Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_56

tripitaka_56

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:42

Description: tripitaka_56

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 232เชนนี้ ก็จักเปน เหมือนกาลเปน ทจ่ี มลงแหง กระโหลกนาํ้ เตาแมดวยประการทงั้ ปวง ภัยแมม ีสุบนิ นเี้ ปน เหตุ กย็ ังไมม แี กมหาบพติ ร เชิญตรสั เลา สบุ นิ ที่ ๑๓ เถดิ มหาบพิตร. ขา แตพ ระองคผ เู จริญ หมอ มฉันไดเหน็ ศลิ าแทง ทึบใหญขนาดเรอื นยอดลอยนา้ํ เหมอื นดงั เรือ อะไรเปน ผลแหงสบุ ินนี้พระเจาขา ? มหาบพิตร ผลแหง สุบนิ แมน ี้ ก็จกั มีในกาลเชน น้ันเหมอื นกันดวยวา ในครั้งนนั้ พระราชาผไู มต้ังอยใู นธรรมท้งั หลาย จกัพระราชทานยศแกค นไมม ีสกลุ พวกนนั้ จักเปน ใหญ พวกมสี กุลจกั ตกยาก ใคร ๆ จกั ไมทาํ ความเคารพในพวกมีสกลุ น้ัน จกักระทาํ ความเคารพในพวกทเ่ี ปน ใหญฝ า ยเดียว ถอ ยคาํ ของกลุ บุตรฉลาดในการวินิจฉยั ผหู นกั แนน เชนกับศิลาทบึ จักไมหยั่งลง ดํารงมน่ั ในที่เฉพาะพระพกั ตรข องพระราชา หรือในทีป่ ระชมุ อํามาตย หรือในโรงศาล เมือ่ พวกน้นั กําลงั กลา วพวกนอกนีจ้ ักคอยเยาะเยยวา พวกน้ีพดู ทําไม แมใ นทปี่ ระชุมภิกษุ พวกภกิ ษกุ ็จักไมเหลาภกิ ษุมีศลี เปน ทร่ี กั ผูควรทําความเคารพวาเปน สาํ คัญ ในฐานะตาง ๆ ดังกลาวมาแลว ท้งั ถอ ยคําของภกิ ษุผูมีศีลเปนท่รี ักเหลานนั้ กจ็ ักไมห นกั แนนมน่ั คง จักเปน เหมือนเวลาเปนที่เลอื่ นลอยแหงศิลาทั้งหลายฉะน้ัน ภัยแมม ีสุบินนเี้ ปน เหตุ ก็ยงั ไมมีแกมหาบพติ ร เชญิ ตรัสเลา พระสุบินขอที่ ๑๔ เถดิ มหาบพิตร.

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 233 ขา แตพระองคผ เู จริญ หมอ มฉนั ไดเ ห็นฝูงเขยี ดตวั เลก็ ๆขนาดดอกมะซาง วงิ่ ไลกวดงเู หา ตัวใหญ ๆ กดั เนอ้ื ขาดเหมอื นตดั กานบวั แลวกลืนกิน นเ้ี ปนสบุ นิ ขอ ที่ ๑๔ อะไรเปนผลแหงสุบนิ น้ี พระเจาขา ? มหาบพติ ร ผลแหงแมสุบินขอนี้ ก็จักมใี นอนาคต ในเมื่อโลกเส่อื มโทรมดจุ กัน ดว ยวา ในครัง้ นน้ั พวกมนษุ ยจะมีราคะจรติ แรงกลา ชาติชัว่ ปลอ ยตวั ปลอยใจ ตามอํานาจของกเิ ลสจักตองเปนไปในอาํ นาจแหง ภรรยาเด็ก ๆ ของตน ผูคนมีทาสและกรรมกรเปน ตน กด็ ี สัตวพาหนะมโี คกระบือเปน ตน กด็ ีเงนิ ทองก็ดี บรรดามใี นเรือนทุกอยา ง จักตองอยใู นครอบครองของพวกนางทงั้ นน้ั เมอ่ื พวกสามีถามถงึ เงนิ ทอง โนน ๆ วาอยูที่ไหน หรือถามถึงจํานวนส่งิ ของวา มีท่ีไหนกด็ ี พวกนางจักพากนั ตอบวา มนั จะอยูทไ่ี หน ๆ ก็ชา งเถดิ กงการอะไรทท่ี า นจะตรวจตราเลา ทานเกิดอยากรูส งิ่ ท่ีมีอยู และไมมีอยูในเรือนของเราละหรือ แลวจักดาดวยประการตาง ๆ ท่มิ ตาํ เอาดว ยหอกคอื ปาก กดไวใ นอาํ นาจดังทาสและคนรบั ใช ดํารงความเปน เจาเปน ใหญข องตนไวสบื ไป เมอ่ื เปนเชน นี้ กจ็ กั เปน เหมือนเวลาท่ฝี ูงเขียดขนาดดอกมะซาง พากันขยอกกินฝงู งูเหา ซ่ึงมีพษิแลนเรว็ ฉะนน้ั ภัยแมมีสุบินนเ้ี ปนเหตุ ก็จกั ไมม แี กมหาบพิตรดอก เชญิ ตรสั บอกนมิ ิตรท่ี ๑๕ เถิด.

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 234 ขาแตพระองคผ เู จริญ หมอ มฉันไดเ หน็ ฝงู พญาหงษทองทไ่ี ดนามวา ทองเพราะมีขนเปนสที อง พากันแวดลอ มกา ผูประกอบดว ยอสทั ธรรม ๑๐ ประการ เที่ยวหากนิ ตามบา นอะไรเปนผลแหง พระสุบินนี้ พระเจาขา ? มหาบพติ ร ผลแหง สุบนิ นี้ ก็จักมใี นอนาคต ในรชั กาลของพระราชาผทู รุ พลน่นั แหละ ดวยวาในภายหนา พระราชาท้ังหลาย จักไมฉ ลาดในศลิ ปะมีหสั ดีศลิ ปะเปน ตน ไมแ กลวกลาในการยทุ ธ ทา วเธอจกั ไมพระราชทานความเปน ใหญใ หแกพวกกุลบุตรทีม่ ชี าติเสมอกนั ผรู ังเกยี จความวิบัติแหงราชสมบตั ิของพระองคอยู จักพระราชทานแกพ วกพนักงานเครื่องสรงและพวกกลั บกเปนตน ซ่ึงอยูใกลบาทมูลของพระองค พวกกุลบตุ รผูสมบูรณด ว ยชาติ และโคตร เมื่อไมไดท ่ีพึ่งในราชสกุล กไ็ มสามารถเลี้ยงชวี ิตอยไู ด จกั พากันปรนนิบตั ิบํารุงฝงู ชนท่ีไมมีสกุล มีชาติและโคตรทราม ผูด ํารงอสิ ริยยศ จกั เปนเหมอื นฝงูพญาหงษทอง แวดลอ มเปน บริวารกา ฉะนนั้ ภัยแมมีสุบนิ นี้เปน เหตุ ก็ยังไมม แี กม หาบพติ ร เชิญตรสั เลาสบุ ินท่ี ๑๖ ตอไปเถิด มหาบพิตร. ขาแตพระองคผเู จรญิ ในกาลกอ น ๆ เสอื เหลือง พากันกัดกินฝงู แกะ แตหมอ มฉนั ไดเ หน็ ฝงู แกะพากันไลกวดฝงู เสอื เหลอื งกดั กนิ อยมู มุ มํา่ ๆ ทนี ้นั เสอื อนื่ ๆ คือเสอื ดาว เสือโครง เห็นฝูงแกะอยูหา ง ๆ กส็ ะดุงกลัว ถึงความสยดสยองพากนั วง่ิ หนี

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 235หลบเขา พมุ ไมแ ละปารก ซุกซอนเพราะกลัวฝงู แกะ หมอ มฉนั .ไดเห็นอยางนี้ อะไรเปน ผลแหง สบุ ินน้ีพระเจา ขา ? มหาบพติ ร ผลแหงสุบินแมน ี้ กจ็ ักมีในรชั กาลแหงพระ-ราชาผูไมต ้ังอยใู นธรรม ในอนาคตเหมอื นกนั ดวยวาในครงั้ น้นัพวกไมม สี กุลจักเปน ราชวลั ลภ เปนใหญเ ปนโต พวกคนมีสกุลจกั อบั เฉาตกยาก ราชวัลลภเหลาน้นั พากันยงั พระราชาใหท รงเชื่อถอื ถอยคําของตน มกี ําลงั ในสถานที่ราชการ มโี รงศาลเปนตน ก็พากันรกุ เอาท่ีดนิ ไรน าเรอื กสวนเปน ตน อนั ตกทอดสบื มาของพวกมสี กลุ ทั้งหลายวา ท่เี หลา น้เี ปน ของพวกเราเมื่อพวกผูม สี กลุ เหลา น้นั โตเถียงวา ไมใชของพวกทา น เปนของพวกเรา แลวพากนั มาฟอ งรองยังโรงศาลเปนตน พวกราชวัลลภกพ็ ากนั บอกใหเ ฆย่ี นตดี วยหวายเปนตน จับคอไสออกไป พรอมกับขม ขคู กุ คามวา พอ เจาไมรปู ระมาณตน มาหาเรือ่ งกบั พวกเรา เด๋ยี วจกั ไปทลู พระราชา ใหลงพระราชอาญาตา ง ๆ มตี ดั ตนี ตดั มอื เปน ตน พวกผูม ีสกุลกลัวเกรงพวกราชวัลลภ ตา งกย็ ินยอมใหท่ีทางทเี่ ปนของตน วา ทท่ี างเหลาน้ีถา เปนของทา น กเ็ ชิญครอบครองเถดิ แลวพากนั กลบั บา นเรือนของตนนอนหวาดผวาไปตาม ๆ กัน แมภกิ ษุผูชัว่ ชาทัง้ หลายเลา กจ็ ักพากนั เบียดเบียนภกิ ษุผมู ีศีลเปนที่รกั ตามชอบใจพวกภกิ ษุผมู ีศลี เปนทรี่ กั เหลา นั้น ไมไ ดท่พี ํานัก กพ็ ากนั เขาปาแอบแฝงอยใู นทรี่ ก ๆ ขอ ทก่ี ลุ บตุ รผมู ชี าตสิ กุลท้ังหลาย และ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 236ภิกษุผูมศี ลี เปนทีร่ ักทง้ั หลาย ถกู คนชาตชิ ัว่ และถูกภกิ ษุผูลามกท้งั หลาย เขา ไปประทษุ รายอยางนี้ จกั เปนเหมือนกาลท่ีพวกเสือดาว และเสอื โครง ทง้ั หลาย พากนั หลบหนีเพราะกลวัฝงู แกะฉะนนั้ ภยั แมมสี บุ นิ น้เี ปน เหตุ ก็ยังไมม แี กมหาบพิตรดว ยสุบนิ นี้ ท่มี หาบพติ รเห็นแลว ปรารภอนาคตทงั้ นัน้ แตพวกพราหมณมิไดทํานายสุบนิ น้ันดวยความจงรักภกั ดใี นพระองคโดยถูกตอ งเทาที่ถกู ทคี่ วร ทาํ นายไปเพราะอาศยั การเลีย้ งชพีเพราะเห็นแกอ ามสิ วา พวกเราจกั ไดท รัพยกันมาก ๆ ครนั้ ทรงทํานายผลแหงสุบนิ ใหญ ๆ ๑๖ ขอ อยางนแ้ี ลว ตรัสวา ดกู อนมหาบพติ ร มิใชแ ตใ นบดั นี้เทา นนั้ ทีบ่ พิตรไดเห็นสบุ ินเหลา น้ีแมพ ระราชาท้งั หลายแตกอ น ๆ ก็ไดท รงเหน็ แลว เหมอื นกนั .แมพวกพราหมณ กถ็ อื เอาสุบนิ เหลาน้ี นับเขา ในยอดยัญพธิ ีอยา งนเ้ี หมือนกนั ภายหลังอาศยั คําแนะนําทพ่ี วกเปนบัณฑติพากันกราบทลู จึงถามพระโพธิสัตว แมท า นโบราณกบณั ฑติทง้ั หลาย เมื่อทาํ นายสุบนิ เหลา นี้ แกพ ระราชาเหลาน้ัน ก็พากนัทํานายทาํ นองนีแ้ หละ อันพระเจาปเสนทโิ กศลทูลอาราธนา จึงทรงนําเอาเร่อื งในอดีตมาสาธก ดังตอ ไปนี้ :- ในอดีตกาล ครง้ั พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยูในกรุงพาราณสี พระโพธสิ ัตวก ําเนดิ ในตระกูลอุทจิ จพราหมณเจรญิ วัยแลว บวชเปน ฤๅษี ใหอ ภญิ ญาสมาบตั เิ กดิ แลว ไดประลองฌานอยูในหมิ วันตประเทศ ในครัง้ นัน้ ณ พระนคร

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 237พาราณสี พระเจา พรหมทตั ทรงเหน็ พระสบุ นิ เหลา นี้ โดยทํานองน้ีเหมือนกนั มพี ระดํารัสถามพวกพราหมณ. พวกพราหมณปรารภจะบชู ายญั อยางนี้เหมอื นกนั . บรรดาพราหมณเหลา นั้นทานปโุ รหิตมีศษิ ยเ ปน บณั ฑติ ฉลาด กลา วกะอาจารยว า ทา นอาจารยครับ คัมภรี พ ระเวทยท ัง้ ๓ ทานอาจารยใ หผมเรยี นจบแลว ในพระเวทยท้ัง ๓ คัมภีรน้ัน ขอทว่ี า การฆาคนหน่ึงแลวทําใหเกิดความสวัสดแี กอีกคนหนง่ึ ไมมีเลยมใิ ชห รอื ขอรบั ?ทา นอาจารยต อบวา พอคณุ ดว ยอุบายนีท้ รัพยจาํ นวนมากจกัเกดิ แกพวกเรา สวนเจาชะรอยอยากจะรกั ษาพระราชทรัพยกระมัง ? มาณพกลา ววา ทา นอาจารยครบั ถา เชน นัน้ พวกทานจงกระทํางานของพวกทา นไปเถิด กระผมจกั กระทําอะไรในสาํ นกั ของพวกทานได แลว เดนิ เรอ่ื ยไปจนถึงพระราชอุทยาน.ในวนั น้ันเอง แมพ ระบรมโพธิสตั วก็รูเหตุน้ัน คิดวา วันน้ี เมือ่เราไปถงึ ถ่ินมนษุ ย ความพน จากการจองจําจกั มแี กม หาชนดังนีแ้ ลวจึงเหาะมาทางอากาศ ลงทอี่ ุทยานนงั่ เหนือแผน ศลิ าอนัเปน มงคล ประหนง่ึ รูปที่หลอ ดว ยทองฉะนัน้ . มาณพเขา ไปหาพระโพธิสัตว ไหวแ ลว นั่ง ณ สวนขา งหน่งึ ไดท าํ การตอ นรบัพระโพธิสตั ว. แมพระโพธสิ ัตว กไ็ ดทําการปฏิสันถารอยางไพเราะกบั เขาแลว ถามวา เปนอยา งไรเลาหนอพอมาณพพระราชายงั จะเสวยราชสมบตั โิ ดยธรรมอยหู รือ ? มาณพกราบเรียนวา ขา แตพระคุณเจา ผเู จริญ พระราชายงั ไดพ ระนาม

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 238วา ธรรมิกราชอยดู อกครบั กแ็ ตว า พวกพราหมณกําลังชกั จงูพระองคใ หว ิ่งไปผิดทาง พระราชาทรงเหน็ พระสบุ นิ ๑๖ ขอตรัสบอกแกพวกพราหมณ พวกพราหมณกลา ววา พวกเราจักตองบูชายัญ แลว เตรยี มการทันที พระคุณเจาผูเจริญขอรับการท่ีพระคณุ เจา ทาํ ใหพ ระราชาทรงเขาพระทัยวา ขน้ึ ชอื่ วาผลแหงสบุ ินนเ้ี ปน อยางน้ี แลว ชวยใหมหาชนพนจากภยั จะมคิ วรหรือขอรบั ? พระโพธสิ ตั วกลา ววา พอมาณพ เราเองกไ็ มร จู ักพระราชา พระราชาเลา ก็มิไดท รงรจู ักเรา ถา พระองคเ สดจ็มาถาม ณ ทนี่ ้ี เราพึงบอกแกพระองคได. มาณพกราบเรยี นวาขา แตพ ระคุณเจา ผเู จริญ กระผมจกั นําพระองคเสดจ็ มา ขอพระคณุ เจา ไดโปรดน่ังรอการมาของกระผมสักครูหน่งึ นะขอรบัขอใหพระโพธสิ ัตวปฏิญญาแลว ก็ไปสพู ระราชสํานัก กราบทูลวา ขา แตม หาราชเจา ดาบสผเู ทย่ี วไปในอากาศไดองคห น่งึลงมาในอทุ ยานของพระองค กลา ววา จกั ทํานายผลของพระสบุ ินท่พี ระองคท รงเห็น กาํ ลังรอพระองคอยู. พระราชาทรงสดบัคาํ ของมาณพนั้น กร็ บี เสดจ็ ไปพระอุทยาน ดวยบริวารเปนอันมากทนั ที ทรงไหวพ ระดาบสแลว ประทบั น่งั ณ ที่ควรสว นขางหนึ่ง มีพระดาํ รสั ถามวา ขาแตพ ระคณุ เจา ผเู จรญิไดยนิ วา พระคุณเจา ทราบผลแหง สบุ นิ ที่กระผมเหน็ หรือ ?พระโพธสิ ัตวกลาววา ขอถวายพระพร มหาบพติ ร อาตมภาพทราบ. พระราชาตรัสวา ถา เชนนนั้ นิมนตพ ระคณุ เจา ทาํ นาย

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 239เถิด. พระโพธสิ ัตว กลา ววา ขอถวายพระพร มหาบพติ ร อาตมา-ภาพจะทํานายถวาย เชิญมหาบพติ รตรัสเลาพระสุบนิ ตามท่ีทรงเห็นใหอ าตมาภาพฟง กอนเถดิ . พระราชาตรัสวา ดีละพระคุณเจาผูเจริญ พลางตรสั วา :- โคอุสุภราช ๑ ตนไมทงั้ หลาย ๑ แมโค ทง้ั หลาย ๑ โคทั้งหลาย ๑ มา ถาดทอง ๑ นางสุนขั จิ้งจอก ๑ ตุมนํา้ ๑ โบกขรณี ๑ ขาวไมสกุ ๑ จันทนแดง ๑ นา้ํ เตา จม ๑ ศลิ าลอย ๑ เขียด ขยอกงู ๑ หงษทองลอมกา ๑ เสือดาว เสือโครง กลวั แพะจริง ๆ ๑ ดังนี.้แลว ตรัสบอกสุบนิ ตามนัยทพ่ี ระเจาปเสนทโิ กศลตรสั บอกนั่นเอง แมพระโพธสิ ตั ว ก็ทํานายผลแหง สุบินเหลา น้นั โดยพสิ ดารตามทํานองทพี่ ระศาสดาทรงทาํ นายในบัดนี้แหละ ในทีส่ ดุ ถวายพระพรดังน้ี ดวยตนเองวา จะเปน ไปตอ เมือ่ โลกถงึจุดเสื่อม ยงั ไมมใี นยคุ น.ี้ อรรถาธิบาย ในคาํ นัน้ มีดังนี้ คือ ดกู อนมหาบพิตรผลแหง พระสบุ นิ เหลานั้น มีดงั น้ี คือ การบบูชายญั ท่ีกาํ ลงั ดาํ เนินไปเพือ่ ปด เปาพระสุบนิ เหลานั้น ยอ มดาํ เนินไปผิดหลักเกณฑทา นกลา วอธบิ ายวา ยอ มเปน ไปอยางผดิ ตรงกนั ขา ม ความเส่ือมจากความจริง. เพราะเหตไุ ร ? เพราะเหตวุ า ผลแหง สุบินเหลา นี้จักมใี นกาลที่โลกถึงจุดเสอื่ ม คือในกาลที่ตา งถือเอาขอ ที่มใิ ช

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 240เหตุวา เปน เหตุ ในกาลที่ทิ้งเหตเุ สยี วามิใชเหตุ ในกาลท่ีถอื เอาขอทไ่ี มจ ริง วา เปนจรงิ ในกาลทล่ี ะทง้ิ ขอ ท่ีจรงิ เสยี วาไมเ ปน จริงในกาลทีพ่ วกอลชั ชี มีมากขนึ้ และในกาลท่ีพวกลชั ชี ลดนอ ยถอยลง ยังไมมใี นยคุ น้ี หมายความวา แตผ ลของพระสุบินเหลา น้ียังไมม ีในบัดน้ี คอื ในรัชกาลของมหาบพิตร หรือในศาสนาของตถาคตน้ี ในยุคน้ี คอื ในชวั่ บรุ ษุ ปจจบุ ันนี้ เพราะเหตุนั้น การบชู ายญั ทีก่ าํ ลังดําเนินไป เพอื่ ปด เปา ผลแหง พระสบุ นิ เหลานี้จงึ เปน ไปโดยคลาดเคลอ่ื น เลกิ การบูชายญั นั้นเสียเถดิ ภยั หรือความสะดงุ อนั มีพระสบุ นิ นีเ้ ปนเหตุ ยงั ไมม แี กม หาบพติ ร. พระ-มหาบุรุษทาํ พระราชาใหเ บาพระทัย ปลดปลอ ยมหาชนจากการจองจาํ แลว กลบั เหาะขึ้นอากาศ ถวายโอวาทแดพระราชา ชกั จูงใหด าํ รงมน่ั ในศีล ๕ แลว ถวายพระพรวา ตัง้ แตบ ดั น้ีตอ ไปมหาบพิตรอยา ไดรว มคิดกับพราหมณบชู ายญั ทีม่ ชี อ่ื วา ปสุ-ฆาตยัญ (ยญั ฆาสัตว) อีกตอไป คร้นั แสดงธรรมแลวกลับไปทอ่ี ยูของตนทางอากาศนัน่ แล. ฝา ยพระราชาตัง้ อยูในโอวาทของพระโพธิสตั ว ทรงทาํ บญุ มใี หทานเปนตน แลวเสดจ็ไปตามยถากรรม. พระบรมศาสดา ครนั้ ทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้มี าแลวตรัสใหพระเจาปเสนทิโกศลเลิกบชู ายญั ดว ยพระพุทธดาํ รัสวา เพราะพระสุบินเปน ปจจัย ภยั ยังไมมีแกม หาบพิตรดอกมหาบพิตรจงสัง่ ใหเ ลิกยญั เสียเถิด พระราชทาน ชีวิตทาน

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 241แกมหาชน แลวทรงสบื อนสุ นธิประชุมชาดกวา พระราชาในคร้งั นัน้ ไดม าเปนพระอานนทใ นคร้ังนี้ มาณพไดม าเปน พระ-สารบี ุตร สว นพระดาบส ไดม าเปนเราตถาคต ฉะนแ้ี ล. กแ็ ละคร้ันเมอ่ื พระผูมพี ระภาคเจาเสดจ็ ปรินิพพานแลวพระสงั คีตกิ าจารยทงั้ หลาย ยกบทท้ัง ๓ มีอสภุ าเปน อาทิขน้ึสูอรรถกถา กลาวบทท้ัง ๕ มีลาวูนเิ ปน อาทิ ยกข้ึนสบู าลีเอกนบิ าตดวยประการฉะน.ี้ จบ อรรถกถามหาสบุ ินชาดกที่ ๗

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 242 ๘. อิลลิสชาดก วา ดวยคนมรี ูปเหมอื นกนั [๗๘] คนท้งั สอง เปน คนกระจอก คนทั้งสอง เปน คนคอ ม คนท้ังสองมนี ัยนตาเหล คนทงั้ สองมี ปมุ เกดิ ทีศ่ ีรษะ ขาพระองคช ี้ตวั อลิ ลสี ไมได. จบ อิลลีสชาดกที่ ๘ อรรถกถาอิลลสี ชาดกท่ี ๘ พระบรมศาสดาเม่ือประทับอยู ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภเศรษฐีชื่อ มัจฉรโิ กสิยะ ตรสั พระธรรมเทศนานี้มคี ําเริ่มตนวา \"อุโภ ขฺชา\" ดงั น้.ี ไดย นิ วา ไมห า งพระนครราชคฤห มนี คิ มชอื่ วา สักกระในนคิ มน้ัน มีเศรษฐผี ูหนึง่ ชอื่ วา มจั ฉริโกสิยะ มีสมบัติ๘๐ โกฏิ อยอู าศยั . ทานเศรษฐนี นั้ แมเอายอดหญาจมุ น้ํามนัใหทานแกค นเหลา อ่ืนสกั หยดเดยี วกไ็ มม ี ท้งั ตนเองก็ไมยอมบริโภค ดวยประการฉะนี้ สมบัตขิ องเขาไมอํานวยประโยชนแกบ ุตรและภรรยาเปน ตน ทัง้ แกส มณพราหมณ ตั้งอยูอยางไมไ ดแตะตองใชสอย เหมอื นสระโบกขรณที ่รี ากษสคุมครองฉะนน้ั .

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 243 วนั หน่ึง พระบรมศาสดาเสดจ็ ออกจากมหากรุณาสมาบตั ิในเวลาใกลร งุ ทรงตรวจดูหมูสัตวที่เปนเผาพันธแหงผูพ อจะทรงแนะนําใหตรสั รไู ด ทัว่ โลกธาตทุ ้ังส้ิน ไดท อดพระเนตรเห็นอุปนิสัยแหง โสดาปตติผล ของทา นเศรษฐพี รอมดว ยภรรยาอนั อยไู กลถึง ๔๕ โยชน. เมือ่ วันกอนจากวนั นัน้ ทา นเศรษฐีไดไ ปสูพ ระราชวงั เขา เฝาพระราชา ขณะเดินมาเห็นชาวชนบทผูหนง่ึ หวิ หนัก กาํ ลงั กดั กนิ ขนมเบอื้ งผสมถ่วั กุมมาส เกิดความอยากในขนมน้ัน ไปถงึ เรือนของตนแลว ดําริวา ถาเราบอกวาอยากกินขนมเบือ้ ง คนเปนอนั มากกจ็ กั อยากกนิ กับเรา เมื่อเปนเชนนี้ สง่ิ ของเปน ตน วา ขาวสาร เนยใส น้ําออ ย ของเราจักตองสนิ้ เปลอื งไปเปน อันมาก เราจักไมบอกใคร ๆ แลวสูอ ดกลัน้ความอยากไว เทย่ี วไป. คร้ันนานหนักเขา ทา นชักจะผอมเหลืองตัวสะพรง่ั ดวยเสนเอ็น ทีนนั้ กไ็ มอาจทนอยากอยูได จงึ เขา นอนซุกบนเตียงนอ ย แมถงึ อยางน้นั แลว กย็ งั ไมยอมเอยอะไรแกใคร ๆ เพราะกลัวเสยี ทรพั ย. ฝายภรรยาจงึ เขา ไปหาทา นลูบหลังพลางถามวา ทา นเจาขา ทานไมสบายหรือ ? เศรษฐี. ฉนั ไมเจ็บ ไมไ ข ไมเ ปนอะไรดอก. ภรรยา. พระราชาทรงกริ้วทา นหรือ ? เศรษฐ.ี ถึงพระราชากม็ ไิ ดท รงกร้วิ ฉัน. ภรรยา. เมอื่ เปนเชน นัน้ จะมีลูกชาย ลูกหญงิ เปน ตนหรอื บรวิ ารมีทาสและกรรมกรเปนตน พากนั ทาํ อะไร ๆ ทไี่ ม

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 244พอใจทานหรือ ? เศรษฐ.ี แมเ รอื่ งอยา งนก้ี ไ็ มมแี กเรา. ภรรยา. ทา นคงนกึ อยากจะกนิ อะไรบา ง กระมงั ? เศรษฐี พอภรรยาพูดอยา งน้ี ก็ไมยอมเอย อะไร ๆ นอนนงิ่ เงยี บทีเดยี ว เพราะกลัวเสียทรพั ย ทีนั้นภรรยาจงึ กลา วกะทานเศรษฐวี า ทา นเจา ขอบอกเถดิ ทานนึกอยากกนิ อะไร ?ทานเศรษฐีทําทา ทีกลํา้ กลนื ถอ ยคํา แลวกลาววา จะ ฉันนกึอยากอยูอยางหนง่ึ . ภรรยา. อะไรเจา คะ ที่ทา นนกึ อยาก ? เศรษฐ.ี ฉนั อยากกนิ ขนมเบือ้ ง. ภรรยา. เมอื่ เปนเชนนนั้ ทําไมไมบ อกเลา คะ ทา นเปนคนจนหรือเจาคะ คราวน้ี ดิฉันจะทอดขนมเบอ้ื งใหพอแจกชาว-สักกระนิคมใหท ่วั ถงึ . เศรษฐี. เจาเอยถงึ พวกนนั้ ทาํ ไม พวกเขาทาํ งานของตนแลว กจ็ ักทาํ กินกันเอง. ภรรยา ถาเชนน้ันกท็ อดพอแจกพวกตรอกเดยี วกันนะคะ ? เศรษฐี. ฉันรูละวา เจานะมีทรัพยมาก. ภรรยา. ถาเชนนนั้ กท็ อดพอแจกกันระหวางลูกเมียในเรือนเทานั้น ก็แลว กันนะเจาคะ ? เศรษฐี. ทา นไปยุงกบั พวกน้ันทําไม ? ภรรยา. ถา เชน นนั้ ก็ทอดพอรบั ประทานกนั ระหวาง

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 245ทานกับดฉิ ัน นะเจาคะ ? เศรษฐ.ี ทา นจะมาเกี่ยวดว ยทําไม ? ภรรยา. ถา เชน น้นั กท็ อดพอทา นรบั ประทานคนเดยี วก็แลว กัน. เศรษฐี. เมื่อทอดทีน่ ี่ คนเปนอันมากจักพากันมุงดู เจา จงขนขา วสารทีแ่ หลก ๆ เวน ขา วที่เปน ตวั เสยี ท้ังเตาและกระเบ้ืองทอด กข็ นไปดว ย ถอื เอานมสด เนยใส นํา้ ผงึ้ นาํ้ ออ ย อยา งละนิดละหนอ ย ข้นึ สพู นื้ โถงบนปราสาทชนั้ ที่ ๗ แลวทอดเถิด ฉันคนเดียวเทานนั้ จักนง่ั กินที่น่นั . ภรรยา. รับคําแลว ใหคนขนส่งิ ของท่ตี อ งใชขึน้ ปราสาทไลทาสลี ง ใหเชิญทา นเศรษฐขี ้ึนไป. เศรษฐีปด ประตูชัน้ แรกขัดล่ิมสลักทุกแหง ขน้ึ สูพ้ืนปราสาทชน้ั ๗ แมใ นช้นั กป็ ดประตูเสยี ดวยแลวนง่ั คอย ฝายภรรยาของทา นเศรษฐี จดั แจงกอ ไฟใสเตา ยกกระเบื้องข้นึ ตั้ง เรมิ่ จะทอดขนม. ลาํ ดบั น้ัน พระบรมศาสดาตรสั เรยี กพระมหาโมคคลั ลานะแตเ ชา ตร.ู ตรัสวา โมคคัลลานะ เศรษฐตี ระหนี่ในสกั กระนคิ มไมหางไกลพระนครราชคฤหผ ูนี้ ดําริวา เราจักกนิ ขนมเบื้องกลัวคนอื่น ๆ จะเห็น ใหภรรยาทอดขนมเบอื้ งทีพ่ ื้นช้นั บนแหงปราสาท ๗ ช้นั ทานจงไปท่ีนัน่ ทรมานเศรษฐี ทาํ ใหหมดพยศแลวใหส ามภี รรยาทง้ั คู ขนขนม นมเนย นํ้าผ้งึ น้าํ ออ ย พามาสูพระเชตวนั ดว ยกาํ ลังของตนเถิด วันนีต้ ถาคตกบั ภิกษุ ๕๐๐

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 246จกั น่งั คอยในวหิ าร จักกระทาํ ภัตตกิจดวยขนมนั้นแหละ. พระ-เถระเจาทูลรับสนองพระดํารัสของพระศาสดาวา ดแี ลว พระเจาขาไปสนู ิคมดว ยกาํ ลังฤทธ์ใิ นทนั ใดน้ันเอง ครองสบงจวี รเรยี บรอ ยยนื อยูในอากาศตรงชองหนา ตา ง ปานประหนึง่ รูปท่ีทาํ ดว ยแกว มณมี าลอยอยฉู ะน้นั . เพราะเห็นพระเถระเจาเขา เทานั้นทา นมหาเศรษฐหี วั ใจส่ัน. เศรษฐดี าํ ริวา เพราะกลวั มนษุ ยประเภทนี้ นี่แหละ เราถึงตองมาท่นี ่ี แตทานผูนี้ยังมาที่ชองหนาตา งจนได มองไมเ ห็นสิ่งทพ่ี อจะถอื เอาได กเ็ ปลงเสียงตฏะ ตฏะ ออกมา ดว ยความแคน เหมือนเอากอ นเกลอื ใสไ ปในกองไฟ แตกเพียะพะอยฉู ะนน้ั แลวกลาวอยา งนีว้ า ดูกอ นสมณะทา นยนื อยใู นอากาศจักไดอะไร ถึงจะเดินไปเดนิ มา แสดงรอยเทา ในอากาศอันหารอยมิได ก็จกั ยังไมไ ดอ ยนู นั่ เอง. พระ-เถระกเ็ ดินจงกรมไปมาอยู ณ ทีน่ น้ั เอง. เศรษฐกี ลา ววา ทานจงกรมอยูจักไดอ ะไร ถงึ จะนัง่ ขดั สมาธใิ นอากาศ กจ็ ักไมไ ดอะไรเลย. พระเถระเจา คูบ ัลลงั กนงั่ แลว . คร้งั น้นั เศรษฐีกลา วกะพระเถระวา นัง่ แลว จกั ไดอะไร ถึงจะมายืนอยูท่ีธรณีหนาตา งกจ็ ักไมไ ดเ ลย. พระเถระไดมายนื อยูทธี่ รณี. ครัง้ นั้น เศรษฐีพดู กะทานวา ถงึ ยืนท่ธี รณแี ลว กจ็ ักไดอะไร ตอใหบงั หวลควันกจ็ ักไมไดอ ะไร. พระเถระจึงบงั หวลควนั ปราสาททง้ั นั้น เปนควันพุงไปท่ัว. เกดิ เปน ดุจเวลาเอาเข็มแทงนัยนต าทา นเศรษฐีทา นเศรษฐไี มก ลา กลา ววา ถงึ จะใหไ ฟลกุ ก็คงจะไมได เพราะ

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 247กลัวไฟจะไหมบ า น ดาํ ริวา สมณะรูปน้ี เกาะเกย่ี วเหนียวแนนไมไดคงไมยอมไป จึงบอกภรรยาวา ดกู อนนางผูเจรญิ เจาจงทอดขนมเลก็ ๆ ช้นิ หนง่ึ ใหสมณะแลวสงทา นไปเสียเถดิ .นางตักแปง หนอยเดียวเทา นัน้ ใสลงในถาดกระเบ้อื ง เปน ขนมโตเต็มถาดหมด พองหนาปรากฏอยู. เศรษฐีเห็นขนมนนั้ แลวพดู วา เจาคงใสแ ปงมากเปน แน แลว เอามุมทพั พนี ่ันแหละตกัแปง หนอ ยหนง่ึ ใสล งไปเองทีเดยี ว ขนมกลับใหญกวา อนั กอ นไมว า จะทอดอันใด ๆ อนั นนั้ ๆ เปนตองใหญ ๆ ท้งั นนั้ . เศรษฐีชกั เหนือ่ ย จงึ บอกภรรยาวา นางเอย เจา จงใหข นมแกส มณะรปู นไี้ ปช้ินหน่ึงเถิด. เมื่อนางหยิบขนมชนิ้ หนึ่งออกจากกระเชาขนมทุกชิน้ ติดเปน แผน เดียวกันไปหมด. นางบอกกะเศรษฐีวาทา นเจาคะ ขนมทัง้ หมดติดเปน แผน เดยี วกนั เสยี แลว ดฉิ นั ไมอ าจจะแยกได. ทา นเศรษฐีกลาววา ฉันทําเอง กไ็ มอาจแยกออกไดเมื่อทา นเศรษฐีพยายามปลุกปลาํ้ แยกขนมอยนู ่นั แล เหงือ่ ไหลโทรมรางกาย ความอยากกห็ ายไป. ลําดบั นัน้ ทานเศรษฐีจึงพดูกับภรรยาวา นี่แนะนางผูเจริญ เราไมต องการขนมเเลว ละเธอจงถวายแกภ กิ ษนุ ี้ทง้ั กระเชา ทีเดียวเถิด. นางจงึ หว้ิ กระเชาเขา ไปหาพระเถระ. แลว ถวายขนมทัง้ หมดแดพ ระเถระเจา. พระเถระเจา เมื่อแสดงธรรมแกคนทงั้ สอง ก็กลา วถงึ คณุของพระรัตนะทงั้ ๓ แลว ชี้แจงผลของการใหทานเปนตน วาทานทีบ่ ุคคลใหแลว มผี ล การบชู ามีผล แจม แจง ประดุจแสดงให

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 248เห็นดวงจนั ทรวนั เพญ็ บนพ้นื นภากาศ ฉะนัน้ . คร้นั ฟงธรรมแลวมหาเศรษฐี มีจติ ผอ งใส กลาววา ขาแตพ ระคณุ เจา ผเู จริญนิมนตนง่ั บนบัลลงั กนี้ ฉันขนมเถิดขอรับ. พระเถระเจากลา ววาทา นมหาเศรษฐี พระสัมมาสมั พุทธเจา ตรัสวา ตถาคตจกั ฉนั ขนมประทบั นงั่ ในพระวิหารกบั ภกิ ษุ ๕๐๐ รูป เมอื่ ทา นพอใจ จงใหภรรยาถือขนมและนมเปน ตน เราจกั ไปสสู ํานักพระศาสดาทา นเศรษฐี ถามวา ขา แตพระคณุ เจาผูเ จรญิ เดย๋ี วน้พี ระศาสดาพระองคน ั้นประทบั อยทู ่ีไหนเลา ขอรบั ? พระเถระเจาตอบวาพระองคป ระทบั ณ พระมหาวิหารเชตวนั หางจากทนี่ ่ี ๔๕โยชน. ทานเศรษฐกี ลาววา ขาแตพ ระคณุ เจา ผเู จรญิ เราจกัไปไกลถึงเพยี งน้ี โดยไมใหล วงเวลาภัตไดอ ยางไรเลาขอรับ ?พระเถระเจากลาววา กอ นมหาเศรษฐี เม่ือทา นมคี วามพอใจเราจะพาทานไปดวยกาํ ลังฤทธ์ขิ องตน หัวบนั ไดท่ีปราสาทของทาน จกั ปรากฏ ณ ทต่ี ัง้ ของตนทเี ดยี ว แตที่สดุ แหง บนั ได จักอยูซุมพระทวารแหงพระวหิ ารเชตวนั เราจกั พาทา นไปพระ-วหิ ารเชตวัน ดว ยระยะเวลาเพยี งเทากาลทลี่ งจากปราสาทชนั้ บนมาสูป ราสาทชั้นลาง ทานเศรษฐรี ับคําวา ดีแลว ขอรับ ทานผเู จริญ. พระเถระเจา ก็อธษิ ฐานวา ศรี ษะบันไดจงอยูทเ่ี ดิม เชิงบนั ไดจงมีท่ซี มุ พระทวารพระวิหารเขตวนั เถดิ . การก็ไดเ ปนดงั คาํ อธษิ ฐานของพระเถระเจานน่ั แหละ ดวยอาการอยางน้ี

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 249พระเถระเจา พาทานเศรษฐกี ับภรรยาลุถงึ พระวิหารเชตวันเร็วกวาเวลาลงจากปราสาทชนั้ บน ถงึ ปราสาทชัน้ ลา งเสยี อีก.ทา นเศรษฐีและภรรยาแมทั้งคเู ขา เฝาพระศาสดา กราบทลูภตั ตกาลพระศาสดา เสด็จเขา สโู รงฉนั ประทบั นง่ั เหนือพระ-บวรพุทธาอาสนทจ่ี ดั ไวพรอมกบั ภกิ ษสุ งฆ ทา นเศรษฐีไดถ วายนํา้ ทกั ษโิ ณทกแดพระสงฆ มพี ระพทุ ธองคเปน ประมขุ ภรรยาของทา นเศรษฐกี ็ใสขนมในบาตรของพระตถาคต. พระศาสดาทรงรับขนมพอแกพระประสงคข องพระองค. แมภ กิ ษุ ๕๐๐ รปูก็รบั เชนนนั้ เหมือนกนั . ถงึ ทานเศรษฐีกเ็ ดินถวาย นมสด เนยใสนาํ้ ผึ้ง นํ้าออย และน้ําตาลกรวดเปน ตน . พระศาสดากับภิกษุ๕๐๐ รูปกระทําภตั กิจเสรจ็ แลว. ทา นมหาเศรษฐีกับภรรยาเลากร็ ับประทานขนมพอแกค วามตองการ ความส้นิ สดุ ของขนมทง้ั หลาย ไมปรากฏเลย แมถวายแจกจายแกพวกภิกษแุ ละคนกนิ เดนในวิหารทง้ั สิ้นแลว ความหมดสิ้นก็ยงั ไมปรากฏอยูน ั่นเอง.ทา นเศรษฐแี ละภรรยาพากันกราบทลู พระผูมีพระภาคเจา วาขาแตพระองคผเู จรญิ ขนมยังไมห มดเลยพระเจา ขา . พระผูม-ีพระภาคเจา ตรัสวา ถาเชนนน้ั ทา นจงเททิง้ เสียที่ซุมประตูพระ-วิหารเชตวนั เถดิ สองสามีภรรยากข็ นไปทิ้ง ในท่ีเปนเงอ้ื มไมหา งซมุ ประตู ทน่ี ัน้ จงึ ปรากฏช่อื วา \"เง้ือมขนมเบือ้ ง\" ตอ มาจนถงึทุกวันน้ี. มหาเศรษฐีกบั ภรรยาพากนั เขาไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจายืนอยู ณ ที่ควรขางหน่ึง. พระผูม ีพระภาคเจาไดทรงกระทาํ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 250อนุโมทนา ในเวลาจบอนุโมทนา เศรษฐแี ละภรรยาแมทัง้ สองคนก็ดาํ รงในพระโสดาปต ติผล พากนั ถวายบังคมพระบรมศาสดากาวขนึ้ บันไดสถิตในปราสาทของตน นน่ั เอง. จาํ เดิมแตน นั้ มาทานมหาเศรษฐีก็บริจาคทรัพย ๘๐ โกฏิ ในพระพุทธศาสนาน่ันแล. วนั รงุ ขึน้ เมอื่ พระสมั มาสัมพุทธเจา เสด็จเทย่ี วบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี แลว เสด็จมาสูพ ระวิหารเชตวัน ประทานสคุ โตวาทแกพ วกภิกษุ แลวเสด็จเขา พระคนั ธกฎุ ีทรงหลกี เรนครนั้ เวลาเยน็ ภิกษปุ ระชมุ กนั ในธรรมสภา น่ังกลา วถงึ คณุ กถาของพระเถระเจาอยวู า กอนผมู อี ายุท้ังหลาย จงดอู านภุ าพของพระมหาโมคคลั ลานเถรเจาเถิด ทา นมิไดทําลายศรทั ธา มิไดแตะตอ งโภคทรัพย ทรมานเศรษฐี ผูตระหนีค่ รเู ดียวเทานนั้ก็ทาํ ใหหายพยศได ใหถือขนมชวนมาพระเชตวนั เฝาพระศาสดาใหดาํ รงในโสดาปตตผิ ล โอ พระเถระเจามีอานภุ าพมาก. พระ-ศาสดาเสด็จมาตรสั ถามวา ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย พวกเธอนง่ัประชมุ สนทนากนั ดวยเร่อื งอะไร เมื่อภกิ ษุทั้งหลายกราบทลูใหทรงทราบแลว ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ธรรมดาภิกษุผูทรมานสกุล ไมตอ งเบยี ดเบยี นสกุลใหล ําบาก พงึ เปนเหมือนภมรเคลาเอาเกษรดอกไม เขาไปใกลแ ลว ใหเ ขารพู ระพุทธคณุเม่อื จะทรงสรรเสริญพระเถระเจา ตรัสพระคาถาในธรรมบทน้ีวา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook