ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
รวัดและ กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อแหลง่ เรยี นรู้ ะเมนิ ผล - ขั้นการสรปุ และการดาเนนิ ผลการค้นคว้า 10. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด 11. นกั เรยี นร่วมกันสรุปข้อคิดท่ีได้รับจากบท อาขยาน กาดา 12. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั บอกแนวทางในการ ปฏิบัตติ นตามข้อคิดท่ไี ดร้ ับจากบทอาขยาน กาดา
ครผู ู้สอน แผนการจัด ชอื่ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรือ่ แผนการสอนที่ 11 เร รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศ นางสาวฐิติรตั น์ โปอ่ ินทนะ ตาแห ตวั ช้วี ัดผลการเรียนรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน / การ ชิ้นงาน ประ ท 5.1 ป.2/3 ทอ่ งจาบท - การท่องจาบทอาขยาน อาขยานตามที่กาหนดและบท รกั ษาปา่ ชว่ ยฝกึ การจา 1. แบบฝึกหดั - ตรวจแ รอ้ ยกรองท่มี ีคุณค่าตามความ และนาสิ่งที่จาไปใช้ให้ 2. แบบประเมนิ - ตรวจแ สนใจ เปน็ ประโยชนใ์ นการ ทอ่ งอาขยาน ท่องอาข เรยี น
ดการเรียนรู้ อง คาคลอ้ งจองต้องศกึ ษา รื่อง การท่องอาขยาน ศกึ ษาปที ี่ 2 รหัสวิชา ท 12101 หนง่ พนักงานราชการ เวลาท่ีใช้ 2 ชั่วโมง รวัดและ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ แหลง่ เรยี นรู้ ะเมนิ ผล - ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. หนงั สอื เรยี น แบบฝึกหัด แบบประเมนิ 1. ครูท่องบทท่องจาที่ครูจาได้ มา 1 บท ให้นกั เรยี น 2. แบบฝึกหดั ขยาน ฟงั พร้อมบอกทมี่ าและข้อคดิ ทไ่ี ดจ้ ากบทท่องจาแลว้ 3. แบบประเมิน นามาใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างไร - ขัน้ ตัง้ คาถาม 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายเกย่ี วกับประโยชน์ ของการท่องจา เพื่อให้นักเรียนเข้าใจว่า การท่องจา นั้นมีประโยชนต์ อ่ การเรียนและการใช้ชวี ิตของ นกั เรียนอยา่ งไร 3. ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นตระหนักถงึ การนาบทท่องจา ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
- ขัน้ เตรียมการคน้ หาคาตอบ 4. ครอู า่ นบทอาขยาน รักษาปา่ จากหนังสอื เรยี น 1 บท แล้วให้นกั เรียนสังเกตการอ่านออกเสียง การใช้ น้าเสียง การเวน้ วรรคตอน จงั หวะและท่วงทานอง การท่อง 5. นักเรียนกลุม่ เดิม (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3) จากนั้นนกั เรียนและครวู างแผนร่วมกันในการท่องจา บทอาขยาน รักษาปา่ โดยกาหนดความม่งุ หมาย รว่ มกนั รวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ แหล่งเรียนรู้ ะเมนิ ผล 6. ครูกาหนดประเด็นในการศึกษาและปฏบิ ัติ กิจกรรม ดงั น้ี 1) อธบิ ายหลกั การอ่านออกเสยี งบทอาขยาน 2) ฝกึ ทอ่ งจาบทอาขยาน รกั ษาปา่ 7. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันกาหนดกิจกรรมของแตล่ ะ ประเดน็ และกาหนดสื่อทจ่ี ะสืบคน้ ขอ้ มลู จากหนังสือ เรียน และซีดีบทอาขยาน รกั ษาปา่ 8. สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มผลัดกันรายงานผลการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรม แลว้ ร่วมกันอภปิ รายและสรุปผล
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
9. นักเรยี นแต่ละกลุ่มวางแผนการนาเสนอการ ปฏิบัตกิ จิ กรรม ในรูปแบบตา่ ง ๆ ตามมติของสมาชกิ กลมุ่ 10. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏบิ ตั ิ กิจกรรม โดยเลือกใชร้ ูปแบบและวิธกี ารที่สร้างสรรค์ 11. นักเรยี นกลมุ่ อื่นหมนุ เวยี นกันอภปิ รายแสดง ความคิดเห็นในการนาเสนอการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของ เพ่อื นกลุม่ อน่ื ๆ - ขั้นการสรปุ และการดาเนินผลการคน้ ควา้ 12. ครูใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มอา่ นบทอาขยาน รักษาปา่ โดยใหเ้ ลอื กคนละ 1 บท ตามความสนใจ จากนั้นออกมาท่องจาตามลาดับก่อนหลังที่หนา้ ชน้ั เรยี น รวดั และ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื แหล่งเรียนรู้ ะเมนิ ผล 13. ครูตรวจสอบความถูกต้องในการท่องจาบท อาขยาน รกั ษาปา่ ของนักเรียนแตล่ ะกลุ่ม พรอ้ มท้ัง ประเมนิ การทอ่ งจาบทอาขยานของนักเรียนเปน็ รายบุคคล
แผนการจัด ชื่อหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 9 เ แผนการสอนท่ี 1 เร่ือ รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ
ดการเรียนรู้ เร่ือง เรยี นรเู้ ร่ืองประโยค อง การอ่านออกเสียง กษาปที ี่ 2 รหัสวิชา ท 12101
ครูผู้สอน นางสาวฐิตริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ ตาแ ตัวช้วี ดั ผลการเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน / การ ท 1.1 ป.2/1 อา่ นออกเสียง ช้ินงาน ประ คา คาคล้องจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ - การอ่านออกเสียง - แบบประเมิน - ตรวจแ ถูกต้อง วรรณกรรมเรอื่ ง เด็กดีมี การอา่ นออกเสยี ง การอา่ น คณุ ธรรม จะต้องอ่าน - แบบฝึกหดั - ตรวจแ ออกเสยี งให้ถูกต้อง และ ชดั เจน
แหน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 1 ช่วั โมง รวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล - ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. หนังสือเรียน แบบประเมิน นออกเสียง 1. ครนู าข่าวทม่ี เี นื้อขา่ วเกย่ี วกับการแจ้งเรื่องของหาย 2. แบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั หรือลืมของมาเลา่ ใหน้ กั เรียนฟัง 3. ใบงาน - ขั้นตั้งคาถาม 4. ใบความรู้ 2. ครซู ักถาม นักเรียนเคยทาของมคี า่ หายหรือไม่ ถ้า เคยนักเรยี นรูส้ ึกอยา่ งไร และนกั เรียนเคยเก็บของ มี ค่าไดห้ รือไม่ และถ้าเกบ็ ส่งิ ของมคี ่าทีผ่ ู้อื่นทาตกไว้ได้ นกั เรยี นจะทาอยา่ งไร - ข้ันเตรยี มการคน้ หาคาตอบ 3. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน แลว้ ให้แต่ละกลุ่ม ฝึกอา่ นออกเสยี งคาและข้อความจากวรรณกรรมเรื่อง เด็กดมี ีคุณธรรม 4. ครูสังเกตการอา่ นออกเสยี งของนักเรยี นแต่ละกลุ่ม รวมถงึ การให้คาแนะนาเพิ่มเติม 5. สมาชิกในแต่ละกลุ่มรว่ มกันสรุปหลักการอ่านออก เสียงวรรณกรรมเรื่อง เดก็ ดีมีคุณธรรม
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
รวัดและ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อแหล่งเรยี นรู้ ะเมนิ ผล 6. ครขู ออาสาสมัครตัวแทนนักเรยี น 2-3 กลุ่ม อ่าน ออกเสยี งตามย่อหนา้ ท่ีครกู าหนด แลว้ ให้เพ่ือนกลุ่ม อ่นื ตรวจสอบความ ถูกต้องของการอา่ นออกเสยี ง และแสดงความคดิ เห็น 7. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ แบง่ เน้ือหาวรรณกรรมเรือ่ ง เด็ก ดีมีคณุ ธรรม ออกเป็น 4 ตอน ตามความเหมาะสม จากน้ันใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ เลอื กอ่านคนละ 1 ตอน (สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ จะต้องเลอื กอา่ นไมซ่ ้า กัน) 8. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มอ่านออกเสียงวรรณกรรม เรือ่ ง เด็กดี มคี ณุ ธรรม ตามลาดบั ก่อนหลัง แล้วให้ เพ่ือนสงั เกตและตรวจสอบวา่ อ่านออกเสียงถูกต้อง หรอื ไม่ ถ้าเพื่อนอา่ น ออกเสียงไม่ถูกต้องก็ให้ชว่ ยกัน เสนอแนะหรือให้คาแนะนา เพือ่ ปรับปรงุ แก้ไขในการ อ่านใหถ้ ูกต้อง - ข้ันการสรปุ และการดาเนินผลการค้นคว้า 9. นักเรียนร่วมกันสรุปหลกั การอ่านออกเสียง วรรณกรรมเร่อื ง เด็กดีมีคุณธรรม จากนั้นอภปิ ราย เก่ยี วกับประโยชนข์ องการอา่ น โดยครกู ระตุ้นให้ นกั เรยี นตระหนักถึงความสาคัญของการอา่ นได้ ถกู ต้อง
แผนการจดั ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 เ แผนการสอนท่ี 2 เรอื่ ง กา รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศ ครูผูส้ อน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ ตาแ ตวั ช้วี ัดผลการเรียนรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน / การ ชนิ้ งาน ประ
10. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มอ่านออกเสียงวรรณกรรม เร่ือง เดก็ ดีมคี ุณธรรม หน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบ และประเมนิ การอ่าน ออกเสียงของนักเรียนเป็นราย กลมุ่ ดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง เรียนรู้เร่ืองประโยค ารบอกความหมายของคา ศึกษาปีท่ี 2 รหสั วิชา ท 12101 แหน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 1 ช่ัวโมง รวัดและ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื แหล่งเรยี นรู้ ะเมินผล
ท 1.1 ป.2/2 อธบิ ายความ - การอา่ นออกเสียง - ใบงาน - ตรวจแ หมายของคาและข้อความท่ี วรรณกรรมเร่อื ง เด็กดีมี - แบบฝกึ หดั - ตรวจใบ อ่าน คณุ ธรรม จะต้องอธิบาย ความหมายของคาได้ ตัวชีว้ ดั ผลการเรยี นรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน / การ ชิน้ งาน ประ
แบบฝึกหดั - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. หนงั สอื เรยี น บงาน 1. ครเู ขยี นคาศัพทจ์ ากวรรณกรรมเรอ่ื ง เด็กดมี ี 2. แบบฝกึ หัด คณุ ธรรม บนกระดาน แล้วให้นักเรยี นอ่านออกเสยี ง 3. ใบงาน คาศัพท์ใหช้ ดั เจน พร้อมช่วยกันบอกความหมายของ 4. ใบความรู้ คา - ขน้ั ต้ังคาถาม 2. นักเรยี นและครูรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับ ความสาคญั ของการอ่านออกเสยี งคาท่ถี ูกตอ้ งและ การรูจ้ กั ความหมายของคา - ขั้นเตรยี มการค้นหาคาตอบ 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการ เรียนรูท้ ี่ 1) รว่ มกันอ่านออกเสยี งวรรณกรรมเรือ่ ง เดก็ ดีมีคณุ ธรรม จากหนงั สือเรยี น เพอ่ื ทบทวน ความรู้ 4. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ สารวจคาศัพท์จาก วรรณกรรมเร่ือง เด็กดีมีคุณธรรม โดยขีดเสน้ ใต้ คาศัพทท์ ่นี ักเรียนไม่รู้ความหมายลงในเอกสาร ประกอบการสอน รวัดและ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล
5. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบคาศัพทท์ ่ี ขีดเสน้ ใต้ในเอกสารประกอบการสอน จากนนั้ ร่วมกนั หาความหมาย แล้วบันทึกลงในสมุด 6. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ เล่นเกม บอกความหมายของ คาศัพท์ โดยครเู ปน็ ผดู้ าเนนิ การแข่งขัน และบอกกตกิ า ใหน้ กั เรยี นฟัง ดงั น้ี 1) ครูแจกกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ใหน้ ักเรยี นแต่ ละกลุ่ม กลุม่ ละ 5 แผ่น ซเึ ท่ากบั จานวนคาท่ีครจู ะให้ นักเรยี น บอกความหมายของคา 2) ครูบอกคาศัพทท์ ีละคาใหน้ ักเรียนบอก ความหมาย เชน่ คาว่า ซื่อสัตย์ นกั เรียนรบี เขียน ความหมายลงในกระดาษ ท่ีครแู จก แล้วสง่ ครูตรวจ ใหเ้ รว็ ที่สดุ โดยครนู ากระดาษ มาเรียงลาดับการส่ง ก่อนหลัง 3) ครูตรวจความหมาย โดยกลมุ่ ใดเขียน ถูกต้องและส่งเป็นกลุ่มแรกได้ 2 คะแนน กลุ่มใดท่ี ตอบถูกแตส่ ่งทีหลัง ได้ 1 คะแนน โดยครเู ขยี น คะแนนของแต่ละกลมุ่ ไวบ้ นกระดาน 4) ครูบอกคาศัพท์คาต่อไป หรืออาจจะนา ความหมายมาบอก ให้นกั เรียนเขียนคาศัพท์ เช่น ดัง สนัน่ ดงั มาก เป็นความหมายของคาศัพทใ์ ด ให้ นักเรยี นเขียนคาศัพท์นัน้ ลงในกระดาษทีค่ รูแจกให้
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
5) นักเรียนแขง่ ขนั ไปจนครบจานวนคาศัพท์ แล้วครแู ละนักเรยี นร่วมกนั รวบรวมคะแนน กล่มุ ใดได้ คะแนนสูงสุด เปน็ ฝา่ ยชนะ รวัดและ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื แหลง่ เรยี นรู้ ะเมนิ ผล 7. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกับประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ าก การเลน่ เกม 8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทาใบงาน เร่ือง เตมิ คู่ คาศัพท์กับความหมาย โดยให้สมาชกิ แตล่ ะคนหา คาตอบดว้ ยตนเองจนครบทกุ ข้อ จากน้นั จับคกู่ บั เพ่ือน ในกลุ่มผลัดกันแสดงคาตอบให้คขู่ องตนเอง 9. นักเรยี นรวมกลุ่ม 4 คน ผลดั กนั แสดงคาตอบให้ เพอ่ื นอกี คู่หน่ึง ในกลุ่มฟงั เพื่อหาข้อสรปุ ของกลมุ่ และบันทึกลงในใบงา เสรจ็ แล้วนาส่งครูตรวจ - ข้นั การสรปุ และการดาเนนิ ผลการคน้ คว้า 10. ครสู ่มุ นักเรยี นแต่ละกลมุ่ บอกความสาคญั และ ประโยชนข์ องการรู้และเข้าใจความหมายของคาจาก วรรณกรรมเร่ือง เด็กดมี ีคุณธรรม ครูตรวจสอบความ ถูกต้อง
แผนการจดั ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เ แผนการสอนท่ี 3 เรอื่ ง รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศ ครูผู้สอน นางสาวฐติ ิรตั น์ โปอ่ ินทนะ ตาแ ตัวช้วี ัดผลการเรียนรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน / การ ชนิ้ งาน ประ
ดการเรยี นรู้ เร่อื ง เรยี นรู้เรื่องประโยค การระบุใจความสาคัญ ศกึ ษาปที ี่ 2 รหสั วิชา ท 12101 แหนง่ พนกั งานราชการ เวลาที่ใช้ 1 ชว่ั โมง รวดั และ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อแหลง่ เรยี นรู้ ะเมินผล
ท 1.1 ป.2/3 ตั้งคาถามและ - การอ่านวรรณกรรม - ใบงาน ใจความ - ตรวจใ ตอบคาถามเกี่ยวกับเรื่องท่ี เรอ่ื ง เดก็ ดีมคี ุณธรรม สาคัญเรอ่ื งเด็กดีมี - ตรวจแ อ่าน จะต้องระบุใจความ คุณธรรม ท 1.1 ป.2/4 ระบุใจความ สาคญั และรายละเอียด - แบบฝึกหดั สาคญั และรายละเอียดจาก ของเรื่องที่อา่ นได้ เรอื่ งที่อ่าน ตวั ช้วี ัดผลการเรยี นรู้ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน / การ ช้ินงาน ประ
ใบงาน - ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. หนงั สือเรียน แบบฝึกหดั 1. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนความร้เู รื่อง การตงั้ คาถาม 2. แบบฝึกหดั และตอบคาถามจากเร่อื งที่อา่ น 3. ใบงาน 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายวา่ การตัง้ คาถาม จากเรอ่ื ง ที่อา่ นเปน็ ผลดีอยา่ งไร - ขน้ั ตัง้ คาถาม 3. ครูถามนักเรียนวา่ นักเรียนมขี ้อสงสัยอะไรเก่ยี วกับ วรรณกรรมเรื่อง เด็กดมี ีคณุ ธรรม มากทส่ี ุด จากนั้นให้ นักเรียนยกตวั อย่างคาถามจากเรอ่ื ง - ข้ันเตรียมการคน้ หาคาตอบ 4. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกนั ตง้ั คาถามจาก วรรณกรรมเร่อื ง เด็กดมี ีคุณธรรม กลุ่มละ 4 คาถาม เพอื่ ให้เพ่ือนนกั เรียนกลมุ่ อ่ืน ๆ ร่วมกนั ตอบ 5. ครูส่มุ ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอ คาถามหนา้ ชนั้ เรียน โดยกล่มุ ใดทต่ี อบได้ถูกต้องจะ ไดร้ ับข้อละ 1 คะแนน ครูตรวจสอบคาถามและ คาตอบของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม จากนน้ั เขยี นคะแนน ไว้บนกระดาน รวัดและ กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล
6. ครูรวมคะแนนของนักเรียนแตล่ ะกล่มุ พร้อม ปรบมือและกล่าวชมเชยนกั เรียนกลุ่มท่ีไดค้ ะแนน สูงสุด 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทาใบงาน เรื่อง ใจความ สาคัญเร่อื ง เด็กดมี ีคุณธรรม โดยใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ แบ่งหน้าทีก่ ันปฏบิ ัติ ดังน้ี - สมาชกิ คนที่ 1 มหี น้าท่ีอ่านคาถาม แยก ประเด็นให้ชัดเจน - สมาชิกคนที่ 2 ฟังข้ันตอน รวบรวมขอ้ มลู หาแนวทางและ เสนอแนะในการตอบคาถาม - สมาชกิ คนที่ 3 ตอบคาถาม หรือคน้ หา คาตอบ - สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถกู ต้อง 8.สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุม่ หมุนเวียนเปลยี่ นหนา้ ทก่ี นั ในการตอบคาถามแต่ละข้อในใบงานจนเสรจ็ ครบทุก ข้อ แล้วนาสง่ ครูตรวจ - ข้ันการสรุปและการดาเนินผลการคน้ คว้า 9. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ใจความสาคัญและ รายละเอียดของวรรณกรรมเรื่อง เด็กดีมคี ุณธรรม
แผนการจดั ชื่อหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 เ แผนการสอนท่ี 4 เร รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศ ครผู ู้สอน นางสาวฐิตริ ตั น์ โป่อินทนะ ตาแ ตัวช้วี ัดผลการเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน / การ ประ ท 5.1 ป.2/1 ระบุข้อคดิ ที่ได้ ชน้ิ งาน จากการอา่ นหรอื การฟัง - ตรวจแ วรรณกรรมสาหรับเด็กเพ่ือ - การอ่านวรรณกรรม - แบบประเมนิ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เร่ือง เดก็ ดีมีคุณธรรม การนาเสนอ จะต้องระบขุ ้อคิดจาก เร่ืองทอ่ี ่านเพอ่ื นาไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ อย่างเหมาะสม
ดการเรยี นรู้ เรือ่ ง เรียนรเู้ รือ่ งประโยค ร่อื ง การระบขุ ้อคิด ศกึ ษาปที ่ี 2 รหสั วิชา ท 12101 แหนง่ พนักงานราชการ เวลาท่ใี ช้ 1 ชวั่ โมง รวดั และ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อแหลง่ เรยี นรู้ ะเมนิ ผล - ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. หนังสอื เรยี น แบบประเมิน 1. นกั เรียนร่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั คณุ ธรรมทนี่ นั ทา 2. แบบฝึกหดั และฟ้าสว่างได้ร่วมกนั ปฏบิ ัติ จากน้ันรว่ มกนั แสดง 3. แบบประเมิน ความคิดเห็นว่า จะนาคุณธรรมดังกล่าวไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันของนักเรียนอย่างไร 2. ครูอธบิ ายเพมิ่ เติมให้นักเรียนเข้าใจวา่ คุณธรรม พน้ื ฐาน 8 ประการที่นักเรียนควรนาไปปฏิบตั ิ ไดแ้ ก่ ขยัน ประหยดั ซ่ือสตั ย์ มีวินยั สุภาพ สะอาด สามัคคี และมนี ้าใจ - ข้นั ตง้ั คาถาม 3. นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายว่า ถา้ ทุกคนปฏิบัตติ น เปน็ คนดมี คี ุณธรรม แล้วสังคมไทยจะเปน็ อย่างไร - ข้นั เตรยี มการคน้ หาคาตอบ
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
4. ครทู บทวนวรรณกรรมเรื่อง เดก็ ดีมีคุณธรรม แล้ว ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ (กลมุ่ เดิมจากแผนการจดั การ เรียนรทู้ ี่ 1) แสดงความคดิ เห็นตอ่ วรรณกรรมเรื่อง เดก็ ดมี ีคณุ ธรรม เกี่ยวกับความรแู้ ละข้อคดิ ทไ่ี ดร้ บั และแนวทางในการนาไปปรับใช้ในชวี ติ ประจาวนั รวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล 5. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มกาหนดหมายเลข 1-4 ให้ สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่ม จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มปฏบิ ตั ิ ดังน้ี - นกั เรยี นคนที่ 1 สมั ภาษณ์นักเรียนคนท่ี 2 - นักเรียนคนที่ 3 สัมภาษณน์ กั เรยี นคนที่ 4 ให้แตล่ ะคนแสดงความคิดเห็นตอ่ วรรณกรรมเรื่อง เดก็ ดีมีคุณธรรมเก่ียวกับความรู้และข้อคิดที่ไดร้ ับ และแนวทางในการนาไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 6. ผูส้ ัมภาษณ์จะเกบ็ ใจความสาคญั แลว้ ใหน้ ักเรยี น เปลยี่ นบทบาทกัน ดังนี้ - นกั เรยี นคนที่ 2 สมั ภาษณน์ ักเรยี นคนท่ี 1 - นกั เรียนคนท่ี 4 สมั ภาษณน์ ักเรยี นคนที่ 3
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
สมาชิกในกลุ่มจะหมุนเวียนกันสรุปใจความท่ี ไดร้ บั ฟังจากการสมั ภาษณ์ให้เพอ่ื นนักเรียนคนอื่น ๆ ฟงั วา่ เพื่อนได้แสดงความคิดเหน็ ตอ่ วรรณกรรมเร่ือง เด็กดมี ีคณุ ธรรม เก่ยี วกับความรู้และข้อคิดท่ไี ดร้ บั และแนวทางในการนาไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวัน อย่างไรบ้าง เชน่ - นกั เรยี นคนที่ 1 บอกกับนกั เรียนคนท่ี 3 และคนที่ 4 เกีย่ วกบั ใจความสาคญั ทน่ี กั เรยี นคนท่ี 2 ให้สมั ภาษณ์ - นักเรยี นคนท่ี 2 บอกกบั นักเรียนคนที่ 3 และคนท่ี 4 เกย่ี วกับใจความสาคัญท่นี กั เรียนคนท่ี 1 ให้สัมภาษณ์ รวัดและ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื แหล่งเรียนรู้ ะเมินผล - นกั เรียนคนที่ 3 บอกกับนักเรียนคนท่ี 1 และคนที่ 2 เก่ยี วกับใจความสาคญั ที่นักเรียนคนที่ 4 ให้ สมั ภาษณ์ - นกั เรยี นคนท่ี 4 บอกกับนักเรียนคนที่ 1 และคนท่ี 2 เกย่ี วกับใจความสาคญั ที่นักเรยี นคนที่ 3 ใหส้ มั ภาษณ์ 7. สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรปุ ผลการแสดงความ คิดเห็นต่อวรรณกรรมเรื่อง เด็กดมี ีคุณธรรม เก่ยี วกบั
แผนการจัด ชอื่ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 เ แผนการสอนท่ี 5 เรอื่ ง ส รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศ ครูผู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อินทนะ ตาแ
ความรู้และข้อคดิ ท่ีได้รับ และแนวทางในการนาไป ปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน 8. ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มรายงานผลการสรุปของกลุ่ม หนา้ ชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบและประเมนิ การนาเสนอ ของนักเรียนแต่ละกลุม่ - ขั้นการสรปุ และการดาเนนิ ผลการค้นควา้ 9. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ โดยใหเ้ หตผุ ลเพอ่ื ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอา่ น วรรณกรรมเรือ่ ง เด็กดีมีคณุ ธรรม เพื่อนาไปใชใ้ น ชวี ติ ประจาวัน ดการเรียนรู้ เร่อื ง เรียนรเู้ รอ่ื งประโยค สว่ นประกอบของประโยค ศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ท 12101 แหนง่ พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 1 ช่ัวโมง
ตวั ชว้ี ดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ช้นิ งาน ประ ท 4.1 ป.2/3 เรยี บเรียงคา - การแตง่ ประโยคได้ - ใบงานเรื่อง - ตรวจใ เป็นประโยคได้ตรงตามเจตนา ถกู ต้องน้ัน จะต้องมี ส่วนประกอบของ - ตรวจแ ของการส่ือสาร ความร้คู วามเข้าใจเร่อื ง ประโยค สว่ นประกอบของ ประโยค
รวดั และ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล - ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. หนงั สือเรยี น ใบงาน แบบฝึกหดั 1. ครูนาบัตรคา 3 ชดุ มาตดิ บนกระดาน แล้วให้ 2. แบบฝกึ หดั นกั เรียนนามาเรียงต่อกนั ใหเ้ ป็นประโยคลงในสมุดของ 3. ใบงาน ตนเอง 4. บตั รคา - ชดุ ที่ 1 อยาก ลูกบอล เลน่ เจ้าปุย - ชุดท่ี 2 โรงเรยี น น้อง ไป ชอบ - ชุดท่ี 3 อะไร ตู้ อยู่ ใน 2. ครูขออาสาสมคั รนักเรียนอ่านประโยคทเี่ รยี บเรยี ง ไวท้ ้ัง 3 ชุด จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบ ความถกู ต้องตามที่ครเู ฉลยบัตรคาในแต่ละชดุ 3. ครูอธบิ ายให้นกั เรียนเข้าใจวา่ การนาคาชนิดตา่ ง ๆ มาเรียงกันให้ไดใ้ จความสมบรู ณ์ เรยี กว่า ประโยค - ขั้นตัง้ คาถาม 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการ เรียนรทู้ ี่ 1) รว่ มกนั ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง ประโยค ตาม ประเดน็ ความรู้ทค่ี รูกาหนด ดังน้ี 1) ส่วนประกอบของประโยค 2) ตวั อยา่ งการจาแนกสว่ นประกอบของ ประโยค
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
รวัดและ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือแหลง่ เรยี นรู้ ะเมนิ ผล - ขน้ั เตรียมการคน้ หาคาตอบ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั วางแผนศึกษาความรู้ เรอ่ื ง ประโยค ตามประเดน็ ความรูท้ ีค่ รกู าหนด พรอ้ มแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบใหส้ มาชิกแตล่ ะคน ในกลมุ่ 6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาความรู้เร่ือง ประโยค ตามประเด็นความรู้ที่ครูกาหนด จาก หนังสือเรยี น ตามที่ไดว้ างแผนไว้ 7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนนาเสนอสรปุ ความรู้ เรือ่ ง ประโยค ตามประเด็นความร้ทู ี่ครูกาหนด ดังนี้ - ส่วนประกอบของประโยค - ตวั อยา่ งการจาแนกสว่ นประกอบของ ประโยค 8. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วสมุ่ นักเรียนจาแนก สว่ นประกอบของประโยคที่ครูกาหนด ดงั น้ี - แม่ซักผ้า - มาลีรอ้ ยมาลยั - น้องป่ันจกั รยาน 9. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงาน เรือ่ ง สว่ นประกอบ ของประโยค
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
10. ครูสุ่มเลขท่นี ักเรยี น 5-6 คน นาเสนอการ จาแนกส่วนประกอบของประโยคในใบงาน หน้าชัน้ เรียน รวัดและ กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ แหล่งเรยี นรู้ ะเมินผล 11. ครูตรวจสอบความถูกต้อง และกลา่ วชมเชย นักเรียนที่มีความรคู้ วามเขา้ ใจสามารถจาแนก ส่วนประกอบของประโยคได้อยา่ งถกู ต้อง -ขัน้ การสรุปและการดาเนนิ ผลการคน้ ควา้ 12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ รือ่ ง ประโยค และการจาแนกส่วนประกอบของประโยค
แผนการจดั ช่อื หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 9 เ แผนการสอนที่ 6 เรอื่ รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศ ครผู ้สู อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ ตาแ ตัวช้วี ัดผลการเรียนรู้ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ ท 4.1 ป.2/3 เรยี บเรียงคา - การแตง่ ประโยคได้ - ใบงานเร่ือชนิด - ตรวจใ เปน็ ประโยคได้ตรงตามเจตนา ถูกต้องนั้น จะต้องมี ของ ประโยค - ตรวจแ ของการส่อื สาร ความรู้ความเข้าใจเรือ่ ง ชนิดของประโยค
ดการเรยี นรู้ เรอื่ ง เรยี นรเู้ รื่องประโยค อง ชนิดของประโยค ศกึ ษาปีที่ 2 รหัสวิชา ท 12101 แหนง่ พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 1 ชั่วโมง รวัดและ กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ แหลง่ เรยี นรู้ ะเมินผล - ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. หนังสือเรียน ใบงาน 1. ครูเขียนประโยค 3 ชนิด บอกช่ือประโยคแต่ละ 2. แบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั ชนดิ ชนิดละ 2 ประโยค บนกระดาน จากนั้นให้ 3. ใบงาน นักเรียนอ่านออกเสียง พร้อมกนั อยา่ งชัดเจน - ตองนอนตื่นสาย - ทาไมปนุ่ ถงึ ไม่ส่งการบ้าน - เอินไมไ่ ด้มาโรงเรยี น
ตวั ชี้วดั ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน / การ ชน้ิ งาน ประ
- การต์ นู ชอบเลน่ เกมคอมพิวเตอร์ - โตไมช่ อบกินผัก - ใครกินขนมในห้องเรยี น - ข้นั ตัง้ คาถาม 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการ เรียนรู้ท่ี 1) ร่วมกนั ศึกษาความรเู้ รอื่ ง ชนดิ ของ ประโยค จากหนังสือเรยี น 2. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั จาแนกชนิดของ ประโยค จากตวั อย่างประโยคทค่ี รูกาหนด 3. ให้นกั เรียนบอกความแตกต่างของประโยคแต่ละ ชนิด รวดั และ กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ แหล่งเรียนรู้ ะเมนิ ผล - ขั้นเตรยี มการค้นหาคาตอบ 4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันพจิ ารณาลักษณะ ของประโยค และสว่ นประกอบของประโยค 5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มตรวจสอบความถูกต้องของ ประโยคทง้ั 3 ชนดิ พร้อมอธิบายลักษณะของประโยค แตล่ ะชนดิ
แผนการจัด ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 เ แผนการสอนท่ี 7 เร รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศ ครผู ู้สอน นางสาวฐิตริ ตั น์ โปอ่ นิ ทนะ ตาแ
6. ให้นกั เรียนระบุลักษณะรว่ มของประโยคแตล่ ะ ชนดิ จากตวั อย่างประโยคว่ามคี วามเหมือนกนั อยา่ งไร 7. นกั เรยี นร่วมกันระบชุ นดิ ของประโยค และอธบิ าย ลกั ษณะของประโยค พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ดังน้ี 1) ประโยคบอกเล่า 2) ประโยคคาถาม 3) ประโยคปฏเิ สธ - ข้ันการสรปุ และการดาเนินผลการค้นคว้า 8. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงาน เรื่อง ชนิดของ ประโยค เสร็จแล้วใหต้ รวจสอบความเรยี บรอ้ ย แล้ว แลกเปลย่ี นกันตรวจสอบความถกู ต้องตามท่ีครูเฉลย 9. ครูชมเชยนกั เรยี นที่ทาใบงานไดค้ ะแนนสงู พรอ้ ม กบั ให้เพ่ือนนกั เรยี นปรบมือใหเ้ พอื่ เสรมิ สร้างกาลงั ใจ ดการเรียนรู้ เร่อื ง เรยี นรู้เรอ่ื งประโยค ร่อื ง ประโยคบอกเล่า ศกึ ษาปีท่ี 2 รหัสวิชา ท 12101 แหนง่ พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช้ 2 ชว่ั โมง
ตัวชีว้ ัดผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน / การ ชิ้นงาน ประ ท 4.1 ป.2/3 เรยี บเรยี งคา - การแต่งประโยคบอก - ใบงานเรื่อง - ตรวจใ เป็นประโยคได้ตรงตามเจตนา เล่า จะต้องมคี วามรู้ ประโยคบอกเลา่ - ตรวจแ ของการสอื่ สาร ความเข้าใจในเรือ่ ง ลกั ษณะของประโยค จึง จะสามารถส่ือสารได้ ถูกต้อง
รวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ แหลง่ เรียนรู้ ะเมนิ ผล - ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. หนังสอื เรียน ใบงาน แบบฝึกหัด 1. ครขู ออาสาสมัครนักเรยี นออกมาใบ้คาตามแถบ 2. แบบฝึกหัด ประโยคที่ครเู ตรียมไว้ แลว้ ให้เพ่อื นช่วยกนั ตอบเป็น 3. ใบงาน ประโยคบอกเล่า เช่น 4. ใบความรู้ - ฉนั วา่ ยนา้ แมวจบั หนู ครูสอนหนังสือ ฉันทากบั ข้าว 2. ครูเฉลยคาตอบทถี่ ูกต้อง แล้วนาแถบประโยค แสดงบนกระดาน เพอื่ ใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงพร้อม กัน - ข้นั ตง้ั คาถาม 3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลุม่ เดมิ จากแผนการจัดการ เรียนรทู้ ี่ 1) ร่วมกนั ศึกษาความรู้เรื่อง ประโยคบอก เลา่ จากหนังสือเรยี น 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั จาแนกสว่ นประกอบ ของประโยคในแถบประโยคข้ันท่ี 1 พร้อมอธบิ าย ลกั ษณะของประโยคบอกเล่า - ขัน้ เตรยี มการค้นหาคาตอบ 5. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ลักษณะของประโยคบอกเล่า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 664
Pages: