบอตั นยั 422 การทดสอบทฤษฎ ี 444 ตัวบง่ ชี้ประกอบ 422, 424, 425, 427 การประมาณค่าพารามเิ ตอร์ของโมเดล 467, 468, 476 ตัวบง่ ชผี้ ลการปฏิบัติ 423 การปรับโมเดล 470, 471, 476 ตัวบง่ ชแ้ี ยก 423 การเปรยี บเทยี บคา่ n(n+1)/2 กบั จ�ำนวนพารามิเตอรท์ ตี่ ้องการ ตัวบง่ ชี้เรียงอนั ดับ 423 ประมาณคา่ 467 ตวั บ่งชส้ี ตอ๊ ก 423 การระบคุ วามเปน็ ไปได้คา่ เดยี วของโมเดล 467, 468 ตวั บง่ ชส้ี มบูรณ์ 423 การวิเคราะห์ประมาณคา่ พารามิเตอร์ในการวิเคราะห์ถดถอยพหุ 444 ตัวบ่งชแ้ี สดงความหมาย 423 การวิเคราะหอ์ ิทธพิ ล 443, 444, 448 ตัวบ่งชี้อัตราส่วน 423 การศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง 443, 449, 457, 475 ตัวบ่งชอ้ี นั ตรภาค 423 การสร้างโมเดล SEM 443, 448, 449, 475 ตวั บ่งชอ้ี งิ กลุ่ม 423 การสุ่มตวั อย่างแบบไมเ่ ป็นสดั สว่ น 465, 476 ตวั บง่ ชี้อิงเกณฑ ์ 423 ขนาดตวั อยา่ งขัน้ ต�่ำ คอื > 5 หรอื > 10 ของจ�ำนวน ตัวบ่งชอ้ี งิ ตน 423 พารามเิ ตอร์ทต่ี อ้ งประมาณคา่ (Bentler, 1989; Bollen, 1989 465 ตวั แปรตอ้ งมีความสัมพนั ธ์กนั 430 ขนาดตัวอย่างข้นั ต�ำ่ คือ 10 เทา่ ของตวั แปรสงั เกตได้ (Nunnally, 1967) 465 ตัวแปรต้องมคี า่ ต่อเนือ่ ง 430 ข้ันตอนการวเิ คราะห์ข้อมลู ดว้ ยเทคนิค SEM 443, 467 ตวั แปรแตล่ ะตวั ไม่จ�ำเป็นตอ้ งมีการแจกแจงแบบปกต ิ 431 ความคลาดเคล่อื นใน SEM 443, 447 ท�ำให้เห็นโครงสรา้ งความสมั พนั ธ์ของตัวแปรท่ีศกึ ษา 430 ความส�ำคัญของโมเดลสมการโครงสรา้ ง 443, 444
604 • การวจิ ัยทางการบริหารการศกึ ษา ความหมายของโมเดลสมการโครงสร้าง 443 โสกะ 488 คา่ Modification Index หรือ MI 470 ไตรลักษณ์ 479 ดชั นีและเกณฑท์ ี่ใช้ในการพิจารณาความสอดคลอ้ งกลมกลืน กระบวนการเกดิ ทกุ ขใ์ นชีวิตประจ�ำวนั 477, 489 ของโมเดลกับขอ้ มูลเชงิ ประจักษ ์ 469 กระบวนการวจิ ยั ตามหลักอริยสัจส ่ี 484, 486 ตวั แปรใน SEM 446 การเฟน้ ธรรม 481 ตวั แปรแฝง 443, 444, 445, 446, 447, 448, 449, 454, การจบั คูเ่ หตผุ ลในอริยสจั ส ี่ 481, 483, 457, 458, 462, 463, 466, 467, 474, 475, 476 การวิจัยของพระพุทธเจ้ากับนักวิทยาศาสตร ์ 477 ตัวแปรแฝงภายนอก 443, 446, 447, 448, 475 การวจิ ยั ทางพระพทุ ธศาสนา 477, 481, 482, 483, 484, 485, 490, 491 ตวั แปรแฝงภายใน 443, 446, 447, 448, 475 กจิ ในอริยสจั 477, 487 ตัวแปรและความคลาดเคลอื่ นใน SEM 443, 447 กิจในอรยิ สัจส ่ี 417, 487 ตัวแปรสงั เกตได ้ 443, 444, 445, 446, 447, 448, 449, 453, 458, 460, กจิ ทจ่ี ะตอ้ งกำ� หนดรู้ 483 462, 463, 465, 466, 467, 468, 474, 475, 476 ข้นั กำ� หนดปัญหา 485, 491 ตวั อยา่ งควรได้มาด้วยการส่มุ 465, 746 ขั้นตรวจสอบสมมตฐิ าน 485 เทอมความคลาดเคลอื่ น (Error term) สัมพนั ธก์ นั ได้ 444 ขั้นต้ังสมมตฐิ าน 485, 491 แนวคิดเกยี่ วกบั โมเดลสมการโครงสร้าง 443 ขน้ั วิเคราะห์ขอ้ มูล 485, 491 เมทริกซ์ความแปรปรวน-ความแปรปรวนรว่ มของขอ้ มูลดิบ 469 ข้ันสรปุ ผล 485, 491 เมทรกิ ซค์ วามแปรปรวน-ความแปรปรวนรว่ มจาก ควอนต้มั 478 การประมาณค่าตามโมเดล 468, 469 ความประจวบกับสิ่งอนั ไม่เปน็ ท่รี กั 488 โมเดลการวดั 443, 444, 447, 448, 449, 452,459, 475 ความพลัดพรากจากสงิ่ อันเปน็ ท่รี ัก 489 โมเดลการวเิ คราะหเ์ ปน็ โมเดลเดยี วกับโมเดลการวจิ ยั 444 คทู่ ุกข์กบั สมุทัย 483, 491 โมเดลการวิเคราะห์มีตัวแปรแฝง และเทอมความคลาดเคลอ่ื น 444 คู่นิโรธกับมรรค 483, 491 โมเดลการวจิ ัยยคุ ใหม ่ 443, 474 จินตามยปัญญา 482, 490 โมเดลโครงสรา้ ง 443, 444, 447, 448, 449, 457, 475 ชรา 488 โมเดลยอ่ ย 443 ชาต ิ 478, 479, 480, 481, 485, 488 โมเดลสมการโครงสร้าง 443, 444, 445, 447, 448, 449, 454, 463, ทฤษฎีสมั พัทธภาพ 478 465, 466, 471, 472, 473, 474, 475, 476 ทุกข์ (กาย) 488 รูปเมทรกิ ซ์ในโปรแกรม LISREL 443, 444, 447, 448, 472, 473 ทกุ ข์ในอริยสจั ส่ ี 477, 487 วเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบ 465 ทกุ ข์กค็ ือตวั แปรตาม 484 วิธที ่ี 1 : ก�ำหนดขนาดตัวอย่างภายใตเ้ งอ่ื นไขของการสมุ่ 466 ทกุ ขงั 479 วิธที ่ี 2 : กำ� หนดขนาดตัวอยา่ งภายใตเ้ งอื่ นไขของตัวแปร ธมฺมวจิ ย 481 และค่าความรว่ มกนั 444 ธรรมวิจยั 481, 482, 490 วิธีไลค์ลฮิ ดู สูงสดุ 447 ธมั มวิจยสัมโพชฌงค์ 481 สว่ นประกอบของ SEM 443, 445 นวตั กรรม 477, 478, 479 สญั ลักษณ์ในโมเดลสมการโครงสรา้ ง 470 ปฏสิ สาร 479 หลกั ในการปรบั โมเดล 580 ปรารถนาสงิ่ ใดไม่ไดส้ ิ่งนนั้ 489 ปรเิ ทวะ 488 บทที่ 15 ปริญญากจิ 482, 483, 484, 485, 487, 491 ปหานกิจ 482, 484, 485, 487, 491 ปญั หาการวิจัย 484, 486, 487, 488, 489, 490, 491, 492 เวทนา 489 พัฒนาทางด้านจติ ใจ 477 เอหปิ สั สิโก 480 พัฒนาทางดา้ นวตั ถุ 477 แบบเทววิทยา 480 ภาคปฏิเวธ 480 โทมนสั 488 ภาคปฏิบัต ิ 480 โพชฌงค์ 481 ภาคปริยัต ิ 480 โยนโิ สมนสกิ าร 481 ภาวนากิจ 482, 483, 484, 485, 487, 491
Research in Educational Administration • 605 ภาวนามยปญั ญา 482, 490 เวน้ กาเมสมุ จิ ฉาจาร 506, 507, 515 ภาวะอนจิ จงั 479 เว้นปาณาตบิ าต 506, 507, 515 มรณะ 488 เว้นมุสาวาท 506, 507, 515 รูป 477, 478, 479, 480, 488, 489, 490, 492 เว้นสุราและเมรัย 506, 507, 515 วญิ ญาณ 490 เวน้ อทนิ นาทาน 506, 507, 515 วธิ ีคิดแบบอริยสัจสี่ 479 เวสารชั ชกรณธรรม 502, 516, 541, 547 ศาสนาแหง่ จักรวาล 480 เหฏฐิมทศิ 526, 532 ศาสนาในอนาคต 480 เอหิปสั สโิ ก 500 สังขาร 487, 489, 491 แบ่งปันของกินของใชใ้ ห ้ 532, 533 สัจฉกิ ริ ิยากิจ 482, 483, 484, 485, 487 โกศล 502, 509 สัญญา 489 โทสาคต ิ 530, 544 สันทิฏฐิโก 480 โภชเน มัตตญั ญตุ า 510 สิทธันต์ 480 โมหาคต ิ 530, 544 สุตมยปัญญา 482, 490 โยนิโสมนสกิ าร 508, 512 หลกั ธรรมทเ่ี ป็นอมตะ 479 โลกปาลธรรม 502, 526 หัวขอ้ วิจยั 484 โลกาธปิ ไตย 506, 542 อกาลโิ ก 479, 480 โลกยิ ปัญญา 507 อนตั ตา 479 โลกตุ ตรปัญญา 508 อริยสัจส่ ี 477, 478, 479, 480, 481, 482, 483, 484, 485, 486, โสรัจจะ 503 487, 488, 489, 490, 491 โสวจัสสตา 521 อริยสัจส่ีเป็นต้นแบบของกระบวนการวิจยั ทว่ั ไป 477, 485 โอตตปั ปะ 502, 503, 520, 521, 526, 527 อายตนะภายใน 490, 492 ใหก้ ารอารกั ขาพระภกิ ษุสงฆห์ รือผู้ทรงศีล 536 อายตนะภายนอก 490, 492 ให้ความเคารพและรับฟงั ความคดิ เห็นของผ้ใู หญ่ 535, 536 อปุ ายาส 488 ใหค้ ่าจ้างและรางวลั 532, 533 ใหม้ วี ันหยุดและพกั ผ่อน 532 บทท่ี 16 ไตรสิกขา 502, 506 ไม่ขม่ เหงสตรี 536 ไม่บัญญัติ หรือลม้ เลกิ ข้อบัญญตั ิต่าง ๆ 535 เคารพบชู าสักการะเจดีย์ 536 กตญั ญูกตเวที 527, 528 เนกขมั มะ 524, 525 กรุณา 508, 511, 528, 529, 545 เนคมชานบท 539, 552 กลั ยาณมติ ตตา 521 เบญจธรรม 502, 515 กัลยาณมิตรธรรม 502, 518, 526, 534 เบญจศีล 502, 514, 515 กายกรรม 513, 522 เป็นผแู้ ถลงเรือ่ งทล่ี กึ ซ้งึ ได้ 518, 535 กายสุจริต 504 เปน็ ผูไ้ มช่ ักน�ำในอฐานะ 518, 535 กาลญั ญตุ า 519 เปน็ ผนู้ า่ เคารพ 518, 534 กงิ กรณเี ยสุ ทกั ขตา 521 เป็นผู้นา่ ยกยอ่ งนบั ถือ 518, 534 กุศลกรรมบถ 502, 522 เปน็ ผู้น่ารัก 518, 534 กศุ ลมูล 502, 508 เป็นผูร้ ูจ้ กั พดู 518, 535 ขัตตยิ ะ 538, 551 เป็นผอู้ ดทนต่อถ้อยคำ� 518, 535 ขันต ิ 503, 524, 525, 537, 550 เมตตา 508, 511, 524, 525, 528, 531, 545 ขันตโิ สรจั จะ 502, 503 เมตตากรณุ า ความเท่ยี งธรรม 537, 550 เมตตากายกรรม 515 ความเทยี่ งธรรม (อวโิ รธนะ) 550 เมตตามโนกรรม 533 ความเปน็ เลิศทางวชิ าการตามแนวพระพุทธศาสนา 493, 554 เมตตาวจีกรรม 534 ความเพยี ร 524, 537, 542, 548, 549 533
606 • การวิจยั ทางการบรหิ ารการศกึ ษา ความเพยี ร (ตปะ) 537, 549 ปรุ สิ เมธะ 533, 546 ความไม่เบยี ดเบียน 537, 550 พรหมวหิ าร 502, 511, 526, 528, 529, 541, 545 ความไม่เบยี ดเบยี น (อวิหงิ สา) 537, 550 พรอ้ มเพรยี งกนั ประชมุ เลกิ ประชมุ และทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั 535, 536 ความไมโ่ กรธ 508, 537, 550 พราหมณคฤหบด ี 539, 551 ความไม่โกรธ (อักโกธะ) 537, 550 พลกาย 538, 551 ความซ่อื ตรง 537, 549 พละ 4 502, 513, 514 ความซ่ือตรง (อาชชวะ) 537, 549 พละ 5 541, 548 ความหมายและตวั อย่างของศาสตร ์ 593 พาหสุ จั จะ 508, 516, 520, 521, 547 ความอดทน 503, 524, 525, 537, 550 ภยาคติ 530, 544 ความอดทน (ขนั ติ) 537, 550 ภาวนามยปญั ญา 510, 513 ความออ่ นโยน 537, 549 ภาวนามัย 509 ความอ่อนโยน (มัททวะ) 537, 549 มโนกรรม 523 จักรวรรดิวัตร 526, 538, 541, 550 มโนสจุ ริต 505 จัดสวัสดิการให้ 532, 533, 538, 551 มัตตัญญุตา 510, 519 จัดหางานใหท้ ำ� ตามความสามารถ 532 มิคปกั ษ ี 539, 552 จาคะ 508, 512, 517, 520, 521 มิตรแนะนำ� ประโยชน ์ 531 จติ ตะ 507, 543 มติ รมนี ้ำ� ใจ 532 จนิ ตามยปัญญา 507, 510, 513, 520 มติ รรว่ มสขุ รว่ มทกุ ข์ 531 ฉนั ทะ 507, 542 มิตรอุปการะ 531 ฉนั ทาคต ิ 530, 544 มทุ ิตา 511, 528, 529, 546 ชาครยิ านุโยค 511 ยึดถอื คนเป็นหลัก 541 ทศพิธราชธรรม 526, 536, 541, 549 ยึดถอื งานเปน็ หลกั 541 ทาน 508, 509, 514, 524, 525, 529, 536, 546, 549 ราชสงั คหวตั ถ ุ 526, 533, 541, 546, 547 ทาน (ทานะ) 536, 549 ราชสังคหวตั ถุ (Rāja) 533, 546 ทานมยั 509 วจีกรรม 513, 522, 523, 533 ทิฏฐิสามัญญตา 534 วจสี ุจรติ 504 ธนานุประทาน 540, 552 วาชเปยะ 533, 547 ธรรมาธปิ ไตย 506, 538, 542, 551 วมิ ังสา 507, 508, 543 ธมั มกามตา 521 วริ ยิ พละ 513 ธมั มญั ญตุ า 518 วริ ยิ ะ 507, 513, 524, 525, 543, 548, 549 ธมั มานุธัมมปฏิบตั ิ 512 วิริยะพละ 548 นาถกรณธรรม 502 วิรยิ ารมั ภะ 516, 522, 547 บรจิ าค 536, 549 วุฑฒิธรรม 511, 512 บรจิ าค (ปรจิ จาคะ) 536, 549 ศรัทธา 515, 516, 520, 521, 547, 548, 549 บารม ี 502, 523, 525 ศรทั ธาพละ 548 บคุ คลหาไดย้ าก 526, 527 ศาสตร์ 497, 498, 499, 500, 501, 553, 554 บุญกริ ิยาวตั ถุ 502, 509 ศาสตรใ์ นสาขาวชิ าการบริหารการศึกษา 493 บพุ การ ี 520 ศลี 502, 506, 507, 508, 509, 513, 514, 515, 516, 517, 520, ปรปิ ุจฉา 540, 553 521, 524, 525, 534, 536, 539, 540, 541, 549, 552, 553 ปรสิ ญั ญุตา 519 ศีล (สลี ะ) 536, 549 ปจั จตั ตัง เวทิตัปโพ วญิ ญหู ิ 500 สติ 500, 501, 502, 503, 504, 506, 507, 508, 515, 516, 522, ปญั ญา 502, 506, 508, 510, 512, 517, 520, 522, 524, 525, 548 532, 542, 543, 548, 549 ปัญญาพละ 513, 548 สติพละ 548 ปิยวาจา 514, 529, 546 สตสิ มั ปชัญญะ 502, 503, 504, 516 ปคุ คลัญญุตา 519 สมณพราหมณ์ 539, 540, 552, 553
Research in Educational Administration • 607 สมาธิพละ 548 อธจิ ติ ตสิกขา 507 สมานตั ตตา 514, 529, 546 อธิปไตย 502, 506, 541, 542 สังคหพละ 513 อธิปญั ญาสิกขา สังคหวตั ถุ 526, 529, 533, 541, 546, 547 อธษิ ฐาน 507 สัจจวาจา 515 อธษิ ฐานธรรม 502, 512, 513, 524, 525 สัจจะ 508, 512, 513, 516, 520, 521, 524, 525, 547 อธสิ ีลสกิ ขา สทั ธัมมสั สวนะ 511 อนวชั ชพละ 502, 512, 513 สนั ตุฏฐี 522 อนยุ นต์ 506 สนั ทิฏฐโิ ก 500 อปริหานยิ ธรรม 513 สัปปรุ ิสธรรม 502, 518, 519, 523 อปัณณกปฏปิ ทา สัปปุรสิ งั เสวะ 511 อปายโกศล 539, 551 สมั ปชญั ญะ 502, 503, 504, 516 อรยิ ทรัพย์ 526, 535, 536 สมั มาปาสะ 533, 546 อริยวฑั ฒิ สมั มาอาชีวะ 515 อัตตัญญตุ า 510, 511 สสั สเมธะ 533, 546 อัตตาธปิ ไตย 509 สาธารณโภคี 534 อัตถจริยา สาราณียธรรม 526, 533, 534 อัตถญั ญตุ า 502, 519, 521 สีลมัย 509 อนั โตชน 502, 517 สลี สามัญญตา 534 อายโกศล 519 สุจริต 502, 503, 504, 505, 513, 515, 516, 517, 520, 521, อิทธิบาท 506, 542 534, 536, 537, 549 อินทรยี สงั วร สตุ มยปญั ญา 507, 510, 513, 520 อุเบกขา 514, 529, 546 สตุ ะ 517 อปุ สมะ 519 สุหทมิตร 526, 531, 532 อุปายโกศล หมวด 1 ศลี (ทาน คู่กับ เมตตา, ศีล คู่กับ เนกขมั มะ) 525 538, 551 509 541, 542, 543 510, 515 511, 524, 525, 528, 529, 545 512 509 หมวด 2 สมาธิ (วิรยิ ะ คกู่ ับ ขันติ, สจั จะ คกู่ ับ อธิษฐาน) 525 หมวด 3 ปญั ญา (ปัญญา คูก่ บั อเุ บกขา) 525 หมวดหลักธรรมเพ่อื การครองคน 526 หมวดหลักธรรมเพอ่ื การครองงาน 501, 541 หมวดหลกั ธรรมเพอ่ื การครองตน 501, 502 หม่ันประชุมกันเนอื งนิตย ์ 535 หลกั การ แนวคิด และทฤษฎกี ารบริหารองค์การ 494, 498 หลักการ แนวคดิ และทฤษฎีภาวะผู้นำ� 494, 499 หลักการ แนวคดิ และทฤษฎีการบรหิ ารคน 494, 497 หลักการ แนวคดิ และทฤษฎกี ารบรหิ ารงาน 494 หลักธรรม 493, 496, 499, 500, 501, 502, 503, 504, 511, 513, 514, 517, 518, 519, 522, 525, 526, 527, 528, 529, 533, 534, 535, 536, 541, 542, 543, 545, 546, 548 หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา 493, 500, 501, 502, 554 หิริ 502, 503, 515, 520, 521, 526, 527 อโทสะ 508 อโมหะ 508 อโลภะ 508 อคต ิ 526, 529, 530, 531, 541, 543, 544, 545 อธรรมการนเิ สธนา 539, 552
608 • การวจิ ัยทางการบรหิ ารการศึกษา ประวตั ผิ ้เู ขยี นโดยสังเขป ช่อื -นามสกุล รองศาสตราจารย์ ดร. สวุ ิทย์ ภาณจุ ารี หลักสตู รศกึ ษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศกึ ษา บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย ตำ�บลศาลายา อำ�เภอพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม 73170 Tel. 08 6406 9016, Email address: [email protected] การศึกษาขั้นสูงสดุ - ศษ.ด. (การบริหารการศึกษาและผ้นู ำ�การเปลย่ี นแปลง) - ป.ธ.9 (ภาษาบาลี) ประสบการณท์ างการบริหารในอดตี - หัวหน้าสำ�นกั งานประกนั คุณภาพการศึกษา มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย - หวั หนา้ ภาควิชาภาษาตะวันตก คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย - รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและการเงิน มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั - รองอธกิ ารบดฝี า่ ยการเงินและทรพั ยส์ นิ มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั ตำ�ราและหนังสือที่เคยตีพมิ พ์ - โครงสร้างภาษาองั กฤษ (2544) - แนะนำ�พระพทุ ธศาสนา (2544) - การเขยี นบทความอังกฤษ : แนวคิดและวิธีการ (2545) - การศกึ ษาชวี ิตเชิงวิเคราะห์ (2545) - สัทศาสตร์และสรวทิ ยาเบอ้ื งตน้ (2545) - การแปลองั กฤษ-ไทย-องั กฤษ (2545) - อา่ น-แปลภาษาบาลี (2552) - บาลเี พอ่ื การศึกษาค้นคว้าพระพุทธศาสนา (2554) - ดแู ลผ้ปู ว่ ยและญาติให้มคี วามสุขใจไดอ้ ย่างไร (2555) - หลักเกณฑ์การแปลบาลี เพอ่ื การวิจัยทางพระพทุ ธศาสนา (2561) - การวจิ ยั ทางการบรหิ ารการศึกษา (2562) - การวิจยั เชงิ คุณภาพ (2562) - สถิติเพื่อการวิจยั (2562) - ฯลฯ ทีอ่ ย่ปู จั จุบนั - เลขที่ 87/439 หมบู่ า้ นภสั สร 7 ซอย 28 ถนนบางกรวย-ไทรนอ้ ย ตำ�บลบางรักใหญ่ อำ�เภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110 ทที่ ำ�งานปจั จุบนั - สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา บัณฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยั 248 หมู่ 1 ถนนศาลายา-นครชยั ศรี ตำ�บลศาลายา อำ�เภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
HILIGHT หรือจดุ เดน่ ของตำรำ “กำรวจิ ยั ทำงกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ” เน้ือหาสาระสาคัญในตาราเล่มน้ีประกอบด้วยประเภทและกระบวนการวิจัยทางการบริหาร การศึกษาทุกขั้นตอน รวมทั้งศาสตร์ทางการบริหารการศึกษา และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้การ ทาวิจัยมีการประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ และการสังเคราะห์ท้ังศาสตร์ทางการบริหารการศึกษาและหลักธรรม ทางพระพทุ ธศาสนา เนื้อหาของหนังสือ แบ่งออกเป็น 16 บท ได้แก่ บทที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับการวิจยั ทางการบรหิ าร การศึกษา บทท่ี 2 การวิจัยเชิงปริมาณ บทท่ี 3 การวิจัยเชิงคุณภาพ บทท่ี 4 การวิจัยแบบผสมผสานวิธี บทท่ี 5 การวิจยั สถาบัน บทท่ี 6 การวจิ ยั เชงิ นโยบาย บทท่ี 7 การวจิ ัยเชิงปฏบิ ตั ิการแบบมีสว่ นรว่ ม บทท่ี 8 การวิจัยอนาคต บทที่ 9 การวิจัยและพัฒนา บทที่ 10 การวิจัยทฤษฎีฐานราก บทที่ 11 การวิจัยเชิง ประเมิน บทท่ี 12 การวิจัยเชิงทดลอง บทท่ี 13 การวิจัยเพื่อพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างของ ตวั บง่ ชี้ บทที่ 14 การวิจยั เพอื่ พฒั นาโมเดลสมการโครงสรา้ ง บทที่ 15 การวิจยั ทางวทิ ยาศาสตร์กับการวิจัย ทางพระพทุ ธศาสนา และ บทที่ 16 ศาสตร์และหลักธรรมเพื่อการวิจัยทางการบรหิ ารการศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 631
Pages: