พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 351 วิธีการใหน สิ ัย [๑๓๖] ก็โดยสมัยนัน้ แล พระฉัพพคั คยี ใ หนสิ ัยแกภกิ ษพุ วกอลชั ชีภกิ ษุท้ังหลายจึงกราบทูลเรื่องน้นั แดพระผูมีพระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจาตรสั หา มภิกษทุ ้ังหลายวา ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย ภิกษไุ มพ ึงใหนสิ ัยแกภกิ ษพุ วกอลชั ชี รูปใดให ตองอาบตั ิทุกกฏ. วิธีการถอื นิสัย สมัยตอมา ภกิ ษุทั้งหลายอยอู าศัยภิกษพุ วกอลัชชี ไมชาไมนานเทา ไรนัก แมหงวกเธอกก็ ลายเปนพวกอลชั ชี เปน ภิกษเุ ลวทราม ภิกษทุ ้งั หลายจึงกราบทูลเรอื่ งนนั้ แดพระผมู ีพระภาคเจา. พระผูม พี ระภาคเจาตรสั หามภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอนภกิ ษุท้งั หลายภิกษไุ มพ งึ อยอู าศยั ภกิ ษพุ วกอลชั ชี รูปใดอยู ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. พระพุทธานญุ าตใหสบื สวนกอนถือนิสัย ครัง้ น้ัน ภกิ ษุทง้ั หลายไดมีความดาํ รวิ า พระผมู ีพระภาคเจา ทรงบญั ญัตไิ ววาไมพ ึงใหนิสยั แกภ กิ ษพุ วกอลัชชี และไมพ งึ อยอู าศยั ภกิ ษพุ วกอลชั ชีทาํ อยางไรหนอพวกเราจึงจะรวู า เปน ภิกษุลชั ชี หรอื อลชั ชี แลวกราบทูลเรอื่ งนั้น แดพระผูมพี ระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา ตรสั อนุญาตแกภ กิ ษทุ ั้งหลายวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลายเราอนญุ าตใหรอ ๔ - ๕ วัน พอจะสบื สวนรูวาภกิ ษผุ ูใหนิสัยเปนสภาคกนั .
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 352 ภิกษเุ ดนิ ทางไกลไมต อ งถือนิสัย [๑๓๗] กโ็ ดยสมยั น้นั แล ภกิ ษรุ ปู หนง่ึ เดินทางไกลไปโกศลชนบทคราวนน้ั เธอไดมีความดํารวิ า พระผมู ีพระภาคเจาทรงบัญญตั ไิ วว า ภิกษุจะไมถือนสิ ยั อยไู มได ดังนี้ กเ็ รามีหนา ที่ตอ งถือนิสัยแตจาํ ตอ งเดินทางไกล จะพงึ ปฏบิ ัติอยางไรหนอแล ภิกษทุ ัง้ หลายจงึ กราบทูลเร่ืองนัน้ แดพ ระผูม พี ระ-ภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั อนญุ าตแกภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เราอนุญาตใหภ ิกษผุ ูเดนิ ทางไกลเม่ือไมไดผใู หนสิ ยั ไมตองถอื นิสยั อย.ู ภกิ ษุอาพาธไมตองถือนิสยั [๑๓๘] กโ็ ดยสมัยน้นั แล ภิกษุ ๒ รปู เดนิ ทางไกลไปโกศลชนบทเธอทัง้ ๒ พกั อยู ณ อาวาสแหง หน่ึง ในภกิ ษุ ๒ รปู น้นั รูป ๑ อาพาธ จึงรปู ทีอ่ าพาธนัน้ ไดมีความดําริวา พระผูมพี ระภาคเจา ทรงบญั ญัตไิ ววา ภกิ ษุจะไมถือนิสยั อยไู มได กเ็ รามหี นา ที่ตอ งถอื นสิ ัย แตกาํ ลงั อาพาธ จะพงึ ปฏบิ ัติอยางไรหนอแล ภกิ ษุทัง้ หลายจงึ กราบทลู เรอื่ งนัน้ แดพระผูมพี ระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจาตรสั อนญุ าตแกภ กิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตใหภ กิ ษอุ าพาธ เมอ่ื ไมไ ดผ ูใหนิสัย ไมต อ งถอื นิสยั อยู. ภกิ ษุพยาบาลไมต อ งถือนสิ ัย ครง้ั น้นั ภิกษุผูพ ยาบาลไขน นั้ ไดมีความดาํ รวิ า พระผมู พี ระภาคเจาทรงบัญญตั ิไววา ภกิ ษจุ ะไมถ อื นสิ ยั อยูไมได กเ็ รามีหนาทต่ี องถือนสิ ัย แตภิกษรุ ูปน้ียังอาพาธเราจะพึงปฏบิ ัติอยา งไรหนอแล ภิกษุทัง้ หลายจึงกราบทลูเร่ืองนน้ั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจาตรัสอนญุ าตแกภ ิกษุทัง้ หลายวา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลายเราอนญุ าตใหภ กิ ษผุ ูพยาบาลไข เม่ือไมไ ดผใู หน ิสัยถกู ภกิ ษุอาพาธขอรอ ง ไมตอ งถือนิสัยอย.ู
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 353 ภิกษอุ ยูว ัดปา ไมตองถือนิสัย ก็โดยสมัยนนั้ แล ภกิ ษุรปู ๑ อยูวัดปา และเธอกม็ คี วามผาสกุ ในเสนาสนะน้นั คราวนั้นเธอไดม คี วามดาํ รวิ า พระผูมพี ระภาคเจา ทรงบัญญตั ิไววา ภิกษุจะไมถ ือนสิ ัยอยไู มไ ด กเ็ รามีหนา ท่ีตอ งถือนสิ ยั แตย ังอยวู ดั ปา และเรากม็ ีความผาสกุ ในเสนาสนะน้ี จะพึงปฏบิ ัติอยางไรหนอแล ภิกษทุ ้ังหลายจงึ กราบทลู เรอ่ื งน้นั แดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูม ีพระภาคเจา ตรสั อนุญาตแกภกิ ษทุ ั้งหลายวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลายเราอนุญาตใหภิกษุผูถืออยูปา เปนวัตรกาํ หนดการอยูเปนผาสุก เมอ่ื ไมไดผ ูใหน ิสัย ไมตองถอื นิสัย ดวยผกู ใจวาเมือ่ ใดมภี กิ ษุผูใ หน ิสัยทีส่ มควรมาอยู จักอาศัยภกิ ษนุ ั้นอย.ู อุปสมบทกรรม สวดอปุ สมั ปทาเปกขะระบโุ คตร [๑๓๙] กโ็ ดยสมยั นัน้ แล ทา นพระมหากสั สปมีอปุ สัมปทาเปกขะ และทา นสงทูตไปในสาํ นักทานพระอานนทวา ทา นอานนทจงมาสวดอุปสมั ปทา-เปกขะนี้ ทานพระอานนทตอบไปอยา งนวี้ า เกลา กระผมไมสามารถจะระบุนามของพระเถระได เพราะพระเถระเปน ทเี่ คารพของเกลากระผม ภิกษทุ งั้ หลายจงึ กราบทูลเร่ืองนั้นแดพ ระผูม พี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสอนุญาตแกภิกษุทง้ั หลายวา ดกู อนภิกษทุ ั้งหลายเราอนุญาตใหส วดระบโุ คตรได. อุปสมบทคู [๑๔๐] กโ็ ดยสมยั นั้นแล ทานพระมหากัสสปมีอุปสมั ปทาเปกขะอยู๒ คน เธอทัง้ สองแกง แยง กันวา เราจกั อปุ สมบทกอ น เราจักอปุ สมบทกอน
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 354ภกิ ษทุ ั้งหลายจงึ กราบทูลเรอ่ื งนั้นแดพระผูมพี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจาตรสั อนญุ าตแกภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลายเราอนุญาตใหทําอปุ สมั ปทา-เปกขะ ๒ รูป ในอนสุ าวนาเดยี วกัน. อปุ สมบทคราวละ ๓ คน สมัยตอ มา พระเถระหลายรูปตางมีอุปสมั ปทาเปกขะหลายคนดวยกันพวกเธอตางแกงแยงกันวา เราจักอุปสมบทกอ น เราจักอุปสมบทกอ น พระ-เถระทงั้ หลายจงึ ตัดสนิ วา เอาเถอะ พวกเราจะทาํ อปุ สัมปทาเปกขะทกุ คนในอนุสาวนาเดียวกนั ภิกษทุ ง้ั หลายจึงกราบทูลเร่อื งนั้นแดพ ระผูมีพระภาคเจาพระผู พระภาคเจา ตรัสอนญุ าตแกภ ิกษุทั้งหลายวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เราอนุญาตใหท าํ อปุ สัมปทาเปกขะ ในอนสุ าวนาเดียวกันคราวละ ๒ รูป ๓ รปูแตก ารสวดน้นั แล ตอ งอุปชฌายร ปู เดียวกัน จะมีอุปชฌายต า งกนั ไมไ ดเปนอันขาด. นบั อายุ ๒๐ ปท ัง้ อยใู นครรภ พระกมุ ารกัสสปะเปน ตวั อยา ง [๑๔๑] ก็โดยสมยั นนั้ แล ทานพระกมุ ารกสั สปมีอายุครบ ๒๐ ปท ้งัอยูในครรภ จงึ ไดอุปสมบท ตอ มาทานไดม คี วามดาํ ริวา พระผมู พี ระภาคเจาทรงบญั ญตั ไิ ววา บุคคลมอี ายหุ ยอ น ๒๐ ป ภกิ ษุไมพึงอุปสมบทให ก็เรามีอายคุ รบ ๒๐ ทั้งอยูใ นครรภ จึงไดอ ุปสมบทจะเปน อนั อปุ สมบทหรือไมหนอภกิ ษทุ ั้งหลายจงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผมู ีพระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจาตรสั อนญุ าตแกภ กิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อนภิกษุท้งั หลาย จิตดวงแรกเกิดขึ้นแลว
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 355ในครรภของมารดา คอื วญิ ญาณดวงแรกปรากฏแลว ช่อื วา ความเกดิ ของสตั วมเี พราะอาศยั จติ น้ัน. ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหอ ุปสมบทกลุ บุตรมีอายคุ รบ ๒๐ ป ทั้งอยใู นครรภ. สวดถามอนั ตรายิกธรรม ๑๓ ขอ [๑๔๒] กโ็ ดยสมัยน้ันแล พวกกุลบุตรทอี่ ุปสมบทแลว ปรากฏเปนโรคเรือ้ นก็มี เปนผีกม็ ี เปน โรคกลากก็มี เปนโรคมองครอ กม็ ี เปน โรคลมบาหมกู ม็ ี ภิกษุทงั้ หลายจึงกราบทูลเร่อื งนน้ั แดพระผมู พี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รบั ส่ังกะภกิ ษุทัง้ หลายวา ดูกอ นภิกษุทัง้ หลายเราอนุญาตใหภกิ ษุผใู หอปุ สมบท ถามอนั ตรายยกิ ธรรม ๑๓ ขอ. ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ล พึงถามอุปสัมปทาเปกขะอยางนี:้ - อนั ตรายกิ ธรรม อาพาธเหน็ ปานนีข้ องเจา มหี รอื คือ โรคเรื้อน ฝ โรคกลาก โรคมองครอ ลมบาหมู เจา เปนมนษุ ยห รอื เปนชายหรือ เปนไทหรือ ไมม ีหนส้ี ินหรือ มใิ ชร าชภัฏหรือ มารดาบดิ าอนญุ าตแลวหรือ มีปค รบ ๒๐ แลวหรือ บาตรจีวรของเจามีครบแลวหรอื เจาชื่ออะไร อปุ ชฌายของเจา ชือ่อะไร. สอนซอ มกอนถามอันตรายกิ ธรรม ก็โดยสมัยนนั้ แล ภิกษทุ ัง้ หลายถามอันตรายิกธรรมกะพวกอุปสัมปทาเปกขะ ที่ยังมิไดสอนซอ ม พวกอุปสมั ปทาเปกขะยอมสะทกสะทา น เกอเขินไมอาจจะตอบได ภิกษทุ ้งั หลายจงึ กราบทูลเร่อื งนน้ั แดพ ระผูม ีพระภาคเจา
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 356พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั อนุญาตแกภ กิ ษทุ ั้งหลายวา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนญุ าตใหสอนซอมกอ น แลว จงึ ถามอันตรายกิ ธรรมทีหลัง. ภกิ ษุทงั้ หลายสอนซอมในทา นกลางสงฆนน้ั น่นั แหละ พวกอุปสัมปทา-เปกขะยอ มสะทกสะทาน เกอเขนิ ไมอ าจตอบไดเ หมือนอยางเดมิ ภกิ ษุทง้ัหลายจงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจาตรัสอนุญาตแกภิกษุท้ังหลายวา ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย เราอนญุ าตใหสอนซอม ณท่ีควรสว นขางหนงึ่ แลว จงึ ถามอันตรายิกธรรมในทา มกลางสงฆ. ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ก็แลพึงสอนซอมอปุ สัมปทาเปกขะอยา งนี:้ - คาํ บอกบาตรจีวร พงึ ใหอปุ สมั ปทาเปกขะถอื อุปช ฌายก อ น คร้นั แลว พึงบอกบาตรจีวรวาน้ีบาตรของเจา น้ผี า ทาบของเจา น้ผี า หมของเจา นี้ผา นุงของเจา เจาจงไปยนืณ โอกาสโนน. ภิกษทุ ั้งหลายท่เี ขลาไมฉลาดยอมสอนซอม เหลา อุปสัมปทาเปกขะที่ถูกสอนซอมไมด ียอมสะทกสะทา น เกอ เขนิ ไมอ าจตอบได ภิกษทุ งั้ หลายจงึ กราบทูลเรื่องนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั หามภกิ ษุทัง้ หลายวา ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย ภกิ ษุผเู ขลา ไมฉลาด ไมพ ึงสอนซอมรูปใดสอนซอมตองอาบตั ิทกุ กฏ. ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนุญาตใหภกิ ษุผูฉลาด ผสู ามารถสอนซอม. บรรดาภกิ ษุผทู ีย่ ังไมไดร ับสมมติ ยอ มสอนซอม ภกิ ษทุ ง้ั หลายจึงกราบทูลเรอ่ื งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสหามภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย ภิกษทุ ยี่ ังไมไดร บั สมมติ ไมพึงสอนซอม รปู ใดสอนซอมตองอาบตั ิทุกกฏ.
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 357 ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย เราอนุญาตใหภกิ ษทุ ไ่ี ดร บั สมมติแลวสอนซอ ม. ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ก็แลพึงสมมติ ดังตอไปน้:ี - วิธีสมมติภกิ ษุเปน ผสู อนซอ ม ตนเองพงึ สมมติตนกไ็ ด หรือภกิ ษุรูปอ่นื พึงสมมตภิ ิกษอุ ื่นกไ็ ด. อยางไรเลา ตนเองพึงสมมติตนเอง คอื ภิกษผุ ูฉ ลาด ผสู ามารถพงึ ประกาศใหสงฆท ราบดว ยญตั ตกิ รรมวาจา วา ดงั นี:้ - ทา นเจา ขา ขอสงฆจงพึงขาพเจา ผมู ีชอ่ื น้ีเปนอุปสมั ปทาเปกขะของทานผูม ีชื่อน้ี ถา ความพรอมพรง่ั ของสงฆถ งึ ทแ่ี ลว ขาพเจาพึงสอนซอ มผมู ีชอื่ นี้. อยา งน้ี ชอ่ื วา ตนเองสมมติตนเอง. อยา งไรเลา ภกิ ษุรปู อนื่ พึงสมมตภิ กิ ษรุ ูปอน่ื คือ ภิกษผุ ฉู ลาดผูสามารถ พึงประกาศใหส งฆทราบดว ยญตั ติกรรมวาจา วาดงั น้:ี - ทานเจาขา ขอสงฆจงพงึ ขาพเจา ผมู ีช่อื นี้เปน อุปสัมปทาเปกขะของทานผูมชี อื่ น้ี ถาความพรอ มพร่ังของสงฆถงึ ทแ่ี ลว ทา นผมู ชี ่อื น้พี ึงสอนซอมผมู ีชื่อนี.้ อยางน้ี ชื่อวา ภกิ ษุรปู อน่ื สมมตภิ กิ ษรุ ูปอ่ืน. ภกิ ษผุ ูใดรับสมมตแิ ลว น้นั พงึ เขา ไปหาอุปสมั ปทาเปกขะ แลวกลาวอยางนี้ วาดังน:้ี - คําซอมอนั ตรายกิ ธรรม แนะ ผมู ชี ่ือน้ี เจา ฟง นะ นี้เปนกาลสัตย กาลจรงิ ของเจา เมอ่ื ทา นถามในทามกลางสงฆ ถงึ สิง่ อนั เกิดแลว มอี ยู พงึ บอกวามี ไมมี พึงบอกวาไมมี
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 358เจา อยา สะทกสะทา นแลวแล เจาอยาไดเ ปน ผเู กอ แลว แล ภกิ ษุท้งั หลายจกั ถามเจาอยางน้ี อาพาธเห็นปานนี้ของเจา มหี รอื คือ โรคเรอ้ื น ผี โรคกลาก โรคมองครอ ลมบา หมู เจา เปนมนษุ ยห รอื เปนชายหรือ เปน ไทหรือ ไมมีหนสี้ ินหรือ มิใชร าชภฏั หรอื มารดาบดิ าอนุญาตแลว หรอื มปี ครบ ๒๐ แลวหรือ บาตรจวี รของเจา มีครบแลวหรอื เจา ช่ืออะไร อปุ ช ฌายข องเจาชอื่ อะไร. ภิกษุผสู อนซอมกับอปุ สัมปทาเปกขะเดนิ มาดวยกนั แตท ั้งสองไมพงึเดนิ มาพรอมกัน คือ ภิกษผุ สู อนซอมตอ งมากอน แลวประกาศใหสงฆท ราบดว ยญตั ติกรรมมาจา วา ดังนี:้ - คําเรียกอปุ สมปทาเปกขะเขา มา ทานเจาขา ขอสงฆจงพึงขาพเจา ผูม ชี อ่ื นเี้ ปนอปุ สมั ปทาเปกขะของทา นผมู ีชื่อนี้ ขาพเจา สอนซอ มเขาแลว ถาความพรอ มพร่งั ของสงฆถงึ ที่แลวขอผูมีช่ือนพี้ ึงมา. พงึ เรียกอุปสมั ปทาเปกขะวา เจา จงมา. พึงใหอปุ สัมปทาเปกขะน้นั หมผา เฉวยี งบา ใหกราบเทา ภิกษุทงั้ หลายใหน ัง่ กระโหยง ใหประคองอญั ชลแี ลว พงึ ใหข ออุปสมบทดงั น้:ี - คําขออุปสมบท ขา พเจา ขออปุ สมบทตอ สงฆ เจา ขา ขอสงฆโปรดยกขา พเจา ขนึ้ เถดิเจาขา . ขา พเจาขออุปสมบทตอสงฆ เปน คร้ังท่ี ๒ เจา ขา ขอสงฆโ ปรดยกขา พเจา ข้นึ เถดิ เจา ขา .
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 359 ขา พเจาขออุปสมบทตอ สงฆ เปน คร้งั ที่ ๓ เจา ขา ขอสงฆโ ปรดยกขาพเจาขนึ้ เถดิ เจา ขา . ค าสมมติตนเพื่อถามอันตรายิกธรรม ภิกษุผูฉ ลาด ผสู ามารถ พึงประกาศใหสงฆท ราบดว ยญัตตกิ รรมวาจาวาดงั น:้ี - ทา นเจาขา ขอสงฆจงพงึ ขาพเจา ผูมีชื่อนผี้ นู ้ีเปนอุปสัมปทาเปกขะของทานผมู ชี ือ่ นี้ ถา ความพรง่ั พรอมของสงฆถ ึงที่แลว ขาพเจาจะพึงถามอัน-ตรายิกธรรมตอผูมชี อ่ื นี้ ดังน:้ี - ค าถามอันตรยธิ รรม แนะ ผูมชี ่อื นี้ เจาฟง นะ น้ีเปนกาลสตั ยกาลจริงของเจา เราจะถามส่งิ ท่เี กิดแลว มีอยู พงึ บอกวามี ไมมี พึงบอกวาไมมี อาพาธเห็นปานน้ีของเจา มหี รือ คือ โรคเร้อื น ฝ โรคกลาก โรคมองครอ ลมบา หมู เจาเปนมนุษยห รือ เปน ชายหรอื เปนไทหรือ ไมมีหนสี้ นิ หรือ มใิ ชร าชภัฏหรอืมารดาบดิ าอนญุ าตแลว หรอื มีปค รบ ๒๐ แลวหรือ บาตรจีวรของเจามีครบแลว หรอื เจา ช่อื อะไร อปุ ช ฌายของเจา ชื่ออะไร. กรรมวาจาอุปสมบท ภิกษุผฉู ลาด ผูสามารถ พึงประกาศใหส งฆท ราบดว ยญตั ตจิ ตุตถกรรมวาจา วาดงั นี:้ - ทา นเจา ขา ขอสงฆจ งฟง ขา พเจา ผมู ชี อ่ื นี้ผนู ี้ เปนอุปสัมป-ทาเปกขะของทา นผมู ชี อื่ นี้ บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว จากอันตรายกิ ธรรมทง้ั หลาย
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 360บาตรจีวรของเขาครบแลว ผมู ชี อื่ นีข้ ออุปสมบทตอ สงฆ มที านผมู ีชอ่ื น้ีเปน อุปช ฌายะ ถา ความพรอมพร่ังของสงฆถงึ ทแี่ ลว สงฆพ ึงอปุ สมบทผูมชี ื่อน้ี มที านผูม ีชือ่ นีเ้ ปนอปุ ช ฌายะ นเี้ ปน ญตั ติ. ทา นเจาขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา ผูม ีชื่อนี้ผนู ้ี เปนอปุ สัม-ปทาเปกขะของทา นผมู ชี ่อื น้ี บรสิ ุทธ์ิแลวจากอันตรายิกธรรมทง้ัหลายบาตรจวี รของเขาครบแลว ผูมชี อ่ื น้ี ขออุปสมบทตอ สงฆ มีทา นผูมีช่ือน้เี ปนอุปช ฌายะ สงฆอ ปุ สมบทผมู ีชอ่ื นี้ มที านผมู ีชือ่ นี้เปนอุปชฌายะ การอปุ สมบทผูม ีชอื่ น้ี มที า นผูม ชี ื่อน้เี ปนอปุ ช ฌายะชอบแกท านผใู ด ทา นผูน้ันพึงเปนผูน ิ่ง ไมช อบแกท า นผใู ด ทานผนู นั้ พึงพดู . ขา พเจากลาวความนเ้ี ปน คร้ังท่ี ๒ ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟง ขา พเจา ผูมชี ื่อนี้ผนู ี้ เปน อปุ สมั ปทาเปกขะของทา นผมู ชี อื่ นี้ บร-ิสทุ ธิแ์ ลวจากอันตรายิกธรรมท้ังหลาย บาตรจีวรของเขาครบแลว ผูมีช่อื นี้ขออุปสมบทตอ สงฆ มีทา นผมู ีชือ่ นีเ้ ปน อุปชฌายะ สงฆอุป-สมบทผูมชี ่ือนี้ มที านผมู ชี ่ือน้เี ปน อปุ ชฌายะ ถามอุปสมบทผมู ชี ่อื นี้มที า นผูม ชี ื่อนเี้ ปน อุปช ฌายะ ชอบแกท า นผใู ด ทา นผูน ัน้ พงึ เปน ผูนง่ิ ไมช อบแกทานผูใด ทา นผนู ้ันพึงพูด. ขา พเจากลา วความน้ีเปน ครัง้ ท่ี ๓ ทา นเจา ขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา ผูมชี ่ือน้ผี นู ี้ เปน อุปสมั ปทาเปกขะของทา นผมู ีช่อื นบี้ ริ-สทุ ธ์แิ ลว จากอันตรายิกธรรมทงั้ หลาย บาตรจวี รของเขาครบแลวผูมีชื่อนข้ี ออปุ สมบทตอ สงฆ มที า นผมู ีชอ่ื นีเ้ ปนอุปชฌายะ สงฆอ ปุ -สมบทผมู ชี อ่ื นี้ มีทา นผูม ชี ่ือน้ีเปน อุปชฌายะ การอุปสมบทผมู ชี ่ือน้ี
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 361มที า นผมู ีชอ่ื นี้เปน อุปชฌายะ ชอบแกท านผใู ด ทานผูน ้ันพึงเปน ผูน่งิ ไมชอบแกท า นผูใ ด ทา นผูนนั้ พึงพูด. ผูม ีชอ่ื นสี้ งฆอุปสมบทแลว มที านผูมีชอื่ นเ้ี ปน อปุ ชฌายะชอบแกส งฆ เหตุน้ันจึงนง่ิ ขา พเจา ทรงความนีไ้ วด วยอยา งน้ี. อปุ สมบทกรรม จบ พระพุทธานุญาตนสิ สยั ๔ [๑๔๓] ทนั ใดนน้ั แหละ พงึ วดั เงา พึงบอกประมาณแหงฤดู พึงบอกสว นแหง วนั พงึ บอกสงั คีติ พึงบอกนสิ สัย ๔ วา ดงั น:้ี - ๑. บรรพชาอาศยั โภชนะ คอื คาํ ขาวอันหาไดด ว ยกําลงั ปลแี ขง เธอพงึ ทาํ อตุ สาหะในขอนนั้ จนตลอดชวี ิต อติเรกลาภ คอื ภตั ถวายสงฆ ภัตเฉพาะสงฆ การนิมนต ภตั ถวายตามสลาก ภตั ถวายในปก ษ ภตั ถวายในวันอุโบสถภัตถวายในวันปาฏิบท. ๒. บรรพชาอาศัยบังสุกลุ จีวร เธอพงึ ทาํ อุตสาหะในขอนน้ั จนตลอดชีวติ อดเิ รกลาภ คอื ผาเปลอื กไม ผา ฝา ย ผา ไหม ผา ขนสัตว ผา ปา น ผา แกมกัน. ๓. บรรพชาอาศยั โคนตนไมเปน เสนาสนะ เธอพงึ อุตสาหะในขอ น้ันจนตลอดชีวิต อดิเรกลาภ คือวหิ าร เรอื นมุงแถบเดียว เรือนช้นั เรอื นโลน ถาํ้ . ๔. บรรพชาอาศัยมตู รเนาเปนยา เธอพงึ ทาํ อุตสาหะในขอน้ัน จนตลอดชวี ิต อดเิ รกลาภ คือเนยใส เนยขน นํา้ มนั นา ผึ้ง น้าํ ออย. นสิ สยั ๔ จบ
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 362 อกรณยี กิจ ๔ [๑๔๔] กโ็ ดยสมัยนัน้ แล ภกิ ษุท้งั หลายอุปสมบทภกิ ษุรูป ๑ แลวทงิ้ ไวแ ตล าํ พงั แลว หลีกไป เธอเดนิ มาทหี ลังแตร ปู เดียว ไดพบภรรยาเกา เขา ณระหวา งทาง นางไดถามวา เวลานี้ทา นบวชแลว หรอื ? ภิกษนุ ้ันตอบวา จะ ฉันบวชแลว. นางจงึ พูดชวนวา เมถุนธรรมพวกบรรพชิตหาไดยาก นมิ นตทานมาเสพเมถนุ ธรรม. ภกิ ษุน้นั ไดเ สพเมถุนธรรมในนางแลว ไดไ ปถงึ ทีหลังชา ไป ภกิ ษุทง้ั หลายถามวา อาวุโส ทานมวั ทําอะไรชกั ชาเชนน้ี เธอไดแ จงเรือ่ งนัน้ แกภกิ ษุทั้งหลาย ภิกษทุ ้งั หลายจึงกราบทลู เรื่องนนั้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา . พระพทุ ธานุญาตใหบอกอกรณยี กจิ ลาํ ดับน้ัน พระผูมพี ระภาคเจา ทรงทาํ ธรรมีกถา ในเพราะเหตเุ ปนเคา มลู นน้ั ในเพราะเหตแุ รกเกดิ นัน้ แลวรับสงั่ กะภิกษุท้งั หลายวา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตใหภิกษุผใู หอ ุปสมบทแลว ใหภ ิกษุอยเู ปน เพื่อน และใหบอกอกรณียกิจ ๔ ดังตอไปน:ี้ - ๑. อันภิกษุผูอุปสมบทแลว ไมพ ึงเสพเมถนุ ธรรม โดยท่สี ุดแมใ นสัตวดิรัจฉานตวั เมยี ภกิ ษุใดเสพเมถุนธรรม ไมเ ปนสมณะ ไมเ ปนเช้ือสายศากยบตุ ร เปรยี บเหมือนบุรษุ ถกู ตดั ศีรษะแลว ไมอ าจจะมสี รรี ะคมุ กนันัน้ เปน อยู ภิกษกุ ็เหมอื นกัน เสพเมถุนธรรมแลว ไมเปนสมณะ ไมเ ปนเช้ือสายศากยบตุ ร การนนั้ เธอไมพงึ ทาํ ตลอดชีวติ . ๒. อันภิกษผุ อู ุปสมบทแลว ไมพ งึ ถอื เอาของอันเขาไมไ ดใ ห เปนสวนขโมย โดยทส่ี ดุ หมายเอาถงึ เสน หญา ภิกษุใดถือเอาของอันเขาไมไ ดให
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 363เปนสวนขโมย ไดร าคาบาท ๑ ก็ดี ควรแกราคาบาท ๑ กด็ ี เกนิ บาท ๑กด็ ี ไมเปน สมณะ ไมเปน เชื้อสายศากยบตุ ร เปรยี บเหมอื นใบไมเ หลืองหลน จากขว้ั แลว ไมอาจจะเปน ของเขียวสด ภิกษุกเ็ หมนื กนั ถือเอาของอันเขาไมไดให เปนสว นขโมย ไดร าคาบาท ๑ ก็ดี ควรแกร าคาบาท ๑ กด็ ีเกนิ บาท ๑ กด็ ี ไมเ ปน สมณะ ไมเปน เชื้อสายศากยบตุ ร การนนั้ เธอไมพึงทาํ ตลอดชีวิต. ๓. อันภิกษผุ อู ุปสมบทแลว ไมพงึ แกลง พรากสตั วจ ากชวี ติ โดยท่ีสุดหมายเอาถงึ มดดํามดแดง ภกิ ษใุ ดแกลงพรากกายมนุษยจากชีวิต โดยทีส่ ุดหมายเอาถึงยงั ครรภใ หตก ไมเปน สมณะ ไมเปนเชอื้ สายศากยบตุ รเปรียบเหมือนศิลาหนาแตก ๒ เสีย่ งแลว เปนของกลบั ตอกันไมไ ด ภกิ ษกุ ็เหมอื นกนั แกลา งพรากกายมนษุ ยจ ากชวี ติ แลว ไมเปน สมณะ ไมเ ปน เชือ้สายศากยบตุ ร การน้นั เธอไมพ งึ ทําตลอดชวี ติ . ๔. อนั ภิกษผุ ูอุปสมบทแลว ไมพงึ พูดอวดอตุ ตริมนุสสธรรม โดยที่สดุวา เรายนิ ดี ยิง่ ในเรือนวา งเปลา ภกิ ษใุ ดมคี วามปรารถนาลามก อนั ความปรารถนาลามกครอบงาํ แลว พูดอวดอุตตริมนสุ สธรรม อันไมม อี ยู อนั ไมจริง คือฌานกด็ วี โิ มกขกด็ ี สมาธิกด็ ี สมาบตั ิก็ดี มรรคก็ดี ผลกด็ ี ไมเ ปนสมณะ ไมเ ปนเชื้อสาย พระศากยบตุ ร เปรยี บเหมอื นตนตาลมียอดดวนแลวไมอาจจะงอกอกี ภกิ ษกุ ็เหมือนกัน มคี วามปรารถนาลามก อันความปรารถนาลามกครอบงําแลว พูดอวดอุตตรมิ นุสสธรรม อนั ไมมอี ยู อนั ไมเ ปนจริงไมเปนสมณะ ไมเปน เชอ้ื สายศากยบตุ ร การน้นั เธอไมพงึ ทาํ ตลอดชีวิต. อกรณียกิจ ๔ จบ
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 364 เรอื่ งภกิ ษุผสู งฆย กเสียเปนตน [๑๔๕] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษรุ ูป ๑ ถูกสงฆย กเสยี ฐานไมเหน็อาบัติ ไดสกึ แลว เขากลบั มาขออปุ สมบทตอ ภกิ ษทุ ้ังหลายอีก ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทูลเรอ่ื งนนั้ แดพระผูมีพระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา ทรงแสดงวิธีปฏิบัติ ดังน:้ี - วิธีปฏบิ ัตใิ นภกิ ษผุ ยู กเสยี ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลายกภ็ กิ ษใุ นธรรมวนิ ัยนี้ ถกู สงฆย กเสียฐานไมเ หน็อาบตั ิ สกึ ไป เธอกลับมาขออปุ สมบทตอภิกษุท้ังหลายอีก พงึ สอบถามเขาเชนนี้วาเจา จักเห็นอาบตั นิ น้ั หรือ ถา เขาตอบวา กระผมจักเหน็ ขอรับ พงึ ใหบรรพชา.ถา เขาตอบวา กระผมจกั ไมเหน็ ขอรบั ไมพงึ ใหบรรพชา. ครั้นใหบ รรพชาแลวพึงถามวา เจาจักเห็นอาบตั นิ ้ันหรอื ถา เขาตอบวา กระผมจักเห็นขอรบัพงึ ใหอ ปุ สมบท. ถาเขาตอบวา กระผมจกั ไมเ ห็นขอรบั ไมพ ึงใหอุปสนบท.คร้นั ใหอ ปุ สมบทแลว พึงถามวา ทานจักเหน็ อาบัติน้ันหรือ ถา เธอตอบวากระผมจักเห็น ขอรบั พึงเรยี กเขาหม.ู ถาเธอตอบวา กระผมจกั ไมเ หน็ ขอรบั ไมพ ึงเรยี กเขา หมู. ครั้นเรียกเขา หมแู ลว พึงถามวา ทา นเห็นอาบตั ินน้ัหรือ ถา เห็นการเหน็ ไดอ ยา งนั้น นน่ั เปน การดี. หากไมเห็น เมอ่ื ไดสามคั คีพึงยกเสียอีก เมือ่ ไมไ ดสามคั คี ไมเปนอาบัตใิ นพระสมโภคและอยูรว มกัน. ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย อน่งึ ภิกษใุ นพระธรรมวินยั นี้ ถูกสงฆยกเสียฐานไมยอมทําคนื อาบัติ สกึ ไป เธอกลับมาขออปุ สมบทตอ ภิกษทุ ้ังหลายอกีพึงสอบถามเขาเชนนี้วา เจา จกั ทําคืนอาบัตนิ ้ันหรอื ถา เขาตอบวา กระผมจักทาํ คืนขอรับ พึงใหบ รรพชา. ถาเขาตอบวา กระผมจกั ไมทาํ คืน ไมพ งึ ใหบรรพชา. ครนั้ ใหบรรพชาแลว พึงถามวา เจาจกั ทาํ คืนอาบัตนิ ัน้ หรือ ถา
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 365เขาตอบจกั ทําคนื ขอรบั พงึ ใหอุปสมบท. ถา เขาตอบวา กระผมจักไมทาํ คอื เธอรับ ไมพ ึงใหอปุ สมบท. ครนั้ ใหอุปสมบทแลว พึงถามวา ทานทําคืนอาบัตนิ ้ันหรอื ถาเธอตอบวา กระผมจักทาํ คืนขอรับ พงึ เรยี กเขา หม.ู ถา เธอตอบวากระผมจกั ไมท าํ คนื ขอรับ ไมพ งึ เรียกเขา หมู. ครั้นเรยี กเขา หมแู ลว พงึ กลา ววาจงยอมทําคืนอาบตั นิ นั้ เสยี ถา เธอยอมทําคนื การทาํ คืนไดอยา งน้ี นั่นเปน การดี. หากไมยอมทําคืน เม่ือไดสามัคคี พึงยกเสยี อกี เมือ่ ไมไ ดสามคั คี ไมเปนอาบตั ิในเพราะสมโภคและอยูรว มกัน. ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย อนึ่ง กภ็ ิกษใุ นธรรมวนิ ัยนี้ ถกู สงฆยกเสียฐานไมยอมสละทฏิ ฐบิ าป สกึ ไป เธอกลับมาขออปุ สมบทตอ ภิกษุท้งั หลายอีก พึงสอบถามเขาเชนน้ีวา เจาจักยอมสละคืนทฏิ ฐิบาปน้นั หรือ ถา เขาตอบวา กระผมจกั ยอมสละคืนขอรับ พงึ ใหบ รรพชา. ถา เขาตอบวา กระผมจกั ไมย อมสละคนื ขอรับ ไมพึงใหบรรพชา. ครน้ั ใหบ รรพชาแลว พึงถามวา เจา จกั ยอมสละคืนทิฏฐบิ าปนน้ั หรือ ถาเขาตอบวา กระผมจกั ยอมสละคนื ขอรบั พงึ ใหอุปสมบท. ถา เขาตอบวา กระผมจักไมยอมสละคืนขอรบั ไมพ งึ ใหอ ุปสมบท.ครนั้ ใหอ ุปสมบทแลว จงึ ถามวาทา นยอมสละคืนทิฏฐิบาปนั้น หรอื ถา เธอตอบวา กระผมจกั ยอมสละคืนขอรับพงึ เรยี กเขา หม.ู ถาเธอตอบวา กระผมจักไมยอมสละคืนขอรบั ไมพงึ เรยี กเขา หม.ู คร้ันเรยี กเขา หมูแ ลว พึงกลาววา จงยอมสละคนื ทิฏฐบิ าปนัน้ ถาเธอยอมสละคนื การยอมสละคนื ไดอ ยา งนี้ นน่ั เปนการด.ี ถาไมยอมสละคืน เมื่อไดสามัคคี พึงยกเสียอกี เม่ือไมไ ดสามคั คี ไมเปน อาบัตใิ นเพราะสมโภคและอยูรว มกัน. วธิ ปี ฏิบตั ิในภกิ ษุผถู ูกสงฆย กเสีย จบ มหาขนั ธกะที่ ๑ จบ
พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 366 อุททานคาถา๑ [๑๔๖] พระวนิ ยั มีประโยชนมาก คือ นํามาซ่งึ ความสขุ แกพ วกภิกษุ ผมู ศี ีลเปนที่ รัก ขม พวกทม่ี คี วามปรารถนาลามก ยกยอ ง พวกทม่ี ีความละอายและทรงไวซง่ึ พระ ศาสนา เปน อารมณข องพระสพั พัญชู นิ เจา ไมเปน วสิ ยั ของพวกอืน่ เปน แดนเกษม อัน พระผูม ีพระภาคเจา ทรงบญั ญัตไิ วดีแลว ไมม ี ขอทีน่ า สงสัย ภิกษุผูฉ ลาดในขันธกะ วินยั บรวิ าร และมาตกิ า ปฏิบตั ดิ ว ยปญ ญาอนั หลัก แหลม ชื่อวาผูทาํ ประโยชนอนั ควร ชนใดไม รูจักโค ชนน้ันยอ มรกั ษาฝูงโคไมไ ดฉนั ใด ภกิ ษุก็ฉันนัน้ เมื่อไมรูจ กั ศลี ไฉนเธอจะพงึ รักษาสงั วรไวได เมือ่ พระสตุ ตันตะ และพระ อภิธรรมเลอะเลอื นไปกอนแตพระวินัยยังไม เสือ่ มสญู พระศาสนาชอ่ื วา ยงั ตง้ั อยูตอไป เพราะเหตแุ หงการสงั คายนานนั้ ขาพเจาจกั ประมวลกลา วโดยลําดบั ตามความรู ขอทา น ทงั้ หลายงฟง ขาพเจากลา ว เพ่ือจะมิใหขอ ที่ ทําไดย าก คือวตั ถุ นทิ าน อาบตั ิ นยั และ เปยยาลเหลอื ลง ขอทา นทงั้ หลาย จงทราบ๑. นาจะเปนอทุ านคาถา.
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 367ขอนั้นโดยนยั เถดิ เรอ่ื งประทับอยู ณ ควงไมโพธ์ิ เรอ่ื งประทบั อยู ณ ควงไมอชปาลน-ิโครธ เร่ืองประทบั อยู ณ ควงไมราชายตน-พฤกษ เรอื่ งทาวสหัมบดีพรหม เร่อื งฤาษี-อาฬาระ เรอ่ื งฤาษีอุททกะ เรื่องอุปกาชีวกเรือ่ งภกิ ษปุ ญจวดั คยี คอื โกณฑญั ญะ วัปปะภทั ทิยะ มหานามะ อัสสชิ เรื่องยสกุลบตุ รเรือ่ งสทาย ๔ คน เรอื่ งสหาย ๕๐ คน เร่ืองสง พระอรหนั ตท ้งั หมดไปในทิศตาง ๆ เรื่องมาร ๒ เร่ือง เรอ่ื งภทั ทวคั คยี กมุ าร ๓๐ เรอ่ื งชฏลิ ๓ พนี่ อง มีอุรเุ วลกสั สปเปนตน เรอื่ งโรงบูชาไฟ เรือ่ งทาวมหาราช เรอ่ื งทา ว-สกั กะ เรอ่ื งทา วมหาพรหม เรื่องประชาชนชาวองั คะมคธะทั้งหมด เรื่องทรงชักผาบงั -สกลุ เรือ่ งสระโบกขรณี เรอ่ื งศิลา เรอ่ื งตน กุม เร่อื งผึ่งผาบังสกุ ุลท่ีแผนศลิ า เร่อื งไมหวา เรอ่ื งไมม ะมว ง เรอ่ื งไมม ะขามปอมเรอ่ื งทรงเก็บดอกไมป ารฉิ ัตตกะ เรอ่ื งชฎลิพวกอรุ เุ วลกัสสปผา ฟน เรอื่ งติดไฟ เร่ืองดับไฟ เรื่องดาํ นาํ้ เรอื่ งกองไฟ เร่ืองฝนตกเร่ืองแมน้ําคยา เร่อื งสวนตาลหนมุ เรื่องพระเจา แผนดินมคธ เรื่องอุปตสิ สะและ
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 368โกลติ ะ เร่ืองกลุ บตุ รทมี่ ชี ่อื เสียงบวช เรอื่ งภกิ ษนุ ุง หมไมเรียบรอย เรื่องประณาม เรื่องพราหมณซูบผอมหมน หมอง เรอื่ งประ-พฤติอนาจาร เรื่องบวชเห็นแกทอ ง เร่อื งมาณพ เรือ่ งใหอ ปุ สมบทดวยคณะ เรื่องอุปชาฌายะมีพรรษาเดียวใหกลุ บตุ รบวช เรือ่ งอปุ ช ฌายะเขลา เรื่องอุปช ฌายะหลกี ไป เร่อื งถอื นิสสัยกะอาจารยม ีพรรษา ๑๐ เรือ่ งอนั เตวาสิกไมป ระพฤติชอบ เรอื่ งทรงอนุญาตใหประณาม เรอื่ งอาจารยใหน ิสสัยเขลา เร่อื งนิสสยั ระงบั เร่อื งภิกษปุ ระกอบดว ยองค ๕เรื่องภิกษุประกอบดว ยองค ๖ เรื่องภกิ ษเุ คยเปน อญั ญเดียรถีย เร่อื งชีเปลอื ย เรือ่ งไมโกนผม เร่ืองชฎิลบูชาไฟ เรือ่ งอญั ญเดยี รถียทีเ่ ปนศากยบวช เรอ่ื งอาพาธ ๕ อยางในมคธรฐั เรอื่ งราชภัฏบวช เร่ืององคุลมิ าลโจรเร่ืองพระเจา แผน ดินมคธมีพระบรมราชา-นญุ าตไว เรอ่ื งหา มบวชนักโทษหนเี รอื นจําหา มบวชนักโทษทอี่ อกหมายส่ังจับ เร่อื งหา มบวชคนถกู เฆย่ี นมรี อยหวายติดตัว เรือ่ งหา มบวชคนถกู อาญาสักหมายโทษ เรือ่ งหามบวชคนมีหนี้สนิ เร่ืองหามบวชทาส เรื่อง
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 369บุตรชายชางทอง เร่อื งเด็กชายอบุ าลี เรื่องอหวิ าตกโรค เร่ืองตระกูลมศี รัทธา เร่อื งสามเณรกัณฏกะ เรื่องทศิ คับแคบ เร่อื งถือนิสสยั เรอื่ งเด็กบรรพชา เรื่องสกิ ขาบทของสามเณร เร่ืองสามเณรไมเ คารพภิกษุเร่ืองคาํ นึงวาจะลงทณั ฑกรรมอยา งไรหนอเรอื่ งลงทัณฑกรรม คอื หามสังฆารามทุกแหงเร่ืองหามปาก เรอื งไมบอกพระอุปชฌายะเร่อื งเกลี้ยกลอมสามเณรไวใ ช เรื่องสามเณรกณั ฏกะ เรอ่ื งหา มอุปสมบทบัณเฑาะกค นลกั เพศ เร่ืองหามอปุ สมบทคนเขา รตี เดียรถยี เรอ่ื งหามอปุ สมบทนาค คนฆา มารดา คนฆาบดิ า คนฆาพระอรหนั ต คนทํารายภกิ ษณุ ีภกิ ษุผูทาํ สังฆเภท คนทํารา ยพระพทุ ธเจาจนถึงหอพระโลหิต อุภโตพยัญชนก เร่ืองหา มอปุ สมบทคนไมม อี ุปชฌายะ คนมสี งฆเปน อปุ ชฌายะ คนมคี ณะเปนอปุ ช ฌายะคนมบี ณั เฑาะกเปนอุปชฌายะ เรอ่ื งหา มคนไมม บี าตรคนไมมีจีวร คนไมมบี าตรและจีวรทั้ง ๒ อยา ง เรอื่ งหา มอปุ สมบทคนยมืบาตรยืมจีวร ยมื ทง้ั บาตรและจีวรรวม ๓ เรอ่ื งหา มบรรพชาคนมอื ดว น หามบรรพชาคนเทา
พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 370ดว น หา มบรรพชาคนมือเทา ดว น หา มบรรพชาคนหขู าด หา มบรรพชาคนจมกู ขาดหามบรรพชาคนทัง้ หแู ละจมูกขาด หามบรรพชาคนน้ิวมอื นวิ้ เทาขาด หามบรรพชาคนงามมอื งา มเทา ขาด หา มบรรพชาคนเอ็นขาด หามบรรพชาคนมอื เปน แผน หามบรรพชาคนคอ ม หามบรรพชาคนเต้ยี หามบรรพชาคนคอพอก หามบรรพชาคนถกูลงอาญาสักหมายโทษ หามบรรพชาคนถูกเฆยี่ นมรี อยหวายตดิ ตัว หา มบรรพชาคนมีหมายประกาศจบั หา มบรรพชาคนเทาปกุหามบรรพชาคนมโี รคเรื้อรงั หา มบรรพชาคนมีรปู รา งไมสมประกอบ หา มบรรพชาคนตาบอดขางเคียว หา มบรรพชาคนงอ ย หา มบรรพชาคนกระจอก หา มบรรพชาคนเปนโรคอมั พาต หา มบรรพชาคนมีอิริยาบถขาดหา มบรรพชาคนแก หา มบรรพชาคนตาบอด๒ ขาง หามบรรพชาคนใบ หามบรรพชาคนหูหนวก หา มบรรพชาคนทัง้ บอดและใบหามบรรพชาคนท้งั บอดและหนวก หา มบรรพชาคนทัง้ ใบแ ละหนวก หา มบรรพชา
พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 371คนทง้ั บอดใบและหนวก เรื่องใหนสิ สยั แกอลชั ชี เรอื่ งถอื นสิ สยั ตออลชั ชี เรอื่ งเดนิ ทางไกล เรื่องขอรอง เร่อื งพิจารณา เร่อื งจงมาสวด เร่อื งแยงกันอปุ สมบทกอน เรอ่ื งอุปสมบทมีอปุ ชฌายะองคเ ดียว เร่ืองพระ-กมุ ารกสั สป เร่อื งอปุ สมั บันปรากฏถกู โรคเบียดเบียน เรอื่ งอปุ สัมปทาเปกขะยงั มีไดสอนซอมสะทกสะทาน เร่ืองสอนซอมในทา มกลางสงฆนั้นแหละ เร่อื งหามภิกษุเขลาสอนซอม หา มภกิ ษุยังไมไ ดรบั สมมติสอนซอม เรือ่ งผูส อนซอมกบั อุปสัมปทาเปกขะมาพรอ มกัน เรื่องขอจงยกขนึ้ เรื่องญัตตจิ ตตุ ถกรรมอุปสัมปทา เร่ืองบอกนิสสยั เร่อื งละอปุ สมั บนั ไวแ ตลําพงั เร่อื งภิกษถุ กู สงฆย กเสยี ๓ เรือ่ ง รวมเร่ืองในขันธกะน้ี ๑๗๒ เรอ่ื ง หวั ขอ เรือ่ งในมหาขันธกะ จบ
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 372 อรรถกานสิ สยคหณกถา ในคาํ วา อลชฺชีน นสิ ฺสาย วสนตฺ ิ นี้:- บทวา อลชฺชนี เปนฉฏั ฐวี ภิ ตั ติ ใชใ นอรรถแหง ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ. ความวา ภิกษทุ ัง้ หลายพ่ึงบคุ คลผอู ลชั ชีท้งั หลายอยู. คาํ วา ยาว ภิกฺขูสภาคต ชานามิ มีความวา เราจะทราบความท่ีภกิ ษุผูใหน สิ ัยเปนผูถูกสวนกบั ท้ังหลาย คอื ความเปนผมู ลี ะอายเพยี งไร.เพราะเหตนุ ้นั ภกิ ษุผถู ึงฐานะใหม แมอนั ภิกษุไร ๆ กลาววา ภกิ ษุ เธอจงมาถอื นสิ ยั ดังนี้ พงึ พจิ ารณาขอ ทีภ่ กิ ษผุ ใู หน ิสยั เปนผมู ีความละอาย ๔ - ๕ วนัแลว จึงคอยถอื นสิ ยั ถา ไดฟง ในสํานักแหงภิกษทุ งั้ หลายวา พระเถระเปนลชั ชี เปนผูปรารถนาจะถอื ในวนั ท่ีตนมาทเี ดยี ว ฝา ยพระเถระกลาวา คุณจงรอกอ น คุณอยูจักรู ดังน้ี แลว ตรวจดอู าจาระเสยี ๒ - ๓ วนั แลว จึงใหน ิสยัการทาํ อยา งน้ี ยอมควร. โดยปกติ ภกิ ษผุ ไู ปสสู ถานเปน ที่ถอื นสิ ยั ตอ งถือนสิ ัยในวนั นน้ั ทเี ดียวแมวันเดยี ว ก็คมุ ไมได. ถา ในปฐมยาม อาจารยไมมีโอกาส เมอื่ ไมไ ดโ อกาสจะนอนดวยผูกใจไววา เราจกั ถือในเวลาใกลรงุ ถงึ อรณุ ข้นึ แลวไมรู ไมเ ปนอาบัติ แตถ า ไมทาํ ความผกู ใจวา เราจักถือ แลว นอน เปนทกุ กฏในเวลาอรุณข้นึ . ภกิ ษุไปสสู ถานท่ีไมเคยไป ปรารถนาจะคาง ๒ - ๓ วันแลวไปไมตอ งถอื นิสยั อยูก็ได. แตเ มอื่ ทําอาลัยวา เราจกั คา ง ๗ วนั ตองถือนิสยั . ถาพระเถระพูดวา จะมีประโยชนอ ะไรดว ยนสิ ัยสําหรบั ผคู า ง ๗ วนั . เธอเปน อนั ไดบ ริหารจาํ เดมิ แตก าลท่ีพระเถระหามไป.๑. วนิ ย. มหาวคคฺ . ทุติย. ๒๖๔
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 373 บทวา นสิ สฺ ยกรณโี ย มคี วามวา เราเปนผูมีการถือนิสยั เปน กจิ ควรทาํ อธิบายวา นสิ ัยอันเราพึงทาํ คือ พงึ ถือ. สองบทวา นสิ ฺสย อลกมาเนน มคี วามวา เมอื่ ไมม ีภิกษผุ ใู หนิสัยซ่งึ เดินทางไปกบั คน เธอชอ่ื วายอ มไมไดนิสัย อนั ภกิ ษุผไู มไดอ ยางนน้ั ไมตองถือนสิ ยั ไปไดส ้นิ วนั แมมาก ถาเขา ไปสูอาวาสบางตาํ บลซ่ึงตนเคยถอื นสิ ยั อยูแ มในกาลกอน แมจะคา งคนื เดียว ก็ตอ งถอื นสิ ัย. พกั อยูในระหวา งทางหรือหาพวกอยู ๒ - ๓ วัน ไมเ ปน อาบตั ิ. แตภายในพรรษาตอ งอยปู ระจําท่ี และตอ งถือนิสัย. แตไ มเ ปนอาบัตแิ กภิกษุผไู ปในเรือ แตไมไ ดน ิสยั ในเม่อื ฤาดฝู นแมมาแลว . บทวา ยาจิยมาเนน มีความวา ผูอนั ภกิ ษุไขน น้ั ออกปากขอ ถาภิกษไุ ขแ มเธอบอกวา ทา นจงออกปากขอกะเรา ดังนี้ แตไ มย อมออกปากขอเพราะมานะ เธอพึงไป. สองบทวา ผาสุ โหติ มคี วามวา ความสําราญ มดี วยอาํ นาจแหงการไดเฉพาะซึง่ สมถะและวิปส สนา. อนั ท่ีจรงิ พระโสดาบัน ยอ มไมไ ดเลยซึ่งบริหารนี้ พระสกทาคามพี ระอนาคามแี ละพระอรหนั ต กไ็ มไ ด บคุ คลผูมีปกตไิ ดส มาธหิ รือวปิ สสนาอนั แกก ลา แลว ยอมไมไ ดบรหิ ารนี.้ อนั คําที่จะพง้ึกลา วยอ มไมม ีในพาลปถุ ชุ น ผูละเลยกมั มัฏฐานเสียแท. แตวาสมถะกด็ ี วิปส สนากด็ ี ของภิกษใุ ดแล ยงั เปน คณุ ชาตอิ อน ภกิ ษนุ ย้ี อมไดบ ริหารนี.้ แมป วารณาสงเคราะห๑ พระผูม ีพระภาคเจาไดท รงอนญุ าตแกภกิ ษผุ ูม ีสมถะและวปิ ส สนายังออ นนเี้ ทานน้ั . เพราะเหตุนัน้ บคุ คลนี้ แมเ ม่ืออาจารยป วารณาแลวไปแลวดวยลวง ๓ เตอื น จะทาํ ความผกู ใจวา เมื่อใค ภกิ ษผุ ใู หนสิ ัยซ่ึงสมควรจักมาเม่อื นั น เราจกั อาศัยภกิ ษนุ นั้ อยู แลว ไมถือนิสัยอยูจนถงึ วันอาสาฬหปณุ ณมี๑. คอื ทรงอนญุ าตใหเลือ่ นปวารณาไปทําในวนั เพ็ญเตือนกัตตกิ าหลงั .
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 374ดิถีเพญ็ เตอื น ๘ อีกกค็ วร. แตถา ในอาสาฬหมาส อาจารยไ มมา ควรไปในท่ีซึ่งตนจะไดนสิ ัย. อรรถกถาเอกานสุ สาวนากถา สองบทวา โคตฺเตนป อนุสฺสาเวตุ มีความวา เราอนุญาตใหภิกษุระบุโคตรสวดประกาศอยา งน้วี า ผูมชี ่ืออยา งน้เี พงอปุ สมบทแกพระมหากสั สปะ. สองบทวา เทฺว เอกานุสฺสาวเน มีความวา เราอนุญาตใหภ กิ ษุทําการสวดประกาศอุปสมั ปทาเปกขะ ๒ คนรวมกันได. อธบิ ายวา เราอนุณาตใหอ าจารย ๒ รูปอยา งน้ี ถอื อาจารยร ปู ๑ สาํ หรับอุปสัมปทาเปกขะคน ๑อาจารยอื่นสาํ หรบั อปุ สมั ปทาเปกขะอกี คน ๑ หรอื อาจารยรูปเดยี วสวดกรรมวาจาประกาศใหอุปสมบทในขณะเดียวกันได. คําวา เทวฺ เทวฺ ตโย เอกานุสสฺ าวเน กาตุ ตฺจ โข เอเกนอปุ ชฌฺ าเยน มคี วามวา เราอนญุ าตใหภ กิ ษุทาํ การสวดประกาศชน ๒ คนหรือ ๓ คนรวมกัน โดยนัยกอนน่ันแล. และเราอนุญาตอนุสสาวนกิรยิ าน้นั แลดวยอปุ ชฌายร ปู เดยี ว. เพราะเหตนุ น้ั อุปสัมปทาเปกขะ ๒ คน หรือ ๓ คนอนั อาจารยรูปเดยี ว พึงสวดประกาศ กรรมวาจา ๒ หรอื ๓ อนั อาจารย ๒ รปูหรอื ๓ รูป พึงสวดดวยลงมือพรอ มกันทีเดียวอยางนี้ คือ อาจารยรปู ๑ พึงสวดแกอุปสมั ปทาเปกขะรปู ๑. แยก ๆ กนั ไป. แตถาอาจารยก ็ตางรปูอปุ ช ฌายตางรูปกนั คอื พระติสสเถระสวดประกาศสัทธวิ ิหารกิ ของพระสมุ น-เถระ พระสุมนเถระสวดประกาศสัทธิวิหาริกของพระติสสเถระ และตา งเปนคณปูรกะของกันและกัน อยางนี้ควร. และถา อุปชฌายตางรปู กัน อาจารยรปูเดียว อยางชอ่ื วาไมค วร เพราะพระผมู พี ระภาคเจาทรงหา มไววา แตเ ราไมอนญุ าตดวยอุปชฌายตา งรูปกนั เลย ดังน้ี จริงอยูก ารหา มน้ีหมายเอาคาํ บาลนี .ี้
พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 375 อรรถกถาอุปสัมปทายัตตวธิ ี พงึ ทราบวินิจฉยั ในคาํ วา ปม อปุ ชฌฺ คาทาเปตพฺโพ นีต้ อไปภกิ ษใุ ดยอ มสอดสอ งโทษและมิใชโทษ เหตนุ ้ัน ภกิ ษนุ ั้นชอื่ อปุ ชฌาย.อุปสมั ปทาเปกขะน้ัน อันภิกษพุ ึงใหวาถอื อุปชฌายน ้นั อยา งนี้วา ขอทานเปนอปุ ชฌายของขาพเจาเถดิ เจาขา . บทวา วติ ถฺ ายนฺติ มีความวา อปุ สัมปทาเปกขะท้งั หลาย ยอ มเปนผมู ีตวั แขง็ ท่ือ. สองบทวา อุลลฺ มุ ปฺ ตุ ม มคี วามวา ขอสงฆยกขา พเจาขึน้ เถดิ . ศัพท ตาวเทว มคี วามวา ในเวลาตดิ ตอ กับเวลาที่อปุ สัมปทาเปกขะอุปสมบทแลว ทเี ดยี ว. ขอ วา ฉายา เมตพฺพา มีความวา พึงวดั เงาวา ชัว่ บุรุษ ๑ หรอื วา๒ ชวั่ บรุ ุษ. ขอ วา อตุ ปุ ฺปมาณ อาจกิ ขฺ ิตพพฺ มีความวา พึงบอกประมาณฤดูอยา งนีว้ า ฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูรอ น และฤดนู ่นั เอง ชอ่ื ประมาณแหง ฤดใู นคาํ น้ี ถาฤดทู ั้งหลายมฤี ดฝู นเปน ตน ยิ่งไมเ ตม็ ฤดใู ดของอปุ สัมบนั ใด ยังไมเ ตม็ดวยวนั มีประมาณเทาใด, พงึ กําหนดวันเหลานน้ั แหงฤดนู น้ั แลว บอกสว นแหง วนั แกอุปสมั บนั น้ัน. อกี ประการหนงึ่ พงึ บอกประมาณฤดูอยา งนี้วาฤดูช่ือนท้ี ้งั ฤดนู น้ั แลเตม็ หรือยังไมเตม็ พงึ บอกสว นแหง วันอยางน้ีวา เชาหรือเย็น. บทวา สงฺคีติ เปน ตน มคี วามวา พึงประมาณการบอกท้ังหมดมีบอกกําหนดเงาเปนตนน้แี ลเขาดวยกันบอกอยางนีว้ า เธออันใคร ๆ ถามวาทานไดฤ ดูอะไร ? เงาของทา นเทาไร ? ประมาณฤดูของทานอยา งไร สวน
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 376แหงวนั ของทา นเทา ไร ? ดงั น้ี พึงกลา ววา ขาพเจาไดฤดูช่ือนี้ คือ ฤดูฝนก็ตามฤดหู นาวก็ตาม ฤดรู อนก็ตาม เงาของขา พเจาเทานี้ ประมาณฤดูเทาน้ี สว นแหงวันเทาน้.ี บทวา โอหาย ไดแก ท้ิง. สองบทวา ทุติย ทาตุ มคี วามวา เราอนญุ าตใหภกิ ษุใหเ ปนเพื่อนแกภิกษผุ ูอ ุปสมบทใหม ซง่ึ จะไปสบู ริเวณจากโรงทอี่ ปุ สมบทและใหบ อก-อกรณียกิจ ๔ . บทวา ปฌฑฺ ุปลาโส ไดแก ใบไมมสี เี หลือง. สองบทวา พนธฺ นา ปมุตฺโต ไดแก หลนแลวจากขวั้ . สองบทวา อภพโฺ พ หรติ ตตฺ าย มีความวา ไมอ าจเปน ของเขยี วสดอีก. สองบทวา ปถุ ุสลิ า ไดแก ศิลาใหญ. ขอ วา อลพฺภมานาย สามคคฺ ิยา อนาปตตฺ ิ สมฺโภเค ส วาเสมคี วามวา ความพรอ มเพรียงเพื่อประโยชนแ กการทําอกุ เขปนียกรรมแกภ ิกษุนนั้อันภกิ ษุยงั ไมไ ดเพียงใด ไมเปน อาบตั ใิ นเพราะกินรวม๑ และอยรู วมตางโดยทําอโุ บสถ และปวารณาเปน ตนกับภิกษนุ ้ัน เพยี งน้นั . คําทเ่ี หลือทกุ แหง นบั วาปรากฏแลวแท เพราะเปน คําทีจ่ ะพึงทราบไดงาย โดยทํานองท่กี ลา วไวแลวในมหาวภิ งั ค ดว ยประการฉะน.ี้ คาํ อธิบายความแหง มหาขันธกะ อันประดบั ดว ย ๑๗๒ เร่อื งในอรรถกถาแหงพระวนิ ยั ชอื่ สมันตปาสาทกิ า จบ๑. สมฺโภเคติ ธมฺมสมโฺ ภเค อามิสสมโฺ ภเิ ค จาติ สารตฺถทีปนี.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 646
Pages: