Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_56

tripitaka_56

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:42

Description: tripitaka_56

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 540ก็จักไมไ ดเ พ่ือฉันกระเทยี ม เหมอื นอยางถูลนนั ทาเชน กนั เหตุน้นัแมจะไดม าก กจ็ ักตอ งรจู ักประมาณทีเดยี ว แตไ ดนอย ก็ตองพอใจตามท่ไี ดเทาน้นั ไมควรปรารถนาใหย ่ิงขน้ึ ไป แลว ตรัสคาถาน้ีความวา \" บุคคลไดส ิ่งใด ควรยนิ ดดี วยสงิ่ น้ัน เพราะความโลภเกินประมาณ ชวั่ นัก นาง- พราหมณี จับพระยาหงสเ สียแลว จึงเส่ือมจาก ทอง\" ดงั น.้ี บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา ตฏุ พพฺ  แปลวา พึงยินด.ี ก็พระศาสดา ครนั้ ตรัสพระธรรมเทศนาน้ี แลวทรงตเิ ตียนโดยอเนกปริยาย แลว ทรงบัญญัตสิ กิ ขาบทวา กน็ างภิกษุณีรปู ใดฉนั กระเทียม, ตองอาบัติปาจิตตยี  ดังนี้แลว ประชมุ ชาดกวา นางพราหมณีในคร้ังนนั้ ไดมาเปน ภกิ ษุณถี ลู นันทา, ธดิ าทงั้ สามไดม าเปนพีน่ องหญงิ ในบัดน,้ี สว นพระยาสุวรรณหงสไดมาเปน เราตถาคต ฉะนีแ้ ล. จบ อรรถกถาสุวรรณหงสชาดกที่ ๖

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 541 ๗. พัพพชุ าดก วธิ ีแกเผด็ ทําใหแ มวตาย [๑๓๗] แมวตวั ที่หนึ่งไดห นูหรือเนื้อในทใ่ี ด แมว ตัวทส่ี อง ที่สาม และที่สี่ กเ็ กดิ ขน้ึ ในทนี่ น้ั แมว เหลา นน้ั ทงั้ หมด ไดพากันเอาอกฟาดแกวผลกึ นี้ แลว ถึงความส้ินชวี ิต. จบ พัพพุชาดกท่ี ๗ อรรถกถาพัพพุชาดกท่ี ๗ พระศาสดาเมือ่ ประทับอยู ณ พระเชตวันมหาวหิ ารทรงปรารภสกิ ขาบททที่ รงบัญญัติดว ยมีกาณมารดาเปนเหตุตรัสพระธรรมเทศนานี้ มคี าํ เร่มิ ตนวา ยตเฺ ตโก ลภเต พพพฺ ุดงั น.้ี ความพิสดารวา อบุ าสกิ าในพระนครสาวตั ถี ปรากฏนามตามธดิ าวา กาณมาตา ไดเ ปนอรยิ สาวกิ า ผโู สดาบนั นางไดย กลูกสาวชอ่ื กาณา ใหแกชายผมู ชี าติ คคู วรกนั ในหมูบา นตําบลหนึง่นางกาณายอนกลบั มาเรือนของมารดาดว ยกรณียกจิ บางอยางตอ มา สามขี องนางกาณาสงทตู ไปวา นางกาณาจงกลบั มา เราตอ งการใหนางกาณากลับ นางกาณาฟงคาํ ของทลู แลว บอกลา

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 542มารดาวา แมจ า ฉนั ตองไปละ มารดากลาววา เจาอยูนานปานนี้จักไปมอื เปลา อยางไรกัน แลว ทอดขนม ขณะน้นั เองภิกษรุ ูปหน่ึงผูม ปี กติเท่ยี วบณิ ฑบาตเปนวตั ร ไดไปถงึ ท่ีอยขู องนาง อบุ าสกิ านิมนตท า นใหนั่งแลว ถวายขนมเต็มบาตร ภกิ ษุนั้นออกไปแลวก็บอกแกภ ิกษุรูปอน่ื อบุ าสกิ าก็ถวายแกภกิ ษนุ ั้นโดยทํานองเดยี วกนั นน่ั แหละ แมร ูปนั้นกก็ ลบั ออกไป แลวบอกตอแกร ูปอนื่อบุ าสกิ าก็ถวายแกภ กิ ษุนั้นเชน กนั เลยตอ งถวายแกภ กิ ษตุ อ ๆ กันอยางนีถ้ ึง ๔ รปู ขนมตามทีต่ ระเตรียมไวกห็ มดสน้ิ ไป นางกาณากย็ งั ไมพ รอ มที่จะไปได ครัง้ นั้น สามขี องนางกาณา กส็ งทตูไปซาํ้ เปนครงั้ ท่ี ๒ พอครง้ั ท่ี ๓ สงทตู ไปพรอมกับคาํ ขาดวาถา นางกาณาจักยงั ไมย อมมา เราจักนาํ หญงิ อื่นมาเปน ภรรยาแมต ลอดวาระทั้ง ๓ นางกาณากไ็ มพรอมท่ีจะไปได ดวยขอขดั ของนัน้ แหละ สามีของหางจึงนาํ หญิงอน่ื มาเปนภรรยา นาง-กาณาไดฟงเร่อื งราวขา วน้นั แลว ก็กน แตรอ งไห. พระศาสดาทรงทราบเรอื่ งนัน้ ครัน้ รงุ เชาทรงครองผาถือบาตร จวี ร ไปยังนเิ วศนของกาณมารดา ประทบั นัง่ เหนืออาสนะที่จดั ถวาย แลว ตรสั ถามมารดานางกาณาวา กาณาน้ีรองไหเพราะเหตไุ ร ? ครัน้ ทรงสดบั วา ดว ยเหตุช่ือน้ี จึงตรสัปลอบกาณมารดา แสดงธรรมีกถา ลกุ จากอาลนะกลบั พระวิหารครั้งนน้ั ความท่ภี กิ ษุทง้ั ๔ รปู นน้ั รับเอาขนมทต่ี ระเตรียมไวจนเปน เหตุตัดรอนการไปของนางกาณา ก็ระบอื ไปในหมภู ิกษุ

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 543ครั้นวนั หน่งึ พวกภิกษุจงึ ยกเรอื่ งข้นึ สนทนากนั ในธรรมสภาวาผูม ีอายุทั้งหลาย ภิกษุ ๔ รปู ฉนั ขนมทม่ี ารดานางกาณาทอดไว๓ ครง้ั ทําใหนางกาณาไปไมไ ด เลยถูกผวั ทง้ิ ทําความโทมนสัใหบังเกดิ แกมหาอบุ าสิกา พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามวาดกู อ นภิกษุท้งั หลาย บัดนีพ้ วกเธอน่ังประชมุ สนทนากนั ดวยเร่ืองอะไร ? เมอ่ื ภิกษทุ ัง้ หลายกราบทูลใหท รงทราบแลว ตรสั วาดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย มใิ ชแ ตใ นบดั นเี้ ทา นน้ั ทีภ่ กิ ษุทงั้ ๔ เหลานน้ักนิ ของของกาณมารดา แลว ทาํ ความโทมนัสใหเกดิ แกน าง แมในครง้ั กอ นกเ็ คยทาํ ใหนางเกดิ โทมนสั มาแลว ทรงนาํ เอาเรอ่ื งในอดีตมาสาธก ดังตอ ไปนี้ :- ในอดีตกาล ครง้ั พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบตั อิ ยูในพระนครพาราณสี พระโพธสิ ตั วบ งั เกดิ ในสกลุ ชางสลักหนิเจริญวัยแลว ศึกษาศลิ ปะสําเรจ็ แลว ในนิคมแหง หน่งึ ณ แควน-กาสี ไดมีเศรษฐีมสี มบัติมากอยคู นหนงึ่ ฝง เงินไว ๔๐ โกฏ.ิภรรยาของเขาตายไปแลว เพราะความหว งในทรัพย จงึ เกดิ เปนหนู อยูบนกองทรพั ย ตระกลู นน้ั ท้งั หมดถึงความยอ ยยับไปโดยลาํ ดับดว ยประการฉะน้ี ผสู ืบสายก็ขาดตอน แมบ านนั้นกถ็ กู ทอดทง้ิ ไวจนราง ถงึ ความเปนบานท่หี มดบญั ญตั ิ ขาดความหมาย ครัง้ นนั้ พระโพธสิ ัตวข ดุ หินในบานเกา นน้ั มาสลัก. ฝายนางหนนู นั้ เทย่ี วหากิน เหน็ พระโพธิสตั วบอ ย ๆ ก็เกิดความรัก คิดวา ทรัพยของเรามากมาย จักฉบิ หายเสียโดย

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 544ไรเหตุ เราจกั รวมกับบรุ ษุ นใี้ ชจายทรพั ยนี้ วันหนง่ึ นางจงึคาบทรพั ย ๑ กษาปณ ไปสูส ํานักพระโพธิสัตว พระโพธิสัตวเห็นนางแลว ก็ปราศรยั ดวยวาจานารกั กลาววา แมค ณุ เอยคาบเอากษาปณมาทําไมเลา ? นางตอบวา พอคุณ ทานจงรับกษาปณน้ไี ปใชส วนตนบา ง นําเนื้อมาเผ่ือฉันบาง พระโพธิสตั วรับคําน้ีแลว เอากษาปณไปสพู ระนคร ซ้อื เนื้อมาสกหนึง่ แลวนํามาใหน าง นางรับเอาเน้อื ไปสูท อี่ ยูของตน เคี้ยวกนิ ตามพอใจ นับแตนั้นมา หนูก็ใหก ษาปณแกพ ระโพธสิ ตั วท กุ วันโดยทาํ นองนีแ้ ล แมพ ระโพธสิ ัตวก็นาํ เนอ้ื มาใหห นูทุกวนั . อยมู าวนั หนึ่ง แมวจบั นางหนูน้นั ได คร้ังนน้ั นางหนพู ดูกบั มนั อยา งนว้ี า เพือ่ นเอย ทา นอยา ฆา เราเลยนะ แมวถามวาเร่ืองอะไรเราจะไมฆ า เราหวิ อยากกนิ เนือ้ ไมอ าจจะไวช ีวิตเจา ได นางหนถู ามวา กท็ า นอยากจะไดก ินเนอ้ื เพยี งวันเดียวเทา นนั้ หรอื อยากจะไดก ินตลอดไป ? แมวตอบวา เมอื่ ไดเราก็อยากไดก นิ ตลอดไป นางหนจู ึงพูดวา ถา เชนน้ัน เราจักใหเนอื้ ทานตลอดไป ทา นจงปลอยเราเถดิ ทนี ้ันแมวกก็ ําชับหนวู าถา เชนน้นั เจา อยาลมื เสียนะ แลวก็ปลอ ยไป ตั้งแตน ั้น นางหนูก็แบงเนอ้ื ที่พระโพธิสัตวนาํ มาใหต นเปนสองสวน ใหแ มวเสียสวนหนึง่ กนิ เองสว นหนึง่ อยมู าวนั หน่ึง นางถูกแมวตวั อน่ื จับไดอ กี นางหนูกต็ อ งรองขอใหมันตกลงทาํ นองเดยี วกัน แลว ใหปลอ ยตน ตัง้ แตน น้ั กต็ อ งแบงเนอ้ื ออกเปน สามสวน ครน้ั ถูก

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 545แมวอืน่ จบั ไดอีก กค็ งขอรองใหปลอ ยตน ดว ยวธิ ีนัน้ แหละ จาํ เดมิแตน ้ัน กต็ องแบง เนือ้ ออกเปน ๔ สวน ตอมาถูกแมวอนื่ จบั ไดอกี กข็ อรองใหป ลอ ยตนดวยวธิ ีนน้ั อกี นบั แตนน้ั มา ก็ตอ งแบงกนิ กันถึง ๕ สวน นางหนกู ินสว นที่ ๕ เพราะมอี าหารนอยจงึ ลําบาก ซูบผอม มเี น้ือและเลือดนอ ย. พระโพธสิ ัตวเ ห็นนางหนนู น้ั แลว กลาววา แมคณุ เอยทาํ ไมจงึ ซูบเซียวเหยี่ วแหง ไปเลา ? ครัน้ นางหนูบอกเหตแุ ลวก็กลาววา ทําไมไมบ อกฉัน จนปา นน้ี ฉนั จักชว ยทาํ กิจในเรอ่ื งนี้เอง ทาํ ใหนางหนูเบาใจแลว กระทํารูถ ้ําดว ยแกว ผลกึ ใด นํามามอบให ส่งั วา แมค ณุ เจา จงเขาไปสูถ ้ํานี้ นอนเสยี แลว ตวาดแมวทพี่ ากันมา ดว ยวาจาทห่ี ยาบคาย นางแมวกเ็ ขา ถํา้ นอน ครัน้ แมวตวั ที่หนง่ึ มาหานางวา เจา จงใหเ น้อื แกเรา นางหนกู ต็ วาดมนั วาไอแมวช่วั ตัวราย กูเปน ข้ีขาหาเนอื้ ใหมึงหรอื จงไปกินเนือ้ ลกู ๆของมงึ เถดิ แมวไมร ูวา นางนอนในถํา้ แกว ผลกึ ดวยอาํ นาจความโกรธ จงึ ไปโดยเรว็ ดว ยหมายจกั จบั หนใู หไ ด เลยเอาทรวงอกกระแทกเขากบั ถาํ้ แกว ผลกึ หัวใจของมนั แตกทนั ที ตาท้งั คถู ลนออกมา มันส้นิ ชีวิตตรงนน้ั เอง แลว ลว งไปในทรี่ ก ๆ ขางหนึ่งดวยอบุ ายนี้ แมวทง้ั ๔ แมแตล ะตวั ๆ ตางกพ็ ากนั สิ้นชีวิตหมด นับแตน้นั มาหนูก็ปลอดภัย ใหกษาปณ ๒-๓ กษาปณแ กพระโพธสิ ตั วทุก ๆ วนั ตอมากไ็ ดมอบทรัพยทง้ั หมดใหแก

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 546พระโพธสิ ตั วเ พยี งผเู ดยี ว ดวยอุบายอยางนี้ ท้งั คมู ิไดท าํ ลายไมตรกี ันจนสิน้ ชีวติ แลว ตางกไ็ ปตามยถากรรม. พระศาสดาทรงนําพระธรรมเทศนานมี้ าแลว ครัน้ ตรสั รูแลว ตรสั พระคาถานี้ ความวา :- \" แมวตวั หน่ึงไดห นหู รอื เนอื้ ในทีใ่ ด แมว ตวั ท่ี ๒ ท่ี ๓ และที่ ๔ กเ็ กิดข้นึ ในทนี่ ั้น แมว เหลานนั้ ทงั้ หมด ไดพากนั เอาอกฟาดแกว ผลึกน้ี แลว ถึงความสนิ้ ชีวติ \" ดังน.ี้ บรรดาบทเหลานน้ั บทวา ยตฺถ แปลวา ในทใี่ ด. บทวา พพพฺ ุ แปลวา แมว. บทวา ทุติโย ตตฺถ ชายติ ความวา แมวตัวท่หี นง่ึ ไดหนูหรือเน้ือในทีใ่ ด แมตวั ทสี่ องกเ็ กดิ ในท่นี ั้นได ตัวที่สาม ทสี่ ี่กเ็ กิดตาม ๆ กันมาทาํ นองนนั้ ดว ยอาการอยางน้ี แมวเหลา นัน้ในครง้ั นน้ั จึงรวมเปน ๔ ตวั ก็แลรวมกันแลว ก็กนิ เนอ้ื ทกุ วันแมวเหลาน้นั เอาอกกระแทกถ้ําทาํ ดวยแกว ผลึกนี้ ถงึ ความสนิ้ ชวี ติ ไปหมดแลว . พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้ีมา แลวทรงประชุมชาดกวา แมวทั้ง ๔ ในครง้ั นนั้ ไดมาเปน ภิกษุทง้ั ๔ นางหนไู ดมาเปนมารดานางกาณา สว นชางแกว ผูสลักหนิ ไดมาเปน เราตถาคต ฉะน้ีแล. จบ อรรถกถาพัพพุชาดกท่ี ๗

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 547 ๘. โคธชาดก วาดวยฤๅษกี นิ เหย้ี [๑๓๘] \"เหวยชฏิล ปญ ญาทราม เจามนุ ชฏาทําไม นุงหนงั เสอื ทาํ ไม ขางในของเจา รุงรงั เจา มวั ขัดสีแตภายนอก\" จบ โคธชาดกท่ี ๘ อรรถกถาโคธชาดกที่ ๘ พระศาสดาเมือ่ ประทบั อยู ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภภิกษุผูหลอกลวงรปู หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคาํ เรม่ิ ตน วา กินเฺ ต ชฏาหิ ทุมฺเมธ ดงั น.้ี เรอื่ งปจ จุบนั เชน เดยี วกับท่ีกลาวมาแลว ในหนหลงั นั่นแล. ในอดตี กาล ครัง้ พระเจา พรหมทตั เสวยราชสมบตั อิ ยูในพระนครพาราณสี พระโพธสัตวถือปฏสิ นธใิ นกําเนดิ เหยี้ ครง้ั นัน้ดาบสรูปหน่ึง ไดอ ภิญญา ๕ มีตะบะกลา อาศยั ปจ จันตคามตําบลหนึง่ อยู ณ บรรณศาลาชายปา พวกชาวบานชว ยกนั บํารุงพระดาบสดวยความเคารพ พระโพธสิ ตั ว กไ็ ดอ ยูในจอมปลวกแหง หนง่ึ ณ ทส่ี ดุ ทจ่ี งกรมของทาน ก็แลเม่อื อยนู นั้ ไดไ ปหาพระดาบสวนั ละ ๓ ครงั้ ทุก ๆ วนั ฟง คาํ อันประกอบดวยเหตุ

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 548ประกอบดว ยผลแลว ไหวพระดาบสแลวกลบั ไปสทู ่ีอยูของตนตอ มาพระดาบสก็อําลาพวกชาวบานหลกี ไป ก็แลเม่ือพระดาบสผสู มบูรณดวยศลี และวัตรน้ันหลกี ไปแลว มดี าบสโกงอื่น มาพํานักอยูใ นอาศรมบทนนั้ พระโพธสิ ัตวก ําหนดวา แมท า นผูน ้ีกม็ ีศีล จงึ ไดไ ปสสู ํานักของเขาโดยนยั กอ นนนั่ แล อยูมาวนั หนง่ึเม่ือเมฆต้ังขนึ้ ในสมยั ใชก าล ยงั ฝนใหต กลงมาในฤดแู ลง ฝูงแมลงเมา พากันออกจากจอมปลวกทั้งหลาย ฝูงเหีย้ ก็พากนั ออกเทยี่ วหากนิ แมลงเมา เหลา นั้น พวกชาวบานกพ็ ากนั ออกจบั เหยี้ทก่ี ินแมลงเมา ไดเปนอนั มาก แลวจดั ทําเปน เนือ้ สม ปรุงดว ยเครื่องปรงุ อนั อรอ ย ถวายพระดาบส ดาบสฉนั เนื้อลม แลวติดใจในรส จงึ ถามวา เนอื้ นี้อรอยย่งิ นัก เน้อื นน้ั เปน เนื้อของสตั วประเภทไหน ? ครั้นไดยนิ เขาบอกวาเนือ้ เหี้ย ก็ดาํ รวิ า เหี้ยตวั ใหญม าในสาํ นักของเรา จักฆามนั กินเนื้อเสยี แลว ใหคนขนภาชนะสาํ หรบั ตม แกง และวัตถุมเี นยใสและเกลอื เปน ตน วางไวขางหน่ึง ถอื ไมคอ นซอนไวด วยผา หม คอยการมาของพระโพธสิ ัตวอยทู ี่ประตบู รรณศาลา น่ังวางทาทาํ เปน เหมอื นสงบเสงี่ยม. ในเวลาเยน็ พระโพธิสัตว คดิ วา เราจกั ไปหาดาบสแลวออกเดนิ ขณะท่ีกาํ ลังเขาไปใกลนนั่ เอง ไดเ หน็ ขอผดิ แผกแหงอินทรยี ของเขา จึงคิดวา ดาบสนีม้ ิไดน ่งั ดว ยทาทางทีเ่ คยน่งัในวนั อ่ืน ๆ แมจะมองดูเราในวนั นีเ้ ลา กช็ ําเลอื งเปนท่เี คลอื บแฝงตองคอยจบั ตาดใู หด ี ดงั น้ี พระโพธสิ ัตวจ งึ ไปยนื ใตท ิศทางลม

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เอกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 549ของดาบส ไดกลิ่นเน้อื เหีย้ จงึ คดิ วา วนั นี้ ดาบสโกงนีค้ งฉนัเนือ้ เห้ยี ตดิ ใจในรสแลว คราวน้ีมุงจะตี ราผเู ขาไปหาดว ยไมค อนแลว เอาเนอ้ื ไปตม แกงกนิ เปน แน กไ็ มยอมเขาไปใกลเ ขา ถอยกลับว่ิงไป ดาบสรูค วามท่ีพระโพธิสตั วไมย อมมา ก็คิดวา เหีย้ ตัวนี้คงจะรูต ัววาเรามุง จะฆามัน ดวยเหตนุ ้นั จงึ ไมเขามา แมถ งึเม่อื มนั จะไมเขามา ก็ไมพนั มอื ไปได แลวเอาไมคอนออกขวา งไปไมคอ นนนั้ กระทบเพียงปลายหางของพระโพธิสตั วเ ทา นัน้ พระ-โพธสิ ตั วเ ขา จอมปลวกไปโดยเรว็ โผลศ รี ษะออกมาทางชอ งอน่ืกลาววา เหวยชฎลิ เจา เลห เมอื่ เราเขา ไปหาเจา ก็เขา ไปหาดวยสาํ คัญวาเปนผูม ศี ีล แตเ ด๋ยี วน้ีความเจาเลห ของเจา เรารูเสียแลว มหาโจรอยา งเจา บวชไปทําไมกนั เม่ือจะติเตยี นดาบสจงึ กลา วคาถานีว้ า :- \" เหวยชฎิลปญญาทราม เจามนุ ชฎาทําไม นุง หนงั เสือทําไม ขางในของเจา รงุ รงั เจา มวั ขัดสแี ตภายนอก\" ดังนี.้ บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา กนิ เฺ ตหิ ชฏาหิ ทุมเฺ มธ ความวาเหวยชฏิล ปญญาทราม ไรความรอบรู การมนุ ชฏาน้ี อนั ผูเวนจากการเบียดเบยี น จงึ ควรธํารงไว อธบิ ายวา เจา ปราศจากคณุคือการเวน จากความเบยี ดเบียนเสยี แลว จะมุนชฎานนั้ ไวทาํ ไมเลา ?

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เอกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 550 บทวา กินฺเต อชนิ สิ าฏิยา ความวา จาํ เดิมแตเวลาทีเ่ จาไมมสี งั วรคุณ อันคูควรกนั เจา จะนงุ หนังเสอื ทาํ ไมเลา ? บทวา อพฺภนฺตรนฺเต คหน ความวา ภายในคือหวั ใจของเจา รุงรัง หนาแนน ดว ยเครื่องรงุ รงั คือราคะ โทสะ โมหะ. บทวา พาหริ มฺปริมชชฺ สิ ความวา เจานนั้ เม่ือภายในยงั รุงรัง ยงั มัวขดั สขี า งนอกดว ยการอาบนํา้ เปน ตน และดว ยการถอื เพศ เมือ่ มวั แตข ัดขา งนอก เจา กเ็ ปนเหมอื นกระโหลกนาํ้ เตาที่เต็มดวยรัง เปนเหมอื นตุมเต็มดวยยาพิษ เปน เหมอื นจอมปลวกที่เตม็ ดว ยอสรพิษ และเปน เหมือนหมอ ท่วี ิจติ รเต็มดว ยคูถ ซ่งึเกล้ยี งเกลาแตขางนอกเทานน้ั เจา เปนโจร จะอยทู นี่ ่ีทาํ ไมรบี หนีไปเสยี โดยเร็วเถดิ ถาเจา ไมห นไี ป เราจักบอกชาวบานใหทําการขบั ไลขมขืน่ ช่เี จา. พระโพธสิ ตั วคุกคามดาบสเจาเลห อยางนแ้ี ลว กเ็ ขาลูจอมปลวก แมดาบสเจา เลหกห็ ลบไปจากท่ีนนั้ . พระศาลดาทรงนําพระธรรมเทศนานีม้ าแลว ทรงประชุมชาดกวา ดาบสโกงในครงั้ นั้น ไดม าเปนภิกษหุ ลอกลวงนี้ ดาบผมู ีศีลองคน้ันไดมาเปน พระสารบี ตุ ร สวนโคธบณั ฑิตไดม าเปนเราตถาคต ฉะน้แี ล. จบ อรรถกถาโคธชาดกที่ ๘


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook