Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 01การงานอาชีพ ม.1 thonglom m.1

01การงานอาชีพ ม.1 thonglom m.1

Published by thonglom, 2019-12-01 23:24:28

Description: 01thonglom m.1

Search

Read the Text Version

379 ๓๙๒393 ใบความรรทู้ ราี่ า๒ยยว๖วิชิชกาาาแแกรกผผาเานลนรใรงือกบกงาากาคานรรซนวจอจาอื้อดัหาดัมเากชนนกรชาีพู้ทอื้่วาพี รรยสี่ เ๒รเทรรัตรห๖ียหี่วีย๔ัสนัส์ปนกรรเรงงา้ทูระู้ท๒๒รอ่ืี่เเี่๒๑๑ภลง๒อ๑๑ทอื าก๐ส๐หซเตั๑๑ราเือ้วรื่อรภเภ์นอื่กงนาางา้ับื้อวคคกสวธิเเรากีัติธรหยีรียกีาวนนดรนาป์ า�ท่วเรทรลรยี่เะี่ืองล๒ท๒เชกือภี่ชีวซก๔ทชิตัน้ือ้ซสั้นเมอ้ือัตรมธัาอวือ่ ัธยห์นางยมาอหา้�มรศาาสศึกหรดึกษสาษารดปากปบัีทที่ีก๑ี่า๑รดารงชีวิต การเลอื กซ้อื เนื้อสัตว์ประเภทสัตว์น้า ๑. ปลา เนอ้ื ปลาเป็นอาหารเนอ้ื ท่ียอ่ ยง่ายกว่าสัตว์อืน่ ๆ ท้งั น้ีเนื้อปลายังมธี าตุฟอสฟอรัสอยูด่ ้วยเป็นส่วนมาก ยิ่งปลาทะเลก็ยิ่งมีมากกว่าปลาน้าจืด จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยบางโรคที่แพทย์ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์อื่น ๆ แต่จะอนุญาต ให้บริโภคเนอ้ื ปลาได้ ปลาสดท่ีขายในตลาดมี ๔ ประเภท คอื ๑. ปลาเปน็ ๆ ท่ขี ังไวใ้ นถงั มนี ้าพอสมควร ซง่ึ จะเป็นปลาน้าจดื ทง้ั ส้นิ ๒. ปลาสดทตี่ ายใหม่ ๆ วางไว้บนแผงปลา ซง่ึ มที ัง้ ปลาน้าจดื และปลาทะเล ๓. ปลาสดทแ่ี ช่เย็นมาจากทา่ ปลา ซึ่งมที ัง้ ปลาน้าจดื และปลาทะเล ๔. ปลาสดทไี่ ด้แชแ่ ขง็ ไวใ้ นหอ้ งเย็นช่วั คราวเวลาหนึง่ แลว้ แบง่ มาจาหนา่ ยครั้งละจานวนหนง่ึ ซึ่งสว่ นมาก จะเปน็ ปลาทะเล นอกจากปลาเปน็ ๆ แล้ว ปลาสดทีค่ วรซ้ือจะมลี ักษณะดังน้ี เกล็ดเปน็ เงาขอดออกยาก เหงือกแดงสด และไม่แห้ง คาวน้อย ตาโปนออกมานอกกระบอกตาใส เมื่อเอานิ้วกดลงท่ีลูกนัยน์ตาก็จะกระเด้งกลับออกมาได้ เน้ือแน่นกดลงไปแล้วรอยบุ๋มจะกลับคืนและเรียบดังเดิม รูก้นปิดสนิท เมื่อท้ิงลงในน้าตัวต้องจมลง เม่ือจับปลา วางบนมือหางต้องไม่โค้งห้อยลง ส่วนปลาท่ีสลายแล้ว หรือเร่ิมสลายไม่ควรซื้อมากิน จะมีลักษณะตรงกันข้าม เช่น ลอยน้า เนื้อนุ่มเหลว กล่ินคาวจัด ตาบุ๋ม และขุ่น เหงือกแห้ง สีเหงือกไม่แดง และบางทีก็มีจุดสีน้าเงิน หรือเขยี วตามตัว ปลามีพยาธิหลายอย่างอยู่ในตัวมันแต่ก็ก่อกวนสุขภาพของคนกินมากกว่า พยาธิอ่ืนใด ก็คือ ตัวจ๊ีด เพราะฉะนัน้ ควรกินแต่ปลาท่ีสุกจรงิ ๆ เทา่ นัน้ ส่วนปลาทมี่ ีสารเคมเี ปน็ พิษแทรกอยใู่ นเนื้อปลา จะทาประการใด ก็กนิ ไม่ได้ เช่น ปลาไหลบางชนิด กระโดงปลาแขยง เนื้อปลาปักเปา้ ไข่แมงดาทะเล ในบางฤดูกาล อยา่ งไรก็ดี ส่ิงเหลา่ นมี้ ใิ ชอ่ าหารปกติของคนอยแู่ ล้ว และไมค่ อ่ ยมีขายในตลาด ๒. กุง้ ในน้าจืดมีกุ้งนางและกุ้งก้ามกราม ซ่ึงปัจจุบันหายากและราคาแพงมาก กุ้งนางและกุ้งก้ามกรามที่มี อยู่ตามธรรมชาติเกือบจะไม่มีอยู่แล้ว กุ้งส่วนมากที่ขายอยู่ในตลาดสดปัจจุบันจึงเป็นกุ้งท่ีนามาจากบ่อเพาะเล้ียง ซ่ึงก็ยังทากนั อยนู่ อ้ ยมากไมเ่ พยี งพอกบั ความต้องการ ก้งุ น้าจดื และกุ้งทะเลเปน็ สัตว์จาพวกเปลือกแข็ง

380 ๓๙๓394 การกินกุ้งของคนไทยมีดงั ต่อไปน้ี -กินกุง้ แหง้ ซึง่ ทาโดยตม้ ให้สุกในนา้ เกลือแลว้ ตากแห้ง แล้วเอาไปประกอบในอาหารอืน่ -กนิ กะปิ โดยเอากงุ้ ฝอยมาหมกั และทาเป็นกะปิ และบางทกี ไ็ ดผ้ ลพลอยไดเ้ ป็นน้าปลาด้วย -กนิ สกุ ธรรมดา เชน่ ต้ม ทอด เผา ดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ -กนิ สกุ ๆ ดิบ ๆ ซึ่งเรยี กว่า กุ้งเตน้ การเลือกซื้อกุ้ง กุ้งสดจะมีสีเขียวหรือค่อนข้างขาว แต่ถ้าไม่สดก็จะเป็นสีชมพูเร่ือ ๆ เว้นแต่กุ้งทะเลบางชนิดท่ี โดยธรรมชาติจะมีเปลือกสีค่อนข้างชมพูอ่อน ๆ กุ้งสดจะมีกลิ่นคาวน้อยกว่ากุ้งไม่สด เพราฉะน้ันใช้จมูกเลือกจึง ดกี วา่ วิธอี ่นื ๆ กุ้งไม่สดจริงนั้น เน้ือจะเหนียวหนกึ ๆ ขนาดใช้ฟนั เค้ยี วได้ แตไ่ ม่ใช่เหนียวอย่างเน้ือววั หรอื เน้ือหมู อย่างไรก็ตามถ้าเพียงเอากุ้งทอดกินธรรมดา แม้จะไม่สดนักก็ไม่เป็นไรแต่นามาทาลูกชิ้น หรือแฮ่ก๊ึนจาเป็นต้อง เปน็ กุง้ ที่สดอย่างย่งิ จงึ จะบดหรือโขลกใหเ้ หนียวเปน็ กอ้ นไดส้ ะดวกและกินอร่อย ๓. ปู เปน็ สัตว์น้าอกี ประเภทหนึ่งทคี่ นกินกนั อยู่เป็นสามัญ ปูทกี่ ินกันเป็นลา่ เป็นสัน คอื ปูม้า ปทู ะเล เนอื้ ปูมี น้ามากกว่าเนื้อกุ้งและเนื้อปลา เม่ือเอาปูเป็น ๆ ข้ึนมาขายในตลาด น้าจากตัวปูจึงมักจะระเหยไปได้มาก ทาให้ ตัวปูเบาลง เรียกว่า ปโู พรก แตค่ วามจรงิ เนื้อปูยังอยู่ นอกจากนา้ ลดลงไปบ้างเท่านน้ั ปขู ้ึนมาอยเู่ หนือนา้ ได้นาน มากกว่าจะตาย คนขายมักจะมัดกล้ามปูทะเลไว้ไม่ให้หนีบคนที่จะไปจับต้องมัน ส่วนปูม้าจะขายโดยขังไว้ใน ตะกร้าเฉย ๆ ปูม้าจะตายง่ายกว่าปูทะเลจึงควรเลือกซื้อปูมาใหม่ ๆ ถ้าเป็นปูไข่ เมื่อใช้นิ้วดีดบนหลัง จะมีเสียง แน่นทึบ ปูตัวเน้ือแน่น ปูตัวผู้เนื้อแน่นกว่าปูตัวเมีย ปูทะเลรับเช้ือบักเตรีและสารเคมีที่เป็นพิษไว้ในท้องของมัน งา่ ยกว่ากุ้ง ๔. หอย หอยนา้ จดื ท่กี ินได้และกินกันทั่วไป คือ หอยขมและหอยโขง่ ชนิดหน่งึ หอยทั้งสองอย่างนีม้ ักจะมี พาราไซท์ และบักเตรแี อบแฝงอยู่มาก การกนิ หอยทั้งสองชนดิ ตอ้ งทาให้สกุ อยา่ งมาก ๆ เสียก่อน สาหรบั หอย โขง่ มหี ลายชนิด และบางชนิดก็มสี ารเคมีทเ่ี ปน็ พิษ แม้จะมีโปรตีนมากเท่า ๆกับโปรตนี ในไข่ไก่กไ็ มน่ ่าเสี่ยงกนิ ใน ปจั จบุ ันนใ้ี นตลาดก็ไมค่ ่อยจะมีขาย

381 ๓๙๔395 ในทะเลมีหอยทกี่ นิ ได้หลายอย่าง ที่กนิ กนั มากที่สุด คือ หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยนางรม หอย กาบ หอยกะพง หอยเสียบ และหอยหลอด สาหรับหอยแครง หอยนางรม และหอยกะพง นิยมกินกันสด ๆ โดยการลวกพอสุก อบ ผดั หรอื ตม้ ในบรรดาหอยเหล่าน้ี หอยนางรมเนื้อนมุ่ ท่สี ุด การเลอื กซือ้ หอยใหไ้ ดส้ ด ๆ กค็ ือ ดวู ่ากาบหอยน้ันยงั ไม่อา้ เวลาจบั จะหุบแน่น ส่วนหอยแมลงภู่ที่ แกะแล้ว ถา้ สยี ังสวยอยไู่ มซ่ ีด และไม่มีคาวจัด ก็จดั ว่าสด

382 รายรวาิชยาวิชกาาแรแกผงผานารนนกงกอาาราานจรชอจดัหีพาัดกนชาก่วพีเรารรยเรื่อหทรรเงียหสัี่ร๔นสัียวMิรชนเเงiทู้รราnร๒่อือ่ืีู่้ทdง๒๑งง่ี๒อ๑๒MM๑า๐aหi๑เเn๑รpรา๐่ือdอื่รภ๑งกงMาบักวคภaหกาธิเาpรรานีกคยีเราว่ลเนดรรยือ�าทียเทลกรน่ี ่ีืองซ๒๔ทชก้ือี่ชวีซอ๒ติน้ั้ือามหชอธัาน้ัายหรมมสาัธรศดยสกึมดษศาึกปษีทาี่ป๑ที ่ี ๑ กลมุ่ ที่…………ชอ่ื กล่มุ ......................................................................................... สมาชกิ กลุ่ม 1…………………………………………………………………………………………….. 2.…………………………………………………………………………………………….. 3…………………………………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………………………………….. 5…………………………………………………………………………………………….. คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ๔ กลุม่ ศึกษาใบความร้กู ารเลอื กซอ้ื อาหารสดแลว้ เขียนเป็น Mind Map กลุ่มละ ๑ เรอื่ ง แผนภาพความคิด (Mind Map) เร่อื ง.........................................................................................

๓๙๕ แบบบันทกึ การประเมนิ ผูเ้ รียนด้านความรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง วิธีการเลอื กซ้อื อาหารสด รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ เลขที่ ชือ่ - สกลุ รายการประเมนิ คะแนนรวม ระดบั สรุปผล ๑ Mind Mapping การเลอื กซ้ืออาหารสด คุณภาพ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๒ ๑๐ ๓ เนอื้ หา ชดั เจนตรง สีสนั สวยงาม นาเสนอได้ ๔ ครบถ้วน ประเดน็ นา่ สนใจ คะแนน ๕ ๓๒๒ ฯลฯ ๓ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพด้านความรู้ ดังน้ี ต่ากวา่ ๕ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรงุ ๙-๑๐ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๗-๘ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขึ้นไป ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 383 396

๓๙๖ แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรมผเู้ รยี นด้านทักษะกระบวนการ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ เรอื่ ง วธิ ีการเลือกซ้อื อาหารสด รายวิชา การงานอาชพี รหัส ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ รายการประเมิน สรุปผล ทกั ษะการคิด ทกั ษะ คะแนน ระดับ เลขที่ ช่ือ - สกลุ ทักษะการ วิเคราะห์ กระบวนการ ทักษะการ รวม คุณภาพ ผ่าน ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานร่วมกัน นาเสนองาน ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังน้ี ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๘ คะแนน ระดบั ๑ ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขน้ึ ไป ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 384 397

๓๙๗ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤตกิ รรมผู้เรียนด้านคณุ ลกั ษณะ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอื่ ง วธิ กี ารเลือกซื้ออาหารสด รายวิชา การงานอาชพี รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ รายการประเมนิ มงุ่ มนั่ ในการ คะแนน ระดับ สรปุ ผล ทางาน รวม คุณภาพ ไม่ เลขที่ ชอ่ื - สกลุ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ผ่าน ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดังน้ี ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ข้ึนไป ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน ( …………………………………………….) 385 398

๓๙๘ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ อาหารกับการดารงชวี ิต เร่อื ง วธิ ีการเลือกซ้อื อาหารแห้งและอาหารกระปอ๋ ง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้ การเลือกซ้ือ อาหารแหง้ และอาหารกระปอ๋ ง ข้นั นา ๑. อนิ เทอรเ์ น็ต จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสารวจอาหารแหง้ และอาหารกระปอ๋ งทม่ี ีอยู่ใน ๒. เอกสารท่เี กย่ี วข้องกบั ด้านความรู้ ครวั เรอื นของนักเรยี นมอี ะไรบา้ ง ตัวแทนนกั เรียนบนั ทกึ วธิ ีการเลือกซ้ืออาหาร อธบิ ายวธิ กี ารเลอื กซือ้ อาหารแห้ง หนา้ ช้ันเรยี น สอ่ื และอาหารกระป๋องได้ ๒.นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สนทนาโดยใชค้ าถามกระตุ้นดังนี้ ๑. ใบความรู้ท่ี ๒๗ เร่ือง การเลือกซื้อ ด้านทกั ษะและกระบวนการ -นักเรยี นเคยพบอาหารแห้งท่มี สี ดี าหรอื ผงฝนุ่ ติดกับ อาหารแห้ง และอาหารกระปอ๋ ง ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ อาหารแหง้ บา้ งหรอื ไม่ เป็นเพราะอะไรและนักเรยี นทา ๒. ใบงานที่ ๒๑ เรอ่ื ง ๒. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ อย่างไร วธิ ีการเลือกซื้ออาหาร ๓. ทักษะการทางานร่วมกนั ๓. ครูแจง้ วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ภาระงาน/ชนิ้ งาน ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน ขนั้ สอน ๑. สืบค้นความรเู้ กีย่ วกับวิธีการเลอื กซื้อ ด้านคณุ ลกั ษณะ ๔. นักเรยียนนศศึกกึ ษษาาใหบนคงัวสามือรเลูท้ ่ม่ี ๒เล๗็กอแลา่ นะหเพน่ิมงั เสตอื ิมเลเ่มรเ่อื ลง็กกอา่ นร อาหาร ๑.มีวินยั เพลือ่มิ กเตซมิ ื้อเอรือ่าหง ากราแรหเลง้ อื แกลซะอื้ อาหารแกหระ้งปแ๋อลงะอาหารกระปอ๋ ง ๒. ผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานเรอ่ื ง ๒.ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.นักเรยี นทาใบงานที่ ๒๑ วธิ ีการเลือกซ้ืออาหาร ๓.มงุ่ มั่นในการทางาน ๗. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมาสรปุ วธิ ีการเลือกซ้ือ ๓. ผลนาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น อาหารประเภทต่าง ๆ หน้าช้นั เรยี นครเู สนอแนะเพ่ิมเติมใน ส่วนท่ีบกพร่อง ขน้ั สรปุ ๘. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปองค์ความรู้เกย่ี วกับ วิธีการเลือกซ้ืออาหาร ๙. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ๑๐ ข้อ 386 399

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ ๓๙๙ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ อาหารกบั การดารงชีวิต เรื่อง วิธีการเลือกซือ้ อาหารแหง้ และอาหารกระปอ๋ ง เวลา ๑ ชัว่ โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ข้อเสนอแนะ ครมู อบหมายให้นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ที่ ๒๘ เร่อื ง ความหมาย ประโยชน์ วธิ กี ารประกอบอาหารและ เครือ่ งมือท่ีใช้ในการประกอบอาหาร เพื่อนามาใช้ในการ จดั การเรียนการสอนในชัว่ โมงต่อไป 387

388 400 ๔๐๐401 การวดั และประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เคร่อื งมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ การเลือกซื้อ อาหารแห้ง และ -ประเมนิ ผลจากการตอบ อาหารกระป๋อง -แบบประเมินผลจากการ คะแนนร้อยละ ๕๐ ขน้ึ ไป คาถามตามใบงานที่ ๒๑ ตอบคาถามตามใบงานท่ี ผ่านเกณฑ์ ๒๑ เรอื่ ง การเลือกซื้อ เร่อื ง การเลือกซื้อ อาหารแห้ง และอาหาร กระป๋อง อาหารแห้ง และอาหาร กระป๋อง ด้านทักษะและกระบวนการ สังเกตพฤติกรรมทกั ษะ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับพฤตกิ รรมที่แสดงออก ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ๒. ทักษะการคิดวิเคราะห์ การแสวงหาความรู้ ทักษะการแสวงหาความรู้ ๔ ระดบั โดยใช้เกณฑ์ ๓. ทักษะการทางานรว่ มกัน ๔. ทักษะการนาเสนอผลงาน ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ทักษะการคดิ วิเคราะห์ rubric ด้านคณุ ลกั ษณะ ๑. มวี นิ ยั ทักษะการทางานรว่ มกนั ทักษะกระบวนการ การผ่านอยู่ในระดบั คณุ ภาพ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. มุง่ ม่ันในการทางาน และการนาเสนอผลงาน ทางานร่วมกนั และการ “พอใช้” นาเสนอผลงาน ขึ้นไป สังเกตพฤตกิ รรมการมวี นิ ัย แบบสงั เกตการมีวนิ ัย ระดบั พฤติกรรมที่แสดงออก ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการ ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการ ๔ ระดับโดยใชเ้ กณฑ์ ทางาน ทางาน rubric การผา่ นอย่ใู นระดับคุณภาพ “พอใช้” ข้นึ ไป

389 ๔๐๑402 เกณฑ์การประเมนิ ผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ ๑.ตอบคาถามจากใบ งาน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๒.ทกั ษะการแสวงหา ความรู้ /การเขียนสรปุ เกณฑ์ประเมนิ ดา้ นความรู้ คะแนนการตอบ สาระสาคัญ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คาถามดา้ นความรู้ ต่ากว่า ๕ คะแนน ๓. ทกั ษะการคิด ดา้ นความรู้เทา่ กบั ดา้ นความรเู้ ท่ากับ คาถามด้านความรู้ วิเคราะห์ เขียนสรปุ สาระสาคัญ ๔. ทักษะกระบวนการ ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เทา่ กับ ๕-๖ คะแนน ไดไ้ ม่ตรงประเดน็ ทางานรว่ มกัน ใช้ภาษาในการเขยี นไม่ เกณฑป์ ระเมนิ ด้านทักษะและกระบวนการ เหมาะสม เขียนถูกบ้าง เขียนสรปุ สาระสาคญั ได้ เขยี นสรุปสาระสาคัญได้ เขียนสรปุ สาระสาคัญ ผดิ บ้างเปน็ บางคา ครบและตรงประเด็น ครบและตรงประเด็น ได้ตรงประเดน็ วเิ คราะห์ข้ันตอน กระบวนการทางานท่ี เขียนมีเหตผุ ลประกอบ เขียนมีเหตผุ ลประกอบ เขยี นมเี หตผุ ลประกอบ เลอื กไมไ่ ด้ อยา่ งเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม ร้จู กั บทบาทหนา้ ท่ี ภายในกลุม่ ปฏิบัติ ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ ใช้ภาษาในการเขียนได้ ตามบทบาทได้ รบั ผิดชอบร่วมกันได้ เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนถกู เป็น เปน็ บางคร้ัง ไมค่ ่อยมีคุณธรรมใน ถกู ต้อง ลายมอื สวย ถกู ต้อง สว่ นใหญ่ การทางาน อา่ นงา่ ย มีความคดิ สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ข้ันตอน วเิ คราะหข์ นั้ ตอน วิเคราะห์ขน้ั ตอน กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานท่ี ทเี่ ลอื กได้ถูกต้อง เลอื กได้ถูกต้องและ เลอื กได้ถกู ตอ้ ง และครบถว้ น ตาม ครบถว้ น ข้นั ตอน รู้จักบทบาทหน้าทภี่ ายใน รู้จักบทบาทหน้าที่ รูจ้ กั บทบาทหน้าที่ กลุ่ม ปฏิบตั ติ ามบทบาท ภายในกลุม่ ปฏิบัตติ าม ภายในกลุ่ม ปฏบิ ัติ ได้เหมาะสมทุกคน มีการ บทบาทไดเ้ หมาะสมเป็น ตามบทบาทได้ ทางานเปน็ ทีมทดี่ ี สว่ นใหญ่ มกี ารทางาน เหมาะสมเป็นบางคร้งั รบั ผดิ ชอบร่วมกนั เป็นผู้ เป็นทมี ที่ดีรบั ผดิ ชอบ รบั ผิดชอบรว่ มกนั พูดและผู้ฟังที่ดี มี รว่ มกัน เปน็ ผ้พู ูดและ เป็นผพู้ ูดและผู้ฟงั ทด่ี ี คณุ ธรรมในการทางาน ผูฟ้ ังทดี่ ี มีคุณธรรมใน มคี ุณธรรมในการ การทางาน ทางาน

390 ๔๐๒403 ประเดน็ การประเมนิ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ประเดน็ การประเมนิ ๓ (ด)ี ระดับคุณภาพ ๒ (พอใช)้ ๕. ทักษะการนาเสนอ ๑ (ปรับปรุง) ผลงาน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ เน้อื หาการนาเสนอไม่ ครอบคลุมทกุ ไม่ ๖. มวี ินัย เนอื้ หาการนาเสนอ เนอ้ื หาการนาเสนอ เนอ้ื หาการนาเสนอ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ตอบข้อ ๗. ใฝ่เรยี นรู้ ครอบคลุมทุกประเด็น ครอบคลุมทุกประเด็น ครอบคลุมทกุ ประเด็น คาถามได้ไม่ครบทุก ประเดน็ นาเสนอไดไ้ ม่ ๘. มุ่งม่นั ในการทางาน ถูกต้องตามหลักวิชาการ ถูกต้องตามหลักวิชาการ ถกู ต้องตามหลัก ตรงเวลาท่กี าหนด น่าเชือ่ ถอื ใช้คาพูด น่าเชือ่ ถอื ใช้คาพูด วิชาการ น่าเชอ่ื ถอื ไม่ค่อยปฏิบัตติ าม กฎระเบียบ กติกา ของ นาเสนอได้เหมาะสม นาเสนอไดเ้ หมาะสม ตอบข้อคาถามไดท้ ุก โรงเรียน ของห้องเรยี น ของกลมุ่ ก่อกวนสรา้ ง บคุ ลกิ ภาพดี ตอบข้อ ตอบข้อคาถามไดท้ ุก ประเด็น นาเสนอได้ ความราคาญให้ครูและ เพื่อนในหอ้ งเรียน คาถามไดท้ ุกประเดน็ ประเด็น นาเสนอได้ เหมาะสมตรงเวลาที่ เป็นบางครั้ง ไม่มีความกระตอื รือรน้ นาเสนอได้เหมาะสมตรง เหมาะสมตรงเวลาท่ี กาหนด อดทน ม่งุ ม่ัน ไม่รูจ้ ัก แสวงหาความรู้จาก เวลาที่กาหนด กาหนด แหลง่ เรียนรู้อน่ื ๆ เกณฑ์ประเมินด้านคุณลกั ษณะ ทางานท่ีไดร้ บั ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบ มอบหมายไมเ่ สร็จตาม กาหนดเวลา ผลงาน กติกา ของโรงเรยี น ของ กติกา ของโรงเรียน ของ กติกา ของโรงเรียน ไม่มีความเรียบรอ้ ย หอ้ งเรยี น ของกลมุ่ ดว้ ย หอ้ งเรียน ของกลุ่ม ไม่ ของห้องเรียน ของกลุ่ม ความเตม็ ใจ ไม่ก่อกวน กอ่ กวนสร้างความ ไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ สรา้ งความราคาญใหค้ รู ราคาญใหค้ รูและเพือ่ น ไม่ก่อกวนความราคาญ และเพื่อนในห้องเรียน ในหอ้ งเรียน ให้ครูและเพ่อื นใน ห้องเรยี น มคี วามกระตือรือร้น มีความกระตือรอื รน้ มคี วามกระตือรอื ร้น อดทน เพยี รพยายาม อดทน มงุ่ มน่ั รจู้ กั อดทน มุ่งมัน่ ใน มุ่งมั่น รจู้ กั แสวงหา แสวงหาความรู้จาก บางครง้ั รู้จักแสวงหา ความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ แหล่งเรยี นรอู้ น่ื ๆ ความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ อืน่ ๆ อยู่เสมอ ๆ อยเู่ สมอ ๆ อื่น ๆ ทางานที่ไดร้ บั มอบหมาย ทางานที่ไดร้ ับ ทางานท่ีไดร้ บั เสรจ็ ตามกาหนดเวลา มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายเสรจ็ ตาม ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง กาหนดเวลา ผลงานมี กาหนดเวลาเปน็ ความถกู ตอ้ ง เรยี บร้อย บางส่วนผลงานมีความ

391 ๔๐๓404 ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๔ (ดีมาก) ๑ (ปรับปรงุ ) ถูกต้อง เรยี บรอ้ ยเป็น ละเอยี ด ประณตี บางรายการ เรยี บรอ้ ย บนั ทกึ ผลหลังการสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ..................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ลงช่ือ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท.ี่ ........เดอื น....................พ.ศ.......... ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.่ี ........เดือน....................พ.ศ..........

392 ๔๐๔405 รายราวหใยชิแนบวผาว่คใิชนบยวกากทคาาากมวรี่ ร๔างารจรามู้ทัดเงนรร่ีาก้ทูอ่อื นาาี่๒งอร๒ชอห๗เา๗ราีพนชยีหเว่ีพเนรรารยื่อหรื่อรทรงทู้กสังหี่ ี่บั๔กัสก๓งกาาเงร๒าวรร๒เรอื่เีธ๑ลล๑ดกีงอื๑ืออ๑าากก๐ราร๐ซซเหง๑ล๑ช้ื้ืออาอื วีรภออภกกติาาาาซับหหคคอ้ื กาเาเรอรแรารียยีาแรผแหนนดหหนา�าททง้ ้กงรรแี่่ีแาแง๒๒ลลรชหะจะชวีชง้อัดอั้นิตแ้ันาากลมหมหาะธัาัธราอยรยเรากมรมกหรยีศศระานกึ ะกึปรษรปษเ๋อู้ทปา๋อางป่ีียงป๓กที ีท่ี ่ี๑๑ การเลอื กซ้ืออาหารแหง้ ๑. ข้าวสาร ควรเลือกขา้ วทไ่ี ม่มมี อด และไมเ่ หมน็ อับ ๒. แป้งต่างๆ ได้แก่ แป้งสาลี แป้งข้าวเจา้ แป้งข้าวเหนียว ควรเลือกซ้ือ ชนิดท่ีเนื้อแป้งละเอียดสะอาด ไม่ มีตวั มอด ไม่มีกลิ่นเหม็นอบั ๓. นา้ มันพชื ควรเลือกภาชนะทใี่ สไม่แตก นา้ มันใสสะอาดไมข่ นุ่ ๔. ถ่วั เมลด็ แหง้ ขนาดเมด็ สม่าเสมอ ไม่มกี ลน่ิ เหม็นอับ ไม่ช้ืนและเป็นรา ๕. อาหารกระป๋อง ควรเลือกท่ีมี เครอ่ื งหมายรบั รองมาตรฐาน ลักษณะกระปอ๋ ง ไม่มีรอยบบุ ร่ัว แฉะ และ แเปละรอเปะรเอปะอ้ื เนปอ้ื ไนมม่ ไีสมน่มิมีสนกิมระกประอ๋ ปงใ๋อหงมให่ ม่ ๖. นมสด ควรดูวัน เดือน ปี ที่ผลิดและหมดอายุ นมบรรจุขวดหรือถุงควรเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนนมกล่อง เกบ็ ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งแชเ่ ย็น เทคนคิ การเลอื กซื้ออาหารแหง้ ๑. ไม่ซ้อื อาหารแห้งในปริมาณมาก เพราะหากใช้ไมห่ มดอาจเกดิ เชอื้ ราได้ ๒. เลือกซ้อื อาหารแหง้ ท่ีมีสใี กลเ้ คียงกบั สีธรรมชาตขิ องอาหารชนดิ น้ันๆ ๓. ไมซ่ ือ้ อาหารแหง้ ที่มีกลิน่ หืน โดยควรเลอื กอาหารแห้งที่มีลกั ษณะ สที ี่สดใหม่ ไม่แตกหกั ๔. ตรวจดูฉลากโภชนาการและวันหมดอายุ การเก็บรกั ษาอาหารแห้ง ๑. เก็บไวใ้ นที่โปร่ง มอี ากาศถ่ายเท ๒. ควรเก็บไวใ้ นตเู้ ย็นเสมอ หากเป็นอาหารแห้งทส่ี ามารถแช่เยน็ ได้ ๓. ขา้ วสาร เก็บในภาชนะท่แี ห้ง จะทาให้ขา้ วไม่เป็นรัง และมีตวั หนอนเกดิ ขึ้น วิธกี นั ไว้ดีกว่าแก้ ใหเ้ อาถ่าน หรือกระดองปลาหมึกวางกน้ ภาชนะแลว้ เอากระดาษสะอาดรอง เพอื่ กันความช้ืน แลว้ จงึ ใสข่ า้ วสาร ๔. กระปิ ใสใ่ นภาชนะที่ไมเ่ ป็นสนิม เชน่ ขวดแก้ว ชามเคลอื บ เวลาบรรจตุ ้องกดให้แนน่ ปดิ ฝาเพ่ือปอ้ งกัน แมลงวันไปวางไข่ แลว้ หมั่นเอาออกตากแดด ๕. พริกแห้ง กุ้งแห้ง ก่อนที่จะนาไปเก็บ ควรผึ่งแดดให้แห้งเสียก่อน จึงบรรจุลงในภาชนะท่ีไม่เป็นสนิม มี ฝาปดิ สนทิ เชน่ ขวดแกว้ ๖. ปลาเค็ม ควรลา้ งกอ่ นเพ่ือแน่ใจวา่ ไม่มียาฆา่ แมลงติดค้างอยู่และลดความเค็ม ตากแดดใหแ้ หง้ จงึ เก็บจะ ทาให้ไดป้ ลาเค็มรสอรอ่ ยกว่าเดิม วธิ รี ับประทานอาหารแห้งอย่างปลอดภัย ๑. ล้างน้าหลายๆ คร้งั โดยแชน่ ้านานๆ หรอื ลวกนา้ รอ้ นทงิ้ กอ่ นนามาปรุงอาหาร เพ่ือลดปรมิ าณสารพิษท่ี ปนเปือ้ นอยู่ในอาหารแหง้ ๒. ไมน่ าที่แช่อาหารแหง้ อยา่ งเช่น นา้ แชเ่ หด็ หอม มาปรงุ อาหาร

393 ๔๐๕406 ๓. ไมค่ วรรบั ประทานอาหารแห้งซา้ ๆ กัน เพื่อร่างกายมเี วลาในการจากดั สารปนเปือ้ นตกคา้ งจาก อาหารแห้งประเภทนนั้ ออกจากรา่ งกายบ้าง ๔. ถา้ สังเกตเหน็ ว่าอาหารแห้งมกี ล่ิน สี เปลย่ี นแปลง ถึงแม้วา่ จะมองไมเ่ ห็นว่ามีเชอื้ ราก็ตาม แตเ่ พ่ือความ ปลอดภยั ไม่ควรนามาปรุงอาหาร ควรที่จะทงิ้ อาหารกระป๋อง เปน็ ผลิตภัณฑ์อาหารทค่ี นไทยสว่ นใหญน่ ยิ มบริโภค เน่ืองจากหาซือ้ ไดง้ ่าย สะดวกต่อการบริโภคและพกพา การนาอาหารมาบรรจุในกระป๋อง โดยใช้เทคโนโลยีการให้ความร้อนเพื่อทาลายเช้ือจุลินทรีย์ ทาให้อาหารท่ีอยู่ใน กระป๋องปลอดเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของการเน่าเสีย ทาให้มีอายุการเก็บนานเป็นปีท่ีอุณหภูมิห้อง แบ่ ง ออกเป็น ๒ กลุม่ ใหญ่ๆ คอื ๑. กลุ่มอาหารท่ีเป็นกรด (acid foods) คือ อาหารท่ีมีค่าพีเอชต่ากว่า ๔.๕ ส่วนมากเป็นผลไม้กระป๋อง เช่น เสชบั ่นปสะบั รปดะสร้มด หสม้รอื หผรักอื ทผี่มกั รีทสีม่ เรีปสรเยี้ ปวร้ียเชวน่ เชมน่ ะมเขะือเขเทอื ศเทกศรกะรเจะ๊ยีเจบ๊ียแบดแงดเงปเน็ปตน็ ้นต้น ๒. กลุ่มอาหารท่ีเป็นกรดต่า (Low acid foods) คือ อาหารท่ีมีค่าพีเอชสูงกว่า ๔.๕ โดยส่วนมากจะเป็นอาหาร กระปอ๋ งจาพวกเนอ้ื สตั ว์ และผกั ต่างๆ เชน่ เนอ้ื หมู ปลา ขา้ วโพดฝักอ่อน และหน่อไมฝ้ ร่ัง เป็นต้น การเลือกซื้อเลือกบรโิ ภคอาหารกระป๋องใหป้ ลอดภัย ๑. ดูภาชนะท่ีบรรจุ ต้องไม่บุบ โป่ง บวม มีรอยร่ัว หรือเป็นสนิม ถ้ามีลักษณะดังที่กล่าวไม่ควรซื้อมา รับประทาน เพราะบ่งบอกถึงการเก็บรักษาที่ไม่ดี เพราะอาหารกระป๋องบางชนิดถ้าเก็บรักษาไม่ดีอาจจะทาให้เกิด แกส๊ ขึน้ ภายในทาให้กระปอ๋ งบวมข้นึ มาได้ และควรเลอื กซ้อื เฉพาะกระป๋องท่มี รี ปู ร่างคงเดิม ๒. เม่อื เขย่ากระป๋อง ถ้ามีเสียงกระฉอกของนา้ กบั อากาศ ไมค่ วรซอ้ื หรือบรโิ ภคอาหารในกระป๋องนัน้ ๓. เม่ือเปิดกระป๋อง ถ้ามีอากาศ (ลม) พุ่งออกมาจากภายในกระป๋อง ห้ามบริโภคอาหารซึ่งบรรจุใน ใกนรกะรปะ๋อปง๋อง ๔. เม่ือเปดิ กระปอ๋ งแล้วได้กล่ินบูดเนา่ หรือกลิน่ ผดิ ปกติ หา้ มบริโภคอาหารในกระป๋องนั้นเดด็ ขาด ๕. เมื่อเทอาหารออกจากกระป๋องแล้ว ถ้าภายในกระป๋องมีสนิมรอยถลอก หรือรอยด่างของโลหะ ไม่ควร บริโภคอาหารในกระปอ๋ งน้นั เชน่ เดียวกนั ๖. วันเดือนปีทีผ่ ลิต และวันเดือนปีท่ีหมดอายุ สามารถดูไดจ้ ากฉลากท่ีติดอยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์ เรื่องวันเดือน ปีถือเป็นส่ิงสาคัญดังนั้นควรดูทุกคร้ังที่ทาการเลือกซื้อ เพราะถ้าอาหารกระป๋องท่ีซ้ือมาหมดอายุ แล้วเรา รับประทานเข้าไปจะทาให้เกิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ และควรเลือกกระป๋องท่ียังผลิตมาไม่นานโดยดูท่ี วนั เดือนปที ี่ผลิต ๗. ฉลากควรมีช่ือและส่วนผสมส่วนประกอบต่างๆ ของอาหารอยู่อย่างชัดเจน รวมไปถึงปริมาตร น้าหนัก สทุ ธิ และเลขจดทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุข และควรมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย จากองคก์ ารอาหาร และยา หรอื ท่ีเรามักเรียกกันว่า อย. นอกจากนค้ี วรซ้ืออาหารกระป๋องที่มีชื่อหรือยี่ห้อที่เป็นท่รี ู้จกั กันโดยทว่ั ไป ๘. ดูแหล่งผลิตและสถานที่ผลิต รวมไปถึงสถานท่ีจัดจาหน่ายควรเป็นสถานที่ท่ีมีอยู่จริงและเช่ือถือได้ เท่าน้ัน ไม่ควรซือ้ อาหารกระป๋องท่ีไม่แหล่งผลิตแน่นอน เพราะการผลิตอาจจะไมไ่ ด้มาตรฐาน ซ่ึงเมื่อซ้ือมาบริโภค แลว้ อาจจะกอ่ ให้เกิดอันตรายกับสุขภาพของเราได้

394 ๔๐๖407 การเกบ็ รักษาอาหารกระป๋องที่ถกู ต้อง ๑. เปิดแลว้ และเหลือ ควรถา่ ยใส่ภาชนะอ่ืนๆ เชน่ ภาชนะแก้วมฝี าปิดแล้วเก็บไวใ้ นตู้เย็น ๒. ไม่ควรเก็บอาหารกระป๋องไว้นาน ควรเลือกบริโภคอาหารกระป๋องท่ียังอยู่ในสภาพดี สังเกต วัน เดือน ปี ที่หมดอายดุ ้วย ๓. ควรเกบ็ อาหารกระป๋องไวใ้ นท่แี หง้ และเย็น แต่ไมอ่ ับชื้นและไม่ถูกแสงแดด ป้องกันการเสยี และเป็น สนิมเรว็ กว่าปกติ ๔. เกบ็ อาหารกระปอ๋ งไวใ้ นทส่ี งู มากกวา่ 60 เซนติเมตร เพอ่ื ป้องกนั ความสกปรกจากพื้นและสตั วน์ าโรค “๓ ฉ.” เพ่ือความปลอดภยั ในการบรโิ ภคอาหารกระปอ๋ ง การเลือกซื้อผลติ ภัณฑอ์ าหารกระป๋อง ควรยดึ หลกั “๓ ฉ.” ซ่งึ ไดแ้ ก่ ๑. ฉ…ฉลาก ต้องอ่านฉลากก่อนซ้ือทุกคร้ัง โดยฉลากต้องแสดงประเภทอาหารเลขสารบบอาหารอยู่ใน กรอบเครื่องหมาย อย. ชื่อและท่ตี ้ังสถานทีผ่ ลติ ปรมิ าตรหรือน้าหนักสุทธิ และทสี่ าคัญควรสงั เกตวนั เดือนปที ี่ผลิต หรอื หมดอายุ ๒. ฉ…ฉลาด ในการซื้อ เช่น สังเกตท่ีฉลากโภชนาการ หรือสูตรส่วนประกอบ ซึ่งไม่ควรมีน้าตาล ไขมัน หรอื เกลือสงู เกินไป ๓. ฉ…เฉลยี ว โดยต้องตรวจสอบสภาพของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งความสะอาดทกุ ครั้ง โดยภาชนะจะตอ้ งไม่ยุบ ไมเ่ ป็นสนิม และไม่มีรอยร่วั

395 ๔๐๔๔๗๐4๐๗04๗480088 ๔๔๐๐๗๗44 รารยารวหยาิชนยวหรใาาวชิหว่นบยใชิแยานก่วงบวใผทา่วยากบิชงนรี่นยทกาใาง๔างกทบทรี่นาาา๔ากงงร่ีนี่เทนร๔ราาางท๒่ีจเอือนรนารี่รัดเง๑า๒นงทอาอ่ืราาชกอ๒ยอ๑าื่อี่งนยเา๒าีพชวหอ๑ารงวหอรหเ๗ชิอื่อาีหพนรเิชานราเใหรงีพาน่ือวใรชาหบเร่วยีหรบารอ่ืว่ยงพีกกกัสยนงหรอื่กางยงทาาับกทหกรรสังาาทรงรร่ีนู้ทกากับรี่สน๔หเง่ีก๔งรทา๒ลาี่ับ๔กทาัสา๓เงราร่ีือเ๑กน๒ลาร่ีเรเนดเงรก๒๒ลาเืวอร๑อ๑่๒๒ลาอือ่ดซร่อืีธือก๑า๑ง๐๑รอื๑า๑งดาีกงอ้ืชกอซง๑ชกอ๐รอา๑าเอซาีพชือ้เรซ๐างีพราร๑๐หาีวือ้อภ่ชหงเหื้อ๑อื่หรล๑าติองชารวีภอางหราอืหคหวีริตภราากภกรัสกหกกาเกติหสัคาาแับราแซราาบัับคาเงรยีคหกแผงรร้ือรแรกกเเนเเ้งยีแ๒ลาหรนอแแรผา๒ลาแทรยีนหือียาห๑้งกรผนรือ๑ดลนห่ีแนดทกง้ดาง้น๑กก๒าะ๑แลาแทา�ซทรี่าก๐ซรอ๒รรจล๐ละรี่่ี้อืชางอ้ืแาง๑๒๒อัดงะะ๑จอรชั้นชชหหอชออากจัดาวีชภมชีว้ันาา้งหาีวภาหัดกติั้นติแหราัธ้นหมหติราากาากคยลมามเารธัาครรารรเมะรัธกยรธัเแเรรียแะอกรยรศกแรยมีเหนปผียารยีหมระึกรผมศน้งหะรน๋อนยีนปะศ้งษนศกึแทปูท้างนปแกทกึร๋อากึษลร่ีอ๋ี่ทู้ลารษอ๋งี่ป๒ษ๓าเะาง๒รู้ทะป่ีงารีทอปา๓จอ่ีปชียจาปช่ี๓ีทดัาก้ันีท๑ดหั้นีทกห่ี ก่ีม๑าม่ีา๑ารัธ๑รัธรกยเกยเรรมรรมยีะศียะศนปนึกปึกรอ๋ ษรอ๋ ษูท้งู้ทงาี่าปี่๓ป๓ที ที ่ี ี่ ๑ คาชคีแ้ าจชงีแ้ จใงหน้ ใักหเน้ รักยีคเนารชจียับ้ีแนจคงคู่ับวคใาู่คหมวน้สากัมเพสรนัมียพธน์ขจนั อบัธงข์คออคู่ างวหอาาามรหสใาหัมร้ถพใูกหนั ต้ถธ้อ์ขูกงอตง้อองาหารใหถ้ ูกต้อง ๑ คาคชคา้ีแชาจช้ีแงแี้จจงใงหใน้หใกัหน้ เ้นกั รกัเียครคเนายีราชอียนช้แี่านจแี้ นจบัอจขง่าคง้อนู่คคใขวใหวห้อาน้ามค้นมกั สวักตเาัมเรอ่รมพยี ียไตนัปนอ่ อธนจไ่า์ข้ีปับนแอนคลขง้ีูค่อะ้แวใาคลหาวะม้ทาใสรหามมัใเต้ทคหพอ่าร้ถันเไือู่กคปธงตรนข์หื่อ้ อ้ีมงแงาหลอยมะาถาใหกูหยาท้ถร(กูใาหเค(้ถ)หรูกื่อนต)ง้าหอหขนงม้อา้ าคขยว้อถาคกูมวทา(ี่ถมูกท)ต่ีถห้อกู นงต้าท้อขาง้อทคาวามที่ถกู ต้องทา คาชแ้ี จงเคใรหเอ่ื น้คงักรห่ือเมรคงียาหนยชมผอีแ้าิด่ายจน(ผงขิด้อเ)(ใคหครหน้ว)อื่ านักงม้าหเหรตขนมียอ่้ า้นไคขยปอว้อผนา่ คดินม้ี วแ(ขทาล้อีไ่มะม)คทใ่ถวหี่ไหูกาม้ทนมต่ถาต้าอูกเข่อคงตอ้ไร้อปค่อื งนวงหา้ี แมมลทาะย่ีไใมถห่ถูกท้ ูกา(ตเอ้คงร)หื่อนงหา้ มข้อายคถวกูาม(ที่ถกู)หตน้อ้างขท้อาความท่ีถกู ต้องทา เครอื่ งหมายผิด(เค)ร่อืหงนห้ามขา้อยคผวดิ า(มท)ไี่ มห่ถูกนตา้ ข้ออ้งความทไ่ี ม่ถูกต้อง ...................๑... .๑น...ม.น.ส..มด..ส.ค.ด.ว..รค..ดวูว๑รันด. ูวนเันดมือสเดนดือปคนี วทปร่ีผีดทลูวต่ีิผัดนลแเิดลดแะือหลนะมหดปมีอทดาี่ผยอุลานิยดมุแนบลมระรบหจรมุขรดวจอุดขาหวยดรุ ือหนถรมืุองบคถรวุงรรคจเวุขกร็วบเดกไวห็บ้ใรไนืวอต้ใถนู้เุงยตค็นู้เวยร็นเก็บไว้ในตู้เย็น ............ส..ว่..น.สนว่๑มน.กน..นลม..่อมก.ง.ลส..่อเด.กง..็บค.เ.ไกสว.ด.็บว่ ร.้โนไดด๑นยูวโ้ .ไมดันมกนย่ตลไเมอ้มด่อสงต่ืงอแด้อนเชกง่เคแบ็ยปชวน็ไี เ่ดรทย้โด็น่ีดผูวยลันไิดมแเ่ตดล้อือะงนแหชมป่เยดี น็ อทา่ีผยลุ ิดนแมลบะรหรมจดุขอวาดยหุ รนือมถบุงรครวจรุขเกว็บดไหวร้ใือนถตุงู้เคยว็นรเก็บไว้ในตู้เย็น สว่ นนมกลอ่ ง เกบ็ สไว่ดน้โดนยมไกมล่ต่อ้องงแเกช็บ่เยได็น้โดยไม่ต้องแชเ่ ย็น ....................๒... ก๒า.ร.ก.ซ..า.อื้ .ร.ป.ซ..ลอื้ ..าป..เ.ลค..า.็มเ๒คค.็มวกรคาปวรลรซาซปอ้ื ทอ้ืลปีม่ปาลีคทลาวา่มีเคทาีคม็ี่ วเีคาควมม็วาเรมคปา็มเคกลมม็ๆาามทกเาม่ีพๆกคีื่อๆเวปพาเ้อ่ืพมงป่ือเกค้อปันม็ งอ้ กมงานักรกนั เๆนากรา่ เเรพนสเอ่ืนาียปเา่แสเ้อลสียงะียแกตแลันาละกะตาแตารดากเกดนแแใา่ดหดเดสด้แใยีใหหแ้งแแ้ลสหหะน้ง้งติทสสานกทิ แดดให้แห้งสนิท .................. ๒. กา..ร..ซ...้ือ..ป...ล..า..เ.ค. ็ม๒.คกวารรปซล้ือาปทล่ีมาีคเควา็มมคเคว็มรมปาลกาๆท่มี เพคี วอื่ าปม้อเงคก็มันมกาากรๆเนเ่าพเ่อืสปยี ้แอลงกะันตกาการแเดนดา่ ใเหสยี้แแหล้งสะตนาิทกแดดให้แหง้ สนิท ....................๓... ไ๓ม.่ค.ไ.ว.ม.ร.ค่.ล..ว.า้ .ร.ง.ลอ..้า.า.ง.ห.อา๓ารห.แาไหมรง้แ่คดหว้วรง้ ยดลน้าวา้งยอนเาพา้ หรเาพระรแจาหะะ้งทจดาะ้วใทหยาน้สใูญ้าหส้เสพญู ียรเคาสะุณยี จคะุณา่ ทขคาอา่ใงหขอส้อาญูงหอเาาสรหยี ไาปครณุ ไปค่าของอาหารไป .................. ๓. ไม..ค่ ..ว..ร..ล...้า..ง.อ...า.ห๓า.รไแมหค่ ้งวดร้วลย้านงา้อาเหพารราแะหจะ้งดท้วายใหนส้าญู เพเสรยี าคะณุจะคท่าาขใอหงส้ อญู าหเสาียรคไปณุ คา่ ของอาหารไป ...................๔... ค๔ว.รค.ซ..ว.้ือ.ร.อ.ซ..า้ือ.ห.อ..า.า.ร.ห.แา๔หร.ง้แใคหนว้งปรใซรนิมอ้ืปาอรณาิมหามาณรกมแาเหพกง้ รใเนาพะปรสราามิะมสาาณารมถมาเารกกถ็บเไกพว็บร้ไดไาวน้ะไ้ สาดนาน้ มๆาานรๆถเก็บไวไ้ ด้นานๆ ................. ๔. คว.ร..ซ...้อื ..อ..า..ห...า..ร๔แห. ง้คใวนรปซร้ือมิ อาาณหามราแกหเ้งพใรนาปะรสมิ าามณารมถาเกกบ็เพไวรไ้าดะน้สานมๆารถเกบ็ ไว้ไดน้ านๆ ...................๕... ไ๕ม.ซ่ ไ.ื้อ.ม..อ่ซ..า.ื้อ.ห.อ..าา.ร.ห.แ..า.หร๕ง้แท.หม่ีไ้งมีกท่ซลมี่ ือ้ ิ่นีกอหลานื่ิ หหาโรืนดแยโหคด้งวยทรคเ่มี วลีกรือลเกลิน่ อื หากืนหอาาโรดหแยาหรคง้แวทหร่ีมเ้งลีลทือกั่มี กษีลอณักาษหะณาสระทีแ่สีหดีทง้ ทใ่สี หี่มดมลีใ่หักไมษ่แณไตมะก่แหสตทีกั หีส่ ดักใหม่ ไมแ่ ตกหกั ................. ๕. ไม.ซ่ ..ื้อ..อ...า..ห..า..ร..แ. ห๕้ง. ทไม่ี ่ซีก้อืลอ่ินาหหนื ารโแดหยคง้ ทวรีม่ เกี ลลือ่ินกหอนืาหโาดรยแคหว้งรทเล่มี ือีลกั อษาณหะารสแีทหส่ี ้งดทใมี่ หลี มัก่ ษไมณ่แะตกสหีทกั ่ีสดใหม่ ไม่แตกหกั ...................๖... อ๖า.หอ..า.า.รห..แ.า.ห.ร..ง้แ..ทห..กุ.ง้.ชท๖นกุ .ดิชอนคาิดหวราคเรวกแร็บหเไก้งวท็บใ้ นกุไวชต้ในเู้ ยดิต็นู้เเคยสว็นมรเอสเกม็บอไว้ในต้เู ย็นเสมอ ................. ๖. อา.ห...า..ร..แ..ห...ง้ .ท...ุก๖ช.นอิดาคหวารเแกหบ็ ง้ ไทวกุ้ในชตนู้เิดย็นคเวสรมเกอ็บไว้ในตเู้ ย็นเสมอ ...................๗... อ๗า.หอ..า.า.รห..ก.า.ร.ร.ะ.ก.ป.ร..๋อะ..งป๗เ๋อม.งอื่ อเเมาปือ่หดิ เาแปรลิดก้วแรแะลลปว้ ะแ๋อเลงหเะลมเอืห่ เลคปือวดิ รคแเวกลร้ว็บเแไกวล็บใ้ะนไเวหต้ใ้เูลนยอืตน็ ู้เคยว็นรเกบ็ ไว้ในตเู้ ย็น ................. ๗. อา.ห...า..ร..ก..ร..ะ..ป...๋อ๗งเ.มอ่อื าเหปาดิ รแกลร้วะแปล๋อะงเเหมลอ่ื อื เปคิดวแรลเก้วบ็แลไวะใ้ เนหตลู้เือย็นควรเก็บไวใ้ นตูเ้ ย็น ...................๘... ก๘า.ร.ก.ซ.า..้ือร..อซ..า.ื้อ.ห.อ..า.ร.ห.กา๘รระ.กปกรา๋อะรงปซใ๋อห้ือง้สอใังหาเห้สกาังตรเทกี่ฉตรลทะาป่ีฉก๋อลโงาภใกชหโนภ้สาังชกเนกาาตรกทาหี่ฉรรลือหาสกรตูือโภรสสชูต่วนรนสาปก่วนารระปกรหอะรบกืออสซบูตึ่งรไซมสึ่งค่วไวนมรป่คมวรีนะร้ามกตีนอาบ้าลตซาไึ่งขลไมมไันข่คมวันรมีน้าตาล ไขมัน หร..อื.ห.เ.ร.ก.อื.ล.เ.ือ.ก.ส.ล..ูงือ.เ.สก๘งูนิ เ.ไกปกนิ หา.ไ.ร.ป.ือซ..เื้อ.ก..อ.ล.า.ือ.ห.ส.า.งู.รเ๘กริน. ะกไปา๋อรซงใ้ือหอ้สาังหเากรตกทร่ีฉะลปา๋อกงโใภหช้สนังาเกตาทรี่ฉหลราือกสโูตภรชสน่วานกปาระหกรอือบสูตซร่ึงไสม่ว่คนวปรรมะีนก้าอตบาลซ่ึงไไขมม่คันวรมีน้าตาล ไขมัน หรือเกลอื สงู เกนิ ไหปรอื เกลือสูงเกินไป .................๙... เ๙ก.บ็ เอก..า็บ.ห.อ..า.า.ร.ห.ก.า.ร.ร.ะ.กป๙ร๋อ.ะงปเกไ๋อวบ็ ง้ใอนไวาท้ใหนี่สางูทรมี่สกางูรกมะกาปวกอ๋ า่ กงว๑ไวา่ ๐้ใน๑เท๐ซี่สนเงูตซมเินมาตกติเกรมวตเ่าพรื่อ๑เปพ๐อ้ื่ เงปซก้อนนั งตคกิเวมันาตคมรวสาเกมพปสื่อรกปกป้อจรงากกจันพาค้นืกวพแาลน้ืมะแสสลกัตะปวสรน์ ตักาวจโ์นารกาคโพรนื้คและสตั ว์นาโรค ....................๙๑...๐เ๑ก.ค๐บ็ .ว.อ..รคา..อห.ว.่า.รา.น.อร..ฉก่.า.ลนร..ะา.๙ฉกป๑ล.กอ๋า๐เ่อกงไน็บ.กวคซอ่้ใวนาื้อรหทอซาสี่ื้อารหงูนอกมาฉรราหละแกาปหกรก๋อว้งแกงา่แห่อไลว๑้งนะใ้แ๐ซนอลื้อทาะเอหซี่สอานงูาหมรตหกาเิามรกรแะตกหปรวร้่าง๋อะเแพงป๑ลทื่อ๋ ๐ะุกปงอคท้อเาซรุกงหนั้งกคาตนัรแริเ้ัคงลกมวะรตแาะพรลมปิจะสเ๋อาพกรง่ือิจปณทปารุกรา้อกคณงจสรกาัง้ ันกเสกคแพังตลวน้ืเากะแคมตพลวสิจาะคกามสวปรผตั าณริดวมกน์ปาผจากิดสาโตปกัรงิเคพกกตื้นติแคลวะาสมัตผวิด์นปาโกรตคิ ขอ..ง.ข.อ.อ.า.ง.ห.อ.า.า.ร.ห..า..ร๑๐ ข..ค.อ.ว.ง.ร.อ.อ.า.่า.ห.น.า..ฉร..ล. า๑ก๐ก่อ.คนวซร้ือออ่าานหฉาลราแกหก้ง่อแนลซะื้ออาหาหารากรแระหป้งแ๋อลงทะอุกาคหรั้างรแกลระพปิจ๋อางรทณุกคารส้ังังเแกลตะพคิจวามรณผิดาปสกังตเกิ ต ความผิดปกติ ของอาหาร ของอาหาร

396 408 ๔๐๘409 408 รายราวหเฉยิชแนเลวผฉาว่ ยิชนลยกใายกทบาากรี่งใร๔างบาจรานงัดเงนารทากนอ่อื น่ีาาทงอร๒ชอหี่เา๒๑ราีพนชยีห๗่วพีเนรารยเหรร่อืรทรู้ทกสัอ่ืหง่ี ่ีับ๔งสั๓กงกกาเง๒าวราร๒รื่อีธ๑รเ๑ดลกีงเ๑ลอ๑าาือ๐อืรารก๐กเหง๑ซล๑ชซาื้อือีวรภื้อภกอกติอาาซาบัคาคหอ้ื กหเเารอรแาารยีียารผรแหนนดแนหาา�ททหกรรง้ี่ี่้งาแง๒๒แแรชหลลจชวีช้งะะดั น้ัิตแั้นออกลมามาาะัธหหัธรอยายาเามรรรมหียกกศศานรรกึ ึกระะษรษเปปทู้ปาา๋อ๋อปี่ยี ป๓งงกที ีที่ ี่๑๑ คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นข้อความตอ่ ไปนี้ และใหท้ าเคร่ืองหมายถกู ()หน้าข้อความท่ีถกู ต้องทา เครื่องหมายผิด() หน้าข้อความทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง ................. ๑. นมสด ควรดูวัน เดือน ปี ท่ีผลติดและหมดอายุ นมบรรจุขวดหรือถุงควรเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนนม กล่อง เกบ็ ได้โดยไมต่ ้องแชเ่ ย็น .................. ๒. การซ้ือปลาเคม็ ควรปซ้อืลปาทลาีม่ ทีค่มีวคีามวาเคม็มเคม็มามกาๆกเๆพ่ือเพป่ือ้ ปงก้อนังกกนั ากรเานรเ่านเส่ายีเสแียลแะลตะาตกาแกดแดใดหให้แหแ้ หง้ สง้ สนนิททิ ..................๓. ไม่ควรล้างอาหารแหง้ ด้วยน้า เพราะจะทาใหส้ ญู เสียคณุ ค่าของอาหารไป .................. ๔. ควรซ้อื อาหารแหง้ ในปริมาณมาก เพราะสามารถเก็บไว้ได้นานๆๆ ................. ๕. ไม่ซอ้ื อาหารแหง้ ที่มีกลิ่นหืน โดยควรเลอื กอาหารแห้งทมี่ ลี ักษณะ สีทส่ี ดใหม่ ไม่แตกหัก .................. ๖. อาหารแหง้ ทุกชนิด ควรเกบ็ ไวใ้ นตเู้ ยน็ เสมอ .................. ๗. อาหารกระป๋องเม่ือเปดิ แล้วและเหลือ ควรเกบ็ ไว้ในต้เู ย็น ................. ๘. การซ้ืออาหารกระป๋องให้สังเกตที่ฉลากโภชนาการ หรือสูตรส่วนประกอบ ซ่ึงไม่ควรมีน้าตาล ไขมนั หรอื เกลือสงู เกินไป ................. ๙. เก็บอาหารกระป๋องไว้ในท่ีสูงมากกว่า ๑๐ เซนติเมตร เพื่อป้องกันความสกปรกจากพ้ืนและสัตว์ นาโรค .................๑๐. ควรอ่านฉลากก่อนซ้ืออาหารแห้งและอาหารกระป๋องทุกคร้ัง และพิจารณา สังเกตคควาวมาม ผดิ ปกตขิ องอาหาร

๔๐๙ แบบบนั ทกึ การประเมินผูเ้ รยี นดา้ นความรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง การเลือกซ้ืออาหารแหง้ และอาหารกระป๋อง รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ รายการประเมิน คะแนนรวม ระดบั สรุปผล การตอบคาถามจากใบงานเร่ืองวิธีการเลอื กซอื้ อาหารแห้ง คุณภาพ ผา่ น ไมผ่ า่ น เลขที่ ชอ่ื - สกุล ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคณุ ภาพดา้ นความรู้ ดังน้ี ต่ากวา่ ๕ คะแนน ระดบั ๑ ปรับปรงุ ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ๔ ดมี าก ๗-๘ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ เกณฑ์การผา่ นระดบั ๒ ขึ้นไป ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 397 410

๔๑๐ แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรมผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรอื่ ง วิธีการเลอื กซือ้ อาหารแห้งและอาหารกระป๋อง รายวชิ า การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายการประเมิน สรุปผล ทกั ษะการคดิ ทกั ษะ คะแนน ระดบั เลขที่ ชื่อ - สกุล ทักษะการ วิเคราะห์ กระบวนการ ทักษะการ รวม คณุ ภาพ ผา่ น ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานร่วมกนั นาเสนองาน ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๘ คะแนน ระดับ ๑ ปรับปรุง เกณฑ์การผ่านระดับ ๒ ขึ้นไป ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ( …………………………………………….) 398 411

๔๑๑ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤตกิ รรมผู้เรยี นดา้ นคุณลักษณะ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่อื ง วิธกี ารเลือกซ้ืออาหารแห้งและอาหารกระป๋อง รายวิชา การงานอาชีพ รหสั วชิ า รหัส ง2110๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 รายการประเมนิ มุ่งม่ันในการ คะแนน ระดับ สรปุ ผล ทางาน รวม คณุ ภาพ ไม่ เลขท่ี ช่ือ - สกลุ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ ผา่ น ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรม ดงั น้ี ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กวา่ ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ขนึ้ ไป ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 399 412

๔๑๒ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ อาหารกบั การดารงชีวิต แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง เรอ่ื ง วธิ ีการประกอบอาหาร ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวชิ า การงานอาชีพ แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรยี นรู้ อนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีเกีย่ วข้องกบั การประกอบ วธิ ีการประกอบอาหาร ข้ันนา อาหาร จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ครกู ระตุน้ ความคิดของนักเรียนโดยกลา่ วถึงขอ้ ความดังนี้ สอ่ื ด้านความรู้ ต้มผดั แกงทอดหอมอร่อยในพริบตา ใชค้ าถามดังน้ี ๑. ใบความรู้ท่ี ๒๘ เรอ่ื ง อ๑ธ.ิบอาธยิบคาวยาคมวหามมาหยมปายระปโยรชะนโย์ แชลนะ์ วแธิลีกะาวรธิ ปกี ราะรกอบ - อาหารท่ีนักเรยี นรบั ประทานในชวี ิตประจาวนั นอกจากมี วธิ ีการประกอบอาหาร อปารหะากรอไบดอ้ าหารได้ ตม้ ผดั แกงทอดแล้วยงั มวี ธิ ีการอนื่ อีกบ้างหรือไม่ ให้นักเรียน ๒. ใบงานท่ี ๒๒ เร่อื ง วิธกี ารประกอบ ด้านทักษะและกระบวนการ ยกตวั อย่าง อาหาร ๑. ทักษะการแสวงหาความรู้ ๒. ครชู ้แี จงจดุ ประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ ภาระงาน/ชิน้ งาน ๒. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ขน้ั สอน - ๓. ทกั ษะการทางานร่วมกัน ๓. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็น ๕ กล่มุ เลอื กประธานแบง่ ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน หน้าท่ีความรับผดิ ชอบ ด้านคณุ ลกั ษณะ ๔.แต่ละกล่มุ ศึกษาใบความรู้ที่ ๒๘ เรื่อง วธิ ีการประกอบ ๑.มีวินยั อาหาร ๒.ใฝ่เรียนรู้ ๕.ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนมาทีละ๑คน ดภู าพการ ๓.ม่งุ มน่ั ในการทางาน ประกอบอาหาร เช่น การผกั การทอด การนง่ึ ฯลฯแลว้ ตอบ คาถามวา่ เปน็ วิธกี ารประกอบอาหารโดยวธิ ใี ด ๖. นักเรียนทาใบงานท่ี ๒๒ เรื่อง วธิ ีการประกอบอาหาร ขั้นสรุป ๗. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปองค์ความรู้เกีย่ วกบั การประกอบอาหาร 400 413

401 ๔๑๓414 การวัดและประเมินผล สิ่งทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ แ-ใบบบงปารนะเเรม่ือินงผวลธิ กีกาารรตอบ -ตอบคาถามจากการทา คปา� รถะากมอใบบองาหนาเรรื่อง คะแนนร้อยละ ๕๐ ขนึ้ ไป อ๑ธ.อิบธาบิยวาธิยีกวาิธรีปปรระะกกออบบอาหาร ใบงาน วิธีการประกอบอาหาร ผา่ นเกณฑ์ อไดา้หารได้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ สงั เกตพฤติกรรมทกั ษะ แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั พฤติกรรมท่ี ๒. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทกั ษะการแสวงหา ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดับโดยใช้ ๓. ทักษะการทางานร่วมกัน ความรู้ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการทางานรว่ มกัน เกณฑ์ rubric ทกั ษะการทางานรว่ มกนั ทกั ษะการนาเสนอผลงาน การผา่ นอยู่ในระดบั ทักษะการนาเสนอ คุณภาพ “พอใช้” ผลงาน ขึ้นไป ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมการมี แบบสังเกตการมีวินยั ระดับพฤตกิ รรมท่ี ๑. มวี นิ ยั วินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มน่ั ใน ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมั่นในการ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric ๓. มุ่งมน่ั ในการทางาน การผ่านอยู่ในระดบั คณุ ภาพ “พอใช้” ข้ึนไป

402 ๔๑๔415 เกณฑก์ ารประเมินผลช้นิ งานหรือภาระงาน ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ ๑.ตอบคาถามจากใบ งาน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) 2.ทกั ษะในการ แสวงหาความรู้ /การ เกณฑป์ ระเมินดา้ นความรู้ คะแนนการตอบ เขียนสรปุ สาระสาคัญ คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบคาถาม คะแนนการตอบ คาถามดา้ นความรู้ ต่ากวา่ ๕ คะแนน ๓. ทักษะการคดิ ดา้ นความรเู้ ทา่ กบั ด้านความรเู้ ท่ากับ คาถามดา้ นความรู้ วิเคราะห์ เขียนสรุปสาระสาคัญ ๙-๑๐ คะแนน ๗-๘ คะแนน เท่ากบั ๕-๖ คะแนน ไดไ้ มต่ รงประเดน็ ๔. ทกั ษะกระบวนการ ใช้ภาษาในการเขยี นไม่ ทางานร่วมกนั เกณฑ์ประเมนิ ดา้ นทักษะและกระบวนการ เหมาะสม เขยี นถกู บ้าง เขยี นสรุปสาระสาคัญได้ เขยี นสรปุ สาระสาคัญได้ เขยี นสรุปสาระสาคญั ผดิ บา้ งเป็นบางคา ครบและตรงประเดน็ ครบและตรงประเดน็ ไดต้ รงประเดน็ วิเคราะห์ข้ันตอน กระบวนการทางานท่ี เขียนมเี หตผุ ลประกอบ เขยี นมีเหตผุ ลประกอบ เขียนมีเหตุผลประกอบ เลือกไมไ่ ด้ อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม รู้จกั บทบาทหนา้ ที่ ภายในกลมุ่ ปฏบิ ัติ ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใช้ภาษาในการเขียนได้ ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ตามบทบาทได้ รบั ผิดชอบร่วมกนั ได้ เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนถกู เปน็ เป็นบางคร้งั ไมค่ ่อยมีคณุ ธรรมใน ถกู ต้อง ลายมือสวย อ่าน ถกู ต้อง ส่วนใหญ่ การทางาน งา่ ย มคี วามคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ขนั้ ตอน วิเคราะห์ขั้นตอน วเิ คราะห์ขั้นตอน กระบวนการทางาน กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานที่ ทเ่ี ลือกไดถ้ ูกต้อง เลือกได้ถูกต้องและ เลอื กไดถ้ กู ตอ้ ง และครบถ้วน ตาม ครบถว้ น ข้ันตอน รู้จกั บทบาทหนา้ ทภ่ี ายใน รูจ้ ักบทบาทหน้าท่ี รจู้ กั บทบาทหน้าท่ี กลมุ่ ปฏิบัติตามบทบาท ภายในกลุม่ ปฏิบตั ติ าม ภายในกลุ่ม ปฏิบัติ ได้เหมาะสมทุกคน มีการ บทบาทได้เหมาะสมเปน็ ตามบทบาทได้ ทางานเป็นทีมท่ดี ี สว่ นใหญ่ มกี ารทางาน เหมาะสมเป็นบางครัง้ รับผิดชอบร่วมกัน เปน็ ผู้ เปน็ ทมี ทีด่ ีรับผดิ ชอบ รับผดิ ชอบร่วมกัน พูดและผู้ฟังทีด่ ี มี ร่วมกนั เป็นผู้พูดและ เป็นผพู้ ดู และผู้ฟงั ทีด่ ี คณุ ธรรมในการทางาน ผฟู้ ังทดี่ ี มีคณุ ธรรมใน มีคณุ ธรรมในการ การทางาน ทางาน

403 ๔๑๕416 ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง) เกณฑป์ ระเมินดา้ นทักษะและกระบวนการ ๕. ทกั ษะการนาเสนอ เนื้อหาการนาเสนอ เนือ้ หาการนาเสนอ เน้ือหาการนาเสนอ เน้อื หาการนาเสนอไม่ ผลงาน ครอบคลุมทกุ ประเดน็ ครอบคลุมทุกประเด็น ครอบคลุมทกุ ประเดน็ ครอบคลุมทกุ ไม่ ถกู ต้องตามหลักวชิ าการ ถกู ต้องตามหลักวชิ าการ ถกู ต้องตามหลัก ถกู ต้องตามหลัก นา่ เชอื่ ถอื ใชค้ าพูด น่าเช่อื ถือ ใชค้ าพูด วิชาการ นา่ เชื่อถือ วชิ าการ ตอบขอ้ นาเสนอได้เหมาะสม นาเสนอไดเ้ หมาะสม ตอบข้อคาถามไดท้ ุก คาถามได้ไม่ครบทุก บคุ ลิกภาพดี ตอบข้อ ตอบข้อคาถามไดท้ ุก ประเด็น นาเสนอได้ ประเดน็ นาเสนอได้ไม่ คาถามไดท้ ุกประเดน็ ประเดน็ นาเสนอได้ เหมาะสมตรงเวลาที่ ตรงเวลาท่ีกาหนด นาเสนอได้เหมาะสมตรง เหมาะสมตรงเวลาท่ี กาหนด เวลาที่กาหนด กาหนด เกณฑป์ ระเมนิ ด้านคุณลกั ษณะ ๖. มีวินยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บ ปฏิบัติตามกฎระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ไมค่ ่อยปฏบิ ตั ิตาม กติกา ของโรงเรียน ของ กติกา ของโรงเรียน ของ กตกิ า ของโรงเรยี น กฎระเบยี บ กติกา ของ ห้องเรียน ของกลุ่ม ดว้ ย ห้องเรยี น ของกลุ่ม ไม่ ของห้องเรยี น ของ โรงเรยี น ของหอ้ งเรียน ความเต็มใจ ไม่ก่อกวน กอ่ กวนสร้างความ กลมุ่ ไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ ของกลมุ่ ก่อกวนสร้าง สรา้ งความราคาญให้ครู ราคาญใหค้ รูและเพื่อน ไม่ก่อกวนความราคาญ ความราคาญใหค้ รูและ และเพื่อนในห้องเรียน ในหอ้ งเรยี น ให้ครแู ละเพ่ือนใน เพอ่ื นในห้องเรียน หอ้ งเรียน เปน็ บางครงั้ ๗. ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามกระตือรือรน้ มีความกระตือรือร้น มคี วามกระตือรือร้น ไมม่ ีความกระตือรือร้น อดทน เพียรพยายาม อดทน มงุ่ ม่ัน รู้จกั อดทน มุ่งมนั่ ใน อดทน ม่งุ ม่นั ไม่รู้จกั มงุ่ มัน่ รูจ้ กั แสวงหา แสวงหาความรูจ้ าก บางครั้ง รู้จกั แสวงหา แสวงหาความรู้จาก ความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรียนร้อู นื่ ๆ ความรจู้ ากแหล่ง แหล่งเรยี นรูอ้ ืน่ ๆ อ่นื ๆ อยเู่ สมอ อยเู่ สมอ เรียนรอู้ ื่น ๆ ๘. มงุ่ ม่ันในการทางาน ทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทางานที่ได้รับมอบหมาย ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ได้รับ เสรจ็ ตามกาหนดเวลา เสร็จตามกาหนดเวลา มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายไม่เสร็จตาม ผลงานมคี วามถูกต้อง ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง กาหนดเวลา เป็น กาหนดเวลา ผลงาน ละเอยี ด ประณตี เรียบรอ้ ย บางสว่ นผลงานมคี วาม ไมม่ ีความเรยี บรอ้ ย เรียบร้อย ถูกต้อง เรยี บร้อยเปน็ บางรายการ

404 ๔๑๖417 บันทกึ ผลหลงั การสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ..................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ลงชื่อ......................................ผูส้ อน (........................................................) วนั ที.่ ........เดือน....................พ.ศ.......... ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.........................................................) วันที่.........เดอื น....................พ.ศ..........

405 ๔๑๗418 รายวหรชิ นาายว่ วกยิชาทราี่ ง๔กาใานเแบรรอผงอ่ืคานางวใชนกอบาีพอาามคหราหรวรจชนาู้าหดัทพี่วรมสักกี่ยร๒ราบัทู้งหรท๘ี่กเัส๔๒่ีรา๒ยี๑รเงเ๘รนรด๑ื่อ๒อื่รา๐งทู้ง๑เรรอ๑ง่ี๑วอ่ื๔าชธิ๐งหภีวีกเ๑าาวิตรารคือ่ธิ รภกีกเงปแราบัวาคยีรผธิกระเนนปีการกทรากยีรอดระี่านบ๒ปกา�รทรอจอร่ีชงะาบดั๒ชกั้นหกอีวอชมาาาิตบน้ัรัธหรอเยมารามรัธยี หยศนามึกรรศษทู้ กึ า่ี ษ๔ปาที ปี่ ีท๑่ี ๑ ความหมาย ประโยชน์ วธิ กี ารทีใ่ ช้ในการประกอบอาหาร การประกอบอาหารที่ดีจะต้องคานึงถึงความสะอาดถูกสุขลักษณะเป็นหัวใจสาคัญ การประกอบอาหาร และองค์ประกอบตั้งแต่ผู้ประกอบอาหาร อุปกรณ์ท่ีใช้ ตารับอาหาร เครื่องปรุงท่ีให้คุณค่า รสกลิ่น และเนื้อ สัมผัสท่ีดี ศิลปะและทักษะในการประกอบอาหาร รูปแบบการเสิร์ฟ รวมทั้งภาชนะในการบรรจุอาหารและ ช่วงเวลาในการเสริ ์ฟ การประกอบอาหารทั่วไปหมายถึงการทาอาหารให้สุก ด้วยความร้อน เพ่ือทาให้อาหารมีคุณสมบัติ เหมาะสมและมีคุณค่าแก่การบริโภค โดยวิธีการต่าง ๆ เช่น การลวกการต้ม การผัด การปิ้งหรือย่าง ก ารเผา การอบ การน่ึง การตุ๋น ฯลฯ อาหารที่สุกจะมีคุณค่าต่อผู้บริโภคมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร นั้น ๆ และวิธีปรุงอาหาร อาหารท่ีปรุงสุกแล้วเม่ือรับประทานเข้าไปแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทาให้ร่างกาย เจรญิ เติบโต ท้ังสุขภาพกายและใจ ภาพการประกอบอาหาร ทม่ี า : อาหารไทย. http://pirun.ku.ac.th/~b4911365/index.html [online] ประโยชน์ของการประกอบอาหารมดี งั นี้ ๑. ทาให้อาหารสกุ สะอาด ปราศจากเชื้อโรค อาหารทสี่ กุ ดว้ ยการปรุงผ่านความร้อนสูง และเปน็ เวลานาน พอสมควรเเปป็น็นทท่ีแี่แนน่ใจ่ใจวว่าา่ เชือ้ โรคและพยาธถิ ูกทาลายไปแล้ว จงึ จะสะอาดเพยี งพอสา�สหารหบั รกบั ากรารรบั รปบั รปะรทะาทนาอนาอหาาหราร ท่ีปลอดภัย ถูกสขุ ลักษณะ ๒. สงวนคุณคา่ ทางโภชนาการของอาหาร ส่วนมากสารอาหารทีม่ ักจะสูญเสยี ไปในขน้ั ตอนการเตรียมและ ประกอบอาหารกค็ ือ วิตามิน โดยเฉพาะวติ ามนิ ทล่ี ะลายในน้า ไดแ้ ก่ วิตามินบแี ละวติ ามินซี ดงั นัน้ ในระหวา่ ง การประกอบอาหารจึงต้องใชเ้ ทคนิควธิ ีตา่ งๆๆ เพ่ือสงวนคุณค่าของอาหารไวใ้ ห้มากท่ีสุด ๓. ทาใหอ้ าหารย่อยง่ายข้ึน เคร่ืองปรุงรสท่ใี ช้ในการประกอบอาหาร และการทาใหอ้ าหารสกุ มีผลต่อความ นุ่มและย่อยงา่ ยของอาหาร

406 ๔๑๘419 ๔. ทาให้สะอาดมีรสชาติและกล่ินดีขึ้น การประกอบอาหารด้วยวิธีต่าง ๆ ทาให้รสชาติและกล่ินของอาหาร เปล่ียนไปในทางทดี่ ขี ้ึนเมือ่ อาหารสกุ จึงทาใหร้ บั ประทานอาหารมากข้ึน ๕. ป้องกันการเน่าเสีย จึงทาให้เก็บอาหารได้นานข้ึนเอนไซม์และแบคทีเรียเป็นตัวการสาคัญท่ีทาให้อาหาร เน่าเสีย ดังนั้น เมื่อต้องการยับยั้งการทางานของเอนไซม์และแบคทีเรีย และทาให้อาหารเก็บได้นานมากขึ้น ก็ กส็สาามมาารรถถททาา� ไไดดโ้ โ้ดดยยกกาารรปประกอบอาหาร วธิ ีการประกอบอาหาร ทัศนีย์ โรจนไพบูลย์ (๒๕๔๒) ได้กล่าวถึงการประกอบอาหารให้สุกด้วยความครวอ้ านมมรีห้อลนามยีหวิธลี าเชย่นวิธี เช่น ลวก ต้ม ทอด ผดั ปง้ิ นง่ึ ตุน๋ ซึง่ แตล่ ะวธิ ี มีจุดมุง่ หมายเดียวกัน ดังนี้ ๑. การลวก เป็นการทาให้อาหารก่ึงสุกก่ึงดิบใช้กับอาหารประเภทผัดเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามิน วิธีการลวก เริ่มต้นด้วยล้างผักให้สะอาดเรียบร้อย ต้มน้าให้เดือดโดยใช้ไฟแรงเติมเกลือเล็กน้อยก็ได้ ใส่ผักในเวลา อันรวดเร็ว จากน้ันตักข้ึน แช่น้าเย็น ๑ - ๒ นาที แล้วตักขึ้นใส่จาน ข้อควรระวังคือการลวกผักให้ปฏิบัติโดย คานึงถึงชนิดของผัก เป็นหลักผกั บางชนิดไม่เหมาะกบั การลวกกใ็ ห้ตม้ ผดั หรือน่งึ แทน ข้อดี เหมาะสาหรบั การประกอบอาหารประเภทผกั เพราะจะชว่ ยสงวนคุณค่าอาหารได้มาก ข้อเสีย วิธีน้ีจะใช้กับผักชนิดที่มีเนื้อแข็งไม่ได้ เช่น ฟัก หัวผักกาด ฟักทอง ดอกกะหลา่ เพราะผักจะ ไม่สกุ ภาพการลวก ทมี่ า : การลวกผักให้นา่ รบั ประทาน. hhttttpp::///ddeekk-d-d.c.coomm/b/booaardrd/v/iveiwew.p.hpph?pid?i=d9=49046700670 [online] ๒. การต้ม เปน็ การทาให้อาหารสุก โดยการตม้ ในนา้ เดือด อาจใส่อาหารแล้วต้มกับน้าจนเดือด หรือใส่ อาหารเมอื่ น้าเดอื ด แลว้ ท้ิงไว้สักครูจ่ นอาหารสกุ ขอ้ ดี การต้มเป็นวิธที ี่เหมาะสาหรบั ใช้เค่ยี วเนอ้ื สตั ว์ใหเ้ ปือ่ ย เช่น การตม้ เครอื่ งในสตั ว์ ข้อเสีย ในขณะที่อาหารแช่อยู่ในน้า สารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบีและซี จะละลาย ออกมากับน้า ทาให้สูญเสียคณุ ค่าของอาหารไป ภาพการตม้ ที่มา : การทาอาหาร. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lucky [online]

407 ๔๑๙420 ๓. การทอด เป็นการทาอาหารให้สุก โดยนาอาหารลงไปทอดในน้ามันร้อน ๆ ซ่ึงการทอดอาหารทุก ทชุกนชดิ นคิดวครทวรอทดอขดา้ ขงห้างนห่ึงนจงึ่นจสนุกสกุ แลแ้วลจว้ งึจกึงลกบัลบัขข้างา้ งจจะะททาา�ใหให้ออ้ าาหหาารร มีสสี นั น่ารับประทานมากย่งิ ขนึ้ ขอ้ ดี การทอดทาให้อาหารมีกล่นิ หอม สสี วยนา่ รบั ประทาน ขอ้ เสยี การทอดทาให้อาหารสญู เสยี วิตามินบางชนดิ ได้ ภาพการทอด ทีม่ า : การทาอาหาร. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lucky [online] ๔. การผัด คือ การทาให้อาหารสุกโดยใช้น้ามันเพียงเล็กน้อย แต่ใช้ความร้อนมาก ไฟแรงโดยนาเน้ือ หรือผักลงผัดในกระทะ ใช้ตะหลิวคนกลบั ไปมาในระยะเวลาสน้ั สๆ้ัน ๆ ถา้ ใชฝ้ าปิดครอบ ขณะผัดจะช่วยรกั ษาคณุ ค่า วติ ามินบางชนิดไวไ้ ด้ ข้อดี อาหารจะมปี ริมาณไขมันนอ้ ยกว่าวิธที อด ข้อเสยี ถา้ ใชเ้ วลาผดั นานเกินไปจะทาให้อาหารมีสไี ม่นา่ รับประทาน และสูญเสียวติ ามนิ บางชนดิ ได้ ภาพการผัด ทม่ี า : การทาอาหาร. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lucky [online] ๕. การปง้ิ ย่าง เผา หรืออบ คือการทาอาหารให้สกุ โดยใชค้ วามร้อนจากเตาไฟโดยตรง การปิ้ง นาอาหารท่ีตอ้ งการทาให้สกุ วางลงบนตะแกรงเหล็ก สาหรบั ปิ้งบน เตาถ่านท่มี ีความร้อนไม่มาก ปิ้งกลับไปมาในช่วงเวลาส้ัน ๆ วิธีน้ีใช้ได้กับอาหารสดและอาหารแห้ง เช่น กล้วยป้ิง ข้าวเกรียบ เน้ือเค็ม ปลาแห้ง หรืออาจใช้เคร่ืองป้ิงไฟฟา้ เช่น เครือ่ งปิ้งขนมปังแทนเตาถา่ น ภาพการป้ิง ทมี่ า : กล้วยปิ้ง. www.suriyothai.ac.th/node/1704 [online]

408 ๔๒๐421 การย่าง มีวิธีคล้ายปิ้ง แต่ใช้เวลานานกว่า เพื่อให้อาหารสุกระอุท่ัวกัน เช่น ยา่ ยงไ่ากง่ไยก่างยห่ามงหู ยม่าูงยป่าลงาปลา สด กอ่ นย่างควรทาน้ามันหรือห่อใบตอง ยา่ งข้างละประมาณ ๒ นาที พลิกไปมา ถา้ ต้องการใหก้ ลนิ่ หอมใหใ้ ส่ ก๒าบนมาะทพีร้าพวลลงิกใไนปเตมาไฟถ้าตอ้ งการให้กลิน่ หอมให้ใสก่ าบมะพร้าวลงในเตาไฟ ภาพการยา่ ง ท่มี า : อาหารจากไก่. wwwwww..nnmmcc.a.acc.t.hth/c/cuultluturere/k/okorarta4t04.p0h.pphp [online] การเผา เป็นการทาให้อาหารสุกโดยใช้ไฟแรง วางของทีจ่ ะเผาลงบนไฟ และพลิกพกลลิกบั กไลปบักไลปบั กมลาบัใหม้ า ให้ สุกท้ังด้านนอกและดา้ นใน เช่น ปลาเผา ก้งุ เผา มันเทศเผา ภาพการเผา ทม่ี า : ปลาเผา. htttpp::////kkaaiyiyaanngg.2.2112c2acfeaf.ceo.cmo/mca/cteagteogryo/r0y//0/ [online] การอบ เป็นการทาให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนจากเตาอบ เช่น การอบไก่ ควรตั้งเตาอบให้ร้อนก่อน ประมาณ ๑๕ นาที จึงเอาไกเ่ ข้าไปอบ แล้วทาน้ามันลงบนเนื้อไก่ท่ีจะอบ ใช้ความร้อนประมาณ ๑๙๐ องศาเซลเซียส ในเวลา ๒๐-๓๐ นาทีหากต้องการให้ไก่แห้งกว่านี้ควรลดไฟ และยืดเวลาออกไปประมาณ ๑๐ นาที ทั้งนี้ควร พจิ ารณาลกั ษณะของไก่ที่อบว่าเปน็ วธิ กี ารอบท้ังตัวหรอื เปน็ ชนิ้ การอบจะสนั้ ลงและลดอุณหภมู ใิ ห้เหมาะสม ข้อดี การปิง้ ยา่ ง เผา หรืออบ เป็นวิธีการประกอบอาหารท่สี งวนคุณค่าไว้ได้มาก ข้อเสยี ถา้ ใช้เวลาในการอบนานเกนิ ไปจะทาใหอ้ าหารแห้งมาก แลดูไมน่ ่ารบั ประทานและเสยี รสชาติ ภาพการอบ ทีม่ า : อาหารจากไก่. www.nnmmcc..aacc.t.thh//ccuultluturere/k/koorarat4t40.0ph.pphp [online]

409 ๔๒๑422 ๖. การนึง่ เปน็ การทาให้อาหารสุกดว้ ยการใส่ไอน้าจากน้าเดอื ด โดยใชห้ ม้อนง่ึ หรอื ลงั ถงึ วิธกี ารน่งึ คือ ใส่น้าลงในหม้อน่ึงลงไปช้ันล่างแล้ววางอาหารบนลังถึงชั้นบนปิดฝาให้สนิท นาไปต้ังไฟ ไอน้าจากน้าเดือดจะทาให้ อาหารสุก ข้อดี การนึ่งจะช่วยสงวนคุณค่าอาหารได้ดีกว่าการต้ม และวิธีการหุงต้มอื่น ๆ เพราะสารอาหารไม่ ละลายไปกับน้า แตค่ วรปิดฝาหมอ้ นึง่ ให้สนทิ ขอ้ เสยี ถา้ ใช้เวลาในการน่ึงนานเกินไป จะทาให้อาหารสูญเสยี คุณค่า ภาพการน่ึง ท่ีมา : ขนมตาล. www.oknation.net/blog/print.php [online] ๗. การตุ๋น คล้ายกับการนึ่งแต่ใชห้ มอ้ ๒ ชัน้ ซ้อนกันหม้อใบนอกใส่นา้ หมอ้ ใบในใส่อาหารท่ีจะตนุ๋ การ นึ่งจะใสภ่ าชนะวางเหนือน้า ส่วนการตนุ๋ จะใส่ภาชนะแลว้ วางลงในนา้ ขอ้ ดี อาหารทีป่ รุงดว้ ยวธิ ีนีจ้ ะสุก นุม่ ปราศจากเชือ้ โรค เหมาะสาหรบั ใหเ้ ด็กทารก ผูส้ ูงอายุและผ้ปู ่วย ข้อเสยี เสียเวลาในการปรงุ นาน ภาพการตุ๋น ทมี่ า : การทาอาหาร. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lucky [online]

410 ๔๒๒423 ภาพการทากิจกรรม

411 ๔๔๒๒๓๓442244 รราารยยาววยหหิชิชวนนิชาา่ว่วากกยยกาาททารร่ี่ีแรงง๔๔ผงาานานนเเรรนกใใออออื่่ืใบบอาาาบงงหรางงชชอองจชนาาีีพพาาาัดนนีพว่ นหหกททยรรทาาราทหหี่่ี รรหี่ร๒๒่ี๒สสัักกเัส๔๒๒ร๘บบัั ยีงงงเกกนร๒๒เเาาเ๒อื่รรรร๑๑รรทู้่ออืื่ง๑ื่อดดอ๑๑งง่ี๑ง๔าาา๐๐๐ววรรวห๑๑เิิธธงง๑ธิารชชีีกกีกร่อื ภภภีีววาากางาารราริติตบัวคคปปคปธิกเเเรรรีกาแแรรระะะรายียียีผผกกกดรนนนนอออป�าทททกกบรบบรี่่ี่ีาางะอ๒ออ๒๒ชรรกาาาจจีวอหชหหชชดดััิตบาั้นาาั้ั้นนกกรอมรรมมาาาัธธธััรรหยเเยยารรมมมรยียีศศศนนกึ ึกึกรรษษษููทท้้ าาา่่ีีป๔๔ปปที ีทีที่ ๑ี่่ี ๑๑ ๑. กาคร�าเชลแี้ือจกงบใรหโิ ภท้ ค�าเอคารหอ่ื างรหใมหา้ถยูกXหลลักงอหนนาา้ มข้อยั ทมีถ่หี ูกลทกั ส่ีในุดการเลอื ก ๖. ข้อใดไม่สมั พนั ธก์ ันเกยี่ วกับวิธกี ารเตรียมอาหาร ๑ยก. เกวาน้ รใเนลอืขก้อบใดริโภคอาหารให้ถกู หลักอนามัยมีหลักในการเลอื ก ๖.กข.อ้ ใลด้าไงมเ่สปมั ็นพกันาธรก์ใชันน้ เกา้ ย่ีทว้ากคับวาวมธิ กีสาะรอเาตดรโียดมยอใชาหม้ าือรถผู วิ ยกกเว. ้นสใะนอขา้อดใแดละถูกหลักสขุ าภบิ าล ก. อลา้าหงาเรป็นการใชน้ า้ ท้าความสะอาดโดยใชม้ ือถผู ิว กข. อสาะหอารดตแ้อลงะสถุกูกแหลละักผสา่ ขุ นาคภวบิ าามลร้อนแลว้ ข. อสางหเาปรน็ กาารใช้มือช้อนอาหารทเ่ี ปน็ ชิน้ หรอื เปน็ ขค. อคาวหรเาลรอื ตก้อซงื้อสอุกาแหลาะรผทา่ ี่มนีรคาวคาามถรกู้อนไแดล้ปว้ รมิ าณมาก ข. ฝสองยเขป้ึนน็ จกาากานรใ้าชเพ้มือ่ ใชหอ้ ส้ นะอเาดหด็ ารท่ีเปน็ ชิ้นหรอื เปน็ คง. ควรเลอื กอซา้ือหอาารหทา่มี รีคทุณมี่ ีรคาา่ คทาาถงูกอาหไดา้ปรสรมิูงาณมาก ค. ฝเดอ็ดยเขปนึ้ ็นจกาากรนใช้าเ้มพดี อื่ หใรหือส้ มะือเดล็ดอกเปลอื กอาหารออกไป ง. ครวารคเาลไอื มกแ่ อพางหารทม่ี ีคุณค่าทางอาหารสงู งค. หเดน่ั ด็ เเปป็น็นกกาารรใชม้ ีดทหา้รใือหม้ออื าลหอากรเขปปาลลดอื อื อกกออกาาหจหาากรรอกออนั อกเกปไปไน็ ป ราคาไมแ่ พง ง. ชหิน้ั่ ตเาปม็นตกอ้ างรกใาชร้มีดท้าให้อาหารขาดออกจากกนั เปน็ ๒. ความสะอาดของอาหารมากนอ้ ยเพยี งใดขนึ้ อยู่กับ ๗. กาชรทน้ิ า้ตอาามหตา้อรงใกหาส้ รุกโดยนา้ อาหารใสห่ ม้อพร้อมกบั นา้ เม่ือ ๒. คอวงคามป์ สระอกาอดบขใอนงขอ้อาตห่อาไรปมนา้ี กยนกอ้เวย้นเพยี งใดข้ึนอยู่กบั ๗จว.นกสาุกรทรนิ้าอนา้ หอาอรกใใหหส้ ้หุกมโดแยลนะา้ ตอ้ังาไหฟาตร่อใสไปห่ จมน้อสพกุร้อหมมกาบั ยนถ้างึ เขม้อื่อใด จวกน.สุกกรานิ รนผดัา้ ออกใหข้ห. มกดาแรลหะงุ ต้ังไฟต่อไปจนสกุ หมายถงึ ข้อใด กอ.งคก์ปารขะนกอสบง่ ในขอ้ ตอ่ ไปนี้ ยขก.เวแน้ หล่งผลติ อาหาร คก. กลากั รษขณนะสขง่ องอาหาร ขง.. แผหู้ปลร่งะผกลอติ บอกาาหราร กค. การผเจัดียว ขง. การทหองุ ด ๓.คก.ารลปกั รษงุ ณอาะหขาอรงดอบิ าใหหาส้รกุ ดว้ ยวงิธ.ีกาผรปู้ ตร่าะงกๆอบทก้าาใหร้ ๘.คก.ารกทา้ารอเจาียหวารเปน็ง.ชนิ้ กฝาอรทยๆอดโดยมอื หนงึ่ จบั อาหารวางบน ๓.อกาาหราปรรมงุ ีสอีาหรสารชดาติบิแใหล้สะกุ ดลิ่้วนยขวอิธงีกอารหตาา่ รงนๆ่ารทับ้าปใรหะ้ ทาน เ๘ข.ียกงาอรีกทมา้ ืออหานห่ึงากรดเปมน็ ดี ชไปิ้นขฝ้าองยหๆนโด้านยมิดหอื หนน่อย่งึ จยับกอขา้ึนหถาๆี่ รเวรา็วงๆบน โอดายหคาา้รนมึงสี ถี งึ รกสาชราสตงิแวนละคกุณลค่ิน่าขทอางงอาาหหาารรนเปา่ ็นรับสปา้ คระญั ทาน หเขมียางยอถีกงึ มขือ้อหใดน่ึงกดมีดไปขา้ งหน้านดิ หนอ่ ยยกขึน้ ถี่ๆเรว็ ๆ หโดมยาคย้าถนึงึงขถอ้ งึ ใกดารสงวนคุณค่าทางอาหารเปน็ ส้าคัญ หมกา.ยถซงึ อขย้อใด ข. บุบ กห.มากยาถรงึ เขตอ้รียใดมอาหาร ข. การประกอบอาหาร คก. การเหตุงรตียม้ มอาหาร ขง. กกาารรปตรกะแกตอ่งบออาหาหาราร กค. ซฝอานย ขง.. บสุบั ๔.ค.กากราทรา้ หองุ าตห้มารให้สกุ โดยวิธีกงา.รตกา่ างรๆตกนัแตเชง่ น่อหาหุงาร ค. ฝาน ง. สับ ๔. กตา้มรทป้างิ้อายห่างรใหนส้่งึ ุกหโมดยายวถิธกีึงขา้อรตใด่าง ๆกนั เช่นหงุ ๙. การท้าอาหารให้สุกโดยนา้ อาหารใส่หม้อพร้อมกับนา้ ก.ต้มกาปรเิง้ ตรยีย่ามงอานห่ึงารหมายขถ. ึงกขา้อรใหดุงตม้ ๙. กแาลร้วทต้า้ังอไาฟหใาหร้เใดหือส้ ดุกโดยนา้ อาหารใสห่ ม้อพร้อมกบั นา้ กค. การเปตรระียกมออบาหาร งข.. กกาารรปหรงุ ุงต้ม ก.แลกว้ าตรงั้ลไวฟกใหเ้ ดอื ดข. การรวน ๕.คก.ารกทาา้รอปารหะากรอใบห้สุกพร้องม.ที่จกะารบปรริโภงุ คหมายถึงข้อใด คก. การลตวม้ ก ขง. การรตวุน๋ น ๕.กก.ารกทา้ารอเตารหียามรอใหาส้หุการพร้อมข.ที่จกะาบรรหิโุงภตคม้ หมายถึงข้อใด ๑๐ค..กการาทรตา้ อ้มาหารที่องม. นกา้ าใรหต้แนุ๋ หง้ โดยแยกนา้ กับอาหารเป็นคน คก. การเปตรระยี กมออบาหาร งข.. กกาารรปหรุงุงตม้ ๑ละ๐ส.่วกนาใรชท้มา้ อื อกาา้หอาารหทาี่อรมบนบี ้าใใหหแ้ ้แนห่นง้ เโพดอื่ยทแย้าใกหนน้ ้า้ากใบั นออาาหหาารรเไปหน็ ลคน ค. การประกอบ ง. การปรงุ อละอสก่วมนาหใชม้มาือยกถ้าึงอขา้อหใดารบีบให้แน่นเพือ่ ท้าให้น้าในอาหารไหล ออกก.มาคห้นั มายถึงขอ้ ขใ.ด โขลก คก. คบ้ันุบ ขง.. โสขงลก ค. บบุ ง. สง

๔๒๔41225 ๔๒๔425 รราารยยาวยวหหิชิชวนนาาิช่ว่วากยกยาทาทกรร่ีาี่งแ๔ง๔ราเาผเงฉนฉนเเนเารฉลรอลอนกอ่ืยลือ่ายาอางใยงชใชหรอาบอบีพพีจชานใงางบัดหาพีหว่ารรนงกานยหาหารราทรททัสสันหกรก่ีี่่ีเท๒ับัส๔ง๒ับงร่ีก๒ียก๒๒๒ง๒เานรา๑๘๑ร๒่ือรรเเด๑รด๑ูท้ง๑รา่ืออ๐เาอ่ืี่๐๑รร๔งราง๑่ือ๐๑งงหวชงวชเ๑าภรธิภวีิธวีรว่อืีกาิตีกาภติกิธงคาคาาบัีกวรเรเคแรแปาธิกรปเียผรีกยีผารรรนนปรานนะยีะดรทกรกนทกกปะ�าาี่อาท่ีอ๒กรรร๒รบบี่งจอะจ๒อชชอกดัชบัดา้ันวีาอกั้นชอกหหิตมบา้ันมาาาารธัหอรธัมรรเยเยาารธัรมหรมยียียศานศมนกึรึกรศรษูท้ษึกู้ทาี่ษา่ี ๔ป๔ปาีทปีที่ีที่ ๑๑ี่ ๑ ๑. คกา�าชรเี้แลจืองกใบหร้ทโิ า�ภเคครออื่างหหามรใาหย้ถXกู หลงลหกั นอ้านขาอ้ มทัยีถ่ มูกีหทลี่สกั ุดในการ ๖. ข้อใดไม่สมั พนั ธ์กันเกย่ี วกับวธิ ีการเตรยี มอาหาร เ๑ล.อื กายรกเเลวือน้ กใบนรขโิ ้อภใคดอาหารให้ถกู หลกั อนามยั มีหลักในการ ๖.กข. อ้ ลใดา้ ไงมเ่สปัม็นพกันารธใก์ ชันน้ เ้ากที่ย้าวคกวับาวมิธสีกะาอรเาตดรโยีดมยอใชาม้หือารถูผิวอาหาร เลกือ.กยสกะเอวา้นดใแนลขะ้อถใดูกหลกั สุขาภบิ าล ขก.. สลงา้ งเปเปน็ ็นกากราใรชใม้ชอืน้ ชา้ ท้อน้าคอวาาหมาสระทอ่ีเปาด็นโชดนิ้ ยหใชรอืม้ เือปถ็นผู วิ อาหาร ขก.. อสาะหอารดตแ้อลงะสถุกูกแหลละกัผส่าุขนาคภวบิามาลร้อนแล้ว ข. ฝสองยเขปึ้น็นจกาากรนใชา้ เม้ พอื ือ่ ชใ้อหนส้ อะาเดห็ดารทีเ่ ป็นชิ้นหรอื เป็น คข. คอวารหเาลรือตก้อซง้อื สอกุ าแหลาะรผท่า่ีมนีรคาวคาามถรูก้อนไแดล้ปว้ ริมาณมาก ค. ฝเดอ็ดยเขปน้ึ น็ จกาากรนใช้า้มเพดี ่อืหใรหือส้ มะือเดลด็อกเปลือกอาหารออกไป งค.. คคววรรเเลลอื ือกกอซาื้อหอาารหทา่มี รีคทณุ ีม่ คีรา่ คทาถงอกู าหไดาร้ปสรูงิมาณมาก งค.. หเด่นั ด็ เเปเปปน็ น็ ็นกกกาาารรรใใใชช้ม้มีดดี ทหา้ รใือหม้อือาลหอากรเขปาลดืออกกอออกาาจหหาาากรรกออนัออเกปกไไปน็ ป ง. ครวาครเาลไือมก่แอพางหารที่มีคุณค่าทางอาหารสงู ง. ชหิ้น่ันตเาปม็นตก้อางรกใาชร้มีดท้าให้อาหารขาดออกจากกันเปน็ ๒. ควารมาสคะาอไามด่แขพองงอาหารมากน้อยเพียงใดขึน้ อยู่กับ ๗. การชทิ้น้าตอาามหตาอ้ รงใกหาส้ รุกโดยนา้ อาหารใส่หม้อพร้อมกับนา้ เม่ือจวนสกุ ๒. อคงวคา์ปมรสะกออาดบขในอขงอ้ าตหอ่ าไปรมนาี้ กยนกเอ้ วย้นเพียงใดข้นึ อยู่กบั ร๗ิน.นกา้ าอรอทกา้ ใอหาห้ มาดรใแหล้สะุกตโัง้ ดไยฟนตา้่ออไาปหจานรสใกุสห่ หมม้อาพยรถ้องึ มขก้อบัใดน้าเม่ือจวนสกุ กอ. งกคา์ปรรขะนกสอ่งบในขอ้ ต่อไปนี้ ยขก.เวแน้ หล่งผลิตอาหาร รินกน.า้ อกอารกผใหัดห้ มดแขล.ะตกงั้ าไรฟหตุง่อไปจนสกุ หมายถงึ ข้อใด คก. ลกักาษรขณนะสขง่ องอาหาร ขง.. แผหู้ปลร่งะผกลอิตบอกาาหราร คก. การเผจัดยี ว งข.. กกาารรทหองุ ด ๓. คก.ารลปกั รษุงอณาะหขาอรงดอบิ าใหหา้สรุกดว้ ยวิธงกี. าผรู้ปต่ารงะกๆอทบ้ากใาหร้ ๘. คก.ารกทาา้ รอเจาหยี วารเปน็ งช. ้ินกฝาอรยทๆอโดดยมือหนง่ึ จบั อาหารวางบนเขียงอีก ๓.อกาาหราปรรมงุ สี อี ารหสาชราดตบิ แิ ใลหะ้สกุ ลด่ิน้วขยอวิธงอกี าหรตาา่รงน่าๆรบัทปา้ ใรหะ้ทาน ม๘อื .หกนารง่ึ กทดา้ อมาดี หไปารขเา้ ปงน็หชนิ้นา้ ฝนอดิ ยหๆนโอ่ ดยยยมกือขหนึ้ นถ่ึง่ๆีจเับรอว็ ๆาหาหรมวายงถบึงนขเ้อขใียดงอีก โอดายหคาา้ รนมงึ ีสถี งึ รกสาชรสาตงวแิ นลคะุณกลคิ่น่าขทอางอาหารนเปา่ ็นรสบั ้าปครัญะทาน มอื กห. นซงึ่ อกยดมดี ไปขข้า.งหบนุบา้ นิดหนอ่ ยยกขน้ึ ถ่ๆี เรว็ ๆ หมายถึงขอ้ ใด หโดมยาคยา้ถนงึ ขึงถอ้ ึงใกดารสงวนคุณค่าทางอาหารเป็นสา้ คัญ คก. ฝซาอนย ขง. บสับุ กห.มากยาถรึงเตขรอ้ ยี ใมดอาหาร ข. การประกอบอาหาร ค. ฝาน ง. สับ คก. การหเตุงรตีย้มมอาหาร งข.. การปตรกะแกตอ่งบอาอหาหาราร ๔. คก. ากรทาร้าหอุงาตหม้ารใหส้ ุกโดยวิธกี งา.รตก่างารๆตกกันแเตช่งนอหางุหาร ๙. การท้าอาหารให้สุกโดยน้าอาหารใสห่ ม้อพร้อมกับน้า ๔. ตก้มารทปา้ ง้ิ อายหา่ างรในหงึ่้สกุหโมดายยวถิธงึกี ขา้อรใตดา่ ง ๆกันเช่นหุง แ๙ล.ว้ กตางั้ รไทฟา้ใอหา้เดหอืาดรใหส้ ุกโดยนา้ อาหารใสห่ ม้อพร้อมกบั นา้ ก.ตม้การปเ้งิตรยี า่มงอานหึ่งารหมาขย.ถึงกขา้อรใหดุงต้ม แลก้ว.ตง้ักไาฟรใลหว้เกดอื ด ข. การรวน คก. การปเตรระียกมออบาหาร งข.. กกาารรปหรงุ ตม้ คก. การตลม้วก ขง. การตรวนุ๋ น ๕. คก.ารกทา้ารอปารหะากรอใหบ้สุกพร้อมง.ทจ่ี กะาบรปรโิรภงุ คหมายถึงข้อใด ๑๐ค..กากราทรา้ตอ้มาหารที่องม.นกา้ ใาหรต้แนุ๋ห้งโดยแยกน้ากบั อาหารเป็นคนละ ๕.กก. ารกทาร้าเอตารหยี ามรอใหาห้สาุกรพร้อขม.ท่จีกะาบรหริโงุ ภตคม้ หมายถึงข้อใด ส๑่ว๐น.ใกชา้มรอื ทกา้ า้ ออาาหหาารรทบ่ีอีบมใหน้แาในห่น้แเหพ้งอื่ โทด้ายใแหย้นก้านใน้ากอับาหอาหรไาหรลเปอน็อคกนมลาะ คก. การปเตรระยีกมออบาหาร งข.. กกาารรปหรุงต้ม หสม่วนายใชถ้มงึ ขือ้อกใ้าดอาหารบีบให้แน่นเพือ่ ท้าใหน้ ้าในอาหารไหลออกมา ค. การประกอบ ง. การปรงุ หมกา.ยถคึงัน้ ข้อใด ข. โขลก คก. บคบุั้น ขง. โสขงลก ค. บบุ ง. สง

๔๒๕ แบบบันทึกการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของผเู้ รียนด้านความรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๔ เร่ือง วิธีการประกอบอาหาร รายวิชา การงานอาชีพ รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ รายการประเมิน ระดบั สรุปผล การตอบคาถามจากใบงานเรื่องวธิ กี ารประกอบอาหาร คะแนนรวม คณุ ภาพ ผ่าน ไมผ่ ่าน เลขท่ี ชื่อ - สกลุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๐ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคุณภาพด้านความรู้ ดงั นี้ ต่ากว่า ๕ คะแนน ระดับ ๑ ปรบั ปรงุ ๘-๑๐ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๗-๘ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ขึ้นไป ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 413 426

๔๒๖ แบบบันทกึ การสังเกตพฤติกรรมผู้เรยี นด้านทักษะกระบวนการ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรอ่ื ง วธิ ีการประกอบอาหาร รายวชิ า การงานอาชพี รหัส ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ รายการประเมนิ สรปุ ผล ทักษะการคิด ทกั ษะ คะแนน ระดับ เลขที่ ชื่อ - สกลุ ทกั ษะการ วเิ คราะห์ กระบวนการ ทกั ษะการ รวม คุณภาพ ผา่ น ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานร่วมกนั นาเสนองาน ผ่าน ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๑๑ – ๙ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๘ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ขึ้นไป ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( …………………………………………….) 414 427

๔๒๗ แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รยี นด้านคณุ ลักษณะ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง วิธีการประกอบอาหาร รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วชิ า รหสั ง2110๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 รายการประเมนิ มงุ่ ม่ันในการ คะแนน ระดับ สรปุ ผล ใฝ่เรยี นรู้ ทางาน รวม คณุ ภาพ ไม่ เลขที่ ชอ่ื - สกลุ มวี ินัย ผา่ น ผ่าน ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผ่านระดบั ๒ ขึ้นไป ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 415 428

๔๒๘ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ อาหารกบั การดารงชีวติ เรอื่ ง อาหารจานเดียว กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ อาหารจานเดียว ขัน้ นา อนิ เทอรเ์ นต็ ท่เี กีย่ วขอ้ งกับการประกอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรียนดภู าพอาหารเดยี ว เช่น ภาพขา้ วมันไก่ ภาพ อาหาร ดา้ นความรู้ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ภาพข้าวผัด เป็นตน้ ๑. บอกความหมาย และประโยชน์ ของอาหาร ๒. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สนทนาเก่ียวภาพอาหารจานเดียว สอ่ื จานเดียวได้ ใชค้ าถามกระตุ้นดังนี้ ๑. ภาพอาหารจานเดียว เช่น ๒. จาแนกประเภทของอาหารจานเดียวได้ - ภาพอาหารท่ีนักเรียนดเู ปน็ อาหารชนิดใด ภาพข้าวมนั ไก่ ภาพกว๋ ยเตย๋ี วราดหน้า ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ - นิยมรบั ประทานม้ือใดในระหวา่ งวัน เพราะเหตใุ ด ภาพขา้ วผัด ฯลฯ ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ - จากภาพนักเรียนชอบรบั ประทานอาหารชนดิ ใดมากที่สุด ๒. ใบความรทู้ ่ี ๒๙ เร่อื ง อาหารจาน ๒. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ใช้วสั ดอุ ะไรบ้างเปน็ ส่วนประกอบ เดยี ว ๓. ทกั ษะการทางานรว่ มกัน ๓. ครชู แี้ จงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ ภาระงาน/ช้ินงาน ๔. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน ขน้ั สอน ๑. แผนท่ีความคิด ดา้ นคณุ ลักษณะ ๔. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น ๔ กลมุ่ เลือกประธานแบ่ง ๒. นาเสนอผลงาน ๑.มีวนิ ยั หน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบ ๒.ใฝ่เรียนรู้ ๕. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาใบความรู้ท่ี ๒๙ เร่อื ง อาหารจานเดียว ๓.มุ่งมนั่ ในการทางาน หลงั จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจบั สลากชื่ออาหารจานเดียว ๑ อยา่ ง ดงั น้ี ๑. ขา้ วผัด ๒. กว๋ ยเตยี๋ วเย็นตาโฟ ๓. ข้าวมันไก่ ๔. กว๋ ยเตีย๋ วผัดไทย 416 429

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๕ ๔๒๙ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ อาหารกบั การดารงชีวติ เรื่อง อาหารจานเดยี ว เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ แลว้ รว่ มกนั วางแผนประกอบอาหารจานเดียวตามหลักการ และขั้นตอนที่ถูกต้อง ๖.นักเรียนรว่ มกนั สนทนาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ วา่ การ วางแผนประกอบอาหารจานเดยี วของแต่ละกลุ่มถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไมถ่ ูกตอ้ งเหมาะสมควรปรบั เปล่ยี น อยา่ งไร ๗. ตัวแทนนาเสนอผลงานในรปู แบบแผนทค่ี วามคดิ หนา้ ช้ัน เรียน ข้ันสรปุ ๘. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรุปองค์ความรู้เก่ียวกบั อาหารจานเดยี ว ๙.ครมู อบหมายงานให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ เลือกอาหารจาน เดียวประเภทข้าวผัดมา ๑ อย่าง และศึกษาความรู้จากแหล่ง เรยี นรูต้ า่ งๆและร่วมกันวางแผน เตรยี มวสั ดแุ ละเครือ่ งปรุง มาปฏิบตั งิ านในช่ัวโมงต่อไป 417 430

418 ๔๓๐431 การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครอื่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ส่งิ ทตี่ ้องการวัด/ประเมนิ -การนาเสนอแผนที่ -แบบประเมนิ แผนท่ี คะแนนร้อยละ ๕๐ ข้ึนไป ด้านความรู้ ความคดิ การวางแผน ความคิด ผ่านเกณฑ์ อ๑า.อหาหรจาารนจาเดนยี เดวยี ว ประกอบอาหารจานเดียว ด้านทกั ษะและกระบวนการ ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั พฤตกิ รรมท่ี ๒. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทักษะการแสวงหา ทกั ษะการแสวงหาความรู้ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๓. ทักษะการทางานรว่ มกัน ความรู้ ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ เกณฑ์ rubric ๔. ทักษะการนาเสนอผลงาน ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะกระบวนการ การผ่านอย่ใู นระดับ ทักษะการทางานร่วมกัน ทางานรว่ มกนั และทักษะ คุณภาพ “พอใช้” และทักษะการนาเสนอ การนาเสนอผลงาน ข้นึ ไป ผลงาน ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมการมี แบบสังเกตการมีวนิ ยั ระดับพฤติกรรมท่ี 1. มวี นิ ยั วนิ ัยใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มัน่ ใน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการ แสดงออก ๔ ระดบั โดยใช้ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ การทางาน ทางาน เกณฑ์ rubric ๓. มงุ่ มน่ั ในการทางาน การผา่ นอยูใ่ นระดับ คณุ ภาพ “พอใช้” ขึน้ ไป

419 ๔๓๑432 เกณฑก์ ารประเมินผลช้นิ งานหรอื ภาระงาน ระดับคุณภาพ ประเด็น การประเมนิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง) เกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ ๑. Mind Mapping เขียนแผนท่ีความคิดที่ เขียนแผนทีค่ วามคดิ ท่ี เขียนแผนทคี่ วามคิดท่ี เขียนแผนทีค่ วามคดิ ท่ี อาหารจานเดยี ว แสดงความคดิ รวบยอด แสดงความคิดรวบยอด แสดงความคดิ รวบยอด แสดงความคิดรวบยอด หลกั ถูกต้องตรงประเด็น หลกั ถกู ต้อง ขยาย หลักถูกต้อง ขยาย หลักไม่ตรงประเด็น ขยายความคิดย่อยได้ ความคิดย่อยได้ถูกต้อง ความคดิ ย่อยได้ถูกต้อง ขยายความคิดยอ่ ยได้ ถกู ต้อง ครบทุกประเด็น แต่ไม่ครบทุกประเด็น มี มจี านวนน้อยประเดน็ ไม่ถูกตอ้ ง เชอื่ มโยงความคิดรวบ จานวนมากประเด็น เชื่อมโยงความคิดรวบ ไมเ่ ช่ือมโยงความคิด ยอดหลกั ความคดิ รอง เชือ่ มโยงความคิดรวบ ยอดหลกั ความคิด รวบยอดหลกั ความคิดย่อยได้ชัดเจน ยอดหลัก ความคิดรอง รองความคิดยอ่ ย ความคิดรองความคดิ มีสีสวยงาม ประณีต ความคิดย่อยได้ มีสีสวยงาม ย่อย มีสีไม่สวยงาม แยกประเดน็ หลกั ประเดน็ มีสีสวยงาม แยก ไม่สามารถแยก ไม่สามารถแยก รอง ประเดน็ ย่อยได้ ประเดน็ หลกั ประเดน็ ประเดน็ หลัก ประเด็น ประเด็นหลัก ประเด็น ชดั เจน รอง ประเดน็ ย่อยได้ รอง ประเดน็ ย่อย รอง ประเด็นย่อย เกณฑ์ประเมินด้านทักษะและกระบวนการ ๒.ทกั ษะการแสวงหา เขยี นสรุปสาระสาคัญได้ เขยี นสรปุ สาระสาคัญได้ เขยี นสรปุ สาระสาคญั เขยี นสรปุ สาระสาคัญ ความรู้ /การเขยี นสรปุ ครบและตรงประเดน็ ครบและตรงประเด็น ไดต้ รงประเดน็ สาระสาคัญ ไดไ้ ม่ตรงประเดน็ เขียนมเี หตุผลประกอบ เขียนมเี หตผุ ลประกอบ เขียนมเี หตผุ ลประกอบ ใชภ้ าษาในการเขียนไม่ อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม เขยี นถูกบ้าง ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ใชภ้ าษาในการเขยี นได้ ใช้ภาษาในการเขยี นได้ ผิดบา้ งเปน็ บางคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขยี นคา เหมาะสม เขยี นถกู เปน็ ถูกต้อง ลายมือสวย อ่าน ถกู ต้อง ส่วนใหญ่ ง่าย มคี วามคิดสร้างสรรค์ ๓. ทักษะการคิด วิเคราะหข์ น้ั ตอน วเิ คราะห์ขน้ั ตอน วเิ คราะห์ขน้ั ตอน วเิ คราะห์ขั้นตอน วเิ คราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางานท่ี กระบวนการทางานที่ กระบวนการทางานที่ ทเ่ี ลือกไดถ้ ูกต้อง เลอื กไดถ้ ูกตอ้ งและ เลือกได้ถกู ต้อง เลอื กไมไ่ ด้ และครบถว้ น ตาม ครบถว้ น ขน้ั ตอน ๔. ทักษะกระบวนการ รู้จักบทบาทหน้าทีภ่ ายใน ร้จู กั บทบาทหน้าที่ รจู้ กั บทบาทหนา้ ท่ี ร้จู กั บทบาทหน้าที่ ทางานร่วมกัน กลุม่ ปฏิบัติตามบทบาท ภายในกลมุ่ ปฏบิ ัตติ าม ภายในกลุม่ ปฏิบตั ิ ภายในกลุม่ ปฏิบตั ิ

เช่ือมโยงความคิดรวบ จานวนมากประเดน็ เช่ือมโยงความคิดรวบ ไมเ่ ช่อื มโยงความคดิ ยอดหลกั ความคิดรอง เชอ่ื มโยงความคิดรวบ ยอดหลัก ความคดิ รคววบามยคอิดดรห๔อลง๓กั ค๑ว4า34ม2คิด0 ความคดิ ย่อยไดช้ ดั เจน ยอดหลัก ความคิดรอง รองความคิดยอ่ ย มีสีสวยงาม ประณตี ความคิดย่อยได้ มีสสี วยงาม ไยมอ่ ่สยามมาีสรไี มถ๔แ่ส๓ยว๒ยก4ง3าม3 เกณฑก์ ารประเมินแผยลกชป้ินระงเาดนน็ หหรลือกั ภปารระะเงดาน็ น มีสสี วยงาม แยก ไม่สามารถแยก ประเด็น รอง ประเดน็ ย่อยได้ ประเด็นหลกั ประรเดะดน็ บั คุณภปารพะเดน็ หลัก ประเด็น ตรปอารมงะบเปด๑ทรน็ บะ(หปเาดล๔รทน็กัับ๓ไยปด๒4่อป้รยุง3ร)ะ3เดน็ การประเมนิ ชไดดั เ้ เหจมนาะ๔ส(มดทีมุกาคกน) มีการ บรอทงบปาทระไดเ๓ด้เห็น(มดยาี)่อะยสไดม้เป็น รตอามง บปทร๒บะเ(าดพทน็อไยดใช่อ้ )้ย ทางานเป็นทีมท่ดี ี เกณฑป์ รเกะสเณมว่ ฑินน์ปดให้ารนญะเท่มมักนิ ีกษดาะา้รแนทลคาะงวกาานรมะรบู้ วนเกหามราะสมเปน็ บางครง้ั รับผิดชอบร่วมกันได้ ๑๒.ทMักiษnะdกาMรแaสpวpงinหgา เไรขดับยีเ้ ผหนิดมสแชาผรอะุปนบสสทมราี่ควทรวมะุกากสคมันานคคเดิ มัญปทีกน็ไ่ีดาผร้ ู้ บเปขทียน็ บนทาสแมี ทผรทไุปนดี่ สท้เรี หาค่ีับรมวผะาดิสะมชาสคคอมดิ ญับเทปไ่ีดน็ ้ เตรขับายี มผนบิดแสชทผรอบปุนบาสททราี่ควไรวมดะา้กสมนั าคคิดญั ที่ เตขปาียน็มนบสแาทผรงบปุคนารสททงั้า่ีคไรวดะา้ สมาคคดิ ญั ที่ อคาวหามารจู้ /ากนาเรดเียขวียนสรุป คแทพสราูดบงดแาแงลนคละเวะผปาตู้ฟน็มรงัทคงทีมปิดด่ี ทรีวะี่ดมบเีดย็นอด สรแค่วสรมบนดกใแงหันคลญวะเาตป่ มร็นคกีงผปิดาู้พรูดทวะบแเาดงลยน็าะอนด แเไหปดสม็นต้ ดราผงงะ้พูคปสวดู รมาแะเมลปเคดะ็นดิน็ผบรู้ฟาวังบทคย่ดีรอั้งี ด ไแรดมบัสไ้ค่ ผดม่อดิงต่ ยคชรมวองาีคปบมณุ รคะ่วธดิมเรดรกรน็วมนั บใไนยดอ้ ด สาระสาคัญ เหรคขบัณุลยี ผักธนดิถรมชกูรเี อมตหบใ้อตนรงุผกตว่ ลามรปรงกรทปันะารกงะเปาอเดน็บ็นผู้ เผหปขฟู้ลยีน็ กังนทถมีมดู่กีเทีตหมี่ด้อตีครีงผุ ณุบั ลขผธปยรดิ รารชะยมอกใบอนบ หรมเขบัีคลยี ผณุกั นิดถธมชกูรีเอตหรบม้อตใรงุผนว่ ลขมกปยากรานั ะยกอบ กใเหปชาล้ภน็รกั ทบาไษมางาต่ าคใรนรงกง้ัปารระเเขดีย็นนไม่ ประเดน็ อขพยูดา่แยงลเคหะวผมาู้ฟามะงั คสทิดม่ดี ยี อ่มยี ได้ รกคอว่ยามรา่ ทมกงเันคาหงิดมาเยปนา่อ็นะยสผไมพู้ดูด้ถแูกลตะ้อง คเทอปยวา็นาง่ ามผงนเ้พูคหดิู มยแา่อละยะสไผมดู้ฟ้ถังกู ทตีด่ ้อี ง เไขหมยมค่ า่าอยะยคสมวมาีคมณุ เคขธียิดรนยร่อถมยูกในไบด้า้ ง การประเมิน ใถคชูกณุ ภ้ ตธา้อรษรงาะมคใดในรนบั บกกคาทาุณรุกรเภทขปาียรพงะนาเไดนดน็ ้ ผแใชต้ฟู ้ภ่ไังมาทษ่คด่ี ารี ใบมนีทคกณุกาปรธรเขะรียมเดนใน็ ได้ มี มใชจีค้ภาณุ านธษวรานรในมอ้ใกนยากปราเรขระียเดน็นได้ ผไกมดิา่ถรบูกท้าตางงอ้เปางน็ บางคา เหช่ือมมาะโยสง๔มควเ(ดขายีมนาคกคิด)ารวบ จกเหามนรทาวะนาสงมามาน๓กเขป(ยีดรน)ีะเคดา็น เทชหา่อืมงมาะนโยส๒งมค(พวเขาอียมใชนค้)ถิดกูรวเปบน็ ไมเ่ ช่ือ๑ม(โปยรงคบั วปารมงุ ค) ิด ประเดน็ ถยอกู ตด้หอรงละกัลดาบั ยคคมวุณาอื มสภควาดิยพรออ่างน เกเถณชูกอ่ืฑตมป์้อโรงยะงเคมวนิ าดม้าคนิดทรกัวษบะและยสกอ่วรนะดบใหหวลญนักก่ าครวามคิด รวบยอดหลัก ๕. ทกั กษาะรปการระนเมาินเสนอ เคงน่าวยอ้ื าหมมาคีคกดิ ว๔ายาร่อม(นดยคามีไิดเดาสสช้กนรดั)อา้ เงจสนรรค์ ยเนอ้อื ดหหาลกกั าร๓นค(วาดเา)ีสมนคอดิ รอง เรนออ้ืงคหวา๒ากมา(ครพนดิ อายใเอ่ชสย้)นอ เคนว้ือาหม๑าคกิด(าปรรอรนบังาคปเวสรานุงม)อคไดิม่ ๓ผล. งทากั นษะการคิด วคมเิรีสคอสี รบวายคะงลหาุมข์ มทน้ั ปุกตปรอะนรณะเีตด็น เกวคณิเรวคฑอารม์ปบาคระะดิลหเยุม์ข่อทนั้ิ ยกุตดไปอ้าดนร้ ะทเกัดษ็นะและควกมเิรคีสอะรสีบาววคะยนลหงกุม์ขาามท้นั รกุตปอนระเด็น คยวเิอ่รคอยรบามคะสี ลหไี ุมข์ ทนั้ส่ กุตวยอไงนมา่ ม ว๕ิเ.คทรากั ะษหะ์การนาเสนอ แกทนถคเเนนคบนบถคนรชรกแขขนอจู้ลยกููกนั้ดัรลารร่าา่าาคุคุ่ีเียอื้ลักะถงอบเเเเเกะตต่มุตลลสสชสชนจหอืบบาบคปแ้้อออิิกกปอื่ือ่นนนสปมกาวรทลคงงรนภภรถถอออกรไไฏนบตตะะลบะาาดดปุืออืไไไาาิบเกถตุมเพพาดดดถ้ท้รดสดมมา้วรัตทใใท้้เเ้เนดดูก็ุกาน็ชชหหรหหนงติหุกีีตารปหปท้ค้คยลลตตมมมาเปะน้อตรลราาา่สอัักกมออาาาสรา้งาะพพงะักนยะะววบบบาะทามเเปููสสสดดิชชิไอดดคขขทเนเ่ีภดดมมมาากรน็น็้้ออัญบ้ากกะ็นตณยาไาาเรดดทฑใรรงน้น็ป์ ระครเปตนนคเถกภเมปรคนนตเถเหขนลมจ้อูกููกรออรรรสีาา่าา่รายีอื้ือมนิกัะงบบอเเเเยะะตตบีสสชชสนกหาบบดบเเใแถ้้ออวขขปดด่อ่อนนืืะไนสาา้วยทล้วคงง้้ออดรส็น็นถถออกรกนนตตนงะลบคคะ้ถมุปืออืหไไาลทากตุมเนาาาดดูกรตมสดมลุ่มารักทถถใใทตาเ้เ้นราน็ชชักหหรหงษาาเแหุกอ้ปางรปทส้คค้ปยลลมมมมยะเเปะงนฏนรวาาา่สอรัักกไไาาแแกสรา้ดดพพิบงะละอนยะะววลลาะทาเ้้ททาเัตููสสดดไิิชชไอดคะะดเนี่ดดทดุุติกกมมาาก็นญั็นท้้ี่กกน็าร่ีไมาาะดรรบ้ วนรรภถปปปเกวคไถตตเวเกไกนหลขมดอจู้ชิชิููกการอรรราาียอืือ้มต้ส่กัหะงอาายะะะตตบบรนกหารากกบบบเเเใน้้ออขขปดดดมงะไนสาาาวทคงงด้้ออดปรสน็็นน็รรากรกนตตลบคคะถ้รรมปุหาลากนนุมเนาาาูกถะรตสดมมุลม่าทถถ่า่าทเตาแนรา็นักหหรดเเาาเหยุก้อปางรชชสสทย็นลลมมเเกปะงนฏ่ืออ่ืนนวา่สอััปกกไไสร้าถถดดบิงลออนยราะทาออืืท้ท้าัตไไะอคเน่ีดดทดุุิกกเญัทด้้่ี็น็นี่ ควถเปไกเนลมชิูกรรอืือ้ส่ะอาะตกหากบบเ้อดมไาาวคงมน็รากนตล่ไรหาดกุมถรตมล้าทแนอักหรยกุาบทลเกขาสไัปกมงอ้นรา่ ะอนเไทดมน็ี่่ ผลงาน เคขวาลียถานาทมก่ี ีเไหดาหต้ทนผุกลดปปรระะเดกน็ อบ เกปขารียหะนเนดมดน็ีเหนตาผุ เลสปนรอะไกดอ้ บ เหขยีมนาะมสเี หมตุผรลงเปวรละากทอี่ บ คถรอกูาถงตา้อปมงรไตะดาเ้ไดมมน็ห่คยลร่อักบยทกุ วปปคตเภรไขดจู้ชิรารรายีไ้ักถงายะะมนเกบาเเใวต่ดดนสมาทลร็็นนรรกไาบงดปุลทปนนา้ไตสุม่ ก่ีทมราาอาะาเเค่หปรบสสหเระนฏดนนขบนส้าน็บิ้ออดทาทตัไไคุก่ีดดิ ัญ้้ไไมม่่ คท๔๒วา..ทางทามักกั นษรษู้ระ/ะ่วกกมกาารกรระนัแเขบสียววนนงหสกราาปุร ตใชรภ้ งเาวษลาาใทน่ีกกาาหรนเขดียนไม่ สาระสาคัญ อนยาเา่ สงนเหอมไดาะเ้ หสมาะสมตรงเกณฑอเหยป์ มา่ รางะะเเหสมมินาตดะร้าสงนมเควลุณาลทัก่ี ษณะ กอยาห่างนเดหมาะสม เหมาะสม เขียนถูกบ้าง ๖. มวี นิ ยั ปใเวชฏลภ้ ิบาาทตัษก่ีิตาาในหมกนฎาดรรเะขเียบนยี ไบด้ ปใกชาฏภ้หิบานตัษดติ าาในมกฎารรเะขเียบนยี ไบด้ ปใชฏ้ภบิ าตัษิตาาในมกฎารรเะขเยีบนียไบด้ ผไมิดค่ บ่อ้ายงปเปฏน็ บิ บตั าิตงาคมา เกหตมกิ าาะขสอมงเโขรียงเนรคยี าน ของเกณฑกเหต์ปมกิราาะะเขสมอมินงดเโขา้รนียงเนครคุณยี านลักขษอณง ะ กเหตมิกาาะขสอมงเโขรียงเนรถยี กูนเป็น กฎระเบียบ กติกา ของ ถปหกูอ้ฏตงบิ เ้อัตรงยีิตนลามาขยกอมฎงือรกสะลเวมุ่บยียดอบว้ ่ายน หถปูกอ้ฏตงิบเ้อตัรงยีติ นามขกอฎงรกะลเุ่มบยี บไม่ ขปสอว่ฏนงบิ หใตัห้อติ ญงาเ่รมยีกนฎรขะอเงบียบ โไรมง่คเ่อรียนปฏขบิ อตังหิตาอ้ มงเรียน ๖. มวี นิ ัย คกงา่ตวยากิ มามเคีตขว็มอาใงมจโรคไงิดมเรส่กียร่อน้ากงวสขนรอรงค์ ก่ตอกิ าวนขสอรง้าโงรคงเวราียมน ของ กลตุ่มิกา ไขดอเ้ ปงโน็ รสงเ่วรนยี ในหญ่ ขกอฎงรกะลเบุ่มียกบ่อกตวิกนาสรขา้ องง ๓. ทักษะการคิด วหสเิร้อคา้ งรงเารคะียวหนา์ขมขน้ัรอาตคงอกานลญุ่มใหดค้ ว้ รยู รหวาิเอ้ คงราเารญะียใหนหข์ ้คขั้นรอตูแงอลกนะลเุ่มพือ่ ไนม่ วขไมเิอค่กงร่อหาก้อะวงหนเข์รคียนั้ วนตาอมขนรอางคาญ คโวริเวคงาเรมรายีระนาหคข์ าน้ัอญตงใหอหอ้น้คงรเแูรลยี นะ วิเคราะห์ กแคลรวะามบเพเวต่ือนม็ นกใใาจนรหไทม้อา่กง่อาเรนกยี วนน ใกกน่รอหะกบ้อวงวนเนสรกยีรา้านงรคทวาางมานท่ี ใกกหรลค้ะุ่มบรูแวไลนดะ้เกปเาพน็รอ่ื ทสนว่าในงนาในหทญี่ ่ เขกพอรอื่ะงนกบลใวนมุ่นหกก้อา่องรกเทรวาียนงนาสนรทา้ ง่ี แทมอมคสแอกรข้จูลลั้นรดดลวงีคค่ีุเี่ ลักม้าาะะมุ่ททววตืองมบน่ัคเาาอนนคพปกมมรรทนวรื่อ้จูไฏบเเกกบดาู้จพพานรรบิถมาักถ้กียยีะะใว้ัตทรูแกนแรรตตนติาหสตพพหหืืออคานว้อตยยล้อรรมางา้งาือือาาง่งญบหทเมยยเรรรรทาใาา่ภีน้น้ ยีียหบมมานนค้ ยารรทใูู้น รใเมคลนารคี อืคหบวกาอ้าถญไมงว้ดเกนใร้ถหรยีกู ค้ะนตตร้อูแืองลรแือะลเรพะน้ ือ่ น หไเลมอ้ อืก่ งก่อเรไกดยี วถ้นนูกคตวอ้ างมราคาญ คเเปลวือน็ากมบไรามางไ่คดาร้ ญง้ั ให้ครูและ ๗. ใฝเ่ รียนรู้ อมแภแอร้จูสหดดคีาักยวททลบงใา่งนนนหมเทรกากบียมมคลรานงุ่งุ่วมุ่ะทมมราตหู้อน่น่ััปมือนื่นรฏรรรจู้้าอืบิจูู้้จๆาทรตักักัก่ีน้ ิตาม มใหคี ค้ วราูแมลกะรเะพตื่อือนรใอื นร้น ไเพม่มอื นีควในามหกอ้ รงะเรตียือนรือรน้ ๔. ทกั ษะกระบวนการ อหบรคภอมจู้ดดวีคอ้าากัางยททวงคมบเใานนรนรมรทียง้ัู้จกกบนมมาลรากุงงุ่่รมุ่ะทมมู้จแตหนั่่นัปกัหือนแฏลรใใสา้ือง่ิบนนทวรัตง่ี้นิ หา แรอแเอภไปมู้จหสดดาน็่มกัยวททลีคบบงใ่งนนนหวเาทรากงบยีมมมคคลานงุุ่่งรกวมุ่ ทมมรัง้ารหู้อ่น่ันัปมะ่นืนตรฏู้จือ้าไไิบๆมมาทรตั กื่่รรอ่ี ิ จูู้้จรกกัั้น ท๗า. งใาฝนเ่ รรีย่วนมรกู้ นั มอื่นุงมๆัน่ อรยู้จ่เูักสแมสอวงหา แอสยู่เวสงมหอาความรจู้ าก บเรายี งนครรู้อ้งั ่ืนรๆจู้ ักแสวงหา แสวงหาความรู้จาก ความร้จู ากแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ ความรู้จากแหลง่ แหลง่ เรียนร้อู ่นื ๆ อนื่ ๆ อยู่เสมอ อยู่เสมอ เรยี นรูอ้ ื่น ๆ

๔๓๑432 421 เกณฑก์ ารประเมินผลชน้ิ งานหรือภาระงาน ระดบั คุณภาพ ๔๓๓434 ประเด็น การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรงุ ) ๘. มงุ่ ม่นั ในการทางาน ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย เกทณาฑงา์ปนรทะเ่ีไมดิน้รบัดมา้ นอคบวหามมารยู้ ทางานท่ีไดร้ บั ทางานท่ีไดร้ ับ ๑. Mind Mapping เขสียร็จนตแาผมนกทาี่คหวนาดมเควดิลทาี่ เขสยีรจ็นตแาผมนกทาค่ีหวนาดมเควดิลทาี่ เมขอยี บนหแมผานยทเสี่ครว็จาตมาคมดิ ที่ เมขอยี บนหแมผานยทไม่คี ่เวสารมจ็ คตดิ าทม่ี อาหารจานเดียว แผสลดงางนคมวาีคมวคามดิ ถรวูกบตยอ้ องด แผสลดงางนคมวาคี มวคามิดถรวูกบตยอ้ องด แกสาหดนงคดวเวาลมาคดิ เรปวน็บยอด แกสาหดนงคดวเวาลมาคิดผรวลบงายนอด หละลเักอถยี กู ดตป้องรตะรณงีตประเด็น หเรลียักบถรกูอ้ ตย้อง ขยาย หบลางกั สถว่ ูกนตผ้อลงงาขนยมายีความ ไหมล่มกั ีคไมวาต่ มรเงรปยี รบะรเอ้ดยน็ ขเรยียาบยรคอ้ วยามคิดย่อยได้ ความคดิ ย่อยได้ถูกต้อง คถูกวาตม้อคงิดเยรีย่อบยไรด้อ้ถยกูเปต็น้อง ขยายความคิดยอ่ ยได้ ถูกต้อง ครบทุกประเดน็ แตไ่ ม่ครบทกุ ประเด็น มี มบีจางารนาวยนกนา้อรยประเดน็ ไมถ่ ูกตอ้ ง เชื่อมโยงความคิดรวบ จานวนมากประเด็น เชอ่ื มโยงความคิดรวบ ไมเ่ ชอ่ื มโยงความคดิ บันทกึ ผลหลังการยสออดนหลกั ความคิดรอง เช่ือมโยงความคิดรวบ ยอดหลกั ความคิด รวบยอดหลัก ............................ผ......ล....ก......า....ร..เ....ร....ียคมแ....นย..วีส....ารกสี....มู้ปว....คย..ร..ดิ..งะ....ายเ..ดม..่อ....น็ ..ยป..ห..ไ..รด..ล..ะ..ช้ัก..ณ..ัด..ป....ีตเร..จ..ะ..น....เ..ด....็น..............คมย......อวสี ....าดสี....มหว....ค..ยล....ดิงัก....าย....ม่อ..ค....ย..แว..ไ..ยา..ด..มก..้..ค......ิด....ร....อ......ง................ไร..มม..อ....สี่สง....ีสคา..ม..วว....ยาา....มรง....ถาค....มแ..ิด....ยย....ก..อ่ ....ย................................ไคย....มอ่..ว..่ส..าย..า..ม..มม..ค....าีสดิ....รไี..ร..มถ..อแส่ งยวคยกวงาามมคดิ ปญั หาแลระอองปุ ปสรรระคเด็นย่อยได้ ประเด็นหลักประเดน็ ประเด็นหลกั ประเด็น ประเดน็ หลัก ประเด็น .............................ช..ดั...เ.จ..น.....................................ร..อ..ง...ป...ร..ะ..เ..ด..น็...ย..่อ..ย...ไ.ด...้ ............ร.อ...ง...ป...ร..ะ..เ.ด...น็ ..ย..่.อ..ย...............ร..อ...ง...ป...ร..ะ..เ.ด็นย่อย ..........................................................เ.ก...ณ...ฑ...์ป..ร..ะ...เ.ม..ิน...ด..า้..น...ท...ัก..ษ...ะ..แ..ล...ะ..ก..ร..ะ..บ...ว..น...ก..า..ร.. ................................................ ๒.ทักษะการแสวงหา เขยี นสรปุ สาระสาคญั ได้ เขียนสรปุ สาระสาคัญได้ เขยี นสรุปสาระสาคัญ เขยี นสรปุ สาระสาคญั สคาวราะมสราู้ /..ค..ก..ัญ..า....ร....เ..ข......ีย....นข......สอ้ ....รเ..ส..ปุ....น....อ......แ..อเค..นข..ย.ร...ียะ.บ.่า..แน..งแ..ล..เมล..ห..ะเี..ะหม..แ..ต..าตน..ร..ะผุ..วง..ส..ลทป..ม..ป..าร...ง.ระ..แ..ะเ..ด..กก....็น้ไอ....ข..บ......................คเอ....ข..ยร..ีย..บ่า..น..งแ....เม..ลห..เี..ะ..หม..ต..าต....ระ..ุผ..งส..ลป....มป..ร....ระ....ะเ....ดก....็น..อ....บ....................เอไ..ขด..ย..ีย..้ต..่า..นรง....งเม..หป..เี..ห..มร....าะต....ะเผุ..ด..ส..ล..็น..มป......ร....ะ....ก......อ....บ..............เใไ..ห..ดช....ภ้มไ้..ม..า..า..่ตะ..ษ..ร..สา..ง..มใ..ป..น..เรกขะาียเรดนเ็นขถียกู นบไ้ามง่ ใชภ้ าษาในการเขียนได้ ใช้ภาษาในการเขียนได้ ลใงชชภ้ อ่ื า..ษ..า..ใ..น..ก...า..ร..เ.ข..ีย...น..ไ..ด..้.....ผ..ดิ..ผบสู้้าองเนป็นบางคา เหมาะสม เขียนคา เหมาะสม เขียนคา (.เ.ห...ม..า..ะ..ส...ม....เ.ข..ยี..น...ถ..กู...เ.ป...็น.....................) วนั ทส.่ี ่ว..น...ใ.ห..เญดือ่ น....................พ.ศ.......... ถกู ต้อง ลายมอื สวย อ่าน ถกู ต้อง ง่าย มคี วามคิดสร้างสรรค์ ว๓ิเ.คทรากั ะษหค..ะ..์..วก....าา....รม....ค..ค....ิดิด......เ..ห......น็....../..ข......้อ....เ..วทกแ..ส..ิเลร..ีเ่นค..ละ..ะ..อรอื.บ.ค..าแ..กวร..ะ..นไนบ..ห..ดะ..กถ..ข์้ถ.ข.า้ว..ั้นูก..อรน...ต.ตท.ง...อ้อต.ผ.า..น..งางูบ้....าม..ร..น..ิห......า....ร....ห....ร.....ือ.....ผ..คเวก...ู้ทล.เิ..รร.ค.ือ่ไี..ะบ..ดรก..บถ..าร้..ไว..้วะดบั...น.นห.้ถ.ม..ก..ข์ูก..อ.า.น้ัต..บ.ร...้อต.ท.ห..งอ..า..มแ.น.ง..าล..า..ย..ะน.....ท.....่ี...................กเว...ล.เิ.ร..คือ..ะ..ร.ก.บ..า..ไ.ว.ะ.ด...น.ห.้ถ...ก.ข์ูก....า.ั้นต...ร..อ้ต..ท...งอ..า...น.ง...า....น.....ท.....ี่..............วเก..ล..เิ.ร.ค..ือ.ะ...รก..บ..า.ไ.ว..ะม..น..ห.่ไ...ดก..์ข.้า้นั รตทอานงานท่ี ขั้นตอน ๔. ทกั ษะกระบวนการ รู้จักบทบาทหนา้ ทภ่ี ายใน รู้จกั บทบาทหนา้ ที่ ลว(ภรนั.ง.จู้.ชาท.กั.ยอื่..่ี .บ.ใ....น..ท......ก...บ....ล....าเ..มุ่ด..ท...ือ.ห..ป..น..นฏ.......า้.ิบ.....ท....ัต...ี่...ิ.................................ภร......จู้.พา...ักผย...ศบ.ู้ใต.น..ทร....กว..บ..ลจ..า..ุ่ม..ท.).หปนฏ้าิบทัตี่ ิ ทางานรว่ มกัน กลมุ่ ปฏบิ ตั ติ ามบทบาท ภายในกลุ่ม ปฏบิ ัตติ าม

422 ๔๓๔435 ภาพอาหารจานเดยี ว ท่มี า : https://www.google.com/search?tbm

423 ๔๓๗ รารยใาบวยคิชวิชวาาากมการราแทู้ งรผ่ีาแง๒นานผ๙กนอนหาอากกรนาชาาจชว่พีรรใัดีพยจบเกลทรัดคารหือ่ีกวรห๔กสัาาเสัรซรมเงยีเอ้ืรรง๒รนอ่ืผ๒้ทูยี ๑งรกั่ี๑นอทู้๑๒ร๑า่ี๐๙หูท้๕ห๐๑นี่าก๑๕ว่ราภยกรภเาทับเราคล่อืี่เกคเอืร๔งราเอ่ืกยีรรอเงซยีนดรานื้อื่อา�อทหผรทงา่ี าง๒อหัก่ีรช๒าาจชวีหราชั้นติจานั้นรมาเกมนดัธบัธัยเียดยกมวียมาศวรศึกดึกษำษาราปงปชีทีทวี่ี ๑ติี่ ๑ อาหารจานเดียว หมายถึง อาหารปรงุ สำเร็จหนง่ึ จาน มปี ริมาณเพยี งพอท่จี ะรบั ประทานใดอ้ ่ิม ๑ ม้ือ โดยไมต่ อ้ ง รับประทานอาหารอื่นร่วมด้วย ส่วนใหญอ่ าหารจานเดียวมักจะเป็นอาหารคาวและนยิ มรบั ประทานใน ม้ือกลางวนั ตวั อย่างอาหารจานเดียว เชน่ ขา้ วผัด ก๋วยเต๋ียว ผัดไทย ขา้ วหมแู ดง ข้าวหมกไก่ ขา้ วผัดกะเพรา เปน็ ต้น หลักการประกอบอาหารจานเดยี ว ๑. มปี ระโยชน์ คอื การประกอบอาหารจานเดียวต้องมคี ุณค่างทางอาหารครบทัง่ ๕ หมู่ เหมาะสมกบั เพศและวัย ของผรู้ ับประทาน ๒. ประหยดั คอื การประกอบอาหารจานเดยี วต้องเลือกใชอ้ าหารตามฤดกู าลทมี่ มี ากในทอ้ งถ่นิ เพราะจะมรี าคาถกู และเลอื กอาหารจานทม่ี ขี ้ันตอนการทำง่ายๆเพอื่ ประหยดั เวลา ๓. ปลอดภัย คอื การประกอบอาหารจานเดียวต้องเลือกเครือ่ งปรงุ และสว่ นผสมทสี่ ดใหม่ ลา้ งใหส้ ะอาด ปรงุ ใหส้ กุ เพ่ือป้องกันเชื้อโรคและพยาธิ ๔. น่ารบั ประทาน คือ การประกอบอาหารจานเดียวต้องปรุงแตง่ รสชาติอาหารให้อรอ่ ย จดั และตกแต่งจานอาหาร ใหม้ สี สี นั และรปู แบบน่ารบั ประทาน การวางแผนประกอบอาหารจานเดียว การประกอบอาหารจานเดียวแต่ละครง้ั ต้องมีการวางแผนเพอ่ื ใหก้ ารทำงานมีประสิทธิภาพ ประหยดั เวลา ประหยัดแรงงาน ประหยัดคา่ ใชจ้ ่าย และไดผ้ ลงานท่ีมคี ุณภาพ โดยปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนต่อไปนี้ ๑. กำหนดรายการอาหารท่จี ะทำ และเคร่ืองปรุงทีจ่ ะใช้ ๒. สำรวจอาหารสด อาหารแห้ง และเครือ่ งปรงุ รสทีม่ อี ย่แู ล้ว ถา้ ขาดเหลอื จึงไปซ้ือมาเพิ่มเติม ๓. เตรยี มอาหารสด อาหารแหง้ เครื่องปรงุ และอปุ กรณท์ ีจ่ ะใชป้ ระกอบอาหาร ๔. ประกอบอาหารตามข้นั ตอนทถี่ กู ต้อง ๕. จัด ตกแตง่ อาหารใหน้ ่ารับประทาน ๖. เก็บล้างอุปกรณท์ ่ใี ช้ประกอบอาหาร และทำความสะอาดบรเิ วณท่ใี ช้เตรยี มและประกอบอารหาร อาหารจานเดียว หมายถงึ การทำอาหารท่ีให้คุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ของไทยโดยพยายามให้อาหารครบ ๕ หมใู่ นหนงึ่ จาน ประโยชนอ์ าหารจานเดียว ๑. ใหส้ ารอาหารครบตามความต้องการของร่างกายของแต่ละบคุ คลซึ่งขึ้นอยู่กับอายุ เพศ ลักษณะการ ทำงานและสภาวะของร่างกาย

424 ๔๓๗ ๒. ประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใช้จา่ ยในการประกอบอาหารแต่ละมื้อ โดยรู้จักใช้ทรพั ยากรอย่างคมุ้ ค่า ๔๓๖437 การใช้อาหารทดแทนและการนำอาหารที่มีอยูใ่ นทอ้ งถนิ่ มาดดั แปลงประกอบเป็นอาหารบรโิ ภค โดยใหพ้ อเหมาะ กับกกาับรกบารรโิ บภรคโิขภอคงขแอตงล่ แะตบล่ คุ ะคบลุคใคนลคใรนอคบรคอรบวั ครัว ๓. ส๓รา้ .งสอรปุ า้ นงอสิ ปุัยในนสิ กยั าใรนบกราิโรภบคริโเภปคน็ กเปารน็ สกรา้ารงสพรนื้ า้ ฐงพานืน้ กฐารนบกราิโรภบครทิโภ่ีง่าคยท่ีงปา่ รยะหปยรดัะหถกูยหัดลถักู หโภลชักนโภากชานราการ โดยโเฉดพยเาฉะพเดา็กะเทดีอ่ ก็ ยทู่ใี่อนยวูใ่ันนกว่อันนกเ่อรียนนเรียซนึ่งเปซน็่งึ เวปยั ็นทวี่เยัลทอื กเ่ี ลกอื ินกอกาินหอาารหตารมตชาอมบชอทบำใทหาไ้ ดใหอ้ ้ไาดห้อาารหไมา่ครไรมบค่ ตราบมตคาวมาคมวตา้อมงตก้อางรการ ของขรอา่ งกรา่ งยกแาลยะแเปละน็ เสปา็นเหสตาเใุ หตเ้ ดุให็กใเ้ ดห็กว้ ใัยหนว้ ้เี ยัปน็ เ้ีโปรน็คขโราคดขสาาดรสอารหอาารหเปา็นรเจปำน็ นจวานนมวานกมาก ข้อแนขะอ้ นแำนใะนนกาใรนทกำาอราทหาอรจาหานาเรดจียาวนเดยี ว -ใชอ้ าหารทีม่ ีในทอ้ งถิน่ เปน็ หลักหรือมากท่ีสุด -เลือกใช้อาหารตามฤดูการ สด ใหม่ -เลอื กอาหารทท่ี ุกๆคนในครอบครัวชอบและกินได้ ซง่ึ จะขึ้นอยกู่ บั วยั เพศ อายุ และรสนยิ มในการทาน -ประกอบออาาหหาารรใใหห้น้นา่ ่าดดู ูชชววนนททาานนสสี กี ก็ใช็ใชส้ ้สขี ีอขงอธงรธรรมรชมาชตาขิตอิขงอองาอหาาหราลรักลษักณษะณระูปรทูปรทงรหงน่ั ห่ัน ซอยหรืออาหารที่มี รูปทรซงอตย่าหงกรอืันอจาัดหเขา้ารดท้วีม่ ยรี กปู ันทผริวงสตัม่างผกสั ันขจอดั งเอขา้าหดาว้ รยกคนัวาผมวิ เสหมั นผียัสวขอคงวอาามหการรอบควคาวมาเมหนุ่มยี ขวอคงวอาามหการอทบ่ีอยู่ในจานเดียวกัน การจคัดวาคมวนรเมุ่ ลขืออกงภอาชหนาระทอี่เหยมู่ในาจะาสนมเจดัดยี แวตก่อนั ยก่าางรสจวดัยงคาวมรเสละืออกาภดาชรนสชะทาตี่เหิอมร่อาะยสเมหจมดั าแะตกอ่ ับยวา่ ัยงแสลวยะงถาูกมปสากะอสามดาชิกใน ใคนรคอรบรอคสบรชควั ารตัวอิ ร่อย เหมาะกับวัยและถกู ปากสมาชิกในครอบครัว -เป็นอาหารท่ีทำาง่าย -ความสะอาด เครอื่ งมือเครื่องใช้ในการทำาความสะอาด การประกอบอาหารถกู หลกั อนามยั และสุขาภิบาล อาหาอราหาร

425 รารยาวยชิ วาชิ กาากรเราง่ือราแงงนแผาอผนกเนรานกาออื่ ชหรากางีพเรนาชขจกร่วพีียดัาจยนรกรัดทรเหากหขMี่ ร๔สัาัสยี เiรวรnนเงเิชยีรdร๒Mนาอ่ืีย๑Mงรนiงnอทู้๑๒aราdี่๐ู้ท๑p๕ห๑ี่๑Mาอ๕ร๐ภaากเ๑หpเารับรคาื่อ่ืออกรเภงงราาจียาหรออาคนดานาาเา�ทรหหเรรจด่ีียาาง๒าียรรนชนวจจชทวี เาาด้นัิต่ี นน๒ียมเเหวดดธั ชนยียียั้นม่วววมยศัธทกึ ยษ่ี ม๔าศปึกที ษี่ ๑าปีท่ี ๑ กล่มุ ท่ี…………ช่ือกล่มุ ......................................................................................... สมาชิกกลมุ่ ๑1.…………………………………………………………………………………………….. ๒2..…………………………………………………………………………………………….. ๓3.…………………………………………………………………………………………….. ๔4.…………………………………………………………………………………………….. ๕5.…………………………………………………………………………………………….. คำชแี้ จง ให้นักเรยี นแบง่ กลุม่ ๔ กลุ่ม ศึกษาใบความรู้ เขียน Mind Map กลุ่มละ ๑1. เรื่อง แผนภาพความคดิ (Mind Map) เร่อื ง.........................................................................................

๔๓๗ แบบบันทกึ การประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของผู้เรียนดา้ นความรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง อาหารจานเดียว รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั ง ๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เลขที่ ชื่อ - สกลุ รายการประเมนิ คะแนนรวม ระดบั สรุปผล ๑ Mind Mapping อาหารจานเดียว คุณภาพ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๒ ๑๐ ๓ เน้ือหา ชดั เจนตรง สสี ันสวยงาม นาเสนอได้ ๔ ครบถว้ น ประเด็น น่าสนใจ คะแนน ๕ ๓๒๒ ฯลฯ ๓ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพดา้ นความรู้ ดังน้ี ๘-๑๐ คะแนน ระดบั ๔ ดมี าก ๗-๘ คะแนน ระดับ ๓ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕ คะแนน ระดบั ๑ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นระดับ ๒ ข้นึ ไป ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน ( …………………………………………….) 426 438

๔๓๘ แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรมผู้เรยี นด้านทักษะกระบวนการ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ เร่อื ง วธิ กี ารเลือกซื้ออาหารสด รายวชิ า การงานอาชพี รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ รายการประเมนิ สรุปผล ทกั ษะการคิด ทกั ษะ คะแนน ระดบั เลขที่ ช่อื - สกลุ ทกั ษะการ วิเคราะห์ กระบวนการ ทักษะการ รวม คณุ ภาพ ผา่ น ไม่ แสวงหาความรู้ ทางานรว่ มกัน นาเสนองาน ผา่ น ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวดั ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๑ – ๙ คะแนน ระดับ ๒ พอใช้ ต่ากว่า ๘ คะแนน ระดบั ๑๕ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๔ ดีมาก ๑๒ - ๑๔ คะแนน ระดับ ๓ ดี ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน ๑ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่านระดบั ๒ ข้ึนไป ( …………………………………………….) 427 439

๔๓๙ แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรมผเู้ รยี นดา้ นคณุ ลักษณะ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง วิธกี ารเลอื กซ้อื อาหารสด รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั ง๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ รายการประเมิน มุ่งมน่ั ในการ คะแนน ระดับ สรุปผล ทางาน รวม คุณภาพ ไม่ เลขที่ ช่ือ - สกลุ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ ผ่าน ผ่าน ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒ ๒ ๓ ๔ ๕ ฯลฯ เกณฑ์การวัดใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรม ดงั นี้ ๑๑ – ๑๒ คะแนน ระดับ ๔ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี ๖ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๖ คะแนน ระดบั ๑ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่านระดบั ๒ ขน้ึ ไป ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ ( …………………………………………….) 428 440


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook