พระวินยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 416เข่ืองเกนิ ไป จึงทําใหเ ลก็ ลง หรอื บางไป จงึ ทําใหหนา หรอื หนาไป จึงทําใหบางลง แลวลนใหร อนดว ยไฟ ทาํ ใหแ ลนไปขางลา งหรือขา งบน; เปนปาราชกิ แมแกภกิ ษรุ ปู นน้ั . เธอเหน็ วา กอนยาพิษน้ี วางไวในที่ไมเ หมาะจงึ ถากใสใหบ างทกุ สวนทเี ดยี ว แลว เช็ดถู (ใหเ กลีย้ ง) เอาวางไวในท่ีอน่ื .เมอ่ื ภกิ ษปุ รุงเภสชั ดวยตนเอง แลวแทรกยาพิษเขา ดว ย ภิกษุผูเปน ตน เดมิยอ มไมพน เม่ือตนเองไมไดทํา ยอ มพน , แตถ าภิกษุรปู นัน้ เหน็ วา ยาพิษนี้มนี อยเกนิ ไป จึงนาํ เอายาพิษแมอืน่ มาเติมใสไ ว เปน ปาราชกิ แกภิกษเุ จาของยาพษิ ซง่ึ เปนเหตใุ หเ ขาตาย. ถา เขาตายไปเพราะยาพษิ ซึง่ เปน ของภิกษุแมท้ัง๒ รปู ก็เปน ปาราชิกแกเธอแมทง้ั ๒ รูป. ภกิ ษเุ หน็ วา ยาพิษนี้ หมดฤทธ์ิกลา แลว จงึ นาํ ยาพิษนนั้ ออกเสยี แลว วางยาพิษของตนเองไวแ ทน; เปนปาราชกิ แกภิกษุนั้นเทา นั้น, ภิกษุผูเ ปนตนเดมิ รอดตวั ไป. [ลอบวางอาวุธไวใตเตยี งหรือต่งั ] สองบทวา ทิพพฺ ล วา กโรติ ความวา ภิกษตุ ัดเตียงและต่ังภาย-ใตแมแคร หรือตดั หวายและเชอื กที่เขารอ ยไว ทําใหเหลอื ไวน ิดหนอ ยเทานนั้จงึ สอดอาวุธไวภายใต, เธอตดั สวนอนื่ แมแ หง วตั ถุ มกี ระดานสําหรับพงิ เปนตน ซ่ึงมตี นไมและกระดานสําหรบั ยึดเหน่ยี วในทจี่ งกรมเปน ทส่ี ดุ ออก แลวเอาอาวธุ สอดไวภายใต ดว ยหวังวา คนจกั ตกตายทอ่ี าวธุ น้.ี ภิกษุนาํ เตยี งตั่งหรอื กระดานสําหรบั พงิ มาวางไว ใกลบ อเปน ตน โดยประการที่คนพอนง่ั หรือพิงท่เี ตยี งเปนตนนัน้ กจ็ ะตกลงไป, หรือทาํ สะพานสําหรับเดินไปมาบนบอ เปน ตนใหชาํ รุดไว, เมือ่ ภกิ ษทุ าํ อยูอยา งน้นั เปนทกุ กฏ เพราะทาํ , เปนถลุ ลัจจัยเพราะกอ ทกุ ขใ หเ กิดขน้ึ แกคนนอกนี,้ เปนปาราชิก ในเพราะเขาตาย. ภิกษุนาํ เอาภกิ ษุดวยกนั ไปแลว พกั ไวบ นรมิ ปากบอ เปน ตน ดวยคดิ วา เธอเห็นแลว
พระวินยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 417สะทกสะทาน เพราะกลวั จักตกตาย ดังน้ี เปนทกุ กฏ. เธอตกไปอยางนั้นจรงิ ๆ, เปนถุลลัจจยั เพราะกอทกุ ขใ หเกดิ ข้นึ , เปนปาราชกิ ในเพราะเขาตาย. ตนเองผลกั ภกิ ษุรูปนั้นใหต กไป, ใชผูอ่นื ใหผลกั ตกไป, ผูอ่ืนมิไดส ่งัเลย ผลักใหต กไปตามธรรมดาของตน อมนษุ ยผลกั ใหตกลงไป, ตกไปเพราะถกู ลมพดั , ตกไปตามธรรมดาของตน ; เปน ปาราชกิ ในเพราะผูน ั้นตายทุกกรณี. เพราะเหตุไร. เพราะผูตายอยใู กลร มิ ปากบอ เปน ตน ดวยประโยคของภิกษุผเู ปนตนเดมิ นน้ั . [วาดวยการลอบวางดาบไว] การวาง (ดาบเปน ตน ) ไวใ นทีใ่ กล ชือ่ วา การลอบวาง. ในการลอบวางน้ัน มวี นิ จิ ฉยั ดงั น้ี:- ภิกษใุ ดพรรณนาคณุ แหงความตาย โดยนัยเปนตน วา ผูใ ดตายดว ยดาบนี้, ผูน ้ันจะไดทรัพย กด็ ี พูดวา ผูตอ งการตายจงตายดว ยดาบน้ี กด็ ี พูดวา ผตู อ งการตาย จงใหเ ขาฆา ดว ยดาบน้ี ก็ดี แลวลอบวางดาบไว, เปน ทุกกฏแกภิกษรุ ูปน้นั ในการลอบวางไว. บุคคลผอู ยากจะตาย จะใชดาบนน้ั ประหารตนเองก็ตาม ผูมีความประสงคจะใชใ หค นอื่นฆาจงเอาดาบน้ันประหารคนอืน่ กต็ าม, แมด วยการประหารทัง้ ๒ วธิ ี เปนถุลลัจจยัแกภ ิกษุผูลอบวาง เพราะกอ ทกุ ขใหเกดิ ข้นึ แกบุคคลอืน่ , เปนปาราชิก ในเพราะเขาตาย. เมื่อภกิ ษุวางไวไ มเ จาะจงเปน กองอกุศล ในเพราะคนสัตวเ ปนอนั มากตาย, เปนปาราชิกเปนตน ในเพราะวตั ถุแหงปาราชิกเปน ตน. ภิกษุนัน้ เมื่อเกดิ ความเดอื นรอ นขน้ึ จึงเกบ็ ดาบไวในท่ี ๆ ตนรับมา ยอมพน.ดาบเปนของทเ่ี ธอรับซ้ือมา, เธอคืนดาบใหแ กเ จาของดาบ ใหม ูลคาแกเ หลาชนผูท ต่ี นรบั เอามลู คามาจากมอื ของเขาแลว ยอ มพน. ถาภิกษุเอาแทงโลหะผาลไถหรือจอบไปใหชางทาํ เปน ดาบไซร, ถอื เอาภัณฑะใดมาใหทาํ ดาบ ครั้น
พระวินัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 418ทํากลับใหเปนภณั ฑะนัน้ อยางเดิม แลวจงึ จะพน. ถา ภิกษุยงั ดาบที่เอาจอบใหชางทาํ ใหเ สียหายไป แลวทําใหเ ปน ผาลไซร, แมเ มอื่ สัตวม ากหลายไดการประหารดว ยผาลตายไป ภิกษนุ น้ั ยอมไมพน จากปาณาตบิ าต. แตถา เธอใหหลอมโลหะขึ้นมาแลว ใหชางทําเปน ดาบ เพ่อื การลอบวางน่ันเอง, เม่ือดาบท่เี ธอเอาปลายเหล็กครดู ถแู ลวทําใหแหลกละเอยี ดกระจดั กระจายไป เธอจงึ จะพน . แมถาเปน ดาบท่ภี ิกษุมากรูปรวมอัธยาศัยกันทาํ ไว เปนเหมอื นใบลานที่เขยี นพรรณนา (คณุ ความตาย) ไวฉ ะน้ัน วนิ จิ ฉัยถึงขอถกู พันทางกรรมพงึทราบโดยนัยดังทกี่ ลา วแลว ในใบลานนน่ั แล. ในหอกและฉมวกก็นัยน.ี้ ในหลาวและไมคอนมีวินจิ ฉยั เชนกับท่กี ลา วแลว ในไมคันบวง. ในหินกอ็ ยางน้ัน.ในศสั ตราก็มวี นิ ิจฉยั เหมอื นดาบน่นั เอง. [วาดวยลอบวางยาพิษไวเ ปนตน ] บทวา วิส วา ความวา เม่อื ภิกษุลอบวางยาพษิ ไว พงึ ทราบวาเปน ปาราชกิ เปน ตน ในวัตถแุ หงปาราชกิ เปนตน โดยควรแกก ารเจาะจงและไมเ จาะจงดว ยอํานาจแหง วตั ถ.ุ ในยาพษิ ทภี่ ิกษุซื้อมาเก็บไว เธอทาํ ใหเ ปนปกตเิ ติมโดยนยั กอนแลว จึงจะพน. เม่อื ภกิ ษุผสมยาพษิ เขากบั เภสชั เสียเองเธอทาํ ไมใ หเปนยาพิษแลว จึงจะพนได. ในเชอื กมีวนิ จิ ฉัยเชนกับดวยเชอื กบวงนัน่ แหละ. ในเภสัช วนิ จิ ฉยั ดังน:ี้ - ภิกษใุ ด เมอ่ื ภิกษผุ มู เี วรเกดิ เปน ไขเชื่อมหรือโรคมสี วนเปนพษิ ขน้ึ มคี วามประสงคจ ะใหต ายเรียกวา วตั ถุมเี นยใสเปนตน เปน ทส่ี บาย ดงั นี้ จึงถวายเภสัชแมอนั เปนทไ่ี มส บาย หรือเหงาบวั รากไมและผลไมช นิดอน่ื บางอยา ง, พงึ ทราบวา เปน ทุกกฏแกภิกษุนน้ั ในเพราะถวายเภสัชอยา งนั้น, เปน ถลุ ลจั จัยและปาราชกิ ในเพราะกอทกุ ขใหเกิดขน้ึ แกผ อู ่ืนและในเพราะเขาตาย, เปน อนันตริยกรรม ในวัตถแุ หง อนนั ตริยกรรม
พระวินัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 419 [การนํารปู และเสยี งเปน ตนเขาไป] ในการนํารูปเขาไป มวี ินจิ ฉยั ดงั น้ี:- บทวา อุปสหรติ ความวา ภกิ ษพุ กั คนอ่ืนผูมีรปู ไมนาพอใจ ไวใ นทใ่ี กล ๆ บุคคลน้นั หรือเธอแปลงเพศเปน ยักษและเปรตเปน ตน ดว ยตนเองแลวยนื อยู พอเมื่อนาํ รปู เขาไป เปนทุกกฏแกภ กิ ษนุ นั้ , เปน ถลุ ลัจจยั ในการกอ ภัยใหเกิดขึน้ แคนอนื่ เพราะเหน็รูปนนั้ , เปน ปาราชกิ ในเพราะเขาตาย. แตถารูปนั้นเอง ยอ มเปน ท่ชี อบใจของคนบางคนไซร, และเขายอมซูบผอมตาย เพราะไมไ ด (รปู นน้ั ), ยอ มผิดสงั เกต. แมในรูปซง่ึ เปน ทช่ี อบใจ ก็มนี ยั เหมือนกันน.้ี ก็บรรดารูปซึ่งเปนท่ีชอบใจเหลา นั้น วา โดยพิเศษ รปู บรุ ษุ ยอ มเปนท่ีชอบใจของเหลาสตรี และรูปสตรี ยอ มเปนท่ชี อบใจของเหลา บรุ ุษ. ภิกษุตกแตง รปู นน้ั แลว กน็ าํ เขาไป คือทาํ เพียงใหเขาเหน็ เทา นัน้ , แตไมยอมใหแมเ พอ่ื จะดนู าน ๆ. คนนอกนยี้ อ มซูบผอมตายเพราะไมได (รูปน้นั ), ภกิ ษุเปนปาราชกิ , ถาเขาจกั ใจตาย, ยอมผิดสงั เกต. แตถา ภกิ ษไุ มพ จิ ารณาเลยวา เขาจักตกใจตาย หรอื จักซบู ผอมตาย เพราะไมไ ด นําเขา ไปดว ยคิดอยา งเดยี ววา เขาเหน็ แลว จกั ตาย ดังน,ี้ เม่อื เขาตกใจตาย หรือซบู ผอมตายเปน ปาราชกิ เหมือนกัน. แมกจิ ทั้งหลายมกี ารนําเสียงเขาไปเปน ตน กพ็ งึ ทราบโดยอุบายน้ี น่นั แล. จริงอยู ในเสียงเปน ตน นี้ (มีความแปลกกัน) อยา งเดยี วคือ (อารมณภายนอก) มเี สยี งของอมนุษยเ ปนตน พงึ ทราบวา เปนเหตใุ หเ กิดความสะดงุเปนสิง่ ที่ไมชอบใจ, เสยี งสตรีและเสียงของนักฟอ นที่ไพเราะเปนตน พึงทราบวา ทําความชืน่ จติ ให เปน เสยี งท่ีชอบใจ, กลน่ิ แหง รากไมเปน ตน ของตนไมท ่ีมพี ิษ ในปาหิมพานตและกลน่ิ แหง ซากศพ พงึ ทราบวา เปนกล่นิ ทไี่ ม
พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 420ชอบใจ, กลิ่นอนั เกดิ แตร ากไมม ีกฤษณาและกาํ ยานเปน ตน พึงทราบวา เปนกลนิ่ ทช่ี อบใจ รสอนั เกิดแตรากไมท ่ปี ฏิกลู เปนตน พงึ ทราบวา เปน รสทไี่ มชอบใจ, รสอนั เกดิ แตรากไมท ี่ไมป ฏิกูลเปน ตน พึงทราบวา เปน รสทีช่ อบใจ,ความสัมผัสยาพิษ และสมั ผสั หมามยุ ใหญเปน ตน พงึ ทราบวา เปน โผฏฐพั พะที่ไมชอบใจ, ความสัมผัสผา ทที่ อในเมืองจีน ขนปกหงสและนุนสําลเี ปน ตนพงึ ทราบวา เปน โผฏฐพั พะทช่ี อบใจ. [การนาํ ธรรมารมณเขาไป] ในการนําธรรมเขาไป มีวนิ จิ ฉยั ดงั นี้:- เทศนาธรรม พงึ ทราบวาธรรม. อกี อยางหน่ึง ธรรมารมณแ ล อันตางกันดว ยความวบิ ัติในนรก และสมบตั ใิ นสวรรค ดวยอาํ นาจแหง เทศนา (ก็พงึ ทราบวา ธรรม). บทวา เนรยิกสฺส ไดแ ก กลา วกถาพรรณนาเร่ืองนรก มีเครื่องจองจํา ๕ อยา ง และเครื่องกรรมกรณเ ปนตน แกส ัตวผ ูเสียสังวร ทําบาปไวซ่งึ ควรเกดิ ในนรก. ถาเขาฟง นิรยกถานนั้ ตกใจตาย, เปน ปาราชกิ แกภกิ ษุผูกลา ว. แตถ าแมเขาฟง แลว ตายไปตามธรรมดาของตน, ไมเปน อาบตั .ิ ภกิ ษุแสดงนิรยกถาดวยตัง้ ใจวา ผูนี้ไดฟ งนริ ยกถามน้ีแลว จักไมท าํ กรรมเหน็ ปานน้ีจักงด จักเวน บคุ คลนอกน้ี ฟงนริ ยกถานน้ั ตกใจตาย, ไมเ ปนอาบัต.ิ บทวา สคคฺ กถ ไดแก กลา วกถาพรรณนาสมบตั แิ หงของมีวิญญาณมเี ทพนาฎกาเปน ตน และแหง ของไมม ีวิญญาณมีสวนนนั ทนวันเปนตน. บคุ คลนอกนไี้ ดฟ งสัคคกถาน้นั นอมใจไปในสวรรคต อ งการไดสมบัตินั้นเรว็ ๆ ยังทุกขใหเ กดิ ขึ้น ดวยใชศัสตราประหารกินยาพิษ อดอาหาร และกล้นั ลมอัสสาสะปสสาสะเปนตน, เปนถุลลัจจัยแกภ ิกษผุ ูกลา ว, เขาตายไป เปนปาราชกิ แกภ กิ ษุผกู ลาว. แตถาแมเขาฟง แลว ตั้งอยูตลอดอายแุ ลว จงึ ตายตาม
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 421ธรรมดาของตน, ไมเปน อาบัติ. ภิกษุกลา วดว ยท้งั ใจวา ผูน ี้ไดฟ งสคั คกถานี้แลวจกั ทําบุญ บคุ คลนอกนฟ้ี งสคั คกถาน้นั แลว กลั้นใจทาํ กาลกริ ยิ า, ไมเปนอาบัติ (แกผ กู ลาว). ในการบอก มีวนิ จิ ฉยั ดงั นี้ :- สองบทวา ปุฏโ ภณติ มีความวา ภกิ ษถุ กู เขาถามอยา งน้วี า ทานขอรบั ; บุคคลตายอยางไร จงึ จะไดท รัพยหรอื จะเกดิ ขนึ้ ในสวรรค ? ดงั น้ี จงึ บอก. ในการพรํา่ สอน มวี ินิจฉยั ดังนี้ :- บทวา อปฏโ ไดแ ก ไมถกู เขาถามอยางนนั้ บอกเสยี เองน่ันแล. สงั เกตกรรมและนมิ ิตกรรม พึงทราบตามนัยท่กี ลาวมาแลว ในอทินนาทานกถา. [วาดว ยอนาปต ตวิ าร] พระอุบาลเี ถระ ครัน้ แสดงประเภทของอาบตั โิ ดยประการตาง ๆ อยา งนั้นแลว บดั น้ี เมือ่ จะแสดงอนาบตั ิ จึงกลา วคําวา อนาปตตฺ ิ อสจฺ ิจฺจเปนอาท.ิ บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา อสจฺ จิ ฺจ ไดแก ไมไ ดค ิดวา เราจกัฆา ผนู ี้ ดว ยความพยายามน.้ี จริงอยู เมื่อผูอื่นแมตายไปดว ยความพยายามที่ตนไมไดคดิ ทาํ อยางนัน้ ไมเ ปน อาบตั ิ. ประหนึง่ พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั ไวว าดกู อ นภกิ ษุ ! ไมเปน อาบัติเพราะไมแ กลง . บทวา อชานนตฺ สฺส ไดแก ไมร วู า ผูน ้จี กั ตายดว ยความพยายามน.้ีเมอ่ื ผอู น่ื แมต ายไปดวยความพยายาม ไมเปนอาบัติ. ดงั พระผมู ีพระภาคเจาตรัสไวไ นเรื่องบิณฑบาตเจือดว ยยาพิษวา ดกู อ นภิกษุ ! ไมตองอาบัติแกเธอผไู มรู.
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 422 ขอวา น มรณาธิปปฺ ายสสฺ ไดแก ไมป รารถนาจะใหตาย. จริงอยูผูอ ่นื จะตายดวยความพยายามใด, ครนั้ เม่อื ผูนนั้ แมถ กู ฆาตายดว ยความพยายามนัน้ ไมเ ปนอาบตั แิ กภ ิกษผุ ูไมประสงคจ ะใหต าย ดังพระผมู ีพระภาคเจา ตรัสไวว า ดกู อนภิกษุ ไมเ ปน อาบตั ิแกเธอผูไมป ระสงคจ ะใหต าย. ภิกษุบาเปน ตน มีนยั ดังกลาวแลว ในกอนนน่ั แล. ก็แลภกิ ษทุ ัง้ หลายผฆู า กนั และกันเปนตน บัญญตั ิในสิกขาบทน้ี ไมเปน อาบัตแิ กภ กิ ษุเหลานัน้ . แตคงเปน อาบัติแกภิกษทุ งั้ หลายที่เหลอื มีภกิ ษผุ ูพ รรณนาคุณความตายเปน ตน แล. ปทภาชนียวรรณนา จบ [ตตยิ ปาราชกิ สกิ ขาบท มีสมฏุ ฐาน ๓] ในสมุฏฐานเปนตน มีวินิจฉัยดงั นี้:- สิกขาบทน้ี มสี มฎุ ฐาน ๓คอื เกดิ แตกายกบั จิต ๑ เกิดแตว าจากบั จติ ๑ เกดิ แตกายวาจากับจติ ๑,เปน กิริยา เปนสัญญาวโิ มกข เปนสจิตตกะ เปนโลกวัชชะ เปน กายกรรมวจกี รรม เปน อกุศลจิต เปนทกุ ขเวทนา. จริงอยู ถา แมน พระราชาเสด็จขึ้นสูพ ระทบ่ี รรทมอนั ทรงสริ ิ เสวยสขุ ในราชสมบตั ิอยู เมื่อราชบุรุษกราบทูลวาขาแตสมมติเทพ ! โจรถกู นาํ มาแลว ตรัสทั้งทท่ี รงรื่นเรงิ แลวา จงไปฆามนัเสยี เถดิ พระราชานน้ั บัณฑิตพึงทราบวา ตรัสดว ยพระหฤทัยองิ โทมนัสนน่ั แล. แตพระหฤทยั ที่อิงโทมนสั น้นั อันปุถุชนทั้งหลายรไู ดยาก เพราะเจือดวยความสขุ และเพราะไมตดิ ตอกนั (ในวิถีแหง โทมนัส) ดวยประการฉะน้นั แล.
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 423 วนิ ีตวตั ถุในตติยปาราชกิ [เรื่องพรรณนาคณุ ความตาย] ในเรือ่ งแรก (ซึง่ มอี ย)ู ในคาถาแหงวินีตวตั ถทุ งั้ หลาย มีวินจิ ฉยัดงั ตอไปน้:ี - บทวา การุ เฺ น ความวา ภกิ ษเุ หลานน้ั เห็นความทุกขเ พราะความเปนไขอ ยางมากของเธอแลว เกิดความกรณุ าขึ้น ท้ังเปน ผูม คี วามตอ งการจะใหต ายดวย แตไมท ราบวาเธอมคี วามตอ งการจะตาย จงึ ไดพ รรณนาคณุความตายอยางนว้ี า ทา นเปน ผูม ีศีล ไดท ํากศุ ลไวแลว เพราะเหตไุ ร เม่อื จะตายจงึ กลัวเลา ? ข้ึนช่อื วา สวรรคข องผูม ศี ีล เปน ของเนื่องดว ยเหตเุ พียงความตายเทานัน้ มใิ ชหรอื ? ภิกษแุ มน น้ั กต็ ัดอาหาร เพราะการพรรณนา(คณุ ความตาย) ของภกิ ษุเหลา น้ัน แลว กม็ รณภาพไปในระหวางนนั้ เองเพราะเหตนุ นั้ ภิกษเุ หลาน้ัน จึงตอ งอาบัต.ิ แตท า นพระอุบาลีเถระกลาวไวดว ยอํานาจโวหารวา ภกิ ษเุ หลา นั้น ไดพ รรณนาคณุ ความตายดว ยความกรุณา,เพราะฉะนัน้ ถงึ ในบดั น้ีภิกษุผูเปนบัณฑติ กไ็ มควรพรรณนาคณุ ความตายอยา งนนั้ แกภิกษุผอู าพาธ. จริงอยู ถา ภิกษผุ ูอาพาธนน้ั ไดฟง การพรรณนาของภิกษนุ ัน้ แลว มรณภาพลงในระหวาง ในเมื่ออายแุ มย ังเหลอื อยชู ่วั ชวน-วาระเดียว ดว ยความพยายามมกี ารอดอาหารเปน ตน ไซร, เธอเปนผูช ่อื วาอนัภกิ ษนุ ีแ้ ลฆา แลว. แตค วรใหค าํ พรํ่าสอนโดยนัยนีว้ า ความเกิดขึ้นแหง มรรคและผลของทานผมู ีศลี เปน ของไมนาอศั จรรยเลย; เพราะฉะนนั้ ทานไมค วรทาํ ความเก่ียวขอ งในสถานท่มี วี หิ ารเปน ตน ควรตงั้ สตใิ หไ ปในพระพทุ ธเจาพระธรรม พระสงฆ และในกาย ทาํ ความไมป ระมาทในมนสิการ. และแม
พระวินัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 424เมื่อภกิ ษุพรรณนาคุณความตายแลว ภกิ ษุใดไมท ําความพยายามอะไร ๆ เพราะการพรรณนาน้นั มรณภาพไปตามธรรมดาของตนตามอายุ และตามความสบื ตอ (แหงอาย)ุ , ภกิ ษุผพู รรณนา อนั พระวนิ ัยธรไมค วรปรับอาบตั ิ เพราะความตายของภกิ ษุนน้ั เปน ปจ จัย ฉะน้แี ล. [เรอ่ื งภกิ ษนุ ่งั ทับเดก็ ตาย] ในคาํ วา น จ ภิกฺขเว อปฏิเวกฺขติ วฺ า เปนตน (ซง่ึ มอี ยู)ในเรื่องท่ี ๒ มีวนิ ิจฉัยดังนี:้ - ถามวา อาสนะ เชนไรตองพิจารณา เชนไรไมต อ งพิจารณา ? แกว า อาสนะลว น ๆ ไมมีเครอื่ งปูลาดขา งบน และอาสนะที่เขาปูลาดตอ หนา พวกภกิ ษผุ ูมายนื ดูอยู ไมต องพจิ ารณา, ควรน่ังได. แมบ นอาสนะที่ชาวบานเขาเอามือปรบ ๆ เองแลวถวายวา ขอนมิ นตน่งั บนอาสนะน้ีเถดิ ขอรับ !ดังน้ี กค็ วรนัง่ ได. ถาแมนวา ภกิ ษุหลายรปู มานั่งอยกู อนแลวแล. ภายหลังจงึ ขยบั ขึ้นไปขางบนหรือถอยรนลงมาขางลาง, ไมม กี ิจทจ่ี ะตองพจิ ารณา. แมบนอาสนะท่ีเขาเอาผาบาง ๆ คลมุ ไวใหม องเหน็ พ้ืน (อาสนะ) ได ไมม ีกิจท่ีจะตอ งพิจารณา. สว นอาสนะใด ซึ่งเปนของท่ีเขาเอาผา ปาวารและผา โกเชาวเปนตน ปลู าดไวก อนทีเดียว, ภิกษุควรเอามือลูบคลาํ กาํ หนดดูอาสนะน้นั เสยีกอนจงึ นงั่ . แตใ นมหาปจ จรี ทานกลา วไววา ในอาสนะใด แมที่เขาเอาผาสาฎกทีห่ นาปูลาดไว รอยยน ยอ มไมปรากฏ, อาสนะนน้ั ไมตอ งพิจารณา. [เรือ่ งภกิ ษทุ าํ สากลมฟาดถกู เด็กตาย] ในเรอ่ื งสาก มีวนิ ิจฉยั ดังนี้:- บทวา อสจฺ ิจโฺ จ ไดแ ก ผไู มม ีเจตนาจะฆา . จริงอยู ภิกษนุ ้ันมีความประกอบผิดพลาดไป; เพราะฉะนนั้ เธอจึงกราบทลู วา ขาพระพทุ ธเจา มิไดแ กลง เรอ่ื งครกมเี นอ้ื ความชดั เจนแลว แล.
พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 425 [เรอื่ งภกิ ษผุ บู ตุ รผลักภกิ ษุผูบดิ าลม ตาย] ในเร่ืองแรก (ซ่ึงมอี ยู) ในเรือ่ งพวกพระขรวั ตา มวี นิ ิจฉัยดังนี้:-(ภกิ ษผุ ูบุตรไดกลา วกะภกิ ษุผบู ิดา) วา ทา นอยา ไดท าํ ใหภิกษุสงฆเปน กังวลดังนี้ จงึ ผลกั (ภกิ ษุผบู ิดา) ไป. ในเร่อื งที่ ๒ มีวนิ ิจฉยั ดังนี้:- (ภกิ ษุผบู ุตรถูกเพ่อื นพรหมจารี)กลา วลอ เลียนอยทู ั้งในทามกลางสงฆบา ง ในทามกลางคณะบา งวา บตุ รของพระเถระแก อึดอดั อยูด วยคาํ พูดนน้ั จงึ ไดผลัก (ภกิ ษผุ ูบดิ า) ไปดว ยคดิ วาพระขรวั ตาน้ี จงตายเสียเถิด. ในเรือ่ งที่ ๓ มีวนิ จิ ฉยั ดังน้ี:- เปน ถุลลัจจยั แกภิกษุผบู ตุ ร เพราะกอ ทกุ ขใหเกดิ แกภกิ ษุผบู ดิ านัน้ . ๓ เร่ืองถดั จากน้ันไป มเี นอ้ื ความชัดเจนทัง้ นน้ั . [เรอื่ งภิกษุฉนั บิณฑบาตเจอื ยาพิษตาย] ในเร่อื งบณิ ฑบาตเจอื ดวยยาพษิ มวี นิ จิ ฉัยดังนี้:- ภิกษุผบู ําเพ็ญสาราณยี ธรรมนั้น ถวายบิณฑบาตสวนเลศิ แกเพ่ือนสพรหมจารีท้งั หลายเสียกอนจึงฉนั . เพราะเหตนุ ้นั ทานพระอุบาลีเถระ จึงกลาวไววา ไดถ วายบิณฑบาตน้ัน ทาํ ใหเปน ตนสว นเลิศ. บทวา อคฺคการิก ไดแก บิณฑบาตทีต่ นไดมาครัง้ แรก ซึ่งทําใหเปน สว นเลศิ , อกี อยางหนง่ึ อธิบายวา บิณฑบาตทีย่ อดเยีย่ มคอื ทป่ี ระณตี ๆ.ก็กริ ยิ าท่ีทําใหเ ปนสวนเลิศ กลาวคือการใหของภิกษุ นนั้ ใคร ๆ ไมอ าจถวายได. จริงอยูถ ึงบณิ ฑบาต (ตามปกติ) เธอกไ็ ดถวายตัง้ ตน แตอ าสนะพระเถระลงไป.
พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 426 สองบทวา เต ภิกฺขู ไดแ ก ภกิ ษเุ หลา นนั้ คอื ผฉู นั บิณฑบาตตงั้ ตนแตอาสนะพระเถระลงไป. ไดยนิ วา ภกิ ษุเหลานนั้ ไดม รณภาพทง้ั หมดทกุ รูป. คําที่เหลือในเร่ืองน้ี ชัดเจนทง้ั นั้น. อันภกิ ษุไดบ ิณฑบาตทีป่ ระณีตโดยเคารพ ในตระกลู พวกมิจฉาทิฏฐิผูไมม ีศรทั ธายังไมไดพิจารณา ตนเองไมควรฉนั ดวย ทงั้ ไมค วรถวายแกภ กิ ษุเหลา อื่นดวย. ภิกษุไดภัตตาหารหรอื ของควรขบฉนั แมส ่ิงใด ทเ่ี ปนของคางคนื มาจากตระกูลมิจฉาทิฏฐนิ ั้น, ภัตตาหาร.เปน ตน แมน นั้ ไมค วรฉัน. เพราะวา ตระกูลเหลา น้ัน ยอ มถวายแมวตั ถทุ ี่เขาไมไดเ อาอะไรปด ไว ซ่งึ มีงแู ละแมลงปอ งเปนตนนอนทบั อยู เปนของท่ีจะตอ งทิ้งเปน ธรรมดา. ภิกษุไมค วรรบั บณิ ฑบาตแมท เ่ี ปอนดว ยวตั ถุ มขี องหอมและขมิน้ เปน ตน จากตระกลู มิจฉาทิฏฐินน้ั . จรงิ อยู ตระกลู มิจฉาทิฏฐิเหลานน้ั ยอมสําคัญซ่ึงภตั ตาหารอนั ตนเอาเช็ดถูทีม่ ีโรคในรา งกายแลวเกบ็ ไวว าเปน ของควรถวายแล. [เรือ่ งภิกษทุ ดลองยาพษิ ] ในเร่อื งทดลองยาพษิ มีวินิจฉัยดงั นี้:- ภกิ ษเุ ม่ือจะทดลอง จงึทดลองทั้ง อยา ง (ทดลองยาพิษและบคุ คล) คอื ทดลองยาพษิ ดว ยคิดวายาพิษขนานน้ี จะสามารถฆา บคุ คลคนนตี้ ายหรือไมหนอ ? หรอื ทดลองบคุ คลดว ยคิดวา บคุ คลนี้ ดมื่ ยาพิษขนานนแี้ ลว จะพึงตายหรอื ไมหนอ ? เมอ่ื ภกิ ษุใหยาพิษดว ยความประสงคจะทดลองแมทง้ั ๒ อยา ง เขาจะตายหรอื ไมก ็ตามเปน ถลุ ลจั จยั . แตเม่ือภิกษใุ หย าพษิ ดว ยคดิ อยา งน้ีวา ยาพษิ ขนานน้ีจงฆาบุคคลน้ีใหต าย หรือวา บคุ คลคนนี้ ดื่มยาพษิ ขนานน้ีแลว จงตาย ดงั น,้ีถาบคุ คลนัน้ ตาย เปนปาราชกิ , ถา ไมตาย เปนถลุ ลัจจยั .
พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 427 เร่อื งการสงศลิ า ๓ เรอ่ื ง ถดั จากเร่อื งทดลองยาพษิ นไี้ ป และเรื่องกอ อิฐ เรื่องสงมีด และเรื่องสงกลอนอยางละ ๓ เรือ่ ง มีเนื้อความชดั เจนทั้งนั้น. ก็ความแตกตางแหง อาบตั แิ ละอนาบตั ิน้ี หามีดว ยอาํ นาจแหง ศลิ าเปน ตน อยา งเดียวเทานน้ั ไม. แตยอมมไี ดด วยอํานาจแมแหง วตั ถุมีไมพ ลองคอ น สิว่ และฟนเปนตนเหมือนกัน. เพราะฉะนน้ั วัตถุมไี มพลองเปน ตนนัน้แมม ไิ ดม าในพระบาลี กพ็ งึ ทราบโดยนัยทมี่ าแลว น่นั เอง. [เร่ืองภิกษผุ กู รา งรา น] ในเร่อื งผูกรางรา น มวี ินจิ ฉัยดงั น:ี้ - เตียงเหินฟา * ซงึ่ เปนของทพี่ วกชนผกู ไว เพอื่ ประโยชนแ กการงาน มีเสตกรรม (ฉาบทาสีขาว)มาลากรรม (เขียนลายดอกไม) และลดากรรม (เขียนลายเถาวัลย) เปน ตนเขาเรยี กวา รางรา น. ในเร่ืองผกู รา งรา นน้นั ภกิ ษุผมู คี วามประสงคจ ะใหต ายกลาวหมายเอาสถานทซ่ี ่ึงภกิ ษุผูยนื อยู แลวจะพึงพลัดตกลงกระทบตอ หรือจะพงึ มรณภาพไป ในบอและเหวเปนตนวา อาวุโส ! คณุ จงยนื ผกู ท่ีตรงน้ี. ก็บรรดาสถานทเ่ี หลานน้ั ภกิ ษบุ างรปู ยอมกาํ หนดทข่ี า งบนไวดว ยคดิ วา เขาจกั พลดั ตกจากท่ีนี่ตาย บางรปู ยอมกาํ หนดทข่ี างลา งไว ดว ยคิดวาเขาจกั พลัดตกตายจากที่น้ี บางรปู ยอ มกาํ หนดท่ีแมท ั้ง ๒ แหง ดวยตดิ วาเขาจกั พลัดตกจากท่นี ี้ แลวตายในทน่ี ี้. บรรดาสถานที่ ๆ ภิกษุกําหนดไวน ัน้ผูใ ดไมพลัดตกไปจากที่ ๆ ภิกษกุ าํ หนดไวขา งบน พลัดตกไปจากทีอ่ ื่นกด็ ี,ไมพ ลัดตกไปในที่ ๆ ภิกษกุ าํ หนดไวข า งลาง พลัดตกไปในที่อ่ืนกด็ ี, พลดั ตกพลาดไปในบรรดาท่ีกาํ หนดไวท ้ัง ๒ แหง แหงใดแหง หนึ่งก็ดี, เมื่อผนู ้นั ตายชอ่ื วา ไมเปน อาบัติเพราะมีความลักล่ัน. แมในเรอ่ื งมงุ วหิ ารก็นัยนี.้* เตยี งทผ่ี กู ไวบนอากาศ หรอื ขดั หา งท่เี ขาทาํ ไวบนตน ไมส ําหรับพักเพื่อดกั ยงิ สตั ว เรยี กวาเตยี งเหนิ ฟง หรือขดั หา ง.
พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 428 [เรอื่ งภิกษโุ จนลงเหวทบั ชางสานตาย] ในเรื่องภิกษุกระสัน มวี นิ ิจฉยั ดังนี:้ - ไดยินวา ภิกษุนนั้ เห็นความฟงุ ซา นข้นึ แหงอกุศลวติ กทัง้ หลาย มกี ามวติ กเปน ตน เม่อื ไมอ าจหามไดทงั้ ไมยินดใี นพระศาสนา จงึ เปน ผูมุงหนา ไปเพ่อื เปนคฤหัสถ แตภายหลงั คดิไดวา เราจกั ตาย ตราบเทา ทเ่ี รายังไมเ สียศีล. คราวนัน้ เธอจึงขึน้ ภเู ขานั้นแลวโจนลงไปในเหว ทับชา งสานคนใดคนหน่ึงตาย. บทวา วลิ ิวาการ แปลวา ชา งสานไมไ ผ. หลายบทวา น จ ภกิ ฺขเว อตฺตาน ปาเตตพฺพ ความวา ตนอันภิกษุไมพงึ ใหตกลงไป. กบ็ ทวา อตตฺ าน นั่น พระผูมพี ระภาคเจาตรัสดวยวภิ ัตติเปล่ียนแปลงไป. แตใ นอธิการวา ดว ยการยังตนใหต กไปนี้ ภกิ ษุไมควรยังตนใหตกไปอยางเดยี วก็หาไม, ถึงบุคคลอ่นื ก็ไมค วรฆาดว ยความพยายามอยางใดอยา งหนง่ึ โดยท่ีสดุ แมดวยการอดอาหาร. จรงิ อยู แมภ กิ ษุใด อาพาธมคี วามประสงคจะตาย เม่ือเภสชั และผอู ุปฏ ฐากมอี ยู ก็ตัดอาหารเสีย, ภิกษุนั้นตองทุกกฏทีเดียว. สวนภิกษใุ ด อาพาธหนกั เปน เคร่อื งผูกพนั อยูน าน(ตอ งรกั ษาพยาบาลอยนู าน) ภกิ ษุทั้งหลายผูอ ุปฏ ฐากอยู ยอ มลาํ บาก เกลียดชังคืออดึ อดั อยู ดว ยคดิ วา เมื่อไรหนอ ? พวกเราจกั พนจากภิกษอุ าพาธ. ถาภิกษนุ ั้น คดิ วา อัตภาพนี้ แมถ ูกประคบั ประคองไว กไ็ มด าํ รงอยู และภิกษทุ งั้ หลายกล็ าํ บาก แลวตัดอาหารเสีย ไมเสพเภสัช, ขอที่เธอตดั อาหารเสียน้ัน ยอ มควร. สวนภิกษุใดคิดวา โรคนรี้ ายแรง, อายสุ งั ขาร ยอมไมดาํ รงอยู, และการบรรลคุ ณุ วิเศษของเรานี้ ยอมปรากฏ เหมอื นอยูในเง้อื มมือแลว จงึ ตดั อาหารเสีย; ขอ ท่ีเธอตัดอาหารเสยี นัน้ ยอมควรเหมือนกนั .แมเ มอื่ ภิกษผุ ไู มอ าพาธ เกดิ ความสงั เวชข้นึ แลว ตดั อาหารเสีย ดว ยหัวขอ
พระวินัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 429กรรมฐาน เพราะตดิ ไดวา ชอื่ วา การแสวงหาอาหารเปน ทเ่ี น่นิ ชา , เราจกั ตามประกอบกรรมจานเทา น้ัน ดงั น,้ี ขอที่เธอตดั อาหารเสียน้ัน ยอมควร ภกิ ษุพยากรณการบรรลคุ ณุ วิเศษ แลวตดั อาหารเสยี ; ขอ น้ันยอ มไมค วร. แตจ ะบอกแกลชั ชภี ิกษทุ ง้ั หลาย ผเู ปนสภาคกัน ควรอยู. [เร่อื งภิกษฉุ ัพพคั คียก ลิง้ ศลิ าเลน ทบั คนเล้ียงโคตาย] ในเรอ่ื งศิลา มีวินิจฉยั ดงั น้:ี - บทวา ทวาย แปลวา ดว ยการเลน คือ ดว ยการหวั เราะ, อธิบายวา ดว ยการเลนคะนอง. ที่ชอ่ื วา ศิลาไดแก กอ นหิน. และไมใชแตหินอยางเดียว ถงึ ทอ นไม หรอื กอนอฐิ อยางใดอยางหนงึ่ แมอ นื่ ภิกษุจะใชมอื หรือเครอ่ื งยนตกลง้ิ ยอมไมค วร. พวกภกิ ษุพากนั หัวเราะเสสรวลกล้งิ อยกู ็ดี ยกขึน้ อยกู ็ดี ซง่ึ วตั ถมุ หี นิ เปน ตน เพ่อืประโยชนแกพ ระเจดยี เปน ตน, จดั เปนคราวทาํ การงาน; เพราะเหตุนนั้ กจิมกี ารกลง้ิ เปน ตน จึงควร พวกภิกษุ เมื่อจะทํานวกรรมแมอยา งอื่นเชน น้ีหรือจะซกั ส่ิงของ ยกตนไมห รือทอนไมส าํ หรบั ซกั ขนึ้ แลว กลง้ิ ไป, ขอ นน้ัยอมควร. ในเวลาทาํ ภตั กิจเปน ตน ภิกษุขวางทอ นไมห รอื กระเบ้ืองถว ยไปไลฝงู กา และเหลา สุนัขใหห นีไป; ขอ น้นั ยอมควร. เร่อื งท้งั หลายมเี ร่อื งนึ่งตัวเปน ตน มเี น้ือความชัดเจนทั้งหมดแลว.แล. อนง่ึ ในวสิ ัยแหง เรือ่ งน่งึ ตวั เปนตนน้ี อนั ภกิ ษไุ มค วรทาํ คิลานุปฏฐากดว ยคดิ วา เรามีความรังเกียจ ทุกอยา ง พึงเขาไปกําหนดกําลงั หรือไมมกี ําลังความชอบใจและความสบายของภกิ ษอุ าพาธ แลวทาํ โดยความเปน ผูหวังประโยชนเกอื้ กลู .
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 430 [เร่ืองภิกษุทาํ ยาใหหญิงมคี รรภก บั ชตู กไปเปนตน ] ในเรอื่ งหญงิ มีครรภก บั ชู มวี ินจิ ฉยั ดงั นี้:- บทวา ปวุฏฐปติกาแปลวา หญิงผมู ีสามีหยารา งไปนานแลว. บทวา คพฺภปาตน ไดแ ก เภสชัเชน กับขนานทหี่ ญิงบริโภคแลว เปนเหตใุ หครรภต กไป. เรือ่ งหญิงรวมผวั๒ คน มีเน้อื ความชัดเจนแลว แล. ในเร่ืองรีดลูก มีวนิ ิจฉัยดงั นี้:- หญิงมีครรภน ้ัน เมอื่ ภิกษบุ อกวาจงรดี ใหต กไปเองเถดิ วานใหผอู ื่นรีด ทําใหต กไป; เปน ผดิ ความมงุ หมายแมเมอ่ื ภิกษุบอกวา จงวานผอู น่ื รีดทําใหตกไปเถดิ แตน างรดี ทาํ ใหต กไปเสยีเอง; เปน ผิดความมงุ หมายเหมือนกนั . ช่อื วาปรยิ าย ในมนุสสวคิ คหะยอ มไมมี; เพราะเหตนุ ้ัน เมอ่ื ภกิ ษพุ ูดวา ข้นึ ชอื่ วาครรภถ กู รีดแลว จะตกไปเอง, หญงิ มคี รรภน ั้น จงรดี เองหรอื จงวานใหผ อู นื่ รดี ใหตกไปก็ตาม, ไมม ีความลกั ลน่ั เปนปาราชิกทีเดียว. แมในเร่ืองนาบครรภใหร อนก็นัยนีเ้ หมือนกัน. [เร่ืองภกิ ษุทํายาใหห ญิงหมันมีบตุ รตาย] ในเรื่องหญิงหมัน มวี ินิจฉยั ดงั น:ี้ - หญงิ ผไู มต ง้ั ครรภ ชอื่ วาหญิงหมนั . ธรรมดาหญิงไมตัง้ ครรภ ยอ มไมม ี แตว าครรภแ มท ่หี ญิงคนใดตั้งขึ้นแลว ไมด าํ รงอย,ู ขอ น้ี ทานกลาวหมายเอาหญงิ นน้ั . ไดยินวา ในคราวมีระดู หญงิ ทุกจําพวก ยอมต้งั ครรภ, แตอ กุศลวิบากมาประจวบเขาแกพวกสัตวผ เู กดิ ในทองของหญิงท่ีเรยี กกนั วา เปน หมนั น้.ี สตั วเหลา นัน้ถอื ปฏิสนธิมาดวยกศุ ลวบิ ากเพยี งเลก็ นอย ถกู อกุศลวิบากครอบงาํ จึงพนิ าศไป.จรงิ อยู ในขณะปฏสิ นธิใหม ๆ น่ันเอง ครรภท ้งั อยไู มได ดวยอาการ ๒ อยางคือดวยลม หรือสัตวเ ล็ก ๆ เพราะกรรมานภุ าพ ลมพดั (ครรภ) ใหแ หง แลว
พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 431ทาํ ใหอ นั ตรธานไป. สัตวเลก็ ๆ ท้ังหลาย กัดกิน (ครรภ ทําใหอันตรธานไป). แตเ มอ่ื แพทยป ระกอบเภสัช เพอื่ กําจดั ลมและพวกสัตวเ ลก็ นน้ั แลวครรภพ ึงทั้งอยไู ด. ภิกษนุ นั้ ไมไ ดปรงุ เภสชั ขนานน้นั ไดใ หเ ภสชั ทร่ี า ยแรงขนานอนื่ . นางไดต ายไป เพราะเภสัชขนานนัน้ พระผมู ีพระภาคเจา ไดท รงบัญญัติทกุ กฏไว เพราะภิกษุปรุงเภสัช. แมในเรอ่ื งที่ ๒ ก็นยั น้เี หมอื นกนั . [ภกิ ษุไมควรทาํ ยาแกชนอื่นแตควรทาํ ใหส หธรรมิกทัง้ ๕] เพราะฉะนน้ั ภกิ ษไุ มค วรทําเภสัชแกช นอน่ื ผมู าแลว ๆ, เม่ือทํา ตองทุกกฏ. แตค วรทําใหแกสหธรรมิกท้งั ๕ คอื ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี สกิ ขมานาสามเณร สามเณรี. จรงิ อยู สหธรรมิกทง้ั ๕ เหลานน้ั เปนผูมีศลี ศรทั ธาและปญ ญาเสมอกนั ทัง้ ประกอบในไตรสกิ ขาดวย ภิกษจุ ะไมทําเภสัชใหยอมไมได, และเม่ือจะทาํ ถา สิ่งของ ๆ สหธรรมกิ เหลานน้ั มีอย,ู พึงถือเอาส่ิงของ ๆ สหธรรมกิ เหลา นน้ั ปรงุ ให. ถา ไมม,ี ควรเอาของ ๆ ตนทาํ ให ถาแมข อง ๆ ตนกไ็ มมี พงึ แสวงหาดว ยภิกขาจารวัตร หรือจากทีแ่ หง ญาตแิ ละคนปวารณา (ของตน). เมื่อไมไ ด ควรนาํ ส่ิงของมาทําให แมด วยการไมทําวญิ ญัติ (คอื ขอในที่ ๆ เขาไมไ ดท ําปวารณาไว) เพื่อประโยชนแกคนไข.ควรทํา ยาใหแ กคนนี้ ๕ จําพวก แมอ่ืนอีก คือ มารดา ๑ บดิ า ๑ คนบํารงุมารดาบิดานั้น ๑ ไวยาจกั รของตน ๑ คนปณฑปุ ลาส ๑. คนผทู ี่ชือ่ วา ปณ ฑุ-ปลาส ไดแ ก คนผูเพง บรรพชา ยงั อยใู นวิหารตลอดเวลาท่ยี ังตระเตรียมบาตรและจวี ร. บรรดาชน ๕ จาํ พวกเหลา น้ัน ถามารดาและบิดาเปนใหญ ไมหวงัตอบแทนไซร, จะไมท าํ ใหก็ดีควร. แตถา ทานท้งั ๒ ดํารงอยใู นราชสมบัติยังหวงั ตอบแทนอย,ู จะไมท ํา ไมควร. เมื่อทา นทง้ั ๒ หวังเภสชั ควรใหเภสัช. เมอื่ ทา นทง้ั ๒ ไมร วู ธิ ีประกอบยาควรประกอบยาให. ควรแสวงหา
พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 432เภสัชเพือ่ ประโยชนแ กช น ๕ จาํ พวก มมี ารดาเปนตนแมท งั้ หมด โดยนยั ดังที่กลาวแลวในสหธรรมกิ นัน่ แล. ก็ถา ภกิ ษนุ ํามารดามาปรนนบิ ตั ิอยูในวิหาร,อยา ถกู ตอ งพึงบรกิ รรมทกุ อยา ง, พงึ ใหของเคีย้ ว ของบรโิ ภคดว ยมอื ตนเอง.สวนบิดาพึงบาํ รุงทาํ กิจทัง้ หลาย มีการใหอาบนา้ํ และการนวดเปน ตน ดวยมอืตนเอง เหมือนอยา งสามเณรฉะน้ัน. ชนเหลา ใดยอ มบํารงุ ประคับประคองมารดาและบิดา, ภกิ ษุควรทาํ เภสชั แมแ กช นเหลา น้ัน อยางนัน้ เหมอื นกนั .คนผูท ชี่ ือ่ วา ไวยาจกั ร ไดแ ก ผูร บั เอาคา จางแลว ตัดฟน ในปา หรือทาํการงานอะไร ๆ อยา งอืน่ . เมือ่ เกดิ เปน โรคข้นึ แกเขา ภิกษคุ วรทําเภสชั ใหจนกวา พวกญาตจิ ะพบเห็น. สวนผูใ ดเปนเพยี งคนอาศัยภิกษุ ทาํ การงานทุกอยา ง, ภกิ ษุควรทําเภสัชใหแ กค นคนน้ันเหมือนกนั . แมในปณ ฑุปลาสกค็ วรปฏบิ ตั ิเหมอื นในสามเณร ฉะนน้ั [ภกิ ษคุ วรทํายาใหค น ๑๐ จําพวก] ภกิ ษุควรทาํ ยาใหแกช น ๑๐ จําพวก แมอ ืน่ อกี คอื พชี่ าย ๑ นองชาย ๑ พ่หี ญงิ ๑ นอ งหญิง ๑ นา หญงิ ๑ ปา ๑ อาชาย ๑ ลงุ ๑ อาหญิง ๑นา ชาย ๑. ก็เมื่อจะทาํ ใหแ กช นมีพ่ชี ายเปน ตน นนั้ แมทง้ั หมด ควรเอาเภสชัอันเปนของ ๆ คนเหลานัน้ นน่ั แล ปรุงใหอยางเดียว, แตถาสิง่ ของ ๆ ชนเหลา น้ัน ไมเพยี งพอ และชนเหลานน้ั ก็ขอรอ งอยวู า ทานขอรับ ! โปรดใหพวกกระผมเถิด พวกกระผมจักถวายคืนแกพระคุณทาน, ควรใหเ ปน ของยืม,ถึงหากพวกเขาไมขอรอง, ภกิ ษคุ วรพดู วา อาตมา มีเภสชั อย,ู พวกทา นจงถอื เอาเปนของยืมเถิด หรอื ควรทําความผกู ใจไววา สงิ่ ของ ๆ ชนเหลานนั้จกั มีเมอื่ ใด เขาจักใหเมอ่ื นนั้ ดงั น้ี แลว พงึ ใหไ ป. ถาเขาคนื ใหค วรรับเอา,ถาไมค นื ให ไมควรทวง. เวนญาติ ๑๐ จาํ พวกเหลาน้ันเสีย ไมค วรใหเภสัช
พระวินยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 433แกชนเหลา อื่น. ก็เมอ่ื ภิกษใุ ชใ หญ าตินาํ จตปุ จจยั มาตราบเทาจนถึง ๗ ช่ัวเครือสกุล โดยสืบ ๆ กันมาแหงบุตรของญาติ ๑๐ จาํ พวก มีพ่ชี ายเปนตน เหลา นัน้ไมเ ปนการทาํ วิญญตั ิ เมือ่ ทําเภสชั (แกชนเหลาน้นั ) กไ็ มเปนเวชกรรมหรอื ไมเ ปน อาบตั ิ เพราะประทุษรา ยสกุล. ถา พี่สะใภ นอ งสะใภ หรอื พ่ีเขยนองเขย เปนไข, ถาเขาเปนญาติ, จะทําเภสัชแกญ าตแิ มเ หลาน้ัน ก็ควร.ถาเขามใิ ชญาตพิ งึ ทําใหแ กพ ช่ี าย และพห่ี ญิง ดวยสั่งวา จงใหใ นทป่ี ฏิบตั ขิ องพวกทาน. อกี อยางหน่ึง พึงทําใหแกบตุ รของเขา ดว ยสงั่ วา จงใหแ กมารดาและบิดาของพวกเจาเถดิ . พึงทราบวนิ ิจฉยั ในบททงั้ ปวงโดยอุบายน.้ี อนั ภกิ ษุเม่ือจะใชส ามเณรท้ังหลาย ใหน ําเภสชั มาจากปา เพือ่ ประโยชนแ กพสี่ ะใภ นองสะใภเปน ตน เหลาน้นั ควรใชพวกสามเณรทเ่ี ปน ญาติใหนาํ มา หรอื พงึ ใหนํามาเพือ่ ประโยชนแ กตนแลว จึงใหไป. แมพวกสามเณรผู ไมใชญาติเหลานนั้ก็ควรนํามาดว ยหัวขอวตั รวา พวกเราจะนํามาถวายพระอุปชฌายะ. โยมมารดาและบดิ าของพระอุปชฌายะ เปน ไข มายงั วิหาร, และพระอปุ ช ฌายะหลกี ไปสทู ศิ เสยี . สัทธิวหิ ารกิ ควรใหเ ภสชั อัน เปน ของ ๆ พระอุปช ฌายะ. ถาไมมีควรบรจิ าคเภสัชของตน ถวายพระอุปชฌายะใหไป. แมเ มอื่ ของ ๆ ตนก็ไมมีควรแสวงหาทาํ ใหเ ปนของ ๆ พระอุปชฌายะแลวใหไป โดยนัยดงั กลา วแลว.ในโยมมารดาและบดิ าของสัทธิวหิ าริก แมพ ระอุปชฌายะก็ควรปฏบิ ัติเหมอื นอยางนนั้ เหมอื นกัน. ในอาจารยแ ละอันเตวาสกิ กน็ ัยน.้ี [ภกิ ษุควรทํายาใหแ คน ๕ จาํ พวก] บคุ คลแมอ ื่นใด คือ คนจรมา ๑ โจร ๑ นักรบแพ ๑ ผเู ปนใหญ ๑ คนทีพ่ วกญาตสิ ละเตรียมจะไป ๑ เปนไขเ ขาไปสวู หิ าร ภกิ ษุผูไมหวังตอบแทน ควรทําเภสชั แกค นท้ังหมดนนั้ . ตระกลู ที่มีศรัทธาบาํ รงุ ดวย
พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 434ปจจัย ๔ ยอมต้งั อยใู นฐานเปนมารดาและบิดาของภกิ ษุสงฆ. ถา ในตระกลู นั้นมีคนบางคน เปน ไข, ชนท้ังหลายเรียนขอเพ่ือประโยชนแกผเู ปน ไขน ้นั วาทา นขอรับ ! ขอพระคณุ ทา นทาํ เภสัชให ดว ยความวิสาสะเถดิ , ไมควรใหทง้ั ไมควรทําเลย. กถ็ าพวกเขารสู ่ิงทค่ี วร เรยี นถามอยางนวี้ า ทา นขอรับ !เขาปรงุ เภสัชอะไรแกโรคชอื่ โนน ? ภกิ ษจุ ะตอบวา เขาเอาสิ่งนี้และส่งิ นี้ ทํา(เภสชั ) ดงั นี้ กค็ วร. ก็ภกิ ษถุ กู คฤหัสถเรียนถามอยางนี้วา ทา นขอรบั !มารดาของกระผมเปนไข ขอไดโ ปรดบอกเภสัชดวยเถดิ ดังนี้ ไมค วรบอก.แตค วรสนทนาถอ ยคาํ กะกันและกนั วา อาวุโส ! ในโรคชนิดนี้ ของภิกษุช่ือโนน เขาปรุงเภสัชอะไรแก ? ภิกษุท้ังหลายเรียนวา เขาเอาสิ่งนีแ้ ละนี้ปรงุ เภสัช ขอรับ ! ฝา ยชาวบาน ฟง คาํ สนทนานนั้ แลว ยอมปรงุ เภสชั แกมารดา; ขอทภี่ ิกษุสนทนากนั นั้น ยอ มควร. [เรอ่ื งพระมหาปทมุ เถระสนทนาเรอ่ื งยาแกโรค] ไดย นิ วา แมพระมหาปทุมเถระ เม่ือพระเทวีของพระเจา วสภะเกิดประชวรพระโรคขึ้น กถ็ ูกนางนักสนมคนหนงึ่ มาเรียนถาม ทา นกไ็ มพดู วาไมร ู ไดส นทนากบั พวกภิกษุเหมอื นอยางที่กลาวมาแลว นนแ้ี ล. ขาราชบรพิ ารฟงคําสนทนานนั้ แลว ไดปรุงเภสัชถวายแดพระเทวีพระองคน้ัน. และเมือ่พระโรคสงบลงแลว ขาราชบรพิ ารไดบ รรทุกผอบเภสัชใหเ ตม็ พรอ มท้งั ไตรจวี รและกหาปณะ ๓๐๐ นําไปวางไวใ กลเ ทา ของพระเถระ แลว เรยี นวา ทา นเจาขา ! โปรดทําการบชู าดว ยดอกไมเ ถิด. พระเถระคดิ วา นช้ี อื่ วาเปนสว นของอาจารย แลวใหไวยาจักรรับไวด ว ยอํานาจเปน ของกับปยะ ไดทําการบชู าดว ยดอกไมแ ลว . ภกิ ษุควรปฏิบัติในเภสัชอยา งน้กี อน.
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 435 [เรอ่ื งสวดพระปริตร] กใ็ นพระปรติ ร มวี ินิจฉยั ดังน:ี้ - ภิกษุถกู ชาวบานอาราธนาวาโปรดทาํ พระปรติ รแกคนไขเถดิ ขอรบั ! ดังน้ี ไมค วรทํา, แตเม่อื เขาอาราธนาวา โปรดสวดเถดิ , ควรทํา. ถา แมภ ิกษุนัน้ มีความวิตกวา ธรรมดามนุษยท้งั หลาย ยอ มไมรู, เมือ่ เราไมทาํ จกั เปน ผเู ดือดรอน ดงั น้,ี กค็ วรทาํ .สวนภิกษถุ ูกอาราธนาวา โปรดทําน้าํ พระปริตร เสนดา ยพระปรติ รใหเถิด ดงันี้ ควรเอามือ (ของตน) กวนนา ลบู คลาํ เสนดา ย ของมนษุ ยเ หลานั้นแลใหไ ป. ถาภิกษใุ หน า้ํ จากวหิ าร หรอื เสนดา ยซึง่ เปน ของ ๆ ตน เปนทกุ กฏ.พวกชาวบา นนั่งถอื นํ้าและเสน ดา ย กลา วอยวู า ขอนิมนตสวดพระปรติ ร ดังนีค้ วรทาํ , ถาเขาไมรู ควรบอกให. พวกชาวบานตรวจนา้ํ ทักษิโณทก* ลงและวางเสนดายไวใกลเทาทัง้ หลายของพวกภกิ ษผุ ูน ่งั อยูแ ลว ก็ไป ดว ยเรียนวา ขอนมิ นตท าํ พระปรติ รสวดพระปริตรเถิด ดังนี้, ภิกษุไมพ งึ ชกั เทาออกเพราะวา พวกชาวบา นจะเปนผมู ีความเดอื ดรอ น. พวกชาวบา นสง คนไปยงัวิหาร เพ่ือประโยชนแกคนไข ภายในบานดวยสั่งวา ขอภกิ ษทุ งั้ หลาย โปรดสวดพระปริตร ดังน,ี้ ภิกษุควรสวด. เม่อื โรคหรอื ความจัญไร เกิดข้นึ ในพระราชมณเฑียรเปน ตน ภายในบาน อิสระชนมีกษตั ริยเปนตน รบั ส่งั ใหอาราธนาภกิ ษมุ าแลว นิมนตใ หสวด (พระปริตรเปนตน ). ภกิ ษพุ ึงสวดพระสูตรทง้ั หลาย มีอาฏานาฏยิ สตู รเปนตน . แมเ มือ่ พวกชาวบา นสง คนไปนมิ นตวา ขอภิกษุทงั้ หลาย จงมาใหสิกขาบท แสดงธรรมแกค นไขเ ถดิ หรอื วาจงมาใหสกิ ขาบท แสดงธรรมทพ่ี ระราชวงั หลวง หรือท่ีเรอื นของอํามาตยเ ถิดดังน้ี ภิกษุควรไปใหส กิ ขาบท ควรกลา วธรรม. พวกชาวบานนมิ นตว า ขอ* อทุ กนตฺ ิ ทกฺขโิ ณทก. บทวา อุทก ไดแ ก นํ้าทกั ษโิ ณทก. สารตั ถทปี นี ๒/๔๒๗.
พระวินยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 436ภกิ ษทุ ั้งหลาย จงมาเพ่ือเปน บรวิ าร (เพอื่ น) ของคนตาย, ไมค วรไป. ภกิ ษุจะไปดวยมุงกรรมฐานเปนหลกั วา เราจักกลับไดมรณสติ เพราะเห็นกระดกู ในปาชา และเพราะเหน็ อสุภ ดังน้ี ควรอยู. ภกิ ษคุ วรปฏบิ ตั ิในพระปรติ ร ดงัพรรณนามาฉะนี้. [วาดว ยเรื่องอนามัฏฐบณิ ฑบาต] สว นในบณิ ฑบาต มวี ินิจฉยั ดงั น้:ี - ถามวา อนามัฏฐบณิ ฑบาตควรใหแ กใคร ไมควรใหแกใ คร ? แกว า ควรใหแกมารดาและบิดากอน. ก็หากวา บิณฑบาตนน้ั จะเปน ของมีราคาต้งั กหาปณะ กไ็ มจดั วาเปน การยงั ศรทั ธา-ไทยใหตกไป, ควรใหแมแกค นเหลา นี้ คือ พวกคนบํารงุ มารดาบิดา ไวยาจกั รคนปณฑปุ ลาส. บรรดาคนเหลา นนั้ สําหรับคนปณฑปุ ลาส จะใสใ นภาชนะให กค็ วร. เวน คนปณ ฑุปลาสนน้ั เสีย จะใสใ นภาชนะใหแ กค ฤหัสถเหลา อน่ืแมเ ปน มารดาบิดา ก็ไมค วร. เพราะวา เครอ่ื งบรโิ ภคของบรรพชติ ท้งั อยูในฐานเปน เจดียข องพวกคฤหัสถ. อีกอยางหน่ึง ชื่อวาอนามัฏฐบณิ ฑบาตนีพ้ งึใหแกโจรผูลือช่ือบา ง ทงั้ แกอ สิ รชนบาง ผูม าถึงเขา. เพราะเหตไุ ร ? เพราะเหตวุ า ชนเหลานัน้ แมเม่ือไมให กโ็ กรธวา ไมให แมเ มอ่ื จับตองให ก็โกรธวา ใหของเปนเดน. ชนเหลาน้นั โกรธแลว ยอ มปลงจากชีวติ เสยี บางยอมทําอนั ตรายแกพระศาสนาบาง. กใ็ นขอ น้ี พึงแสดงเรือ่ งพระเจา โจรนาคผูเทียวปรารถนาราชสมบตั ิ (เปน อทุ าหรณ). ภกิ ษุควรปฏบิ ตั ิในบิณฑบาต ดงัพรรณนามาฉะนี้. [วาดวยเร่ืองปฏิสนั ถาร] สว นในปฏสิ นั ถาร มวี นิ จิ ฉยั ดงั นี้:- ถามวา ปฏสิ นั ถาร ควรทาํแกใ คร ไมค วรทาํ แกใคร แกว า ชือ่ วา ปฏสิ นั ถาร อันภกิ ษุควรทาํ ท้ังนน้ั แก
พระวินัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 437ผูใดผหู น่ึงทม่ี าถึงวิหาร จะเปนคนจรมา คนเขญ็ ใจเปนโจร หรอื เปน อสิ รชนก็ตาม. ถามวา พึงทาํ อยางไร. แกวา เห็นอาคันตกุ ะ หมดเสบยี งลง มาถงึ วหิ าร พงึ ใหน ้ําด่มื กอน ดวยกลาววา เชิญด่ืมน้ําเถิด, พึงใหนํา้ มันทาเทา.อาคนั ตุกะมาในกาลพึงใหข า วยาคแู ละภตั . อาคนั ตุกะมาในเวลาวิกาล ถาขา วสารมี พึงใหขา วสาร, ไมควรพูดวา ทานมาถงึ ในคราวมใิ ชเวลา, จงไปเสยี . พงึ ใหทนี่ อน. ไมหวังความตอบแทนเลย ควรทํากจิ ทุกอยาง. ไมค วรใหความคดิ เกิดข้นึ วา ธรรมดามนษุ ย ผใู หป จ จัย ๔, เม่ือเราทาํ การสงเคราะหอยอู ยา งนี้ จักเลือ่ มใสทาํ อปุ การะบอ ย ๆ. ถึงแมว ตั ถุของสงฆ ก็ควรใหแ กพวกโจรได. และเพือ่ แสดงอานสิ งสปฏสิ นั ถาร พระอรรถกถาจารย จึงกลา วเรอ่ื งไวห ลายเรอ่ื ง ในมหาอรรถกถา โดยพสิ ดารมอี าทิอยางน้ี คอื เรอื่ งพระเจา โจรนาค เรื่องพระเจา มหานาคผเู สดจ็ ไปชมพทู วีปพรอ มกับพระราชภาดา-เรอื่ งอํามาตย ๔ นาย ในรชั สมยั แหงพระเจาปตุราช เรอื่ งอภัยโจร. [เรือ่ งพระอภยั เกระทาํ ปฏสิ ันถารกับอภัยโจร] บรรดาเรอ่ื งเหลา น้ัน จะแสดงเร่ืองหนงึ่ ดงั ตอไปน:ี้ - ดังไดสดบั มาในเกาะสงิ หล โจรช่ืออภยั มบี รวิ ารประมาณ ๕๐๐ คน ตง้ั คายอยู ณ ที่แหงหนึ่ง ทาํ ประชาชนใหอ พยพไปตลอด (ทม่ี ปี ระมาณ) ๓ โยชนโดยรอบ. ชาวเมืองอนุราธบรุ ี ขามแมนํ้ากฬมั พนทีไมได. ในทางไปเจตยิ คิรีวิหาร ขาดการสญั จรไปมาของประชาชน. ตอ มาวันหนงึ่ โจรไดไ ปดว ยหมายใจวา จกั ปลนเจติยคริ ีวหิ าร. พวกคนวัด เห็นจึงบอกแกพ ระทีฆภาณกอภัยเถระ. พระเถระถามวา เนยใสและนํ้าออยเปนตน มีไหม ? พวกคนวดั . มี ขอรับ ! พระเถระ. พวกทานจงใหแ กพ วกโจร.
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 438 พระเถระ. ขา วสาร มีไหม ? พวกคนวัด. มี ขอรับ ! ขา วสาร ผกั ดอง และโครส ท่เี ขานาํ มาเพอ่ื ประโยชนแกส งฆ. พระเถระ พวกทานจงจัดภตั ใหแกพวกโจร. พวกคนวัด ทําตามพระเถระส่งั แลว . พวกโจรบรโิ ภคภัตแลว จึงถามวา ใครทาํ การตอนรับ ?. พวกคนวัด. พระอภยั เถระผเู ปน เจาของพวกเรา. พวกโจรไปยังสาํ นักของพระเถระ ไหวแ ลว กราบเรยี นวา พวกกระผมมาดว ยหมายใจวา จกั ปลน เอาของสงฆและของเจดยี แ ตกลบั เลอื่ มใสดวยปฏิสนั ถารนขี้ องพวกทา น, ตั้งแตวันนี้ไป การรกั ษาทชี่ อบธรรมในพระวิหารจงเปนหนา ทขี่ องพวกกระผม, พวกชาวเมอื งจงมาถวายทาน จงไหวพระเจดีย.และต้ังแตวันนั้นมา เมือ่ ชาวเมอื งมาถวายทาน พวกโจร ก็ไปตอนรบั ถงึ รมิฝง แมนํ้าทีเดยี ว คอยรกั ษานําไปพระวิหาร ; เมื่อพวกชาวเมอื งกําลงั ถวายทานอยแู มใ นพระวิหาร กพ็ ากนั ยนื ทาํ การรกั ษาอยู. แมช าวเมืองเหลา น้ันกใ็ หภตั ที่เหลือจากภกิ ษุทัง้ หลายฉนั แลว แกพวกโจร. แมใ นเวลากลบั ไป พวกโจรเหลานน้ั กช็ ว ยสงชาวเมอื งถึงริมฝง แมน า้ํ แลว จงึ กลับ. [พระเถระถูกพวกภกิ ษโุ พนทะนา] ตอ มาวนั หนึ่ง เกดิ คาํ คอนขอดข้นึ ในหมภู ิกษวุ า พระเถระไดใ หของ ๆสงฆแกพวกโจร เพราะถือวาตวั เปนใหญ. พระเถระส่ังใหทาํ การประชมุ(สงฆ) แลว กลา ววา พวกโจรพากนั มา ดวยหมายใจวา จักปลนเอาทรพั ยคา อาหารตามปกตขิ องสงฆ และของเจดีย; เมอ่ื เปน เชนนั้น เราจึงไดท ําปฏิสันถารแกพ วกโจรเหลาน้ัน ซงึ่ มีประมาณเทาน้ี ดว ยคิดเหน็ วา พวกโจร
พระวินยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 439จกั ไมปลน ดว ยอาการอยา งนี้ พวกทานจงประมวลสงิ่ ของน้นั แมท้ังหมดรวมกนั เขาแลว ใหตรี าคา, จงประมวลส่งิ ของท่ีพวกโจรไมปลน ไป ดว ยเหตุนนั้รวมกันเขาแลวใหต รี าคา (เทยี บกันด)ู . ทรัพยท พ่ี ระเถระใหไ ปแมทัง้ หมดจากทรัพยของสงฆนน้ั มีราคาไมเทาเครือ่ งลาดอันวิจติ ดว ยรปู ภาพอันงามผืนหนง่ึ ในเรือนพระเจดยี . ลําดับนนั้ ภิกษุท้งั หลายกลาววา ปฏิสันถารที่พระ-เถระทาํ แลว เปนอันทําชอบแลว , ใคร ๆ ไมไ ดเพือ่ จะโจท หรอื เพอ่ื ทาํ ใหทานใหการ, ไมม ีสินใช หรอื อวหาร. ปฏิสนั ถาร มีอานสิ งสมากอยางนี้ภกิ ษผุ บู ัณฑติ กําหนดดังกลา วมานี้แลว ควรทาํ ปฏิสนั ถาร ฉะนน้ั แล. [เรือ่ งภิกษุฉัพพคั คยี จภ้ี กิ ษสุ ตั ตรสวคั คียเ ปน ตน] ในเรอื่ งจด้ี ว ยนวิ้ มือ มวี ินจิ ฉยั ดังน:้ี - บทวา อตุ ตฺ สนโฺ ต ไดแก ผเู หน็ดเหนอ่ื ย. บทวา อนสสฺ าสโก ไดแก ผหู ายใจออกไมท นั . กแ็ ลอาบัติท่จี ะพงึ มีในเรือ่ งนี้ ทรงแสดงไวแ ลว ในพวกขทุ ทกสิกขาบท, เพราะเหตนุ ั้น จงึ ไมตรสั ไวใ นสิกขาบทนี้ . ในเรอื่ งอนั มีในลาํ ดับแหงเรอ่ื งจี้ ดว ยน้วิ มอื นัน้ มีวินิจฉยั ดังน้:ี - บทวา โอตฺถริตวฺ า แปลวา เหยียบแลว . ไดส ดบั มาวา ภกิ ษรุ ปู นนั้ ลม ลงถูกพวกภกิ ษสุ ัตตรสวคั คียเหลา นั้นฉุดลากไปอย.ู ภิกษุรูปหนึ่งขนึ้ น่ังทบั ทองของเธอ. ภิกษุ ๑๕ รปู แมท่ีเหลือ กช็ ว ยกันทับลงไปท่ีแผน ดินจนตาย เหมอื นหินฟาถลม ทับมฤคตาย ฉะนน้ั . ก็เพราะภกิ ษสุ ตั ตรสวคั คยี เหลา น้ัน มคี วามประสงคจะลงโทษ หามคี วามประสงคจ ะฆาใหตายไม; ฉะนน้ั พระผมู ี-พระภาคเจา จึงไมปรับเปน ปาราชิก.
พระวินัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 440 [เร่อื งภกิ ษุฆายกั ษ ตอ งถลุ ลจั จยั ] ในเรอ่ื งภิกษหุ มอผี มีวนิ จิ ฉยั ดังน:ี้ - สองบทวา ยกฺข มาเรสิความวา พวกอาจารยผ ูขบั ไลภูตผี ตองการจะปลดเปลือ้ งบุคคลผถู ูกยักษเ ขาสิง จึงเรยี กยักษใหออกมา แลว พูดวา จงปลอ ย, ถายกั ษไมป ลอ ย, อาจารยหมอผี กเ็ อาแปง หรือดนิ เหนียว ทําเปนรปู หุนแลวตดั อวยั วะมีเมอื และเทา เปนตนเสีย. อวยั วะใด ๆ ของรปู หนุ นัน้ ขาดไป, อวัยวะนัน้ ๆ ของยักษ ยอมช่อืวา เปนอนั หมอผีตัดแลวเชน กัน. เมือ่ ศรี ษะ (ของรปู หุน นนั้ ) ถูกตดั แมยกั ษก็ตาย. ภิกษหุ มอผีแมนน้ั ไดฆายักษตาย ดว ยวิธดี งั กลาวมานี้. เพราะเหตนุ นั้ พระผมู ีพระภาคเจา จึงปรับเปนถุลลจั จยั . เปนถุลลัจจัยแกภิกษผุ ูฆายักษอ ยา งเดียวเทานนั้ กห็ าไม. จริงอยู แมภ กิ ษใุ ด พงึ ฆาทา วสกั กเทวราชตาย, ภิกษุแมน นั้ กต็ องงถุลลจั จยั เหมือนกนั . [เรือ่ งสงภกิ ษุไปสทู ม่ี ีสตั วร ายและยกั ษด ุ] ในเร่ืองยักษดุรา ย มวี ินิจฉัยดังน:ี้ - บทวา วาฬยกขฺ วหิ ารความวา (สง ไป) สวู หิ ารท่ีมียกั ษดรุ า ยอย,ู จรงิ อยู ภิกษุใด เมือ่ ไมทราบวิหารเหน็ ปานน้ัน จึงไดสง (ภกิ ษบุ างรูป) ไป เพือ่ ตอ งการใหพกั อยอู ยางเดยี ว, ไมเ ปน อาบตั แิ กภิกษุน้นั . ภิกษุใด มีความประสงคจะไหตาย จงึ สง ไปภกิ ษนุ ั้นตอ งปาราชกิ ในเพราะภกิ ษนุ อกนต้ี าย ตองถุลลัจจยั เพราะไมต าย.บณั ฑิตพงึ ทราบความตา งกัน แหงอาบัตแิ ละอนาบตั ิ แมข องภิกษุผูสง (ภกิ ษุอีกรูปหน่ึง) ไปสูวิหารท่รี าย ซงึ่ มีพวกมฤคมรี าชสหี แ ละเสือโครง ที่ดุรายเปนตน หรอื มีทีฆชาตทิ ้ังหลายมีงูเหลอื มและงเู หา เปนตนอยูอาศยั เหมอื นอยางภิกษสุ งภิกษุอกี รปู หนึง่ ไปสูว ิหารทีม่ ียกั ษดุรา ย ฉะนนั้ .
พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 441 นัยทพี่ น จากบาลี มดี งั ตอไปน้ี :- บณั ฑิตพงึ ทราบความตา งแหงอาบตั ขิ องภิกษุผสู งแมยกั ษท่รี ายไปสสู าํ นักของภกิ ษุ เหมือนอยางภิกษุสง ภกิ ษุไปสวู ิหารท่ีมยี ักษดรุ า ย ฉะน้ัน. ในเรอ่ื งทงั้ หลายน้ี ทางกันดารดวยสตั วรา ยเปน ตน ก็นยั นเี้ หมอื นกนั . จรงิ อยู ในเรอื่ งทางกันดารมสี ัตวร ายเปนตนนี้ มีเพียงใจความเฉพาะบทอยา งเดียวเทานน้ั เปนช่อื . (ที่ตา งกัน) อยางนี้ คือทางกันดารทม่ี ีพวกมฤคท่ดี รุ าย หรอื มที ฆี ชาติอยู ชื่อวาฬกันดาร, ทางกันดารที่มีพวกโจรอยชู อ่ื โจรกันดาร. อันธรรมดาวา มนุสสวคิ คหปาราชกิ นลี้ ะเอียดยอมไมพ น ดวยปริยายกถา (กถาโดยทางออม). เพราะฉะน้ัน ภกิ ษใุ ดพงึ กลาววา ผูใดตัดศรี ษะของโจร ผนู ง่ั อยใู นโอกาสช่อื โนนแลว นํามา, ผนู น้ั ยอมไดสกั การะวเิ ศษจากพระราชา ดังน้ี. ถามีใครไดฟง คําของภกิ ษนุ ้ันแลว ไปฆา โจรนัน้ เสยี , ภกิ ษนุ ย้ี อมเปนปาราชกิ แล. [เรือ่ งสาํ คัญวาเปนภิกษุคูเวรแนจ งึ ฆา เสีย] ในคาํ มีอาทวิ า ต มณฺมาโน มีวนิ ิจฉยั ดังน:ี้ - ไดย ินวาภิกษนุ ้ันใครจะฆาภกิ ษุผมู เี วรของตน จึงคิดวา การทีเ่ ราจะฆาภิกษผุ ูค เู วรนใ้ี นกลางวนัหนไี ปโดยความปลอดภัย ไมพ งึ เปนส่งิ ทท่ี ําไดง า ย เราจกั ฆาภิกษนุ ัน้ ในกลางคนื , ครั้น กําหนดไวแ ลว มาในกลางคืนสาํ คญั วาภกิ ษุผูคเู วรนัน้ แน ในสถานที่ภิกษุมากรูปจาํ วัด จงึ ปลงภกิ ษุรปู นั้นนนั่ เองจากชีวติ , อีกรูปหนง่ึสําคญั วาภิกษผุ ูคูเ วรน้นั แน แตป ลงภกิ ษุรปู อ่นื จากชวี ิต, อีกรปู หน่ึง สําคัญวาภิกษุอ่นื แนซ ง่ึ เปน สหายของภกิ ษผุ คู เู วรนั้นนั่น เอง แตก ็ปลงภกิ ษผุ ูคูเ วรนนั้จากชวี ิต, อกี รปู หน่ึง สําคัญวา ภกิ ษุอ่ืนแนซ ึง่ เปน สหายของภิกษุผูคเู วรน้ันนั่นเอง แตกป็ ลงภกิ ษุอ่ืน ซ่ึงเปนสหายของภิกษุผคู เู วรน้ันนน่ั แลจากชีวติ ;เปนปาราชกิ แกเธอท้ังหมดเหมอื นกนั .
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 442 [เรอ่ื งผีเขาสิงภกิ ษ]ุ ในเรื่องของภกิ ษผุ ูถกู ผเี ขาสิง มวี ินิจฉัยดงั น้ี:- ภิกษุอกี รปู หนงึ่ไดใ หการประหาร (แกภิกษุผถู กู ผเี ขาส่ิงนั้น ) ดว ยคิดวา จักขับไลย ักษใหหนีไป. ภกิ ษุนอกจากน้ี คิดวา คราวน้ี ยักษนี้ ไมส ามารถจะทําพิรธุ ได,เราจกั ฆา มันเสีย ไดใหก ารประหาร. และในเรื่องของภกิ ษผุ ถู กู ผีเขา สิงเรอื่ งแรกนี้ พระผูมพี ระภาคเจาตรสั วา ไมเปน อาบัตแิ กภกิ ษุ ผไู มม คี วามประสงคจะใหตาย เพราะเหตนุ น้ั ดวยพระพทุ ธดาํ รัสเพียงเทา นีน้ น่ั แล ภกิ ษุจงึ ไมค วรใหก ารประหารแกภกิ ษผุ ถู ูกผสี ิง, แตพ ึงเอาใบตาลหรือเสน ดายพระปรติ รผูกไวทีม่ อื หรือเทา. พึงสวดพระปริตรทั้งหลาย มรี ตั นสูตรเปนตน พงึ ทําธรรมกถาวา ทา นอยา เบยี ดเบยี นภกิ ษผุ มู ีศีล ดงั น้.ี เร่อื งพรรณนาสวรรคเ ปน ตน มีเนื้อความชัดเจนแลว . ก็คาํ ทพี่ ึงกลาวในเรอ่ื งพรรณนาสวรรคเปน ตนนี้ ขา พเจาไดก ลา วไวแลว แล. [เรอื่ งภิกษุตดั ตนไม] เรื่องตดั ตนไม กเ็ ชนเดียวกบั เรอ่ื งผกู รางราน. แตม ีความแปลกกันดังตอ ไปน:้ี - ภิกษุใด แมถ ูกตนไมลมทบั แลว ยังไมมรณภาพ และเธอสามารถจะตดั ตนไมหรือขุดแผนดนิ แลวออกไปโดยขาง ๆ หน่งึ ได, และในมอืของเธอก็มมี ดี และจอบ *อยู ภิกษุแมน ัน้ ควรสละชีวิตเสีย. และไมควรตดั ตนไมหรอื ไมค วรขดุ ดิน. เพราะเหตไุ ร ? เพราะเหตวุ า ภิกษเุ ม่ือทําอยา งนนั้ ยอมตอ งปาจติ ตยี ยอมหักรานเสียซึง่ พุทธอาณา ยอมไมท ําศลี ใหมีชวี ิตเปนทีสดุ ;เพราะเหตุนนั้ ถึงแมช ีวติ ก็ควรสละเสยี แตไมค วรสละศีล; ครน้ั ภิกษคุ ํานวณไดร อบคอบดังกลาวมาแลวน้ี ไมพึงทาํ (การตดั ตน ไมและขุดดิน) ดวยอาการ* กธารี ผง่ึ ถากไม, ขวานโยน, จอบ.
พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 443อยางน.้ี การตดั ตน ไมหรือขุดดนิ แลว นําภกิ ษุนนั้ ออก ยอมควรแกภิกษุรูปอืน่ . ถา เธอจะพงึ ถูกเขากล้ิงตน ไมไปดว ยครกยนตนาํ ออก ควรตัดเอาตนไมน ั้นน่นั เอง ใชเ ปนครกแล. พระมหาสุมัตเถระกลาววา จะตดั เอาตนไมแมอ ่ืนก็ควร. พระมหาปทมุ เถระกลา ววา ในการผกู พะอง (บนั ได) ชวยคนแมผ ูตกลงไปในบอเปนตนใหขน้ึ ไดก็นัยนเ้ี หมอื นกัน, ภกิ ษไุ มควรตดั ภตู คามทําพะองดวยตนเอง. การทํา (พะอง) แลว ยกข้นึ ยอมสมควรแกภกิ ษเุ หลาอนื่ . [เร่อื งภิกษุฉพั พัคคียเผาปา] ในเรื่องเผาปา มีวินิจฉัยดงั น้:ี - สองบทวา ทาย ลมิ เฺ ปสุ*ความวา พวกภิกษฉุ ัพพคั คีย ไดจุดไฟในปา . ก็ในเร่ืองเผาปาน้ี บณั ฑิตพงึทราบวา เปนปาราชิกเปน ตน โดยสมควรแกวตั ถุแหงปาราชิก อนนั ตรยิ กรรมถลุ ลัจจัย และปาจติ ตีย ดว ยอํานาจประโยคทเ่ี จาะจงและไมเจาะจง และความเปน กองอกศุ ล โดยนัยดงั กลา วแลว ในกอ นน่นั แล, พระอรรถกถาจารยก ลา วไวใ นสังเขปอรรถกถาวา กเ็ มื่อภิกษุเผาดว ยคดิ วา หญา สดและไมเจา ปาท้ังหลายจงถูกไฟไหม เปนปาจิตตยี , เมอื่ เผาดวยคดิ วา เครอื่ งอปุ กรณไมท ้งั หลายจงพนิ าศไป เปนทกุ กฏ, เมื่อเผาแมด ว ยความประสงคจ ะเลน กเ็ ปน ทกุ กฏ.เมอื่ เผาดวยคิดวา ไมส ดและไมแหงชนดิ ใดชนดิ หน่งึ ซ่งึ มอี นิ ทรียและไมมีอินทรียก ็ตามจงถูกไฟไหม พงึ ทราบวา เปนปาราชกิ ถลุ ลัจจยั ปาจิตตียและทกุ กฏ ดวยอํานาจแหงวัตถุ. กก็ ารจดุ ไฟรบั และทาํ การปอ งกนั พระผมู ีพระภาคเจา ทรงอนุญาตไวแ ลว . เพราะฉะนั้น การท่ีภิกษุเหน็ ไฟทีพ่ วกวนกรรมิกชนจดุ หรอื เกิดข้นึ เองในปา กําลังลุกลามมา แลวจุดไฟรับไฟซงึ่ จะเปนเหตใุ หไฟลุกลามมาบรรจบกนั เขาไหมเ ช้อื หมดแลวดบั ไป ดว ยทัง้ ใจวากระทอมหญา ท้งั หลาย อยาพนิ าศ ดังน้ี ยอ มควร. การทภี่ กิ ษจุ ะทําแมเ ครื่อง* บาลี เปน อาลมิ ฺเปสุ.
พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 444ปอ งกัน คอื การถากพ้ืนดินหรอื ขดุ ดไู วโ ดยรอบกระทอมมงุ หญา โดยประการที่ไฟซ่ึงลุกลามมา ไมไดเ ชอ้ื แลว จะคบั ไปเอง กค็ วร และเมื่อไฟลุกลามขึน้แลว เทา นัน้ จงึ ควรทํากจิ มีจดุ ไฟรบั เปนตน ทงั้ หมดนน้ั . เมือ่ ไฟยังไมลกุ ลามขนึ้ พงึ ใชอนุปสมั บนั ใหทาํ ดว ยกปั ปย โวหาร, และเมอ่ื จะใหด ับดว ยนาํ้ ควรใชน ํ้าทไ่ี มมตี วั สัตวเ ทา นัน้ รด. [เรื่องภกิ ษุส่งั นายเพชฌฆาตใหป ระหารหนเดยี ว] ในเรอื่ งตะแลงแกง มีวนิ จิ ฉัยดงั นี:้ - เปนปาราชิก เพราะคาํ สั่งประหารคร้ังเดยี ว ฉนั ใด, แมในคําสัง่ เปน ตน วา ทวีหิ ปหาเรหิ กพ็ งึ ทราบวาเปน ปาราชกิ ฉันนนั้ . กเ็ มื่อภิกษสุ ่งั วา ทฺวีหิ ดงั นี้ แมเม่ือนักโทษถูกนายเพชฌฆาตฆา ตาย ดวยการประหารคร้ังเดียว ชอื่ วา เปน ปาราชิก เพราะหย่ังลงสูเ ขตแลว นั่นเอง. แตเมื่อนักโทษถกู นายเพชฌฆาตฆาตาย ดวยการประหาร๓ ครั้ง เปนผดิ ทีห่ มาย. เมื่อถกู ฆา ตาย ในเขตตามท่ี กาํ หนดไว หรือในรว มในท่กี าํ หนดไว ยอมไมผิดที่หมาย ดว ยประการฉะนี้. แต (เมือ่ ถกู ฆาตาย)ในเมือ่ ลว งเลยที่กําหนดไว ยอ มลักลนั่ ในท่ีทกุ แหง, ภกิ ษผุ ูสั่งยอ มพน ,เพชฌฆาตผฆู าเทา น้นั มโี ทษ. เหมือนอยางวานัยทกี่ ลา วไวแลว ในการประหารหลายครงั้ เปนฉนั ใด ขอ นีก้ ็ฉันนัน้ บัณฑติ พงึ ทราบวา เมื่อภกิ ษุสงั่ วา แมบรรดาบุรษุ ทงั้ หลาย บุรุษนายหน่ึง จงฆา บคุ คลคนหนึ่งใหต ายดังน้,ี เมอ่ื บคุ ลน้ัน ถูกบุรษุ นายหนงึ่ น่ันเองฆาตาย ภกิ ษุตอ งปาราชกิ , เมอื่บุคคลนนั้ ถูกบรุ ุษสองนายฆา ตาย เปนผิดสงั เกต, เม่อื ภกิ ษสุ ่ังวา บุรษุสองคนจงพากันฆาบรุ ุษคนหน่งึ ใหต าย ดงั นี้ เมอื่ บุคคลนัน้ ถกู บุรษุ นายหนง่ึหรือสองนายฆาตาย ภกิ ษุตอ งปาราชกิ , เมอ่ื ถูกบุรุษสามนายฆา ตาย เปน ผดิสงั เกต. เมื่อมีผถู าม กลา ววา ภิกษุรูปหนง่ึ เอาคาบตัดศรี ษะของบุรษุ ผวู ิ่งไป
พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 445โดยเร็วในสนามรบขาด, ตัวกพันธไมมีศรี ษะ ยอ มวงิ่ พลา นไป ภิกษรุ ูปอื่นจึงประหารตัวกพันธไมมศี รี ษะนัน้ ใหต กไป, ภกิ ษุรปู ไหนเลา เปน ปาราชิกดังน.้ี พระเถระจํานวนคร่งึ กลา วแกวา เปน ปาราชกิ แกภ กิ ษผุ ตู ดั การไป.พระโคทตั ตเถระ ผูชํานาญพระอภิธรรม กลาวแกวา เปนปาราชกิ แกภกิ ษุผูตัดศีรษะ, ในการแสดงเน้ือความแหงเรื่องนี้ บณั ฑิตควรกลา วเรือ่ งทัง้ หลายแมเ ห็นปานฉะนั้นแล. [เรอ่ื งภกิ ษุสงั่ ใหบ ุรษุ ดว นดม่ื เปรียงตาย] ในเร่ืองเปรียง มวี ินิจฉัยดงั น:้ี - เม่ือภิกษุสงั่ ไมก ําหนดวา พวกทานจงใหบ รุ ุษผมู อื และเทา ดว นนน้ั ดม่ื เปรียง ดงั นี้, เมอ่ื บุรุษนนั้ ถกู พวกญาติใหดื่มเปรียงชนิดใดชนิดหน่งึ ตายไป, ภกิ ษุทอ งปาราชิก. แตเ มอ่ื ภิกษสุ ่ังกาํ หนดไวว า จงใหด ม่ื เปรยี งโด เปรยี งกระบอื เปรยี งแพะ หรือสั่งไวว า จงใหด ืม่ เปรยี งท่ีเยน็ เปรียงทีร่ อ น เปรียงทรี่ มควัน ท่ไี มไดรมควนั เมอ่ื บุรษุนนั้ ถกู พวกญาตใิ หด ่มื เปรยี งชนิดอ่นื จากเปรียงทีภ่ กิ ษุสง่ั ไวนน้ั ตายไป เปนผิดสังเกต. [เรื่องยาดองพิเศษชอื่ โลณะโสจิรกะ] ในเรื่องยาดองโลณะโสจิรกะ มวิ ินิจฉัยดังนี้:- เภสัชขนานหนงึ่ซงึ่ ปรุงดวยขาวทุกชนดิ ชอ่ื วา โลณะโสจิรกะ. เม่ือเขาจะทําเภสัชขนานนน้ัเอานาํ้ ฝาดแหงผลสมอ มะขามปอม และสมอพเิ ภก ธัญชาติทุกชนิดอปรณั ชาตทิ กุ ชนิด ขา วสกุ แหง ธญั ชาติท้ัง ๗ ชนิด ผลทุกชนดิ มผี ลกลว ยเปนตน ผลไมซ ่งึ งอกในหวั ทกุ ชนิด มผี ลแหง หวาย การเกด และเปงเปนตนชิ้นปลาและเนอ้ื และเภสชั หลายอยา ง มีนา ผึง้ นา้ํ ออ ย เกลอื สนิ เธาวเกลือธรรมดา และเครือ่ งเผ็ดรอ น ๓ ชนดิ เปน ตน แลว ใสร วมกันลง (โนหมอ)
พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 446ปดฉาบไลปากหมอไวอยา งดแี ลว เก็บไว ๑ ป ๒ ป หรอื ๓ ป ยาโลณะโสจริ กะน้นั กลน่ั ใหมีสเี หมือนรสน้ําชมพู เปนเครอ่ื งบริโภคอยา งสนิท (เปนยาแกโรคอยางชะงัด) แหง บคุ คลผเู ปนโรคลม โรคไอ โรคเรอ้ื น โรคผอมเหลืองและบานทะโรคเปนตน และเปน เครอื่ งด่ืมภายหลัง แหง บคุ คลผูรบั ประทานอาหารแลว . เภสชั เปน เคร่ืองยอยอาหารทบ่ี รโิ ภคแลว เชน ยาขนานน้ันยอมไมม .ี ก็ยาโลณะโสจริ กะนน้ี ้นั ยอมควรแกภ ิกษุทงั้ หลายแมใ นปจ ฉาภัต.สําหรบั ภิกษุผอู าพาธ จัดเปนยาตามปกติทเี ดียว แตผูไ มอาพาธตอ งผสมกับนาํ้จงึ ควร โดยความเปน เครื่องด่มื และเครอื่ งบริโภคแล. ตตยิ ปาราชกิ วรรณนา ในอรรถกถาพระวินยั ชื่อสมันตปาสาทกิ า จบ
พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 447 จตตุ ถปาราชกิ กณั ฑ เรือ่ งภิกษพุ วก ฝงแมนํา้ วัคคุมุทา [๒๒๗] โดยสมัยนั้น พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจาประทบั อยู ณ กูฏาคาร-ศาลา ปามหาวนั เขตพระนครเวสาลี ครง้ั น้ัน ภิกษมุ ากรูปดวยกัน ซึ่งเคยเหน็ รว มคบหากัน ๆ จาํ พรรษาอยูใกลฝ ง แมน ํา้ วัคคุมุทา ก็แลสมยั นน้ั วชั ชีชนบท อัตคัดอาหาร ประชาชนหาเลยี้ งชพี ฝดเคอื ง มีขาวตายฝอย ตอ งมีสลากซอื่ อาหาร ภิกษสุ งฆจ ะยงั อตั ภาพใหเ ปน ไปดว ยการถือบาตรแสวงหา ก็ทําไมไ ดงาย จงึ ภกิ ษุเหลานั้นติดกนั วา บดั นี้วัชชีชนบทอตั คดั อาหาร ประชาชนหาเลย้ี งชีพฝด เคอื ง มีขา วตายฝอย คอื มสี ลากซ้อื อาหาร ภกิ ษุสงฆจ ะยังอตั ภาพใหเปนไปดว ยการถือบาตรแสวงหา ก็ทําไมไ ดงา ย พวกเราจะพึงเปนผูพรอมเพรียงกนั รวมใจกัน ไมวิวาทกัน อยจู าํ พรรษาเปน ผาสกุ และจะไมตองลําบากดวยบิณฑบาต ดวยอบุ ายอยางไรหนอ. ภกิ ษบุ างพวกพดู อยา งนวี้ า อาวุโสทั้งหลาย ผฉิ ะนัน้ พวกเราจงชวยกนั อํานวยกจิ การอันเปน หนาท่ีของพวกคฤหสั ถเ ถดิ เมือเปน เชนนั้นพวกเขาจักมงุ ถวายบณิ ฑบาตแกพวกเรา ดว ยอบุ ายอยางนี้ พวกเราจักเปนผูพรอ มเพรียงกนั รวมใจกัน ไมว ิวาทกนั อยูจาํ พรรษาเปน ผาสุก และจักไมลําบากดว ยบิณฑบาต. ภกิ ษุบางพวกพูดอยา งนี้วา ไมควร ทา นทงั้ หลาย จะประโยชนอะไรดว ยการชวยกันอาํ นวยกิจการ อนั เปน หนาท่ขี องพวกคฤหสั ถ ทานทั้งหลายผิฉะน้นั พวกเราจงชวยกันนาํ ขา วสาสนอนั เปน หนาท่ที ูตของพวกคฤหสั ถเ ถิด
พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 448เมอื่ เปน เชน นนั้ พวกเขาจักรมุง ถวายบณิ ฑบาตแกพวกเรา ดวยอุบายอยางนี้พวกเราจักเปน ผูพ รอ มเพรยี งกนั รวมใจกัน ไมว ิวาทกนั อยจู ําพรรษาเปนผาสุก และจักไมล ําบากดวยบณิ ฑบาต. ภิกษุบางพวกพูดอยา งนีว้ า อยาเลย ทานท้งั หลาย จะประโยชนอะไรดว ยการชว ยกันอาํ นวยกิจการ อนั เปน หนา ที่ของพวกคฤหัสถ จะประโยชนอะไร ดว ยการชว ยกนั นําขา วสาสน อนั เปนหนา ทีท่ ูตของพวกคฤหสั ถ ทานทัง้ หลาย ผฉิ ะน้ัน พวกเราจักกลาวชมอตุ ริมนุสธรรมของกนั และกันแกพวกคฤหัสถว า ภกิ ษรุ ปู โนน ไดปฐมฌาน รูปโนน ไดท ตุ ยิ ฌาน รูปโนนไดตตยิ ฌานรปู โนนไดจ ตตุ ถฌาน รปู โนน เปนพระโสดาบนั รูปโนน เปนพระสกทาคามีรูปโนนเปนพระอนาคามี รปู โนนเปนพระอรหันต รปู โนน ไดว ชิ ชา ๓ รูปโนนไดอ ภิญญา ๖ ดงั นี้ เม่อื เปน เชนนี้ พวกเขาจักมุงถวายบิณฑบาตแกพวกเรา ดวยอุบายอยา งน้ี พวกเราก็จกั เปนผพู รอมเพรียงกัน รวมใจกันไมวิวาทกัน อยจู ําพรรษาเปนผาสุก และจักไมล ําบากดวยบณิ ฑบาต. ภิกษเุ หลานั้น มีความเห็นรวมกันวา อาวุโสท้งั หลาย การท่พี วกเราพากนั กลา วชมอตุ ริมนสุ ธรรมของกนั และกันแกพวกคฤหัสถนแ้ี หละ ประเสรฐิทส่ี ุด แลวพากนั กลา วชมอุตรมิ นสุ ธรรมของกันและกันแกพวกคฤหัสถวาภกิ ษรุ ูปโนนไดปฐมฌาน รูปโนน ไดทตุ ยิ ฌาน รปู โนน ไดต ตยิ ฌาน รูปโนนไดจ ตุตถฌาน รูปโนน เปน พระโสดาบนั รปู โนน เปนพระสกทาคามี รูปโนนเปนพระอนาคามี รูปโนน เปนพระอรหันต รูปโนนไดวชิ ชา ๓ รูปโนน ไดอภิญญา ๖ ดังน้ี. ครนั้ ตอมา ประชาชนเหลาน้ันพากันยินดีวา เปนลาภของพวกเราหนอ พวกเราไดด ีแลว หนอ ท่มี ีภกิ ษุทัง้ หลายผูมีคณุ พเิ ศษเห็นปานน้ี อยูจํา
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 449พรรษา เพราะกอ นแตน้ี ภิกษุทงั้ หลายท่อี ยูจาํ พรรษาของพวกเรา จะมีคุณสมบัติเหมอื นภิกษผุ มู ศี ลี มกี ัลยาณธรรมเหลานีไ้ มมีเลย โภชนะชนิดทพี่ วกเขาจะถวายแกภ กิ ษเุ หลานนั้ พวกเขาไมบรโิ ภคดวยตน ไมใหมารดาบิดา บุตรภรรยา คนรับใช กรรมกร มติ ร อํามาตย ญาติสาโลหิต ของเคี้ยวชนดิท่ีพวกเขาจะถวายแกภิกษเุ หลา นั้น พวกเขาไมเ ค้ยี วดวยตน ไมใหม ารดาบดิ าบุตรภรรยา คนรบั ใช กรรมกร มติ ร อาํ มาตย ญาติสาโลหิต ของลิม้ชนดิ ทีพ่ วกเขาจะถวายแกภิกษเุ หลา นนั้ พวกเขาไมล ิม้ ดว ยคน ไพใหมารดาบิดา บตุ รภรรยา คนรบั ใช กรรมกร มิตร อํามาตย ญาตสิ าโลหติ นํา้ ดื่มชนดิ ทีพ่ วกเขาจะถวายแกภ ิกษุเหลานัน้ พวกเขาไมดืม่ ดว ยคน ไมใ หม ารดาบิดา บตุ รภรรยา คนรบั ใช กรรมกร มิตร อาํ มาตย ญาตสิ าโลหิต จงึภกิ ษเุ หลา นน้ั เปนผมู ีน้ํานวล มีอินทรยี ผองใส มสี หี นา สดชืน่ มผี ิวพรรณผดุ ผอ ง กก็ ารที่ภิกษุท้ังหลายออกพรรษาแลวเขาเฝาเย่ียมพระผมู พี ระภาคเจาน้นั เปนประเพณี ครัน้ ภิกษุเหลา นน้ั จาํ พรรษาโดยลวงไตรมาส แลว เกบ็ เสนา-สนะ ถือบาตรจีวรหลีกไปโดยมรรคาอนั จะไปสพู ระนครเวสาลี เท่ยี วจารกิ โดยลาํ ดบั ถึงพระนครเวสาลี ปา มหาวัน กูฏาคารศาลา แลวเขาเฝา พระผูม ีพระภาคเจา ถวายบังคม นั่งเฝา อยู ณ ท่คี วรสว นขา งหนง่ึ . ภิกษตุ างทิศมาเฝา [๒๒๘] กโ็ ดยสมยั นัน้ แล พวกภิกษผุ จู ําพรรษาอยูในทศิ ทงั้ หลายเปนผูผอมซบู ซดี มีผวิ พรรณหมอง เหลอื งขนึ้ ๆ มีเนอ้ื ตวั สะพรั่งดวยเอ็นสว นภกิ ษพุ วกฝง แมนํา้ วคั คุมุทา เปนผมู นี ํา้ นวล มีอนิ ทรียผอ งใส มสี ีหนาสดช่ืน มีผวิ พรรณผุดผอง ก็การทีพ่ ระผมู พี ระภาคพทุ ธเจาทั้งหลาย ทรง
พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 450ปราศรยั กบั พระอาคันตกุ ะทงั้ หลาย นนั่ เปน พทุ ธประเพณี ครัง้ นนั้ พระผมู -ีพระภาคเจา ตรสั ถามภกิ ษพุ วกฝง แมน า้ํ วัดคุมทุ าวา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย รา งกายของพวกเธอยงั พอทนไดห รือ ยังพอใหเปนไปไดหรอื พวกเธอเปน ผพู รอมเพรียงกนั รวมใจกัน ไมวิวาทกัน อยจู ําพรรษาเปน ผาสกุ และไมลาํ บากดวยบิณฑบาตหรือ. ภิกษุเหลา นัน้ กราบทลู วา ยังพอทนไดพระพุทธเจา ขา ยงั พอใหเปนไปไดพ ระพทุ ธเจาขา อนึ่ง พวกขา พระพุทธเจาเปน ผูพรอมเพรยี งกัน รว มใจกัน ไมวิวาทกัน อยจู าํ พรรษาเปนผาสุก และไมล ําบากดวยบณิ ฑบาตพระพทุ ธเจา ขา. พทุ ธประเพณี พระตถาคตทง้ั หลายทรงทราบอยู ยอมตรัสถามก็มี ทรงทราบอยูยอ มไมต รสั ถามกม็ ี ทรงทราบกาลแลว ตรัสถาม ทรงทราบกาลแลว ไมตรสั ถามพระตถาคตทงั้ หลายอมตรัสถามสง่ิ ทปี่ ระกอบดวยประโยชน ไมตรัสถามส่งิ ท่ีไมประกอบดว ยประโยชน ในส่งิ ท่ีไมป ระกอบดว ยประโยชน พระองคท รงกําจดั ดวยขอปฏบิ ตั ิ พระผูมีพระภาคพุทธเจาทัง้ หลาย ยอ มทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายดวยอาการ ๒ อยา ง คือ จักทรงแสดงธรรมอยา งหนึ่ง จักทรงบัญญตั ิสกิ ขาบทแกพ ระสาวกท้งั หลายอยางหนึ่ง ครงั้ นน้ั พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั ถามภกิ ษุพวกฝงแมน ํ้าวคั คมุ ทุ าวาดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย พวกเธอเปน ผูพรอ มเพรียงกัน รว มใจกัน ไมวิวาทกันอยจู ําพรรษาเปน ผาสกุ และไมลาํ บากดว ยบิณฑบาต ดว ยวิธีการอยา งไร.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 664
Pages: