3. ทัางตะวิันตก มีแม่น�ำาป็าย และแม่น�าำ ยวิม ในจัังห้วิัดัแม่ฮ่องสอนไห้ลลงส้่ลุ่ม แม่น�ำาสาละวิินทัางป็ระเทัศึพัม่า ทัี�ราบลมุ่ แมน่ าำ� ทัางภาคเห้น่อเป็น็ ทัีร� าบแคบๆ การทัับถุมขึ้อง ตะกอนมนี อ� ยกวิา่ ทั�รี าบภาคกลาง ช�นั ดันิ บางแต่ดัินมคี วิามอดุ ัม สมบ้รณ์ใช�ป็ระโยชน์ในการ เพัาะป็ล้กไดั�ดัีเป็็นแห้ล่งทั�ีป็ระชากรอาศึัยตั�งถุิ�นฐานอย้่ห้นาแน่นแต่ตามเขึ้ตทัี�ส้งห้ร่อภ้เขึ้า ป็ระชากรอาศึยั อย้เ่ บาบาง 3. เขึ้ตเทัอ่ กเขึ้าภาคตะวินั ตกในเขึ้ตเทัอ่ กเขึ้าภาคตะวินั ตกทัรี� าบระห้วิา่ งภเ้ ขึ้าจัะไม ่ กวิา� งขึ้วิางเห้มอ่ นทัางภาคเห้นอ่ ลักษณะทัี�ราบเป็็นทัีร� าบแคบ ๆ ขึ้องแมน่ าำ� เทั่อกเขึ้าทัาง ตะวินั ตกจัะแบง่ น�ำาออกเป็น็ สองทัางค่อ ทัางตะวิันออกแมน่ ำา� ไห้ลลง ส้่ทัี�ราบภาคกลาง ส่วินทัาง ตะวิันตกไห้ลลงส้่พัม่า โดัยทัิวิเขึ้าถุนนธิ์งชัยเป็็นต�นกำาเนิดัขึ้องแม่นา�ำ สะแกกรัง แม่น�าำ แควิให้ญ่ (ศึรีสวิสั ดัิ�) และแมน่ ำ�าเมย แมน่ ำ�าสะแกกรังไห้ลลงทัางตะวิันออกเฉยี งใตม� ารวิมกับแมน่ �าำ เจั�าพัระยา แม่นาำ� แควิให้ญ่ไห้ลลงทัาง ใต�รวิมกับแม่นา�ำ แควิน�อยเป็็นแม่นา�ำ แม่กลอง ส่วินแม่นำ�าเมยไห้ลไป็ทัางตะวิันตกเฉียงเห้น่อลงส้่แม่น�ำาสาละวิิน ใต�ทัิวิเขึ้าถุนน ธิ์งชัยลงมาจัะเป็็นแนวิ เทั่อกเขึ้าตะนาวิศึรี ซี�ง้ เป็็นต�นกาำ เนดิ ัขึ้องแมน่ ำ�าแควินอ� ย และแมน่ �ำาเพัชรบรุ ี ทัางตะวิันออกขึ้อง เทัอ่ ก เขึ้าเขึ้ตน�ีจัะเป็็นเขึ้ตทั�ีราบเชิงเขึ้า ในเขึ้ตทั�ีราบเชิงเขึ้าจัะเป็็นเขึ้ตทั�ีมีห้ิน ดัิน ทัี�น�าำ กัดัเซีาะ จัากทัี�ส้งมาทัับถุม ดัินเป็็นดัินดัี เห้มาะสมต่อการป็ล้กพั่ชไร่ห้ลายชนิดั เช่น อ�อย มันสำาป็ะห้ลัง ขึ้�าวิโพัดั เป็็นต�น ลักษณะธิ์รณีวิิทัย ป็ระกอบดั�วิยกลุ่มห้ิน ตะนาวิศึรี กลุ่มห้ินป็้นราชบุรี แทัรก สลับดั�วิยห้ินแกรนิต ในแนวิขึ้องห้ินแกรนิตจัะพับแร่ธิ์าตุทั�ีมีค่า เช่น ดัีบุก วิุลแฟิรม ฟิลอ้ อไรทั ์ ตะกัว� ิ สงั กะสี เป็็นต�น 4. ทั�ีราบส้งภาคตะวิันออกเฉียงเห้น่อ ห้ร่อทัี�ราบส้งโคราชภ้มิป็ระเทัศึโดัยทั�ัวิไป็เป็็น แอ่ง ทัี�ราบขึ้นาดัให้ญ่ ซี้�งมี ทัวิ ิเขึ้ากัน� เป็็นขึ้อบอย้ท่ ัางดั�านทัศิ ึตะวินั ตกและ ทัิศึใต� และตะแคง ลาดัไป็ทัางทัศิ ึตะวินั ออกสแ่้ มน่ า�ำ โขึ้ง นกั ภ้มศิ ึาสตร์เรยี กช่�อ ลกั ษณะภม้ ปิ ็ระเทัศึขึ้องภาคนีโ� ดัย รวิม ๆ วิา่ ทัรี� าบสง้ โคราช ภม้ ปิ ็ระเทัศึขึ้องทัีร� าบสง้ โคราช มลี กั ษณะเห้มอ่ นกน� กระทัะโดัยทั�ี บรเิ วิณตอนกลางขึ้องเขึ้ตตำ�าลงไป็เป็็นแอ่ง ทัี�ราบสง้ โคราชแยกออกจัากทั�รี าบลุ่มนา�ำ ภาคกลาง 10 โดัยมีภเ้ ขึ้ายกตวั ิขึ้�้นมาเป็็น ขึ้อบส้งชันสองดั�านทัางดั�านตะวิันตกมีทัวิ ิเขึ้าเพัชรบ้รณ ์ และทัิวิเขึ้า ดังพัญาเย็นเป็็นแมน่ ำ�าทั�ีสำาคัญในภ้มิภาคนี� มีทัศิ ึทัางการ ไห้ลจัากทัางตะวิันตกไป็ตะวิันออกไป็ รวิมกบั แม่นาำ� โขึ้ง เน�อ่ งจัากโครงสร�างตอนกลางเป็น็ แอง่ จั้งทัำาให้�ชว่ ิงฤดั้นำา� ห้ลากน�าำ ไห้ล ออกส ้่ แมน่ ำา� โขึ้งไม่ทันั เกดิ ัสภาพัน�ำาทัว่ ิมตามริมฝั�งแมน่ �าำ แต่เมอ�่ ถุง้ ฤดั้แลง� เขึ้ตนีจ� ัะขึ้าดันา�ำ เพัราะ โครงสร�างทัางธิ์รณีวิทิ ัยาขึ้อง ห้ินในเขึ้ตนี�เป็็นห้ินชั�นป็ระเภทัห้ินทัรายสลับห้ินดัินดัานบ�าง และ บางแห้่งมีชั�นเกล่อแทัรกอย้่ ห้ินทัรายเห้ล่านี�เม�่อส้กกร่อน สลายตัวิจัะไดั�ดัินป็นทัราย 5. เขึ้ตชายฝัง� ภาคตะวินั ออกเฉยี งใต� ห้รอ่ ภาคตะวิันออกลักษณะภ้มปิ ็ระเทัศึป็ระกอบ ไป็ดัว� ิยเขึ้าและภเ้ ขึ้าเต�ยี ๆ พั่�นทัี�ส่วินให้ญเ่ ป็็นทัรี� าบล้กคล�่นลอนชัน ลักษณะทัวิ ิเขึ้าวิางตวั ิใน แนวิตะวิันตกเฉียงเห้นอ่ – ตะวิันออกเฉยี งใต� ทัวิ ิเขึ้าสง้ ใน ภ้มิภาคน�ีค่อ ทัิวิเขึ้าจัันทับุรี ซี้�งเป็็น ทัิวิเขึ้าห้ินแกรนิตทั�ีมีควิามแขึ้็งแกร่ง ทัางตะวิันออกมีทัิวิเขึ้าบรรทััดัเป็็นเขึ้ายอดัตัดักั�น พัรมแดัน ระห้วิ่างไทัยกบั กมั พัช้ า ยอดัเขึ้าสง้ ๆ ทั�สี ำาคัญขึ้องทัวิ ิเขึ้าจัันทับุร ี คอ่ เขึ้าเขึ้ียวิ ลักษณะภม้ อิ ากาศึในภาคตะวิันออก เฉียงใต�แตกต่างไป็จัากภาคกลาง เพัราะเขึ้ตน�ีอย้่ ทัางดั�านห้น�าเขึ้ารับลมมรสุมตะวิันตกเฉียงใต�อย่างเต็มทั�ี ทัำาให้�มีฝนตกชุก ป็รมิ าณฝนรวิมเฉลยี� พัอ ๆ กบั ภาคใต � ภม้ ภิ าคนจี� ัง้ มลี กั ษณะอากาศึคลา� ยทัางคาบสมทุ ัรภาคใต � มปี ็า� ไมข� ึ้น�้ ห้นาแนน่ โดัยเฉพัาะ บรเิ วิณตงั� แตท่ ัางตะวินั ออกขึ้องจังั ห้วิดั ัระยองไป็จัดัจังั ห้วิดั ัตราดั ป็ระชากรมอี าชพี ั ทัาำ สวินผลไม � ป็ลก้ ทัเุ รยี น เงาะ และทัาำ สวิน ยางพัารา สวินมะพัรา� วิ แตเ่ ขึ้ตทัมี� ฝี นนอ� ยลงมาใน พัน�่ ทัที� ัางตะวินั ตกขึ้องจังั ห้วิดั ัระยอง จังั ห้วิดั ัชลบรุ ี และฉะเชงิ เทัรา ป็ระชากร จัะป็ล้กพัช่ ไร่เพั่�อ การค�า เชน่ อ�อย มันสาำ ป็ะห้ลงั ซีง�้ เป็็นพัช่ เศึรษฐกจิ ัทั�ที ัำารายไดัใ� ห้�ป็ระเทัศึเป็น็ จัำานวินไม่น�อย 6. เขึ้ตคาบสมทุ ัรภาคใตแ� บง่ ออกเป็น็ 2 เขึ้ตยอ่ ยตามควิามแตกตา่ งขึ้องลกั ษณะ ภม้ ปิ ็ระเทัศึ ภม้ อิ ากาศึ และเศึรษฐกจิ ั ดังั น ี� 6.1 ชายฝั�งตะวิันออกเป็็นชายฝั�งป็ระเภทัยกตัวิ ฝง�ั ทัะเลราบเรียบมีอ่าวิสำาคัญอย้่ เพัียง 2 – 3 แห้่ง ค่อ อ่าวิสวิี อ่าวิบ�านดัอน และอ่าวินครศึรีธิ์รรมราช แต่มีชายห้าดัยาวิ มากมายห้ลายแห้่ง เช่น ชายห้าดัทัางจัังห้วิัดันครศึรีธิ์รรมราช สงขึ้ลา ป็ัตตานี ทั�รี าบชายฝั�ง ตะวิันออกมีควิามกวิ�างป็ระมาณ5 – 35 กิโลเมตร แม่นำ�าไห้ลเป็็นสายสั�น ๆ มกี าำ เนิดัมาจัาก ทัิวิเขึ้าตอนกลาง เช่น แม่นำ�าห้ลังสวิน แม่นำา� ตาป็ี แม่นา�ำ ป็ัตตานี เป็็นต�น เกาะสำาคัญทัางภาค ตะวิันออกค่อ เกาะสมุยและ รายวิชิ า สังั คมศึึกษา (สัค21001) 6 ระดับั มธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
เกาะพังัน โดัยเฉพัาะเกาะสมุยเป็็นแห้ล่งผลิตมะพัร�าวิเดั่นทั�ีสุดัทัาง ภาคใต� ชายฝั�งตะวิันออกไดั�รับอิทัธิ์ิพัลขึ้องลมมรสุมทั�ัง 2 ฤดั ้ แตช่ ่วิงทั�ีมฝี นตกมากทั�สี ุดัค่อ ฤดัม้ รสุมตะวินั ออกเฉียงเห้น่อ ซี�ง้ นาำ ฝนมาตกตอนป็ลายป็ตี ่อกับต�นป็ี (ฤดั้ห้นาวิ) เน่อ� งจัาก ชายฝั�งตะวินั ออกมที ั�รี าบ กวิา� งขึ้วิางกวิ่าฝง�ั ตะวิันตก ป็ระชากรจั้งทัำาอาชพี ัทัางการเกษตร ป็ลก้ ขึ้า� วิเจัา� ทัาำ สวินผลไม � สวินยางพัารา มะพัร�าวิ และทัาำ การป็ระมง 6.2 ชายฝงั� ตะวิันตก ติดักบั ทัะเลอันดัามันมีเกาะแก่งมากมายเห้มาะสมทั�จี ัะพัฒั นา เป็็นทั่าเรอ่ ลักษณะชายฝั�งทัแ�ี ส ดังวิ่าฝ�งั ทัะเลดั�านนีก� าำ ลงั จัมตัวิ ค่อ บรเิ วิณป็ากแมน่ า�ำ กระบุร ี จังั ห้วิัดัระนองมีลกั ษณะ เป็็นร้ป็ตวั ิวิีลก้ เขึ้�าไป็ในแผ่นดันิ เป็ นทัร�ี าบแคบ ๆ แตจ่ ัะพับป็�าโกงกาง 11 อยท้่ ัว�ั ิไป็ลักษณะอากาศึทัางชาย ฝ�งั ตะวิันตกแตกตา่ งจัากฝัง� ตะวิันออกค่อฝงั� ตะวินั ตกมีฝนชุก ทัี�สุดัในช่วิงมรสุมตะวิันตกเฉียงใต� (ฤดั้ร�อน)และเศึรษฐกิจัขึ้องป็ระชากรทัางชายฝั�งนี�ขึ้�้นอย้่กับ การทัำาเห้ม่องแร เป็็นสำาคัญโดัยเฉพัาะแร่ดัีบุกและวิุลแฟิรมสำาห้รับการทัำาป็ระมงในทัะเลอันดัา มันกำาลังทัวิีควิามสำาคัญมากขึ้้�น ป็ระเภทัขึ้อง ทัรพั ัยากรธิ์รรมชาติและส�ิงแวิดัลอ� ม ทัรพั ัยากรธิ์รรมชาต ิ แบ่งออกเป็็น3 ป็ระเภทั ดัังน�ี 1. ทัรัพัยากรธิ์รรมชาตทิ ั�ใี ชแ� ลว� ิไม่ห้มดั แบง่ ไดั�เป็น็ 2 ชนิดั ดัังน�ี 1.1 บรรยากาศึ (atmosphere) ในบรรยากาศึป็ระกอบไป็ดั�วิยอากาศึซีง�้ เป็น็ สิง� จัำาเป็น็ สาำ ห้รบั มีชวี ิิต 1.2 นา�ำ ทัีอ� ย่้ในวิฏั ิจัักร น�ำาทั�อี ย่้ในวิัฎจักั รจัะห้มุนเวิียนเป็ลี�ยนไป็จัากสภาพัห้นง�้ ไป็ เป็็นอกี สภาพัห้น�ง้ เร่�อยไป็โดัย ไมม่ ีสน�ิ สดุ ั เช่น จัากฝน ห้มิ ะ ล้กเห้็บตกลงส้่พัน�่ ดัิน บางส่วิน ระเห้ยกลับไป็สบ้่ รรยากาศึ บางส่วินไห้ลซีม้ ล้กลงไป็เป็็นนำ�าใต�ดัิน บางสว่ ินไห้ลไป็ตามพั่�นผิวิดันิ ลงส่แ้ มน่ ำ�าลำาคลองออกส้่ทัะเลมห้าสมทุ ัร และกลบั ระเห้ยกลายเป็น็ ไอนำา� อย่้ในบรรยากาศึและ จัับตัวิเป็็นกอ� นเมฆตกลงมาเป็็นฝนอกี การห้มนุ เวิยี นขึ้องนา�ำ แบบน�จี ัง้ ไมม่ ที ัีส� นิ� สดุ ั มอี ย่ต้ ลอดัไป็ 2. ทัรพั ัยากรธิ์รรมชาตทิ ัท�ี ัดัแทันไดัท� ัรัพัยากรธิ์รรมชาตทิ ัีท� ัดัแทันไดัห� ้รอ่ รกั ษาไวิ�ไดั� ไดั�แก ่ นำ�า ดันิ ป็า� ไม� ทัุ่งห้ญา� สัตวิป์ ็�า 3. ทัรพั ัยากรธิ์รรมชาตทิ ั�ใี ชแ� ล�วิห้มดัไป็ ทัรัพัยากรธิ์รรมชาติป็ระเภทัน�จี ัำาเป็น็ อยา่ งย�งิ ทัี�ตอ� งศึ้กษาเพัอ�่ ห้าแนวิทัาง ในการอนรุ กั ษใ์ ห้ส� ามารถุมใี ชป� ็ระโยชนไ์ ดัน� านทัส�ี ดุ ั ซีง้� ทัรพั ัยากรธิ์รรมชาตปิ ็ระเภทัน �ี ไดัแ� ก ่ ทัรพั ัยากรแรธ่ ิ์าต ุ ทัรพั ัยากรพัลงั งาน ทัีด� ัินในสภาพั ธิ์รรมชาติ เชน่ นา� ตก ห้นา� ผา จัุดัเดัน่ ตามธิ์รรมชาตติ า่ งๆ ส�งิ แวิดัล�อม สง�ิ แวิดัล�อมขึ้องมนษุ ยท์ ั�อี ย่ร้ อบ ๆ ตัวิ ทัง�ั ส�ิงทัี�มีชีวิิตและไมม่ ีชีวิิต ซีง�้ เกิดัจัากการกระทัาำ ขึ้องม์นุษย แบ่งออกเป็็น 2 ป็ระเภทั ค่อ 1. สิ�งแวิดัล�อมทัางธิ์รรมชาติ 2. สงิ� แวิดัลอ� มทัางวิฒั นธิ์รรม ห้รอ่ สง�ิ แวิดัลอ� มป็ระดัษิ ฐ ์ ห้รอ่ มนษุ ยเ์ สรมิ สรา� งกาำ ห้นดั ขึ้น�้ ห้ลกั ขึ้องการใชท� ัรพั ัยากร อย่างคมุ� ค่า 1. การใช�อย่างป็ระห้ยดั ั ค่อ การใชเ� ทั่าทัี�มคี วิามจัำาเป็น็ เพัอ่� ให้ม� ีทัรพั ัยากรไวิ�ใช�ไดัน� าน และเกิดัป็ระโยชน์อย่าง ค�ุมคา่ มากทัส�ี ุดั 2. กกาารรนนำำาำ�กกลลับั มาใชช้�ซ้ ้ีำา��ำ ออีีก ส�งิ ขึ้องบางอย่างเม่�อมีการใช�แล�วิครง�ั ห้น้ง� สามารถุทั�จี ัะ นาำ มาใชซ� ีา�ำ ไดัอ� กี 3. การบ้รณซี่อมแซีม ส�ิงขึ้องบางอย่างเม�่อใช�เป็็นเวิลานานอาจัเกิดัการชำารุดัไดั� เพัราะฉะน�ันถุ�ามีการบ้รณะ ซี่อมแซีม ทัาำ ให้ส� ามารถุยด่ ัอายุการใชง� านต่อไป็ไดั � 4. การบำาบดั ัและการฟิน ฟิ ้ เป็น็ วิธิ ิ์กี ารทั�ีจัะช่วิยลดัควิามเสอ�่ มโทัรมขึ้องทัรพั ัยากรดัว� ิย การบาำ บัดั กอ่ น เชน่ การบาำ บดั ันา�ำ เสยี จัากบา� นเรอ่ นห้รอ่ โรงงานอตุ สาห้กรรม เป็น็ ตน� กอ่ นทัจี� ัะ ป็ลอ่ ยลงสแ่้ ห้ลง่ น�าำ สาธิ์ารณะ สว่ ินการฟิน ฟิเ้ ป็น็ การ ร�่อฟินธิ์รรมชาติให้�กลับส้่สภาพัเดัิม เช่น การป็ล้กป็�าชายเลน เพั่�อฟินฟิ้ควิามสมดัุลขึ้องป็�าชายเลนให้�กลับมาอุดัมสมบ้รณ ์ เป็น็ ตน� รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) 7 ระดับั มัธยมศึึกษาตอนตน้
5.การใช�สิ�งอน�่ ทัดัแทัน เป็น็ วิิธิ์กี ารทั�ีจัะช่วิยให้�มีการใชท� ัรพั ัยากรธิ์รรมชาตนิ �อยลงและ ไม่ทัำาลายสง�ิ แวิดัล�อม เชน่ การใช�ถุุงผ�าแทันถุงุ พัลาสติก การใชใ� บตองแทันโฟิม การใช�พัลงั งาน แสงแดัดัแทันแรเ่ ช่�อเพัลิง การใชป� ็ยุ ชีวิภาพัแทันป็ยุ เคม ี เป็็นต�น 6.การเฝ้าระวิังดั้แลและป็อ้ งกัน เป็็นวิธิ ิ์ีการทั�จี ัะไม่ให้�ทัรัพัยากรธิ์รรมชาตแิ ละ สง�ิ แวิดัล�อมถุ้กทัาำ ลาย เช่น การ เฝา้ ระวิังการทัง�ิ ขึ้ยะ ส�งิ ป็ฏิิก้ลลงแม่น�ำาค้คลอง การจััดัทัำาแนวิป็อ้ งกนั ไฟิป็�า *ห้มายเห้ต:ุ ให้�นกั ศึ้กษาไดั�ศึก้ ษาเพั�ิมเตมิ จัากห้นงั ส่อแบบเรยี น รายวิชิ าสงั คมศึก้ ษา สค21001 8 รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) ระดัับมธั ยมศึกึ ษาตอนตน้
แบบทัดัสอบทัา� ยบทัเรียน จังเล่อกคาำ ตอบทั�ีถู้กตอ� งทัส�ี ดุ ัเพัียงคำาตอบเดัียวิ 6.สาเห้ตุสำาคญั ทัี�ทัำาให้�ทัวิปี ็เอเชยี มภี ้มิอากาศึห้ลากห้ลาย 1.ในป็ัจัจัุบนั ภาพัจัากดัาวิเทัยี มใชป� ็ระโยชน์ในวิงการใดั คอ่ ขึ้�อใดั กวิา� งขึ้วิางทั�สี ดุ ั ก.มีพัน่� ทัี�กวิ�างให้ญ ่ ก.การศึ้กษาดั�านธิ์รณีวิทิ ัยา ขึ้.ไดัร� บั อทิ ัธิ์พิ ัลจัากลมมรสมุ ขึ้.การทัห้ารและควิามมั�นคงขึ้องป็ระเทัศึ ค.บริเวิณกลางทัวิปี ็เป็น็ ทัร�ี าบส้ง ค.การศึ้กษาดั�านโครงการอวิกาศึ ง.มมี ห้าสมุทัรอยท่้ ัางเห้นอ่ และใต� ง.การสาำ รวิจัแห้ล่งทัรพั ัยากรธิ์รรมชาติ 7.ป็รากฎการณ์ธิ์รรมชาตขิ ึ้อ� ใดัทัี�ไม่เคยเกิดัขึ้น�้ ในป็ระเทัศึไทัย 2.เราสามารถุใชภ� าพัถุา่ ยจัากดัาวิเทัยี มในกรณกี ารเกิดั ภัยพับิ ตั ิในดั�านใดั ก.ลก้ เห้็บตกในภาคเห้นอ่ ก.ใชต� ดิ ัตามการเป็ลย�ี นแป็ลงขึ้�อม้ลบนพัน�่ ดันิ ขึ้.แผ่นดัินไห้ ขึ้.ศึก้ ษาตำาแห้นง่ ขึ้องบริเวิณใดับรเิ วิณห้น�ง้ ค.พัายุห้มุนเขึ้ตรอ� น ค.สามารถุมองเห้็นป็รากการณ์บนพั่�นผิวิโลก ง.พัายุห้มนุ ทัอร์นาโดั ทัเี� กิขึ้�้นไดั�ตลอดัเวิลา 8.ป็รากฎการณ์เรอ่ นกระจักสง่ ผลกระทับต่อสิง� แวิดัลอ� ม ง.ใชแ� จั�งเต่อนผ�ค้ นบนพั�น่ โลกในกรณีฉุกเฉนิ ในเร่�องใดัมากทั�สี ดุ ั 3.ป็รากฎการณใ์ ดัทัี�ไมส่ ามารถุมองเห้น็ ไดั�จัากภาพัดัาวิเทัียม ก.อณุ ห้ภม้ โิ ลก ก.ภ้เขึ้าไฟิระเบิดั ขึ้.การบกุ รกุ ทัำาลายป็า� ขึ้.พัายุ ค.การขึ้าดัแคลนอาห้าร ค.ภยั แล�ง ง.อัตราการเพั�มิ ขึ้องป็ระชากร ง.การเคล่�อนตวั ิขึ้องเป็ลอ่ กโลก 9.”คล่�นส้นามิ”เกดิ ัขึ้�น้ เนอ่� งจัากสาเห้ตุขึ้อ� ใดั 4.ถุ�าต�องการทัราบควิามส้งต�าำ ขึ้องภม้ ิป็ระเทัศึทััง� บนบกและ ก.แผ่นดัินไห้วิ ในนำา� ควิรเล่อกใช�แผนทั�ปี ็ระเภทัใดั ขึ้.พัายุพัดั ัผ่านบริเวิณชายฝัง� ก.แผนทัี�รฐั กจิ ั ค.เกิดัจัากภัยแลง� ในภม้ ภิ าค ขึ้.แผนทัี�ภ้มอิ ากาศึ ง.การเป็ลย�ี นแป็ลงขึ้องกระแสนำ�าอุ่น-กระแสนำ�าเยน็ ค.แผนทัี�ภม้ ิป็ระเทัศึ 10.แผน่ ดัินไห้วิเกิดัขึ้�น้ จัากห้ลายสาเห้ต ุ ยกเวิ�นขึ้�อใดั ง.แผนทัี�พั่ชพัรรณธิ์รรมชาติ ก.การทัดัลองระเบดิ ันวิ ิเคลียร์ 5.ระบบ GPS เป็น็ การนาำ คล่น� สัญญาณดัาวิเทัียมมาใช� ขึ้.การระเบิดัห้ินเพัอ�่ ทัาำ เห้มอ่ งแร่ ป็ระโยชน์ในดัา� นใดั ค.การเคล�่อนตัวิขึ้องเป็ล่อกโลก ก.การถุ่ายภาพัทัางอากศึ ง.การเกดิ ัพัายุเฮอรเิ คน ขึ้.ถุ่ายทัอดัสญั ญาณภาพัทัางโทัรทัศั ึน์ ค.บอกตาำ แห้นง่ ขึ้องสิ�งต่าง ๆ บนพัน�่ ผวิ ิโลก ง.เทัคโนโลยีทัางภ้มิศึาสตร์ รายวิิชา สังั คมศึึกษา (สัค21001) 9 ระดัับมธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
10 รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึึกษาตอนตน้
บทัทั�ี 2 ประวิัตศิ ึาสตร์ทัวิีปเอเชีย เร�่องทัี� 1 ประวิตั ิศึาสตร์สังเขั้ปขั้องประเทัศึในทัวิีปเอเชยี 1.ประวิัตศิ ึาสตร์สังเขั้ปขั้องประเทัศึสาธิ์ารณรัฐประชาชนจัีน ป็ระเทัศึจัีนห้ร่อสาธิ์ารณรัฐป็ระชาชนจัีน เป็็นป็ระเทัศึทั�ีมีควิามเจัริญรุ่งเร่อง และมี อารยธิ์รรมยาวินาน ป็ระเทัศึ จันี เป็็นป็ระเทัศึทั�ใี ห้ญ่ทัส�ี ุดัในภ้มภิ าคเอเชยี ตะวินั ออก มปี ็ระชากร มากทัส�ี ดุ ัในโลก ค่อป็ระมาณห้น�ง้ ในห้�าขึ้องป็ระชากรโลก โดัยป็ระชากรส่วินให้ญ่เป็น็ ชาวิจันี ฮั�น มีพั่น� ทั�กี วิา� งให้ญ่ขึ้นาดัเป็น็ อนั ดับั 3 ขึ้องโลก ปปร็ระะเเททัศศึจจัีนีนมีพพัรมห้แมดแดนันตติดดิ กักับบั 15 ป็ระเทัศึ ค่อ เวิียดันาม ลาวิ พัมา่ อนิ เดัีย ภฎ้ าน สิกขึ้ิม เนป็าล ป็ากสี ถุาน อฟั ิกานสิ ถุาน ทัากิจัสิ ถุาน คาซีัคสถุาน รัสเซีีย มองโกเลีย และ เกาห้ลเี ห้น่อ ตั�งแต่ก่อตั�งสาธิ์ารณรัฐเม�อ่ ป็ี พั.ศึ. 2492 ป็ระเทัศึจัีน อย้่ภายใต�การป็กครองขึ้อง พัรรคคอมมวิ ินิสต์ ตดิ ัตอ่ สอ่� สารโดัยใช�ภาษาจัีนกลาง เป็็นภาษาป็ระจัาำ ชาติ คำาวิ่า จัีนแผ่นดัินให้ญ่ ใช�เรียกส่วินขึ้องจัีน ทัี�อย้่ภายใต�การป็กครองขึ้อง สาธิ์ารณรัฐป็ระชาชนจัีน (ส่วินให้ญ่จัะ ยกเวิน� เขึ้ตบรหิ ้ารพัิเศึษ 2 แห้ง่ คอ่ ฮอ่ งกง และมาเก๊า) ป็ัจัจับุ ันสาธิ์ารณรฐั ป็ระชาชนจัีนและป็ระเทัศึญ�ปี ็ุ�นเป็น็ มห้าอำานาจัใน ภ้มิภาคเอเชยี มเี ศึรษฐกจิ ั และกำาลังทัางทัห้ารให้ญ่ทัี�สดุ ัในภม้ ิภาคเอเชยี สาธิ์ารณรัฐป็ระชาชนจันี มเี มอ่ งห้ลวิงค่อกรุง ป็กั กิ�ง การป็ฏิวิ ิัติครัง� แรก (พั.ศึ. 2454) การป็ฏิวิ ิตั คิ รงั� แรกขึ้องจันี เกดิ ัขึ้น้� เม่�อป็ี พั.ศึ. 2454 ซี้ง� เป็น็ การโค่นล�มอาำ นาจัการ ป็กครอง ขึ้องราชวิงศึ์ชงิ โดัยการนำาขึ้อง ดัร. ชุน ยัตเซีน ห้วั ิห้นา� พัรรคก๊กมนิ ตง�ั เป็น็ ผลทัาำ ให้จ� ันี เป็ลย�ี นแป็ลงการป็กครองเขึ้า� สร่้ ะบอบ ป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยในทัส�ี ดุ ั สาเห้ตทุ ัก�ี อ่ ให้เ� กดิ ัการโคน่ ลม� อาำ นาจัครง�ั นน�ี า่ จัะมาจัากควิามเสอ�่ มโทัรมขึ้องสภาพัสงั คมจันี ผน�้ าำ ป็ระเทัศึ จัักรพัรรดัิแมนจั้ไม่มี อำานาจักำาลังพัอทั�ีจัะป็กครองป็ระเทัศึไดั� ซี�ง้ ตลอดัระยะเวิลาป็กครอง 268 ป็ี (พั.ศึ. 2187 – 2455) มีแต่การแย่งชิงอำานาจัในห้ม้่ผ้�นำาราชวิงศึ์ ดั�วิยเห้ตุน�ีราษฎรส่วินมากจั้งตกอย้่ในสภาพั ยากจัน ชาวิไร่ ชาวินาถุ้กขึ้้ดัรีดัภาษี อย่างห้นกั ถุ้กเอารดั ัเอาเป็รยี บจัากเจัา� ขึ้องทัีด� ัิน ชาวิต่างชาต ิ เขึ้�ามากอบโกยผลป็ระโยชน์ แผ่นดันิ จัีนถุก้ คกุ คามจัากตา่ งชาติ โดัยเฉพัาะชาติมห้าอำานาจั ตะวิันตก และญป�ี ็�ุน ซีง้� จันี ทัาำ สงครามต่อตา� นการรุกรานขึ้องกองกาำ ลงั ต่างชาตเิ ป็น็ ฝา� ยแพัม� า โดัย ตลอดั ทัาำ ให้�คณะป็ฏิิวิัตไิ ม่พัอใจัระบอบการป็กครองขึ้องราชวิงศึแ์ มนจั ้ เพั่อ� ควิามสาำ เรจ็ ัในการแกป� ็ญั ห้าขึ้องขึ้องป็ระเทัศึชาติ ดัร. ซีุน ยตั เซีน็ ผ้�นำาฯ จั้งไดั้ 2.ประวิตั ิศึาสตรส์ งั เขั้ปขั้องประเทัศึอินเดัีย ป็ระเทัศึอนิ เดัยี ห้รอ่ มชี อ�่ เรยี กอยา่ งเป็น็ ทัางการวิา่ สาธิ์ารณรฐั อนิ เดัยี ตงั� อยใ่้ นทัวิปี ็เอเชยี ใต � เป็น็ พัน�่ ทัสี� ว่ ินให้ญข่ ึ้อง อนุทัวิีป็อนิ เดัยี มปี ็ระชากรมากเป็็นอนั ดับั ทั�สี องขึ้องโลก และเป็น็ ป็ระเทัศึป็ระชาธิ์ิป็ไตย ทัี�มีป็ระชากรมากทัส�ี ุดัในโลก โดัยมี ป็ระชากรมากกวิ่าห้น�ง้ พันั ล�านคน มภี าษาพัด้ ัป็ระมาณแป็ดัร�อยภาษา ในดัา� นเศึรษฐกิจัอินเดัยี มีอำานาจัการซี�อ่ มากเป็น็ อันดับั ทัส�ี ขี� ึ้องโลก โดัย อาณาเขึ้ตทัางทัศิ ึเห้นอ่ ตดิ ักบั สาธิ์ารณรฐั ป็ระชาชนจันี เนป็าล และภฏ้ ิาน ทัศิ ึตะวินั ตกเฉยี งเห้นอ่ ตดิ ัป็ากสี ถุาน ทัิศึตะวิันออกเฉียงเห้น่อติดัสาธิ์ารณรัฐแห้่งสห้ภาพัพัม่า ทัิศึตะวิันออกเฉียงใต�และตะวิันตกเฉียงใต�จัรดัมห้าสมุทัรอินเดัีย ทัิศึตะวิันออกติดับังกลาเทัศึ อินเดัีย มีพั�่นทั�ี 3,287,590 ตารางกิโลเมตร ซี้�งให้ญ่กวิ่าไทัยป็ระมาณ 6 เทั่า ป็ระวิัติศึาสตร อินเดัียเร�ิมต�นเม่�อ 3,000 ป็ีก่อนคริสตกาล ห้ลักฐานทัางโบราณคดัี ทัี�พับในแควิ�น ป็ัญจัาบและแควิ�นคุชราตขึ้องอินเดัีย บ่งบอกถุ้งควิามรุ่งเร่องขึ้องสังคมเม่องและอารยธิ์รรมลุ่มน�าสินธิ์ุในยุคสมัยนั�น ในศึตวิรรษทั�ี 6 ก่อนคริสตศึักราช ชนเผ่า อินโดั-อารยัน ทั�ีป็กครองอินเดัียอย้่ในขึ้ณะน�ัน ไดั�ต�ังอาณาจัักรทั�ีป็กครองโดัยกษัตริย์นักรบขึ้้�นเป็็นผ้�ป็กครองดัินแดันทั�ี ราบลุม่ แม่นา� คงคา (Ganges plain) มชี นเผ่าตา่ ง ๆ เป็น็ บริวิารอย่้รอบ ๆ ตอ่ มามีการตอ่ ตา� นควิามมีอำานาจัขึ้องพัวิกพัราห้มณ์ ทัม�ี อี ทิ ัธิ์พิ ัลตอ่ ชวี ิติ ควิามเป็น็ อยข่้ ึ้อง ชาวิอนิ เดัยี สว่ ินให้ญพ่ ัวิกทัไี� มเ่ ห้น็ ดัว� ิยตา่ งพัากนั แสวิงห้าศึาสดัาให้ม ่ เป็น็ บอ่ เกดิ ัขึ้องศึาสนา ให้ม ่ ๆ ควิามเช่อ� ให้ม ่ ๆ ขึ้้�น จัง้ ทัำาให้�เกดิ ัศึาสนาสาำ คญั ขึ้�้น 2 ศึาสนา คอ่ ศึาสนาพัุทัธิ์ (Buddhism) กบั ศึาสนาเชน (Jainism) รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) 11 ระดับั มัธยมศึกึ ษาตอนต้น
ในขึ้ณะทัศ�ี ึาสนาฮนิ ดัร้ งุ่ เรอ่ งและมอี ทิ ัธิ์พิ ัลอยา่ งมากอยใ่้ นอนิ เดัยี พัวิกมคธิ์ (Magodh) มอี าำ นาจัป็กครองอยใ่้ น แถุบทัร�ี าบตอนเห้นอ่ พัระเจั�าจันั ทัรคุป็ต์แห้ง่ ราชวิงค์โมรยิ ะ (Chandragupta Maurya) เป็น็ กษัตริย์องค์สำาคัญ ในป็ระวิัติศึาสตรข์ ึ้องอินเดัยี พัระเจัา� จัันทัรคปุ ็ตท์ ัรงตัง� เม่องป็าฏิะลบี ตุ ร (Pataliputra) เป็็นเมอ่ งห้ลวิงขึ้อง อินเดัยี ซี้�งกลา่ วิกนั วิ่าเมอ่ งป็าฏิะลี บุตรเป็็นเม่องให้ญ่ทัีส� ุดัขึ้องโลกในเวิลาน�ัน ต่อมาพัระเจั�าจัันทัรคุป็ต์ห้ันไป็นับถุ่อศึาสนาเชนและบำาเพั็ญทัุกกรกิริยา ดั�วิยการ อดัอาห้ารตาม ควิามเช่อ� ขึ้องศึาสนาเชนจันกระทััง� ส�นิ พัระชนม์ จัากน�นั ราชวิงคโ์ มรยิ ะซี้ง� เจัรญิ รงุ่ เรอ่ งมากทัี�สุดั ในยุคสมัยขึ้อง พัระเจั�าอโศึกมห้าราช ผ้�แผ่อิทัธิ์ิพัลและขึ้ยายอาณาจัักรอินเดัียออกไป็ไกลจันทัิศึเห้น่อจัรดัแควิ�นกัศึมีร์ห้ร่อ แคชเมียร ์ (Kashmir) ดัา� นทัิศึใต�จัรดัไมเซีอร์ (Mysore) ทัิศึตะวิันออกจัรดัโอริสสา(Orissa) เม่�อขึ้้�นครองราชย์ ให้ม่ ๆ พัระเจั�าอโศึก มห้าราชทัรงใช�วิิธิ์ีป็ราบป็รามผ้�ต่อต�านพัระองค์ อย่างโห้ดัเห้�ียม ทัรงขึ้ยายอาณาจัักรดั�วิย กองทััพัทัี�เกรียงไกร เขึ้่นฆ่าผ้�คน ล�มตายเป็น็ ใบไม�ร่วิง แต่ภายห้ลงั เมอ�่ พัระเจัา� อโศึกมห้าราชห้นั มานบั ถุ่อพัทุ ัธิ์ ศึาสนา ทัรงเป็ล�ยี นวิธิ ิ์กี ารขึ้ยายอาณาจักั รดัว� ิย กองทัพั ัธิ์รรมเผยแผ่ศึาสนาพัุทัธิ์โดัยส่งสมณทัต้ ไป็ทั�วั ิโลก 3. ประวิตั ิศึาสตร์สังเขั้ปขั้องสาธิ์ารณรฐั ประชาธิ์ิปไตยประชาชนลาวิ ลาวิห้รอ่ สาธิ์ารณรัฐป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยป็ระชาชนลาวิ เป็น็ ป็ระเทัศึห้น�ง้ ทัีส� ่บเชอ�่ สายบรรพับรุ ษุ เดัยี วิกับ ชาวิไทัย แตล่ าวิ ป็ระกอบดั�วิยชนกล่มุ นอ� ยมากมายห้ลายเผ่า ลาวิแทั� ๆ มเี พัียง 50 เป็อรเ์ ซี็นต์เทั่านนั� ซี้ง� ส่วินให้ญ ่ อาศึยั อย่้รมิ น�าำ โขึ้งบนทัี�ราบ สว่ ินชาวิเขึ้านิยมอย่้บนเทั่อกเขึ้า ตามห้ลกั ฐานทัางป็ระวิัติศึาสตรเ์ มอ�่ ป็ระมาณ 4,000 - 5,000 ป็กี อ่ น กลมุ่ ชนทั�พี ัด้ ัภาษาไต ไดั�อพัยพัเขึ้�ามาอย้่ในป็ระเทัศึลาวิและทั�ีราบส้งในภาคอีสาน รวิมถุ้งพัวิกไทั-กะไดั ม�ง-เม�ียนทัี�เป็็นบรรพับุรุษขึ้องชาวิลาวิลุ่ม และพัวิกม�ง-เย�าทั�ีอพัยพัจัากตอนใต�ขึ้องป็ระเทัศึจัีน แรกเริ�มกลุ่มชนเห้ล่าน�ีไม่มีการตั�งห้ลักแห้ล่งทั�ีแน่นอน ต่อมาเม�่อชนเผ่า ตา่ ง ๆ ทัง�ั ไทัย พัมา่ และเวิยี ดันามอพัยพัลงมา ในเขึ้ตเทัอ่ กเขึ้าและห้บุ เขึ้าขึ้องดันิ แดันเอเชยี อาคเนย ์ ซีง้� เป็น็ ถุนิ� ทัอี� ยข่้ ึ้องชนชาติ มอญ-เขึ้มร ควิามจัาำ เป็น็ ในการสรา� งบา� นเรอ่ นกเ็ รมิ� มขี ึ้น�้ จันพัฒั นาตอ่ มา เป็น็ เมอ่ งเกษตรกรรม และตง�ั ถุน�ิ ฐานอยบ่้ รเิ วิณห้บุ เขึ้า และทัรี� าบลมุ่ ภายใตอ� าำ นาจัขึ้องอาณาจักั รเขึ้มร ตอ่ มาในป็ ี พั.ศึ.1896 พัระเจัา� ฟิา้ งม�ุ ทัรงทัาำ สงครามตเี อานครเวิยี งจันั ทัน ์ ห้ลวิง พัระบางห้ัวิเม่องพัวิน ทั�ังห้มดั ตลอดัจันห้ัวิเม่องอีกห้ลายแห้่งในทั�ีราบส้งโคราชเขึ้�ารวิมเป็็นอาณาจัักรเดัียวิกันภายใต�การ ช่วิยเห้ล่อ ขึ้องกษัตริย์เขึ้มร ก่อต�ังเป็็นอาณาจัักรล�านช�างขึ้�้นบนดัินแดันทั�ีต�ังอย้่ก�้งกลางระห้วิ่างลุ่มแม่น�ำาโขึ้งกับเทั่อกเขึ้า อนั ห้นาำ มีศึน้ ย์กลางอย่ท้ ั�เี ม่องเชียงดัง-เชียงทัอง เป็็นอาณาจัักรทั�รี ุง่ เรอ่ งในทักุ ดัา� น ห้ลังจัากสถุาป็นาเมอ่ งเชียง ดัง-เชยี งทัอง แล�วิ พัระเจั�าฟิ้างุ�มทัรงรับพัุทัธิ์ศึาสนาลัทัธิ์ิลังกาวิงศึ์ จัากราชสำานักเขึ้มรมาเป็็นศึาสนาป็ระจัำาชาติ และไดั�อัญเชิญพัระบาง เป็น็ พัระพัุทัธิ์รป้ ็ศึิลป็ะสงิ ห้ลจัากราชสำานกั เขึ้มรมายงั ลา� นช�าง เจั�าฟิา้ ง�มุ ทัรงเป็ล�ียนช่อ� เป็น็ “เม่องห้ลวิงพัระบาง” 4. ประวิตั ศิ ึาสตร์สังเขั้ปขั้องประเทัศึพัม่าหรอ่ สาธิ์ารณรฐั แห่งสหภูาพัเมียนมาร ป็ระวิตั ศิ ึาสตรข์ ึ้องพัม่านน�ั ยาวินาน มปี ็ระชาชนห้ลายเผา่ พัันธิ์เุ์ คยอาศึยั อยใ่้ นดัินแดันแห้ง่ น ี� เผ่าพันั ธิ์์ ุ เก่าแก่ทั�ีสุดัทั�ี ป็รากฏิไดั�แก่ มอญ ต่อมาราวิศึตวิรรษทั�ี 13 ชาวิพัม่าไดั�อพัยพัลงมาจัากบริเวิณพัรมแดันระห้วิ่างจัีน และทัิเบต เขึ้�าส้่ทั�ี ราบลมุ่ แมน่ า�ำ อริ ะวิดั ี และกลายเป็น็ ชนเผา่ สว่ ินให้ญท่ ัปี� ็กครองป็ระเทัศึในเวิลาตอ่ มา ป็ระวิตั ศิ ึาสตรข์ ึ้องสาธิ์ารณรฐั แห้ง่ สห้ภาพั พัมา่ มคี วิามเกย�ี วิขึ้อ� งกับชนชาตติ ่าง ๆ ห้ลายเช�อ่ ชาติ ไดั�แก่ มอญ พัย ้ รวิมถุ้งมกี ารเกี�ยวิพันั ธิ์ก์ ับอาณาจัักรและราชวิงศึต์ ่าง ๆ เชน่ มอญ เป็็นชนเผา่ แรกทัส�ี ามารถุสรา� งอารยธิ์รรมขึ้น้� เป็น็ เอกลักษณ์ขึ้องตนไดั� ชาวิมอญไดัอ� พัยพัเขึ้�ามา อาศึยั อย่้ในดัินแดัน แห้่งนี�เม่�อราวิ 2400 ป็ีก่อนพัุทัธิ์กาล และไดั�สถุาป็นาอาณาจัักรสุวิรรณภ้มิ ขึ้�้นเป็็น อาณาจัักรแห้่งแรกในราวิพัุทัธิ์ศึตวิรรษ ทั� ี 2 ณ บริเวิณใกลเ� ม่องทั่าตอน (Thaton) ชาวิมอญไดั�รบั อิทัธิ์พิ ัลขึ้อง ศึาสนาพัทุ ัธิ์ผ่านทัางอินเดัียในราวิ พัุทัธิ์ศึตวิรรษทัี � 2 ซี�้งเช�่อวิ่ามาจัากการเผยแพัร่พัระพัุทัธิ์ศึาสนาในรัชสมัย ขึ้องพัระเจั�าอโศึกมห้าราช บันทั้กขึ้องชาวิมอญส่วินให้ญ่ถุ้กทัำาลาย ในระห้วิ่างสงคราม วิัฒนธิ์รรมขึ้องชาวิมอญ เกิดัขึ้น้� จัากการผสมผสานกับวิัฒนธิ์รรมจัากอินเดัยี จันกลายเป็น็ เอกลักษณข์ ึ้อง ตนเองเป็น็ วิฒั นธิ์รรมลกั ษณะ ลก้ ผสม ในราวิพัุทัธิ์ศึตวิรรษทั �ี 14 ชาวิมอญไดัเ� ขึ้�าครอบครองและมีอิทัธิ์ิพัลในดัินแดันตอนใต้ ขึ้องพัมา่ และไดั้ 5. ประวิัติศึาสตร์สงั เขั้ปขั้องประเทัศึอินโดันเี ซียี 12 รายวิิชา สัังคมศึึกษา (สัค21001) ระดับั มัธยมศึึกษาตอนต้น
อินโดันเี ซีีย (Indonesia) ห้ร่อช�่อทัางการค่อ สาธิ์ารณรฐั อนิ โดันีเซียี (Requblic of Indonesia) เป็็นห้มเ่้ กาะทัใ�ี ห้ญ่ ทัส�ี ดุ ัในโลก ตัง� อย่้ระห้วิ่างคาบสมทุ ัรเอเชียตะวินั ออกเฉียงใต�และทัวิปี ็ออสเตรเลียและ ระห้วิ่างมห้าสมทุ ัรอนิ เดัยี และแป็ซีิฟิก มพี ัรมแดันตดิ ักบั ป็ระเทัศึมาเลเซียี บนเกาะบอรเ์ นยี วิ (อนิ โดันเี ซียี : กาลมิ นั ตนั ), ป็ระเทัศึป็าป็วั ินวิ ิกนิ บี นเกาะนวิ ิกนิ ี (อนิ โดันเี ซียี : อิเรียน) และป็ระเทัศึติมอร์ตะวิันออกบนเกาะ ติมอร์ อินโดันีเซีียป็ระกอบดั�วิยห้ม้่เกาะทั�ีมีควิามเจัริญรุ่งเร่องมาช�านาน แต่ต่อมาตอ� งตกอย่้ภายใต�การ ป็กครองขึ้องเนเธิ์อรแ์ ลนดัอ์ ย้่นานป็ระมาณ 300 ป็ ี ในเดัอ่ นมกราคม พั.ศึ. 2485 ซี�ง้ เป็็นชว่ ิง สงครามโลกครง�ั ทั�ี 2 ญป�ี ็น�ุ บกุ อนิ โดันเี ซีีย และทัำาการขึ้บั ไล่เนเธิ์อรแ์ ลนดัเ์ จั�าอาณานิคมขึ้องอินโดันีเซีียออกไป็ไดัส� าำ เร็จั จัง้ ทัาำ ให้� ผ�้นาำ อินโดันเี ซียี คนสาำ คัญ ๆ ในสมัยนน�ั ให้ค� วิามรว่ ิมม่อกับญป�ี ็น�ุ แตไ่ ม่ไดั�ให้�ควิามไวิว� ิางใจักบั ญ�ีป็ุ�นมากนัก เพัราะมีเห้ตุเคล่อบ แคลง คอ่ เม�อ่ มีผ�้รกั ชาตชิ าวิอินโดันเี ซีียจัดั ัตั�งขึ้บวินการต่าง ๆ ขึ้�น้ มา ญ�ปี ็ุ�นจัะขึ้อเขึ้า� ร่วิม ควิบคมุ และดัำาเนินงานดั�วิย เม่�อญปี� ็ุน� แพั�สงครามและป็ระกาศึยอมจัาำ นนต่อฝ�ายพันั ธิ์มิตร อนิ โดันีเซีียไดั�ถุอ่ โอกาสป็ระกาศึ เอกราชในวินั ทั� ี 17 สงิ ห้าคม พั.ศึ. 2488 แตเ่ นเธิ์อรแ์ ลนดั์เจั�าอาณานิคมเดัมิ ไมย่ อมรับการป็ระกาศึเอกราช ขึ้องอนิ โดันเี ซีีย จัง้ ยกกองทัพั ัเขึ้า� ป็ราบป็ราม ผลจัากการส้ รบป็รากฏิวิา่ เนเธิ์อร์แลนดั ์ ไม่สามารถุป็ราบป็ราม กองทััพัขึ้องชาวิอินโดันีเซีียไดั� องั กฤษซีง�้ เป็็นพัันธิ์มิตรกับเนเธิ์อร์แลนดั์จัง้ เขึ้�ามาช่วิยไกล่เกล�ีย เพั�อ่ ให้�ยตุ ิ ควิามขึ้ัดัแยง� กนั โดัยให้ท� ััง� สองฝ�ายลงนามในขึ้�อตกลงลิงกัดัยาติ (Linggadjati Agreement) เม่อ� พั.ศึ. 2489 โดัยเนเธิ์อรแ์ ลนดัย์ อมรับอำานาจัขึ้องรัฐบาลอินโดันเี ซียี ในเกาะชวิาและ สมุ าตรา ตอ่ มาภายห้ลงั เนเธิ์อร์แลนดั์ ไดัล� ะเมดิ ัขึ้อ� ตกลง โดัยไดัน� าำ ทัห้ารเขึ้า� โจัมตอี นิ โดันเี ซียี ทัาำ ให้ป� ็ระเทัศึอน�่ ๆ เชน่ ออสเตรเลยี และอนิ เดัยี ไดัย� น�่ เรอ�่ งให้ค� ณะมนตรี ควิามมนั� คงแห้ง่ สห้ป็ระชาชาต ิ เขึ้า� จัดั ัการ สห้ป็ระชาชาตไิ ดัเ� ขึ้า� ระงบั ขึ้อ� พัพิ ัาทั โดัยตง�ั คณะกรรมการป็ระกอบดัว� ิย ออสเตรเลยี เบลเยียม และสห้รัฐอเมริกา เพั่�อทัำาห้น�าทั�ีไกล่เกล�ียป็ระนีป็ระนอม และไดั�เรียกร�องให้�มีการห้ยุดัยิง แต่เนเธิ์อร์แลนดั์ไดั�เขึ้�า จัับกุมผ้�นำาคนสำาคัญขึ้องอินโดันีเซีีย ค่อ ซี้การ์โนและ ฮัตตาไป็กักขึ้ัง ต่อมาทัห้ารอินโดันีเซีียนำาตัวิผ้�นำาทั�ังสองออกมาไดั� ใน ระยะนท�ี ัุกป็ระเทัศึทััว� ิโลกตา่ งตำาห้นกิ าร กระทัำาขึ้องเนเธิ์อรแ์ ลนดัอ์ ยา่ งยง�ิ และคณะมนตรคี วิามมน�ั คงไดัก� ดัดัันให้เ� นเธิ์อร์แลนดั์ มอบเอกราชให้�แกอ่ ินโดันเี ซียี 6. ประวิตั ศิ ึาสตรส์ งั เขั้ปขั้องประเทัศึฟลิปปนส ฟิลิ ปิ ็ป็นิ ส์ (the Philippines) ห้รอ่ ช่อ� ทัางการคอ่ สาธิ์ารณรฐั ฟิลิ ิป็ป็ินส ์ (Republic of the Philippines) เป็น็ ป็ระเทัศึทัีป� ็ระกอบดั�วิยเกาะจัำานวิน 7,107 เกาะต�งั อย่ใ้ นมห้าสมุทัรแป็ซีฟิ ิกิ ห้า่ งจัากเอเชยี แผน่ ดัินให้ญท่ ัางตะวิันออกเฉยี ง ใต� ป็ระมาณ 100 กม. และมลี ักษณะพัิเศึษคอ่ เป็น็ ป็ระเทัศึเพัยี งห้น�ง้ เดัยี วิทัี�ม ี พัรมแดันทัางทัะเลทัี�ตดิ ัตอ่ ระห้วิา่ งกนั ยาวิมาก ทัสี� ดุ ัในโลก นวิ ิสเป็น (พั.ศึ. 2064 - 2441) และสห้รัฐอเมริกา (พั.ศึ. 2441 - 2489) ไดัค� รองฟิลิ ปิ ็ป็ินส์เป็น็ อาณานคิ มเป็็นเวิลา 4 ศึตวิรรษ และเป็็นสองอิทัธิ์ิพัลให้ญ่ทัส�ี ุดัต่อ วิัฒนธิ์รรมขึ้องฟิิลปิ ็ป็นิ ส์ ฟิลิ ปิ ็ป็ินสเ์ ป็น็ ชาติเดัยี วิในเอเชยี ทัปี� ็ระชากรสว่ ินให้ญ่ นับถุ่อศึาสนาคริสต์ และเป็็นห้น�้งในชาติ ทัี�ไดั�รับอิทัธิ์ิพัลจัากตะวิันตกมากทั�ีสุดั เป็็นการผสมผสานกันระห้วิ่างตะวิันตกและ ตะวิันออกทั�เี ป็็นเอกลักษณ ์ เฉพัาะ อาร์โนลดั์ โจัเซีฟิ ทัอยนบ์ ี (Arnold Joseph Toynbee) นกั ป็ระวิตั ิศึาสตรช์ าวิองั กฤษ ไดั�กล่าวิไวิ�ในงาน ขึ้องเขึ้าวิ่า ป็ระเทัศึฟิิลิป็ป็ินส์เป็็นป็ระเทัศึลาตินอเมริกาทัี�ถุ้กพััดัพัาไป็ยังตะวิันออก โดัยคล่�นทัะเลยักษ์ ห้ลักฐานทัางโบราณคดัีและโบราณชีวิวิิทัยาบ่งบอกวิ่ามีมนุษย์โฮโมเซีเป็ียนส์ เคยอาศึัยอย้่ในเกาะ ป็าลาวิันตั�งแต่ป็ระมาณ 50,000 ป็กี ่อน ชนเผ่าทั�พี ั้ดัภาษาในตระก้ลออสโตรนเี ซีียไดั�เขึ้า� มาต�งั รกราก ในฟิลิ ิป็ป็ินส ์ และจััดัต�งั เสน� ทัางเครอ่ ขึ้่ายการค�า กบั เอเชยี อาคเนยส์ ่วินทั�เี ห้ล่อทัง�ั ห้มดัตง�ั แต ่ 5,000 ป็ ี ก่อนคริสตกาลภาษาทั�ชี าวิฟิิลิป็ป็นิ สใ์ ชพ� ั้ดัคอ่ ภาษาตากาลอ็ ค 7.ประวิตั ศิ ึาสตร์สงั เขั้ปขั้องประเทัศึญป�ี ุน ญี�ป็ุ�น (Nihon/Nippon นิฮง/นิป็ป็ง) มีช่�อทัางการค่อ ป็ระเทัศึญ�ีป็ุ�น (Nihon-koku/Nipponkoku-นิฮงโกะกุ/ นปิ ็ป็งโกะก)ุ เป็น็ ป็ระเทัศึห้มเ่้ กาะในภม้ ภิ าคเอเชยี ตะวินั ออก ตง�ั อยใ่้ นมห้าสมทุ ัรแป็ซีฟิ ิกิ ทัางตะวินั ตกตดิ ักบั คาบสมทุ ัรเกาห้ลี และสาธิ์ารณรฐั ป็ระชาชนจันี โดัยมที ัะเลญป�ี ็น�ุ กนั� สว่ ินทัางทัศิ ึเห้นอ่ ตดิ ักบั ป็ระเทัศึรสั เซียี มที ัะเลโอคอ็ ตสก ์ เป็น็ เสน� แบง่ แดัน ตวั ิอักษรคนั จัขิ ึ้องช�อ่ ญป�ี ็�ุนแป็ลวิา่ ถุน�ิ กำาเนิดัขึ้องดัวิงอาทัติ ย์ จัง้ ทัำาให้บ� างคร�งั ถุ้กเรียกวิา่ ดันิ แดันแห้ง่ อาทัติ ย์อทุ ััย ญป�ี ็ุน� มีเนอ่� ทั�ี กวิา่ 377,835 ตารางกโิ ลเมตร นบั เป็น็ อนั ดับั ทั �ี 62 ขึ้องโลกห้มเ่้ กาะญป�ี ็น�ุ ป็ระกอบ ไป็ดัว� ิยเกาะนอ� ยให้ญก่ วิา่ 3,000 เกาะ เกาะ ทัีใ� ห้ญ่ทัี�สดุ ักค็ อ่ เกาะฮนช้ ฮกไกโดั ควิ ิช้ และชิโกก ุ ตามลาำ ดัับ เกาะขึ้องญีป� ็ุ�นสว่ ินมากจัะเป็น็ ห้ม่้เกาะภเ้ ขึ้า ซี้�งในน�ันมจี ัำานวิน รายวิิชา สัังคมศึึกษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึกึ ษาตอนตน้ 13
ห้น้�งเป็น็ ภเ้ ขึ้าไฟิ เชน่ ภ้เขึ้าไฟิฟิ้จั ิ ภ้เขึ้าทัสี� ง้ ทั�ีสุดั ในป็ระเทัศึ เป็น็ ตน� ป็ระชากรขึ้องญี�ป็นุ� นนั� มีมากเป็น็ อนั ดัับทัี � 10 ขึ้องโลก ค่อ ป็ระมาณ 128 ลา� นคน เม่องห้ลวิงขึ้องญ�ปี ็�ุนคอ่ กรุงโตเกยี วิ ซีง�้ ถุ�ารวิมบรเิ วิณป็ริมณฑลเขึ้�าไป็ดั�วิยแลว� ิ จัะกลายเป็น็ เขึ้ตเม่องทั�ี ให้ญท่ ัสี� ดุ ัในโลกทัีม� ปี ็ระชากรอย่อ้ าศึัยมากกวิา่ 30 ล�านคน เร�่องทัี� 2 เหตกุ ารณส์ ำาคัญทัางประวิัตศิ ึาสตรท์ ัเี� กิดัขั้�นึ ในประเทัศึไทัยและประเทัศึในทัวิปี เอเชีย 2.1 ยคุ ล่าอาณานคิ ม ยุคล่าอาณานิคมเกดิ ัขึ้น้� เนอ�่ งจัากป็ระเทัศึทัางโลกตะวินั ตก ไดัแ� ก ่ อังกฤษ ฝรง�ั เศึส โป็รตุเกส ฮอลันดัา ฯลฯ พัยายามขึ้ยายอาณานคิ มขึ้องตนเองไป็ยังป็ระเทัศึตา่ ง ๆ ทัว�ั ิโลก โดัยเฉพัาะป็ระเทัศึในแถุบทัวิปี ็ เอเชีย เป็น็ ป็ระเทัศึเป็้าห้มายสำาคัญทั�ีป็ระเทัศึมห้าอำานาจัเห้ล่าน�ีเดัินทัางมาเพั่�อล่าเป็็นเม่องขึ้้�น ทัั�งป็ระเทัศึ อินเดัีย พัม่า อินโดันีเซีีย ฟิลิ ิป็ป็ินส ์ ลาวิ เวิียดันาม เป็น็ ต�น ในบทันจี� ัะกล่าวิถุง้ ป็ระเทัศึทัีถ� ุ้กยด้ ัเป็็นอาณานคิ ม พัอเป็็นสงั เขึ้ป็ดังั นี� ป็ระเทัศึพัม่าต�งั อยใ้่ น เขึ้ตพั่น� ทัเ�ี อเชียตะวินั ออกเฉียงใต � มีระบบการป็กครองทัี�มอบอาำ นาจัให้�แก่ กษตั ริย์และขึ้นุ นางซี้ง� เป็น็ เพัียงกลุม่ คนจัาำ นวินน�อย ในสงั คม สว่ ินไพัรแ่ ละทัาสซีง้� เป็น็ คนสว่ ินให้ญแ่ ละมหี ้ลากห้ลายชาตพิ ันั ธิ์จ์ุ ัะมหี ้นา� ทัใี� นการสง่ สว่ ิยห้รอ่ ใชแ� รงงานแกร่ ฐั ตามกลไก ระบบศึักดันิ า *ห้มายเห้ตุ: ให้น� กั ศึก้ ษาไดั�ศึ้กษาเพัิม� เตมิ จัากห้นงั สอ่ แบบเรียน รายวิชิ าสงั คมศึ้กษา สค21001 14 รายวิชิ า สังั คมศึึกษา (สัค21001) ระดัับมัธยมศึึกษาตอนต้น
แบบทัดัสอบทัา� ยบทัเรียน จังเล่อกคาำ ตอบทั�ถี ู้กตอ� งทัีส� ุดัเพัยี งคำาตอบเดัียวิ 1.มรดักทัางวิฒั นธิ์รรมเร�่องใดัขึ้องอินเดัยี ทัี�เอเชียตะวิันออก 6.ป็ป็ระเทัศึใดัในเอเชียทัถี� ุอ่ วิ่า”เป็็นป็ระเทัศึป็ระชาธิ์ิป็ไตย” เฉยี งใตป� ็ฏิิเสธิ์ ทัีใ� ห้ญส่ ดุ ัขึ้องโลก ก.กฎห้มาย ก.ญป�ี ็นุ� ขึ้.ห้ลักการป็กครองแบบเทัวิราชา ขึ้.อนิ เดัีย ค.อกั ษรศึาสตร์ ค.อินโดันีเซีีย ง.ระบบวิรรณะ ง.ไทัย 2.ป็ระเทัศึใดัในเอเชยี ตะวินั ออกเฉียงใต�ทัร�ี ับมรดักทัาง 7.ป็ัญห้าควิามขึ้ัดัแย�งยิวิ – อาห้รับ มีพัน�่ ฐานมาจัากเร�อ่ งใดั วิฒั นธิ์รรมจัากจันี โดัยตรง ก.ดันิ แดัน ก.ไทัย ขึ้.เช�่อชาต ิ ขึ้.ลาวิ ค.ศึาสนา ค.เวิียดันาม ง.ทักุ ขึ้อ� รวิมกัน ง.เกาห้ลี 8.ชาตใิ ดัเร�มิ ใช � “ธิ์นบัตร” ห้รอ่ “เงนิ กระดัาษ” เป็น็ ชาติแรก 3.การทัส�ี าธิ์ารณรัฐป็ระชาชนจัีน ไดัฮ� อ่ งกและมาเก๊ากลบั คน่ ก.จันี มีควิามสำาคัญทัางป็ระวิัตศิ ึาสตรอ์ ยา่ งไร ขึ้.กรีก ก.ถุ่อวิา่ เป็น็ การส�ินสดุ ัลงขึ้องยคุ จักั รวิรรดัินยิ ม ค.อียิป็ต ์ ขึ้.จัีนไดัผ� ลป็ระโยชนใ์ นทัางเศึรษฐกจิ ัอย่างมาก ง.อินเดัยี ค.ดัินแดันทัง�ั สองต�องตกอย้่ภายใต�ระบอบสังคมนยิ ม 9.ภม้ ภิ าคใดัไดัร� บั อทิ ัธิ์พิ ัลดัา� นการเมอ่ งการป็กครองขึ้องอารยธิ์รรม ง.ธิ์ุรกจิ ัขึ้องชาติตะวิันตกตา่ งถุอนตัวิออกจัากดันิ แดันทััง� สอง อินเดัยี 4.นบั แตไ่ ดั�รบั เอกราชเป็็นตน� มา ศึรีลงั กาต�องเผชญิ กับป็ญั ห้า ก.เอเชียกลาง ภายในทัีส� าำ คญั ทั�ีสดุ ัเร่�องใดั ขึ้.เอเชยี ตะวินั ออก ก.ควิามยากจัน ค.เอเชยี ตะวิันออกเฉียงใต � ขึ้.การขึ้าดัเสถุียรภาพัทัางการเม่อง ง.เอเชียตะวินั ตกเฉยี งใต� ค.การตอ่ สเ้� รียกร�องเอกราชขึ้องชาวิทัมิฬ 10.ขึ้อ� ใดัตรงกับควิามห้มายขึ้องป็ระวิตั ิศึาสตร์ ง.ควิามขึ้ัดัแยง� ระห้วิ่างผ�้นบั ถุ่อศึาสนาพัทุ ัธิ์และอิสลาม ก.รัชกาลทัี� 7 สนิ� พัระชนม ์ 5.ป็ระเทัศึแรกในเอเชียทันี� าำ ระบบรัฐสภาแบบตะวินั ตกมาใช� ขึ้.คดัเี พัชรซีาอุ ค่อป็ระเทัศึใดั ค.การยกเลกิ ระบบไพัร่ขึ้องรัชกาลทั �ี 5 ก.จันี ง.คดัียบุ พัรรคการเมอ่ ง ขึ้.ญี�ป็�ุน ค.อนิ เดัยี ง.ไทัย รายวิชิ า สังั คมศึึกษา (สัค21001) 15 ระดัับมัธยมศึึกษาตอนตน้
16 รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึึกษาตอนตน้
บทัทั�ี 3 เศึรษฐศึาสตร์ เรอ่� งทั�ี 1. ควิามหมาย ควิามสาำ คญั ขั้องเศึรษฐศึาสตร์มหภูาคและจัลุ ภูาค ควิามห้มาย เศึรษฐศึาสตร์ เป็น็ วิิชาวิ่าดั�วิยการผลิต การจัาำ ห้นา่ ย จั่ายแจัก และการบริโภค ใช�สอยส�ิงต่าง ๆ ขึ้อง ชุมชนม ี 2 สาขึ้า คอ่ เศึรษฐศึาสตรจ์ ัลุ ภาค ไดั�แก่ เศึรษฐศึาสตรภ์ าคทัีศ� ึ้กษาป็ญั ห้า เศึรษฐกจิ ัสว่ ินเอกชน ห้รอ่ ป็ัญห้าการห้า ตลาดั เป็็นตน� และเศึรษฐศึาสตรม์ ห้ภาค ไดัแ� ก ่ เศึรษฐศึาสตร์ภาค ทัีศ� ึก้ ษาป็ญั ห้า เศึรษฐกิจัขึ้องป็ระเทัศึโดัยส่วินรวิม เชน่ ป็ญั ห้าเร�อ่ งรายไดัข� ึ้องป็ระชาชาติ การออมทัรพั ัย ์ ขึ้องป็ระชากรป็ญั ห้าการลงทันุ (พัจันานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถุาน พั.ศึ. 2542 : http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp) เศึรษฐศึาสตร์ เป็็นศึาสตร์ห้ร่อสาขึ้าควิามร้�ทั�ีวิ่าดั�วิยการจััดัสรรทัรัพัยากรทั�ีมีจัำากัดัอย่างมีป็ระสิทัธิ์ิภาพั เพั่�อ ป็ระโยชน์ส้งสุดัขึ้องสังคม ดัังน�ัน ไม่วิ่าจัะเป็็นดั�านธิ์ุรกิจั การผลิต การขึ้าย การตลาดั ดั�านสุขึ้ภาพั ดั�านการ ก่อสร�าง ดั�านสถุาป็ัตยกรรม วิศิ ึวิกรรม ดั�านการค�า การขึ้นส่ง จัะเก�ยี วิขึ้�องกับการจัดั ัสรรทัรัพัยากรอย่างไร จัะใชอ� ย่างไร จัะระดัมและ แบ่งทัรัพัยากรอย่างไรให้�เกิดัป็ระสิทัธิ์ิภาพั คุ�มค่าส้งสุดั จัะเป็็นเร�่องทั�ีเกี�ยวิขึ้�องกับ เศึรษฐศึาสตร์ทั�ังส�ิน เศึรษฐศึาสตร์จั้ง นำามาใช�อย่างกวิ�างขึ้วิาง นอกเห้น่อจัากการใช�เพั�่อดัำาเนินนโยบายและ มาตรการเพั�่อการบริห้ารจััดัการป็ระเทัศึ เพั่�อให้�เกิดั ผลดัีต่อเศึรษฐกิจัและสังคม นอกจัากนี�เศึรษฐศึาสตร์ เป็็นศึาสตร์ทั�ีมีพัลวิัตและการพััฒนาเสมอ เรียกวิ่าเป็็นศึาสตร์ทั�ีไม่ตาย ทัั�งดั�านเทัคนิค ทัฤษฎี และการ ป็ระยุกต์ จั้งเป็็นศึาสตร์ทั�ีจัะอย้่ค้่โลกเสมอ และทัี�สำาคัญนักเศึรษฐศึาสตร์ต�องเป็็นผ้�ใฝ�ร้ � ใช�สติป็ัญญา และมี ดั�านคุณธิ์รรม จัริยธิ์รรม ควิามเป็็นธิ์รรม ก็เป็็นป็ระเดั็นทัี�นักเศึรษฐศึาสตร์ไม่ละเลย เพัราะจัะจััดัสรร ทัรพั ัยากร เพั�อ่ ให้ส� งั คมไดัป� ็ระโยชนส์ ง้ สดุ ั ตอ� งใช�ทัง�ั ห้ลกั ป็ระสทิ ัธิ์ิภาพัและเสมอภาคดั�วิย ควิามสาำ คญั ขึ้องเศึรษฐศึาสตร์ เศึรษฐศึาสตร์สามารถุจัาำ แนกไดัเ� ป็น็ 3 ลักษณะ ดัังน� ี 1. ผบ้� รโิ ภค ชว่ ิยให้ผ� บ�้ รโิ ภคสามารถุป็รบั ตวั ิให้�เขึ้า� กบั สถุานการณ์ทัางเศึรษฐกจิ ัขึ้องป็ระเทัศึและขึ้อง โลกไดั� รแ�้ ละ เขึ้�าใจัในนโยบายทัางเศึรษฐกิจัทัรี� ัฐบาลกำาห้นดัจัะสง่ ผลกระทับผบ้� รโิ ภคอย่างไร ช่วิยให้�เตรยี มตัวิ ในการวิางแผนใชจ� ัา่ ย ห้รอ่ ออมภายในครอบครัวิ ห้รอ่ การป็ระกอบอาชีพัไดั� 2. ผ้�ผลิต ช่วิยให้�ผ้�ผลิตสินค�าและบริการสามารถุวิิเคราะห้์และวิางแผนการผลิตไดั�วิ่าจัะผลิตอะไร จัำานวินเทั่าไร ผลิตอย่างไร สาำ ห้รับใคร ซี้�งต�องคำานง้ ถุง้ ในทักุ ขึ้ั�นตอนก่อนสินค�าและบริการถุง้ ม่อผ�บ้ รโิ ภค เพั่อ� ให้ส� ามารถุแขึ้ง่ ขึ้ันในตลาดัไดั� 3. เศึรษฐศึาสตร ์ ช่วิยให้�รัฐบาลเขึ้า� ใจัพัฤตกิ รรมการบรโิ ภคขึ้องป็ระชาชน ผผ้� ลิต ป็ัจัจััยในการ กำาห้นดัสนิ ค�าต่าง ๆ ควิามสมั พันั ธิ์ร์ ะห้วิา่ งตลาดัตา่ ง ๆ ในระบบเศึรษฐกจิ ั การกาำ ห้นดันโยบายและมาตรการ เพัอ�่ มาใชแ� กป� ็ญั ห้าและพัฒั นาเศึรษฐกจิ ั เศึรษฐศึาสตร์จัุลภาค เป็็นการศึ้กษาถุ้งห้น่วิยเศึรษฐกิจัย่อยซี้�งเป็็นส่วินห้น้�งขึ้องระบบเศึรษฐกิจั ทัั�งระบบ เช่น การศึก้ ษาพัฤติกรรมในการบริโภค ควิามชอบ การเล่อก ควิามพัง้ พัอใจั ตอ่ สนิ คา� และบริการ เพั่อ� นาำ ผลการศึก้ ษามากำาห้นดั ราคา การคิดัตน� ทันุ การกระจัายสนิ คา� และบรกิ าร เป็็นตน� ขึ้อบขึ้่ายขึ้องเศึรษฐศึาสตร์ แบง่ เป็็น 2 ดัา� นให้ญ ่ ๆ ค่อ 1. เศึรษฐศึาสตร์มห้ภาค เป็น็ การศึ้กษาถุ้งห้นว่ ิยเศึรษฐกจิ ัเป็็นสว่ ินรวิม เช่น การผลิต รายไดั � การบรโิ ภค การออม การลงทัุน การจัา� งงาน การภาษีอากร การธิ์นาคาร รายไดัป� ็ระชาชาต ิ การค�า ระห้วิ่างป็ระเทัศึ เป็น็ ตน� 2. เศึรษฐศึาสตรจ์ ัลุ ภาค (Micro Economics) ห้มายถุง้ การศึ้กษาพัฤติกรรมขึ้องห้นว่ ิยเศึรษฐกจิ ั สว่ ินย่อย ซี�ง้ เป็็นส่วินป็ระกอบขึ้องระบบเศึรษฐกิจัส่วินรวิม เช่น ศึ้กษาพัฤติกรรมขึ้องผ้�บริโภคแต่ละราย ห้ร่อ กลุ่มขึ้องผ้�บริโภคสินค�า แตล่ ะชนดิ ั พัฤตกิ รรมขึ้องผผ�้ ลติ แตล่ ะราย กลมุ่ ผผ�้ ลติ สนิ คา� แตล่ ะชนดิ ั การกาำ ห้นดั ป็รมิ าณซีอ่� ขึ้องผบ�้ รโิ ภค การกาำ ห้นดัป็รมิ าณ การผลิตขึ้องผผ้� ลิต การกำาห้นดัราคาป็ัจัจัยั การผลติ ตลอดัจันการทัำางานขึ้องกลไกราคา รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) 17 ระดัับมัธยมศึึกษาตอนต้น
เร�่องทั�ี 2. ระบบเศึรษฐกจิ ัในประเทัศึไทัย ระบบเศึรษฐกิจั กอ่ นทั�ีจัะเรียนรถ�้ ุ้งระบบเศึรษฐกจิ ัขึ้องป็ระเทัศึไทัย เราควิรเขึ้า� ใจัถุง้ ควิามห้มายขึ้องระบบเศึรษฐกิจั กนั ก่อน ระบบเศึรษฐกิจั ค่อ กลุ่มห้ร่อห้นว่ ิยธิ์ุรกิจัทัี�รวิมตวั ิกันดัาำ เนนิ กิจักรรมทัางเศึรษฐกิจั โดัยอยภ่้ ายใต� ร้ป็แบบขึ้องการ ป็กครอง จัารตี ป็ระเพัณ ี สังคม และวิัฒนธิ์รรมขึ้องแต่ละป็ระเทัศึ เพั�่อกาำ ห้นดัวิ่าจัะผลิตอะไร ป็รมิ าณมากน�อยเทัา่ ใดั และใช้ วิธิ ิ์ีการผลิตอย่างไร เพั่อ� ตอบสนองควิามตอ� งการขึ้องห้นว่ ิยครัวิเร่อน ห้ร่อกลมุ่ ผบ้� รโิ ภคห้ร่อป็ระชาชนนน�ั เอง ระบบเศึรษฐกจิ ั ขึ้องแต่ละป็ระเทัศึในโลก มีควิามแตกต่างกัน ทัั�งนี�ขึ้�้นอย้่กับร้ป็แบบการป็กครองและ จัารีตป็ระเพัณี โดัยทัั�วิไป็แล�วิแต่ละ ป็ระเทัศึไดั�มีการพัฒั นาระบบเศึรษฐกจิ ัแบบตา่ ง ๆ ขึ้�น้ เพัอ่� แก�ไขึ้ ขึ้�อบกพัร่องขึ้องระบบเดัิมทัมี� ีอย้่ ดัังนั�นจัะเห้็นวิ่าในป็จั ัจัุบนั จัะมีระบบเศึรษฐกิจัอย้่ 3 แบบ ค่อ ระบบเศึรษฐกิจั แบบเสรีนิยม ระบบเศึรษฐกิจัแบบสังคมนิยม และระบบเศึรษฐกิจั แบบผสม ระบบเศึรษฐกจิ ัแบบเสรนี ยิ ม ห้มายถุง้ ระบบเศึรษฐกจิ ัทัีเ� อกชนห้รอ่ ป็ระชาชนทั�วั ิไป็ มีเสรีภาพัในการ ตดั ัสนิ ใจัทัำา กจิ ักรรมตา่ ง ๆ ทัางเศึรษฐกจิ ั มที ั�งั การผลิต การบริโภค การซีอ�่ ขึ้าย แลกเป็ลย�ี น การป็ระกอบ อาชพี ั การจัดั ัตง�ั องค์การทัาง เศึรษฐกจิ ั รวิมทัั�งการเป็น็ เจัา� ขึ้องทัรัพัย์สนิ โดัยรัฐบาลจัะไมเ่ ขึ้�ามาเก�ยี วิขึ้�อง ระบบเศึรษฐกจิ ัแบบสงั คมนยิ ม ห้มายถุ้ง ระบบเศึรษฐกจิ ัทัีร� ฐั บาลจัะเป็น็ ผก�้ าำ ห้นดัและวิางแผน ในการทัาำ กจิ ักรรม ทัางเศึรษฐกิจั โดัยรัฐบาลเป็็นผ้�ตัดัสินใจัในการดัำาเนินเศึรษฐกิจัทัั�งห้มดั เอกชนไม่มีเสรีภาพั ในการตัดัสินใจัในการดัำาเนิน กิจักรรมทัางเศึรษฐกจิ ั ระบบเศึรษฐกจิ ัแบบผสม ห้มายถุง้ ระบบเศึรษฐกจิ ัแบบผสมนเ�ี กิดัขึ้้น� เนอ�่ งจัากป็ญั ห้าและ ขึ้�อบกพัรอ่ งขึ้องระบบ เศึรษฐกิจัแบบเสรีนิยมและแบบสังคมนิยม โดัยจัะมีทัั�งการใช�กลไกราคา เป็็นการ กำาห้นดั และการวิางแผนมาจัากรัฐบาล ส่วินกลาง กล่าวิค่อ มีทั�ังส่วินทัี�ป็ล่อยให้�ป็ระชาชนตัดัสินใจัดัำาเนิน กิจักรรมทัางเศึรษฐกิจัเอง และส่วินทัี�รัฐบาลพัร�อมทัั�ง เจัา� ห้น�าทั�เี ขึ้า� ไป็ควิบคุมและวิางแผนการทัำากิจักรรม ต่าง ๆ ทัางเศึรษฐกจิ ั ระบบเศึรษฐกิจัขึ้องป็ระเทัศึไทัย ระบบเศึรษฐกิจัขึ้องป็ระเทัศึไทัยในยุคป็ัจัจัุบันมีแนวิโน�มจัะเขึ้�าส้่ระบบเศึรษฐกิจั แบบผสมมากขึ้้�น จัะเห้็นไดั�จัากการทัร�ี ัฐบาลไดัใ� ห้�โอกาสป็ระชาชนมีเสรีภาพัทัาำ กิจักรรมทัางธิ์ุรกิจัไดัม� ากขึ้�้น โดัยอาศึัยกลไก ราคา เป็น็ เครอ�่ งมอ่ ในการตดั ัสนิ ใจัแตก่ จิ ักรรมทัางธิ์รุ กจิ ัในบางลกั ษณะกย็ งั มคี วิามจัาำ เป็น็ ตอ� งใชว� ิธิ ิ์กี ารควิบคมุ ห้รอ่ ดัาำ เนนิ การ โดัยรัฐ เช่น กิจัการไฟิฟิา้ ป็ระป็า โทัรศึพั ัทั์ ถุนน เป็็นต�น เรอ่� งทัี� 3. คณุ ธิ์รรมในการผลิตและการบริโภูค การบริโภค ห้มายถุ้ง การแลกเป็ลี�ยนสินค�าและการบริการโดัยใช�เงินเป็็นส�่อกลาง เพั่�อตอบสนอง ควิามต�องการ บริโภคขึ้องบคุ คล เช่น การใชเ� งินซี่�ออาห้าร การใช�เงนิ ซี่�อทัอ�ี ย้่อาศึยั การใชเ� งนิ ซี่อ� เคร่อ� งนงุ่ ห้ม่ การใช�เงินซีอ่� ยารักษาโรค การ ใชเ� งนิ ซีอ�่ ควิามสะดัวิกสบายเพัอ�่ การพักั ผอ่ นห้ยอ่ นใจั เป็น็ ตน� การผลติ ห้มายถุง้ การสรา� งสนิ คา� และบรกิ ารเพัอ�่ ตอบสนองการ บรโิ ภคขึ้องบุคคล คณุ ธิ์รรม เป็น็ คุณงามควิามดั ที ั�จี ัะตอ� งเสริมสร�างให้เ� กิดัทััง� ในผผ�้ ลิตและผ�บ้ ริโภค ในแงผ่ ผ�้ ลติ ตอ� งมคี วิามซี่อ� สตั ย์ในการไมป่ ็ลอมป็นสารมีพัษิ ห้ร่อสารทัม�ี ีป็ระโยชน ์ เขึ้า� มาในกระบวินการ ผลติ ห้รอ่ ห้ากจัาำ เป็น็ ตอ� งใชก� ็ตอ� งใชใ� นป็ริมาณ ทั�ีป็ลอดัภัยและไม่เอาเป็รียบผ้�บริโภค รวิมทั�ังควิรแจั�งให้�ผ้�บริโภค ทัราบ เพั่�อให้�อย้่ในวิิจัารณญาณขึ้องผ้�บริโภคทั�ีจัะเล่อกใช� ขึ้ณะเดัียวิกันก็ตอ� งไมป่ ็ลอ่ ยสารพัิษห้รอ่ ส�งิ ทัก�ี อ่ ให้�เกิดั มลภาวิะตอ่ สิง� แวิดัล�อมซี้�งจัะมผี ลกระทับตอ่ คนอน่� คณุ ธิ์รรมขึ้องผ�้ผลติ ทั�สี าำ คัญมีดัังน ี� 1. ควิามขึ้ยัน เป็็นควิามพัยายาม มุมานะทัี�จัะป็ระกอบการในการผลิตและบริการให้�ป็ระสบผลสำาเร็จั อย่างไม่ ยอ่ ทัอ� ตอ่ ป็ญั ห้าและอปุ ็สรรค 2. ควิามซีอ�่ สตั ย ์ โดัยเฉพัาะซี�อ่ สัตย์ต่อผบ�้ รโิ ภค เชน่ ไมค่ า� กาำ ไรเกนิ ควิร ไมโ่ ฆษณาสนิ คา� เกนิ ควิามเป็น็ จัริง ไมป่ ็ลอม ป็นสินค�า ไม่ผลติ สนิ ค�าทั�ไี ม่ไดั�คุณภาพั ห้ร่อสนิ ค�าทัผี� ิดักฎห้มาย ฯลฯ รายวิิชา สังั คมศึึกษา (สัค21001) 18 ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนตน้
3. ควิามรบั ผิดัชอบ ในการผลิตสนิ คา� และบริการเพั่�อสนองต่อควิามตอ� งการขึ้องผ้�บริโภค และไม่ส่งผล กระทับต่อ สงั คมและสง�ิ แวิดัลอ� ม รับผิดัชอบตอ่ ควิามเสียห้ายอันเกดิ ัจัากการผลิตและบริการ 4. พััฒนาคณุ ภาพัสินค�า เน�นให้�สินคา� และบริการเป็น็ ทัี�พัง้ พัอใจัขึ้องผ�้บริโภค 5. ดั้แลสงั คม ค่อ แบง่ สว่ ินกำาไรทัไ�ี ดั�รับคน่ สส้่ งั คม เช่น ทัำากิจักรรมเพัอ่� สว่ ินรวิม เช่น สิ�งทัเ�ี ป็น็ สาธิ์ารณะ ป็ระโยชน์ การให้�ควิามร้�ทัถ�ี ุ้กตอ� ง ชว่ ิยเห้ล่อผด�้ ัอ� ยโอกาสในร้ป็แบบต่าง ๆ ฯลฯ ในแงผ่ �้บรโิ ภค กต็ �องใช�สตปิ ็ญั ญาในการพัิจัารณาวิา่ ควิรเชอ่� คำาโฆษณาขึ้องสนิ คา� ห้รอ่ ไม่ และจัะใช � อยา่ งไรให้�คุม� คา่ และไม่ทัิ�งขึ้องเห้ล่อใช�ให้�เป็็นมลภาวิะต่อสิ�งแวิดัล�อม ให้�ควิามร่วิมม่อในการกำาจััดัขึ้ยะอย่างถุ้กวิิธิ์ี เพั่�อสุขึ้ภาวิะขึ้องทัุกคนใน ครอบครวั ิและในชุมชน ปจ ัจัยั ทั�มี อี ิทัธิ์พิ ัลตอ่ การบริโภูค 1. ราคาขึ้องสินค�า ผบ้� รโิ ภคโดัยทั�วั ิไป็จัะซีอ�่ สินคา� บรกิ ารทัเ�ี ป็็นไป็ตามควิามตอ� งการ ควิามจัำาเป็น็ ต่อการ ดัาำ รงชวี ิติ และมรี าคาทัไ�ี ม่แพังเกินไป็แตม่ คี ณุ ภาพัดัี 2. รสนยิ มขึ้องผ้�บรโิ ภค ผบ้� รโิ ภคมีรสนิยมทัแี� ตกตา่ งกัน บางคนมีรสนยิ มทัชี� อบสนิ ค�าและบรกิ ารทัี�มาจัากต่างป็ระเทัศึ ผบ�้ รโิ ภคบางคนมีรสนยิ มขึ้องควิามเป็็นไทัย กม็ ักจัะซี�อ่ สินคา� และบริการทั�ีผลติ ขึ้�น้ ภายในป็ระเทัศึเทัา่ นน�ั 3. รายไดัข� ึ้องผบ�้ รโิ ภค รายไดัข� ึ้องผบ�้ ริโภค เป็น็ ป็ัจัจััยทัีม� ีอิทัธิ์ิพัลตอ่ การบรโิ ภค ถุ�าผ�้บรโิ ภคมีรายไดัน� อ� ย มกั ตอ� งการ สินค�าและบริการทั�ีราคาถุ้ก เพั�่อให้�สามารถุดัำารงชีวิิตอย้่ไดั�ไม่ขึ้ัดัสน ถุ�าผ้�บริโภคมีรายไดั�ส้งมัก ต�องการสินค�าและบริการทั�ีมี คณุ ภาพัดั ี แมจ� ัะราคาส้งกต็ าม 4. ระบบซี่�อขึ้ายเงินผอ่ น เป็น็ ระบบซี่อ� ขึ้ายทั�ีช่วิยให้ผ� ม้� ีรายไดัน� �อยมโี อกาสไดับ� ริโภคสนิ ค�าทั�มี รี าคาแพังไดั� 5. การโฆษณา การโฆษณาเป็็นการทัาำ ตลาดั ทัาำ ให้ผ� �บ้ รโิ ภครจ้� ัักสนิ ค�าและบริการ สินค�าและบริการทั�มี ี การทัมุ่ ทันุ โฆษณามากๆ มีส่วินทัาำ ให้�ผ�้บริโภคห้ันไป็ซี�อ่ สนิ คา� และบริการน�นั มากขึ้�้น 6. การคาดัคะเนราคาภายห้น�า ถุา� ผบ้� ริโภคมีการคาดัวิา่ สนิ คา� ใดัมีผลผลิตนอ� ยและราคาจัะแพังขึ้�้น ผบ้� รโิ ภคกจ็ ัะมี การซีอ่� สินคา� นั�นกนั มาก 7. ฤดั้กาล เช่น ฤดัร้ อ� น ผ�้บรโิ ภคจัะห้าซี่�อเสอ่� ผ�าทัี�สวิมใสส่ บายไม่ร�อน ฤดัฝ้ น ผ้�บริโภคจัะห้าซี่�อเส่�อผา� และเคร่�อง ป็อ้ งกนั ฝนกันมาก เป็็นต�น เร�อ่ งทัี� 4. กฎหมายและขั้อ� ม้ลการคม�ุ ครองผ้บ� ริโภูค การพัิทัักษส์ ิทัธิ์ิผ� บ้� รโิ ภค รฐั ธิ์รรมนญ้ แห้ง่ ราชอาณาจักั รไทัย พัุทัธิ์ศึกั ราช 2540 เป็น็ รฐั ธิ์รรมนญ้ ฉบับแรกทัีใ� ห้ค� วิาม สำาคัญขึ้อง การคุ�มครองผ้�บริโภค โดัยบัญญัติถุ้งสิทัธิ์ิขึ้องผ้�บริโภคไวิ�ในมาตรา 57 วิ่า “สิทัธิ์ิขึ้องบุคคลซี�้งเป็็นผ้�บริโภคย่อม ไดัร� บั ควิามค�ุมครอง ทัง�ั น�ีตามทัี�กฎห้มายบัญญตั ”ิ พัระราชบญั ญตั ิคุ�มครองผ�บ้ รโิ ภค พั.ศึ. 2522 ซีง�้ แก�ไขึ้เพั�มิ เติม โดัยพัระราชบัญญัตคิ ม�ุ ครอง ผบ้� รโิ ภค (ฉบับทั� ี 2) พั.ศึ.2541 ไดั�บัญญัตสิ ิทัธิ์ิขึ้องผ้�บรโิ ภคทัจ�ี ัะไดั�รับควิามคม�ุ ครองตามกฎห้มาย 5 ป็ระการ ดัังนี � 1.สทิ ัธิ์ิทัจี� ัะไดัร� บั ขึ้า่ วิสารรวิมทัั�งคำาพัรรณนาคณุ ภาพัทั�ถี ุก้ ต�องและเพัียงพัอเก�ยี วิกับสนิ ค�าห้ร่อ บรกิ าร ไดัแ� ก่ สทิ ัธิ์ิทั�ี จัะไดัร� บั การโฆษณาห้ร่อการแสดังฉลากตามควิามเป็น็ จัริงและป็ราศึจัากพัษิ ภัยแก่ผ�บ้ รโิ ภค รวิมตลอดัถุ้งสิทัธิ์ิทัีจ� ัะไดัร� ับทัราบ ขึ้อ� ม้ลเก�ยี วิกับสนิ ค�าห้ร่อบริการอยา่ งถุ้กต�องและเพัยี งพัอทัจ�ี ัะไมห่ ้ลงผดิ ั ในการซี�อ่ สนิ คา� ห้ร่อรบั บริการโดัยไมเ่ ป็็นธิ์รรม 2.สิทัธิ์ิทั�ีจัะมีอิสระในการเล่อกห้าสนิ ค�าห้ร่อบริการ ไดั�แก่ สทิ ัธิ์ทิ ัี�จัะเลอ่ กซี่�อสนิ ค�าห้รอ่ รับบริการ โดัยควิามสมคั ร ใจัขึ้องผบ�้ รโิ ภค และป็ราศึจัากการชักจัง้ ใจัอันไมเ่ ป็็นธิ์รรม 3.สิทัธิ์ิทั�ีจัะไดั�รับควิามป็ลอดัภัยจัากการใช�สินค�าห้ร่อบริการ ไดั�แก่สิทัธิ์ิทั�ีจัะไดั�รับสินค�าห้ร่อบริการทัี�ป็ลอดัภัย มีสภาพัและคุณภาพัไดั�มาตรฐานเห้มาะสมแก่การใช� ไม่ก่อให้�เกิดัอันตรายต่อชีวิิต ร่างกายห้ร่อ ทัรัพัย์สิน ในกรณีใช�ตาม คาำ แนะนำาห้รอ่ ระมัดัระวิงั ตามสภาพัขึ้องสนิ ค�าห้รอ่ บรกิ ารนน�ั แล�วิ รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) ระดัับมัธยมศึึกษาตอนตน้ 19
4.สิทัธิ์ิทัี�จัะไดั�รับควิามเป็็นธิ์รรมในการทัำาสัญญา ไดั�แก่ สิทัธิ์ิทัี�จัะไดั�รับขึ้�อสัญญาโดัยไม่ถุ้กเอารัดัเอา เป็รียบจัาก ผ้�ป็ระกอบธิ์ุรกิจั 5.สิทัธิ์ิทัี�จัะไดั�รับการพัิจัารณาและชดัเชยควิามเสียห้าย ไดั�แก่ สิทัธิ์ิทัี�จัะไดั�รับการคุ�มครองและชดัใช � ค่าเสียห้าย เม�่อมกี ารละเมิดัสทิ ัธิ์ิขึ้องผ�้บริโภคตามขึ้�อ 1, 2, 3 และ 4 ดังั กลา่ วิ ขึ้�อควิรป็ฏิบิ ัตสิ ำาห้รบั ผ้บ� ริโภคในการซี่�อสนิ ค�า ห้ร่อบริการ ขึ้�อควิรป็ฏิิบัติห้ลังจัากซี�่อสินค�าห้ร่อบริการ ผ้�บริโภคมีห้น�าทั�ีในการใช�ควิามระมัดัระวิัง ตามสมควิร ในการซี�่อ สนิ คา� ห้รอ่ บริการ ไดั�แก่ การให้�ควิามสำาคัญกับฉลากขึ้องสนิ คา� และการโฆษณาสนิ ค�าห้รอ่ บรกิ าร ขั้อ� ควิรปฏิิบัตหิ ลังจัากซีอ�่ สนิ ค�าหรอ่ บรกิ าร ผ�้บรโิ ภคมหี ้น�าทัใ�ี นการเก็บรักษาพัยานห้ลักฐานต่างๆ ทัแ�ี สดังถุ้ง การละเมิดัสิทัธิ์ขิ ึ้องผ�้บริโภคไวิ � เพั่�อการเรยี กรอ� ง ตามสทิ ัธิ์ขิ ึ้องตน พัยานห้ลกั ฐานดังั กลา่ วิ อาจัเป็น็ สนิ คา� ทัแี� สดังให้เ� ห้น็ วิา่ มปี ็รมิ าณ ห้รอ่ คณุ ภาพัไมเ่ ป็น็ ไป็ตามมาตรฐานทัร�ี ะบุ ไวิ�ในฉลาก มีควิามสกป็รก ห้ร่อมีพัษิ ทัี�ก่อให้�เกิดัอนั ตราย ควิรจัำาสถุานทั �ี ซี่อ� สินค�าห้รอ่ บริการน�นั ไวิ� เพั่�อป็ระกอบการรอ� งเรียน และต�องเก็บเอกสารโฆษณาและใบเสร็จัรับเงนิ เอาไวิด� ัว� ิย เม�่อมกี ารละเมดิ ัสทิ ัธิ์ขิ ึ้องผบ�้ รโิ ภคขึ้น�้ ผบ�้ รโิ ภคมหี ้นา� ทัใ�ี นการดัาำ เนนิ การรอ� งเรยี น ตามสทิ ัธิ์ิขึ้องตน โดัยรอ� งเรียนไป็ ยังห้น่วิยงานทั�ีเกี�ยวิขึ้�องกับการกำากับดั้แลสินค�าห้ร่อบริการน�ันห้ร่อร�องเรียนมาทั�ีสำานักงาน คณะกรรมการคุ�มครองผ้�บริโภค ตา่ งจัังห้วิัดัรอ� งเรียนทัี�คณะอนุกรรมการการคม�ุ ครองผบ�้ รโิ ภคป็ระจัาำ จัังห้วิัดั เร่อ� งทัี� 5. ระบบเศึรษฐกิจัขั้องประเทัศึต่าง ๆ ในเอเชีย ควิามสาำ คญั ขึ้องกลมุ่ ทัางเศึรษฐกจิ ัในเอเชยี การรวิมกลุ่มทัางเศึรษฐกจิ ัในภม้ ภิ าคต่าง ๆ ห้ลกั การการรวิมกลุ่มทัาง เศึรษฐกจิ ั ควิามสัมพันั ธิ์ข์ ึ้องการค�าระห้วิ่างป็ระเทัศึมีวิวิ ิฒั นาการ เป็ลยี� นแป็ลงไป็จัากการค�าในอดัตี ทัง�ั ในรป้ ็แบบทัางการค�า ขึ้อบขึ้่ายกิจักรรมทัางการค�า ป็ระเทัศึค้่ค�าและ เทัคโนโลยีสารสนเทัศึทัี�อำานวิยควิามสะดัวิกทัางการค�า การเจัรจัาทัางการค�า เป็็นเร�อ่ งสำาคญั และเป็า้ ห้มายห้ลกั ขึ้องผ�้เจัรจัาทัางการค�าทั�มี าจัากภาครัฐ ค่อ เพัอ�่ สิทัธิ์ิป็ระโยชนท์ ัางการค�าขึ้องชาติตนเอง เนอ่� งจัากการแขึ้่งขึ้นั ทัางการคา� ป็ระเทัศึต่าง ๆ จัง้ มนี โยบายและมาตรการทัใ�ี ช�บดิ ัเบอ่ นทัางการค�า ซีง�้ ทัำาให้ก� ารคา� ระห้วิา่ ง ป็ระเทัศึ ขึ้าดัควิามเป็็นธิ์รรมและขึ้าดัควิามเป็็นเสรี การเจัรจัาทัางการค�านั�น มุ่งห้วิังวิ่าจัะเป็็นการแลกเป็ลี�ยนห้ร่อลดัห้ย่อน สิทัธิ์ิพัิเศึษทัางการค�า จััดัทัำาขึ้�อตกลงทัางการค�า ควิามร่วิมม่อและพััฒนาร้ป็แบบการค�าและเพั่�อแก�ไขึ้ ขึ้�อพัิพัาทัทัางการค�า ระห้วิา่ งป็ระเทัศึ ร้ป็แบบการเจัรจัาต่อรองทัางการค�าน�ันสามารถุแบ่งไดัต� ามระดับั ขึ้องการเจัรจัา ค่อทัวิภิ าค ี (Bilateral) ซี้�ง เป็น็ ควิามสมั พัันธิ์์ระห้วิา่ งป็ระเทัศึตอ่ ป็ระเทัศึการเจัรจัามากฝ�าย (Plurilateral) อาทัิเชน่ การเจัรจัา 3 ฝา� ย ห้รอ่ การเจัรจัา 4 ฝ�าย การเจัรจัาห้ลายฝ�ายห้ร่อพัห้ภุ าคี (Multilateral) ซี�ง้ เป็็นการ เจัรจัาทัี�มปี ็ระเทัศึเขึ้�ารว่ ิมและใช�เวิลายาวินานกวิ่าจัะไดั้ ขึ้�อสรุป็ การเจัรจัาต่อรองทัางการคา� เห้ลา่ น�นี าำ ไป็ส้่ระดัับ ควิามสมั พันั ธิ์ท์ ัางการคา� ระห้วิา่ งป็ระเทัศึในรป้ ็แบบต่าง ๆ ป็จั ัจับุ นั ระดัับควิามสมั พัันธิ์์ในระดับั กลมุ่ ป็ระเทัศึ ในภม้ ิภาคใกลเ� คยี งกนั และมขี ึ้�อตกลง ต่อกัน (Regional Trade Arrangements) เป็น็ กลมุ่ เศึรษฐกิจัและเป็็น เร�อ่ งสาำ คญั ต่อการพัฒั นาทันี� ำาไป็สก้่ ารคา� เสรขี ึ้องโลก เร�่องทั�ี 6.ประชาคมเศึรษฐกจิ ัอาเซียี น กฎบัตรอาเซีียน กฎบัตรอาเซีียนเป็รียบเสม่อนรัฐธิ์รรมน้ญขึ้องอาเซีียนทั�ีจัะทัำาให้�อาเซีียนมีสถุานะเป็็นนิติบุคคล เป็น็ การวิางกรอบทัางกฎห้มายและโครงสร�างองค์กรให้�กบั อาเซีียน ผ�น้ าำ อาเซีียนไดัล� งนามรับรองกฎบัตรอาเซีียนในการป็ระชมุ สุดัยอดัอาเซียี น ครัง� ทั ี� 13 เมอ�่ วินั ทัี � 20 พัฤศึจัิกายน 2550 ในโอกาสครบรอบ 40 ป็ ี ขึ้องการก่อตัง� อาเซียี น ณ ป็ระเทัศึสิงค์โป็ร ์ เพั่อ� ให้ป� ็ระชาคมโลก ไดัเ� ห้็นถุ้งควิามกา� วิห้นา� ขึ้อง อาเซีียนทัี�จัะก�าวิเดัินไป็ดั�วิยกันอย่างมั�นใจัระห้วิ่างป็ระเทัศึสมาชิกทัั�ง 10 ป็ระเทัศึ และถุ่อเป็็นป็ระวิัติศึาสตร์จัะป็รับเป็ล�ียน อาเซีียนให้�เป็็นองค์กรทัี�มีสถุานะเป็็นนิติบุคคลในฐานะทัี�เป็็นองค์กรระห้วิ่างรัฐบาล ทัั�งนี�ป็ระเทัศึสมาชิกไดั�ให้�สัตยาบันเป็็น กฎบตั รอาเซียี นครบทััง� 10 ป็ระเทัศึแล�วิ เม่อ� วินั ทัี� 15 พัฤศึจักิ ายน 2551 ดัังน�นั กฎบัตรอาเซีียนจัง้ มีผลบังคับใชต� ง�ั แต่วิันทั� ี 15 ธิ์นั วิาคม 2551 เป็็นตน� ไป็ รายวิชิ า สังั คมศึึกษา (สัค21001) 20 ระดับั มัธยมศึึกษาตอนตน้
วิตั ถูุประสงค์ขั้องกฎบตั รอาเซียี น 1. เพัอ่� ให้�องคก์ รทัีม� ปี ็ระสทิ ัธิ์ภิ าพั มีป็ระชาชนเป็น็ ศึน้ ยก์ ลางและเคารพักฎกตกิ าในการ ทัาำ งานมากขึ้น�้ 2. เพั่อ� เสริมสรา� งกลไกตรวิจัสอบเฉพัาะและติดัตามการดัาำ เนินการตามควิามตกลงต่าง ๆ ขึ้องป็ระเทัศึสมาชกิ ให้มีผลเป็็นร้ป็ธิ์รรม 3. เพั�อ่ ป็รับป็รงุ โครงสร�างการทัำางานและกลไกต่าง ๆ ขึ้องอาเซีียนให้ม� ีป็ระสทิ ัธิ์ภิ าพัมากขึ้น้� และเพัม�ิ ควิามย่ดัห้ยุน่ ในการแก�ไขึ้ป็ัญห้า *หมายเหต:ุ ให้�นกั ศึ้กษาไดั�ศึก้ ษาเพัิ�มเติมจัากห้นังส่อแบบเรียน รายวิิชาสังคมศึ้กษา สค21001 รายวิิชา สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) 21 ระดับั มธั ยมศึกึ ษาตอนตน้
แบบทัดัสอบทั�ายบทัเรียน จังเล่อกคำาตอบทัีถ� ูก้ ตอ� งทัส�ี ดุ ัเพัียงคำาตอบเดัยี วิ 1. วิิชาเศึรษฐศึาสตร์สว่ ินให้ญเ่ ป็น็ เร�อ่ งเกี�ยวิกับส�งิ ใดั 7.การศึ้กษาเศึรษฐศึาสตร์มห้ภาคจัะทัาำ ให้�บุคคลมีควิามร�้ใน ก. การผลิตสนิ คา� เรอ�่ งใดั ขึ้. การให้�บริการ ก.การผลิตโดัยใช�ตน� ทันุ ตำา� ทัส�ี ดุ ั ค. การใช�ทัรพั ัยากร ขึ้.การอธิ์ิบายสาเห้ตุขึ้องการเกิดัเงนิ เฟิ้อไดั� ง. การทัาำ มาห้ากนิ ในชีวิิตป็ระจัาำ วินั ค.การเล่อกซี่�อสนิ ค�าต่าง ๆ ไดั�อยา่ งมีป็ระสทิ ัธิ์ิภาพั 2. การแขึ้่งขึ้ันทัางการค�าจัะก่อให้�เกิดัผลดัีทัางเศึรษฐกจิ ั ง.การกาำ ห้นดัราคาและป็ริมาณการผลิตทัจี� ัะทัำาให้�ไดั � อย่างไรบ�าง กำาไรส้งสุดั ก. พั่อคา� จัะไดั�กำาไรจัากการขึ้ายสินค�า 8.ส�ิงใดัไมถ่ ุ่อวิ่าเป็็นป็จั ัจัยั ทันุ ในเศึรษฐศึาสตร์ ขึ้. ป็อ้ งกันไม่ให้�รฐั บาลเขึ้า� ไป็ควิบคุมในกจิ ัการค�า ก.เครอ่� งจักั รทั�ใี ชใ� นการผลิตสนิ ค�า ค. ช่วิยป็้องกนั การค�ากำาไรเกินควิร ขึ้.โรงงานทั�ใี ชใ� นการผลิตสนิ คา� ง. ป็ระชาชนใชส� ินค�ามากขึ้้�น ค.ยานยนตท์ ัี�ใชใ� นการขึ้นสง่ สนิ ค�า 3. ขึ้�อใดัทัแ�ี สดังวิ่าผบ�้ ริโภคนาำ วิชิ าเศึรษฐศึาสตรม์ าใช ง.เงนิ กยุ� ม่ ห้มุนเวิียนทัีใ� ชใ� นการผลิตสินคา� ในชวี ิิตป็ระจัำาวิัน 9.ป็ัญห้าเศึรษฐกิจัขึ้องไทัยขึ้�อใดัเป็็นป็ัญห้าทั�ีเร�่อรังติดัต่อกัน ก. ซี่�อสินค�าเฉพัาะทัี�จัาำ เป็็นและราคาไม่แพัง มายาวินาน ขึ้. กกั ตนุ สินค�าเมอ่� ร้ว� ิา่ จัะขึ้น�้ ราคา ก.การวิ่างงาน ค. เล่อกซี่อ� สินคา� ทัถ�ี ุก้ ทั�สี ุดั ขึ้.เงนิ เฟิอ้ ง. ซี่อ� สนิ ค�าจัากการโฆษณา ค.การขึ้าดัดัุลบญั ชที ัุน 4. ขึ้�อใดัอธิ์บิ ายควิามห้มายขึ้อง “ระบบเศึรษฐกิจั” ง.ควิามเห้ล่อ� มลาำ� ขึ้องการกระจัายรายไดั� ไดัถ� ุก้ ต�องมากทั�สี ดุ ั 10.ขึ้�อใดัเป็น็ คาำ จัาำ กดั ัควิามขึ้อง”เงิน”ทั�ีดัที ัส�ี ุดั ก. สังคมทั�มี ีแนวิป็ฏิบิ ตั ทิ ัางเศึรษฐกิจัภายใต�รป้ ็แบบ ก. เงินคอ่ ธิ์นบตั รและเห้รยี ญกษาป็ณ์ทั�มี อี ย้่ในระบบ เดัยี วิกนั เศึรษฐกิจั ขึ้. สังคมทัีอ� นุญาตให้�เอกชนเป็น็ เจัา� ขึ้องป็จั ัจัยั การผลิต ขึ้. เงินคอ่ วิตั ถุุมีคา่ ใชใ� นการซี�อ่ ขึ้ายสนิ ค�าและบริการ ค. สังคมทั�ใี ช�กลไกขึ้องราคาเขึ้�ามาแก�ไขึ้ป็ัญห้าเศึรษฐกิจั ค. เงนิ ค่ออะไรกไ็ ดั�ทั�ีสงั คมยอมรับวิ่าเป็น็ ส�่อกลางใน ง. สังคมทัีม� กี ารผลติ ภายใต�การควิบคุมขึ้องรัฐบาล การแลกเป็ลย�ี น 5. ป็ระเทัศึไทัยตอ� งก้�เงินจัากสถุาบันการเงนิ ระห้วิา่ งป็ระเทัศึ ง. เงนิ คอ่ ธิ์นบัตร เห้รียญกษาป็ณแ์ ละบัตรเครดัิตทัใ�ี ช� เพั�่อมาแก�ไขึ้สภาวิะเศึรษฐกิจัจัาก สถุาบันการเงินในขึ้�อใดั ในการแลกเป็ล�ยี น ก. โอเป็ค (OPEC) ขึ้. ไอ เอม็ เอฟิ (IMF) ค. อีซีี (EC) ง. อาเซีียน (ASEAN) 6.ป็ระสทิ ัธิ์ภิ าพัในทัางเศึรษฐศึาสตร์ห้มายถุง้ ขึ้อ� ใดั ก.ไดัผ� ลผลติ ทัีต� อ� งการตามเวิลาทั�ีกาำ ห้นดั ขึ้.ไดั�ผลผลติ ทัต�ี อ� งการโดัยใช�เวิลานอ� ยทัีส� ุดั ค.ไดั�ผลผลิตมากทั�สี ดุ ัจัากทัรัพัยากรทัีก� าำ ห้นดั ง.ไดั�ผลผลติ มากทั�สี ดุ ัโดัยใช�ทัรพั ัยากรน�อยทัีส� ดุ ั รายวิิชา สัังคมศึึกษา (สัค21001) 22 ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนตน้
บทัทัี� 4 การเม่องการปกครอง เร�อ่ งทั�ี 1. การเม่องการปกครองทัี�ใช�อย้่ในปจัจับุ ันขั้องประเทัศึไทัย ป็ระเทัศึไทัยไดั�ย้ดัห้ลักการป็กครองในระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตยอันมีพัระมห้ากษัตริย์เป็็นป็ระมุขึ้ มีรัฐธิ์รรมน้ญ การป็กครองแผ่นดัินมาต�ังแต่พัุทัธิ์ศึักราช 2475 จันถุ้งรัฐธิ์รรมน้ญแห้่งราชอาณาจัักรไทัย พัุทัธิ์ศึักราช 2550 เป็็นแนวิทัาง สาำ คญั ตลอดัมา 1.1 การป็กครองในระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตย การป็กครองในระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตย ห้มายถุ้ง การป็กครองทั�ีป็ระชาชน มีอำานาจัส้งสุดัห้ร่อแบ่ง การป็กครองขึ้องป็ระชาชนโดัยป็ระชาชนและเพั�่อป็ระชาชน อันมีพัระมห้ากษัตริย์เป็็นป็ระมุขึ้และ ทัรงอย่้ใต�รฐั ธิ์รรมน้ญ ห้ลักการสาำ คญั ขึ้องการป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตย เป็้าห้มายขึ้องการป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตยเพั�่อจััดัระเบียบการอย้่ร่วิมกันขึ้องผ้�คนใน ลักษณะทั�ีเอ�่ออำานวิย ป็ระโยชน์ตอ่ ป็ระชาชนทักุ คนในรัฐ ให้�ควิามคุม� ครองสิทัธิ์ิและเสรีภาพัอยา่ งเสมอภาคและ ยตุ ธิ ิ์รรม มีห้ลักการสาำ คัญ ดังั น� ี 1. มรี ฐั ธิ์รรมนญ้ เป็น็ กฎห้มายสง้ สดุ ัทัใี� ชใ� นการป็กครองป็ระเทัศึ ซี้ง� ไดัก� าำ ห้นดัควิามสมั พันั ธิ์ ์ ระห้วิา่ งสถุาบนั การเมอ่ ง การป็กครองและป็ระชาชน รวิมถุ้งสิทัธิ์เิ สรีภาพัและห้นา� ทัีข� ึ้องป็ระชาชนทัุกคน 2. มีอำานาจัส้งสดุ ัในการป็กครอง คอ่ อาำ นาจัอธิ์ิป็ไตย ป็ระกอบดัว� ิย อาำ นาจันิตบิ ัญญตั ิ อาำ นาจั บรหิ ้ารและอำานาจั ตลุ าการในระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตย ป็ระชาชนมีอาำ นาจัส้งสดุ ัในการป็กครองป็ระเทัศึและ การใชอ� าำ นาจัต�องเป็น็ ไป็ตามรฐั ธิ์รรม นญ้ ทักี� าำ ห้นดั 3. การป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยให้�ถุ่อวิา่ เสยี งขึ้�างมากห้รอ่ เห้ตผุ ลขึ้องคนสว่ ินให้ญ่เป็น็ มติ ทัีต� �องยอมรบั 4. มีควิามเสมอภาค โดัยป็ระชาชนทัุกคนมสี ิทัธิ์ิเทั่าเทัียมกันในทักุ ๆ ดัา� น เพัราะทักุ คนอย่ภ้ ายใต� การป็กครองขึ้อง รฐั ธิ์รรมน้ญฉบบั เดัยี วิกัน รป้ แบบขั้องการปกครองในระบอบประชาธิ์ิปไตย ร้ป็แบบขึ้องการป็กครองในระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตย แบ่งอาำ นาจัในการบริห้ารป็ระเทัศึออกเป็็น 3 สว่ ิน รวิมเรยี กวิา่ “อาำ นาจัอธิ์ิป็ไตย” ป็ระกอบดัว� ิย 1. อำานาจันิติบญั ญัต ิ พัระมห้ากษัตริย์ทัรงเป็น็ ผ้�ใชพ� ัระราชอาำ นาจันติ ิบัญญตั ผิ า่ นทัางรัฐสภา ซี้ง� เป็็นอำานาจัทั�ใี ชใ� น การตรากฎห้มาย ควิบคมุ การบรหิ ้าราชการแผน่ ดันิ ขึ้องฝา� ยบรหิ ้ารและกาำ ห้นดันโยบาย ให้ฝ� า� ยบรหิ ้ารป็ฏิิบตั ิ สถุาบนั ทัางการ เม่องทัี�เกี�ยวิขึ้�องกับอำานาจันิติบัญญัติ ไดั�แก่ รัฐสภา ป็ระกอบดั�วิย สภาผ้�แทันราษฎรและวิุฒิสภา และให้�ถุ่อวิ่ารัฐสภาเป็็น ตวั ิแทันขึ้องป็ระชาชนทัง�ั ป็ระเทัศึและเป็น็ ผร�้ ักษา ผลป็ระโยชน์ขึ้องป็ระชาชน 2. อาำ นาจับริห้าร พัระมห้ากษัตรยิ ท์ ัรงเป็็นผ้ใ� ช�พัระราชอาำ นาจับรหิ ้ารผ่านทัางรฐั บาลห้ร่อ คณะรฐั มนตร ี มหี ้น�าทัี� ในการวิางนโยบาย กำาห้นดัเป็้าห้มายดัำาเนินกจิ ัการต่าง ๆ ขึ้องรัฐ เพั�อ่ บาำ บัดัทักุ ขึ้์บำารุง สุขึ้ขึ้องป็ระชาชน ดัว� ิยเห้ตนุ �อี าำ นาจั บริห้ารจัง้ มคี วิามสำาคัญตอ่ ระบบการป็กครองขึ้องรฐั 3. อำานาจัตุลาการ พัระมห้ากษัตริย์ทัรงเป็็นผ้�ใช�พัระราชอำานาจัตุลาการฝ�ายทัางศึาล มีอำานาจัห้น�าทั�ีรักษาควิาม ยตุ ธิ ิ์รรมตามทัีก� ฎห้มายกาำ ห้นดั รกั ษาเสรภี าพัขึ้องบคุ คล ป็อ้ งกนั และแกไ� ขึ้มใิ ห้บ� คุ คลลว่ ิงล�ำาเสรภี าพัตอ่ กนั ตลอดัจันคอยควิบ คมุ มใิ ห้เ� จัา� ห้นา� ทัข�ี ึ้องรฐั ใชอ� าำ นาจัเกนิ ขึ้อบเขึ้ต การกาำ ห้นดัให้ม� กี ารแยกใชอ� าำ นาจัอธิ์ปิ ็ไตย 3 สว่ ิน และมสี ถุาบนั รฐั สภา รฐั บาล และศึาล คอยรับผิดัชอบเฉพัาะส่วิน ทัั�งนี�เป็็นไป็ตามห้ลักการป็ระชาธิ์ิป็ไตยทั�ีไม่ต�องการให้�มีการรวิบอำานาจั แต่ต�องให้�มีการ ถุ่วิงดัุลอำานาจัซี้�งกันและกันเป็็นการป็้องกันมิให้�เกิดัการใช�อำานาจัแบบเผดั็จัการ ยกตัวิอย่างเช่น ถุ�าให้� คณะรัฐมนตรีใช้ อาำ นาจันติ ิบัญญตั แิ ละอาำ นาจับรหิ ้าร คณะรฐั มนตรกี อ็ าจัจัะออกกฎห้มายทัไ�ี มส่ อดัคลอ� งกับ ควิามตอ� งการขึ้องป็ระชาชน และ รายวิชิ า สัังคมศึึกษา (สัค21001) 23 ระดับั มธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
เมอ�่ นาำ กฎห้มายนน�ั มาบงั คบั ใชก� จ็ ัะไมเ่ กดิ ัป็ระโยชนต์ อ่ ทักุ ฝา� ยโดัยเฉพัาะ ป็ระชาชน ดังั นน�ั การบรหิ ้ารป็ระเทัศึไทัยทังั� 3 สถุาบนั จัง้ เป็น็ ห้ลักป็ระกันการคานอำานาจัซี้�งกันและกันและ ป็ระการสาำ คญั เป็็นการป็อ้ งกนั การใชอ� าำ นาจัเผดัจ็ ัการ ขั้�อดัขี ั้องการปกครองระบอบประชาธิ์ิปไตย 1. ป็ระชาชนมสี ทิ ัธิ์ิเสรีภาพัในการดัาำ รงชีวิิตในทัุก ๆ ดัา� น ทัง�ั การเมอ่ งการป็กครอง การป็ระกอบ อาชีพั สทิ ัธิ์ิใน ทัีด� ันิ ครอบครองทัรพั ัยส์ ิน การนบั ถุอ่ ศึาสนาและอ�น่ ๆ โดัยไม่ละเมิดักฎห้มาย 2. ป็ระชาชนทักุ คนมสี ิทัธิ์ิเสรีภาพัในดัา� นตา่ ง ๆ อย่างเทัา่ เทัยี มกันไมว่ ิา่ จัะร�าำ รวิย ยากจัน ร่างกาย สมบ้รณ์ห้ร่อ พักิ ารเพัราะทักุ คนต�องป็ฏิบิ ตั ิตามกฎห้มายเช่นเดัยี วิกนั 3. ป็ระชาชนมีควิามกระต่อร่อร�นในการป็ระกอบอาชีพั เพัราะสามารถุป็ระกอบอาชีพัตามควิามต�องการขึ้องตน ทัาำ ให้เ� ศึรษฐกจิ ัขึ้องป็ระเทัศึสามารถุพัฒั นาไป็สค่้ วิามเจัรญิ ไดั� 4. รฐั บาลไมส่ ามารถุผก้ ขึ้าดัอาำ นาจัไดั � เนอ�่ งจัากป็ระชาชนเป็น็ ผค�้ ดั ัเลอ่ กรฐั บาลและห้ากไมพ่ ัอใจั ยงั สามารถุถุอดัถุอน รัฐบาลไดั � ดังั นั�นรฐั บาลจัง้ ต�องมคี วิามสามารถุในการบริห้ารราชการแผน่ ดัินและม ี จัรยิ ธิ์รรมในการทัาำ งาน 5. มคี วิามรนุ แรงระห้วิา่ งป็ระชาชนและรฐั บาลในระดับั นอ� ย เนอ�่ งจัากกฎห้มายให้อ� าำ นาจั ป็ระชาชนในการคดั ัเลอ่ ก รัฐบาลและการชุมนุมเรียกร�องโดัยสันติวิิธิ์ี มีการเจัรจัาอย่างมีเห้ตุผล อีกทั�ังมี ห้น่วิยงานทัี�รองรับกรณีพัิพัาทัระห้วิา่ งรัฐและ เอกชน เชน่ ศึาลป็กครอง เป็น็ ต�น 6. ในกรณีทัี�มีป็ัญห้าต�องแกไ� ขึ้จัะตอ� งให้ค� วิามสาำ คญั กับเสยี งส่วินให้ญ่และเคารพัเสียงส่วินนอ� ย เร�อ่ งทัี� 2. ระบอบการเมอ่ งการปกครองแบบเผดัจ็ ัการ การป็กครองแบบเผดั็จัการ เป็็นระบบการเม่องทัี�รวิมอำานาจัแบบเบ็ดัเสร็จัไวิ�ทัี�ผ้�นำาคนเดัียวิห้ร่อ คณะเดัียวิให้้ อาำ นาจัการตดั ัสนิ ใจัทัี�รฐั การป็กครองและการบริห้ารป็ระเทัศึให้�ควิามสาำ คญั กบั รัฐมากกวิา่ ป็ระชาชน รวิมทั�ังป็ระโยชนท์ ั�รี ฐั จัะไดัร� ับ ป็ระชาชนเป็รยี บเสมอ่ นเป็น็ สว่ ินป็ระกอบ ขึ้องรฐั เทัา่ นัน� และทั �ี สาำ คญั รัฐจัะตอ� งสง้ สดุ ัและถุก้ ตอ� งเสมอ การป็กครอง แบบเผดัจ็ ัการ แบ่งออกเป็น็ 2 รป้ ็แบบ ค่อ แบบอำานาจั นยิ มและแบบเบด็ ัเสร็จันยิ ม เผดั็จัการแบบอำานาจันิยม ห้มายถุ้ง การให้�อำานาจัแก่ผ้�ป็กครองป็ระเทัศึเป็็นสำาคัญ ป็ระชาชนไม่มี ส่วินร่วิมและ รบั รค�้ วิามเป็น็ ไป็ขึ้องบา� นเมอ่ ง จัะรก�้ ต็ อ่ เมอ่� ผน�้ าำ ห้รอ่ คณะผป�้ ็กครองป็ระเทัศึมคี วิามตอ� งการให้ � รบั รเ�้ ทัา่ นน�ั โดัยถุอ่ วิา่ เรอ่� งการ เมอ่ งเป็น็ เรอ�่ งเฉพัาะขึ้องผป�้ ็กครองป็ระเทัศึเทัา่ นน�ั ป็ระชาชนจัะเขึ้า� ไป็เกย�ี วิขึ้อ� ง ไดัใ� นกรณที ัผี� ป�้ ็กครองตอ� งการสรา� งควิามชอบ ธิ์รรมในบางเร�่องและบางสถุานการณ์ แต่ก็เป็็นไป็โดัยจัำากัดั ป็ระชาชนต�องอย้่ใต�การป็กครองและจัะต�องฟิังคำาส�ังอย่าง เครง่ ครัดั แต่ป็ระชาชนจัะไดัร� ับสทิ ัธิ์เิ สรีภาพัในการ นบั ถุ่อศึาสนา สำาห้รบั เร่อ� งทัางเศึรษฐกิจัและสังคมทััว� ิไป็ ผป�้ ็กครองทัี�มัก จัะเป็ดิ ัโอกาสให้�ป็ระชาชนไดั�ดัาำ เนนิ กจิ ัการตา่ ง ๆ ไดัอ� ยา่ งเต็มทั �ี แตต่ อ� งระมดั ัระวิงั ไมใ่ ห้�กระทับอาำ นาจัขึ้องผ�ป้ ็กครอง เรอ่� งทัี� 3.ลักษณะการปกครองแบบอาำ นาจันยิ ม 1. อำานาจัทัางการเม่องเป็็นขึ้องผ้�นำา มุ่งห้มายทัี�จัะควิบคุมสิทัธิ์ิเสรีภาพัขึ้องทัางการป็กครองขึ้อง ป็ระชาชน เป็น็ สำาคัญ 2. การบรหิ ้ารป็ระเทัศึดัาำ เนนิ ไป็อยา่ งมเี อกภาพั รวิมอาำ นาจัไวิท� ัร�ี ฐั บาลกลาง ป็ระชาชนไมม่ สี ว่ ินรว่ ิม ในการป็กครอง ป็ระเทัศึ 3. ป็ระชาชนต�องป็ฏิิบตั ติ ามคาำ ส�งั ขึ้องผ้�นาำ อย่างเคร่งครดั ัและตอ� งไม่ดัำาเนินการใดั ๆ ทัีข� ึ้ัดัขึ้วิางนโยบาย ขึ้องผ�้นาำ 4. ควิบคุมป็ระชาชนดัว� ิยวิิธิ์กี ารลงโทัษอย่างรุนแรงแต่ก็มกี ารใช�กระบวินการยตุ ธิ ิ์รรมอยบ้่ �าง 5. ลกั ษณะการป็กครองแบบนีป� ็ัจัจัุบันยังใชก� ันอยห้่ ้ลายป็ระการ ทั�งั ในทัวิปี ็อเมริกาใต � แอฟิรกิ า 2. เปรียบเทัียบรป้ แบบทัางการเมอ่ งการปกครองระบอบประชาธิ์ปิ ไตยและระบอบอ่น� ๆ 24 รายวิิชา สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดัับมธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
ระบอบการเม่องการป็กครอง ห้มายถุ้ง การจััดัระบบให้�คนส่วินให้ญ่ในสังคมสามารถุดัำาเนินชีวิิตอย้่ร่วิมกัน ไดั�อย่างมีระเบียบแบบแผน มีควิามสัมพัันธิ์์กันอันก่อให้�เกิดัขึ้�อตกลงอันดัีงามร่วิมกัน บังเกิดั ควิามผาสุกและควิามสามัคคี ในสังคม ซี้ง� แบง่ ออกเป็น็ 2 รป้ ็แบบ ค่อ 1. ระบอบการเม่องการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ิป็ไตย 2. ระบอบการเม่องการป็กครองแบบมีป็ระธิ์านาธิ์ิบดัเี ป็็นป็ระมุขึ้ ระบอบการเม่องการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ิป็ไตย ป็ระชาธิ์ิป็ไตยเป็็นระบบการป็กครองทัี�ป็ระเทัศึส่วินให้ญ่ในโลก นยิ มใชเ� ป็น็ ห้ลกั ในการจัดั ัการป็กครอง และบรหิ ้ารป็ระเทัศึ รวิมทังั� ป็ระเทัศึไทัยซีง้� ใชม� านานกวิา่ 70 ป็แี ลว� ิ การป็กครองระบอบ ป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยเกดิ ัจัาก ควิามศึรัทัธิ์าในคุณค่าขึ้องควิามเป็น็ มนุษยแ์ ละเช�่อวิ่าคนเราสามารถุป็กครองป็ระเทัศึไดั � จั้งกาำ ห้นดัให้� ป็ระชาชนเป็็นเจั�าขึ้องอำานาจัในการป็กครอง ซี้�งถุ่อวิ่าการเม่อง การป็กครองมาจัากมวิลชน ร้ป็แบบการ ป็กครองแบบ ป็ระชาธิ์ิป็ไตย แบ่งออกเป็น็ 2 ป็ระเภทั ค่อ 1. ระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยแบบมพี ัระมห้ากษตั ริย์เป็็นป็ระมขุ ึ้ รฐั ธิ์รรมนญ้ และการป็กครองขึ้องไทัย ทักุ ฉบับกาำ ห้นดั ไวิ�อย่างชัดัแจั�งวิ่า เทัิดัทั้นพัระมห้ากษัตริย์เป็็นสถุาบันส้งสุดั ดัำารงอย้่ในฐานะอันเป็็นทัี�เคารพั สักการะผ้�ใดัจัะละเมิดัมิไดั� รัฐธิ์รรมน้ญกำาห้นดัวิ่า ผ้�ใดัจัะกล่าวิห้าห้ร่อฟิ้องร�องพัระมห้ากษัตริย์ในทัางใดั ๆ มิไดั� พัระราชอำานาจัขึ้องพัระมห้ากษัตริย จั้งมีกำาห้นดัไวิ�ในรัฐธิ์รรมน้ญ โดัยป็กติรัฐธิ์รรมน้ญกำาห้นดัให้� พัระมห้ากษัตริย์เป็น็ ผ้�ใช�อำานาจัอธิ์ิป็ไตย ซี้�งเป็็นขึ้องป็ระชาชน์ โดัยใช�อำานาจันิติบัญญัติผ่านทัางรัฐสภา อำานาจั บริห้ารผ่านทัางคณะรัฐมนตรีและอำานาจัตุลาการผ่านทัางศึาล การกำาห้นดั เช่นนี�ห้มายควิามวิ่า อำานาจัต่าง ๆ จัะใช�ในพัระป็รมาภิไธิ์ยขึ้องพัระมห้ากษัตริย์ซี้�งในควิามเป็็นจัริง อำานาจัเห้ล่าน�ีมีองค์กร เป็น็ ผใ้� ช � ฉะน�นั การทับ�ี ัญญตั ิวิ่าพัระมห้ากษัตริยเ์ ป็็นผ�้ใช�อำานาจันติ ิบัญญตั ิ อำานาจับริห้ารและอาำ นาจัตลุ าการผา่ นทัางองค์กร ตา่ ง ๆ นน�ั จัง้ เป็็นการเฉลิมพัระเกียรต ิ แต่อาำ นาจัทั�แี ทัจ� ัรงิ อยท่้ ั�ีองค์กรทั�เี ป็น็ ผ้�พัจิ ัารณานาำ ขึ้้น� ทัล้ เกลา� ฯ ถุวิายเพัอ่� พัระมห้ากษตั ริย์ ทัรงลงพัระป็รมาภิไธิ์ย 2. ระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตยแบบมีป็ระธิ์านาธิ์ิบดัีเป็็นป็ระมุขึ้ ระบบน�ีไดั�ถุ้กสร�างขึ้้�นมานานกวิา่ 200 ป็ี แล�วิ โดัยมี ป็ระเทัศึสห้รัฐอเมริกาเป็็นแม่แบบ ซี้ง� มบี ทับาทัสาำ คัญทัางการเมอ่ ง ค่อ ป็ระธิ์านาธิ์ิบดัี จัะเป็น็ ทัั�งผ�น้ าำ ทัางการเมอ่ งและเป็น็ ผ้�นำาป็ระเทัศึ ป็ระธิ์านาธิ์ิบดัีมาจัากการเลอ่ กตั�งขึ้องป็ระชาชนทัวั� ิป็ระเทัศึ โดัยผ่านคณะผเ้� ล่อกต�ัง ส่วินสมาชิกวิุฒิสภาจัะมา จัากการเล่อกตั�งขึ้องป็ระชาชนแต่ละมลรัฐและ สมาชิกสภาผ้�แทันราษฎรมาจัากการเล่อกต�ังขึ้องป็ระชาชนในแต่ละเขึ้ต เล่อกตั�ง มีการบริห้ารป็ระเทัศึโดัยมี รองป็ระธิ์านาธิ์ิบดัีและรัฐมนตรีร่วิม 160 ป็ัจัจัุบันมีระบอบการเม่องการป็กครองแบบ ป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยแบบมีป็ระธิ์านาธิ์บิ ดัเี ป็็นป็ระมุขึ้ เรียกวิา่ ระบบก�ง้ ป็ระธิ์านาธิ์ิบดัี ซี�ง้ มมี าเมอ่� ป็ระมาณ 40 ป็ีน� ี โดัยมปี ็ระเทัศึ ฝรงั� เศึสเป็น็ แมแ่ บบ ระบบนป�ี ็ระชาชน จัะเป็น็ ผเ�้ ลอ่ กตง�ั ป็ระธิ์านาธิ์บิ ดัแี ละผแ�้ ทันราษฎรโดัยตรง แตก่ ารเลอ่ กวิฒุ สิ ภาจัะเลอ่ ก โดัยสมาชิกสภาผ้�แทัน ราษฎร สมาชิกสภาจัังห้วิัดัและผ้�แทันสภาเทัศึบาลจัะเป็็นผ้�เล่อกแทันป็ระชาชน ป็ระธิ์านาธิ์ิบดัี จัะเป็็นทั�ังป็ระมุขึ้และผ้�นำาป็ระเทัศึทั�ีสำาคัญทั�ีสุดั แต่จัะไม่มีตำาแห้น่งรองป็ระธิ์านาธิ์ิบดัี จัะมีนายกรัฐมนตรีเป็็นผ้�จััดัต�ัง คณะ รัฐมนตรี โดัยมีควิามเห้็นชอบและไวิ�วิางใจัจัาก สภาผ้�แทันราษฎรและสภาผ้�แทันราษฎรนี�มีอำานาจัป็ลดั นายกรัฐมนตรีห้ร่อ รัฐมนตรีไดั� แต่นายกรัฐมนตรีไม่มีสิทัธิ์�ิยุบสภา ผ้�มีอำานาจัยุบสภา ค่อ ป็ระธิ์านาธิ์ิบดัีและ คณะรัฐมนตรีสามารถุเสนอ ร่างกฎห้มายไดัเ� ห้ม่อนระบบรัฐสภาโดัยทัว�ั ิไป็ ระบอบการเมอ่ งการปกครองแบบเผดั็จัการ การป็กครองแบบเผดั็จัการ เป็็นระบบการเม่องทัี�รวิมอำานาจัแบบเบ็ดัเสร็จัไวิ�ทัี�ผ้�นำาคนเดัียวิห้ร่อ คณะเดัียวิให้้ อาำ นาจัการตัดัสินใจัทั�ีรัฐ การป็กครองและการบรหิ ้ารป็ระเทัศึให้�ควิามสาำ คญั กบั รัฐมากกวิา่ ป็ระชาชน รวิมทั�งั ป็ระโยชน์ทั�รี ฐั จัะไดัร� ับ ป็ระชาชนเป็รยี บเสมอ่ นเป็น็ สว่ ินป็ระกอบ ขึ้องรฐั เทัา่ นน�ั และทั �ี สาำ คัญรัฐจัะตอ� งสง้ สดุ ัและถุก้ ตอ� งเสมอ การป็กครอง แบบเผดัจ็ ัการ แบ่งออกเป็น็ 2 รป้ ็แบบ ค่อ แบบอำานาจั นยิ มและแบบเบ็ดัเสรจ็ ันยิ ม เผดั็จัการแบบอำานาจันยิ ม ห้มายถุง้ การให้อ� ำานาจัแก่ผ้ป� ็กครองป็ระเทัศึเป็น็ สาำ คญั ป็ระชาชนไม่มสี ่วินร่วิมและรบั ร้ รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) 25 ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนต้น
ควิามเป็น็ ไป็ขึ้องบา� นเมอ่ ง จัะรก�้ ต็ อ่ เมอ�่ ผน�้ าำ ห้รอ่ คณะผป�้ ็กครองป็ระเทัศึมคี วิามตอ� งการให้ � รบั รเ�้ ทัา่ นน�ั โดัยถุอ่ วิา่ เรอ�่ งการเมอ่ ง เป็น็ เรอ่� งเฉพัาะขึ้องผป�้ ็กครองป็ระเทัศึเทัา่ นน�ั ป็ระชาชนจัะเขึ้า� ไป็เกยี� วิขึ้อ� ง ไดัใ� นกรณที ัผ�ี ป�้ ็กครองตอ� งการสรา� งควิามชอบธิ์รรม ในบางเร�่องและบางสถุานการณ์ แต่ก็เป็็นไป็โดัยจัำากัดั ป็ระชาชนต�องอย้่ใต�การป็กครองและจัะต�องฟิังคำาสั�งอย่างเคร่งครัดั แต่ป็ระชาชนจัะไดั�รับสิทัธิ์ิเสรีภาพัในการนับถุ่อศึาสนา สำาห้รับเร่�องทัางเศึรษฐกิจัและสังคมทัั�วิไป็ ผ้�ป็กครองทัี�มักจัะเป็ิดั โอกาสให้ป� ็ระชาชนไดัด� ัาำ เนนิ กิจัการตา่ ง ๆ ไดัอ� ยา่ งเตม็ ทัี � แตต่ อ� งระมัดัระวิงั ไมใ่ ห้�กระทับอาำ นาจัขึ้องผ้ป� ็กครอง ลักษณะการปกครองแบบอาำ นาจันยิ ม 1. อำานาจัทัางการเม่องเป็็นขึ้องผ้�นำา มุ่งห้มายทั�ีจัะควิบคุมสิทัธิ์ิเสรีภาพัขึ้องทัางการป็กครองขึ้อง ป็ระชาชน เป็็นสำาคัญ 2. การบรหิ ้ารป็ระเทัศึดัาำ เนนิ ไป็อยา่ งมเี อกภาพั รวิมอาำ นาจัไวิท� ัร�ี ฐั บาลกลาง ป็ระชาชนไมม่ สี ว่ ินรว่ ิม ในการป็กครอง ป็ระเทัศึ 3. ป็ระชาชนตอ� งป็ฏิิบตั ติ ามคาำ สั�งขึ้องผ้�นาำ อย่างเคร่งครัดัและตอ� งไม่ดัาำ เนินการใดั ๆ ทัีข� ึ้ดั ัขึ้วิางนโยบาย ขึ้องผ้�นาำ 4. ควิบคมุ ป็ระชาชนดัว� ิยวิิธิ์กี ารลงโทัษอย่างรุนแรงแต่กม็ ีการใช�กระบวินการยตุ ิธิ์รรมอย้่บา� ง 5. ลักษณะการป็กครองแบบนี�ป็จั ัจับุ นั ยังใชก� ันอยห่้ ้ลายป็ระการ ทั�งั ในทัวิปี ็อเมรกิ าใต� แอฟิริกาและเอเชีย เปรยี บเทัยี บขั้�อดัี ขั้�อเสยี ขั้องการปกครองระบอบประชาธิ์ปิ ไตยและการปกครองระบอบเผดั็จัการ ขึ้อ� ดัขี ึ้องการป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตย 1. ป็ระชาชนทัุกคนมีควิามเทัา่ เทัยี มกนั ในดั�านกฎห้มาย 2. ป็ระชาชนทักุ คนมีสิทัธิ์ิเสรีภาพัในทักุ ๆ ดั�าน เพัราะทักุ คนต�องป็ฏิิบัติตามกฎห้มาย เชน่ เดัียวิกัน 3. รฐั บาลไมส่ ามารถุผก้ ขึ้าดัอาำ นาจัไดัเ� นอ่� งจัาก ป็ระชาชนเป็น็ ผค�้ ดั ัเลอ่ กรฐั บาลและห้ากไม ่ พัอใจัยงั สามารถุถุอดัถุอน รฐั บาลไดั� 4. การแกไ� ขึ้ป็ญั ห้าตา่ ง ๆ ยด้ ัถุอ่ แนวิทัางสนั ตวิ ิธิ ิ์มี ี การเจัรจัาอยา่ งมเี ห้ตผุ ลและมหี ้นว่ ิยงานรองรบั กรณพี พัพิ ิพัาาททัรระะห้หวิว่าง า่ งรัฐและเอกชน เชน่ ศึาลป็กครอง ขั้�อดัขี ั้องการปกครองระบอบเผดั็จัการ 1. รัฐบาลมคี วิามเขึ้ม� แขึ้็ง 2. รัฐบาลมคี วิามมนั� คงเป็็นป็ก แผน่ 3. การตดั ัสินใจัในกจิ ัการตา่ ง ๆ เปป็น็ ็นไไปด้วยดี ขั้อ� เสยี ขั้องการปกครองระบอบประชาธิ์ปิ ไตย 1. การแก�ไขึ้บ�านเม่องบางคร�ังมีควิามล่าช�า เน�่องจัากมีกระบวินการห้ลายขึ้ั�นตอนทั�ีต�อง ผ่านควิามเห้็นชอบซี�้ง บางครงั� อาจัแก�ไขึ้ไดั� ไม่ทันั เวิลา 2. ในบางป็ระเทัศึป็ระชาชนส่วินให้ญ่ยังขึ้าดั ควิามร้�ในดั�านการเม่องการป็กครอง ในกรณีคัดัเล่อกผ้�แทันบริห้าร อาจัไม่เห้มาะสม จัะสง่ ผลกระทับตอ่ รฐั บาลไดั้ 3. ในการเลอ่ กตัง� แตล่ ะครง�ั จัำาเป็น็ ต�องใช�เงนิ เป็น็ จัาำ นวินมากดังั นัน� ป็ระเทัศึยากจันจั้งเห้็นวิ่า เป็็น การเสียเงินโดัย ไมก่ ่อให้�เกดิ ัป็ระโยชน์และควิร นำาเงนิ ไป็ใช�ในการพัฒั นาป็ระเทัศึส่งเสริมให้� ป็ระชาชนมงี านทัาำ ห้ร่อชว่ ิยเห้ลอ่ ป็ระชาชนทัยี� ากจัน ขั้�อเสียขั้องการปกครองระบอบเผดั็จัการ 1. ป็ระชาชนไม่มสี ว่ ินร่วิมในการป็กครอง 2. ไม่คาำ นง้ ถุง้ ควิามต�องการขึ้องป็ระชาชน 3. รัฐบาลและป็ระชาชนไมม่ คี วิามสมั พันั ธิ์ก์ นั อย่างใกล�ชดิ ั 4. ป็ระชาชนไมไ่ ดั�รับควิามเป็็นธิ์รรมเทั่าทัีค� วิร 26 รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนตน้
5. ผน�้ ำาอาจัใช�อำานาจัเพั�อ่ ป็ระโยชนส์ ่วินตน และพัวิกพัอ� งไดั� 6. การบรหิ ้ารป็ระเทัศึอย้่ทั�ีผ�้นาำ ห้ร่อคณะเพัยี ง กล่มุ เดัยี วิ การตดั ัสนิ ใจั การแก�ไขึ้ป็ญั ห้าอาจั ผดิ ัพัลาดัไดั�ง่าย 7. ป็ระชาชนไม่มอี สิ ระในการป็ระกอบอาชีพั อย่างเตม็ ทั�สี ่งผลให้ค� วิามเป็็นอย่้ขึ้อง ป็ระชาชนไมค่ ่อยดัแี ละอาจัทัาำ ให้้ ไมม่ ีควิามสขุ ึ้ รายวิิชา สังั คมศึึกษา (สัค21001) 27 ระดัับมธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
แบบทัดัสอบหลังเรยี นบทัเรียน จังเล่อกคาำ ตอบทั�ถี ู้กต�องทัีส� ดุ ัเพัียงคำาตอบเดัยี วิ 1. ขึ้�อใดัเป็็นเรอ�่ งทัพี� ัระบาทัสมเดั็จัพัระป็รมนิ ทัร 6. ควิามมอี สิ ระในการกระทัาำ ขึ้องบคุ คลโดัยไมข่ ึ้ดั ัตอ่ กฎห้มาย มห้าภม้ พิ ัลอดัลุ ยเดัช ทัรงให้ค� วิามชว่ ิยเห้ลอ่ ป็ระชาชนมากทัี�สดุ ั ค่ออะไร ก. สนับสนุนให้�มีอาชพี ั ก. สิทัธิ์ิ ขึ้. ให้�ทัุนการศึก้ ษาเดัก็ ยากจัน ขึ้. ห้นา� ทัี � ค. ให้�ยารกั ษาโรค ชว่ ิยเห้ลอ่ ผ�้ป็�วิย ค. อาำ นาจั ง. แสวิงห้าแห้ลง่ นาำ� เพั่อ� การเกษตร ง. เสรีภาพั 2. ขึ้�อควิามใดักล่าวิถุก้ ตอ� ง 7. ลักษณะการสง่ เสริมการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยทัดี� ัีคอ่ ก. ป็ระเทัศึจันี และลาวิมรี ะบบการป็กครองแตกตา่ งกัน ขึ้�อใดั ขึ้. ป็ระเทัศึรัสเซียี กบั จันี มรี ะบบการป็กครองแตกตา่ งกนั ก. เป็ดิ ัโอกาสให้�ป็ระชาชนแสดังออก ค. ป็ระเทัศึไทัยและป็ระเทัศึอังกฤษมีระบอบการ ขึ้. ให้�การศึก้ ษาแก่ป็ระชาชนอยา่ งเตม็ ทั�ี ป็กครองเห้ม่อนกนั ค. ให้�มกี ารเลอ่ กตง�ั สม�าำ เสมอเป็น็ ป็ระจัาำ ง. ป็ระเทัศึองั กฤษและป็ระเทัศึสห้รฐั อเมรกิ ามีระบบ ง. ส่งเสริมรายไดั�ป็ระชาชนอย่างต่อเน�่อง การป็กครองแตกตา่ งกนั 8. ป็ระชาชนทัุกคนมีสทิ ัธิ์แิ ละเสรีภาพัเพัียงใดั 3. นักศึก้ ษาคดิ ัวิ่าการเมอ่ งเป็็นเรอ่� งขึ้องใคร ก. ไมม่ ีขึ้อบเขึ้ตจัำากัดั ก. คณะรัฐมนตรี ขึ้. มีจัำากดั ัโดัยอำานาจัขึ้องผ�ป้ ็กครอง ขึ้. รัฐสภาเทัา่ นั�น ค. มจี ัำากัดัโดัยขึ้�อบญั ญตั ิขึ้องกฎห้มาย ค. ป็ระชาชนทักุ คน ง. มจี ัำากดั ัตามฐานะขึ้องแต่ละบุคคล ง. พัรรคการเม่องเทั่านั�น 9. ขึ้�อใดัไมใ่ ชส่ ทิ ัธิ์ิขึ้องป็ระชาชนชาวิไทัยทัี� 4. พัฤติกรรมในขึ้�อใดัทัีแ� สดังวิา่ ป็ระชาชนยังไมต่ ระห้นักถุง้ กฎห้มายรัฐธิ์รรมนญ้ บญั ญตั ไิ วิ � สิทัธิ์แิ ละห้น�าทัีข� ึ้องตนเอง ตามระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตย ก. สทิ ัธิ์ใิ นทัรพั ัยส์ ิน ก. ลงุ บญุ มี ฟิงั ขึ้า่ วิสารการเม่องจัากวิทิ ัยุกอ่ นนอน ขึ้. สิทัธิ์ิทัางการเมอ่ ง ทัุกคน่ ค. สิทัธิ์เิ สนอเร�อ่ งราวิรอ� งทักุ ขึ้ ์ ขึ้. นายออ่ น ร่วิมเดัินขึ้บวินป็ระทัว� ิงนโยบายป็รับคา่ จั�าง ง. สทิ ัธิ์ทิ ัี�จัะไดั�รบั สวิสั ดัิการเม�่อสง้ อายุ แรงงาน 10. ห้น�าทัขี� ึ้องคนไทัยทัต�ี �องดัำารงควิามเป็น็ ไทัย คอ่ ขึ้อ� ใดั ค. สมห้ญงิ เขึ้ียนบทัควิามลงห้นังส่อพัมิ พั์เสนอวิธิ ิ์แี ก ก. การป็อ้ งกันป็ระเทัศึ ป็ัญห้ายาเสพัติดั ขึ้. เคารพัสิทัธิ์เิ สรีภาพัขึ้องผอ้� ่�น ง. สมชาย ไม่ไป็ลงคะแนนเลอ่ กตั�งสมาชิกสภาผ�้แทัน ค. การรับราชการทัห้ารและเสยี ภาษีอากร ราษฎรเพัราะไม่วิา่ ง ง. ดัาำ รงไวิซ� ี�้งชาต ิ ศึาสนาและพัระมห้ากษัตริย์ 5. เพัราะเห้ตุใดัการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ิป็ไตยจั้งไดั�รับควิาม นิยมมากกวิ่าการป็กครองแบบอน�่ ก. พัระมห้ากษตั ริย์ทัรงเป็็นป็ระมุขึ้ ขึ้. มีการจััดัตั�งพัรรคการเม่องไดัห� ้ลายพัรรค ค. มกี ารเลอ่ กตั�งผน้� ำาฝ�ายบรหิ ้ารเขึ้�าไป็ป็กครองป็ระเทัศึ ง. ป็ระชาชนมโี อกาสทัจ�ี ัะเขึ้า� ไป็มีส่วินร่วิมในการป็กครอง 28 รายวิชิ า สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) ระดัับมธั ยมศึกึ ษาตอนต้น
แบบทัดัสอบหลังเรียน จังเล่อกคำาตอบทัี�ถู้กตอ� งทัส�ี ุดัเพัียงคำาตอบเดัียวิ 1. ห้น�าทัีข� ึ้องคนไทัยทัี�ต�องดัาำ รงควิามเป็็นไทัย ค่อขึ้อ� ใดั 6. ควิามมอี สิ ระในการกระทัาำ ขึ้องบคุ คลโดัยไมข่ ึ้ดั ัตอ่ กฎห้มาย ก. การป็อ้ งกนั ป็ระเทัศึ คอ่ อะไร ขึ้. เคารพัสิทัธิ์ิเสรีภาพัขึ้องผ�อ้ ่น� ก. สทิ ัธิ์ ิ ค. การรบั ราชการทัห้ารและเสยี ภาษอี ากร ขึ้. ห้นา� ทั�ี ง. ดัำารงไวิ�ซี้�งชาต ิ ศึาสนาและพัระมห้ากษัตรยิ ์ ค. อำานาจั 2. ขึ้�อใดัไมใ่ ช่สิทัธิ์ขิ ึ้องป็ระชาชนชาวิไทัยทั�กี ฎห้มาย ง. เสรีภาพั รฐั ธิ์รรมน้ญบัญญตั ไิ วิ � 7. ลกั ษณะการสง่ เสริมการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยทัด�ี ัคี ่อ ก. สทิ ัธิ์ใิ นทัรพั ัย์สิน ขึ้อ� ใดั ขึ้. สทิ ัธิ์ทิ ัางการเม่อง ก. เป็ดิ ัโอกาสให้�ป็ระชาชนแสดังออก ค. สิทัธิ์ิเสนอเรอ�่ งราวิรอ� งทัุกขึ้์ ขึ้. ให้�การศึก้ ษาแก่ป็ระชาชนอย่างเต็มทั �ี ง. สิทัธิ์ิทัี�จัะไดัร� บั สวิัสดัิการเม่อ� สง้ อายุ ค. ให้ม� กี ารเลอ่ กต�งั สม�ำาเสมอเป็็นป็ระจัาำ 3. ป็ระชาชนทักุ คนมสี ทิ ัธิ์แิ ละเสรีภาพัเพัยี งใดั ง. สง่ เสรมิ รายไดั�ป็ระชาชนอยา่ งต่อเน่อ� ง ก. ไมม่ ีขึ้อบเขึ้ตจัำากัดั 8. นกั ศึก้ ษาคดิ ัวิ่าการเมอ่ งเป็็นเรอ�่ งขึ้องใคร ขึ้. มีจัำากดั ัโดัยอำานาจัขึ้องผ้�ป็กครอง ก. คณะรฐั มนตรี ค. มจี ัำากดั ัโดัยขึ้อ� บัญญัตขิ ึ้องกฎห้มาย ขึ้. รัฐสภาเทั่าน�ัน ง. มจี ัำากดั ัตามฐานะขึ้องแตล่ ะบคุ คล ค. ป็ระชาชนทัุกคน 4. พัฤติกรรมในขึ้�อใดัทั�ีแสดังวิา่ ป็ระชาชนยังไมต่ ระห้นักถุ้ง ง. พัรรคการเมอ่ งเทั่านน�ั สิทัธิ์ิและห้น�าทัีข� ึ้องตนเอง ตามระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตย 9. ขึ้�อควิามใดักลา่ วิถุก้ ตอ� ง ก. ลุงบญุ ม ี ฟิังขึ้า่ วิสารการเม่องจัากวิิทัยกุ ่อนนอน ก. ป็ระเทัศึจัีนและลาวิมรี ะบบการป็กครองแตกตา่ งกนั ทักุ คน่ ขึ้. ป็ระเทัศึรสั เซียี กบั จันี มรี ะบบการป็กครองแตกตา่ งกนั ขึ้. นายอ่อน รว่ ิมเดันิ ขึ้บวินป็ระทั�วิงนโยบายป็รับ ค. ป็ระเทัศึไทัยและป็ระเทัศึอังกฤษมีระบอบการ ค่าจั�างแรงงาน ป็กครอง เห้มอ่ นกัน ค. สมห้ญิง เขึ้ยี นบทัควิามลงห้นังสอ่ พัมิ พัเ์ สนอวิธิ ิ์ี ง. ป็ระเทัศึอังกฤษและป็ระเทัศึสห้รัฐอเมริกามีระบบ แกป� ็ัญห้ายาเสพัติดั การป็กครองแตกตา่ งกนั ง. สมชาย ไมไ่ ป็ลงคะแนนเล่อกตง�ั สมาชิกสภาผแ้� ทัน 10. ขึ้อ� ใดัเป็น็ เร�่องทั�พี ัระบาทัสมเดัจ็ ัพัระป็รมินทัรมห้าภม้ พิ ัล ราษฎรเพัราะไมว่ ิา่ ง อดัลุ ยเดัช (รชั กาลทั�ี 9) ทัรงให้�ควิามช่วิยเห้ล่อป็ระชาชนมาก 5. เพัราะเห้ตใุ ดัการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ิป็ไตยจั้งไดัร� บั ทัีส� ดุ ั ควิามนยิ มมากกวิา่ การป็กครอง แบบอ่�น ก. สนบั สนุนให้�มีอาชพี ั ก. พัระมห้ากษตั ริยท์ ัรงเป็็นป็ระมุขึ้ ขึ้. ให้ท� ัุนการศึก้ ษาเดั็กยากจัน ขึ้. มีการจััดัตัง� พัรรคการเม่องไดัห� ้ลายพัรรค ค. ให้ย� ารักษาโรค ชว่ ิยเห้ล่อผ้ป� ็ว� ิย ค. มกี ารเลอ่ กตั�งผน�้ าำ ฝ�ายบรหิ ้ารเขึ้า� ไป็ป็กครองป็ระเทัศึ ง. แสวิงห้าแห้ล่งนา�ำ เพั่อ� การเกษตร ง. ป็ระชาชนมโี อกาสทั�จี ัะเขึ้า� ไป็มีสว่ ินร่วิมในการ ป็กครอง รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) 29 ระดัับมัธยมศึกึ ษาตอนตน้
11.การป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ิป็ไตยแบบรัฐสภาเป็ิดัโอกาส 17. การป็กครองแบบรฐั สภาผ้�ทัด�ี ัาำ รงตาำ แห้นง่ ห้ัวิห้น�ารฐั บาล ให้ฝ� �ายบรหิ ้ารควิบคมุ ฝ�ายนติ บิ ญั ญัติไดัด� ัว� ิยวิิธิ์ีใดั คอ่ ใคร ก. ยุบรัฐสภา ก. องคมนตร ี ขึ้. ลงมติไม่ไวิ�วิางใจั ขึ้. นายกรัฐมนตร ี ค. ยุบสภาผ�้แทันราษฎร ค. ป็ระธิ์านวิฒุ สิ ภา ง. แต่งต�งั วิฒุ สิ มาชิกให้ม ่ ง. ป็ระธิ์านรฐั สภา 12. บทับาทัและห้นา� ทัข�ี ึ้องรัฐสภาค่อขึ้อ� ใดั 18. ผ�้ทัม�ี ีห้นา� ทัีใ� ช�อาำ นาจัในการบรหิ ้ารคอ่ ใคร ก. ออกกฎห้มายควิบคมุ รฐั บาลและป็ระชาชน ก. นายกรัฐมนตร ี ขึ้. ยบั ยง�ั กฎห้มายและอภปิ ็รายลงมติไม่ไวิ�วิางใจั ขึ้. คณะรัฐมนตรี ค. ถุวิายคาำ แนะนาำ แก่พัระมห้ากษัตรยิ ใ์ นการตรา ค. ป็ระธิ์านวิฒุ ิสภา กฎห้มายฉบบั ต่าง ๆ ง. ป็ระธิ์านรฐั สภา ง. ออกกฎห้มายและควิบคมุ การบริห้ารราชการ 19. ผท้� ั�ีมีห้นา� ทัี�ตราพัระราชบัญญัติคอ่ ใคร แผน่ ดัินขึ้องราชการ ก. คณะรัฐมนตรี 13. คำาวิ่า “อำานาจัอธิ์ิป็ไตย” ตามทั�ีบัญญัติไวิ�ในกฎห้มาย ขึ้. นายกรัฐมนตรี รัฐธิ์รรมน้ญห้มายควิามวิ่าอย่างไร ค. สภาผ�้แทันราษฎร ก. อาำ นาจัส้งสดุ ัขึ้องรฐั สภาในการร่างกฎห้มาย ง. พัระมห้ากษัตรยิ ์ ขึ้. อาำ นาจัส้งสุดัขึ้องป็ระชาชนในการบริห้ารป็ระเทัศึ 20. การป็กครองระบอบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตยผ้�ทัี�มอี าำ นาจัสง้ สดุ ั ค. อาำ นาจัสง้ สดุ ัขึ้องฝา� ยบรหิ ้ารในการป็กครองป็ระเทัศึ ค่อใคร ง. อำานาจัส้งสุดัขึ้องคณะรัฐมนตรใี นการบรหิ ้ารป็ระเทัศึ ก. พัระมห้ากษตั ริย์ 14. ห้ัวิใจัสำาคัญขึ้องระบบการป็กครองแบบป็ระชาธิ์ปิ ็ไตย ขึ้. นายกรัฐมนตรี คอ่ ขึ้อ� ใดั ค. ผบ้� ญั ชาการเห้ล่าทัพั ั ก. ป็ระชาชน ง. ป็ระชาชนชาวิไทัย ขึ้. การเลอ่ กตัง� ค. รัฐธิ์รรมนญ้ ง. พัรรคการเมอ่ ง 15. การจัดั ัระเบยี บสังคมเกี�ยวิขึ้อ� งกบั สถุาบันใดัมากทัส�ี ุดั ก. สถุาบนั ศึาสนา ขึ้. สถุาบันการศึก้ ษา ค. สถุาบันครอบครวั ิ ง. สถุาบนั การป็กครอง 16. ขึ้�อใดัคอ่ อาำ นาจัขึ้องรัฐสภา ก. ศึาล ขึ้. บรหิ ้าร ค. ตุลาการ ง. นติ บิ ัญญัติ 30 รายวิิชา สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มัธยมศึกึ ษาตอนต้น
เฉลยแบบทัดัสอบรายวิชิ าสังคมศึึกษา สค21001 เฉลยแบบทัดัสอบกอ่ นเรียน 1. ขึ้ 2. ง 3. ค 4. ก 5. ค 6. ก 7. ง 8. ค 9. ขึ้ 10. ก 11. ขึ้ 12. ค 13. ง 14. ก 15. ค 16. ขึ้ 17. ง 18. ก 19. ขึ้ 20. ขึ้ เฉลยแบบทัดัสอบทั�ายบทัทั�ี 1 1.ง 2.ค 3.ง 4.ค 5.ค 6.ก 7.ง 8.ก 9.ก 10.ง เฉลยแบบทัดัสอบหลงั เรยี นบทัทั�ี 2 1.ง 2.ค 3.ก 4.ขึ้ 5.ขึ้ 6.ขึ้ 7.ง 8.ก 9.ค 10.ค เฉลยแบบทัดัสอบหลังเรียนบทัทั�ี 3 1.ง 2.ค 3.ก 4.ค 5.ขึ้ 6.ง 7.ขึ้ 8.ง 9.ง 10.ค เฉลยแบบทัดัสอบหลังเรียนบทัทั�ี 4 1.ง 2.ค 3.ง 4.ง 5.ง 6.ง 7.ก 8.ค 9.ก 10.ง เฉลยแบบทัดัสอบหลงั เรียน 1.ง 2.ก 3.ก 4.ง 5.ง 6.ง 7.ก 8.ง 9.ค 10.ง 11. ค 12. ก 13. ขึ้ 14. ก 15. ง 16. ง 17. ขึ้ 18. ขึ้ 19. ง 20. ง รายวิชิ า สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) 31 ระดัับมัธยมศึึกษาตอนต้น
แบบบนั ทัึกการพััฒนาทัักษะวิิชาการเพัอ�่ ยกระดับั ผลสัมฤทัธิ์ผ�ิ �้เรียนรายบุคคล การทัดัสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ระดัับมธั ิ์ยมศึึกษาตอนตน� รายสงั คมศึกึ ษา สค21001 *********************** ช่�อ - สกุล..................................................... รห้ัสนักศึ้กษา.............................................. กศึน.ตำาบล............................... กศึน.อาำ เภอ......................................... จังั ห้วิัดัขึ้อนแก่น จัากการทัผ�ี เ้� รยี นไดัศ� ึก้ ษาเรยี นรจ้� ัากแบบเรยี น และสรปุ ็เนอ�่ ห้าจัากบทัเรยี นในรายวิชิ าตามเอกสารเลม่ นแ�ี ลว� ิ ผเ้� รยี น สามารถุทัราบไดั�วิ่าทัำาแบบทัดัสอบในรายวิิชาสังคมศึ้กษา ถุ้กต�องจัาำ นวินกี�ขึ้�อ โดัยการบันทั้กในแบบบันทั้กการพััฒนาการ เรยี นร �้ รายวิชิ าสังคมศึก้ ษา ระดัับมัธิ์ยมศึก้ ษาตอนต�น ดังั นี� ทัี� วิชิ า คะแนนเตม็ คะแนนทัี�ไดั� หมายเหตุ 1 แบบทัดัสอบก่อนเรยี น 20 1 ขึ้�อ = 1 คะแนน 2 แบบทัดัสอบห้ลังเรียน 20 เกณฑ์์การประเมนิ ผลการพััฒนา แบบทัดัสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน เม�่อทัำาแบบทัดัสอบก่อนเรียน และแบบทัดัสอบห้ลังเรียน ซี�้งมีแบบทัดัสอบ 20 ขึ้�อ ผ�้เรียนสามารถุทัราบไดั�วิ่า มคี วิามร�้อย่้ในระดับั ใดั จัาำ นวินขั้อ� สอบทัี�ผ้เ� รียนทัาำ ถู้กต�อง อยใ่้ นระดัับ หมายเหตุ 18 - 20 ขึ้อ� ดัมี าก 16 - 17 ขึ้อ� ดัี 14 - 15 ขึ้อ� ป็านกลาง 10 - 13 ขึ้อ� พัอใช� ต�ำากวิ่า 10 ขึ้อ� ควิรป็รบั ป็รงุ หมายเหตุ : ผลจัากการป็ระเมิน ผ้เ� รียนสามารถุนาำ ไป็ป็รับป็รุงตนเองเพั�อ่ ให้เ� กิดัการพััฒนาต่อไป็ 32 รายวิิชา สัังคมศึึกษา (สัค21001) ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนตน้
แบบบันทักึ การพััฒนาทัักษะวิิชาการเพั�่อยกระดับั ผลสมั ฤทัธิ์ผิ� �เ้ รยี นรายบคุ คล แบบทัดัสอบทัา� ยบทัเรยี น ระดับั มธั ิ์ยมศึกึ ษาตอนตน� รายวิิชาสงั คมศึึกษา สค 21001 *********************** ชอ�่ - สกุล.......................................................................... รห้สั นกั ศึก้ ษา.............................................. กศึน.ตำาบล............................................ กศึน.อาำ เภอ........................................... จัังห้วิัดัขึ้อนแกน่ จัากการทัผี� �้เรยี นไดัศ� ึก้ ษาเรยี นร�จ้ ัากแบบเรยี น และสรุป็เน่�อห้าจัากบทัเรียน ตามเอกสารเล่มนแ�ี ลว� ิ ผ้เ� รยี นสามารถุ ทัราบไดัว� ิ่าทัาำ แบบทัดัสอบในบทัเรยี นตา่ ง ๆ ถุ้กตอ� งจัำานวินก�ขี ึ้�อ โดัยการบันทั้กในแบบบันทัก้ การพััฒนาทักั ษะวิชิ าการผ�้เรียน รายบคุ คล ดัังนี� ทัี� แบบทัดัสอบทั�ายบทัเรยี นคะแนนเตม็ คะแนนทัี�ไดั� ผลการประเมิน 1 บทัทั�ี 1ภ้มศิ ึาสตรก์ ายภาพัทัวิปี ็เอเชีย 10 2 บทัทัี � 2 ป็ระวิตั ศิ ึาสตรท์ ัวิีป็เอเชยี 10 3 บทัทัี � 3 เศึรษฐศึาสตร์ 10 4 บทัทัี� 4 การเม่องการป็กครอง 10 เกณฑ์ก์ ารประเมินผลการพััฒนา แบบทัดัสอบทัา� ยบทัเรยี น เม่�อทัำาแบบทัดัสอบทัา� ยบทัเรียนในแต่ละบทัเรียน ซี�้งมีแบบทัดัสอบบทัละ 10 ขึ้�อ ผ�้เรียนสามารถุทัราบไดั�วิ่ามี ควิามร้�อยใ้่ นระดัับใดั ดัังนี� จัำานวินขั้อ� สอบทัผ�ี �้เรียนทัาำ ถูก้ ตอ� ง อยใ้่ นระดับั หมายเหตุ 9 - 10 ขึ้อ� ดัมี าก 8 ขึ้�อ ดั ี 7 ขึ้อ� ป็านกลาง 6 ขึ้�อ พัอใช� ต�าำ กวิ่า 6 ขึ้�อ ควิรป็รับป็รงุ หมายเหตุ : ผลจัากการป็ระเมนิ ผ้เ� รยี นสามารถุนาำ ไป็ป็รับป็รุงตนเองเพั�่อให้�เกิดัการพััฒนาต่อไป็ รายวิชิ า สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) 33 ระดัับมธั ยมศึึกษาตอนต้น
34 รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึึกษาตอนตน้
บรรณานุกรม นนั โทั อ่อนเจัรญิ . ห้นังสอ่ เรียนสาระทัักษะการพััฒนาสังคม รายวิชิ า สังคมศึก้ ษา (สค21001) ระดับั มธั ิ์ยมศึก้ ษาตอนต�น (ฉบับป็รับป็รุง 2554). กรงุ เทัพัฯ : บริษทั ั เจั.ดั.ี แอวิโซีซีิเอทั จัำากัดั, 2556. สำานกั งานป็ลดั ักระทัรวิงศึ้กษาธิ์ิการ. ห้นังสอ่ เรียนสาระทักั ษะการพััฒนาสงั คม รายวิชิ า สังคมศึ้กษา (สค21001) ระดัับมธั ิ์ยมศึก้ ษาตอนต�น (ฉบับป็รบั ป็รุง 2554). กรุงเทัพัฯ : สำานักงาน กศึน., 2555. รายวิชิ า สังั คมศึกึ ษา (สัค21001) 35 ระดัับมัธยมศึกึ ษาตอนต้น
36 รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึึกษาตอนตน้
คณะผ�จ้ ััดัทัำา ทัี�ปรึกษา 1. นายถุาวิร พัลีดัี ผ�้อาำ นวิยการสำานกั งาน กศึน.จัังห้วิัดัขึ้อนแกน่ 2. พั.อ.อ. กฤชพัล พัรมลี รองผ้�อาำ นวิยการสำานกั งาน กศึน.จังั ห้วิัดัขึ้อนแก่น 3. ผ�้อาำ นวิยการ กศึน.อาำ เภอ สงั กัดัสำานักงาน กศึน.จังั ห้วิดั ัขึ้อนแก่น คณะทัาำ งาน ผอ้� ำานวิยการ กศึน.อาำ เภอพัระยน่ ผอ�้ ำานวิยการ กศึน.อาำ เภอเวิยี งเกา่ 1. นายชช้ าติ ห้รญั รัตน์ คร้ชาำ นาญการพัิเศึษ กศึน.อาำ เภอนา�ำ พัอง 2. นายจัตุรวิิทัย์ วิงศึส์ ุรศึิลป็์ คร้ชำานาญการ กศึน.อำาเภอชนบทั 3. นายสนั ต ิ สลี า คร้ผ�ช้ ่วิย กศึน.อำาเภอห้นองสองห้อ� ง 4. นางสาวิจันิ ดัารัตน์ บวั ิพังชน ครผ้ �ช้ ่วิย กศึน.อำาเภออุบลรตั น์ 5. นางศึศึิวิิภา มะลิมาศึ คร้ผ้ช� ่วิย กศึน.อำาเภอเขึ้าสวินกวิาง 6. นางสุณีรัตน ์ นิลสาค ้ คร้ผช�้ ่วิย กศึน.อาำ เภอสีชมพั้ 7. นายชยั ยา ดัวิงอร่าม ครผ้ ช�้ ่วิย กศึน.อำาเภอกระนวิน 8. นางสาวิอารีรตั น์ ชนะโยธิ์า รองผอ�้ ำานวิยการสาำ นกั งาน กศึน.จังั ห้วิัดัขึ้อนแก่น 9. นางสาวิเบญจัมาศึ ชัยชาญ ผ้�อำานวิยการ กศึน.อาำ เภอพัระย่น ผ�้อาำ นวิยการ กศึน.อาำ เภอเวิยี งเกา่ บรรณาธิ์กิ าร ครช้ าำ นาญการพัิเศึษ กศึน.อำาเภอนาำ� พัอง ครช้ าำ นาญการ กศึน.อำาเภอชนบทั 1. พั.อ.อ. กฤชพัล พัรมล ี นักจัดั ัการงานทัว�ั ิไป็ 2. นายช้ชาติ ห้รัญรตั น์ นักวิชิ าการศึ้กษา 3. นายจัตรุ วิทิ ัย์ วิงศึ์สรุ ศึลิ ป็ ์ นักวิเิ คราะห้์นโยบายและแผน 4. นายสนั ติ สีลา นักวิิชาการศึ้กษา 5. นางสาวิจัินดัารตั น์ บวั ิพังชน พัมิ พั์/รป้ เลม่ 1. นายธิ์นกฤต โคตรภกั ดั ี 2. นางวิันเพั็ญ ผานาค 3. นางสาวิยลดัา พัุทัธิ์สอน 4. นายธิ์ีรวิฒั น์ ถุมห้นวิดั รายวิิชา สัังคมศึึกษา (สัค21001) 37 ระดัับมัธยมศึึกษาตอนต้น
38 รายวิชิ า สัังคมศึกึ ษา (สัค21001) ระดับั มธั ยมศึึกษาตอนตน้
เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผู้เรยี นรายบคุ คล ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น วิชา ศาสนาและหนา้ ที่พลเมือง สค21002 หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ส�ำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั ขอนแก่น ส�ำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ส�ำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ค�ำนำ� เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รยี นรายบคุ คล เลม่ นี้ เปน็ เอกสารทจี่ ดั ทำ� ขน้ึ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษาเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ใหเ้ กดิ การพฒั นาทกั ษะทางวชิ าการ และยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นในการเรยี น รตู้ ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็นการพฒั นาตอ่ เนื่องจากเอกสารพัฒนา ทกั ษะวชิ าการรายบคุ คล มรี ายละเอยี ดสรปุ เนอื้ หาตามสาระการเรยี นรู้ แบบทดสอบหลงั เรยี นและแบบบนั ทกึ การพฒั นาทกั ษะ วิชาการผู้เรียนรายบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนได้ประเมินและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้มีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษา ตามระดับและมีความร้เู พมิ่ เตมิ ในการนำ� ไปพัฒนาทกั ษะทางวิชาการใหม้ ผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นทีส่ ูงขึน้ คณะผจู้ ดั ทำ� หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ เอกสารเลม่ นจี้ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ นกั ศกึ ษา ในการศกึ ษาเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รการศกึ ษา นอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และขอขอบคณุ ทุกทา่ นท่ีมสี ว่ นรว่ มในการทำ� เอกสารเล่มนี้ใหส้ ำ� เรจ็ ลุลว่ งด้วยดี ส�ำนกั งาน กศน.จงั หวัดขอนแกน่ เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธิ์ผูเ้ รียนรายบคุ คล รายวิชา ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้
เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
สารบัญ หนา้ คำ� นำ� สารบญั ค�ำช้แี จงการใชเ้ อกสารพัฒนาทักษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดบั ผลสัมฤทธผิ์ เู้ รยี นรายบุคคลบุคคล โครงสร้างการเรียนรูด้ ้วยตนเอง ขอบข่ายเนอ้ื หา แบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทที่ 1 ศาสนาในประเทศไทยและในทวีปเอเชีย 1 สรปุ เนอื้ หา 1 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน 12 บทท่ี 2 วฒั นธรรมประเพณี และค่านยิ มของประเทศไทยและประเทศในทวปี อาเชียน 13 สรุปเนอ้ื หา 13 แบบทดสอบท้ายบทเรียน 14 บทท่ี 3 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย 15 สรปุ เนือ้ หา 15 แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น 18 บทที่ 4 สถานการณ์การมีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครองอนั มพี ระมหากษัตริยเ์ ปน็ ประมขุ 19 สรุปเนอ้ื หา 19 แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น บทท่ี 5 หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน 20 สรปุ เนอื้ หา 20 แบบทดสอบท้ายบทเรยี น 24 บทที่ 6 การมีส่วนรว่ มในการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ 25 สรปุ เนอื้ หา 25 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน 26 แบบทดสอบหลงั เรียน 27 เฉลยแบบทดสอบ 30 แบบบันทึกการพัฒนาทกั ษะวิชาการเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธผ์ิ ู้เรยี นรายบุคคล แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 31 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการพฒั นา การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น 31 แบบบนั ทกึ การพัฒนาทกั ษะวิชาการเพ่อื ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ผู้เรยี นรายบคุ คล แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน 32 เกณฑ์การประเมินผลการพัฒนา แบบทดสอบท้ายบทเรียน 32 บรรณานุกรม 33 คณะผู้จัดท�ำ 34 เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธ์ผิ เู้ รยี นรายบุคคล รายวชิ า ศาสนาและหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง สค21002 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
คำ� ช้แี จงการใชเ้ อกสารพัฒนาทักษะวชิ าการผู้เรียนรายบคุ คล รายวิชาศาสนาและหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง (สค21002) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนรายบุคคล ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชา ศาสนา และหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง สค21002 เลม่ นี้ จัดทำ� ขนึ้ เพอื่ พฒั นาผูเ้ รียน ให้มคี วามร้คู วามสามารถทางด้านวชิ าการในรายวชิ าบังคับ ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในการศึกษาเอกสารเล่มนผ้ี ้เู รยี นควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ผูเ้ รยี นสำ� รวจรายวชิ าท่ีตนเองลงทะเบยี นเรียนในรายวชิ า ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค21002 2. ผเู้ รยี นศกึ ษารายละเอียดว่าต้องเรยี นรเู้ น้ือหาในเร่อื งใดบ้างในรายวิชาน้ี 3. ท�ำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อทราบพ้ืนฐานความรู้เดิมของผู้เรียน โดยตรวจสอบค�ำตอบจากเฉลยแบบทดสอบ ก่อนเรยี นทา้ ยเลม่ 4. ศึกษาเน้ือหาสาระในแต่ละบทเรยี นให้เขา้ ใจ และท�ำแบบทดสอบท้ายบทเรยี น ผ้เู รยี นสามารถตรวจสอบค�ำตอบ ได้จากเฉลยทา้ ยเลม่ 5. เมอ่ื ศกึ ษาเนอื้ หาสาระครบทกุ บทเรยี นแลว้ ใหผ้ เู้ รยี นทำ� แบบทดสอบหลงั เรยี นและตรวจคำ� ตอบจากเฉลยทา้ ยเลม่ ผ้เู รียนควรทำ� แบบทดสอบหลงั เรยี นใหไ้ ด้คะแนนมากกว่าแบบทดสอบก่อนเรียน 6. ให้ผู้เรียนบันทึกคะแนนผลการทดสอบรายวิชาศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง สค21002 ในแบบบันทึกการพัฒนา ทกั ษะวชิ าการผู้เรียนรายบุคคล (อยทู่ ้ายเลม่ ) เพ่ือเปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ือง 7. ให้ผูเ้ รียนศึกษาเพม่ิ เติมไดจ้ ากแบบเรียนรายวิชา ศาสนาและหน้าทพ่ี ลเมือง สค21002 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และส่ือออนไลนอ์ ื่น ๆ เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ผ้เู รยี นรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่พี ลเมือง สค21002 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ผลการเรียนรทู ่ีคาดหวัง เมื่อศกึ ษาชุดวชิ าแลว ผูเ รียนสามารถ 1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของ ประเทศในทวปี เอเชยี 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจดำ� เนินชีวิตตามวถิ ีประชาธิปไตย กฎระเบียบของประเทศเพือ่ นบา้ น 3. อธิบายหลักธรรม และการปฏบิ ตั ธิ รรมแตล ะศาสนาได้ 4. อธบิ ายการนำ� หลกั ธรรมไปปฏิบัติในชีวติ ประจำ� วันได้ 5. อธบิ ายหลกั การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาท่ตี นนับถอื ได้ 6. มคี วามรู ความเขาใจในวฒั นธรรมประเพณีของชุมชน ทองถ่ิน และของประเทศ 7. ตระหนกั ถึง ความสาํ คญั ของวัฒนธรรมประเพณีของชมุ ชน ทองถ่นิ และของประเทศ 8. มสี ว นรวมในการปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมประเพณขี องทอ งถิน่ 9. นําคา นยิ มทีพ่ งึ ประสงคข องสงั คม ชุมชน มาประพฤตปิ ฏิบัติจนเปน นิสยั ได้และสามารถน�ำมาประยุกตใ์ ช้ ในชีวิตประจ�ำวนั ได้ 10. การมสี ่วนร่วมในการคุ้มครองปกป้องตนเองและผู้อ่ืนตามหลกั สิทธิมนุษยชน 11. ตระหนักถึงประโยชนข์ องการมสี ว่ นรว่ มในการคมุ้ ครองปกปอ้ งตนเองและผ้อู น่ื ตามหลกั สิทธิมนุษยชน 13. รูแ้ ละเข้าใจหลักคณุ ธรรมจรยิ ธรรมของการอยรู่ ว่ มกนั 14. มสี ว่ นร่วมทางการเมอื ง การปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ อ์ ันเป็นประมขุ ขอบข่ายเนอื้ หา บทท่ี 1 ศาสนาในประเทศไทยและในทวปี เอเชยี บทท่ี 2 วัฒนธรรมประเพณี และค่านยิ มของประเทศไทยและประเทศในทวีปอาเชยี น บทที่ 3 รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย บทที่ 4 สถานการณ์การมีสว่ นร่วมทางการเมอื งการปกครองอนั มพี ระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมุข บทที่ 5 หลักสิทธิมนษุ ยชน บทที่ 6 การมีส่วนร่วมในการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธผิ์ ู้เรียนรายบุคคล รายวิชา ศาสนาและหนา้ ท่พี ลเมือง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบรายวิชาศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง กอ่ นเรียน จงเลือกคำ� ตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งค�ำตอบเดียว 6. วนั ทีส่ ามของเทศกาลตรษุ จีนคอื วนั ใด 1. ศาสนาใดที่มีหลักค�ำสอนให้ทุกคนรู้จักปรับตัวให้เข้ากับ ก. วันจ่าย สภาพแวดลอ้ ม ข. วนั ไหว้ ก. ซกิ ข์ ค. วันถือ ข. พทุ ธ ง. วนั ทีค่ รอบครัวอยู่พร้อมหน้า ค. ครสิ ต์ 7. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ การสง่ เสรมิ ศาสนาพทุ ธในสมยั พระมหาธรรม ง. อิสลาม ราชาลไิ ท 2 . หลักธรรมข้อใดของศาสนาพรามณ์-ฮินดู ที่คล้ายกับ ก. การเลา่ เรยี นจากพระไตรปิกฎ หลักธรรมเร่ืองพรหมวหิ าร 4 ของศาสนาพุทธ ข. เผยแผ่ศาสนาพทุ ธไปยังประเทศลาว ก. อรรถะ ค. อาราธนาพระเถระชาวลงั กามาเผยแผศ่ าสนาพทุ ธ ข. โมกษะ ง. ทรงนิพนธไ์ ตรภูมพิ ระร่วงเพือ่ ให้ประชาชน ค. ธรรมะ ได้เรยี นรู้ศาสนาพุทธ ง. พระธรรมศาสตร์ 8 .ค่านิยมท่ีมีลักษณะเฉพาะเกิดแล้วเปลี่ยนแปลงยาก 3 . ข้อใด คือหลกั ธรรมของศาสนาพุทธตามทางสายกลาง คอื ขอ้ ใด ท่ีท�ำให้บคุ คลมศี ีลธรรมในตนเอง ก. คา่ นิยมหลัก ก. สมั มาทิฐิ ข. ค่านยิ มสว่ นบุคคล ข. สมั มาวาจา ค. คา่ นยิ มทางสงั คม ค. สัมมาวายะ ง. ค่านิยมทเี่ ป็นแบบแผน ง. สมั มาสงั กัปปะ 9. ประเพณที ้องถนิ่ จดั เป็นการอนุรักษว์ ัฒนธรรมเรอ่ื งใด 4 ในงานบุญคูณลานของชาวลานเกี่ยวข้องกับกิจกรรม ก. การเผยแผว่ ัฒนธรรม ขอ้ ใด ข. การแลกเปลี่ยนวฒั นธรรม ก. ท�ำบุญข้าว ค. การสร้างจติ สำ� นกึ ในตนเอง ข. เทศน์มหาชาติ ง. การฟื้นฟวู ัฒนธรรม ค. งานบุญเขา้ พรรษา 10. หลักธรรมของศาสนาอิสลามท่ีสอนในเร่ืองของการ ง. พธิ สี งฆ์ปลงอาบตั ิ บรจิ าคทาน ตรงกบั หลกั ธรรมของศาสนาพทุ ธ เรื่องใด 5. ประเพณสี งกรานต์ เป็นประเพณดี ั้งเดมิ ของศาสนาใด ก. พรหมวหิ าร 4 ก. พทุ ธ ข. อริยสจั 4 ข. พราหมณ์ ค. สังคหวัตถุ 4 ค. ซกิ ข์ ง. อปริหานิยธรรม 4 ง. ฮินดู เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธผ์ิ ูเ้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง สค21002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
11. การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระได้โดยออกเป็น 17. .ใครเป็นคนแต่งตัง้ นายกรัฐมนตรีและรฐั มนตรี กฎหมายใด ก. พระมหากษัตริย์ ก. พระราชบญั ญัติ ข. ประธานวฒุ ิสภา ข. พระราชกฤษฏกี า ค. นายกรัฐมนตรี ค. พระราชก�ำหนด ง. ประธานสภาผู้แทนราษฏร ง. กฎกระทรวง 18. นายกรัฐมนตรีจะด�ำรงต�ำแหน่งติดต่อกันเกินกว่าก่ีปี 12. ผ้ใู ดเป็นคนแตง่ ตง้ั ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ไม่ได้ ก. พระมหากษตั ริย์ ก. 4 ปี ข. ประธานวุฒสิ ภา ข. 6 ปี ค. นายกรัฐมนตรี ค. 8 ปี ง. เปน็ โดยตำ� แหน่งไม่มีการแต่งตง้ั ง. 12 ปี 13. ผู้ใดเรียกเปดิ ประชมุ รัฐสภาและปิดประชุม 19. วัฒนธรรมไทยข้อใดเป็นผลเสียต่อการส่งเสริมและ ก. พระมหากษตั รยิ ์ คุ้มครองสิทธิมนษุ ยชน ข. ประธานวฒุ ิสภา ก. การรกั อสิ ระ ค. นายกรฐั มนตรี ข. ความมรี ะเบยี บ ง. ประธานสภาผแู้ ทนราษฏร ค. ความเอ้อื เฟอ้ื เผอื่ แผ ่ 14. .ใครเปน็ คนแต่งตงั้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ง. การเชอื่ ฟังผมู้ ีอ�ำนาจ ก. พระมหากษตั รยิ ์ 20. ข้อใด ไม่ใช้ หน้าทีแ่ ละบทบาทของค่านิยม ข. ประธานวุฒสิ ภา ก. ท�ำหนา้ ทีเ่ ป็นมาตรฐานของพฤตกิ รรมของบุคคล ค. นายกรฐั มนตรี ข. ท�ำหน้าทเี่ ปน็ แรงจูงใจให้กับบุคคล ง. ประธานสภาผู้แทนราษฏร ค. ทำ� หนา้ ที่เป็นแบบแผนในการตัดสินใจ 15. .นายกรัฐมนตรีจะด�ำรงต�ำแหน่งติดต่อกันเกินกว่าก่ีปี ง. ทำ� หนา้ ทก่ี ล่อมเกลาจิตใจให้กบั บุคคล ไมไ่ ด้ ก. 4 ปี ข. 6 ปี ค. 8 ปี ง. 12 ปี 16.. ผูใ้ ดเรียกเปิดประชมุ รัฐสภาและปดิ ประชุม ก. พระมหากษัตริย์ ข. ประธานวฒุ ิสภา ค. นายกรัฐมนตรี ง. ประธานสภาผูแ้ ทนราษฏร เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการ เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธิ์ผเู้ รียนรายบุคคล รายวิชา ศาสนาและหนา้ ท่พี ลเมือง สค21002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล รายวชิ า ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง สค21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
บทที่ 1 เร่ือง หลักธรรมของศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทยและทวีปเอเชีย สรุปเนอื้ หา ศาสนามีความส�ำคัญต่อการด�ำเนินชีวิตของบุคคลในสังคมเพราะศาสนาทุกศาสนามีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ท�ำความดี ละเวน้ ความชั่วศาสนาจงึ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ คนในสังคม องค์ประกอบของศาสนา 1. ศาสดา คือ ผกู้ อ่ ต้ังศาสนา 2. คมั ภีร์ คอื หลักคำ� สอนเก่ียวกบั ศีลธรรมจรรยา 3. นักบวชคอื ผ้สู ืบทอดค�ำสอน 4. พธิ กี รรม คือ การปฏบิ ตั ใิ นการทำ� พิธีทางศาสนา 5. ศาสนสถาน คอื สถานทค่ี วรเคารพบูชาและใช้ประกอบพิธีทางศาสนา **ศาสนาอสิ ลามไมม่ นี กั บวช แต่มศี าสดา มีคมั ภีรม์ ศี าสนสถาน และพิธีกรรม นบั เป็นศาสนาเชน่ กัน** ความสำ� คญั ของศาสนา 1. เป็นพนื้ ฐานของกฎศีลธรรมของสงั คม 2. เปน็ แหล่งก�ำเนดิ จรยิ ธรรม 3. เปน็ แหลง่ ท่ีทำ� ใหเ้ กดิ ศิลปวฒั นธรรม และประเพณี 4. เป็นกลไกของรฐั ในการควบคุมสังคม 5. เป็นบรรทัดฐานของสังคมที่ใชใ้ นการปฏิบตั เิ พอ่ื ใหเ้ ป็นไปในแนวเดียวกัน ประโยชน์ของศาสนา 1. ช่วยให้สมาชกิ ของสังคมสงบสุข 2. ทำ� ให้ผ้นู ับถือเป็นคนดี มีศลี ธรรม 3. เปน็ บอ่ เกิดของศลิ ปวัฒนธรรม 4. เป็นทพ่ี ึ่งทางจติ ใจของสมาชิกในสังคม 5. เปน็ แนวทางในการด�ำเนนิ ชีวิตเพื่อใหเ้ กิดความสขุ ศาสนาที่ส�ำคญั ในทวีปเอเชีย 1. ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ศาสนาพราหมณ์ แหล่งก�ำเนิดในประเทศอินเดียเป็นศาสนาด้ังเดิมของชนเผ่าอารยัน มีความเชื่อเร่ืองพระเจ้าหลายองค์โดยเฉพาะ ตรีมูรติ (พระพรหม พระวษิ ณุ พระศิวะ) ต่อมาววิ ัฒนาการเปน็ ศาสนาฮนิ ดู เทพเจา้ สงู สุด คอื พระปรมาตมนั ความเชอื่ เกย่ี วกับตรีมูรติ คอื พระพรหม คอื ผสู้ รา้ งพระวษิ ณุ(พระนารายณ)์ คอื ผูค้ มุ้ ครองและพระอศิ วร(พระศวิ ะ) คือ ผทู้ �ำลาย เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการ เพือ่ ยกระดบั ผลสมั ฤทธผิ์ ้เู รยี นรายบคุ คล 1 รายวชิ า ศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง สค21002 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
คมั ภีรพ์ ระเวทมอี ยู่ 3คมั ภรี ์ ถอื วา่ เป็นคมั ภีร์ทเี่ ก่าแกท่ สี่ ดุ ในโลกตอ่ มาเพิ่มอาถรรพเวทเขา้ ไปไดแ้ ก่ ฤคเวท (บทสวดสรรเสริญเทพเจา้ ) ยชุรเวท(ค่มู ือพราหมณ์ในการท�ำพธิ ีบูชายญั ) สามเวท (ใชส้ วดขบั กลอ่ มเทพเจา้ ) อาถรรพเวท (เปน็ มนตค์ าถาทางไสยศาสตร์) ศาสนาฮนิ ดู ความเชื่อศาสนาฮินดูทแี่ ตกต่างไปจากศาสนาพราหมณ์ ได้แก่ เช่อื เรื่องวญิ ญาณเป็นอนันตะคือเวียนว่ายตายเกดิ ไม่สิ้นสดุ จนกวา่ จะหลุดพน้ โมกษะ ให้คนท่เี กิดในตระกูลพราหมณ์ กษตั ริย์ ไวศยะ ปฏิบัติตามหลักอาศรม 4อยา่ งเคร่งครัด สันตสิ ุขจะเกิดขนึ้ ไดต้ อ้ งมีพราหมณ์ คัมภรี พ์ ระเวทวรรณะ 4ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ นกิ ายในศาสนาฮนิ ดู 1. นิกายพรหมนับถือพระพรหมเปน็ เทพเจา้ สงู สดุ 2. นกิ ายไวษณพ (ลัทธิอวตาร) นับถือพระวิษณุ 3. นิกายไศวะ นับถอื พระศวิ ะมีศิวลงึ ค์เปน็ สัญลกั ษณ์ 4. นกิ ายศากตนิ ับถอื เทพเจา้ ท่เี ปน็ สตรี หลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์ -ฮนิ ดู 1. หลกั ธรรม 10 ประการ ไดแ้ ก่ 1. ธฤติ คอื ความพอใจ 2. กษมา คอื ความอดทน 3. ทมะ คอื ความข่มใจ 4. อัสเตยะ คอื การไม่กระท�ำเยยี่ งโจร 5. เศาจะ คอื ความบรสิ ุทธิ์ 6. อินทรียนคิ รหะ คือการสำ� รวมอนิ ทรยี ์(ร่างกาย) 7. ธี คอื ความรู้ (ปญั ญา) 8. วทิ ยา คอื ความรู้ (ปรชั ญา) 9. สัตยะ คือความซ่อื สัตย์ 10. อโกธะ คอื ความไม่โกรธ 2. หลักอาศรม 4 ได้แก่ 1. พรหมจารี คอื เป็นวัยศกึ ษาเลา่ เรยี น 2. คฤหัสถ์ คอื เปน็ วัยครองเรือน 3. วานปรัสถ์ คือ เป็นวยั ออกไปอยปู่ า่ 4. สันยาสี คอื เป็นวัยสดุ ทา้ ยของชีวิตออกบวชเป็นสันยาสี บ�ำเพ็ญเพยี รเพ่ือความหลดุ พน้ 3. หลกั ปรมาตมนั และโมกษะ ได้แก่ 1. หลักปรมาตมัน มีความเชื่อว่า ปรมาตมันหมายถึง พลังธรรมชาติ เป็นอมตะไม่มีเบ้ืองต้นและส้ินสุด ส่วนวิญญาณยอ่ ยเรยี กวา่ อาตมนั สามารถไปรวมกับปรมาตมนั ไดเ้ มอ่ื บรรลโุ มกษะ 2. หลักโมกษะเป็นหลกั ปฏบิ ตั เิ พ่อื หลดุ พน้ จากวฏั จักรแหง่ ชวี ิตด้วยการนำ� อาตมันของตนเขา้ สู่ปรมาตมนั 2 เอกสารพัฒนาทักษะวชิ าการ เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบุคคล รายวิชา ศาสนาและหน้าทพ่ี ลเมือง สค21002 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
4. หลักปรัชญาภควทั คีตา ไดแ้ ก่ 1. กรรมโยคะ การทำ� ความดีโดยไมห่ วังผลตอบแทน 2. ชยานโยคะ การปฏบิ ัตเิ พื่อใหเ้ กดิ ปญั หา ความรแู้ จง้ 3. ภกั ตโิ ยคะ ความรักความภกั ดีอทุ ศิ ตนตอ่ พระเจา้ เพ่อื น�ำไปสกู่ ารหลุดพน้ 5. หลักทรรศนะหก ไดแ้ ก่ 1. สางขยะ ทรรศนะเก่ียวกบั ชีวติ 2. โยคะ ทรรศนะเกี่ยวกบั การปฏบิ ัติโดยส�ำรวมอินทรียท์ �ำจิตใจใหบ้ รสิ ุทธ์ิ 3. นยายะ ทรรศนะเกีย่ วกับความรู้ 4. ไวเศษกิ ะทรรศนะเกีย่ วกบั ส่งิ ทมี่ ีอยจู่ ริงช่วั นิรันดร 9 อย่าง คอื ดิน นำ้� ลม ไฟ อากาศ กาลเทศะ อาตมัน มนะ 5. มางสาทรรศนะเกีย่ วกบั ปรัชญานา่ เช่อื ถือ 6. เวทานตะทรรศนะเกีย่ วกบั อปุ นิษทั (อปุ นษิ ทั คอื คมั ภรี ใ์ นสว่ นสดุ ท้ายของพระเวท เป็นคัมภีร์ทเ่ี ป็นหลักปรัชญาลึกซึง้ ) พิธีกรรมท่สี �ำคญั ของศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู 1. พธิ ีศราทธ์ คือพิธที ำ� บุญใหแ้ ก่ญาติผลู้ ่วงลบั ไปแล้ว 2. พิธปี ระจ�ำบา้ นได้แก่ พิธอี ปุ นยัน คือ พธิ ีเร่มิ การศึกษาถา้ เป็นหญงิ ยกเว้น พธิ วี ิวาหะ คือ พธิ ีแต่งงาน 3. ขอ้ ปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั วรรณะ คอื พราหมณ์ กษตั รยิ ์ แพทศยศ์ ทู รแตล่ ะวรรณะมกี ารดำ� เนนิ ชวี ติ ทต่ี า่ งกนั จงึ ตอ้ งปฏบิ ตั ิ ตามวรรณะของตนเชน่ การแตง่ งาน การแตง่ กาย เปน็ ตน้ 4. พธิ ีบูชาเทพเจา้ แต่ละวรรณะจะมีการปฏบิ ตั ติ า่ งกันในเทศกาลตา่ ง ๆ เชน่ งานศิวะราตรี(พิธลี อยบาป) งานบูชา เจ้าแมล่ ักษมี (เทวแี ห่งสมบัตแิ ละความงาม) เป็นต้น 2. ศาสนาพุทธ ศาสนาพทุ ธมถี น่ิ กำ� เนดิ ในประเทศอนิ เดยี ประเภทอเทวนยิ ม (ไมน่ บั ถอื พระเจา้ ) มพี ระพทุ ธเจา้ เปน็ ศาสดา คมั ภรี ข์ อง ศาสนาพุทธ คือ พระไตรปิฎกหมายถงึ ตำ� ราทบี่ ันทกึ คำ� สอนของพระพุทธเจา้ แบ่งออกเป็น 3 คัมภรี ์ คือ 1. พระวนิ ยั ปฎิ ก ว่าด้วยศลี หรือวินัยของภกิ ษุ ภิกษณุ ี อุบาสกอบุ าสกิ า 2. พระสุตตนั ตปิฎก(พระสตู ร)วา่ ด้วยค�ำสอนของพระพทุ ธเจ้าและสาวกรวมท้ังชาดกต่าง 3. พระอภธิ รรมปฎิ ก วา่ ด้วยหลกั ธรรมล้วน ๆ นกิ ายส�ำคัญของศาสนาพุทธ 1. นกิ ายเถรวาทหรือหนี ยาน ปฏบิ ตั ติ ามคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ อยา่ งเคร่งครัดไม่มีการเปล่ียนแปลงพระธรรมวินยั ประเทศทนี่ บั ถือ ไดแ้ กไ่ ทย พม่า ศรลี ังกา ลาว กมั พชู า 2. นกิ ายอาจริยวาทหรือมหายาน ดดั แปลงพระธรรมวนิ ยั ได้ ประเทศที่นับถอื ไดแ้ ก่ จนี ทิเบต ญปี่ ุ่น เวียดนาม เกาหลี เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพื่อยกระดับผลสมั ฤทธผ์ิ ูเ้ รยี นรายบคุ คล 3 รายวชิ า ศาสนาและหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง สค21002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
หลักค�ำสอนของศาสนาพุทธ 1. อรยิ สัจ 4 คือ ความจริงอนั ประเสริฐ 4 ประการ คอื ทกุ ข์ คอื ความไม่สบายกายไม่สบายใจ สมทุ ยั คอื เหตุของความเปน็ ทกุ ขไ์ ดแ้ ก่ ตณั หา นิโรธ คือ ความดับทุกข์ หรอื นิพพาน มรรค คอื ข้อปฏิบัติเพือ่ น�ำไปสู่ความดบั ทุกข์ หมายถึง อรยิ มรรค 8 ประกอบด้วย 1. สัมมาทิฐิ คอื ความเห็นชอบ 2. สัมมาสังกัปปะ คอื ความด�ำรชิ อบ 3. สัมมาวาจา คือ การเจรจาชอบ 4. สมั มากมั มันตะ คือ การกระท�ำชอบ 5. สมั มาอาชวี ะ คอื การเล้ียงชพี ชอบ 6. สมั มาวายามะ คือ ความพยายามชอบ 7. สมั มาสติ คอื การตัง้ สตชิ อบ 8. สัมมาสมาธิ คอื การตัง้ ใจชอบ อรยิ มรรค 8 เม่ือสรปุ รวมแล้วเรียกวา่ ไตรสิกขา อันไดแ้ ก่ ศลี สมาธิ ปญั ญา 2. ขนั ธ์ 5 หรอื เบญจขนั ธ์ หมายถงึ องคป์ ระกอบของชีวติ มนษุ ย์ คือ สว่ นทีเ่ ป็นร่างกาย และส่วนทีเ่ ป็นจติ ใจ ได้แก่ 1. รูปขนั ธ์ คอื รา่ งกายและพฤติกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วยธาตุ 4 คอื ดนิ น�ำ้ ลม ไฟ 2. วิญญาณขนั ธ์ คือความรอู้ ารมณ์ทผี่ า่ นมาทางตา หู จมูก ลิน้ กาย ใจ 3. เวทนาขันธ์ คอื ความร้สู ึก ซงึ่ เปน็ ผลมาจากสุขเวทนา ความสขุ ทางกายและใจ ทกุ ขเวทนา คือ ทกุ ข์ทาง กายและใจ, อเุ บกขาเวทนา คอื ความไม่ทกุ ขไ์ มส่ ขุ ทางกายและใจ 4. สญั ญาขนั ธ์ คอื การก�ำหนดได้ 6 อย่างจากวญิ ญาณและเวทนา คอื รปู รส กลน่ิ เสียง 5. สังขารขันธ์ คอื ความคดิ แรงจูงใจสภาพทีป่ รุงแตง่ จติ ใจใหค้ ดิ ดี คดิ ชว่ั เป็นผลมาจากวญิ ญาณและเวทนา 3. ไตรลกั ษณ์ หมายถงึ ลักษณะท่วั ไปของส่งิ ทัง้ หลายทั้งปวงในโลก ไดแ้ ก่ 1. อนจิ จตา คอื ความไมเ่ ท่ียง 2. ทุกขตา คอื ความเป็นทุกข์ 3. อนัตตา คอื ความไม่ใช่ตัวตน 3. ศาสนาคริสต์ ศาสนาคริสต์ก�ำเนิดในดินแดนปาเลสไตน์หรืออิสราเอลในปัจจุบัน ศาสดาคือพระเยซู ซึ่งเป็นบุตรของโยเซพและ มาเรียเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากท่ีสุดวิวัฒนาการมาจากศาสนายูดายจึงมีพระเจ้าหรือที่เรียกว่า พระยะโฮวาห์ คัมภีร์ของ ศาสนาคริสต์ คือ คมั ภรี ไ์ บเบลิ ซึง่ แบ่งออกเป็น 2สว่ น คอื พระคมั ภรี ์เกา่ มีสาระเกีย่ วกบั พระเจา้ สรา้ งโลกซ่ึงประกอบด้วย บทเพลง บทสวด และสภุ าษติ พระคัมภรี ใ์ หม่ เปน็ คมั ภรี ์ทม่ี สี าระเก่ยี วกับประวัติและคำ� สอนของพระเยซูการเผยแผศ่ าสนา ของสาวกจดหมายเหตุและววิ รณ์ บ้นั ปลายชวี ิตของมนษุ ยชาติ 4 เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการ เพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธิผ์ ้เู รียนรายบุคคล รายวชิ า ศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง สค21002 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
นิกายทส่ี �ำคญั ของศาสนาคริสต์ 1. นิกายโรมันคาทอลิก เป็นนิกายท่ีนับถือและปฏิบัติตามค�ำสอนของพระเยซูมีพิธีกรรมที่เคร่งครัด มีสันตะปาปา เป็นผู้น�ำศาสนาสูงสุด ประเทศท่ีนับถือ ได้แก่ ฝร่ังเศส อิตาลี เยอรมนีสเปน โปรตุเกส ฟิลิปปินส์ ผู้ท่ีนับถือเรียกตนเองว่า ครสิ ตัง 2. นิกายออร์โธดอกซ์ เป็นนิกายที่แยกจากนิกายโรมันคาทอลิก ด้วยเหตุผลทางการเมืองและวัฒนธรรมประเทศ ท่นี ับถือ ไดแ้ ก่ กรซี โรมาเนยี บัลแกเรยี สหภาพโซเวียตและประเทศในยโุ รปตะวันออกบางประเทศ 3. นิกายโปรแตสแตนต์ เป็นนิกายที่แยกมาจากนิกายโรมันคาทอลิก ผุ้ก่อต้ังคือ มาตินลูเธอร์ พิธีกรรมที่ส�ำคัญคือ ศีลล้างบาป และศลี มหาสนทิ ผู้ท่นี บั ถอื นิกายนเ้ี รียกวา่ คริสเตยี น หลกั คำ� สอนของศาสนาครสิ ต์ 1. หลกั ค�ำสอน เรอ่ื งตรีเอกานุภาพ คือ การนับถือพระเจ้าองค์เดียว แบ่งเปน็ 3 ภาค คอื พระบิดา หมายถึง พระเจา้ พระบุตร หมายถงึ พระเยซู พระจิต หมายถึง วิญญาณบริสุทธ์ใิ นจติ ใจของชาวคริสต์ท่มี ีศรัทธา 2. หลักค�ำสอนเรื่องความรักศาสนาคริสต์เป็นศาสนาท่ีได้ชื่อว่าเป็นศาสนาแห่งความรัก สอนให้รักพระเจ้ารักเพื่อน มนษุ ย์เหมือนรักตัวเอง 3. คำ� สอนเรือ่ งบญั ญัติ 10 ประการ ได้แก่ จงนบั ถอื พระเจา้ องคเ์ ดียว คือ พระยะโฮวาห์ อยา่ ออกนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ ถือวนั พระเจ้าเป็นวันศักด์สิ ิทธิ์ จงนบั ถือบดิ ามารดา อย่าฆา่ คน อย่าผดิ ประเวณี อย่าลกั ทรพั ย์ อยา่ ใสค่ วามนินทาวา่ รา้ ยผู้อน่ื อยา่ คดิ มิชอบ อย่าโลภในสง่ิ ของผ้อู ่ืน 4. อาณาจักรพระเจา้ หมายถึงอาณาจักรแหง่ จิตใจที่มีพระเจา้ เปน็ เป้าหมาย พธิ ีกรรมท่สี �ำคญั ของครสิ ต์ศาสนา 1. พิธศี ลี จมุ่ กระท�ำแก่ทารกเมื่อเริ่มเขา้ เป็นคริสตศ์ าสนิกชนโดยใชน้ ำ�้ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิเทลงบนศีรษะเพอ่ื ล้างบาป 2. พิธศี ลี ล้างบาปเป็นการยนื ยนั วา่ ตนยอมรับนับถือศาสนาคริสตจ์ ริง 3. พิธศี ลี มหาสนิทเปน็ การรับประทานขนมปังและดมื่ เหล้าองุ่นเพอื่ ระลกึ ถึงพระเจา้ ทที่ รงสละพระวรกายเพอ่ื มนุษย์ จะได้หลุดพน้ จากบาป 4. พธิ ีศีลสมรส กระท�ำแกค่ ่บู ่าวสาวก่อนการจดทะเบียนสมรส 5. พิธสี ารภาพบาป ต้องไปกระท�ำต่อหน้าบาทหลวงเพอ่ื สารภาพบาป 6. พธิ เี จมิ คร้งั สุดทา้ ย กระทำ� แกผ่ ปู้ ว่ ย 7. พิธีเขา้ บวช เปน็ การบวชบุคคลเปน็ บาทหลวงในครสิ ต์ศาสนา เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการ เพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ผู้เรียนรายบุคคล 5 รายวิชา ศาสนาและหน้าท่พี ลเมอื ง สค21002 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 674
Pages: