Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_20

tripitaka_20

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_20

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎก มชั ฌมิ นกิ าย มัชฌิมปณ ณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 493แจง ดวยกาย ทีส่ ัตวปรารถนา รักใคร ชอบใจ นา รัก ประกอบดวยกามเปน ท่ีต้งั แหงความกําหนดั สมัยตอมา เรานน้ั รคู วามเกดิ ความดับ คุณ โทษและอุบายเครอื่ งออกไปแหงกามทง้ั หลาย ตามความเปนจรงิ แลว เปนผูปราศจากความระหาย มจี ติ สงบในภายในอยู เรานน้ั เหน็ หมสู ตั วอืน่ ผูยังไมปราศจากความกําหนัดในกาม ถกู กามตัณหาเค้ยี วกนิ อยู ถกู ความเรารอ นทเ่ี กดิ ข้นึ เพราะปรารภกามเผาอยู. เสพกามอยู ยอ มไมท ะเยอทะยานตอ สตั วเ หลานั้น ไมยนิ ดีในกามนนั้ ขอ น้ันเพราะเหตไุ ร เพราะเรายินดอี ยดู ว ยความยนิ ดที ีเ่ วน จากกามเวน จากอกศุ ลธรรม ท้ังเปน ความยินดที ล่ี วงเลยความสุขอันเปน ทพิ ยต ั้งอยู จึงไมท ะเยอทะยานตอ ธรรมอนั เลว ไมยินดีในธรรมอนั เลวนัน้ เลย. [๒๘๔] ดูกอนมาคัณฑิยะ เปรียบเหมือนบรุ ษุ โรคเรอ้ื น มตี วั เปนแผลมตี ัวสุก อันกิมิชาตบิ อ นอยู เกาปากแผลดว ยเล็บ ยา งกายใหรอนทหี่ ลุมถานเพลิงมิตรอํามาตยญ าตสิ าโลหติ ของเขาพงึ ต้ังแพทยผ ชู าํ นาญการผา ตดั ใหรักษา แพทยผ ูช าํ นาญการผาตดั ทาํ ยารกั ษาบรุ ษุ น้ัน บรุ ษุ น้นั อาศัยยาแลวจึงหายจากโรคเรอ้ื น เปนผไู มมโี รค มีความสขุ มเี สรภี าพ มอี ํานาจในตนเองจะไปไหนไดตามความพอใจบุรษุ มีกาํ ลังสองคนชว ยกันจบั บุรุษนน้ั ท่ีแขนคนละขา ง ฉดุ เขาไปในหลุมถานเพลิง ดูกอนมาคัณฑยิ ะ ทานจะสําคญั ความขอ น้ันเปนไฉน บุรษุ น้ันจะตอ งด้นิ รนไปอยา งนั้นๆ บางซหิ นอ. เปนอยางนั้น ทา นพระโคดม ขอ นั้นเพราะเหตุไร เพราะไฟโนนมีสมั ผสั เปนทุกข มคี วามรอนย่งิ ใหญ และมีความเรา รอ นมาก. ดกู อ นมาคัณฑิยะ ทานจะสําคญั ความขอ น้ันเปนไฉน ไฟนนั้ มีสมั ผัสเปน ทกุ ข มีความรอนยง่ิ ใหญ และมคี วามเรา รอ นมาก แตใ นบดั นเ้ี ทานนั้หรอื แมเม่อื กอนไฟนนั้ ก็มีสมั ผัสเปน ทุกข มคี วามรอนย่ิงใหญ และมีความเรารอ นมาก.

พระสตุ ตันตปฎก มชั ฌมิ นิกาย มชั ฌมิ ปณ ณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 494 ทานพระโคดม ไฟน้ันมีสัมผัสเปนทกุ ข มีความเรา รอ นย่งิ ใหญแ ละมคี วามเรารอ น ทัง้ ในบัดน้ี และแมเ มือ่ กอ น ไฟนั้นก็มีสมั ผสั เปน ทุกข มคี วามรอนยิง่ ใหญ และมคี วามเรา รอ นมาก แตว าบรุ ษุ โรคเรอ้ื น มตี วั เปนแผลมตี ัวสุก ถูกกมิ ชิ าติบอ น เกาปากแผลอยดู ว ยเลบ็ มีอินทรียอ ันโรคกาํ จดั เสยี แลว โนนกลับไดค วามสาํ คัญผิดในไฟน้ีอนั มีสมั ผัสเปน ทกุ ขน่นั แลวาเปนสขุ ไป. ดูกอนมาคณั ฑยิ ะ กามทั้งหลายก็ฉนั นัน้ เหมือนกัน แมในอดตี กาลก็มีสัมผสั เปนทุกข มคี วามรอ นย่งิ ใหญ และมีความเรารอนมาก ถึงในอนาคตกาลกามท้งั หลายกม็ สี มั ผัสเปนทกุ ข มคี วามรอ นยง่ิ ใหญและมีความเรา รอนมาก แมในปจจุบนั เดยี๋ วน้ี กามทงั้ หลายก็มสี ัมผัสเปนทุกข มคี วามรอ นย่ิงใหญแ ละมีความเรารอ นมาก สตั วเหลา นเี้ ปน ผูย งั ไมปราศจากความกําหนัดในกาม ถกู กาม-ตณั หาเค้ียวกินอยู ถูกความเรา รอนเกดิ ขึ้นเพราะปรารภกามเผาอยู มอี นิ ทรียอันโทษกาํ จดั แลว กลบั ไดค วามสาํ คญั ผิดในกามอนั มีสัมผสั เปน ทกุ ขนั้นแลวาเปนสุขไป. [๒๘๕] ดูกอนมาคณั ฑยิ ะ เปรียบเหมือนบุรุษโรคเรอื้ น มีตวั เปนแผลมตี วั สกุ อนั กมิ ิชาตบิ อนอยู เกาปากแผลอยูดว ยเลบ็ ยางกายใหรอ นที่หลุมถา นเพลิง ดกู อ นมาคัณฑยิ ะ บุรุษโรคเรือ้ นคนโนน มีตัวเปนแผล มตี วั สุกอันกมิ ชิ าติบอ นอยู เกาปากแผลอยดู ว ยเลบ็ ยา งกายใหร อ นทห่ี ลุมถา นเพลงิดว ยประการใด ๆ ปากแผลเหลานน้ั ของบุรุษโรคเรอ้ื นนั้นเอง ย่ิงเปน ของไมสะอาดขน้ึ มีกลน่ิ เหม็นข้นึ และเนา ข้นึ ดว ยประการนั้น ๆ และจะมีความเปนของนายนิ ดีนาพอใจสักหนอยหนงึ่ ก็คือปากแผลทัง้ หลาย มกี ารเกาแผลเปนเหตุเทานน้ั ฉันใด ดูกอนมาคณั ฑิยะ สตั วทั้งหลายกฉ็ นั น้นั แล ยงั ไมป ราศจากความกําหนัดในกาม ถูกกามตัณหาเคี้ยวกินอยู ถกู ความเรา รอนทเ่ี กิดขน้ึ เพราะ

พระสตุ ตันตปฎก มชั ฌมิ นกิ าย มัชฌิมปณณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 495ปรารภกามเผาอยเู สพกามอยู ดกู อนมาคัณฑยิ ะ สัตวท งั้ หลายผูยังไมปราศจากความกาํ หนัดในกามอนั กามตณั หาเคี้ยวกินอยู ถูกความเรา รอนทเี่ กดิ ขนึ้ เพราะกามเผาลนอยู เสพกามอยดู ว ยประการใด ๆ กามตณั หายอมเจริญแกสัตวเหลานนั้ และสตั วเหลานนั้ กถ็ กู ความเรารอ นท่เี กดิ เพราะปรารภกามเผาอยู ดว ยประการนั้น ๆ และจะมคี วามเปน ของนา ยินดี นา พอใจสกั หนอ ยหนึ่ง ก็เพราะอาศัยกามคุณทง้ั หาเทานนั้ . [๒๘๖] ดูกอนมาคณั ฑิยะ ทานจะสําคัญความขอ น้ันเปน ไฉน ทานไดเ หน็ หรอื ไดฟ ง บางหรือวา พระราชาหรอื มหาอํามาตยของพระราชา ผูเอิบอิม่ เพยี บพรอม บําเรอตนอยูดว ยกามคุณหา ยิ่งละกามตัณหาไมไ ด ยงับรรเทาความเรา รอนท่ีเกดิ ขึ้นเพราะปรารภกามไมไดแลว เปน ผูปราศจากความระหาย มีจติ สงบในภายในอยูแลว หรือกาํ ลังอยู หรือจักอย.ู ขอน้ี ไมม เี ลย ทานพระโคดม. ดลี ะมาคณั ฑิยะ ขอนีแ้ มเราไมไดเห็น ไมไดฟง มาวา พระราชาหรือมหาอํามาตยของพระราชาผเู อบิ อมิ่ เพียบพรอ มบําเรอตนอยดู วยกามคุณหา ยังละตณั หาไมไ ด ยงั บรรเทาความเรารอนทเี่ กิดขน้ึ เพราะปรารภกามไมไ ดแลวเปนผูปราศจากความระหาย มีจติ สงบในภายในอยูแลว หรือกาํ ลงั อยู หรอืจกั อยู ดูกอนมาคัณฑยิ ะ ท่แี ทสมณะหรอื พราหมณเ หลาใดเหลา หนึ่ง เปนผูปราศจากความระหาย มจี ติ สงบในภายในอยูแลว หรอื กําลงั อยู หรือจกั อยูสมณะหรือพราหมณเ หลานนั้ ลว นรคู วามเกดิ ความดบั คุณ โทษ และอุบายเปน เครือ่ งออกไปแหงกามนัน่ เทียว ตามความเปน จรงิ แลว ละกามตณั หาบรรเทาความเรารอนท่เี กิดขนึ้ เพราะปรารภกามแลว จงึ เปนผปู ราศจากความระหาย มจี ิตสงบในภายในอยูแลว หรือกําลงั อยู หรือจักอยู.

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย มัชฌิมปณ ณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 496 [๒๘๗] ลําดับน้ัน พระผมู ีพระภาคเจา ทรงเปลง พระอุทานนใ้ี นเวลาน้ันวา ความไมมีโรคเปนลาภอยา งยงิ่ นิพพาน เปน สขุ อยา งย่งิ บรรดาทางท้ังหลายอันใหถึง อมตธรรม ทางมีองคแปดเปน ทางอนั เกษมเม่อื พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั อยา งนีแ้ ลว มาคณั ฑยิ ปริพาชกไดกราบทูลพระผูมีพระภาคเจา วา ขาแตท า นพระโคดม นา อศั จรรยนัก ไมเ คยมมี าแลว เพียงขอทที่ านพระโคดมตรสั ดแี ลว น้วี า ความไมม ีโรคเปน ลาภอยางยิ่ง พระนิพพานเปน สขุ อยางย่งิ แมขาพเจา ก็ไดฟง ขอ นี้มา ตอ ปรพิ าชกทั้งหลายแตกอน ผูเปน อาจารยแ ละอาจารยผูกลา วกนั อยวู า ความไมมีโรคเปนลาภอยางย่ิงนิพพานเปนสุขอยางย่ิง ขอ นย้ี อมสมกัน. ดูกอนมาคณั ฑิยะ กข็ อทีท่ านไดฟงมาตอปรพิ าชกทง้ั หลาย กอนๆ ผูเปนอาจารยแ ละปาจารยผูก ลาวกันอยวู า ความไมม ีโรคเปนลาภอยา งย่งิ นิพพานเปนสุขอยา งย่ิง ดงั น้ีนั้น ความไมมีโรคน้ันเปน ไฉน นพิ พานนนั้ เปน ไฉนเมื่อพระผมู ีพระภาคเจาตรสั อยา งน้ีแลว ไดทราบวา มาคัณฑิยปริพาชกเอาฝา มือลูบตวั ของตัวเอง กลาววา ขา แตท า นพระโคดม ความไมม โี รคนน้ั คอือันน้ี นิพพานน้ันคืออันน้ี ขา แตท า นพระโคดม ขาพเจา เด๋ียวน้ี เปนผไู มมีโรคมีความสขุ อะไร ๆ มไิ ดเ บียดเบียนขาพเจา . เปรยี บผูบ รโิ ภคกามเหมอื นคนตาบอด [๒๘๘] ดูกอ นมาคณั ฑยิ ะ เปรยี บเหมอื นบรุ ษุ ตาบอดมาแตกําเนดิเขาไมไดเ ห็นรูปตาและขาว ไมไดเ ห็นรูปสีเขยี ว ไมไ ดเห็นรูปสีเหลอื ง ไมไดเ ห็นรูปสีแดง ไมไ ดเ ห็นรปู สีชมพู ไมไดเ ห็นท่ีอนั เสมอและไมเ สมอ ไม

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย มชั ฌมิ ปณณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 497ไดเ ห็นรูปหมดู าว ไมไ ดเ ห็นดวงจนั ทรแ ละดวงอาทติ ย เขาไดฟง ตอ คนผมู ีจักษกุ ลาววา ดกู อ นผเู จริญ ผา ขาวผองงาม ไมมมี ลทินสะอาดหนอ ดังนี้เขาพงึ เทีย่ วแสวงหาผา ขาวผอง บรุ ษุ คนหน่งึ เอาผา เทียมเปอ นเขมามาลวงบุรุษตาบอดแตก าํ เนดิ นน้ั วา ดูกอนบรุ ษุ ผเู จรญิ ผาของทา นผนื น้ี เปนผาขาวผองงามไมม ีมลทินสะอาด ดังน้ี เขารบั เอาผา น้นั ไวหม แลว ดใี จ เปลงวาจาแสดงความดีใจวา ทา นผเู จรญิ ผาขาวผอ งงามไมม มี ลทินสะอาด ดกู อ นมาคัณฑยิ ะ ทา นจะสาํ คัญความขอ นน้ั เปน ไฉน บุรุษตาบอดแตก าํ เนิดนั้น รอู ยูเหน็ อยู รบั เอาผาเทยี มอันเปอนเขมาไวห ม แลว ดีใจ เปลง วาจาแสดงความดใี จวา ทานผเู จริญ ผา ขาวผอ งงามไมม มี ลทนิ สะอาดหนอ ดังน้ี หรอื วาเปลงวาจาแสดงความยินดดี วยเธอตอ บคุ คลผมู ีจกั ษเุ ลา. ทานพระโคดม บรุ ษุ ตาบอดแตกําเนดิ นนั้ ไมร ไู มเหน็ เลย รับเอาผา เทียมอันเปอ นเขมาเขาไวห ม แลวดใี จ เปลงวาจาแสดงความดีใจวา ทา นผูเจรญิ ผาขาวผอ งไมม ีมลทินสะอาดหนอ ดงั นี้ ดว ยเชือ่ ตอบุคคลผมู ีจักษุเทา น้ัน. ดูกอนมาคัณฑยิ ะ ปริพาชกอัญญเดียรถียทงั้ หลาย ก็ฉนั นั้นเหมือนกนั ไมมีจักษุ ไมร คู วามไมม ีโรค ไมเหน็ พระนิพพาน เออก็เม่อื เปนเชนน้ันยงั ไมกลาวคาถาน้ีไดว า ความไมมีโรคเปนลาภอยา งยง่ิ นิพพานเปน สุขอยา งย่ิง ดังนี้ ดกู อนมาคัณฑิยะ พระอรหันตสัมมาสมั พุทธเจาพระองคกอ น ๆ ไดตรัสพระคาถาไวว า ความไมมโี รคเปน ลากอยา งยิ่ง นพิ พาน เปนสขุ อยางยงิ่ บรรดาทางทง้ั หลายอันให ถงึ อมตธรรม ทางมอี งคแปดเปนทางเกษม.

พระสตุ ตนั ตปฎก มัชฌิมนกิ าย มชั ฌมิ ปณณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 498 บดั น้ี คาถานัน้ เปน คาถาของปุถชุ นไปโดยลําดับ ดูกอนมาคัณฑิยะกายนแ้ี ลเปน ดงั โรค เปน ดงั หัวฝ เปน ดังลูกศร เปน ความลําบาก เปน ความเจบ็ ไข ทานนัน้ กลาวกายนีเ้ ปนดังโรค เปน ดงั หัวฝ เปน ดังลูกศร เปนความลําบาก เปน ความเจบ็ ไขว า ทา นพระโคดม ความไมมีโรคน้ันคืออันนี้นพิ พานน้ันคอื อนั นี้ กท็ า นไมมีจกั ษุของพระอริยะ อนั เปนเครือ่ งรูค วามไมมีโรค อันเปน เคร่อื งเหน็ นพิ พาน. มาคณั ฑยิ ะอาราธนาพระพุทธเจาแสดงธรรม [๒๘๙] ขา พเจา เลือ่ มใสตอ ทา นพระโคดมอยา งนี้แลว ทา นพระโคดมยอมทรงสามารถเพอื่ จะทรงแสดงธรรมแกขาพเจา โดยประการท่ใี หร ูค วามไมมโี รคใหเห็นนิพพานได. ดูกอ นมาคณั ฑยิ ะ เปรียบเหมอื นบรุ ษุ ตาบอดแตกําเนิด ไมไดเ หน็ รปูสีดําและสีขาว ไมไ ดเ หน็ รูปสีเขียว ไมไดเหน็ รปู สีเหลอื ง ไมไ ดเ หน็ รปู สแี ดงไมไดเหน็ รูปสชี มพู ไมไดเ หน็ ท่ีอันเสมอและไมเสมอ ไมไ ดเ ห็นรปู หมดู าวไมไ ดเห็นดวงจันทรแ ละดวงอาทติ ย มติ รอาํ มาตยญ าตสิ าโลหติ ของเขา พงึ ตงั้แพทยผชู าํ นาญการผาตัดใหร ักษา แพทยผ ชู าํ นาญการผา ตัดนัน้ ไดทาํ ยารกั ษาเขา เขาอาศัยยานั้นแลว ก็เห็นไมได ทาํ จักษุใหใ สไมได ดกู อนมาคัณฑยิ ะทา นจะสาํ คญั ความขอน้เี ปน ไฉน แพทยตองมีสวนแหงความลาํ บาก ความคับแคนสักเพยี งไรมใิ ชหรือ. อยางนน้ั ทา นพระโคดม. ดกู อ นมาคณั ฑยิ ะ เรากฉ็ ันนัน้ เหมือนกนั พึงแสดงธรรมแกท า นวาความไมม โี รคนน้ั คือสิ่งน้ี นิพพานน้นั คอื สิง่ นี้ ดงั นี้ ทานนั้นกพ็ งึ รูความไมม ี

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌมิ นิกาย มชั ฌมิ ปณณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 499โรคไมได พึงเห็นนพิ พานไมได อนั น้นั พงึ เปนความเหน็ดเหนอ่ื ย เปนความลําบากแกเรา. [๒๙๐] ขาพเจา เล่ือมใสตอทา นพระโคดมดว ยอาการอยา งนี้แลว ทา นพระโคดมยอมทรงสามารถเพ่ือแสดงธรรมแกขาพเจา โดยประการท่ใี หรูความไมม ีโรค ใหเห็นนพิ พานได. ดูกอนมาคัณฑิยะ เปรียบเหมือนบรุ ษุ ตาบอดมาแตก าํ เนดิ เขาไมไดเห็นรูปสดี ําและสีขาว ไมไดเ ห็นรปู สีเขยี ว ไมไ ดเ ห็นรูปสเี หลอื ง ไมไ ดเหน็รปู สีแดง ไมไดเ ห็นรปู สีชมพู ไมไ ดเหน็ ทอี่ นั เสมอและไมเ สมอ ไมไดเ หน็ รปูหมูด าว ไมไดเหน็ ดวงจันทรและดวงอาทิตย แตเ ขาไดฟ งตอ คนท่ีมีจักษุซ่งึกลา วอยวู า ทา นผูเจริญ ผา ขาวผอ งงาม ไมม มี ลทนิ สะอาดหนอ บรุ ุษตาบอดแตกําเนดิ นั้น พึงเทย่ี วแสวงหาผา ขาวผอ ง บรุ ุษคนหนึ่งเอาผา เทยี มเปอ นเขมามาลวงเขาน้ันวา บรุ ษุ ผเู จริญ ผาของทานผนื นข้ี าวผอ งงามไมมีมลทินสะอาดเขารับผานัน้ มาหม มติ รอํามาตยญ าตสิ าโลหิตของเขา ต้งั แพทยผูช าํ นาญการผาตดั ใหรกั ษา แพทยผูชาํ นาญการผาตดั น้นั ทาํ ยาถอนใหอ าเจียน ยาถา ยใหล ง ยาหยอด ยาหยอดซํ้า ยานัตถุ เขาอาศยั ยานนั้ แลวเหน็ ได ชําระตาใหใสได เขายอมละความรัก ดว ยสามารถความพอใจในผาเทียมเปอ นเขมาโนน ได พรอมกับตาเห็น เขาพึงเบียดเบยี นบุรุษท่ีลวงตนนั้นโดยความเปนศัตรู โดยความเปน ขา ศกึ อน่ึง เขาพงึ สําคัญบุรษุ ท่ลี วงตนน้ันวาควรปลงชีวิตเสียดวยความแคน วา บรุ ุษผเู จริญ เราถกู บรุ ษุ ผูนเ้ี อาผาเทียมเปอ นเขมา มาลวงใหหลงวา บุรษุ ผูเ จริญ ผา ของทานนขี้ าวผอ งงามไมม ีมลทนิ สะอาด ดังน้ีมานานหนอ ฉันใด ดกู อ นมาคัณฑยิ ะ เราก็ฉนั นน้ั เหมือนกนั ถา แสดงธรรมแกท านวา ความไมมโี รคนัน้ คือขอ นี้ นิพพานนัน้ คอื ขอนี้ ทานน้นั พึงรู

พระสุตตนั ตปฎก มชั ฌมิ นิกาย มัชฌิมปณณาสก เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 500ความไมม โี รค พงึ เหน็ นิพพานได ทานนนั้ ก็จะละความกาํ หนัดดว ยสามารถความพอใจในขนั ธทีม่ ีอุปาทานทั้งหาได พรอ มกับความเหน็ เกดิ ขึ้น อนึ่ง ทา นพึงมคี วามดํารอิ ยางนว้ี า ดกู อนทา นผเู จริญ เราถกู จติ นลี้ อ ลวงใหห ลงมานานแลว หนอ. เราเมือ่ ยดึ มั่นกย็ ดึ ม่ันแตรูปเทา นั้น เมอื่ ยึดมัน่ ก็ยดื ม่ันแตเวทนาเทาน้นั เมอ่ื ยดึ มน่ั ก็ยดื มนั่ แตสัญญาเทานน้ั เมื่อยดึ มนั่ ก็ยึดมั่นแตส งั ขารเทา นั้นเม่ือยดึ มันกย็ ดึ มั่นแตวิญญาณเทานั้น เพราะอปุ าทานเปนปจ จยั ภพจงึ มีแกเ ราน้นั เพราะภพน้ันเปน ปจจัย จงึ มชี าติ เพราะชาติเปน ปจ จัย จงึ มชี รา มรณะโสกะ ปรเิ ทวะ ทกุ ข โทมนสั อปุ ายาส ความเกิดขึน้ แหง กองทุกขท ัง้ สนิ้ น้ียอมมดี ว ยประการฉะน้ี. [๒๙๑] ขา พเจา เลอื่ มใสตอพระโคดมอยางนีแ้ ลว ทานพระโคดมยอ มทรงสามารถเพ่อื แสดงธรรมแกขา พเจา โดยประการที่ขาพเจาไมเ ปนคนบอดลุกข้นึ จากอาสนะนี้ได. ดกู อนมาคณั ฑยิ ะ ถาเชนน้ัน ทานควรคบสตั บรุ ุษ เพราะเมื่อใดทานคบสตั บุรุษ เมอ่ื น้นั ทา นจักไดฟง ธรรมของสตั บรุ ษุ เมือ่ ทานไดฟงธรรมของสตั บรุ ุษ ทานจกั ปฏบิ ัติธรรมสมควรแกธรรม เมอ่ื ทา นปฏบิ ัตธิ รรมสมควรแกธรรม ทา นจักรเู อง เหน็ เองวา โรค ฝ ลูกศร คืออันนี้ โรค ฝลูกศร จะดับไปโดยไมเหลอื ในท่นี ้ี เพราะอุปาทานของเรานั้นดับ ภพจึงดับเพราะภพดบั ชาตจิ งึ ดบั เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทกุ ขโทมนัส อุปายาสกด็ ับ ความดบั แหงกองทกุ ขท ้งั ส้ินนี้ ยอ มมีดว ยประการฉะน.้ี มาคณั ฑิยะไดบ รรพชาและอุปสมบท [๒๙๒] พระผูม พี ระภาคเจา ครัน้ ตรัสอยางนแี้ ลว มาคัณฑยิ ปรพิ าชกไดกราบทูลพระผมู ีพระภาคเจา วา ขาแตทา นพระโคดม ภาษติ ของพระองคแ จมแจง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook