Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 1

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 1

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:35:35

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 1
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.1

Search

Read the Text Version

131 Suggested answers Are you sporty and energetic? Do you want to learn to skateboard? Come and join our skateboard classes. We meet every Friday at 5pm. Classes cost £3 each. Find out more at Letsskate.com. Useful Expressions - ครูอาน Useful Expressions ใหนักเรียนฟง และอธิบายวานักเรียนจะใช Structures เหลานี้ เพ่ือให ขอมลู เกยี่ วกับการเขยี นคาํ ขึน้ ตนและคาํ ลงทาย Email - ถามีเวลาครคู วรใหน ักเรียนเขียนประโยคเต็ม โดยใชโครงสรางประโยค 2- 3 โครงสราง หรือใหนักเรียน พูดโครงสรา งประโยคเหลา นดี้ ัง ๆ ซึง่ จะดีกวา การเขยี น Teaching Tip ครูกระตุนใหนักเรียนเขียน Email ในชีวิตจริง ครูควรแนะนําใหนักเรียนเขียน Email สั้น ๆ ที่นักเรียน ตองการสงและใหนักเรียนพิมพมาใหเพ่ือน ๆ ในช้ันเรียนแลกเปลี่ยนกันอาน หรือครูอาจใหนักเรียนสง Email ถึงครู แลวครูตอบกลับพรอมท้ังแสดงความคิดเห็นของครู ใหครูอธิบายใหนักเรียนวา Email ของนักเรียนไมจําเปนตอง สมบูรณแบบ แตการตั้งคําถามของนักเรียนตองชัดเจนและใชรูปแบบภาษาที่ถูกตองเปนทางการหรือไมเปนทางการ (formal or informal) - ครใู หนกั เรยี นอา นคําส่งั ใน Close up Student’s Book ขอ F หนา 27 ใหเ ขา ใจกอนจะใหนักเรียนอาน Exam Close-up แลวใหน ักเรียนฝก เขียนคาํ ขึ้นตน และคําลงทา ย Email โดยใชประโยคตอไปนี้  Read the Exam Close-up and circle the beginning and the end to the email in D. - ครูใหนักเรยี นดูรูปแบบ Formal email ดงั นี้ การเขยี น Email แบบเปนทางการ  นักเรียนตองเขยี นชัดเจน  นักเรียนตองใชภาษาท่ีเปน ทางการและเขียนเต็มรปู แบบ  นักเรียนตองเขยี นใหต รงประเดน็ ท่ตี องการ Plan Greeting Dear Sir / Madam, Dear Mr..., Dear Mrs ..., Dear Ms ...,  คาํ ขึน้ ตน Formal email คอื Dear, Sir หรือ Dear Madame  ถา นักเรียนรจู กั ชอ่ื และนามสกุลของผรู บั Email คาํ ขน้ึ ตน Email คอื Dear Mr Smith หรอื Dear Mrs Smith  ใหน กั เรียนใช Ms (Ms Smith) ผรู ับ Email ทไ่ี มรูวา แตงงานแลว หรอื เปนโสด และใชคาํ ลง Kind regards หรอื Best wishes Paragraph 1 Explain why you're writing. - I'm writing to ask about ... / because I'm interested in ... คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 1

132 132 ยอ หนา ท่ี 1 จะเขียนอธิบายถงึ เหตผุ ลในการเขยี น Email ฉบับนี้ Paragraphs 2 Give more details about what you are writing about and ask questions for the information you'd like to know. - I'd like to know / find out more about ... - When do / Where / How much ...? ยอหนาที่ 2 จะบอกรายละเอียดที่ผูเ ขียนเขียน Email มา และถามคําถามเกย่ี วกบั ขอ มลู ท่ีผูเขยี นอยากรู Signing off - Kind regards, / Best regards, (sign your name) และจะลงทาย Email วา Yours faithfully, Kind regards, Best regards และอ่ืน ๆ แลวลงช่ือ ผเู ขยี น Email - หลังจากท่ีเขียน Email เรียบรอยแลว ครูใหนักเรียนตรวจสอบวาการเขียน Email ของนักเรียนเปนไป ตามเคาโครงการเขยี น Email ทว่ี างไว โดยใชภาษาทเ่ี ปน ทางการ ใชก ริยารปู เต็ม ใชค าํ ทักทายและคําลง ทายอยางเปนทางการอยางถูกตอง ตรวจสอบความถูกตองของตัวสะกด เคร่ืองหมายวรรคตอนและ สุดทายใหนักเรียนตรวจสอบความเหมาะสมของขอความที่ใชใน Email ทั้งหมดใหถูกตองตาม กาละเทศะ Email checklist  I followed the plan.  I use formal language and full forms with no contractions.  I used a formal greeting and sign off correcty.  I checked for spelling and punctuation mistake  I read through my email to check it make sense. - ครใู หน กั เรียนวงกลมลอ มรอบคาํ ข้นึ ตนและคาํ ลงทาย Email ในขอ D - ครูใหนักเรียนชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers Beginning: Dear Ms Bali End: Kind regards, Alex White - ครูใหนักเรียนอาน Useful Expressions ใน Close up Student’s Book หนา 27 ใหนักเรียนดูรูป ประโยคท่แี สดงความสนใจ  I like / love / enjoy + verb + ing I love taking photos.  I’m interested in + verb + ing I’m interested in joying your photography classes. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

133  สํานวนทใี่ ชเปน คาํ ลงทาย Email เชน I look forward to hearing from you. Yours faithfully, ………. Best wishes, ……. Kind regards, ……. • Production - ครูใหนักเรียนอาน Exam Task ใน Close up Student’s Book ขอ G หนา 27 ใหนักเรียนขีดเสนใต คําถาม 3 คาํ ถามทีอ่ ยใู น Email และใหนักเรียนตอบ Email โดยใชประโยคตอไปน้ี  Read the Exam Task and underline the three questions you need to answer. Then write the email. - ครใู หนกั เรยี นชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ Answers Do you have a camera? How often do you go out and take photos? What do you like taking photos of? - ครูใหนักเรียนอานและเขียน Email ถึง Ms Bail พรอมท้ังตอบคําถาม ใน Exam Task ใน Close up Student’s Book ขอ G หนา 27 โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Read the Exam Task and underline the three questions you need to answer. Then write the email. Suggested answer Dear Ms Bail, Thanks for your email. Yes, I have a camera. It's my favourite possession! I usually take photos every weekend. I love taking photos of nature. I look forward to starting the course. Kind regards/Best wishes, Student name - ครูใหนักเรียนอานใน Close up Student’s Book ขอ H หนา 27 ใหนักเรียนอาน Checklist เพื่อ ตรวจสอบวา การเขยี น Email ของนักเรียนครบทกุ หวั ขอ หรือไม โดยใชป ระโยคตอ ไปนี้  Read through the checklist. Did you remember to do these things? - ครูใหนักเรียนอาน Checklist ท่ีละขอแลวใหนักเรียนชวยกันสรุปใหเขาใจตรงกัน นักเรียนตองตอบ คาํ ถามของ Ms Bail ครบทง้ั 3 ขอ ตรวจสอบการสะกดคาํ มีคาํ ข้ึนตนและคําลงทาย Email ลายมือตอง อา นงายและมจี าํ นวน 25-35 คํา คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

134 134 Answers (Students’ own answers) - ครใู หนกั เรยี นแกไ ข Email ใหถ กู ตอง สมบรู ณ หลงั จากตรวจสอบเรยี บรอยแลว 6. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑก ารประเมนิ 1. ประเมนิ ความรคู าํ ศัพท แบบสังเกต นักเรียนผานเกณฑโดยปฏิบตั ิกจิ กรรมไดถูกตอ ง รอ ยละ 70 สํานวนภาษาประโยค นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถูกตอ ง 2. ประเมนิ การอาน การเขยี น แบบบนั ทกึ ผล รอยละ 70 การปฏบิ ัติงาน นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ัติกิจกรรมไดถูกตอ ง 3. ประเมนิ การพดู การฟง แบบสังเกต รอยละ 70 4. สงั เกตพฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม นักเรยี นผานเกณฑโดยมสี วนรว มในกจิ กรรมและ การเขารวมกจิ กรรม การเขารวมกิจกรรม มีความสขุ ในการเรยี นอยางนอยรอยละ 80 7. สื่อ/แหลงการเรียนรู Close up Student’s Book หนา 27 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กิจกรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 1

135 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรยี นรูท่ี 2 เรื่อง Friends & Fun แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 14 เรื่อง Yoro’s life รหสั วิชา................................ รายวิชา......................................... ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 1 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด 1.1 ม.1/4 ระบุหัวขอ เร่ือง (topic) ใจความสําคัญ (main idea) และตอบคําถามจากการฟง และอา นบท สนทนา นิทาน และเรื่องสนั้ 2. จุดประสงคก ารเรียนรู ฟงและดู Video เรื่อง Yoro, the Fulani Boy แลวสามารถสรุปใจความสําคัญและบอกรายละเอียดได โดย ใชคําศพั ทส ํานวนภาษาไดอ ยา งถูกตอง 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การฟงและดู Video เรื่อง Yoro, the Fulani Boy ทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝก ทักษะการฟง ทําใหมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสารอยางมีประสิทธิภาพ รักการเรียนรูและฝกฝน อยา งจรงิ จัง 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Vocabulary: journey, desert, cattle, herdsman, arid, temperate climate, grazing, manage, route, hyena, forced 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทักษะการฟง - ทกั ษะการพูด - ทักษะการอาน - ทักษะการเขยี น - กระบวนการเรยี นภาษาเพื่อการสื่อสาร คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

136 136 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มคี วามมนั่ ใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่ือสาร - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - รักการเรียนรภู าษาองั กฤษและฝก ฝนอยา งจริงจงั และเพียงพอ 5. กิจกรรมการเรยี นรู • Lead-in General Note Geographic videos เปนวิดีโอทางภูมิศาสตร นับเปนเครื่องมือที่ดีมากที่จะใหนักเรียนมีโอกาส คุนเคยกับวัฒนธรรมอื่น ๆ ในขณะท่ีนักเรียนไดเรียนภาษาอังกฤษควบคูไปดวย นักเรียนไมจําเปนตองเขาใจ เน้ือหาทุกอยางในวิดีโอของ National Geographic แต Geographic videos มีวัตถุประสงคเพ่ือใช ประโยชนในการเรียนรู กิจกรรมสวนใหญที่นักเรียนตองทําจะใหความสําคัญกับเน้ือหาภาพมากกวาเสียง ดงั นั้นเมื่อนกั เรียนทาํ กิจกรรมแลวไมสามารถตอบคําถามบางคําถามได นักเรียนไมตองกังวล แตใหนักเรียนดู วิดีโอเพื่อใหรูวาเกิดอะไรข้ึน และมีจุดมุงหมายอะไร เพื่อใหนักเรียนเกิดแรงบันดาลใจในการดูและการฟง เรื่องราวท่ีเปนภาษาอังกฤษ และนักเรียนสามารถใชเวลาวางดูรายการตาง ๆ ท่ีบรรยายเปนภาษาอังกฤษ เชน รายการโทรทัศนแ ละภาพยนตรภาษาอังกฤษ เพ่ือใหนักเรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษไดคลองแคลว จะ ทําใหนักเรยี นมีพัฒนาการในการใชภาษาองั กฤษในการฟง และการพดู มากขน้ึ และรวดเร็วยง่ิ ขน้ึ - ครูใหน ักเรยี นท้งั ชน้ั ดูภาพใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 28 แลวใหนกั เรยี นพูดซักถาม โดยใชป ระโยคคาํ ถามตอ ไปน้ี  What you can see in the photos? Answers A hot place A desert Oxen A man • Preview - ครูใหนักเรียนดูรูปภาพ ใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 28 และบอกวา Video ท่ีนักเรียน จะตอ งดเู ปนเรอ่ื งเกี่ยวกับ The Fulani boys of western Africa • While viewing - ครูใหน กั เรยี นศกึ ษาคาํ ศัพทกอ นดู Video ซ่ึงมีคาํ ศัพทส าํ คัญทน่ี กั เรยี นอาจไมเขาใจในระหวา งดู Video - ครใู หน กั เรียนจดบันทึกคาํ ศพั ทและความหมายลงในสมดุ  journey (noun) - long trip  desert (noun) - a very hot, dry place  cattle (noun) - cows  herdsman (noun) - cow farmer  arid (adjective) - dry  temperate climate (noun phrase)- normal weather with some rain  grazing (noun) - when animals eat grass คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 1

137  manage (verb) - to take care of  route (noun) - a type of road  hyena (noun) - a type of animal, like a dog, but wild  forced march (noun) - a hard walk - ครูใหนักเรียนจับคูกันตอบคําถามใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 28 โดยใชประโยค ตอไปนี้  What story do you think they tell? Answers (Students’ own answers) - ครอู า น Background information ใหน ักเรยี นฟง Background information The Fulani are an ethnic group that live in western Africa. There are about 20 to 25 million Fulani living in Mali, Nigeria and Chad, as well as other countries in Africa. Each year, Fulani boys travel for hundreds of miles from Mali to Mauritania so the cattle can feed on more fertile lands. This is to offer fat cattle to a girl's family in hopes of getting her hand in marriage. The practice is considered a rite of passage for Fulani boys. It is also a way for Fulani males to show their skills as herdsmen, and communities award those who return with the fattest cattle a prize. And the worst herdsman is sometimes awarded a single peanut! - ครูบอกนักเรียนวา Video นี้เปนเรื่องส้ันๆ และหากมีคําศัพทใดที่นักเรียนไมเขาใจ ใหนักเรียนเดา คาํ ตอบ ครบู อกนักเรยี นไมต อ งกังวลวาคาํ ตอบจะผิดหรือถูก - ครูใหนกั เรยี นอานคําส่งั ใหเ ขาใจกอ นทาํ ใน Close up Student’s Book ขอ B หนา 28 - ครูใหนักเรียนอานที่ละประโยคแลวขีดเสนใต Key words ซึ่งจะชวยใหนักเรียนฟง Video แลวพบ คาํ ตอบท่ีถกู ตอ งได - ครูเปด Video ใหน กั เรียนดแู ลว หยดุ ทุกๆ คําตอบของแตล ะขอ โดยใชป ระโยคตอไปนี้  Watch the video. Circle the correct information. - ระหวางที่ครูใหนักเรียนดู Video ครูใหเวลานักเรียนทําตอบที่ละขอ ใหครูสอบถามคําตอบของนักเรียน หากนักเรยี นยังตอบไมได ใหค รู Replay video ใหมเพ่อื ใหน กั เรยี นเขาใจและทาํ ตอบได - ครูใหนกั เรียนและชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดาน และครูอธิบายเพิ่มเติม หากนักเรียน ยังไมเขาใจ ใหครู Replay video ใหนักเรียนดูใหมเพ่ือใหนักเรียนเขาใจและครูสนับสนุนคําตอบที่ ถกู ตอง คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

138 138 Answers 1. wet 2. eight months 3. drink milk 4. girlfriend 5.Mauritania 6. celebrate • Post viewing - ครูใหนักเรียนดูใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 28 วาขอความเหลาน้ีคือ Summary ของ Video ท่นี กั เรียนดูแลว - ครูใหน ักเรียนจบั คกู ันหา Main idea ของ Video - ครูใหนักเรียนอาน Text ใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 28 โดยยังไมเติมคําตอบลงใน ชองวาง และใหนักเรียนดู Part of speech ของคําศัพทท่ีจะเติมลงในชองวาง และใหสังเกตคําท่ีอยู กอ นและหลงั ชองวาง - ครูอานคําศัพทท่ีอยูใน Yellow wordbank ใหนักเรียนอานออกเสียงตาม อานซํ้า หากนักเรียนออก เสยี งผิด ครแู กไขใหน ักเรียนออกเสยี งใหถ ูกตอง - ครใู หน ักเรียนแตล ะคนเตมิ คาํ ศพั ทล งในชองวา ง โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Complete the summary of the video below using these words. - ครใู หนักเรียนและชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดาน และครูอธบิ ายเพมิ่ เติม Answers 1. year 2. desert 3. food 4. Wet 5. rain 6. months 7. fait 8. man Ideas Focus - ครูใหน ักเรียนท้ังชัน้ อานออกเสยี งคําถามเกี่ยวกับ Yoyo’s life พรอมกนั  Do you think deserts are interesting places to visit? Why? Why not?  ‘Yoyo is too young to have this big responsibility.’ Do you agree? Answers (Students’ own answers) - ครูใหนักเรียนจับคูกันพูดคุยเก่ียวกับคําถาม ครูกระตุนนักเรียนใหใชประสบการณของตนสนับสนุนการ ตอบคาํ ถาม - ครูเดินรอบหองเพ่ือสังเกตการณในระหวางท่ีนักเรียนฝกถาม-ตอบ หากนักเรียนออกเสียงผิด ใหครูจด บนั ทึกไว - ครเู ขยี นประโยคทน่ี ักเรียนออกเสยี งผดิ บนกระดาน โดยไมร ะบุวาเปนของนักเรียนคนใด แลวใหนักเรียน ทั้งช้นั ชวยกันแกไขใหถูกตอง ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

139 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑก ารประเมิน 1. ประเมนิ ความรูคําศัพท แบบสังเกต นกั เรียนผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง รอยละ 70 สาํ นวนภาษาประโยค นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถ ูกตอง 2. ประเมินการอา น การเขยี น แบบบนั ทกึ ผล รอ ยละ 70 การปฏิบัตงิ าน นักเรยี นผา นเกณฑโดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถ ูกตอง 3. ประเมนิ การพูด การฟง แบบสงั เกต รอ ยละ 70 4. สงั เกตพฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยมสี ว นรว มในกิจกรรมและ การเขา รวมกจิ กรรม การเขา รว มกจิ กรรม มคี วามสุขในการเรียนอยางนอยรอ ยละ 80 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู - Close up Student’s Book หนา 28 - Video “Yoro, the Fulani Boy” 8. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

140 Vocabulary & Grammar Unit 1 & 2 140 รหสั วิชา .............. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 Review กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ เวลา 2 ชั่วโมง ปการศกึ ษา 25..... ภาคเรยี นท่ี 1 1 ผูสอน ............................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ ัวขอเร่อื ง (topic) ใจความสําคญั (main idea) และตอบคําถามจากการฟงและอานบท สนทนา นิทาน และเร่ืองสั้น ต 1.2 ม.1/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอมลู เก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณตาง ๆ ในชวี ิตประจําวัน ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหขอ มูล และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรื่องท่ีฟงหรอื อานอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรสู ึกและความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเรอื่ งตา ง ๆ ใกลต วั กจิ กรรม ตา ง ๆ พรอ มทง้ั ใหเ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบอยางเหมาะสม ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา งระหวางการออกเสียงประโยคชนดิ ตา ง ๆ การใช เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลําดบั คาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและ ภาษาไทย 2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอาน การเขียน การพูด และการฟง ศัพท สํานวนภาษา ประโยค ขอความ การแลกเปลี่ยนขอมูลที่เกี่ยวกับ เกี่ยวกับเร่ืองใกลตัว จับใจความสําคัญ ขอและใหขอมูล ทําใหนักเรียนไดรับความรูดานเน้ือหาภาษา โครงสราง ประโยค และไวยากรณ ไดฝ กทกั ษะภาษาท้งั 4 เสรมิ สรางเจตคติในการเรียนภาษา ทําใหการส่ือสารในชีวิตประจําวัน บรรลุวตั ถุประสงค 3. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) คาํ ศัพท สาํ นวนภาษา ประโยค ขอความทใ่ี ชในการขอและใหขอมูล เหตุการณที่อยูในความสนใจ ภาษาท่ี ใชแ สดงความตอ งการ แสดงความคดิ เห็น การตอบคําถาม ส่ิงแวดลอ มใกลต ัว และการจับใจความสําคัญ 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะการอา น - ทักษะการเขยี น - ทักษะการฟง - ทักษะการพูด - กระบวนการเรียนภาษาเพือ่ การสอื่ สาร คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

141 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มีความม่ันใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร - รักการเรียนรูภาษาองั กฤษและฝก ฝนอยา งจริงจงั และเพียงพอ - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ 4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ รยี นตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551  ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกปญหา  ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551  รกั ชาติ ศาสน กษัตรยิ   ซ่อื สัตย สจุ ริต  มวี นิ ัย  ใฝเรยี นรู  อยอู ยางพอเพยี ง  มงุ ม่นั ในการทาํ งาน  รกั ความเปน ไทย  มจี ติ สาธารณะ 6. ภาระงาน/ชนิ้ งาน - 7. การวดั และประเมินผล (ภาระงาน/ชนิ้ งาน) วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑก ารประเมนิ 1. ประเมนิ ความรคู ําศัพท แบบสังเกต นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถูกตอ ง รอ ยละ 70 สํานวนภาษาประโยค นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ัติกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง 2. ประเมินการอาน การเขยี น แบบบันทึกผล รอยละ 70 การปฏิบตั งิ าน นกั เรียนผา นเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 3. ประเมินการพดู การฟง แบบสงั เกต รอ ยละ 70 4. สังเกตพฤติกรรม สงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา นเกณฑโดยมีสว นรว มในกิจกรรมและ การเขารว มกจิ กรรม การเขา รว มกิจกรรม มีความสุขในการเรยี นอยา งนอยรอยละ 80 คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

142 142 8. กจิ กรรมการเรียนรู 8.1 ระดมสมอง 8.2 ถามตอบเก่ียวกบั เรื่องทฟี่ ง อา น 8.3 อภิปรายท้งั ชั้น 9. ส่ือ/แหลงเรยี นรู Close up Student’s Book หนา 29 – 30 คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

143 แผนจดั การเรียนรู Review 1 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เรอ่ื ง Vocabulary Revision 1 - 2 รหัสวชิ า................................ รายวิชาพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 1 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ ัวขอเรือ่ ง (topic) ใจความสําคัญ (main idea) และตอบคําถามจากการฟง และอานบท สนทนา นิทาน และเรือ่ งส้นั ต 1.2 ม.1/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอมลู เกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณตาง ๆ ในชวี ิตประจาํ วัน ต 1.2 ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรูส ึกและความคดิ เห็นของตนเอง เกยี่ วกับเรื่องตาง ๆ ใกลต ัว กจิ กรรม ตา ง ๆ พรอ มท้งั ใหเ หตผุ ลสั้น ๆ ประกอบอยางเหมาะสม ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา งระหวา งการออกเสียงประโยคชนิดตาง ๆ การใช เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลําดับคาํ ตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและ ภาษาไทย 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อานขอ ความท่ีกําหนดใหแลว จบั ใจความสําคญั ได โดยใชค ําศัพท สํานวน ไดอ ยา งถูกตอง 3. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอา นขอ ความที่กาํ หนดให ทําใหนกั เรียนมีความรดู า นคาํ ศพั ท สํานวนภาษา ไดฝ ก ทักษะการอาน ทําให มีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสารไดอยางมีประสิทธิภาพ รักการเรียนรูและฝกฝนอยางจริงจังและ เพียงพอ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary ของ Unit 1 และ Unit 2 - Grammar ของ Unit 1 และ Unit 2 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทักษะการอา น - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟง - ทักษะการพดู - กระบวนการเรียนภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

144 144 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มคี วามม่ันใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสื่อสาร - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - รกั การเรยี นรภู าษาอังกฤษและฝกฝนอยา งจริงจงั และเพียงพอ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู • Lead-in - ครูสุม ถามนักเรียน  Do you have brothers?  How old is he?  Do you play basketball?  When do you play basketball? Answers (Students’ own answers) • Presentation - ครูใหนักเรียนทบทวน Vocabulary ที่เรียนมาจาก Unit 1 และ Unit 2 ซ่ึงไมใชการสอบ นักเรียน สามารถถามครู เปรียบเทียบคําตอบกับเพ่อื น เปดหนังสือเพอ่ื หาคาํ ตอบได - ครกู ระตนุ นักเรยี นเขียนตอบทุกคําตอบ แมว าตอบไมไดก ใ็ หเดา - ครูสมุ ถามนกั เรียนทีละขอ - ครถู ามนกั เรียนท้งั ช้นั ทีละขอ Vocabulary Revision - ครูใหนักเรียนเขียนช่ือสมาชิกในครอบครัวลงใน Family tree โดยครูเขียนชื่อ บนกระดานตรงกลาง ดา นลาง - ครสู มุ ใหน ักเรียนออกมาเขยี น Family tree บนกระดาน โดยครอู านประโยคตอไปนี้  Practise names of family members using a family tree. Write the following on the board: - Write the name John in the middle of the bottom part of the board. - Draw a line above the name and split it as you would for a family tree. - Write Rose and Hank and elicit the words mother, mum, father and dad. - Write John's brother Adam and sister Shelley to the side of John and connect with lines; elicit brother and sister. - Write Barbara and Jim above the mother and connect with lines, elicit grandma, grandmother, granddad and grandfather. - Write Lisa and Tom next to Hank with a line and elicit aunt and uncle. - Write James and Cindy below Tom and Lisa with lines and elicit cousins. - ครสู ุมใหน ักเรียนเขยี น Surname หลังชื่อ John และอานประโยคตอไปน้ี  Then, after John's name, Write Jenkins and elicit Surname. - ครใู หน กั เรียนชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 1

145 Answers Jim Babara Grandfather granddad grandmother grandma Rose Hank Lisa Hank mother father aunt uncle mom dad Adam John Shelley James Cindy brother Jenkins sister cousin cousin - ครูสุมนกั เรียนใหเขยี นตัวเลขหลงั ช่อื ใน Family tree โดยอา นประโยคตอ ไปน้ี  Using the family tree, write 14 after John's name, 13 after his sister Shelley,  18 after his brother Adam, 30 after his aunt Lisa, 40 after his mum Rose and 80 after his granddad Jim. - ครูใหน ักเรยี นชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ Answers Babara (80) Jim grandmother Grandfather granddad grandma Rose (40) Hank Lisa (30) Hank mother father aunt uncle mom dad Adam John Shelley James Cindy (18) (14) (13) cousin cousin brother Jenkins sister คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

146 146 - ครูเขยี น do, go และ play ลงใน column ดานซา ยของกระดาน แลวเขยี น judo, street dance, tennis, chess, basketball, swimming และ running ลงใน column ดานขวาของกระดาน - ครูสมุ ใหน กั เรยี นโยง Verb กบั Activities โดยใชประโยคตอไปน้ี  Draw lines from the verbs to the activities to form phrases Judo street dance do tennis go chess play basketball swimming running Answers - do judo, do street dance - play tennis, play chess, play basketball - go swimming, go running - ครูเขยี น Definitions บนกระดาน และเขียนอักษรตัวแรกของ Adjective ไวดานหลัง ครูใหนักเรียนตอ เติมคํา Adjective ที่บรรยายบุคลิกคนใหต รงกับ Definitions ที่ใหมาใหสมบูรณ โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Write the adjectives that describe these persons. - likes meeting new people s …………………. - likes to make art c …………………. - likes to play football a lot s …………………. - likes to put things in order o …………………. - doesn't mind waiting p …………………. - is afraid to meet new people s …………………. - has a lot of energy e …………………. - ครใู หน กั เรียนชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม Answers sociable creative sporty organized patient shy energetic - ครใู หน ักเรยี น Unscramble ตัวอักษร เพ่ือสรางคําศพั ทใ หม โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Unscramble these letters to make words. - CHAWT ………………………. (WATCH) - RYADI ………………………. (DIARY) - KACELENC ………………………. (NECKLACE) - STEROP ………………………. (POSTER) - NEKITT ………………………. (KITTEN) - GEERANTE ………………………. (TEENAGER) - MUNTSTRINE ………………………. (INSTRUMENT) คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

147 - ครใู หน ักเรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเตมิ Answers - WATCH - DIARY - NECKLACE - POSTER - KITTEN - TEENAGER - INSTRUMENT • Practice - ครูใหนักเรียนทบทวน Phrasal verb ใน Yellow wordbank ใน Close up Student’s Book หนา 21 แลวใหนักเรียนนํา Phrasal verbs (chat to, hang out with, get on, go for, go out, meet up and have fun) เหลาน้ีมาเขียนเปนประโยคลงในสมุดของนักเรียน และตองจดจํา Prepositions ทใี่ ชกับ Verbs เหลา นี้ดวย หา มนักเรยี นดคู ําตอบ - ครูใหนักเรียนทบทวนคําศัพทท่ีใชกับ Family member words แลวใหนักเรียนระบุเพศ male หรือ female - ครูใหนักเรียนอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 29 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เลอื กคําตอบ โดยใชป ระโยคตอ ไปนี้  Read and circle the correct word. - ครูใหนักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ 1. eighty-nine Answers 3. Surname 4. single 2. thirteen 6. uncle 5. husband - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ B หนา 29 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เขยี นคําศพั ท โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Write the name of some people’s favourite things. - ครูใหนักเรียนขีดเสนใต Nouns และ Adjectives ที่ขยายคํานามนั้นๆ ซึ่งจะชวยใหนักเรียนหาคําตอบ แลวเติมตัวอกั ษรลงในคําทข่ี าดหายไปไดครบและถูกตอง - ครใู หน ักเรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม 1. photo Answers 3. diary 4. smartphone 2. necklace 6. watch 5. poster - ครใู หน กั เรยี นตรวจสอบความถกู ตองของคาํ ตอบโดยใหน กั เรียนอานประโยคทใ่ี หมาและอานคําศัพท ท่ีเขยี นตอบ คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

148 148 • Production - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 29 ใหเขาใจกอนท่ีจะใหนักเรียน เติมคําศัพทลงในประโยค โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Complete the sentences with a word from the box. - ครใู หนักเรียนอานออกเสียงคําศัพทใน Yellow wordbank ซํ้า 2 คร้ัง ครูแกไขการออกเสียงคําศัพทให ถูกตอง - ครูใหนักเรียนขีดเสนใต Keywords ที่ชวยใหนักเรียนหาคําตอบไดถูกตอง แลวเลือกคําศัพทเติมลงใน ชองวาง - ครูใหน ักเรียนชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ หมายเหตุ ใหเปลยี่ นลําดบั หมายเลขขอ ดานหนาจาก 1 3 5 6 เปน 1 2 3 4 Answers (1) energetic (2) patient (3) creative (4) organised (5) sociable (6) shy (7) sporty - ครูใหน กั เรียนตรวจสอบความถกู ตองของคําตอบโดยใหนกั เรียนอา นประโยคทใ่ี หมาและอานคําศัพท ท่ีเขียนตอบ - ครูใหนักเรียนอา นคาํ สงั่ ใน Close up Student’s Book ขอ D หนา 29 ใหเขา ใจกอ นทจี่ ะเลือกคาํ ตอบ โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Circle the correct word for each sentence. - ครใู หน กั เรียนอานแตละประโยคแลวขดี เสน ใต activities เพ่ือเลอื กกริยาทถ่ี กู ตอง - ครูใหน ักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ Answers 6. go 1. go 2. do 3. goes 4. does 5. play - ครูใหน ักเรียนตรวจสอบความถกู ตอ งของคําตอบโดยใหนกั เรยี นอา นประโยคทใี่ หมาและกรยิ าทเ่ี ขยี น ตอบ - ครใู หน กั เรยี นอานคาํ ส่งั ใน Close up Student’s Book ขอ E หนา 29 ใหเขาใจกอ นทจ่ี ะใหน ักเรยี น เลอื กคาํ ตอบเติมลงในชอ งวา ง โดยใชประโยคตอไปนี้  Choose the best word for each space. - ครูใหนักเรียนอาน text ซึ่งเปนเร่ืองเก่ียวกับ Adam and the writer and the thing they do together แลว ขดี เสนใต Verbs ท่วี างอยูหนา ชอ งวา ง และคาํ 2-3 คําท่ีอยูหลังชองวาง สังเกตคําเหลานี้ กอ นเลือกคําตอบ - ครูใหน ักเรยี นชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ Answers 1.on 2.– 3. out 4. to 5. for 6. to - ครูใหนกั เรยี นตรวจสอบความถูกตองของคาํ ตอบโดยอาน Text ท้งั เรอ่ื ง ท่ีนกั เรยี นเขยี นตอบแลว คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

149 6. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑการประเมนิ 1. ประเมนิ ความรูค ําศัพท แบบสงั เกต นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง รอยละ 70 สาํ นวนภาษาประโยค นักเรียนผานเกณฑโดยปฏิบตั ิกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง 2. ประเมินการอา น การเขียน แบบบนั ทกึ ผล รอ ยละ 70 การปฏิบตั งิ าน นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถูกตอง 3. ประเมนิ การพดู การฟง แบบสังเกต รอยละ 70 4. สังเกตพฤตกิ รรม สังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นผานเกณฑโดยมสี ว นรว มในกิจกรรมและ การเขารว มกจิ กรรม การเขารว มกจิ กรรม มีความสุขในการเรยี นอยางนอยรอ ยละ 80 7. สื่อ/แหลงการเรียนรู Close up Student’s Book หนา 29 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กิจกรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

150 150 แผนจดั การเรยี นรู Review 1 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เรอ่ื ง Grammar Revision 1 - 2 รหัสวชิ า................................ รายวิชา......................................... ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม.1/4 ระบุหัวขอ เรื่อง (topic) ใจความสําคัญ (main idea) และตอบคําถามจากการฟงและอานบท สนทนา นิทาน และเรื่องสัน้ ต 1.2 ม.1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอมูลเกย่ี วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณตา ง ๆ ในชีวิตประจําวนั ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหขอมลู และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เร่อื งท่ีฟง หรืออานอยาง เหมาะสม ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา งระหวางการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา ง ๆ การใช เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาํ ดบั คําตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและ ภาษาไทย 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นขอ ความทก่ี าํ หนดใหแ ลว จับใจความสาํ คัญได โดยใชค ําศพั ท สาํ นวน โครงสรา งภาษาไดอยา งถูกตอ ง 3. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอานขอความท่ีกําหนดให ทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา โครงสรางภาษา ไดฝก ทกั ษะการอาน ทาํ ใหม คี วามม่นั ใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสอ่ื สารไดอยางมปี ระสิทธิภาพ รักการเรยี นรแู ละ ฝกฝนอยางจริงจังและเพยี งพอ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Persons - Numbers - Verb be, Have/has got - Question and short answer - Negative forms - Adverb of frequency - Question words - Possessive adjective คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

151 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทกั ษะการอาน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟง - ทักษะการพูด - กระบวนการเรียนภาษาเพอ่ื การส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มีความมั่นใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร - มปี ระสทิ ธภิ าพในการสอื่ ความ - รกั การเรียนรภู าษาอังกฤษและฝก ฝนอยางจรงิ จังและเพยี งพอ 5. กิจกรรมการเรยี นรู • Lead-in - ครถู ามนักเรยี นวา  What do you play after school?  Have you got a guitar?  How often do you play guitar a week? • Presentation Grammar Revision - ครใู หนกั เรยี นทบทวน Grammar ท่เี รียนมาจาก Unit 1 และ Unit 2 ซงึ่ ไมใ ชก ารสอบ นักเรียนสามารถ ถามครู เปรยี บเทยี บคาํ ตอบกับเพอื่ น ใหน ักเรียนเปด หนังสอื เพ่อื หาคาํ ตอบได - ครูกระตนุ นกั เรยี นเขยี นตอบทุกคําตอบ แมวา นกั เรียนตอบไมไดก ็ใหเ ดา - ครูสมุ ถามนักเรียนแตล ะคนทีละขอ - ครูถามนักเรียนท้ังชั้นทลี ะขอ - ครเู ขยี นประโยคบนกระดาน แลว ใหนกั เรียนเตมิ Verb be และ have got ลงในชอ งวางใหถ ูกตอ ง  Complete the gaps with the correct form of be and have got: - I ……………(1)………… 14 years old. - I ……………(2)………… a bird and a goldfish. - Jill …………(3)……………15 years old. - She ………(4) …………… a cat and a dog. - My grandparents …………(5)………… 60 and 61 years old. - They …………(6)………… two dogs. - ครูทบทวน persons, numbers, questions, negative forms และ short answers ทใี่ ชก ับ be และ have/has got - ครใู หน ักเรียนชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ Answers 1. have got 2. have got 3. is 4. has got 5. are 6. have got คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 1

152 152 - ครูใหนักเรียนนําประโยคท้ังหมดทําเปน Questions form และ Negative form ใหนักเรียนตอบ คาํ ถามแบบส้ัน ครเู นนนักเรียนใหร ะมดั ระวังเร่ืองประธาน กรยิ าทใี่ ชในการตง้ั คาํ ถามและตอบแบบสั้น  Are you 14 years old? Yes, I am.  Are you 15 years old? No, I'm not. I'm not 15 years old.  Have you got a bird and goldfish? Yes, have.  Have you got a dog? No, I haven't. I haven't got a dog.  Is Jill 15 years old? Yes, she is.  Is Jill 16 years old? No, she isn't. She isn't 16 years old.  Has Jill got a cat and a dog? Yes, she has.  Has Jill got a bird? No, she hasn't. She hasn't got a bird.  Are your grandparents 60- and 61-years-old? Yes, they are.  Are your grandparents 62 years old? No, they aren't. They aren't 62 years old.  Have your grandparents got two dogs? Yes, they have.  Have your grandparents got cats? No, they haven't. They haven't got cats. - ครูทบทวน Possessive adjectives พรอมท้ังยกตัวอยางใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนชวยกันเติม Possessive adjectives ลงในชองวา ง - I have got a bird. This is ………(1)………. bird, Henry. - Jill has got a cat. That is ………(2)……… cat, Bobby. - My grandparents have got two dogs. Those are ………(3)……… dogs, Riley and Scott. - ครูใหนักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม Answers 1. my 2. her 3. their - ครทู บทวนการใช 's และ s'  That is Jill's cat, Bobby.  Those are my grandparents’ dogs, Riley and Scott คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

153 - ครูทบทวน Present Simple ที่ใชกับกิจวัตรประจําวันหรือทําเปนประจําจนเปนนิสัย โดยครูเขียน ประโยคบนกระดาน ใหนักเรียนเติม Verb ท่ีถูกตองลงในชองวาง ใหนักเรียนสังเกตวาประโยคใดเปน ประโยคปฏเิ สธ ประโยคคาํ ถามและการตอบรับและปฏเิ สธแบบสั้น - I …………(1)……….. basketball after school. - Do you play basketball after school? Yes, I do. / No, don't. I don't play basketball after school. - Tom …………(2)……….. for pizza with friends on Thursdays. - Does Tom go for pizza with friends on Thursdays? Yes, he does. / No, he doesn't. Tom doesn't go for pizza with friends on Thursdays. - Beth and Ann …………(3)……….. to each other online. - Do Beth and Ann chat to each other online? Yes, they do. / No, they don't. Beth and Ann don't chat to each other online. - ครใู หน กั เรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ Answers 1.play 2.goes 3. chat - ครูใหนักเรียนชวยกันบอก Adverbs of frequency ครูเขียนบนกระดาน (always, usually, often, sometimes, hardly ever, never) - ครูใหนักเรียนดูประโยคท่ีทบทวน Present simple กอนหนานี้ แลวเติม Adverbs of frequency ท่ี เติมไวทายแตล ะประโยค - I play basketball after school. - I play basketball after school. - Tom goes with friends on Thursday. - Beth and Anna chat to each other online. - I am late for class. - ครใู หนกั เรียนชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเตมิ Answers - every day - always - sometimes/often/usually - sometimes/hardly ever - hardly ever/never - ครูทบทวน Question words โดยใชประโยคที่ทบทวน Present simple แลว ครูใหนักเรียนชวยกัน เลือก Question words ทเ่ี หมาะสมกบั ประโยค แลว ใหนกั เรียนจดบนั ทกึ ลงในสมดุ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

154 154 - …………(1)……….. do you play after school?' 'I play basketball.\" - …………(2)……….. does Tom go for pizza with friends?' \"He goes for pizza with friends on Thursdays.\" - ……… (3) ……….. does Beth chat to online?' 'She chats to Ann online.\" - ครูใหน กั เรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers 1. What 2. When 3. Who • Practice - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 30 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เติมคาํ ลงในประโยค โดยใชป ระโยคตอ ไปน้ี  Complete the sentences with is, are, am has got, have got. - ครูใหน กั เรยี นอา นประโยคท้งั หมด แลวอานคาํ ท่ตี องเลอื กตอบ ประโยคใดตองการ Verb be หรือ have got - ครูใหนักเรียนอานทบทวนการใช Verb be และ have got ใน Grammar Reference 1.1 – 1.2 หนา 109 กอ นเติมคาํ ลงในชองวา ง - ครใู หนักเรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม Answers 1. are 2. is 3. have got 4. am 5. is 6. has got 7. am - ครใู หนักเรยี นตรวจสอบความถูกตองของคําตอบโดยอานประโยคท่ีใหมาและ Verb be และ have got ที่เขียนตอบ - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ B หนา 30 ใหเขาใจกอนท่ีจะใหนักเรียน ตอบคาํ ถาม โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Read the question. Write the short answer. - ครูใหนักเรียนอานคําถามอยางรอบคอบกอนตอบรับหรือตอบปฏิเสธ ครูเนนใหนักเรียนสังเกตประธาน ของประโยคและกรยิ าท่ีใชใ นประโยคคําถาม และคํานงึ ถึงกรยิ าท่จี ะใชในการตอบคาํ ถามแบบสัน้ ดวย - ครูใหนักเรียนอานทบทวนใน Grammar Reference 1.1–1.2 และ 2.1 หนา 109-110 กอนเติมคําลง ในชองวา ง - ครูใหน ักเรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ Answers 1. hasn't 2. do 3. isn't 4. do 5. have 6. are 7. doesn't • Production - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 30 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เรียงคาํ ใหเ ปน ประโยค โดยใชป ระโยคตอ ไปนี้  Rewrite the sentences in the correct order. - ครูใหนักเรียนขีดเสนใต Verb และ Adverb of frequency ในแตละประโยค ครูใหนักเรียนสังเกตการ เรียงลาํ ดับของ Adverb of frequency กบั Verb be และ Verb อน่ื ๆ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

155 - ครูใหน ักเรียนอา นทบทวนการใช Adverb of frequency กบั Verb be และ Verb อ่ืนๆ ใน Grammar Reference 2.3 หนา 110 กอ นเรยี งคาํ ใหเปนประโยค - ครูใหน กั เรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ Answers 1. We usually get the bus to school. 2. She is always patient with the children. 3. How often do you go swimming? 4. Peter hardly ever goes camping. 5. My sister is never organised. - ครูใหนักเรียนตรวจสอบความถูกตองของคําตอบโดยอานประโยคที่ใหมาและ Adverb of frequency กับ Verb be และ Verb อืน่ ๆ ท่ีเขียนตอบ - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ D หนา 30 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เติม Question word ลงในชองวาง โดยใชป ระโยคตอ ไปนี้  Read the conversation. Write the missing question word. - ครูใหน กั เรยี นอา นคาํ ที่อยูห ลังชอ งวา ง และขีดเสน ใต Keywords ท่ีอยใู นคาํ ตอบของคาํ ถามนนั้ ๆ - ครใู หนกั เรยี นชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers 1. When 2. Who 3. Where 4. How - ครูใหนักเรียนตรวจสอบความถูกตองของคําตอบโดยอานบทสนทนาท้ังหมด โดยเฉพาะประโยคคําถาม และคาํ ตอบ - ครูใหนักเรียนอานคําส่ังใน Close up Student’s Book ขอ E หนา 30 ใหเขาใจกอนที่จะใหนักเรียน เตมิ Possessive adjective โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Complete the sentences with the correct word. - ครูใหนักเรียนอานทบทวนการใช Subject pronoun กับ Possessive adjective ใน Grammar Reference 1.4 หนา 109-110 - ครใู หนักเรยี นขีดเสน ใต Nouns ท่ีจะชว ยใหเ ลือกคาํ ตอบไดถ ูกตอง - ครูใหนักเรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ Answers 1. her 2. my 3. their 4. His 5. our 6. its คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

156 156 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑการประเมิน 1. ประเมนิ ความรคู าํ ศัพท แบบสังเกต นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏบิ ัติกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง รอ ยละ 70 สาํ นวนภาษาประโยค นักเรียนผา นเกณฑโ ดยปฏิบตั ิกิจกรรมไดถ ูกตอ ง 2. ประเมินการอา น การเขียน แบบบนั ทกึ ผล รอยละ 70 การปฏิบตั ิงาน นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง 3. ประเมนิ การพดู การฟง แบบสงั เกต รอยละ 70 4. สงั เกตพฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม นักเรยี นผานเกณฑโดยมีสวนรวมในกจิ กรรมและ การเขา รวมกจิ กรรม การเขารว มกจิ กรรม มีความสขุ ในการเรียนอยางนอยรอ ยละ 80 7. สือ่ /แหลง การเรยี นรู Close up Student’s Book หนา 30 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กิจกรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

157 หนวยการเรยี นรู My Home Town ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 1 เวลา 14 ชั่วโมง 3 รหสั วชิ า ................ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25..... ภาคเรียนท่ี 1 ผสู อน ............................................ 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคําสงั่ คาํ ขอรอง คาํ แนะนํา และคําชีแ้ จงงา ย ๆ ท่ฟี ง และอา น ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ ความใหส ัมพันธก ับสอ่ื ที่ไมใชความเรียง (non-text information) ที่อา น ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ วั ขอ เรือ่ ง (topic) ใจความสําคัญ (main idea) และตอบคําถามจากการฟงและอาน บทสนทนา นทิ าน และเรอ่ื งสนั้ ต 1.2 ม.1/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ มูลเกยี่ วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ ตาง ๆ ในชีวิตประจาํ วนั ต 1.2 ม.1/3 พดู และเขียนแสดงความตอ งการ ขอความชว ยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธการใหความชวยเหลือ ในสถานการณตาง ๆ อยางเหมาะสม ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหขอ มลู และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรอ่ื งท่ฟี งหรอื อา นอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.1/5 พดู และเขยี นแสดงความรูส กึ และความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่อื งตาง ๆ ใกลต วั กิจกรรม ตา ง ๆ พรอ มทง้ั ใหเหตุผลส้นั ๆ ประกอบอยา งเหมาะสม ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กจิ วตั รประจําวัน ประสบการณ และส่ิงแวดลอมใกลตวั ต 1.3 ม.1/2 พดู /เขยี นสรุปใจความสําคญั /แกนสาระ (theme) ทไี่ ดจากการวเิ คราะหเ รอื่ ง/เหตกุ ารณท ี่อยูใน ความสนใจของสงั คม ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตาง ระหวางการออกเสียงประโยคชนดิ ตา งๆ การใชเ ครอ่ื งหมาย วรรคตอน และการลําดบั คาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย 2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอาน การเขยี น การพดู และการฟง คําสง่ั ปา ยประกาศ ขอ ความเกี่ยวกับสิง่ แวดลอ ม การเดินทางทองเที่ยว การตีความสัญลักษณ บทสนทนา การแลกเปลี่ยนขอมูลที่เก่ียวกับสถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวัน จับใจความ สําคัญ แสดงความตองการ ความคิดเห็น ขอและใหขอมูล ทําใหนักเรียนไดรับความรูดานเนื้อหาภาษา โครงสราง ประโยค และไวยากรณ ไดฝ กทักษะภาษาทงั้ 4 เสริมสรางเจตคติในการเรียนภาษา ทําใหการส่ือสารในชีวิตประจําวัน บรรลุวตั ถปุ ระสงค คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

158 158 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) คาํ ศพั ท สํานวนภาษา ประโยค สญั ลักษณ ปายประกาศ คําแนะนํา ขอความท่ีใชในการขอและใหขอมูล ขอมูลการทองเท่ียว เหตุการณท่ีอยูในความสนใจ ภาษาที่ใชแสดงความตองการ การตอบคําถาม การบรรยาย ประสบการณ สง่ิ แวดลอ มใกลตัว และการจับใจความสําคญั 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะการอาน - ทักษะการเขียน - ทกั ษะการฟง - ทักษะการพูด - กระบวนการเรยี นภาษาเพอ่ื การส่ือสาร 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มีความมนั่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการสื่อสาร - รักการเรยี นรูภาษาองั กฤษและฝกฝนอยา งจริงจังและเพยี งพอ - มีประสิทธิภาพในการส่อื ความ 4. สมรรถนะสําคัญของผูเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป ญหา  ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต ามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551  รกั ชาติ ศาสน กษัตริย  ซ่อื สตั ย สจุ ริต  มวี ินยั  ใฝเ รียนรู  รกั ความเปน ไทย  มจี ติ สาธารณะ  อยูอยางพอเพยี ง  มุงมน่ั ในการทํางาน 6. ภาระงาน/ช้นิ งาน Write a poster about your school fair. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

159 7. การวัดและประเมนิ ผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน) วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑการประเมิน 1. ประเมนิ ความรูค ําศัพท แบบสงั เกต นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบตั ิกิจกรรมไดถ ูกตอ ง รอ ยละ 70 สาํ นวนภาษาประโยค 2. ประเมินการอา น การเขียน แบบบนั ทกึ ผล นกั เรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถ ูกตอง รอ ยละ 70 การปฏบิ ัติงาน นักเรยี นผา นเกณฑโดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 3. ประเมนิ การพูด การฟง แบบสังเกต รอยละ 70 4. สังเกตพฤตกิ รรม สังเกตพฤติกรรม นักเรยี นผา นเกณฑโดยมสี วนรวมในกจิ กรรมและ การเขา รวมกิจกรรม การเขารว มกิจกรรม มีความสุขในการเรียนอยางนอยรอยละ 80 8. กิจกรรมการเรยี นรู 8.1 ระดมสมอง 8.2 จับคูพูดโตตอบ ฟง อา น เขียน แสดงความคดิ เหน็ 8.3 ถามตอบเก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ง อาน 8.4 อภปิ รายท้งั ชน้ั 8.5 นําเสนอผลงาน 8.6 ประเมนิ ผลงานของเพอ่ื น 9. สื่อ/แหลงเรียนรู - Close up Student’s Book หนา 31 – 42 - Close up Workbook หนา 18 - 23 - Recording Script Student’s Book Track 3.1 - 3.2 - Video “Town Rescue” หนา 42 คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

160 160 แผนจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรูท ี่ 3 เรอ่ื ง My Home Town แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 1 เรือ่ ง In a very small town รหัสวชิ า................................ รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 1 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ ตัวชีว้ ัด ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคาํ สงั่ คําขอรอง คําแนะนาํ และคําช้ีแจงงา ย ๆ ท่ีฟงและอาน ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอความ ใหสมั พันธกบั สื่อท่ีไมใ ชค วามเรยี ง (non-text information) ที่ อา น 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อานเรอ่ื ง Bekonscot Model Village แลวจับใจความสําคัญ โดยใชคาํ ศัพท สาํ นวนภาษาที่ถกู ตองได 3. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอานเรื่อง Bekonscot Model Village ทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝกทักษะการ อา น ทําใหม คี วามมนั่ ใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสื่อสารไดอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Vocabulary: miniature, inhabitant, windmill, harbor, racecourse, observe 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทักษะการอาน - ทกั ษะการเขียน - ทักษะการฟง - ทกั ษะการพูด - กระบวนการเรียนภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มคี วามม่ันใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่ือสาร - มปี ระสิทธิภาพในการสือ่ ความ - รักการเรียนรภู าษาอังกฤษและฝกฝนอยางจรงิ จังและเพียงพอ คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

161 5. กจิ กรรมการเรยี นรู • Lead-in Reading Unit opener - ครูใหน กั เรยี นดภู าพใน Close up Student’s Book หนา 31 และถามนกั เรยี นวา  What animal do you see? (a bear). - ครูอาจชวยใหนักเรียนทายไดงายมากข้ึน ดวยการบอกตัวอักษรตัวแรกและเขียนชองวางบนกระดาน สาํ หรบั ตวั อกั ษรทเ่ี หลอื - ครใู หน ักเรียนดูในภาพวา ยงั มอี ะไรทจ่ี ะบอกไดบ าง หากนักเรยี นยงั ตดิ ขัด ครอู าจพดู นํานักเรียนวา  There is ... (There is a sign, a road, a truck ..., etc.) - ครใู หน ักเรยี นเดาสตั วกําลงั ทาํ อะไรอยใู นเครอ่ื งหมาย โดยครถู ามวา  What is the animal doing in the sign? (It is walking.)  Can you guess what this sign means? (There are bears on the roads sometimes, and we have to be careful of them.)  Where is this place? (Norway)  What language do you think Gjelder hele Svalbard is? (Norwegian)  Guess what does it mean? (It may tell you about bears, and to slow down or be careful.) - ครูใหนกั เรียนชวยกันบอก Road signs ท่ีนักเรียนรูจัก หรือครูอาจวาดภาพสัญลักษณจราจรงาย ๆ บน กระดาน เชน a stop sign, a speed limit sign, a no-left-turn sign, a danger ahead sign และ สัญลกั ษณอน่ื ๆ ทพ่ี อจะนกึ ได - ครูถามนกั เรยี นวา  Why do we need signs? (They tell us things we need to know when we drive.) - ครูใหน ักเรยี นดตู วั อยางภาพสัญลกั ษณจราจร ดังนี้ - ครูใหนักเรียนอาน Background information ที่เก่ียวกับภาพใน Close up Student’s Book หนา 31 คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

162 162 Background information In Norway, there are polar bears which, naturally, cross the road from time to time. Thus, the government has placed signs warning motorists of the potential danger of colliding with one while driving. Norway has installed a number of different signs alerting people to the possibility of animals passing through motorways for a variety of different animals, such as moose, reindeer, deer, cattle, sheep and people riding horseback. The signs are accompanied with a text in Norwegian (the text in the Student's Book photo translates to Applies to all of Svalbard\") which, for signs near Norway's border with Russia, are also written in Cyrillic. • Presentation - ครูใหนักเรียนจับคูกันอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 32 ใหเขาใจกอน โดยใช ประโยคตอไปน้ี  Work with a partner and write down all the places in a town. - ครใู หนกั เรียนจับคกู ันพูดคยุ เกี่ยวกับสถานท่ใี นเมืองทนี่ ักเรียนรจู ัก - ครูใหนกั เรียนจดบันทึกสถานทล่ี งในสมดุ ครใู หน กั เรยี นออกมาเขยี นช่ือสถานท่ีของตนบนกระดาน 1 ชื่อ และตอ งไมซ ํ้ากัน - หากนกั เรียนนกึ ไมออกใหครถู ามนักเรยี น เชน  What is a place where we can read books? A library, a book shop  What is a place where we buy food? A supermarket, a restaurant - ครูใหนกั เรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ Suggested answers houses, a lake/river, a railway, trees, a beach, etc. - ครูใหนักเรียนอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ B หนา 32 ใหเขาใจกอน โดยใชประโยค ตอไปนี้  Quickly read through the leaflet. What is different about this town? Underline any places in the leaflet that were not on your list in A. - ครูใหน ักเรียนอา น leaflet อยางเร็วเพอื่ หาสง่ิ ตาง ๆ ทีไ่ มเหมอื นในเมืองทีน่ ักเรียนอาศัยอยู - ครูอาจใหนักเรียนดูภาพในหนังสือ แลวใหนักเรียนบอกวาสิ่งในภาพคืออะไร (a sailboat, a bridge, a railway, a carousel, a fire hose, bushes, etc.) - ครใู หนักเรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเตมิ Answers It is miniature model village. Places in the leaflet: zoo, church, cinema, police station, hospital, harbor, race course, swimming pool, sports club, beach, farm คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 1

163 - ครูใหนักเรียนอานคาํ สัง่ ใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 33 ใหเ ขา ใจกอ นโดยใชประโยค ตอ ไปนี้  Match the signs (A-D) with the places (1-4). Then read the leaflet again and write the name of the correct village. - ครใู หน กั เรียนดู Signs และ Text แลวใหน ักเรยี นพจิ ารณาวา Signs ใดจบั คูกับ Text ใด A – People/Children are crossing a road. B – People/Children are swimming in a swimming pool. C –There is a hand and there is food. / Someone is giving food to animals. D – There is a mobile phone, and you can’t use it. - ครใู หนักเรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม Answers 1. B – the swimming pool, Hanton village 2. B – the school, Bekonscot village 3. D – the cinema, Bekonscot village 4. C – the zoo, Greenhaily village Word Focus - ครใู หน ักเรียนอาน Red words ใน Text และอา นประโยคทั้งประโยคท่ีมี Red words - ครูใหนกั เรียนจบั คูกนั บอกความหมาย โดยไมดคู วามหมายใน Word Focus หากนักเรยี นไมร ู ความหมายใหน ักเรียนอานประโยคทงั้ ประโยค หรือคาํ ทอ่ี ยูหนาและหลงั คาํ ศพั ทน้นั ๆ - ครูใหนักเรยี นชวยกนั บอกความหมายคําศัพทใน Word Focus หากไมรใู หนักเรยี นเดาความหมายให ถกู ตอง • Practice - ครูใหนักเรียนจับคูกันอาน Exam Reminder ใน Close up Workbook หนา 18 ใหเขาใจกอนทํา Exam Task ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ และโดยใชป ระโยคตอไปนี้  Work in pairs. Read Exam Reminder in Workbook Page 18. - ครูใหน ักเรียนดภู าพและอานขอ ความในแตล ะ Signs/Notices เดาวา เปน Signs/Notices เกี่ยวกับอะไร กอนทีจ่ ะทํา Exam Task โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Look at the signs or notices, read the words and guess what it is about. - ครใู หน กั เรยี นชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers (Students’ own answers) - ครใู หน กั เรียนอา นคาํ สง่ั ใน Close up Workbook ขอ B หนา 18 ใหเขา ใจกอน โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Now complete the Exam Task. - ครูใหนักเรียนท้ังชั้นอานขอความใน Signs / Notice โดยเริ่มจาก Sign A แลวใหนักเรียนพูดซักถาม โดยใชป ระโยคคําถามตอ ไปนี้  What is this sign about? คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

164 164  Where can you see this sign?  Can you do or can’t do it? - ครูใหนกั เรยี นท้งั ชนั้ ดภู าพใน Signs B แลว ใหน ักเรียนพูดซกั ถาม โดยใชประโยคคําถามตอ ไปน้ี  What is this sign about?  What does ‘emergency’ mean? - ครใู หน กั เรยี นทงั้ ช้ันดูภาพใน Signs C แลว ใหนกั เรียนพูดซกั ถาม โดยใชประโยคคาํ ถามตอ ไปน้ี  What does ‘quiet’ mean?  Can you do or can’t do it? - ครใู หน กั เรยี นท้งั ชนั้ ดภู าพใน Signs D แลว ใหนกั เรยี นพดู ซักถาม โดยใชประโยคคําถามตอไปน้ี  What does ‘turn off’ mean?  Can you do or can’t do it?  Where can you see this sign? - ครใู หน กั เรยี นท้งั ชัน้ ดภู าพใน Signs E แลว ใหน กั เรียนพดู ซักถาม โดยใชประโยคคาํ ถามตอ ไปนี้  What does ‘wrap’ mean? - ครใู หน ักเรยี นท้งั ชัน้ ดูภาพใน Signs F แลวใหน กั เรียนพูดซักถาม โดยใชประโยคคําถามตอไปน้ี  Where can you see this sign? - ครูใหน กั เรียนทัง้ ชั้นดภู าพใน Signs G แลว ใหน กั เรยี นพดู ซักถาม โดยใชประโยคคําถามตอ ไปน้ี  What does ‘entrance’ mean?  Where can you see this sign? - ครใู หน กั เรียนทัง้ ช้นั อานประโยคในขอ 1 - 5 ใน Close up Workbook ขอ B หนา 18 แลวใหน กั เรียน ขีดเสน ใต Key words ในประโยค โดยใชป ระโยคตอ ไปน้ี  Underline the keywords in each sentence. (1 - 5) - ครูใหน ักเรียนทงั้ ช้ันอา นขอ ความใต Signs (A - G) และใหนกั เรียนขดี เสนใต Key words ทใ่ี ชใน ขอ ความเหลานี้ แลวใหน กั เรียนเดาความหมาย โดยใชป ระโยคตอ ไปนี้  Read the texts in each sign and guess what they mean. - ครใู หน ักเรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ A – Do not park cars here. B – Use the phone in an urgent situation. C – Do not speak. D – Switch mobile phones off. E – Cover gifts in paper here. F – Buy one thing, get another of the same thing for no extra cost. G – Enter stadium here. - ครูใหน กั เรียนทั้งชน้ั จับคู Signs กบั ประโยค โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Look at the sings and match them with sentences. - ครใู หนักเรียนชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ Answers 1. D 2. G 3. E 4. C 5. F คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 1

165 • Production - ครูใหนักเรียนอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ D หนา 33 ใหเขาใจกอน โดยใชประโยค ตอไปนี้  Read the Exam Close-up. Then read the Exam Task and decide what the signs mean. - ครใู หน ักเรยี นอา นออกเสียงขอมลู ใน Exam Close-up เพื่อใหเขา ใจ Using words you know to understand signs วา  ในแบบทดสอบมปี ระโยคทง้ั หมด 7 ประโยค และ Signs 7 ภาพ  ใหน ักเรยี นอานขอ ความใน Signs นกั เรยี นไมตองกงั วลหากนักเรยี นไมร คู าํ ศัพทบางคาํ  ในการเลอื กคําตอบใหน ักเรยี นเปรียบเทยี บประโยคกับ Sign แตละภาพใหรอบคอบ - ครูใหน ักเรยี นดู Signs ใน Exam Task แลวใหนกั เรียนพยายามจับคู Signs กับ Text A – an arrow B – a person near a rubbish bin C – a sign saying “Closed on Mondays” D – a football E – a dog F – a person with money in their hand G – a person crossing a road - ครใู หน ักเรียนชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม Answers (Students’ own answers) Teaching Tip Signs มกั เปน สวนสาํ คญั สวนหน่ึงของการสอบภาษาอังกฤษในระดับลาง ครูควรกระตุนใหนักเรียนพยายาม หาความหมายของ Signs ที่พบในที่ตาง ๆ เชน สนามบิน สถานีรถไฟใตดิน ถนน อาคาร ท่ีสาธารณะ หองสมุด ซุปเปอรมาเกต โรงพยาบาล และอื่น ๆ ครูควรใหนักเรียนวาดสัญลักษณที่นักเรียนพบเห็นในประเทศของนักเรียน หากนักเรียนกําลังเรียนภาษาอังกฤษในตางประเทศ ใหนักเรียนคิดถึง Signs แลวพูดเปนภาษาอังกฤษ ใหนักเรียนนํา Signs ของนักเรียนจัดแสดงในชั้นเรียนและอธิบายวาจะพบเห็น Signs น้ีไดท่ีไหนเปนภาษาอังกฤษ ใหครูชวยตรวจ ขอ ความภาษาอังกฤษใหถูกตองและเหมาะสม ซ่ึงจะชวยใหน ักเรยี นไดรบั ความรูเ พ่ิมเตมิ มากข้นึ ดวย - ครูใหนกั เรียนจับคกู ันทาํ Exam Task ใน Close up Student’s Book ขอ E หนา 33 โดยใหน ักเรียน จับคู Signs กับ ประโยค โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Now complete the Exam Task. - ครใู หนกั เรยี นชว ยกนั เฉลยคําตอบและครูอธิบายเพมิ่ เติมเพอื่ สนับสนุนคาํ ตอบทีถ่ ูกตอ ง Answers 1. G 2. C 3. E 4. A 5. B - ครูใหน กั เรยี นทาํ Exam Task ใน Close up Student’s Book ขอ F หนา 33 โดยใหน กั เรยี นจับคู Signs กบั ประโยค โดยใชประโยคตอ ไปน้ี คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 1

166 166  Find these words in the leaflet. Then complete these sentences with the correct words. - ครูใหนกั เรยี นอานประโยคขอ 1 – 7 แลวใหนกั เรยี นขดี เสนใต Key words เพือ่ ชวยใหนักเรียนเลอื กใช คาํ ศัพทไดถ ูกตอ ง - ครใู หน กั เรียนอานออกเสียงคําศพั ทและใหนักเรยี นชว ยกันบอกความหมายคําศัพทใน Yellow wordbank โดยใชป ระโยคตอ ไปน้ี  Read the words in the yellow wordbank aloud and explain the meaning. - ครใู หนกั เรียนเปรยี บเทียบคําตอบกันกอ นเลือกตอบ - ครใู หนักเรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม Answers 4. tractor 1. ambulances 2. ice-cream van 3. boats 5. car 6. buses 7. train Ideas Focus - ครใู หนักเรียนทง้ั ชั้นอานออกเสยี งคําถามเกีย่ วกบั Towns พรอมกนั  Does your town have everything that you want and need? Why / Why not?  It’s better to live in a big town than in a village. Do you agree? Why / Why not? Answers (Students’ own answers) - ครใู หน กั เรยี นจบั คูก ันพูดคุยเกี่ยวกับคาํ ถาม ครูกระตุน นกั เรยี นใหใชป ระสบการณข องตนสนบั สนุนการ ตอบคําถาม - ครูเดนิ รอบหองเพอื่ สงั เกตการณใ นระหวา งที่นักเรียนฝกถาม-ตอบ หากนกั เรียนออกเสียงผิดใหครจู ด บันทกึ ไว - ครูเขียนประโยคท่นี กั เรยี นออกเสยี งผิดบนกระดาน โดยไมร ะบวุ า เปน ของนกั เรียนคนใด แลวใหนกั เรียน ทัง้ ช้ันชวยกนั แกไขใหถ กู ตอง ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ 6. การวัดและประเมินผล เกณฑการประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมือ นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั ิกิจกรรมไดถ ูกตอง รอ ยละ 70 1. ประเมินความรูค าํ ศัพท แบบสังเกต สาํ นวนภาษาประโยค นักเรียนผา นเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกิจกรรมไดถูกตอ ง รอ ยละ 70 2. ประเมินการอา น การเขยี น แบบบนั ทึกผล การปฏิบัตงิ าน นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถูกตอ ง รอ ยละ 70 3. ประเมนิ การพูด การฟง แบบสงั เกต นักเรียนผานเกณฑโ ดยมีสวนรวมในกจิ กรรมและ 4. สงั เกตพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม มีความสุขในการเรียนอยางนอยรอยละ 80 การเขา รวมกจิ กรรม การเขารวมกิจกรรม คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

167 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู - Close up Student’s Book หนา 31 - 33 - Close up Workbook หนา 18 8. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

168 168 แผนจัดการเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ี่ 3 เรอ่ื ง My Home Town แผนการจัดการเรียนรูที่ 2 เร่อื ง Occupation รหัสวชิ า................................ รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 1 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําสงั่ คาํ ขอรอ ง คําแนะนํา และคําชี้แจงงา ย ๆ ท่ีฟง และอาน ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอ ความ ใหสมั พนั ธกบั สอ่ื ท่ไี มใชค วามเรียง (non-text information) ท่ีอาน 2. จุดประสงคก ารเรียนรู อานขอ ความทเี่ กี่ยวกบั อาชีพแลวจบั ใจความสําคัญ โดยใชคําศัพท สาํ นวนภาษาไดอยา งถูกตอ ง 3. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอา นขอ ความทีเ่ ก่ียวกบั อาชพี ทําใหน ักเรยี นมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝกทักษะการอาน ทําให มีความม่ันใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสื่อสารไดอยางมีประสทิ ธิภาพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Vocabulary: chemist’s, pharmacy, greengrocer’s, bookshop, butcher’s, fishmonger’s, bakery Grammar: Question Words (Where / Who / What) 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทกั ษะการอาน - ทักษะการเขียน - ทกั ษะการฟง - ทักษะการพูด - กระบวนการเรยี นภาษาเพ่อื การสือ่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มคี วามมน่ั ใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร - มีประสทิ ธภิ าพในการสอ่ื ความ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

169 5. กจิ กรรมการเรียนรู • Lead-in Vocabulary - ครูเขยี นคํา a town, a city และ a village บนกระดาน แลวใหนักเรียนอภิปรายความหมายที่แตกตาง ของคําทงั้ 3 คํา โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  What are the meanings of a town, a city and a village? - ครูเขยี นคําตอบบนกระดาน  A town is small but a city is big.  A town I can be boring but there are many things to do in the city.  A town is quiet but a city is noisy.  A village contains district or community within a town or city. - ครูใหนักเรียนสังเกตรูปภาพ A - C ใน Close up Student’s Book ขอ A หนา 34 โดยใชประโยค ตอไปน้ี  Match a photo with the words below. Write the letter. - ครใู หนกั เรียนตอบคาํ ถาม ตอไปนี้  Are these photos in your town?  Is each picture similar or different? - ครูใหนักเรียนจับคูคําศพั ทกับรูปภาพ - ครูใหนักเรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม Answers a town – B a city – C a village - A • Presentation - ครูใหนักเรียนอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ B หนา 34 ใหเขาใจกอน โดยใชประโยค ตอ ไปนี้  How is each photo similar or different to where you live? Tell your partner. - ครูใหนกั เรียนชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers (Students’ own answers) - ครูใหนักเรียนจับคูกันสํารวจตารางใน Close up Student’s Book ขอ C หนา 34 โดยใหนักเรียนดูท่ี หวั ตาราง ซงึ่ มี Where? Who? และ What? และอานขอ มูลในตารางครา วๆ โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Match the words in the three columns. Use the example to help you. Teaching Tip ถาหากนกั เรยี นสามารถติด label สถานท่ตี าง ๆ รอบ ๆ เมืองของนกั เรียนเปนภาษาอังกฤษ ไดจะดีมาก ครูสมมติใหนักเรียนมีสถานท่ีในภาพ C อยูในเมืองท่ีนักเรียนอาศัยอยู อาจจะอยูใกลหรือไกลจากโรงเรียนหรือท่ี บานของนักเรียน ใหครูถามนักเรียนวา Is the post office near the fire station? หากนักเรียนสามารถตอบ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

170 170 คําถามได ใหครูใชภาพ E ถามเชนเดียวกัน ครูกระตุนใหนักเรียนเรียนรูเก่ียวกับสถานท่ีอื่น ๆ ในเมืองที่นักเรียน อาศัยอยใู หม ากข้นึ เชน city hall, town square, petrol station, book shop, corner shop, etc. - ครูใหนักเรียนชวยกันบอกความหมายของคําในตารางที่ 3 ชอง เพ่ือใหนักเรียนเขาใจตรงกัน ครูอธิบาย เพม่ิ เติม - ครูใหนักเรียนดูตัวอยางคําท่ีโยงในตารางทั้ง 3 ชอง fire station – fire fighter – helps in an emergency - ครใู หนกั เรยี นจบั คกู ันโยงคาํ ในตารางทัง้ 3 ชองท่ีมีความสัมพนั ธกนั - ครใู หนกั เรยี นชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดาน ครอู ธบิ ายเพิม่ เติม Answers 1. fire station – fire fighter – helps in an emergency 2. hospital – nurse – helps when you are sick 3. library – librarian- serves books 4. police station – police officer – helps stop criminals 5. restaurant – waiter – serves food 6. stadium – football player – plays a football match 7. supermarket – shop assistant – sells meat, fruit and vegetables 8. theatre – actor – acts in a play or musical - ครูใหนักเรยี นชว ยกนั สรุป การใช Where? Who? และ What? บนกระดาน  Where – ถามถึงสถานท่ี  Who – ถามถึงคน (อาชพี )  What – ถามถึงส่งิ ทีท่ าํ - ครูต้งั คําถามตัวอยางโดยใชป ระโยคตอไปน้ี 1. Where is a fire station in your town? Who works at a fire station? What does a firefighter do? - ครูเนน ยํา้ ใหน ักเรียนฝกตอบคําถามแบบเตม็ ประโยค  A fire station is ………student own answer…………………in my town.  A fire fighter works at a fire station.  A fire fighter helps in an emergency. - ครใู หนักเรยี นจับคูก นั ฝก ตง้ั คําถามและตอบคาํ ถามแบบเต็มประโยค 2. Where is a hospital in your town?  A hospital is ………student own answer…………………in my town. Who works at a hospital?  A nurse works at a hospital What does a nurse do?  He/ She helps when I am sick. 3. Where is a library in your town?  A library is ………student own answer…………………in my town. Who works at a library? คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1

171  A librarian works at a library. What does a librarian do?  A librarian serves books. 4. Where is a police station in your town?  A police station is ………student own answer…………………in my town. Who works at a police station?  A police officer works at a police station. What does a police officer do? - A police officer helps stop criminals. 5. Where is a restaurant in your town?  A restaurant is ………student own answer…………………in my town. Who works at a restaurant?  A waiter works at a restaurant. What does a waiter do?  A waiter serves food. 6. Where is a stadium in your town?  A stadium is ………student own answer…………………in my town. Who works at a stadium?  A football player works at a stadium. What does a football player do?  A football player plays a football match. 7. Where is a supermarket in your town?  A supermarket is ………student own answer…………………in my town. Who works at a supermarket?  A shop assistant works at a supermarket. What does a shop assistant do?  A shop assistant sells meat, fruit and vegetables. 8. Where is a theatre in your town?  A theatre is ………student own answer…………………in my town. Who works at a theatre?  An actor works at a theatre. What does an actor do?  An actor acts in a play or musical. • Practice - ครใู หน กั เรยี นดูภาพใน Close up Student’s Book ขอ D หนา 34 เพิม่ เตมิ โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Write the correct words under each photo. - ครูถามนักเรยี นโดยใชประโยคตอไปน้ี  Which photos are food? คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

172 172  Which photos are places?  What are in photo 4? - ครูใหนักเรียนดรู ูปภาพและอานออกเสยี งคาํ ศพั ททอ่ี ยูใน Yellow wordbank - ครูใหนกั เรยี นบอกความหมายคําศัพท ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ จนเขาใจ  Read the words in the yellow wordbank aloud. - ครใู หนกั เรยี นเตมิ คําศัพทใ ตภาพ และใหนกั เรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ Answers 3. meat 1. bread and cakes 2. fish 6. books 4. pills and medicine 5. fruit and vegetables • Production - ครูเขียนคําศัพทบนกระดาน ใหนักเรียนอานออกเสียงคําศัพทตามครู ใหนักเรียนทําซํ้าจนออกเสียงได อยา งถกู ตอ ง chemist’s pharmacy greengrocer’s bookshop butcher’s fishmonger’s bakery - ใหนกั เรยี นสงั เกต เม่อื เติม ’s ทายอาชพี จะหมายถึงรานท่ขี ายผลติ ภัณฑน ั้น ๆ ท่คี นที่ประกอบอาชพี น้นั ๆ ทาํ เชน greengrocer- คนขายผกั เม่อื เตมิ ’s ทายคาํ greengrocer’s – รา นขายผกั butcher - คนขายเนอ้ื butcher’s – รานขายเน้ือ แตถา เปน ชอ่ื รา นไมต อ งเติม ’s เชน pharmacy, bookshop และ bakery - ครูใหน ักเรยี นทงั้ ชัน้ ชว ยกนั เดาความหมายคําศัพท ครูอธบิ ายเพิม่ เติมหากนักเรียนยังไมเ ขา ใจ chemist’s - รา นขายยา pharmacy - รานขายยา greengrocer’s - รานขายผกั และผลไมสด bookshop - รานขายหนังสอื butcher’s - รา นขายเนื้อ fishmonger’s - รานขายปลา bakery - รา นขายขนมปง - ครูใหนักเรียนขีดเสนใต Key words ใน Close up Student’s Book ขอ E หนา 35 ครูทบทวน ความหมายคําศพั ทอีกคร้ัง โดยใชป ระโยคตอ ไปน้ี  Complete the sentences with the correct words from D. - ครูใหนักเรยี นนาํ คาํ ศัพทท ี่อยใู น ขอ D เติมลงในชองวางในขอ E ใหถ กู ตอ ง - ครูใหนักเรียนชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเตมิ คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

173 Answers 1. pills and medicine 2. fruit and vegetables 3. books 4. meat 5. fish 6. bread and cakes 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑการประเมนิ 1. ประเมนิ ความรคู ําศัพท แบบสังเกต นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ัติกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง รอยละ 70 สํานวนภาษาประโยค นักเรียนผา นเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถูกตอง 2. ประเมนิ การอา น การเขียน แบบบันทึกผล รอ ยละ 70 การปฏิบัตงิ าน นกั เรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 3. ประเมนิ การพูด การฟง แบบสงั เกต รอ ยละ 70 4. สังเกตพฤติกรรม สงั เกตพฤติกรรม นักเรียนผา นเกณฑโ ดยมีสว นรวมในกจิ กรรมและ การเขา รว มกจิ กรรม การเขา รว มกิจกรรม มคี วามสขุ ในการเรยี นอยางนอยรอยละ 80 7. สื่อ/แหลงการเรียนรู Close up Student’s Book หนา 34 – 35 8. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1

174 174 แผนจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรูที่ 3 เรอ่ื ง My Home Town แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 3 เร่อื ง How I Travel Around รหสั วชิ า................................ รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1 กลุมสาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.1/4 ระบุหวั ขอ เรอ่ื ง (topic) ใจความสาํ คญั (main idea) และตอบคาํ ถามจากการฟง และอา นบท สนทนา นิทาน และเร่ืองสน้ั 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อา นขอความทก่ี ําหนดใหแ ลวจับใจความสาํ คญั โดยใชค ําศัพท สาํ นวนภาษาไดอ ยา งถูกตอง 3. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอานเร่ือง How I Travel Around ทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝกทักษะการอาน ทาํ ใหม ีความมน่ั ใจในการใชภ าษาองั กฤษในการส่ือสารไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Vocabulary: get on/get off, arrive/arrive at, take (a bus)/catch (a bus), get in 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทักษะการอา น - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟง - ทกั ษะการพูด - กระบวนการเรียนภาษาเพือ่ การส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มีความมัน่ ใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสื่อสาร - มีประสทิ ธิภาพในการสื่อความ คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

175 5. กจิ กรรมการเรยี นรู • Lead-in - ครูใหนักเรียนดูภาพใน Close-up Workbook ขอ A หนา 19 และใหนักเรียนชวยกันบอกช่ือสถานที่ โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Where can you see a football match?  Where do you go to see a doctor?  Where do you have dinner?  Where do you see a play or musical?  Where do you buy some food?  Where can you borrow books? - ครูเขียนชื่อสถานทต่ี า งๆ ทนี่ กั เรียนตอบบนกระดาน โดยใหน ักเรียนบอกตวั สะกดทีละคํา stadium hospital restaurant theatre supermarket library - ครูใหนักเรียนดูภาพแตละภาพ และใหนักเรียนชวยกันเดาวานาจะเปนสถานที่ใด ใหนักเรียนบอก ตัวสะกดคาํ ศพั ท แลวครูเขียนคําศพั ทบ นกระดาน - ครูใหนกั เรียนชว ยกันตรวจสอบความถกู ตอง - ครูใหนักเรียนเติมคําศัพทใตภาพใน Close-up Workbook ขอ A หนา 19 โดยมีตัวอักษรหนาคําศัพท แตละคําใหไว เพอ่ื เปนแนวทางในการหาคาํ ตอบ • Presentation - ครเู ขยี นคาํ ศพั ทบนกระดาน และใหนักเรียนจับคูคําศัพทใหเปนคําศัพทใหม เนนนักเรียนวาศัพทบางคํา สามารถใชไ ด 2 คร้ัง และใหน กั เรยี นชวยกนั เดาความหมายคําศพั ทใหมดวย fire fighter fire (x2) assistant = fire station football fighter football match police (x2) match police officer shop officer police station station (x2) shop assistant - ครูใหนักเรียนจับคูกันอานประโยคใน Close-up Workbook ขอ B หนา 19 แลวใหนักเรียนขีดเสนใต Key words ในขอ 1 - 6 ครูเขียน Key words เหลาน้ันบนกระดานและใหนักเรียนชวยกันเดา ความหมายคาํ ศพั ท 1. You tell a ……………………….. when you see a crime. 2. Fire engines ………………………. when there is a fire. 3. You watch a ……………………… in a stadium. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1

176 176 4. A ……………………… helps to stop a fire. 5. When you buy clothes, a …………………….. helps you to buy things. 6. If you do something bad, you may have to go to a ……………………… . - ครูสงั่ ใหน ักเรยี นจบั คกู นั โดยใชป ระโยคตอไปนี้  Work in pairs read and underline the key words in B on page 19 in Close-up Workbook and guess the meaning of the words. 1. a crime – อาชญากรรม 2. fire engine – อปุ กรณดับเพลงิ 3. a stadium – สนามกีฬาที่มีอัฒจนั ทร 4. to stop a fire – ดับเพลงิ 5. help you to buy thing (clothes) – ชว ยคณุ ในการซื้อเสอ้ื ผา 6. something bad – สง่ิ ทไี่ มดี - ครใู หนักเรยี นจบั คกู นั เตมิ คาํ ศพั ทลงในประโยคใหส มบูรณ ใน Close-up Workbook ขอ B หนา 19 โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Work in pairs match these words to make colocations to complete the sentences. - ครูใหนักเรียนชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดาน ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ 1. police officer Answers 4. fire fighter 2. fire station 3. football match 5. shop assistant 6. police station • Practice - ครเู ขยี นประโยคตัวอยา งบนกระดาน แลวใหน ักเรยี นชว ยกนั เดาความหมายคาํ ศพั ทท ี่ขดี เสนใต และให นักเรยี นสงั เกตดวยวา คําท้งั หมดเหลานเ้ี ปน Verb โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Guess the meaning of the underline words. All of these words are verbs. - You get on the bus but you get in a car. - I get off a train. - A boy takes a bus to school. - Students arrive at school at 9.00 a.m. They arrive late because they miss the train. - Sam rides a bicycle to school. His teacher drives a car but I catch a bus. get on ขึ้นรถ get off ลงรถ arrive at มาถึงที่ .......สถานท่ี arrive มาถึง get in เขา take (a bus) น่ังรถเมล drive ขับรถ ride ข่ี miss พลาด catch (a bus) นง่ั รถเมล - ครูใหนักเรียนจับคูกันอานโจทยใน Close-up Workbook ขอ D หนา 20 แลวใหนักเรียนขีดเสนใต Key words ในขอ 1 - 6 โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Work in pairs read and underline key words in D on page 20 in Close-up Workbook. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1

177 1. …….. the bus 2. …….. a train 3. …….. our bikes 4. …….. home 5. …….. the car 6. …….. the bus - ครูใหนักเรียนวงกลมลอมรอบคาํ ตอบทถ่ี กู ตอง โดยดู Key words ในแตล ะขอ โดยใชประโยคตอ ไปนี้  Look at the key words in each sentence and circle the correct words. - ครใู หนักเรยี นชวยกัน เฉลยคําตอบและเขยี นคําตอบบนกระดาน ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ 1. get off Answers 5. get in 6. miss 2. takes 3. ride 4. arrives at • Production - ครใู หน กั เรียนอา น เรือ่ ง How I travel around ใน Close up Student’s Book ขอ F หนา 35 โดยใช ประโยคตอไปนี้  Complete the expressions in the description with the correct words. - ครูใหนักเรียนขีดเสนใต Key words ซึ่งมักจะอยูหลังชองวาง และใหนักเรียนดูขอความแวดลอม ชอ งวางดว ย - ครใู หนักเรียนดูคําศัพทใน Yellow wordbank แลวใหนักเรียนบอก Part of speech ของแตละคํา ครู อธิบายเพิม่ เติมหากนกั เรียนยังไมเขาใจ โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Look at the words in the Yellow wordbank and tell me what part of speech they are. Answers They are verbs. - ครูใหน ักเรยี นเติมคาํ ศพั ท/ สาํ นวนลงในเนื้อเรือ่ งใหถูกตอง - ครใู หนกั เรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่ิมเติม Answers 5. arrive at 1. take 2. get on 3. get off 4. miss 10. turn 6. arrive 7. catches 8. drives 9. ride - ครูใหน กั เรยี นอา น Information ใน Exam Close-up ใน Close up Student’s Book ขอ G หนา 35 โดยใชประโยคตอไปน้ี  Read the Exam Close-up. Then work with a partner and take turns to define words from these two Vocabulary pages. - ครใู หน ักเรียนอา นมูลใน Exam Close-up ใหเขาใจ เรือ่ ง Reviewing vocabulary วา  นกั เรยี นจะตองอานคาํ จาํ กดั ความของคาํ ศัพทในหวั ขอทีเ่ หมือนกัน นักเรยี นจะตอ งดูอักษรตวั แรก และจํานวนตัวอกั ษรของคาํ ศพั ทแตละคําดวย คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

178 178  นักเรียนตองทบทวนคาํ ศัพทในแตละ Unit ท่ีนักเรยี นเรียนโดยทาํ เปน Word maps ในแตละ หวั ขอ ในสมดุ  ทดสอบการสะกดคาํ ทัง้ ตัวนกั เรียนเองและเพ่ือน ๆ - ครูใหนักเรยี นจับคกู ันฝก ใชค ําศพั ทใ น Vocabulary และใน Student’s Book exercise Answers (Students’ own answers) - ครูใหนักเรียนอานคําสั่งใน Close up Student’s Book ขอ H หนา 35 ใหเขาใจกอนท่ีจะใหนักเรียน เติมคําตอบลงในชอ งวาง โดยใชประโยคตอ ไปน้ี  Now complete the Exam Task. - ครูใหนักเรียนอานคําจํากัดความของคําศัพทท่ีเกี่ยวกับ places and transport แตละคําใหอักษรตัว แรกและชองวาง 1 ชอ งตอ 1 ตวั อักษร โดยใชประโยคตอไปนี้  Read the descriptions of some words about places and transport.  What is the word for each one? There is the first letter is already there.  There is one space for each letter in the word. - ครูใหน ักเรียนจบั คูก นั เติมตวั อักษรลงในคําศพั ทแตล ะคําใน Exam Task โดยใชป ระโยคตอไปน้ี  Work in pairs and Fill the letter in each gap. - ครใู หน ักเรยี นชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม 1. ambulance Answers 4. train 5. waiter 2. library 3. theatre Ideas Focus - ครูใหนกั เรียนทง้ั ช้นั อานออกเสยี งคาํ ถามเกีย่ วกบั Their home town พรอมกัน  What’s your favourite place in your home town? Why?  How do you travel to school? How long does it take?  What’s your favourite kind of transport? Why? Answers (Students’ own answers) - ครูใหนักเรียนจับคูกันพูดคุยเกี่ยวกับคําถาม ครูกระตุนนักเรียนใหใชประสบการณของตนสนับสนุนการ ตอบคําถาม - ครูเดินรอบหองเพื่อสังเกตการณในระหวางที่นักเรียนฝกถาม-ตอบ หากนักเรียนออกเสียงผิด ใหครูจด บันทึกไว - ครูเขยี นประโยคทน่ี ักเรียนออกเสยี งผดิ บนกระดาน โดยไมร ะบุวาเปนของนักเรียนคนใด แลวใหนักเรียน ทัง้ ชั้นชวยกันแกไ ขใหถ ูกตอง ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ คูม อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

179 6. การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑการประเมิน 1. ประเมินความรูคําศัพท แบบสังเกต นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถูกตอง รอ ยละ 70 สํานวนภาษาประโยค นกั เรยี นผา นเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถ ูกตอ ง 2. ประเมนิ การอาน การเขียน แบบบนั ทึกผล รอ ยละ 70 การปฏิบัติงาน นักเรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ัติกจิ กรรมไดถูกตอง 3. ประเมินการพดู การฟง แบบสังเกต รอยละ 70 4. สงั เกตพฤตกิ รรม สังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนผา นเกณฑโดยมสี ว นรวมในกจิ กรรมและ การเขา รวมกิจกรรม การเขารวมกจิ กรรม มีความสุขในการเรียนอยางนอยรอ ยละ 80 7. สือ่ /แหลงการเรยี นรู - Close-up Workbook หนา 19 - 20 - Close up Student’s Book หนา 35 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9. กิจกรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1

180 180 แผนจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูท ่ี 3 เร่อื ง My Home Town แผนการจดั การเรียนรูท่ี 4 เรื่อง There is / There are รหัสวชิ า................................ รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 1 กลุมสาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหขอมูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรือ่ งทฟ่ี ง หรอื อา นอยา ง เหมาะสม ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา ง ระหวา งการออกเสียงประโยคชนิดตา ง ๆ การใช เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลาํ ดับคาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและ ภาษาไทย 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู เขียนขอความทก่ี าํ หนดให โดยใชค าํ ศพั ท สํานวน โครงสรา งภาษาไดอ ยา งถูกตอง 3. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนขอความท่ีกาํ หนดใหทาํ ใหน กั เรียนมคี วามรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝกทักษะการเขียน ทําใหมี ความมน่ั ใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่อื สารไดอยางมปี ระสิทธิภาพ รักการเรียนรู ฝกฝนอยางจรงิ จงั และเพียงพอ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Grammar: there is, there is not (isn’t) / there are, there aren’t (aren’t) 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skills) - ทักษะการอาน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟง - ทักษะการพดู - กระบวนการเรียนภาษาเพอื่ การส่อื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) - มคี วามมน่ั ใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ - รักการเรียนรภู าษาองั กฤษและฝกฝนอยางจรงิ จงั และเพียงพอ คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook