๒๙ ๔.๕ ความเหน็ ตอ่ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ในการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ได้มีการสอบถาม ในหลายช่องทางดังที่ระบุไว้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงได้จัดให้มีการสอบถามความคิดเห็นผ่านแบบสอบถามท่ัวไป ซ่ึงมีประชาชนผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 483 คน และมีประชาชนได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จานวน 164 ความเห็น โดยในกลมุ่ ความคิดเหน็ เหล่านี้ มีจานวน 21 ความเหน็ หรือคิดเปน็ ร้อยละ ๑๒ เห็นวา่ รัฐธรรมนญู มีความเหมาะสมดอี ยู่แลว้ และจานวน 32 ความเห็น หรือคิดเป็นร้อยละ 19 เห็นว่าจาเป็นต้องมีการแก้ไขในบางประเด็น และเห็นควรมีการแก้ไขเพ่ิมเติมถ้อยคา ในบทบัญญัติในรายมาตรา หรือหมวดทเี่ ก่ียวข้องกับประเด็นต่าง ๆ ในรัฐธรรมนูญใหส้ มบูรณ์มากขึ้น ในขณะท่ีอีก รอ้ ยละ 62 (จานวน 103 ความเหน็ ) มคี วามเห็นว่าให้แกท้ งั้ ฉบับ ในการสอบถามความคดิ เหน็ ของประชาชนผา่ นชอ่ งทางตา่ ง ๆ เก่ียวกับประเด็นความคดิ เห็น ของประชาชนต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ น้ัน พบว่า ๔.๕.๑ รัฐธรรมนญู มีความเหมาะสมอยแู่ ลว้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศท่ีเปลี่ยนแปลงไป รัฐธรรมนูญมีความชัดเจนในเรื่องเจตนารมณ์ และแนวทางในแก้ไขปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น และมเี จตนาในการสรา้ งการเมอื งที่โปร่งใส โดยรวมเห็นว่า มีความเหมาะสมอยู่แล้วในสาระสาคัญแต่ส่ิงท่ีควรดาเนินการแก้ไข คือ การเร่งออกกฎหมายลาดับรองเพื่อให้ เกิดผลจริงในทางปฏบิ ตั ิ และการบังคบั ใช้ของหน่วยงาน องค์กรท่ีเก่ียวขอ้ ง ๔.๕.2 เห็นควรแก้ไขในบางประเดน็ ในการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ พบว่า ประชาชน บางสว่ นเห็นว่าควรจะมีการปรบั ปรุงแก้ไขเน้ือหาในบางประเด็น บางหมวดในรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์มากย่ิงขึ้น โดยสามารถสรุปได้ ดังน้ี ๑) สิทธิเสรภี าพ (๑) ควรให้แยกประเด็นสิทธิเสรีภาพในรายละเอียด และกาหนดกลุ่มเป้าหมาย ใหช้ ัดเจน และรับรองสิทธิของประชาชนในลกั ษณะการสง่ เสรมิ ให้เกิดการใช้สทิ ธิและเสรีภาพตามที่รฐั ธรรมนูญ รับรองเพอื่ เป็นหลกั ประกนั แกป่ ระชาชน (๒) รฐั ธรรมนญู ตอ้ งรบั รองสทิ ธิชุมชน ๒) การได้มาของ ส.ส. โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องวิธีการได้มา การคานวณ คะแนนเลือกตั้งของ ส.ส. ใหเ้ ป็นรูปธรรมโดยมสี ูตรคดิ คานวณท่แี น่นอน ๓) การไดม้ าของ ส.ว. โดย (๑) ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้น และไม่ควรมีอานาจหน้าที่ ในการเลอื กนายกรฐั มนตรีโดยเดด็ ขาด รวมทง้ั ไมค่ วรมบี ทบาทในการสรรหากรรมการในองค์กรอิสระ (๒) กาหนดให้ ส.ว. เป็นตัวแทนกลมุ่ อาชีพ (๓) แก้ไขการไดม้ าซง่ึ ส.ว. มาตรา ๑๐๗ ซงึ่ ในรัฐธรรมนญู กาหนดให้ “เลือกกันเอง” เป็นการเลือกตง้ั โดยประชาชน
๓๐ ๔) หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ โดยกาหนดให้การดาเนินโครงการใด ๆ ของรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ยังคงต้องได้รับความเห็นประกอบจากองค์การอิสระด้านส่ิงแวดล้อมก่อน เพือ่ เพ่มิ แนวทางการป้องกันการใช้อานาจของหนว่ ยงานของรัฐในการอนุมัตริ ายงานโดยมชิ อบ ๕) กาหนดให้นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกต้ัง เพื่อป้องกันการสืบทอด อานาจ ๖) การเพ่ิมบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วม โดยรัฐธรรมนูญต้องรองรับ บทบาทการทาหน้าที่ของประชาชนในการตรวจสอบโดยการสืบค้น รวมไปถึงให้ข้อทักท้วง และข้อเสนอแนะ ในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เน่ืองจากภาคประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลท่ีจะพิสูจน์ข้อสงสัย ด้านคอรร์ ัปชันได้ ๗) มาตรา ๑๗๘ เนื่องจากการเจรจาการคา้ ระหวา่ งประเทศควรตองมมี าตรการ ตรวจสอบกอ่ นการเจรจา และมาตรการภายหลังที่ไดมีการเจรจาแลว เนื่องจากหลายประเดน็ ที่มีการเจรจาน้ัน ไดนาผลประโยชนดา้ นสขุ ภาพของประชาชนไปแลกกบั การคา้ ซึง่ ควรนาความในรฐั ธรรมนญู ๒๕๕๐ มาใช้ ๘) หมวด 14 การปกครองท้องถ่ิน โดยกาหนดทิศทางการปกครองท้องถิ่น และการกระจายอานาจให้ชัดเจน รวมท้ังให้ความสาคัญกับการส่งเสริมความเป็นอิสระขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ 9) กาหนดอานาจหน้าที่ขององค์กรอิสระให้ชัดเจน เพื่อให้องค์กรอิสระ ไดท้ าหนา้ ท่ตี รวจสอบการใช้อานาจรัฐไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม 10) แก้ไขบทเฉพาะกาลของรฐั ธรรมนญู ท้งั หมด ๔.๕.๓ เห็นควรแก้ท้งั ฉบบั จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเก่ียวกับรัฐธรรมนูญ พบว่าโดยส่วนใหญ่ เห็นว่าควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งฉบับ เน่ืองจากที่มาของรัฐธรรมนูญไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ประกอบกับในหลายมาตรา หลายหมวดในรฐั ธรรมนญู มปี ัญหาในหลายจุด และส่งผลกระทบต่อกันในภาพรวม ดงั น้นั จึงควรมีการยกเลิกรฐั ธรรมนูญ และให้มีการรา่ งใหม่ทั้งฉบบั เพ่ือใหเ้ กดิ การแก้ไขปญั หาต่าง ๆ ของสังคม ประกอบกับเพ่ือใหเ้ กดิ ความสอดคลอ้ งกับสถานการณ์ทางการเมืองในปจั จุบัน ๔.๖ ความคิดเหน็ ตอ่ แนวทางในการแกไ้ ขรัฐธรรมนูญ ๔.๖.๑ ความคิดเหน็ ตอ่ แนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๑) ควรแก้ไขมาตรา ๒๕๖ เพื่อใหก้ ารแกไ้ ขรัฐธรรมนูญมีข้ันตอนท่ีงา่ ยขึน้ 2) ควรปรับปรุงวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา ๒๕๖ ใช้วิธีการแก้ไขท่ีผ่าน ความเห็นชอบของสมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนูญ (สสร.) แทนการใหผ้ า่ นรัฐสภา 3) ให้มีการยุบสภา คืนอานาจให้ประชาชนและเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย และการรา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบับใหม่ 4) การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ใช้คะแนนเสียงร้อยละ ๗๕ ของรัฐสภา และให้ การลงประชามติโดยประชาชน ภายใน ๑๒๐ วัน นบั แต่รัฐสภามีมตใิ ห้มีการแกไ้ ขรัฐธรรมนูญ 5) ควรกาหนดช่องทางให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คน สามารถเสนอช่ือเพ่ือขอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ นอกเหนือไปจากคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา โดยมีกระบวนการ การตรวจสอบก่อนนาขึ้นทูลเกล้าฯ โดยสามารถให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้น้ันก็เป็นแนวทาง
๓๑ ที่ต่างประเทศดาเนินการ เพ่ือให้วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ น้ัน เป็นไปตาม หลกั สากล 6) ก่อนจะจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องจัดให้มีการทาประชามติเพ่ือรับฟัง ความคดิ เหน็ ของประชาชน ๔.๖.๒ ความคดิ เห็นตอ่ กระบวนการในการร่างรัฐธรรมนญู ๑) ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดย สสร. ต้องยึดโยงกับประชาชน มาจากทกุ ภาค ทุกจังหวดั ทุกกลุม่ สดั ส่วนชายและหญงิ เทา่ กนั 2) สสร. ต้องดาเนนิ การการศกึ ษาและการแกไ้ ขรัฐธรรมนญู 3) สสร. ต้องเปดิ ให้มีกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งประกอบด้วยประชาชนทุกเพศสภาพ มีความหลากหลายทางเพศ และทุกภาคส่วน คล้ายคลึงกับ สภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ 4) สสร. ต้องมีบทบาทในการรณรงค์ต่อสังคมให้ต่ืนตัวในเรื่องการมีส่วนร่วม ในการรา่ งรัฐธรรมนูญ 5) การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรกาหนดให้มีกลไก รูปแบบการรับฟังความคิดเห็น จากประชาชน อย่างกว้างขวาง ครอบคลมุ ประชากรทกุ กล่มุ รวมถงึ ตวั แทนของเด็กและเยาวชน 6) ควรมีกลไกรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตลอดจนกระบวนการร่าง รัฐธรรมนูญทุกข้ันตอน นับต้ังแต่ก่อนร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างร่างรัฐธรรมนูญ และหลังจากร่างเสร็จแล้ว นอกจากนี้ ต้องรับฟังขอ้ เสนอการรณรงคข์ องภาคประชาสังคม 7) ก่อนจะจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องจัดให้มีการจัดทาประชามติ เพ่ือรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และเม่ือมีการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จต้องจัดให้มีการลงประชามติ อีกคร้ัง โดยต้องเผยแพร่อย่างทั่วถึง และให้ประชาชนมีเวลาศึกษาร่างรัฐธรรมนูญก่อนการลงมติ รวมถึงให้มี เวทีวิพากษไ์ ด้อย่างเสรี
ฝา่ ยเลขานุการคณะอนกุ รรมาธกิ าร นายณัฐพฒั น์ พัดทอง ผูบ้ ังคบั บัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธกิ ารการทหาร นายสวุ ฒั น์ สวุ ิบลู ย์ วิทยากรชานาญการพเิ ศษ นางสาวฉัตรยาภรณ์ คาผุย นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ นายจาตุรงค์ นาสมใจ นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ นางสาวขวัญประชา ช่วยกลาง วิทยากรชานาญการ นายอลงกรณ์ มง่ั มี วทิ ยากรชานาญการ นางสาวรจนี ขยนั งาน นิติกรชานาญการ นางสาวนลนิ รัตน์ เฉลิมทรพั ย์ นติ กิ รชานาญการ นางสาวสกุลกาญจน์ ตงั ประพฤทธ์ิกุล เจ้าพนกั งานธรุ การชานาญงาน นางสาวอิสริยา ดโี ลก เจา้ พนกั งานธรุ การชานาญงาน นางสาวรจุ ิรา โตชวู งศ์ เจ้าพนกั งานธรุ การชานาญงาน นางสาววรรณยา สิงหว์ ี เจา้ พนักงานธรุ การชานาญงาน
รายละเอยี ดรายงานการศกึ ษา การประชาสมั พันธแ์ ละรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน เก่ยี วกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพม่ิ เตมิ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ระหวา่ งวันท่ี ๑๗ มกราคม – ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ จดั ทาโดย คณะอนกุ รรมาธิการประชาสัมพนั ธแ์ ละรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพจิ ารณาศึกษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ สานักกรรมาธิการ ๒ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
คำนำ ท่ีประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไข เพมิ่ เติมรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ครั้งท่ี ๒ เม่อื วันศกุ ร์ท่ี ๑๗ มกราคม ๒๕๖๓ ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้มีหน้าที่ และอานาจประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเก่ียวกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ คณะอนุกรรมาธกิ ารไดก้ าหนดแนวทางการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเหน็ ของประชาชน ผ่านช่องทางต่าง ๆ ประกอบด้วย (๑) ตู้ ปณ. ๙ ปณ.รัฐสภา ๑๐๓๐๕ (๒) การแสดงความคิดเห็น บนหน้าเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ URL:constitution60.parliament.go.th (๓) Facebook : ศึกษา ปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 https://www.facebook.com/ constitution60 (๔) LINE@:constitution60 (๕) E-mail: constitution60@ parliament.go.th (๖) การย่ืนข้อเสนอ โดยตรงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ ณ บริเวณช้ัน ๑ อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร (๗) การจัดทาแบบสอบถามทั้งในรูปแบบแบบสอบถามทั่วไปและ แบบสอบถามเฉพาะ (๘) การจัดสัมมนาของคณะกรรมาธิการในรูปแบบท่ีเป็นการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) จานวน ๑๗ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มประชาสังคม กลุ่มสตรี กลุ่มแรงงาน กลุ่มนิสิต นักศึกษา และเยาวชน กลุ่มการกระจายอานาจและการปกครองท้องถ่ิน กลุ่มกระบวนการยุติธรรม กลุ่มการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มการมีส่วนร่วม ของประชาชน กลุ่มการพัฒนาเศรษฐกิจ กลุ่มระบบเลือกต้ังและพรรคการเมือง กลุ่มตัวแทน พรรคการเมือง กลุ่มนโยบายแห่งรัฐ/การจัดบริหารของรัฐ กลุ่มองค์กรตามรัฐธรรมนูญ/องค์กรอิสระ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มปฏิรูปกฎหมาย และปฏิรูประบบราชการ และกลุ่มสิทธิเสรีภาพ/สิทธิชุมชน การจัดสัมมนาในกลุ่มลกั ษณะท่ีเปิดกว้างในมหาวิทยาลัยจานวน ๕ แห่ง ไดแ้ ก่ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวทิ ยาลัยบูรพา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และมหาวิทยาลัย ราชภัฏสงขลา รวมท้ังการจัดสัมมนาจากองค์กรอื่นโดยการแสดงเจตจานงให้คณะอนุกรรมาธิการ เดินทางไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จานวน ๔ แห่ง ได้แก่ การจัดสัมมนาของภาคี เพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยร่วมกับสถาบันสร้างอนาคตไทย คณะกรรมการรณรงค์ประชาธิปไตย (ครป.) และ ๓๐ องค์กรประชาธิปไตย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพมหานคร การจัดสัมมนาของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก ท่ีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และท่ีมหาวิทยาลัย มหาสารคาม ภายหลังการรวบรวมข้อมูลจากการรับฟังทุกช่องทาง คณะอนุกรรมาธิการได้นาข้อมูลต่าง ๆ มาศึกษา วิเคราะห์ เพ่ือประมวลผลโดยการคงหลักการและเจตจานงเดิมของประชาชนท่ีได้แสดง ความคิดเห็นต่อคณะอนุกรรมาธิการให้มากท่ีสุด ซ่ึงผลการศึกษาปรากฏอยู่ในรายละเอียดรายงาน การศึกษาฉบบั นี้
คณะอนุกรรมาธิการขอขอบคุณหน่วยงานภาคราชการ หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้าร่วมประชุมหรือแสดงความคิดเห็นท่ีเป็นประโยชน์ ต่อ คณะกรรมาธิการ แม้ว่าในช่วงการศึกษาต้องประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) แต่ทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือในการปรับรูปแบบการรับฟัง ความคดิ เห็นอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ขอขอบคณุ สถาบันพระปกเกล้าท่ีสนับสนนุ ขอ้ มลู ด้านวิชาการ และบุคลากรเพ่ือการปฏิบตั หิ น้าที่ของคณะอนุกรรมาธกิ ารเป็นอย่างดยี ิ่ง คณะอนุกรรมาธกิ ารหวังเปน็ อยา่ งยิ่งว่า รายละเอียดรายงานการศกึ ษาครั้งน้ีจะเป็นประโยชน์ ตอ่ ผู้เกี่ยวข้อง และเปน็ ประโยชน์ต่อประเทศชาตติ ่อไป นายวฒั นา เมืองสุข ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ประชาสมั พันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สิงหาคม ๒๕๖๓
ก สารบญั หน้า คานา สารบัญ รายนามคณะอนุกรรมาธิการ ภาพรวมรายงานการศึกษา ๑ ๑. การรวบรวมความคิดเห็นทางตู้ ปณ. ๙ ปณ.รฐั สภา ๑๐๓๐๕ ๑๐ ๒. การรวบรวมความคิดเห็นบนหนา้ เวบ็ ไซตข์ องคณะกรรมาธกิ าร URL:constitution60.parliament.go.th ๑๒ ๓. การรวบรวมความคดิ เห็นทาง Facebook : ศึกษาปญั หา หลักเกณฑ์ แนวทางแกไ้ ขรัฐธรรมนญู 60 https://www.facebook.com/ constitution60 ๒๓ ๔. การรวบรวมความคดิ เห็นทาง LINE@ : constitution60 ๒๖ ๕. การรวบรวมความคิดเหน็ ทาง E-mail: constitution60@ parliament.go.th ๓๐ ๖. การยนื่ ข้อเสนอโดยตรงต่อคณะกรรมาธกิ ารวิสามัญ ณ บริเวณช้ัน ๑ อาคารรฐั สภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ิต กรุงเทพมหานคร ๓๗ ๗. การรวบรวมความคิดเห็นจากแบบสอบถาม ๗.๑ แบบสอบถามกล่มุ ทว่ั ไป ๔๑ ๗.๒ แบบสอบถามกลุ่มเฉพาะ ๑๐๖ ๗.๒.๑ แนวนโยบายและหน้าทขี่ องรฐั ตอ่ การดารงชวี ติ เศรษฐกิจ และทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ๑๐๗ ๗.๒.๒ สิทธแิ ละเสรภี าพของประชาชน (การกาหนดสิทธิของประชาชนและชมุ ชน ในด้านต่าง ๆ รวมทัง้ การกาหนดเร่ืองสทิ ธิเสรีภาพขององค์กร ภาคสว่ นอ่นื ๆ) ๒๔๒ ๗.๒.๓ ระบบการเมอื งและสถาบันการเมอื ง (ระบบเลือกต้งั พรรคการเมือง การปกครองทอ้ งถ่ิน บทบาทและความสมั พันธ์ระหว่างฝา่ ยนิตบิ ัญญตั ิ ฝ่ายบริหาร ศาล และองคก์ รตามรฐั ธรรมนญู ) ๓๔๖ ๗.๒.๔ ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบการใชอ้ านาจรฐั องค์กรอสิ ระ การตรวจสอบท่มี าและการใช้อานาจของผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมือง องคก์ รตุลาการ องค์กรอิสระ ขา้ ราชการ และเจ้าหน้าทขี่ องรัฐ และการมีส่วนร่วมของประชาชน) ๔๒๑ ๗.๒.๕ ความเหน็ ตอ่ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ๔๘๕ ๗.๒.๖ เรอ่ื งอื่น ๆ ๕๓๖ ๘. การจัดสมั มนาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ๘.๑ การสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) ๕๔๑ ๘.๑.๑ กลุม่ ผ้พู ิการ ๕๔๒ ๘.๑.๒ กล่มุ ประชาสังคม 551
ข สารบญั (ต่อ) หน้า 559 ๘.๑.๓ กลุ่มสตรี 564 ๘.๑.๔ กลุ่มแรงงาน 57๑ ๘.๑.๕ กลมุ่ นสิ ติ นักศึกษา และเยาวชน 579 ๘.๑.๖ กลุ่มการกระจายอานาจ 590 ๘.๑.๗ กลุ่มกระบวนการยุตธิ รรม 605 ๘.๑.๘ กลมุ่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม 615 ๘.๑.๙ กลุ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน 629 ๘.๑.๑๐ กลุ่มการพัฒนาเศรษฐกจิ 638 ๘.๑.๑๑ กลุ่มระบบเลอื กตั้งและพรรคการเมือง 653 ๘.๑.๑๒ กลมุ่ ตัวแทนพรรคการเมอื ง 662 ๘.๑.๑๓ กลมุ่ นโยบายแหง่ รัฐ / การจัดบริการของรัฐ 672 ๘.๑.๑๔ กลมุ่ องคก์ รตามรัฐธรรมนญู / องค์กรอิสระ 679 ๘.๑.๑๕ กลมุ่ ชาตพิ นั ธุ์ 686 ๘.๑.๑๖ กลุ่มปฏิรูปกฎหมายและปฏริ ปู ระบบราชการ 697 ๘.๑.๑๗ กลุ่มสิทธิเสรภี าพ / สิทธิชุมชน 711 ๘.๒ การจัดสมั มนาในกลุม่ ลกั ษณะทีเ่ ปดิ กว้าง ๘.๒.๑ การเปิดเวทีสาธารณะเพ่อื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน 712 ณ จังหวัดเชยี งใหม่ 733 ๘.๒.๒ การเปิดเวทสี าธารณะเพื่อรับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน 744 ณ จังหวัดขอนแกน่ ๘.๒.๓ การเปดิ เวทสี าธารณะเพื่อรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชน 752 ณ จังหวัดชลบรุ ี 761 ๘.๒.๔ การเปดิ เวทสี าธารณะเพ่ือรบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชน 774 ณ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา 775 ๘.๒.๕ การเปิดเวทสี าธารณะเพอ่ื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน 803 ณ จังหวดั สงขลา ๘.๓ การจดั สมั มนาโดยองค์กรอื่น ๘.๓.๑ การจัดสมั มนาของภาคีเพือ่ รฐั ธรรมนูญประชาธปิ ไตย รว่ มกบั สถาบนั สร้างอนาคตไทย คณะกรรมการรณรงค์ ประชาธิปไตย (ครป.) และ ๓๐ องค์กรประชาธปิ ไตย ๘.๓.๒ การจดั สัมมนาของสถาบนั สิทธิมนษุ ยชนและสันตศิ ึกษา มหาวิทยาลยั มหิดล ณ วิทยาลยั การจัดการและพฒั นาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบลู สงคราม จังหวดั พิษณโุ ลก
ค สารบัญ (ต่อ) หน้า ๘.๓.๓ การจัดสัมมนาของสถาบนั สทิ ธิมนษุ ยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลยั มหดิ ล ณ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 808 ๘.๓.๔ การจัดสัมมนาของสถาบันสิทธิมนษุ ยชนและสันตศิ ึกษา มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ณ ห้องประชมุ ศาสตราจารยบ์ ุญชนะ อัตถากร วทิ ยาลัยการเมอื งการปกครอง มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม 822 ภาคผนวก ภาคผนวก ก ประมวลภาพการรบั ฟังความคิดเห็นของประชาชน ภาคผนวก ข คาส่งั แต่งต้งั คณะอนุกรรมาธิการ ภาคผนวก ค คาส่ังแต่งตั้งทีป่ รึกษาคณะอนกุ รรมาธกิ าร ภาคผนวก ง รายชอ่ื ผดู้ าเนนิ การสนทนา (Moderator) ของสถาบันพระปกเกลา้ ภาคผนวก จ ฝ่ายเลขานุการคณะอนกุ รรมาธกิ าร ภาคผนวก ฉ รายละเอียดขอ้ เสนอของกลุ่มรัฐธรรมนูญกา้ วหนา้ (CONLAB) คณะกรรมการรณรงคเ์ พอื่ ประชาธปิ ไตย (ครป.) และนายสคุ นธ์ สวา่ งแจง้ โดยขอ้ เสนอนไี้ ดร้ บั วนั ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ หลังจากทค่ี ณะอนุกรรมาธกิ าร ประชาสัมพันธ์และรับฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน ไดน้ าเสนอขอ้ สรุปตอ่ คณะกรรมาธิการวสิ ามญั พจิ ารณาศกึ ษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิม่ เตมิ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้ว ดัชนสี บื คน้
รายนามคณะอนกุ รรมาธิการ นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะอนกุ รรมาธิการ นายวิเชยี ร ชวลติ ศาสตราจารยว์ ุฒิสาร ตนั ไชย ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยว์ ลยั พร รตั นเศรษฐ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ เลขานุการคณะอนกุ รรมาธกิ าร นายรงั สมิ นั ต์ โรม นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ นนายายสสุททุินนิ คลคังลแังสแงสง โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ ออนนกุ ุกรรมรามธาิกธากิ ราร นายนิพฏิ ฐ์ อินทรสมบตั ิ นายโกวิทย์ ธารณา นายเอกพันธ์ุ ปิณฑวนิช อนกุ รรมาธิการ อนุกรรมาธกิ าร อนกุ รรมาธิการ
รายงานการศึกษาของคณะอนกุ รรมาธิการ ประชาสมั พันธ์และรับฟังความคดิ เห็นของประชาชน ในคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณาศึกษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทาง การแก้ไขเพมิ่ เติมรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ------------------------------ ตามทท่ี ่ีประชมุ สภาผู้แทนราษฎร ชดุ ท่ี ๒๕ ปที ่ี ๑ คร้ังที่ ๑๒ (สมัยสามญั ประจาปคี ร้งั ทส่ี อง) วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ได้พิจารณาญัตติ เร่ือง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรต้ังคณะกรรมาธิการ วิสามัญศกึ ษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ (นายสุทิน คลังแสงและนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้เสนอ) ญัตติ เร่ือง ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษากระบวนการได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายสมคิด เช้ือคง กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ญัตติ เร่ือง ขอให้ สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายเทพไท เสนพงศ์ เป็นผู้เสนอ) ญัตติ เรื่อง ขอให้สภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายนิกร จานง และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ) ญัตติ เรื่อง ขอให้สภา ผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ รวมกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ท่ีเก่ียวกับการแก้ไขเพ่ิมเติม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายวิเชียร ชวลิต เป็นผู้เสนอ) และญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรต้ังคระกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายจตุพร เจริญเช้ือ เป็นผู้เสนอ) และลงมติตั้งกรรมาธิการวิสามญั ข้ึนคณะหนง่ึ เพ่ือพจิ ารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการ แก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยได้กาหนดระยะเวลา พิจารณาศึกษาไว้ ๑๒๐ วัน ต่อมาคณะกรรมาธิการวสิ ามัญไดข้ อขยายเวลาการพิจารณาศึกษาออกไป อีก ๗๐ วัน โดยสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ และขอขยายเวลาอีกคร้ังหนึ่ง โดยสิน้ สดุ ในวนั ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ครั้งท่ี ๒ วันศุกร์ท่ี ๑๗ มกราคม ๒๕๖๓ ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซ่งึ อนุกรรมาธิการคณะน้ปี ระกอบดว้ ย (๑) นายวฒั นา เมอื งสขุ ประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๒) นายวเิ ชยี ร ชวลติ รองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร (๓) นายสุทิน คลังแสง อนกุ รรมาธิการ (๔) นายธนกร วังบญุ คงชนะ อนุกรรมาธกิ าร
๒ (๕) นายรงั สิมนั ต์ โรม อนุกรรมาธกิ าร (๖) นายนพิ ิฏฐ์ อินทรสมบตั ิ อนกุ รรมาธกิ าร (๗) นางสาวธณกิ านต์ พรพงษาโรจน์ อนกุ รรมาธกิ าร (๘) ศาสตราจารยว์ ุฒสิ าร ตนั ไชย อนกุ รรมาธิการ (๙) ผู้ช่วยศาสตราจารยว์ ลัยพร รัตนเศรษฐ อนุกรรมาธิการ (๑๐) นายเอกพนั ธุ์ ปณิ ฑวณิช อนกุ รรมาธกิ าร ต่อมานายธนกร วังบุญคงชนะ อนุกรรมาธิการ ขอลาออกจากตาแหน่ง ที่ประชุม คณะกรรมาธิการวสิ ามัญพิจารณาศึกษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ คร้ังท่ี ๓ วันศุกร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๓ จึงมีมติต้ัง นายโกวิทย์ ธารณา เป็นอนกุ รรมาธกิ ารแทนตาแหน่งทีว่ ่าง ๑. ทปี่ ระชมุ คณะอนกุ รรมาธิการไดม้ ีมติเลือกต้งั ตาแหนง่ ต่าง ๆ ดังน้ี (๑) นายวฒั นา เมอื งสุข เปน็ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (๒) นายวิเชยี ร ชวลติ เปน็ รองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร (๓) ศาสตราจารยว์ ฒุ ิสาร ตันไชย เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (๔) ผู้ชว่ ยศาสตราจารยว์ ลยั พร รัตนเศรษฐ เปน็ เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๕) นายรังสิมันต์ โรม เป็นโฆษกคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๖) นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ เปน็ โฆษกคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๗) นายสุทิน คลงั แสง เป็นอนกุ รรมาธิการ (๘) นายนพิ ฏิ ฐ์ อินทรสมบตั ิ เป็นอนุกรรมาธกิ าร (๙) นายโกวิทย์ ธารณา เป็นอนกุ รรมาธกิ าร (๑๐) นายเอกพันธ์ุ ปณิ ฑวณชิ เป็นอนกุ รรมาธกิ าร ๒. ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการได้มีมติต้ังท่ีปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ เพ่ือทาหน้าท่ี ใหค้ าปรึกษาและข้อเสนอแนะดา้ นวชิ าการแกค่ ณะอนุกรรมาธกิ าร ดงั น้ี (๑) นายวรรณรัตน์ ชาญนกุ ลุ (๒) นายชยั ธวชั ตลุ าธน (๓) พันตารวจเอก ทวี สอดส่อง (๔) นายยงยุทธ ตยิ ะไพรัช (๕) นายดารงค์ พเิ ดช (๖) นายพงศกร อรรณนพพร (๗) ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์อนุสรณ์ ธรรมใจ (๘) ผชู้ ่วยศาสตราจารย์พรสนั ต์ เล้ยี งบญุ เลิศชยั (๙) ศาสตราจารยน์ ิเวศน์ นนั ทจติ (๑๐) นายสุทัศน์ เงนิ หมน่ื (๑๑) นายภมู ภสั ส์ พงษจ์ ริ นธิ ิภร (๑๒) นายสัญญา สถิรบตุ ร
๓ (๑๓) รอ้ ยตารวจโท อาทติ ย์ บญุ ญะโสภัต (๑๔) นายนาลาภ เบ้าสวุ รรณ (๑๕) นายพจน์ เจริญสันเทียะ (๑๖) นายณรชิ ผลานรุ ักษา (๑๗) นายสงั ข์ ทรัพยพ์ ันแสง (๑๘) นายดสิ ทตั คาประกอบ (๑๙) นายธนชาติ แสงประดบั (๒๐) นางสาวชุติมา กุมาร (๒๑) นางอมรัตน์ โชคปมิตตก์ ุล (๒๒) รองศาสตราจารยช์ ลวิทย์ เจียรจิตต์ (๒๓) พนั เอก (พเิ ศษ) ดร. เจียรนัย วงศ์สะอาด (๒๔) วา่ ทร่ี ้อยตรี ถวลั ย์ รยุ าพร (๒๕) นายย่งิ ชพี อัชฌานนท์ (๒๖) นายลา่ สัน เลิศกลู ประหยัด (๒๗) นายณฐั รจุ วงศ์ทางสวสั ด์ิ (๒๘) นายคมสัณห์ ฐานะโชตพิ ันธ์ุ (๒๙) นายวรภพ วิริยะโรจน์ (๓๐) นายโคทม อารียา (๓๑) นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ (๓๒) นางสาววทันยา วงษโ์ อภาสี (๓๓) ร้อยโทหญงิ สุณิสา ทวิ ากรดารง ๓. หน้าท่แี ละอานาจของคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีหน้าท่ีและ อานาจประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเก่ียวกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทาง การแกไ้ ขเพม่ิ เติมรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ๔. กรอบระยะเวลาดาเนนิ การ คณะอนกุ รรมาธกิ ารดาเนินการศกึ ษาในระหว่าง วนั ท่ี ๑๗ มกราคม – ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
๔ ๕. วธิ ีการรวบรวมความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ประชาชนเสนอความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะผ่านช่องทางตา่ ง ๆ ๒. ช่องทางการรบั ฟงั (๑) ตู้ ปณ. ๙ ปณ.รัฐสภา ๑๐๓๐๕ (๒) การแสดงความคดิ เห็นบนหนา้ เวบ็ ไซต์ของคณะกรรมาธกิ าร URL:constitution60.parliament.go.th (๓) Facebook:ศึกษาปัญหา หลกั เกณฑ์ แนวทางแกไ้ ขรฐั ธรรมนญู 60 https://www.facebook.com/ constitution60 (๔) LINE@:constitution60 (๕) E-mail: constitution60@ parliament.go.th (๖) การย่นื ข้อเสนอโดยตรงตอ่ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั ณ บรเิ วณชน้ั ๑ อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ติ กรุงเทพมหานคร (๗) การจัดทาแบบสอบถามท้งั ในรูปแบบแบบสอบถามท่วั ไปและแบบสอบถามเฉพาะ (๘) การจดั สัมมนาของคณะกรรมาธิการในรปู แบบทเี่ ป็นการเฉพาะกลมุ่ และการจดั สมั มนา จากองคก์ รอ่ืนโดยการแสดงเจตจานงให้คณะอนกุ รรมาธิการเดินทางไปรบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชน ๓. การศึกษา วเิ คราะหแ์ ละประมวลผลของคณะอนุกรรมาธกิ าร ๔. การเสนอรายงานตอ่ คณะกรรมาธกิ าร แผนภาพท่ี ๑ กรอบแนวคิดในการศกึ ษาของคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนกุ รรมาธิการได้มีการรวบรวมความคิดเห็นผา่ นชอ่ งทาง ๘ ช่องทาง ได้แก่ ๕.๑ ตู้ ปณ. ๙ ปณ.รัฐสภา ๑๐๓๐๕ มีความเหน็ จานวน ๑ ความเห็น ๕.๒ เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ URL:constitution60.parliament.go.th มี ความเหน็ จานวน ๑๕ ความเห็น ๕.๓ Facebook:ศึ กษาปั ญหา หลั กเกณฑ์ แนว ทางแก้ ไขรั ฐ ธ รรมนู ญ 60 https://www.facebook.com/ constitution60 มีความเหน็ จานวน ๓ ความเห็น ๕.๔ LINE@:constitution60 มีความเห็นจานวน ๔ ความเหน็ ๕.๕ E-mail: constitution60@ parliament.go.th มีความเห็นจานวน ๓ ความเหน็ ๕.๖ การย่ืนข้อเสนอโดยตรงต่อคณะกรรมาธิการวิสามญั ณ บรเิ วณชนั้ ๑ อาคารรฐั สภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ติ กรุงเทพมหานคร มีความเห็นจานวน ๓ ความเหน็ ๕.๗ การรับฟังความคิดเห็นจากการจัดทาแบบสอบถามท้ังในรูปแบบแบบสอบถาม ทวั่ ไปและแบบสอบถามเฉพาะ
๕ ๕.๗.๑ แบบสอบถามทั่วไป มีความเห็นจานวน ๔๘๓ ฉบับ โดยมีองค์ประกอบ ของแบบสอบถาม ดังนี้ - แบบสอบถามทั่วไป ประกอบด้วย (๑) ส่วนที่ ๑ : ขอ้ มูลทว่ั ไป ได้แก่ เพศ อายุ อาชีพ ระดับการศกึ ษาสงู สดุ (๒) ส่วนที่ ๒ : การรับรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ได้แก่ (๒.๑) ท่านเคยอ่าน รัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจุบัน (2560) หรอื ไม่ (2.๒) ท่านติดตามเร่ืองรัฐธรรมนญู ผ่านช่องทางใด (๒.3) ท่าน ได้มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหรือไม่ (๒.๓.๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (๒.๓.๒) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 (๒.๓.๓) รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (๓) ส่วนท่ี 3 : ความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2560) (๓.๑) ความคดิ เหน็ ต่อประเด็นตา่ งๆ ภายใตร้ ัฐธรรมนูญ (๓.๑.๑) แนวนโยบายและหนา้ ท่ีของรัฐ ต่อการดารงชีวิต เศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (๓.๑.๒) สิทธิและเสรีภาพของ ประชาชน (การกาหนดสิทธิของประชาชนและชุมชนในดา้ นต่าง ๆ รวมท้ัง การกาหนดเรื่องสิทธิเสรีภาพ ขององค์กร ภาคส่วนอื่น ๆ) (๓.๑.๓) ระบบการเมืองและสถาบันการเมอื ง (ระบบเลือกตั้ง พรรคการเมือง การปกครองท้องถ่ิน บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ศาล และองค์กรตาม รัฐธรรมนูญ) (๓.๑.๔) ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ องค์กรอิสระ การตรวจสอบ ท่ีมาและการใช้อานาจของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง องค์กรตุลาการ องค์กรอิสระ ข้าราชการ และ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ) (๓.๒) ท่านคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2560) เป็นอย่างไร (๓.๒.๑) เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่ควรแก้ไข (ระบุเหตุผล / รายละเอียดเพ่ิมเติม) (๓.๒.๒) บาง ประเด็นจาเป็นต้องมีการแก้ไข (ระบุเหตุผล / รายละเอียดเพิ่มเติม) (๓.๒.๓) ควรมีการทบทวน / ปรับปรุงท้ังฉบับ (ระบุเหตุผล / รายละเอียดเพิ่มเติม) (๓.๒.๔) ควรมีการปรับปรุงวิธีการแก้ไขเพ่ิมเติม รัฐธรรมนูญหรอื ไม่ (ระบุเหตผุ ล / รายละเอยี ดเพม่ิ เติม) (๓.๒.๕) ความเหน็ อนื่ ๆ (ถ้าม)ี (๔) ส่วนที่ 4 : ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ คดิ เหน็ อน่ื ๆ (ถา้ ม)ี ๕.๗.๒ แบบสอบถามเฉพาะ มีความเห็นจานวน ๑๒๒ ฉบบั - แบบสอบถามกลุม่ เฉพาะ ประกอบดว้ ย (๑) ส่วนที่ 1 : ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงาน ได้แก่ ชื่อหน่วยงาน / องค์กร / สมาคม / มูลนิธิ / กลุ่ม (โปรดระบุ) ท่ีอยู่ท่ีติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกลับได้กรณี ตอ้ งการสอบถามขอ้ มลู เพิ่มเตมิ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั หน่วยงาน (ถา้ มี) (๒) ส่วนท่ี 2 : ความคิดเห็นของหน่วยงานต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2560) (๒.๑) ความคิดเห็นต่อประเด็นต่างๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญ (๒.๑.๑) แนวนโยบายและหน้าที่ ของรัฐตอ่ การดารงชวี ติ เศรษฐกจิ และทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม (๒.๑.๒) สิทธิและเสรีภาพ ของประชาชน (การกาหนดสิทธิของประชาชนและชุมชนในด้านต่าง ๆ รวมทั้ง การกาหนดเร่อื งสิทธิ เสรีภาพขององค์กร ภาคส่วนอ่ืนๆ) (๒.๑.๓) ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง (ระบบเลือกตั้ง พรรคการเมือง การปกครองท้องถ่ิน บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ) (๒.๑.๔) ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ องค์กรอิสระ การตรวจสอบท่ีมาและการใช้อานาจของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง องค์กรตุลาการ
๖ องค์กรอิสระ ข้าราชการ และเจ้าหน้าท่ีของรัฐ และการมีส่วนร่วมของประชาชน) (๒.๒) ท่านคิดว่า รฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจุบนั (2560) เป็นอยา่ งไร (๒.๒.๑) เหมาะสมอยูแ่ ลว้ ไม่ควรแก้ไข (ระบุเหตผุ ล / รายละเอียดเพ่มิ เตมิ ) (๒.๒.๒) บางประเด็นจาเป็นต้องมีการแก้ไข (ระบุเหตุผล / รายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ ) (๒.๒.๓) ควรมีการทบทวน / ปรับปรงุ ทั้งฉบบั (ระบุเหตผุ ล / รายละเอียดเพ่มิ เติม) (๒.๒.๔) ควรมกี าร ปรับปรุงวิธีการแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญหรือไม่ (ระบุเหตุผล / รายละเอียดเพ่ิมเติม) (๒.๒.๕) ความเหน็ อน่ื ๆ (ถ้าม)ี (๓) ส่วนที่ 3 : ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ คดิ เห็นอน่ื ๆ (ถา้ ม)ี ๕.๘ การจัดสัมมนาของคณะกรรมาธิการในรูปแบบท่ีเป็นการเฉพาะกลุ่มเพ่ือให้ได้ ข้อมูลเชิงลึกเป็นรายประเด็นในลักษณะการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) และกลุ่ม ลักษณะที่เปิดกว้าง รวมทั้งการจัดสัมมนาจากองค์กรอ่ืนโดยการแสดงเจตจานงให้คณะอนุ กรรมาธิการเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการได้เก็บรวบรวม ข้อมูลโดยเชิญผู้แทนของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานของภาคเอกชน และบุคคลที่ เก่ียวข้องกับประเด็นนั้น ๆ เข้าร่วมสนทนากับคณะอนุกรรมาธิการ โดยมีผู้ดาเนินการสนทนา (Moderator) ทเี่ ปน็ อนุกรรมาธิการ ทีป่ รึกษาคณะอนุกรรมาธิการ และผู้แทนของสถาบันพระปกเกล้า เป็นผ้ดู าเนินการสนทนา ซึง่ คณะอนกุ รรมาธิการได้มกี ารรับฟังความคิดเหน็ ดังนี้ ๕.๘.๑ การสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) จานวน ๑๗ กล่มุ ไดแ้ ก่ ๕.๘.๑.๑ วันจันทร์ท่ี ๙ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๔๑๑ ช้ัน ๔ อาคารรัฐสภา ได้แก่ กลุม่ ผู้พิการ จานวน ๓๔ คน ๕.๘.๑.๒ วันองั คารท่ี ๑๐ มนี าคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๔๑๑ ชั้น ๔ อาคารรฐั สภา ได้แก่ กลุม่ ประชาสังคม และกลมุ่ สตรี จานวน ๕๑ คน ๕.๘.๑.๓ วันพุธท่ี ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๒ ชัน้ ๓ อาคารรฐั สภา ไดแ้ ก่ กลุ่มแรงงาน จานวน ๓๔ คน ๕.๘.๑.๔ วันศุกร์ท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชุมหมายเลข ๔๐๒ – ๔๐๓ ช้นั ๔ อาคารรฐั สภา ไดแ้ ก่ กลุม่ นิสติ นกั ศึกษา และเยาวชน จานวน ๗๖ คน ๕.๘.๑.๕ วันจันทร์ท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๔๑๑ ช้ัน ๔ อาคารรัฐสภา ได้แก่ กลุ่มการกระจายอานาจและการปกครองท้องถ่ิน และกลุ่มกระบวนการ ยตุ ิธรรม จานวน ๗๓ คน ๕.๘.๑.๖ วันอังคารท่ี ๑๗ มนี าคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๔๑๑ ชน้ั ๔ อาคารรัฐสภา ไดแ้ ก่ กลุ่มการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม จานวน ๓๑ คน ๕.๘.๑.๗ วันอังคารท่ี ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๗ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ได้แก่ กลุ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และกลุ่มการพัฒนาเศรษฐกิจ จานวน ๕๐ คน ๕.๘.๑.๘ วันพุธท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๗ ช้นั ๓ อาคารรฐั สภา ได้แก่ กลมุ่ ระบบเลือกต้ังและพรรคการเมอื ง จานวน ๔๓ คน
๗ ๕.๘.๑.๙ วันอังคารท่ี ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๗ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ได้แก่ กลมุ่ ตัวแทนพรรคการเมอื ง และกลมุ่ นโยบายแห่งรัฐ/การจัดบริการ ของรัฐ จานวน ๖๓ คน ๕.๘.๑.๑๐ วันอังคารท่ี ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๗ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ได้แก่ กลุ่มองค์กรตามรัฐธรรมนูญ/องค์กรอิสระ และกลุ่มชาติพันธ์ุ จานวน ๔๒ คน ๕.๘.๑.๑๑ วนั พุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชุมหมายเลข ๓๐๗ ชนั้ ๓ อาคารรฐั สภา ไดแ้ ก่ กล่มุ ปฏริ ปู กฎมายและปฏิรูประบบราชการ จานวน ๒๗ คน ๕.๘.๑.๑๒ วันอังคารท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมหมายเลข ๓๐๗ ชัน้ ๓ อาคารรฐั สภา ได้แก่ กลุ่มสทิ ธ/ิ สิทธชิ มุ ชน จานวน ๓๐ คน ๕.๘.๒ การจัดสัมมนาในกลุ่มลักษณะที่เปิดกว้าง ในเวทีภูมิภาค ๕ แห่ง ผู้เขา้ รว่ มสัมมนา จานวนประมาณ ๑,๐๐๐ คน และในแต่ละเวทีมกี ารถ่ายทอดสดทาง Facebook live ที่สามารถรองรบั ผู้เข้ารว่ มชม จานวน ๕๐๐ คนได้แก่ ๕.๘.๒.๑ วันเสาร์ท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมทองกวาว สานกั บริการวิชาการ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ จานวนประมาณ ๒๐๐ คน ๕.๘.๒.๒ วันเสาร์ท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมพีรสิทธ์ิ คานวณศิลป์ วิทยาลยั การปกครองท้องถน่ิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแกน่ จานวนประมาณ ๒๐๐ คน ๕.๘.๒.๓ วันเสาร์ท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุม KA 500 อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสริ ิราชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยบรู พา จังหวัดชลบุรี จานวนประมาณ ๒๐๐ คน ๕.๘.๒.๔ วันอาทิตย์ท่ี ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมอาคาร ๑๐๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จานวนประมาณ ๒๐๐ คน ๕.๘.๒.๕ วันเสาร์ท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมชั้น ๓ อาคาร ศูนย์รวมกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อาเภอเมือง จังหวัดสงขลา จานวนประมาณ ๒๐๐ คน ๕.๘.๓ การจัดสัมมนาโดยองค์กรอ่ืนและเชิญคณะอนุกรรมาธิการเข้าร่วม รบั ฟงั ความคดิ เห็น จานวน ๔ แหง่ ผู้เข้ารว่ มสมั มนา จานวนประมาณ ๕๐๐ คน ได้แก่ ๕.๘.๓.๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ จัดโดยภาคีเพื่อ รฐั ธรรมนูญประชาธปิ ไตยร่วมกับสถาบนั สร้างอนาคตไทย คณะกรรมการรณรงคป์ ระชาธิปไตย (ครป.) และ ๓๐ องค์กรประชาธิปไตย ณ ห้องราณี โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดาเนิน กรุงเทพมหานคร จานวนประมาณ ๘๐ คน ๕.๘.๓.๒ วันเสาร์ท่ี ๗ มีนาคม ๒๕๖๓ เวทีถกแถลงแจงรัฐธรรมนูญ จัดโดย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ห้องประชุมกาสะลอง ช้ัน 8 อาคารมหาวชิราลงกรณ์ (ตึก ม.) วิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถ่ิน มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูล สงคราม จงั หวัดพิษณุโลก จานวนประมาณ ๑๐๐ คน
๘ ๕.๘.๓.๓ วันเสาร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๓ เวทีถกแถลงแจงรัฐธรรมนูญ จัดโดย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ห้องประชุม ๑ อาคาร ๕ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น จานวนประมาณ ๒๐ คน ๕.๘.๓.๔ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๓ เวทีถกแถลงแจงรัฐธรรมนูญ จัดโดย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์บุญชนะ อตั ถากร วทิ ยาลยั การเมอื งการปกครอง มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม จานวนประมาณ ๓๐๐ คน ๖. ผลการรบั ฟงั ความคิดเห็นของคณะอนุกรรมาธกิ าร คณะอนุกรรมาธิการได้จัดทารายงานผลการศึกษาเร่ือง การประชาสัมพันธ์และรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพ่ิมเติม รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยปรากฏผลการรบั ฟงั ความคิดเหน็ ตามท่ีแนบมาพรอ้ มน้ี (นายวฒั นา เมอื งสขุ ) ประธานคณะอนุกรรมาธกิ ารประชาสมั พนั ธ์ และรับฟงั ความคิดเห็นของประชาชน
การนาเสนอการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนทม่ี ีต่อรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย โดยคณะอนกุ รรมาธกิ ารมกี ารรวบรวมขอ้ มลู จาก ๘ ชอ่ งทางดว้ ยกนั (หน้า ๔ - ๕) ปรากฏรายละเอยี ด จากทกุ ช่องทาง ดังต่อไปนี้
๑. การรวบรวมความคดิ เห็นทาง ตู้ ปณ. ๙ ปณ.รัฐสภา ๑๐๓๐๕
๑๑ สรปุ ข้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกับ การศกึ ษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพ่ิมเติมรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเดน็ ขอ้ คิดเห็นและเสนอแนะ ท่มี าของความเหน็ สิทธิและเสรีภาพของประชาชน (การ ความคาดหวัง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าช กาหนดสิทธิของประชาชนและชุมชนในด้าน - รัฐควรรับรองให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพ้ืนฐานได้อย่างเท่าเทียม มงคลล้านนา (แบบสอบถาม ต่าง ๆ รวมท้ัง การกาหนดเรื่องสิทธิเสรีภาพ และเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม รัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนมีเสรีภาพในการ ความคิดเหน็ -ตู้ ปณ.๙) ขององค์กร ภาคส่วนอนื่ ๆ) แสดงความคดิ เห็นหรอื ดาเนินการอนื่ ใดท่ีตนต้องการโดยไม่กระทบ/ละเมดิ สิทธิผู้อ่ืน จนเกินควรและต้องต้ังบนพ้ืนฐานการนาเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นการหม่ินประมาทหรือ สรา้ งความเกลียดชงั - รัฐธรรมนญู 60 ลดหมวดเกีย่ วกบั การแสดงความคิดเห็นลงและห้ามประชาชน ในการใช้สิทธิทีก่ ระทบต่อความมนั่ คงของรฐั ซง่ึ ยงั คงมีการตคี วามไม่ชัดเจน - เรื่องความม่ันคงของรัฐ ควรปรบั ถ้อยคาให้ชัดเจนไมก่ ากวม
๒. การรวบรวมความคดิ เหน็ บนหน้าเวบ็ ไซต์ ของคณะกรรมาธิการ URL:constitution60.parliament.go.th
สรปุ ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับ การศึกษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพมิ่ เติมรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ สิทธิและเสรีภาพของประชาชน (การ ปัญหาเดิมคือ การกาหนดใหร้ า่ งกฎหมาย พ.ร.บ. ท่ีนับเปน็ กฎหมายการเงนิ ตอ้ งถูกรับรอง นายวรภพ วริ ยิ ะโรจน์ กาหนดสิทธิของประชาชนและชุมชนใน โดยนายกรัฐมนตรี ทาใหร้ ่างกฎหมาย พ.ร.บ. ทถ่ี ูกเสนอโดยภาคประชาชน ไม่สามารถเข้ามาสู่ https://constitution60. ด้านต่าง ๆ รวมทั้ง การกาหนดเร่ืองสิทธิ กระบวนการนิติบญั ญตั ขิ องรัฐสภาได้ จากสถติ ิทง้ั หมด มี พ.ร.บ. ทผี่ ่านออกมาเปน็ กฎหมายได้ parliament.go.th/ เสรภี าพขององค์กร ภาคสว่ นอื่น ๆ) จริงเพียง 10 ฉบับ จากร่างกฎหมายท้ังหมดที่ถูกเข้าช่ือเสนอต่อรัฐสภา 84 ฉบับ หรือเพียง 12% เท่านั้น. ดังนั้น ควรยกเลิกอานาจการรับรองร่างพ.ร.บ. การเงินของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทุกร่าง กฎหมาย พ.ร.บ. เข้าสู่กระบวนการนิตบิ ญั ญตั ขิ องสภาผแู้ ทนราษฎร เพราะฝ่ายรัฐบาลยังคงอานาจในการกาหนดระยะเวลาพิจารณาร่างพ.ร.บ. ในช้ัน กรรมาธิการวิสามัญ วาระสอง และยังคง*ส่วนข้างมากในการแปรญัตติ หรือในการลงมติไม่ เหน็ ชอบต่อรา่ งพ.ร.บ. ในวาระท่หี น่ึงหรือสามอยดู่ ี ทาให้อานาจนิติบัญญัติมีความยึดโยงกับประชาชนมากข้ึนและเพ่ิมการมีส่วนร่วมของ ประชาชนต่อกระบวนการนิติบญั ญตั ิ
๑๔ สรปุ ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับ การศึกษาปญั หา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิม่ เติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเห็น ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง ยกเลิกการแบ่งเขต และใช้ระบบบัญชีรายชอ่ื โดยประชาชนจัดลาดับเอง ฉาย (ระบบเลือกต้ัง พรรคการเมือง การ เนื่องจากการใช้ระบบแบ่งเขต จะมีการซ้ือเสียงขายเสียง ซึ่งทาให้คนดีไม่ได้เข้าสภา และ https://constitution60 ปกครองท้องถ่ินบทบาทและความสัมพันธ์ ในบางครั้งการใช้ระบบแบ่งเขต ทาให้ ส.ส. ที่ได้คะแนนห่างจากผู้ชนะ 4 คะแนน ไม่ได้เป็น .parliament.go.th/ ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ศาล สส. เป็นคะแนนตกนา้ ซ่ึงไมเ่ ปน็ ธรรม และองค์กรตามรฐั ธรรมนญู ) ดังนัน้ จงึ ขอเสนอให้ยกเลิกระบบแบ่งเขต และให้ใช้ระบบบญั ชรี ายชื่อ โดยประชาชนเลอื ก พรรคที่คิดวา่ นโยบายน้ันเป็นนโยบายทีท่ ่านชอบ เหมอื นประเทศอิสราเอล ซ่งึ เป็นประเทศท่ีใช้ ระบบดังกล่าว โดยอาจเอามาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย โดยให้ประชาชนเลือกพรรคและ จัดลาดบั บัญชีรายชื่อ รับรองสถานะรัฐบาลให้มีสภาพเป็นนิติบุคคลและรับรองเงินภาษีคือเงินของประชาชนท่ี Gintong มอบให้รัฐเพือ่ นาไปใชบ้ ริหารประเทศ https://constitution60 การที่รัฐบาลมีสถานะเป็นนิติบุคคล ส่งผลให้การเรียกร้องให้นายกและรมต.ท้ังหลาย .parliament.go.th/ รบั ผิดในการเสนอนโยบายท่ีสุ่มเสย่ี งให้เกดิ ปัญหาคอรัปช่ันจนรัฐเสียหาย ใช้ภาษอี ยา่ งไมค่ ุ้มค่า ซง่ึ รฐั และประชาชนในฐานะผู้เสยี ภาษีเป็นผู้เสยี หายร่วมกัน ดังนั้น การที่ รัฐบาล มีสภาพบุคคล และคณะรัฐมนตรีมีสภาพเป็นคณะผู้บริหาร ทาให้ เวลาฟ้องร้องสามารถฟอ้ งได้งา่ ยขึ้น เชน่ เวลาเปลีย่ นนายกกร็ ฐั กส็ ามารถไลฟ่ อ้ งกับนายกคนที่ เพิ่งออกไปได้เฉกเช่นเวลาบริษัทฟ้องผูบ้ ริหารคนเก่า , เวลามีการใช้ภาษีในทางที่ผิดประชาชน สามารถฟ้องรัฐบาลแทนการฟ้องตัวบุคคลซ่ึงกระทาได้งา่ ยกว่า การพสิ ูจน์ความผิดงา่ ยข้ึนเพียง แสดงให้เหน็ ว่าประชาชนเดือดร้อนจากการทางานของรฐั บาลเท่าน้นั ซ่ึง กระทรวง ทบวง กรม ฯลฯ ทั้งหลายน้ันเปน็ เสมอื นบริษัทลกู ดงั น้นั ฟอ้ งบรษิ ัทแมเ่ ลยทเี ดยี วจบ ง่ายกว่าการฟ้องเป็น
๑๕ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ รายบุคคลท่ีต้องมีรายละเอียดมากกว่าและฟ้องยากหาหลักฐานยากยิ่งเป็นคนมีอานาจแล้ว โอกาสหาหลกั ฐานยง่ิ นอ้ ย ดังน้ัน การรับรองสถานะของรัฐบาลทาให้รัฐมีโอกาสปกป้องตนเองง่ายขึ้น ทาให้ ประชาชนเรยี กร้องจากรัฐง่ายขึ้นเพ่ือรฐั ไปเรียกรอ้ งจากคณะรัฐบาลชุดท่ีก่อนปัญหาอกี ที และ การรับรองภาษนี ้ันคือเงินของประชาชนที่สง่ มอบให้รัฐเพื่อนาไปบริหารประเทศ เพื่อประโยชน์ ของคนทัง้ ชาตนิ ้นั ก็เพือ่ เปิดชอ่ งทางใหภ้ าคประชาชนสามารถฟ้องรอ้ งในฐานะผู้เสยี หายได้ ยุบ ส.ว. Anticoup https://constitution60 .parliament.go.th/ การเลือกตงั้ ฉาย วนั เลือกต้งั ใหเ้ ปน็ วันเสาร์แทนวนั อาทิตย์ เพราะวันอาทติ ย์เป็นวันที่ผคู้ นจะเดินทางกลับไป https://constitution60 ทางาน และให้เวลาเลือกต้ังเป็นเวลา 08.00 ถึง 18.00 และให้สถานเลือกต้ังเป็นท่ี .parliament.go.th/ หน่วยงานราชการ โรงเรยี น มหาวิทยาลยั เพือ่ ให้รัฐบาลเช่าเต๊นทแ์ ต่อย่างใดและวิธีการเลือกต้ัง ให้ใช้เคร่อื งอิเล็กทรอนกิ สแ์ ทนการพิมพบ์ ตั ร เพ่อื ประหยัดงบประมาณ ลดอายุตาแหนง่ นายกรัฐมนตรี ฉาย นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้ารัฐบาลคือผู้ท่ีดารงตาแหน่งประธานสภาคณะมนตรี ซึ่งได้รับ https://constitution60 การคัดเลือกจากสมาชิกรัฐสภา โดยผู้ท่ีได้รับคะแนนเสียงมากท่ีสุดลาดับ 1 - 10 จะสลับ .parliament.go.th/ หมุนเวียนกันข้ึนดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรีวาระละ 1 ปี เพื่อไม่ให้นายกผูกขาดอานาจ มากไป และเพือ่ การหมุนเวียนตาแหน่งให้บุคคลทา่ นอนื่ ๆ ได้มสี ่วนบริหารประเทศ
๑๖ ประเด็น ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ ควรลดกระทรวง ใหส้ อดคลอ้ งและลดความซ้าซอ้ นภารกิจ ฉาย ควรลดกระทรวง เพ่ือให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติในการทาให้ระบบราชการเล็กลง และ https://constitution60 เป็นการลดการต่อรองเกา้ อร้ี ัฐบาล ซึ่งควรแบ่งได้เปน็ ดังนี้ .parliament.go.th/ 1. สานักนายกรัฐมนตรี 2. กระทรวงกลาโหม 3. กระทรวงการคลัง 4. กระทรวงการต่างประเทศ 5. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6. กระทรวงคมนาคม 7. กระทรวงพาณิชย์ (ควบกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม + กระทรวงพลังงาน + กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า) 8. กระทรวงมหาดไทย (ควบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ + กระทรวงแรงงาน) 9. กระทรวงยตุ ิธรรม 10. กระทรวงศึกษาธกิ าร (ควบกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม + กระทรวงวฒั นธรรม) 11. กระทรวงสาธารณสุข 12 กระทรวงอตุ สาหกรรม (กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม กระจายกรมตามภารกิจทเ่ี หลืออยู)่ ทมี่ าของ ส.ส. อพิศิษฐ์ 1. ผสู้ มัคร ส.ส.ต้องเคยมีประสบการณ์ทางการเมือง เช่น เคยเป็นสมาชิกสภา อบต.-สภา https://constitution60 เทศบาล-สภาจังหวดั -ส.ส.-ส.ว. มาอย่างน้อย 1 สมัย หรือไม่น้อยกว่า 2 ปี .parliament.go.th/ 2. จากดั อายุขชอง ส.ส ในวันสมคั ร ไมเ่ กิน 70 ปี
๑๗ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ท่มี าของความเห็น ลดอายุผู้เปน็ ส.ส. ครม. ฉาย ปัจจุบัน ผู้ท่ีเป็น ส.ส. ต้องอายุ 25 ปี และผู้ท่ีจะเป็น ครม ต้องอายุ 35 ปี ซ่ึงหลาย https://constitution60 ประเทศทั่วโลกไม่กาหนดอายุเช่นนั้น ในบางประเทศมีผู้นาท่ีอายุ 29 ปี เช่น ประเทศ .parliament.go.th/ ออสเตรีย ก็เป็นนายกรัฐมนตรี หรือในรัฐธรรมนูญก่อนปี 2540 กาหนดให้ ครม. ต้องอายุ 30 ปีข้ึนไป แต่เหตุไฉนจึงกาหนด 35 ปี ในขณะเดียวกันผู้ที่เป็น ส.ส. ทาไมต้องอายุ 25 ปี ขึ้นไป ดงั นนั้ ขอเสนอให้ผู้ทเ่ี ปน็ ส.ส. ต้องอายมุ ากกว่า 20 ปี เพราะเปน็ บุคคลบรรลุนิตภิ าวะตาม กฎหมาย และ ผู้ทีเ่ ป็น ครม. ต้องอายุมากกว่า 25 ปี ให้พรรคการเมอื งประกาศรายชื่อแคนดิเดทรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงและนโยบายพรอ้ มกัน วรภพ วริ ยิ ะโรจน์ 30 วัน กอ่ นเลือกต้งั https://constitution60 ปัญหาต่อเนือ่ งจากรัฐบาลผสมคอื การตอ่ รองของพรรคร่วมรัฐบาลทาให้ รัฐมนตรีในแต่ละ .parliament.go.th/ กระทรวงบางรัฐมนตรี มีคณุ สมบตั ิ ความเชีย่ วชาญไม่เหมาะสมกบั ตาแหนง่ นอกจากนั้น เกิดการเลียนแบบนโยบายหาเสียง ในช่วงหาเสียงเลือกต้ัง ทาให้การแข่งขัน ด้านนโยบายระหว่างพรรคการเมือง ถูกลดทอนความสาคัญลง และนโยบายรัฐบาลไม่เป็นไป ตามที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้ เพราะอ้างการเป็นรัฐบาลผสม ไม่มีความรับผิดชอบของพรรค การเมืองต่อผู้ใช้สิทธิเลือกต้ัง ดงั นน้ั ควรกาหนดให้พรรคการเมือง ประกาศแคนดิเดทรฐั มนตรีในแต่ละกระทรวง (ไมเ่ กิน 3 รายชื่อ) พร้อมนโยบายแต่ละกระทรวง ก่อนเลือกตั้ง 30 วันพร้อมกันทุกพรรคการเมือง นายกรัฐมนตรีสามารถเลือกหรือปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงตามท่ีแต่ละพรรคแจ้ง ก่อนเลือกต้ังได้ตลอดเวลา ในกรณีนายกรัฐมนตรีต้องการเสนอช่ือรัฐมนตรีท่ีนอกเหนือจาก รายช่ือที่พรรคการเมืองได้แจ้งไว้จะต้องได้มติเห็นชอบสองในสามจากสภาผู้แทนราษฎร เพ่ือให้ได้คณะรัฐมนตรีท่ีมีคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับตาแหน่งมากที่สุด และยุตธิ รรมตอ่ ผใู้ ชส้ ทิ ธเิ ลือกตงั้ มากที่สดุ ด้วย .
๑๘ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ และการกาหนดให้พรรคการเมืองประกาศนโยบาย วงเงิน เปา้ หมาย ในวาระ 4 ปี ของแต่ ละกระทรวง ของทุกพรรคการเมือง จะทาให้ทุกพรรคการเมืองให้น้าหนักในการหาเสียง แข่งขันด้วยนโยบายและแข่งขันกันอย่างยุติธรรม และทาให้ประชาชนมีข้อมูลนโยบายและ รวมถึงรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงท่ีพรรคการเมืองเสนอก่อนตัดสินใจใช้สิทธิเลือกต้ังได้อย่าง ถูกต้อง รัฐบาลต้องนานโยบายที่รัฐมนตรีวา่ การของแต่ละกระทรวงทไี่ ด้หาเสียงไว้บรรจุในนโยบาย รัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภา พร้อมวงเงิน เป้าหมาย ในวาระ 4 ปี ในแต่ละกระทรวง เพื่อให้ รัฐบาลทาตามสัญญาท่ีได้หาเสียงไว้กับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาของแต่ละพรรคการเมือง และให้กระบวนการในรัฐสภาสามารถติดตามและตรวจสอบผลงานของรัฐบาลตามท่ีไดแ้ ถลงไว้ ในนโยบายรฐั บาลได้อย่างยุติธรรมตอ่ ไป ซึ่งนนั่ หมายถงึ นายกรฐั มนตรีต้องตัดสินใจเลือกพรรค ร่วมรัฐบาล ตามนโยบาย วงเงิน ที่พรรคร่วมรัฐบาลได้หาเสียงไว้ มาเป็นส่วนหนึ่งในการ พิจารณาตดั สินใจเลือกพรรครว่ มรัฐบาลดว้ ย เปลี่ยนระบบเลือกต้ังไปใช้ ระบบคู่ขนาน (รธน. 40) เพราะระบบ MMP ทาใหเ้ กิดรฐั บาล วรภพ วริ ยิ ะโรจน์ ผสมออ่ นแอ และไมม่ ีทางป้องกันกลยทุ ธแ์ ตกพรรค https://constitution60 รัฐบาลผสมหลายพรรคการเมือง ทาให้เกิดการต่อรองอานาจและผลประโยชน์จานวนมาก .parliament.go.th/ ทาให้ฝ่ายบริหารอ่อนแอ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเด็นสาคัญๆในภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะสม ต่อโลกทมี่ ีการเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ ระบบ MMP บัตรใบเดียว ของ รธน. 60 ทาให้เกิดความสับสนในการคานวณจานวน ส.ส. พึงมี หลังการเลือกต้ัง ตลอดเวลา ทั้ง กรณีเลือกต้ังซ่อม, ยุบพรรค, ย้ายพรรค, ใบดา, ใบส้ม, ใบเหลือง และยังลิดรอนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการลงคะแนนเลือก ผู้สมัคร ส.ส. แบ่งเขต และ พรรคแยกจากกนั ซงึ่ ในกรณีท่ียังใช้ระบบ MMP ควรปรับเปลี่ยนใหส้ อดคล้องกับการเลือกต้ังของเยอรมัน ที่ เปน็ ต้นแบบสาคัญของระบบ MMP คือ มบี ตั รเลือกตั้ง 2 ใบ ใบแรกเลือกผูส้ มัคร ส.ส. เขต ใบ
๑๙ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ สองเลือกพรรคการเมือง การลงคะแนนใบท่ีสองพรรคการเมืองจะถูกนาไปคานวณ ส.ส. พึงมี และสามารถใช้จานวน ส.ส. พงึ มเี ปน็ หลักไดต้ ลอดหลงั เลอื กตงั้ แต่ยังควรต้องกาหนดจานวน ส.ส. ขั้นตา่ ในการนามาคานวณหาจานวน ส.ส. บัญชีรายช่ือ คือนาเฉพาะพรรคการเมืองท่ีมคี ะแนนเสยี ง ส.ส.พงึ มี 2% (หรือ ส.ส. 10 คน) ขน้ึ ไป ถงึ นามา คานวณเพ่อื หาจานวนส.ส. บัญชีรายช่ือตามปกติต่อไป เพราะพรรคการเมืองขนาดเลก็ จานวน มาก จะทาให้เกดิ การตอ่ รองทางการเมืองทสี่ ูง ทาให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ ในระบบ MMP ควรที่จะอนุญาตให้ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายช่ือ สามารถเป็นผู้สมัคร ส.ส. แบ่งเขตได้ด้วย แต่จะเป็น ส.ส. ไดเ้ พียงตาแหนง่ เดียว เพ่ือความยุตธิ รรมต่อพรรคขนาดใหญ่ท่ี อาจจะไม่ไดม้ จี านวน ส.ส. บัญชีรายชอื่ เลยจากระบบ MMP อย่างไรก็ดี ระบบ MMP ไม่สามารถป้องกันกรณีพรรคขนาดใหญ่ ใช้กลยุทธ์ในการแตก พรรค เพื่อเปน็ พรรคการเมืองสาหรบั ส.ส.แบบแบง่ เขต และ พรรคการเมอื งสาหรบั ส.ส. บัญชี รายชื่อได้ ทาใหเ้ กิด Tactical Vote สาหรับพรรคการเมืองและผู้ใช้สิทธิเลือกต้ัง และทาให้ไม่ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบบ MMP และไม่ยุติธรรมต่อพรรคการเมืองท่ีไม่เลือกใช้กลยุทธ์ แตกพรรคในระบบ MMP ได้ ดังนั้น ระบบเลือกตั้งควรท่ีจะปรับมาใช้ระบบที่ง่ายสาหรับสังคมเมืองไทย และระบบท่ีจะ ทาให้เกิดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพสูง เพ่ือสามารถขับเคล่ือนประเทศไปในทิศทางเดียวกนั ได้ดีขึ้น ซงึ่ คอื ระบบคู่ขนาน Parallel System แบบ รธน.40 แต่ยังคงสามารถกาหนด ส.ส. แบบแบ่ง เขต 350 คน และ ส.ส. บัญชีรายช่ือ 150 อยู่ด้วยได้ และควรยังคงกาหนดจานวน ส.ส. ขั้น ต่า 2% ของผูม้ าใชส้ ทิ ธเิ ลือกตง้ั หรือ ส.ส. 3 คนข้ึนไป ถึงจะนามาคานวณเพ่ือหาจานวน ส.ส. บัญชีรายชอ่ื
๒๐ สรุปข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเกย่ี วกับ การศึกษาปญั หา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิม่ เติมรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผแู้ ทนราษฎร ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบ เปล่ียนกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระให้มีความเป็นกลางทางการเมือง โดยสรรหาจาก วรภพ วิรยิ ะโรจน์ การใช้อานาจรัฐ องค์กรอิสระ การ ตัวแทนพรรคการเมอื งทั้งฝ่ายรฐั บาลและฝ่ายค้าน https://constitution60 ตรวจสอบที่มาและการใช้อานาจของผู้ ปัญหาใหญ่ของวิกฤตการเมืองไทยหลักคือ ที่มาขององค์กรอสิ ระ ท่ีมักจะถูกแทรกแซงโดย .parliament.go.th/ ดารงตาแหน่งทางการเมือง องค์กรตุลา ฝ่ายที่มีอานาจรัฐ ทาให้ขาดความเป็นกลางทางการเมือง และใช้อานาจองค์กรอิสระอย่างไม่ การ องค์กรอิสระ ข้าราชการ และ ยตุ ธิ รรม. เจ้าหน้าท่ีของรัฐ และ การมีส่วนร่วมของ ดังนั้นควรปรับเปล่ียนระบบการสรรหาองค์กรอิสระให้มีความเป็นกลางทางการเมืองและ ประชาชน) ยอมรับจากทุกฝ่ายทางการเมือง ด้วยการให้คณะกรรมการสรรหาเป็นตัวแทนจากพรรค การเมือง 8 พรรคการเมืองทีม่ ีจานวน ส.ส. สูงสุด จาก พรรคร่วมรัฐบาล 4 พรรค และ พรรค ร่วมฝา่ ยค้าน 4 พรรคการเมอื ง เปน็ คณะกรรมการสรรหา . .ให้คณะกรรมการวรรหา มีอานาจเห็นชอบการคัดเลือกบุคคลเป็นกรรมการองค์กรอิสระ และลงต้องมีมติเห็นชอบสามในส่ีข้ึนไป ในกระบวนการคัดเลือกองค์กรอิสระ เพ่ือสรรหา องค์กรอิสระที่มีคณุ สมบัติท่เี หมาะสมและคงความเป็นกลางทางการเมอื ง เพื่อใช้อานาจองค์กร อิสระตอ่ ทกุ ฝา่ ยอยา่ งยุติธรรม. ตัวแทนพรรคการเมือง จาก 8 พรรคการเมือง เป็นคู่แข่งขันทางการเมืองอยู่แล้วดังน้ัน ถ้า บคุ คลใดถกู เหน็ ชอบจากอยา่ งน้อย 6 พรรคการเมอื ง ยอ่ มจะเปน็ บุคคลท่ีมคี ณุ สมบัติเหมาะสม และมีความเป็นกลางทางการเมืองที่สุดน่ันเองในกรณีที่ไม่สามารถคัดเลือกองค์กรอิสระได้ ภายใน 30 วัน ให้เป็นอานาจของ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ผู้นาฝ่ายค้าน สรรหา องค์กรอิสระ ทีท่ งั้ 2 ฝา่ ยเห็นชอบตรงกนั ได้
๒๑ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ที่มาของความเหน็ ประชาชนสามารถเข้าช่ือเพื่อถอดถอนองค์กรอิสระ ข้าราชการระดับสูง รัฐมนตรี วรภพ วิรยิ ะโรจน์ ผู้พพิ ากษา ได้ https://constitution60 การใช้อานาจขององค์กรอิสระหรืออานาจตุลาการที่ผ่านมา ถูกครหาว่าไม่ยุติธรรม มีสอง .parliament.go.th/ มาตรฐาน และไมม่ ีความยดึ โยงกับประชาชน ขาดกลไกรับผิดและรับชอบ และการถว่ งดุลคาน อานาจของการใช้อานาจขององค์กรอิสระและอานาจตุลาการมาโดยตลอด ทาให้ประชาชน หมดศรัทธาต่ออานาจองค์กรอิสระและอานาจตุลาการได้ และเม่ือสังคมใดขาดความยุติธรรม สงั คมนน้ั ย่อมขาดความปรองดอง ดังนั้น การกาหนดให้ประชาชนมีอานาจในการเข้าชื่อ 100,000 รายช่ือ เพ่ือถอดถอน องค์กรอิสระ ข้าราชการระดับสูง และ รัฐมนตรี เพ่ือทาให้เจ้าหน้าท่ีรัฐ ทุกระดับและทุก ตาแหน่ง สามารถถูกถอดถอนออกจากตาแหน่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกต้ังโดยประชาชนได้ ใน กรณีที่ประชาชนเห็นว่าทางานบกพร่องต่อหน้าท่ี หรือไม่มีคุณสมบัติ ความชอบธรรมในการ ดารงตาแหน่งต่อไป โดยไมจ่ าเปน็ จะตอ้ งส่งต่อใหว้ ุฒสิ ภาเห็นชอบ แต่ในกรณีผู้พิพากษาทั้งศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชน สามารถเข้าชื่อ 100,000 รายชอื่ หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน่ึงในสี่สามารถเข้าชื่อ เพ่ือ เสนอเปิดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาท้ังหมดในการลงมติถอดถอนผู้พพิ ากษาจากทงั้ 3 ศาลได้ เพื่อ เป็นหลักการถ่วงดุลและคานอานาจตุลาการ ให้มีความยึดโยงกับประชาชน และยังคงรักษา ความเป็นอิสระและป้องกันการแทรกแซงทางการเมืองของผู้พพิ ากษาอยู่ได้
๒๒ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น ยกเลิกโทษยุบพรรคการเมือง วรภพ วริ ิยะโรจน์ ศาลรัฐธรรมนูญมีอานาจมากเกินไป มีอานาจเหนือประชาชน ทเ่ี ป็นอานาจสูงสุด ด้วยการ https://constitution60 ใช้บทลงโทษยุบพรรคการเมืองท่ีประชาชนเลือกต้ังให้เข้ามาสู่ตาแหน่งทางการเมืองได้ และ .parliament.go.th/ โทษยุบพรรคการเมืองและการตัดสิทธิทางการเมือง ถูกนามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมา โดยตลอด ดังนั้น ควรจะยกเลิกโทษยุบพรรคการเมือง การยุบพรรคการเมืองควรจะเกิดข้ึนเฉพาะใน กรณที ีพ่ รรคการเมืองไม่สามารถหาสมาชกิ พรรคการเมอื งไดต้ ามเกณฑ์ที่ กกต.กาหนด การลงโทษตัดสิทธ์ิทางการเมืองให้นับเป็นคดีอาญา โดยต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล ยตุ ิธรรมโดยปกติ คนื อานาจในการเขา้ ช่ือถอดถอน ส.ส. และองคก์ รอิสระใหป้ ระชาชน Anticoup https://constitution60 .parliament.go.th/
๓. การรวบรวมความคดิ เห็นทาง Facebook : ศกึ ษาปัญหา หลกั เกณฑ์ แนวทางแก้ไขรฐั ธรรมนูญ 60 https://www.facebook.com/ constitution60
สรปุ ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั การศึกษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเด็น ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง (ระบบ หมวดรฐั สภา Sanya Chantharut เลือกต้ัง พรรคการเมือง การปกครองท้องถิ่น - ขอเสนอแนวคิดให้ตัดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายช่ือออกจาก (ที่มาเฟสบ๊คุ ลงวันท่ี ๗ ก.พ. บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติ รัฐธรรมนูญ เพราะสส.หรือผู้แทนควรมาจากประชาชนแต่ละพ้ืนท่ีโดยตรง ๒๕๖๓) บัญญัติ ฝ่ายบริหาร ศาล และองค์กรตาม (เทยี บเคยี ง มาตรา ๘๓ (๒) รฐั ธรรมนูญ) หมวดวฒุ สิ ภา Tapranksan Klunkpudsa - ควรให้มีวุฒิสภาเพื่อให้เป็นตวั แทนสาขาอาชีพแมไ้ ม่ได้มาจากการเลอื กต้ังตาม (ท่ีมาเฟสบุ๊ค ลงวันที่ ๒๒ ก.พ. หลกั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเปน็ ตวั แทนพ้ืนที่ ส่วนสมาชิกวุฒิสภาเป็นตัวแทนกลุ่ม ๒๕๖๓) สาขาอาชีพ (เทียบเคยี งมาตรา ๑๐๗) - ถ้าจะใช้การเลอื กต้ังแบบบัตร ๒ ใบ เหมอื นรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ และ ๒๕๕๐ ควรให้สมาชิกวุฒิสภามีสิทธิโหวตไม่ไว้วางใจ ร่วมกับสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรได้ หมวดศาลรฐั ธรรมนญู - ควรแก้ไขที่มาของศาลรัฐธรรมนูญให้มาจากท่ีประชุมใหญ่ศาลฎีกาและศาล ปกครองสูงสุด เป็นผู้คัดเลือกแทนวุฒิสภา และกรรมการสรรหามาจากศาล (เทยี บเคยี ง มาตรา ๒๐๔)
๒๕ สรปุ ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเกย่ี วกบั การศกึ ษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพม่ิ เติมรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผ้แู ทนราษฎร ประเด็น ข้อคดิ เหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบการใช้ องค์กรอิสระ ประกอบด้วยคณะกรรมการการเลือกต้ัง ผู้ตรวจการแผ่นดิน Tapranksan Klunkpudsa อานาจรัฐ องค์กรอิสระ การตรวจสอบทีม่ าและ คณะกรรมการตรวจผู้ตรวจแผ่นดิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ (ท่ีมาเฟสบุค๊ ลงวนั ท่ี ๒๒ ก.พ. การใช้อานาจของผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมือง ทุจริตแห่งชาติ ให้สรรหาและคัดเลือกโดยวุฒิสภาทั้งส้ิน (เทียบเคียงมาตรา ๒๑๗, ๒๕๖๓) องค์กรตุลาการ องค์กรอิสระ ข้าราชการ และ ๒๒๒, ๒๒๘ , ๒๓๒ และ ๒๓๘) เจ้าหน้าท่ีของรัฐ และการมีส่วนร่วมของ ประชาชน)
๔. การรวบรวมความคิดเห็นทาง LINE@ : constitution๖๐
สรปุ ขอ้ คดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั การศกึ ษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเตมิ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเด็น ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น - นายกรัฐมนตรีต้องเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง (ระบบ Teeraphan Jaiman เลือกต้ัง พรรคการเมือง การปกครองท้องถ่ิน (ทมี่ าจากไลน์ ลงวนั ท่ี ๒๑ บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓) บัญญัติ ฝ่ายบริหาร ศาล และองค์กรตาม รัฐธรรมนูญ) - วฒุ สิ ภาตอ้ งมาจากการเลือกตงั้ ของประชาชน JACK KOM (ทม่ี าจากไลน์ ลงวนั ท่ี ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓)
๒๘ สรุปข้อคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกับ การศกึ ษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพิม่ เตมิ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเด็น ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ที่มาของความเหน็ ความเห็นต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ๑. ให้มกี ารแก้ไขมาตรา ๒๕๖ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมขี ั้นตอนทง่ี า่ ยขึ้น Teeraphan Jaiman ไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ๒. ให้มีสภารา่ งรัฐธรรมนูญ (สสร.) การศกึ ษาและการแก้ไขรัฐธรรมนญู และเปิด (ทมี่ าจากไลน์ ลงวนั ท่ี ๒๑ กระบวนการการมสี ่วนรว่ มของประชาชนอยา่ งกว้างขวาง กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓)
๒๙ สรุปขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะเกย่ี วกบั การศกึ ษาปญั หา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพมิ่ เติมรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สภาผูแ้ ทนราษฎร ประเดน็ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ทม่ี าของความเหน็ เรื่องอน่ื ๆ ยกเลกิ บทเฉพาะกาล ทใี่ หอ้ านาจวุฒสิ ภาในการเลอื กนายกรัฐมนตรี Teeraphan Jaiman (ท่ีมาจากไลน์ ลงวันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓)
๕. การรวบรวมความคดิ เห็นทาง E-mail: [email protected]
สรุปข้อคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับ การศกึ ษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพ่มิ เติมรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ สภาผ้แู ทนราษฎร ประเด็น ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเห็น หมวดสภาผแู้ ทนราษฎร Adhidech Hirunyakan ๑. แก้ไขระบบรัฐสภาให้เป็นระบบสภาเดี่ยว โดยให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร [email protected] มาจากการแต่งต้ังโดยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ๑๑ ด้าน จานวนคร่ึงหนึ่งของ (ทมี่ าจากอเี มล์ ลงวนั ที่ ๒๐ สภาผู้แทนราษฎรเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายช่ือแต่งตั้งไม่เกินหนึ่ง กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓) พันคน ๒. ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซ่ึงมาจากการ เลือกของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ และรองประธานรัฐสภาซึ่งมาจาก สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรมาจากการเลอื กตง้ั (เทยี บเคียงมาตรา ๑๑๖) ๓. การคานวณหาสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบง่ เขตโดยคานวณ ๒๕๐,๐๐๐ คนตอ่ ๑ เขต แต่ไม่เกิน ๕๐๐ คน (เทยี บเคยี งมาตรา ๙๑) ๔. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรมวี าระการดารงตาแหน่งติดต่อกันไมเ่ กิน ๓ วาระ ๕. เปลยี่ นช่อื “สภาผ้แู ทนราษฎร” จากเดมิ เป็น “สภาแห่งชาติ” ๖. อายขุ องสภาผ้แู ทนราษฎรมกี าหนดคราวละสองปีนบั แต่วันเลือกต้ัง ๗. การเลือกตง้ั ใหเ้ ลือกทกุ วันเสาร์ เวลา ๐๗.๐๐ ถึง ๑๕.๐๐ นาฬิกา ๘. อายุของผู้สมคั รรบั เลือกตงั้ ลดลงเหลอื ๒๑ ปี ๙. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรไมจ่ าเป็นต้องสงั กดั พรรคการเมือง ๑๐. การจัดต้ังพรรคการเมืองต้องเป็นพรรคที่มีช่ือตรงตามอุดมการณ์ เช่น พรรคเสรนี ยิ ม พรรคชาตนิ ยิ ม เปน็ ต้น ๑๑. ให้มีการจัดตงั้ สภาประชาชนส่วนภมู ิภาค บททใี่ ช้แก่สภาท้งั สองสภา 1. ให้ยกเลิกสมัยประชุม เพ่ือให้การพิจารณากฎหมายเพ่ือการปฏิรูปประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนือ่ ง
๓๒ ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น 2. ให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นประจาทุกวันพุธถึงวันศุกร์ของ ทุกสปั ดาห์ 3. ยกเลิกกระทถู้ ามสด และกระททู้ ว่ั ไป (เทยี บเคียงมาตรา ๑๕๐) 4. การเสนอญตั ติทเี่ ก่ยี วกบั การศกึ ษา ให้เป็นหนา้ ท่ีของคณะกรรมาธิการเท่านัน้ คณะรฐั มนตรี ๑. ประธานรัฐสภาซึ่งมาจากการแต่งตั้งจะเป็นผู้วินิจฉัยบุคคลที่จะเป็น นายกรัฐมนตรีโดยต้องสารวจความคิดเห็นของประชาชนก่อน (เทียบเคียง มาตรา ๑๕๙) ๒. อายุของผู้ท่ีจะดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีให้ลดลงเหลือ ๓๐ ปี (เทียบเคียงมาตรา ๑๖๐) รัฐมนตรีจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในขณะเดียวกนั มิได้ ๓. นายกรัฐมนตรีมีวาระการดารงตาแหน่งครั้งละไม่เกิน ๒ ปี ติดต่อกันได้เพียง ๒ วาระเทา่ นน้ั ๔. คณะรฐั มนตรตี อ้ งไมเ่ ป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ๕. คณะรัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีจานวน ๑๕ คน แตไ่ ม่เกนิ ๒๕ คน ๖. ยกเลิกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ให้ใช้การถอดถอนรัฐมนตรีรายบุคคล โดยสภาผู้แทนราษฎรทมี่ าจากการแต่งตง้ั (เทยี บเคยี งมาตรา ๑๕๑) ๗. ให้มกี ารยบุ กระทรวงทีซ่ ้าซอ้ น ดงั น้ี ๗.๑ กระทรวงพาณิชย์ (ควบกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า) ๗.๒ กระทรวงมหาดไทย (ควบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนษุ ย์) ๗.๓ กระทรวงศึกษาธิการ (ควบกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม และกระทรวงวัฒนธรรม)
๓๓ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเหน็ การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน - ยกเลกิ การระบลุ งในรัฐธรรมนูญ แตใ่ ห้บญั ญัตเิ ปน็ พระราชบญั ญัติแทน การปฏริ ปู ประเทศ - ตัดหมวดการปฏริ ปู ประเทศ คงไวเ้ พียงการแก้กฎหมายเรื่องการปฏริ ูปประเทศ ใหค้ ณะกรรมการปฏิรปู ประเทศเป็นผแู้ กไ้ ขเทา่ นั้น บททว่ั ไป - ใหม้ ีการควบกฎหมาย และตดั ทอนข้อความท่ีใกลเ้ คียงกนั เพ่ือประหยดั มาตรา โดยนาสองมาตรารวมในบรรทัดเดียวกัน และเจตนารมณ์กฎหมายเหมือนเดิม ตัวอย่างเช่น มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหน่ึงอันเดียว จะแบ่งแยก มิได้ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมขุ - รวมบทบัญญัติมาตรา ๔ และ มาตรา ๒๕ เข้าด้วยกัน เพราะมีเน้ือหาและ บริบทคล้ายกนั
๓๔ สรุปขอ้ คดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะเก่ยี วกับ การศึกษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ สภาผแู้ ทนราษฎร ประเด็น ข้อคดิ เหน็ และเสนอแนะ ท่มี าของความเหน็ ระบบการตรวจสอบ (การตรวจสอบการใช้ ยกเลกิ องค์กรอสิ ระตามรฐั ธรรมนญู ดงั นี้ Adhidech Hirunyakan gun- อานาจรัฐ องค์กรอิสระ การตรวจสอบท่มี าและ ๑. คณะกรรมการการเลือกต้ัง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการตรวจเงิน [email protected] การใช้อานาจของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง แผน่ ดนิ สานกั งานอัยการสงู สุด เป็นองคก์ รอิสระตราตามพระราชบัญญตั ิ (ที่มาจากอเี มล์ ลงวนั ท่ี ๒๐ องค์กรตุลาการ องค์กรอิสระ ข้าราชการ และ ๒. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓) เจ้าหน้าท่ีของรัฐ และการมีส่วนร่วมของ ตราตามกฎหมาย ประชาชน) ๓. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมัน่ คงของมนษุ ย์
๓๕ สรุปข้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะเก่ียวกบั การศกึ ษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพมิ่ เติมรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ สภาผู้แทนราษฎร ประเด็น ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น ความเห็นต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ เพ่ือจะได้เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจาก นายเทวฤทธ์ิ ทูลพนั ธ์ ไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพ่ือจะได้เรียกว่า “รัฐธรรมนูญท่ีมาจากการเลือกตั้ง” ([email protected]) มีประชาธปิ ไตยทีส่ มบูรณ์ มีขน้ั ตอนดงั นี้ ๑. ถวายฎีกาขอพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริย์ประมุขของประเทศ ในการที่จะกระทาการใดใดต่อรัฐธรรมนูญ โดยต้องแสดงสาเหตุและมาตราที่จะ แก้ไข หรอื จะเขียนใหมท่ ้ังฉบบั หรอื เหตอุ ่ืนใด เพือ่ ดารงพระเกยี รติตอ่ เม่ือได้รับพระ บรมราชานญุ าตแลว้ จงึ ค่อยกระทาการตามขน้ั ตอนของรฐั สภาอนั สมควร ๒. ต้ังกรรมาธกิ ารทัง้ สภาเป็นผ้วู ินิจฉัย แยกแยะ จะแก้ไขมาตราใด หรือจะเขียน ใหม่ทั้งฉบับ เพ่ือให้ได้ “รัฐธรรมนูญ” ที่ถูกใจคนทั้งประเทศ ลงมติเป็นเอกฉันท์ เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชนได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ทาหน้าท่ีแทนประชาชน จึงต้องตั้งเป็นกรรมาธิการวิสามัญทั้งสภา โดยมี “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” เปน็ ประธานกรรมาธกิ าร ๓. แก้ไขในมาตราที่ต้องการ หรือเขียนใหม่ท้ังฉบับ โดยสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรร่วมกันเสนอในแต่ละมาตรา เอาแบบท่ีถูกใจตน เอาแบบท่ีเห็นว่าเป็น ประชาธิปไตย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งวาระการประชุมเมื่อมีการเปิดสมัย ประชุม ฯ สามัญจะถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ทรงฯเปิดสมัยประชุมวิสามัญ กแ็ ล้วแต่ ๔. เมื่อได้ข้อยุติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเขียนใหม่ทั้งฉบับแล้ว ก็เป็นหน้าท่ี ของสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรทุกพรรคการเมือง ที่จะนาเอาร่างรฐั ธรรมนญู ที่ร่วมกัน แก้ไข หรือเขียนใหม่น้ัน เสนอต่อ ประชาชนท่ีเป็นฐานเสียงของพรรคตน เพื่อจะได้ แสดงความคิดเห็นร่วมกัน เม่ือได้ความคิดเห็นของประชาชนแล้วก็รวบรวมมา พิจารณาว่าจะแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ได้ และเม่ือร่างรัฐธรรมนูญน้ันเสร็จ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 685
Pages: