Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 01การงานอาชีพ ม.1 thonglom m.1

01การงานอาชีพ ม.1 thonglom m.1

Published by thonglom, 2019-12-01 23:24:28

Description: 01thonglom m.1

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๘ ๒๔๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ การดแู ลรักษาเสอ้ื ผ้าและเคร่ืองแต่งกาย เรอื่ ง การปะผา้ เวลา ๑ ช่ัวโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความคิดเห็นเก่ียวกับการแต่งกาย และการดแู ลรกั ษาเส้ือผา้ 229

230 243 ๒๔๔ 244 การวัดและประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ส่งิ ทตี่ ้องการวัด/ประเมิน ผปลรงะาเมนนิกาผรลปจะาผก้าการ แบบประเมินผลงาน ระดบั คะแนนที่ได้ตาม ดา้ นความรู้ ปฏิบตั กิ ารซ่อมแซม การปะฏผบิ า้ ตั ิการซ่อมแซม เกณฑ์การประเมนิ ในแต่ ปกาฏรบิ ปตั ะิกผา้ รซอ่ มแซมเสือ้ ผา้ เส้อื ผา้ ด้วยการปะผา้ เสอื้ ผา้ ดว้ ยการปะผ้า ละกจิ กรรม ดว้ ยการปะผ้า สงั เกตพฤตกิ รรมทกั ษะ โดยใชเ้ กณฑ์ rubric ด้านทักษะและกระบวนการ ทักษะการเชื่อมโยง การผา่ นอยูใ่ นระดับ ๑. ทกั ษะการเชอื่ มโยง ทักษะการประยกุ ตใ์ ช้ คุณภาพ “พอใช้” ๒.ทักษะการประยุกต์ใช้ ความรู้ ขน้ึ ไป ความรู้ ทักษะการนาความรู้ไป ๓.ทักษะการนาความรูไ้ ปใช้ ใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั พฤติกรรมท่ี ๔.ทักษะกระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ ทักษะการเชื่อมโยง แสดงออก 4 ระดบั โดย แก้ปัญหา แกป้ ัญหา ทักษะการประยุกต์ใช้ ใชเ้ กณฑ์ rubric ความรู้ การผา่ นอยู่ในระดับ ทักษะการนาความรู้ไป คณุ ภาพ “พอใช้” ใช้ ข้ึนไป ทักษะกระบวนการ แก้ปญั หา ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับพฤตกิ รรมที่ ๑. มีวนิ ัย มีวนิ ยั มวี ินัย แสดงออก 4 ระดบั โดย ใฝเ่ รียนรู้ ใฝ่เรยี นรู้ ใชเ้ กณฑ์ rubric ๒. ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน มุ่งมนั่ ในการทางาน การผ่านอยู่ในระดับ มีจิตสาธารณะ มจี ติ สาธารณะ คณุ ภาพ “พอใช้” ๓. มุง่ มั่นในการทางาน ขน้ึ ไป ๔. มีจติ สาธารณะ

231 ๒๔๕ 245 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน ประเดน็ การ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) ประเมิน 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ เกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ คะแนนการปฏบิ ัติ ๑. การปฏบิ ัติ คะแนนการปฏิบตั ิ คะแนนการปฏิบตั ิ คะแนนการปฏบิ ัติ กจิ กรรมการปะผา้ กจิ กรรม กิจกรรมการปะผ้า กิจกรรมการปะผ้า ต่ากวา่ ๑๐๒ คะแนน การปะผ้า กจิ กรรมการปะผา้ ๑๓๕-๑๖๗ คะแนน ๑๐๒-๑๒๔ คะแนน ๑๗๘-๒๐ คะแนน เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นทักษะและกระบวนการ ๒.ทักษะในการ ศกึ ษาและพจิ ารณา ศึกษาและพิจารณา ศึกษาและพจิ ารณา ศึกษาและพิจารณา เช่อื มโยง ข้อมูลไดต้ รงประเดน็ ขอ้ มูลได้ตรงประเดน็ ขอ้ มูลไดต้ รงประเดน็ ข้อมลู ไดไ้ ม่ตรง ๓.ทักษะในการ ตามทกี่ าหนด เนอ้ื หา ตามที่กาหนด เนื้อหา ตามทีก่ าหนด เนอ้ื หา ประเด็นตามท่ี ประยุกตใ์ ช้ความรู้ ถกู ต้องและครบถ้วน ถกู ต้องและครบถ้วน ถกู ต้องและครบถว้ น กาหนด ๔.ทกั ษะการนา แสวงหาความร้แู ละ แสวงหาความรู้และ ทบทวนข้อมลู หรอื ไม่มีการทบทวน ความรู้ไปใช้ ข้อมูลใหม่ มีความ ขอ้ มลู ใหม่ ความร้ทู ี่มเี ข้ากับ ขอ้ มูลหรือความร้ใู ห้ สมั พนั ธเ์ กี่ยวข้องกนั ทบทวนข้อมลู หรอื สถานการณ์ใหม่ เขา้ กับสถานการณ์ ทบทวนขอ้ มูลหรอื ความรูท้ ่มี ีเข้ากับ ทบทวนความรูท้ ่ีมี ใหม่ ความรู้ท่ีมีเขา้ กับ สถานการณ์ใหม่ มี และรบั รคู้ วามรูใ้ หม่ ไม่มีการทบทวน สถานการณ์ใหม่ มี ความเป็นเหตเุ ป็นผล ความรทู้ ี่มีกับ ความเปน็ เหตเุ ปน็ ผล สถานการณ์ใหม่ หรอื ความเหมาะสม ทบทวนความรู้ที่มี ระหว่างขอ้ มูลกับ มองเหน็ ความ สถานการณ์ เหมอื นกนั ของ ทบทวนความรูท้ ่ีมี สถานการณ์ใหม่กับ มองเห็นความ สถานการณเ์ ดิม เหมือนกันของ สถานการณ์ใหม่กับ สถานการณ์เดิม นา ความรทู้ ่มี ีไปใชใ้ น สถานการณ์ใหม่

232 ๒๔๖ 246 ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) ๕.ทักษะ กระบวนการ เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นทักษะและกระบวนการ มีการสารวจปญั หา แก้ปัญหา สร้างทางเลือก มกี ารสารวจปญั หา มีการสารวจปัญหา มกี ารสารวจปญั หา ปฏิบัติการแก้ปัญหา ๖.การมีวินยั วเิ คราะห์ปัญหา วเิ คราะหป์ ญั หา สร้างทางเลือก สร้างทางเลือก สรา้ งทางเลือก ประเมินทางเลอื ก ไม่ค่อยปฏบิ ตั ติ าม ๗.การใฝ่เรียนรู้ ประเมินทางเลอื ก ปฏิบตั ิการแก้ปัญหา ปฏิบตั ิการแก้ปัญหา กฎระเบียบ กติกา วางแผนปฏบิ ัติ ประเมนิ ผลการแก้ปญั หา ของห้องเรยี นของ ๘.มุ่งมั่นในการ ประเมนิ ผลการ กลุ่ม ก่อกวนสรา้ ง ทางาน แกป้ ญั หา เกณฑ์ประเมินดา้ นคุณลักษณะ ความราคาญให้ครู และเพ่ือนใน ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบ ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ปฏิบัตติ าม หอ้ งเรียน เป็นบางครัง้ กติกา ของห้องเรียน กติกา ของห้องเรียน กฎระเบียบ กติกา ไมม่ ีความ กระตือรือร้น อดทน ของกลุม่ ดว้ ยความเต็ม ของกล่มุ ไม่กอ่ กวน ของห้องเรียน ของ มุ่งม่ัน ไมร่ ้จู ัก แสวงหาความรูจ้ าก ใจ ไมก่ ่อกวนสรา้ งความ สร้างความราคาญใหค้ รู กลุ่มได้เป็นส่วนใหญ่ แหล่งเรียนรู้อ่นื ๆ ทางานท่ีไดร้ บั ราคาญให้ครูและเพอ่ื น และเพื่อนในห้องเรียน ไมก่ ่อกวนความ มอบหมายไม่เสร็จ ตามกาหนดเวลา ในหอ้ งเรียน ราคาญใหค้ รูและ ผลงานมไีคมว่ าม เรยี บรอ้ ยขาดความ เพื่อนในหอ้ งเรียน ปราณีต มีความกระตือรือร้น มคี วามกระตือรือรน้ มีความกระตือรือร้น อดทน เพียรพยายาม มงุ่ มน่ั รู้จกั แสวงหา อดทน ม่งุ มั่น รจู้ ัก อดทน มงุ่ มั่น ใน ความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ อ่ืน ๆ อยู่เสมอ ๆ แสวงหาความรู้จาก บางคร้ัง รจู้ ัก ทางานที่ไดร้ ับ แหลง่ เรียนรู้อื่น ๆ แสวงหาความรจู้ าก มอบหมายเสรจ็ ตาม แหลง่ เรียนรู้บ้าง กาหนดเวลา ผลงานมี ความถูกต้อง ละเอยี ด ทางานท่ีได้รับมอบหมาย ทางานที่ได้รับ ประณตี เรยี บร้อย เสร็จตามกาหนดเวลา มอบหมายเสรจ็ ตาม ผลงานมีความถูกต้อง กาหนดเวลา เปน็ เรียบรอ้ ย บางสว่ นผลงานมี ความถกู ต้อง เรยี บร้อยเป็นบาง รายการ

233 ๒๔๗ 247 ๙.มีจิตสาธารณะ ชว่ ยเพือ่ นในกลุ่มทางาน ช่วยเพ่ือนในกลุ่มทางาน ชว่ ยเพอ่ื นในกลุ่ม ชว่ ยเพื่อนในกลุ่ม อาสาทางาน ชว่ ยคิด อาสาทางาน ชว่ ยคิด ทางาน อาสาทางาน ทางาน บ้างบางครง้ั ชว่ ยทา แบง่ ปนั ส่ิงของ ช่วยทา แบ่งปนั สิ่งของ ช่วยคดิ ช่วยทา และช่วยแกป้ ัญหาให้ และชว่ ยแกป้ ญั หาให้ แบง่ ปันส่ิงของ ในบาง ผอู้ ืน่ ดว้ ยความเต็มใจ ผ้อู ืน่ ดว้ ยความเต็มใจ โอกาส และเสียสละ บันทึกผลหลงั การสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ..................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.............................................................) วันท่.ี ........เดอื น....................พ.ศ.......... ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ......................................ผู้ตรวจ (.............................................................) วันที.่ ........เดอื น....................พ.ศ..........

234 รราายยววชิ ชิ าากกาารรงหงานานนว่ ออยาาทชแช่ี ีพผ๒ีพหนนรรใกใเห่วบหรบายสัื่อคัสรคทงวจวววิชี่ัดาชิาก๒ามกมาารารรงงู้ทรแดทู้๒๒เผีู่แี่ร๑๑๑๑นลีย๑๑๖๖รนก๐กั๐ราษรทู้๑๑เเจาี่รร๘ัเดือ่ื่อสภกภงงื้อเาาาผกรกรคคอ่ืา้าาเเเรรแงรรรียปยีลปียกนนะะนะาผเรทผรทคทู้า้ปี่้าี่ร๒่ี๒ะื่อ๘ผงชชแ้าน้ั ั้นตมม่งธั กัธยายมยมศศกึ ึกษษาาปปที ีที่ ่ี ๑๑ การปะผา้ เป็นการซ่อมแซมเส้อื ผ้าบรเิ วณทเ่ี นื้อผา้ ขาดหายไป เช่น รอยไหมจ้ ากเตารดี ผา้ ถูกเกย่ี วขาดเปน็ ปากฉลาม โดยการนำเอาผ้าชนิ้ ใหม่มาปิดซ้อนไว้ด้านในตรงรอยขาดแล้วเย็บสอย เพือ่ พยุงเนอ้ื ผ้าเดิมใหค้ งรูปและมีความทนทานในการใชง้ านมากขึน้ การปะผา้ มีขน้ั ตอนดงั ต่อไปน้ี แต่งรอยขาดด้วยกรรไกรให้เรียบร้อย ไม่มรี อยรุ่ย โดยพยายามให้มีขนาด เล็กที่สุด อาจจะแต่งเป็นรูปสเี่ หลี่ยม หรือวงกลมก็ได้

235 เลือกผ้าทีจ่ ะนำมาปะใหม้ ีสีและเน้ือผ้าคล้ายกันกับผ้าที่ขาด ตัดเป็นรูปสี่เหล่ียมขนาดกว้างกว่ารอยขาด ประมาณ ๓ เซนตเิ มตรโดยรอบ วางปิดรอยขาดด้านใน ใหร้ อยขาดอยู่ตรงกลาง ใช้เข็มหมุดกลัดให้รอบ พับรมิ เศษผ้าที่นำมาปะ กว้างประมาณ ๑ เซนตเิ มตร เนาถี่ ๆ โดยรอบแล้วดงึ เข็มหมุดออก

236 พลิกผ้ากลบั เอาด้านนอกข้ึนข้างบน พับริมผ้าที่ ขาดเข้าด้านใน เนาให้รอบ แลว้ สอยถ่ีๆ กลับผ้าอีกด้าน สอยริมเศษผ้าทเ่ี นาไว้ ใหเ้ ห็นรอยด้านนอกน้อยทส่ี ุด

237 เลาะด้ายเนาออก แล้วรีดรอยปะ ใหเ้ รียบ

ใบความร้ทู ่ี ๑๖ เรื่อง การปะผ้า 238 หนว่ ยท่ี ๒ เร่อื ง การดูแลรักษาเสื้อผา้ และเครอื่ งแต่งกาย ๒๕๒ 252 แผนกาใรบจงดัานกาทร่ี เร๑ีย๘นรเ้ทูรอ่ืี่ ๘ง เกร่ือารงปกะาผร้าปะผ้า รายวิชา กวชิารางกานารองาาชนพี อารชหีพัสวชิ ราหัสงว๒ิช๑า๑๐ง๑๒๑๑ภา๐ค๑เรียนชทน้ั ่ีม๒ัธยชมั้นศมกึ ัธษยามปศที ึก่ี ษ๑าปีท่ี ๑ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นนาผลงานการปะผ้า ติดลงในใบงานใหเ้ รียบร้อย และสง่ ใบงานท่คี รผู สู้ อน การปะผ้า

239 ๒๕๓ 253 แบบประเมนิ ผลงาน เรือ่ ง การปะผ้า ชอื่ นักเรียน..............................................................................ชั้น..................เลขท่ี.............................  การประเมินผล โดย ตนเอง รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพของงาน ข้อเสนอแนะ ๔๓๒๑ ...................................................................... เคร่อื งมือ เคร่ืองใชแ้ ละ .................................................................. อปุ กรณ์ในการปะผา้ ...................................................................... การปฏบิ ตั งิ านการปะผา้ .................................................................. คุณภาพของงาน ...................................................................... ความรับผดิ ชอบในงาน .................................................................. การปฏิบัตงิ าน ลงชื่อ........................................................... การประเมนิ ผล โดยครู ระดบั คณุ ภาพของงาน ขอ้ เสนอแนะ ๔๓๒๑ ...................................................................... รายการประเมนิ .................................................................. ...................................................................... เคร่อื งมอื เคร่ืองใชแ้ ละ .................................................................. อุปกรณ์ในการปะผ้า ...................................................................... การปฏิบัติงานการปะผ้า .................................................................. คุณภาพของงาน ลงชอ่ื ........................................................... ความรับผิดชอบในงาน การปฏิบตั งิ าน การประเมนิ ผล โดยตนเอง ได้คะแนนรวม...............................คะแนน การประเมนิ ผล โดยครู ไดค้ ะแนนรวม...............................คะแนน รวมคะแนนท่ไี ด.้ ...........................คะแนน หารด้วย ๒= ……………….คะแนน คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน

240 ๒๕๔ 254 ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รายการ ระดบั การปฏิบตั ิ ระดบั คะแนน ๑.เครอ่ื งมือ เคร่ืองใช้ และอปุ กรณใ์ นการปะผา้ ๔ ๓  ใช้เคร่ืองมอื เครือ่ งใช้ และอุปกรณ์ ถกู ตอ้ งตามลักษณะของงาน มีพฤตกิ รรมครบ ๔ ขอ้ ๒ มพี ฤติกรรม ๓ ข้อ ๑  เกบ็ และทาความสะอาดเคร่อื งมอื เคร่ืองใช้และอุปกรณอ์ ย่างถูกต้อง มพี ฤติกรรม ๒ ข้อ มพี ฤติกรรม ๑ ข้อ ๔  ความประหยดั ในการใชเ้ คร่อื งมอื เคร่ืองใช้ อปุ กรณแ์ ละวสั ดุ ๓ ๒  ความปลอดภยั ในการใช้เครือ่ งมือเครอื่ งใช้ อปุ กรณ์และวสั ดุ ๑ ๒. การปฏบิ ัติงานการปะผา้ ๔ ๓  ปฏิบัตงิ านถูกตอ้ งตามขั้นตอน มีพฤติกรรมครบ ๔ ข้อ ๒ มพี ฤตกิ รรม ๓ ขอ้ ๑  ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความต้งั ใจ มพี ฤตกิ รรม ๒ ขอ้ มีพฤตกิ รรม ๑ ข้อ ๔  มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทางาน ๓ ๒  อนรุ กั ษ์พลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ ม ๑ ๓. คุณภาพของงาน ๔ ๓  มคี วามประณตี เรียบรอ้ ย สวยงาม มีพฤตกิ รรมครบ ๔ ข้อ ๒ มีพฤติกรรม ๓ ขอ้ ๑  มีความถกู ต้อง เหมาะสมตามลกั ษณะงาน มพี ฤตกิ รรม ๒ ข้อ มพี ฤติกรรม ๑ ข้อ  ทางานเสรจ็ ทนั ในเวลาที่กาหนด  รวบรวมชนิ้ งานไดค้ รบ ๔. ความรบั ผิดชอบ  รบั ผดิ ชอบงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย มพี ฤติกรรมครบ ๔ ข้อ มีพฤติกรรม ๓ ข้อ  มสี ่วนร่วมในการทางาน มพี ฤติกรรม ๒ ข้อ มพี ฤติกรรม ๑ ขอ้  ให้ความชว่ ยเหลอื เพือ่ นในการทางาน  มีน้าใจตอ่ เพอ่ื น ๕. การปฏบิ ตั ิงาน  ความเอาใจใส่  ความสะอาด มีพฤติกรรม ๙-๑๐ ข้อ มีพฤตกิ รรม ๗-๘ ขอ้  ความขยนั อดทน  ความซอื่ สัตย์ มีพฤติกรรม ๕-๖ ข้อ มพี ฤติกรรม ๓-๔ ข้อ  ความเป็นระเบียบ  ความกระตือรือร้น  ความประณตี  รักการทางาน  ความปลอดภยั  ม่งุ ม่นั ทางานจนสาเรจ็

๒๕๕ แบบบนั ทกึ การประเมินผ้เู รียนดา้ นความรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘ เรื่อง การปะผ้า รายวชิ า การงานอาชพี รหสั วชิ า ง2110๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 เลขที่ ช่อื -สกลุ รายการประเมนิ รวม ระดับ สรุปผล ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมปะผา้ คะแนน คุณภาพ ผา่ น ไมผ่ ่าน เครือ่ งมอื การ คณุ ภาพ ความ การ เครือ่ งใช้ ปฏบิ ตั งิ าน ของงาน รบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ัตงิ าน และอุปกรณ์ การปะผา้ ในการปะผ้า ๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๒๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคุณภาพดา้ นความรู้ ดังนี้ ระดับ ๓ ดี ๑๐-๑๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๐ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรงุ ๑๗-๒๐ คะแนน ระดับ ๔ ดมี าก ๑๓-๑๖ คะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ข้นึ ไป ( …………………………………………….) 241 255

๒๕๖ แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรมผเู้ รยี นดา้ นทักษะกระบวนการ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรือ่ ง การปะผ้า รายวิชา การงานอาชพี รหัสวชิ า ง2110๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ชอื่ -สกลุ ทักษะการเชื่อมโยง ทกั ษะการ ทักษะการนา ทกั ษะกระบวนการ รวม ระดับ สรปุ ผล แก้ปัญหา คณุ ภาพ เลขที่ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ ความรูไ้ ปใช้ คะ๑แ๖นน คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๖ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๘-๑๐ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๘ คะแนน ระดับ ๑ ปรบั ปรุง ๑๔-๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๑๑-๑๓ คะแนน ระดับ ๓ ดี เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ข้นึ ไป ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 242 256

๒๕๗ แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี นด้านคณุ ลกั ษณะ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ เรื่อง การปะผา้ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั วชิ า ง2110๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 รายการประเมิน คะแนน ระดบั สรปุ ผล เลขที่ ช่อื – สกลุ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการ มจี ติ สาธารณะ รวม คุณภาพ ผ่าน ไม่ ทางาน ผ่าน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๖ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังนี้ ๘-๑๐ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๘ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรุง ๑๔-๑๖ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๑๑-๑๓ คะแนน ระดับ ๓ ดี เกณฑ์การผ่านระดบั ๒ ขนึ้ ไป ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 243 257

244 ๒๕๗ 258 หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ประดิษฐข์ องสวย ชว่ ยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดใุ นท้องถิน่ รายวชิ า การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง๒๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เวลา ๘ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด สาระที่ ๑ การดารงชีวติ และครอบครวั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรค์มมีททีกั ักษษะกะกระรบะบวนวนกากราทรทา� งาางนานทักทษกั ะษกะากรจารดั การ ทจดักกษาะรกทรักะบษะวกนรกะาบรวแนกก้ไาขรปแัญก้ปหัญาหทาักษทะักกษาะรกทาร�าทงานงารน่วรมว่ กมันกันแแลละะททักษะการแแสสววงงหหาาคคววามามรู้รมู้ คีมุณีคุณธรธรรมรแมลแะละ ลกั ษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม เพื่อการดารงชวี ติ ตวั ช้ีวดั ง ๑.๑ ม.๑/๑ วิเคราะห์ข้นั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ง ๑.๑ ม.๑/๒ ใชก้ ระบวนการการกลมุ่ ในการทางานด้วยความเสยี สละ ง ๑.๑ ม.๑/๓ ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาการทางานอย่างมเี หตุผล ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ทักษะกระบวนการทางานและการทางานร่วมกัน(กาหนดบทบาทหน้าที่สมาชิกกลุ่มกาหนดเป้าหมาย วางแผน แบ่งงานตามความสามารถ ปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีประเมินผล และปรับปรุงงาน ภายใต้ความ เสียสละและการตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล ตามขั้นตอนการทางานโดยฝึกปฏิบัติเก่ียวกับงานประดิษฐ์ ของสวยชว่ ยตกแตง่ จากวสั ดุในทอ้ งถน่ิ ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑. บอกความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการประดษิ ฐ์ของตกแตง่ ได้ ๒. บอกหลกั วิธีการประดิษฐ์ของตกแตง่ ได้ ๓. บอกวัสดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือที่ใชใ้ นงานประดษิ ฐ์ได้ ๔. อธิบายหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงานตลอดจนสามารถป้องกันตนเองจากอันตรายจากการ ทางานได้ ๕.สามารถจดั ทาผงั ความคิด การประดิษฐ์ของตกแตง่ บ้านจากวสั ดุในทอ้ งถ่นิ ได้ ๖. เลอื กและใชว้ สั ดุ อปุ กรณใ์ นการประดิษฐด์ อกไมใ้ บเตยหอมได้ ๗. ประดิษฐด์ อกไม้ใบเตยหอมตามกระบวนการทางานได้ถูกตอ้ ง ๘. เลือกและใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ในการประดิษฐท์ ค่ี นั่ หนังสือจากดอกไม้แห้งได้ ๙. ประดิษฐท์ ่ีคั่นหนงั สือจากดอกไมแ้ ห้งตามกระบวนการทางานได้ถกู ต้อง ๑๐. นาความรู้เกย่ี วกับการใช้อปุ กรณ์ เคร่ืองมือทถี่ ูกวิธไี ปประยุกตใ์ ช้ในการประดษิ ฐ์ ๑๑. เลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือทเี่ หมาะสมกับงานและประหยดั ๑๒. ออกแบบและประดษิ ฐ์ของใช้ อยา่ งมคี วามคิดสร้างสรรค์ ๑๓. เห็นประโยชน์ คุณคา่ ของวัสดเุ หลอื ใช้ต่อการประดิษฐ์เปน็ ของใช้

245 ๒๕๘ 259 ๑๔. ปฏบิ ตั ิงานทใ่ี ช้กระบวนการกลมุ่ เช่น กาารรเลเลือือกหกวัหหัวนหา้ นกล้า่มุกลกุ่ามรกกาาหรนกด�าเหปา้นหดมเาปย้ากหลุ่ม ากยากร ลุ่ม กวารงแวาผงนแแผบนง่ แงาบนง่ ตงานมตคาวมามคสวามรสถามกาารรถปรกะาเรมปนิ รผะลเมนนิ าผเสลนนอา�งเาสนนแอลงะาปนรแบั ลปะรปุงรงบัานปทรเี่งุ กงี่ยานวขท้อ่เี กงกยี่ ับวขกอ้ารงอกอับกกแาบรอบอกแบบ และการประดษิ ฐ์ของสวยช่วยตกแต่งจากวัสดุในท้องถน่ิ ๑๕. แก้ปัญหาจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ เช่น ปัญหาจากสภาพแวดลอ้ มจากกการประดิษฐ์งานทเ่ี กีย่ วกบั การประดิษฐข์ องสวยของตกแตง่ จากวัสดใุ นท้องถิ่นของตนเองในท้องถน่ิ ได้ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. ทักษะในการแสวงหาความรู้ ๒. ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ ๓. ทักษะกระบวนการนาเสนองาน ๔. ทักษะกระบวนการทางานกลมุ่ ๕. ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ๖. ทกั ษะกระบวนการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เจตคติ ๑. มีทศั นคตทิ ่ดี ีต่อการทางานกลุ่ม ๒. ทางานอยา่ งมีความสขุ และมีความเสียสละ ๓. ตระหนักถงึ คุณคา่ ของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละใช้อย่างคมุ้ คา่ ๔. เห็นคณุ คา่ ของการประดิษฐข์ องสวย ช่วยตกแตง่ ดว้ ยวัสดุท้องถิ่น ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๔. อย่อู ย่างพอเพยี ง ๕. ตระหนกั ถงึ คุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ ๖. การประเมินผลรวบยอด ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ผลงานการประดิษฐ์ของสวย ช่วยแต่งบ้าน ๗. การวัดและประเมนิ ผล การวดั และประเมินผลก่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

246 ๒๕๙ 260 - ใชค้ าถาม การตอบคาถามแบบสั้นๆๆแลแะลกะากราแรสแดสงดคงวคาวมาคมิดคเิดหเ็นห็น การวัดประเมนิ ผลระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. การสังเกตพฤตกิ รรมกระบวนการทางานกลุ่ม ๒. การปฏิบตั ิงาน ๓. การตอบแบบคาถาม เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรุง) เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ ๑. การตอบ คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ คาถาม คาถามด้านความรู้ คาถามด้านความรู้ คาถามด้านความรู้ คาถามดา้ นความรู้ ได้เท่ากับ ๙-๑๐ เท่ากบั ๗-๘ คะแนน ได้เท่ากบั ๕-๖ ต่ากวา่ ๕ คะแนน คะแนน คะแนน ๒.ผลงานสาเร็จ ผลงานใชป้ ระโยชน์ ผลงานใชป้ ระโยชน์ ผลงานใช้ประโยชน์ ผลงานใช้ประโยชน์ ไดต้ ามประเภทของ ไดต้ ามประเภทของ ไดต้ ามประเภท ไมไ่ ด้ตามประเภท งานผลงาน งานผลงานเรียบรอ้ ย ของงาน ของงาน ผลงานไม่ เรียบรอ้ ย ประณตี ประณีต สวยงาม ผลงานเรยี บรอ้ ย ไเรมยี่เรบียรบ้อรยอ้ ย สวยงาม มี สวยงาม ความคดิ สรา้ งสรรค์ ๓. การนาเสนอ เนื้อหานาเสนองาน เนอ้ื หานาเสนองาน เน้ือหานาเสนองาน เนือ้ หานาเสนองาน งานหนา้ ชัน้ เรียน ครอบคลุมทุก ครอบคลุมทุก ครอบคลุมทกุ ไมค่ รอบคลมุ ไม่ ประเด็น ถูกตอ้ ง ประเดน็ ถูกตอ้ งตาม ประเด็น ถกู ตอ้ ง ถูกต้องตามหลัก ตามหลกั วชิ าการ หลกั วชิ าการ ตามหลกั วิชาการ วิชาการ ตอบข้อ นา่ เชื่อถอื ใช้คาพดู น่าเชอื่ ถือ พดู น่าเชื่อถอื ตอบข้อ คาถามได้ไม่ครบทุก นาเสนอได้ นาเสนอไดเ้ หมาะสม คาถามได้ทุก ประเดน็ นาเสนอ เหมาะสม ตอบข้อคาถามไดท้ ุก ประเดน็ ตรงเวลาท่ี ได้ไมต่ รงเวลาท่ี บคุ ลกิ ภาพดี ตอบ ประเด็น เสนอได้ กาหนด กาหนด ขอ้ คาถามไดท้ ุก เหมาะสม ตรงเวลาที่ ประเด็น นาเสนอ กาหนด ได้เหมาะสม ตรง เวลาทก่ี าหนด

247 ๒๖๐ 261 ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ศึกษาและสบื ค้น เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ข้อมูลไมต่ รง ๔.ทกั ษะในการ ศึกษาและสืบคน้ ศึกษาและสืบคน้ ศกึ ษาและสืบคน้ ประเด็น แสวงหา ขอ้ มูลได้ตรง ขอ้ มูลไดต้ รงประเดน็ ข้อมูลได้ตรง ไมถ่ ูกต้องและ ความร้/ู ประเดน็ ตามท่ี ตามทกี่ าหนด เนื้อหา ประเดน็ ตามท่ี ไม่ครบถ้วน การศกึ ษาและ กาหนด เนอื้ หา ถกู ต้องและครบถว้ น กาหนด เน้อื หา มีระบแุ หลง่ สบื ค้นขอ้ มลู ถกู ต้องและ มีแหลง่ อา้ งอิง ถกู ต้องแต่ไม่ อ้างอิง ๕.ทักษะในการ ครบถ้วน มีแหล่ง ๒ แหล่ง ครบถว้ น มีแหลง่ แสวงหาความรู้ / อ้างอิง อา้ งอิง ๑ แหลง่ การเขียนสรปุ ๓ แหลง่ ขึน้ ไป สาระสาคัญ เขยี นสรุป เขยี นสรุปสาระสาคญั เขยี นสรปุ เขยี นสรปุ ๖. ทักษะการคดิ สาระสาคัญไดค้ รบ ได้ครบและตรง สาระสาคญั ได้ตรง สาระสาคญั ไดไ้ ม่ วเิ คราะห์ และ ประเด็นเขยี นมี ประเดน็ เขยี น ตรงประเดน็ ตรงประเด็นเขียนมี เหตุผลประกอบอยา่ ง มีเหตุผลประกอบ ใชภ้ าษา เหตผุ ลประกอบ เหมาะสม อยา่ งเหมาะสม ในการเขยี น อยา่ งเหมาะสมใช้ ใชภ้ าษาในการเขยี น ใช้ภาษาในการ ไมเ่ หมาะสม เขยี น ภาษาในการเขยี น ได้เหมาะสม เขยี นคา เขียนไดเ้ หมาะสม ถกู บ้าง ผิดบ้างเป็น ไดเ้ หมาะสม เขียน ถกู ต้อง เขยี นถูกเป็นส่วน บางคา คาถูกต้อง ลายมือ ใหญ่ สวย อ่านง่าย มี ความคดิ สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ขนั้ ตอน วิเคราะหข์ นั้ ตอน วเิ คราะห์ขน้ั ตอน วเิ คราะหข์ น้ั ตอน กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน ท่เี ลอื กได้ถูกต้อง เลอื กได้ถกู ต้องและ ทเ่ี ลือกไดถ้ ูกต้อง ที่เลอื กไม่ได้ และครบถ้วน ตาม ครบถ้วน ขัน้ ตอน ๗. ทกั ษะการ นาเสนอ นาเสนอกระบวนการ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนองาน กระบวนการทางาน ทางานท่เี ลือกได้ กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน ที่เลือกไดถ้ ูกต้อง ถูกต้องและครบถ้วน ทเี่ ลือกได้ถูกต้อง ทเ่ี ลือกไม่ได้ และครบถ้วน ตาม ขัน้ ตอน ๘. ทกั ษะ การแบง่ หน้าท่ี การแบง่ หน้าที่ ความ การแบ่งหนา้ ท่ี การแบ่งหน้าที่ กระบวนการ ความรบั ผดิ ชอบ รับผดิ ชอบชัดเจน ความรับผดิ ชอบ ความรบั ผดิ ชอบไม่ ทางานกลมุ่ ชดั เจน ร่วมคดิ ร่วมคดิ รว่ มวางแผน ชดั เจน รว่ มคิด ชัดเจน จาก ร่วมวางแผน ร่วมมือทางาน ร่วมวางแผน การร่วมคิด

248 ๒๖๑ 262 ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรงุ ) รว่ มมอื ทางาน ชว่ ยเหลือเอ้อื อาทร รว่ มมือทางาน วางแผนและ ช่วยเหลือเอ้อื อาทร ในการทางาน ชว่ ยเหลอื เอ้อื อาทร รว่ มมอื ไมเ่ อ้ือ ในการทางาน รบั ผิดชอบ ตรงตอ่ ในการทางาน อาทร ไมต่ รงต่อ รับผิดชอบ ตรงตอ่ เวลา รบั ฟังความ รับผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ฟงั ความ คดิ เหน็ ซึ่งกนั และกนั เวลา คดิ เห็นซง่ึ กันและ กัน และร่วมภูมิใจ ในผลงาน ๙. ทกั ษะในการ ทกั ษะในการ ทกั ษะในการ ทักษะในการ ไมส่ ามารถ แกป้ ัญหา แก้ปญั หาใน แก้ปัญหาในระหว่าง แก้ปญั หา แก้ปัญหา ระหวา่ งการ การปฏบิ ตั ิงานได้ตาม ในระหวา่ งการ ระหวา่ งการ ปฏบิ ตั งิ านไดต้ าม สถานการณ์ เกดิ ผลดี ปฏิบัติงานไดต้ าม ปฏบิ ัตงิ านได้ สถานการณ์ เกดิ ตอ่ การปฏิบตั ิงาน สถานการณ์ ผลดีตอ่ การ ปฏิบตั ิงาน ได้รับ การยอมรบั จาก เพื่อนรว่ มงาน ๑๐. ทักษะ สามารถเลอื กและ สามารถเลอื กและใช้ สามารถเลือกและ ใชเ้ ทคโนโลยีในการ กระบวนการใช้ ใช้เทคโนโลยีที่ เทคโนโลยีท่ี ใช้เทคโนโลยที ่ี สบื คน้ รวบรวม เทคโนโลยี เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ สรปุ ความรู้ และ สารสนเทศ สบื ค้น รวบรวม สืบคน้ รวบรวม สรุป สืบคน้ รวบรวม นาเสนอผลงานได้ สรปุ ความรดู้ ว้ ย ความร้ดู ้วยตนเอง สรุปความรู้ด้วย ตนเอง และ และนาเสนอผลงาน ตนเอง และ นาเสนอผลงานได้ ได้อย่างเหมาะสม นาเสนอผลงานได้ อยา่ งเหมาะสม คมุ้ ค่า แต่ไม่ คุ้มคา่ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ และมจี ริยธรรม ปฏบิ ัตติ าม เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะ ๑๑. มวี นิ ยั ปฏบิ ตั ติ าม ปฏิบตั ติ าม ไม่ค่อยปฏบิ ัตติ าม กฎระเบยี บ กติกา กฎระเบียบ กติกา กฎระเบียบ กติกา กฎระเบียบ กติกา ของโรงเรียน ของ ของโรงเรยี น ของ ของโรงเรยี น ของ ของโรงเรยี น ของ หอ้ งเรียน ของกลุ่ม ห้องเรยี น ของกลมุ่ หอ้ งเรียน ของกลุ่ม ห้องเรียน ของกลุ่ม ดว้ ยความเต็มใจ ไม่ ไมก่ ่อกวนความ ไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ กอ่ กวนความ

249 ๒๖๒ 263 ประเด็นการ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ประเมนิ กอ่ กวนความ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ราคาญใหค้ รูและ ราคาญใหค้ รูและ ราคาญใหค้ รูและ ไมก่ ่อกวนความ เพื่อนในห้องเรยี น เพื่อนในห้องเรยี น เพ่อื นในห้องเรียน ราคาญใหค้ รูและ เปน็ บางคร้ัง เพ่อื นในห้องเรยี น ๑๒. ใฝเ่ รยี นรู้ มีความ มคี วามกระตือรือร้น มีความ ไม่มีความ กระตือรือร้น อดทน มุง่ มัน่ รู้จัก กระตือรอื ร้น กระตือรอื รน้ อดทน เพยี ร แสวงหาความร้จู าก อดทน มงุ่ มน่ั ใน อดทน มุ่งม่ัน พยายาม มุ่งมัน่ แหลง่ เรยี นรู้อ่นื ๆ บางครัง้ ไมร่ ้จู ักแสวงหา รจู้ ักแสวงหาความรู้ อยเู่ สมอ รู้จกั แสวงหาความรู้ ความรจู้ ากแหลง่ จากแหล่งเรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ เรยี นรู้ อื่น ๆอยเู่ สมอ อน่ื ๆ อ่ืน ๆ เกณฑ์การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะ ๑๓.ม่งุ มน่ั ทางานที่ไดร้ ับ ทางานที่ได้รบั ทางานท่ีไดร้ บั ทางานท่ีได้รบั ในการทางาน มอบหมายเสร็จ มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสร็จ มอบหมายไม่เสร็จ ตามกาหนดเวลา กาหนดเวลา ผลงาน ตามกาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ผลงานมีความ มคี วามถูกต้อง เป็นบางสว่ นผลงาน ผลงานไมม่ ีความ ถูกต้อง ละเอียด เรียบรอ้ ย มีความถูกตอ้ ง เรยี บร้อย ประณตี เรียบร้อย เรยี บรอ้ ยเปน็ บาง รายการ ๑๔. อย่อู ย่าง ปฏิบัติตน วางแผน ปฏบิ ตั ติ น วางแผน ปฏบิ ัติตน วางแผน ไม่มีการวางแผน พอเพยี ง และตัดสินใจด้วย และตัดสินใจด้วย และตดั สินใจด้วย ประกอบการ ความรอบคอบ มี ความรอบคอบ ไม่ ความรอบคอบเป็น ตดั สินใจ เอา เหตุผลเปน็ ประจา เอาเปรียบผูอ้ ่ืน ไมท่ า บางคร้ัง ไม่เอา เปรยี บผอู้ นื่ ไม่เอาเปรยี บผู้อน่ื ใหผ้ อู้ ืน่ เกิดความ เปรียบ ไม่ทาให้ ใชท้ รัพยากร และไมท่ าใหผ้ ู้อน่ื เดือดรอ้ น ใช้ ผอู้ น่ื เกิดความ ไมค่ ุ้มค่า เกดิ ความเดือดร้อน ทรัพยากรของ เดอื ดร้อน ใช้ ใช้ทรพั ยากรของ ส่วนรวมอย่าง ทรพั ยากรของ สว่ นรวมทกุ คร้ัง ประหยัด ค้มุ คา่ เปน็ สว่ นรวมอย่าง อยา่ งประหยัด สว่ นใหญ่ ประหยัด คุ้มค่าเปน็ ค้มุ ค่า และเก็บ บางครงั้ รกั ษาดูแลอย่างดี ทกุ คร้งั

250 ๒๖๓ 264 ประเด็นการ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรบั ปรุง) ประเมิน ใช้ทรัพยากร ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ไม่สนใจการใช้ ธรรมชาติได้อย่าง ใชท้ รัพยากร ใชท้ รัพยากร ทรัพยากรท่ถี ูกต้อง ๑๕. ตระหนกั ถึง ถูกต้อง คมุ้ คา่ ธรรมชาติได้อย่าง ธรรมชาติไดอ้ ย่าง คณุ ค่าของ แนะนา ชักชวน ถูกต้อง คุ้มคา่ ถกู ต้อง แนะนาให้ ทรัพยากร ผูอ้ นื่ ให้เห็นคุณค่า แนะนา ชกั ชวนผู้อ่นื ผอู้ ื่นใช้ทรัพยากรท่ี ธรรมชาติ ในการใชท้ รัพยากร ใหเ้ ห็นคุณค่าในการ ถกู ต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เปน็ แบบ ใช้ทรพั ยากรได้อย่าง อยา่ งทีด่ ีในการใช้ ถูกต้อง ทรพั ยากรท่ีถูกตอ้ ง คุ้มค่า เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะ ๑๖.ความ พดู ถ่ายทอดความรู้ พดู ถ่ายทอดความรู้ พดู ถา่ ยทอดความรู้ ไม่สามารถ พูด สามารถ ความคิด ความ ความคิด ความเข้าใจ ความคดิ ความ ถ่ายทอดความรู้ ในการส่ือสาร เข้าใจจากสารอื่นท่ี จากสารอน่ื ท่ีรับมา เขา้ ใจจากสารอนื่ ที่ ความคิด ความ ๑๗.ความ รับมา ด้วยภาษา ด้วยภาษาของตนเอง รบั มา ไดบ้ า้ งและมี เขา้ ใจจากสารอืน่ ท่ี สามารถ ของตนเองไดอ้ ย่าง ไดแ้ ตข่ าดความ เหตผุ ลเพยี งพอ รบั มา ได้ ในการคดิ คล่องแคล่ว ชดั เจน คล่องแคล่ว ชดั เจน สามารถจาแนก สามารถจาแนกข้อมลู สามารถจาแนก สามารถจาแนก ๑๘.ความ ข้อมลู จัดหมวดหมู่ จดั หมวดหมู่ข้อมูล ข้อมลู จดั หมวดหมู่ ขอ้ มูล จัดหมวดหมู่ สามารถ ขอ้ มลู จัดลาดับ จัดลาดบั ความสาคัญ ข้อมลู จดั ลาดับ ข้อมลู จดั ลาดับ ในการแก้ปญั หา ความสาคญั ของ ของข้อมูล ความสาคญั ของ ความสาคัญของ ขอ้ มลู เปรยี บเทียบ เปรยี บเทยี บข้อมูล ข้อมลู เปรียบเทียบ ขอ้ มูล เปรยี บเทียบ ข้อมลู ระบุ ระบุความสมั พนั ธ์ ขอ้ มูล เพอ่ื เช่ือมโยง ขอ้ มูลได้ ความสมั พนั ธข์ อง ของข้อมูลต่างๆ เพ่ือ กับเหตุการณ์ใน ข้อมลู ต่างๆ เพื่อ เชื่อมโยงกับ ชวี ิตประจาวันได้ เชอ่ื มโยงกบั เหตกุ ารณใ์ น เหตกุ ารณ์ใน ชีวิตประจาวนั ได้ ชวี ิตประจาวนั ได้ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้องและ ครบถ้วน สามารถวิเคราะห์ สามารถวเิ คราะห์ สามารถวาง สามารถวาง ปัญหา ระบุสาเหตุ ปัญหา ระบสุ าเหตุ แผนการแก้ปัญหา แผนการแกป้ ัญหา ปญั หา วางแผนการ ปัญหา วางแผนการ และดาเนนิ การ และดาเนนิ การ

251 ๒๖๔ 265 ประเดน็ การ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ระดบั คุณภาพ ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง) ประเมิน แกป้ ัญหา แกป้ ัญหา ดาเนนิ การ แกป้ ัญหาตามแผน แกป้ ญั หาตามแผน ๑๙.ความ ดาเนินการ แกป้ ญั หาตามแผนท่ี ท่ีกาหนดได้ อย่าง ที่กาหนดแต่ไม่ สามารถ แกป้ ัญหาตามแผน กาหนด นาไปใช้ใน สอดคลอ้ งตาม สาเร็จ ในการใชท้ ักษะ ทก่ี าหนด มีการ การป้องกันและ เหตผุ ล ชวี ิต ตรวจสอบและ แกป้ ัญหาใน ประเมินเพ่ือ สถานการณ์อืน่ ๆได้ นาไปใชใ้ นการ อย่างสอดคลอ้ งตาม ปอ้ งกนั และ เหตุผล แก้ปญั หาใน สถานการณ์อ่ืนๆได้ อยา่ งสอดคลอ้ ง ตามเหตผุ ลและ อตยามา่ งเหมตีคุผณลธแรลระม อย่างมีคุณธรรม รจู้ ักนาความรู้ มีทกั ษะกระบวนการ มีวิธกี ารท่ี มีการการศกึ ษา ทักษะและ ทางานทีห่ ลากหลาย หลากหลายใน ค้นควา้ ข้อมูล แต่ไม่ กระบวนการทางาน มขี นั้ ตอนชดั เจน มี การศึกษา คน้ คว้า สรา้ งประเดน็ ทห่ี ลากหลายจัดทา ความสอดคล้อง กระบวนการทางาน การเรยี นร้ใู หมๆ่ โครงงานท่เี ปน็ นา่ เชื่อถือ ทีห่ ลากหลายจัด ไม่ปฏิบัตติ ามกฎ ระบบ มีขนั้ ตอน ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา กลุ่มความรู้ กตกิ า ของสังคม ชัดเจนและมี ของสงั คม ปฏบิ ตั ติ าม นาเสนอเปน็ ประสทิ ธภิ าพ หน้าที่ ท่สี ่งผลให้ ประเดน็ ที่เปน็ แกน่ ปฏบิ ัติตามกฎ เกดิ ผลดีตอ่ ตนเองได้ สาระสาคญั ได้ กตกิ าของสงั คม มี ปฏบิ ัติตามกฎ ความรบั ผิดชอบ กติกา ของสังคม ปฏบิ ัตติ ามหน้าที่ ท่ี เป็นบางครง้ั ส่งผลให้เกิดผลดีต่อ ตนเองและสว่ นรวม ได้ ๒๐.ความสามารถ เลือกและใช้ เลอื กและใช้ เลือกและใช้ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการ ในการใช้ เทคโนโลยีที่ เทคโนโลยที ่ี เทคโนโลยีท่ี สืบคน้ รวบรวม เทคโนโลยี เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ สรุปความรู้ และ สารสนเทศ สืบค้น รวบรวม สบื คน้ รวบรวม สรปุ สืบคน้ รวบรวม นาเสนอผลงานได้ สรปุ ความรูด้ ว้ ย ความรูด้ ้วยตนเอง สรปุ ความรดู้ ้วย ตนเอง และ และนาเสนอผลงาน

252 ๒๖๕ 266 ประเดน็ การ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ประเมิน นาเสนอผลงานได้ ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรงุ ) อยา่ งเหมาะสม ได้อยา่ งเหมาะสม ตนเอง และ ค้มุ คา่ สรา้ งสรรค์ คุ้มคา่ แต่ไม่ นาเสนอผลงานได้ และมจี รยิ ธรรม สร้างสรรค์ เกณฑ์การตัดสนิ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ หมายถึง ดี คะแนน ร้อยละ ๖๕ – ๗๙ หมายถึง พอใช้ คะแนน ร้อยละ ๕๐ - ๖๔ หมายถึง ปรับปรุง คะแนน ต่ากว่าร้อยละ ๕๐ เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ระดับ พอใช้

๒๖๖ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ ประดิษฐ์ของสวย ช่วยตกแตง่ ด้วยวสั ดุในท้องถิน่ เร่อื ง ความรู้พ้นื ฐานเก่ยี วกับงานประดิษฐ์ของตกแตง่ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การงานอาชีพ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ ขนั้ นา ความรู้พน้ื ฐานเกีย่ วกับงานประดิษฐ์ของตกแต่ง - ๑. ครนู าภาพตัวอยา่ งหรือสง่ิ ประดษิ ฐ์จรงิ มาใหน้ ักเรยี นพจิ ารณา สอ่ื จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒. นักเรยี นแสดงความคิดเห็นในหวั ข้อต่อไปน้ี ๑. ภาพตัวอยา่ งหรือส่ิงประดิษฐจ์ ริง ๒. ใบความรูท้ ี่ ๑๗ เรื่อง ความรูพ้ ้ืนฐาน ดา้ นความรู้ ๑) งานประดิษฐ์ชิน้ นใี้ ชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครอื่ งมืออะไรบ้าง เกี่ยวกบั งานประดิษฐ์ ๒) วสั ดทุ ี่ใช้ทาสง่ิ ประดิษฐ์นีเ้ ปน็ วัสดทุ ีม่ ใี นท้องถ่ินของตนเอง ๓. ใบงานที่ ๑๘ เรอ่ื ง ความรู้พ้นื ฐาน ๑. บอกความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของการ หรอื ไม่ เก่ียวกับงานประดิษฐ์ การงาน / ชิ้นงาน ประดิษฐข์ องตกแต่งได้ ๓.ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ผลการปฏบิ ัตงิ านตามใบงานท่ี ๑๘ ๒. บอกหลกั วิธกี ารประดิษฐ์ของตกแต่งได้ ภาระงาน/ช้ินงาน ดา้ นทักษะและกระบวนการ ข้นั สอน ๑. ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ๒. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ๔. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่มๆละประมาณ ๕ คน จานวน ๘ กลุ่ม แต่ละ กลุ่มเลือกหวั หน้ากลมุ่ เพ่ือดาเนนิ กจิ กรรม ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี ๑๘ ด้านคณุ ลักษณะ ๕. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาเอกสารใบความรูท้ ่ี ๑๗ เรื่อง ความรู้ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ พนื้ ฐานเก่ียวกับงานประดิษฐ์ ๖. ครูให้ตวั แทนกลุม่ ทง้ั ๘ กล่มุ สรุปเนื้อหาใบความรู้ที่ ๑๗ สรปุ ๓. มงุ่ มนั่ ในการทางาน เน้อื หาพอสงั เขปหน้าช้ันเรียนให้กบั เพ่ือนๆได้ฟัง และซักถาม โดยครู คอยอธบิ ายเพิม่ เติมเพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจในเนือ้ หามากขึน้ ๗. ครมู อบหมายงานใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันระดมความคิด ตามความรู้ท่ีไดศ้ ึกษามา ลงในใบงานท่ี ๑๘๙ ๘. ครูประเมินผลการทางานของนกั เรยี น โดยพิจารณาถึงผลงานที่ นกั เรียนระดมความคิดว่าถูกต้องเหมาะสมหรอื ไม่ พร้อมทง้ั ให้ ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม 253 267

๒๖๗ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ ประดษิ ฐ์ของสวย ช่วยตกแต่ง ด้วยวัสดุในท้องถน่ิ เรื่อง ความรูพ้ ืน้ ฐานเก่ียวกับงานประดิษฐ์ของตกแต่ง ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การงานอาชีพ ข้นั สรปุ ๙. ครแู ละนักเรยี นร่วมอภปิ ราย สรปุ ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์และหลักการประดิษฐข์ องตกแต่ง และแนะนาให้นกั เรียน ไปศกึ ษาเพิ่มเติมจากสื่อและแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ 254

255 ๒๖๘ 269 การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ สิ่งท่ีต้องการวดั /ประเมนิ ด้านความรู้ ตทอดบสอคบา� ถคาวมามรู้ แบบทปดรสะเอมบนิ เกณฑ์ rubric ตอบคาถามความรู้พ้ืนฐาน ใบงานท่ี ๑๘ คกวาารมตรอู้ บคา� ถาม ๔ ระดับ โดยผา่ น เกยี่ วกบั งานประดิษฐ์ เกณฑร์ ะดับ 2 ขน้ึ ไป ใบงานท่ี ๑๘ ด้านทกั ษะและกระบวนการ - สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกต เกณฑ์ rubric ๑. ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ทกั ษะในการแสวงหา พฤติกรรมทักษะ ๔ ระดบั โดยผ่าน ๒. ทักษะการคดิ ความรู้ ทักษะการคดิ ในการแสวงหา เกณฑร์ ะดับ ๒ ขน้ึ ไป วเิ คราะห์ วเิ คราะห์ ความรู้ ทกั ษะการ คิดวิเคราะห์ ด้านคณุ ลักษณะ การสังเกตพฤติกรรม การสงั เกต เกณฑ์ rubric ๑. มีวินยั การมวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ พฤติกรรมการมี ๔ ระดบั โดยผ่าน ๒. ใฝ่เรียนรู้ และการมงุ่ มั่นในการ วินยั ใฝ่เรยี นรู้และ เกณฑร์ ะดับ ๒ ขน้ึ ไป ๓. มงุ่ ม่นั ในการทางาน ทางาน การมุ่งม่นั ในการ ทางาน เกณฑ์การประเมนิ ผลชน้ิ งานหรือภาระงาน ระดบั คุณภาพ ประเด็นการ ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรงุ ) เกณฑ์ประเมินด้านความรู้ ๑. การตอบ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถม คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ คาถาม ด้านความรู้ได้เท่ากับ ดา้ นความรู้เทา่ กบั ๗- คาถามด้านความรู้ได้ คาถามดา้ นความรู้ ๗๘-๘คะคแะนแนนน ๙-๑๐ คะแนน เท่ากับ ๕-๖ คะแนน ต่ากว่า ๕ คะแนน เกณฑ์ประเมนิ ด้านทักษะและกระบวนการ ๒.ทักษะ ศึกษาและสบื ค้นขอ้ มลู ศกึ ษาและสืบค้นข้อมูล ศึ ก ษ า แ ล ะ สื บ ค้ น ศึกษาและสืบค้นข้อมูล ในการ ไดต้ รงประเดน็ ตามที่ ได้ตรงประเด็นตามท่ี ข้อมูลได้ตรงประเด็น ไมต่ รงประเดน็ แสวงหา กาหนด เนือ้ หาถกู ต้อง กาหนด เนื้อหาถูกต้อง ตามที่กาหนด เนื้อหา ไม่ถูกต้องและ ความรู้ / และครบถว้ น มีแหล่ง และครบถ้วน มีแหล่ง ถูกต้องแต่ ไม่ครบถว้ น การศกึ ษา อา้ งองิ ๓ แหลง่ อา้ งองิ ๒ แหล่ง ไม่ครบถ้วน มีแหล่ง มีระบแุ หล่งอา้ งองิ และสืบคน้ อ้างอิง ๑ แหลง่ ข้อมลู

256 ๒๖๙ 270 ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรงุ ) ๓. ทักษะ วเิ คราะหข์ นั้ ตอน วิเคราะห์ขน้ั ตอน วเิ คราะหข์ ัน้ ตอน วิ เ ค ร า ะ ห์ ขั้ น ต อ น การคดิ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานท่ี วเิ คราะห์ ท่ีเลือกได้ถูกต้อง เลือกได้ถูกต้องและ เลือกได้ถกู ตอ้ ง เลือกไมไ่ ด้ และครบถ้วน ครบถ้วน ตามขั้นตอน เกณฑ์ประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะ ๔. มวี ินัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ปฏบิ ัตติ าม ไม่ค่อยปฏิบตั ิตาม กติกา ของโรงเรียน กติกา ของโรงเรียน กฎระเบียบ กติกา กฎระเบยี บ กติกา ของ ของห้องเรยี น ของกลุ่ม ของห้องเรียน ของ ของโรงเรียน ของ โรงเรียน ของห้องเรยี น ด้วยความเต็มใจ กลุ่ม ไม่ก่อกวนความ หอ้ งเรยี น ของกลุ่ม ของกล่มุ ก่อกวนความ ไมก่ ่อกวนความราคาญ ราคาญให้ครูและเพื่อน ได้เปน็ สว่ นใหญ่ ราคาญใหค้ รูและเพอื่ น ให้ครแู ละเพ่อื นใน ในหอ้ งเรยี น ไม่กอ่ กวนความ ในห้องเรียน ห้องเรียน ราคาญใหค้ รูและ เปน็ บางครั้ง เพอ่ื นในหอ้ งเรยี น ๕.การ มีความกระตือรือร้น มีความกระตือรือร้น มีความกระตือรือรน้ ไม่มีความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้ อดทน เพียรพยายาม อดทน มุ่งมัน่ รู้จัก อดทน มงุ่ มนั่ ใน อดทน มุ่งมั่น ไม่รู้จัก มุง่ มนั่ รู้จกั แสวงหา แสวงหาความรู้ บางคร้งั รจู้ กั แสวงหา แสวงหาความรู้จาก ความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้อ่ืน ๆ ความรจู้ ากแหลง่ แหล่งเรยี นร้อู ่ืน ๆ อื่น ๆ อยเู่ สมอ อยเู่ สมอ เรียนร้อู นื่ ๆ ๖.ม่งุ ม่ัน ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ไดร้ บั ทางานที่ไดร้ บั ทางานทไี่ ด้รบั ในการ มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายไม่เสร็จตาม ทางาน กาหนดเวลา ผลงานมี กาหนดเวลา ผลงานมี กาหนดเวลา เป็น กาหนดเวลา ผลงาน ความถกู ต้อง ละเอียด ความถกู ต้องเรยี บร้อย บางส่วนผลงาน ไมม่ ีความเรียบร้อย ประณีต เรียบร้อย มคี วามถูกต้อง เรียบรอ้ ยเปน็ บาง รายการ

257 ๒๗๐ 271 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ผลการเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .............................................ผู้สอน ( ……..……………….……………………) วันที่ ...... เดอื น ......................................... พ.ศ. ............. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .............................................ผู้ตรวจ ( ……..……………….……………………) วนั ท่ี ...... เดือน ......................................... พ.ศ. .............

258 ๒๗๑ 272 ใบความรทู้ ่ี ๑๗ เรื่อง ความรู้พื้นฐานเกยี่ วกับงานประดิษฐ์ หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ประดษิ ฐ์ของสวย ชว่ ยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดุในทอ้ งถน่ิ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ เร่อื ง ความร้พู ้ืนฐานเก่ียวกบั งานประดิษฐ์ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ งานประดษิ ฐ์ ความหมายของงานประดษิ ฐ์ งานทีเ่ กดิ จากการใช้ความคิดสรา้ งสรรค์ของมนุษยส์ ร้างหรือประดิษฐข์ ้นึ ตามวัตถปุ ระสงค์ที่ หลากหลาย หรือเพ่ือความสวยงาม หรอื ประดบั ตกแตง่ หรอื เพอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย ความหมายของงานประดิษฐ์ดว้ ยวสั ดใุ นท้องถ่ิน งานทีเ่ กิดจากการใช้ความคดิ สร้างสรรค์ของมนษุ ย์สรา้ งหรือประดิษฐ์ขน้ึ ตามวตั ถุประสงค์ที่ หลากหลาย หรือเพื่อความสวยงาม หรือประดบั ตกแตง่ หรือเพอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย โดยใชว้ ัสดทุ มี่ อี ยู่ในท้องถน่ิ เชน่ รังไหม ใบลาน เกลด็ ปลา ใบตอง ใบยางพารา เปลือกหอย ปอ กระจูด เปน็ ตน้ ความสาคัญของงานประดษิ ฐ์ ๑. งานประดิษฐ์มีความสัมพนั ธ์และเก่ียวข้องกับชีวิตประจาวันของคนไทย ซึง่ มีมาตั้งแตส่ มัยโบราณท่ี เกิดข้ึนจากชีวิตความเป็นอยู่ เพ่ือประโยชน์ใช้สอยและเพื่อความสวยงาม เช่น การประดิษฐ์ภาชนะ ใส่อาหาร หรือขนมด้วยใบตอง ใบเตย ใบจาก การประดษิ ฐ์เคร่ืองปัน้ ดนิ เหนียว การแกะสลักงานไม้ ๒. งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียม ประเพณี และศาสนา เช่น การประดิษฐ์ ตกแตง่ เทียนพรรษาด้วยใบตองและดอกไม้ การรอ้ ยมาลัยบูชาพระ การประดษิ ฐก์ ระทงใบตองในวันลอยกระทง ๓. งานประดิษฐ์ช่วยให้เกิดความรัก สามัคคีในหมู่คณะ ในกรณีที่ผู้ประดิษฐ์รวมกลุ่มกันเพื่อสร้าง ช้ินงาน นอกจากจะได้งานตามท่ีต้องการแล้ว ยังก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี รู้จักเอื้ออาทร รู้จักเสียสละ รู้จักการเป็นผู้นาและผู้ตามที่ดี อันเป็นคุณค่าที่จะช่วยสร้างสังคมให้น่าอยู่ เช่น ประชาชนร่วมกันประดิษฐ์ ดอกไม้จันใทนนงใ์านนงพารนะพรราะชรพาิธชีพพรธิ ะีพรราะชรทาาชนทเาพนลเิงพพลรงิ ะพบรระมบศรพมศพพระพบราะทบสามทเดส็จมพเดร็จะพเจร้าะอเจย้าู่หอัวยรหู่ัชกวั ราัชลกทาี่ ล๙ทตี่ ๙ลอตดลปอี ด พปี.ศพ..ศ๒.๕๒๕๕๙๕๙ ๔. งานประดิษฐ์ช่วยให้การทางานของสมองและประสาทสัมผัสประสานสัมพันธ์กัน กล่าวคือ ทาให้ผู้ ประดษิ ฐเ์ กิดพฒั นาการทางความคดิ สตปิ ัญญา ความสามารถ รวมทงั้ สขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ดงั นี้ ๑) สง่ เสริมให้มคี วามละเอียดรอบคอบในการทางาน ๒) สง่ เสรมิ ให้มคี วามมานะอดทน รกั ในการทางาน และรู้คุณคา่ ของงาน ๓) ส่งเสริมใหม้ คี วามเชื่อม่นั ในตนเอง รู้คุณคา่ ของตนเอง ๔) ส่งเสรมิ ให้มีความรเิ ริ่มสร้างสรรค์การพฒั นาการด้านสติปญั ญา ๕) สง่ เสริมให้ความสามารถในการพัฒนาฝมี ือ ๖) ส่งเสรมิ ให้มสี มาธิและอารมณม์ ั่นคง ประโยชนข์ องงานประดิษฐ์ การประดิษฐข์ องตกแต่งมีประโยชน์ดังน้ี ๑. รูจ้ ักใชท้ รพั ยากรที่มอ่ี ยู่ในทอ้ งถน่ิ ให้เกิดประโยชน์ ๒. ช่วยตกแตง่ ให้เกดิ ความสวยงาม ๓. เป็นงานอดิเรก ร้จู กั ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์

259 ๔. เกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง ๕. เกิดทกั ษะและกระบวนการทำงาน เชน่ ร้จู ักวางแผนการทำงาน การดูแลรักษาเคร่ืองมือ ๖. เปน็ แนวทางท่ีอาจเกิดขึ้นเป็นรายได้ระหว่างเรียน หรอื สรา้ งอาชพี ในอนาคตได้ หลกั การสรา้ งสรรค์งานประดษิ ฐ์ การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ให้ประดิษฐ์ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนต้องมีความพึงพอใจ ในการทำงาน โดยยดึ หลักการดงั น้ี ๑. หมั่นศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการในชุมชนการโรงเรียน จากตวั อยา่ งสงิ่ ประดิษฐ์ท่ีสนใจ ๒. ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการวิเคราะห์ ด้วยตนเองหรือศกึ ษาจากผู้รู้ ผ้เู ชี่ยวชาญ หรือจากสื่อต่าง ๆ เช่น วารสาร หนงั สอื เปน็ ตน้ ๓. ทดลองการปฏิบตั ิการประดษิ ฐ์ ผู้เรียนตอ้ งศกึ ษาค้นคว้าและทดลองปฏิบตั ิตามแนวคิดที่ได้สร้างสรรค์ ไว้และมีการปรบั ปรุงแกไ้ ข ขอ้ บกพรอ่ งจนสำเรจ็ เป็นชิ้นงานประดษิ ฐท์ ่ีพงึ พอใจ วิธีการสรา้ งงานประดิษฐ์ ในการประดิษฐ์งานต่างๆ อาจจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้งานประดิษฐ์ มีความคงทน สวยงาม และสามารถนำมาใชไ้ ด้จริง ซึง่ มีวิธกี าร ดังต่อไปน้ี ๑. การปะ ตดิ ต่อ ยึด เชือ่ ม เปน็ ข้ันตอนการสร้างงานโดยนำวสั ดุจำพวก แป้งเปยี ก กาวตา่ ง ๆ เชอื ก และบัดกรี เพ่อื ปะ ตดิ ต่อ ยึด เชอ่ื ม วสั ดุสองสิ่งเข้าด้วยกนั งานประเภทน้ี ได้แก่ ภาพติดปะ งานจำลอง ๒. เปเปอร์มาเช่ บ้านแบบจำลอง ดอกไม้ แจกัน เป็นต้น ๓. การป้นั เปน็ การนำวสั ดปุ ระเภทต่าง ๆ เชน่ ขเ้ี ล่ือยยางพาราผสมกาว ดินเหนียว ดินน้ำมนั หรือขี้ผึง้ มาปนั้ เปน็ รูปตามตอ้ งการ เชน่ การปน้ั รปู คน สัตว์ หรือส่ิงของ ผลไม้ เหรยี ญ เปน็ ต้น ๔. การปัก เป็นการใชว้ ัสดุประเภท ด้าย ไหม หรอื ไหมพรม ตกแต่งยดึ ติดหรือทำเป็นลวดลายบนผา้ ใหส้ วยงาม เชน่ การปกั ตวั อกั ษรบนผ้าหรอื ผ้าเชด็ หน้า ปลอกหมอน ผ้าคลมุ เตยี ง เปน็ ต้น ๕. การถกั เปน็ การใชว้ ัสดุประเภท ดา้ ย ไหม หรอื ไหมพรม มาถัก สอดหรือไขวก้ ันให้ตดิ กันเกิดเปน็ ช้นิ งานหรือลวดลาย เชน่ มลู่ ่ี กระเปา๋ สะพาย ผ้าพนั คอ ปลอกหมอน สร้อยข้อมือ เป็นต้น ๖. การแกะสลกั เปน็ การนำ มีด มีดแกะสลัก หรือเคร่อื งมอื มีคมชนิดอนื่ มาแกะวัสดุประเภท สบู่ ผกั ผลไม้ ไม้ หนิ นำ้ แขง็ เพื่อให้เกิดลวดลายแบบตา่ ง ๆ ตามตอ้ งการ ๗. การสาน เป็นการนำวสั ดปุ ระเภท ตอกไม้ไผ่ หวาย ยา่ นลเิ ภา ปอ กระจดู กก ใบลาน ใบมะพร้าว มาสานใหเ้ กดิ เป็นรปู รา่ งหรอื ชิ้นงาน และลวดลายแบบตา่ ง ๆ เช่น ตะกรา้ หมวก พัด เสือ่ กลอ่ งใสก่ ระดาษ ทิชชู เปน็ ต้น ๘. การเย็บ เป็นการทำใหว้ ัสดสุ องชน้ิ ยดึ ติดกนั ด้วยดา้ ย ไหม หรือไหมพรม เช่น เสือ้ ผา้ กระเป๋า ๙. การย้อมและการแตง่ สี เปน็ การเติมและแต่งสีบนชิน้ งานเพอื่ วสั ดุมคี วามสวยงามด้วยมือ พู่กัน เชน่ ดอกไม้จากเกล็ดปลาหรอื ใบยางพารา ๑๐. การรอ้ ย เปน็ การร้อยวัสดุโดยอาศยั ด้าย ไหม หรอื ไหมพรม กับเขม็ เชน่ พวงมาลัย โมบาย สร้อยลูกปัด เปน็ ต้น

260 ๒๗๓ 274 ใบงานที่ ๑๘ เร่ือง ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกบั งานประดิษฐ์ หน่วยท่ี ๓ เร่ือง ประดิษฐ์ของสวย ช่วยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดใุ นทอ้ งถ่นิ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอื่ ง ความรู้พ้ืนฐานเกีย่ วกบั งานประดษิ ฐ์ รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ คาช้แี จง ให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ ๓ ๕– ๕ คน ประชมุ คัดเลือกหัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้ากลุ่ม เลือกงาน ประดิษฐ์ของตกแต่งท่นี ่าสนใจ แล้ววิเคราะห์งานตามหัวข้อท่กี าหนด สมาชกิ ในกลุม่ ๑ ................................................................. ชัน้ /ห้อง ............ เลขท่ี ............ หัวหนา้ กลุ่ม ๒ ................................................................. ชน้ั /หอ้ ง ............ เลขท่ี ............ รองหน.กล่มุ ๓ ................................................................. ชน้ั /หอ้ ง ............ เลขที่ ............ สมาชิกกลุ่ม ๔ ................................................................. ชน้ั /ห้อง ............ เลขท่ี ............ สมาชกิ กลุ่ม ๕ ................................................................. ชน้ั /หอ้ ง ............ เลขที่ ............ สมาชิกกลุม่ ๑.ชือ่ งานประดิษฐ์....................................................................................................................................... ๒.งานประดิษฐ์ปปรระะเเภภทท................................................................................................................................ ๓๓.เเหหตตผุ ผุ ลลทท่เี เี่ลลอื ือกกชชิ้นนิ้ งงาานนนน้ี ี.้ ............................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๔๔.ปปรระะโโยยชชนน์ขข์ อองงชชิ้นิ้นงงาานน............................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ๕๕..สสถถาานนทท่ีทที่ ี่คีค่ ววรรนนา�างชานนิ้ ชงาิน้ นนน้ีไป้ีไปใชใช้ .้ ................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ๖๖..ผผทู้ ู้ทีเ่ ่ีเหหมมาาะะสสมมจจะะใใชชช้ ้ชน้ิ น้ิ งงาานนนนี้ ไ้ี ดไดแ้ ้แกก่ ่............................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ๗.ควรใชช้ ิ้นงานน้ีในโอกาส ๗. ควรใช้ชิ้นงานน้ีในโอกาส......................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... การประเมนิ ผลงาน  ผา่ น  ไม่ผ่าน  แก้ไขปรับปรงุ ลงชื่อ ..........................................ผสู้ อน

๒๗๔ แบบบนั ทึกการประเมนิ ผู้เรยี นด้านความรู้ หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ประดษิ ฐข์ องสวย ชว่ ยตกแต่ง ด้วยวสั ดุในท้องถิ่น แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง ความรู้พืน้ ฐานเกีย่ วกบั งานประดษิ ฐ์ รายวชิ า การงานอาชพี รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ เลขที่ ชื่อ-สกลุ รายการประเมนิ รวมคะแนน ระดับ สรุปผล ๑๐ คณุ ภาพ ผา่ น ไมผ่ ่าน ๑ การตอบคาถามรายข้อต่อคะแนน ๒ ๑ ๒๓๔ ๕ ๖ ๗ ๓ ๑ ๒๑๑ ๓ ๑ ๑ ๔ ฯลฯ ระดบั ๓ ดี ๕ - ๖ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕ คะแนน ระดบั ๑ ปรับปรุง เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพดา้ นความรู้ ดงั นี้ ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ๙ - ๑๐ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๗ - ๘ คะแนน ( …………………………………………….) เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ขึ้นไป 261 275

๒๗๕ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤตกิ รรมผ้เู รียนด้านทักษะกระบวนการ หนว่ ยที่ ๓ เรือ่ ง ประดษิ ฐ์ของสวย ช่วยตกแตง่ ด้วยวสั ดุในท้องถิ่น แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง ความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกบั งานประดษิ ฐ์ รายวิชา การงานอาชพี รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ เลขท่ี ชื่อ-สกุล รายการประเมนิ รวม ระดบั สรปุ ๑ ทักษะการ ทักษะการคดิ คะแนน คุณภาพ ผา่ น ไม่ผา่ น ๒ แสวงหาความรู้ วเิ คราะห์ ๓ ๑ ๒ ๓๔๑๒๓ ๔ ๘ ๔ ๕ ๔- ๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๔ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรงุ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๘ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๓ ดี เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขนึ้ ไป ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ( …………………………………………….) 262 276

๒๗๖ แบบบันทึกการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี นด้านคณุ ลักษณะ หน่วยท่ี ๓ เรื่อง ประดิษฐ์ของสวย ชว่ ยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดุในทอ้ งถิน่ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรือ่ ง ความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกับงานประดิษฐ์ รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายการประเมิน สรปุ มุ่งมน่ั ในการ รวม ระดบั เลขที่ ชอ่ื -สกุล มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ ทางาน คะแนน คณุ ภาพ ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ 2 3 4 5 ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังนี้ ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรงุ ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ข้นึ ไป ( …………………………………………….) 263 277

๒๗๗ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ ประดษิ ฐข์ องสวย ช่วยตกแต่ง ด้วยวสั ดใุ นท้องถน่ิ เรื่อง วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื และความปลอดภยั ในการทางานประดิษฐ์ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้ วสั ดุ อปุ กรณ์ เครื่องมอื และความปลอดภยั ในการทางาน ขัน้ นา - ประดิษฐ์ ๑. ครูและนักเรยี นทบทวนความรู้จากการเรียนในสปั ดาหท์ ี่แลว้ เรอื่ ง สอ่ื จุดประสงค์การเรยี นรู้ การประดิษฐข์ องตกแตง่ บา้ นจากวัสดใุ นทอ้ งถน่ิ แล้วเช่อื มโยงสูก่ าร ๑.ใบความรูท้ ี่ ๑๘ วัสดุ อุปกรณ์ ด้านความรู้ ทางาน เครื่องมือ และความปลอดภยั ในการ ๑. บอกวสั ดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือทใี่ ชใ้ นงานประดษิ ฐ์ได้ ๒. ครูใช้คาถามกระตุ้นการคดิ นกั เรยี น ดังประเดน็ ต่อไปนี้ ทางานประดษิ ฐ์ ๒. อธิบายหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงานตลอดจน - สง่ิ ของเครอ่ื งใช้ภายในบา้ นทีน่ กั เรยี นพบเห็นในชวี ติ ประวันมี ๒. ใบงานท่ี ๑๙ เรื่อง ผงั ความคดิ สามารถป้องกันตนเองจากอันตรายจากการทางานได้ มอีอะไะรไบรบ้างา้ ง การประดิษฐ์ของตกแตง่ บ้านจาก ๓.สามารถจัดทาผังความคิด การประดิษฐ์ของตกแต่งบ้าน - นักเรียนยกตัวอย่างสง่ิ ของ เคร่ืองใชท้ ส่ี ร้างขนึ้ เพ่อื อานวยความ วสั ดุในท้องถน่ิ จากวสั ดใุ นท้องถน่ิ ได้ สะดวกในชีวติ ประจาวัน ๓กา. รใบงาคนวา/มรชทู้ น้ิ ี่ ง๑า๘น การประดษิ ฐ์ ดา้ นทักษะและกระบวนการ -นักเรยี นคดิ วา่ ความรูเ้ กีย่ วกับงานชา่ งมีความจาเปน็ หรือไม่ อย่างไร ดผอลกไามร้ใปบฏเตบิ ยัตหิงอานมตามใบงานท่ี ๑๙ ๑. ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ๓.ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ขน้ั สอน ๓. ทักษะกระบวนการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ๔.นักเรยี นศึกษาใบความรู้ท่ี ๑๘ เรอ่ื ง วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื และ ด้านคุณลักษณะ ความปลอดภัยในการทางานประดษิ ฐ์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ครูอธบิ ายความรู้พ้นื ฐาน เรอ่ื งความปลอดภยั ในการทางาน 2. มงุ่ มั่นในการทางาน ๖.แบง่ กลุ่มนกั เรยี น กลุ่มละ ๕ คน แตล่ ะกลุ่มเลือกหัวหนา้ กลุ่มและ 3. อยู่อย่างพอเพยี ง เลขากล่มุ เพ่ือดาเนนิ กจิ กรรมออกแบบในใบงานท่ี ๑๙ เรื่องผงั ความคดิ งานประดษิ ฐ์ของตกแต่งบ้านจากวัสดใุ นท้องถนิ่ 264 278

๒๗๘ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ประดิษฐข์ องสวย ช่วยตกแต่ง ด้วยวัสดใุ นทอ้ งถิ่น เรือ่ ง วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื และความปลอดภยั ในการทางานประดษิ ฐ์ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ข้ันสรปุ ๗. ครแู จกใบความรู้ท่ี ๑๙ เร่ือง การประดษิ ฐ์ดอกไมใ้ บเตยหอม ใหน้ ักเรยี นศึกษาเนื้อหามาล่วงหนา้ พรอ้ มสัง่ งานใหน้ ักเรยี นเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือ ตามใบความรู้เพ่ือทีจ่ ะปฏบิ ัตงิ านในครัง้ ต่อไป ๘. ครสู รุปและมอบหมายให้นักเรียนศึกษาใบความรเู้ พิ่มเติมเกยี่ วกบั งานประดษิ ฐ์ และความปลอดภัยในการทางาน เพือ่ ให้นกั เรียนเตรียม ความพร้อมในการสรา้ งงานประดษิ ฐ์ในคาบเรยี นต่อไป 265

266 279 ๒๗๙ 280 การวัดและการประเมินผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ส่งิ ที่ต้องการวัด/ประเมนิ ระดมความคิดตอบ แบบประเมนิ ใบงานการตอบ เกณฑ์ rubric บดวัสอา้ ดนกุคอแวปุลากะมรรอณู้ธ์ิบเคารย่ือวงัสมดือุ และ คาถาม ผังความคดิ คาถามผังความคิดในงาน ๔ ระดับ โดยผ่าน ปคอคปปุวรวราะากะมมดดรปปษิณิษลลฐฐ์ อ์เอ์ คดดรภภอ่ื ัยยั งใใมนนอื กกาาแรรลททะาา� งงาานน ในงานประดิษฐ์ ประดษิ ฐ์ เกณฑร์ ะดบั ๒ ขึน้ ไป ด้านทักษะและกระบวนการ ๑. ทักษะในการแสวงหา สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมทักษะ เกณฑ์ rubric ความรู้ ทักษะในการแสวงหา ในการแสวงหาความรู้และ ๔ ระดบั โดยผ่าน ความรู้และทักษะ ทักษะกระบวนการใช้ เกณฑร์ ะดบั ๒ ขนึ้ ไป ๒. ทกั ษะกระบวนการใช้ กระบวนการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรมการใฝ่ เกณฑ์ rubric ๑. ใฝ่เรียนรู้ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน เรียนรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน ๔ ระดับ โดยผา่ น ๒. ม่งุ มัน่ ในการทางาน การทางาน และอยู่ และอยู่อย่างพอเพียง เกณฑร์ ะดับ ๒ ข้นึ ไป ๓. อยอู่ ย่างพอเพียง อยา่ งพอเพียง เกณฑ์การประเมินผลช้ินงานหรือภาระงาน ระดบั คุณภาพ ประเดน็ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง) เกณฑ์ประเมนิ ด้านความรู้ ๑. การเขียนผงั คะแนนการตอบ คะแนนการตอบคา คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ ความคดิ คาถามด้านความรู้ได้ ถมดา้ นความรู้เท่ากบั คาถามดา้ นความรู้ คาถามด้าน เทา่ กับ ๙-๑๐ ๗-๘ คะแนน ได้เท่ากับ ๕-๖ ความรู้ คะแนน คะแนน ต่ากวา่ ๕ คะแนน เกณฑ์ประเมนิ ด้านทักษะและกระบวนการ ๒.ทกั ษะในการ ศึกษาและสืบค้น ศกึ ษาและสืบค้น ศึกษาและสืบค้น ศึกษาและสืบค้น แสวงหาความรู้ ขอ้ มลู ไดต้ รงประเด็น ขอ้ มูลได้ตรงประเด็น ขอ้ อมลูมไู ดลต้ ไรงด้ ต ร ง ข้ออมมูลูไลม่ตไ รมง่ ต ร ง ตามที่กาหนด เนอื้ หา ตามทก่ี าหนด เน้อื หา ปรระะเดเน็ ดต็ นามตทาี่ ม ที่ ประเดน็ ถกู ต้องและครบถ้วน ถกู ต้องและครบถ้วน ก�าาหหนนดดเนือ้เ นหื้าอ ห า ไมถ่ ูกตอ้ งและ มีแหลง่ อ้างองิ ๓ มีแหล่งอา้ งอิง ๒ ถูกตอ้ งแต่ ไมค่ รบถ้วน แหล่ง แหลง่ ไมค่ รบถ้วน มีแหล่ง มรี ะบุแหล่ง อา้ งอิง ๑ แหล่ง อา้ งองิ

267 ๒๘๐ 281 ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๓. ทักษะการคิด ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรงุ ) วิเคราะห์ ๔. ทักษะ วเิ คราะห์ขน้ั ตอน วิเคราะห์ขน้ั ตอน วิเคราะห์ข้ันตอน วิเคราะห์ข้ันตอน กระบวนการใช้ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางาน กรระะบวบนวกนารก า ร เทคโนโลยี ที่เลอื กไดถ้ ูกต้อง เลอื กไดถ้ กู ตอ้ งและ ทเ่ี ลอื กไดถ้ กู ต้อง ท�าางงานาทนี่เทลี่ือเ กลื อ ก สารสนเทศ และครบถว้ น ตาม ขั้นตอน ครบถ้วน ไมไ่ ด้ ๕. ใฝเ่ รียนรู้ สามารถเลอื กและใช้ สามารถเลือกและใช้ สามารถเลือกและ ใช้เทคโนโลยี ๖. ม่งุ มน่ั ในการ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ ใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศในการ ทางาน ที่เหมาะสมในการ ทีเ่ หมาะสมในการ สารสนเทศ สืบค้น รวบรวม สบื ค้น รวบรวม สรปุ สบื คน้ รวบรวม สรุป ทเี่ หมาะสมในการ สรปุ ความรู้ และ ๗. อยู่อย่าง ความรู้ดว้ ยตนเอง ความร้ดู ้วยตนเอง สบื คน้ รวบรวม นาเสนอผลงานได้ พอเพียง และนาเสนอผลงาน และนาเสนอผลงาน สรุปความรูด้ ว้ ย ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตนเอง และ คุม้ คา่ สร้างสรรค์ คุม้ คา่ แต่ นาเสนอผลงานได้ และมีจรยิ ธรรม ไมส่ รา้ งสรรค์ เกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะ มีความกระตือรือรน้ มีความกระตือรือรน้ มีความ ไมม่ ีความ อดทน เพียรพยายาม อดทน มุง่ มั่น รจู้ ัก กระตือรอื ร้น กระตือรือร้น ม่งุ มัน่ รู้จกั แสวงหา แสวงหาความรู้จาก อดทน มุ่งมัน่ ใน อดทน มงุ่ มนั่ ความรูจ้ ากแหลง่ แหล่งเรยี นรู้อนื่ ๆ บางคร้ัง ร้จู ัก ไม่รจู้ กั แสวงหา เรียนรูอ้ น่ื ๆ อยู่เสมอ ๆ แสวงหาความรจู้ าก ความร้จู ากแหล่ง อยู่เสมอ ๆ แหล่งเรียนรอู้ ่ืน ๆ เรียนรอู้ นื่ ๆ ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ไดร้ ับ ทางานที่ได้รบั ทางานที่ไดร้ บั มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายเสร็จ มอบหมายไม่ กาหนดเวลา ผลงาน กาหนดเวลา ผลงาน ตามกาหนดเวลา เสรจ็ ตาม มคี วามถูกต้อง มีความถูกต้อง เปน็ บางส่วนผลงาน กาหนดเวลา ละเอยี ด ประณีต เรยี บร้อย มคี วามถูกตอ้ ง ผลงานไม่มี เรยี บรอ้ ย เรียบร้อยเปน็ บาง ความเรยี บรอ้ ย รายการ ปฏบิ ตั ติ น วางแผน ปฏิบตั ิตน วางแผน ปฏิบตั ติ น วางแผน ไม่มีการวางแผน และตดั สนิ ใจดว้ ย และตดั สนิ ใจด้วย และตัดสนิ ใจด้วย ประกอบการ ความรอบคอบ มี ความรอบคอบ ไม่ ความรอบคอบเป็น ตัดสนิ ใจ เอา เหตผุ ลเปน็ ประจา เอาเปรยี บผูอ้ นื่ ไม่ทา บางคร้งั ไมเ่ อา เปรยี บผู้อื่น ไมเ่ อาเปรียบผ้อู ืน่ ให้ผ้อู ่นื เกิดความ เปรียบ ไมท่ าให้ ใชท้ รัพยากร และไม่ทาให้ผู้อื่นเกิด เดือดรอ้ น ใช้ ผู้อ่ืนเกิดความ ไม่คุ้มคา่ ความเดอื ดร้อน ทรัพยากรของ เดือดร้อน ใช้

268 ๒๘๑ 282 ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง) ใช้ทรพั ยากรของ สว่ นรวมอย่าง ทรพั ยากรของ ส่วนรวมทกุ คร้งั ประหยดั ค้มุ ค่าเป็น ส่วนรวมอย่าง อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า สว่ นใหญ่ ประหยัด คุม้ ค่าเป็น และเก็บรักษาดูแล บางครั้ง อยา่ งดที ุกครง้ั บันทกึ ผลหลังการสอน ผลการเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................ผสู้ อน ( ……..……………….……………………) วันที่ ...... เดอื น ......................................... พ.ศ. ............. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื .............................................ผู้ตรวจ ( ……..……………….……………………) วนั ที่ ...... เดือน ......................................... พ.ศ. ............

269 ๒๘๒ 283 ใบความร้ทู ่ี ๑๘ เร่อื ง วสั ดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือ และความปลอดภัยในการทางานประดิษฐ์ หน่วยท่ี ๓ เรื่อง ประดิษฐข์ องสวย ชว่ ยตกแตง่ ดว้ ยวสั ดใุ นทอ้ งถ่นิ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒ เร่อื ง วัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมือ และความปลอดภัยในการทางานประดิษฐ์ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ วสั ดทุ ใ่ี ช้ในงานประดิษฐ์ วสั ดทุ ่ใี ช้ในงานประดิษฐ์ โดยท่ัวไปแบง่ ออกเปน็ ๓ ประเภท ดงั น้ี ๑. วัสดุธรรมชาติ ได้แก่ เศษวัสดุจากพืช เช่นลาต้น ก่ิง ใบ เปลือก ผล เมล็ด ดอก เป็นต้น เศษวัสดุจากสัตว์ เช่นเปลือกหอยต่างๆๆ ปะการัง ลิ้นทะเล ซากปู ซากกุ้ง และเศษวัสดุอื่นๆ เช่น หิน ดิน ทราย ๒. วัสดุสังเคราะห์ เช่น กระดาษ ผ้า พลาสติก โลหะ ยาง ปูนพลาสเตอร์ เป็นวัสดุที่เกิดจากการ สังเคราะห์สารเคมีหรือนาวัสดุธรรมชาติมาดัดแปลงดว้ ยกรรมวธิ ีต่างๆๆ สามารถนามาประดษิ ฐ์เป็นสง่ิ ของเคร่ือง ใช้ได้ เช่น กลอ่ งใส่ปากกาจากกระดาษ กระเป๋าผ้า กระปุกออมสนิ จากขวดพลาสตกิ เปน็ ต้น ๓. เศษวัสดุจากของเหลือใช้ในชีวิตประจาวัน ซ่ึงอาจเป็น วัสดุธรรมชาติหรือวัสดุสังเคราะห์ ทเี่ หลือจากการใชง้ านแลว้ เชน่ เศษกระดาษ เศษไม้ ขวดนา้ ขวดแชมพู เปน็ ตน้ การเลอื กเศษวัสดุสาหรับงานประดษิ ฐ์ ๑. ไม่มีสารเคมีหรือวัสดุที่เป็นพิษเจือปนอยู่ เช่น ขวดน้ายาล้างห้องน้า ซึ่งมีสารเคมีที่อันตราย หาก จาเปน็ ตอ้ งนา้ มาใช้ ควรได้รบั การทาความสะอาดจนไมม่ ีอนั ตราย เพ่อื ความปลอดภัย ควรหลกี เลีย่ ง เพราะอาจ เกิดอันตรายขณะทาความสะอาดได้ หรือถ่านไฟฉายและแบตเตอร่ีโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรนามาใช้ เพราะมี สารเคมบี รรจอุ ยู่ ๒. ไม่ควรเลอื กเศษวัสดทุ แี่ หลมคมและแตกงา่ ย เช่น หลอดไฟท่ีเสียแล้ว หรอื เปลอื กหอยทมี่ ีหนาม แหลม อาจเกดิ อันตรายต่อผทู้ างานประดิษฐ์ และผูน้ างานประดิษฐ์นาไปใช้ ๓. ไม่ควรเลอื กเศษวสั ดทุ ี่ตดิ เชื้อไฟได้ เช่น กลกั ไม้ขีดและไมข้ ีด อาจเกิดไฟไหมไ้ ด้ ๔. เศษวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ เช่น เมล็ดพืช พืชบางชนิด มีขน มียาง อาจเป็นอันตรายต่อ ผวิ หนัง ควรศึกษารายละเอยี ดก่อนนามาใช้ อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในงานประดิษฐ์ อุปกรณ์ คือ เครื่องมือเคร่ืองใช้ต่างๆๆ ที่นามาช่วยในการทางานร่วมกับวัสดุสาหรับประกอบ หรือประดิษฐ์ช้ินงานให้สาเร็จ การนาอุปกรณ์ต่างๆมาใช้ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพของงาน สาหรับ อุปกรณต์ า่ งๆที่ใช้ในงานประดิษฐเ์ ศษวัสดุจากธรรมชาติและเศษวัสดเุ หลอื ใชม้ ีดังนี้ ๑.กรรไกร กรรไกร คืออุปกรณ์ที่ใช้ตัดวัสดุต่างๆๆ เช่นกระดาษ ผ้า ใบไม้ มีหลายขนาดเลือกให้ เหมาะสมกับการใช้งาน วิธีใช้กรรไกรให้หัวแม่มอื สอดเข้าท่ีดา้ มแล้วตัดวัสดตุ ามทร่ี ่างไว้ การตัดควรตัดใหย้ าว และบงั คบั กรรไกรให้ตรง

270 ๒.เหล็กหมาดหรอื เหล็กแหลม เหลก็ หมาดหรือเหลก็ แหลม จะมดี ้ามทำดว้ ยไม้ สว่ นทใ่ี ชเ้ จาะทำดว้ ยเหล็กปลายแหลม เวลาใช้ตอ้ งใชม้ ือจับดา้ ม โดยใหป้ ลายแหลมเหลก็ หมาดอยู่ทีจ่ ุดทจ่ี ะเจาะ กดดา้ มแล้วหมุนเหลก็ หมาดไปทาง ดา้ นซ้าย ขวา จนทะลุส่งิ ที่จะเจาะน้นั ๓.มีดคดั เตอร์ มดี คัดเตอร์ ใชต้ ดั กระดาษ ตัดไมอ้ ดั ขนาดบางๆหรอื กิ่งไมเ้ ลก็ ๆใบมีดคมบางมาก เวลาใช้ ตอ้ งระมัดระวัง ใบมีดสามารถกดปุ่มดึงเขา้ ออกได้ เวลาใช้ควรใช้กระดาษแขง็ หรอื กระจกรองกอ่ นเพ่อื ป้องกนั พ้ืนโต๊ะเปน็ รอย ๔.สวา่ น สวา่ น ใชส้ ำหรบั เจาะไม้หรือแผ่นเหล็กบางๆมี2 ชนดิ คอื สว่านมือหมนุ และสวา่ นไฟฟ้า เลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของงาน สำหรับสวา่ นไฟฟ้าควรเลือกชนิดไรส้ าย(แบตเตอร)่ี สามารถใช้งานได้ เหมือนกับไขควง และสามารถปรบั ทิศทางรอบหมุนได้ ๕.เลื่อย เล่อื ยท่ใี ชใ้ นงานประดิษฐท์ ่ีนิยมใชค้ อื เล่อื ยฉลุและเลอ่ื ยรอ เลื่อยฉลุใช้ตดั ไมท้ ่มี ีแผ่นบาง เช่น ไม้อดั และฉลลุ วดลายตามต้องการ ส่วนเล่ือยรอใช้ตัดไม้ช้นิ ใหญใ่ หเ้ ป็นทอ่ นหรือขาดออกจากกัน หลงั จากใช้งาน เช็ดทำความสะอาดและถอดใบเลอื่ ยชโลมนำ้ มนั กันสนมิ เก็บใส่กลอ่ งเครอื่ งมือ ๖.ค้อนและตะปู ค้อนใชต้ อก ตี ทุบ และขึน้ รูปวัสดุ ตะปชู ่วยยดึ ชิน้ งาน โดยใชร้ ว่ มกับค้อน ๗.คีม ใช้จับ ตัด และดดั วัสดปุ ระเภทโลหะ เช่น ลวด ๘.เข็ม เขม็ มอื ใชค้ ่กู ับด้าย เพ่ือเย็บผา้ เขม็ มอื นยิ มใชเ้ บอร์ 8 และ เบอร์ 9 ใช้ดา้ ย เบอร์ 60 ๙.พู่กนั แปรง ใชส้ ำหรับงานระบายสี ทาสี หลงั จากใช้งาน ลา้ งให้สะอาด ท้งิ ให้แหง้ แล้วจึงเก็บเขา้ กล่องเครอ่ื งมือ ๑๐.สี สชี ว่ ยตกแตง่ ชน้ิ งานให้มีสีสวยงาม สีมีหลายชนิด การเลือกใช้สีต้องคำนึงถึงวัสดุทีจ่ ะใช้ ดงั น้ี สโี ปสเตอรใ์ ช้กบั วสั ดุประเภทกระดาษ แผ่นไม้ ปนู พลาสเตอร์ สนี ำ้ มนั ใชก้ บั วสั ดุประเภทไม้ และโลหะ หรอื ผสมกบั แป้งหรือดินสังเคราะหใ์ ช้ทำดอกไม้ประดษิ ฐ์ สอี ะคริลิกใชใ้ นงานเพน้ ท์แก้ว และกระจก สียอ้ มใช้กับวสั ดุประเภทผา้ เชอื ก และวัสดธุ รรมชาติเชน่ ใบไม้

271 ๑๑.กระดาษทราย กระดาษทรายใช้ตกแต่งผวิ ชน้ิ งานให้เรยี บ กระดาษทรายเบอร์นอ้ ยจะมคี วามละเอียดมาก กระดาษทรายเบอร์มากจะมคี วามละเอียดน้อย ๑๒. กาวลาเท็กซ์ กาวลาเทก็ ซ์ ใชส้ ำหรบั ติดยึดวสั ดุทต่ี อ้ งการใหต้ ิดแน่น การใช้ควรใช้ไมป้ ลายแบนๆ จมุ่ กาวหรือควรทาให้ทั่วบริเวณท่ีต้องการจะตดิ ควรใชป้ ริมาณที่พอเหมาะ ถา้ ใชม้ ากเกินไปกาวจะทะลักออก เลอะเทอะถา้ ใช้น้อยจะตดิ ไม่ทั่วถึงเมื่อเลกิ ใช้แลว้ ตอ้ งปดิ ฝาให้สนทิ ๑๓. กาวรอ้ น กาวรอ้ น มีลกั ษณะเป็นแท่งพลาสติกชนิดอ่อน เวลาใชต้ อ้ งนำไปใส่ชอ่ งของปืนกาว และ เสียบปล๊กั เพ่ือใหห้ ลอดกาวถูกความรอ้ นจากตัวปนื กาว บางคร้งั ถา้ ไม่มปี ืนกาวใช้แทง่ พลาสตกิ ไปละลายกับ ความร้อน วธิ ใี ชท้ ี่ ๒ วธิ ีอาศยั หลักการละลายแท่งพลาสตกิ ด้วยความรอ้ น แท่นพลาสตกิ จะละลายหยดเปน็ เมด็ คลา้ ยน้ำตาเทียน กาวร้อนใช้ตดิ วสั ดุ ๒ ชนิดเขา้ ด้วยกันขณะท่กี าวยังร้อนอยู่ และจะแขง็ ตัวเร็วมาก สามารถติดวสั ดุได้หลายชนดิ เช่น ตดิ ไม้ พลาสติก กระดาษลงั หรอื กระดาษชนดิ หนา เปน็ ต้น ๑๔. กาวหลอด กาวหลอด เปน็ กาวทผ่ี ลิตข้ึนใชอ้ ย่างแพร่หลาย โดยมากบรรจุหลอดพลาสติกหรือโลหะมี ปลายแหลม อาจบรรจุเป็นชุดชนดิ ๒ หลอด เวลาใช้ตอ้ งผสมกนั หรอื ชนิดหลอดเดย่ี ว แต่ละชนดิ จะมี คุณสมบตั ิแตกตา่ งกัน เช่น แหง้ เร็วมาก ใช้ติดวัสดไุ ด้หลายชนดิ กว่า ถูกผิวหนังไม่เป็นอันตราย บางชนดิ ไม่ ควรนำไปตดิ โฟม ทำใหเ้ นอื้ โฟมละลาย หรือบางชนิดก็บ่งบอกวา่ ใช้ติดวสั ดเุ ฉพาะ เชน่ ไม้ โลหะ แกว้ พลาสติก ยาง หรือกระป๋อง กาวประเภทนีม้ ักใช้สารเคมแี ละมรี าคาค่อนขา้ งสงู เวลาใชค้ วรอ่านรายละเอียด ทีแ่ นบมาให้เข้าใจว่าใช้ในปริมาณเทา่ ใด มคี ณุ สมบตั ิเฉพาะอย่างไร มีกาวบางชนิดท่สี ัมผสั ผิวหนังแลว้ อาจทำ ใหผ้ ิวหนงั ติดแนน่ กับวสั ดุอนื่ ที่ไปสัมผสั ๑๕. เทปกาวกระดาษ เทปกาวกระดาษ มลี ักษณะเปน็ กระดาษยน่ สคี รีม นิยมใชก้ ันอย่างแพรห่ ลายมีให้เลือกตาม ความกวา้ งของเทปซง่ึ มหี ลายขนาด เทปกาวชนิดนี้ไมต่ ้องทาน้ำใหย้ งุ่ ยาก แต่คณุ ภาพของเน้อื กาวท่เี คลือบแต่ ละบริษัทที่ผลิตแตกต่างกนั ตามคุณภาพและราคาเนอื้ กาวจะยดื หย่นุ ดี เมื่อติดกาวกบั วสั ดสุ ามารถแนบกับเน้อื วสั ดุไดด้ ี จึงนิยมใช้ติดวัสดุ ๒ ชนิดเข้าด้วยกัน ทง้ั กระดาษ พลาสติก ซงึ่ เทปกาวนจ้ี ะอยไู่ ด้ไม่นานนัก เพราะ กระดาษอาจจะกรอบ และเนอ้ื กาวอาจเย้ิมหลดุ ลน่ื งา่ ย เทปกาวกระดาษเม่อื ติดลงบนวสั ดแุ ลว้ อาจใชส้ ีทาทบั ได้ ๑๖.วสั ดุเคลอื บ วัสดุเคลือบ มีหลายชนดิ เชน่ เซลแลก็ แล็กเกอร์ ยรู เิ ทน ฯลฯ เปน็ วสั ดุเคลอื บช่วยเพม่ิ คณุ คา่ ของงานประดิษฐ์ เพิ่มความน่าใช้ และเพม่ิ ความคงทน วัสดุเคลอื บชว่ ยเพิ่มคุณคา่ ของงานประดิษฐ์ เพมิ่ ความนา่ ใช้ และเพ่มิ ความคงทน วสั ดุเคลือบเหลา่ นจ้ี ะทำปฏิกริ ิยากับพลาสติกจึงควรระมดั ระวงั ในการใช้

272 วสั ดใุ นท้องถนิ่ ประเทศไทยมีวัสดุธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ประชากรแต่ละท้องถิ่นได้นาวัสดุเหล่าน้ีไปสร้างสรรค์ ดัดแปลง และใช้ให้เกิดประโยชน์มากมาย ผลจากการนาทรัพยากรธรรมชาติมาทาเป็นงานประดิษฐ์ต่าง ๆ จะ ชว่ ยเสริมสร้างสถานะทางเศรษฐกิจของท้องถนิ่ ได้ ซง่ึ วสั ดใุ นท้องถน่ิ ทส่ี าคญั มีดงั นี้ ๑. ปอสา เป็นพืชยืนตน้ ขนาดกลางมีมากในภาคเหนอื เปลือกของต้นปอสาส่วนใหญ่ถูกนามาใช้ในการ ผลิตเป็นกระดาษด้วยมือ เนื่องจากมีคุณสมบัติ ทนทาน ไม่กรอบ ไม่เป่ือยยุ่ย และเก็บรักษาได้นาน ผลิตภัณฑ์ จากปอสามีมากมาย เชน่ ร่ม ดอกไมป้ ระดิษฐ์ วา่ ว บัตรอวยพร พดั โคมไฟ ๒. กะลามะพร้าว เป็นผลผลิตส่วนหนึ่งของมะพร้าว มีอยู่ในเกือบทุกจังหวัดของประเทศไทย ส่วน ใหญ่นิยมนากะลามะพร้าวมาใช้ทางานประดิษฐ์ เพราะมีความแข็งแรง มีสีและลวดลายเป็นริ้วรอยธรรมชาติ เมื่อนามาขัดให้เรียบก็จะมีความมันวาว คนสมัยโบราณมักนากะลามาดัดแปลงเป็นภาชนะเพ่ือใช้ใ น ชวี ิตประจาวัน ปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกะลามะพรา้ วข้ึนหลายอย่าง โดยนาไปทาเป็นของตกแต่ง ร่างกาย เช่น เข็มกลดั ติดเส้ือ หวีเสียบผม กิ๊บ ป่ินปักผม กาไล และนาไปทาเครอ่ื งใชใ้ นครวั เรือน เชน่ ช้อนส้อม ถว้ ยชาม ชุดน้าชา นอกจากนย้ี งั นาไปทาของใช้เบด็ เตลด็ ตา่ ง ๆ เชน่ ทีใ่ สข่ อง เป็นต้น ๓. ผักตบชวา เป็นพืชน้าประเภทใบเลีย้ งเด่ียว ลอยน้าได้ เจริญเติบโตโดยไม่ต้องมีทย่ี ึดเกาะ แพร่พันธ์ุ ได้รวดเร็ว จัดเป็นวัชพืชที่สร้างความเสียหายให้กับการชลประทาน การประมง การเกษตร การสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรกต็ าม ผักตบชวาก็ยังมีประโยชน์ สามารถนามาถัก สานเป็นของใช้ ของตกแตง่ เช่น ตะกร้า กล่องกระจาด โคมไฟ กระเปา๋ ถาด หมวก เปน็ ต้น ๔. ฟางข้าว เป็นส่ิงที่เหลือทิ้งจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตต้นข้าวของเกษตรกร ประโยชน์ของฟางข้าวที่ เกี่ยวข้องกับงานประดิษฐ์มีมากมาย เช่น นาไปยัดเป็นไส้ในหมอนขิดแทนนุ่นรูปสามเหลี่ยม เพ่ือรักษารูปทรง ของหมอนให้สวยงาม ทาตะกร้า กระจาด กระเป๋าใส่ของกล่องใสก่ ระดาษเช็ดหน้า เป็นตน้ ๕. ไม้ไผ่ ต้นไผ่ใช้ทาประโยชน์ได้ทุกส่วน ทั้งหน่อ ราก ลาต้น ใบ โดยนาลาต้นมาจักตอกเป็นเส้น ดัด ให้โค้งข้ึนรูป แล้วสานเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งจะมีความทนทาน เพราะสามารถรับแรงดึงและแรงกด ได้ดีโดยไม่แตกหรือหักง่าย ไม้ไผ่ที่นิยมใช้จักสาน ได้แก่ ไม้ไผ่สีสุก นามาสานเป็นเคร่ืองใช้สอยต่าง ๆ เช่น กระเป๋า ตะกร้า แจกนั เสอ่ื ลอบ ไซ กระตบิ ขา้ ว กระดง้ หมวก รองเท้า เป็นต้น ๖. โสน เป็นวัชพืชท่ีขึ้นตามท้องไร่ท้องนา นิยมสร้างงานประดิษฐ์เพราะมีลาต้นอวบตรง เนื้อในอ่อน และมีน้าหนักเบา เมื่อยังเป็นต้นอ่อนจะมีเปลือกบาง ๆ สีน้าตาลเขียวหุ้มอยู่ การคัดเลือกต้นโสนมาทาดอกไม้ ประดิษฐ์จะใช้ต้นโสนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางต้ังแต่ ๑ น้ิวข้ึนไป ตากแดดนาน ๓ – ๔ วัน เพื่อให้แห้งสนิท หรือใช้ต้นโสนท่ีแก่จนถึงแห้งตายแล้วมาตัดแบ่งเป็นท่อน ๆ ความยาวประมาณ ๔ – ๖ นิ้ว ปอกเปลือกออก จากน้ันใชม้ ีดทีค่ มเปน็ พิเศษฝานเน้อื โสนเป็นแผ่นบาง ๆ จนถงึ แกนแล้วมว้ นแผน่ โสนไว้ เมื่อตอ้ งการทาดอกไม้ก็ นาไปย้อมสีตามต้องการ พอสีแห้งนามาประกอบเป็นดอกไม้ต่าง ๆ ได้หลายชนิด เช่น ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกไฮเดรนเยีย ดอกบานชืน่ ดอกดาวเรือง ดอกกล้วยไม้ ดอกพลับพลงึ เปน็ ต้น ๗. กระจูด เป็นพันธุ์ไม้จาพวกกก ลาต้นกลมสูงประมาณ ๑ – ๓ เมตร สีเขียวเข้ม ภายในลาต้นกลวง ต้นกระจูดมี 2 ชนิด คอื จูดใหญแ่ ละจูดหนู ซง่ึ จูดใหญ่มีความเหนียวกว่าไว้ทาเชอื กผูกมัด ทาเส่ือสาหรบั รอง น่ัง ปูนอน ผลิตภัณฑ์กระจูดเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้านนามาสานเป็นเครื่องใช้ภายในบ้านได้หลายชนิด เชน่ กระจาด ตอ่ มาได้มีการพฒั นาการสานเสื่อกระจดู หรือทางภาคใต้ เรียกวา่ “สาดจูด” ๘. หญ้าแฝก หญ้าแฝกมี ๒ ชนิด ได้แก่ หญ้าแฝกหอม และหญ้าแฝกดอนหรือหญ้าแฝกป่า หญ้าแฝก ที่นิยมนามาทางานหัตถกรรมคือ กลุ่มของหญ้าแฝกหอมที่มีใบมันและยาว ก่อนสานนาใบหญ้าแฝกมาพึ่งแดด บนตะแกรงยกพื้น ทิ้งไว้ ๓ – ๖ วัน แล้วนาไปแช่นา้ เพ่ือทาให้ใบนม่ิ และไม่บาดมือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากหญา้ แฝก

273 ๒๘๖ 287 ได้แก่ ภาชนะ เช่น ตะกร้า กระจาด กระด้ง เครื่องตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป และเครื่องแต่งกาย เช่น หมวก เขด็ ขัด กระเป๋า เป็นต้น ๖. ย่านลิเภา เป็นเถาวัลย์ที่ข้ึนเองตามธรรมชาติในบริเวณท่ีเป็นเนินและป่าเขา ใบมลี ักษณะเป็นหยัก คล้ายตีนจิ้งจก เปลือกเถาใช้สานเป็นกระเป๋าและเคร่ืองใช้ สมัยก่อนนิยมสานเป็นเช่ียนหมาก พาน กล่องยา เส้น ปัจจุบันนิยมนามาสานเป็นกระเป๋าถือสตรี หมวก กาไล กล่องใส่กระดาษชาระ ผลิตภัณฑ์สานจาก ยา่ นลิเภาเปน็ งานทีต่ อ้ งใช้ฝีมอื เพราะเปน็ งานท่มี คี วามประณีตมาก การปอ้ งกันอันตรายจากปฏบิ ัตงิ าน ในการทางานนน้ั ผู้เปน็ ช่างจะต้องคานึงถงึ ความปลอดภยั เป็นอนั ดับแรก เพราะถา้ ประมาทเลินเลอ่ ก็ อาจทาใหเ้ สยี ทัง้ งาน และทรัพย์สินโดยใช่เหตุหรือบางครงั้ อาจเกิดอันตรายถงึ พิการหรือเสียชีวิตได้ ความ ปลอดภยั ในการทางานย่อมเป็นสงิ่ ปรารถนาของทุก ๆ คน การรจู้ กั วธิ กี ารทางาน รู้จักวธิ ีใชเ้ คร่ืองมือดว้ ย ความไมป่ ระมาทคอยระมดั ระวงั อยเู่ สมอ ๆ จะชว่ ยขจดั ปัญหาอบุ ตั เิ หตุไดม้ าก เคร่อื งมือทุกชนิดแม้จะ ออกแบบมาอย่างเหมาะสม แต่ก็อาจจะเกิดอันตรายแกผ่ ใู้ ช้ ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้เครือ่ งมือควรระมดั ระวงั อย่เู สมอ สาเหตุทที่ าให้เกิดอันตรายจากการทางาน สาเหตุทท่ี าให้เกิดอนั ตรายในการทางานอาจสรุปอย่างกวา้ ง ๆ ได้ ๔ ประการ ๑. เกิดจากตัวบุคคลเอง ๒. เกดิ จากเครือ่ งมือ อุปกรณ์ และวัสดุต่าง ๆ ๓. เกดิ จากสภาพแวดล้อม ๔. เกดิ จากการจัดระบบงาน แนวทางในการปฏบิ ัติงานเพอ่ื รกั ษาความปลอดภยั ๑. ก่อนการใช้เครื่องมือทกุ ชนดิ ควรตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพทจี่ ะใชง้ านได้อย่างปลอดภยั หรือไม่ ๒. ควรสวมใส่อปุ กรณป์ ้องกันอนั ตรายอยเู่ สมอในขณะปฏิบัติงาน เช่น แว่นตานริ ภัย ถุงมือ เป็นตน้ ๓. ควรใชเ้ ครอ่ื งมือชว่ ยจับยึดช้นิ งาน ขณะเจาะหรอื ตดั ๔. การทางานทเ่ี กย่ี วกับเครอื่ งใช้ไฟฟ้า ตอ้ งระมัดระวังเปน็ พิเศษก่อนการตรวจซ่อม ควรตัดกระแสไฟฟา้ ออกเสยี ก่อนทกุ ครงั้ เพือ่ ความปลอดภยั แต่ถา้ ไม่สามารถตัดกระแสไฟฟ้าออกได้ ควรใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยปอ้ งกนั อืน่ ๆ เพม่ิ เติม เช่น ใส่ถงุ มือ สวมรองเทา้ ยาง ยืนบนพน้ื ทีแ่ ห้ง เปน็ ตน้ โดยทางานด้วยความสุขุมรอบคอบ จริง ๆ ๕. ในการใช้เครื่องมือทีมีคม เชน่ เลื่อย สว่ิ ตะไบ เปน็ ต้น ควรระมัดระวังผู้ปฏบิ ัติงานขา้ งเคยี ง ด้วย และไม่ควรพกเครือ่ งมอื ท่มี ีคมไว้ในกระเป๋าเสื้อหรอื กางเกง ๖. การทางานในท่ีอับทบึ ควรใช้พดั ลมเปา่ จะช่วยให้การถ่ายเทอากาศดีข้ึน ๗. กอ่ นทจี่ ะใชเ้ ครอ่ื งมอื เครื่องจักรใด ควรศึกษาวธิ ีการใช้เครอื่ งมือเครื่องจักรนั้นให้ดเี สียกอ่ น ๘. ไม่ควรทาความสะอาดเครื่องมือเครอ่ื งจักรขณะท่ีกาลงั เดินเครือ่ งทางานอยู่ ๙. กอ่ นและหลงั ปฏิบตั ิงานควรตรวจสอบความเรียบรอ้ ยของสถานทท่ี างานทุกครง้ั ๑๐. ควรเกบ็ เครื่องมือเครือ่ งใชไ้ วใ้ นท่ีเหมาะสมและแยกเป็นประเภทไว้ เพ่ือสะดวกในการหยิบใช้งาน ครัง้ ต่อไป

๒๘๗ ใบงานท่ี ๑๒๙๐ เรอื่ ง ผังความคิดวัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ และความปลอดภัยในการทางานประดษิ ฐ์ หนว่ ยที่ ๓ เรือ่ ง ประดิษฐข์ องสวย ช่วยตกแต่ง ด้วยวสั ดใุ นทอ้ งถ่นิ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑๖ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ สมาชกิ ในกลุ่ม ๒. ชอื่ -สกลุ ..........................เลขท่.ี .........ชนั้ ........./........... ๑. ช่อื -สกุล..........................เลขท.่ี .........ชน้ั ........./........... ๔. ชื่อ-สกุล..........................เลขท.่ี .........ชน้ั ........./......... ๓. ช่อื -สกุล..........................เลขท่.ี .........ชัน้ ........./......... ๕. ชอื่ -สกลุ ..........................เลขท่ี..........ชัน้ ........./......... คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเขียนผังความคดิ การประดิษฐข์ องตกแต่งบา้ น ( ๑๐ คะแนน) วสั ด(๑/ุ อ)ุปกรณ์ (๔) ความปลอดภัยในการทา�ำ งาน (๒) ชอื่ ชน้ิ งาน (5) วิธีการทา�ำ วาดภาพประกอบ ((๕๕)) ระบาย..ส...ใี .ห..้ส...ว..ย..ง..า.ม......................... ขข้อ้อเเสสนนออแแนนะ ะ ปปรระะโโยย((ชข๓๓นน))์ท์ทีไ่ไี่ ดด้รร้ บับั 274 288

๒๘๘ แบบบันทึกการประเมนิ ผู้เรียนดา้ นความรู้ หนว่ ยท่ี ๓ เร่อื ง ประดิษฐข์ องสวย ช่วยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดุในทอ้ งถิน่ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง วสั ดุ อุปกรณ์ เครอื่ งมอื และความปลอดภยั ในการทางานประดษิ ฐ์ รายวิชา การงานอาชพี รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ เลขที่ กล่มุ ที.่ .............................. รายการประเมนิ รวมคะแนน ระดบั สรปุ ผล ชื่อ-สกุล การตอบคาถามผงั ความคดิ คณุ ภาพ ผา่ น ไม่ผ่าน (รายข้อตอ่ คะแนน) ๑๒๓๔ ๕ ๑ ๒๒๒๒ ๒ ๑๐ ๒ ๓ ๔ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคุณภาพดา้ นความรู้ ดงั นี้ ระดับ ๓ ดี ๕ - ๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๕ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรงุ ๙ - ๑๐ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๗ - ๘ คะแนน ลงชือ่ .............................................ผ้สู อน เกณฑ์การผ่านระดบั ๒ ขึ้นไป ( ……..……………….……………………) 275 289

๒๘๙ แบบบนั ทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรมผูเ้ รียนด้านทกั ษะและกระบวนการ หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง ประดษิ ฐข์ องสวย ชว่ ยตกแต่ง ดว้ ยวสั ดุในทอ้ งถน่ิ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือ และความปลอดภัยในการทางานประดิษฐ์ รายวชิ า การงานอาชีพ รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ รายการประเมิน สรปุ ทกั ษะการใช้ เลขที่ ชอื่ -สกุล ทักษะการ ทกั ษะการคิด เทคโนโลยี รวม ระดบั ผ่าน ไมผ่ า่ น ปฏิบตั ิงาน วิเคราะห์ สารสนเทศ คะแนน คุณภาพ 1 ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ 2 3 4 5 ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดับ ๔ ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านระดบั ๒ ขน้ึ ไป ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 276 290

๒๙๐ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรมผูเ้ รียนด้านคณุ ลกั ษณะ หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ประดษิ ฐข์ องสวย ช่วยตกแตง่ ด้วยวสั ดุในท้องถ่นิ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เรือ่ ง วัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ และความปลอดภยั ในการทางานประดิษฐ์ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ รายการประเมิน สรปุ มงุ่ มนั่ ในการ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง รวม ระดับ เลขที่ ชอ่ื -สกุล ใฝเ่ รียนรู้ ทางาน คะแนน คณุ ภาพ ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ 2 3 4 5 ฯลฯ เกณฑ์การวดั ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดังน้ี ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๖ คะแนน ระดับ ๑ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ข้นึ ไป ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ ( …………………………………………….) 277 291

๒๙๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ประดิษฐข์ องสวย ช่วยตกแตง่ ด้วยวัสดุในท้องถ่นิ เร่ือง การประดษิ ฐ์ดอกไม้ใบเตยหอม เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้ การประดิษฐ์ดอกไมใ้ บเตยหอม ข้นั นา - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ครูนาใบเตยมาพูดคยุ กบั นักเรยี นในเรื่องคณุ สมบตั ิทั่วไปท่ี สอ่ื ดา้ นความรู้ นักเรียนทราบ เช่น ใบเตยมีกลน่ิ หอมและใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างไร ๑. ใบความรู้ท่ี ๑๙ เรอื่ งการประดษิ ฐ์ ๑. เลือกและใช้วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการประดิษฐ์ดอกไม้ บา้ ง ใบเตยสามารถนามาปรงุ แตง่ อาหารได้อยา่ งไรและ สามารถ ดอกไม้ใบเตยหอม ใบเตยหอมได้ ใช้ประโยชน์อนื่ ๆๆไดไ้อดย้อา่ ยง่าไงรไบร้าบงา้ ง ๒. ประดิษฐ์ดอกไม้ใบเตยหอมตามกระบวนการทางาน ๒. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบวา่ เมอ่ื จบ ภาระงาน/ช้ินงาน ไดถ้ ูกตอ้ ง บทเรียนนแี้ ล้ว นกั เรยี นสามารถงานประดิษฐ์ดอกไม้เตยหอมตาม ผลงานการประดิษฐ์ของตกแตง่ บา้ นจาก ดา้ นทักษะและกระบวนการ ตขาั้นมตขอ้นั นตกอรนะบกรวะนบกวารนทกางราทน�าไงดา้ นได้ วสั ดุในท้องถนิ่ ๑. ทกั ษะการวเิ คราะห์ ข้นั สอน ๒. ทกั ษะการปฏบิ ัติงาน ๓. ให้นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษาเนื้อหาเก่ียวกับขนั้ ตอนกระบวนการ ๓. ทักษะกระบวนการทางาน ทางานประดิษฐด์ อกไม้เตยหอมตามใบความรู้ที่ ๑๙ การงาน ๔. ทักษะในการแก้ปญั หาในการทางาน ประดิษฐ์ดอกไม้เตยหอม ด้านคณุ ลกั ษณะ ๔. ครูสาธิตการทางานประดิษฐด์ อกไม้เตยหอมใหน้ กั เรียนดตู าม ๑. ใฝ่เรยี นรู้ ขน้ั ตอน ๒. มุ่งมั่นในการทางาน ๓. ตระหนกั ถึงคุณคา่ ของทรัพยากรธรรมชาติ ๕. นกั เรียนปฏบิ ตั ิงานประดษิ ฐด์ อกไม้เตยหอมตามขนั้ ตอน โดย และใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ คโดรยเู ดคนิ รแูเดนนิ ะแนนานะนักเา� รนียักนเปรียฏนิบปัตฏิงาบิ นตั ออิ ยยา่ า่งงใใกกลลช้ ช้ ิดดิ ๖. ครสู ังเกตพฤติกรรมกระบวนการทางาน 278 292


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook