Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_06

tripitaka_06

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:31

Description: tripitaka_06

Search

Read the Text Version

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 451เลา ภิกษทุ ั้งหลายกราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผูม ีพระภาคเจา พระผูมภี าคเจาตรสัอนญุ าตแกภกิ ษุท้ังหลายวา ดูกอนภิกษุท้ังหลาย เราอนญุ าตใหนับภิกษ.ุ คร้งั นั้น ภกิ ษุท้งั หลายไดมคี วามปรวิ ิติกวา เมื่อไรหนอเราพึงนับภกิ ษุแลว กราบทลู เร่อื งน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั อนญุ าตแกภ ิกษทุ ้ังหลายวา เราอนญุ าตใหน บั ภกิ ษดุ วยเรยี กช่ือหรอื ใหจ บั สลากในวนัอโุ บสถ. พระพทุ ธานญุ าตใหบ อกวนั อโุ บสถ [๑๗๘] ก็โดยสมัยน้นั แล ภิกษุท้งั หลายไมรวู าวนั นีเ้ ปน วนั อโุ บสถไปบิณฑบาต ณ หมูบา นทีไ่ กล พวกเธอมาถึงเม่อื กําลงั สวดปาตโิ มกขก็มี มาถงึ เม่อืสวดจบแลว กม็ ี ภิกษุท้ังหลายกราบทลู เร่อื งนน้ั แดพระผูม ีพระภาคเจา พระผูม ีพระภาคเจา ทรงอนุญาตแกภกิ ษุทั้งหลายวา ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนุญาตใหบอกวา วนั นเี้ ปนวนั อโุ บสถ. ครงั้ นั้น ภกิ ษทุ ง้ั หลายไดมีความปริวิตกวา ภกิ ษรุ ปู ไหนหนอพึงบอกแลวกราบทลู เรอ่ื งนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูม ีพระภาคเจาตรัสอนญุ าตแกภ ิกษทุ งั้ หลายวา ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนุญาตใหภิกษเุ ถระบอกแตเชา สมยั ตอ มา พระเถระรูปหนงึ่ เวลาเชาตรรู ะลกึ ไมได ภิกษทุ งั้ หลายจงึกราบทูลเรื่องนั้นแดพระผูม ีพระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั อนญุ าตแกภิกษุทั้งหลายวา ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย เราอนญุ าตใหบอกแมในเวลาภตั กาลแมใ นเวลาภัตกาล พระเถระน้ันกร็ ะลกึ ไมไ ด ภกิ ษทุ ั้งหลายจงึ กราบทูลเร่ืองน้ัน แดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั อนุญาตแกภ กิ ษทุ ้ังหลายวาดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนญุ าตใหบ อกในกาลทคี่ นระลึกได.

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 452 บุพกรณและบพุ กิจในโรงอุโบสถ [๑๗๙] ก็โดยสมยั นั้นแล ในอาวาสแหงหน่ึง โรงอุโบสถรก พวกพระอาคนั ตกุ ะพากันเพง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษุทง้ั หลายจงึ ไมกวาดโรงอุโบสถเลา ภกิ ษทุ งั้ หลายกราบทูลเรอื่ งนนั้ แดพระผูม ีพระภาคเจาพระผมู ีพระภาคเจาตรสั อนญุ าตแกภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อ นภิกษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตใหกวาดโรงอุโบสถ. ครง้ั น้นั ภกิ ษุทัง้ หลายไดมีความปรวิ ติ กวา ภกิ ษรุ ปู ไหนหนอพงึ กวาดโรงอโุ บสถ แลว จงึ กราบทลู เรอื่ งน้ัน แดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจาตรสั อนุญาตแกภกิ ษุทั้งหลายวา ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย เราอนญุ าตใหภกิ ษเุ ถระใชภกิ ษนุ วกะ. ภกิ ษุนวกะทั้งหลายอนั พระเถระใชแ ลว ไมยอมกวาด ภกิ ษทุ ั้งหลายจงึกราบทลู เรอื่ งนั้นแดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา รบั สง่ั กะภิกษทุ ้ังหลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ภิกษุไมอาพาธอนั พระเถระบญั ชาแลว จะไมกวาดไมได รปู ใดไมก วาด ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. สมยั ตอ มา ในโรงอุโบสถไมมีใครปอู าสนะไว ภกิ ษุท้งั หลายนั่งทพี่ ้ืนดินทั้งตัว ท้ังจวี ร เปอ นฝนุ ภกิ ษุท้งั หลายจงึ กราบทลู เรื่องนน้ั แดพระผมู ีพระ-ภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจาตรัสอนุญาตแกภ กิ ษุทงั้ หลายวา ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลายเราอนญุ าตใหป อู าสนะในโรงอโุ บสถ. ครง้ั นนั้ ภิกษทุ ัง้ หลายไดมีความปรวิ ติ กวา ภิกษุรูปไหนหนอ พงึ ปูอาสนะในโรงอโุ บสถ แลว กราบทูลเร่ืองนนั้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผม-ีพระภาคเจา ตรสั อนุญาตแกภ ิกษทุ ัง้ หลายวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เราอนญุ าตใหภ ิกษผุ ูเถระบัญชาภกิ ษนุ วกะ.

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 453 ภกิ ษนุ วกะทั้งหลายอนั พระเถระบัญชาแลว ไมป อู าสนะ ภกิ ษทุ ั้งหลายจึงกราบทลู เรื่องนั้นแดพ ระผูมีภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจารบั ส่ังกะภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย ภกิ ษุไมอ าพาธอนั พระเถระบัญชาแลว จะไมปูอาสนะไมไ ด รปู ใดไมป ู ตองอาบัตทิ กุ กฏ. สมยั ตอมา ในโรงอโุ บสถไมไ ดตามประทีปไว เวลาคาํ่ คนื ภิกษทุ ้งั หลายเหยียบกายกันบา ง เหยยี บจีวรบา ง แลว กราบทูลเรื่องน้นั แดพ ระผมู ีพระภาคเจาพระผมู พี ระภาคเจา ตรัสอนุญาต แกภ ิกษทุ ้ังหลายวา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตใหต ามประทปี ในโรงอุโบสถ. คร้งั นน้ั ภกิ ษทุ ั้งหลายไดมคี วามปริวติ กวา ภิกษุรปู ไหนหนอพงึ ตามประทีปแลว กราบทลู เร่ืองนน้ั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจาตรสัอนุญาตแกภ กิ ษทุ ัง้ หลายวา ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย เราอนุญาตใหภกิ ษผุ เู ถระบัญชาภกิ ษนุ วกะ. ภิกษุนวกะทงั้ หลาย อนั พระเถระบัญชาแลว ไมย อมตามประทปี ภกิ ษุทงั้ หลายจงึ กราบทูลเร่อื งน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รับส่ังกะภกิ ษุทง้ั หลายวา ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุไมอ าพาธอันพระเถระบัญชาแลวจะไมต ามประทีปไมไ ด รูปใดไมตามประทีป ตอ งอาบัติทกุ กฏ. จะไปไหนตองอาปุจฉากอน [๑๘๐] ก็โดยสมยั น้ันแล ภิกษหุ ลายรปู ดว ยกันเปน ผูเขลา ไมฉ ลาดไปสูท ิศ ไมอาํ ลาพระอุปชฌาย อาจารย ภิกษุท้งั หลายจึงกราบทูลเร่ืองนนั้ แดพระผูม ีพระภาคเจา พระผูม พี ระภาคเจา รับสั่งกะภิกษุทงั้ หลายวา ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ก็ภิกษใุ นศาสนานี้หลายรูปดวยกนั เปน ผูเขลา ไมฉ ลาด ไปสทู ศิไมอ าํ ลาพระอุปชฌาย อาจารย พวกเธออนั พระอปุ ชฌาย อาจารยพึงถามวา

พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 454ทา นทง้ั หลายจกั ไปไหนจักไปกบั ใคร ถา พวกเธอเปน ผเู ขลา ไมฉ ลาด พูดอา งถึงภิกษุเหลา อนื่ ทเ่ี ปน ผเู ขลาไมฉลาดดวยกนั พระอปุ ชฌาย อาจารย ไมพ ึงอนญุ าต ถาอนุญาตตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย ถา พวกเธอเปนผขู ลา ไมฉ ลาด อันพระอปุ ช ฌายอาจารย ไมอนุญาต ถา ยังขืนไป ตองอาบตั ิทุกกฏ. พึงสงเคราะหพ ระพหุสูต ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ก็ภกิ ษุในศาสนานีอ้ ยูในอาวาสแหง หนงึ่ มากรปูดวยกนั ลว นเปนผเู ขลา ไมฉลาด พวกเธอไมร อู โุ บสถหรือวิธีทาํ อโุ บสถ ไมรปู าติโมกข หรือวธิ สี วดปาตโิ มกข ภกิ ษรุ ปู อืน่ มาในอาวาสน้ัน เปน ผูคงแกเรียนชาํ นาญในคัมภีร ทรงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาตกิ า เปน บัณฑิต ฉลาดมีปญญา มคี วามละอาย รังเกียจ ใครต อสกิ ขา ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย ภิกษุเหลา น้นั พงึ สงเคราะห อนเุ คราะห ปราศรยั บาํ รุงเธอดวยจณุ ดิน ไมช ําระฟน นา้ํ บวนปาก ถาไมส งเคราะห อนเุ คราะห ปราศรัย บาํ รุงดว ยจณุ ดนิไมชําระฟน นํา้ บวนปาก ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ. สง พระไปเรยี นปาติโมกข ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย กใ็ นอาวาสแหงหนงึ่ ถงึ วนั อุโบสถ ภิกษใุ นศาสนาน้ีอยูด ว ยกนั มากรูป ลวนเปนผเู ขลา ไมฉลาด พวกเธอไมร ูอ โุ บสถหรอื วิธีทําอโุ บสถไมร ูปาติโมกข หรอื วธิ สี วดปาตโิ มกข ดูกอ นพระภิกษทุ ง้ั หลายภกิ ษุเหลา น้ันพึงสง ภิกษรุ ปู หน่ึงไปสูอาวาสใกลเคียงพอจะกลบั มาทนั ในวันนนั้

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 455ดว ยสั่งวา ดูกอนอาวโุ ส เธอจงไปเรยี นปาตโิ มกขโดดยอ หรอื โดยพิสดารมา ถาไดภิกษุเชนนัน้ อยา งนี้ นนั่ เปนการดี ถาไมได ภิกษเุ หลา นัน้ ทกุ ๆรปู พงึ พากนั ไปสอู าวาสทมี่ ีภกิ ษุรูอุโบสถ หรอื วิธที ําโอสถ รูปาติโมกข หรือวธิ สี วดปาตโิ มกขถ าไมพากนั ไป ตอ งอาบัติทกุ กฏ. พงึ จําพรรษาในอาวาสทีม่ ผี ูสวดปาตโิ มกขได ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย กภ็ ิกษใุ นศาสนาน้ี อยูจําพรรษาในอาวาสแหงหน่งึ มากรปู ดวยกนั ลวนเปนผเู ขลา ไมฉลาด พวกเธอไมร ูอโุ บสถ หรอื วิธีทําอโุ บสถ ไมรูป าตโิ มกข หรือวธิ ีสวดปาตโิ มกข ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย ภิกษุเหลานพ้ี งึ สง ภกิ ษรุ ูปหน่ึงไปสูอาวาสใกลเ คียงพอจะกลบั มาทนั ในวันน้ัน ดว ยส่งั วา ดูกอ นอาวโุ ส เธอจงไปเรียนปาติโมกขโดยยอหรอื โดยพสิ ดารมา ถาไดภิกษุเชน น้ันอยา งนี้ นัน่ เปนการดี ถาไมไ ด พงึ สงภกิ ษุรปู หน่ึงไปชว่ั ระยะกาล๗ วัน ดวยสัง่ วา ดูกอนอาวุโส เธอจงไปเรียนปาตโิ มกขโดยยอหรอื โดยพิสดารมา ถาไดภ ิกษุเชน น้นั อยา งน้ี นนั่ เปน การดี ถา ไมไ ด ภิกษุเหลานน้ัไมพ ึงอยจู ําพรรษาในอาวาสนน้ั ถา ขนื อยู ตองอาบตั ทิ ุกกฏ อรรถกถาอัชเฌสนา วนิ ิจฉัยในขอ วา โส น ชานาติ อุโปสถ วา เปนอาทดิ งั น:้ี - พระเถระนน้ั ไมรูจักอโุ บสถ ๓ อยาง โดยตางดว ยจาตุททสกิ อุโบสถปณณรสกิ อโุ บสถ และสามคั คีอุโบสถ และไมร ูจ ักอโุ บสถ ๙ อยา ง โดยตา งดวยสังฆอุโบสถเปน ตน ไมรอู ุโบสถกรรม ๔ อยา ง ไมร ูปาตโิ มกข ๒ อยางไมรปู าติโมกขทุ เทส ๙ อยา ง.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 456 ในขอ วา โย ตตถฺ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล นี้ มวี ินจิ ฉัยวาปาฏโิ มกขพระผูม พี ระภาคเจาทรงอนุญาตแกภกิ ษุผูฉลาดแมยังหนุม ก็จรงิ แล.ถึงกระนัน้ ในขอน้ี ควรทราบอธบิ ายดังน้ี:- ถาปาฏโิ มกขุทเทส ๕ หรือ ๔ หรอื ๓ ของพระเถระ ยงั จาํ ไมไ ด สวน๒ อุทเทสเปนของไมบ กพรอง ชาํ นาญดี คลองปาก ปาตโิ มกขค งเนอื่ งดว ยพระเถระ. แตถา แมเพียงเทา นี้ ทานยอมไมอาจเพ่อื ทาํ ใหชํานาญได ยอ มเปนหนาทข่ี องพระภิกษุผูฉลาดเทยี ว. สองบทวา สามนตฺ า อาวาสา ไดแ ก อาวาสใกลเ คยี งกนั . บทวา สชชฺ ุก มีความวา เพือ่ ปร.ะโยชนแ กก ารมาในวันนัน้ เอง. วินจิ ฉัยในขอ วา นวก ภิกขุ อาณาเปตุ นีว้ า ภิกษใุ ดสามารถจะเรียนได พึงบงั คับภิกษุเห็นปานน้นั อยา บังคบั ภกิ ษุท่ีโง. บทวา ถตม๑ี ภนเฺ ต นี้ มีอธิบายวา ดถิ ีเปนท่เี ต็มแหงดีถที ั้งหลายเทาไร ชอ่ื วา ดิถที ่ีเทาไร คือกค่ี ่ํา. มนุษยท ้งั หลายหมายเอากุศลกรรมท่เี น่ืองดวยพระผูเ ปนเจา ถามวา ภกิ ษมุ ีประมาณเทาไรขอรบั ? ขอ วา สลาก วา คาเหตุ มีความวา เราตถาคตอนุญาตใหภกิ ษุถือเอา คือ รวมสลากแลวนับ. บทวา กาลวโต ไดแก ตอกาลทีเดียว ความวา แตเชาทีเดยี ว. ในขอ วา ย กาล สรติ นี้ มีความวา แมใ นเวลาเยน็ จะบอกวาวนั นีอ้ โุ บสถ ทา นท้งั หลายจงมาประชุม ก็ควร. แมใ นขอวา เถเรน ภิกขฺ ุนา นว ภกิ ขฺ ุ อาณาเปตุ นี้ มวี นิ ิจฉยัวา ภกิ ษผุ ทู าํ กรรมบางอยางกด็ ี ภกิ ษุผชู ว ยภาระอยา งหน่ึงตลอดกาลในกาลทกุ๑. พระบาลวี ินยั เปน กตมิ ี, ฎีกาวมิ ตโิ นทนีกเ็ ปน กติม.ี

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 457เม่อื ทเี ดียวกด็ ี ภกิ ษผุ สู รภาณกะและธรรมกถกึ เปน ตนรปู ใดรูปหนง่ึ กด็ ี พระ-เถระไมค วรสง่ั บงั คับ เพอ่ื กวาดโรงอุโบสถ สว นภิกษทุ เี่ หลอื พงึ สัง่ บังคับตามวาระ คอื ผลัดเปล่ียนกัน หากวา ภิกษผุ ไู ดรับคาํ สง่ั แลว จะไมไ ดไมก วาดแมเปนของยืมไซร พึงวานกปั ปยการกหักกง่ิ ไมทําใหควรแลวกวาด เมื่อเธอไมไ ดแมซึง่ กปั ปยการกนนั้ เปน อันไดช ่ืออา ง. ถึงในการสงั่ บงั คบั เพื่อใหปูลาดอาสนะกพ็ ึงสง่ั บงั คบั ตามนยั ท่ีกลาวแลวนัน้ แล. ฝายภิกษุผูรับคาํ สัง่ แลว ถา อาสนะในโรงอโุ บสถไมม ี พึงขนมาจากสงั ฆกิ าวาส ปะลาดแลว ตอ งขนไปคืน. เมื่ออาสนะไมม จี ะปูเสอื่ ลําแพนกด็ ีเส่ือออนกด็ ี ยอมควร ถึงเม่ือเสอื่ ออนไมมีก็พงึ วานกปั ปย การกใหชวยหักกิ่งไมทําใหควรแลว ปลู าดเถิด เมอ่ื เธอไมไ ดก ปั ปยการก เปน อันไดขออา ง. ในการตามประทีปเลา พระเถระกพ็ ึงสงั่ บงั คับตามนัยทกี่ ลาวแลวนน่ัแล. และเมอ่ื จะสง่ั บงั คับ ตองบอกวา นาํ้ มัน หรือไส หรอื ตะเกียง มีอยใู นโอกาสโนน เธอจงถอื เอาสงิ่ นัน้ ๆ มาตามประทปี . หากนํ้ามันเปนตน ไมมีภกิ ษุผรู บั คําสง่ั ตอ งแสวงหามา เมือ่ แสวงหาแลวไมได เปน อันไดข ออา ง. อีกอยา งหนง่ึ จะพงึ ติดไฟใหโพลงบนกระเบอ้ื งก็ได. ขอ วา สงคฺ เทตพโฺ พ มีความวา ภกิ ษผุ เู ปน พหสุ ตู น้ัน อันภกิ ษุทั้งหลายพงึ สงเคราะห ดว ยถอ ยคาํ อนั ไพเราะอยางนี้วา ทานมาแลว กด็ ีแหละขอรบั ทนี่ ่ีภกิ ษาหาไดง า ย แกงและกับขา วก็มี อยาตอ งเปนกังวลเลย นมิ นตอยเู ถิด พงึ อนเุ คราะหเน่ืองดว ยการพดู จากันบอ ย ๆ พึงเกลยี้ กลอมดวยใหเธอใหค าํ ตอบวา ขอรบั ผมจักอยู.



























































พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 487ทําอโุ บสถ สวดปาตโิ มกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจบ บริษทั ยงั ไมท นั ลุกไป ขณะนั้น มภี ิกษุเจา ถ่นิ พวกอ่นื มาถึงมจี ํานวนเทา กนั . ๙. ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย. . .มจี ํานวนนอยกวา ปาตโิ มกขท่ีสวดแลวก็เปน อนั สวดดแี ลว พวกภิกษุผูมาทหี ลงั พึงบอกปาริสุทธใิ นสาํ นักพวกเธอพวกภกิ ษุผสู วด ไมตอ งอาบัต.ิ ๑๐. ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย อนึง่ ในอาวาสแหงหน่งึ . ถึงวนั อุโบสถมภี กิ ษเุ จาถิ่นในศาสนานมี้ ากรปู ดวยกัน แตป ระชุมกัน ๔ รูปบา ง เกินกวา บา งพวกเธอไมรูวา ยังมีภกิ ษุเจา ถิ่นพวกอื่นทย่ี งั ไมม า พวกเธอมีความสาํ คัญวาเปนธรรม มีความสาํ คญั วา เปน วินัย เปน หมู มคี วามสาํ คัญวา พรอมกนั จึงทําอโุ บสถ สวดปาติโมกข พอพวกเธอสวดปาตโิ มกขจ บ บรษิ ัทบางพวกลุกไปแลว ขณะน้ันมภี กิ ษุเจาถิ่นพวกอน่ื มาถงึ มีจํานวนมากกวา ภกิ ษเุ หลานนั้ตองสวดปาติโมกขโ หม พวกภกิ ษุผสู วด ไมตองอาบตั ิ, ๑๑. ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย อนงึ่ ในอาวาสแหงหน่งึ ถึงวนั อโุ บสถมภี กิ ษุเจาถน่ิ ในศาสนาน้มี ากรปู ดว ยกัน แตป ระชมุ กนั ๔ รูปบาง เกนิ กวาบา ง พวกเธอไมรูวา ยงั มภี กิ ษุเจาถิน่ พวกอ่ืนที่ยงั ไมมา พวกเธอมคี วามสาํ คัญวา เปนธรรมมีความสาํ คัญวา เปนวนิ ัย เปนหมู มคี วามสําคัญวา พรอ มกัน จึงทําอโุ บสถสวดปาตโิ มกข พอภิกษเุ หลานน้ั สวดปาติโมกขจบ บริษัทบางพวกลกุ ไปแลวขณะน้ันมีภกิ ษุเจา ถ่ินพวกอนื่ มาถงึ มจี าํ นวนเทา กัน. . . ๑๒. ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย . . .มจี าํ นวนนอยกวา ปาติโมกขทีส่ วดแลวกเ็ ปนอันสวดดแี ลว พวกภกิ ษุผมู าทหี ลัง พึงบอกปารสิ ทุ ธิในสํานกั พวกเธอ พวกภิกษุผูสวด ไมตอ งอาบตั .ิ ๑๓. ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย อนงึ่ ในอาวาสแหงหนง่ึ ถึงวันอโุ บสถ มีภกิ ษเุ จา ถ่ินในศาสนานี้ มากรปู ดว ยกัน แตป ระชมุ กนั ๔ รปู บา ง เกนิ กวาบา ง

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 488พวกเธอไมร วู า ยงั มีภกิ ษุเจา ถนิ่ พวกอื่นที่ยงั ไมมา พวกเธอมีความสาํ คญั วา เปนธรรม มีความสาํ คญั วาเปนวินยั เปนหมู มีความสาํ คญั วา พรอ มกัน จงึ ทาํอุโบสถ สวดปาติโมกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจ บ บริษัทลกุ ไปหมดแลวขณะนน้ั มภี ิกษุเจาถน่ิ พวกอน่ื มาถึง มจี าํ นวนมากกวา ภิกษุเหลานัน้ ตองสวดปาตโิ มกขใหม พวกภกิ ษุผสู วด ไมต องอาบัติ. ๑๔. ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย อน่ึง ในอาวาสแหงหนึ่ง ถงึ วันอุโบสถมีภกิ ษุเจาถิน่ ในศาสนานี้มากรปู ดวยกัน แตประชมุ กนั ๔ รูปบา ง เกนิ กวา บางพวกเธอไมร ูว ายงั มีภิกษเุ จา ถ่นิ พวกอ่นื ทย่ี งั ไมมา พวกเธอมีความสาํ คญั วาเปนธรรม มีความสาํ คัญวาเปนวินยั เปนหมู มีความสําคัญวาพรอมกนั จงึ ทําอโุ บสถ สวดปาตโิ มกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจ บ บรษิ ัทลกุ ไปหมดแลวขณะนัน้ มภี ิกษเุ จาถ่นิ พวกอ่ืนมาถงึ มจี ํานวนเทากนั . . . ๑๕. ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย . . . มีจํานวนนอยกวา ปาตโิ มกขท ี่สวดแลวกเ็ ปน อนั สวดดีแลว พวกภิกษุผูมาทีหลังพงึ บอกปารสิ ุทธใิ นสาํ นักพวกเธอพวกภกิ ษุผูส วด ไมตองอาบัติ. ทําอุโบสถไมต องอาบตั ิ ๑๕ ขอ จบ ทําอโุ บสถเปน หมูสาํ คัญวา พรอ มกนั ๑๕ ขอ [๑๙๒] ๑. ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ก็ในอาวาสแหงหนง่ึ ถงึ วนั อโุ บสถมภี กิ ษุเจาถิ่นในศาสนานี้มากรปู ดว ยกนั แตประชุมกนั ๔ รปู บา ง เกนิ กวา บา งพวกเธอรูอยวู ายังมภี กิ ษเุ จา ถนิ่ พวกอืน่ ที่ยังไมม า พวกเธอมีความสาํ คัญวาเปนธรรม มคี วามสาํ คญั วา เปนวนิ ยั เปน หมู มคี วามสาํ คญั วา พรอมกนั จึงทําอุโบสถสวดปาตโิ มกข เมอ่ื พวกเธอกําลังสวดปาติโมกข ขณะน้นั มีภกิ ษุเจาถิ่นพวกอื่น

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 489มาถงึ มจี าํ นวนมากกวา ภิกษุเหลา นั้นตอ งสวดปาติโมกขใหม พวกภิกษุผูสวด ตอ งอาบัติทกุ กฏ. ๒. . . .ขณะนัน้ มีภิกษุเจาถ่ินพวกอื่นมาถึงมจี ํานวนเทากนั . . . ๓. . . . มจี ํานวนนอยกวา ปาตโิ มกขที่สวดแลวกเ็ ปน อนั สวดดีแลวพวกภกิ ษุผมู าทีหลังพึงฟงสวนท่เี หลือตอไป พวกภกิ ษุผูส วด ตองอาบตั ิทกุ กฏ. ๔. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย อนงึ่ ในอาวาสแหงหนงึ่ ถงึ วันอุโบสถมภี กิ ษเุ จา ถ่นิ ในศาสนานีม้ ากรูปดว ยกนั แตป ระชมุ กัน ๔ รปู บา ง เกินกวาบางพวกเธอรูอยูวา ยงั มภี ิกษุเจาถ่ินพวกอน่ื ทยี่ งั ไมมา พวกเธอมคี วามสาํ คญั วาเปนธรรม มีความสาํ คัญวา เปนวินัย เปนหมู มคี วามสาํ คญั วาพรอ มกัน จงึ ทําอุโบสถ สวดปาติโมกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจ บ ขณะนั้น มภี กิ ษุเจาถิ่นพวกอื่นมาถงึ มจี ํานวนมากกวา ภกิ ษเุ หลา นั้นตองสวดปาตโิ มกขใหม พวกภิกษผุ ูสวด ตองอาบตั ิทุกกฏ. ๕. . . .ขณะนั้น มีภกิ ษุเจา ถิ่นพวกอ่นื มาถงึ มจี ํานวนเทา กัน . . . ๖. . . . มจี าํ นวนนอ ยกวา ปาติโมกขท ่ีสวดแลวก็เปน อันสวดดแี ลวพวกภกิ ษุผมู าทีหลงั พงึ บอกปารสิ ทุ ธใิ นสํานักพวกเธอ พวกภิกษผุ ูสวด ตอ งอาบัติทุกกฏ. ๗. ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย อน่งึ ในอาวาสแหง หน่ึง ถึงวนั อโุ บสถมภี ิกษเุ จาถ่นิ ในศาสนานี้มากรปู ดวยกนั แตป ระชุมกนั ๔ รปู บา ง เกินกวา บา งพวกเธอรอู ยูวา ยงั มพี วกภกิ ษุเจาถิ่นอ่นื ทีย่ ังไมมา พวกเธอมีความสําคญั วาเปน ธรรม มคี วามสาํ คัญวาเปนวนิ ัย เปน หมู มีความสาํ คัญวาพรอมกนั จึงทําอุโบสถ สวดปาติโมกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจ บ บริษทั ยังไมท ันลกุไป. . . มจี ํานวนมากกวา.. .

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 490 ๘. . . .มจี าํ นวนเทา กัน. . . ๙. . . .มจี าํ นวนนอ ยกวา . . . ๑๐. . . . บรษิ ัทบางพวกลุกไปแลว . . .มีจาํ นวนมากกวา . . . ๑๑. . . .มจี ํานวนเทากนั . . . ๑๒. . . .มจี าํ นวนนอ ยกวา. . . ๑๓. . . .บริษัทลกุ ไปหมดแลว ขณะนน้ั มภี ิกษุเจา ถ่ินพวกอ่ืนมาถึงมีจาํ นวนมากกวา ภกิ ษเุ หลา นนั้ ตองสวดปาติโมกขใ หม พวกภกิ ษุผสู วด ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. ๑๔. . . .ขณะนน้ั มีภกิ ษเุ จาถนิ่ พวกอน่ื มาถึง มีจํานวนเทา กนั . . . ๑๕. . . . มจี าํ นวนนอยกวา ปาตโิ มกขท ีส่ วดแลวก็เปนอนั สวดดีแลวพวกภกิ ษุผูมาทีหลงั พงึ บอกปาริสทุ ธิในสํานกั ของพวกเธอ พวกภกิ ษุผสู วด ตองอาบตั ิทกุ กฏ. ทําอโุ บสถเปนหมูสําคญั วาพรอ มกัน ๑๕ ขอ จบ มคี วามสงสัยทําอุโบสถ ๑๕ ขอ [๑๙๓] ๑. ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย กใ็ นอาวาสแหง หนงึ่ ถึงวนั อุโบสถมีภิกษุเจา ถน่ิ ในศาสนานมี้ ากรปู ดว ยกัน แตป ระชุมกัน ๔ รูปบาง เกนิ กวาบา งพวกเธอรูอ ยูวา ยังมภี กิ ษเุ จาถน่ิ พวกอนื่ ท่ียงั ไมม า และมคี วามสงสยั วา พวกเราควรทําอุโบสถหรือไมค วรหนอ ดังนี้ แลวยังขนื ทําอโุ บสถ สวดปาติโมกขเมื่อพวกเธอกาํ ลงั สวดปาตโิ มกข ขณะนน้ั มีภกิ ษเุ จาถน่ิ พวกอ่ืนมาถงึ มจี ํานวนมากกวา ภกิ ษุเหลาน้ันตอ งสวดปาติโมกขใหม พวกภิกษุผสู วด ตอ งอาบัติทกุ กฏ. ๒. . . .ขณะนน้ั มีภิกษเุ จา ถ่ินพวกอืน่ มาถึง มจี ํานวนเทากนั . . .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 491 ๓. . . .มจี ํานวนนอยกวา ปาตโิ มกขท ี่สวดแลวกเ็ ปนอันสวดดีแลวภกิ ษผุ ูม าทหี ลงั พึงฟง สวนที่เหลือตอไป พวกภกิ ษผุ ูส วด ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. ๔. ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย อนึ่ง ในอาวาสแหง หนง่ึ ถงึ วันอโุ บสถมีภกิ ษเุ จา ถิน่ ในศาสนาน้มี ากรปู ดว ยกัน แตประชุมกนั ๔ รูปบาง เกนิ กวา บางพวกเธอรอู ยวู า มีภิกษเุ จาถิ่นพวกอืน่ ทย่ี งั ไมม า และมีความสงสยั วา พวกเราควรทาํ อุโบสถหรือไมค วรหนอ ดงั น้ี แลว ยงั ขนื ทาํ อุโบสถ สวดปาติโมกขพอพวกเธอสวดปาตโิ มกขจบ ขณะนนั้ มภี กิ ษุะ. . . มีจํานวนมากกวา . . . ๕. . . .มีจาํ นวนเทา กนั ๖. . . .มจี าํ นวนนอยกวา. . . ๗. . . .บริษัทยงั ไมท นั ลุกไป . . .มีจํานวนมากกวา . . . ๘. . . .มีจํานวนเทา กัน. . . ๙. . . .มจี ํานวนนอ ยกวา . . . ๑๐. . . . บรษิ ทั บางพวกลกุ ไปแลว . . . มีจํานวนมากกวา . . . ๑๑. . . . มีจํานวนเทากัน. . . ๑๒. . . .มจี าํ นวนนอ ยกวา. . . ๑๓. . . .บริษัทลุกไปหมดแลว ขณะนน้ั มภี กิ ษุเจา ถ่นิ พวกอน่ื มาถึงมีจาํ นวนมากกวา ภิกษุเหลา นั้นตอ งสวดปาติโมกขใ หม พวกภิกษผุ ูสวด ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ๑๔. . . .ขณะนน้ั มภี กิ ษุเจาถ่ินพวกอ่ืนมาถงึ มจี าํ นวนเทา กนั . . . ๑๕. . . . มีจํานวนนอ ยกวา ปาตโิ มกขท สี่ วดแลวกเ็ ปนอนั สวดดแี ลวพวกภิกษุผมู าทหี ลังพงึ บอกปาริสุทธิในสาํ นักของพวกเธอ พวกภิกษผุ ูสวด ตองอาบตั ิทุกกฏ. มีความสงสัยทาํ อุโบสถ ๑๕ จบ

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 492 ฝน ใจทาํ อโุ บสถ ๑๕ ขอ [๑๙๔] ๑. ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย กใ็ นอาวาสแหงหนึง่ ถึงวนั อโุ บสถมีภิกษุเจา ถน่ิ มากรปู ดว ยกนั แตป ระชุมกัน ๔ รูปบา งเกนิ กวา บาง พวกเธอรูอยูวา ยังมีภิกษเุ จาถนิ่ พวกอ่นื ทย่ี ังไมมา แตฝ นใจทาํ อุโบสถ สวดปาติโมกข ดว ยเขาใจวาพวกเราควรทาํ อุโบสถแท มิใชไ มค วร เมอ่ื พวกเธอกําลงั สวดปาตโิ มกขขณะนน้ั มภี กิ ษเุ จาถิ่นพวกอน่ื มาถงึ มจี าํ นวนมากกวา ภกิ ษเุ หลานัน้ ตอ งสวดปาตโิ มกขใ หม พวกภกิ ษุผูส วด ตองอาบตั ิทกุ กฏ. ๒. . . .ขณะนัน้ มภี กิ ษุเจาถนิ่ พวกอ่ืนมาถึง มจี ํานวนเทา กัน. . . ๓. . . . มีจํานวนนอ ยกวา ปาติโมกขท ีส่ วดแลว กเ็ ปนอนั สวดดีแลวพวกภิกษทุ ม่ี าทหี ลังพึงฟง สวนท่ีเหลอื ตอ ไป พวกภกิ ษผุ สู วด ตอ งอาบัติทกุ กฏ. ๔. ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย อนึง่ ในอาวาสแหงหนึ่ง ถงึ วนั อโุ บสถมภี กิ ษุเจา ถ่นิ ในศาสนานมี้ ากรูปดว ยกัน แตป ระชุมกนั ๔ รูปบาง เกนิ กวาบา ง พวกเธอรอู ยูวา ยังมีภกิ ษุเจา ถน่ิ พวกอนื่ ที่ยงั ไมมา แตฝ น ใจทาํ อุโบสถ สวดปาติโมกขดว ยเขา ใจวา พวกเราควรทําอโุ บสถแท มใิ ชไมค วร พอพวกเธอสวดปาติโมกขจบ ขณะนั้นมภี กิ ษุ . . .มจี าํ นวนมากกวา . . . ๕. . . .มจี ํานวนเทา กัน. . . . ๖. . . .มีจํานวนนอยกวา. . . ๗. . . .บริษัทยงั ไมท นั ลุกไป . . . มจี ํานวนมากกวา . ๘. . . .มจี าํ นวนเทา กัน. . . ๙. . . .มจี าํ นวนนอ ยกวา. . . ๑๐. . . .บริษัทบางพวกลกุ ไปแลว . . . มีจํานวนมากกวา . . .

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 493 ๑๑. . . . มีจํานวนเทากัน ๑๒. . . . มีจํานวนนอยกวา . . . ๑๓. . . .บรษิ ทั ลุกไปหมดแลว ขณะนั้น มภี กิ ษเุ จา ถน่ิ พวกอ่ืนมาถึงมีจาํ นวนมากกวา ภิกษุเหลา นนั้ ตองสวดปาตโิ มกขใหม พวกภกิ ษผุ ูสวด ตองอาบตั ทิ กุ กฏ. ๑๔. . . . ขณะน้นั มีภกิ ษเุ จา ถ่นิ พวกอ่ืนมาถึง มจี ํานวนเทากนั . . . ๑๕. . . . จาํ นวนนอ ยกวา ปาตโิ มกขท่ีสวดแลว ก็เปน อันสวดดีแลวพวกภิกษผุ ูมาทีหลงั พึงบอกปาริสุทธิในสํานักของพวกเธอ พวกภิกษุผูสวด ตองอาบตั ิทกุ กฏ. ฝน ในทาํ อโุ บสถ ๑๕ ขอ จบ มงุ ความแตกราวทําอุโบสถ ๑๕ ขอ [๑๙๕] ๑. ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ก็ในอาวาสแหงหนึ่ง ถึงวนั อโุ บสถมภี กิ ษุเจา ถ่นิ ในศาสนาน้ีมากรูปดวยกนั แตประชมุ กัน ๔ รปู บา ง เกินกวา บางพวกเธอรอู ยวู า ยงั มีภิกษุเจา ถน่ิ พวกอน่ื ที่ยังไมม าและมงุ ความแตกราววา ขอภิกษเุ หลา นัน้ จงเสือ่ มสูญ ขอภิกษุเหลา นน้ั จงพินาศ จะประโยชนอะไรดว ยภิกษุเหลา น้ัน ดังน้ี จงึ ทําอโุ บสถ สวดปาติโมกข เมอ่ื พวกเธอกาํ ลงั สวดปาตโิ มกขขณะน้ันมภี กิ ษุเจา ถิ่นพวกอน่ื มาถึง มีจาํ นวนมากกวา ภกิ ษุเหลา นน้ั ตอ งสวดปาติโมกขใหม พวกภิกษุผสู วด ตองอาบัตถิ ุลลัจจยั . ๒. . . . ขณะน้นั มภี ิกษุเจาถิ่นพวกอน่ื มาถงึ มจี าํ นวนเทา กนั . . . ๓. . . .มีจํานวนนอยกวา ปาติโมกขท ่ีสวดแลว ก็เปน อนั สวดดีแลวพวกภกิ ษุท่ีมาทหี ลงั พึงฟง สวนทเ่ี หลือตอ ไป พวกภิกษุผสู วด ตองอาบัติถลุ ลัจจัย.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 494 ๔. ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย อนึง่ ในอาวาสแหงหน่งึ ถงึ วันอโุ บสถมีภกิ ษเุ จา ถิ่นในศาสนาน้มี ากรปู ดวยกัน แตป ระชุมกนั ๔ รปู บาง เกินกวาบางพวกเธอรูอยูวา ยงั มภี กิ ษเุ จาถนิ่ พวกอื่นท่ียงั ไมมาและมุงความแตกราววา ขอภกิ ษเุ หลา นน้ั จงเสอื่ มสูญ ขอภกิ ษุเหลา นนั้ จงพนิ าศ จะประโยชนอะไรดว ยภิกษเุ หลา นัน้ ดังนี้ จึงทําอโุ บสถ สวดปาตโิ มกข พอพวกเธอสวดปาติโมกขจบ ขณะนั้น มภี กิ ษุ . . . มีจํานวนมากกวา . . . ๕. . . .มจี าํ นวนเทา กัน. . . ๖. . . .มีจํานวนนอยกวา . . . ๗. . . .บริษทั ยงั ไมท ันลกุ ไป. . .มจี ํานวนมากกวา. .. ๘. . . . มีจํานวนเทากัน. . . ๙. . . . มจี าํ นวนนอยกวา . . . ๑๐. . . .บริษัทบางพวกลุกไปแลว . . . มีจาํ นวนมากกวา . . . ๑๑. . . .มจี ํานวนเทา กัน. . . ๑๒. . . .มจี ํานวนนอยกวา กนั . . . ๑๓. . . .บรษิ ทั ลกุ ไปหมดแลว ขณะนนั้ มภี กิ ษเุ จาถนิ่ พวกอืน่ มาถงึมจี าํ นวนมากกวา ภกิ ษเุ หลานนั้ ตองสวดปาติโมกขใ หม พวกภกิ ษุผูสวด ตองอาบัติถลุ ลจั จัย. ๑๔. . . . ขณะนนั้ มีภกิ ษุเจา ถิน่ พวกอนื่ มาถงึ มีจาํ นวนเทากัน. . . ๑๕. . . .มจี ํานวนนอ ยกวา ปาติโมกขทสี่ วดแลว กเ็ ปน อันสวดดีแลวพวกภกิ ษผุ ูมาทีหลงั พงึ บอกปาริสุทธใิ นสํานกั ของพวกเธอพวกภิกษผุ สู วดตอ งอาบัติถลุ ลจั จยั . มุงความแตกรา วทาํ อุโบสถ ๑๕ ขอ จบ การทาํ อโุ บสถ ๒๕ ติกะ จบ

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 495 เปยยาลมขุ ๗๐๐ ตกิ ะ [๑๙๖] ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย อน่งึ ในอาวาสแหงหน่ึง ถึงวนั อโุ บสถมภี กิ ษเุ จาถ่นิ ในศาสนานม้ี ากรูปดวยกนั แตประชุมกัน ๔ รปู บา ง เกินกวาบา งพวกเธอไมร ูวา ยงั มีภิกษเุ จา ถน่ิ พวกอน่ื กาํ ลงั เขามาภายในสมี า . . . . . . พวกเธอไมรวู า มีภิกษุเจา ถนิ่ พวกอ่ืนเขา มาภายในสีมาแลว . . . . . . พวกเธอไมเ หน็ ภิกษุเจาถิ่นพวกอ่ืนทก่ี าํ ลังเขา มาภายในสีมา . . . . . . พวกเธอไมเ หน็ ภกิ ษุเจา ถิ่นพวกอื่นที่เขา มาภายในสีมาแลว . . . . . .พวกเธอไมไ ดยินวา มภี ิกษุเจา ถ่นิ พวกอนื่ กาํ ลงั เขามาภายในสีมา. . . . . .พวกเธอไมไดย ินวา มภี ิกษุเจาถนิ่ พวกอ่ืนเขา มาภายในสีมาแลว . . . โดยนยั ๑๗๑ ทก่ี ะ ภกิ ษเุ จาถิน่ กับภกิ ษเุ จา ถิน่ ภิกษุอาคนั ตุกะกบั ภิกษุเจา ถิ่น ภิกษเุ จา ถน่ิ กบั ภิกษอุ าคนั คุกะ ภิกษอุ าคันตกุ ะกบั ภกิ ษอุ าคันตกุ ะ รวมเปน ๗๐๐ ตกิ ะ โดยเปยยาลมขุ . วนั อุโบสถตา งกนั [๑๙๗] ดูกอนภิกษุทั้งหลาย กว็ ันอุโบสถของพวกภกิ ษุเจา ถิน่ นี้ศาสนาน้ีเปนวนั ๑๔ ค่ํา ของพวกภกิ ษอุ าคนั ตุกะ เปนวนั ๑๕ ค่าํ ถา พวกภกิ ษุเจาถิ่นมจี ํานวนมากกวา พวกภกิ ษุอาคันตุกะ พึงอนวุ ัตตามพวกภิกษุเจา ถ่นิถา มีจํานวนเทากนั พวกภิกษุอาคนั ตุกะพงึ อนวุ ตั ตามพวกภกิ ษเุ จาถ่นิ ถา พวกภกิ ษุอาคนั ตุกะมีจาํ นวนมากกวา พวกภิกษุเจาถนิ่ พึงอนวุ ตั ตามพวกภิกษุอาคนั ตุกะ. ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย อนึ่ง วันอโุ บสถของพวกภิกษเุ จาถนิ่ ในศาสนานี้เปนวัน ๑๕ ค่ํา ของพวกภิกษอุ าคันตุกะ เปน วัน ๑๔ คาํ่ ถา พวกภิกษเุ จา

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 496ถ่นิ จาํ นวนมากกวาพวกภกิ ษอุ าคนั ตุกะ พึงอนุวัตตามพวกภิกษเุ จา ถน่ิ ถา มีจํานวนเทากัน พวกภกิ ษุอาคันตกุ ะพึงอนุวัตตามพวกภกิ ษเุ จา ถิน่ ถาพวกภิกษุอาคันตกุ ะมีจาํ นวนมากกวา พวกภิกษเุ จาถนิ่ พงึ อนุวตั ตามพวกภกิ ษอุ าคนั ตุกะ. ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย อนึง่ วนั อโุ บสถของพวกภกิ ษเุ จาถิน่ ในศาสนาน้ีเปนวนั ๑ คํา่ ของพวกภิกษุอาคนั ตุกะ เปน วัน ๑๕ ค่าํ ถา พวกภิกษเุ จาถิน่มจี ํานวนมากกวา พวกภิกษเุ จาถิ่นไมป รารถนาก็ไมต อ งใหความสามัคคีแกพ วกภิกษุอาคันตุกะ พวกภิกษอุ าคันตุกะพึงไปนอกสมี า แลว ทําอุโบสถเถดิ ถา มีจํานวนเทากัน พวกภิกษเุ จา ถ่ินไมป รารถนา ก็ไมตอ งใหค วามสามคั คแี กพ วกภิกษุอาคนั ตกุ ะ พวกภกิ ษอุ าคนั ตุกะพึงไปนอกสีมา แลวทําอโุ บสถเถิด ถาพวกภิกษุอาคันตุกะมจี าํ นวนมากกวา พวกภกิ ษุเจาถิน่ พึงใหค วามสามัคคแี กพวกภกิ ษอุ าคนั ตุคันกะ หรอื พึงไปนอกสีมา. ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย อน่งึ วันอโุ บสถของภกิ ษเุ จา ถน่ิ ในศาสนานี้ เปนวนั ๑๕ คํา่ ของพวกภกิ ษอุ าคันตุกะเปนวนั ๑ ค่าํ ถา พวกภกิ ษเุ จา ถ่ินมจี าํ นวนมากกวา พวกภกิ ษอุ าคนั ตกุ ะพงึ ใหความสามคั คีแกพวกภกิ ษุเจา ถิน่ หรือไปนอกสีมา ถา มจี าํ นวนเทา กนั พวกภกิ ษุอาคนั ตกุ ะพงึ ใหความสามคั คแี กพวกภิกษุเจาถ่ินหรอื พงึ ไปนอกสมี า ถา พวกภกิ ษอุ าคนั ตุกะมีจํานวนมากกวา พวกภิกษุอาคันคกุ ะไมป รารถนา กไ็ มต อ งใหค วามสามคั คแี กพวกภกิ ษุเจาถิน่ พวกภกิ ษเุ จา ถน่ิ พงึ ไปนอกสีมาแลว ทําอุโบสถเถิด. มุงความแตกรา ว [๑๙๘] ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย กพ็ วกภิกษุอาคนั ตุกะในพระศาสนาน้ีไดเหน็ อาการเจาถ่นิ ลกั ษณะเจาถ่นิ เคร่อื งหมายเจาถิน่ สิง่ ท่ีแสดงเจาถ่นิของภิกษุเจา ถนิ่ เตยี ง ต่ัง ฟูก หมอน ปลู าด จัดไหเ รียบรอ ย นํา้ ฉัน นาใช

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 497แตงตงั้ ไวเ ปนระเบยี บ บรเิ วณกวาดสะอาดสะอา น ครน้ั แลวมคี วามสงสัยวาพวกภิกษุเจา ถ่ินยงั หรือไมม หี นอ พวกเธอมีความสงสยั แตไมเ ทยี่ วคน หา คร้ันแลวขนื ทําอโุ บสถ ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. พวกเธอมคี วามสงสยั ไดคนหาแลว แตไมพ บจึงทําอุโบสถ ไมตองอาบัต.ิ พวกเธอมคี วามสงสัยไดค นหาแลวพบจึงทาํอโุ บสถรวมกันไมต องอาบตั ิ. พวกเธอมคี วามสงสยั ไดค นหาแลวพบ คร้ันแลวแยกกันทําอโุ บสถ ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. พวกเธอมคี วามสงสัยไดคน หาแลว พบครน้ั แลวมุงความแตกราววา ขอภกิ ษุเหลานนั้ จงเสือ่ มสญู ขอภกิ ษเุ หลาน้ันจงพินาศ จะประโยชนอะไรดวยภกิ ษุเหลา นนั้ ดังนี้ จงึ ทําอโุ บสถ ตอ งอาบัต-ิถลุ ลจั จยั . ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย อนึง่ พวกภกิ ษุอาคันตกุ ะในศาสนานี้ ไดยนิอาการเจา ถน่ิ ลักษณะเจา ถ่นิ เครือ่ งหมายเจา ถนิ่ ส่ิงท่ีแสดงเจา ถ่ิน ของพวกภิกษุเจาถ่ิน ไดยนิ เสยี งเทา ของพระภิกษุเจา ถ่นิ กําลงั เดนิ จงกรม ไดย นิ เสียงสาธยาย เสียงไอ เสียงจาม ครัน้ แลว มคี วามสงสยั วา พวกภิกษเุ จาถิน่ ยงั มีหรอื ไมมหี นอ พวกเธอมคี วามสงสัย แตไ มคน หา คร้ันแลว ขนื ทาํ อโุ บสถตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ, พวกเธอมีความสงสยั ไดค นหา ครน้ั คน หาแลว ไมพบ ครน้ัแลว จงึ ทําอุโบสถ ไมตองอาบัติ. พวกเธอมีความสงสยั ไดค นหา ครั้นคน หาแลวจงึ พบ คร้ันพบแลว จึงทาํ อโุ บสถรว มกนั ไมต อ งอาบตั ิ. พวกเธอมคี วามสงสัยไดคนหา คร้ันคน หาแลวจึงพบ ครัน้ พบแลว จึงแยกกันทาํ อุโบสถ ตองอาบัติทุกกฏ. พวกเธอมีความสงสัยไดคน หา ครัน้ คนหาแลวจึงพบ คร้นั พบแลวมุงความแตกรา ววา ขอภกิ ษุเหลา นั้นจงเสื่อมสญู ขอภิกษุเหลา นั้นจงพินาศ จะประโยชนอ ะไรดว ยภกิ ษุเหลา นั้น. ดงั นี้ จึงทาํ อโุ บสถ ตอ งอาบตั ถิ ลุ ลจั จยั .

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 498 ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย อน่งึ พวกภกิ ษุเจาถนิ่ ในศาสนาน้ี ไดเหน็ อาการอาคันตกุ ะ ลกั ษณะอาคันตุกะ เคร่ืองหมายอาคนั ตุกะ สิง่ ทแี่ สดงอาคันตกุ ะของภิกษอุ าคนั ตุกะ ไดเ หน็ บาตร จวี ร ผา นิสีทนะ อันเปน ของภิกษพุ วกอ่นืไดเห็นรอยนํ้าลา งเทา ครนั้ แลว มีความสงสัยวา พวกภกิ ษุอาคันตกุ ะยังมหี รือไมม หี นอ พวกเธอมคี วามสงสัย แตไ มคน หา คร้นั แลวขนื ทําอโุ บสถ ตอ งอาบัติทกุ กฏ. พวกเธอมีความสงสยั ไดค น หา ครัน้ คน หาแลวไมพบ ครัน้แลวทาํ อโุ บสถ ไมตองอาบตั ิ. พวกเธอมคี วามสงสัยไดค นหา ครัน้ คน หาแลวจงึ พบ ครน้ั พบแลวจึงทําอโุ บสถรว มกัน ไมต องอาบัต.ิ พวกเธอมีความสงสยัไดคน หา คร้ันตนหาแลว จึงพบ ครั้นพบแลว ไดแ ยกกนั ทาํ อโุ บสถ ตองอาบัติทุกกฏ. พวกเธอมีความสงสยั ไดคน หา ครัน้ คนหาแลวจึงพบ ครัน้ พบแลว มงุความแตกราววา ขอภิกษุเหลานั้นจงเสอ่ื มสูญ ขอภกิ ษุเหลานั้นจงพินาศ จะประโยชนอะไรดวยภิกษเุ หลาน้ัน ดงั นี้ จึงทําอโุ บสถ ตอ งอาบตั ิถลุ ลัจจยั . ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย อน่ึง พวกภกิ ษเุ จาถ่ินในศาสนาน้ี ไดย นิ อาการอาคันตุกะ ลักษณะอาคันตุกะ เครอื่ งหมายอาคนั ตุกะ สิง่ ทีแ่ สดงอาคนั ตุกะของพวกภกิ ษอุ าคันตกุ ะ ไดยนิ เสยี งเทา ของพวกภิกษอุ าคน ตุกะกําลังเดนิ มา ไดยินเสียงรองเทา กระทบพืน้ ไดย ินเสยี งไอ เสยี งจาม ครั้นแลว มีความสงสยั วาพวกภิกษอุ าคนั ตุกะยังมหี รือไมมหี นอ พวกเธอมคี วามสงสยั แตไ มคนหา ครัน้แลว ขืนทาํ อุโบสถ ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. พวกเธอมคี วามสงสยั ไดค น หา ครนั้ คนหาแลว ไมพ บ ครั้นแลวจึงทําอโุ บสถ ไมต อ งอาบตั .ิ พวกเธอมีความสงสยั ไดคน หา คร้นั คน หาแลวจงึ พบ คร้ันพบแลวจงึ ไดทาํ อโุ บสถรว มกัน ไมตอ งอาบัต.ิ พวกเธอมคี วามสงสัยไดค นหา คร้นั ตน หาแลว จึงพบ คร้นั พบแลว แยกกนั ทําอุโบสถ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. พวกเธอมีความสงสัยไดคนหา ครนั้ คน หา

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 499แลวจึงพบ ครั้นพบแลว มุงความแตกราววา ขอภกิ ษุเหลา นน้ั จงเสอ่ื มสูญ ขอภกิ ษเุ หลานน้ั จงพินาศ จะประโยชนอ ะไรดว ยภิกษเุ หลานัน้ ดงั นี้ จงึ ทาํ อโุ บสถตอ งอาบัตถิ ลุ ลัจจัย. ภิกษุนานาสังวาสและสมานสังวาส [๑๙๙] ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย ก็พวกภกิ ษุอาคนั ตกุ ะในศาสนานี้ไดเหน็ภกิ ษเุ จา ถนิ่ สังวาสตา งกนั พวกเธอกลบั ไดความเห็นวามสี งั วาสเสมอกัน ครนั้แลว ก็ไมไตถ ามจึงทาํ อโุ บสถรวมกัน ไมตอ งอาบตั ิ. พวกเธอไดไดถ าม ครั้นไดถาม แลวไมร ังเกียจ ทําอุโบสถรวมกัน ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. พวกเธอไดไ ตถาม ครน้ั ไตถามแลว ไมรังเกยี จ แยกกันทําอุโบสถ ไมต อ งอาบตั ิ. ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย อนง่ึ พวกภกิ ษุอาคนั ตุกะในศาสนาน้ี ไดเ หน็พวกภกิ ษเุ จาถ่นิ มีสังวาสเสมอกัน พวกเธอกลบั ไดความเหน็ วามีสังวาสตา งกันคร้ันแลวก็ไมไดถ าม ทําอุโบสถรว มกนั ตองอาบัตทิ ุกกฏ. พวกเธอไดไตถ ามครน้ั ไตถามแลวรงั เกียจ แยกกันทําอโุ บสถ ตองอาบตั ิทกุ กฏ. พวกเธอไดไตถาม คร้นั ไตถ ามแลวรังเกยี จ ทาํ อุโบสถรว มกนั ไมตองอาบัต.ิ ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย อน่ึง พวกภกิ ษุเจาถ่ินในศาสนานี้ ไดเหน็ พวกภกิ ษุอาคันตกุ ะมีสงั วาสตางกนั พวกเธอกลบั ไดความเห็นวามสี งั วาสเสมอกนัคร้นั แลว ก็ไมไดถ ามจึงทําอโุ บสถรวมกนั ไมต อ งอาบัต.ิ พวกเธอไดไ ตถ ามครั้นไตถ ามแลว ไมรังเกยี จทาํ อุโบสถรว มกนั ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. พวกเธอไดไดถ าม ครนั้ ไดถ ามแลวไมรงั เกียจ แยกกนั ทําอุโบสถ ไมตอ งอาบัต.ิ ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย อนึ่ง พวกภกิ ษุเจา ถิ่นในศาสนานี้ ไดเ ห็นพวกภกิ ษอุ าคนั ตกุ ะมสี งั วาสเสมอกัน พวกเธอกลับไดความเห็นวามสี งั วาสตา งกนั

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 500ครนั้ แลว กไ็ มไตถาม ทาํ อุโบสถรวมกนั ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. พวกเธอไดไดถามคร้ันไตถ ามแลว รังเกียจ แยกกันทาํ อุโบสถ ตอ งอาบัติทกุ กฏ. พวกเธอไดไตถ าม ครน้ั ไตถามแลวรังเกยี จ ทาํ อโุ บสถรวมกนั ไมต อ งอาบตั .ิ ไมค วรไปไหนในวนั อโุ บสถ [๒๐๐] ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย เมอ่ื ถงึ วันอโุ บสถ ไมพ ึงไปจากอาวาสทมี่ ภี กิ ษุครบจาํ นวน สูอาวาสทม่ี ภี กิ ษุไมครบจาํ นวน เวน แตไ ปกับสงฆ เวนแตม ีอันตราย. ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย เมือ่ ถึงวันอุโบสถ ไมพ งึ ไปจากอาวาสทมี่ ีภกิ ษุครบจาํ นวน สูถนิ่ ทม่ี ใิ ชอ าวาสซึง่ มภี ิกษไุ มค รบจํานวน เวน แตไปกับสงฆเวนแตม อี นั ตราย. ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เมือ่ ถึงวันอโุ บสถ ไมพงึ ไปจากอาวาสที่มีภิกษุครบจํานวนสอู าวาสหรอื ถิ่นทม่ี ใิ ชอ าวาส ซึง่ มภี กิ ษไุ มครบจาํ นวน เวนแตไปกบั สงฆ เวน แตมีอันตราย. ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย เมอ่ื ถึงวันอโุ บสถ ไมพ ึงไปจากถนิ่ ทมี่ ิใชอาวาสซึ่งมีภิกษคุ รบจาํ นวน สอู าวาสทีม่ ีภกิ ษไุ มครบจาํ นวน. . . . สถู ่นิ ท่ีมิใชอาวาส ซ่งึ มภี ิกษุไมค รบจาํ นวน เวนแตไปกบั สงฆเวน แตมีอนั ตราย. . . .สอู าวาสหรอื ถิน่ ที่มใิ ชอาวาส ซ่งึ มีภิกษไุ มค รบจาํ นวน เวน แตไปกับสงฆ เวน แตม ีอนั ตราย. ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย เม่อื ถงึ วนั อโุ บสถ ไมพึงไปจากอาวาส หรือถิน่ท่มี ใิ ชอ าวาส ซ่ึงมภี กิ ษุครบจํานวน สอู าวาสทมี่ ภี กิ ษไุ มครบจาํ นวน. . .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook