SPARK ม.1 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ นายแดนองั เจลโล่ บญุ หลง โรงเรียนบา้ นโนนสวา่ ง ตาแหนง่ ครู สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 3 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาองั กฤษ SPARK 1 ม. 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ผ้เู รียบเรียง นางสาวกรรณิการ์ จนั ทร์พมุ่ นางมจั ฉรานี พุ่มสุวรรณ ผ้ตู รวจ ผศ. พรสวรรค์ สีป้อ นางสุภาภรณ์ สิปปเวสม์ นางสาวกลั ยา เวทยาวงศ์ บรรณาธิการ นายสุเมธินท์ แสงไตรรตั นน์ ุกลู พิมพค์ รงั้ ที่ 1 สงวนลขิ สทิ ธต์ิ ามพระราชบญั ญตั ิ
สารบญั หน้า ข • สารบญั ค • คาอธิบายรายวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน ง • โครงสร้างรายวิชาภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน 1 Starter 16 Module 1 Back to school 90 Module 2 Cool Stuff! 156 Module 3 Homes! 225 Module 4 Families 302 Module 5 Great Animals! 371 Module 6 Weather & Clothes 442 Module 7 Food 511 Module 8 Masters of Art พเิ ศษ 1 • ภาคผนวก พเิ ศษ 4 Key to Language Review พิเศษ 7 Key to Self-Check พิเศษ 11 Student’s Book Tapescripts พเิ ศษ 17 Workbook Tapescripts แบบประเมนิ ข
คาอธบิ ายรายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1 120 ชว่ั โมง (3 หน่วยกิต) อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน บทร้อยกรอง บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการ ออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ปฏิบตั ติ ามและใช้คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง พูดและเขียนบรรยาย สรุปใจความสาคัญท่ีได้จากการวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นเรื่องเก่ียวกับตนเอง กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์ สิ่งแวดลอ้ ม และเหตุการณ์ใกลต้ ัวในความสนใจ ระบุและเลือกข้อมูล ประโยค ขอ้ ความ บทสนทนา นิทาน เร่ืองส้ัน และตอบคาถามเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังหรืออ่าน คน้ ควา้ รวบรวม สรุปขอ้ มูลจากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้งั ท่เี ป็นขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อนื่ เปรียบเทยี บ ประเพณี งานเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั ชีวิตความเป็นอยู่ และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมและ จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม โดยสามารถสื่อสารดว้ ยภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสม ท้งั ในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จาลองอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ มีความใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ใน การทางาน รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และรักความเป็นไทย ค
เวลา 120 ชั่วโมง โครงสร้างรายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน คะแนนเก็บ 100 คะแนน ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลา นา้ หนกั คะแนน ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ (ช่ัวโมง) (100 คะแนน) ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั 2- 0 Starter ต 1.1 ม. 1/1 14 10 ต 1.2 ม. 1/1 ต 1.3 ม. 1/1 14 10 ต 2.1 ม. 1/1 ต 2.2 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 1 Back to school ต 1.1 ม. 1/2 และ ต 1.1 ม. 1/4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 2.2 ม. 1/1 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 2 Cool Stuff! ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ง
ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เวลา นา้ หนักคะแนน ท่ี (ชั่วโมง) (100 คะแนน) 3 Homes! ต 1.1 ม. 1/1 - 4 14 10 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 14 10 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 1- 2 10 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 14 10 ต 2.2 ม. 1/1 - 2 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 4 Families ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 3 ต 2.1 ม. 1/1 - 3 ต 2.2 ม. 1/1 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 Revision Mid-Year Examination 5 Great Animals! ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 3 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 2.2 ม. 1/1 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 จ
ลาดบั ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั เวลา น้าหนกั คะแนน ท่ี (ช่ัวโมง) (100 คะแนน) 6 Weather & Clothes ต 1.1 ม. 1/2 - 4 14 10 ต 1.2 ม. 1/1 - 2 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 3 14 10 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 3.1 ม. 1/1 14 10 ต 4.1 ม. 1/1 1- 7 Food ต 1.1 ม. 1/2 - 4 2 10 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/3 - 5 120 100 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 - 3 ต 2.2 ม. 1/1 - 2 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 8 Masters of Art ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 Revision Final Examination Total in year round ฉ
0 Starter ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา และคาช้ีแจงงา่ ย ๆ ท่ีฟังและอา่ น มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม 1
ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ สานวนภาษา ช่วยให้พูดทกั ทาย กลา่ วลา และพดู ส่ือสารเก่ียวกบั ขอ้ มลู ของ ตนเองและผอู้ ืน่ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Cardinal numbers (1-1,000) Colours (blue, yellow, green, black, brown, pink, white, orange, red, grey, purple) Classroom objects (notebook, book, eraser, pencil sharpener, schoolbag, atlas, pencil case, pencil, ruler) Grammar: a/an - the Functions: Greetings Good morning, Ingrid. Hi, Claire. How are you? Asking about personal information What’s your name? Steven. What’s your address? 128 Middle Street. 2
2) Language Skills Reading: อ่านออกเสียงจานวนนบั ชื่อสี ช่ือวนั Speaking: พดู สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลส่วนตวั , พูดทกั ทายและกลา่ วลา 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น - ความสามารถในการส่ือสาร 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) พูดสนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลส่วนตวั 2) พดู ทกั ทาย 7 การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 7.2 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 3
1 Starter 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - พดู ทกั ทายได้ - พูดสนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลส่วนตวั ได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา และคาช้ีแจงงา่ ย ๆ ท่ีฟังและอ่าน มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั 4
ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและ สถานศึกษา 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ สานวนภาษา ช่วยใหพ้ ูดทกั ทาย กล่าวลา และพูดส่ือสารเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ของ ตนเองและผอู้ ่นื ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Cardinal numbers (1-1,000) Colours (blue, yellow, green, black, brown, pink, white, orange, red, grey, purple) Classroom objects (notebook, book, eraser, pencil sharpener, schoolbag, atlas, pencil case, pencil, ruler) Grammar: a/an - the Functions: Greetings Good morning, Ingrid. Hi, Claire. How are you? 5
Asking about personal information What’s your name? Steven. What’s your address? 128 Middle Street. 2) Language Skills Reading: อ่านออกเสียงจานวนนบั ช่ือสี ชื่อวนั Speaking: พูดสนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลส่วนตวั , พูดทกั ทายและกลา่ วลา 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น - ความสามารถในการส่ือสาร 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูพูดทกั ทายนกั เรียนวา่ Good morning. หรือ Good afternoon. 2. ครูบอกนกั เรียนวา่ ชวั่ โมงน้ีนกั เรียนจะไดท้ บทวนคาศพั ทท์ ่ีเคยเรียนไปแลว้ ข้นั Presentation 1. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 1 ครูทบทวนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ (a-z) โดยให้นกั เรียนออกเสียง a-z พร้อมกนั ครูคอยสงั เกตวา่ ตวั อกั ษรตวั ใดทน่ี กั เรียนส่วนใหญ่ออกเสียงไม่ถกู ตอ้ งหรือไม่ชดั เจน ครู เขยี นตวั อกั ษรน้นั บนกระดาน แลว้ เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังการออกเสียง a-z และออกเสียงตาม จากน้นั ครูให้นกั เรียนออกเสียงตวั อกั ษรบนกระดานพร้อมกนั 2. ครูทบทวนการถามชื่อ นามสกลุ และอายุ โดยสุ่มถามคาถามนกั เรียน 3-4 คน ดว้ ยคาถาม What’s your name? What’s your surname? How do you spell it? How old are you? 3. ครูทบทวนการอ่านจานวนนบั โดยเขียนตวั เลขบนกระดาน เช่น 7, 11, 23, 42, 79, 101, 203, 1,000 แลว้ ให้นกั เรียนอ่านพร้อมกนั และช่วยกนั อธิบายหลกั การอ่านใหค้ รูฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อ่านตวั เลขบนกระดานอีกคร้งั 6
4. ครูสอนการอา่ นบา้ นเลขที่และเบอร์โทรศพั ท์ โดยเขียนตวั อยา่ งบา้ นเลขท่แี ละเบอร์โทรศพั ทบ์ น กระดาน แลว้ อา่ นใหน้ กั เรียนฟัง ให้นกั เรียนสังเกตวธิ ีอ่านและช่วยกนั สรุป จากน้นั ครูช่วยสรุป อกี คร้งั ตอ่ มาครูเขียนคาถาม What’s your address? บนกระดาน และบอกนกั เรียนวา่ คาถามน้ีใชถ้ ามเกี่ยวกบั ท่ีอยู่ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ วา่ การถามเบอร์โทรศพั ทจ์ ะถามว่าอยา่ งไร (What’s your telephone number?) จากน้นั ใหน้ กั เรียน 1 คน ถามบา้ นเลขท่ีและเบอร์โทรศพั ทข์ องครู S1: What’s your address? T: 23 Samsen Road. S1: What’s your telephone number? T: It’s oh-eight-two-double five-double one-two-three. การอ่านบ้านเลขทีแ่ ละเบอร์โทรศัพท์ 1) การอ่านบ้านเลขท่ี ถา้ เป็นจานวนคู่ ให้อ่านทีละคู่ เช่น 42 forty-two 1023 ten twenty-three ถา้ เป็นจานวนค่ี ให้อา่ นแยกทลี ะตวั หรืออ่านเศษไวต้ น้ แลว้ คู่ท่พี อดีให้อา่ น ไวด้ า้ นหลงั เช่น 6 six 387 three eight seven หรือ three eighty-seven 205 two oh five (ถา้ มี 0 คนั่ กลาง ให้อา่ นเรียงตวั ) 200 two hundred (ถา้ มี 0 หลาย ๆ ตวั ใหอ้ า่ นเป็นจานวน) ถา้ มี / คน่ั ให้อ่านว่า slash เช่น 546/3 five forty-six slash three 2) การอ่านเบอร์โทรศัพท์ ให้อา่ นเรียงตวั ถา้ เป็นเลข 0 จะอา่ นว่า oh ถา้ มีเลขซ้ากนั สองตวั จะใชค้ าว่า double เช่น 0863546721 oh-eight-six-three-five-four-six-seven-two-one 027753226 oh-two-double seven-five-three-double two-six 7
ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนจบั คผู่ ลดั กนั พูดถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มลู ทก่ี าหนดให้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 7 คู่ ยืนข้ึนพดู ถาม-ตอบให้เพ่ือนในช้นั ฟัง 2 A: What’s your name? B: Steven. A: And your surname? B: Jones. A: How do you spell it? B: J-O-N-E-S. B: Peter. 3 A: What’s your name? B: Wells. A: And your surname? B: W-E-double L-S. A: How do you spell it? B: James. B: Scott. 4 A: What’s your name? B: S-C-O-double T. A: And your surname? B: Maria. A: How do you spell it? B: Brown. B: B-R-O-W-N. 5 A: What’s your name? B: Kevin. A: And your surname? B: Rice. A: How do you spell it? B: R-I-C-E. B: David. 6 A: What’s your name? B: Carter. A: And your surname? B: C-A-R-T-E-R. A: How do you spell it? B: Amanda. B: White. 7 A: What’s your name? B: W-H-I-T-E. A: And your surname? A: How do you spell it? 8 A: What’s your name? A: And your surname? A: How do you spell it? 2. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการอ่านจานวนนบั 1-20 และออกเสียงตาม จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงดว้ ยตนเอง พร้อมท้งั บอกจานวนเป็นภาษาไทย 8
ต่อมาครูใหน้ กั เรียนดภู าพ และอธิบายวา่ ในหลาย ๆ ประเทศจานวนเทียนท่ปี ักบนเคก้ วนั เกิดจะ แสดงถงึ อายขุ องเจา้ ของวนั เกิด แลว้ ใหน้ กั เรียนนบั จานวนเทยี นทปี่ ักบนเคก้ แลว้ ครูถามว่า How old is Sophie? Sophie is 12 years old. 3. หนงั สือเรียน หน้า 5 Ex. 4 ใหน้ กั เรียนจบั คผู่ ลดั กนั พดู ถาม-ตอบบา้ นเลขทแ่ี ละเบอร์โทรศพั ทโ์ ดยใช้ ขอ้ มูลทก่ี าหนดให้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คู่ พดู ถาม-ตอบให้เพือ่ นฟัง 2 A: What’s your address? B: 128 Middle Street. A: How do you spell it? B: M-I-double D-L-E. A: What’s your telephone number? B: It’s double five-two-four-three-five-eight-nine. 3 A: What’s your address? B: 64 Memphis Street. A: How do you spell it? B: M-E-M-P-H-I-S. A: What’s your telephone number? B: It’s double two-nine-four-double three-one-eight. 4 A: What’s your address? B: 97 Newton Street. A: How do you spell it? B: N-E-W-T-O-N. A: What’s your telephone number? B: It’s seven-two-three-nine-eight-six-three-two. 9
5 A: What’s your address? B: 38 Melrose Street. A: How do you spell it? B: M-E-L-R-O-S-E. A: What’s your telephone number? B: It’s three-double seven-two-five-nine-two-one. 4. หนังสือเรียน หน้า 5 Ex. 5 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการอา่ นจานวนนบั และออกเสียงตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงดว้ ยตนเอง พร้อมท้งั บอกจานวนเป็นภาษาไทย 5. หนงั สือเรียน หน้า 5 Ex. 6 ให้นกั เรียนเลน่ เกม โดยนบั เลข 1-100 ตอ่ กนั ไปเร่ือย ๆ ถา้ ใครนบั เลขผิด ให้ยนื ข้นึ แลว้ คนถดั ไปนบั เลขตอ่ ไป จนกระทง่ั นบั ถงึ 100 จากน้นั ครูถามคาถามท่เี รียนไปแลว้ ให้ นกั เรียนทีน่ บั เลขผดิ ตอบคาถาม 6. หนงั สือเรียน หน้า 5 Ex. 7 ใหน้ กั เรียนอา่ นชื่อของบคุ คลที่กาหนดให้พร้อมกนั แลว้ จบั คู่ผลดั กนั พูดถาม-ตอบอายโุ ดยสมมติวา่ ตนเองเป็นบุคคลเหล่าน้ี A: What’s your name? B: My name’s Sam. A: How old are you? B: I’m fifteen years old. A: What’s your name? B: My name’s Darina. A: How old are you? B: I’m sixteen years old. A: What’s your name? B: My name’s Marco. A: How old are you? B: I’m twenty years old. A: What’s your name? B: My name’s Ann. A: How old are you? B: I’m twelve years old. A: What’s your name? B: My name’s Bob. A: How old are you? B: I’m thirteen years old. 10
ข้นั Production ใหน้ กั เรียนจบั คู่ผลดั กนั พูดถาม-ตอบขอ้ มลู ของเพ่ือน โดยถามเกี่ยวกบั ช่ือ นามสกลุ อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศพั ท์ ครูเดินสังเกตการทากิจกรรมของนกั เรียน แลว้ ใหน้ กั เรียน 2 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบ ทหี่ นา้ ช้นั ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูทบทวนเกี่ยวกบั จานวนนบั โดยแบง่ นกั เรียนเป็น 4 ทีม แลว้ ให้แตล่ ะทมี ส่งตวั แทนคร้ังละ 1 คน ออกมาเขียนตวั เลขบนกระดานตามท่คี รูบอก ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนการใช้ a, an, the โดยยกตวั อยา่ งบนกระดาน ใหน้ กั เรียนบอกวา่ ตอ้ งเตมิ อะไร เช่น banana, hour, shirt, sun จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปหลกั การใช้ 2. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อปุ กรณ์การเรียน ไดแ้ ก่ notebook, book, eraser, ruler, pencil, pencil sharpener, schoolbag, atlas, pencil case โดยชูส่ิงของใหน้ กั เรียนดู และใหน้ กั เรียนบอกคาศพั ท์ 3. ครูทบทวนคาศพั ทช์ ื่อสี โดยชูดินสอสีใหน้ กั เรียนดู ให้นกั เรียนบอกคาศพั ท์ จากน้นั ครูถามคาถาม ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น T: What’s this? (ชูสมุดสีฟ้า) Ss: It’s a notebook. T: What colour is it? Ss: It’s blue. 4. ครูทบทวนคาศพั ทช์ ื่อวนั ในสปั ดาห์ โดยใหน้ กั เรียนท่องวนั ท้งั 7 พร้อมกนั แลว้ ให้นกั เรียน 7 คน ออกมาเขยี นชื่อวนั บนกระดานคนละ 1 วนั 5. ครูทบทวนสานวนภาษาท่ใี ชใ้ นการทกั ทาย Hi!, Hello!, Good morning!, Good afternoon!, Good evening! และกลา่ วลา Goodbye!, Bye!, Good night! โดยยกตวั อยา่ งเวลาหรือสถานการณ์ และถาม นกั เรียนวา่ จะทกั ทายหรือกล่าวลาวา่ อยา่ งไร เช่น T: At 10:30 am what do we say? Ss: Hi!, Hello!, Good morning. 11
T: When you go to bed what do you say? Ss: Good night. 6. ครูทบทวนคาสัง่ ทใี่ ช้ในช้นั เรียน โดยครูออกคาสงั่ และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตาม เช่น Read., Listen., Be quiet, please., Come to the board, please., open your book., Close your book. ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 6 Ex. 8 ให้นกั เรียนเตมิ a หรือ an หนา้ คาศพั ทใ์ ห้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน อา่ นพร้อมกนั เพอื่ เฉลยคาตอบ a notebook a book an eraser a pencil sharpener a ruler a pencil a schoolbag an atlas a pencil case 2. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 9 ให้นกั เรียนจบั ค่ผู ลดั กนั ช้ีภาพส่ิงของใน Ex. 8 และพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ส่ิงของน้นั ตามตวั อยา่ ง A: What’s this in English? B: It’s a notebook. A: What’s this in English? B: It’s an eraser. etc. 3. หนงั สือเรียน หน้า 6 Ex. 10a ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทช์ ื่อสี และออกเสียงตามพร้อมกนั และ ทลี ะคน แลว้ ให้นกั เรียนบอกชื่อสีเหลา่ น้ีเป็นภาษาไทย จากน้นั ครูช้ีไปท่สี ิ่งของตา่ ง ๆ ในช้นั เรียน และถามว่าสีอะไร เช่น T: What colour is the chair? (ช้ีไปท่ีเกา้ อ้สี ีเขียว) Ss: It’s a green. 4. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 10b ใหน้ กั เรียนเขยี นประโยคบอกสีของสิ่งของใน Ex. 8 ครูย้าใหน้ กั เรียน ใช้ a, an, the ใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคคนละ 1 ภาพ 12
This is a book. The book is red. This is an eraser. The eraser is pink. This is a pencil sharpener. The pencil sharpener is grey. This is a ruler. The ruler is brown. This is a pencil. The pencil is orange. This is a pencil case. The pencil case is green. This is an atlas. The atlas is blue. This is a schoolbag. The schoolbag is yellow. 5. หนงั สือเรยี น หน้า 6 Ex. 11 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังคาศพั ทช์ ่ือวนั ในสปั ดาห์ และออกเสียงตาม พร้อมกนั และทีละคน แลว้ ให้นกั เรียนพูดชื่อวนั เหลา่ น้ีเป็นภาษาไทย จากน้นั ครูถามว่า Which days are the weekends? (Saturday and Sunday) 6. หนงั สือเรยี น หน้า 7 Ex. 12 ให้นกั เรียนอา่ นคาทกั ทายและคากลา่ วลาในภาพ 1-6 พร้อมกนั แลว้ เปรียบเทียบวา่ ในภาษาไทยมีการใชค้ าทกั ทายตามช่วงเวลาเหมอื นในภาษาองั กฤษหรือไม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั อ่านบทสนทนา A และ B โดยแสดงท่าทางให้สมจริง 7. หนงั สือเรียน หน้า 8 Ex. 13 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาสัง่ ท่คี รูใชใ้ นช้นั เรียน และออกเสียงตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดคาสง่ั เหลา่ น้ีเป็นภาษาไทย 8. หนงั สือเรียน หน้า 8 Ex. 14 ครูใหน้ กั เรียนดูหัวขอ้ ตา่ ง ๆ และสญั ลกั ษณ์ท่ใี ห้มา และหาหวั ขอ้ และ สัญลกั ษณ์เหลา่ น้ีในหนงั สือเรียน แลว้ ช่วยกนั บอกวา่ แตล่ ะหัวขอ้ และสญั ลกั ษณ์หมายความวา่ อยา่ งไร In Pronunciation, we learn to say words correctly. In Listening, we listen to people speaking English. In ICT, we do projects using computers and the Internet. (Information & Communication Technology) Check these words means we check if we know the meanings of the key vocabulary items from a text, or else we look them up in dictionary. 13
Pairwork means we work in pairs. Groupwork means we will work in groups of three. In Speaking, we use the vocabulary/grammar taught in the lesson to speak in English. In Writing, we learn about different types of writing in the English language. In Study Skills, we learn a helpful tip which helps students become autonomous learners. In Portfolio, we do tasks related to the theme of each module to add to our portfolio of work. means we give our own opinion on a topic. In Reading, we practise reading skills in English. In Self-Check, we do revision exercises. tells us a joke in English related to the theme. In Song, we listen to a song related to the theme of the module. In Vocabulary, we learn new words. In Check your progress, we assess how good we are at the skills taught in the module. In Quiz, we check how much we remember from the module. In Project, we do tasks related to the theme of the module. In Workbook, we refer to the workbook to complete the relevant tasks. In Language Review, we practise the vocabulary presented in the module. ข้นั Production ให้นกั เรียนจบั คู่ช่วยกนั แตง่ บทสนทนา โดยสมมตวิ า่ ตนเองเจอเพ่ือนท่ีสวนสาธารณะ นกั เรียน สามารถดตู วั อยา่ งบทสนทนา A ใน Ex. 12 เมื่อทาเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนพูดสนทนากนั ครูเดินสังเกต การทากิจกรรมรอบ ๆ ช้นั เรียน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่ ออกมาพดู สนทนาหนา้ ช้นั 14
A: Good morning, Ann. B: Hello, Pete. A: How are you? B: I’m fine, thanks. And you? A: Not bad. See you later. B: OK! Goodbye. 7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ วธิ กี ารวดั สังเกตการพดู สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มลู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ส่วนตวั , แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น สังเกตการพูดสนทนาทกั ทาย อนั พึงประสงค์ สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 15
1 Back to School ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ (theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง/ เหตุการณท์ ี่อยใู่ นความสนใจของสังคม 16
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียนและ สถานศึกษา สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปล่ียนเรียนรู้กับสังคมโลก ตวั ช้ีวดั ต 4.2 ม. 1/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มูลตา่ ง ๆ จากส่ือและแหลง่ การ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 17
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเรื่องที่ อา่ นและฟังได้ นอกจากน้ียงั ช่วยให้สามารถนาสิ่งท่เี รียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขียนส่ือสาร แลกเปล่ียน ขอ้ มูลเปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมถึงเป็น พ้ืนฐานในการคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: School subjects (English, geography, music, history, information & communication technology (ICT), maths, science, art, physical education (PE), design & technology (D&T)) Countries (the UK, the USA, Poland, Turkey, France, Russia, Italy, Portugal, Greece, Mexico, China, Spain, Canada, Brazil, Germany, Egypt, India, Japan, Australia) Nationalities (Polish, British, American, Italian, Chinese, Turkish, Portuguese, French, Mexican, Greek, Russian, Spanish) Sports (athletics, gymnastics, hockey, badminton, basketball, football, tennis) Capital cities (Ankara, Athens, Beijing, Berlin, Brasilia, Cairo, Canberra, Moscow, Lisbon, London, Madrid, Mexico City, New Delhi, Ottawa, Paris, Tokyo, Rome, Washington, DC) Nouns (classmates, school trip, best friend, drawing, painting, education, hub, mother tongue, citizen) Adjective (good at, favourite, great, flexible, diverse) Adverb (soon) Sentences (How are you? I’m fine, thanks. This is Ben. Nice to meet you. Where are you from? How about you? How old are you? What’s your favourite subject?) Grammar: the verb to be subject/object pronouns 18
question words capital letters Functions: Greeting & introductions Hi, James. How are you? I’m fine, thanks. This is Maria. She’s new to our school. Hi, Maria! Nice to meet you. Asking for and giving personal information What’s your name? Sergio. Where are you from? I’m from Portugal. What’s your favourite subject? I like art. Talking about countries and capital cities Amsterdam is the capital city of the Netherlands. Budapest is the capital city of Hungary. Pronunciation: /eI/, /æ/ 2) Language Skills Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั ของตนเองและผอู้ น่ื , พูดนาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง, แสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ทกี่ าหนด, พูดใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เมืองหลวงของประเทศตา่ ง ๆ, พูดแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั การศึกษา Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ, อา่ นออกเสียงบทสนทนา Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและบคุ คลทม่ี ชี ่ือเสียง, แตง่ บทสนทนาตาม สถานการณท์ ่กี าหนด, เขียนอเี มลตอบเพื่อน, เขยี นเกี่ยวกบั ระบบการศกึ ษา ของไทยหรือของประเทศในกลุม่ ประชาคมอาเซียน 3) Culture การถามอายุ 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 19
5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน 6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) พดู นาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง 2) พูดขอและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั 3) เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั เพ่ือน 4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ่กี าหนด 5) แสดงบทบาทสมมติตามสถานการณท์ ก่ี าหนด 6) คน้ ควา้ เก่ียวกบั เมืองหลวงของประเทศที่อยใู่ นทวีปยโุ รปและพูดนาเสนอ 7) โครงงาน “Countries of the world” 8) เขียนอีเมลตอบเพื่อน 9) เขียนสรุประบบการศึกษาของไทย หรือของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน 7 การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 7.3 การประเมินหลงั เรียน 7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 20
1 Reading 1a & Vocabulary 1a 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ตอบคาถามจากการอา่ นและฟังได้ - พูดสนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ของตนเองและผอู้ น่ื ได้ - พดู และเขยี นให้ขอ้ มลู ของตนเองได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.2 ม. 1/4 พดู และเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทีฟ่ ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขยี น ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั 21
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ชื่อวชิ า ช่ือประเทศ เช้ือชาติ และสานวนภาษาทใี่ ชใ้ นการขอและให้ ขอ้ มูล ช่วยใหเ้ ขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเร่ืองทอ่ี ่านและฟังได้ นอกจากน้ียงั สามารถนาคาศพั ทแ์ ละ สานวนภาษาทเ่ี รียนไปใชพ้ ดู แลกเปล่ียนขอ้ มลู ส่วนตวั ของตนเองและผอู้ นื่ และเขียนให้ขอ้ มูลส่วนตวั ของตนเองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: School subjects (English, geography, music, history, information & communication technology (ICT), maths, science, art, physical education (PE), design & technology (D&T)) Countries (the UK, the USA, Poland, Turkey, France, Russia, Italy, Portugal, Greece, Mexico, China, Spain) Nationalities (Polish, British, American, Italian, Chinese, Turkish, Portuguese, French, Mexican, Greek, Russian, Spanish) Nouns (classmates, school trip, best friend, drawing, painting) Adjective (good at) Functions: Asking for and giving personal information What’s your name? Sergio. Where are you from? I’m from Portugal. 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั ของตนเองและผอู้ น่ื พูดนาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง 22
Reading: อ่านเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง 3) Culture การถามอายุ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมนั่ ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้นั Warm up 1. ครูพูดทกั ทายนกั เรียน แลว้ แนะนาตนเอง และเนื่องจากนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ยงั ไม่รู้จกั กนั มา ก่อน ครูจึงให้นกั เรียนพูดทกั ทายกบั เพ่อื นขา้ งเคียง โดยให้นกั เรียนจบั มอื ทกั ทายกนั ดว้ ย เช่น Lin: Hi, I’m Lin. What’s your name? Jane: Hi, Lin. I’m Jane. How are you? Lin: I’m fine, thanks. And you? Jane: I’m very well. วธิ กี ารจบั มือทกั ทาย การจบั มอื ทกั ทายจะใชม้ อื ขวา โดยยื่นมือออกไปในลกั ษณะ ส่ีนิ้วเรียงชิดกนั นิ้วโป้งช้ีข้นึ แลว้ จบั มือของอีกฝ่ายให้เตม็ มอื อยา่ จบั เพยี งปลายนิ้ว เพราะจะทาใหอ้ กี ฝ่ ายรู้สึกเหมอื น ถูกรังเกียจหรือไม่จริงใจ และอยา่ บบี มอื แรงจนอกี ฝ่ายรู้สึกเจบ็ จากน้นั เขยา่ มอื เบาๆ ระหวา่ งทจี่ บั มือให้มองตาของอีกฝ่ายดว้ ย ท่มี า: http://capt-stg.exteen.com/20090922/handshake 23
2. ครูให้นกั เรียนอ่านช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Back to School) และดภู าพประกอบในหนงั สือเรียน หนา้ 9 แลว้ ใหน้ กั เรียนคาดเดาว่าในหน่วยการเรียนน้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนเกี่ยวกบั เรื่องอะไร 3. Find the page numbers for หน้า 9 ครูตรวจสอบว่านกั เรียนรู้ความหมายของคาว่า sports, flag, map, penfriend โดยครูนาภาพมาแสดงใหน้ กั เรียนดูและบอกคาศพั ท์ จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาวา่ ภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั คาเหล่าน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เมือ่ หาพบแลว้ ครู ถามคาถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน sports (p. 14) What sports can you see? Can you play any of these sports? Do you play any of these sports at your school? flags (p. 11) Which do you know? Which country is each flag from? What colour is each flag? What is your national flag like? a world map (p. 16) What information does a world map show? What are maps used for? Do you ever use a map? When? What for? an email to a penfriend (p. 17) What is an email? Do you have an email address? What is a penfriend? Do you have a penfriend? Do you write emails? Who to? How often? ข้นั Pre-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนบอกช่ือวชิ าท่เี รียนในโรงเรียน แลว้ ครูถามนกั เรียนว่าชอบ เรียนวิชาอะไร ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ทช์ ่ือวชิ าตา่ ง ๆ จาก CD และออกเสียงตาม 2 คร้งั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทีละคน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกชื่อวชิ าเป็นภาษาไทย โดยครู ช่วยอธิบายคาทน่ี กั เรียนไม่รู้ความหมายโดยใชภ้ าพทเี่ ก่ียวกบั วิชาตา่ ง ๆ 24
ครูควรสารวจวา่ นกั เรียนออกเสียงคาวา่ geography, history ถกู ตอ้ งหรือไม่ เพราะ สองคาน้ีเป็นคาทคี่ นไทยมกั จะออกเสียงผิด โดยครูสอนออกเสียง geography ดว้ ย การเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน และขีดเสน้ ใตพ้ ยางคท์ ีเ่ นน้ เสียงหนกั geography และให้นกั เรียนออกเสียงคาน้ีตามครูหลาย ๆ คร้ัง ส่วน history /ˈhIstri/ ครูบอกนกั เรียนว่าคาน้ีออกเสียงเป็น 2 พยางค์ แลว้ ครู ออกเสียงใหฟ้ ัง หรือใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงจากพจนานุกรมออนไลน์ และ ฝึ กออกเสียงตาม จากน้นั ให้นกั เรียนดูภาพ 1-5 และบอกชื่อวิชาในแตล่ ะภาพ picture 1 – science picture 4 – maths picture 2 – ICT picture 5 – geography picture 3 – art 2. ครูให้นกั เรียนดูคลปิ วิดีโอจาก YouTube เร่ือง School Subjects - favourite subject หรือเขา้ ไป ทhี่ ttps://www.youtube.com/watch?v=AnZxeX_8mVk เพือ่ ทบทวนการถาม-ตอบวิชาทีช่ อบ แลว้ ครู ให้นกั เรียนบอกคาถามและคาตอบทไี่ ดย้ นิ ในคลปิ วดิ ีโอ 3. ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่ีใช้ be good at บนกระดาน เช่น Tina is good at maths. She gets top marks for the exam. และใหน้ กั เรียนเดาความหมายของ be good at (เกง่ ) จากน้นั ครูอธิบายว่าคาทตี่ ามหลงั be good at สามารถเป็นไดท้ ้งั คานามและคากริยาเติม -ing พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ ง 25
be good at + noun เช่น He is good at English. be good at + v-ing เช่น She is good at drawing. ครูอธิบายต่อวา่ ถา้ ตอ้ งการบอกว่า ไม่เก่ง ... ใหน้ า not มาวางหลงั verb to be เช่น Tina isn’t good at maths. I’m not good at science. ครูสุ่มถามนกั เรียน 2-3 คน ว่าเกง่ และไมเ่ กง่ อะไรบา้ ง โดยใชค้ าถาม What are you good at? What are you not good at? แลว้ ครูเขยี นคาถามบนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่ ฝึกพดู ถาม-ตอบ 4. หนังสือเรยี น หน้า 9 Ex. 2 นกั เรียนเตมิ ประโยคให้สมบรู ณ์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านประโยคใหเ้ พื่อนฟัง My favourite school subjects are maths, music and art. I’m good at maths. I’m not good at history. 5. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 10 และช่วยกนั อธิบาย ความหมาย ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ ครูช่วยอธิบาย เช่น classmate (n) = a member of the same class in a school (เพ่อื นร่วมช้นั ) school trip (n) = a trip that a school organises for students (ทศั นศึกษา) best friend (n) = the one friend who is closest to you (เพ่อื นสนิท) 6. ครูเขยี นวลี be interested in (สนใจใน ...) บนกระดาน ซ่ึงนกั เรียนจะไดพ้ บในบทอ่าน และให้ นกั เรียนเดาความหมาย ครูช่วยขดี เส้นใตค้ าว่า interest จากน้นั ครูสรุปความหมาย แลว้ ยกตวั อยา่ ง ประโยค เพ่อื ให้นกั เรียนดูโครงสร้าง เช่น He is interested in football. We’re interested in joining the club. ครูถามนกั เรียนวา่ คาทตี่ ามหลงั interested in คอื คาประเภทใดบา้ ง (คานาม และคากริยาเติม -ing) แลว้ ครูสรุปโครงสร้างใหน้ กั เรียนฟัง และสุ่มถามคาถามนกั เรียน 2 คน เช่น T: Jo, are you interested in history? Jo: Yes, I am. 26
be interested in + noun เช่น We are interested in this film. be interested in + v-ing เช่น I am interested in cooking. 7. หนงั สือเรียน หน้า 10 Ex. 1 นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 10 แลว้ ตอบคาถามครู ดงั น้ี Which picture shows two students in school uniform? (B) Which picture shows two girls talking? (A). Which picture shows a student in his classroom? (D) Which picture shows a student in her ICT class? (C) จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความ 1-4 โดยหาคาท่ีเกี่ยวขอ้ งภาพ ซ่ึงไมจ่ าเป็นตอ้ งอา่ น ละเอียด แลว้ จบั คู่ภาพกบั ขอ้ ความท่สี ัมพนั ธก์ นั A4 B3 C1 D2 ข้นั Reading 1. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคทีย่ งั ไมส่ มบูรณเ์ พ่ือให้รู้วา่ ขอ้ มูลอะไรที่ นกั เรียนตอ้ งหามาเตมิ แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นขอ้ ความ 1-4 ตามไปดว้ ย เมอ่ื พบ ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการใหข้ ดี เสน้ ใตไ้ ว้ จากน้นั นาขอ้ มลู มาเตมิ ลงในประโยค เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร บอกคาตอบ 1 London, England 4 subject 2 football 5 Madrid, Spain 3 school trip 6 drawing and painting 2. หนังสือเรยี น หน้า 10 Ex. 3 นกั เรียนลอกตารางลงในสมดุ ครูให้นกั เรียนดูหัวขอ้ ในตารางวา่ มี อะไรบา้ ง แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นอยา่ งรวดเร็วเพอื่ หาช่ือบคุ คล และช่วยกนั บอกว่ามใี ครบา้ ง จากน้นั ให้ นกั เรียนอ่านขอ้ ความเพ่ือหาขอ้ มลู ของแต่ละคนมาเตมิ ลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูเขียนตารางบน กระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาตอบ 27
Name Country Favourite subjects Favourite sport Miguel Mexico history football May Japan science badminton Lyn Japan maths basketball Maria Spain history basketball Nelly Spain art gymnastics จากน้นั ให้นกั เรียนใชข้ อ้ มลู จากตารางมาเขยี นใหข้ อ้ มูลของแต่ละคน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนผลดั กนั อา่ นประโยคให้เพือ่ นท่ีนงั่ ขา้ ง ๆ ฟัง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค โดยครูตรวจความถกู ตอ้ ง Miguel’s from Mexico. His favourite subject is history. His favourite sport is football. May’s from Japan. Her favourite subject is science. Her favourite sport is badminton. Lyn’s from Japan. Her favourite subject is maths. Her favourite sport is basketball. Maria’s from Spain. Her favourite subject is history. Her favourite sport is basketball. Nelly’s from Spain. Her favourite subject is art. Her favourite sport is gymnastics. ข้นั Post-reading 1. ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั ใชข้ อ้ มลู จากตารางใน Ex. 3 พูดถาม-ตอบขอ้ มูลของแตล่ ะบคุ คล โดยครูพูด ถาม-ตอบกบั นกั เรียน 1 คน เก่ียวกบั ขอ้ มลู ของ Brenda เพื่อเป็นตวั อยา่ ง เช่น T: Where is Brenda from? S1: She’s from England. T: What is her favourite subject? S1: Her favourite subjects are ICT and music. T: What is her favourite sport? S1: Her favourite sport is hockey. 2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 5 Exs. 3-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 28
ชั่วโมงที่ 2 ข้นั Warm up 1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ช่ือวชิ าดว้ ยการแสดงภาพทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั วชิ าตา่ ง ๆ ให้นกั เรียนดู และถาม วา่ What subject is this? ใหน้ กั เรียนบอกช่ือวชิ า โดยออกเสียงคาศพั ท์ใหถ้ ูกตอ้ ง แลว้ ครูให้นกั เรียน ช่วยกนั สะกดคาศพั ท์ T: What subject is this? (แสดงภาพแผนท)ี่ Class: It’s geography. T: Can you spell it? Class: g - e - o - g - r - a - p - h - y 2. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Beginning with โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ใหแ้ ต่ละทมี แขง่ กนั บอก ช่ือประเทศทีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรที่ครูบอกภายในเวลาทีก่ าหนด ถา้ บอกช่อื ประเทศถกู ตอ้ งจะได้ ช่ือละ 1 คะแนน ทีมใดไดม้ ากกว่าจะเป็นผชู้ นะ โดยครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมเพื่อเป็นตวั อยา่ งก่อน 1 รอบ T: Can you tell me a country beginning with A? Team A Team A: Argentina T: Can you tell me a country beginning with Z? Team B Team B: Zimbabwe ข้นั Presentation 1. ครูสอนนกั เรียนออกเสียงช่ือประเทศในหนงั สือเรียน หนา้ 11 Ex. 4 โดยอธิบายวา่ ชื่อประเทศเหล่าน้ี จะลงเสียงเนน้ หนกั ท่ีพยางคแ์ รก ยกเวน้ the USA และ the UK ซ่ึงลงเสียงเนน้ หนกั ทพี่ ยางคส์ ุดทา้ ย ส่วนคาวา่ Greece ซ่ึงลงทา้ ยดว้ ย ce ให้ออกเป็นเสียง /s/ แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงชื่อประเทศ ตามครู 2 คร้งั โดยออกเสียงเนน้ หนกั ใหถ้ กู ตอ้ ง 2. ครูสอนออกเสียงคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เช้ือชาตใิ นหนงั สือเรียน หนา้ 11 Ex. 4 โดยเขยี นคาศพั ทบ์ น กระดาน แลว้ ขดี เส้นใตพ้ ยางคท์ ลี่ งเสียงเนน้ หนกั จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทต์ ามครู 2 คร้ัง 29
China – Chinese Russia – Russian Italy – Italian Spain – Spanish Mexico – Mexican Turkey – Turkish Poland – Polish the UK – British Portugal – Portuguese the USA – American 3. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนจบั คปู่ ระเทศกบั เช้ือชาตทิ ่สี มั พนั ธก์ นั แลว้ ครูเปิ ด CD ให้ นกั เรียนฟังเพ่อื ตรวจคาตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม CD 1-2 คร้งั แลว้ ครูใหน้ กั เรียน ช่วยกนั บอกช่ือประเทศและเช้ือชาตเิ ป็นภาษาไทย the USA - American Portugal - Portuguese Poland - Polish Greece - Greek Turkey - Turkish Mexico - Mexican France - French China - Chinese Russia - Russian Spain - Spanish Italy - Italian ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการออกเสียง เพราะเจา้ ของภาษาอาจจะไม่เขา้ ใจ เช่น Are you from Russia? ถา้ นกั เรียนออกเสียงคาวา่ Russia เป็น รัสเซีย เหมอื นในภาษาไทย เจา้ ของภาษา จะไมเ่ ขา้ ใจ เพราะคาน้ีออกเสียง /ˈrʌʃə/ ครูออกเสียงคาน้ีหลาย ๆ คร้ัง และให้นกั เรียนออกเสียงตาม ช่ือประเทศบางประเทศแมเ้ วลาเขยี นจะสะกดดว้ ยตวั อกั ษรใกลเ้ คยี งกบั ชื่อใน ภาษาองั กฤษ แต่นกั เรียนควรระมดั ระวงั คาเหลา่ น้ี เพราะออกเสียงไม่เหมอื นใน ภาษาไทย เช่น Portugal ไมไ่ ดอ้ า่ นวา่ โปร-ต-ุ เกด เหมือนกบั เสียงในภาษาไทย แตอ่ า่ นว่า /ˈpɔːtʃʊɡl/ Korea ไมไ่ ดอ้ า่ นวา่ เกา-หลี เหมอื นกบั เสียงในภาษาไทย แต่อา่ นวา่ /kəˈriə/ 30
ครูสามารถแนะนาให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ชื่อประเทศจากพจนานุกรม ออนไลน์ เพ่อื ฝึกออกเสียงไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/ 4. ครูทบทวนสานวนภาษาท่ใี ช้ในการขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั เช่น ช่ือ อายุ เช้ือชาติ โดยการสุ่มถาม คาถามนกั เรียน แลว้ ครูเขียนโครงสร้างคาถามและคาตอบบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดถาม- ตอบกนั What’s your name? I’m (ชื่อ)./My name’s (ช่ือ). How old are you? I’m (อาย)ุ (years old). Where are you from? I’m from (ช่ือประเทศ). Are you (เช้ือชาติ)? Yes./No. I’m (เช้ือชาติ). What’s your favourite subject? My favourite subject(s) is/(are) (ช่ือวชิ า)./I like (ช่ือวิชา). What’s your favourite sport? My favourite sport(s) is/(are) (ช่ือกีฬา)./I like (ชื่อกีฬา). Are you good at (ช่ือวิชา)? Yes, I am/No, I’m not. Are you interested in …? Yes, I am/No, I’m not. ในวฒั นธรรมตะวนั ตก จะไมน่ ิยมถามอายขุ องผหู้ ญงิ เพราะถอื วา่ ไมส่ ุภาพ รวมถงึ จะ ไมถ่ ามคาถามส่วนตวั เช่น หนกั เทา่ ไร ทาไมยงั ไม่แตง่ งาน ทีม่ า: http://ontheroadtoasean.com/abalearnenglish/?p=348 ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5 ครูบอกนกั เรียนว่าจะไดฟ้ ังบุคคล 3 คน พดู ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง แลว้ ให้นกั เรียนดูว่าขอ้ มลู ที่ขาดหายไปของแตล่ ะคนคืออะไร จากน้นั ครูให้นกั เรียนฟัง CD และเตมิ ขอ้ มลู ให้สมบูรณ์ ครูอาจจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอีก 1-2 คร้งั เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ และให้ นกั เรียนบอกเช้ือชาตขิ องบุคคลท้งั สามในภาพ 1 12 3 10 5 Samantha 2 Giovanni 4 Italy 6 the UK Juanita is Mexican. Giovanni is Italian. Samantha is British. 31
กิจกรรมเพิ่มเติม ครูเขยี นชื่อบุคคลต่าง ๆ บนกระดาน และให้นกั เรียนฝึกออกเสียงช่ือบุคคลเหลา่ น้ี เช่น Juanita Vasquez ครูแนะนาเวบ็ ไซตส์ าหรับฟังการออกเสียงชื่อของบคุ คล โดยครูอาจใชแ้ ทบ็ เล็ตหรือโทรศพั ทเ์ ขา้ ไป ทเี่ วบ็ ไซต์ www.pronouncenames.com และพิมพช์ ่ือบุคคล ให้นกั เรียนฟังและฝึกออกเสียงตาม 2. หนงั สือเรยี น หน้า 11 Ex. 6 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นขอ้ มูลท่ใี หม้ าในกรอบ แลว้ ครูขออาสาสมคั ร 2 คน อ่านตวั อยา่ งการสนทนาเพอ่ื เป็นตน้ แบบ จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่กนั โดยให้แตล่ ะคนเลอื กวา่ จะเป็น ใครตามขอ้ มูลทใี่ ห้มา แลว้ พูดสนทนากนั ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน และคอยใหค้ าแนะนา แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนบางคู่ออกมาพดู สนทนาที่หนา้ ช้นั A: Hello! What’s your name? A: Hello! What’s your name? B: Sergio. B: Jane. A: Where are you from? A: Where are you from? B: I’m from Portugal. B: I’m from the USA. A: You’re Portuguese, then. A: You’re American, then. B: Yes, I’m from Lisbon. B: Yes, I’m from New York. A: How old are you? A: How old are you? B: I’m 14. B: I’m 12. A: Hello! What’s your name? A: Hello! What’s your name? B: Marika. B: Helen. A: Where are you from? A: Where are you from? B: I’m from Russia. B: I’m from the UK. A: You’re Russian, then. A: You’re British, then. B: Yes, I’m from Moscow. B: Yes, I’m from London. A: How old are you? A: How old are you? B: I’m 13. B: I’m 15. 32
ข้นั Production 1. หนงั สือเรียน หน้า 11 Ex. 7a ครูให้นกั เรียนเขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองตามโครงร่างทีก่ าหนดให้ Hi! My name’s Marinee and I’m 12 years old. I’m from Nakorn Sawan, Thailand. I’m Thai. My favourite subject is maths and my favourite sport is swimming. 2. หนงั สือเรยี น หน้า 11 Ex. 7b ครูให้นกั เรียนออกมาพูดนาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง โดยใชข้ อ้ มูลที่ เขียนใน Ex. 7a 3. นกั เรียนทา Language Review 1a Exs. 1-3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 105 ร่วมกนั ในช้นั 4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 4-5 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น 5. ครูมอบหมายให้นกั เรียนไปคน้ ควา้ ภาพและขอ้ มลู เกี่ยวกบั อายแุ ละเช้ือชาติของบุคคลทมี่ ชี ่ือเสียงท่ี ยงั มชี ีวติ อยมู่ า 5 คน เพือ่ นาขอ้ มลู ไปใชท้ ากิจกรรมในชวั่ โมงหนา้ 7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 วิธีการวดั ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านและ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ การฟัง แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูลส่วนตวั ประเมนิ การพดู นาเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ตนเอง อนั พงึ ประสงค์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มน่ั ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 6) อนิ เทอร์เน็ต 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 7) ภาพทีเ่ กี่ยวกบั วิชาตา่ ง ๆ 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 33
2 Grammar 1b 2 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - พูดสนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มูลของตนเองและผอู้ ืน่ ได้ - เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและผอู้ ื่นโดยใช้ verb to be, subject/object pronouns ไดถ้ กู ตอ้ ง - เปรียบเทยี บการใชค้ าสรรพนามในภาษาองั กฤษและภาษาไทยได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ วั สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย 34
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจโครงสร้างภาษา ช่วยให้สามารถพดู ขอและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั และเขียนประโยค เกี่ยวกบั ตนเองและผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Grammar: the verb to be subject/object pronouns question words Functions: Asking for and giving personal information What’s your name? My name’s Juan. What’s your favourite subject? I like art. 2) Language Skills Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู ของบคุ คลที่มีชื่อเสียงและตนเอง Writing: เขียนให้ขอ้ มลู ของบคุ คลทม่ี ชี ่ือเสียงและตนเอง 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 35
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้นั Warm up ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เช้ือชาติดว้ ยการเขียนตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขียนชื่อประเทศ ลงไปช่องละ 1 ประเทศ จากน้นั แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ให้แข่งกนั เลน่ เกม Noughts and Crosses โดยผลดั กนั พดู คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เช้ือชาตทิ ่ีสัมพนั ธ์กบั ช่ือประเทศในตารางใหถ้ กู ตอ้ ง ทมี ใดพดู ถูกจะ ไดท้ าสัญลกั ษณ์ X หรือ O ในตาราง ทมี ท่ที าสัญลกั ษณ์เรียงตอ่ กนั ในแนวต้งั แนวนอน หรือแนว ทแยงไดก้ อ่ นจะเป็นผชู้ นะ ข้นั Presentation 1. ครูให้นกั เรียนฟังเพลง “I Am, You Are, He/She Is” Song - Present Simple “To Be” Lesson - Rockin English (Grammar) จาก YouTube หรือเขา้ ไป ทhี่ ttps://www.youtube.com/watch?v=PZCcRzgrr8Y เพื่อนาเขา้ สู่เร่ืองทจ่ี ะเรียน 2. ครูทบทวนการใช้ verb to be โดยยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวธิ ีทา เป็นรูปปฏเิ สธและคาถาม She’s a teacher. She isn’t a teacher. Is she a teacher? 36
ต่อมาครูช้ีไปทนี่ กั เรียนชายคนหน่ึง และถามว่า Is he Spanish? Is he a student? ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ แลว้ ครูถามนกั เรียนท้งั หมดว่า Are you students? ครูย้ากบั นกั เรียนวา่ การตอบรับแบบส้ันจะไมใ่ ช้ verb to be ในรูปยอ่ เช่น Is he a student? Yes, he is. จะไม่ใช้ Yes, he’s. แตถ่ า้ ตอบปฏิเสธสามารถใช้ได้ เช่น No, he isn’t. 3. ครูเขยี นรูปยอ่ ของ verb to be ไดแ้ ก่ he is, he is not, I am, I am not, They are, They are not บน กระดาน แลว้ ขออาสาสมคั รออกมาเขียนรูปยอ่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงรูปยอ่ ของ verb to be ตามครู 2-3 คร้งั ครูสามารถให้นกั เรียนฝึกออกเสียงรูปยอ่ ของ verb to be โดยเขา้ ไปทีเ่ วบ็ ไซต์ www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าวา่ Natural English pronunciation - Contractions of the verb “To BE” ในช่องคน้ หา หรือเขา้ ไปที่เวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=eVWGWgRayoo 4. หนงั สือเรียน หน้า 12 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคในตาราง แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย เป็ นภาษาไทย 5. หนงั สือเรียน หน้า 12 Ex. 4 ครูอา่ นออกเสียงประโยคคาถามในตารางประโยคแรก โดยข้นึ เสียงสูงที่ ทา้ ยประโยค แลว้ อธิบายนกั เรียนวา่ การออกเสียงคาถาม Yes/No questions ให้ข้ึนเสียงสูงที่ทา้ ย ประโยค แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาถามดว้ ยตนเอง จากน้นั ช่วยกนั อธิบายความหมายเป็น ภาษาไทย ข้นั Practice 1. หนงั สือเรยี น หน้า 12 Ex. 2 นกั เรียนจบั คปู่ ระโยคฝ่ัง A และฝั่ง B ท่ีสอดคลอ้ งกนั แลว้ เติม verb to be ทก่ี าหนดใหล้ งในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง โดยครูใหน้ กั เรียนดตู วั อยา่ งขอ้ 1 ร่วมกนั แลว้ ให้นกั เรียนทา ขอ้ ที่เหลอื ดว้ ยตนเอง 2c 3b 4a 5f 6e 2 isn’t, ’s 4 isn’t, ’s 6 ’m not, ’m 3 aren’t, ’re 5 aren’t, ’re 37
2. หนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 3 นกั เรียนฝึกใช้ verb to be ในรูปบอกเลา่ โดยใชค้ าท่ีกาหนดให้แตง่ ประโยคให้ไดม้ ากท่สี ุด เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านประโยค แลว้ ครูเขยี นประโยค บนกระดาน Juan and Rosa are friends. Juan and Rosa are from London. Juan and Rosa are from Spain. Juan and Rosa are 12 years old. Juan and Rosa are twins. We are from London. We are friends. We are 12 years old. We are from Spain. We are twins. Bill and I are from London. Bill and I are 12 years old. Bill and I are friends. Bill and I are from Spain. Steve is 12 years old. Bill and I are twins. Betty is 12 years old. Steve is from Spain. Steve is from London. Betty is from Spain. Betty is from London. 3. หนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 5 นกั เรียนฝึกใช้ verb to be ในรูปคาถาม โดยเตมิ verb to be ลงใน ประโยคคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง พร้อมท้งั ตอบคาถาม จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านคาถามและบอก คาตอบ 2 Are, I’m not 4 Are, we aren’t 3 Is, she is 5 Is, he isn’t 4. หนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 6 นกั เรียนอ่านช่ือและอายขุ องบุคคลในแตล่ ะภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั พดู ถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มลู ทก่ี าหนดให้ ครูเดินสังเกตการทากิจกรรม แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบที่หนา้ ช้นั 38
2 Is Mario from Italy? Yes, he is. 3 Are John and Bob British? No, they aren’t. 4 Are John and Bob 40 years old? Yes, they are. 5 Is Molly 13 years old? Yes, she is. 6 Is Molly from China? No, she isn’t. 5. นกั เรียนฝึกใช้ verb to be โดยครูติดภาพหรือวาดภาพคนบนกระดาน และเขยี นขอ้ มลู ไวข้ า้ ง ๆ ภาพ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดบอกขอ้ มลู เกี่ยวกบั บุคคลในภาพ เช่น Her name is Mary. Name: Mary She is 13 years old. Age: 13 She is a student. Job: student She is American. Nationality: American She is from Chicago. From: Chicago Her favourite colour is pink. Favourite colour: pink Her favourite sports are volleyball and swimming. Favourite sports: volleyball and swimming ข้นั Production 1. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นกั เรียนคนละ 1 แผน่ ให้นกั เรียนเขยี นเกี่ยวกบั บุคคลท่ีมีช่ือเสียงโดยใช้ ขอ้ มูลทคี่ รูมอบหมายใหไ้ ปคน้ ควา้ เมื่อชวั่ โมงที่แลว้ พร้อมท้งั ตดิ ภาพบคุ คล เสร็จแลว้ นาส่งครูตรวจ 2. เมื่อครูส่งงานคืนนกั เรียนแลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบขอ้ มูลของบุคคลทม่ี ชี ื่อเสียง โดยใชค้ าถาม Who is a famous person? How old is he/she? What nationality is he/she? 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 6 Exs. 1-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น 39
ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูทบทวนการพูดขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั และการใช้ verb to be โดยติดแผน่ ป้ายบทสนทนาบน กระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาตามครู จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ คอื กล่มุ A และกลมุ่ B ใหท้ ้งั สองกลมุ่ พดู สนทนากนั A: Hello, my name’s Rose. What’s your name? B: My name is Rika. A: Are you Japanese? B: Yes. I’m from Tokyo. And you? A: I’m from France. B: What is your favourite subject? A: I like science. B: Oh, I’m not good at science. A: I can help you. ข้นั Presentation 1. ครูให้นกั เรียนดคู ลิปวิดีโอจาก YouTube เร่ือง Subject pronoun and object pronouns in English หรือเขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=XUIL5mFH5y4 เพื่อนาเขา้ สู่เร่ืองท่ีจะเรียน 2. ครูทบทวน subject pronouns และ object pronouns โดยเขียนตารางตามน้ีบนกระดาน Subject pronouns Object pronouns 40
ครูเขียน subject pronouns ลงในตาราง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก object pronouns แลว้ ครูเขยี นตามที่ นกั เรียนบอก 3. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 7a นกั เรียนดู subject pronouns และ object pronouns ในตาราง เพือ่ ตรวจ คาตอบบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียง subject pronouns และ object pronouns ใน ตาราง แลว้ ช่วยกนั บอกคาเหล่าน้ีในภาษาไทย คาสรรพนาม (pronouns) ถอื เป็น function words โดยปกตแิ ลว้ จะไม่ลงเสียงหนกั ในประโยค 4. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 7b นกั เรียนจบั คอู่ า่ นขอ้ ความเพือ่ หา subject pronouns และ object pronouns เมื่อหาพบแลว้ ใหว้ งกลม subject pronouns และขีดเส้นใต้ object pronouns Hi! I’m Jenny Davis. I’m 10 years old. This is my sister, Laura. Look at her. She looks exactly like me. She’s 10 too. We are twins. We are from London. 5. ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน เช่น Look at him. He’s handsome. I like her. She is very kind. แลว้ ให้นกั เรียนระบหุ นา้ ที่ของ subject pronouns และ object pronouns ในแต่ละประโยค จากน้นั ครู สรุปให้ฟังวา่ subject pronouns ทาหนา้ ที่เป็นประธานของประโยค จะอยขู่ า้ งหนา้ คากริยา ส่วน object pronouns ทาหนา้ ทีเ่ ป็นกรรมของประโยค จะอยหู่ ลงั คากริยา 6. ครูเขยี นประโยคเหล่าน้ีบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนแทนทค่ี าทีเ่ ป็นตวั หนาดว้ ย subject pronoun ให้ ถกู ตอ้ ง Mary is an excellent teacher. (She) The computer is expensive. (It) Peter and Tom are students at this school (They). The apples are very good. (They) ตอ่ มาครูเขยี นประโยคเหลา่ น้ี แลว้ ใหน้ กั เรียนแทนทีค่ าทเ่ี ป็นตวั หนาดว้ ย object pronoun ให้ถูกตอ้ ง 41
I bought a book yesterday. (it) Can I speak to Peter? (him) The parents drove the children to school. (them) We will buy a present to Bella. (her) 7. ครูให้นกั เรียนเปรียบเทียบการใชค้ าสรรพนามในภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ ท้งั ในเร่ืองรูปคา ตาแหน่งในประโยค และหนา้ ที่วา่ เหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร 8. ครูเขียน question words (Who, What, When, Where, How old) บนกระดาน และยกตวั อยา่ งคาถาม ทีข่ ้ึนตน้ ดว้ ย question words แตล่ ะคา แลว้ อธิบายวา่ ใชอ้ ยา่ งไร Who is that man? He’s Mr Jones. (people) What is it? It’s a pencil. (thing) Where are my keys? They’re here. (place) How old are you? I’m 10 years old. (age) When is your birthday? In June. (time) 9. หนงั สือเรียน หน้า 13 Ex. 9a นกั เรียนอ่านการใช้ question words เพ่อื ทบทวนความเขา้ ใจ แลว้ ช่วยกนั บอกความหมายของ question words แต่ละคาเป็นภาษาไทย 10. ครูสอนการออกเสียงประโยคคาถาม Wh-questions โดยอ่านตวั อยา่ งคาถามบนกระดานให้นกั เรียน ฟัง แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ครูข้ึนเสียงสูงหรือลงเสียงต่าท่ที า้ ยคาถาม จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่ คาถาม Wh-questions จะลงเสียงต่าที่ทา้ ยคาถาม แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตวั อยา่ งประโยคคาถามใน Ex. 9a 11. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 9b นกั เรียนเติม question words ลงในประโยคคาถามให้ถกู ตอ้ ง โดย พจิ ารณาจากคาตอบ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ 1 Who 3 How old 5 When 2 Where 4 What 12. ครูให้นกั เรียนจบั ค่กู นั ต้งั คาถามที่ข้ึนตน้ ดว้ ย question words มา 3 ประโยค จากน้นั ครูรวบรวม คาถามจากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจความถูกตอ้ ง รวมท้งั แกไ้ ข ประโยคทีผ่ ดิ ให้ถูกตอ้ ง 42
ข้นั Practice 1. ครูพิมพป์ ระโยคเหลา่ น้ีใส่กระดาษแจกนกั เรียนทกุ คน แลว้ ให้นกั เรียนเตมิ subject/object pronoun พร้อมท้งั ระบุว่า subject/object pronoun ทีเ่ ตมิ หมายถึงคานามคาใดในประโยค 1 I can’t find my glasses. Can you see ______? 2 I have two dogs. My aunt gave _____ to me. 3 My uncle is a pilot. ______ flies a plane three times a week. 4 Tony is our friend. We like ______ very much. 5 Do you know Mrs Jane? Sorry, I don’t know ______. 6 My father bought a new car last month. _____ is BMW. 7 My friend is Jane. I like ______ very much. 1 them - glasses 4 him - Tony 6 It - a new car 2 them - two dogs 5 her - Mrs Jane 7 her - Jane 3 He - uncle 2. หนงั สือเรียน หน้า 13 Ex. 8 นกั เรียนอา่ นประโยค แลว้ แทนทคี่ าทพ่ี ิมพต์ วั หนาดว้ ย pronoun ที่ ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ และใหน้ กั เรียนบอกว่า pronoun ในแตล่ ะประโยคเป็น subject หรือ object pronoun 2 them (object pronoun), They (subject pronoun) 3 they (subject pronoun) 4 We (subject pronoun) 5 him (object pronoun), He (subject pronoun) ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม Subject/Object pronoun game โดยเขา้ ไปทเ่ี วบ็ ไซต์ http://www.eslgamesplus.com/subject-object-pronouns-game/ 43
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 637
Pages: