Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_02

tripitaka_02

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:33

Description: tripitaka_02

Search

Read the Text Version

พระวินยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 251นั้น. ในสังเขปอรรถกถาทานกลาวไวว า ก็ภิกษุผนู าํ ไปสูอาวาสอืน่ แลว ใชส อยถา ในอาวาสนั้น ภกิ ษผุ ูแกก วา มาบังกับใหภ กิ ษุนัน้ ออกไปเสยี ควรพูดวาผมนําเตยี งและต่ังน้ี มาจากอาวาสช่ือโนน, ผมจะไป ผมจา จัดเตยี งและตง่ันั้นใหเ ปนปกต.ิ ถาภิกษผุ แู กกวานั้น พดู วา ขาพเจา จกั จัดใหเ ปน ปกตเิ อง,แมจ ะทําใหเ ปน ภาระของภกิ ษุผูเ ฒาน้ัน ไปเสยี ก็ควร. ในเรอื่ งเมืองจัมปา มวี นิ จิ ฉัยดงั นี้ :- ขาวยาคทู ีพ่ วกชนใสอปรัณ-ชาตชิ นิดเอก อยางใดอยา งหน่งึ รวมกบั น้ํามนั งา และขา วสาร แลวปรุงดวยวัตถุ ๓ อยาง คอื นํ้ามนั งา ขาวสาร และถั่วเขียว, หรือนํ้ามันงา ขาวสารและถวั่ ราชมาษ, หรอื นํามนั งา ขา วสาร และเยื่อถัว่ พู ชือ่ วา เตกฏล ะ*(ขาวยาคปู รงุ ดวยวตั ถุ ๓ อยาง). ไดยินวา พวกชนยอ มประกอบปรุงขา วยาคูช่ือ เตกฏละ นนั่ ดว ยวัตถุ ๓ อยาง มเี นยใส นํา้ ผึง้ และนํา้ ตาลกรวดเปน ตน เหลาน้ี ในน้ํานมท่เี ดือดดวยน้ํา ๔ สวน. ในเรื่องเมืองราชคฤห มีวนิ จิ ฉัยดงั น้:ี - ขนมที่มีรสดียงิ่ ทานเรียกวาขนมรวงผง้ึ อาจารยบ างพวกกลา ววา รวงผง้ึ บาง. คาํ ที่เหลอื แมใน๒ เรือ่ งนี้ กพ็ งึ ทราบโดยนัยดงั กลา วแลว ในเรือ่ งแจกขาวสกุ น่ันแลว. ในเร่ืองพระอชั ชุกะ มวี ินจิ ฉัยดงั น้ี :- บทวา เอตทโวจ ความวา คฤหบดนี นั้ เปนไข ไดส่ังไวแ ลว. หลายบทวา อายสมฺ า อุปาลิ อายสนฺ โต อชฺชุกสสฺ ปกโฺ ขความวา ทา นพระอบุ าลี หาใชเ ปน ฝกฝาย (ของทานพระอัชชกะนัน้ ) ดวยอาํ นาจถงึ ความลาํ เอยี งไม โดยท่แี ท บัณฑติ พงึ ทราบวา พระเถระเปน ฝก ฝา ย(ของทา นพระอัชชุกะน้นั ) ดวยความอนุเคราะหผูเ ปนลชั ชี และอนเุ คราะห* บาลีเดมิ เปน เตกฏล ลฺ .

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 252พระวินยั เพราะรูว าทานไมเปน อาบัต.ิ คําทีเ่ หลือในเรอ่ื งพระอชั ชุกะน้ี มีเนอ้ื ความตน้ื ทงั้ นั้น. ในเรอ่ื งเมอื งพาราณสี มีวินิจฉัยดงั นี้:-. สองบทวา โจเรหิ อุปฺปททฺ ุต ความวา ถูกพวกโจรปลน แลว . หลายบทวา อทิ ธฺ ิยา อาเนตวฺ า ปาสาเท เปสิ ความวา ไดยินวา พระเถระไดเ ห็นสกลุ น้ัน เพียบพรอ มอยดู ว ยลกู ศรคอื ความโศก วนเวยี นกลบั ไปกลบั มาอยู จงึ ไดอธษิ ฐานปราสาทของตนเหลา นัน้ แล ดว ยฤทธข์ิ องตนวา จงปรากฏมใี นท่ีใกลเ ดก็ ทัง้ หลาย โดยความอนุเคราะหธรรม เพ่ือความกรุณา เพอื่ ประโยชนแกการตามรักษาความเลือ่ มใสแหงสกุลนน้ั . เดก็ ทง้ั ๒ก็จาํ ไดวา ปราสาทของพวกเรา จึงไดข น้ึ ไป. ลาํ ดับนัน้ พระเถระไดค ลายฤทธ์ิแลว . แมป ราสาทก็ไดตงั้ อยใู นทขี่ องตนตามเดมิ . แตพ ระธรรมสังคาหกาจารยทัง้ หลาย กลา วไวด วยอํานาจโวหารวา พรเถระนําเด็ก ๒ นน้ั มาดวยฤทธ์ิแลวพกั ไวใ นปราสาท. บทวา อทิ ฺธิวสิ เย คือ ไมเปนอาบตั ิ เพราะอธษิ ฐานฤทธเิ์ ชนนี้.สว นฤทธิ์ คือการแผลตา ง ๆ ยอ มไมค วร ฉะนีแ้ ละ. ๒ เรือ่ งในทสี่ ุด มีเน้ือความตน้ื ทง้ั นน้ั แล. จบทตุ ิยปาราชกิ วรรณนา ในวนิ ยั สังวรรณนา ชอ่ื สมันตปาสาทิกา [คาถาสรูปทุติยปาราชิกสิกขาบท] ในทุติยปาราชกิ สกิ ขาบทน้ี มีอนศุ าสนี ดังตอ ไปนี้ ทุตยิ ปาราชกิ สิกขาบทนี้ใด อันพระ ชนิ เจาผไู มเปน ที่ ๒ มกี ิเลสอนั พายแพแ ลว

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 253ทรงประกาศแลวในพระศาสนาน,ี้ สิกขาบทอื่นไร ๆ ที่มีนยั อันซับซอนมากมาย มีเนื้อความและวินจิ ฉยั ลึกซึ่ง เสมอดว ยทุตยิ -ปาราชกิ สกิ ขาบทนนั้ ยอ มไมม .ี เพราะเหตุนน้ั เมื่อเรื่องหยง่ั ลงแลว ภกิ ษุผรู ทู ่วั ถงึพระวนิ ยั จะทาํ การวินิจฉัยในเรือ่ งที่หยั่งลงแลว น้ี ดวยความอนเุ คราะหพ ระวินยั พงึพจิ ารณาพระบาลีและอรรถกถาพรอ มทั้งอธิบาย โดยถวนถี่ อยาเปนผปู ระมาท ทําการวินิจฉัยเถิด. ในกาลไหน ๆ ไมพงึ ทาํความอาจหาญในการซ้ืออาบตั ,ิ ควรใสใจวาเราจกั เหน็ อนาบัต.ิ อน่งึ แมเห็นอาบตั ิแลวอยาเพอ พูดเพรอ่ื ไปกอน พึงใครครวญและหารอื กบั ทานผรู ทู งั้ หลายแลว จงึ ปรบั อาบตั ิน้นั . อกี ประการหน่งึ ภกิ ษทุ ง้ั หลายผเู ปนปุถุชนในศาสนาน้ี ยอ มเคลอื่ นจากคุณ คอืความเปนสมณะ ดว ยอํานาจแหงจติ ที่มักกลบั กลอกเรว็ ในเพราะเรือ่ งแมท ี่ควร.เพราะเหตุน้ัน ภกิ ษุผูเฉลียวฉลาด เม่ือเล็งเหน็ บรขิ ารของผอู ื่น เปนเหมือนงูมีพิษรา ยและเหมอื นไฟ พึงจบั ตอ งเถดิ .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 254 ตตยิ ปาราชิกกณั ฑ นทิ านปฐมบญั ญตั ิ เรือ่ งภกิ ษหุ ลายรูป [๑๗๖] โดยสมัยนั้น พระผูม ีพระภาคพุทธเจา ประทบั อยู ณ กูฏาคาร-ศาลา ปามหาวัน เขตพระนครเวสาลี ครัง้ นนั้ พระองคท รงแสดงอสภุ กถาทรงพรรณนาคณุ แหงอสภุ กรรมฐาน ทรงสรรเสรญิ คุณแหงการเจรญิ อสุภ-กรรมฐาน ทรงพรรณนาคณุ อสภุ สมาบตั เิ นอื ง ๆ โดยอเนกปริยายแกภิกษุ-ท้งั หลาย แลว รับสงั่ กะภิกษุทง้ั หลายวา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย เราปรารถนาจะหลีกออกเรนอยตู ลอดก่งึ เดอื น ใคร ๆ อยาเขา ไปหาเรา นอกจากภิกษุผนู ําบณิ ฑบาตเขาไปใหรปู เดียว ภิกษเุ หลาน้นั รับ ๆ ส่ังแลว ไมม ใี ครกลาเขา ไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจาเลย นอกจากภกิ ษผุ ูน าํ บิณฑบาตเขา ไปถวายรูปเดยี วภิกษุเหลา นน้ั สนทนากันวา พระผูพระภาคเจาทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคณุ แหง อสุภกรรมฐาน ทรงสรรเสริญคณุ แหงการเจริญอสุภกรรมฐานทรงพรรณนาคุณแหง อสุภสมาบตั เิ นือง ๆ โดยอเนกปริยายดงั นี้ แลว พากันประกอบความเพยี รในการเจรญิ อสภุ กรรมฐาน หลายอยา งหลายกระบวนอยูภกิ ษุเหลา น้นั อดึ อดั ระอา เกลียดชังรางกายของตน ดจุ สตรรี ุนสาวหรือบรุ ุษรุน หนุม พอใจในการกแตง กาย อาบนาํ้ สระเกลา มซี ากศพงู ซากศพสนุ ขั หรือซากศพมนษุ ยม าคลองอยูท ี่คอ พึงอดึ อัด สะอิดสะเอยี น เกลยี ดชงัฉะนนั้ จึงปลงชวี ติ ตนเองบาง วานกันและกันใหปลงชวี ิตบา ง บางเหลา ก็เขา ไปหามคิ ลณั ฑกิ สมณกตุ ตก* กลา วอยา งน้วี า พอ คณุ ขอทานไดปลงชวี ติพวกฉนั ที บาตรจวี รนจี้ ักเปน ของทาน คร้งั นน้ั มิคลัณฑกิ สมณกุตตก อันภกิ ษุ* คนโกนผมไวจกุ นุง ผา กาสาระผนื หนง่ึ หมผนื หน่ึง ทํานองเปน ตาเถน.

พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 255ท้งั หลายจางดวยบาตรจีวร จงึ ปลงชีวิตภกิ ษุเปนอันมากแลว ถือดาบเปอ นเลอื ดเดนิ ไปทางแมน ํ้าวัคคุมทุ า ขณะเม่ือมิคลณั ฑิกสมณกตุ ตก กําลงั ลางดาบท่ีเปอนเลอื ดนั้น อยู ไดม คี วามรําคาญ ความเดอื ดรอ นวา ไมใชล าภของเราหนอลาภของเราไมมหี นอ เราไดช ัว่ แลวหนอ เราไมไดดีแลว หนอ เราสรางบาปไวม ากจรงิ หนอ เพราะเราไดปลงชวี ิตภกิ ษทุ ้ังหลาย ซงึ่ เปน ผูมีศลี มีกัลยาณ-ธรรม ขณะน้นั เทพดาคนหนงึ่ ผนู ับเนอื งในหมูมาร เดินมาบนน้ํามไิ ดแตกไดก ลาวคํานก้ี ะเขาวา ดีแลว ดีแลว ทา นสัตบรุ ษุ เปนลาภทาน ๆ ไดด ีแลวทา นไดสรา งสมบุญไวมาก เพราะทานไดชวยสง คนทยี่ ังขา มไมพ น ใหข า มพนไดคร้ันมิคลณั ฑกิ สมณกตุ ตก ไดทราบวาเปน ลาภของเรา เราไดดีแลว เราไดสรา งสมบญุ ไวม าก เพราะเราไดชวยสง คนที่ยังขามไมพ น ใหขา มพน ได ดงั นี้จึงถอื ดาบอ้ันคม จากวหิ ารเขา ไปสวู หิ าร จากบริเวณเขา ไปสูบริเวณ แลวกลาวอยา งนว้ี า ใครยงั ขา มไมพน ขา พเจา จะชวยสงใหข ามพน บรรดาภิกษุเหลานน้ั ภกิ ษุเหลา ใด ยังไมป ราศจากราคะ ความกลวั ความหวาดเสียวความสยอง ยอมมแี กภกิ ษุเหลาน้นั ในเวลานั้น สวนภิกษเุ หลา ใดปราศจากราคะแลว ความกลัว ความหวาดเสยี ว ความสยอง ยอมไมม แี กภ กิ ษุเหลา นน้ั ในเวลานั้น ครัง้ น้ันมิคลณั ฑกิ สมณกุตตก ปลงชีวิตภิกษเุ สยี วนั ละ ๑ รูปบา ง๒ รูปบาง ๓ รูปบา ง ๔ รูปบา ง ๕ รูปบาง ๖ รปู บาง ๗ รูปบา ง ๘ รปู บาง๙ รปู บา ง ๑๐ รูปบา ง ๒๐ รูปบาง ๓๐ รูปบาง ๔๐ รูปบา ง ๕๐ รูปบาง๖๐ รปู บา ง. รบั สัง่ ใหเผดียงสงฆ [๑๗๗] คร้ันลวงกงึ่ เดือนนั้น พระผมู ีพระภาคเจา เสดจ็ ออกจากที่ประทบั เรน แลว รับสัง่ ถามทา นพระอานนทว า ดูกอนอานนท เหตไุ ฉนหนอภกิ ษสุ งฆจงึ ดูเหมอื นนอ ยไป.

พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 256 ทา นพระอานนทกราบทลู วา จรงิ อยางนั้น พระพุทธเจาขา เพราะพระองคท รงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคณุ แหง อสภุ กรรมฐาน ทรงสรรเสริญคุณแหงการเจรญิ อสุภกรรมฐาน ทรงพรรณนาคณุ แหงอสุภสมาบตั เิ นอื ง ๆโดยอเนกปริยายแกภ ิกษุทงั้ หลาย พระพทุ ธเจา ขา และภิกษเุ หลานน้ั กพ็ ากนัพดู วา พระผมู พี ระภาคเจาทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคุณแหงอสภุ -กรรมฐาน ทรงสรรเสริญคุณแหง การเจรญิ อสภุ กรรมฐาน ทรงพรรณนาคณุแหง อสุภสมาบัตเิ นอื ง ๆ โดยอเนกปรยิ าย จงึ พากนั ประกอบความเพียรในการเจริญอสภุ กรรมฐาน หลายอยางหลายกระบวนอยู เธอเหลา นั้น อดึ อัด ระอาเกลียดชงั รางกายของตน ดจุ สตรรี นุ สาวหรือบุรุษรนุ หนุม พอใจในการตกแตง กาย อาบนํ้า สระเกลา มซี ากศพงู ซากศพสนุ ขั หรือซากศพมนุษยมาคลองอยูที่คอ จะพงึ อึดอัด สะอดิ สะเอียน เกลียดชงั ฉะน้ัน จงึ ปลงชีวติตนเองบา ง วานกนั และกันใหป ลงชีวิตบาง บางเหลากเ็ ขา ไปหามิคลัณฑิก-สมณกุตตก กลา วอยางน้วี า พอคุณ ขอทานไดชว ยปลงชวี ิตพวกฉนั ที บาตรจีวรน้ีจะเปน ของทาน พระพทุ ธเจา ขา ครั้นมิคลณั ฑิกสมณกุตตกไดบ าตรจีวรเปน คา จา งแลว จึงปลงชีวิตภิกษุเสียวันละ ๑ รูปบา ง ๒ รปู บา ง ๓ รูปบา ง๔ รูปบา ง ๕ รูปบาง ๖ รปู บา ง ๗ รูปบา ง ๘ รปู บาง ๙ รูปบาง ๑๐ รูปบาง๒๐ รูปบาง ๓๐ รูปบาง ๔๐ รปู บาง ๕๐ รูปบาง ๖๐ รูปบา ง ขา พระพทุ ธเจาขอประทานพระวโรกาส ภกิ ษสุ งฆนี้จะพึงดาํ รงอยใู นพระอรหัตผลดว ยปรยิ ายใด ขอพระผมู พี ระภาคเจาจงตรสั บอกปรยิ ายอืน่ นั้นเถิด พระพทุ ธเจาขา . พระผูม พี ระภาคเจาตรสั วา ดกู อ นอานนท ถา เชน น้ัน เธอจงเผดียงภิกษุท่อี าศัยพระนครเวสาลอี ยทู ้งั หมด ใหป ระชุมกันท่ีอุปฏฐานศาลา. เปนดังรบั สง่ั พระพุทธเจาขา ทา นพระอานนทรับสนองพระพุทธพจนแลว จึงเผดียงภกิ ษุสงฆท่ีอาศยั พระนครเวสาลอี ยูท ัง้ สิน้ ใหป ระชุมท่ีอุปฏฐาน-

พระวินัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 257ศาลาแลว เขา ไปเฝา พระผมู ีพระภาคเจา กราบทลู วา พระพทุ ธเจาขา ภกิ ษุสงฆประชมุ พรอ มกันแลว ขอพระองคทรงพระกรณุ าโปรดทราบกาลอันควร ในบัดนเี้ ถดิ พระพุทธเจา ขา . ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิกถา [๑๗๘] ลําดบั น้ัน พระผูมพี ระภาคเจาเสด็จเขาสูอปุ ฏ ฐานศาลาประทบั นัง่ เหนอื พทุ ธอาสนท จ่ี ัดไวถ วาย แลวรบั สงั่ กะภกิ ษุท้งั หลายวา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย แมสมาธใิ นอานาปานสตนิ ้ีแล อันภกิ ษุอบรมทาํ ใหม ากแลวยอ มเปนคณุ สงบ ประณีต เยือกเยน็ อยเู ปน สขุ และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดข้ึนแลว ๆ ใหอ ันตรธานสงบไปโดยฉบั พลนั ดจุ ละอองและฝุนทีฟ่ งุ ข้ึนในเดอื นทายฤดรู อ น ฝนใหญท ี่ตกในสมยั มใิ ชฤดกู าล ยอ มยังละอองและฝนุน้นั ๆ ใหอันตรธานสงบไปได โดยฉบั พลนั ฉะน้ัน. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย กอ็ านาปานสตสิ มาธิ อนั ภิกษอุ บรมอยางไรทําใหมากอยา งไร จึงเปนคณุ สงบ ประณีต เยอื กเยน็ อยูเ ปนสุข และยังบาปอกศุ ลธรรมทีเ่ กดิ ขึ้นแลว ๆ ใหอนั ตรธานสงบไปโดยฉบั พลนั . ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ยั นี้ อยูใ นปากต็ าม อยู ณโคนไมก็ตาม อยใู นสถานท่สี งดั ก็ตาม นัง่ คบู ัลลังกต้ังกายตรงดาํ รงสติบายหนาสกู รรมฐาน ภกิ ษนุ ้ัน ยอมมีสติหายใจเขา มีสตหิ ายใจออก เม่อื หายใจเขา ยาวก็รสู ึกวาหายใจเขายาว หรือเมอื่ หายใจออกยาว ก็รูส ึกวา หายใจออกยาว เมอ่ืหายใจเขาสั้น กร็ ูสึกวา หายใจเขาสนั้ หรอื เมือ่ หายใจออกสัน้ กร็ สู ึกวาหายใจออกสั้น ยอ มสาํ เหนยี กวา เราจกั รแู จงซงึ่ กองลมท้ังปวงหายใจเขา ยอ มสาํ เหนียกวา เราจักรแู จง ซงึ่ กองลมทง้ั ปวงหายใจออก ยอมสาํ เหนียกวา เราจักระงบั กายสงั ขารหายใจเขา ยอมสาํ เหนียกวา เราจกั ระงับกายสงั ขารหายใจออก

พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 258ยอ มสําเหนยี กวา เราจกั รแู จง ซงึ่ ปต หิ ายใจเขา ยอมสาํ เหนียกวา เราจักรูแจงซึง่ ปตหิ ายใจออก ยอมสาํ เหนยี กวา เราจกั รแู จง ซึง่ สขุ หายใจเขา ยอ มสาํ เหนียกวา เราจกั รแู จง ซง่ึ สขุ หายใจออก ยอ มสําเหนียกวา เราจกั รูแจง ซง่ึ จติ สงั ขารหายใจเขายอ มสําเหนยี กวา เราจกั รแู จงซึ่งจิตสังขารหายใจออก ยอ มสาํ -เหนียกวา เราจักระงบั จิตสงั ขารหายใจเขา ยอ มสาํ เหนยี กวา เราจกั ระงบั จติสังขารหายใจออก ยอ มสําเหนยี กวา เราจักรแู จง ซงึ่ จติ หายใจเขา ยอมสาํเหนียกวา เราจักรูแจงซงึ่ จติ หายใจออก ยอมสาํ เหนยี กวา เราจกั ยังจิตใหบ ันเทงิหายใจเขา ยอ มสาํ เหนียกวา เราจักยังจิตใหบ ันเทิงหายใจออก ยอมสําเหนียกวา เราจักต้ังจติ ไวม น่ั หายใจเขา ยอมสาํ หนียกวา เราจกั จติ ไวม น่ั หายใจออกยอ มสาํ เหนียกวา เราจักปลอยจติ หายใจเขา ยอมสาํ เหนียกวา เราจกั ปลอ ยจิตหายใจออก ยอมสําเหนียกวา เราจักพจิ ารณาเห็นธรรมอนั ไมเ ท่ียงหายใจเขายอ มสําเหนียกวา เราจักพจิ ารณาเห็นธรรมอนั ไมเท่ยี งหายใจออก ยอ มสําเหนยี กวา เราจกั พจิ ารณาเหน็ วิราคะหายใจเขา ยอมสาํ เหนียกวา เราจักพิจารณาเห็นวิราคะหายใจออก ยอ มสําเหนียกวา เราจกั พจิ ารณาเหน็ นโิ รธหายใจเขา ยอมสาํ หนยี กวา เราจักพิจารณาเหน็ นิโรธหายใจออก ยอ มสําเหนยี กวา เราจกัพิจารณาเห็นปฏนิ สิ สัคคะหายใจเขา ยอ มสาํ เหนยี กวา เราจักพจิ ารณาเห็นปฏ-ินิสสคั คะหายใจออก. ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย อานาปานสติสมาธิ อนั ภิกษุอบรมแลวอยางนแ้ี ลทาํ ใหม ากแลว อยา งน้แี ล จงึ เปนคุณสงบ ประณตี เยอื กเยน็ อยเู ปนสุขและยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดข้ึนแลว ๆ ใหอ ันตรธานสงบไปไคโดยฉบั พลนั

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 259 ประชมุ สงฆท รงบัญญัติสิกขาบท [๑๗๙] ลาํ คบั นนั้ พระผูมีพระภาคเจา รบั ส่งั ใหป ระชมุ ภกิ ษสุ งฆ ในเพราะเหตเุ ปน เคา มูลน้ัน ในเพราะเหตแุ รกเกดิ น้นั แลว ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ขาววาพวกภิกษุปลงชีวติ ตนเองบาง วานกันและกันใหปลงชีวิตบาง บางเหลาก็ไปหามคิ ลณั ฑกิ สมณกุตตก กลา วอยางนี้วาพอคุณ ขอทา นไดช วยปลงชวี ิตพวกฉนั ที บาตรจีวรนี้จกั เปนของทา น ดังนี้จรงิ หรือ. ภกิ ษทุ ัง้ หลายทูลรบั วา จริง พระพทุ ธเจา ขา. พระผูมพี ระภาคพุทธเจาทรงติเตียนวา ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย การกระทําของภกิ ษเุ หลานน้ั ไมเ หมาะ ไมสม ไมควร ไมใชก จิ ของสมณะ ใชไมไ ด ไมควรทาํ ไฉนภกิ ษุเหลา นั้นจงึ ไดปลงชวี ติ ตนเองบา ง วานกันและกนัใหปลงชีวิตบา ง บางเหลา ก็เขา ไปหามคิ ลัณฑิกสมณกุตตก พูดอยา งน้ีวา พอคุณขอทานไดช วยปลงชวี ติ พวกฉนั ที บาตรจีวรนจี้ กั เปนของทา น ดังนเ้ี ลา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย การกระทําของภกิ ษเุ หลาน้ันนนั่ ไมเปนไปเพือ่ ความเลื่อมใสของชุมชนท่ยี ังไมเ ลอื่ มใส หรอื เพือ่ ความเลื่อมใสยิ่งของผูท ี่เล่ือมใสแลว โดยที่แท การกระทําของภิกษุเหลา นัน้ นน่ั เปนไปเพ่อื ความไมเลอ่ื มใส ของผูท่ียงั ไมเล่อื มใส และเพอื่ ความเปนอยา งอืน่ ของตนบางพวกผูเล่ือมใสแลว คร้นัพระผูมีพระภาคเจาทรงตเิ ตียนภิกษเุ หลา นน้ั โดยอเนกปรยิ ายแลว จึงทรงตโิ ทษแหง ความเปนคนเล้ียงยาก ความเปนคนบาํ รงุ ยาก ความเปนคนมักมาก ความเปน คนไมสันโดษ ความคลุกคลี ความเกียจครา น ทรงสรรเสรญิ คุณแหงความเปนคนเลีย้ งงาย ความเปนคนบาํ รุงงาย ความเปนคนมกั นอ ย ความเปน คนสนั โดษ ความขดั เกลา ความกาํ จัด อาการทีน่ าเล่อื มใส การไมส ะสม

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 260การปรารภความเพียรโดยอเนกปรยิ าย แลวทรงแสดงธรรมกี ถาทส่ี มควรแกเรอื่ งนั้น ทเี่ หมาะสมแกเ ร่อื งนนั้ แกภ ิกษุทงั้ หลาย แลว รบั ส่งั กะภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย เพราะเหตุนัน้ แล เราจกั บัญญัติสิกขาบทแกภิกษุทง้ั หลาย อาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คอื เพอ่ื ความรบั วา ดแี หง สงฆ ๑เพอ่ื ความสาํ ราญแหงสงฆ ๑ เพือ่ ขมบุคคลผเู กอยาก ๑ เพื่ออยสู าํ ราญแหงภิกษุผมู ศี ลี เปนท่รี ัก ๑ เพอ่ื ปองกันอาสวะอนั จะบังเกดิ ในปจจุบัน ๑ เพ่อื กําจดัอาสวะจักบงั เกดิ ในอนาคต ๑ เพ่อื ความเลอื่ มใสของชมุ ชนท่ียังไมเลือ่ มใส ๑เพอื่ ความเลือ่ มใสยงิ่ ของชุมชนที่เลื่อมใสแลว ๑ เพอ่ื ความตัง้ ม่ันแหงพระสัทธรรม ๑ เพือ่ ถือตามพระวนิ ยั . ดกู อนภิกษุท้งั หลาย กแ็ ลพวกเธอพึงยกสกิ ขาบทน้ขี น้ึ แสดงอยางน้ีวาดังน้ี:- พระปฐมบัญญัติ ๓. อน่งึ ภิกษใุ ดจงใจพรากกายมนษุ ยจ ากชวี ิต หรือแสวงหาศสั ตราอันจะปลิดชวี ติ ใหแกก ายมนุษยนน้ั แมภ กิ ษุนีก้ ็เปนปาราชิก หาสังวาสมิได. กส็ กิ ขาบทนี้ ยอมเปนอันพระผมู ีพระภาคเจาทรงบญั ญัติแลว แกภ กิ ษุท้ังหลาย ดวยประการฉะนี้. เรื่องพระฉัพพัคคยี  [๑๘๐] กโ็ ดยสมยั นั้นแล อุบาสกคนหนงึ่ เปนไข ภริยาของเขาเปนคนสวย นาเอน็ ดู นาชม พวกพระฉัพพคั คยี มีจติ ปฏิพัทธในหญงิ นัน้ จงึ ดาํ ริขึน้ วา ถาอุบาสกสามยี งั มีชวี ติ อยู พวกเราจกั ไมไดน าง ผฉิ ะนั้น พวกเราจัก

พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 261พรรณนาคุณแหงความตายแกอบุ าสกนน้ั ครัน้ ดําริฉะนั้นแลว จงึ เขา ไปหาอบุ าสกนัน้ กลาวอยางน้วี า ดกู อนอบุ าสก ทานเปน ผูทาํ ความดไี วแลว ทํากศุ ลไวแลว ทําความตานทานตอ ความขลาดไวแ ลว มิไดทําบาป มไิ ดทําความชั่วมไิ ดท าํ ความเสยี หาย ทาํ แคค วามดี ไมไดทาํ บาป จะประโยชนอ ะไรแกท านดวยชีวติ อันแสนลําบากยากแคน นี้ ทา นตายเสียดีกวาเปน อยู ตายจากโลกน้แี ลวเบ้ืองหนา แตต ายเพราะกายแตก ทานจกั เขาถึงสคุ ติโลกสวรรค จกั ไดรับบาํ เรอเพรียบพรอ มอม่ิ เอิบดว ยเบญจกามคณุ อันเปนทพิ ย ในสุคติโลกสวรรคนนั้ . ครั้งนัน้ อุบาสกน้ันเหน็ จริงวา ทา นพูดจรงิ เพราะเราทาํ ความดไี วแลว ทาํ กศุ ลไวแลว ทาํ ความตา นทานตอ ความขลาดไวแลว มิไดทําบาปมิไดท าํ ความชว่ั มไิ ดทาํ ความเสียหาย เราทาํ แตค วามดี เรามไิ ดทาํ ความชัว่จะประโยชนอะไรแกเ รา ดวยชีวิตอันแสนลําบากยากแคนนี้ เราตายเสียดกี วาเปน อยู ตายจากโลกนแี้ ลว เบอื้ งหนา แตต ายเพราะกายแตก เราจักเขา ถงึสคุ ตโิ ลกสวรรค จกั ไดร บั บําเรอเพรยี บพรอ มอมิ่ เอบิ ดวยเบญจกามคณุ อนั เปนทพิ ย ในสุคตโิ ลกสวรรคนั้น ดงั น้ีแลว เขาจงึ รับประทานโภชนะทแ่ี สลงเคย้ี วขาทนียะที่แสลง ลมิ้ สายนียะท่ีแสลง และดม่ื ปานะทแ่ี สลง เม่ือเปน เชนน้ันความปวยหนกั ก็เกิดขึ้น เขาถึงแกก รรมเพราะความปวยไขน ัน่ เอง ภรยิ าของเขาจงึ เพง โทษวา พระสมณะเช้อื สายพระศากยบตุ รเหลา น้ี เปนผูไมล ะอายทศุ ลี พดู เทจ็ แทจ ริง พระสมณะเหลา น้ี ยงั ปฏิญาณตนวา เปนผปู ระพฤตธิ รรมประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย กลาวคําสตั ย มศี ลี มีกัลยาณธรรมตเิ ตยี นวา ความเปนสมณะยอ มไมม ีแกพระสมณะเหลานี้ ความเปนพราหมณของพระสมณะเหลานห้ี ามไี ม ความเปนสมณะ ความเปนพราหมณข องพระสมณะเหลา น้ี พินาศแลว ความเปน สมณะ ความเปน พราหมณ ของพระ-

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 262สมณะเหลา น้ี จะมแี ตไหน และโพนทะนาวา พระสมณะเหลา น้ี ปราศจากความเปน สมณะ ปราศจากความเปน พราหมณเ สยี แลว เพราะสมณะเหลาน้ีไดพ รรณนาคุณแหง ความตายแกส ามีของเรา สามีของเราถูกพระสมณะเหลา นี้ทําใหตายแลว. แมคนเหลา อน่ื กเ็ พงโทษวา พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหลาน้ีเปน ผูไมละอาย ทุศลี พูดเทจ็ แทจริง พระสมณะเหลา นี้ยงั ปฏญิ าณตนวาเปนผปู ระพฤติธรรม ประพฤตสิ งบ ประพฤติพรหมจรรย กลา วคาํ สัตยมศี ลี มกี ัลยาณธรรม ตเิ ตียนวา ความเปน สมณะ ความเปน พราหมณของสมณะเหลา นี้ หามีไม ความเปน สมณะ ความเปนพราหมณ ของพระสมณะเหลาน้ี พินาศแลว ความเปนสมณะ ความเปนพราหมณ ของพระสมณะเหลา น้ี จะมแี คไหน และโพนทะนาวา พระสมณะเหลาน้ี ปราศจากความเปน สมณะ ปราศจากความเปน พราหมณเสียแลว เพราะพระสมณะเหลา น้ีพรรณนาคณุ แหง ความตายแกอบุ าสก ๆ ถูกพระสมณะเหลานี้ทําใหตายแลวดังน.้ี ภกิ ษุทั้งหลาย ไดยนิ คนเหลา นัน้ เพง โทษตเิ ตยี นโพนทะนาอยู จําพวกทมี่ คี วามมกั นอ ย สนั โดษ มคี วามละอาย มคี วามรังเกียจ เปน ผใู ครต อ สกิ ขาตางกเ็ พงโทษตเิ ตยี นโพนทะนาวา ไฉนพระฉัพพัคคีย จงึ ไดพรรณนาคุณแหงความตายแกอ ุบาสกเลา แลว กราบทูลเรื่องนนั้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ประชุมสงฆท รงบัญญตั ิอนุบัญญตั ิ ลาํ ดบั น้นั พระผมู ีพระภาคเจารบั สั่งใหป ระชมุ ภกิ ษุสงฆ ในเพราะเหตุเปน เคามลู น้ัน ในเพราะเหตุ แรกเกิดน้นั แลว ทรงสอบถามพระฉพั พัคคยี 

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 263เหลา นนั้ วา ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ขาววา พวกเธอพรรณนาคุณแหงความตายแกอ ุบาสกจริงหรือ. พระฉัพพคั คียท ูลรบั วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. พระผมู ีพระภาคพระพุทธเจา ทรงติเตียนวา ดูกอนโมฆบุรษุ ทัง้ หลายการกระทําของพวกเธอนน่ั ไมเ หมาะ ไมส ม ไมค วร ไมใ ชกจิ ของสมณะใชไมไ ด ไมควรทํา ไฉนพวกเธอจงึ ไดพรรณนาคุณแหงความตายแกอ บุ าสกเลา ดกู อนโมฆบรุ ุษทง้ั หลาย การกระทาํ ของพวกเธอนั่น ไมเปนไปเพ่ือความเล่ือมใสของชมุ ชนที่ยังไมเลอ่ื มใส หรอื เพ่อื ความเลื่อมใสยิ่งของชมุ ชนท่ีเล่ือมใสแลว โดยท่ีแท การกระทาํ ของพวกเธอนัน่ เปน ไปเพือ่ ความไมเลอื่ มใสของผทู ี่ยังไมเ ลอ่ื มใส และเพื่อความเปนอยา งอ่ืนของคนบางพวกทีเ่ ลอื่ มใสแลวคร้นั พระผูมีพระภาคเจาทรงติเตียนพระฉัพพัคคยี เ หลานน้ั โดยอเนกปริยายแลวตรัสโทษแหงความเปน คนเลีย้ งยาก ความเปนคนบํารุงยาก ความเปน คนมกัมาก ความเปน คนไมสนั โดษ ความคลุกคลี ความเกยี จคราน ตรัสคณุ แหงความเปนคนเลี้ยงงาย ความเปน คนบาํ รงุ งา ย ความมกั นอย ความสันโดษความขัดเกลา ความกาํ จัด อาการทีน่ า เล่อื มใส การไมสะสม การปรารภความเพียรโดยอเนกปรยิ าย ทรงแสดงธรรมมีกถาที่สมควรแกเรอ่ื งนั้น ท่เี หมาะสมแกเ ร่ืองนั้นแกภกิ ษทุ ้ังหลาย แลว รบั สง่ั กะภิกษทุ งั้ หลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เพราะเหตุนนั้ แล เราจักบญั ญตั ิสิกขาบทแกภ ิกษุท้ังหลาย อาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คอื เพ่ือความรบั วา ดแี หงสงฆ ๑เพ่ือความสาํ ราญแหงสงฆ ๑ เพอ่ื ขมบุคคลผูเกอ ยาก ๑ เพือ่ ยูสาํ ราญแหงภิกษผุ ูม ีศีลเปน ท่ีรกั ๑ เพอ่ื ปองกันอาสวะอนั จะบังเกิดในปจจุบนั ๑ เพือ่กาํ จัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพือ่ ความเลือ่ มใสของชุมชนทยี่ งั ไม

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 264เลื่อมใส ๑ เพอ่ื ความเล่ือมใสย่ิงของชมุ ชนทเ่ี ล่อื มใสแลว ๑ เพือ่ ความต้ังม่ันแหง พระสทั ธรรม ๑ เพ่ือถอื ตามพระวินัย ๑. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสกิ ขาบทนี้ขึ้นแสดงอยางนั้นวา ดงั น:ี้ - อนบุ ัญญตั ิ ๓. อนงึ่ ภิกษใุ ดจงใจพรากกายมนุษย จากชีวติ หรือแสวงหาศัสตราอันจะปลิดชวี ิตใหเ กกายมนษุ ยนนั้ หรือพรรณนาคุณแหงความตาย หรือชกั ชวนเพ่อื อันตาย ดวยถอ ยคาํ วา แนะนายผูเปนชาย จะประโยชนอ ะไรแกทาน ดวยชวี ิตอนั แสนลาํ บากยากแคน น้ีทา นตายเสยี ดกี วาเปน อยู ดังนี้ เธอมีจติ อยา งนี้ มีใจอยางนี้ มคี วามหมายหลายอยาง อยา งนี้ พรรณนาคณุ ในความตายก็ดี ชกั ชวนเพอื่ อนั ตายกด็ ี โดยหลายนยั แมภ ิกษนุ ก้ี เ็ ปน ปาราชิก หาสังวาสมีได. เรอื่ งพระฉพั พัคคยี  จบ สกิ ขาบทวภิ ังค [๑๘๑] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวาผู คอื ผเู ชน ใด มกี ารงานอยา งใด มชี าตอิ ยางใด มชี ื่ออยางใด มีโคตรอยางใด มปี กตอิ ยา งใด มีธรรมเคร่อื งอยอู ยา งใด มีอารมณอยา งใด เปนเถระก็ตาม เปนนวกะก็ตามเปน มชั ฌิมะกต็ าม นีพ้ ระผูม พี ระภาคตรัสวา อน่งึ . . .ใด. บทวา ภกิ ษุ ความวา ท่ีชอื่ วา ภกี ษุ เพราะอรรถวา เปน ผขู อช่อื วา ภิกษุ เพราะอรรถวา ประพฤตภิ กิ ขาจริยวัตร ช่ือวา ภกิ ษุ เพราะ

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 265อรรถวา ทรงผนื ผาทถี่ กู ทาํ ลายแลว ช่ือวา ภิกษุ โดยสมญา ชอ่ื วา ภิกษุโดยปฏิญญา ช่ือวา ภกิ ษุ เพราะอรรถวา เปนเอหภิ กิ ษุ ช่ือวา ภิกษุ เพราะอรรถวา เปน ผอู ปุ สมบทแลวดว ยไตรสรณคมนชื่อวา ภกิ ษุ เพราะอรรถวาเปน ผเู จรญิ ชอ่ื วา ภิกษุ เพราะอรรถวา มสี ารธรรม ชื่อวา ภิกษุ เพราะอรรถวา เปนพระเสขะ ชอื่ วา ภิกษุ เพราะอรรถวา เปน พระอเสขะชื่อวาภิกษุ เพราะอรรถวา เปนผูอ ันสงฆพรอ มเพรยี งกันใหอุปสมบทแลวดว ยญตั ติจตุตถกรรม อนั ไมก าํ เรบิ ควรแกฐานะ บรรดาผูทช่ี ่ือวา ภิกษุเหลาน้นัภิกษนุ ีใ้ ด ท่ีสงฆพ รอ มเพรียงกันใหอ ปุ สมบทแลว ดว ยญตั ติจตตุ ถกรรมอนั ไมกาํ เริบ ควรแกฐานะ ภิกษุนี้ พระผมู ีพระภาคเจาทรงประสงควา ภกิ ษุ ในอรรถน.้ี บทวา จงใจ ความวา ภิกษุใดรอู ยู รดู ีอยู พรากกายมนุษยจากชีวติ การกระทาํ ของภกิ ษุน้นั เปนความตั้งใจ พยายาม ละเมดิ . ท่ชี ่ือวา กายมนษุ ย ไดแ กจ ติ แรกเกดิ ขน้ึ คือ ปฐมวญิ ญาณปรากฏขนึ้ ในทองแหง มารดา ตราบเทา ถึงกาลเปนทต่ี าย อตั ภาพในระหวา งน้ี ชอ่ื วากายมนษุ ย. บทวา พรากชีวิต ความวา ตดั ทอน บั่นรอน ซ่ึงอินทรียคอื ชวี ติ ทําความสบื ตอใหก าํ เรบิ . บทวา หรอื แสวงหาศสั ตราอนั จะปลดิ ชีวติ ใหแ กกายมนษุ ยนั้น ไดแ ก ดาบ หอก ฉมวก หลาว คอ น หนิ มีด ยาพิษ หรอื เชือก. [๑๘๒] บทวา หรอื พรรณนาคณุ แหงความตาย ไดแกแสดงโทษในความเปน อยู พรรณนาคณุ ในความตาย.

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 266 [๑๘๓] บทวา หรือชักชวนเพ่อื อันตาย คอื ชกั ชวนวา จงนํามดีมา จงกนิ ยาพิษ หรอื จงแขวนคอตายดวยเชือก. [๑๘๔] บทวา แนะ นายผเู ปน ชาย น้เี ปน คาํ สําหรบั เรียก คอื คาํทกั ทาย. คาํ วา จะประโยชน อะไรแกทาน ดว ยชีวติ อนั แสนลําบากยากแคน นี้ ทานตายเสยี ดีกวา เปน อยู ดังนี้ นน้ั อธบิ ายวา ชวี ติ ท่ชี อื่วายากแคน คือเทียบชวี ติ ของตนมง่ั คงั่ ชวี ิตของตนเขญ็ ใจ กช็ ื่อวา ยากแคนเทียบชวี ติ ของตนมีทรพั ย ชีวิตของตนไรทรพั ย กช็ ่ือวา ยากแคน เทยี บชวี ิตของเหลา เทพเจา ชีวติ ของพวกมนุษย กช็ อ่ื วา ยากแคน ชวี ติ ของตนมมี ือขาดมเี ทาขาด มีทัง้ มือทัง้ เทา ขาด มีหขู าด มีจมกู ขาด มที ง้ั หทู ั้งจมูกขาด ชื่อวาชีวิตอันแสนลําบาก จะประโยชนอะไรดวยชีวิตอนั แสนลําบากและยากแคนเชน นี้ ทา นตายเสยี ดีกวา เปน อยู ดงั น.ี้ บทวา มจี ติ อยา งน้ี มีใจอยา งนี้ ความวา ธรรมชาติอนั ใดเปนจติธรรมชาติอันนนั้ ช่ือวาใจ ธรรมชาติอนั ใดเปน ใจ ธรรมชาตอิ ันนนั้ ชอื่ วา จติ . บทวา มีความมงุ หมายหลายอยาง อยางนี้ คอื มคี วามหมายในอนั ตาย มคี วามจงใจในอันตาย มีความประสงคใ นอันคาย. บทวา โดยหลายนัย คอื โดยอาการมากมาย. บทวา พรรณนาคุณในความตายก็ดี ไดแก แสดงโทษในความเปน อยู พรรณนาคุณในความตายวา ทา นตายจากโลกน้ีแลว เบ้ืองหนาแตตายเพราะกายแตก จักเขาถึงสคุ ตโิ ลกสวรรค จกั ไดร บั บาํ เรอเพรียบพรอมอิม่ เอิบดว ยเบญจกามคณุ อนั เปนทพิ ย ในสุคตโิ ลกสวรรคนนั้ .

พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 267 [๑๘๕] บทวา ชกั ชวนเพอื่ อันตรายกด็ ี คือชกั ชวนวา จงนาํ มีดมาจงกนิ ยาพิษ จงแขวนคอตายดว ยเชอื ก หรอื จงโจนลงในบอ ในเหว หรอืในที่ชัน. [๑๘๖] คําวา แมภกิ ษนุ ้ี พระผมู พี ระภาคเจาตรัสเทียบเดียะภิกษุ๒ รปู แรก. คําวา เปน ปาราชกิ มอี ธบิ ายวา ศิลาหนาแตกสองเสี่ยงแลว เปนของกลับตอ ใหตดิ สนิทอกี ไมไ ดแมฉนั ใด ภกิ ษกุ ฉ็ ันนนั้ เหมอื นกัน จงใจพรากกายมนุษยจ ากชีวติ แลว ยอมไมเปน สมณะ ไมเ ปน เช้อื สายพระศากยบุตรเพราะเหตนุ ั้น จงึ ตรสั วา เปน ปาราซกิ . บทวา หาสงั วาสมิได ความวา ทช่ี ่ือวา สังวาสนนั้ ไดแกก รรมที่พึงทํารวมกนั อุเทศที่พึงสวดรว มกนั ความเปนผมู ีสิกขาเสมอกัน น่นั ชอ่ื วาสังวาส สังวาสน้นั ไมมีกับภิกษุนนั้ เพราะเหตุน้นั จึงตรัสวา หาสังวาสมไิ ด. บทภาชนีย มาติกา[๑๘๗] ทําเอง ยืนอยูใกล สงั่ ทตู สั่งทตู ตอทูตไมส ามารถ ทตู ไปแลวกลับมาทไ่ี มล ับ สาํ คัญวา ทล่ี ับ ท่ลี ับ สําคัญวาทไ่ี มล บัที่ไมลับ สําคัญวาที่ไมล บั ทล่ี ับ สาํ คัญวา ทีล่ บัพรรณนาดวยกาย พรรณนาดวยวาจาพรรณนาดว ยกายและวาจา พรรณนาดว ยทตูพรรณนาดวยหนังสือ หลุมพราง วัตถุท่ีพิง

พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 268การลอบวาง เภสัช การนาํ รปู เขา ไปการนาํ เสยี งเขาไป การนาํ กล่นิ เขาไปการนํารสเขา ไป การนําโผฏฐพั พะเขาไปการนําธรรมารมณเขาไป กริ ิยาทบ่ี อก การแนะนาํการนดั หมาย การทํานิมติ . มาติกาวภิ ังค สาหตั ถกิ ประโยค ทาํ เอง [๑๘๘] คําวา ทําเอง คอื ฆาเองดว ยกาย ดว ยเครอื่ งประหาร ท่ีเน่อื งดวยกาย หรือดวยเครือ่ งท่ีประหารซัดไป ยืนอยใู กล คาํ วา ยนื อยใู กล คือยืนส่งั อยู ณ ท่ใี กลวา จงยิงอยางนี้ จงประหารอยา งน้ี จงฆา อยา งน.้ี อาณตั ตกิ ประโยค ส่ังทตู [๑๘๙] ภกิ ษุสงั่ ภกิ ษุวา จงปลงชีวติ บคุ คลชือ่ นี้ ดงั น้ี ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏภกิ ษุผรู บั คําสัง่ เขาใจวา บคุ คลน้ันแน จึงปลงชวี ติ บุคคลนั้น ตอ งอาบัตปิ าราชกิทงั้ ๒ รปู . ภิกษสุ ง่ั ภิกษุวา จงปลงชีวิตบุคคลชอ่ื น้ี ดงั น้ี ตอ งอาบัตทิ กุ กฏภกิ ษุผรู ับคาํ สั่ง เขาใจวาบุคคลนน้ั แน แตป ลงชีวติ บุคคลอน่ื ภิกษผุ ูส่ังไมตองอาบัติ ภกิ ษุผูฆาตอ งอาบตั ิปาราชกิ .

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 269 ภกิ ษุส่ังภิกษุวา จงปลงชีวิตบุคคลช่อื น้ี ดังน้ี ตอ งอาบัติทุกกฏ ภิกษุผรู บั คาํ ส่ัง เขา ใจวาบุคคลอืน่ แตปลงชีวิตบคุ คลช่ือนน้ั ตอ งอาบตั ปิ าราชกิทัง้ ๒ รปู . ภิกษสุ ั่งภกิ ษุวา จงปลงชวี ติ บคุ คลช่ือน้ี ดังนี้ ตองอาบัติทกุ กฏ ภิกษุผูร ับคําสง่ั เขา ใจวาบคุ คลอ่นื และปลงชีวิตบคุ คลอืน่ ภิกษุผสู ่งั ไมตองอาบัติภิกษุผูฆา ตองอาบตั ิปาราชกิ . สงั่ ทตู ตอ [๑๙๐] ภิกษุสัง่ ภิกษวุ า ทา นจงบอกแกภกิ ษชุ ือ่ นวี้ า ภกิ ษชุ ่ือนจี้ งไปบอกแกภ ิกษชุ อ่ื นว้ี า ภกิ ษุช่ือนี้จงปลงชวี ิตบคุ คลช่อื น้ี ดงั นี้ ตองอาบตั ิทุกกฏภิกษผุ รู ับคําสงั่ บอกแกภ กิ ษนุ อกน้ี ตองอาบัติทกุ กฏ ภิกษผุ ูฆ ารับคํา ภกิ ษุผูส่งั เติม ตองอาบัตถิ ุลลจั จัย ภกิ ษผุ ูฆา ปลงชวี ติ บคุ คลน้นั สาํ เร็จ ตอ งอาบตั ิปาราชกิ ทกุ รูป. ภกิ ษุสงั่ ภิกษุวา ทานจงบอกแกภ กิ ษุช่ือน้วี า ภิกษุชือ่ นี้ จงไปบอกแกภกิ ษชุ ื่อน้ีวา ภกิ ษชุ ่ือน้จี งปลงชีวติ บคุ คลชอ่ื นี้ ดงั น้ี ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ภิกษุผูรับคาํ สง่ั สัง่ ภกิ ษุรูปอน่ื ตอ ตอ งอาบัติทกุ กฏ ภิกษุผูฆารับคาํ ตอ งอาบัติทกุ กฏ ภิกษผุ ฆู า ปลงชวี ติ บุคคลนั้นสําเรจ็ ภิกษุผูสัง่ เติม ไมตอ งอาบัติ ภกิ ษุผรู ับคาํ ส่งั และภกิ ษุผูฆา ตองอาบัตปิ าราชกิ . ทตู ไมสามารถ [๑๙๑] ภิกษุส่งั ภิกษุวา จงปลงชีวติ บุคคลช่ือน้ี ดงั น้ี ตองอาบัติทุกกฏ ภิกษผุ รู บั คาํ สงั่ ไปแลว กลบั มาบอกอกี วา ผมไมสามารถปลงชีวิตเขาไดภิกษุผสู ั่งสงั่ ใหมวา ทานสามารถเมือ่ ใด จงปลงชวี ิตเขาเสยี เม่อื น้นั ดังน้ี

พระวินัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 270ตองอาบัติทุกกฏ ภิกษผุ ูรับคาํ สัง่ ปลงชีวติ บุคคลน้นั สําเร็จ ตอ งอาบัตปิ าราชิกท้ัง ๒ รปู . ทูตไปแลว กลบั มา [๑๙๒] ภิกษสุ ่งั ภิกษุวา จงปลงชีวติ บุคคลชือ่ น้ี ดงั นี้ ตองอาบตั ิทุกกฏ ครัน้ ภกิ ษนุ ัน้ สงั่ ภกิ ษนุ น้ั แลว มคี วามรอนใจ แตพ ดู ไมใหไ ดยนิ วาอยาฆา ภิกษผุ ูร บั คําสั่งปลงชีวิตบุคคลน้นั สําเร็จ ตองอาบตั ปิ าราชิกทัง้ ๒ รปู . ภกิ ษสุ ง่ั ภิกษวุ า จงปลงชวี ติ บคุ คลชื่อนี้ ดงั น้ี ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ คร้นัภิกษุนั้นสัง่ ภิกษุน้ันแลว มคี วามรอ นใจ พูดใหไ ดยินวา อยาฆา เลย ภกิ ษผุ ูรับคาํ สัง่ กลบั พดู วา ทานสัง่ ผมแลว จงึ ปลงชวี ิตบคุ คลช่อื นั้นเสยี ภกิ ษุผสู ัง่ เดิมไมต อ งอาบตั ิ ภกิ ษุผฆู า ตองอาบัติปาราชิก. ภกิ ษสุ ่ังภกิ ษวุ า จงปลงชีวติ บคุ คลช่อื นี้ ดงั น้ี ตองอาบัตทิ กุ กฏครนั้ ภกิ ษนุ น้ั สงภกิ ษนุ น้ั แลว มีความรอนใจ พดู ใหไ ดยินวา อยาฆา เลยภิกษผุ ูรับคาํ สงั่ รับคาํ วาดีแลว งดเสยี ไมต องอาบัติทงั้ ๒ รูป. ทีไ่ มล บั สําคญั วา ที่ลับ [๑๙๓] ท่ีไมลบั ภิกษสุ าํ คญั วาที่ลบั พดู ข้นึ วา ทําอยางไรหนอบุคคลชือ่ นี้พึงถูกฆา ดงั นี้ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. ท่ลี บั สําคัญวา ไมล ับ ทล่ี บั ภิกษุสาํ คัญวา ที่ไมลบั พูดข้นึ วา ทําอยางไรหนอ บุคคลชอ่ื น้ีพึงถูกฆา ดังนี้ ตองอาบตั ทิ ุกกฏ.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 271 ท่ไี มล ับ สาํ คัญวาท่ีไมลับ ท่ีไมลับ ภิกษุสําคญั วาท่ีไมลับ พดู ข้ึนวา ทาํ อยางไรหนอ บคุ คลชอ่ื น้ี พึงถูกฆา ดงั น้ี ตอ งอาบัติทุกกฏ. ท่ลี ับ สําคัญวา ที่ลบั ทลี่ ับ ภกิ ษสุ าํ คัญวาท่ลี บั พูดขึ้นวา ทําอยา งไรหนอ บุคคลชือ่ น้ีพงึ ถูกฆา ดังนี้ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. พรรณนาดวยกาย [๑๙๔] ท่ีชอื่ วา พรรณนาดวยกาย ไดแ กภ ิกษทุ ํากายวิการวาผูใดตายอยา งน้ี ผูน้นั จะไดทรพั ย ไดย ศ หรอื ไปสวรรค ดังน้ี ตองอาบัติทุกกฏ เพราะการพรรณนานนั้ ผใู ดผหู นึ่งคดิ วาเราจกั ตาย แลวยังทุกขเวทนาใหเกิด ภิกษผุ พู รรณนา ตองอาบตั ถิ ลุ ลจั จยั เขาตาย ภกิ ษุผูพรรณนา ตอ งอาบตั ปิ าราชิก. พรรณนาดว ยวาจา ท่ีชือ่ วา พรรณนาดวยวาจา ไดแก ภิกษุกลา วดว ยวาจาวา ผูใ ดตายอยา งนั้น ผูนน้ั จะไดท รพั ย ไดย ศ หรอื ไปสวรรค ดงั น้ี ตอ งอาบัติทกุ กฏเพราะการพรรณนานัน้ ผใู ดผูหนง่ึ คดิ วาเราจกั ตาย แลว ยงั ทกุ ขเวทนาใหเ กดิภิกษุผูพรรณนาตอ งอาบัตถิ ุลลัยจยั เขาตาย ภกิ ษุผพู รรณนา ตองอาบตั ปิ าราชกิ . พรรณนาดว ยกายและวาจา ทีช่ ื่อวา พรรณนาดวยกายและวาจา อธิบายวา ภิกษทุ าํ วิการดว ยกายกด็ ี กลาวดวยวาจากด็ วี า ผูใ ดตายอยางนี้ ผนู นั้ จะไดทรัพย ไดย ศ

พระวนิ ัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 272หรือไปสวรรค ดังนี้ ตองอาบัติทกุ กฏ เพราะการพรรณนาน้ัน ผใู ดผูหน่ึงคิดวา เราจกั ตาย แลวยังทกุ ขเวทนาใหเกิด ภิกษผุ ูพรรณนา ตอ งอาบัติถลุ ลจั จัย เขาตาย ภกิ ษผุ พู รรณนา ตองอาบัติปาราชกิ . พรรณนาดวยทูต [๑๙๕] ทช่ี ื่อวา พรรณนาดวยทตู ไดแกภ ิกษสุ ่งั ทตู ไปวา ผูใ ดตายอยางน้ี ผูน นั้ จะไดท รพั ย ไดย ศ หรอื ไปสวรรค ดังน้ี ตอ งอาบัติทกุ กฏผใู ดผหู น่งึ ไดท ราบคําบอกของทูตแลวคดิ วา เราจกั ตาย แลวยงั ทกุ ขเวทนาใหเ กดิ ภิกษุผพู รรณนา ตองอาบตั ิถลุ ลจั จัย เขาตาย ภิกษผุ พู รรณนา ตองอาบัติปาราชิก. พรรณนาดวยหนงั สอื ที่ชื่อวา พรรณนาดวยหนงั สอื ไดแกภ กิ ษเุ ขียนหนังสอื ไววา ผใู ดตายอยางนน้ั ผนู นั้ จะไดทรัพย ไดย ศ หรือไปสวรรค ดงั น้ี ตอ งอาบตั ิทุกกฏทกุ ๆ ตวั อกั ษร ผใู ดผูห นึง่ เหน็ หนังสือแลวคิดวา เราจกั ตาย แลวยังทุกขเวทนาใหเกดิ ภกิ ษผุ ูเขยี น ตองอาบตั ิถลุ ลัจจัย เขาตาย ภิกษุผเู ขยี น ตองอาบัติปาราชิก. หลมุ พราง [๑๙๖] ที่ชือ่ วา หลุมพราง ไดแกภิกษขุ ดุ หลุมพรางเจาะจงมนุษยไววา เขาจักตกตาย ดังน้ี ตองอาบตั ิทกุ กฏ เมื่อผใู ดผหู นง่ึ ตกลงไปแลว ไดรบัทุกขเวทนา ภิกษุผขู ุด ตองอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย เขาตาย ภิกษุผขู ดุ ตอ งอาบัติปาราชกิภิกษขุ ุดหลมุ พรางไวม ไิ ดเจาะจงวา ผูใดผูหนงึ่ จักตกตาย ดงั น้ี ตอ งอาบัติทกุ กฏ

พระวินัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 273มนษุ ยต กลงไปในหลมุ พรางนั้น ภิกษตุ อ งอาบตั ิทกุ กฏ เมือ่ เขาตกลงไปแลวไดร ับทกุ ขเวทนา ภิกษุตอ งอาบตั ถิ ุลลจั จยั เขาตาย ภกิ ษตุ อ งอาบตั ปิ าราชิกยักษก็ดี เปรตกด็ ี สัตวดริ ัจฉานแปลงเพศเปนมนษุ ยก ด็ ี ตกลงไปในหลมุ พรางนน้ั ภกิ ษุตองอาบัติทกุ กฏ เม่อื มนั ตกลงไปแลวไดร บั ความทุกขเวทนา ภิกษุตองอาบัติทกุ กฏ มันตาย ภกิ ษุตอ งอาบตั ถิ ุลลัจจัย สตั วดิรัจฉานตกลงไปในหลุมพรางนนั้ ภิกษตุ องอาบัตทิ ุกกฏ เม่อื มันตกลงไปแลวไดรับทุกขเวทนาภิกษตุ อ งอาบตั ทิ ุกกฏ มนั ตาย ภิกษุตองอาบัตปิ าจติ ตีย. วัตถุทพ่ี งิ [๑๙๗] ที่ชอื่ วา วัตถทุ ี่พิง ไดแ กภ กิ ษวุ างศสั ตราไวในท่ีสาํ หรบั พงิกด็ ี ทายาพษิ ไวก็ดี ทําใหช าํ รดุ กด็ ี วางไวร มิ บอ เหวหรอื ทชี่ ัน ดวยหมายใจวา บุคคลจักตกตายดวยวิธีนี้ ดงั น้ีกด็ ี ตองอาบัตทิ กุ กฏ เขาไดร ับทุกข-เวทนา เพราะตองศสั ตราถูกยาพิษ หรอื ตกลงไป ภิกษุตองอาบัตถิ ลุ ลัจจยัเขาตาย ภกิ ษตุ องอาบตั ปิ าราชกิ . การลอบวาง [๑๙๘] ทช่ี ื่อวา การลอบวาง ไดแกภิกษวุ างดาบ หอก ฉมวกหลาว ไมค อ น หิน มดี ยาพษิ หรือเชือกไวใกล ๆ ดว ยตั้งใจวา บุคคลจักตายดวยของสง่ิ น้ี ดงั น้ี ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ เขาคิดวา เราจกั ตายดวยของส่ิงนน้ั แลวยงั ทกุ ขเวทนาใหเ กดิ ภิกษุตองอาบตั ถิ ลุ ลจั จัย เขาตาย ภิกษตุ องอาบัติปาราชิก.

พระวินัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 274 เภสัช [๑๙๙] ท่ีชอ่ื วา เภสชั ไดแ ก ภกิ ษใุ หเนยใส เนยขน นํ้ามนั น้าํ ผาหรอื น้ําออย ดวยต้งั ใจวา เขาลม้ิ เภสัชน้ีแลวจักตาย ดงั น้ี ตองอาบตั ทิ กุ กฏเม่ือเขาลม้ิ เภสชั นนั้ แลว ไดร บั ทุกขเวทนา ภิกษุตอ งอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย เขาตายภกิ ษุตอ งอาบตั ิปาราชกิ . การนาํ รูปเขาไป [๒๐๐] ทีช่ ่อื วา การนาํ รปู เขา ไป ไดแ ก ภิกษนุ าํ รปู ซ่งึ ไมเปน ที่ชอบใจ นา กลวั นา หวาดเสยี วเขา ไป ดวยต้งั ใจวา เขาเหน็ รูปน้แี ลวจกั ตกใจตาย ดงั น้ี ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ เขาเหน็ รูปนนั้ แลวตกใจ ภิกษุตอ งอาบัตถิ ลุ ลจั จยัเขาตาย ภกิ ษุตองอาบัติปาราชิก. ภิกษุนาํ รูปซ่ึงเปน ที่ชอบใจ นา รัก นา จับใจเขาไป ดว ยต้งั ใจวาเขาเหน็ รูปน้ีแลว จักซูบผอมตาย เพราะหาไมไ ด ดงั นี้ ตอ งอาบตั ิทกุ กฏเขาเหน็ รปู นน้ั แลว ซบู ผอม เพราะหาไมได ภิกษุตองอาบัตถิ ลุ ลจั จัย เขาตายภิกษตุ องอาบัตปิ าราชิก. การนาํ เสียงเขา ไป ที่ชือ่ วา การนําเสยี งเขา ไป ไดแกภกิ ษุนาํ เสียงซงึ่ ไมเ ปนที่ชอบใจนา กลัว นา หวาดเสยี วเขาไป ดวยตัง้ ใจวา เขาไดย ินเสยี งน้ีแลว จกั ตกใจตายดังน้ี ตอ งอาบตั ิทุกกฏ เขาไดยนิ เสียงนน้ั แลว ตกใจ ภกิ ษตุ องอาบัติถุลลจั จยัเขาตาย ภิกษตุ องอาบตั ิปาราชิก. ภิกษนุ ําเสยี งซงึ่ เปน ทีช่ อบใจ นา รกั นา จบั ใจเขาไป ดวยท้งั ใจวาเขาไดยนิ เสียงน้ีแลว จกั ซูบผอมตาย เพราะหาไมได ดงั นี้ ตองอาบตั ิทกุ กฏ

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 275เขาไดย ินเสียงนั้นแลว ซูบผอม เพราะหาไมได ภิกษตุ องอาบตั ิถลุ ลัจจยั เขาตาย ภิกษุตอ งอาบัตปิ าราชิก. การนาํ กล่ินเขาไป ท่ีชอ่ื วา การนาํ กลน่ิ เขา ไป ไดแ ก ภิกษนุ าํ กล่นิ ซง่ึ ไมเปน ทีช่ อบใจนา เกลียด นา ปฏกิ ูลเขา ไป ดว ยตงั้ ใจวา เขาสดู กลิน่ นน้ั แลว จักตาย เพราะเกลยี ด เพราะปฏิกูล ดังนี้ ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ เมอื่ เขาสดู กลิน่ น้ันแลว ไดร ับทุกขเวทนา เพราะเกลยี ด เพราะปฏกิ ูล ภกิ ษุตอ งอาบตั ิถุลลัจจยั เขาตายภกิ ษตุ อ งอาบัติปาราชกิ . ภิกษนุ าํ กลนิ่ ซง่ึ เปนทช่ี ใู จเขาไป ดว ยตง้ั ใจวา เขาสดู กลน่ิ น้ีแลว จะซบู ผอมตาย เพราะหาไมได ดังน้ี ตองอาบัติทกุ กฏ เขาสูดกลน่ิ นัน้ แลว ซบูผอม เพราะหาไมได ภิกษตุ องอาบัตถิ ลุ ลจั จัย เขาตาย ภิกษตุ อ งอาบตั ปิ าราชกิ . การนํารสเขา ไป ท่ีช่ือวา การนาํ รสเขา ไป ไดแก ภิกษุนาํ รสซึง่ ไมเ ปน ท่ีชอบใจนาเกลยี ด นาปฏกิ ลู เขา ไป ดว ยตง้ั ใจวา เขาลม้ิ รสน้ีแลวจักตาย เพราะเกลียดเพราะปฏกิ ูล ดังน้ี ตอ งอาบัติทกุ กฏ เม่ือเขาลม้ิ รสนน้ั แลวไดรับทุกขเวทนาเพราะเกลียด เพราะปฏิกูล ภิกษตุ อ งอาบัตถิ ลุ ลัจจัย เขาตาย ภกิ ษุตอ งอาบัติปาราชิก. ภิกษนุ าํ รสซ่ึงเปนทีช่ อบใจเขา ไป ดวยต้งั ใจวา เขาลมิ้ รสนแี้ ลวจะซบู ผอมตาย เพราะหาไมได ดังน้ี ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ เขาล้ิมรสนนั้ แลวซูบผอมเพราะหาไมไ ด ภกิ ษตุ องอาบัตถิ ุลลจั จยั เขาตาย ภิกษตุ อ งอาบัตปิ าราชิก.

พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 276 การนําโผฏฐัพพะเขา ไป ทช่ี ือ่ วา การนําโผฏฐัพพะเขา ไป ไดแ ก ภิกษุนาํ โผฏฐพั พะ ซงึ่ไมเ ปนทพ่ี อใจ มีสมั ผัสไมส บายและกระดางเขา ไปดว ยต้งั ใจวา เขาถูกตอ งสิง่ นเ้ี ขาแลว จักตาย ดงั นี้ ตอ งอาบัติทกุ กฏ เมอ่ื เขาถกู ตอ งสงิ่ น้นั เขา ไดรับทุกขเวทนา ภิกษุตอ งอาบัติถลุ ลจั จัย เขาตาย ภกิ ษตุ อ งอาบัตปิ าราชกิ . ภกิ ษนุ าํ โผฏฐัพพะซ่ึงเปน ทช่ี อบใจ มีสัมผัสสบาย และออนนมุ เขา ไปดวยตั้งใจวา เขาถกู สิง่ นีแ้ ลว จกั ซูบผอมตาย เพราะหาไมได ดงั น้ี ตองอาบตั ิทกุ กฏ เขาถูกตอ งส่งิ นัน้ เขา แลว ซูบผอม เพราะหาไมได ภกิ ษตุ องอาบัติถุลลัจจัย เขาตาย ภิกษุตอ งอาบัติปาราชกิ . การนาํ ธรรมารมณเ ขา ไป ทช่ี อ่ื วา การนําธรรมารมณเ ขา ไป ไดแกภกิ ษุแสวงเรื่องนรกแกคนผคู วรเกิดในนรกดว ยตั้งใจวา เขาฟงเร่ืองนรกนี้แลว จักตกใจตาย ดงั นี้ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ เขาฟง เรือ่ งนรกนัน้ แลวตกใจ ภกิ ษตุ อ งอาบตั ถิ ุลลัจจยั เขาตาย ภิกษุตองอาบตั ิปาราชิก. ภกิ ษแุ สดงเรื่องสวรรคแ กค นผทู ําความดดี ว ยต้งั ใจวา เขาฟงเรื่องสวรรคน้แี ลว จกั นอมใจตาย ดงั น้ี ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ เขาฟงเรอ่ื งสวรรคน ั้นแลว คดิ วา เราจกั นอมใจตาย แลว ยังทุก เวทนาใหเ กิด ภิกษุตอ งอาบัติถุลลจั จยั เขาตาย ภิกษตุ องอาบัตปิ าราชกิ . กริ ยิ าที่บอก [๒๐๑] ที่ชอื่ วา กิริยาที่บอก ไดแก ภิกษถุ กู เขาถาม แลวบอกวาจงตายอยางนี้ ผูใ ดตายอยา งนนั้ ผนู ัน้ จะไดท รพั ย ไดยศ หรือไปสวรรค ดังนี้

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 277ตองอาติทกุ กฏ เพราะการบอกนั้น เขาคิดวา เราจักตาย แลวยังทกุ ขเวทนาใหเกิด ภิกษตุ องอาบัติถลุ ลัจจยั เขาตาย ภกิ ษุตอ งอาบัตปิ าราชิก. การแนะนํา ท่ชี ่ือวา การแนะนํา ไดแก ภิกษุอนั เขาไมไ ดถ าม แตแนะนําวาจงตายอยา งน้ี ผใู ดตายอยา งนี้ ผูน ั้นจะไดท รัพย ไดยศ หรอื ไปสวรรค ดงั น้ีตอ งอาบัตทิ กุ กฏ เพราะการแนะนาํ น้ัน เขาคิดวา เราจกั ตาย แลว ยังทุกขเวทนาใหเกดิ ภกิ ษตุ องอาบัตถิ ลุ ลจั จัย เขาตาย ภิกษุตอ งอาบตั ปิ าราชิก. การนดั หมาย [๒๐๒] ท่ชี อ่ื วา การนัดหมาย ไดแก ภกิ ษทุ ําการนดั หมายวา จงปลงชวี ิตเขาเสียตามกาํ หนดหมายน้นั ในเวลาเชา หรือเวลาเย็น ในเวลากลางคนืหรอื กลางวัน ดังน้ี ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ เพราะการนัดหมายนน้ั ภกิ ษุผูรับคาํ สัง่ปลงชีวิตเขาสาํ เร็จ ตองอาบัตปิ าราชิกท้งั ๒ รปู ปลงชวี ติ เขาไดกอ นหรอื หลังคํานดั หมายน้ัน ภิกษุผสู ัง่ เดิม ไมต อ งอาบตั ิ ภกิ ษผุ ูฆา ตอ งอาบตั ปิ าราชิก. การทํานมิ ติ ท่ีชือ่ วา การทํานิมติ ไดแ ก ภิกษทุ าํ นมิ ติ วา ผมจักขยบิ ตา ยักคิ้วหรือผงกศรี ษะ ทานจงปลงชวี ติ เขาตามนมิ ติ นน้ั ดงั น้ี ตอ งอาบตั ิทุกกฏภิกษผุ รู บั สัง่ ปลงชวี ติ เขาสาํ เรจ็ ตามนิมติ นัน้ ตองอาบตั ปิ าราชิกท้ัง ๒ รูปปลงชวี ติ เขากอ นหรอื หลังนมิ ิตนั้น ภิกษุผูส่งั เตมิ ไมต องอาบตั ิ ภกิ ษผุ ฆู าตอ งอาบัตปิ าราชกิ .

พระวินัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 278 อนาปต ติวาร [๒๐๓] ภิกษไุ มจงใจ ๑ ภกิ ษุไมรู ๑ ภกิ ษุไมป ระสงคจะใหตาย ๑ภกิ ษุวิกลจรติ ๑ ภิกษุมจี ติ พุงซาน ๑ ภิกษกุ ระสับกระสา ยเพราะเวทนา ๑ภกิ ษุอาทิกมั มกิ ะ ๑ เหลา น้ี ไมต องอาบตั ิ ดังนแ้ี ล. ปฐมภาณวาร ในมนุสสวิคคหปาราชกิ จบ วนิ ีตวัตถุ อทุ านคาถา[๒๐๔] เร่อื งพรรถเนา ๑ เร่อื ง เร่ืองนง่ั ๑ เรือ่ งเร่อื งสาก ๑ เรื่อง เรือ่ งครก ๑ เรือ่ งเรื่องพระผเู ฒา ๓ เรื่อง เรื่องเน้ือตดิ คอ ๓ เร่ืองเรอ่ื งยาพิษ ๒ เรือ่ ง เรือ่ งสรา งทอ่ี ยู ๓ เรื่องเรอื่ งอิฐ ๓ เร่อื ง เร่ืองมดี ๓ เรือ่ งเรอ่ื งไมก ลอน ๓ เร่อื ง เรือ่ งรา งราน ๓ เรอื่ งเรอ่ื งใหล ง ๓ เรอื่ ง เร่อื งตก ๒ เร่ืองเรอ่ื งนง่ึ ตวั ๓ เร่อื ง เร่อื งนดั ถุย า ๓ เร่ืองเร่ืองนวด ๓ เรอื่ ง เรอ่ื งใหอาบน้ํา ๓ เรื่องเรอื่ งใหท าน้าํ มัน ๓ เร่ือง เรือ่ งใหลุกขนึ้ ๓ เรือ่ งเรอื่ งใหล ม ลง ๓ เรอื่ ง เรอื่ งใหต ายดว ยขาว ๓ เรื่องเรือ่ งใหต ายดว ยน้ําฉัน ๓ เรอื่ ง เรอ่ื งมคี รรภก บั ชู ๑ เรื่องเรื่องหญิงรวมสามี ๒ เร่อื ง เรอ่ื งฆาสองมารดาบุตรตาย ๑ เร่อื ง

พระวินยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 279เรอ่ื งฆา สองมารดาบุตรไมตาย ๑ เรอื่ ง เรือ่ งใหรดี ๑ เร่ืองเรื่องใหรอน ๑ เรอื่ ง เรือ่ งหญิงหมัน ๑ เรื่องเรอื่ งหญงิ มีปกตติ ลอด ๑ เร่อื ง เรอ่ื งจ้ี ๑ เร่อื งเรือ่ งทับ ๑ เร่ือง เร่ืองฆายักษ ๑ เร่ืองเรอื่ งสง ไปสูท่ีมสี ัตวรายและยักษด ุ ๙ เรือ่ ง เร่อื งสําคญั แน ๔ เร่อื งเรอ่ื งประหาร ๓ เรอ่ื ง เรอื่ งพรรณนาสวรรค ๓ เรอ่ื งเรอื่ งพรรณนานรก ๓ เรอ่ื ง เรื่องตัดตน ไมทเี่ มอื งอาฬวี ๓ เรอ่ื งเร่ืองเผาปา ๓ เร่ือง เร่ืองอยา ใหลําบาก ๑ เร่อื งเรอ่ื งไมท ําตามคําของทา น ๑ เรอื่ ง เรื่องใหดื่มเปรยี ง ๑ เรือ่ ง เรอื่ งใหด่ืมยาดองโลณะโสจริ กะ ๑ เรือ่ ง. วินีตวตั ถุ เรอื่ งพรรณนา[๒๐๕] กโ็ ดยสมยั น้นั แล ภกิ ษรุ ูปหน่งึ อาพาธ ภกิ ษุท้งั หลายไดพรรณนาคณุ แหง ความตายแกภ ิกษุนัน้ ดว ยความกรุณา ภิกษนุ น้ั ถึงมรณภาพแลว ภิกษเุ หลาน้นั มคี วามรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอจึงกราบทูลเร่ืองนนั้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลายพวกเธอตองอาบตั ปิ าราชิกแลว. เร่ืองน่งั [๒๐๖] กโ็ ดยสมยั นนั้ แล ภกิ ษผุ ถู ือเทย่ี วบิณฑบาตเปน วตั รรูปหนงึ่น่งั ทบั เด็กชายทเ่ี ขาเอาผาเกา คลุมไวบ นต่ังใหตายแลว มีความรงั เกยี จวา เรา

พระวินยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 280ตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่อื งนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆตรัสวา ดูกอ นภิกษุ เธอไมต อ งอาบัตปิ าราชิก แลว ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลายอน่ึง พวกเธอไมพิจารณากอนแลวอยาน่ังบนอาสนะ รูปใดนง่ั ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. เรือ่ งสาก [๒๐๗] กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภิกษุรปู หนึง่ ปูลาดอาสนะอยทู ี่โรงอาหารในละแวกบาน ไดหยบิ สากอนั หนึ่งในสากทเี่ ขาพงิ รวมกนั ไว สากอันทีส่ องไดลม ฟาดลงท่ีศีรษะเดก็ ชายคนหน่งึ เด็กชายน้นั ตายแลว เธอไดม ีความรังเกยี จวาเราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่ืองนั้น แดพ ระผมู ีพระ-ภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคดิ อยางไร. ภ.ิ ขาพระพทุ ธเจา มไิ ดจงใจ พระพุทธเจา ขา . ภ. ดูกอนภิกษุ ภิกษไุ มจงใจ ไมต องอาบัติ. เรือ่ งครก กโ็ ดยสมยั น่ันแล ภกิ ษุรปู หนง่ึ ปลู าดอาสนะอยูท ี่โรงอาหารในละแวกบาน ไดเ หยยี บขอนไมท ่ีเขานํามาเพอื่ ทาํ ครก เซไปทับเดก็ คนหนึง่ ตาย แลวมีความรังเกียจวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเร่ืองน้นัแดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอคิดอยางไร. ภิ. ขา พระพุทธเจา มไิ ดจ งใจ พระพุทธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภิกษุ ภกิ ษไุ มจงใจ ไมตองอาบัติ.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 281 เรื่องพระผเู ฒา ๓ เรอ่ื ง [๒๐๘] ๑. กโ็ ดยสมัยน้ันแล บิดาและบตุ รบวชอยูในสํานกั ภิกษุเม่อื เขาบอกภัตกาลแลว ภิกษผุ บู ุตรไดกลาวกะภกิ ษุผบู ิดาวา นิมนตไ ปเถดิขอรบั พระสงฆก าํ ลงั คอยทานอยู แลวดุนหลงั ผลักไป ภกิ ษผุ ูบิดาไดล มลงถึงมรณภาพ ภิกษผุ ูบตุ รนั้นมดี วามรังเกียจวา เราตองอาบตั ิปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภกิ ษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขา พระพุทธเจา ไมมีความประสงคจะใหถ ึงมรณภาพ พระพทุ ธ-เจา ขา . ภ. ภิกษไุ มมีความประสงคจ ะใหถงึ มรณภาพ ไมตองอาบตั ิ. ๒. ก็โดยสมยั น้นั แล บิดาและบุตรบวชอยใู นสาํ นักภิกษุ เม่อื เขาบอกภตั กาลแลว ภิกษผุ ูบุตรไดกลาวกะภิกษผุ ูบดิ าวา นิมนตไ ปเถดิ ขอรบัพระสงฆกาํ ลงั คอยทานอยู ภกิ ษผุ ูบุตรมคี วามประสงคจะใหถึงมรณภาพ จึงดนุ หลงั ผลกั ไป ภิกษผุ บู ิดาไดลมลงถงึ มรณภาพ ภกิ ษผุ ูบตุ รมีความรังเกยี จวาเราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผูมพี ระ-ภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขาพระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจ ะใหถึงมรณภาพ พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดูกอนภกิ ษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชิกแลว . ๓. กโ็ ดยสมัยน้ันแล บิดาและบุตรบวชอยูใ นสาํ นักภกิ ษุ เมือ่ เขาบอกภตั กาลแลว ภิกษุผบู ุตรไดกลาวกะภกิ ษผุ บู ดิ าวา นิมนตไปเถิด ขอรบัพระสงฆกําลงั คอยทา นอยู ภกิ ษผุ บู ตุ รมีความประสงคจ ะใหถ ึงมรณภาพ จึงดุนหลังผลกั ไป ภิกษผุ บู ดิ าไดลมลง แตไ มถึงมรณภาพ ภกิ ษผุ ูบตุ รมคี วาม

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 282รงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมงั หนอ จึงกราบทลู เรอื่ งน้นั แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขาพระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหถงึ มรณภาพ พระพทุ ธเจาขา. ภ. เธอไมต องอาบตั ิปาราชกิ แตตองอาบตั ถิ ุลลจั จัย. เรอ่ื งเนอื้ ตดิ คอ ๓ เรือ่ ง [๒๐๙] ๑. ก็โดยสมยั นนั้ แล เมอ่ื ภกิ ษุรูปหน่ึงกาํ ลงั ฉนั อาหาร เนอื้ติดคอ ภกิ ษุอกี รปู หนึง่ ไดใหป ระหารทคี่ อภิกษนุ ั้น เนอ้ื หลดุ ออกมาพรอมกบัโลหติ ภกิ ษุนน้ั ถงึ มรณภาพ ภิกษุรปู ท่ปี ระหาร มีความรงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรือ่ งนนั้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขาพระพุทธเจา ไมมีความประสงคจะใหถงึ มรณภาพ พระ-พทุ ธเจาขา. ภ. ภิกษุไมม ีความปะสงคจะใหถ งึ มรณภาพ ไมต องอาบตั .ิ ๒. ก็โดยสมัยน้นั แล เมอื่ ภิกษุรูปหนึง่ กําลังฉันอาหาร เนื้อติดคอภิกษอุ ีกรูปหนึง่ ประสงคจะใหถ ึงมรณภาพ ไดใหประหารที่คอภกิ ษุน้นั เนอ้ืหลดุ ออกมาพรอ มกบั โลหิต ภกิ ษุน้ันถึงมรณภาพ ภกิ ษรุ ปู ที่ประหาร มคี วามรังเกยี จวา เราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งน้นั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจ ะใหถงึ มรณภาพ พระพุทธเจา ขา . ภ. ดกู อ นภกิ ษุ เธอตองอาบัตปิ าราชิกแลว.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 283 ๓. กโ็ ดยสมัยนน้ั แล เมือ่ ภกิ ษุรูปหนงึ่ กําลังฉนั อาหาร เนอื้ คิดคอภกิ ษุอกี รูปหนึ่งประสงคจะใหถึงมรณภาพ ไดใหประหารที่คอภกิ ษนุ ัน้ เน้ือหลุดออกมาพรอมกับโลหติ แตภิกษนุ นั้ ไมถงึ มรณภาพ ภกิ ษรุ ปู ท่ปี ระหารมีความรังเกยี จวา เราตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อนภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขา พระพุทธเจา มีความประสงคจ ะใหถ ึงมรณภาพ พระพุทธเจา ขา . ภ. เธอไมต อ งอาบตั ปิ าราชกิ แตตองอาบัติถลุ ลัจจยั . เรือ่ งยาพิษ ๒ เรื่อง [๒๑๐] ๑. ก็โดยสมัยนนั้ แล ภกิ ษผุ ถู อื เทย่ี วบณิ ฑบาตเปนวัตรรปู หนง่ึไดบ ิณฑบาตเจอื ยาพิษมาแลว นําไปสโู รงฉัน ไดถวายบิณฑบาตน้ันแกภ กิ ษุท้งั หลายใหฉ นั กอน ภิกษเุ หลานั้นถึงมรณภาพแลว เธอมคี วามรงั เกียจวาเราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรื่องน้ันแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภิ. ขาพระพทุ ธเจา ไมทราบเกลา พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดกู อนภกิ ษุ ภกิ ษุไมร ู ไมตองอาบตั ิ. ๒. กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภกิ ษรุ ูปหนง่ึ ประสงคจะทดลอง ไดใหยาพิษแกภิกษอุ กี รูปหนึง่ ฉัน ภิกษุนน้ั ถงึ มรภาพแลว เธอมีความรงั เกียจวา เราตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เรื่องนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภ.ิ ขาพระพุทธเจา มีความประสงคจะทดลอง พระพุทธเจาขา . ภ. เธอไมตองอาบตั ปิ าราชกิ แตตองอาบัตถิ ุลลัจจัย.

พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 284 เรอ่ื งสรางที่อยู ๓ เรื่อง [๒๑๑] ๑. กโ็ ดยสมยั น้ัน พวกภกิ ษุชาวเมอื งอาฬวี ชว ยกนัสรางวิหารทอ่ี ยู ภิกษรุ ูปหนงึ่ อยูขางลา งยกศิลาสง ขน้ึ ไป ศิลาท่ีภกิ ษุผูอยขู า งบนรับไวไมมั่น ไดตกทบั กระหมอมภิกษผุ ูอ ยขู า งลา งาถงึ มรณภาพแลว เธอมีความรังเกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กราบทลู เรือ่ งนัน้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถานวา ดูกอนภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขา พระพุทธเจา มิไดจงใจ พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอนภกิ ษุ ภกิ ษไุ มจ งใจ ไมต องอาบตั ิ. ๒. ก็โดยสมยั นัน้ แล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ชว ยกันสรา งวิหารที่อยู ภกิ ษรุ ูปหนึ่งอยขู า งลา ง ยกศลิ าสงขึ้นไป ภิกษุผูอยขู า งบน มีความประสงคจะใหทาย จึงปลอยศลิ าลงบนกระหมอมภกิ ษผุ อู ยขู า งลาง ภิกษผุ อู ยูขา งลา งนน้ั ถึงมรณภาพแลว เธอมคี วามรังเกียจวา เราตองอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมังหนอ จงึ กราบทลู เรื่องนนั้ แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อนภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขา พระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจ ะใหต าย พระพุทธเจา ขา. ภ. ดูกอนภกิ ษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชิกแลว . ๓. ก็โดยสมยั น้ันแล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ชว ยกนั สรางวหิ ารที่อยู ภิกษรุ ูปหนึ่งอยขู างลาง ยกศิลาสงข้นึ ไป ภิกษผุ อู ยขู างบนมีความประสงคจะใหตาย จึงปลอยศิลาลงบนกระหมอมภิกษผุ อู ยขู างลาง แตภ ิกษผุ ูอ ยูขางลา งไมถงึ มรณภาพ เธอมคี วามรังเกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมังหนอจงึ กราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภกิ ษุ เธอคิดอยา งไร.

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 285 ภิ. ขาพระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหต าย พระพุทธเจาขา. ภ. เธอไมต องอาบตั ปิ าราชิก แตต องอาบัติถุลลัจจยั เรอ่ื งอฐิ ๓ เร่อื ง ๑. ก็โดยสมยั นั้นแล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ชวยกันกอฝาผนงัวิหาร ภกิ ษรุ ปู หน่ึงอยขู างลา งสง อฐิ ขึ้นไป อฐิ ทภ่ี กิ ษผุ ูอ ยูขางบนรบั ไวไมม ่นัไดหลน ทบั กระหมอมภกิ ษผุ ูอยูขางลางถงึ มรณภาพแลว เธอมคี วามรงั เกยี จวาเราตองอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเร่อื งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอคดิ อยา งไร. ภิ. ขาพระพทุ ธเจา มไิ ดจงใจ พระพุทธเจาขา . ภ. ดูกอนภิกษุ ภกิ ษุไมจงใจ ไมตองอาบัติ. ๒. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล พวกภกิ ษชุ าวเมืองอาฬวี ชวยกันกอฝาผนงัวหิ าร ภิกษุรปหนง่ึ อยขู า งลา งสง อิฐข้ึนไปภิกษผุ อู ยูขา งบนมีความประสงคจะใหตาย จึงปลอ ยอิฐลงบนกระหมอมภิกษผุ อู ยขู างลา ง ภกิ ษผุ อู ยูขางลา งนั้นถึงมรณภาพแลว เธอมคี วามรังเกียจวา เราตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมังหนอจึงกราบทูลเรื่องน้ัน แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภิ. ขา พระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหท าย พระพุทธเจา ขา . ภ. ดกู อนภกิ ษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แลว. ๓. กโ็ ดยสมยั นนั้ แล พวกภกิ ษชุ าวเมืองอาฬวี ชวยกันกอ ฝาผนังวหิ าร ภกิ ษรุ ปู หนงึ่ อยขู างลางสงอิฐขึน้ ไป ภิกษผุ อู ยขู างบนมคี วามประสงคจ ะใหตาย จงึ ปลอ ยอฐิ ลงบนกระหมอ มภิกษผุ อู ยูขางลา ง แตภกิ ษผุ อู ยขู า งลางไมถ ึง

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 286มรณภาพ เธอมีความรังเกยี จวา เราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมังหนอ จงึกราบทูลเรือ่ งนัน้ แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถา วา ดูกอ นภิกษุ เธอคดิอยา งไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา . ภ ดกู อ นภิกษุ เธอไมตอ งอาบัตปิ าราชิก แตต องอาบตั ิถลุ ลัจจัย. เร่ืองมีด ๓ เรื่อง ๑. ก็โดยสมยั นนั้ แล พวกภกิ ษุชาวเมืองอาฬวี ชว ยกันทาํ นวกรรมภิกษุรปู หน่ึงอยูข า งลา งสง มดี ขน้ึ ไป มีดทภี่ ิกษุผูอยขู า งบนรับไวไ มม น่ั ไดตกลงบนกระหมอมภกิ ษุผูอยขู างลางถึงมรณภพ เธอมคี วามรังเกยี จวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดูกอนภกิ ษุ เธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ ขา พระพทุ ธเจา มไิ ดจงใจ พระพุทธเจา ขา. ภ. ดกู อนภกิ ษุ ภกิ ษไุ มจ งใจ ไมตองอาบัต.ิ ๒. ก็โดยสมยั นน้ั แล พวกภกิ ษชุ าวเมืองอาฬวี ชว ยกนั ทํานวกรรมภกิ ษุรูปหนึง่ อยขู า งลา งสงมีดข้นึ ไป ภิกษผุ อู ยขู างบนมคี วามประสงคจ ะใหตายจงึ ปลอ ยไมม ดี ลงบนกระหมอมภกิ ษผุ ูอยขู า งลา งถึงมรณภาพ เธอมคี วามรงั เกยี จวาเราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรอ่ื งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัส ถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขา พระพุทธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอ นภกิ ษุ เธอตองอาบัติปาราชิกแลว ๓. ก็โดยสมยั นั้นแล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ชว ยกันทาํ นวกรรมภิกษรุ ปู หนง่ึ อยขู างลางสง มีดขน้ึ ไป ภิกษผุ ูอยูข า งบนมคี วามประสงคจ ะใหต าย

พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 287จึงปลอ ยมดี ลงบนกระหมอมภกิ ษุผอู ยขู า งลาง แตภ กิ ษผุ อู ยขู างลางไมถ ึงมรณภาพ เธอความรงั เกียจวา เราไมตองปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึกราบทูลเร่ืองน้ันแดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสถานวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอคิดอยา งไร. ภ.ิ ขาพระพุทธเจามีความประสงคจะใหต าย พระพุทธเจาขา . ภ. ดูกอ นภิกษุ เธอไมตอ งอาบตั ปิ าราชิก แตต องอาบตั ิถุลลจั จัย. เรอ่ื งไมก ลอน ๓ เรือ่ ง ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกภกิ ษุชาวเมอื งอาฬวี ชว ยกนั ทํานวกรรมภิกษรุ ปู หนึ่งอยขู างลา งยกไมก ลอนสงขน้ึ ไป ไมก ลอนที่ภิกษผุ อู ยขู า งบนจับไวไมม ่นั ไดพลัดตกลงบนกระหมอมภกิ ษุผอู ยูขา งลางนั้นถงึ มรณภาพ เธอมีความรังเกียจวา เราตองอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เรือ่ งนั้น แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภิ. ขาพระพุทธเจา มไิ ดจ งใจ พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดกู อนภกิ ษุ ภกิ ษไุ มจงใจ ไมต อ งอาบัต.ิ ๒. ก็โดยสมยั นน้ั แล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ชวยกันทํานวกรรมภิกษุรปู หนงึ่ อยขู า งลางยกไมก ลอนสง ข้นึ ไป ภิกษผุ อู ยขู างบนมีความประสงคจะใหต าย จึงปลอ ยไมกลอนลงบนกระหมอ มภกิ ษุผูอยขู างลา ง ภกิ ษผุ ูอยูข า งลา งนน้ั ถึงมรณภาพ เธอมคี วามรังเกยี จวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงัหนอ จงึ กราบทูลเร่อื งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภกิ ษุเธอคดิ อยา งไร.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 288 ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดูกอนภกิ ษุ เธอตองอาบัติปาราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมัยนน้ั แล พวกภกิ ษชุ าวเมืองอาฬวี ชวยกันทํานวกรรมภิกษรุ ูปหนึ่งอยขู างลางยกไมกลอนสง ข้ึนไป ภิกษผุ ูอยูข างบนมีความประสงคจะใหตาย จงึ ปลอ ยไมก ลอนลงบนกระหมอมภกิ ษุผอู ยูขางลาง แตภกิ ษผุ ูอ ยูขา งลา งนัน้ ไมถึงมรณภาพ เธอมคี วามรังเกยี จวา เราตองอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรือ่ งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ ขา พระพุทธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอนภกิ ษุ เธอไมตอ งอาบัติปาราชกิ แตต องอาบัติถุลลัจจยั . เร่อื งรา งราน ๓ เร่ือง ๑. ก็โดยสมัยนัน้ แล พวกภกิ ษชุ าวเมอื งอาฬวี ผกู รางรา นทาํ นวกรรมภิกษรุ ปู หนงึ่ ไดก ลา วกะภิกษอุ กี รูปหนง่ึ วา อาวโุ ส ทา นจงยืนผูกทตี่ รงน้ี ภกิ ษุน้นั ยืนผกู อยู ณ ท่นี ั้น ไดพลัดตกลงถึงมรณภาพ เธอมคี วามรงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่อื งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษุ เธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ ขา พระพุทธเจา มไิ ดม ีความประสงคจ ะใหตาย พระพุทธะจาขา . ภ. ดกู อ นภิกษุ ภิกษไุ มม ีความประสงคจ ะใหตาย ไมตอ งอาบัต.ิ ๒. ก็โดยสมยั น้ันแล พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ผกู รา งรา นทํานวกรรมภิกษุรูปหนึง่ มีความประสงคจ ะใหต าย จึงไดก ลาวกะภกิ ษอุ กี รปู หนึ่งวา อาวุโส

พระวินัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 289 ทานจงยืนผูกท่ตี รงน้ี ภกิ ษนุ ัน้ ยนื ผกู อยู ณ ทีน่ นั้ ไดพ ลัดตกลงถงึมรณภาพ เธอมคี วามรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึกราบทูลเรอ่ื งนนั้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อนภกิ ษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอ นภกิ ษุ เธอตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว. ๓. กโ็ ดยสมยั น้นั แล พวกภิกษชุ าวเมืองอาฬวี ผกู รางรานทาํ นวกรรมภกิ ษรุ ปู หนง่ึ มีความประสงคจะใหต าย จงึ ไดกลาวกะภกิ ษอุ ีกรปู หน่งึ วา อาวโุ สทานจงยนื ผกู ท่ตี รงนี้ ภิกษนุ ้ันยนื ผกู อยู ณ ที่น้นั ไดพลัดตกลง แตไมถึงมรณภาพ ภกิ ษผุ ูกลาวมีความรงั เกียจวา เราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมงัหนอ จงึ กราบทลู เร่อื งนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุเธอคดิ อยา งไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอ นภกิ ษุ เธอไมต อ งอาบตั ิปาราชิก แตต องอาบัติถุลลจั จยั . เรอ่ื งใหล ง ๓ เรือ่ ง [๒๑๒] ๑. ก็โดยสมยั น้นั แล ภิกษุรูปหนึง่ มงุ วหิ ารเสรจ็ แลว จะลงภกิ ษอุ กี รูปหนึ่งไดกลาวกะภกิ ษุนนั้ วา อาวโุ สทานจงลงทางนี้ ภกิ ษุนัน้ กล็ งทางนั้น ไดพ ลัดตกลงถงึ มรณภาพแลว รูปท่กี ลา วมคี วามรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เรอ่ื งนั้นแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดูกอนภกิ ษุเธอคิดอยา งไร.

พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 290 ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มไิ ดม ีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดกู อนภกิ ษุ ภกิ ษไุ มมีความประสงคจะใหตาย ไมตองอาบัติ. ๒. ก็โดยสมยั นั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมุงวิหารเสรจ็ แลวจะลง ภกิ ษอุ ีกรูปหนึ่งมีความประสงคจะใหตาย จึงไดกลาวกะภิกษุรปู น้นั วา อาวุโส ทา นจงลงทางน้ี ภิกษนุ นั้ กล็ งทางนนั้ ไดพลดั ตกลงถึงมรณภาพแลว รูปท่ีกลา วมีความรงั เกยี จวา เราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เร่อื งน้ันแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคดิ อยา งไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจะใหตาย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดกู อ นภิกษุ เธอตอ งอาบัติปาราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมยั นน้ั แล ภิกษรุ ูปหน่งึ มงุ หลังคาเสร็จแลว จะลง ภกิ ษอุ กีรูปหนึ่งมคี วามประสงคจ ะใหตาย จงึ ไดก ลา วกะภิกษุรปู น้ันวา อาวุโส ทา นจงลงทางนี้ ภิกษุนัน้ ก็ลงทางนัน้ ไดพ ลดั ตกลงแลวแตไมถ ึงมรณภาพ รูปท่ีกลาวมคี วามรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งน้นั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุ เธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ ขาพระพุทธเจามีความประสงคจ ะใหตาย พระพุทธเจาขา. ภ. เธอไมต องอาบตั ิปาราชิก แตตองอาบตั ิถุลลัจจยั . เรอ่ื งตก ๒ เร่ือง [๒๑๓] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรปู หนงึ่ ถกู ความกระสนั บบี คน้ั จึงขน้ึ ภเู ขาคชิ ฌกฏู แลว โจนลงท่ีเขาขาด ทับชา งสานคนหน่งึ ตาย เธอมคี วามรงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภิกษุ เธอคิดอยา งไร.

พระวินัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 291 ภิ. ขาพระพุทธเจา มิไดม คี วามประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภิกษุ เธอไมตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว ตรัสวา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย อนั ภกิ ษไุ มค วรยงั ตนใหตก รูปใดใหต ก ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. ๒. กโ็ ดยสมยั น้ันแล พระฉพั พัคคยี ข้ึนภูเขาคิชฌกฏู แลวพากนั กลงิ้ศิลาเลน ศลิ าน้นั ตกทบั คนเลย้ี งโคคนหนง่ึ ตาย พวกเธอมีความรงั เกยี จวา พวกเราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งนนั้ แดพ ระผูมพี ระ-ภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภ.ิ พวกขา พระพุทธเจา มไิ ดม ีความประสงคจะใหต าย พระพุทธเจาขา. ภ. ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกเธอไมตองอาบตั ิปาราชกิ แตภิกษุไมควรกล้ิงศลิ าเลน รูปใดกลิ้ง ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. เรอื่ งนงึ่ ตัว ๓ เร่ือง [๒๑๔] ๑. ก็โดยสมยั น่ันแล ภกิ ษรุ ปู หนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายจึงใหภ กิ ษนุ ั้นนงึ่ ตวั ภิกษนุ ัน้ ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่อื งนนั้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มิไดมีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธ-เจาขา ภ. ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ภิกษไุ มมีความประสงคจะใหตาย ไมต องอาบตั .ิ ๒. ก็โดยสมยั นั้นแล ภิกษุรปู หนงึ่ อาพาธ ภิกษทุ ัง้ หลายมคี วามประสงคจะใหตาย จงึ ใหภิกษุน้ันนึ่งตวั ภกิ ษุน้นั ถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วาม

พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 292รงั เกยี จวา พวกเราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทลู เรื่องนน้ัแดพ ระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย พวกเธอคดิ อยางไร. ภ.ิ พวกขา พระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย พวกเธอตอ งอาบัติปาราชิกแลว. ๓. กโ็ ดยสมยั น้ันแล ภิกษุรูปหน่ึงอาพาธ ภิกษุทั้งหลายมีความประสงคจ ะใหต าย จงึ ใหภกิ ษุน้ันนง่ึ ตัว แตภกิ ษุนน้ั ไมถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรังเกียจวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทลูเรือ่ งน้นั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มีความประสงคจ ะใหตาย พระพุทธเจาขา. ภ. พวกเธอไมต อ งอาบัติปาราชกิ แตตองอาบตั ถิ ุลลัจจยั . เรือ่ งนัดถยุ า ๓ เรอ่ื ง ๑. กโ็ ดยสมยั นั้นแล ภกิ ษุรูปหน่งึ ปวดศรี ษะ ภิกษทุ ัง้ หลายไดน ัดถยุ าใหแกภ ิกษุน้ัน ภกิ ษุนั้นถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจวา พวกเราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเร่อื งน้นั แดพ ระผูม พี ระภาคเจา ๆตรสั ถามวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย พวกเธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ พวกขา พระพทุ ธเจา มิไดม ีความประสงคจ ะใหต าย พระพทุ ธ-เจา ขา. ภ. ภิกษุผูไ มมีความประสงคจะใหต าย ไมต อ งอาบตั ิ. ๒. กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภิกษุรปู หนงึ่ ปวดศีรษะ ภิกษทุ ้งั หลายมคี วามประสงคจะใหตาย จึงไดนัดถุยาใหแ กภ กิ ษุนน้ั ๆ ถึงมรณภาพ พวกเธอมีความ

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 293รงั เกียจวา พวกเราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขาพระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดกู อนภกิ ษทุ ้ังหลาย พวกเธอตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมัยนน้ั แล ภกิ ษรุ ูปหน่งึ ปวดศรี ษะ ภิกษทุ ั้งหลายมคี วามประสงคจะใหตาย จึงไดน ดั ถยุ าใหแกภ ิกษนุ ้นั แตภกิ ษุนั้นไมถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรงั เกยี จวา พวกเราตอ งอาบัตปิ าราชิกแลวกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแกพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภิ. พวกขาพระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย พวกเธอไมต อ งอาบัติปาราชกิ แตตองอาบตั ิถุลลจั จยั . เรื่องนวด ๓ เรื่อง ๑. กโ็ ดยสมัยนน้ั แล ภิกษรุ ปู หนึง่ อาพาธ ภกิ ษทุ ง้ั หลายจงึ นวดฟนภกิ ษุนั้น ๆ ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย พวกเธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ พวกขาพระพทุ ธเจา มไิ ดมคี วามประสงคจ ะใหตาย พระพุทธ-เจาขา . ภ. ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษุผไู มม คี วามประสงคจ ะใหตาย ไมตองอาบัติ.

พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 294 ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรปู หนึ่งอาพาธ ภกิ ษุทั้งหลายมีความประสงคจ ะใหตาย จงึ นวดฟน ภกิ ษนุ น้ั ๆ ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรงั เกยี จวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรอื่ งน้นั แดพ ระผูม-ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว . ๓. ก็โดยสมยั นนั้ แล ภิกษรุ ูปหนง่ึ อาพาธ ภิกษุท้ังหลายมีความประสงคจะใหต าย จึงนวดฟน ภกิ ษนุ ั้น แตภ กิ ษุน้นั ไมถ ึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกียจวา พวกเราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลวกระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภิ. พวกขาพระพุทธเจา มคี วามประสงคจะใหตาย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอไมตองอาบตั ิปาราชกิ แตตองอาบัติถุลลจั จัย. เรอ่ื งใหอาบนํา้ ๓ เร่ือง ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรปู หนง่ึ อาพาธ ภิกษุท้ังหลายจงึ ใหภกิ ษนุ ั้นอาบน้าํ ภิกษนุ น้ั ถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจวา พวกเราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภิกษุท้ังหลาย พวกเธอคดิ อยา งไร. ภิ. พวกขา พระพทุ ธเจา มิไดม ีความประสงคจ ะใหต าย พระ'พุทธ-เจาขา .

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 295 ภ. ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุผูไมมีความประสงคจ ะใหตาย ไมตอ งอาบัต.ิ ๒. ก็โดยสมยั นน่ั แล ภกิ ษรุ ปู หนึ่งอาพาธ ภกิ ษทุ ั้งหลายมคี วามประสงคจะใหตาย จงึ ใหภ ิกษนุ ้ันอาบนา้ํ ภกิ ษุนัน้ ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรงั เกยี จวา พวกเราตองอาบตั ิปาราชิกแลวกระมังหนอ จงึ กราบทูลเร่ืองนัน้ แดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขา พระพุทธเจา มีความประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอตองอาบัติปาราชกิ แลว . ๓. ก็โดยสมัยนน้ั แล ภกิ ษุรปู หนึ่งอาพาธ ภกิ ษุท้ังหลายมคี วามประสงคจะใหต าย จึงใหภกิ ษุน้ันอาบน้ํา แตภิกษุนัน้ ไมถ งึ มรณภาพ พวกเธอมีความรงั เกียจวา พวกเราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมงั หนอ จงึ กราบทูลเร่อื งน้นั แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังลาย พวกเธอคดิอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอนภิกษุท้ังหลาย พวกเธอไมตอ งอาบัติปาราชกิ แตตองอาบัติถลุ ลจั จยั . เรอ่ื งใหทานํา้ มัน ๓ เรื่อง ๑. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ภิกษรุ ูปหนงึ่ อาพาธ ภิกษทุ งั้ หลายจงึ เอานํ้ามนัทาภิกษุนั้น ๆ ถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เร่ืองนนั้ แดพ ระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรสัถามวา ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย พวกเธอคดิ อยางไร.

พระวินยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 296 ภิ. พวกขาพระพุทธเจา มิไดมีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธ-เจาขา. ภ. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ภิกษผุ ูไ มม คี วามประสงคจะใหต าย ไมต อ งอาบตั ิ. ๒. กโ็ ดยสมัยนน้ั แล ภกิ ษุรูปหน่งึ อาพาธ ภกิ ษุทง้ั หลายมคี วามประสงคจะใหต าย จงึ เอาน้าํ มันทาภกิ ษุนนั้ ภิกษนุ ้ันถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกยี จวา พวกเราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมังหนอ จึงกราบทลู เร่ืองนัน้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย พวกเธอคดิอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหต าย พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย พวกเธอตองอาบัตปิ าราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภกิ ษุรปู หนง่ึ อาพาธ ภกิ ษุทัง้ หลายมีความประสงคจ ะใหต าย จึงเอานา้ํ มันทาภกิ ษุน้นั แตภ กิ ษนุ ัน้ ไมถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลวกระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภิกษทุ ั้งหาย พวกเธอคดิอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย พวกเธอไมต องอาบัติปาราชิก แตตอ งอาบตั ิถุลลจั จยั . เร่อื งใหล กุ ขน้ึ ๓ เรอ่ื ง ๑. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ภกิ ษุรปู หนง่ึ อาพาธ ภกิ ษทุ ้ังหลายใหภ กิ ษนุ น้ัลกุ ขึน้ ภกิ ษุน้ันถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรังเกยี จวา พวกเราตอ งอาบัติ

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 297ปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเร่อื งนัน้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสัถามวา ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภ.ิ พวกขา พระพุทธเจา มไิ ดมีความประสงคจะใหตาย พระพทุ ธ-เจาขา . ภ. ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ภิกษุผไู มมีความประสงคจ ะใหต าย ไมตองอาบตั .ิ ๒. ก็โดยสมัยนัน้ แล ภิกษรุ ปู หนงึ่ อาพาธ ภกิ ษุท้งั หลายมคี วามประสงคจ ะใหตาย จงึ ใหภ ิกษุนน้ั ลกุ ขึ้น ภิกษุนน้ั ถงึ มรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกยี จวา พวกเราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรือ่ งนัน้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มีความประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย พวกเธอตองอาบตั ิปาราชิกแลว ๓. ก็โดยสมยั นน้ั แล ภิกษรุ ปู หนึ่งอาพาธ ภิกษุทง้ั หลายมคี วามประสงคจ ะใหต าย จึงใหภิกษุนัน้ ลกุ ขน้ึ แตภกิ ษนุ นั้ ไมถงึ มรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกียจวา พวกเราตองอาบตั ิปาราชิกแลวกระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพ ระผพู ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย พวกเธอคดิอยางไร. ภิ. พวกขา พระพุทธเจา มีความประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย พวกเธอไมตองอาบัตปิ าราชิก แตต อ งอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 298 เรอื่ งใหลม ลง ๓ เร่อื ง ๑. ก็โดยสมยั นั้นแล ภิกษรุ ปู หนึ่งอาพาธ ภิกษทุ ง้ั หลายยงั ภกิ ษนุ ั้นใหล มลง ภิกษนุ ้นั ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจวา พวกเราตองอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เรอ่ื งน้ันแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา มิไดม คี วามประสงคจะใหต าย พระพุทธเจา ขา. ภ. ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ภกิ ษุผไู มมคี วามประสงคจะใหตาย ไมต องอาบัต.ิ ๒. กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภิกษุรปู หนึ่งอาพาธ ภิกษุทัง้ หลายมีความประสงคจ ะใหต าย จึงใหภิกษุน้ันลม ลง ภิกษนุ ้ันถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกียจวา พวกเราตองอาบัตปิ าราชิกแลวกระมงั หนอ จึงกราบทลู เร่ืองนัน้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอคดิ อยางไร. ภ.ิ พวกขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย พวกเธอตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมยั นน้ั แล ภกิ ษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษทุ ้ังหลายมีความประสงคจะใหตาย จึงใหภกิ ษนุ ั้นลมลง แตภกิ ษุน้นั ไมถ ึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกียจวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชิกแลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเรอ่ื งนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภิ. พวกขาพระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา . ภ. ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย พวกเธอไมตองอาบัติปาราชิก แตตอ งอาบัติถลุ ลจั จยั .

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 299 เรื่องใหตายดว ยขาว ๓ เรื่อง ๑. กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภกิ ษุรูปหนึง่ อาพาธ ภิกษทุ ง้ั หลายไดใ หข า วแกภกิ ษนุ นั้ ภิกษุน้นั ถงึ มรณภาพ พวกเธอมคี วามรังเกียจวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรอื่ งน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภ.ิ พวกขาพระพทุ ธเจา มิไดม ีความประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา . ภ. ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย ภกิ ษผุ ไู มม คี วามประสงคจ ะใหตาย ไมตอ งอาบตั ิ. ๒. กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภกิ ษุรูปหนึง่ อาพาธ ภกิ ษทุ ง้ั หลายมคี วามประสงคจะใหต าย จึงใหขาวแกภ กิ ษนุ ัน้ ภิกษนุ น้ั ถงึ มรณภาพ พวกเธอมีความรงั เกยี จวา พวกเราตองอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขา พระพทุ ธเจา มีความประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา. ภ. ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย พวกเธอตอ งอาบัติปาราชกิ แลว . ๓. ก็โดยสมัยน้นั แล ภิกษรุ ปู หน่งึ อาพาธ ภกิ ษทุ ง้ั หลายมีความประสงคจ ะใหต าย จึงใหขาวแกภิกษุนน้ั แตภ กิ ษุนั้นไมถ งึ มรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกียจวา พวกเราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขา พระพทุ ธเจา มคี วามประสงคจะใหต าย พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย พวกเธอไมตอ งอาบตั ิปาราชกิ แตต องอาบัตถิ ลุ ลัจจัย.

พระวินัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 300 เร่อื งใหต ายดว ยนํ้าฉัน ๓ เรอื่ ง ๑. กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภิกษุรปู หน่ึงอาพาธ ภกิ ษุทัง้ หลายไดใหน ํ้ามนัแกภิกษุน้นั ๆ ถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรังเกียจวา พวกเราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กรานทูลเร่ืองน้ันแดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย พวกเธอคิดอยางไร. ภิ. พวกขา พระพทุ ธเจา มิไดมคี วามประสงคจะใหตาย พระพุทธเจา ขา . ภ. ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย ภกิ ษุผไู มมีความประสงคจะใหต าย ไมต อ งอาบตั .ิ ๒. กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภกิ ษรุ ูปหนง่ึ อาพาธ ภิกษทุ งั้ หลายมีความประสงคจ ะใหต าย จึงไดใ หนํา้ มนั แกภิกษนุ ้ัน ภิกษนุ ัน้ ถึงมรณภาพ พวกเธอมคี วามรงั เกยี จวา พวกเราตองอาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทลูเรอื่ งนั้นแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย พวกเธอคดิ อยางไร. ภิ. พวกขา พระพุทธเจา มคี วามประสงคจ ะใหตาย พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย พวกเธอตองอาบตั ปิ าราชิกแลว . ๓. กโ็ ดยสมัยนน้ั แล ภกิ ษรุ ูปหนึ่งอาพาธ ภกิ ษทุ งั้ หลายมคี วามประสงคจะใหต าย จึงไดใหน้าํ มันแกภิกษุน้นั แตภ ิกษนุ ัน้ ไมถ งึ มรณภาพพวกเธอมคี วามรังเกยี จวา พวกเราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จงึกราบทลู เรอ่ื งน้ันแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลายพวกเธอคดิ อยางไร. ภิ. พวกขาพระพุทธเจา มคี วามประสงคจะใหต าย พระพุทธเจา ขา . ภ. ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย พวกเธอไมต อ งอาบัติปาราชิก แตต องอาบัตถิ ุลลัจจยั .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook