01การงานอาชีพ ม.1 thonglom m.1

๔๔๐ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๔ อาหารกแบัลกะการาดรา�ดรางรชงวีชิตีวิต แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖ เวลา ๑ ช่ัวโมง เรอ่ื ง การประกอบอาหารจานเดยี วประเภทขา้ วผัด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ ก๑า.รกปารระปกรอะบกออาบหอาราจหานรเจดาียนวเปดรียะวเปภรทะขเา้ภวทผขดั ้าวผดั ขน้ั นา ห้องปฏบิ ตั งิ านของโรงเรียน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนา ซักถามถึงส่ิงที่ครู ดา้ นความรู้ มอบหมายเพ่ือเตรียมความพร้อมในการประกอบอาหาร สอ่ื ป๑ฏ. บิปตั ฏิอบิ าัตหอิ าารหจานรจเดาียนวเปดียระวเปภรทะขเภา้ วทผขดั า้ ไวดผ้ ัดได้ จานเดียวประเภทขา้ วผัด ๑. วัสดุ - อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการประกอบ ด้านทักษะและกระบวนการ ๒. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ อาหารจานเดยี วประเภทข้าวผดั ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ ข้นั สอน ๒ภ.าแระบงบาบนัน/ทชกึนิ้ ผงลากนารปฏิบตั งิ าน ๒. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ และการลงมือ ภ๑า.รผะลงางนาน/ชอ้นิ างหาานรจานเดียวประเภทข้าว ๓. ทักษะการทางานร่วมกนั ปฏบิ ตั ปิ ระกอบอาหารจานเดียวประเภทขา้ วผดั ตามท่ีกลุ่ม ๑ผ.ดั ผลงานอาหารจานเดยี วประเภทข้าวผดั ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน เลอื กและวางแผนไว้ ครูคอยดูแลให้คาแนะนานักเรยี นแต่ ๒. นนา� าเเสสนนออผผลลงงาานนหหนนา้ า้ชชัน้ ้นั เรเรยี ยีนน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ละกล่มุ อย่างใกลช้ ิด ปฏิบัติเสรจ็ แลว้ ใหน้ าผลงานวางไวท้ ่ี ๑.มีวนิ ัย โต๊ะปฏบิ ตั ขิ องตนเอง ๒.ใฝเ่ รียนรู้ ๔. ครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลงานของเพ่ือน ครูให้ ๓.มุ่งมนั่ ในการทางาน คาแนะนาเพมิ่ เติมพร้อมท้ังชมเชยกลมุ่ ท่ีปฏบิ ัตงิ านได้ดีและ ใหก้ าลงั ใจกลมุ่ ทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ ข้ันสรปุ ๖. นักเรียนและครูร่วมอภิปรายสรุปเก่ียวกับข้ันตอนการ ประกอบอาหารจานเดยี ว และกระบวนการทางาน ๗. นักเรียนบันทึกการปฏิบัติงานลงในแบบบันทึกการ ปฏบิ ตั ิงาน 429 441

430 ๔๔๑442 การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ สง่ิ ท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ ด้านความรู้ -ปฏบิ ตั ิและบนั ทึกอาหาร -แบบประเมินผลการ คะแนนร้อยละ ๕๐ ขนึ้ ไป จานเดียวประเภทขา้ วผัด บนั ทกึ และปฏบิ ัตอิ าหาร ผ่านเกณฑ์ ๑.บันทึกการปฏบิ ัติงาน จานเดยี วประเภทขา้ วผดั อาหารจานเดียวประเภทข้าว ผัด ด้านทกั ษะและกระบวนการ ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับพฤติกรรมท่ี ๒. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ทักษะการแสวงหา ทักษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ ๓. ทกั ษะการทางานร่วมกัน ความรู้ ทักษะการคดิ วิเคราะห์ เกณฑ์ rubric ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ทักษะกระบวนการ การผ่านอยู่ในระดับ ทักษะกระบวนการ ทางานรว่ มกนั และทักษะ คุณภาพ “พอใช้” ทางานร่วมกันและทักษะ การนาเสนอผลงาน ขน้ึ ไป การนาเสนอผลงาน ด้านคุณลกั ษณะ ๑. มีวินยั ๒. ใฝ่เรยี นรู้ สงั เกตพฤตกิ รรมการมี แบบสงั เกตการมีวนิ ยั ระดบั พฤตกิ รรมท่ี ๓. มุง่ มน่ั ในการทางาน วนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มัน่ ใน ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน่ ในการ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric การผ่านอยใู่ นระดับ คุณภาพ “พอใช้” ขน้ึ ไป

431 ๔๔๒443 เกณฑ์การประเมนิ ผลชิ้นงานหรือภาระงาน ระดับคุณภาพ ประเด็น การประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) เกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ ๑.บันทึกผลการ คะแนนการปฏบิ ตั ิงาน คะแนนการปฏบิ ัตงิ าน คะแนนการปฏิบัตงิ าน คะแนนการปฏิบตั ิงาน ปฏบิ ตั งิ านอาหารจาน อาหารจานเดยี วประเภท อาหารจานเดียวประเภท อาหารจานเดียว อาหารจานเดียว เดยี วประเภทขา้ ว ข้าวเทา่ กบั ข้าวเทา่ กบั ประเภทข้าวเท่ากบั ประเภทข้าวเท่ากับ ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เท่ากบั ๕-๖ คะแนน ตา่ กวา่ ๕ คะแนน เกณฑป์ ระเมินด้านทักษะและกระบวนการ ๒.ทักษะในการ เขียนสรุปสาระสาคัญได้ เขยี นสรปุ สาระสาคัญได้ เขียนสรปุ สาระสาคัญ เขียนสรุปสาระสาคัญ แสวงหาความรู้ /การ ครบและตรงประเด็น ครบและตรงประเด็น ได้ตรงประเดน็ ได้ไม่ตรงประเดน็ เขยี นสรปุ สาระสาคญั เขียนมีเหตผุ ลประกอบ เขียนมเี หตผุ ลประกอบ เขยี นมเี หตผุ ลประกอบ ใชภ้ าษาในการเขียนไม่ อย่างเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม เหมาะสม เขียนถกู บ้าง ใช้ภาษาในการเขียนได้ ใชภ้ าษาในการเขียนได้ ใชภ้ าษาในการเขียนได้ ผิดบ้างเปน็ บางคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขยี นถูกเปน็ ถูกต้อง ลายมือสวย อ่าน ถูกต้อง สว่ นใหญ่ ง่าย มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ๓. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ขัน้ ตอน วิเคราะหข์ ั้นตอน วิเคราะห์ข้นั ตอน วเิ คราะห์ขนั้ ตอน วิเคราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานที่ ทเ่ี ลอื กไดถ้ ูกต้อง เลือกไดถ้ กู ต้องและ เลอื กได้ถูกตอ้ ง เลอื กไม่ได้ และครบถ้วน ตาม ครบถ้วน ข้ันตอน

432 ๔๔๓444 ประเดน็ ระดบั คุณภาพ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน ๔ (ดีมาก) เกณฑป์ ระเมนิ ด้านทักษะและกระบวนการ ๔. ทกั ษะ รจู้ กั บทบาทหนา้ ท่ี กระบวนการทางาน ภายในกลมุ่ ปฏิบตั ิตาม รจู้ กั บทบาทหน้าท่ี รู้จกั บทบาทหน้าที่ภายใน รู้จกั บทบาทหน้าท่ี รว่ มกนั บทบาทได้เหมาะสมทุก คน มีการทางานเปน็ ทีม ภายในกลมุ่ ปฏบิ ตั ติ าม กลมุ่ ปฏบิ ัตติ ามบทบาท ภายในกลุม่ ปฏิบัติ ที่ดีรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั เป็นผู้พดู และผู้ฟังที่ดี มี บทบาทไดเ้ หมาะสมเป็น ไดเ้ หมาะสมเปน็ บางครงั้ ตามบทบาทได้ คณุ ธรรมในการทางาน ส่วนใหญ่ มีการทางาน รับผดิ ชอบรว่ มกนั รับผดิ ชอบรว่ มกนั ได้ เป็นทมี ทดี่ ีรับผดิ ชอบ เป็นผู้พูดและผู้ฟังทดี่ ี เป็นบางครัง้ ร่วมกนั เปน็ ผพู้ ดู และ มีคุณธรรมในการทางาน ไม่ค่อยมีคุณธรรมใน ผูฟ้ ังที่ดี มีคณุ ธรรมใน การทางาน การทางาน ๕. ทักษะการ เน้อื หาการนาเสนอ เนือ้ หาการนาเสนอ เนอ้ื หาการนาเสนอ เนือ้ หาการนาเสนอไม่ นาเสนอผลงาน ครอบคลุมทุกประเด็น ครอบคลุมทกุ ประเดน็ ครอบคลุมทกุ ประเด็น ครอบคลุมทุก ไม่ ถกู ต้องตามหลักวิชาการ ถกู ต้องตามหลักวชิ าการ ถูกต้องตามหลักวิชาการ ถกู ต้องตามหลัก น่าเชอ่ื ถือ ใชค้ าพูด นา่ เชื่อถอื ใช้คาพูด น่าเชือ่ ถอื ตอบข้อคาถาม วชิ าการ ตอบข้อ นาเสนอไดเ้ หมาะสม นาเสนอไดเ้ หมาะสม ไดท้ ุกประเดน็ นาเสนอ คาถามได้ไมค่ รบทุก บคุ ลิกภาพดี ตอบข้อ ตอบข้อคาถามได้ทุก ไดเ้ หมาะสมตรงเวลาท่ี ประเดน็ นาเสนอไดไ้ ม่ คาถามไดท้ ุกประเด็น ประเดน็ นาเสนอได้ กาหนด ตรงเวลาที่กาหนด นาเสนอไดเ้ หมาะสมตรง เหมาะสมตรงเวลาที่ เวลาที่กาหนด กาหนด เกณฑ์ประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๖. มวี ินัย ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ไม่ค่อยปฏิบัติตาม กฎระเบียบ กติกา ของ กตกิ า ของโรงเรยี น ของ กตกิ า ของโรงเรยี น ของ กตกิ า ของโรงเรียน ของ โรงเรียน ของหอ้ งเรียน ของกลุ่ม ก่อกวนสร้าง ห้องเรียน ของกลุม่ ดว้ ย หอ้ งเรยี น ของกลมุ่ ไม่ หอ้ งเรียน ของกล่มุ ได้ ความเต็มใจ ไมก่ ่อกวน ก่อกวนสร้างความ เปน็ สว่ นใหญ่

433 ๔๔๔445 สร้างความราคาญให้ครู ราคาญใหค้ รูและเพ่อื น ไม่ก่อกวนความราคาญ ความราคาญใหค้ รูและ และเพื่อนในห้องเรียน ในห้องเรียน ให้ครูและเพอื่ นใน เพื่อนในห้องเรยี น หอ้ งเรยี น เปน็ บางครั้ง ๗. ใฝ่เรียนรู้ มีความกระตือรอื รน้ มีความกระตือรือรน้ มีความกระตือรอื รน้ ไมม่ ีความกระตอื รือร้น ๘. มงุ่ มัน่ ในการ อดทน เพยี รพยายาม อดทน มุ่งมนั่ รู้จกั อดทน มุง่ มัน่ ใน อดทน มุ่งมน่ั ไม่รู้จัก ทางาน ม่งุ มั่น รจู้ กั แสวงหา แสวงหาความรูจ้ าก บางครัง้ รู้จกั แสวงหา แสวงหาความรูจ้ าก ความร้จู ากแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรียนรอู้ ่นื ๆ ความร้จู ากแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรอู้ ่ืน ๆ อน่ื ๆ อยู่เสมอ อยเู่ สมอ อน่ื ๆ ทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางานที่ได้รบั เสรจ็ ตามกาหนดเวลา เสรจ็ ตามกาหนดเวลา เสรจ็ ตามกาหนดเวลา มอบหมายไม่เสร็จตาม ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ผลงานมีความถูกตอ้ ง เป็นบางส่วนผลงานมี กาหนดเวลา ผลงาน ละเอยี ด ประณีต เรียบร้อย ความถูกต้อง เรียบร้อย ไมม่ ีความเรยี บร้อย เรียบรอ้ ย เป็นบางรายการ

434 ๔๔๕446 บนั ทกึ ผลหลังการสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................................................. ..................................... ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ..................................... .................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................ผ้สู อน (........................................................) วนั ท.่ี ........เดือน....................พ.ศ.......... ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ..................................... ลงชือ่ ......................................ผู้ตรวจ (.........................................................) วันท.ี่ ........เดอื น....................พ.ศ..........

435 ๔๔๖447 แบแบบบบนั นั ททึกกกาารรปปฏบิฏัตบิ ิงัตานิงาน คาชีแ้ จง นกั เรยี นบนั ทึกการปฏบิ ตั ิงานจากการประกอบอาหารจานเดยี วตามขั้นตอนดงั นี้ (๑๐ คะแนน) ช่ือกลมุ่ ...............................สมาชกิ กลุม่ ............................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ๑. วิเคราะหง์ าน ๑.๑ วสั ดทุ ี่ใชใ้ นการประกอบอาหารจานเดยี วได้แก่ ............................................................................................................................. ..................................... ................................................................................................................................................................ .. ๑.๒๑ส.๒ว่ นสผว่ นสมผสทมีใ่ ชท้ใี่ นชกใ้ นากรปารรปะรกะอกบออบาอหาาหราจราจนาเนดเยีดวียขวอขงอนงนักกัเรเียรยีนนไดได้แแ้ กก่ ่ .................................................................................... ............................................................................ . ............................................................................................................................. .....................................๑.๓ อุปก๑ร.ณ๓์ทอีใ่ ปุชก้ไดร้แณกท์ ่ ่ีใช้ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ..................................... ...................................................................................... .......................................................................... .. ๑.๔๑อ.๔าหอารหจาารนจาเดนยี เดวยีทวี่นทกั นี่ เรักยีเรนยี ปนรปะรกะอกบอบคือคือ ............................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................................................. ..................................... ๒ การวางแผนการทางาน - กลมุ่ ของนักเรยี นวางแผนการทางานอย่างไร ............................................................................................................................. ..................................... ........................................................ ........................................................................................................ .. ๓. การปฏบิ ตั ิงาน ๓.๑ ระหวา่ งปฏบิ ตั งิ านกลุ่มของนักเรียนพบปัญหาหรือไม่อย่างไร .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ๓.๒ กลุ่มของนักเรียนแก้ไขปัญหานน้ั อย่างไร ............................................................................................................................. ..................................... .................................................... ............................................................................................................ ..

436 ๔๔๗448 ๔. การประเมนิ ผล ๔.๑ นักเรยี นจะปรบั ปรุงการทางานของตนเองใหด้ ีข้นึ อย่างไร ............................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................................................... ๔.๒ ผลงานของกลุ่มนกั เรยี นอยใู่ นระดับใด O ดมี าก O ดี O พอใช้ O ควรปรับปรงุ

๔๔๘ แบบบันทึกการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของผเู้ รยี นด้านความรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๖ เร่ือง ปฏิบตั ิอาหารจานเดยี วประเภทข้าวผดั รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ รายการประเมนิ สรปุ ผล ปฏิบตั อิ าหารจานเดยี วประเภทข้าวผดั เลขท่ี ชอื่ - สกลุ การ การเตรยี ม ข้นั ตอน ลกั ษณะ ความ วางแผน วสั ดุ การปฏิบตั ิ อาหารมี เรียบรอ้ ย คะแนนรวม ระดับ อุปกรณ์ ความ ๑๐ คุณภาพ ผา่ น ไม่ผา่ น ถูกตอ้ ง ของ สถานท่ี คะแนน ปฏิบัตงิ าน ๒๒๒๒๒ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดบั คณุ ภาพด้านความรู้ ดงั น้ี ๘-๑๐ คะแนน ระดับ ๔ ดมี าก ๗-๘ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๕ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ขึน้ ไป ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ ( …………………………………………….) 437 449

๔๔๙ แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมผ้เู รยี นด้านทักษะกระบวนการ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรอ่ื ง ปฏิบัตอิ าหารจานเดียวประเภทข้าวผัด รายวิชา การงานอาชพี รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ รายการประเมิน คะแนน ระดับ สรุปผล ทักษะการคดิ รวม คณุ ภาพ เลขที่ ช่ือ - สกลุ ทักษะในการ วเิ คราะห์ ทกั ษะกระบวนการ ทักษะการนาเสนอ ผา่ น ไมผ่ ่าน แสวงหาความรู้ ทางานร่วมกัน ผลงาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั น้ี ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๘ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ขนึ้ ไป ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 438 450

๔๕๐ แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมผู้เรยี นด้านคณุ ลักษณะ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรอื่ ง ปฏิบัติอาหารจานเดยี วประเภทข้าวผดั รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ รายการประเมนิ มงุ่ มั่นในการ คะแนน ระดบั สรปุ ผล ทางาน รวม คุณภาพ ไม่ เลขที่ ช่ือ - สกุล มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ ผา่ น ผ่าน ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังน้ี ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๖ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขึ้นไป ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ( …………………………………………….) 439 451

๔๕๑ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๔ อาหารแกลับะกกาารดรด�ารางรชงชวี ติีวติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๗ เรื่อง การจัดตกแต่งอาหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้ ห๑ล.ักหกลาักรกจัดารตจกัดแตกง่ อแาตห่งอาราหาร ขนั้ นา - จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสังเกตภาพอาหารท่ีจัดตกแต่งสวยงาม และ ๑. อธบิ ายหลกั การจัดตกแต่งอาหารได้ ภาพอาหารท่ีไม่ได้ตกแต่งท่ีครูนามาให้ดู จากนั้นนักเรียน สอ่ื ๒. จดั ตกแตง่ อาหารได้ และครรู ่วมกนั สนทนาในประเดน็ คาถาม ดงั น้ี ๑. ภาพอาหารที่ได้รับการจัดตกแต่งและภาพ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ - ภาพอาหารท้งั สองภาพเหมอื นหรือแตกตา่ งกันอย่างไร อาหารท่ไี ม่ได้รบั การจดั ตกแต่ง - อาหารภาพใดน่ารบั ประทานมากกว่ากนั เพราะเหตใุ ด ๒. วัสดุท่ีใช้ตกแต่งอาหาร เช่น พริกชี้ฟ้าสีแดง สี ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ - จะทาอย่างไรให้อาหารที่ไม่ได้ตกแต่ง สวยงามน่า เขียว ผักกาดหอม แครอท แตงกวา ต้นหอม ผักชี ๒. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ทักษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้ รบั ประทานขน้ึ เป็นตน้ ๔. ทักษะการนาความรู้ไปใช้ ๒. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ หน้ ักเรียนทราบ ๓. ใบความรูท้ ี่ ๓๐ เรอื่ ง หลกั การจัดตกแตง่ อาหาร ข้นั สอน ภ๔า. รใบะงานท/ช่ี ๒้นิ ๒งาเนร่ืองหลกั การจดั ตกแต่งอาหาร ดา้ นคณุ ลักษณะ ๓. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ท่ี ๓๐ เรอื่ ง หลกั การจดั ตกแต่ง ๑ภา. รศะึกงษานาใ/บชคนิ้ วงามนรทู้ ่ี ๓๐ เรอื่ ง หลักการจัดตกแตง่ อาหาร อ- าหาร ๑. มีวนิ ยั ๔. ครูแนะนาวัสดุอุปกรณ์ในการจัดตกแต่งอาหาร ได้แก่ ๒. ใบงานที่ ๒๒ เรื่องหลกั การจดั ตกแตง่ อาหาร ๒. ใฝ่เรียนรู้ พริกชี้ฟ้าสีแดง สีเขียว ผักกาดหอม แครอท แตงกวา ๓. ม่งุ มัน่ ในการทางาน ตน้ หอม ผกั ชี ฯลฯ ๕. ครูสาธิตการจัดตกแต่งอาหารประกอบกับใบความรู้ เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งข้ึน พร้อมให้นักเรียนซักถาม และเสนอความคดิ เหน็ เพ่ิมเติม ๖. ให้นักเรียนทาใบงานท่ี ๒๒ เร่ือง หลักการจัดตกแต่ง อาหาร 440 452

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๗ ๔๕๒ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ อาหารแกับละกการาดรด�ารางรชงวีชิตีวิต เรื่อง การจดั ตกแต่งอาหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ขน้ั สรุป ๗. นักเรียนและครู ร่วมสนทนาสรุปหลักการจัดตกแต่ง อาหารและประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั จากการตกแตง่ อาหาร 441

442 453 ๔๕๓454 การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ สง่ิ ท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ -ตอบคาถามจากการทา แ-ใบบบงปานระเรเม่ือินงการจตัดอบ คะแนนร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป ด้านความรู้ ใบงาน คตา�กถแาตมง่ อจาหกการารทา� ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ๑.การจัดตกแต่งอาหาร ด้านทักษะและกระบวนการ ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั พฤตกิ รรมที่ ๒. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทักษะการแสวงหา ทักษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๓. ทักษะการประยุกต์ใช้ ความรู้ ความรู้ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ เกณฑ์ rubric ๔. ทักษะการนาความรูไ้ ปใช้ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ การผ่านอยใู่ นระดบั ทกั ษะการประยุกต์ใช้ ความรู้ และทักษะการนา คุณภาพ “พอใช้” ขึ้นไป ความรู้ และทักษะการนา ความรไู้ ปใช้ ความรูไ้ ปใช้ ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมการมี แบบสังเกตการมีวนิ ยั ระดับพฤติกรรมที่ 1. มวี ินัย วินยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ใน ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric ๓. มงุ่ ม่ันในการทางาน การผา่ นอยูใ่ นระดับ คณุ ภาพ “พอใช้” ขน้ึ ไป

443 ๔๕๔455 เกณฑก์ ารประเมินผลช้นิ งานหรือภาระงาน ระดับคุณภาพ ประเดน็ การประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรุง) เกณฑ์ประเมนิ ดา้ นความรู้ คะแนนการตอบ ๑.ตอบคาถามจากใบ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คาถามด้านความรู้ ตา่ กว่า ๕ คะแนน งาน ดา้ นความรูเ้ ท่ากับ ดา้ นความรู้เท่ากับ คาถามด้านความรู้ ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เทา่ กบั ๕-๖ คะแนน ๒.ทกั ษะการแสวงหา เกณฑป์ ระเมินดา้ นทักษะและกระบวนการ ความรู้ /การเขียนสรุป เขยี นสรุปสาระสาคัญได้ เขียนสรปุ สาระสาคญั ได้ เขยี นสรุปสาระสาคัญ เขียนสรุปสาระสาคัญ สาระสาคญั ไดไ้ มต่ รงประเดน็ ครบและตรงประเด็น ครบและตรงประเดน็ ไดต้ รงประเดน็ ใช้ภาษาในการเขยี นไม่ เหมาะสม เขียนถกู บ้าง เขยี นมีเหตุผลประกอบ เขยี นมีเหตผุ ลประกอบ เขยี นมีเหตผุ ลประกอบ ผดิ บา้ งเป็นบางคา อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขียนได้ เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขียนถกู เปน็ ถกู ต้อง ลายมือสวย อ่าน ถูกต้อง สว่ นใหญ่ งา่ ย มคี วามคิดสร้างสรรค์ ๓. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ขน้ั ตอน วิเคราะหข์ ้นั ตอน วิเคราะห์ขนั้ ตอน วิเคราะหข์ ั้นตอน วเิ คราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานท่ี ที่เลือกได้ถูกต้อง เลอื กไดถ้ กู ตอ้ งและ เลือกไดถ้ ูกต้อง เลือกไม่ได้ ๔.ทกั ษะในการ และครบถ้วน ตาม ครบถว้ น ประยุกตใ์ ช้ความรู้ ข้ันตอน ทบทวนขอ้ มูลหรือความรู้ ทบทวนข้อมูลหรือ ทบทวนขอ้ มูลหรือ ไม่มีการทบทวนข้อมูล หรือความรู้ให้เข้ากบั ทม่ี เี ข้ากบั สถานการณ์ ความรทู้ ม่ี เี ข้ากับ ความรูท้ มี่ ีเขา้ กบั สถานการณ์ใหม่ ใหม่ มีความเป็นเหตุเป็น สถานการณ์ใหม่ มีความ สถานการณ์ใหม่ ผลหรอื ความเหมาะสม เปน็ เหตเุ ปน็ ผล ระหว่างขอ้ มูลกบั สถานการณ์

444 ๔๕๕456 ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ๕.ทักษะการนาความรู้ ไปใช้ เกณฑ์ประเมินด้านทกั ษะและกระบวนการ ไม่มีการทบทวนความรู้ ทม่ี ีกบั สถานการณใ์ หม่ ทบทวนความรู้ที่มี ทบทวนความรู้ที่มี ทบทวนความรูท้ ี่มี มองเห็นความเหมือนกนั มองเห็นความเหมือนกนั และรับรูค้ วามรใู้ หม่ ของสถานการณ์ใหม่กับ ของสถานการณ์ใหม่กับ สถานการณเ์ ดิม นา สถานการณ์เดิม ความร้ทู ม่ี ีไปใชใ้ น สถานการณ์ใหม่ เกณฑ์ประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๖. มีวนิ ยั ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ปฏิบัติตามกฎระเบยี บ ไมค่ ่อยปฏบิ ตั ติ าม กตกิ า ของโรงเรียน ของ กตกิ า ของโรงเรยี น ของ กตกิ า ของโรงเรียน กฎระเบียบ กติกา ของ หอ้ งเรียน ของกลุม่ ด้วย ห้องเรยี น ของกลุ่ม ไม่ ของห้องเรียน ของ โรงเรยี น ของห้องเรียน ความเต็มใจ ไมก่ ่อกวน กอ่ กวนสรา้ งความ กลุ่ม ได้เป็นสว่ นใหญ่ ของกลมุ่ ก่อกวนสรา้ ง สรา้ งความราคาญใหค้ รู ราคาญให้ครูและเพอ่ื น ไม่ก่อกวนความราคาญ ความราคาญใหค้ รแู ละ และเพ่ือนในห้องเรยี น ในห้องเรียน ให้ครแู ละเพ่ือนใน เพอ่ื นในห้องเรยี น ห้องเรยี น เป็นบางคร้งั ๗. ใฝ่เรียนรู้ มีความกระตือรอื ร้น มคี วามกระตือรือรน้ มคี วามกระตือรือร้น ไม่มีความกระตือรือรน้ อดทน เพยี รพยายาม อดทน มงุ่ มนั่ รจู้ กั อดทน มงุ่ มนั่ ใน อดทน มงุ่ ม่ัน ไมร่ ู้จกั มงุ่ มัน่ รูจ้ ักแสวงหา แสวงหาความรู้จาก บางครง้ั รูจ้ ักแสวงหา แสวงหาความรจู้ าก ความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรียนรอู้ ื่น ๆ ความรจู้ ากแหลง่ แหล่งเรียนรอู้ ่นื ๆ อนื่ ๆ อยู่เสมอ อยู่เสมอ เรียนรู้อืน่ ๆ เกณฑป์ ระเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๘. มุ่งม่ันในการทางาน ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ได้รบั เสร็จตามกาหนดเวลา เสร็จตามกาหนดเวลา มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายไม่เสรจ็ ตาม ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง กาหนดเวลา เป็น กาหนดเวลา ผลงาน ละเอียด ประณีต เรยี บร้อย บางสว่ นผลงานมีความ ไมม่ ีความเรยี บร้อย เรียบรอ้ ย ถกู ต้อง เรยี บรอ้ ยเป็น บางรายการ

445 ๔๕๖457 บนั ทึกผลหลงั การสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ..................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ลงช่ือ......................................ผ้สู อน (........................................................) วันท.่ี ........เดือน....................พ.ศ.......... ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรอื ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ......................................ผู้ตรวจ (.........................................................) วันท่ี.........เดือน....................พ.ศ..........

446 ใบความรทู้ ี่ ๓๐ เร่ือง การจดั ตกแตง่ อาหาร ๔๕๗458 หนว่ ยท่ี ๔ เรอื่ งอาหารกบั การด�ารงชีวิต รายวชิ า กแาผรในงบากนาครอวจาาดัชมกีพารรรูท้ เหรี่ ัสยี๓นง๐ร๒ู้ท๑เ่ีร๑๗อื่ ๐ง๑เกภรา่ือารงคจเกรัดายี รนตจทกดั ี่ แต๒กตชแง่ ้นัตอมง่ าอัธหายหามารศรึกษาปที ่ี ๑ การจดั ตกแต่งอาหาร มนุษย์เราไมไ่ ดบ้ ริโภคอาหารเพื่อสนองความต้องการของร่างกาย หรือบาบดั ความหวิ แตเ่ พยี งอย่างเดียว แต่เราบริโภคอาหารเพ่ือสนองความต้องการทางจิตใจดว้ ย ดงั นั้น จงึ ควรจัดอาหารใหน้ ่ารับประทาน โดยมหี ลักการคือ ๑.จัดอาหารแต่ละม้ือให้มีความแตกต่างกันในเร่ือง สี กลิ่น รสชาติ และเน้ือสัมผัส เพ่ือช่วยกระตุ้นความ อยากอาหาร เช่น อาหารควรมีสีเขียว สีแดง สีเหลือง หรือมีรสเปร้ียว เผ็ด เค็มบ้าง ลักษณะของอาหารควรนุ่ม กรอบ เปน็ ต้น ๒.ใช้ภาชนะอุปกรณ์ในการรบั ประทานอาหารทแ่ี หง้ สะอาด สวยงาม ควรใช้ภาชนะสีขาว เพอื่ ความสะอาด และเห็นความงามของอาหาร ตลอดจนใช้ภาชนะเหมาะกับอาหารท่ีจะใส่ เช่น ชามใส่แกง จานเปลใส่ปลาทอด ถว้ ยใสน่ า้ พรกิ เป็นต้น ๓.จัดบรรยากาศส่ิงแวดล้อมในระหว่างรับประทานให้ดี เช่น จัดวางโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ท่ีใช้ในการ รับประทานอาหารให้เป็นระเบยี บเรยี บร้อยและพร้อมใช้งาน เปดิ หน้าตา่ งหรอื เปดิ พัดลมให้อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก จัดแจกันดอกไม้วางบนโต๊ะอาหาร มีภาพทิวทัศน์ท่ีสวยงามติดฝาผนัง หรือเปิดเพลงเบาๆในระหว่างรับประทาน อาหาร เป็นต้น การจัดตกแต่งโตะ๊ อาหาร การตกแต่งโต๊ะอาหารมักนิยมให้กลมกลืนกับลักษณะของโต๊ะอาหาร เพราะจะทาให้โต๊ะอาหารดูสวยงาม ส่ิงท่ีนิยมใช้ตกแต่งโต๊ะอาหาร คือ ดอกไม้และใบไม้สีเขียว เช่น ดอกเข็ม ดอกบานไม่รู้โรย ชบา บานบุรี กุหลาบ หรอื อาจจะใชด้ อกไม้แหง้ หรือดอกไม้ประดิษฐ์มองดูนมุ่ นวลและสวยงามขึ้น นอกจากนี้อาจใช้ผักหรือผลไม้ จัดตกแต่งโต๊ะอาหารได้สวยพอๆกับการใช้ดอกไม้ ภาชนะที่ใช้จัดอาจเป็น ตะกร้า กระเช้า แจกันทาดว้ ยแกว้ ไม้ ดนิ เผา เปลือกหอย หรือโลหะทองเหลอื ง เหล็ก สแตนเลส การตกแตง่ โต๊ะอาหารดว้ ยผักสดและผลไม้ การจัดผักสดตกแต่งโต๊ะอาหาร สามารถทาไว้ลว่ งหน้าได้ โดยใช้ผ้าขาวบางชุบน้าคลุมแล้วใส่ตเู้ ย็นไว้ การจัดโต๊ะอาหารแบบน้ีจะทาให้โต๊ะอาหารมองดูแปลกไป ซ่ึงเหมาะที่จะใช้กับสถานที่ซึ่งหาดอกไม้ยาก และ สามารถรับประทานได้อกี ด้วย ผลไม้ก็ใช้แต่งโต๊ะอาหารได้เหมือนกับผัก แต่ถ้าจะใช้เป็นอาหารได้ด้วย ต้องปอกและหั่นเป็นชิ้นพอ คา เชน่ มะละกอ สบั ปะรด แตงโม ฝรง่ั ละมดุ ฯลฯ ก่อนปอกผลไม้ควรลา้ งและเชด็ ให้แหง้ ขณะปอกต้องระวังรักษาความสะอาด พยายามอยา่ ให้ มือผปู้ อกสัมผัสผลไม้มากจะทาใหช้ ้�า

447 ๔๕๘459 ใบงารนราทายยี่ว๒วชิ ๒ชิ าาเกแรแกผา่ือผารนงรนงกงหากาานลานรรอักจใอหจกาบดัานดัชางชก่วรกพีาาีพจยานรัดรทรเทรรเหตหี่ร่ีีย๔ก๓สัยีัสนแ๐นเรงงตรรู้ท๒๒อื่ง่เู้ทร่ี๑อ๑ง๗่อืี่ าอ๑๗๑งหา๐๐หาก๑๑รเาารเรรอ่ืภภรกจื่องาาหบัดั งคคนหตกเเว่กลรรกายียากัียรแรทนกนดตจี่าทา�ทง่๔ัดรร่ีอ่ี จ๒ตง๒าเัดชรกหชื่อชตวีแาั้นงกนั้ติตรอมแมง่ าธัตอัธหย่งายามอหมราศาศกหกึรึกับาษษกราาาปรปทีดที ่ีา๑่ี ร๑งชีวิต คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามเรอื่ งการจัดตกแตง่ อาหารโดยจบั คูค่ วามสมั พันธ์ของข้อความ การจัดตกแตง่ อาหาร วธิ กี ารจัดตกแต่งอาหาร ๑.การจัดอาหารในแตล่ ะมื้อ   ก.ควรลา้ งและเชด็ ใหแ้ หง้ ๒.บรรยากาศของโต๊ะอาหาร   ข.หน่ั เปน็ ชิน้ พอคา ๓.การจัดผลไม้แตง่ จานอาหาร   ค.ควรใชภ้ าชนะสีขาว เพือ่ ความสะอาด ๔.การใชภ้ าชนะประเภทจานเปล   ง.ใช้ผา้ ขาวบางชบุ น้าคลุมแล้วใสต่ ู้เย็น ๕.นิยมใชต้ กแต่งโตะ๊ อาหาร   จ.ความแตกตา่ งกันในเร่ืองสี กล่นิ รสชาติ ๖.การใชผ้ ลไมใ้ นการตกแต่ง   ฉ.ดอกไม้และใบไมส้ เี ขียว ๗.การใชภ้ าชนะในการจัดจานอาหาร   ช.กลมกลืนกบั ลักษณะของโตะ๊ อาหาร  ซ.จดั แจกนั ดอกไม้วางบนโตะ๊ อาหาร ๘.การจดั บรรยากาศส่ิงแวดล้อม   ฌ.การจดั จานอาหารประเภทปลาทอด ๙.การเกบ็ รกั ษาผักสดตกแตง่ โต๊ะอาหาร  ลว่ งหนา้ ๑๐.การจดั ตกแต่งโต๊ะอาหาร   ญ.มภี าพทวิ ทศั น์ท่สี วยงามติดฝาผนัง

448 ๔๕๙460 เฉเฉลลยใยบใงบานงาทนี่ ๒ท๒ี่ ๓เ๐รอ่ื เงรือ่ หงลกั ากราจรัดจดัตตกกแแตตง่ อ่งอาาหหาารร หหน่วยที่ ๔ เรื่องอาหารกบั กกาารรดดา�ารรงงชชีวีวิติต แแผผนนกกาารรจจัดดั กกาารเรรเยีรยีนนร้ทูรทู้่ี ๗ี่ ๗ เรเอ่ื รง่อื งหลกกัากรจารดั จตดั กตแกตแง่ ตอ่งาอหาาหราร รราายยววชิ ชิ าากกาารรงงาานนออาาชชพีีพ รรหหัสัส งง๒๒๑๑๑๑๐๐๑๑ ภภาาคคเเรรียยี นนทที่ ่ี๒๒ชชั้นั้นมมธั ธั ยยมมศศึกกึ ษษาาปปีทที ี่ ๑ี่ ๑ คาช้ีแจง ให้นักเรียนตอบคาถามเร่ืองการจดั ตกแตง่ อาหารโดยจับคู่ความสัมพนั ธ์ของข้อความ การจัดตกแต่งอาหาร วิธีการจดั ตกแต่งอาหาร  ก.ควรล้างและเชด็ ให้แห้ง ๑.การจดั อาหารในแตล่ ะมื้อ  ๒.บรรยากาศของโต๊ะอาหาร   ข.หั่นเป็นชน้ิ พอคา ๓.การจัดผลไม้แตง่ จานอาหาร   ค.ควรใชภ้ าชนะสขี าว เพอื่ ความสะอาด ๔.การใชภ้ าชนะประเภทจานเปล   ง.ใชผ้ ้าขาวบางชุบน้าคลมุ แล้วใส่ตู้เย็น ๕.นิยมใชต้ กแตง่ โตะ๊ อาหาร   จ.ความแตกตา่ งกนั ในเร่ืองสี กลิ่น รสชาติ ๖.การใช้ผลไมใ้ นการตกแตง่   ฉ.ดอกไมแ้ ละใบไมส้ ีเขียว  ช.กลมกลนื กบั ลกั ษณะของโต๊ะอาหาร ๗.การใชภ้ าชนะในการจัดจานอาหาร   ซ.จัดแจกนั ดอกไมว้ างบนโตะ๊ อาหาร  ฌ.การจดั จานอาหารประเภทปลาทอด ๘.การจัดบรรยากาศส่งิ แวดล้อม  ๙.การเก็บรักษาผกั สดตกแต่งโต๊ะอาหาร  ลว่ งหน้า ๑๐.การจัดตกแต่งโต๊ะอาหาร   ญ.มภี าพทวิ ทัศน์ทส่ี วยงามติดฝาผนงั

๔๖๐ แบบบนั ทึกการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของผเู้ รียนดา้ นความรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๗ เรอ่ื ง การจัดตกแต่งอาหาร รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ รายการประเมิน คะแนนรวม ระดับ สรุปผล ตอบคาถามจากใบงาน ๑๐ คณุ ภาพ ผา่ น ไม่ผ่าน เลขท่ี ชือ่ - สกุล ๑ ๒ ๓๔๕๖๗๘ ๙ ๑๐ คะแนน ๑ ๑ ๑๑๑๑๑๑ ๑๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดบั คณุ ภาพดา้ นความรู้ ดงั น้ี ตา่ กว่า ๕ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรุง ๘-๑๐ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ข้นึ ไป ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 449 461

๔๖๑ แบบบนั ทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียนด้านทักษะกระบวนการ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๗ เรื่อง การจัดตกแตง่ อาหาร รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ รายการประเมนิ สรุปผล ทกั ษะการคดิ ทักษะ คะแนน ระดบั เลขที่ ช่ือ - สกุล ทกั ษะการ วิเคราะห์ กระบวนการ ทักษะการ รวม คณุ ภาพ ผา่ น ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานรว่ มกัน นาเสนองาน ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดังนี้ ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๘ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ข้ึนไป ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 450 462

๔๖๒ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรมผู้เรียนด้านคณุ ลักษณะ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง การจัดตกแตง่ อาหาร รายวชิ า การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ รายการประเมนิ ม่งุ มัน่ ในการ คะแนน ระดับ สรปุ ผล ทางาน รวม คุณภาพ ไม่ เลขที่ ช่ือ - สกลุ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ ผา่ น ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๖ คะแนน ระดับ ๑ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ขึ้นไป ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน ( …………………………………………….) 451 463

๔๖๓ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ อาหารและการดารงชีวติ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๘ เวลา ๑ ช่วั โมง เร่ือง การบริการอาหารและเครือ่ งด่ืม กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ ก๑า.รกบารรกิ บารกิอารหอาารหแาลระแเคลระอื่ เคงดร่ืมองดื่ม ขัน้ นา - จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสังเกตภาพการจัดโต๊ะอาหารท่ีครูนามาให้ดู สอ่ื ๑. ระบปุ ระเภทของการจัดเล้ยี งในรูปแบบ จากนั้นนักเรียนและครูร่วมสนทนาโดยใช้ประเด็นคาถาม ๑. ภาพการจดักโต๊ะอาหาร ตา่ งๆได้ ดงั น้ี ๒. ใบความรทู้ ี่ ๓๑ เรื่อง การบริการอาหารและ ๒. อธิบายความหมายและการบริการ - จากภาพนักเรียนเคยจัดโตะ๊ และใหบ้ รกิ ารบ้างหรอื ไม่ เครอ่ื งดื่ม อาหารและเคร่อื งดม่ื ในงาน - ที่บ้านของนักเรียนจัดวางจาน ช้อนส้อม และแก้ว ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๓. บรกิ ารอาหารในครอบครัวได้ เหมอื นในภาพหรือไม่ ส๑ม.ดุ สจมดดุ งจานดแงาผนนแทผ่ีคนวทามี่คควดิามกาครดิ บกราิกราบรรอิกาาหราอราแหลาะร ดา้ นทักษะและกระบวนการ - นักเรยี นเคยให้บริการอาหารและเครื่องดืม่ ล้างหรอื ไม่ เแคลระ่ือเงคดร่มื ่ืองดม่ื - การบริการอาหารและเครื่องดืม่ มกั พบไดท้ ใ่ี ด หรืองาน ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ ใด ๒. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ๒. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนร้ใู ห้นักเรียนทราบ ๓. ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ ข้นั สอน ๔. ทักษะการนาความร้ไู ปใช้ ๓. นักเรียนแต่ละคนศึกษาใบความรู้ท่ี ๓๑ เรื่อง การ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เบรรอ่ื ิกงากราอราบหราิกราแรลอะาเหคารรอ่ื แงลดะม่ื เครื่องดืม ๑. มีวินัย ๔. นักเรียนส่งตัวแทน ๕ คน ครูมอบหมายให้นักเรียนทั้ง ๕ คน แสดงบทบาทสมมติในการบริการอาหารและ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มุง่ ม่ันในการทางาน เ ค รื่ อ ง ดื่ ม แ บ บ ส า ก ล โ ด ย ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ ที่ ค รู เ ต รี ย ม ไ ว้ ให้เพื่อน ๆ ดู ๕. นักเรยี นและครรู ่วมกนั อภิปรายแสดงความคดิ เห็น โดย ใช้ประเดน็ คาถาม ดังน้ี 452 464

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๘ ๔๖๔ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ อาหารกแับละกการาดรดา� รางรชงวีชติีวติ เรื่อง การบรกิ ารอาหารและเครือ่ งดื่ม เวลา ๑ ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ - วางชอ้ น สอ้ ม และมีดบนโตะ๊ อาหารอย่างไร - เสริ ฟ์ และบรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดื่มทาอยา่ งไรบ้าง - ผู้บริการที่ดี ควรปฏิบตั ิอย่างไรบ้าง ครอู ธิบายเพ่ิมเติม ให้สมบรู ณ์ยิ่งขึ้น ขนั้ สรปุ ๖. นักเรียนและครู ร่วมกันอภิปรายสรุปองค์ความรู้ เก่ียวกับการบริการอาหารและเครื่องดืม่ ๗. นักเรียนทาแผนท่ีความคิดสรุปเร่ืองการบริการอาหาร และเคร่ืองดื่มลงในสมุดจดงานเป็นการบ้านส่งในสัปดาห์ ต่อไป 453

454 465 ๔๖๕466 การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ เ-ขแียผนแทผี่คนวทาค่ีมวคาดิ มกคาิดร -แแบบบบปปรระะเมเมินนิ กแารผนท่ี ส่ิงที่ต้องการวดั /ประเมนิ กบารริกบารกิ อารหอาารหแาลระ คเขวียานมแคผดิ นกทาคี่รบวารมิกคาิดร คะแนนร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป ดา้ นความรู้ แเคลระื่อเคงดร่อื่ืมงดื่ม อกาารหบารริกแาลระอเาคหราอ่ื รงดม่ื ผา่ นเกณฑ์ ๑.การบรกิ ารอาหารและ และเครอ่ื งดมื่ เคร่อื งดื่ม ด้านทกั ษะและกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั พฤตกิ รรมที่ ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ สังเกตพฤตกิ รรม ๒. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการแสวงหา ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๓. ทักษะการประยุกต์ใช้ ความรู้ ความรู้ ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ เกณฑ์ rubric ๔. ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ ทักษะการประยกุ ต์ใช้ การผ่านอยใู่ นระดบั ความรู้ และทักษะการนา คุณภาพ “พอใช้” ขน้ึ ไป ความรู้ และทักษะการ ความร้ไู ปใช้ นาความรู้ไปใช้ ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมการมี แบบสังเกตการมวี ินัย ระดบั พฤตกิ รรมที่ ๑. มีวนิ ัย วินยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ใน ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมนั่ ในการ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric ๓. มงุ่ มั่นในการทางาน การผา่ นอยู่ในระดับ คุณภาพ “พอใช้” ขน้ึ ไป

455 ๔๖๖467 เกณฑ์การประเมินผลชิน้ งานหรอื ภาระงาน ระดบั คุณภาพ ประเดน็ การประเมนิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง) เกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ คะแนนการตอบ ๑.ตอบคาถามจากแบบ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คาถามดา้ นความรู้ ตา่ กว่า ๕ คะแนน บนั ทึก ด้านความรเู้ ทา่ กบั ด้านความรเู้ ทา่ กบั คาถามดา้ นความรู้ ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เท่ากบั ๕-๖ คะแนน ๒.ทกั ษะการแสวงหา เกณฑ์ประเมนิ ดา้ นทักษะและกระบวนการ ความรู้ /การเขียนสรุป เขียนสรปุ สาระสาคญั ได้ เขยี นสรปุ สาระสาคญั ได้ เขียนสรุปสาระสาคญั เขยี นสรุปสาระสาคัญ สาระสาคัญ ได้ไมต่ รงประเดน็ ครบและตรงประเดน็ ครบและตรงประเด็น ไดต้ รงประเด็น ใช้ภาษาในการเขยี นไม่ เหมาะสม เขียนถูกบ้าง เขียนมเี หตุผลประกอบ เขียนมเี หตุผลประกอบ เขียนมเี หตุผลประกอบ ผิดบ้างเปน็ บางคา อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใช้ภาษาในการเขียนได้ เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขยี นถูกเปน็ ถูกต้อง ลายมอื สวย อ่าน ถูกต้อง สว่ นใหญ่ งา่ ย มีความคิดสร้างสรรค์ ๓. ทักษะการคิด วิเคราะหข์ ้ันตอน วเิ คราะหข์ นั้ ตอน วเิ คราะหข์ นั้ ตอน วิเคราะห์ข้ันตอน วเิ คราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานท่ี ทเ่ี ลอื กไดถ้ ูกต้อง เลือกได้ถกู ตอ้ งและ เลอื กไดถ้ กู ต้อง เลอื กไมไ่ ด้ ๔.ทกั ษะในการ และครบถว้ น ตาม ครบถ้วน ประยกุ ต์ใช้ความรู้ ขัน้ ตอน ทบทวนข้อมูลหรอื ความรู้ ทบทวนขอ้ มลู หรอื ทบทวนขอ้ มลู หรือ ไม่มีการทบทวนข้อมูล หรอื ความรู้ให้เข้ากบั ท่ีมีเขา้ กบั สถานการณ์ ความรทู้ มี่ ีเข้ากบั ความร้ทู มี่ เี ขา้ กบั สถานการณ์ใหม่ ใหม่ มีความเป็นเหตุเป็น สถานการณ์ใหม่ มีความ สถานการณ์ใหม่ ผลหรือความเหมาะสม เป็นเหตเุ ปน็ ผล ระหวา่ งข้อมลู กบั สถานการณ์

456 ๔๖๗468 ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรงุ ) ๕.ทักษะการนาความรู้ ไปใช้ เกณฑ์ประเมินด้านทกั ษะและกระบวนการ ไมม่ ีการทบทวนความรู้ ท่มี กี บั สถานการณใ์ หม่ ทบทวนความรู้ที่มี ทบทวนความรู้ที่มี ทบทวนความรูท้ ี่มี มองเห็นความเหมือนกนั มองเห็นความเหมือนกนั และรับรูค้ วามรใู้ หม่ ของสถานการณ์ใหม่กับ ของสถานการณ์ใหม่กับ สถานการณเ์ ดิม นา สถานการณ์เดิม ความร้ทู ม่ี ีไปใชใ้ น สถานการณ์ใหม่ เกณฑ์ประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๖. มีวนิ ยั ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ปฏิบัติตามกฎระเบยี บ ไมค่ ่อยปฏิบตั ิตาม กตกิ า ของโรงเรียน ของ กตกิ า ของโรงเรยี น ของ กตกิ า ของโรงเรียน กฎระเบียบ กติกา ของ หอ้ งเรียน ของกลุม่ ด้วย ห้องเรยี น ของกลุ่ม ไม่ ของห้องเรียน ของ โรงเรยี น ของหอ้ งเรียน ความเต็มใจ ไม่ก่อกวน กอ่ กวนสรา้ งความ กลุ่ม ได้เป็นสว่ นใหญ่ ของกลมุ่ ก่อกวนสรา้ ง สรา้ งความราคาญใหค้ รู ราคาญให้ครูและเพอ่ื น ไม่ก่อกวนความราคาญ ความราคาญใหค้ รูและ และเพ่ือนในห้องเรยี น ในห้องเรียน ให้ครแู ละเพ่ือนใน เพอ่ื นในหอ้ งเรียน ห้องเรยี น เป็นบางครัง้ ๗. ใฝ่เรียนรู้ มีความกระตือรอื ร้น มคี วามกระตือรือรน้ มคี วามกระตือรือร้น ไม่มีความกระตือรือรน้ อดทน เพยี รพยายาม อดทน มงุ่ มนั่ รจู้ กั อดทน มงุ่ มนั่ ใน อดทน มงุ่ ม่ัน ไมร่ ู้จกั มงุ่ มัน่ รูจ้ ักแสวงหา แสวงหาความรู้จาก บางครง้ั รูจ้ ักแสวงหา แสวงหาความรูจ้ าก ความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรียนรอู้ ื่น ๆ ความรจู้ ากแหลง่ แหล่งเรียนรูอ้ นื่ ๆ อนื่ ๆ อยู่เสมอ อยู่เสมอ เรียนรู้อืน่ ๆ เกณฑป์ ระเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๘. มุ่งม่ันในการทางาน ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ไดร้ บั เสร็จตามกาหนดเวลา เสร็จตามกาหนดเวลา มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายไม่เสรจ็ ตาม ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง กาหนดเวลา เป็น กาหนดเวลา ผลงาน ละเอียด ประณีต เรยี บร้อย บางสว่ นผลงานมีความ ไม่มีความเรียบร้อย เรียบรอ้ ย ถกู ต้อง เรยี บรอ้ ยเป็น บางรายการ

457 ๔๖๘469 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................. ..................................................................... ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ..................................... .................................................................................................................................. ................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................... ลงช่ือ......................................ผสู้ อน (........................................................) วันท่ี.........เดือน....................พ.ศ.......... ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผู้ที่ได้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. ..................................... .................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.........................................................) วนั ท่ี.........เดอื น....................พ.ศ..........

458 ๔๖๙470 ใบความรรารทู้ ยาี่ ยว๓แวิช๑ผชิาแนาผกกกนกาาาการรรรางจบงราใดัราบจนกิกนัดคอาาอกวาหรราาาชอเนชรรมีพาว่เพีียรหรยนู้ทียราทรร่ีหนรห๓่ีทู้ แรัส๔ัส๑่ีู้ทล๘งเง่ีะร๒๘๒กเ่ือเค๑รา๑งเรอื่รร๑อ๑่ือบงื่อา๐๐งงรหกด๑๑กิ ากาื่มารราภภรกบรหาอาับบรคคานกรกิเหเว่รกิาราายยีรียารรนดทรนอแอ�าท่ีาทล๔ราี่หะ่ีง๒ห๒เาชเคารรชวีรรช่อืแิตน้ัแ่ืองั้นลลมงอมะดะธัาเธัเืม่ยคหคยมรารมื่อศร่อื ศงกกึงกึดดษบั ษื่ม่ืมากาปาปรที ดีท่ี ๑าี่ ๑รงชีวติ การบริการอาหารและเครอื่ งดื่ม การบรกิ ารอาหารขนึ้ อยู่กบั ประเภทของการจัดเล้ยี ง ซึ่งในปัจจุบนั การจดั เลย้ี ง แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ใหญ่ๆ คอื ๑. การจดั เลยี้ งแบบไทย ๒. การจัดเลีย้ งแบบสากล การจัดเลีย้ งแบบไทย การจัดเล้ียงอาหารมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน เช่น เล้ียงพระสงฆ์ เลี้ยงอาหารค่าแบบขันโตกของชาวภาคเหนือ เลีย้ งวันเกิด เลี้ยงวันแต่งงาน เล้ียงต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองหรือ เลี้ยงในงานศพ เป็นต้น ดังน้ันเพ่ือดารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้ชาวไทยรุ่นหลังจึงควรได้รู้จักการรับประทาน อาหารแบบไทยแท้ ซง่ึ มีอยู่ ๓ แบบคือ ๑. เล้ยี งอาหารแบบนัง่ พ้นื ที่มสี ารับเฉพาะตวั เป็นการรับประทานอาหารที่ไม่ปะปนอยู่กับคนอน่ื การจดั เลยี้ งแบบนี้จะใชเ้ ฉพาะพระสงฆ์เทา่ น้ัน เพราะบุคคลหน่งึ จะมีอาหารคาว ๑ สารบั อาหารหวาน ๑ สารบั แตล่ ะ สารับอยา่ งละ ๔ ถว้ ย และมีคนโทน้า แก้ว หรอื ขันน้า ผ้าเชด็ มือ ช้อน ส้อม เมอ่ื รับเมป่อืระรทับาปนรอะาทหาานรอคาหวารคาว เสร็จจงึ เสริฟอาหารหวาน

459 ๔๗๐471 ๒. การเลย้ี งอาหารแบบน่ังกบั พื้นรวมกนั เป็นวง การจัดเลี้ยงแบบนว้ี งหนง่ึ ๆจะมีประมาณ ๕-๖ คน ก่อน วางสารับอาหารจะต้องปูเสื่อหรือพรม แลว้ ปูผา้ พลาสติคตรงกลางสารบั อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการรับประทานอาหาร ได้แก่ จานข้าว ช้อน สอ้ ม ชอ้ นกลาง เหยือกนา้ โถข้าว กระโถน ผา้ เช็ดมือ แก้วน้าวางไวท้ างขวามือของผูใ้ ช้ อาหารอาจจะมปี รอะมาหาณารอ๔า-๖จจอะยมา่ ีปงรสะว่มนาอณาห๕า-ร๖หวอายน่าแงละสผ่วลนไอมาม้ หีบาา้ รงหเลวก็ านอ้แยละผลไมม้ บี ้างเล็กน้อย ๓. การเล้ียงอาหารแบบขันโตก เป็นการเลี้ยงอาหารค่าในงานรับรองแขกผู้มีเกียรติหรือในงานฉลอง สมโภช ซึ่งเป็นประเพณีของชาวเหนือ อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารพ้ืนเมือง เช่น น้าพริกอ่อง น้าพริกหนุ่ม แคบหมู ไส้อั่ว ผักจิ้ม เป็นต้น ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ได้แก่ กระติบข้าวเหนียว คนโทน้า และ ขันหรอื จอก อาหารใสใ่ นภาชนะท่ีเรยี กว่า โตก

460 ๔๗๑472 การจดั เลี้ยงแบบสากล การจัดเลี้ยงแบบสากลมักพบเหน็ ทัว่ ๆไปในสังคมต่างๆเชน่ งานเลยี้ งรับรอง งานเลย้ี งสังสรรค์ งานเล้ียงเพ่ือ เฉลิมฉลองการแต่งงาน สาเร็จการศกึ ษา หรอื งานเลย้ี งปีใหม่ เปน็ ต้น ปจั จบุ นั สงั คมไทยนิยมนาอาหารไทยมาจัด เล้ียงแบบสากลด้วย จึงควรศึกษาถึงรูปแบบและวธิ ปี ฏิบัติซ่งึ มรี ายละเอียดดงั นี้ ๑. การจดั เลี้ยงที่มีลกั ษณะการรับประทานอาหารแบบช่วยตัวเอง สามารถแบง่ ได้ดังน้ี ๑.๑ เลย้ี งแบบบุฟเฟต่ ์ ปัจจุบนั นยิ มกันมาก การเล้ียงแบบนใี้ ช้เลีย้ งคนจานวนมากทาใหเ้ สยี ค่าใชจ้ ่าย น้อย แขกจะเลือกตักอาหารเองได้ตามความตอ้ งการ ซึง่ อาหารและเคริ่ืองดม่ื จะจดั ไว้บนโตะ๊ เมือ่ อาหารหมดจะมบี บริกริกรรมมาาคคออยยบบรริกกิ าารร อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการรบั ประทานอาหารไดแ้ ก่ ผา้ เช็ดปาก จาน ชอ้ น ส้อม แก้วนา้ เปน็ ตน้ มารยาทในการรบั ประทานอาหารแบบบุปฟเฟ่ต์ เม่ือถึงเวลารบั ประทานอาหารต้องรอใหเ้ จ้าภาพหรือแขกผมู้ เี กยี รติ ตกั อาหารกอ่ น การตกั อาหารควรตักแต่พออ่มิ ไมค่ วรตกั จนล้นจาน และ ไมค่ วรตักอาหารเผื่อคนอน่ื ฯลฯ

461 ๔๗๒473 ๑.๒ เลี้ยงแบบค็อกเทล เป็นการเลี้ยงรับรองบุคคลที่คุ้นเคยที่จากกันไปนาน เล้ียงรับรองแขก ต่างประเทศ งานมงคลสมรส ซงึ่ ปัจจบุ ันนิยมกันมาก การเลีย้ งแบบน้ีอาหารที่รับประทานส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร ว่าง มีขนาดพอคาใช้มือหยิบจับได้โดยไม่ต้องใช้ช้อนส้อมเสิร์ฟพร้อมกับเคร่ืองด่ืมต่างๆ การจัดโต๊ะอาหารจะทา เช่นเดยี วกบั การจดั โต๊ะแบบบปุ เฟต่ ์ ๑.๓ เลี้ยงแบบออกร้าน เป็นงานเลี้ยงท่ีจัดขึ้นในโอกาศพบปะสังสรรค์ งานครบรอบวันเกิดครบรอบ วันแตง่ งาน วนั ปีใหม่ เป็นต้น การจดั รา้ นอาหารจะมีอาหารหลากหลายไม่ซ้ากันแตล่ ะร้าน เป็นการเปดิ โอกาศ ให้แขกได้เลอื กรบั ประทานอาหารเองตามใจชอบ โต๊ะสาหรับรับประทานอาหาร จะจัดเป็นกลุ่มๆท่กี ลางสนามโดยมี รา้ นอาหารลอ้ มรอบ อาหารแต่ละอย่างทีต่ ักมารับประทานควรรับประทานให้หมดก่อนท่ีจะตักอาหารชนิดใหมห่ รือ ตกั เพม่ิ ๑.๔ เลี้ยงแบบปกิคนนิกิค เป็นการเล้ียงที่ใช้ในโอกาศไปทัศนาจรโดยมีการจัดเตรียมอาหารใส่ป่ินโต ใส่ กล่องหรือห่อ สถานที่ที่ไปสว่ นใหญ่เป็นสวนสาธารณะหรือตามภูเขา นา้ ตก ทะเล การรับประทานอาหารส่วนใหญ่ นง่ั กบั พนื้ โดยใชเ้ สอื่ ปู แขกทุกคนจะตอ้ งตกั อาหารหรือเครื่องด่ืมด้วยตวั เอง ๒. การรับประทานอาหารแบบน่งั โตะ๊ และมบี ริกรคอยให้บริการ เป็นการจัดเล้ียงแบบสากลท่ีพบเห็นได้ตามร้านอาหาร ภัตตาคารหรือห้องอาหารในโรงแรมทั่วไป โดยมีรูปแบบของการจัดอาหาร การจัดโต๊ะและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการรับประทานอาหาร รวมถึงมารยาทในการ รบั ประทานดังน้ี ๒.๑ รูปแบบอาหารเช้า อาหารเช้าเป็นอาหารม้ือแรกของวันถือว่าสาคัญท่ีสุด อาหารควรเป็น อาหารท่ีรับประทานง่าย ใช้เวลาส้ันๆ มีให้เลือกหลายอย่าง รับประทานแล้วอิ่ม และได้คุณค่าทางอาหาร ครบถ้วน ได้แก่ ข้าวต้มเคร่ือง โจ๊กไก่ใส่ไข่ ขนมปังป้ิง ไข่ดาว หมูแฮม ไสก้ รอก แยม เนย เคร่ืองดม่ื เชน่ ชา กาแฟ นมสด หรือนา้ ผลไม้ เป็นตน้ ๒.๒ รูปแบบอาหารกลางวัน อาหารกลางวันส่วนใหญ่เป็นอาหารท่ีรับประทานง่ายมีให้เลือกไม่ ไม่มากาก และเปน็ อาหารจานเดียว เช่น สปาเกตต้ี ขา้ วผัด หรือเป็นอาหารประเภทสเตก๊็กปปลลาา อาหารทะเล ที่เสิร์ฟ กบั ซุป สลัดผกั สดและผลไม้สด

462 ๔๗๓474 การจัดโต๊ะ ไมว่ ่าจะเป็นบุฟปเฟต่ ์หรือก่งึ พธิ ีการ ควรใช้ดอกไมส้ สี ดใส สวยงามไมเ่ หี่ยวง่ายและไมม่ ีกลนิ่ ตกแต่งโต๊ะ การจดั อปุ กรณร์ บั ประทานอาหาร เช่น ผา้ เช็ดปากหรือผ้าเชด็ มือ จาน ช้อน สอ้ ม มีด ถาด ถ้วย แกว้ ๒.๓ รูปแบบอาหารคา่ หรอื ดินเน่อร์ เป็นการจดั เล้ียงท่ีมีความสาคญั เพราะมรี ะเบยี บแบบแผน ในเร่ืองของมารยาทมากกว่าการจดั เลยี้ งแบบอื่น โดยมากนิยมจดั แบบบฟปุ เฟต่ ห์ รอื อาหารเป็นชุดซึ่งคาวา่ “ ชดุ ” ของการจดั รายการอาหาร คือ มอี าหารจานแรก เปน็ ซปุ หรือสลัด อาหารประเภทเน้ือสัตว์หรอื อาหารทะเล อาหารหวาน และเคร่ืองดื่ม คือ ชา กาแฟ นอกจากนี้อาจมีการเสิรฟ์ ไวนร์ ะหวา่ งรบั ประทานอาหารประเภท เนือ้ สตั ว์หรือปลาด้วย การจกัดารโตจะ๊ดั โตม๊ะกั จมัดกั เปจดั็นเรปปู ็นตรัวูปไตอวั ไตอวั ทตีัวทตีวั ยตูัวหยรู หอื โรตอื ะ๊โตกะ๊ลกมลแมลแ้วลแว้ ตแจ่ ตา่จนา� วนนวขนอขงอแงขแกขรกับรับเชเชิญญิ การจกัดารวจาัดงอวาปุ งกอรุปณก์บรณนโบ์ ตน๊ะโอตาะ๊ หอารหารายรกายารกอาราอหาหรารแลแะลอะุปอกุปรกณรณบ์ น์บโนตโ๊ะตจ๊ะะจถะูกถจูกดัจัดวาวงาไงวไว้เฉเ้ ฉพพาาะะคคนน ๒.๔ รปู แบบการรับประทานอาหารบนเคร่ืองบนิ การเสริ ์ฟอาหารจะเสริ ฟ์ เปน็ ถาดหรือกล่อง โดยพนักงานจะนาถาดหรือกล่องบรรจอุ าหารมาวางบนทรี่ ับประทาน ซง่ึ พบั เก็บอยดู่ ้านหลงั พนกั เกา้ อ้ตี วั หนา้ หรือ พบั เกบ็ ไวข้ า้ งทีเ่ ท้าแขนของเก้าอตี้ วั ท่ีน่งั โดยแต่ละถาดอาหารจะประกอบดว้ ย ถ้วยชาหรอื กาแฟ แก้วนา้ ขนมปังแซนวสิ หรอื ขนมปังชนดิ ก้อนกลม ขนมหวาน ผลไม้ อาหารคาว เชน่ ไกท่ อด ข้าวผัด หมูทอด มีด สอ้ ม ชอ้ นกาแฟ และมีดเนย ผา้ หรือกระดาษเชด็ มือ ซองน้าตาล เกลอื พรกิ ไทย ซอสมะเขือเทศ ห่อเนยหรือ แยม ๒.๕ รูปแบบการเล้ยี งอาหารแบบจีน เป็นการจดั เล้ียงท่ีได้รบั ความนยิ มมากในปัจจุบนั สว่ นมากจะจดั เลย้ี งในภตั ตาคารหรอื โรงแรม เนื่องในโอกาศฉลองความสาเร็จ งานแต่งงาน งานเลี้ยงปีใหม่ ฯลฯ โดยทางภตั ตาคารหรอื โรงแรมจะเปน็ ผู้รบั ผิดชอบดา้ นการจัดโต๊ะ ทาอาหาร เสิร์ฟและเก็บลา้ งภาชนะ เจา้ ภาพมี

463 ๔๗๔475 หน้าทต่ี อ้ นรบั แขกและชาระค่าจัดเลี้ยงเท่านน้ั การเสิร์ฟอาหารจะเร่ิมเสิรฟ์ เคร่อื งด่มื และกบั แกลม้ กอ่ น เชน่ ถัว่ ทอด เมด็ มะมว่ งหิมพานต์ทอด ไส้กรอก ไขเ่ ย่ียวม้า และ ขงิ ดอง เปน็ ตน้ จากน้นั จะเสิรฟ์ อาหารหนักทลี ะจาน การจดั โต๊ะและอปุ กรณ์การรบั ประทานอาหาร โต๊ะแต่ละตวั จะมีเก้าอ้ี ๑๐ ตัว กระดาษเช็ดปาก และไม้ จมิ้ ฟัน พร้อมกบั ถว้ ยบรรจุเครื่องจ้ิมอาหารตา่ งๆๆ

464 รารยาวเยริชว่ือาิชงแกาเผกรานกือ่ารรกางงเารากขงนรแีายาจอผรนนดัานเอแขกชหกาผียาีพานชรนนรว่เีพแทจรยียรผัด่ีคทรหนนกวหี่ ัสร๔าทาสั ูท้มรว่คี เเิงชี่ควรร๘๒าิด่ือาีย๑มงกเนงรอ๑ค๒ารอื่ าริด๐ู้ท๑งหบก๑่ี๑าก๘รา๐รกิารภกเ๑บราารับบรรค่ือกอกิรเภงริกาาาายีรหารอคนดอราาเอา�ทาหรรราหแี่ียาง๒หาลรนชารจะทชีวแราเิตน้ัแ่ีคลน๒ลมระเด่ืะเอัธชคเียยง้ัคนรดมวอ่ืรม่ืมศอื่งัธึกดงยหดษมื่ มนม่ืาศว่ปึกยีทษที่ า๑ี่ ๔ปีท่ี ๑ ช่อื .................................................................สกุล...................................................................เลขท่.ี ................... คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขยี นแผนทีค่ วามคิดการบรกิ ารอาหารและเคร่ืองด่มื

๔๗๕ แบบบนั ทึกการประเมินผลการปฏิบตั ิงานของผู้เรยี นด้านความรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรอื่ ง การบริการอาหารและเคร่ืองด่ืม รายวชิ า การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ รายการประเมิน สรุปผล เลขที่ ชือ่ - สกุล แผนทีค่ วามคิดการบริการอาหารและเครื่องดื่ม คะแนนรวม ระดบั ผ่าน ไม่ผา่ น ๑๐ คุณภาพ เนื้อหาถูกตอ้ ง นาเสนอได้นา่ สนใจ คะแนน ๕๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพด้านความรู้ ดงั น้ี ต่ากว่า ๕ คะแนน ระดับ ๑ ปรบั ปรุง ๘-๑๐ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขึ้นไป ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน ( …………………………………………….) 465 476

๔๗๖ แบบบันทึกการสงั เกตพฤตกิ รรมผูเ้ รียนดา้ นทกั ษะกระบวนการ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘ เรอื่ ง การบริการอาหารและเครื่องด่ืม รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ รายการประเมนิ สรปุ ผล ทักษะการคิด ทักษะ คะแนน ระดับ เลขท่ี ชื่อ - สกุล ทักษะการ วิเคราะห์ กระบวนการ ทกั ษะการ รวม คุณภาพ ผ่าน ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานร่วมกัน นาเสนองาน ผ่าน ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังนี้ ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๘ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ข้ึนไป ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน ( …………………………………………….) 466 477

๔๗๗ แบบบันทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรมผู้เรียนด้านคณุ ลกั ษณะ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘ เร่อื ง การบรกิ ารอาหารและเคร่ืองดื่ม รายวิชา การงานอาชพี รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ รายการประเมนิ มุ่งมนั่ ในการ คะแนน ระดับ สรุปผล ทางาน รวม คุณภาพ ไม่ เลขที่ ชอ่ื - สกลุ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ ผา่ น ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังน้ี ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ขน้ึ ไป ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 467 478

468 8 ๔๗๘ 479 อ้างอิง อา้ งอิง http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lucky การทาอาหาร. เขา้ ถึงวันท่ี ๙ มิ.ย.๒๕๖๑ hwttwp:w//.owkwnwat.ibolno.gngeatn/bgl.coog/mp/rivniet.wphdpiarขyน.pมhตpาล?i.dเข=า้ lถuึงcวkันyทกี่ ๙ารมทิ.�ายอ.๒าห๕า๖ร๑. เข้าถงึ วันที่ ๙ ม.ิ ย.๒๕๖๑ whwttwp.:o//kdneakt-iod.nc.onmet//bboloargd/p/vriinewt.p.phhpp?ขiนd=มต9า4ล0.เ6ข7้าถ0งึ วกันารทลี่ ว๙กมผิ.ักยใ.ห๒้น๕า่ ๖ร๑บั ประทาน.เข้าถงึ วนั ท่ี ๙ มิ.ย. hwhhwh๒whhhwhttttwwtttttttt๕wwppppttttwwpppp๖::s:ww///..::s:s๑nn//////..::nndkp/////mmkpw//ammeirkwaiiccukwryriccu..wyu-anaa..wdanaannw.cck.ncc..ac..gkgu.tt..gng.outthho2..ohhu2am.//o1a//ocmcc12gccc/.guultc2.uubolethlleahllttocn.tt/uufc.a/uua.c~ewo~rrforrr.eebedmceebom//.4o///c4rkk/kk9vdom/oo9soois1pmeerre1rr/1aarwaaacae/31ttrttacr44.s6c443pctas00h5he00h.6t..c?/eg?ppp..5oitpptognhhb?bm/ohhrdippmimdynrppe/y/=dออ...x0/.เออเ9.eาาข.0ข//hาา4หหxอา้า้/หหtป0.ถถาาาhmาาป6ลหรรงึงึtรรล7ววจจาlmาจจนัเนั0าาารอผาาlเกกกททากกผากอไไับหี่ี่ไไ.ากกา๙เ๙ากกก.าขร่่..เห่..่เเารขล้าเเมมขขารขขไ้าถวิ.า้า้รท.ิดา้้ายถยึงกถถไถถาย.งึว.ทผ๒ึงงึ๒รวงงึึ.นั ยเววกังวว๕ัน๕ขทันัน.ชใันันเท๖้า๖ห่ีขวีททททถ๙ี่๑ิต้น๑้า๙่ี่ีี่ี่งึ ถ๙๙/๙๙่าวมกึงรมันิ.วมมามมบัยิ.ทันยริ..ิิิ...ปยยยย๒เ.่ีท๒ล๙ร....๕๒๒๒๒่ีอืะ๕๙๖๕๕ม๕๕กท๖บ.ิ๑๖๖ม๖๖าย๑นริ.๑๑๑๑.ย๒โิ..เภ๒๕ขคา้๕๖อถ๖๑างึ ๑หวานั รท่ี ๙ ม.ิ ย.๒๕๖๑ เขา้ ถึง วันท่ี ๙ hมtt.ิ ยp.s๒:/๕/k๖r๑unanumon.wordpress.com/.../อาหารกบั การด�ารงชวี ิต/การเลือกบริโภคอาหาร เขา้ ถงึ วันท่ี ๙ มิ.ย.๒๕๖๑

469 ๔๗๙ 480 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๕ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๑ รายวิชา การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒๑ รวมจานวน ๖ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ัด สาระท่ี ๑ การดารงชีวติ และครอบครัว มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทางาน มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการ จดั การ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทางานรว่ มกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนสิ ัยในการทางาน มจี ิตสานึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม เพือ่ การดารงชีวติ ตัวชีว้ ัด ง ๑.๑ ม.๑/๑ วเิ คราะหข์ ั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ง ๑.๑ ม.๑/๒ ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานด้วยความเสยี สละ ง ๑.๑ ม.๑/๓ ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาการทางาน อยา่ งมีเหตผุ ล ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ทักษะกระบวนการทางานและการทางานรว่ มกัน((กกา�าหหนนดดบบทบาทหนา้ ทส่ี มาชกิ กกลลมุ่ ่มุ กกา� าหหนนดดเปเป้าา้หหมมาายย วางแผน แบ่งงานตามความสามารถ ปฏิบตั ติ ามบทบาทหน้าทีป่ ระเมินผล และปรบั ปรุงงาน) ภายใต้ความ เสยี สละและการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาอย่างมเี หตุผล ตามขัน้ ตอนการทางานโดยฝกึ ปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั การแปรรูป ผลผลติ ทางการเกษตร เช่น การฉาบ การหมัก ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑. อธิบายความหมาย ความสาคัญ ของการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรได้ ๒. บอกประโยชนข์ องการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตรได้ ๓. เลอื กวัตถดุ ิบท่ีใช้แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรได้ ๔. อธิบายการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตรทางการเกษตรจากพืชได้ ๕. แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรโดยการฉาบได้ ๖. อธิบายการแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรจทากงสกตัารวเไ์ กดษ้ ตรจากสัตว์ได้ ๗. ทาแหนมหมไู ด้ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ ๒. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ทกั ษะกระบวนการทางานรว่ มกัน ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน

470 ๔๘๐ 481 เจตคติ ๑. มที ัศนคติทดี่ ตี ่อการทางานกลมุ่ ๒. ทางานอย่างมีความสุข และมีความเสยี สละ ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถการแก้ปัญหา ๒. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี ินยั ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. ม่งุ มั่นในการทางาน ๖. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงาน และผลสาเร็จของงาน ภาระงาน ๑. ศึกษาใบความรู้ ๒. ตอบคาถามใบงาน ๓. ปฏิบตั งิ าน ๔. บนั ทกึ การปฏิบัตงิ าน ๗. การวัดและประเมินผล การวดั และประเมนิ กอ่ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ๑.ใชค้ าถาม และแสดงความคิดเหน็ การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑.การตอบคาถามจากใบงาน ๒.การปฏิบัติงาน ๓. แบบบนั ทกึ การปฏิบตั ิงาน ๔.การสังเกตพฤติกรรมกระบวนการทางานร่วมกัน ๕.สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การวดั และการประเมินผลเมื่อส้นิ สุดกจิ กรรมการเรียนรขู้ องหนว่ ยการเรยี นรู้ ๑. การนาเสนอผลงาน ๒. ผลสาเรจ็ ของงาน ๓. แบบบันทกึ การปฏบิ ัตงิ าน

๔๘๑ 484271 เกณฑ์การประเมินผลชิ้นงานหรือภาระงาน เกณฑ์การผ่าน ระดับ ๒ ข้นึ ไป ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ ๑. ตอบคาถามจากใบงาน คะแนนการตอบ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คะแนนการตอบ คาถามดา้ นความรู้ได้ ดา้ นความรู้เท่ากับ คาถามด้านความรู้ได้ คาถามด้านความรู้ตา่ เทา่ กับ ๗๑-๑๘-๑ค๓ะแคนะนแนน เทา่ กับ ๕๘-๖๑๐คะคแะนแนนน กว่า ๕๘ คะแนน ๙๑-๔๑-๐๑๕คะคแะนแนนน ๒.บันทึกผลการปฏิบตั ิงาน คะแนนการปฏิบัติงาน คะแนนการปฏิบตั ิงาน คะแนนการปฏิบัตงิ าน คะแนนการปฏิบตั งิ าน การฉาบ การหมัก การฉาบ การหมัก การฉาบ การหมกั การฉาบ การหมกั การฉาบ การหมกั เทา่ กบั เท่ากบั เทา่ กบั เท่ากับ ๘๕-๑๖๑ เทา่ กับ ๑๙๕-๑-๑๐๖ คะแนน ๑๗๒-๘-๑๔คะคแะนแนนน คะแนน ต่ากวา่ ๕๘ คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ๓.ทักษะการแสวงหา ศกึ ษาและสบื คน้ ศึกษาและสืบคน้ ข้อมูล ศึกษาและสืบค้นขอ้ มลู ศึกษาและสืบค้นขอ้ มลู ความรู้ / การศึกษาและ ขอ้ มูลไดต้ รงประเด็น ได้ตรงประเด็นตามท่ี ได้ตรงประเดน็ ตามท่ี ไมต่ รงประเด็น ไม่ สบื ค้นขอ้ มลู ตามทีก่ าหนด เนอื้ หา กาหนด เน้ือหาถูกต้อง กาหนด เน้ือหาถูกต้อง ถูกต้องและไม่ครบถ้วน ถกู ต้องและครบถ้วน และครบถ้วน ไม่มีแหล่ง แต่ไม่ครบถ้วน ไมร่ ะบุ ไมร่ ะบุแหล่งอ้างองิ มีแหล่งอา้ งองิ อา้ งอิง แหล่งอ้างอิง ๔.ทกั ษะการแสวงหา เขยี นสรปุ สาระสาคญั เขียนสรุปสาระสาคญั ได้ เขยี นสรปุ สาระสาคญั เขียนสรุปสาระสาคญั ได้ครบและตรง ครบและตรงประเด็น ได้ตรงประเด็น ไดไ้ ม่ตรงประเด็น ความรู้ / การเขยี นสรุป ประเดน็ เขียนมเี หตผุ ล เขียนมีเหตุผลประกอบ เขียนมีเหตุผลประกอบ ใชภ้ าษาในการเขียนไม่ สาระสาคญั ประกอบอยา่ ง อยา่ งเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม เขยี นถกู บ้าง เหมาะสม ใช้ภาษาใน ใช้ภาษาในการเขียนได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ ผิดบ้างเป็นบางคา การเขียนไดเ้ หมาะสม เหมาะสม เขียนคา เขยี นคาถูกต้อง เหมาะสม เขียนถกู เปน็ ลายมือสวย อา่ นง่าย ถกู ต้อง สว่ นใหญ่ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะหข์ นั้ ตอน วเิ คราะห์ขนั้ ตอน ๕. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ วเิ คราะห์ขนั้ ตอน วเิ คราะหข์ ้นั ตอน กระบวนการทางาน กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานที่ ท่ีเลือกไดถ้ ูกต้อง เลอื กได้ถกู ตอ้ งและ เลือกไดถ้ กู ต้อง เลือกไมไ่ ด้ และครบถ้วน ตาม ครบถว้ น ขนั้ ตอน

472 ๔๘๒ 483 ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ ๑ (ปรบั ปรงุ ) ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ร้จู กั บทบาทหน้าที่ ๖. ทักษะกระบวนการ รู้จักบทบาทหน้าที่ รู้จักบทบาทหนา้ ท่ี รูจ้ กั บทบาทหน้าท่ี ภายในกลมุ่ ปฏิบตั ิ ทางานรว่ มกนั ตามบทบาทได้ ภายในกลุ่ม ปฏิบตั ิ ภายในกลุม่ ปฏบิ ตั ิตาม ภายในกลมุ่ ปฏบิ ตั ิ รบั ผิดชอบร่วมกันได้ เปน็ บางคร้งั ตามบทบาทได้ บทบาทได้เหมาะสมเปน็ ตามบทบาทได้ ไมค่ ่อยมีคุณธรรมใน การทางาน เหมาะสมทกุ คน มกี าร ส่วนใหญ่ มกี ารทางาน เหมาะสมเป็นบางครัง้ ทางานเปน็ ทีมทด่ี ี เปน็ ทมี ท่ีดรี บั ผิดชอบ รบั ผิดชอบร่วมกนั รบั ผดิ ชอบรว่ มกนั รว่ มกัน เป็นผพู้ ดู และ เป็นผ้พู ูดและผู้ฟังที่ดี เปน็ ผ้พู ูดและผู้ฟงั ทีด่ ี ผฟู้ งั ที่ดี มีคุณธรรมใน มีคุณธรรมในการ มคี ุณธรรมในการ การทางาน ทางาน ทางาน ๗. ทักษะการนาเสนอ นาเสนอกระบวนการ นาเสนอกระบวนการ นาเสนอกระบวนการ นาเสนอกระบวนการ ผลงาน ทางานทเี่ ลือกได้ ทางานทเ่ี ลือกไดถ้ ูกต้อง ทางานทีเ่ ลือกได้ ทางานทเ่ี ลือกไม่ได้ ถกู ต้อง และครบถ้วน และครบถว้ น ถูกต้อง ตามขนั้ ตอน เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะ ๘. มีวนิ ยั ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบ ไมค่ ่อยปฏบิ ตั ติ าม กติกา ของโรงเรยี น กติกา ของโรงเรียน ของ กติกา ของโรงเรยี น กฎระเบียบ กติกา ของ ๙. ใฝ่เรียนรู้ ของห้องเรยี น ของ ห้องเรยี น ของกลุม่ ไม่ ของห้องเรียน ของ โรงเรียน ของหอ้ งเรยี น ๑๐. มุ่งมัน่ ในการทางาน กลมุ่ ดว้ ยความเตม็ ใจ ก่อกวนความราคาญให้ กลุ่ม ไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่ ของกลมุ่ ก่อกวนความ ไม่ก่อกวนความ ครูและเพอ่ื นใน ไมก่ ่อกวนความราคาญ ราคาญใหค้ รูและเพอ่ื น ราคาญใหค้ รูและ ห้องเรียน ใหค้ รแู ละเพ่อื นใน ในห้องเรยี น เพื่อนในห้องเรยี น หอ้ งเรียน เป็นบางครงั้ มคี วามกระตือรอื ร้น มีความกระตือรือรน้ มคี วามกระตือรอื ร้น ไมม่ ีความกระตือรือรน้ อดทน เพยี รพยายาม อดทน มงุ่ ม่ัน รูจ้ ัก อดทน มุง่ ม่นั ใน อดทน มุ่งมั่น ไมร่ ูจ้ ัก มุ่งมัน่ รูจ้ กั แสวงหา แสวงหาความรจู้ าก บางคร้งั รจู้ กั แสวงหา แสวงหาความรู้จาก ความรจู้ ากแหล่ง แหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ ความร้จู ากแหลง่ แหล่งเรยี นร้อู ื่น ๆ เรยี นรู้อ่นื ๆ อย่เู สมอๆ อยู่เสมอ ๆ เรยี นรู้อ่ืน ๆ ทางานที่ไดร้ บั ทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทางานที่ได้รบั ทางานที่ไดร้ ับ มอบหมายเสร็จตาม เสรจ็ ตามกาหนดเวลา มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายไม่เสรจ็ ตาม กาหนดเวลา ผลงาน กาหนดเวลา เปน็

473 ๔๘๓ 484 ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๑๑. ความสามารถในการ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) แก้ปญั หา มีความถูกตอ้ ง ผลงานมีความถูกต้อง บางส่วนผลงานมคี วาม กาหนดเวลา ผลงาน ๑๒. ความสามารถในการ ละเอียด ประณีต เรยี บร้อย ถกู ต้อง เรยี บร้อยเปน็ ไมม่ ีความเรยี บรอ้ ย ใช้ทักษะชีวิต เรียบรอ้ ย บางรายการ ไมส่ ามารถแก้ปัญหา เกณฑ์การประเมินด้านสมรรถนะ ระหว่างการปฏิบัติงาน แกป้ ญั หาในระหว่าง แก้ปญั หาในระหวา่ งการ แก้ปญั หาในระหว่าง ได้ การปฏิบตั ิงานได้ตาม ปฏบิ ตั ิงานไดต้ าม การปฏบิ ัตงิ านได้ตาม ไมส่ ามารถเลอื กใชว้ สั ดุ สถานการณ์ เกดิ ผลดี สถานการณ์ เกดิ ผลดีต่อ สถานการณ์ อุปกรณ์และปฏบิ ัติงาน ต่อการปฏบิ ัตงิ าน การปฏิบัตงิ าน ไดต้ ามกระบวนการ ไดร้ ับการยอมรับจาก ทางานในแต่ละ เพอื่ นรว่ มงาน ประเภทของงาน เลอื กใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ เลอื กใช้วสั ดอุ ุปกรณ์และ เลอื กใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ และปฏบิ ัติงานได้ตาม ปฏิบตั ิงานไดต้ าม และปฏบิ ัติงานไดต้ าม กระบวนการทางานใน กระบวนการทางานใน กระบวนการทางานใน แตล่ ะประเภทของงาน แต่ละประเภทของงาน แตล่ ะประเภทของงาน ได้อย่างถูกต้อง เพื่อน ได้อย่างถกู ต้อง ร่วมงานใหก้ ารยอมรับ เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๖๕ – ๗๙ หมายถึง ดี คะแนน ๕๐ – ๖๔ หมายถงึ พอใช้ คะแนนต่ากว่า ๕๐ หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ต้งั แตร่ ะดับ พอใช้

๔๘๔ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร เร่ือง ความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกับการแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร เวลา ๑ ชวั่ โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ค๑วา. มหคมวายมหคมวายมสคา� วคาญั มสขาอคงกัญารขแอปงรกราูปรผแลปผรลรติูป ขน้ั นา - ทางการเกผษลตผรลติ ทางการเกษตร ๑. นกั เรยี นสังเกตตวั อยา่ งภาพอาหารแปรรูป เชน่ สอ่ื ๒. ป๒ระ. โยปชรนะ์ขโอยงชกนาร์ขแอปงรกรปูาผรลแผปลรติ รทูปาผงกลาผรลเกิตษทตารง หมหู ยอง กนุ เชียง กะปิ ทุเรียนกวน ๑.ภาพ หมูหยอง กนุ เชียง กะปิ ทุเรยี นกวน การเกษตร ๒.นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสนทนาซกั ถามโดยใช้ จดุ ประสงค์ของการเรียนรู้ ประเด็นคาถามดังนี้ ๒.ใบงานที่ ๒๓ เรือ่ ง ความร้เู บอ้ื งต้นเก่ียวกับการ ด้านความรู้ -อาหารจากภาพทน่ี กั เรยี นสงั เกตเปน็ ผลติ ภัณฑ์ ที่ แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ๑. อ๑ธิบ. ายอคธวิบาามยหคมวายมหคมวามยสค�าวคาัญมสขาอคงัญการขแอปงรกราูปร เกิดจากสาเหตุใดนอกจากภาพทนี่ กั เรียนเหน็ ยังมี ภาระงาน/ชน้ิ งาน ผลผลติ ทแางปกรารรูปเกผษลตผรลติ ทางการเกษตร อาหารใดอีกทม่ี ลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกนั ๑. ใบงานที่ ๒๓ เรื่อง ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกบั การ ๒. บ๒อ.กปบรอะโกยปชรนะข์ โอยงชกนาข์ รอแงปกรารรูปแผปลรผรลูปิตผทลาผงกลาิตร -มีผลติ ภัณฑ์ใดเปน็ สินค้า OTOP ในชมุ ชนของ แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร เกษตร ทางการเกษตร นกั เรยี น ๓. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ กั เรียนทราบ ข้ันสอน ทักษะและกระบวนการ ๔. นกั เรียนแบง่ กลุ่มๆละ ๕-๖ คน แตล่ ะกล่มุ ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ เลือกประธานและแบ่งหน้าที่สมาชกิ ภายในกลุ่ม ๒. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ๕. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาใบงานท่ี ๒๓ เร่อื ง ๓. ทักษะการทางานรว่ มกัน ความรู้เบอื้ งต้นร่วมกนั และให้สรปุ เนือ้ หาลงใน ๔. ทักษะการนาเสนอผลงาน ใบงาน ด้านคณุ ลักษณะ ๖.ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชั้น เรยี น ๑. มวี นิ ยั ๗.นกั เรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายสรุปประเดน็ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ความรทู้ ไี่ ด้จากการนาเสนอ 474 485

๔๘๕ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร เรอื่ ง ความรู้เบ้อื งต้นเกี่ยวกบั การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ๓. มุ่ง๓ม่ัน. ใมนุง่กมาน่ัรทในา� งกาานรทางาน ขั้นสรุป ๘. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปองค์ความรเู้ กย่ี วกับ การแปรรูปโดยภาพรวมอกี ครั้ง นกั เรยี นบนั ทกึ ลง สมดุ จดงาน 475

476 486 ๔๘๖487 การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ท่ีต้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เคร่ืองมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ -ประเมนิ ผลจากการตอบ -แบบประเมนิ ผลจากการ คะแนนร้อยละ ๕๐ ข้ึนไป ค๑ว.าคมวราูเ้ บม้ือรงูเ้ บตือ้นงเกตี่ยน้ วเกับยี่ กวการับ คาถามใบงาน ที่ ๒๓ ตอบคาถามใบงานท่ี ๒๓ ผ่านเกณฑ์ แกปารรแูปปผรลรผูปลผิตลทผาลงิตกทาราเงกษตร เร่อื ง ความรู้เบ้ืองต้น เร่ือง ความรู้เบื้องต้น การเกษตร เกี่ยวกับการแปรรปู เกีย่ วกับการแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร ผลผลิตทางการเกษตร ด้านทักษะและกระบวนการ ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับพฤติกรรมท่ี ๒. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ทกั ษะการแสวงหา ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๓. ทักษะการทางานรว่ มกัน ความรู้ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ เกณฑ์ rubric ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ทกั ษะกระบวนการ การผา่ นอยใู่ นระดบั ทกั ษะกระบวนการ ทางานรว่ มกนั และทักษะ คุณภาพ “พอใช้” ทางานรว่ มกันและทักษะ การนาเสนอผลงาน ขึน้ ไป การนาเสนอผลงาน ด้านคณุ ลกั ษณะ ๑. มีวินัย ๒. ใฝเ่ รียนรู้ สังเกตพฤติกรรมการมี แบบสงั เกตการมีวนิ ัย ระดบั พฤตกิ รรมที่ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน วินยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ใน ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มั่นในการ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric การผา่ นอยใู่ นระดบั คณุ ภาพ “พอใช้” ขึ้นไป

477 ๔๘๗488 เกณฑ์การประเมินผลชนิ้ งานหรือภาระงาน ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง) ๑.ตอบคำถำมจำกใบ งำน เกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ คะแนนการตอบ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คาถามด้านความรู้ 2.ทกั ษะการแสวงหา ตา่ กว่า ๕ คะแนน ความรู้ /การเขยี นสรุป ด้านความรเู้ ทา่ กบั ด้านความรเู้ ทา่ กับ คาถามด้านความรู้ สาระสาคญั เขียนสรปุ สาระสาคญั ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เทา่ กับ ๕-๖ คะแนน ไดไ้ มต่ รงประเดน็ ใช้ภาษาในการเขยี นไม่ เกณฑป์ ระเมินดา้ นทักษะและกระบวนการ เหมาะสม เขียนถูกบ้าง เขยี นสรุปสาระสาคัญได้ เขยี นสรปุ สาระสาคัญได้ เขยี นสรุปสาระสาคญั ผิดบา้ งเป็นบางคา ครบและตรงประเดน็ ครบและตรงประเด็น ไดต้ รงประเด็น เขยี นมีเหตุผลประกอบ เขยี นมเี หตุผลประกอบ เขยี นมเี หตุผลประกอบ อย่างเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนถูกเป็น ถกู ต้อง ลายมือสวย อ่าน ถกู ต้อง สว่ นใหญ่ ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์ ๓. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ขนั้ ตอน วเิ คราะห์ข้นั ตอน วิเคราะหข์ ั้นตอน วเิ คราะห์ขนั้ ตอน วเิ คราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานที่ ที่เลือกไดถ้ ูกต้อง เลอื กไดถ้ ูกต้องและ เลือกไดถ้ ูกต้อง เลอื กไมไ่ ด้ และครบถว้ น ตาม ครบถว้ น ขน้ั ตอน

478 ๔๘๘489 ประเด็น ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ การประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ๔. ทักษะ ร้จู กั บทบาทหน้าท่ี กระบวนการทางาน ภายในกลมุ่ ปฏบิ ัตติ าม เกณฑ์ประเมินดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ร่วมกนั บทบาทได้เหมาะสมทุก คน มกี ารทางานเปน็ ทีม รู้จักบทบาทหนา้ ท่ี รูจ้ กั บทบาทหน้าทภ่ี ายใน รู้จักบทบาทหนา้ ท่ี ทีด่ รี บั ผิดชอบร่วมกัน เป็นผู้พดู และผู้ฟงั ทดี่ ี มี ภายในกล่มุ ปฏบิ ัติตาม กลุ่ม ปฏิบตั ติ ามบทบาท ภายในกลุ่ม ปฏิบัติ คณุ ธรรมในการทางาน บทบาทไดเ้ หมาะสมเป็น ได้เหมาะสมเปน็ บางครง้ั ตามบทบาทได้ สว่ นใหญ่ มีการทางาน รับผดิ ชอบรว่ มกัน รับผิดชอบร่วมกันได้ เป็นทีมท่ีดีรับผดิ ชอบ เปน็ ผูพ้ ูดและผู้ฟังที่ดี เปน็ บางครง้ั รว่ มกัน เปน็ ผูพ้ ดู และ มีคณุ ธรรมในการทางาน ไม่ค่อยมีคุณธรรมใน ผู้ฟงั ท่ีดี มีคุณธรรมใน การทางาน การทางาน ๕. ทกั ษะการ เน้อื หาการนาเสนอ เน้อื หาการนาเสนอ เน้อื หาการนาเสนอ เนื้อหาการนาเสนอไม่ นาเสนอผลงาน ครอบคลุมทุกประเดน็ ครอบคลุมทกุ ประเด็น ครอบคลุมทุกประเดน็ ครอบคลุมทกุ ไม่ ถกู ต้องตามหลักวิชาการ ถกู ต้องตามหลักวิชาการ ถกู ต้องตามหลักวชิ าการ ถูกต้องตามหลัก น่าเช่อื ถือ ใชค้ าพูด น่าเช่อื ถือ ใช้คาพูด น่าเชอื่ ถือ ตอบข้อคาถาม วชิ าการ ตอบข้อ นาเสนอไดเ้ หมาะสม นาเสนอได้เหมาะสม ไดท้ ุกประเด็น นาเสนอ คาถามได้ไม่ครบทกุ บุคลกิ ภาพดี ตอบข้อ ตอบข้อคาถามได้ทุก ได้เหมาะสมตรงเวลาท่ี ประเดน็ นาเสนอได้ไม่ คาถามไดท้ ุกประเด็น ประเด็น นาเสนอได้ กาหนด ตรงเวลาท่กี าหนด นาเสนอได้เหมาะสมตรง เหมาะสมตรงเวลาที่ เวลาที่กาหนด กาหนด