Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_06

tripitaka_06

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:31

Description: tripitaka_06

Search

Read the Text Version

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 51 พระผูม ีพระภาคเจา ตรัสวา เธอทัง้ สองจงเปน ภิกษุมาเถดิ ดงั นี้ แลวไดต รัสตอไปวา ธรรมอนั เรากลา วดแี ลว เธอท้งั สองจงประพฤติพรหมจรรยเพ่ือทําท่ีสดุ ทกุ ขโดยชอบเถิด. พระวาจาน้ันแล ไดเ ปนอปุ สมบทของทานผูม อี ายุทง้ั สองนน้ั . ครงั้ นน้ั พระผมู พี ระภาคเจาเสวยพระกระยาหารทีท่ านท้ังสามนาํ มาถวายไดทรงประทานโอวาทส่ังสอนภิกษุทเี่ หลอื จากน้ันดว ยธรรมีกถา ภิกษุเท่ียวบิณฑบาตนําบิณฑบาตใดมา ทง้ั ๖ รปู ก็เลย้ี งชีพดวยบิณฑบาตนน้ั . วนั ตอ มา เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจาทรงประทานโอวาทส่ังสอนดว ยธรรมีกถาอยู ดวงตาเหน็ ธรรมปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทนิ ไดเ กิดขน้ึ แกท านพระมหานามะและทา นพระอัสสชิวา สง่ิ ใดสิง่ หน่ึงมีความเกดิ ข้นึ เปน ธรรมดาส่ิงนน้ั ทง้ั มวลมคี วามดับเปน ธรรมดา. ทา นทัง้ สองไดเหน็ ธรรมแลว ไดบรรลุธรรมแลว ไดร ธู รรมแจมแจงแลว. มธี รรมอันหยงั่ ลงแลว ขามความสงสยั ไดแลว ปราศจากถอ ยคาํ แสดงความสงสยั ถงึ ความเปนผูแ กลวกลา ไมต องเชอื่ผูอ ื่นในคาํ สอนของพระศาสดา ไดทลู คาํ น้ตี อ พระผมู พี ระภาคเจาวา ขอขา พระองคท ง้ั สอง พึงไดบ รรพชา พงึ ไดอุปสมบทในสํานักพระผมู ีพระภาคเจาพระพทุ ธเจาขา. พระผูมีพระภาคเจาตรัสวา เธอทั้งสองจงเปน ภกิ ษุมาเถดิ ดังนี้ แลวไดต รสั ตอไปวา ธรรมอันเรากลาวดแี ลว เธอท้ังสองจงประพฤตพิ รหมจรรยเพื่อทําทีส่ ดุ ทุกขโดยชอบเถิด. พระวาจาน้นั แล ไดเปนอปุ สมบทของทานผูมอี ายุท้งั สองนนั้ .

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 52 ทรงแสดงอนัตตลักขณสตู ร [๒๐] ครง้ั นั้น พระผูม ีพระภาคเจา รบั สงั่ กะพระปญจวคั คยี วา ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย รปู เปนอนัตตา ดกู อนภิกษุท้งั หลาย ถา รปู นี้จักไดเ ปนอัตตาแลว รูปน้ีไมพ งึ เปน ไปเพือ่ อาพาธ และบคุ คลพงึ ไดใ นรปู วา รูปของเราจงเปนอยา งนเ้ี ถดิ รปู ของเราอยา ไดเ ปนอยา งนั้นเลย ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย ก็เพราะรูปเปน อนัตตา ฉะนน้ั รูปจงึ เปน ไปเพื่ออาพาธ และบุคคลยอ มไมไ ดใ นรปูวา รปู ของเราจงเปน อยางน้เี ถดิ รปู ของเราอยาไดเ ปน อยา งนัน้ เลย. เวทนาเปน อนัตตา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ถาเวทนานจ้ี ักไดเ ปนอัตตาแลว เวทนาน้ีไมพ ึงเปนไปเพอ่ื อาพาธ และบคุ คลพงึ ไดในเวทนาวา เวทนาของเราจงเปน อยา งน้ีเถิด เวทนาของเราจงอยาไดเ ปนอยางนนั้ เลย ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย กเ็ พราะเวทนาเปนอนัตตา ฉะน้นั เวทนาจงึ เปนไปเพอื่ อาพาธและบคุ คลยอ มไมไดใ นเวทนาวา เวทนาของเรา จงเปน อยางนน้ั เถิด เวทนาของเราอยาไดเปนอยา งนั้นเลย. สัญญาเปนอนัตตา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย ถาสญั ญาน้จี กั ไดเปนอัตตาแลว สญั ญานไี้ มพึงเปนไปเพือ่ อาพาธ และบุคคลพงึ ไดในสัญญาวา สัญญาของเราจงเปน อยา งน้เี ถดิ สัญญาของเราอยา ไดเ ปนอยา งนั้นเลย ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย กเ็ พราะสญั ญาเปน อนัตตา ฉะน้นั สัญญาจึงเปนไปเพ่อื อาพาธ และบคุ คลยอมไมไ ดใ นสัญญาวา สญั ญาของเราจงเปนอยางนเ้ี ถดิ สัญญาของเราอยาไดเปนอยางนน้ั เลย. สังขารท้งั หลายเปนอนัตตา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ถา สังขารเหลา นี้จักไดเปนอัตตาแลว สงั ขารเหลา นี้ไมพงึ เปนไปเพ่ืออาพาธ และบคุ คลพึงไดในสังขารท้งั หลายวา สงั ขารทง้ั หลายของเราจงเปนอยา งนี้เถิด สังขารทัง้ หลายของ

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 53เราอยาไดเปน อยางน้นั เลย ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย กเ็ พราะสงั ขารท้ังหลายเปนอนตั ตา ฉะนั้น สังขารทัง้ หลายจงึ เปนไปเพื่ออาพาธ และบคุ คลยอมไมไ ดในสังขารทั้งหลายวา สังขารทั้งหลายของเรา จงเปน อยางนีเ้ ถิดสังขารท้ังหลายของเราอยาไดเปน อยางน้นั เลย. วิญญาณเปนอนตั ตา ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย ถาวญิ ญาณน้ีจกั ไดเ ปนอัตตาแลว วญิ ญาณนไ้ี มพ งึ เปน ไปเพ่ืออาพาธ และบคุ คลพึงไดในวญิ ญาณวาวิญญาณของเราจงเปน อยา งน้ีเถดิ วิญญาณของเราอยาไวเปนอยา งนนั้ เลย ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กเ็ พราะวิญญาณเปนอตั ตา ฉะน้นั วิญญาณจึงเปนไปเพ่ืออาพาธ และบุคคลไมไ ดใ นวิญญาณวา วญิ ญาณของเราจงเปนอยางนี้เถดิวญิ ญาณของเราอยา ไดเ ปนอยางนน้ั เลย. ตรสั ถามความเหน็ ของพระปญ จวคั คยี  [๒๑] พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสถามวา ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย พวกเธอสําคญั ความนน้ั เปนไฉน รปู เท่ยี งหรือไมเท่ยี ง. พระปญจวัคคียทลู วา ไมเ ทยี่ ง พระพุทธเจา ขา. ภ. กส็ ิ่งใดไมเที่ยง ส่ิงนนั้ เปนทุกขหรือเปน สขุ เลา ? ป. เปน ทุกข พระพทุ ธเจา ขา. ภ. กส็ ่ิงใดไมเ ทย่ี ง เปนทุกข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดา ควรหรอื จะตามเหน็ ส่งิ นั้นวา นั่นของเรา นั่นเปนเรา น่นั เปน ตนของเรา ? ป. ขอ น้นั ไมควรเลย พระพุทธเจา ขา . ภ. เวทนาเทยี่ งหรือไมเ ทยี่ ง ? ป. ไมเ ท่ียง พระพทุ ธเจาขา.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 54 ภ. ก็ส่งิ ใดไมเทีย่ ง ส่ิงน้ันเปนทกุ ขห รือเปน สุขเลา ? ป เปนทกุ ข พระพุทธเจาขา. ภ กส็ ง่ิ ใดไมเ ทย่ี ง เปน ทกุ ข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดา ควรหรอื จะตามเห็นสิง่ น้นั วา นนั่ ของเรา นัน่ เปนเรา นั่นเปนตนของเรา ? ป. ขอนั้นไมค วรเลย พระพทุ ธเจาขา. ภ. สญั ญาเที่ยงหรือไมเท่ียง ? ป. ไมเทย่ี ง พระพุทธเจา ขา . ภ กส็ ง่ิ ใดไมเทย่ี ง สิง่ นน้ั เปนทกุ ขห รอื เปนสุขเลา ?. ป. เปน ทกุ ข พระพุทธเจา ขา. ภ ก็สงิ่ ใดไมเทีย่ ง เปน ทุกข มีดวามแปรปรวนเปน ธรรมดา ควรหรอื จะตามเหน็ ส่ิงน้ันวา นน้ั ของเรา นนั่ เปน เรา นนั่ เปนตนของเรา ?. ป. ขอนนั้ ไมควรเลย พระพทุ ธเจาขา. ภ สงั ขารทงั้ หลายเท่ียงหรอื ไมเท่ียง. ป. ไมเทย่ี ง พระพทุ ธเจาขา. ภ. กส็ ่งิ ใดไมเท่ยี ง สิง่ นัน้ เปนทกุ ขหรือเปนสุขเลา ?. ป. เปนทกุ ข พระพทุ ธเจาขา. ภ. กส็ ่ิงใดไมเที่ยง เปน ทกุ ข มคี วามแปรปรวนเปน ธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสงิ่ นัน้ วา นั้นของเรา นัน่ เปน ตนของเรา ? ป. ขอ นนั้ ไมควรเลย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. วิญญาณเทย่ี งหรือไมเทยี่ ง. ป. ไมเท่ยี ง พระพทุ ธเจาขา .























































พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 82 เวน จากทําสัตวมีชวี ิตใหตกลวงไป ๑. เวน จากถอื เอาส่งิ ของทเี่ จา ของเขาไมใ ห ๑. เวนจากกรรมมิใชพ รหมจรรย ๑๐. เวนจากพูดเทจ็ ๑. เวนจากด่ืมน้ําเมา คือ สรุ าและเมรยั อันเปนทต่ี ั้งแหง ความประมาท ๑. เวนจากบริโภคอาหารผดิ เวลา ๑. เวนจากฟอนขับประโคมและดูการเลน ๑. เวน จากการทดั ทาระเบียบดอกไมข องหอมและเคร่ืองทาอันเปนฐาน แตงตัว ๑. เวน จากนอนบนทนี่ อนสงู ทนี่ อนใหญ ๑. เวนจากรบั ทองและเงิน๑ ๑. สว นในอันธกฏั ฐกถา พระอรรถกถาจารย กลาวแมซ่ึงการใหสกิ ขาบทเหมือนการใหสรณะอยางนีว้ า อห ภนเฺ ต อติ ถฺ นนฺ าโม ยาวซวี ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขฺ าปท สมาทยิ ามิ ดังน้.ี แมว ิธีนัน้ ก็ไมมีในบาลี ท้ังไมม ีในอรรถกถาทง้ั หลาย เพราะฉะน้ันควรแสดงแตพ อสมควรแกบาลี จริงอยู บรรพชาสาํ เรจ็ ดวยสรณคมนเทา น้ัน. สว นสกิ ขาบททงั้ หลายอนัสามเณรควรทราบเพ่ือทาํ สิกขาใหบ รบิ รู ณอ ยางเดยี ว เพราะฉะนน้ั เม่อื สามเณรไมสามารถจะเรยี นสิกขาบทเหลา นต้ี ามนยั ซ่ึงมาในพระบาลไี ด จะบอกแตเพียงใจความดวยภาษาอยา งใดอยางหนึง่ ก็ควร. และสามเณรยังไมรูสิกขาบทท่ีตนควรศกึ ษา ยังไมฉ ลาดในการทรงผา สงั ฆาฏ๒ิ บาตร และจีวร การยืนและการน่งั เปนตน และในวธิ มี ดี ืม่ และฉนั เปน อาทเิ พียงใด ยงั ไมค วรปลอ ยเธอ๑. ว.ิ มหา. ๔/๑๒๐.๒. สามเณรกม็ สี งั ฆาฎเิ หมอื นกนั .

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 83ไปสูหอฉนั หรือท่ีแจกสลาก หรอื สถานเชน นน้ั อ่ืนเพียงนั้น. ควรใหเธอเทีย่ วอยูในสํานักเทา นน้ั . ควรสงวนเธอเหมอื นเด็กออ น. ควรบอกส่ิงท่คี วรและไมค วรทกุ อยา งแกเธอ ควรแนะนาํ เธอในอภสมาจาริกวตั รมนี งุ หมเปนตน . แมส ามเณรนนั้ เลา กค็ วรเวน ใหไกลซง่ึ นาสนังคะ ๑. ที่พระผมู พี ระภาคเจาตรสั ไวข างหนาอยา งนว้ี า ภกิ ษุท้งั หลายเราอนญุ าตใหน าสนะสามเณรผูป ระกอบดวยองค ๑๐๑ดังน้ี ทาํ อภิสมาจารกิ วตั รใหบ ริบูรณ พึงศึกษาใหดีในศีล ๑๐ อยาง ฉะนแ้ี ล. อรรถกถาบรรพชาวนิ จิ ฉยั จบ ทรงประทานโอวาทแกภิกษุสงฆ [๓๕] คร้งั น้นั พระผมู ีพระภาคเจา ทรงจําพรรษาแลว รับส่ังกะภิกษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย เพราะทาํ ในใจโดยแยบคาย เพราะทัง้ ความเพียรชอบโดยแยบคาย เราจึงไดบรรลอุ นุตตรวิมุตติ จึงไดทําอนตุ ตรวิมุตติใหแจง แมพ วกเธอก็ไดบรรลอุ นุตตรวมิ ุตติ ทาํ อนุตตรวมิ ุตตใิ หแ จง เพราะทําในใจโดยแยบคาย เพราะตัง้ ความเพียรชอบโดยแยบคาย. คร้งั นน้ั มารผูมใี จบาปเขา เฝา พระผูมีพระภาคเจา ครั้นแลวไดท ูลพระผูมีพระภาคเจา ดวยคาถาวา :- ทานเปน ผูอันบว งมาร ทง้ั ท่เี ปนของทิพย ท้งั ที่เปน ของมนษุ ยผ กู พนัไวแ ลว ทานเปนผูอ นั เคร่อื งผูกแหง มารรดั รงึ แลว แนะ สมณะ ทานจักไมพน เรา. พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสตอบวา เราเปน ผพู น แลว จากบว งมาร ทง้ั ท่ีเปน ของทพิ ย ท้งั ทีเ่ ปนของมนุษย เราเปนผพู น แลวจากเครือ่ งผกู แหงมาร ดูกอ นมารทานถูกเรากาํ จดั เสยี แลว๑. ว.ิ มหา. ๔/๒๔.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 84 คร้งั น้ัน มารผูม ีใจบาปรวู า พระผมู พี ระภาคเจา ทรงรจู กั เรา พระสคุ ตทรงรจู ักเรา ดังน้แี ลว มที ุกข เสยี ใจ หายไปในท่นี ้ันเอง. เรอื่ งพระสทายภทั ทวคั คีย [๓๖] ครน้ั พระผมู พี ระภาคเจาประทบั อยทู ีพ่ ระนครพาราณสตี ามพระพทุ ธาภริ มย แลวเสดจ็ จารกิ ไปโดยมรรคาอันจะไปสตู าํ บลอุรเุ วลา และทรงแวะจากทางแลว เสดจ็ เขา ไปยงั ไพรสณฑแหง หน่งึ ครน้ั ถงึ ไพรสณฑน ้ันแลว ประทบั นง่ั ณ โคนไมตน หนึ่ง. ก็โดยสมัยนน้ั แล สหายภัททวคั คียจาํ นวน ๓๐ คน พรอมดวยปชาบดีบาํ เรอกนั อยู ณ ไพรสณฑแหง น้ัน สหายคนหนึง่ ไมมีปชาบดี สหายท้ังหลายจึงไดน าํ หญงิ แพศยามาเพ่อื ประโยชนแกเขา ตอ มาหญิงแพศยานนั้ เม่อื พวกสหายน้นั เผลอตัวมวั บําเรอกนั อยู ไดลักเครอ่ื งประดับหนไี ป จึงพวกสหายนนั้เมือ่ จะทาํ การชว ยเหลอื สหาย เทยี่ วตามหาหญงิ แพศยาน้ัน ไปถงึ ไพรสณฑแหงน้นั ไดเ หน็ พระผูม ีพระภาคเจาประทบั น่งั อยู ณ โคนไมต น หนึง่ ครนั้ แลวจึงเขาไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจา แลวไดท ลู ถามพระผูมพี ระภาคเจา วา พระผูมีพระภาคเจาเห็นหญงิ บางไหมเจา ขา . พระผูมีพระภาคเจา ทรงยอนถามวา ดกู อนกุมารทง้ั หลาย พวกเธอจะตอ งการอะไรดวยหญงิ เลา ? ภัท. เจาขา พวกขาพเจา เปน สหายภทั ทวัคคยี จํานวน ๓๐ คนในตําบลนีพ้ รอมดว ยปชาบดบี าํ เรอกนั อยใู นไพรสณฑแหงน้ี สหายคนหน่งึ ไมมีปชาบดีพวกขาพเจาจึงไดนาํ หญิงแพศยามาเพอื่ ประโยชนแกเ ขา ตอมา หญงิ แพศยานน้ัเม่ือพวกขา พเจาเผลอตวั มวั บําเรอกันอยู ไดล ักเครอื่ งประดบั หนีไป เพราะเหตุ

พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 85นน้ั พวกขา พระองคผ เู ปนสหายกัน เม่ือจะทําการชว ยเหลือสหาย จึงเทย่ี วตามหาหญงิ น้ันมาถงึ ไพรสณฑแหง น้ี เจา ขา. ภ. ดูกอนกมุ ารท้ังหลาย พวกเธอสําคัญความขอนั้นเปน ไฉน ขอ ท่ีพวกเธอแสวงหาหญงิ หรือแสวงหาตนนนั้ อยางไหนเปนความดขี องพวกเธอเลา. ภัท. ขอทีพ่ วกขาพระองคแสวงหาตนน่ันแล เปน ความดขี องพวกขา พเจา เจาขา . ภ. ดกู อ นกมุ ารทงั้ หลาย ถา อยางนั้น พวกเธอน่งั ลงเถดิ เราจักแสดงธรรมแกพวกเธอ. พวกสหายภัททวคั คียเ หลา นั้น รบั พระพทุ ธาณัตพิ จนวา อยา งนนั้เจา ขา ถวายบังคมพระผมู พี ระภาคเจา แลว น่งั อยู ณ ทีค่ วรสว นขางหนึ่ง พระผูมพี ระภาคเจาทรงแสดงอนปุ ุพพิกถาแกพวกเขา คือทรงประกาศทานกถาสีลกถา สัคคกถา โทษ ความตํา่ ทราม ความเศราหมองของกามท้ังหลาย และอานสิ งสในความออกจากกาม เม่ือพระองคทรงทราบวา พวกเขามีจิตสงบมจี ิตออ น มจี ติ ปลอดจากนวิ รณ มจี ิตเบิกบาน มีจติ ผอ งใสแลว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาท่ีพระพทุ ธเจา ทัง้ หลายทรงยกข้ึนแสดงดวยพระองคเองคือ ทกุ ข สมุทยั นโิ รธ มรรค ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทินวา สงิ่ ใดสิง่ หน่งึ มคี วามเกิดข้นึ เปนธรรมดา ส่งิ นน้ั ท้ังมวลมีความดบั เปนธรรมดา ไดเกดิ แกพ วกเขา ณ ท่นี ่ัง นั่นแล ดจุ ผาท่ีสะอาดปราศจากมลทินควรไดร บั นํ้ายอมเปน อยางดี ฉะนน้ั พวกเขาไดเห็นธรรมแลว ไดบ รรลุธรรมแลว ไดรธู รรมแจม แจง แลว มธี รรมอนั หย่ังลงแลว ขา มความสงสัยไดแลวปราศจากถอยคาํ แสดงความสงสยั ถึงความเปนผแู กลว กลา ไมต อ งเชือ่ ผอู นื่ในคาํ สอนของพระศาสดา ไดท ูลคาํ น้ตี อพระผูมีพระภาคเจา วา พระเจาขาพวกขาพระองคพ ึงไดบ รรพชาพงึ ไดอปุ สมบทในสาํ นักพระผมู พี ระภาคเจา.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 86 พระผมู ีพระภาคเจาตรสั วา พวกเธอจงเปน ภิกษมุ าเถดิ ดงั นี้ แลวไดตรสั ตอ ไปวา ธรรมอนั เรากลาวดีแลว พวกเธอจงพระพฤติพรหมจรรยเพื่อทําทสี่ ดุ ทุกขโ ดยชอบเถดิ พระวาจานั้นแล ไดเปน อปุ สมบทของทา นผูม ีอายุเหลา นัน้ . เรอื่ งพระสหายภทั ทวคั คีย จบ ทตุ ยิ ภาณวาร จบ อรรถกถาภัททวัคคิยสหายกวตั ถุ หลายบทวา มยฺห โข ภกิ ฺขเว มีอรรถวา มยา โข. อกี อยา งหนึ่ง มคี วามวา ความทําในใจโดยแยบคายของเรา อธบิ ายวา เพราะความทําในใจโดยแยบคายของเราเปน เหตุ. ครน้ั เปลีย่ นวภิ ัตแิ ลวก็พงึ กลาวคําวา มยาเปนอนภหิ ิตกัตตา ในบทวา อนุปปฺ ตฺตา นีอ้ ีก (เพราะ มยหฺ  เปน สามีสมั พนั ธไปแลว. บทวา ภทฺทวคฺคิยา มีความวา ไดยินวา สหายเหลานั้นเปน ราช-กุมาร ผูม คี วามเจรญิ ดวยรปู รา งและจิต เทีย่ วไป ดว ยคุมกนั เปน พวกเดยี วกัน เพราะฉะนน้ั ทา นจึงเรยี กวา ภัททวัคคยี  โว อักษรในบทวา เตนหิ โวดงั น้ี สกั วา นิบาต. สองบทวา ธมมฺ จกฺขุ อุทปาทิ มคี วามวา โสดาปต ติมรรคไดเ กิดขึน้ แกบางพวก สกทาคามิมรรคไดเ กดิ ขน้ึ แกบางพวก อนาคามมิ รรคไดเ กิด

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 87ขนึ้ แกบางพวก จริงอยู มรรคเหลา น้นั ทง้ั ๓ ทานเรยี กวา ธรรมจกั ษุ. ไดย ินวาสหายเหลานนั้ ไดเปน นักเลง ๓๐ ตนในตุณฑิลชาดก๑. ครง้ั นั้นพวกเขาไดฟ งตณุ ฑโิ ลวาทแลว รกั ษาศีล ๕. บพุ พกรรมของสหายเหลา น้นั เทาน้ี. อรรถกถาภัททวคั คิยสหายกวตั ถุ จบ เรอื่ งชฏิล ๓ พี่นอ ง [๓๗] คร้งั น้นั พระผมู พี ระภาคเจาเสด็จจาริกโดยลาํ ดบั ถึงตาํ บล-อรุ เุ วลาแลว. ก็โดยสมยั น้นั แล ชฎิล ๓ คน คอื อุรุเวลกสั สป ๑ นทกี ัสสป ๑คยากสั สป ๑ อาศยั อยูใ นตาํ บลอรุ ุเวลา บรรดาชฎลิ ๓ คนน้นั ชฎิลช่ืออรุ ุเวล-กสั สปเปนผนู ํา เปนผูฝก สอน เปนผเู ลิศ เปนหัวหนา เปน ประธาน ของชฎลิ ๕๐๐ คน ชฎิลช่ือนทีกัสสป เปน ผูนาํ เปน ผูฝกสอน เปนผเู ลศิ เปนหวั หนา เปน ประธานของชฎลิ ๓๐๐ คน ชฎิลชื่อคยากัสสป เปนผนู าํ เปนผฝู ก สอน เปน ผเู ลิศ เปน หวั หนา เปนประธาน ของชฎิล ๒๐๐ คน. ครง้ั นน้ัพระผมู พี ระภาคเจาไดเสด็จเขา ไปสอู าศรมของชฎลิ ช่ืออรุ เุ วลกัสสป แลวไดตรสักะชฎิลช่อื อรุ เุ วลกัสสปวา ดูกอ นกัสสป ถา ทา นไมหนกั ใจ เราขออาศัยอยใู นโรงบูชาเพลิงสกั คืนหนง่ึ . อุรุ. ขาแตมหาสมณะ ขา พเจาไมหนกั ใจเลย แตใ นโรงบูชาเพลิงน้นัมีพญานาคดรุ าย มฤี ทธ์ิ เปน อสรพิษ มพี ษิ รา ยแรง อยา เลย มนั จะทําใหทานลําบาก. แมครั้งทีส่ อง พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รัสแกชฎิลชือ่ อุรเุ วลกัสสปวาดกู อ นกัสสป ถาทานไมห นักใจ เราขออาศยั อยูในโรงบชู าเพลิงสกั คืนหน่งึ .๑. ข. ชา. ๒๗/๙๑๗. ชาดกอัฏกถาภาค ๕ หนา ๗๘.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 88 อรุ ุ. ขา แตม หาสมณะ ขา พเจา ไมหนกั ใจเลย แตใ นโรงบชู าเพลงิน้ัน มีพญานาคดราย มฤี ทธิ์ เปน อสรพษิ มพี ษิ รา ยแรง อยา เลย มันจะทาํ ใหทานลําบาก. แมค ร้ังที่สาม พระผมู ีพระภาคเจาไดตรัสแกช ฎิลชอ่ื อรุ เุ วลกสั สปวาดูกอ นกสั สป ถา ทา นไมหนกั ใจ เราขออาศัยอยใู นโรงบูชาเพลงิ สกั คนื หนึ่ง. อรุ ุ. ขา แตม หาสมณะ ขา พเจาไมหนกั ใจเลย แตใ นโรงบูชาเพลิงนั้นมพี ญานาคดรุ า ย มฤี ทธิ์ เปนอสรพิษ มพี ษิ รา ยแรง อยาเลย มนั จะทาํ ใหทานลําบาก. ภ. ลางทพี ญานาคจะไมท าํ ใหเ ราลําบาก ดูกอนกัสสป เอาเถดิ ขอทา นจงอนญุ าตโรงบชู าเพลิง. อุรุ. ขาแตมหาสมณะ เชญิ ทานอยูต ามสบายเถดิ . ครง้ั นนั้ พระผูมพี ระภาคเจา เสดจ็ เขาไปสูโรงบูชาเพลิง แลวทรงปูหญาเคร่อื งลาด ประทับน่ังคูบัลลงั ก ต้งั พระกายตรง ดาํ รงพระสติม่นั . ปาฏหิ ารยิ ท ี่ ๑ [๓๘] ครง้ั น้ัน พญานาคนั้นไดเหน็ พระผูมพี ระภาคเจาเสดจ็ เขา ไปดังน้นั คร้ันแลว มคี าวามข้ึงเคียดไมพอใจ จงึ บังหวนควันขน้ึ ลําดับนน้ัพระผมู ีพระภาคเจา ไดทรงดํารวิ า ไฉนหนอ เราพึงครอบงําเดชของพญานาคนี้ดวยเดชของตน ไมกระทบกระทง่ั ผวิ หนงึ่ เน้อื เอ็น กระดกู และเยื่อในกระดูก ดงั นี้ แลวทรงบนั ดาลอิทธาภสิ ังขารเชน น้ัน ทรงบังหวนควนั แลวพญานาคนน้ั ทนความลบหลไู มได จึงพน ไฟสใู นทันที แมพ ระผูมพี ระภาคเจากท็ รงเขา กสิณสมาบตั มิ เี ตโชธาตุเปน อารมณบ ันดาลไฟตา นทานไว เมอื่ ทัง้ สอง

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 89ฝายโพลงไฟขึ้น โรงบชู าเพลิงรุงโรจนเปนเปลวเพลงิ ดจุ ไฟลกุ ไหมท่ัวไป จึงชฎลิ พวกนัน้ พากนั ลอมโรงบูชาเพลงิ แลว กลา วอยางนี้วา ชาวเรา พระมหา-สมณะรูปงามดงถกู พญานาคเบียดเบยี นแน ตอมาพระผมู ีพระภาคเจา ไดทรงครอบงําเดชของพญานาคนนั้ ดวยเดชของพระองค ไมก ระทบกระทัง่ ผวิ หนงัเนื้อ เอ็น กระดกู และเยื่อในกระดกู ทรงขดพญานาคไวใ นบาตร โดยผานราตรนี ั้น แลวทรงแสดงแกชฎลิ อรุ เุ วลกสั สปาดว ยพระพุทธดํารสั วา ดกู อนกสั สปนี้พญานาคของทาน เราครอบงําเดชของมันดว ยเดชของเราแลว จงึ ชฎลิ อุรุเวลกสั สปไดด ําริวา พระมหาสมณะมีฤทธิม์ าก มีอานุภาพมากแท จึงครอบงําเดชของพญานาคทด่ี รุ า ย มีฤทธิ์ เปน อสรพษิ มีพิษรา ยแรง ดว ยเดชของตนได แตพ ระมหาสมณะน้ีก็ไมเปน พระอรหนั ตเหมือนเราแน. [๓๙] ท่ีแมนาํ้ เนรัญชรา พระผูม ีพระภาคเจา ไดตรสั กะชฎลิ อุรุเวล-กัสสปวาดังน้ี:- ดกู อนกัสสป ถาทา นไมห นักใจ เราขออาศยั อยูในโรงบูชาเพลงิ สกั วันหน่งึ . อรุ .ุ ขาแตมหาสมณะ ขาพเจา ไมห นักใจเลย แตข าพเจาหวงั ความสาํ ราญจงึ หามทานวา ในโรงบูชาเพลิงนั้นมพี ญานาคดุราย มีฤทธ์ิ เปน อสรพษิมพี ิษรา ยแรง อยาเลย มันจะทําใหทา นลําบาก. ภ. บางทพี ญานาคนั้นจะไมทําใหเราลาํ บาก ดูกอ นกสั สป เอาเถดิทา นจงอนญุ าตโรงบูชาเพลิง. พระผมู ีพระภาคเจา ทรงทราบอุรุเวลกสั สปน้นั วา อนุญาตใหแลว ไมทรงคร่นั ครา ม ปราศจากความกลวั เสด็จเขา ไป.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 90 พญานาคเห็นพระผูมพี ระภาคเจาผูแสวงคณุ ความดี เสด็จเขา ไปแลวไมพ อใจ จงึ บงั หวนควันข้ึน. สวนพระพุทธเจา ผูเปน มนุษยประเสริฐ มพี ระทยั ดี มีพระทัยไมขดัเคืองทรงบงั หวนควันข้ึนในท่ีนนั้ แตพญานาคทนความลบหลูไมไ ด จงึ พน ไฟสู. สว นพระพุทธเจา ผูเปนมนษุ ยประเสรฐิ ทรงฉลาดในกสิณสมาบัตมิ ีเตโชธาตเุ ปน อารมณ ไดท รงบนั ดาลไฟตา นทานไวในทีน่ ัน้ . เม่อื ทั้งสองฝา ยโพลงไฟขน้ึ แลว โรงบชู าเพลิงรงุ โรจนเปน เปลวเพลิงพวกชฎลิ กลา วกนั วา ชาวเรา พระสมณะรูปงามคงถูกพญานาคเบียดเบียนแน ควนั ราตรีผา นไป เปลวไฟของพญานาคไมป รากฏ แตเ ปลวไฟสีตา งๆของพระผมู พี ระภาคเจา ผทู รงฤทธ์ยิ งั สถติ อย.ู พระรัศมีสีตา ง ๆ คอื สีเขียว สแี ดง สีหงสบาท สีเหลือง สีแกว ผลึกปรากฏท่พี ระกาย พระอังดรี ส. พระพุทธองคทรงขดพญานาคไวในบาตรแลว ทรงแสดงแกพ ราหณวา ดูกอนกัสสป นี่พญานาคของทา น เราครอบงําเดชของมันดว ยเดชของเราแลว . ครง้ั น้นั ชฎิลอรุ เุ วลกัสสป เลื่อมใสยิง่ นกั เพราะอทิ ธิปาฏหิ ารยิ น ี้ของพระผูมีพระภาคเจา ไดท ูลคาํ นี้ตอพระผมู ีพระภาคเจา วา ขาแตมหาสมณะนมิ นตอ ยูในที่นีแ้ หละ ขา พเจา จักบํารุงทาน ดวยภัตตาหารประจาํ . ปฏิหารยิ ที่ ๑ จบ

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 91 ปาฏหิ าริยท ี่ ๒ [๔๐] ครั้งน้นั พระผมู ีพระภาคเจาประทบั อยู ณ ไพรสณฑแ หงหนึ่งไมไกลจากอาศรมของชฎลิ อุรุเวลกสั สป ครั้งน้ัน ทาวมหาราชทั้ง ๔ เมือ่ ราตรีปฐมยามผา นไปแลว เปลง รศั มีงาม ยงั ไพรสณฑทั้งสิน้ ใหสวางไสว แลวเขาไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจา ครนั้ ถงึ แลว จึงถวายบังคมพระผูมพี ระภาคเจา ไดยืนเฝาอยทู ั้ง ๔ ทศิ ดจุ กองไฟใหญฉ ะนั้น ตอ มาชฎิลอรุ ุเวลกสั สป เขาไปเฝาพระผมู พี ระภาคเจา โดยผานราตรนี น้ั ครนั้ ถึงแลวไดทูลคํานต้ี อ พระผูมพี ระภาคเจา วา ถงึ เวลาแลวมหาสมณะภตั ตาหารเสร็จแลว พวกนน้ั คือใครกันหนอ เมอ่ืราตรปี ฐมยามผานไปแลว มรี ัศมีงาม ยังไพรสณฑท ั้งส้นิ ใหสวา งไสว เขาไปหาทา น ครนั้ ถึงแลว อภวิ าททา นไดย ืนอยูท ้งั ๔ ทศิ ดุจกองไฟใหญฉะนัน้ . พระผูม ีพระภาคเจาตรสั ตอบวา ดกู อนกสั สป พวกน้ันคือทาวมหาราชทัง้ ๔ เขามาหาเราเพอื่ ฟง ธรรม. ครั้งนัน้ ชฎิลอุรเุ วลกสั สปไดมคี วามดาํ ริวา พระหาสมณะมฤี ทธมิ์ ากมอี นภุ าพมากแท ถึงกับทา วมหาราชทง้ั ๔ เขา มาหาเพื่อฟงธรรม แตกไ็ มเปนพระอรหนั ตเ หมอื นเราแน. คร้ังน้ัน พระผูมีพระภาคเจาเสวยภตั ตาหารของชฎิลอรุ ุเวลกัสสป แลวประทับอยใู นไพรสณฑตําบลน้นั แล. ปาฏิหารยิ ที่ ๒ จบ ปาฏหิ าริยท ี่ ๓ [๔๑] คร้ังน้นั ทา วสักกะจอมทวยเทพ เมื่อราตรีปฐมยามลว งไปแลวเปลง รศั มีงาม ยงั ไพรสณฑท้ังสิน้ ใหสวางไสว เขา ไปเฝาพระผมู พี ระภาคเจา

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 92ครั้นถงึ แลวจงึ ถวายบังคมพระผมู พี ระภาคเจา ไดป ระทบั ยนื อยู ณ ทีค่ วรสว นขา งหน่ึง ดจุ กองไฟใหญ งามและประณตี กวา รัศมแี ตก อน ตอ มา ชฎลิ อุรุเวล-กัสสปเขาไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจาโดยผานราตรนี ัน้ ครั้น ถึงแลว ไดท ลู คาํ นต้ี อพระผมู ีพระภาคเจาวา ถงึ เวลาแลว มหาสมณะ ภัตตาหารเสรจ็ แลว ผูน้ันคือใครกนั หนอ เมอ่ื ราตรปี ฐมยามผานไปแลว เปลง รัศมงี าม ยังไพรสณฑท้งั สนิ้ ใหสวางไสว เขามาหาทา น ครน้ั ถงึ แลวอภวิ าท่ที าน ไดย นื อยู ณ ท่ีควรสวนขา งหนง่ึ ดจุ กองไฟใหญ งามและประณตี กวารัศมีแตกอน. พระผมู พี ระภาคเจา ตอบวา ดกู อ นกัสสป ผูน นั้ คอื ทา วสักกะจอม-ทวยเทพเขามาหาเพอื่ ฟงธรรม. คร้งั น้ัน ชฎลิ อรุ ุเวลกัสสปไดมคี วามดํารวิ า พระมหาสมณะมีฤทธ์ิมากมอี านภุ าพมากแท ถึงกบั ทาวสักกะจอมทวยเทพเขา มาหาเพือ่ ฟงธรรม แตกไ็ มเปนพระอรหนั ตเ หมอื นเราแน. ครงั้ นน้ั พระผมู พี ระภาคเจาเสวยภัตตาหารของชฏลิ อรุ ุเวลากัสสปแลวประทบั อยูในไพรสณฑต ําบลน้ันแล. ปาฏหิ าริยท่ี ๓ จบ ปาฏหิ าริยท ่ี ๔ [๔๒] ครงั้ น้นั ทาวสหมั บดพี รหม เมอื่ ราตรปี ฐมยามลวงไปแลวเปลงรศั มงี าม ยงั ไพรสณฑท ัง้ สัน้ ใหสวา งไสว เขา ไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจาคร้นั ถงึ แลว จึงถวายบงั คมพระผมู พี ระภาคเจา ไดย ืนอยู ณ ที่ควรสว นขา งหนึ่งดจุ กองไฟใหญ งามและประณีตกวารัศมแี ตกอน ครั้นลว งราตรีนัน้ ชฎลิ อุรุเวล-กัสสป ไดเขา ไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจา ครนั้ ถงึ แลวไดท ลู คาํ น้ตี อ พระผมู ี

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 93พระภาคเจา วา ถึงเวลาแลวมหาสมณะ ภตั ตาหารเสรจ็ แลว ผนู น้ั คอื ใครกนัหนอ เมื่อราตรีปฐมยามผานไปแลว เปลงรศั มีงาม ยังไพรสณฑทั้งสิน้ ใหสวางไสว เขามาหาทาน ครัน้ ถึงแลว อภวิ าททา น ไดยนื อยู ณ ท่ีควรสวนขา งหน่งึ ดุจกองไฟใหญ งามและประณีตกวา รศั มีแตกอ น. พระผูมพี ระภาคเจาตรัสตอบวา ดกู อนกสั สปะ ผูน้นั คอื ทา วสหมั บดีพรหมเขามาหาเราเพ่อื ฟงธรรม. คร้ังนนั้ ชฎลิ อุรุเวลกัสสปไดดําริวา พระมหาสมณะมีฤทธ์มิ าก มีอานุภาพมากแท ถงึ กนั ทาวสหมั บดพี รหมเขา มาหาเพื่อฟงธรรม แตกไ็ มเปนพระอรหนั ตเหมอื นเราแนะ ครั้งนน้ั พระผมู พี ระภาคเจา เสวยภตั ตาหารของชฎลิ อุรเุ วลกสั สป แลวประทบั อยใู นไพรสณฑตาํ บลนน้ั แล. ปาฏหิ ารยิ ท ี่ ๔ จบ ปาฏิหาริยท ี่ ๕ [๔๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ชฎิลอรุ เุ วลกัสสปไดเตรยี มการบชู ายัญเปนการใหญ และประชาชนชาวอังคะและมคธท้ังสิน้ ถอื ของเคย้ี วของบริโภคเปนอนั มาก บา ยหนา มุงไปหา จงึ ชฎลิ อุรุเวลกัสสปไดดําริวา บัดน้ี เราไดเ ตรียมการบชู ายญั เปน การใหญ และประชาชนชาวองั คะและมคธทั้งสิน้ ไดน าํ ของเคีย้ วของบริโภคเปนอนั มากบา ยหนา มุงมาหา ถา พระมหาสมณะจักทาํ อิทธิปาฏหิ ารยิ ในหมมู หาชน ลาภสักการะจักเจริญยิง่ แกพ ระมหาสมณะ ลาภสักการะของเราจักเสื่อม โอทําไฉน วันพรงุ นี้ พระมหาสมณะจึงจะไมม าฉัน คร้ังนั้นพระผมู ีพระภาคเจาทรงทราบความปริวติ กแหง จติ ของชฎลิ อุรเุ วลกัสสปดว ย

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 94พระทยั แลว เสดจ็ ไปอุตตรกรุ ุทวีป ทรงนาํ บณิ ฑบาตมาจากอตุ ตรกุรทุ วปี นั้นแลวเสวยทร่ี มิ สระอโนดาต ประทับกลางวันอยู ณ ที่น้ันแหละ คร้นั ลว งราตรีนนั้ ชฎิลอรุ ุเวลกสั สปไดเ ขาไปเฝา พระผูมพี ระภาคเจา ครนั้ ถงึ แลว ไดท ลู คําน้ีตอ พระผูม พี ระภาคเจา วา ถงึ เวลาแลว มหาสมณะภตั ตาหารเสรจ็ แลว เพราะเหตไุ รหนอ วานนีท้ านจึงไมมา เปน ความจริง พวกขาพเจา ระลึกถึงทา นวาเพราะเหตไุ รหนอ พระมหาสมณะจึงไมม า แตสว นแหง ขาทนียาหาร ขาพเจาไดจ ัดไวเพอื่ ทาน. พระผูม ีพระภาคเจาตรัสยอนถามวา ดกู อ นกัสสป ทา นไดด ําริอยา งนี้มใิ ชห รือวา บดั นเ้ี ราไดเ ตรยี มการบชู ายญั เปนการใหญ และประชาชนชาวอังคะและมคธทั้งสนิ้ ไดนําของเค้ยี วและของบริโภคเปนอนั มากบายหนามงุ มาหาถาพระมหาสมณะจักทาํ อทิ ธิปาฏหิ าริย ในหมูมหาชน ลาภสักการะจักเจริญย่ิงแกพระมหาสมณะลาภสักการะของเราจกั เสอื่ ม โอ ทําไฉน วันพรุงนี้ พระ-มหาสมณะจงึ จะไมมาฉนั ดูกอนกัสสป เราน้ันแลทราบความปริวิตกแหง จติของทา นดว ยใจของเรา จงึ ไปอุตตรกุรุทวีป นําบิณฑบาตมาจากอุตตรกรุ ุทวปีน้ัน มาฉันท่รี ิมสระอโนดาตแลว ไดพักกลางวันอยู ณ ท่นี นั้ แหละ. ทนี ้ัน ชฎลิ อุรเุ วลกัสสปไดดําริวา พระมหาสมณะมีฤทธ์มิ าก มีอานภุ าพมากแท จงึ ไดท ราบความคดิ นกึ แมด ว ยใจได แตก ็ไมเ ปน พระอรหันตเหมอื นเราแน. คร้งั นน้ั พระผูมีพระภาคเจา เสวยภตั ตาหารของชฎิลอรุ ุเวลกสั สป แลวประทับอยู ณ ไพรสณฑต ําบลนั้นแล. ปาฏิหารยิ ท ี่ ๕ จบ

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 95 ผาบังสุกลุ [๔๔] กโ็ ดยสมัยนนั้ ผาบงั สกุ ลุ บังเกิดแกพ ระผูมพี ระภาคเจา จงึ พระองคไ ดท รงพระดําริวา เราจะพงึ ซกั ผา บงั สกุ ลุ ณ ทีไ่ หนหนอ ลาํ ดับนน้ั ทาวสักกะจอมทวยเทพทรงทราบพระดาํ ริในพระทัยของพระผูม ีพระภาคเจา ดว ยพระ-ทยั ของพระองค จึงขดุ สระโบกขรณีดวยพระหตั ถ แลว ไดก ราบทูลพระผมู ีพระ-ภาคเจาวา พระพุทธเจาขา ขอพระผมู พี ระภาคเจา โปรดซักผาบงั สุกลุ ในสระน้ี ทีนั้นพระผูมพี ระภาคเจาไดทรงพระดําริวา เราจะพงึ ขยําผาบังสกุ ุล ณ ที่ไหนหนอลําดบั นน้ั ทา วสักกะจอมทวยเทพทรงทราบพระดํารใิ นพระทัยของพระผูม ีพระ-ภาคเจา ดว ยพระทัยของพระองคแ ลว ไดย กศิลาแผนใหญมาวางพลางทูลวา พระ-พทุ ธเจาขา ขอพระผูมพี ระภาคเจาโปรดทรงขยําผา บงั สกุลบนศิลาแผน นี้ ลําดับน้ันพระผมู พี ระภาคเจาไดท รงพระดาํ ริวา เราจะพึงพาดผา บงั สกุลไว ณ ทไี่ หนหนอ คร้งั นนั้ เทพดาที่สงิ สถติ อยทู ต่ี น กมุ บกทราบพระดํารใิ นพระหทัยของพระผมู พี ระภาคเจาดวยใจของตน จึงนอมกิ่งกมุ ลงมาพลางกราบทูลวา พระพุทธ-เจา ขา ขอพระผมู ีพระภาคเจา โปรดทรงพาดผา บงั สกุ ุลไว ทีก่ ง่ิ กมุ นี้ครงั้ นน้ั พระผมู ีพระภาคเจา ไดทรงพระดํารวิ า เราจะผ่งึ ผา บงั สุกุล ณ ท่ีไหนหนอ ครง้ั นน้ัทา วสกั กะจอมทวยเทพทรงทราบพระดํารใิ นพระหทยั ของพระผมู ีพระภาคเจาดวยพระทัยของพระองคแ ลว ไดยกแผนศิลาใหญม าวางไวพ ลางกราบทลู วาพระพุทธเจาขา ขอพระผูม ีพระภาคเจา โปรดทรงผงึ่ ผา บงั สุกุลบนศลิ าแผนน.ี้ หลงั จากน้ัน ชฎลิ อรุ เุ วลกัสสปเขา ไปเฝา พระผูม ีพระภาคเจาโดยลวงราตรีนนั้ ครัน้ ถึงแลว ไดท ลู คาํ นี้ ตอพระผมู พี ระภาคเจา วา ถงึ เวลาแลว มหา-สมณะ ภัตตาหารเสรจ็ แลว เพราะเหตุไรหนอ มหาสมณะ เมื่อกอ นสระนี้ไมมีทน่ี ้ี เดย่ี วนมี้ ีสระอยทู ่นี ี้ เมือ่ กอนศิลาเหลานีไ้ มมีวางอยู ใครยกศลิ าเหลามาวางไว เมือ่ กอ นก่ิงกมุ บกตน น้ีไมน อมลงเด๋ียวนี้ กิ่งนน้ั นอมลง.

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 96 พระผมู พี ระภาคเจาตรัสตอบวา ดกู อนกัสสป ผา บังสกุ ลุ บังเกดิ แกเราณ ทนี่ เี้ รานัน้ ไดด าํ รวิ า จะพงึ ซักผา บังสกุ ุล ณ ท่ีไหนหนอ คร้ังน้นั ทาวสกั กะจอมทวยเทพทรงทราบดาํ รใิ นจติ ของเราดวยพระทัยของพระองคแลว จึงขดุ สระโบกขรณดี วยพระหัตถ แลว ตรัสบอกแกเ ราวา พระพทุ ธเจา ขา ขอพระผูมีพระภาคเจา โปรดทรงซกั ผา บงั สุกุลในสระนี้ สระน้อี นั ผูม ใี ชมนษุ ยไ ดขดุแลวดวยมอื ดกู อนกสั สป เรานั้นไดดําริวา จะพงึ ขยาํ ผาบงั สกลุ ณ ที่ไหนหนอครั้งนน้ั ทา วสักกะจอมทวยเทพทราบความดาํ รใิ นจติ ของเราดวยพระทยั ของพระองคแ ลว ไดทรงยกศลิ าแผนใหญมาวางไว โดยทลู วา พระพทุ ธเจาขาขอพระผมู ีพระภาคเจา โปรดทรงขยําผา บังสุกุลบนศลิ าแผนนี้อนั ผมู ีใชมนษุ ยไดยกมาวางไว ดกู อนกัสสป เรานัน้ ไดด ําริวา จะพงึ พาดผา บังสกุ ลุ ณ ทีใ่ หนหนอครงั้ นนั้ เทพดาที่สิงสถิตอยทู ี่ตน กมุ บก ทราบความดํารใิ นจิตของเราดวยใจของตนแลว จงึ นอ มกิ่งกุมลงมาโดยทลู วา พระพทุ ธเจา ขา ขอพระผมู ีพระภาคเจา โปรดทรงพาดผาบังสกุ ลุ ไวบ นก่งิ กุมนี้ ตน กุมบกน้ีนน้ั ประหนง่ึ จะกราบทูลวา ขอพระองคจ งทรงนาํ พระหตั ถม าแลวนอมลง ดูกอ นกสั สป เรานน้ั ไดด ําริวา จะพึงผ่ึงผาบังสุกลุ ณ ท่ไี หนหนอ คร้ังนน้ั ทา วสกั กะจอมทวยเทพทรงทราบความดาํ รแิ หงจติ ของเราดวยพระทัยของพระองคแลว ไดยกศลิ าแผนใหญม าวางไว โดยทลู วา พระพทุ ธเจา ขา ขอพระผูมีพระภาคเจา โปรดทรงผึง่ ผาบงั สุกลุ บนศลิ าแผนน้ี ศลิ าแผนนี้อันผมู ีใชมนษุ ยไ ดยกมาวางไว. ครงั้ น้นั ชฎิลอรุ ุเวลกสั สปไดด าํ รวิ า พระมหาสมณะมฤี ทธิม์ าก มีอานภุ าพมากแท ถงึ กับทา วสักกะจอมทวยเทพไดทาํ การชว ยเหลอื แตกไ็ มเ ปนพระอรหนั ตเหมอื นเราแน.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 97 คร้ังนั้น พระผูมีพระภาคเจา เสวยภตั ตาหารของชฎลิ อุรเุ วลกัสสป แลวประทบั อยใู นไพรสณฑต าํ บลน้ันแล. ผา บงั สกุ ลุ จบ ปาฏิหาริยเ ก็บผลหวา เปน ตน [๔๕] ครัน้ ลว งราตรีน้นั ไป ชฎิลอรุ ุเวลกสั สปเขา ไปเฝาพระผูม ีพระ-ภาคเจา ครั้นแลวจงึ กราบทูลภัตตกาลแดพระผมู ีพระภาคเจาวา ถึงเวลาแลวมหาสมณะ ภตั ตาหารเสร็จแลว . พระผูมีพระภาคเจาตรัสวา ดกู อนกัสสป ทานไปเถิด เราจะตามไปพระผูมพี ระภาคเจา ทรงสง ชฏลิ อุรุเวลกัสสปไปแลว ทรงเก็บผลหวาจากตนหวาประจําชมพทู วีป แลวเสด็จมาประทับน่ังในโรงบชู าเพลงิ กอน ชฎิลอรุ ุเวลกสั สพปไดเ หน็ พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั นั่งในโรงบชู าเพลงิ แลว ไดท ลู คําน้ีตอพระผู-มีพระภาคเจาวา ขาแตม หาสมณะ ทานมาทางไหน ขาพเจากลับมากอนทานแตทา นยงั มาน่งั ในโรงบชู าเพลิงกอน. ภ. ดูกอ นกัสสป เราสงทา นไปแลว ไดเกบ็ ผลหวาจากตน หวาประจาํชมพทู วปี แลวมานั่งในโรงบชู าเพลิงน้ีกอน ดกู อ นกัสสป ตน หวา นีแ้ ล สมบรู ณดวยสี กลิน่ รส ถาทา นตอ งการ เชิญบรโิ ภคเถดิ . อุร.ุ อยาเลย มหาสมณะ ทา นนนั่ แหละเกบ็ ผลไมนี้มา ทา นนน้ัแหละจงฉันผลไมน้เี ถิด. ลําดบั นั้น ชฎลิ อุรเุ วลกสั สปไดมคี วามดําริวา พระมหาสมณะมฤี ทธ์ิมาก มอี านภุ าพมากแท เพราะสงเรามากอ นแลว ยังเก็บผลหวา จากตนหวา

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 98ประจาํ ชมพูทวีปแลว มานัง่ ในโรงบูชาเพลิงกอน แตก ็ไมเปนพระอรหนั ตเหมือนเราแน ครั้งน้นั พระผมู ีพระภาคเจาเสวยภตั ตาหารของชฎิลอุรุเวลกสั สปแลวประทับอยูโนไพรสณฑต ําบลนัน้ แล. คร้ันลวงราตรีนั้น ไปชฎลิ อรุ เุ วลกัสสปไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจา คร้นัแลวจึงทูลภตั ตกาลแดพระผูมีพระภาคเจา วา ถงึ เวลาแลว มหาสมณะ ภตั ตาหารเสรจ็ แลว. พระผมู ีพระภาคเจา ทรงสง ชฎลิ อุรเุ วลกัสสปไปดว ยพระดาํ รสั วา ดูกอ นกัสสป ทา นไปเถดิ เราจักตามไป แลว ทรงเกบ็ ผลมะมวง. . . ผลมะขามปอม. . . ผลสมอในท่ีไมไกลตน หวาประจาํ ชมพทู วปี นน้ั . . . เสดจ็ ไปสภ พดาว-ดงึ ส ทรงเก็บดอกปารฉิ ตั ตกะ แลวมาประทับนัง่ ในโรงบชู าเพลิงกอน ชฎิลอุรุเวลกสั สปไดเห็นพระผมู ีพระภาคเจา ประทับนั่งในโรงบชู าเพลิง ครนั้ แลวไดทูลคาํ นี้ตอพระผมู พี ระภาคเจาวา ขา แตม หาสมณะ ทา นมาทางไหน ขา พเจากลบั มากอ นทาน แตท า นยังมานัง่ ในโรงบูชาเพลิงกอน. พระผูมพี ระภาคเจาตรสั ตอบวา ดกู อ นกัสสป เราสง ทานแลวไดไปสูภพดาวดึงส เก็บดอกปาริฉัตตกะแลว มานัง่ ในโรงบชู าเพลงิ กอน ดกู อ นกัสสป ดอกปารฉิ ตั ตกะน้แี ล สมบูรณด วยสแี ละกลน่ิ . คร้งั นนั้ ชฎลิ อุรุเวลกัสสปไดมคี วามดาํ ริวา พระมหาสมณะมฤี ทธม์ิ ากมีอานภุ าพมากแท เพราะสงเรามากอนแลว ยงั ไปสูภพดาวดงึ ส เก็บดอกปริฉัตตกะแลว มาน่ังในโรงบชู าเพลิงกอน แตก ไ็ มเปนพระอรหนั ตเหมอื นเราแน. ปาฏหิ าริยผาฟน [๔๖] กโ็ ดยสมยั นั้นแล ชฎลิ เหลา นนั้ ปรารถนาจะบําเรอไฟ แตไ มอาจจะผา ฟน ได จงึ ชฎิลเหลานัน้ ไดมีความดําริตองกนั วา ขอ ที่พวกเราไมอ าจ

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 99ผา พนื ไดน้นั คงเปน อิทธานุภาพของพระมหาสมณะ ไมต องสงสยั เลย คร้ังน้นัพระผูมพี ระภาคเจา ไดต รสั กะชฎลิ อรุ ุเวลกสั สปวา ดกู อนกัสสป พวกชฎิลจงผาฟน เถิด. ชฎลิ อรุ เุ วลกสั สปรบั พระพทุ ธดาํ รัสวา ขาแตม หาสมณะ พวกชฎิลจงผาฟน กนั . ชฎลิ ทั้งหลายไดผ า ฟน ๕๐๐ ทอนคราวเดียวเทา นน้ั ครั้งน้นั แล ชฎลิ -อุรุเวลกัสสปไดม คี วามดาํ ริวา พระมหาสมณะมฤี ทธม์ิ าก มอี านภุ าพมากแทถงึ กบั ใหพวกชฎลิ ผาฟน ได แตก็ไมเปนพระอรหนั ตเหมอื นเราแน. ปาฏหิ ารยิ กอไฟ [๔๗] ก็โดยสมยั นัน้ แล ชฎิลเหลานน้ั ปรารถนาจะบาํ เรอไฟ แตไ มอาจจะกอ ไฟใหล ุกได จงึ ชฎิลเหลานน้ั ไดมคี วามดํารติ องกันวา ขอทีพ่ วกเราไมอาจจะกอไฟใหล ุกขนึ้ ไดน ้ัน คงเปน อิทธานภุ าพของพระมหาสมณะ ไมต องสงสัยเลย ครั้งนน้ั พระผมู ีพระภาคเจา ไดต รสั กะชฎิลอุรเุ วลกัสสปวา ดูกอนกัสสป พวกชฎลิ จงกอไฟใหล กุ เถดิ . ชฎิลอรุ เุ วลกสั สปรบั พระพทุ ธดํารสั วา ขาแตม หาสมณะ พวกชฎิลจงกอไฟใหลุก ไฟท้ัง ๕๐๐ กอง ไดลุกข้นึ คราวเดยี วกนั เทียว ลาํ ดับนน้ั ชฎลิอุรุเวลกัสสป ไดม คี วามดําริวา พระมหาสมณะมฤี ทธ์ิมาก มีอานภุ าพมากแทถึงกบั ใหไ ฟลกุ ข้ึนได แตกไ็ มเ ปน พระอรหนั ตเหมือนเราแน. ปาฏหิ าริยด ับไฟ [๔๘] ก็โดยสมัยน้ันแล ชฎลิ เหลา นั้นบําเรอไฟกันแลวไมอาจดับไฟได จึงไดค ดิ ตองกนั วา ขอท่พี วกเราไมอาจดบั ไฟไดน ้นั คงเปนอิทธานภุ าพ

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 100ของพระสมณะ ไมตอ งสงสัยเลย คร้ังนัน้ พระผมู ีพระภาคเจา ไดต รัสกะชฎิล-อรุ ุเวลกสั สปวา ดกู อนกสั สป พวกชฎิลจงดบั ไฟเถิด. ชฎิลอุรุเวลกสั สปรับพระพุทธดํารสั วา ขา แตมหาสมณะ พวกชฎิลจงดบั ไฟกัน. ไฟทั้ง ๕๐๐ กอง ไดดบั คราวเดียวกนั เทยี ว. ครง้ั นั้นแล ชฎิลอรุ เุ วลกัสสปไดมีความดาํ ริวา พระมหาสมณะมฤี ทธิ์มาก มอี านุภาพมากแท ถึงกบั ใหพวกชฎลิ ดบั ไฟได แตก ไ็ มเปนพระอรหนั ตเหมอื นเราแน. ปาฏิหาริยกองไฟ [๔๙] กโ็ ดยสมัยน่นั แล ชฏิลเหลา น้นั พากนั ดําลงบา ง ผุดขึน้ บางทง้ั ดําทงั้ ผดุ บา ง ในแมนาํ้ เนรญั ชรา ในราตรีหนาวเหมนั ตฤดู ระหวางทา ยเดือน ๓ ตน เดือน ๔ ในสมยั น้าํ คางตก ครัง้ นัน้ พระผูมีพระภาคเจา ไดท รงนริ มติ กองไฟไว ๕๐๐ กอง สาํ หรับใหชฎิลเหลาน้ัน ขนึ้ จากน้าํ แลวจะไดผงิ จงึชฎลิ เหลานน้ั ไดมีความดาํ ริตอ งกนั วา ขอท่ีกองไฟเหลานี้ ถกู นริ มติ ไวน ้นั คงตองเปนอิทธานุภาพของพระมหาสมณะ ไมตอ งสงสยั เลย ครัง้ นั้น ชฎลิ อุร-ุเวลกสั สปไดม ีความดํารวิ า พระมหาสมณะมีฤทธมิ์ าก มีอานภุ าพมากแท ถึงกบั นริ มิตกองไฟไดม ากมายถึงเทานั้น แตก็ไมเ ปนพระอรหันตเหมือนเราแน. ปาฏิหาริยนาํ้ ทวม [๕๐] กโ็ ดยสมัยนัน้ แล เมฆใหญใ นสมยั ทีม่ ใิ ชฤ ดกู าลยังฝนใหต กแลว หว งนา้ํ ใหญไดไ หลนองไป ประเทศท่ีพระผมู ีพระภาคเจา ประทบั อยนู ั้นถูกน้าํ ทวมขณะน้นั พระผูม ีพระภาคเจา ไดทรงพระดําริวา ไฉนหนอ เราพงึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook